📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วิมติวิโนทนี-ฏีกา (ปโม ภาโค)

คนฺถารมฺภกถา

กรุณาปุณฺณหทยํ , สุคตํ หิตทายกํ;

นตฺวา ธมฺมฺจ วิมลํ, สงฺฆฺจ คุณสมฺปทํ.

วณฺณนา นิปุณาเหสุํ, วินยฏฺกถาย ยา;

ปุพฺพเกหิ กตา เนกา, นานานยสมากุลา.

ตตฺถ กาจิ สุวิตฺถิณฺณา, ทุกฺโขคาหา จ คนฺถโต;

วิรทฺธา อตฺถโต จาปิ, สทฺทโต จาปิ กตฺถจิ.

กาจิ กตฺถจิ อปุณฺณา, กาจิ สมฺโมหการินี;

ตสฺมา ตาหิ สมาทาย, สารํ สงฺเขปรูปโต.

ลีนตฺถฺจ ปกาเสนฺโต, วิรทฺธฺจ วิโสธยํ;

อุปฏฺิตนยฺจาปิ, ตตฺถ ตตฺถ ปกาสยํ.

วินเย วิมตึ เฉตุํ, ภิกฺขูนํ ลหุวุตฺตินํ;

สงฺเขเปน ลิขิสฺสามิ, ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนํ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

วินยสํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยํ นมสฺสิตุกาโม ตสฺส วิสิฏฺคุณโยคสนฺทสฺสนตฺถํ โย กปฺปโกฏีหิปีติอาทิมาห. วิสิฏฺคุณโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตมตฺถํ สาเธติ . เอตฺถ จ สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณปฺปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถ พหุธา ปปฺเจนฺติ อาจริยา, มยํ ปน อิธาธิปฺเปตเมว ปโยชนํ ทสฺสยิสฺสาม. ตสฺมา สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ. รตนตฺตยปณามกรเณน หิ ราคาทิโทสวิคมโต ปฺาทิคุณปาฏวโต อายุอาทิวฑฺฒนโต ปุฺาติสยภาวาทิโต จ โหเตว ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนํ.

ตตฺถ ปมํ ตาว ภควโต วนฺทนํ กตฺตุกาโม ‘‘โย กปฺปโกฏีหิปิ…เป… ตสฺสา’’ติ อาห. อิมิสฺสา ปน วินยเทสนาย กรุณาปฺปธานาณสมุฏฺิตตาย กรุณาปฺปธานเมว โถมนํ อารทฺธํ. เอสา หิ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ อารมฺภานุรูปโถมนา. กรุณาคฺคหเณน เจตฺถ อปริเมยฺยปฺปภาวา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา นยโต สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา ตํมูลกตฺตา เสสพุทฺธคุณานํ. ตตฺถ โยติ อิมสฺส อนิยมวจนสฺส นาโถติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปโกฏีหิปิ อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ กปฺปโกฏิคณนาวเสนปิ ‘‘เอตฺตกา กปฺปโกฏิโย’’ติ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยํ กาลํ. อปิ-สทฺเทน ปเคว วสฺสคณนายาติ ทสฺเสติ. อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, เตน กปฺปโกฏิคณนาวเสน ปริจฺฉินฺทิตุมสกฺกุเณยฺยมปิ, อสงฺขฺเยยฺยวเสน ปน ปริจฺฉินฺทิตพฺพโต สลกฺขํ จตุรสงฺขฺเยยฺยกปฺปกาลํ อจฺจนฺตเมว นิรนฺตรํ ปฺจมหาปอจฺจาคาทิอติทุกฺกรานิ กโรนฺโต เขทํ กายิกํ ปริสฺสมํ ปตฺโตติ ทสฺเสติ.

โลกหิตายาติ สตฺตโลกสฺส หิตาย. นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสตีติ อตฺโถ. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคเต กิเลเส อุปตาเปติ, นาถติ วา ยาจติ เวเนยฺเย อตฺตโน หิตกรเณ ยาจิตฺวาปิ นิโยเชตีติ นาโถ, โลกปฏิสรโณ โลกสามี โลกนายโกติ วุตฺตํ โหติ. มหาการุณิกสฺสาติ โย กรุณาย กมฺปิตหทยตฺตา โลกหิตตฺถํ อติทุกฺกรกิริยาย อเนกปฺปการํ ตาทิสํ ทุกฺขํ อนุภวิตฺวา อาคโต, ตสฺส มหาการุณิกสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. ทุกฺขิเตสุ วา กิริยติ ปสาริยตีติ กรุณา. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาเธติ, วินาเสติ วา ปรสฺส ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพาเธติ. กรุณาย นิยุตฺโต การุณิโก, มหนฺโต การุณิโก มหาการุณิโก, ตสฺส นโม อตฺถูติ ปาเสโส.

เอวํ กรุณามุเขน สงฺเขปโต สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ อสมฺพุธนฺติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺธนิเสวิตํ ยํ อสมฺพุธํ ชีวโลโก ภวา ภวํ คจฺฉติ, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโมติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อสมฺพุธนฺติ อสมฺพุชฺฌนฺโต, ยถาสภาวํ อปฺปฏิวิชฺฌนโตติ วุตฺตํ โหติ. เหตุอตฺโถ เหตฺถ อนฺตปจฺจโย. นฺติ อนิยมโต สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม กมฺมภาเวน นิทฺทิฏฺโ. พุทฺธนิเสวิตนฺติ ตสฺเสว วิเสสนํ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน, ปจฺเจกพุทฺธสาวกพุทฺเธหิปิ วา โคจราเสวนภาวนาเสวนาหิ ยถารหํ นิเสวิตํ, อชหิตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ปริยตฺติผลนิพฺพานานิ โคจราเสวนวเสเนว นิเสวิตานิ, มคฺโค ปน ภาวนาเสวนวเสนาปิ ปจฺจเวกฺขณาณาทิวเสน โคจราเสวนวเสนาปิ นิเสวิโต. ภวาภวนฺติ ภวโต ภวํ. อถ วา หีนปณีตาทิวเสน ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ ภวนฺติ อตฺโถ. วุฑฺฒตฺโถปิ หิ -กาโร ทิสฺสติ อเสกฺขา ธมฺมาติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑) วิย. อถ วา ภโวติ วุฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ วา สสฺสตทิฏฺิ, อภโวติ อุจฺเฉททิฏฺิ . วุตฺตปฺปกาโร ภโว จ อภโว จ ภวาภโว, ตํ ภวาภวํ. คจฺฉตีติ อุปคจฺฉติ. ชีวโลโกติ สตฺตโลโก. อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสิโนติ ธมฺมวิเสสนํ. ตตฺถ น วิทติ ธมฺมานํ ยถาสภาวํ น วิชานาตีติ อวิชฺชา, อฺาณํ. สา อาทิ เยสํ ตณฺหาทีนํ, เตเยว กิลิสฺสนฺติ เอเตหิ สตฺตาติ กิเลสา, เตเยว จ สตฺตานํ วิพาธนฏฺเน ชาลสทิสาติ ชาลํ, ตํ วิทฺธํเสติ สพฺพโส วินาเสติ สีเลนาติ อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสี, ตสฺส.

นนุ เจตฺถ สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม อธิปฺเปโต, ตตฺถ จ มคฺโคเยว กิเลเส วิทฺธํเสติ, เนตเรติ เจ? วุจฺจเต – มคฺคสฺสาปิ นิพฺพานมาคมฺม กิเลสวิทฺธํสนโต นิพฺพานมฺปิ กิเลเส วิทฺธํเสติ นาม, มคฺคสฺส กิเลสวิทฺธํสนกิจฺจํ ผเลน นิฏฺิตนฺติ ผลมฺปิ ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วุจฺจติ, ปริยตฺติธมฺโมปิ กิเลสวิทฺธํสนสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยตฺตา ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วตฺตุํ อรหตีติ น โกจิ โทโส. ธมฺมวรสฺส ตสฺสาติ ปุพฺเพ อนิยมิตสฺส นิยามกวจนํ. ตตฺถ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จตูสุ อปาเยสุ สํสารทุกฺเข จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม. วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม เอว อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน วโร ปวโร อนุตฺตโรติ ธมฺมวโร, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโม อตฺถูติ อตฺโถ.

เอวํ สงฺเขปนเยเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ คุเณหีติอาทิมาห. ตตฺถ คุเณหิ โย ยุตฺโต, ตมริยสงฺฆํ นมามีติ สมฺพนฺโธ. สีลาทโย คุณา เจตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา อธิปฺเปตา. ‘‘วิมุตฺติวิมุตฺติาณ’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘วิมุตฺติาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อาทิสทฺทปริยาเยน ปภุติสทฺเทน วา วิมุตฺติคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วิมุตฺตีติ ผลํ. วิมุตฺติาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ปภุติ-สทฺเทน ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาทโย คุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. กุสลตฺถิกานํ ชนานํ ปุฺาติสยวุฑฺฒิยา เขตฺตสทิสตฺตา เขตฺตนฺติ อาห ‘‘เขตฺตํ ชนานํ กุสลตฺถิกาน’’นฺติ. ขิตฺตํ พีชํ มหปฺผลภาวกรเณน ตายตีติ หิ เขตฺตํ. อริยสงฺฆนฺติ เอตฺถ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต, อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา, อฏฺ อริยปุคฺคลา, อริยานํ สงฺโฆ สมูโหติ อริยสงฺโฆ, ตํ อริยสงฺฆํ.

อิทานิ รตนตฺตยปณามชนิตํ กุสลาภิสนฺทํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน นิโยเชตฺวา อตฺตนา สํวณฺณิยมานสฺส วินยสฺส สกลสาสนมูลภาวทสฺสนมุเขน สํวณฺณนากรณสฺสาปิ สาสนมูลตํ ทสฺเสตุํ อิจฺเจวมิจฺจาทิคาถาทฺวยมาห. ปุฺาภิสนฺทนฺติ ปุฺโฆํ, ปุฺปฺปวาหํ ปุฺราสินฺติ อตฺโถ. ตสฺสานุภาเวนาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส ปุฺปฺปวาหสฺส อานุภาเวน พเลน หตนฺตราโย วินยํ วณฺณยิสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ.

อฏฺิตสฺส สุสณฺิตสฺส ภควโต สาสนํ ยสฺมึ ิเต ปติฏฺิตํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมินฺติ ยสฺมึ วินยปิฏเก. ิเตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนูนํ หุตฺวา ลชฺชีปุคฺคเลสุ ปวตฺตนฏฺเน ิเต. สาสนนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ. อฏฺิตสฺสาติ กามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาเต อนฺตทฺวเย อฏฺิตสฺส, ‘‘ปรินิพฺพุตสฺสปิ ภควโต’’ติปิ วทนฺติ. สุสณฺิตสฺสาติ อนฺตทฺวยวิรหิตาย มชฺฌิมาย ปฏิปทาย สุฏฺุ ิตสฺส. อมิสฺสนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา อนากุลํ กตฺวา วณฺณยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิสฺสาย ปุพฺพาจริยานุภาวนฺติ ปุพฺพาจริเยหิ สํวณฺณิตํ อฏฺกถํ นิสฺสาย, น อตฺตโน พเลนาติ อธิปฺปาโย.

อถ โปราณฏฺกถาสุ วิชฺชมานาสุ ปุน วินยสํวณฺณนา กึปโยชนาติ? อาห กามฺจาติอาทิ. ตตฺถ กามนฺติ เอกนฺเตน, ยถิจฺฉกํ วา, สพฺพโสติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺส สํวณฺณิโตยํ วินโยติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปุพฺพาจริยาสเภหีติ มหากสฺสปตฺเถราทโย ปุพฺพาจริยา เอว อกมฺปิยฏฺเน อุตฺตมฏฺเน จ อาสภา, เตหิ ปุพฺพาจริยวเรหีติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสา ปน เต ปุพฺพาจริยาติ? อาห าณมฺพูติอาทิ. อคฺคมคฺคาณสงฺขาเตน อมฺพุนา สลิเลน นิทฺโธตานิ นิสฺเสสโต อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน โธตานิ วิโสธิตานิ ราคาทีนิ ตีณิ มลานิ กามาสวาทโย จ จตฺตาโร อาสวา เยหิ เต าณมฺพุนิทฺโธตมลาสวา, เตหิ ขีณาสเวหีติ อตฺโถ. ขีณาสวภาเวปิ น เอเต สุกฺขวิปสฺสกาติ อาห ‘‘วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิเทหี’’ติ. ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโส วิชฺชา, อฏฺ วิชฺชา วา. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตสุปิ มหากสฺสปตฺเถราทีนํ อุจฺจินิตฺวา คหิตตาย เตสํ สทฺธมฺมสํวณฺณเน สามตฺถิยํ สาติสยนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหี’’ติ.

กิเลสชาตํ, ปริกฺขารพาหุลฺลํ วา สลฺลิขติ ตนุํ กโรตีติ สลฺเลโข, อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห, อิธ ปน ขีณาสวาธิการตฺตา ปริกฺขารพาหุลฺลสฺส สลฺลิขนวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. สลฺเลเขน นิพฺพตฺตํ สลฺเลขิยํ, ตสฺมึ สลฺเลขิเย, ธุตงฺคปริหรณาทิสลฺเลขปอปตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. โนสุลภูปเมหีติ สลฺเลขปฏิปตฺติยา ‘‘อสุกสทิสา’’ติ นตฺถิ สุลภา อุปมา เอเตสนฺติ โนสุลภูปมา, เตหิ. มหาวิหารสฺสาติ อิมินา นิกายนฺตรํ ปฏิกฺขิปติ . วิหารสีเสน เหตฺถ ตตฺถ นิวาสีนฺเจว เตหิ สมลทฺธิกานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา เตสํ มหาวิหารวาสีนํ ทิฏฺิสีลวิสุทฺธิยา ปภวตฺเตน สฺาณภูตตฺตา ธมฺมสงฺคาหกา มหากสฺสปตฺเถราทโย ‘‘มหาวิหารสฺส ธชูปมา’’ติ วุตฺตา, เตหิ อยํ วินโย สํวณฺณิโต สมฺมา อนูนํ กตฺวา วณฺณิโต. กถนฺติ อาห ‘‘จิตฺเตหิ นเยหี’’ติ. วิจิตฺเตหิ นเยหิ สมฺพุทฺธวรนฺวเยหิ สพฺพฺุพุทฺธวรํ อนุคเตหิ, ภควโต อธิปฺปายานุคเตหิ นเยหีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ โปราณฏฺกถาย อนูนภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย ปโยชนวิเสสํ อชฺเฌสกฺจ ทสฺเสตุํ สํวณฺณนาติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขตตฺตาติ รจิตตฺตา. น กฺจิ อตฺถํ อภิสมฺภุณาตีติ น กฺจิ อตฺถํ สาเธติ.

สํวณฺณนํ ตฺจาติอาทินา อตฺตโน สํวณฺณนาย กรณปฺปการํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ตฺจ อิทานิ วุจฺจมานํ สํวณฺณนํ สมารภนฺโต สกลายปิ มหาอฏฺกถาย อิธ คเหตพฺพโต มหาอฏฺกถํ ตสฺสา อิทานิ วุจฺจมานาย สํวณฺณนาย สรีรํ กตฺวา มหาปจฺจริยํ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตเถว กุรุนฺทีนามาทีสุ วิสฺสุตาสุ อฏฺกถาสุ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตโตปิ วินิจฺฉยโต ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต อนฺโตคธตฺเถรวาทํ กตฺวา สํวณฺณนํ สมฺมา สมารภิสฺสนฺติ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อตฺโถ กถียติ เอตายาติ อฏฺกถา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. มหาปจฺจริยนฺติ มหาปจฺจรีนามิกํ. เอตฺถ จ ปจฺจรีติ อุฬุมฺปํ วุจฺจติ, ตสฺมึ นิสีทิตฺวา กตตฺตา ตเมว นามํ ชาตํ. ‘‘กุรุนฺทีวลฺลิวิหาโร นาม อตฺถิ, ตตฺถ กตตฺตา ‘กุรุนฺที’ติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ. อาทิสทฺเทน อนฺธกฏฺกถํ สงฺเขปฏฺกถฺจ สงฺคณฺหาติ.

ยุตฺตมตฺถนฺติ มหาอฏฺกถานเยน, จตุพฺพิธวินยยุตฺติยา วา ยุตฺตมตฺถํ. ‘‘อฏฺกถํเยว คเหตฺวา สํวณฺณนํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต อฏฺกถาสุ วุตฺตตฺเถรวาทานํ พาหิรภาโว สิยาติ เตปิ อนฺโตกตฺตุกาโม ‘‘อนฺโตคธเถรวาท’’นฺติ อาห, เถรวาเทปิ อนฺโตกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

ตํ เมติ คาถาย โสตูหิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. ตตฺถ ธมฺมปฺปทีปสฺสาติ ธมฺโม เอว โมหนฺธการวิทฺธํสนโต ปทีปสทิสตฺตา ปทีโป อสฺสาติ ธมฺมปฺปทีโป, ภควา, ตสฺส. ปติมานยนฺตาติ ปูเชนฺตา มนสา ครุํ กโรนฺตา นิสาเมนฺตุ สุณนฺตุ.

พุทฺเธนาติอาทินา อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมนสุทฺธิทสฺสนมุเขน ปมาณภาวํ ทสฺเสตฺวา อนุสิกฺขิตพฺพตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ยเถว พุทฺเธน โย ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต, โส ตสฺส พุทฺธสฺส เยหิ ปุตฺเตหิ มหากสฺสปตฺเถราทีหิ ตเถว าโต, เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติมจฺจชนฺตา สีหฬฏฺกถาจริยา ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสูติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติ สุตฺตาภิธมฺเม สงฺคณฺหาติ. วินโยติ สกลํ วินยปิฏกํ. วุตฺโตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ พุทฺเธน ภควตา วุตฺโต. น หิ ภควตา อพฺยากตํ นาม ตนฺติปทํ อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตปกิณฺณกเทสนาเยว หิ อฏฺกถา. ตเถว าโตติ ยเถว พุทฺเธน วุตฺโต, ตเถว เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อวินาเสตฺวา อธิปฺปายฺจ อวิโกเปตฺวา าโต วิทิโตติ อตฺโถ. เตสํ มติมจฺจชนฺตาติ เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติสงฺขาตํ เถรปรมฺปราย อุคฺคเหตฺวา อาภตํ อพฺโพจฺฉินฺนํ ปาฬิวณฺณนาวเสน เจว ปาฬิมุตฺตกวเสน จ ปวตฺตํ สพฺพํ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ อปริจฺจชนฺตา. อฏฺกถา อกํสูติ มหาอฏฺกถามหาปจฺจริอาทิกา สีหฬฏฺกถาโย อกํสุ. ‘‘อฏฺกถามกํสู’’ติปิ ปาโ, ตตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.

ตสฺมาติ ยสฺมา เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ อธิปฺปายํ อวิโกเปตฺวา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ, ตสฺมา. ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ ปมาณนฺติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ เหตุอตฺถสฺส ตสฺมาติ อิมินาเยว ปกาสิตตฺตา, อวธารณตฺโถ วา, ปมาณเมวาติ. ยทิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ปมาณํ, เอวํ สติ ตตฺถ ปมาทเลขาปิ ปมาณํ สิยาติ อาห ‘‘วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลข’’นฺติ, อปราปรํ ลิขนฺเตหิ ปมาเทน สตึ อปจฺจุปฏฺเปตฺวา อฺตฺถ ลิขิตพฺพํ อฺตฺถ ลิขนาทิวเสน ปวตฺติตา ปมาทเลขา นาม, สา จ สมนฺตปาสาทิกายํ ตตฺถ ตตฺถ สยเมว อาวิภวิสฺสติ. ปุน ยสฺมาติ ปทสฺส สมฺพนฺธทสฺสนวเสน อยํ อตฺถโยชนา – ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ อิธ อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขาสุ สคารวานํ ปณฺฑิตานํ ปมาณเมว, ยสฺมา จ อยํ วณฺณนาปิ ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิมตฺตวิสิฏฺตาย อตฺถโต อภินฺนา, ตโต เอว ปมาณภูตาว เหสฺสติ, ตสฺมา อนุสิกฺขิตพฺพาติ.

ตโตติ ตาหิ อฏฺกถาหิ. ภาสนฺตรเมว หิตฺวาติ สีหฬภาสํเยว อปเนตฺวา. วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวาติ โปราณฏฺกถาสุ ยถาาเน วตฺตพฺพมฺปิ ปทตฺถวินิจฺฉยาทิกํ อติวิตฺถิณฺเณน วจนกฺกเมน เจว วุตฺตเมว อตฺถนยํ อปฺปมตฺตกวิเสเสน ปุนปฺปุนํ กถเนน จ ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ ปหาย สลฺลหุเกน อตฺถวิฺาปเกน ปทกฺกเมน เจว วุตฺตนยสทิสํ วตฺตพฺพํ อติทิสิตฺวา จ สงฺเขปนเยเนว วณฺณยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. สารตฺถทีปนิยํ ปน วินยฏีกายํ ‘‘โปราณฏฺกถาสุ อุปริ วุจฺจมานมฺปิ อาเนตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขูติ เอตฺถ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนมฺปิ กมฺมานํ วิตฺถารกถา วิย ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ สงฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ เอตฺเถว วตฺตุํ ยุตฺตํ. อฺตฺถ ปาฬิยา วตฺตพฺพํ อฺตฺถ กถนฺหิ ตนฺติกฺกมํ โวกฺกมิตฺวา กถนํ นาม. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตเถว วณฺณิตุํ ยุตฺตรูปํ หุตฺวา อนุกฺกเมน อาคตํ ปาฬึ ปริจฺจชิตฺวา สํวณฺณนโต สีหฬฏฺกถาสุ อยุตฺตฏฺาเน วณฺณิตํ ยถาาเนเยว วณฺณนโต จ วุตฺตํ ‘ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวา’’’ติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. กถํ ปน วิตฺถารมคฺคสฺส สงฺขิปเน วินิจฺฉโย น หียตีติ? อาห ‘‘วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา’’ติ. สงฺขิปนฺโตปิ ปุนปฺปุนํ วจนาทิเมว สงฺขิปนฺโต, วินิจฺฉยํ ปน อฏฺกถาสุ สพฺพาสุปิ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ อเสสยิตฺวา, กิฺจิมตฺตมฺปิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ กฺจิ ปาฬิกฺกมํ อนติกฺกมิตฺวา, อนุกฺกเมเนว ปาฬึ วณฺณยิสฺสามาติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถนฺติ เวรฺชกณฺฑาทีสุ อาคตานํ ฌานกถาทีนํ สุตฺตนฺตวจนานํ สีหฬฏฺกถาสุ ‘‘สุตฺตนฺติกานํ ภาโร’’ติ วตฺวา อวณฺณิตพฺพฏฺานํ อตฺถํ ตํตํสุตฺตานุรูปํ สพฺพโส ปริทีปยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. เหสฺสตีติ ภวิสฺสติ, กรียิสฺสตีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ จตุพฺพิธํ กิจฺจํ นิปฺผาเทตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา ภวิสฺสตี’’ติ วณฺณนาวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา. ปจฺฉิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปน ‘‘เหฏฺา วุตฺตภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ กตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา อมฺเหหิ กรียิสฺสตี’’ติ เอวํ อาจริยวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

พาหิรนิทานกถา

อิทานิ สํวรวินยปหานวินยาทีสุ พหูสุ วินเยสุ อตฺตนา ‘‘ตํ วณฺณยิสฺสํ วินย’’นฺติ เอวํ สํวณฺเณตพฺพภาเวน ปฏิฺาตํ วินยํ ทสฺเสนฺโต อาห ตตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยถาวุตฺตาสุ คาถาสุ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ปมํ วินยํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺฉา ตสฺส วณฺณนํ กริสฺสามาติ ทีเปติ. ววตฺถเปตพฺโพติ นิยเมตพฺโพ. เตเนตํ วุจฺจตีติ ยสฺมา ววตฺถเปตพฺโพ, เตน เหตุนา เอตํ วินโย นามาติอาทิกํ นิยามกวจนํ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อสฺสาติ วินยสฺส. มาติกาติ อุทฺเทโส. โส หิ นิทฺเทสปทานํ ชนนีาเน ิตตฺตา มาตา วิยาติ ‘‘มาติกา’’ติ วุจฺจติ.

อิทานิ สํวณฺเณตพฺพมตฺถํ มาติกํ ปฏฺเปตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วุตฺตํ เยนาติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตีติอาทินิทานวจนปฏิมณฺฑิตํ วินยปิฏกํ เยน ปุคฺคเลน วุตฺตํ, ยสฺมึ กาเล วุตฺตํ, ยสฺมา การณา วุตฺตํ, เยน ธาริตํ, เยน จ อาภตํ, เยสุ ปติฏฺิตํ, เอตํ ยถาวุตฺตวิธานํ วตฺวา ตโต เตน สมเยนาติอาทิปาสฺส อตฺถํ อเนกปฺปการโต ทสฺเสนฺโต วินยสฺส อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามีติ.

เอตฺถ จ วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทํ วจนํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติอาทินิทานวจนมตฺตํ อเปกฺขิตฺวา วตฺตุกาโมปิ วิสุํ อวตฺวา ‘‘นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, อิทมโวจาติ นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ วจนโต นิทานนิคมนานิปิ สตฺถุเทสนาย อนุวิธานตฺตา ตทนฺโตคธาเนวาติ นิทานสฺสาปิ วินยปาฬิยํเยว อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทมฺปิ วินยปิฏกสมฺพนฺธํเยว กตฺวา มาติกํ เปติ. มาติกาย หิ เอตนฺติ วุตฺตํ วินยปิฏกํเยว สามฺโต สพฺพตฺถ สมฺพนฺธมุปคจฺฉติ.

อิทานิ ปน ตํ วิสุํ นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ วุตฺตํ เยนาติอาทิมาห. ตตฺถาติ เตสุ มาติกาปเทสุ. อิทนฺติ เตน สมเยนาติอาทินิทานวจนํ. หิ-สทฺโท ยสฺมาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ยสฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อตฺตนา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วุตฺตวจนํ น โหติ. อถ วา อตฺตโน ปจฺจกฺขกาเล ธรมานกาเล วุตฺตวจนํ น โหติ. ตทุภเยนาปิ ภควโต วุตฺตวจนํ น โหตีติ อตฺโถ.

ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา

ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสาติ เอตฺถ -สทฺโท วตฺตพฺพสมฺปิณฺฑนตฺโถ, อุปฺาสตฺโถ วา, อุปฺาโสติ จ วากฺยารมฺโภ วุจฺจติ. เอสา หิ คนฺถการานํ ปกติ, ยทิทํ กิฺจิ วตฺวา ปุน อปรํ วตฺตุมารภนฺตานํ จ-สทฺทปฺปโยโค. ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ สภาคตฺถวเสน สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ, มหาวิสยตฺตา ปูชนียตฺตา จ มหตี สงฺคีติ มหาสงฺคีติ. ทุติยาทึ อุปาทาย เจสา ‘‘ปมมหาสงฺคีตี’’ติ วุตฺตา. นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ, ตตฺถ โกสลฺลตฺถํ.

เวเนยฺยานํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุภูตาว กิริยา นิปฺปริยาเยน พุทฺธกิจฺจนฺติ อาห ‘‘ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฺหิ อาทึ กตฺวา’’ติ. ตตฺถ สติปฏฺานาทิธมฺโม เอว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกนฺติ วา อาณา, ตํ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. กตพุทฺธกิจฺเจติ นิฏฺิตพุทฺธกิจฺเจ ภควติ โลกนาเถติ สมฺพนฺโธ. กุสินารายนฺติ สมีปตฺเถ เอตํ ภุมฺมวจนํ. อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ตสฺส นครสฺส อุปวตฺตนภูตํ มลฺลราชูนํ สาลวนุยฺยานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ นครํ ปวิสนฺตา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ อุยฺยานสฺส จ นครสฺส จ มชฺเฌ สาลวนํ วุจฺจติ. กุสินาราย หิ ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย ตํ อุยฺยานํ โหติ, ตโต อุยฺยานโต สาลวนราชิวิราชิโต มคฺโค ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข อุตฺตเรน นิวตฺโต, เตน มคฺเคน มนุสฺสา นครํ ปวิสนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ตตฺถ กิร อุปวตฺตเน อฺมฺสํสฏฺวิฏปานํ สมฺปนฺนฉายานํ สาลปนฺตีนมนฺตเร ภควโต ปรินิพฺพานมฺโจ ปฺตฺโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยมกสาลานมนฺตเร’’ติ. อุปาทียติ กมฺมกิเลเสหีติ อุปาทิ, วิปากกฺขนฺธา กฏตฺตา จ รูปํ. ตเทว กมฺมกิเลเสหิ สมฺมา อปฺปหีนตาย เสโส, นตฺถิ เอตฺถ อุปาทิเสโสติ อนุปาทิเสสา, นิพฺพานธาตุ, ตาย. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ จายํ กรณนิทฺเทโส. ปรินิพฺพาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปรินิพฺพานเหตุ ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตานนฺติ อตฺโถ. สงฺฆสฺส เถโร เชฏฺโ สงฺฆตฺเถโร. เอตฺถ จ สงฺฆสทฺทสฺส ภิกฺขุสตสหสฺสสทฺทสาเปกฺขตฺเตปิ คมกตฺตา เถรสทฺเทน สมาโส ยถา เทวทตฺตสฺส ครุกุลนฺติ. อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ สมฺพนฺโธ.

ตถา อุสฺสาหํ ชนนสฺส การณมาห สตฺตาหปรินิพฺพุเตติอาทิ. สตฺต อหานิ สมาหฏานิ สตฺตาหํ, สตฺตาหํ ปรินิพฺพุตสฺส อสฺสาติ สตฺตาหปรินิพฺพุโต, สตฺตาหปรินิพฺพุเต สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อลํ, อาวุโสติอาทินา เตน วุตฺตวจนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. เตน มหาสมเณนาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ, ตโต มหาสมณโต สุฏฺุ มุตฺตา มยนฺติ อตฺโถ, อุปทฺทุตา จ โหม ตทาติ อธิปฺปาโย, โหมาติ วา อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ, อหุมฺหาติ อตฺโถ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชตีติ ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, เหตุ. โขติ อวธารเณ, เอตํ การณํ วิชฺชเตว, โน น วิชฺชตีติ อตฺโถ. กึ ตํ การณนฺติ? อาห ยํ ปาปภิกฺขูติอาทิ. เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, การณนิทฺเทโส วา, เยน การเณน อนฺตรธาเปยฺยุํ, ตเทตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. อตีโต อติกฺกนฺโต สตฺถา เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อตีตสตฺถุกํ, ปาวจนํ. ปธานํ วจนํ ปาวจนํ, ธมฺมวินยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺขํ ลภิตฺวาติ อลชฺชีปกฺขํ ลภิตฺวา. น จิรสฺเสวาติ น จิเรเนว. ยาว จ ธมฺมวินโย ติฏฺตีติ ยตฺตกํ กาลํ ธมฺโม จ วินโย จ ลชฺชีปุคฺคเลสุ ติฏฺติ.

วุตฺตฺเหตํ ภควตาติ ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺเนน ภควตา วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เทสิโต ปฺตฺโตติ สุตฺตาภิธมฺมปิฏกสงฺคหิตสฺส ธมฺมสฺส เจว วินยปิฏกสงฺคหิตสฺส วินยสฺส จ อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา. ตสฺเสว ปการโต าปนํ อสงฺกรโต ปนํ ปฺาปนํ. โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ โส ธมฺมวินโย ตุมฺหากํ มมจฺจเยน สตฺถา มยิ ปรินิพฺพุเต สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ. สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธํ สาสนํ, นิปฺปริยายโต ปน สตฺตตฺตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อทฺธนิยนฺติ อทฺธานกฺขมํ, ตเทว จิรฏฺิติกํ อสฺส ภเวยฺยาติ สมฺพนฺโธ.

อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อตฺตโน กตํ อนุคฺคหวิเสสํ วิภาเวนฺโต อาห ยฺจาหํ ภควตาติอาทิ. ตตฺถ ยฺจาหนฺติ เอตสฺส อนุคฺคหิโตติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ นฺติ ยสฺมา, เยน การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. กิริยาปรามสนํ วา เอตํ, เตน อนุคฺคหิโตติ เอตฺถ อนุคฺคหณํ ปรามสติ. ธาเรสฺสสีติอาทิกํ ภควตา มหากสฺสปตฺเถเรน สทฺธึ จีวรปริวตฺตนํ กาตุกาเมน วุตฺตวจนํ. ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ กสฺสปาติ ‘‘กสฺสป, ตฺวํ อิมานิ ปริโภคชิณฺณานิ ปํสุกูลานิ ปารุปิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วทติ, ตฺจ โข น กายพลํ สนฺธาย, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน สนฺธาย เอวมาห. สาณานิ ปํสุกูลานีติ มตกเฬวรํ ปลิเวเตฺวา ฉฑฺฑิตานิ ตุมฺพมตฺเต กิมโย ปปฺโผเฏตฺวา คหิตานิ สาณวากมยานิ ปํสุกูลจีวรานิ. รถิกาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ กูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลสทฺทสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพสนานีติ นิฏฺิตวสนกิจฺจานิ, ปริโภคชิณฺณานีติ อตฺโถ. เอกเมว ตํ จีวรํ อเนกาวยวตฺตา พหุวจนํ กตํ. สาธารณปริโภเคนาติ อตฺตนา สมานปริโภเคน, สาธารณปริโภเคน จ สมสมฏฺปเนน จ อนุคฺคหิโตติ สมฺพนฺโธ.

อิทานิ นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปนตฺถาย ภควตา วุตฺตํ กสฺสปสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๕๒) อาคตํ ปาฬึ เปยฺยาลมุเขน อาทิคฺคหเณน จ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห อหํ, ภิกฺขเวติอาทิ. ตตฺถ ยาวเท อากงฺขามีติ ยาวเทว อากงฺขามิ, ยตฺตกํ กาลํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ, ‘‘ยาวเทวา’’ติปิ ปาโ. นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเทติ เอตฺถ นวานุปุพฺพวิหาโร นาม อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพภาวโต เอวํสฺิตา นิโรธสมาปตฺติยา สห อฏฺ รูปารูปสมาปตฺติโย. ฉฬภิฺา นาม อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ ปฺจาภิฺาโย. อตฺตนา สมสมฏฺปเนนาติ ‘‘อหํ ยตฺตกํ กาลํ ยตฺตเก สมาปตฺติวิหาเร อภิฺาโย จ วฬฺเชมิ, ตถา กสฺสโปปี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมํ กตฺวา ปเนน, อิทฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสามฺเน เถรสฺส ปสํสามตฺเตน วุตฺตํ, น ภควตา สทฺธึ สพฺพถา สมตาย. ภควโต หิ คุณวิเสสํ อุปาทาย สาวกา ปจฺเจกพุทฺธา จ กลมฺปิ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ, ตสฺส กิมฺํ อาณณฺยํ ภวิสฺสติ อฺตฺร ธมฺมวินยสงฺคายนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺส อนุคฺคหสฺส, ตสฺส เมติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. โปตฺถเกสุ หิ เกสุจิ ‘‘ตสฺส เม’’ติ ปาโ ทิสฺสติ. อาณณฺยํ อณณภาโว. สกกวจอิสฺสริยานุปฺปทาเนนาติ เอตฺถ จีวรสฺส นิทสฺสนวเสน กวจสฺเสว คหณํ กตํ, สมาปตฺติยา นิทสฺสนวเสน อิสฺสริยํ คหิตํ.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวนฺโต อาห ยถาหาติอาทิ. ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. เอกํ สมยนฺติ เอกสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ปาวายาติ ปาวานครโต. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ ทีฆมคฺคปฺปฏิปนฺโน. ทีฆปริยาโย เหตฺถ อทฺธานสทฺโท. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ ปฺจสติกกฺขนฺธเก อาคตํ สุภทฺทกณฺฑํ อิธ อาเนตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํ.

ตโต ปรนฺติ สุภทฺทกณฺฑโต ปรํ. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ อิมินา ‘‘ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ เอตํ ปริยนฺตํ สุภทฺทกณฺฑปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสํ อุสฺสาหชนนปฺปการปฺปวตฺตํ ปาฬิเมว ทสฺเสนฺโต หนฺท มยํ อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ ปุเร อธมฺโม ทิปฺปตีติ เอตฺถ ‘‘อธมฺโม นาม ทสกุสลกมฺมปถปฏิปกฺขภูโต อธมฺโม’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคหณตฺถํ อุสฺสาหชนนปฺปสงฺคตฺตา ปน ธมฺมวินยานํ อสงฺคายนเหตุโทสคโณ สมฺภวติ, โส เอว เอตฺถ อธมฺโม ทิปฺปติ ตปฺปฏิปกฺโข ธมฺโม จ ปฏิพาหียตีติ วตฺตพฺพํ. อปิ จ ‘‘อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ วุจฺจมานตฺตา เยน อธมฺเมน เต สุภทฺทวชฺชิปุตฺตกาทโย อธมฺมวาทิโน, เยน จ ธมฺเมน อิตเร ธมฺมวาทิโนว โหนฺติ. เตเยว อิธ ‘‘อธมฺโม’’ ‘‘ธมฺโม’’ติ จ วตฺตพฺพา. ตสฺมา สีลวิปตฺติอาทิเหตุโก ปาปิจฺฉตาทิโทสคโณ อธมฺโม, ตปฺปฏิปกฺโข สีลสมฺปทาทิเหตุโก อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห ธมฺโมติ จ คเหตพฺพํ. ปุเร ทิปฺปตีติ อปิ นาม ทิปฺปติ. อถ วา ยาว อธมฺโม ธมฺมํ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ โหติ, ตโต ปุเรตรเมวาติ อตฺโถ. ทิปฺปตีติ ทิปฺปิสฺสติ. ปุเรสทฺทโยเคน หิ อนาคตตฺเถ อยํ วตฺตมานปฺปโยโค, ยถา ปุรา วสฺสติ เทโวติ. อวินโยติ ปหานวินยาทีนํ ปฏิปกฺขภูโต อวินโย.

เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธเรติ สกลํ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ เอตฺถ, เอตสฺส วา อตฺถีติ สกลนวงฺคํ, สตฺถุสาสนํ. อตฺถกาเมน ปริยาปุณิตพฺพโต ทิฏฺธมฺมิกาทิปุริสตฺถปริยตฺติภาวโต จ ‘‘ปริยตฺตี’’ติ ตีณิ ปิฏกานิ วุจฺจนฺติ, ตํ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนสงฺขาตํ ปริยตฺตึ ธาเรนฺตีติ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปอยตฺติธรา, ตาทิเสติ อตฺโถ. สมถภาวนาสิเนหาภาเวน สุกฺขา ลูขา อสินิทฺธา วิปสฺสนา เอเตสนฺติ สุกฺขวิปสฺสกา. ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธเรติ ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร ติปิฏกํ, ตเทว นวงฺคาทิวเสน อเนกเภทภินฺนํ สพฺพํ ปริยตฺติปฺปเภทํ ธาเรนฺตีติ ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธรา.

กิสฺส ปนาติ กสฺมา ปน. สิกฺขตีติ เสกฺโข. ตเมวาห ‘‘สกรณีโย’’ติ. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจสฺส อปริโยสิตตฺตา สกิจฺโจติ อตฺโถ. อสฺสาติ อเนน. พหุการตฺตาติ พหุปการตฺตา. อสฺสาติ ภเวยฺย. อติวิย วิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสาสิโก. นฺติ อานนฺทตฺเถรํ โอวทตีติ สมฺพนฺโธ. อานนฺทตฺเถรสฺส กทาจิ อสฺตาย นวกาย สทฺธิวิหาริกปริสาย ชนปทจาริกาจรณํ, เตสฺจ สทฺธิวิหาริกานํ เอกกฺขเณ อุปฺปพฺพชฺชนฺจ ปฏิจฺจ มหากสฺสปตฺเถโร ตํ นิคฺคณฺหนฺโต เอวมาห ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ. เอตฺถ จ วา-สทฺโท ปทปูรโณ, อยํ กุมาโร อตฺตโน ปมาณํ น ปฏิชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาห. ตตฺราติ เอวํ สติ.

กิฺจาปิ เสกฺโขติ อิทํ น เสกฺขานํ อคติคมนสพฺภาเวน วุตฺตํ, อเสกฺขานฺเว ปน อุจฺจินิตฺวา คหิตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา ‘‘กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’’ติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, น ปน กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ อภพฺโพ อคตึ คนฺตุนฺติ โยเชตพฺพํ. อภพฺโพติอาทิ ปนสฺส สภาวกถนํ. ตตฺถ ฉนฺทาติ ฉนฺเทน สิเนเหน. อคตึ คนฺตุนฺติ อกตฺตพฺพํ กาตุํ. ปริยตฺโตติ อธีโต อุคฺคหิโต.

ราชคหํโข มหาโคจรนฺติ เอตฺถ คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, คุนฺนํ โคจรฏฺานํ. โคจโร วิยาติ โคจโร, ภิกฺขาจรณฏฺานํ. โส มหนฺโต อสฺสาติ มหาโคจรํ, ราชคหํ. อุกฺโกเฏยฺยาติ นิวาเรยฺย.

สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสูติ เอตฺถ สํเวควตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กิตฺเตตฺวา สาธุกํ เอว ปูชาวเสน กีฬนโต สาธุกีฬนํ. อุปกฏฺาติ อาสนฺนา. วสฺสํ อุปเนติ อุปคจฺฉติ เอตฺถาติ วสฺสูปนายิกา.

ตตฺร สุทนฺติ ตสฺสํ สาวตฺถิยํ, สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อุสฺสนฺนธาตุกนฺติ อุปจิตปิตฺตเสมฺหาทิธาตุกํ. สมสฺสาเสตุนฺติ สนฺตปฺเปตุํ. ทุติยทิวเสติ เชตวนวิหารํ ปวิฏฺทิวสโต ทุติยทิวเสติ วทนฺติ. วิริจฺจติ เอเตนาติ วิเรจนํ. โอสธปริภาวิตํ ขีรเมว วิเรจนนฺติ ขีรวิเรจนํ. ยํ สนฺธายาติ ยํ เภสชฺชปานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เภสชฺชมตฺตาติ อปฺปมตฺตกํ เภสชฺชํ. อปฺปตฺโถ หิ อยํ มตฺตา-สทฺโท มตฺตา สุขปริจฺจาคาติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๐) วิย.

ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ เอตฺถ ขณฺฑนฺติ ฉินฺนํ, ผุลฺลนฺติ ภินฺนํ, เตสํ ปฏิสงฺขรณํ อภินวกรณํ.

ปริจฺเฉทวเสน เวทิยติ ทิสฺสตีติ ปริเวณํ. ตตฺถาติ เตสุ วิหาเรสุ ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ สมฺพนฺโธ. ปมํ มาสนฺติ วสฺสานสฺส ปมํ มาสํ, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. เสนาสนวตฺตานํ พหูนํ ปฺตฺตตฺตา, เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๙๔ อาทโย) เสนาสนปฏิพทฺธานํ พหูนํ กมฺมานํ วิหิตตฺตา ‘‘ภควตา…เป… วณฺณิต’’นฺติ วุตฺตํ.

ทุติยทิวเสติ ‘‘ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ กโรมา’’ติ จินฺติตทิวสโต ทุติยทิวเส. วสฺสูปนายิกทิวเสเยว เต เอวํ จินฺเตสุํ. สิริยา นิเกตนมิวาติ สิริยา นิวาสนฏฺานํ วิย. เอกสฺมึ ปานียติตฺเถ สนฺนิปตนฺตา ปกฺขิโน วิย สพฺเพสํ ชนานํ จกฺขูนิ มณฺฑเปเยว นิปตนฺตีติ วุตฺตํ ‘เอกนิปาตติตฺถมิว จ เทวมนุสฺสนยนวิหงฺคาน’’นฺติ. โลกรามเณยฺยกนฺติ โลเก รมณียภาวํ, รมณํ อรหตีติ วา โลกรามเณยฺยกํ . ทฏฺพฺพสารมณฺฑนฺติ ทฏฺพฺเพสุ สารํ ทฏฺพฺพสารํ, ตโต วิปฺปสนฺนนฺติ ทฏฺพฺพสารมณฺฑํ. อถ วา ทฏฺพฺโพ สารภูโต วิสิฏฺตโร มณฺโฑ มณฺฑนํ อลงฺกาโร เอตสฺสาติ ทฏฺพฺพสารมณฺโฑ, มณฺฑโป. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ นิวาเรตีติ มณฺฑโป. วิวิธานิ กุสุมทามานิ เจว มุตฺโตลมฺพกานิ จ วินิคฺคลนฺตํ วเมนฺตํ นิกฺขาเมนฺตมิว จารุ โสภนํ วิตานํ เอตฺถาติ วิวิธกุสุมทาโมลมฺพกวินิคฺคลนฺตจารุวิตาโน. นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตสุปรินิฏฺิตภูมิกมฺมตฺตา เอว ‘‘รตนวิจิตฺตมณิโกฏฺฏิมตลมิวา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ มณิโย โกฏฺเฏตฺวา กตตลํ มณิโกฏฺฏิมตลํ นาม, ตมิวาติ วุตฺตํ โหติ. อาสนารหนฺติ นิสีทนารหํ. ทนฺตขจิตนฺติ ทนฺเตหิ ขจิตํ.

อาวชฺเชสีติ อุปนาเมสิ. อนุปาทายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กฺจิ ธมฺมํ อคฺคเหตฺวา. กถาโทโสติ กถาย อสจฺจํ นาม นตฺถิ.

ยถาวุฑฺฒนฺติ วุฑฺฒปฏิปาฏึ อนติกฺกมิตฺวา. เอเกติ มชฺฌิมภาณกานํเยว เอเก. ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ หิ สพฺพํ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติเยวาติ เวทิตพฺพํ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘ปทสาว เถโร สนฺนิปาตมาคโต’’ติ วทนฺติ. เตสุ เกจิ ‘‘อากาเสนา’’ติ, ‘‘เต สพฺเพปิ ตถา ตถา อาคตทิวสานมฺปิ อตฺถิตาย เอกเมกํ คเหตฺวา ตถา ตถา วทึสู’’ติ วทนฺติ.

กํ ธุรํ กตฺวาติ กํ เชฏฺกํ กตฺวา. พีชนึ คเหตฺวาติ เอตฺถ พีชนีคหณํ ปริสาย ธมฺมกถิกานํ หตฺถกุกฺกุจฺจวิโนทนมุขวิการปฏิจฺฉาทนตฺถํ ธมฺมตาวเสน อาจิณฺณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว หิ อจฺจนฺตสฺตปฺปตฺตา พุทฺธาปิ สาวกาปิ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมตาทสฺสนตฺถเมว จิตฺตพีชนึ คณฺหนฺติ. ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติ เอตฺถ กถํ สงฺคีติยา ปุพฺเพ ปมภาโว สิทฺโธติ? ปาติโมกฺขุทฺเทสานุกฺกมาทินา ปุพฺเพ ปมภาวสฺส สิทฺธตฺตา. เยภุยฺเยน หิ ตีณิ ปิฏกานิ ภควโต ธรมานกาเลเยว อิมินา อนุกฺกเมน สชฺฌายิตานิ, เตเนว กเมน ปจฺฉาปิ สงฺคีตานิ วิเสสโต วินยาภิธมฺมปิฏกานีติ ทฏฺพฺพํ. กิสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. อนฺตรา จ, ภนฺเต, ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตรา, วิวเร มชฺเฌติ อตฺโถ. อนฺตรา-สทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํ. ราชาคารเกติ รฺโ กีฬนตฺถาย กเต อคารเก. อมฺพลฏฺิกายนฺติ รฺโ เอวํนามกํ อุยฺยานํ. เกน สทฺธินฺติ อิธ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยสฺมา ปเนตํ น ภควตา เอว วุตฺตํ, รฺาปิ กิฺจิ กิฺจิ วุตฺตมตฺถิ, ตสฺมา ‘‘กมารพฺภา’’ติ อวตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวเทหิปุตฺเตนาติ อยํ โกสลรฺโ ธีตาย ปุตฺโต, น วิเทหรฺโ ธีตาย. ยสฺมา มาตา ปนสฺส ปณฺฑิตา, ตสฺมา สา เวเทน าเณน อีหติ ฆฏติ วายมตีติ ‘‘เวเทหี’’ติ ปากฏนามา ชาตาติ เวทิตพฺพา.

เอวํ นิมิตฺตปโยชนกาลเทสเทสกการกกรณปฺปกาเรหิ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ววตฺถาปิเตสุ ธมฺมวินเยสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ เอกวิธาทิเภเท ทสฺเสตุํ ตเทตํ สพฺพมฺปีติอาทิมาห. ตตฺถ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ เอตฺถ อนาวรณาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขนฺเตน วาติ อุทานาทิวเสน ปวตฺตธมฺมํ สนฺธายาห. วิมุตฺติรสนฺติ อรหตฺตผลสฺสาทํ, วิมุตฺติสมฺปตฺติกํ วา อคฺคผลนิปฺผาทนโต, วิมุตฺติกิจฺจํ วา กิเลสานํ อจฺจนฺตวิมุตฺติสมฺปาทนโต. อวเสสํ พุทฺธวจนํ ธมฺโมติ เอตฺถ ยทิปิ ธมฺโม เอว วินโยปิ ปริยตฺติยาทิภาวโต, ตถาปิ วินยสทฺทสนฺนิธาเนน ภินฺนาธิกรณภาเวน ปยุตฺโต ธมฺม-สทฺโท วินยตนฺติวิรหิตํ ตนฺตึ ทีเปติ, ยถา ปุฺาณสมฺภาโร โคพลิพทฺทนฺติอาทิ.

อเนกชาติสํสารนฺติ อิมิสฺสา คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อหํ อิมสฺส อตฺตภาวเคหสฺส การกํ ตณฺหาวฑฺฒกึ คเวสนฺโต เยน าเณน ตํ ทฏฺุํ สกฺกา, ตํ โพธิาณํ อนิพฺพิสํ อลภนฺโต เอว อภินีหารโต ปภุติ เอตฺตกํ กาลํ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขฺยํ อิมํ สํสารวฏฺฏํ สนฺธาวิสฺสํ สํสรึ, ยสฺมา ชราพฺยาธิมรณมิสฺสตาย ชาติ นาเมสา ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตุํ ทุกฺขา, น จ สา ตสฺมึ อทิฏฺเ นิวตฺตติ, ตสฺมา ตํ คเวสนฺโต สนฺธาวิสฺสนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺโสีติ อิทานิ มยา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺเตน ทิฏฺโ อสิ. ปุน เคหนฺติ ปุน อิมํ อตฺตภาวสงฺขาตํ มม เคหํ. น กาหสีติ น กริสฺสสิ. การณมาห สพฺพา เตติอาทิ. ตว สพฺพา อวเสสกิเลสผาสุกา มยา ภคฺคา. อิมสฺส ตยา กตสฺส อตฺตภาวเคหสฺส อวิชฺชาสงฺขาตํ กูฏํ กณฺณิกมณฺฑลํ วิสงฺขตํ วิทฺธํสิตํ. วิสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตํ มม จิตฺตํ. อหฺจ ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคผลํ อชฺฌคา ปตฺโตสฺมีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิสงฺขารคตํ จิตฺตเมว ตณฺหานํ ขยํ อชฺฌคา’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ.

เกจีติ ขนฺธกภาณกา. ปาฏิปททิวเสติ อิทํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนาติ เอเตน สมฺพนฺธิตพฺพํ, น สพฺพฺุภาวปฺปตฺตสฺสาติ เอเตน. โสมนสฺสมยาเณนาติ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาเณน. อามนฺตยามีติ นิเวทยามิ, โพเธมีติ อตฺโถ. อนฺตเรติ อนฺตราเฬ, เวมชฺเฌติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺตปิฏกนฺติ ยถา กมฺมเมว กมฺมนฺตํ, เอวํ สุตฺตเมว สุตฺตนฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อสงฺคีตนฺติ สงฺคีติกฺขนฺธก (จูฬว. ๔๓๗ อาทโย) กถาวตฺถุปฺปกรณาทิกํ. โสฬสหิ วาเรหิ อุปลกฺขิตตฺตา ‘‘โสฬส ปริวารา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. ๑ อาทโย) ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติอาทินา วุตฺตํ. ปฺตฺติวาโร กถาปตฺติวาโร วิปตฺติวาโร สงฺคหวาโร สมุฏฺานวาโร อธิกรณวาโร สมถวาโร สมุจฺจยวาโรติ อิเม อฏฺ วารา, ตทนนฺตรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ (ปริ. ๑๘๘) เอวํ ปจฺจยมตฺตวิเสเสน ปุน วุตฺตา เตเยว อฏฺ วารา จาติ อิเมสํ โสฬสนฺนํ วารานํ วเสน ภิกฺขุวิภงฺคสฺส จ ภิกฺขุนีวิภงฺคสฺส จ ปกาสิตตฺตา โสฬสหิ วาเรหิ อุปลกฺขิโต ปริวาโร ‘‘โสฬสปริวาโร’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนาติ อิทํ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺเชสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. สฺมเวลํ อภิภวิตฺวา ปวตฺโต อาจาโร อชฺฌาจาโร, วีติกฺกโม. เตนาติ วิวิธนยตฺตาทิเหตุนา. เอตนฺติ วิวิธวิเสสนยตฺตาติอาทิคาถาวจนํ. เอตสฺสาติ วินยสฺส.

อิตรํ ปนาติ สุตฺตํ. อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเทติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ โลกิยโลกุตฺตราทิอตฺเถ จ สงฺคณฺหาติ. เวเนยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตาติ วินยํ วิย อิสฺสรภาวโต อาณาปติฏฺาปนวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุโลเมน จริตานุรูปํ วุตฺตตฺตา. อนุปุพฺพสิกฺขาทิวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ กาลนฺตเร อภินิพฺพตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สสฺสมิว ผล’’นฺติ. อุปายสมงฺคีนํเยว นิปฺปชฺชนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เธนุ วิย ขีร’’นฺติ อาห. น หิ เธนุํ วิสาณาทีสุ, อกาเล วา อวิชาตํ วา โทหนฺโต ขีรํ ปฏิลภติ.

นฺติ ยสฺมา. เอตฺถาติ อภิธมฺเม. อภิธมฺเมติ สุปินนฺเตน สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อนาปตฺติภาเวปิ อกุสลเจตนา อุปลพฺภตีติอาทินา วินยปฺตฺติยา สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม, ‘‘ปุพฺพาปรวิโรธาภาวโต สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม’’ติปิ วทนฺติ. อารมฺมณาทีหีติ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺมทฺวารปฏิปทาทีหิ. ลกฺขณียตฺตาติ สฺชานิตพฺพตฺตา. ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺนฺติ เอตฺถ วินยปิฏกนฺติอาทีสุ ตีสุ สทฺเทสุ ยํ อวิสิฏฺํ สมานํ, ตํ ปิฏกสทฺทนฺติ อตฺโถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ ปาฬิสมฺปทานวเสน มา คณฺหิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาวุตฺเตนาติ เอวํ ทุวิธตฺเถนาติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.

เทสนาสาสนกถาเภทนฺติ เอตฺถ เทสนาเภทํ สาสนเภทํ กถาเภทนฺติ เภทสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. เภทนฺติ จ นานตฺตนฺติ อตฺโถ. เตสูติ ปิฏเกสุ. สิกฺขา จ ปหานานิ จ คมฺภีรภาโว สิกฺขาปหานคมฺภีรภาโว, ตฺจ ยถารหํ ปริทีปเยติ อตฺโถ. ปริยตฺติเภทนฺติ ปริยาปุณนเภทํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. ยหึ ยสฺมึ วินยาทิเก ยํ สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. อถ วา ยํ ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ วิปตฺติฺจ ยหึ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ โยเชตพฺพํ. ปริทีปนา วิภาวนา จาติ เหฏฺา คาถาสุ วุตฺตสฺส อนุรูปโต วุตฺตํ, อตฺถโต ปน เอกเมว.

อาณารเหนาติ อาณํ ปเณตุํ อรหตีติ อาณารโห, ภควา สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา. โส หิ มหาการุณิกตาย จ อวิปรีตโต เทสกภาเวน ปมาณวจนตฺตา จ อาณํ ปเณตุํ อรหติ. โวหารปรมตฺถานมฺปิ สมฺภวโต อาห ‘‘อาณาพาหุลฺลโต’’ติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. ปมนฺติ วินยปิฏกํ. ปจุราปราธา เสยฺยสกตฺเถราทโย. เต หิ โทสพาหุลฺลโต ‘‘ปจุราปราธา’’ติ วุตฺตา . ปจุโร พหุโก พหุโล อปราโธ โทโส วีติกฺกโม เยสนฺเต ปจุราปราธา. อเนกชฺฌาสยาติอาทีสุ อาสโยว อชฺฌาสโย, โส จ อตฺถโต ทิฏฺิ าณฺจ. จริยาติ ราคจริยาทิกา ฉ มูลจริยา. อถ วา จริยาติ จริตํ, ตํ สุจริตทุจฺจริตวเสน ทุวิธํ. อธิมุตฺติ นาม สตฺตานํ ปุพฺพปริจยวเสน อภิรุจิ, สา ทุวิธา หีนปณีตเภเทน. ยถานุโลมนฺติ อชฺฌาสยาทีนํ อนุรูปํ. ยถาธมฺมนฺติ ธมฺมสภาวานุรูปํ.

สํวราสํวโรติ เอตฺถ ขุทฺทโก มหนฺโต จ สํวโรติ อตฺโถ. วุฑฺฒิอตฺโถ เหตฺถ -กาโร. ทิฏฺิวินิเวนาติ ทิฏฺิยา วิโมจนํ. สุตฺตนฺตปาฬิยํ วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๑๕๒) สมาธิเทสนาพาหุลฺลโต สุตฺตนฺตปิฏเก ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขา’’ติ วุตฺตํ. วีติกฺกมปฺปหานํ กิเลสานนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ, กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรหิ วีติกฺกโม, ตสฺส ปหานํ. อนุสยวเสน สนฺตานมนุวตฺตนฺตา กิเลสา ปริยุฏฺิตาปิ สีลเภทวเสน วีติกฺกมิตุํ น ลภนฺตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺสา’’ติ. ปริยุฏฺานปฺปหานนฺติ โอกาสทานวเสน จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา สมุปฺปตฺติวเสน านํ ปริยุฏฺานํ, ตสฺส ปหานํ. อนุสยปฺปหานนฺติ อริยมคฺเคน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน การณลาเภ อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา สนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต อนุสยา นาม, เตสํ ปหานํ.

ตทงฺคปฺปหานนฺติ เตน เตน ทานสีลาทิกุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานนฺติ กายวจีทุจฺจริตเมว ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺตานํ สมฺมา กิเลเสติ อุปตาเปตีติ สํกิเลโส, ตสฺส ตทงฺควเสน ปหานํ. สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา สุตฺตนฺตปิฏเก ตณฺหาสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ. อตฺตาทิสุฺสภาวธมฺมปฺปกาสนโต อภิธมฺมปิฏเก ทิฏฺิสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ.

เอกเมกสฺมิฺเจตฺถาติ เอตฺถ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ เอเกกสฺมึ ปิฏเกติ อตฺโถ. ธมฺโมติ ปาฬีติ เอตฺถ ธมฺมสฺส สีลาทิวิสิฏฺตฺถโยคโต, พุทฺธานํ สภาวนิรุตฺติภาวโต จ ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬิ ปนฺตีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. สมฺมุติปรมตฺถเภทสฺส อตฺถสฺส อนุรูปวาจกภาเวน ปรมตฺถสทฺเทสุ เอกนฺเตน ภควตา มนสา ววตฺถาปิโต นามปฺตฺติปฺปพนฺโธ ปาฬิธมฺโม นาม. เทสนาย ธมฺมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? ยถาวุตฺตนเยน มนสา ววตฺถาปิตธมฺมสฺส ปเรสํ โพธนภาเวน อติสชฺชนา วาจาย ปกาสนา ‘‘เทสนา’’ติ เวทิตพฺพา. เตนาห – ‘‘เทสนาติ ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ปาฬิยา เทสนา’’ติ. ตทุภยมฺปิ ปน ปรมตฺถโต สทฺโท เอว ปรมตฺถวินิมุตฺตาย สมฺมุติยา อภาวา. อิมเมว นยํ คเหตฺวา เกจิ อาจริยา ‘‘ธมฺโม จ เทสนา จ ปรมตฺถโต สทฺโท เอวา’’ติ โวหรนฺติ, เตปิ อนุปวชฺชาเยว. ยถา ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. น หิ ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา นิพฺพตฺติตปรมตฺถวิสยาเยวา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อิตฺถิปุริสาทิอาการปริวิตกฺกปุพฺพกานํ ราคาทิอกุสลานํ เมตฺตาทิกุสลานฺจ อารมฺมณํ คเหตฺวาปิ สมุปฺปชฺชนโต. ปรมตฺถธมฺมมูลกตฺตา ปนสฺส ปริกปฺปสฺส ปรมตฺถวิสยตา สกฺกา ปฺเปตุํ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา คมฺภีราติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ ปิฏกาวยวานํ ธมฺมาทีนํ วุจฺจมาโน คมฺภีรภาโว ตํสมุทายสฺส ปิฏกสฺสาปิ วุตฺโต เยวาติ ทฏฺพฺโพ. ทุกฺเขน โอคยฺหนฺติ, ทุกฺโข วา โอคาโห โอคาหนํ อนฺโตปวิสนเมเตสูติ ทุกฺโขคาหา. เอตฺถาติ เอเตสุ ปิฏเกสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมวจนํ.

เหตุโน ผลํ เหตุผลํ. ธมฺมาภิลาโปติ อตฺถพฺยฺชนโก อวิปรีตาภิลาโป. วิสยโต อสมฺโมหโต จาติ โลกิยโลกุตฺตรานํ ยถากฺกมํ อวโพธปฺปการทสฺสนํ, เอตสฺส อวโพโธติ อิมินา สมฺพนฺโธ. โลกิโย หิ ธมฺมตฺถาทึ อาลมฺพิตฺวาว ปวตฺตนโต วิสยโต อวโพโธติ วุจฺจติ. โลกุตฺตโร ปน นิพฺพานารมฺมณตาย ตํ อนาลมฺพมาโนปิ ตพฺพิสยโมหวิทฺธํสเนน ธมฺมาทีสุ ปวตฺตนโต อสมฺโมหโต อวโพโธติ วุจฺจติ. อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสูติ การิยานุรูปํ การเณสูติ อตฺโถ. ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสูติ ฉพฺพิธนามปฺตฺติยา ปโถ ปฺตฺติปโถ, ตสฺส อนุรูปํ ปฺตฺตีสูติ อตฺโถ.

ธมฺมชาตนฺติ การณปฺปเภโท การณเมว วา. อตฺถชาตนฺติ การิยปฺปเภโท, การิยเมว วา. ยา จายํ เทสนาติ สมฺพนฺโธ. โย เจตฺถาติ เอตาสุ ธมฺมตฺถเทสนาสุ โย ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เอตฺถาติ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ.

อลคทฺทูปมาติ เอตฺถ อลคทฺทสทฺเทน อลคทฺทคฺคหณํ วุจฺจติ วีณาวาทนํ วีณาติอาทีสุ วิย, คหณฺเจตฺถ ยถา ฑํสติ, ตถา ทุคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ, อิตรคฺคหเณ วิโรธาภาวา. ตสฺมา อลคทฺทสฺส คหณํ อุปมา เอติสฺสาติ อลคทฺทูปมา. อลคทฺโทติ เจตฺถ อาสิวิโส วุจฺจติ. โส หิ อลํ ปริยตฺโต, ชีวิตหรณสมตฺโถ วา วิสสงฺขาโต คโท อสฺสาติ ‘‘อลํคโท’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อลคทฺโท’’ติ วุจฺจติ.

วฏฺฏโต นิสฺสรณํ อตฺโถ ปโยชนํ เอติสฺสาติ นิสฺสรณตฺถา. ภณฺฑาคาริโก วิยาติ ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก, ตสฺส อตฺถนิรเปกฺขสฺส ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ. ทุคฺคหิตานีติ ทุฏฺุ คหิตานิ. เตนาห ‘‘อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา’’ติ. เอตฺถ จ อุปารมฺโภ นาม ปริยตฺตึ นิสฺสาย ปรวมฺภนํ. อาทิ-สทฺเทน อิติวาทปฺปโมกฺขลาภสกฺการาทึ สงฺคณฺหาติ. ยํ สนฺธายาติ ยํ ปริยตฺติทุคฺคหณํ สนฺธาย. วุตฺตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๓๘) วุตฺตํ. ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺตีติ ตฺจ อสฺส ธมฺมสฺส สีลปริปูรณาทิสงฺขาตํ อตฺถํ เอเต ทุคฺคหิตคาหิโน นานุโภนฺติ น วินฺทนฺติ. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ ปฏิวิทฺธอรหตฺตผโล.

อิทานิ ตีสุ ปิฏเกสุ ยถารหํ สมฺปตฺติวิปตฺติโย นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วินเย ปนาติอาทิ. ตตฺถ ตาสํเยวาติ อวธารณํ ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทานํ วินเย ปเภทวจนาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เวรฺชกณฺเฑ (ปารา. ๑๒) หิ ติสฺโส วิชฺชาว วิภตฺตา. ทุติเย ตาสํเยวาติ อวธารณํ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อเปกฺขิตฺวา กตํ ติสฺสนฺนมฺปิ วิชฺชานํ ฉสุ อภิฺาสุ อนฺโตปวิฏฺตฺตา. ตาสฺจาติ เอตฺถ -สทฺเทน เสสานมฺปิ ตตฺถ อตฺถิภาวํ ทีเปติ. อภิธมฺมปิฏเก หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จ วุตฺตา เอว. ปฏิสมฺภิทานํ ตตฺเถว สมฺมา วิภตฺตภาวํ ทีเปตุํ ตตฺเถวาติ อวธารณํ กตํ. อุปาทินฺนผสฺโสติ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทนผสฺโส. เตสนฺติ เตสํ ปิฏกานํ. เอตนฺติ เอตํ พุทฺธวจนํ.

จตุตฺตึเสวสุตฺตนฺตาติ คาถาย อยมตฺถโยชนา – ยสฺส นิกายสฺส สุตฺตคณนโต จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา วคฺคสงฺคหวเสน ตโย วคฺคา ยสฺส สงฺคหสฺสาติ ติวคฺโค สงฺคโห, เอส ปโม นิกาโย อิธ ทีฆนิกาโยติ. อนุโลมิโกติ อปจฺจนีโก, อตฺถานุโลมนโต อนฺวตฺถนาโมติ วุตฺตํ โหติ. เอกนิกายมฺปีติ เอกสมูหมฺปิ. เอวํ จิตฺตนฺติ เอวํ วิจิตฺตํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิเม. โปณิกจิกฺขลฺลิกา ขตฺติยา, เตสํ นิวาโส ‘‘โปณิกนิกาโย จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ วุจฺจติ. ปฺจทสวคฺคปริคฺคโหติ ปฺจทสหิ วคฺเคหิ ปริคฺคหิโต. สุตฺตนฺตานํ สหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ ปาเ สุตฺตนฺตานํ สตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ โยเชตพฺพํ. กตฺถจิ ปน ‘‘สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จา’’ติ ปาโ. ปุพฺเพ นิทสฺสิตาติ สุตฺตนฺตปิฏกนิทฺเทเส นิทสฺสิตา.

เวทนฺติ าณํ. ตุฏฺินฺติ ปีตึ. ธมฺมกฺขนฺธวเสนาติ ธมฺมราสิวเสน. ทฺวาสีติสหสฺสานิ พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา เตหิเยว เทสิตานิ ทฺเว สหสฺสานิ คณฺหึ. เมติ มม หทเย, อิติ อานนฺทตฺเถโร อตฺตานํ นิทฺทิสติ. เย ธมฺมา มม หทเย ปวตฺติโน, เต จตุราสีติสหสฺสานีติ โยชนา. อิทฺจ ภควโต ธรมานกาเล อุคฺคหิตธมฺมกฺขนฺธวเสน วุตฺตํ, ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ อานนฺทตฺเถเรน เทสิตานํ สุภสุตฺต(ทอี. นิ. ๑.๔๔๔ อาทโย) โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตานํ (ม. นิ. ๓.๗๙ อาทโย), ตติยสงฺคีติยํ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน กถิตกถาวตฺถุปฺปกรณสฺส จ วเสน ธมฺมกฺขนฺธานํ จตุราสีติสหสฺสโตปิ อธิกตา เวทิตพฺพา.

เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตนฺติ สติปฏฺานาทิ (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย). อเนกานุสนฺธิกนฺติ ปรินิพฺพานสุตฺตาทิ (ที. นิ. ๒.๑๓๔ อาทโย). ตฺหิ นานาาเนสุ นานาธมฺมเทสนานํ วเสน ปวตฺตํ. ติกทุกภาชนํ ธมฺมสงฺคณิยํ นิกฺเขปกณฺฑ(ธ. ส. ๙๘๕ อาทโย) อฏฺกถากณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑๓๘๔ อาทโย) คเหตพฺพํ. จิตฺตวารภาชนนฺติ อิทํ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑ อาทโย) วุตฺตํ. อตฺถิ วตฺถูติอาทีสุ วตฺถุ นาม สุทินฺนกณฺฑาทิ (ปารา. ๒๔ อาทโย). มาติกาติ สิกฺขาปทํ. อนฺตราปตฺตีติ สิกฺขาปทนฺตเรสุ อฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตา อาปตฺติ. ติกจฺเฉโทติ ติกปาจิตฺติยาทิติกปริจฺเฉโท . พุทฺธวจนํ สงฺคหิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ พุทฺธวจนสฺส. สงฺคีติปริโยสาเน สาธุการํ ททมานา วิยาติ สมฺพนฺโธ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตานิ อจฺฉริยานิ, ปุปฺผวสฺสเจลุกฺเขปาทีนิ. ยา ‘‘ปฺจสตา’’ติ จ ‘‘เถริกา’’ติ จ ปวุจฺจติ, อยํ ปมมหาสงฺคีติ นามาติ สมฺพนฺโธ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ

ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนา

เอวํ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา ยทตฺถํ สา อิธ ทสฺสิตา, ตํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต อิมิสฺสาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปราติ ตสฺมึ ชมฺพุทีเป อยํ อาจริยานํ ปเวณี ปฏิปาฏิ. วิชิตาวิโนติ วิชิตสพฺพกิเลสปฏิปกฺขตฺตา วิชิตวนฺโต. ชมฺพุสิริวฺหเยติ ชมฺพุสทิโส สิริมนฺโต อวฺหโย นามํ ยสฺส ทีปสฺส, ตสฺมึ ชมฺพุทีเปติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺเตน หิ ชมฺพุรุกฺเขน อภิลกฺขิตตฺตา ทีโปปิ ‘‘ชมฺพู’’ติ วุจฺจติ. อจฺฉิชฺชมานํ อวินสฺสมานํ กตฺวา. วินยวํสนฺติอาทีหิ ตีหิ วินยปาฬิเยว กถิตา ปริยายวจนตฺตา เตสํ. ปกตฺุตนฺติ เวยฺยตฺติยํ, ปฏุภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธุรคฺคาโหติ ปธานคฺคาหี, สพฺเพสํ ปาโมกฺโข หุตฺวา คณฺหีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนํ สมุทาโย สมูโห ภิกฺขุสมุทาโย.

ยทาติ นิพฺพายึสูติ สมฺพนฺโธ. โชตยิตฺวา จ สพฺพธีติ ตเมว สทฺธมฺมํ สพฺพตฺถ ปกาสยิตฺวา. ชุติมนฺโตติ ปฺาชุติยา ยุตฺตา, เตชวนฺโต วา, มหานุภาวาติ อตฺโถ. นิพฺพายึสูติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพายึสุ. อนาลยาติ อสงฺคา.

อถาติ ปจฺฉา, ยทา ปรินิพฺพายึสุ, ตโต ปรนฺติ อตฺโถ. กปฺปติ สิงฺคีโลณกปฺโปติ เอตฺถ กปฺป-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ, เตน สิงฺคีโลณวิกปฺโปปิ กปฺปติ. อิทมฺปิ ปกฺขนฺตรํ กปฺปตีติ อตฺโถ, เอวํ สพฺพตฺถ. ตตฺถ สิงฺเคน โลณํ ปริหริตฺวา อโลณกปิณฺฑปาเตน สทฺธึ ภุฺชิตุํ กปฺปติ , สนฺนิธึ น กโรตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโปติ ทฺวงฺคุลํ อติกฺกนฺตาย ฉายาย วิกาเล โภชนํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ คามนฺตรกปฺโปติ ‘‘คามนฺตรํ คมิสฺสามี’’ติ ปวาริเตน อนติริตฺตโภชนํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อาวาสกปฺโปติ เอกสีมาย นานาเสนาสเนสุ วิสุํ วิสุํ อุโปสถาทีนิ สงฺฆกมฺมานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อนุมติกปฺโปติ ‘‘อนาคตานํ อาคตกาเล อนุมตึ คเหสฺสามา’’ติ เตสุ อนาคเตสุเยว วคฺเคน สงฺเฆน กมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อนุมตึ คเหตุํ กปฺปติ, วคฺคกมฺมํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ อาจิณฺณกปฺโปติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อาจิณฺโณ กปฺปตีติ อตฺโถ. โส ปน เอกจฺโจ กปฺปติ ธมฺมิโก, เอกจฺโจ น กปฺปติ อธมฺมิโกติ เวทิตพฺโพ. กปฺปติ อมถิตกปฺโปติ ยํ ขีรํ ขีรภาวํ วิชหิตํ ทธิภาวํ อสมฺปตฺตํ, ตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ ชโฬคึ ปาตุนฺติ เอตฺถ ชโฬคีติ ตรุณสุรา, ยํ มชฺชสมฺภารํ เอกโต กตํ มชฺชภาวมสมฺปตฺตํ, ตํ ปาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ชาตรูปรชตนฺติ เอตฺถ สรสโต วิการํ อนาปชฺชิตฺวา สพฺพทา ชาตรูปเมว โหตีติ ชาตํ รูปํ เอตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, รูปิยํ. สุสุนาคปุตฺโตติ สุสุนาคสฺส ปุตฺโต. กากณฺฑกปุตฺโตติ กากณฺฑกสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. วชฺชีสูติ ชนปทนามตฺตา พหุวจนํ กตํ.

ตทหุโปสเถติ เอตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหนิ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุปวสนฺตีติ จ สีลสมาทาเนน วา อนสนาทินา วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. กํสปาตินฺติ สุวณฺณปาตึ. มาสกรูปนฺติ มาสโก เอว. สพฺพํ ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิมินา สตฺตสติกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๔๖ อาทโย) อาคตา สพฺพาปิ ปาฬิ อิธ อาเนตฺวา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสติ. สงฺคายิตสทิสเมว สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ.

สา ปนายํ สงฺคีตีติ สมฺพนฺโธ. เตสูติ เตสุ สงฺคีติการเกสุ เถเรสุ. วิสฺสุตา เอเต สทฺธิวิหาริกา เยฺยาติ สมฺพนฺโธ. สาณสมฺภูโตติ สาณเทสวาสี สมฺภูตตฺเถโร. ทุติโย สงฺคโหติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปนฺนภาราติ ปติตกฺขนฺธภารา.

อพฺพุทนฺติ อุปทฺทวํ วทนฺติ. ‘‘ภควโต วจนํ เถเนตฺวา อตฺตโน วจนสฺส ทีปนโต อพฺพุทนฺติ โจรกมฺม’’นฺติ เอเก. อิทนฺติ วกฺขมานนิทสฺสนํ. สนฺทิสฺสมานา มุขา สมฺมุขา. ภาวิตมคฺคนฺติ อุปฺปาทิตชฺฌานํ. สาธุ สปฺปุริสาติ เอตฺถ สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต, ตํ ยาจามีติ อตฺโถ. หฏฺปหฏฺโติ ปุนปฺปุนํ สนฺตุฏฺโ. อุทคฺคุทคฺโคติ สรีรวิการุปฺปาทนปีติวเสน อุทคฺคุทคฺโค, ปีติมา หิ ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺคุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ.

เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ทุติยํ สงฺคีตึ อกรึสุ, ตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ตํ อธิกรณํ น สมฺปาปุณึสูติ ตํ วชฺชิปุตฺตเกหิ อุปฺปาทิตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตุํ น สมฺปาปุณึสุ นาคมึสุ. โน อหุวตฺถาติ สมฺพนฺโธ. ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพุตาติ สมฺพนฺโธ. กึ ปน กตฺวา เถรา ปรินิพฺพุตาติ? อาห ทุติยํ สงฺคหํ กตฺวาติอาทิ. อนิจฺจตาวสนฺติ อนิจฺจตาธีนตํ. ชมฺมินฺติ ลามกํ. ทุรภิสมฺภวํ อนภิภวนียํ อติกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อนิจฺจตํ เอวํ ตฺวาติ สมฺพนฺโธ.

ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา

สตฺตวสฺสานีติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อติจฺฉถาติ อติกฺกมิตฺวา อิจฺฉถ, อิโต อฺตฺถ คนฺตฺวา ภิกฺขํ ปริเยสถาติ อตฺโถ. ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถายาติ ภตฺตสฺส อชฺโฌหรณกิจฺจตฺถาย, ภุฺชนตฺถายาติ อตฺโถ. ‘‘โสฬสวสฺโส’’ติ อุทฺเทโส กถนํ อสฺส อตฺถีติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, ‘‘โสฬสวสฺสิโก’’ติ อตฺโถ.

ตีสุ เวเทสูติอาทีสุ อิรุเวทยชุเวทสามเวทสงฺขาเตสุ ตีสุ เวเทสุ. ตโย เอว กิร เวทา อฏฺกาทีหิ ธมฺมิเกหิ อิสีหิ โลกสฺส สคฺคมคฺควิภาวนตฺถาย กตา. เตเนว หิ เต เตหิ วุจฺจนฺติ. อาถพฺพณเวโท ปน ปจฺฉา อธมฺมิเกหิ พฺราหฺมเณหิ ปาณวธาทิอตฺถาย กโต. ปุริเมสุ จ ตีสุ เวเทสุ เตเหว ธมฺมิกสาขาโย อปเนตฺวา ยาควธาทิทีปิกา อธมฺมิกสาขา ปกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา. นิฆณฺฑูติ รุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ ปริยายนามานุรูปํ สตฺถํ. ตฺหิ โลเก ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ วุจฺจติ. เกฏุภนฺติ กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคนฺติ เกฏุภํ, กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการสตฺถํ. เอตฺถ จ กิริยากปฺปวิกปฺโปติ วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุวิกปฺโปติ ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ วุจฺจติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. สห นิฆณฺฑุนา เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภา, ตโย เวทา, เตสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ. านกรณาทิวิภาคโต จ นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตนาติ อกฺขรปฺปเภโท, สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. สห อกฺขรปฺปเภเทนาติ สากฺขรปฺปเภทา, เตสุ สากฺขรปฺปเภเทสุ. อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต โปราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, ตโย เวทา, เตสุ อิติหาสปฺจเมสุ.

ยสฺส จิตฺตนฺติอาทิ ปฺหทฺวยํ ขีณาสวานํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ. น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ จิตฺตํ กึ นิรุชฺฌิสฺสติ อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา จ วิภชฺชพฺยากรณียตาย เอวเมตฺถ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อรหโต ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ, อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสติ, อวสฺสเมว นิโรธกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อฺํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. เปตฺวา ปน ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคึ ขีณาสวํ อิตเรสํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิจิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ, ภงฺคํ ปน ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสเตว, อฺํ ปน ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จาติ. ยสฺส วา ปนาติอาทิ ทุติยปฺเห ปน นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย ภงฺคกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ อปฺปฏิสนฺธิกตาย นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ขีณาสวสฺส ตํ จิตฺตํ กึ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา เอกํสพฺยากรณียตาย ‘‘อามนฺตา’’ติ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโตติ อุปริมปเท วา เหฏฺิมปทํ เหฏฺิมปเท วา อุปริมปทํ อตฺถโต สมนฺนาหริตุํ ฆเฏตุํ ปุพฺเพนาปรํ โยเชตฺวา อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ.

โสตาปนฺนานํ สีเลสุ ปริปูรการิตาย สมาทินฺนสีลโต นตฺถิ ปริหานีติ อาห ‘‘อภพฺโพ ทานิ สาสนโต นิวตฺติตุ’’นฺติ. วฑฺเฒตฺวาติ อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา. ทนฺเต ปุนนฺติ วิโสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ วุจฺจติ ทนฺตกฏฺํ. อภินวานํ อาคนฺตุกานํ ลชฺชีสภาวํ ขนฺติเมตฺตาทิคุณสมงฺคิตฺจ กติปาหํ สุฏฺุ วีมํสิตฺวาว หตฺถกมฺมาทิสมฺปฏิจฺฉนํ สงฺคหกรณฺจ ยุตฺตนฺติ สามเณรสฺส เจว อฺเสฺจ ภิกฺขูนํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตานํ าปนตฺถํ เถโร ตสฺส ภพฺพรูปตํ อภิฺาย ตฺวาปิ ปุน สมฺมชฺชนาทึ อกาสิ. ‘‘ตสฺส จิตฺตทมนตฺถ’’นฺติปิ วทนฺติ. พุทฺธวจนํ ปฏฺเปสีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปตุํ อารภิ. สกลวินยาจารปฏิปตฺติ อุปสมฺปนฺนานเมว วิหิตาติ ตปฺปริยาปุณนมปิ เตสฺเว อนุรูปนฺติ อาห ‘‘เปตฺวา วินยปิฏก’’นฺติ. ตสฺส จิตฺเต ปิตมฺปิ พุทฺธวจนํ สงฺโคปนตฺถาย นิยฺยาติตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘หตฺเถ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

เอกรชฺชาภิเสกนฺติ สกลชมฺพุทีเป เอกาธิปจฺจวเสน กริยมานํ อภิเสกํ. ราชิทฺธิโยติ ราชานุภาวานุคตปฺปภาวา. ยโตติ ยโต โสฬสฆฏโต. เทวตา เอว ทิวเส ทิวเส อาหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เทวสิกนฺติ ทิวเส ทิวเส. อคทามลกนฺติ อปฺปเกเนว สรีรโสธนาทิสมตฺถํ สพฺพโทสหรํ โอสธามลกํ. ฉทฺทนฺตทหโตติ ฉทฺทนฺตทหสมีเป ิตเทววิมานโต, กปฺปรุกฺขโต วา, ตตฺถ ตาทิสา กปฺปรุกฺขวิเสสา สนฺติ, ตโต วา อาหรนฺตีติ อตฺโถ. อสุตฺตมยิกนฺติ สุตฺเตหิ อพทฺธํ ทิพฺพสุมนปุปฺเผเหว กตํ สุมนปุปฺผปฏํ. อุฏฺิตสฺส สาลิโนติ สยํชาตสาลิโน, สมุทายาเปกฺขฺเจตฺถ เอกวจนํ, สาลีนนฺติ อตฺโถ. นว วาหสหสฺสานีติ เอตฺถ จตสฺโส มุฏฺิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาริ โทณานิ เอกา มานิกา , จตสฺโส มานิกา เอกา ขารี, วีสติ ขาริกา เอโก วาโห, ตเทว ‘‘เอกํ สกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา) วุตฺตํ. นิตฺถุสกเณ กโรนฺตีติ ถุสกุณฺฑกรหิเต กโรนฺติ. เตน นิมฺมิตํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ปุฺปฺปภาวนิพฺพตฺตคฺคหณํ นาคราชนิมฺมิตานํ ปุฺปฺปภาวนิพฺพตฺเตหิ สทิสตาย กตํ. วิมลเกตุมาลาติ เอตฺถ เกตุมาลา นาม สีสโต นิกฺขมิตฺวา อุปริมุทฺธนิ ปุฺโช หุตฺวา ทิสฺสมานรสฺมิราสีติ วทนฺติ.

พาหิรกปาสณฺฑนฺติ พาหิรกปฺปเวทิตํ สมยวาทํ. ปริคฺคณฺหีติ วีมํสมาโน ปริคฺคเหสิ. ภทฺทปีเกสูติ เวตฺตมยปีเสุ. สาโรติ คุณสาโร. สีหปฺชเรติ มหาวาตปานสมีเป. กิเลสวิปฺผนฺทรหิตจิตฺตตาย ทนฺตํ. นิจฺจํ ปจฺจุปฏฺิตสตารกฺขตาย คุตฺตํ. ขุรคฺเคเยวาติ เกโสโรปนาวสาเน. อติวิย โสภตีติ สมฺพนฺโธ. วาณิชโก อโหสีติ มธุวาณิชโก อโหสิ.

ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสนาติ ปุพฺเพ วา ปุพฺพชาติยํ วา สหวาเสนาติ อตฺโถ. ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วาติ วตฺตมานภเว หิตจรเณน วา. เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ ตํ สิเนหสงฺขาตํ เปมํ ชายเต. กึ วิยาติ? อาห ‘‘อุปฺปลํ ว ยโถทเก’’ติ. อุปฺปลํ วาติ รสฺสกโต วา-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ. ยถา-สทฺโท อุปมายํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อุปฺปลฺจ เสสฺจ ปทุมาทิ อุทเก ชายมานํ ทฺเว การณานิ นิสฺสาย ชายติ อุทกฺเจว กลลฺจ, เอวํ เปมมฺปีติ (ชา. อฏฺ. ๒.๒.๑๗๔).

ธุวภตฺตานีติ นิจฺจภตฺตานิ. วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ วชฺชํ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ เถรสฺส มหานุภาวตํ, ตทา สาสนกิจฺจสฺส นายกภาเวน สงฺฆปริณายกตฺจ รฺโ าเปตุํ สงฺโฆ ตสฺส ภารมกาสีติ เวทิตพฺพํ, น อฺเสํ อชานนตาย. สาสนสฺส ทายาโทติ สาสนสฺส อพฺภนฺตโร าตโก โหมิ น โหมีติ อตฺโถ. เย สาสเน ปพฺพชิตุํ ปุตฺตธีตโร ปริจฺจชนฺติ, เต พุทฺธสาสเน สาโลหิตาตกา นาม โหนฺติ, สกลสาสนธารเณ สมตฺถานํ อตฺตโน โอรสปุตฺตานํ ปริจฺจตฺตตฺตา น ปจฺจยมตฺตทายกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เถโร ‘‘น โข, มหาราช, เอตฺตาวตา สาสนสฺส ทายาโท โหตี’’ติ อาห. กถฺจรหีติ เอตฺถ จรหีติ นิปาโต อกฺขนฺตึ ทีเปติ. ติสฺสกุมารสฺสาติ รฺโ เอกมาตุกสฺส กนิฏฺสฺส. สกฺขสีติ สกฺขิสฺสสิ. สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุนฺติ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนา เวรมณิปริโยสานาสุ ฉสุ สิกฺขาสุ ปาณาติปาตา เวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามีติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) สมาทานวเสน สิกฺขาสมฺมุติทานานนฺตรํ สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุํ. ฉ วสฺสานิ อภิเสกสฺส อสฺสาติ ฉวสฺสาภิเสโก.

สพฺพํเถรวาทนฺติ ทฺเว สงฺคีติโย อารุฬฺหา ปาฬิ. สา หิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกาหิ วิเวเจตุํ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุตฺตา. อยฺหิ วิภชฺชวาโท มหากสฺสปตฺเถราทีหิ อสงฺกรโต รกฺขิโต อานีโต จาติ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุจฺจติ, ‘‘สเถรวาท’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺกถาสุ อาคตเถรวาทสหิตํ สาฏฺกถํ ติปิฏกสงฺคหิตํ พุทฺธวจน’’นฺติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา.

สภายนฺติ นครมชฺเฌ วินิจฺฉยสาลายํ. ทิฏฺิคตานีติ ทิฏฺิโยว. น โข ปเนตํ สกฺกา อิเมสํ มชฺเฌ วสนฺเตน วูปสเมตุนฺติ เตสฺหิ มชฺเฌ วสนฺโต เตสุเยว อนฺโตคธตฺตา อาเทยฺยวจโน น โหติ, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ. อโหคงฺคปพฺพตนฺติ เอวํนามกํ ปพฺพตํ. ‘‘อโธคงฺคาปพฺพต’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ปฺจาตเปน ตปฺเปนฺตีติ จตูสุ าเนสุ อคฺคึ ชาเลตฺวา มชฺเฌ ตฺวา สูริยมณฺฑลํ อุลฺโลเกนฺตา สูริยาตเปน ตปฺเปนฺติ. อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺตีติ อุทยกาลโต ปภุติ สูริยํ โอโลกยมานา ยาว อตฺถงฺคมนา สูริยาภิมุขาว ปริวตฺตนฺติ. โวภินฺทิสฺสามาติ ปคฺคณฺหึสูติ วินาเสสฺสามาติ อุสฺสาหมกํสุ.

วิสฺสฏฺโติ มรณสงฺการหิโต, นิพฺภโยติ อตฺโถ. มิควํ นิกฺขมิตฺวาติ อรฺเ วิจริตฺวา มิคมารณกีฬา มิควํ, ตํ อุทฺทิสฺส นิกฺขมิตฺวา มิควธตฺถํ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. อหินาคาทิโต วิเสสนตฺถํ ‘‘หตฺถินาเคนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อนาทเร สามิวจนํ, ตสฺมึ ปสฺสนฺเตเยวาติ อตฺโถ. อากาเส อุปฺปติตฺวาติ เอตฺถ อยํ วิกุพฺพนิทฺธิ น โหตีติ คิหิสฺสาปิ อิมํ อิทฺธึ ทสฺเสสิ อธิฏฺานิทฺธิยา อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ปกติวณฺณฺหิ วิชหิตฺวา นาควณฺณาทิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ. ฉณเวสนฺติ อุสฺสวเวสํ. ปธานฆรนฺติ ภาวนานุโยควเสน วีริยารมฺภสฺส อนุรูปํ วิวิตฺตเสนาสนํ. โสปีติ รฺโ ภาคิเนยฺยํ สนฺธาย วุตฺตํ.

กุสลาธิปฺปาโยติ มนาปชฺฌาสโย. ทฺเวฬฺหกชาโตติ สํสยมาปนฺโน. เอเกกํ ภิกฺขุสหสฺสปริวารนฺติ เอตฺถ ‘‘คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาณากาเรน วุตฺเตปิ เถรา ภิกฺขู สาสนหิตตฺตา คตา. กปฺปิยสาสนฺเหตํ, น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตํ. เถโร นาคจฺฉีติ กิฺจาปิ ‘‘ราชา ปกฺโกสตี’’ติ วุตฺเตปิ ธมฺมกมฺมตฺถาย อาคนฺตุํ วฏฺฏติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปน เปสิเตปิ ‘‘อนนุรูปา ยาจนา’’ติ นาคโต, ‘‘มหานุภาโว เถโร ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติโก ปมาณภูโต’’ติ รฺโ เจว อุภยปกฺขิกานฺจ อตฺตนิ พหุมานุปฺปาทนวเสน อุทฺธํ กตฺตพฺพกมฺมสิทฺธึ อากงฺขนฺโต อสารุปฺปวจนเลเสน นาคจฺฉิ. เอกโต สงฺฆฏิตา นาวา นาวาสงฺฆาฏํ. สาสนปจฺจตฺถิกานํ พหุภาวโต อาห ‘‘อารกฺขํ สํวิธายา’’ติ. นฺติ ยสฺมา. อพฺพาหึสูติ อากฑฺฒึสุ. พาหิรโตติ อุยฺยานสฺส พาหิรโต. ปสฺสนฺตานํ อติทุกฺกรภาเวน อุปฏฺานํ สนฺธาย ‘‘ปเทสปถวีกมฺปนํ ทุกฺกร’’นฺติ อาห. อธิฏฺาเน ปเนตฺถ วิสุํ ทุกฺกรตา นาม นตฺถิ.

ทีปกติตฺติโรติ สากุณิเกหิ สมชาติกานํ คหณตฺถาย โปเสตฺวา สิกฺเขตฺวา ปาสฏฺาเน ปนกติตฺติโร. น ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตีติ คาถาย ยทิ ตว ปาปกิริยาย มโน นปฺปทุสฺสติ, ลุทฺเทน ตํ นิสฺสาย กตมฺปิ ปาปกมฺมํ ตํ น ผุสติ. ปาปกิริยาย หิ อปฺโปสฺสุกฺกสฺส นิราลยสฺส ภทฺรสฺส สโต ตว ตํ ปาปํ น อุปลิมฺปติ, ตว จิตฺตํ น อลฺลียตีติ อตฺโถ.

กึ วทติ สีเลนาติ กึวาที. อถ วา โก กตโม วาโท กึวาโท, โส เอตสฺส อตฺถีติ กึวาที. อตฺตานฺจ โลกฺจ สสฺสโตติ วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทิโน. สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ วา เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ ปวตฺโต วาโท เอกจฺจสสฺสโต, ตสฺมึ นิยุตฺตา เอกจฺจสสฺสติกา. ‘‘อนฺโต, อนนฺโต, อนฺตานนฺโต, เนวนฺโต นานนฺโต’’ติ เอวํ อนฺตานนฺตํ อารพฺภ ปวตฺตา จตฺตาโร วาทา อนฺตานนฺตา, เตสุ นิยุตฺตา อนฺตานนฺติกา. น มรติ น อุปจฺฉิชฺชตีติ อมรา, เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โนติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒) ปวตฺตา ทิฏฺิ เจว วาจา จ, ตสฺสา วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ ทุคฺคหา โหติ, ตสฺสา อมราย วิย วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อธิจฺจ ยทิจฺฉกํ ยํ กิฺจิ การณํ อนเปกฺขิตฺวา สมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ วาเท นิยุตฺตา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา. สฺี อตฺตาติ วาโท เยสนฺเต สฺีวาทา. เอวํ อสฺีวาทา เนวสฺีนาสฺีวาทาติ เอตฺถาปิ. ‘‘กายสฺส เภทา สตฺโต อุจฺฉิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖) เอวํ อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ อุจฺเฉทวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข ยถาสกํ อตฺตภาโว, ตสฺมึเยว ยถากามํ ปฺจกามคุณปริโภเคน นิพฺพานํ ทุกฺขูปสมํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. วิภชิตฺวา วาโท เอตสฺสาติ วิภชฺชวาที, ภควา. สพฺพํ เอกรูเปน อวตฺวา ยถาธมฺมํ วิภชิตฺวา นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กตฺวา ยถา ทิฏฺิสนฺเทหาทโย วิคจฺฉนฺติ, สมฺมุติปรมตฺถา จ ธมฺมา อสงฺกรา ปฏิภนฺติ, เอวํ เอกนฺตวิภชนสีโลติ วุตฺตํ โหติ. ปรปฺปวาทํ มทฺทมาโนติ ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนํ, อายตึ อุปฺปชฺชนกฺจ สพฺพํ ปรวาทํ กถาวตฺถุมาติกาวิวรณมุเขน นิมฺมทฺทนํ กโรนฺโตติ อตฺโถ.

ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา

เกนาภตนฺติ อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน ชมฺพุทีเป ตาว ยาว ตติยสงฺคีติ, ตาว ทสฺเสตฺวา อิทานิ สีหฬทีเป อาจริยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธนฺติอาทิ อารทฺธํ. อิมํ ทีปนฺติ ตมฺพปณฺณิทีปํ. ตสฺมึ ทีเป นิสีทิตฺวา อาจริเยน อฏฺกถาย กตตฺตา ‘‘อิมํ ทีป’’นฺติ วุตฺตํ. กฺจิ กาลนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, กิสฺมิฺจิ กาเลติ อตฺโถ. โปราณาติ สีหฬทีเป สีหฬฏฺกถาการกา. ภทฺทนาโมติ ภทฺทสาลตฺเถโร. อาคุํ ปาปํ น กโรนฺตีติ นาคา. วินยปิฏกํ วาจยึสูติ สมฺพนฺโธ. ตมฺพปณฺณิยาติ ภุมฺมวจนํ. นิกาเย ปฺจาติ วินยาภิธมฺมานํ วิสุํ คหิตตฺตา ตพฺพินิมุตฺตา ปฺจ นิกายา คเหตพฺพา. ปกรเณติ อภิธมฺมปกรเณ วาเจสุนฺติ โยชนา. ตีณิ ปิฏกานิ สฺวาคตานิ อสฺสาติ ‘‘เตปิฏโก’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ติเปฏโก’’ติ ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ. ตารกราชาติ จนฺทิมา. ปุปฺผนาโมติ เอตฺถ มหาปทุมตฺเถโร สุมนตฺเถโร จ าตพฺโพติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘ปุปฺผนาโม’’ติ วุตฺตํ.

วนวาสินฺติ วนวาสีรฏฺํ. กรกวสฺสนฺติ หิมปาตนกวสฺสํ, กรกธาราสทิสํ วา วสฺสํ. หราเปตฺวาติ อุทโกเฆน หราเปตฺวา. ฉินฺนภินฺนปฏธโรติ สตฺถเกน ฉินฺนํ รงฺเคน ภินฺนํ ปฏํ ธารณโก. ภณฺฑูติ มุณฺฑโก. มกฺขํ อสหมาโนติ เถรสฺส อานุภาวํ ปฏิจฺจ อตฺตโน อุปฺปนฺนํ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขณํ มกฺขํ ตถา ปวตฺตํ โกธํ อสหมาโน. อสนิโย ผลนฺตีติ คชฺชนฺตา ปตนฺติ. เม มม ภยเภรวํ ชเนตุํ ปฏิพโล น อสฺส น ภเวยฺยาติ โยชนา. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. กสฺมีรคนฺธาราติ กสฺมีรคนฺธารรฏฺวาสิโน. อิสิวาตปฏิวาตาติ ภิกฺขูนํ จีวรจลนกายจลเนหิ สฺชนิตวาเตหิ ปริโต สมนฺตโต พีชยมานา อเหสุํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ เหฏฺามคฺคตฺตเย าณํ. อนมตคฺคิยนฺติ อนมตคฺคสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔ อาทโย). สมธิกานีติ สาธิกานิ. ปฺจ รฏฺานีติ ปฺจ จินรฏฺานิ. เวคสาติ เวเคน. สมนฺตโต รกฺขํ เปสีติ เตสํ อปฺปเวสนตฺถาย อธิฏฺานวเสน รกฺขํ เปสิ. อฑฺฒุฑฺฒานิ สหสฺสานีติ อฑฺเฒน จตุตฺถานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ, อติเรกปฺจสตานิ ตีณิ สหสฺสานีติ อตฺโถ. ทิยฑฺฒสหสฺสนฺติ อฑฺเฒน ทุติยํ ทิยฑฺฒํ, อติเรกปฺจสติกํ สหสฺสนฺติ อตฺโถ. นิทฺธเมตฺวานาติ ปลาเปตฺวา.

ราชคหนครปริวตฺตเกนาติ ราชคหนครํ ปริวตฺเตตฺวา ตโต พหิ ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตมคฺเคน, คมเนน วา. อาโรเปสีติ ปฏิปาเทสิ. ปฬินาติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ. นคุตฺตเมติ เจติยคิริมาห. ปุรโตติ ปาจีนทิสาภาเค. ปุรเสฏฺสฺสาติ เสฏฺสฺส อนุราธปุรสฺส. สิลกูฏมฺหีติ เอวํนามเก ปพฺพตกูเฏ. สีหกุมารสฺส ปุตฺโตติ เอตฺถ ‘‘กลิงฺคราชธีตุ กุจฺฉิสฺมึ สีหสฺส ชาโต สีหกุมาโร’’ติ วทนฺติ. เชฏฺมาสสฺส ปุณฺณมิยํ เชฏฺนกฺขตฺตํ วา มูลนกฺขตฺตํ วา โหตีติ อาห ‘‘เชฏฺมูลนกฺขตฺตํ นาม โหตี’’ติ. มิคานํ วานโต หึสนโต พาธนโต มิควํ, มิควิชฺฌนกีฬา. โรหิตมิครูปนฺติ โคกณฺณมิคเวสํ. รถยฏฺิปฺปมาณาติ รถปโตทปฺปมาณา. เอกา ลตายฏฺิ นามาติ เอกา รชตมยา กฺจนลตาย ปฏิมณฺฑิตตฺตา เอวํ ลทฺธนามา. ปุปฺผยฏฺิยํ นีลาทีนิ ปุปฺผานิ, สกุณยฏฺิยํ นานปฺปการา มิคปกฺขิโน วิจิตฺตกมฺมกตา วิย ขายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ราชกกุธภณฺฑานีติ ราชารหอุตฺตมภณฺฑานิ. สงฺขนฺติ ทกฺขิณาวฏฺฏํ อภิเสกสงฺขํ. วฑฺฒมานนฺติ อลงฺการจุณฺณํ, ‘‘นหานจุณฺณ’’นฺติ เกจิ. วฏํสกนฺติ กณฺณปิฬนฺธนํ วฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นนฺทิยาวฏฺฏนฺติ นนฺทิยาวฏฺฏปุปฺผากาเรน มงฺคลตฺถํ สุวณฺเณน กตํ. กฺนฺติ ขตฺติยกุมารึ. หตฺถปุฺฉนนฺติ ปีตวณฺณํ มหคฺฆหตฺถปุฺฉนวตฺถํ. อรุณวณฺณมตฺติกนฺติ นาคภวนสมฺภวํ. วตฺถโกฏิกนฺติ วตฺถยุคเมว. นาคมาหฏนฺติ นาเคหิ อาหฏํ. อมโตสธนฺติ เอวํนามิกา คุฬิกชาติ. อมตสทิสกิจฺจตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ภูมตฺถรณสงฺเขเปนาติ ภูมตฺถรณากาเรน. อุปฺปาตปากาติ นิมิตฺตปากา. อลํ คจฺฉามาติ ‘‘ปุรสฺส อจฺจาสนฺนตฺตา สารุปฺปํ น โหตี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห. อฑฺฒนวมานํ ปาณสหสฺสานนฺติ (อ. นิ. ๖.๕๓) ปฺจสตาธิกานํ อฏฺนฺนํ ปาณสหสฺสานํ. อปฺปมาทสุตฺตนฺติ องฺคุตฺตรนิกาเย มหาอปฺปมาทสุตฺตํ, ราโชวาทสุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

มหจฺจาติ มหตา. อุปสงฺกมนฺโตติ อติวิย กิลนฺตรูโป หุตฺวา อุปสงฺกมีติ อตฺโถ. ตุมฺเห ชานนตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. ปฺจปณฺณาสายาติ เอตฺถ ‘‘จตุปฺาสายาติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อุปริ วุจฺจมานํ ทฺวาสฏฺิ อรหนฺโตติ วจนํ สเมตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ทสภาติกสมากุลนฺติ มุฏสิวสฺส ปุตฺเตหิ เทวานํปิยติสฺสาทีหิ ทสหิ ภาติเกหิ สมากิณฺณํ. จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ ธาตุโย สนฺธายาห. สพฺพตาฬาวจเรติ สพฺพานิ ตุริยภณฺฑานิ, ตํสหจริเต วา วาทเก. อุปฏฺาเปตฺวาติ อุปหารการาปนวเสน สนฺนิปาเตตฺวา. วฑฺฒมานกจฺฉายายาติ ปจฺฉาภตฺตํ. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขรปตฺเต วิย อเตมิตุกามานํ อุปริ อเตเมตฺวา ปวตฺตนกวสฺสํ. มหาวีโรติ สตฺถุโวหาเรน ธาตุ เอว วุตฺตา. ปจฺฉิมทิสาภิมุโขว หุตฺวา อปสกฺกนฺโตติ เอตฺถ ปุรตฺถาภิมุโข ิโตว ปิฏฺิโต อปสกฺกเนน ปจฺฉิมทิสาย คจฺฉนฺโต ตาทิโสปสงฺกมนํ สนฺธาย ‘‘ปจฺฉิมทิสาภิมุโข’’ติ วุตฺโต. ‘‘มเหชวตฺถุ นาม เอวํนามกํ เทวฏฺาน’’นฺติ วทนฺติ.

ปชฺชรเกนาติ อมนุสฺสสมุฏฺาปิเตน ปชฺชรกโรเคน. เทโวติ เมโฆ. อนุปฺปเวจฺฉีติ วิมุจฺจิ. วิวาโท โหตีติ เอตฺถ กิริยากาลมเปกฺขิตฺวา วตฺตมานปฺปโยโค ทฏฺพฺโพ. เอวํ อีทิเสสุ สพฺพตฺถ. ตเทตนฺติ านํ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ สมฺพนฺธภูตานํ รํสิโย จา’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ อุทกธารา จา’’ติ เอวมฺเปตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ. ปรินิพฺพุเตปิ ภควติ ตสฺสานุภาเวน เอวรูปํ ปาฏิหาริยํ อโหสิ เอวาติ ทสฺเสตุํ เอวํ อจินฺติยาติอาทิคาถมาห. รกฺขํ กโรนฺโตติ อตฺตนา อุปาเยน ปลาปิตานํ ยกฺขานํ ปุน อปฺปวิสนตฺถาย ปริตฺตานํ กโรนฺโต. อาวิชฺชีติ ปริยายิ.

รฺโภาตาติ รฺโ กนิฏฺภาตา. อนุฬาเทวี นาม รฺโ เชฏฺภาตุ ชายา. สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนเกนาติ สินิทฺธตาย รสวนฺตํ โอชวนฺตํ รํสิชาลํ วิสฺสชฺเชนฺเตน. เอกทิวเสน อคมาสีติ สมฺพนฺโธ. อปฺเปสีติ เลขสาสนํ ปติฏฺาเปสิ. อุทิกฺขตีติ อเปกฺขติ ปตฺเถติ. ภาริยนฺติ ครุกํ, อนติกฺกมนียนฺติ อตฺโถ. มํ ปฏิมาเนตีติ มํ อุทิกฺขติ. กมฺมารวณฺณนฺติ รฺโ ปกติสุวณฺณการวณฺณํ. ติหตฺถวิกฺขมฺภนฺติ ติหตฺถวิตฺถารํ. สกลชมฺพุทีปรชฺเชนาติ เอตฺถ รฺโ อิทนฺติ รชฺชํ, สกลชมฺพุทีปโต อุปฺปชฺชนกอาโย เจว อาณาทโย จ, เตน ปูเชมีติ อตฺโถ, น สกลปถวีปาสาทาทิวตฺถุนา ตสฺส สตฺตาหํ เทมีติอาทินา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ทาตุํ อยุตฺตตฺตา. เอวฺหิ เทนฺโต ตาวกาลิกํ เทติ นาม วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ปถวาทิวตฺถุปริจฺจาเคน จ ปุน คหณสฺส อยุตฺตตฺตา. นิยมิตกาเล ปน อายาทโย ปริจฺจตฺตา เอวาติ ตโต ปรํ อปริจฺจตฺตตฺตา คเหตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนตฺถ อิโต ปรมฺปิ อายาทิทานวเสเนว รชฺชทานํ เวทิตพฺพํ. ปุปฺผุฬกา หุตฺวาติ เกตกีปาโรหงฺกุรา วิย อุทกปุปฺผุฬกาการา หุตฺวา. ควกฺขชาลสทิสนฺติ ภาวนปุํสกํ, วาตปาเนสุ ชาลากาเรน ปิตทารุปฏสทิสนฺติ อตฺโถ, ควกฺเขน จ สุตฺตาทิมยชาเลน จ สทิสนฺติ วา อตฺโถ.

เทวทุนฺทุภิโยติ เอตฺถ เทโวติ เมโฆ, ตสฺส อจฺฉสุกฺขตาย อากาสมิว ขายมานสฺส อนิมิตฺตคชฺชิตํ เทวทุนฺทุภิ นาม, ยํ ‘‘อากาสทุนฺทุภี’’ติปิ วทนฺติ. ผลึสูติ ถนึสุ. ปพฺพตานํนจฺเจหีติ ปถวีกมฺเปน อิโต จิโต จ ภมนฺตานํ ปพฺพตานํ นจฺเจหิ. วิมฺหยชาตา ยกฺขา ‘‘หิ’’นฺติสทฺทํ นิจฺฉาเรนฺตีติ อาห ‘‘ยกฺขานํ หิงฺกาเรหี’’ติ. สกสกปฏิภาเนหีติ อตฺตโน อตฺตโน สิปฺปโกสลฺเลหิ. อภิเสกํ ทตฺวาติ อโนตตฺตทโหทเกน อภิเสกํ ทตฺวา.

เทวตากุลานีติ มหาโพธึ ปริวาเรตฺวา ิตนาคยกฺขาทิเทวตากุลานิ ทตฺวาติ สมฺพนฺโธ. โคปกราชกมฺมิโน ตถา ‘‘ตรจฺฉา’’ติ วทนฺติ. อิมินา ปริวาเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ, อิมินา ปริวาเรน สหาติ อตฺโถ. ตามลิตฺตินฺติ เอวํนามกํ สมุทฺทตีเร ปฏฺฏนํ. อิทมสฺส ตติยนฺติ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตสาขาโพธิยา รชฺชสมฺปทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ปน ปุพฺเพ เอกวารํ รชฺชสมฺปทานํ อจฺฉินฺนาย สาขาย มหาโพธิยา เอว กตํ, เตน สทฺธึ จตุกฺขตฺตุํ ราชา รชฺเชน ปูเชสิ. รชฺเชน ปูชิตทิวเสสุ กิร สกลทีปโต อุปฺปนฺนํ อายํ คเหตฺวา มหาโพธิเมว ปูเชสิ.

ปมปาฏิปททิวเสติ สุกฺกปกฺขปาฏิปททิวเส. ตฺหิ กณฺหปกฺขปาฏิปททิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ปมปาฏิปททิวส’’นฺติ วุตฺตํ, อิทฺจ ตสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป โวหารํ คเหตฺวา วุตฺตํ, อิธ ปน ปุณฺณมิโต ปฏฺาย ยาว อปรา ปุณฺณมี, ตาว เอโก มาโสติ โวหาโร. ตสฺมา อิมินา โวหาเรน ‘‘ทุติยปาฏิปททิวเส’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา กณฺหปกฺขปาฏิปทสฺส อิธ ปมปาฏิปทตฺตา. คจฺฉติ วตเรติ เอตฺถ อเรติ เขเท. สมนฺตาโยชนนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, โยชนปฺปมาเณ ปเทเส สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. สุปณฺณรูเปนาติ มหาโพธึ พลกฺกาเรน คเหตฺวา นาคภวนํ เนตุกามานิ นาคราชกุลานิ อิทฺธิยา คหิเตน ครุฬรูเปน สนฺตาเสติ. ตํ วิภูตึ ปสฺสิตฺวาติ เทวตาทีหิ กรียมานํ ปูชามหตฺตํ, มหาโพธิยา จ อานุภาวมหตฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตถา ปูเชตุกามา เถรึ ยาจิตฺวาติ โยชนา. สมุทฺทสาลวตฺถุสฺมินฺติ ยสฺมึ ปเทเส ตฺวา ราชา สมุทฺเท อาคจฺฉนฺตํ โพธึ เถรานุภาเวน อทฺทส, ยตฺถ จ ปจฺฉา สมุทฺทสฺส ทิฏฺฏฺานนฺติ ปกาเสตุํ สมุทฺทสาลํ นาม สาลํ อกํสุ, ตสฺมึ สมุทฺทสาลาย วตฺถุภูเต ปเทเส. เถรสฺสาติ มหามหินฺทตฺเถรสฺส. ปุปฺผอคฺฆิยานีติ กูฏาคารสทิสานิ ปุปฺผเจติยานิ. อาคโต วตเรติ เอตฺถ อเรติ ปโมเท. อฏฺหิ อมจฺจกุเลหิ อฏฺหิ พฺราหฺมณกุเลหิ จาติ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ. รชฺชํ วิจาเรสีติ รชฺชํ วิจาเรตุํ วิสฺสชฺเชสิ. ราชวตฺถุทฺวารโกฏฺกฏฺาเนติ ราชุยฺยานสฺส ทฺวารโกฏฺกฏฺาเน. อนุปุพฺพวิปสฺสนนฺติ อุทยพฺพยาทิอนุปุพฺพวิปสฺสนํ. ‘‘สห โพธิปติฏฺาเนนา’’ติ กรณวจเนน วตฺตพฺเพ วิภตฺติปริณาเมน ‘‘สห โพธิปติฏฺานา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ กตํ. สติ หิ สหสทฺทปฺปโยเค กรณวจเนเนว ภวิตพฺพํ. ทสฺสึสูติ ปฺายึสุ. มหาอาสนฏฺาเนติ ปุพฺพปสฺเส มหาสิลาสเนน ปติฏฺิตฏฺาเน. ปูเชตฺวา วนฺทีติ อาคามินํ มหาเจติยํ วนฺทิ. ปุริเม ปน มหาวิหารฏฺาเน ปูชามตฺตสฺเสว กตตฺตา อนาคเต สงฺฆสฺสปิ นวกตา อวนฺทิตพฺพตา จ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา. อนาคเต ปน เมตฺเตยฺยาทิพุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธภาวกฺขณํ อุทฺทิสฺส วนฺทิตพฺพาว สภาเวน วิสิฏฺปุคฺคลตฺตาติ คเหตพฺพํ.

มหาอริฏฺโติ ปฺจปฺาสาย ภาตุเกหิ สทฺธึ เจติยคิริมฺหิ ปพฺพชิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เมฆวณฺณาภยอมจฺจสฺส ปริเวณฏฺาเนติ เมฆวณฺณอภยสฺส รฺโ อมจฺเจน กตฺตพฺพสฺส ปริเวณสฺส วตฺถุภูเต าเน. มงฺคลนิมิตฺตภาเวน อากาเส สมุปฺปนฺโน มโนหรสทฺโท อากาสสฺส รโว วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อากาสํ มหาวิรวํ รวี’’ติ. น หิ อากาโส นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ, โย สทฺทํ สมุฏฺาเปยฺย, อากาสคตอุตุวิเสสสมุฏฺิโตว โส สทฺโทติ คเหตพฺโพ. ปมกตฺติกปวารณทิวเส…เป… วินยปิฏกํ ปกาเสสีติ อิทํ วินยํ วาเจตุํ อารทฺธทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุสิฏฺิกรานนฺติ อนุสาสนีกรานํ. ราชิโนติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, เทวานํปิยติสฺสราชานนฺติ อตฺโถ. อฺเปีติ มหินฺทาทีหิ อฏฺสฏฺิมหาเถเรหิ อฺเปิ, เตสํ สรูปํ ทสฺเสนฺโต อาห เตสํ เถรานนฺติอาทิ. ตตฺถ เตสํ เถรานํ อนฺเตวาสิกาติ มหินฺทตฺเถราทีนํ อฏฺสฏฺิมหาเถรานํ อริฏฺาทโย อนฺเตวาสิกา จ มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา ติสฺสทตฺตกาฬสุมนาทโย จาติ โยเชตพฺพํ. อนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกาติ อุภยตฺถ วุตฺตอนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกปรมฺปรา จาติ อตฺโถ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการาติ มหินฺโท อิฏฺฏิโย อุตฺติโยติอาทิคาถาหิ (ปารา. อฏฺ. ๑.ตติยสงฺคีติกถา) ปกาสิตา อาจริยปรมฺปรา.

น ปคฺฆรตีติ น คฬติ, น ปมุสฺสตีติ อตฺโถ. สติคติธิติมนฺเตสูติ เอตฺถ สตีติ อุคฺคหธารเณ สติ. คตีติ สทฺทตฺถวิภาคคฺคหเณ าณํ. ธิตีติ อุคฺคหปริหรณาทีสุ วีริยํ. กุกฺกุจฺจเกสูติ ‘‘กปฺปติ น กปฺปตี’’ติ วีมํสกุกฺกุจฺจการีสุ. มาตาปิตุฏฺานิโยติ วตฺวา ตเมวตฺถํ สมตฺเถตุํ อาห ตทายตฺตาหีติอาทิ. วินยปริยตฺตึ นิสฺสายาติ วินยปิฏกปริยาปุณนํ นิสฺสาย. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโตติ ลชฺชิโน วินยธารณสฺส อลชฺชิอฺาณตาทีหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺติยา อนาปชฺชนโต อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ ขณฺฑาทิโทสวิรหิโต สุคุตฺโต สุรกฺขิโต โหติ. กุกฺกุจฺจปกตานนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน กุกฺกุจฺเจน ปกตานํ อุปทฺทุตานํ อภิภูตานํ ยถาวินยํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปเนน ปฏิสรณํ โหติ. วิคโต สารโท ภยเมตสฺสาติ วิสารโท. ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวาว กถนโต นิพฺภโยว สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ. ปจฺจตฺถิเกติ อตฺตปจฺจตฺถิเก เจว วชฺชิปุตฺตกาทิสาสนปจฺจตฺถิเก จ. สหธมฺเมนาติ สการเณน วจเนน สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ยถา เต อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ. สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตสฺส ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส ิติยา, ปวตฺติยาติ อตฺโถ.

วินโย สํวรตฺถายาติอาทีสุ วินยปริยาปุณนํ วินโย, วินยปฺตฺติ วา กายวจีทฺวารสํวรตฺถาย. อวิปฺปฏิสาโรติ กตากตํ นิสฺสาย วิปฺปฏิสาราภาโว สนฺตาปาภาโว. ปาโมชฺชํ ตรุณปีติ. ปีติ นาม พลวปีติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิ. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห. นิพฺพิทาติ วิปสฺสนา. วิราโคติ อริยมคฺโค. วิมุตฺตีติ อคฺคผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. อนุปาทาติ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ปริจฺจชิตฺวา. ปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจเวกฺขณาเณ อนุปฺปนฺเน อนฺตรา ปรินิพฺพานาภาเวน ตํปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจยตฺเตน วุตฺตํ อนนฺตราทิปจฺจยตฺตา. เอตทตฺถา กถาติ อยํ วินยกถา นาม เอตสฺส อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส อตฺถายาติ อตฺโถ. มนฺตนาติ วินยมนฺตนาเยว, ภิกฺขูนํ ‘‘เอวํ กริสฺสาม, เอวํ น กริสฺสามา’’ติ วินยปฏิพทฺธมนฺตนา. อุปนิสาติ อุปนิสีทติ เอตฺถ ผลนฺติ อุปนิสา, การณํ. วินโย สํวรตฺถายาติอาทิการณปรมฺปราปิ เอตทตฺถาติ อตฺโถ. โสตาวธานนฺติ อิมิสฺสา ปรมฺปรปจฺจยกถาย อตฺตานํ สมนตฺถาย โสตาวธานํ, ตมฺปิ เอตมตฺถํ. ยทิทนฺติ นิปาโต. โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตมคฺคสงฺขาโต, ตปฺผลสงฺขาโต วา วิโมกฺโข, โสปิ เอตทตฺถาย อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย. อถ วา โย อยํ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโข วิมุจฺจนํ วิคโม ปรินิพฺพานํ เอตทตฺถา กถาติ เอวํ อุปสํหรณวเสน โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ มคฺคผลวิโมกฺขสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา. อาโยโคติ อุคฺคหณาทิวเสน ปุนปฺปุนํ อภิโยโค.

อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ

พาหิรนิทานกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.