📜

๑. มหาขนฺธโก

โพธิกถาวณฺณนา

มหาวคฺเค อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานนฺติ อุภินฺนํ ปาติโมกฺขวิภงฺคานํ. ยํ ขนฺธกํ สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ. ขนฺธานํ สมูโห, ขนฺธานํ วา ปกาสนโต ขนฺธโก. ขนฺธาติ เจตฺถ ปพฺพชฺชาทิจาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทปฺตฺติสมูโห อธิปฺเปโต. ปทภาชนีเย เยสํ ปทานํ อตฺถา เยหิ อฏฺกถานเยหิ ปกาสิตาติ โยชนา. อถ วา เย อตฺถาติ โยเชตพฺพํ. หิ-สทฺโท เจตฺถ ปทปูรเณ ทฏฺพฺโพ.

. วิเสสการณนฺติ ‘‘เยน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนเหตุภูโต ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เตน สมเยนา’’ติอาทินา วุตฺตการณํ วิย วิเสสการณํ ภุมฺมวจนนิวตฺตนกการณนฺติ อตฺโถ. เอตสฺสาติ อภิสมฺโพธิโต ปฏฺาย สตฺถุ จริยาวิภาวนสฺส วินยปฺตฺติยํ กึ ปโยชนํ? ยทิ วิเสสการณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. นิทานทสฺสนํ ปโยชนนฺติ โยชนา. นิทานนฺติเจตฺถ สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุภูตํ วตฺถุปุคฺคลาทิการณํ อธิปฺเปตํ, น ปฺตฺติฏฺานเมว. เตนาห ‘‘ยา หี’’ติอาทิ.

อุรุเวลายนฺติ เอตฺถ อุรุ-สทฺโท มหนฺตวาจี. เวลา-สทฺโท ตีรปริยาโย. อุนฺนตตฺตาทินา เวลา วิย เวลา. อุรุ มหนฺตี เวลา อุรุเวลา, ตสฺสํ. เตนาห ‘‘มหาเวลาย’’นฺติอาทิ. มริยาทาติ สีลาทิคุณสีมา. ปตฺตปุเฏนาติ ตาลาทีนํ ปณฺณปุเฏน.

‘‘ปมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ อนุนาสิกโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ. ปมนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. ตสฺมา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา สพฺพปมํ โพธิรุกฺขมูเล วิหรตีติ โยชนา ทฏฺพฺพา.

ปาฬิยํ อถ โขติ เอตฺถ อถาติ เอตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ. สตฺตาหนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค เอตํ อุปโยควจนํ. อถ โขติ อธิการนฺตรทสฺสเน นิปาโต. เตน วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทนํ ปหาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทมนสิกาเร อธิกตภาวํ ทสฺเสติ. ปฏิจฺจาติ ปฏิมุขํ คนฺตฺวา, อฺมฺํ อเปกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน การณพหุตา ทสฺสิตา. สหิเตติ การิยพหุตา. อนุโลมนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สฺเววาติ โส เอว ปจฺจยากาโร. ปุริมนเยน วา วุตฺโตติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ปจฺจยากาโร. ปวตฺติยาติ สํสารปฺปวตฺติยา.

ปาฬิยํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทีสุ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา. โลกิยกุสลากุสลเจตนา สงฺขารา. โลกิยวิปากเมว วิฺาณํ. โลกิยเวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ นามํ, ภูตุปาทายเภทํ รูปํ. ปสาทวิฺาณเภทํ สฬายตนํ. วิปากภูโต สพฺโพ ผสฺโส, เวทนา จ. ราโค ตณฺหา. พลวราโค, ติวิธา จ ทิฏฺิ อุปาทานํ. ภโว ปน ทุวิโธ กมฺมภโว, อุปปตฺติภโว จ. ตตฺถ กมฺมภโว สาสวกุสลากุสลเจตนาว, อุปปตฺติภโว อุปาทินฺนกกฺขนฺธา. เตสํ อุปปตฺติ ชาติ. ปาโก ชรา. เภโท มรณํ. เต เอว นิสฺสาย โสจนํ โสโก. กนฺทนํ ปริเทโว. ทุกฺขํ กายิกํ. โทมนสฺสํ เจตสิกํ. อติวิย โสโก อุปายาโส.

ปจฺเจกฺจ สมฺภวติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. เตนาห ‘‘อิมินา นเยนา’’ติอาทิ. ‘‘ทุกฺขราสิสฺสา’’ติ อิมินา น สตฺตสฺส. นาปิ สุภสุขาทีนนฺติ ทสฺเสติ.

หเวติ พฺยตฺตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ นิปาโต. ‘‘อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสาธกา โพธิปกฺขิยธมฺมา’’ติ อิทํ ปมวาเร กิฺจาปิ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติอาทินา ปฏิโลมปจฺจยากาโรปิ อาคโต, ตถาปิ ‘‘ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสฺเสว การณตฺเตน วุตฺตนฺติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ทุติยวาเรปิ ‘‘ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ คาถาย วุตฺตตฺตา ‘‘ปจฺจยานํ ขยสงฺขาต’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โน กลฺโล ปฺโหติ อยุตฺโต น พฺยากาตพฺโพ, อวิชฺชมานํ อตฺตานํ สิทฺธํ กตฺวา ‘‘โก ผุสตี’’ติ ตสฺส กิริยาย ปุฏฺตฺตา ‘‘โก วฺฌาปุตฺโต ผุสตี’’ติอาทิ วิยาติ อธิปฺปาโย. โสฬส กงฺขาติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, นนุ โข อโหสึ, กึ นุ โข อโหสึ, กถํ นุ โข อโหสึ, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, นนุ โข ภวิสฺสามิ, กึ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) เอวํ อาคตา อตีเต ปฺจ, อนาคเต ปฺจ, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉาติ โสฬสวิธา กงฺขา.

ตตฺถ กึ นุ โขติ มนุสฺสเทวาทีสุ, ขตฺติยาทีสุ วา อฺตรํ นิสฺสาย กงฺขติ. กถํ นุ โขติ ปน สณฺานาการาทีสุ อิสฺสราทิชนกํ, การณํ วา นิสฺสาย. กึ หุตฺวา กึ อโหสินฺติ จ มนุสฺสาทีสุ ปมํ กึ หุตฺวา ปจฺฉา กึ อโหสินฺติ กงฺขติ. อหํ นุ โขสฺมีติอาทิ อิทานิ อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ, สรูปปการาทิกฺจ กงฺขติ. วปยนฺตีติ วิอปยนฺติ พฺยปคจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ.

. ตสฺส วเสนาติ ตสฺส ปจฺจยาการปชานนสฺส, ปจฺจยกฺขยาธิคมสฺส จ วเสน. เอเกกเมว โกฏฺาสนฺติ อนุโลมปฏิโลมโต เอเกกเมว โกฏฺาสํ. ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสากาสีติ รตฺติยา ตีสุปิ ยาเมสุ เอวํ อิธ ขนฺธกปาฬิยา อาคตนเยน อนุโลมปฏิโลมํเยว มนสากาสิ.

อชปาลกถาวณฺณนา

. ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยนาติ ปลฺลงฺกสตฺตาหสฺส อปคมเนน. ตมฺหา สมาธิมฺหาติ อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาธิมฺหา. อนฺตรนฺตรา เอว หิ ปจฺจยาการมนสิกาโร. อวเสสกาลํ ปน สพฺพํ ภควา ผลสมาปตฺติยาปิ วีตินาเมสิ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา สมาธิมฺหา’’ติ วุตฺตํ. รตนจงฺกเมติ ภควโต จิรํ ิตสฺส จงฺกมนาธิปฺปายํ ตฺวา เทวตาหิ มาปิเต รตนจงฺกเม. รตนฆรนฺติ ภควโต นิสีทนาธิปฺปายํ ตฺวา เทวตาหิ มาปิตํ รตนมยํ เคหํ.

ตตฺราปีติ น เกวลํ รตนฆเรเยว. ตตฺราปิ อชปาลนิคฺโรธมูเลปิ อภิธมฺมํ วิจินนฺโต เอว อนฺตรนฺตรา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโตติ อตฺโถ. ตตฺถาปิ หิ อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานํ สมฺมสโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปีติสมุฏฺิตา ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย รตนฆเร วิย นิจฺฉรึสุ เอว. ‘‘หุํหุ’’นฺติ กโรนฺโตติ ‘‘สพฺเพ หีนชาติกา มํ มา อุปคจฺฉนฺตู’’ติ มานวเสน, สมีปํ อุปคเตสุ โกธวเสน จ ‘‘อเปถา’’ติ อธิปฺปายนิจฺฉาริตํ หุํหุํการํ กโรนฺโต.

พฺรหฺมฺนฺติ พฺราหฺมณตฺตํ. อนฺตนฺติ นิพฺพานํ. เทวานํ วา อนฺตนฺติ มคฺคาณานํ วา อนฺตภูตํ อรหตฺตผลํ.

มุจลินฺทกถาวณฺณนา

. มุจลินฺทมูเลติ เอตฺถ จ มุจลินฺโท วุจฺจติ นีปรุกฺโข, โย ‘‘นิจุโล’’ติปิ วุจฺจติ. อุปฺปนฺนเมโฆติ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา อุปฺปนฺโน มหาเมโฆ. วทฺทลิกาติ วุฏฺิยา เอว อิตฺถิลิงฺควเสน นามํ. ยา จ สตฺตาหํ ปวตฺตตฺตา สตฺตาหวทฺทลิกาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘สตฺตาหํ อวิจฺฉินฺนวุฏฺิกา อโหสี’’ติ. สีตวาเตน ทูสิตํ ทินเมติสฺสา วทฺทลิกายาติ สีตวาตทุทฺทินีติ อาห ‘‘อุทกผุสิตสมฺมิสฺเสนา’’ติอาทิ. อุพฺพิทฺธตา นาม ทูรภาเวน อุปฏฺานนฺติ อาห ‘‘เมฆวิคเมน ทูรีภูต’’นฺติ. อินฺทนีลมณิ วิย ทิพฺพติ โชเตตีติ เทโว, อากาโส.

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ วิเวกสฺส สุขภาวํ วิทิตฺวา. สพฺพโส อสนฺตุฏฺิสมุจฺเฉทกตฺตา มคฺคาณานํ ‘‘จตุมคฺคาณสนฺโตเสนา’’ติ วุตฺตํ. อกุปฺปนภาโวติ อกุชฺฌนสภาโว.

ราชายตนกถาวณฺณนา

. ปจฺจคฺเฆติ อภินเว. อยเมว อตฺโถ ปสตฺโถ, น ปุริโม. น หิ พุทฺธา มหคฺฆํ ปตฺตํ ปริภุฺชนฺติ.

พฺรหฺมยาจนกถาวณฺณนา

. อาลียนฺติ เสวียนฺตีติ อาลยา. ปฺจ กามคุณาติ อาห ‘‘สตฺตา…เป… วุจฺจนฺตี’’ติ. สุฏฺุ มุทิตาติ อติวิย ปมุทิตา. านํ สนฺธายาติ าน-สทฺทํ อเปกฺขิตฺวา. อิเมสนฺติ สงฺขาราทีนํ ผลานํ. ปาฬิยํ สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิ นิพฺพานเววจนานิ. อปิสฺสูติ สมฺปิณฺฑนตฺเถ นิปาโต. น เกวลํ เอตทโหสิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสูติ อตฺโถ.

กิจฺเฉน เม อธิคตนฺติ ปารมิปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทุกฺขาปฏิปทํ. พุทฺธานฺหิ จตฺตาโร มคฺคา สุขาปฏิปทาว โหนฺติ. -อิติ พฺยตฺตํ, เอกํสนฺติ ทฺวีสุ อตฺเถสุ นิปาโต, พฺยตฺตํ, เอกํเสน วา อลนฺติ วิโยเชนฺติ. หลนฺติ วา เอโก นิปาโต.

. ปาฬิยํ สหมฺปติสฺสาติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานภูมิยํ พฺรหฺมปติ หุตฺวา นิพฺพตฺโต, เตน นํ ‘‘สหมฺปตี’’ติ สฺชานึสุ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย, อสฺสวเนนาติ อตฺโถ. สวนเมว หิ สวนตา ยถา เทวตาติ.

ธมฺโม อสุทฺโธติ มิจฺฉาทิฏฺิธมฺโม. สมเลหีติ ปูรณกสฺสปาทีหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ. อปาปุราติ เทสนาหตฺเถน วิวร. ทฺวารนฺติ อริยมคฺคํ สนฺธาย วทติ.

เสเลติ ฆนสิลามเย. ตถูปมนฺติ เอตฺถ ตถา-สทฺโท ตํ-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ. เตน โส เสลปพฺพโต อุปมา ยสฺส. ตํ ตถูปมนฺติ อตฺโถ. เตน วา ปพฺพตาทินา ปกาเรน อุปมา อสฺสาติปิ อตฺโถ. ธมฺมมยนฺติ โลกุตฺตรธมฺมภูตํ. อุฏฺาหีติ ธมฺมเทสนตฺถาย จาริกจรณตฺถํ อิมมฺหา อาสนา กาเยน, อปฺโปสฺสุกฺกภาวโต วา จิตฺเตน อุฏฺเหิ, อยเมว วา ปาโ. เตเนว ‘‘วิจร, เทสสฺสู’’ติ ทุวิเธปิ กายจิตฺตปโยเค นิโยเชสิ. วีราติอาทิ จตฺตาริ ถุติวเสน สมฺโพธนานิ.

. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน, อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ นามํ. สฺวาการาติ สทฺธินฺทฺริยาทโยว อาการา สุนฺทรา เยสํ, เต สฺวาการา, สุวิฺาปยา, ปรโลกฺจ วชฺชฺจ ภยโต ทสฺสนสีลา จาติ ทฏฺพฺพํ. อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินีติ คจฺฉลตาปิ โปกฺขรณีปิ วุจฺจติ. อิธ ปน โปกฺขรณี. เอวมิตเรสุปิ. อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต อนุคฺคตานิ. อนฺโต นิมุคฺคาเนว หุตฺวา ปุสนฺติ วฑฺฒนฺติ, ตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ. อจฺจุคฺคมฺมาติ อุทกํ อติกฺกมนวเสน อุคฺคนฺตฺวา.

อปารุตาติ วิวฏา. เตสนฺติ สอุปนิสฺสยานํ สตฺตานํ. ทฺวาราติ อริยมคฺคทฺวารานิ. อิทฺจ อตฺตโน สยมฺภุาเณน สอุปนิสฺสยานํ เตสํ มคฺคุปฺปตฺติทิฏฺตํ สนฺธาย วทติ. วิหึสสฺีติอาทีสุ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ‘‘อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ ธมฺมํ อชานนฺเตสุ มนุเชสุ เทสนาย วิหึสา กายวาจากิลมโถ โหตี’’ติ เอวํ วิหึสสฺี หุตฺวา น ภาสึ ภาสิตุํ น อิจฺฉึ. อิทานิ ปน เหตุสมฺปนฺนา อตฺตโน สทฺธาภาชนํ วิวรนฺตุ, ปูเรสฺสามิ เนสํ สงฺกปฺปนฺติ.

ปฺจวคฺคิยกถาวณฺณนา

๑๐. อาฬาโรติ นามํ. กาลาโมติ โคตฺตํ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทีติ กึ อิทาเนว อุทปาทิ, นนุ โพธิมูเล เตกาลิกา, กาลวินิมุตฺตา จ สพฺเพ ธมฺมา สพฺพาการโต ทิฏฺาติ? สจฺจํ ทิฏฺา, ตถาปิ นามาทิวเสน อวิกปฺปิตา เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส. น หิ เอเกน จิตฺเตน สพฺพธมฺมานํ นามชาติอาทิกํ ปจฺเจกํ อนนฺตํ วิภาคํ วิกปฺเปตุํ สกฺกา วิกปฺปานํ วิรุทฺธานํ สหานุปฺปตฺติโต, สพฺพวิกปฺปารหธมฺมทสฺสนเมว ปนาเนน สกฺกา กาตุํ. ยถา ทิฏฺเสุ ปน ยถิจฺฉิตาการํ อารพฺภ วิกปฺโป อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ จิตฺตปเฏ วิย. อิธาปิ อาฬารํ นิสฺสาย อาวชฺชนานนฺตรเมว สพฺพาการาณํ อุทปาทิ. น เกวลฺจ ตํ, อถ โข ปฺจวคฺคิยา เอว ปมํ ธมฺมํ ชานิสฺสนฺติ, ตปฺปมุขา จ เทวตา, อาฬาโร กาลํ กตฺวา อากิฺจฺายตเน, อุทโก จ เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโตติ เอวมาทิกํ สพฺพมฺปิ นิสฺสาย าณํ อุปฺปชฺชติ เอว. ตํ ปน ขณสมฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทสฺเสตุํ กเมน โอโลเกตฺวา เทวตาย วุตฺเต าณํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. สทฺทคติยา หิ พนฺธตฺตา เอเกน าเณน าตมฺปิ วุจฺจมานํ กเมน าตํ วิย ปฏิภาติ, เทวตาปิ จ ภควตา าตเมวตฺถํ อาโรเจสิ. เตเนว ‘‘ภควโตปิ โข าณํ อุทปาที’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวมฺตฺถาปิ อีทิเสสุ ‘‘โลกํ โวโลเกนฺโต อสุกํ อทฺทส, ตตฺถ มยิ คเต กึ ภวิสฺสตี’’ติ เอวมาทินา สตฺถุ หิเตสิตาสนฺทสฺสนวสปฺปวตฺเตสุ. สพฺพตฺถ วจนคติยํ กมวุตฺติเต ปฺายมาเนปิ เอเกเนว าเณน สกลาวโพโธ เวทิตพฺโพ. พหุการา โข เม ปฺจวคฺคิยาติ อุปการสฺสาปิ วิชฺชมานตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ธมฺมเทสนาย การณตฺเตน อนุปการานมฺปิ เทสนโต.

๑๑. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ คยาย, โพธิสฺส จ อนฺตเร ติคาวุเต าเน.

สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ิโต. อนูปลิตฺโตติ กิเลสเลเปน อลิตฺโต. ตโต เอว สพฺพฺชโห. ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณกรณวสเอน วิมุตฺโต. เอวํ สยํ สพฺพธมฺเม อตฺตนาว ชานิตฺวา. กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อฺํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํ.

กาสินํ ปุรนฺติ พาราณสึ. อาหฺฉนฺติ อาหนิสฺสามิ. อมตาธิคมาย อุคฺโฆสนโต อมตทุนฺทุภินฺติ สตฺถุ ธมฺมเทสนา วุตฺตา, ‘‘อมตเภรึ ปหริสฺสามี’’ติ คจฺฉามีติ อตฺโถ.

อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโนปิ ภวิตุํ ยุตฺโตติ อตฺโถ. อนนฺตาณตาย อนนฺโต ชิโน จ, อนนฺเตน วา าเณน, อนนฺตํ วา โทสํ ชิตวา, อุปฺปาทวยนฺตรหิตตาย วา อนนฺตํ นิพฺพานํ อชินิ กิเลสารโย มทฺทิตฺวา คณฺหีติปิ อนนฺตชิโน.

หุเปยฺยาปีติ เอวมฺปิ ภเวยฺย, เอวํวิเธ รูปกายรตเน อีทิเสน าเณน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ นาม กถนฺหิสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส อปรกาเล ทุกฺขปฺปตฺตสฺส ภควนฺตํ อุปคมฺม ปพฺพชิตฺวา มคฺคผลปฏิเวธาย ปจฺจโย ชาโต. ตถาเหส ภควา เตน สมาคมตฺถํ ปทสาว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

๑๒. พาหุลฺลิโกติ ปจฺจยพาหุลฺลิโก. ปธานวิพฺภนฺโตติ ปธานโต ทุกฺกรจรณโต ปริหีโน. นตฺถิ เอตฺถ อคาริยํ, อคารสฺส หิตํ กสิโครกฺขาทิกมฺมนฺติ อนคาริยา, ปพฺพชฺชา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพชนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานํ, อรหตฺตผลนฺติ อตฺโถ. ตสฺส หิ อตฺถาย กุลปุตฺตา ปพฺพชนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึ ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว. สยนฺติ อปรปฺปจฺจยา . อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตโนว าเณน ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปาปุณิตฺวา.

อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยาย. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาติอาทีสุ มนุสฺสธมฺมโต โลกิยาณโต อุปริ อริยํ กาตุํ อลํ สมตฺโถ อลมริโย. าณทสฺสนวิเสโสติ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปุพฺพภาคํ อธิปฺเปตํ. โนติ นุ. ภาสิตเมตนฺติ เอวรูปเมตํ วากฺยเภทนฺติ อตฺโถ. เต จ ‘‘ยทิ เอส ปธานกาเล ‘อหํ อรหา’ติ วเทยฺย, มยฺจ สทฺทหาม, น จาเนน ตทา วุตฺตํ. อิทานิ ปน วิชฺชมานเมว คุณํ วทตี’’ติ เอกปเทน สตึ ลภิตฺวา ‘‘พุทฺโธ ชาโต’’ติ อุปฺปนฺนคารวา อาวุโสวาทํ ปหาย ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ อาหํสุ. อฺา จิตฺตนฺติ อฺาย อรหตฺตปฺปตฺติยา จิตฺตํ.

๑๓. อนฺตาติ โกฏฺาสา ทฺเว ภาคา. กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส อนุภโว. กิเลสกามา เอว วา อามิสสุเขน อลฺลียนโต กามสุขลฺลิกาติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส กณฺฏกเสยฺยาทิทุกฺขสฺส อนุโยโค. อุโภ อนฺเตติ ยถาวุตฺเต โลโภ วา สสฺสโต วา เอโก อนฺโต, โทโส วา อุจฺเฉโท วา เอโกติ เวทิตพฺโพ.

จกฺขุกรณีติอาทีสุ อตฺตนา สมฺปยุตฺตาณจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ทุติยํ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสโมติ กิเลสุปสโม. อภิฺา, สมฺโพโธ จ จตุสจฺจปฏิเวโธว. นิพฺพานํ อสงฺขตธาตุ. เอเตสมฺปิ อตฺถาย สํวตฺตตีติ ปฏิปทํ โถเมติ. สมฺมาทิฏฺีติ าณํ. สมฺมาสงฺกปฺโปติ วิตกฺโก. เสสํ ธมฺมโต สุวิฺเยฺยเมว.

๑๔. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺเค เอกโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตหิ มคฺเคหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ชาติปิ ทุกฺขาติอาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ภเว นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ สพฺพปมํ รูปารูปธมฺมปฺปวตฺติ อิธ ชาติ นาม, สา จ ตตฺถ ตตฺถ ภเวสุ อุปลพฺภมานานํ ทุกฺขาทีนํ วตฺถุภาวโต ทุกฺขา, เอวํ ชราทีสุ ทุกฺขวตฺถุกตาย ทุกฺขตา เวทิตพฺพา. ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ปน ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขวเสน ทุกฺขา เอว. โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ปุนพฺภโว อุตฺตรปทโลเปน, ปุนพฺภโว สีลเมติสฺสาติ โปโนภวิกา. นนฺทิราคสหคตาติ เอตฺถ รูปาทีสุ นนฺทติ ปิยายตีติ นนฺที, สา เอว ราโคติ นนฺทิราโคติ ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส, นนฺทิราคตฺตนฺติ อตฺโถ. เตน สหคตานิ นนฺทิราคสหคตา. ตตฺร ตตฺราติ ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว. รูปาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ กามสฺสาทนวเสน ปวตฺตา กามตณฺหา นาม. สสฺสตทิฏฺิยา สห ปวตฺตา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิยา สห ปวตฺตา วิภวตณฺหา. อเสสวิราคนิโรโธติอาทินา นิพฺพานเมว วุจฺจติ. ตตฺถ วิรชฺชนํ วิคมนํ วิราโค. นิรุชฺฌนํ นิโรโธ. อุภเยนาปิ สุฏฺุ วิคโมว วุจฺจติ. อเสสายปิ ตณฺหาย วิราโค, นิโรโธ จ เยน โหติ, โส อเสสวิราคนิโรโธ, นิพฺพานเมว. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม ตณฺหํ, วฏฺฏฺจ จชนฺติ ปฏินิสฺสชฺชนฺติ วิมุจฺจนฺติ น อลฺลียนฺติ, ตสฺมา จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโยติ วุจฺจติ.

๑๕. จกฺขุนฺติอาทีนิ าณเววจนาเนว.

๑๖. ยาวกีวฺจาติ ยตฺตกํ กาลํ. ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณ, กิจฺจาณ, กตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ติปริวฏฺฏํ าณทสฺสนํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทย’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตาณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุ เอว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิต’’นฺติ ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสเมว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทสาการํ.

อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสินฺติ อภิสมฺพุทฺโธ อรหตฺตํ ปตฺโตติ เอวํ น ปฏิชานึ. ยโต จ โขติ ยโต โพธิมูเล นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย . อถาหนฺติ ตโต ปรํ อหํ. าณฺจ ปน เมติ ปจฺจเวกฺขณาณํ สนฺธาย วทติ. อกุปฺปา เมติอาทิ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. ตตฺถ อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ ตสฺส มคฺคสงฺขาตการณโต จ อารมฺมณโต จ อกุปฺปตา เวทิตพฺพา.

อิมสฺมึ ปน เวยฺยากรณสฺมินฺติ นิคฺคาถสุตฺเต. ภฺมาเนติ ภณิยมาเน. ธมฺมจกฺขุนฺติ อิธ จตุสจฺจธมฺเมสุ จกฺขุกิจฺจกรณโต โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ยํ กิฺจีติอาทิ นิพฺพานารมฺมณตฺเตปิ กิจฺจวเสน อสมฺโมหโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๑๗. ธมฺมจกฺกนฺติ ปฏิเวธาณธมฺมฺเจว เทสนาาณธมฺมฺจ ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ . โอภาโสติ สพฺพฺุตฺาณานุภาเวน ปวตฺโต จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺาโน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา ิโต โอภาโส.

๑๘. ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสเสสุปิ. อตฺตโน ปจฺจกฺขโต อธิคตตฺตา น ปรํ ปจฺเจติ, ปรสฺส สทฺธาย เอตฺถ น ปวตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย. เอหิ ภิกฺขูติ เอตฺตเก วุตฺตมตฺเต ปพฺพชฺชา, อุปสมฺปทา จ สิชฺฌติ, เตเนว ตตฺถ อิติ-สทฺเทน ปริจฺเฉโท ทสฺสิโตติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ วจนปริโยสาเน เอว อุปสมฺปทา สิชฺฌติ, อฏฺกถายํ ปน ‘เอหิ ภิกฺขูติ ภควโต วจเนนา’ติ อิทํ เอหิภิกฺขุสทฺโทปลกฺขิตวจนํ เอหิภิกฺขุวจนนฺติอาทิปทวเสน วุตฺตํ มุสาวาทวคฺโคติอาทีสุ วิยา’’ติ วทนฺติ, ตเทตํ ปมปาราชิกฏฺกถายํ ‘‘ภควา หิ…เป… เอหิ ภิกฺขุ, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕ ภิกฺขูปทภาชนียวณฺณนา) อิมินา วจเนน สเมติ. ยตฺตกฺหิ ภควตา นิยเมน วุจฺจติ, ตตฺตกํ สพฺพมฺปิ องฺคเมว. เสกฺขปุถุชฺชนานฺหิ เอตํ ปริปุณฺณํ วุจฺจติ, อเสกฺขานํ ปน ‘‘จร พฺรหฺมจริย’’นฺติ ปริโยสานนฺติ ทฏฺพฺพํ สิกฺขตฺตยสมิทฺธิโต. โลกิยสมฺปทาหิ อุปริภูตา เสฏฺภูตา สมฺปทาติ อุปสมฺปทา.

๑๙-๒๑. นีหารภตฺโตติ ภิกฺขูหิ คามโต นีหริตฺวา ทินฺนภตฺโต. กลฺลํ นูติ ยุตฺตํ นุ. เอตํ มมาติอาทิ ยถากฺกมํ ตณฺหามานทิฏฺิคาหานํ ทสฺสนํ.

๒๒-๒๓. ตสฺมาติหาติ เอตฺถ ติหาติ นิปาตมตฺตํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. นิพฺพินฺทตีติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสน อุกฺกณฺติ. วิรชฺชตีติ จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน น รชฺชติ. วิมุจฺจตีติ ผลวเสน วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมินฺติอาทิ ปจฺจเวกฺขณาณทสฺสนํ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กรณียํ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปจฺเจกํ กตฺตพฺพํ ปริฺาทิวเสน โสฬสวิธํ กิจฺจํ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวาย โสฬสกิจฺจภาวาย, กิเลสกฺขยาย วา อปรํ ปุน มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ ปชานาติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวโต วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานโต อปรํ ขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ น ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา

๑๕. อาฬมฺพรนฺติ ปณวํ. วิเกสิกนฺติ วิปฺปกิณฺณเกสํ. วิกฺเขฬิกนฺติ วิสฺสนฺทมานลาลํ . สุสานํ มฺเติ สุสานํ วิย อทฺทส สกํ ปริชนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุทานํ อุทาเนสีติ สํเวควสปฺปวตฺตํ วจนํ นิจฺฉาเรสิ. อุปสฺสฏฺนฺติ ทุกฺเขน สมฺมิสฺสํ, ทุกฺโขติณฺณํ สพฺพสตฺตกายชาตนฺติ อตฺโถ.

๒๖. อิทํ โข ยสาติ ภควา นิพฺพานํ สนฺธายาห. อนุปุพฺพึ กถนฺติ อนุปฏิปาฏิกถํ. อาทีนวนฺติ โทสํ. โอการนฺติ นิหีนตา นิหีนชนเสวิตตฺตา. สํกิเลสนฺติ เตหิ สตฺตานํ สํกิเลสนํ, สํกิเลสวิสยนฺติ วา อตฺโถ. กลฺลจิตฺตนฺติ อโรคจิตฺตํ. สามํ อตฺตนาว อุกฺกํโส อุกฺขิปนํ เอติสฺสนฺติ สามุกฺกํสิกา, สจฺจเทสนา. ตสฺสา สรูปทสฺสนํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติอาทิ.

๒๗. อสฺสทูเตติ อสฺสอารุฬฺเห ทูเต. อิทฺธาภิสงฺขารนฺติ อิทฺธิกิริยํ. อภิสงฺขเรสิ อกาสิ.

๒๘. ยถาทิฏฺนฺติ ปมมคฺเคน ทิฏฺํ จตุสฺสจฺจภูมึ เสสมคฺคตฺตเยน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, ปสฺสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. มาตุ โน ชีวิตนฺติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ, มาตุ ชีวิตนฺติ อตฺโถ. ยสสฺส ขีณาสวตฺตา ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริย’’นฺติ เอตฺตเกเนว ภควา อุปสมฺปทํ อทาสิ. ขีณาสวานฺหิ เอตฺตเกเนว อุปสมฺปทา อนุฺาตา ปุพฺเพว ทุกฺขสฺส ปริกฺขีณตฺตา. จร พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยสงฺขาตํ สิกฺขาปทปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น มคฺคพฺรหฺมจริยํ.

๓๐. เสฏฺานุเสฏฺีนนฺติ เสฏฺิโน จ อนุเสฏฺิโน จ ปเวณีวเสน อาคตา เยสํ กุลานํ สนฺติ, เตสํ เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุลานํ. โอรโกติ ลามโก.

๓๒-๓๓. มา เอเกน ทฺเวติ เอเกน มคฺเคน ทฺเว ภิกฺขู มา อคมิตฺถ. วิสุทฺเธ สตฺเต, คุเณ วา มาเรตีติ มาโร. ปาเป นิยุตฺโต ปาปิมา.

สพฺพปาเสหีติ สพฺพกิเลสปาเสหิ. เย ทิพฺพา เย จ มานุสาติ เย ทิพฺพกามคุณนิสฺสิตา, มานุสกกามคุณนิสฺสิตา จ กิเลสปาสา นาม อตฺถิ, สพฺเพหิ เตหิ. ‘‘ตฺวํ พุทฺโธ’’ติ เทวมนุสฺเสหิ กริยมานสกฺการสมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทติ.

อนฺตลิกฺเข จรนฺเต ปฺจาภิฺเปิ พนฺธตีติ อนฺตลิกฺขจโร, ราคปาโส. มาโร ปน ปาสมฺปิ อนฺตลิกฺขจรํ มฺติ. มานโสติ มโนสมฺปยุตฺโต.

ชานาติ มนฺติ โส กิร ‘‘มหานุภาโว อฺโ เทวปุตฺโต นิวาเรตีติ ภีโต นิวตฺติสฺสติ นุ โข’’ติสฺาย วตฺวา ‘‘นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ วุตฺเต ‘‘ชานาติ ม’’นฺติ ทุมฺมโน ปลายิ.

๓๔. ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ ยสฺมา เอหิภิกฺขุภาวาย อุปนิสฺสยรหิตานมฺปิ ปพฺพชิตุกามตา อุปฺปชฺชิสฺสติ, พุทฺธา จ เต น ปพฺพาเชนฺติ, ตสฺมา เตสมฺปิ ปพฺพชฺชาวิธึ ทสฺเสนฺโต เอวํ ปริวิตกฺเกสีติ ทฏฺพฺพํ. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา ปน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวเนว ปพฺพชนฺติ. เย ปฏิกฺขิตฺตปุคฺคลาติ สมฺพนฺโธ. สยํ ปพฺพาเชตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา’’ติอาทิวจนโต เกสจฺเฉทนกาสายจฺฉาทนสรณทานานิ ปพฺพชฺชา นาม, เตสุ ปจฺฉิมทฺวยํ ภิกฺขูหิ เอว กาตพฺพํ, กาเรตพฺพํ วา. ‘‘ปพฺพาเชหี’’ติ อิทํ ติวิธมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ขณฺฑสีมํ เนตฺวาติ ภณฺฑุกมฺมาโรจนปริหรณตฺถํ. ภิกฺขูนฺหิ อนาโรเจตฺวา เอกสีมาย ‘‘เอตสฺส เกเส ฉินฺทา’’ติ อฺํ อาณาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพาเชตฺวาติ เกสาทิจฺเฉทนเมว สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา. ปพฺพาเชตุํ น ลภตีติ สรณทานํ สนฺธาย วุตฺตํ, อนุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุอาณตฺติยา ทินฺนมฺปิ สรณํ น รุหติ.

ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวนฺติ ‘‘เกสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สุฺโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตู’’ติอาทินยํ สงฺคณฺหาติ, สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑๑) อาคตนเยน คเหตพฺพํ. ปุพฺเพติ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ. มทฺทิตสงฺขาโรติ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ. ภาวิตภาวโนติ สมถวเสนาปิ.

กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา…เป… ปฏิคฺคาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘สพฺพทุกฺขนิสฺสรณตฺถาย อิมํ กาสาวํ คเหตฺวา’’ติ วา ‘‘ตํ กาสาวํ ทตฺวา’’ติ วา วตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต, อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ เอวํ ยาจนปุพฺพกํ จีวรํ ปฏิจฺฉาเปติ. อถาปีติอาทิ ติกฺขตฺตุํ ปฏิคฺคาหาปนโต ปรํ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนํ. อถาปีติ ตโต ปรมฺปีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘จีวรํ อปฺปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปพฺพชนปฺปการเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อถาปี’’ติ วุตฺตํ, อถาปีติ จ อถ วาติ อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ‘‘อทินฺนํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ปพฺพชฺชา น รุหตีติ ทสฺเสติ.

ปาเทวนฺทาเปตฺวาติ ปาทาภิมุขํ นมาเปตฺวา. ทูเร วนฺทนฺโตปิ หิ ปาเท วนฺทตีติ วุจฺจติ. อุปชฺฌาเยน วาติ เอตฺถ ยสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาติ, อยํ อุปชฺฌาโย. อาภิสมาจาริเกสุ วินยนตฺถํ ยํ อาจริยํ กตฺวา นิยฺยาเตนฺติ, อยํ อาจริโย. สเจ ปน อุปชฺฌาโย สยเมว สพฺพํ สิกฺขาเปติ, อฺสฺมึ น นิยฺยาเตติ, อุปชฺฌาโยวสฺส อาจริโยปิ โหติ, ยถา อุปสมฺปทากาเล สยเมว กมฺมวาจํ วาเจนฺโต อุปชฺฌาโยว กมฺมวาจาจริโยปิ โหติ.

อนุนาสิกนฺตํ กตฺวา ทานกาเล อนฺตรา วิจฺเฉโท น กาตพฺโพติ อาห ‘‘เอกสมฺพนฺธานี’’ติ.

‘‘อาภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ’’ติ อิมินา เสขิยวตฺตขนฺธกวตฺเตสุ, อฺเสุ

จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิโลกวชฺชสิกฺขาปเทสุ สามเณเรหิ วตฺติตพฺพํ, ตตฺถ อวตฺตมาโน อลชฺชี, ทณฺฑกมฺมารโห จ โหตีติ ทสฺเสติ.

ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยมารกถาวณฺณนา

๓๕. ปาฬิยํ อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ อนุปาปุณาถาติ ‘‘ขีณาสวา มยํ, กึ อมฺหากํ ปธาเนนา’’ติ วาสนาโทเสน โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ ผลสมาปตฺติยาว วีตินามนตฺถํ, ตํ ทิสฺวา อฺเสมฺปิ ทิฏฺานุคติสมาปชฺชนตฺถฺจ โอวทตีติ เวทิตพฺพํ.

ทุติยมารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภทฺทวคฺคิยกถาวณฺณนา

๓๖. อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมนฺติ เตสํ ตึสชนานํ เอกโต อภิสมยสฺส ปุพฺพกมฺมํ. อฺมฺปิ เตสํ ปจฺเจกํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ สทฺธมฺมสฺสวนสรณคมนทานสีลสมาธิวิปสฺสนาสมาโยควเสน พหุํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อตฺเถวาติ คเหตพฺพํ. อิตรถา หิ ตทเหว ปฏิเวโธ, เอหิภิกฺขุภาวาทิวิเสโส จ น สมฺปชฺเชยฺย.

ภทฺทวคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุรุเวลปาฏิหาริยกถาวณฺณนา

๓๗-๓๘. ปาฬิยํ อครูติ ภาริยํ น สิยาติ อตฺโถ. อุภินฺนํ สโชติภูตานนฺติ อุโภสุ สโชติภูเตสุ. ปตฺเต ปกฺขิปีติ ตํ นาคํ นิหตเตชํ ธมฺมเทสนาย สนฺตปฺเปตฺวา สรณสีลานิ ทตฺวา สกลรตฺตึ ภควนฺตํ ปยิรุปาสิตฺวา ิตํ ชฏิลานํ ทสฺสนตฺถํ ปตฺเต ปกฺขิปิ, น อหิตุณฺฑิโก วิย พลกฺกาเรนาติ เวทิตพฺพํ. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.

๓๙. อชฺชณฺโหติ อชฺช เอกทิวสํ. อคฺคิสาลมฺหีติ อคฺยาคาเร. สุมนานํ พุทฺธานํ มนสา สทิโส มโน อสฺสาติ สุมนมนโส. อธิจิตฺโตติ มหากรุณาทีหิ อธิจิตฺโต. อุทิจฺฉเรติ อุลฺโลเกสุํ, ปริวาเรสุนฺติ อตฺโถ. อเนกวณฺณา อจฺจิโยติ ฉพฺพณฺณรํสิโย วุตฺตา. อหํ เต ธุวภตฺเตน ปฏิมานนํ กริสฺสามีติ เสโส.

๔๐. อภิกฺกนฺตายรตฺติยาติ ปริกฺขีณาย รตฺติยา, มชฺฌรตฺติสมเยติ อตฺโถ. อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปจฺฉวิวณฺณา. เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวล-สทฺทสฺส อนวเสสตฺโถ, กปฺป-สทฺทสฺส สมนฺตภาโว, ตสฺมา อนวเสสํ สมนฺตโต วนสณฺฑนฺติ อตฺโถ. จตุทฺทิสาติ จตูสุ ทิสาสุ. ยตฺร หิ นามาติ ยํ นาม.

๔๓. องฺคมคธาติ องฺคมคธรฏฺวาสิโน. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อภิฺิทฺธิเยว ปฏิปกฺขานํ ติตฺถิยานํ, เวเนยฺยสตฺตคตโทสานฺจ หรณโต อปนยนโต ปาฏิหาริยํ, ตํ ตํ วา สตฺตหิตํ ปฏิจฺจ หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, ตเทว ปาฏิหาริยํ. อิทฺธิ เอว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ.

๔๔. ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ ปุณฺณาย ทาสิยา สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ สาณมยํ กิมิกุลากุลํ ปริเยสนวเสน อุปฺปนฺนํ โหติ, ยํ ภควา ภูมึ กมฺเปนฺโต ปารุปิตฺวา ปจฺฉา มหากสฺสปตฺเถรสฺส อทาสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. กตฺถ นุ โขติอาทิปริวิตกฺโก ชฏิลานํ วิวิธปาฏิหาริยทสฺสนตฺถํ กโต. ปาณินา ขณนฺโต วิย อิทฺธิยา มตฺติกํ อปเนตฺวา ทินฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา’’ติ.

๔๖. ผาลิยนฺตุ, กสฺสป, กฏฺานีติ อุรุเวลกสฺสเปน นิเวทิเต เอวมโวจาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ.

๔๙. อนฺตรฏฺกาสุหิมปาตสมเยติ เอตฺถ มาฆมาสสฺส อวสาเน จตสฺโส, ผคฺคุณมาสสฺส อาทิมฺหิ จตสฺโสติ เอวํ อุภินฺนํ มาสานํ อนฺตเร อฏฺรตฺติโย อนฺตรฏฺกา นาม. ตาสุ อนฺตรฏฺกาสุ รตฺตีสุ หิมปาตกาเล. อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนมฺปิ สหสา ตทุภยกรณวเสน วุตฺตํ.

๕๐. อุทกวาหโกติ อุทโกโฆ. เรณุหตายาติ รโชกิณฺณาย, อตินฺตายาติ อตฺโถ. นาวายาติ กุลฺเลน. อิทํ นุ ตฺวํ มหาสมณาติ อิธ นุ ตฺวํ. -การสฺส -การํ, อนุสารฺจ กตฺวา ‘‘อิทํ นู’’ติ วุตฺตํ ‘‘เอกมิทาห’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๖๕, ๒๖๕) วิย. ‘‘อิมสฺมึ ปเทเส ตฺวํ นุ โข ิโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. อยมหมสฺมีติ อยมหํ อิธ ิโตสฺมีติ อตฺโถ.

๕๑. จิรปฏิกาติ จิรกาลโต ปฏฺาย. เกสมิสฺสํ สพฺพํ ปริกฺขารํ อุทเก ปวาเหตฺวาติปิ โยเชตพฺพํ. อรณิกมณฺฑลุอาทิกา ตาปสปริกฺขารา ขารี นาม, ตํหรณกกาชํ ขาริกาชํ นาม. อคฺคิหุตมิสฺสนฺติ อคฺคิปูโชปกรณสหิตํ.

๕๒-๓. อุปสคฺโคติ อุปทฺทโว. ‘‘อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานี’’ติ อิทํ นาคทมนาทีนิ ปนฺนรส ปาฏิหาริยานิ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ อปฺปกมธิกํ คณนูปคํ น โหตีติ.

๕๔. คยายนฺติ คยานามิกาย นทิยา อทูรภวตฺตา คาโม อิตฺถิลิงฺควเสน คยา นาม ชาโต, ตสฺสํ. คยาสีเสติ เอวํนามเก ปิฏฺิปาสาเณ.

‘‘ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา…เป… สุขํ วา’’ติอาทินา จกฺขุวิฺาณวีถิจิตฺเตสุ โสมนสฺสโทมนสฺสอุเปกฺขาเวทนามุเขน เสสารูปกฺขนฺธานมฺปิ อาทิตฺตตํ ทสฺเสติ. เอส นโย เสเสสุปิ. มโนติ ภวงฺคจิตฺตํ มโนทฺวารสฺส อธิปฺเปตตฺตา. มโนวิฺาณนฺติ มโนทฺวารวีถิปอยาปนฺนเมว คหิตํ.

อุรุเวลปาฏิหาริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา

๕๕. ยฺาอภิวทนฺตีติ ยาคเหตุ อิชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. อุปธีสูติ เอตฺถ ทุกฺขสุขาทีนํ อธิฏฺานฏฺเน จตฺตาโร อุปธี กามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารูปธีนํ วเสน. เตสุ ขนฺธูปธิ อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขนฺธูปธีสุ มลนฺติ ตฺวา’’ติ. ยฺาติ ยฺเหตุ. ยิฏฺเติ มหายาเค. หุเตติ ทิวเส ทิวเส กตฺตพฺเพ อคฺคิปริจรเณ. กึ วกฺขามีติ กถํ วกฺขามิ.

๕๗-๘. อาสีสนาติ มโนรถา. สิงฺคีสุวณฺณนิกฺเขนาติ สิงฺคีสุวณฺณสฺส ราสินา. สุวณฺเณสุ หิ ยุตฺติกตํ หีนํ. ตโต รสวิทฺธํ เสฏฺํ, ตโต อากรุปฺปนฺนํ เสฏฺํ, ตโต ยํกิฺจิ ทิพฺพสุวณฺณํ เสฏฺํ , ตตฺราปิ จามีกรํ, ตโต สาตกุมฺภํ, ตโต ชมฺพุนทํ, ตโตปิ สิงฺคีสุวณฺณํ เสฏฺํ. ตสฺส นิกฺขํ นาม ปฺจสุวณฺณปริมาณํ. อฏฺสุวณฺณาทิเภทํ อเนกวิธมฺปิ วทนฺติ. ทสสุ อริยวาเสสูติ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต เอการกฺโข จตุราปสฺเสโน ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ สมวยสฏฺเสโน อนาวิลสงฺกปฺโป ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร สุวิมุตฺตจิตฺโต สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๑๙) –

เอวมาคเตสุ ทสสุ อริยวาเสสุ. ตตฺถ ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ ปฺจนีวรเณหิ วิปฺปยุตฺตตา วุตฺตา. ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ อิฏฺาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตาทิปฏิปกฺขา ฉฬงฺคุเปกฺขา วุตฺตา. เอการกฺโขติ อุปฏฺิตสติตา. สงฺขายเสวนา อธิวาสนา ปริวชฺชนา วิโนทนาสงฺขาตานิ จตฺตาริ อปสฺเสนา นิสฺสยา เอตสฺสาติ จตุราปสฺเสโน, เอเตน จ เต นิสฺสยา ทสฺสิตา. ปณุนฺนานิ อปนีตานิ ทิฏฺิคติเกหิ ปจฺเจกํ คหิตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ยสฺส, โส ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ, เตน โลกิยาเณน ทิฏฺิปฺปหานํ วุตฺตํ. กาเมสนา ภเวสนาพฺรหฺมจริเยสนาสงฺขาตา เอสนา สมฺมเทว อวยา อนูนา สฏฺา นิสฏฺา อเนนาติ สมวยสฏฺเสโน. เอเตน ติณฺณํ เอสนานํ อภาโว วุตฺโต. ‘‘อนาวิลสงฺกปฺโป’’ติ อิมินา กามวิตกฺกาทีหิ อนาวิลจิตฺตตา. ‘‘ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร’’ติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานสมาโยเคน วิคตทรถตา วุตฺตา. ‘‘สุวิมุตฺตจิตฺโต’’ติ อิมินา มคฺโค. ‘‘สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณมุเขน ผลาณํ วุตฺตํ. เอเต หิ อริยา วสนฺติ เอตฺถาติ อริยวาสาติ วุจฺจนฺติ . เต ปน วาสา วุตฺถา วสิตา สมฺปาทิตา เยน, โส วุตฺถวาโส, ภควา. ทสพโลติ ทสหิ กายพเลหิ, าณพเลหิ จ อุเปโต. ยานิ เหตานิ –

‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;

คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐.๒๑; วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; อุทา. อฏฺ. ๗๕; พุ. ว. อฏฺ. ๑.๓๙; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔) –

เอวํ วุตฺตานิ ทสหตฺถิกุลานิ ปุริมปุริมโต ทสพลคุโณเปตานิ, เตสุ สพฺพเชฏฺานํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ พลานิ ภควโต กายสฺส ทสพลานิ นาม. ตฺจ กาฬาวกสงฺขาตานํ ปกติหตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, มชฺฌิมปุริสานํ ปน ทสนฺนํ โกฏิสหสฺสานฺจ พลํ โหติ, ตํ ‘‘นารายนสงฺฆาตพล’’นฺติปิ วุจฺจติ.

ยานิ ปเนตานิ ปาฬิยํ ‘‘อิธ, สาริปุตฺต, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๔๘; อ. นิ. ๑๐.๒๑; วิภ. ๗๖๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔) วุตฺตานิ านาานาณพลํ, กมฺมวิปากาณพลํ, สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณพลํ, อเนกธาตุนานาธาตุโลกาณพลํ, สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตาาณพลํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณพลํ, ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณพลํ, ปุพฺเพนิวาสาณพลํ, ทิพฺพจกฺขุาณพลํ, อาสวกฺขยาณพลนฺติ ทสพลาณานิ, อิมานิ ภควโต ทสพลานิ นาม. ทสหิ อเสกฺเขหิ องฺเคหีติ อรหตฺตผลสมฺปยุตฺเตหิ ปาฬิยํ ‘‘อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺิ…เป… อเสกฺโข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐) เอวํ วุตฺเตหิ ทสหิ อเสกฺขธมฺเมหิ สมนฺนาคโต. เอตฺถ จ ทสฺสนฏฺเน วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ เอว ชานนฏฺเน สมฺมาาณนฺติปิ วุตฺตา, วุตฺตาวเสสา ปน ผลจิตฺตสมฺปยุตฺตา สพฺเพ ผสฺสาทิธมฺมา สมฺมาวิมุตฺตีติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.

พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถาวณฺณนา

๖๐. สารีพฺราหฺมณิยา ปุตฺโต สาริปุตฺโต. โมคฺคลีพฺราหฺมณิยา ปุตฺโต โมคฺคลฺลาโน. ฉนฺนปริพฺพาชกสฺสาติ เสตวตฺเถน หิริโกปีนํ ฉาเทตฺวา วิจรณกปริพฺพาชกสฺส, เตน ‘‘นายํ นคฺคปริพฺพาชโก’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘อุปฺาต’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ าโต เจวาติ. ‘‘มคฺค’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ อุปคโต จ มคฺโคติ. เตน จ อุปฺาตนฺติ เอตฺถ าต-สทฺโท าณปริยาโย. มคฺคนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน มคฺโคว วุตฺโต. อุปสทฺโท จ อุปคมนตฺโถ มคฺคสทฺเทนปิ สมฺพนฺธิตพฺโพติ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนํ นาม อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ อุปคตาณฺเจว โหติ, เตหิ อุปคโต ปฏิปนฺโน มคฺโค จ, ตสฺมา ยํนูนาหํ อนุพนฺเธยฺยนฺติ. อุปฺาตํ นิพฺพานนฺติ อุปปตฺติยา อนุมาเนน าตํ นิพฺพานํ. ‘‘มคฺค’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ มคฺคนฺโตติ, อนุมาเนน าตํ ปจฺจกฺขโต ทสฺสนตฺถาย คเวสนฺโตติ อตฺโถ.

นิโรโธ จ นิโรธูปาโย จ เอกเสเสน นิโรโธติ วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ปฏิปาเทนฺโตติ นิคเมนฺโต.

อิโต อุตฺตรีติ อิโต มยา ลทฺธโสตาปตฺติโต อุตฺตริ อิตรมคฺคตฺตยํ ยทิปิ นตฺถิ, ตถาปิ เอโส เอว มยา คเวสิโต นิพฺพานธมฺโมติ อตฺโถ.

๖๒-๓. ตทารมฺมณายาติ นิพฺพานารมฺมณาย โสตาปตฺติผลวิมุตฺติยา. เตสํ อายสฺมนฺตานนฺติ สปริสานํ เตสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ตสฺมึเยว ขเณ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ, อคฺคสาวกา ปน อตฺตโน าณกิจฺจสฺส มหนฺตตาย กติปาหจฺจเยน. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. อุสูยนกิริยาย กมฺมภาวํ สนฺธาย ‘‘อุปโยคตฺเถวา’’ติ วุตฺตํ.

สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา

๖๔. วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ, มหนฺตฺจ วชฺชํ. อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ เอตฺถ อุตฺติฏฺํ นาม ปิณฺฑาย จรณํ วุจฺจติ ‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๖๘) วิย. อุตฺติฏฺตฺถาย คหิตํ ปตฺตํ อุตฺติฏฺปตฺตํ, เตนาห ‘‘ปิณฺฑาย จรณกปตฺต’’นฺติ. ตสฺส อุปนาเม โก โทโสติ อาห ‘‘ตสฺมึ หี’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา มนุสฺสา เอตสฺมึเยว เอเต ภุฺชนฺตีติ อุตฺติฏฺปตฺเต อุจฺฉิฏฺสฺิโน, ตสฺมา อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ อุตฺติฏฺ-สทฺเทเนว มนุสฺสานํ สฺาย อุจฺฉิฏฺตาปิ คมฺมตีติ. เกจิ ปน ‘‘อุจฺฉิฏฺสทฺเทน สมานตฺโถ อุตฺติฏฺสทฺโท’’ติ วทนฺติ. ‘‘อุตฺติฏฺา’’ติ ตฺวาปจฺจยนฺโตปิ โหตีติ อาห ‘‘อุฏฺหิตฺวา’’ติ. อุปชฺฌายํ คเหตุนฺติ อุปชฺฌายตฺตํ มนสา คเหตุํ, ยาจนวจเนน ตสฺส อนุมตึ คเหตุนฺติ วา อตฺโถ.

๖๕. ปติสฺสยนํ ปติสฺโส, ครุํ นิสฺสาย วตฺตนภาโว, ยํกิฺจิ คารวนฺติ อตฺโถ. สห ปติสฺเสน สปฺปติสฺโส, ปรํ เชฏฺํ กตฺวา ตสฺโสวาเท วตฺตนตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เชฏฺกภาวฺจ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ. สาหูติ สาธุ สุนฺทรํ. ลหูติ อครุ, สุภรตาติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, เอวํ ปฏิปชฺชนํ นิตฺถรณูปาโยติ อตฺโถ. ปติรูปนฺติ สามีจิกมฺมมิทนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน สมฺปาเทหีติ อตฺโถ. กาเยนาติ เอตทตฺถวิฺาปกํ หตฺถมุทฺทาทึ ทสฺเสนฺโต กาเยน วิฺาเปติ. สาธูติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธายาติ อุปชฺฌาเยน ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ วุตฺเตสุ สทฺธิวิหาริกสฺส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ วจนํ สนฺธาย ‘‘กาเยน วิฺาเปตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อายาจนทานมตฺเตนาติ สทฺธิวิหาริกสฺส ปมํ อายาจนมตฺเตน, ตโต อุปชฺฌายสฺส จ ‘‘สาหู’’ติอาทินา วจนมตฺเตนาติ อตฺโถ.

๖๖. อสฺสาติ สทฺธิวิหาริกสฺส. ทฺเว จีวรานีติ อุตฺตราสงฺคํ, สงฺฆาฏิฺจ สนฺธาย วทติ. อิโต ปฏฺายาติ ‘‘น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺสา’’ติ เอตฺถ น-การโต ปฏฺาย, เตน ‘‘นาติทูเร’’ติอาทีสุ น-การปฏิสิทฺเธสุ อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ. สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺตีติ อาปทาอุมฺมตฺตขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏตาทีหิ วินา ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวาปิ วทนฺตสฺส คิลานสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. อาปทาสุ หิ อนฺตรนฺตรา กถา วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมฺเสุปิ น-การปฏิสิทฺเธสุ อีทิเสสุ, อิตเรสุ ปน คิลาโนปิ น มุจฺจติ. ปาฬิยํ ‘‘เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา’’ติ อิทํ ปุพฺเพ ตตฺถ ปิตปตฺตาทินา อสงฺฆฏฺฏนตฺถาย วุตฺตํ, จกฺขุนา โอโลเกตฺวาปิ อฺเสํ อภาวํ ตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏติ เอว. อาปตฺติยา อาสนฺนนฺติ อาปตฺติกรณเมว.

คาเมติ อนฺโตคาเม ตาทิเส มณฺฑปาทิมฺหิ. อนฺตรฆเรติ อนฺโตเคเห. ปฏิกฺกมเนติ อาสนสาลายํ. โธตวาลิกายาติ อุทเกน คตฏฺาเน นิรชาย ปริสุทฺธวาลิกาย. นิทฺธูเมติ ชนฺตาฆเร ชลิยมานอคฺคิธูมรหิเต. ชนฺตาฆรฺหิ นาม หิมปาตพหุเลสุ เทเสสุ ตปฺปจฺจยโรคปีฬาทินิวารณตฺถํ สรีรเสทาปนฏฺานํ. ตตฺถ กิร อนฺธการปฏิจฺฉนฺนตาย พหูปิ เอกโต ปวิสิตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อคฺคิตาปปริหาราย มตฺติกาย มุขํ ลิมฺปิตฺวา สรีรํ ยาวทตฺถํ เสเทตฺวา จุณฺณาทีหิ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นหายนฺติ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘จุณฺณํ สนฺเนตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อุลฺโลกนฺติ อุทฺธํ โอโลกนฏฺานํ. อุปริภาคนฺติ อตฺโถ.

อฺตฺถ เนตพฺโพติ ยตฺถ วิหรโต สาสเน อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ กลฺยาณมิตฺตาทิสมฺปตฺติยุตฺตฏฺาเน เนตพฺโพ. วิสภาคปุคฺคลานนฺติ ลชฺชิโน วา อลชฺชิโน วา อุปชฺฌายสฺส อวฑฺฒิกาเม สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน อุปชฺฌาโย อลชฺชี โอวาทมฺปิ น คณฺหาติ, ลชฺชิโน จ เอตสฺส วิสภาคา โหนฺติ, ตตฺถ อุปชฺฌายํ วิหาย ลชฺชีเหว สทฺธึ อามิสาทิปริโภโค กาตพฺโพ. อุปชฺฌายาทิภาโว เหตฺถ น ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปริเวณํ คนฺตฺวาติ อุปชฺฌายสฺส ปริเวณํ คนฺตฺวา. ‘‘น สุสาน’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ, อุปจารสีมโต พหิ คนฺตุกาเมน อนาปุจฺฉา คนฺตุํ น วฏฺฏติ.

อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา

๖๗. สทฺธิวิหาริกวตฺตกถายํ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติอาทีสุ อนาทริยํ ปฏิจฺจ ธมฺมามิเสหิ อสงฺคณฺหนฺตานํ อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ วตฺตเภทตฺตา. เตเนว ปริวาเรปิ ‘‘นเทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นสมฺมาวตฺตนาทิกถาวณฺณนา

๖๘. นสมฺมาวตฺตนาทิกถายํ วตฺตํ น ปูเรยฺยาติ ‘‘วตฺตกรณกาโล’’ติ วตฺถุวิชานนวเสน ตฺวา มานโกสชฺชาทิวเสน วา อุปชฺฌายาทีสุ อนาทเรน วา ‘‘อกาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อชานนตาย วา น กเรยฺย, ทุกฺกฏเมว. อสฺจิจฺจ อสติยาติอาทีหิ จ อกโรนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ. สพฺพานิ หิ วตฺตานิ เสขิยาเนว, ตสฺมา เสขิเยสุ วุตฺตนเยเนเวตฺถ สพฺโพปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เคหสฺสิตเปมนฺติ เมตฺตาเปมํ.

สาทิยนํวา อสาทิยนํ วา น ชานาตีติ ‘‘มยิ สาทิยนฺเต อกโรนฺตานํ อาปตฺติ โหติ, ปฏิกฺขิปิตฺวา อสาทิยนฺเต อาปตฺติ น โหตี’’ติ เอวํ น ชานาตีติ อตฺโถ. ‘‘เตสุ เอโก วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ…เป… เตสํ อนาปตฺตี’’ติ วจนโต สเจ โกจิ ‘‘ตุมฺหากํ สทฺธิวิหาริเก, อนฺเตวาสิเก วา คิลาเน อุปฏฺหิสฺสามิ, โอวาทานุสาสนิอาทิกํ สพฺพํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, เต วา สทฺธิวิหาริกาทโย ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา โหถา’’ติ วทนฺติ, วตฺตํ วา น สาทิยนฺติ, อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ อนาปตฺติ.

นสมฺมาวตฺตนาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถาวณฺณนา

๖๙. ราธพฺราหฺมณวตฺถุสฺมึ ปาฬิยํ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตติ สกลสรีเร สฺชาตปณฺฑุวณฺโณ. ปณฺฑุวณฺณสฺส สกลสรีเร พฺยาปิตภาวทสฺสนตฺถฺหิ วิจฺฉาวจนํ กตํ. อธิการนฺติ อุปการํ. กตเวทิโนติ อตฺตโน กตํ อุปการํ ปฏิกิริยาย าปกา. อุปสมฺปทากมฺมวาจาย ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปริโยสาเน วกฺขาม. ปริมณฺฑเลหีติ ปริปุณฺเณหิ.

๗๑-๗๓. ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺติ สิกฺขาปทวีติกฺกมํ. ปาฬิยํ ปิณฺฑิยาโลปโภชนนฺติ ชงฺฆปิณฺฑิมํสพเลน จริตฺวา อาโลปาโลปวเสน ปริยิฏฺโภชนํ. อติเรกลาโภติ ภิกฺขาหารโต อธิกลาโภ. สงฺฆภตฺตาทีนํ วิภาโค เสนาสนกฺขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสติ. วิหาโรติ ติณกุฏิกาทิสหิโต ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล สงฺฆาราโม. อฑฺฒโยโคติ เอกสาโล ทีฆปาสาโท. หตฺถิปิฏฺิครุฬสณฺาโน ทีฆปาสาโทติปิ วทนฺติ. ปาสาโทติ จตุรสฺโส อุจฺโจ อเนกภูมกปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทโน จนฺทิกงฺคณยุตฺโต นาติอุจฺโจ ปาสาโท. คุหาติ ปพฺพตคุหา. ปูติมุตฺตนฺติ โคมุตฺตํ.

ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา

๗๖. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ ‘‘เอวํ นิวาเสตพฺพ’’นฺติอาทินา สิกฺขาปเทน โอวทิยมาโน. วาทํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘โอลมฺพิตฺวา นิวาสนาทีสุ โก โทโส? ยทิ โทโส ภเวยฺย , ปริมณฺฑลนิวาสนาทีสุปิ โทโส สิยา’’ติอาทินา นิคฺคหํ อาโรเปตฺวา. ตํเยว ติตฺถายตนนฺติ ทิฏฺิสงฺขาตติตฺถเมว อายตนํ ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺานนฺติ ติตฺถายตนํ. อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามีติ อายสฺมนฺตํ นิสฺสาย วสิสฺสามีติ อตฺโถ.

อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปณามนาขมาปนากถาวณฺณนา

๘๐. ยํ ปุพฺเพ ลกฺขณํ วุตฺตํ, เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ น เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺธโยชนา ทฏฺพฺพา. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘น เตเนว ลกฺขเณนา’’ติ เอตฺถ น-การํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ. ตถา หิ เตเนว ลกฺขเณน อาปตฺติภาเว คยฺหมาเน นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติ เอวาติ วุตฺตลกฺขเณน อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. ตถา จ ‘‘นิสฺสยนฺเตวาสิเกน หิ ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพํ อาจริยวตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ อิมินา อนนฺตรวจเนน วิโรโธ สิยา. วิสุทฺธิมคฺเคปิ จ –

‘‘นิสฺสยาจริย, อุทฺเทสาจริย, นิสฺสยนฺเตวาสิก, อุทฺเทสนฺเตวาสิก, สมานาจริยกา ปน ยาว นิสฺสยอุทฺเทสา อนุปจฺฉินฺนา. ตาว ปฏิชคฺคิตพฺพา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) –

วุตฺตํ . ตสฺมา วุตฺตนเยน อิธ ปริคฬิตํ น-การํ อาเนตฺวา เตเนว สทฺธิวิหาริกสฺส วุตฺเตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ น เวทิตพฺพาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.

ปณามนาขมาปนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา

๘๓. นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถายํ ‘‘โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ’’ติ อิมินา ลชฺชีสุ เอว นิสฺสยคฺคหณํ นิโยเชติ อลชฺชีสุ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. เอตฺถ จ ปริโภคสทฺเทน เอกกมฺมาทิโก สํวาโส คหิโต ปจฺจยปริโภคสฺส สมฺโภค-สทฺเทน คหิตตฺตา, เอเตน จ สมฺโภคสํวาสานํ อลชฺชีหิ สทฺธึ น กตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ. ปริหาโร นตฺถีติ อาปตฺติปริหาโร นตฺถิ. ตาทิโสติ ยตฺถ นิสฺสโย คหิตปุพฺโพ, โย จ เอกสมฺโภคปริโภโค, ตาทิโส. ตถา วุตฺตนฺติ ‘‘ลหุํ อาคมิสฺสามี’’ติ วุตฺตฺเจติ อตฺโถ. ‘‘จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานี’’ติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ. ยทิ เอกาหทฺวีเหน สภาคตา ปฺายติ, าตทิวเสน คเหตพฺโพว. อถาปิ จตุปฺจาเหนาปิ น ปฺายติ, ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ปฺายติ, ตตฺตกานิ อติกฺกเมตพฺพานิ. สภาคตํ โอโลเกมีติ ปน เลโส น กาตพฺโพ.

ทหรา สุณนฺตีติ เอตฺถ อสุตฺวาปิ อาคมิสฺสติ, เกนจิ อนฺตราเยน จิรายตีติ สฺาย สติ ลพฺภเตว ปริหาโร. เตนาห ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามีติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถี’’ติ.

เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถีติ คมเน นิรุสฺสาหํ สนฺธาย วุตฺตํ. สอุสฺสาหสฺส ปน เสนาสนปฏิสามนาทิวเสน กติปาเห คเตปิ น โทโส.

ตตฺเรว วสิตพฺพนฺติ ตตฺร สภาคฏฺาเน เอว นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตพฺพํ. ‘‘ตํเยว วิหารํ…เป… วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อุปชฺฌาเย สงฺคณฺหนฺเตเยว ตํสโมธาเน นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ วุตฺตา, ตสฺมึ ปน โกเธน วา คณนิรเปกฺขตาย วา อสงฺคณฺหนฺเต อฺเสุ คหิโต นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ทสฺเสติ.

อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิยํ วุตฺโต ‘‘โกจิ อาจริโย’’ติอาทิโก นโย อุปชฺฌายปกฺกมนาทีสุปิ เนตฺวา ตตฺถ จ วุตฺโต อิธาปิ เนตฺวา ยถารหํ โยเชตพฺโพ.

ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺตีติ อุปจารสีมโต พหิ อฺสฺมึ วิหาเร อนฺเตวาสิกานํ วสนฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม วสนฺติ. เตน พหิอุปจาเรปิ อนฺเตวาสิกาทีนํ วสนฏฺานโต ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตเร อาสนฺนปเทเส วสติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ทสฺเสติ. อนฺโตอุปจารสีมายํ ปน ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา วสโต นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภเตว.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถาวณฺณนา

๘๔. อุปชฺฌาจริยลกฺขณกถายํ น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพติ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา น ปพฺพาเชตพฺโพ. อเสกฺขสฺส อยนฺติ อเสกฺโข, โลกิยโลกุตฺตโร สีลกฺขนฺโธ.

อนฺตคฺคาหิกายาติ สสฺสตุจฺเฉทโกฏฺาสคฺคาหิกาย. ปจฺฉิมานิ ทฺเวติ อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหตีติ อิมานิ ทฺเว องฺคานิ. ปจฺฉิมานิ ตีณีติ น ปฏิพโล อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาตีติ อิมานิ ตีณิ. กุกฺกุจฺจสฺส หิ ปาฬิอฏฺกถานยสงฺขาตธมฺมโต วิโนเทตุํ อปฏิพลตา นาม อพฺยตฺตตา เอว โหตีติ สาปิ อาปตฺติองฺคเมว วุตฺตา.

อภิวิสิฏฺโ อุตฺตโม สมาจาโร อาภิสมาจาโร, วตฺตปฏิวตฺตสีลํ. ตํ อารพฺภ ปฺตฺตา ขนฺธกสิกฺขาปทสงฺขาตา สิกฺขา อาภิสมาจาริกา. สิกฺขาปทมฺปิ หิ ตํ ตตฺถ ปฏิปูรณตฺถิเกหิ อุคฺคหณาทิวเสน สิกฺขิตพฺพโต ‘‘สิกฺขา’’ติ วุจฺจติ. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา การณภูตาติ อาทิพฺรหฺมจริยกา สิกฺขา, อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสิกฺขาปทํ. เตเนว วิสุทฺธิมคฺเคปิ ‘‘อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสิกฺขาปทํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ, ขนฺธกวตฺตปอยาปนฺนํ อาภิสมาจาริก’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๑) วุตฺตํ. ตสฺมา เสกฺขปณฺณตฺติย’’นฺติ เอตฺถ สิกฺขิตพฺพโต เสกฺขา, ภควตา ปฺตฺตตฺตา ปณฺณตฺติ. สพฺพาปิ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนา สิกฺขาปทปณฺณตฺติ ‘‘เสกฺขปณฺณตฺตี’’ติ วุตฺตาติ คเหตพฺพา. นามรูปปริจฺเฉเทติ เอตฺถ กุสลตฺติกาทีหิ วุตฺตํ ชาติภูมิปุคฺคลสมฺปโยควตฺถารมฺมณกมฺมทฺวารลกฺขณรสาทิเภเทหิ เวทนากฺขนฺธาทิจตุพฺพิธํ สนิพฺพานํ นามํ, ภูตุปาทายเภทํ รูปฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานนปฺา, ตปฺปกาสโก จ คนฺโถ นามรูปปริจฺเฉโท นาม. อิมินา อภิธมฺมตฺถกุสเลน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. สิกฺขาเปตุนฺติ อุคฺคณฺหาเปตุํ.

อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถาวณฺณนา

๘๖. ติตฺถิยปริวาสกถายํ อาชีวกสฺส วาติอาทีสุ อกิริยวาที อาชีวโก นาม, กิริยวาทิโน ปน นิคณฺาปิ อฺเปิ นคฺคติตฺถิกา อเจลกปเท สงฺคหิตา. สพฺพถา นคฺคสฺเสว ติตฺถิยปริวาโส วิหิโต. โส จ เตเนว นคฺคเวเสน ภิกฺขูนํ สนฺติกํ อาคตสฺส, น ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคตสฺสาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ โสปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โสปีติ อาชีวโก.

อามิสกิฺจิกฺขสมฺปทานํ นาม อปฺปมตฺตกสฺส เทยฺยธมฺมสฺส อนุปฺปทานํ. รูปูปชีวิกาติ อตฺตโน รูปเมว นิสฺสาย ชีวนฺติโย. เวสิยา โคจโร พหุลํ ปวตฺติฏฺานํ อสฺสาติ เวสิยาโคจโร. เอส นโย สพฺพตฺถ. โยพฺพนฺนาตีตาติ อนิวิทฺธา เอว มหลฺลิกภาวํ ปตฺตา ถุลฺลกุมารี เอวาติ วุตฺตํ. อาทายสฺสาติ อาทานสฺส คหณสฺส.

อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา

๘๘-๙. ปฺจาพาธาทิวตฺถูสุ ปาฬิยํ โสมฺหิ อโรโค, วิพฺภมิสฺสามีติ โส อหํ อโรโค, วิพฺภมิสฺสามีติ อตฺโถ. นขปิฏฺิปฺปมาณนฺติ กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิ อธิปฺเปตา. ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน าเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ตาทิสมฺปิ น วฏฺฏติ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเนปิ จ วฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏตีติ สิทฺธเมว โหติ. ปากฏฏฺาเนปิ ปน นขปิฏฺิปฺปมาณโต อูนตรํ อวฑฺฒนกํ วฏฺฏตีติ เย คณฺเหยฺยุํ, เตสํ ตํ คหณํ ปฏิเสเธตุํ ‘‘มุเข ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

โกลฏฺิมตฺตโกปีติ พทรฏฺิปฺปมาโณปิ. อวฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน โกลฏฺิมตฺตโต ขุทฺทกตโรปิ คณฺโฑ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สจฺฉวึ กาเรตฺวา’’ติ, วิชฺชมานจฺฉวึ กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘สฺฉวิ’’นฺติ วา ปาโ, สฺชาตจฺฉวินฺติ อตฺโถ. คณฺฑาทีสุ วูปสนฺเตสุปิ คณฺฑานํ วิวณฺณมฺปิ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.

ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณนฺติ รตฺตปทุมเสตปทุมปุปฺผทลวณฺณํ. กุฏฺเ วุตฺตนเยเนวาติ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกํ วฏฺฏติ, อฺตฺถ น กิฺจิปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตนยํ ทสฺเสติ. โสสพฺยาธีติ ขยโรโค. ยกฺขุมฺมาโรติ กทาจิ กทาจิ อาคนฺตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา หตฺถมุขาทิกํ อวยวํ ภูมิยํ ฆํสนโก ยกฺโขว โรโค.

ปฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ราชภฏวตฺถุกถาวณฺณนา

๙๐. ทานาหํ เทวสฺส ภโฏติ อาปุจฺฉตีติ รฺา เอว ทินฺนฏฺานนฺตรํ สนฺธาย วุตฺตํ. โย ปน ราชกมฺมิเกหิ อมจฺจาทีหิ ปิโต, อมจฺจาทีนํ เอว วา ภโฏ โหติ, เตน ตํ ตํ อมจฺจาทิมฺปิ อาปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

ราชภฏวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โจรวตฺถุกถาวณฺณนา

๙๑. ตสฺมาติ ภควา สยํ ยสฺมา ธมฺมสฺสามี, ตสฺมา องฺคุลิมาลํ เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพาเชสิ, ภิกฺขูนํ ปน สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต เอวมาหาติ อธิปฺปาโย. เอวํ ชานนฺตีติ สีลวา ชาโตติ ชานนฺติ.

๙๒. อุปรมนฺติ วิรมนฺติ. ภินฺทิตฺวาติ อนฺทุพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา. ฉินฺทิตฺวาติ สงฺขลิกํ ฉินฺทิตฺวา. มุฺจิตฺวาติ รชฺชุพนฺธนํ มุฺจิตฺวา. วิวริตฺวาติ คามพนฺธนาทีสุ คามทฺวาราทีนํ วิวริตฺวา. อปสฺสมานานนฺติ ปุริสคุตฺติยํ โคปกานํ อปสฺสนฺตานํ.

๙๕. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว.

โจรวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิณายิกวตฺถุกถาวณฺณนา

๙๖. ปลาโตปีติ อิณสามิกานํ อาคมนํ ตฺวา ภเยน ปลาโต. คีวา โหตีติ อิณายิกภาวํ ตฺวา อนาทเรน อิณมุตฺตเก ภิกฺขุภาเว ปเวสิตตฺตา. อุปฑฺฒุปฑฺฒนฺติ โถกโถกํ. ทาตพฺพเมวาติ อิณายิเกน ธนํ สมฺปฏิจฺฉตุ วา มา วา, ทาเน สอุสฺสาเหเนว ภวิตพฺพํ. อฺเหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘มา ธุรํ นิกฺขิปาหี’’ติ วตฺวา สหายเกหิ ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ธุรนิกฺเขเปน หิสฺส ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺพตา สิยาติ.

อิณายิกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทาสวตฺถุกถาวณฺณนา

๙๗. ‘‘ทาสจาริตฺตํอาโรเปตฺวา กีโต’’ติ อิมินา ทาสภาวปริโมจนตฺถาย กีตกํ นิวตฺเตติ. ตาทิโส หิ ธนกฺกีโตปิ อทาโส เอว. ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสนาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ชนปเท ทาสปณฺณชฺฌาปนาทินา อทาสกรณนิยาเมน. อภิเสกาทีสุ สพฺพพนฺธนานิ โมจาเปนฺติ, ตํ สนฺธาย ‘‘สพฺพสาธารเณนา’’ติ วุตฺตํ.

สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏตีติ ตา ภุชิสฺสิตฺถิโย ‘‘มยมฺปิ วณฺณทาสิโย โหมา’’ติ อตฺตโน รกฺขณตฺถาย สยเมว ราชูนํ ทาสิปณฺเณ อตฺตโน นามํ ลิขาเปนฺติ, ตาสํ ปุตฺตาปิ ราชทาสาว โหนฺติ, ตสฺมา เต ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพาติ ยตฺตกา เตสํ สามิโน, เตสุ เอเกน อทินฺเนปิ น ปพฺพาเชตพฺพา.

ภุชิสฺเส ปน กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ ยสฺส วิหารสฺส เต อารามิกา ทินฺนา, ตสฺมึ วิหาเร สงฺฆํ าเปตฺวา ผาติกมฺเมน ธนานิ ทตฺวา ภุชิสฺเส กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺตีติ เกสุจิ ชนปเทสุ อทาเส กโรนฺตา ตกฺกํ สีเส อาสิฺจนฺติ, เตน กิร เต อทาสา โหนฺติ, เอวมิทมฺปิ อารามิกวจเนน ทานมฺปีติ อธิปฺปาโย. ตถา ทินฺเนปิ สงฺฆสฺส อารามิกทาโส เอวาติ ‘‘เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตาวกาลิโก นามา’’ติ วุตฺตตฺตา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ปจฺฉาปิ คเหตุกามตาย วา ทินฺนํ สพฺพํ ตาวกาลิกเมวาติ คเหตพฺพํ. นิสฺสามิกทาโส นาม ยสฺส สามิกุลํ อฺาติกํ มรเณน ปริกฺขีณํ, น โกจิ ตสฺส ทายาโท, โส ปน สมานชาติเกหิ วา นิวาสคามวาสีหิ วา อิสฺสเรหิ วา ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. เทวทาสาปิ ทาสา เอว. เต หิ กตฺถจิ เทเส ราชทาสา โหนฺติ, กตฺถจิ วิหารทาสา, ตสฺมา ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทาสมฺปิ ปพฺพาเชตฺวา สามิเก ทิสฺวา ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อปเนนฺโต ปทวาเรน อทินฺนาทานาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, ทาสสฺส ปน ปลายโต อนาปตฺติ.

ทาสวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถาวณฺณนา

๙๘. ภณฺฑุกมฺมาปุจฺฉานาทิกถายํ กมฺมารภณฺฑูติ ทหรตาย อโมฬิพนฺโธ มุณฺฑิกสีโส กมฺมารทารโก เอว วุตฺโต. ตุลาธารมุณฺฑโกติ เอตฺถ ตุลาธาราติ ตมฺพสุวณฺณาทีนํ ตุลํ หตฺเถน ธาเรตีติ กมฺมารา ‘‘ตุลาธารา’’ติ วุตฺตา, เตสุ เอโก มุณฺฑิกสีโส ทหโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฺจสิโข ตรุณทารโก’’ติ. เอกาว สิขา ปฺจ เวณิโย กตฺวา พนฺธเนน ปฺจสิขาติ วุจฺจติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ ปฺจสิโข, ตสฺส สิขํ ฉินฺทนฺตา กฺจิ ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวาว ปพฺพาเชสุํ. เตน ภณฺฑุกมฺมาปโลกนํ อนุฺาตํ. สีมาปริยาปนฺเนติ พทฺธสีมาย สติ ตทนฺโตคเธ, อสติ อุปจารสีมนฺโตคเธติ อตฺโถ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน อนปโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ วุตฺตา, ตถาปิ อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหีติสฺิโน…เป… ปพฺพาเชนฺตสฺสปิ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา สฺจิจฺจ อนาปุจฺฉา เกเส โอหาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เกโสโรปนมฺปิ สมณปพฺพชนโวหารํ ลภตีติ อาห ‘‘อิมสฺส สมณกรณ’’นฺติอาทิ. เอกสิขามตฺตธโรติ เอตฺถ เอเกน เกเสน สิขา เอกสิขาติ วทนฺติ, อปฺปเกสาว สิขา เอวํ วุตฺตาติ คเหตพฺพา. เอกเกสมฺปิ ปน อนาปุจฺฉา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติเยว.

๑๐๐. วามหตฺเถนาติ ทกฺขิณหตฺเถน ภุฺชนโต วุตฺตํ.

๑๐๓-๔. นิสฺสยมุจฺจนกสฺส วตฺเตสุ ปฺจกฉกฺเกสุ ปน ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ…เป… อนุพฺยฺชนโส’’ติ เอตฺถ สพฺโพปิ จายํ ปเภโท มาติกาฏฺกถายํ าตายํ าโต โหติ. ‘‘อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาตี’’ติ อิทฺจ อตฺตนา าตฏฺาเนสุ อาปตฺตาทึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ.

กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๐๕. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขเร ปทุมคจฺเฉ วิย อเตมิตุกามานํ สรีรโต ปวฏฺฏนกวสฺสํ. ตสฺมึ กิร วสฺสนฺเต เตมิตุกามาว เตเมนฺติ, น อิตเร. ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คโต นาม นตฺถีติ อตฺตโน สนฺตเก รชฺเช สพฺพมฺปิ สาปเตยฺยํ สยเมว ปริภุฺชิสฺสตีติ คารเวน สุทฺโธทนมหาราชาปิ น นิมนฺเตสิ, คนฺตฺวา ปน เคเห สกลรตฺตึ มหาทานฺเจว พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส อาสนปฺตฺติฏฺานาลงฺการฺจ สํวิทหนฺโตว วีตินาเมสิ.

โกจิ…เป… ปตฺตํ วา อคฺคเหสีติ ภควา อตฺตโน ปิตุ นิเวสนเมว คมิสฺสตีติสฺาย นคฺคเหสิ. กุลนคเรติ าติกุลนฺตเก นคเร. ปิณฺฑจาริยวตฺตนฺติ อตฺตโน าติคาเมสุปิ สปทานจาริกวตฺตํ. ภิกฺขาย จาโร จรณํ เอตสฺสาติ ภิกฺขาจาโร, ขตฺติโย.

อุตฺติฏฺเติ อุตฺติฏฺิตฺวา ปเรสํ ฆรทฺวาเร อุทฺทิสฺส ตฺวา คเหตพฺพปิณฺเฑ. นปฺปมชฺเชยฺยาติ นิมนฺตนาทิวเสน ลพฺภมานปณีตโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑาย จรณวเสน ตตฺถ นปฺปมชฺเชยฺย. ธมฺมนฺติ อเนสนํ ปหาย สปทานํ จรนฺโต ตเมว ภิกฺขาจริยธมฺมํ สุจริตํ จเรยฺย. สุขํ เสตีติ จตูหิ อิริยาปเถหิ สุขํ วิหรตีติ อตฺโถ.

ทุติยคาถายํ น นํ ทุจฺจริตนฺติ เวสิยาทิเภเท อโคจเร จรณวเสน ตํ ยถาวุตฺตํ ธมฺมํ ทุจฺจริตํ น จ จเร. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิมํ ปน คาถํ สุตฺวาติ นิเวสเน นิสินฺเนน ภควตา าติสมาคเม อตฺตโน ปิณฺฑาย จรณํ นิสฺสาย ปวตฺตาย คาถาย วุตฺตํ อิมํ ทุติยคาถํ สุตฺวา.

ธมฺมปาลชาตกนฺติอาทีสุ ปน ตโต ปรกาเลสุปิ รฺโ ปวตฺติ ปรินิพฺพานํ ปาเปตฺวา ยถาปสงฺควเสน ทสฺเสตุํ วุตฺตา. เตนาห ‘‘โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตฺวา’’ติอาทิ. สิริคพฺภํ คนฺตฺวาติ เอตฺถ ยทิ หิ ภควา ตทเหว คนฺตฺวา น ปสฺเสยฺย, สา หทเยน ผลิเตน มเรยฺยาติ อคมาสีติ ทฏฺพฺพํ.

ตํ ทิวสเมวาติ ตสฺมึ ราหุลมาตุทสฺสนทิวเสเยว. ธมฺมปทฏฺกถายํ ปน ‘‘สตฺถา กปิลปุรํ คนฺตฺวา ตติยทิวเส นนฺทํ ปพฺพาเชสี’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๒ นนฺทตฺเถรวตฺถุ) วุตฺตํ. เกสวิสฺสชฺชนนฺติ ราชโมฬิพนฺธนตฺถํ กุมารกาเล พนฺธิตสิขาเวณิโมจนํ, ตํ กิร กโรนฺตา มงฺคลํ กโรนฺติ. สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘เกสวิสฺสชฺชนนฺติ กุลมริยาทวเสน เกโสโรปน’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๐๕) วุตฺตํ. ปฏฺฏพนฺโธติ ‘‘อสุกราชา’’ติ นฬาเฏ สุวณฺณปฏฺฏพนฺธนํ. อภินวปาสาทปฺปเวสมงฺคลํ ฆรมงฺคลํ. ฉตฺตุสฺสาปเน มงฺคลํ ฉตฺตมงฺคลํ. ชนปทกลฺยาณีติ ชนปทมฺหิ กลฺยาณี ปเรหิ อสาธารเณหิ ปฺจกลฺยาณาทีหิ สหิตตฺตา สา เอวํ วุตฺตา. ตุวฏนฺติ สีฆํ. อนิจฺฉมานนฺติ มนสา อโรเจนฺตํ, วาจาย ปน ภควตา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ นนฺทา’’ติ วุตฺเต คารเวน ปฏิกฺขิปิตุํ อวิสหนฺโต ‘‘อามา’’ติ อโวจ. ภควา จ เอเตน เลเสน ปพฺพาเชสิ.

พฺรหฺมรูปวณฺณนฺติ พฺรหฺมรูปสมานรูปํ. ตฺยสฺสาติ เต อสฺส. นิวตฺเตตุํ น วิสหีติ ‘‘มา นํ นิวตฺตยิตฺถา’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา นาสกฺขิ. สตฺตวิธํ อริยธนนฺติ –

‘‘สทฺธาธนํ สีลธนํ, หิริโอตฺตปฺปิยํ ธนํ;

สุตธนฺจ จาโค จ, ปฺา เว สตฺตมํ ธน’’นฺติ. (อ. นิ. ๗.๕, ๖) –

เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ อริยธนํ. อธิมตฺตํ ราหุเลติ ราหุเล ปพฺพชิเต นนฺทปพฺพชฺชาย อุปฺปนฺนทุกฺขโตปิ อธิกตรํ ทุกฺขํ อโหสีติ อตฺโถ. อิโต ปจฺฉาติ อิโต วุตฺตโสกุปฺปตฺติโต อปรทิวเสสุ อนาคามีนํ าติสิเนหปฏิฆจิตฺตุปฺปาทาภาวา. ปาฬิยํ ปุตฺตเปมนฺติอาทิ รฺา ปุตฺตสิเนหสฺส ติพฺพภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุตฺตสิเนโห หิ อตฺตนา สหชาตปีติเวคสมุฏฺิตานํ รูปธมฺมานํ สกลสรีรํ โขเภตฺวา ปวตฺตนวเสน ‘‘ฉวึ…เป… อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ วุตฺโต. อตฺตโน ปิยตราติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ. ปุตฺเตติ ราหุลํ. สทฺทหนฺเตนาติ ตสฺส วจเนน อเวมติเกนาติ อตฺโถ. วิมติยา สติ อาปตฺติ เอว.

ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๐๖. สามเณรสิกฺขาปทาทีสุ ปาฬิยํ สิกฺขาปทานีติ สิกฺขาโกฏฺาสา. อธิสีลสิกฺขานํ วา อธิคมูปายา. ปาโณติ ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺส อติปาตนํ ปพนฺธวเสน ปวตฺติตุํ อทตฺวา สตฺถาทีหิ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปาตนํ ปาณาติปาโต. ปาณวโธติ อตฺโถ. โส ปน อตฺถโต ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา วธกเจตนาว. ตสฺมา ปาณาติปาตา เวรมณิ, เวรเหตุตาย เวรสงฺขาตํ ปาณาติปาตาทิปาปธมฺมํ มณติ นีหรตีติ วิรติ ‘‘เวรมณี’’ติ วุจฺจติ, วิรมติ เอตายาติ วา ‘‘วิรมณี’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘เวรมณี’’ติ สมาทานวิรติ วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ.

อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, เถยฺยเจตนาว. อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ, มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติสมุฏฺาปิกา เมถุนเจตนา. มุสาติ อภูตวตฺถุ, ตสฺส วาโท อภูตตํ ตฺวาว ภูตโต วิฺาปนเจตนา มุสาวาโท. ปิฏฺปูวาทินิพฺพตฺตสุรา เจว ปุปฺผาสวาทิเภทํ เมรยฺจ สุราเมรยํ. ตเทว มทนียฏฺเน มชฺชฺเจว ปมาทการณฏฺเน ปมาทฏฺานฺจ, ตํ ยาย เจตนาย ปิวติ, ตสฺส เอตํ อธิวจนํ.

อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ อริยานํ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. ภุฺชิตพฺพฏฺเน โภชนนฺติ อิธ สพฺพํ ยาวกาลิกํ วุจฺจติ, ตสฺส อชฺโฌหรณํ อิธ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘โภชน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. วิกาเล โภชนํ อชฺโฌหรณํ วิกาลโภชนํ, วิกาเล วา ยาวกาลิกสฺส โภชนํ อชฺโฌหรณํ วิกาลโภชนนฺติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อตฺถโต วิกาเล ยาวกาลิกอชฺโฌหรณเจตนาว.

สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนํ วิสูกทสฺสนํ, นจฺจคีตาทิทสฺสนสวนานฺเจว วฏฺฏกยุทฺธชูตกีฬาทิสพฺพกีฬานฺจ นามํ. ทสฺสนนฺติ เจตฺถ ปฺจนฺนมฺปิ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย ทสฺสน-สทฺเทน สงฺคเหตพฺพตฺตา สวนมฺปิ สงฺคหิตํ. นจฺจคีตวาทิต-สทฺเทหิ เจตฺถ อตฺตโน นจฺจนคายนาทีนิปิ สงฺคหิตานีติ ทฏฺพฺพํ.

มาลาติ พทฺธมพทฺธํ วา อนฺตมโส สุตฺตาทิมยมฺปิ อลงฺการตฺถาย ปิฬนฺธิยมานํ ‘‘มาลา’’ตฺเวว วุจฺจติ. คนฺธนฺติ วาสจุณฺณาทิวิเลปนโต อฺํ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ปิสิตฺวา คหิตํ ฉวิราคกรณฺเจว คนฺธชาตฺจ. ธารณํ นาม ปิฬนฺธนํ. มณฺฑนํ นาม อูนฏฺานปูรณํ. คนฺธวเสน, ฉวิราควเสน จ สาทิยนํ วิภูสนํ นาม. มาลาทีสุ วา ธารณาทีนิ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพานิ. เตสํ ธารณาทีนํ านํ การณํ วีติกฺกมเจตนา.

อุจฺจาติ อุจฺจ-สทฺเทน สมานตฺโถ นิปาโต, อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ อาสนฺทาทิ. มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรเณหิ อตฺถตํ, สโลหิตวิตานฺจ. เอเตสุ หิ อาสนํ, สยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยน-สทฺเทหิ คหิตานิ อุตฺตรปทโลเปน. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ รชต-สทฺเทน ทารุมาสกาทิ สพฺพํ รูปิยํ สงฺคหิตํ, มุตฺตามณิอาทโยเปตฺถ ธฺเขตฺตวตฺถาทโย จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. ปฏิคฺคหณ-สทฺเทน ปฏิคฺคาหาปนสาทิยนานิ สงฺคหิตานิ. นาสนวตฺถูติ ปาราชิกฏฺานตาย ลิงฺคนาสนาย การณํ.

๑๐๗. ปาฬิยํ สพฺพํ สงฺฆารามํ อาวรณํ กโรนฺตีติ สพฺพสงฺฆาราเม ปเวสนิวารณํ กโรนฺติ. สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพติ สงฺฆาราโม อาวรโณ กาตพฺโพ, สงฺฆาราเม วา อาวรณํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ ภุมฺมวเสน วุตฺตํ. อาหารํ อาวรณนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘ยตฺถ วา วสตี’’ติ อิมินา สามเณรสฺส วสฺสคฺเคน ลทฺธํ วา สกสนฺตกเมว วา นิพทฺธวสนกเสนาสนํ วุตฺตํ. ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ อาจริยุปชฺฌายานํ วสนฏฺานํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ. อตฺตโนติ หิ สยํ, อาจริยสฺส, อุปชฺฌายสฺส วาติ อตฺโถ. ทณฺเฑนฺติ วิเนนฺติ เอเตนาติ ทณฺโฑ, โส เอว กตฺตพฺพตฺตา กมฺมนฺติ ทณฺฑกมฺมํ, อาวรณาทิ. อุทกํ วา ปเวเสตุนฺติ โปกฺขรณีอาทิอุทเก ปเวเสตุํ.

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา

๑๐๘. สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกานมฺปีติ อุปสมฺปนฺเน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสุปิ หิ อาจริยุปชฺฌาเยสุ ยถา โอรมนฺติ, ตถา เตสํ นิคฺคหํ อกโรนฺเตสุ อฺเหิ อาวรณาทินิคฺคหกมฺมํ กาตพฺพเมว. สงฺคณฺหนฺตีติ ‘‘ปรปริสโต ภินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ ทานาทิจตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ (ที. นิ. ๓.๒๑๐; อ. นิ. ๔.๓๒, ๒๕๖) อุปลาฬนวเสน สงฺคณฺหนฺติ. โส ภิชฺชตุ วา มา วา, สงฺคณฺหนฺตสฺส ปโยเค อาปตฺติ เอว. ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏตีติ ภินฺทิตุมฺปิ น วฏฺฏติ, คณฺหิตุมฺปิ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏตีติ สาสนคารเวน วา ปรานุทฺทยตาย วา วตฺตุํ วฏฺฏติ, น ปริสโลลตาย.

‘‘เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ อิมินา วสฺสจฺเฉทํ ทสฺเสติ. อุปสมฺปนฺนานมฺปิ ปาราชิกสมาปตฺติยา สรณคมนาทิสามเณรภาวสฺสาปิ วินสฺสนโต เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สงฺฆลาภมฺปิ เต น ลภนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานีติ สรณคฺคหเณน สห ตทเหวสฺส วสฺสูปคมนมฺปิ ทสฺเสติ. ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกนฺติ วสฺสาวาสิกลาภคฺคหณทสฺสนมตฺตเมเวตํ, ตโต ปุเรปิ, ปจฺฉาปิ วา วสฺสาวาสิกฺจ จีวรมาเสสุ สงฺเฆ อุปฺปนฺนํ กาลจีวรฺจ ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อวิปนฺนสีโล สามเณโร ลภติ เอว. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานีติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคมนฺจ ฉินฺนวสฺสตฺจ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ กาลจีวเร ภาโค น ปาปุณาติ. ตสฺมา ‘‘อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

วสฺสาวาสิกลาโภ ปน ยทิ เสนาสนสามิกา ทายกา เสนาสนคุตฺตตฺถาย ปจฺฉิมิกาย อุปคนฺตฺวา วตฺตํ กตฺวา อตฺตโน เสนาสเน วสนฺตสฺสปิ วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพนฺติ วทนฺติ, อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺโพว. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉตีติ ปจฺฉิมิกาย ปุน วสฺสํ อุปคตตฺตา ลจฺฉตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๐๘) วุตฺตํ, ตมฺปิ วสฺสาวาสิเก ทายกานํ อิมํ อธิปฺปายํ นิสฺสาย วุตฺตฺเจ, สุนฺทรํ. สงฺฆิกํ, กาลจีวรมฺปิ สนฺธาย วุตฺตฺเจ, น ยุชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.

น อชานิตฺวาติ ‘‘สุรา’’ติ อชานิตฺวา ปิวโต ปาณาติปาตเวรมณิอาทิสพฺพสีลเภทํ, สรณเภทฺจ น อาปชฺชติ, อกุสลํ ปน สุราปานเวรมณิสีลเภโท จ โหติ มาลาทิธารณาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. อิตรานีติ วิกาลโภชนเวรมณิอาทีนิ. ตานิปิ หิ สฺจิจฺจ วีติกฺกมนฺตสฺส ตํ ตํ ภิชฺชติ เอว, อิตรีตเรสํ ปน อภิชฺชมาเนน นาสนงฺคานิ น โหนฺติ. เตเนว ‘‘เตสุ ภินฺเนสู’’ติ เภทวจนํ วุตฺตํ.

อจฺจยํเทสาเปตพฺโพติ ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา’’ติอาทินา สงฺฆมชฺเฌ เทสาเปตฺวา สรณสีลํ ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย ปาราชิกตฺตา เตสํ. เตนาห ‘‘ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ. อยเมว หิ นาสนา อิธ อธิปฺเปตาติ ลิงฺคนาสนาการเณหิ ปาณาติปาตาทีหิ อวณฺณภาสนาทีนํ สห ปติตตฺตา วุตฺตํ.

นนุ จ กณฺฏกสามเณโรปิ มิจฺฉาทิฏฺิโก เอว, ตสฺส จ เหฏฺา ทณฺฑกมฺมนาสนาว วุตฺตา. อิธ ปน มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส ลิงฺคนาสนา วุจฺจติ, โก อิเมสํ เภโทติ โจทนํ มนสิ นิธายาห ‘‘สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก’’ติ. เอตฺถ จายมธิปฺปาโย – โย หิ ‘‘อตฺตา อิสฺสโร วา นิจฺโจ ธุโว’’ติอาทินา วา ‘‘อตฺตา อุจฺฉิชฺชิสฺสติ วินสฺสิสฺสตี’’ติอาทินา วา ติตฺถิยปริกปฺปิตํ ยํ กิฺจิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺึ ทฬฺหํ คเหตฺวา โวหรติ, ตสฺส สา ปาราชิกฏฺานํ โหติ. โส จ ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. โย ปน อีทิสํ ทิฏฺึ อคฺคเหตฺวา สาสนิโกว หุตฺวา เกวลํ พุทฺธวจนาธิปฺปายํ วิปรีตโต คเหตฺวา ภิกฺขูหิ โอวทิยมาโนปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา โวหรติ, ตสฺส สา ทิฏฺิ ปาราชิกํ น โหติ, โส ปน กณฺฏกนาสนาย เอว นาเสตพฺโพติ.

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปณฺฑกวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๐๙. ปณฺฑกวตฺถุสฺมึ อาสิตฺตอุสูยปกฺขปณฺฑกา ตโยปิ ปุริสภาวลิงฺคาทิยุตฺตา อเหตุกปฏิสนฺธิกา, เต จ กิเลสปริยุฏฺานสฺส พลวตาย นปุํสกปณฺฑกสทิสตฺตา ‘‘ปณฺฑกา’’ติ วุตฺตา. เตสุ อาสิตฺตอุสูยปณฺฑกานํ ทฺวินฺนํ กิเลสปริยุฏฺานํ โยนิโสมนสิการาทีหิ วีติกฺกมโต นิวาเรตุมฺปิ สกฺกา, เตน เต ปพฺพาเชตพฺพา วุตฺตา. ปกฺขปณฺฑกสฺส ปน กาฬปกฺเขสุ อุมฺมาโท วิย กิเลสปริฬาโห อวตฺถรนฺโต อาคจฺฉติ, วีติกฺกมํ ปตฺวา เอว จ นิวตฺตติ. ตสฺมา โส ตสฺมึ ปกฺเข น ปพฺพาเชตพฺโพติ วุตฺโต. ตเทตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส ปเรส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสิตฺตสฺสาติ มุเข อาสิตฺตสฺส อตฺตโนปิ อสุจิมุจฺจเนน ปริฬาโห วูปสมฺมติ. อุสูยาย อุปฺปนฺนายาติ อุสูยาย วเสน อตฺตโน เสเวตุกามตาราเค อุปฺปนฺเน อสุจิมุตฺติยา ปริฬาโห วูปสมฺมติ.

‘‘พีชานิ อปนีตานี’’ติ วุตฺตตฺตา พีเชสุ ิเตสุ นิมิตฺตมตฺเต อปนีเต ปณฺฑโก น โหติ. ภิกฺขุโนปิ อนาพาธปจฺจยา ตทปนยเน ถุลฺลจฺจยเมว, น ปน ปณฺฑกตฺตํ, พีเชสุ ปน อปนีเตสุ องฺคชาตมฺปิ ราเคน กมฺมนิยํ น โหติ, ปุมภาโว วิคจฺฉติ, มสฺสุอาทิปุริสลิงฺคมฺปิ อุปสมฺปทาปิ วิคจฺฉติ, กิเลสปริฬาโหปิ ทุนฺนิวารวีติกฺกโม โหติ นปุํสกปณฺฑกสฺส วิย. ตสฺมา อีทิโส อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพติ วทนฺติ. ยทิ เอวํ กสฺมา พีชุทฺธรเณ ปาราชิกํ น ปฺตฺตนฺติ? เอตฺถ ตาว เกจิ วทนฺติ ‘‘ปฺตฺตเมเวตํ ภควตา ‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ วุตฺตตฺตา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา พีชุทฺธรณกฺขเณ ปณฺฑโก น โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ขเณ ปาราชิกํ น ปฺตฺตํ. ยสฺมา ปน โส อุทฺธฏพีโช ภิกฺขุ อปเรน สมเยน วุตฺตนเยน ปณฺฑกตฺตํ อาปชฺชติ, อภาวโก โหติ, อุปสมฺปทาย อวตฺถุ, ตโต เอว จสฺส อุปสมฺปทา วิคจฺฉติ, ตสฺมา เอส ปณฺฑกตฺตุปคมนกาลโต ปฏฺาย ชาติยา นปุํสกปณฺฑเกน สทฺธึ โยเชตฺวา ‘อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ อภพฺโพติ วุตฺโต, น ตโต ปุพฺเพ. อยฺจ กิฺจาปิ สเหตุโก, ภาวกฺขเยน ปนสฺส อเหตุกสทิสตาย มคฺโคปิ น อุปฺปชฺชตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ อุปกฺกเมน ปณฺฑกภาวมาปนฺนํ สนฺธาย ‘อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ วุตฺตํ, อุปสมฺปนฺนสฺส ปน ปจฺฉา อุปกฺกเมน อุปสมฺปทาปิ น วิคจฺฉตี’’ติ, ตํ น ยุตฺตํ. ยทคฺเคน หิ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ อุปกฺกเมน อภพฺโพ โหติ, ตทคฺเคน ปจฺฉาปิ โหตีติ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

อิตฺถตฺตาทิ ภาโว นตฺถิ เอตสฺสาติ อภาวโก. ปพฺพชฺชา น วาริตาติ เอตฺถ ปพฺพชฺชาคหเณเนว อุปสมฺปทาปิ คหิตา. เตนาห ‘‘ยสฺส เจตฺถ ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติอาทิ. ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตาติ เอตฺถ ปน อปณฺฑกปกฺเขปิ ปพฺพชฺชามตฺตเมว ลภติ, อุปสมฺปทา ปน ตทาปิ น วฏฺฏติ, ปณฺฑกปกฺเข ปน อาคเต ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพติ เวทิตพฺพํ.

ปณฺฑกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๐. เถยฺยสํวาสกวตฺถุมฺหิ โกลฺาติ กุเล ชาตา, ตตฺถ วา วิทิตา าตา ปสิทฺธา, ตํ วา ชานนฺติ โกลฺาติ าตกานํ นามํ. เถยฺยาย ลิงฺคคฺคหณมตฺตมฺปิ อิธ สํวาโส เอวาติ อาห ‘‘ตโย เถยฺยสํวาสกา’’ติ. น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ ภิกฺขูนํ, สามเณรานํ วา วนฺทนํ น สาทิยติ.

ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ อตฺตนา มุสาวาเทน ทสฺสิตวสฺสกฺกเมน ภิกฺขูนํ วนฺทนํ สาทิยติ, ทหรสามเณโร ปน วุฑฺฒสามเณรานํ, ทหรภิกฺขุ จ วุฑฺฒานํ วนฺทนํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ. อิมสฺมึ อตฺเถติ สํวาสตฺเถนกตฺเถ.

‘‘ภิกฺขุวสฺสานี’’ติ อิทํ สํวาสตฺเถนเก วุตฺตปาวเสน วุตฺตํ, สยเมว ปน ปพฺพชิตฺวา สามเณรวสฺสานิ คเณนฺโตปิ อุภยตฺเถนโก เอว. น เกวลฺจ ปุริโสว, อิตฺถีปิ ภิกฺขุนีสุ เอวํ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสิกาว. อาทิกมฺมิกาปิ เจตฺถ น มุจฺจนฺติ, อุปสมฺปนฺเนสุ เอว ปฺตฺตาปตฺตึ ปฏิจฺจ อาทิกมฺมิกา วุตฺตา, เตเนเวตฺถ อาทิกมฺมิโกปิ น มุตฺโต.

ราช…เป… ภเยนาติ เอตฺถ ภย-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ยาว โส สุทฺธมานโสติ ‘‘อิมินา ลิงฺเคน ภิกฺขู วฺเจตฺวา เตหิ สํวสิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตาภาเวน สุทฺธจิตฺโต. เตน หิ อสุทฺธจิตฺเตน ลิงฺเค คหิตมตฺเต ปจฺฉา ภิกฺขูหิ สห สํวสตุ วา มา วา, ลิงฺคตฺเถนโก โหติ. ปจฺฉา สํวสนฺโตปิ อภพฺโพ หุตฺวา สํวสติ. ตสฺมา อุภยตฺเถนโกปิ ลิงฺคตฺเถนเก เอว ปวิสตีติ เวทิตพฺพํ. โย ปน ราชาทิภเยน สุทฺธจิตฺโตว ลิงฺคํ คเหตฺวา วิจรนฺโต ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขุวสฺสานิ คเณตฺวา ชีวิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตํ อุปฺปาเทติ, โส จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน เถยฺยสํวาสโกปิ น โหติ สุทฺธจิตฺเตน คหิตลิงฺคตฺตา. สเจ ปน โส ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สามเณรวสฺสคณนาทึ กโรติ, ตทา สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโก วา โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ยํ ปน ปรโต สห ธุรนิกฺเขเปน ‘‘อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก, วา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ภิกฺขูหิ สงฺคมฺม สํวาสาธิวาสนวเสน ธุรนิกฺเขปํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ ยาวา’’ติ. ตสฺส ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ โจราทิภยํ วินาปิ กีฬาธิปฺปาเยน ลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสตฺวา วนฺทนาทึ อสาทิยนฺโตปิ ‘‘โสภติ นุ โข เม ปพฺพชิตลิงฺค’’นฺติอาทินา สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.

สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานีติ สพฺพสามยิกานํ สาธารณํ กตฺวา ปฺตฺตภตฺตานิ, อิทฺจ ภิกฺขูนฺเว นิยมิตภตฺตคหเณ สํวาโสปิ สมฺภเวยฺยาติ สพฺพสาธารณภตฺตํ วุตฺตํ. สํวาสํ ปน อสาทิยิตฺวา อภิกฺขุกวิหาราทีสุ วิหารภตฺตาทีนิ ภุฺชนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ เอว. กมฺมนฺตานุฏฺาเนนาติ กสิอาทิกมฺมกรเณน. ปตฺตจีวรํ อาทายาติ ภิกฺขุลิงฺคเวเสน สรีเรน ธาเรตฺวา.

‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ‘‘เถยฺยสํวาสโก’’ติ ปน นามํ อชานนฺโตปิ ‘‘เอวํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘เอวํ กโรนฺโต สมโณ นาม น โหตี’’ติ วา ‘‘ยทิ อาโรเจสฺสามิ, ฉฑฺเฑสฺสนฺติ ม’’นฺติ วา ‘‘เยน เกนจิ ปพฺพชฺชา เม น รุหตี’’ติ ชานาติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. โย ปน ปมํ ‘‘ปพฺพชฺชา เอวํ เม คหิตา’’ติสฺี เกวลํ อนฺตรา อตฺตโน เสตวตฺถนิวาสนาทิวิปฺปการํ ปกาเสตุํ ลชฺชนฺโต น กเถติ, โส เถยฺยสํวาสโก น โหติ. อนุปสมฺปนฺนกาเลเยวาติ เอตฺถ อวธารเณน อุปสมฺปนฺนกาเล เถยฺยสํวาสกลกฺขณํ ตฺวา วฺจนายปิ นาโรเจติ, เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทีเปติ. โส ปริสุทฺธจิตฺเตน คหิตลิงฺคตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก น โหติ, ลทฺธูปสมฺปทตฺตา ตทนุคุณสฺเสว สํวาสสฺส สาทิตตฺตา สํวาสตฺเถนโกปิ น โหติ. อนุปสมฺปนฺโน ปน ลิงฺคตฺเถนโก โหติ, สํวาสารหสฺส ลิงฺคสฺส คหิตตฺตา สํวาสสาทิยนมตฺเตน สํวาสตฺเถนโก โหติ.

สลิงฺเค ิโตติ สลิงฺคภาเว ิโต. เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก น โหติ, ภิกฺขุปฏิฺาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสตฺเถนโก น โหตีติ. ยํ ปน มาติกาฏฺกถายํ ‘‘ลิงฺคานุรูปสฺส สํวาสสฺส สาทิตตฺตา น สํวาสตฺเถนโก’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อิทเมว การณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตรถา สามเณรสฺสปิ ภิกฺขุวสฺสคณนาทีสุ ลิงฺคานุรูปสํวาโส เอว สาทิโตติ สํวาสตฺเถนกตา น สิยา ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อุภินฺนมฺปิ สาธารณตฺตา. ยถา เจตฺถ ภิกฺขุ, เอวํ สามเณโรปิ ปาราชิกํ สมาปนฺโน สามเณรปฏิฺาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสตฺเถนโก น โหตีติ เวทิตพฺโพ. โสภตีติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวาติ กาสาวธารเณ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คิหิภาวํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา.

โย โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโตติ สามเณรํ สนฺธาย วุตฺตํ. มหาเปฬาทีสูติ วิลีวาทิมเยสุ ฆรทฺวาเรสุ ปิตภตฺตภาชนวิเสเสสุ, เอเตน วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสฺสคณนาทีนํ อกรณํ ทสฺเสติ.

เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา

ติตฺถิยปกฺกนฺตกาทิกถาสุ เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเตติ วีมํสาทิอธิปฺปายํ วินา ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานวเสน ลิงฺเค กาเยน ธาริตมตฺเต. สยเมวาติ ติตฺถิยานํ สนฺติกํ อคนฺตฺวา สยเมว สงฺฆาราเมปิ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ. อาชีวโก ภวิสฺสามิ…เป… คจฺฉตีติ อาชีวกานํ สนฺติเก เตสํ ปพฺพชนวิธินา ‘‘อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ. ตสฺส หิ ติตฺถิยภาวูปคมนํ ปติ สนฺนิฏฺาเน วิชฺชมาเนปิ ‘‘คนฺตฺวา ภวิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปิตตฺตา ปทวาเร ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ทุกฺกฏนฺติ ปาฬิยา อวุตฺเตปิ เมถุนาทีสุ วุตฺตปุพฺพปโยคทุกฺกฏานุโลมโต วุตฺตํ. เอเตน จ สนฺนิฏฺานวเสน ลิงฺเค สมฺปฏิจฺฉิเต ปาราชิกํ, ตโต ปุริมปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ วตฺตพฺพเมว, ถุลฺลจฺจยกฺขเณ นิวตฺตนฺโตปิ อาปตฺตึ เทสาเปตฺวา มุจฺจติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สงฺฆเภเทปิ โลหิตุปฺปาเทปิ ภิกฺขูนํ ปุพฺพปโยคาทีสุ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาหิ มุจฺจนสีมา จ เวทิตพฺพา. สาสนวิรุทฺธตาเยตฺถ อาทิกมฺมิกานมฺปิ อนาปตฺติ น วุตฺตา. ปพฺพชฺชายปิ อภพฺพตาทสฺสนตฺถํ ปเนเต, อฺเ จ ปาราชิกกณฺเฑ วิสุํ สิกฺขาปเทน ปาราชิกาทึ อทสฺเสตฺวา อิธ อภพฺเพสุ เอว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

ตํลทฺธินฺติ ติตฺถิยเวเส เสฏฺภาวคฺคหณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ ติตฺถิยานํ สสฺสตาทิคฺคาหํ คณฺหนฺโตปิ ลิงฺเค อสมฺปฏิจฺฉิเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก น โหติ, ตํ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวาปิ ‘‘เอเตสํ วตจริยา สุนฺทรา’’ติ ลิงฺคํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว . ลทฺธิยา อภาเวนาติ ภิกฺขุภาเว สาลยตาย ติตฺถิยภาวูปคมนลทฺธิยา อภาเวน, เอเตน จ อาปทาสุ กุสจีราทึ ปารุปนฺตสฺสาปิ นคฺคสฺส วิย อนาปตฺตึ ทสฺเสติ.

อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโตติ เอตฺถ สงฺฆเภทโกปิ อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนาว กถิโต, มาตุฆาตกาทโย ปน อนุปสมฺปนฺเนนาปีติ ทฏฺพฺพํ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ติรจฺฉานวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๑. อุทกสฺจาริกํ มณฺฑูกภกฺขํ นาคสรีรนฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. วิสฺสรภเยนาติ นาคสฺส สรีรํ ทิสฺวา ภิกฺขุโน วิรวนภเยน. กปิมิทฺธาทีสุ นาคสรีรํ นุปฺปชฺชตีติ ตทุปฺปตฺติสีมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิสฺสฏฺโ’’ติอาทิ.

ติรจฺฉานวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มาตุฆาตกาทิกถาวณฺณนา

๑๑๒. อปวาหนนฺติ โสธนํ. ติรจฺฉานาทิอมนุสฺสชาติโต มนุสฺสชาติกานฺเว ปุตฺเตสุ เมตฺตาทโยปิ ติกฺขวิสทา โหนฺติ โลกุตฺตรคุณา วิยาติ อาห ‘‘มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา’’ติ. ยถา มนุสฺสานฺเว กุสลปฺปวตฺติ ติกฺขวิสทา, เอวํ อกุสลปฺปวตฺติปีติ อาห ‘‘สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนวา’’ติอาทิ. อานนฺตริเยนาติ เอตฺถ จุติอนนฺตรํ นิรเย ปฏิสนฺธิผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร ชนกตฺเตน นิยุตฺตํ อานนฺตริยํ, เตน. เวสิยา ปุตฺโตติ อุปลกฺขณมตฺตํ, กุลิตฺถิยา อติจารินิยา ปุตฺโตปิ อตฺตโน ปิตรํ อชานิตฺวา ฆาเตนฺโต ปิตุฆาตโกว โหติ.

๑๑๔. อวเสสนฺติ อนาคามิอาทิกํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิเก วุตฺตเมว.

๑๑๕. อยํ สงฺฆเภทโกติ ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุพฺเพ เอว ปาราชิกํ สมาปนฺโน วา วตฺถาทิโทเสน วิปนฺโนปสมฺปโท วา สงฺฆํ ภินฺทนฺโตปิ อนนฺตริยํ น ผุสติ, สงฺโฆ ปน ภินฺโนว โหติ, ปพฺพชฺชา จสฺส น วาริตาติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘ทุฏฺจิตฺเตนา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘วธกจิตฺเตนา’’ติ. โลหิตํ อุปฺปาเทตีติ ตถาคตสฺส เวรีหิ อเภชฺชกายตาย เกนจิ พลกฺกาเรน จมฺมาทิเฉทํ กตฺวา พหิ โลหิตํ ปคฺฆราเปตุํ น สกฺกา, อาวุธาทิปหาเรน ปน โลหิตํ านโต จลิตฺวา กุปฺปมานํ เอกตฺถ สฺจิตํ โหติ, เอตฺตเกน ปน ปหารทายโก โลหิตุปฺปาทโก นาม โหติ เทวทตฺโต วิย. เจติยํ ปน โพธึ วา ปฏิมาทึ วา ภินฺทโต อานนฺตริยํ น โหติ, อานนฺตริยสทิสํ มหาสาวชฺชํ โหติ. โพธิรุกฺขสฺส ปน โอโชหรณสาขา เจว สธาตุกํ เจติยํ พาธยมานา จ ฉินฺทิตพฺพา, ปุฺเมเวตฺถ โหติ.

มาตุฆาตกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๖. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโกติ อิตฺถินฺทฺริยยุตฺโต, อิตโร ปน ปุริสินฺทฺริยยุตฺโต. เอกสฺส หิ ภาวทฺวยํ สห นุปฺปชฺชติ ยมเก (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘) ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ทุติยพฺยฺชนํ ปน กมฺมสหาเยน อกุสลจิตฺเตเนว ภาววิรหิตํ อุปฺปชฺชติ. ปกติตฺถิปุริสานมฺปิ กมฺมเมว พฺยฺชนลิงฺคานํ การณํ, น ภาโว ตสฺส เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยตฺตสฺส ปฏฺาเน อวุตฺตตฺตา. เกวลํ ภาวสหิตานํเยว พฺยฺชนลิงฺคานํ ปวตฺติทสฺสนตฺถํ อฏฺกถาสุ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ อิตฺถิลิงฺคาทีนี’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๒) อินฺทฺริยํ พฺยฺชนกอารณตฺเตน วุตฺตํ, อิธ ปน อกุสลพเลน อินฺทฺริยํ วินาปิ พฺยฺชนํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ. อุภินฺนมฺปิ เจสํ อุภโตพฺยฺชนกานํ ยทา อิตฺถิยา ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา ปุริสพฺยฺชนํ ปากฏํ โหติ, อิตรํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ยทา ปุริเส ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา อิตฺถิพฺยฺชนํ ปากฏํ โหติ, อิตรํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ตตฺถ วิจารณกฺกโมติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอว อิตฺถิปุริสลิงฺคานมฺปิ ปาตุภาวปฺปกาสเก กุรุนฺทิวจเน อยุตฺตตาปกาสนตฺถํ อตฺถวิจารณกฺกโม. อฏฺสาลินิยฺหิ ‘‘อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ปวตฺเต สมุฏฺิตานี’’ติอาทิ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๒) วุตฺตํ. เนวสฺส ปพฺพชฺชา อตฺถีติ โยชนา. โย จ ปฏิกฺขิตฺเต อภพฺเพ, ภพฺเพ จ ปุคฺคเล ตฺวา ปพฺพาเชติ, อุปสมฺปาเทติ วา, ทุกฺกฏํ. อชานนฺตสฺส สพฺพตฺถ อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ.

อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๗. อนุปชฺฌายาทิวตฺถูสุ สิกฺขาปทํ อปฺตฺตนฺติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ อิเธว ปฺาปิยมานสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กมฺมํ ปน น กุปฺปตี’’ติ อิทํ อุปชฺฌายาภาเวปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข, อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติ มตสฺส วา วิพฺภมนฺตสฺส วา ปุราณอุปชฺฌายสฺส, อฺสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานสฺสาปิ นาเมน สพฺพตฺถ อุปชฺฌายกิตฺตนสฺส กตตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ อุปชฺฌายกิตฺตนํ น กเรยฺย, ‘‘ปุคฺคลํ น ปรามสตี’’ติ วุตฺตกมฺมวิปตฺติ เอว สิยา. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อนุปชฺฌายก’’นฺติ วุตฺตํ. อฏฺกถายมฺปิสฺส ‘‘อุปชฺฌายํ อกิตฺเตตฺวา’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปชฺฌายํ อคาหาเปตฺวา สพฺเพน สพฺพํ อุปชฺฌายวิรหิตํ’’อิจฺเจว อตฺโถติ วุตฺโต. ปาฬิยํ สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนาติ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สงฺฆสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข, อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนา’’ติ เอวํ กมฺมวาจาย สงฺฆเมว อุปชฺฌายํ กิตฺเตตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ คเณน อุปชฺฌาเยนาติ เอตฺถาปิ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม คณสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมํ น กุปฺปติ เอว ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา. อฺถา ‘‘โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโน’’ติ วเทยฺย. เตนาห ‘‘สงฺเฆนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปณฺฑกาทีหิ อุปชฺฌาเยหิ กริยมาเนสุ กมฺเมสุ ปณฺฑกาทิเก วินาว ยทิ ปฺจวคฺคาทิคโณ ปูรติ, กมฺมํ น กุปฺปติ, อิตรถา กุปฺปตีติ เวทิตพฺพํ.

อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปตฺตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๘. อปตฺตจีวรวตฺถูสุปิ ปตฺตจีวรานํ อภาเวปิ ‘‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ กมฺมวาจาย สาวิตตฺตา กมฺมโกปํ อวตฺวา ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อิตรถา สาวนาย หาปนโต กมฺมโกโป เอว สิยา. เกจิ ปน ‘‘ปมํ อนุฺาตกมฺมวาจาย อุปสมฺปนฺนา วิย อิทานิปิ ‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’นฺติ อวตฺวา กมฺมวาจาย อุปสมฺปนฺนาปิ สูปสมฺปนฺนาเอวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. อนุฺาตกาลโต ปฏฺาย หิ อปรามสนํ สาวนาย หาปนวิปตฺติ เอว โหติ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ ปทสฺส หาปเน วิย. ตมฺปิ หิ ปจฺฉา อนุฺาตํ, ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามี’’ติอาทิวากฺเยน อยาเจตฺวา ตมฺปิ อุปสมฺปาเทนฺโต ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วตฺวาว ยทิ กมฺมวาจํ กโรติ, กมฺมํ สุกตเมว โหติ , โน เจ วิปนฺนํ. สพฺพปจฺฉา หิ อนุฺาตกมฺมวาจโต กิฺจิปิ ปริหาเปตุํ น วฏฺฏติ, สาวนาย หาปนเมว โหติ. อฺเ วา ภิกฺขู ทาตุกามา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

อนามฏฺปิณฺฑปาตนฺติ ภิกฺขูหิ ลทฺธภิกฺขโต อคฺคหิตคฺคํ ปิณฺฑปาตํ. สามเณรภาคสมโกติ เอตฺถ กิฺจาปิ สามเณรานมฺปิ อามิสภาคสฺส สมกเมว ทิยฺยมานตฺตา วิสุํ สามเณรภาโค นาม นตฺถิ, ปตฺตจีวรปริกมฺมมตฺตปฏิพทฺธปพฺพชฺชตาย ปน สามเณรสทิสา เอเต ปณฺฑุปลาสาติ ทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิยตาสนฺนปพฺพชฺชสฺเสว จายํ ภาโค ทียติ. เตเนว ‘‘ยาว ปตฺโต ปจฺจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อามิสภาโคติ วิหาเร ทินฺนํ สงฺฆภตฺตํ, ตตฺรุปฺปาทฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทายกานํ เคเหสุ เตหิ ทิยฺยมานํ. เตเนว สลากภตฺตาทิ ปฏิกฺขิตฺตํ, ทายกา วิปฺปฏิสาริโน โหนฺตีติ. เภสชฺชนฺติอาทินา ปน คิหีนํ เภสชฺชกรณาทิโทโส เอตฺถ น โหตีติ ทสฺเสติ.

อปตฺตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๑๙. หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถูสุ กณฺณมูเลติ สกลสฺส กณฺณสฺส เฉทํ สนฺธาย วุตฺตํ. กณฺณสกฺขลิกายาติ กณฺณจูฬิกาย. ยสฺส ปน กณฺณาวิทฺเธติ เหฏฺา กุณฺฑลาทิปนจฺฉิทฺทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ สงฺฆฏนกฺขมํ. อชปทเกติ อชปทนาสิกฏฺิโกฏิยํ. ตโต หิ อุทฺธํ น วิจฺฉินฺทติ. สกฺกา โหติ สนฺเธตุนฺติ อวิรูปสณฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิรูปํ ปน ปริสทูสกตํ อาปาเทติ.

ขุชฺชสรีโรติ วงฺกสรีโร. พฺรหฺมุโน วิย อุชุกํ คตฺตํ สรีรํ ยสฺส, โส พฺรหฺมุชฺชุคตฺโต, ภควา.

ปริวฏุโมติ สมนฺตโต วฏฺฏกาโย, เอเตน เอวรูปา เอว วามนกา น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ.

กูฏกูฏสีโสติ อเนเกสุ าเนสุ ปิณฺฑิกมํสตํ ทสฺเสตุํ อาเมฑิตํ กตํ. เตนาห ‘‘ตาลผลปิณฺฑิสทิเสนา’’ติ, ตาลผลานํ มฺชรี ปิณฺฑิ นาม. อนุปุพฺพตนุเกน สีเสนาติ เจติยถูปิกา วิย กเมน กิเสน สีเสน, ถูลเวฬุปพฺพํ วิย อาทิโต ปฏฺาย ยาวปริโยสานํ สมถูเลน อุจฺเจน สีเสน สมนฺนาคโต นาฬิสีโส นาม. กปฺปสีโสติ คชมตฺถกํ วิย ทฺวิธา ภินฺนสีโส. ‘‘กณฺณิกเกโส วา’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปาณเกหี’’ติอาทิ. มกฺกฏสฺเสว นฬาเฏปิ เกสานํ อุฏฺิตภาวํ สนฺธายาห ‘‘สีสโลเมหี’’ติอาทิ.

มกฺกฏภมุโกติ นฬาฏโลเมหิ อวิภตฺตโลมภมุโก. อกฺขิจกฺกเลหีติ กณฺหมณฺฑเลหิ. เกกโรติ ติริยํ ปสฺสนโก. อุทกตารกาติ โอโลเกนฺตานํ อุทเก ปฏิพิมฺพิกจฺฉายา, อุทกปุพฺพุฬนฺติ เกจิ. อกฺขิตารกาติ อภิมุเข ิตานํ ฉายา, อกฺขิคณฺฑกาติปิ วทนฺติ. อติปิงฺคลกฺขีติ มชฺชารกฺขิ. มธุปิงฺคลนฺติ มธุวณฺณปิงฺคลํ. นิปฺปขุมกฺขีติ เอตฺถ ปขุม-สทฺโท อกฺขิทลโลเมสุ นิรูฬฺโห, ตทภาวา นิปฺปขุมกฺขิ. อกฺขิปาเกนาติ อกฺขิทล ปริยนฺเตสุ ปูติภาวาปชฺชนโรเคน.

จิปิฏนาสิโกติ อนุนฺนตนาสิโก. ปฏงฺคมณฺฑูโก นาม มหามุขมณฺฑูโก. ภินฺนมุโขติ อุปกฺกมุขปริโยสาโน, สพฺพทา วิวฏมุโข วา. วงฺกมุโขติ เอกปสฺเส อปกฺกมฺม ิตเหฏฺิมหนุกฏฺิโก. โอฏฺจฺฉินฺนโกติ อุโภสุ โอฏฺเสุ ยตฺถ กตฺถจิ ชาติยา วา ปจฺฉา วา สตฺถาทินา อปนีตมํเสน โอฏฺเน สมนฺนาคโต. เอฬมุโขติ นิจฺจปคฺฆริตลาลามุโข.

ภินฺนคโลติ อวนตคโต. ภินฺนอุโรติ อตินินฺนอุรมชฺโฌ. เอวํ ภินฺนปิฏฺิปิ. สพฺพฺเจตนฺติ ‘‘กจฺฉุคตฺโต’’ติอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ วินิจฺฉโย กุฏฺาทีสุ วุตฺโต เอวาติ อาห ‘‘วินิจฺฉโย’’ติอาทิ.

วาตณฺฑิโกติ อณฺฑวาตโรเคน อุทฺธุตพีชณฺฑโกเสน สมนฺนาคโต, ยสฺส นิวาสเนน ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ อุนฺนตํ ปกาสติ, โสว น ปพฺพาเชตพฺโพ. วิกโฏติ ติริยํคมนปาโท, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา พหิ นิคจฺฉนฺติ. ปณฺโหติ ปจฺฉโต ปริวตฺตนกปาโท, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา อนฺโต ปวิสนฺติ. มหาชงฺโฆติ ถูลชงฺโฆ. มหาปาโทติ มหนฺเตน ปาทตเลน ยุตฺโต. ปาทเวมชฺเฌติ ปิฏฺิปาทเวมชฺเฌ, เอเตน อคฺคปาโท จ ปณฺหิ จ สทิโสติ ทสฺเสติ.

มชฺเฌ สงฺกุฏิตปาทตฺตาติ กุณฺฑปาทตาย การณวิภาวนํ. อคฺเค สงฺกุฏิตปาทตฺตาติ กุณฺฑปาทตาย สกุณปาทสฺเสว คมนวิภาวนํ. ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโตติ ‘‘ปาทสฺส พาหิรนฺเตนาติ จ อพฺภนฺตรนฺเตนา’’ติ จ อิทํ ปาทตลสฺส อุโภหิ ปริยนฺเตหิ จงฺกมนํ สนฺธาย วุตฺตํ.

มมฺมนนฺติ านกรณวิสุทฺธิยา อภาเวน อยุตฺตกฺขรวจนํ. วจนานุกรเณน หิ โส มมฺมโน วุตฺโต. โย จ กรณสมฺปนฺโนปิ เอกเมวกฺขรํ หิกฺการพหุโส วทติ, โสปิ อิเธว สงฺคยฺหติ. โย วา ปน หิกฺกํ นิคฺคเหตฺวาปิ อนาเมฑิตกฺขรเมว สิลิฏฺวจนํ วตฺตุํ สมตฺโถ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ.

อาปตฺติโต น มุจฺจตีติ ตฺวา กโรนฺโตว น มุจฺจติ. ชีวิตนฺตรายาทิอาปทาสุ อรุจิยา กายสามคฺคึ เทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปฺปตฺโต โอสารณนฺติ โอสารณาย อนรโหติ อตฺโถ.

หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อลชฺชินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๒๐. นิสฺสยปฏิสํยุตฺตวตฺถูสุ ภิกฺขูหิ สมาโน ภาโค ทิฏฺิสีลาทิคุณโกฏฺาโส อสฺสาติ ภิกฺขุสภาโค, ตสฺส ภาโว ภิกฺขุสภาคตา.

อลชฺชินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๒๑. นิสฺสยกรณีโยติ เอตฺถ นิสฺสยคฺคหณํ นิสฺสโย, โส กรณีโย ยสฺสาติ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ. วิสฺสเมนฺโต วา…เป… อนาปตฺตีติ คมนสอุสฺสาหตาย ตถา วสนฺโตปิ อทฺธิโก เอว, ตตฺถ นิสฺสยทายเก อสติ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. เอเตน จ ปริสฺสมาทิอภาเว เสนาสนาทิสมฺปทํ ปฏิจฺจ วสโต อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. ตฺจ อคมนปจฺจยา ทิวเส ทิวเส อาปชฺชตีติ วทนฺติ. จีวรรชนาทิกิจฺจตฺถาย ครูหิ เปสิตสฺสาปิ กิจฺจปริโยสานเมว วสิตพฺพํ, น ตโต ปรํ. ครูหิปิ ตาวกาลิกกิจฺจตฺถเมว เปสลทหรา เปสิตพฺพา, น นิจฺจกาลกิจฺจตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘นาวาย คจฺฉนฺตสฺส…เป… อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา เอวรูปํ อวิเธยฺยตํ วินา นิสฺสยทายกรหิตฏฺาเน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.

ตสฺส นิสฺสายาติ ตํ นิสฺสาย. อาสาฬฺหีมาเส…เป… ตตฺถ คนฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ปน สเจปิ ‘‘อสุโก เถโร เอตฺถ อาคมิสฺสติ อาคมิสฺสตี’’ติ อาคเมนฺตสฺเสว วสฺสูปนายิกทิวโส โหติ. โหตุ, วสิตฏฺาเน วสฺสํ อนุปคมฺม ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ทูเรปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺฉิมิกาย อุปคนฺตพฺพํ.

๑๒๒. โคตฺเตนปีติ ‘‘อายสฺมโต ปิปฺปลิสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวํ นามํ อวตฺวา โคตฺตนาเมนปีติ อตฺโถ, เตน ‘‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ ปุฏฺเน โคตฺตนาเมน ‘‘อายสฺมา กสฺสโป’’ติ วตฺตพฺพนฺติ สิทฺธํ โหติ. ตสฺมา อฺมฺปิ กิฺจิ ตสฺส นามํ ปสิทฺธํ, ตสฺมึ วา ขเณ สุขคฺคหณตฺถํ นามํ ปฺาปิตํ, ตํ สพฺพํ คเหตฺวาปิ อนุสฺสาวนา กาตพฺพา. ยถา อุปชฺฌายสฺส, เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺสปิ โคตฺตาทินาเมน, ตงฺขณิกนาเมน จ อนุสฺสาวนํ กาตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมิมฺปิ ขเณ ‘‘อยํ ติสฺโส’’ติ วา ‘‘นาโค’’ติ วา นามํ กโรนฺเตหิ อนุสาสกสมฺมุติโต ปมเมว กาตพฺพํ, เอวํ กตฺวาปิ อนฺตรายิกธมฺมานุสาสนปุจฺฉนกาเลสุ ‘‘กินฺนาโมสิ, อหํ ภนฺเต นาโค นาม, โกนาโม เต อุปชฺฌาโย, อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต ติสฺโส นามา’’ติอาทินา วิฺาเปนฺเตน อุภินฺนมฺปิ จิตฺเต ‘‘มเมทํ นาม’’นฺติ ยถา สฺา อุปฺปชฺชติ, เอวํ วิฺาเปตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺมึ ขเณ ปกตินาเมน วตฺวา ปจฺฉา ติสฺส-นามาทิอปุพฺพนาเมน อนุสฺสาเวติ, น วฏฺฏติ.

ตตฺถ จ กิฺจาปิ อุปชฺฌายสฺเสว นามํ อคฺคเหตฺวา เยน เกนจิ นาเมน ‘‘ติสฺสสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินาปิ ปุคฺคเล ปรามฏฺเ กมฺมํ สุกตเมว โหติ อนุปชฺฌายกาทีนํ อุปสมฺปทากมฺมํ วิย อุปชฺฌายสฺส อภาเวปิ อภพฺพตฺเตปิ กมฺมวาจาย ปุคฺคเล ปรามฏฺเ กมฺมสฺส สิชฺฌนโต. อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปน ยถาสกํ นามํ วินา อฺเน นาเมน อนุสฺสาวิเต กมฺมํ กุปฺปติ, โส อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. ตตฺถ ิโต อฺโ อนุปสมฺปนฺโน วิย คหิตนามสฺส วตฺถุปุคฺคลสฺส ตตฺถ อภาวา, เอตสฺส จ นามสฺส อนุสฺสาวนาย อวุตฺตตฺตา. ตสฺมา อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปกตินามํ ปริวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน นาคาทินาเมน อนุสฺสาเวตุกาเมน ปฏิกจฺเจว ‘‘ตฺวํ นาโค’’ติอาทินา วิฺาเปตฺวา อนุสาสนอนฺตรายิกธมฺมปุจฺฉนกฺขเณสุปิ ตสฺส จ สงฺฆสฺส จ ยถา ปากฏํ โหติ, ตถา ปกาเสตฺวาว นาคาทินาเมน อนุสฺสาเวตพฺพํ. เอกสฺส พหูนิ นามานิ โหนฺติ, เตสุ เอกํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ยํ ปน อุปสมฺปทาเปกฺขอุปชฺฌายานํ เอกตฺถ คหิตํ นามํ, ตเทว ตฺติยา, สพฺพตฺถ อนุสฺสาวนาสุ จ คเหตพฺพํ. คหิตโต หิ อฺสฺมึ คหิเต พฺยฺชนํ ภินฺนํ นาม โหติ, กมฺมํ วิปชฺชติ. อตฺถโต, หิ พฺยฺชนโต จ อภินฺนา เอว ตฺติ, อนุสฺสาวนา จ วฏฺฏนฺติ, อุปชฺฌายนามสฺส ปน ปุรโต ‘‘อายสฺมโต ติสฺสสฺสา’’ติอาทินา อายสฺมนฺต-ปทํ สพฺพตฺถ โยเชตฺวาปิ อนุสฺสาเวติ, ตถา อโยชิเตปิ โทโส นตฺถิ.

ปาฬิยํ ปน กิฺจาปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต’’ติ ปจฺฉโต ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘อายสฺมา สาริปุตฺโต อตฺถกุสโล’’ติอาทินา นามสฺส ปุรโต อายสฺมนฺต-ปทโยคสฺส ทสฺสนโต ปุรโตว ปโยโค ยุตฺตตโร. ตฺจ เอกตฺถ โยเชตฺวา อฺตฺถ อโยชิเตปิ เอกตฺถ ปุรโต โยเชตฺวา อฺตฺถ ปจฺฉโต โยชเนปิ สาวนาย หาปนํ นาม น โหติ นามสฺส อหาปิตตฺตา. เตเนว ปาฬิยมฺปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต’’ติ เอกตฺถ โยเชตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติอาทีสุ ‘‘อายสฺมโต’’ติ น โยชิตนฺติ วทนฺติ. ตฺจ กิฺจาปิ เอวํ, ตถาปิ สพฺพฏฺาเนปิ เอเกเนว ปกาเรน โยเชตฺวา เอว วา อโยเชตฺวา วา อนุสฺสาวนํ ปสตฺถตรนฺติ คเหตพฺพํ.

คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺเวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา

๑๒๓. เอกโต สเหว เอกสฺมึ ขเณ อนุสฺสาวนํ เอเตสนฺติ เอกานุสฺสาวนา, อุปสมฺปทาเปกฺขา, เอเต เอกานุสฺสาวเน กาตุํ. เตนาห ‘‘เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ, อิทฺจ เอกํ ปทํ วิภตฺติอโลเปน ทฏฺพฺพํ. เอเกน วาติ ทฺวินฺนมฺปิ เอกสฺมึ ขเณ เอกาย เอว กมฺมวาจาย อนุสฺสาวเน เอเกนาจริเยนาติ อตฺโถ. ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต จ อยํ ธมฺมรกฺขิโต จ อายสฺมโต สงฺฆรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินา นเยน เอเกน อาจริเยน ทฺวินฺนํ เอกสฺมึ ขเณ อนุสฺสาวนนโย ทฏฺพฺโพ. อิมินาว นเยน ติณฺณมฺปิ เอเกน อาจริเยน เอกกฺขเณ อนุสฺสาวนํ ทฏฺพฺพํ.

ปุริมนเยเนว เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุนฺติ ‘‘เอเกน เอกสฺส, อฺเน อิตรสฺสา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ทฺวินฺนํ ทฺวีหิ วา, ติณฺณํ ตีหิ วา อาจริเยหิ, เอกเกน วา อาจริเยน ตโยปิ เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุนฺติ อตฺโถ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยน. ‘‘น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ อิทํ เอเกน อาจริเยน ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อุปชฺฌาเยหิ ทฺเว วา ตโย วา อุปสมฺปทาเปกฺเข เอกกฺขเณ เอกาย อนุสฺสาวนาย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ น วฏฺฏตีติ ปฏิกฺเขปปทํ. น ปน นานาจริเยหิ นานุปชฺฌาเยหิ ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘สเจ ปน นานาจริยา นานุปชฺฌายา…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ยฺเจตฺถ ‘‘ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริก’’นฺติ เอวํ อุปชฺฌาเยหิ อฺมฺํ สทฺธิวิหาริกานํ อนุสฺสาวนกรณํ วุตฺตํ, ตํ อุปลกฺขณมตฺตํ. ตสฺมา สเจ ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร นนฺทตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏติ เอว. สเจ ปน อุปชฺฌาโย สยเมว อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวตีติ เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, กมฺมํ สุกตเมว โหติ. อนุปชฺฌายกสฺสปิ เยน เกนจิ อนุสฺสาวิเต อุปสมฺปทา โหติ, กิมงฺคํ ปน สอุปชฺฌายกสฺส อุปชฺฌาเยเนว อนุสฺสาวเนติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว นวฏฺฏนปกฺขํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิมาห.

ทฺเวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปสมฺปทาวิธิกถาวณฺณนา

๑๒๖. อุปชฺฌาติ อุปชฺฌาย-สทฺทสมานตฺโถ อาการนฺโต อุปชฺฌาสทฺโทติ ทสฺเสติ. อุปชฺฌาย-สทฺโท เอว วา อุปชฺฌา อุปโยคปจฺจตฺตวจเนสุ ย-การโลปํ กตฺวา เอวํ วุตฺโต กรณวจนาทีสุ อุปชฺฌา-สทฺทสฺส ปโยคาภาวาติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพนฺติ อตฺตนาว กตฺตุภูเตน กรณภูเตน อตฺตานเมว กมฺมภูตํ ปติ สมฺมนนกิจฺจํ กาตพฺพํ. อตฺตานนฺติ วา ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ, อตฺตนาว อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพติ อตฺโถ. น เกวลฺจ เอตฺเถว, อฺตฺราปิ เตรสสมฺมุติอาทีสุ อิมินาว ลกฺขเณน อตฺตนาว อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพว. อปิจ สยํ กมฺมารหตฺตา อตฺตานํ มุฺจิตฺวา จตุวคฺคาทิโก คโณ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺโพ.

สจฺจกาโลติ ‘‘นิคูหิสฺสามี’’ติ วฺจนํ ปหาย สจฺจสฺเสว เต อิจฺฉิตพฺพกาโล. ภูตกาโลติ วฺจนาย อภาเวปิ มนุสฺสตฺตาทิวตฺถุโน ภูตตาย อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺพกาโล, อิตรถา กมฺมโกปาทิอนฺตราโย โหตีติ อธิปฺปาโย. มงฺกูติ อโธมุโข. อุทฺธรตูติ อนุปสมฺปนฺนภาวโต อุปสมฺปตฺติยํ ปติฏฺเปตูติ อตฺโถ.

สพฺพกมฺมวาจาสุ อตฺถโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ อุปสมฺปทากมฺมวาจาย เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – สุณาตูติ สวนาณตฺติยํ ปมปุริเสกวจนํ. ตฺจ กิฺจาปิ โย สงฺโฆ สวนกิริยาย นิโยชียติ, ตสฺส สมฺมุขตฺตา ‘‘สุณาหี’’ติ มชฺฌิมปุริเสกวจเนน วตฺตพฺพํ, ตถาปิ ยสฺมา สงฺฆ-สทฺทสนฺนิธาเน ปมปุริสปโยโคว สทฺทวิธูหิ สมาจิณฺโณ ภควนฺตอายสฺมนฺตาทิสทฺทสนฺนิธาเนสุ วิย ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม (ปารา. ๒๒). เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย (ปารา. ๒๑). ปกฺกมตายสฺมา (ปารา. ๔๓๖). สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺโต’’ติอาทีสุ วิย. ตสฺมา อิธ ปมปุริสปโยโค กโต. อถ วา คารววเสเนเวตํ วุตฺตํ. ครุฏฺานีเยสุ หิ คารววเสน มชฺฌิมปุริสปโยคุปฺปตฺติยมฺปิ ปมปุริสปโยคํ ปยุชฺชนฺติ ‘‘เทเสตุ สุคโต ธมฺม’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๖๖; ม. นิ. ๒.๓๓๘; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๘) วิยาติ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ภนฺเต, อาวุโสติ สทฺเท อเปกฺขิตฺวา อิธ ปมปุริสปโยโค’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อาจริโย เม ภนฺเต โหหิ, (มหาว. ๗๗) อิงฺฆาวุโส อุปาลิ, อิมํ ปพฺพชิตํ อนุยุฺชาหี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๕๑๗) ตปฺปโยเคปิ มชฺฌิมปุริสปโยคสฺเสว ทสฺสนโต.

เมติ โย สาเวติ, ตสฺส อตฺตนิทฺเทเส สามิวจนํ. ภนฺเตติ อาลปนตฺเถ วุฑฺเฒสุ สคารววจนํ. ‘‘อาวุโส’’ติ ปทํ ปน นวเกสุ. ตทุภยมฺปิ นิปาโต ‘‘ตุมฺเห ภนฺเต, ตุมฺเห อาวุโส’’ติ พหูสุปิ สมานรูปตฺตา. สงฺโฆติ อวิเสสโต จตุวคฺคาทิเก ปกตตฺตปุคฺคลสมูเห วตฺตติ. อิธ ปน ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺคโต ปฏฺาย, มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ทสวคฺคโต ปฏฺาย สงฺโฆติ คเหตพฺโพ. ตตฺรายํ ปิณฺฑตฺโถ – ภนฺเต, สงฺโฆ มม วจนํ สุณาตูติ. อิทฺจ นวกตเรน วตฺตพฺพวจนํ. สเจ ปน อนุสฺสาวโก สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺพํ. โสปิ เจ ‘‘ภนฺเต’’ติ วเทยฺย, นวกตโร วา ‘‘อาวุโส’’ติ, กมฺมโกโป นตฺถิ. เกจิ ปน ‘‘เอกตฺถ ‘อาวุโส’ติ วตฺวา อฺตฺถ ‘ภนฺเต’ติ วุตฺเตปิ นตฺถิ โทโส อุภเยนาปิ อาลปนสฺส สิชฺฌนโต’’ติ วทนฺติ.

อิทานิ ยมตฺถํ าเปตุกาโม ‘‘สุณาตู’’ติ สงฺฆํ สวเน นิโยเชติ, ตํ าเปนฺโต ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อยนฺติ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส หตฺถปาเส สนฺนิหิตภาวทสฺสนํ. เตน จ หตฺถปาเส ิตสฺเสว อุปสมฺปทา รุหตีติ สิชฺฌติ หตฺถปาสโต พหิ ิตสฺส ‘‘อย’’นฺติ น วตฺตพฺพโต. เตเนว อนุสาสกสมฺมุติยํ โส หตฺถปาสโต พหิ ิตตฺตา ‘‘อย’’นฺติ น วุตฺโต. ตสฺมา อุปสมฺปทาเปกฺโข อนุปสมฺปนฺโน หตฺถปาเส เปตพฺโพ. อยํ อิตฺถนฺนาโมติ อยํ-สทฺโท จ อวสฺสํ ปยุชฺชิตพฺโพ. โส จ อิมสฺมึ ปมนามปโยเค เอวาติ คเหตพฺพํ . ‘‘อิตฺถนฺนาโม’’ติ อิทํ อนิยมโต ตสฺส นามทสฺสนํ. อุภเยนปิ อยํ พุทฺธรกฺขิโตติอาทินามํ ทสฺเสติ. ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ ภินฺนาธิกรณวิสเย พหุพฺพีหิสมอาโส, อุปสมฺปทํ เม สงฺโฆ อเปกฺขมาโนติ อตฺโถ. ตสฺส จ อุปชฺฌายตํ สมงฺคิภาเวน ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถนฺนมสฺส อายสฺมโต’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส สทฺธิวิหาริกภูโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวมาทินา นเยน นามโยชนาย สห อตฺโถ ทสฺสิโตติ. เอตฺถ จ ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ อวตฺวาปิ ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติ เอตฺถ ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ น วุตฺตํ. ยฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

นนุ เจตฺถ อุปชฺฌาโยปิ อุปสมฺปทาเปกฺโข วิย หตฺถปาเส ิโต เอว อิจฺฉิตพฺโพ, อถ กสฺมา ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม อิมสฺส อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวํ อุปชฺฌายปรามสเนปิ อิม-สทฺทสฺส ปโยโค น กโตติ? นายํ วิโรโธ อุปชฺฌายสฺส อภาเวปิ กมฺมโกปาภาวโต. เกวลฺหิ กมฺมนิปฺผตฺติยา สนฺตปทวเสน อวิชฺชมานสฺสปิ อุปชฺฌายสฺส นามกิตฺตนํ อนุปชฺฌายสฺส อุปสมฺปทาทีสุปิ กรียติ. ตสฺมา อุปชฺฌายสฺส อสนฺนิหิตตายปิ ตปฺปรามสนมตฺเตเนว กมฺมสิทฺธิโต ‘‘อิมสฺสา’’ติ นิทฺทิสิตุํ น วฏฺฏติ.

ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหีติ อภพฺพตาทิเกหิ อุปสมฺปทาย อวตฺถุกเรหิ เจว ปฺจาพาธหตฺถจฺฉินฺนาทีหิ จ อาปตฺติมตฺตกเรหิ อนฺตรายิเกหิ สภาเวหิ ปริมุตฺโต. เอวํ วุตฺโต เอว จ อาปตฺติมตฺตกเรหิ ปฺจาพาธาทีหิ อปริมุตฺตสฺสปิ อุปสมฺปทา รุหติ, นาฺถา. ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรนฺติ ปริปุณฺณมสฺส อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปตฺตจีวรํ. เอวํ วุตฺเต เอว อปตฺตจีวรสฺสาปิ อุปสมฺปทา รุหติ, นาฺถา. อุปสมฺปทํ ยาจตีติ ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามี’’ติอาทินา (มหาว. ๗๑, ๑๒๖) ยาจิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ เตน สงฺเฆ อยาจิเตปิ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วุตฺเต เอว กมฺมํ อวิปนฺนํ โหติ, นาฺถา. อุปชฺฌาเยนาติ อุปชฺฌาเยน กรณภูเตน อิตฺถนฺนามํ อุปชฺฌายํ กตฺวา กมฺมภูตํ อุปสมฺปทํ ทาตุํ นิปฺผาเทตุํ กตฺตุภูตํ สงฺฆํ ยาจตีติ อตฺโถ. ยาจธาตุโน ปน ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘สงฺฆํ, อุปสมฺปท’’นฺติ ทฺเว กมฺมปทานิ วุตฺตานิ.

ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลนฺติ เอตฺถ ปตฺโต กาโล อิมสฺสาติ ปตฺตกาลํ, อปโลกนาทิจตุพฺพิธสงฺฆกมฺมํ, ตเทว สกตฺเถ ย-ปจฺจเยน ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน ตฺติจตุตฺถอุปสมฺปทากมฺมํ อธิปฺเปตํ, ตํ กาตุํ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ ชาตํ. ยทีติ อนุมติคหณวเสน กมฺมสฺส ปตฺตกลฺลตํ าเปติ. โย หิ โกจิ ตตฺถ อปตฺตกลฺลตํ มฺิสฺสติ, โส วกฺขติ. อิมเมว หิ อตฺถํ สนฺธาย อนุสฺสาวนาสุ ‘‘ยสฺสายสฺมโต ขมติ…เป… โส ภาเสยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๒๗) วุตฺตํ. ตํ ปเนตํ ปตฺตกลฺลํ วตฺถุสมฺปทา, อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ จสฺส ปริสุทฺธตา, สีมาสมฺปทา, ปริสสมฺปทา, ปุพฺพกิจฺจนิฏฺาปนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สงฺคหิตํ.

ตตฺถ วตฺถุสมฺปทา นาม ยถาวุตฺเตหิ เอกาทสหิ อภพฺพปุคฺคเลหิ เจว อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺเนหิ จ อฺโ ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อนุปสมฺปนฺนภูโต มนุสฺสปุริโส, เอตสฺมึ ปุคฺคเล สติ เอว อิทํ สงฺฆสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตฺจ กุปฺปเมว โหติ.

อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ จสฺส ปริสุทฺธตา นาม ยถาวุตฺตสฺเสว อุปสมฺปทาวตฺถุภูตสฺส ปุคฺคลสฺส เย อิเม ภควตา ปฏิกฺขิตฺตา ปฺจาพาธผุฏฺตาทโย มาตาปิตูหิ อนนุฺาตตาปริโยสานา เจว หตฺถจฺฉินฺนตาทโย จ โทสธมฺมา การกสงฺฆสฺส อาปตฺตาทิอนฺตรายเหตุตาย ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ วุจฺจนฺติ เตหิ อนฺตรายิเกหิ โทสธมฺเมหิ ปริมุตฺตตฺตา, อิมิสฺสา จ สติ เอว อิทํ กมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตํ ปน กมฺมํ สุกตเมว โหติ เปตฺวา อูนวีสติวสฺสปุคฺคลํ.

สีมาสมฺปทา ปน อุโปสถกฺขนฺธเก (มหาว. ๑๔๗-๑๔๘) วกฺขมานนเยน สพฺพโทสวิรหิตาย พทฺธาพทฺธวเสน ทุวิธาย สีมาย วเสเนว เวทิตพฺพา. ตาทิสาย หิ สีมาย สติ เอว อิทํ กมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตฺจ กมฺมํ วิปชฺชติ.

ปริสสมฺปทา ปน เย อิเม อุปสมฺปทากมฺมสฺส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน กมฺมปฺปตฺตา ทสหิ วา ปฺจหิ วา อนูนา ปาราชิกํ อนาปนฺนา, อนุกฺขิตฺตา จ สมานสํวาสกา ภิกฺขู, เตสํ เอกสีมายํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา านํ, ฉนฺทารหานฺจ ฉนฺทสฺส อานยนํ, สมฺมุขีภูตานฺจ อปฺปฏิกฺโกสนํ, อุปสมฺปทาเปกฺขรหิตานํ อุโปสถกฺขนฺธเก ปฏิกฺขิตฺตานํ คหฏฺาทิอนอุปสมฺปนฺนานฺเจว ปาราชิกุกฺขิตฺตกนานาสํวาสกภิกฺขุนีนฺจ วชฺชนียปุคฺคลานํ สงฺฆสฺส หตฺถปาเส อภาโว จาติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สงฺคหิตา. เอวรูปาย จ ปริสสมฺปทาย สติ เอว อิทํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. ตตฺถ ปุริมานํ ติณฺณํ องฺคานํ อฺตรสฺสปิ อภาเว กตํ กมฺมํ วิปชฺชติ, น ปจฺฉิมสฺส.

ปุพฺพกิจฺจนิฏฺาปนํ นาม ยานิมานิ ‘‘ปมํ อุปชฺฌํ คาหาเปตพฺโพ’’ติอาทินา ปาฬิยํ วุตฺตานิ ‘‘อุปชฺฌํ คาหาปนํ, ปตฺตจีวราจิกฺขนํ, ตโต ตํ หตฺถปาสโต พหิ เปตฺวา อนุสาสกสมฺมุติกมฺมกรณํ, สมฺมเตน จ คนฺตฺวา อนุสาสนํ, เตน จ ปมตรํ อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส าเปตฺวา อุปสมฺปทาเปกฺขํ ‘อาคจฺฉาหี’ติ หตฺถปาเส เอว อพฺภานํ, เตน จ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุปสมฺปทายาจาปนํ, ตโต อนฺตรายิกธมฺมปุจฺฉกสมฺมุติกรณํ, สมฺมเตน จ ปุจฺฉน’’นฺติ อิมานิ อฏฺ ปุพฺพกิจฺจานิ, เตสํ สพฺเพสํ ยาถาวโต กรเณน นิฏฺาปนํ. เอตสฺมิฺจ ปุพฺพกมฺมนิฏฺาปเน สติ เอว อิทํ สงฺฆสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. เอเตสุ ปน ปุพฺพกมฺเมสุ อกเตสุปิ กตํ กมฺมํ ยถาวุตฺตวตฺถุสมฺปตฺติอาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อกุปฺปเมว โหติ. ตเทวเมตฺถ ปตฺตกลฺลํ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินาว นเยน เหฏฺา วุตฺเตสุ, วกฺขมาเนสุ จ สพฺเพสุ กมฺเมสุ ปตฺตกลฺลตา ยถารหํ โยเชตฺวา าตพฺพา.

อิตฺถนฺนามํอุปสมฺปาเทยฺยาติ อุปสมฺปทานิปฺผาทเนน ตํสมงฺคึ กเรยฺย กโรตูติ ปตฺถนายํ, วิธิมฺหิ วา อิทํ ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ‘‘เทวทตฺตํ สุขาเปยฺยา’’ติ วุตฺเต สุขมสฺส นิปฺผาเทตฺวา ตํ สุขสมงฺคินํ กเรยฺยาติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ อุปสมฺปทมสฺส นิปฺผาเทตฺวา ตํ อุปสมฺปทาสมงฺคินํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. ปโยชกพฺยาปาเร เจตํ ยถา สุขยนฺตํ กฺจิ สุทฺธกตฺตารํ โกจิ เหตุกตฺตา สุขเหตุนิปฺผาทเนน สุขาเปยฺยาติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ อุปสมฺปชฺชนฺตํ สุทฺธกตฺตารํ ปุคฺคลํ เหตุกตฺตุภูโต สงฺโฆ อุปสมฺปทาเหตุนิปฺผาทเนน อุปสมฺปาเทยฺยาติ วุตฺโต. เอเตน จ สุขํ วิย สุขทายเกน สงฺเฆน ปุคฺคลสฺส ทิยฺยมานา ตถาปวตฺตปรมตฺถธมฺเม อุปาทาย อริยชนปฺตฺตา อุปสมฺปทา นาม สมฺมุติสจฺจตา อตฺถีติ สมตฺถิตํ โหติ. เอตฺถ จ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปริวาสาทีสุ วิย ยาจนานุคุณํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทํ ทเทยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา อิทํ อุปสมฺปทากมฺมํ ทาเน อสงฺคเหตฺวา กมฺมลกฺขเณ เอว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิมินา นเยน ‘‘อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ, อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆนา’’ติ เอตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ตตฺถ วตฺตมานกาลอตีตกาลวเสน, อิธ ปน อนามฏฺกาลวเสนาติ เอตฺตกเมว วิเสโส.

เอสา ตฺตีติ ‘‘สงฺโฆ าเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตาปนา เอสา. อิทฺจ อนุสฺสาวนานมฺปิ สพฺภาวสูจนตฺถํ วุจฺจติ. อวสฺสฺเจตํ วตฺตพฺพเมว, ตฺติกมฺเม เอว ตํ น วตฺตพฺพํ. ตตฺถ ปน ยฺย-กาเร วุตฺตมตฺเต เอว ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ขมตีติ รุจฺจติ. อุปสมฺปทาติ สงฺเฆน ทิยฺยมานา นิปฺผาทิยมานา อุปสมฺปทา ยสฺส ขมติ. โส ตุณฺหสฺสาติ โยชนา. ตุณฺหีติ จ อกถนตฺเถ นิปาโต, อกถนโก อสฺส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ขมติ สงฺฆสฺส อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ตสฺมา ตุณฺหี’’ติ. ตตฺถ ‘‘อาสี’’ติ เสโส. ยสฺมา ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ สงฺโฆ ตุณฺหี นิรโว อโหสิ, ตสฺมา ขมติ สงฺฆสฺสาติ อตฺโถ. เอวนฺติ อิมินา ปกาเรน. ตุณฺหีภาเวเนเวตํ สงฺฆสฺส รุจฺจนภาวํ ธารยามิ พุชฺฌามิ ปชานามีติ อตฺโถ. อิติ-สทฺโท ปริสมาปนตฺเถ กโต, โส จ กมฺมวาจาย อนงฺคํ. ตสฺมา อนุสฺสาวเกน ‘‘ธารยามี’’ติ เอตฺถ มิ-การปริโยสานเมว วตฺวา นิฏฺาเปตพฺพํ, อิติ-สทฺโท น ปยุชฺชิตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ กมฺมวาจานมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อุปสมฺปทาวิธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา

๑๒๘. เอกโปริสา วาติอาทิ สตฺตานํ สรีรจฺฉายํ ปาเทหิ มินิตฺวา ชานนปฺปการทสฺสนํ. ฉสตฺตปทปรมตา หิ ฉายา ‘‘โปริสา’’ติ วุจฺจติ. อิทฺจ อุตุปฺปมาณาจิกฺขนาทิ จ อาคนฺตุเกหิ สทฺธึ วีมํสิตฺวา วุฑฺฒนวภาวํ ตฺวา วนฺทนวนฺทาปนาทิกรณตฺถํ วุตฺตํ. เอติ อาคจฺฉติ, คจฺฉติ จาติ อุตุ, โสว ปมิยเต อเนน สํวจฺฉรนฺติ ปมาณนฺติ อาห ‘‘อุตุเยว อุตุปฺปมาณ’’นฺติ. อปริปุณฺณาติ อุปสมฺปทาทิวเสน อปริปุณฺณา. ยทิ อุตุเวมชฺเฌ อุปสมฺปาทิโต, ตทา ตสฺมึ อุตุมฺหิ อวสิฏฺทิวสาจิกฺขนํ ‘‘ทิวสภาคาจิกฺขน’’นฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ยสฺส โย อุตุ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเส’’ติ. ตตฺถ ยสฺส ตํ ขณํ ลทฺธูปสมฺปทสฺส ปุคฺคลสฺส สมฺพนฺธี โย อุตุ ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเสติ โยชนา.

ฉายาทิกเมว สพฺพํ สงฺคเหตฺวา คายิตพฺพโต กเถตพฺพโต สงฺคีตีติ อาห ‘‘อิทเมวา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกโต กตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. ตฺวํ กึ ลภสีติ ตฺวํ อุปสมฺปาทนกาเล กตรวสฺสํ, กตรอุตุฺจ ลภสิ, กตรสฺมึ เต อุปสมฺปทา ลทฺธาติ อตฺโถ. วสฺสนฺติ วสฺสานอุตุ. อิทฺจ สํวจฺฉราจิกฺขนํ วินา วุตฺตมฺปิ น ายตีติ อิมินา อุตุอาจิกฺขเนเนว สาสนวสฺเสสุ วา กลิยุควสฺสาทีสุ วา สหสฺสิเม วา สติเม วา อสุกํ อุตุํ ลภามีติ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ฉายา’’ติ อิทํ ปาฬิยํ อาคตปฏิปาฏึ สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺตพฺพกมโต ปน กลิยุควสฺสาทีสุ สพฺพเทสปสิทฺเธสุ อสุกวสฺเส อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส อสุเก กณฺเห วา สุกฺเก วา ปกฺเข อสุกติถิวารวิเสสยุตฺเต นกฺขตฺเต ปุพฺพณฺหาทิทิวสภาเค เอตฺตเก ฉายาปมาเณ, นาฑิกาปมาเณ วา มยา อุปสมฺปทา ลทฺธาติ วเทยฺยาสีติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิทํ สุฏฺุ อุคฺคเหตฺวา อาคนฺตุเกหิ วุฑฺฒปฏิปาฏึ ตฺวา ปฏิปชฺชาหี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปาฬิยํ กิสฺส ตฺวนฺติ กึ ตฺวํ เอตฺตกํ กาลํ อกาสีติ อตฺโถ.

๑๓๐. อุปสมฺปทํ ยาจีติ ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ยาจีติ อตฺโถ. ปสฺสิสฺสามีติ เอตฺถ วทตีติ เสโส, เอวํ อุปริปิ. ‘‘โอสาเรตพฺโพ’’ติ อิมินา ปุริโม อุกฺขิตฺตภาโว วิพฺภมิตฺวา ปุน ลทฺธูปสมฺปทมฺปิ น มุฺจติ. เตน จ สมฺภุฺชนาทีสุปิ ภิกฺขูนํ ปาจิตฺติยเมวาติ ทสฺเสติ. อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเสติ เอตฺถ สหเสยฺยาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จายมธิปฺปาโย – ยสฺมา อยํ โอสาริตตฺตา ปกตตฺโต, ตสฺมา อุกฺขิตฺตสมฺโภคาทิปจฺจเยน ปาจิตฺติเยเนตฺถ อนาปตฺตีติ. โย ปน อาปตฺติฏฺาเน อนาปตฺติทิฏฺิตาย อาปตฺตึ น ปสฺสติ, เตเนว ปฏิกมฺมมฺปิ น กโรติ, โส ยสฺมา เอตฺตาวตา อลชฺชี นาม น โหติ. ปณฺณตฺตึ ตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺโต เอว หิ อลชฺชี นาม โหติ. ‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (ปริ. ๓๕๙) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา เอตฺถ อลชฺชิสมฺโภคาทิปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตินิยโม นตฺถิ. เตน สาเปตฺถ อาปตฺติ น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. โย ปเนตฺถ อิมํ อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขนฺเตน เกนจิ ‘‘อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเส’’ติ อิมินา ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติ วุตฺตา, อลชฺชิสมฺโภคปจฺจยา ทุกฺกฏํ ปน อาปชฺชติ เอวาติ อาปตฺตินิยโม วุตฺโต, โส อลชฺชิตฺเต สติ เอว วุตฺโต, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.

๑๓๑. วินยมฺหีติอาทิคาถาสุ นิคฺคหานนฺติ นิคฺคหกรเณสุ. ปาปิจฺเฉติ ปาปปุคฺคลานํ นิคฺคหกรเณสุ, ลชฺชีนํ ปคฺคเหสุ จ เปสลานํ สุขาวเห มหนฺเต วินยมฺหิ ยถา อตฺถการี อตฺถานุคุณํ กโรนฺโตว ยสฺมา โยนิโส ปฏิปชฺชติ นาม โหติ, ตสฺมา อุทฺทานํ ปวกฺขามีติ สมฺพนฺธโยชนา ทฏฺพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ

มหาขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.