📜

ปริวารวณฺณนา

โสฬสมหาวารวณฺณนา

ปฺตฺติวารวณฺณนา

๑-๒. สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาตสฺส ธมฺมกฺขนฺธสรีรสฺส สาสเนติ อตฺโถ. ปริวาโรติ สงฺคหํ โย สมารุฬฺโห, ตสฺส ปริวารสฺส. วินยภูตา ปฺตฺติ วินยปฺตฺติ. ‘‘ปฺตฺติกาลํ ชานตา’’ติ ทุกนยวเสน วตฺวา ปุน สุตฺตนฺตนเยน วตฺตุํ ‘‘อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปสฺสนํ นาม ทสฺสนตฺตา ทิพฺพจกฺขุนา โยชิตํ ปฏิเวธาณทสฺสนํ. เทสนาปฺาย ปสฺสตาติ อาสยานุสยาทิเก. ปุจฺฉายาติ สตฺตมี. ปุนปิ เอตฺถาติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ. ‘‘อาชีวเหตุ ปฺตฺตานี’’ติ วจนโต อิมานิ ฉ สิกฺขาปทานิ เปตฺวา เสสา อาจารวิปตฺติ นามาติ เวทิตพฺพํ. กาเยน ปน อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺพภาเค เสวนจิตฺตมงฺคํ กตฺวา กายทฺวารสงฺขาตํ วิฺตฺตึ ชนยิตฺวา ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทสงฺขาตํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กิฺจาปิ จิตฺเตน สมุฏฺาปิตา วิฺตฺติ, ตถาปิ จิตฺเตน อธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วิฺตฺติยา สาธิตตฺตา ‘กายทฺวาเรน อาปชฺชตี’ติ วุตฺต’’นฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ภณฺฑนาทิตฺตยวูปสมํ. อาปาณโกฏิกนฺติ ชีวิตปริยนฺตํ กตฺวา. โปราณเกหิ มหาเถเรหีติ สีหฬทีเป มหาเถเรหิ โปตฺถกํ อาโรปิตกาเล ปิตาติ อตฺโถ. ‘‘จตุตฺถสงฺคีติสทิสา โปตฺถการุฬฺหสงฺคีติ อโหสี’’ติ วุตฺตํ.

มหาวิภงฺเค ปฺตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

กตาปตฺติวาราทิวณฺณนา

๑๖๖. กตาปตฺติวาเร ‘‘สงฺฆิกํ มฺจํ วา’’ติอาทิ อชฺโฌกาสตฺตา วิหารพฺภนฺตเรปิ อาปชฺชนโต เลฑฺฑุปาตาติกฺกมวเสน วุตฺตํ. ทุติเย เสยฺยํ สนฺถริตฺวาติ อพฺภนฺตเร สนฺถริตภาวโต วิหารโต พหิคมเนปิ ตํทิวสานาคเม อาปชฺชนโต ‘‘ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมตี’’ติ วุตฺตํ.

๑๗๑. สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปนฺโต จตสฺโส อาปตฺติโยติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตสฺมึ สิกฺขาปเท ติรจฺฉานคตปาโณว อธิปฺเปโต, อถ โข ปาโณติ โวหารสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ‘‘จตสฺโส’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย อฺเสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ.

๑๗๓. วิกาเล คามปฺปเวสเน ‘‘ปมํ ปาทํ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ วุตฺตตฺตา อุปจาเร นาปชฺชติ, ปริกฺเขปํ อติกฺกมิตฺวาว อาปชฺชตีติ สิทฺธเมวา’’ติ วทนฺติ.

๑๙๓. ปจฺจยวาเร ปุริมวารโต วิเสโส อตฺถิเยว, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติ วุตฺเต ชตุมฏฺกสฺโสกาโส น ชาโต, อิธ ปน ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลนิทฺเทสาภาวา ชตุมฏฺกฺจ ปวิฏฺํ, เอวํ วิเสโส อตฺถิ. ตถา เอวรูเปสุ าเนสุ.

มหาวิภงฺเค จ ภิกฺขุนิวิภงฺเค โสฬสมหาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานสีสวณฺณนา

๒๕๗. อนตฺตาติ อตฺตวิรหิตา ‘‘อลวณโภชน’’นฺติอาทีสุ วิย. กรุณาสีตลภาเวน จนฺทสทิโส. กิเลสติมิรปฺปหานโต อาทิจฺโจ. ยสฺมา เต เทสยนฺติ, ตสฺมา องฺคีรโสปิ. ปิฏเก ตีณิ เทสยิ เตสํ อฺตรตฺตาติ อตฺโถ. วินโย ยทิ ติฏฺติ, เอวํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺมาทิ นียติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อยํ ปน กถํ ติฏฺตีติ? อาห ‘‘อุภโต จา’’ติอาทิ. ปริวาเรน คนฺถิตา ติฏฺนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺเสว ปริวารสฺส สุตฺเต. นิยตสมุฏฺานํ กตํ, วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อสมฺภินฺนสมุฏฺานานิ อสงฺกรสมุฏฺานานิ, อฺเหิ อสทิสสมุฏฺานานีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปริวาเร สติ วินโย ติฏฺติ, วินเย สติ สทฺธมฺโม ติฏฺติ, ยสฺมา สมุฏฺานานิ จ สุตฺเต ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา สิกฺเขติ อตฺโถ. ‘‘ธมฺมกาโม สุเปสโล’’ติ ปริวาเร คารวชนนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ‘‘ทิสฺสนฺตี’’ติ ตตฺถ. ‘‘เอเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺาตีติ ปมปาราชิกํ เอเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺาตี’’ติ วุตฺตํ. ปาฬิยฺหิ นิทฺทิฏฺสมุฏฺานฺจ ทิสฺสติ. ‘‘ตสฺเสว ปริวารสฺส, สมุฏฺานํ นิยโต กต’’นฺติ วุตฺตํ ปุริมนเยติ อตฺโถ. ยถาายนฺติ ยถาภูตํ. ‘‘สฺจริตฺตาภาสนฺจา’’ติ ปาโ. ‘‘สฺจริตฺตานุภาสนฺจา’’ติปิ อตฺถิ. นยวชฺเชหิ วินยวชฺเชหีติ อตฺโถ.

ปมปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา

๒๕๘. นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วุตฺถาปิตํ ปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อยํ ปาโ เอกจฺเจสุ โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ. ฉสตฺตติ ปมปาราชิกสมุฏฺานา.

ทุติยปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา

๒๕๙. ‘‘กุกฺกุจฺจํ จีวรํ ทตฺวาติ กุกฺกุจฺจุปฺปาทนฺจ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนฺจ จีวรํ ทตฺวา ขียนฺจา’’ติ ปาโ. ‘‘ทตฺวา’’ติ อุปฺปฏิปาฏิยา วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘กุกฺกุจฺจํ ธมฺมิกํ ทตฺวาติ ปาโ สุนฺทโร’’ติ วทนฺติ, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.

๒๖๙. อกตนฺติ อภินวํ.

อนฺตรเปยฺยาลํ

กติปุจฺฉาวารวณฺณนา

๒๗๑. ปฏินิทฺเทสนฺติ ปุนปฺปุนํ นิทฺทิสนํ. อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วินีตานิ สํวรานีติ อตฺโถ. เอเตหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ. ‘‘อารกา’’ติ นิวตฺติอตฺเถน วุตฺตตฺตา ตํ ปุน สรูเปน วตฺตุกาโม ‘‘ภุสา วา’’ติ อาห. ‘‘เคหํ ธูเมน ปุณฺณํ อาธูมิต’’นฺติอาทีสุ วิย ราคาทิเวรํ มณติ วินาเสติ. เอตายาติ วิรติยา. เวล จลเน. นิยฺยานํ มคฺคํ สิโนติ พนฺธตีติ เสตุ. ‘‘เสตุฆาโตติ วีติกฺกมปฏิปกฺขภูตา วิรติ, ตทตฺถนิพฺพตฺติกรจิตฺตุปฺปาโท วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ธมฺมสฺสวนคฺคนฺติ ธมฺมํ สุณนฺตานํ สมูห’’นฺติ ลิขิตํ. สเจ น คจฺฉติ, วิกฺขิตฺโต วา นิสีทติ. กายปฺปาคพฺภิยํ กายทุจฺจริตํ. ‘‘ปมาเท’’ติ วตฺวา ตทตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สติวิปฺปวาเส’’ติ วุตฺตํ.

๒๗๒-๓. สปรสนฺตาเน วาติ สสนฺตาเน วา ปรสนฺตาเน วา. ตถา วิวทนฺตา ปนาติ เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย วิวทนฺตา. อุภเยหิปีติ เถรนเวหิ. นฺติ เมตฺตํ กายกมฺมํ. เยสํ ปุคฺคลานํ ปิยํ กโรติ, เตสํ เมตฺตากายกมฺมสงฺขาโต ธมฺโม. เอตฺตกนฺติ อามิสวิภตฺติทสฺสนํ. อสุกสฺส จาติ ปุคฺคลวิภตฺติทสฺสนํ. ‘‘ทุสฺสีลสฺส อทาตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา เอว อลชฺชิปริโภโค วาริโต. สพฺเพสํ ทาตพฺพเมวาติ สนฺนิฏฺาเนน อชานนฺเตน วิภาคํ อกตฺวา ทาตพฺพภาวํ ทีเปตีติ เอเก. ‘‘สพฺเพสํ ทาตพฺพเมวา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถาสุ. ตตฺถ ‘‘อลชฺชิอุกฺขิตฺตกานํ ปริโภคสีเสน สหตฺถา น ทาตพฺพํ, ทาเปตพฺพนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํ. วิจินิตฺวา ทานํ วิเจยฺย ทานํ. ยสฺมา อยํ วิเสโส กาตพฺโพเยวาติ อยํ กโรติ, ตสฺมา ปุคฺคลวิภาโค น กโตติ สมฺพนฺโธ. ปกติวณฺเณน วิสภาควณฺเณน. ‘‘อิทํ นาม อาปนฺโน’’ติ ปเรหิ อปรามสิตพฺพโต อปรามฏฺานิ. อนุโลเมหิ คหิตสงฺขารารมฺมเณหิ นิพฺพานารมฺมณํ กตฺวา นิยฺยาติ.

ฉอาปตฺติสมุฏฺานวาราทิวณฺณนา

๒๗๖. ‘‘ปเมนอาปตฺติสมุฏฺาเนน ทุพฺภาสิตํ อาปชฺเชยฺยาติ น หีติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ วาจาจิตฺตวเสเนวาปชฺชิตพฺพโต.

๒๗๗. กุฏึกโรตีติ เอตฺถ สฺจริตฺตมวตฺวา ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสสานํ เอกสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิปาฏิยา อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตํ. น หิ สฺจริตฺเต เอว อาปชฺชติ. ‘‘อิมินา ปน นเยน สพฺพตฺถ ปฏิปาฏิยา อคฺคหเณ การณํ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๘๓. วิเวกทสฺสินาติ ตทงฺควิเวกาทิปฺจวิธวิเวกทสฺสินา.

๒๘๔. อตฺตโน ทุฏฺุลฺลนฺติ สงฺฆาทิเสสํ.

๒๘๘. วิวาทาธิกรณปจฺจยาติ อฺเหิ, อตฺตนา วา ปุพฺพภาเค อาปนฺนปจฺจยาติ อตฺโถ. โอมสตีติ ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย’’ติ วิวทนฺโต ‘‘ตฺวํ กึ ชานาสี’’ติอาทินา โอมสติ. ตีหิ สมเถหิ สมฺมุขาวินยปฏิฺาตกรณติณวตฺถารเกหิ. ‘‘สมฺมุขาวินยฺเจตฺถ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพโต ‘สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จา’ติอาทินา ทฺวีหิปิ โยชิตํ. เอส นโย สพฺพตฺถา’’ติ วุตฺตํ.

๒๙๑. เปตฺวา สตฺต อาปตฺติโยติ เอตฺถ ‘‘กิฺจาปิ อวเสสา นตฺถิ, ตถาปิ ปฏิปาฏิยา ปาฏวชนนตฺถํ ปุจฺฉา กตา’’ติ วุตฺตํ.

อนฺตรเปยฺยาลํ นิฏฺิตํ.

สมถเภทวณฺณนา

อธิกรณปริยายวาราทิวณฺณนา

๒๙๓-๔. โลภการณาวิวาทนโต ‘‘โลโภ ปุพฺพงฺคโม’’ติ วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุ. านานีติอาทีนิ การณเววจนานิ. การณฺหิ ติฏฺนฺติ เอตฺถาติ านํ, วสนฺติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมีติ วุจฺจติ. เก ติฏฺนฺติ วสนฺติ ภวนฺติ จาติ? วิวาทาธิกรณาทโย. กุสลากุสลาพฺยากตจิตฺโต หุตฺวา วิวทนโต ‘‘นว เหตู’’ติ วุตฺตํ. โกธโน โหติ อุปนาหีติอาทีนิ ทฺวาทส มูลานิ. อกฺโกสนฺเตน หิ จตูสุ วิปตฺตีสุ เอเกน อนุวทนโต ‘‘จตสฺโส วิปตฺติโย านานี’’ติ วุตฺตํ. จุทฺทส มูลานีติ วิวาทาธิกรเณ วุตฺตา ทฺวาทส, กาโย, วาจา จ.

๒๙๕-๖. สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา านานีติ เอตฺถ ‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ยา อาปตฺติ โหติ, ตสฺสา อาปตฺติยา ปุพฺเพ อาปนฺนา อาปตฺติ านํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ วจนโต นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณสฺส กุสลเหตุ, กุสลจิตฺตํ ปน องฺคํ โหตี’’ติ ลิขิตํ. จตฺตาริ กมฺมานิ านานีติ เอตฺถ ‘‘เอวํ กตฺตพฺพนฺติ ิตปาฬิ กมฺมํ นาม. ‘ยถาิตปาฬิวเสน กโรนฺตานํ กิริยา กิจฺจาธิกรณํ นามา’’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปาฬิอนุสาเรน ปฏิกาตพฺพลกฺขณํ วา กมฺมํ. ตเถว กรณํ กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ จ. ตฺติตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺมานิ ตฺติโต ชายนฺติ, อปโลกนกมฺมํ อปโลกนโต, ‘‘กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ ลิขิตํ. สิยุนฺติ โหนฺติ. กถฺจ สิยาติ กถํ โหติ. วิวาทาธิกรณสฺส ทฺเวติ เต ทฺเว เปตฺวา อฺเหิ น สมฺมติ.

๒๙๗. สาธารณาติ ตํ สเมตพฺพา.

๒๙๘. ตพฺภาคิยาติ ตํโกฏฺาสา.

๒๙๙. เอกาธิกรณํ สพฺเพ สมถา สมคฺคา หุตฺวา สเมตุํ ภพฺพาติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘สมถา สมถสฺส สาธารณา’’ติ อาห. สมถา สมถสฺสา สิยา สาธารณา สิยา อสาธารณา.

๓๐๐. สมถา สมถสฺส ตพฺภาคิยวาเรปิ เอเสว นโย.

๓๐๑. อิเม สมถา สมถา, น สมฺมุขาวินโยติ อตฺโถ.

๓๐๒. ‘‘สมถา วินโย’’ติปิ วุจฺจติ, ตสฺมา วินโย สมฺมุขาวินโยติ วินยวาโร อุทฺธโฏ สิยา. น สมฺมุขาวินโยติ สมฺมุขาวินยํ เปตฺวา สติวินยาทโย เสสสมถา.

๓๐๓. สงฺฆสฺส สมฺมุขา ปฏิฺาเต ตํ ปฏิชานนํ สงฺฆสฺส สมฺมุขตา นาม โหตีติ ‘‘ตสฺส ปฏิชานนจิตฺตํ สนฺธาย ‘สมฺมุขาวินโย กุสโล’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. นตฺถิ สมฺมุขาวินโย อกุสโลติ ‘‘ธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขตาหิ ติวงฺคิโก สมฺมุขาวินโย เอเตหิ วินา นตฺถิ. ตตฺถ กุสลจิตฺเตหิ กรณกาเล กุสโล, อรหนฺตานํ กรณกาเล อพฺยากโต, เอเตสํ อกุสลปฏิปกฺขตฺตา อกุสลสฺส สมฺภโว นตฺถิ, ตสฺมา ‘นตฺถิ สมฺมุขาวินโย อกุสโล’ติ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ. ‘‘เยภุยฺยสิกา อธมฺมวาทีหิ วูปสมนกาเล สลากคฺคาหาปเก ธมฺมวาทิมฺหิ กุสลา, ธมฺมวาทีนมฺปิ อธมฺมวาทิมฺหิ สลากคฺคาหาปเก ชาเต อกุสลา, สพฺพตฺถ อรหโต วเสเนว อพฺยากตตา, อนรหโต สฺจิจฺจ สติวินยทาเน สติวินโย อกุสโล, อมูฬฺหวินโย อนุมฺมตฺตกสฺส ทาเน, ปฏิฺาตกรณํ มูฬฺหสฺส อชานนโต ปฏิฺายกรเณ, ตสฺสปาปิยสิกา สุทฺธสฺส กรเณ, ติณวตฺถารกํ มหากลเห, สฺจิจฺจ กรเณ จ อกุสล’’นฺติ ลิขิตํ.

ยตฺถวารปุจฺฉาวารวณฺณนา

๓๐๔. ลพฺภตีติ ปุจฺฉา.

สมถวารวิสฺสชฺชนาวารวณฺณนา

๓๐๕. ยสฺมึ สมเย สมฺมุขาวินเยน จาติอาทิ ตสฺสา วิสฺสชฺชนํ. ยสฺมึ สมเย สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตสฺมึ สมเย ยตฺถ เยภุยฺยสิกา ลพฺภติ, ตตฺถ สมฺมุขาวินโย ลพฺภตีติ เอวํ สพฺพตฺถ สมฺพนฺโธ. ยตฺถ ปฏิฺาตกรณํ ลพฺภติ, ตตฺถ สมฺมุขาวินโย ลพฺภตีติ เอตฺถ เอกํ วา ทฺเว วา พหู วา อาปตฺติโย อาปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘อามา’’ติ อาปตฺตึ ปฏิชานาติ, ทฺเวปิ ลพฺภนฺติ. ตตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขตาติ เอวํ วุตฺตสมฺมุขาวินเย สงฺฆสฺส ปุรโต ปฏิฺาตํ กตํ เจ, สงฺฆสมฺมุขตา. ตตฺเถว เทสิตํ เจ, ธมฺมวินยสมฺมุขตาโยปิ ลทฺธา โหนฺติ. อวิวทนฺตา อฺมฺํ ปฏิชานนฺติ เจ, ปุคฺคลสมฺมุขตา. ตสฺเสว สนฺติเก เทสิตํ เจ, ธมฺมวินยสมฺมุขตาโยปิ ลทฺธา โหนฺติ. เอกสฺเสว วา เอกสฺส สนฺติเก อาปตฺติเทสนกาเล ‘‘ปสฺสสิ, ปสฺสามี’’ติ วุตฺเต ตตฺถ ธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขตาสฺิโต สมฺมุขาวินโย จ ปฏิฺาตกรณฺจ ลทฺธํ โหติ.

สํสฏฺวาราทิวณฺณนา

๓๐๖. อธิกรณานํ วูปสโมว สมโถ นาม, โส อธิกรณํ วินา นตฺถิ, ตสฺมา น จ ลพฺภา วินิภุชฺชิตฺวา นานากรณํ กาตุํ.

๓๐๙-๓๑๐. สมถา สมเถหิ สมฺมนฺตีติ เอตฺถ สมฺมนฺตีติ สมฺปชฺชนฺติ. อธิกรณา วา ปน สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺตีติ อตฺโถ, ตสฺมา ‘‘เยภุยฺยสิกา สมฺมุขาวินเยน สมฺมตี’’ติ อิมาย สมฺมุขาวินเยน สทฺธึ สมฺปชฺชติ, น สติวินยาทีหิ เตสํ ตสฺสา อนุปการตฺตาติ อตฺโถ. สมถา อธิกรเณหิ สมฺมนฺตีติ เอตฺถ สมถา อภาวํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

๓๑๑. ‘‘สมฺมุขาวินโย วิวาทาธิกรเณน น สมฺมตี’’ติ ปาโ. เยภุยฺยสิกาย สมานภาวโต จ อวสาเน ‘‘สมฺมุขาวินโย น เกนจิ สมฺมตี’’ติ (ปริ. ๓๑๓) วุตฺตตฺตา จ สมฺมุขาวินโย สยํ สมเถน วา อธิกรเณน วา สเมตพฺโพ น โหตีติ กตฺวา วุตฺโต. สติวินโย กิจฺจาธิกรเณน สมฺมติ. อมูฬฺหวินยตสฺสปาปิยสิกติณวตฺถารกาปิ กิจฺจาธิกรเณน สมฺมนฺติ.

๓๑๓. วิวาทาธิกรณํ กิจฺจาธิกรเณน สมฺมตีติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต…เป… ปมํ สลากํ นิกฺขิปามี’’ติ เอวํ วิวาทาธิกรณํ กิจฺจาธิกรเณน สมฺมติ. อนุวาทาธิกรณอาปตฺตาธิกรณาปิ กิจฺจาธิกรเณน สมฺมนฺติ. ‘‘‘อกตํ กมฺมํ ทุกฺกฏํ กมฺม’นฺติ เอวํ กิจฺจาธิกรณมฺปิ กิจฺจาธิกรเณน สมฺมตีติ เอวํ ปาโ เวทิตพฺโพ’’ติ ลิขิตํ. อฺตรสฺมึ ปน คณฺิปเท ‘‘‘สมถา อธิกรเณหิ สมฺมนฺตี’ติ เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพ สมถา กิจฺจาธิกรเณน สมฺมนฺติ, ตสฺมา ‘สมถา กิจฺจาธิกรเณน สมฺมนฺตี’ติ ปาโ คเหตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

๓๑๔. วิวาทาธิกรณํกตมํ อธิกรณํ สมุฏฺาเปตีติ ‘‘นายํ ธมฺโม’’ติ วุตฺตมตฺเตน กิฺจิ อธิกรณํ น สมุฏฺาเปติ.

๓๑๘-๙. ‘‘กตมาธิกรณปริยาปนฺน’’นฺติ ปาโ. วิวาทาธิกรณํ วิวาทาธิกรณํ ภชตีติ ปมุปฺปนฺนวิวาทํ ปจฺฉา อุปฺปนฺโน ภชติ. วิวาทาธิกรณํ ทฺเว สมเถ ภชตีติ ‘‘อิมํ วูปสเมตุํ สมตฺถา ตุมฺเห’’ติ วทนฺตํ วิย ภชติ ‘‘มยํ ตํ วูปสเมสฺสามา’’ติ วทนฺเตหิ วิย ทฺวีหิ สมเถหิ สงฺคหิตํ.

สมถเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธกปุจฺฉาวารวณฺณนา

ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา

๓๒๐. นิทานํ นาม กาลฺจ นครฺจ เทโส จ ภควา จ. วตฺถุปุคฺคลาทิ นิทฺเทโส. ยานิ ตตฺถ อุปสมฺปทกฺขนฺธเก ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติอาทินา นเยน อุตฺตมานิ ปทานิ วุตฺตานีติ สมฺพนฺโธ. สา สา ตสฺส ตสฺส ปทสฺส อาปตฺตีติ วุจฺจตีติ ยา ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ ปเทน ปฺตฺตา อาปตฺติ, สา ตสฺส ปทสฺสาติ อธิปฺปาโย. จมฺมสํยุตฺเตติ จมฺมกฺขนฺธเก.

เอกุตฺตริกนยวณฺณนา

เอกกวารวณฺณนา

๓๒๑. เอกุตฺตริกนเย อาปตฺติ ชานิตพฺพาติ เอตฺถ อาปตฺติ นาม กึ ปรมตฺถสภาวา, อุทาหุ น วตฺตพฺพสภาวาติ? น วตฺตพฺพสภาวา. วุตฺตฺหิ ปริวาเร ‘‘วตฺถุ ชานิตพฺพํ, โคตฺตํ ชานิตพฺพํ, นามํ ชานิตพฺพํ, อาปตฺติ ชานิตพฺพา’’ติ เอเตสํ ปทานํ วิภงฺเค ‘‘เมถุนธมฺโมติ วตฺถุ จ โคตฺตฺจ. ปาราชิกนฺติ นามฺเจว อาปตฺติ จา’’ติ. นามฺจ โคตฺตฺจ ‘‘นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖) วจนโต สมฺมุติมตฺตํ, ตสฺมา ‘‘กุสลตฺติกวินิมุตฺตา น วตฺตพฺพธมฺมภูตา เอกจฺจา สมฺมุติ เอวา’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน วุตฺตํ สมถกฺขนฺธเก ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากต’’นฺติ (จูฬว. ๒๒๒), ตํ ‘‘วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลํ, สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากต’’นฺติ (จูฬว. ๒๒๐) เอตฺถ วิย ปริยายโต วุตฺตํ. อตฺถโต หิ วิวาโท นาม เอกจฺโจ สมฺมุติวิเสโส. โย จิตฺตสมงฺคิโน, โส ‘‘ตํ จิตฺตปริยาเยน ปน สิยา กุสล’’นฺติอาทิ โวหารลทฺโธ, ตถา อาปตฺตาธิกรณมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน หิ อกุสลจิตฺโต วา อาปชฺชติ กุสลาพฺยากตจิตฺโต วา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา). อฺถา สมเถหิ อธิกรณียตา น สมฺภวติ. น หิ สมถา กุสลาทึ อกุสลาทึ วา อธิกิจฺจปวตฺตนฺติ, สมถวเสน วา กุสลาทิ สมฺมติ. น จ กุสลสฺส วิวาทสฺส, อนุวาทสฺส วา กุสลาทิสมเถหิ วูปสเมตพฺพตา อาปชฺชตีติ เตสํ อธิกรณมตฺตเมว น สมฺภเวยฺย, ตสฺมา อธิกรณานํ, สมถานฺจ กุสลาทิภาโว ปริยายเทสนาย ลพฺภติ, โน อฺถา, เตเนว สมฺมุขาวินเย วิย อาปตฺตาธิกรเณ ติกํ น ปูริตํ. สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชมานสฺส ยสฺมา สฺเจตนา เอกนฺตโต อกุสลาว โหติ. อิตรสฺส สจิตฺตกสฺส วา อจิตฺตกสฺส วา ตทาภาวมตฺตํ อุปาทาย ‘‘อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. ยถา หิ ‘‘ติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสล’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๕๓๘) น กุสลสทฺโท สุขวิปาโก, ‘‘สมฺปรายิกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปฏิฆาตายา’’ติอาทีสุ (ปริ. ๔๙๘) น อกุสลา วา โหติ. อิตรสฺส สจิตฺตกสฺส วา อจิตฺตกสฺส วา ตทาภาวมตฺตํ อุปาทาย ‘‘อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. ยถา หิ ทฺวิกฺขตฺตุํ โจทยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, ยํ ปเนตฺถ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อกุสล’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺส วเสน ตทกุสลโต สตฺต วินีตวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ, ตโต จีวรนฺติ สมฺภวโต อจีวรกา, อนฺตราปตฺติกา จ. อนนฺตริกลกฺขณปฺปตฺตสฺส วเสน นิยตา จ นามาติ เวทิตพฺพํ. สมฺมุตินิทฺเทเส ครุกลหุกนิทฺเทโสปิ สมฺภวติ. อฺถา ‘‘อนนฺตรายิกา ปณฺณตฺติวชฺชา, อนวชฺชาปณฺณตฺตี’’ติ จ วุตฺตา. กุฏิการมหลฺลกาปตฺติ อนฺตรายิกา โลกวชฺชสาวชฺชปณฺณตฺติโต. สมฺปชานมุสาวาโท โอมสวาทาทิโต ครุกาทิ น สมฺภเวยฺย, ตโต วา อยํ ลหุกาทีติ อิทํ สพฺพํ เอกจฺจานํ อาจริยานํ มตํ, ‘‘สพฺพํ อยุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา ‘‘ปาราชิกนฺติ นามฺเจว อาปตฺติจา’’ติ วจเนน เจ อาปตฺติ น วตฺตพฺพธมฺโม สิยา, วตฺถุ จ น วตฺตพฺพธมฺโม สิยา โคตฺเตน สมานาธิกรณภาเวน วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ‘‘เมถุนธมฺโม’’ติ ปทํ อชฺฌาจารสงฺขาตํ วตฺถุฺจ ทีเปติ. อชฺฌาจารวเสเนว อาปตฺติยา ลทฺธนามํ อสาธารณนามตฺตา ‘‘โคตฺต’’นฺติ จ วุจฺจตีติ อยํ ตตฺถ อตฺโถ.

‘‘อาปตฺตาธิกรณสฺส กึ ปุพฺพงฺคมนฺติ? โลโภ ปุพฺพงฺคโม, โทโส, โมโห, อโลโภ, อโทโส, อโมโห ปุพฺพงฺคโม’’ติ ‘‘กติ เหตูติ? ฉ เหตู ตโย อกุสลเหตู, ตโย อพฺยากตเหตู’’ติ จ วุตฺตตฺตา นิปฺปริยาเยเนว ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. สมถกฺขนฺธเก ปน สนฺธายภาสิตวเสน ตถา เอว วุตฺตํ. ตสฺมา อาปตฺตาธิกรณํ สภาวโต นิปฺปริยาเยเนว อกุสลา จตฺตาโร ขนฺธา, รูปอพฺยากตา จ โหนฺติ. ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ (จูฬว. ๒๒๒) วุตฺตตฺตา กุสลเมว ปฏิกฺขิตฺตํ, ขีณาสวานํ กิริยาพฺยากตํ นาม โหตีติ กุสเล ปฏิกฺขิตฺเต กิริยาพฺยากตมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต สพฺพถา อวาวฏํ วิปากาพฺยากตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. นิพฺพานาพฺยากเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ เอเก, ตํ อยุตฺตํ ‘‘ฉ เหตุโย’’ติ วุตฺตตฺตา. กิฺจาปิ วุตฺตํ สามฺเน, ตถาปิ วิปากเหตุเยว ตตฺถ อธิปฺเปโต, น กิริยาเหตุ, เต หิ กุสลสภาวา จ, ตสฺมา รูปํ, วิปากาพฺยากตฺจาปตฺติ. ตตฺถ อกุสลาปตฺติโต วินีตวตฺถูนิ. อิตรสฺสาปิ อาทิโต ฉาทนา กุสลจิตฺตโตติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตรายิกนิยตสาวชฺชปฺตฺติภาโวปิ จสฺสา เววจนวเสน เวทิตพฺโพ ปณฺณตฺติวชฺชาย, สฺจิจฺจ อาปนฺนาย จ, ตสฺมา ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ สิยา สารมฺมณํ สิยา อนารมฺมณ’’นฺติ วจนํ วิย เอกนฺตากุสลํ อเนกนฺตากุสลฺจ โลกวชฺชํ, เอกนฺตาพฺยากตํ ภูตาโรจนํ อเนกนฺตาพฺยากตฺจ เสสํ ปณฺณตฺติวชฺชํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยาพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. สมถกฺขนฺธเก ปน ปณฺณตฺติวชฺชเมว สนฺธาย ตถา วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ, คณฺิปเท จ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’นฺติ เอตฺถ สนฺธายภาสิตวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมิฺหิ ปถวิขณนาทิเก อาปตฺตาธิกรเณ อปกตฺุโน สนฺธาย อปฺปหริตกรณาทิกาเล กุสลจิตฺตํ องฺคํ โหติ, ขณนาทิปโยคสงฺขาตํ รูปาพฺยากตํ อาปตฺติสมุฏฺาเปนฺตํ โหตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อตฺถาปตฺติ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, กุสลจิตฺโต วุฏฺาตี’’ติอาทิ. ตสฺมิฺหิ สติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ. ยสฺมา อาปตฺติสมุฏฺาปกํ จิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ, ตสฺมา น ยิทํ องฺคปฺปโหนกจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘สิยา กุสล’’นฺติ จ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, น จ วุตฺตํ. ตสฺมา อิทํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ – ยํ ตาว อาปตฺตาธิกรณํ โลกวชฺชํ, ตํ เอกนฺตโต อกุสลเมว, ตตฺถ ‘‘สิยา อกุสล’’นฺติ วิกปฺโป นตฺถิ. ยํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ยสฺมา สฺจิจฺจ ‘‘อิมํ อาปตฺตึ วีติกฺกมามี’’ติ วีติกฺกมนฺตสฺเสว อกุสลํ โหติ, อสฺจิจฺจ ปน กิฺจิ อชานนฺตสฺส สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชโต รูปวิปากํ อพฺยากตํ โหติ อนุฏฺานโต. ตสฺมา ตสฺส ปณฺณตฺติวชฺชสฺส สฺจิจฺจาสฺจิจฺจวเสน อิมํ วิกปฺปภาวํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ.

สเจ ปน โกจิ วินเย อปกตฺู ‘‘ยํ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, อิทํ วุจฺจติ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วเทยฺย, ตสฺเสวํวาทิโน อจิตฺตกานํ เอฬกโลมาทิสมุฏฺานานมฺปิ กุสลจิตฺตสมงฺคิกาเล ตาสํ อาปตฺตีนํ กุสลจิตฺโต อาปชฺเชยฺย, น วา อาปชฺชติ . กึการณํ? น จ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ. อตฺตภาโว สภาโว ปกตีติ วุตฺตํ โหติ. กตรํ ปน ตสฺสา อาปตฺติยา ตทา องฺคสภาโวติ? วุจฺจเต – กายวจีวิฺตฺติวเสน ปน จลิตสฺส กายสฺส, ปวตฺตาย วาจาย จาติ เอเตสํ ทฺวินฺนํ จลิตปฺปวตฺตานํ กายวาจานํ อฺตรเมว องฺคสภาโว, ตฺจ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา อพฺยากตนฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? กาโย, วาจา จ ตทา อาปตฺตาธิกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยา ปเนตฺถ อกุสลาปตฺติกฺขเณ กายวาจาโย อพฺยากตภาโว, ตา อพฺโพหาริกา โหนฺติ กายวจีกมฺมกาเล มโนกมฺมํ วิย. ตทา หิ กายวาจาโย อาปตฺติกราทิฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาปตฺติกรา ธมฺมา ชานิตพฺพา. กติ มูลานีติ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ มูลานี’’ติอาทิ. ยทา ปน กายวาจาโย อาปตฺติยา องฺคเมว โหนฺติ, ตทา ‘‘จิตฺตํ จิตฺตาธิปเตยฺย’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสลวณฺณนา) วจนํ วิย ปุพฺพปโยคานํ อปรปโยคสฺส ปจฺจยภาวโต อาปตฺติกราทิปฺตฺตึ น วิชหนฺติ. ยถา ตพฺภาเวปิ ‘‘อาปตฺตาธิกรณสฺส กติ วตฺถูนีติ? สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา วตฺถูนิ. กติ ภูมิโยติ? สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา ภูมิโย’’ติ วุตฺตํ. ตถา ตพฺภาเวปิ อาปตฺติกรา ‘‘อาปตฺติสมุฏฺานา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺตีติ เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา อาปตฺติ นาม จตฺตาโร อกุสลกฺขนฺธา สฺจิจฺจ วีติกฺกมกาเล ภูตาโรจนํ เปตฺวา สพฺพาปิ อวิเสสโต, วิเสสโต ปน สพฺพาปิ เอกนฺตากุสลา อกุสลา, อเนกนฺตากุสลา ปน คิรคฺคสมชฺชจิตฺตาคารสงฺฆานิอิตฺถาลงฺการคนฺธวณฺณกวาสิตปิฺากปฺปเภทา, ภิกฺขุนิอาทีนํ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนปฺปเภทา จาติ ทสปฺปเภทา สกนาเมหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วตฺถุชานนสจิตฺตกกาเล เอว อกุสลา, ตทภาวโต อจิตฺตกกาเล วินา อนาปตฺตาธิกรเณน กมฺมฏฺานาทิสีเสน กุสลจิตฺเตน ตํ ตํ วตฺถุํ วีติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ เกวลํ รูปอพฺยากตเมว.

เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อปฺปกาเส าเน กฏิสุตฺตกสฺาย สงฺฆาณึ, มตฺติกาสฺาย คนฺธวณฺณกาทึ วา ธาเรนฺติยาปิ อาปตฺติ, ตสฺมา อจิตฺตกาเยวา’’ติ วณฺณยนฺติ. เต ‘‘สงฺฆาณิยา อสงฺฆาณิสฺาย ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ ปาาภาวํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. สุราปานาปตฺติ ปน อจิตฺตกาปิ เอกนฺตากุสลาว. เตเนว ‘‘มชฺเช อมชฺชสฺี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตํ. ยสฺมา ปเนตฺถ อาพาธปจฺจยาปิ น สกฺกา วินา อกุสเลน สุราปานํ ปาตุํ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตสุ อเนกนฺตากุสเลสุ วิย โลกวชฺเชสุ อิธ ‘‘สุราปาเนสุ อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยา’’ติ น วุตฺตํ. สูปสํปากาทิ ปน อมชฺชเมว. ตตฺถ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ อุทกทนฺตโปเณ วิย. ภูตาโรจนาปตฺติ รูปาพฺยากตเมว, อจิตฺตกกาเล สหเสยฺยาทิ รูปวิปากาพฺยากตเมว, ตตฺถ สุปินนฺโต วิชฺชมานมฺปิ อกุสลํ อนงฺคตฺตา อพฺโพหาริกํ โหติ. กุสเล กถาว นตฺถิ อนาปตฺติ สภาวตฺตา กุสลสฺส. ตถา กิริยาติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ยถาสมฺภวํ อกุสลํ วา สุทฺธรูปํ วา สวิปากํ วาติ ติธา ภิชฺชตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ.

ตตฺถ เปตฺวา สุราปานํ เอกจฺจฺจ ปณฺณตฺติวชฺชํ, เอกนฺตากุสลฺจ สจิตฺตกเมว, ภูตาโรจนํ อจิตฺตกเมว, เสสํ สห สุราปาเนน อเนกนฺตากุสลํ โลกวชฺชฺจ อเนกนฺตาพฺยากตํ ปณฺณตฺติวชฺชฺจ เยภุยฺเยน สจิตฺตกาจิตฺตกนฺติ สพฺพสิกฺขาปทํ ติปฺปเภทํ โหติ. ยํ ปเนตฺถ สจิตฺตกเมว, ตํ เมถุนาทิวตฺถุชานนจิตฺเตเนว สจิตฺตกํ, สพฺพํ เสขิยํ ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตเนว สจิตฺตกํ ‘‘อนาทริยํ ปฏิจฺจา’’ติ วจนโตติ สจิตฺตกํ ทุวิธํ โหติ. เอกนฺตาจิตฺตกํ ปณฺณตฺติชานนจิตฺตาภาเวน, น วตฺถุชานนจิตฺตาภาเวน. ตทภาวโต เอกนฺตากุสลํ สุราปานํ, เอกนฺตาพฺยากตํ สฺจริตฺตํ, วตฺถุชานนจิตฺตสฺส วา ปณฺณตฺติชานนจิตฺตสฺส วา อุภินฺนํ อภาเวน อจิตฺตกภาเวน อจิตฺตกํ โหติ. สุราปานํ ปน สจิตฺตกํ โหติ วตฺถุชานนจิตฺเตเนว. อริยปุคฺคลานํ อิตเรสํ อุภินฺนํ วา อฺตรสฺส ภาเวน เสสํ จิตฺตกาจิตฺตกํ . วิเสสโต จ วตฺถุชานนจิตฺตาภาเวน, อปกตฺุโน ปณฺณตฺติชานนจิตฺตาภาเวน วา อจิตฺตกภาเวน อจิตฺตกํ โหติ. ตตฺถ เอกนฺตาจิตฺตกฺจ สจิตฺตกฺจ ‘‘อจิตฺตก’’มิจฺเจว วุจฺจติ. อยํ ตาว ‘‘อาปตฺติ ชานิตพฺพา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉโย.

มูลวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺตีติ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ กตฺวา ิเตน อาปนฺนาปตฺติ. อยํ อคฺฆวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺตีติ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ตาสุ สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนวเสน อคฺฆสโมธานํ คเหตฺวา วสนฺเตน อาปนฺนาปตฺติ. ‘‘ปุนปิ อาปชฺชิสฺสามี’’ติ สอุสฺสาเหเนว จิตฺเตน. ‘‘อยํ ภิกฺขุนิยา เอวา’’ติ ลิขิตํ. ‘‘ปาราชิกเมวา’’ติ อิทฺจ ภูตวเสน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ เทสิเต ปน ยา กาจิ อาปตฺติ น วุฏฺาตีติ อปเร, ตํ น คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน’’ติ วุตฺตตฺตา อธมฺมิกปฏิสฺสเว ทุกฺกฏํ น โหติ. ‘‘ปุพฺเพ สุทฺธจิตฺตสฺส ‘ตุมฺเห วิพฺภมถา’ติ วุตฺเต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สเจ น วิพฺภมติ อนาปตฺติ, เอวํ สพฺพตฺถา’’ติ จ วุตฺตํ. ‘‘อาวิกโร ชานิตพฺโพ’’ติปิ ปาฬิ. กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลนา’’ติอาทีสุ ปฺจทสสุ ธมฺเมสุ. ภพฺพาปตฺติกา นาม อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภพฺพา.

ทุกวารวณฺณนา

๓๒๒. นิทหเน อาตเป. ‘‘เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺย (ปารา. ๔๗๒). ฉารตฺตปรมํ เตนา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๕๓) วุตฺตาปตฺติโก คณปูรโก หุตฺวาปิ กมฺมํ โกเปติ นานาสํวาสกตฺตา. กมฺเมน วา สลากคฺคาเหน วาติ เอตฺถ อุทฺเทโส เจว กมฺมฺจ เอกนฺติ เอตฺถ ปาติโมกฺขุทฺเทโสติ วา กมฺมนฺติ วา อตฺถโต เอกเมว, เตสุ ยํ กิฺจิ กเต สงฺฆเภโท โหตีติ อตฺโถ. ปุพฺพภาคาติ สงฺฆเภทโต ปุพฺพภาคา. ‘‘ปมาณ’’นฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อฺตเรน เภโท โหติ, น อิตเรหีติ วุตฺตํ. วินเย สิทฺธา วินยสิทฺธา, โรมชนปเท ชาตํ โรมกํ, อนุฺาตโลณตฺตา ทุเกสุ วุตฺตาติ.

ติกวารวณฺณนา

๓๒๓. โว ตุมฺเหหิ น สมุทาจริตพฺพํ. วจีสมฺปยุตฺตํ กายกิริยํ กตฺวาติ กาเยน นิปจฺจการํ กตฺวาติ อตฺโถ. อุปฆาเตติ วินาเสติ. โอมทฺทิตฺวาติ อภิภวิตฺวา. วทโตติ วทนฺตสฺส. ‘‘พาลสฺส นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ ทุเก อาคตํ, อิธ ปน ‘‘น ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, อาปตฺติพาหุลฺลํ สนฺธาย นาทาตพฺพํ, ‘‘อิมสฺมา วิหารา ปรํ มา นิกฺขมาหิ, วินยธรานํ วา สนฺติกํ อาคจฺฉ วินิจฺฉยํ ทาตุ’’นฺติ วุตฺเต ตสฺส วจนํ น คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. ติกโภชนํ นาม สเจ ตโย หุตฺวา ภุฺชนฺติ, คณโภชเนน อนาปตฺติ, อิทํ สนฺธาย ติกํ. ‘‘ปสุตฺโต’’ติ พาหุลฺลโต วุตฺตํ. อถ วา นิปชฺชิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ เปตฺวา คจฺฉามิ, ตาวกาลิกํ ภนฺเต เทถาติ วุตฺเต ‘นวกมฺมาทิอตฺถํ วินา ทาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ลิขิตํ. วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส นิวาเสนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. อปจฺจุทฺธริตฺวาติ ปจฺจุทฺธรณํ อกตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘วิกปฺเปตุ’’นฺติ วจนโต อวิกปฺปนปจฺจยา อาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, วิกปฺปนา ปน กตฺติกปุณฺณมทิวเส กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ าตพฺพํ. อยํ นโย อวิกปฺปนํ สนฺธาย, ปุริโม วิกปฺปิตปริโภคปจฺจยาปตฺตึ สนฺธาย. วตฺถปฏิจฺฉาทิ สพฺพกปฺปิยตายาติ วตฺถปฏิจฺฉาทิ สพฺพตฺถ กปฺปิยตฺตาติ อตฺโถ. เกจิ อิมมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘วตฺถปฏิจฺฉาทิ สพฺพกปฺปิยตา ตาย ปฏิจฺฉนฺเนนา’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘วตฺถเมว ปฏิจฺฉาทิ วตฺถปฏิจฺฉาที’’ติ วิคฺคหตฺตา ‘‘ตายา’’ติ น ยุชฺชติ. ‘‘เตนา’’ติ ภวิตพฺพตฺตาติ อิทํ สพฺพํ อฺตรสฺมึ คณฺิปเท ลิขิตํ, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.

จตุกฺกวารวณฺณนา

๓๒๔. จตูหากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ…เป… กมฺมวาจาย อาปชฺชตีติ เอตฺถ ยฺหิ อาปตฺตึ กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, น ตตฺถ กายาทโยติ อาปนฺนํ, ตโต กมฺมวาจาย สทฺธึ อาปตฺติกรา ธมฺมา สตฺตาติ อาปชฺชติ, เอวํ สติ ‘‘ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานี’’ติ วจนวิโรโธ, ตานิ เอว อาปตฺติกรา ธมฺมา นาม. อถ ตตฺถาปิ กายาทโย เอกโต วา นานาโต วา ลพฺภนฺติ, จตูหากาเรหีติ น ยุชฺชตีติ ‘‘ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาติ เอวํ เอตานิ สุตฺตปทานิ วิโรธิตานิ โหนฺติ. กถํ อวิโรธิตานิ? สวิฺตฺติกาวิฺตฺติกเภทภินฺนตฺตา. กายาทีนํ ยา กิริยา อาปตฺติ, นํ เอกจฺจํ กาเยน สวิฺตฺติเกน อาปชฺชติ, เอกจฺจํ สวิฺตฺติกาย วาจาย, เอกจฺจํ สวิฺตฺติกาหิ กายวาจาหิ อาปชฺชติ, ยา ปน อกิริยา อาปตฺติ, ตํ เอกจฺจํ กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, ตฺจ โข อวสิฏฺาหิ อวิฺตฺติกาหิ กายวาจาหิเยว, น วินา ‘‘โน เจ กาเยน วาจาย ปฏินิสฺสชฺชติ, กมฺมวาจาปริโยสาเน อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๔) วจนโต, อวิเสเสน วา เอกจฺจํ อาปตฺตึ กาเยน อาปชฺชติ, เอกจฺจํ วาจาย , เอกจฺจํ กายวาจาหิ . ยํ ปเนตฺถ กายวาจาหิ, ตํ เอกจฺจํ เกวลาหิ กายวาจาหิ อาปชฺชติ, เอกจฺจํ กมฺมวาจาย อาปชฺชตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพติ เอวํ อวิโรธิตานิ โหนฺติ.

ตตฺรายํ สมาสโต อตฺถวิภาวนา – กาเยน อาปชฺชตีติ กาเยน สวิฺตฺติเกน อกตฺตพฺพํ กตฺวา เอกจฺจํ อาปชฺชติ, อวิฺตฺติเกน กตฺตพฺพํ อกตฺวา อาปชฺชติ, ตทุภยมฺปิ กายกมฺมํ นาม. อกตมฺปิ หิ โลเก ‘‘กต’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘ทุกฺกฏํ มยา, ยํ มยา ปุฺํ น กต’’นฺติ เอวมาทีสุ, สาสเน จ ‘‘อิทํ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ, ยํ ตฺวํ ภควนฺตํ น ปุจฺฉี’’ติ (จูฬว. ๔๔๓) เอวมาทีสุ, เอวมิธ วินยปริยาเยน กาเยน อกรณมฺปิ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. อยเมว นโย ‘‘วาจาย อาปชฺชตี’’ติอาทีสุ. ปุรตีติ ปุริโส, ปุร อคฺคคมเน. ปุรตีติ ปุรโต คจฺฉติ สพฺพกมฺเมสุ ปุพฺพงฺคโม โหติ. ปมุปฺปนฺนวเสนาติ ปมกปฺปิเยสุ หิ ปมํ ปุริสลิงฺคํ อุปฺปชฺชติ, ‘‘ปุริม’’นฺติ สงฺขํ คตํ ปุริสลิงฺคํ ชายตีติ อตฺโถ. สตํ ตึส จาติ เอตฺถ อสาธารณาปิ ปาราชิกา โน อนฺโตคธาเยว ชาตา ปาราชิกาปนฺนานํ ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตฺตา. ‘‘อสาธารณวจเนน ปน สามฺเน อุทฺธฏานี’’ติ วทนฺติ. ‘‘สตฺเจว ตึสฺจ สิกฺขาปทานีติ ปาโ’’ติ จ วทนฺติ. ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ จตูสุ ปาราชิเกสูติ สาธารเณสุ เอว. อตฺถิ วตฺถุนานตฺตตา โน อาปตฺตินานตฺตตาติ ปมปฺโห อิธ ทุติโย นาม. อตฺถิ อาปตฺติสภาคตา โน วตฺถุสภาคตาติ เอเตน วิเสโส นตฺถิ. มนฺตาภาสาติ มติยา ภาสา. ‘‘อภิวาทนารหาติ ยถานิสินฺนาว สีสํ อุกฺขิปิตฺวา วนฺทนฺติ. นวมภิกฺขุนิโต ปฏฺาย อนุฏฺิตพฺพโต อาสนา น ปจฺจุฏฺเนฺติ. อวิเสเสนาติ อุปชฺฌายสฺส, อิตรสฺส วา วิปฺปกตโภชนสฺส, สมีปคโต โย โกจิ วุฑฺฒตโรติ อตฺโถ. วิปฺปกตโภชเนนาปิ หิ อุฏฺหิตฺวา อาสนํ ทาตพฺพํ. อิธ น กปฺปนฺตีติ วทนฺโตปีติ ปจฺจนฺติมชนปเทสุ ตฺวา ‘‘อิธ น กปฺปนฺตี’’ติ วทนฺโต วินยาติสารทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กปฺปิยฺหิ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วทนฺโต ปฺตฺตํ สมุจฺฉินฺทติ นาม. ตถา อิธ กปฺปนฺตีติอาทีสุปิ ตฺวา ‘‘อิธ กปฺปนฺตี’’ติ วทนฺโต วินยาคตภิกฺขุ วินโย ปุจฺฉิตพฺโพติ อตฺโถ.

ปฺจกวารวณฺณนา

๓๒๕. อุเปติ ปุคฺคโล. ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) วจนโต นิมนฺตนาภาวา ปิณฺฑปาติกสฺส อนามนฺตจาโร วฏฺฏติ. ‘‘คิลานสมโย’’ติอาทินา อาโภคํ กตฺวา โภชนํ อธิฏฺหิตฺวา โภชนํ นาม. ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ อวิกปฺปนา. ปรมฺมุเข อคุณวจนํ อยโส. สมฺมุขา ครหา. สีลทิฏฺิพฺยสนานํ วินยปริยาปนฺนตฺตา เตหิ สทฺธึ อิตเร ปฺจกํ ปูเรตุํ วุตฺตา. ‘‘วินยธรปฺจเมน คเณนา’’ติ (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตตฺตา ปฺจกํ ชาตํ. อฺตรสฺมึ วิหาเร เอโก เถโรติ อตฺโถ. ‘‘โยนกวิสยโตติ จีนฏฺานา’’ติ ลิขิตํ. อฏฺ กปฺเป อนุสฺสรีติ ปุพฺเพนิวาสาณํ นิพฺพตฺเตสีติ อตฺโถ. อนนฺตเร าเน ตฺวาติ อตฺโถ. ตฺติยา กมฺมปฺปตฺโต หุตฺวาติ ตฺติฏฺปิตกาเล กมฺมปฺปตฺโต โหติ. ปุน กมฺมวาจาย กมฺมสิทฺธิ. ตฺติเขตฺตนฺติ ตฺติยาว กาตพฺพฏฺานํ ตสฺสา เขตฺตํ, ตฺติทุติยาทิกมฺเม ปมฏฺปนํ ตสฺสา โอกาโส นาม. อารฺเก อิทฺจิทฺจานิสํสนฺติ เอวํ อิทมตฺถิตนฺติ อตฺโถ.

ฉกฺกวารวณฺณนา

๓๒๖. ‘‘ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพ’’นฺติ วิภงฺเค ปาตฺตา เอวํ วุตฺตํ. จุทฺทสปรมานิ นว ฉกฺกานิ โหนฺติ. กถํ? ปมํ เอกํ ฉกฺกํ, เสเสสุ อฏฺสุ เอเกเกน สทฺธึ เอเกกนฺติ เอวํ ตีณิ ฉกฺกานิ อนฺตรเปยฺยาเล วุตฺตานิ. กถํ? ‘‘จตุตฺเถน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติอาทินา นเยน ปฺจเมน, ฉฏฺเน จ ตีณิ ฉกฺกานิ. โลภาทโย ฉ วิวาทมูลานิ, ตถา อนุวาทสฺส. ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย วสฺสิกสาฏิกาย. ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย สุคตจีวรสฺส. วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมเน นิฏฺานนฺติโก, สนฺนิฏฺานนาสน สวน สีมาติกฺกนฺติกสหุพฺภาราติ ฉ, สมาทาย วาเรปิ ฉาติ ฉกฺกทฺวยํ. สตฺตเก ปกฺกมนนฺติเกน สห สตฺต.

สตฺตกวารวณฺณนา

๓๒๗. ฉกฺเกวุตฺตานิเยว สตฺตกวเสน โยเชตพฺพานีติ ฉกฺเก วุตฺตจุทฺทสปรมานิ สตฺตกวเสน โยเชตพฺพานิ. สตฺตเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยนฺติ ‘‘ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพํ, ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก สุคตจีวรภาณวารสฺส ปรโต ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส น โหติ อาปตฺติ ทฏฺพฺพา, ตเมนํ โจเทติ สงฺโฆ วา สมฺพหุลา วา เอกปุคฺคโล วา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตสตฺตกาติ.

อฏฺกวารวณฺณนา

๓๒๘. เตน สทฺธึ อุโปสถาทิกรณํ อานิสํโส, อกรณํ อาทีนโว, ตสฺมา เอเต อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนนาติ อตฺโถ. ‘‘อยโส อกฺโกโส’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺเพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, วินิธาย ทิฏฺึ ขนฺตึ รุจึ ภาวํ สฺนฺติ เอวํ อกปฺปิยกตํ โหติ อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติอาทโย อฏฺ อนติริตฺตา. สปฺปิอาทิ อฏฺเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อฏฺวาจิกา ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทา อุภโตตฺติจตุตฺถตฺตา. วสฺสิกสาฏิกทานาทีนิ อฏฺ วรานิ.

นวกวารวณฺณนา

๓๒๙. นวหิ ภิกฺขูหิ ภิชฺชติ. มนุสฺสมํสวชฺเชหิ นว มํเสหิ วินิจฺฉโย. สุนฺทรํ น สุนฺทรนฺติ สงฺฆาฏิอาทีนิ นว จีวรานิ. ตาเนว อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วิกปฺเปตพฺพานิ, อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย อปจฺจุทฺธริตฺวา น วิกปฺเปตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. นว วิทตฺถิโย สุคตจีวรสฺส. ‘‘วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทตี’’ติอาทินา นเยน อธมฺมกมฺเม ทฺเว นวกานิ ปาจิตฺติยวเสน วุตฺตานิ.

ทสกวารวณฺณนา

๓๓๐. ‘‘โอรมตฺตกฺจ อธิกรณํ โหติ, น จ คติคต’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๐๔) ทส อธมฺมิกา สลากคฺคาหา. วิปรีตา ธมฺมิกา. สมถกฺขนฺธเก วุตฺเตหิ สมนฺนาคโต โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สํกจฺจิกํ วา ปกฺขิปิตฺวา ทสา’’ติ วุตฺตํ กปฺปิยตฺตา เอเตสํ. มาตุรกฺขิตาทโย ทส อิตฺถิโย. ธนกฺกีตาทโย ทส ภริยา. ‘‘สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทสวสฺสาย ตสฺสา ทฺวาทสวสฺสกาเล สยมฺปิ ทฺวาทสวสฺสา ภวิสฺสตี’’ติ วุฏฺาปนสมฺมุติ สาทิตพฺพา. ‘‘วินยธรสฺเสว ‘อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตี’ติ อารพฺภ ยาว ‘อุภยานิ โข ปนสฺส…เป… อนุพฺยฺชนโส’ติ ปฺจงฺคานิ วตฺวา ปุนปิ ‘อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาติ’จฺเจว อารพฺภ ยาว ‘อธิกรเณ จ น วินิจฺฉยกุสโล โหตี’ติ ปฺจ วุตฺตา, เต ตถา ตถา ปฺจ ปฺจ กตฺวา ทส โหนฺตี’’ติ ลิขิตํ. ‘‘ทสวสฺสาย ภิกฺขุนิยา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ เอกจฺเจสุ โปตฺถเกสุ นตฺถิ, กิฺจาปิ นตฺถิ, ปาโ เอว ปน โหติ.

เอกาทสกวารวณฺณนา

๓๓๑. โวทายนฺติ น ปกาเสนฺติ. โรคเมว โรคาตงฺกํ. โรคนฺตรายํ วา.

เอกุตฺตริกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุโปสถาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา

๓๓๒. ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปวาเรมี’’ติอาทิ ปวารณกถา นาม วินีตคาถาสุ วิย.

อตฺถวสปกรณวณฺณนา

๓๓๔. ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจาติ เอตฺถ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺาปเน คุณวิเสสทีปนโต, อปฺาปเน อาทีนวทสฺสนโต จ สงฺฆสุฏฺุตา โหติ. ตตฺถ ยถาสมฺภวํ โลกวชฺชสฺส อปณฺณตฺติสมฺภวสฺส ปฺาปเน ปโยควิสุทฺธิ คุโณ. ปณฺณตฺติสมฺภวสฺส ปน เสขิยสฺส โลกวชฺชสฺส ปฺาปเน ปฏิปตฺติวิสุทฺธิ คุโณ, ปณฺณตฺติวชฺชสฺส อาสยวิสุทฺธิ คุโณ อปฺปิจฺฉาทิคุณาวหนโต, เตเนวาห ‘‘สุภรตาย สุโปสตาย อปฺปิจฺฉตาย อปฺปิจฺฉสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา’’ติ. สมณาจารวิสุทฺธิ จสฺส คุโณติ เวทิตพฺพํ. อถ วา โลกวชฺชสฺส ปฺาปเน สงฺฆสุฏฺุตา โหติ ปากฏาทีนวโต, ปณฺณตฺติวชฺชสฺส ปฺาปเน สงฺฆผาสุตา โหติ ปากฏานิสํสตฺตา. ตถา ปเมน ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคโห, ทุติเยน เปสลานํ ผาสุวิหาโร, ปเมน สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาโต, ทุติเยน ทิฏฺธมฺมิกานํ, ตถา ปเมน อปฺปสนฺนานํ ปสาโท, ทุติเยน ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาโว, ตถา ปเมน สทฺธมฺมฏฺิติ, ทุติเยน วินยานุคฺคโห โหตีติ เวทิตพฺโพ. ปริวารนเยน วา ปเมน ปาปิจฺฉานํ ภิกฺขูนํ ปกฺขุปจฺเฉโท, ทุติเยน คิหีนํ อนุกมฺปา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทายา’’ติ (ปริ. ๔๙๘). ตถา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ เวรานํ วชฺชานํ อกุสลานํ วเสนปิ โยชนา กาตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทฺเว อตฺถวเส…เป… ปฺตฺตํ ทิฏฺธมฺมิกานํ เวรานํ สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฏิฆาตายา’’ติอาทิ (ปริ. ๔๙๘). อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ อกตวิฺตฺติปฏิสํยุตฺตํ, คิหีนํ ปีฬาปฏิสํยุตฺตํ, เตสํ ปสาทโภคกฺขยรกฺขาปฏิสํยุตฺตฺจ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปฺตฺตํ นาม, กุลทูสกคณโภชนานิ ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทาย ปฺตฺตํ. สพฺพํ โลกวชฺชํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกเวราทิปฏิฆาตาย , มาตุคาเมน สํวิธานํ ทิฏฺธมฺมิกเวราทิสํวราย ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อปิเจตฺถ อาทิโต ปฏฺาย ทสอตฺถวสปกรณเมว นิสฺสาย วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

วตฺถุวีติกฺกเมน ยํ, เอกนฺตากุสลํ ภเว;

ตํ สงฺฆสุฏฺุภาวาย, ปฺตฺตํ โลกวชฺชโต.

ปาราชิกาทึ,

ปฺตฺติชานเนเนว, ยตฺถาปตฺติ น อฺถา;

ตํ ธมฺมฏฺิติยา วาปิ, ปสาทุปฺปาทพุทฺธิยา.

ธมฺมเทสนาปฏิสํยุตฺตํ อิตรฺจ เสขิยํ, อิทํ ปณฺณตฺติสมฺภวํ โลกวชฺชํ นาม. วตฺถุโน, ปฺตฺติยา วา วีติกฺกมเจตนายาภาเวปิ ปฏิกฺขิตฺตสฺส กรเณ, กตฺตพฺพสฺส อกรเณ วา สติ ยตฺถ อาปตฺติ ปโหติ, ตํ สพฺพํ เปตฺวา สุราปานํ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อุกฺโกฏนเก ปาจิตฺติยํ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนธมฺมํ อาปชฺเชยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๗๕), โย ปน ภิกฺขุ สงฺเฆ วินิจฺฉยกถาย วตฺตมานาย ฉนฺทํ อทตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๘๐), โย ปน ภิกฺขุ สมคฺเคน สงฺเฆน จีวรํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนธมฺมํ อาปชฺเชยฺย…เป… ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๘๕) เอวมาทิ สงฺฆผาสุตาย ปฺตฺตํ. ‘‘อฺวาทเก วิเหสเก ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๑๐๑), ปาราชิกาทีหิ อนุทฺธํสเน สงฺฆาทิเสสาทิ จ ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคหาย, อนุปขชฺชนิกฺกฑฺฒนอุปสฺสูติสิกฺขาปทาทิ เปสลานํ ผาสุวิหาราย, สพฺพํ โลกวชฺชํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, สพฺพํ ปณฺณตฺติวชฺชํ ทิฏฺธมฺมิกานเมว สํวราย. สพฺพํ คิหิปฏิสํยุตฺตํ อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิยฺโยภาวาย จ. วิเสเสน อริฏฺสมณุทฺเทสสิกฺขาปทํ, สามฺเน ปจฺจเยสุ มริยาทปฏิสํยุตฺตฺจ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๘; อ. นิ. ๘.๓๐) อาทิสุตฺตเมตฺถ สาธกํ. ‘‘สิกฺขาปทวิวณฺณเก (ปาจิ. ๔๓๙) โมหนเก ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๔๔๔) วินยานุคฺคหาย ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) อิทํ กิมตฺถนฺติ เจ? อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย จ. กถํ?

‘‘ภูตคาโม สชีโวติ, อวิปลฺลตฺตทิฏฺิโน;

ตสฺส โกปนสฺาย, ปสาโท พุทฺธสาวเก.

‘‘นิชฺชีวสฺิตํเปตํ, อโกเปนฺโต กถํ มุนิ;

ชีวํ โกเปยฺย นิทฺโทโส, มจฺฉมํสานุชานเน.

เอวมฺปิ –

‘‘ตสฺส โกปนสฺาย, ปสาโท พุทฺธสาวเก;

ยโต ติตฺถกราวิเม, วิรตา ภูตคามโต;

โลกสฺส จิตฺตรกฺขตฺถํ, ตโตปิ วิรโต มุนี’’ติ. –

ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาโว โหติ.

วิวิตฺตเสนาสนโภคตณฺหาวเสนนิชฺชีวมิตารกฺขํ;

พุทฺโธภินินฺนฺจ วิวชฺชยนฺโต;

สิกฺขาปทํ ตตฺถ จ ปฺเปสิ.

นิชฺชีวสฺสาปิ มํสสฺส, ขาทนกํ ยตึ ปติ;

นินฺทมานํ ชนํ ทิสฺวา, ภูตคามํ ปริจฺจชิ.

ติโกฏิปริสุทฺธตฺตา, มจฺฉมํสานุชานเน;

ปฏิจฺจ มํสานุชานนํ, กมฺเม ทิฏฺิปฺปสงฺคภยา.

อปริกฺขกสฺส โลกสฺส, ปรานุทฺทยตาย จ;

ภูตคามปาตพฺยตาย, ปาณาติปาตปฺปสงฺคภยา.

ตตฺถ ปริยายวจนํ อนุชานิ ภควา, อุทฺทิสฺส กตํ ปฏิกฺขิปิ ปรสฺส วา ปาปปฺปสงฺคภเยน. อิธ ปน ภูตคามปาตพฺยตาย ปาปาภาวาปนตฺถํ อตฺตุทฺเทสิกํ วิหารํ, กุฏิฺจ อนุชานีติ เวทิตพฺพํ. ปกิริยนฺติ เอตฺถ เต เต ปโยชนวิเสสสงฺขาตา อตฺถวสาติ อตฺถวสปกรณนฺติ.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมคาถาสงฺคณิกวณฺณนา

สตฺตนคเรสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๓๕. วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺเถ วา นิปาโตติ อตฺโถ. อฑฺฒุฑฺฒสตานีติ ตีณิ สตานิ, ปฺาสานิ จ. วิคฺคหนฺติ มนุสฺสวิคฺคหํ. อติเรกํ วาติ ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ. กาฬกนฺติ ‘‘สุทฺธกาฬกาน’’นฺติ (ปารา. ๕๕๒-๕๕๔) วุตฺตกาฬกํ. ภูตนฺติ ภูตาโรจนํ. ปรมฺปรภตฺตนฺติ ปรมฺปรโภชนํ. ภิกฺขุนีสุ จ อกฺโกโสติ ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺย วา ปริภาเสยฺย วา (ปาจิ. ๑๐๒๙). อนฺตรวาสกนฺติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรปฏิคฺคหณํ. รูปิยนฺติ รูปิยสพฺโพหารํ. สุตฺตนฺติ สามํ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา ตนฺตวาเยหิ. อุชฺฌาปนเกติ อุชฺฌาปนเก ขียนเก. ปาจิตปิณฺฑนฺติ ภิกฺขุนีปอปาจิตปิณฺฑปาตํ. จาริตฺตนฺติ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ. จีวรํ ทตฺวาติ สมคฺเคน สงฺเฆน จีวรํ ทตฺวา. โวสาสนฺตีติ ภิกฺขู ปเนว กุเลสุ นิมนฺติตา ภุฺชนฺติ (ปาจิ. ๕๕๘), ตตฺถ เจสา. คิรคฺคจริยาติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี นจฺจํ วา คีตํ วา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๔) จ, ‘‘อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๙๗๐) จ วุตฺตทฺวยํ. ฉนฺททาเนนาติ ปาริวาสิกฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย (ปาจิ. ๑๑๖๗). ปาราชิกานิ จตฺตาริ, ภิกฺขุนีนํ สฺาจิกกุฏิฺจ โกสิยมิสฺสสนฺถตฺจ เสยฺยา จ อนุปสมฺปนฺเนน สห ปถวีขณนํ. คจฺฉ เทวเตติ ภูตคามปาตพฺยตา สปฺปาณกอุทกสิฺจนนฺติ อตฺโถ. มหาวิหาโรติ มหลฺลกวิหาโร. อฺนฺติ อฺวาทกํ. ทฺวารนฺติ ยาวทฺวารโกสา. ‘‘อนาทริยปาจิตฺตีติ จ สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน’’ติ ปาโ. ปโยปานนฺติ สุรุสุรุการกํ. เอฬกโลมานิ ปตฺโต จาติ เอฬกโลมโธวาปนฺจ อูนปฺจพนฺธนปตฺโต จ. โอวาโท เจว เภสชฺชนฺติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา โอวาโท ตทุตฺตริเภสชฺชวิฺาปนฺจ. สูจิ อรฺโกติ ‘‘อฏฺิมยํ วา ทนฺตมยํ วา วิสาณมยํ วา สูจิฆร’’นฺติ (ปาจิ. ๕๑๗) จ ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺก…เป… ปฏิเทเสตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๐) จ. โอวาโทติ ยา ปน ภิกฺขุนี โอวาทาย วา สํวาสาย วา น คจฺเฉยฺย (ปาจิ. ๑๐๕๕). ปาราชิกานิ จตฺตารีติอาทิ ทฺวีสุ นคเรสุ ปฺตฺตสมฺปิณฺฑนํ.

จตุวิปตฺติวณฺณนา

๓๓๖. เอกตึสาเย ครุกาติ อุภโต อฏฺ ปาราชิกา, ภิกฺขูนํ เตรส, ภิกฺขุนีนํ ทส จ สงฺฆาทิเสสา. สาธารณาสาธารณวเสน อฏฺ อนวเสสา นาม ปาราชิกานิ. ตเทวาติ สีลวิปตฺตึเยว. วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปาราชิก’’นฺติอาทินา อปุจฺฉิตเมว วิสฺสชฺชิตํ. ‘‘ตตฺถ โย จายํ, อกฺโกสติ หสาธิปฺปาโย’’ติ ปาโ. ทุฏฺุลฺลวิภาวนวเสนาคตวิปตฺตึ เปตฺวา ปุจฺฉาปฏิปาฏิยา ยาวตติยกปฺหํ วิสฺสชฺชิตุมารภิ. อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา ภิกฺขุนี อฏฺ ยาวตติยกสงฺฆาทิเสสา อิธ ปุจฺฉิตตฺตา อนนฺตรปฺหา นาม ชาตา.

เฉทนกาทิวณฺณนา

๓๓๗. ปมาณาติกฺกนฺตมฺจนิสีทนกณฺฑุปฏิจฺฉาทิวสฺสิกสาฏิกาสุคตจีวรปฺปมาณํ ภิกฺขุนีนํ อุทกสาฏิกาติ ฉ เฉทนกานิ. จีวรวิปฺปวาสสมฺมุติอาทโย จตสฺโส สมฺมุติโย. ‘‘อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ เอวํ อาคตา สตฺต สามีจิโย.

อสาธารณาทิวณฺณนา

๓๓๘. ปุพฺเพ วุตฺตจุทฺทสปรมาเนว อนฺตรปฺเห นิฏฺเปตฺวา ปุริมปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต. โธวนฺจ ปฏิคฺคโหติ คาถา อฏฺกถาจริยานํ. ทฺเว โลมานิ เอฬกโลมติโยชนปรมานิ.

ทฺเววีสติ ขุทฺทกาติ –

‘‘สกโล ภิกฺขุนิวคฺโค, ปรมฺปรฺจ โภชนํ;

อนติริตฺตํ อภิหฏํ, ปณีตฺจ อเจลกํ;

ชานํ ทุฏฺุลฺลฉาทนํ.

‘‘อูนํ มาตุคาเมน สทฺธึ, ยา จ อนิกฺขนฺตราชเก;

สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา, วิกาเล คามปฺปเวสนํ.

‘‘นิสีทเน จ ยา สิกฺขา, วสฺสิกาย จ สาฏิกา;

ทฺวาวีสติ อิมา สิกฺขา, ขุทฺทเกสุ ปกาสิตา’’ติ. –

ปาโ . ‘‘กุเลสุ จาริตฺตาปตฺตี’’ติ ปาโ น คเหตพฺโพ สาธารณตฺตา ตสฺส สิกฺขาปทสฺส. ฉจตฺตารีสา จิเมติ ฉจตฺตารีส อิเม. ‘‘ปาราชิกานิ สงฺฆาทิเสโส’’ติ เอวํ วุตฺตสิกฺขาปเท เอว วิภชิตฺวา วุตฺตตฺตา วิภตฺติโย นาม. สาธารณนฺติ อฏฺนฺนมฺปิ สาธารณํ. ปาราชิกภูตา วิภตฺติโย ปาราชิกวิภตฺติโย. สาธารเณ สตฺตวชฺโช สงฺฆาทิเสโส. อฺตรสฺมึ คณฺิปเท ‘‘อถ วา ‘ทฺเว อุโปสถา ทฺเว ปวารณา จตฺตาริ กมฺมานิ ปฺเจว อุทฺเทสา จตุโร ภวนฺติ, นฺถา’ติ ปาฬึ อุทฺธรนฺติ. ตตฺถ ‘จตฺตาริ กมฺมานี’ติ วิเสสาภาวา อุทฺธริตโปตฺถกเมว สุนฺทรํ, ปุพฺเพปิ วิภตฺติมตฺตทสฺสนวเสเนว เจตํ วุตฺตํ. ‘น สมเถหิ วูปสมนวเสนา’ติ วตฺวา จตฺตาริ กมฺมวิภชเน ‘สมเถหิ วูปสมฺมตี’ติ น วิเสสิตํ อุโปสถปฺปวารณานํเยว วิภาคตฺตา. กสฺมา? เอตฺถาปิ ‘อุโปสถปฺปวารณานํเยว วิเสเสตฺวา นยํ เทถา’ติ วุตฺตตฺตา, อธมฺเมน วคฺคาทิกมฺเมน อาปตฺติโยปิ วูปสมฺมนฺตีติ อาปชฺชนโตติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, วิจาเรตพฺพํ. ทฺวีหิ จตูหิ ตีหิ กิจฺจํ เอเกนาติ ทฺวีหิ วิวาทาธิกรณํ, จตูหิ อนุวาทาธิกรณํ, ตีหิ อาปตฺตาธิกรณํ, เอเกน กิจฺจาธิกรณํ สมฺมตีติ อตฺโถ.

ปาราชิกาทิอาปตฺติวณฺณนา

๓๓๙. นิพฺพจนมตฺตนฺติ เววจนมตฺตํ. เสเสติ อาทิโต เสสา มชฺฌนฺตา. ปทนฺติ สิกฺขาปทํ. สทฺธาจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตนฺติ อตฺโถ, ‘‘สนฺตาจิตฺต’’นฺติ วา ปาโ. อนาฬิยนฺติ ทลิทฺทํ. กิฺจาปิ อิทํ นิพฺพจนํ ‘‘ครุกํ ลหุกฺจา’’ติอาทิปฺเห นตฺถิ, ‘‘หนฺท วากฺยํ สุโณม เต’’ติ อิมินา ปน วจเนน สงฺคหิตสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อากาโส ปกฺขินํ คตี’’ติ จ ปาโ อตฺถิ, โส ชาติวเสน ยุชฺชติ. ปกฺขีนนฺติ อุชุกเมว.

ปมคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อธิกรณเภทวณฺณนา

อุกฺโกฏนเภทาทิวณฺณนา

๓๔๐. อธิกรณอุกฺโกเฏนสมถานํ อุกฺโกฏํ ทสฺเสตุนฺติ อธิกรณานิ สตฺตหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ, ตานิ อุกฺโกเฏนฺโต สตฺต สมเถ อุกฺโกเฏติ นามาติ อธิปฺปาโย. ปสวตีติ สมฺภวติ. ‘‘อนุวาทาธิกรเณ ลพฺภนฺตี’ติอาทีนิ ‘ธมฺโม อธมฺโม’ติอาทีนํ สมานตฺตา เตสุ วิเสสโต ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อนิหตนฺติ สุตฺตาทินา. อวินิจฺฉิตนฺติ ‘‘อาปตฺติอนาปตฺตี’’ติอาทินา. ‘‘ตตฺถ ชาตกํ อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ…เป… ติณวตฺถารกํ อุกฺโกเฏตี’’ติ ทเสว วุตฺตา. ‘‘สมฺมุขาวินยปฏิฺาตกรณเยภุยฺยสิกา อวุตฺตตฺตา อุกฺโกเฏตุํ น สกฺกา, กมฺมวาจาปิ เตสํ นตฺถิ. ตสฺมา เต อุกฺโกเฏตุํ น สกฺกาติ วทนฺตี’’ติ ลิขิตํ. ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉเยเนวาติ วินยลกฺขณํ วินา เกวลํ ธมฺมเทสนามตฺตวเสเนวาติ อตฺโถ. ขนฺธกโต วา ปริวารโต วา อานีตสุตฺเตน. นิชฺฌาเปนฺติ ทสฺเสนฺติ. ปุพฺเพ ธมฺมวินเยน วินิจฺฉิตํ อธิกรณํ อุปชฺฌายาทีนํ อตฺถาย ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ ทีเปตฺวาติ อตฺโถ. วิสมานิ กายกมฺมาทีนิ นิสฺสิตตฺตา วิสมนิสฺสิโต. เอวํ เสเสสุ.

อธิกรณนิทานาทิวณฺณนา

๓๔๒-๓. กึสมฺภารนฺติ กึปริกฺขารํ, เอตฺถ กินฺติ ลิงฺคสามฺมพฺยยํ. ปุพฺเพ อุปฺปนฺนวิวาทํ นิสฺสาย ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกวิวาโท วิวาทนิทานํ นาม. อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ ภิกฺขุนี ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ ปฏิจฺฉาเทติ ปาราชิกํ, เวมติกา ปฏิจฺฉาเทติ ถุลฺลจฺจยํ, ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ ปฏิจฺฉาเทติ ปาจิตฺติยํ, อาจารวิปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทติ ทุกฺกฏํ. ปุพฺเพ กตอุกฺเขปนิยาทิกิจฺจํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกกิจฺจานํ. กีทิสานํ? สมนุภาสนาทีนํ วเสน. ตํ หีติ อธิกรณํ.

๓๔๔. อธิกรเณสุ เยน อธิกรเณน สมฺมนฺติ, ตํ ทสฺเสตุนฺติ ยทา อธิกรเณหิ สมฺมนฺติ, ตทา กิจฺจาธิกรเณเนว สมฺมนฺติ, น อฺเหีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น เอกนฺตโต อธิกรเณเนว สมฺมนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ.

๓๔๘. อาปตฺตาธิกรเณสงฺโฆ วิวทตีติ อาปตฺตานาปตฺตีติ เอวํ.

๓๕๓. สมุฏฺานาภาวโต สมฺมุขาวินเย กมฺมสฺส กิริยากรณมิจฺจาทินา อวิภชิตฺวาว สติวินยาทีนํ ฉนฺนํเยว ฉ สมุฏฺานานิ วิภตฺตานิ. ตํ กสฺมา? กมฺมสงฺคหาภาเวน, สติวินยาทีนํ วิย สงฺฆสมฺมุขตาทีนํ กิจฺจยตา นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

อธิกรณเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา

โจทนาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา

๓๕๙. วิคฺคาหิกกถนฺติ อตฺโถ. นิสามยาติ สลฺลกฺเขหิ. ‘‘การย’’ อิติ ปาโ. ปุพฺพาปรํ น ชานาติ, ตสฺมา อโกวิโท โหตีติ เอเก. อยํ ปน ทุวิเธปิ กิจฺเจ เกนจิ อิริยาปเถน.

โจทนากณฺฑวณฺณนา

อนุวิชฺชกกิจฺจวณฺณนา

๓๖๐. อนุวิชฺชกปุจฺฉเน อาชีววิปตฺติ น ปุจฺฉิตา. ปฺจาปตฺติกฺขนฺธวเสน อาจารวิปตฺติ ปุจฺฉิตา. ‘‘อาชีววิปตฺติยาปิ ตเถว, สงฺคหคมนโต’’ติ วทนฺติ. ‘‘อชฺฌาปชฺชนฺโต’’ติ ปาโ.

๓๖๓. ตสฺมา น จ อามิสํ นิสฺสายาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

จูฬสงฺคามวณฺณนา

อนุวิชฺชกสฺสปฏิปตฺติวณฺณนา

๓๖๕. านนิสชฺชวตฺถาทินิสฺสิตาติ ‘‘เอวํ าตพฺพํ เอวํ นิสีทิตพฺพ’’นฺติ เอวมาทิกา. สฺาชนนตฺถนฺติ ‘‘เอวํ วตฺตพฺพ’’นฺติ เอวํ สฺชานนตฺถํ. อนุวิธิยนฺเตนาติ จิตฺเต เปนฺเตนาติ อตฺโถ. ลชฺชา สา นุ โขติ กึ สา ลชฺชา อยํ ปริสาติ อธิปฺปาโย. อนุโยควตฺตํ กถาเปตฺวาติ ‘‘กิมนุโยควตฺตํ ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตเนว กถาเปตฺวา. อชานนปฺปสงฺคา นาม อฺาณํ.

๓๖๗. ‘‘ภเยน ภยา คจฺฉตี’’ติ ภเยน ภยเหตุ ภยา คจฺฉตีติ เหตุวเสน วุตฺตํ. ยถา ‘‘รตฺตตฺตา ปน ทุฏฺตฺตา จ ฉนฺทา โทสา จ คจฺฉตี’’ติ หิ วุตฺตํ, เอวํ.

มหาสงฺคามวณฺณนา

โวหรนฺเตนชานิตพฺพาทิวณฺณนา

๓๗๕. วณฺณาวณฺโณติ นีลาทิวณฺณวเสน จ อาโรคฺยตฺถาทิอวณฺณวเสน จ วุตฺตสุกฺกวิสฺสฏฺิ.

๔๐๒. ภูมิปุจฺฉาติ ภูมิ ปุถวี ชคตี จาติ สพฺพานิ ปถวิเววจนานิ.

กถินเภทวณฺณนา

กถินอตฺถตาทิวณฺณนา

๔๐๓-๔. กินฺติ กถํ. อนาทิยทานํ ตาวกาลิกวตฺถุ. ‘‘อนาคตวเสน อนนฺตรา หุตฺวา’’ติ อุทกาหรณาทิปโยคสฺส โธวนาทิปุพฺพกรณสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนโต, โธวนาทิกิริยฺจ สนฺธาย ปโยคกรณโต วุตฺตํ. ปุเรชาตปจฺจเย ปเนส ปโยโคติ อตฺโถ. เอกํ ธมฺมมฺปิ น ลภติ อตฺตโน ปุเรชาตสฺส นตฺถิตาย.

กถินาทิชานิตพฺพวิภาควณฺณนา

๔๑๒. รูปาทิธมฺเมสูติ วณฺณคนฺธาทิอฏฺเกสุ. ‘‘วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส’’ติ (ปารา. ๒๑๘) วุตฺตตฺตา ปจฺฉิเม มาเส ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ทิวเส อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ.

๔๑๕. ‘‘อาทิจฺจพนฺธุนาติ วุตฺตตฺตา เถรวจน’’นฺติ วทนฺติ.

ปลิโพธปฺหาพฺยากรณกถาวณฺณนา

๔๑๕-๖. สนฺนิฏฺานนฺติโก กถํ พหิสีมาย อุทฺธรียติ? ภิกฺขุ อกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ, ตสฺส พหิสีมาคตสฺส เอวํ โหติ ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ, เอวเมตสฺส พหิสีมาคตสฺส อุทฺธรียติ. กถํ อนฺโตสีมาย? อกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ, ตโต ตตฺถ ผาสุวิหารํ อลภนฺโต ตเมว วิหารํ อาคจฺฉติ, ตสฺส จีวรปลิโพโธเยว ิโต, โส จ ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ฉิชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อนฺโตสีมาย อุทฺธรียตี’’ติ วุตฺตํ. สนฺนิฏฺานนฺติกํ ทุวิธํ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อาวาสปลิโพธํ ฉินฺทิตฺวา ตโต ปุนปิ ตเมว วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ, พหิสีมาย ตฺวา ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ จิตฺตุปฺปาเทน สนฺนิฏฺานนฺติกํ โหติ. คาถายมฺปิ ‘‘ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริม’’นฺติ อิทํ อิมเมว สนฺธาย. ‘‘อาสาวจฺเฉทิโก กถํ อนฺโตสีมาย ? อาสีสิเตน ‘ตุมฺเห วิหารเมว ปตฺเถถ, อหํ ปหิณิสฺสามี’ติ วุตฺโต ปุพฺเพ ‘น ปจฺเจสฺส’นฺติ อาวาสปลิโพธํ ฉินฺทิตฺวา คโต ปุน ตํ วิหารํ คนฺตฺวา เตน ‘นาหํ สกฺโกมิ ทาตุ’นฺติ ปหิโต โหตี’’ติ ลิขิตํ. ‘‘อตฺถาเร หิ สติ อุทฺธาโร นามา’’ติ อตฺถารํ วินา อุทฺธารํ น ลภนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ. ปุริมา ทฺเวติ ‘‘ทฺเว กถินุทฺธารา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา’’ติ วุตฺตาธิกาเร ปมํ วุตฺตา อนฺตรพฺภารสหุพฺภารา. น ปกฺกมนนฺติกาทโย ทฺเว. เอกโต นิรุชฺฌนฺตีติ อุทฺธารภาวํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ.

กถินเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปาลิปฺจกวณฺณนา

อนิสฺสิตวคฺควณฺณนา

๔๑๙. กายิกอุปฆาติกา นาม กาเยน วีติกฺกโม.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺควณฺณนา

๔๒๐. โอมทฺทการโกติ โอมทฺทิตฺวา อภิภวิตฺวา การโก.

โวหารวคฺควณฺณนา

๔๒๔. เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย วิวาทาธิกรณํ สมุฏฺาติ, เอวํ ยถาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โกโธปนาหาทิทฺวาทสมูลปโยคํ วิวาทาธิกรณํ, ตถา เสเสสุ. โอสารณาทีสุ นวสุ าเนสุ กมฺมตฺติยา กรณํ. ทฺวีสุ าเนสุ ตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺเมสุ. ยสฺมา มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว อุภโตวิภงฺคา อสงฺคหิตา, ตสฺมา ยํ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.

ทิฏฺาวิกมฺมวคฺควณฺณนา

๔๒๕. ติณฺณนฺนํ อุปริ สห อาปตฺตึ เทเสตุํ น ลพฺภนฺติ. กมฺมนานาสํวาสกานํ ลทฺธิคฺคหิตโกว ลทฺธินานาสํวาสโก. ‘‘อวิปฺปวาสสีมาย ิตสฺสา’’ติ มหาสีมํ กิร สนฺธาย วุตฺตํ.

๔๓๓. ‘‘อุมฺมาทา จิตฺตกฺเขปา’’ติ ปาโ.

มุสาวาทวคฺควณฺณนา

๔๔๔. ปริยาเยน ชานนฺตสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ ชานนฺตสฺส ปริยาเยน วุตฺตมุสาวาโทติ อตฺโถ.

๔๔๖. อนุโยโค น ทาตพฺโพติ เตน วุตฺตํ อนาทิยิตฺวา ตุณฺหี ภวิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ภิกฺขุโนวาทวคฺควณฺณนา

๔๕๔. โวหารนิรุตฺติยํ สทฺทนิรุตฺติยํ. มคฺคปจฺจเวกฺขณาทโย เอกูนวีสติ.

อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา

๔๕๕. ปสาเรตา โมเหตา.

อธิกรณวูปสมวคฺควณฺณนา

๔๕๘. ‘‘ยถารตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อเปกฺขตี’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘ยถาวุฑฺฒนฺติ อุปสมฺปนฺเน อเปกฺขตี’’ติ ลิขิตํ.

กถินตฺถารวคฺควณฺณนา

๔๖๗. ‘‘เอกาวตฺโต’’ติปิ ปนฺติ, ตสฺส กุทฺโธ โกธาภิภูโตติ กิรตฺโถ. เอกวตฺโถติปิ เกจิ, อุตฺตราสงฺคํ อปเนตฺวา ิโตติ กิรตฺโถ, ตํ สพฺพํ อฏฺกถายํ อุทฺธฏปาฬิยา วิรุชฺฌตีติ. เอกาวฏฺโฏติ หิ อุทฺธฏํ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. อนฺตรา วุตฺตการเณนาติ ‘‘กิจฺจยปสุตตฺตา วนฺทนํ อสมนฺนาหรนฺโต นลาฏํ ปฏิหฺเยฺยา’’ติอาทิวุตฺตการเณน.

อุปาลิปฺจกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปตฺติสมุฏฺานวณฺณนา

๔๗๐. ปุพฺเพ วุตฺตเมวาติ สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชํ. อิตรนฺติ สจิตฺตกํ. เทเสนฺโต, โทมนสฺสิโก อฺเหิ ภึสาปนาทีนิ กตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาติ อธิปฺปาโย.

ทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา

กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา

๔๗๔-๕. นิทานุทฺเทสํ วินา เสสุทฺเทสาภาวา ‘‘สพฺพปาติโมกฺขุทฺเทสานฺจ สงฺคโห โหตี’’ติ วุตฺตํ. วินเย ครุกา วินยครุกา. อิทํ ปน ทฺวีสุ คาถาสุ กิฺจาปิ อาคตํ, อฺเหิ ปน มิสฺเสตฺวา วุตฺตภาวา นานากรณํ ปจฺเจตพฺพํ. นวสุ าเนสุ กมฺมํ โหตีติ กมฺมตฺติ โหติ. วาจาติ วจีสมฺภวา. อทฺธานหีโน อูนวีสติวสฺโส. ‘‘อปิเจตฺถาติ กุรุนฺทิวาโท’’ติ วุตฺตํ. วนปฺปตินฺติ เอวํ อทินฺนาทาเน อาคตํ วนปฺปตึ. วิสฺสฏฺิฉฑฺฑเนติ สุกฺกวิสฺสฏฺิยํ. ทุกฺกฏา กตาติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อามกธฺํ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติยา ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.

ปาจิตฺติยวณฺณนา

๔๗๖. มหาสงฺฆิกา สามเณเรปิ อาปตฺตึ เทสาเปนฺติ กิร, เตน วุตฺตํ ‘‘น เทสาเปตพฺพา’’ติ, ทณฺฑกมฺมํ ปน เตสํ กาตพฺพํ ตถารูเป โอฬาริกวีติกฺกเม.

อวนฺทนียปุคฺคลาทิวณฺณนา

๔๗๗. ทสสตํ อาปตฺติโยติ สหสฺสํ อาปตฺติโย. จมฺปายํ วินยวตฺถุสฺมินฺติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก. อธมฺเมน วคฺคนฺติอาทีนิ จตฺตาริ กมฺมานิเยว ภควตา วุตฺตานีติ อตฺโถ. น เกวลํ อาปตฺติเยว, อถ โข ฉ สมถา…เป… สมฺมุขาวินเยน สมฺมนฺติ, สมาโยคํ คจฺฉนฺติ สมฺมุขาวินเยน สมฺปโยคํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. วินา สมเถหิ สมฺมติ, สมถภาวํ คจฺฉติ. ปฏิเสธตฺเถ สติ วินา สมเถหีติ สมเถหิ วินาติ อตฺโถ.

โสฬสกมฺมาทิวณฺณนา

๔๗๘. อสุตฺตกนฺติ สุตฺตวิรหิตํ, อุสุตฺตํ ตตฺร นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

ทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

เสทโมจนคาถาวณฺณนา

อวิปฺปวาสปฺหาวณฺณนา

๔๗๙. ตหินฺติ ตสฺมึ ปุคฺคเล. อกปฺปิยสมฺโภโค นาม เมถุนธมฺมาทิ. ‘‘วรเสนาสนรกฺขณตฺถาย วิสฺสชฺเชตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ครุภณฺฑวินิจฺฉเย วุตฺโต. เอกาทสาวนฺทิเย ปณฺฑกาทโย เอกาทส. อุเปติ สปริสํ. น ชีวติ นิมฺมิตรูปตฺตา. ‘‘อุพฺภกฺขเกน วทามี’’ติ อิมินา มุเข เมถุนธมฺมาภาวํ ทีเปติ. อโธนาภิวิวชฺชเนน วจฺจมคฺคปฺปสฺสาวมคฺเคสุ . คามนฺตรปริยาปนฺนํ นทิปารํ โอกฺกนฺตภิกฺขุนึ สนฺธายาติ ภิกฺขุนิยา คามาปริยาปนฺนปรตีเร นทิสมีปเมว สนฺธาย วุตฺตา. ตตฺถ ปรตีเร คามูปจาโร เอกเลฑฺฑุปาโต นทิปริยนฺเตน ปริจฺฉินฺโน, ตสฺมา ปรตีเร รตนมตฺตมฺปิ อรฺํ น อตฺถิ, ตฺจ ติณาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ทสฺสนูปจารวิรหิตํ กโรติ. ตตฺถ อตฺตโน คาเม อาปตฺติ นตฺถิ. ปรตีเร ปน เอกเลฑฺฑุปาตสงฺขาเต คามูปจาเรเยว ปทํ เปติ. อนฺตเร อภิธมฺมวเสน อรฺภูตํ สกคามํ อติกฺกมติ นาม, ตสฺมา คณมฺหา โอหียนา จ โหตีติ าตพฺพํ. เอตฺตาวตาปิ สนฺโตสมกตฺวา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา ปฺจสตา มหาปชาปติปฺปมุขา. มหาปชาปติปิ หิ อานนฺทตฺเถเรน ทินฺนโอวาทสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม.

ปาราชิกาทิปฺหาวณฺณนา

๔๘๐. ‘‘ทุสฺสกุฏึ สนฺธายา’’ติ สห ทุสฺเสน วีติกฺกมนสฺส สกฺกุเณยฺยตาย วุตฺตํ. ลิงฺคปริวตฺเต ปฏิคฺคหณสฺส วิชหนโต สามํ คเหตฺวา ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. กากอูหทนํ วาติ กาเกน อูหทนํ วา. ‘‘ตโย ปุริเสปิ อุปคนฺตฺวา’’ติ ปาเสโส.

ปาจิตฺติยาทิปฺหาวณฺณนา

๔๘๑. เมถุนธมฺมปจฺจยา นาม กายสํสคฺโค. ตํเหตุ เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคภูตํ กายสํสคฺคํ วายามนฺติยาติ อฏฺวตฺถุปูรณํ สนฺธาย. ปริโภคปฺปจฺจยาติ ปริโภคการณา. ตสฺมาติ ยสฺมา ปริโภคปฺปจฺจยา อาปชฺชติ, ตสฺมา โภชนปริโยสาเน โหตีติ อตฺโถ. โปราณโปตฺถเกสุ ‘‘ตสฺสา’’ติ ปาโ. ‘‘การณวจนํ สุนฺทรํ โภชนปริจฺเฉททสฺสนโต’’ติ วทนฺติ.

เสทโมจนคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจวคฺโค

กมฺมวคฺควณฺณนา

๔๘๓. ‘‘อุมฺมตฺตกสมฺมุตึ อุมฺมตฺตเก ยาจิตฺวา คเต อสมฺมุขาปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นิสินฺเนปิ น กุปฺปติ นิยมาภาวา. อสมฺมุขา กเต โทสาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสมฺมุขากตํ สุกตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ทูเตน อุปสมฺปทา ปเนตฺถ สมฺมุขา กาตุํ น สกฺกา. กมฺมวาจานานตฺตสภาวา ปตฺตนิกฺกุชฺชนาทโย หตฺถปาสโต อปเนตฺวา กาตพฺพา, เตน วุตฺตํ ‘‘อสมฺมุขา กตํ สุกตํ โหตี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉิตฺวา โจเทตฺวา สาเรตฺวา กาตพฺพํ อปุจฺฉิตฺวา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา กโรตี’’ติ อยํ วจนตฺโถ. เปตฺวา กตฺติกมาสนฺติ โส ปวารณามาโส, ทฺเว จ ปุณฺณมาสิโยติ ปมทุติยวสฺสูปคตานํ ปวารณา ปุณฺณมาสา ทฺเว.

๔๘๕. ปทํ วา ฉฑฺเฑตีติ อตฺโถ. ก-วคฺคาทีสุ ปฺจสุ. ครุกนฺติ ทีฆํ, สํโยคปรฺจ. ‘‘พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอตฺถ ต-การก-การา สํโยคปรา. ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสนฺติ ‘‘โส ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ โส ตุณฺหิ อสฺสาติ วจนํ.

๔๘๖. เสสฏฺกถาสุ วุตฺตวจนํ กุรุนฺทิยํ ปากฏํ กตฺวา ‘‘นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

๔๘๗-๘. ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขูติ ปาราชิกํ อนาปนฺนา. น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอตีติ ตีสุ, ทฺวีสุ วา นิสินฺเนสุ เอกสฺส, ทฺวินฺนํ วา ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาหฏาปิ อนาหฏาว.

อปโลกนกมฺมกถาวณฺณนา

๔๙๕-๖. กายสมฺโภคสามคฺคิทานสหเสยฺยปฏิคฺคหณาทิ อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหตีติ เอวมฺปิ อปโลกนกมฺมํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. กมฺมฺเว ลกฺขณนฺติ กมฺมลกฺขณํ. โอสารณนิสฺสารณภณฺฑุกมฺมาทโย วิย กมฺมฺจ หุตฺวา อฺฺจ นามํ น ลภติ , กมฺมเมว หุตฺวา อุปลกฺขียตีติ กมฺมลกฺขณํ อุปนิสฺสโย วิย. เหตุปจฺจยาทิลกฺขณวิมุตฺโต หิ สพฺโพ ปจฺจยวิเสโส ตตฺถ สงฺคยฺหติ, เอวมฺปิ ‘‘กมฺมลกฺขณเมวา’’ติ วุตฺตํ. กมฺมลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวราน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ อปโลกนํ กมฺมลกฺขณเมว. เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิณปลิโพธมฺปีติ สเจ ตาทิสํ ภิกฺขุํ อิณายิกา ปลิพุชฺฌนฺติ. ตตฺรุปฺปาทโต ทาตุํ วฏฺฏติ. อนฺตรสนฺนิปาโตติ อุโปสถปฺปวารณาทิมหาสนฺนิปาเต เปตฺวา อนฺตรา มงฺคลุจฺจารณาทิ. อุปนิกฺเขปโตติ เจติยสฺส อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตโต. ‘‘อฺา กติกา กาตพฺพา’’ติ เย รุกฺเข อุทฺทิสฺส ปุพฺเพ กติกา กตา, เตหิ อิเมสํ อฺตฺตาติ วุตฺตํ. ‘‘สเจ ตตฺถ มูเล’’ติ ปุพฺเพ ‘‘อิโต ปฏฺาย ภาเชตฺวา ขาทนฺตู’’ติ วจเนน ปุคฺคลิกปริโภโค ปฏิกฺขิตฺโต โหติ. อนุวิจริตฺวาติ ปจฺฉโต ปจฺฉโต คนฺตฺวา. เตสํ สนฺติกา ปจฺจยํ ปจฺจาสีสนฺเตนาติ อตฺโถ. มูลภาคนฺติ ทสมภาคํ กตฺวา. ปุพฺพกาเล ทสมภาคํ กตฺวา อทํสุ, ตสฺมา ‘‘มูลภาโค’’ติ วุตฺตํ. อกตาวาสํ วา กตฺวาติ อุปฺปนฺนอาเยน. ชคฺคิตกาเลเยว น วาเรตพฺพาติ ชคฺคิตา หุตฺวา ปุปฺผผลภริตกาเลติ อตฺโถ. ชคฺคนกาเลติ ชคฺคิตุํ อารทฺธกาเล. ตฺติกมฺมฏฺานเภเท ปนาติ ตฺติกมฺมสฺส านเภเท.

อิทํ ปเนตฺถ ปกิณฺณกํ – อตฺถิ สงฺฆกมฺมํ สงฺโฆ เอว กโรติ, น คโณ, น ปุคฺคโล, ตํ อปโลกนกมฺมสฺส กมฺมลกฺขเณกเทสํ เปตฺวา อิตรํ จตุพฺพิธมฺปิ กมฺมํ เวทิตพฺพํ. อตฺถิ สงฺฆกมฺมํ สงฺโฆ จ กโรติ, คโณ จ กโรติ, ปุคฺคโล จ กโรติ, ตํ ปุพฺเพ ปิตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยสฺมึ วิหาเร ทฺเว ตโย ชนา วสนฺติ, เตหิ นิสีทิตฺวา กตมฺปิ สงฺเฆน กตสทิสเมว. ยสฺมึ ปน วิหาเร เอโก ภิกฺขุ โหติ, เตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖). อตฺถิ คณกมฺมํ สงฺโฆ จ กโรติ, คโณ จ กโรติ, ปุคฺคโล จ กโรติ, ตํ โย ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อฺเสํ สนฺติเก กรียติ, ตสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. อตฺถิ คณกมฺมํ คโณว กโรติ, น สงฺโฆ, น ปุคฺคโล, ตํ โย ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อฺมฺํ อาโรจนวเสน กรียติ, ตสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. อตฺถิ ปุคฺคลกมฺมํ ปุคฺคโลว กโรติ, น สงฺโฆ, น คโณ, ตํ อธิฏฺานุโปสถวเสน เวทิตพฺพํ. อตฺถิ คณกมฺมํ เอกจฺโจว คโณ กโรติ, เอกจฺโจ น กโรติ, ตตฺถ อตฺติกํ ทฺเวเยว กโรนฺติ, น ตโย. สตฺติกํ ตโยว กโรนฺติ, น ตโต อูนา วา อธิกา วาติ.

อปฺตฺเตปฺตฺตวคฺควณฺณนา

๕๐๐. กกุสนฺธโกณาคมนกสฺสปา เอว หิ สตฺต อาปตฺติกฺขนฺเธ ปฺเปสุํ. วิปสฺสีอาทโย ปน โอวาทปาติโมกฺขํ อุทฺทิสึสุ, น สิกฺขาปทํ ปฺเปสุํ.

นิคมนกถาวณฺณนา

อุภโตวิภงฺคขนฺธกปริวาเรหิ วิภตฺตํ เทสนํ อตฺถิ ตสฺส วินยปิฏกสฺส, นาเมน สมนฺตปาสาทิกา นาม สํวณฺณนา ‘‘สมนฺตปาสาทิกา นามา’’ติ วุตฺตวจนสํวณฺณนา สมตฺตาติ อาห. ตตฺถ ปธานฆเร. อิทฺธา อตฺถวินิจฺฉยาทีหิ.

สมฺมา อุทิโต สมุทิโต, เต คุเณ อกิจฺเฉน อธิคโต อธิกปฺปมาณคุเณหิ วา สมุทิโต, เตน สมุทิเตน ‘‘คตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสตี’’ติ วุตฺตาย สติยา อุปฺปาทิตา สทฺธาทโย ปรมวิสุทฺธา นาม สมนฺนารกฺขตฺตา. อิติ สติปิ สทฺธาทีหิ วุตฺตา โหติ. เอวํ สนฺเต เอตฺถ วุตฺเต จตุพฺพิเธ สีเล ปาติโมกฺขสํวรสีลํ สทฺธา มณฺเฑติ. สทฺธาสาธนฺหิ ตํ. อินฺทฺริยสํวราชีวปาริสุทฺธิปจฺจยปริโภคสีลานิ ปฏิมณฺเฑนฺติ สติวีริยปฺาโยติ ยถาโยคํ เวทิตพฺพํ. อปิจ สทฺธา จ พุทฺธิรหิตา อวิสุทฺธา โหติ พุทฺธิยา ปสาทเหตุตฺตา. พุทฺธิโย ปน ตสฺสานุภาเวน ปรมวิสุทฺธา นาม โหนฺติ. ปฺา สทฺธารหิตา เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, สทฺธายุตฺตา เอว วิสุทฺธา โหติ. วีริยฺจ สมาธิรหิตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ, น สมาธิยุตฺตนฺติ วีริยสฺส สุทฺธวจนโต สมาธิปิ วุตฺโต โหติ, เอวํ ปรมวิสุทฺธา สทฺธาทโยปิ ปาติโมกฺขํ ปฏิมณฺเฑนฺตีติ าตพฺพํ. กถํ? ปฏิปตฺติเทสเก สตฺถริ จ ปฏิปตฺติยฺจ ปฏิปตฺติผเล จ สทฺธาย วินา สีลสมาทานํ, สมาทินฺนวิโสธนฺจ กาตุํ น สกฺกาติ สทฺธา ปาติโมกฺขํ ปฏิมณฺเฑติ. ตตฺถ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๕๕; ม. นิ. ๑.๗๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๙) สตฺถริ จ ปูเชตุํ สกฺโกติ. ปฏิปตฺติยํ สีลวิปตฺติสมฺปตฺติมูลเก สนฺทิฏฺิกสมฺปรายิกผเล จ สทฺธาปวตฺติ วิตฺถารโต าตพฺพา, สีลวิปตฺติสมฺปตฺตินิมิตฺตํ อาทีนวมานิสํสฺจ อาทีนวปริจฺจาเค, อานิสํสสมฺปาทเน จ อุปายํ ทิสฺวา ตถา ปวตฺตมานา ปฺา ปาติโมกฺขสํวรํ ปฏิมณฺเฑติ. ‘‘อติสีต’’นฺติอาทินา อปฺปวตฺตนารหํ โกสชฺชํ ‘‘โย จ สีตฺจ อุณฺหฺจา’’ติ วุตฺตานุสาเรน ปชหิตฺวา อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อสํวรสํวรานํ อนุปฺปาทนปชหนอุปฺปาทนวฑฺฒนวเสน ปวตฺตมานวีริยํ ปาติโมกฺขํ ปฏิมณฺเฑติ, อิมินา นเยน อินฺทฺริยสํวราทีสุปิ โยเชตพฺพํ. จตุนฺนมฺปิ สงฺคหวตฺถูนํ อนุกูลสมุทาจาโร อิธ อาจาโรติ เวทิตพฺโพ. อชฺชว-วจเนน ลาภสกฺการเหตุ กายทุจฺจริตาทิกุฏิลกรมายาสาเยฺยปฏิปกฺขอชฺชวธมฺมสมาโยคทีปเนน อโลภชฺฌาสยตา ทีปิตา. มทฺทว-วจเนน กกฺขฬภาวกรปฏิฆาทิปฏิปกฺขภูตเมตฺตาทิมทฺทวธมฺมสมาโยคทีปเนน หิตชฺฌาสยาทีนิ ทีปิตานิ โหนฺติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ขนฺติ จ โสรจฺจฺจ สาขลฺยฺจ ปฏิสนฺถาโร จา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๒๕-๑๒๖) วุตฺตธมฺเมหิ สมาโยโค ทีปิโต โหติ. อิธ วุตฺตา อชฺชวมทฺทวาทโย คุณา สีลสมฺปตฺติยา เหตู จ โหนฺติ สีลสมฺปตฺติผลฺจ ตํสมฺปาทนโต. สกสมโยติ จตุปริสา. เอเตน สภาคทุกฺขภาวาภาโว สูจิโต. อถ วา สกสมโยติ โสคตํ ปิฏกตฺตยํ สกสมโย เอว คหนํ ทุทฺทีปนตฺตา, สกสมยสฺส สนฺนิฏฺานํ สกสมยคหนํ –

‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;

ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตุฺจ สุทุกฺกรา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๒๕) –

วุตฺตตฺตา ยถา สกสมยสฺส คหนปเทน โยชนา วุตฺตา, ตถา ปรสมยสฺสปิ. ปฺาเวยฺยตฺติเยนาติ อเนน ติขิเณน าเณน กตสิลานิสิตสตฺถสทิสสภาวปฺา วุตฺตา. ติปิฏกสงฺขาตาย ปริยตฺติยา ปเภโท ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภโท. ตสฺมึ ปเภเท. ตนฺติ จ ตนฺติอตฺโถ จ สาสนํ นาม. อิธ ‘‘ตนฺติ เอวา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมึ อยํ สํวณฺณนา นิฏฺาปิตา, ตสฺมึ กาเล ปฏิเวธาณาภาวโต สุตมยํ สนฺธาย ‘‘อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวนา’’ติ วุตฺตํ. กรณสมฺปตฺติยา ชนิตตฺตา สุขวินิคฺคตํ. สุขวินิคฺคตตฺตา มธุโรทาตวจนลาวณฺณยุตฺเตนาปิ โยเชตพฺพํ, อีทิสํ วจนํ โสตสุขฺจ สนฺนิเวสสมฺปตฺติสุขฺจ โหติ. ‘‘เวยฺยากรเณนา’’ติ อวตฺวา ‘‘มหาเวยฺยากรเณนา’’ติ วุตฺตตฺตา สิกฺขานิรุตฺติฉนฺโทวิจิตฺยาทิปฏิมณฺฑิตปาณินิยนฺยาสาธารณธารณสภาโว สูจิโต ภวติ. ยุตฺตวาทินาติอาทีสุ ยุตฺตมุตฺตวาทินา านุปฺปตฺติยปฺาย สมนฺนาคเตนาติ อตฺโถ. โอชาเภเทปิ อายุสตฺติกรณตาทิสามตฺถโยคานํ มหากวินา รจิตคนฺถสฺส มหนฺตตฺตา วา ‘‘ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท’’ติอาทีหิ สาสเน, เหตุวิสเย, สทฺเท จาติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ ปาฏวภาวํ ทีเปนฺโต เวนยิกพุทฺธิสมฺปตฺติสพฺภาวมสฺส สูเจติ. เยสํ ปุคฺคลานํ ปภินฺนา ปฏิสมฺภิทาทิ, เต ปภินฺนปฏิสมฺภิทาทโย ธมฺมา. เตหิ ปริวาริโต อุกฺขิตฺตสนฺตติอุปจฺเฉทมกตฺวา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทนวฑฺฒนวเสน วาริโต โส ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาโร. ตสฺมึ ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร อุตฺตริมนุสฺสธมฺเมติ อตฺโถ. ฉฬภิฺจตุปฏิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต ปน ฉฬภิฺา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา เอว. จตูสุ ปฏิสมฺภิทาสุ อตฺถปฏิสมฺภิทาย เอกเทโสว. ตทุภยํ สยํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปริยาปนฺนํ กถํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ปฏิมณฺเฑตีติ เจ? รุกฺขํ รุกฺขสฺส อวยวภูตปุปฺผาทโย วิย สยฺจ เยสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ อวยวตฺตาติ. กามาวจรธมฺมปริยาปนฺนปฏิสมฺภิทาาณํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ อนวยวภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ปฏิมณฺเฑติ, ปุริสสฺส อนวยวภูโต อลงฺกาโร วิย ปุริสํ. อถ วา กามาวจรปอสมฺภิทาปริวาโร ฉฬภิฺาปฏิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุเณ ปฏิมณฺเฑติ. โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทํ สนฺธาย ปุน ปฏิสมฺภิทาวจนฺจ. สาสเน อุปฺปชฺชิตฺวา สาสนสฺส อลงฺการภูเตน, ยสฺมึ วํเส อุปฺปนฺโน, ตสฺเสว วา อลงฺการภูเตน. สงฺเขปวิตฺถาเรสุ อิตรีตรกรณํ, อปฺปสนฺนปสนฺนานํ ปสาทุปฺปาทนาภิวุฑฺฒิกรณํ, วุตฺตานํ คมฺภีรานํ คมฺภีรุตฺตานภาวกรณนฺติ เอวํ ฉพฺพิธาจริยคุณโยคโต วิปุลพุทฺธิ นาม. เย ธมฺมจินฺตนํ อติธาวนฺตา เกจิ อุจฺเฉทาทินานปฺปการํ อนฺตํ วา คณฺหนฺติ, ‘‘สพฺพํ เยฺยํ ปฺตฺติ เอวา’’ติ วา ‘‘ปรมตฺโถ เอวา’’ติ วา คณฺหนฺติ, เตสํ พุทฺธิ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมลา นาม โหติ, อิมสฺส ปน พุทฺธิ ธมฺมจินฺตาติธาวนรหิตตฺตา วิสุทฺธา นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา’’ติ . ครูหิ ‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓) วุตฺตคุเณหิ ยุตฺตครูหิ. คุเณหิ ถิรภาวํ คตตฺตา เถเรน.

สีเลน สีลสฺส วา วิสุทฺธิยา สีลวิสุทฺธิยา. อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปมํ อภินิพฺพตฺตตฺตา โลกเชฏฺสฺส. โลกสฺส วา คมฺภีเร มหนฺเต สีลาทิกฺขนฺเธ เอสิ คเวสีติ มเหสีติ.

เอตฺตาวตา สมธิกสตฺตวีสติสหสฺสปริมาณาย สมนฺตปาสาทิกสฺิตาย วินยฏฺกถาย สพฺพปเทสุ วินิจฺฉยชาตํ สงฺขิปิตฺวา คณฺิฏฺานวิกาสนา กตา โหติ, ตถาปิ ยํ เอตฺถ ลิขิตํ, ตํ สุฏฺุ วิจาเรตฺวา ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เย อาจริยา พุทฺธสฺส ภควโต มหานุภาวํ, วินยปิฏกสฺส จ วิจิตฺรนยคมฺภีรตฺถตํ สลฺลกฺเขตฺวา โปราณานํ กถามคฺคํ อวินาเสตฺวา อตฺตโน มตึ ปหาย เกวลํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ปรานุคฺคหกามตาย จ วินยปิฏกํ ปกาเสนฺตา ิตา, เตสํ ปาทมูเล วนฺทิตฺวา ขนฺติโสรจฺจาทิคุณสมนฺนาคเตน หุตฺวา วตฺตสมฺปตฺติยา เตสํ จิตฺตํ อาราเธตฺวา ปเวณิยา อาคตํ วินิจฺฉยํ กถาเปตฺวา อุปธาเรตฺวา ยํ เตน สํสนฺทติ, ตํ คเหตพฺพํ, อิตรํ ฉฑฺเฑตพฺพํ. อิตรถา ตุณฺหีภูเตน ภวิตพฺพํ. วินิจฺฉยสงฺกรกเรน ปน น ภวิตพฺพเมว. กสฺมา? สาสนสฺส นาสเหตุตฺตา. โหติ เจตฺถ –

‘‘อสมฺพุธํ พุทฺธมหานุภาวํ,

ธมฺมสฺส คมฺภีรนยตฺถตฺจ;

โย วณฺณเย ตํ วินยํ อวิฺู,

โส ทุทฺทโส สาสนนาสเหตุ.

ปาฬึ ตทตฺถฺจ อสมฺพุธฺหิ,

นาเสติ โย อฏฺกถานยฺจ;

อนิจฺฉยํ นิจฺฉยโต ปเรหิ,

คาเหติ เตเหว ปุรกฺขโต โส.

อนุกฺกเมเนว มหาชเนน,

ปุรกฺขโต ปณฺฑิตมานิภิกฺขุ;

อปณฺฑิตานํ วิมตึ อกตฺวา,

อาจริยลีฬํ ปุรโต กโรตี’’ติ.

สมนฺตปาสาทิกาย คณฺิปทาธิปฺปายปฺปกาสนา สมตฺตา.

วชิรพุทฺธิฏีกา นิฏฺิตา.