📜
๘. อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา
๔๔. อธิฏฺานวิกปฺปเนสุ ¶ ปน – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, มุขปฺุฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วจนโต ติจีวราทินิยาเมเนว อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุกอาเมน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ ¶ วตฺวา วิกปฺเปตพฺพํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ติจีวรํ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ. อสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ, ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ ปมาณํ วฏฺฏติ. อนฺตรวาสโก ทีฆโส มุฏฺิปฺจโก, ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกฺจ อูนกฺจ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพํ.
ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพา. อิทํ กาเยน อธิฏฺานํ, ตํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺาเน ปน วจีเภทํ กตฺวา วาจาย อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส, ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อธิฏฺิเตน ปน ¶ สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สิพฺพนฺเตน ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.
ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? มหาปทุมตฺเถโร กิราห ‘‘ติจีวรํ ติจีวรเมว อธิฏฺาตพฺพํ, สเจ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต กิร อวเสสา ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘ปริกฺขารโจฬมฺปิ ภควตาว ‘อธิฏฺาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตํ. ติจีวรํ ‘ปริกฺขารโจฬ’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อุโทสิตสิกฺขาปเท (ปารา. ๔๗๑ อาทโย) ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ¶ ปริหาโร วุตฺโต’’ติ. อุภโตวิภงฺคภาณโก ปุณฺณวาลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโรปิ กิราห ‘‘มยํ ปุพฺเพ มหาเถรานํ อสฺสุมฺหา ‘อรฺวาสิโน ภิกฺขู รุกฺขสุสิราทีสุ จีวรํ เปตฺวา ปธานํ ปทหนตฺถาย คจฺฉนฺติ, สามนฺตวิหาเร ธมฺมสฺสวนตฺถาย คตานฺจ เตสํ สูริเย อุฏฺิเต สามเณรา วา ทหรภิกฺขู วา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สุขปริโภคตฺถํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ อารฺิกา ภิกฺขู อพทฺธสีมาย ทุปฺปริหารนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬเมว อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชึสู’’ติ.
๔๕. วสฺสิกสาฏิกา อนติริตฺตปฺปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ, ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. นิสีทนํ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, เอกมฺปิ วฏฺฏติ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ, นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการํ วฏฺฏติ. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา. อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เอกาว วฏฺฏติ. มุขปฺุฉนโจฬํ อธิฏฺาตพฺพเมว, ยาว เอกํ โธวียติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ. อปเร ปน เถรา ‘‘นิธานมุขเมตํ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนูปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว. ตสฺส ปมาณํ ทีฆโต ทฺเว วิทตฺถิโย ติริยํ วิทตฺถิ, ตํ ปน ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ, วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ โหติ. ตตฺรายํ ปาฬิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ ¶ (มหาว. ๓๕๘). พหูนิปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. เภสชฺชนวกมฺมมาตาปิตุอาทีนํ อตฺถาย เปนฺเตน อนธิฏฺิเตปิ นตฺถิ อาปตฺติ. มฺจภิสิ ปีภิสิ พิมฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว.
สเจ ¶ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๓๘) าตกปวาริตฏฺานโต สุตฺตํ ลภิตฺวา าตกปวาริเตเนว ตนฺตวาเยน อฺเน วา มูลํ ทตฺวา จีวรํ วายาเปติ, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติ. ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺตึ รกฺขนฺเตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺาปิยมานฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติ. าตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรปาเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อิทํ จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโย.
สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ นิฏฺิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.
สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ. กุหึ, อาวุโส, จีวรนฺติ. อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิตนฺติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ, ตาว รกฺขติ.
๔๖. อธิฏฺิตจีวรํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ปน ปริภฺุชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ¶ ? อฺสฺส ทาเนน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน วิสฺสาสคฺคาเหน หีนายาวตฺตเนน สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน กาลกิริยาย ลิงฺคปริวตฺตเนน ปจฺจุทฺธรเณน ฉิทฺทภาเวนาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ วิชหติ. ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ ¶ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺติ, ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสว สพฺพฏฺกถาสุ อธิฏฺานวิชหนํ วุตฺตํ, ตฺจ นขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทน. ตตฺถ นขปิฏฺิปฺปมาณํ กนิฏฺงฺคุลินขวเสน เวทิตพฺพํ, ฉิทฺทฺจ วินิวิทฺธฉิทฺทเมว. ฉิทฺทสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุ เจปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติ. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส, ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว, ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ, ตสฺมา ชาเต ฉิทฺเท ติจีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต คฬิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ, ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ. รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ การาเปนฺตสฺสปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมวาติ. อยํ ตาว อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.
๔๗. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
อปโร นโย – ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา ¶ วิกปฺเปมี’’ติ ¶ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ กึ นานากรณํ? สมฺมุขาวิกปฺปนายํ สยํ วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ, ปรมฺมุขาวิกปฺปนายํ ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, อิทเมตฺถ นานากรณํ. สเจ ปน ยสฺส วิกปฺเปติ, โส ปฺตฺติโกวิโท น โหติ, น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุํ, ตํ จีวรํ คเหตฺวา อฺสฺส พฺยตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปตพฺพํ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏติ. เอวํ ตาว จีวเร อธิฏฺานวิกปฺปนานโย เวทิตพฺโพ.
๔๘. ปตฺเต ปน อยํ นโย – ปตฺตํ อธิฏฺหนฺเตน อุกฺกฏฺมชฺฌิโมมกานํ อฺตโร ปมาณยุตฺโตว อธิฏฺาตพฺโพ. ตสฺส ปมาณํ ‘‘อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๐๒) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒ อาทโย) – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลมกิลินฺนมปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ¶ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ, ตโต อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ ¶ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ. ตานิ หิ โอทนคติกานิ โหนฺติ, เนว หาเปตุํ, น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.
อุกฺกฏฺโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. มชฺฌิมโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ โอมโก. ตสฺมา สเจ มคธนาฬิยา นาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. เอวเมเต นว ปตฺตา. เตสุ ทฺเว อปตฺตา อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จาติ. ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพา, น อธิฏฺานูปคา น วิกปฺปนูปคา. อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภฺุชิตพฺพา.
ปมาณยุตฺตานมฺปิ เอเตสํ อธิฏฺานวิกปฺปนูปคตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ, มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก อธิฏฺานูปโค. อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว. สเจ เอโกปิ ปาโก อูโน โหติ, กากณิกมตฺตมฺปิ วา มูลํ อทินฺนํ, น อธิฏฺานูปโค. สเจ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ, เนว อธิฏฺานูปโค โหติ, ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส ¶ วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ, ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ สุนิฏฺิเตเยว อธิฏฺานูปโค โหติ. โย อธิฏฺานูปโค, สฺเวว วิกปฺปนูปโค. โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา. ยทิ หิ ปตฺตการโก มูลํ ลภิตฺวา สยํ วา ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา อสุกทิวเส นาม ปจิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน ¶ เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปตฺโต นิฏฺิโต’’ติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, ปตฺตํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภโต ปตฺโต สุนฺทโร’’ติ. ‘‘กุหึ, อาวุโส, ปตฺโต’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิโต’’ติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ ปตฺตํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา.
ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺาติ, วาจาย วา อธิฏฺาติ. เตสํ วเสน อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา วตฺวา เอวํ สมฺมุเข วา ปรมฺมุเข วา ิตํ ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺสฺส วา ทตฺวา นวํ ปตฺตํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิทํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺโพ. วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาภพฺโพ. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ ¶ วาจา ภินฺทิตพฺพา, อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อธิฏฺหนฺเตน ปน เอกเกน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อฺสฺส สนฺติเก อยมานิสํโส – สจสฺส ‘‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตีติ. สเจ โกจิ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพ อตฺตนาว ปริภฺุชิตุกาโม โหติ, น สพฺเพ อธิฏฺาตพฺพา, เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุนทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ อธิฏฺาตพฺโพ. เอเตเนว อุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา.
เอวํ อปฺปมตฺตสฺส สิยา อธิฏฺานวิชหนนฺติ? สิยา. สเจ หิ สยํ ปตฺตํ อฺสฺส เทติ, วิพฺภมติ วา, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาติ, กาลํ วา กโรติ, ลิงฺคํ วาสฺส ปริวตฺตติ, ปจฺจุทฺธรติ วา, ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหติ, อธิฏฺานํ วิชหติ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘ทินฺนวิพฺภนฺตปจฺจกฺขา ¶ , กาลกิริยากเตน จ;
ลิงฺคปจฺจุทฺธรา เจว, ฉิทฺเทน ภวติ สตฺตม’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) –
โจรคหณวิสฺสาสคฺคาเหหิปิ วิชหติเยว. กิตฺตเกน ฉิทฺเทน อธิฏฺานํ ภิชฺชติ? เยน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ. อิทฺหิ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถํ. ตสฺมึ ฉิทฺเท อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺโพ. อยํ ตาเวตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.
๔๙. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา เจว ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
อปโร นโย – ตเถว ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ¶ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ. ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหีติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ ¶ . ตโต อิตเรน ปุริมนเยน ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ. อยํ วิกปฺปเน นโย.
๕๐. เอวํ อธิฏฺหิตฺวา วิกปฺเปตฺวา จ ปริภฺุชนฺเตน ปตฺเต ภินฺเน กึ กาตพฺพนฺติ? ยสฺส ปตฺเต ราชิมุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา น โหติ เตน น กิฺจิ กาตพฺพํ. ยสฺส (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๓) ปน ตาทิสา เอกาปิ ราชิ โหติ, เตน ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุกมกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวา ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺเฏน วา เกนจิ วา พทฺธสิเลเสน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺโพ. สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ. สุทฺเธหิ ปน มธุกสิตฺถกลาขาสชฺชุรสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ¶ ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส, เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ, เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.
อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ จ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปตฺโต ปริภฺุชิตพฺโพ, อฺโ น วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปตฺโต, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. วิฺาเปนฺเตน จ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว ปตฺเตน อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ, ปุคฺคลวเสน ปน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ วฏฺฏติ. ปตฺตํ ลภิตฺวา ปริภฺุชนฺเตน จ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภฺุชิตพฺโพ, อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺเปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ. มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเสปิ น ¶ นิกฺขิปิตพฺโพ. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๕๔) นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.