📜
๓๔. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา
๑. อิทานิ ¶ ¶ ปกิณฺณกกถา จ เวทิตพฺพา. ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๑๗) วุตฺตํ คณโภชนํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) ทฺวีหิ อากาเรหิ ปสวติ วิฺตฺติโต วา นิมนฺตนโต วา. กถํ วิฺตฺติโต ปสวติ? จตฺตาโร ภิกฺขู เอกโต ิตา วา นิสินฺนา วา อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา วิฺาเปยฺยุํ, ปาเฏกฺกํ วา ปสฺสิตฺวา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ เอวํ เอกโต วา นานาโต วา วิฺาเปตฺวา เอกโต วา คจฺฉนฺตุ นานาโต วา, ภตฺตํ คเหตฺวาปิ เอกโต วา ภฺุชนฺตุ นานาโต วา. สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณํ. เอวํ วิฺตฺติโต ปสวติ.
กถํ นิมนฺตนโต ปสวติ? จตฺตาโร ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถ อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฏิมาเนถา’’ติ เอวํ เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตติ. เอวํ เอกโต นิมนฺติตา ปริจฺฉินฺนกาลวเสน อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา เอกโต คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, เอกโต ภฺุชนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, เอกโต วา นานาโต วา ภฺุชนฺติ, อาปตฺติเยว. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺติ, นานาโต คณฺหนฺติ, เอกโต วา นานาโต วา ภฺุชนฺติ, อนาปตฺติ. จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานาโต นิมนฺติตา, เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานาโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺตุ, เอกโต วา นานาโต วา ภฺุชนฺตุ, สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอวํ ตาว นิมนฺตนโต ปสวติ.
ตสฺมา สเจ โกจิ สงฺฆภตฺตํ กตฺตุกาเมน นิมนฺตนตฺถาย เปสิโต วิหารํ อาคมฺม ‘‘ภนฺเต, สฺเว อมฺหากํ ฆเร ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺโฆ ภตฺตํ คณฺหตู’’ติ วา วทติ, ภตฺตุทฺเทสเกน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ. นิมนฺตนิกา ¶ คณโภชนโต, ปิณฺฑปาติกา จ ธุตงฺคเภทโต โมเจตพฺพา. กถํ? เอวํ ตาว วตฺตพฺพํ ‘‘สฺเว น สกฺกา อุปาสกา’’ติ. ปุนทิวเส, ภนฺเตติ. ปุนทิวเสปิ น สกฺกาติ. เอวํ ¶ ยาว อฑฺฒมาสมฺปิ หริตฺวา ปุน วตฺตพฺโพ ‘‘กึ ตฺวํ อวจา’’ติ. สเจ ปุนปิ ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘อิมํ ตาว อุปาสก ปุปฺผํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ติณ’’นฺติ เอวํ วิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ‘‘ตฺวํ กึ กถยิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ ปุนปิ ตเถว วทติ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ ปิณฺฑปาติเก วา มหลฺลกตฺเถเร วา น ลจฺฉสิ, สามเณเร ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, อสุกสฺมึ อสุกสฺมิฺจ คาเม ภทนฺเต โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ จ วุตฺเต เต นิมนฺติตุํ ชานนฺติ, ตฺวํ น ชานาสีติ. เต กถํ นิมนฺเตสุํ, ภนฺเตติ? เต เอวมาหํสุ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. สเจ โสปิ ตเถว วทติ, วฏฺฏติ.
อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘น ทานิ ตฺวํ, อาวุโส, พหู ภิกฺขู ลจฺฉสิ, ตโย เอว, อาวุโส, ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ คาเม สกลํ ภิกฺขุสงฺฆํ โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ. ‘‘ตฺวํ นิมนฺติตุํ น ชานาสี’’ติ. เต กถํ นิมนฺเตสุํ, ภนฺเตติ? เต เอวมาหํสุ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. สเจ โสปิ ตเถว ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตเมวา’’ติ วทติ, ตโต วตฺตพฺโพ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, นตฺถมฺหากํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, นิพทฺธโคจโร เอส อมฺหากํ, มยเมตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ตํ ‘‘จรถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อาคตํ ปุจฺฉนฺติ ‘‘กึ โภ ลทฺธา ภิกฺขู’’ติ? กึ เอเตน, พหุ เอตฺถ วตฺตพฺพํ, เถรา ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ อาหํสุ, มา ทานิ ตุมฺเห ปมชฺชิตฺถาติ. ทุติยทิวเส เจติยวตฺตํ กตฺวา ิตภิกฺขู สงฺฆตฺเถเรน วตฺตพฺพา ‘‘อาวุโส, ธุรคาเม สงฺฆภตฺตํ, อปณฺฑิตมนุสฺโส ปน อคมาสิ, คจฺฉาม, ธุรคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ภิกฺขูหิ เถรสฺส วจนํ กาตพฺพํ, น ทุพฺพเจหิ ภวิตพฺพํ, คามทฺวาเร อฏฺตฺวาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, เตสุ ปตฺตานิ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺเตสุ ภฺุชิตพฺพํ.
สเจ อาสนสาลาย ภตฺตํ เปตฺวา รถิกาสุ อาหิณฺฑนฺตา อาโรเจนฺติ ‘‘อาสนสาลายํ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ, น วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภตฺตํ อาทาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกจฺเจว ¶ วา วิหารํ อติหริตฺวา ปติรูเป าเน เปตฺวา อาคตาคตานํ เทนฺติ, อยํ อภิหฏภิกฺขา นาม วฏฺฏติ. สเจ ปน ภตฺตสาลาย ทานํ สชฺเชตฺวา ตํ ตํ ปริเวณํ ปหิณนฺติ ‘‘ภตฺตสาลาย ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ, วฏฺฏติ. เย ปน มนุสฺสา ปิณฺฑจาริเก ภิกฺขู ทิสฺวา อาสนสาลํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺติ, น เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา. เย ปน คาเม ภิกฺขํ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ¶ ‘‘ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา, น นิวตฺติตพฺพํ. สเจ ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘นิวตฺตถา’’ติ วุตฺตปเท นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ฆเร ภตฺตํ กตํ, คาเม ภตฺตํ กต’’นฺติ วทนฺติ, เคเห จ คาเม จ ภตฺตํ นาม ยสฺส กสฺสจิ โหติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ สมฺพนฺธํ กตฺวา วทนฺติ, นิวตฺติตุํ น วฏฺฏติ. อาสนสาลาโต ปิณฺฑาย จริตุํ นิกฺขมนฺเต ทิสฺวา ‘‘นิสีทถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.
‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ วจนโต คิลานสมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อทฺธานคมนสมโย นาวาภิรุหนสมโย มหาสมโย สมณภตฺตสมโยติ เอเตสุ สตฺตสุ สมเยสุ อฺตรสฺมึ อนาปตฺติ. ตสฺมา ยถา มหาจมฺมสฺส ปรโต มํสํ ทิสฺสติ, เอวํ อนฺตมโส ปาทาปิ ผาลิตา โหนฺติ, วาลิกาย วา สกฺขราย วา ปหฏมตฺเต ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, น สกฺกา จ โหติ อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ, อีทิเส เคลฺเ คิลานสมโยติ ภฺุชิตพฺพํ, น เลสกปฺปิยํ กาตพฺพํ.
จีวรทานสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา. เอตฺถนฺตเร ‘‘จีวรทานสมโย’’ติ ภฺุชิตพฺพํ. จีวเร กริยมาเน จีวรการสมโยติ ภฺุชิตพฺพํ. ยทา หิ สาฏกฺจ สุตฺตฺจ ลภิตฺวา จีวรํ กโรนฺติ, อยํ จีวรการสมโย นาม, วิสุํ จีวรการสมโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา โย ตตฺถ จีวเร กตฺตพฺพํ ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, มหาปจฺจริยฺหิ ‘‘อนฺตมโส สูจิเวธโก’’ติปิ วุตฺตํ. เตน ‘‘จีวรการสมโย’’ติ ภฺุชิตพฺพํ. กุรุนฺทิยํ ปน วิตฺถาเรเนว วุตฺตํ ‘‘โย จีวรํ วิจาเรติ ฉินฺทติ, โมฆสุตฺตกํ เปติ, อาคนฺตุกปตฺตํ เปติ, ปจฺจาคตํ สิพฺเพติ, อาคนฺตุกปตฺตํ พนฺธติ, อนุวาตํ ฉินฺทติ ¶ ฆเฏติ อาโรเปติ, ตตฺถ ปจฺจาคตํ สิพฺเพติ, สุตฺตํ กโรติ วเลติ, ปิปฺผลิกํ นิเสติ, ปริวตฺตนํ กโรติ, สพฺโพปิ จีวรํ กโรติเยวาติ วุจฺจติ. โย ปน สมีเป นิสินฺโน ชาตกํ วา ธมฺมปทํ วา กเถติ, อยํ น จีวรการโก, เอตํ เปตฺวา เสสานํ คณโภชเน อนาปตฺตี’’ติ.
อทฺธานคมนสมเย อนฺตมโส อฑฺฒโยชนํ คนฺตุกาเมนปิ ‘‘อฑฺฒโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ ภฺุชิตพฺพํ, คจฺฉนฺเตน ภฺุชิตพฺพํ, คเตน เอกทิวสํ ภฺุชิตพฺพํ.
นาวาภิรุหนสมเย ¶ ‘‘นาวํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ภฺุชิตพฺพํ, อารุฬฺเหน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวาปิ ยาว น โอโรหติ, ตาว ภฺุชิตพฺพํ, โอรุฬฺเหน เอกทิวสํ ภฺุชิตพฺพํ.
มหาสมโย นาม ยตฺถ ทฺเว ตโย ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาเปนฺติ, อนฺตมโส จตุตฺเถปิ อาคเต น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยตฺถ ปน สตํ วา สหสฺสํ วา สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺมา ตาทิเส กาเล ‘‘มหาสมโย’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ภฺุชิตพฺพํ.
สมณภตฺตสมโย นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน ภตฺตํ กโรติ, อยํ สมณภตฺตสมโยว. ตสฺมา สหธมฺมิเกสุ วา ติตฺถิเยสุ วา อฺตเรน เยน เกนจิ กเต ภตฺเต ‘‘สมณภตฺตสมโย’’ติ ภฺุชิตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ สมเย, ทฺเว ตโย เอกโต ภฺุชนฺติ, ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกโต สนฺนิปติตฺวา ภฺุชนฺติ, นิจฺจภตฺตํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ, ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๐) วจนโต เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา ทฺเว วา ตโย วา เอกโต คเหตฺวา ภฺุชนฺติ, เตสมฺปิ อนาปตฺติ.
ตตฺถ อนิมนฺติตจตุตฺถํ ปิณฺฑปาติกจตุตฺถํ อนุปสมฺปนฺนจตุตฺถํ ปตฺตจตุตฺถํ คิลานจตุตฺถนฺติ ปฺจนฺนํ จตุตฺถานํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. กถํ? อิเธกจฺโจ จตฺตาโร ภิกฺขู ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตติ. เตสุ ตโย คตา, เอโก น คโต. อุปาสโก ‘‘เอโก, ภนฺเต, เถโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉติ. นาคโต อุปาสกาติ. โส อฺํ ตํขณปฺปตฺตํ กฺจิ ‘‘เอหิ, ภนฺเต’’ติ ฆรํ ปเวเสตฺวา จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทติ ¶ , สพฺเพสํ อนาปตฺติ. กสฺมา? คณปูรกสฺส อนิมนฺติตตฺตา. ตโย เอว หิ ตตฺถ นิมนฺติตา คณฺหึสุ, เตหิ คโณ น ปูรติ, คณปูรโก จ อนิมนฺติโต, เตน คโณ ภิชฺชตีติ. เอตํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ.
ปิณฺฑปาติกจตุตฺเถ นิมนฺตนกาเล เอโก ปิณฺฑปาติโก โหติ, โส นาธิวาเสติ, คมนเวลายํ ปน ‘‘เอหิ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต อนธิวาสิตตฺตา อนาคจฺฉนฺตมฺปิ ‘‘เอถ ภิกฺขํ ลจฺฉถา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, โส ตํ คณํ ภินฺทติ, ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
อนุปสมฺปนฺนจตุตฺเถ สามเณเรน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, โสปิ คณํ ภินฺทติ.
ปตฺตจตุตฺเถ ¶ เอโก สยํ อาคนฺตฺวา ปตฺตํ เปเสติ, เอวมฺปิ คโณ ภิชฺชติ, ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
คิลานจตุตฺเถ คิลาเนน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, ตตฺถ คิลานสฺเสว อนาปตฺติ, อิตเรสํ ปน คณปูรโก โหติ. น หิ คิลาเนน คโณ ภิชฺชติ, ตสฺมา เตสํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ. ตสฺมา จีวรทานสมยลทฺธกาทีนมฺปิ วเสน จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ.
สเจ ปน อธิวาเสตฺวา คเตสุปิ จตูสุ ชเนสุ เอโก ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ คณํ ภินฺทิสฺสามิ, นิมนฺตนํ สาทิยถา’’ติ วตฺวา ยาคุขชฺชกาวสาเน ภตฺตตฺถาย ปตฺตํ คณฺหนฺตานํ อทตฺวา ‘‘อิเม ตาว ภิกฺขู โภเชตฺวา วิสฺสชฺเชถ, อหํ ปจฺฉา อนุโมทนํ กตฺวา คมิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน, เตสุ ภุตฺวา คเตสุ ‘‘เทถ, ภนฺเต, ปตฺต’’นฺติ อุปาสเกน ปตฺตํ คเหตฺวา ภตฺเต ทินฺเน ภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ. ปฺจนฺนฺหิ โภชนานํเยว วเสน คณโภชเน วิสงฺเกตํ นตฺถิ, โอทเนน นิมนฺเตตฺวา กุมฺมาสํ คณฺหนฺตาปิ อาปชฺชนฺติ, ตานิ จ เตหิ เอกโต น คหิตานิ, ยาคุอาทีหิ ปน วิสงฺเกตํ โหติ, ตานิ เตหิ เอกโต คหิตานีติ เอวํ เอโก ปณฺฑิโต อฺเสมฺปิ อนาปตฺตึ กโรติ. นิจฺจภตฺตนฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ, ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนํ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒. ‘‘ปรมฺปรโภชเน ¶ อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๒-๒๒๓, ๒๒๕) วุตฺตํ ปรมฺปรโภชนํ ปน นิมนฺตนโตเยว ปสวติ. โย หิ ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา นิมนฺติโต ตํ เปตฺวา อฺํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรโภชนํ ภฺุชติ, ตสฺเสตํ โภชนํ ‘‘ปรมฺปรโภชน’’นฺติ วุจฺจติ. เอวํ ภฺุชนฺตสฺส เปตฺวา คิลานสมยํ จีวรทานสมยํ จีวรการสมยฺจ อฺสฺมึ สมเย ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา นิมนฺตนปฏิปาฏิยาว ภฺุชิตพฺพํ, น อุปฺปฏิปาฏิยา.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิกปฺเปตฺวา ปรมฺปรโภชนํ ภฺุชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๖) วจนโต ปมนิมนฺตนํ อฺสฺส วิกปฺเปตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๖ อาทโย) วิกปฺปนา นาม สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ วฏฺฏติ. สมฺมุขา ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วา วตฺวา ภฺุชิตพฺพํ, อทิสฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ¶ ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วา วตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ ปน เอกสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา มิสฺเสตฺวา เอกํ กตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนาปตฺติ ทฺเว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๙) หิ วุตฺตํ. สเจ ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถาปิ อนาปตฺติ.
สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฏฺา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฏฺาย ภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ, หตฺถํ ปน อนฺโต ปเวเสตฺวา ปมนิมนฺตนโต เอกมฺปิ กพฬํ อุทฺธริตฺวา ภุตฺตกาลโต ปฏฺาย ยถา ตถา วา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ‘‘สเจปิ ตตฺถ ขีรํ วา รสํ วา อากิรนฺติ, เยน อชฺโฌตฺถตํ ภตฺตํ เอกรสํ โหติ, โกฏิโต ปฏฺาย ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘ขีรภตฺตํ วา รสภตฺตํ วา ลภิตฺวา นิสินฺนสฺส ตตฺเถว อฺเปิ ขีรภตฺตํ วา รสภตฺตํ วา อากิรนฺติ, ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อนาปตฺติ, ภฺุชนฺเตน ปมํ ลทฺธมํสขณฺฑํ วา ภตฺตปิณฺฑํ วา มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สปฺปิปายาเสปิ เอเสว นโย’’ติ.
มหาอุปาสโก ¶ ภิกฺขุํ นิมนฺเตติ, ตสฺส กุลํ อุปคตสฺส อุปาสโกปิ ตสฺส ปุตฺตทารภาตุภคินิอาทโยปิ อตฺตโน อตฺตโน โกฏฺาสํ อาหริตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปนฺติ, ‘‘อุปาสเกน ปมํ ทินฺนํ อภฺุชิตฺวา ปจฺฉา ลทฺธํ ภฺุชนฺตสฺส อาปตฺตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สเจ ปาเฏกฺกํ ปจนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน ปกฺกภตฺตโต อาหริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปจฺฉา อาหฏํ ปมํ ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ยทิ ปน สพฺเพสํ เอโกว ปาโก โหติ, ปรมฺปรโภชนํ น โหตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอุปาสโก นิมนฺเตตฺวา นิสีทาเปติ, อฺโ มนุสฺโส ปตฺตํ คณฺหาติ, น ทาตพฺพํ. กึ, ภนฺเต, น เทถาติ. นนุ อุปาสก ตยา นิมนฺติตมฺหาติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชถา’’ติ วทติ, ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อฺเน อาหริตฺวา ภตฺเต ทินฺเน อาปุจฺฉิตฺวาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉนฺตํ ธมฺมํ โสตุกามา ‘‘สฺเวปิ, ภนฺเต, อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ สพฺเพ นิมนฺเตนฺติ, ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? สพฺเพหิ นิมนฺติตตฺตา. เอโกปิ ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ภตฺตํ ลภติ, ตมฺโ อุปาสโก นิมนฺเตตฺวา ฆเร ¶ นิสีทาเปติ, น จ ตาว ภตฺตํ สมฺปชฺชติ, สเจ โส ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภฺุชติ, อาปตฺติ. อภฺุชิตฺวา นิสินฺเน ‘‘กึ, ภนฺเต, น ภฺุชสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตยา นิมนฺติตตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย. ‘‘อนาปตฺติ สกเลน คาเมน นิมนฺติโต ตสฺมึ คาเม ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชติ, สกเลน ปูเคน นิมนฺติโต ตสฺมึ ปูเค ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชติ, นิมนฺติยมาโน ‘ภิกฺขํ คเหสฺสามี’ติ ภณติ, นิจฺจภตฺเต สลากภตฺเต ปกฺขิเก อุโปสถิเก ปาฏิปทิเก ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๙) วุตฺตํ.
ตตฺถ นิมนฺติยมาโน ภิกฺขํ คเหสฺสามีติ ภณตีติ เอตฺถ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ นิมนฺติยมาโน ‘‘น มยฺหํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, ภิกฺขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วทติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน มหาปทุมตฺเถโร อาห ‘‘เอวํ วทนฺโต อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ภฺุชนตฺถาย ¶ ปน โอกาโส กโต โหตีติ เนว คณโภชนโต, น จาริตฺตโต มุจฺจตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร อาห ‘‘ยทคฺเคน อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ตทคฺเคน เนว คณโภชนํ, น จาริตฺตํ โหตี’’ติ.
ตตฺถ จาริตฺตนฺติ –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติยํ. ตตฺถายํ สมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย. อยํ ตตฺถ สมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) –
เอวมาคตํ จาริตฺตสิกฺขาปทํ วุตฺตํ. อิมินา หิ สิกฺขาปเทน โย ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติโต, เตเนว นิมนฺตนภตฺเตน สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปชฺชามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตํ ภุตฺวา วา อภุตฺวา วา อวีติวตฺเตเยว มชฺฌนฺหิเก ยสฺมึ กุเล นิมนฺติโต, ตโต อฺานิ กุลานิ ปวิเสยฺย, ตสฺส วุตฺตลกฺขณํ ทุวิธมฺปิ สมยํ เปตฺวา อฺตฺถ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ตสฺมา อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติยมาโน สเจ ‘‘ภิกฺขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วทติ, อิมินาปิ สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ.
๓. สนฺตํ ¶ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘) ปน กิตฺตาวตา สนฺโต โหติ, กิตฺตาวตา อสนฺโต? อนฺโตวิหาเร ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นาม, อิโต จิโต จ ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ ปน นตฺถิ. โย หิ เอวํ ปริเยสิตพฺโพ, โส อสนฺโตเยว. อปิจ อนฺโตอุปจารสีมาย ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘อาปุจฺฉิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ. ตตฺถ ยํ ปสฺสติ, โส อาปุจฺฉิตพฺโพ. โน เจ ปสฺสติ, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปวิฏฺโ นาม โหติ. วิกาลคามปฺปเวสเนปิ อยเมว นโย.
สเจ ¶ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) ปน สมฺพหุลา เกนจิ กมฺเมน คามํ ปวิสนฺติ, ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ สพฺเพหิ อฺมฺํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตสฺมึ คาเม ตํ กมฺมํ น สมฺปชฺชตีติ อฺํ คามํ คจฺฉนฺติ, คามสตมฺปิ โหตุ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตา อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสิตุกามา โหนฺติ, ปุน อาปุจฺฉิตพฺพเมว. กุลฆเร วา อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา เตลภิกฺขาย วา สปฺปิภิกฺขาย วา จริตุกาโม โหติ, สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อสนฺเต ภิกฺขุมฺหิ ‘‘นตฺถี’’ติ คนฺตพฺพํ, วีถึ โอตริตฺวา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อนาปุจฺฉิตฺวาปิ จริตพฺพเมว. คามมชฺเฌน มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เตลาทิภิกฺขาย จริสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา จริตพฺพํ. มคฺคา อโนกฺกมฺม ภิกฺขาย จรนฺตสฺส ปน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปุจฺฉาปิ พหิคามโต อนฺโตคามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.
๔. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อภินฺเน สรีเร ปํสุกูลํ คเหตพฺพํ, โย คณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๓๗) วจนโต อพฺภุณฺเห อลฺลสรีเร ปํสุกูลํ น คเหตพฺพํ, คณฺหนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อุปทฺทวา จ ตสฺส โหนฺติ, ภินฺเน ปน คเหตุํ วฏฺฏติ.
กิตฺตาวตา ปน ภินฺนํ โหติ? กากกุลลโสณสิงฺคาลาทีหิ มุขตุณฺฑเกน วา ทาาย วา อีสกํ ผาลิตมตฺเตนปิ. ยสฺส ปน ปตโต ฆํสเนน ฉวิมตฺตํ ฉินฺนํ โหติ, จมฺมํ อจฺฉินฺนํ, เอตํ อภินฺนเมว, จมฺเม ปน ฉินฺเน ภินฺนํ. ยสฺสปิ สชีวกาเลเยว ปภินฺนา คณฺฑกุฏฺปีฬกา วา วโณ วา โหติ, อิทมฺปิ ภินฺนํ, ตติยทิวสโต ปภุติ อุทฺธุมาตกาทิภาเวน กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว. สพฺเพน สพฺพํ ปน อภินฺเนปิ สุสานโคปเกหิ ¶ วา อฺเหิ วา มนุสฺเสหิ คาหาเปตุํ วฏฺฏติ. โน เจ อฺํ ลภติ, สตฺถเกน วา เกนจิ วา วณํ กตฺวา คเหตพฺพํ. วิสภาคสรีเร ปน สตึ อุปฏฺเปตฺวา สมณสฺํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส วา หตฺถปาทปิฏฺิยํ วา วณํ กตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๕. อจฺฉินฺนจีวรเกน ¶ ภิกฺขุนา กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา จีวรํ วิฺาเปตุํ. ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉติ, สเจ ตตฺถ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ภิสิจฺฉวิ วา, ตํ คเหตฺวา ปารุปิตุํ ‘ลภิตฺวา โอทหิสฺสามี’ติ. โน เจ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ภิสิจฺฉวิ วา, ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) วจนโต อิธ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
อยํ ปเนตฺถ อนุปุพฺพกถา (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๗). สเจ หิ โจเร ปสฺสิตฺวา ทหรา ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา คจฺฉนฺติ, เถเรหิ เนว ตาว จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ, น สาขาปลาสํ ภฺชิตพฺพํ. อถ ทหรา สพฺพํ ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานฺจ นิวาสนปารุปนํ ตฺจ ภณฺฑกํ หริตฺวา คจฺฉนฺติ, ทหเรหิ อาคนฺตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานิ. น หิ เต อนจฺฉินฺนจีวรา อตฺตโน อตฺถาย สาขาปลาสํ ภฺชิตุํ ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวรานํ ปน อตฺถาย ลภนฺติ. อจฺฉินฺนจีวราว อตฺตโนปิ ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺติ, ตสฺมา เถเรหิ วา สาขาปลาสํ ภฺชิตฺวา วากาทีหิ คนฺเถตฺวา ทหรานํ ทาตพฺพํ, ทหเรหิ วา เถรานํ อตฺถาย ภฺชิตฺวา คนฺเถตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา วา อทตฺวา วา อตฺตนา นิวาเสตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ เถรานํ ทาตพฺพานิ, เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหติ, น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏํ.
สเจ อนฺตรามคฺเค รชกตฺถรณํ วา โหติ, อฺเ วา ตาทิเส มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ. ยานิ จ เนสํ เต วา วิฺตฺตมนุสฺสา อฺเ วา สาขาปลาสนิวาสเน ภิกฺขู ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา วตฺถานิ เทนฺติ, ตานิ สทสานิ วา โหนฺตุ อทสานิ วา นีลาทินานาวณฺณานิ วา, กปฺปิยานิปิ อกปฺปิยานิปิ สพฺพานิปิ อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา เตสํ นิวาเสตฺุจ ปารุปิตฺุจ วฏฺฏนฺติ.
‘‘อกปฺปกตํ นาปิ รชนาย รตฺตํ,
เตน นิวตฺโถ เยนกามํ วเชยฺย;
น จสฺส โหติ อาปตฺติ,
โส จ ธมฺโม สุคเตน เทสิโต;
ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ปฺโห อจฺฉินฺนจีวรกภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺโต. อถ ปน ติตฺถิเยหิ สมาคจฺฉนฺติ, เต จ เนสํ กุสจีรวากจีรผลกจีรานิ เทนฺติ, ตานิปิ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏนฺติ, นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา.
ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉนฺติ, ตตฺถ วิหารจีวราทีสุ ยํ อตฺถิ, ตํ อนาปุจฺฉาปิ คเหตฺวา นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา ลภติ. ตฺจ โข ‘‘ลภิตฺวา โอทหิสฺสามิ, ปุน เปสฺสามี’’ติ อธิปฺปาเยน, น มูลจฺเฉชฺชาย. ลภิตฺวา จ ปน าติโต วา อุปฏฺากโต วา อฺโต วา กุโตจิ ปากติกเมว กาตพฺพํ. วิเทสคเตน ปน เอกสฺมึ สงฺฆิเก อาวาเส สงฺฆิกปริโภเคน ภฺุชนตฺถาย เปตพฺพํ. สจสฺส ปริโภเคเนว ตํ ชีรติ วา นสฺสติ วา, คีวา น โหติ. สเจ ปน เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ คิหิวตฺถาทีนํ ภิสิจฺฉวิปริยนฺตานํ กิฺจิ น ลภติ, เตน ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพนฺติ.
๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฏิภานจิตฺตํ การาเปตพฺพํ อิตฺถิรูปกํ ปุริสรูปกํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๙) วจนโต อิตฺถิปุริสรูปํ กาตุํ วา การาเปตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ. น เกวลํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๙) อิตฺถิปุริสรูปเมว, ติรจฺฉานรูปมฺปิ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทรูปํ ภิกฺขุโน สยํ กาตุํ วา ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘อุปาสก ทฺวารปาลํ กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลภติ. ชาตกปกรณอสทิสทานาทีนิ ปน ปสาทนียานิ นิพฺพิทาปฏิสํยุตฺตานิ วา วตฺถูนิ ปเรหิ การาเปตุํ ลภติ, มาลากมฺมาทีนิ สยมฺปิ กาตุํ ลภติ.
๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, วิปฺปกตโภชโน ภิกฺขุ วุฏฺาเปตพฺโพ, โย วุฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๖) วจนโต อนฺตรฆเร (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๖) วา วิหาเร ¶ วา ¶ อรฺเ วา ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชมาโน ภิกฺขุ อนิฏฺิเต โภชเน น วุฏฺาเปตพฺโพ, อนฺตรฆเร ปจฺฉา อาคเตน ภิกฺขํ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา วา ภิกฺขู วา ‘‘ปวิสถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘มยิ ปวิสนฺเต ภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘เอถ, ภนฺเต, อาสนํ อตฺถี’’ติ วุตฺเต ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ โกจิ กิฺจิ น วทติ, อาสนสาลํ คนฺตฺวา อติสมีปํ อคนฺตฺวา สภาคฏฺาเน าตพฺพํ. โอกาเส กเต ‘‘ปวิสถา’’ติ วุตฺเตน ปวิสิตพฺพํ. สเจ ปน ยํ อาสนํ ตสฺส ปาปุณาติ, ตตฺถ อภฺุชนฺโต ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, ตํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. ยาคุขชฺชกาทีสุ ปน ยํ กิฺจิ ปิวิตฺวา ขาทิตฺวา วา ยาว อฺโ อาคจฺฉติ, ตาว นิสินฺนํ ริตฺตหตฺถมฺปิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วิปฺปกตโภชโนเยว หิ โส โหติ.
สเจ ปน อาปตฺตึ อติกฺกมิตฺวาปิ วุฏฺาเปติเยว, ยํ โส วุฏฺาเปติ, อยฺจ ภิกฺขุ ปวาริโต โหติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘‘คจฺฉ อุทกํ อาหราหี’’ติ. วุฑฺฒตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ อิทเมว เอกฏฺานํ. สเจ โส อุทกมฺปิ น อาหรติ, สาธุกํ สิตฺถานิ คิลิตฺวา วุฑฺฒสฺส อาสนํ ทาตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สเจ วุฏฺาเปติ, ปวาริโต จ โหติ, ‘คจฺฉ อุทกํ อาหรา’ติ วตฺตพฺโพ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, สาธุกํ สิตฺถานิ คิลิตฺวา วุฑฺฒสฺส อาสนํ ทาตพฺพํ. นตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, ‘เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน อาสนํ ปฏิพาหิตพฺพ’นฺติ วทามิ, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๖).
๘. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นวเกน ภิกฺขุนา อุทฺทิสนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ อุจฺจตเร วา ธมฺมคารเวน, เถเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสาเปนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ นีจตเร วา ธมฺมคารเวนา’’ติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต นวกตเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสนฺเตน อุจฺจตเรปิ อาสเน นิสีทิตุํ, วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสาเปนฺเตน นีจตเรปิ อาสเน นิสีทิตุํ วฏฺฏติ.
๙. ‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, ติวสฺสนฺตเรน สห นิสีทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ติวสฺสนฺตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาสเน นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ติวสฺสนฺตโร (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) นาม โย ทฺวีหิ วสฺเสหิ มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ, โย ปน เอเกน วสฺเสน ¶ มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา, โย วา สมานวสฺโส, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม สพฺเพ เอกสฺมึ มฺเจ วา ปีเ วา ทฺเว ทฺเว หุตฺวา นิสีทิตุํ ลภนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) หิ วุตฺตํ.
๑๐. ยํ ปน ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ติณฺณํ ปโหติ, เอตฺตกํ ปจฺฉิมํ ทีฆาสน’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) หิ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ปณฺฑกํ มาตุคามํ อุภโตพฺยฺชนกํ อสมานาสนิเกหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปน ทีฆาสเนปิ ปณฺฑกาทีหิ สห นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ.
๑๑. คิลานํ อุปฏฺหนฺเตน ‘‘นตฺถิ โว, ภิกฺขเว, มาตา, นตฺถิ ปิตา, เย โว อุปฏฺเหยฺยุํ, ตุมฺเห เจ, ภิกฺขเว, อฺมฺํ น อุปฏฺหิสฺสถ, อถ โก จรหิ อุปฏฺหิสฺสติ. โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๖๕) อิมํ ภควโต อนุสาสนึ อนุสฺสรนฺเตน สกฺกจฺจํ อุปฏฺาตพฺโพ.
สเจ อุปชฺฌาโย โหติ, อุปชฺฌาเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อาจริโย โหติ, อาจริเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สทฺธิวิหาริโก โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อนฺเตวาสิโก โหติ, อนฺเตวาสิเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานุปชฺฌายโก โหติ, สมานุปชฺฌายเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานาจริยโก โหติ, สมานาจริยเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ น โหติ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก ¶ วา สมานุปชฺฌายโก วา สมานาจริยโก วา, สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๕) –
วจนโต ยสฺส (มหาว. อฏฺ. ๓๖๕) เต อุปชฺฌายาทโย ตสฺมึ วิหาเร นตฺถิ, อาคนฺตุโก โหติ เอกจาริกภิกฺขุ, สงฺฆสฺส ภาโร, ตสฺมา สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, สกลสฺส สงฺฆสฺส อาปตฺติ. วารํ เปตฺวา ชคฺคนฺเตสุ ปน โย อตฺตโน วาเร น ชคฺคติ, ตสฺเสว ¶ อาปตฺติ, สงฺฆตฺเถโรปิ วารโต น มุจฺจติ. สเจ สกโล สงฺโฆ เอกสฺส ภารํ กโรติ, เอโก วา วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อหเมว ชคฺคิสฺสามี’’ติ ชคฺคติ, สงฺโฆ อาปตฺติโต มุจฺจติ.
คิลาเนน ปน –
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺโ โหติ. อสปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ น ชานาติ, เภสชฺชํ น ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ นาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหตี’’ติ (มหาว. ๓๖๖) –
เอวํ วุตฺตานิ ปฺจ อยุตฺตงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา –
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺโ โหติ. สปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ ชานาติ, เภสชฺชํ ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหตี’’ติ (มหาว. ๓๖๖) –
เอวํ วุตฺตปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ.
คิลานุปฏฺาเกน ¶ จ –
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ. น ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ น ชานาติ, อสปฺปายํ อุปนาเมติ, สปฺปายํ อปนาเมติ, อามิสนฺตโร คิลานํ อุปฏฺาติ, โน เมตฺตจิตฺโต, เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, น ปฏิพโล โหติ ¶ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๖๖) –
เอวํ วุตฺตานิ ปฺจ อยุตฺตงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา –
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ. ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ ชานาติ, อสปฺปายํ อปนาเมติ, สปฺปายํ อุปนาเมติ, เมตฺตจิตฺโต คิลานํ อุปฏฺาติ, โน อามิสนฺตโร, อเชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๖๖) –
เอวํ วุตฺตปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ.
๑๒. ธมฺมึ กถํ กโรนฺเตน (มหาว. อฏฺ. ๒.๑๘๐) จ ‘‘สีลวา หิ ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา มียมาโน ภายสิ, นนุ สีลวโต สคฺโค นาม มรณมตฺตปฏิพทฺโธเยวา’’ติ เอวํ คิลานสฺส ภิกฺขุโน มรณวณฺโณ น สํวณฺเณตพฺโพ. สเจ หิ ตสฺส สํวณฺณนํ สุตฺวา อาหารุปจฺเฉทาทินา อุปกฺกเมน เอกชวนวาราวเสเสปิ อายุสฺมึ อนฺตรา กาลํ กโรติ, อิมินาว มาริโต โหติ. ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา อิมินา นเยน อนุสิฏฺิ ทาตพฺพา ‘‘สีลวโต นาม อนจฺฉริยา มคฺคผลุปฺปตฺติ, ตสฺมา วิหาราทีสุ อาสตฺตึ อกตฺวา พุทฺธคตํ ธมฺมคตํ สงฺฆคตํ กายคตฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา มนสิกาเร อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ. มรณวณฺเณปิ สํวณฺณิเต โส ตาย สํวณฺณนาย กฺจิ อุปกฺกมํ อกตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย ¶ ยถายุนา ยถานุสนฺธินาว มรติ, ตปฺปจฺจยา สํวณฺณโก อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ.
๑๓. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๓) วจนโต คิลาเนน (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๒-๑๘๓) ภิกฺขุนาปิ เยน เกนจิ อุปกฺกเมน อนฺตมโส อาหารุปจฺเฉทเนนปิ อตฺตา น มาเรตพฺโพ. โยปิ คิลาโน วิชฺชมาเน เภสชฺเช จ อุปฏฺาเกสุ จ มริตุกาโม อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ปน มหาอาพาโธ จิรานุพนฺโธ, ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา กิลมนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ, ‘‘กทา นุ โข คิลานโต ¶ มุจฺจิสฺสามา’’ติ อฏฺฏียนฺติ. สเจ โส ‘‘อยํ อตฺตภาโว ปฏิชคฺคิยมาโนปิ น ติฏฺติ, ภิกฺขู จ กิลมนฺตี’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, เภสชฺชํ น เสวติ, วฏฺฏติ. โย ปน ‘‘อยํ โรโค ขโร, อายุสงฺขารา น ติฏฺนฺติ, อยฺจ เม วิเสสาธิคโม หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ, วฏฺฏติเยว. อคิลานสฺสปิ อุปฺปนฺนสํเวคสฺส ‘‘อาหารปริเยสนํ นาม ปปฺโจ, กมฺมฏฺานเมว อนุยฺุชิสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน อุปจฺฉินฺทนฺตสฺส วฏฺฏติ. วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. สภาคานฺหิ ลชฺชีภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏติ.
๑๔. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา อาสเน นิสีทิตพฺพํ, โย นิสีเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๐) วจนโต อาสนํ อนุปปริกฺขิตฺวา น นิสีทิตพฺพํ. กีทิสํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๐) ปน อาสนํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, กีทิสํ น อุปปริกฺขิตพฺพํ? ยํ สุทฺธํ อาสนเมว โหติ อปจฺจตฺถรณกํ, ยฺจ อาคนฺตฺวา ิตานํ ปสฺสตํเยว อตฺถรียติ, ตํ น ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ยมฺปิ มนุสฺสา สยํ หตฺเถน อกฺกมิตฺวา ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ เทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ วฏฺฏติ. สเจปิ ปมเมว อาคนฺตฺวาปิ นิสินฺนา ปจฺฉา อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺติ, ปฏิเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยมฺปิ ตนุเกน วตฺเถน ยถา ตลํ ทิสฺสติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตสฺมิมฺปิ ปฏิเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยํ ปน ปฏิกจฺเจว ปาวารโกชวาทีหิ อตฺถตํ โหติ, ตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ฆนสาฏเกนปิ อตฺถเต ยสฺมึ วลิ น ปฺายติ, ตํ น ปฏิเวกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๕. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ทวาย สิลา ปฏิวิชฺฌิตพฺพา, โย ปฏิวิชฺเฌยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๓) วจนโต หสาธิปฺปาเยน ปาสาโณ น ปวฏฺเฏตพฺโพ. น เกวลฺจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๒-๑๘๓) ปาสาโณ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปฏิวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ, ‘‘กมฺมสมโย’’ติ วฏฺฏติ, อฺมฺปิ อีทิสํ นวกมฺมํ วา กโรนฺตา ภณฺฑกํ วา โธวนฺตา รุกฺขํ วา โธวนทณฺฑกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ปฏิวิชฺฌนฺติ, วฏฺฏติ, ภตฺตวิสฺสคฺคกาลาทีสุ กาเก วา โสเณ วา กฏฺํ วา กถลํ วา ขิปิตฺวา ปลาเปนฺติ, วฏฺฏติ.
๑๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโย อาลิมฺปิตพฺโพ, โย อาลิมฺเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๓) วจนโต ¶ วเน อคฺคิ น ทาตพฺโพ. สเจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๐) ปน ‘‘เอตฺถนฺตเร โย โกจิ สตฺโต มรตู’’ติ อคฺคึ เทติ, ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูนํ อนุรูปโต ปาราชิกาทีนิ อกุสลราสิ จ โหติ. ‘‘อลฺลติณวนปฺปตโย ฑยฺหนฺตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ‘‘ทพฺพูปกรณานิ วินสฺสนฺตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ‘‘ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ อลฺลสุกฺขํ สอินฺทฺริยานินฺทฺริยํ ฑยฺหตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส วตฺถุวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ.
ปฏคฺคิทานํ ปน ปริตฺตกรณฺจ ภควตา อนฺุาตํ, ตสฺมา อรฺเ วนกมฺมิเกหิ วา ทินฺนํ สยํ วา อุฏฺิตํ อคฺคึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ติณกุฏิโย มา วินสฺสนฺตู’’ติ ตสฺส อคฺคิโน ปฏิอคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, เยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต อคฺคิ เอกโต หุตฺวา นิรุปาทาโน นิพฺพาติ. ‘‘ปริตฺตมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนํ ปริขาขณนํ วา, ยถา อาคโต อคฺคิ อุปาทานํ อลภิตฺวา นิพฺพาติ, เอตฺจ สพฺพํ อุฏฺิเตเยว อคฺคิสฺมึ อสติ อนุปสมฺปนฺเน สยมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อนุฏฺิเต ปน อนุปสมฺปนฺเนหิ กปฺปิยโวหาเรน กาเรตพฺพํ, อุทเกน ปน นิพฺพาเปนฺเตหิ อปฺปาณกเมว อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.
๑๗. อสฺสทฺเธสุ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๑) มิจฺฉาทิฏฺิกุเลสุ สกฺกจฺจํ ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวา เนว อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพํ, น ปเรสํ ทาตพฺพํ. วิสมิสฺสมฺปิ หิ ตานิ กุลานิ ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ. ยมฺปิ อาภิโทสิกํ ภตฺตํ วา ขชฺชกํ วา ตโต ลภติ, ตมฺปิ น ปริภฺุชิตพฺพํ. อปิหิตวตฺถุมฺปิ หิ สปฺปวิจฺฉิกาทีหิ อธิสยิตํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ ตานิ กุลานิ เทนฺติ. คนฺธหลิทฺทาทิมกฺขิโตปิ ตโต ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. สรีเร โรคฏฺานานิ ปฺุฉิตฺวา ปิตภตฺตมฺปิ หิ ตานิ ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ.
๑๘. ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเน’’ติ (ปารา. ๑๕๖) วุตฺตํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕๖) กตรํ โคปกทานํ วฏฺฏติ, กตรํ น วฏฺฏติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห ‘‘ยํ โคปกสฺส ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ โหติ ‘เอตฺตกํ ทิวเส ทิวเส คณฺหา’ติ, ตเทว วฏฺฏติ, ตโต อุตฺตริ น วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กึ โคปกานํ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา นิมิตฺตสฺํ วา กตฺวา ทินฺนํ อตฺถิ, เอเตสํ หตฺเถ วิสฺสฏฺกสฺส เอเต อิสฺสรา, ตสฺมา ยํ เทนฺติ, ตํ พหุกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘มนุสฺสานํ อารามํ วา อฺํ วา ผลาผลํ ทารกา รกฺขนฺติ, เตหิ ทินฺนํ วฏฺฏติ, อาหราเปตฺวา ปน น คเหตพฺพํ. สงฺฆิเก ปน เจติยสฺส ¶ สนฺตเก จ เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺเสว ทานํ วฏฺฏติ, เวตเนน รกฺขนฺตสฺส อตฺตโน ภาคมตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยํ คิหีนํ อารามรกฺขกา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามโคปกา ยํ อตฺตโน ภติยา ขณฺฑิตฺวา เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. โยปิ อุปฑฺฒารามํ วา เกจิเทว รุกฺเข วา ภตึ ลภิตฺวา รกฺขติ, ตสฺสปิ อตฺตโน สมฺปตฺตรุกฺขโตเยว ทาตุํ วฏฺฏติ, เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺส ปน สพฺพมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอตํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนโต นานํ, อตฺถโต เอกเมว, ตสฺมา อธิปฺปายํ ตฺวา คเหตพฺพํ.
อปิเจตฺถ อยมฺปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕๖) – ยตฺถ อาวาสิกา อาคนฺตุกานํ น เทนฺติ, ผลวาเร จ สมฺปตฺเต อฺเสํ อภาวํ ทิสฺวา โจริกาย อตฺตนาว ขาทนฺติ, ตตฺถ อาคนฺตุเกหิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน อาวาสิกา รุกฺเข รกฺขิตฺวา ผลวาเร สมฺปตฺเต ภาเชตฺวา ขาทนฺติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ สมฺมา อุปเนนฺติ, อนิสฺสรา ¶ ตตฺถ อาคนฺตุกา. เยปิ รุกฺขา จีวรตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนา, เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสรา. เอส นโย เสสปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺเนปิ. เย ปน ตถา อนิยเมตฺวา อาวาสิกา จ เต รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา โจริกาย ปริภฺุชนฺติ, น เตสุ อาวาสิกานํ กติกาย าตพฺพํ. เย ผลปริโภคตฺถาย ทินฺนา, อาวาสิกา จ เน รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา สมฺมา อุปเนนฺติ, เตสุเยว เตสํ กติกาย าตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘จตุนฺนํ ปจฺจยานํ นิยเมตฺวา ทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ, ปริโภควเสน ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. ยํ ปเนตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ, ตํ ปริโภควเสเนว ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยฺจ ภณฺฑเทยฺยฺจา’’ติ.
โอทิสฺส จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺติ, จีวรํ ปน สุลภํ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ปิณฺฑปาเตปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. เสนาสเนน คิลานปจฺจเยน วา กิลมนฺเตสุ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. โอทิสฺส ปิณฺฑปาตตฺถาย จ คิลานปจฺจยตฺถาย จ ทินฺเนปิ เอเสว นโย. โอทิสฺส เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ, ตํ รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ตทตฺถเมว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน น ยาเปนฺติ, เอตฺถ ราชโรคโจรภยาทีหิ อฺตฺถ คจฺฉนฺตานํ วิหารา ปลุชฺชนฺติ, ตาลนาฬิเกราทิเก วินาเสนฺติ, เสนาสนปจฺจยํ ปน นิสฺสาย ยาเปตุํ สกฺกา โหติ, เอวรูเป กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ เสนาสนชคฺคนตฺถาย ปริโภโค ภควตา อนฺุาโต. ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา ¶ อิตรานิ ลามกโกฏิยา ปิณฺฑปาตตฺถาย วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏนฺติ, มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพํ.
โย ปน อาราโม จตุปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺโน, ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เยน ปจฺจเยน ปน อูนํ, ตทตฺถํ อุปเนตุํ วฏฺฏติ, อาราโม ปฏิชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. เย ปน เวตนํ ลภิตฺวา อาราเมเยว เคหํ กตฺวา วสนฺตา รกฺขนฺติ, เต เจ อาคตานํ ภิกฺขูนํ นาฬิเกรํ วา ตาลปกฺกํ วา เทนฺติ, ยํ เตสํ สงฺเฆน อนฺุาตํ โหติ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอตฺตกํ นาม ขาทถา’’ติ, ตเทว ¶ เต ทาตุํ ลภนฺติ, ตโต อุตฺตริ เตสํ เทนฺตานมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏนฺติ. โย ปน อารามํ เกณิยา คเหตฺวา สงฺฆสฺส จตุปจฺจยตฺถาย กปฺปิยภณฺฑเมว เทติ, อยํ พหุกมฺปิ ทาตุํ ลภติ. เจติยสฺส ปทีปตฺถาย วา ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณตฺถาย วา ทินฺนอาราโมปิ ชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺโพ. เวตนฺจ ปเนตฺถ เจติยสนฺตกมฺปิ สงฺฆสนฺตกมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. เอตมฺปิ อารามํ เวตเนน ตตฺเถว วสิตฺวา รกฺขนฺตานฺจ เกณิยา คเหตฺวา กปฺปิยภณฺฑทายกานฺจ ตตฺถชาตกผลทานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๙. ธมฺมิกรกฺขํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๗๙) ยาจนฺเตน อตีตํ อนาคตํ วา อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขิตุํ น วฏฺฏติ. อตีตฺหิ อารพฺภ อตฺถิ โอทิสฺส อาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา, อนาคตํ อารพฺภปิ อตฺถิ โอทิสฺส อาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา. กถํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ? ภิกฺขูนํ วิหาเร คามทารกา วา ธุตฺตาทโย วา เย เกจิ อนาจารํ อาจรนฺติ, รุกฺขํ วา ฉินฺทนฺติ, ผลาผลํ วา หรนฺติ, ปริกฺขาเร วา อจฺฉินฺทนฺติ, ภิกฺขุ โวหาริเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ วิหาเร อิทํ นาม กต’’นฺติ วทติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา น วฏฺฏติ. ตฺเจ สุตฺวา เต โวหาริกา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุสฺส คีวา โหติ, ‘‘ทณฺฑํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยปิ สติ คีวาเยว โหติ. สเจ ปน ‘‘ตสฺส ทณฺฑํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปฺจมาสกมตฺเต คหิเต ปาราชิกํ โหติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อสุเกนาติ วตฺตุํ อมฺหากํ น วฏฺฏติ, ตุมฺเหเยว ชานิสฺสถ. เกวลฺหิ มยํ รกฺขํ ยาจาม, ตํ โน เทถ, อวหฏภณฺฑฺจ อาหราเปถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเต สเจปิ เต โวหาริกา การเก คเวสิตฺวา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพสาปเตยฺเยปิ คหิเต ภิกฺขุโน เนว คีวา, น อาปตฺติ. ปริกฺขารํ หรนฺเต ทิสฺวา เตสํ อนตฺถกามตาย ‘‘โจโร ¶ โจโร’’ติ วตฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเตปิ หิ ยํ เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุโน คีวา โหติ. อตฺตโน วจนกรํ ปน ‘‘อิมินา เม ปริกฺขาโร คหิโต, ตํ อาหราเปหิ, มา จสฺส ทณฺฑํ กโรหี’’ติ ¶ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทาสทาสีวาปิอาทีนมฺปิ อตฺถาย อฑฺฑํ กโรนฺติ อยํ อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม, น วฏฺฏติ.
กถํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ? วุตฺตนเยเนว ปเรหิ อนาจาราทีสุ กเตสุ ภิกฺขุ โวหาริเก เอวํ วทติ ‘‘อมฺหากํ วิหาเร อิทฺจิทฺจ กโรนฺติ, รกฺขํ โน เทถ อายตึ อกรณตฺถายา’’ติ. ‘‘เกน เอวํ กต’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. เตสฺหิ ทณฺเฑ กเต ปุริมนเยเนว สพฺพํ ภิกฺขุสฺส คีวา, เสสํ ปุริมสทิสเมว. สเจ โวหาริกา ‘‘ภิกฺขูนํ วิหาเร เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺตานํ อิมํ นาม ทณฺฑํ กโรมา’’ติ เภรึ จราเปตฺวา อาณาย อติฏฺมาเน ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติ, ภิกฺขุโน เนว คีวา, น อาปตฺติ. วิหารสีมาย รุกฺขาทีนิ ฉินฺทนฺตานํ วาสิผรสุอาทีนิ คเหตฺวา ปาสาเณหิ โกฏฺเฏนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ธารา ภิชฺชติ, การาเปตฺวา ทาตพฺพา. อุปธาวิตฺวา เตสํ ปริกฺขาเร คณฺหนฺติ, ตมฺปิ น กาตพฺพํ. ลหุปริวตฺตฺหิ จิตฺตํ, เถยฺยเจตนาย อุปฺปนฺนาย มูลจฺเฉชฺชมฺปิ คจฺเฉยฺย.
๒๐. อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา สงฺการํ วา วิฆาสํ วา ติโรกุฏฺเฏ วา ติโรปากาเร วา ฉฑฺเฑตุํ วา ฉฑฺฑาเปตุํ วา น วฏฺฏติ. จตฺตาริปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๖) วตฺถูนิ เอกปโยเคน ฉฑฺเฑนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏํ, ปาเฏกฺกํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานิ. อาณตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. ทนฺตกฏฺฉฑฺฑเนปิ ทุกฺกฏเมว. โอโลเกตฺวา วา อวลฺเช วา อุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยมฺปิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ โรปิมํ เขตฺตํ โหตุ นาฬิเกราทิอาราโม วา, ตตฺถาปิ ยตฺถ กตฺถจิ โรปิมหริตฏฺาเน เอตานิ วตฺถูนิ ฉฑฺเฑตุํ น วฏฺฏติ. ฉฑฺเฑนฺตสฺส ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เขตฺเต วา อาราเม วา นิสีทิตฺวา ภฺุชมาโน อุจฺฉุอาทีนิ วา ขาทมาโน คจฺฉนฺโต อุจฺฉิฏฺโทกจลกาทีนิ หริตฏฺาเน ฉฑฺเฑติ, อนฺตมโส อุทกํ ปิวิตฺวา มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ทุกฺกฏํ. กสิตฏฺาเน นิกฺขิตฺตพีเช องฺกุเร อุฏฺิเตปิ อวุฏฺิเตปิ ทุกฺกฏเมว. อนิกฺขิตฺตพีเชสุ ปน เขตฺตโกณาทีสุ วา อสฺชาตโรปิเมสุ เขตฺตมริยาทาทีสุ วา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ, มนุสฺสานํ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเนปิ วฏฺฏติ. มนุสฺเสสุ ¶ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน ‘‘ลายิตมฺปิ ปุพฺพณฺณาทิ ปุน อุฏฺหิสฺสตี’’ติ รกฺขนฺติ, ตตฺถ น วฏฺฏติ.
๒๑. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, นหายมาเนน ภิกฺขุนา รุกฺเข กาโย อุคฺฆํเสตพฺโพ, โย อุคฺฆํเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต นหายนฺเตน (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๓ อาทโย) รุกฺเข วา นหานติตฺเถ นิขนิตฺวา ปิตตฺถมฺเภ วา อิฏฺกสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ กุฏฺเฏ วา กาโย น ฆํเสตพฺโพ.
‘‘น, ภิกฺขเว, อฏฺฏาเน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต อฏฺฏาเนปิ นหายิตุํ น วฏฺฏติ. อฏฺฏานํ นาม รุกฺขํ ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นหานติตฺเถ นิขนนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, คนฺธพฺพหตฺถเกน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬฺว. ๒๔๓) วจนโต นหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ, เตน นหายิตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, กุรุวินฺทกสุตฺติยา นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต กุรุวินฺทกสุตฺติยาปิ นหายิตุํ น วฏฺฏติ. กุรุวินฺทกสุตฺติ นาม กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ยํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต อฺมฺํ สรีเรน ฆํสิตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มลฺลเกน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส อกตมลฺลก’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๓-๒๔๔) วจนโต มกรทณฺฑเก ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กตํ ‘‘มลฺลก’’นฺติ วุจฺจติ, อิทํ คิลานสฺสปิ น วฏฺฏติ. อกตมลฺลกํ นาม ทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺส น วฏฺฏติ, อิฏฺกขณฺฑํ ปน กปาลขณฺฑํ วา วฏฺฏติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุกฺกาสิกํ ปุถุปาณิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๔) วจนโต อุกฺกาสิกํ ปุถุปาณิกฺจ วฏฺฏติ. อุกฺกาสิกํ นาม วตฺถวฏฺฏิ, ตสฺมา นหายนฺตสฺส ¶ ยสฺส กสฺสจิ ¶ นหานสาฏกวฏฺฏิยา ปิฏฺึ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ. ปุถุปาณิกนฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺเพสํ หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
อิทํ ปเนตฺถ นหานวตฺตํ – อุทกติตฺถํ คนฺตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ วา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เวเคน ิตเกเนว น โอตริตพฺพํ, สพฺพทิสา ปน โอโลเกตฺวา วิวิตฺตภาวํ ตฺวา ขาณุคุมฺพลตาทีนิ ววตฺถเปตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุกฺกาสิตฺวา อวกุชฺช ิเตน อุตฺตราสงฺคจีวรํ อปเนตฺวา ปสาเรตพฺพํ, กายพนฺธนํ โมเจตฺวา จีวรปิฏฺเเยว เปตพฺพํ. สเจ อุทกสาฏิกา นตฺถิ, อุทกนฺเต อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา นิวาสนํ โมเจตฺวา สเจ นินฺนฏฺานํ อตฺถิ, อาตเป ปสาเรตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, สํหริตฺวา เปตพฺพํ. โอตรนฺเตน สณิกํ นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตริตฺวา วีจึ อนุฏฺเปนฺเตน สทฺทํ อกโรนฺเตน นิวตฺติตฺวา อาคตทิสาภิมุเขน นิมุชฺชิตพฺพํ, เอวํ จีวรํ รกฺขิตํ โหติ. อุมฺมุชฺชนฺเตนปิ สทฺทํ อกโรนฺเตน สณิกํ อุมฺมุชฺชิตฺวา นหานปริโยสาเน อุทกนฺเต อุกฺกุฏิเกน นิสีทิตฺวา นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวา อุฏฺาย สุปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวาว าตพฺพํ.
๒๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, วลฺลิกา ธาเรตพฺพา… น ปามงฺโค ธาเรตพฺโพ… น กณฺสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น กฏิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น โอวฏฺฏิกํ ธาเรตพฺพํ… น กายูรํ ธาเรตพฺพํ… น หตฺถาภรณํ ธาเรตพฺพํ… น องฺคุลิมุทฺทิกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๕) วจนโต กณฺณปิฬนฺธนาทิ ยํ กิฺจิ อาภรณํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๕) วลฺลิกาติ กณฺณโต นิกฺขนฺตมุตฺโตลมฺพกาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. น เกวลฺจ วลฺลิกา เอว, ยํ กิฺจิ กณฺณปิฬนฺธนํ อนฺตมโส ตาลปณฺณมฺปิ น วฏฺฏติ. ปามงฺคนฺติ ยํ กิฺจิ ปลมฺพกสุตฺตํ. กณฺสุตฺตกนฺติ ยํ กิฺจิ คีวูปคํ อาภรณํ. กฏิสุตฺตกนฺติ ยํ กิฺจิ กฏิปิฬนฺธนํ, อนฺตมโส สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ. โอวฏฺฏิกนฺติ วลยํ. กายูราทีนิ ปากฏาเนว.
๒๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา เกสา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเวมาสิกํ วา ทุวงฺคุลํ วา’’ติ (จูฬว. ๒๔๖) วจนโต ¶ สเจ เกสา อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุลํ ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสเยว ฉินฺทิตพฺพา, ทฺวงฺคุเลหิ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกาเมตุํ น ลภติเยว. อุภยถาปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน น วฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, กตฺตริกาย เกสา เฉทาเปตพฺพา, โย เฉทาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต อาพาธํ วินา กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, โกจฺเฉน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น ผณเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น หตฺถผณเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น สิตฺถเตลเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น อุทกเตลเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา, โย โอสณฺเยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๖) วจนโต มณฺฑนตฺถาย โกจฺฉาทีหิ เกสา น โอสณฺเตพฺพา, อุทฺธโลเมน ปน อนุโลมนิปาตนตฺถํ หตฺถํ เตเมตฺวา สีสํ ปฺุฉิตพฺพํ, อุณฺหาภิตตฺตรชสิรานมฺปิ อลฺลหตฺเถน ปฺุฉิตุํ วฏฺฏติ.
๒๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตพฺพํ, โย โอโลเกยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๗) วจนโต อาพาธํ วินา อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขํ น โอโลเกตพฺพํ. เอตฺถ จ กํสปตฺตาทีนิปิ เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, กฺชิยาทีนิปิ จ อุทกปตฺตสงฺขเมว. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อาพาธปจฺจยา ปน ‘‘สฺฉวิ นุ โข เม วโณ, อุทาหุ น ตาวา’’ติ ชานนตฺถํ วฏฺฏติ, ‘‘ชิณฺโณ นุ โขมฺหิ, โน’’ติ เอวํ อายุสงฺขารํ โอโลกนตฺถมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มุขํ อาลิมฺปิตพฺพํ… น มุขํ อุมฺมทฺทิตพฺพํ… น มุขํ จุณฺเณตพฺพํ… น มโนสิลิกาย มุขํ ลฺเฉตพฺพํ… น องฺคราโค กาตพฺโพ… น มุขราโค กาตพฺโพ… น องฺคราคมุขราโค กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา มุขํ อาลิมฺปิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๗) วจนโต อาพาธํ วินา มุขวิลิมฺปนาทิ น กาตพฺพํ.
๒๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คนฺตพฺพํ, โย คจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๘) วจนโต นจฺจาทึ ทสฺสนาย น คนฺตพฺพํ. เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๕) จ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา อนฺตมโส โมรสูวมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพเมตํ นจฺจเมว, ตสฺมา อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ ทสฺสนาย ¶ คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สยมฺปิ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว. คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสฺหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ, ‘‘ยํ คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, สพฺพเมตํ คีตเมว, สยํ คายนฺตสฺสปิ คายาเปนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺส. อตฺตนาปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชติ, ปเรปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชนฺติ, คหปติกาปิ อุชฺฌายนฺติ, สรกุตฺติมฺปิ นิกามยมานสฺส สมาธิสฺส ภงฺโค โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺส. น, ภิกฺขเว, อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺโม คายิตพฺโพ, โย คาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๙) –
วจนโต อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺโมปิ น คายิตพฺโพ.
อายตโก (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙) นาม คีตสฺสโร ตํ ตํ วตฺตํ ภินฺทิตฺวา อกฺขรานิ วินาเสตฺวา ปวตฺโต. ธมฺเม ปน สุตฺตนฺตวตฺตํ นาม อตฺถิ, ชาตกวตฺตํ นาม อตฺถิ, คาถาวตฺตํ นาม อตฺถิ, ตํ วินาเสตฺวา อติทีฆํ กาตุํ น วฏฺฏติ, จตุรสฺเสน วตฺเตน ปริมณฺฑลานิ ปทพฺยฺชนานิ ทสฺเสตพฺพานิ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สรภฺ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๙) วจนโต ปน สเรน ธมฺมํ ภณิตุํ วฏฺฏติ. สรภฺเ กิร ตรงฺควตฺตโธตกวตฺตคลิตวตฺตาทีนิ ทฺวตฺตึส วตฺตานิ อตฺถิ, เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ กาตุํ ลภติ. สพฺเพสํ ปทพฺยฺชนํ อวินาเสตฺวา วิการํ ¶ อกตฺวา สมณสารุปฺเปน จตุรสฺเสน นเยน ปวตฺตนํเยว ลกฺขณํ.
วาทิตํ นาม ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑํ วาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพเมตํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน นิฏฺุภนฺโต วา สาสงฺเก วา ิโต อจฺฉริกํ วา โผเฏติ, ปาณึ วา ปหรติ, ตตฺถ อนาปตฺติ, สพฺพํ อนฺตราราเม ิตสฺส ปสฺสโต อนาปตฺติ, ปสฺสิสฺสามีติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อาสนสาลายํ นิสินฺโน ปสฺสติ, อนาปตฺติ. ปสฺสิสฺสามีติ อุฏฺหิตฺวา คจฺฉโต อาปตฺติ, วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา ปสฺสโตปิ อาปตฺติเยว. สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. อาปทาสุ ตาทิเสน อุปทฺทเวน ¶ อุปทฺทุโต สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺตสฺส สุณนฺตสฺส วา อนาปตฺติ. ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ เทถ อุปาสกา’’ติ วตฺตุมฺปิ, ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปหารํ กโรมา’’ติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ น ลภติ. ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๒๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, อตฺตโน องฺคชาตํ เฉตพฺพํ, โย ฉินฺเทยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๑) วจนโต องฺคชาตํ (จูฬว. ๒๕๑) ฉินฺทนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, อฺํ ปน กณฺณนาสาองฺคุลิอาทึ ยํ กิฺจิ ฉินฺทนฺตสฺส ตาทิสํ วา ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อหิกีฏทฏฺาทีสุ ปน อฺาพาธปจฺจยา วา โลหิตํ วา โมเจนฺตสฺส ฉินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ.
๒๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหีนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตพฺพํ, โย ทสฺเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๒) วจนโต คิหีนํ วิกุพฺพนิทฺธึ ทสฺเสตุํ น วฏฺฏติ, อธิฏฺานิทฺธิ ปน อปฺปฏิกฺขิตฺตา.
๒๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, โสวณฺณมโย ปตฺโต ธาเรตพฺโพ…เป… น รูปิยมโย…เป… น มณิมโย…เป… น เวฬุริยมโย…เป… น ผลิกมโย…เป… น กํสมโย…เป… น กาจมโย…เป… น ติปุมโย …เป… น สีสมโย…เป… น ตมฺพโลหมโย ปตฺโต ธาเรตพฺโพ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๒) วจนโต สุวณฺณมยาทิปตฺโต ¶ น วฏฺฏติ. สเจปิ คิหี ภตฺตคฺเค สุวณฺณตฏฺฏิกาทีสุ พฺยฺชนํ กตฺวา อุปนาเมนฺติ, อามสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ผลิกมยกาจมยกํสมยานิ ปน ตฏฺฏิกาทีนิ ภาชนานิ ปุคฺคลิกปริโภเคเนว น วฏฺฏนฺติ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ตมฺพโลหมโยปิ ปตฺโตเยว น วฏฺฏติ, ถาลกํ ปน วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ปตฺเต อโยปตฺตํ มตฺติกาปตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๒) ทฺเวเยว จ ปตฺตา อนฺุาตา.
‘‘น, ภิกฺขเว, ตุมฺพกฏาเห ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, โย จเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ลาพุกฏาหํ ปริหริตุํ น วฏฺฏติ, ตํ ลภิตฺวา ปน ตาวกาลิกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ฆฏิกฏาเหปิ เอเสว นโย.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ฉวสีสปตฺโต ธาเรตพฺโพ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ฉวสีสมโยปิ ปตฺโต น วฏฺฏติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต ภูมิทารุทณฺฑวอลเวตฺตาทีหิ กเต ภูมิอาธารเก ทารุทณฺฑอาธารเก จ ปตฺตํ เปตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ‘‘ภูมิอาธารเก ตโย ทณฺฑาธารเก ทฺเว ปตฺเต อุปรูปริ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘ภูมิอาธารเก ติณฺณํ ปตฺตานํ อโนกาโส, ทฺเว เปตุํ วฏฺฏติ. ทารุอาธารกทณฺฑาธารเกสุปิ สุสชฺชิเตสุ เอเสว นโย. ภมโกฏิสทิโส ปน ทารุอาธารโก ตีหิ ทณฺฑเกหิ พทฺโธ, ทณฺฑาธารโก จ เอกสฺสปิ ปตฺตสฺส อโนกาโส, ตตฺถ เปตฺวาปิ หตฺเถน คเหตฺวาว นิสีทิตพฺพํ, ภูมิยํ ปน นิกฺกุชฺชิตฺวา เอกเมว เปตพฺพ’’นฺติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มิฑฺฒนฺเต ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต อาลินฺทกมิฑฺฒิกาทีนํ อนฺเต เปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา ตตฺเถว ปติฏฺาติ, เอวรูปาย วิตฺถิณฺณาย มิฑฺฒิกาย เปตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปริภณฺฑนฺเต ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต พาหิรปสฺเส กตาย ตนุกมิฑฺฒิกาย อนฺเตปิ เอเสว นโย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โจฬก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต โจฬกํ ¶ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน อสติ กฏสารเก วา ตฏฺฏิกาย วา มตฺติกาย วา ปริภณฺฑกตาย ภูมิยา ยตฺถ น ทุสฺสติ, ตถารูปาย วาลิกาย วา เปตุํ วฏฺฏติ. ปํสุรชาทีสุ ปน ขรภูมิยํ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปตฺโต ลคฺเคตพฺโพ, โย ลคฺเคยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต นาคทนฺตาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ลคฺเคตุํ น วฏฺฏติ, จีวรวํเสปิ พนฺธิตฺวา เปตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, มฺเจ ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต ภณฺฑกฏฺปนตฺถเมว วา กตํ โหตุ นิสีทนสยนตฺถํ วา, ยตฺถ กตฺถจิ มฺเจ วา ปีเ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อฺเน ปน ภณฺฑเกน สทฺธึ พนฺธิตฺวา เปตุํ, อฏนิยํ พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วา วฏฺฏติ, พนฺธิตฺวาปิ อุปริ เปตุํ น วฏฺฏติเยว. สเจ ¶ ปน มฺโจ วา ปีํ วา อุกฺขิปิตฺวา จีวรวํสาทีสุ อฏฺฏกจฺฉนฺเนน ปิตํ โหติ, ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏติ. อํสวฏฺฏนเกน อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา องฺเก เปตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺเต ภตฺตปูโรปิ อํสกูเฏ ลคฺคิตปตฺโตปิ เปตุํ น วฏฺฏติ. ภณฺฑเกน ปน สทฺธึ พนฺธิตฺวา อฏฺฏกํ กตฺวา วา ปิเต โย โกจิ เปตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปตฺตหตฺเถน กวาฏํ ปณาเมตพฺพํ, โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ปตฺตหตฺเถน กวาฏํ น ปณาเมตพฺพํ. เอตฺถ จ น เกวลํ ยสฺส ปตฺโต หตฺเถ, โส เอว ปตฺตหตฺโถ. น เกวลฺจ กวาฏเมว ปณาเมตุํ น ลภติ, อปิจ โข ปน หตฺเถ วา ปิฏฺิปาเท วา ยตฺถ ยตฺถจิ สรีราวยเว ปตฺตสฺมึ สติ หตฺเถน วา ปาเทน วา สีเสน วา เยน เกนจิ สรีราวยเวน กวาฏํ วา ปณาเมตุํ ฆฏิกํ วา อุกฺขิปิตุํ สูจึ วา กฺุจิกาย อวาปุริตุํ น ลภติ, อํสกูเฏ ปน ปตฺตํ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ อวาปุริตุํ ลภติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, จลกานิ วา อฏฺิกานิ วา อุจฺฉิฏฺโทกํ วา ปตฺเตน นีหริตพฺพํ, โย นีหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต จลกาทีนิ ปตฺเตน นีหริตุํ น วฏฺฏติ. เอตฺถ จ จลกานีติ จพฺเพตฺวา อปวิทฺธามิสานิ. อฏฺิกานีติ มจฺฉมํสออกานิ. อุจฺฉิฏฺโทกนฺติ มุขวิกฺขาลิโตทกํ. เอเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺเตน นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปตฺตํ ปฏิคฺคหํ กตฺวา หตฺถํ โธวิตุมฺปิ ¶ น ลภติ. หตฺถโธตปาทโธตอุทกมฺปิ ปตฺเต อากิริตฺวา นีหริตุํ น วฏฺฏติ, อนุจฺฉิฏฺํ สุทฺธปตฺตํ อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, วามหตฺเถน ปเนตฺถ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา เอกํ อุทกคณฺฑุสํ คเหตฺวา อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตาปิ หิ โส อุจฺฉิฏฺปตฺโต โหติ, หตฺถํ ปน พหิอุทเกน วิกฺขาเลตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉมํสผลาผลาทีนิ จ ขาทนฺโต ยํ ตตฺถ อฏฺึ วา จลกํ วา ฉฑฺเฑตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ น ลภติ. ยํ ปน ปฏิขาทิตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ ลภติ. อฏฺิกกณฺฏกาทีนิ ตตฺเถว กตฺวา หตฺเถน ลฺุจิตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มุขโต นีหฏํ ปน ยํ กิฺจิ ปุน ขาทิตุกาโม ปตฺเต เปตุํ น ลภติ, สิงฺคิเวรนาฬิเกรขณฺฑาทีนิ ฑํสิตฺวา ปุน เปตุํ ลภติ.
๒๙. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สพฺพปํสุกูลิเกน ภวิตพฺพํ, โย ภเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต สพฺพปํสุกูลิเกน น ภวิตพฺพํ. เอตฺถ ปน จีวรฺจ มฺจปีฺจ ปํสุกูลํ วฏฺฏติ, อชฺโฌหรณียํ ปน ทินฺนเมว คเหตพฺพํ.
๓๐. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาเนน น ทาตพฺพํ, โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต อปริสฺสาวนกสฺส (จูฬว. อฏฺ. ๒๕๙) ยาจมานสฺส ปริสฺสาวนํ อทาตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ.
‘‘น จ, ภิกฺขเว, อปริสฺสาวนเกน ภิกฺขุนา อทฺธานมคฺโค ปฏิปชฺชิตพฺโพ, โย ปฏิปชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต อปริสฺสาวนเกน มคฺโค น คนฺตพฺโพ. สเจปิ น โหติ ปริสฺสาวนํ วา ธมฺมกรณํ วา, สงฺฆาฏิกณฺโณ อธิฏฺาตพฺโพ ‘‘อิมินา ปริสฺสาเวตฺวา ปิวิสฺสามี’’ติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทณฺฑปริสฺสาวน’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต ทณฺฑปริสฺสาวนมฺปิ วฏฺฏติ. ทณฺฑปริสฺสาวนํ นาม ยตฺถ รชกานํ ขารปริสฺสาวนํ วิย จตูสุ ปาเทสุ พทฺธนิสฺเสณิกาย สาฏกํ พนฺธิตฺวา มชฺเฌ ทณฺฑเก อุทกํ อาสิฺจนฺติ, ตํ อุโภปิ โกฏฺาเส ปูเรตฺวา ปริสฺสาวติ.
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, โอตฺถรก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต โอตฺถรกํ ปริสฺสาวนมฺปิ วฏฺฏติ. โอตฺถรกํ นาม ยํ อุทเก โอตฺถริตฺวา ฆฏเกน อุทกํ คณฺหนฺติ, ตฺหิ จตูสุ ทณฺฑเกสุ วตฺถํ พนฺธิตฺวา อุทเก จตฺตาโร ขาณุเก นิขนิตฺวา เตสุ พนฺธิตฺวา สพฺพปริยนฺเต อุทกโต โมเจตฺวา มชฺเฌ โอตฺถริตฺวา ฆเฏน อุทกํ คณฺหนฺติ.
๓๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, นคฺเคน นคฺโค อภิวาเทตพฺโพ, โย อภิวาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิวจนโต (จูฬว. ๒๖๑) น นคฺเคน นคฺโค อภิวาเทตพฺโพ, น นคฺเคน อภิวาเทตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺโค อภิวาทาเปตพฺโพ, น นคฺเคน อภิวาทาเปตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺคสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺคสฺส ทาตพฺพํ, น นคฺเคน ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น นคฺเคน ขาทิตพฺพํ, น นคฺเคน ภฺุชิตพฺพํ, น นคฺเคน สายิตพฺพํ, น นคฺเคน ปาตพฺพํ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทึ อุทกปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๑) วจนโต ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย วฏฺฏนฺติ. เอตฺถ จ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ อุทกปฏิจฺฉาทิ จ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺเสว วฏฺฏติ, เสเสสุ อภิวาทนาทีสุ น วฏฺฏติ. วตฺถปฏิจฺฉาทิ ปน สพฺพกมฺเมสุ วฏฺฏติ.
๓๒. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ปุปฺผาภิกิณฺเณสุ สยเนสุ สยิตพฺพํ, โย สเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต ปุปฺเผหิ สนฺถเตสุ สยเนสุ น สยิตพฺพํ, คนฺธคนฺธํ ปน คเหตฺวา กวาเฏ ปฺจงฺคุลึ ทาตุํ วฏฺฏติ ปุปฺผํ คเหตฺวา วิหาเร เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ.
๓๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, อาสิตฺตกูปธาเน ภฺุชิตพฺพํ, โย ภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต อาสิตฺตกูปธาเน เปตฺวา น ภฺุชิตพฺพํ. อาสิตฺตกูปธานนฺติ ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปน ทารุมยาปิ น วฏฺฏติ.
๓๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มโฬริก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต มโฬริกาย เปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. มโฬริกาติ ทณฺฑาธารโก วุจฺจติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปีาทีนิปิ เอตฺเถว ปวิฏฺานิ. อาธารกสงฺเขปคมนโต หิ ปฏฺาย ฉิทฺทํ วิทฺธมฺปิ อวิทฺธมฺปิ วฏฺฏติเยว.
๓๕. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, เอกภาชเน ภฺุชิตพฺพํ, โย ภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๖๔) อาทิวจนโต น เอกภาชเน ภฺุชิตพฺพํ, น เอกถาลเก ปาตพฺพํ. สเจ ปน เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูปํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อิตรสฺสปิ ตสฺมึ ขีเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, เอกมฺเจ ตุวฏฺฏิตพฺพํ, โย ตุวฏฺเฏยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๖๔) อาทิวจนโต น เอกมฺเจ นิปชฺชิตพฺพํ, น เอกตฺถรเณ นิปชฺชิตพฺพํ. ววตฺถานํ ปน ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺตานํ อนาปตฺติ. เอกปาวุรเณหิ เอกตฺถรณปาวุรเณหิ จ น นิปชฺชิตพฺพํ. เอกํ อตฺถรณฺเจว ปาวุรณฺจ เอเตสนฺติ เอกตฺถรณปาวุรณา. สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชนฺตานเมตํ อธิวจนํ.
๓๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, เจลปฺปฏิกา อกฺกมิตพฺพา, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต น เจลสนฺถาโร อกฺกมิตพฺโพ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน เจลปฺปฏิกํ อกฺกมิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต ปน กาจิ อิตฺถี (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๘) อปคตคพฺภา วา โหติ ครุคพฺภา วา, เอวรูเปสุ ¶ าเนสุ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โธตปาทกํ อกฺกมิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต ปาทโธวนฏฺาเน โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมนตฺถาย อตฺถตปจฺจตฺถรณํ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ.
๓๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, กตกํ ปริภฺุชิตพฺพํ, โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต กตกํ น วฏฺฏติ. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ. ตํ วฏฺฏํ วา โหตุ จตุรสฺสาทิเภทํ วา, พาหุลิกานุโยคตฺตา ปฏิกฺขิตฺตเมว, เนว ปฏิคฺคเหตุํ, น ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปาทฆํสนิโย สกฺขรํ กถลํ สมุทฺทเผณก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต สกฺขราทีหิ ปาทฆํสนํ วฏฺฏติ. สกฺขราติ ปาสาโณ วุจฺจติ, ปาสาณเผณโกปิ วฏฺฏติเยว.
๓๘. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, จามริพีชนี ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต จามริวาเลหิ กตพีชนี น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกสพีชนึ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ติสฺโส พีชนิโย วากมยํ อุสีรมยํ โมรปิฺฉมยํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธูปนฺจ ตาลวณฺฏฺจา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต มกสพีชนีอาทิ วฏฺฏติ. ตตฺถ วิธูปนนฺติ พีชนี วุจฺจติ. ตาลวณฺฏํ ปน ตาลปณฺเณหิ วา กตํ โหตุ เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา, สพฺพํ วฏฺฏติ. มกสพีชนี ทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกาปิ วฏฺฏติ. วากมยพีชนิยา เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยาปิ สงฺคหิตา.
๓๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉตฺตํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ฉตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๐) วจนโต อคิลาเนน ฉตฺตํ น ธาเรตพฺพํ. ยสฺส ปน กายฑาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถมฺปิ วาฬมิคโจรภเยสุ อตฺตคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ, เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคิลาเนนปิ อาราเม อารามูปจาเร ฉตฺตํ ธาเรตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๐) วจนโต ปน อคิลานสฺสปิ อารามอารามูปจาเรสุ ฉตฺตํ ธาเรตุํ วฏฺฏติ.
๔๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา นขา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, มํสปฺปมาเณน นขํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) วจนโต ทีฆา นขา ฉินฺทิตพฺพา. ‘‘น, ภิกฺขเว, วีสติมฏฺํ การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) วจนโต วีสติปิ นเข ลิขิตมฏฺเ การาเปตุํ น วฏฺฏติ, นขโต มลมตฺตํ ปน อปกฑฺฒิตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตพฺพํ, โย สํหราเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต คณฺฑวณาทิอาพาธํ วินา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆํ นาสิกาโลมํ ธาเรตพฺพํ, โย ¶ ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต สณฺฑาเสน นาสิกาโลมํ สํหราเปตุํ วฏฺฏติ. สกฺขราทีหิ นาสิกาโลมํ คาหาปเนปิ อาปตฺติ นตฺถิ, อนุรกฺขณตฺถํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สณฺฑาส’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) สณฺฑาโส อนฺุาโต. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปลิตํ คาหาเปตพฺพํ, โย คาหาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต ปลิตํ คาหาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน ภมุกาย วา นลาเฏ วา ทาิกาย วา อุคฺคนฺตฺวา พีภจฺฉํ หุตฺวา ิตํ, ตาทิสํ โลมํ ปลิตํ วา อปลิตํ วา คาหาเปตุํ วฏฺฏติ.
๔๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, อกายพนฺธเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๘) วจนโต อกายพนฺธเนน คาโม น ปวิสิตพฺโพ, อพนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ, สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ.
๔๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหินิวตฺถํ นิวาเสตพฺพํ, โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๘๐) อาทิวจนโต หตฺถิโสณฺฑาทิวเสน คิหินิวตฺถํ น นิวาเสตพฺพํ, เสตปฏปารุตาทิวเสน น คิหิปารุตํ ปารุปิตพฺพํ, มลฺลกมฺมกราทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา น นิวาเสตพฺพํ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ. ยมฺปิ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ, อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ.
๔๓. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, อุภโตกาชํ หริตพฺพํ, โย หเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๑) วจนโต อุภโตกาชํ หริตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกโตกาชํ อนฺตรากาชํ สีสภารํ ขนฺธภารํ กฏิภารํ โอลมฺพก’’นฺติ วจนโต เอกโตกาชาทึ หริตุํ วฏฺฏติ.
๔๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ, โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๒) วจนโต น ทีฆํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคุลปรมํ ¶ ทนฺตกฏฺํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๒) วจนโต มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปรมํ จตุรงฺคุลปจฺฉิมฺจ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ.
๔๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺโข อภิรุหิตพฺโพ, โย อภิรุเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กรณีเย โปริสํ รุกฺขํ อภิรุหิตุํ อาปทาสุ ยาวทตฺถ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๔) วจนโต น รุกฺขํ อภิรุหิตพฺพํ, สุกฺขกฏฺคหณาทิกิจฺเจ ปน สติ ปุริสปฺปมาณํ อภิรุหิตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ.
๔๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, พุทฺธวจนํ ฉนฺทโส อาโรเปตพฺพํ, โย อาโรเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๕) วจนโต เวทํ วิย พุทฺธวจนํ สกฺกฏภาสาย วาจนามคฺคํ อาโรเจตุํ น วฏฺฏติ, สกาย ปน มาคธิกาย นิรุตฺติยา ปริยาปุณิตพฺพํ.
๔๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, โลกายตํ ปริยาปุณิตพฺพํ, โย ปริยาปุเณยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จอูฬว. ๒๘๖) อาทิวจนโต โลกายตสงฺขาตํ ‘‘สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ เนว ปริยาปุณิตพฺพํ, น ปรสฺส วาเจตพฺพํ. น จ ติรจฺฉานวิชฺชา ปริยาปุณิตพฺพา, น ปรสฺส วาเจตพฺพา.
๔๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วตฺตพฺโพ, โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, คิหีนํ ‘ชีวถ ภนฺเต’ติ วุจฺจมาเนน ‘จิรํ ชีวา’ติ วตฺตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๘) วจนโต ขิปิเต ‘‘ชีวา’’ติ น วตฺตพฺพํ, คิหินา ปน ‘‘ชีวถา’’ติ วุจฺจมาเนน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๔๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, ลสุณํ ขาทิตพฺพํ, โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๙) วจนโต อาพาธํ ¶ วินา ลสุณํ ขาทิตุํ น วฏฺฏติ, สูปสมฺปากาทีสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) ปกฺขิตฺตํ ปน วฏฺฏติ. ตฺหิ ปจฺจมาเนสุ มุคฺคสูปาทีสุ วา มจฺฉมํสวิกติยา วา เตเล วา พทรสาฬวาทีสุ วา อมฺพิลสากาทีสุ วา อุตฺตริภงฺเคสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ยาคุภตฺเตปิ ปกฺขิตฺตํ วฏฺฏติ.
๕๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อโธเตหิ ปาเทหิ เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต อโธเตหิ ปาเทหิ มฺจปีาทิเสนาสนํ ปริกมฺมกตา วา ภูมิ น อกฺกมิตพฺพา. ‘‘น, ภิกฺขเว, อลฺเลหิ ปาเทหิ เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต เยหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔) อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ อลฺลปาเทหิ ปริภณฺฑกตา ภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏติ. ปาทปฺุฉนึ ปน อลฺลปาเทหิปิ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติเยว. ‘‘น, ภิกฺขเว, สอุปาหเนน เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานํ สอุปาหเนน อกฺกมิตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ปริกมฺมกตาย ภูมิยา นิฏฺุภิตพฺพํ, โย นิฏฺุเภยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต ปริกมฺมกตาย ภูมิยา น นิฏฺุภิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เขฬมลฺลก’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๔) เอวํ อนฺุาเต เขฬมลฺลเก นิฏฺุภิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โจฬเกน ปลิเวเตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต สุธาภูมิยา วา ปริภณฺฑภูมิยา วา มฺจปีํ นิกฺขิปนฺเตน สเจ ตฏฺฏิกา วา กฏสารโก วา นตฺถิ, โจฬเกน มฺจปีานํ ปาทา เวเตพฺพา, ตสฺมึ อสติ ปณฺณมฺปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ, กิฺจิ อนตฺถริตฺวา เปนฺตสฺส ปน ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ตตฺถ เนวาสิกา อนตฺถตาย ภูมิยาปิ เปนฺติ, อโธตปาเทหิปิ วฬฺเชนฺติ, ตเถว วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ปริกมฺมกตา ภิตฺติ อปสฺเสตพฺพา, โย อปสฺเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต ปริกมฺมกตา ภิตฺติ เสตภิตฺติ วา โหตุ จิตฺตกมฺมกตา วา, น อปสฺเสตพฺพา. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เยน เกนจิ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสิตุํ น ลภติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , ปจฺจตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) วจนโต ปน โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพํ, ปริภณฺฑกตํ ภูมึ วา ภูมตฺถรณํ เสนาสนํ วา สงฺฆิกมฺจปีํ วา อตฺตโน สนฺตเกน ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิทฺทายโตปิ ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต โกจิ สรีราวยโว มฺจํ วา ปีํ วา ผุสติ, อาปตฺติเยว, โลเมสุ ปน ผุสนฺเตสุ โลมคณนาย อาปตฺติโย. ปริโภคสีเสน อปสฺสยนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. หตฺถตลปาทตเลหิ ปน ผุสิตุํ อกฺกมิตุํ วา วฏฺฏติ, มฺจํ วา ปีํ วา หรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.
๕๑. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา. ปุเรอุปสมฺปนฺเนน ปจฺฉุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, อนุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย, มาตุคาโม อวนฺทิโย, ปณฺฑโก อวนฺทิโย, ปาริวาสิโก อวนฺทิโย, มูลายปฏิกสฺสนารโห อวนฺทิโย, มานตฺตารโห อวนฺทิโย, มานตฺตจาริโก อวนฺทิโย, อพฺภานารโห อวนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒) วจนโต อิเม ทส อวนฺทิยาติ เวทิตพฺพา.
‘‘ปจฺฉุปสมฺปนฺเนน ปุเรอุปสมฺปนฺโน วนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร ธมฺมวาที วนฺทิโย, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒) – วจนโต อิเม ตโย วนฺทิตพฺพา.
๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกีตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อิมานิ ตีณิ ตูลานิ กปฺปิยานิ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกีตูลนฺติ โปฏกีติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติ. รุกฺขวลฺลิติณชาติโย หิ มฺุจิตฺวา อฺโ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิมฺโพหเน วฏฺฏติ. ภิสึ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพเมตํ อกปฺปิยตูลนฺติ วุจฺจติ. น เกวลฺจ พิมฺโพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ สีหาทีนํ ¶ สพฺพจตุปฺปทานฺจ โลมมฺปิ วฏฺฏติ, ปิยงฺคุปุปฺผพกุลปุปฺผาทีนํ ปน ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ น วฏฺฏติ. ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว ¶ น วฏฺฏติ, มิสฺสกํ ปน วฏฺฏติ, ภิสีนํ อนฺุาตํ ปฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฏฺฏติ.
๕๓. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ ภิสิโย อุณฺณภิสึ โจฬภิสึ วากภิสึ ติณภิสึ ปณฺณภิสิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตา ปฺจ ภิสิโย อนฺุาตา. ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา วุตฺตา. ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, เปตฺวา ปน มนุสฺสโลมํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํ. ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตเรน ภิสิจฺฉวึ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสึ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ ปฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
โจฬภิสิอาทีสุ ยํ กิฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ. ยํ กิฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ. ยํ กิฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ. อฺตฺร สุทฺธตมาลปตฺตา ยํ กิฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพา. ตมาลปตฺตํ ปน อฺเน มิสฺสเมว วฏฺฏติ. สุทฺธํ น วฏฺฏติ. ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปฺจวิธํ ตูลํ ภิสิยํ วฏฺฏติ, ตํ มสูรเกปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอเตน มสูรกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ. ภิสิยา ปมาณนิยโม นตฺถิ, มฺจภิสิ ปีภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปฺุฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. พิมฺโพหนํ ปน ปมาณยุตฺตเมว วฏฺฏติ.
๕๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, อฑฺฒกายิกานิ พิมฺโพหนานิ ธาเรตพฺพานิ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๗) เยสุ กฏิโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติ, ตาทิสานิ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ พิมฺโพหนานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีสปฺปมาณํ พิมฺโพหน’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) สีสปฺปมาณํ อนฺุาตํ. สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ‘‘ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา วฏฺฏติ ¶ . อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ¶ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิมฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘ยานิ ปน ภิสีนํ อนฺุาตานิ ปฺจ กปฺปิยตูลานิ, เตหิ พิมฺโพหนํ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. วินยธรอุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘พิมฺโพหนํ กริสฺสามีติ กปฺปิยตูลํ วา อกปฺปิยตูลํ วา ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺตสฺส ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ อาห.
๕๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต จตุรสฺสปีสงฺขาโต อาสนฺทิโก วฏฺฏติ, โส จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อฏฺงฺคุลโต อุจฺจปาทโกปิ วฏฺฏติ. เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลโต อุจฺจปาทกํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา จตุรสฺสปีํ ปมาณาติกฺกนฺตมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตงฺค’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจปิ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจกมฺปิ สตฺตงฺค’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต จ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภทฺทปี’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๙๗) ปาฬิยํ อนฺุาตํ เวตฺตมยปีํ ปิโลติกาพทฺธปีํ ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนผลกํ วิย กตํ เอฬกปาทปีํ อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกํ อามณฺฑกวฏฺฏิกปีํ ปลาลปีํ ผลกปีฺจ ปาฬิยํ อนาคตฺจ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุมยปีํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺเจ มฺเจ สยิตพฺพํ, โย สเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปมณาติกฺกนฺเต มฺเจ สยนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตํ ปน กโรนฺตสฺส การาเปนฺตสฺส จ เฉทนกํ ปาจิตฺติยํ. อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชนฺเตน ฉินฺทิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. สเจ น ฉินฺทิตุกาโม โหติ, ภูมิยํ นิขนิตฺวา ปมาณํ อุปริ ทสฺเสติ, อุตฺตานกํ วา กตฺวา ปริภฺุชติ, อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา ปริภฺุชติ, วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจา มฺจปฏิปาทกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปรโมว มฺจปฏิปาทโก วฏฺฏติ, ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ.
๕๖. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, อุจฺจาสยนมหาสยนานิ ธาเรตพฺพานิ, เสยฺยถิทํ, อาสนฺทิ ปลฺลงฺโก โคนโก จิตฺตโก ปฏิกา ปฏลิกา ตูลิกา วิกติกา อุทฺทโลมิ เอกนฺตโลมิ กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ อชินปเวณี กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ ¶ อุภโตโลหิตกูปธานํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๔) วจนโต อุจฺจาสยนมหาสยนานิ น วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อุจฺจาสยนํ นาม ปมาณาติกฺกนฺตํ มฺจํ. มหาสยนํ นาม อกปฺปิยตฺถรณํ. อาสนฺทิอาทีสุ อาสนฺทีติ ปมาณาติกฺกนฺตาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตโกติ รตนจิตฺรอุณฺณามยตฺถรโก. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโก. ปฏลิกาติ ฆนปุปฺผโก อุณฺณามยโลมตฺถรโก, โย ‘‘อามลกปโฏ’’ติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ปกติตูลิกาเยว. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโก. อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ, สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.
กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถรอสฺสตฺถรา หตฺถิอสฺสปิฏฺีสุ อตฺถรณกอตฺถรณา เอว. รถตฺถเรปิ เอเสว นโย. อชินปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตา ปเวณี. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณนฺติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉทนฺติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริพทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏติ, อสติ ปน วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธานนฺติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ มฺจสฺส อุภโตโลหิตกูปธานํ, เอตํ น กปฺปติ. ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหตุ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏติ, มหาอุปธานํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. โคนกาทีนิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) สงฺฆิกวิหาเร วา ¶ ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกตนีหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ตีณิ อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ ตูลิกํ คิหิวิกตํ อภินิสีทิตุํ, น ตฺเวว อภินิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๔) – วจนโต อาสนฺทาทิตฺตยํ เปตฺวา อวเสเสสุ โคนกาทีสุ คิหิวิกเตสุ ธมฺมาสเน วา ภตฺตคฺเค วา อนฺตรฆเร วา นิสีทิตุํ วฏฺฏติ, นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ตูโลนทฺธํ ปน มฺจปีํ ภตฺตคฺเค อนฺตรฆเรเยว นิสีทิตุํ ¶ วฏฺฏติ, ตตฺถาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ตูโลนทฺธํ ปน มฺจปีํ การาเปนฺตสฺสปิ อุทฺทาลนกํ ปาจิตฺติยํ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอนทฺธมฺจํ โอนทฺธปี’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปน จมฺมาทีหิ โอนทฺธํ มฺจปีํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาวารํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกเสยฺยปาวารํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกชวํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กมฺพล’’นฺติ (มหาว. ๓๓๗-๓๓๘) – วจนโต ปาวาราทีนิ สงฺฆิกานิ วา โหนฺตุ ปุคฺคลิกานิ วา, ยถาสุขํ วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏนฺติ. โกชวํ ปเนตฺถ ปกติโกชวเมว วฏฺฏติ, มหาปิฏฺิยโกชวํ น วฏฺฏติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตโยนิ ปานียฆฏปานียสราวานิ, ยํ กิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ เสนาสนปริโภเค วฏฺฏติ. ‘‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว โหติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกปลาสิกํ อุปาหนํ… น, ภิกฺขเว, ทิคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ติคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา… โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๕) – วจนโต เอกปฏลาเยว อุปาหนา วฏฺฏติ, ทฺวิปฏลา ปน ติปฏลา น วฏฺฏติเยว. คุณงฺคุณูปาหนา (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕) นาม จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจติ, สา ปน มชฺฌิมเทเสเยว น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) – วจนโต ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหนา ¶ นวา วา โหตุ ปริภุตฺตา วา, วฏฺฏติ. มชฺฌิมเทเส ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอมุกฺกํ คุณงฺคุณูปาหนํ. น, ภิกฺขเว, นวา คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๗) วจนโต ปฏิมฺุจิตฺวา อปนีตา ปริภุตฺตาเยว คุณงฺคุณูปาหนา วฏฺฏติ, อปริภุตฺตา ปฏิกฺขิตฺตาเยว. เอกปฏลา ปน ปริภุตฺตา วา โหตุ อปริภุตฺตา วา, สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน กตา อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนโกสกสตฺถกโกสกกฺุจิกโกสเกสุปิ เอเสว นโย.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, สพฺพนีลิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพปีติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพโลหิติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพมฺชิฏฺิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพกณฺหา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพมหารงฺครตฺตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา. น สพฺพมหานามรตฺตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต สพฺพนีลิกาทิ อุปาหนา น วฏฺฏติ. เอตฺถ จ นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ. ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา… โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา… มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว… กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา… มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา… มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’’ติ วุตฺตํ. เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปฺุฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ, อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยว.
‘‘น, ภิกฺขเว, นีลกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปีตกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น โลหิตกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มฺชิฏฺิกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น กณฺหวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มหารงฺครตฺตวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มหานามรตฺตวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต ยาสํ วทฺธาเยว นีลาทิวณฺณา โหนฺติ, ตาปิ น วฏฺฏนฺติ, วณฺณเภทํ ปน กตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ขลฺลกพทฺธา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปุฏพทฺธา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปาลิคุณฺิมา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ตูลปุณฺณิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ติตฺติรปตฺติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น เมณฺฑวิสาณวทฺธิกา ¶ อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อชวิสาณวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น วิจฺฉิกาฬิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น โมรปิฺฉปริสิพฺพิตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น จิตฺรา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต ขลฺลกพทฺธาทิ อุปาหนาปิ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา. ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาว ชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ปาลิคุณฺิมาติ ปลิคุณฺิตฺวา กตา, อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆํ. ตูลปุณฺณิกาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา. ติตฺติรปตฺติกาติ ติตฺติรปตฺตสทิสา วิจิตฺรพทฺธา. เมณฺฑวิสาณวทฺธิกาติ กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑกสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. อชวิสาณวทฺธิกาทีสุปิ เอเสว นโย, วิจฺฉิกาฬิกาปิ ตตฺเถว วิจฺฉิกนงฺคุฏฺสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. โมรปิฺฉปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ ¶ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา. เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
‘‘น, ภิกฺขเว, สีหจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น พฺยคฺฆจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ทีปิจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อชินจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อุทฺทจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มชฺชารจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น กาฬกจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ลุวกจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต สีหจมฺมาทิปริกฺขฏาปิ อุปาหนา น วฏฺฏติ. ตตฺถ สีหจมฺมปริกฺขฏา นาม ปริยนฺเตสุ จีวเร อนุวาตํ วิย สีหจมฺมํ โยเชตฺวา กตา. เอส นโย สพฺพตฺถ. ลุวกจมฺมปริกฺขฏาติ ปกฺขิพิฬาลจมฺมปริกฺขฏา. เอตาสุปิ ยา กาจิ ตํ จมฺมํ อปเนตฺวา ธาเรตพฺพา.
‘‘น, ภิกฺขเว, กฏฺปาทุกา ธาเรตพฺพา… น ตาลปตฺตปาทุกา… น เวฬุปตฺตปาทุกา, น ติณปาทุกา… น มฺุชปาทุกา, น ปพฺพชปาทุกา… น หินฺตาลปาทุกา, น กมลปาทุกา… น กมฺพลปาทุกา… น โสวณฺณปาทุกา… น รูปิยมยา ปาทุกา… น มณิมยา… น เวฬุริยมยา… น ผลิกมยา ¶ … น กํสมยา… น กาจมยา… น ติปุมยา… น สีสมยา… น ตมฺพโลหมยา… น กาจิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๐-๒๕๑) – วจนโต เยน เกนจิ ติเณน วา อฺเน วา กตา ยา กาจิ สงฺกมนียา ปาทุกา น ธาเรตพฺพา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปาทุกา ธุวฏฺานิยา อสงฺกมนียาโย, วจฺจปาทุกํ ปสฺสาวปาทุกํ อาจมนปาทุก’’นฺติ (มหาว. ๒๕๑) – วจนโต ปน ภูมิยํ สุปฺปติฏฺิตา นิจฺจลา อสํหาริยา วจฺจปาทุกาที ติสฺโส ปาทุกา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏนฺติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, สอุปาหเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต สอุปาหเนน คาโม น ปวิสิตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา สอุปาหเนน คามํ ปวิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๖) วจนโต ปน ยสฺส ปาทา วา ผาลิตา ปาทขีลา วา อาพาโธ ปาทา วา ทุกฺขา โหนฺติ, โย น สกฺโกติ อนุปาหโน คามํ ปวิสิตุํ, เอวรูเปน คิลาเนน สอุปาหเนน คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อชฺฌาราเม อุปาหนํ ธาเรตุํ อุกฺกํ ปทีปํ กตฺตรทณฺฑ’’นฺติ ¶ (มหาว. ๒๔๙) วจนโต อชฺฌาราเม อคิลานสฺสปิ อุปาหนํ ธาเรตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, อาจริเยสุ อาจริยมตฺเตสุ อุปชฺฌาเยสุ อุปชฺฌายมตฺเตสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมมาเนสุ สอุปาหเนน จงฺกมิตพฺพํ, โย จงฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๘) – วจนโต อาจริยาทีสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมนฺเตสุ สอุปาหเนน น จงฺกมิตพฺพํ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๘) จ ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย นิสฺสยาจริโย อุทฺเทสาจริโยติ อิเม จตฺตาโรปิ อิธ อาจริยา เอว. อวสฺสิกสฺส ฉพฺพสฺโส อาจริยมตฺโต. โส หิ จตุวสฺสกาเล ตํ นิสฺสาย วจฺฉติ. เอวํ เอกวสฺสสฺส สตฺตวสฺโส, ทุวสฺสสฺส อฏฺวสฺโส, ติวสฺสสฺส นววสฺโส, จตุวสฺสสฺส ทสวสฺโสติ อิเมปิ อาจริยมตฺตา เอว. อุปชฺฌายสฺส สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา ปน สหายภิกฺขู, เย วา ปน เกจิ ทสวสฺเสหิ มหนฺตตรา, เต สพฺเพปิ อุปชฺฌายมตฺตา นาม. เอตฺตเกสุ ภิกฺขูสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมนฺเตสุ สอุปาหนสฺส จงฺกมโต อาปตฺติ.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’. ‘‘น, ภิกฺขเว, โคจมฺมํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’. ‘‘น, ภิกฺขเว, กิฺจิ จมฺมํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) – วจนโต มชฺฌิมเทเส สีหจมฺมาทิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ คเหตฺวา ปริหริตุํ น วฏฺฏติ. สีหจมฺมาทีนฺจ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป กโต. ภูมตฺถรณวเสน ปน อฺตฺถ อนีหรนฺเตน ยํ กิฺจิ จมฺมํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ จมฺมานิ อตฺถรณานิ เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโก ปน ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ยํ กิฺจิ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) เอฬกจมฺมฺจ อชจมฺมฺจ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ วา นิสีทิตุํ วา วฏฺฏติ. มิคจมฺเม เอณิมิโค วาตมิโค ปสทมิโค กุรุงฺคมิโค มิคมาตุโก โรหิตมิโคติ เอเตสํเยว จมฺมานิ วฏฺฏนฺติ, อฺเสํ ปน –
มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;
เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏติ.
ตตฺถ ¶ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา. น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ วา ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสสพิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘วาฬมิคา’’ตฺเวว เวทิตพฺพา. เอเตสฺหิ สพฺเพสํ ปน จมฺมํ น วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, ยาเนน ยายิตพฺพํ, โย ยาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ยาน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๓) วจนโต อคิลาเนน ภิกฺขุนา ยาเนน น คนฺตพฺพํ. กตรํ ปน ยานํ กปฺปติ, กตรํ น กปฺปตีติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สิวิกํ ปาฏงฺกิ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๓) วจนโต ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ สิวิกา ปาฏงฺกี จ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ปุริสยุตฺตํ อิตฺถิสารถิ วา โหตุ ปุริสสารถิ วา, วฏฺฏติ, เธนุยุตฺตํ ปน น วฏฺฏติ. หตฺถวฏฺฏกํ ปน อิตฺถิโย วา วฏฺเฏนฺตุ ปุริสา วา, วฏฺฏติเยว.
๕๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ ทุสฺสานํ อหตกปฺปานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏึ เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสกํ, อุตุทฺธฏานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ ¶ สงฺฆาฏึ ทิคุณํ อุตฺตราสงฺคํ ทิคุณํ อนฺตรวาสกํ, ปํสุกูเล ยาวทตฺถํ, ปาปณิเก อุสฺสาโห กรณีโย’’ติ (มหาว. ๓๔๘) วจนโต อโธตานํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๘) เอกวารํ โธตานฺจ วตฺถานํ ทุปฏฺฏา สงฺฆาฏิ กาตพฺพา, อุตฺตราสงฺโค อนฺตรวาสโก จ เอกปฏฺโฏ กาตพฺโพ. อุตุทฺธฏานํ ปน หตวตฺถานํ ปิโลติกานํ สงฺฆาฏิ จตุคฺคุณา กาตพฺพา, อุตฺตราสงฺโค อนฺตรวาสโก จ ทุปฏฺโฏ กาตพฺโพ, ปํสุกูเล ปน ยถารุจิ กาตพฺพํ. อนฺตราปณโต ปติตปิโลติกจีวเรปิ อุสฺสาโห กรณีโย, ปริเยสนา กาตพฺพา, ปริจฺเฉโท ปน นตฺถิ, ปฏฺฏสตมฺปิ วฏฺฏติ. สพฺพมิทํ สาทิยนฺตสฺส ภิกฺขุโน วุตฺตํ. ตีสุ ปน จีวเรสุ ทฺเว วา เอกํ วา ฉินฺทิตฺวา กาตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อาคนฺตุกปตฺตํ ทาตพฺพํ. อาคนฺตุกปตฺตฺหิ อปฺปโหนเก อนฺุาตํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกนฺติ. ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกนฺติ. ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุํ. น จ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อจฺฉินฺนกํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๐).
ตสฺมา ¶ สเจ ปโหติ อาคนฺตุกปตฺตํ, น วฏฺฏติ, ฉินฺทิตพฺพเมว.
‘‘น, ภิกฺขเว, โปตฺถโก นิวาเสตพฺโพ, โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น, ภิกฺขเว, สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ… น สพฺพปีตกานิ… น สพฺพโลหิตกานิ… น สพฺพมฺชิฏฺกานิ… น สพฺพกณฺหานิ… น สพฺพมหารงฺครตฺตานิ… น สพฺพมหานามรตฺตานิ… น อจฺฉินฺนทสานิ… น ทีฆทสานิ… น ปุปฺผทสานิ… น ผลทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ… น กฺจุกํ… น ติรีฏกํ… น เวนํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๗๑-๓๗๒) – วจนโต โปตฺถกาทีนิ น ธาเรตพฺพานิ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๑-๓๗๒) โปตฺถโกติ มกจิมโย วุจฺจติ, อกฺกทุสฺสกทลิทุสฺสเอรกทุสฺสานิปิ โปตฺถกคติกาเนว. สพฺพนีลกาทีนิ รชนํ โธวิตฺวา ปุน รชิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. น สกฺกา เจ โหนฺติ โธวิตุํ, ปจฺจตฺถรณานิ วา กาตพฺพานิ. ติปฏฺฏจีวรสฺส วา มชฺเฌ ทาตพฺพานิ. เตสํ ¶ วณฺณนานตฺตํ อุปาหนาสุ วุตฺตนยเมว. อจฺฉินฺนทสทีฆทสานิ ทสา ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. กฺจุกํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา รชิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เวเนปิ เอเสว นโย. ติรีฏกํ ปน รุกฺขจฺฉลฺลิมยํ, ตํ ปาทปฺุฉนึ กาตุํ วฏฺฏติ.
๕๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺมํ กาตพฺพํ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺเม กยิรมาเน ปฏิกฺโกสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต อธมฺมกมฺมํ น กาตพฺพํ, กยิรมานฺจ นิวาเรตพฺพํ. นิวาเรนฺเตหิ จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหิ ปฺจหิ ปฏิกฺโกสิตุํ, ทฺวีหิ ตีหิ ทิฏฺึ อาวิกาตุํ, เอเกน อธิฏฺาตุํ ‘น เมตํ ขมตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต ยตฺถ นิวาเรนฺตสฺส ภิกฺขุโน อุปทฺทวํ กโรนฺติ, ตตฺถ เอกเกน น นิวาเรตพฺพํ. สเจ จตฺตาโร ปฺจ วา โหนฺติ, นิวาเรตพฺพํ. สเจ ปน ทฺเว วา ตโย วา โหนฺติ, ‘‘อธมฺมกมฺมํ อิทํ, น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ อฺสฺส สนฺติเก อตฺตโน ทิฏฺิ อาวิกาตพฺพา. สเจ เอโกว โหติ, ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. สพฺพฺเจตํ เตสํ อนุปทฺทวตฺถาย วุตฺตํ.
๕๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, อโนกาสกโต ภิกฺขุ อาปตฺติยา โจเทตพฺโพ, โย โจเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต โจเทนฺเตน ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาสํ การาเปตฺวา โจเทตพฺโพ. อธิปฺปายเภโท ปเนตฺถ เวทิตพฺโพ (มหาว. อฏฺ. ๒.๓๘๙). อยฺหิ อธิปฺปาโย นาม จาวนาธิปฺปาโย อกฺโกสาธิปฺปาโย ¶ กมฺมาธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ อเนกวิโธ. ตตฺถ ปุริเมสุ จตูสุ อธิปฺปาเยสุ โอกาสํ อการาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, โอกาสํ การาเปตฺวาปิ สมฺมุขา อมูลเกน ปาราชิเกน โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน โจเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา โจเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อสมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อสมฺมุขา เอว สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘ตฺวํ อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิกโรหี’ติ ¶ วทนฺตสฺส โอกาสกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อุโปสถปวารณํ เปนฺตสฺสปิ โอกาสกมฺมํ นตฺถิ, ปนเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเร’’ติ.
เอตสฺมิฺหิ เร-กาเร อนติกฺกนฺเตเยว เปตุํ ลพฺภติ, ตโต ปรํ ปน ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภติ. เอส นโย ปวารณาย.
อนุวิชฺชกสฺสปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. ธมฺมกถิกสฺสปิ ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘โย อิทฺจิทฺจ กโรติ, อยํ ภิกฺขุ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, ธมฺมาสนโต โอโรหิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ โอกาโส การาเปตพฺโพ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อการเณ วตฺถุสฺมึ โอกาโส น กาเรตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวา โอกาสํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต ‘‘ภูตเมว นุ โข อาปตฺตึ วทติ, อภูต’’นฺติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอกาโส กาตพฺโพ.
๖๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตพฺพํ, โย วินิปาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๑) วจนโต สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตตพฺพํ. เปตฺวา มาตาปิตโร (มหาว. อฏฺ. ๓๖๑) เสสาตีนํ เทนฺโตปิ วินิปาเตติเยว, มาตาปิตโร ปน รชฺเช ิตาปิ ปตฺถยนฺติ, ทาตพฺพํ.
๖๑. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๒) วจนโต สนฺตรุตฺตเรน คาโม น ปวิสิตพฺโพ.
๖๒. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปาย. คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตํ วา โหติ, นทีปารคตํ วา โหติ, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา โหติ, อตฺถตกถินํ วา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปายา’’ติ (มหาว. ๓๖๒) – วจนโต ปน คเหตฺวา ¶ คนฺตุํ อสมตฺโถ คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตาทีสุ วา อฺตรํ การณํ, เอวรูเปสุ ปจฺจเยสุ สงฺฆาฏึ อคฺคฬคุตฺติวิหาเร เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คนฺตุํ วฏฺฏติ. สพฺเพสฺเวว หิ เอเตสุ คิลานวสฺสิกสงฺเกตนทีปารคมนอตฺถตกถินภาเวสุ อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณํ, คุตฺเต เอว วิหาเร นิกฺขิปิตฺวา พหิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, นาคุตฺเต. อารฺกสฺส ปน วิหาโร น สุคุตฺโต โหติ, เตน ภณฺฑุกฺขลิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปาสาณสุสิรรุกฺขสุสิราทีสุ สุปฏิจฺฉนฺเนสุ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกานํ นิกฺเขเปปิ อิเมเยว ปฺจ ปจฺจยา เวทิตพฺพา.
๖๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วา การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๗๙) วจนโต ยถาปริจฺฉินฺเน โอกาเส (มหาว. อฏฺ. ๒๗๙) เยน เกนจิ สตฺเถน วา สูจิยา วา กณฺฏเกน วา สตฺติกาย วา ปาสาณสกฺขลิกาย วา นเขน วา ฉินฺทนํ วา ผาลนํ วา วิชฺฌนํ วา เลขนํ วา น กาตพฺพํ, สพฺพฺเหตํ สตฺถกมฺมเมว โหติ. เยน เกนจิ ปน จมฺเมน วา วตฺเถน วา วตฺถิปีฬนมฺปิ น กาตพฺพํ, สพฺพฺเหตํ วตฺถิกมฺมเมว โหติ. เอตฺถ จ ‘‘สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา’’ติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ, วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปน ขารํ วา ทาตุํ เยน เกนจิ รชฺชุเกน วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ยทิ เตน ฉิชฺชติ, สุจฺฉินฺนํ. อณฺฑวุฑฺฒิโรเคปิ สตฺถกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อณฺฑํ ผาเลตฺวา พีชานิ อุทฺธริตฺวา อโรคํ กริสฺสามี’’ติ น กาตพฺพํ, อคฺคิตาปนเภสชฺชเลปเนสุ ปน ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. วจฺจมคฺเค เภสชฺชมกฺขิตา อาทานวฏฺฏิ วา เวฬุนาฬิกา วา วฏฺฏติ, ยาย ขารกมฺมํ วา กโรนฺติ, เตลํ วา ปเวเสนฺติ.
๖๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, นหาปิตปุพฺเพน ขุรภณฺฑํ ปริหริตพฺพํ, โย ปริหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๐๓) วจนโต นหาปิตปุพฺเพน (มหาว. อฏฺ. ๓๐๓) ขุรภณฺฑํ คเหตฺวา ปริหริตุํ น วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺตเกน ปน เกเส เฉเทตุํ วฏฺฏติ. สเจ เวตนํ ¶ คเหตฺวา ฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. โย อนหาปิตปุพฺโพ, ตสฺเสว ปริหริตุํ วฏฺฏติ, ตํ วา อฺํ วา คเหตฺวา เกเส เฉเทตุมฺปิ วฏฺฏติ.
๖๕. ‘‘สงฺฆิกานิ ¶ , ภิกฺขเว, พีชานิ ปุคฺคลิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานิ. ปุคฺคลิกานิ พีชานิ สงฺฆิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานี’’ติ (มหาว. ๓๐๔) – วจนโต ปุคฺคลิกาย ภูมิยา สงฺฆิเกสุ พีเชสุ โรปิเตสุ สงฺฆิกาย ภูมิยา วา ปุคฺคลิเกสุ พีเชสุ โรปิเตสุ ทสมภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. อิทํ กิร ชมฺพุทีเป โปราณกจาริตฺตํ, ตสฺมา ทส โกฏฺาเส กตฺวา เอโก โกฏฺาโส ภูมิสามิกานํ ทาตพฺโพ.
๖๖. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ. ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน, คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกนา’’ติ (มหาว. ๒๙๙) – วจนโต ตาทิสํ กนฺตารํ นิตฺถรนฺเตน ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ. กถํ ปน ปริเยสิตพฺพนฺติ? สเจ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๖) เกจิสยเมว ตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ เทนฺติ, าติปวาริตฏฺานโต วา ภิกฺขาจารวตฺเตน วา ปริเยสิตพฺพํ. ตถา อลภนฺเตน อฺาติกอปฺปวาริตฏฺานโต ยาจิตฺวาปิ คเหตพฺพํ. เอกทิวเสน คมนีเย มคฺเค เอกภตฺตตฺถาย ปริเยสิตพฺพํ. ทีเฆ อทฺธาเน ยตฺตเกน กนฺตารํ นิตฺถรติ, ตตฺตกํ ปริเยสิตพฺพํ.
๖๗. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) – อิเม จตฺตาโร มหาปเทเส ภควา ภิกฺขูนํ นยคฺคหณตฺถาย อาห. ตตฺถ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถรา สุตฺตํ คเหตฺวา ปริมทฺทนฺตา อิทํ อทฺทสํสุ. ‘‘เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ สตฺต ธฺรสานิ ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตานิ ¶ . ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสผลเอฬาลุกานิ นว มหาผลานิ สพฺพฺจ อปรณฺณํ ธฺคติกเมว. ตํ กิฺจาปิ น ปฏิกฺขิตฺตํ ¶ , อถ โข อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปติ. อฏฺ ปานานิ อนฺุาตานิ, อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิฏฺโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคติกาเนว. ตานิ กิฺจาปิ น อนฺุาตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. เปตฺวา หิ สานุโลมํ ธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกํเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
ภควตา – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉ จีวรานิ โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (มหาว. ๓๓๙) ฉ จีวรานิ อนฺุาตานิ, ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ เตสํ อนุโลมานิ ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ จีนปฏฺฏํ โสมารปฏฺฏํ อิทฺธิมยํ เทวทตฺติยนฺติ อปรานิ ฉ อนฺุาตานิ. ตตฺถ ปตฺตุณฺณนฺติ ปตฺตุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ. ทฺเว ปฏานิ เทสนาเมเนว วุตฺตานิ. ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ, ทุกูลํ สาณสฺส, อิตรานิ ทฺเว กปฺปาสิกสฺส วา สพฺเพสํ วา.
ภควตา เอกาทส ปตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปตฺตา อนฺุาตา โลหปตฺโต จ มตฺติกาปตฺโต จ. โลหถาลกํ มตฺติกาถาลกํ ตมฺพโลหถาลกนฺติ เตสํเยว อนุโลมานิ. ภควตา ตโย ตุมฺพา อนฺุาตา โลหตุมฺโพ กฏฺตุมฺโพ ผลตุมฺโพติ. กุณฺฑิกา กฺจนโก อุทกตุมฺโพติ เตสํเยว อนุโลมานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปานียสงฺขปานียสราวกานํ เอเต อนุโลมา’’ติ วุตฺตํ. ปฏฺฏิกา สูกรนฺตนฺติ ทฺเว กายพนฺธนานิ อนฺุาตานิ. ทุสฺสปฏฺเฏน รชฺชุเกน จ กตกายพนฺธนานิ เตสํเยว อนุโลมานิ. เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตีณิ ฉตฺตานิ อนฺุาตานิ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ เตสํเยว อนุโลมนฺติ อิมินา นเยน ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อนุเปกฺขิตฺวา อฺานิปิ กปฺปิยากปฺปิยานํ อนุโลมานิ วินยธเรน เวทิตพฺพานิ.
๖๘. วินยธโร (ปาจิ. อฏฺ. ๔๓๘) จ ปุคฺคโล วินยปริยตฺติมูลเก ปฺจานิสํเส ฉานิสํเส สตฺตานิสํเส อฏฺานิสํเส นวานิสํเส ทสานิสํเส เอกาทสานิสํเส ¶ ลภติ. กตเม ปฺจานิสํเส ลภติ? อตฺตโน สีลกฺขนฺธคุตฺติอาทิเก. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา วินยธเร ปุคฺคเล. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต, กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ, วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ, ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาติ, สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕).
กถมสฺส ¶ อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ฉหากาเรหิ อาปชฺชติ อลชฺชิตา, อฺาณตา, กุกฺกุจฺจปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา, สติสมฺโมสา. กถํ อลชฺชิตาย อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, อาปตฺตึ ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);
กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล หิ มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ. เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ. กถํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยํ เจ, กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยํ เจ, น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.
กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ขาทติ, ทีปิมํสํ ‘‘มิคมํส’’นฺติ ขาทติ, อกปฺปิยโภชนํ ‘‘กปฺปิยโภชน’’นฺติ ภฺุชติ, วิกาเล กาลสฺาย ภฺุชติ, อกปฺปิยปานกํ ‘‘กปฺปิยปานก’’นฺติ ปิวติ. เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ. กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ขาทติ, มิคมํสํ ‘‘ทีปิมํส’’นฺติ ขาทติ, กปฺปิยโภชนํ ‘‘อกปฺปิยโภชน’’นฺติ ภฺุชติ, กาเล วิกาลสฺาย ภฺุชติ, กปฺปิยปานกํ ‘‘อกปฺปิยปานก’’นฺติ ปิวติ. เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ. กถํ สติสมฺโมสา ¶ อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสเภสชฺชจีวรกาลาติกฺกมนปจฺจยา อาปตฺตึ สติสมฺโมสา อาปชฺชติ. เอวมิเธกจฺโจ ภิกฺขุ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
วินยธโร ปน อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ น อาปชฺชติ. กถํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ? โส หิ ‘‘ปสฺสถ โภ, อยํ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานนฺโตเยว ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ อิมํ ปรูปวาทํ รกฺขนฺโตปิ นาปชฺชติ. เอวํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ, สหสา อาปนฺนมฺปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺหิตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาติ. ตโต –
‘‘สฺจิจฺจ ¶ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, อาปตฺตึ น ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ น คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ ลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙) –
อิมสฺมึ ลชฺชิภาเว ปติฏฺิโตว โหติ.
กถํ าณตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา กปฺปิยํเยว กโรติ, อกปฺปิยํ น กโรติ. เอวํ าณตาย นาปชฺชติ. กถํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วตฺถุํ โอโลเกตฺวา มาติกํ ปทภาชนํ อนฺตราปตฺตึ อนาปตฺตึ โอโลเกตฺวา กปฺปิยํ เจ โหติ, กโรติ, อกปฺปิยํ เจ, น กโรติ. เอวํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ. กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาทีหิ นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี น โหติ, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี น โหติ, สุปฺปติฏฺิตา จสฺส สติ โหติ, อธิฏฺาตพฺพํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตพฺพํ วิกปฺเปติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ. อนาปชฺชนฺโต อขณฺฑสีโล โหติ, ปริสุทฺธสีโล โหติ. เอวมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต.
กถํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ? ติโรรฏฺเสุ ติโรชนปเทสุ จ อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺจา ภิกฺขู ‘‘อสุกสฺมึ กิร วิหาเร วินยธโร วสตี’’ติ ทูรโตว ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉนฺติ. โส เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส วตฺถุํ โอโลเกตฺวา อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาทิเภทํ สลฺลกฺเขตฺวา เทสนาคามินึ เทสาเปตฺวา, วุฏฺานคามินิยา วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปติ. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ.
วิสารโท ¶ สงฺฆมชฺเฌ โวหรตีติ อวินยธรสฺส หิ สงฺฆมชฺเฌ กเถนฺตสฺส ภยํ สารชฺชํ โอกฺกมติ, วินยธรสฺส ตํ น โหติ. กสฺมา? ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส โหติ, เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวา กถนโต.
ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ เอตฺถ ทฺวิธา ปจฺจตฺถิกา นาม อตฺตปจฺจตฺถิกา จ สาสนปจฺจตฺถิกา จ. ตตฺถ เมตฺติยภูมชกา จ ภิกฺขู วฑฺโฒ จ ลิจฺฉวี อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา โจเทสุํ, อิเม อตฺตปจฺจตฺถิกา นาม. เย ปน อฺเปิ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา ¶ , สพฺเพเต อตฺตปจฺจตฺถิกา. วิปรีตทสฺสนา ปน อริฏฺภิกฺขุกณฺฏกสามเณรเวสาลิกวชฺชิปุตฺตกา ปรูปหารอฺาณกงฺขาวิตรณาทิวาทา มหาสงฺฆิกาทโย จ อพุทฺธสาสนํ ‘‘พุทฺธสาสน’’นฺติ วตฺวา กตปคฺคหา สาสนปจฺจตฺถิกา นาม. เต สพฺเพปิ สหธมฺเมน สหการเณน วจเนน ยถา ตํ อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ.
สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตีติ เอตฺถ ปน ติวิโธ สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติอธิคมวเสน. ตตฺถ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตคุณา จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานีติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. จตฺตาโร มคฺคา จ จตฺตาริ ผลานิ จ, อยํ อธิคมสทฺธมฺโม นาม.
ตตฺถ เกจิ เถรา ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ อิมินา สุตฺเตน (ที. นิ. ๒.๒๑๖) ‘‘สาสนสฺส ปริยตฺติ มูล’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ เถรา ‘‘อิเม จ สุภทฺท ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ อิมินา สุตฺเตน (ที. นิ. ๒.๒๑๔) ‘‘สาสนสฺส ปฏิปตฺติ มูล’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยาว ปฺจ ภิกฺขู สมฺมาปฏิปนฺนา สํวิชฺชนฺติ, ตาว สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ อาหํสุ. อิตเร ปน เถรา ‘‘ปริยตฺติยา อนฺตรหิตาย สุปฺปฏิปนฺนสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นตฺถี’’ติ วตฺวา อาหํสุ ‘‘สเจปิ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขกา โหนฺติ, เต สทฺเธ กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปจฺจนฺติเม ชนปเท อุปสมฺปาเทตฺวา ทสวคฺคํ คณํ ปูเรตฺวา มชฺฌิมชนปเท อุปสมฺปทํ กริสฺสนฺติ, เอเตนุปาเยน วีสติวคฺคํ สงฺฆํ ปูเรตฺวา อตฺตโนปิ อพฺภานกมฺมํ กตฺวา สาสนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ ¶ คมยิสฺสนฺติ. เอวมยํ วินยธโร ติวิธสฺสปิ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. เอวมยํ วินยธโร อิเม ตาว ปฺจานิสํเส ปฏิลภตีติ เวทิตพฺโพ.
กตเม ฉานิสํเส ลภตีติ? ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถ ปวารณา สงฺฆกมฺมํ ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา, นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺาเปติ. เยปิ อิเม จาตุทฺทสิโก, ปนฺนรสิโก, สามคฺคิอุโปสโถ, สงฺเฆ อุโปสโถ, คเณ อุโปสโถ, ปุคฺคเล อุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโส, ปาริสุทฺธิ, อธิฏฺานอุโปสโถติ นว อุโปสถา, สพฺเพ เต วินยธรายตฺตา, ยาปิ จ อิมา จาตุทฺทสิกา, ปนฺนรสิกา, สามคฺคิปวารณา, สงฺเฆ ปวารณา, คเณ ปวารณา, ปุคฺคเล ปวารณา, เตวาจิกา ปวารณา ¶ , ทฺเววาจิกา ปวารณา, สมานวสฺสิกา ปวารณาติ นว ปวารณา, ตาปิ วินยธรายตฺตา เอว, ตสฺส สนฺตกา, โส ตาสํ สามี.
ยานิปิ อิมานิ อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ, ยา จายํ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา กุลปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ กาตพฺพา, อยมฺปิ วินยธรายตฺตาว. น หิ อฺโ ทฺวิปิฏกธโรปิ เอวํ กาตุํ ลภติ, โส เอว นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺาเปติ, อฺโ เนว นิสฺสยํ ทาตุํ ลภติ, น สามเณรํ อุปฏฺาเปตุํ. เตเนว ‘‘น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว สามเณรา อุปฏฺาเปตพฺพา, โย อุปฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๑) ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน อนุชานนฺเตนปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา เอเกน ทฺเว สามเณเร อุปฏฺาเปตุํ, ยาวตเก วา ปน อุสฺสหติ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ, ตาวตเก อุปฏฺาเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๕) พฺยตฺตสฺเสว สามเณรุปฏฺาปนํ อนฺุาตํ. สามเณรุปฏฺาปนํ ปจฺจาสีสนฺโต ปน วินยธรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ สาทิตุํ ลภติ. เอตฺถ จ นิสฺสยทานฺเจว สามเณรุปฏฺานฺจ เอกมงฺคํ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อานิสํเสสุ เอเกน สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ. ทฺวีหิ สทฺธึ สตฺต, ตีหิ สทฺธึ อฏฺ, จตูหิ สทฺธึ นว, ปฺจหิ สทฺธึ ทส, สพฺเพหิเปเตหิ สทฺธึ เอกาทสาติ เอวํ วินยธโร ปุคฺคโล ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺ นว ทส เอกาทส จ อานิสํเส ลภตีติ เวทิตพฺโพ.
มหานิสํสมิจฺเจวํ ¶ , โกสลฺลํ วินเย สทา;
ปตฺเถนฺเตเนตฺถ กาตพฺโพ, อภิโยโค ปุนปฺปุนนฺติ.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.
นิฏฺิโต จายํ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคโห.
นิคมนกถา
อชฺเฌสิโต นรินฺเทน, โสหํ ปรกฺกมพาหุนา;
สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน, สาสนุชฺโชตการินา.
เตเนว ¶ การิเต รมฺเม, ปาสาทสตมณฺฑิเต;
นานาทุมคณากิณฺเณ, ภาวนาภิรตาลเย.
สีตลูทกสมฺปนฺเน, วสํ เชตวเน อิมํ;
วินยสงฺคหํ สารํ, อกาสิ โยคินํ หิตํ.
ยํ สิทฺธํ อิมินา ปฺุํ, ยฺจฺํ ปสุตํ มยา;
เอเตน ปฺุกมฺเมน, ทุติเย อตฺตสมฺภเว.
ตาวตึเส ปโมเทนฺโต, สีลาจารคุเณ รโต;
อลคฺโค ปฺจกาเมสุ, ปตฺวาน ปมํ ผลํ.
อนฺติเม อตฺตภาวมฺหิ, เมตฺเตยฺยํ มุนิปุงฺควํ;
โลกคฺคปุคฺคลํ นาถํ, สพฺพสตฺตหิเต รตํ.
ทิสฺวาน ตสฺส ธีรสฺส, สุตฺวา สทฺธมฺมเทสนํ;
อธิคนฺตฺวา ผลํ อคฺคํ, โสเภยฺยํ ชินสาสนนฺติ.
วินยสงฺคห-อฏฺกถา นิฏฺิตา.