📜

ปาจิตฺติยวณฺณนา

๕. ปาจิตฺติยกณฺโฑ

๑. มุสาวาทวคฺโค

๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

. วาทกฺขิตฺโตติ เอตฺถ อวิเสเสน วาทชปฺปวิตณฺฑสงฺขาโต ติวิโธปิ กถามคฺโค ‘‘วาโท’’ อิจฺเจว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เตสุ ‘‘ติตฺถิเยหิ สทฺธิ’’นฺติ วจนโต เปตฺวา วาทํ ‘‘เสสา’’ติ วทนฺติ. ฉลชาตินิคฺคหฏฺานกุสลตาย กทาจิ กตฺถจิ อวชานิตฺวา ปฏิชานาติ, ตถา ปุพฺเพ กิฺจิ วจนํ ปฏิชานิตฺวา ปจฺฉา อวชานาติ. เอวํ วา อฺถา วา อฺเนฺํ ปฏิจรติ. เอวํ ปวตฺโต สมฺปชานมุสา ภาสํ ปฏิสฺสุณิตฺวา อสจฺจายนฺโต สงฺเกตํ กตฺวา วิสํวาเทนฺโต เอวํ โส วาทกฺขิตฺโต สมาโน ปาจิตฺติยวตฺถุฺจ ปริปูเรนฺโต วิจรตีติ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อตฺตโน วาเทติ เอตฺถ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๙; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๗; เนตฺติ. ๕; มหานิ. ๒๗) ปมมารทฺเธ อตฺตโน วาเท. ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) โน สมโย. ‘‘สพฺเพ ธมฺมา’’ติ วุตฺเต นิพฺพานมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔; ม. นิ. ๒.๒๑๕) วุตฺตตฺตา ปน ตํ น ทุกฺขํ. โน านเมตํ วิชฺชติ. อยํ ปรวาที ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ สุตฺตํ ทสฺเสตฺวา สิทฺธนฺตํ สมฺภเมตฺวา ‘‘วิโรธิ วิรุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ โทสํ อาโรเปสฺสตีติ ตสฺมึ ปมวาเท กฺจิ โทสํ สลฺลกฺเขนฺโต อาโรปิเต วา โทเส อนาโรปิเต วา ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ ตํ อวชานิตฺวา ‘‘นิพฺพานนฺตฺเวว สสฺสต’’นฺติ, ‘‘อนตฺตา อิติ นิจฺฉยา’’ติ จ สุตฺตํ ทิสฺวา ตสฺส ปมวาทสฺส นิทฺโทสตํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘มเมว อยํ วาโท’’ติ ตเมว ปจฺฉา ปฏิชานาติ. เอวํ ตตฺถ ยถาวุตฺตมานิสํสํ สลฺลกฺเขนฺโต ตํ ปฏิชานิตฺวา ยทิ อนตฺตา สพฺเพ ธมฺมา, ธมฺมา เอว น เต ภวนฺติ. สภาวํ ธาเรนฺตีติ หิ ‘‘ธมฺมา’’ติ วุจฺจนฺติ.

อยฺจ อตฺต-สทฺโท สภาววาจีติ เอวํ อาโรปิเต วา โทเส อนาโรปิเต วา โทโสติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ ตเมว ปมวาทํ ปจฺฉา อวชานาติ. อถ โส ปรวาที สปกฺขํ ปฏิเสเธ ปฏิชานนตฺตาปนยนํ . ปฏิชานาติ ปตฺยาสฺส อิติ วจนโต ‘‘ปฏิฺา อฺา โส นาม เต นิคฺคโห’’ติ วุตฺโต. สภาวาติริตฺตํ อตฺถํ ปฏิเสธาธิปฺปายโต สภาวโต อติริตฺตํ พาลปริกปฺปิตมตฺตานํ สนฺธาย ‘‘อนตฺตา สพฺเพ ธมฺมา’’ติ เม ปฏิฺาตกถา, สา จ ตทวตฺถาเยวาติ น เม ตํ ปฏิฺาตตฺตาปนยนํ อตฺถิ, ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานนํ ปน สภาวสงฺขาตํ อตฺตานํ สนฺธาย ‘‘อนตฺตา สพฺเพ ธมฺมา’’ติ น วทามีติ อธิปฺปาเยน กตนฺติ อิมินา อฺเน การเณน ตํ ปุพฺเพ ปฏิฺาตตฺตาปนยนํ การณํ ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อนตฺตา สพฺเพว ธมฺมา’’ติ น วตฺตพฺพํ ‘‘อตฺต-สทฺทสฺส สภาววาจิตฺตา’’ติ อิทํ การณํ ปฏิจฺจ เตน ปุพฺเพ ปฏิฺาตตฺตาปนยนํ กตํ. ตมฺการณํ ปจฺฉา ทสฺสิเตน อฺเน การเณน ปฏิจฺฉาเทตีติ อธิปฺปาโย.

ยสฺมา น เกวลํ ยถาทสฺสิตนเยน โส อตฺถเมว อวชานาติ, ปฏิชานาติ จ, กินฺตุ วจนมฺปิ, ตสฺมา อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๑) ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ ปมํ การณํ วตฺวา ปรวาทินา ‘‘ยทิ ชานิตพฺพโต อนิจฺจํ, นิพฺพานํ เต อนิจฺจํ สิยา’’ติ วุตฺเต ‘‘น มยา ‘ชานิตพฺพโต’ติ การณํ วุตฺตํ, ‘ชาติธมฺมโต’ติ มยา วุตฺตํ, ตํ ตยา พธิรตาย อฺเน สลฺลกฺขิตนฺติอาทีนิ วทตีติ อธิปฺปาโย. ‘ชานิตพฺพโต’ติ วตฺวา ปุน ‘ชาติธมฺมโต’ติอาทีนิ วทตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อวชานิตฺวา ปุน ปฏิชานนฺโต ตํ อวชานนํ อิมินา ปฏิจฺฉาเทติ นามา’’ติ ลิขิตํ.

. ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จาติ ชานิตฺวา วา ชานนฺตสฺส วาติ อตฺถทฺวยํ ทีเปตีติ.

. อปิจ มิจฺฉาวาจาปริยาปนฺนาติ จตุพฺพิธมิจฺฉาวาจาปริยาปนฺนา. สีหฬาทินามเภทคตาติ เกจิ, ตสฺมา เอวํ วทโต วจนํ, ตํสมุฏฺาปิกา เจตนาติ อุภยํ วุตฺตนฺติ มาติกายํ อุภินฺนํ สงฺคหิตตฺตา. วิภงฺเค ตํ วจนํ ยสฺมา วินา วิฺตฺติยา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘วาจสิกา วิฺตฺตี’’ติ วิฺตฺติ จ ทสฺสิตา. ‘‘เอวํ วทโต วจน’’นฺติ โลกโวหาเรน วตฺวา ปรมตฺถโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํสมุฏฺาปิกา วา เจตนาติ วุตฺต’’นฺติ จ วทติ. โอฬาริเกเนวาติ เจตนาสมุฏฺานวาจานํ สุขุมตฺตา วิสยวเสเนว กตาติ.

. ทิฏฺสฺสโหตีติ ทิฏฺโ อสฺส, อเนน วา อุปจารชฺฌานวเสน น มยา อพฺยาวโฏ มโต, ‘‘น มยา ปวนฺโต ปโฏ ทิฏฺโ’’ติอาทึ ภณนฺตสฺส จ ปรมตฺถสุฺตํ อุปาทาย เอว ‘‘อิตฺถึ น ปสฺสามิ, น จ ปุริส’’นฺติ ภณนฺตสฺส จ น มุสาวาโท.

๑๑. อาปตฺตึ อาปชฺชติเยวาติ เอตฺถ ‘‘ทุพฺภาสิตาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. กสฺมา? ‘‘เกฬึ กุรุมาโน’’ติ วุตฺตตฺตา. ‘‘วาจา คิรา…เป… วาจสิกา วิฺตฺตี’’ติ อุชุกํ สนฺธาย, กาโย น อุชุโก.

มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๓. ‘‘ปุน อเร ปตฺเตติ ปุน ตํ านํ ปริวฏฺเฏตฺวา อาคเต อฺสฺมึ อเร’’ติ ลิขิตํ. ปติฏฺิตารปฺปเทสนฺติ ภูมึ. ปุน อเรติ ปุน ตสฺมึเยว อเร ภูมึ ปตฺเตติ อตฺโถติ เกจิ, ตํ น สุนฺทรํ วิย. ชาปิโตติ ปราชิโต, ‘‘ปราชิโต’’ติ วา ปาโ. ปาเปสีติ อภิภวสิ. มนาปํ ภาสมานสฺส พฺราหฺมณสฺส ครุํ ภารํ. อุทพฺพหีติ อากฑฺฒีติ อตฺโถ, อนาทรตฺเถ วา สามิวจนํ. ธนฺจ นํ อลาเภสีติ ยถา โส ธนํ อลภิ, ตถา อกาสีติ อธิปฺปาโย.

๑๕. ปุพฺเพติ นิทาเน. อวกณฺณกนฺติ ฉินฺนกณฺณกนามํ. ชวกณฺณกนฺติ วงฺกกณฺณกนามํ. ธนิฏฺกํ ธนวฑฺฒกนามํ, สิริวฑฺฒกนามํ กุลวฑฺฒกสฺเสว นามํ. ตจฺฉกกมฺมนฺติ ขณนกมฺมการา โกฏฺกา, ปาสาณกมฺมการาติ เกจิ. ‘‘มุทฺทาติ ปพฺพคณนา. คณนาติ มหาคณนา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘มธุเมหํ โอเมห’’นฺติ ลิขิตํ. ถูลกายสฺส มํสูปจโยติ เอเก. ยภ เมถุเน. วีตราคตาทีหิ อกฺโกสนฺโตปิ กิเลเสเหว กิร อกฺโกสติ นาม, ตถา ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ อกฺโกสนฺโต อาปตฺติยา อกฺโกสติ นามาติ เอเก. ลิงฺคายตฺตตฺตา อจฺโจทาตาทิปิ ลิงฺคเมว ชาตํ.

๑๖. สพฺพตฺถ วเทตีติ อุทฺเทโส. ภณตีติ วิตฺถาโร. วเทตีติ วา อิมินา ปรวิฺาปนํ ทีเปติ.

๒๖. อฺาปเทสวาเรสุ ปน ‘‘เอวํ วเทตี’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา? ปุพฺเพ ทสฺสิตอุทฺเทสกฺกมนิทสฺสนตฺถํ. ปุพฺเพปิ ‘‘หีเนน หีนํ, หีเนน อุกฺกฏฺํ, อุกฺกฏฺเน หีนํ, อุกฺกฏฺเน อุกฺกฏฺ’’นฺติ ชาตฺยาทีสุ เอเกกสฺมึ จตุธา จตุธา ทสฺสิตอุทฺเทสกฺกมสฺส นิทสฺสนํ ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา กโรติ. ‘‘หีเนน หีนํ วเทตี’’ติ วุตฺตฏฺาเนเยว หิ ‘‘เอวํ วเทตี’’ติ วุตฺเต โส อากาโร นิทสฺสิโต โหตีติ อธิปฺปาโย. อฺถา อฺาปเทเสน โส อากาโร น สมฺภวตีติ อาปชฺชติ. น สมฺภวติ เอวาติ เจ? น, วิเสสการณาภาวา, ตตฺถ อนาปตฺติปฺปสงฺคโต, อนิยมนิทฺเทเสน อนิยมตฺถสมฺภวโต จ. ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา’’ติอาทินา หิ อนิยมนิทฺเทเสน จณฺฑาลํ วา อจณฺฑาลํ วา สนฺธาย ภณนฺตสฺส อาปตฺตีติ อนิยมตฺโถ สมฺภวตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ ตาวตา ปุพฺเพ ทสฺสิตอุทฺเทสกฺกมนิทสฺสนสิทฺธิโตติ? น, ‘‘วเทตี’’ติ อิมินา อโยชิเต ‘‘เอว’’นฺติ ปเท อิมํ นาม อาการํ ทสฺเสตีติ อนวโพธโต. อฺาปเทสนเยปิ ปรวิฺาปเนเยว ทุกฺกฏปาจิตฺติยํ วิยาติ นิยมนปโยชนํ วา ‘‘วเทตี’’ติ ปทนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อตฺตโน สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุํ อาณาเปนฺโต หีเนน หีนํ วเทติ ภณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. สเจ สยํ หีโน หีเนน หีนํ จณฺฑาลํ…เป… ปุกฺกุสํ ‘‘ปุกฺกุโส’’ติ ภณติ อาปตฺติ วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยสฺส, เอส นโย อฺาปเทสวาเรสุปีติ โยชนา เวทิตพฺพา. อยมตฺโถ ทุฏฺโทเสสุ ปริเยสิตพฺโพ. อฺถา ‘‘วเทติ ภณตี’’ติ เอเตสํ อฺตรํ อุภยตฺถ อนฺาปเทสวารอฺาปเทสวาเรสุ, วิเสเสน วา อฺาปเทสวาเรสุ นิรตฺถกํ อาปชฺชติ วินาเยว เตน วจนสิลิฏฺตาสมฺภวโต. อตฺตโต ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา ปเนตฺถ ‘‘สาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺรายํ ปทสนฺธิ วเทตีติ วท อิตีติ. อสมฺมุขา วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ‘‘สมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. ทวกมฺยตา นาม เกฬิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘หสาธิปฺปายตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อสมฺมุขาปิ ทวกมฺยตาย วทนฺตสฺส ทุพฺภาสิตเมวา’’ติ อาจริยา วทนฺติ. ปาปครหิตาย กุชฺฌิตฺวาปิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อสมฺมุขา อนาปตฺตีติ.

โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖-๗. ‘‘อิมสฺส สุตฺวา อมุสฺสา’’ติ ปาโ. ‘‘อิเมสํ สุตฺวา’’ติ น สุนฺทรํ. เภทายปีติ เภทาย. ติณฺณมฺปิ ภิกฺขุภาวโตเยว นิปชฺชนโต ‘‘ภิกฺขูนํ เปสุฺเ’’ติ พหุวจนํ กตํ.

๓๘-๙. ‘‘อิตฺถนฺนาโม อายสฺมา จณฺฑาโล…เป… ปุกฺกุโสติ ภณตี’’ติ วตฺวา เปสุฺํ อุปสํหรตีติ โยชนา. อฺถา ‘‘ปุกฺกุโสติ ภณตี’’ติ วตฺตพฺพตา อาปชฺชติ. เอตฺถ อนุปสมฺปนฺนวาโร ลพฺภมาโนปิ น อุทฺธโฏ โอมสวาเท ทสฺสิตนยตฺตา, สงฺเขปโต อนฺเต ทสฺเสตุกามตาย วา. ตถา หิ อนฺเต ตีณิ ทุกฺกฏานิ ทสฺสิตานิ. ตานิ ปน ทสฺเสนฺโต ภควา ยสฺมา ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุฺํ อุปสํหรตี’’ติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ ปทานํ อฺตรวิปลฺลาสวเสน วา อุภยวิปลฺลาสวเสน วา ปาจิตฺติยนฺติ กตฺวา ทฺเวปิ ตานิ เอกโต วุตฺตานีติ ทสฺเสตุกาโม, ตสฺมา สพฺพปมํเยว ‘‘อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุฺํ อุปสํหรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อาห. ‘‘ทฺวีสุ ปเนเตสุ ยสฺมา ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนปิ อุปสมฺปนฺโน ตาทิสํเยว อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม โอมสติ, ตาทิสสฺส สุตฺวา ตาทิสสฺส เปสุฺํ อุปสํหรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, ตสฺมา ‘อุปสมฺปนฺโน’ติ อิทํ อาทิปทํ สพฺพตฺถ วุตฺต’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อนวเสสอาปตฺตึ อาปนฺนสฺส ปุน อาปตฺติยา อสมฺภวโต, ตสฺมา เกวลํ มาติกายํ ภิกฺขุปทาภาวโตเยว ‘‘ภณติ อุปสํหรตี’’ติ ปทานํ การกนิทฺเทสาภาเว อสมฺภวโต เอว ตํ อาทิปทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปาฬิเลสาภาวโต อนาณตฺติกเมว. ‘‘น ปิยกมฺยสฺส, น เภทาธิปฺปายสฺสา’’ติ อุปสํหรณาเปกฺขํ สามิวจนํ ตุณฺหีภูตสฺส วจนปฺปโยชนาภาวโต, เตน วุตฺตํ ‘‘ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ.

เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕-๖. สพฺพเมตํปทโส ธมฺโม นามาติ เอตฺถ ธมฺโม นาม พุทฺธภาสิโตติ เอวํ สมฺพนฺโธ. อกฺขรสมูโหติ อสมตฺตปเท. ปจฺเจกพุทฺธภาสิตํ พุทฺธภาสิเต เอว. อนุปาสกคหฏฺเหิ ภาสิโต อิสิภาสิตาทิสงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘เทวตาภาสิโต’’ติ ปทํ นตฺถิ, ยตฺถ อตฺถิ, สา ปาฬิ. คาถาพนฺเธปิ จ เอส นโยติ เอกเมว อกฺขรํ วตฺวา านํ ลพฺภติ เอว. ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิสุตฺตํ ภณาปิยมาโน เอการํ วตฺวา ติฏฺติ เจ, อนฺวกฺขเรน ปาจิตฺติยํ, อปริปุณฺณปทํ วตฺวา ิเต อนุพฺยฺชเนน. ปเทสุ เอกํ ปมปทํ วิรุชฺฌติ เจ, อนุปเทน ปาจิตฺติยํ. อฏฺกถานิสฺสิโตติ อฏฺกถานิสฺสิตวเสน ิโต. ปุพฺเพ ปกติภาสาย วุตฺตํ อฏฺกถํ สนฺธาย. ปาฬินิสฺสิโตติ ปาฬิยํ เอวาคโต. มคฺคกถาทีนิปิ ปกรณานิ.

๔๘. อุปจารนฺติ ทฺวาทสหตฺถํ. ‘‘โอปาเตตีติ เอกโต ภณติ สมาคจฺฉตี’’ติ ลิขิตํ. กิฺจาปิ อปลาลทมนมฺปิ สีลุปเทโสปิ ภควโต กาเล อุปฺปนฺโน, อถ โข เตสุ ยํ ยํ พุทฺธวจนโต อาหริตฺวา วุตฺตํ, ตํ ตเทว อาปตฺติวตฺถุ โหตีติ วิฺาปนตฺถํ มหาอฏฺกถายํ ‘‘วทนฺตี’’ติ วจเนหิ สิถิลํ กตํ. พุทฺธวจนโต อาหริตฺวา วุตฺตสฺส พหุลตาย ตพฺพหุลนเยน เตสุ อาปตฺติ วุตฺตา, ตสฺมา มหาปจฺจริยํ ตสฺสาธิปฺปาโย ปกาสิโตติ อตฺโถ. ‘‘สพฺเพสเมว วจนนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. สเจ อาจริโย ิโต นิสินฺนานํ ปาํ เทติ, ‘‘น ิโต นิสินฺนสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ วุตฺตาปตฺตึ นาปชฺชตีติ เอเก. เตสมฺปิ ปาทานํ ธมฺมเทสนโต น อฺนฺติ ตํ น ยุตฺตํ, ฉตฺตปาณิกาทีนํ ปาทาเนน อนาปตฺติปฺปสงฺคโต, อาปตฺติภาโว จ สิทฺโธ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อุโภ อตฺถํ น ชานนฺติ, อุโภ ธมฺมํ น ปสฺสเร;

โย จายํ มนฺตํ วาเจติ, โย จาธมฺเมนธียตี’’ติ. (ปาจิ. ๖๔๗);

เอตฺถ อธียตีติ อตฺโถ, ตสฺมา ปาทานมฺปิ ธมฺมเทสนาว. เสขิยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๔) ‘‘ธมฺมปริจฺเฉโท ปเนตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ , ตสฺมา อยเมว ธมฺโม สพฺพตฺถ ธมฺมปฏิสํยุตฺตสิกฺขาปเทสุ เวทิตพฺโพ. ยทิ เอวํ สงฺขารภาสาทิวเสน จิตฺตธมฺมํ เทเสนฺตสฺส เสขิยวเสน อนาปตฺติ สิยา, ตโต ฉปกชาตกวิโรโธ. ตตฺถ มนฺตานํ พาหิรคนฺถตฺตาติ เจ? น, ตทธิปฺปายาชานนโต. อยฺหิ ตตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘พาหิรกคนฺถสงฺขาตมฺปิ มนฺตํ อุจฺเจ อาสเน นิสินฺนสฺส วาเจตุํ เม ภิกฺขเว อมนาปํ, ปเคว ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติ. ‘‘ตทาปิ เม, ภิกฺขเว, อมนาปํ นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา อุจฺเจ อาสเน นิสินฺนสฺส มนฺตํ วาเจตุํ, กิมงฺคํ ปน เอตรหิ…เป… ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๔๗) หิ อยํ ปาฬิ ยถาวุตฺตเมว อธิปฺปายํ ทีเปติ, น อฺํ. เตเนว ‘‘มนฺตํ วาเจตุํ ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติ วจนเภโท กโต. อฺถา อุภยตฺถ ‘‘ธมฺมํ เทเสตุ’’มิจฺเจว วตฺตพฺพนฺติ.

มยาสทฺธึ มา วทาติอาทิมฺหิ ปน อนุคณฺิปเท เอวํ วุตฺโต ‘‘สเจ ภิกฺขุ สามเณเรน สทฺธึ วตฺตุกาโม, ตถา สามเณโรปิ ภิกฺขุนา สทฺธึ วตฺตุกาโม สหสา โอปาเตติ, ‘เยภุยฺเยน ปคุณํ คนฺถํ ภณนฺตํ โอปาเตตี’’ติอาทีสุ วิย อนาปตฺติ, น หิ เอตฺตาวตา ภิกฺขุ สามเณรสฺส อุทฺทิสติ นาม โหติ. ยสฺมา มหาอฏฺกถายํ นตฺถิ, ตสฺมาปิ ยุตฺตเมเวตํ. สเจ ตตฺถ วิจาเรตฺวา ปฏิกฺขิตฺตํ สิยา อาปตฺติ, กิริยากิริยฺจ นาปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา จิตฺเตน เอกโต วตฺตุกาโม, อถ โข นํ ‘เอกโต มา วทา’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวาปิ เอกโต วทนฺโต อาปชฺชติ. อวตฺตุกามสฺส สหสา วิรชฺฌิตฺวา เอกโต วทนฺตสฺส อนาปตฺติ, เตน วุตฺตํ ‘มยา สทฺธึ มา วทาติ วุตฺโต ยทิ วทติ, อนาปตฺตี’ติ. ตถาปิ อาจริยานํ มติมนุวตฺตนฺเตน เอวรูเปสุ าเนสุ ยถาวุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา มหาอฏฺกถายํ นตฺถิ, นตฺถิภาวโตเยว อาปตฺติ. สเจ ตตฺถ อนาปตฺติอวจนํ น สมฺภวติ อยมฏฺานตฺตา’’ติ.

ตตฺรายํ วิจารณา – ‘‘มยา สทฺธึ มา วทา’’ติ วุตฺโต ยทิ วทติ, ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ ยุตฺตเมตํ ภิกฺขุโน วตฺตุกามตายาภาวโต, ภาเวปิ สชฺฌายกรณาทีสุ ตีสุ อนาปตฺติโต จ. อถ สามเณเรน พฺยตฺตตาย ‘‘มยา สทฺธึ มา วทา’’ติ วุตฺโต ภิกฺขุ อพฺยตฺตตาย วทติ, อาปตฺติ เอว วตฺตุกามตาสพฺภาวโต. สหสา เจ วทติ, อนาปตฺติ ตทภาวโต. สเจ ภิกฺขุ เอวํ ‘‘มยา สทฺธึ มา วทา’’ติ วตฺวา เตน สทฺธึ สยํ วทติ, อาปตฺติ เอว. น หิ เอตํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ. ยทิ เอตํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ ภเวยฺย, ยุตฺตํ. ตตฺถ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. มหาปจฺจริยํ อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘มยา สทฺธึ มา วทา’’ติ วุตฺตํ สิยา. น หิ สามเณรสฺส กิริยา อิธ ปมาณนฺติ, อิมสฺมึ ปน อธิปฺปาเย วุตฺเต อติยุตฺตํวาติ อตฺโถ. อกฺขรตฺโถ พฺยฺชนตฺโถ. กิฺจาปิ ‘‘ยฺจ ปทํ ยฺจ อนุปทํ ยฺจ อนฺวกฺขรํ ยฺจ อนุพฺยฺชนํ, สพฺพเมตํ ปทโสธมฺโม นามา’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘ปเทน วาเจติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, อกฺขราย วาเจติ, อกฺขรกฺขราย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิทเมว ทฺวยํ โยชิตํ, ตํ กสฺมาติ เจ? ปเทน อนุปทอนุพฺยฺชนานํ สงฺคหิตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนุปทนฺติ ทุติยปาโท. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕), ตสฺมา อนุปเทกเทสมตฺตเมว อนุพฺยฺชนนฺติ สิทฺธํ. ‘‘อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปท’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา ปทมตฺตเมว วตฺตพฺพํ เตน อนุปทาทิตฺตยคฺคหณโตติ เจ? น วตฺตพฺพํ วจนวิเสสโต. ปเทน วาเจนฺโต หิ ปเท วา อนุปเท วา อนุพฺยฺชเน วา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. น อกฺขเรน. อกฺขเรน วาเจนฺโต ปน ปทาทีสุ อฺตรสฺมึ อาปชฺชติ. น หิ ‘‘วโร วรฺู วรโท วราหโร’’ติอาทิมฺหิ ปมํ ว-การํ วาเจนฺโต ทุติยาทิว-กาเร โอปาเตติ, ปมํ โร-การํ วาเจนฺโต ทุติยโร-กาเร โอปาเตติ, ปมํ ร-การํ วาเจนฺโต ทุติยร-กาเร โอปาเตติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ สมฺภวติ. อนุพฺยฺชนานุโลมโต สมฺภวติ เอวาติ เจ? น, ‘‘ปเท ปเท อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิมินา วิรุทฺธตฺตา. อิทฺหิ วจนํ เอกสฺมึ ปเท เอกา อาปตฺตีติ ทีเปติ. ‘‘รูปํ อนิจฺจนฺติ วุจฺจมาโน รูติ โอปาเตตี’’ติ วจนโต สกลํ ปาทํ วาเจนฺตสฺส ปมอกฺขรมตฺเต เอกโต วุตฺเต อาปตฺตีติ สิทฺธนฺติ เจ? น, ‘‘อกฺขรกฺขราย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิมินา วิรุทฺธตฺตา, ตสฺมา รูติ โอปาเตตีติ วตฺตุํ อสมฺภวโต รู-การสฺส ยถาวุตฺตธมฺมปริยาปนฺนภาวสิทฺธิโต ตํ อวตฺวา เกวลํ อกฺขราย วาเจนฺตสฺส ยถาวุตฺตธมฺมปริยาปนฺนอกฺขรภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘รูปํ อนิจฺจนฺติ วุจฺจมาโน’’ติ วุตฺตํ, วจนสิลิฏฺตาวเสน วา อนุพฺยฺชเน เวทนาวจนํ วิยาติ เวทิตพฺพํ.

ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐. ‘‘น สหเสยฺยํ กปฺเปตพฺพ’’นฺติ ภาววเสน วุตฺตํ, เกสุจิ ‘‘น สหเสยฺยา กปฺเปตพฺพา’’ติ ปาโ, น กปฺเปตพฺพา ภิกฺขุนาติ ปฺตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘อปสฺเสนํ วาติ วายิมมฺจกเมว โหตี’’ติ ลิขิตํ. ยํ เอเตสํ น กปฺปติ, ตํ เตสมฺปีติ อุปชฺฌายาทีนํ สนฺติกํ อคนฺตฺวา สหเสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ ปาเสโส.

๕๒. ‘‘อนุปสมฺปนฺโน นาม ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส’ติ วุตฺตตฺตา มาตุคาโม อนุปสมฺปนฺโนติ จตุตฺถรตฺติยํ มาตุคาโม ทฺเวปิ สหเสยฺยาปตฺติโย ชเนตีติ อปเร’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา…เป… ปนฺโนติ ปาราชิกวตฺถุภูโต ติรจฺฉานปุริโส อธิปฺเปโต’’ติ จ, อุภยมฺปิ วีมํสิตพฺพํ. ทุติยสิกฺขาปเท มาตุคาโม นามาติ มนุสฺสิตฺถึเยว คเหตฺวา ยกฺขี เปตี ติรจฺฉานคตา ปาราชิกวตฺถุภูตา น คหิตา เตสุ ทุกฺกฏตฺตา. ‘‘สเจ ปน อตฺตโนปิ สิกฺขาปเท ทุกฺกฏํ ภเวยฺย, อถ กสฺมา ปมสิกฺขาปเท ปาจิตฺติย’’นฺติ จ วุตฺตํ. ‘‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตี’’ติ สีหฬฏฺกถาวจนํ, ตสฺสตฺถํ ทีเปตุํ อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ วุตฺตํ. ปุน วสตีติ จตุตฺถทิวเส วสติ. ภิกฺขุนิปนฺเนติ ภิกฺขุมฺหิ นิปนฺเน. สนฺนิปติตมณฺฑปํ นาม มหาวิหาเร สนฺนิปาตฏฺานํ. ‘‘ตีณิ จ ทิวสานิ ทุกฺกฏเขตฺเต วสิตฺวา จตุตฺเถ ทิวเส สหเสยฺยาปตฺติปโหนเก สยติ, ปาจิตฺติเยวา’’ติ เอกจฺเจ วทนฺติ กิร, ตํ น ยุตฺตํ.

ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕. ‘‘อถ โข เต มนุสฺสา’’ติ จ ‘‘เต อทฺธิกา’’ติ จ ปาโ. ‘‘เอกรตฺต’’นฺติปิ อตฺถิ, โส น สุนฺทโร. ปณฺฑเก ปาฬิยํ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘อุภโตพฺยฺชเนหิ มูลาปตฺตีติ ทิสฺสตี’’ติ, ‘‘อนิมิตฺตาทโย อิตฺถิโยวา’’ติ จ วทนฺติ อุภโตพฺยฺชนเก วุตฺตํ วิย. กิฺจาปิ มติตฺถี ปาราชิกวตฺถุ โหติ, อนุปาทินฺนปกฺเข ิตตฺตา ปน อิธ อาปตฺตึ น กโรติ. ปาราชิกาปตฺติฏฺานฺเจตฺถ น โอโลเกตพฺพํ.

ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๖. ‘‘วิฺู ปฏิพลา’’ติ วจนโต อวิฺู อิตฺถิยาปิ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อิธ ยกฺขีอาทโย มนุสฺสิตฺถี วิย อโนฬาริกตฺตา ทุกฺกฏวตฺถุกา ชาตา. ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหิตฺถิยา ปฏิพลตาย วุตฺตตฺตา อิตราปิ ทุกฺกฏวตฺถุเยวาติ เอเก. ‘‘มาตุคามายา’’ติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. ‘‘อฏฺกถาทิปาํ เปตฺวา ทมิฬาทินา ยถารุจิ กเถตุํ ลภติ กิรา’’ติ ลิขิตํ, ยถา ยกฺขีอาทโย ทุกฺกฏวตฺถุกา ชาตา, ตถา ปุริสวิคฺคหํ คเหตฺวา ิเตน ยกฺขาทินา สทฺธึ ิตสฺส มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต ทุกฺกฏํ อนาปชฺชิตฺวา กสฺมา ปาจิตฺติยมาปชฺชตีติ เจ? อีสกมฺปิ ทุติยปกฺขํ อภชนโต. มนุสฺสมาตุคาโมปิ น ทุติโย, ปเคว ยกฺขาทโยติ. น ทุติยานิยเต ตสฺส ทุติยตฺตาติ เจ? น ตตฺถ ทุฏฺุลฺลวาจาเปกฺขา ทุติยตา, กินฺตุ นิสชฺชาเปกฺขา, อิธ จ น นิสชฺชมตฺตํ, กินฺตุ เทสนา อิธาธิปฺเปตา. สา จ นิปชฺชนโต โอฬาริกา, ตสฺมา อสมตฺถนิทสฺสนํ.

ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๗. ‘‘จตุตฺถปาราชิกวตฺถุ จ อิทฺจ เอกเมวา’’ติ วุตฺตํ, น ยุตฺตํ. กสฺมา? ตตฺถ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ วุตฺตตฺตา. เต อริยมิสฺสกา น โหนฺตีติ ทฺเวปิ เอกสทิสานีติ มม ตกฺโก. ‘‘อริยาปิ ปฏิชานึสุ, เตสมฺปิ อพฺภนฺตเร วิชฺชมานตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺสา’’ติ ลิขิตํ. ‘‘สพฺเพปิ ภูตํ ภควาติ ปุถุชฺชนอริยานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรจิตตฺตา ‘ภูต’นฺติ วุตฺตํ, น อตฺตโน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สนฺธายาติ อปเร’’ติ วุตฺตํ.

๗๗. ปุพฺเพ อวุตฺเตหีติ จตุตฺถปาราชิเก อวุตฺเตหีติ.

ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๘-๘๐. ‘‘เตเนว หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจสี’’ติ ปาโ สมฺปติปาโ สุนฺทโร. อปโลเกตฺวาว กาตพฺพา. โน เจ, ปาฬิยํเยว วุตฺตํ สิยา. ‘‘โอตฺตปฺเปนา’’ติ วตฺตพฺเพ รุฬฺหีวเสน ปเรสุ ‘‘หิโรตฺตปฺเปนา’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ อุตฺตานตฺตา น วุตฺตํ, ปาจิตฺติยาสมฺภวทสฺสเนเนว หิ ทุกฺกฏนฺติ สิทฺธํ.

๘๓. ตตฺถ ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตอชฺฌาจาเรปิ ปริยาปนฺนตฺตา ตํ ตสฺส ทณฺฑกมฺมวตฺถุ. ‘‘ตตฺถ กมฺมํ อาปนฺโน’’ติ ปุพฺเพปิ ลิขิตํ. มหาอฏฺกถายํ ‘‘อตฺตกามํ อาปนฺโน’’ติ ปาโ, ‘‘อยเมว คเหตพฺโพ’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ.

ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖. กฏสกฺขรา เสตมตฺติกา วิย มุทุกา สกฺขรชาติ. ‘‘อกตปพฺภาเรติ อวลฺชิตพฺพฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ. ‘‘อโนวสฺสกฏฺานทสฺสนตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. มูสิกุกฺกุรนฺติ มูสิกาหิ อุทฺธฏปํสุ. สุทฺธจิตฺตาติ กิฺจาปิ ‘‘เอวํ ปวฏฺฏิเต ปถวี ภิชฺชิสฺสตี’’ติ ชานนฺติ, โน ปน เจ ปถวีเภทตฺถิกา, สุทฺธจิตฺตา นาม โหนฺติ. ปํสุอาทโย ทฺเว โกฏฺาสา อาปตฺติกรา. เกจิ ‘‘สพฺพจฺฉนฺนาทีสุ อุปฑฺเฒ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา สเจ ทุกฺกฏํ, ยุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ยุตฺตํ ตาทิสสฺส วตฺถุโน สมฺภวา, อิธ ปน ชาตปถวี จ อชาตปถวี จาติ ทฺเวเยว วตฺถูนิ, ตสฺมา ทฺวินฺนํ เอเกน ภวิตพฺพนฺติ น ยุตฺตํ. เอตฺถาปิ ทุกฺกฏวจนํ อตฺถีติ เจ? ตํ ปน สฺาวเสน, น วตฺถุวเสนาติ น ยุตฺตเมว.

๘๗. อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอตฺตาวตา อุสุมํ คณฺหาติ, ตสฺมา วฏฺฏตีติ เกจิ. เอวํ สติ ปถวิยา อคฺคิมฺหิ กเต ทูรโตปิ ภูมิ อุณฺหา โหติ, ตตฺตกํ โกเปตพฺพํ สิยา, น จ กปฺปติ, ตสฺมา ยสฺมึ าเน ปตติ, ตํ โส อคฺคิ ฑหติ, ตสฺมา วฏฺฏตีติ เอเก. อฑหิเตปิ ‘‘อทฑฺฒายปถวิยา อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตนา ปาตนาเยว โทโส ปติเต อุปทาเหติ เวทิตพฺพํ.

ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน มุสาวาทวคฺโค ปโม.

๒. ภูตคามวคฺโค

๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙. ผรสุํ นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโตติ ทสฺสิตภาวํ ชานาเปติ. กสฺมา อยํ ผรสุํ อุคฺคิรีติ เจ? มนุสฺสานนฺติอาทิ ตสฺส ปริหาโร. ‘‘อาโกเฏสิ ฉินฺทีติ จ วจนโต รุกฺขเทวตานํ หตฺถานิ ฉิชฺชนฺติ, น จาตุมหาราชิกาทีนํ วิย อจฺเฉชฺชานี’’ติ วทนฺติ.

๙๐-๙๒. ภวนฺติ อหุวุฺจาติ ทฺวิกาลิโก ภูตสทฺโท. ยทิ พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิตํ, ตเทว สนฺตกํ ยทิทํ. โสว กุกฺกุโฏ มํสิมกฺขิโตติ อยเมว หิ ปริหาโร. อฏฺกถาสุปิ หิ ‘‘พีเช พีชสฺี’’ติ ลิขิตํ. ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหติ, ตสฺมึ พีเช ภูตคามพีเชติ โยเชตฺวา. อมูลกตฺตา กิร สมฺปุณฺณภูตคาโม น โหติ, ‘‘สมูลปตฺโต เอว หิ ภูตคาโม นามา’’ติ การณํ วทนฺติ. ‘‘อภูตคามมูลตฺตาติ ภูตคามโต อนุปฺปนฺนตฺตา อภูตคามมูลํ, ภูตคามสฺส อมูลกตฺตา วา. น หิ ตโต อฺโ ภูตคาโม อุปฺปชฺชตี’’ติ ทฺวิธาปิ ลิขิตํ. ปิยงฺคุ อสนรุกฺโข วฑฺฒนตฺตโจ ขชฺชผโล, ‘‘ปีตสาโล’’ติปิ วุจฺจติ. อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตีติ นาฬิเกรสฺเสวายํ. ฆฏปิฏฺิชาตตฺตา, พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถุ. น วาเสตพฺพํ ‘‘ทุรูปจิณฺณตฺตา’’ติ ลิขิตํ, ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ วจนโต เยสํ น รุหติ, เตสํ สาขาย กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถีติ สิทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ. มุทฺทติณนฺติ ตสฺส นามํ. ‘‘มุฺชติณนฺติ ปาโ’’ติ ลิขิตํ.

สมณกปฺเปหีติ สมณโวหาเรหิ, ตสฺมา วตฺตพฺพํ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ. ตสฺส อาณตฺติยา กโรนฺเตนาปิ สามเณราทินา ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว อคฺคิปริชิตํ กาตพฺพนฺติ สิทฺธํ. อคฺคิปริชิตาทีนิ วิย กปฺปิยตฺตา อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิปิ ‘‘ปฺจหิ สมณกปฺเปหี’’ติ (จูฬว. ๒๕๐) เอตฺถ ปวิฏฺานิ, ยถาลาภโต วา สมณกปฺปวจนํ คเหตพฺพํ. ‘‘กปฺปิย’นฺติ วตฺตุกาโม ‘กปฺป’นฺติ เจ วทติ, ‘วฏฺฏตี’ติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กปฺปิย’นฺติ วจนํ สกสกภาสายปิ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ภิกฺขุนา ‘กปฺปิยํ’อิจฺเจว วตฺตพฺพํ, ‘‘อิตเรน ปน ยาย กายจิ ภาสายา’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. ‘‘อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามีติ ทารุํ วิชฺฌตี’’ติ วจนโต กปฺปิยํ กาตพฺพํ สนฺธาย วิรทฺเธติ วุตฺตํ โหติ, อาจริยา ปน ‘‘กปฺปิยํ กาเรตพฺพํ สนฺธาย กปฺปิยนฺติ สิตฺถาทึ กาเรติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตสฺส การณํ วทนฺตา กาตุํ วฏฺฏนภาเวเนว วิรชฺฌิตฺวา กเตปิ กปฺปิยํ ชาตํ. ยทิ น วฏฺเฏยฺย, สิตฺถาทิมฺหิ กเต น วฏฺเฏยฺยาติ, อุปปริกฺขิตพฺพํ. อุฏฺิตเสวาลฆฏํ อาตเป นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ, วิโกเปตุกามตาย สติ ทุกฺกฏํ ยุตฺตํ วิย. ‘‘ปุปฺผรชฺชุภาชนคติกา, ตสฺมา น วฏฺฏติ. นาเฬ วา พทฺธปุปฺผกลาเป นาฬสฺมึ กเตปิ วฏฺฏติ ตสฺมึ ปุปฺผสฺส อตฺถิตายา’’ติ วทนฺติ. โปราณคณฺิปเท ‘‘พีชคาเมน ภูตคาโม ทสฺสิโต อนวเสสปริยาทานตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ.

ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๘-๙. อฺํ วทตีติ อฺวาทกํ, ‘‘วจนํ กเรยฺยา’’ติ ลิขิตํ. ‘‘ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นาม’’นฺติ ปาโ. อุคฺฆาเตตุกาโมติ สโมหนิตุกาโม, อนฺตรายํ กตฺตุกาโมติ โปราณา.

๑๐๐. ‘‘สุทิฏฺโ ภนฺเต, น ปเนโส กหาปโณติอาทีสุ อนาโรปิเต ทุกฺกเฏน มุสาวาทปาจิตฺติยํ, อโรปิเต ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ.

๑๐๒. อธมฺเมน วา วคฺเคน วา น กมฺมารหสฺส วาติ เอตฺถ ‘‘มยิ วุตฺเต มํ วา อฺํ วา สงฺโฆ อธมฺเมน วา กมฺมํ, วคฺเคน วา กมฺมํ กริสฺสติ, น กมฺมารหสฺส วา เม, อฺสฺส วา กมฺมํ กริสฺสตี’’ติ น กเถตีติ โยเชตพฺพํ.

อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓. ‘‘ฉนฺทายา’’ติ อกฺขรกฺขรายาติอาทิ วิย ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ฉนฺทตฺถนฺติ วา อตฺโถ. เยสํ เสนาสนานิ ปฺเปติ, เตสํ อตฺตนิ ฉนฺทตฺถนฺติ อธิปฺปาโย.

๑๐๖. อนุปสมฺปนฺนนฺติอาทีสุ กรณตฺโถ คเหตพฺโพ. อฺํ อนุปสมฺปนฺนนฺติ อฺเน อนุปสมฺปนฺเนน. ตสฺส วาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส. ‘‘สมฺมุติกาเล ปฺจงฺควิรหาทโย อสมฺมตา นามา’’ติ, ‘‘อุปสมฺปนฺเนน ลทฺธสมฺมุติ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน วินสฺสตี’’ติ จ วุตฺตํ. สงฺเฆนาติ สพฺเพน สงฺเฆน กมฺมวาจาย อสฺสาเวตฺวา ‘‘ตเวโส ภาโร’’ติ เกวลํ อาโรปิตภาโร. เกวล-สทฺโท เหตฺถ กมฺมวาจาย อสฺสาวิตภาวมตฺตเมว ทีเปติ. สยเมวาติ อิตเรสํ ภิกฺขูนํ อนุมติยา. อภูเตน ขียนกสฺส อาทิกมฺมิกสฺส กถํ อนาปตฺตีติ เจ? อิมินา สิกฺขาปเทน. มุสาวาเท อาปตฺติเยว ทฺเว ปาจิตฺติโย วุตฺตา วิย ทิสฺสนฺติ ปุพฺพปโยเค รุกฺขาทิฉินฺทนาทีสุ วิย, วิจาเรตพฺพํ.

อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๐. ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ วจนโต, ปริวาเร ‘‘เอกา ปฺตฺติ, เอกา อนุปฺตฺตี’’ติ (ปริ. ๒๒๖) วจนโต จ อิธ อตฺถิ อนุปฺตฺตีติ สิทฺธํ. กิฺจาปิ สิทฺธํ, ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติอาทินา ปน ปฺตฺติฏฺานํ น ปฺายติ, เกวลํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺมาเส…เป… นิกฺขิปิตุ’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตํ กสฺมาติ เจ? ปมปฺตฺติยํ วุตฺตนเยเนว วตฺตพฺพโต อวิเสสตฺตา น วุตฺตํ. ยทิ เอวํ กา เอตฺถ อนุปฺตฺตีติ? อชฺโฌกาเสติ. อยมนุปฺตฺติ ปฺตฺติยมฺปิ อตฺถีติ เจ? อตฺถิ, ตํ ปน โอกาสมตฺตทีปนํ, ทุติยํ จาตุวสฺสิกมาสสงฺขาตกาลทีปนํ. ยสฺมา อุภยมฺปิ เอกํ กาโลกาสํ เอกโต กตฺวา ‘‘อชฺโฌกาเส’’ติ วุตฺตนฺติ ทีเปนฺโต ภควา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว…เป… นิกฺขิปิตุ’’นฺติ อาหาติ เวทิตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ จ ยทา จ สนฺถริตุํ น วฏฺฏติ, ตํ สพฺพมิธ อชฺโฌกาสสงฺขฺยเมว คตนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ. เหมนฺตกาลสฺส อนาปตฺติสมยตฺตา อิทํ สิกฺขาปทํ นิทานานเปกฺขนฺติ สิทฺธํ, ตถา หิ อชฺโฌกาสปทสามตฺถิเยน อยํ วิเสโส – วสฺสานกาเล โอวสฺสกฏฺาเน อชฺโฌกาเส, มณฺฑปาทิมฺหิ จ น วฏฺฏติ. เหมนฺตกาเล ปกติอชฺโฌกาเส น วฏฺฏติ, สพฺพมิธ โอวสฺสเกปิ มณฺฑปาทิมฺหิ วฏฺฏติ, ตฺจ โข ยตฺถ หิมวสฺเสน เสนาสนํ น เตเมติ, คิมฺหกาเล ปกติอชฺโฌกาเสปิ วฏฺฏติ, ตฺจ โข อกาลเมฆาทสฺสเนเยวาติ อยํ วิเสโส ‘‘อฏฺ มาเส’’ติ จ ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเต’’ติ จ เอเตสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ สามตฺถิยโตปิ สิทฺโธ.

กิฺจ ภิยฺโย – อฏฺกถายํ สนฺทสฺสิตวิเสโสว. จมฺมาทินา โอนทฺธโก วา นววายิโม วา น สีฆํ วินสฺสติ. กายานุคติกตฺตาติ กาเย ยตฺถ, ตตฺถ คตตฺตา. สงฺฆิกมฺจาทิมฺหิ กายํ ผุสาเปตฺวา วิหริตุํ น วฏฺฏตีติ ธมฺมสิริตฺเถโร. ‘‘สงฺฆิกํ ปน ‘อชฺโฌกาสปริโภเคน ปริภุฺชถ, ภนฺเต, ยถาสุข’นฺติ ทายกา เทนฺติ เสนาสนํ, เอวรูเป อนาปตฺตี’’ติ อนฺธกฏฺกถายํ วจนโต, อิธ จ ปฏิกฺเขปาภาวโต วฏฺฏติ. ‘‘อฺฺจ เอวรูปนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปาทฏฺานาภิมุขาติ นิสีทนฺตสฺส ปาทปตนฏฺานาภิมุขา’’ติ ลิขิตํ. สมฺมชฺชนฺตสฺส ปาทฏฺานาภิมุขนฺติ อาจริยสฺส ตกฺโก.

๑๑๑. ‘‘ปาทุทฺธาเรนาติ พหิอุปจาเร ิตตฺตา’’ติ ลิขิตํ. คจฺฉนฺติ, ทุกฺกฏํ ธมฺมกถิกสฺส วิย. กสฺมา น ปาจิตฺติยํ? ปจฺฉา อาคเตหิ วุฑฺฒตเรหิ อุฏฺาเปตฺวา คเหตพฺพโต. ธมฺมกถิกสฺส ปน อนุฏฺเปตพฺพตฺตา. ‘‘อนาณตฺติยา ปฺตฺติยมฺปิ ตสฺส ภาโร’’ติ วุตฺตํ.

๑๑๒. ปริหรเณเยวาติ เอตฺถ คเหตฺวา วิจารเณติ ธมฺมสิริตฺเถโร. อตฺตโน สนฺตกกรเณติ อุปติสฺสตฺเถโร. พีชนีปตฺตกํ จตุรสฺสพีชนี.

๑๑๓. ‘‘โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา…เป… ลชฺชี โหตี’ติ วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปาเ ‘‘เกนจิ ปลิพุทฺธํ โหตี’’ติ จ อฏฺกถายํ ‘‘ปลิพุทฺธ’’นฺติ จ เสนาสนํเยว สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา ตถาปิ อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ‘‘อนาปุจฺฉํ วา’’ติ ปาโ.

ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๖-๗. เอตฺตกเมว วุตฺตมฏฺกถาสุ, ตถาปิ ปทฏฺาทโยปิ ลพฺภนฺติ เอว. อนุคณฺิปเท ‘‘อฺํ อตฺถรณาทิ อกปฺปิยตฺตา น วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘มฺจํ วา ปีํ วา วิหาเร วา วิหารูปจาเร วา’ติ อิมินาปิ สํสนฺทนตฺถํ ‘กิฺจาปิ วุตฺโต, อถ โข’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ จ วุตฺตํ. อุปจารมตฺตฺเจตํ ‘‘รุกฺขมูเล’’ติ, ตตฺถ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.

๑๑๘. อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อสติยา คจฺฉโตปิ อนาปตฺติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ สฺจิจฺจ อนาปุจฺฉโต วตฺตเภททุกฺกฏตฺตา. ปุคฺคลิกเสนาสเน สงฺฆิกเสยฺยํ, สงฺฆิกเสนาสเน วา ปุคฺคลิกเสยฺยํ อตฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ยุตฺตํ วิย. กสฺมา? ‘‘เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา. อิธ ปน ‘‘ปลิพุทฺธํ ปลิพุทฺโธ’’ติ ทุวิธมฺปิ อตฺถิ.

ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๑. ฉพฺพคฺคิเยสุเยว เถรา ภิกฺขูติ เกจิ. ปาเท โธวิตฺวาติอาทิมฺหิ ปวิสนฺตสฺส วา ปาทโธวนปาสาณโต ยาว มฺจปีํ ปสฺสาวตฺถาย นิกฺขมนฺตสฺส วา ยาว ปสฺสาวฏฺานนฺติ โยชนา กาตพฺพา. เอวํ สนฺเต ‘‘ปสฺสาวตฺถาย นิกฺขมนฺตสฺส วา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘ปสฺสาวฏฺานโต นิกฺขมนฺตสฺส วา’’ติ วตฺตพฺพํ. ปสฺสาวฏฺานนฺติ กตฺถจิ โปตฺถเก. ตถา หิ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ปวิสนฺตสฺส ปาทโธวนปาสาณโต ยาว มฺจปีํ นิกฺขมนฺตสฺส มฺจปีโต ยาว ปสฺสาวฏฺานํ, ตาว อุปจาโร’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ปาเท โธวิตฺวา ปวิสนฺตสฺส, ปสฺสาวตฺถาย นิกฺขมนฺตสฺส จ ทฺวาเร นิกฺขิตฺตปาทโธวนปาสาณโต, ปสฺสาวฏฺานโต จ มฺจปี’’นฺติ กตฺถจิ โปตฺถเก ปาโ, โส อปาโ. กสฺมา? มฺจปีานํ อุปจารสฺส วุตฺตตฺตา. ปวิสนฺตสฺส ยาว มฺจปีานํ อุปจาโร, นิกฺขมนฺตสฺส ตโต ปฏฺาย ยาว ปสฺสาวฏฺานํ วจฺจกุฏิจงฺกมฏฺานนฺติ อิมินา อตฺเถน ยถา สํสนฺทติ, ตถาวิโธ ปาโติ อาจริโย.

๑๒๒. อุปจารํ เปตฺวาติ อิธ วุตฺตอุปจารํ เปตฺวา. ‘‘ทสฺสนสวนูปจาเรปิ สนฺถรนฺตสฺสา’’ติ ลิขิตํ.

อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๖-๗. ฉสตฺตโกฏฺกานิ วาติ เอตฺถ ทฺวารโกฏฺกํ อธิปฺเปตํ. ‘‘นิกฺขมา’’ติ วจนํ สุตฺวาปิ อตฺตโน รุจิยา นิกฺขมติ, อนาปตฺติ; อิธ อคฺคิสาลาทิ เอว อุปจาโรติ.

นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๙. ‘‘ปมาณมชฺฌิมสฺส คลปฺปมาเณ ทินฺนตุลาปิ เวหาสกุฏิเยวา’’ติ ลิขิตํ, ‘‘น สา อิธ อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ.

เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๓๕. ยาวทฺวารโกสาติ ทฺวารสมีปา, ยาว ภิตฺตีติ อตฺโถ, ตํ สุวุตฺตํ. กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณติ หตฺถปาสสฺสาธิปฺเปตตฺตา, สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาณอุปจารสฺส คหิตตฺตา อปริปูรอุปจาราปิ โหติ. อาโลกํ กโรตีติ อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ สนฺธิ เอว อาโลกสนฺธินามกา โหนฺติ. วาตปานกวาฏเลปกมฺเม อปฺปหริตฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.

๑๓๖. อิฏฺกาติ ฉทนกปาลาสิลาทิอิฏฺกา. ฉทนูปรีติ เอตฺถ ปมํ ตาว เอกวารํ อปริเสสํ ฉาเทตฺวา ปุน ฉาทนทณฺฑเก พนฺธิตฺวา ทุติยวารํ ตเถว ฉาเทตพฺพํ. ‘‘ตติยวารจตุตฺถวาเร สมฺปตฺเต ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยมคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปตี’’ติ อิมินา ยุชฺชติ.

โปราณา ปน ‘‘ปมวาเรเยว ตโย มคฺเค อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, จตุตฺถโต ปฏฺาย อาปตฺติ ปาจิตฺติยํ, จตุตฺถเลปโต ปฏฺาย อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. ตตฺถ ฉทเน วุตฺตวิธินิทาเนน สเมติ, เลเป วุตฺตวิธิติกจฺเฉเทน สเมติ. ตถาปิ โส น ยุตฺโตว. นิทาเน, อฏฺกถายฺจ สิทฺธเลปตฺตา สพฺพโสวาปิ อจฺฉนฺเน, ฉนฺเนวาปิ อเนกโส ปริยายสฺส ตติยสฺเสว อธิฏฺานนฺติ โน สเมตีติ อาจริโย. ‘‘ทฺเว มคฺเค’’ติ, ‘‘ทฺเว ฉทเน’’ติ จ ‘‘ตติยวารโต ปฏฺาย เอวํ ฉาทาเปหี’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติ จ อุปติสฺสตฺเถโร วทติ กิร.

มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๔๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน ภูตคามวคฺโค ทุติโย.

๓. โอวาทวคฺโค

๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๔๔. กถานุสาเรนาติ โย ภิกฺขุโนวาทกตฺถิโก กึสีโล กึสมาจาโร กตรกุลา ปพฺพชิโตติอาทิ กถานุสาเรนาติ อตฺโถ. สคฺคมคฺคคมเนปีติ อปิ-สทฺเทน โมกฺขคมเนปิ. ‘‘ลกฺขณปฺปฏิเวธปฏิสํยุตฺโต’’ติ อฏฺครุธมฺมานุสาเรน วตฺตพฺพํ ธมฺมกถํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๔๕-๑๔๗. นิสฺสีมนฺติ วิหาเร พทฺธสีมโต อฺํ อพทฺธสีมํ, คามสีมาทินฺติ อตฺโถ. ‘‘สุปินนฺเตนปี’’ติ น สพฺเพสนฺติ อิธ พาหุลฺลนเยน วุตฺตํ. ฉพฺพคฺคิยา หิ เกจิ วีสติวสฺสาปิ อตฺถิ อติเรกวีสติวสฺสาปีติ อิมินา อิมํ มชฺฌิมโพธิกาเล ปฺตฺตนฺติ วิฺายติ. ‘‘สีลวา โหตี’’ติ วตฺวา ตสฺส จตุพฺพิธตฺตา อิธ อธิปฺเปตสีลเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. คณฺานุคณฺิปเทสุ ‘‘สติสํวราทโย อิธ นาธิปฺเปตา, เตน วิภงฺคปาํ ทสฺเสติ อฏฺกถาจริโย’’ติ วุตฺตํ. อตฺถโตติ ปาฬิอตฺถโต. การณโตติ การณูปปตฺติโต, อฏฺกถาโตติ อธิปฺปาโย. อถ วา การณโตติ ธมฺมโต, เตน อตฺถโต ธมฺมโตติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อตฺถโตติ ผลโต. ‘‘การณโตติ เหตุโต. ธมฺมปทมฺปิ ชาตเกน สหา’’ติ ลิขิตํ. ปฺหํ กเถตุนฺติ ‘‘ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตี’’ติ เอตฺถ ภิกฺขุนิยา ปุฏฺเน ‘‘น ชานามี’’ติ น สกฺกา กเถตุํ. ‘‘น โข ปน ตํ ภควนฺต’’นฺติ ปาโ. ‘‘น โข ปเนต’’นฺติ จ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘กาสายวตฺถวสนายา’’ติ วจนโต ปาราชิกายปิ น วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคเมว วุตฺตํ. เมถุเนน หิ ภิกฺขุนีทูสโก โหติ.

๑๔๘-๙. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปริวตฺตลิงฺคา, ปฺจสตา สากิยานิโย วา. ‘‘ธมฺมเทสนาปตฺติโมจนตฺถํ ปนา’’ติ วจนโต มาตุคามคฺคหเณน สพฺพตฺถ ภิกฺขุนีสงฺคหํ คจฺฉตีติ สิทฺธํ. ภิกฺขุนิคฺคหเณน ปน มาตุคาโม ติริยํ ตรณสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๑๘๗-๑๙๐) สงฺคหิโต, น อฺตฺถ. ‘‘โอสาเรตพฺพา’’ติ ปาฬิปาโ, ปาฬิ โอสาเรตพฺพาติ อตฺโถ . ‘‘โอสาเรตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถาปาฬิ. เอกสฺมึ าเน วนฺทิเต โทสาภาวโต พหูสุ เอกาย วนฺทิเต วฏฺฏตีติ เจ? ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพํ นตฺถิ, ภิกฺขุนิยาเยว กตฺตพฺพํ, ตสฺมา น วฏฺฏติ . ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺนายาติ อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ นิสินฺนายา’’ติ วทนฺติ. น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามาติ นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามา ภิกฺขู อิธ นาธิปฺเปตา, วสฺสํ อุปคนฺตุกามาว อธิปฺเปตาติ อตฺโถ. ยโต ปนาติ ภิกฺขุนีวิหารโต. ตตฺถาติ ภิกฺขุนีวิหาเร. กิฺจาปิ ‘‘โอวาททายกา ภิกฺขู’’ติ วจนโต โอวาททายเกเหว สภิกฺขุโก อาวาโส โหติ, น สพฺเพหีติ อาปนฺโน, ตถาปิ อสติ ภิกฺขุโนวาทเก โอวาทสํวาสานํ อตฺถาย ยาจนตฺถาย อวสฺสํ คนฺตพฺพตฺตา อฺเหิปิ ภิกฺขูหิ สภิกฺขุโกปิ สภิกฺขุโก เอวาติ เวทิตพฺโพ. สา รกฺขิตพฺพาติ วสฺสจฺเฉทาปตฺติ รกฺขิตพฺพา. กสฺมา? อาปทาสุ หีติอาทิ. ‘‘อยํ อุโปสโถ จาตุทฺทสิโกติ ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ เตรสิยํเยว, เอตรหิ ปน ภิกฺขุนิโย จาตุทฺทสิยํเยว คนฺตฺวา ‘‘กทา อยฺย อุโปสโถ’’ติ ปุจฺฉนฺติ. ‘‘ชายาโย วา ชาริโย วา’’ติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ กิร. ‘‘คจฺเฉยฺย เจ, อาปตฺตี’’ติ ปาโ. ทฺเว ติสฺโสติ ทฺวีหิ ตีหิ. เอกโต อาคตานํ วเสน ‘‘ตาหี’’ติ พหุวจนํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอกา ภิกฺขุนี วา พหู ภิกฺขุนี วา พหูหิ ภิกฺขุนุปสฺสเยหิ โอวาทตฺถาย เปสิตา’’ติ วจนสฺส วิตฺถาโร ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ อยฺย ภิกฺขุนิโย จา’’ติอาทินา วุตฺโต. ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ อยฺย ภิกฺขุนิโย จา’ติอาทิ นานาอุปสฺสเยหิ เปสิตาย วจน’’นฺติ จ ‘‘อปริปุณฺณสงฺฆปุคฺคลนานาวาสทุติยวจนวเสน ปฺจกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมนํ วุตฺต’’นฺติ จ ลิขิตํ. ยสฺมึ อาวาเส ปาติโมกฺขุทฺเทโส น ปวตฺตติ, ตตฺถาปิ ยาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุนทิวเส เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน ‘‘นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ. อตฺถิ เจ สมฺมโต, นิทฺทิสิตพฺโพ. ‘‘สยเมว เจ สมฺมโต, อห’นฺติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ สมฺมโต วา โอวาทปฏิคฺคาหโก วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสติ, อฺเน อาโรจาเปตพฺพนฺติ เอเก, ‘‘อตฺตนาปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏตี’’ติ จ วทนฺติ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อยฺยานํ ปวาเรตี’’ติ ลิขิตํ, เอวํ สติ ‘‘อยฺยสฺส ปวาเรมี’’ติ วตฺตพฺพํ, โปตฺถเก นตฺถิ.

โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๕๓. มุนาตีติ ชานาติ. อนฺตรธายติปีติ เอตฺถ ตทุตฺตมํ เจ อตฺถิ, ตํ ปสฺสามิ, ยํ วิจิตฺตํ วา, ตทตฺถฺจ. ตคฺฆ การณํ. สห อุปฺปาทมนนฺตรา กิริยา. ยมา จ เต มนสา กตตฺร เนตฺวาติ. ยถา ปาโต สิยา ปาโต ภวํ ปาโตว อุทกโต อุคฺคนฺตฺวา ิตํ, ตถา วิโรจมานํ องฺคีรสํ พุทฺธํ ปสฺส, น เกวลํ ปทุมํ วิย, วิโรจมานํ ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเขติ สมฺพนฺโธ. อถ วา องฺคีรสํ พุทฺธํ ปทุมํว วิโรจมานํ สูริยํว ตปนฺตํ ปสฺส พุทฺธํ. ยถา ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ โกกนุทสงฺขาตํ ปทุมํ ปสฺสสิ, ตถา วิโรจมานํ องฺคีรสํ พุทฺธํ ปสฺส. อุภเยเนว หิ ภควโต กนฺติ ทีปิตาติ กตฺวา ทีปิตคุณสุภํ พุทฺธํ สกฺกตฺวา ตํ กนฺตึ ปูเชยฺย. ปูชเนยฺยโตปิ วีตินาเมยฺย อิติ ลกฺขเย. ‘‘เอกโต อุปสมฺปนฺนายา’’ติ ปาฬิ.

๑๕๖. ‘‘เอกโต อุปสมฺปนฺนาน’’นฺติ อฏฺกถาปาโ. ‘‘อภพฺโพ ตฺว’’นฺติอาทิวจนโต อนุกมฺปาวเสน สทฺธิวิหาริกาทึ สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ วิย ทิสฺสติ. อภพฺโพ หิ เถโร สฺจิจฺจ ตํ กาตุํ, คเวสิตพฺพาว เอตฺถ ยุตฺตีติ เกจิ. เถเรน สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปุพฺเพ กตนฺติ มม ตกฺโก.

อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๖๒. ‘‘เอกรตฺตมฺปิ วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๖๑) วจนโต ยตฺถ รตฺติยํ น วสนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา โอวทิตุํ วฏฺฏตีติ เอเก. ยทิ เอวํ สงฺเกตฏฺานํ คนฺตฺวา โอวทิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. ‘‘ตโต อทฺธโยชเนเยว สภิกฺขุโก อาวาโส อิจฺฉิตพฺโพ’’ติ น วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุโนวาทโก เจ อทฺธโยชนํ คนฺตฺวา โอวทิตุกาโม โหติ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ อทฺธโยชนํ คนฺตฺวา โสตุกาโม, ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตฺจ น วุตฺตํ, ตสฺมา น วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ปน ‘‘เอกรตฺตมฺปี’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปฏฺาย อุปสฺสยํ โหติ, น อุปสฺสยสงฺเขเปน กตมตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ยตฺถ วาสูปคตา ภิกฺขุนิโย, โส อุปสฺสยสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ น คนฺตฺวา โอวาโท ทาตพฺโพ. เอกาวาเส ทิวา วฏฺฏตีติ เอเก, วิจาเรตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๖๔. ‘‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน อสมฺมต’’นฺติ ปาฬิวจนโต, ‘‘สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ภารํ กตฺวา ปิโต’’ติ อฏฺกถาวจนโต จ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สมฺมเตน วา วิปฺปวสิตุกาเมน ‘‘ยาวาหํ อาคมิสฺสามิ, ตาว เต ภาโร โหตู’’ติ ยาจิตฺวา ปิโต, ตสฺสาภาวโต สงฺเฆน วา ตเถว ภารํ กตฺวา ปิโต อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวทิตุํ ลภติ, ปเคว อฺเน ธมฺเมนาติ สิทฺธํ. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ ปเคว ภารํ กตฺวา อฏฺปิตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อภยคิริวาสีนมฺปิ อิทเมว มตํ, อนุคณฺิปเท ปน อิมํ นยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นตฺถิ โกจี’’ติอาทินา ‘‘เอตรหิ โอวาทโก อสมฺมโต ภิกฺขุโนวาทโก นามา’’ติ วตฺวา ‘‘ยํ ปน อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน กมฺมวาจาย อสมฺมตํ, ภิกฺขุสงฺเฆน ปน ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุคฺคหํ กโรถ, ภิกฺขุนิโย โอวทถ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ กโรถ ผาสุวิหารนฺติ เอวํ ยาจิตฺวา ปิโต ภิกฺขุสงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา, ตโต โส เถโร ภิกฺขุนิโย โอวทติ, เอวรูปํ ภิกฺขุสงฺเฆน อสมฺมตนฺติ, ตตฺร วุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘อสมฺมโต คามํ โอวาทตฺถาย อาคตานํ ภิกฺขุนีนํ วจนํ สุตฺวา ปฏิวจนํ เทนฺโต สงฺฆานุมติยา, น ตฺติจตุตฺเถนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อนุคณฺิปทมเตน สเมติ, อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ เตน สเมติ, ตฺจ ปาฬิวจนํ, น หิ โอวาทปฏิคฺคาหโก, ปาติโมกฺขุทฺเทสโก วา ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทตู’’ติ วจนมตฺเตน ภิกฺขุโนวาทโก นาม โหติ. โหตีติ เจ, อนุปสมฺปนฺโนปิ ตตฺตเกน วจเนน ‘‘ภิกฺขุโนวาทโก โหตู’’ติ วตฺตพฺโพ. โหตีติ เจ, ยํ วุตฺตํ คณฺานุคณฺิปเทสุ ‘‘อสมฺมโต นาม อสมฺมตภาเวน ‘พหุสฺสุโต ตฺวํ โอวทาหี’ติ สงฺเฆน ภารํ กตฺวา ปิโต’’ติ. เอตฺถ พาหุสจฺเจน กึ ปโยชนํ. อนุคณฺิปเทเยว ‘‘อภยคิริวาสี วทตีติ สุตฺวา สมฺมเตน วา อาณตฺโต โอวทิตุํ ลภตีติ ธมฺมสิริตฺเถโร ปจฺฉา อนุชานาตี’’ติ วุตฺตํ. กึ พหุกาย. ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทตู’’ติ เอตฺตกมตฺเตน ภิกฺขุโนวาทโก โหติ. อฏฺกถายํ ‘‘ภารํ กตฺวา’’ติ อิมินา กึ ปโยชนํ, ตตฺตกมฺปิ วตฺตุํ อฺโ น ลภติ, เตน จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา พาลํ คิลานํ คมิกํ อวเสเสหิ โอวาทํ คเหตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๔) อยํ ปาฬิ วิรุชฺเฌยฺย. กถํ? ตสฺส หิ ‘‘น, ภิกฺขเว, โอวาโท น ปจฺจาหริตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๔๑๕) จนโต สมฺมตาสมฺมตภาเวน นตฺถิ โกจีติ ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทตู’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, วทนฺโต จ อิธ ปเมน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ โหตีติ. โหตุ อสมฺมตตฺตา, อกตภารตฺตา จ. อิมสฺส จ ภิกฺขุโนวาทกตฺเต อิมสฺส ขียเนน ทุกฺกฏํ สิยา, สพฺพเมตํ อนิฏฺํ, ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘อยเมตฺถ ภิกฺขุโนวาทโก นามา’’ติ อวุตฺตตฺตา ตถา ภารํ กตฺวา ปิโต โอวทิตุํ ลภติเยว, นาฺโติ อาจริโย.

อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๖๙. สาทิยิสฺสสีติ ปุจฺฉา.

จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๗๖. วฺเจตฺวาติ ‘‘ตว าติกายา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา, เต หิ ‘‘เอกิสฺสา’’ติ วจนํ สุตฺวา อฺาติกาย สนฺตกสฺิโน สิพฺเพสุํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวร’’นฺติ เอตฺตกเมว ปาฬิ, เตน วุตฺตํ ‘‘จีวรนฺติ ยํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา’’ติอาทิ. ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ จ ลิขิตํ, โส ปมาทเลโข.

จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๘๑. ตา ภิกฺขุนิโย ทูสยึสูติ วิปริณาโม กาตพฺโพ.

๑๘๒-๔. สมฺปทนฺตีติ ปทสา คจฺฉนฺติ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สมฺปตนฺติ เอตฺถาติ สมฺปาโต’’ติอาทินา. ปทคเต อุปจาโร น ลพฺภติ, อจฺจาสนฺนตฺตา มิสฺสํ วิย โหตีติ. กุกฺกุฏวสฺสิตปริจฺฉินฺโน มหาอฏฺกถายํ. ‘‘ตมฺปิ โวหาเรนา’’ติ ลิขิตํ. ‘‘เยภุยฺเยน ตถา สนฺนิเวโส โหตีติ กตฺวา อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตสฺมา น ปมาทเลโข’’ติ จ, ‘‘อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วุตฺตํ อฏฺกถายํ, ตโต อุทฺธํ อทฺธโยชนลกฺขณสมฺปตฺตํ นาม โหตีติ คเหตพฺพ’’นฺติ จ วุตฺตํ. ‘‘กปฺปิยภูมิ กิรายํ…เป… น วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ทุทฺทสฺเหตฺถ การณํ. กตรํ ปน ตนฺติ? ‘‘คจฺฉามาติ สํวิทหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘คจฺฉามา’’ติ วตฺตมานวจนนฺตฺจ, อมคฺเค ภิกฺขุนุปสฺสยาทิมฺหิ น สมฺภวติเยว มนุสฺสานํ อนฺตรฆราทิมฺหิ มคฺคสงฺเขปคมนโต, อุจฺจาสยนาทิอุปฺปตฺติฏฺานตฺตา จ. น ติตฺถิยเสยฺยาย วา ปพฺพชิตาวาสตฺตา. ทฺวาเรติ สมีปตฺเถ ภุมฺมํ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘รถิกายา’’ติ อาห. เสสอฏฺกถายํ ‘‘เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏ’’นฺติ อาคตตฺตา น สเมติ. ‘‘คามนฺตเร’’ติ วจนโต อฺคามสฺส อุปจาโรกฺกมเน เอว อาปตฺติ. ‘‘อทฺธโยชเน’’ติ วจนโต อติกฺกมเนเยว ยุตฺตํ.

๑๘๕. รฏฺเภเทติ วิโลเป. โปราณคณฺิปเท ‘‘ตโยปิ สงฺเกตา กาลทิวสมคฺควเสน, ตตฺถ ปจฺฉิเมเนว อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิมินา มคฺเคนา’’ติ วิสฺสชฺเชตฺวา อฺเน คจฺฉนฺติ เจ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ.

สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๘๙. นทิยา กุโต คามนฺตรนฺติ เจ? ‘‘ยสฺสา นทิยา’’ติอาทิมาห. คามนฺตรคณนายาติ ยสฺมึ คามติตฺเถ อารุฬฺโห, ตํ เปตฺวา อฺคามคณนาย. ‘‘มาตุคาโมปิ อิธ สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ อาจริยสฺส ตกฺโก, เตเนว ‘‘อุภยตฺถ เอกโต อุปสมฺปนฺนาย ทุกฺกฏํ, สิกฺขมานาย สามเณริยา อนาปตฺตี’’ติ จ น วุตฺตํ. เอเสว นโย อฺเสุปิ เอวรูเปสุ.

๑๙๑. ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน เกฬิปุเรกฺขารา สํวิทหิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺชนฺติ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพํ, ‘‘เกฬิปุเรกฺขารา’’ติ วจนํ เยภุยฺยตาย วุตฺตํ. โปราณคณฺิปเท จ ‘‘ตีณิ จิตฺตานิ ติสฺโส เวทนา’’ติ วุตฺตํ, สํวิทหนกาเล วา เกฬิปุเรกฺขาโร ภิกฺขุ สํวิทหติ, อาปตฺติ ภิกฺขุโน คามนฺตโรกฺกมเน, อทฺธโยชนาติกฺกเม วา. กุสลจิตฺโต วา โหติ ปจฺจเวกฺขนฺโต, เจติยาทีนิ วา ปสฺสนฺโต, อพฺยากตจิตฺโต วา โหติ กิลมถวเสน นิทฺทายนฺโตติ ติจิตฺตานิ คหิตานีติ เวทิตพฺพา.

นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๒. เจฏเกติ ทารเก. ตรุณโปตเกติ โปราณา. ‘‘ปาปภิกฺขูนํ ปกฺขุปจฺเฉทาย อิทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ปฺจ โภชเนเยวาปตฺติ วุตฺตา’’ติ ลิขิตํ.

๑๙๔-๗. นิปฺผาทิตนฺติ วิฺตฺติยา น โหติ, กินฺตุ ปริกถาทีหิ, ตสฺมา อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ตํ สนฺธาย ‘‘สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กถานุสาเรน ตตฺถ ปสีทิตฺวา เทนฺติ, อิทํ ปริปาจิตํ น โหติ, วฏฺฏนฺตี’’ติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตตฺตาติ ธมฺมสิริตฺเถโร, อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘อิตรมฺปิ วฏฺฏติเยวา’’ติ อาห. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘ยสฺมา เทวทตฺโต ปกติยา ตตฺถ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ภุฺชติ, ตสฺมา อิมํ อฏฺุปฺปตฺตึ นิทานํ กตฺวา อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๘. ‘‘อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทน จา’’ติ ปาโ.

รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน โอวาทวคฺโค ตติโย.

๔. โภชนวคฺโค

๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๐๓-๔. ปูคสฺสาติ ปูเคน. กุกฺกุจฺจายนฺโตติ นิสฺสรเณเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตํ มยํ น ชานามาติ สนฺนิฏฺานสฺส กรณวเสน ‘‘กุกฺกุจฺจายนฺโต’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ อายสฺมา อุปาลิ นยคฺคาเหน ‘‘อนาปตฺติ อาวุโส สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. ๗๘) อาห, ตถา เถโรปิ ‘‘อนาปตฺติ คิลานสฺสา’’ติ กสฺมา น ปริจฺฉินฺทตีติ? อนตฺตาธิการตฺตา วินยปฺตฺติยา, ‘‘นายํ อตฺตโน โอกาโส’’ติ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, สิกฺขาปทสฺส อปริปุณฺณตฺตา. ปมปาราชิกสิกฺขาปเท ปริปุณฺณํ กตฺวา ปฺตฺเตเยว หิ โส เถโร ‘‘อนาปตฺติ สุปินนฺเตนา’’ติ อาห ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ วุตฺตปทานุสาเรนาติ. ยสฺมา โอทิสฺส อยาวทตฺเถว ทายกานํ ปีฬา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อโนทิสฺส ยาวทตฺโถ’’ติ วุตฺตํ.

๒๐๘. ‘‘อนฺตรามคฺเค เอกทิวส’นฺติ เอกํเยว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ จ ‘‘เอเสว นโยติ วุตฺตนยเมว ทสฺเสตุํ คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺโต หีติอาทิมาหา’’ติ จ ‘‘สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ปกติคมเนว ภุฺชิตุํ ลภตี’’ติ จ ‘‘อคิลานสฺส คิลานสฺิโน กาเยน สมุฏฺาตี’’ติ จ ลิขิตํ.

อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๐๙-๒๑๘. คุฬฺหปฏิจฺฉนฺโนติ อปากโฏว. เอโก ปุตฺเตนาติ เอกสฺเสกํ ภตฺตํ ‘‘อหํ อฺเน นิมนฺติโต’’ติ น วุจฺจติ. ‘‘สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) วุตฺตตฺตา จตฺตาโร อุปาสกา จตฺตาโร ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ นิมนฺเตตฺวา หตฺถปาเส ิตานํ เจ เทนฺติ, คณโภชนํ โหติ เอวาติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ วิย. ‘‘วิฺตฺติโต ปสวเน คณสฺส เอกโต คหเณ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ, วิสุํ คหเณ ปณีตโภชนสูโปทนวิฺตฺตีหี’’ติ ลิขิตํ. ‘‘วิฺตฺติโต ปสวนํ อฏฺุปฺปตฺติวเสน อฏฺกถายํ อนุฺาตํ. สูโปทนาทิวเสน ตตฺถ อาปตฺติ เอวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ. กสฺมา? ปริวาเร (ปริ. ๑๖๘) เอว ทฺวินฺนํ อาการานํ อาคตตฺตา, ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘อนุฺาต’’นฺติ ทุวุตฺตํ. อฏฺุปฺปตฺติยํเยว ปากฏนฺติ ‘‘ปทภาชเน น วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ คหิตภตฺตาปิ อฺเ ยาว คณฺหนฺติ, ตาว เจ ติฏฺนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติเยว นาม. ‘‘คจฺฉติ เจ, อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.

เอตฺถาห – ‘‘ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘คณโภชนํ นาม ยตฺถ จตฺตาโร…เป… ภุฺชนฺติ, เอตํ คณโภชนํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๑๘) วุตฺตนฺติ? วุจฺจติ – ยตฺถาติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ. จตฺตาโรติ คณสฺส เหฏฺิมปริจฺเฉทนิทสฺสนํ. ปฺจนฺนํ โภชนานนฺติ อาปตฺติปฺปโหนกโภชนนิทสฺสนํ. อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตาติ อกปฺปิยนิมนฺตนนิทสฺสนํ. นิมนฺตนวเสเนว ปน คณโภชนสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘นิมนฺติตา ภุฺชนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺตรํ โภชนํ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺตี’’ติ ปน น วุตฺตํ อฏฺุปฺปตฺติยํเยว ปากฏตฺตา. ยํ ภุฺชนฺตีติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ภุฺชนฺตีติ ปฏิคฺคาหกนิยมวจนํ. น หิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ ภิกฺขู ภุฺชนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘คณสฺส ยโต ปฏิคฺคหิตาหารโภชนเหตุ ปาจิตฺติย’’นฺติ. อาคนฺตุกปฏฺฏํ โมฆสุตฺเตน สิพฺพิตฺวา เปนฺติ, ตตฺถ อนุวาเต ยถา เอกตลํ โหติ, ตถา หตฺเถหิ ฆฏฺเฏติ. วเลตีติ อาวฏฺเฏติ. ปริวตฺตนนฺติ สุตฺตํ คณฺหนฺตานํ สุขคฺคหณตฺถํ สุตฺตปริวตฺตนํ กโรติ, ปฏฺฏํ สิพฺพนฺตานํ สุขสิพฺพนตฺถํ ปฏฺฏปริวตฺตนฺจ. นวจีวรการโก อิธาธิปฺเปโต, น อิตโรติ. ‘‘พิมฺพิสารํ อาปุจฺฉิตฺวา สมฺภาเร กยิรมาเนเยว กาลา อติกฺกนฺตา, ปจฺฉา คณโภชนสิกฺขาปเท ปฺตฺเต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉี’’ติ วทนฺติ, อฺถา อฏฺกถาย วิรุชฺฌนโต.

๒๒๐. ‘‘ทฺเว ตโย เอกโตติ เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา’’ติอาทิวจเนน อกปฺปิยนิมนฺตนปจฺจยา เอว อนาปตฺติ, วิฺตฺติโต อาปตฺติเยวาติ ทีเปติ. อนิมนฺติโต จตุตฺโถ ยสฺส ตเทตํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปเวเสตฺวาติ นิสีทาเปตฺวา. จีวรทานสมยลทฺธกจตุกฺกํ จีวรการสมยลทฺธกจตุกฺกนฺติ เอวมาทีนิ. ตานิ จาติ เยหิ โภชเนหิ วิสงฺเกโต นตฺถิ, ตานิ. มหาเถเรติ อุปสมฺปนฺเน. อฏฺตฺวาติ ิเตน นิมิตฺตํ ทสฺสิตํ โหติ. ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวาติ รถิกาทีสุ ภิกฺขุสมีเป คนฺตฺวา. อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปเท กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรทานสมเย คณโภชนํ ภุฺชิตุํ. เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูน’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ. กตฺถจิ ‘‘ภุฺชิตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ ปาโ, อยํ โสภโน.

คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๒๑. อธิฏฺิตาติ นิจฺจปฺปวตฺตา. พทรจุณฺณสกฺกราทีหิ โยชิตํ พทรสาฬวํ. กิรกมฺมกาเรนาติ กิรสฺส กมฺมกาเรน.

๒๒๖. ‘‘วิกปฺเปตฺวา คณฺหาหี’’ติ เอตฺถาหุ โปราณตฺเถรา ‘‘ภควโต สมฺมุขา อวิกปฺเปตฺวา เคหโต นิกฺขมิตฺวา รถิกาย อฺตรสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก วิกปฺเปสิ, วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’ติ วตฺตพฺพํ, อิตเรน วตฺตพฺพํ ‘ตสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’’ติ. ปฺจสุสหธมฺมิเกสูติ สมฺมุขา ิตสฺส สหธมฺมิกสฺส ยสฺส วิกปฺเปตุกาโม, ตํ สหธมฺมิกํ อทิสฺวา คหฏฺสฺส วา สนฺติเก, สยเมว วา ‘‘ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อิตฺถนฺนามสฺส วิกปฺเปมี’’ติ วตฺวา ภุฺชิตพฺพนฺติ เอเก, เอวํ สติ เถโร ตสฺมึเยว นิสินฺโนว ตถา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาตีติ ตกฺโก ทิสฺสติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ปรมฺมุขา วิกปฺปนาว วุตฺตา, สา ‘‘เตน หานนฺท, วิกปฺเปตฺวา คณฺหาหี’’ติ อิมินา สเมติ, ตถาปิ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตสฺมา โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ สมฺมุขา วา ‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ ปรมฺมุขา วา’’ติ วจนโต สหธมฺมิกสฺส สนฺติเก เอว วตฺตพฺพํ, น สยเมวาติ ทิสฺสติ. ยสฺมา อยํ ปจฺฉิมนโย โปราณคณฺิปเทนปิ สเมติ, ตสฺมา อิธ มาติกาฏฺกถานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘เต มนุสฺสา…เป… โภชนมทํสู’’ติ วจนโต อกปฺปิยนิมนฺตนํ ปฺายติ, ตถาปิ เถรสฺส กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติการเณน ภตฺเตน โส นิมนฺติโตติ เวทิตพฺโพ. อฺถา ปรโต ‘‘ทฺเว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภุฺชตี’’ติ วจเนน, อนาปตฺติวาเรน จ วิรุชฺฌติ.

๒๒๙. เอตฺถายํ วิจารณา – ‘‘อฺโ มนุสฺโส ปตฺตํ คณฺหาติ, น ทาตพฺพ’’นฺติ วจนโต อปรภาเค อกปฺปิยนิมนฺตเนน นตฺถิ ปโยชนํ, ปุพฺพภาเคเยว อกปฺปิยนิมนฺตเนน ปโยชนนฺติ สฺเวปิ ภนฺเต อาคจฺเฉยฺยาถาติ เอตฺถ กตรํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ, ตสฺมา อธิปฺปาโย เจตฺถ ปมาณนฺติ. น, ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุฺชติ, อาปตฺตี’’ติ วจนโตติ. ตตฺถ ‘‘สฺเวปิ ภนฺเต’’ติ เอตฺถ ยถา วจนมตฺตํ อคฺคเหตฺวา อกปฺปิยนิมนฺตนกฺกเมน อตฺโถ คหิโต, ตถา ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ อนฺตรา อกปฺปิยนิมนฺตเนน ลทฺธภตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปิณฺฑาย หิ จรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ทินฺนมฺปิ อกปฺปิยนิมนฺตเนน ลทฺธํ นาม โหติ. โวหาเรน ปน ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. อฺถา มาติกาฏฺกถายํ ‘‘คณโภชเน วุตฺตนเยเนว ปฺจหิ โภชเนหิ นิมนฺติตสฺส…เป… ปรสฺส ปรสฺส โภชเน’’ติ วุตฺตวจนวิโรโธ. อิทฺหิ วจนํ เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตโต ปมนิมนฺติตํ อาทาย คโต ปรสฺส ปรสฺส นิมนฺตนกทายกสฺส โภชเนติ อตฺถปริทีปนโต นิมนฺตนโต ลทฺธภตฺตสฺส โภชเนเยว อาปตฺตีติ ทีเปติ. ‘‘ทฺเว ตโย นิมนฺตเน เอกโต’’ติ วจเนนปิ สเมติ, อฺถา ‘‘เยน นิมนฺติโต, ตสฺส โภชนโต ปรสฺส โภชเน’’ติ เอตฺตกํ วตฺตพฺพํ สิยา, ปาฬิยํ วา ‘‘นิมนฺตเนน เอกโตภุฺชตี’’ติ เอตฺตกํ วตฺตพฺพํ สิยา. ทุติยนิมนฺตนสฺส ปมโภชเน อาปตฺติปฺปสงฺคนิวารณตฺถํ ‘‘เยน เยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิมนฺตนปฏิปาฏิยา ภุฺชตีติ ปาฬีติ เจ? น, ‘‘อนาปตฺติ นิจฺจภตฺเต’’ติอาทิปาฬิวิโรธโต.

คณฺิปเท ปน ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ กสฺมา ภุฺชิตุํ น ลภตีติ เจ? ‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติโต, ตํ เปตฺวา ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภุฺชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามา’ติ วุตฺตตฺตา’’ติ ลิขิตํ. ยทิ เอวํ นิจฺจภตฺตาทิกมฺปิ น วฏฺฏตีติ อาปชฺชตีติ นิจฺจภตฺตาทิ โอทิสฺสกนฺติ เจ? ตํ น, ตทฺสฺส อตฺตโน ธเนน นิปฺผนฺนสฺส, สงฺฆโต ลทฺธสฺส วา ปาโต ปจนกยาคุ เจ ฆนา โหติ, ตสฺสาปิ, เอกกุฏิกํ คามํ อุปนิสฺสาย วิหรโต ภิกฺขาจริยวเสน ลภิตพฺพนิจฺจภตฺตสฺส จ อกปฺปิยภาวปฺปสงฺคโต. ตตฺถ ภิกฺขาจริยวเสน ลทฺธํ น กปฺปติ นิมนฺตนกานํ อปฺปสาทาวหนโตติ เจ? น, ‘‘ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วจนวิโรธโต. ขาทนียมฺปิ หิ ปรสฺส ขาทิตฺวา ภุตฺตตฺตา นิมนฺตนโภชนํ อภุฺชนฺโต อปฺปสาทํ กโรติ เอว, ตสฺมา อปฺปสาทาวหํ อปฺปมาณํ, ตสฺมา นิจฺจภตฺตาทิ โอทิสฺสกํ น สมฺภวติ. อปิจ เหฏฺา วุตฺตนเยน สทฺธึ อิธ วุตฺตนเยน สํสนฺทิตฺวา ยํ ยํ ขมติ, ตํ ตํ คเหตพฺพนฺติ สพฺโพปิ เกสฺจิ อาจริยานํ วินิจฺฉโย. อาจริยสฺส ปน วินิจฺฉโย อนฺเต อาวิ ภวิสฺสติ. ‘‘ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อมิสฺสมฺปีติ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. คณฺิปเท ‘‘เหฏฺา โอทเนนามิสฺเสตฺวา อุปริ ติฏฺตี’’ติ ลิขิตํ.

มหาอุปาสโกติ เคหสามิโก. มหาอฏฺกถายํ ‘‘อาปตฺตี’’ติ วจเนน กุรุนฺทิยํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วจนํ วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ. ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ อธิปฺปาโย มหาปจฺจริยํ วิจาริโต’’ติ ลิขิตํ. ‘‘จาริตฺตโตติ ‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’ติ ปรโต วตฺตพฺพโต’’ติ วุตฺตํ. วจีกมฺมํ อวิกปฺปนํ. เอตฺถ ‘‘มหาอุปาสโก ภิกฺขู นิมนฺเตติ…เป… ปจฺฉา ลทฺธํ ภตฺตํ ภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ. ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุฺชติ, อาปตฺตี’’ติ อฏฺกถายํ วจนโต, ‘‘กาลสฺเสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุฺชิมฺหา’’ติ ปาฬิโต, ขนฺธเก ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อฺตฺร นิมนฺตเน อฺสฺส โภชฺชยาคุ ปริภุฺชิตพฺพา, โย ปริภุฺเชยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วจนโต จ นิมนฺเตตฺวา วา ปเวเทตุ อนิมนฺเตตฺวา วา, ปมคหิตนิมนฺตนสฺส ภิกฺขุโน ปมนิมนฺตนโภชนโต อฺํ ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ โภชนํ ปรมฺปรโภชนาปตฺตึ กโรติ. อตฺตโน สนฺตกํ, สงฺฆคณโต ลทฺธํ วา อคหฏฺสนฺตกํ วฏฺฏติ, นิมนฺตนโต ปมํ นิพทฺธตฺตา ปน นิจฺจภตฺตาทิ ปรสนฺตกมฺปิ วฏฺฏติ. ขนฺธเก ‘‘น จ , ภิกฺขเว…เป… ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๒๘๓) วจนํ ปรสนฺตกโภชนวุตฺตนิยมนํ. ตโต หตฺถโกว โน ตกฺโกติ อาจริโย.

ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑-๓. ปฏิยาโลกนฺติ ปจฺฉิมํ เทสํ. ปูวคณนายาติ อติริตฺตปูวคณนายาติ อตฺโถ. สเจ ‘‘อปาเถยฺยาทิอตฺถาย สชฺชิต’’นฺติ สฺาย คณฺหาติ, อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส อาปตฺติ เอว. อถ อุคฺคหิตํ คณฺหาติ, น มุจฺจติเยว. อสํวิภาเค ปน อนาปตฺติ อกปฺปิยตฺตา. อจิตฺตกตา ปฺตฺติชานนาภาเวเนว, น วตฺถุชานนาภาเวนาติ เอเก. น, มาติกาฏฺกถายํ ‘‘ปาเถยฺยาทิอตฺถาย สชฺชิตภาวชานน’’นฺติ องฺเคสุ อวุตฺตตฺตา. โปราณคณฺิปเท ปเนวํ วุตฺตํ ‘‘เอเกน วา อเนเกหิ วา ทฺวตฺติปตฺตปูเรสุ คหิเตสุ เตสํ อนาโรจเนน วา สยํ วา ชานิตฺวา โย อฺํ คณฺหาติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ. เอกโต ตีสุ, จตูสุ วา ปวิฏฺเสุ เอเกน เจ ทฺเวปตฺตปูรา คหิตา, ทุติเย ทฺเว คณฺหนฺเต ปโม เจ น นิวาเรติ, ปมสฺส ปาจิตฺติยํ. นิวาเรติ เจ, อนาปตฺติ, ทุติยสฺเสว ทุกฺกฏ’’นฺติ. สเจ สฺจิจฺจ น วทติ, โปราณคณฺิปเท วุตฺตนเยน ปาจิตฺติยํ, มาติกาฏฺกถาวเสน (กงฺขา. อฏฺ. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา) ทุกฺกฏํ. ‘‘อติเรกปฏิคฺคหณ’’นฺติ ตตฺถ ปฺจมํ องฺคํ วุตฺตํ, ตสฺมา อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา น ปาจิตฺติยํ, กตฺตพฺพากรณโต ปน ทุกฺกฏํ. อฺถา กิริยากิริยํ อิทํ อาปชฺชติ, อนิวารณํ, อนาโรจนํ วา ฉฏฺงฺคํ วตฺตพฺพํ สิยา. เอกนิกายิกานํ วาติ เอตฺถ ‘‘อาสนฺนวิหารภิกฺขู, อาสนฺนอาสนสาลาคตา วา สเจ วิสภาเคหิ อานีตํ น ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ‘อารามิกาทีนํเยว วา ทาเปนฺตี’ติ ชานาติ, ยตฺถ ปริโภคํ คจฺฉติ, ตตฺถ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺวตฺติปตฺตปูรา’ติ วจนโต ปจฺฉิอาทีสุ อธิกมฺปิ คณฺหโต อนาปตฺตี’’ติ เกจิ วินยธรมานิโน วทนฺติ, ตํ เตสํเยว นิสีทตุ, อาจริยา ปน ‘‘ปจฺฉิอาทีสุปิ อุกฺกฏฺปตฺตสฺส ปมาณวเสน ทฺวตฺติปตฺตปูรา คเหตพฺพา. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทกถา เหสา’’ติ วทนฺติ.

กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปมปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๓๖. ยาวทตฺถปวารณายปวาริตา กิฺจาปิ ‘‘ปวาริตา’’อิจฺเจว อธิปฺเปตา อฏฺุปฺปตฺติยาว, อถ โข ปจฺฉิมาว อิธาธิปฺเปตา.

๒๓๗. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อติริตฺตํ นาม โหติ. ภิกฺขุสฺส อิทมฺปิ เต อธิกํ, อิโต อฺํ น ลจฺฉตีติ กิร อตฺโถ.

๒๓๘-๙. ‘‘อสนํ ปฺายตี’’ติ เอเตเนว ‘‘ภุตฺตาวี’’ติ เอตสฺส สิทฺธตฺตา วิสุํ อตฺถสิทฺธิ นตฺถิ. ยทิ อตฺถิ, องฺคานํ ฉกฺกตฺตทสฺสนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตนฺติอาทิ ปวารณงฺคานํ ปฺจกตฺตทสฺสนํ. วรโกติ โย โกจิ วรโก. ‘‘ปวารณํ ปน ชเนติเยวาติ วิสุํ สิตฺถํ โวทกํ กโรนฺติ, ปวารณํ น ชเนติ. ยาคุํ วา ปิวนฺโต ปมํ อุทกํ ปิวติ, วฏฺฏติ. อวสิฏฺํ เหฏฺาสิตฺถํ ปวารณํ น ชเนตี’’ติ ลิขิตํ. อุปติสฺสตฺเถโร ‘‘ชเนติเยวา’’ติ วทติ, ตํ น อิจฺฉนฺติ อาจริยา. ภชฺชิตปิฏฺนฺติ ตณฺฑุลจุณฺณเมว. ภชฺชิตสตฺตุโย ปิณฺเฑตฺวา กตโมทโก สตฺตุโมทโก.

‘‘ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว…เป… ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปรจงฺกมจฺฉาทโย ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกยาคุํ ปิวนฺโต สเจ อฺํ ตาทิสํเยว ปฏิกฺขิปติ, ปวารณา น โหตีติ กิร ธมฺมสิริตฺเถโร. สเจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อสนสงฺขาตสฺส วิปฺปกตโภชนสฺสาภาวโต. โภชนสาลายํ ภุฺชนฺโต เจ, อตฺตโน อปาปุณนโกฏฺาสํ อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กามํ ปฏิกฺขิปติ, ปตฺเต ปน อารามิโก อากิรติ, ตโต ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. อิทฺหิ พุทฺธปฺปฏิกุฏฺอเนสนาย อุปฺปนฺเนเยว สงฺคหํ คจฺฉติ. ยถา หิ สงฺฆโต อุทฺธฏปิณฺฑํ ทุสฺสีโล เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ, เอวํสมฺปทมิทํ. ‘‘วิสภาโค ลชฺชี เจ เทติ, ตํ เตน สมฺโภคํ อกตฺตุกามตาย ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรตีติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. ปริเวสนายาติ ภตฺตคฺเค. ‘‘มํเสน รสํ, มํสฺจ รสฺจ มํสรสนฺติ อาปชฺชนโต ‘มํสรส’นฺติ วุตฺเต ปฏิกฺเขปโต โหติ, มํสสฺส รสํ มํสรสนฺติ วิคฺคโห นาธิปฺเปโต’’ติ วุตฺตํ. มํสกรมฺพโก นาม…เป… วฏฺฏตีติ สุทฺธยาคุ เอว โหติ. อปฺปวารณมิสฺสกกรมฺพโกเยว โหติ, ตสฺมา น ปวาเรติ, เตน วุตฺตํ ปรโต ‘‘อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพ’’นฺติอาทิ, ตสฺมา ‘‘ตํ อภิหริตฺวา กฺชิยํ คณฺหถา’ติ วทนฺตํ ปฏิกฺขิปติ, ปวารณา น โหตี’’ติ จ ‘‘มิสฺสกยาคุํ คณฺหถา’ติ อวุตฺตตฺตา ‘สมฺมิสฺสิตํ วิสุํ กตฺวา เทตี’ติ วุตฺตตฺตา’’ติ จ วุตฺตํ, ยสฺมา ยาคุมิสฺสกนฺติ เอตฺถ ปททฺวเย ปวารณารหสฺส นามคฺคหณํ นตฺถิ, ตสฺมา ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. กสฺมา? ตตฺถ อภิหารกปฏิกฺเขปกานํ ยาคุสฺตฺตา. ยาคุ เจ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. กสฺมา? เตสํ อุภินฺนมฺปิ ตตฺถ ภินฺนสฺตฺตาติ ตกฺโก อาจริยสฺส. ภตฺตมิสฺสเก ปวารณารหสฺส นามสฺส สพฺภาวโต สพฺพทา ปวาเรติ เอว. มิสฺสเก ปน วุตฺตนเยน การณํ วตฺตพฺพํ. วิสุํ กตฺวา เทตีติ ยถา ภตฺตสิฏฺํ น ปตติ, ตถา คาฬฺหํ หตฺเถน ปีเฬตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา เทติ.

อกปฺปิยกตนฺติ เอตฺถ ‘‘กปฺปิยํ อการาปิเตหิ กทลิปฺผลาทีหิ สทฺธึ อติริตฺตํ กปฺปิยํ การาเปตฺวาปิ ตํ กทลิปฺผลาทึ เปตฺวา อวเสสํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อมิสฺสกรสตฺตา ปุน ตานิ กปฺปิยํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ภาชเน เปตฺวา อติริตฺตํ กาเรตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ปุพฺเพ เตสุ วินยกมฺมสฺส อนารุฬฺหตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กต’’นฺติ วจนโต ภุตฺตาวินา อปฺปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตฺตพฺพนฺติ สิทฺธํ, ตสฺมา ‘‘ปาโตว อทฺธานํ คจฺฉนฺเตสุ ทฺวีสุ เอโก ปวาริโต อวุฏฺิโต ตตฺถ นิสีทติ, โส อิตเรน ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธํ ภิกฺขํ อตฺตนา อภุตฺวาปิ ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ กาตุํ ลภติ เอวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ สุกฺกปกฺเข ‘‘ภุตฺตาวินา กตํ โหตี’’ติ อิมินาว สิทฺธํ, ตสฺมึ ปกฺเข อตฺตโน สตฺตงฺคานิ น ปูเรนฺติ, กณฺหปกฺเข ปฏิภาเคน สตฺต วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. ภุตฺตาวินา อปฺปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน, อวุฏฺิเตน วา กตํ โหติ, วฏฺฏติ. ‘‘ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตเนวา’’ติ อิมํ ปน อตฺถวิกปฺปํ ทีเปตุํ ‘‘สตฺตงฺคานิ วุตฺตานี’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โส ปุน กาตุํ น ลภติ ปมํ กตสฺส ปุน เตเนว กตฺตพฺพปฺปสงฺคโต. ยฺจ อกตํ, ตํ กตฺตพฺพนฺติ หิ วุตฺตํ. อถ โสว ปโม ปุน กตฺตุกาโม โหติ, อฺสฺมึ ภาชเน ปุพฺเพ อกตํ กาตุํ ลภติ. ทุติโย ปมภาชเนปิ กาตุํ ลภติ. ‘‘เยน อกตํ, เตน กาตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. อิมเมวตฺถํ สนฺธาย ‘‘เยน ยํ ปมํ กปฺปิยํ กตํ, ตเมว โส ปุน กาตุํ น ลภติ, อฺเน กาตพฺพ’’นฺติ ลิขิตํ. ตตฺถ นฺติ ตํ ปมํ กตนฺติ อตฺโถ. เปเสตฺวา กาเรตพฺพนฺติ เอตฺถ อนุปสมฺปนฺโน เจ คโต, ตตฺรฏฺเน เอเกน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคาเหตฺวา อปเรน กาเรตพฺพนฺติ ตตฺถ เอโกว เอวเมว กาตุํ น ลภตีติ. ‘‘ยํ กิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺสา’ติอาทิวจนโต วิหาราทีสุ คิลานสฺส ปาปุณนโกฏฺาสมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นาม, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อาหารตฺถายาติ วิกาเล เอวาติ เอเก.

๒๔๑. กายกมฺมํ อชฺโฌหรณโต. วจีกมฺมํ วาจาย ‘‘อติริตฺตํ กโรถ ภนฺเต’’ติ อการาปเนนาติ เวทิตพฺพํ.

ปมปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๔๓. สาธารณเมวาติ สพฺพปวารณานํ สาธารณํ ‘‘ยาวตฺตกํ อิจฺฉสี’’ติ อิทํ.

ทุติยปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๔๗-๙. นฏานํ นาฏกานิ นฏนาฏกานิ, สีตาหรณาทีนิ. มูลฺจ ตํ ขาทนียฺจาติ มูลขาทนียํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปิฏฺนฺติ จุณฺณํ. ขารกมูลนฺติ ยูปสมูลํ. จจฺจุมูลํ เนฬิยมูลํ. ตมฺพกํ วจํ. ตณฺฑุเลยฺยกํ จูฬกุหุ. วตฺถุเลยฺยกํ มหากุหุ. วชกลิ นิโกฏฺํ. ชชฺฌรี หิรโต.

โกฏฺํ ชรฏฺํ วุจฺจติ. คณฺิ มุหุกุลมุทุ วิจยตฺถ วชมุชุ วทุฬวิ.

วชฺชเยติเม กึสุกํ, หลิทฺทิ. กเสรุโก, กฏิพลวนฺติ ตสฺส นามํ. อมฺพาฏกํ อมูลกํ ปิฒล กกฺกุล. มสาลุ กินฬ. อาลุว กฬิ ตฑฺฒิอฬิ อลส กฏิสฺสล นเมทติ เมร. สิคฺคุ สีริ โกฬ กาลกํ เนกฬวิ. ขีรวลฺลิกนฺโท ตุมูโรริโย โหติ. สงฺขโต โธวนเมว. อยํ ‘‘ปริสงฺขาโร’’ติ ลิขิตํ. ขีรกาโกลี กิริกเวฬิ. ชีวิกํ ชีวิหิ. อุสภก อุมฺมสุวิยิ.

หินฺตาลํ กิติลิ. กุนฺตาล โตโห ติลิสตา ปทิกฬิโร ปฏเสวลกฬิ. กรมนฺทกํ กรมฺพ ทณฺโฑกิร อุทกโชติ กณฺฑโก. ‘‘สิงฺฆตโกติปิ วุจฺจตี’’ติ ลิขิตํ. ผคฺคว หกิฬิ. นตฺตมาลนฺติ กรฺชิ.

เสลฺลุ โลโหลิยํ. กาสมทฺทก กุทุววลิ อนสิกิน. อุมฺมาทิย เมเลลิทิย. จีนมุคฺโค เวนมุตฺติ หุรมุคฺค. ราชมาโส มาหวิลิติ. อคฺคิมนฺโต มุฺจิ. สุนิปณฺณโก ติปิลวนินาฬิกา ติลก. ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอตฺถ โลณีนามสฺส สาธารณตฺตา ‘‘ภูมิย’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. พฺรหฺมีปตฺตํ เทเมเตเย ปณสา. ‘‘ทีปวาสิโน วทนฺตี’’ติ สิถิลํ กตฺวา กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? ‘‘ขาทนียตฺถํ ผรตีติ ลกฺขเณน อสมานตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ปเทลิวินิเตกิ. สุลสิปณฺณนฺติ ตสาปลิกํ.

อคนฺธิกปุปฺผํ กริสฺสเยติ เจกวาทิทปุปฺผํ เจเลปติมลํ. ชีวนฺตีปุปฺผํ ชีวิตนฺทิคมล. พกุล มุถุวล. กุยฺยก ปุนปุนฺนามปุนฺนรา, ชาติสุมน. นวมาลิกา เจเหมล.

ตินฺติณิก กจินี วิเลยิ. มาตุลุงฺค ลวโน. ปุสฺสผล สุปุลิ. ติมฺพรูสก ติคิพฺเพเรหิติ สุสตุธุต. ติปุสวาติงฺคณ ธุตติเกณ ปฏิยิ. โจจ วริยิเยลิ. โมจ อติเรลิ. โคฏฺผลํ ปูวผลนฺติ เอเก. โกฏฺเส กิร อจฺฉิว.

อสมุสฺสิ พิมฺพ อิติ เกจิ. กาสฺมรีติ เสปณฺณิ. อติเตเมติ กริยเมติสฺส. ชาติผลํ กตํเมติ. กฏุกผลํ ติริรก.

ตรุณผลํ กิริอุปุลุ. โปกฺขรฏฺิ กิฺจกฺขฏฺิ. สิทฺธตฺถกํ สาสปํ เสตวณฺณํ. ราชิกํ รตฺตํ โหติ.

หิงฺคุํ หิงฺคุชตุนฺติ สพฺพาปิ หิงฺคุวิกติโย. เอตฺถ หิงฺคุชตุ นาม ปตฺตสาขา ปจิตฺวา กาตพฺพา. สาขา ปจิตฺวา กตา สิปาฏิกา. อฺเหิ มิสฺเสตฺวา กตาติ เกจิ. ตกํ กฏฺชนฺติ อคฺคิเกฬินิ. นิกิติสฺสากาเลสโย. ติเมร, ตกปตฺติ ปสาขาปตฺเต ปจิตฺวา กาตพฺพา. ‘‘ตกปณฺณิ สาวติ เอว กาตพฺพา’’ติ ลิขิตํ.

วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๕๓. อปรชฺชุ สนฺนิธิ นาม โหตีติ อตฺโถ. อชฺช ปฏิคฺคหิตนฺติ น เกวลํ ปฏิคฺคหิตเมว, อถ โข อุคฺคหิตกมฺปิ, เตเนว อฏฺกถายํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ สนฺนิธิกตํ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ตํ ปมเมว ปฏิคฺคหิตํ, ‘‘ปฏิคฺคหเณ ตาวา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ‘‘อตฺตโน กาเล คหิตํ อชฺช ปฏิคฺคหิต’นฺติ วุตฺต’’นฺติ.

เอตฺถาห – ยถา ปฺจ เภสชฺชานิ อุคฺคหิตกานิ อนธิปฺเปตานิ. สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ อนชฺโฌหรณียตฺตา, ตถา อิธาปิ อุคฺคหิตกํ นาธิปฺเปตนฺติ? เอตฺถ วุจฺจติ – เภสชฺชสิกฺขาปเท (ปารา. ๖๑๘ อาทโย) อุคฺคหิตกํ นาธิปฺเปตนฺติ ยุตฺตํ อตฺตโน กาลาติกฺกมนมตฺเตน ตตฺถ อาปตฺติปฺปสงฺคโต. เอตฺถ น ยุตฺตํ อตฺตโน กาลาติกฺกมนมตฺเตน อาปตฺติปฺปสงฺคาภาวโต. อชฺโฌหรเณเนว หิ เอตฺถ อาปตฺตีติ อธิปฺปาโย, ตสฺมา อนุคณฺิปทมเตน อชฺช อุคฺคเหตฺวา ปุนทิวเส ภุฺชนฺโต ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ.

ตตฺรายํ วิจารณา – อตฺตนา ภุฺชิตุกาโม อชฺช อุคฺคเหตฺวา ปุนทิวเส ภุฺชติ, ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ. สามเณราทีนํเยว อตฺถาย อุคฺคเหตฺวา คหิตํ ปุนทิวเส ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ. ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – สเจ เพลฏฺสีโส วิย ทุติยตติยาทิทิวสตฺถาย อชฺช ปฏิคฺคเหตฺวา สามเณราทีนํ โคปนตฺถาย เทติ, ตสฺส ปุนทิวเส อชฺโฌหรณตฺถํ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สมฺภวติ. สยเมว สเจ ตํ โคเปตฺวา เปติ, ปุนทิวเส ปติตํ กจวรํ ทิสฺวา วิมติวเสน วา ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคหณโตว อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สมฺภวติ. โน เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตํ ทุกฺกฏํ นตฺถิ. ‘‘อิทฺหิ ‘เอกํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’ติอาทิ วิยา’’ติ วุตฺตํ. โย ปน เอกปฺปหาเรเนว ทฺเวปิ ปาเท อติกฺกาเมติ, ตสฺส ตํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถิ, เอวํสมฺปทมิทนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปฏิคฺคหิตภาวํ อวิชหนฺตเมว สนฺนิธึ ชเนตีติ ธมฺมสิริตฺเถโร, ตํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. กปาเลน ปีโต ปน สฺเนโห อพฺโพหาริโก. กิฺจาปิ อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, ตถาปิ ‘‘เภสชฺชสิกฺขาปเท วิยา’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา กปาเลน ปีตา สปฺปิอาทโยปิ สตฺตาหาติกฺกเม อาปตฺตึ ชเนยฺยุนฺติ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวาติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตวิธิเยว. ทุทฺโธตปตฺตกถาปิ เอเตน สเมติ วิย . อาหารตฺถายาติ กาเลปิ ลพฺภติ. ปกติอามิเสติ กปฺปิยามิเส. สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเวติ ‘‘หิยฺโย ปฏิคฺคหิตยามกาลิกํ อชฺช ปุเรภตฺตํ สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว ปาจิตฺติยานี’’ติ ลิขิตํ. อชฺช ปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิกมฺปิ หิ ยามาติกฺกนฺตปานเกน สํสฏฺํ สนฺนิธึ กโรติ. อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสสมํเส ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ.

๒๕๕. สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถายาติ กาเลปิ ทุกฺกฏเมว สนฺนิธึ อนาปชฺชนโตติ เกจิ. ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตีติ เจ? น, ปาฬิยมฺปิ อฏฺกถายมฺปิ วิเสสสฺส นตฺถิตาย. เภสชฺชสิกฺขาปเท ปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ ปริภุฺชนํ วุตฺตนฺติ เจ? อาหาเร สปฺปิอาทิ สงฺคหํ ยาติ, เตน ตคฺคติกวเสน วุตฺตํ, น เภสชฺชวเสน วุตฺตนฺติ อุปติสฺโส.

สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๕๙. อกปฺปิยสปฺปินาติ เยสํ มํสํ น กปฺปติ, เตสํ สปฺปินา. ‘‘วสาเตลฺหิ เปตฺวา อกปฺปิยสปฺปิ นาม นตฺถี’’ติ ลิขิตํ. วิสงฺเกตนฺติ เอตฺถ ‘‘สูโปทนวิฺตฺติปิ น โหตี’’ติ วุตฺตํ. กายิกานีติ กาเยน อาปชฺชิตพฺพานิ.

๒๖๑. มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพติ สงฺฆวเสน ปวาริเต เภสชฺชตฺถาย สปฺปิอาทิปฺจกํ วิฺาเปติ เจ, ตตฺถ ‘‘น เภสชฺเชน กรณีเยน เภสชฺช’’นฺติ เอตฺถ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘เตน ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. ปาฬิมุตฺตเกสุ ‘‘ภิกฺขุนีนมฺปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ ลิขิตํ.

ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๔-๕. มุขทฺวารนฺติ กณฺนาฬิ. อุจฺจารณมตฺตนฺติ อุกฺขิปิตพฺพมตฺตกํ. กสฏํ ฉฑฺเฑตฺวาติ สมุทาจารวเสน, อฉฑฺฑิเตปิ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. หตฺถปาสาติกฺกมนฺติ ทายกสฺส. ภิกฺขุสฺส เทตีติ อฺสฺส ภิกฺขุสฺส. กฺชิกนฺติ ยํ กิฺจิ ทฺรวํ. ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพติ ภูมิยํ ปิเต อภิหาราภาวโต. ‘‘ยถา ปมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปติตเถเวปิ อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส’’ติ ลิขิตํ. จรุเกนาติ ขุทฺทกปิณฺเฑน. ชาครนฺตสฺสปีติ ‘‘อปิ-สทฺเทน สุตฺตสฺสปี’’ติ ลิขิตํ. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. เตหิ กายสํสคฺเค กายปฏิพทฺเธนาปิ ตปฺปฏิพทฺเธนาปิ ถุลฺลจฺจยาปตฺติ ทสฺสิตา เอวาติ อตฺโถ. กายปฏิพทฺธปฏิพทฺเธนาติ วจนมตฺตเมเวตํ. ‘‘สตฺถเกนาติ ปฏิคฺคหิตเกนา’’ติ ลิขิตํ, ตํ ทุลฺลิขิตํ สติปิ มเล ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพกิจฺจาภาวโต. เกสฺจิ อตฺถายาติ อนุปสมฺปนฺนานํ อตฺถาย. ‘‘สามเณรสฺส หตฺถํ ผุฏฺมตฺตเมว ตํ ปริจฺจตฺต’’นฺติ ลิขิตํ.

ปฏิคฺคหณุปคภารํ นาม มชฺฌิมปุริเสน อุกฺขิปิตพฺพกํ. มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘มจฺฉิกวารณตฺถนฺติ วุตฺตตฺตา ‘อภุฺชนตฺถายาปิ ปฏิคฺคเหตฺวา คหิเต วฏฺฏตี’’’ติ เย วทนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘สีสมกฺขนเตลํ ปฏิคฺคเหตฺวา ‘อิทํ สีสมกฺขน’นฺติ อนาโภเคเนว สตฺตาหํ อติกฺกาเมนฺตสฺส กึ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยา’’ติอาทิ, สุตฺตาธิปฺปาโย ปน เอวํ คเหตพฺโพ ‘‘มจฺฉิกวารณตฺถํ พีชนฺตสฺส ตสฺมึ ลคฺครชาทิมฺหิ ปตฺเต ปติเต สุขํ ปริภุฺชิตุํ สกฺกา’ติ สฺาย ปุพฺเพ ปฏิคฺคหิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปริวตฺตนกถายํ ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุเลสุ ขีเณสุ เอเตหิ อมฺหากํ หตฺถคเตหิ สามเณรสนฺตเกหิปิ สกฺกา ปติฏฺเปตุ’นฺติ ภิกฺขูนํ จิตฺตุปฺปาโท เจ สมฺภวติ, ‘ปริวตฺตนํ สาตฺถก’นฺติ อุปติสฺสตฺเถโร’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ สุทฺธจิตฺตานํ นิรตฺถกนฺติ อาปนฺนเมว, ตถา ‘‘ปณฺฑิโต เอส สามเณโร ปตฺตปริวตฺตนํ กตฺวา ทสฺสติ, มยเมว จ อิมสฺส วิสฺสาเสน วา ยาจิตฺวา วา ภุฺชิสฺสามา’’ติ จิตฺเต สติ ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ กเตปิ ปริวตฺตเนติ จ อาปนฺนํ, กึ พหุนา. นิรเปกฺเขเหว คณฺหิตพฺพํ, น สาเปกฺเขหีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อาจริโย. อยเมวตฺโถ ‘‘สเจ ปน สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วจเนน สิทฺโธว. อาธารเก ปตฺโต ปิโต โหติ ยถาปฏิคฺคหิตภาเว นิราลโย. สมุทฺโททเกน อปฺปฏิคฺคหิตเกน. เมณฺฑกสฺส ขีรํ ขีรตฺตาว วฏฺฏติ. ‘‘อตฺตโน ปน ขีรํ มุเขเนว ปิวนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทสฺเสตุํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สรีรนิสฺสิตมหาภูตานิ หิ อิธาธิปฺเปตานี’’ติ ลิขิตํ, ตทุภยมฺปิ ‘‘กปฺปิยมํสขีรํ วา’’ติอาทินา นเยน วิรุชฺฌติ.

อปิจ ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตภาชเน อฺภิกฺขุสนฺตเก อตฺตโน ปิณฺฑปาตํ ปกฺขิปติ, ‘ตํ โถก’นฺติ วา อฺเน วา การเณน วทติ, ตํ สพฺเพสํ น กปฺปติ. กสฺมา? วินยทุกฺกฏตฺตา . อตฺตนา ปฏิคฺคเหตฺวา ปกฺขิปิตพฺพํ วินยวิธึ อกตฺวา ทุกฺกฏนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ ตาทิสํ กิมตฺถํ น ภุฺชตีติ? อฏฺกถายํ ‘อุคฺคหิตโก โหตี’ติ วุตฺตตฺตา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ ภูมิยํ วา ภาชเน วา ผลํ วา ยํ กิฺจิ อามิสํ วา ยาวชีวิกมฺปิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ อชานนฺโต อามสติ, น วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ โหตี’’ติ อนุคณฺิปเท วุตฺตํ, ตสฺมา อิมสฺส มเตน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส สเจ ปตฺเต อปฺปฏิคฺคหิเต ปิณฺฑํ เปติ, ตํ อกปฺปิยํ อุคฺคหิตกนฺติ สิทฺธํ. อยเมวตฺโถ ‘‘สเจ อตฺตโน วา ภิกฺขูนํ วา ยาคุปจนกภาชเน…เป… นิรามิสํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ วจเนน สํสนฺทิตฺวา กเถตพฺโพ. ‘‘กปฺปิยมํสขีรํ วา’’ติ ปสงฺควเสน วุตฺตํ. ทธิ เจ ปฏิลทฺธํ, ตฺจ อธิปฺเปตนฺติ เกจิ.

ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อเจลกวคฺโค

๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๙. วิฆาสาทานํ อนฺตรา ปูวลาเภน อฺตรา ปริพฺพาชิกา ปวิสิตฺวา ิตา. ทาเปตีติ อนุปสมฺปนฺเนน.

อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๗๖. วิชหนฺตสฺสาติ อนาทรตฺเถ สามิวจนํ. อุยฺโยชกสฺส วิชหนฺตสฺส สโต อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติปิ อตฺโถ. อิธ อนุปสมฺปนฺโน นาม สามเณโรวาธิปฺเปโต.

อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๐. สโภชเนติ เอตฺถ ปมวิกปฺโป ‘‘อิตฺถี จ ปุริโส จา’’ติ อิมินา ตติยปเทน ยุชฺชติ, ทุติยวิกปฺโป ปเมหิ ทฺวีหิ. กุเลติ ฆเร. อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน สจิตฺตกํ.

สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. รโหปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๔. อิธ ปฺจมํ อุปนนฺทสฺส จตุตฺถํ โหติ, ตสฺมา ภิกฺขุนิวคฺคสฺส ทสมฏฺกถายํ อุปริ อุปนนฺทสฺส ‘‘ตติยสิกฺขาปเทนา’’ติ น ปาโ, ‘‘จตุตฺเถนา’’ติ ปาโติ เวทิตพฺโพ.

รโหปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๙. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๔. สภตฺโตติ นิมนฺตนภตฺโตติ โปราณา.

ปุเรภตฺตฺจ ปิณฺฑาย, จริตฺวา ยทิ ภุฺชติ;

สิยา ปรมฺปราปตฺติ, ปจฺฉาภตฺตํ น สา สิยา.

ปจฺฉาภตฺตฺจ คมิโก, ปุพฺพเคหํ ยทิ คจฺเฉ;

เอเก อาปตฺติเยวาติ, อนาปตฺตีติ เอกจฺเจ.

กุลนฺตรสฺโสกฺกมเน , อาปตฺติมตโย หิ เต;

สมานภตฺตปจฺจาสา, อิติ อาหุ อิธาปเร.

มตา คณิกภตฺเตน, สเมนฺติ นํ นิมนฺตเน;

วิสฺสชฺชนํ สมานนฺติ, เอเก สมฺมุขตาปเร.

สนฺนิฏฺานตฺถิเกเหว, วิจาเรตพฺพเภทโต;

วิฺู จาริตฺตมิจฺเจว, สิกฺขาปทมิทํ วิทูติ.

จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑๐. กาลนฺติ โส. ยสฺมา สงฺฆปวารณายเมวายํ วิธิ, ตสฺมา ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อิมินา หิ ตยา ปวาริตมฺห, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถ’’ติ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตุํ คิลาโนว ลภติ. ยํ ปน วุตฺตํ ปณีตโภชนสิกฺขาปเท ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ, ตํ สงฺฆวเสน ปวาริตํ, เภสชฺชตฺถาย สปฺปิอาทิเภสชฺชปฺจกํ วิฺาเปติ เจ, ‘‘น เภสชฺเชน กรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปตี’ติ วจเนน ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. ๓๐๙) ลิขิตํ.

มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑๑-๕. มํ ทิฏฺเนาติ มยา ทิฏฺเน, มม ทสฺสเนน วา. เอกมฺปิ สรหตฺถํ ปุริสนฺติ องฺคปริยาปนฺนํ.

อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑๙. นวเม เสนาปริกฺเขเปน วา ปริกฺเขปารหฏฺาเนน วา สฺจรณฏฺานปริยนฺเตน วา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา.

เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๒๔. ทสเม เอกเมกํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติอาทิ. อฏฺเม ปน เอกเมกํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ปาฬิ. กสฺมา? องฺคปฺปมาณาเภเทปิ อนีกวิเสสโต. ทสเม ปน อฏฺมงฺคสฺส ทสฺสเนน ทุกฺกฏํ สิยาติ.

อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน อเจลกวคฺโค ปฺจโม.

๖. สุราปานวคฺโค

๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา

อายสฺมโต ยํ มุนิ สาคตสฺส,

มหิทฺธิกตฺตสฺส นิทสฺสเนน;

ปานสฺส โทโส ตสฺส ทสฺสนตฺถํ,

ปุพฺเพว โส ภทฺทวตึ ปยาโต.

ตสฺมา ปสฺสํ นาคมโปถยิตฺวา,

วินิสฺสฏํ สาคตํ อิทฺธิยา จ;

นโต สุราปานนิเสธนตฺถํ,

โกสมฺพิเมวชฺฌคมาติ เยฺยํ.

๓๒๖-๘. ปสุปาลกาติ อชปาลกา. เยน มชฺชติ, ตสฺส พีชโต ปฏฺาย. เกจิ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตตฺตา วตฺถุํ ชานิตฺวา ปิวโต อกุสล’’นฺติ วทนฺติ. เอวํ สติ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายาติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สจิตฺตกปกฺขเมว สนฺธายา’’ติ วทนฺติ. เอวํ สติ ‘‘กุสลากุสลาพฺยากตจิตฺตนฺติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ตมฺปิ ‘‘ตพฺพหุลนเยน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. กงฺขาวิตรณิยมฺปิ อวิเสเสตฺวา ‘‘อกุสลจิตฺต’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ตํ อกุสเลเนว ปิวตี’’ติ วทนฺตีติ.

สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๓๐. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๓๖. ตติเย กถํ ติเวทนํ? หสาธิปฺปาเยเนว ‘‘ปรสฺส ทุกฺขํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ อุทกํ ขิปนฺตสฺส ทุกฺขเวทนํ. เสสํ อุตฺตานํ.

อิทํ สฺาวิโมกฺขฺเจ, ติกปาจิตฺติยํ กถํ;

กีฬิตํว อกีฬาติ, มิจฺฉาคาเหน ตํ สิยา.

เอตฺตาวตา กถํ กีฬา, อิติ กีฬายํ เอวายํ;

อกีฬาสฺี โหเตตฺถ, วินยตฺถํ สมาทเย.

เอกนฺตากุสโล ยสฺมา, กีฬายาภิรตมโน;

ตสฺมา อกุสลํ จิตฺตํ, เอกเมเวตฺถ ลพฺภตีติ.

หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๔. ‘‘โลกวชฺชํ อติกฺกมิตฺวา ‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’ติ วทนฺตสฺส น วฏฺฏตี’’ติ ลิขิตํ. ยํ สํกิลิฏฺเเนว จิตฺเตน อาปชฺชติ, ยํ วา อริยปุคฺคโล อปฺตฺเต สิกฺขาปเท อชฺฌาจรติ, อิทํ โลกวชฺชนฺติ สพฺพตฺถิกวาทีอาทีนิ อาจริยกุลานิ. ตตฺถ ทุติยตติยวิกปฺโป อิธ น อธิปฺเปโต เสขิยานํ โลกวชฺชตฺตา.

คารยฺโห อาจริยุคฺคโหติ เอตฺถ ‘‘ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีฏกํ วิยา’ติ เอวมาทิโก สมฺปติ นิพฺพตฺโต คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ’’ติ จ, ปณฺณตฺติวชฺเช ปน วฏฺฏตีติ ‘‘น ปตฺตหตฺเถน กวาโฏ ปณาเมตพฺโพ’ติ อิมสฺส ‘เยน หตฺเถน ปตฺโต คหิโต, เตน หตฺเถน น ปณาเมตพฺโพ, อิตเรน ปณาเมตพฺโพ’ติ อตฺถํ คเหตฺวา ตถา อาจรนฺโต น อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. ‘ตถา พุทฺธโพธิเจติยานํ ปุปฺผํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ตถา อาจรนฺโต’’ติ จ. ตถา อาจรติ อภยคิริวาสิโก. มหาวิหารวาสิโน เจ เอวํ วทนฺติ, ‘‘มา เอวํ วทา’’ติ อปสาเทตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยวา’’ติอาทิ. ‘‘อิทํ สพฺพํ อุปติสฺสตฺเถโร อาหา’’ติ จ วุตฺตํ. ‘‘สุตฺตานุโลมํ อฏฺกถา’’ติ ลิขิตํ.

อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๕. ภึสาปนสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๕๔. ‘‘วิสิพฺพนาเปกฺโข’’ติ วจนโต ยสฺส อเปกฺขา นตฺถิ, ตสฺส อนาปตฺติ.

โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๔. นหานสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๘. อลภีติลโภ. ยถา ‘‘ปจตีติ ปโจ, ปถตีติ ปโถ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ‘‘ลภตีติ ลโภ’’ติ กสฺมา น วุตฺตํ? ปรินิฏฺิตลาภสฺเสว อิธาธิปฺเปตตฺตา. มคฺเคติ สิพฺพินิมคฺเค. กปฺปกเตน สทฺธึ อกปฺปกตํ สิพฺเพติ. ยาวตา อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตาวตา ปุพฺพํ กปฺปเมว. กปฺปํ น วิชหติ เจ, ปุน กปฺปํ ทาตพฺพนฺติ อาจริยสฺส ตกฺโก.

ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๗๔. ปริโภโค เอตฺถ กายกมฺมํ. อปจฺจุทฺธารณํ วจีกมฺมํ.

วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. จีวราปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๗๙. ทสเม ยสฺมา นิสีทนสนฺถตํ จีวรนิสีทนมฺปีติ อุภยมฺปิ สทสเมว, ตสฺมา ตํ อุภยมฺปิ เอกโต กตฺวา ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ อาห. ตตฺถาปิ จีวรคฺคหเณน จีวรนิสีทนํ คหิตเมวาติ อตฺถโต สนฺถตนิสีทนเมว วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ ‘‘นิสีทนสนฺถตํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ? น, อิตรสฺส อนิสีทนอทสภาวปฺปสงฺคโต. เอตฺถ นิสีทนสนฺถตสฺส ปาจิตฺติยวตฺถุตฺตา อิตรมฺปิ ปาจิตฺติยวตฺถุเมวาติ เวทิตพฺพํ ตชฺชาติกตฺตา. สสฺสามิเก สูจิฆเร สูจิคณนาย อาปตฺติโยติ โปราณา.

จีวราปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. สปฺปาณกวคฺโค

๑. สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๒. สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๗. ‘‘ปาโณ อตฺถี’’ติ ชานนฺโตปิ ‘‘มริสฺสนฺตี’’ติ อวิจาเรตฺวา ปิวติเจ, อนาปตฺติ.

ชเล ปกฺขิปนํ ปุปฺผํ, ชลปฺปเวสนํ อิทํ;

เอวํ อุภินฺนํ นานตฺตํ, เยฺยํ าณวตา สทาติ.

สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๒. ตติเย ทฺวาทส อุกฺโกฏา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อกตํ กมฺมํ, ทุกฺกฏํ กมฺมํ, ปุน กาตพฺพํ กมฺมนฺติ อนุวาทาธิกรเณ ลพฺภนฺติ. อนิหฏํ, ทุนฺนิหฏํ, น ปุน หริตพฺพนฺติ วิวาทาธิกรเณ ลพฺภนฺติ, อวินิจฺฉิตํ, ทุวินิจฺฉิตํ, ปุน วินิจฺฉิตพฺพนฺติ อาปตฺตาธิกรเณ ลพฺภนฺติ. อวูปสนฺตํ, ทุวูปสนฺตํ, ปุน วูปสเมตพฺพนฺติ กิจฺจาธิกรเณ ลพฺภนฺตีติ อฏฺกถานโย, ปาฬิยํ ปเนตฺถ มุขมตฺตเมว ทสฺสิตํ.

อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๙. ‘‘ปาราชิกานีติ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตานี’’ติ กถํ วิฺายตีติ เจ? ปริวารปาฬิโต. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา กติ อาปตฺติโย อาปชฺชติ. อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชติ. ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ ปฏิจฺฉาเทติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. เวมติกา ปฏิจฺฉาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ ปฏิจฺฉาเทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาจารวิปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทติ , อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๙๐). ปาราชิกํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต ภิกฺขุ อนาปตฺติ, โน อาปตฺตึ อาปชฺชติ อวุตฺตตฺตาติ เจ? น, สํกิลิฏฺเน จิตฺเตน ปฏิจฺฉาทเน วินา อาปตฺติยา อสมฺภวโต. ทุกฺกฏวาเร วตฺตพฺพาปิ ปาราชิกาปตฺติโย ปมํ อตฺถุทฺธารวเสน สงฺฆาทิเสเสหิ สห วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปุน วตฺตุนฺติ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ยาว โกฏิ น ฉิชฺชตีติ เจตฺถ โย อนฺตมโส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อฺสฺส อาโรเจตุ วา, มา วา, ปฏิจฺฉาทนจิตฺเตเนว อาปตฺตึ อาปนฺโน. ตสฺส ปุน อฺสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนาโรจเนเนว น โกฏิ ฉินฺนา โหติ, กึ ปุน ปฏินิวตฺติตฺวา วจเนน ปโยชนนฺติ น อนฺติมสฺส อนาโรจเนน ฉินฺนา โหติ, อปฺปฏิจฺฉาทเนน เอว ฉินฺนา โหติ, ตโต อปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ อปุพฺพสฺส อาโรเจตพฺพํ, ตโต ปฏฺาย โกฏิ ฉินฺนา โหติ, ตทภาโว ปฏินิวตฺติตฺวา อปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ อาโรเจตพฺพํ, เอวมฺปิ โกฏิ ฉินฺนา โหตีติ เอวํ โน ปฏิภาตีติ อาจริโย. ตติเยน ทุติยสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ทุติโย นาม ปโม’’ติ วทนฺตานํ ‘‘วตฺถุ ปุคฺคโล น วตฺตพฺโพ’’ติ วาริตตฺตา น สุนฺทรํ. อฺสฺส จตุตฺถสฺส อาโรจเนปิ น สุนฺทรํ. กสฺมา? ปุพฺเพว สุตฺวา อฺสฺส อนาโรจิตตฺตา. ‘‘สุเตน อฺสฺส อาโรเจตพฺพํ สิยา’’ติ วทนฺติ.

ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๔. ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต พหุธา. หายนวฑฺฒนนฺติ มาตุกุจฺฉิสฺมึ เจ ทฺวาทสนฺนํ มาสานํ อูนตาย หายนํ กตํ. ปสูตสฺส วฑฺฒนํ กาตพฺพํ. มาตุกุจฺฉิสฺมึ เจ วฑฺฒนํ กตํ. ปสูตสฺส หายนํ กาตพฺพํ. นิกฺขมนียปุณฺณมาสี นาม สาวณมาสสฺส ปุณฺณมาสี. ‘‘ปาฏิปททิวเสติ ทุติเย อุปคจฺฉติ ทิวเส’’ติ ลิขิตํ. โส หิ ปสูตทิวสโต ปฏฺาย ปริปุณฺณวีสติวสฺโส โหติ. อวเสสานํ ทฺวินฺนํ วสฺสานํ อธิกทิวสานิ โหนฺเตว, ตสฺมา นิกฺกงฺขา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติ. ตํ สนฺธายาติ คพฺภวสฺสฺจ ปวาเรตฺวา ลทฺธวสฺสฺจ อคเณตฺวา ชาตทิวสโต ปฏฺาย คเณตฺวา เอกูนวีสติวสฺสํ. เอกูนวีสติวสฺโสติ ‘‘คพฺภวสฺสํ เอว ปหายา’’ติ ลิขิตํ, ตํ ทุลฺลิขิตํ.

๔๐๖. อฺํ อุปสมฺปาเทตีติ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา หุตฺวา อุปสมฺปาเทติ. ‘‘โอปปาติกสฺส โสฬสวสฺสุทฺเทสิกภาวโต ปุน จตฺตาโร วสฺเส อติกฺกมิตฺวา อุปสมฺปทา กาตพฺพา’’ติ อาจริยา วทนฺตีติ เกจิ.

อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๙. เถยฺยสตฺโถ เจ สุทฺธมาตุคาโม ทฺเว อาปตฺติโย. อถ ภิกฺขุนิโย, สมโย รกฺขติ. เถยฺยสตฺถภาวสฺส านํ กตฺวา รกฺขณียตฺตา สหธมฺมิกานํ รกฺขติเยวาติ เอเก. เถยฺยภาเว น สหธมฺมิกตา, ตสฺมา น รกฺขติ เอวาติ เอเก. อปาราชิกเถยฺยภาเว สติ สหธมฺมิกภาโวติ เจ? อิตรสฺมึ อิตรนฺติ สมโย อนิสฺสโฏ อาปชฺชติ. ภิกฺขุ เถยฺยสตฺโถ เจ, ยถาวตฺถุกเมว. เถยฺยสตฺเถ เถยฺยสตฺถสฺี สทฺธึ สํวิธายาติ จ. ‘‘สทฺธิ’’นฺติ ปทํ เกสุจิ นตฺถิ, ตํ อนนุรูปํ. ตถา ทุติเยปิ.

เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๒. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรา อิตฺถี’’ติ จ ปาโ อตฺถิ, เกสุจิ นตฺถิ. นตฺถิภาโว สุนฺทโร ‘‘เตน โข สมเยนา’’ติ อธิการตฺตาติ เกจิ. อิธ เอกโตอุปสมฺปนฺนา, สิกฺขมานา, สามเณรีติ อิมาปิ ติสฺโส สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อิมาสํ ปน สมโย รกฺขติ, อยมิมาสํ, มาตุคามสฺส จ วิเสโส.

๔๑๔. อปิเจตฺถ ‘‘วิฺู ปฏิพลา’’ติ วจนโต อปฺปฏิพลา อนาปตฺติวตฺถุกาติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ ทุกฺกฏวตฺถุกตฺตา. ‘‘ภิกฺขุ สํวิทหติ, มาตุคาโม น สํวิทหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา หิ อุปปริกฺขิตพฺพํ.

สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๗. คหฏฺสฺสาปิ ภิกฺขุนีทูสกกมฺมํ โมกฺขนฺตรายิกเมว, ตสฺมา ตสฺส ปพฺพชฺชาปิ ปฏิกฺขิตฺตา. วิปากนฺตรายิกา อเหตุกตฺตา. ปุพฺเพ สฺจิจฺจ อาปนฺนา สมฺมุฏฺา สุทฺธสฺิโน อนฺตรายิกา เอว. เสสาติ ชาติกา. รเสนาติ ภาเวน. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ อธิกรณํ กตฺวา กุฏฺฏนฏฺเน ฉินฺทนฏฺเน. อสิสูนูปมา กุสลธมฺมจฺเฉทนฏฺเน. สตฺติสูลูปมา จิตฺตวิตุทนฏฺเนาติ โปราณา. อนาปตฺติปาฬิยํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ มุขารุฬฺหวเสน ลิขิตํ.

อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๕. ‘‘ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสฏฺเนาติ อิมินา ลทฺธินานาสํวาสกตํ ทีเปตี’’ติ วุตฺตํ. ติจิตฺตนฺติ เอตฺถ วิปากาพฺยากตจิตฺเตน สหวาเสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฺถา สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส กิริยาพฺยากตํ สนฺธาย น ยุชฺชติ.

อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๘. ยตฺถเต น ปสฺสามาติ เตติ ตํ. อถ วา ตว รูปาทึ น ปสฺสาม. อยํ สมณุทฺเทโส ปาราชิโก โหติ. ‘‘สเจ ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชติ, สงฺฆสฺส อาโรเจตฺวา สงฺฆานุมติยา ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ, ทณฺฑกมฺมนาสนา หิ อิธาธิปฺเปตา. ยทิ โส ปาราชิโก, ลิงฺคนาสนา นาม สิยา. เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายาติ จ ทิฏฺิ สตฺถริ อสตฺถาทิทิฏฺิ น โหติ. สเจ สา ยสฺส อุปฺปชฺชติ, โส ปาราชิโก โหติ, ตสฺมิมฺปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ สํวเร อติฏฺนฺโต ลิงฺคนาสนาเยว นาเสตพฺโพติ อาจริยสฺส ตกฺโก.

กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.

๘. สหธมฺมิกวคฺโค

๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๔. สหธมฺมิกสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๘. อาปตฺติฺจ สติสมฺโมสายาติ เอตฺถ จ-สทฺโท กตฺตพฺพฺจ น กโรตีติ ทีเปติ, น จตฺตาริ เอวาติ วุตฺตํ โหติ. รฏฺเกเทโส ชนปโท. พุทฺธกาเล อริฏฺกณฺฏกา สาสนปจฺจตฺถิกา. ‘‘นาลํ อนฺตรายายา’’ติ วจเนน หิ เต ภควโต อสพฺพฺุตํ ทีเปนฺติ. ปรินิพฺพุเต ภควติ ทสวตฺถุทีปกา วชฺชิปุตฺตกา. เต หิ วินยสาสนปจฺจตฺถิกา. ปรูปหาราทิวาทา ปน สุตฺตนฺตาภิธมฺมปฺปจฺจตฺถิกา. เก ปน เต? เอกจฺเจ มหาสงฺฆิกาทโย, น สพฺเพติ ทีปนตฺถํ ‘‘ปรูปหารา…เป… วาทา’’ติ วิเสสนวจนมาห. ตตฺถ เย กุหกา ปาปิจฺฉกา อภูตํ อุลฺลปิตฺวา ปฏิลทฺธวรโภชนานิ ภุฺชิตฺวา มุฏฺสฺสตี นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺตา, อฺเหิ ตํ ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ อรหโต สุกฺกวิสฺสฏฺี’’ติ วุตฺเต ‘‘มารกายิกา อุปสํหรนฺตี’’ติ วตฺวา ชนํ วฺเจนฺติ. เย จ สมฺมาปฏิปนฺนา อกุหกา, เตปิ ตํ วจนํ สุตฺวา เกจิ ตํทิฏฺิกา โหนฺติ อธิมานิโน จ. อตฺตโน สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปสฺสิตฺวาปิ นาธิมุจฺจนฺติ, อนธิคเต อธิกตสฺิโนว โหนฺติ. ตถา อตฺถิ อรหโต อฺาณกงฺขาวิตรณา นามโคตฺตาทีสุ วิย สจฺเจสุ ปรวิตรณา ปเรหิ ปฺตฺตา นามานีติ อธิปฺปาโย ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ วินยธโร ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส , ยํ อรหโต อสุจิ มุจฺเจยฺย (กถา. ๓๑๓; มหาว. ๓๕๓). ทิฏฺธมฺมา…เป… อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน’’ติอาทีนิ (มหาว. ๓๐) สุตฺตปทานิ ทสฺเสตฺวา เต สาสนปจฺจตฺถิเกสุ นิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ อธิปฺปาโย. อิตเร ‘‘ปริยตฺติ มูล’’นฺติ วาทิโน. ‘‘ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน’’ติ นิทานวเสน วุตฺตํ. ตถาคตสฺส วิภงฺคปทานิ สิทฺธานิ. สิทฺเธเยว กึ อิมสฺส องฺคานิ? ครหิตุกามตา อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทวิวณฺณนฺจาติ.

วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๔๔. โมหนสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๒. รตฺตจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน. วิเหเตุกามํ ปน ทิสฺวา ‘‘สเจ อหํ อิมํ มาเรมิ, นตฺถิ เม โมกฺโข’’ติ จินฺเตตฺวา กุปิโต สตฺตสฺํ ปุเรกฺขตฺวา ปหารํ เทติ, ตสฺส ยถาวตฺถุกเมว.

ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๖. ‘‘กายํ วา กายปฏิพทฺธํ วา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๖) วจนโต กายาทีสุ ยํ อุจฺจาเรติ , ตํ ตลํ นาม. ตลเมว ตลสตฺติกํ. โปถนสมตฺถฏฺเน สตฺติกนฺติ เอเก. ตํ ‘‘อุปฺปลปตฺตมฺปี’’ติ อิมินา นิยเมติ. เอวํ กุปิตา หิ โกปวเสน โปถนาสมตฺถตํ อวิจาเรตฺวา ยํ กิฺจิ หตฺถคตํ ปฏิกฺขิปนฺติ, สุขสมฺผสฺสมฺปิ โหตุ, ปาจิตฺติยเมว. ยสฺมา ปหริตุกามตาย ปหเฏ ปุริเมน ปาจิตฺติยํ. เกวลํ อุจฺจาเรตุกามตาย อุคฺคิรณมตฺเต กเต อิมินา ปาจิตฺติยํ. อิมินา ปน วิรชฺฌิตฺวา ปหาโร ทินฺโน, ตสฺมา น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏํ. กิมิทํ ทุกฺกฏํ ปหารปจฺจยา, อุทาหุ อุคฺคิรณปจฺจยาติ? ปหารปจฺจยา เอว ทุกฺกฏํ. ปุริมํ อุคฺคิรณปจฺจยา ปาจิตฺติยนฺติ สทุกฺกฏํ ปาจิตฺติยํ ยุชฺชติ. ปุริมฺหิ อุคฺคิรณํ, ปจฺฉา ปหาโร. น จ ปจฺฉิมปหารํ นิสฺสาย ปุริมํ อุคฺคิรณํ อนาปตฺติวตฺถุกํ ภวิตุมรหตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโย. ‘‘เตน ปหาเรน หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ ภิชฺชติ, ทุกฺกฏเมวา’’ติ อิมินาปิ ปหารปจฺจยา ทุกฺกฏํ. อุคฺคิรณํ ยถาวตฺถุกเมวาติ สิทฺธํ, สุฏฺุ วีมํสิตพฺพํ. ‘‘ติรจฺฉานาทีนํ อสุจิกรณาทีนิ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโย เอวา’’ติ วทนฺติ.

ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๖๒. อุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสนาติ สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺคาทินา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา วตฺถุนาติ เวทิตพฺพํ. น หิ อนุปสมฺปนฺนสฺส สงฺฆาทิเสสาปตฺติ นาม อตฺถิ.

อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๖๘. อูนวีสติวสฺโส มฺเติ เอตฺถ สยํ สฺาย ตถา อมฺนฺโต กุกฺกุจฺจุปฺปาทนตฺถํ ‘‘มฺเ’’ติ วทนฺโต กึ มุสาวาเทน กาเรตพฺโพติ? น สิยา องฺคสมฺปตฺติยา, น จ เกวลํ ‘‘มฺเ’’ติ อิมินา นิยมโต องฺคสมฺปตฺติ โหติ. ปรมตฺถวิหิตํ กตฺถจิ โหติ. ‘‘อุทกํ มฺเ อาทิตฺต’’นฺติอาทิมฺหิ ปโร กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตุ วา , มา วา, ตํ อปฺปมาณนฺติ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘กุกฺกุจฺจุปฺปาทน’’นฺติ ตสฺส อธิปฺปายวเสน วุตฺตนฺติ.

สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๓. อิเมสํสุตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วจน’’นฺติ ปาเสโส. เอกปริจฺเฉทานีติ สิยา กิริยา สิยา อกิริยาติ อิมินา นเยน เอกปริจฺเฉทานิ. เอตฺถ กิฺจาปิ อฺวาทกปจฺจยาปตฺติ กิริยา จ วิเหสกปจฺจยาปตฺติ อกิริยา จ, ตทุภยํ ปน เอกสิกฺขาปทนฺติ กตฺวา ตํ อฺวาทกสงฺขาตํ สิกฺขาปทํ สิยา กิริยา ปมสฺส วเสน, สิยา อกิริยา ทุติยสฺส วเสนาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๔. ‘‘ธมฺมิกานํ กมฺมาน’’นฺติ (ปาจิ. ๔๗๕) วจนโต เอกจฺเจ ภิกฺขู ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมี’’ติ ฉนฺทํ เทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมว, น ปฏิปตฺติ. อธมฺมํ นิสฺสาย ขิยฺยติ, ตํ วา อุกฺโกเฏติ, อนาปตฺติ เนว โหตีติ? น, ตถา ฉนฺททานกาเล อกตฺวา ปจฺฉา อธมฺมกมฺมขิยฺยนาทิปจฺจยา อนาปตฺติวาเร วุตฺตตฺตา. อธมฺเมน วา วคฺเคน วา น กมฺมารหสฺส วา กมฺมกรณปจฺจยา อาปตฺติโมกฺขกรณโต อวิเสสเมว ตถาวจนนฺติ เจ? น, ฉนฺททานกาเล อธมฺมกมฺมกรณานุมติยา อภาวโต, การกสฺเสว วชฺชปฺปสงฺคโต จ. คณสฺส ทุกฺกฏนฺติ เจ? ปาริสุทฺธิฉนฺททายกาว เต, น คโณ อกมฺมปฺปตฺตตฺตา, ปริวาเรปิ (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) กมฺมวคฺเค กมฺมปฺปตฺตฉนฺททายกา วิสุํ วุตฺตา. ตถาปิ อธมฺมกมฺมสฺส ฉนฺโท น ทาตพฺโพ เทนฺเต อกปฺปิยานุมติทุกฺกฏโต. ตตฺถ หิ โยชนทุกฺกฏโต น มุจฺจนฺตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโย.

กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๘๑. สนฺนิปาตํ อนาคนฺตฺวา เจ ฉนฺทํ น เทติ, อนาปตฺตีติ เอเก. ทุกฺกฏนฺติ เอเก ธมฺมกมฺมนฺตรายกรณาธิปฺปายตฺตา. สงฺฆมชฺเฌ ฉนฺทํ ทาตุํ ลภตีติ เกจิ. ทินฺนฉนฺเท สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวา ปุน คเตปิ ฉนฺโท น ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ เจ? ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. กสฺมา? ‘‘อหตฺถปาโส ฉนฺทารโห’’ติอาทีหิ วิรุชฺฌนโต. ปาฬิยํ ปน ทาตุกามตาย หตฺถปาสํ อติกฺกมนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เกจิ.

ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๘๔-๕. อทาสีติ อปโลเกตฺวา อทาสิ. ภิกฺขูติ เอตฺถ เต ฉพฺพคฺคิยา อตฺตานํ ปริวชฺชยิตฺวา ‘‘สงฺโฆ’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขู’’ติ อาหํสุ. ปริณาเมนฺตีติ เนนฺติ. ตตฺถ ลาโภติ ปทุทฺธารกรณํ อิธ อนธิปฺเปตสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ อตฺถุทฺธารวเสน ลาภทีปนตฺถํ. จีวรเมว หิ อิธาธิปฺเปตํ, เตเนว ‘‘อฺํ ปริกฺขารํ ทินฺนํ ขียติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทินฺนนฺติ จ ปริกฺขารนฺติ จ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ.

ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙๑. าตกมฺปิ ปรสฺส ทาตุกามํ อฺสฺส ทาเปติ, อาปตฺติ เอว. สพฺพตฺถ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตุกามํ ยถาสุขํ วิจาเรตุํ ลภติ.

ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.

๙. รตนวคฺโค

๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙๔-๗. ยถา ภควนฺตํ ปยิรุปาสติ, เอวมากาเรน นารหตายํ ปุริโส ปาโป โหตุํ, น โหติ ปาโปติ อตฺโถ, การณตฺถํ วา. นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยโตติ วา อตฺโถ. หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ สงฺฆาฏสมฺมทฺโท, อกฺกมนํ จุณฺณตาติ อตฺโถ.

๔๙๘. รตนํ นาม อคฺคมเหสี, ตถาปิ อิธ อฺาปิ เทวิโคตฺตา น รกฺขติ, อนาปตฺติวาเร ‘‘น มเหสี โหตี’’ติ วจนาภาวโต. สเจ ขตฺติโยว โหติ, นาภิสิตฺโต. อภิสิตฺโตเยว โหติ, น ขตฺติโย รกฺขตีติ อาจริโย. อนาปตฺติวาเร มาติกาฏฺกถายํ องฺคภาเวน จ วุตฺตตฺตา อภิสิตฺตภาโววปมาณํ. เสสํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทติ เอเก.

๕๐๐-๕๐๑. ‘‘น สยนิฆเร สยนิฆรสฺี’’ติ ติกจฺเฉโทปิ เอตฺถ ลพฺภติ. น สยนิฆรํ นาม อปริกฺขิตฺตรุกฺขมูลาทิ.

อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๔. ‘‘อธิวาเสนฺตุ คหปติโน ภตฺต’’นฺติ จ ‘‘เม คหปติโน’’ติ จ อตฺถิ.

๕๐๖. กุรุนฺทิวจเนน ฆเรปิ ยทิ ภิกฺขู อาสงฺกนฺติ, ตตฺถ ตฺวา อาจิกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปติรูปาติ ‘‘รตนสมฺมเต ปํสุกูลคฺคหณํ วา รตเน นิรุสฺสุกฺกคมนํ วา’’ติ ลิขิตํ. ‘‘ตาวกาลิกวเสนปิ อนามาสํ ปฏิคฺคณฺหิตุํ น ลภตี’’ติ วทนฺติ. สมาทเปตฺวาติ ยาจิตฺวา ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ (ชา. ๑.๗.๕๙) วุตฺตนเยน.

รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๑๑-๒. อหินา ฑฏฺวตฺถุมฺหิ โส ภิกฺขุ สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา คโต, ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อุทปาทิ. อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยนาติ คาโม คามูปจาโรติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ.

วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๑๗. นฺติ เภทนกํ. อสฺสาติ ปาจิตฺติยสฺส ปมํ เภทนกํ กตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา. เอส นโย อิตเรสุปิ.

๕๒๐. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก.

สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๑-๒. ‘‘อุจฺเจ มฺเจ’’ติ จ ‘‘อุจฺจา มฺเจ’’ติ จ กตฺถจิ. อายโตติ วิตฺถโต. อฏฺงฺคุลปาทกนฺติ ภาวนปุํสกํ, อฏฺงฺคุลปฺปมาณํ ปาทกํ วา.

มฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๘. โปฏกิตูลนฺติ ยํ กิฺจิ ติณตูลํ. ปฏิลาเภน อุทฺทาเลตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปฏิลาภมตฺเตเนว ปาจิตฺติยนฺติ วิย ทิสฺสติ, ปริโภเคเยว ปน อาปตฺติ ทฏฺพฺพา, ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนํ เอตฺถ สาธกํ.

ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๑. กิฺจาปิ นิสีทนสฺส ชาติ น ทิสฺสติ เอตฺถ, ตถาปิ จีวรกฺขนฺธเก อนุฺาตตฺตา, ‘‘นว จีวรานิ อธิฏฺาตพฺพานี’’ติ เอตฺถ จ ปริยาปนฺนตฺตา จีวรชาติเยวสฺส ชาตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวาติ สทส’’นฺติ ปุพฺเพ วุตฺตนิสีทนสนฺถตตฺตา อุปเมติ. ลาเภ สทสํ, อลาเภ อทสมฺปิ วฏฺฏตีติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ. ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ ตสฺส สณฺานนิยมนโต.

นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. กณฺฑุปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๙. ยทิ กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ นาม อโธนาภิ อุพฺภชาณุมณฺฑลา อุปฺปนฺนกณฺฑุปีฬกาทิปฏิจฺฉาทิกา อธิปฺเปตา, ตสฺส สุคตสฺส สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย ติริยํ ทฺเวติ อิทมฺปิ อติมหนฺตํ ปมาณํ ทิสฺสติ. สพฺโพ หิ ปุริโส อตฺตโน อตฺตโน วิทตฺถิยา สตฺตวิทตฺถิโก โหติ, สุคตสฺส จ เอกาวิทตฺถิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย โหนฺติ, ตสฺมา กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ ปกติปุริสสฺส ปมาณํ อาปชฺชติ ติริยํ, ทีฆโส ปน ทิคุณํ อาปชฺชตีติ. อาปชฺชตุ, อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท ตสฺสา, เจ อิจฺฉติ, สพฺพมฺปิ สรีรํ ปฏิจฺฉาเทสฺสติ, สพฺพสรีรคตสงฺฆาฏิ วิย พหุคุณํ กตฺวา นิวาเสตุกาโม นิวาเสสฺสตีติ อยํ ภควโต อธิปฺปาโย สิยา.

กณฺฑุปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๔๒. วสฺสิกสาฏิกาปิ อุกฺกฏฺปฏิจฺเฉทวเสน อนุฺาตา. วสฺสกาเล เกจิ สงฺฆาฏิปริโภเคเนว ปริภุฺชิสฺสนฺตีติ อยํ ภควโต อธิปฺปาโย สิยา. กิฺจาปิ อิมินา ตกฺเกน อนุฺาตา, ‘‘อปฺปมาณิกาโย กณฺฑุปฏิจฺฉาทิโย ธาเรนฺติ, วสฺสิกสาฏิกาโย ธาเรนฺตี’’ติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา ปน อฺถา ปุณฺณปริจฺเฉทโต อธิกปฺปมาณาโย เต ภิกฺขู ธาเรสุนฺติ กตฺวา เอตปรมตา ตาสํ อนุฺาตาติ เวทิตพฺพา. เอเสว นโย ทสเมปิ.

วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นนฺทตฺเถรสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๑. ตตฺถ ภิสึ วา พิพฺโพหนํ วา กโรตีติ ทีฆโส พหูนํ ภิกฺขูนํ สาธารณตฺถํ กโรตีติ ยุชฺชติ.

นนฺทตฺเถรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน รตนวคฺโค นวโม.

ปาจิตฺติยกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปาฏิเทสนียกณฺโฑ

๑. ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๓-๕. ‘‘ปฏิเทเสตพฺพาการทสฺสน’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปาฬิยํ อาคตวเสเนว อาปตฺติ เทเสตพฺพา, น อฺถา. ‘‘อนฺตรฆเร อนฺตรฆรสฺี’’ติอาทินา จ ‘‘ขาทนียโภชนีเย อขาทนียอโภชนียสฺี’’ติอาทินา จ ‘‘ภิกฺขุนิยา อภิกฺขุนิสฺี’’ติอาทินา จ นเยน อปเรปิ ตโย ติกจฺเฉทา โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพา.

ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๙. ‘‘นิมนฺติตา ภุฺชนฺตีติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา ภุฺชนฺตี’’ติ กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติตตา เอตฺถ น องฺคํ, มาติกาฏฺกถายํ วา อิธ วา อนาปตฺติวาเร เลสาภาวโต, ตสฺมา ‘‘นิมนฺติตา’’ติ ปทสฺส อตฺโถ ปุพฺเพ อาจิณฺณวเสเนว วุตฺโต. อปเรปิ ตโย ติกจฺเฉทา โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพา ปทภาชเน วุตฺตตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ยถา ตถา หิ ภุฺชนฺตานํ ตาทิสํ ภิกฺขุนึ อวาเรนฺตานํ ปาฏิเทสนียเมว. ‘‘เอสา โวสาสติ นาม, โวสาสนฺตี’’ติ จ ทุวิโธ ปาโ. ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร’’ติ วจเนน ปุน ‘‘คารยฺหํ อาวุโส ธมฺม’’นฺติ เอกวจนํ วิรุทฺธนฺติ. ปมํ อชฺโฌหาเรเยว อาปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตถา อฺตฺราปิ อาคจฺฉติ ‘‘อาปชฺชิมฺหา’’ติ วจนโต. เอเกน พหูนมฺปิ วฏฺฏตีติ เกจิ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘เตหิ ภิกฺขูหี’’ติอาทินา ปาเ วุตฺตตฺตาติ มม ตกฺโก. เอเกน สเหว ‘‘อหํ อาปชฺชิ’’นฺติปิ วตฺตพฺพนฺติ เอเกน ทฺวีหิ ตีหิ เทเสตพฺพโต, สพฺเพหิ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อาปชฺชิมฺหาติ สเหวา’’ติ วทนฺติ. เอเกน เจ อวาริโต, ‘‘อหํ, อาวุโส, คารยฺหํ ธมฺมํ อาปชฺชิ’’นฺติปิ วตฺตพฺพํ.

ทุติยปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๖๒-๕๗๐. ตติยจตุตฺถสิกฺขาปทานิ อุตฺตานตฺถานิเยว.

ปาฏิเทสนียกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เสขิยกณฺโฑ

๑. ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา

๕๗๖. ‘‘สิกฺขิตสิกฺเขนาติ จตูหิ มคฺเคหี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา อฏฺงฺคุลมตฺตํ โอตาเรตฺวา นิวตฺถเมว นิสินฺนสฺส จตุรงฺคุลมตฺตํ โหติ, ตสฺมา อุโภเปเต อฏฺกถาวาทา เอกปริจฺเฉทา, ‘‘อฑฺฒเตยฺยหตฺถ’’นฺติ สุขุมํ, เอกปตฺตํ วา สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ยถาาเนน ติฏฺติ. ทุปฏฺฏํ สนฺธาย ‘‘ทฺวิหตฺถปฺปมาณมฺปี’’ติ วุตฺตนฺติ อุปติสฺสตฺเถโร. เอกปฏฺฏํ, ทฺวิปฏฺฏํ วา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ‘‘ทฺวิหตฺถปฺปมาณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ นิสฺสคฺคิยอฏฺกถายํ ‘‘ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏตี’’ติ, ตฺจ โข อลาเภ เอว ‘‘อลาเภ ติริยํ ทฺวิหตฺถปฺปมาณมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อิทํ สพฺพํ อธิฏฺานุปคํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิรุทฺธํ ทิสฺวา สชฺเชตพฺพํ. โน เจ สชฺเชติ, ทุกฺกฏํ. สจิตฺตกํ ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตเนว ‘‘อนาทริยํ ปฏิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา, น วตฺถุวิชานนจิตฺเตน ‘‘อิทเมวํ กต’’นฺติ ชานโตปิ อาปตฺติยา อภาวโต. ผุสฺสเทวตฺเถรวาโทปิ เอเกน ปริยาเยน ยุชฺชติ. ตถา อุปติสฺสตฺเถรวาโทปิ. ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท อปฺตฺเตปิ ยํ ปกติยา วชฺชํ, ตํ โลกวชฺชํ. อิทํ ปน ปฺตฺเตเยว วชฺชํ, นาปฺตฺเต, ตสฺมา อิตรโลกวชฺเชน อสทิสตฺตา น โลกวชฺชํ. ปณฺณตฺติโต ปฏฺาย วชฺชโต ปณฺณตฺติวชฺชํ. อนาทริยจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา สจิตฺตกํ, ตสฺส จิตฺตสฺส ติเวทนตฺตา ติเวทนํ. ยสฺมา อนาทริยจิตฺตตา นาม เกวลํ อกุสลเมว, ตฺจ ปกติยา วชฺชํ, ตสฺมา อิทํ โลกวชฺชํ. สฺจิจฺจ วีติกฺกมนํ นาม โทมนสฺสิกสฺเสว โหตีติ ทุกฺขเวทนํ. คณฺิปเท ปน ‘‘ปาณาติปาตาทิ วิย นิวาสนาทิโทโส โลกครหิโต น โหตีติ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร’’ติ ลิขิตํ.

๕๗๗. วิหาเรปีติ พุทฺธุปฏฺานาทิกาเล, ตสฺมา ‘‘ปารุปิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตราสงฺคกิจฺจวเสน วุตฺตํ. ปมทุติยสิกฺขาปเทสุ ปริฬาหาทิปจฺจยา กปฺปติ, น อนฺตรฆรปฏิสํยุตฺเตสุ.

๕๘๒. ‘‘เอกสฺมึปน าเน ตฺวา’’ติ เอตฺถ ‘‘คจฺฉนฺโตปิ ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ ลภติเยว. ตถา คาเม ปูช’’นฺติ ลิขิตํ, ตํ ปน ‘‘เอกสฺมึ าเน ตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ตาทิสํ อนฺตรายํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา

๕๘๖. หสนียสฺมินฺติ เหตฺวตฺเถ ภุมฺมํ, หสิตพฺพวตฺถุการณาติ อตฺโถ. อนฺตรฆเร อุจฺจาสทฺเทน อนุโมทนาทึ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ กิร. ตถา หิ มหินฺทตฺเถโรปิ หตฺถิสาลาทีสุ มหาชนสฺส กเถสิ.

๕๙๑. เกจิ ภิกฺขู ‘‘ปริกฺขารฏฺปนมตฺเตน วาสูปคโต โหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. ภิกฺขุนิโย เจ วาสูปคา โหนฺติ, ภิกฺขุนุปสฺสโยว กปฺปิยภูมิ. ‘‘ยตฺถ ภิกฺขุนิโย เอกรตฺตมฺปิ วสนฺติ, อยํ ภิกฺขุนุปสฺสโย’’ติ (ปาจิ. ๑๖๑) วจนโต ตาสํ สมีปํ วา ตาหิ คหิตวาสาคารํ วา ‘‘คจฺฉามี’’ติ คจฺฉโต ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. น หิ ตาวตา ตํ ฆรํ อนฺตรฆรสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโย.

อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ขมฺภกตวคฺควณฺณนา

๖๐๔. สูโป ปตฺตปฺปมาณวณฺณนายํ วุตฺตากาโร. โอโลณี วุจฺจติ กุธิตํ, โครสโต ปูรา ถูปิโตติ อตฺโถ.

๖๐๕. เหฏฺา โอโรหตีติ เอตฺถ ‘‘โอโรหนปฺปมาเณ สติ เอกเทเส ถูปีกเตปิ อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ปตฺตสฺส ปน เหฏฺา จ อุปริ จ ปทุมินิปณฺณาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา โอทหนฺติยา ลทฺธํ นาม วฏฺฏตี’’ติ จ วทนฺติ. เอตฺถ ‘‘ยสฺมา ‘สมติตฺติโก ปิณฺฑปาโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ’ติ วจนํ ปิณฺฑปาโต สมปุณฺโณ ปฏิคฺคเหตพฺโพติ ทีเปติ, ตสฺมา อตฺตโน หตฺถคเต ปตฺเต ปิณฺฑปาโต ทิยฺยมาโน ถูปีกโตปิ เจ โหติ, วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ หิ วจนํ ปมํ ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปจฺฉา ปฏิคฺคณฺหโต, อาปตฺตีติ ทีเปติ. ปตฺเตน ปฏิคฺคณฺหโต เจปิ ถูปีกตํ โหติ, วฏฺฏติ อถูปีกตสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา. ปโยโค ปน นตฺถิ อฺตฺร ปุพฺพเทสา’’ติ จ ‘‘สมติตฺติกนฺติ วา ภาวนปุํสก’’นฺติ จ วทนฺติ, ตสฺมา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.

ขมฺภกตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา

๖๐๙. สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปเท ‘‘สูโป นาม ทฺเว สูปา’’ติ น วุตฺตํ สูปคฺคหเณน ปณีตโภชเนหิ อวเสสานํ สพฺพโภชนานํ สงฺคณฺหนตฺถํ. อนาปตฺติวาเร จสฺส ‘‘าตกานํ ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนนา’’ติ อิทํ อธิกํ. กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘อนาปตฺติ อสฺจิจฺจ อสติยา อชานนฺตสฺส คิลานสฺส อาปทาสู’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตํ น, ‘‘สมสูปกํ ปิณฺฑปาตํ ภุฺชิสฺสามี’’ติ อิมสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ กตฺถจิ ลิขิตํ, ตฺจ ปมาทวเสน ลิขิตํ. ‘‘มุเข ปกฺขิปิตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา โอคิลิตุกามสฺสปิ สหสา เจ ปวิสติ, เอตฺถ ‘อสฺจิจฺจา’ติ วุจฺจติ. วิฺตฺตมฺปิ อวิฺตฺตมฺปิ เอกสฺมึ าเน ิตํ สหสา อนุปธาเรตฺวา คเหตฺวา ภุฺชนฺโต ‘อสติยา’ติ วุจฺจตี’’ติ ลิขิตํ, อนาปตฺติวาเร เอกจฺเจสุ โปตฺถเกสุ ‘‘รสรเสติ ลิขิตํ, ตํ คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. กพฬวคฺควณฺณนา

๖๑๘. ‘‘สพฺพํ หตฺถ’’นฺติ วจนโต เอกเทสํ มุเข ปกฺขิปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอกจฺเจ. ‘‘สพฺพนฺติ วจนโต เอกเทสมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ อนาปตฺติวาเร อวิเสสิตตฺตา.

๖๒๔. สิตฺถาวการเก ‘‘กจวรํ ฉฑฺเฑนฺตํ สิตฺถํ ฉฑฺฑิยฺยตี’’ติ จ ‘‘กจวรํ ฉฑฺเฑนฺโต’’ติ จ ปาโ.

กพฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา

๖๒๗. ‘‘สุรุสุรุ’’นฺติ จ ‘‘สุโรสุโร’’ติ จ ปาโ. สีตีกโตติ สีตงฺโก. ‘‘สิลกพุทฺโธติ อริยานํ ปริหาสวจนเมเวต’’นฺติ ลิขิตํ.

๖๓๑. ปฏิกฺกูลวเสนาติ เอตฺถ ยทิ ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, ‘‘เสยฺยถาปิ กามโภคิโน’’ติ น วตฺตพฺพํ. น หิ เต ปฏิกฺกูลํ กโรนฺตีติ เจ? น, อิสฺสริยลิงฺควเสน คหณสมฺภวโต. เต หิ อนาทรา โหนฺติ. ปตฺตโธวนนฺติ ปตฺตโธวโนทกํ โภชนปฏิสํยุตฺตํ.

๖๓๔. ‘‘ฉตฺตปาทุกาย’’นฺติ จ ‘‘ฉตฺตปาเท’’ติ จ ปาโ.

๖๓๗. จาโปติ สตฺตขาทนวโธ. ‘‘เสสา สพฺพา ธนุวิกติ โกทณฺเฑ ปวิฏฺา’’ติ จ ลิขิตํ, ปฏิมุกฺกนฺติ ปเวสิตํ, ลคฺคิตํ โหตีติ อตฺโถ.

สุรุสุรุวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา

๖๔๐. สยํ ยานคโต หุตฺวา, ยถา ยานคตสฺส เว.

อลํ วตฺตุํ ตถา นาลํ, สฉตฺโต ฉตฺตปาณิโน.

ยถา เอตฺถ, เอวํ อฺตฺราปิ.

๖๔๗. ฉปกวตฺถุสฺมึ ‘‘สจาหํ น ลภิสฺสามี’’ติ ปาโ, ‘‘ทส เจ น ลภิสฺสามี’’ติ จ อตฺถิ, ‘‘วตฺถุสฺมึ อคิลานสฺสา’’ติ จ อาคจฺฉติ, ตํ น สุนฺทรํ, สิกฺขาปเทเยว สุนฺทรํ. โถมิโตติ อหมฺปิ ชานามีติ สมฺพนฺโธ . ยา ธนยสลาภสงฺขาตา วุตฺติ วินิปาเตน โหติ สมฺปราเย อปาเยสุ วินิปาตเหตุ หุตฺวา ปวตฺตติ. อถ วา วินิปาเตนาติ เหตฺวตฺเถ กรณวจนํ, วินิปาตนาย ปวตฺตตีติ อธิปฺปาโย. อธมฺมจรเณน อธมฺมจรณาย. ‘‘อสฺมา กุมฺภิมิวา’’ติ จ ปนฺติ.

ปาทุกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกวณฺณนา

กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺหนฺตีติ กตฺวา ‘‘สมนุภาสนสมุฏฺานานี’’ติ วุตฺตานิ. สมนุภาสนํ กิริยํ. อิมานิ กิริยานิ. ธมฺมเทสนสมุฏฺานานิ วาจาจิตฺตโตติ เอตฺถ กายวจีวิฺตฺติภาวโต อุชฺชคฺฆิกอุจฺจาสทฺทาทีสุ วิย ‘‘กายวาจาจิตฺตโต’’ติ วตฺตพฺพานีติ เจ? น วตฺตพฺพานิ. นิสีทนคมนาหารปกฺขิปนาทิกายวิฺตฺติยา สพฺภาวา ตตฺถ ยุตฺตํ, น ธมฺมเทสเน ตาทิสสฺสาภาวา.

ปกิณฺณกวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสขิยกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สตฺตาธิกรณสมถวณฺณนา

‘‘เยภุยฺยสิกา กาตพฺพา…เป… ติณวตฺถารโก กาตพฺโพ, โส ปุคฺคโล’’ติ จ ลิขิตํ.

สตฺตาธิกรณสมถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุวิภงฺโค นิฏฺิโต.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา

๑. ปาราชิกกณฺฑวณฺณนา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

วิภงฺเค วิย ภิกฺขูนํ, วิตฺถารมภิสงฺขตํ;

อกตฺวา ภิกฺขุนีนมฺปิ, วกฺเข คณฺิปทกฺกมํ.

โย ภิกฺขุนีนํ วิภงฺโค อสฺส, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม ปตฺโตติ อตฺโถ.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ปมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๖-๗. ตตฺถ ตตฺถ านุปฺปตฺติกปฺา วีมํสา. ปทปฏิปาฏิยา เอวาติ มาติกาปทปฏิปาฏิยา เอว. ‘‘วุตฺตนฺติ สงฺคีติกานํ อุปสงฺกปฺปนานํ วิภาชนํ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ.

๖๕๘. ‘‘เอหิภิกฺขุนีติ ภิกฺขุนี, ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี’’ติ อิทํ ปน เทสนาวิลาสวเสน วุตฺตนฺติ เอเก. อฺพุทฺธกาเล อตฺถีติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ อมฺหากมฺปิ พุทฺธกาเล สมฺภวปฺปสงฺคโต, เอหิภิกฺขุนิยา ปฏิเสธฉายาทิสฺสนโต จ. ยถาห ธมฺมปเท วิสาขาวตฺถุสฺมึ (ธ. ป. อฏฺ. ๑. วิสาขาวตฺถุ) ‘‘ตสฺส จีวรทานสฺส นิสฺสนฺเทน อิมํ มหาลตาปสาธนํ ลภิ. อิตฺถีนฺหิ จีวรทานํ มหาลตาปสาธนภณฺเฑน มตฺถกํ ปปฺโปติ, ปุริสานํ อิทฺธิมยปตฺตจีวเรนา’’ติ. ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาย ปน ภิกฺขุนิยา สมฺภโว อฺพุทฺธกาเล กทาจิ สิยา, นตฺเถว อมฺหากํ พุทฺธกาเล. เทสนาวิลาเสน ปน ภิกฺขุเทสนากฺกเมเนว ภิกฺขุนินิทฺเทโส วุตฺโต, เตเนว ภิกฺขุสงฺฆวเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิโย วิชฺชมานาปิ ตตฺถ น วุตฺตา. ตาสํ อตฺถิตา อิมาย ปริวารกถาย เวทิตพฺพา –

‘‘อุโภ เอกโต อุปสมฺปนฺนา,

อุภินฺนํ หตฺถโต จีวรํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย;

สิยา อาปตฺติโย นานา,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);

อถ วา ปุถุชฺชนกาเล เอหิภิกฺขุสรณคมเนน อุปสมฺปนฺโนว อิตฺถิลิงฺคปาตุภาเวน ภิกฺขุนิภาเว ิตา ปุริสูปสมฺปนฺนํ อุปาทาย ‘‘เอหิภิกฺขุนี’’ติ, ‘‘ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี’’ติ จ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. โน เจ, ตํ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ เอเก, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. ‘‘วิฺู ปฏิพโล’’ติ ทฺวินฺนํ อวสฺสวภาวสฺส อิชฺฌนโต วุตฺตํ. เอตฺถ ยสฺมา ยํ กิฺจิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีนํ อคฺคหตฺถา ปุริสานํ หตฺเถหิ กทาจิ มิสฺสีภาวํ คจฺฉนฺติ, วนฺทนฺตานํ วา ปุริสานํ สิรานิ อคฺคปาเทหิ มิสฺสิตานิ กทาจิ โหนฺติ, เกสจฺเฉทนกาเล วา สิรํ ปุริสานํ หตฺเถหิ มิสฺสิตํ โหติ, จิตฺตํ นาเมตํ อติรทฺธคเวสิ, ทุรกฺขิยํ วา, ตสฺมา ‘‘มา อติลหุํ ปาราชิกาปตฺติ ภิกฺขุนีนํ โหตู’’ติ พุทฺธา ภควนฺโต การุฺเน ปาราชิกกฺเขตฺตปริจฺเฉทํ, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตปริจฺเฉทฺจ วิสุํ วิสุํ เทเสสุนฺติ เวทิตพฺพํ.

๖๕๙. ตพฺพหุลนเยนสา วุตฺตาติ เอตฺถ อยมนุคณฺิปทกฺกโม – เยภุยฺเยน กิริยสมุฏฺานตฺตา ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อวตฺวา ปน ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา อกิริยโตปิ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ เหฏฺา ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา นเยน กิริยสมุฏฺานตํ วตฺวา ตทนนฺตรํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา…เป… โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๖) นเยน อกิริยสมุฏฺานตายปิ วุตฺตตฺตา ปมปาราชิกสฺสาปิ ตพฺพหุลนเยเนว กิริยสมุฏฺานตา เวทิตพฺพา. น หิ ปเวสนสาทิยนาทิมฺหิ กิริยสมุฏฺานตา ทิสฺสติ. องฺคชาตจลนฺเจตฺถ น สารโต ทฏฺพฺพํ ‘‘โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฏฺํ น สาทิยติ, ิตํ น สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๘) เอตฺถ ิต น สาทิยเน ปกติยาปิ ปริปุณฺณจลนตฺตา. สาทิยนปจฺจยา หิ เสวนจลนฺเจตฺถ น ทิสฺสเตวาติ ตพฺพหุลนเยเนว กิริยสมุฏฺานตา คเหตพฺพา. ตตฺถ ตตฺถ อฏฺกถาสุ กสฺมา ตพฺพหุลนโย อวุตฺโตติ เจ? ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๙, ๔๒) มาติกายํ กิริยสมุฏฺานสฺส สรูเปน วุตฺตตฺตา ตทนุรูปวเสน วิภงฺคนยมโนโลเกตฺวา ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’มิจฺเจว วุตฺตํ. ยถา เจเตสุ ตพฺพหุลนเยน กิริยสมุฏฺานตา วุตฺตา, ตถา สุราทีนํ อกุสเลเนว ปาตพฺพตา, น อิตรถา ‘‘ยํ อกุสเลเนว อาปชฺชติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺเต โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชานํ นิยมนลกฺขณสิทฺธิ โหติ, ตถา ตํ อวตฺวา ‘‘ยสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา. เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ วุตฺเต โลกวชฺชวจนํ นิรตฺถกํ สิยา วตฺถุอชานนปกฺเขปิ อกุสเลเนว ปาตพฺพตฺตา. ยสฺมา ตตฺถ สุราปานวีติกฺกมสฺส อกุสลจิตฺตุปฺปาโท นตฺถิ, ตสฺมา ขนฺธกฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๘) ‘‘มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘วตฺถุอชานนปกฺเข ปาณาติปาตาทีนํ สิทฺธิกรอกุสลจิตฺตุปฺปาทสทิเส จิตฺตุปฺปาเท สติปิ สามเณโร สีลเภทํ นาปชฺชตี’’ติ. อภินิเวสวจนํ ปาณาติปาตาทีหิ สมานชาติกตฺตา สามเณรานํ สุราปานสฺส. ‘‘สุราทโย ปนิเม’’ติ วตฺถุํ ชานิตฺวา ปาตพฺพตาทิวเสน วีติกฺกมนฺตสฺส อกุสลสฺส อสมฺภโว นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข’’ติอาทิ.

กิฺเจตฺถ ยุตฺติวจเนน อรหนฺตานํ อปฺปวิสนโต สจิตฺตกาจิตฺตกปกฺเขสุ อกุสลนิยโมติ เจ? น, ธมฺมตาวเสน เสกฺขานมฺปิ อปฺปวิสนโต. อจิตฺตกปกฺเข อกุสลนิยมาภาวทสฺสนตฺถํ สุปนฺตสฺส มุเข ปกฺขิตฺตชลพินฺทุมิว สุราพินฺทุอาทโย อุทาหริตพฺพาติ. ตพฺพหุลนเยน หิ อตฺเถ คหิเต ปุพฺเพนาปรํ อฏฺกถาย สเมติ. ‘‘สทฺธึ ปาฬิยา อวิเสสตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสตีติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถ วิจาเรตพฺพํ . ยทิ วตฺถุชานนปกฺเข วินา อกุสเลน มชฺชปานํ สิยา, กสฺมา นาฬิมชฺฌํ นาติกฺกมติ อริยานํ ปานกาทิสฺีนนฺติ? สีลเภทวตฺถุวีติกฺกโม วินาปิ จิตฺเตน อริยานํ ธมฺมตาวเสเนว น สมฺภวตีติ เจ, น, จกฺขุปาลตฺเถรวตฺถุ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑) อาทิวิโรธโตติ. อปิจ ภิกฺขุโนปิ สามเณรสฺส วิย สุราปานํ สจิตฺตกเมว กสฺมา น ชาตนฺติ? อปฺปติรูปตฺตาติ เจ, สามเณรานมฺปิ อปฺปติรูปเมว. สหธมฺมิกา เอว หิ เต. มหาสาวชฺชตฺตาติ เจ? สามเณรานมฺปิ ตาทิสเมว. สามเณรานํ สจิตฺตกเมว ปาราชิกํ, อิตรํ ทณฺฑกมฺมวตฺถูติ เจ? ภิกฺขูนมฺปิ มชฺชปาเน นตฺถิ. เอตฺถ ติกปาจิตฺติเยน น ภวิตพฺพํ. มชฺเช อมชฺชสฺิสฺส ทุกฺกฏาปตฺติ ปฺาเปตพฺพา สิยา. ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติยวตฺถุ สามเณรานํ ปาราชิกํ โหติ ติรจฺฉานคตสามเณรานํ วิยาติ เจ? อจิตฺตกมฺปิ มชฺชปานาทีนํ สามเณรานํ ปาราชิกํ ปฺาเปตพฺพํ สิยา. นาจิตฺตกํ ปาราชิกํ สมฺภวตีติ เจ? น, ปณฺณตฺติวชฺชมฺปิ ปาราชิกํ สมฺภวตีติ. นิกายนฺตรปกฺเข อยเมว โทโส. อมฺหากฺหิ โลกวชฺชเมว มชฺชปานนฺติ. กสฺมา ปเนตฺถ สุราปานเมว ธมฺมตาวเสน อริยา น กโรนฺตีติ? น เกวลํ สุราปานเมว ธมฺมตาวเสน อริยา น กโรนฺติ, ปาเณสุปิ โกธวเสน ปาณสฺิตาย สีสจฺเฉทนาทีนิ น กโรนฺติ, สทารสฺาย ปรทารํ น วีติกฺกมนฺติ, อนตฺถภฺชกสฺาย อตฺถภฺชกมุสา น วทนฺติ, สมฺมาทิฏฺิสฺาย มิจฺฉาทิฏฺึ น ปฏิปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพา. อาจริยาปิ สุราปาเน อกุสลนิยมาภาวเมว วทนฺติ, ตสฺมา เอว มาติกาฏฺกถาย คณฺิปเท โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชาธิกาเร ‘‘สจิตฺตกปกฺเขอกุสลนฺติ สุราปานาทิสงฺคหตฺถํ, อิตรถา ยสฺส อกุสลเมวาติ วเทยฺยา’’ติ ลิขิตํ. กิริยสมุฏฺานตา ปนสฺส ตพฺพหุลนยเมว, น ปมปาราชิเก. กถํ? กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. เอตฺถ ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ กายสํสคฺคภาเว สติ ภิกฺขุนี กายงฺคมโจปยมานาปิ จิตฺเตเนว อธิวาเสนฺตี อาปชฺชติ, น เอวํ ภิกฺขุ. ภิกฺขุ ปน โจปยมาโนว อาปชฺชติ, เอวเมว ปมปาราชิเกปิ โจปเน สติ เอว อาปชฺชติ, นาสติ. ปเวสนํ สาทิยตีติ เอตฺถ ปเวสนสาทิยนํ นาม เสวนจิตฺตสฺสุปฺปาทนนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ‘‘วีมํสิตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

ปมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ อยฺเย ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺน’’นฺติ วจนโต, ‘‘อฏฺนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตรํ ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺน’’นฺติ (ปาจิ. ๖๖๖) วจนโต, อนฺเต ‘‘อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย อฏฺ ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทิวจนโต (ปาจิ. ๖๗๗), ปริวาเร ‘‘สาธารณปฺตฺติ อุภโตปฺตฺตี’’ติ (ปริ. ๒๐๑) วจนโต จ ภิกฺขุนิวิภงฺคํ ปตฺวา ภควา สาธารณานิ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺนวตฺถุสฺมึเยว ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา’’ติอาทินา นเยน สวิเสสมฺปิ อวิเสสมฺปิ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อนุกฺกเมน ปทภาชนํ, อาปตฺติเภทํ, ติกจฺเฉทํ, อนาปตฺติวารฺจ อนวเสสํ วตฺวา วิตฺถาเรสิ. สงฺคีติการเกหิ ปน อสาธารณปฺตฺติโยเยว อิธ วิตฺถาริตาติ เวทิตพฺพา.

๖๖๖. ตตฺถ ‘‘อฏฺนฺนํ ปาราชิกาน’’นฺติ อิทํ เกวลํ สงฺคีติการกานํเยว นยโต นิกฺขิตฺตวจนํ อิโต ปุพฺเพ ฉฏฺสตฺตมฏฺมานํ ปาราชิกานํ อปฺตฺตตฺตา. ภควตา ปน อิทํ ปฺาปิตมาทิสิกฺขาปทมฺปิ อุปาทาย ‘‘ฉนฺนํ ปาราชิกาน’’นฺติ วุตฺตํ สิยา. อิโต อุทฺธํ ปฺตฺตานิปิ อุปาทาย ‘‘อฏฺนฺนํ ปาราชิกาน’’นฺติ วจนํ อปรภาเค อุปฺปนฺนนฺติ เอกจฺเจ อาจริยา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทฺจ ปาราชิกํ ปจฺฉา ปฺตฺตํ, ตสฺมา ‘อฏฺนฺน’นฺติ วิภงฺเค วุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา อฏฺกถาจริยานํ มเตน สิทฺธเมตํ ยถาปฺตฺตานุกฺกมวเสเนว สงฺคีตานีติ. ‘‘อฺาสิ’’นฺติ ปาโ. อฺาสีติ น คเหตพฺโพ. ‘‘ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนวา’’ติ วจนโต วชฺชปฏิจฺฉาทิกํ ยา ปฏิจฺฉาเทติ, สาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทิกอาเยวาติ สิทฺธํ. กิฺจาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทนํ เปมวเสน โหติ, ตถาปิ สิกฺขาปทวีติกฺกมจิตฺตํ โทมนสฺสิกเมว โหตีติ กตฺวา ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ.

ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๖๙. อิมํ อธิปฺปายมตฺตนฺติ ‘‘โจเทตฺวา สาเรตฺวา’’ติ เอตํ. เอตฺถายํ วิจารณา – โย ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตกภิกฺขุนา สมานทิฏฺิโก ลทฺธินานาสํวาสโก โหติ, โส อวนฺทนีโย, กมฺมากมฺเม อุกฺขิตฺตโก วิย น คณปูรโณ, สหเสยฺยมฺปิ น ลภติ, น ตถา ภิกฺขุนี. สา หิ ยาว น สมนุภฏฺา, ตาว คณปูรกา จ โหติ, สํวาสฺจ ลภติ. ลทฺธินานาสํวาสิกานุวตฺติกาปิ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาว โหติ. อุกฺขิตฺโต เจ กาลงฺกโต, ตทนุวตฺตโก ภิกฺขุ ลทฺธินานาสํวาสโก โหติเยว. ตถา วิพฺภนฺเตปิ ตสฺมึ ติตฺถิยปกฺกนฺตเกปิ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย สามเณรภูมิยํ ิเตปีติ เอเก. เตสํ มเตน อุกฺขิตฺตเก ตถาภูเตปิ ภิกฺขุนี ตทนุวตฺติกา สมนุภาสิตพฺพาวาติ อาปชฺชติ. สมนุภาสนกมฺมํ สงฺฆายตฺตํ, สงฺเฆน สฺจิจฺจ ปุริมกาปตฺตึ อปเนตุํ น ยุตฺตํ วิย ขายติ. อุกฺเขปนียกมฺมฺจ อาปตฺติอทสฺสนมตฺเต, อปฺปฏิกมฺมมตฺเต, กุทิฏฺิอปฺปฏินิสฺสชฺชนมตฺเต จ กริยติ, ตสฺส อนุวตฺตนมตฺเตน สมนุภาสิตฺวา สาสนโต จาเวตพฺพานีติ น ยุตฺตนฺติ เจ? น วตฺตพฺพเมว, อิทํ อปาราชิกวตฺถูสุปิ ตปฺปสงฺคโต, อนฺวิสยตฺตา จ วินยสฺส.

ตติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๗๕. ‘‘โลกสฺสาทสงฺขาตสฺส มิตฺตสนฺถวสฺส วเสน ตํ ทสฺเสตุํ กายสํสคฺคราเคนาติ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ. ติสฺสิตฺถิโยติ ตีสุ อิตฺถีสุ, ติสฺโส วา อิตฺถิโย. ตํ น เสเวติ ตาสุ น เสวติ. อนริยาติ อุภโตพฺยฺชนา. พฺยฺชนสฺมินฺติ อตฺตโน พฺยฺชเน. น เสเวติ น เสวติ. น จาจเรติ นาจรติ. วณฺณาวณฺโณติ ทฺวีหิปิ สุกฺกวิสฺสฏฺิ. คมนุปฺปาทนนฺติ สฺจริตฺตํ.

๖๗๖. ‘‘นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา’’ติ เอตฺถ นิวตฺถสฺส วา ปารุตสฺส วา วตฺถสฺส คหณํ สาทิยตีติ อตฺโถ.

จตุตฺถปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาราชิกกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑวณฺณนา

๑. ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๘๑. อาหตโกติ อานีโต, นิยตโกติ อธิปฺปาโย. อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม สงฺฆสฺส วา อารามิกปุคฺคลสฺส วา วตฺถุสฺส การณา สงฺฆสฺส วาริกภาเวน สยเมว วา อธิกรณฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ เอโส ทาโส, ทาสี, วาปี, เขตฺตํ, อาราโม, อารามวตฺถุ, คาโว, คาวี, มหึสี, อชา, กุกฺกุฏา’’ติอาทินา โวหรติ, อกปฺปิยํ. ‘‘อยํ อมฺหากํ อารามิโก อารามิกา, อยํ วาปี อิตฺถนฺนาเมน สงฺฆสฺส หตฺเถ โทหนตฺถาย ทินฺนา. อิโต เขตฺตโต อารามโต อุปฺปชฺชนกจตุปจฺจยา อิโต คาวิโต มหึสิโต อชาโต อุปฺปชฺชนกโครสา อิตฺถนฺนาเมน สงฺฆสฺส ทินฺนา’’ติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘กโรนฺตี’’ติ วจเนน กิร อเนนกตํ อารพฺภ อาจิกฺขิตา นาม โหติ. คีวาติ เกวลํ คีวา เอว โหติ, น ปาราชิกํ. การาเปตฺวา ทาตพฺพาติ เอตฺถ สเจ อาวุธภณฺฑํ โหติ, ตสฺส ธารา น กาเรตพฺพา, อฺเน ปน อากาเรน สฺาเปตพฺพํ. ‘‘ติจิตฺตํ ติเวทน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘มานุสฺสยวเสน โกธุสฺสยวเสนา’’ติ ตพฺพหุลนเยน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๘๓. ภฏิปุตฺตกานํ กุมารภฏิกานํ คณา ภฏิปุตฺตคณา. กปฺปนฺติ กปฺปิยํ. กปฺปคติกนฺติ กปฺปิยสภาวํ. ปกฺกนฺตาสุปีติ อตฺตโน ปริสํ เปตฺวา อิตราสุ ปกฺกนฺตาสุ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา อริยาปิ วุฏฺาเปนฺตีติ กตฺวา วา กมฺมวาจาปริโยสาเน อาปตฺติกฺขเณ วิปากาพฺยากตสมงฺคิตาวเสน วา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปพฺพาชเน น ทุกฺกฏ’’นฺติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๘๗. ภทฺทากาปิลานี มหากสฺสปสฺส ปุราณทุติยา กิร. าตีนํ กุลํ ยสฺมึ คามเก, ตเทตํ คามกํ าติกุลํ, กุลสนฺนิหิตํ คามกํ อคมาสีติ อตฺโถ. ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติอาทีสุ วิย วา ทฺวิกมฺมิกํ กตฺวา คามกํ อคมาสิ าติกุลํ อคมาสีติปิ ยุชฺชติ.

๖๙๒. ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ วจเนนปิ เอวํ เวทิตพฺพํ – วิกาลคามปฺปเวสเน ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํเยว วเสน อุปจาโร ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ, อิตรถา ยถา เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺานํ ปริกฺเขปํ วิย กตฺวา ‘‘อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ตตฺถาปิ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วเทยฺย. ยสฺมา ปน ตตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺานโต อุตฺตริ เอโก เลฑฺฑุปาโต อุปจาโรติ อธิปฺเปโต, ตสฺมา ตทตฺถทีปนตฺถํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ปริกฺเขปารหฏฺานํเยว ‘อุปจาร’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ปริกฺเขปปริกฺเขปารหฏฺานานํ นินฺนานาการณทีปนตฺถํ ‘อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสา’ติ วุตฺตํ ปาฬิวิเสสมสลฺลกฺเขตฺวาว อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส อิธ อุปจาโร ปริกฺเขโป ยถา ภเวยฺย, ตํ อุปจารํ ปมํ ปาทํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพเมว ปาฬิยา วิเสสสพฺภาวโตติ. ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติปิ เอกจฺเจสุ ทิสฺสติ, ตํ น คเหตพฺพนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ปาฬิวิเสสมสลฺลกฺเขตฺวา’’ติ ทุวุตฺตํ, กสฺมา? วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปเทปิ กตฺถจิ ‘‘อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ ปาโ ทิสฺสตีติ, โส อนฺธกฏฺกถาปาโต คหิโตติ อาจริโย. อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโรกฺกมนเมว ปาโ ยุชฺชติ, น อติกฺกมนํ. กสฺมา? พหูสุ าเนสุ ปาฬิยา อฏฺกถาหิ วิรุชฺฌนโต, อิมสฺมึ วาปิ สิกฺขาปเท วิรุชฺฌติ. กถํ? คณมฺหา โอหียมานาย อรฺเ อาปตฺติ โหติ, น คาเม. อถ จ ปน นิทสฺสนมฺปิ ‘‘สิกฺขาปทา พุทฺธวเรนา’’ติ (ปริ. ๔๗๙) คาถา ทสฺสิตา, ตสฺมา อุปจาโรกฺกมนปริยาปนฺนนทึ อติกฺกาเมนฺติยา โหติ. กิฺจ ภิยฺโย ‘‘คจฺฉนฺตสฺส จตสฺโส อาปตฺติโย, ิตสฺส จาปิ ตตฺตกาติอาทีนํ (ปริ. ๔๗๕) ปริวารคาถานํ อฏฺกถาหิ อุปจาโรกฺกมนเมว ปาโติ นิฏฺํ คนฺตพฺพ’’นฺติ จ วุตฺตํ, สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา กเถตพฺพํ.

‘‘ปทสา คมนเมว หิ อิธาธิปฺเปตํ, เตเนว ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยาติอาทิมาหา’’ติ เอตฺถ วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทาทีสุ ตทภาวา ยาเนน วา อิทฺธิยา วา ปวิสโต, อทฺธานํ คจฺฉโต จ อาปตฺตีติ ทีเปติ. ตตฺถ อสารุปฺปตฺตา อาปตฺติโมกฺโข นตฺถีติ เอเก, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. ภิกฺขุนีวิหารภูมิ ‘‘คามนฺตร’’นฺติ น วุจฺจติ คามนฺตรปริยาปนฺนายปิ กปฺปิยภูมิตฺตา. ‘‘ปรโต ‘สเจ ภิกฺขุนีสุ มหาโพธิยงฺคณํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฏฺติ, ตสฺสา อาปตฺตี’ติอาทิวจนโต ภิกฺขุวิหาโร น กปฺปิยภูมีติ สิทฺธํ, ตสฺมา กฺจินคเร ขนฺธธมฺมวิหาโร วิย, กาวีรปฏฺฏเน สารีธมฺมวิหาโร วิย จ อฺโปิ โส วิหาโร, ตสฺมา สีมพทฺธสุขตฺถํ คามนฺตรภาเว นิรนฺตรา อธิฏฺานตฺถํ ปวิสนฺติยา, นิกฺขมนฺติยาปิ คามนฺตราปตฺติ โหตีติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. จตุคามสาธารณตฺตาติ เอตฺถ เอวํวิเธ วิหาเร สีมํ พนฺธนฺเตหิ จตฺตาโรปิ เต คามา โสเธตพฺพาติ เวทิตพฺพา. สํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนิยา วา มาตุคาเมน วา เถยฺยสตฺเถน วา สทฺธึ ตํ วิหารํ โอกฺกมนฺติยา จตสฺโส อาปตฺติโย เอกโตว โหนฺติ. ‘‘คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตาติ เอเก.

ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโสติ เอตฺถ สเจ ทุติโย ปาทุทฺธาโร กปฺปิยภูมิยํ โหติ, น สงฺฆาทิเสโส, อกปฺปิยภูมิยํ เอว สงฺฆาทิเสโส. ‘‘อุภยตีเรสุ วิจรนฺติ, วฏฺฏตีติ ทสฺสนูปจารสฺเสตฺถ สมฺภวา’’ติ ลิขิตํ, ตํ ยุตฺตํ. สวนูปจาโร เหตฺถ นทีปาเร, คามนฺตเร วา อปฺปมาณนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ปรตีรโต นทึ โอตริตฺวา ทสฺสนูปจารโต ทารูนิ, ปณฺณานิวา มคฺคิตฺวา อาเนติ, อนาปตฺติ. ติจีวรานิ ปรตีเร โอตาเปติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โอริมตีรเมว อาคจฺฉติ, อาปตฺตี’’ติ อติกฺกมิตุกามตาย ปวิฏฺตฺตา วุตฺตํ. ‘‘นฺหายนาทิกิจฺเจน ปวิฏฺานํ กตฺเถวาลยสมฺภวา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. คามนฺตเร ปมาณนฺติ อฏฺกถายํ ปรตีรโต นทึ โอตริตฺวา ทสฺสนูปจารโต ทารูนิ ปณฺณานิ สกคามโต โถกมฺปิ ตรณวาเรน น วฏฺฏติ กิร นิกฺขมิตฺวา ปวิสิตุํ.

อคามเกอรฺเติ อคามลกฺขเณ อรฺเติ อตฺโถ. อิมินา อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺสิตํ. ยสฺมา อิทํ อาปตฺติเขตฺตํ, ตสฺมา ยา ภิกฺขุนุปสฺสยโต คามสฺส อินฺทขีลํ อติกฺกมติ, สา อสนฺเต คาเม คณมฺหา โอหียนาปตฺตึ อาปชฺชติ. ทสฺสนสวนูปจาราภาเวปิ ปเคว คาเม อินฺทขีลาติกฺกมนกฺขเณเยว อาปชฺชติ. สเจ ตตฺถ เอกา ภิกฺขุนี อตฺถิ, ตสฺสา ทสฺสนสวนูปจาราติกฺกมนกฺขเณ อาปชฺชติ, อรฺมคฺคคมนกาเล เอวายํ วิธีติ น คเหตพฺพํ. คามโต ปน นิกฺขมนฺตี อิโต ปฏฺาย อาปชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อคามกํ อรฺ’’นฺติ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณมฺหา โอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘คณมฺหา โอหียนาปตฺติ สกึเยวาปชฺชติ. อิตรา คาเม คาเม ปาเร ปาเร อรุเณ อรุเณ จาติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทีนิ อสาธกานิ ยถาสมฺภวํ คเหตพฺพตฺตา. ‘‘มหาโพธิยงฺคณนฺติอาทิ เอวํ คามสฺส อาสนฺนฏฺาเนปิ อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ.

ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๙๔. ปฏิวตฺตาติ ปฏิวจนํ เทนฺติ. กมฺมโทสนฺติ ‘‘อนฺาย คณสฺส ฉนฺทนฺติ เอวมาที’’ติ ลิขิตํ. กตฺตพฺพฏฺานโทสนฺติ โปราณา. การกคณสฺสาติ การกสงฺฆสฺส. ‘‘ภิกฺขุนิสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา’ติ วุตฺตตฺตา การกสงฺโฆปิ อยเมวาติ เจ? ปมเมว การกสงฺฆํ น อามนฺเตตฺวา พลกฺกาเรนายํ ถุลฺลนนฺทา ตํ ภิกฺขุนึ โอสาเรสี’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ, ตสฺมา การกภิกฺขูนํ สมฺมุขาปิ เตสํ อนุมตึ ปมํ อคฺคเหตฺวา ตํ กมฺมํ น ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพนฺติ สิทฺธํ โหติ, ปฏิปฺปสฺสทฺธํ พลกฺกาเรน น กาตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ภิกฺขุนีปิ ทิฏฺาวิกมฺมํ กาตุํ ลภตี’’ติ จ ตตฺถ วุตฺตํ.

๖๙๘. อสนฺเต กมฺมการกสงฺเฆ โอสาเรติ, อนาปตฺตีติ เอตฺถ กิตฺตาวตา อสนฺโต นาม โหตีติ? อิทํ สพฺพตฺถ น วิจาริตํ. การกานํ กาลกิริยายาติ เอเก. เอกสฺสปิ อภาเวนาติ เอเก. เอกสฺมึ รชฺเชติ เอเก. เอกรฏฺเติ เอเก. เอกคาเมติ เอเก. เอกสฺมึ อาวาเสติ เอเก. ยตฺถ สกฺกา อปโลเกตุนฺติ เอเก. อนฺโตอทฺธโยชเนติ เอเก. ตตฺถ ตสฺมึ อาวาเส อสนฺเต การกสงฺเฆ โอสาเรติ, อนาปตฺตีติ อิทํ ปสํสนฺติ อาจริยา. ยตฺถ สกฺกา อปโลเกตุนฺติ สามีจิ.

จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๐๑. เอตํน วุตฺตนฺติ ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพติ เอตํ นิยมนํ น วุตฺตํ. ตํ อวจนํ ปาฬิยา สเมติ. กตรปาฬิยาติ? ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ อิมาย. ยทิ หิ ปุคฺคลสฺส อวสฺสุตภาโว น ปมาณํ, กึ อิมาย ปาฬิยา ปโยชนํ, ‘‘อนาปตฺติ อุโภ อนวสฺสุตา โหนฺติ, อนวสฺสุตา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา. อตฺตโน หิ อนวสฺสุตภาโวเยว ปมาณนฺติ. อิมสฺส ปน อนาปตฺติวารสฺส อยมตฺโถ – อุโภ เจ อนวสฺสุตา, สพฺพถาปิ อนาปตฺติ. อถ ภิกฺขุนี อนวสฺสุตา สมานา อวสฺสุตมฺปิ ‘‘อนวสฺสุโต’’ติ สฺาย ตสฺส หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหาติ, เอวมฺปิ อนาปตฺตีติ. อถ สา อนวสฺสุตาปิ อฺํ อนวสฺสุตํ วา อวสฺสุตํ วา ‘‘อวสฺสุโต’’ติ ชานาติ, ทุกฺกฏเมว. วุตฺตฺเหตํ อนนฺตรสิกฺขาปเท ‘‘กิสฺส ตฺวํ อยฺเย น ปฏิคฺคณฺหาสีติ. อวสฺสุโต อยฺเยติ…เป… นาหํ อวสฺสุตา’’ติ.

ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๐๕. เตนาติ ตสฺมา. ยสฺมา อุยฺโยชิกา น เทติ น ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺมา ปฏิคฺคโห น วิชฺชตีติ อตฺโถ. อิตริสฺสา ปริโภคปจฺจยา. ‘‘อกุสลจิตฺต’’นฺติ พาหุลฺเลน วุตฺตํ. ‘‘วฏฺฏตีติ สฺาย วทนฺติยาปิ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.

ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๑๒-๔. กมฺมวาจโต ปุพฺเพ อาปนฺนาปตฺติโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ตฺติยา ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ สงฺฆาทิเสเส ปตฺเตติ โปราณา. ตํ ‘‘อชฺฌาปชฺชนฺติยา’’ติ ปาฬิยา สเมติ. ‘‘สุตฺวา น วทนฺตี’’ติ เอตฺถ สเจ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายภยา น วทนฺติ, อนาปตฺติ . ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺติยา’’ติ สงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ.

สตฺตมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๑๕. ปจฺจากตาติ ปราชิตา. กุลทูสกสิกฺขาปทสฺส, อิมสฺส จ นิทานมตฺตเมว นานากรณํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ตสฺส วจนสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย เอว วจนีโย, น กุลทูสนนิวารณตฺถายา’’ติ. เอวํ สนฺเต อุโภเปตา อาปตฺติโย อฺมฺํ สภาคตฺถา, ตสฺมา อิทํ ตสฺส อนุปฺตฺติสทิสํ อาปชฺชติ, ตโต อิทํ นิรตฺถกเมว อาปชฺชตีติ? น เอวํ ทฏฺพฺพํ. วตฺถุวิเสสโต, กมฺมวาจาวิเสสโต จ อุภินฺนํ นานากรณํ.

อฏฺมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๒๓. ‘‘กายิกวาจสิเกน สํสคฺเคนา’’ติ ปาเสโส.

นวมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺฆาทิเสสกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิสฺสคฺคิยกณฺฑวณฺณนา

๑. ปมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๓๓. ปมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทํ อุตฺตานเมว.

๒. ทุติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๔๐. วตฺถุสมฺปตฺตตฺตา วา น ตสฺสา อนาปนฺนกามตาย วา อนาณตฺติกตาย วา อกาลจีวรมทํสุ. ยถาทาเน เอว อุปเนตพฺพํ, น ภาเชตพฺพํ ปุคฺคลิกตฺตาติ อธิปฺปาโย. อตฺถโต หิ อิตรมฺปิ ยถาทาเน เอว อุปเนตพฺพเมว. คณฺิปเท ปน ‘‘อยฺยาย ทมฺมีติ เอวํ ปฏิลทฺธนฺติ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ. ยถาทาเนติ ทายเกหิ ปริจฺจตฺตวิธาเนน. อุปเนตพฺพนฺติ อกาลจีวรภาเวน ภาเชตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อิธ ภาชาปิตาย ลทฺธจีวรเมว นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตํ วินยกมฺมํ กตฺวาปิ อตฺตนา น ลภตี’’ติ ลิขิตํ. ยทิ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ สิยา, ‘‘นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทเทยฺย, ทเทยฺยุํ, อยฺยาย ทมฺมี’’ติ วุตฺตตฺตา ตีณิเปตานิ ปทานิ วตฺตพฺพานิ สิยุํ, ตสฺมา น เกวลํ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธเมว ยถาทาเน อุปเนตพฺพํ, อฺาหิ ภิกฺขุนีหิ ลทฺธโกฏฺาสมฺปิ ยถาทาเนเยว อุปเนตพฺพํ.

๗๔๑. ‘‘อกาลจีวเร กาลจีวรสฺาย อนาปตฺตี’’ติ ปน ภาชนปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ นาปชฺชตีติ เอตฺตกเมว ทีเปติ, น ปฏิลทฺธํ, น ยถาทาเน ทาตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. เลเสน ปน คณฺหาติ เจ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺพา.

ทุติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๔๔. สกสฺาย คหิตตฺตา ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฺจ วุตฺตํ. อิตรถา ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺพํ.

ตติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๕๒. เลเสน คเหตุกามตา, อฺสฺส วิฺุสฺส วิฺาปนํ, ปฏิลาโภติ ตีณิ องฺคานิ, ตสฺมา ปมํ วิฺตฺตํ อลภิตฺวา อฺํ ตโต อูนตรมฺปิ ลเภยฺย, นิสฺสคฺคิยเมว องฺคสมฺปตฺติโต. เอส นโย อฺตฺถาปิ.

จตุตฺถนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๕๓. ‘‘เตลํ โคเปตฺวา สปฺปิมฺปิ เม อตฺตโน กุลฆรา’’ติ กิร ปาโ.

ปฺจมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉฏฺนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๕๘-๗๖๒. ปาวาริกสฺสาติ ทุสฺสวาณิชกสฺส. ยาย เจตาปิตํ, ตสฺสา นิสฺสคฺคิยํ, นิสฺสฏฺปฏิลาโภ จ. ‘‘อิตราสํ ปน ชานิตฺวา วสฺสคฺเคน ปตฺตโกฏฺาสํ สาทิยนฺตีนมฺปิ น นิสฺสคฺคิยํ, เกวลํ ยถาทาเน เอว ตาหิปิ อุปเนตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาปิ ยถาทาเน อุปเนตพฺพ’นฺติ วุตฺตตฺตา เสสาหิ คหิตํ สุคฺคหิต’’นฺติ วทนฺติ. เอตฺถ คิลานายปิ น โมกฺโข.

ฉฏฺนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๖๔. สตฺตเม ‘‘สยํ ยาจิตเกนา’’ติ กิฺจาปิ อวิเสเสน วุตฺตํ. ตถาปิ อฺทตฺถิเกน อตฺตุทฺเทสิเกน สฺาจิเกนาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยมตฺโถ ‘‘ภิกฺขุนิโย เตน จ ปริกฺขาเรน สยมฺปิ ยาจิตฺวา เภสชฺชํ เจตาเปตฺวา ปริภุฺชึสู’’ติ อิมิสฺสา ปาฬิยา อตฺเถน สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺโพ. ตสฺสายมตฺโถ – เตน ปริกฺขาเรน เภสชฺชํ เจตาเปตฺวา จ-สทฺเทน สฺาจิเกน จ เภสชฺชํ เจตาเปตฺวาติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต ‘‘สยมฺปิ ยาจิตฺวา เภสชฺชํ เจตาเปตฺวา’’ติ อาห. อฺถา ‘‘เตน ปริกฺขาเรน เภสชฺชํ เจตาเปตฺวา สยมฺปิ ยาจิตฺวา ปริภุฺชึสู’’ติ อิมินา อนุกฺกเมน ปาฬิ วตฺตพฺพา สิยา.

ปทภาชเน ปน ‘‘สํยาจิเกนาติ สยํ ยาจิตฺวา’’ติ ตสฺเสว ปทสฺส อธิปฺปายมตฺตํ วุตฺตํ. สา หิ ปทภาชนธมฺมตา. ‘‘สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณต’’นฺติอาทิปทานํ ภาชเน ปน สา ปากฏา. อฺถา สํยาจิกปเทน โก อฺโ อติเรกตฺโถ สงฺคหิโต สิยา, โส น ทิสฺสตีติ ตเทว ปทํ นิปฺปโยชนํ, อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปุริเมน นินฺนานากรณํ สิยา. อตฺตโน หิ สนฺตกํ ยถากามํ กรณียนฺติ. เอตฺถ จ สงฺฆสฺส ยาจนาย วเสน เอกโต หุตฺวา ยาจนาย ลทฺธํ สํยาจิกนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺถา อิโต ปเรน สํยาจิก-สทฺเทน อิทํ นิพฺพิเสสํ อาปชฺชตีติ ‘‘ปุคฺคลิเกน สํยาจิเกนา’’ติ อิทฺจ สิกฺขาปทํ วิสุํ น วตฺตพฺพํ สิยา อิเธว เตน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยา สงฺคหิตตฺตา, น จ สงฺคหิตา อาปตฺติทฺวยภาวโต. มิสฺเสตฺวา เจตาปิตตฺตา หิ เอกเมว อาปตฺตีติ เจ? น, สํยาจิกปทสฺส นิปฺปโยชนภาวปฺปสงฺคโต, เอวํ สงฺฆิกมหาชนิกปุคฺคลิกานิ มิสฺสิตฺวา เจตาปเน เอกาปตฺติภาวปฺปสงฺคโต จ.

สตฺตมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๖๙. คณสฺสาติ อาภิธมฺมิกาทิคณสฺส, อูนจตุวคฺคสฺส จ.

อฏฺมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๗๔. สฺาจิเกนาติ คณยาจนาย ลทฺเธเนว, น อฺเน.

นวมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๗๙. ทสเม ปน ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺทตฺถิเกน ปริกฺขาเรน อฺุทฺทิสิเกน ปุคฺคลิเกน อฺํ เจตาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํวิเธน ภวิตพฺพํ, ‘‘ปุคฺคลิเกน สํยาจิเกนา’’ติ อิมินา เอกาทสเมน ภวิตพฺพํ สิยา ยถากฺกเมน สมฺภวโต. กามเมว เจตํ อฏฺุปฺปตฺติยา อภาวโต น วุตฺตํ, อตฺถโต ปน คเหตพฺพเมว. เอตฺถ ปน สงฺฆคณปุคฺคลานํ ปวาริตฏฺาเน, ปุคฺคลสฺเสว าตกฏฺาเน จ อนาปตฺติฉายา ทิสฺสติ, อิทํ สพฺพํ อมฺหากํ ตกฺกานุสารวเสเนว วุตฺตนฺติ กตฺวา น สารโต ทฏฺพฺพํ. วิจาเรตฺวา ยถา นิจฺจลการณํ ทิสฺวา ยํ วา วินยกฺกมโกวิทา อนุชานนฺติ, ตํ ตเทว คเหตพฺพํ. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘อาปทาสุปิ อฺํ ครุภณฺฑเมว เจตาเปตพฺพํ, อิตรํ น วฏฺฏติ, ภิกฺขุสฺส ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

ทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. เอกาทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๘๔. ‘‘ทุติยวคฺคสฺส ปเม’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกาทสเม’’ติ อิธ วุตฺตํ. กสฺมา? ภิกฺขุนิวิภงฺเค ตึสกกณฺฑํ ปตฺวา วคฺคกฺกมสฺส อวุตฺตตฺตา. ยสฺมา ปวาริตฏฺาเน วิฺตฺติ นาม น ปฏิเสเธตพฺพา, ตสฺมา ภควา อฺาติกอปฺปวาริตฏฺาเน ธมฺมนิมนฺตนวเสน วเทยฺย ‘‘เยนตฺโถ’’ติ วุตฺตาย ‘‘จตุกฺกํสปรมํ วิฺาเปตพฺพ’’นฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. อฺถา ‘‘นิทาเนน สิกฺขาปทํ น สเมติ, สิกฺขาปเทน จ อนาปตฺติวาโร’’ติ จ ‘‘อกตวิฺตฺติยา จตุกฺกํสปรมํ วิฺาเปตพฺพ’’นฺติ จ อนิฏฺํ อาปชฺชติ, ตสฺมา มาติกาฏฺกถายํ เจตาเปตพฺพนฺติ เปตฺวา สหธมฺมิเก จ าตกปวาริเต จ อฺเน กิสฺมิฺจิเทว คุเณน, ปริตุฏฺเน จ วเทยฺย ‘‘เยนตฺโถ’’ติ วุตฺตสฺส ‘‘วิฺาเปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนเยน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘อิทํ ปริจฺฉินฺนปวารณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตานนฺติ ปน สพฺพปฺปกาเรน ปวตฺตํ นิจฺจปวารณํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิจฺจปวารณา นาม ยทา เยนตฺโถ, ตทา ตํ วเทยฺยาถาติ เอวํ ปวตฺตา . ‘หนฺท สีตปาวุรณ’นฺติ เทนฺตานํ ปน อติเรกจตุกฺกํสมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อยเมว นโย ทสเมปีติ.

เอกาทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนีวิภงฺเค ตึสกวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิสฺสคฺคิยกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปาจิตฺติยกณฺฑวณฺณนา

๑. ลสุณวคฺโค

๑. ปมลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๙๓-๗. อหํลสุเณนาติ เอตฺถ ‘‘ปวาเรมี’’ติ ปาเสโส. พทรสาฬวํ กิร พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กตฺตพฺพา ขาทนียวิกติ.

ปมลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๐๐. สํหราเปยฺยาติ ‘‘สํหรติ วา สํหราเปติ วา’’ติ ปทภาชนํ เวทิตพฺพํ. กิฺจาปิ เอตฺถ อาปตฺติเภโท น ทสฺสิโต, ตถาปิ ขุรสณฺฑาสกตฺตริอาทิปริเยสนฆํสนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ, ยถา เจตฺถ, เอวํ ตลฆาตกาทิมฺหิ จ อาปตฺติเภโท ปาฬิยํ น วุตฺโต. ยถาสมฺภวํ ปน ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ สมฺภวติ. เอวํ ภิกฺขุสฺส เอตฺถ จ ลสุเณ จ ทุกฺกฏํ. อิทํ กิริยากิริยนฺติ โปราณา. ตตฺถ ‘‘กิริยากิริย’’นฺติ น วุตฺตํ.

ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘๐๒-๖. ตติยจตุตฺถสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๑๒. ปฺจเม อุทกสุทฺธิปจฺจเย สติปิ ผสฺสสาทิยเน ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ ปพฺพานนฺติ ‘‘ทฺวินฺนํ องฺคุลานํ สหปเวสเน เอเกกองฺคุลสฺส เอเกกํ ปพฺพํ กตฺวา ทฺเว ปพฺพา, เอกงฺคุลปฺปเวสเน ทฺวินฺนํ ปพฺพานํ อุปริ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยมฺปิ อยเมว นโย ทสฺสิโต’’ติ ลิขิตํ.

ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘๑๕. ฉฏฺสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๒๐-๘๒๒. ‘‘นครํ อติหรนฺตี’’ติ ปาโ. ‘‘นครทฺวาเร อติหรนฺตี’’ติ กตฺถจิ, ตตฺถ ทฺวาเรนาติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. ตํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธนฺติ ‘‘ปุนปิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ วาทํ สนฺธาย, น ตโต ปุพฺเพ ตตฺถ วุตฺตํ วาทํ. เอตฺถ ‘‘มาตรมฺปิ วิฺาเปตฺวาติ วจเนน วิรุชฺฌตี’’ติ ลิขิตํ, ตํ ทุลฺลิขิตํ, น หิ เตน วิโรธํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ. กรเณ เจ ปาจิตฺติยํ, การาปเนปิ ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพํ. อถ การาปเน ทุกฺกฏํ, กรเณปิ ทุกฺกเฏเนว ภวิตพฺพํ. น หิ กรเณ วา การาปเน วา วิเสโส อตฺถิ อาปชฺชเน สตีติ อธิปฺปาโย.

๘๒๓. สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. น หิ ปฏิคฺคเหตุํ วฏฺฏติ. อนามาสตฺตา ‘‘อามกธฺํ ปน าตกปวาริตฏฺาเนปิ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อนุคณฺิปเท ปน ‘‘กปฺปิเยน ลทฺธํ ธฺํ ภชฺชิตฺวา ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ. อปรณฺเณปิ เอเสว นโย’’ติ จ ‘‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยาติ วจนโต สตฺต ธฺานิปิ อนามาสานีติ สิทฺธํ, เตเนว เหฏฺา อฏฺกถายํ ทุกฺกฏวตฺถุมฺหิ สตฺต ธฺานิปิ คหิตานิ อนามาสานี’’ติ จ วุตฺตานิ. อามาสานิ กปฺปิยวตฺถูนิ จ ยทิ ภเวยฺยุํ, ยถา าตกปวาริเต สนฺธาย ‘‘อปรณฺณํ วิฺาเปตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตานํ อฺสฺส อตฺถาย วิฺาเปติ, อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยสฺมา ทุกฺกฏวตฺถุตฺตา จ อนามาสตฺตา จ มาตรมฺปิ สตฺตวิธํ ธฺํ วิฺาเปตุํ น วฏฺฏติ , ตสฺมา ตทตฺถทีปนตฺถํ สตฺตวิธํ ธฺํ สนฺธาย ‘‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ, ยถา ภิกฺขุนิยา อาพาธปจฺจยา วฏฺฏติ, ตถา ภิกฺขุสฺสาปีติ จ. ยถา วา ปน ภิกฺขุนิยา ภชฺชนาทีนิ การาเปตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ ภิกฺขุสฺสาปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘อฺตโร พาลภิกฺขุ กปฺปิยํ อชานนฺโต เอตทโวจ ‘อามกธฺํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ. เอตํ ธฺํ ภชฺชิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปจิตฺวา ยาคุขชฺชกํ ภตฺตฺจ เทถา’ติ, อาณาปกสฺเสว ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ, สพฺเพสํ อนาปตฺตี’’ติ. ตสฺมา ‘‘สงฺฆวาริกานํ ธฺํ โกฏฺเฏถา’’ติ อารามิกานํ วตฺตุฺจ น วฏฺฏติ. ‘‘ทิวสํ ปริพฺพยํ คณฺหถ, ตณฺฑุเล สมฺปาเทถ, ตฺวํ เอตฺตเก คณฺห, ตฺวํ เอตฺตเก’’ติ เอวมาทีนิ ปน วตฺตุํ วฏฺฏตีติ จ. ยํ ปน ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ เหฏฺา ‘‘อิมํ ตฬากํ เขตฺตํ วตฺถุํ วิหารสฺส เทมา’ติ วุตฺเต ‘สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ นยํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สุวุตฺตเมว. ‘‘นวกมฺมตฺถาย ธฺํ เทมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ วตฺตพฺพํ. ยํ ปน เหฏฺา ‘‘ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ…เป… ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมวา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. กสฺมา? ‘‘เจติยสฺส อตฺถาย ธฺํ ทาตุกาโมมฺหิ, ตุมฺเห ภนฺเต ตทตฺถาย สมฺปฏิจฺฉถา’’ติ วุตฺเต ปฏิคฺคเหตุํ อกปฺปิยตฺตา. ‘‘อิทํ ปน ตาทิสํ น โหตี’’ติ จ วุตฺตํ. สพฺโพปายํ อุปติสฺสตฺเถรวาโท กิร. ธมฺมสิริตฺเถโร ปเนวมาห ‘‘ปุพฺเพปิ นวกมฺมตฺถาย ปฏิคฺคโห น วาริโต, สงฺฆสฺสตฺถาย ปฏิคฺคหิตมฺปิ ปฏิคฺคาหกสฺเสว อกปฺปิย’’นฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๒๔. โปราณา ‘‘นิพฺพิฏฺราชภโฏ’’ติ ปนฺติ. ตสฺสตฺโถ วาริตภตฺตเวตโน ราชภโฏติ. ‘‘ตฺเว ภฏปถนฺติ ตํเยว ภตฺตเวตน’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. อุมฺมุกนฺติ อลาตํ.

๘๒๖. เอตฺถ ฉฑฺฑิตํ กิริยา. อโนโลกนํ อกิริยา.

อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๒. ‘‘สามิเก อปโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตี’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก นตฺถิ, กตฺถจิ อตฺถิ, อตฺถิภาโวว เสยฺโย กิริยากิริยตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อิธ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกา เอว. ‘‘สงฺฆสฺส เขตฺเต, อาราเม จ ตตฺถ กจวรํ น ฉฑฺเฑตพฺพนฺติ กติกา เจ นตฺถิ, ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ตาสมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆสนฺตเก วุตฺตนเยน วฏฺฏติ, น ตตฺถ ภิกฺขุสฺส, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสเนว กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

นวมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๓. สาธุกีฬิตคีตํ วาติ เอตฺถ ปาจิณฺณคีตมฺปิ โสตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘คีตุปสฺหิตํ ปน ธมฺมํ โสตุํ วฏฺฏตีติ ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘ธมฺมคีตมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ‘‘พุทฺธสฺส คายาม วาเทมาติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปูชํ กโรม, ชาตกํ วา วตฺถุํ วา เทเสมาติ วุตฺเต ‘สาธู’ติ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จ วุตฺตํ.

๘๓๖. เอกปโยโค นาม เอกทิวสาวโลกนํ. เตสํเยวาติ เยสํ นจฺจํ ปสฺสติ. ‘‘ภิกฺขุนี สยมฺปิ นจฺจิตุํ วา คายิตุํ วา วาทิตุํ วา น ลภตี’’ติอาทิ อิธ สิกฺขาปเท นตฺถิ. กสฺมา? เอฬกโลมสมุฏฺานตฺตา. ยทิ เอวํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? สุตฺตานุโลมมหาปเทสโต. ยทิ นจฺจาทีนิ ปสฺสิตุํ วา โสตุํ วา น ลภติ, ปเคว อตฺตนา กาตุนฺติ นยโต ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. อิตรถา มหาปเทสา นิรตฺถกา สิยุํ. เอวมฺตฺถาปิ นโย เนตพฺโพ. ‘‘สมุฏฺานมฺปิ อิธ วุตฺตเมว อคฺคเหตฺวา ฉสมุฏฺานวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ ลิขิตํ. ตํ ‘‘อฺเ นจฺจ, คาย, วาเทหี’’ติ วตฺตุํ น ลพฺภตีติอาทิวจีกมฺมํ สนฺธาย ลิขิตฺเจ, ตํ สุลิขิตํ เอฬกโลมสมุฏฺาเน วาจาย อภาวโต. ‘‘สยมฺปิ นจฺจิตุ’’นฺติอาทิกายกมฺมฺเจ สนฺธาย ลิขิตํ, ทุลฺลิขิตํ. เอฬกโลมสมุฏฺานฺหิ เอกนฺตโต กายกมฺมํ โหติ, ตสฺมา อุทฺธฏํ อคฺคเหตฺวา อาทิสทฺเทน สงฺคหิตเมว อิธ คเหตพฺพนฺติ. เอตํ เอฬกโลมสมุฏฺานตฺตาติ เอตฺถ การณวจเน สุตฺตานุโลมมหาปเทสโตติ เอตฺถ ปน อุทฺธฏํ คเหตพฺพํ, เอวํ ยถาลาภวเสน ตํ ลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อาหจฺจภาสิตสิกฺขาปทวเสน เอฬกโลมสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ อุปติสฺสตฺเถโร. ‘‘เอฬกโลมสมุฏฺานฺเจ อิทํ สิกฺขาปทํ, อาณาปโก มุจฺเจยฺย, น จ มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ‘‘กสฺมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺต’’นฺติ อฏฺกถาจริโย อาหาติ ธมฺมสิริตฺเถโร.

๘๓๗. อาราเม ตฺวาติ น เกวลํ ตฺวา, ตโต คนฺตฺวา ปน สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติ. ‘‘อาราเม ิตาติ ปน อารามปริยาปนฺนาติ อตฺโถ, อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยา’’ติ ลิขิตํ, ตํ สุลิขิตเมว.

ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ลสุณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อนฺธการวคฺควณฺณนา

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๙. ‘‘ทิวาปิ อนฺธการํ อตฺถิ, ตปฺปฏิเสธนตฺถํ ‘รตฺตนฺธกาเร’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ โปราณา. สนฺติฏฺเยฺยาติ เอตฺถ านาปเทเสน จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สงฺคหิโต, ตสฺมา ปุริสสฺส หตฺถปาเส เตน สทฺธึ จงฺกมนาทึ กโรนฺติยา ปาจิตฺติยเมว. ‘‘สลฺลเปยฺย วา’’ติ เกวลํ นิทานวเสน วุตฺตํ วิเสสาภาวโต. ‘‘สลฺลเปยฺยวาติ ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตนฺติ เอเก. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺส ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิเตเนว เอกํ ปาจิตฺติยํ. สลฺลปเนนปิ อปรมฺปิ เอกํ อาปชฺชตีติ นาปชฺชติ, กถํ ปฺายตีติ? องฺควเสน. อิมสฺส หิ รตฺตนฺธการตา, ปุริสสฺส หตฺถปาเส านํ วา สลฺลปนํ วา, สหายาภาโว, รโหเปกฺขตาติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ ยทิ านปจฺจยา เอกา อาปตฺติ วิสุํ สิยา, ตสฺสา จตฺตาริ องฺคานิ สิยุํ. ยทิ สลฺลปนปจฺจยา เอกา, ตสฺสาปิ ปฺจ องฺคานิ สิยุํ. ตสฺมา มาติกาฏฺกถายํ ‘‘จตฺตาริ วา ปฺจ วา องฺคานี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ, ตสฺมา สลฺลปนปจฺจยา วิสุํ นตฺถีติ. อตฺถิเยว, มาติกาฏฺกถาวจนฺจ ตทตฺถเมวาติ เอเก. กถํ? สหุปฺปตฺติโต ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ. กึ วุตฺตํ โหติ? สลฺลปเน สติ านปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ จตุรงฺคิกํ, สลฺลปนปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ จตุรงฺคิกนฺติ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ สหุปฺปนฺนานิ เอกโต อาปชฺชนฺตีติ. อิทํ อยุตฺตํ ปาฬิวิโรธโต. ปาฬิยฺหิ ‘‘สลฺลเปยฺย วาติ ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ทฺเว สิยุํ, ‘‘อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ปาจิตฺติยาน’’นฺติ น วตฺตพฺพตา สิยาติ. อยํ นโย ทุติยาทีสุปิ ยถาโยคํ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ทุติเยนาปิ สทฺธึ ยทิ ภิกฺขุนิยา รโหเปกฺขตา อตฺถิ, โส เจ ปุริโส, น ทุติโย, ปุริสคณนาย อาปตฺติโย. อถ ทุติยา ภิกฺขุนี โหติ, ตสฺสา จ เตน ปุริเสน สทฺธึ รโหเปกฺขตา อตฺถิ, สา จ ภิกฺขุนี น ทุติยา โหติ. อุภินฺนมฺปิ อาปชฺชตีติ เอเก, วิจาเรตฺวา ปน คเหตพฺพํ. โปราณคณฺิปเท ปน วุตฺตํ ‘‘หตฺถปาเส าเนน ทุกฺกฏ’’นฺติ, ตํ ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. ‘‘ปุริสสฺส หตฺถปาเส ติฏฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ หิ ปาฬิ, กึพหุนา. จตุตฺถสิกฺขาปเท มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยิกอุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘สนฺติฏฺนาทีสุ ตีณิ ปาจิตฺติยานี’’ติอาทิวจนโต วตฺถุคณนาย อาปตฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘องฺคานิ เจตฺถ จตฺตาริ ปฺจ วา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ สนฺนิฏฺานํ.

ปมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒-๓-๔. ทุติยตติยจตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๔๒-๖. ทุติยตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานานิ. สพฺพตฺถ ‘‘สลฺลปตีติ ยํ กิฺจิ ติรจฺฉานกถํ กเถตี’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

๘๕๒. จตุตฺเถ ปนายํ วิเสโส – ‘‘เอเกเนกา’’ติ ปมํ วุตฺตตฺตา ทุติยิกํ วา ภิกฺขุนีนํ อุยฺโยเชยฺย, ปาจิตฺติยํ น สมฺภวตีติ เจ? สมฺภวติ. กสฺมา? สนฺติฏฺนาทิตฺตยมตฺตาเปกฺขตฺตา, ตสฺส วจนสฺสาปิ วา อฺายปิ รโหเปกฺขนสฺสาทสมฺภเว สติ อุภินฺนํ เอกตฺถสมฺภวโต จ สาธิตเมตํ. ‘‘หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. กสฺมา ‘‘นิกณฺณิกํ วา ชปฺเปตี’’ติ น วุตฺตํ? หตฺถปาสาติกฺกเม อสมฺภวโต. ตสฺส ตติยสฺส ปทสฺส ปจฺฉินฺนตฺตา สมฺภวนฺตมฺปิ ‘‘ทุติยิกํ วา อุยฺโยเชตี’’ติ น วุตฺตํ, ตสฺมา อตฺถโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา ทุติยิกํ วา อุยฺโยเชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย ยกฺเขน วาติอาทีสุปิ. ตตฺถ ‘‘หตฺถปาเส’’ติ วา ‘‘หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา’’ติ วา น วุตฺตํ อุภยตฺถ ทุกฺกฏตฺตา. อนาปตฺติวาเรปิ อสมฺภวโต ‘‘นิกณฺณิกํ วา ชปฺเปตี’’ติ น วุตฺตนฺติ เจ? สมฺภวติ สติ กรณีเย นิกณฺณิกํ วา ชปฺเปตีติ สมฺภวโต. อถ กสฺมา เอวํ น วุตฺตนฺติ เจ? อนวชฺชกถายํ นิกณฺณิกชปฺปเน ปโยชนาภาวา, ธมฺมกถายมฺปิ อุทายึ อารพฺภ ปฏิสิทฺธตฺตา จ.

ทุติยตติยจตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๕๖. ‘‘กุลํ นาม จตฺตาริ กุลานี’’ติ วุตฺตตฺตา ติตฺถิยาราเม กปฺปติ ตสฺส กุลโวหาราภาวโตติ เอเก. ติตฺถิยานํ ขตฺติยาทิปริยาปนฺนตฺตา น กปฺปตีติ เอเก. ตสฺส กปฺปิยภูมิตฺตา น ยุตฺตนฺติ เจ? น, ยถาวุตฺตขตฺติยาทีนํ สมฺภวโต. ตถาปิ โคจรกุลํ อิธาธิปฺเปตํ. ‘‘อุปจาโร ทฺวาทสหตฺโถ’’ติ ลิขิตํ.

ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๐. ‘‘นิสีทนฺติยา เอกา, นิปชฺชนฺติยา เอกา’’ติ อวตฺวา ‘‘นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ. น หิ คมนปจฺจยา เอสา อาปตฺตีติ? น, ปริโยสานาธิปฺปายวเสน วุตฺตตฺตา. ‘‘นิสีทิตฺวา นิปชฺชนฺติยา ทฺเว’’ติ วจเนนปิ คมนํ อิธ นาธิปฺเปตนฺติ ทสฺสิตํ โหติ, ตถา ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิสีทนฺติยา ทฺเว’’ติปิ วตฺตพฺพํ. ยทิ เอวํ ‘‘ตสฺมึ อภินิปชฺชติ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ปาจิตฺติยาน’’นฺติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? อนิสีทิตฺวาปิ นิปชฺชนสมฺภวโต. นิปชฺชนตฺถาย นิสีทิตฺวา นิปชฺชนฺติยา นิปชฺชนกปโยคตฺตา เอกา อาปตฺตีติ เกจิ.

ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๗. อนาปตฺติวาเร ‘‘ธุวปฺตฺเต’’ติ น วุตฺตํ ‘‘สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา’’ติ วุตฺตตฺตา . อิธ ฉฏฺเ วุตฺตนเยน ปกติยา ปฺตฺเต อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, ปาจิตฺติยเมว. อฺตฺถ ธุวปฺตฺตํ. อิธ วุตฺตนเยน สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, ปาจิตฺติยเมว. อุภยตฺถาปิ ปฺจเม วุตฺตนเยน อนาปุจฺฉา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติยเมว, อนาปตฺติวาเร มาติกายํ วุตฺตกาลโต อฺกาลสฺส อปรามฏฺตฺตาติ โน ตกฺโกติ อาจริโย. อปิจ อตฺถาปตฺติกาเล อาปชฺชติ, โน วิกาเลติอาทิตฺติเก, อตฺถาปตฺติ รตฺตึ อาปชฺชติ, โน ทิวาติอาทิตฺติเก จ อฏฺกถายํ อิธ ปฺจมฉฏฺสตฺตมสิกฺขาปเทหิ สงฺคหิตาปตฺตีนํ อปรามฏฺตฺตา ยถาสมฺภวํ ติวิธกาเล ติวิธเมตํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ เอว มหาปเทสนยานุโลมโต.

สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๙. อฏฺเม ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ สมฺภวติ.

อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๗๕-๗. ทุคฺคาหวเสน วา สุคฺคาหวเสน วา ยถาวุตฺตนเยน สปถกรเณ อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา มาติกายํ ‘‘อตฺตานํ วา ปรํ วา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ยา อตฺตานเมว อารพฺภ สปถํ กเรยฺย, ตสฺสา เอกา . ปรเมวารพฺภ ตสฺสา เอกา. อุโภปิ อารพฺภ ตสฺสา ทฺเว อาปตฺติโย สมฺภวนฺติ. ติกจฺเฉโท ปเนตฺถ ปรเมวารพฺภ สปถกรณํ สนฺธาย ปวตฺโต.

นวมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๘๒. ทสเม อนาปตฺติวาโร โรทนสฺเสว, น วธสฺส, ตสฺมา าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺาปิ อตฺตานํ วธติ เอว, น โรทติ, ทุกฺกฏเมว.

ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนฺธการวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นคฺควคฺควณฺณนา

๑-๒. ปมทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๘๓. นคฺควคฺคสฺส ปมทุติยานิ อุตฺตานานิ. ปเม อยํ วิเสโส – ภิกฺขุสฺส ตถา นฺหายนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อฺตฺร ชนฺตาฆรอุทกปฏิจฺฉาทีหิ. น จ วิครหิ ตตฺถ ภควา อตฺตนาว อนนุฺาตตฺตา อุทกสาฏิกายาติ โปราณา. ‘‘เอกเมว นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จ นหายิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

ปมทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙๔. ตติเย อนฺโตจตูหปฺจาหํ ธุรํ นิกฺขิปนฺติยาปิ อาปตฺติ เอว. ลิงฺคปริวตฺเต ธุรํ นิกฺขิปนฺติยา ทุกฺกฏํ ติกทุกฺกฏตฺตา. ‘‘สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธินฺติ เอตฺถ จตสฺโสปิ สมฺพหุลา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙๘. จตุตฺเถ สงฺฆาฏิจารนฺติ เอตฺถ สงฺฆาฏิอาทิวเสน อธิฏฺิตานํเยวายํ วิธิ, เนตราสํ กิร. ตตฺถ ติจีวเร เอว วิปฺปวาสปจฺจยา นิสฺสคฺคิยํ. อนฺโตจีวรกาเลปิ ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกาเมนฺติยา อาปตฺติเยว. ‘‘วินา เอเตหิ จีวเรหิ อุปสมฺปทํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๐๖. ปฺจมสฺส อนาปตฺติวาเร ตาย วา อวิปฺปวาสายาติ อตฺถโต ลพฺภติ.

ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙๐๗-๙๑๑. ฉฏฺสตฺตมานิ อุตฺตานานิ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๑๖. โสกชฺฌายิกา นาม กิร มายาการา. วิลุมฺปกา ภณฺฑกาติ จ โปราณา.

อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๒๐. ‘‘กถฺหิ นาม อติกฺกาเมสฺสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ถุลฺลนนฺทา จีวรกาลสมยํ อาคเมถาติ อติกฺกมาเปสีติ สิทฺธํ โหติ.

นวมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๒๗. ทสเม เอกกุลํ เอตทโวจุนฺติ เอตฺถ กุลํ นาม ตสฺมึ มนุสฺสา, ตสฺมา พหุวจนํ.

ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นคฺควคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ตุวฏฺฏวคฺควณฺณนา

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๓๔-๕. เอกาย นิปนฺนาย อปรา นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ ‘‘อุภินฺนมฺปิ ปมนิปนฺนาย อนุฏฺาปนา’’ติ วตฺวา เอตฺถ กิริยากิริยนฺติ เอเก, ตํ อฏฺกถาย วิรุชฺฌติ. ‘‘กิริย’’นฺติ หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อถ กสฺสา อาปตฺตีติ? อุภินฺนมฺปิ นิปชฺชนกิริยํ ปฏิจฺจ. อิมสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘ววตฺถานํ ทสฺเสตฺวา’’ติ นตฺถิ, ตสฺมา ววตฺถานํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ เอเก. วิปุลตเร วฏฺฏตีติ เอเก. ‘‘อนฺตรํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ โปราณคณฺิปเท ลิขิตํ.

ปมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๔๐. ววตฺถานํ ทสฺเสตฺวาติ เอตฺถ อุปริ ปารุปนมฺปิ มชฺเฌ โอโภคํ กตฺวา อุภินฺนํ อนฺตเร โอตาเรติ, วฏฺฏตีติ เอเก. ววตฺถานฺจ ยถา าเน น ติฏฺติ, ตถา อติกฺกมิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺติยา อาปตฺติเยวาติ. ‘‘กิริยากิริย’’นฺติ จ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๔๑. อตฺตโน สชฺฌายนฏฺาเน เจ วุฑฺฒตรา อาคจฺฉติ, วนฺทนกาเล วา, อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. เอกสฺมึ โอวรเก อาปุจฺฉิตพฺพํ. ‘‘อถ โอวรเก มหาเถรี วสติ, สมฺมุเข อิตรา, อาปุจฺฉิตพฺพา ตสฺสา อุปจารตฺตา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ.

ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙๔๖-๙๕๐. จตุตฺถปฺจมสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๕๖. คหปติ นาม เปตฺวา สหธมฺมิเก เวทิตพฺโพ, ตสฺมา ภิกฺขุนา วา สามเณเรน วา อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน สํสฏฺาปิ น สมนุภาสิตพฺพาติ สมฺภวติ เอว.

ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙๖๑-๕. สตฺตมอฏฺม สิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๖๙. เอกินฺทฺริยนฺติ กายินฺทฺริเยเนว เอกินฺทฺริยํ, นิคณฺานํ อเจลกานํ มตํ. กาปิลา ปน ‘‘ปฺจินฺทฺริยา’’ติ มฺนฺตา เอวํ วทนฺติ ‘‘สจกฺขุกตฺตา อลาพุมาลุวาทโย ยตฺถ อาลมฺพนํ, ตตฺถ คจฺฉนฺติ. สโสตกตฺตา กทลิโย เมฆคชฺชิตํ สุตฺวา คพฺภํ คณฺหนฺติ. สฆานกตฺตา ปนสาทโย กุณปคนฺเธน ผลนฺติ. สชิวฺหกตฺตา อุทกํ ปิวนฺติ เยน, สพฺเพปิ ‘ปาทปา’ติ วุจฺจนฺติ. สกายปสาทตฺตา อิตฺถิสมฺผสฺเสน อโสกรุกฺขา ปุปฺผนฺตี’’ติ. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ.

๙๗๐. อิธ จ วสฺสจฺเฉเทน ทุกฺกฏํ. ปมํ อาวสิตฺวา ปจฺฉา จาริกา จรณปจฺจยา ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. อถ วสฺสํ อวสิตฺวา จรติ, อวสฺสุปคมนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โปราณคณฺิปเท ปน ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อนฺโตวสฺเส จาริกํ จรนฺติยา ปาจิตฺติยํ. สตฺตาหกรณีเยน ปน วฏฺฏติ, ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ วุตฺตํ.

๙๗๒. เกนจิ อุพฺพาฬฺหาติ วสฺสจฺเฉทการเณนาติ โน ตกฺโกติ อาจริโย. กิตฺตาวตา จาริกา โหตีติ? อิทํ น สพฺพตฺถ วิจาริตํ. อนนฺตรสิกฺขาปเท ‘‘อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปี’’ติ วุตฺตตฺตา โส จ มฺเ เหฏฺิมปริจฺเฉโทติ.

นวมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๗๓. ทสเม ‘‘อาหุนฺทริกา’’ติ ปนฺติ กิร.

ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตุวฏฺฏวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จิตฺตาคารวคฺควณฺณนา

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๗๘. กีฬนอุปวนํ นาม กฺจินครสฺส นครุปวนํ วิย ทฏฺพฺพํ. อุยฺยานํ นาม ตตฺเถว นนฺทวนอุยฺยานํ วิย ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตตฺเถว ตฺวา ตํ ตํ ทิสาภาคํ วิโลเกตฺวา ปสฺสนฺติยา ปน ปาเฏกฺกา อาปตฺติโย’’ติ ปาโ. เอวํ วุตฺเต ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ ปทํ ‘‘อนุทฺธรมานา’’ติ, ตํ เอกสฺมึเยว ทิสาภาเคติ สิทฺธนฺติ เอเก. อุปจาโร ทฺเว เลฑฺฑุปาโตติ จ.

ปมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๘๔. ‘‘อาหริเมหิ วาเฬหี’’ติ ‘‘อสํหาริเมนา’’ติ จ ทุวิโธ ปาโ. ‘‘วิสุํ กตฺวา ปจฺฉา สทฺธึ เตหิ วาเฬหี’’ติ ลิขิตํ. ยถา ตถา วาฬรูเป อุฏฺเปตฺวา กตปาทํ ‘‘ปลฺลงฺก’’นฺติ วุจฺจติ อนาปตฺติวาเร ‘‘อสํหาริเมหิ วาเฬหิ กตํ ปริภุฺชตี’’ติ วจนาภาวโต.

ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๘๘. ‘‘อุชฺชวุชฺชเวติ หตฺถปฺปสารเณ’’ติ ลิขิตํ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘ยตฺตกํ หตฺเถน อฺฉิตํ โหติ, ตสฺมึ ตกฺกมฺหิ เวิเต เอกาปตฺตี’’ติ วจนโต.

ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๙๓. ‘‘ยาคุปาเนติ ยาคุทาเน’’ติ ลิขิตํ. โปราณคณฺิปเท ‘‘มาตาปิตูนํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙๙๔. ปฺจมสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๐๑. ฉฏฺเ ภิกฺขุวิภงฺเค อเจลกสิกฺขาปเทน เอกปริจฺเฉทํ. อิธ อคาริโก วิเสโส, ตสฺมา ‘‘อสาธารณ’’นฺติ วทนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐๐๓-๘. สตฺตมฏฺเมสุ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๑๕. ‘‘ขีลนมนฺตํ ทารุสารขีลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺตํ. นาคมณฺฑลํนาม นาคโรธมนฺตํ, ปิฏฺาทีหิ วา ปริกฺเขปํ กตฺวา ตตฺถ มนุสฺเส ปเวเสนฺติ คุตฺตตฺถายา’’ติ ลิขิตํ.

นวมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐๑๗. ทสมสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

จิตฺตาคารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อารามวคฺควณฺณนา

๑๐๒๑. ปมสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓๐. ภิกฺขุนี เจ ภิกฺขุํ อกฺโกสติ, อิมินา สิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ. ภิกฺขุนึ เจ อกฺโกสติ, โอมสวาเทน อาปชฺชติ. โอมสวาเท สมฺมุขาว รุหติ, อิธ ปน ปรมฺมุขาปิ.

ตตฺรายํ วิจารณา – ภิกฺขุวิภงฺเค โอสมวาทสิกฺขาปเท ภิกฺขุนี อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ติฏฺตีติ กตฺวา ภิกฺขุนิวิภงฺเคปิ โอมสวาทสิกฺขาปเท ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ติฏฺตีติ สิทฺธํ. อิธ จ อนุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสเน ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ภิกฺขุสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสเน ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อิมานิ ทฺเว สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุมฺหิ สํสนฺทิยมานานิ อฺมฺํ น สเมนฺติ. ยถา สเมนฺติ, ตถา ชานิตพฺพํ. ตตฺถ โปราณคณฺิปเท วุตฺตนเยน ภิกฺขุนีนํ โอมสวาทสิกฺขาปเท อนุปสมฺปนฺโนติ น คเหตพฺโพ, อิทเมตฺถ ยุตฺตํ. ปริภาเสยฺยาติ อฺตฺร อกฺโกสวตฺถูหิ. เตสุ หิ อฺตรสฺมึ สติ โอมสวาทปาจิตฺติยเมวาติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ . โอมสวาเท ปาฬิมุตฺตกอกฺโกเส หิ ทุกฺกฏํ โหตีติ. ทุกฺกโฏกาเส อิทํ ปาจิตฺติยํ เตหิ นิทฺทิฏฺํ โหติ, ตสฺมา ‘‘พาลา เอตา’’ติ ปาฬิยํ อิธ อาคตปทานํเยว วเสน ปริภาสนํ เวทิตพฺพํ.

ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐๓๓. ตติยสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓๘. นิมนฺติตา วา ปวาริตา วาติ เอตฺถ โปราณคณฺิปเท ตาว เอวํ วุตฺตํ ‘‘ปวาริตาปิ ยาคุํ ปาตุํ ลภติ, โภชฺชยาคุํ น ลภติ. ยาคุ ปเนตฺถ ขาทนียโภชนียสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. นิมนฺติตา ภิกฺขุนี ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุฺชิตุกามา สามิเก อปโลเกตฺวาว ภุฺชิตุํ ลภติ. ปรมฺปรโภชนาปตฺติ ภิกฺขุนีนํ นตฺถิ. นิมนฺติตา ตํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา วา อภุฺชิตฺวา วา ปวาริตา กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภุฺชิตุํ น ลภติ, อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติยมานา ทฺเว นิมนฺตนานิ สมฺปฏิจฺฉิตุฺจ น ลภตี’’ติ. ตตฺถ ‘‘ปวาริตาปิ ยาคุํ ปาตุํ ลภตี’’ติ วุตฺตํ ปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ อนุฺาตตฺตา. ‘‘นิมนฺติตา อปฺปวาริตา ยาคุํ ปิวตี’’ติ หิ ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺริทํ สิกฺขาปทวณฺณนาปุพฺพงฺคมสนฺนิฏฺานํ – นิมนฺติตา วา ปวาริตา วาติ เอตฺถ วาสทฺเทน อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติตา อปฺปวาริตา เปตฺวา ยาคุํ อฺํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุฺเชยฺย วา, ปาจิตฺติยํ อฺตฺร สามิกานํ อปโลกนา. ปรมฺปรโภชนาภาเวน ภิกฺขุนีนํ โก คุโณ ชาโตติ? น เอตาสํ คุณลาโภ, เกวลํ ปากฏตรํ ชาตํ. ภิกฺขูปิ วิกปฺเปตฺวา มิสฺเสตฺวาว ภุฺชิตุํ ลภนฺติ. สมเย ยถาสุขํ ลภนฺติ. อิมินา อปโลกเนน กินฺติ? ปวาริตา วา อนิมนฺติตา วา น กิฺจิ กปฺปิยํ การาเปตฺวา คิลานาติริตฺตมฺปิ ลภนฺติ, นิมนฺติตา จ ปวาริตา จ ยาคุมฺปิ น ลภนฺติ, อปโลเกตฺวาปิ น ลภนฺตีติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อารามวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. คพฺภินิวคฺควณฺณนา

๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๖๗. ‘‘คพฺภินิ’’นฺติ ทสฺสนาทีหิปิ คพฺภสมฺภวโต วุตฺตํ. ปทภาชเนปิ ปวาริตภาโว น ทิสฺสติ.

๑๐๗๔. ธาติ วาติ เอตฺถ ทารกํ สามิกานํ ทตฺวา อาหเฏ วฑฺเฒติ, ตถา มาตาปีติ เกจิ.

๑๐๘๐. ‘‘สิกฺขมาน’’นฺติ ปาํ ทีปวาสิโน โรเจนฺติ กิริยากิริยตฺตา, ชมฺพุทีปวาสิโน ‘‘สิกฺขมานา’’ติ. ตสฺสตฺโถ สิกฺขาธมฺมมานนโต สิกฺขมานาติ. อิธ กิริยา น โหติ, สฺาว อธิปฺเปตา. น เอตาสุ อสิกฺขิตา อุปสมฺปาเทตพฺพา อุปชฺฌายินีอาทีนํ อาปตฺติภาวา. ‘‘ตสฺสา อุปสมฺปทา โหติ เอวา’’ติ วทนฺติ.

๑๐๘๒. ธมฺมกมฺเมติ อุปสมฺปทกมฺมํ อธิปฺเปตํ.

๑๑๑๒. วุฏฺาปิตนฺติ สามเณริภูมิโต ยาย เถริยา อุปสมฺปทาเปกฺขา วุฏฺปิตา, สา เถรี วุฏฺาปิตา นาม, เตเนว ปุน วิเสสนตฺถํ ‘‘ปวตฺตินิ’’นฺติ อาห.

ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

คพฺภินิวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. กุมาริภูตวคฺควณฺณนา

๒. ทุติยาทิสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๒๔. ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, อฏฺารสวสฺสาย กุมาริภูตาย…เป… สิกฺขาสมฺมุตึ ทาตุ’’นฺติ อิธ วุตฺตํ วิย ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสวสฺสาย คิหิคตาย…เป… สิกฺขาสมฺมุตึ ทาตุ’’นฺติ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสาย เอว คิหิคตาย สิกฺขาสมฺมุติ ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. คิหิคตาย สิกฺขาสมฺมุติ ทาตพฺพาติ เอเกติ กตฺวา ทสวสฺสายปิ วฏฺฏติ . กสฺมา? ‘‘อนาปตฺติ ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ ปริปุณฺณสฺา วุฏฺาเปตี’ติ (ปาจิ. ๑๐๙๓-๑๐๙๕) จ ‘อนาปตฺติ ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ…เป… สิกฺขิตสิกฺขํ วุฏฺาเปตี’ติ (ปาจิ. ๑๐๙๗-๑๑๐๑) จ วุตฺตตฺตา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. กึ อิมินา ปริหาเรน. ‘‘ทสวสฺสาย คิหิคตาย สิกฺขาสมฺมุติ ทาตพฺพา’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘คิหิคตาติปิ วตฺตุํ น วฏฺฏตี’ติ สเจ วทนฺติ, กมฺมํ กุปฺปตี’’ติ ลิขิตํ.

๑๑๔๖. อหเมว นูน…เป… อลชฺชินี, ยา สงฺโฆติ เอตฺถ ยา อหเมว นูน พาลาติ อตฺโถ. ‘‘ยํ สงฺโฆ’’ติปิ อตฺถิ, ตตฺถ ยํ ยสฺมา เทติ, ตสฺมา อหเมว นูน พาลาติ อตฺโถ.

๑๑๕๙. ปุริสสํสฏฺา กุมารกสํสฏฺา จณฺฑี โสกาวาสาวกถํ สิกฺขมานาติ วุจฺจติ, ปทภาชเน เอว จายํ สิกฺขมานา ‘‘ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ปุพฺเพ คหิตสิกฺขตฺตา, ปุพฺเพ ปริปุณฺณสิกฺขตฺตา จ เอวํ วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.

๑๑๖๖-๗. ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปสฺสิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขมานาย าตกา กิร สมฺปาทยึสุ, ตํ ปสฺสิตฺวา เถเร ภิกฺขู อุยฺโยเชสิ. อุยฺโยเชตฺวา เตสํ ฉนฺทํ คเหตฺวา ปุพฺเพ ฉนฺททายเก คณํ กตฺวา เสสานํ ฉนฺทํ ฉนฺทเมว กตฺวา กมฺมํ การาเปสี’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวาติ เอตฺถ อนุคณฺิปเท เอวํ วุตฺตํ ‘‘อิทํ กมฺมํ อชฺช น กตฺตพฺพํ. ‘ยถาสุข’นฺติ วตฺวา วิสฺสชฺชิตํ โหติ, ตสฺมา โย โกจิ มุขโร, พาโล วา กิฺจาปิ ‘ยถาสุข’นฺติ วทติ, เถรายตฺตตฺตา ปน เถรสฺส อนุมติยา สติยา วิสฺสชฺชิโต โหติ, อสติยา น โหติ, ตถาปิ ปุน ฉนฺทํ คเหตฺวาว กมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ปโยโค. คหเณ ปโยชนํ ปน นตฺถิ. สงฺฆตฺเถโร เจ วิสฺสชฺเชติ, ฉนฺทํ คเหตฺวาว กาตพฺพํ. ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา กาเยน วุฏฺิตายาติ เอตฺถ อิธ สมฺพาโธ, ‘อมุกมฺหิ าเน กริสฺสามา’ติ หตฺถปาสํ วิชหิตฺวาปิ คจฺฉนฺติ เจ, นตฺถิ โทโส. กิฺจาปิ นตฺถิ, ตา ปน หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวาว คจฺฉนฺติ, อยํ ปโยโค’’ติ. ‘‘รตฺติปาริวาสิเย อุโปสถปวารณาว น วฏฺฏติ, อฺกมฺมํ ปน วฏฺฏติ. อุโปสถปวารณาปิ อนุโปสถปวารณทิวเส น วฏฺฏนฺติ, อิตรํ สพฺพกาลํ วฏฺฏติ. ปริสปาริวาสิเย หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา จตูสุ คเตสุ จตุวคฺคกรณีเย อฺสฺมึ ปฺจสุ ทสสุ วีสตีสุ คเตสุ เสเสหิ วิสุํ ตหึ ตหึ คนฺตฺวาปิ ปุน สนฺนิปาตฏฺานํ อาคนฺตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อชฺฌาสยปาริวาสิเย หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา ยถานิสินฺนาว นิสินฺนา เจ, ปุน กาตุํ วฏฺฏติ หตฺถปาสสฺส อวิชหิตตฺตา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. เตสํ โปราณานํ มเตน ฉนฺทปาริวาสิยเมเวกํ น วฏฺฏตีติ อาปนฺนงฺคฺจ ทสฺสิตํ, อิธาปิ ตํ วิสุํ น ทสฺสิตํ อสมฺภวโตติ เอเก. ฉนฺททายเก ปริสํ ปตฺวา คเต ตสฺส ปุพฺพฉนฺททานํ ฉนฺทปาริวาสิยนฺติ โน ตกฺโกติ อาจริโย.

ตตฺริทํ สนฺนิฏฺานํ – ปริสปาริวาสิเย อฏฺกถายํ ‘‘อฺตฺร คจฺฉามาติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ…เป… กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตวจเน หตฺถปาสา วิชหนํ น ปฺายติ. เอตฺถ ปน กมฺมปฺปตฺตานํ หตฺถปาสสฺส อวิชหนเมว อิจฺฉิตพฺพนฺติ กตฺวา โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. กิฺจาปิ น ปฺายติ, อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปน วฏฺฏตีติ เจ? น, ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. กถํ? ฉนฺโท นาม กมฺมปฺปตฺเตสุ ภิกฺขูสุ เอกสีมาย สนฺนิปติเตสุ อาคจฺฉติ, นาสนฺนิปติเตสุ. อิธ หิ ‘‘ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวา’’ติ จ ‘‘ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา’’ติ จ วุตฺตํ. ‘‘อชฺฌาสยํ อวิสฺสชฺเชตฺวา’’ติ จ ‘‘อชฺฌาสยสฺส อวิสฺสฏฺตฺตา’’ติ จ น วุตฺตํ, ตสฺมา ฉนฺทสฺส อวิสฺสชฺชนํ กมฺมปฺปตฺตานํ หตฺถปาสาวิชหเนเนว โหติ, น วิชหเนติ สิทฺธํ.

โหติ เจตฺถ –

‘‘ยโต อาคมนํ ยสฺส, ตทภาวสฺส นิคฺคเห;

ตสฺมา สนฺนิปติเตสุ, ภิกฺขูสุ ตสฺส เภทโต’’ติ.

รตฺติปาริวาสิยฉนฺโท วิย รตฺติปาริวาสิยปาริสุทฺธิปีติ ตทนุโลเมน วฏฺฏติ สฺวาตนาย ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา ปวารณา วา, ตาย กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. อุโปสถปวารณา ปน อนุโปสถทิวเส น วฏฺฏติ, อิตรํ วฏฺฏติ. ปนฺนรสิอุโปสถํ จาตุทฺทสิยํ กาตุํ วฏฺฏติ เขตฺตตฺตา. น จาตุทฺทสิอุโปสถํ ปนฺนรสิยํ อเขตฺตตฺตา อนุโปสถทิวสตฺตา ปาฏิปททิวสตฺตาติ เอกจฺเจ อาจริยา, ตสฺมา เตสํ มเตน จาตุทฺทสิอุโปสถํ ตติยํ, สตฺตมํ วา ปนฺนรสิยํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปเนตฺถ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามาติ นิสินฺนา, ปนฺนรโสติ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตโต ‘‘ปนฺนรสิยเมว ‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’ติ นิสินฺนา ปุนทิวเส อตฺตโน ตํ อุโปสถํ ‘ปนฺนรโส’ติ กาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ’’ติ เอวํ ปริหรนฺติ, ตํ เตสํ มตํ ‘‘ตถารูปปจฺจเย สติ อฺสฺมิมฺปิ จาตุทฺทเส อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) อิมินา มาติกาฏฺกถาวจเนน น สเมติ. น หิ ตตฺถ ‘‘อฺสฺมิมฺปิ ปนฺนรเส จาตุทฺทสิกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘สกึ ปกฺขสฺส จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา’’ติ อนุฺาตทิวเส ปริยาปนฺนตฺตา ฉนฺนํ จาตุทฺทสิกานํ ปจฺฉิมา ปนฺนรสี อนุโปสถทิวโส น โหตีติ สิทฺธํ โหติ. กิฺจาปิ สิทฺธํ, อิมินา ปน ‘‘อาวาสิกานํ ปนฺนรโส, อาคนฺตุกานํ จาตุทฺทโส, อาคนฺตุเกหิ อาวาสิกานํ สมสเมหิ วา อปฺปตเรหิ วา อนุวตฺติตพฺพ’’นฺติ วจนเมตฺถ นิรตฺถกํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

ทุติยาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุมาริภูตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ฉตฺตุปาหนวคฺควณฺณนา

๑๑. เอกาทสมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๑๔. อุปจารํ สนฺธาย กถิตนฺติ ‘‘ทฺวาทสหตฺถํ อุปจาโร’’ติ ลิขิตํ.

๑๒๒๑. สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉตีติ เอตฺถ จ ตีณิ ปิฏกานิ อตฺตโน อตฺตโน นาเมน วุตฺตานีติ กตฺวา อภิธมฺโม พุทฺเธน ภาสิโต เอวาติ ทีปิตํ โหติ.

๑๒๒๔-๕. ถโน จ อุทโร จ ถนุทรา. ‘‘สํกจฺจิกาย ปมาณํ ติริยํ ทิยฑฺฒหตฺถา’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยา’’ติ พหูสุ โปตฺถเกสุ, สงฺฆาทิเสสกณฺเฑ วิย ‘‘อุปจารํ อติกฺกมนฺติยา’’ติ ปาโ อปฺปเกสุ, โสว ปาโ. อฏฺกถายํ ‘‘ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺติยาติ เอเกน ปาเทน อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ทุติเยน ปาจิตฺติยํ. อุปจาเรปิ เอเสว นโย’’ติ วจนมฺปิ ‘‘อุปจารํ อติกฺกมนฺติยา’’ติ ปาโติ ทีเปตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโย.

เอกาทสมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉตฺตุปาหนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

คิรคฺคสมชฺชาทีนิ ‘‘อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นจฺจ’’นฺติ วา ‘‘คนฺโธ’’ติ วา อชานิตฺวาปิ ทสฺสเนน, วิลิมฺปเนน วา อาปชฺชนโต วตฺถุอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกานิ. ‘‘นจฺจ’’นฺติ วา ‘‘คนฺโธ’’ติ วา ชานิตฺวา ปสฺสนฺติยา, วิลิมฺปนฺติยา จ อกุสลตฺตา เอว โลกวชฺชานิ. โจริวุฏฺาปนาทีนิ ‘‘โจรี’’ติอาทินา วตฺถุํ ชานิตฺวา กรเณ เอว อาปตฺติสพฺภาวโต สจิตฺตกานิ. อุปสมฺปทาทีนํ เอกนฺเตน อกุสลจิตฺเตเนว อกตฺตพฺพตฺตา ปณฺณตฺติวชฺชานิ. ‘‘อิธ สจิตฺตกาจิตฺตกตา ปณฺณตฺติชานนาชานนตาย อคฺคเหตฺวา วตฺถุชานนาชานนตาย คเหตพฺพา’’ติ ลิขิตํ. อนุคณฺิปเท ปน ‘‘คิรคฺคสมชฺชาทีนิ ‘อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานี’ติ วุตฺตตฺตา ‘นจฺจ’นฺติ วา ‘สงฺฆาณี’ติ วา ‘คนฺโธ’ติ วา ตสฺส นามวเสน อชานิตฺวา มายาการสฺส มายานิ สีสฏฺิอาทีนิ ปฏิสงฺขาย ปสฺสนฺติยา, อกฺขมาลาทิอตฺถาย สงฺฆาณึ กฏิยา พนฺธนฺติยา, ‘เสทคนฺธํ อปเนตฺวา พุทฺธปูชํ กริสฺสามี’ติ อุปฺปนฺเนน จิตฺเตน คนฺธํ วิลิมฺเปตฺวา นหายนฺติยา จ อาปตฺติสพฺภาวโต นาเมน สทฺธึ นามวเสน วา วตฺถุสฺส อชานนจิตฺเตน อจิตฺตกานิ นาม. น อนฺธกาเร ‘กฏิสุตฺตมิท’นฺติ สฺาย สงฺฆาณึ คเหตฺวา กฏิยํ ธารณกาเล, มตฺติกาสฺาย จ คนฺธํ คเหตฺวา วิลิมฺปนกาเล อาปตฺติสพฺภาวโต ‘อจิตฺตกานี’ติ วตฺตพฺพานิ. ตสฺมึ กาเล อนาปตฺติ, เตเนว สงฺฆาณิยา อสงฺฆาณิสฺาวาเรปิ ‘อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’ติ ปาฬิ น วุตฺตา. ยถา ‘เขตฺตอาพาธปจฺจยา, กฏิสุตฺตกํ ธาเรตี’ติ วจนโต วินาปิ อกุสเลน สงฺฆาณิอาทีนิ สกฺกา ธาเรตุนฺติ สิทฺธํ, เอวํ อาพาธปจฺจยา วินาปิ อกุสเลน น สกฺกา สุรํ ปาตุนฺติ สิทฺธํ ‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยา มชฺชํ ปิวตี’ติ ปาฬิยา อภาวโต. อกุสเลน วินา มธุปุณฺณมุฏฺิยํ ปกฺขิตฺตมชฺชสฺส อชฺโฌหรณกาลาทีสุ สุราปานาปตฺตึ อาปชฺชตีติ จ สิทฺธํ ‘มชฺเช อมชฺชสฺี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา. กึพหุนา, กามโภคสฺาย สทฺธึ ‘สงฺฆาณี’ติ จ ‘คนฺโธ’ติ จ ชานิตฺวา วินา อนาปตฺติการเณน ธาเรนฺติยา เอกนฺตากุสลตฺตา โลกวชฺชานิ นาม วุจฺจนฺติ. อิมินา อุปาเยน เสเสสุปิ นโย เนตพฺโพ. เอตฺถ สุราปานาธิกาเร อุปติสฺสตฺเถรวาโท’’ติ วุตฺตํ. อสํกจฺจิกสิกฺขาปเท ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติ ปาโ’’ติ จ ‘‘ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, นิมนฺติตสฺส จาริตฺตาปชฺชนํ, ทุฏฺุลฺลปฺปฏิจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสุปสมฺปทํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฏิกนฺติ ปาโ’’ติ จ วุตฺตํ.

นิคมนวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาจิตฺติยกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุภโตวิภงฺคฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส