📜
๔. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. ลสุณวคฺโค
๑. ปมลสุณาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๙๗. ปาจิตฺติเยสุ ¶ ¶ ลสุณวคฺคสฺส ปเม พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา เตหิ กตฺตพฺพพฺยฺชนวิกติ. อามกมาคธลสุณฺเจว, อชฺโฌหรณฺจาติ ทฺเว องฺคานิ.
๗๙๙-๘๑๒. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ.
๘๑๕. ฉฏฺเ ปาฬิยํ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา.
๘๑๗. ทธิมตฺถูติ ทธิมฺหิ ปสนฺโนทกํ. รสขีราทีนนฺติ มํสรสขีราทีนํ. ภฺุชนฺตสฺส ภิกฺขุโน หตฺถปาเส านํ, ปานียสฺส วา วิธูปนสฺส วา คหณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๒๒. สตฺตเม อวิฺตฺติยา ลทฺธนฺติ อตฺตโน วิฺตฺตึ วินา ลทฺธํ. ปุพฺพาปรวิรุทฺธนฺติ สยํ กรเณ ปาจิตฺติยนฺติ อิทํ การาปเน ทุกฺกฏวจเนน วิรุชฺฌนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ, ‘‘อวิฺตฺติยา ลทฺธ’’นฺติอาทิวจเนน วา วิรุชฺฌนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺาย วิฺตฺติปิ หิ อิมิสฺสา อวิฺตฺติยา ลทฺธเมวาติ. อามกธฺวิฺาปนาทิ, ตํ ภชฺชนาทินา อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๒๔. อฏฺเม นิพฺพิฏฺโติ ลทฺโธ. เกณีติ รฺโ ทาตพฺโพ อาโย, อายุปฺปตฺติฏฺานนฺติ อตฺโถ ¶ . เตนาห ‘‘เอกํ านนฺตร’’นฺติอาทิ. านนฺตรนฺติ จ คามชนปทาณายตฺตํ. วฬฺชิยมานติโรกุฏฺฏาทิตา, อนปโลเกตฺวา อุจฺจาราทีนํ ฉฑฺฑนาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๓๐. นวเม ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปี’’ติ วุตฺตตฺตา หริตูปริ ฉฑฺฑนเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. เตนาห ‘‘อนิกฺขิตฺตพีเชสู’’ติอาทิ. ยตฺถ จ ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ, ตตฺถ หริเต วจฺจาทึ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ เอว. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.
๘๓๖-๗. ทสเม ¶ เตสํเยวาติ เยสํ นิจฺจํ ปสฺสติ. อาราเม ตฺวาติ ิตนิสนฺนฏฺาเน เอว ตฺวา สมนฺตโต คีวํ ปริวตฺเตตฺวาปิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. ิตฏฺานโต คนฺตฺวา ปสฺสิตุํ น วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ปน ‘‘ทสฺสนาย คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ สามฺโต คมนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, อนาปตฺติยมฺปิ คมนาย อวุตฺตตฺตา จ น คเหตพฺพํ. นจฺจาทิตา, อนนฺุาตการณา คมนํ, ทสฺสนาทิ จาติ ตีณิ องฺคานิ.
นิฏฺิโต ลสุณวคฺโค ปโม.
๒. อนฺธการวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๔๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม ทาเน วาติ ทานนิมิตฺตํ. รตฺตนฺธกาเร ปุริสสฺส หตฺถปาเส านาทิ, รโหเปกฺขา, สหายาภาโวติ ตีณิ องฺคานิ.
๘๔๒-๘๕๐. ทุติยาทีนิ อุตฺตานานิ.
๘๕๔. ปฺจเม ปลฺลงฺกสฺส อโนกาเสติ อูรุพทฺธาสนสฺส อปฺปโหนเก. ปุเรภตฺตํ อนฺตรฆเร ปลฺลงฺกปฺปโหนกาสเน นิสชฺชา, อนนฺุาตการณา อนาปุจฺฉา วุตฺตปริจฺเฉทาติกฺกโมติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๖๐-๘๗๙. ฉฏฺาทีนิ ¶ อุตฺตานานิ.
นิฏฺิโต อนฺธการวคฺโค ทุติโย.
๓. นคฺควคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๘๓-๘๘๗. ตติยวคฺคสฺส ปมทุติยานิ อุตฺตานานิ.
๘๙๓. ตติเย วิสิพฺเพตฺวาติ วิชเฏตฺวา. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสิพฺพนทิวสโต ปฺจ ทิวเส อติกฺกาเมตฺวา ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต. อนฺโตปฺจาเห ปน ธุรนิกฺเขเปปิ อนาปตฺติ เอว ‘‘อฺตฺร จตูหปฺจาหา’’ติ วุตฺตตฺตา ¶ . อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ สิพฺพนตฺถาย วิสิพฺเพตฺวา ปฺจหาติกฺกโม, อนนฺุาตการณา ธุรนิกฺเขโปติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๐๐. จตุตฺเถ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อปริวตฺตนํ, อนนฺุาตการณา ปฺจาหาติกฺกโมติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๐๙. ฉฏฺเ วิกปฺปนุปคสฺส สงฺเฆ ปริณตตา, วินา อานิสํสทสฺสเนน อนฺตรายกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๑๖. อฏฺเม กุมฺภถูณํ นาม กุมฺภสทฺโท, เตน กีฬนฺตีติ กุมฺภถูณิกา. เตนาห ‘‘ฆฏเกน กีฬนกา’’ติ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘จตุรสฺสอมฺพณกตาฬ’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ รุกฺขสาราทิมยํ อนฺโตฉิทฺทํ จตูสุ ปสฺเสสุ จมฺโมนทฺธํ วาทิตภณฺฑํ, ยํ ‘‘พิมฺพิสก’’นฺติปิ วุจฺจติ, ตํ วาเทนฺตาปิ กุมฺภถูณิกา. เตนาห ‘‘พิมฺพิสกวาทิตกาติปิ วทนฺตี’’ติ.
๙๑๘. ปาฬิยํ ¶ กปฺปกตนฺติ กปฺปกตํ นิวาสนปารุปนูปคํ. สมณจีวรตา, อนนฺุาตานํ ทานนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๒๑-๙๓๑. นวมทสมานิ อุตฺตานาเนว.
นิฏฺิโต นคฺควคฺโค ตติโย.
๔. ตุวฏฺฏวคฺโค
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๖. ตุวฏฺฏวคฺคสฺส ทสเม จาริกาย อปกฺกมนํ ปณฺณตฺติวชฺชเมว. ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกตํ สนฺธาย ปเนตฺถ ‘‘โลกวชฺช’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. จิตฺตาคารวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๘. จิตฺตาคารวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาเฏกฺกา อาปตฺติโยติ คีวาย ปริวตฺตนปฺปโยคคณนาย.
๑๐๑๕. นวเม หตฺถิอาทีสุ สิปฺป-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, ตถา อาถพฺพณาทีสุ มนฺต-สทฺโท. ตตฺถ อาถพฺพณมนฺโต นาม อาถพฺพณเวทวิหิโต ปรูปฆาตกโร มนฺโต. ขีลนมนฺโต นาม เวริมารณตฺถาย สารทารุมยํ ขีลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ อาโกฏนมนฺโต. อคทปฺปโยโค วิสปฺปโยชนํ. นาคมณฺฑลนฺติ สปฺปานํ ปเวสนิวารณตฺถํ มณฺฑลพนฺธมนฺโต. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.
๑๐๒๕-๑๑๑๖. อารามวคฺเค ¶ , คพฺภินิวคฺเค จ สพฺพํ อุตฺตานเมว.
๘. กุมาริภูตวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๑๙. อฏฺมวคฺคสฺส ปเม สพฺพปมา ทฺเว มหาสิกฺขมานาติ คพฺภินิวคฺเค (ปาจิ. ๑๐๖๗ อาทโย) สพฺพปมํ วุตฺตา ทฺเว. สิกฺขมานา อิจฺเจว วตฺตพฺพาติ สมฺมุติกมฺมาทีสุ อฺถา วุตฺเต กมฺมํ กุปฺปตีติ อธิปฺปาโย.
๑๑๖๗. เอกาทสเม ปาริวาสิเยน ฉนฺททาเนนาติ ปริวุตฺเถน นวิกปฺปวุตฺเถน วิคเตน ฉนฺททาเนนาติ อตฺโถ, ฉนฺทวิสฺสชฺชนมตฺเตน วา.
๑๑๖๘. ‘‘วุฏฺิตายา’’ติ เอเตน ‘‘อิทานิ กมฺมํ น กริสฺสามา’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา กาเยน อวุฏฺหิตฺวา นิสินฺนายปิ ปริสาย กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวา อวุฏฺิตายา’’ติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อนาปตฺติ อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ¶ , อุโปสถกฺขนฺธเก จ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิกปาริสุทฺธิทาเนน อุโปสโถ กาตพฺโพ อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ (มหาว. ๑๘๓) วุตฺตตฺตา, ตทฏฺกถายมฺปิ ‘‘ปาริวาสิยปาริสุทฺธิทานํ นาม ปริสาย วุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ, อวุฏฺิตาย ปน วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๓) วุตฺตตฺตา จ ‘‘กมฺมํ น กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนายปิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.
ขุทฺทกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.