📜

๑. ปาราชิกกณฺฑํ

๑. อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๖. ภิกฺขุนีวิภงฺเค มิคารมาตุยาติ มิคารมาตุ, วิสาขายาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ‘‘เอหิ ภิกฺขุนีติ ภิกฺขุนี, ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี’’ติ อิทํ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา สมทสฺสนตฺถํ อฏฺครุธมฺมปฺปฏิคฺคหเณน ลทฺธูปสมฺปทํ มหาปชาปติโคตมิฺเจว ตาย สห นิกฺขนฺตา ภควโต อาณาย ภิกฺขูนฺเว สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนา ปฺจสตสากิยานิโย จ สนฺธาย วุตฺตํ. ตา หิ ภควตา อานนฺทตฺเถรสฺส ยาจนาย ปพฺพชฺชํ อนุชานนฺเตน ‘‘เอถ ภิกฺขุนิโย, มม สาสเน ตุมฺเหปิ ปวิสถา’’ติ วุตฺตา วิย ชาตา. สากิยานิโย เอว สรณสีลานิ ทตฺวา กมฺมวาจาย อุปสมฺปาทิตตฺตา ‘‘ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนา’’ติ วุตฺตา. น หิ เอตาหิ อฺา เอหิภิกฺขุนิภาวาทินา อุปสมฺปนฺนา นาม สนฺติ. ยํ ปน เถรีคาถาสุ ภทฺทาย กุณฺฑลเกสิยา

‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;

‘เอหิ ภทฺเท’ติ มํ อโวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติ. (เถรีคา. ๑๐๙) –

วุตฺตํ. ยฺจ อปทาเนปิ –

‘‘อายาจิโต ตทา อาห, ‘เอหิ ภทฺเท’ติ นายโก;

ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทส’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๔๔) –

วุตฺตํ. ตมฺปิ ‘‘เอหิ ตฺวํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อุปสมฺปทฺจ คณฺหาหี’’ติ ภควโต อาณา อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อโหสีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ เถรีคาถาฏฺกถายํ ‘‘เอหิ ภทฺเท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺช อุปสมฺปชฺชสฺสูติ มํ อวจ อาณาเปสิ, สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสี’’ติ (เถรีคา. อฏฺ. ๑๑๑).

๖๕๗. สาธารณปาราชิเกหีติ เมถุนาทีหิ จตูหิ. ตานิ, ปน อฺานิ จ สาธารณสิกฺขาปทานิ ยสฺมา ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนิทานวตฺถาทีสุ เอว สาธารณวเสน ปฺตฺตานิ, ปจฺฉา ปน ตานิ ภิกฺขุนีนํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ อนุชานนฺเตน ภควตา ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานาภาเวน ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติอาทินา ตทนุรูปวเสน ปริวตฺเตตฺวา อสาธารณสิกฺขาปเทหิ สทฺธึ สํสนฺเทตฺวา ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสวเสน เอกโต สงฺคหิตานิ. ยสฺมา จ เนสํ ภิกฺขุวิภงฺเค (ปารา. ๔๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สพฺโพปิ วินิจฺฉโย สกฺกา าตุํ, ตสฺมา ตานิ วชฺเชตฺวา อสาธารณานํ เอว อิธ วิภงฺโค วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

๖๕๙. ภิกฺขูนํ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมาปชฺเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภิกฺขุ อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ตพฺพหุลนเยนาติ กิริยาสมุฏฺานสฺเสว พหุลภาวโต, เอเตน อกิริยาสมุฏฺานาปิ อยํ อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ. กิฺจาปิ ทสฺเสติ, มยํ ปเนตฺถ เอวํ ตกฺกยาม ‘‘กายสํสคฺคกฺขเณ สาทิยนฺติยา กิริยาย อภาเวปิ ตโต ปุพฺเพ ปวตฺติตานํ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานคมนอิงฺคิตาการทสฺสนาทิกิริยานํ วเสเนว กิริยาสมอุฏฺานเมว, ปเรหิ มคฺเค กริยมานุปกฺกเมน นิจฺจลสฺส สาทิยโต สุกฺกวิสฺสฏฺิ วิย ปุพฺพปโยคาภาเวปิ วา ตสฺมิฺเว ขเณ ปรูปกฺกเมน ชนิยมานาย อตฺตโน กายจลนาทิสงฺขาตาย กิริยาย, สา หิ สาทิยมาเนน ตสฺสา จิตฺเตนาปิ สมุฏฺิตา กิริยา นาม โหติ อวายมิตฺวา ปรูปกฺกเมน เมถุนสาทิยเน วิย, ภิกฺขูนํ ปน ปรูปกฺกมชนิตํ กิริยํ อพฺโพหาริกํ กตฺวา อตฺตนา กริยมานปโยควเสเนว ‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’ติ เอวํ วิเสเสตฺวาว สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา สาทิยมาเนปิ น โทโส. อิตรถา หิ ตพฺพหุลนเยเนตฺถ กิริยตฺเต คยฺหมาเน อฺเสมฺปิ กิริยากิริยสิกฺขาปทานํ กิริยตฺตคฺคหณปฺปสงฺโค สิยา’’ติ. ตสฺมา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. สาติ กิริยาสมุฏฺานตา. ตเถวาติ กายสํสคฺคราคี เอว.

อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วชฺชปฏิจฺฉาทิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๖๖. ทุติเย ปุริเมนาติอาทิ สุนฺทรีนนฺทาย วชฺชปฏิจฺฉาทเน ปฺตฺตตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อฏฺนฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา วชฺชปฏิจฺฉาทนสฺสาปิ ปฏิจฺฉาทเน ปาราชิกเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต’’ติ วุตฺตตฺตา ปณฺณตฺตึ อชานนฺติยาปิ ‘‘อิทํ วชฺชํ น ปกาเสสฺสามี’’ติ ฉนฺเทน ธุรํ นิกฺเขปกฺขเณ ปาราชิกนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตํ ปน ปฏิจฺฉาทนํ ยสฺมา ‘‘เปสลา ตฺวา ครหิสฺสนฺตี’’ติ ภเยเนว โหติ, ภยฺจ โกธจิตฺตสมฺปยุตฺตํ, ตสฺมา อิทํ ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๓.๖๖๖) ‘‘กิฺจาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทนํ เปมวเสน โหติ, ตถาปิ สิกฺขาปทวีติกฺกมจิตฺตํ โทมนสฺสิตเมว โหตี’’ติ เอวํ ปณฺณตฺติวีติกฺกมจิตฺเตเนว ฉาทนํ โทมนสฺสตฺเต การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ ปณฺณตฺติวิชานนํ วินาปิ อาปชฺชิตพฺพโตว.

วชฺชปฏิจฺฉาทิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖๖๙. ตติยํ อุตฺตานเมว.

๔. อฏฺวตฺถุกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๗๕. จตุตฺเถ โลกสฺสาทสงฺขาตํ มิตฺเตหิ อฺมฺํ กาตพฺพํ สนฺถวํ. วุตฺตเมวตฺถํ ปริยายนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ วุตฺตํ.

ติสฺสิตฺถิโย เมถุนํ ตํ น เสเวติ ยา ติสฺโส อิตฺถิโย, ตาสุ วุตฺตํ ตํ เมถุนํ น เสเวยฺย. อนริยปณฺฑเกติ ตโย อนริเย, ตโย ปณฺฑเก จ อุปสงฺกมิตฺวา เมถุนํ น เสเวติ อตฺโถ. อนริยาติ เจตฺถ อุภโตพฺยฺชนกา อธิปฺเปตา. พฺยฺชนสฺมินฺติ อตฺตโน วจฺจมุขมคฺเคปิ. เฉโท เอว เฉชฺชํ, ปาราชิกํ.

วณฺณาวณฺโณติ ทฺวีหิ สุกฺกวิสฺสฏฺิ วุตฺตา. คมนุปฺปาทนนฺติ สฺจริตฺตํ. ‘‘เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปจฺจโย โหตี’’ติ อิมินา การิโยปจาเรน กายสํสคฺโค เมถุนธมฺโมติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. สพฺพปเทสูติ สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณาทิปเทสุ. กายสํสคฺคราโค, สอุสฺสาหตา, อฏฺมวตฺถุสฺส ปูรณนฺติ ตีเณตฺถ องฺคานิ.

อฏฺวตฺถุกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.