📜
๓. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ
๒. ทุติยนิสฺสคฺคิยาทิปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๓๓. นิสฺสคฺคิเยสุปิ ¶ ¶ ปมํ อุตฺตานเมว.
๗๔๐. ทุติเย อยฺยาย ทมฺมีติ เอวํ ปฏิลทฺธนฺติ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ, นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาปิ ยํ อุทฺทิสฺส ทายเกหิ ทินฺนํ, ตตฺเถว ทาตพฺพํ. เตนาห ‘‘ยถาทาเนเยว อุปเนตพฺพ’’นฺติ. อกาลจีวรตา, ตํ ตฺวา กาลจีวรนฺติ เลเสน ภาชาปนํ, ปฏิลาโภติ ตีณิ องฺคานิ.
๗๔๓. ตติเย เมตนฺติ มเมเวตํ จีวรํ. อุปสมฺปนฺนตา, ปริวตฺติตวิกปฺปนุปคจีวรสฺส สกสฺาย อจฺฉินฺทนาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
๗๔๘-๗๕๒. จตุตฺเถ อาหฏสปฺปึ ทตฺวาติ อตฺตโน ทตฺวา. ยมกํ ปจิตพฺพนฺติ สปฺปิฺจ เตลฺจ เอกโต ปจิตพฺพํ. เลเสน คเหตุกามตา, อฺสฺส วิฺตฺติ, ปฏิลาโภติ ตีณิ องฺคานิ.
๗๕๓. ปฺจเม สาติ ถุลฺลนนฺทา. อยนฺติ สิกฺขมานา. เจตาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวาติ อิธ วุตฺตํ, มาติกาฏฺกถายํ ปน ‘‘อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘อิทํ นาม อาหรา’ติ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อฺเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ.
๗๕๘. ฉฏฺเ ปาวาริกสฺสาติ ทุสฺสวาณิชกสฺส.
๗๖๔. สตฺตเม ¶ สฺาจิตเกนาติ สยํ ยาจิตเกนปีติ อตฺโถ.
๗๖๙-๗๘๙. อฏฺมโต ยาวทฺวาทสมา อุตฺตานเมว.
นิสฺสคฺคิยวณฺณนานโย นิฏฺิโต.