📜

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา

เสยฺยถิทนฺติ ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ. อนิยมนิทฺเทสวจนนฺติ อตฺตโน อตฺถํ สรูเปน นิยเมตฺวา นิทฺทิสตีติ นิยมนิทฺเทโส, น นิยมนิทฺเทโส อนิยมนิทฺเทโส. โสว วุจฺจเต อเนนาติ วจนนฺติ อนิยมนิทฺเทสวจนํ. ตสฺสาติ เตนาติปทสฺส. ปริวิตกฺโกติ ‘‘กตเมสานํ โข พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๘) ปวตฺโต. ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วาติ เตนาติปทโต เหฏฺา วุตฺตปาเ วา อุปริ วกฺขมานปาเ วาติ อตฺโถ. อตฺถโต สิทฺเธนาติ สามตฺถิยโต สิทฺเธน. ตตฺริทํ มุขมตฺตนิทสฺสนนฺติ ตสฺสา ยถาวุตฺตยุตฺติยา ปริทีปเน อิทํ อุปายมตฺตนิทสฺสนํ. มุขํ ทฺวารํ อุปาโยติ หิ อตฺถโต เอกํ.

สมยสทฺโท ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ สมยสทฺทสฺส สมวาโย อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายาติ เอตฺถ กาโล นาม อุปสงฺกมนสฺส ยุตฺตกาโล, สมโย นาม สรีรพลาทิการณสมวาโย, เต อุปาทาย ปฏิจฺจาติ อตฺโถ. ขโณติ โอกาโส. พุทฺธุปฺปาทาทโย หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส. โส เอว สมโย. เตเนว ‘‘เอโกวา’’ติ วุตฺตํ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวนสฺมินฺติ วนสณฺเฑ. สมโยปิ โข เต ภทฺทาลีติ เอตฺถ สมโยติ สิกฺขาปทาวิลงฺฆนสฺส เหตุ, โก โส? อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺติยา ภควโต ชานนํ, โส สมยสงฺขาโต เหตุ ตสฺสา อปฺปฏิวิทฺโธติ อตฺโถ. ภควาติอาทิ ตสฺส ปฏิวิชฺฌนาการทสฺสนํ. อุคฺคหมาโนติ กิฺจิ กิฺจิ อุคฺคเหตุํ สมตฺถตาย อุคฺคหมาโน, สุมนปริพฺพาชกสฺเสเวตํ นามํ. สมยํ ทิฏฺึ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทโก, มลฺลิกาย อาราโม. สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรุรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ‘‘ตินฺทุกาจีร’’นฺติ จ, เอกาว นิวาสา สาลา เอตฺถาติ ‘‘เอกสาลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อตฺถาภิสมยาติ ยถาวุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส หิตสฺส ปฏิลาภโต. มานาภิสมยาติ มานปฺปหานา. ปีฬนฏฺโติ ปีฬนํ ตํสมงฺคิโน หึสนํ, อวิปฺผาริกตากรณํ, ปีฬนเมว อตฺโถ ปีฬนฏฺโ . สนฺตาโปติ ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ. วิปริณาโมติ ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา วิปริณาเมตพฺพตา อภิสเมตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพติ อภิสมโย, โสว อภิสมยฏฺโ, ปีฬนาทีนิ.

เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเรปิ สอุปสคฺโค อภิสมยสทฺโท อุทฺธโฏ. ตตฺถ สงฺคมวเสน ปจฺจยานํ ผลุปฺปาทนํ ปฏิ อยนํ เอกโต ปวตฺติ เอตฺถาติ สมโย, สมวาโย. วิวฏฺฏูปนิสฺสยสงฺคเม สติ เอนฺติ เอตฺถ สตฺตา ปวตฺตนฺตีติ สมโย, ขโณ. สเมติ เอตฺถ สงฺขตธมฺโม, สยํ วา เอติ อาคจฺฉติ วิคจฺฉติ จาติ สมโย, กาโล. สเมนฺติ อวยวา เอตสฺมึ, สยํ วา เตสูติ สมโย, สมูโห. ปจฺจยนฺตรสงฺคเม เอติ อาคจฺฉติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมโย, เหตุ. สฺาวเสน วิปลฺลาสโต ธมฺเมสุ เอติ อภินิวิสตีติ สมโย, ทิฏฺิ. สมีปํ อยนํ อุปคมนํ สมโย, ปฏิลาโภ. สมฺมเทว สหิตานํ วาจานํ อยนํ วิคโมติ สมโย, ปหานํ. สมฺมเทว, สหิตานํ วา สจฺจานํ อยนํ ชานนนฺติ สมโย, ปฏิเวโธ. เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมยสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

เอตฺถ จ สมยสทฺทสฺส สามฺเน อเนกตฺถตา วุตฺตา. น หิ เอกสฺมึ อตฺถวิเสเส วตฺตมาโน สทฺโท ตทฺเปิ วตฺตติ. ตสฺมา อตฺถา วิย ตํตํวาจกา สมยสทฺทาปิ ภินฺนา เอวาติ คเหตพฺพา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺถุทฺธาเรสุ.

ตตฺถ ตถาติ เตสุ สุตฺตาภิธมฺเมสุ อุปโยคภุมฺมวจเนหิ. อิธาติ วินเย, อฺถาติ กรณวจเนน. อจฺจนฺตเมวาติ นิรนฺตรเมว. ภาโว นาม กิริยา, กิริยาย กิริยนฺตรูปลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, ยถา อุทเย สติ จนฺเท ชาโต ราชปุตฺโตติ. อธิกรณฺหีติอาทิ อภิธมฺเม สมยสทฺโท กาลสมูหขณสมวายเหตุสงฺขาเตสุ ปฺจสุ อตฺเถสุ วตฺตติ, น วินเย วิย กาเล เอว, เตสุ จ กาลสมูหตฺถา ทฺเว ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ อธิกรณภาเวน นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตา. ขณสมวายเหตุอตฺถา ปน ตโยปิ อตฺตโน ภาเวน ผสฺสาทีนํ ภาวสฺส อุปลกฺขณภาเวน นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตาติ วิภาวนมุเขน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมิฺหิ กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย อธิกรณภูเต กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย ผสฺสาทโย โหนฺตีติ เอวํ อธิกรณตฺถโยชนา, ยสฺมึ ปน ขเณ, สมวาเย เหตุมฺหิ วา สมเย สติ วิชฺชมาเน กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว ขณาทิมฺหิ สมเยปิ วิชฺชมาเน ผสฺสาทโย โหนฺตีติ ภาเวนภาวลกฺขณตฺถโยชนา จ เวทิตพฺพา.

โหติเจตฺถาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตอตฺถวิสเย สงฺคหคาถา โหติ. อฺตฺราติ สุตฺตาภิธมฺเมสุ. อภิลาปมตฺตเภโทติ เทสนาวิลาสโต สทฺทมตฺเตเนว เภโท, น อตฺถโต.

อวิเสเสนาติ สามฺเน. อิริยาปโถติอาทีสุ อิริยาย สพฺพทฺวาริกกิริยาย ปโถ ปวตฺตนฏฺานํ ตพฺพินิมุตฺตกมฺมสฺส อภาวาติ านาทโย อิริยาปโถ, โสว วิหาโร. พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา ปรหิตจิตฺตาทิวสปฺปวตฺติโต เมตฺตาทโย พฺรหฺมวิหาโร นาม. ตทวเสสา ปน มหคฺคตา สพฺพนีวรณวิคมนาทิสิทฺเธน โชตนาทิอตฺเถน ทิพฺพวิหาโร นาม. พฺรหฺมวิหารภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา เมตฺตาทโย อิธ อสงฺคหิตา. อริยานเมว วิหาโรติ ผลสมาปตฺติโย อริยวิหาโร นาม.

รุกฺขาทิมูเลเยว มูลสทฺทสฺส นิรุฬฺหภาวํ ทสฺเสตุํ อปเรน มูลสทฺเทน วิเสเสตฺวา ‘‘มูลมูเล’’ติ วุตฺตํ, ยถา ทุกฺขทุกฺขนฺติ (วิภ. อฏฺ. ๑๙๐). โลภาทีนํ โทสมูลาทิจิตฺตาสาธารณตฺตา ‘‘อสาธารณเหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ สิยาติ ตตฺถ เวรฺชายนฺติอาทีสุ ปเทสุ กสฺสจิ โจทนา สิยาติ อตฺโถ. อุภยถา นิทานกิตฺตนสฺส ปน กึ ปโยชนนฺติ? อาห โคจรคามนิทสฺสนตฺถนฺติอาทิ. ตตฺถ อสฺสาติ ภควโต.

กิลโมว กิลมโถ, อตฺตโน อตฺตภาวสฺส กิลมโถ อตฺตกิลมโถ, ตสฺส อนุ อนุ โยโค ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนํ อตฺตกิลมถานุโยโค. วตฺถุกามารมฺมเณ สุเข สมฺปโยควเสน ลีนา ยุตฺตา, กามตณฺหา , ตํสหจริเต กาเม สุเข วา อารมฺมณภูเต อลฺลีนา ปวตฺตตีติ กามสุขลฺลิกา ตณฺหา, ตสฺสา กามสุขลฺลิกาย อนุ อนุ โยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค. โลเก สํวฑฺฒภาวนฺติ อามิโสปโภเคน สํวฑฺฒิตภาวํ. อุปฺปชฺชมาโน พหุชนหิตาทิอตฺถาเยว อุปฺปชฺชตีติ โยชนา.

ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ทิฏฺีติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา. ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตานฺจ สีลานํ สามฺสงฺขาเตน สงฺฆาโต สงฺฆฏิโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺฆาเตนา’’ติ วา ปาเเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺส ทิฏฺิสีลสามฺภูเตน สํหนเนน สงฺฆาโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. เอวฺหิ ปาเ สทฺทโต อตฺโถ ยุตฺตตโร โหติ. อสฺสาติ มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส.

พฺรหฺมํ อณตีติ เอตฺถ พฺรหฺม-สทฺเทน เวโท วุจฺจติ, โส มนฺตพฺรหฺมกปฺปวเสน ติวิโธ. ตตฺถ อิรุเวทาทโย ตโย เวทา มนฺตา, เต จ ปธานา, อิตเร ปน สนฺนิสฺสิตา, เตน ปธานสฺเสว คหณํ. มนฺเต สชฺฌายตีติ อิรุเวทาทิเก มนฺตสตฺเถ สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิรุเวทาทโย หิ คุตฺตภาสิตพฺพตาย ‘‘มนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, สมิตปาปตฺตา สมโณ’’ติ ยถาวุตฺตมตฺถทฺวยํ อุทาหรณทฺวเยน วิภาเวตุํ วุตฺตฺเหตนฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ ‘สมโณ’ติ ปวุจฺจตี’’ติ หิ อิทํ วจนํ คเหตฺวา ‘‘สมิตปาปตฺตา ‘สมโณ’ติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, พาหิตปาโปติ อิทํ ปน อฺสฺมึ คาถาพนฺเธ วุตฺตวจนํ. ยถาภุจฺจคุณาธิคตนฺติ ยถาภูตคุณาธิคตํ. สกิฺจโนติ สโทโส.

โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ, โค-สทฺเทน เจตฺถ อภิธานํ พุทฺธิ จ วุจฺจติ. เกนจิ ปาริชุฺเนาติ าติปาริชุฺาทินา เกนจิ ปาริชุฺเน , ปริหานิยาติ อตฺโถ. ตโต ปรนฺติ เวรฺชายนฺติอาทิวจนํ. อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อิตฺถํ อิมํ ปการํ ภูโต อาปนฺโนติ อิตฺถมฺภูโต, ตสฺส อาขฺยานํ อิตฺถมฺภูตาขฺยานํ, โสเยวตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ. อถ วา ‘‘อิตฺถํ เอวํปกาโร ภูโต ชาโต’’ติ เอวํ กถนตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ, ตสฺมึ อุปโยควจนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปฺปการสฺส ทีปนโต, เตน โยคโต ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ อิทํ อุปโยควจนํ สามิอตฺเถปิ สมาเน อิตฺถมฺภูตาขฺยานทีปนโต ‘‘อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ’’ติ วุตฺตํ, เตเนวาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.

อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนํ กตํ, เอวมิธาปิ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ อภิ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อุคฺคโตติ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนนฺติ. สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ หิ ‘‘เทวทตฺโต มาตรมภิ มาตริ วิสเย มาตุยา วา สาธู’’ติ เอวํ อธิกรณตฺเถ วา สามิอตฺเถ วา ภุมฺมวจนสฺส สามิวจนสฺส วา ปสงฺเค อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตเกน อภิสทฺเทน โยเค อุปโยควจนํ กตํ, ยถา เจตฺถ เทวทตฺโต มาตุวิสเย มาตุสมฺพนฺธี วา โส วุตฺตปฺปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ, เอวมิธาปิ โภโต โคตมสฺส สมฺพนฺธี กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตตฺถ หิ เทวทตฺตคฺคหณํ วิย อิธ กิตฺติสทฺทคฺคหณํ, ตตฺถ มาตรนฺติ วจนํ วิย อิธ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ วจนํ, ตตฺถ สาธุสทฺทคฺคหณํ วิย อิธ อุคฺคตสทฺทคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติภูโต สทฺโท, น เกวโลติ ทสฺสนตฺถํ วิเสสิตนฺติ อาห ‘‘กิตฺติ เอวา’’ติ. ตโต กิตฺตีติ ถุติ, ตสฺสา ปกาสโก สทฺโท กิตฺติสทฺโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุติโฆโส วา’’ติ วุตฺตํ.

โส ภควาติ เอตฺถ โสติ ปสิทฺธิยํ, โย โส สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ กมฺเปนฺโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, โส โลเก อติปากโฏติ ‘‘โส ภควา’’ติ วุตฺตํ. ภควาติ จ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ, น คุณกิตฺตนํ. ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนเมว. อิมินา จ อิมินา จาติ เอเตน อรหนฺติอาทิปทานํ ปจฺเจกํ อเนกคุณคณํ ปฏิจฺจ ปวตฺตภาวํ ทสฺเสติ.

สุวิทูรวิทูเรติ ทฺวีหิ สทฺเทหิ อติวิย ทูเรติ ทสฺเสติ, สุวิทูรตา เอว หิ วิทูรตา. สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อิมินา ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ อสาธารณํ ภควโต อรหตฺตนฺติ ทสฺเสติ เตสํ วาสนาย อปฺปหีนตฺตา, วาสนา จ นาม นิกฺกิเลสสฺสาปิ สกลเยฺยานวโพธาทิทฺวารตฺตยปฺปโยควิคุณตาเหตุภูโต กิเลสนิหิโต อากาโร จิรนิคฬิตปาทานํ นิคฬโมกฺเขปิ สงฺกุจิตตาคมนเหตุโก นิคฬนิหิโต อากาโร วิย. ยาย ปิลินฺทวจฺฉาทีนํ วสลโวหาราทิวิคุณตา โหติ, อยํ วาสนาติ คเหตพฺพา. อารกาติ เอตฺถ อาการสฺส รสฺสตฺตํ ก-การสฺส จ ห-การํ สานุสฺสรํ กตฺวา นิรุตฺตินเยน ‘‘อรห’’นฺติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ อุปริปิ ยถารหํ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยฺเจตํ สํสารจกฺกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุฺาทีติ อาทิ-สทฺเทน อปุฺาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขาเร สงฺคณฺหาติ. อาสวา เอว อวิชฺชาทีนํ การณตฺตา สมุทโยติ อาห ‘‘อาสวสมุทยมเยนา’’ติ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ. วิปากกฏตฺตารูปปฺปเภโท ติภโว เอว รโถ, ตสฺมึ ติภวรเถ. สํสารจกฺกนฺติ ยถาวุตฺตกิเลสกมฺมวิปากสมุทโย.

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, ‘สํสาโร’ติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๘; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔, ๕๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๖๗, ๙๙; พุ. วํ. อฏฺ. ๕๘; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๗; จูฬนิ. อฏฺ. ๖) –

เอวํ วุตฺโต สํสาโรว จกฺกํ วิย ปริพฺภมนโต จกฺกํ, ตสฺส จกฺกสฺส สพฺเพ อรา หตาติ สมฺพนฺโธ. อเนนาติ ภควตา. โพธีติ าณํ, ตํ เอตฺถ มณฺฑํ ปสนฺนํ ชาตนฺติ โพธิมณฺโฑ. กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุนฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ วุตฺตํ, ตํ ฉินฺทิตพฺพํ อภิสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ ปริจฺฉินฺทตีติ ทสฺเสตุํ กมฺมกฺขยกรวิเสสนวิสิฏฺํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ กติปยงฺเคหิ สํสารจกฺกํ ตทวเสสงฺเคหิ ผลภูตนามรูปธมฺเมหิ ติภวรถฺจ ตสฺมึ รเถ โยชิตสํสารจกฺการานํ หนนปฺปการฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺเพหิปิ ทฺวาทสหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคหิ รถวิรหิตเมว เกวลํ สํสารจกฺกํ, ตสฺส อรฆาตนปฺปการเภทฺจ ทสฺเสตุํ อถวาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนมตคฺคนฺติ อนุ อนุ อมตคฺคํ, สพฺพถา อนุคจฺฉนฺเตหิปิ อวิฺาตโกฏิกนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริโยสานตฺตาติ อิทํ สงฺขาราทีนํ ทสนฺนํ อรภาเวน เอกตฺตํ สมาโรเปตฺวาติ วุตฺตํ. น หิ เตสํ ปจฺเจกํ อวิชฺชามูลกตา ชรามรณปริโยสานตา จ อตฺถิ ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา. อถ วา เตสมฺปิ ยถารหํ อตฺถโต อวิชฺชามูลกตฺตํ, อตฺตโน อตฺตโน ลกฺขณภูตขณิกชรามรณวเสน ตปฺปริโยสานตฺจ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ เตสํ ปจฺเจกํ อรภาโว สิทฺโธ โหติ.

เอวํ สพฺพาการํ สํสารจกฺกเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยน าเณน อิมสฺส สํสารจกฺกสฺส อรานํ เฉโท ภควโต สิทฺโธ, ตสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๔; ๑.๔๕) มาติกา วุตฺตตฺตา ภวจกฺกาวยเวสุ อวิชฺชาทีสุ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา ปริคฺคหวเสน ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา ปรโต ตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺเตน เอวมยํ อวิชฺชาเหตูติอาทิเกน ปฏิสมฺภิทาปาฬิสหิเตน (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปาเน สรูปโต ธมฺมฏฺิติาณํ, ตสฺส จ เตสุเยว อวิชฺชาทีสุ จตุสงฺเขปาทิวเสน ปวตฺติวิภาคฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ อิติ ภควาติอาทิปาเน ภควโต เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สพฺพาการโต ปฏิวิทฺธภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทินา ภควโต เตน าเณน สํสารจกฺการานํ วิทฺธํสิตภาวํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ติณฺณํ อายตนานนฺติ จกฺขุโสตมนายตนานํ ติณฺณํ. เอส นโย ติณฺณํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ. รูปตณฺหาทิวเสน ฉ ตณฺหากายา เอว เวทิตพฺพา.

สคฺคสมฺปตฺตินฺติ กามสุคตีสุ สมฺปตฺตึ. ตเถวาติ กามุปาทานปจฺจยา เอว. พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตินฺติ รูปีพฺรหฺมโลกสมฺปตฺตึ. เตภูมกธมฺมวิสยสฺส สพฺพสฺสาปิ ราคสฺส กิเลสกามภาวโต ภวราโคปิ กามุปาทานเมวาติ อาห ‘‘กามุปาทานปจฺจยาเยว เมตฺตํ ภาเวตี’’ติ. เสสุปาทานมูลิกาสุปีติ ทิฏฺุปาทานสีลพฺพตุปาทานอตฺตวาทุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ. ตตฺรายํ โยชนานโย – อิเธกจฺโจ ‘‘นตฺถิ ปรโลโก อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖ อตฺถโต สมานํ) ทิฏฺึ คณฺหาติ, โส ทิฏฺุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา, อปโร ‘‘อสุกสฺมึ ภเว อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ทิฏฺึ คเหตฺวา กามรูปารูปภวูปปตฺติยา ตํ ตํ กุสลํ กโรตีติอาทินา จ ทิฏฺุปาทานมูลิกา โยชนา, อิมินาว นเยน อตฺตวาทุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา. อปโร ‘‘สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ อสุทฺธิมคฺคํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปรามสนฺโต สีลพฺพตุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา สพฺพภเวสุ สีลพฺพตุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา.

อิทานิ ยสฺส สํสารจกฺการานํ ฆาตนสมตฺถสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทิปจฺจยปอคฺคหาการํ ทสฺเสตุํ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว าณํ อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอากาเรน สทฺธึ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาห. วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ ปน ‘‘อิทานิ ยฺวายํ สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน กามภเว อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยภาโว สงฺขาราทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาหา’’ติ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยา วินยฏีกายปิ อยเมว ปาโ ลิขิโต. ตตฺถ จ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺโต น โหติ ตสฺส จ อวิชฺชา นาภิ, มูลตฺตาติอาทินา ปุพฺเพว ทสฺสิตตฺตา อุปริ จกฺกรูปโต ปโยคตฺเตน อุปสํหาราภาวา จ. ‘‘อปิ จ ตเมว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต’’ติ จ วุตฺตํ, น เจตฺถ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว นิคมนวเสน ปธานตฺเตน ทสฺสิโต, อถ โข ปจฺจยปริคฺคหวสปฺปวตฺตํ ธมฺมฏฺิติาณเมว ยถาวุตฺตปจฺจยปริคฺคหาการสฺส นิคมนวเสน ทสฺสิตํ. ตถา หิ ‘‘เอวมยํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต ธมฺมา เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชา เหตุ…เป… ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๖) ธมฺมฏฺิติาณเมว ปธานตฺเตน ทสฺสิตํ. ‘‘อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ ปน ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณนฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๔; ๑.๔๕) วุจฺจมานตฺตา ตสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการปริทีปนตฺถํ วิสยตฺเตน วุตฺตํ, น ปธานตฺเตน.

อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เอวนฺติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อยํ อวิชฺชา สงฺขารานํ เหตุ, สงฺขารา จ เตน เหตุนา สมุปฺปนฺนา. อุโภเปเตติ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ปรปริกปฺปิตปกติอิสฺสราทิ วิย อเหตุกา นิจฺจา ธุวา น โหติ, อถ โข ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต สยมฺปิ สเหตุกา สงฺขตา อนิจฺจาเยว โหติ, ตสฺมา อุโภเปเต อวิชฺชาสงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนาเยว. อิตีติ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน ปจฺจยปริคฺคณฺหเน ยา ปฺา, ตํ ธมฺมานํ ิติสงฺขาเต การเณ ยาถาวโต ปวตฺตตฺตา ธมฺมฏฺิติาณํ นามาติ.

เอตฺถ หิ าณสฺส วิสยวิภาวนวเสเนว อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, น ปธานตฺเตน, าณเมว ปเนตฺถ ปธานโต วุตฺตํ, ตสฺมา เอตสฺส าณสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการทสฺสนตฺถเมว เหฏฺาปิ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, อิธาปิ นิคมนวเสน อุปสํหโฏ, น ภวจกฺกทสฺสนตฺถนฺติ อยเมตฺถ อตฺตโน มติ.

ตตฺถ จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุ อทิฏฺเสุ เหตูนํ ปจฺจยภาโวปิ น สกฺกา ทฏฺุนฺติ ‘‘สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติ ปจฺจยปริคฺคหาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานมฺปิ คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอเตน นเยนาติ อวิชฺชายํ วุตฺตนเยน สงฺขารา เหตุ, วิฺาณํ เหตุสมุปฺปนฺนนฺติอาทินา สพฺพานิ ชาติปริโยสานานิ ปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ.

เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยา ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส เตสุ ปจฺจเยสุ อฺเหิปิ อากาเรหิ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. สงฺขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย เหตุสามฺเน ผลสามฺเน วาติ สงฺเขโป, สงฺคโห, โกฏฺาโส ราสีติ อตฺโถ. โส ปน ชาติโต ทุวิโธปิ กาลเภทวเสน จตุพฺพิโธ ชาโต. ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธาติ อนุวตฺตติ. ตณฺหุปาทานภวา คหิตา กิเลสกมฺมสามฺโต ตทวินาภาวโต จ. อวิชฺชาทิกิเลสวฏฺฏมฺปิ วิปากธมฺมธมฺมตาสริกฺขตาย อิธ กมฺมวฏฺฏเมวาติ อาห อิเม ปฺจ ธมฺมาติอาทิ. วิปากา ธมฺมาติอาทีสุ กมฺมชอรูปกฺขนฺธานเมว วิปากสทฺทวจนียตฺเตปิ นามรูปาทิปเทสุ รูปมิสฺสมฺปิ ผลปฺจกํ อรูปปฺปธานตาย จ ตพฺพหุลตาย จ ‘‘วิปากวฏฺฏ’’นฺติ วุตฺตํ. วิปากปฺปธานํ วฏฺฏํ, วิปากพหุลํ วา วฏฺฏนฺติ อตฺโถ. กมฺมชปริยาโย วา เอตฺถ วิปาก-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ชาติชรามรณาปเทเสนาติ ปรมตฺถธมฺมวินิมุตฺตชาติชรามรณํ นาม นตฺถีติ ตทปเทเสน เตสํ กถเนน ตํมุเขนาติ อตฺโถ. อากิรียนฺติ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อวิชฺชาทิสรูปา, ตโต ปจฺจยาการโตติ อตฺโถ. เอโก สนฺธีติ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภูโต เหตุผลสนฺธิ, ทุติโย ผลเหตุสนฺธิ, ตติโย เหตุผลสนฺธีติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ อเนเกหิ ปกาเรหิ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตหิ, อวุตฺเตหิ จ สพฺเพหิ อากาเรหิ ภควโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฏิวิทฺธภาวํ, ตสฺส จ าณสฺส ธมฺมฏฺิติาณสทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตตํ ปฏิสมฺภิทาปาฬินเยน ทสฺเสตุํ อุปสํหารวเสน อิติ ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ, เตนาห จตุสงฺเขปนฺติอาทิ. สพฺพาการโตติ อิธ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโยติอาทินา อิธ วุตฺเตหิ จ อวุตฺเตหิ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๒๒๕ อาทโย) อาคเตหิ สพฺเพหิ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌติ. นฺติ เยน าเณน ภควา เอวํ ชานาติ, ตํ าณํ. าตฏฺเนาติ ชานนฏฺเน. ปชานนฏฺเนาติ ปฏิวิชฺฌนฏฺเน.

อิทานิ ยมิทํ ธมฺมฏฺิติาณํ ปจฺจยปริคฺคหาการเภเทหิ สทฺธึ ปปฺจโต ทสฺสิตํ, ตสฺมึ อรฆาเต เอตสฺส อุปโยคิตํ ทสฺเสตุํ อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาเณน อเร หนีติ สมฺพนฺโธ. กถนฺติ? อาห ‘‘เต ธมฺเม’’ติอาทิ. เต อวิชฺชาทิเก ธมฺเม มหาวชิราณาวุเธน เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ยถาภูตํ ตฺวา เตน พลววิปสฺสนาวุเธน นิพฺพินฺทนฺโต อริยมคฺคาวุเธน วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต อเร หนีติ โยชนา. อริยมคฺคาณมฺปิ หิ กิจฺจโต สมุทยสจฺจาทิโพธโต ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ วุจฺจติ.

เอเกกํ ธมฺมกฺขนฺธํ เอเกกวิหาเรน ปูเชมีติ ธมฺมกฺขนฺธํ อารพฺภ ปวตฺตาปิ วิหารกรณปูชา ภควติ เปเมเนว ปวตฺตตฺตา สธาตุกาทิเจติยปฏิมณฺฑิตตฺตา จ ภควโตว ปูชาติ อาห ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสาติอาทิ. กิเลสารีน โส มุนีติ เอตฺถ นิคฺคหีตโลโป, กิเลสารีนํ หตตฺตาติ อตฺโถ. ปจฺจยาทีน จารโหติ เอตฺถาปิ นิคฺคหีตโลโป ทฏฺพฺโพ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ สํ-สทฺโท สยนฺติ อตฺเถ ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สาม’’นฺติ, อปรเนยฺโย หุตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ กสฺสจิ วิสยวิเสสสฺส อคฺคหิตตฺตา สิทฺธํ. ปเทสคฺคหเณ หิ อสติ คเหตพฺพสฺส นิปฺปเทสตาว วิฺายติ, ยถา ทิกฺขิโต น ททาตีติ. เอวฺจ กตฺวา อตฺถวิเสสานเปกฺขา กตฺตริเยว พุทฺธ-สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา กมฺมวจนิจฺฉาย อภาวโต. ‘‘สมฺมา สามํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ เอตฺตกเมว หิ อิธ สทฺทโต ลพฺภติ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ ปน อตฺถโต ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ, น หิ พุชฺฌนกิริยา อวิสยา ยุชฺชติ. อภิฺเยฺเยติ ลกฺขณาทิโต อนิจฺจาทิโต จ อภิวิสิฏฺเน โลกิยโลกุตฺตราเณน ชานิตพฺเพ จตุสจฺจธมฺเม. ปริฺเยฺเยติ อนิจฺจาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานิตพฺพํ ทุกฺขํ อริยสจฺจมาห. ปหาตพฺเพติ สมุทยสจฺจํ. สจฺฉิกาตพฺเพติ นิโรธสจฺจํ. พหุวจนนิทฺเทโส ปเนตฺถ โสปาทิเสสาทิกํ ปริยายสิทฺธํ เภทํ อเปกฺขิตฺวา กโต.

อภิฺเยฺยนฺติ คาถาย ปหาตพฺพภาเวตพฺพานํ สมุทยมคฺคสจฺจานํ เหตุธมฺมานํ คหเณเนว ตปฺผลานํ ทุกฺขสจฺจนิโรธสจฺจานมฺปิ สิทฺธิโต ปริฺาตพฺพฺจ ปริฺาตํ สจฺฉิกาตพฺพฺจ สจฺฉิกตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘ตสฺมา พุทฺโธสฺมี’’ติ. ยสฺมา จตฺตาริปิ สจฺจานิ มยา พุทฺธานิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ เยฺยํ พุทฺโธสฺมิ, อพฺภฺาสินฺติ อตฺโถ.

วิจิตฺตวิสยปตฺถนาการปฺปวตฺติยา ตณฺหา ทุกฺขวิจิตฺตตาย ปธานการณนฺติ อาห ‘‘มูลการณภาเวนา’’ติ. อุภินฺนนฺติ จกฺขุสฺส ตํสมุทยสฺส จ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, น อภาวมตฺตํ. ตสฺส อวตฺถุตฺตา สปฺปจฺจยตฺตาทิอเนกเภทา สพฺพสงฺคหิตา. นิโรธปฺปชานนาติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน นิโรธสฺส ปฏิวิชฺฌนา. เอเกกปทุทฺธาเรนาปีติ จกฺขุ จกฺขุสมุทโยติอาทินา เอเกกโกฏฺาสนิทฺธารเณนาปิ, น ทุกฺขสจฺจาทิสามฺโต เอวาติ อธิปฺปาโย. ตณฺหายปิ สงฺขารทุกฺขปริยาปนฺนตาย ปริฺเยฺยตฺตา ทุกฺขสจฺจภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ตณฺหากายา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมึ ปน อตฺตภาเว สา อุปฺปชฺชติ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมภวสิทฺธา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ คเหตพฺพา. กสิณานีติ กสิณารมฺมณานิ ฌานานิ. ทฺวตฺตึสาการาติ เกสาทโย ตทารมฺมณชฺฌานานิ จ. นว ภวาติ กามภวาทโย ตโย สฺีภวาทโย ตโย เอกโวการภวาทโย ตโย จาติ นว ภวา. จตฺตาริ ฌานานีติ อารมฺมณวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา สามฺโต จตฺตาริ ฌานานิ วุตฺตานิ. วิปากกิริยานมฺปิ ยถารหํ สพฺพตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ กุสลธมฺมานํ อุปนิสฺสยภูตา ตณฺหาสมุฏฺาปิกาติ เวทิตพฺพา, กิริยธมฺมานํ ปน ตสฺส อตฺตภาวสฺส การณภูตา ตณฺหา. อนุโลมโตติ เอตฺถ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจํ, ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา อาสวา สมุทยสจฺจนฺติ โยเชตพฺพํ. สงฺขาราทีสุ ปน อวิชฺชาทโยว สมุทยสจฺจภาเวน โยเชตพฺพา. เตนาติ ตสฺมา.

วิชฺชาติ อตฺตโน วิสยํ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. สมฺปนฺนตฺตาติ สมนฺนาคตตฺตา, สมฺปุณฺณตฺตา วา. ตตฺราติ อมฺพฏฺสุตฺเต. มโนมยิทฺธิยาติ เอตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๖) วุตฺตตฺตา สรีรพฺภนฺตรฌานมเนน อฺสฺส สรีรสฺส นิพฺพตฺติวเสน ปวตฺตา มโนมยิทฺธิ นาม, สา อตฺถโต ฌานสมฺปยุตฺตา ปฺาเยว. สตฺต สทฺธมฺมา นาม สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ วีริยํ สติ ปฺา จ. คจฺฉติ อมตํ ทิสนฺติ ทุกฺขนิตฺถรณตฺถิเกหิ ทฏฺพฺพโต อมตํ นิพฺพานเมว ทิสํ คจฺฉติ, อิมินา จ จรณานํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตอริยมคฺคภาวโต นิพฺพานตฺถิเกหิ เอกํเสน อิจฺฉิตพฺพตํ ทสฺเสติ. อิทานิสฺสา วิชฺชาจรณสมฺปทาย สาวกาทิอสาธารณตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสวกฺขยวิชฺชาวเสน สพฺพฺุตา สิชฺฌติ, จรณธมฺมภูเตสุ ฌาเนสุ อนฺโตคธาย มหากรุณาสมาปตฺติยา วเสน มหาการุณิกตา สิชฺฌตีติ อาห ‘‘วิชฺชา…เป… มหาการุณิกต’’นฺติ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา อฺโปิ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน พุทฺโธ นิโยเชติ, ตถา อยมฺปีติ อตฺโถ. เตนาติ อนตฺถปริวชฺชนอตฺถนิโยชเนน. อตฺตนฺตปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปรนฺตปอุภยนฺตปา คหิตา. อสชฺชมาโน ภเวสุ อปจฺจาคจฺฉนฺโตติ ปหีนานํ ปุนานุปฺปตฺติโต น ปุน อุปคจฺฉนฺโต.

ตตฺราติ ยุตฺตวาจาภาสเน สาเธตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ปิสุณาทิโทสยุตฺตํ. สมฺมาคทตฺตาติ สุนฺทรวจนตฺตา, คทนํ คโท, กถนนฺติ อตฺโถ. สุนฺทโร คโท วจนมสฺสาติ ‘‘สุคโท’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘สุคโต’’ติ วุตฺตํ.

สภาวโตติ ทุกฺขสภาวโต. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ. ยถาวุตฺตมตฺถํ สุตฺตโต อาห ยตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ โลกนฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน. นฺติ โลกสฺสนฺตํ, โอกาสโลเก กายคมเนน าตพฺพํ ปตฺตพฺพนฺติ นาหํ วทามีติ โยชนา. อิทฺจ โรหิตเทวปุตฺเตน โลกสฺส กายคติวเสน อนฺตคมนสฺส ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ. อปฺปตฺวา โลกสฺสนฺตนฺติ ขนฺธาทิโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ.

กินฺเต ปทสา โอกาสโลกปริพฺภมเนน, ปริมิตฏฺาเน เอว ตํ าณคมเนน คจฺฉนฺตานํ ทสฺเสมีติ ทสฺเสนฺโต อปิ จาติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยามมตฺเต กเฬวเรติ สรีเร. เตน รูปกฺขนฺธํ ทสฺเสติ. สสฺิมฺหีติ สฺาสีเสน เวทนาทโย ตโย ขนฺเธ. สมนเกติ วิฺาณกฺขนฺธํ. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ, ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. โลกนิโรธนฺติ นิพฺพาเนน โลกสฺส นิรุชฺฌนํ, นิพฺพานเมว วา. อเทสมฺปิ หิ นิพฺพานํ เยสํ นิโรธาย โหติ, อุปจารโต ตนฺนิสฺสิตํ วิย โหตีติ ‘‘พฺยามมตฺเต กเฬวเร โลกนิโรธมฺปิ ปฺเปมี’’ติ วุตฺตํ, จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ, สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตีติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) วิย. กุทาจนนฺติ กทาจิปิ. อปฺปตฺวาติ อคฺคมคฺเคน อนธิคนฺตฺวา. ตสฺมาติ ยสฺมา ตํ คมเนน ปตฺตุํ น สกฺกา, ตสฺมา. หเวติ นิปาตมตฺตํ, เอกํสตฺเถ วา . โลกวิทูติ สภาวาทิโต ขนฺธาทิชานนโก. จตุสจฺจธมฺมานํ อภิสมิตตฺตา สมิตาวี, สมิตกิเลโสติ วา อตฺโถ. นาสีสติ น ปตฺเถติ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา.

เอวํ สงฺเขปโต โลกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ตํ ทสฺเสตุํ อปิ จ ตโย โลกาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อินฺทฺริยพทฺธานํ ขนฺธานํ สมูหสนฺตานภูโต สตฺตโลโก. โส หิ รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย ‘‘สตฺโต’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ กมฺมกิเลสา ตพฺพิปากา จาติ ‘‘โลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อนินฺทฺริยพทฺธานํ อุตุชรูปานํ สมูหสนฺตานภูโต โอกาสโลโก. โส หิ สตฺตสงฺขารานํ อาธารโต ‘‘โอกาโส’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ ตสฺสาธารา จ อาเธยฺยภูตาติ ‘‘โลโก’’ติ จ ปวุจฺจติ. อินฺทฺริยานินฺทฺริยพทฺธา ปน สพฺเพว อุปาทานกฺขนฺธา ปจฺจเยหิ สงฺขตฏฺเน ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน จ ‘‘สงฺขารโลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อาหรติ อตฺตโน ผลนฺติ อาหาโร, ปจฺจโย. เตน ติฏฺนสีลา อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว ภงฺคา ปวตฺตนสีลาติ อาหารฏฺิติกา, สพฺเพ สงฺขตธมฺมา. สพฺเพ สตฺตาติ จ อิมินาปิ เวเนยฺยานุรูปโต ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา เทสนาย สงฺขาราว คหิตา.

ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ ปวตฺตนฺติ. วิโรจนาติ เตสํ วิโรจนเหตุ โอภาสนเหตูติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. ทิสา ภนฺตีติ สพฺพา ทิสา ยาวตา วิคตนฺธการา ปฺายนฺติ. อถ วา ทิสาติ อุปโยคพหุวจนํ. ตสฺมา วิโรจมานา จนฺทิมสูริยา ยตฺตกา ทิสา ภนฺติ โอภาเสนฺตีติ อตฺโถ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสปฺปกาโร โอกาสโลโก, สหสฺสจกฺกวาฬานีติ อตฺโถ. เอตฺถาติ สหสฺสจกฺกวาเฬ. วโสติ อิทฺธิสงฺขาโต วโส วตฺตตีติ อตฺโถ.

ตมฺปีติ ติวิธมฺปิ โลกํ. อสฺสาติ อเนน ภควตา สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโตติ สมฺพนฺโธ. เอโก โลโกติ ยฺวายํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขตานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต เตน สามฺเน สงฺขารโลโก เอโก เอกวิโธ, เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพตฺถาปิ โลกิยธมฺมาว โลโกติ อธิปฺเปตา โลกุตฺตรานํ ปริฺเยฺยตฺตาภาวา. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ ตถา ตถา สมุปฺปนฺนา ปชาเยว วุจฺจนฺติ. นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เหฏฺิมา จ ตโย อารุปฺปาติ อิมา สตฺตวิธา ปชาเยว วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย นาม. ตตฺถ นานตฺตํ กาโย เอเตสมตฺถีติ นานตฺตกายา. นานตฺตํ สฺา เอเตสนฺติ นานตฺตสฺิโน. สฺาสีเสเนตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ คหิตํ, เอส นโย เสเสสุปิ.

ตตฺถ สพฺพมนุสฺสา จ ฉ กามาวจรเทวา จ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ อฺมฺํ วิสทิสตาย นานา กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา จ นววิธตาย นานา. ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ พฺรหฺมกายิกา เจว จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา จ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. เตสุ หิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ ติณฺณมฺปิ สรีรํ อฺมฺํ วิสทิสํ, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ปมชฺฌานวิปากวเสน เอกาว, ตถา อาปายิกานมฺปิ, เตสํ ปน สพฺเพสํ อกุสลวิปากาเหตุกาว ปฏิสนฺธิสฺา. ทุติยชฺฌานภูมิกา จ ปริตฺตาภ อปฺปมาณาภ อาภสฺสรา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ สพฺเพสํ เอกปฺปมาโณว กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ทุติยตติยชฺฌานวิปากวเสน นานา โหติ. ตติยชฺฌานภูมิยํ ปริตฺตสุภาทโย ตโย, จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ อสฺสตฺตวชฺชิตา เวหปฺผลา, ปฺจ จ สุทฺธาวาสาติ นวสุ ภูมีสุ สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. อาภานานตฺเตน ปน สพฺพตฺถ กายนานตฺตํ น คยฺหติ, สณฺานนานตฺเตเนว คยฺหตีติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาเวน วิฺาณฏฺิติสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติ. เนวสฺา นาสฺายตนํ ปน ยถา สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนววิฺาณํ นาวิฺาณํ, ตสฺมา ปริพฺยตฺตวิฺาณกิจฺจวนฺเตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ น คยฺหติ. ตสฺมา เสสานิ อากาสานฺจายตนาทีนิ ตีณิเยว คหิตานิ, เตหิ สทฺธึ อิมา สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ เวทิตพฺพา.

อฏฺ โลกธมฺมาติ ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส นินฺทา ปสํสา สุขํ ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกสฺส สภาวตฺตา โลกธมฺมา. ลาภาลาภาทิปจฺจยา อุปฺปชฺชนกา ปเนตฺถ อนุโรธวิโรธา วา ลาภาทิสทฺเทหิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. นว สตฺตาวาสาติ เหฏฺา วุตฺตา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย เอว อสฺสตฺตจตุตฺถารุปฺเปหิ สทฺธึ ‘‘นว สตฺตาวาสา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺตา อาวสนฺติ เอตฺถาติ สตฺตาวาสา, สตฺตนิกาโย, อตฺถโต ตถา ปวตฺตา ปชา เอว อิธ สงฺขารโลกภาเวน คยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ทสายตนานีติ ธมฺมายตนมนายตนวชฺชิตานิ ทส.

เอตฺถ จ ตีสุ ภเวสุ อสฺสาททสฺสนวเสน ติสฺโส เวทนาว โลกภาเวน วุตฺตา, ตถา ปจฺจยทสฺสนวเสน จตฺตาโรว อาหารา. อตฺตคฺคาหนิมิตฺตทสฺสนวเสน ฉ อชฺฌตฺติกาเนว อายตนานิ. ถูลสฺีภวทสฺสนวเสน สตฺต วิฺาณฏฺิติโยว, อนุโรธวิโรธทสฺสนวเสน อฏฺ โลกธมฺมา วา, ถูลายตนทสฺสนวเสน ทสายตนาเนว โลกภาเวน วุตฺตานิ. เตสํ คหเณเนว ตนฺนิสฺสยตปฺปฏิพทฺธา ตทารมฺมณา สพฺเพ เตภูมกา นามรูปธมฺมา อตฺถโต คหิตา เอว โหนฺติ. เสเสหิ ปน เอกวิธาทิโกฏฺาเสหิ สรูเปเนว เต คหิตาติ เวทิตพฺพํ.

อาสยํ ชานาตีติอาทีสุ อาหจฺจ จิตฺตํ เอตฺถ เสตีติ อาสโย, อฺสฺมึ วิสเย ปวตฺติตฺวาปิ จิตฺตํ ยตฺถ สรเสน ปวิสิตฺวา ติฏฺติ, โส วฏฺฏาสโย วิวฏฺฏาสโยติ ทุวิโธ. ตตฺถ วฏฺฏาสโยปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิวเสน ทุวิโธ. วิวฏฺฏาสโย ปน วิปสฺสนาสงฺขาตา อนุโลมิกา ขนฺติ, มคฺคสงฺขาตํ ยถาภูตาณฺจาติ ทุวิโธ. ยถาห –

‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกํ;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิต’’นฺติ. (สารตฺถ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา);

เอตํ ทุวิธมฺปิ อาสยํ สตฺตานํ อปฺปวตฺติกฺขเณเยว ภควา สพฺพถา ชานาติ. อนุสยนฺติ กามราคานุสยาทิวเสน สตฺตวิธํ อนุสยํ. จริตนฺติ ‘‘สุจริตทุจฺจริต’’นฺติ นิทฺเทเส วุตฺตํ. อถ วา จริตนฺติ จริยา, เต ราคาทโย ฉ มูลจริยา, สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน อเนกวิธา โหนฺติ. อธิมุตฺตินฺติ อชฺฌาสยธาตุํ, ตตฺถ ตตฺถ จิตฺตสฺส อภิรุจิวเสน นินฺนตา, สา ทุวิธา หีนาธิมุตฺติ ปณีตาธิมุตฺตีติ. ยาย ทุสฺสีลาทิเก หีนาธิมุตฺติเก เสวนฺติ, สา หีนาธิมุตฺติ. ยาย ปณีตาธิมุตฺติเก เสวนฺติ, สา ปณีตาธิมุตฺติ. ตํ ทุวิธมฺปิ อธิมุตฺตึ ภควา สพฺพาการโต ชานาติ. อปฺปํ ราคาทิรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อนุสฺสทราคาทิโทสา. อุสฺสทราคาทิโทสา มหารชกฺขา. อุปนิสฺสยภูเตหิ ติกฺเขหิ สทฺธาทิอินฺทฺริเยหิ มุทุเกหิ จ สมนฺนาคตา ติกฺขินฺทฺริยา มุทินฺทฺริยา จ. เหฏฺา วุตฺเตหิ อาสยาทีหิ สุนฺทเรหิ อสุนฺทเรหิ จ สมนฺนาคตา สฺวาการา ทฺวาการา จ เวทิตพฺพา. สมฺมตฺตนิยามํ วิฺาเปตุํ สุกรา สุวิฺาปยา, วิปรีตา ทุวิฺาปยา. มคฺคผลปฏิเวธาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา ภพฺพา, วิปรีตา อภพฺพา. เอวํ สตฺตสนฺตานคตธมฺมวิเสสชานเนเนว สตฺตโลโกปิ วิทิโต ธมฺมวินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส อภาวาติ เวทิตพฺพํ.

เอกํ จกฺกวาฬํ…เป… ปฺาสฺจ โยชนานีติ เอตฺถ โหตีติ เสโส. ปริกฺเขปโต ปมาณํ วุจฺจตีติ เสโส. จกฺกวาฬสฺส สพฺพํ ปริมณฺฑลํ ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ…เป… สตานิ จ โหนฺตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถาติ จกฺกวาเฬ, ทฺเว สตสหสฺสานิ จตฺตาริ นหุตานิ จ โยชนานิ ยานิ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ พหลตฺเตน อยํ วสุนฺธรา สงฺขาตาติ โยชนา. ตตฺถ เอตฺตกนฺติ กิริยาวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. สนฺธารกํ ชลํ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ หุตฺวา ปติฏฺิตนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ จกฺกวาเฬ. อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตาติ อชฺโฌคาฬฺหา จ อุคฺคตา จ. พฺรหาติ มหนฺตา. โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจาติ โยชนานํ ปฺจสตานิ อุจฺโจ อุพฺเพโธ. ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปาติ ปนฺนรสโยชนปฺปมาณกฺขนฺธปริณาหา. นควฺหยาติ รุกฺขาภิธานา ชมฺพูติ โยชนา. สมนฺตโตติ สพฺพโสภาเคน, อายามโต จ วิตฺถารโต จ สตโยชนวิตฺถาราติ อตฺโถ. ยสฺสานุภาเวนาติ ยสฺสา มหนฺตตากปฺปฏฺายิกาทิปฺปกาเรน ปภาเวน. ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโต, อยํ เอกา โลกธาตุ นามาติ อตฺโถ, -กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อถ วา ตํ สพฺพํ โลกธาตุํ ปริกฺขิปิตฺวา อยํ จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโตติ โยเชตพฺพํ.

ตตฺถาติ ตสฺสํ โลกธาตุยํ. ตาวตึสภวนนฺติ ติทสปุรํ. อสุรภวนนฺติ อสุรปุรํ. อวีจิมหานิรโย จ ตถา ทสสหสฺสโยชโน, โส ปน จตุนฺนํ โลหภิตฺตีนมนฺตรา โยชนสตายามวิตฺถาโรปิ สมนฺตา โสฬสหิ อุสฺสทนิรเยหิ สทฺธึ ทสสหสฺสโยชโน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตทนนฺตเรสูติ เตสํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ. โลกานํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร วิวเร ภวตฺตา โลกนฺตริกา. ติณฺณฺหิ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อาสนฺนฏฺปิตานํ อนฺตรสทิเส ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ สีตนรโก สตฺตานํ อกุสลวิปาเกน นิพฺพตฺตติ. อนนฺตานีติ ติริยํ อฏฺสุ ทิสาสุ จกฺกวาฬานิ อากาโส วิย อนนฺตานิ. อุทฺธํ ปน อโธ จ อนฺตาเนว. อนนฺเตน พุทฺธาเณนาติ เอตฺถ อนนฺตเยฺยปฏิเวธสามตฺถิยโยคโตว าณํ ‘‘อนนฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

อตฺตโนติ นิสฺสกฺเก สามิวจนเมตํ, อตฺตโตติ อตฺโถ. คุเณหิ อตฺตโน วิสิฏฺตรสฺสาติ สมฺพนฺโธ, ตรคฺคหณฺเจตฺถ อนุตฺตโรติ ปทสฺส อตฺถนิทฺเทสวเสน กตํ, น วิสิฏฺสฺส กสฺสจิ อตฺถิตาย. สเทวเก หิ โลเก สทิสกปฺโปปิ นาม โกจิ ตถาคตสฺส นตฺถิ, กุโต สทิโส, เตนาห สีลคุเณนาปิ อสโมติอาทิ. ตตฺถ อสเมหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ สโม อสมสโม. นตฺถิ ปฏิมา เอตสฺสาติ อปฺปฏิโม. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ อุปมามตฺตํ ปฏิมา, สทิสูปมา ปฏิภาโค. ยุคคฺคาหวเสน ิโต ปฏิโม ปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ. อตฺตนาติ อตฺตโต. ปุริสทมฺเมติอาทีสุ ทมิตพฺพา ทมฺมา, ‘‘ทมฺมปุริสา’’ติ วตฺตพฺเพ วิเสสนสฺส ปรนิปาตํ กตฺวา ‘‘ปุริสทมฺมา’’ติ วุตฺตํ, ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺวเสน อิตฺถีนมฺปิ ทเมตพฺพโต. นิพฺพิสา กตา โทสวิสสฺส วิโนทเนน. อตฺถปทนฺติ อตฺถาภิพฺยฺชนกํ ปทํ, วากฺยนฺติ อตฺโถ. เอกปทภาเวน จ อนฺสาธารโณ สตฺถุ ปุริสทมฺมสารถิภาโว ทสฺสิโต โหติ, เตนาห ภควา หีติอาทิ. อฏฺ ทิสาติ อฏฺ สมาปตฺติโย. อสชฺชมานาติ วสีภาวปฺปตฺติยา นิสฺสงฺคจารา.

ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ นิยุตฺโตติ ทิฏฺธมฺมิโก, อิธโลกตฺโถ. กมฺมกิเลสวเสน สมฺปเรตพฺพโต สมาคนฺตพฺพโต สมฺปราโย , ปรโลโก, ตตฺถ นิยุตฺโตติ สมฺปรายิโก, ปรโลกตฺโถ. ปรโม อุตฺตโม อตฺโถ ปรมตฺโถ, นิพฺพานํ. สห อตฺเถน วตฺตตีติ สตฺโถ, ภณฺฑมูเลน วาณิชฺชาย เทสนฺตรํ คจฺฉนฺโต ชนสมูโห. โส อสฺส อตฺถีติ สตฺถา, สตฺถวาโหติ นิรุตฺตินเยน. โส วิย ภควาติ อาห ‘‘สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ นิทฺเทสปาฬินเยน ทสฺเสตุํ ยถา สตฺถวาโหติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺเถติ สตฺถิเก ชเน. กํ อุทกํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตาโร, นิรุทโก อรฺปฺปเทโส. โจราทีหิ อธิฏฺิตอรฺปฺปเทสาปิ ทุคฺคมนฏฺเน ตํสทิสตาย กนฺตาราตฺเวว นิรุฬฺหาติ สามฺโต ‘‘กนฺตารํ ตาเรตี’’ติ วตฺวา ตํ วิวรนฺโต โจรกนฺตารนฺติอาทิมาห.

ภควโตติ นิสฺสกฺเก สามิวจนํ, ภควนฺตโต ธมฺมสฺสวเนนาติ อตฺโถ. ยถา ‘‘อุปชฺฌายโต อชฺเฌตี’’ติ, ภควโต สนฺติเกติ วา อตฺโถ. สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ สทฺธมฺมสฺสวนปริจเยน ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ สเร อาการํ คณฺหิ. ปุพฺพาภิโยควเสเนว หิ อีทิสานํ ติรจฺฉานานํ ธมฺมสฺสวนาทีสุ ปสาโท อุปฺปชฺชติ วคฺคุลิอาทีนํ วิย. อิตรถา สพฺพติรจฺฉานานมฺปิ ตถา ปสาทุปฺปตฺติปฺปสงฺคโต. ยทิ หิ อุปฺปชฺเชยฺย, ภควา อนนฺตจกฺกวาเฬสุ สพฺพสตฺตานมฺปิ เอกกฺขเณ สปฺปาฏิหาริยธมฺมํ สาเวตุํ สกฺโกตีติ สพฺพสตฺตานมฺปิ อิโต ปุพฺเพว วิมุตฺติปฺปสงฺโค สิยา. เย ปน เทวมนุสฺสนาคสุปณฺณาทโย ปกติยาว กมฺมสฺสกตฺาณาทิยุตฺตา โหนฺติ, เตเยว ปุพฺเพ อนุปนิสฺสยาปิ ภควโต สทฺธมฺมสฺสวนาทินา ปมํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปสาทํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, น อิตเรติ คเหตพฺพํ. อเร อหมฺปิ นามาติ เอตฺถ ‘‘กุโตหํ อิธ นิพฺพตฺโตติ โอโลเกตฺวา มณฺฑูกภาวโตติ ตฺวา’’ติ อิทํ เอตฺตกมฺปิ อเร อหมฺปิ นามาติ วิมฺหยวจเนเนว สิชฺฌตีติ อวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ชลนฺติ ชลนฺโต วิชฺโชตมาโน. มณฺฑูโกหนฺติ คาถาย อุทเกติ สฺชาตฏฺานทสฺสนํ, เตน ถลมณฺฑูกตา นิวตฺตนํ กตํ โหติ. อุทเก ชาตานมฺปิ กจฺฉปาทีนํ ถลโคจรตาปิ อตฺถีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘วาริโคจโร’’ติ วุตฺตํ, อุทกสฺจารีติ อตฺโถ.

วิโมกฺขนฺติกาณวเสนาติ เอตฺถ สพฺพโส กิเลเสหิ วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโข, อคฺคมคฺโค, ตสฺส อนฺโต, อคฺคผลํ, ตตฺถ ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ, สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สพฺพมฺปิ พุทฺธาณํ. อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺธปทโต พุทฺธปทสฺส วิเสสํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วาติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺธปเทน หิ สตฺถุ ปฏิเวธาณานุภาโว วุตฺโต, อิมินา ปน พุทฺธปเทน เทสนาาณานุภาโวปิ, เตนาห อฺเปิ สตฺเต โพเธสีติอาทิ.

คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนนฺติ สพฺเพหิ สีลาทิคุเณหิ วิสิฏฺสฺส ตโต เอว สพฺพสตฺเตหิ อุตฺตมสฺส ครุโน คารววเสน วุจฺจมานวจนมิทํ ภควาติ. เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ เสฏฺคุณสหจรณโต. อถ วา วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ, โส เสฏฺโติ อตฺโถ. อุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ครุคารวยุตฺโตติ เอตฺถ ครุภาโว คารวํ, ครุคุณโยคโต ครุกรณํ วา คารวํ, เตน สาวกาทีนํ อสาธารณตาย ครุภูเตน มหนฺเตน คารเวน ยุตฺโตติ ครุคารวยุตฺโต. อถ วา ครุ จ สพฺพโลกสฺส สิกฺขกตฺตา เตเนว คารวยุตฺโต จาติปิ โยเชตพฺพํ.

อวตฺถาย วิทิตํ อาวตฺถิกํ. เอวํ ลิงฺคิกํ. นิมิตฺตโต อาคตํ เนมิตฺติกํ. อธิจฺจ ยํกิฺจิ นิมิตฺตํ อธิวจนวเสน อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ, เตนาห ‘‘วจนตฺถมนเปกฺขิตฺวา’’ติ. ยทิจฺฉาย อาคตํ ยาทิจฺฉกํ. เอตฺถ จ พาหิรํ ทณฺฑาทิ ลิงฺคํ, อพฺภนฺตรํ เตวิชฺชาทิ นิมิตฺตํ. ปจุรชนวิสยํ วา ทิสฺสมานํ ลิงฺคํ, ตพฺพิปรีตํ นิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สจฺฉิกาปฺตฺตีติ สพฺพธมฺมานํ สจฺฉิกิริยานิมิตฺตา ปฺตฺติ. อถ วา สจฺฉิกาปฺตฺตีติ ปจฺจกฺขสิทฺธา ปฺตฺติ. ยํคุณนิมิตฺตา หิ สา, เต คุณา สตฺถุ ปจฺจกฺขภูตาติ คุณา วิย สาปิ สจฺฉิกตา เอว นาม โหติ, น ปเรสํ, โวหารมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. ยํคุณเนมิตฺติกนฺติ เยหิ คุเณหิ นิมิตฺตภูเตหิ เอตํ นามํ เนมิตฺติกฺจ ชาตํ. วทนฺตีติ ธมฺมเสนาปติสฺส ครุภาวโต พหุวจเนนาห, สงฺคีติกาเรหิ วา กตมนุวาทํ สนฺธาย.

อิสฺสริยาทิเภโท ภโค อสฺส อตฺถีติ ภคี. มคฺคผลาทิอริยคุณํ อรฺาทิวิเวกฏฺานฺจ ภชิ เสวิ สีเลนาติ ภชี. จีวราทิปจฺจยานํ อตฺถรสาทีนฺจ สีลาทิคุณานฺจ ภาคี, ทายาโทติ อตฺโถ. วิภชิ อุทฺเทสนิทฺเทสาทิปฺปกาเรหิ ธมฺมรตนํ ปวิภชีติ วิภตฺตวา. ราคาทิปาปธมฺมํ ภคฺคํ อกาสีติ ภควาติ วุจฺจตีติ สพฺพตฺถ สมฺพนฺโธ. ครุปิ โลเก ภควาติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครู’’ติ, ยสฺมา ครุ, ตสฺมาปิ ภควาติ อตฺโถ. ปารมิตาสงฺขาตํ ภคฺยมสฺส อตฺถีติ ภคฺยวา. พหูหิ าเยหีติ กายภาวนาทิเกหิ อเนเกหิ ภาวนากฺกเมหิ. สุภาวิตตฺตโนติ ปจฺจตฺเต เอตํ สามิวจนํ, เตน สุภาวิตสภาโวติ อตฺโถ. ภวานํ อนฺตํ นิพฺพานํ คโตติ ภวนฺตโค. ตตฺถ ตตฺถ ภควาติ สทฺทสิทฺธิ นิรุตฺตินเยเนว เวทิตพฺพา.

อิทานิ ภคี ภชีติ นิทฺเทสคาถาย นวหิ ปเทหิ ทสฺสิตมตฺถํ ภคฺยวาติ คาถาย ฉหิ ปเทหิ สงฺคเหตฺวา ปทสิทฺธึ อตฺถโยชนานยเภเทหิ สทฺธึ ทสฺเสตุํ อยํ ปน อปโร นโยติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วณฺณวิปริยโยติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตเนว วณฺณวิกาโร วณฺณโลโป ธาตุอตฺเถน นิโยชนฺจาติ อิมํ ติวิธํ ลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ. สทฺทนเยนาติ สทฺทลกฺขณนเยน. ปิโสทราทีนํ สทฺทานํ อากติคณภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา’’ติ. ปกฺขิปนเมว ลกฺขณํ. ตปฺปริยาปนฺนตากรณฺหิ ปกฺขิปนํ. ภคฺยนฺติ กุสลํ.

โลภาทโย จตฺตาโร โทสา เอกกวเสน คหิตา. อหิริกาทโย ทุกวเสน. อกฺโกจฺฉิมนฺติอาทินา (ธ. ป. ๓-๔) ปุนปฺปุนํ กุชฺฌนวเสน จิตฺตปริโยนนฺธโน โกโธว อุปนาโห. ปเรสํ ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส นิปุฺฉโน มกฺโข นาม. พหุสฺสุตาทีหิ สทฺธึ ยุคคฺคาโห อตฺตโน สมกรณํ ปลาโส. อตฺตโน วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนา มายา. อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนํ สาเยฺยํ. ครูสุปิ ถทฺธตา อโนนตตา ถมฺโภ. ตทุตฺตริกรณลกฺขโณ สารมฺโภ. ชาติอาทึ นิสฺสาย อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. ชาติอาทึ นิสฺสาย มชฺชนาการปฺปตฺโต มาโนว มโท นาม. โส สตฺตวีสติวิโธ. กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค ปมาโท. กายทุจฺจริตาทีนิ ติวิธทุจฺจริตานิ. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตวเสน ติวิธสํกิเลสา. ราคโทสโมหาว มลานิ. เตเยว กายทุจฺจริตาทโย จ ติวิธวิสมานิ. กามพฺยาปาทวิหึสาสฺา ติวิธสฺา นาม. เตเยว วิตกฺกา. ตณฺหาทิฏฺิมานา ปปฺจา. สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปริเยสา จตุพฺพิธวิปริเยสา. ฉนฺทาทโย อคติ. จีวราทีสุ ปจฺจเยสุ โลภา จตฺตาโร ตณฺหุปาทา. พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ กงฺขา, สพฺรหฺมจารีสุ โกโป จ ปฺจ เจโตขีลา. กาเม กาเย รูเป จ อวีตราคตา, ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุโยโค, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยจรณฺจ ปฺจ เจโตวินิพนฺธา. รูปาภินนฺทนาทโย ปฺจ อภินนฺทนา. โกธมกฺขอิสฺสาสาเยฺยปาปิจฺฉตาสนฺทิฏฺิปรามาสา ฉ วิวาทมูลานิ. รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺมคฺคงฺคปฏิปกฺขา มิจฺฉตฺตา. ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, ตํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ตํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, ตํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ตํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, ตํ ปฏิจฺจ อารกฺขา, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานาทิอเนกากุสลราสีติ นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา. ปาณาติปาตาทโย ทส อกุสลกมฺมปถา. จตฺตาโร สสฺสตวาทา ตถา เอกจฺจสสฺสตวาทา อนฺตานนฺติกา อมราวิกฺเขปิกา ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา โสฬส สฺีวาทา อฏฺ อสฺีวาทา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา สตฺต อุจฺเฉทวาทา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอตานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. รูปตณฺหาทิฉตณฺหา เอว ปจฺเจกํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาวเสน อฏฺารส โหนฺติ, ตา อชฺฌตฺตพหิทฺธรูปาทีสุ ปวตฺติวเสน ฉตฺตึส, ปุน กาลตฺตยวเสน อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ปเภท-สทฺทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตฺวา โลภปฺปเภโทติอาทินา โยเชตพฺพํ. สพฺพทรถปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานีติ สพฺพานิ สตฺตานํ ทรถสงฺขาตปริฬาหกรานิ กิเลสานํ อเนกานิ สตสหสฺสานิ, อารมฺมณาทิวิภาคโต ปวตฺติอาการวิภาคโต จ เนสํ เอวํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ปฺจ มาเร อภฺชีติ สมฺพนฺโธ. ปริสฺสยานนฺติ อุปทฺทวานํ.

เอวํ ภคฺยวา ภคฺควาติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อิทานิ เตหิ ทฺวีหิ คหิตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ภคฺยวนฺตตาย จสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตปุฺชลกฺขณธรสฺสาติ อเนกสตปุฺนิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขณธรสฺส ภควโต. สกจิตฺเต อิสฺสริยํ นาม ปฏิกฺกูลาทีสุ อปฺปฏิกฺกูลสฺิตาทิวสปฺปวตฺติยา เจว เจโตสมาธิวเสน จ อตฺตโน จิตฺตสฺส วสีภาวาปาทนเมว. อณิมา ลฆิมาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหิมา ปตฺติ ปากมฺมํ อีสิตา วสิตา ยตฺถกามาวสายิตาติ อิเม ฉปิ สงฺคหิตา. ตตฺถ กายสฺส อณุภาวกรณํ อณิมา. อากาเส ปทสา คมนาทิอรหภาเวน ลหุภาโว ลฆิมา. กายสฺส มหนฺตตาปาทนํ มหิมา. อิฏฺเทสสฺส ปาปุณนํ ปตฺติ. อธิฏฺานาทิวเสน อิจฺฉิตตฺถนิปฺผาทนํ ปากมฺมํ. สยํวสิตา อิสฺสรภาโว อีสิตา. อิทฺธิวิเธ วสีภาโว วสิตา. อากาเสน วา คจฺฉโต, อฺํ วา กิฺจิ กโรโต ยตฺถ กตฺถจิ โวสานปฺปตฺติ ยตฺถกามาวสายิตา, ‘‘กุมารกรูปาทิทสฺสน’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรีติ สพฺเพสํ องฺคปจฺจงฺคานํ โสภา. อตฺถีติ อนุวตฺตติ. ลหุสาธนํ ตํ ตํ กาลิกํ อิจฺฉิตํ, ครุสาธนํ จิรกาลิกํ พุทฺธตฺตาทิปตฺถิตํ . ภคา อสฺส สนฺตีติ ภควาติ อิทํ สทฺทสตฺถนเยน สิทฺธํ, เสสํ สพฺพํ นิรุตฺตินเยน สิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเนาติอาทีสุ ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโติอาทินา อตฺถ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อตฺตโน สภาเวน ปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ. ตสฺส โย ปีฬนเมว อตฺโถ ‘‘ปีฬนฏฺโ’’ติ วุจฺจติ, โส สภาโว. ยสฺมา ปน ตํสมุทเยน สงฺขตํ, ตสฺมา สงฺขตฏฺโ สมุทยทสฺสเนน อาวิภูโต. ยสฺมา จ มคฺโค กิเลสสนฺตาปหรตฺตา สุสีตโล, ตสฺมาสฺส มคฺคทสฺสเนน สนฺตาปฏฺโ อาวิภูโต ตปฺปฏิโยคตฺตา. อวิปริณามธมฺมสฺส ปน นิโรธสฺส ทสฺสเนน วิปริณามฏฺโ อาวิภูโตติ. เอกสฺเสว สภาวธมฺมสฺส สกภาวโต อิตรสจฺจตฺตยนิวตฺติโต จ ปริกปฺเปตพฺพตฺตา จตฺตาโร อตฺถา วุตฺตา. สมุทยสฺส ปน ราสิกรณโต อายูหนฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว ทุกฺขทสฺสเนน นิทานฏฺโ อาวิภูโต. วิสํโยคภูตสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน สํโยคฏฺโ. นิยฺยานภูตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน ปลิโพธฏฺโ อาวิภูโต.

นิโรธสฺส ปน นิสฺสรณฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน วิเวกฏฺโ อาวิภูโต. สงฺขตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน อสงฺขตฏฺโ, วิสยภูตสฺส มรณธมฺมสฺส วา ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อมตฏฺโ. มคฺคสฺส ปน นิยฺยานฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน ทุกฺขสฺเสวายํ เหตุ, นิพฺพานปฺปตฺติยา ปน อยเมว เหตูติ เหตฺวฏฺโ, อติสุขุมนิโรธทสฺสเนน อิธเมว ทสฺสนนฺติ ทสฺสนฏฺโ, อธิกปณสฺส ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อธิปเตยฺยฏฺโ อาวิภูโต. เอเต เอว จ ปีฬนาทโย โสฬส อาการาติ วุจฺจนฺติ.

กาเมหิ วิเวกฏฺกายตา กายวิเวโก. นีวรณาทีหิ วิวิตฺตา อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตวิเวโก. อุปธียนฺติ เอตฺถ ยถาสกํ ผลานีติ อุปธโย, ปฺจกามคุณสงฺขาตกามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารา, เตหิ จตูหิ วิวิตฺตํ นิพฺพานํ อุปธิวิเวโก นาม.

อนตฺตานุปสฺสนาย ปฏิลทฺโธ ทุกฺขานิจฺจานุปสฺสนาหิ จ ปฏิลทฺโธ อริยมคฺโค อาคมนวเสน ยถากฺกมํ สุฺตอปฺปณิหิตอนิมิตฺตวิโมกฺขสฺํ ปฏิลภติ, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา หิ เอส วิโมกฺโขติ.

ยถา โลเก เอเกกปทโต เอเกกมกฺขรํ คเหตฺวา ‘‘เมขลา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปีติ อตฺโถ. เมหนสฺสาติ คุยฺหปฺปเทสสฺส. ขสฺสาติ โอกาสสฺส.

สหเทเวหีติอาทีสุ สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวโก โลโก. ตํ สเทวกนฺติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. สเทวกวจเนนาติ สเทวก-สทฺเท วิเสสนภาเวน ิตเทววจเนน. ตสฺสาปิ สเทวกปเท อนฺโตภูตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน โวหาโร กโต. อิตรถา เตน เทววิสิฏฺโลกสฺเสว คหณโต ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ น สิยา, เอวํ อุปริปิ. สมารกวจเนน มารสทฺเทน เตน สหจริตา สพฺเพ วสวตฺติเทวา จ คหิตาติ อาห ‘‘ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณ’’นฺติ. พฺรหฺมกายิกา นาม ปมชฺฌานภูมิกา. เต อาทิ เยสํ อารุปฺปปริยนฺตานํ พฺรหฺมานํ เตสํ พฺรหฺมานํ คหณํ พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. โลก-สทฺทสฺส โอกาสโลกาทีนมฺปิ สาธารณตฺตา สตฺตโลกาเวณิกเมว ปชาคหณํ กตนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ. สเทวกาทิวจเนน อุปปตฺติเทวานํ, สสฺสมณวจเนน วิสุทฺธิเทวานฺจ คหิตตฺตา อาห ‘‘สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณ’’นฺติ. ตตฺถ สมฺมุติเทวา ราชาโน, อวเสสมนุสฺสา สมฺมุติเทวสมณพฺราหฺมเณหิ อวสิฏฺา. สตฺตโลกาเวณิกสฺส ปชาสทฺทสฺส วิสุํ คหิตตฺตา สเทวกํ โลกนฺติ เอตฺถ โลกสทฺทคฺคหณํ โอกาสโลกเมว นิยเมตีติ อาห ‘‘ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก’’ติ. อิทฺจ สเทวกาทิปทตฺตยวจนียสฺส ปธานตฺถสฺส วเสน วุตฺตํ. โอกาสโลกวิเสสนสฺส ปเนตฺถ เทวมาราทิสตฺตโลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ สามตฺถิยโต คมฺยมานตฺตา สปุตฺโต อาคโตติอาทีสุ ปุตฺตาทีนํ วิย. อิมสฺมิฺจ นเย สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ โอกาสโลกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ สเทวมนุสฺสํ ปชฺจาติ -การํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ, โอกาสสตฺตโลกานํ คหเณน เจตฺถ ตทุภยสมฺมุตินิมิตฺตภูโต สงฺขารโลโกปิ ตทวินาภาวโต คหิโต เอวาติ ทฏฺพฺโพ. อปเร ปน ‘‘สเทวกนฺติอาทีหิ ปฺจหิ ปเทหิ สตฺตโลโกว อตฺตโน อวยวภูตเทวาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา คหิโต, ตคฺคหเณน ตทาธาโร โอกาสโลโก, ตทุภยปฺตฺติวิสโย สงฺขารโลโก จ คหิตา เอว โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. เตสฺจ ปชนฺติ อิทํ โลกสทฺทสฺส วิเสสนํ กตฺวา สเทวกํ ปชํ โลกํ…เป… สเทวมนุสฺสํ ปชํ โลกนฺติ โยเชตพฺพํ.

อรูปาวจรโลโก คหิโต ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ คหิตตฺตา. มารคฺคหเณน ตปฺปธานา ตํสทิสา จ อุปปตฺติเทวา สงฺคยฺหนฺตีติ อาห ‘‘ฉกามาวจรเทวโลโก’’ติ. ขตฺติยปริสา พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสุ อฏฺสุ ปริสาสุ จาตุมหาราชิกาทีนํ จตุนฺนํ ปริสานํ สเทวกาทิปเทหิ สงฺคหิตตฺตา อิธ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ อิมินา สมณปริสา พฺราหฺมณปริสา จ, สเทวมนุสฺสนฺติ อิมินา ขตฺติยปริสา คหปติปริสา จ วุตฺตาติ อาห ‘‘จตุปริสวเสนา’’ติ. ตสฺส มนุสฺสโลโก คหิโตติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตตฺถ มนุสฺสโลโกติ มนุสฺสสมูโห, เตนาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ.

วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก’’ติ. เทวปเทน สมฺมุติเทวา, สมณพฺราหฺมณมนุสฺสปเทหิ เสสมนุสฺสา จ คหิตาติ เอวํ วิกปฺปทฺวเยปิ มนุสฺสํ ปชํ มนุสฺสึ ปชนฺติ ปชา-สทฺทํ มนุสฺส-สทฺเทน วิเสเสตฺวา ตํ ปุน สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวา, ปชา. สเทวา จ สา มนุสฺสา จาติ สเทวมนุสฺสา, ตํ สเทวมนุสฺสํ ปชํ. ปุน กึ ภูตํ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ เอวํ ยถา ปชาสทฺเทน มนุสฺสานฺเว คหณํ สิยา, ตถา นิพฺพจนํ กาตพฺพํ, อิตรถา มนุสฺสานฺเว คหณํ น สมฺปชฺชติ สพฺพมนุสฺสานํ วิเสสนภาเวน คหิตตฺตา อฺปทตฺถภูตสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อภาวา. อิทานิ ปชนฺติ อิมินา อวเสสนาคาทิสตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ. เอตฺถาปิ จตุปริสวเสน อวเสสสพฺพสตฺตโลโก สมฺมุติเทวมนุสฺเสหิ วา สห อวเสสสพฺพสตฺตโลโกติ โยเชตพฺพํ.

เอตฺตาวตา ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอเกกปเทน อภาคโส สพฺพโลกานํ คหณปกฺเขปิ ตสฺส ตสฺส วิเสสนสฺส สปฺผลตํ ทสฺเสตุํ อปิ เจตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโตติ อุกฺกฏฺานํ เทวคติปริยาปนฺนานํ ปริจฺฉินฺนวเสน ชานนวเสน กิตฺติสทฺโท สยํ อตฺตโน อวยวภูเตน สเทวกวจเนน ตํ สุณนฺตานํ สาเวนฺโต อพฺภุคฺคโตติ โยชนา. อนุสนฺธิกฺกโมติ อตฺถานฺเจว ปทานฺจ อนุสนฺธานกฺกโม, ชานนกฺกโมติ อตฺโถ.

อภิฺาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อภิฺายา’’ติ. สมนฺตภทฺรกตฺตาติ สพฺพภาเคหิ สุนฺทรตฺตา. สาสนธมฺโมติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนสฺส ปกาสโก ปริยตฺติธมฺโม. พุทฺธสุโพธิตตายาติ อิทํ ติกํ ธมฺมสฺส เหตุสรูปผลวเสน วุตฺตํ, ตถา นาถปภวตฺติกมฺปิ. มชฺเฌ ติกทฺวยํ ผลวเสเนว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กิจฺจสุทฺธิยาติ ธมฺมํ สุตฺวา ยถาสุตวเสน ปฏิปชฺชนฺตานํ สุปฺปฏิปตฺติสงฺขาตกิจฺจสุทฺธิยา.

อิทานิ อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว ธมฺมํ เทเสนฺโต ภควา โสตูนํ ยํ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, ตปฺปกาสกสฺส พฺรหฺมจริยปทสฺส สาตฺถนฺติอาทีนิ ปทานิ วิเสสนภาเวน วุตฺตานิ, น ธมฺมปทสฺสาติ ทสฺสนมุเขน นานปฺปการโต อตฺถํ วิวริตุกาโม สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ เอวมาทีสุ ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ติสฺโส สิกฺขา สกโล จ ตนฺติธมฺโม สาสนพฺรหฺมจริยํ นาม. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต สีลาทิเก วิย ตปฺปกาสกํ ตนฺติธมฺมมฺปิ ปกาเสติ เอว สทฺทตฺถสมุทายตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺส. ยถานุรูปนฺติ ยถารหํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหิตฺหิ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ อตฺถสมฺปตฺติยา สมฺปนฺนตฺถตาย, อุปรูปริ อธิคนฺตพฺพวิเสสสงฺขาตอตฺถสมฺปตฺติยา จ สห อตฺเถน ปโยชเนน วตฺตตีติ สาตฺถเมว, น ตุ สพฺยฺชนํ, ตนฺติธมฺมสงฺขาตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน สาตฺถํ สพฺยฺชนฺจ. กิราตาทิมิลกฺขวจนานมฺปิ สาตฺถสพฺยฺชนตฺเต สมาเนปิ วิสิฏฺตฺถพฺยฺชนโยคํ สนฺธาย สหตฺโถ เทวทตฺโต สวิตฺโตติอาทิ วิย ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชน’’นฺติ. ตตฺถ ยํ อตฺถํ สุตฺวา ตถา ปฏิปชฺชนฺตา สพฺพทุกฺขกฺขยํ ปาปุณนฺติ, ตสฺส ตาทิสสมฺปตฺติ อตฺถสมฺปตฺติ นาม, สมฺปนฺนตฺถตาติ อตฺโถ. พฺยฺชนสมฺปตฺติ นาม สิถิลธนิตาทิพฺยฺชนปริปุณฺณาย มาคธิกาย สภาวนิรุตฺติยา คมฺภีรมฺปิ อตฺถํ อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺสนสมตฺถตา สมฺปนฺนพฺยฺชนตาติ อตฺโถ.

อิทานิ เนตฺติปฺปกรณนเยนาปิ (เนตฺติ ๔ ทฺวาทสปท) อตฺถํ ทสฺเสตุํ สงฺกาสนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺเขปโต กาสียติ ทีปียตีติ สงฺกาสนนฺติ กมฺมสาธนวเสน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เอวํ เสเสสุปิ. ปมํ กาสนํ ปกาสนํ. อุภยมฺเปตํ อุทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. สกึ วุตฺตสฺส ปุน วจนฺจ วิวรณวิภชนานิ. อุภยมฺเปตํ นิทฺเทสตฺถวจนํ. วิวฏสฺส วิตฺถารตราภิธานํ วิภตฺตสฺส จ ปกาเรหิ าปนํ อุตฺตานีกรณปฺตฺติโย. อุภยมฺเปตํ ปฏินิทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. อตฺถปทสมาโยคโตติ ยถาวุตฺตานิ เอว ฉ ปทานิ ปริยตฺติยา อตฺถวิภาคตฺตา อตฺถปทานิ, เตหิ สหิตตาย อตฺถโกฏฺาสยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. อปริโยสิเต ปเท อาทิมชฺฌคตวณฺโณ อกฺขรํ, เอกกฺขรํ, ปทํ วา อกฺขรํ. วิภตฺติยนฺตํ ปทํ. ปทาภิหิตํ อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. กถิตสฺเสวตฺถสฺส อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. นิพฺพจนตฺถวิตฺถาโร นิทฺเทโส. อถ วา ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺเปตี’’ติ วจนโต สงฺกาสนปกาสนสงฺขอาตอุทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ อกฺขรปทานิ นาม. วิวรณวิภชนสงฺขาตนิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ พฺยฺชนาการา นาม. อุตฺตานีกรณปฺตฺติสงฺขาตปฏินิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ นิรุตฺตินิทฺเทสา นาม, เตสํ สมฺปตฺติยา สพฺยฺชนนฺติ อตฺโถ.

อตฺถคมฺภีรตาติอาทีสุ อตฺโถ นาม ตนฺติอตฺโถ, เหตุผลํ วา. ธมฺโม นาม ตนฺติ, เหตุ วา. เทสนา นาม ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโป. ปฏิเวโธ นาม ยถาวุตฺตอตฺถาทีนํ อวิปรีตาวโพโธ. เต ปเนเต อตฺถาทโย ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตสุ ปฏิเวธสฺสาปิ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺตา อตฺถสภาคตฺตา จ วุตฺตํ ‘‘อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถ’’นฺติ. ธมฺมเทสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺเตปิ สยํ พฺยฺชนรูปตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชน’’นฺติ. ยถาวุตฺตอตฺถาทีสุ ปเภทคตานิ าณานิ อตฺถปฏิสมฺภิทาทโย. ตตฺถ นิรุตฺตีติ ตนฺติปทานํ นิทฺธาเรตฺวา วจนํ, นิพฺพจนนฺติ อตฺโถ. ตีสุ ปฏิสมฺภิทาสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. โลกิยา สทฺเธยฺยวจนมุเขเนว อตฺเถสุ ปสีทนฺติ, น อตฺถมุเขนาติ อาห สทฺเธยฺยโตติอาทิ. เกวลสทฺโท สกลาธิวจนนฺติ อาห ‘‘สกลปริปุณฺณภาเวนา’’ติ. พฺรหฺมจริย-สทฺโท อิธ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ ทีเปตีติ อาห สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตาติอาทิ.

ยถาวุตฺตเมวตฺถํ อปเรนาปิ ปริยาเยน ทสฺเสตุํ อปิ จาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สนิทานนฺติ เทสกาลาทิทีปเกน นิทานวจเนน สนิทานํ. สอุปฺปตฺติกนฺติ อฏฺุปฺปตฺติอาทิยุตฺติยุตฺตํ. ตตฺรายํ ปาฬิโยชนากฺกโม – ‘‘เวรฺโช พฺราหฺมโณ สมโณ ขลุ โภ…เป… วิหรตี’’ติ จ, ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ ‘อิติปิ โส…เป… ปเวเทตี’ติ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ จ, ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปริโยสานกลฺยาณํ, เทเสนฺโต จ สาตฺถสพฺยฺชนาทิคุณสํยุตฺตํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ จ, ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ จ อสฺโสสิ, สุตฺวา จ อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ.

อฏฺกถายํ ปน กิฺจาปิ ‘‘ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา อถ โข เวรฺโช…เป… อุปสงฺกมี’’ติ เอวํ สาธุ โข ปนาติอาทิปาสฺส พฺราหฺมณสฺส ปริวิตกฺกนภาเวน วุตฺตตฺตา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ ปทานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ วิย ปฺายติ, ตถาปิ ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตนิทสฺสนตฺเถน อิติ-สทฺเทน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตตฺตา ปน อฺตฺถ อิติ-สทฺทสฺส อทสฺสนโต จ อถ โข เวรฺโชติอาทินา กตฺตพฺพนฺตรทสฺสนมุเขน ปาฬิยา ปการนฺตเร ปวตฺติโต จ ยถาวุตฺตวเสเนว ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ วจนานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนํ ยุตฺตํ. อฏฺกถาจริเยน หิ พฺราหฺมณสฺส อตฺตนา สุตวเสเนว อชฺฌาสโย อุปฺปชฺชตีติ อุปสงฺกมนเหตุทสฺสนมุเขน ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวาติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

. สีโตทกํวิย อุณฺโหทเกนาติ อิทํ อุกฺกเมน มุขารุฬฺหวเสน วุตฺตํ, อนุปสนฺตสภาวตาย พฺราหฺมณสฺเสว อุณฺโหทกํ วิย สีโตทเกนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, าณเตชยุตฺตตาย วา ภควา อุณฺโหทโกปโมติ กตฺวา ตพฺพิรหิตํ พฺราหฺมณํ สีโตทกํ วิย กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย เอกรูปตํ. ยายาติอาทีสุ ยาย กถาย สมฺโมทิ พฺราหฺมโณ, ตํ สมฺโมทนียํ กถนฺติ โยชนา. ตตฺถ ขมนียนฺติ ทุกฺขพหุลํ อิทํ สรีรํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺยํ. ยาปนียนฺติ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. โรคาภาเวน อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิตาภาเวน อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรณตฺถาย ลหุํ อกิจฺเฉน อุฏฺาตุํ โยคฺคตาย ลหุฏฺานํ. พลนฺติ สรีรสฺส สพฺพกิจฺจกฺขมํ พลํ กจฺจิ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. ผาสุวิหาโรติ สุขวิหาโร. สรณียเมว ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สริตพฺพภาวโต จ สารณีย’’นฺติ. ปริยาเยหีติ การเณหิ.

ภาโวติ กิริยา, ตสฺมึ วตฺตมาโน นปุํสก-สทฺโท ภาวนปุํสกนิทฺเทโส นาม, กิริยาวิเสสนสทฺโทติ อตฺโถ. เอกมนฺเต เอกสฺมึ อนฺเต ยุตฺตปฺปเทเสติ อตฺโถ. ขณฺฑิจฺจาทิภาวนฺติ ขณฺฑิตทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ. ราชปริวฏฺเฏติ ราชูนํ ปริวตฺตนํ, ปฏิปาฏิโยติ อตฺโถ. ปุราตนุจฺจกุลปฺปสุตตาย ชิณฺณตา, น วยสาติ อาห ‘‘จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวเย’’ติ. วิภวานํ มหนฺตตฺตํ ลาติ คณฺหาตีติ มหลฺลโกติ อาห ‘‘วิภวมหตฺตตาย สมนฺนาคเต’’ติ. วิภาวเน นาม อตฺเถติ ปกติวิภาวนสงฺขาเต อตฺเถ. น อภิวาเทติ วาติ อภิวาเทตพฺพนฺติ น สลฺลกฺเขติ, เอวํ อสลฺลกฺขณปกติโกติ วุตฺตํ โหติ. รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ เอตฺถาปิ นิจฺจปกติกํ อนิจฺจปกติกํ วาติ อตฺโถ. อนิจฺจํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารณตฺโถ.

สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต, ชาตสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา…เป… โอโลเกสีติ เอตฺถ ทฺวารํ ปิธาย นิกฺขนฺโตติอาทีสุ วิย คมนโต ปุเร กตมฺปิ โอโลกนํ ปจฺฉา กตํ วิย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โอโลเกสินฺติ จ โลกวิวรณปาฏิหาริเย ชาเต มํสจกฺขุนา โวโลเกสีติ อตฺโถ. เสฏฺโติ ปสตฺถตโร. ปติมาเนสีติ ปูเชสิ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ.

. ตํ วจนนฺติ นาหํ ตํ พฺราหฺมณาติอาทิวจนํ. อฺาย สณฺเหยฺยาติ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย. ชาติวเสนาติ ขตฺติยาทิชาติวเสน. อุปปตฺติวเสนาติ เทเวสุ อุปปตฺติวเสน. อาวิฺฉนฺตีติ อากฑฺฒนฺติ. ยสฺส อภิวาทาทิกรณสงฺขาตสฺส สามคฺคิรสสฺส ภควติ อภาวํ มฺมาโน พฺราหฺมโณ ‘‘อรสรูโป’’ติ อาห, ตพฺพิธุรสฺส รูปตณฺหาทิกสฺเสว สามคฺคิรสสฺส อภาเวน ภควา ‘‘อรสรูโป’’ติ ทสฺเสตุํ สามคฺคิรสสทฺทสฺส รูปรสาทีสุ วตฺตนปฺปการํ ทสฺเสนฺโต อาห วตฺถารมฺมณาทีติอาทิ.

ตาลาวตฺถุกตาติ อุจฺฉินฺนมูลานํ ตาลานํ วตฺถุ วิย เนสํ รูปรสาทีนํ วตฺถุ จิตฺตสนฺตานํ กตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ มชฺเฌปทโลปํ ทีฆฺจ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ตาลวตฺถุ วิยาติอาทิ. ตาลวตฺถุ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต ตาลาวตฺถุกตาติ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ, กตตาลวตฺถุกาติ อตฺโถ. มตฺถกจฺฉินฺนตาโลเยว ปตฺตผลาทีนํ อการณตาย อวตฺถูติ ตาลาวตฺถุ, ตํ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต รูปรสาทโย ตาลาวตฺถุกตา, อยํ อฺปทตฺถวเสน อตฺถคฺคาโห เหฏฺา วุตฺตนเยน สุคโมติ วิเสสมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตา’’ติ. เอวฺจ มตฺถกสทิเสสุ รูปรสาทีสุ ราเคสุ ฉินฺเนสุปิ ตพฺพตฺถุภูตสฺส ตาลาวตฺถุสทิสสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส ยาว ปรินิพฺพานฏฺานํ อุปปนฺนเมว โหติ. ยถารุตโต ปน วิเสสนสมาสวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน รูปรสาทีนํ ตาลาวตฺถุสทิสตาย านํ อาปชฺชติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๓) เอตํ โทสํ ปริหริตุํ รูปรสาทีนํ กุสลากุสลตฺตํ วุตฺตํ, ตํ เต ตถาคตสฺส ปหีนาติอาทิปาฬิยา, กามสุขสฺสาทสงฺขาตา รูปรสาติอาทิอฏฺกถาย จ น สเมติ, ขีณาสวานมฺปิ ยาว ปรินิพฺพานา กุสลากุสลานํ ผลุปฺปตฺติโต เตสํ มตฺถกจฺฉินฺนตาลสทิสตาปิ น ยุตฺตาติ คเหตพฺพํ. อถ วา มตฺถกจฺฉินฺนตาลสฺส ิตํ อฏฺิตฺจ อมนสิกตฺวา ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมตาสทิสมตฺตํ อุปเมตฺวา ตาลาวตฺถุ วิย กตาติ วิเสสนสมาสวเสน อตฺถคฺคหเณปิ น โกจิ โทโส. อนุ-สทฺโท ปจฺฉาติ อตฺเถ วตฺตตีติ อาห ปจฺฉาภาโว น โหตีติอาทิ. อนุ อภาวํ คตาติ ปจฺฉา อนุปฺปตฺติธมฺมตาวเสน อภาวํ คตา. อนจฺฉริยาติ อนุ อนุ อุปรูปริ วิมฺหยกตาติ อตฺโถ. ยฺจ โข ตฺวํ วเทสีติ ยํ วนฺทนาทิสามคฺคีรสาภาวสงฺขาตํ การณํ อรสรูปตาย วเทสิ, ตํ การณํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ.

. สนฺธาย ภาสิตมตฺถนฺติ ยํ อตฺถํ สนฺธาย พฺราหฺมโณ นิพฺโภโค ภวํ โคตโมติอาทิมาห, ภควา จ ยํ สนฺธาย นิพฺโภคตาทึ อตฺตนิ อนุชานาติ, ตํ สนฺธาย ภาสิตมตฺถํ.

. กุลสมุทาจารกมฺมนฺติ กุลาจารกมฺมํ. กายโต กายทฺวารโต ปวตฺตํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. อเนกวิหิตาติ อเนกปฺปการา.

. ปฺจกามคุณิกราคสฺสาติ รูปาทีสุ ปฺจสุ กามโกฏฺาเสสุ อติวิย สงฺควเสน นิยุตฺตสฺส กามราคสฺส, เอเตน อนาคามีนํ วตฺถาภรณาทีสุ สงฺคนิกนฺติวเสน อุปฺปชฺชนกามราคสฺส กามราคตาภาวํ ทสฺเสติ ตสฺส รูปราคาทีสุ สงฺคหโต. อวเสสานนฺติ เอตฺถ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปเมน มคฺเคน, เสสานํ จตูหิปิ อุจฺเฉทํ วทติ, เตนาห ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ.

. ชิคุจฺฉติ มฺเติ ชิคุจฺฉติ วิย, ‘‘ชิคุจฺฉตี’’ติ วา สลฺลกฺเขมิ. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ อฺาณสมฺภูตฏฺเน.

๘-๑๐. ตตฺราติ ยถาวุตฺเตสุ ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ. ปฏิสนฺธิปริยาโยปิ อิธ คพฺภสทฺโทติ อาห ‘‘เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภายา’’ติ. อปุนพฺภวภูตาติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ.

๑๑. ธมฺมธาตุนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ. ตฺหิ ธมฺเม ยาถาวโต ธาเรติ อุปธาเรตีติ ‘‘ธมฺมธาตู’’ติ วุจฺจติ. เทสนาวิลาสปฺปตฺโตติ อภิรุจิวเสน ปริวตฺเตตฺวา เทเสตุํ สมตฺถตา เทสนาวิลาโส, ตํ ปตฺโต. กรุณาวิปฺผารนฺติ สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย ผรณํ. ตาทิคุณลกฺขณเมว อุปมาย วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปถวีสมจิตฺตต’’นฺติ. ตโตเยว อกุชฺฌนสภาวโต อกุปฺปธมฺมตา. ชาติยา อนุคตนฺติ ชาติยา อนุพทฺธํ. ชราย อนุสฏนฺติ ชราย ปลิเวิตํ. วฏฺฏขาณุภูตนฺติ วฏฺฏโต อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วฏฺเฏ นิจฺจลภาเวน ิตํ ขาณุ วิย ภูตํ. ชาตานํ มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยนฺติ อาห อชฺช มริตฺวาติอาทิ. อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวนฺติ อสทิสํ อริยาย ชาติยา ปมชาตภาวํ, สพฺพเชฏฺภาวนฺติ อตฺโถ.

‘‘อปี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปี’’ติ วทนฺโต ปิ-สทฺโท วิสุํ อตฺถิ นิปาโตติ ทสฺเสติ. สมฺมา อธิสยิตานีติ ปาทาทีหิ อุปฆาตํ อกโรนฺติยา สมฺมเทว อุปริ สยิตานิ, อกมฺมกสฺสาปิ สยติธาตุโน อธิปุพฺพตาย สกมฺมกตา ทฏฺพฺพา. นขสิขาติ นขคฺคานิ. สกุณานํ ปกฺขา หตฺถปาทฏฺานิยาติ อาห ‘‘สงฺกุฏิตหตฺถปาทา’’ติ. เอตฺถาติ อาโลกฏฺาเน. นิกฺขมนฺตานนฺติ นิกฺขมนฺเตสุ, นิทฺธารเณ เหตํ สามิวจนํ. อณฺฑโกสนฺติ อณฺฑกปาลํ.

โลโกเยว โลกสนฺนิวาโส. อพุชฺฌิ เอตฺถาติ รุกฺโข โพธิ, สยํ พุชฺฌติ, พุชฺฌนฺติ วา เตนาติ มคฺโคปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ โพธิ. พุชฺฌียตีติ นิพฺพานํ โพธิ. อนฺตรา จ โพธินฺติ ทุติยมุทาหรณํ วินาปิ รุกฺข-สทฺเทน โพธิ-สทฺทสฺส รุกฺขปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ. วรภูริเมธโสติ มหาปถวี วิย ปตฺถฏปฺโติ อตฺโถ. ติสฺโส วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺโค อตฺตนา สห วตฺตมานํ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ อาสวกฺขยาณฺเจว อิตรา ทฺเว มหคฺคตวิชฺชา จ ตพฺพินิพนฺธกกิเลสวิทฺธํสนวเสน อุปฺปาทนโต ‘‘ติสฺโส วิชฺชา’’ติ วุจฺจติ. ฉ อภิฺาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาวกปารมีาณนฺติ อคฺคสาวเกหิ ปฏิลภิตพฺพํ สพฺพเมว โลกิยโลกุตฺตราณํ. ปจฺเจกโพธิาณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

โอปมฺมสมฺปฏิปาทนนฺติ โอปมฺมตฺถสฺส อุปเมยฺเยน สมํ ปฏิปาทนํ. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโวติ อิมินา สงฺขารุเปกฺขาปตฺตตํ วิปสฺสนาย ทสฺเสติ. ปริณามกาโลติ อิมินา วุฏฺานคามินิภาวาปตฺตึ. ตทา จ สา มคฺคาณคพฺภํ ธาเรนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘คพฺภคฺคหณกาโล’’ติ. อนุปุพฺพาธิคเตนาติ ปมมคฺคาทิปฏิปาฏิยา อธิคเตน. จตุรงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖), สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ เอวํ วุตฺตจตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ.

ฉนฺโท กาโมติอาทีสุ ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ อิจฺฉนฏฺเน ฉนฺโท. ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค. ตโตปิ พลวตโร ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนสงฺกปฺปวเสน ปวตฺโต สงฺกปฺโป. ตโตปิ พลวสงฺกปฺปวเสเนว ปวตฺโต ราโค. ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโค. สฺวายํ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการเภเทน อวตฺถาเภเทน จ วุตฺโต.

ปมชฺฌานกถาวณฺณนา

เสยฺยถิทนฺติ ตํ กถนฺติ อตฺโถ. เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณกรณํ, เอตํ อตฺถชาตํ วา. ตนฺนิสฺสรณโตติ เตสํ กามานํ นิสฺสรณตฺตา. เอสาติ เอว-กาโร. กามธาตุ นาม กามภโว, เนกฺขมฺมนฺติ ปมชฺฌานํ. เอสาติ นิยโม. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ตทงฺควิเวกาทโย. กายจิตฺตอุปธิวิเวกา กายวิเวกาทโย, ตโย เอว อิธ ฌานกถาย, สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวา. นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส. ตตฺเถวาติ มหานิทฺเทเส เอว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. เอวฺหิ สตีติ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ.

ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ กายจิตฺตวิเวกทฺวเย. ทุติเยนาติ จิตฺตวิเวเกน. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตนเยน วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกทฺวยสฺส วาจกภูตานํ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหีติ อิเมสํ ปทานํ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. พาลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโคติ อนุวตฺตติ. อกุสลธมฺโม หิ พาลภาวสฺส เหตุ. อาสยโปสนนฺติ อาสยสฺส วิโสธนํ วฑฺฒนฺจ. วิภงฺเค นีวรณาเนว วุตฺตานีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ. ตตฺถ อุปริ สวิตกฺกนฺติอาทินา วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ อตฺโถ. อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวสฺส ทสฺสนโตติปิ ปาโ. ตตฺถ ‘‘อุปริ วุจฺจมานฌานงฺคานํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ ‘‘นีวรณานํ ตาเนว วิภงฺเค วุตฺตานี’’ติปิ อตฺถํ วทนฺติ . เปฏเกติ มหากจฺจายนตฺเถเรน กตํ เนตฺติปฺปกรณนยานุสาริปกรณํ, ตํ ปน ปิฏกานํ วณฺณนาภูตตฺตา ‘‘เปฏก’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมินฺติ อตฺโถ.

วิตกฺกนํ นาม อารมฺมณปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหน’’นฺติ. รูปํ รูปนฺติอาทินา วิสเย อาโกเฏนฺตสฺส วิสยปฺปวตฺติอาหนนํ อุปริ อาหนนนฺติ เวทิตพฺพํ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนํ นาม อารมฺมณาภิมุขกรณํ. อนุสฺจรณนฺติ อนุปริพฺภมนํ, ตฺจ ขณนฺตรสฺส ตถากาเรน อุปฺปาทนเมว, น หิ ปรมตฺถโต เอกสฺส สฺจรณมตฺถิ, เอวมฺตฺถาปิ อีทิเสสุ. อนุมชฺชนนฺติ ปริมชฺชนํ. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานุโยชนํ สกิจฺจานุวตฺติตากรเณน. กตฺถจีติ ทุติยชฺฌานวิรหิเตสุ สวิจารจิตฺเตสุ สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. วิจาเรน สห อุปฺปชฺชมาโนปิ วิตกฺโก อารมฺมเณ อภินิโรปนากาเรน ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘ปมาภินิปาโต’’ติ วุตฺโต. วิปฺผารวาติ อวูปสนฺตสภาวตาย เวควา, เตเนเวส ทุติยชฺฌาเน ปหานงฺคํ ชาตํ. ปมทุติยชฺฌาเนสูติ ปฺจกนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. องฺควินิมุตฺตสฺส ฌานสฺส อภาวํ ทสฺเสนฺโต รุกฺโข วิยาติอาทิมาห.

วิเวก-สทฺทสฺส ภาวสาธนปกฺเข ‘‘ตสฺมา วิเวกา’’ติ วุตฺตํ, อิตรปกฺเข ‘‘ตสฺมึ วิเวเก’’ติ. ปินยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กาเย พฺยาปนรสา. สาตลกฺขณนฺติ อิฏฺสภาวํ, มธุรนฺติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตานํ ปีฬนชฺฌุเปกฺขนํ อกตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ อุปการิตา วา อนุคฺคโห. วนเมว วนนฺตํ. อุทกเมว อุทกนฺตํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโตติ อิมินา อิฏฺารมฺมณาทิปฏิลาภสมเยปิ สุขํ วิชฺชมานมฺปิ อปากฏํ, ปีติเยว ตตฺถ ปากฏา, ปฏิลทฺธรสานุภวนสมเย จ วิชฺชมานปีติโตปิ สุขเมว ปากฏตรนฺติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ เจตสิกสุขวเสเนว ปฏิลทฺธรสานุภวนํ เวทิตพฺพํ, น กายิกสุขวเสน ตสฺส ปีติสมฺปโยคสฺเสว อภาเวน อิธานธิปฺเปตตฺตา. อยฺจ ปีตีติอาทิ อฺปทตฺถสมอาสทสฺสนํ, อสฺสตฺถิปกฺเข ตทฺธิตปจฺจยทสฺสนํ วา. ทุติยวิกปฺเปน อฺปทตฺถสมาสวเสเนว ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติ อิทํ เอกํ ปทนฺติ ทสฺเสติ, วิภตฺติยา จ อโลปํ.

คณนานุปุพฺพตาติ เทสนากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมํ สมาปชฺชตีติ อิทํ อาทิกมฺมิกวเสน วุตฺตํ, จิณฺณวสีนํ ปน โยคีนํ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ ฌานํ อุปฺปชฺชเตว. ฌาเปตีติ ทหติ. อนิจฺจาทิลกฺขณวิสยาย วิปสฺสนาย อุปนิชฺฌายนํ กถํ นิพฺพานาลมฺพนสฺส มคฺคสฺส โหตีติ อาห วิปสฺสนายาติอาทิ. ตตฺถ มคฺเคน สิชฺฌตีติ นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหายเกน สห มคฺเคเนว ตํ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อสมฺโมหโต อตฺตโน สิชฺฌติ. อถ วา มคฺเคนาติ มคฺคกิจฺเจน, วิปลฺลาสปฺปหาเนนาติ อตฺโถ.

อฺโติ สตฺโต. อวุตฺตตฺตาติ ‘‘สจิตฺเตกคฺคต’’นฺติ ฌานปาฬิยํ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย) อวุตฺตตฺตา. วุตฺตตฺตาติ ตสฺสา ฌานปาฬิยา วิภงฺเค วุตฺตตฺตา.

ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา

อชฺฌตฺตนฺติ ฌานวิเสสนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อิธ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปต’’นฺติ. ฌานฺหิ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ น โหติ ฉฬินฺทฺริยานเมว ตพฺภาวโต. ขุทฺทกา อูมิโย วีจิโย. มหติโย ตรงฺคา. สนฺตา โหนฺติ สมิตาติอาทีนิ อฺมฺเววจนานิ, ฌานพเลน สมติกฺกนฺตาติ อธิปฺปาโย. อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ ปาปิตา. ปริยาโยติ ฌานปริกฺขาเร ฌานโวหารตฺตา อปรมตฺถโต.

ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา

ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ ปฺาย สหจรณปริจเยน ยถา สมวาหิภาโว โหติ, เอวํ ยุตฺติโต ปสฺสติ. วิปุลายาติ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาย. ถามคตายาติ วิตกฺกวิจารปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺติยา, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา’’ติอาทิ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา). อุเปกฺขาเภทํ ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตํ อุเปกฺขํ ปกาเสตุํ อุเปกฺขา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาว ขีณาสวานํ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนากาเรน อชฺฌุเปกฺขนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตตฺตา ‘‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’’ติ จ, สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา ‘‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, เกวลา ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ จ, ตติยชฺฌานสหคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตภูตา ‘‘ฌานุเปกฺขา’’ติ จ, จตุตฺถชฺฌานสหคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธิตาย ‘‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’’ติ จ เตน เตน อวตฺถาเภเทน ฉธา วุตฺตา.

วีริยเมว ปน อนจฺจารทฺธอนติสิถิเลสุ สหชาเตสุ สงฺขาเรสุ อุเปกฺขนากาเรน ปวตฺตํ ‘‘วีริยุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ รูปารูปชฺฌานานํ ปฏิลาภโต ปุพฺพภาเค เอว นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา สมาธิวเสน อุปฺปนฺนา อฏฺ ปฺา เจว อุปาทานกฺขนฺธภูเตสุ สงฺขาเรสุ อชฺฌุเปกฺขนาการปฺปวตฺตา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปนฺนา จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย จตสฺโส จตุนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน ปวตฺตา จตสฺโส สุฺตอนิมิตฺตวิโมกฺขวเสน ทฺเวติ ทส ปฺา จาติ อิเม อฏฺารส ปฺา สงฺขารุเปกฺขา นาม. ยถาวุตฺตวิปสฺสนาปฺาว ลกฺขณวิจินเนปิ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขา นาม. อทุกฺขมสุขเวทนา เวทนุเปกฺขา นาม. อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโต วิภาโค ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาปีติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ อิทมฺปิ หิ ตาสํ วิภาคทสฺสนสฺส ภูมิปุคฺคลาทิปทํ วิย วิสุํ มาติกาปทวเสน วุตฺตํ, น ปน ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาคทสฺสนสฺส อาคตฏฺานปรามสนํ อาคตฏฺานสฺส อฏฺสาลินิยาติอาทินา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา) ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาโค ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาติอาที’’ติ, ตํ อมนสิกตฺวา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ ‘‘อิธ (ขีณาสโว) ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๖.๑) ฉฬงฺคุเปกฺขา อาคตา, ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) เอวํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อาคตาติ อิมินา นเยน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปเทเสสุ อาคตนยทสฺสนโต จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.

ภูมีติอาทีสุ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขา กามาวจรา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา รูปาวจราติอาทินา ภูมิโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา อเสกฺขานเมว, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ปุถุชฺชนาทีนํ ติณฺณมฺปิ ปุคฺคลานนฺติอาทินา ปุคฺคลโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา โสมนสฺสุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตาติอาทินา จิตฺตโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา ฉฬารมฺมณาติอาทินา อารมฺมณโต จ, ‘‘เวทนุเปกฺขา เวทนากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, อิตรา นว สงฺขารกฺขนฺเธนา’’ติ ขนฺธสงฺคหวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารโพชฺฌงฺคฌาน ปาริสุทฺธิตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา. ตสฺมา เอกกฺขเณ จ ตาสุ เอกาย สติ อิตรา น อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ เวทิตพฺพา. เวทนาวีริยุเปกฺขานเมกกฺขเณ สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ เอกกฺขณวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา อพฺยากตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา กุสลาพฺยากตา, ตถา เสสา. เวทนุเปกฺขา ปน สิยา อกุสลาปี’’ติ เอวํ กุสลตฺติกวเสน จ, ‘‘สงฺเขปโต จตฺตาโร จ ธมฺมา วีริยเวทนาตตฺรมชฺฌตฺตตาาณวเสนา’’ติ เอวํ สงฺเขปวเสน จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ โยชนา.

เอตฺถ เจตา กิฺจาปิ อฏฺสาลินิยํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน สรูปโต อุทฺธริตฺวา น วุตฺตา, ตถาปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปกาเรเหว ตาสํ ภูมิปุคฺคลาทิวิภาโค นยโต อุทฺธริตฺวา สกฺกา าตุนฺติ ตตฺถ สรูปโต วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ เอกโต สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติอาทีหิ นวหิ ปกาเรหิ อติเทโส กโต, เตเนว ‘‘ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตวเสนา’’ติ อวตฺวา ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติ วุตฺตํ. ตถาหิ ขีณาสโว ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ อาทิมฺหิ วุตฺเต ฉฬงฺคุเปกฺขา รูปาทิอารมฺมณตาย ภูมิโต กามาวจรา จ ปุคฺคลโต อเสกฺขานเมว จ อุปฺปชฺชติ, จิตฺตโต โสมนสฺสุเปกฺขาจิตฺตสมฺปยุตฺตา, อารมฺมณโต ฉฬารมฺมณา, กุสลตฺติกโต อพฺยากตา จาติ ปณฺฑิเตหิ สกฺกา าตุํ, ตถา ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกาติอาทิมฺหิ วุตฺเต ปนสฺส สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขาทีหิ สห เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติอาทโย จ สกฺกา าตุํ, ยถา จ ฉฬงฺคุเปกฺขา, เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตนยโต ภูมิอาทิวิภาคุทฺธารนโย าตพฺโพ. อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ.

ปุคฺคเลนาติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน. กิเลเสหิ สมฺปยุตฺตานํ อารกฺขา. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา. อิทนฺติ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขนฺติ อิมสฺส ตสฺมา เอตมตฺถนฺติอาทินา สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ฌานสมงฺคิโน. ตํสมุฏฺาเนนาติ ตํ ยถาวุตฺตนามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ สมุฏฺานํ การณํ ยสฺส รูปสฺส เตน ตํสมุฏฺาเนน รูเปน. อสฺสาติ โยคิโน. ยสฺสาติ รูปกายสฺส. ผุฏตฺตาติ อติปณีเตน รูเปน ผุฏตฺตา. เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ กายิกสุขเหตุภูตรูปสมุฏฺาปกนามกายสุขํ ปฏิสํเวทิยมาโน เอว ฌานสมงฺคิตากรเณ การิโยปจารโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ อตฺโถ. นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. สุขปารมิปฺปตฺเตติ สุขสฺส อุกฺกํสปริยนฺตํ ปตฺเต. เอวเมเตสํ ปหานํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.

จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา

กตฺถ จุปฺปนฺนนฺติ เอตฺถ กตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ, กสฺมึ เหตุมฺหิ สตีติ อตฺโถ. นานาวชฺชเนติ อปฺปนาวีถิอาวชฺชนโต นานา ภินฺนํ ปุริมวีถีสุ อาวชฺชนํ ยสฺส อุปจารสฺส, ตสฺมึ นานาวชฺชเน. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. อุปจาเร วาติอาทิ ปกฺขนฺตรทสฺสนํ เอกาวชฺชนูปจาเรปิ วาติ อตฺโถ. ปีติผรเณนาติ อิมินา อปฺปนาวีถิยา วิย เอกวีถิยมฺปิ กามาวจรปีติยา ผรณมตฺตสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส อสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอตนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. วิตกฺกวิจารปฺปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต. โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เหฏฺา วุตฺตปทานนฺตรํ โยเชตพฺโพ ‘‘ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. วิตกฺกวิจารภาเวติ เอตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ, วิตกฺกวิจารภาวเหตูติ อตฺโถ. วิตกฺกวิจาราติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ตสฺมาติ เอตสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ยสฺมา เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ วิตกฺกวิจารปจฺจเย…เป… เนว อุปฺปชฺชติ, ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเวเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺมา จ อปฺปหีนาเยว ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจารา, ตสฺมา ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

ตตฺถาติ ทุติยชฺฌานูปจาเร. อสฺสาติ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส. สิยา อุปฺปตฺตีติ อิทฺจ ปจฺจยมตฺตทสฺสเนน สมฺภาวนมตฺตโต วุตฺตํ. โทมนสฺสุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ หิ อุปจารกฺขเณเยว กาตุํ ยุตฺตา, วิตกฺกวิจารรหิเต ปน ทุติยชฺฌานกฺขเณ ตทุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ น ยุตฺตา กาตุนฺติ. อิตรถา กุสลจิตฺตกฺขเณ อกุสลโทมนสฺสุปฺปตฺติยา อสมฺภวโต ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา. สมีปตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมํ, อุปจารชฺฌานานนฺตรวีถีสูติ อตฺโถ. ทุติยชฺฌาเนติ เอตฺถาปิ อนนฺตรวีถีสุปิ น ตฺเวว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ, เอวํ อุปริ สุขินฺทฺริเยปิ. โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปหีนาติ วุตฺตาติ อิทํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ทุกฺขาภาเวนาติ ทุกฺขตาภาเวน. เอวํ สุขาภาเวนาติ เอตฺถาปิ. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณาติ อติอิฏฺอติอนิฏฺานํ วิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส อนุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตารมฺมณมฺปิ หิ อิฏฺานิฏฺเสุ เอว ปวิฏฺํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวา.

ฌานจตุกฺกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

ปุพฺเพนิวาสกถาวณฺณนา

๑๒. อรูปชฺฌานานมฺปิ องฺคสมตาย จตุตฺถชฺฌาเน สงฺคโหติ อาห เกสฺจิ อภิฺาปาทกานีติอาทิ, เตเนว วกฺขติ ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๒). เตสุ จ จตุตฺถชฺฌานเมว อภิฺาปาทกํ นิโรธปาทกํ โหติ, น อิตรานิ. ทูรการณตํ ปน สนฺธาย ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ เนสมฺปิ เอกโต คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺเตกคฺคตตฺถานีติ อิทํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ขีณาสวานนฺติอาทิ. สพฺพกิจฺจสาธกนฺติ ทิพฺพวิหาราทิสพฺพพุทฺธกิจฺจสาธกํ. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ อิมินา ยถาวุตฺตํ วิปสฺสนาปาทกตฺตาทิสพฺพํ สมฺปิณฺเฑติ. อิทฺหิ ฌานํ ภควโต สพฺพพุทฺธคุณทายกสฺส มคฺคาณสฺส ปทฏฺานตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิทํ. อภินีหารกฺขมนฺติ อิทฺธิวิธาทิอตฺถํ ตทภิมุขํ นีหรณโยคฺคํ.

ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ ฌานปฺปฏิลาภเหตุกานํ ฌานปฺปฏิลาภํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย วเสน โอติณฺณานํ นีวรณภาวํ ตเทกฏฺตฺจ อปฺปตฺตานํ อตฺตุกฺกํสนาทิวสปฺปวตฺตานํ อโห วต มเมว สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ เอวรูปํ ธมฺมํ เทเสยฺยาติอาทินยปฺปวตฺตานํ มานาทีนํ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกาน’’นฺติปิ ปาํ ลิขนฺติ, โส ปมาทปาโติ คเหตพฺโพ ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกานํ นีวรณานํ อภาวสฺส นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปุพฺเพ ปริสุทฺธปเทเยว วุตฺตตฺตา. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒) ปน ‘‘อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถติ อยมฺปิ ปาโ อยุตฺโต เอวาติ คเหตพฺพํ. ตโต เอว จ วิสุทฺธิมคฺเค อยํ ปาโ สพฺเพน สพฺพํ น ทสฺสิโต’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ จ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ เอวํ นีวรณภาวปฺปตฺตโทสานํ ปรามฏฺตฺตา อยํ ปาโ ปฏิกฺขิตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อภิชฺฌาทีนนฺติ เอตฺถ อภิชฺฌา-สทฺเทน จ อนีวรณสภาวสฺเสว โลภสฺส มานาทีนฺจ คหณํ ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ อนุวตฺตมานตฺตา. อุภยมฺปีติ อนงฺคณตฺตํ วิคตูปกฺกิเลสตฺตฺจาติ เอตํ อุภยมฺปิ ยถากฺกมํ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. เตสุ จ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ นีวรณสภาวปฺปตฺตา ถูลโทสาปิ วุตฺตา, ตถาปิ อธิคตจตอุตฺถชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตตฺตา อิธ สุขุมา เอว เต คหิตา. องฺคณุปกฺกิเลสสามฺเน ปเนตฺถ สุตฺตานํ อปทิสนํ. ตถา หิ ‘‘สุตฺตานุสาเรนา’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุตฺตวเสนาติ.

ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนฺติ นิพฺพจนํ ทสฺเสนฺโต อาห ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหีติอาทิ. อิทานิ ปุพฺเพนิวาสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ตตฺถ าณฺจ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺพ-สทฺโท อตีตภววิสโย, นิวาส-สทฺโท จ กมฺมสาธโนติ อาห ‘‘ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา’’ติ. นิวุตฺถตา เจตฺถ สกสนฺตาเน ปวตฺตตา, เตนาห อนุภูตาติอาทิ. อิทานิ สปรสนฺตานสาธนวเสน นิวาส-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิวุตฺถธมฺมา วา นิวุตฺถา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ โคจรนิวาเสนาติอาทิ วุตฺตํ. โคจรภูตาปิ หิ ธมฺมา าเณน นิวุตฺถา นาม โหนฺติ, เต ปน สปรวิฺาณโคจรตาย ทุวิธาติ ทสฺเสตุํ อตฺตโนติอาทิ วุตฺตํ. ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา นิวุตฺถาติ สมฺพนฺโธ. อิธาปิ ปริจฺฉินฺนาติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อนมตคฺเคปิ หิ สํสาเร อตฺตนา อวิฺาตปุพฺพานํ สตฺตานํ ขนฺธา ปเรเหว เกหิจิ วิฺาตตฺตา ปรวิฺาณวิฺาตา นาม วุตฺตา, เตสํ อนุสฺสรณํ ปุริมโต ทุกฺกรํ เยหิ ปเรหิ วิฺาตตาย เต ปรวิฺาณวิฺาตา นาม ชาตา, เตสํ วตฺตมานสนฺตานานุสาเรน วิฺาตพฺพโต. เต จ ปรวิฺาณวิฺาตา ทุวิธา ปรินิพฺพุตา อปรินิพฺพุตาติ. เตสุ จ ปรินิพฺพุตานุสฺสรณํ ทุกฺกรํ สพฺพโส สุสมุจฺฉินฺนสนฺตานตฺตา. ตํ ปน สิขาปฺปตฺตปรวิฺาตํ ปุพฺเพนิวาสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสู’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉินฺนวฏุมกา อตีเต ปรินิพฺพุตา ขีณาสวา ฉินฺนสํสารมคฺคตฺตา . อาทิ-สทฺเทน อปรินิพฺพุตานํ ปรวิฺาณวิฺาตานมฺปิ สีโหกฺกนฺติกวสเอน อนุสฺสรณํ คหิตํ. ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

วิหิต-สทฺโท วิธ-สทฺทปริยาโยติ อาห ‘‘อเนกวิธ’’นฺติ, ภวโยนิอาทิวเสน พหุวิธนฺติ อตฺโถ. วิหิตนฺติ วา ปยุตฺตํ วณฺณิตนฺติ อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘อเนเกหิ ปกาเรหิ วิหิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ มชฺเฌปทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺนฺติ อาห ‘‘อเนเกหิ…เป… สํวณฺณิต’’นฺติ. ปกาเรหีติ นามโคตฺตาทิปกาเรหิ. สํวณฺณิตนฺติ พุทฺธาทีหิ กถิตํ. อนุ-สทฺโท อนนฺตรตฺถทีปโกติ อาห ‘‘อภินินฺนามิตมตฺเต เอวา’’ติ, เอเตน จ ปริกมฺมสฺส อารทฺธตํ ทสฺเสติ. ปูริตปารมีนฺหีติอาทินา ปริกมฺมํ วินาปิ สิทฺธึ ทสฺเสติ.

อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถติ อนุสฺสริตุํ อารทฺธานํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธานํ ทสฺสนตฺเถ. ชายตีติ ชาติ, ภโว. โส เอกกมฺมมูลโก อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺโน ขนฺธปฺปพนฺโธ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโตติ อาห เอกมฺปีติอาทิ. กปฺโปติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป, โส ปน อตฺถโต กาโล ตถาปวตฺตธมฺมมุปาทาย ปฺตฺโต, เตสํ วเสนสฺส ปริหานิ จ วฑฺฒิ จ เวทิตพฺพา. สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏนํ วินาโส อสฺส อตฺถีติ สํวฏฺโฏ, อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. สํวฏฺเฏน วินาเสน สห ติฏฺติ สีเลนาติ สํวฏฺฏฏฺายี. เอวํ วิวฏฺโฏติอาทีสุปิ. ตตฺถ วิวฏฺฏนํ วิวฏฺโฏ, อุปฺปตฺติ, วฑฺฒิ วา. เตเชน วินาโส เตโชสํวฏฺโฏ. วิตฺถารโต ปนาติ ปุถุลโต ปน สํวฏฺฏสีมาเภโท นตฺถิ, เตนาห ‘‘สทาปี’’ติ. เอกนคริยา วิย อสฺส ชาตกฺขเณ วิการาปชฺชนโต ชาติกฺเขตฺตโวหาโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิอาทีสุ กมฺปตี’’ติ วุตฺตํ. อานุภาโว ปวตฺตตีติ ตทนฺโตคธานํ สพฺเพสํ สตฺตานํ โรคาทิอุปทฺทโว วูปสมฺมตีติ อธิปฺปาโย. ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยาติ วุตฺตนฺติ ยํ วิสยกฺเขตฺตํ สนฺธาย เอกสฺมึ เอว ขเณ สพฺพตฺถ สเรน อภิวิฺาปนํ, อตฺตโน รูปกายทสฺสนฺจ ปฏิชานนฺเตน ภควตา ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ วุตฺตํ.

เอเตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวตฺตผลโภชโนติ สยํปติตผลาหาโร, อิทฺจ ตาปสกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิธูปปตฺติยาติ อิธ จริมภเว อุปปตฺติยา. เอกโคตฺโตติ ตุสิตโคตฺเตน เอกโคตฺโต. อิตเรติ วณฺณาทโย. ติตฺถิยาติ กมฺมผลวาทิโน. อภินีหาโรติ อภินีหาโรปลกฺขิโต ปุฺาณสมฺภรณกาโล วุตฺโต. จุติปฏิสนฺธิวเสนาติ อตฺตโน ปรสฺส วา ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺตภาเว จุตึ ทิสฺวา อนฺตรา กิฺจิ อนามสิตฺวา ปฏิสนฺธิยา เอว คหณวเสน เอวํ ชานนํ อิจฺฉิตปฺปเทโสกฺกมนนฺติ อาห เตสฺหีติอาทิ. อุภยถาปีติ ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ. สีโหกฺกนฺตวเสนปีติ สีหนิปาตวเสนปิ. กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน วีริยํ อาตาโปติ อาห ‘‘วีริยาตาเปนา’’ติ.

ทิพฺพจกฺขุาณกถาวณฺณนา

๑๓. ทิวิ ภวตฺตา ทิพฺพนฺติ เทวานํ ปสาทจกฺขุ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทิพฺพสทิสตฺตา’’ติ. ทูเรปีติ ปิ-สทฺเทน สุขุมสฺสาปิ อารมฺมณสฺส คหณํ. วีริยารมฺภวเสน อิชฺฌนโต สพฺพาปิ ภาวนา, ปธานสงฺขารสมนฺนาคโต วา อิทฺธิปาทภาวนาวิเสสโต วีริยภาวนาติ อาห ‘‘วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺต’’นฺติ. ทิพฺพวิหารวเสนาติ กสิณาทิชฺฌานจตอุกฺกวเสน. อิมินา ทูรการณตฺเถ อสฺส ทิพฺพภาวมาห. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมินา อาสนฺนการณภูตปาทกชฺฌานโต นิพฺพตฺตนฺติ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมสฺส ทิพฺพวิหารปอยาปนฺนํ อตฺตนา สมฺปยุตฺตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ นิสฺสยปจฺจยภูตํ นิสฺสาย ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปวตฺตตฺตาติปิ อตฺโถ. ทิวุธาตุสฺส ชุติคติโยคํ สนฺธาย อาโลกปอคฺคเหนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาโลกปริคฺคเหนาติ กสิณาโลกปริคฺคหวเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ รูปทสฺสนภาเวน, อิมินา ‘‘จกฺขติ รูปํ วิภาเวตี’’ติ นิพฺพจนโต จกฺขุตฺตํ ทสฺเสติ. จกฺขุกิจฺจกรเณนาติ อิทํ จกฺขุมิว จกฺขูติ อุปมาย สทิสนิมิตฺตทสฺสนํ, สมวิสมาทิทสฺสนสงฺขาตสฺส จกฺขุกิจฺจสฺส กรณโตติ อตฺโถ.

ยถาหาติ อุปกฺกิเลสสุตฺตปฺปเทสํ (ม. นิ. ๓.๒๔๒) นิทสฺเสติ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาติอาทีสุ ภควโต โพธิมูเล อนภิสมฺพุทฺธสฺเสว ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ปสฺสนฺตสฺส ‘‘อิทํ นุ โข กึ, อิทํ นุ โข กิ’’นฺติ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา, ตโต ปน วิจิกิจฺฉานิวตฺตนตฺถํ ตานิ รูปานิ อมนสิกโรโต อมนสิกโรนฺตสฺส ถินมิทฺธํ อุปฺปนฺนํ, ตโต นิวตฺตนตฺถํ ปุน สพฺพรูปานิ มนสิกโรโต รกฺขสาทีสุ ฉมฺภิตตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ‘‘กิเมตฺถ ภายิตพฺพ’’นฺติ ภยวิโนทนวเสน มนสิกโรโต อตฺตโน มนสิการโกสลฺลํ ปฏิจฺจ อุปฺปิลสงฺขาตา สมาธิทูสิกา เคหสิตปีติ อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย มนสิการวีริยํ สิถิลํ กโรนฺตสฺส กายาลสิยสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลํ, ตนฺนิเสธาย ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อจฺจารทฺธวีริยํ, ปุน ตนฺนิเสธาย วีริยํ สิถิลยโต อติลีนวีริยํ อุปฺปนฺนํ, ตนฺนิเสเธตฺวา ทิพฺพรูปานิ ปสฺสโต อภิชปฺปาสงฺขาตา ตณฺหา อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย หีนาทินานารูปานิ มนสิกโรโต นานารมฺมณวิกฺเขปสงฺขาตา นานตฺตสฺา อุปฺปนฺนา. ปุน ตํ วิหาย เอกเมว มนสิกโรโต อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ อติวิย จินฺตนํ อุปฺปนฺนํ. โอภาสนฺติ ปริกมฺมสมุฏฺิตํ โอภาสํ . น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ‘‘ปริกมฺโมภาสมนสิการปสุตตาย ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปตฺติกฺกมสหิโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ, มนุสฺสานํ อิทนฺติ มานุสกํ มานุสกจกฺขุโคจรํ ถูลรูปํ วุจฺจติ. ตเทว มนุสฺสานํ ทสฺสนูปจารตฺตา มนุสฺสูปจาโรติ อาห ‘‘มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ. รูปทสฺสเนนาติ ทูรสุขุมาทิรูปทสฺสเนน.

ยสฺมา นิยเมน ปุเรชาตฏฺิตรูปารมฺมณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อาวชฺชนปริกมฺเมหิ วินา น อุปฺปชฺชติ, น จ อุปฺปชฺชมานํ ภิชฺชมานํ รูปมสฺส อารมฺมณํ โหติ ทุพฺพลตฺตา, จุติจิตฺตฺจ กมฺมชรูปสฺส ภงฺคกฺขเณ เอว อุปฺปชฺชติ, ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ อุปปตฺติกฺขเณ, ตสฺมา อาห จุติกฺขเณติอาทิ. รูปทสฺสนเมเวตฺถ สตฺตทสฺสนนฺติ จวมาเนติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตํ. อภิรูเป วิรูเปติปีติ อิทํ วณฺณ-สทฺทสฺส สณฺานวาจกตํ สนฺธาย วุตฺตํ มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวาติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) วิย. สุนฺทรํ คตึ คตา สุคตาติ อาห ‘‘สุคติคเต’’ติ. อิมินา ปน ปเทนาติ ยถากมฺมุปเคติ อิมินา ปเทน.

เนรยิกานํ อคฺคิชาลสตฺถนิปาตาทีหิ วิภินฺนสรีรวณฺณํ ทิสฺวา ตทนนฺตเรหิ กามาวจรชวเนเหว าตํ เตสํ ทุกฺขานุภวนมฺปิ ทสฺสนผลายตฺตตาย ‘‘ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมวา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ มนสิกโรตีติ เตสํ กมฺมสฺส าตุกามตาวเสน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมวเสน กินฺนุ โขติอาทินา มนสิกโรติ. อถสฺส ตํ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา อาวชฺชนปริกมฺมาทีนํ อุปริ อุปฺปนฺเนน รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน สมฺปยุตฺตํ ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ยถากมฺมุปคาณํ นามาติ โยชนา. เทวานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย. วิสุํ ปริกมฺมนฺติ ปุพฺเพนิวาสาทีนํ วิย ทิพฺพจกฺขุาณปริกมฺมํ วินา วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนปริกมฺเมหิ กิจฺจํ นตฺถิ, กินฺนุ โข กมฺมนฺติอาทิมนสิการานนฺตรเมว กมฺมํ. กมฺมสีเสน ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อปฺปนาวีถิ อุปฺปชฺชติ. เอวมนาคตํสาเณปิ, เตเนว วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ…เป… ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตํ น คเหตพฺพํ วสีภูตานมฺปิ อภิฺานํ ปาทกชฺฌานาทิปริกมฺมํ วินา อนุปฺปตฺติโต. ปาทกชฺฌานาทิมตฺเตน จ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม น โหตีติ ทิพฺพจกฺขุนาว เอตานิ าณานิ สิทฺธานีติ คเหตพฺพํ. เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปีติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺสฺส สตฺตสฺส อนาคเต ปวตฺตึ าตุกามตาย ปาทกชฺฌานาทีนมนนฺตรํ าณพลานุรูปํ อนาคเตสุ อเนกกปฺเปสุ อุปฺปชฺชนารเห ปุพฺเพ อตฺตภาวปริยาปนฺเน ปฺจกฺขนฺเธ ตปฺปฏิพทฺเธ ตทารมฺมเณ จ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม สมฺมุติฺจ เอกกฺขเณ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส จตุตฺถชฺฌานสมฺปยุตฺตสฺส อนาคตํสอาณสฺสาปิ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถีติ โยชนา.

เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ วิย นามโคตฺตาทิคหณมฺปิ อตฺเถว, ตฺจ น อภิฺากฺขเณ, อถ โข ตทนนฺตเรสุ กามาวจรชวนกฺขเณสุ เอว โหติ นามปริกปฺปกาเล อิตรปริกปฺปาสมฺภวา กมฺเมนุปฺปตฺติยฺจ ปริยนฺตาภาวา. สพฺพปริกมฺมนิมิตฺเตสุ ปน ธมฺเมสุ อตฺเถสุปิ เอกกฺขเณ อภิฺาย ทิฏฺเสุ ยถารุจิวเสน ปจฺฉา เอวํนาโมติอาทินา กามาวจรจิตฺเตน วิกปฺโป อุปฺปชฺชติ จกฺขุนา ทิฏฺเสุ พหูสุ รูเปสุ ถมฺภกุมฺภาทิวิกปฺโป วิย. ยฺจ กตฺถ อวิกปฺปิตํ, ตมฺปิ วิกปฺปนารหนฺติ สพฺพํ นามโคตฺตาทิโต วิกปฺปิตเมว โหติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยมฺปิ ปริกปฺปารหตมฺปิ สนฺธาย ปาฬิยํ เอวํนาโมติอาทินา อปเทสสหิตเมว วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘นามโคตฺตาทิกํ สพฺพมฺปิ เอกกฺขเณ ปฺายติ, อภิรุจิตํ ปน วจสา โวหรนฺตี’’ติ วทนฺติ, เตปิ อตฺถโต ปุริเมหิ สทิสา เอว, ปุพฺเพ ทิฏฺสฺส ปุน โวหารกาเลปิ ปริกปฺเปตพฺพโต ปริกปฺปารหธมฺมทสฺสนเมว เตหิปิ อตฺถโต อุปคตํ. เอเก ปน ‘‘โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติอาทิวจนโต กเมเนว อตีตานาคตธมฺมชานเนน นามโคตฺตาทีหิ สทฺธึ คหณํ สุกร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตเมว พุทฺธานมฺปิ สพฺพํ าตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย สพฺพฺุตาหานิปฺปสงฺคโต. ปาฬิยํ อิเม วต โภนฺโตติอาทิ ยถากมฺมุปคาณสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. กายวาจาทิ เจตฺถ กายวจีวิฺตฺติโย.

ภาริยนฺติ อานนฺตริยสทิสตฺตา วุตฺตํ. ขมาปเน หิ อสติ อานนฺตริยเมว. ตสฺสาติ ภาริยสภาวสฺส อุปวาทสฺส. มหลฺลโกติ เกวลํ วยสาว มหลฺลโก, น าเณน, ‘‘นายํ กิฺจิ โลกโวหารมตฺตมฺปิ ชานาติ, ปริสทูสโก เอว อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพสฺส กรณโต’’ติ อธิปฺปาเยน หีเฬตฺวา วุตฺตตฺตา คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺพํ. อาวุโสติอาทินา เถโร อุปริมคฺคุปฺปตฺติมสฺส อากงฺขนฺโต กรุณาย อตฺตานมาวิกาสิ. ปากติกํ อโหสีติ มคฺคาวรณํ นาโหสีติ อธิปฺปาโย. อตฺตนา วุฑฺฒตโรติ สยมฺปิ วุฑฺโฒ. เอตฺถาปิ ‘‘อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อนาคามี อรหา จ อายตึ สํวรตฺถาย น ขเมยฺยุํ, เสสา โทเสนปีติ อาห ‘‘สเจ โส น ขมตี’’ติ.

เย จ…เป… สมาทเปนฺติ, เตปิ มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ โยเชตพฺพํ. สีลสมฺปนฺโนติอาทีสุ นิปฺปริยายโต อคฺคมคฺคฏฺโ อธิปฺเปโต ตสฺเสว อฺาราธนา นิยมโต, เสสาปิ วา ปจฺฉิมภวิกา สีลาทีสุ ิตา เตสมฺปิ อฺุปฺปตฺตินิยมโต. อฺนฺติ อรหตฺตผลํ. เอวํ สมฺปทนฺติ เอวํ นิพฺพตฺติกํ. ยถา ตํ อวิรชฺฌนกนิพฺพตฺติกํ, เอวมิทมฺปิ เอตสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนนฺติ อตฺโถ. ยํ สนฺธาย ‘‘เอวํสมฺปทมิท’’นฺติ นิทฺทิฏฺํ, ตํ ทสฺเสตุํ ตํ วาจนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วาจนฺติ อริยูปวาทํ. จิตฺตนฺติ อริยูปวาทกจิตฺตํ. ทิฏฺินฺติ อริยูปวาเท โทสาภาวทสฺสนทิฏฺึ. ‘‘สพฺพเมตํ ปชหิสฺสามี’’ติ จิตฺเตน อจฺจยํ เทเสตฺวา ขมาปนวเสน อปฺปหาย อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา นิรยปาเลหิ อาหริตฺวา นิรเย ปิโต, เอวํ นิรเย ปิโต เอว, อริยูปวาเทเนวสฺส อิทํ นิยเมน นิรเย นิพฺพตฺตนํ ยถา มคฺเคน ผลํ สมฺปชฺชติ, เอวํ สมฺปชฺชนกนฺติ อธิปฺปาโย.

มิจฺฉาทิฏฺิ สพฺพปาปมูลตฺตา ปรมา ปธานา เยสํ วชฺชานํ ตานิ มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ วชฺชานิ, สพฺพวชฺเชหิ มิจฺฉาทิฏฺิเยว ปรมํ วชฺชนฺติ อตฺโถ. อวีตราคสฺส มรณโต ปรํ นาม ภวนฺตรุปาทานเมวาติ อาห ‘‘ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ. เยน ติฏฺติ, ตสฺส อุปจฺเฉเทเนว กาโย ภิชฺชตีติ อาห ‘‘กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา’’ติ. เอติ เอตสฺมา สุขนฺติ อโย, ปุฺํ. อายสฺสาติ อาคมนสฺส, เหตุสฺส วา. อยติ อิฏฺารมฺมณาทีหิ ปวตฺตตีติ อาโย, อสฺสาโท. อสุรสทิสนฺติ เปตาสุรสทิสํ.

อาสวกฺขยาณกถาวณฺณนา

๑๔. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. นิพฺพตฺติกนฺติ นิปฺผาทนํ. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน านํ การณภูตํ อาคมฺม. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺติเหตุํ. กิเลสวเสนาติ เยสํ อาสวานํ เขปเนน อิทํ าณํ อาสวกฺขยาณํ ชาตํ, เตสํ กิเลสานํ วเสน, เตสํ อาสวานํ วเสน สพฺพกิเลสานํ สงฺคหณโต ปริยายโต ปการนฺตรโตติ อตฺโถ. ปาฬิยํ อตีตกาลวเสน ‘‘อพฺภฺาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ตสฺส ชานนสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิทฺเทโส กโต. กามาสวาทีนํ วิมุจฺจเนเนว ตทวินาภาวโต ทิฏฺาสวสฺสาปิ วิมุตฺติ เวทิตพฺพา.

‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานนํ กิเลสกฺขยปจฺจเวกฺขณวเสน, วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติอาทิชานนํ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณวเสน โหตีติ อาห ‘‘ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมิ’’นฺติ. ตตฺถ ภูมินฺติ วิสยํ, ตีสุ กาเลสุปิ ชาติกฺขยํ ปติ อุชุกเมว วายามาสมฺภเวปิ ตํ ปติ วายามกรณสฺส สาตฺถกตํ, ตสฺส อนาคตกฺขนฺธานุปฺปตฺติผลตฺจ ทสฺเสตุํ ยา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตาติอาทินา หิ มคฺเคนาวิหตกิเลเสเหว อายตึ ขนฺธานํ ชาติ เหสฺสติ, เตสฺจ กิเลสานํ มคฺเคน วินาเส สติ ขนฺธา น ชายิสฺสนฺติ, กิเลสานฺจ เตกาลิกตาย ชาติยํ วุตฺตนเยน เกนจิ ปจฺจเยน วินาสโยเคปิ จิตฺตสนฺตาเน กิเลสวิรุทฺธอริยมคฺคกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาโส วิรุทฺธปจฺจโยปนิปาเตน อายตึ อนุปฺปชฺชนโต พีชสนฺตาเน อคฺคิกฺขนฺโธปนิปาเตน อายตึ พีชตฺตานุปฺปตฺติ วิย, อิติ มคฺคกฺขณุปฺปตฺติสงฺขาตกิเลสาภาเวน กิเลสผลานํ ขนฺธานํ อายตึ อนุปฺปตฺติเยว ชาติกฺขโยติ อยมตฺโถ วิภาวียติ, เตนาห ‘‘มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา’’ติ. เอตฺถ จายมตฺโถ กิเลสาภาวสงฺขาตสฺส มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อุปฺปาทิตตฺตา ปจฺจยาภาเวน อนุปฺปชฺชนฺตี ขนฺธานํ ชาติ เตน อายตึ อนุปฺปชฺชนสงฺขาเตน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน โวหารโต ขีณา เม ชาตีติ. น หิ สงฺขตธมฺมานํ ปจฺจยนฺตเรน วินาโส สมฺภวติ, สมฺภเว จ ตสฺส ปจฺจยนฺตรตาทิปฺปสงฺคโต. ตพฺพิรุทฺธกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาสุปฺปาทนํ. นฺติ ขีณชาตึ อพฺภฺาสินฺติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถาย. ทสฺเสนฺโตติ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโตติ.

วิชฺชาตฺตยกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา

๑๕. อฺาณนฺติ ธิ-สทฺทโยเคน สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. ปาทานีติ ปาเท. ยสสาติ ปริวาเรน. โกตูหลจฺฉเรติ โกตูหเล อจฺฉเร จ. อยนฺติ อมิกฺกนฺต-สทฺโท. นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต อถ วาติอาทิมาห. อวิเสเสน อตฺถสามฺเน นิปฺผนฺโน อภิกฺกนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, เทสนาปสาทาทิวิเสสาเปกฺขายปิ ตเถว ติฏฺติ ปุพฺเพ นิปฺผนฺนตฺตาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ…เป… ปสาโท’’ติ. อโธมุขปิตํ เกนจิ. เหฏฺามุขชาตํ สยเมว. ปริยาเยหีติ ปกาเรหิ, อรสรูปตฺตาทิปฏิปาทกการเณหิ วา.

คมุธาตุสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตาภาวา โคตมํ สรณนฺติ อิทํ ปททฺวยมฺปิ น อุปโยควจนํ. อปิ จ โข ปุริมเมว, ปจฺฉิมํ ปน ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘โคตมํ สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ. เตน จ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ทสฺเสติ. อฆสฺสาติ อฆโต ปาปโต. ตาตาติ หิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา นิสฺสกฺกสฺเสว ยุตฺตตฺตา. อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนาปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. วิตฺถาโรติ อิมินา ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตปทํ สงฺคณฺหาติ. อเนชนฺติ นิตฺตณฺหํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธตฺถทีปนโต อวิรุทฺธสุจึ ปณีตํ วา. วาจาย ปคุณีกตฺตพฺพโต, ปกฏฺเหิ สทฺทตฺถคุเณหิ โยคโต วา ปคุณํ. สํหโตติ ฆฏิโต สเมโต . ยตฺถาติ เยสุ ปุริสยุเคสูติ สมฺพนฺโธ. อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เตติ เต อฏฺ ปุคฺคลา อริยธมฺมสฺส ทิฏฺตฺตา ธมฺมทสา.

สรณนฺติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ภยหึสนาทิอตฺเถน รตนตฺตยํ สรณํ นาม, ตเทว เม รตนตฺตยํ ตาณํ เลณํ ปรายณนฺติ พุทฺธสุพุทฺธตาทิคุณวเสน ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ นาม. ยถาวุตฺเตน อิมินา จิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต สรณํ คจฺฉติ นาม. เอตสฺส จ สรณคมนสฺส โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ ปเภโท. ตตฺถ โลกุตฺตรํ สรณคมนูปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน มคฺคกฺขเณเยว สิชฺฌติ. โลกิยสรณคมนํ จตุธา ปวตฺตติ อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส ปริจฺจชามีติอาทินา อตฺตนิยฺยาตเนน, ยถาวุตฺตตปฺปรายณตาย, สิสฺสภาวูปคมเนน, ปณิปาเตน จาติ. สพฺพตฺถาปิ เจตฺถ เสฏฺทกฺขิเณยฺยภาววเสเนว สรณคมนํ โหติ, น าติภยาจริยาทิวเสนาติ เวทิตพฺพํ. เอวํ าติอาทิวเสน ติตฺถิยํ วนฺทโต สรณํ น ภิชฺชติ, ทกฺขิเณยฺยภาเวน อฺํ วนฺทโต สรณํ ภิชฺชติ. โลกิยสฺส สรณคมนสฺส นิพฺพานปฺปตฺตินิยมํ สทิสผลํ สรณคตสฺส อนาคเต นิพฺพานปฺปตฺตินิยมโต. สพฺพโลกิยสมฺปตฺติสมธิคโม ปน อปายทุกฺขาทิสมติกฺกโม จ อานิสํสผลํ. ตีสุ วตฺถูสุ จสฺส สํสยมิจฺฉาาณาทิ สํกิเลโส. เภโทปิสฺส สาวชฺชานวชฺชวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ปโม มิจฺฉาทิฏฺิปุพฺพเกหิ ติตฺถิยปณิปาตาทีหิ โหติ, โส จ อนิฏฺผลตฺตา สาวชฺโช. อนวชฺโช ปน กาลกิริยาย โหติ. โลกุตฺตรสรณคมนสฺส สพฺพถา สํกิเลโส วา เภโท วา นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.

โก อุปาสโกติอาทิ อุปาสกตฺตสรูปการณาทิปุจฺฉา. ตตฺถ โย คหฏฺโ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา วุตฺตนเยน ติสรณํ คโต, อยํ อุปาสโก. โย จ สรณคมนาทิกิริยาย รตนตฺตยํ อุปาสนโต ‘‘อุปาสโก’’ติ วุจฺจติ. ปฺจ เวรมณิโย จสฺส สีลํ. ปฺจมิจฺฉาวาณิชฺชาทิปาปาชีวํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิตกปฺปนมสฺส อาชีโว. อสฺสทฺธิยทุสฺสีลตาทโย อุปาสกตฺตสฺส วิปตฺติ, ตทภาโว สมฺปตฺตีติ เวทิตพฺพา.

วิหารคฺเคนาติ โอวรกาทิวสนฏฺานโกฏฺาเสน. อชฺชภาวนฺติ อสฺมึ อหนิ ปวตฺตํ ปสาทาทึ. กายวิฺตฺติเหตุโก สรีราวยโว กายงฺคํ. วจีวิฺตฺติเหตุกํ โอฏฺชิวฺหาทิ วาจงฺคํ. อโจเปตฺวาติ อจาเลตฺวา. เอเตน จ วจีปวตฺติยา ปุพฺพภาเค านกรณานํ จลนปจฺจโย วาโยธาตุยา วิการากาโร วิสุํ กายวิฺตฺติ น โหติ, เตน วิสุํ วิฺาเปตพฺพสฺส อธิปฺปายสฺส อภาวา วจีวิฺตฺติยเมว สงฺคยฺหติ ตทุปการตฺตา. ยถา กาเยน กายกณฺฑุยนาทีสุ สทฺทุปฺปตฺติเหตุภูโต ปถวีธาตุยา อาการวิกาโร วิสุํ อธิปฺปายสฺส อวิฺาปนโต วจีวิฺตฺติ น โหติ, เอวมยมฺปีติ ทสฺเสติ. อธิปฺปายวิฺาปนโต เหตา วิฺตฺติโย นาม ชาตา, น เกวลํ วายุปถวีนํ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยภูตวิการาการมตฺตตาย. เอวฺจ พหิทฺธา รุกฺขาทีสุ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยานํ ยถาวุตฺตปฺปการานํ วิการาการานํ อวิฺตฺติตา สมตฺถิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. เกจิ วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย อวยวนฺติอาทึ วทนฺติ, ตํ อโจเปตฺวาติ อิมินา น สเมติ. ขนฺตึ จาเรตฺวาติ อนุมตึ ปวตฺเตตฺวา. ‘‘ขนฺตึ ธาเรตฺวา’’ติปิ ปาโ, พหิ อนิกฺขมนวเสน คณฺหิตฺวาติ อตฺโถ. ปฏิมุโขติ ภควติ ปฏินิวตฺตมุโข, เตนาห ‘‘อปกฺกมิตฺวา’’ติ.

๑๖. ยาจธาตุสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ภควา วสฺสาวาสํ ยาจิโต’’ติ วุตฺตํ. สุสสฺสกาเลปีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘อติสมคฺเฆปี’’ติ วุตฺตํ. อติวิย อปฺปคฺเฆปิ ยทา กิฺจิเทว ทตฺวา พหุํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ คณฺหนฺติ, ตาทิเส กาเลปีติ อตฺโถ. ภิกฺขมานาติ ยาจมานา. วุตฺตสสฺสนฺติ วปิตสสฺสํ. ตตฺถาติ เวรฺชายํ, เอเตน ‘‘วุตฺตํ สลากา เอว โหติ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติ วิเสสนสฺส ปรนิปาเตน นิพฺพจนํ ทสฺเสติ. อถ วา ‘‘สพฺพํ สสฺสํ สลากามตฺตเมว วุตฺตํ นิพฺพตฺตํ สมฺปนฺนํ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘สลากา เอว สมฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘สลากาย วุตฺตํ ชีวิกา เอติสฺสนฺติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทสฺเสตุํ สลากาย วาติอาทิ วุตฺตํ. ธฺกรณฏฺาเนติ ธฺมินนฏฺาเน. วณฺณชฺฌกฺขนฺติ กหาปณปริกฺขกํ.

อุฺเฉน ปคฺคเหนาติ เอตฺถ ปคฺคเหนาติ ปตฺเตน, ตํ คเหตฺวาติ อตฺโถ. ปคฺคยฺหติ เอเตน ภิกฺขาติ หิ ปคฺคโห, ปตฺโต. เตนาห ปคฺคเหนโย อุฺโฉติอาทิ. อถ วา ปคฺคเหนาติ คหเณน, อุฺฉตฺถาย คเหตพฺโพ ปตฺโตติ สิชฺฌตีติ อาห ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา’’ติ.

คงฺคาย อุตฺตรทิสาปเทโส อุตฺตราปโถ, โส นิวาโส เอเตสํ, ตโต วา อาคตาติ อุตฺตราปถกา, เตนาห อุตฺตราปถวาสิกาติอาทิ. ‘‘อุตฺตราหกา’’ติปิ ปาโ, โส เอว อตฺโถ นิรุตฺตินเยน. มนฺทิรนฺติ อสฺสสาลํ. ‘‘มนฺทร’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สา จ มนฺทิรา ยสฺมา ปริมณฺฑลากาเรน พหุวิธา จ กตา, ตสฺมา ‘‘อสฺสมณฺฑลิกาโย’’ติ วุตฺตา.

คงฺคาย ทกฺขิณาย ทิสาย เทโส ทกฺขิณาปโถ, ตตฺถ ชาตา มนุสฺสา ทกฺขิณาปถมนุสฺสา. พุทฺธํ มมายนฺติ มเมวายนฺติ คณฺหนสีลา พุทฺธมามกา, เอวํ เสเสสุปิ. เอวนฺติ ปจฺฉา วุตฺตนเยน อตฺเถ คยฺหมาเน. ปฏิวีสนฺติ โกฏฺาสํ. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ ตปฺปโหนกํ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา โน โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ลทฺโธ’’ติ วา ปาโ, อุปฏฺากฏฺานํ เนว ลภินฺติ อตฺโถ. าติ จ ปสตฺถตมคุณโยคโต เสฏฺโ จาติ าติเสฏฺโ. เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว ปติรูโปติ อามิสสฺส ทุลฺลภกาเลสุ ปริกโถภาสาทึ อกตฺวา ปรมสลฺเลขวุตฺติยา อาชีวสุทฺธิยํ ตฺวา ภควโต อธิปฺปายานุคุณํ อามิสํ วิจาเรนฺเตน นาม าติสิเนหยุตฺเตน อริยสาวเกเนว กาตุํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

มาราวฏฺฏนายาติ มาเรน กตจิตฺตปริวฏฺฏเนน, จิตฺตสมฺโมหเนนาติ อตฺโถ. ตมฺปีติ อุตฺตรกุรุํ วา ติทสปุรํ วา อาวฏฺเฏยฺย.

‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยึ;

ยวํ ขาทถ ภุฺชถ, มา จ ภุฺชถ สาลโย’’ติ. (อป. เถร ๑.๓๙.๘๘) –

อปทาเน วุตฺตสฺส อกุสลสฺส ตทา โอกาสกตตฺตา. นิพทฺธทานสฺสาติ ‘‘ทสฺสามา’’ติ วาจาย นิยมิตทานสฺส. อปฺปิตวตฺตสฺสาติ กาเยน อติหริตฺวา ทินฺนวตฺถุโนปิ. วิสหตีติ สกฺโกติ. สงฺเขเปนาติ นีหาเรน. พฺยามปฺปภายาติ สมนฺตโต เหฏฺา จ อุปริ จ อสีติหตฺถมตฺเต าเน ฆนีภูตาย ฉพฺพณฺณาย ปภาย, ยโต ฉพฺพณฺณรํสิโย ตฬากโต มาติกาโย วิย นิกฺขมิตฺวา ทสสุ ทิสาสุ ธาวนฺติ, สา ยสฺมา พฺยามมตฺตา วิย ขายติ, ตสฺมา ‘‘พฺยามปฺปภา’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา อนุพฺยฺชนานิ จ ปจฺเจกํ ภควโต สรีเร ปภาสมฺปตฺติยุตฺตา อากาเส จนฺทสูริยาทโย วิย วิภาตา วิโรจนฺติ, ตสฺมา ตานิ พฺยามปฺปภาย สห เกนจิ อนภิภวนียานิ วุตฺตานิ.

อนตฺถสฺหิเตติ ฆาตาเปกฺขํ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, เตนาห ‘‘ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต’’ติ. อตฺโถ ธมฺมเทสนาย เหตุ อุปฺปชฺชติ เอตฺถ, ธมฺมเทสนาทิโก วา อตฺโถ อุปฺปชฺชติ เอตายาติ อฏฺุปฺปตฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ.

เอกํ คเหตฺวาติ ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทปฺตฺติสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมเทสนาการณํ คเหตฺวา. รตฺติจฺเฉโท วาติ สตฺตาหกรณียวเสน คนฺตฺวา พหิ อรุณุฏฺาปนวเสน วุตฺโต, น วสฺสจฺเฉทวเสน ตสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตา. เอเตน จ วสฺสจฺเฉทปจฺจเย สตฺตาหกรณีเยน คมนํ อนุฺาตนฺติ เวทิตพฺพํ. น กิสฺมิฺจีติ กิสฺมิฺจิ คุเณ สมฺภาวนาวเสน น มฺนฺติ. ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามาติ อาชีวเหตุ สนฺตคุณปฺปกาสเนน อาชีววิปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อติมฺิสฺสตีติ อวมฺิสฺสติ.

๑๗. ‘‘อายสฺมาติ ปิยวจนเมต’’นฺติ อุจฺจนีจชนสามฺวเสน วตฺวา ปุน อุจฺจชนาเวณิกวเสเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจน’’นฺติ อาห. ตตฺถ สห ปติสฺสเยน นิสฺสเยนาติ สปฺปติสฺโส, สนิสฺสโย, ตสฺส ครุคุณยุตฺเตสุ คารววจนนฺติ อตฺโถ. อิธ ปน วจนเมว อธิวจนํ. ปปฺปฏโกชนฺติ อาทิกปฺเป อุทกูปริ ปมํ ปถวีภาเวน สฺชาตํ นวนีตปิณฺฑสทิสํ อุทเกปิ อุปฺปิลนสภาวํ อวิลียนกํ อติสินิทฺธมธุรํ อเนกโยชนสหสฺสพหลํ รสาตลสงฺขาตํ ปถโวชํ. ยํ อาทิกปฺปิเกหิ มนุสฺเสหิ รสตณฺหาย คเหตฺวา ภุฺชมานํ เตสํ กมฺมพเลน อุปริภาเค กกฺขฬภาวํ อาปชฺชิตฺวา เหฏฺา ปุริมากาเรเนว ิตํ, ยสฺส จ พเลน อยํ มหาปถวี สปพฺพตสมุทฺทกานนา เหฏฺาอุทเก อนิมุชฺชมานา อวิกิริยมานา กุลฺลุปริ วิย นิจฺจลา ติฏฺติ, ตํ ปถวีสารมณฺฑนฺติ อตฺโถ, เตนาห ปถวีมณฺโฑติอาทิ. สมฺปนฺนนฺติ มธุรรเสน อุเปตํ, เตนาห ‘‘สาทุรส’’นฺติ. อุปปนฺนผโลติ พหุผโล. ‘‘นิมฺมกฺขิก’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘นิมฺมกฺขิกณฺฑ’’นฺติ มกฺขิกณฺฑานมฺปิ อภาวํ ทสฺเสติ. เย ปถวีนิสฺสิตา ปาณา, เต ตตฺถ สงฺกาเมสฺสามีติ เอตฺถ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนมฺปิ หตฺถสงฺกามเน กึ อนามาสโทโส น โหตีติ? น โหติ, กสฺมา? ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) วจนโต, เตเนว ภควาปิ อนามาสโทสํ อทสฺเสตฺวา ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติ อาห, ขุทฺทโก คาโม. มหนฺโต สาปโณ นิคโม. ปทวีติหาเรนาติ ปทนิกฺเขเปน.

วินยปฺตฺติยาจนกถาวณฺณนา

๑๘. วินยปฺตฺติยามูลโต ปภุตีติ ปาราชิกาทิครุกานํ, ตทฺเสฺจ สิกฺขาปทานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมน เยภุยฺเยน อปฺตฺตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺเพน สพฺพํ อปฺตฺตตาย. เตเนว เถโร ภควนฺตํ ‘‘สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย อุทฺทิเสยฺย ปาติโมกฺข’’นฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน สห สิกฺขาปทปฺตฺตึ ยาจิ. ขนฺธเก หิ อานนฺทตฺเถราทีนํ ปพฺพชฺชโต ปุเรตรเมว ราหุลภทฺทสฺส ปพฺพชฺชาย ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๕) ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ทิสฺสติ. อิเธว อฏฺกถายมฺปิ ‘‘สามมฺปิ ปจนํ…เป… น วฏฺฏตี’’ติ จ, ‘‘รตฺติจฺเฉโท วสฺสจฺเฉโท วา น กโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา ปุพฺเพว สามปากาทิปฏิกฺเขโป อตฺถีติ ปฺายติ. เอวํ กติปยสิกฺขาปทานํ ปฺตฺติสพฺภาเวปิ อปฺตฺตปาราชิกาทิเก สนฺธาย ‘‘น ตาว, สาริปุตฺต, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตี’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ปุถุตฺตารมฺมณโต ปฏินิวตฺติตฺวา สมฺมเทว เอการมฺมเณ จิตฺเตน ลีโน ปฏิสลฺลีโน นามาติ อาห ‘‘เอกีภาวํ คตสฺสา’’ติ, จิตฺตวิเวกํ คตสฺสาติ อตฺโถ. จิรนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ.

โสฬสวิธาย ปฺายาติ มชฺฌิมนิกาเย อนุปทสุตฺตนฺตเทสนายํ ‘‘มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ’’ติ อาคตา ฉ ปฺา จ นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา จ อรหตฺตมคฺคปฺา จาติ เอวํ โสฬสวิเธน อาคตาย ปฺาย. เยสํ พุทฺธานํ สาวกา สุทฺธาวาเสสุ สนฺทิสฺสนฺติ, เตเยว โลเก ปากฏาติ วิปสฺสีอาทโยว อิธ อุทฺธฏา, น อิตเร ปุพฺพพุทฺธา. เตเนว อาฏานาฏิยสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) เทวาปิ อตฺตโน ปากฏานํ เตสฺเว คหณํ อกํสุ, นาฺเสนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๙. กิลาสุโนติ อปฺโปสฺสุกฺกา ปโยชนาภาเวน นิรุสฺสาหา อเหสุํ, น อาลสิเยน, เตนาห น อาลสิยกิลาสุโนติอาทิ. นิทฺโทสตายาติ กายวจีวีติกฺกมสมุฏฺาปกโทสาภาวา. ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเยติอาทินา (สุ. นิ. ๔๐๒) โอวาทสิกฺขาปทานํ วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสนาติอาทิ. ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอสานทิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สกึ สกิ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตทเปกฺขเมตฺถ สามิวจนํ. สกลชมฺพุทีเป สพฺโพปิ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถํ อกาสีติ สมฺพนฺโธ.

ขนฺตีปรมนฺติอาทีสุ ติติกฺขาสงฺขาตา ขนฺติ สตฺตสงฺขาเรหิ นิพฺพตฺตานิฏฺาขมนกิเลสตปนโต ปรมํ ตโป นาม. วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ สพฺพธมฺเมหิ ปรมํ อุตฺตมนฺติ พุทฺธา วทนฺติ. ยถาวุตฺตขนฺติยา อภาเวน ปาณวธํ วา เฉทนตาฬนาทึ วา กโรนฺโต ปรูปฆาตี ปรสฺสหรณปรทาราติกฺกมนาทีหิ มุสาเปสุฺผรุสาทีหิ จ ปรํ วิเหยนฺโต จ พาหิตปาปตาย อภาเวน ปพฺพชิโต วา สมิตปาปตาย อภาเวน สมโณ วา น โหตีติ อตฺโถ. สีลสํวเรน สพฺพปาปสฺส อนุปฺปาทนํ โลกิยสมาธิวิปสฺสนาหิ กุสลสฺส อุปสมฺปาทนํ นิปฺผาทนํ สพฺเพหิ มคฺคผเลหิ อตฺตโน จิตฺตสฺส ปริโสธนํ ปภสฺสรภาวกรณํ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสิฏฺิ. อนุปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํ. อนุปฆาโตติ กาเยน กสฺสจิ อุปฆาตากรณํ วุตฺตาวเสเส จ ปาติโมกฺขสงฺขาเต สีเล อตฺตานํ สํวรณํ. ภตฺตสฺมึ มตฺตฺุตาสงฺขาตอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสมาโยโค ตมฺมุเขน อินฺทฺริยสํวโร ปนฺตเสนาสนสงฺขาตํ อรฺวาสํ ตมฺมุเขน ปกาสิเต จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาสงฺขาตมหาอริยวํเส ปติฏฺานฺจ อธิจิตฺตสงฺขาเต โลกิยโลกุตฺตรสมาธิมฺหิ ตทุปฺปาทนวเสน อาโยโค อนุโยโค จ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ อนุสิฏฺีติ โยชนา.

‘‘ยาว สาสนปริยนฺตา’’ติ อาณาปาติโมกฺขสฺส อภาวโต วุตฺตํ. ปรินิพฺพานโต ปน อุทฺธํ โอวาทปาติโมกฺขุทฺเทโสปิ นตฺเถว, พุทฺธา เอว หิ ตํ อุทฺทิสนฺติ, น สาวกา. ปมโพธิยนฺติ โพธิโต วีสติวสฺสปริจฺฉินฺเน กาเล, อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปฺจจตฺตาลีสาย วสฺเสสุ อาทิโต ปนฺนรส วสฺสานิ ปมโพธี’’ติ วุตฺตํ, สิกฺขาปทปฺตฺติกอาลโต ปน ปภุติ อาณาปาติโมกฺขเมว อุทฺทิสนฺตีติ อิทํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมเนว ปริปุณฺณํ กตฺวา สิกฺขาปทปฺตฺติกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺานํ อนวกาโสติ ยถากฺกมํ เหตุปจฺจยปฏิกฺเขปวเสน การณปฏิกฺเขโป. นฺติ เยน การเณน. อปริสุทฺธาย ปริสายาติ อลชฺชีปุคฺคเลหิ โวมิสฺสตาย อสุทฺธาย ปริสาย, น เกวลํ พุทฺธานฺเว อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขุทฺเทโส อยุตฺโต, อถ โข สาวกานมฺปิ. โจทนาสารณาทิวเสน ปน โสเธตฺวา สํวาสกรณํ สาวกานฺเว ภาโร, พุทฺธา ปน สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวา อุโปสถาทิกรณวิธานํ สิกฺขาเปตฺวา วิสฺสชฺเชนฺติ, โจทนาสารณาทีนิ น กโรนฺติ, เตเนว ภควา อสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อนุทฺทิสิตฺวา สกลรตฺตึ ตุณฺหีภูโต นิสีทิ. ภิกฺขู จ ภควโต อธิปฺปายํ ตฺวา อสุทฺธปุคฺคลํ พหิ นีหรึสุ. ตสฺมา สาวกานมฺปิ อสุทฺธาย ปริสาย ตฺวา อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรณํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกรณํ วินา น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.

สมฺมุขสาวกานนฺติ พุทฺธานํ สมฺมุเข ธรมานกาเล ปพฺพชิตานํ สพฺพนฺติมานํ สาวกานํ. อุฬาราติสยโชตนตฺถํ ‘‘อุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วา’’ติ ปุน อุฬารสทฺทคฺคหณํ กตํ. อาทิ-สทฺเทน อุฬารมชฺฌตฺตอนุฬาราทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เต ปจฺฉิมา สาวกา อนฺตรธาเปสุนฺติ สมฺพนฺโธ.

อปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ยทิ สาวกา สมานชาติอาทิกา สิยุํ, อตฺตโน กุลานุคตคนฺถํ วิย ภควโต วจนํ น นาเสยฺยุํ. ยสฺมา ปน สิกฺขาปทฺจ น ปฺตฺตํ, อิเม จ ภิกฺขู น สมานชาติอาทิกา, ตสฺมา วินาเสสุนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา เอกนามา…เป… ตสฺมา อฺมฺํ วิเหเนฺตาติอาทิ วุตฺตํ. จิรฏฺิติกวาเร ปน สาวกานํ นานาชจฺจาทิภาเว สมาเนปิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา ปริปุณฺณตาย สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยทิ เอวํ กสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สิกฺขาปทานิ น ปฺเปนฺตีติ? ยสฺมา จ สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา น เกวลํ สิกฺขาปทปฺตฺติเยว เหตุ, อถ โข อายตึ ธมฺมวินยํ คเหตฺวา สาวเกหิ วิเนตพฺพปุคฺคลานํ สมฺภโวปิ, ตสฺมา เตสํ สมฺภเว สติ พุทฺธา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ, นาสตีติ ปริปุณฺณาปฺตฺติเยว เวเนยฺยสมฺภวสฺสาปิ สูจนโต สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา เหตุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆํ…เป… โอวทตีติ เอตฺถ สหสฺสสงฺขฺยาปริจฺฉินฺโน สงฺโฆ สหสฺโส สหสฺสิโลกธาตูติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๘) วิย. ตํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆนฺติ โยชนา. สหสฺสสทฺทสฺส เอกวจนนฺตตาย ‘‘ภิกฺขุสหสฺสสฺสา’’ติ วตฺวา อวยวาเปกฺขาย ‘‘โอวทิยมานาน’’นฺติ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺโพ.

อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ เอตฺถ อาสเวหีติ กตฺตุอตฺเถ กรณวจนํ. จิตฺตานีติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. ตสฺมา อาสเวหิ กตฺตุภูเตหิ อนุปาทาย อารมฺมณกรณวเสน อคฺคเหตฺวา จิตฺตานิ วิโมจิตานีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห เตสฺหิ จิตฺตานีติอาทิ. เยหิ อาสเวหีติ เอตฺถาปิ กตฺตุอตฺเถ เอว กรณวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. เตติ อาสวา. ตานีติ จิตฺตานิ, อุปโยคพหุวจนฺเจตํ. วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ, วิโมเจสุนฺติ อตฺโถ. อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสูติ อารมฺมณวเสน ตานิ จิตฺตานิ อคฺคเหตฺวา อาสวา เตหิ จิตฺเตหิ มุตฺตวนฺโต อเหสุนฺติ อตฺโถ. อถ วา อาสเวหีติ นิสฺสกฺกวจนํ, วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ. ตสฺมา กฺจิ สงฺขตธมฺมํ ตณฺหาทิวเสน อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตานิ วิมุตฺตวนฺตานิ อเหสุนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุริมวจนาเปกฺขนฺติ อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑติ วุตฺตวจนสฺส อเปกฺขนํ ตสฺมึ ปุริมวจเนติ เอวํ อเปกฺขนนฺติ อตฺโถ, เตนาห ยํ วุตฺตนฺติอาทิ. ภึสนสฺส ภยสฺส กตํ กรณํ กิริยา ภึสนกตํ, ตสฺมึ ภึสนกิริยายาติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภึสนกิริยายา’’ติ. ภึสยตีติ ภึสโน, โสว ภึสนโก, ตสฺส ภาโว ‘‘ภึสนกตฺต’’นฺติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ปการนฺตเรน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. พหุตรานํ สตฺตานํ วาติ เยภุยฺเยนาติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ. เตน จ โย โกจีติ ปทสฺสาปิ โย โย ปวิสตีติ วิจฺฉาวเสน นานตฺเถน อตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ, โย โย ปวิสติ, เตสุ พหุตรานนฺติ อตฺถสมฺภวโต.

นิคมนนฺติ ปกเต อตฺเถ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุปสํหาโร. อยฺเหตฺถ นิคมนกฺกโม – ยา หิ, สาริปุตฺต, วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ อตฺตโน ปรินิพฺพานโต อุปริ ปริยตฺติวเสน วิเนตพฺพานํ ปุคฺคลานํ อภาเวน เตสํ อตฺถาย วิตฺถารโต สิกฺขาปทปฺตฺติยํ กิลาสุตา อปฺโปสฺสุกฺกตา, ยา จ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ เวเนยฺยานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ภึสนกวนสณฺเฑปิ คนฺตฺวา โอวทนฺตานํ เตสํ มคฺคผลุปฺปาทนตฺถาย ธมฺมเทสนาย เอว อกิลาสุตา สอุสฺสาหตา, น วิตฺถารโต ธมฺมวินยเทสนาย, อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสีติ. ปุริสยุควเสนาติ ปุริสานํ ยุคํ ปวตฺติกาโล, ตสฺส วเสน, ปุริสวเสนาติ อตฺโถ. สพฺพปจฺฉิมโกติ ปรินิพฺพานทิวเส ปพฺพชิโต สุภทฺทสทิโส. สตสหสฺสํ สฏฺิมตฺตานิ จ วสฺสสหสฺสานีติ อิทํ ภควโต ชาติโต ปฏฺาย วุตฺตํ, โพธิโต ปฏฺาย ปน คณิยมานํ อูนํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺเวเยวาติ ธรมาเน ภควติ เอกํ, ปรินิพฺพุเต เอกนฺติ ทฺเว เอว ปุริสยุคานิ.

๒๐-๑. อสมฺภุณนฺเตนาติ อปาปุณนฺเตน. โก อนุสนฺธีติ ปุริมกถาย อิมสฺส โก สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. ยํ วุตฺตนฺติ ยํ ยาจิตนฺติ อตฺโถ. เยสูติ วีติกฺกมธมฺเมสุ. เนสนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทิอาสวานํ. เตติ วีติกฺกมธมฺมา. าติเยว ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวฏฺฏนโต ปริวฏฺโฏติ าติปริวฏฺโฏ. โลกามิสภูตนฺติ โลกปริยาปนฺนํ หุตฺวา กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต โลกามิสภูตํ. ปพฺพชฺชาสงฺเขเปเนวาติ ทสสิกฺขาปททานาทิปพฺพชฺชามุเขน. เอตนฺติ เมถุนาทีนํ อกรณํ. ถามนฺติ สิกฺขาปทปฺาปนสามตฺถิยํ. สฺฉวินฺติ สุกฺกจฺฉวึ ปกติจฺฉวึ, สุนฺทรจฺฉวึ วา. เสสนฺติ เสสปทโยชนทสฺสนํ. อิทานิ อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต อาห อยํ วา เหตฺถาติอาทิ. ตตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ, อยเมว เหตฺถาติ อตฺโถ. อถ สตฺถาติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตทา สตฺถา’’ติ. โรเปตฺวาติ ผาลิตฏฺาเน นินฺนํ มํสํ สมํ วฑฺเฒตฺวา. สเก อาจริยเกติ อตฺตโน อาจริยภาเว, อาจริยกมฺเม วา.

วิปุลภาเวนาติ พหุภาเวน. อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานาติ อนุปาเยน อภินิวิสมานา, วิปรีตโต ชานมานาติ อตฺโถ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ อนวชฺชสภาเวน สาวชฺชสภาวํ สมฺมิสฺเสตฺวา. อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยนฺติ อุคฺคตธมฺมํ อุคฺคตวินยฺจ, ยถา ธมฺโม จ วินโย จ วินสฺสิสฺสติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ สงฺฆาธิกาเร. ปภสฺสโรติ ปภาสนสีโล. เอวํนาโม เอวํโคตฺโตติ โสยมายสฺมา โสตาปนฺโนตินามโคตฺเตน สมนฺนาคโต, อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโนติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อวินิปาตธมฺโมติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท สภาววาจี, โส จ อตฺถโต อปาเยสุ ขิปนโก ทิฏฺิอาทิอกุสลธมฺโม เอวาติ อาห ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทิ. อิทานิ สภาววเสเนว อตฺถํ ทสฺเสตุํ วินิปตนํ วาติอาทิ วุตฺตํ. นิยโตติ สตฺตภวพฺภนฺตเร นิยตกฺขนฺธปรินิพฺพาโน. ตสฺส การณมาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

๒๒. อนุธมฺมตาติ โลกุตฺตรธมฺมานุคโต สภาโว. ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวาติ ‘‘อาคามินิยา ปุณฺณมิยา ปวาเรสฺสามา’’ติ อนุมติทานวเสน ทตฺวา, ปวารณํ อุกฺกฑฺฒิตฺวาติ อตฺโถ, เอเตน นเยน เกนจิ ปจฺจเยน ปวารณุกฺกฑฺฒนํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. มาคสิรสฺส ปมทิวเสติ จนฺทมาสวเสน วุตฺตํ, อปรกตฺติกปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเสติ อตฺโถ. ผุสฺสมาสสฺส ปมทิวเสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ เวเนยฺยานํ อปริปากํ ปฏิจฺจ ผุสฺสมาสโต ปรฺจ เอกทฺวิติจตุมาสมฺปิ ตตฺเถว วสิตฺวา เสสมาเสหิ จาริกาย ปริโยสาปนโต. ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ อิทํ เทวพฺรหฺมานํ วเสน วุตฺตํ. มนุสฺสา ปน อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ โพธเนยฺยา โหนฺติ. อิตรจกฺกวาเฬสุ ปน มนุสฺสานํ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ อุปฺปตฺติยา ฉนฺทุปฺปาทนตฺถํ อนนฺตมฺปิ จกฺกวาฬํ โอโลเกตฺวา ตทนุคุณานุสาสนี ปาฏิหาริยํ กโรนฺติเยว.

อายามาติ เอตฺถ อา-สทฺโท อาคจฺฉาติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘อาคจฺฉ ยามา’’ติ, เอหิ คจฺฉามาติ อตฺโถ. สุวณฺณรสปิฺชราหีติ วิลีนสุวณฺณชลํ วิย ปิฺชราหิ สุวณฺณวณฺณาหีติ อตฺโถ. ปาฬิยํ นิมนฺติตมฺหาติอาทีสุ ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อมฺหา’’ติ จ, ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อตฺถา’’ติ จ สมฺพนฺโธ.

นฺติ เทยฺยธมฺมชาตํ, ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. โน นตฺถีติ อมฺหากํ นตฺถิ, โนติ วา เอตสฺส วิวรณํ นตฺถีติ. เอตฺถาติ ฆราวาเส. นฺติ ตํ การณํ, กิจฺจํ วา. กุโตติ กตรเหตุโต. นฺติ เยน การเณน, กิจฺเจน วา. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป เอตฺถาติ อิมสฺส วิวรณํ อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเรติ. นฺติ ตํ เทยฺยธมฺมํ.

ตตฺถจาติ กุสเล. ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน สมุตฺเตเชตฺวา. วสฺเสตฺวาติ อายตึ วาสนาภาคิยํ ธมฺมรตนวสฺสํ โอตาเรตฺวา. ยํ ทิวสนฺติ ยสฺมึ ทิวเส.

๒๓. ปตฺตุณฺณปตฺตปเฏ จาติ ปตฺตุณฺณปเฏ จีนปเฏ จ. ตุมฺพานีติ จมฺมมยเตลภาชนานิ. อนุพนฺธิตฺวาติ อนุปคมนํ กตฺวา. อภิรนฺต-สทฺโท อิธ อภิรุจิปริยาโยติ อาห ‘‘ยถาชฺฌาสย’’นฺติอาทิ. โสเรยฺยาทีนิ มหามณฺฑลจาริกาย มคฺคภูตานิ โสเรยฺยนคราทีนิ. ปยาคปติฏฺานนฺติ คงฺคาย เอกสฺส ติตฺถวิเสสสฺสาปิ, ตํสมีเป คามสฺสาปิ นามํ. สมนฺตปาสาทิกายาติ สมนฺตโต สพฺพโส ปสาทํ ชเนตีติ สมนฺตปาสาทิกา, ตสฺสา.

เย ปน ปกาเร สนฺธาย ‘‘สมนฺตโต’’ติ วุจฺจติ, เต ปกาเร วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺริทนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สมนฺตปาสาทิกา’’ติ ยา สํวณฺณนา วุตฺตา, ตตฺร ตสฺสํ สมนฺตปาสาทิกายํ สมนฺตปสาทิกภาเว อิทํ วกฺขมานคาถาวจนํ โหตีติ โยชนา. พาหิรนิทานอพฺภนฺตรนิทานสิกฺขาปทนิทานานํ วเสน นิทานปฺปเภททีปนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เถรวาทปฺปกาสนํ วตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘สิกฺขาปทานํ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สิกฺขาปทนิทานนฺติ ปน เวสาลีอาทิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา การณภูตเทสวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ สมนฺตปาสาทิกาย. สมฺปสฺสตํ วิฺูนนฺติ สมฺพนฺโธ, ตสฺมา อยํ สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว ปวตฺตาติ โยเชตพฺพา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ

เวรฺชกณฺฑวณฺณนานโย นิฏฺิโต.