📜
๑. ปาราชิกกณฺโฑ
๑. ปมปาราชิกํ
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา
๒๔. วิกฺกายิกภณฺฑสฺส ¶ ¶ วิกฺกิณนํ อิณทานฺจ ภณฺฑปฺปโยชนํ นาม. เอวํ ปโยชิตสฺส มูลสฺส สห วฑฺฒิยา คหณวายาโม อุทฺธาโร นาม. อสุกทิวเส ทินฺนนฺติอาทินา ปมุฏฺสฺส สตุปฺปาทนาทิ สารณํ นาม. จตุพฺพิธายาติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณานํ วเสน, ภิกฺขุอาทีนํ วา วเสน จตุพฺพิธาย. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ เหตุอตฺเถ อยํ ทิสฺวาน-สทฺโท อสมานกตฺตุกตฺตา, ยถา ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหตีติ, เอวมฺตฺถาปิ เอวรูเปสุ. ภพฺพกุลปุตฺโตติ อุปนิสฺสยมตฺตสภาเวน วุตฺตํ, น ปจฺฉิมภวิกตาย. เตเนวสฺส มาตาทิอกลฺยาณมิตฺตสมาโยเคน กตวีติกฺกมนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาเรน อธิคมนฺตราโย ชาโต. ปจฺฉิมภวิกานํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ ลทฺธพฺยากรณานํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ. เตเนว องฺคุลิมาลตฺเถราทโย อกุสลํ กตฺวาปิ อธิคมสมฺปนฺนา เอว อเหสุนฺติ. จริมกจิตฺตนฺติ จุติจิตฺตํ. สงฺขํ วิย ลิขิตํ ฆํสิตฺวา โธวิตํ สงฺขลิขิตนฺติ อาห โธตอิจฺจาทิ. อชฺฌาวสตาติ อธิ-สทฺทโยเคน อคารนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อคารมชฺเฌ’’ติ. กสายรสรตฺตานิ กาสายานีติ อาห ‘‘กสายรสปีตตายา’’ติ. กสายโต นิพฺพตฺตตาย จ หิ รโสปิ ‘‘กสายรโส’’ติ วุจฺจติ.
๒๖. ยทา ชานาติ-สทฺโท โพธนตฺโถ น โหติ, ตทา ตสฺส ปโยเค สปฺปิโน ชานาติ มธุโน ชานาตีติอาทีสุ วิย กรณตฺเถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสี’’ติ. เกนจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ อตฺโถ, กิฺจีติ เอตฺถาปิ หิ กรณตฺเถ สามิวจนสฺส โลโป กโต, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ¶ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ยทา ปน ชานาติ-สทฺโท สรณตฺโถ โหติ, ตทา มาตุ สรตีติอาทีสุ วิย อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ ¶ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺตีติ อาห ‘‘อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรตีติ อตฺโถ’’ติ, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส อนนุภูตตาย นสฺสรตีติ อตฺโถ. วิกปฺปทฺวเยปีติ อนุภวนสรณตฺถวเสน วุตฺเต ทุติยตติยวิกปฺปทฺวเย. ปุริมปทสฺสาติ กิฺจีติ ปทสฺส. อุตฺตรปเทนาติ ทุกฺขสฺสาติปเทน. สมานาย สามิวจนภูตาย วิภตฺติยา ‘‘กสฺสจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘กิฺจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ โลโปติ ทฏฺพฺโพ. มรเณนปิ มยํ เตติ เอตฺถ เตติ ปทสฺส สหตฺเถ กรณวเสนปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺถนฺตรํ วุตฺตํ.
๒๘. คนฺธพฺพา นาม คายนกา. นฏา นาม รงฺคนฏา. นาฏกา ลงฺฆนกาทโย. สุขูปกรเณหิ อตฺตโน ปริจรณํ กโรนฺโต ยสฺมา ลฬนฺโต กีฬนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ลฬาติอาทิ วุตฺตํ. ทานปฺปทานาทีนีติ เอตฺถ นิจฺจทานํ ทานํ นาม, วิเสสทานํ ปทานํ นาม, อาทิ-สทฺเทน สีลาทีนิ สงฺคณฺหาติ.
๓๐. จุทฺทส ภตฺตานีติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกํ คมิกํ คิลานํ คิลานุปฏฺากํ วิหาร-ธุร-วารภตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส ภตฺตานิ. เอตฺถ จ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยนิสฺสิเตสุ อารฺกงฺคาทิปธานงฺคานํ คหณวเสน เสสธุตงฺคานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. วชฺชีนนฺติ วชฺชีราชูนํ. วชฺชีสูติ ชนปทาเปกฺขํ พหุวจนํ, วชฺชีนามเก ชนปเทติ อตฺโถ. ปฺจกามคุณาเยว อุปภฺุชิตพฺพโต ปริภฺุชิตพฺพโต จ อุปโภคปริโภคา, อิตฺถิวตฺถาทีนิ จ ตทุปกรณานีติ อาห ‘‘เยหิ เตส’’นฺติอาทิ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตาติ เสสธุตงฺคปริวาริเตน อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกธุตงฺเคน สมนฺนาคตตฺตา, เตนาห ‘‘สปทานจารํ จริตุกาโม’’ติ.
๓๑. โทสาติ รตฺติ. ตตฺถ อภิวุตฺถํ ปริวุสิตํ อาภิโทสิกํ, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปตฺโต อติกฺกนฺโต อาภิโทสิโก, เตนาห เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วาติอาทิ.
๓๒. อุทกกฺชิยนฺติ ปานียปริโภชนียอุทกฺจ ยาคุ จ. ตถาติ สมุจฺจยตฺเถ.อโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ, อมริสนํ อสหนํ.
๓๔. ตทฺธิตโลปนฺติ ¶ ปิตามหโต อาคตํ ‘‘เปตามห’’นฺติ วตฺตพฺเพ ตทฺธิตปจฺจยนิมิตฺตสฺส ¶ เอ-การสฺส โลปํ กตฺวาติ อตฺโถ. เยสํ สนฺตกํ ธนํ คหิตํ, เต อิณายิกา. ปลิพุทฺโธติ ‘มา คจฺฉ มา ภฺุชา’ติอาทินา กตาวรโณ, ปีฬิโตติ อตฺโถ.
๓๕. อตฺตนาติ สยํ. สปติโน ธนสามิโน อิทํ สาปเตยฺยํ, ธนํ. ตเทว วิภโว.
๓๖. ภิชฺชนฺตีติ อคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติ. ทินฺนาปิ ปฏิสนฺธีติ ปิตรา ทินฺนํ สุกฺกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนสฺส สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิปิ เตน ทินฺนา นาม โหตีติ วุตฺตํ. สุกฺกเมว วา อิธ ปฏิสนฺธินิสฺสยตฺตา ‘‘ปฏิสนฺธี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห ‘‘ขิปฺปํ ปติฏฺาตี’’ติ. น หิ ปิตุ สํโยคกฺขเณเยว สตฺตสฺส อุปฺปตฺตินิยโม อตฺถิ สุกฺกเมว ตถา ปติฏฺานนิยมโต. สุกฺเก ปน ปติฏฺิเต ยาว สตฺต ทิวสานิ, อฑฺฒมาสมตฺตํ วา, ตํ คพฺภสณฺานสฺส เขตฺตเมว โหติ มาตุ มํสสฺส โลหิตเลสสฺส สพฺพทาปิ วิชฺชมานตฺตา. ปุพฺเพปิ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาวโต อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อิมสฺส ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเตติ อตฺโถ วุตฺโต. เอวรูปนฺติ เอวํ ครุกสภาวํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘อวเสเส ปฺจขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสี’’ติ. ยํ อาทีนวนฺติ สมฺพนฺโธ. กายวิฺตฺติโจปนโตติ กายวิฺตฺติยา นิพฺพตฺตจลนโต.
เตเนวาติ อวธารเณน ยานิ คพฺภคฺคหณการณานิ นิวตฺติตานิ, ตานิปิ ทสฺเสตุํ กึ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุภเยสํ ฉนฺทราควเสน กายสํสคฺโค วุตฺโต. อิตฺถิยา เอว ฉนฺทราควเสน นาภิปรามสนํ วิสุํ วุตฺตํ. สามปณฺฑิตสฺส หิ มาตา ปุตฺตุปฺปตฺติยา สฺชาตาทรา นาภิปรามสนกาเล กามราคสมากุลจิตฺตา อโหสิ, อิตรถา ปุตฺตุปฺปตฺติยา เอว อสมฺภวโต. ‘‘สกฺโก จสฺสา กามราคสมุปฺปตฺตินิมิตฺตานิ อกาสี’’ติปิ วทนฺติ, วตฺถุวเสน วา เอตํ นาภิปรามสนํ กายสํสคฺคโต วิสุํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. มาตงฺคปณฺฑิตสฺส ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ. จณฺฑปชฺโชตมาตุ นาภิยํ วิจฺฉิกา ผริตฺวา ¶ คตา, เตน จณฺฑปชฺโชตสฺส นิพฺพตฺติ อโหสีติ อาห เอเตเนว นเยนาติอาทิ.
อยนฺติ สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา. ยํ สนฺธายาติ ยํ อชฺฌาจารํ สนฺธาย. มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตีติ อิมินา สุกฺกสฺส สมฺภวํ ทีเปติ, มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิมินา โสณิตสฺส. คนฺธพฺโพติ ตตฺรุปโค สตฺโต อธิปฺเปโต, คนฺตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ต-การสฺส เจตฺถ ธ-กาโร กโต. อถ วา คนฺธพฺพา นาม รงฺคนฏา, เต วิย ตตฺร ตตฺร ภเวสุ นานาเวสคฺคหณโต อยมฺปิ ‘‘คนฺธพฺโพ’’ติ วุตฺโต, โส มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตกฺขณโต ปจฺฉาปิ สตฺตาหพฺภนฺตเร ¶ ตตฺร อุปปนฺโน ‘‘ปจฺจุปฏฺิโต’’ติ วุตฺโต. คพฺภสฺสาติ กลลรูปสหิตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. ตฺหิ อิธ ‘‘คพฺโภ’’ติ อธิปฺเปตํ สา เตน คพฺภํ คณฺหีติอาทีสุ (ปารา. ๓๖) วิย. อสฺส ตํ อชฺฌาจารนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาฬิยํ นิรพฺพุโท วต โภ ภิกฺขุสงฺโฆ นิราทีนโวติ อิมสฺส อนนฺตรํ ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆติ อชฺฌาหริตฺวา สุทินฺเนน…เป… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ โยชนา เวทิตพฺพา. อิติหาติ นิปาตสมุทายสฺส เอวนฺติ อิทํ อตฺถภวนํ. มุหุตฺเตนาติ อิทํ ขเณนาติ ปทสฺส เววจนํ. ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคโตปิ เทวานํ ตาวมหนฺโต สทฺโท เตสํ รูปํ วิย มนุสฺสานํ โคจโร น โหติ. ตสฺมา ปจฺฉา สุทินฺเนน วุตฺเต เอว ชานึสูติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗. มคฺคพฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคปทฏฺานํ สิกฺขตฺตยเมว อุปจารโต วุตฺตํ ตสฺเสว ยาวชีวํ จริตพฺพตฺตา. อวิปฺผาริโกติ อุทฺเทสาทีสุ อพฺยาวโฏ. วหจฺฉินฺโนติ ฉินฺนปาโท, ฉินฺนขนฺโธ วา. จินฺตยีติ อิมินา ปชฺฌายีติ ปทสฺส กิริยาปทตฺตํ ทสฺเสติ. เตน ‘‘กิโส อโหสิ…เป… ปชฺฌายิ จา’’ติ จ-การํ อาเนตฺวา ปาฬิโยชนา กาตพฺพา.
๓๘. คเณ ชนสมาคเม สนฺนิปาตนํ คณสงฺคณิกา, สาว ปปฺจา, เตน คณสงฺคณิกาปปฺเจน. ยสฺสาติ เย อสฺส. กถาผาสุกาติ วิสฺสาสิกภาเวน ผาสุกกถา, สุขสมฺภาสาติ อตฺโถ. อุปาทารูปํ ภูตรูปมุเขเนว มนฺทนํ ปีนนฺจ โหตีติ อาห ปสาทอิจฺจาทิ. ทานีติ นิปาโต อิธ ปน-สทฺทตฺเถ วตฺตติ ตกฺกาลวาจิโน เอตรหิ-ปทสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตาติ อาห ‘‘โส ปน ตฺว’’นฺติ. โน-สทฺโทปิ นุ-สทฺโท วิย ¶ ปุจฺฉนตฺโถติ อาห ‘‘กจฺจิ นุ ตฺว’’นฺติ. ตเมวาติ คิหิภาวปตฺถนาลกฺขณเมว. อนภิรติเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตาย ปน ตทฺาย อนภิรติยา วิชฺชมานตฺตํ ทสฺเสตุํ อธิกุสลานนฺติอาทิ วุตฺตํ, สมถวิปสฺสนา อธิกุสลา นาม. อิทํ ปนาติอาทิ อุปริ วตฺตพฺพวิเสสทสฺสนํ. ปริยายวจนมตฺตนฺติ สทฺทตฺถกถนมตฺตํ.
ตสฺมินฺติ ธมฺเม, เอวํ วิราคาย เทสิเต สตีติ อตฺโถ. นามาติ ครหายํ. โลกุตฺตรนิพฺพานนฺติ วิราคายาติอาทินา วุตฺตกิเลสกฺขยนิพฺพานโต วิเสเสติ. ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมาโน เอว มทชนนฏฺเน มโทติ มานมโท. ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ ปวตฺโต มาโน ปุริสมโท. ‘‘อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท’’ติ เกจิ. อาทิ-สทฺเทน พลมทาทึ สงฺคณฺหาติ. เตภูมกวฏฺฏนฺติ ตีสุ ภูมีสุ กมฺมกิเลสวิปากา ปวตฺตนฏฺเน ¶ วฏฺฏํ. วิรชฺชตีติ วิคจฺฉติ. โยนิโยติ อณฺฑชาทโย, ตา ปน ยวนฺติ ตาหิ สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา โหนฺตีติ ‘‘โยนิโย’’ติ วุตฺตา.
าตตีรณปหานวเสนาติ เอตฺถ ลกฺขณาทิวเสน สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห าตปริฺา นาม. กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตา โลกิยวิปสฺสนา ตีรณปริฺา นาม. อริยมคฺโค ปหานปริฺา นาม. อิธ ปน าตตีรณกิจฺจานมฺปิ อสมฺโมหโต มคฺคกฺขเณ สิชฺฌนโต อริยมคฺคเมว สนฺธาย ติวิธาปิ ปริฺา วุตฺตา, เตเนว ‘‘โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต’’ติ วุตฺตํ. กาเมสุ ปาตพฺยตานนฺติ วตฺถุกาเมสุ ปาตพฺยตาสงฺขาตานํ สุภาทิอาการานํ ตทาการคาหิกานํ ตณฺหานนฺติ อตฺโถ. วิสยมุเขน เหตฺถ วิสยิโน คหิตา. ตีสุ าเนสูติ ‘‘วิราคาย ธมฺโม เทสิโต…เป… โน สอุปาทานายา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ.
๓๙. กลิสาสนาโรปนตฺถายาติ โทสาโรปนตฺถาย. กลีติ โกธสฺส นามํ, ตสฺส สาสนํ กลิสาสนํ, โกธวเสน วุจฺจมานา ครหา. อชฺฌาจาโรว วีติกฺกโม. สมณกรณานํ ธมฺมานนฺติ สมณภาวกรานํ หิโรตฺตปฺปาทิธมฺมานํ. ปาฬิยํ กถํ-สทฺทโยเคน น สกฺขิสฺสสีติ อนาคตวจนํ กตํ, ‘‘นาม-สทฺทโยเคนา’’ติปิ วทนฺติ. อติวิย ทุกฺขวิปากนฺติ ¶ คหฏฺานํ นาติสาวชฺชมฺปิ กมฺมํ ปพฺพชิตานํ ภควโต อาณาวีติกฺกมโต เจว สมาทินฺนสิกฺขตฺตยวินาสนโต จ มหาสาวชฺชํ โหตีติ วุตฺตํ. อุทเก ภวํ โอทกํ, โธวนกิจฺจนฺติ อาห อุทกกิจฺจนฺติอาทิ. สมาปชฺชิสฺสสีติ อนาคตวจนํ นาม-สทฺทโยเคน กตนฺติ อาห ‘‘นาม-สทฺเทน โยเชตพฺพ’’นฺติ. ทุพฺภรตาทีนํ เหตุภูโต อสํวโร อิธ ทุพฺภรตาทิ-สทฺเทน วุตฺโต การเณ การิโยปจาเรนาติ อาห ‘‘ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺสา’’ติ. อตฺตาติ อตฺตภาโว. ทุพฺภรตนฺติ อตฺตนา อุปฏฺาเกหิ จ ทุกฺเขน ภริตพฺพตํ. สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกาติ อาห คณสงฺคณิกายาติอาทิ. อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยาติ เอตฺถ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอกํ, ตถา อกาสินฺติ, มคฺโค คนฺตพฺโพติ อคมาสินฺติ, นาลตฺถํ โภชนสฺส ปาริปูรินฺติ, อลตฺถนฺติ, อุปฺปนฺโน เม อาพาโธติ, อจิรวุฏฺิโต เคลฺาติ เอกนฺติ อิมานิ อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ นาม. เอตฺถ จ โกสชฺชํ กุสีต-สทฺเทน วุตฺตํ. วินาปิ หิ ภาวโชตนปจฺจยํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ปฏสฺส สุกฺกนฺติ. สพฺพกิเลสาปจยภูตาย วิวฏฺฏายาติ ราคาทิสพฺพกิเลสานํ อปจยเหตุภูตาย นิพฺพานาย, นิพฺพานตฺถนฺติ อตฺโถ. สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตนฺติ สีลสํวราทีหิ ปฺจหิ สํวเรหิ เจว ตทงฺคปฺปหานาทีหิ ปฺจหิ ปหาเนหิ จ อุเปตํ. อสุตฺตนฺต วินิพทฺธนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ ปาฬิสงฺขาตสุตฺตนฺตวเสน อรจิตํ, สงฺคีติกาเรหิ จ อนาโรปิตํ, เตนาห ‘‘ปาฬิวินิมุตฺต’’นฺติ. เตน จ อฏฺกถาสุ ยถานุรูปํ สงฺคหิตนฺติ ¶ ทสฺเสติ. เอวรูปา หิ ปกิณฺณกเทสนา อฏฺกถาย มูลํ. โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนา นาม ตสฺมึ ตสฺมึ ปสงฺเค โอตาเรตฺวา โอตาเรตฺวา นานานเยหิ กถิยมานา ธมฺมเทสนา, เตนาห ภควา กิราติอาทิ. ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายาติ ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ‘‘กิเมเตนา’’ติ มทฺทนจิตฺตา.
วุตฺตตฺถวเสนาติ ปติฏฺาอธิคมุปายวเสน. สิกฺขาปทวิภงฺเค ยา ตสฺมึ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารา อารติ วิรตีติอาทินา (วิภ. ๗๐๖) นิทฺทิฏฺวิรติโย เจว, ยา ตสฺมึ สมเย เจตนา สฺเจตนาติอาทินา (วิภ. ๗๐๔) นิทฺทิฏฺเจตนา จ, กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส ผสฺโส…เป… อวิกฺเขโปติอาทินา (วิภ. ๗๐๕) นิทฺทิฏฺผสฺสาทิธมฺมา จ สิกฺขาปทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺจ อตฺโถ ¶ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโยติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. นามกาโยติ นามสมูโห นามปฺตฺติเยว, เสสานิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. สิกฺขาโกฏฺาโสติ วิรติอาทโย วุตฺตา ตปฺปกาสกฺจ วจนํ.
อตฺถวเสติ หิตวิเสเส อานิสํสวิเสเส, เต จ สิกฺขาปทปฺตฺติยา เหตูติ อาห ‘‘การณวเส’’ติ. สุขวิหาราภาเว สหชีวนสฺส อภาวโต สหชีวิตาติ สุขวิหาโรว วุตฺโต. ทุสฺสีลปุคฺคลาติ นิสฺสีลา ทูสิตสีลา จ. ปาราชิกสิกฺขาปทปฺปสงฺเค หิ นิสฺสีลา อธิปฺเปตา, เสสสิกฺขาปทปสงฺเค เตหิ เตหิ วีติกฺกเมหิ ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวปฺปตฺติยา ทูสิตสีลา อธิปฺเปตา. อุภเยนปิ อลชฺชิโนว อิธ ‘‘ทุสฺสีลา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ ทส อตฺถวเส ปฏิจฺเจว ปฺตฺตตฺตา อุปริ ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตเนว ‘‘เย มงฺกุตํ…เป… นิคฺคเหสฺสตี’’ติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณวเสน อตฺโถ วุตฺโต. ตตฺถ มงฺกุตนฺติ นิตฺเตชตํ อโธมุขตํ. ธมฺเมนาติอาทีสุ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสาวนสมฺปทา จ. สนฺทิฏฺมานาติ สํสยํ อาปชฺชมานา. อุพฺพาฬฺหาติ ปีฬิตา. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหตีติ อิมินา อลชฺชีหิ สทฺธึ อุโปสถาทิสกลสงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ ธมฺมปริโภคตฺตาติ ทสฺเสติ. อุโปสถปวารณานํ นิยตกาลิกตาย จ อวสฺสํ กตฺตพฺพตฺตา สงฺฆกมฺมโต วิสุํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อกิตฺติ ครหา. อยโส ปริวารหานิ.
จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ นาม วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ ¶ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารฺกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส วตฺตานิ, เอตานิ จ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ สพฺพทา จ ยถารหํ จริตพฺพานิ. ทฺเว อสีติ มหาวตฺตานิ ปน ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ, น สพฺพทา. ตสฺมา วิสุํ คณิตานิ. ตานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมาย จงฺกมนฺเต ¶ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตจาริเกน, มานตฺตารเหน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตวตฺตานิ ปกตตฺเตน จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติวตฺตานิ จ อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ จ วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๘๖) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ วตฺตานิ โหนฺติ, เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติเยว. อฺตฺถ ปน อฏฺกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ อสีติขนฺธกวตฺตานีติ อาคตํ. อถ วา ปุริเมหิ จุทฺทสวตฺเตหิ อสงฺคหิตานิ วินยาคตานิ สพฺพานิ วตฺตานิ ยถา ทฺวาสีติ วตฺตานิ, อสีติ วตฺตานิ เอว วา โหนฺติ, ตถา สงฺคเหตฺวา าตพฺพานิ.
สํวรวินโยติ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธมฺปิ ปหานํ, ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถา. ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมว. ตมฺปิ หิ ภควโต สิกฺขาปทปฺตฺติยาว อนุคฺคหิตํ โหติ ตพฺภาเว เอว ภาวโต. สงฺขลิกนยํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนฺจ กตฺวา ยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปุริมปุริมปทสฺส อนนฺตรปเทเนว โยชิตตฺตา อโยสงฺขลิกสทิสนฺติ ‘‘สงฺขลิกนย’’นฺติ วุตฺตํ. ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตทวเสเสหิ นวนวปเทหิ โยชิตตฺตา ‘‘เอเกกปทมูลิก’’นฺติ วุตฺตํ.
อตฺถสตํ ¶ ¶ ธมฺมสตนฺติ เอตฺถ โย หิ โส ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสูติ อาทึกตฺวา ยํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ตํ วินยานุคฺคหายาติ ปริโยสานํ ขณฺฑจกฺกวเสเนว สงฺขลิกนโย วุตฺโต, ตสฺมึ เอกมูลกนเย อาคตพทฺธจกฺกนเยน ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺูติ อิทมฺปิ โยเชตฺวา พทฺธจกฺเก กเต ปุริมปุริมานิ ทส ธมฺมปทานิ, ปจฺฉิมปจฺฉิมานิ ทส อตฺถปทานิ จาติ วีสติ ปทานิ โหนฺติ. เอกมูลกนเย ปน เอกสฺมึ วาเร นเวว อตฺถปทานิ ลพฺภนฺติ. เอวํ ทสหิ วาเรหิ นวุติ อตฺถปทานิ นวุติ ธมฺมปทานิ จ โหนฺติ, ตานิ สงฺขลิกนเย วุตฺเตหิ ทสหิ อตฺถปเทหิ ทสหิ ธมฺมปเทหิ จ สทฺธึ โยชิตานิ ยถาวุตฺตํ อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๓๙) สงฺขลิกนเยปิ เอกมูลกนเยปิ ปจฺเจกํ อตฺถสตสฺส ธมฺมสตสฺส โยชนามุขํ วุตฺตํ, ตํ ตถา สิทฺเธปิ อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ (ปริ. ๓๓๔) คาถาย น สเมติ ทฺเว อตฺถสตานิ ทฺเว ธมฺมสตานิ จตฺตาริ นิรุตฺติสตานิ อฏฺ าณสตานีติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ทฺเว จ นิรุตฺติสตานีติ อตฺถโชติกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนฺจ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ ทฺเว นิรุตฺติสตานิ. จตฺตาริ จ าณสตานีติ อตฺถสเต าณสตํ, ธมฺมสเต าณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ ทฺเว าณสตานีติ จตฺตาริ าณสตานิ. อติเรกานยนตฺโถติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ.
ปมปฺตฺติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๐. ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนนฺติ เอกทา ปฏิเสวิตฺวา ปจฺฉา อโนรมิตฺวา ทิวเส ทิวเส เสวนิจฺฉาย วตฺตมานตฺตา เสวนาย อภาวกฺขเณปิ อิห มลฺลา ยุชฺฌนฺตีติอาทีสุ วิย อพฺโพจฺฉินฺนตํ พาหุลฺลวุตฺติตฺจ อุปาทาย ปฏิเสวตีติ วตฺตมานวจนํ กตนฺติ อตฺโถ. อาหิณฺฑนฺตาติ วิจรนฺตา.
๔๑. สโหฑฺฒคฺคหิโตติ ¶ สภณฺฑคฺคหิโต, อยเมว วา ปาโ. ตํ สิกฺขาปทํ ตเถว โหตีติ มนุสฺสามนุสฺสาทิปุคฺคลวิเสสํ กิฺจิ อนุปาทิยิตฺวา สามฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๙) วุตฺตตฺตา มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตานํ อิตฺถิปุริสปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนานํ ¶ ตึสวิเธปิ มคฺเค เมถุนํ เสวนฺตสฺส ตํ สิกฺขาปทํ มูลจฺเฉชฺชกรํ โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เอเตน ยํ อนุปฺตฺติมูลปฺตฺติยา เอว อธิปฺปายปฺปกาสนวเสน สุโพธตฺถาย วตฺถุวเสน ปวตฺตานํ วิเสสตฺถโชตกวเสนาติ ทสฺสิตํ โหติ. อามสนํ อามฏฺมตฺตํ. ตโต ทฬฺหตรํ ผุสนํ. ฆฏฺฏนํ ปน ตโต ทฬฺหตรํ กตฺวา สรีเรน สรีรสฺส สงฺฆฏฺฏนํ. ตํ สพฺพมฺปีติ อนุราเคน ปวตฺติตํ ทสฺสนาทิสพฺพมฺปิ.
๔๒. ปาณาติปาตาทิสจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานฺจ (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) เอเกเนว ลกฺขณวจเนน โลกวชฺชตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ กิฺจาปิ อจิตฺตกสิกฺขาปทํ สนฺธาเยว วตฺตุํ ยุตฺตํ ตสฺเสว สจิตฺตกปกฺขสมฺภวโต, ตถาปิ สจิตฺตกสิกฺขาปทานมฺปิ อสฺจิจฺจ จงฺกมนาทีสุ โลเก ปาณฆาตโวหารสมฺภเวน อจิตฺตกปกฺขํ ปริกปฺเปตฺวา อุภินฺนมฺปิ สจิตฺตกาจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สาธารณวเสน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ อิมสฺมึ วากฺเย โลกวชฺชตาลกฺขณํ น วุตฺตํ สิยา. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต ปน สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ จิตฺตํ อกุสลเมว, อิตเรสํ สจิตฺตกปกฺเขเยว อกุสลนิยโม, น อจิตฺตกปกฺเข. ตตฺถ ปน ยถาสมฺภวํ กุสลํ วา สิยา, อกุสลํ วา, อพฺยากตํ วาติ อยมตฺโถ สามตฺถิยโต สิชฺฌตีติ เวทิตพฺพํ. สจิตฺตกปกฺเขติ วตฺถุวีติกฺกมวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขติ คเหตพฺพํ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน ตถา สติ สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ โลกวชฺชตาปสงฺคโต. ‘‘ปฏิกฺขิตฺตมิทํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ชานนฺตสฺส หิ ปณฺณตฺติวชฺเชปิ อนาทริยวเสน ปฏิฆจิตฺตเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิทํ วากฺยํ นิรตฺถกเมว สิยา สพฺพสิกฺขาปทานิปิ โลกวชฺชานีติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วตฺตพฺพตาปสงฺคโต.
เอตฺถ ¶ จ สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ นิยมสฺส อกตตฺตา สุราปานาทีสุ อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลํ น โหเตวาติ น สกฺกา นิยเมตุํ, เกวลํ ปน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, น กุสลาทีติ เอวเมตฺถ นิยโม สิชฺฌติ, เอวฺจ สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตานมฺปิ อกุสลจิตฺเตเนว ปานํ คนฺธวณฺณกาทิภาวํ อชานิตฺวา ลิมฺปนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ วินาปิ อกุสลจิตฺเตน ลิมฺปนฺจ, อุภยตฺถาปิ อาปตฺติสมฺภโว จ สมตฺถิโต โหติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ วจนโต อจิตฺตกสฺส วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ วิฺายตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ ¶ . อจิตฺตเกสุ หิ เตรสสุ โลกวชฺเชสุ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตนิยโม, น อิตเรสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลาทิจิตฺเตนาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. ยํ ปน เอวํ เกนจิ อนิจฺฉมานํ สทฺทโตปิ อปตียมานมิมํ นิยมํ ปราธิปฺปายํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ หิ อจิตฺตกสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมว สิยา, สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ นิรตฺถกเมว เอวํ นิยมสฺส เกนจิ อนธิปฺเปตตฺตา. น หิ โกจิ สทฺทสตฺถวิทู นิยมํ อิจฺฉติ, เยน สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยาติอาทิ วุตฺตํ ภเวยฺย, กินฺตุ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, อจิตฺตกปกฺเข ปน จิตฺตํ อนิยตํ อกุสลเมว วา สิยา, กุสลาทีสุ วา อฺตรนฺติ เอวเมว อิจฺฉติ. เตน สจิตฺตกปกฺเขติ วิเสสนมฺปิ สาตฺถกํ สิยา. อจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สจิตฺตกปกฺเขสุ อกุสลนิยเมน โลกวชฺชตา จ สิชฺฌติ. เตสุ จ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ, อิตเรสํ ปน สจิตฺตกปกฺเข เอวาติ วาโทปิ น วิรุชฺฌตีติ น กิฺเจตฺถ อนุปปนฺนํ นาม.
ยํ ปเนตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส…เป… วินาปิ อกุสลจิตฺเตน อาปตฺติสมฺภวโต…เป… สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานํ โลกวชฺชตา น สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยฺจ ตมตฺถํ สาเธตุํ คณฺิปเทสุ อาคตวจนํ ทสฺเสตฺวา พหุํ ปปฺจิตํ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ อฏฺกถาหิ วิรุทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ. ยฺเจตสฺส ‘‘สจิตฺตกปกฺเข ¶ อกุสเลเนว ปาตพฺพโต โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถาวจนํ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ สพฺเพสํ โลกวชฺชานํ อิเธว ปาราชิกฏฺกถาย สามฺโต วตฺวา สุราปานสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ เอวํ อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตตาย วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. น หิ ‘‘สามฺโต อิธ วุตฺโตว อตฺโถ ปุน สุราปานฏฺกถายมฺปิ วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ วุตฺตสฺเสว ปุน วจเน ปโยชนาภาวา, ตทฺเสุปิ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต จ, นาปิ เอกตฺถ วุตฺโต นโย ตทฺเสุปิ เอกลกฺขณตาย วุตฺโต เอว โหตีติ ‘‘สุราปานสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อจิตฺตกโลกวชฺชานํ สพฺพปเม อุยฺยุตฺตสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๑๑ อาทโย) วตฺตพฺพโต, สุราปานสิกฺขาปเทเยว วา วตฺวา เอเสว นโย เสเสสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุปีติ อติทิสิตพฺพโต จ.
อปิจ วุตฺตเมวตฺถํ วทนฺเตน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตกฺกเมเนว ¶ วตฺตพฺพํ สนฺเทหาทิวิคมตฺถตฺตา ปุน วจนสฺส. สิกฺขาปทวิสเย จ วิเสสิตพฺพํ วิเสเสตฺวาว วุจฺจติ, อิตรถา อาปตฺตานาปตฺตาทิเภทสฺส ทุวิฺเยฺยตฺตา. ตถา หิ ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ‘‘วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ คิรคฺคสมชฺชาทีนํ สจิตฺตกปกฺเข เอว โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ วิเสเสตฺวา วุตฺตา, น เอวํ สุราปานสฺส. ตสฺส ปน ปกฺขทฺวยสฺสาปิ สาธารณวเสน ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วิเสเสตฺวา. ตสฺมา อิทํ สุราปานํ สจิตฺตกาจิตฺตกปกฺขทฺวเยปิ โลกวชฺชํ อกุสลจิตฺตฺจาติ ทสฺเสตุเมว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วิสุํ วุตฺตนฺติ สุฏฺุ สิชฺฌติ. เอเตเนว ยํ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตสฺส อิมสฺเสว อธิปฺปายสฺส ปฏิปาทกเมตนฺติ สฺาย อิมินา เอว หิ อธิปฺปาเยน อฺเสุปิ โลกวชฺเชสุ อจิตฺตกสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตตา เอว วุตฺตา, น ปน ติจิตฺตตา. เตเนว ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ ‘‘คิรคฺคสมชฺชํ จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ สงฺฆาณิ อิตฺถาลงฺกาโร คนฺธวณฺณโก วาสิตกปิฺาโก ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ อกุสลจิตฺตานิ, อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธํ โหติ ตพฺพิปรีตสฺเสว อตฺถสฺส ยถาวุตฺตนเยน สาธนโต. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุเมว อิทํ วจนํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ วตฺถุอชานนตาย เจตฺถาติ เอตฺถ จ-กาโร วิเสสตฺถโชตโก อปิจาติ อิมินา สมานตฺโถ. ตสฺมา ยทิทํ อฺเสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จาติ โลกวชฺชตาย อกุสลจิตฺตตาย จ ลกฺขณํ วุจฺจติ, ตํ เอตฺถ สุราปานสิกฺขาปเท นาคจฺฉติ, อิธ ปน วิเสโส อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. โส กตโรติ เจ? วตฺถุอชานนตาย เอว วตฺถุชานนจิตฺเตน วินาปิ อาปชฺชิตพฺพตาย เอว อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา, นตฺเถตฺถ อจิตฺตกตาย วิเสโส. กินฺตุ วตฺถุอชานนสงฺขาตอจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺเตเนว สุราเมรยสฺส อชฺโฌหริตพฺพตายาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺเขปิ อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ วิเสโส. อิธ หิ ‘‘จิตฺเต ปน สตี’’ติ อวิเสเสตฺวา ‘‘อกุสเลเนวา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อุภยปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ สิทฺธาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ปรมตฺถโชติกาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ขุทฺทกฏฺกถาย สิกฺขาปทวณฺณนาย ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ¶ กายโต จ กายจิตฺตโต จาติ ทฺวิสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. สุราติ ชานนจิตฺตาภาเวเนว เหตฺถ จิตฺตงฺควิรหิโต เกวโลปิ กาโย เอกสมุฏฺานํ วุตฺโต, ตสฺมิฺจ เอกสมุฏฺานกฺขเณปิ ยาย เจตนาย ปิวติ, สา เอกนฺตอกุสลา เอว โหติ. เตเนว ตตฺเถว อฏฺกถายํ ‘‘ปมา เจตฺถ ปฺจ เอกนฺตอกุสลจิตฺตสมุฏฺานตฺตา ปาณาติปาตาทีนํ ปกติวชฺชโต เวรมณิโย, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชโต’’ติ เอวํ ปฺจนฺนมฺปิ สามฺโต อกุสลจิตฺตตา โลกวชฺชตาสงฺขาตา ปกติวชฺชตา จ วุตฺตา. องฺเคสุ จ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานสฺส ¶ ปน สุราทีนํ อฺตรํ โหติ มทนียํ, ปาตุกามตาจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, ตชฺชฺจ วายามํ อาปชฺชติ, ปีเต จ ปวิสตีติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุราติ ชานนงฺเคน สทฺธึ ปฺจาติ. ยทิ หิ สุราติ ชานนมฺปิ องฺคํ สิยา, อวสฺสเมว ตํ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อฺาสุปิ สุตฺตปิฏกาทิอฏฺกถาสุ กตฺถจิ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ อิมสฺส อฏฺกถาปาสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ เอวเมว อตฺโถติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
อปิจ ยํ คณฺิปเทสุ ‘‘เอตํ สตฺตํ มาเรสฺสามีติ ตสฺมึเยว ปเทเส นิปนฺนํ อฺํ มาเรนฺตสฺส ปาณสามฺสฺส อตฺถิตาย ยถา ปาณาติปาโต โหติ, เอวํ เอตํ มชฺชํ ปิวิสฺสามีติ อฺํ มชฺชํ ปิวนฺตสฺส มชฺชสามฺสฺส อตฺถิตาย อกุสลเมว โหติ, ยถา ปน กฏฺสฺาย สปฺปํ ฆาเตนฺตสฺส ปาณาติปาโต น โหติ, เอวํ นาฬิเกรปานสฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส อกุสลํ น โหตี’’ติ ปาณาติปาเตน สทฺธึ สพฺพถา สมานตฺเตน อุปเมตฺวา วุตฺตํ, ตํ อติวิย อยุตฺตํ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ ปาณาติปาตาทิอกุสลานฺจ อฺมฺํ สมานตาย นิยมาภาวา. ปาณาติปาโต หิ ปริยาเยนาปิ สิชฺฌติ, น ตถา อทินฺนาทานํ. ตํ ปน อาณตฺติยาปิ สิชฺฌติ, น จ เมถุนาทีสุ. ตสฺมา ปโยคงฺคาทีหิปิ ภินฺนานเมว สํสฏฺํ สพฺพถา สมีกรณํ อยุตฺตเมว. ‘‘ปาณาติปาโต วิย อทินฺนาทานเมถุนาทีนิปิ ปริยายกถาทีหิ สิชฺฌนฺตี’’ติ เกนจิ วุตฺเต ตํ กินฺติ น คยฺหติ ตถา วจนาภาวาติ เจ? อิธาปิ ‘‘ตถา ปาณาติปาตสทิสํ สุราปาน’’นฺติ วจนาภาวา อิทมฺปิ น คเหตพฺพเมว. กิฺจิ อฏฺกถาวจเนเนว สิทฺธเมวตฺถํ ปฏิพาหนฺเตน วินยฺุนา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ ตสฺส วิโรธํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาเหตพฺพํ, น ปน ปโยคงฺคาทีหิ อจฺจนฺตวิภินฺเนน สิกฺขาปทนฺตเรน สห สมีกรณมตฺเตน. น หิ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ อกุสลเมวา’’ติ เอตฺถ สุตฺตาทิวิโรโธ อตฺถิ, วินยปิฏเก ตาว เอตสฺส อตฺถสฺส วิรุทฺธํ สุตฺตาทิกํ น ทิสฺสติ, นาปิ สุตฺตปิฏกาทีสุ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ (ธ. ป. ๑, ๒) วุตฺตตฺตา สพฺพานิ อกุสลานิ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว โหนฺตี’’ติ. ตํ เตสํ สุตฺตาธิปฺปายานภิฺาตเมว ¶ ปกาเสติ. น หิ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ อิทํ วจนํ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, อถ โข กุสลากุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปาทปจฺจยฏฺเน ปุพฺพงฺคมภูตํ สหชาตจิตฺตํ นิสฺสาเยว อุปฺปชฺชนฺติ, น วินา จิตฺเตนาติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. น เหตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต สหชาตจิตฺตํ วินาปิ โลภาทิอกุสลเจตสิกา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ อาปชฺชติ. เยน ตํ นิเสธาย อิทํ สุตฺตํ อาหรณียํ สิยา, อภิธมฺมวิโรโธเปตฺถ นตฺถิ ปุพฺเพ นามชาติอาทิวเสน อชานนฺตสฺเสว ปฺจวิฺาณวีถิยํ กุสลากุสลชวนุปฺปตฺติวจนโต.
อปิจ พาลปุถุชฺชนานํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชมานานิ ชวนานิ เยภุยฺเยน อกุสลาเนว อุปฺปชฺชนฺติ. กุสลานิ ปน เตสํ กลฺยาณมิตฺตาทิอุปนิสฺสยพเลน อปฺปกาเนว อุปฺปชฺชนฺติ, ตุณฺหีภูตานมฺปิ นิทฺทายิตฺวา สุปินํ ปสฺสนฺตานมฺปิ อุทฺธจฺจาทิอกุสลชวนสฺเสว เยภุยฺยปฺปวตฺติโต กุสลากุสลวิรหิตสฺส ชวนสฺส เตสํ อภาวา. อกุสลา หิ วิสยานุคุณํ วาสนานุคุณฺจ ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ กึ ปุพฺเพ ชานนาชานนนิพทฺเธน. เย ปน ชานนาทิองฺคสมฺปนฺนา ปาณาติปาตาทโย, เย จ ชานนาทึ วินาปิ สิชฺฌมานา สุราปานมิจฺฉาทิฏฺิอาทโย, เต เต ตถา ตถา ยาถาวโต ตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธน นิทฺทิฏฺา, เตสฺจ ยถานิทฺทิฏฺวเสน คหเณ โก นาม อภิธมฺมวิโรโธ. เอวํ สุตฺตาทิวิโรธาภาวโต, อฏฺกถาย จ วุตฺตตฺตา ยถาวุตฺตวเสเนเวตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส สีลเภทสฺส ภควโต อาณายตฺตตฺตา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาทีนํ สีลเภโท วิย. น หิ ตาสํ อกุสลุปฺปตฺติยา เอว สีลเภโท โหติ สงฺฆายตฺตสมนุภาสนานนฺตเรเยว วิหิตตฺตา. เอวมิธาปิ ชานิตฺวา ปิวเน เอว วิหิโต, น อชานิตฺวา ปิวเน. อฺโ หิ สิกฺขาปทวิสโย, อฺโ อกุสลวิสโย. เตเนว สามเณรานํ ปุริเมสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ เอกสฺมึ ภินฺเน สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ ภิชฺชนฺติ. อกุสลํ ปน ยํ ภินฺนํ, เตน เอเกเนว โหติ, นาฺเหิ. ตสฺมา สามเณรสฺส ¶ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส สีลเภทาภาเวปิ กมฺมปถปฺปตฺตํ อกุสลเมวาติ คเหตพฺพํ.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ¶ ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘ตํ เตสํ มติมตฺต’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวาติ เอตฺตกเมว หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, อกุสลํ ปน โหตีติ น วุตฺต’’นฺติ ตตฺถ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ. น หิ อฏฺกถายํ สามเณรานํ ชานิตฺวา ปิวเน เอว สีลเภโท, น อชานิตฺวาติ สีลเภทกถนฏฺาเน อกุสลํ ปน โหตีติ อวจนํ อชานนปกฺเข อกุสลาภาวสฺส การณํ โหติ, ตตฺถ ปสงฺคาภาวา, วตฺตพฺพฏฺาเน เอว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตตฺตา จ. น จ เต ‘‘อกุสลํ ปน โหตี’’ติ วทนฺตา อาจริยา อิมํ สามเณรานํ สีลเภทปฺปกาสกํ ขนฺธกฏฺกถาปาเมว คเหตฺวา อโวจุํ, เยน ‘‘เอตฺตกเมว อฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, อถ โข สุราปานฏฺกถาคตํ สุตฺตปิฏกฏฺกถาคตฺจ อเนกวิธํ วจนํ, มหาวิหารวาสีนํ ปรมฺปโรปเทสฺจ คเหตฺวา อโวจุํ. ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนํ มตฺเหตํ, ยทิทํ ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสลนฺติ คหณํ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ เกหิจิ ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยฺจ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘น สุนฺทร’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย หิ อิทมฺปิ อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ธมฺมตาสิทฺธตฺตํเยว สมตฺเถตุํ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ เนว ปาณํ หนติ, น สุรํ ปิวติ. สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺติ, ขีรเมว ปวิสติ, น สุรา. ยถา กึ? ยถา โกฺจสกุณานํ ขีรมิสฺสเก อุทเก ขีรเมว ปวิสติ, น อุทกํ. อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ เจ, อิทมฺปิ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาวจนํ ทสฺสิตํ, ตมฺปิ น ยุตฺตเมว. ยถา หิ โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เอตฺถ ¶ โพธิสตฺตมาตุ ธมฺมตา นาม โพธิสตฺตสฺส จ อตฺตโน จ ปารมิตานุภาเวน อกุสลานุปฺปตฺตินิยโม เอว. ตถา อริยสาวกานมฺปิ ภวนฺตเร ปาณาติปาตาทีนํ ทสนฺนํ กมฺมปถานํ อฺเสฺจ อปายเหตุกานํ อกุสลานํ อจฺจนฺตปฺปหายกสฺส มคฺคสฺส อานุภาเวน ตํตํสีลวีติกฺกมเหตุกสฺส อกุสลสฺส อนุปฺปตฺตินิยโม เอว ธมฺมตา. น หิ สภาววาทีนํ ธมฺมตา วิย อเหตุกตา อิธ ธมฺมตา นาม. ยถา วา เอวํธมฺมตานเย การณสฺส ภาเว อภาเว จ การิยสฺส ภาโว อภาโว จ ธมฺมตา, น อเหตุอปฺปจฺจยาภาวาภาโว, เอวมิธาปิ ปาณาติปาตาทิกมฺมปถานํ เหตุภูตสฺส กิเลสสฺส อจฺจนฺตาภาเวน เตสํ อภาโว, ตทวเสสานํ อกุสลานํ เหตุโน ภาเวน ภาโว จ ธมฺมตา ¶ , น อเหตุกตา. ตสฺมา อปายเหตุโน ราคสฺส อภาเวเนว อริยานํ อชานิตฺวาปิ สุราย อนชฺโฌหรณนฺติ สุวุตฺตเมวิทํ เกหิจิ ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ, ตํ เกน เหตุนา น สุนฺทรํ ชาตนฺติ น ายติ, ธมฺมตาสิทฺธนฺติ วา กถเนน กถํ ตํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ.
ยมฺปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๒) ‘‘สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา…เป… อิทํ ธมฺมตาสิทฺธ’’นฺติ วจนํ, ตมฺปิ สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตฺเว สาเธติ. ตถา หิ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ ปาณํ น หนติ, นาทินฺนํ อาทิยติ…เป… น สุรํ ปิวตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุริมานํ ตาว จตุนฺนํ กมฺมปถานํ สจิตฺตกตฺตา วิรมณํ สุกรํ, ปจฺฉิมสฺส ปน สุราปานสฺส อจิตฺตกตฺตา กถํ วิรมณํ ภเวยฺยา’’ติ โจทนาสมฺภวํ มนสิกตฺวา วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกตฺเตปิ ยสฺมา กมฺมปถปฺปตฺตอกุสเลเนว สุรา อชฺโฌหริตพฺพา, ตาทิสี จ อกุสลปฺปวตฺติ อริยสาวกสฺส มคฺเคเนว หตา, ตสฺมาสฺส ปรคลํ สุราย ปวิสนํ นตฺถีติ อตฺถโต คมฺยมานตฺถํ ปริหารวจนํ วทตา ‘‘สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขีรเมว ปวิสติ, น สุราติ อิทํ สุราย สพฺพถาปิ ปรคลปฺปเวสาภาวทสฺสนปรํ, น ปน สุรามิสฺสขีรสฺส สุราย วิโยชนสามตฺถิยทสฺสนปรํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ หิ สุรามิสฺเส ขีเร กิฺจิ ปวิเสยฺย, ขีรเมว ปวิเสยฺย, น สุรา. ขีเร ปน สุราย อวิยุตฺเต น กิฺจิ ปวิสตีติ ¶ . อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ อุทกสฺส มุเข อปฺปวิสนํ โยนิสิทฺธํ. โยนีติ เจตฺถ ชาติ อธิปฺเปตา. ตสฺมา โกฺจชาติกานํ มุขตุณฺฑสงฺขาตานํ รูปธมฺมานํ ขีรมิสฺสอุทกชฺโฌหรณเหตุตฺตาภาเวน ตํ อปฺปวิสนํ สิทฺธนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ หิ ขีรมิสฺสาย สุราย ขีเร ปวิสนฺเตปิ ปรคลาปวิสนนฺติ. ธมฺมตาสิทฺธนฺติ อริยสาวกสฺส อรูปธมฺมานํ สุราปิวนเหตุภูตกิเลสสหิตตฺตาภาวสงฺขาตาย ธมฺมตาย สิทฺธํ. เอวเมตฺถ อจิตฺตกปกฺเขปิ สุราย อกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต อริยสาวกานํ อปิวนํ สมตฺถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถาปิ สิยา อชานนปกฺเข อกุสลจิตฺเตน วินาว ปาตพฺพตฺเตปิ สุราย อปิวนํ อริยานํ ธมฺมตาติ ¶ สมตฺถนปรเมตนฺติ, ตํ น, อฏฺกถาวจนนฺตเรหิ วิรุชฺฌนโต. ยถา หิ วจนนฺตเรหิ น วิรุชฺฌติ, ตถาเยว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
อปิจ ปาณาติปาตาทีนํ ปฺจนฺนํ กมฺมปถานํ ภวนฺตเรปิ อกรณํ อริยานํ ธมฺมตาสีลเมว, เตสฺจ ยทิ สจิตฺตกตํ สมานํ. สุราปานํ วิย อิตรานิปิ จตฺตาริ อชานนฺเตนาปิ อริยสาวเกน น กตฺตพฺพานิ สิยุํ, ตถา จ อชานนฺตานํ อริยานํ กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิปิ วิรมณปรมารณปรสนฺตกคหณาทีสุ กายวจีปวตฺติ น สมฺปชฺเชยฺย, โน เจ สมฺปชฺชติ, จกฺขุปาลตฺเถรสฺส จงฺกมเนน ปาณวิโยคสฺส, อุปฺปลวณฺณตฺเถริยา พลกฺกาเรน มคฺเคนมคฺคผุสนสฺส จ ปวตฺตตฺตา. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย สุรา อริยานํ ปรคลํ น ปวิสตีติ วิเสเสตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
นนุ วตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว สพฺเพ กมฺมปถา วุตฺตาติ? น, มิจฺฉาทิฏฺิยา วิปรีตคฺคหเณเนว ปวตฺตตฺตา. กถฺหิ นาม อสพฺพฺุํ สพฺพฺุโต, อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต จ คหณนฺตี ทิฏฺิ วตฺถุํ วิชานาติ. ยทิ หิ ชาเนยฺย, มิจฺฉาทิฏฺิเยว น สิยา. สา จ กมฺมปเถสุ คณิตาติ กุโต ชานนฺตสฺเสว กมฺมปถปฺปวตฺตินิยโม. อถ สพฺพฺุํ สพฺพฺูติ คณฺหนฺตีปิ ‘‘อยํ สตฺโต’’ติ ตสฺส สรูปคฺคหณโต ทิฏฺิปิ วตฺถุํ วิชานาตีติ เจ? น, สุราปานสฺสปิ ‘‘อยํ น สุรา’’ติ สรูปคฺคหณสฺส สมานตฺตา. ‘‘อย’’นฺติ จ วตฺถุปรามสเนปิ ‘‘สุรา’’ติ วิเสสวิชานนาภาวา น ชานาตีติ เจ? ‘‘อย’’นฺติ ปุคฺคลตฺตํ ชานนฺตีปิ ‘‘อสพฺพฺู’’ติปิ วิเสสชานนาภาวา ทิฏฺิปิ วตฺถุํ น ชานาตีติ สมานเมว. เอวฺหิ เตสํ ¶ พุทฺธาติ อหิโตติ อหิตํ วา ปูรณกสฺสปาทึ หิโต ปฏิฆสฺส วา อนุนยสฺส วา อุปฺปาทเนปิ เอเสว นโย. วิปลฺลาสปุพฺพกฺหิ สพฺพํ อกุสลํ.
อปิจ สุราย ปียมานาย นิยเมน อกุสลุปฺปาทนํ สภาโว ปีตาย วิย. ขีราทิสฺาย ปีตสุรสฺส ปุคฺคลสฺส มาตุภคินิอาทีสุปิ ราคโทสาทิอกุสลปฺปพนฺโธ วตฺถุสภาเวเนว อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปียมานกฺขเณปิ ติขิโณ ราโค อุปฺปชฺชเตว, เตเนว สาคตตฺเถรสฺส อชานิตฺวา ปิวนกาเล ปฺจาภิฺาทิฌานปริหานิ, ปจฺฉา จ พุทฺธาทีสุ อคารวาทิอกุสลปฺปพนฺโธ ยาว สุราวิคมา ปวตฺติตฺถ. เตเนว ภควาปิ ตสฺส อคารวาทิอกอุสลปฺปวตฺติทสฺสนมุเขน สุราโทสํ ปกาเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. น หิ ปฺจนีวรณุปฺปตฺตึ วินา ฌานปริหานิ โหติ. ตสฺมา อชานนฺตสฺสาปิ สุรา ปียมานา ปีตา จ อตฺตโน สภาเวเนว อกุสลุปฺปาทิกาติ อยมตฺโถ สาคตตฺเถรสฺส ฌานปริหานิยา อนฺวยโตปิ, อริยานํ กิเลสาภาเวน มุเขน สุราย อปฺปเวสสงฺขาตพฺยติเรกโตปิ สิชฺฌตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ, เอวํ คหณเมว หิ วิภชฺชวาทีมตานุสารํ.
ยํ ปน ‘‘ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสล’’นฺติ คหณํ, ตํ ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนเมว ¶ มตํ, ตํ ปน คณฺิปทการกาทีหิ ‘‘ปรวาโท’’ติ อชานนฺเตหิ อตฺตโน มติยา สํสนฺทิตฺวา ลิขิตํ วิภชฺชวาทีมณฺฑลมฺปิ ปวิสิตฺวา ยาวชฺชตนา สาสนํ ทูเสติ, ปุราปิ กิร อิมสฺมิมฺปิ ทมิฬรฏฺเ โกจิ ภินฺนลทฺธิโก นาคเสโน นาม เถโร กุณฺฑลเกสีวตฺถุํ ปรวาทมถนนยทสฺสนตฺถํ ทมิฬกพฺพรูเปน กาเรนฺโต ‘‘อิมํ สุราปานสฺส ชานิตฺวาว ปิวเน อกุสลนยํ, อฺฺจ เทสกาลาทิเภเทน อนนฺตมฺปิ เยฺยํ สพฺพฺุตฺาณํ สลกฺขณวเสเนว าตุํ น สกฺโกติ าเณน ปริจฺฉินฺนตฺเตน เยฺยสฺส อนนฺตตฺตหานิปฺปสงฺคโต. อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสเนว ปน าตุํ สกฺโกตี’’ติ จ, ‘‘ปรมตฺถธมฺเมสุ นามรูปนฺติอาทิเภโท วิย ปุคฺคลาทิสมฺมุติปิ วิสุํ วตฺถุเภโท เอวา’’ติ จ เอวมาทิกํ พหุํ วิปรีตตฺถนยํ กพฺพาการสฺส กวิโน อุปทิสิตฺวา ตสฺมึ ปพนฺเธ การณาภาเสหิ สตึ สมฺโมเหตฺวา ปพนฺธาเปสิ, ตฺจ กพฺพํ นิสฺสาย อิมํ ภินฺนลทฺธิกมตํ อิธ วิภชฺชวาทีมเต ¶ สมฺมิสฺสํ จิรํ ปวตฺติตฺถ. ตํ ปน ปจฺฉา อาจริยพุทฺธปฺปิยมหาเถเรน พาหิรพฺภริกํ ทิฏฺิชาลํ วิฆาเฏตฺวา อิธ ปริสุทฺธํ สาสนํ ปติฏฺาเปนฺเตน โสธิตมฺปิ สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) วินยฏีกาย สุราปานสฺส สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ สมตฺถนวจนํ นิสฺสาย เกหิจิ วิปลฺลตฺตจิตฺเตหิ ปุน อุกฺขิตฺตสิรํ ชาตํ, ตฺจ มหาเถเรหิ วินิจฺฉินิตฺวา คารยฺหวาทํ กตฺวา มทฺทิตฺวา ลทฺธิคาหเก จ ภิกฺขู วิโยเชตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน จิเรเนว วูปสมิตํ. เตเนเวตฺถ มยํ เอวํ วิตฺถารโต อิทํ ปฏิกฺขิปิมฺห ‘‘มา อฺเปิ วิภชฺชวาทิโน อยํ ลทฺธิ ทูเสสี’’ติ. ตสฺมา อิธ วุตฺตานิ อวุตฺตานิ จ การณานิ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา อาคมวิโรโธ น โหติ, ตถา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เสสนฺติ ยสฺส วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ นิยโม นตฺถิ, ตํ สพฺพนฺติ อตฺโถ. รุนฺธนฺตีติ ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา โทโส นตฺถี’’ติอาทินา อนาปตฺติยา เลสคฺคหณํ นิวาเรนฺตี. ทฺวารํ ปิทหนฺตีติ ‘‘ตฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๑) เลสคฺคหณสฺส การณสงฺขาตํ ทฺวารํ ปิทหนฺตี. โสตํ ปจฺฉินฺทมานาติ ตทุภยเลสคฺคหณทฺวารานํ วเสน อวิจฺฉินฺนํ วีติกฺกมโสตํ ปจฺฉินฺทมานา. คาฬฺหตรํ กโรนฺตีติ ยถาวุตฺเตหิ การเณหิ ปมปฺตฺติสิทฺธํ อาปตฺติฺเว ทฬฺหํ กโรนฺตี, อนาปตฺติยา โอกาสํ อททมานาติ อตฺโถ. สา จ ยสฺมา วีติกฺกมาภาเว, อวิสยตาย อพฺโพหาริเก วีติกฺกเม จ โลกวชฺเชปิ สิถิลํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตถา อุปฺปตฺตึ อุปฺปตฺติการณฺจ ทสฺเสนฺโต อาห อฺตฺร อธิมานาติอาทิ. อฺตฺร อธิมานาติ อิมิสฺสา อนุปฺตฺติยา ‘‘วีติกฺกมาภาวา’’ติ การณํ วุตฺตํ. อฺตฺร สุปินนฺตาติ อิมิสฺสา ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ. ตตฺถ วีติกฺกมาภาวาติ ปาปิจฺฉาย อวิชฺชมานสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วิชฺชมานโต ¶ ปกาสนวสปฺปวตฺตวิสํวาทนาธิปฺปายสงฺขาตสฺส วีติกฺกมสฺส อภาวโต. อธิมานิกสฺส หิ อนธิคเต อธิคตสฺิตาย ยถาวุตฺตวีติกฺกโม นตฺถิ. อพฺโพหาริกตฺตาติ ‘‘อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา, สา จ โข อพฺโพหาริกา’’ติ (ปารา. ๒๓๕) วจนโต โมจนสฺสาทเจตนาย อุปกฺกมนสฺส จ วิชฺชมานตฺเตปิ ถินมิทฺเธน อภิภูตตาย ¶ อวสตฺเตน อพฺโพหาริกตฺตา, อาปตฺติการณโวหาราภาวาติ อตฺโถ. วา-สทฺโท เจตฺถ สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา จา’’ติ วา ปาโ. วุตฺตาติ ทุวิธาปิ เจสา อนุปฺตฺติ อนาปตฺติกรา วุตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อกเต วีติกฺกเมติ อาปทาสุปิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปทวีติกฺกเม อกเต, กุกฺกุจฺจา น ภฺุชึสูติอาทีสุ วิย วีติกฺกมํ อกตฺวา ภิกฺขูหิ อตฺตโน ทุกฺขุปฺปตฺติยา อาโรจิตายาติ อตฺโถ. สิถิลํ กโรนฺตีติ ปมํ สามฺโต พทฺธสิกฺขาปทํ โมเจตฺวา อตฺตโน วิสเย อนาปตฺติกรณวเสน สิถิลํ กโรนฺตี. ทฺวารํ ททมานาติ อนาปตฺติยา ทฺวารํ ททมานา. อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานาติ ทินฺเนน เตน ทฺวาเรน อุปรูปริ อนาปตฺติภาวํ ทีเปนฺตี. ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท อุทายินา ‘‘มุหุตฺติกาย เวสิยา น โทโส’’ติ เลเสน วีติกฺกมิตฺวา สฺจริตฺตาปชฺชนวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๙๖ อาทโย) ปฺตฺตตฺตา ‘‘กเต วีติกฺกเม’’ติ วุตฺตํ. ปฺตฺติคติกาติ อตฺถโต มูลปฺตฺติเยวาติ อธิปฺปาโย.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สนฺถตภาณวาโร
วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๓-๔๔. วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาย ปาฬิยํ ‘‘เวสาลิกา…เป… เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสู’’ติ เอตฺถ เต าติกุลํ คนฺตฺวา คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ‘‘คิหิภูตา มย’’นฺติ สฺาย เมถุนํ ปฏิเสวึสูติ คเหตพฺพํ, เตนาห าติพฺยสเนนปิ ผุฏฺาติอาทิ. าตีนํ วินาโส ราชทณฺฑาทิการเณน โหตีติ อาห ราชทณฺฑอิจฺจาทิ. ธฺหิรฺทาสิทาสโคมหึสาทิธนานิ โภคา นาม, เตสมฺปิ ราชทณฺฑาทินาว วินาโสติ อาห ‘‘เอส นโย ทุติยปเทปี’’ติ. น สพฺพฺุพุทฺโธติอาทินา ¶ ตีสุ วตฺถูสุ อปฺปสนฺนาว สาสเน อภพฺพาติ สฺาย อตฺตโน ภพฺพตํ ปกาเสนฺตา น มยนฺติอาทิมาหํสูติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อฏฺตึสารมฺมเณสู’’ติ ปาฬิยํ อนาคเต อาโลกากาสกสิเณ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ, เตหิ ปน ¶ สทฺธึ จตฺตาลีส โหนฺติ. วิภตฺตา กุสลา ธมฺมาติ ‘‘อิมสฺมึ อารมฺมเณ อิทํ โหตี’’ติ วิภาคโส ทสฺสิตา สอุปจารชฺฌานา มหคฺคตกุสลา ธมฺมา. คิหิปลิโพธนฺติ สหโสกิตาทิวเสน คิหีสุ พฺยาวฏตํ. อาวาสปลิโพธนฺติ เสนาสเนสุ นวกมฺมาทิวเสน นิจฺจพฺยาวฏตํ. ทุปฺปริจฺจาคานํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ วเสน สพฺเพปิ ปลิโพธา สงฺคหิตา เอวาติ เวทิตพฺพํ.
เยนาติ การเณน. อสํวาโสติ อิทํ ตสฺมึ อตฺตภาเว เกนจิปิ ปริยาเยน ภิกฺขุ หุตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ นารหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อสํวาโส’’ติ. ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยาติ ‘‘โส อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ อวตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ เอตฺตกสฺเสว วุตฺตตฺตา ปาราชิกสฺส สามเณรภูมิ อนฺุาตาติ วิฺายติ, เตนาห สามเณรภูมิยํ ปน ิโตติอาทิ. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา (ปารา. ๓๙) ปจฺจกฺขาตสิกฺโข ยสฺมา ภิกฺขุ น โหติ, เมถุนเสวเน จ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ตสฺมาสฺส ‘‘อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต ปาราชิกํ น สมูหนติ นาม, เตนาห ‘‘ภิกฺขุภาเว ตฺวา อวิปนฺนสีลตายา’’ติ. อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ, นิพฺพานเมว วา.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา
๔๕. นีหริตฺวาติ ปาฬิโต อุทฺธริตฺวา, ตถา หิ ‘‘ปฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยฺุชิตพฺพํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติอาทิปาฬิโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ นีหรึสุ. ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต อาจริยวาทํ. ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – ‘อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินนฺเตนา’ติ’’ เอวมาทิโต อตฺตโน มตึ นีหรึสุ, สา จ เถรสฺส อตฺตโนมติ สุตฺเตน สงฺคหิตตฺตา สุตฺตํ ชาตํ, เอวมฺาปิ สุตฺตาทีหิ สงฺคหิตาว คเหตพฺพา, เนตราติ เวทิตพฺพํ. อถ วา นีหริตฺวาติ วิภชิตฺวา สาฏฺกถํ สกลํ วินยปิฏกํ สุตฺตาทีสุ จตูสุ ปเทเสสุ ปกฺขิปิตฺวา จตุธา วิภชิตฺวา วินยํ ปกาเสสุํ ¶ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติ นาคเสนตฺเถเรน มิลินฺทปฺเห วุตฺตํ. กณฺาทิวณฺณุปฺปตฺติฏฺานกรณาทีหิ อาหริตฺวา อตฺตโน วจีวิฺตฺติยาว ภาสิตวจนํ อาหจฺจปทํ. รโสติ สาโร ‘‘ปตฺตรโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๐) วิย, ปฏิกฺขิตฺตอนฺุาตสุตฺตสาโรติ ¶ อตฺโถ, รโสติ วา ลกฺขณํ ปฏิวตฺถุกํ อนุทฺธริตฺวา ลกฺขณานุโลเมน วุตฺตตฺตา. ธมฺมสงฺคาหกาทิอาจริยวํเสน อาภตา อฏฺกถา อาจริยวํโสติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติ.
วินยปิฏเก ปาฬีติ อิธ อธิการวเสน วุตฺตํ. เสสปิฏเกสุปิ สุตฺตาทิจตุนยา ยถานุรูปํ ลพฺภนฺเตว. มหาปเทสาติ มหาโอกาสา มหาวิสยา, เต อตฺถโต ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬิวเสน อกปฺปิยานุโลมโต กปฺปิยานุโลมโต จ ปุคฺคเลหิ นยโต ตถา ตถา คยฺหมานา อตฺถนยา เอว. เต หิ ภควตา สรูปโต อวุตฺเตสุปิ ปฏิกฺขิตฺตานุโลเมสุ, อนฺุาตานุโลเมสุ จ เสเสสุ กิจฺเจสุ นิวตฺติปวตฺติเหตุตาย มหาโคจราติ ‘‘มหาปเทสา’’ติ วุตฺตา, น ปน ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา อิทํ น กปฺปตี’’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว ตสฺสา สุตฺเต ปวิฏฺตฺตา. ‘‘สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ…เป… สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) หิ วุตฺตํ, น เหสา สาธิปฺปายา ปาฬิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา, น คเหตพฺพา วา โหติ, เยนายํ สุตฺตานุโลมํ สิยา. ตสฺมา อิมํ ปาฬิอธิปฺปายํ นิสฺสาย ปุคฺคเลหิ คหิตา ยถาวุตฺตอตฺถาว สุตฺตานุโลมํ. ตปฺปกาสกตฺตา ปน อยํ ปาฬิปิ สุตฺตานุโลมนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห เย ภควตา เอวํ วุตฺตาติอาทิ. ยํ ภิกฺขเวติอาทิปาฬินเยน หิ ปุคฺคเลหิ คเหตพฺพา เย อกปฺปิยานุโลมาทโย อตฺถา วุตฺตา, เต มหาปเทสาติ อตฺโถ.
ภควโต ปกิณฺณกเทสนาภูตา จ สุตฺตานุโลมภูตา จ อฏฺกถา. ยสฺมา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปาฬิวณฺณนากฺกเมน สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุตฺตา, เอเตน จ อฏฺกถา สุตฺตสุตฺตานุโลเมสุ อตฺถโต สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพา. ยถา จ เอสา, เอวํ อตฺตโนมติปิ ปมาณภูตา. น หิ ภควโต วจนํ วจนานุโลมฺจ อนิสฺสาย อคฺคสาวกาทโยปิ อตฺตโน าณพเลน สุตฺตาภิธมฺมวินเยสุ ¶ กฺจิ สมฺมุติปรมตฺถเภทํ อตฺถํ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ วจนํ สุตฺเต สุตฺตานุโลเม จ สงฺคยฺหติ. วิสุํ ปน อฏฺกถาทีนํ สงฺคหิตตฺตา ตทวเสสํ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต คเหตฺวา จตุธา วินโย นิทฺทิฏฺโ. สุตฺตาทโย นิสฺสาเยว ปวตฺตาปิ อตฺตโนมติ เตสุ สรูเปน อนาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มฺุจิตฺวา’’ติ, เตนาห ‘‘อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหนา’’ติ. ตตฺถ สุตฺตาทีนิ อนุคตาย เอว พุทฺธิยา เตหิ ลทฺธนยคฺคาเหน จาติ อตฺโถ.
เถรวาโทติ มหาสุมตฺเถราทีนํ คาโห. สุตฺตาทึ นิสฺสาเยว วิปรีตโตปิ อตฺตโนมติ อุปฺปชฺชตีติ ¶ อาห ตํ ปนาติอาทิ. อตฺเถนาติ อตฺตนา นยคฺคหิเตน อตฺเถน. ปาฬินฺติ อตฺตโน คาหสฺส นิสฺสยภูตํ สาฏฺกถํ ปาฬึ. ปาฬิยาติ ตปฺปฏิกฺเขปตฺถํ ปเรนาหฏาย สาฏฺกถาย ปาฬิยา, อตฺตนา คหิตํ อตฺถํ นิสฺสาย ปาฬิฺจ สํสนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อาจริยวาเทติ อตฺตนา ปเรน จ สมุทฺธฏอฏฺกถาย. โอตรติ เจว สเมติ จาติ อตฺตนา อุทฺธเฏหิ สํสนฺทนวเสน โอตรติ, ปเรน อุทฺธเฏน สเมติ. สพฺพทุพฺพลาติ อสพฺพฺุปุคฺคลสฺส โทสวาสนาย ยาถาวโต อตฺถสมฺปฏิปตฺติอภาวโต วุตฺตํ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยาติ อาห ‘‘อิตโร น คเหตพฺโพ’’ติ.
สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ เย สุตฺเตน สํสนฺทนฺติ, เอวรูปาว อตฺถา มหาปเทสโต อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ ตถา ตถา อุทฺธฏอตฺถานเมว สุตฺตานุโลมตฺตา, เตนาห ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิพาหิยํ. การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํ. พุทฺธานํ ิตกาลสทิสนฺติ ธรมานกพุทฺธสทิสนฺติ อตฺโถ. สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติอาทีสุ โย ยถาภูตมตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โส สกวาที. สุตฺตนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ ปาฬิวจนํ. ปรวาทีติ มหาวิหารวาสี วา โหตุ อฺนิกายวาสี วา, โย วิปรีตโต อตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โสว อิธ ‘‘ปรวาที’’ติ วุตฺโต. สุตฺตานุโลมนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ วา อนารุฬฺหํ วา ยํกิฺจิ วิปลฺลาสโต วา วฺจนาย วา ‘‘สงฺคีติตฺตยาคตมิท’’นฺติ ทสฺสิยมานํ สุตฺตานุโลมํ. เกจิ ‘‘อฺนิกาเย สุตฺตานุโลม’’นฺติ ¶ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหสุตฺตาทีนํ เอว คเหตพฺพโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพ’’นฺติอาทิ. น หิ สกวาที อฺนิกายสุตฺตาทึ ปมาณโต คณฺหาติ, เยน เตสุ สุตฺตาทีสุ ทสฺสิเตสุ ตตฺถ าตพฺพํ ภเวยฺย, วกฺขติ จ ‘‘ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ…เป… ‘สาธู’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). ตสฺมา ปรวาทินาปิ สงฺคีติตฺตเย อนารุฬฺหมฺปิ อนารุฬฺหมิจฺเจว ทสฺสียติ, เกวลํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตาทิโน สงฺคีติตฺตเย อนาคตสฺส กูฏตา, อาคตสฺส จ พฺยฺชนจฺฉายาย อฺถา อธิปฺปายโยชนา จ วิเสโส. ตตฺถ จ ยํ กูฏํ, ตํ อปนียติ. ยํ อฺถา โยชิตํ, ตสฺส วิปรีตตาสนฺทสฺสนตฺถํ ตทฺเน สุตฺตาทินา สํสนฺทนา กรียติ. โย ปน ปรวาทินา คหิโต อธิปฺปาโย สุตฺตนฺตาทินา สํสนฺทติ, โส สกวาทินาปิ อตฺตโน คาหํ วิสฺสชฺเชตฺวา คเหตพฺโพติ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยาคตเมว สุตฺตาทิปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว กถาวตฺถุปฺปกรเณ สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) ¶ สุตฺตสหสฺสมฺปิ อธิปฺปายคฺคหณนานตฺเตน สงฺคีติตฺตยาคตเมว คหิตํ, น นิกายนฺตเร กิฺจีติ.
เขปนฺติ ‘‘กึ อิมินา’’ติ ปฏิกฺเขปํ ฉฑฺฑนํ. ครหนฺติ ‘‘กิเมส พาโล ชานาตี’’ติ นินฺทนํ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ ยสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมนโต อิทํ สุตฺตานุโลมํ อกาสิ, ตสฺมึ, ตทนุรูเป วา อฺตรสฺมึ สุตฺเต อตฺตนา คหิตํ สุตฺตานุโลมํ อตฺถโต สํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ, ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมึ สุตฺเต สํสนฺทตี’’ติ สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยนฺติ สกวาที. ปโรติ ปรวาที. อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพติ ยสฺส สุตฺตสฺส วณฺณนาวเสน อยํ อาจริยวาโท ปวตฺโต, ตสฺมึ, ตาทิเส จ อฺตรสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพาปรอตฺถสํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ. คารยฺหาจริยวาโทติ ปมาทลิขิโต, ภินฺนลทฺธิเกหิ วา ปิโต, เอส นโย สพฺพตฺถ.
ยํ กิฺจิ กูฏสุตฺตํ พาหิรกสุตฺตาทิวจนํ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพนฺติอาทิ วุตฺตํ. คุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกานํ ปกรณานิ. อาทิ-สทฺเทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทีนํ คหณํ ¶ . สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตนฺติอาทินา อฺเปิ วาทาลมฺพนา วุตฺตนเยน สกฺกา าตุนฺติ อิธ น วุตฺตา.
เอวํ สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิมุเขน สามฺโต วิวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต วิวาทวตฺถุํ ตพฺพินิจฺฉยมุเขน สุตฺตาทีนฺจ ทสฺเสตุํ อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จาติ เอตฺถ จ-กาโร วิกปฺปตฺโถ, เตน อาจริยวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห, เตนาห ‘‘การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ การณนฺติ สุตฺตาทินยํ นิสฺสาย อตฺตโนมติยา อุทฺธฏํ เหตุํ. วินิจฺฉยนฺติ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ. การณจฺฉายาติ สุตฺตาทีสุ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส จ นิมิตฺตภูตํ กิจฺเฉน ปฏิปาทนียํ อวิภูตการณํ การณจฺฉายา, การณปติรูปกนฺติ อตฺโถ. วินยฺหิ ปตฺวาติ อิมสฺส วิวรณํ กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมาติ. รุนฺธิตพฺพนฺติ กปฺปิยสฺาย วีติกฺกมกรณํ รุนฺธิตพฺพํ, ตํนิวารณจิตฺตํ ทฬฺหตรํ กาตพฺพํ. โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพนฺติ ตตฺถ วีติกฺกมปฺปวตฺติ ปจฺฉินฺทิตพฺพา. ครุกภาเวติ อกปฺปิยภาเว. สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ สุตฺเตน อฏฺกถาวินิจฺฉเยน จ ลทฺธการเณหิ. เอวนฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวจนํ. อติเรกการณนฺติ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, พหุการณํ วา.
วาจุคฺคตนฺติ ¶ วาจาย อุคฺคตํ, ตตฺถ นิรนฺตรํ ิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุน สุตฺตโตติ ตทตฺถปฏิปาทกํ สุตฺตาภิธมฺมปาฬิวจนํ อธิปฺเปตํ. อนุพฺยฺชนโตติ อิมสฺส วิวรณํ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉาติ อาจริยสฺส สนฺติกา ปาฬิยา อตฺถสวนํ. อฏฺกถาติ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. ตทุภยมฺปิ หิ ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. วินเยติ วินยาจาเร, เตเนว วกฺขติ วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโตติอาทิ. ตตฺถ ปติฏฺานํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติยา อนาปชฺชนาทิ โหตีติ อาห ‘‘ลชฺชีภาเวน ปติฏฺิโต’’ติ, เตน ลชฺชี โหตีติ วุตฺตํ โหติ. วินยธรสฺส ลกฺขเณ วตฺตพฺเพ กึ อิมินา ลชฺชีภาเวนาติ อาห อลชฺชี หีติอาทิ. ตตฺถ พหุสฺสุโตปีติ อิมินา ปมลกฺขณสมนฺนาคมํ ทสฺเสติ. ลาภครุตายาติอาทินา วินเย ิตตาย อภาเว ปมลกฺขณโยโค กิจฺจกโร น โหติ, อถ ¶ โข อกิจฺจกโร อนตฺถกโร เอวาติ ทสฺเสติ. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค กลโห สงฺฆราชิ.
วิตฺถุนตีติ วิตฺถมฺภติ, นิตฺถุนติ วา สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ, เตนาห ยํ ยนฺติอาทิ. อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา, เตเนว วกฺขติ ‘‘อตฺตโน มตึ ปหาย…เป… ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. น หิ อาจริยานํ นามมตฺตโต ปรมฺปราชานเน ปโยชนมตฺถิ. ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ปุพฺพวจนสฺส อปรวจเนน สห อตฺถสมฺพนฺธชานนโต. อตฺถโตติ ปทตฺถปิณฺฑตฺถอธิปฺเปตตฺถาทิโต. การณโตติ ตทตฺถุปปตฺติโต. เถรวาทงฺคนฺติ เถรวาทปฏิปาฏึ, เตสํ วินิจฺฉยปฏิปาฏินฺติ อตฺโถ.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ เอตฺถ ปเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฏฺุ อุคฺคหิตภาโว วุตฺโต. ทุติเยนสฺส ลชฺชีภาเวน เจว อจลตาย จ ปติฏฺิตตา. ตติเยน ปาฬิอฏฺกถาสุ อนุรูเปน อนาคตมฺปิ ตทนุโลมโต อาจริเยหิ ทินฺนนยโต วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา. โอติณฺเณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาวเสน วีติกฺกมวตฺถุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺเณ. โจทเกน จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพติ เอวํ โอติณฺเณ วตฺถุํ นิสฺสาย โจทเกน ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทินา จุทิตเกน ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตสฺมึ วตฺตพฺเพ วุตฺเตติ อตฺโถ. ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตานํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ อาปตฺตีน’’นฺติ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อุชฺฌายติ วา ขียติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๖ โถกํ วิสทิสํ) อาคตํ ติกทุกฺกฏํ. อฺตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสฺี อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิกํ (ปาจิ. ๒๕๐) ทุกทุกฺกฏํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตราปตฺตินฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตวตฺถุวีติกฺกมํ วินา อฺสฺมึ วตฺถุวีติกฺกเม นิทานโต ปภุติ วินีตวตฺถุปริโยสานา อนฺตรนฺตรา วุตฺตํ อาปตฺตึ. อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ โอโลเกตี’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสา อนฺตราปตฺตีติ คหิตา. ปฏิลาตํ อุกฺขิปตีติ อิทํ วิสิพฺพนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๓๕๐-๓๕๑) อาคตํ. ตตฺถ ฑยฺหมานํ อลาตํ อคฺคิกปาลาทิโต พหิ ปติตํ อวิชฺฌาตเมว ปฏิอุกฺขิปติ ¶ , ปุน ยถาาเน เปตีติ อตฺโถ. วิชฺฌาตํ ปน ปกฺขิปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. อนาปตฺตินฺติ เอตฺถ อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อนาปตฺติปิ อตฺถิ, ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติอาทิ (ปารา. ๑๕๙) วิย สาปิ สงฺคยฺหติ.
ปาราชิกาปตฺตีติ น ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิทํ อาปนฺนปุคฺคเลน ลชฺชีธมฺเม ตฺวา ยถาภูตํ อาวิกรเณปิ ทุพฺพินิจฺฉยํ อทินฺนาทานาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน เมถุนาทีสุ วิชานนํ, ตํ วตฺตพฺพเมว, เตนาห เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หีติอาทิ. โย ปน อลชฺชิตาย ปฏิฺํ อทตฺวา วิกฺเขปํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ น สกฺกา โอฬาริกาปิ วินิจฺฉินิตุํ, ยาว โส ยถาภูตํ นาวิ กโรติ, สงฺฆสฺส จ อาปตฺติสนฺเทโห น วิคจฺฉติ, ตาว นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สุขุมาติ จิตฺตปริวตฺติยา สุขุมตาย สุขุมา. เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ, จิตฺตํ ตสฺส ลหุกนฺติ อตฺโถ. เตติ วีติกฺกเม. ตํวตฺถุกนฺติ อทินฺนาทานาทิมูลกํ. ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหีติอาทิ สพฺพํ ลชฺชีเปสลํ กุกฺกุจฺจกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โย ยาถาวโต ปกาเสตฺวา สุทฺธิเมว คเวสติ, เตนาปิ, ปาราชิโกสีติ น วตฺตพฺโพติ อนาปตฺติโกฏิยาปิ สงฺกิยมานตฺตา วุตฺตํ, เตเนว ‘‘ปาราชิกจฺฉายา’’ติ วุตฺตํ. สีลานิ โสเธตฺวาติ ยสฺมึ วีติกฺกเม ปาราชิกาสงฺกา วตฺตติ, ตตฺถ ปาราชิกาภาวปกฺขํ คเหตฺวา เทสนาวุฏฺานคามินีนํ อาปตฺตีนํ โสธนวเสน สีลานิ โสเธตฺวา. ทฺวตฺตึสาการนฺติ ปากฏภาวโต อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ, ยํ กิฺจิ อภิรุจิตํ มนสิกาตุํ วฏฺฏเตว. กมฺมฏฺานํ ฆฏิยตีติ วิปฺปฏิสารมูลเกน วิกฺเขเปน อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา ปพนฺธวเสน จิตฺเตน สงฺฆฏิยติ. สงฺขาราติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ. สาปตฺติกสฺส หิ ปคุณมฺปิ กมฺมฏฺานํ น สุฏฺุ อุปฏฺาติ, ปเคว ปาราชิกสฺส. ตสฺส หิ วิปฺปฏิสารนินฺนตาย จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ. เอกสฺส ปน วิตกฺกวิกฺเขปาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลกนฺติ น คเหตพฺพํ. กตปาปมูลเกน วิปฺปฏิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏิยตี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห วิปฺปฏิสารคฺคินาติอาทิ. อตฺตนาติ จิตฺเตน กรณภูเตน ปุคฺคโล กตฺตา ชานาติ, ปจฺจตฺเต วา กรณวจนํ, อตฺตา สยํ ปชานาตีติ อตฺโถ.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปทภาชนียวณฺณนา
โย ¶ ¶ วิย ทิสฺสตีติ ยาทิโส, ยํ-สทฺทตฺเถ ยถา-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘เยน วา เตน วา ยุตฺโต’’ติ. เยน เตนาติ หิ ปททฺวเยน อนิยมโต ยํ-สทฺทตฺโถว ทสฺสิโต. วาสธุรยุตฺโตติ วิปสฺสนาธุรยุตฺโต. ยา ชาติ อสฺสาติ ยํชาติ, ปุคฺคโล, โสว ยํชจฺโจ สกตฺเถ ยปจฺจยํ กตฺวา. โคตฺตวเสน เยน วา เตน วา โคตฺเตน ยถาโคตฺโต วา ตถาโคตฺโต วา โหตูติ สมฺพนฺโธ. สีเลสูติ ปกตีสุ. อถ โขติ อิทํ กินฺตูติ อิมสฺมึ อตฺเถ. กึ วุตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ ปาราชิกวิสเย. เอโสติ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ ยุตฺโต. อริยายาติ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยานํ ยาจนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย, น, ‘‘เทหิ เม’’ติ กปณาย. ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนนาติ ‘‘ภิกฺขํ จริสฺสามี’’ติ จิตฺตาภาเวปิ ภิกฺขาหารนิสฺสิตปพฺพชฺชาลิงฺคสฺส สมฺปฏิจฺฉเนน. กาชภตฺตนฺติ กาเชหิ อานีตภตฺตํ. อธมฺมิกายาติ อธิสีลสิกฺขาทิภิกฺขุคุณาภาวโต วุตฺตํ, เตนาห ‘‘อภูตายา’’ติ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺตา ปฏิฺามตฺเตเนว ภิกฺขู, น อตฺถโตติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ ปฏิชานนสฺสาปิ สมฺภวโต วุตฺตํ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ อปฺปฏิชานนฺตาปิ หิ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตสฺส ลิงฺคสฺส คหเณน เจว ภิกฺขูนํ ทินฺนปจฺจยภาคคฺคหณาทินา จ ภิกฺขุปฏิฺา เอว นาม โหนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปุคฺคลปฺตฺติอฏฺกถายํ –
‘‘‘อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ’ติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมชนปทราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘อหํ พฺรหฺมจารี’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘อหํ ภิกฺขู’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต’’ติ (ปุ. ป. อฏฺ. ๙๑).
ตสฺมา เอวรูเปหิ ปฏิฺาย ภิกฺขูหิ โคตฺรภุปริโยสาเนหิ สทฺธึ สมฺโภคปริโภโค น วฏฺฏติ, อลชฺชีปริโภโคว โหติ. สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนาทิอลชฺชีลกฺขณํ ปน อุกฺกฏฺานํ ภิกฺขูนํ วเสน วุตฺตํ สามเณราทีนมฺปิ ¶ อลชฺชีโวหารทสฺสนโต. ‘‘อลชฺชีสามเณเรหิ หตฺถกมฺมมฺปิ น กาเรตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ยถาวิหิตปฏิปตฺติยํ อติฏฺนฺหิ สพฺพสาธารณํ อลชฺชีลกฺขณํ. ทุสฺสีลา ลิงฺคคฺคหณโต ปฏฺาย ยถาวิหิตปฏิปตฺติยา อภาวโต เอกนฺตา ลชฺชิโนว มหาสงฺฆิกาทินิกายนฺตริกา วิย, ลิงฺคตฺเถนกาทโย วิย, จ. ยาว ๑๑ จ เตสํ ภิกฺขุปฏิฺา อนุวตฺตติ, ตาว ภิกฺขุ เอว, เตหิ จ ปริโภโค อลชฺชิปอโภโคว, เตสฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺาย ทินฺนํ สงฺเฆ ทินฺนํ นาม โหติ. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท, อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ, ตทาปาหํ, อานนฺท, สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐).
ภควโต สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา อปฺปเมยฺยา ชาตา. ทุสฺสีลานํ ทินฺนตฺตา นาติ เจ? น, เตสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ โคตฺรภูนํ ปฏิคฺคาหกตฺเตน ปรามฏฺตฺตา, อิตรถา ‘‘เยสุ เกสุจิ คหฏฺเสุ วา ปพฺพชิเตสุ วา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต, ตถา จ ‘‘ตทาปาหํ, อานนฺทา’’ติ เหฏฺิมโกฏิทสฺสนสฺส ปโยชนํ น สิยา. ตสฺมา โคตฺรภูนมฺปิ อภาเว สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ นตฺถิ, เหฏฺิมโกฏิยา เตสุปิ ทินฺนา สงฺฆคตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา, น ตโต ปรํ สิชฺฌตีติ เตปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุ เอวาติ คเหตพฺพํ.
พฺรหฺมโฆสนฺติ อุตฺตมโฆสํ, พฺรหฺมุโน โฆสสทิสํ วา โฆสํ. เอหิ ภิกฺขูติ ‘‘ภิกฺขู’’ติสมฺโพธนํ. สํสาเร ภยอิกฺขก ตสฺส ภยสฺส สพฺพโส วินาสนตฺถํ ติสรณํ, สาสนํ วา เอหิ มนสา ‘‘ตาณํ เลณ’’นฺติ ปวิส อุปคจฺฉ. อุปคนฺตฺวาปิ จร พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ จรสฺสุ. ภณฺฑูติ มุณฺฑิตเกโส. วาสีติ ทนฺตกฏฺาทิจฺเฉทนวาสิ. พนฺธนนฺติ กายพนฺธนํ. ยุตฺโต โยโค สมาธิปฺาวเสน โส ยุตฺตโยโค, ตสฺส อฏฺเเต ปริกฺขาราติ เสโส. สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว อุปลกฺขิโตติ เสโส. ‘‘ตีณิ สตานี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘ตีณิ สต’’นฺติ วุตฺตํ.
ตสฺมาติ ¶ ภควา เหฏฺา วุตฺตํ ปรามสติ. เหฏฺา หิ ‘‘อหํ โข ปน, กสฺสป, ชานฺเว วทามิ ‘ชานามี’ติ, ปสฺสฺเว วทามิ ‘ปสฺสามี’’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) วุตฺตํ, ตํ ปรามสติ, ยสฺมา อหํ ชานํ วทามิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อิหาติ อิมสฺมึ สาสเน. ติพฺพนฺติ มหนฺตํ. ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ เถราทิอุปสงฺกมนโต ปุเรตรเมว เตสุ ยํนูน เม หิโรตฺตปฺปํ อุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. กุสลูปสํหิตนฺติ อนวชฺชธมฺมนิสฺสิตํ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺตานํ เตน ธมฺเมน อฏฺิกํ กตฺวา, ตํ วา ธมฺมํ ‘‘เอส เม อตฺโถ’’ติ อตฺถํ กตฺวา. โอหิตโสโตติ ธมฺเม นิหิตโสโต. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพนฺติ าณโสตฺจ ปสาทโสตฺจ โอทหิตฺวา ‘‘ธมฺมํ สกฺกจฺจเมว สุณิสฺสามี’’ติ เอวเมว ตยา สิกฺขิตพฺพํ. สาตสหคตา จ เม กายคตาสตีติ ¶ อสุเภสุ เจว อานาปาเน จ ปมชฺฌานวเสน สุขสมฺปยุตฺตกายคตาสติ. ยํ ปเนตสฺส โอวาทสฺส สกฺกจฺจปฏิคฺคหณํ, อยเมว เถรสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อโหสิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔).
อุทฺธุมาตกปฏิภาคารมฺมณํ ฌานํ อุทฺธุมาตกสฺา. กสิณารมฺมณํ รูปาวจรชฺฌานํ รูปสฺา. อิเมติ สฺาสีเสน นิทฺทิฏฺา อิเม ทฺเว ฌานธมฺมา. โสปาโก จ ภควตา ปุฏฺโ ‘‘รูปาวจรภาเวน เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ อาห. อารทฺธจิตฺโตติ อาราธิตจิตฺโต. ครุธมฺมปฏิคฺคหณาทิอุปสมฺปทา อุปริ สยเมว อาวิ ภวิสฺสติ.
สพฺพนฺติเมน ปริยาเยนาติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ตฺติจตุตฺถา กมฺมวาจา อุปสมฺปทากมฺมสฺส การณตฺตา านํ, ตสฺส านสฺส อรหํ อนุจฺฉวิกนฺติ วตฺถุโทสาทิวินิมุตฺตกมฺมํ ‘‘านารห’’นฺติ วุตฺตํ วตฺถาทิโทสยุตฺตสฺส กมฺมสฺส สภาวโต กมฺมวาจารหตฺตาภาวา. อถ วา านนฺติ นิพฺพานปฺปตฺติเหตุโต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ วุจฺจติ, ตสฺส อนุจฺฉวิกํ กมฺมํ านารหํ. ยถาวิหิตลกฺขเณน หิ กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนว สกลํ สาสนํ สมาทาย ปริปูเรตุมรหติ. ตสฺมา ปริสุทฺธกมฺมวาจาปริโยสานํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ านารหํ นาม, เตนาห ‘‘สตฺถุสาสนารเหนา’’ติ, สีลาทิสกลสาสนปริปุณฺณสฺส อนุจฺฉวิเกนาติ อตฺโถ. อยํ อิมสฺมึ อตฺเถติ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนสฺเสว สพฺพสิกฺขาปเทสุ วุตฺตตฺตา กิฺจาปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปทาทีหิ อุปสมฺปนฺนานํ สุทฺธสตฺตานํ ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปทวีติกฺกเมปิ อภพฺพตา วา โทสาภาโว วา ¶ สทฺทโต ปฺายติ, ตถาปิ อตฺถโต เตสมฺปิ ปณฺณตฺติวชฺเชสุ, โลกวชฺเชสุปิ วา สุราปานาทิลหุเกสุ มคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อสฺจิจฺจาทินา อาปตฺติอาปชฺชนํ สิชฺฌติเยว. ตถา หิ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ. ทฺเว ปุคฺคลา ภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จา’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ. ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนติ อิทํ ปน สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารเห สพฺพกาลิเก จ ภิกฺขู คเหตฺวา เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. อภิลาปวเสนาติ โวหารวเสน. คุณวเสนาติ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตานํ คุณานํ วเสน.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนา
วิวฏฺฏูปนิสฺสยา สีลาทโย โลกิเยหิ อภิวิสิฏฺตฺตา อธิสีลาทิโวหาเรน วุตฺตาติ ทสฺเสตุํ ¶ กตมํ ปนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฺจงฺคทสงฺคสีลนฺติ อพุทฺธุปฺปาทกาเล สีลํ สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺส วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตาภาวา. ยํ ปน พุทฺธุปฺปาเท รตนตฺตยคุณํ ตถโต ตฺวา สาสเน สุนิวิฏฺสทฺธาหิ อุปาสโกปาสิกาหิ เจว สามเณรสิกฺขมานาหิ จ รกฺขิยมานํ ปฺจงฺคอฏฺงฺคทสงฺคสีลํ, ตมฺปิ อธิสีลเมว มคฺคุปฺปตฺติเหตุโต. วิปสฺสนามคฺคุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย หิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ โลกิยานํ สีเลหิ อธิสีลํ ชาตํ อธิจิตฺตํ วิย. น หิ วิปสฺสนามคฺคนิมิตฺตตํ มฺุจิตฺวา โลกิยจิตฺตโต อธิจิตฺตสฺส อฺโ โกจิ วิเสโส อุปลพฺภติ, ตทุภยฺจ อนาทิมโต สํสารวฏฺฏสฺส อตฺตาทิสารวิรหิตตาย ติลกฺขณพฺภาหตตฺตํ, ‘‘อหํ มมา’’ติ อากาเรน ปวตฺตอวิชฺชาตณฺหาทิโทสมูลกตฺตฺจ, ตํโทสมูลวิทฺธํสนสมตฺถาย สีลจิตฺตพโลปตฺถทฺธาย วิปสฺสนาย อุกฺกํเสเนว ตสฺส สํสารวฏฺฏสฺส วิคมฺจ, ตทุปเทสกสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สพฺพฺุตาทิอปริมิตคุณคณโยเคน อวิปรีตสทฺธมฺมเทสกตฺตฺจ ยาถาวโต ตฺวา ปฏิปนฺเนน สมาทาย สิกฺขิตพฺพตาย วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ชาตํ, น อฺเน การเณน, ตฺจ วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตํ ยทิ สาสเน ปฺจสีลาทิสฺสาปิ สมานํ, กิมิทํ อธิสีลํ น สิยา. ปฺจสีลาทิมตฺเต ิตานฺหิ อนาถปิณฺฑิกาทีนํ คหฏฺานมฺปิ มคฺโค อุปฺปชฺชติ. น หิ อธิสีลาธิจิตฺตํ วินา มคฺคุปฺปตฺติ โหติ, ตฺจ กิฺจาปิ เกสฺจิ ¶ อนุปนิสฺสยตาย ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติยา เหตุ น โหติ, ตถาปิ ภวนฺตเร อวสฺสํ โหเตวาติ อธิสีลเมว กาลํ กโรนฺตานํ กลฺยาณปุถุชฺชนานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิย, เตนาห พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตตีติอาทิ. วิวฏฺฏํ ปตฺเถตฺวา รกฺขิยมานมฺปิ ปฺจสีลาทิ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตติ. น หิ ตํ ปฺตฺตินฺติอาทิ ปน อุกฺกฏฺวเสน สพฺพํ ปาติโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเทกเทสภูตมฺปิ หิ ปาณาติปาตาทินฺนาทานาทิคหฏฺสีลมฺปิ. พุทฺธาเยว วินเย ปาราชิกสุตฺตวิภงฺคาทีสุ อาคตวเสน สพฺพโส กายวจีทฺวาเรสุ มคฺคุปฺปตฺติยา วิพนฺธกอชฺฌาจารโสตํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคุปฺปตฺติยา ปทฏฺานภาเวน ปฺเปตุํ สกฺโกนฺติ, น อฺเ. มคฺคุปฺปตฺตึ สนฺธาย หิสฺส อธิสีลตา วุตฺตา. เตนาห ‘‘ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีล’’นฺติ. ตสฺเสว หิ อธิสีลนฺติ อพฺยวธาเนน มคฺคาธิฏฺานาติ. อิธ อนธิปฺเปตนฺติ อิมสฺมึ ปมปาราชิกวิสเย ‘‘สิกฺขา’’ติ อนธิปฺเปตํ.
โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานีติ สาสนสภาวํ อชานนฺเตหิ โลกิยชเนหิ สมาปชฺชิตพฺพานิ อฏฺ รูปารูปชฺฌานสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ มหคฺคเตสุ โลกิยโลกุตฺตรเภโท อตฺถิ, เยน โลกิยวิเสสนํ โลกุตฺตรนิวตฺตนํ สิยา. ตสฺมา สาสนิเกหิ สมาปชฺชิตพฺพมหคฺคตชฺฌานนิวตฺตนเมว โลกิยวิเสสนํ กตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานีติ เอตฺถาปิ โลกิยวิเสสนํ กาตพฺพเมว. อยเมว หิ อธิจิตฺตโต ¶ จิตฺตสฺส เภโท, ยํ สาสนํ อชานนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส สมุปฺปชฺชนํ. เอวฺจ อพุทฺธุปฺปาเทปิ สาสนสภาวํ ชานนฺตานํ ปจฺเจกพุทฺธาทีนมฺปิ สีลจิตฺตานํ อธิสีลาธิจิตฺตตา สมตฺถิตา โหติ. น วินา พุทฺธุปฺปาทาติ อิทํ ปน อฺเสํ อภิสมยเหตุภาเวน ปจฺเจกพุทฺธโพธิสตฺตาทีนํ เทสนาสามตฺถิยาภาวโต วุตฺตํ. อายตึ วาสนาเหตุํ ปน สีลจิตฺตํ เตปิ เทเสนฺติเยว, ตฺจ มคฺคเหตุตาย อธิสีลาธิจิตฺตมฺปิ โหนฺตํ อปฺปกตาย วิปฺผาริกตาพาหุชฺตฺตาภาเวน อพฺโพหาริกนฺติ ‘‘พุทฺธุปฺปาเทเยวา’’ติ อวธารณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ตํสมาปนฺโนติอาทิอฏฺกถาวจเนหิ อิธ อธิจิตฺตนิทฺเทเส, อุปริ อธิปฺานิทฺเทเส จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตอธิจิตฺตอธิปฺานเมว ปฏิกฺเขปโต โลกิยาธิจิตฺตาธิปฺานํ ¶ อิธ อธิปฺเปตตา, ตํ ทฺวยํ สมาปนฺนสฺสาปิ เมถุนธมฺมสมาปชฺชนสภาโว จ วิฺายติ, ปาฬิยํ ปน ‘‘ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติ วุตฺตตฺตา โลกิยาปิ อธิจิตฺตาธิปฺา อนธิปฺเปตาติ วิฺายติ. ตสฺมา ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเต โลกิยํ อธิจิตฺตํ อธิปฺา จ ปริหายติ, อธิสีลํ ปน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน น ปริหายตีติ ปาฬิยํ อธิสีลสิกฺขาว วุตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ปฏิลทฺธโลกุตฺตรมคฺคสฺส ภิกฺขุโน ‘‘เมถุนํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชติ สพฺพโส อกุปฺปธมฺมตฺตา, ปุถุชฺชนานํ สมาปตฺติลาภีนมฺปิ เกนจิ การเณน อุปฺปชฺชติ กุปฺปธมฺมตฺตาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ ตํสมาปนฺโน’’ติ โลกุตฺตราว ปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
อตฺถิ ทินฺนนฺติ เอตฺถ ทินฺนนฺติ ทานเจตนา อธิปฺเปตา, ตสฺส ทินฺนสฺส ผลํ อตฺถีติ อตฺโถ. เอส นโย อตฺถิ ยิฏฺนฺติ เอตฺถาปิ. อาทิ-สทฺเทน หุตาทีนํ สงฺคโห. ตตฺถ ยิฏฺนฺติ มหายาโค สพฺพสาธารณํ มหาทานเมว. หุตนฺติ ปโหนกสกฺกาโร, อตฺตโน วา โหตุ, ปเรสํ วา ทส อกุสลกมฺมปถา, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา อนตฺถุปฺปาทนโต น สกํ กมฺมํ นาม, ตพฺพิปรีตา กุสลา ธมฺมา สกํ นาม, ตทุภยมฺปิ วา กุสลากุสลํ กมฺมสฺสโกมฺหีติอาทิวจนโต สติ สํสารปฺปวตฺติยํ อธิมุจฺจนฏฺเน สตฺตานํ สกนฺติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย สกภาเว อตฺตโน สนฺตกตาย อุปฺปชฺชนกาณํ กมฺมสฺสกตฺาณํ, อุปลกฺขณมตฺตฺเจตํ. สาสนนิสฺสิตา ปน สพฺพาปิ วฏฺฏคามินิกุสลปฺา กมฺมสฺสกตฺาเณ ปวิฏฺา. สาสนนิสฺสิตา หิ วิวฏฺฏคามินี สพฺพาปิ ปฺา ‘‘สจฺจานุโลมิกาณ’’นฺติ วุจฺจติ. สา เอว จ อธิปฺา ตทวเสสํ สพฺพํ กมฺมสฺสกตฺาณนฺติ เวทิตพฺพํ, เตเนว ภควา ‘‘กมฺมสฺสกตฺาณํ สจฺจานุโลมิกาณํ มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ สพฺพมฺปิ าณจตุกฺเกเยว สงฺคเหสิ. ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณนฺติ อิทํ ปน มคฺคสฺส ¶ อาสนฺนปจฺจยตาย อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. ตทิตราสฺหิ รตนตฺตยานุสฺสรณาทิปฺานมฺปิ มคฺคเหตุตาย อธิปฺตา สมานาวาติ คเหตพฺพํ.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา
ทุพฺพลฺเย ¶ อาวิกเตติ ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยนฺติอาทินา ทุพฺพลภาเว ปกาสิเต. มุขารุฬฺหตาติ โลกชนานํ สตฺตฏฺาติอาทีสุ มุขารุฬฺหาเยนาติ อธิปฺปาโย. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ (ปาจิ. ๕๒) เอตฺถ ยถา อนฺตรนฺตรา สหเสยฺยาวเสน ติรตฺตํ อคฺคเหตฺวา นิรนฺตรเมว ติสฺโส รตฺติโย อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ สหเสยฺยาย อรุณุฏฺาปนวเสน ติรตฺตคฺคหณตฺถํ ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ อพฺยวธาเนน วุตฺตนฺติ ทิรตฺตคฺคหณสฺส ปโยชนมฺปิ สกฺกา คเหตุํ, เอวมิธาปิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺสาปิ คหณสฺส ปโยชนมตฺเถวาติ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วา สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺสาติอาทิ วุตฺตํ.
อิทานิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺส ปุริมปทสฺเสว วิวรณภาวํ วินาปิ วิสุํ อตฺถสพฺภาวํ ทสฺเสตุํ อปิจาติอาทิ วุตฺตํ. วิเสสาวิเสสนฺติ เอตฺถ เยน วากฺเยน ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเมว โหติ, น สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ อฺมฺํ วิเสโส โหติ. เยน ปน วจเนน ตทุภยมฺปิ โหติ, ตตฺถ เนวตฺถิ วิเสโส อวิเสโสปิ, ตํ วิเสสาวิเสสํ. ‘‘ก กิจฺฉชีวเน’’ติ ธาตูสุ ปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต’’ติ. อุกฺกณฺนฺหิ อุกฺกณฺา, ตํ อิโต คโตติ อุกฺกณฺิโต, กิจฺฉชีวิกํ ปตฺโตติ อตฺโถ. อุทฺธํ คโต กณฺโ เอติสฺสาติ อุกฺกณฺา, อนภิรติยา วเช นิรุทฺธโคคโณ วิย คมนมคฺคํ คเวสนฺโต ปุคฺคโล อุกฺกณฺโ โหติ, ตํ อุกฺกณฺํ. อนภิรตึ อิโตติปิ อุกฺกณฺิโตติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน’’ติ. สา จ อุกฺกณฺตา วิกฺเขเปเนวาติ วิกฺขิตฺโตติอาทิ วุตฺตํ.
สมณภาวโตติ อุปสมฺปทโต. ภาววิกปฺปากาเรนาติ ภิกฺขุภาวโต จวิตฺวา ยํ ยํ คิหิอาทิภาวํ ปตฺตุกาโม ‘‘อหํ อสฺส’’นฺติ อตฺตโน ภวนํ วิกปฺเปติ, เตน เตน คิหิอาทิอากาเรน, อตฺตโน ภวนสฺส วิกปฺปนากาเรนาติ อธิปฺปาโย.
๔๖. ปาฬิยํ ¶ ยทิ ปนาหนฺติ อหํ ยทิ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, สาธุ วตสฺสาติ อตฺโถ. อปาหํ, หนฺทาหนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘โหติ เม พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ มม จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ วทติ.
๕๐. น ¶ รมามีติ ปพฺพชฺชาย ทุกฺขพหุลตาย สุขาภาวํ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ ปพฺพชฺชาย วิชฺชมาเนปิ อนวชฺชสุเข อตฺตโน อภิรติอภาวํ ทสฺเสติ.
๕๑. เตเนว วจีเภเทนาติ วจีเภทํ กตฺวาปิ อฺเน กายปฺปโยเคน วิฺาปนํ นิวตฺเตติ. อยํ สาสนํ ชหิตุกาโมติอาทินา ภาสาโกสลฺลาภาเวน สพฺพโส ปทตฺถาวโพธาภาเวปิ ‘‘อยํ อตฺตโน ปพฺพชิตภาวํ ชหิตุกาโม อิมํ วากฺยเภทํ กโรตี’’ติ เอตฺตกํ อธิปฺเปตตฺถมตฺตํ เจปิ โส ตาว ชานาติ, ปจฺจกฺขานเมว โหตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาตี’’ติ. ปทปจฺฉาภฏฺนฺติ ปทปราวตฺติ, มาคธภาสโต อวสิฏฺา สพฺพาปิ ภาสา ‘‘มิลกฺขภาสา’’ติ เวทิตพฺพา. เขตฺตเมว โอติณฺณนฺติ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส รุหนฏฺานภูตํ เขตฺตเมว โอติณฺณํ.
ทูตนฺติ มุขสาสนํ. สาสนนฺติ ปณฺณสาสนํ, ภิตฺติถมฺภาทีสุ อกฺขรํ วา ฉินฺทิตฺวา ทสฺเสติ. ปจฺจกฺขาตุกามตาจิตฺเต ธรนฺเตเยว วจีเภทสมุปฺปตฺตึ สนฺธาย ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นิยมิตานิยมิตวเสน วิชานนเภทํ ทสฺเสตุมาห ยทิ อยเมว ชานาตูติอาทิ. อยฺจ วิภาโค วทติ วิฺาเปตีติ เอตฺถ ยสฺส วทติ, ตสฺเสว วิชานนํ อธิปฺเปตนฺติ อิมินา วุตฺตนเยน ลทฺโธติ ทฏฺพฺพํ, น เหตฺถ เอกสฺส วทติ อฺสฺส วิฺาเปตีติ อยมตฺโถ สมฺภวติ. ‘‘เตสุ เอกสฺมึ ชานนฺเตปี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฺเวเยว ชานนฺตุ เอโก มา ชานาตู’’ติ เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ นิยเมตฺวา อาโรจิเตปิ เตสุ เอกสฺมิมฺปิ ชานนฺเต ปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ คเหตพฺพํ. ปริสงฺกมาโนติ ‘‘วาเรสฺสนฺตี’’ติ อาสงฺกมาโน. สมยฺูติ สาสนสงฺเกตฺู, อิธ ปน อธิปฺปายมตฺตชานเนนาปิ สมยฺู นาม โหติ, เตนาห อุกฺกณฺิโตติอาทิ. ตสฺมา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทิเขตฺตปทานํ สพฺพโส อตฺถํ ตฺวาปิ สเจ ‘‘ภิกฺขุภาวโต จวิตุกามตาย เอส วทตี’’ติ อธิปฺปายํ น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อตฺถํ ปน อชานิตฺวาปิ ‘‘อุกฺกณฺิโต วทตี’’ติ ตํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. โสตวิฺาณวีถิยา สทฺทมตฺตคฺคหณเมว, อตฺถคฺคหณํ ปน มโนวิฺาณวีถิปรมฺปรายาติ อาห ตงฺขณฺเวาติอาทิ.
๕๓. วณฺณปฏฺานนฺติ ¶ ¶ สตฺถุคุณวณฺณปฺปกาสกํ ปกรณํ. อุปาลิคาถาสูติ อุปาลิสุตฺเต อุปาลิคหปตินา ธีรสฺส วิคตโมหสฺสาติอาทินา วุตฺตคาถาสุ. ยถารุตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตเมวาติ อตฺโถ. อนนฺตพุทฺธีติอาทีนิ วณฺณปฏฺาเน อาคตนามานิ. ธีรนฺติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๗๖) ปน อุปาลิคาถาสุ. ตตฺถ โพธิ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณํ, สา ชานนเหตุตฺตา ปฺาณํ เอตสฺสาติ โพธิปฺาโณ. สฺวากฺขาตํ ธมฺมนฺติอาทีสุ ธมฺม-สทฺโท สฺวากฺขาตาทิปทานํ ธมฺมเววจนภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺโต. ตสฺมา สฺวากฺขาตํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺเตเยว เววจเนน ปจฺจกฺขานํ นาม โหติ. ธมฺม-สทฺเทน สห โยเชตฺวา วุตฺเต ปน ยถารุตวเสน ปจฺจกฺขานนฺติ เวทิตพฺพํ. สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. กุสลํ ธมฺมนฺติอาทีนิปิ กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมาติอาทิธมฺมเมว (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) สนฺธาย วุตฺตนามานิ, อิตรถา อกุสลธมฺมปจฺจกฺขาเน โทสาภาวปฺปสงฺคโตติ, เตนาห จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสูติอาทิ. ปมปาราชิกนฺติอาทินา สิกฺขาปทานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ, น อาปตฺตีนํ.
ยสฺส มูเลนาติ ยสฺส สนฺติเก. อาจริยเววจเนสุ โย อุปชฺฌํ อทตฺวา อาจริโยว หุตฺวา ปพฺพาเชสิ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส มูเลนาติ ตสฺส สนฺติเก. โอกลฺลโกติ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขาตุรานํ กิสลูขสรีรเวสานํ คหฏฺมนุสฺสานํ อธิวจนํ. โมฬิพทฺโธติ พทฺธเกสกลาโป คหฏฺโ. กุมารโกติ กุมาราวตฺโถ อติวิย ทหโร สามเณโร. เจลฺลโกติ ตโต กิฺจิ มหนฺโต. เจฏโกติ มชฺฌิโม. โมฬิคลฺโลติ มหาสามเณโร. สมณุทฺเทโสติ อวิเสสโต สามเณราธิวจนํ. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อสุจิ หุตฺวา ‘‘มยา กตํ ปเร ชานนฺติ นุ โข, น นุ โข’’ติ อตฺตนา, ‘‘อสุเกน นุ โข อิทํ กต’’นฺติ ปเรหิ จ สงฺกาย สริตพฺเพน อนุสฺสริตพฺเพน สมาจาเรน ยุตฺโต. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา กสมฺพุชาโต. โกณฺโติ ทุสฺสีลาธิวจนเมตํ.
๕๔. ติเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อติขิปฺปํ ชานนสมตฺเถ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทุเหตุกานํ ตตฺถ อสมฺภวโต. สภาคสฺสาติ ปุริสสฺส. วิสภาคสฺสาติ มาตุคามสฺส. โปตฺถกรูปสทิสสฺสาติ มตฺติกาทีหิ กตรูปสทิสสฺส ¶ . ครุเมธสฺสาติ อารมฺมเณสุ ลหุปฺปวตฺติยา อภาวโต ทนฺธคติกตาย ครุปฺสฺส, มนฺทปฺสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
อิทาเนตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานวารสฺส ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ วุตฺตนยานํ สมฺปิณฺฑนตฺถวเสน เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ตตฺถ หิ สามฺา จวิตุกาโมติอาทีหิ ปเทหิ จิตฺตนิยมํ ทสฺเสติ. พุทฺธนฺติอาทีหิ ปเทหิ เขตฺตนิยมํ, ปจฺจกฺขามิ ธาเรตีติ เอเตน กาลนิยมํ, วทตีติ ¶ อิมินา ปโยคนิยมํ, อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม, น มมตฺโถ, สุมุตฺตาหนฺติอาทีหิ อนามฏฺกาลวเสนปิ ปจฺจกฺขานํ โหตีติ ทสฺเสติ, วิฺาเปตีติ อิมินา วิชานนนิยมํ, อุมฺมตฺตโก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ อุมฺมตฺตกสฺส สนฺติเกติอาทีหิ ปุคฺคลนิยมํ, โส จ นปฺปฏิวิชานาตีติอาทีหิ วิชานนนิยมาภาเวน ปจฺจกฺขานาภาวํ ทสฺเสติ, ทวายาติอาทีหิ จิตฺตนิยมาภาเวน, สาเวตุกาโม น สาเวตีติ อิมินา ปโยคนิยมาภาเวน, อวิฺุสฺส สาเวติ วิฺุสฺส น สาเวตีติ เอเตหิ ยํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส สาเวติ, ตสฺเสว สวเน สีสํ เอติ, นาฺสฺสาติ. สพฺพโส วา ปน น สาเวติ อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาติ อิทํ ปน จิตฺตาทินิยเมเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาย ปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปฺปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ.
กถํ? อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา ภณนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตถา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ สพฺรหฺมจาริปริโยสานานํ จตุทฺทสนฺนฺเจว คิหีติ มํ ธาเรหีติอาทินา วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อสกฺยปุตฺติยปริโยสานานํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ ทฺวาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามีติ จ มํ ธาเรหีติ จา’’ติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ อลํ เมติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว จ สเววจนานํ วเสน ¶ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ปน ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา, ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา, ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา, ‘‘มํ ธาเรสฺสสี’’ติ วา, ‘‘ยํนูน ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก วาจสิโก, ตตฺถ พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ¶ ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ, ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ, ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร สมฺมุขีภูโต จ, สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตปุคฺคลวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. วิชานนมฺปิ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส เยสํ วา นิยเมตฺวา อิมสฺส อิเมสํ วา อาโรเจมีติ วทติ, สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา, ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา, เอวํ ชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทฏฺพฺพํ.
สิกฺขาปจฺจกฺขานวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
มูลปฺตฺติวณฺณนา
๕๕. อิโต ¶ ปฏฺายาติ ทุฏฺุลฺลปทโต ปฏฺาย. เมถุนธมฺโม ยถา สรูเปเนว ทุฏฺุลฺลํ, เอวํ ทสฺสนาทิทุฏฺุลฺลธมฺมปริวารตฺตาปิ ทุฏฺุลฺลนฺติ ทสฺเสตุํ ยสฺมาติอาทิ วุตฺตํ. อวสฺสุตานนฺติ เมถุนราเคน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ เมถุนราเคน อภิภูตจิตฺตานํ. เมถุน-สทฺทสฺส สทิสสทฺทปอยายตฺตา วุตฺตํ ‘‘สทิสาน’’นฺติ, รตฺตตาทีหิ สทิสานนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ เยภุยฺยโต วุตฺตํ อุโภสุ อฺตรสฺส ราคาภาเวปิ อิตรสฺส เมถุนเสวนสํสิทฺธิโต. เมถุน-สทฺโท วา อุภยสทฺทปอยาโย, เมถุนํ ยุคฬํ ยมกํ อุภยนฺติ หิ อตฺถโต เอกํ, เตนาห ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติ. ‘‘ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตี’’ติ หิ ปาฬิยมฺปิ วุตฺตํ. นิมิตฺเตนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, อิตฺถินิมิตฺเต อตฺตโน นิมิตฺตํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. นิมิตฺตํ องฺคชาตนฺติ อตฺถโต เอกํ. ติลผลนฺติ สาสปมตฺตํ ติลพีชํ อธิปฺเปตํ, น โกสสหิตํ ผลนฺติ อาห ‘‘ติลพีชมตฺตมฺปี’’ติ. อลฺโลกาเสติ สภาเวน ปิหิตสฺส นิมิตฺตสฺส ปกติวาเตน อสมฺผุฏฺเ ตินฺตปฺปเทเส. ตาทิโส ปเทโส ¶ สเจปิ เกนจิ วาตาทิวิกาเรน สุกฺขติ, ตถาปิ อนลฺโลกาโสติ อุปกฺกมโต ปาราชิกเมว.
เวมชฺฌนฺติ ยถา จตฺตาริ ปสฺสานิ อผุสนฺโต ปเวเสติ, เอวํ กตวิวรสฺส อิตฺถินิมิตฺตสฺส อพฺภนฺตรตลํ วุจฺจติ. ปุริสนิมิตฺเต ปน มชฺฌนฺติ อคฺคโกฏึ สนฺธาย วทติ. อุปรีติ มชฺฌิมปพฺเพน สมิฺชิตฺวา ปเวสิยมานสฺส องฺคชาตสฺส สมิฺชิตงฺคุลิยา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิสทิสอคฺคโกฏิเยว. เหฏฺา ปเวเสนฺโตติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส เหฏฺาภาเคน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อิตฺถินิมิตฺตสฺส อลฺโลกาสํ เหฏฺิมตลํ ติลพีชมตฺตมฺปิ อตฺตโน นิมิตฺเตน ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. ฉุปนเมว เหตฺถ ปเวสนํ, เอวํ เสเสสุปิ. มชฺเฌน ปเวเสนฺโตติ อพฺภนฺตรตเลน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อพฺภนฺตรตลํ ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. กตฺถจิ อจฺฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา อากาสคตเมว นีหรนฺตสฺส นตฺถิ ปาราชิกํ, ทุกฺกฏํ ปน โหติ ฉินฺนสีสวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย. มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตติ อคฺคโกฏิยา ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโต. มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สงฺโกเจตฺวาติ นิมิตฺตํ อตฺตโน มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ¶ สมิฺชิตฺวา อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ. กึ วิย? สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ โยชนา. อถ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ สมฺพนฺโธ, สมิฺชิตงฺคุลึ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ปเวเสนฺโต วิยาติปิ โยเชตพฺพํ. อุปริภาเคนาติ สงฺโกจิตสฺส นิมิตฺตสฺส อุปริโกฏิยา.
อิทานิ ปุริสนิมิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺเตสุ ฉสุ ‘‘อุปรี’’ติ วุตฺตสฺส ฉฏฺสฺส านสฺส วเสน วิสุํ จตฺตาริ ปสฺสานิ คเหตฺวา ปุริสนิมิตฺเต ทสฏฺานเภทํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถาติอาทิมาห. เหฏฺา ปน อคหิตคฺคหณวเสน ฉ านานิ วุตฺตานิ. ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาปีติ อสมิฺชิตฺวา อุชุกํ ปเวเสนฺตสฺส. จมฺมขีลนฺติ เอฬกาทีนํ คีวาย วิย นิมิตฺเต ชาตํ จมฺมงฺกุรํ, ‘‘อุณฺณิคณฺโฑ’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘อุปหตกายปฺปสาท’’นฺติ อวตฺวา นฏฺกายปฺปสาทนฺติ วจเนน อุปาทินฺนภาเว สติ เกนจิ ปจฺจเยน อุปหเตปิ กายปฺปสาเท อุปหตินฺทฺริยวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อิตฺถินิมิตฺตสฺส ปน นฏฺเปิ อุปาทินฺนภาเว สติ มตสรีเร วิย ปาราชิกกฺเขตฺตตา น วิชหตีติ เวทิตพฺพา. เมถุนสฺสาเทนาติ อิทํ กายสํสคฺคราเค สติ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ. พีชานีติ อณฺฑานิ.
มุขํ อปิธายาติ ปมาเทน สมุปฺปนฺนมฺปิ หาสํ พีชนิยา ปฏิจฺฉาทนมฺปิ อกตฺวา นิสีทนํ อคารวนฺติ วุตฺตํ. อถ วา อปิธายาติ ปิทหิตฺวา, พีชนิยา มุขํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา หสมาเนน ¶ น นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทนฺตวิทํสกนฺติ ทนฺเต ทสฺเสตฺวา. คพฺภิเตนาติ ‘‘อยุตฺตกถา’’ติ สงฺโกจํ อนาปชฺชนฺเตน, นิรวเสสาธิปฺปายกถเน สฺชาตุสฺสาเหนาติ อตฺโถ.
อนุปฺตฺติวณฺณนา
ปาราชิกวตฺถุภูตาติ เยสํ ตีสุ มคฺเคสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ นิมิตฺตสฺส ปเวโสกาโส โหติ, เต อิตฺถิปุริสาทิเภทา สพฺเพ สงฺคยฺหนฺติ, น อิตเร. อิธ ปน ติรจฺฉานคตายาติ-ปาฬิปทานุรูปโต น สพฺพาติอาทินา อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตํ. โคนสาติ สปฺปวิเสสา, เยสํ ปิฏฺีสุ มหนฺตมหนฺตานิ มณฺฑลานิ โหนฺติ. กจฺฉปมณฺฑูกานํ จตุปฺปทตฺเตปิ โอทกตาสามฺเน ¶ อปเทหิ สห คหณํ. มุขสณฺานนฺติ โอฏฺจมฺมสณฺานํ. วณสงฺเขปนฺติ วณสงฺคหํ. วเณ ถุลฺลจฺจยฺจ ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. มงฺคุสาติ นกุลา. เอตเมว หิ อตฺถนฺติ โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานํเยว ปาราชิกาทิสทฺทานํ นิพฺพจนปฺปสงฺเค อิมิสฺสา ปริวารคาถาย ปวตฺตตฺตา. ภฏฺโติ สาสนโต ปริหีโน. นิรงฺกโตติ นิรากโต. เอตนฺติ อาปตฺติรูปํ ปาราชิกํ. ฉินฺโนติ อนฺตราขณฺฑิโต.
ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหีติ เอตฺถ ปกตตฺตา นาม ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จ. เกจิ ปน ‘‘ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตาติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปกตตฺตภูเตหิ อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณ โทโส นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อิมินา วจเนน ตสฺส อตฺถสฺส อสิชฺฌนโต. ยทิ หิ สงฺฆกมฺมํ กรียติ, ปกตตฺเตเหว กรียติ, น อปกตตฺเตหีติ เอวํ อปกตตฺเตหิ สหสํวาสปฏิกฺเขปปรํ อิทํ วจนํ, น ปน ปกตตฺเตหิ สพฺเพหิ อลชฺชีอาทีหิ เอกโต สงฺฆกมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ. เอวํ สํวาสวิธานปรํ ปกตตฺเตสุปิ สภาคาปตฺตึ อาปนฺเนหิ อฺมฺฺจ อลชฺชีหิ จ สทฺธึ เอกโต กมฺมกรณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘สเจ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาปตฺติยา สติ วุตฺตวิธึ อกตฺวา อุโปสถํ กโรติ, วุตฺตนเยเนว สพฺโพ สงฺโฆ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). ‘‘ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อลชฺชีหิ สห ปริโภโค จ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺโต เอกโต กมฺมกรณสฺสาปิ ธมฺมปริโภคตฺตา. ตสฺมา ยถา หิ ปาฬิยํ ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกปุคฺคลนิยมตฺถํ ยฺวายํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วจเน สพฺเพปิ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนา ปาราชิกาปชฺชนกปุคฺคลาเยวาติ นิยโม น สิชฺฌติ ¶ ปาราชิกานาปชฺชนกานมฺปิ เสกฺขาทีนํ สมฺภวา, อถ โข ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺเนสุเยว ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกา อลชฺชี พาลปุถุชฺชนา ลพฺภนฺติ, น ปน เอหิภิกฺขุอาทีสูติ เอวํ นิยโม สิชฺฌติ, เอวมิธาปิ ปกตตฺเตสุเยว เอกโต กมฺมกรณารหา อนาปตฺติกา ลชฺชี กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา อุปลพฺภนฺติ ¶ , น อปกตตฺเตสูติ เอวเมว นิยโม สิชฺฌติ อปกตตฺตานํ คณปูรณตฺตาภาเวน อสํวาสิกตฺตนิยมโต. อลชฺชิโน ปน คณปูรกา หุตฺวา กมฺมสฺส สาธนโต อสํวาสิเกสุ น คหิตา กตฺตพฺพวิธึ อกตฺวา เตหิ สห มทฺทิตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ อาปตฺติ อลชฺชิตา จ น วิคจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) หิ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺตี’’ติอาทิ. อยฺจตฺโถ อุปริ วิตฺถารโต อาวิ ภวิสฺสติ.
ตถาติ สีมาปริจฺฉินฺเนหีติอาทึ ปรามสติ. เอกโต วนฺทนภฺุชนคามปฺปเวสนวตฺตาปฏิวตฺตกรณอุคฺคหปริปุจฺฉาสชฺฌายกรณาทิสามคฺคิกิริยาวเสน ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสิกฺขนํ สมสิกฺขตา นาม, ตฺจ ลชฺชีเหว สมํ สิกฺขิตพฺพํ, น อลชฺชีหีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺตฺตํ ปน…เป… สมสิกฺขตา นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อนติกฺกมนวเสน อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน จ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ เอกโต สิกฺขิตพฺพา สมสิกฺขาติ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตาสํ สมสิกฺขนํ ยถาวุตฺตนเยน ลชฺชีหิ สิกฺขิตพฺพภาโว สมสิกฺขตา นามาติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺเตสุ เอกกมฺมาทีสุ อลชฺชีนํ ลชฺชิธมฺเม อโนกฺกนฺเต ลชฺชีหิ สห สํวาโส นตฺถิ, ตโต พหิเยว เต สนฺทิสฺสนฺตีติ อาห สพฺเพปิ ลชฺชิโนติอาทิ.
๕๖. ยํ ตํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. วตฺถุเมว น โหตีติ สุวณฺณาทีหิ กตอิตฺถิรูปานํ องฺคชาเตสุปิ นิมิตฺตโวหารทสฺสนโต ตตฺถ ปาราชิกาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว วินีตวตฺถูสุ เลปจิตฺตาทิวตฺถูสุ สฺชาตกุกฺกุจฺจสฺส ปาราชิเกน อนาปตฺติ วุตฺตา.
ปมจตุกฺกวณฺณนา
๕๗. อสฺสาติ อาขฺยาตปทนฺติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหตี’’ติ อาห, ภเวยฺยาติ อตฺโถ, โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘โหตี’’ติ อิทํ วจนเสโส.
๕๘. สาทิยนฺตสฺเสวาติ ¶ เอตฺถ สาทิยนํ นาม เสเวตุกามตาจิตฺตสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺสา’’ติ. ปฏิปกฺขนฺติ อนิฏฺํ ¶ อหิตํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ วุตฺเต อุปริ วุจฺจมานา ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ อิเธว ปวิสนฺตีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกาติ ราชปจฺจตฺถิกานุรูเปน อตฺโถ ทสฺสิโต. ตสฺมึ ขเณติ ปเวสนกฺขเณ. อคฺคโต หิ ยาว มูลา ปเวสนกิริยาย วตฺตมานกาโล ปเวสนกฺขโณ นาม. ปวิฏฺกาเลติ องฺคชาตสฺส ยตฺตกํ านํ ปเวสนารหํ, ตตฺตกํ อนวเสสโต ปวิฏฺกาเล, ปเวสนกิริยาย นิฏฺิตกฺขเณติ อตฺโถ. เอวํ ปวิฏฺสฺส อุทฺธรณารมฺภโต อนฺตรา ิตกาเล ิตํ องฺคชาตํ, ตสฺส ิติ วา ิตํ นาม, อฏฺกถายํ ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺวา สพฺพถา วายามโต โอรมิตฺวา ิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ วุตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ิตเมวาติ คเหตพฺพํ. อุทฺธรณํ นาม ยาว อคฺคา นีหรณกิริยาย วตฺตมานกาโลติ อาห ‘‘นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ.
เอตฺถ จ ยสฺมา ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส องฺคชาตาทิกายจลนสฺส วิชฺชมานตฺตา เสวนจิตฺเต อุปฏฺิตมตฺเต ตสฺมึ ขเณ จิตฺตชรูเปน สฺชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ อิมินา เสวนจิตฺเตน อุปฺปาทิตเมว โหติ. อปิจ เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปเรหิ อนุปกฺกมิยมานสฺสาปิ องฺคชาเต จลนํ โหเตว, ตฺจ เตน กตํ นาม โหติ, ตสฺมา กายจิตฺตโต สมุฏฺิตํ ปาราชิกาปตฺตึ โส อาปชฺชติเยว อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๗-๖๕๘) วิย. ตตฺถาปิ หิ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา…เป… ปฏิปีฬนํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๗) สาทิยนมตฺเตเยว อาปตฺติ วุตฺตา, ภิกฺขุโน กายสํสคฺเค ปน ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ (ปารา. ๒๗๐) อตฺตโน อุปกฺกมสฺส อาปตฺตินิมิตฺตภาเวน วุตฺตตฺตา อิตฺถิยา ผุสิยมานสฺส กายสํสคฺคราเค จ อิตฺถิยา สฺชนิตกายจลเน จ วิชฺชมาเนปิ อตฺตโน ปโยคาภาเวน อนาปตฺติเยว วุตฺตาติ คเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ปมสงฺฆาทิเสสวิสเยปิ ปเรหิ พลกฺกาเรน หตฺถาทีหิ อุปกฺกมิยมานสฺส โมจนสฺสาโท จ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อสุจิมฺหิ มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ เอวา’’ติ วทนฺติ. องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสึ, องฺคารปุณฺณาวาฏํ วา. อิตฺถิยา อุปกฺกมิยมาเน อสาทิยนํ นาม น สพฺเพสํ วิสโยติ ¶ อาห อิมฺหีติอาทิ. เอกาทสหิ อคฺคีหีติ ราคโทสโมหชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสสงฺขาเตหิ เอกาทสคฺคีหิ. อสฺสาติ อสาทิยนฺตสฺส. จตุกฺกํ นีหริตฺวา เปสีติ เอตฺถ เอกปุคฺคลวิสยตาย เอโกปิ อนาปตฺติวาโร ปเวสนปวิฏฺิตอุทฺธรณสงฺขอาตานํ จตุนฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘จตุกฺก’’นฺติ วุตฺโต. ปมจตุกฺกกถาติ เอตฺถ ปน อนาปตฺติวาเรน สทฺธึ ปฺจนฺนํ วารานํ วุตฺตนเยน ‘‘ปฺจ จตุกฺกา’’ติ วตฺตพฺเพปิ เอกมคฺควิสยตาย ¶ เตสํ เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา ปมจตุกฺกตา วุตฺตา. เตเนว วกฺขติ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานีติอาทิ.
เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา
๕๙-๖๐. มตฺตนฺติ สุราทีหิ มตฺตํ. อกฺขายิตนิมิตฺตา อิธ อุตฺตรปทโลเปน อกฺขายิตสทฺเทน วุตฺตาติ อาห ‘‘อกฺขายิตนิมิตฺต’’นฺติ. ชาครนฺตินฺติอาทิ วิเสสนรหิตตฺตา ‘‘สุทฺธิกจตุกฺกานี’’ติ วุตฺตํ. สมานาจริยกาเถราติ เอกาจริยสฺส อุทฺเทสนฺเตวาสิกา. คงฺคาย อปรภาโค อปรคงฺคํ. วตเรติ ครหตฺเถ นิปาโต. เอวํ วินยครุกานนฺติ อิมินา อุปริ อุปติสฺสตฺเถเรน วุจฺจมานวินิจฺฉยสฺส ครุกรณียตาย การณํ วุตฺตํ. สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวาติ สพฺพํ ปาราชิกเขตฺตํ อนวเสสโต คเหตฺวา. ยทิ หิ สาวเสสํ กตฺวา ปฺเปยฺย, อลชฺชีนํ ตตฺถ เลเสน อชฺฌาจารโสโต ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โสตํ ฉินฺทิตฺวา’’ติ. สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปเทสุเยว (ปาจิ. ๔๙-๕๑) สาวเสสํ กตฺวาปิ ปฺาปนํ สมฺภวติ, น โลกวชฺเชสูติ อาห อิทฺหีติอาทิ. สหเสยฺยสิกฺขาปเท หิ (ปาจิ. ๔๙ อาทโย) กิฺจาปิ เยภุยฺยจฺฉนฺเน เยภุยฺยปริจฺฉนฺเน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต ปาจิตฺติยํ ทสฺสิตํ, อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ตถาปิ สาวเสสตฺตา ปฺตฺติยา เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทีสุปิ อฏฺกถายํ ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. อิธ ปน นิรวเสสตฺตา ปฺตฺติยา ภควตา ทสฺสิตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺตโต เหฏฺา ปาราชิกกฺเขตฺตํ นตฺถิ, ถุลฺลจฺจยาทิเมว ตตฺถ ลพฺภติ.
อุปติสฺสตฺเถเรน วุตฺตสฺเสว วินิจฺฉยสฺส อฺมฺปิ อุปตฺถมฺภการณํ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. นิมิตฺเต อปฺปมตฺติกาปิ มํสราชิ สเจ อวสิฏฺา ¶ โหติ, ตํ เยภุยฺยกฺขายิตเมว โหติ, ตโต ปรํ ปน สพฺพโส ขายิเต นิมิตฺเต ทุกฺกฏเมวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ. เกจิ ปเนตฺถ วจฺจมคฺคาทึ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ‘‘เตสุ ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ยาว ตติยโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นาม, ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถิ, ยาว จตุตฺถโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ, ตมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถุเยวา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพนฺติ มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนฺติอาทิวจนโต วุตฺตํ. ยทิปิ นิมิตฺตนฺติอาทิ ชีวมานกสรีรเมว สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺเสว อธิกตตฺตา. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) ‘‘ชีวมานกสรีรสฺส วุตฺตปฺปกาเร มคฺเค สเจปิ ตจาทีนิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส ฉินฺเน’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. สพฺพโส ขายิตนฺติ นิมิตฺตมํสํ สพฺพํ ฉินฺนนฺติ อตฺโถ. นิมิตฺตสณฺานนฺติ ฉินฺนมํสสฺส อนฺโต ยาว มุตฺตวตฺถิโกสา ฉิทฺทากาโร อพฺภนฺตรฉวิจมฺมมตฺโต อิตฺถินิมิตฺตากาโร, เตนาห ‘‘ปเวสนํ ชายตี’’ติ. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวาติ ปเวสนารหฉิทฺทากาเรน ิตอพฺภนฺตรมํสาทึ อนวเสเสตฺวา. เอเตน ยาว ปเวโส ลพฺภติ, ตาว มคฺโคเยวาติ ทสฺเสติ. นิมิตฺตโต ปติตาย มํสเปสิยาติ อิทํ นิมิตฺตสณฺานวิรหิตํ อพฺภนฺตรมํสขณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิมิตฺตสณฺานํ อโกเปตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา อุทฺธฏมํสเปสิยา ปน มตสรีเร เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺเต วิย อุปกฺกมนฺตสฺส ปาราชิกเมว.
เอวํ ชีวมานกมนุสฺสสรีเร ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มตสรีเร ทสฺเสตุํ มตสรีเร ปนาติอาทิมาห. วตฺถิโกเสสูติ ปุริสานํ องฺคชาตโกสจมฺเมสุ. ‘‘นวทฺวาโร มหาวโณ’’ติอาทิ (มิ. ป. ๒.๖.๑) วจนโต มนุสฺสานํ อกฺขินาสาทีนิ วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตานีติ เตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เอวํ มนุสฺสานํ มตสรีเรปิ, เตนาห มเต อลฺลสรีเรติอาทิ. ตตฺถ อลฺลสรีเรติ อกุถิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาราชิกกฺเขตฺเตติ เยภุยฺเยน อกฺขายิตมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตติ อุปฑฺฒกฺขายิตาทิมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ อกฺขินาสาทิถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตสุ เยภุยฺเยน อกฺขายิเตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ, อุปฑฺฒกฺขายิตาทีสุ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสมฺปีติ ยถาวุตฺตหตฺถิอาทีหิ อฺเสํ ติรจฺฉานานํ ¶ สงฺคณฺหนตฺถํ วุตฺตํ. ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ ปน อฏฺกถาปฺปมาเณน คเหตพฺพํ, ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) หิ สามฺโต วุตฺตํ, น ปน มนุสฺสานนฺติ วิเสเสตฺวา. ยทิ หิ มนุสฺสานฺเว วเณสุ ถุลฺลจฺจยํ สิยา, หตฺถิอสฺสาทีนํ นาสวตฺถิโกเสสุปิ ปฏงฺคมุขมณฺฑูกสฺส มุขสณฺาเนปิ จ วณสงฺเขปโต ถุลฺลจฺจยํ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ. ตสฺมา อฏฺกถาจริยา เอเวตฺถ ปมาณํ. มตานํ ติรจฺฉานคตานนฺติ มตเกน สมฺพนฺโธ.
เมถุนราเคน วตฺถิโกสํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต’’ติ. เมถุนราโค จ นาม กายสํสคฺคราคํ โมจนสฺสาทฺจ มฺุจิตฺวา วิสุํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา ราโค, โส จ ปุริสาทีสุปิ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อปาราชิกกฺเขตฺเต อิตฺถิสรีเรปิ อุปกฺกมนฺตสฺส อสุจิมฺหิ มุตฺเตปิ สงฺฆาทิเสโส น โหติ, เขตฺตานุรูปํ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. อปฺปเวเสนฺโตติ อิมินา ตีสุ มคฺเคสุ ปเวสนาธิปฺปาเย อสติปิ เมถุนราเคน พหิ ฆฏฺฏนํ สมฺภวตีติ ทสฺเสติ, เตเนว ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อิตรถา ปเวสนาธิปฺปาเยน ¶ พหิ ฉุปนฺตสฺส เมถุนสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว วตฺตพฺพํ สิยา. นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทฺจ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมสฺส จมฺมกฺขนฺธเก อาคตสฺส สุตฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ จ เกสฺจิ อฺถาปิ อตฺถวิกปฺปสฺส พีชํ ทสฺเสนฺโต มหาอฏฺกถายํ ปนาติอาทิมาห. มุเขเนว ฉุปนํ สนฺธายาติ โอฏฺชิวฺหาทิมุขาวยเวน ฉุปนํ สนฺธาย. โอฬาริกตฺตาติ อชฺฌาจารสฺส ถุลฺลตฺตา. ตํ สนฺธายภาสิตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตสุตฺตํ. สุตฺตฺหิ อชฺฌาจารํ สนฺธาย ปฏิจฺจ วุตฺตตฺตา ‘‘สนฺธายภาสิต’’นฺติ วุจฺจติ. สุฏฺุสลฺลกฺเขตฺวาติ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตานํ องฺคชาตมุเขเนว นิมิตฺตฉุปนสฺส สมฺภวํ เมถุนราคีนฺจ องฺคชาเตน ฉุปนสฺเสว อนุรูปตฺจ สุตฺเต จ ‘‘มุเขนา’’ติ อวุตฺตตฺจ อฺฺจ นยํ ยถาพลํ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสโสติ มนุสฺสิตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปสฺสาวมคฺคนฺติ อิทํ จมฺมกฺขนฺธเก นิทานวเสน วุตฺตํ. อิตรมคฺคทฺวยํ ปน นิมิตฺตมุเขน ฉุปนฺตสฺส วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยเมว. วุตฺตนเยเนวาติ เมถุนราเคเนว. นิมิตฺตมุเขน ปน วินา เมถุนราเคน มนุสฺสิตฺถิยา วา ติรจฺฉานคติตฺถิยา วา ปสฺสาวมคฺคํ ¶ ปกติมุเขน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว ปกติมุเขน ปกติมุขฉุปเน วิย, อิตรถา ตตฺถาปิ ถุลฺลจฺจเยน ภวิตพฺพํ, ตฺจ น ยุตฺตํ ขนฺธกสุตฺเตปิ ตถา อวุตฺตตฺตา. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ นิมิตฺตมุเขน วา ปกติมุขาทึ อิตรกาเยน วา กายสํสคฺคราเคน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
เอตฺถ จ กายสํสคฺคราเคน พหินิมิตฺเต อุปกฺกมโต อชานนฺตสฺเสว องฺคชาตํ ยทิ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ฉุปติ, ตตฺถ กึ โหตีติ? เกจิ ตาว ‘‘เมถุนราคสฺส อภาวา มนุสฺสิตฺถิยา สงฺฆาทิเสโส, เสเสสุ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานี’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ปเวสนกฺขเณ ผสฺสสฺส สาทิยนสมฺภวโต พลกฺกาเรน อุปกฺกมนกฺขเณ วิย ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, อิทเมว ยุตฺตตรํ. มคฺคตฺตยโต หิ อฺสฺมึ ปเทเสเยว กายสํสคฺคาทิราคเภทโต อาปตฺติเภโท ลพฺภติ, น มคฺคตฺตเย. ตตฺถ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ผสฺสสฺส สาทิยนกฺขเณ ปาราชิกเมว, เตเนว ปโรปกฺกเมน ปเวสนาทีสุ ราคเภทํ อนุทฺธริตฺวา สาทิยนมตฺเตน ปาราชิกํ วุตฺตํ.
สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๑-๒. ปฏิปนฺนกสฺสาติ อารทฺธวิปสฺสกสฺส. อุปาทินฺนกนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปาทินฺนเกน ผุสตีติ อุปาทินฺนกสรีเรน ผุสียตีติ กมฺมสาธเนน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอวํ ¶ กโรนฺโต ภิกฺขุ กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน น ผุสตีติ อตฺโถ. เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺตีติ เลสํ เปสฺสนฺติ, ปริกปฺเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวาติ สนฺถตาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา. สนฺถตายาติ สมุทาเย เอกเทสโวหาโร ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺทนฺติอาทีสุ วิย. ยถา หิ ปฏสฺส เอกเทโสว วตฺถโต ทฑฺโฒติ วุจฺจติ, ตํ เอกเทสโวหารํ สมุทาเย ปเฏ อุปจารโต อาโรเปตฺวา ปุน ตํ สมุทายํ ทฑฺฒปฺปเทสสงฺขาตฉิทฺทสมฺพนฺธีภาเวน ‘‘ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺท’’นฺติ โวหรนฺติ, เอวมิธาปิ อิตฺถิยา มคฺคปฺปเทสโวหารํ สมุทายภูตาย อิตฺถิยา อาโรเปตฺวา ปุน ตํ อิตฺถึ สนฺถตมคฺคสมฺพนฺธินึ กตฺวา สนฺถตาย อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคนาติอาทิ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๑-๖๒) ปเนตฺถ ‘‘เอกเทเส สมุทายโวหาโร’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ¶ ยุตฺตํ อวยวโวหาเรน สมุทายสฺเสว ปตียมานตฺตา. อิตรถา หิ สนฺถตาย วจฺจมคฺเคนาติ อิตฺถิลิงฺคตา มคฺคสมฺพนฺธิตา จ น สิยา, เอกเทเส สมุทาโยปจารสฺส ปน เอกเทโสว อตฺโถ สาขาย ฉิชฺชมานาย รุกฺโข ฉิชฺชตีติอาทีสุ วิย.
วตฺถาทีนิ มคฺคสฺส อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว เวนํ สนฺธาย ‘‘ปลิเวเตฺวา’’ติ วุตฺตํ. สมุทาเย อวยวูปจาเรเนว ภิกฺขุปิ สนฺถโต นามาติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺตเก ปวิฏฺเติ ติลพีชมตฺเต ปวิฏฺเ. อกฺขินาสาทีนํ สนฺถตตฺเตปิ ยถาวตฺถุกเมวาติ อาห ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติอาทิ. ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส อนฺโต ขาณุํ ปเวเสตฺวา สมตลํ, อติริตฺตํ วา ิตํ ขาณุํ สเจ ฆฏฺเฏติ, ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ปเวสาภาวโต. สเจ ปน อีสกํ อนฺโต อลฺโลกาเส ปเวเสตฺวา ิตํ อนุปาทินฺนเมว ขาณุสีสํ องฺคชาเตน ฉุปติ, ปาราชิกเมว. ตสฺส ตลนฺติ เวฬุนฬาทิกสฺส อนฺโตตลํ. พหิทฺธา ขาณุเกติ อนฺโต ปเวสิตเวฬุปพฺพาทิกสฺส พหิ นิกฺขนฺตสีสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเตติอาทีสุ ยถา อิตฺถิยา ปสฺสาวมคฺเค ขาณุํ กตฺวา ฆฏฺฏนาทิกํ วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ วจฺจมคฺคาทีสุปิ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๕. เกราฏิกาติ วฺจกา. ปมํ อิตฺถิธุตฺตเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรธุตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา’’ติ วุตฺตํ.
อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา
๖๖. ปฏิฺาตกรณํ ¶ นตฺถิ เสเวตุกามตา มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺตีติ ทฺวินฺนํ องฺคานํ สิทฺธตฺตา. ทูสิตสฺส ปน มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ เอวเมกํ องฺคํ สิทฺธํ, เสเวตุกามตาสงฺขาตํ สาทิยนํ อสิทฺธํ. ตสฺมา โส ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สาทิยิ’’นฺติ วุตฺตปฏิฺาย นาเสตพฺโพ. ตตฺเถวาติ เวสาลิยํ มหาวเน เอว. สพฺพงฺคคตนฺติ สพฺพกายคตํ. ‘‘โลหิตํ วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เกสาทีนํ วินิมุตฺตฏฺาเน สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหตีติ ¶ ยสฺส ปิตฺตโกสโต ปิตฺตํ จลิตฺวา สพฺพทา พหิ นิกฺขนฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส ปน ปิตฺตํ จลิตฺวา ปิตฺตโกเสเยว ิตํ โหติ, กทาจิ วา นิกฺขนฺตํ ปุน นิกฺขมติ, โสปิ อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภติ เภสชฺเชน จ ปกติอาโรคฺยํ ปฏิลภตีติ เวทิตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
ปกิณฺณกนฺติ โวมิสฺสกนยํ. สมุฏฺานนฺติ อุปฺปตฺติการณํ. กิริยาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ อกิริยาทีนมฺปิ สงฺคหโต. เวทนาย สห กุสลฺจ เวทิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ สงฺคาหกวเสน ‘‘กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺต’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ. สมุฏฺานาทโย หิ อาปตฺติยา เอว โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส. ตํตํสิกฺขาปทสฺส นิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ ปน สิกฺขาปทสีเสน สมุฏฺานาทีนํ กถนํ. เอวฺหิ อาปตฺติวิเสโส ปฺายติ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สพฺพาปตฺติสาธารณตฺตา, อิเมสุ ปน ฉสุ สมุฏฺาเนสุ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิ. สมาสโต ตํ อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ ฉสมุฏฺานํ. เอวํ เสเสสุปิ.
อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทิ สมุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานเอกสมุฏฺานานํ ทสฺสนํ. เตรส หิ สมุฏฺานสีสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ สมนุภาสนสมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมอุฏฺานนฺติ. ตตฺถ อตฺถิ ฉสมุฏฺานนฺติ อิมินา สฺจริตฺตสมุฏฺานํ วุตฺตํ, ปฺจสมุฏฺานสฺส อภาวโต ¶ ‘‘อตฺถิ ปฺจสมุฏฺาน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อตฺถิ จตุสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิมินา จ อทฺธานสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ ¶ , อิทํ อทฺธานสมุฏฺานํ. ยํ ปน ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อนนฺุาตสมุฏฺานํ. อตฺถิ ติสมุฏฺานนฺติ อิมินา อทินฺนาทานสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. ยํ ปน อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทินา ปน อวเสสสมอุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานํ เอกสมุฏฺานฺจ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ หิ ยํ ตติยฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ยํ ปน ปมจตุตฺเถหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ยํ ฉฏฺเเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ, ‘‘สมนุภาสนสมอุฏฺาน’’นฺติปิ ตสฺเสว นามํ. อิติ สรูเปน อฏฺ อาปตฺติสีสานิ ทสฺสิตานิ. อาทิสทฺเทน ปเนตฺถ อวเสสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานปทโสธมฺมเถยฺยสตฺถธมฺมเทสนาโจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานานิ ปฺจปิ สมุฏฺานสีสานิ สงฺคหิตานิ. ตตฺถ ยํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อิทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ยํ ทุติยปฺจเมหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. ยํ จตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ยํ ปฺจเมเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธมฺมเทสนาสมอุฏฺานํ. ยํ ปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ. เอตฺถ จ ปจฺฉิเมสุ ตีสุ สจิตฺตกสมุฏฺาเนสุ เอเกกสมุฏฺานวเสน เอกสมุฏฺานานิ ติวิธานิ. ทฺวิสมุฏฺานานิ ปน ปมจตุตฺเถหิ วา ทุติยปฺจเมหิ วา ตติยฉฏฺเหิ วา จตุตฺถฉฏฺเหิ วา ปฺจมฉฏฺเหิ วา สมุฏฺานวเสน ปฺจวิธานีติ เวทิตพฺพานิ.
เอวํ สมุฏฺานวเสน สพฺพสิกฺขาปทานิ เตรสธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิริยาวเสน ปฺจธา ทสฺเสตุํ ตตฺราปีติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจีติ สิกฺขาปทํ. กิริยโตติ ปถวีขณนาทิ (ปาจิ. ๘๔-๘๕) วิย กายวจีวิฺตฺติชนิตกมฺมโต. อกิริยโตติ ปมกถินาทิ (ปารา. ๔๕๙ อาทโย) วิย กตฺตพฺพสฺส อกรเณเนว. กิริยากิริยโตติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๐๘ อาทโย) วิย. สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต รูปิยปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๘๒ อาทโย) วิย, สิยา กิริยโต, สิยา กิริยากิริยโต กุฏิการาทิ (ปารา. ๓๔๒) วิย. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน วิโมกฺโข อสฺสาติ สฺาวิโมกฺขนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. จิตฺตงฺคํ ลภติ สจิตฺตกสมุฏฺาเนเหว ¶ สมุฏฺหนโต. อิตรนฺติ ยสฺส จิตฺตงฺคนิยโม นตฺถิ, ตํ, อนาปตฺติมุเขน เจตํ สฺาทุกํ วุตฺตํ, อาปตฺติมุเขน สจิตฺตกทุกนฺติ เอตฺตกเมว วิเสโส, อตฺถโต สมานาว.
กายวจีทฺวาเรหิ ¶ อาปชฺชิตพฺพมฺปิ กายกมฺเม วา วจีกมฺเม วา สงฺคยฺหติ. ตตฺถ พาหุลฺลวุตฺติโต อทินฺนาทานมุสาวาทาทโย วิยาติ อตฺถิ สิกฺขาปทํ กายกมฺมนฺติอาทินา กายกมฺมํ วจีกมฺมฺจาติ ทุกเมว วุตฺตํ, วิภาคโต ปน กายวจีกมฺเมน สทฺธึ ติกเมว โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺตี’’ติ. ตโตเยว อิธาปิ อทินฺนาทานาทีสุ (ปารา. ๘๙) กายกมฺมวจีกมฺมนฺติ ตทุภยวเสน ทสฺสิตํ. อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลนฺติอาทิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตวเสน การิเย การโณปจาเรน วุตฺตํ, น ปน อาปตฺติยา กุสลาทิปรมตฺถธมฺมตาวเสน อาปตฺติยา สมฺมุติสภาวตฺตา. กุสลากุสลาทิปรมตฺถธมฺเม อุปาทาย หิ ภควตา อาปตฺติสมฺมุติ ปฺตฺตา. วกฺขติ หิ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสล’’นฺติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกณฺณกกถา). น หิ ภควโต อาณายตฺตา อาปตฺติ กุสลาทิปรมตฺถสภาวา โหติ อนุปสมฺปนฺนานํ อาทิกมฺมิกานฺจ อาปตฺติปฺปสงฺคโต, ตสฺสา เทสนาทีหิ วิสุทฺธิอภาวปฺปสงฺคโต จ. น หิ การณพเลน อุปฺปชฺชมานา กุสลาทิสภาวา อาปตฺติ อนุปสมฺปนฺนาทีสุ นิวตฺตติ, อุปฺปนฺนาย จ ตสฺสา เกนจิ วินาโส น สมฺภวติ. สรสวินาสโต เทสนาทินา จ อาปตฺติ วิคจฺฉตีติ วจนมตฺถิ, น ปน เตน อกุสลาทิ วิคจฺฉติ. ปิตุฆาตาทิกมฺเมน หิ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขุภาวปริจฺจาเคน ปาราชิกาปตฺติ วิคจฺฉติ, น ปาณาติปาตาทิอกุสลํ อานนฺตริยาทิภาวโต. ตสฺมา ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคหาทิทสอตฺถวเส (ปารา. ๓๙; ปริ. ๒) ปฏิจฺจ ภควตา ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชมาเน กุสลากุสลาทินามรูปธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติเยว อาปตฺติ, สา จ ยถาวิธิปฏิกมฺมกรเณน วิคตา นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ, เตนาห ทฺวตฺตึเสว หิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตานีติอาทิ. อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺเตเนว เหตฺถ กุสลาทีนํ อาปตฺติโต เภโท สิทฺโธ. น ¶ หิ ตํสมุฏฺิตสฺส ตโต อเภโท ยุตฺโต สมุฏฺานสมุฏฺิตเภทพฺยวหารุปจฺเฉทปฺปสงฺคโต. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) ปน อาปตฺติยา ปรมตฺถโต กุสลตฺตเมว น สมฺภวติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วจนโต, ‘‘อกุสลตฺตํ ปน อพฺยากตตฺตฺจ อาปตฺติยา สมฺภวตี’’ติ สฺาย กุสลจิตฺตสมุฏฺานกฺขเณปิ รูปาพฺยากตตฺตํ อาปตฺติยา สมตฺเถตุํ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ, อิตเรหิ อิตรนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกิณฺณกกถา) อิมํ อฏฺกถาวจนํ นิสฺสาย วุตฺตํ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ ยํ สิกฺขาปทสีเส คหิตํ อาปตฺตึ กุสลจิตฺตสมงฺคี อาปชฺชติ, อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสติ. กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต สวิฺตฺติกํ ¶ อวิฺตฺติกํ วา สิกฺขาปทวีติกฺกมาการปฺปวตฺตํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ. ตตฺถ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ อิมํ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ อิตเรหิ อิตรนฺติ วจเนน ‘‘ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชหิ, ตํ อกุสลํ, ยํ อพฺยากตจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อพฺยากต’’นฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อิตเรหีติ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินาปิ วจเนน อิตรนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน อกุสลภาโว อพฺยากตภาโว จ ปริยายโต ทสฺเสตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อวตฺวา กุสลปกฺเข เอว กถนสฺส การณํ น ปสฺสาม. ยํ ปน อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลนฺติอาทิวจนํ การณตฺเตน วุตฺตํ, ตมฺปิ อการณํ ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อกุสลนฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตนเยน อกุสลาทิภาวสฺส ปริยายเทสิตตฺตา, อาปตฺติยา กุสลโวหารสฺส อยุตฺตตาย นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ วุตฺตตฺตา จ. อาปตฺติยา หิ กุสลจิตฺตสมุฏฺิตตฺเตปิ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตภาเวน สาวชฺชธมฺมตฺตา การณูปจาเรนาปิ อนวชฺชกุสลโวหาโร น ยุตฺโต สาวชฺชานวชฺชานํ อฺมฺวิรุทฺธตฺตา. ยถา อากาสาทิสมฺมุติสจฺจานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร วิย ชาติชราภงฺคานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร อนวฏฺานาทิเทสโต อยุตฺโต, เอวมิธาปิ กุสลโวหาโร อยุตฺโต วิรุทฺธตฺตา. อกุสลาทิโวหาโร ปน ยุตฺโต ¶ , การณูปจาเรน ปน อกุสลาทิสภาวตา ยถาวุตฺตโทสานติวตฺตนโต. สุตฺตสฺสาปิ หิ ยถา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ วิโรโธ น โหติ, ตเถว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต…เป… รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ, ตํ อยุตฺตเมว รูปกฺขนฺธสฺส ขณิกตาย อาปตฺติยาปิ เทสนาทิปฏิกมฺมํ วินาว ปฏิปสฺสทฺธิปฺปสงฺคโต. รูปปรมฺปรา อาปตฺตีติ เจ? ตนฺน, ปฏิกมฺเมนาปิ อวิคมปฺปสงฺคโต. น หิ รูปสนฺตติเทสนาทีหิ วิคจฺฉติ สการณายตฺตตฺตา, อิติ สพฺพถา อาปตฺติยา ปรมตฺถตา อยุตฺตา, เอเตเนว ยํ วุตฺตํ ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิโรธสมาปนฺนสฺส สหเสยฺยวเสน ตถาการปฺปวตฺตรูปธมฺมสฺเสว อาปตฺติภาวโต’’ติอาทิ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน นิโรธสมาปนฺนานํ รูปธมฺมเมว ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา อาปตฺติ อจิตฺตา อเวทนา, อฺตฺถ ปน สจิตฺตา สเวทนาว, สพฺพตฺถาปิ ปฺตฺติสภาวาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ อาปตฺติยา อกุสลาทิสภาวํ ปรปริกปฺปิตํ นิเสเธตุํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติวจนโต…เป… ปณฺณตฺติมตฺตเมว อาปตฺตาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ สยเมว วกฺขติ, ตสฺมา ‘‘ตํตํกุสลาทิธมฺมสมุปฺปตฺติยา ภควตา ปฺตฺตา อาปตฺติสมฺมุติ สมุฏฺิตา’’ติ จ, ‘‘ยาว ปฏิปฺปสฺสทฺธิการณา ติฏฺตี’’ติ จ, ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิการเณหิ ¶ วินสฺสตี’’ติ จ โวหรียติ. อาปตฺติยา จ สมฺมุติสภาวตฺเตปิ หิ สฺจิจฺจ ตํ อาปชฺชนฺตสฺส, ปฏิกิริยํ อกโรนฺตสฺส จ อนาทเร อกุสลราสิ เจว สคฺคมคฺคนฺตราโย จ โหตีติ ลชฺชิโน ยถาวิธึ นาติกฺกมนฺติ, อนติกฺกมนปฺปจฺจยา จ เตสํ อนนฺตปฺปเภทา สีลาทโย ธมฺมา ปริวฑฺฒนฺตีติ คเหตพฺพํ. ทฺวตฺตึเสวาติ นิยโม อาปตฺตินิมิตฺตานํ กายวจีวิฺตฺตีนํ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต กโต, น ปน สพฺพาปตฺตีนมฺปิ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตานฺหิ ฌานนิโรธสมาปนฺนานฺจ อวิฺตฺติชนเกหิ วิปากอปฺปนาจิตฺเตหิ เจว รูปธมฺเมหิ จ สหเสยฺยาทิอาปตฺติ สมฺภวติ.
ทสาติ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุทฺวเยน สห อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา อิทฺธิวิกุพฺพนาทีสุ อภิฺานํ อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจิ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตเมว, กิฺจิ ¶ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวิจิตฺตํ, กิฺจิ ติจิตฺตนฺติ อยเมว เภโท ลพฺภติ, นาฺโติ เวทิตพฺพํ. กิริยาสมุฏฺานนฺติ ปรูปกฺกเมน ชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ สาทิยนจิตฺตสงฺขาเต เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน เตน จิตฺเตน สมุปฺปาทิตเมว โหตีติ วุตฺตํ อิตรถา ‘‘สิยา กิริยสมุฏฺานํ, สิยา อกิริยสมุฏฺาน’’นฺติ วตฺตพฺพโต.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘กิริยสมุฏฺานนฺติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ปรูปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส อกิริยสมุฏฺานภาวโต’’ติอาทิ, ตํ น คเหตพฺพํ ปมปาราชิกสฺส อกิริยสมุฏฺานตาย ปาฬิอฏฺกถาสุ อวุตฺตตฺตา. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา; ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) หิ วุตฺตํ. กถฺหิ นาม ปรูปกฺกเมน เมถุนํ สาทิยนฺโต อตฺตโน องฺคชาตาทิกายจลนํ น สาทิเยยฺย, สาทิยนจิตฺตานุคุณเมว ปน สกลสรีเร จิตฺตชรูปสมุปฺปตฺติยา วิฺตฺติปิ สุขุมา สมุปฺปนฺนา เอว โหตีติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห กายทฺวาเรเนว สมุฏฺานโต กายกมฺมนฺติอาทิ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหตีติ กายวิฺตฺติ เอว กายกมฺมภาเว การณํ, น จิตฺตํ. ตํ ปเนตฺถ กายสงฺขาตาย วิฺตฺติยาเยว องฺคมตฺตํ, น กายกมฺมภาวสฺส, อิตรถา เมถุนสฺส ‘‘มโนกมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพโต, เตนาห ‘‘น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภตี’’ติ. กมฺมภาโวติ กายกมฺมภาโว. สพฺพฺเจตนฺติ เอตํ สมุฏฺานาทิกํ. สิกฺขาปทสีเสนาติ ตํตํสิกฺขาปทนิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ สิกฺขาปทมุเขน.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
อิทํ ¶ กินฺติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. อิมาติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. วินีตานิ อาปตฺตึ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโนติอาทินา (ปารา. ๖๗) ภควตา วินิจฺฉินิตานิ วตฺถูนิ วินีตวตฺถูนิ. ตํ ตํ วตฺถุํ อุทฺธริตฺวา ทานโต ทสฺสนโต อุทฺทานภูตา คาถา อุทฺทานคาถา, สงฺคหคาถา, อุทฺเทสคาถาติ วุตฺตํ โหติ. วตฺถุ คาถาติ เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขูติอาทิกา วินีตวตฺถุปาฬิเยว เตสํ เตสํ วินีตวตฺถูนํ คนฺถนโต ‘‘วตฺถุคาถา’’ติ วุตฺตา ¶ , น ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน. อุทฺทานคาถานํ วตฺถุ วตฺถุคาถาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาติ วินีตวตฺถูสุ. ทุติยาทีนนฺติ ทุติยปาราชิกาทีนํ. ยํ ปสฺสิตฺวา จิตฺตการาทโย สิปฺปิกา จิตฺตกมฺมาทีนิ สิกฺขนฺติ, ตํ ปฏิจฺฉนฺนกรูปํ, ปฏิมารูปนฺติ อตฺโถ.
๖๗. ปุริมานิ ทฺเวติ มกฺกฏีวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนิ ทฺเว. ตานิปิ ภควตา วินีตภาเวน ปุน วินีตวตฺถูสุ ปกฺขิตฺตานิ. ตตฺถ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสีติอาทิ ปน กิฺจาปิ เตสํ ปมํ กุกฺกุจฺจํ น อุปฺปนฺนํ, ภิกฺขูหิ ปน ภควตา จ ครหิตฺวา วุตฺตวจนํ สนฺธาย ปจฺฉา อุปฺปนฺนตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติอาทิ จ ภิกฺขูหิ อานนฺทตฺเถเรน จ ปมํ ภควโต อาโรจิเต, ภควตา จ เตสํ ปาราชิกตฺเต ปกาสิเต ภีตา เต สยมฺปิ คนฺตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปจฺฉา อาโรเจนฺติ เอว. ‘‘สจฺจํ กิร ตฺว’’นฺติอาทินา ภควตา ปุฏฺา ปน ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฏิชานนวเสนาปิ อาโรเจนฺติ. ภควาปิ อาปตฺตึ ตฺวนฺติอาทินา เตสํ ปาราชิกตฺตํ วินิจฺฉิโนติ เอว. อนุปฺตฺติกถายํ ปน ตํ สพฺพํ อวตฺวา อนุปฺตฺติยา อนุคุณเมว กิฺจิมตฺตํ วุตฺตํ, อิธาปิ เตสํ วตฺถูนํ ภควตา วินีตภาวทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เกจิ อิมํ อธิปฺปายํ อมนสิกตฺวา ‘‘อฺาเนเวตานิ วตฺถูนี’’ติ วทนฺติ. กุเสติ กุสติณานิ. เกเสหีติ มนุสฺสเกเสหิ.
๖๘. วณฺณโปกฺขรตายาติ เอตฺถ โปกฺขลํ นาม สมิทฺธํ สุนฺทรฺจ, ตสฺส ภาโว ‘‘โปกฺขรตา’’ติ ร-การํ กตฺวา วุตฺโต, สมิทฺธตา สุนฺทรตาติ อตฺโถ. ปธํเสสีติ อภิภวิ. น ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ.
๖๙. เอวรูปา ปริวตฺตลิงฺคา ภิกฺขุนิโย อตฺถโต เอกโต อุปสมฺปนฺนาปิ อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาสุเยว สงฺคยฺหนฺติ ภิกฺขูปสมฺปทาย ภิกฺขุนีอุปสมฺปทโตปิ อุกฺกฏฺตฺตา. ปาฬิยํ ‘‘ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ’’นฺติ อุปโยควจนํ กตฺวา อนุชานามีติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิตฺถิลิงฺคนฺติ ¶ ถนาทิกํ อิตฺถิสณฺานํ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปุริส…เป… อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺน’’นฺติ. ตํ นานนฺตริกโต ปน ‘‘ปุริสินฺทฺริยมฺปิ อนฺตรหิตํ, อิตฺถินฺทฺริยฺจ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตเมว โหติ, เอวํ อุปริปิ ลิงฺคคฺคหเณเนว อิตฺถินฺทฺริยาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตาติ อาปตฺติโย, ตสฺส วุฏฺาตุนฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺาเปตุนฺติ ¶ อตฺโถ. กถนฺติ อาห ตา สพฺพาปิ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพนฺติอาทิ. เตน ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ ครุกาปตฺติยา ปกฺขมานตฺตจรณาทิกํ วิธึ ทสฺเสติ.
โอกฺกนฺติกวินิจฺฉโยติ ปสงฺคานุคุณํ โอตรณกวินิจฺฉโย. พลวอกุสเลนาติ ปรทาริกกมฺมาทินา. ทุพฺพลกุสเลนาติ ยถาวุตฺตพลวากุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน กุสเลน. ทุพฺพลอกุสเลนาติ ปุริสภาวุปฺปาทกพฺรหฺมจริยาทิพลวกุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน ปรทาริกาทิอกุสเลน. สุคติยํ ภาวทฺวยสฺส กุสลกมฺมชตฺตา อกุสเลเนว วินาโส กุสเลเนว อุปฺปตฺตีติ อาห อุภยมฺปีติอาทิ. ทุคฺคติยํ ปน อกุสเลเนว อุภินฺนมฺปิ อุปฺปตฺติ จ วินาโส จ, ตตฺถ ทุพฺพลพลวภาโวว วิเสโส.
‘‘เอหิ มยํ คมิสฺสามา’’ติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานคมเน ปาจิตฺติยาปตฺติปริหารตฺถํ วุตฺตํ ‘‘สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา’’ติ. เตน เอกคามกฺเขตฺเตปิ พหิคามโต อนฺตรฆรํ สํวิธาย คมนมฺปิ อาปตฺติกรเมวาติ ทสฺเสติ. ปริโมจนวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห มยนฺติอาทิ. พหิคาเมติ คามนฺตเร. ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา วา โหตีติอาทินา (ปาจิ. ๖๙๓) วุตฺตอนาปตฺติลกฺขณํ อนุโลเมตีติ วุตฺตํ ‘‘คามนฺตร…เป… อนาปตฺตี’’ติ. โกเปตฺวาติ ปริจฺจชิตฺวา. ลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ ลิงฺคปริวตฺตนทุกฺขปีฬิตสฺส สงฺคเหปิ อสติ หีนายาวตฺตนมฺปิ ภเวยฺยาติ ‘‘อาปทาสู’’ติ วุตฺตอนาปตฺติอนุโลเมน วุตฺตํ. ตาย ทุติยิกํ คเหตฺวาว คนฺตพฺพํ. อลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ อลชฺชินีหิ สทฺธึ เอกกมฺมาทิสํวาเส อาปตฺติสมฺภวโต ตา อสนฺตปกฺขํ ภชนฺตีติ วุตฺตํ, อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ ‘‘อลชฺชินีหิ สทฺธึ ปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตโตปิ ทุติยิกํ วินา คามนฺตรคมนาทีสุ อาปตฺติ เอว สิยา สงฺคาหิกตฺตา ตาสํ สงฺคาหิกลชฺชินิคณโต วิย. าติกา น โหนฺติ…เป… วฏฺฏตีติ วทนฺตีติ อิมินา อฏฺกถาสุ อนาคตภาวํ ทีเปติ. ตตฺถาปิ วิสฺสาสิกาติกภิกฺขุนิโย วินา ภิกฺขุนิภาเว อรมนฺตสฺส มานปกติกสฺส อาปทาฏฺานสมฺภเวน ตํ วจนํ อปฺปฏิกฺขิตฺตมฺปิ ตทฺเสํ น วฏฺฏติเยวาติ คเหตพฺพํ. ภิกฺขุภาเวปีติ ภิกฺขุกาเลปิ ¶ . ตํ นิสฺสายาติ ตํ นิสฺสยาจริยํ กตฺวา. อุปชฺฌา คเหตพฺพาติ อุปสมฺปทาคหณตฺถํ อุปชฺฌา คเหตพฺพา.
วินยกมฺมนฺติ ¶ วิกปฺปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุน กาตพฺพนฺติ ปุน วิกปฺเปตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ สนฺนิธึ ภิกฺขูหิ, ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ จ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑) วจนโต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สตฺตเม ทิวเสติ อิทฺจ นิสฺสคฺคิยํ อนาปชฺชิตฺวาว ปุนปิ สตฺตาหํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปกตตฺโตติ อปริวตฺตลิงฺโค. รกฺขตีติ ตํ ปฏิคฺคหณวิชหนโต รกฺขติ, อวิภตฺตตาย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย.
สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺยาติ สหตฺเถน ปฏิคฺคเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺย. ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺตีติ ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ปุน อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ.
หีนายาวตฺตเนนาติ เอตฺถ เกจิ ‘‘ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ‘คิหี ภวิสฺสามี’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ตตฺตเกน ภิกฺขุภาวสฺส อวิชหนโต. อฺเ ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุปฏิฺํ ปหาย คิหิลิงฺคภาวูปคมนมฺปิ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว. ปาราชิกํ อาปนฺโน หิ ตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยาว ภิกฺขุปฏิฺโ โหติ, ตาว ภิกฺขุ เอว โหติ ภิกฺขูนเมว ปาราชิกสฺส ปฺตฺตตฺตา. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา หิ โส สํวาสํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, สหเสยฺยาทิอาปตฺติฺจ น ชเนติ, อตฺตานํ โอมสนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺจ ชเนติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘อสุทฺโธ โหติ ปุคฺคโล อฺตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตฺเจ สุทฺธทิฏฺิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อกฺโกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙).
เอเก ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนานํ โทสํ ปฏิชานิตฺวา คิหิลิงฺคคฺคหณํ นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธานํ คจฺฉติ เตนาปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุภาวสฺส วิชหนโต. เตเนว วินยวินิจฺฉยาทีสุ หีนายาวตฺตนํ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธาเนตฺวา ¶ วิสุํ ตํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ภิกฺขุนีนํ วิพฺภมิตุกามตาย คิหิลิงฺคคฺคหณํ อิธ หีนายาวตฺตนํ ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส อภาวโต. ตาสํ ปฏิคฺคหณวิชหนสฺสาปิ สพฺพโส วตฺตพฺพตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อปฺปฏิพาหิยเมว. ตสฺมา ปาราชิกานํ ภิกฺขุนีนฺจ ‘‘อุปฺปพฺพชิสฺสามี’’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ ¶ หีนายาวตฺตนนฺติ คเหตพฺพํ. วิพฺภโมติปิ เอตสฺเสว นามํ, เตเนว ตํ ขุทฺทสิกฺขายํ ‘‘อจฺเฉทวิสฺสชฺชนคาหวิพฺภมา’’ติ อธิฏฺานวิชหเน วิพฺภมนาเมน วุตฺตํ.
อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกสฺเสว ปฏิคฺคหิตวตฺถูนํ พหิ ฉฑฺฑเนน. เกจิ ‘‘ปฏิคฺคหิตวตฺถูสุ สาเปกฺขสฺส ปุเร ปฏิคฺคหิตภาวโต ปริโมจนตฺถํ ตตฺถ ปฏิคฺคหมตฺตสฺส วิสฺสชฺชนมฺปิ อนเปกฺขวิสฺสชฺชนเมว จีวราทิอธิฏฺานปจฺจุทฺธาโร วิยา’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตถาวจนาภาวา. ยเถว หิ จีวราทีสุ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน อธิฏฺานวิชหนํ วตฺวาปิ วิสุํ ปจฺจุทฺธาโร จ วุตฺโต, เอวมิธาปิ วตฺตพฺพํ, ยถา จ จีวราทีสุ กายปฏิพทฺเธสุปิ ปจฺจุทฺธาเรน อธิฏฺานํ วิคจฺฉติ, น เอวมิธ. อิธ ปน ปฏิคฺคหิตวตฺถุสฺมึ อนเปกฺขสฺสาปิ กายโต มุตฺเตเยว ตสฺมึ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ ปฏิคฺคหิตเมวา’’ติ. อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ จ ‘‘อนเปกฺขายา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ อนเปกฺขตํ มฺุจิตฺวา อิธ วิสุํ วิสฺสชฺชนสฺส อภาวา. น เหตฺถ ปจฺจุทฺธาเร วิย วิสฺสชฺชนวิธานมตฺถิ. อปิจ ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชเน สติ ปุเร ปฏิคฺคหิโตปิ อาหาโร ภฺุชิตุกมฺยตาย อุปฺปนฺนาย ปฏิคฺคหณมตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺโพ สิยาติ, ตถา จ สนฺนิธิการกสิกฺขาปเท วุตฺตา สพฺพาปิ วินิจฺฉยเภทา นิรตฺถกา เอว สิยุํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ…เป… ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).
ตตฺถ ปน ‘‘ปฏิคฺคหณํ อนเปกฺขจิตฺเตน วิสฺสชฺเชตฺวา ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, น จ วุตฺตํ. กตฺถจิ อีทิเสสุ จ คณฺิกปตฺตาทีสุ ปฏิคฺคหเณ อเปกฺขา กสฺสจิปิ นตฺเถว ตปฺปหานาย วายามโต, ตถาปิ ตตฺถคตอามิเส ปฏิคฺคหณํ น วิคจฺฉติ. กสฺมา? ภิกฺขุสฺส ปตฺเต ปุน ภฺุชิตุกามตาเปกฺขาย ¶ วิชฺชมานตฺตา ปตฺตคติเก อาหาเรปิ ตสฺสา วตฺตนโต. น หิ ปตฺตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ อาหารํ วิสฺสชฺเชตุํ สกฺกา, นาปิ อาหารํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ ปฏิคฺคหณํ วิสฺสชฺเชตุํ. ตสฺมา วตฺถุโน วิสฺสชฺชนเมว อนเปกฺขวิสฺสชฺชนํ, น ปฏิคฺคหณสฺสาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว สนฺนิธิสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร –
‘‘อนฺโตสตฺตาหํ ¶ อธิฏฺเติ, วิสฺสชฺเชติ, นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสฺสาสํ คณฺหนฺติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ –
เอวํ สพฺพตฺถ วตฺถุวิสฺสชฺชนเมว วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ พาหิรปริโภคาย อธิฏฺานวจนโต วตฺถุํ อวิสฺสชฺเชตฺวาปิ เกวลํ อนชฺโฌหริตุกามตาย สุทฺธจิตฺเตน พาหิรปริโภคตฺถาย นิยมนมฺปิ วิสุํ เอกํ ปฏิคฺคหณวิชหนการณเมว, อิทฺจ สนฺธาย ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ สิยา, สุวุตฺตเมว สิยา, ตถา จ ‘‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคหณวิสฺสชฺชนํ น วตฺตพฺพํ สิยา พาหิรปริโภคาธิฏฺานสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา.
สารตฺถทีปนิยฺหิ (สารตฺถ. ที. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๙) ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกตาย ‘นตฺถิ อิมินา กมฺมํ น ทานิ นํ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ วตฺถูสุ วา, ‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิภฺุชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคหเณ วา อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนา’’ติ เอวํ ปริภฺุชิตุกามสฺเสว ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนมฺปิ ปฏิคฺคหณวิชหนการณํ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปุริมเมว ปน พาหิรปริโภคาธิฏฺานํ คเหตพฺพํ. อิทํ ปน อฏฺกถาสุ ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชนสงฺขาเต วิสฺสชฺเชตี’’ติ วุตฺตปาฬิปทตฺเถ สงฺคเหตฺวา วิสุํ น วุตฺตํ. นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, วิสฺสาสํ วา คณฺหนฺตีติ อิมานิ ปน ปทานิ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตีติ อิมสฺมึ ปเท สงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพํ.
อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณนาติ อนุปสมฺปนฺนานํ พลกฺการาทินา อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. อุปสมฺปนฺนานฺหิ อจฺฉินฺทนวิสฺสาสคฺคาเหสุ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. เอตฺถาติ ภิกฺขุวิหาเร. อุปโรปกาติ เตน โรปิตา รุกฺขคจฺฉา. เตรสสุ ¶ สมฺมุตีสูติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนปฺาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาทิยคาหาปกปตฺตคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุติสงฺขาตาสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ.
ปจฺฉิมิกาย เสนาสนคฺคาเห ปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ อปฺปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ กถินตฺถารสฺส, ตมฺมูลกานํ ปฺจานิสํสานฺจ อภาวสฺส สมานตฺตา ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ เสนาสนคฺคาหปฏิปฺปสฺสทฺธึ อทสฺเสตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพํ สงฺคหเมว ทสฺเสตุํ สเจ ปจฺฉิมิกายาติอาทิ วุตฺตํ. สเจ อกุสลวิปาเก ¶ …เป… ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ อิทํ ปฏิจฺฉนฺนาย สาธารณาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส อสมาทินฺนปริวาสสฺส วา ลิงฺเค ปริวตฺเต ปกฺขมานตฺตํ จรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. สเจ ปนสฺส ปกฺขมานตฺเต อสมาทินฺเน เอว ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพํ. ปริวาสทานํ นตฺถิ ภิกฺขุกาเล อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวโต. สเจ ปน ภิกฺขุกาเลปิ สฺจิจฺจ นาโรเจติ, อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนาว โหติ, อาปตฺติปฏิจฺฉนฺนภาวโต ปริวาโส จ ทาตพฺโพติ วทนฺติ. ปาราชิกํ อาปนฺนานํ อิตฺถิปุริสานํ ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ ปาราชิกตฺตสฺส เอกสฺมึ อตฺตภาเว อวิชหนโต ปุน อุปสมฺปทา น ทาตพฺพาติ คเหตพฺพํ. เตเนว เตสํ สีสจฺฉินฺนปุริสาทโย นิทสฺสิตา.
๗๑. ตเถวาติ มุจฺจตุ วา มา วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อฺเสนฺติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ อีทิเส าเน อสาทิยนํ ทุกฺกรํ โสตาปนฺนาทิอริยานํ ตตฺถ ทุกฺกรตฺตาภาวา. น หิ อริยา ปาราชิกาทิโลกวชฺชาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ.
๗๓. สุผุสิตาติ อุปริมาย ทนฺตปนฺติยา เหฏฺิมา ทนฺตปนฺติ อาหจฺจ ิตา, อวิวฏาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถี’’ติ. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเต สุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ นิมิตฺเตน พหินิมิตฺเต ฉุปนตฺตา วุตฺตํ. พหินิกฺขนฺตทนฺตชิวฺหาสุปิ เอเสว นโย. นิชฺฌามตณฺหิกา นาม โลมกูเปหิ สมุฏฺิตอคฺคิชาลาหิ ทฑฺฒสรีรตาย อติวิย ตสิตรูปา. อาทิ-สทฺเทน ขุปฺปิปาสาสุรา อฏฺิจมฺมาวสิฏฺา ภยานกสรีรา เปติโย สงฺคหิตา. วิสฺํ กตฺวาติ ยถา โส กตมฺปิ ¶ อุปกฺกมํ น ชานาติ, เอวํ กตฺวา. เตน จ วิสฺี อหุตฺวา สาทิยนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อุปหตกายปฺปสาโทติ วาตปิตฺตาทิโทเสหิ กายวิฺาณานุปฺปาทกภาเวน ทูสิตกายปฺปสาโท, น ปน วินฏฺกายปฺปสาโท. สีเส ปตฺเตติ มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทเน ชาเต. อปฺปเวเสตุกามตาย เอว นิมิตฺเตน นิมิตฺตฉุปเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เสเวตุกามสฺส ปน ตตฺถาปิ ทุกฺกฏเมวาติ อาห ‘‘ทุกฺขฏเมว สามนฺต’’นฺติ.
๗๔. ชาติ-สทฺเทน สุมนปุปฺผปริยาเยน ตนฺนิสฺสโย คุมฺโพ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ชาติปุปฺผคุมฺพาน’’นฺติ. เตน จ ชาติยา อุปลกฺขิตํ วนํ ชาติยาวนนฺติ อลุตฺตสมาโสติ ทสฺเสติ. เอกรสนฺติ วีถิจิตฺเตหิ อสมฺมิสฺสํ.
๗๗. อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหีติ อิตฺถีหิ กตอชฺฌาจารวตฺถุสฺมึ. รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารนฺติ รุกฺขสูจิทฺวารํ ¶ กณฺฏกทฺวารํ, เอวเมว วา ปาโ. ตตฺถ ยํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รุกฺขถมฺเภ นิขนิตฺวา ตตฺถ มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา ทฺเว ติสฺโส รุกฺขสูจิโย ปเวเสตฺวา กโรนฺติ, ตํ รุกฺขสูจิทฺวารํ นาม. ปเวสนนิกฺขมนกาเล ปน อปเนตฺวา ถกนกโยคฺเคน กณฺฏกสาขาปฏเลน ยุตฺตํ ทฺวารํ กณฺฏกทฺวารํ นาม. คามทฺวารสฺส ปิธานตฺถํ ปทเรน กณฺฏกสาขาทีหิ วา กตสฺส กวาฏสฺส อุทุกฺขลปาสรหิตตาย เอเกน สํวริตุํ วิวริตฺุจ อสกฺกุเณยฺยสฺส เหฏฺา เอกํ จกฺกํ โยเชนฺติ, เยน ปริวตฺตมาเนน ตํ กวาฏํ สุขถกนํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺกลกยุตฺตทฺวาร’’นฺติ. จกฺกเมว หิ ลาตพฺพฏฺเน สํวรณวิวรณตฺถาย คเหตพฺพฏฺเน จกฺกลกํ, เตน ยุตฺตมฺปิ กวาฏํ จกฺกลกํ นาม, เตน ยุตฺตํ ทฺวารํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ. มหาทฺวาเรสุ ปน ทฺเว ตีณิปิ จกฺกลกานิ โยเชนฺตีติ อาห ผลเกสูติอาทิ. กิฏิกาสูติ เวฬุเปสิกาหิ กณฺฏกสาขาทีหิ จ กตถกนเกสุ. สํสรณกิฏิกทฺวารนฺติ จกฺกลกยนฺเตน สํสรณกิฏิกายุตฺตมหาทฺวารํ. โคปฺเผตฺวาติ อาวุณิตฺวา, รชฺชูหิ คนฺเถตฺวา วา. เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมวาติ เอตฺถ กิลฺชสาณิทฺวารมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ ตคฺคติกตฺตา. อถ ภิกฺขู…เป… นิสินฺนา โหนฺตีติ อิทํ ภิกฺขูนํ สนฺนิหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นิปนฺเนปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติ, นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเต ปน อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติ อสนฺตปกฺเข ิตตฺตา. รโห ¶ นิสชฺชาย วิย ทฺวารสํวรณํ นาม มาตุคามานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ อนฺุาตนฺติ อาห ภิกฺขุนึ วาติอาทิ. นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวาติ อิทํ เหฏฺิมตลสฺส สทฺวารพนฺธตาย วุตฺตํ. จตูสุ ทิสาสุ ปริกฺขิตฺตสฺส กุฏฺฏสฺส เอกาพทฺธตาย ‘‘เอกกุฏฺฏเก’’ติ วุตฺตํ. ปจฺฉิมานํ ภาโรติ ปาฬิยา อาคจฺฉนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเตติ เอตฺถ ปริกฺเขปสฺส อุพฺเพธโต ปมาณํ สหเสยฺยปฺปโหนเก วุตฺตสทิสเมว.
มหาปริเวณนฺติ มหนฺตํ องฺคณํ, เตน จ พหุชนสฺจารํ ทสฺเสติ, เตนาห มหาโพธีติอาทิ. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหติ, อนาปตฺติ อนาปตฺติเขตฺตภูตาย รตฺติยา สุทฺธจิตฺเตน นิปนฺนตฺตา. ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ อาปตฺตีติ อรุเณ อุคฺคเต ปพุชฺฌิตฺวา อรุณุคฺคมนํ ตฺวา วา อตฺวา วา อนุฏฺหิตฺวา สยิตสนฺตาเนน สุปติ อุฏฺหิตฺวา กตฺตพฺพสฺส ทฺวารสํวรณาทิโน อกตตฺตา อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหติ อนาปตฺติเขตฺเต กตนิปชฺชนกิริยาย อนงฺคตฺตา. อยฺหิ อาปตฺติ อีทิเส าเน อกิริยา, ทิวา อสํวริตฺวา นิปชฺชนกฺขเณ กิริยา จ อจิตฺตกา จาติ เวทิตพฺพา. ปุรารุณา ปพุชฺฌิตฺวาปิ ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตสฺสาปิ ปุริมนเยน อาปตฺติเยว. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามีติ…เป… อาปตฺติเยวาติ เอตฺถ กทา ตสฺส อาปตฺตีติ? วุจฺจเต – น ตาว รตฺติยํ ‘‘ทิวา อาปชฺชติ โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺตา. ‘‘อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปน ทิวาสยนทุกฺกฏเมว น ¶ โหติ อนาทริยทุกฺกฏตฺตา. เอวํ อรุณุคฺคมเน ปน อจิตฺตกํ อกิริยสมุฏฺานํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. โส สเจ ทฺวารํ สํวริตฺวา ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิปชฺชติ, ทฺวาเร จ อฺเหิ อรุณุคฺคมนกาเล วิวเฏปิ ตสฺส อนาปตฺติเยว ทฺวารปิทหนสฺส รตฺติทิวาภาเคสุ วิเสสาภาวา. อาปตฺติอาปชฺชนสฺเสว กาลวิเสโส อิจฺฉิตพฺโพ, น ตปฺปริหารสฺสาติ คเหตพฺพํ, ‘‘ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) หิ วุตฺตํ. ทิวา สํวริตฺวา นิปนฺนสฺส เกนจิ วิวเฏปิ ทฺวาเร อนาปตฺติเยว. อตฺตนาปิ อนุฏฺหิตฺวาว สติ ปจฺจเย วิวเฏปิ อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ยถาปริจฺเฉทเมว จ น วุฏฺาตีติ อรุเณ อุคฺคเตเยว อุฏฺาติ. อาปตฺติเยวาติ มูลาปตฺตึเยว สนฺธาย วุตฺตํ, อนาทริยอาปตฺติ ปน ปุรารุณา อุฏฺิตสฺสาปิ ตสฺส โหเตว ‘‘ทุกฺกฏา ¶ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ จ ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา มูลาปตฺติยา มุตฺโตปิ อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ อธิปฺปาโย.
นิทฺทาวเสน นิปชฺชตีติ โวหารวเสน วุตฺตํ, ปาทานํ ปน ภูมิโต อโมจิตตฺตา อยํ นิปนฺโน นาม น โหติ, เตเนว อนาปตฺติ วุตฺตา. อปสฺสาย สุปนฺตสฺสาติ กฏิฏฺิโต อุทฺธํ ปิฏฺิกณฺฏเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปเทสํ ภูมึ อผุสาเปตฺวา ถมฺภาทึ อปสฺสาย สุปนฺตสฺส. กฏิฏฺึ ปน ภูมึ ผุสาเปนฺตสฺส สยนํ นาม โหติ. ปิฏฺิปสารณลกฺขณา หิ เสยฺยา. ทีฆวนฺทนาทีสุปิ ติริยํ ปิฏฺิกณฺฏกานํ ปสาริตตฺตา นิปชฺชนเมวาติ อาปตฺติ ปริหริตพฺพาว ‘‘วนฺทามีติ ปาทมูเล นิปชฺชี’’ติอาทีสุ นิปชฺชนสฺเสว วุตฺตตฺตา. ตสฺสาปิ อนาปตฺติ ปตนกฺขเณ อวิสยตฺตา, วิสเย ชาเต สหสา วุฏฺิตตฺตา จ. ยสฺส ปน วิสฺิตาย ปจฺฉาปิ อวิสโย, เอตสฺส อนาปตฺติเยว ปติตกฺขเณ วิย. ตตฺเถว สยติ น วุฏฺาตีติ อิมินา วิสเยปิ อกรณํ ทสฺเสติ, เตเนว ‘‘ตสฺส อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.
เอกภงฺเคนาติ อุโภ ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว เอกปสฺเสน สรีรํ ภฺชิตฺวา นิปนฺโน. มหาอฏฺกถายํ ปน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘มหาอฏฺกถาย ลิขิตมหาปทุมตฺเถรวาโท อย’’นฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ สุปนฺตสฺสาปิ อวิสยตฺตมตฺถีติ มหาปทุมตฺเถเรน ‘‘อวิสยตฺตา ปน อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อาจริยา ปน สุปนฺตสฺส วิสฺตฺตาภาเวน วิสยตฺตา อนาปตฺตึ น กถยนฺติ. วิสฺตฺเต สติ อนาปตฺติเยว. ทฺเว ปน ชนาติอาทิปิ มหาอฏฺกถายเมว วจนํ, ตเทว ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํ. ยกฺขคหิตคฺคหเณเนว เจตฺถ วิสฺีภูโตปิ สงฺคหิโต. เอกภงฺเคน นิปนฺโน ปน อนิปนฺนตฺตา อาปตฺติโต มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํ.
๗๘. อปเทติ ¶ อากาเส. ปทนฺติ ปทวฬฺชํ, เตนาห ‘‘อากาเส ปท’’นฺติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปมปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. ทุติยปาราชิกํ
อทุติเยนาติ ¶ ¶ อสทิเสน ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ ปกาสิตํ, ตสฺส อิทานิ ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม ปตฺโต, ตสฺมา อสฺส ทุติยสฺส อยํ สํวณฺณนา โหตีติ โยชนา.
ธนิยวตฺถุวณฺณนา
๘๔. ราชูหิ คหิตนฺติ ราชคหนฺติ อาห ‘‘มนฺธาตู’’ติ. ราชปุโรหิเตน ปริคฺคหิตมฺปิ ราชปริคฺคหิตเมวาติ มหาโควินฺทคฺคหณํ, นครสทฺทาเปกฺขาย เจตฺถ ‘‘ราชคห’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. อฺเเปตฺถ ปกาเรติ สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ราชูนํ คหํ เคหภูตนฺติ ราชคหนฺติอาทิเก ปกาเร. วสนฺตวนนฺติ กีฬาวนํ, วสนฺตกาเล กีฬาย เยภุยฺยตฺตา ปน วสนฺตวนนฺติ วุตฺตํ.
สทฺวารพนฺธาติ วสฺสูปคมนโยคฺคตาทสฺสนํ. นาลกปฏิปทนฺติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. ๖๘๔ อาทโย) นาลกตฺเถรสฺส เทสิตํ โมเนยฺยปฏิปทํ. ปฺจนฺนํ ฉทนานนฺติ ติณปณฺณอิฏฺกสิลาสุธาสงฺขาตานํ ปฺจนฺนํ. โน เจ ลภติ…เป… สามมฺปิ กาตพฺพนฺติ อิมินา นาวาสตฺถวเช เปตฺวา อฺตฺถ ‘‘อเสนาสนิโก อห’’นฺติ อาลยกรณมตฺเตน อุปคมนํ น วฏฺฏติ. เสนาสนํ ปริเยสิตฺวา วจีเภทํ กตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกนา’’ติอาทินา (มหาว. ๒๐๔) หิ ปาฬิยํ ‘‘นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปี’’ติ อฏฺกถายฺจ อวิเสเสน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตํ, นาวาสตฺถวเชสุเยว จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวาย วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๒๐๓) อสติปิ เสนาสเน อาลยกรณวเสน วสฺสูปคมนํ อนฺุาตํ, นาฺตฺถาติ คเหตพฺพํ. อยมนุธมฺมตาติ สามีจิวตฺตํ. กติกวตฺตานีติ ภสฺสารามตาทึ วิหาย สพฺพทา อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพนฺติอาทิกติกวตฺตานิ. ขนฺธกวตฺตานีติ ‘‘อาคนฺตุกาทิขนฺธกวตฺตํ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวํ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺหิตฺวา.
วสฺสํวุตฺถาติ ปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคตา มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ¶ ปฏฺาย ‘วุตฺถวสฺสา’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา วา อปฺปวาเรตฺวา วา อฺตฺถ คจฺฉนฺเตหิ ¶ สตฺตาหกรณียนิมิตฺเต สติ เอว คนฺตพฺพํ, นาสติ, อิตรถา วสฺสจฺเฉโท ทุกฺกฏฺจ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ หิ ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๑๘๕) จ วุตฺตํ. อิเธว จ วสฺสํวุตฺถา เตมาสจฺจเยน…เป… ปกฺกมึสูติ วุตฺตํ. ปวารณาทิวโสปิ เตมาสปริยาปนฺโนว. เกจิ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตุนฺติ (มหาว. ๒๐๙) ปวารณากมฺมสฺส ปุพฺเพเยว วสฺสํวุตฺถานนฺติ วุตฺถวสฺสตาย วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส สตฺตาหกรณียนิมิตฺตํ วินาปิ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, วุตฺถวสฺสานฺหิ ปวารณานุชานนํ อนุปคตฉินฺนวสฺสาทีนํ นิวตฺตนตฺถํ กตํ, น ปน ปวารณาทิวเส อวสิตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ตทตฺถสฺส อิธ ปสงฺคาภาวา, ปวารณํ กาตุํ อนุจฺฉวิกานํ ปวารณา อิธ วิธียติ, เย จ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสฺสจฺเฉทฺจ อกตฺวา ยาว ปวารณาทิวสา วสึสุ, เต ตตฺตเกน ปวารณากมฺมํ ปติ ปริยายโต วุตฺถวสฺสาติ วุจฺจนฺติ, อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ ายโต, น กถินกมฺมํ ปติ เตมาสสฺส อปริปุณฺณตฺตา, อิตรถา ตสฺมึ มหาปวารณาทิวเสปิ กถินตฺถารปฺปสงฺคโต. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อิทํ ปน ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๘๕) จ นิปฺปริยายโต มหาปวารณาย อนนฺตรปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย กถินตฺถารํ ปกฺกมนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, ปริวาเร จ ‘‘กถินสฺส อตฺถารมาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วตฺวา ‘‘วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วุตฺตํ. โย หิ กถินตฺถารสฺส กาโล, ตโต ปฏฺาเยว จาริกาปกฺกมนสฺสาปิ กาโล, น ตโต ปุเร วสฺสํวุตฺถานํเยว กถินตฺถารารหตฺตา. ยทคฺเคน หิ ปวารณาทิวเส กถินตฺถาโร น วฏฺฏติ, ตทคฺเคน ภิกฺขูปิ วุตฺถวสฺสา น โหนฺติ ปวารณาทิวสสฺส อวุตฺถตฺตา.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๘๔) ‘‘เอกเทเสน อวุตฺถมฺปิ ตํ ทิวสํ วุตฺถภาคาเปกฺขาย วุตฺถเมว โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ, ตํทิวสปริโยสาเน อรุณุคฺคมนกาเล วสนฺโตว หิ ตํ ทิวสํ วุตฺโถ นาม โหติ ¶ ปริวาสอรฺวาสาทีสุ วิย, อยฺจ วิจารณา อุปริ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสตีติ ตตฺเถว ตํ ปากฏํ กริสฺสาม.
มหาปวารณาย ¶ ปวาริตาติ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺสตาทสฺสนปรํ เอตํ เกนจิ อนฺตราเยน อปฺปวาริตานมฺปิ วุตฺถวสฺสตฺตา. น โอวสฺสิยตีติ อโนวสฺสกนฺติ กมฺมสาธนํ ทฏฺพฺพํ, ยถา น เตมิยติ, ตถา กตฺวาติ อตฺโถ. อนวโยติ เอตฺถ อนุสทฺโท วิจฺฉายํ วตฺตตีติ อาห อนุ อนุ อวโยติอาทิ. อาจริยสฺส กมฺมํ อาจริยกนฺติ อาห ‘‘อาจริยกมฺเม’’ติ. กฏฺกมฺมํ ถมฺภาทิ. เตลตมฺพมตฺติกายาติ เตลมิสฺสาย ตมฺพมตฺติกาย.
๘๕. กุฏิกาย กรณภาวนฺติ กุฏิยา กตภาวํ. กึ-สทฺทปฺปโยเค อนาคตปฺปจฺจยวิธานํ สนฺธาย ตสฺส ลกฺขณนฺติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เถรสฺส ปาณฆาตาธิปฺปาโย นตฺถิ, อนุปปริกฺขิตฺวา กรเณน ปน พหูนํ ปาณานํ มรณตฺตา ปาเณ พฺยาพาเธนฺตสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ปาตพฺยภาวนฺติ วินาเสตพฺพตํ. ปาณาติปาตํ กโรนฺตานนฺติ เถเรน อกเตปิ ปาณาติปาเต ปาณกานํ มรณมตฺเตน ปจฺฉิมานํ เลเสน คหณาการํ ทสฺเสติ, เตน จ ‘‘มม ตาทิสํ อกุสลํ นตฺถี’’ติ ปจฺฉิมานํ วิปลฺลาสเลสคฺคหณนิมิตฺตกิจฺจํ น กตฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ. ทิฏฺานุคตินฺติ ทิฏฺสฺส กมฺมสฺส อนุปคมนํ อนุกิริยํ, ทิฏฺิยา วา ลทฺธิยา อนุคมนํ คาหํ. ฆํสิตพฺเพติ มทฺทิตพฺเพ, วินาสิตพฺเพติ อตฺโถ. กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมวาติ อิทํ ภควตา กุฏิยา เภทาปนวจเนน สิทฺธํ, สาปิ ติณทพฺพสมฺภาเรหิ ตุลาถมฺภาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธมตฺติกามยาปิ อิฏฺกาหิ กตา วฏฺฏติ. เกจิ หิ อิฏฺกาหิเยว ถมฺเภ จินิตฺวา ตทุปริ อิฏฺกาหิเยว วิตานาทิสณฺาเนน ตุลาทิทารุสมฺภารวิรหิตํ ฉทนมฺปิ พนฺธิตฺวา อิฏฺกามยเมว อาวสถํ กโรนฺติ, ตาทิสํ วฏฺฏติ. คิฺชกาวสถสงฺเขเปน กตาติ เอตฺถ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, ตาหิเยว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. วยกมฺมมฺปีติ มตฺติกุทฺธารณอิฏฺกทารุจฺเฉทนาทิการกานํ ทินฺนภตฺตเวตฺตนาทิวตฺถุพฺพเยน นิปฺผนฺนกมฺมมฺปิ อตฺถิ, เอเตน กุฏิเภทกานํ คีวาทิภาวํ ปริสงฺกติ. ติตฺถิยธโชติ ติตฺถิยานเมว สฺาณภูตตฺตา วุตฺตํ. เต หิ อีทิเสสุ จาฏิอาทีสุ วสนฺติ. อฺานิปีติ ปิ-สทฺเทน อตฺตนา วุตฺตการณทฺวยมฺปิ มหาอฏฺกถายเมว วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ยสฺมา สพฺพมตฺติกามยา ¶ กุฏิ สีตกาเล อติสีตา อุณฺหกาเล จ อุณฺหา สุกรา จ โหติ โจเรหิ ภินฺทิตุํ, ตสฺมา ตตฺถ ปิตปตฺตจีวราทิกํ สีตุณฺหโจราทีหิ วินสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถายา’’ติ. ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา อนุปวชฺโชติ อิทํ อยํ กุฏิ วิย สพฺพถา อนุปโยคารหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ปฺจวณฺณสุตฺเตหิ วินทฺธฉตฺตาทิกํ, ตตฺถ อกปฺปิยภาโคว ฉินฺทิตพฺโพ, น ตทวเสโส ตสฺส กปฺปิยตฺตา, ตํ ฉินฺทนฺโต อุปวชฺโชว โหติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา
ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ ¶ สลากปฺชรนฺติ เอตฺถ โย ปฺชรสลากานํ มชฺฌฏฺโ พุนฺเท ปุถุโล อหิจฺฉตฺตกสทิโส อคฺเค สฉิทฺโท ยตฺถ ทณฺฑนฺตรํ ปเวเสตฺวา ฉตฺตํ คณฺหนฺติ, โย วา สยเมว ทีฆตาย คหณทณฺโฑ โหติ, อยํ ฉตฺตทณฺโฑ นาม, ตสฺส อปริคฬนตฺถาย ฉตฺตสลากานํ มูลปฺปเทสทณฺฑสฺส สมนฺตโต ทฬฺหปฺชรํ กตฺวา สุตฺเตหิ วินนฺธนฺติ, โส ปเทโส ฉตฺตทณฺฑคาหกสลากปฺชรํ นาม, ตํ วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ. น วณฺณมฏฺตฺถายาติ อิมินา ถิรกรณตฺถเมว เอกวณฺณสุตฺเตน วินนฺธิยมานํ ยทิ วณฺณมฏฺํ โหติ, น ตตฺถ โทโสติ ทสฺเสติ. อารคฺเคนาติ นิขาทนมุเขน. ทณฺฑพุนฺเทติ ทณฺฑมูเล โกฏิยํ. ฉตฺตมณฺฑลิกนฺติ ฉตฺตปฺชเร มณฺฑลากาเรน พทฺธทณฺฑวลยํ. อุกฺกิริตฺวาติ นินฺนํ, อุนฺนตํ วา กตฺวา.
นานาสุตฺตเกหีติ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ. อิทฺจ ตถา กโรนฺตานํ วเสน วุตฺตํ, เอกวณฺณสุตฺตเกนาปิ น วฏฺฏติเยว, ‘‘ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ปฏฺฏมุเขติ ทฺวินฺนํ ปฏฺฏานํ สงฺฆฏิตฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปริยนฺเตติ จีวรปริยนฺเต, อนุวาตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เวณินฺติ วรกสีสากาเรน สิพฺพนํ. สงฺขลิกนฺติ ทิคุณสงฺขลิกากาเรน สิพฺพนํ, เวณึ วา สงฺขลิกํ วา กโรนฺตีติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อคฺฆิยํ นาม เจติยสณฺานํ, ยํ อคฺฆิยตฺถมฺโภติ วทนฺติ. อุกฺกิรนฺตีติ อุฏฺเปนฺติ. จตุโกณเมว วฏฺฏตีติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. โกณสุตฺตปิฬกาติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณหิ พหิ นิคฺคตสุตฺตานํ ¶ ปิฬกากาเรน ปิตโกฏิโยติ เกจิ วทนฺติ, เต ปิฬเก ฉินฺทิตฺวา ทุวิฺเยฺยา กาตพฺพาติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘โกณสุตฺตา จ ปิฬกาติ ทฺเวเยวา’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกณโต โกเณหิ นีหตสุตฺตา โกณสุตฺตา นาม. สมนฺตโต ปน ปริยนฺเตน กตา จตุรสฺสสุตฺตา ปิฬกา นาม. ตํ ทุวิธมฺปิ เกจิ จีวรโต วิสุํ ปฺายนตฺถาย วิการยุตฺตํ กโรนฺติ, ตํ นิเสธาย ‘‘ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สพฺพถา อจกฺขุโคจรภาเวน สิพฺพนตฺถาย ตถาสิพฺพนสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ยถา ปกติจีวรโต วิกาโร น ปฺายติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. รชนกมฺมโต ปุพฺเพ ปฺายมาโนปิ วิเสโส จีวเร รตฺเต เอกวณฺณตาย น ปฺายตีติ อาห ‘‘จีวเร รตฺเต’’ติ. มณินาติ นีลมณิอาทิมฏฺปาสาเณน, อํสวทฺธกกายพนฺธนาทิกํ ปน อจีวรตฺตา สงฺขาทีหิ ฆํสิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กณฺณสุตฺตกนฺติ จีวรสฺส ทีฆโต ติริยฺจ สิพฺพิตานํ จตูสุ กณฺเณสุ โกเณสุ จ นิกฺขนฺตานํ สุตฺตสีสานเมตํ นามํ, ตํ ฉินฺทิตฺวาว ปารุปิตพฺพํ, เตนาห ‘‘รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพ’’นฺติ. ภควตา อนฺุาตํ เอกํ กณฺณสุตฺตมฺปิ อตฺถิ, ตํ ปน นาเมน ¶ สทิสมฺปิ อิโต อฺเมวาติ ทสฺเสตุํ ยํ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ลคฺคนตฺถายาติ จีวรรชฺชุยํ จีวรพนฺธนตฺถาย. คณฺิเกติ ทนฺตาทิมเย. ปีฬกาติ พินฺทุํ พินฺทุํ กตฺวา อุฏฺาเปตพฺพปีฬกา.
ถาลเก วาติ ตมฺพาทิมเย ปุคฺคลิเก ติวิเธปิ กปฺปิยถาลเก. น วฏฺฏตีติ มณิวณฺณกรณปฺปโยโค น วฏฺฏติ, เตลวณฺณกรณตฺถํ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเลติ ติปุสีสาทิมเย. ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺตานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, อิทํ ปน ปาฬิยา ลทฺธมฺปิ อิธ ปาฬิยา มุตฺตตฺตา ปาฬิมุตฺตกนเย วุตฺตํ. เอวมฺมฺปิ อีทิสํ.
เลขา น วฏฺฏตีติ อารคฺเคน ทินฺนเลขาว น วฏฺฏติ, ชาติหิงฺคุลิกาทิวณฺเณหิ กตเลขา วฏฺฏติ. ฉตฺตมุขวฏฺฏิยนฺติ ธมกรณสฺส หตฺเถน คหณฉตฺตาการสฺส ¶ มุขวฏฺฏิยํ, ‘‘ปริสฺสาวนโจฬพนฺธนฏฺาเน’’ติ เกจิ.
เทฑฺฑุภสีสนฺติ อุทกสปฺปสีสํ. อจฺฉีนีติ กฺุชรจฺฉิสณฺานานิ. เอกเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอกรชฺชุกํ ทิคุณํ ติคุณํ กตฺวาปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, เอกเมว ปน สตวารมฺปิ สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘‘พหุรชฺชุก’’นฺติ น วตฺตพฺพํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตํ มุรชสงฺขํ น คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. มุรชฺหิ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ, อิทํ ปน มุรชํ มทฺทวีณสงฺขาตํ ปามงฺคสณฺานฺจ ทสาสุ วฏฺฏติ ‘‘กายพนฺธนสฺส ทสา ชีรนฺติ; อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา.
วิเธติ ทสาปริโยสาเน ถิรภาวาย ทนฺตวิสาณสุตฺตาทีหิ กตฺตพฺเพ วิเธ. อฏฺ มงฺคลานิ นาม สงฺโข จกฺกํ ปุณฺณกุมฺโภ คยา สิรีวจฺโฉ องฺกุโส ธชํ โสวตฺติกนฺติ วทนฺติ. มจฺฉยุคฬฉตฺตนนฺทิยาวฏฺฏาทิวเสนปิ วทนฺติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ ทนฺตาทีหิ กตวิธสฺส อุโภสุ โกฏีสุ กตปริจฺเฉทราชิมตฺตํ.
‘‘อุชุกเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา จตุรสฺสาทิสณฺานาปิ อฺชนี วงฺกคติกา น วฏฺฏติ. สิปาฏิกายาติ ¶ วาสิอาทิภณฺฑนิกฺขิปนปสิพฺพเก. อารกณฺฏกํ นาม โปตฺถกาทิออสงฺขารณตฺถํ กตทีฆมุขสตฺถกนฺติ วทนฺติ. ‘‘ภมการานํ ทารุอาทิลิขนสตฺถก’’นฺติ เกจิ. วฏฺฏมณิกนฺติ วฏฺฏํ กตฺวา อุฏฺเปตพฺพํ ปุปฺผุฬกํ. อฺนฺติ อิมินา ปิฬกาทึ สงฺคณฺหาติ. ปิปฺผลิเกติ ยํ กิฺจิ เฉทนเก ขุทฺทกสตฺเถ. วลิตกนฺติ นขจฺเฉทนกาเล ทฬฺหคฺคหณตฺถํ วลีหิ ยุตฺตเมว กโรนฺติ. ตสฺมา ตํ วฏฺฏตีติ อิมินา ยํ อฺมฺปิ วิการํ ทฬฺหีกมฺมาทิอตฺถาย กโรนฺติ, น วณฺณมฏฺตฺถาย, ตํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ, เตน จ กตฺตรทณฺฑโกฏิยํ อฺมฺมฺปิ ฆฏฺฏเนน สทฺทนิจฺฉรณตฺถาย กตํ อโยวลยาทิกํ สํยุตฺตมฺปิ กปฺปิยโต อุปปนฺนํ โหติ. มณฺฑลนฺติ อุตฺตรารณิยา ปเวสนตฺถํ อาวาฏมณฺฑลํ โหติ. อุชุกเมว พนฺธิตุนฺติ สมฺพนฺโธ, อุโภสุ วา ปสฺเสสุ เอกปสฺเส วาติ วจนเสโส. วาสิทณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทณฺฑโกฏีนํ อจลนตฺถํ พนฺธิตุนฺติ อตฺโถ.
อามณฺฑสารเกติ ¶ อามลกผลานิ ปิสิตฺวา เตน กกฺเกน กตเตลภาชเน. ตตฺถ กิร ปกฺขิตฺตํ เตลํ สีตลํ โหติ. ภูมตฺถรเณติ กฏสาราทิมเย ปริกมฺมกตาย ภูมิยา อตฺถริตพฺพอตฺถรเณ. ปานียฆเฏติ สพฺพํ ภาชนวิกตึ สงฺคณฺหาติ. สพฺพํ…เป… วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเตสุ มฺจาทีสุ อิตฺถิปุริสรูปมฺปิ วฏฺฏติ เตลภาชเนสุเยว อิตฺถิปุริสรูปานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, เตลภาชเนน สห อคเณตฺวา วิสุํ มฺจาทีนํ คหิตตฺตา จาติ วทนฺติ, กิฺจาปิ วทนฺติ, เอเตสํ ปน มฺจาทีนํ หตฺเถน อามสิตพฺพภณฺฑตฺตา อิตฺถิรูปเมเวตฺถ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. อฺเสนฺติ สีมสามิกานํ. ราชวลฺลเภหีติ ลชฺชีเปสลาทีนํ อุโปสถาทิอนฺตรายกรา อลชฺชิโน ภินฺนลทฺธิกา จ ภิกฺขู อธิปฺเปตา เตหิ สห อุโปสถาทิกรณาโยคา, เตเนว ‘‘สีมายา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ ลชฺชีปริสาติ เตสํ สีมาสามิกานํ อนุพลํ ทาตุํ สมตฺถา ลชฺชีปริสา. ภิกฺขูหิ กตนฺติ ยํ อลชฺชีนํ เสนาสนเภทนาทิกํ ลชฺชีภิกฺขูหิ กตํ, สพฺพฺเจตํ สุกตเมว อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย ปวตฺติตพฺพโต.
๘๘. อวชฺฌายนฺตีติ นีจโต จินฺเตนฺติ. อุชฺฌายนตฺโถติ ภิกฺขุโน เถยฺยกมฺมนินฺทนตฺโถ ‘‘กถฺหิ นาม อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ, น ปน ทารุ-สทฺทวิเสสนตฺโถ ตสฺส พหุวจนตฺตา. วจนเภเทติ เอกวจนพหุวจนานํ เภเท. สพฺพาวนฺตนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีอาทิสพฺพาวยววนฺตํ. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามนฺติ เอตฺถ พิมฺพีติ สุวณฺณํ. ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย ‘‘พิมฺพิสาโร’’ติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ อุปฺปาทิโต วีสติมาสปฺปมาณอุตฺตมสุวณฺณคฺฆนโก ลกฺขณสมฺปนฺโน นีลกหาปโณติ เวทิตพฺโพ. รุทฺรทาเมน นาม เกนจิ อุปฺปาทิโต รุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆติ. ยสฺมึ ปน เทเส นีลกหาปณา ¶ น สนฺติ, ตตฺถาปิ กาฬกวิรหิตสฺส นิทฺธนฺตสุวณฺณสฺส ปฺจมาสคฺฆนเกน ภณฺเฑน ปาทปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. เตนาติ นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคภูเตน. ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วาติอาทิ ปาราชิกานํ สพฺพพุทฺเธหิ ปฺตฺตภาเวน วุตฺตํ, สงฺฆาทิเสสาทีสุ ปน อิตราปตฺตีสุปิ ตพฺพตฺถูสุ จ นานตฺตํ นตฺเถว, เกวลํ เกจิ สพฺพากาเรน ปฺเปนฺติ, เกจิ เอกเทเสนาติ เอตฺตกเมว วิเสโส. น หิ กทาจิปิ สมฺมาสมฺพุทฺธา ยถาปราธํ อติกฺกมฺม อูนมธิกํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๙๒. ปุนปิ ¶ ‘‘อาคนฺตุกามา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สพฺพถา มนุสฺเสหิ อนิวุตฺถปุพฺเพ อภินวมาปิเต, ‘‘ปุน น ปวิสิสฺสามา’’ติ นิราลเยหิ ปริจฺจตฺเต จ คาเม คามโวหาราภาวา คามปฺปเวสนาปุจฺฉนาทิกิจฺจํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถนฺติ คามคามูปจาเรสุ ทสฺสิเตสุ ตทฺํ อรฺนฺติ อรฺปริจฺเฉโท สกฺกา าตุนฺติ วุตฺตํ. มาติกายํ ปน คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อินฺทขีเลติ อุมฺมาเร. อรฺสงฺเขปํ คจฺฉติ ตถา อภิธมฺเม วุตฺตตฺตา. อสติปิ อินฺทขีเล อินฺทขีลฏฺานิยตฺตา ‘‘เวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ปน ทฺวารพาหาปิ นตฺถิ, ตตฺถ ปาการเวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ คเหตพฺพํ. ลุิตฺวาติ ปวฏฺฏิตฺวา.
มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วาติอาทิ มาตุคามสฺส กากุฏฺาปนวเสน คเหตพฺพํ, น พลทสฺสนวเสน ‘‘มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อุปริ วุจฺจมานตฺตา, เตเนว ‘‘เลฑฺฑุปาโต’’ติ อวตฺวา สุปฺปปาโตติอาทิ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ มหาปจฺจริยฺจ ฆรูปจาโรว คาโมติ อธิปฺปาเยน ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโร’’ติ วุตฺตํ. กตปริกฺเขโปติ อิมินา ปริกฺเขปโต พหิ อุปจาโร น คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ. สุปฺปมุสลปาโตปิ อปริกฺขิตฺตเคหสฺเสว, โส จ ยโต ปโหติ, ตตฺเถว คเหตพฺโพ, อปฺปโหนฏฺาเน ปน วิชฺชมานฏฺานเมว คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ฆรสฺส สมนฺตโต ปาการาทีหิ ปริกฺเขโป กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปริกฺเขโป ฆรูปจาโรติ คเหตพฺพํ.
ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ปริกฺขิตฺตคาเม วุตฺตนเยน. สงฺกรียตีติ มิสฺสียติ. วิกาเล คามปฺปเวสเน ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา ¶ คามคามูปจารานํ อสงฺกรตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห อสงฺกรโต จาติอาทิ. เกจิ ปเนตฺถ ปาฬิยํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสาติ อิทํ ปริกฺเขปารหฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตโต ปรํ เอกเลฑฺฑุปาตปริจฺฉินฺนํ อุปจารํ ¶ . ตสฺมา ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาตํ คามํ โอกฺกมนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น อุปจาร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อิเธว อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วิกาเล คามปฺปเวสนสิกฺขาปทฏฺกถายฺหิ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) อยเมว นโย อติทิสิโต. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจารโต ปฏฺาย ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตํ คามูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส วิกาเล คามปฺปเวสนาปตฺติ โหติ, มาติกายฺจ วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยาติ คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ฆรฆรูปจาราทีสุ ิตานํ อุปฺปนฺนลาภภาชนาทึ สงฺคณฺหาติ.
นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิตํ ยํ านํ สพฺพเมตํ อรฺนฺติ โยชนา. อาจริยธนุ นาม ปกติหตฺเถน นววิทตฺถิปมาณํ, ชิยาย ปน อาโรปิตาย สตฺตฏฺวิทตฺถิมตฺตนฺติ วทนฺติ.
กปฺปิยนฺติ อนุรูปวเสน วุตฺตํ อกปฺปิยสฺสาปิ อปฺปฏิคฺคหิตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยตฺตา. ปริจฺจาคาทิมฺหิ อกเต ‘‘อิทํ มยฺหํ สนฺตก’’นฺติ วตฺถุสามินา อวิทิตมฺปิ ปริคฺคหิตเมว พาลุมฺมตฺตาทีนํ สนฺตกํ วิย, ตาทิสํ อวหรนฺโตปิ าตกาทีหิ ปจฺฉา ตฺวา วตฺถุสามินา จ อนุพนฺธิตพฺพโต ปาราชิโกว โหติ. ยสฺส วเสน ปุริโส เถโน โหติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ปปฺจสงฺขาติ ตณฺหามานทิฏฺิสงฺขาตา ปปฺจโกฏฺาสา. เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ านาจาวนปโยคสมุฏฺาปโก เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ.
อภิโยควเสนาติ อฏฺฏกรณวเสน. สวิฺาณเกเนวาติ อิทํ สวิฺาณกานฺเว อาเวณิกวินิจฺฉยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาโณ อปทนฺติอาทีสุ หิ ‘‘ปทสา เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ ¶ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติอาทินา ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๑), ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา ¶ วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกนฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถายฺจ โย สวิฺาณกานฺเว อาเวณิโก วินิจฺฉโย วุตฺโต, โส อารามาทิอวิฺาณเกสุ น ลพฺภตีติ ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘สวิฺาณเกเนวา’’ติ วุตฺตํ. โย ปน วินิจฺฉโย อารามาทิอวิฺาณเกสุ ลพฺภติ, โส ยสฺมา สวิฺาณเกสุ อลพฺภนโก นาม นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาภณฺฑวเสน สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสเกนา’’ติ. สวิฺาณเกน จ อวิฺาณเกน จาติ อตฺโถ. ยสฺมา เจตฺถ อวิฺาณเกเนว อาทิยนาทีนิ ฉปิ ปทานิ น สกฺกา โยเชตุํ อิริยาปถวิโกปนสฺส สวิฺาณกวเสเนว โยเชตพฺพโต, ตสฺมา ‘‘อวิฺาณเกเนวา’’ติ ตติยํ ปการํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อารามนฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ ทาสาทิสวิฺาณกสฺสาปิ อิธ สงฺคเหตพฺพโต, นานาภณฺฑวเสน เหตฺถ โยชนา ทสฺสิยติ. ปริกปฺปิตฏฺานนฺติ ปริกปฺปิโตกาสํ. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ มคฺคํ คจฺฉนฺเตหิ สตฺถิเกหิ อตฺตนา นียมานภณฺฑโต รฺโ ทาตพฺพภาโค สุงฺโก นาม, โส เอตฺถ หฺติ อทตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อวหรียติ, ตํ วา หนฺติ เอตฺถ ราชปุริสา อททนฺตานํ สนฺตกํ พลกฺกาเรนาติ สุงฺกฆาโต, ‘‘เอตฺถ ปวิฏฺเหิ สุงฺโก ทาตพฺโพ’’ติ รุกฺขปพฺพตาทิสฺาเณน นิยมิตปฺปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ.
ปฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา
กตฺถจีติ เอกิสฺสา อฏฺกถายํ. เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสฺี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวตี’’ติ (ปารา. ๑๒๒) วุตฺตปฺจอวหารงฺคานิ เอกํ ปฺจกนฺติ ทสฺสิตํ. ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานีติ ‘‘ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. น จ สกสฺี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๒๕) เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ ปเทสุ เอกํ อปเนตฺวา เสสานิ ¶ ปฺจ ปทานิ เอกํ ปฺจกํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตปฺจกฺจ คเหตฺวา ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. เอตฺถ ปนาติ ปฺจหากาเรหีติอาทีสุ. สพฺเพหิปิ ปเทหีติ ปรปริคฺคหิตฺจ โหตีติอาทีหิ สพฺเพหิ ปฺจหิ ปเทหิ.
ปฺจนฺนํ ¶ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺถิโก, อวหาโร. สาหตฺถิกาทิ ปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกนฺติอาทิปทวเสน นามลาโภ ทฏฺพฺโพ. เอวํ เสเสสุปิ. ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสูติ สาหตฺถิกปฺจกเถยฺยาวหารปฺจเกสุ. ลพฺภมานปทวเสนาติ สาหตฺถิกปฺจเก ลพฺภมานสฺส นิสฺสคฺคิยาวหารปทสฺส วเสน, เถยฺยาวหารปฺจเก ลพฺภมานสฺส ปริกปฺปาวหารปทสฺส จ วเสน โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.
นิสฺสคฺคิโย นาม…เป… ปาราชิกสฺสาติ อิมินา พหิสุงฺกฆาตปาตนํ นิสฺสคฺคิยปโยโคติ ทสฺเสติ. ‘‘หตฺเถ ภารํ เถยฺยจิตฺโต ภูมิยํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๑) วุตฺตตฺตา ปน สุทฺธจิตฺเตน คหิตปรภณฺฑสฺส เถยฺยจิตฺเตน คุมฺพาทิปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ขิปนมฺปิ อิมสฺมึ นิสฺสคฺคิยปโยเค สงฺคยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ. กิริยาสิทฺธิโต ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก. อถ วา อตฺตโน วตฺตมานกฺขเณ อวิชฺชมานมฺปิ กิริยาสิทฺธิสงฺขาตํ อตฺถํ อวสฺสํ อาปตฺตึ สาเธตีติปิ อตฺถสาธโก. อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ปรสฺส เตลกุมฺภิยา อุปาหนาทีนํ นิกฺเขปปโยคสฺสาปิ อตฺถสาธกตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ –
‘‘อตฺถสาธโก นาม ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ อวหรา’ติ อฺํ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกเตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิก’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
อิมสฺส ¶ อตฺถสาธกสฺส อาณตฺติยา จ โก วิเสโสติ? ตงฺขณฺเว คหเณ นิยฺุชนํ อาณตฺติกปโยโค, กาลนฺตเรน คหณตฺถํ นิโยโค อตฺถสาธโกติ อยํ เนสํ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสี’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อารามาภิยฺุชนาทีสุปิ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานํ อทาเนปิ เอเสว นโย. ภณฺฑคฺคหณปฺปโยคโต อาณตฺติยา ปุพฺพตฺตา อาห ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ. ปโยเคน สห วตฺตมาโน อวหาโร สหปโยโคติ อาห ‘‘านาจาวนวเสนา’’ติ, อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ ขีลสงฺกมนาทีสุปิ อสติ านาจาวเน สหปโยคตฺตา. วุตฺตฺหิ ¶ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘านาจาวนวเสน ขีลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวา. สามีจีติ วตฺตํ. สกสฺาย อเทนฺตสฺส อาปตฺติ นตฺถีติ วทนฺติ. สมฺมทฺโทติ นิวิทฺธตาสงฺโขโภ. ภฏฺเ ชนกาเยติ อปคเต ชนสมูเห. อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหีติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ วุตฺตํ. อวหารกสฺส หิ ‘‘มยา สหตฺเถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยํ เอต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺย, อิตรสฺส จ ‘‘มยา ปมํ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ.
สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํ. ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติ. เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา สพฺพา ภณฺฑสามินา กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา. สพฺพํ ปเนตํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน เวทิตพฺพํ. ปาสาณฺจ สกฺขรฺจ ปาสาณสกฺขรํ.
อกฺขทสฺสาติ เอตฺถ อกฺข-สทฺเทน กิร วินิจฺฉยสาลา วุจฺจติ, ตตฺถ นิสีทิตฺวา วชฺชาวชฺชํ นิรูปยนฺตีติ ‘‘อกฺขทสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ ธมฺมวินิจฺฉนกา. หนนํ นาม หตฺถปาทาทีหิ โปถนฺเจว หตฺถนาสาทิจฺเฉทนฺจ โหตีติ อาห ‘‘หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยฺุเจว ฉินฺเทยฺยฺุจา’’ติ.
ปทภาชนียฺจ ‘‘หตฺเถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวตฺเตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา ฉชฺชาย วา หเนยฺยุ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) วุตฺตํ. ตตฺถ อฑฺฒทณฺฑเกนาติ ทฺวิหตฺถปฺปมาเณน ¶ รสฺสมุคฺคเรน, เวฬุเปสิกาย วา. เฉชฺชาย วาติ หตฺถาทีนํ เฉทเนน. ฉินฺทนฺติ เอตาย หตฺถปาทาทีนีติ เฉชฺชา, สตฺถํ, เตน สตฺเถนาติปิ อตฺโถ. นีหเรยฺยุนฺติ รฏฺโต นีหเรยฺยุํ. ‘‘โจโรสิ…เป… เถโนสี’’ติ เอตฺถ ปริภาเสยฺยุนฺติ ปทํ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โจโรสิ…เป… ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ. ยํ ตํ ภณฺฑํ ทสฺสิตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๙๓. ยตฺถ ยตฺถ ิตนฺติ ภูมิยาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ. ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉตีติ เยน เยน อากาเรน คหณํ อุปคจฺฉติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา
๙๔. วาจาย ¶ วาจายาติ เอเกกตฺถทีปิกาย วาจาย วาจาย. อุปลทฺโธติ าโต. ปาฬิยํ เสสอฏฺกถาสุ จ กุทาลํ วา ปิฏกํ วาติ อิทเมว ทฺวยํ วตฺวา วาสิผรสูนํ อวุตฺตตฺตา เตสมฺปิ สงฺเขปฏฺกถาทีสุ อาคตภาวํ ทสฺเสตุํ สงฺเขปฏฺกถายนฺติอาทิ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน กตตฺตา ‘‘ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ.
อฏฺวิธํ เหตนฺติอาทีสุ เอตํ ทุกฺกฏํ นาม เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ อิมสฺมึ าเน สโมธาเนตฺวา อฏฺวิธนฺติ ทสฺสิตนฺติ โยชนา. สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏานํ อิเมสุเยว อฏฺสุ สงฺคเหตพฺพภาวโต ปน อิตเรหิ สตฺตหิ ทุกฺกเฏหิ วินิมุตฺตํ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพํ. ทสวิธํ รตนนฺติ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺล’’นฺติ เอวมาคตํ ทสวิธํ รตนํ.
‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย จ สงฺโข,
สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;
โลหิตกฺจ มสารคลฺลํ,
ทเสเต ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –
หิ วุตฺตํ. สตฺตวิธํ ธฺนฺติ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูสํ วรโก โคธุโมติ อิมํ สตฺตวิธํ ธฺํ. อาวุธภณฺฑาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ตุริยภณฺฑอิตฺถิรูปาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามสิตพฺเพ วตฺถุมฺหิ ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏนฺติ ‘‘อกตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฏฺุ ¶ อุปจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรูปจิณฺณํ, ตสฺมึ ทุกฺกฏํ ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏํ. วินเย ปฺตฺตํ อวเสสํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. เอกาทส สมนุภาสนา นาม ภิกฺขุปาติโมกฺเข จตฺตาโร ยาวตติยกา สงฺฆาทิเสสา อริฏฺสิกฺขาปทนฺติ ปฺจ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺเข เอกํ ยาวตติยกปาราชิกํ จตฺตาโร สงฺฆาทิเสสา จณฺฑกาฬีสิกฺขาปทนฺติ ฉ.
สหปโยคโต ปฏฺาย เจตฺถ ปุริมปุริมา อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ อาห อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวาติอาทิ. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ขณนฺตสฺส ปุริมาปตฺติโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ วทนฺติ. ‘‘เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ¶ วตฺวา ปุพฺพปโยเค อาปตฺตีนํ เทเสตพฺพตาย อวุตฺตตฺตา สหปโยเค ปตฺเต ปุพฺพปโยเค อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
อปรทฺธํ วิรทฺธํ ขลิตนฺติ สพฺพเมตํ ยฺจ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ วุตฺตสฺส ทุกฺกฏสฺส ปริยายวจนํ, ยํ มนุสฺโส กเรติอาทิ ปเนตฺถ โอปมฺมนิทสฺสนํ. สํโยคภาโวติ ทฺวิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน รสฺสตฺตสฺสาปิ นิมิตฺตํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกสฺส มูเลติ เอกสฺส สนฺติเก. สพฺพตฺถาปิ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ วิสุํ วิสุํ อามสนผนฺทาปนปโยคํ กโรนฺตสฺเสว โหติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺส ปน อุทฺธาเร ปาราชิกเมว, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานีติ วทนฺติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺสาปิ อามสนผนฺทาปนานมฺปิ ลพฺภมานตฺตา ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ สกฺกา อนามสิตฺวา อผนฺทาเปตฺวา จ กิฺจิ คเหตุํ. ‘‘เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ปํสุขณนาทิสมานปโยเคปิ ปุริมา อาปตฺติ อุตฺตรมุตฺตรํ อาปตฺตึ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ สฺาย กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, อิตรฏฺกถาสุ ปน ขณนปโยคเภเทหิ ปโยเค ปโยเค อาปนฺนา อาปตฺติโย อุตฺตรมุตฺตรํ ปตฺวา น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อฺมฺํ สทิสตฺตา วิยูหนํ ปตฺวา ตา สพฺพาปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ วิสทิสปโยคตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิธานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา หิ อวหารกสฺส อาสนฺนํ โอริมนฺตํ ปรามสติ.
ตตฺเถวาติ มุขวฏฺฏิยเมว. พุนฺเทนาติ กุมฺภิยา เหฏฺิมตเลน. เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา านา จาวนํ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอกฏฺาเนติ จ สงฺขลิกพทฺธภาเวน เอกสฺมึ ปติฏฺิโตกาสฏฺาเนติ ¶ อตฺโถ. ขาณุกํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวตีติ ขาณุกํ อตฺตโน ปติฏฺิตฏฺานโต ปฺจหิ อากาเรหิ านา จาเวติ. ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกนฺติ อวสฺสํ เจ ปตติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ปริจฺเฉโทติ ปฺจมาสกาทิครุภาวปริจฺเฉโท. อปพฺยูหนฺโตติ ิตฏฺานโต อปนยนวเสน วิยูหนฺโต ราสึ กโรนฺโต. เอวํ กตฺวาติ ภาชนมุขวฏฺฏิยา กุมฺภิคเตน ภาชนคตสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชตฺวาติ อตฺโถ. อุปฑฺฒกุมฺภียนฺติ อุปฑฺฒปุณฺณาย กุมฺภิยา. วินยธมฺมตาติ อธิกการณาลาเภ วินยวินิจฺฉยธมฺมตาติ อธิปฺปาโย. น เกวลฺเจตฺถ ครุกตาว, สุตฺตานุคมนมฺปิ อตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. กณฺเน ปน ปริจฺฉินฺนกาเลติ มุขคตํ อชฺโฌหฏกาเลติ อตฺโถ. อชฺโฌหรณเมว เหตฺถ ปริจฺฉินฺทนํ, น กณฺปิทหนํ. จิกฺกนนฺติ ถทฺธํ, พหลํ ฆนนฺติ อตฺโถ.
โยปิ เถยฺยจิตฺเตน ปรสฺส กุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ สปฺปึ วา เตลํ วา อวสฺสํ ปิวนกํ ยํ กิฺจิ ¶ ทุกูลสาฏกํ วา จมฺมขณฺฑาทีนํ วา อฺตรํ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ เอตฺถ อวหาโร วีมํสิตพฺโพ. ยทิ จ ทุกูลาทีสุ สปฺปิเตลานํ ปวิสนํ สนฺธาย ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตตฺถ ปวิฏฺเตลาทิโน กุมฺภิคเตน เอกาพทฺธตาย น ตาว อวหาโร ภาชนนฺตรํ ปเวเสตฺวา คหณกาเล วิย. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ภาชนํ ปน นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยาว เอกาพทฺธํ โหติ, ตาว รกฺขตี’’ติอาทิ. อถ เตลาทิวินาเสน ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตทาปิ ติณชฺฌาปนาทีสุ วิย อวหาโร นตฺถิ, ทุกฺกเฏน สทฺธึ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, ตถา จ ปาทคฺฆนกํ เตลาทึ ปีตํ ทุกูลาทึ อุทฺธรนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ น สิยา ตตฺถ ปวิฏฺสฺส เตลาทิโน วินฏฺฏฺเน คหณกฺขเณ อวิชฺชมานตฺตา, วิชฺชมานตฺเตน จ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ วตฺตพฺพํ, น หตฺถโต มุตฺตมตฺเตติ. สพฺพอฏฺกถาสุ จ ทุกูลาทีนํ ปกฺขิปเน หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกสฺส วุตฺตตฺตา น ตํ ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา. อฏฺกถาปฺปมาเณน ปเนตํ คเหตพฺพํ, ยุตฺติ ปเนตฺถ ปณฺฑิเตหิ ปุพฺพาปรํ สํสนฺทิตฺวา อุทฺธาเรตพฺพา.
ปลิพุชฺฌิสฺสตีติ นิวาเรสฺสติ. วุตฺตนเยน ปาราชิกนฺติ หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. เนว อวหาโร, น คีวาติ อตฺตโน ภาชนตฺตา ¶ วุตฺตํ, อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ, น ปน เอวํ วิจาริตนฺติ อธิปฺปาโย. พหิคตํ นาม โหตีติ ตโต ปฏฺาย เตลสฺส อฏฺานโต อโธมุขภาวโต จ พหิคตํ นาม โหติ. อนฺโต ปฏฺาย ฉิทฺเท กริยมาเน เตลสฺส นิกฺขมิตฺวา คตคตฏฺานํ ภาชนสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ อาห ‘‘พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิก’’นฺติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ พาหิรนฺตโต วา อพฺภนฺตรนฺตโต วา ปฏฺาย กตสฺส. มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเทติ มชฺเฌ โถกํ กปาลํ เปตฺวา ปจฺฉา ตํ ฉินฺทนฺเตน กตฉิทฺเท.
ปตฺถีนสฺส ขาทนํ อิตรสฺส ปานฺจ สปฺปิอาทีนํ ปริโภโคติ อาห ‘‘อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรตี’’ติ. กสฺมา ปเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ. ปุริมทฺวยนฺติ เภทนํ ฉฑฺฑนฺจ. กุมฺภิชชฺชรกรเณนาติ ปุณฺณกุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน. มาติกาอุชุกรเณนาติ อุทกปุณฺณาย มาติกาย อุชุกรเณน. เอกลกฺขณนฺติ เภทนํ กุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน, ฉฑฺฑนํ มาติกาย อุชุกรเณน จ สทฺธึ เอกสภาวํ. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยนฺติ ฌาปนํ อปริโภคกรณฺจ. เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺตีติ เอตสฺมึ มหาอฏฺกถายํ วุตฺเต อตฺเถ เอเก อาจริยา เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ ปุริมปททฺวเย วินิจฺฉโย เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตตฺถ กิฺจิ อวตฺวา ปจฺฉิมปททฺวยํ สนฺธาย ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย ¶ . เถยฺยจิตฺเตนาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา กาตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนเถยฺยจิตฺเตน. วินาเสตุกามตายาติ หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺโต วิย เกวลํ วินาเสตุกามตาย. วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทนฺตสฺส วา อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. อยุตฺตนฺติ เจติ ปาฬิยํ ปุริมทฺวเยปิ ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา ‘‘ปุริมทฺวเย ปาราชิก’’นฺติ อิทํ อยุตฺตนฺติ ยทิ ตุมฺหากํ สิยาติ อตฺโถ. นาติ อยุตฺตภาวํ นิเสเธตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อฺถา คเหตพฺพตฺถโต’’ติ.
เอวเมเก วทนฺตีติ เหฏฺา วุตฺตสฺส อตฺถนยสฺส อตฺตนา อนภิมตภาวํ ทสฺเสตฺวา สยํ อฺถาปิ ปาฬึ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา อตฺถํ ทสฺเสตุกาโม ¶ อยํ ปเนตฺถ สาโรติอาทิมาห. อจาเวตุกาโมวาติ เถยฺยจิตฺเตน านา อจาเวตุกาโมว. อฉฑฺเฑตุกาโมเยวาติ เอตฺถาปิ เถยฺยจิตฺเตนาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิทฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ นาเสตุกามตาปกฺขสฺส วกฺขมานตฺตา. เตเนวาห นาเสตุกามตาปกฺเข ปนาติอาทิ. อิตรถาปิ ยุชฺชตีติ เถยฺยจิตฺตาภาวา านา จาเวตุกามสฺสาปิ ทุกฺกฏํ ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๖. อากาสฏฺกถายํ อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺตสฺส วตฺถุสฺส อนฺโต. อนฺโตคาเมติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อนฺโต. อปริกฺขิตฺเต ปน วตฺถุมฺหิ คาเม วา ิตฏฺานเมว านํ. อฏวิมุขํ กโรติ…เป… รกฺขตีติ เตน ปโยเคน ตสฺส อิจฺฉิตฏฺานํ อาคตตฺตา รกฺขติ. คามโต นิกฺขนฺตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตคามโต นิกฺขนฺตสฺส. กปิฺชโร นาม อฺมฺํ ยุชฺฌาปนตฺถาย พาลชเนหิ โปสาวนิยปกฺขิชาติ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๗. เวหาสฏฺกถายํ ฉินฺนมตฺเต มุตฺตมตฺเตติ ยถา ฉินฺนํ มุตฺตฺจ ปกติฏฺาเน น ติฏฺติ, ตถา เฉทนํ โมจนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา
๙๘. อุทกฏฺกถายํ ¶ สนฺทมานอุทเก นิกฺขิตฺตํ น ติฏฺตีติ อาห ‘‘อสนฺทนเก อุทเก’’ติ. อนาปตฺตีติ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. กฑฺฒตีติ เหฏฺโต โอสาเรติ. สกลมุทกนฺติ ทณฺเฑน ผุฏฺโกาสคตํ สกลมุทกํ. น อุทกํ านนฺติ อตฺตนา กตฏฺานสฺส อฏฺานตฺตา. ปทุมินิยนฺติ ปทุมคจฺเฉ. กลาปพนฺธนฺติ หตฺถกวเสน ขุทฺทกํ กตฺวา พทฺธํ กลาปพทฺธํ. ภารพทฺธํ นาม สีสภาราทิวเสน พทฺธํ. มุฬาลนฺติ กนฺทํ. ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วาติ อิทํ กทฺทมสฺส อนฺโต ¶ ปวิสิตฺวา ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ วาปิยา อุทกสฺส นิกฺขมนนาฬํ. อุทกวาหกนฺติ มหามาติกํ. อวหาเรน โส น กาเรตพฺโพติ อิมินา ปาณํ ชีวิตา โวโรปเน อาปตฺติยา สพฺพตฺถ น มุจฺจตีติ ทีเปติ. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ขุทฺทกมาติกํ อาโรเปตฺวา. มริตฺวา…เป… ติฏฺนฺตีติ เอตฺถ มตมจฺฉานํเยว เตสํ สนฺตกตฺตา อมเต คณฺหนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร.
นาวฏฺกถาวณฺณนา
๙๙. นาวฏฺกถายํ ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหตีติ เอตฺถ ปมํ านา อจาเวตฺวา มุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ปมํ ปน านา จาเวตฺวา มุตฺเต ปาราชิกนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาเส พทฺธสูกโร วิยาติอาทินา วุตฺตํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตาเอวา’’ติ. วิปนฺนฏฺนาวาติ วิสมวาเตหิ เทสนฺตรํ ปลาตา, ภิชฺชิตฺวา วา วินาสํ ปตฺวา อุทเก นิมุชฺชิตฺวา เหฏฺา ภูมิตลํ อปฺปตฺวา สามิเกหิ จ อปริจฺจตฺตาลยา วุจฺจติ. พลวา จ วาโต อาคมฺมาติ อิมินา อสติ วาเต อยํ ปโยโค กโตติ ทสฺเสติ. ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโรติ สุกฺขมาติกายํ อุชุกรณนเยน วุตฺตํ. ตํ อตฺตโน ปาเทน อนกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อนุกฺขิปิตฺวา อฺสฺมึ ทณฺฑาทีสุ พนฺธิตฺวา ปิเต ยุชฺชติ, อตฺตโน ปาเทน อกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อุกฺขิปิตฺวา ิตสฺส ปน พลววาเตน ฉตฺตจีวราทีสุ ปหเฏสุ ปกตึ วิชหิตฺวา ทฬฺหตรํ อกฺกมนคหณาทิปโยโค อภินโว กาตพฺโพ สิยา. อิตรถา ฉตฺตจีวราทีนิ วา วิคจฺฉนฺติ, อวหารโก วา สยํ ปติสฺสติ, นาวา จ ตทา น คมิสฺสติ. ตสฺมา อีทิเส อภินวปฺปโยเค สติ อวหาเรน ภวิตพฺพํ. สุกฺขมาติกายํ อุชุกตาย อุทกาคมนกาเล กาตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ ตํ อิธ นิทสฺสนํ น โหติ. ทาสํ ปน ปกติยา ปลายนฺตํ ‘‘สีฆํ ยาหี’’ติ วตฺวา ปกติคมนโต ตุริตคมนุปฺปาทนาทินา อิธ นิทสฺสเนน ภวิตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ ¶ , วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. วาเต อาคเตปิ ยตฺถ อติลหุกตฺตา นาวาย กฺจิ ปโยคํ อกตฺวา ปกติยา อวหารโก ติฏฺติ, ตตฺถิทํ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๐. ยานฏฺกถายํ ¶ อุโภสุ ปสฺเสสูติ จตุนฺนํ ถมฺภานํ อุปริ จตุรสฺสํ ทารุสงฺฆาฏํ อาโรเปตฺวา ตสฺส วามทกฺขิณปสฺเสสุ อุโภสุ วาตาตปาทิปริสฺสยวิโนทนตฺถํ ครุฬปกฺขิโน อุโภ ปกฺขา วิย กตา สนฺทมานิกา. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทฺวีหิ โคเณหิ ยุตฺตสฺส. อยุตฺตกนฺติ โคเณหิ อยุตฺตํ. กปฺปกตาติ ทฺวินฺนํ สิขานํ สนฺธิฏฺาเน โคสิงฺคานิ วิย ทฺเว โกฏิโย เปตฺวา อุปตฺถมฺภนี กปฺปกตา นาม, สา ทฺวีหิปิ โกฏีหิ ภูมิยํ ปติฏฺาติ, เตนาห ‘‘ฉ านานี’’ติ. ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานีติ อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา จ ทฺวินฺนํ จกฺกานฺจ วเสน ตีณิ านานิ, กปฺปกตาย วเสน จตฺตาริ านานิ, ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส ตีณิ านานีติ สมฺพนฺโธ. อกฺขสีเสหีติ อกฺขทารุโน ทฺวีหิ โกฏีหิ. อกฺขุทฺธีหีติ อกฺขทารุนา สมฺปฏิจฺฉกา เหฏฺิมภาเค กปฺปกตา ทฺเว ทารุขณฺฑา อกฺขุทฺธิโย นาม, ตาสํ กปฺปกตานํ ทฺวินฺนํ กปฺปสีสานิ จตฺตาริ อิธ ‘‘อกฺขุทฺธิโย’’ติ วุจฺจนฺติ, เตนาห ‘‘จตูหิ จ อกฺขุทฺธีหี’’ติ. ตาหิ ปติฏฺิตาหิ ปติฏฺิตฏฺานานิ จตฺตาริ ธุเรน ปติฏฺิตฏฺานํ เอกนฺติ ปฺจ านานิ โหนฺติ. อุทฺธิโยว ‘‘อุทฺธิขาณุกา’’ติ วุตฺตา, อุทฺธิขาณุกานํ อภาเว อกฺขสีสานํ ปติฏฺาโนกาสํ ทสฺเสนฺโต อาห สมเมว พาหํ กตฺวาติอาทิ. ตตฺถ สมเมวาติ อุทฺธิโย เหฏฺา อโนลมฺเพตฺวา พาหุโน เหฏฺิมภาคํ สมํ กตฺวา ทฺวินฺนํ พาหุทารูนํ มชฺเฌ อกฺขสีสปฺปมาเณน ฉิทฺทํ กตฺวา ตตฺถ อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, เตน พาหานํ เหฏฺาภาคํ สพฺพํ ภูมึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, เตนาห ‘‘สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺตี’’ติ. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมินา ยทิ ปน ตํ เอวํ คจฺฉนฺตํ ปกติคมนํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํ กิฺจิ านํ สมฺปตฺตํ านา อจาเลนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนวตฺถิ อวหาโร, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ อิมํ นยํ อติทิสติ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๑. ภารฏฺกถายํ ภารฏฺนฺติ มาติกาปทสฺส ภาโร นามาติ อิทํ อตฺถทสฺสนนฺติ อาห ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ. ปุริมคเลติ คลสฺส ปุริมภาเค. คลวาฏโกติ คีวาย อุปริมคลวาฏโก. อุรปริจฺเฉทมชฺเฌติ ¶ อุรปริยนฺตสฺส มชฺเฌ. สามิเกหิ อนาณตฺโตติ อิทํ ยทิ ¶ สามิเกหิ ‘‘อิมํ ภารํ เนตฺวา อสุกฏฺาเน เทหี’’ติ อาณตฺโต ภเวยฺย, ตทา เตน คหิตภณฺฑํ อุปนิกฺขิตฺตํ สิยา, ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน สีสาทิโต โอโรเปนฺตสฺสาปิ อวหาโร น สิยา, สามิกานํ ปน ธุรนิกฺเขเป เอว สิยาติ ตโต อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑภาวโต วิโยเชตุํ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘เตหิ ปน อนาณตฺตตฺตา ปาราชิก’’นฺติ. ฆํสนฺโตติ สีสโต อนุกฺขิปนฺโต, ยทิ อุกฺขิเปยฺย, อุกฺขิตฺตมตฺเต ปาราชิกํ, เตนาห สีสโต เกสคฺคมตฺตมฺปีติอาทิ. โย จายนฺติ โย อยํ วินิจฺฉโย.
อารามฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๒. อารามฏฺกถายํ อารามํ อภิยฺุชตีติ อิทํ อภิโยคกรณํ ปเรสํ ภูมฏฺภณฺฑาทีสุปิ กาตุํ วฏฺฏติเยว. อารามาทิถาวเรสุ ปน เยภุยฺเยน อภิโยควเสเนว คหณสมฺภวโต เอตฺเถว ปาฬิยํ อภิโยโค วุตฺโต, อิติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถาปิ สกฺกา าตุนฺติ คเหตพฺพํ. อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตาติ สหปโยคมาห. วตฺถุมฺหิเยว กตปโยคตฺตา สหปโยควเสน เหตํ ทุกฺกฏํ. สยมฺปีติ อภิยฺุชโกปิ. ‘‘กึ กโรมิ กึ กโรมี’’ติ เอวํ กิงฺการเมว ปฏิสฺสุณนฺโต วิย จรตีติ กิงฺการปฏิสฺสาวี, ตสฺส ภาโว กิงฺการปฏิสฺสาวิภาโว, ตสฺมึ, อตฺตโน วสวตฺติภาเวติ วุตฺตํ โหติ. อุกฺโกจนฺติ ลฺชํ. สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติ กูฏวินิจฺฉยิกาทีนํ. อยํ วตฺถุสามีติอาทิกสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขปกรณเหตุโน ปโยคสฺส กรณกฺขเณว ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน สามิกสฺส วิมติ จ ธุรนิกฺเขโป จ กเมน อุปฺปชฺชนฺติ, ปโยคสมุฏฺาปกจิตฺตกฺขเณ ปาราชิกเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยํ. ยทิ วิมติเยว อุปฺปชฺชติ, ตทา ถุลฺลจฺจยเมวาติ เวทิตพฺพํ, อยํ นโย สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ คเหตพฺโพ. ธุรนิกฺเขปวเสเนว ปราชโยติ สามิโก ‘‘อหํ น มุจฺจามี’’ติ ธุรํ อนิกฺขิปนฺโต อฏฺโฏ ปราชิโต นาม น โหตีติ ทสฺเสติ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๓. วิหารฏฺกถายํ ¶ วิหารนฺติ อุปจารสีมาสงฺขาตํ สกลํ วิหารํ. ปริเวณนฺติ ตสฺส วิหารสฺส อพฺภนฺตเร วิสุํ วิสุํ ปาการาทิปริจฺฉินฺนฏฺานํ. อาวาสนฺติ เอกํ อาวสถมตฺตํ. คณสนฺตเก ปริจฺฉินฺนสามิกตฺตา สกฺกา ธุรํ นิกฺขิปาเปตุนฺติ อาห ‘‘ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺสา’’ติ. อิธาปิ สเจ เอโกปิ ธุรํ น นิกฺขิปติ, รกฺขติเยว. เอส นโย พหูนํ สนฺตเก สพฺพตฺถ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๔. เขตฺตฏฺกถายํ ¶ นิรุมฺภิตฺวา วาติอาทีสุ คณฺหนฺตสฺสาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ, ตตฺถ นิรุมฺภิตฺวา คหณํ นาม วีหิสีสํ อจฺฉินฺทิตฺวา ยถาิตเมว หตฺเถน คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา พีชมตฺตสฺเสว คหณํ. เอกเมกนฺติ เอกํ วีหิสีสํ. ยสฺมึ พีเช วาติอาทิ นิรุมฺภิตฺวา คหณาทีสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. ‘‘ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต’’ติ วจนโต ตสฺมึ พีชาทิมฺหิ พนฺธนา มุตฺเต สติ ตโต อนปนีเตปิ านนฺตรสฺส อภาวา ปาราชิกเมว. ยสฺส ปน สีสาทิกสฺส สนฺตราทินา สห สํสิพฺพนํ วา เอกาพทฺธตา วา โหติ, ตสฺส พนฺธนา โมจิเต ถุลฺลจฺจยํ, อิตรฏฺานโต โมจิเต ปาราชิกนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห วีหินาฬนฺติอาทิ. สภุสนฺติ ปลาลสหิตํ. ขีเลนาติ ขาณุเกน. เอตฺถ จ ขีลสงฺกมนาทีสุ สหปโยโค ธุรนิกฺเขโป จาติ อุภยํ สมฺภวติ. ขีลสงฺกมนาทิ เอตฺถ สหปโยโค. ตสฺมิฺจ กเต ยทิ สามิกา ธุรํ น นิกฺขิปนฺติ ปุน คณฺหิตุกามาว โหนฺติ, น ตาว อวหาโร, ‘‘ขีลํ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทึ อสุโก ราชวลฺลโภ ภิกฺขุ คณฺหิตุกาโม’’ติ ตฺวา ตสฺส พลํ กกฺขฬาทิภาวฺจ นิสฺสาย ขีลสงฺกมนาทิกิริยานิฏฺานโต ปมเมว สามิกา ธุรํ นิกฺขิปนฺติ, น อวหาโร เอตสฺส ปโยคนิฏฺานโต ปุเรตรเมว ธุรสฺส นิกฺขิตฺตตฺตา. ยทา ปน ขีลสงฺกมนาทิปโยเคเนว ธุรนิกฺเขโป โหติ, ตทาเยว อวหาโร, เตเนเวตฺถ ‘‘ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนา’’ติ วุตฺตํ. ขีลาทีนํ สงฺกมิตภาวํ อชานิตฺวา สามิกานํ สมฺปฏิจฺฉนมฺเปตฺถ ธุรนิกฺเขโปติ เวทิตพฺโพ. เอวํ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ รชฺชุสงฺกมนาทีสุปิ อติทิสติ. ยฏฺินฺติ มานทณฺฑํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกนฺติ ¶ สเจ ทารูนิ นิขณิตฺวา ตตฺตเกเนว คณฺหิตุกาโม โหติ, อวสาเน ทารุมฺหิ ปาราชิกํ. สเจ ตตฺถ กณฺฏกสาขาทีหิ ปาทานํ อนฺตรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กสฺสจิ อปฺปเวสารหํ กตฺวา คเหตุกาโม โหติ, อวสานสาขาย ปาราชิกํ, เตนาห ‘‘สาขาปริวาเรเนว อตฺตโน กาตุํ สกฺโกตี’’ติ, ทารูนิ จ นิขณิตฺวา สาขาปริวารฺจ กตฺวา เอว อตฺตโน สนฺตกํ กาตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. เขตฺตมริยาทนฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เกทารปาฬิ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ ขีลสงฺกมนาทินา คหณํ อารามาทีสุปิ ลพฺภเตว.
วตฺถุฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๕. วตฺถุฏฺกถายํ ติณฺณํ ปาการานนฺติ อิฏฺกสิลาทารูนํ วเสน ติณฺณํ ปาการานํ.
๑๐๖. คามฏฺกถายํ ¶ ‘‘คาโม นามา’’ติ ปาฬิยํ น วุตฺตํ สพฺพโส คามลกฺขณสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๗. อรฺฏฺกถายํ วินิวิชฺฌิตฺวาติ อุชุกเมว วินิวิชฺฌิตฺวา. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาติ อรฺสามิกานํ หตฺถโต กิณิตฺวา คณฺหนฺเตหิ กตอกฺขราทิสฺาณสฺส. ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธนฺติ อิมินา สามิกานํ นิราเปกฺขตาย จิรฉฑฺฑิตภาวํ ทีเปติ, เตนาห ‘‘คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ สามิกานํ สาเปกฺขตา อตฺถิ, น วฏฺฏติ. ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺตีติ ตานิ เคหาทีนิ กตานิ ปรินิฏฺิตานิ มนุสฺเสหิ จ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ. ทารูนีติ เคหาทีนํ กตตฺตา อวสิฏฺทารูนิ. คเหตุํ วฏฺฏตีติ สามิกานํ อนาลยตฺตา วุตฺตํ, เต จ ยทิ คหณกาเล ทิสฺวา สาลยา หุตฺวา วาเรนฺติ, คเหตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ทาตพฺพเมวาติ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เทหี’’ติ อวุตฺเต อทตฺวา คมเน อาปตฺติ นตฺถิ. ปจฺฉาปิ เตหิ โจทิเต ทาตพฺพเมว.
อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. อารกฺขฏฺานมฺปิ สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ ¶ อารกฺขฏฺานสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ, ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อารกฺขฏฺานํ ปตฺวา…เป… อสฺสติยา อติกฺกมตี’’ติ, สหสา ตํ านํ อติกฺกมตีติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) จ อารกฺขฏฺานาติกฺกเมเยว อาปตฺติยา วุจฺจมานตฺตา, อารกฺขฏฺานาติกฺกมเมว สนฺธาย ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ. ยฺจ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อารกฺขฏฺานโต พหิ ปาราชิกาปชฺชนสฺส การณํ น โหติ ภณฺฑเทยฺยภาวสฺเสว การณตฺตา. เตสํ สนฺตกตฺเตเนว หิ พหิ กตสฺสาปิ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ, อิตรถา จ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น สิยา สุงฺกฆาตาติกฺกเม วิย. อทฺธิเกหิ ทินฺนเมว สุงฺกิกานํ สนฺตกํ โหติ, นาทินฺนํ, เตน ตํ านํ ยโต กุโตจิ ปจฺจยโต สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ. อิธ ปน อรฺสามิกานํ สนฺตกตฺตา สพฺพตฺถาปิ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, เตเนเวตํ อรฺเ อารกฺขฏฺานํ สุงฺกฆาตโตปิ ครุตรํ ¶ ชาตํ. ยทิ หิ อารกฺขฏฺานโต พหิปิ เถยฺยจิตฺเต สติ อวหาโร ภเวยฺย, อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติอาทินา านนิยโม นิรตฺถโก สิยา ยตฺถ กตฺถจิ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปาราชิกนฺติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อารกฺขฏฺานโต พหิ เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉนฺตสฺส อวหาโร น ภวติ เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ ยสฺมึ ปเทเส อติกฺกนฺเต เตสํ อรฺํ อารกฺขฏฺานฺจ อติกฺกนฺโต นาม โหติ, ตํ ปเทสํ อากาเสนาปิ อติกฺกมนวเสน คจฺฉนฺตสฺสาปีติ อตฺโถ.
อุทกกถาวณฺณนา
๑๐๘. อุทกกถายํ มหากุจฺฉิกา อุทกจาฏิ อุทกมณิโก, ‘‘สเมขลา จาฏิ อุทกมณิโก’’ติปิ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ภาชเนสุ. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อกปฺปิยปถวิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ตฬากรกฺขณตฺถายาติ ‘‘มโหทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากมริยาทํ มา ฉินฺที’’ติ ตฬากรกฺขณตฺถํ. นิพฺพหนอุทกนฺติ เอตฺถ ตฬากสฺส เอเกน อุนฺนเตน ปสฺเสน อธิกชลํ นิพฺพหติ นิคจฺฉติ เอเตนาติ ‘‘นิพฺพหน’’นฺติ อธิกชลนิกฺขมนมาติกา ¶ วุจฺจติ. ตตฺถ คจฺฉมานํ อุทกํ นิพฺพหนอุทกํ นาม. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ สสฺสาทีนํ อตฺถาย อิฏฺกาทีหิ กตํ อุทกนิกฺขมนปนาฬิ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวาติ เอตฺถ ทุพฺพลํ อกตฺวาปิ ยถาวุตฺตปฺปโยเค กเต มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กตฺตพฺพเมว. ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ พีชกสิกมฺมาทิพฺพยํ เปตฺวา ยํ อธิกลาภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เตหิ กาตพฺพํ วยกรณมฺปิ เอตสฺส ทาตพฺพํ. อิทฺจ ตรุณสสฺเส ชาเต อุทกํ วินาเสนฺตสฺส ยุชฺชติ, สสฺเส ปน สพฺพถา อกเตเยว อุทกํ วินาเสนฺเตน จ อุทกคฺฆเมว ทาตพฺพํ, น ตปฺปจฺจยา สกลํ สสฺสํ เตน วินาสิตภณฺฑสฺเสว ภณฺฑเทยฺยตฺตา, อิตรถา วาณิชฺชาทิอตฺถาย ปเรหิ ปิตภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ตทุภยมฺปิ คเหตฺวา ภณฺฑคฺฆํ กาตพฺพํ สิยา, ตฺจ น ยุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนาติ เอตฺถ เอกสฺส สนฺตเก ตฬาเก เขตฺเต จ ชาเต ตสฺเสว ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ, ยทิ ปน ตํ ตฬากํ สพฺพสาธารณํ, เขตฺตานิ ปาฏิปุคฺคลิกานิ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ธุรนิกฺเขเป อวหาโร, อถ เขตฺตานิปิ สพฺพสาธารณานิ, สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขเปเยว ปาราชิกํ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.
อนิคฺคเตติ อนิกฺขนฺเต, ตฬาเกเยว ิเตติ อตฺโถ. ปเรสํ มาติกามุขนฺติ ขุทฺทกมาติกามุขํ. อสมฺปตฺเตวาติ ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา มหามาติกายํ เอว ิเต. อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธาติ ตฬากโต อนิกฺขนฺเต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ สพฺพสาธารณตฺตา อุทกสฺสาติ ¶ อธิปฺปาโย. นิกฺขนฺเต ปน ปาฏิปุคฺคลิกํ โหตีติ อาห ‘‘นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ. อิธ ปน ขุทฺทกมาติกายํ อปฺปวิฏฺตฺตา อวหาโร น ชาโต, ‘‘ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตวา’’ติ เหฏฺา วุตฺตสฺส วิกปฺปทฺวยสฺส ‘‘อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ อิทํ ทฺวยํ ยถากฺกเมน โยชนตฺถํ วุตฺตํ. นตฺถิ อวหาโรติ เอตฺถ ‘‘อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. วตฺถุํ…เป… น สเมตีติ เอตฺถ ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา ปรสนฺตกวตฺถุ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา
๑๐๙. ทนฺตกฏฺกถายํ ¶ ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถีติ ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ อภาเชตฺวาว ยาวทิจฺฉกํ คหณตฺถเมว ปิตตฺตา อรกฺขิตตฺตา สพฺพสาธารณตฺตา จ อฺํ สงฺฆิกํ วิย น โหตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺสาปิ นตฺถิ อวหาโร. ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตีติ เกจิ เถรา วเทยฺยุนฺติ โยเชตพฺพํ.
วนปฺปติกถาวณฺณนา
๑๑๐. วนปฺปติกถายํ สนฺธาริตตฺตาติ ฉินฺนสฺส รุกฺขสฺส ปติตุํ อารทฺธสฺส สนฺธารณมตฺเตน วุตฺตํ, น ปน มริจวลฺลิอาทีหิ ปุพฺเพ เวเตฺวา ิตภาเวน. ตาทิเส หิ ฉินฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ อรฺฏฺกถายํ เวิตวลฺลิยํ วิย. อุชุกเมว ติฏฺตีติ อิมินา สพฺพโส ฉินฺทนเมว วลฺลิอาทีหิ อสมฺพทฺธสฺส รุกฺขสฺส านาจาวนํ ปุพฺเพ วิย อากาสาทีสุ ผุฏฺสกลปเทสโต โมจนนฺติ อาเวณิกมิธ านาจาวนํ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘รุกฺขภาเรน กิฺจิเทว ภสฺสิตฺวา ิตตฺตา โหติเยว านาจาวน’’นฺติ วทนฺติ, ตนฺน, รุกฺเขน ผุฏฺสฺส สกลสฺส อากาสปเทสสฺส ปฺจหิ ฉหิ วา อากาเรหิ อนติกฺกมิตตฺตา. วาตมุขํ โสเธตีติ ยถา วาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ, เอวํ วาตสฺส อาคมนมคฺคํ รุนฺธิตฺวา ิตานิ สาขาคุมฺพาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อปเนนฺโต โสเธติ. มณฺฑูกกณฺฏกํ วาติ มณฺฑูกานํ นงฺคุฏฺเ อคฺคโกฏิยํ ิตกณฺฏกนฺติ วทนฺติ, เอเก ‘‘วิสมจฺฉกณฺฏก’’นฺติปิ วทนฺติ.
หรณกกถาวณฺณนา
๑๑๑. หรณกกถายํ ¶ หรณกนฺติ วตฺถุสามินา หริยมานํ. โส จ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมวาติ ‘‘อนฺตํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อสลฺลกฺขิตตฺตา สามฺโต ‘‘คณฺหิสฺสามิ เอต’’นฺติ สลฺลกฺขิตสฺเสว ปฏสฺส เอกเทสตาย ตมฺปิ คณฺหิตุกาโมวาติ ปาราชิกํ วุตฺตํ. สภณฺฑหารกนฺติ สหภณฺฑหารกํ, สการาเทสสฺส วิกปฺปตฺตา สห สทฺโทว ิโต, ภณฺฑหารเกน สห ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. สาสงฺโกติ ‘‘ยทิ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภณฺฑํ คณฺหิสฺสามิ, อาวุเธน มํ ปหเรยฺยา’’ติ ภเยน สฺชาตาสงฺโก. เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺมาติ ภเยเนว อนุปคนฺตฺวา มคฺคโต สยํ ปฏิกฺกมฺม. สนฺตชฺเชตฺวาติ ผรุสวาจาย เจว อาวุธปริวตฺตนาทิกายวิกาเรน จ สนฺตชฺเชตฺวา. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตกํ. อาลเยน อนธิมุตฺตมฺปิ ภณฺฑํ อนชฺฌาวุตฺถกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘อาหราเปนฺเต ทาตพฺพ’’นฺติ, อิมินา ปมํ ปริจฺจตฺตาลยานมฺปิ ยทิ ปจฺฉาปิ สกสฺา อุปฺปชฺชติ, เตสฺเว ตํ ภณฺฑํ โหติ, พลกฺกาเรนาปิ สกสฺาย ตสฺส คหเณ โทโส นตฺถิ, อททนฺตสฺเสว อวหาโรติ ทสฺเสติ. ยทิ ปน สามิโน ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ปมํ, อิทานิ มม สนฺตกํ วา เอตํ, โน’’ติ อาสงฺกา โหติ, พลกฺกาเรน คเหตุํ น วฏฺฏติ สกสฺาพเลเนว ปุน คเหตพฺพภาวสฺส อาปนฺนตฺตา. ‘‘อเทนฺตสฺส ปาราชิก’’นฺติ วจนโต โจรสฺส สกสฺาย วิชฺชมานายปิ สามิเกสุ สาลเยสุ อทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺเสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ. วิจารณาเยว นตฺถีติ อิมินา ตตฺถาปิ ปฏิกฺเขปาภาวโต อยเมว อตฺโถติ ทสฺเสติ.
อุปนิธิกถาวณฺณนา
๑๑๒. อุปนิธิกถายํ สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺาเน ปฏิสามนปฺปโยคํ วินา นาหํ คณฺหามีติอาทินา อฺสฺมึ ปโยเค อกเต รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเตปิ อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาราชิกเมว ปฏิสามนปฺปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ปฏิสามนกาเล หิสฺส เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ ปน สามิโน ธุรนิกฺเขปจิตฺตุปฺปตฺติยา เหตุภูโต กายวจีปโยโค นตฺถิ, เยน โส อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. น หิ อกิริยสมุฏฺานายํ อาปตฺตีติ. ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาวาติ อวหารํ สนฺธาย อวุตฺตตฺตา นาหํ คณฺหามีติอาทินา มุสาวาทกรเณ ปาจิตฺติยเมว โหติ, น ทุกฺกฏํ ¶ เถยฺยจิตฺตาภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวโตติ คเหตพฺพํ. ยทิปิ มุเขน ทสฺสามีติ วทติ…เป… ปาราชิกนฺติ เอตฺถ กตรปโยเคน อาปตฺติ, น ตาว ปเมน ภณฺฑปฏิสามนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺตาภาวา, นาปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ ¶ กถนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺเต วิชฺชมาเนปิ ปโยคสฺส กปฺปิยตฺตาติ? วุจฺจเต – สามินา ‘‘เทหี’’ติ พหุโส ยาจิยมาโนปิ อทตฺวา เยน ปโยเคน อตฺตโน อทาตุกามตํ สามิกสฺส าเปติ, เยน จ โส ‘‘อทาตุกาโม อยํ วิกฺขิปตี’’ติ ตฺวา ธุรํ นิกฺขิปติ, เตเนว ปโยเคนสฺส อาปตฺติ. น เหตฺถ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ ปริยาเยน มุตฺติ อตฺถิ. อทาตุกามตาย หิ กทา เต ทินฺนํ, กตฺถ เต ทินฺนนฺติอาทิปริยายวจเนนาปิ สามิกสฺส ธุเร นิกฺขิปาปิเต อาปตฺติเยว. เตเนว อฏฺกถายํ วุตฺตํ – ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ…เป… เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๑). ปรสนฺตกสฺส ปเรหิ คณฺหาปเน เอว ปริยายโต มุตฺติ, น สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สามินา ทินฺนตาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ิตตฺตา จ านาจาวเนปิ นตฺถิ อวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหเณ ทุกฺกฏโต น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.
เอเสว นโยติ อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ, กสฺมา? อฺเหิ สาธารณสฺส อภิฺาณสฺส วุตฺตตฺตา. อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ สฺาณโต โอกาสโต จ เตน สทิสเมว อฺํ คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, โจเรน สลฺลกฺขิตปฺปเทสโต ตํ อปเนตฺวา เกหิจิ ตตฺถ ตาทิเส อฺสฺมึ ปตฺเต ปิเต ตํ คณฺหนฺเตเยว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย, เตน โจเรน ทิวา สลฺลกฺขิตปตฺตํ อฺตฺถ อปเนตฺวา ตทฺเ ตาทิเส ปตฺเต ตตฺถ ปิเตปิ โจรสฺส ปจฺฉา รตฺติภาเค อุปฺปชฺชมานํ เถยฺยจิตฺตํ ทิวา สลฺลกฺขิตปฺปเทเส ปิตํ อฺํ ตาทิสํ ปตฺตเมว อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ปทวาเรนาติ เถเรน นีหริตฺวา ทินฺนํ ปตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉโต โจรสฺส ปทวาเรน. อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ อตาทิสสฺส เถเรน คหณกฺขเณ อวหาราภาวโต ปจฺฉา หตฺถปตฺตํ ‘‘ต’’นฺติ วา ‘‘อฺ’’นฺติ วา สฺาย ‘‘อิทํ คเหตฺวา คจฺฉามี’’ติ คมเน ปทวาเรเนว อวหาโร ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
ปาราชิกํ นตฺถีติ ปทวาเรปิ ปาราชิกํ นตฺถิ อุปนิธิภณฺเฑ วิยาติ คเหตพฺพํ. คามทฺวารนฺติ พหิคาเม วิหารสฺส ปติฏฺิตตฺตา คามปฺปเวสสฺส อารมฺภปฺปเทสทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อนฺโตคามนฺติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปิ อุทฺธาเรเยว ¶ ปาราชิกนฺติ เถรสฺส อภณฺฑาคาริกตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ โส ภณฺฑาคาริโก ภเวยฺย, สพฺพมฺปิ อุปนิกฺขิตฺตเมว สิยา, อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ จ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ น ตาว เถรสฺส อวหาโร โหติ, โจรสฺเสว อวหาโร. อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ ¶ เถรสฺส อตฺตโน สนฺตกตาย โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา อวหาโร น ชาโต, อุภินฺนมฺปิ อสุทฺธจิตฺเตน คหิตตฺตา ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
อาณตฺติยา คหิตตฺตาติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺหา’’ติ เอวํ เถเรน กตอาณตฺติยา คหิตตฺตา. อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เถเรน วิหารโต ปฏฺาย คามมคฺเคปิ สกเลปิ คาเม วิจรณสฺส นิยมิตตฺตา มคฺคโต โอกฺกมฺม คจฺฉนฺตสฺเสว ปทวาเรน อาปตฺติ วุตฺตา. วิหารสฺส หิ ปรภาเค อุปจารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส คามสฺส ปรโต อุปจาโร, ตาว สพฺพํ ทหรสฺส เถราณตฺติยา สฺจรณูปจาโรว โหติ, น ปน ตโต ปรํ. เตเนว ‘‘อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิก’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปฏินิวตฺตเน จีวรโธวนาทิอตฺถาย เปสเนปิ เอเสว นโย. อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา สีสาทีสุ ภารํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺโต วา นิสีทนฺโต วา วิสฺสมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต วูปสนฺเต ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ เจ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ตํ คเหตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. กสฺมา? อาณาปกสฺส อาณตฺติยา ยํ กตฺตพฺพํ, ตสฺส ตาวตา ปรินิฏฺิตตฺตา. ‘‘อสุกํ นาม คาม’’นฺติ อนิยเมตฺวา ‘‘อนฺโตคามํ คมิสฺสามา’’ติ อวิเสเสน วุตฺเต วิหารสามนฺตา ปุพฺเพ ปิณฺฑาย ปวิฏฺปุพฺพา สพฺเพ โคจรคามาปิ เขตฺตเมวาติ วทนฺติ. เสสนฺติ มคฺคุกฺกมนวิหาราภิมุขคมนาทิ สพฺพํ. ปุริมสทิสเมวาติ อนาณตฺติยา คหิเตปิ สามิกสฺส กเถตฺวา คหิตตฺตา เหฏฺา วุตฺตวิหารูปจาราทิ สพฺพํ เขตฺตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ. เอเสว นโยติ อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวาติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๒) วุตฺตํ นยํ อติทิสติ.
นิมิตฺเต วา กเตติ จีวรํ เม กิลิฏฺํ, โก นุ โข รชิตฺวา ทสฺสตีติอาทินา นิมิตฺเต กเต. วุตฺตนเยเนวาติ อนาณตฺตสฺส เถเรน ¶ สทฺธึ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คมนวาเร วุตฺตนเยเนว. เอกปสฺเสติ วิหารสฺส มหนฺตตาย อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา เอกสฺมึ ปสฺเส. เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชนฺโต ชีราเปตีติ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน านาจาวนํ อกตฺวา นิวตฺถปารุตนีหาเรเนว ปริภฺุชนฺโต ชีราเปติ, านา จาเวนฺตสฺส ปน เถยฺยจิตฺเต สติ ปาราชิกเมว สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ วิย (ปารา. ๑๐๑). ยถา วา ตถา วา นสฺสตีติ อคฺคิอาทินา นสฺสติ, อฺโ วา โกจีติ อิมินา เยน ปิตํ, โสปิ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺพํ.
อิตรสฺสาติ ¶ โจรสฺส. อิตรํ คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกนฺติ เอตฺถ ‘‘ปวิสิตฺวา ตว สาฏกํ คณฺหาหี’’ติ อิมินาว อุปนิธิภาวโต โมจิตตฺตา, สามิกสฺส อิตรํ คณฺหโต อตฺตโน สาฏเก อาลยสฺส สพฺภาวโต จ ‘‘อุทฺธาเร ปาราชิก’’นฺติ วุตฺตํ. สามิโก เจ ‘‘มม สนฺตกํ อิทํ วา โหตุ, อฺํ วา, กึ เตน, อลํ มยฺหํ อิมินา’’ติ เอวํ สุฏฺุ นิราลโย โหติ, โจรสฺส ปาราชิกํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ. น ชานนฺตีติ เตน วุตฺตวจนํ อสุณนฺตา น ชานนฺติ. เอเสว นโยติ เอตฺถ สเจ ชานิตฺวาปิ จิตฺเตน น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เอเสว นโยติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิกฺขิปนฺตีติ เอตฺถ จิตฺเตน ปฏิกฺเขโปปิ สงฺคหิโตวาติ เวทิตพฺพํ. อุปจาเร วิชฺชมาเนติ ภณฺฑาคารสฺส สมีเป อุจฺจารปสฺสาวฏฺาเน วิชฺชมาเน. มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเติ เอตฺถ ‘‘ตํ มาเรสฺสามา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติ คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโยติ วุตฺตตฺตา. มรณโต หิ ปรํ เคลฺํ อวิสยตฺตฺจ นตฺถิ. ‘‘ทฺวารํ ฉินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ หริสฺสามา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติเยว. สหาเยหิ ภวิตพฺพนฺติ เตหิปิ ภิกฺขาจาราทีหิ ปริเยสิตฺวา อตฺตโน สนฺตเกปิ กิฺจิ กิฺจิ ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยํ สามีจีติ ภณฺฑาคาเร วสนฺตานํ อิทํ วตฺตํ.
โลลมหาเถโรติ มนฺโท โมมูโห อากิณฺณวิหารี. อิตเรหีติ ตสฺมึเยว คพฺเภ วสนฺเตหิ อิตรภิกฺขูหิ. วิหารรกฺขณวาเร นิยุตฺโต วิหารวาริโก, วุฑฺฒปฏิปาฏิยา อตฺตโน วาเร วิหารรกฺขณโก. นิวาปนฺติ ภตฺตเวตนํ. โจรานํ ปฏิปถํ คเตสูติ โจรานํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘ปมตรฺเว คนฺตฺวา สทฺทํ กริสฺสามา’’ติ โจรานํ อภิมุขํ ¶ คเตสุ, ‘‘โจเรหิ หฏภณฺฑํ อาหริสฺสามา’’ติ ตทนุปถํ คเตสุปิ เอเสว นโย. นิพทฺธํ กตฺวาติ ‘‘อสุกกุเล ยาคุภตฺตํ วิหารวาริกานฺเวา’’ติ เอวํ นิยมนํ กตฺวา. ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโนวาติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ตโต อูนํ วา โหตุ อธิกํ วา อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ ยาปนมตฺตํ ลภนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. นิสฺสิตเก ชคฺเคนฺตีติ เตหิ วิหารํ ชคฺคาเปนฺตีติ อตฺโถ. อสหายกสฺสาติ สหายรหิตสฺส. อตฺตทุติยสฺสาติ อปฺปิจฺฉสฺส อตฺตา สรีรเมว ทุติโย อสฺส นาฺโติ อตฺตทุติโย. ตทุภยสฺสาปิ อตฺถสฺส วิภาวนํ ยสฺสาติอาทิ, เอเตน สพฺเพน เอเกกสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพติ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปากวตฺตตฺถายาติ นิจฺจํ ปจิตพฺพยาคุภตฺตสงฺขาตวตฺตตฺถาย. เปนฺตีติ ทายกา เปนฺติ. ตํ คเหตฺวาติ ตํ อารามิกาทีหิ ทิยฺยมานํ ภาคํ คเหตฺวา. น คาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ อพฺโภกาสิกสฺสาปิ อตฺตโน อธิกปริกฺขาโร วา ปิโต อตฺถิ, จีวราทิสงฺฆิกภาเคปิ อาลโย วา อตฺถิ, โสปิ คาหาเปตพฺโพว. ทิคุณนฺติ อฺเหิ ลพฺภมานโต ทิคุณํ. ปกฺขวาเรนาติ อฑฺฒมาสวาเรน.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา
๑๑๓. สุงฺกฆาตกถายํ ¶ สุงฺกํ ยตฺถ ราชปุริสา หนนฺติ อททนฺตานํ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวาปิ คณฺหนฺติ, ตํ านํ สุงฺกฆาตนฺติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ตฺหีติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ปมปาทํ ปริจฺเฉทโต พหิ เปตฺวา ทุติยปาเท อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธริตฺวา พหิ อฏฺปิเตปิ พหิ ิโต เอว นาม โหตีติ กตฺวา เอวํ สพฺพตฺถ ปทวาเรสุปีติ ทฏฺพฺพํ. ปริวตฺติตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ เปติ, ปาราชิกนฺติ อิทํ สยํ พหิ ตฺวา ปมํ อพฺภนฺตริมํ อุกฺขิปิตฺวา วา สมกํ อุกฺขิปิตฺวา วา ปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. พหิ ตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเต หิ สพฺพํ พหิคตเมว โหตีติ. สเจ ปน โส พหิ ตฺวาปิ พาหิรปุฏกํ ปมํ อนฺโต เปตฺวา ปจฺฉา อพฺภนฺตริมํ อุกฺขิปิตฺวา พหิ เปติ, ตทาปิ เอกาพทฺธตาย อวิชหิตตฺตา อวหาโร น ทิสฺสติ. เกจิ ปน ‘‘ภูมิยํ ปติตฺวา วตฺตนฺตํ ปุน อนฺโต ปวิสติ, ปาราชิกเมวาติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๓) วุตฺตตฺตา พาหิรปุฏเก ¶ อนฺโตปวิฏฺเปิ พหิคตภาวโต น มุจฺจติ, อนฺโตคตํ ปน ปุฏกํ ปมํ, ปจฺฉา เอว วา พหิ ปิตมตฺเต วา ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. พหิ ภูมิยํ ปาติตสฺส เกนจิ สทฺธึ เอกาพทฺธตาย อภาเวน อนฺโตปวิฏฺเปิ ปาราชิกเมวาติ วตฺตุํ ยุตฺตํ, อิทํ ปน เอกาพทฺธตฺตา เตน สทฺธึ น สเมติ. ตสฺมา ยถา อนฺโตภูมิคเตน เอกาพทฺธตา น โหติ, เอวํ อุภยสฺสาปิ พหิคตภาเว สาธิเตเยว อวหาโรติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. เย ปน ปริวตฺติตฺวาติ อิมสฺส นิวตฺติตฺวาติ อตฺถํ วทนฺติ, เตหิ ปน อพฺภนฺตริมํ พหิ เปตีติ อยมตฺโถ คหิโต โหตีติ ตตฺถ สงฺกาเยว นตฺถิ. เอกาพทฺธนฺติ กาชโกฏิยํ รชฺชุยา พนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, ปาราชิกนฺติ พหิ คหิตกาชโกฏิยํ ปิตํ ยทิ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมว, อนฺโตปิเตน เอกาพทฺธตาย อภาวาติ อธิปฺปาโย. คจฺฉนฺเต ยาเน วา…เป… เปตีติ สุงฺกฆาตํ ปวิสิตฺวา อปฺปวิสิตฺวา วา เปติ. สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ิตนฺติ ยานาทีหิ นีหฏตฺตา พหิ ิตํ. เกจิ ปน ‘‘พหิ ปิต’’นฺติ ปาํ วิกปฺเปตฺวา สุงฺกฏฺานโต ปุพฺเพว พหิ ปิตนฺติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ; สุงฺกฏฺาเน ปวิสิตฺวา ยาเน ปิเตปิ ปวตฺติตฺวา คเต วิย โทสาภาวโต. โย ปน สุงฺกฏฺานสฺส อนฺโตว ปวิสิตฺวา ‘‘สุงฺกฏฺาน’’นฺติ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน อาคตมคฺเคน ปฏินิวตฺติตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสาปิ ยทิ เตน ทิสาภาเคน คจฺฉนฺตานมฺปิ หตฺถโต สุงฺกํ คณฺหนฺติ, ปาราชิกเมว. อิมสฺมึ าเนติ ยานาทีหิ นีหรเณ. ตตฺราติ ตสฺมึ เอฬกโลมสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๗๑ อาทโย).
ปาณกถาวณฺณนา
๑๑๔. ปาณกถายํ ¶ อาปิโตติ มาตาปิตูหิ อิณํ คณฺหนฺเตหิ ‘‘ยาว อิณทานา อยํ ตุมฺหากํ สนฺติเก โหตู’’ติ อิณทายกานํ นิยฺยาติโต. อวหาโร นตฺถีติ มาตาปิตูหิ ปุตฺตสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา มาตาปิตูนฺจ อสนฺตกตฺตา อวหาโร นตฺถิ. ธนํ ปน คตฏฺาเน วฑฺฒตีติ อิมินา อาเปตฺวา คหิตธนํ วฑฺฒิยา สห อาปิตปุตฺตหารกสฺส คีวาติ ทสฺสิตนฺติ วทนฺติ. ทาสสฺส ชาโตติ อุกฺกฏฺลกฺขณํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทาสิกุจฺฉิยํ ปน อทาสสฺส ชาโตปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต ¶ . ปรเทสโต ปหริตฺวาติ ปรเทสวิลุมฺปเกหิ ราชโจราทีหิ ปหริตฺวา. สุขํ ชีวาติ วทตีติ เถยฺยจิตฺเตน สามิกานํ สนฺติกโต ปลาเปตุกามตาย วทติ, ตถา ปน อจินฺเตตฺวา การฺุเน ‘‘สุขํ คนฺตฺวา ชีวา’’ติ วทนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร, คีวา ปน โหติ. ทุติยปทวาเรติ ยทิ ทุติยปทํ อวสฺสํ อุทฺธริสฺสติ, ภิกฺขุสฺส ‘‘ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วจนกฺขเณเยว ปาราชิกํ. อนาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ ตสฺส วจเนน เวควฑฺฒเน อกเตปิ ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ ทสฺเสติ. ‘‘อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๘๙, ๙๑) อาทานสฺเสว วุตฺตตฺตา วุตฺตปริยาเยน มุจฺจตีติ.
จตุปฺปทกถาวณฺณนา
๑๑๗. จตุปฺปทกถายํ ปาฬิยํ อาคตาวเสสาติ ปาฬิยํ อาคเตหิ หตฺถิ อาทีหิ อฺเ ปสุ-สทฺทสฺส สพฺพสาธารณตฺตา. ภิงฺกจฺฉาปนฺติ ‘‘ภิงฺกา ภิงฺกา’’ติ สทฺทายนโต เอวํ ลทฺธนามํ หตฺถิโปตกํ. อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺเต. พหินคเร ิตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตนครํ สนฺธาย วุตฺตํ, อปริกฺขิตฺตนคเร ปน อนฺโตนคเร ิตสฺสาปิ ิตฏฺานเมว านํ. ขณฺฑทฺวารนฺติ อตฺตนา ขณฺฑิตทฺวารํ. เอโก นิปนฺโนติ เอตฺถาปิ พนฺโธติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, เตนาห ‘‘นิปนฺนสฺส ทฺเว’’ติ. ฆาเตตีติ เอตฺถ เถยฺยจิตฺเตน วินาเสนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ.
โอจรกกถาวณฺณนา
๑๑๘. โอจรกกถายํ ปริยาเยน หิ อทินฺนาทานโต มุจฺจตีติ อิทํ อาณตฺติกปโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ, สยเมว ปน อภิยฺุชนาทีสุ ปริยาเยนปิ โมกฺโข นตฺถิ.
โอณิรกฺขกถาวณฺณนา
โอณิรกฺขกถายํ ¶ โอณินฺติ โอณีตํ, อานีตนฺติ อตฺโถ. โอณิรกฺขสฺส สนฺติเก ปิตภณฺฑํ อุปนิธิ (ปารา. ๑๑๒) วิย คุตฺตฏฺาเน เปตฺวา สงฺโคปนตฺถาย อนิกฺขิปิตฺวา ยถาปิตฏฺาเน เอว มุหุตฺตมตฺตํ โอโลกนตฺถาย ปิตตฺตา ตสฺส ภณฺฑสฺส านาจาวนมตฺเตน โอณิรกฺขกสฺส ปาราชิกํ โหติ.
สํวิทาวหารกถาวณฺณนา
สํวิทาวหารกถายํ ¶ สํวิธายาติ สํวิทหิตฺวา. เตน เนสํ ทุกฺกฏาปตฺติโยติ อาณตฺติวเสน ปาราชิกาปตฺติยา อสมฺภเว สตีติ วุตฺตํ. ยทิ หิ เตน อาณตฺตา ยถาณตฺติวเสน หรนฺติ, อาณตฺติกฺขเณ เอว ปาราชิกาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ปาฬิยํ ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๘) เอตฺถาปิ อาณาปกานํ อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ, อวหารกสฺส อุทฺธาเรติ คเหตพฺโพ. สมฺพหุลา ภิกฺขู เอกํ อาณาเปนฺติ ‘คจฺเฉตํ อาหรา’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติอาทีสุปิ เอวเมว อตฺโถ คเหตพฺโพ. สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺส องฺคํ น โหตีติ ภินฺนกาลิกตฺตา อฺมฺสฺส องฺคํ น โหติ. ตถา หิ สหตฺถา อวหรนฺตสฺส านาจาวนกฺขเณ อาปตฺติ, อาณตฺติยา ปน อาณตฺติกฺขเณเยวาติ ภินฺนกาลิกตฺตา อาปตฺติโยติ.
สงฺเกตกมฺมกถาวณฺณนา
๑๑๙. สงฺเกตกมฺมกถายํ โอจรเก วุตฺตนเยเนวาติ เอตฺถ อวสฺสํ หาริเย ภณฺเฑติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๘) วุตฺตนเยเนว. ปาฬิยํ ‘‘ตํ สงฺเกตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา’’ติ ตสฺส สงฺเกตสฺส ปุเร วา ปจฺฉา วาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา
๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมกถายํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกมฺมํ ปน ลหุกํ อิตฺตรกาลํ, ตสฺมา ตงฺขเณเยว ตํ ภณฺฑํ อวหริตุํ น สกฺกา. นิมิตฺตกมฺมานนฺตรเมว คณฺหิตุํ อารทฺธตฺตา เตเนว ¶ นิมิตฺเตน อวหรตีติ วุจฺจติ. ยทิ เอวํ ปุเรภตฺตปฺปโยโคว เอโสติ วาโท ปมาณภาวํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. น หิ สงฺเกตกมฺมํ (ปารา. ๑๑๙) วิย นิมิตฺตกมฺมํ กาลปริจฺเฉทยุตฺตํ. กาลวเสน หิ สงฺเกตกมฺมํ วุตฺตํ, กิริยาวเสน นิมิตฺตกมฺมนฺติ อยเมว เตสํ วิเสโส. ‘‘ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปน นิมิตฺตกรณโต ปุเร ¶ คณฺหนฺตสฺส เจว นิมิตฺตกมฺเม จ กเตปิ คณฺหิตุํ อนารภิตฺวา ปจฺฉา สยเมว คณฺหนฺตสฺส จ วเสน วุตฺตํ.
อาณตฺติกถาวณฺณนา
๑๒๑. อาณตฺติกถายํ อสมฺโมหตฺถนฺติ ยสฺมา สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ กโรนฺโต น เกวลํ ปุเรภตฺตาทิกาลสงฺเกตกมฺมํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกมฺมเมว วา กโรติ, อถ โข เอวํวณฺณสณฺานภณฺฑํ คณฺหาติ, ภณฺฑนิยมมฺปิ กโรติ, ตฺวํ อิตฺถนฺนามสฺส ปาวท, โส อฺสฺส ปาวทตูติอาทินา ปุคฺคลปฏิปาฏิยา จ อาณาเปติ, ตสฺมา ปุพฺพณฺหาทิกาลวเสน อกฺขินิขณนาทิกิริยาวเสน ภณฺฑปุคฺคลปฏิปาฏิวเสน จ อาณตฺเต เอเตสุ สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺเมสุ วิสงฺเกตา วิสงฺเกตภาเว สมฺโมโห ชายติ, ตทปคเมน อสมฺโมหตฺถํ. ยํ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ปุพฺพณฺหาทีสุ อกฺขินิขณนาทีสุ วา คหณตฺถํ อาณาเปนฺเตน อีทิสวณฺณสณฺานาทิยุตฺตํ คณฺหาติ เอวํ คหณสฺส นิมิตฺตภูตสฺาณํ กตฺวา ยํ ภณฺฑํ วุตฺตํ. อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถาติ เหฏฺา วุตฺเตสุ อุปริ วกฺขมาเนสุ จ สพฺพตฺถ อาณตฺติปฺปสงฺเคสุ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกาทีนํ ภาวสงฺขาตา วินยยุตฺติ, สา จ อาณตฺตสฺส กิริยานิฏฺาปนกฺขเณ อาณาปกสฺส ปโยเค เถยฺยจิตฺตานํ อภาวา อาณตฺติกฺขเณ เอกา เอว อาปตฺติ โหตีติ เอวํ อุปปตฺติยา ปวตฺตตฺตา ยุตฺตีติ วุตฺตา. ‘‘มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตตฺตา สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิเตปิ พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตานํ ทุกฺกฏเมว, กสฺมา ปเนตฺถ อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อาห ‘‘มหาชโน หี’’ติอาทิ. มหาชโนติ จ พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตสงฺฆรกฺขิเต สนฺธาย วุตฺตํ. มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. อิทฺจ มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยาภาวทสฺสนตฺถํ ปมํ อาณตฺติกฺขเณ ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน สงฺฆรกฺขิตสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปุน ทุกฺกฏสมฺภวํ สนฺธาย. น หิ โส เอกปโยเคน ทุกฺกฏทฺวยํ อาปชฺชติ. เกจิ ปน ‘‘วิสงฺเกตตฺตา ปาฬิยํ ‘มูลฏฺสฺสา’ติ อวตฺวา ‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา อิทํ สงฺฆรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ กิฺจาปิ อฏฺกถาย น สเมติ, ปาฬิโต ปน ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. น หิ ตสฺส ปฏิคฺคหณปฺปโยเค อนาปตฺติ โหตีติ. อิมินาว เหฏฺา อาคตวาเรสุปิ ปฏิคฺคณฺหนฺตานํ ¶ ¶ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปณฺเณ วา สิลาทีสุ วา ‘โจริยํ กาตพฺพ’นฺติ ลิขิตฺวา ปิเต ปาราชิกเมวา’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ ปน ‘‘อสุกสฺส เคเห ภณฺฑ’’นฺติ เอวํ นิยเมตฺวา ลิขิเต ยุชฺชติ, น อนิยเมตฺวา ลิขิเตติ วีมํสิตพฺพํ. มคฺคานนฺตรผลสทิสาติ อิมินา ยถา อริยปุคฺคลานํ มคฺคานนฺตเร ผเล อุปฺปนฺเน กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิปริโยสานํ ภาวนากิจฺจํ นิปฺผนฺนํ นาม โหติ, เอวเมติสฺสา อตฺถสาธกเจตนาย อุปฺปนฺนาย อาณตฺติกิจฺจํ นิปฺผนฺนเมวาติ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก’’ติ, อาณตฺติวจีปโยคสมุฏฺาปกเจตนากฺขเณเยว ปาราชิโก โหตีติ อตฺโถ.
อาณตฺติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อาปตฺติเภทวณฺณนา
๑๒๒. ตตฺถ ตตฺถาติ ภูมฏฺถลฏฺาทีสุ. ปาฬิยํ มนุสฺสปริคฺคหิตํ สนฺธาย ‘‘ปรปริคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ. อามสติ ผนฺทาเปติ านา จาเวตีติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ ปุพฺพปโยคสหิตํ ปฺจมํ อวหารงฺคํ วุตฺตํ, านา จาเวตีติ จ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ. อาณตฺติกาทโย สพฺเพปิ ปโยคา ธุรนิกฺเขโป จ อิธ สงฺคเหตพฺพาวาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๒๕. านาจาวนนฺติ อิทํ ปาฬิอนุสารโต วุตฺตํ ธุรนิกฺเขปสฺสาปิ สงฺคเหตพฺพโต. เอส นโย อุปริปิ สพฺพตฺถ. ตตฺถ หิ น จ สกสฺีติ อิมินา ปรปริคฺคหิตตา วุตฺตา, น จ วิสฺสาสคฺคาหี น จ ตาวกาลิกนฺติ อิเมหิ ปรปริคฺคหิตสฺิตา, ตีหิ วา เอเตหิ ปรปริคฺคหิตตา ปรปริคฺคหิตสฺิตา จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ ‘‘มเมท’’นฺติ ปริคฺคหวเสน อนชฺฌาวุตฺถกํ อรฺเ ทารุติณปณฺณาทิ. ฉฑฺฑิตนฺติ ปมํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺฉา อนตฺถิกตาย ฉฑฺฑิตํ ยํ กิฺจิ. ฉินฺนมูลกนฺติ นฏฺํ ปริเยสิตฺวา อาลยสงฺขาตสฺส มูลสฺส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลกํ. อสฺสามิกนฺติ อนชฺฌาวุตฺถกาทีหิ ตีหิ อากาเรหิ ทสฺสิตํ อสฺสามิกวตฺถุ. อุภยมฺปีติ อสฺสามิกํ อตฺตโน สนฺตกฺจ.
อนาปตฺติเภทวณฺณนา
๑๓๑. ตสฺมึเยว ¶ อตฺตภาเว นิพฺพตฺตาติ ตสฺมึเยว มตสรีเร เปตตฺตภาเวน นิพฺพตฺตา. รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตสาฏเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ มนุสฺเสหิ อโคปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, สเจ ปเนตํ เทวาลยเจติยรุกฺขาทีสุ ¶ นิยุตฺเตหิ ปุริเสหิ รกฺขิตโคปิตํ โหติ, คเหตุํ น วฏฺฏติ. โถเก ขายิเต…เป… คเหตุํ วฏฺฏตีติ อิทํ อทินฺนาทานาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ชิฆจฺฉิตปาณินา ขาทิยมานมํสสฺส อจฺฉินฺทิตฺวา ขาทนํ นาม การฺุหานิโต โลลภาวโต จ อสารุปฺปเมว. เตเนว หิ อริยวํสิกา อตฺตโน ปตฺเต ภตฺตํ ขาทนฺตมฺปิ สุนขาทึ ตชฺเชตฺวา น วาเรนฺติ, ติรจฺฉานานํ อามิสทาเน กุสลํ วิย เตสํ อามิสสฺส อจฺฉินฺทเนปิ อกุสลเมวาติ คเหตพฺพํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ปรานุทฺทยตาย จ น คเหตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๔๐).
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
พหุ เอกโต ทารุอาทิภาริยสฺส เอกสฺส ภณฺฑสฺส อุกฺขิปนกาเล ‘‘คณฺหถ อุกฺขิปถา’’ติ วจีปโยเคน สทฺธึ กายปโยคสพฺภาวฏฺานํ สนฺธาย ‘‘สาหตฺถิกาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตฺวํ เอตํ วตฺถุํ คณฺห, อหํ อฺ’’นฺติ เอวํ ปวตฺเต ปน อวหาเร อตฺตนา คหิตํ สาหตฺถิกเมว, ปเรน คาหาปิตํ อาณตฺติกเมว, เตเนว ตทุภยคฺเฆน ปฺจมาเสปิ ปาราชิกํ น โหติ, เอเกกภณฺฑคฺฆวเสน ถุลฺลจฺจยาทิเมว โหติ. วุตฺตฺหิ ‘‘สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส องฺคํ น โหตี’’ติอาทิ. อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑํ ภณฺฑเทยฺยฺจ อทาตุกามตาย ‘‘เทมิ ทมฺมี’’ติ วิกฺขิปนฺโต ตุณฺหีภาเวน วิเหเนฺโตปิ เตน เตน กายวิการาทิกิริยาย ปรสฺส ธุรํ นิกฺขิปาเปสีติ ‘‘กิริยาสมุฏฺานฺจา’’ติ วุตฺตํ.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๓๕. วินีตวตฺถูสุ ¶ นิรุตฺติเยว ตํตํอตฺถคฺคหณสฺส อุปายตาย ปโถติ นิรุตฺติปโถ, เตเนวาห ‘‘โวหารวจนมตฺเต’’ติ. ยถากมฺมํ คโตติ ตโต เปตตฺตภาวโต มตภาวํ ทสฺเสติ. อพฺภุณฺเหติ อาสนฺนมรณตาย สรีรสฺส อุณฺหสมงฺคิตํ ทสฺเสติ, เตเนวาห ‘‘อลฺลสรีเร’’ติ. กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว อลฺลภาวโต ภินฺนตฺตา. วิสภาคสรีเรติ อิตฺถิสรีเร. สีเส วาติอาทิ อธกฺขเก อุพฺภชาณุมณฺฑเล ปเทเส จิตฺตวิการปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, ยตฺถ กตฺถจิ อนามสนฺเตน กตํ สุกตเมว. มตสรีรมฺปิ หิ เยน เกนจิ อากาเรน สฺจิจฺจ ผุสนฺตสฺส อนามาสทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว. น หิ อปาราชิกวตฺถุเกปิ จิตฺตาทิอิตฺถิรูเป ภวนฺตํ ทุกฺกฏํ ปาราชิกวตฺถุภูเต มติตฺถิสรีเร นิวตฺตติ.
กุสสงฺกามนวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๓๘. พลสาติ ¶ พเลน. สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามีติ อนาคตวจนํ ปสิพฺพกคฺคหณโต ปุเรตรํ สมุปฺปนฺนปริกปฺปทสฺสนวเสน วุตฺตํ. คหณกฺขเณ ปน ‘‘สาฏโก เจ, คณฺหามี’’ติ ปสิพฺพกํ คณฺหาตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ, น ปน พหิ นีหริตฺวา สาฏกภาวํ ตฺวา คเหสฺสามีติ, เตนาห ‘‘อุทฺธาเรเยว ปาราชิก’’นฺติ. อิตรถา ‘‘อิทานิ น คณฺหามิ, ปจฺฉา อนฺธกาเร ชาเต วิชานนกาเล วา คณฺหิสฺสามิ, อิทานิ โอโลเกนฺโต วิย หตฺถคตํ กโรมี’’ติ คณฺหนฺตสฺสาปิ คหณกฺขเณ อวหาโร ภเวยฺย, น จ ตํ ยุตฺตํ ตทา คหเณ สนฺนิฏฺานาภาวา. สนฺนิฏฺาปกเจตนาย เอว หิ ปาณาติปาตาทิอกุสลํ วิย. น หิ ‘‘ปจฺฉา วธิสฺสามี’’ติ ปาณํ คณฺหนฺตสฺส ตเทว ตสฺมึ มเตปิ ปาณาติปาโต โหติ วธกเจตนาย ปโยคสฺส อกตตฺตา, เอวมิธาปิ อตฺถงฺคเต สูริเย อวหริสฺสามีติอาทินา กาลปริกปฺปนวเสน านา จาวิเตปิ ตทาปิ อวหาโร น โหติ โอกาสปริกปฺเป (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๘) วิย, ตสฺมึ ปน ยถาปริกปฺปิตฏฺาเน กาเล อาคเต ภณฺฑํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวาปิ เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉโต ปทวาเรน อวหาโรติ ขายติ. ตสฺมา ภณฺฑปริกปฺโป โอกาสปริกปฺโป กาลปริกปฺโปติ ติวิโธปิ ปริกปฺโป ¶ คเหตพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน โอกาสปริกปฺเป สโมธาเนตฺวา กาลปริกปฺโป วิสุํ น วุตฺโตติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวา วีมํสิตตฺตา วุตฺตํ. ปริยุฏฺิโตติ อนุพทฺโธ.
ปริกปฺโป ทิสฺสตีติ คหณกฺขเณ ปริกปฺโป ทิสฺสติ, น ตทา เตสํ มเตน อวหาโรติ ทสฺเสติ. ทิสฺวา หฏตฺตา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสตีติ ปจฺฉา ปน พหิ วีมํสิตฺวา สาฏกภาวํ ตฺวา ตโต ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน หฏตฺตา ปุพฺเพ กตสฺส ปริกปฺปสฺส อวหารานงฺคตฺตา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา หรเณ วิย เถยฺยาวหาโร เอว สิยา. ตสฺมา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสติ. สาฏโก เจ ภวิสฺสตีติอาทิกสฺส ปริกปฺปสฺส ตทา อวิชฺชมานตฺตา เกวลํ อวหาโร เอว, น ปริกปฺปาวหาโรติ อธิปฺปาโย, เตน ภณฺฑปริกปฺปาวหารสฺส ‘‘สาฏโก เจ ภวิสฺสติ, คเหสฺสามี’’ติ เอวํ ภณฺฑสนฺนิฏฺานาภาวกฺขเณเยว ปวตฺตึ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘ยํ ปริกปฺปิตํ, ตํ อทิฏฺํ ปริกปฺปิตภาเว ิตํเยว อุทฺธรนฺตสฺส อวหาโร’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา โอกาสปอปฺปาวหาโร ภณฺฑํ ทิสฺวา อวหรนฺตสฺส ปริกปฺปาวหาโร สิยาติ? นายํ โทโส อภณฺฑวิสยตฺตา ตสฺส ปริกปฺปสฺส, ปุพฺเพว ทิสฺวา าตภณฺฑสฺเสว หิ โอกาสปริกปฺโป วุตฺโต. ตํ มฺมาโน ตํ อวหรีติ อิทํ สุตฺตํ กิฺจาปิ ‘‘ตฺเเวต’’นฺติ นิยเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส ¶ วเสน วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘ตฺเจ คณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺเต อิมสฺมึ ปริกปฺเปปิ ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ คหเณ นิยมสพฺภาวา อวหารตฺถสาธกํ โหตีติ อุทฺธฏํ, เตเนว ‘‘สเมตี’’ติ วุตฺตํ.
เกจีติ มหาอฏฺกถายเมว เอกจฺเจ อาจริยา. มหาปจฺจริยํ ปนาติอาทินาปิ เกจิวาโท คารยฺโห, มหาอฏฺกถาวาโทว ยุตฺตตโรติ ทสฺเสติ.
อลงฺการภณฺฑนฺติ องฺคุลิมุทฺทิกาทิ. กุสํ ปาเตตฺวาติ วิลีวมยํ วา ตาลปณฺณาทิมยํ วา กตสฺาณํ ปาเตตฺวา. ปรโกฏฺาสโต กุเส อุทฺธเฏปิ น ตาว กุสสฺส ปริวตฺตนํ ชาตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อุทฺธาเร รกฺขตี’’ติ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ อิมินา านาจาวนํ ธุรนิกฺเขปฺจ วินา กุสสงฺกามนํ นาม วิสุํ เอโกยํ อวหาโรติ ทสฺเสติ. สพฺเพปิ หิ อวหารา ¶ สาหตฺถิกาณตฺติกาธิปฺปายโยเคหิ นิปฺผาทิยมานา อตฺถโต านาจาวนธุรนิกฺเขปกุสสงฺกามเนสุ ตีสุ สโมสรนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. อิตโร ตสฺส ภาคํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเร ปาราชิกนฺติ ปุริมสฺส อตฺตโน โกฏฺาเส อาลยสฺส อวิคตตฺตา วุตฺตํ, อาลเย ปน สพฺพถา อสติ อวหาโร น โหติ, เตนาห ‘‘วิจินิตาวเสสํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อวหาโร นตฺเถวา’’ติ.
นายํ มมาติ ชานนฺโตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ตตฺถ เวมติโกปิ หุตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ สงฺคยฺหติ. สิเวยฺยกนฺติ สิวิรฏฺเ ชาตํ.
๑๔๐-๑. กปฺปิยํ การาเปตฺวาติ ปจาเปตฺวา. ตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ อทินฺนาทานภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวา ทุกฺกฏํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาณตฺเตหีติ สมฺมเตน อาณตฺเตหิ. อาณตฺเตนาติ สามิเกหิ อาณตฺเตน. ภณฺฑเทยฺยนฺติ สมฺมตาทีหิ ทินฺนตฺตา น ปราชิกํ ชาตํ, อสนฺตํ ปุคฺคลํ วตฺวา คหิตตฺตา ปน ภณฺฑเทยฺยํ วุตฺตํ. อฺเน ทิยฺยมานนฺติ สมฺมตาทีหิ จตูหิ อฺเน ทิยฺยมานํ. คณฺหนฺโตติ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหนฺโต. อปรสฺสาติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ อทสฺเสตฺวา ปน ‘‘อปรํ ภาคํ เทหี’’ติ วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต คิหิสนฺตเก สามินา จ ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ เอวํ อาณตฺเตน จ ทินฺเน ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ, สงฺฆสนฺตเก ปน โหตีติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ อสมฺมเตน วา อนาณตฺเตน วาติอาทิ ปุน วุตฺตํ. อิตเรหิ ทิยฺยมานนฺติ สมฺมเตน อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ. เอวํ คณฺหโตติ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต. สามิเกน ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก, เตน ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหนฺเต สามิเกน สยํ เทนฺเต วา ทาเปนฺเต วา วิเสโส อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. สุทินฺนนฺติ ภณฺฑเทยฺยํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เหฏฺา ปน สามิเกน เตน อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ คิหิสนฺตกํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหโต อปรสฺส อภาวโต สามิสนฺตกเมว โหตีติ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ, อิธ ปน เตหิเยว ทิยฺยมานํ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา ¶ วา คณฺหโต ‘‘เทหี’’ติ วุตฺตตฺตา ¶ อฺาตกวิฺตฺติมตฺตํ เปตฺวา ภณฺฑเทยฺยํ น โหตีติ สุทินฺนเมวาติ วุตฺตํ. อสฺสามิเกน ปน อาณตฺเตน ทินฺนํ ภณฺฑํ คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยเมวาติ วทนฺติ, ปตฺตจตุกฺเก วิย อวหารตาเวตฺถ ยุตฺตา, สงฺฆสนฺตเก ปน ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเตปิ สามิกสฺส กสฺสจิ อภาวา สมฺมเตน ทินฺเนปิ ภณฺฑเทยฺยํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๑๔๖-๙. อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยนฺติ ‘‘คหิเต อตฺตมโน โหตี’’ติ วจนโต อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพ’’นฺติ วจนโต ภาชนียภณฺฑํ อุปจารสีมฏฺานเมว ปาปุณาตีติ อาห ‘‘อนฺโตอุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ภณฺฑเทยฺยนฺติ อุภินฺนํ สาลยภาเวปิ โจรสฺส อทตฺวา สามิกสฺเสว ทาตพฺพํ โจเรนาปิ สามิกสฺเสว ทาตพฺพโต. เอเสว นโยติ ปํสุกูลสฺาย คหิเต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ.
วุฏฺหนฺเตสูติ คามํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺเตสุ. อวิเสเสนาติ สอุสฺสาหตาทิวิเสสํ อปรามสิตฺวา สามฺโต. สอุสฺสาหมตฺตเมว อาปตฺติภาวสฺส ปมาณํ สามิกานํ ปริจฺฉินฺนภาวโต. ตโตติ คณสนฺตกาทิโต. กุลสงฺคหณตฺถาย เทตีติ ปํสุกูลวิสฺสาสิกาทิสฺาย คเหตฺวา เทติ, ตทา กุลสงฺคหปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ ภณฺฑเทยฺยฺจ, เถยฺยจิตฺเต ปน สติ กุลสงฺคหณตฺถาย คณฺหโตปิ ปาราชิกเมว. อูนปฺจมาสกาทีสุ กุลทูสกทุกฺกเฏน สทฺธึ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ. เสนาสนตฺถาย นิยมิตนฺติ อิทํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรปจฺจยตฺถาย ทินฺนมฺปิ อเถยฺยจิตฺเตน อิสฺสรวตาย กุลสงฺคหณตฺถาย วา าตกาทีนํ วา ททโต ทุกฺกฏํ ภณฺฑเทยฺยฺจ โหเตว. อิสฺสรวตายาติ ‘‘มยิ เทนฺเต โก นิวาเรสฺสติ, อหเมเวตฺถ ปมาณ’’นฺติ เอวํ อตฺตโน อิสฺสริยภาเวน. ถุลฺลจฺจยนฺติ กุลสงฺคหณตฺถาย วา อฺถา วา การเณน ททโต เสนาสนตฺถาย นิยมิตสฺส ครุภณฺฑตาย ถุลฺลจฺจยํ ภณฺฑเทยฺยฺจ. คีวาติ เอตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิเต ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ คีวา, อิตรสฺมึ ทุกฺกเฏน สทฺธินฺติ เวทิตพฺพํ. สุขาทิตเมวาติ อนฺโตอุปจารสีมายํ ตฺวา ภาเชตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ขาทิตตฺตา วุตฺตํ. สงฺฆิกฺหิ วิหารปฏิพทฺธํ ¶ เวภงฺคิยํ พหิอุปจารสีมฏฺํ ภณฺฑํ ¶ อนฺโตอุปจารฏฺเหิ ภิกฺขูหิ เอว ภาเชตพฺพํ, น พหิ ิเตหิ อุปจารสีมาย ภาเชตพฺพนฺติ.
๑๕๐. ‘‘วุตฺโต วชฺเชมี’’ติ วุตฺตภิกฺขุสฺมึ ‘‘วุตฺโต วชฺเชหี’’ติ วุตฺตสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกปาราชิกาทิโทสาโรปนโต, คหฏฺานํ วา ‘‘ภทนฺตา อปริจฺเฉทํ กตฺวา วทนฺตี’’ติ เอวํ โทสาโรปนโต.
๑๕๓-๕. ฉาตชฺฌตฺตนฺติ เตน ฉาเตน ชิฆจฺฉาย อุทรคฺคินา ฌตฺตํ, ทฑฺฒํ ปีฬิตนฺติ อตฺโถ. ธนุกนฺติ ขุทฺทกธนุสณฺานํ ลคฺคนกทณฺฑํ. มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ เอตฺถ เอกสูกรคฺฆนกภณฺฑํ ทาตพฺพํ เอกสฺมึ พนฺเธ อฺเสํ ตตฺถ อพชฺฌนโต. อทูหลนฺติ ยนฺตปาสาโณ, เยน อชฺโฌตฺถฏตฺตา มิคา ปลายิตุํ น สกฺโกนฺติ. ปจฺฉา คจฺฉตีติ เตน กตปโยเคน อคนฺตฺวา ปจฺฉา สยเมว คจฺฉติ, เหฏฺา วุตฺเตสุปิ อีทิเสสุ าเนสุ เอเสว นโย. รกฺขํ ยาจิตฺวาติ ราชปุริสานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อนุทฺทิสฺส รกฺขํ ยาจิตฺวา. กุมีนมุขนฺติ กุมีนสฺส อนฺโต มจฺฉานํ ปวิสนมุขํ.
๑๕๖. เถรานนฺติ อาคนฺตุกตฺเถรานํ. เตสมฺปีติ อาวาสิกภิกฺขูนมฺปิ. ปริโภคตฺถายาติ สงฺฆิเก กตฺตพฺพวิธึ กตฺวา ปริภฺุชนตฺถาย. คหเณติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อาวาเส. อฺเสนฺติ อฺเสํ อาคนฺตุกานํ. เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสราติ เสนาสเน นิรนฺตรํ วสนฺตานํ จีวรตฺถาย ทายเกหิ ภิกฺขูหิ วา นิยเมตฺวา ทินฺนตฺตา ภาเชตฺวา ขาทิตุํ อนิสฺสรา, อาคนฺตุเกหิปิ อิจฺฉนฺเตหิ ตสฺมึ วิหาเร วสฺสานาทีสุ ปวิสิตฺวา จีวรตฺถาย คเหตพฺพํ. เตสํ กติกาย าตพฺพนฺติ สพฺพานิ ผลาผลานิ อภาเชตฺวา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลานิ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิสฺสาม, อฺเสุ ผลาผเลหิ เสนาสนานิ ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ วา, ‘‘ปิณฺฑปาตาทิปจฺจยํ สมฺปาเทสฺสามา’’ติ วา, ‘‘กิฺจิปิ อภาเชตฺวา จตุปจฺจยตฺถาเยว อุปเนมา’’ติ วา เอวํ สมฺมา อุปเนนฺตานํ อาวาสิกานํ กติกาย อาคนฺตุเกหิ าตพฺพํ. มหาอฏฺกถายํ ‘‘อนิสฺสรา’’ติ วจเนน ทีปิโต เอว อตฺโถ, มหาปจฺจริยํ จตุนฺนํ ปจฺจยานนฺติอาทินา วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิโต. ปริโภควเสเนวาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, ปริโภควเสน ตเมว ภาเชตฺวาติ โยเชตพฺพํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิหาเร, รฏฺเ วา.
เสนาสนปจฺจยนฺติ ¶ เสนาสนฺจ ตทตฺถาย นิยเมตฺวา ปิตฺจ. เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวาติ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพ’’นฺติ ¶ วุตฺตํ, เสนาสนสงฺขาตวตฺถุโน มูลจฺเฉทํ กตฺวา สพฺพานิ เสนาสนานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานีติ อตฺโถ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา ลามกโต ปฏฺาย วิสฺสชฺเชนฺเตหิปิ เสนาสนภูมิโย น วิสฺสชฺเชตพฺพาติ อยมตฺโถ วุตฺโต’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ ยุตฺตเมว อิมสฺสาปิ อตฺถสฺส อวสฺสํ วตฺตพฺพโต, อิตรถา เกจิ สห วตฺถุนาปิ วิสฺสชฺเชตพฺพํ มฺเยฺยุํ.
ปณฺณํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘เอตฺตเก รุกฺเข รกฺขิตฺวา ตโต เอตฺตกํ คเหตพฺพ’’นฺติ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา. นิมิตฺตสฺํ กตฺวาติ สงฺเกตํ กตฺวา. ทารกาติ เตสํ ปุตฺตนตฺตาทโย เย เกจิ โคเปนฺติ, เต สพฺเพปิ อิธ ‘‘ทารกา’’ติ วุตฺตา. ตโตติ ยถาวุตฺตทารุสมฺภารโต. อาปุจฺฉิตฺวาติ การกสงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา. ตํ สพฺพมฺปิ อาหริตฺวาติ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาวกาลิกํ อาหริตฺวา. อยเมว ภิกฺขุ อิสฺสโรติอาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน สนฺตเกหิ ทารุสมฺภาราทีหิ จ การาปิตตฺตา ปฏิชคฺคิตตฺตา จ สงฺฆิกเสนาสเน ภาคิตาย จ อยเมว อิสฺสโร, น จ โส ตโต วุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อุทกปูชนฺติ เจติยงฺคเณ สิฺจนาทิปูชํ. วตฺตสีเสนาติ เกวลํ สทฺธาย, น เวตนาทิอตฺถาย. สวตฺถุกนฺติ สห ภูมิยา. กุฏฺฏนฺติ เคหภิตฺตึ. ปาการนฺติ ปริกฺเขปปาการํ. ตโตติ ฉฑฺฑิตวิหารโต. ตโต อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหตีติ สามนฺตคามวาสีหิ ภิกฺขูหิ ฉฑฺฑิตวิหารโต ทารุสมฺภาราทึ อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหติ.
๑๕๗. ‘‘ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชตี’’ติ วุตฺตมตฺถํเยว ปากฏํ กาตุํ ‘‘อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ น เทตี’’ติ วุตฺตํ. จตุภาคอุทกสมฺภินฺเนติ จตุตฺถภาเคน สมฺภินฺเน. ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๕๗) สามิเกหิ ถุลฺลนนฺทํ อุทฺทิสฺส เอติสฺสา หตฺเถ ทินฺนตฺตา, อเถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชิตตฺตา จ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุตฺเตปิ จสฺสา ภณฺฑเทยฺยเมว อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑฏฺานิยตฺตา. โอทนภาชนียวตฺถุสฺมินฺติ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ อาคตวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๑๔๑).
๑๕๙. ตสฺส ¶ กุลสฺส อนุกมฺปาย ปสาทานุรกฺขณตฺถายาติอาทินา กุลสงฺคหตฺถํ นากาสีติ ทสฺเสติ. ‘‘ยาว ทารกา ปาสาทํ อาโรหนฺติ, ตาว ปาสาโท เตสํ สนฺติเก โหตู’’ติ ปุพฺเพ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา อธิฏฺิตตฺตา เอว ยถากาลปริจฺเฉทเมว ตตฺถ ติฏฺติ, ตโต ปรํ ปาสาโท สยเมว ยถาานํ คจฺฉติ, ตถาคมนฺจ อิทฺธิวิสฺสชฺชเนน สฺชาตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เถโร อิทฺธึ ปฏิสํหรี’’ติ. ยสฺมา เอวํ อิทฺธิวิธาเณน กโรนฺตสฺส กายวจีปโยคา ¶ น สนฺติ เถยฺยจิตฺตฺจ นตฺถิ ปาสาทสฺเสว วิจาริตตฺตา, ตสฺมา ‘‘เอตฺถ อวหาโร นตฺถี’’ติ เถโร เอวมกาสีติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ทารเกสุ อนุกมฺปาย อานยนตฺถเมว ปาสาเท อุปนีเต ปาเส พทฺธสูกราทีนํ อามิสํ ทสฺเสตฺวา านาจาวนํ วิย กรมรานีเตสุ ทารเกสุ ปาสาทํ อารุฬฺเหสุปิ ปุน ปฏิสํหรเณ จ อิธ อวหาโร นตฺถิ การฺุาธิปฺปายตฺตา, ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ กายวจีปโยคาภาวา. กายวจีปโยเค สติเยว หิ อาปตฺติ ภณฺฑเทยฺยํ วา โหติ, เตเนว ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) เอตฺตกเมว อโวจ. อิทฺธิวิสเยติ เจตฺถ ปรภณฺฑาทายกกายวจีปโยคาสมุฏฺาปกสฺส เกวลํ มโนทฺวาริกสฺส อเถยฺยจิตฺตภูตสฺส อิทฺธิจิตฺตสฺส วิสเย อาปตฺติ นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ. กึ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ กาตุํ วฏฺฏตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อีทิสาย อธิฏฺานิทฺธิยา อนาปตฺตี’’ติ. ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ หิ อิมินาเยว สุตฺเตน อธิฏฺานิทฺธิยา อปฺปฏิกฺขิตฺตภาโว สิชฺฌติ. อตฺตโน ปกติวณฺณํ อวิชหิตฺวา พหิทฺธา หตฺถิอาทิทสฺสนํ, ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๘, ๒๓๙; ม. นิ. ๑.๑๔๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒) อาคตฺจ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานิทฺธิ นาม, ‘‘โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ, นาควณฺณํ…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) เอวํ อาคตา อิทฺธิ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ นาม. อตฺตโน ปน ปกติรูปํ ยถาสภาเวน เปตฺวาว พหิ หตฺถิอาทิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ นาม น โหติ, อตฺตโน รูปเมว หตฺถิอาทิรูเปน นิมฺมานํ วิกุพฺพนิทฺธีติ เวทิตพฺพํ.
ปราชิตกิเลเสนาติ ¶ วิชิตกิเลเสน, นิกฺกิเลเสนาติ อตฺโถ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน, เตน ทุติยปาราชิกสิกฺขาปเทน สมํ อฺํ อเนกนยโวกิณฺณํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ กิฺจิ สิกฺขาปทํ น วิชฺชตีติ โยชนา. ตตฺถ อตฺโถ นาม ปาฬิอตฺโถ, วินิจฺฉโย ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย, เต คมฺภีรา ยสฺมึ, ตํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ. วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณติ โจทนาวเสน วา อตฺตนาว อตฺตโน วีติกฺกมาโรจนวเสน วา สงฺฆมชฺเฌ อทินฺนาทานวตฺถุสฺมึ โอติณฺเณ. เอตฺถาติ โอติณฺณวตฺถุมฺหิ. วินิจฺฉโยติ อาปตฺตานาปตฺตินิยมนํ. กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมินฺติ อตฺตนา คเหตุํ ยุตฺเต มาตาปิตาทีนํ สนฺตเกปิ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ทุติยปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. ตติยปาราชิกํ
ตีหีติ ¶ กายวจีมโนทฺวาเรหิ.
ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา
๑๖๒. ยา อยํ เหฏฺา ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหตีติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๔) ราชคหสฺส พุทฺธุปฺปาเทเยว เวปุลฺลปฺปตฺติ วุตฺตา, สา เอตฺถาปิ สมานาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทมฺปิ จ นคร’’นฺติ วุตฺตํ, เตน จ น เกวลํ ราชคหาทโย เอวาติ ทสฺเสติ. มหาวนํ นามาติอาทิ มชฺฌิมภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มเตน วุตฺตํ, ทีฆภาณกา ปน ‘‘หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ มหาวน’’นฺติ วทนฺติ. หํสวฏฺฏกจฺฉทเนนาติ หํสวฏฺฏกปฏิจฺฉนฺเนน, หํสมณฺฑลากาเรนาติ อตฺโถ. กายวิจฺฉนฺทนิยกถนฺติ กรชกาเย วิราคุปฺปาทนกถํ. ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ พลวราโค. ‘‘เกสโลมาทิ’’นฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ เยปิ หีติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจปฺจปฺปเภเทนาติ เอตฺถ ปฺจ ปฺจ ปเภทา เอตสฺส ปริยายสฺสาติ ปฺจปฺจปฺปเภโท ¶ , เตน ปฺจปฺจปฺปเภเทนาติ เอวํ พาหิรตฺถสมาสวเสน ปริยายวิเสสนตา ทฏฺพฺพา.
อสุภายาติ อสุภมาติกาย. วณฺเณตพฺพมาติกฺหิ อเปกฺขิตฺวา อิตฺถิลิงฺเค สามิวจนํ, เตนาห มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาติอาทิ. ตํ วิภชนฺโตติ มาติกํ วิภชนฺโต. ผาติกมฺมนฺติ นิปฺผตฺติกรณํ. ปฺจงฺควิปฺปหีนนฺติ กามจฺฉนฺทาทิปฺจนีวรณงฺควิคเมน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา, อปฺปนาปฺปตฺตวิตกฺกาทิชฺฌานงฺคานํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา จ เวทิตพฺพา. ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน ฌานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานานํ วเสน ติวิธกลฺยาณตา, เตสํเยว อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา จ เวทิตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ทสลกฺขณวิภาวเนเนว ตนฺนิสฺสยภูตา ติวิธกลฺยาณตาปิ ฌานสฺส ปากฏา โหตีติ ตตฺริมานีติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ ¶ ปาฬีติ ตสฺมึ ทสลกฺขณวิภาวนวิสเย อยํ ปาฬิ. ปฏิปทาวิสุทฺธีติ โคตฺรภุปริโยสานาย ปุพฺพภาคปฏิปทาย ฌานสฺส นีวรณาทิปริพนฺธโต วิสุทฺธิ, สายํ ยสฺมา อุเปกฺขานุพฺรูหนาทีนมฺปิ ปจฺจยตฺเตน ปธานา ปุริมการณสิทฺธา จ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา, สา ปน ปริพนฺธวิสุทฺธิสมกาลวิภาวินีปิ ตพฺพิสุทฺธิยาว นิปฺผนฺนาติ ทีปนตฺถมาห ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. สมฺปหํสนาติ วตฺถุธมฺมาทีนํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา, สา ปน ยสฺมา กตฺตพฺพสฺส สพฺพกิจฺจสฺส นิปฺผตฺติยาว สิทฺธา นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. ตีณิปิ เจตานิ กลฺยาณานิ เอกกฺขเณ ลพฺภมานานิปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวเสน ปวตฺตนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานภาเวน วุตฺตานิ, น ปน ฌานสฺส อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตเย ยถากฺกมํ ลพฺภมานตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. มชฺฌิมํ สมาธินิมิตฺตํ ปฏิปชฺชตีติอาทีสุ มชฺฌิมํ สมาธินิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. โส หิ ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตานํ อุภินฺนํ อนฺตานํ อนุปคมเนน มชฺฌิโม, สวิเสสํ จิตฺตสฺส เอกตฺตารมฺมเณ ปนโต สมาธิเยว อุปริวิเสสานํ การณภาวโต ‘‘สมาธินิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิปชฺชติ ปฏิลพฺภตีติ อตฺโถ. เอวํ ¶ ปฏิปนฺนตฺตา มชฺฌิเมน สมาธินิมิตฺเตน ตตฺถ เอกตฺตารมฺมเณ อปฺปนาโคจเร ปกฺขนฺทติ อุปติฏฺติ, เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส จิตฺตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต ปุคฺคโล วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนภาวโต เอวมสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม.
ตตฺถ ชาตานนฺติอาทีสุ เย ปน เต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตสฺมึ ฌานจิตฺเต ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา, เตสํ อฺมฺํ อนติวตฺตนสภาเวน สมฺปหํสนา วิโสธนา ปริโยทปนา จ, สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสตาย สมฺปหํสนา จ, ยฺเจตํ ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ, ตสฺส ตทุปควีริยสฺส วาหนฏฺเน ปวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา จ, ตสฺมึ ขเณ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา จ, ปริโยทปนา จ ปริโยทปนกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสเนว อิชฺฌตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตนฺติอาทีนิ ตสฺเสว จิตฺตสฺส โถมนวจนานิ. วิตกฺกสมฺปนฺนนฺติ วิตกฺกงฺเคน สุนฺทรภาวมุปคตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ตสฺมิฺเว อารมฺมเณ ¶ จิตฺตสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติสงฺขาเตน สมาธินา สมฺปนฺนํ, อิทํ ฌานงฺควเสน วุตฺตํ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ อิทํ ปน อินฺทฺริยวเสนาติ เวทิตพฺพํ.
ปฏิกุฏตีติ สงฺกุจติ. ปฏิวฏฺฏตีติ ปฏินิวฏฺฏติ. นฺหารุททฺทุลนฺติ นฺหารุขณฺฑํ. ปยุตฺตวาจนฺติ ปจฺจยปริเยสเน นิยุตฺตวาจํ. ทณฺฑวาคุราหีติ ทณฺฑปฏิพทฺธาหิ ทีฆชาลสงฺขาตาหิ วาคุราหิ.
สมณกุตฺตโกติ กาสายนิวาสนาทิสมณกิจฺจโก. วคฺคุมุทาติ เอตฺถ ‘‘วคฺคุมตา’’ติ วตฺตพฺเพ โลกิกา ‘‘มุทา’’ติ โวหรึสูติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วคฺคุมตา’’ติ. ‘‘วคฺคู’’ติ มตา, สุทฺธสมฺมตาติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘ปฺุสมฺมตา’’ติ. สตฺตานํ ปาปุนเนน โสธเนน สา ปฺุสมฺมตา.
๑๖๓. มารสฺส เธยฺยํ านํ, วตฺถุ วา นิวาโส มารเธยฺยํ, โส อตฺถโต เตภูมกธมฺมา เอว, อิธ ปน ปฺจ กามคุณา อธิปฺเปตา, ตํ มารเธยฺยํ ¶ . ‘‘อยํ สมณกุตฺตโก ยถาสมุปฺปนฺนสํเวคมูลเกน สมณภาวูปคมเนน อติกฺกมิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อโวจ, น ปน ‘‘อรหตฺตปฺปตฺติยา ตีสุ ภเวสุ อปฺปฏิสนฺธิกตาย ตํ อติกฺกมิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ มรเณเนว สตฺตานํ สํสารโมจนลทฺธิกตฺตา เทวตาย. น หิ มตานํ กตฺถจิ ปฏิสนฺธิ คจฺฉติ. อิมินา อตฺเถน เอวเมว ภวิตพฺพนฺติ อิมินา ปเรสํ ชีวิตา โวโรปนตฺเถน เอวเมว สํสารโมจนสภาเวเนว ภวิตพฺพํ. ‘‘อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺตี’’ติ (ปารา. ๑๖๒) วุตฺตตฺตา สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสีติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตสฺมา เย อตฺตนาปิ อตฺตานํ อฺมฺฺจ ชีวิตา โวโรเปสุํ, เต ปุถุชฺชนภิกฺขู เปตฺวา ตทวเสเส จ ปุถุชฺชนภิกฺขู, สพฺเพ จ อริเย อยํ ชีวิตา โวโรเปสีติ เวทิตพฺพํ.
๑๖๔. เอกีภาวโตติ ปวิเวกโต. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺตีติ อตฺตโน อตฺตโน อาจริยานํ สนฺติเก คณฺหนฺติ, คเหตฺวา จ อาจริเยหิ สทฺธึ ภควนฺตํ อุปฏฺหนฺติ. ตทา ปน อุทฺเทสาทิทายกา ตนุภูเตหิ ภิกฺขูหิ ภควนฺตํ อุปคตา, ตํ สนฺธาย ภควา ปุจฺฉติ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนา
๑๖๕. ทสานุสฺสตีสุ ¶ อนฺโตคธาปิ อานาปานสฺสติ ตทา ภิกฺขูนํ พหูนํ สปฺปายตํ ทสฺเสตุํ ปุน คหิตา. ตถา หิ ตํ ภควา เตสํ เทเสสิ. อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺา อสุภกมฺมฏฺานสทิสา, จตฺตาโร ปน อารุปฺปา อาทิกมฺมิกานํ อนนุรูปาติ เตสํ อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. อฺํ ปริยายนฺติ อรหตฺตาธิคมตฺถาย อฺํ การณํ. อตฺถโยชนากฺกมนฺติ อตฺถฺจ โยชนากฺกมฺจ. อสฺสาสวเสนาติ อสฺสาสํ อารมฺมณํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปฏฺานํ สตีติ อปฺปมุสฺสนตาย ตเมว อสฺสาสํ ปสฺสาสฺจ อุปคนฺตฺวา านํ, ตถา ติฏฺนกธมฺโม สติ นามาติ อตฺโถ. อิทานิ สติวเสเนว ปุคฺคลํ นิทฺทิสิตุกาเมน โย อสฺสสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย อสฺสสติ, ตสฺส สติ อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพ. อโกสลฺลสมฺภูเตติ อวิชฺชาสมฺภูเต ¶ . ขเณเนวาติ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเนว. อริยมคฺคสฺส ปาทกภูโต อยํ สมาธิ อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อริยมคฺคภาวํ อุปคโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปตฺโต’’ติ. โอปมฺมนิทสฺสนนฺติ เอตฺถ อุปมาว โอปมฺมํ, ตสฺส นิทสฺสนํ.
พาหิรกา อานาปานสฺสตึ ชานนฺตา อาทิโต จตุปฺปการเมว ชานนฺติ, น สพฺพํ โสฬสปฺปการนฺติ อาห สพฺพปฺปการอิจฺจาทิ. เอวมสฺเสตํ เสนาสนนฺติ เอตฺถ เอวนฺติ ภาวนาสติยา ยถาวุตฺตนเยน อารมฺมเณ จิตฺตสฺส นิพนฺธเน สติเยว, นาสตีติ อตฺโถ, เตน มุฏฺสฺสติสฺส อรฺวาโส นิรตฺถโก อนนุรูโปติ ทสฺเสติ. อวเสสสตฺตวิธเสนาสนนฺติ ‘‘ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุช’’นฺติ (วิภ. ๕๐๘) เอวํ วุตฺตํ. อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลนฺติ คิมฺหานาทิอุตุตฺตยสฺส เสมฺหาทิธาตุตฺตยสฺส โมหาทิจริยตฺตยสฺส จ อนุกูลํ. นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ ปลฺลงฺกาภุชเนน, อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อุปริมกายสฺส อุชุกํ ปเนน, อารมฺมณปริคฺคหูปายํ ปริมุขํ สติยา ปเนน อุปทิสนฺโต. น ปณมนฺตีติ น โอณมนฺติ. ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตินฺติ สพฺพถา คหิตํ สมฺโมสปฏิปกฺขโต นิคฺคมนสงฺขาตํ สตึ กตฺวา, ปรมํ สติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.
สโตวาติ สติยา สมนฺนาคโต เอว. พาตฺตึสาย อากาเรหีติ จตูสุ จตุกฺเกสุ อาคตานิ ทีฆรสฺสาทีนิ โสฬส ปทานิ อสฺสาสปสฺสาสวเสน ทฺวิธา วิภชิตฺวา วุตฺเตหิ ทฺวตฺตึสากาเรหิ. ทีฆํอสฺสาสวเสนาติ ทีฆอสฺสาสวเสน, วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส, ทีฆนฺติ วา ภควตา วุตฺตอสฺสาสวเสน. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปนฺติ วิกฺเขปปฏิปกฺขภาวโต ‘‘อวิกฺเขโป’’ติ ลทฺธนามํ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาวํ ปชานโต. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติ ¶ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี หุตฺวา อสฺสาสวเสน, ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิอสฺสาสนวเสนา’’ติ วา ปาโ, ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน อสฺสาสวเสนาติ อตฺโถ. อา ปมํ พหิมุขํ สสนํ อสฺสาโส, ตโต อนฺโตมุขํ ปฏิสสนํ ปสฺสาโสติ อาห อสฺสาโสติ พหินิกฺขมนวาโตติอาทิ, สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อากฑฺฒนวเสน อนฺโต สสนํ อสฺสาโส, พหิ ปฏิสสนํ ปสฺสาโสติ กตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา วุตฺตํ.
ตตฺถาติ ¶ พหินิกฺขมนอนฺโตปวิสนวาเตสุ, ตสฺส จ ปมํ อพฺภนฺตรวาโต นิกฺขมตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘สพฺเพสมฺปิ คพฺภเสยฺยกานนฺติอาทินา ทารกานํ ปวตฺติกฺกเมน อสฺสาโส พหินิกฺขมนวาโตติ คเหตพฺพนฺติ ทีเปตี’’ติ เกจิ วทนฺติ. สุตฺตนโย เอว เจตฺถ ‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ คเหตพฺพํ. อทฺธานวเสนาติ กาลทฺธานวเสน. อยฺหิ อทฺธาน-สทฺโท กาลสฺส เทสสฺส จ วาจโก. ตตฺถ ยถา หีติอาทินา เทสทฺธานํ อุปมาวเสน ทสฺสิตํ. อิทานิ ตพฺพิสิฏฺกาลทฺธานวเสน อสฺสาสปสฺสาสานํ ทีฆรสฺสตํ อุปเมยฺยวเสน วิภาเวตุํ เอวนฺติอาทิ วุตฺตํ. จุณฺณวิจุณฺณา อเนกกลาปภาเวน. เอตฺถ จ หตฺถิอาทิสรีเร สุนขาทิสรีเร จ อสฺสาสปสฺสาสานํ เทสทฺธานวิสิฏฺกาลทฺธานวเสเนว ทีฆรสฺสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวาติอาทิวจนโต. เตสนฺติ สตฺตานํ. เตติ อสฺสาสปสฺสาสา. อิตฺตรมทฺธานนฺติ อปฺปกํ กาลํ. นวหากาเรหีติ ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส ปุพฺเพนาปรํ อลทฺธวิเสสสฺส เกวลํ อทฺธานวเสน อาทิโต วุตฺตา ตโย อาการา, เต จ กสฺสจิ อสฺสาโสว, กสฺสจิ ปสฺสาโสว, กสฺสจิ ตทุภยมฺปิ อุปฏฺาตีติ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ วเสน วุตฺตา, ตถา ฉนฺทวเสน ตโย, ตถา ปาโมชฺชวเสนาติ อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ. เอเกนากาเรนาติ ทีฆํ อสฺสาสาทีสุ เอเกนากาเรน.
อทฺธานสงฺขาเตติ ทีเฆ โอกาสทฺธานสงฺขาเต อตฺตภาเว กาลทฺธาเนปิ วา, เอวํ อุปริ อิตฺตรสงฺขาเตติ เอตฺถาปิ. ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาย ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหนฺติยา ลทฺธสฺสาทตฺตา ตตฺถ สาติสโย กตฺตุกามตาลกฺขโณ กุสลจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. ฉนฺทวเสนาติ ตถาปวตฺตฉนฺทสฺส วเสน. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ อสฺสาสปสฺสาสานํ สุขุมตรภาเว อารมฺมณสฺส สนฺตตรตาย, กมฺมฏฺานสฺส จ วีถิปฏิปนฺนตาย ภาวนาจิตฺตสหคโต ปโมโท ขุทฺทกาทิเภทา ตรุณา ปีติ อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ วิวตฺตตีติ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปนฺเน ¶ ปกติอสฺสาสปสฺสาสโต ¶ จิตฺตํ นิวตฺตติ. อุเปกฺขา สณฺาตีติ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปจารปฺปนาเภเท สมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน ปุน ฌานนิพฺพตฺตนตฺถํ พฺยาปาราภาวโต อชฺฌุเปกฺขนํ โหติ, สา ปนายํ อุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา. อนุปสฺสนาาณนฺติ สมถวเสน นิมิตฺตสฺส อนุปสฺสนา, วิปสฺสนาวเสน อสฺสาสปสฺสาสมุเขน ตนฺนิสฺสยนามรูปสฺส อนุปสฺสนา จ าณํ. กาโย อุปฏฺานนฺติ อสฺสาสปสฺสาสสงฺขาโต กาโย อุปคนฺตฺวา ติฏฺติ เอตฺถ สตีติ อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ ปน สรสโต อุปติฏฺนฏฺเน สรณฏฺเน จ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. เตน วุจฺจตีติอาทีสุ ยา อยํ ยถาวุตฺตอสฺสาสปสฺสาสกาเย, ตนฺนิสฺสยภูเต กรชกาเย จ กายสฺเสว อนุปสฺสนา นิจฺจาทิภาวํ วา อิตฺถิปุริสสตฺตชีวาทิภาวํ วา อนนุปสฺสิตฺวา อสฺสาสปสฺสาสกายมตฺตสฺเสว อนิจฺจาทิภาวสฺส จ อนุปสฺสนา, ตาย กายานุปสฺสนาย สติสงฺขาตสฺส ปฏฺานสฺส ภาวนา วฑฺฒนา กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ อยํ สงฺเขปตฺโถ.
อิตฺตรวเสนาติ ปริตฺตกาลวเสน. ตาทิโสติ ทีโฆ รสฺโส จ. วณฺณาติ ทีฆาทิอาการา. นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโนติ นาสิกคฺเค วา, วา-สทฺเทน อุตฺตโรฏฺเ วาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน สพฺพํ อสฺสาสปสฺสาสกายํ วิทิตํ ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ ปุพฺเพ ปวตฺตอาโภควเสน ปจฺฉา ตถา สมุปฺปนฺเนน าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน ตํ อสฺสาสปสฺสาสกายํ เอวํ วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ, ตสฺมา เอวํภูโต สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ นาม, น ปน ‘‘อนาคเต เอวํ กริสฺสามี’’ติ จินฺตนมตฺเตน โส เอวํ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย. ตถาภูตสฺสาติ อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺตสฺส. สํวโรติ สติ วีริยมฺปิ วา. น อฺํ กิฺจีติ สพฺพกายํ วิทิตํ กริสฺสามีติอาทิกํ ปุพฺพาโภคํ สนฺธาย วทติ. าณุปฺปาทนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน กายสงฺขารปสฺสมฺภนปีติปฏิสํเวทนาทึ สงฺคณฺหาติ. กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสํ. โส หิ จิตฺตสมุฏฺาโนปิ สมาโน กรชกายปฏิพทฺธวุตฺติตาย เตน สงฺขรียตีติ กายสงฺขาโรติ วุจฺจติ. อปริคฺคหิตกาเลติ กมฺมฏฺานสฺส อนารทฺธกาเล, ตทารมฺภตฺถาย กายจิตฺตานมฺปิ อปริคฺคหิตกาเลติ อตฺโถ. นิสีทติ ปลฺลงฺกํ ¶ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธายาติ หิ อิมินา กายปริคฺคโห, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ อิมินา จิตฺตปริคฺคโห วุตฺโต. อธิมตฺตนฺติ พลวํ โอฬาริกํ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. กายสงฺขาโร หิ อธิปฺเปโต. อธิมตฺตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ กิริยาวิเสสนํ วา เอตํ. สพฺเพสํเยวาติ อุภเยสมฺปิ.
มหาภูตปริคฺคเห สุขุโมติ จตุธาตุมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนายาติ ¶ กลาปสมฺมสนมาห. นิพฺพิทานุปสฺสนโต ปฏฺาย พลววิปสฺสนา, ตโต โอรํ ทุพฺพลวิปสฺสนา. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ อปริคฺคหิตกาเลติอาทินา สมถนเย วุตฺตนเยน.
โจทนาโสธนาหีติ อนุโยคปริหาเรหิ. กถนฺติอาทิ ปฏิสมฺภิทาปาฬิ, ตตฺถ กถํ สิกฺขตีติ สมฺพนฺโธ. อิติ กิราติอาทิ โจทกวจนํ. อิติ กิราติ เอวฺเจติ อตฺโถ. อสฺสาสปสฺสาโส สพฺพถา อภาวํ อุปเนติ เจติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วาตูปลทฺธิยาติ อสฺสาสปสฺสาสวาตสฺส อภาเวน ตพฺพิสยาย อุปลทฺธิยา ภาวนาจิตฺตสฺส อุปฺปาโท วฑฺฒิ จ น โหตีติ อตฺโถ. น จ นนฺติ เอตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํ. ปุน อิติ กิราติอาทิ ยถาวุตฺตาย โจทนาย วิสฺสชฺชนา, ตตฺถ อิติ กิร สิกฺขตีติ มยา วุตฺตากาเรน ยทิ สิกฺขตีติ อตฺโถ. ปภาวนา โหตีติ ยทิปิ โอฬาริกา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สุขุมา ปน อตฺเถวาติ ภาวนายปิ วฑฺฒิ โหเตวาติ อธิปฺปาโย. กํเสติ กํสภาชเน. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสฺส, เตสํ สทฺทานํ ปวตฺติอาการสฺสาติ อตฺโถ. สุขุมกา สทฺทาติ อนุรเว อาห. สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปีติ สุขุโม สทฺโทว นิมิตฺตํ ตทารมฺมณตายปิ.
อาภิสมาจาริกสีลนฺติ เอตฺถ อภิสมาจาโรติ อุตฺตมสมาจาโร, ตเทว อาภิสมาจาริกํ สีลํ, ขนฺธกวตฺตปริยาปนฺนสฺส สีลสฺเสตํ อธิวจนํ. อหํ สีลํ รกฺขามีติ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนํ สีลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาวาโสติ อาวาสปลิโพโธ. กุลนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. กมฺมนฺติ นวกมฺมํ. อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ, สา วิปสฺสนาย ปลิโพโธ. โส อุปจฺฉินฺทิตพฺโพติ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) วุตฺเตน ตสฺส ¶ ตสฺส ปลิโพธสฺส อุปจฺเฉทปฺปกาเรน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. โยคานุโยโคติ โยคสฺส ภาวนาย อนุยฺุชนํ. อฏฺตึสารมฺมเณสูติ อาโลกากาสกสิณทฺวยํ วชฺเชตฺวา ปาฬิยํ อาคตานํ อฏฺนฺนํ กสิณานํ วเสน วุตฺตํ, จตฺตารีสฺเว ปน กมฺมฏฺานานิ. ยถาวุตฺเตเนว นเยนาติ โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อิมินาว กมฺมฏฺาเนนาติ อิมินา อานาปานสฺสติกมฺมฏฺาเนน. มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิยาติ กมฺมฏฺานวีถึ มหาหตฺถิมคฺคํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย.
วุตฺตปฺปการมาจริยนฺติ ‘‘อิมินาว กมฺมฏฺาเนน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺสา’’ติอาทินา เหฏฺา วุตฺตปฺปการํ อาจริยํ. ‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓; มิ. ป. ๖.๑.๑๐) วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๒) วุตฺตปฺปการมาจริยนฺติปิ ¶ วทนฺติ. ปฺจสนฺธิกนฺติ ปฺจปพฺพํ, ปฺจภาคนฺติ อตฺโถ. กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนนฺติ กมฺมฏฺานคนฺถสฺส อุคฺคณฺหนํ. ตทตฺถปริปุจฺฉา กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉา, ตตฺถ สํสยปริปุจฺฉา วา. กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานนฺติ เอวํ ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส เอวมิธ นิมิตฺตํ อุปติฏฺตีติ อุปธารณํ. ตถา กมฺมฏฺานปฺปนา เอวํ ฌานมปฺเปตีติ. กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณนฺติ คณนานุพนฺธนาผุสนานํ วเสน ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ปนาวเสน มตฺถกปฺปตฺติ อิธ ภาวนาติ กมฺมฏฺานสภาวสฺส สลฺลกฺขณํ, เตนาห ‘‘กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.
อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตนฺติ มหตฺตํ นวตฺตํ ชิณฺณตฺตํ ปนฺถนิสฺสิตตฺตํ โสณฺฑิปณฺณปุปฺผผลยุตฺตตา ปตฺถนียตา นครทารุเขตฺตสนฺนิสฺสิตตา วิสภาคานํ ปุคฺคลานํ อตฺถิตา ปฏฺฏนสนฺนิสฺสิตตา ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิตตา รชฺชสีมสนฺนิสฺสิตตา อสปฺปายตา กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภติ อิเมหิ อฏฺารสหิ เสนาสนโทเสหิ วิวชฺชิตํ. ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตนฺติ –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน ¶ เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ …เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) –
เอวํ ภควตา วุตฺเตหิ ปฺจหิ เสนาสนงฺเคหิ สมนฺนาคตํ, เอตฺถ จ นาติทูรตาทิ เอกํ, ทิวา อปฺปากิณฺณตาทิ เอกํ, อปฺปฑํสาทิตา เอกํ, จีวราทิลาโภ เอกํ, เถรานํ ภิกฺขูนํ นิวาโส เอกนฺติ เอวํ ปฺจงฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธนาติ ทีฆานํ เกสาทีนํ หรเณน ปตฺตจีวราทีนํ ปจนตุนฺนกรณรชนาทิกรเณหิ จ อุปจฺฉินฺนา ขุทฺทกา ปลิโพธา เยน, เตน. ภตฺตสมฺมทนฺติ โภชนนิมิตฺตํ ปริสฺสมํ. อาจริยโต อุคฺคโห อาจริยุคฺคโห, สพฺโพปิ กมฺมฏฺานวิธิ, น ปุพฺเพ วุตฺตอุคฺคหมตฺตํ, ตโต. เอกปทมฺปีติ เอกโกฏฺาสมฺปิ.
อนุวหนาติ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนวเสน สติยา นิรนฺตรํ อนุปฺปวตฺตนา. ยสฺมา ปน คณนาทิวเสน วิย ผุสนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ, ผุฏฺผุฏฺฏฺาเน เอว คณนาทิ กาตพฺพนฺติ ¶ ทสฺเสตุํ อิธ ผุสนาคหณนฺติ ทีเปนฺโต ‘‘ผุสนาติ ผุฏฺฏฺาน’’นฺติ อาห. ปนาติ สมาธานํ, สมาธิปฺปธานา ปน อปฺปนาติ อาห ‘‘ปนาติ อปฺปนา’’ติ. อนิจฺจตาทีนํ ลกฺขณโต สลฺลกฺขณา วิปสฺสนา. ปวตฺตโต นิมิตฺตโต จ วินิวฏฺฏนโต วินิวฏฺฏนา มคฺโค. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวโต ปาริสุทฺธิ ผลํ. เตสนฺติ วินิวฏฺฏนาปาริสุทฺธีนํ. ขณฺฑนฺติ ‘‘เอกํ ตีณิ ปฺจา’’ติ เอกนฺตริกาทิภาเวน คณนาย ขณฺฑนํ. อถ วา ขณฺฑนฺติ อนฺตรนฺตรา กติปยกาลํ อคเณตฺวา ปุน คณนวเสน อนฺตรา โอธิปริจฺเฉโท น ทสฺเสตพฺโพ. ตถา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส หิ ‘‘กมฺมฏฺานนินฺนํ ปวตฺตติ นุ โข เม จิตฺตํ, โน’’ติ วีมํสุปฺปตฺติยา วิกฺเขโป โหติ, เตนาห สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เมติอาทิ, อิทฺจ เอวํ ขณฺฑํ ทสฺเสตฺวา จิรตรํ คณนาย มนสิกโรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. โส หิ ตถา ลทฺธํ อวิกฺเขปมตฺตํ นิสฺสาย เอวํ มฺเยฺย. โย อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวาติ อิทํ อสฺสาสปสฺสาเสสุ ยสฺส เอโกว ปมํ อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ยสฺส ปน อุโภปิ อุปฏฺหนฺติ, เตน อุภยมฺปิ คเหตฺวา คณิตพฺพํ. โย อุปฏฺาตีติ อิมินาว ทฺวีสุ นาสาปุฏวาเตสุ โย ปากโฏ โหติ, โส คเหตพฺโพติ ¶ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ คเหตพฺพํ. ปมํ เอเกกสฺมึ อุปฏฺิเตปิ อุปลกฺเขตฺวา คณนฺตสฺเสว กเมน อุโภปิ ปากฏา โหนฺตีติ อาห ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺตี’’ติ. เอวํ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมวาติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สีฆคณนารมฺภสฺส โอกาสํ ทสฺเสตุํ อิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุริมนเยนาติ ทนฺธคณนาย, ปากฏา หุตฺวาติ อิมินา ทนฺธคณนาย อารทฺธกาเล จิตฺตสฺส อวิสทตาย สุขุมสฺสาสาทีนํ อปากฏตํ, ปจฺฉา วิสทกาเล ปากฏตฺจ เตสุ จ ปากเฏสุ ทนฺธคณนํ ปหาย สีฆคณนา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. สีฆคณนาย นิปฺปริยายโต นิรนฺตรปฺปวตฺติ อปฺปนาวีถิยเมว, น กามาวจเร ภวงฺคนฺตริกตฺตาติ อาห ‘‘นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิยา’’ติ. ปุริมนเยเนวาติ สีฆคณนาย. อนฺโต ปวิสนฺตํ วาตํ มนสิกโรนฺโต อนฺโต จิตฺตํ ปเวเสติ นาม.
เอตนฺติ เอตํ อสฺสาสปสฺสาสชาตํ. อนุคมนนฺติ ผุฏฺฏฺาเน มนสิกรณเมว, น อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุวตฺตนํ, เตนาห – ‘‘ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสนา’’ติ. ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถีติ อิมินา ยถา คณนาย ผุสนาย จ มนสิกโรติ, เอวํ อนุพนฺธนํ วินา เกวลํ ปนาย จ ผุสนาย จ มนสิกาโรปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺเตน คณนํ ปฏิสํหริตฺวา ยาว อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตาว อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ มนสิกโรติ, อปฺปนาย ปน อุปฺปนฺนาย อนุพนฺธนาย ปนาย จ มนสิกโรติ นามาติ ทีปิตํ โหติ, อฏฺกถายํ ปน อนุพนฺธนาย วินา ปนาย มนสิกาโร นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิกโรตีติ วุจฺจตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ ¶ . ยา อจฺจนฺตาย น มิโนติ น วินิจฺฉนติ, สา มานสฺส สมีเปติ อุปมานํ สิทฺธสาทิเสน สาธฺยสาธนํ ยถา โค วิย ควโยติ. ปงฺคุโฬติ ปีสปฺปี. โทลาติ เปงฺโขโล. กีฬตนฺติ กีฬนฺตานํ. อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเลติ นาสิกคฺคํ มุขนิมิตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. อาทิโต ปภุตีติ อุปเมยฺยตฺถทสฺสนโต ปฏฺาย. นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ นาสิกคฺคํ, มุขนิมิตฺตํ วา. อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสาติ อสฺสาสปสฺสาสานํ เอกกฺขเณ อปฺปวตฺตนโต เอกสฺส จิตฺตสฺส ตโยปิ อารมฺมณํ น โหนฺติ, นิมิตฺเตน สห อสฺสาโส ปสฺสาโส วาติ ทฺเวเยว เอกกฺขเณ อารมฺมณํ ¶ โหนฺตีติ อตฺโถ. อชานโต จ ตโย ธมฺเมติ นิมิตฺตํ อสฺสาโส ปสฺสาโสติ อิเม ตโย ธมฺเม อารมฺมณกรณวเสน อวินฺทนฺตสฺส, จ-สทฺโท พฺยติเรโก, เตน เอวฺจ สติ อยํ อนิฏฺปฺปสงฺโคติ พฺยติเรกํ ทสฺเสติ. ภาวนาติ อานาปานสฺสติภาวนา.
กถํ อิเม…เป… วิเสสมธิคจฺฉตีติ อิทํ ปริหารคาถาย วุตฺตเมวตฺถํ กกโจปมาย (ม. นิ. ๑.๒๒๒ อาทโย) วิวริตุํ ปุจฺฉาปนํ. ตตฺถ กถํ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘กถมิเม อวิทิตา…เป… กถํ วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ. ปธานนฺติ ภาวนานิปฺผาทกํ วีริยํ. ปโยคนฺติ นีวรณวิกฺขมฺภกํ ภาวนานุโยคํ. วิเสสนฺติ อรหตฺตปริโยสานวิเสสํ. ปธานนฺติ รุกฺขสฺส เฉทนวีริยํ. ปโยคนฺติ ตสฺเสว เฉทนกกิริยํ. กิฺจาเปตฺถ ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ อุปมายํ น วุตฺตํ, ตถาปิ อตฺถโต โยเชตพฺพเมว. ยถา รุกฺโขติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วาติ ทีฆนาสิโก นาสิกคฺเค, อิตโร มุขํ นิมิยติ ฉาทิยติ เอเตนาติ มุขนิมิตฺตนฺติ ลทฺธนาเม อุตฺตโรฏฺเ.
อิทํ ปธานนฺติ เยน วีริยารมฺเภน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ภาวนากมฺมสฺส อรหํ อิธ ปธานนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปกฺกิเลสาติ นีวรณา. วิตกฺกาติ กามวิตกฺกาทิมิจฺฉาวิตกฺกา, นีวรณปฺปหาเนน วา ปมชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา วิตกฺกูปสมาปเทเสน ทุติยชฺฌานาทีนมธิคมมาห. อยํ ปโยโคติ อยํ ฌานาธิคมสฺส เหตุภูโต กมฺมฏฺานานุโยคสงฺขาโต ปโยโค. สํโยชนา ปหียนฺตีติ ทสปิ สํโยชนานิ มคฺคปอปาฏิยา สมุจฺเฉทวเสน ปหียนฺติ. พฺยนฺตี โหนฺตีติ ตถา สตฺตปิ อนุสยา ภงฺคมตฺตสฺสปิ อนวเสสโต วิคตนฺตา โหนฺติ. อยํ วิเสโสติ อิมํ สมาธึ นิสฺสาย อนุกฺกเมน ลพฺภมาโน อยํ สํโยชนปฺปหานาทิโก อิมสฺส สมาธิสฺส วิเสโสติ อตฺโถ. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมาติอาทิ นิคมนวจนํ. ปริปุณฺณาติ โสฬสนฺนํ วตฺถูนํ ปาริปูริยา สพฺพโส ปุณฺณา. อนุปุพฺพนฺติ อนุกฺกเมน. ปริจิตาติ ปริจิณฺณา. อิมํ โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ ปฺาปภาเสน ปภาเสติ.
อิธาติ ¶ อิมสฺมึ าเน. อสฺสาติ อุปมาภูตสฺส กกจสฺส. อานยเน ปโยชนนฺติ โยเชตพฺพํ. นิมิตฺตนฺติ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วิตกฺกาทิอวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วทนฺติ. วิจาราทีหีติ ¶ ปน วตฺตพฺพํ นิปฺปริยาเยน วิตกฺกสฺส อปฺปนาภาวโต. โส หิ ‘‘อปฺปนา พฺยปฺปนา’’ติ นิทฺทิฏฺโ. เอวฺหิ สติ อวเสส-สทฺโท อุปปนฺโน โหติ, วิตกฺกสมฺปโยคโต วา ฌานงฺเคสุ ปธานภูโต สมาธิ อปฺปนาติ กตฺวา ‘‘อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุตีติ เอตฺถ ‘‘อนุกฺกมโต…เป… ปตฺตํ วิย โหตี’’ติ อุปริ วกฺขมาโน คนฺโถ ปุราณโปตฺถเกสุ ทิสฺสติ, ตสฺมา อยํ ปาโ เอตฺถาปิ ลิขิตพฺโพ, เลขกานํ ปน โทเสน คฬิโตติ เวทิตพฺโพ.
โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนยมฺปิ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตสฺส กายสงฺขารสฺส วิจยนวิธึ ทสฺเสตุํ อานีตํ. เทสโตติ ปุพฺเพ ผุสนวเสน คหิตฏฺานโต. นิมิตฺตํ ปฏฺเปตพฺพนฺติ ปุพฺเพ คหิตาการนิมิตฺตคฺคาหิกา สฺา ผุสนฏฺาเน ปฏฺเปตพฺพา. อิมเมว หิ อตฺถวสนฺติ อิมํ อนุปฏฺหนฺตสฺส อารมฺมณสฺส อุปฏฺานวิธิสงฺขาตํ การณํ ปฏิจฺจ. อิโตติ อานาปานกมฺมฏฺานโต. ครุกตา จ ภาวนาทุกฺกรตายาติ อาห ‘‘ครุกภาวน’’นฺติ. จริตฺวาติ โคจรํ คเหตฺวา. นิมิตฺตนฺติ อุคฺคหนิมิตฺตํ, ปฏิภาคนิมิตฺตํ วา. อุภยมฺปิ หิ อิธ เอกชฺฌํ วุตฺตํ. ตถา หิ ตูลปิจุอาทิอุปมตฺตยํ อุคฺคเห ยุชฺชติ, เสสํ อุภยตฺถ.
ตารกรูปํ วิยาติ ตารกาย สรูปํ วิย. สฺานานตายาติ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปุพฺเพ ปวตฺตสฺานํ นานตาย. สฺชนฺติ ภาวนาสฺาย ปริกปฺปิตํ, น อุปฺปาทิตํ อวิชฺชมานตฺตา, เตนาห ‘‘นานโต อุปฏฺาตี’’ติ. เอวํ โหตีติ ภาวนมนุยุตฺตสฺส เอวํ อุปฏฺาติ. เอวนฺติ เอวํ สติ, ยถาวุตฺตนเยน นิมิตฺเต เอว จิตฺตสฺส ปเน สตีติ อตฺโถ. อิโต ปภุตีติ อิโต ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย. นิมิตฺเตติ ปฏิภาคนิมิตฺเต. ปยนฺติ ปนาวเสน จิตฺตํ ปนฺโต. นานาการนฺติ ‘‘จตฺตาโร วณฺณา’’ติ เอวํ วุตฺตํ นานาการํ. วิภาวยนฺติ วิภาเวนฺโต อนฺตรธาเปนฺโต. นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย หิ เต อาการา อมนสิกโรโต อนฺตรหิตา วิย โหนฺติ. อสฺสาสปสฺสาเสติ อสฺสาเส ปสฺสาเส จ โย นานากาโร, ตํ วิภาวยํ อสฺสาสปสฺสาสสมฺภูเต วา นิมิตฺเต จิตฺตํ ปยํ สกํ จิตฺตํ นิพนฺธติ นามาติ ¶ โยชนา. เกจิ ปน วิภาวยนฺติ เอตสฺส วิภาเวนฺโต วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺโตติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ ปุพฺพภาควเสน ยุชฺเชยฺย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อสฺสาสปสฺสาเส นานาการํ ¶ วิภาเวนฺโต ปชานนฺโต ตตฺถ ยํ ลทฺธํ นิมิตฺตํ, ตสฺมึ จิตฺตํ เปนฺโต อนุกฺกเมน สกํ จิตฺตํ นิพนฺธติ อปฺเปตีติ.
กิเลสาติ อวเสสกิเลสา. สนฺนิสินฺนาเยวาติ อลทฺธนีวรณสหายา โอลีนาเยว. อุปจารภูมิยนฺติ อุปจาราวตฺถายํ. ลกฺขณโตติ วิกฺขมฺภนาทิสภาวโต วา อนิจฺจาทิสภาวโต วา. โคจโรติ ภิกฺขาจารคาโม. ยตฺถ ทุลฺลภา สปฺปายภิกฺขา, โส อสปฺปาโย, อิตโร สปฺปาโย. ภสฺสนฺติ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ ภสฺสํ, ตํ สปฺปายํ, อิตรมสปฺปายํ. เสเสสุ อาวาสาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ อสมาหิตํ จิตฺตํ สมาธิยติ, ตํ ตํ สปฺปายํ, อิตรมสปฺปายนฺติ คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน เอวํ สตฺตวิธํ อสปฺปายํ วชฺเชตฺวา สปฺปายเมว เสวนฺตสฺสปิ อปฺปนา น โหติ, เตน สมฺปาเทตพฺพํ ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ ทสฺเสนฺโต วตฺถุวิสทกิริยาติอาทิมาห. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยา นาม เกสนขจฺเฉทนาทีหิ อชฺฌตฺติกสฺส สรีรวตฺถุสฺส, จีวรเสนาสนาทิโธวนปริกมฺมาทีหิ พาหิรวตฺถุสฺส จ วิสทภาวกรณํ. เอวฺหิ าณมฺปิ วิสทกิจฺจนิปฺผตฺติกรํ โหติ. อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. นิมิตฺตกุสลตา นาม ภาวนาย ลทฺธนิมิตฺตสฺส รกฺขณโกสลฺลํ. ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพนฺติอาทีสุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อจฺจารทฺธตาทีหิ การเณหิ อุทฺธตตาย นิคฺคเหตพฺพํ, ตทา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ปสฺสทฺธาทีนํ ติณฺณํ ภาวเนน จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนา โหติ. ยทาสฺส จิตฺตํ อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนตาย ปคฺคเหตพฺพํ, ตทา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ธมฺมวิจยาทีนํ ติณฺณํ ภาวเนน จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนํ โหติ. ยทาสฺส ปฺาปโยคมนฺทตาทีหิ นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส จิตฺตสฺส อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขณาทินา (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๔๑๘) สมฺปหํสนสงฺขาตา สํเวชนา โหติ. ยทา ปนสฺส เอวํ ปฏิปชฺชนโต อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ จิตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาปารตาสมาปชฺชเนน อชฺฌุเปกฺขนา โหติ.
ตทธิมุตฺตตา ¶ นาม สมาธิอธิมุตฺตตา, สมาธินินฺนโปณปพฺภารตาติ อตฺโถ. เอตฺถาติ เอติสฺสํ กายานุปสฺสนายํ.
ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโมติ ผลํ อธิคนฺตุกาโม สมาปชฺชิตุกาโม จ. ตตฺถ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน ปมํ มคฺคานนฺตรผลํ อธิคนฺตุกาโม. ตโต ปรํ สลฺลกฺขณวเสน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกาโมปีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อาวชฺชนสมาปชฺชน…เป… วสิปฺปตฺตนฺติ ¶ เอตฺถ ปฏิลทฺธฌานโต วุฏฺาย วิตกฺกาทีสุ ฌานงฺเคสุ เอเกกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺกาทีสุ ยถาวชฺชิตฌานงฺคารมฺมณานิ กามาวจรชวนานิ ภวงฺคนฺตริตานิ ยทา นิรนฺตรํ ปวตฺตนฺติ, อถสฺส อาวชฺชนวสี สิทฺธา โหติ. ตํ ปน ฌานํ สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม. อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ขณํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี นาม. ตเถว ลหุํ ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต ภวงฺคุปฺปตฺติวเสน วุฏฺาตุํ สมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ สมาปชฺชิสฺสามี’’ติ, ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ จ ปวตฺตปุพฺพปริกมฺมเภเทเนตฺถ อธิฏฺานวุฏฺานวสิโย ภินฺนา, น สรูปเภเทน, ยา ‘‘สมาปตฺติกุสลตา, วุฏฺานกุสลตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปจฺจเวกฺขณวสี ปน อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตา. ปจฺจเวกฺขณวีถิยฺหิ สีฆํ อาวชฺชนุปฺปตฺติยา อาวชฺชนวสี ตทนนฺตรานํ ชวนานํ สมุปฺปตฺติยา ปจฺจเวกฺขณวสีติ อาวชฺชนวสีสิทฺธิยาว ปจฺจเวกฺขณวสี สิทฺธา เอว โหตีติ เวทิตพฺพา. ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวาติ ฌานจิตฺตสมฺปยุตฺตานิ ฌานงฺคานิ ลกฺขณาทิวเสน ปริคฺคเหตฺวา. เตสฺจ นิสฺสยนฺติ เตสํ วตฺถุนิสฺสยานํ ภูตานํ นิสฺสยํ. อิทฺจ กรชกายสฺส วตฺถุทสกสฺส ภูตนิสฺสยตฺตา สุตฺตนฺตนเยน วุตฺตํ, น ปฏฺานนเยน. น หิ กลาปนฺตรคตานิ ภูตานิ กลาปนฺตรคตานํ ภูตานํ นิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ, สุตฺตนฺตนเยน ปน อุปนิสฺสยปจฺจโยติ เวทิตพฺพานิ. ปฏฺาเน หิ อสงฺคหิตา สพฺเพ ปจฺจยา สุตฺตนฺติกนเยน อุปนิสฺสยปจฺจเย สงฺคยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตํนิสฺสิตรูปานีติ อุปาทารูปานิ. ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วาติ เอตฺถ ยถาปริคฺคหิตเกสาทิรูปารมฺมณํ ตโต ปุพฺเพ วุตฺตนยวตฺถารมฺมณฺจ ตนฺนิสฺสยกรชกายปอคฺคหมุเขน ¶ อุปฏฺิตจกฺขาทิทฺวารฺจ สสมฺปยุตฺตธมฺมวิฺาณํ วาติ โยเชตพฺพํ. กมฺมารคคฺครีติ กมฺมารานํ อคฺคิธมนภสฺตา. ตชฺชนฺติ ตทนุรูปํ. ตสฺสาติ นามรูปสฺส. ตํ ทิสฺวาติ อวิชฺชาตณฺหาทิปจฺจยํ ทิสฺวา. กงฺขํ วิตรตีติ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานนฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) โสฬสวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ อติกฺกมติ. กลาปสมฺมสนวเสนาติ ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๓.๘๖, ๘๙; อ. นิ. ๔.๑๘๑) ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตีตาทิโกฏฺาสํ เอเกกกลาปโต คเหตฺวา อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสนํ กลาปสมฺมสนํ, ตสฺส วเสน. ปุพฺพภาเคติ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิปริยาปนฺนาย อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค. โอภาสาทโยติ โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุเปกฺขา อุปฏฺานํ นิกนฺติ จ. ตตฺถ อธิโมกฺโขติ สทฺธา. อุปฏฺานนฺติ สติ. อุเปกฺขาติ ตตฺรมชฺฌตฺตตา. เอตฺถ จ โอภาสาทโย นว นิกนฺติสงฺขาตตณฺหุปกฺกิเลสวตฺถุตาย อุปกฺกิเลสา วุตฺตา ¶ , นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลสตาย ตพฺพตฺถุตาย จ. นิพฺพินฺทนฺโต อาทีนวานุปสฺสนาปุพฺพงฺคมาย นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต. มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาสงฺขารุเปกฺขานุโลมาณานํ จิณฺณปริยนฺเต อุปฺปนฺนโคตฺรภุาณานนฺตรํ อุปฺปนฺเนน มคฺคาเณน สพฺพสงฺขาเรสุ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต. ผลกฺขเณ หิ วิมุตฺโต นาม วุจฺจติ, มคฺคกฺขเณ วิมุจฺจนฺโตติ. เอกูนวีสติเภทสฺสาติ จตุนฺนํ มคฺควีถีนํ อนนฺตรํ ปจฺเจกํ อุปฺปชฺชนฺตสฺส มคฺคผลนิพฺพานปหีนาวสิฏฺกิเลสานํ ปฺจนฺนํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพานํ วเสน เอกูนวีสติเภทสฺส. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสาภาเวน เอกูนวีสติตา. อสฺสาติ อานาปานกมฺมฏฺานิกสฺส.
สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเนติ ปีติสหคตานิ จตุกฺกนเย ทฺเว ปมทุติยชฺฌานานิ. ตสฺสาติ เตน โยคินา. สมาปตฺติกฺขเณติ สมาปนฺนกฺขเณ. อารมฺมณโตติ ปฏิภาคารมฺมณคฺคหณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. อารมฺมเณ หิ วิทิเต ตพฺพิสยา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สยํ อตฺตโน ปฏิสํวิทิตา นาม โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ปจฺฉา คหเณ สนฺเทหาภาวโต. วิปสฺสนากฺขเณติ วิปสฺสนาปฺาย วิสยโต ทสฺสนกฺขเณ. เอวํ ปีตึ อนิจฺจาทิวเสน คหณเมว อสมฺโมหโต ปีติปฏิสํเวทนํ นาม.
ทีฆํ ¶ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆสฺส อสฺสาสสฺส อารมฺมณภูตสฺส วเสน, ปชานโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ฌานปริยาปนฺนํ อวิกฺเขปาปนฺนํ นาม จิตฺตสฺเสกคฺคตํ ตํสมฺปยุตฺตาย ปฺาย ปชานโต. ยเถว หิ อารมฺมณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, เอวํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ ปฏิสํวิทิตา เอว โหนฺตีติ. สติ อุปฏฺิตา โหตีติ ทีฆํ อสฺสาสวเสน ฌานสมฺปยุตฺตา สติ ตสฺส อารมฺมเณ อุปฏฺิตา ตทารมฺมณชฺฌาเนปิ อุปฏฺิตา นาม โหตีติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสนาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ ทสฺสิตํ ปีติปฏิสํเวทนํ อารมฺมณโต อสมฺโมหโต จ วิภาคโต ทสฺเสตุํ อาวชฺชโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวชฺชโตติ ฌานํ อาวชฺชนฺตสฺส. สา ปีตีติ สา ฌานปริยาปนฺนา ปีติ. ชานโตติ สมาปนฺนกฺขเณ อารมฺมณมุเขน ชานโต, ตสฺส สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. ปสฺสโตติ ทสฺสนภูเตน าเณน ฌานโต วุฏฺาย ปสฺสนฺตสฺส. ปจฺจเวกฺขโตติ ฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. จิตฺตํ อธิฏฺหโตติ ‘‘เอตฺตกํ เวลํ ฌานสมงฺคี ภวิสฺสามี’’ติ ฌานจิตฺตํ อธิฏฺหนฺตสฺส. เอวํ ปฺจนฺนํ วสิภาวานํ วเสน ฌานสฺส ปชานนมุเขน อารมฺมณโต ปีติยา ปฏิสํเวทนา ทสฺสิตา. อธิมุจฺจโตติ สทฺทหนฺตสฺส, สมถวิปสฺสนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. วีริยํ ปคฺคณฺหโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อภิฺเยฺยนฺติ วิสิฏฺาย ปฺาย ชานิตพฺพํ จตุสจฺจํ วิปสฺสนาปฺาปุพฺพงฺคมาย มคฺคปฺาย ¶ อภิชานโตติอาทิ โยชนา. เอวํ ปริฺเยฺยนฺติอาทีสุปิ ปริชานโตติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปริฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. อวเสสปทานีติ สุขปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทีติ ปทานิ.
เวทนาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สฺา คหิตา, เตนาห ‘‘ทฺเว ขนฺธา’’ติ. วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถนฺติ กายิกสุขาทิสีเสน ปกิณฺณกสงฺขารทสฺสนโต วุตฺตํ สมเถ กายิกสุขาภาวโต. โสติ ปสฺสมฺภนปริยาเยน วุตฺโต นิโรโธ. วุตฺตนเยนาติ อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเลติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕) กายสงฺขาเร วุตฺตนเยน. ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตาติ ปีติอปเทเสน เวทนา วุตฺตา, สุขคฺคหณโต ¶ เวทนานุปสฺสนาปสงฺคโตติ อธิปฺปาโย. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสูติ ‘‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขาร’’นฺติ อิเมสุ ทฺวีสุ โกฏฺาเสสุ. สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ เวทนานุปสฺสนาภาวโต วุตฺตํ. จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพาติ อารมฺมณโต อสมฺโมหโตติอาทินา วุตฺตนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. จิตฺตนฺติ ฌานสมฺปยุตฺตํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตฺจ จิตฺตํ. อาโมเทตีติ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา ฌานวิสยาย โมเทติ. วิปสฺสนากฺขเณติอาทินา วุตฺตภงฺคานุปสฺสนกฺขเณ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๖๗. ยทิปิ อริยา เนว อตฺตนาว อตฺตานํ อฺมฺํ วา ชีวิตา โวโรเปนฺติ, นาปิ ปเรหิ สมาทเปนฺติ, ตถาปิ ยถาวุตฺเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ มตานํ ปุถุชฺชนานํ อนฺตเร มิคลณฺฑิเกน มาริตานํ อริยปุคฺคลานมฺปิ อตฺถิตาย ‘‘อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปุถุชฺชนกาเล อตฺตนาว อตฺตานํ ฆาเตตฺวา มรณสมเย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา มตานมฺปิ สพฺภาวโต เอวํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ ชานิตฺวา สฺชานิตฺวาติอาทินา พฺยฺชนานุรูปํ อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ปาโณติ ชานนฺโตติ อิทํ มนุสฺโสติ อชานิตฺวาปิ เกวลํ สตฺตสฺาย เอว ปาราชิกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวาติ ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ วธกเจตนาย จินฺเตตฺวา. ปกปฺเปตฺวาติ ‘‘วธามิ น’’นฺติ เอวํ จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา, เตนาห ‘‘นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา’’ติ. สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ สฺจิจฺจาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน ¶ วุตฺตสฺสปิ วีติกฺกมภูตสฺส อปรกาลกิริยายุตฺตทสฺสเนน โกฏิปฺปตฺโต อตฺโถ. ชาติอุณฺณา นาม ตทหุชาตเอฬกสฺส โลมํ. เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคนฺติ เอวํ วณฺณสณฺานํ. ตโต วา อุทฺธนฺติ ทุติยสตฺตาหาทีสุ อพฺพุทาทิภาวปฺปตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริหีนเวคสฺส สนฺตานสฺส ปจฺจโย โหตีติ ¶ สหการีปจฺจโย โหติ, น ชนโก. กมฺมเมว หิ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ กมฺมชรูปานํ ชนกปจฺจโย, ตฺจ ปวตฺติยํ ปุพฺเพ อุปฺปชฺชิตฺวา ิตํ อนุปหตํ จตุสนฺตติรูปํ สหการีปจฺจยํ ลภิตฺวาว กาตุํ สกฺโกติ, น อฺถา, เยน เกนจิ วิโรธิปจฺจเยน นิรุทฺธจกฺขาทิปฺปสาทานํ ปุคฺคลานํ วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ จกฺขาทิกํ ชเนตุํ น สกฺโกตีติ สิทฺธเมว โหติ.
อติปาเตนฺโตติ อติปาเตนฺโต วินาเสนฺโต. วุตฺตปการเมวาติ ชีวิตินฺทฺริยาติปาตนวิธานํ วุตฺตปฺปการเมว. สรเสเนว ปตนสภาวสฺส สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา อตีว ปาตนํ สีฆปาตนํ อติปาโต, ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต. อาถพฺพณิกาติ อถพฺพณเวทิโน. อถพฺพณนฺติ อถพฺพณเวทวิหิตํ. มนฺตํ ปโยเชนฺตีติ อโลณโภชนทพฺพสยนสุสานคมนาทีหิ ปโยเคหิ มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, เตน ยถิจฺฉิตปาณวธาทิผลํ อุปปชฺชติ, ตสฺมา ตํ กายวจีกมฺเมสุ ปวิฏฺํ. อีตินฺติ ปีฬํ. อุปทฺทวนฺติ ตโต อธิกตรํ ปีฬํ. ปชฺชรกนฺติ วิสมชฺชรํ. สูจิกนฺติ สูจีหิ วิย วิชฺฌมานํ สูลํ. วิสูจิกนฺติ สสูลํ อามาติสารํ. ปกฺขนฺทิยนฺติ รตฺตาติสารํ. วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวาติ คนฺธารวิชฺชาทิกํ อตฺตโน วิชฺชํ กตูปจารํ มนฺตปนกฺกเมน ปริชปฺปิตฺวา. เตหีติ เตหิ วตฺถูหิ. ปโยชนนฺติ ปวตฺตนํ. อโห วตายนฺติ อยํ ตํ กุจฺฉิคตํ. คพฺภนฺติ อิทํ กุจฺฉิคตํ คพฺภํ. กุลุมฺพสฺสาติ คพฺภสฺส, กุลสฺเสว วา, กุฏุมฺพสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ภาวนามยิทฺธิยาติ อธิฏฺานิทฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตนฺติ สุตฺตตฺถโต น สเมตีติ อธิปฺปาโย. อถพฺพณิทฺธิวเสเนว หิ สุตฺเต ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ วุตฺตํ, น ภาวนามยิทฺธิวเสนาติ ทฏฺพฺพํ.
อิตรถาติ ปริเยเสยฺยาติ ปทสฺส คเวสนมตฺตเมว ยถารุตวเสน อตฺโถ สิยา, ตทา ปริยิฏฺมตฺเตน ปริเยสิตฺวา สตฺถาทีนํ ลทฺธมตฺเตนาติ อตฺโถ. สสนฺติ หึสนฺติ เอเตนาติ สตฺถนฺติ วโธปกรณสฺส ปาสาณรชฺชุอาทิโน สพฺพสฺสาปิ นามนฺติ อาห ลคุฬาติอาทิ. ลคุฬนฺติ มุคฺครสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺถสงฺคโหติ มาติกายํ สตฺถหารกนฺติ เอตฺถ วุตฺตสตฺถสงฺคโห. ปรโต วุตฺตนยตฺตาติ ปรโต ¶ นิคมนวเสน วุตฺตสฺส ทุติยปทสฺส ปทภาชเน วุตฺตนยตฺตา. จิตฺตสทฺทสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโตติ จิตฺต-สทฺทสฺส วิจิตฺตาทิอเนกตฺถวิสยตฺตา อิตเรหิ นิวตฺเตตฺวา วิฺาณตฺถํ นิยเมตุํ วุตฺโต.
๑๗๔. กมฺมุนา ¶ พชฺฌตีติ ปาณาติปาตกมฺมุนา พชฺฌติ, ตํ กมฺมมสฺส สิทฺธนฺติ อตฺโถ. อุภยถาปีติ อุทฺทิสกานุทฺทิสกวเสน. ปจฺฉา วา เตน โรเคนาติ เอเตน อนาคตมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ อารพฺภ ปาณาติปาตสฺส ปวตฺตึ ทสฺเสติ. เอวฺจ ‘‘ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ อาณตฺติยา จิเรน สมิทฺธิยมฺปิ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาณาติปาโต. โอปาตขณนาทิถาวรปโยเคสุ ปโยคกรณโต ปจฺฉา คหิตปฏิสนฺธิกสฺสาปิ สตฺตสฺส มรเณ ปาณาติปาโต จ อนาคตารมฺมโณ อุปปนฺโน โหติ. ยํ ปน สิกฺขาปทวิภงฺเค ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาเยวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปาณาติปาตาทิโต วิรตึ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปาณาติปาตาทินฺติ คเหตพฺพํ. อฺจิตฺเตนาติ อมาเรตุกามตาจิตฺเตน. ทุติยปฺปหาเรน มรตีติ ปมปฺปหารํ วินา ทุติเยเนว มรตีติ อตฺโถ. ปมปฺปหาเรเนวาติ ปมปฺปหารสมุฏฺาปกเจตนากฺขเณเยวาติ อตฺโถ. กิฺจาปิ ปมปฺปหาโร สยเมว น สกฺโกติ มาเรตุํ, ทุติยํ ปน ลภิตฺวา สกฺโกนฺโต ชีวิตวินาสเหตุ โหติ, ตสฺมา ปมปฺปหารํ วินา มรณสฺส อสิทฺธตฺตา ‘‘ปโยโค เตน จ มรณ’’นฺติ อิมินา สํสนฺทนโต ปมปฺปหาเรเนว กมฺมพทฺโธ ยุตฺโต, น ทุติเยน ตสฺส อฺจิตฺเตน ทินฺนตฺตา. ยถา เจตฺถ, เอวํ อฺเน ปุคฺคเลน ทุติยปฺปหารทานาทีสุ วิย. ยทิ ปน ทุติยปฺปหารทายกสฺสาปิ ปุคฺคลสฺส วธกเจตนา อตฺถิ, ตสฺสาปิ อตฺตโน ปโยเคนาปิ มตตฺตา ปโยคกฺขเณ ปาณาติปาโตติ เวทิตพฺพํ.
กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถนฺติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิภาคสฺส ปาราชิกาทิอาปตฺติวิภาคสฺส จ ปากฏภาวตฺถํ. ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ วิปรีตคฺคหเณปิ ‘‘อิม’’นฺติ ยถานิปนฺนสฺเสว ปรมตฺถโต คหิตตฺตา ยถาวตฺถุกํ กมฺมพทฺโธ โหติเยวาติ อาห อิมํ วตฺถุนฺติอาทิ. ฆาตโก จ โหตีติ ปาณาติปาตกมฺเมน พทฺโธติ อตฺโถ. มาตาทิคุณมหนฺเต อารพฺภ ปวตฺตวธกเจตนาย ¶ มหาสาวชฺชตาย วุตฺตํ ‘‘อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตี’’ติ.
โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. กมฺมํ กโรนฺเตติ ยุทฺธกมฺมํ กโรนฺเต. ยถาธิปฺปายํ คเตติ โยธํ วิชฺฌิตฺวา ปิตริ วิทฺเธ, โยธํ ปน อวิชฺฌิตฺวา เกวลํ ปิตริ วิทฺเธปิ วิสงฺเกโต นตฺถิเยว ปิตริปิ วธกจิตฺตสฺส อตฺถิตาย, เกวลํ โยเธ วิทฺเธปิ เอเสว นโย. อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ ปิตุวิสยํ ปาณาติปาตกมฺมํ นตฺถีติ อตฺโถ.
เอวํ วิชฺฌาติ เอวํ ปาเทหิ ภูมิยํ ตฺวา เอวํ ธนุํ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวาติอาทินา วิชฺฌนปฺปการสิกฺขาปนมุเขน อาณาเปตีติ อตฺโถ. เอวํ ปหราติ ทฬฺหํ อสึ คเหตฺวา เอวํ ปหร. เอวํ ฆาเตหีติ เอวํ กมฺมการณํ กตฺวา มาเรหิ. ตตฺตกา อุภินฺนํ ปาณาติปาตาติ อนุทฺทิสิตฺวา ¶ เยสํ เกสฺจิ มารณตฺถาย อุโภหิ ปโยคสฺส กตตฺตา วุตฺตํ. สเจ หิ อาณาปโก ‘‘เอวํ วิทฺเธ อสุโก เอวํ มรตี’’ติ สฺาย ‘‘เอวํ วิชฺฌา’’ติ อาณาเปติ, นิยมิตสฺเสว มรเณ อาณาปกสฺส กมฺมพทฺโธติ วทนฺติ. สเจ อาณตฺโต ‘‘อสุก’’นฺติ นิยเมตฺวา อุทฺทิสฺส สรํ ขิปติ, อาณาปโก อนิยเมตฺวา อาณาเปติ, อาณาปกสฺส เยสํ เกสฺจิ มรเณปิ กมฺมพทฺโธ, อาณตฺตสฺส ปน นิยมิตมรเณเยวาติ เวทิตพฺพํ. มชฺเฌติ หตฺถิโน ปิฏฺิโน มชฺเฌ. เอเตนาติ อธิฏฺหิตฺวา อาณาเปตีติอาทิปาฬิวจเนน. ตตฺถาติ อาณตฺติกปโยเค.
กิฺจาปิ กิริยาวิเสโส อฏฺกถาสุ อนาคโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ (ปารา. ๑๗๔) กิริยาวิเสสสฺส ปรามฏฺตฺตา อาจริยปรมฺปรา อาคตํ กิริยาวิเสสมฺปิ ปาฬิสํสนฺทนโต คเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อปโร นโยติอาทิมาห. วิชฺฌนนฺติ อุสุสตฺติอาทีหิ วิชฺฌนํ. เฉทนนฺติ อสิอาทีหิ หตฺถปาทาทิจฺเฉทนํ. เภทนนฺติ มุคฺคราทีหิ สีสาทิเภทนํ ทฺวิธากรณํ. สงฺขมุณฺฑกนฺติ สีสกฏาเห จมฺมํ สห เกเสหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถูลสกฺขราหิ สีสกฏาหํ ฆํสิตฺวา สงฺขวณฺณกรณวเสน สงฺขมุณฺฑกมฺมกรณํ. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน พิฬงฺคถาลิกาทึ สงฺคณฺหาติ. อุเร ปหริตฺวา ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา คีวายํ ปหริตฺวาติอาทินา สรีราวยวปฺปเทเสสุ ปหรณวิชฺฌนาทินิยโมปิ กิริยาวิเสเสเยว สงฺคยฺหติ อฏฺกถาสุ สงฺขมุณฺฑกาทิสรีรปฺปเทสวิสยายปิ ฆาตนาย ตตฺถ ¶ ปเวสิตตฺตา, ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๑๗๔ ปโยคกถาวณฺณนา) ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหีติอาทิกสฺส อฏฺกถาปาสฺส ‘‘ปุริมปสฺสาทีนมฺปิ วตฺถุสภาคโต วตฺถุคฺคหเณเนว คหณนฺติ อาห ปุรโต ปหริตฺวาติอาที’’ติ เอวมธิปฺปายกถนํ, ตํ สงฺขมุณฺฑกาทิกสฺส สรีรปฺปเทเส กมฺมการณากรณสฺส อฏฺกถาย กิริยาวิเสสวิสเย วุตฺตตฺตา น ยุชฺชติ. ยถาณตฺตํ มฺุจิตฺวา ปุคฺคลนฺตรมารณเมว หิ วตฺถุวิสํวาโท, น ปหริตุํ อาณตฺตํ สรีรปฺปเทสวิสํวาทนํ, เตนาห ‘‘วตฺถุํ วิสํ วาเทตฺวา…เป… ตโต อฺํ มาเรติ. ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหีติ วา…เป… นตฺถิ กมฺมพทฺโธ’’ติ, อิทํ ปน ยถาณตฺตวตฺถุสฺมิมฺปิ กิริยาวิเสสวิสงฺเกเตน กมฺมพทฺธาภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตนฺติ ปฺายติ. เตน ‘‘วตฺถุํ อวิสํวาเทตฺวา มาเรนฺตี’’ติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘ยถาณตฺติยา’’ติ กิริยาวิเสสนิยโมปิ ทสฺสิโต, อิตรถา ยถาณตฺติยาติ วจนสฺส นิรตฺถกตาปตฺติโต. วตฺถุนิทฺเทเส จ ‘‘วตฺถูติ มาเรตพฺโพ สตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน ‘‘ยถาณตฺตสฺส ปหริตพฺพสรีรปฺปเทโสปี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปุรโต ปหรณาทิปิ กิริยาวิเสเส เอว สงฺคยฺหตีติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. วตฺถุวิเสเสนาติ มาตุอาทิมตสตฺตวิเสเสน. ¶ กมฺมวิเสโสติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิเสโส. อาปตฺติวิเสโสติ ปาราชิกาทิอาปตฺติวิเสโส.
ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเหติ อาณตฺตทิวสโต อฺสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ ทิวสสฺส ปุพฺพณฺเห. เอตํ คาเม ิตนฺติ คาโม ปุคฺคลนิยมนตฺถํ วุตฺโต, น โอกาสนิยมนตฺถํ, ตสฺมา ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต’’ติ วุตฺตํ, เอเตน กาโลกาสอาวุธอิอยาปถกิริยาวิเสสานํ นิยมิจฺฉาย อสติ เยน เกนจิ ปกาเรน มรณเมว อิจฺฉนฺตสฺส อาณาปกสฺส มุขารุฬฺหวเสน วุตฺตสฺส เทสกาลาทินิยมสฺส วิสงฺเกเตปิ กมฺมพทฺโธเยวาติ าปิตํ โหติ. โย ปน จิตฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ยทา กทาจิ เยน เกนจิ ปกาเรน มรณเมว อิจฺฉนฺโตปิ กาลาทิวิสงฺเกเตน อกุสลโต โจทนโต วา มุจฺจิตุกาโม เลเสน กาลาทินิยมํ กโรติ, ตสฺส มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกโต ปริยาเยน อมุจฺจนโต กาลาทิวิสงฺเกเตปิ กมฺมพทฺโธวาติ คเหตฺวา วิจารณโต คเหตพฺพํ, เกจิ ปเนตํ น อิจฺฉนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. ตุณฺเฑนาติ ¶ อคฺคโกฏิยา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา. เอตํ คจฺฉนฺตนฺติ คมเนน ปุคฺคโลว นิยมิโต, น อิริยาปโถ, เตนาห ‘‘นตฺถิ วิสงฺเกต’’นฺติ.
‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ วุตฺเตปิ ทีฆสณฺานานํ พหุภาวโต ‘‘อิตฺถนฺนามํ เอวรูปฺจ ทีฆ’’นฺติ อฺเสํ อสาธารณลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ วุตฺตํ, เตเนวาห ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิสํ มาเรมี’’ติ. เอตฺถ จ จิตฺเตน พหูสุ ทีฆสณฺาเนสุ เอกํ นิยเมตฺวา วุตฺเตปิ วาจาย อนิยมิตตฺตา อฺสฺมึ ตาทิเส มาริเต นตฺถิ วิสงฺเกโตติ วทนฺติ. อตฺตานํ มฺุจิตฺวา ปรปาณิมฺหิ ปาณสฺิตาลกฺขณสฺส องฺคสฺส อภาวโต เนวตฺถิ ปาณาติปาโตติ อาห ‘‘อาณาปโก มุจฺจตี’’ติ. อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อสุกฏฺาเน นิสินฺน’’นฺติ โอกาสนิยเม ตสฺมึ ปเทเส นิสินฺนสฺส ยสฺส กสฺสจิ ชีวิตินฺทฺริยํ อารพฺภ วธกจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘เนว วธโก มุจฺจติ น อาณาปโก’’ติ. โอกาสฺหิ นิยเมตฺวา นิทฺทิสนฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิสินฺนํ มาเรตุกาโม โหติ, สยํ ปน ตทา ตตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา โอกาเสน สห ตตฺถ นิสินฺนสฺเสว ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ โหติ, น อตฺตโนติ คเหตพฺพํ. สเจ ปน สยํ ตตฺเถว นิสีทิตฺวา อตฺตโน นิสินฺนฏฺานเมว นิยเมตฺวา ‘‘มาเรหี’’ติ วุตฺเตปิ อฺโ ตตฺถ นิสินฺโน มาริยติ, ตสฺสาปิ อตฺตโนปิ ชีวิตํ อารพฺภ วธกเจตนา ปวตฺตติ, ปรสฺมึ ตตฺถ มาริเต อาณาปกสฺส กมฺมพทฺโธติ คเหตพฺพํ. เอวรูเป าเน จิตฺตปฺปวตฺตินิยโม พุทฺธวิสโย, น อฺเสํ วิสโยติ อาห ‘‘ตสฺมา เอตฺถ น อนาทริยํ กาตพฺพ’’นฺติ.
เอวํ ¶ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏนฺติ สเจ อาณตฺติโก ยถาธิปฺปายํ น คจฺฉติ, อาจริยสฺส อาณตฺติกฺขเณ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน โส ยถาธิปฺปายํ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ โส อวสฺสํ ฆาเตติ, ยํ ปรโต ‘‘อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๗๔) วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานีติ คเหตพฺพํ. เตสมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ พุทฺธรกฺขิตาทีนมฺปิ อาโรจนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, อิทฺจ ยถาณตฺติวเสน สงฺฆรกฺขิตสฺส ชีวิตา โวโรปเน อสติ ยุชฺชติ, โวโรปเน สติ เตสมฺปิ อาโรจนกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปฏิคฺคหิตมตฺเตติ อิทํ อวสฺสํ ปฏิคฺคหณสภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ, น ปฏิคฺคหิตกฺขเณเยว ถุลฺลจฺจยนฺติ ¶ ทสฺสนตฺถํ. สเจ หิ โส อวสฺสํ ปฏิคฺคเหสฺสติ, กมฺมํ ปน น นิปฺผาเทสฺสติ, ตทา อาจริยสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ อาคตนยทสฺสนมตฺตํ, น ปเนตํ อตฺตนา อธิปฺเปตํ, เตนาห เอวํ สนฺเตติอาทิ, เอวํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อตฺเถ สตีติ อตฺโถ. ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยาติ วธกสฺส ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ มรณปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏาปตฺติ เนว สิยา, เอวํ อโนฬาริกวิสเยปิ ตาว ทุกฺกฏํ, กิมงฺคํ ปน มรณปฏิคฺคหเณติ ทสฺสนตฺถํ สฺจริตฺตปฏิคฺคหณาทิ นิทสฺสิตํ. ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺสา’’ติ เอวํ มรณาภินนฺทนทสฺสนตฺถํ สฺจริตฺตปฏิคฺคหณาทิภินนฺทเน ทุกฺกเฏ สติ ปเคว ‘‘อหํ ตํ มาเรสฺสามี’’ติ มรณปฏิคฺคหเณติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏนฺติ อวธารเณน สงฺฆรกฺขิตสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา มูลฏฺสฺส นตฺเถว อาปตฺตีติ ทสฺเสติ, วิสงฺเกตตฺตา ปมํ อาณตฺตทุกฺกฏเมวสฺส โหติ. เกจิ ปน ‘‘มูลฏฺสฺสาปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ เอเกน ปโยเคน ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ อสมฺภวา. ปุริมนเยติ สมนนฺตราตีเต อวิสกฺกิยทูตนิทฺเทเส. เอตนฺติ ทุกฺกฏํ. โอกาสาภาเวนาติ มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยสฺส วุจฺจมานตฺตา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ น วุตฺตํ โอกาสาภาเวน, น ปน อาปตฺติอภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑๗๕. สยํ สงฺฆตฺเถรตฺตา ‘‘อุปฏฺานกาเล’’ติ วุตฺตํ. วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ ‘‘โย โกจิ มม วจนํ สุตฺวา อิมํ มาเรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อวตฺวา เกวลํ มรณาภินนฺทนวเสเนว วุตฺตตฺตา โจราปิ นาม ตํ น หนนฺตีติอาทิวาจายปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺสาติ ทฺเว อุทฺทิสฺส, ทฺวินฺนํ วา มรณํ อุทฺทิสฺส. อุโภ อุทฺทิสฺส มรณํ สํวณฺเณนฺตสฺส ปโยคสมุฏฺาปิกาย เจตนาย เอกตฺเตปิ ‘‘ทฺเว ปาณาติปาตา’’ติ วตฺตพฺพตาสงฺขาตํ พลวภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ มหาวิปากตฺตา ‘‘อกุสลราสี’’ติ วุตฺตํ, พหู อุทฺทิสฺส มรณสํวณฺณเนปิ ¶ เอเสว นโย. ตตฺตกา ปาณาติปาตาติ ยตฺตกา สํวณฺณนํ สุตฺวา มริสฺสนฺติ, ตตฺตกานมฺปิ วตฺตมานํ อนาคตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ สพฺพํ อาลมฺพิตฺวาว เจตนาย ปวตฺตนโต ¶ ตตฺตกา ปาณาติปาตา โหนฺติ, ตตฺตกาหิ เจตนาหิ ทาตพฺพํ ปวตฺติวิปากํ เอกาว สา เจตนา ทาตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ, ปฏิสนฺธิวิปากํ ปน สยฺจ ปุพฺพาปรเจตนา จ เอเกกเมว ทาตุํ สกฺโกตีติ คเหตพฺพํ.
๑๗๖. เยสํ หตฺถโตติ เยสํ าตกปวาริตาทีนํ หตฺถโต, อิทฺจ ภิกฺขุโน รูปิยมูลสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺตโนว ธนฺเจ, สยเมว มูลํ คเหตฺวา มฺุจติ, มูลํ ปน อคฺคเหตฺวาปิ โปตฺถกสฺส โปตฺถกสามิโน สนฺตกตฺตาปาทนเมเวตฺถ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. เลขาทสฺสนโกตูหลกาติ สุนฺทรกฺขรํ ทิสฺวา วา ‘‘กีทิสํ นุ โข โปตฺถก’’นฺติ วา โอโลเกตุกามา.
ปาณาติปาตสฺส ปโยคตฺตาติ สรีรโต ปาณวิโยชนสฺส นิฏฺาปกปโยคตฺตา. โอปาตขณนตฺถํ ปน กุทาลาทิอตฺถาย อโยพีชสมุฏฺาปนตฺถํ อกปฺปิยปถวึ วา กุทาลทณฺฑาทีนํ อตฺถาย ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. ปาณาติปาตปโยคตฺตาภาวา อทินฺนาทานปุพฺพปยโอเค วิย ทุติยปริเยสนาทีสุปิ เอตฺถ ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, มุสาวาทาทิปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยเมวาติ คเหตพฺพํ. ปมาเณติ อตฺตนา สลฺลกฺขิเต ปมาเณ. ตจฺเฉตฺวาติ อุนฺนตปฺปเทสํ ตจฺเฉตฺวา. ปํสุปจฺฉินฺติ สพฺพนฺติมํ ปํสุปจฺฉึ. เอตฺตกํ อลนฺติ นิฏฺาเปตุกามตาย สพฺพนฺติมปยโอคสาธิกา เจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนา, มหาอฏฺกถายํ ‘‘เอกสฺมึ ทิวเส อวูปสนฺเตเนว ปโยเคน ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย สพฺพนฺติมา สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตา, อิตราสุ ปน อฏฺกถาสุ ‘‘อิมสฺมึ ปติตฺวา มรนฺตู’’ติ อธิปฺปาเยน เอกสฺมึ ทิวเส กิฺจิ ขณิตฺวา อปรสฺมิมฺปิ ทิวเส ตโต กิฺจิ กิฺจิ ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอวํ อฏฺกถานํ อฺมฺวิโรโธ าตพฺโพ. อตฺตโน ธมฺมตายาติ อชานิตฺวา, ปกฺขลิตฺวา วา. อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อฺเหิ ปาติยมานานํ อมริตุกามานมฺปิ อรหนฺตานํ มรณํ สมฺภวตีติ วุตฺตํ. ปุริมนเยติ ‘‘มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตนเย. วิสงฺเกโตติ มริตุกามานํ มาเรตุกามานฺจ อุทฺทิสฺส ขตตฺตา อมริตุกามานํ มรเณ กมฺมพทฺโธ นตฺถีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ ปติตํ พหิ นีหริตฺวาติ อิทํ ตตฺถ ปตนปจฺจยา มรณสฺส ปวตฺตตฺตา วุตฺตํ. อาวาเฏ ปติตฺวา โถกํ จิรายิตฺวา คจฺฉนฺตํ คเหตฺวา มาริเต ตตฺถ ปติตโรเคน ปีฬิตสฺส คจฺฉโต ¶ ปกฺขลิตฺวา ปาสาณาทีสุ ปตเนนาปิ มรเณปิ โอปาตขณโก น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. อมริตุกามา วาติ อธิปฺปายสฺส สมฺภวโต โอปปาติเก อุตฺตริตุํ อสกฺกุณิตฺวา มเตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพตฺติตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ปตนํ น ทิสฺสตีติ เจ? ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเยว ปตนนฺติ นตฺถิ วิโรโธ. ยสฺมา มาตุยา ปติตฺวา ปริวตฺติตลิงฺคาย มตาย โส มาตุฆาตโก โหติ, น เกวลํ มนุสฺสปุริสฆาตโก, ตสฺมา ปติตสฺเสว วเสน อาปตฺตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปตนรูปํ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ ปน อการณํ ‘‘ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ เอกสนฺตานตฺตสฺส อวิคตตฺตา. มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริย’’นฺติ หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เยน ปน สภาเวน สตฺตา ชายนฺติ, เตเนว มรนฺติ, โสว เตสํ รูปนฺตรคฺคหเณปิ สภาโวติ ‘‘มรณรูปเมว ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺโต. ปจฺฉิโม วาโท ปมาณํ, เอวํ สนฺเต ปาฬิยํ ‘‘ยกฺโข วา เปโต วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา ตสฺมึ ปตติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปติเต ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. มรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? นายํ โทโส. ‘‘ยกฺโข วา เปโต วา’’ติ หิ ปมํ สกรูปํ ทสฺเสตฺวา รูปนฺตรํ คเหตฺวาปิ ิเตเยว ยกฺขเปเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ติรจฺฉานคตวิคฺคโห มนุสฺสวิคฺคโห วา ยกฺโข วา เปโต วาติ เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เกจิ ปน ‘‘มนุสฺสวิคฺคเหน ิตติรจฺฉานคตานํ อาเวณิกํ กตฺวา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ วิย ทิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ติรจฺฉาโน วา มนุสฺสวิคฺคโหติ วตฺตพฺพโต, อฏฺกถาสุ จ อิมสฺส วิเสสสฺส อวุตฺตตฺตา. ยกฺขเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโยติ อิมินา มรณรูปสฺเสว ปมาณตฺตา ถุลฺลจฺจยํ อติทิสติ.
มุธาติ อมูเลน. โส นิทฺโทโสติ เตน ตตฺถ กตปโยคสฺส อภาวโต, ยทิ ปน โสปิ ตตฺถ กิฺจิ กโรติ, น มุจฺจติ เอวาติ ทสฺเสนฺโต เอวํ ปติตาติอาทิมาห. ตตฺถ เอวนฺติ เอวํ มยา กเตติ อตฺโถ ¶ . น นสฺสิสฺสนฺตีติ อทสฺสนํ น คมิสฺสนฺติ, น ปลายิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. สุอุทฺธรา วา ภวิสฺสนฺตีติ อิทํ คมฺภีรสฺส โอปาตสฺส ปูรเณ ปโยชนทสฺสนํ. อุตฺตาเน กเต โอปาเต สีฆํ อมฺเหหิ คเหตฺวา มาเรตุํ สุอุทฺธรา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเนติ มูลฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ ปน ปจฺฉิโมปิ ลภิตฺวา ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ กิฺจิ กตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน เอวํ กโรติ, ตสฺสาปิ เอเสว นโย. ชาตปถวี ชาตาติ อีทิเส ปุน อฺเน โอปาเต ขเต ตทา มุจฺจตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ชาตปถวีสทิสํ กตฺวา ปุน สุฏฺุ โกฏฺเฏตฺวา ทฬฺหตรํ ปูริเตปิ มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํ.
ถทฺธตรนฺติ ¶ ถิรกรณตฺถํ อปราปราย ปาสยฏฺิยา สทฺธึ พนฺธิตฺวา วา ตเมว วา สิถิลภูตปาสํ ถทฺธตรํ พนฺธิตฺวา เปติ. ขาณุกนฺติ ปาสยฏฺิพนฺธนขาณุกํ. ตตฺถชาตกยฏฺึ ฉินฺทิตฺวา มุจฺจตีติ อิทํ อรฺเ ยถาิตเมว ทณฺฑํ มูเล อจฺฉินฺทิตฺวา ปาสพนฺธนโยคฺคํ กตฺวา ปิตตฺตา ตตฺถ อฺโปิ โกจิ ปาสํ พนฺเธยฺย, มูลฏฺโ น มุจฺจติ, ตํ ปน มูเลปิ ฉินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา มุจฺจตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. รชฺชุเกติ วาเกหิ เอกวารํ วฏฺฏิตรชฺชุเก. สยํ วฏฺฏิตนฺติ ตนุกวฏฺฏิตํ ทิคุณติคุณตาปาทเนน อตฺตนา วฏฺฏิตํ. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ ปากติกํ กตฺวา. โคเปนฺโตปีติ หีรํ หีรํ กตฺวา โคเปนฺโตปิ.
๑๗๗. อาลมฺพนรุกฺโข วาติ ตตฺถชาตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทตฺถเมว กตฺวาติ มารณตฺถเมว อโยพีชสมุฏฺาปนาทินา วาสิอาทึ สตฺถํ กาเรตฺวา. ปากติกนฺติ อฺเหิ กตํ ปกติสตฺถเมว ลภิตฺวา มูลฏฺเน ปิตํ โหตีติ อตฺโถ. มุจฺจตีติ มูลฏฺโ มุจฺจติ. วิสมณฺฑลนฺติ มฺจปีาทีสุ อาลิตฺตํ วิสมณฺฑลํ.
วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปตีติ เอตฺถ มุเขน อวตฺวา มนสาว จินฺเตตฺวา อุปนิกฺขิปเนปิ เอเสว นโย. ปุริมนเยนาติ เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตนฺติอาทินา. วิสภาคโรโค นาม กุฏฺาทิวิรูปภาวโต, คณฺฑปีฬกาทิ วา ชีวิตปฺปวตฺติยา ปจฺจนีกตฺตา.
๑๗๘. มนาปิเยปิ เอเสว นโยติ เอเตน มนาปิยํ รูปํ อุปสํหรตีติ เอตฺถ ยํ วา มนาปรูปํ, ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา มนาปิเยน รูเปน ¶ สมนฺนาคโต ติฏฺตีติอาทิ โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อลงฺกริตฺวา อุปสํหรตีติ ‘‘อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อุปสํหรติ, เตเนว ‘‘สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต’’ติ วุตฺตํ. อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตีติ เอตฺถ ปาราชิโกติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. มหากจฺฉุ นาม วลฺลิผลวิเสโส, ยสฺส มชฺชารปาทสฺเสว สณฺานํ ทุกฺขสมฺผสฺสานิ สุขุมโลมานิ จ โหนฺติ. หํสปุปฺผนฺติ หํสาทีนํ ปกฺขโลมํ สนฺธาย วทนฺติ. อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺตีติ ปาราชิกํ สนฺธาย วุตฺตํ ทุกฺกฏา น มุจฺจนโต.
๑๗๙. อสฺจิจฺจาติ อิทํ มรณสํวตฺตนิกอุปกฺกมสฺส อสลฺลกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห อิมินา อุปกฺกเมนาติอาทิ. อชานนฺตสฺสาติ อิทํ ปน มรณสํวตฺตนิกวิสาทิอุปกฺกมกรณสฺส อชานนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห อิมินา อยํ มริสฺสตีติอาทิ. น มรณาธิปฺปายสฺสาติ อิทํ ทุกฺขุปฺปาทกํ อุปกฺกมนฺติ ชานนฺตสฺสาปิ มรณาธิปฺปายสฺส อภาวํ สนฺธาย ¶ วุตฺตนฺติ อาห มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺสาติอาทิ. อนุปฺปพนฺธาภาวาติ โทมนสฺสวีถีนํ นิรนฺตรปฺปวตฺติอภาวา.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๘๐. โวหารวเสนาติ ปุพฺพภาคโวหารวเสน, มรณาธิปฺปายสฺส สนฺนิฏฺาปกเจตนากฺขเณ กรุณาย อภาวโต การฺุเน ปาเส พทฺธสูกรโมจนํ (ปารา. ๑๕๓) วิย น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยถายุนา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ยถานุสนฺธินา’’ติ ปริยายนฺตเรน วุตฺตํ. เหฏฺา กิสฺมิฺจิ วิชฺชมาเน สาฏกํ วลึ คณฺหาตีติ อาห ‘‘ยสฺมึ วลิ น ปฺายตี’’ติ. ปฏิเวกฺขณฺเจตํ คิหีนํ สนฺตเก เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ มุสเล อุสฺสิเตติ อฺมฺํ อุปตฺถมฺเภตฺวา ทฺวีสุ มุสเลสุ ภิตฺตึ อปสฺสาย ปิเตสูติ อตฺโถ. อุทุกฺขลภณฺฑิกนฺติ อุทุกฺขลตฺถาย อานีตํ ทารุภณฺฑํ. ปริพนฺธนฺติ โภชนปริพนฺธํ, โภชนนฺตรายนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๘๑. อคฺคการิกนฺติ ¶ เอตฺถ การิก-สทฺทสฺส ภาววจนตฺตา ‘‘อคฺคกิริย’’นฺติ อตฺถํ วตฺวาปิ ยสฺมา กิริยํ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ทานสงฺขาตาย อคฺคกิริยาย ยุตฺตปิณฺฑปาตเมว อิธ อุปจารยุตฺติยา อคฺคกิริยาติ คเหตพฺพนฺติ อาห ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาตนฺติอาทิ.
๑๘๒-๓. ทณฺฑมุคฺครนิขาทนเวมาทีนํ วเสนาติ เอตฺถ ทณฺโฑ นาม ทีฆทณฺโฑ. มุคฺคโร นาม รสฺโส. เวมํ นาม ตนฺตวายานํ วตฺถวายนอุปกรณํ, เยน วีตํ ตนฺตํ ฆฏฺเฏนฺติ. วิภตฺติพฺยตฺตเยนาติ วิภตฺติวิปริณาเมน. วิเสสาธิคโมติ สมาธิ วิปสฺสนา จ. วิเสสาธิคมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมปฏิลาภํ. พฺยากริตฺวาติ อาโรเจตฺวา, อิทฺจ วิเสสสฺส อธิคตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อธิคตวิเสสา หิ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ ลชฺชีภิกฺขูนํ อวสฺสํ อธิคมํ พฺยากโรนฺติ, อธิคตวิเสเสน ปน อพฺยากริตฺวาปิ อาหารํ อุปจฺฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ, อธิคมนฺตรายวิโนทนตฺถเมว อาหารูปจฺเฉทสฺส อนฺุาตตฺตา ตทธิคเม โส น กาตพฺโพว. กึ ปนาธิคมํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตีติ อาห สภาคานนฺติอาทิ. ภณฺฑกํ วา โธวนฺตาติ จีวรํ วา โธวนฺตา. โธวนทณฺฑกนฺติ จีวรโธวนทณฺฑํ.
๑๘๕. มทฺทาเปตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกโตติ ยถาณตฺติยา อกตตฺตา วุตฺตํ, ยทิ ปน อาณาปโก ¶ มทฺทนมฺปิ มทฺทาปนมฺปิ สนฺธาย โวหารวเสน ‘‘มทฺทิตฺวา ปาเตหี’’ติ วทติ, วิสงฺเกโต นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ปริยาโย นาม นตฺถี’’ติ, ปริยาเยน อาปตฺติโมกฺโข น โหตีติ อธิปฺปาโย. อวิชายนตฺถาย คพฺภคฺคหณโต ปุเรตรเมว เภสชฺชํ เทนฺตสฺส กุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชิตฺวา คพฺโภ วินสฺสตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทินฺเน ตถามรนฺตานํ วเสน กมฺมพทฺโธ, กุจฺฉิยํ น อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทินฺเน อุปฺปชฺชิตฺวา มรตุ วา มา วา, เนวตฺถิ กมฺมพทฺโธ.
สหธมฺมิกานนฺติ เอกสฺส สตฺถุ สาสเน สหสิกฺขมานธมฺมานํ, สหธมฺเม วา สิกฺขาปเท สิกฺขนภาเวน นิยุตฺตานํ. สมสีลสทฺธานนฺติอาทินา ทุสฺสีลานํ ภินฺนลทฺธิกานฺจ อกาตุมฺปิ ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. าตกปวาริตฏฺานโตติ ¶ อตฺตโน เตสํ วา าตกปวาริตฏฺานโต. อริเยหิ อกตา อยุตฺตวเสน อกตปุพฺพา วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ.
ปฏิยาทิยตีติ สมฺปาทิยติ. อกาตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏํ วทนฺติ, อยุตฺตตาวเสเนว ปเนตฺถ อกรณปฏิกฺเขโป ยุตฺโต, น อาปตฺติวเสนาติ คเหตพฺพํ. ยาว าตกา ปสฺสนฺตีติ ยาว ตสฺส าตกา ปสฺสนฺติ.
ปิตุภคินี ปิตุจฺฉา. มาตุภาตา มาตุโล. นปฺปโหนฺตีติ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. น ยาจนฺตีติ ลชฺชาย น ยาจนฺติ. ‘‘อาโภคํ กตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อฺถา เทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. เกจิ ปน ‘‘อาโภคํ อกตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ เภสชฺชกรณสฺส ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๗) เอวํ อนฺตราปตฺติทสฺสนวเสน สามฺโต ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, อฏฺกถายํ อวุตฺตปฺปกาเรน กโรนฺตสฺส สุตฺเตเนว อาปตฺติ สิทฺธาติ ทฏฺพฺพา, เตเนว อฏฺกถายมฺปิ ‘‘เตสฺเว สนฺตก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อฺเสนฺติ อสาโลหิตานํ, เตนาห เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปรายาติอาทิ. กุลปริวฏฺโฏติ กุลสฺมึ าติปรมฺปรา. เภสชฺชํ กโรนฺตสฺสาติ ยถาวุตฺตวิธินา กโรนฺตสฺส, ‘‘ตาวกาลิกํ ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา เทนฺตสฺสาปิ ปน อนฺตราปตฺติ ทุกฺกฏํ วินา มิจฺฉาชีวํ วา กุลทูสนํ วา น โหติเยว, เตนาห – ‘‘เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหตี’’ติ. าตกานฺหิ สนฺตกํ ยาจิตฺวาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตตฺถ กุลทูสนาทิ น สิยา. สพฺพปเทสูติ ‘‘จูฬมาตุยา’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ.
อุปชฺฌายสฺส ¶ อาหรามาติ อิทํ อุปชฺฌาเยน ‘‘มม าตกานํ เภสชฺชํ อาหรถา’’ติ อาณตฺเตหิ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อิมินา จ สามเณราทีนํ อปจฺจาสายปิ ปรชนสฺส เภสชฺชกรณํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวาติ อิมินา ‘‘ภิกฺขาจารวตฺเตน วา’’ติ อิมินา, ‘‘าติสามเณเรหี’’ติ อิมินา จ วุตฺตมตฺถํ อติทิสติ. อปจฺจาสีสนฺเตนาติ อาคนฺตุกโจราทีนํ กโรนฺเตนาปิ ‘‘มนุสฺสา นาม อุปการกา โหนฺตี’’ติ อตฺตโน เตหิ ลาภํ อปตฺถยนฺเตน. ปจฺจาสาย กโรนฺตสฺส ปน เวชฺชกมฺมกุลทูสนาทิโทโส โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอวํ อุปกาเร กเต สาสนคุณํ ¶ ตฺวา ปสีทนฺติ, สงฺฆสฺส วา อุปการกา โหนฺตี’’ติ กรเณ ปน โทโส นตฺถิ. เกจิ ปน ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตน อาคนฺตุกาทีนํ ปฏิกฺขิตฺตปุคฺคลาทีนมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ กตฺตพฺพากตฺตพฺพฏฺานวิภาคสฺสนิรตฺถกตฺตปฺปสงฺคโต ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตน สพฺเพสํ ทาตุํ กาตฺุจ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วตฺตพฺพโต. อปจฺจาสีสนฺจ มิจฺฉาชีวกุลทูสนาทิโทสนิเสธนตฺถเมว วุตฺตํ เภสชฺชกรณสงฺขตาย อิมิสฺสา อนฺตราปตฺติยา มุจฺจนตฺถํ อาคนฺตุกโจราทีนํ อนฺุาตานํ ทาเนเนว ตาย อาปตฺติยา มุจฺจนโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว อปจฺจาสีสนฺเตนาปิ อกาตพฺพฏฺานํ ทสฺเสตุํ สทฺธํ กุลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ปุจฺฉนฺตีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺโรคีนํ ปริยาเยนาปิ วตฺวา วิจรณํ อยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปุจฺฉิตสฺสาปิ ปน ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปริยายกถาปิ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
สมุลฺลเปสีติ อปจฺจาสีสนฺโต เอวํ อฺมฺํ กถํ สมุฏฺาเปสิ. อาจริยภาโคติ วินยาจารํ อโกเปตฺวา เภสชฺชาจิกฺขเณน เวชฺชาจริยภาโคติ อตฺโถ. ปุปฺผปูชนตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิยมานํ รูปิยํ อตฺตโน สนฺตกตฺตภชเนน นิสฺสคฺคิยเมวาติ อาห ‘‘กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา’’ติ, ‘‘อมฺหากํ รูปิยํ น วฏฺฏติ, ปุปฺผปูชนตฺถํ ปุปฺผํ วฏฺฏตี’’ติอาทินา ปฏิกฺขิปิตฺวา กปฺปิเยน กมฺเมน คาหาเปตฺวาติ อตฺโถ.
ยทิ ‘‘ปริตฺตํ กโรถา’’ติ วุตฺเต กโรนฺติ, เภสชฺชกรณํ วิย คิหิกมฺมํ วิย โหตีติ ‘‘น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน ธมฺมชฺเฌสนตฺตา อนชฺฌิฏฺเนปิ ภณิตพฺโพ ธมฺโม, ปเคว อชฺฌิฏฺเนาปีติ ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺชิตฺวาติ อิทํ ‘‘ปริตฺตาณํ เอตฺถ ปเวเสมี’’ติ จิตฺเตน เอวํ กเต ปริตฺตาณา ตตฺถ ปเวสิตา นาม โหตีติ วุตฺตํ. วิหารโต…เป… ทุกฺกฏนฺติ อิทํ อฺาตกคหฏฺเ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวาติ อิทํ ตสฺมึ เทเส จาริตฺตวเสน วุตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘ตตฺถ ปาฬิยา นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ ปาเทสุ โรควูปสมนาทิอตฺถาย อุทกํ สิฺจิตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ สุตฺตฺจ เปตฺวา ‘ปริตฺตํ ¶ ภณถา’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ. เอวฺหิ กริยมาเน ยทิ ปาเท อปเนนฺติ, มนุสฺสา ตํ อวมงฺคลนฺติ มฺนฺติ, โรโค วา น วูปสมิสฺสตี’’ติ. เตนาห ‘‘น ปาทา อปเนตพฺพา’’ติ. มตสรีรทสฺสเน วิย เกวลํ สุสานทสฺสเนปิ ‘‘อิทํ ชาตานํ สตฺตานํ ขยคมนฏฺาน’’นฺติ มรณสฺา อุปฺปชฺชตีติ ¶ อาห ‘‘สีวถิกทสฺสเน…เป… ‘มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามา’ติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เลสกปฺปํ อกตฺวา สมุปฺปนฺนสุทฺธจิตฺเตน ‘‘ปริวารตฺถาย อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺเตปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ.
อนามฏฺปิณฺฑปาโตติ อคฺคหิตอคฺโค, อปริภุตฺโตติ อตฺโถ. กหาปณคฺฆนโก โหตีติ อิมินา ทายเกหิ พหุพฺยฺชเนน สมฺปาเทตฺวา สกฺกจฺจํ ทินฺนภาวํ ทีเปติ. ถาลเกติ สงฺฆิเก กํสาทิมเย ถาลเก, ปตฺโตปิ เอตฺถ สงฺคยฺหติ. น วฏฺฏตีติ อิมินา ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ. ทามริกโจรสฺสาติ รชฺชํ ปตฺเถนฺตสฺส ปากฏโจรสฺส. อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อามิสสฺส ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส จ วิวรสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ ปฏิสนฺถาโร, โส ปน ธมฺมามิสวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ อามิสปฏิสนฺถารํ สนฺธาย ‘‘กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อาคนฺตุกสฺส วา…เป… กตฺตพฺโพ เยวา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ อาคนฺตุกํ ตาวาติอาทิมาห. ขีณปริพฺพยนฺติ อิมินา อคติภาวํ การฺุภาชนตฺจ ทสฺเสติ, เตน จ ตพฺพิธุรานํ สมิทฺธานํ ทายกาทีนํ อาคนฺตุกตฺเตปิ ทาตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ. ตณฺฑุลาทิมฺหิ ทาตพฺเพ สติ ‘‘อเวลายํ…เป… น วตฺตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตนา’’ติ วตฺวา ปจฺจาสีสนปฺปการํ ทสฺเสตุํ มนุสฺสา นามาติอาทิ วุตฺตํ. อนนฺุาตานํ ปน อปจฺจาสีสนฺเตนาปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ สทฺธาเทยฺยวินิปาตตฺตา, ปจฺจาสีสาย ปน สติ กุลทูสนมฺปิ โหติ.
อุพฺพาเสตฺวาติ สมนฺตโต ติโยชนํ วิลุมฺปนฺเต มนุสฺเส ปลาเปตฺวา. วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณนฺติ อเนกปฺปการอิตฺถิปุริสาทิอุตฺตมรูปวิจิตฺตํ อตฺถรณํ.
๑๘๗. สตฺตรสวคฺคิเยสุ ปุพฺเพ เอกสฺส องฺคุลิปโตทเกน มาริตตฺตา เสเสสุ โสฬสชเนสุ อุทรํ อารุหิตฺวา นิสินฺนเมกํ เปตฺวา ‘‘เสสาปิ ปนฺนรส ชนา’’ติ วุตฺตํ. อทูหลปาสาณา วิยาติ อทูหเล อาโรปิตปาสาณา วิย. กมฺมาธิปฺปายาติ ตชฺชนียาทิกมฺมกรณาธิปฺปายา.
อาวาเหตฺวาติ ¶ ¶ อาวิสาเปตฺวา. รูปํ กตฺวา หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺตีติ ตสฺมึ ปิฏฺาทิมเย รูเป อมนุสฺสํ อาวาเหตฺวา ตสฺส หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺติ. สกฺกํ เทวราชานํ มาเรยฺยาติ อิทํ สมฺภาวนวเสน วุตฺตํ. น หิ ตาทิสา มหานุภาวา ยกฺขา สตฺถฆาตารหา โหนฺติ เทวาสุรยุทฺเธปิ เตสํ สตฺถปฺปหาเรน มรณาภาวา.
๑๘๘. ปหาโร น ทาตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อมนุสฺสํ โกธจิตฺเตน ปหรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. จิกิจฺฉาธิปฺปาเยน ปหรนฺตสฺส อนาจาโรติ คเหตพฺโพ. ตาลปณฺณํ…เป… พนฺธิตพฺพนฺติ อมนุสฺสา ตาลปณฺณพนฺธเนน ปลายนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ, อิทฺจ คิหีนํ เวชฺชกมฺมวเสน กาตุํ น วฏฺฏติ.
๑๘๙. โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ภูตคามสิกฺขาปทฏฺกถายํ สยเมว วกฺขติ, ตํ ตตฺเถว คเหตพฺพํ.
๑๙๐. ทพฺพูปกรณานีติ เกหิจิ ฉินฺทิตฺวา ปิตานิ สปริคฺคหิตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ านาจาวนาภาเวน วินาสาธิปฺปายสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนาปิ ทุกฺกฏนฺติ สุกฺขติณาทีสุ อคฺคิกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, อลฺเลสุ ปน กีฬาธิปฺปาเยนปิ กโรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. ปฏิปกฺขภูโต, ปฏิมุขํ คจฺฉนฺโต วา อคฺคิ ปฏคฺคิ, ตสฺส อลฺลติณาทีสุปิ ทานํ อนฺุาตํ, ตํ เทนฺเตน ทูรโต อาคจฺฉนฺตํ ทาวคฺคึ ทิสฺวา วิหารสฺส สมนฺตโต เอกกฺขเณ อทตฺวา เอกเทสโต ปฏฺาย วิหารสฺส สมนฺตโต สณิกํ ฌาเปตฺวา ยถา มหนฺโตปิ อคฺคิ วิหารํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ วิหารสฺส สมนฺตา อพฺโภกาสํ กตฺวา ปฏคฺคิ ทาตพฺโพ, โส ทาวคฺคิโน ปฏิปถํ คนฺตฺวา เอกโต หุตฺวา เตน สห นิพฺพาติ. ปริตฺตกรณนฺติ สมนฺตา รุกฺขติณาทิจฺเฉทนปริขาขณนาทิอารกฺขกรณํ, เตนาห ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนนฺติอาทิ.
๑๙๑. เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกนฺติ ทฺวีสุ เอกสฺสาปิ อนฺโตคธตฺตา ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺตเขตฺเต เอกสฺสาปิ โอติณฺณตฺตา ปาราชิกํ, ‘‘ทฺวีหิ เอว มาเรหิ น เอเกนา’’ติ นิยมิเต ปน เอเกเนว มาริเต นตฺถิ ปาราชิกนฺติ วทนฺติ, เอวํ ทฺเว เอว ปุริสาติอาทีสุปิ. ปุพฺเพ กตสีสจฺเฉทปโยคโต อฺโ ปโยโค ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทโก น อุปลพฺภติ, ปเมน ปโยเคนสฺส ¶ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉิชฺชตีติ ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส อวิชฺชมานตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ ชีวิตินฺทฺริยสนฺนิสฺสิตจิตฺตสนฺตตึ ¶ วินา อุกฺขิปนสนฺนิรุชฺฌนาทิวสปฺปวตฺตสฺส คมนสฺส อสมฺภวโต. น หิ วายุเวเคน ปณฺณปฏาทโย วิย กาโย คจฺฉติ, น จ อุกฺขิปเน ปวตฺตาว จิตฺตชวิฺตฺติอาทโยว นิกฺขิปนาทิโนปิ เหตุภูตาติ สกฺกา วตฺตุํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตนโต. ปุพฺเพ อนาหิตเวคาปิ หิ กาจิ สรีสปชาติ ทฺวิธา ฉินฺนา เฉทนมตฺตา ทฺวีหิ วิภาเคหิ กติปยกฺขณํ ทฺวีสุ ทิสาสุ คจฺฉติ, ตตฺถ จ ยสฺมึ ภาเค หทยวตฺถุ ติฏฺติ, ตตฺรฏฺํ ปฺจทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ ทฺวีสุปิ ภาเคสุ กายปฺปสาเท ฆฏฺฏิตํ โผฏฺพฺพํ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชติ, ตโต ตทารมฺมณเมว ยถารหเมกสฺมึ ภาเค เอกทา อฺสฺมึ อฺทาติ เอวํ ปริยาเยน กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตโต หทยวตฺถุสฺมึเยว สมฺปฏิจฺฉนาทิวีถิจิตฺตานิ ภวงฺคนฺตริตานิ มโนทฺวารวีถิวิฺาณานิ จ วิฺตฺติชนกานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เย หิ อุภยภาคา คจฺฉนฺติ วา จลนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา. จิตฺตสฺส ปน ลหุปริวตฺติยา เอกกฺขเณ อุภยภาคาปิ จลนฺตา วิย อุปฏฺหนฺติ, เสยฺยถาปิ นาม กุกฺกุฬาทินรเกสุ นิมุคฺคสกลสรีรสฺส สตฺตสฺส เอกสฺมึ ขเณ สกลสรีเรปิ กายวิฺาณทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ วิย อุปฏฺาติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ, ตโต ปน ยสฺมึ ภาเค ชีวิตินฺทฺริยํ สเสสกมฺมชรูปํ นิรุชฺฌติ, ตตฺถ กายวิฺาณํ นปฺปวตฺตติ, หทยวตฺถุสหิตภาเคเยว ยาว ชีวิตินฺทฺริยนิโรธา ปวตฺตติ.
นนุ นรกาทีสุ เอกาพทฺเธ สรีเร สพฺพตฺถ ปริยาเยน กายวิฺาณสมุปฺปตฺติ ยุตฺตา โหตุ, ทฺวิธา หุตฺวา วิจฺฉินฺเน ปน ภาคทฺวเย กถนฺติ? นายํ โทโส. สรีเร หิ เอกาพทฺธตา นาม ปรมตฺถธมฺมพฺยติริตฺตา กาจิ นตฺถิ ปรวาทีนํ อวยวีอาทิ วิย, กมฺมาทิเอกการณปฺุชายตฺตตาย พหูนํ สหุปฺปตฺติเยว เอกาพทฺธตา. ตตฺถ จ สตฺถปฺปหาราทิวิรุทฺธปจฺจโยปนิปาเตน วิภินฺนานมฺปิ กมฺมาทิเอกการณานํ ปฺุชายตฺตตา น วิคจฺฉติ, ยาว สา น วิคจฺฉติ, ตาว อวิจฺฉินฺนาว ตตฺถ วิฺาณปฺปวตฺติ. วิภินฺนานํ ปน กมฺมชรูปานํ อฺเสฺจ เสสติสนฺตติรูปานฺจ อุปตฺถมฺภนภาเวน จิรํ ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺติ, ยาว จ ธรนฺติ, ตาว วิฺาณปจฺจยา โหนฺติ, วิฺาเณน จ เตสํ ¶ จลนคมนาทิเทสนฺตรุปฺปตฺติ. ตสฺมา กพนฺธสฺสปิ ธาวกฺขเณ สวิฺาณชีวิตินฺทฺริยํ อตฺเถว, ตฺจ สีสจฺเฉทกปฺปโยเคเนว สีฆํ ปตติ, ตโต อฺปฺปโยคสฺส สรีเร วิเสสุปฺปาทนโต ปุเรตรเมว ปเมเนว กิจฺจนิปฺผตฺติโต สีสจฺเฉทกสฺเสว กมฺมพทฺโธติ คเหตพฺโพ. เอวรูปานีติ กพนฺธวตฺถุสทิสานิ. อิมสฺส วตฺถุสฺสาติ อาฆาตนวตฺถุสฺส. อตฺถทีปเนติ เอเกน ปุริเสน ปโยเคน วา มาริตตาสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปเน.
๑๙๒. ปานปริโภเคน ¶ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ปน วุตฺตตฺตา ‘‘โลณโสวีรกํ ยามกาลิก’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, เกจิ ปน ‘‘คิลานานํ ปากติกเมว, อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘คุฬํ วิย สตฺตาหกาลิก’’นฺติ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ตติยปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๔. จตุตฺถปาราชิกํ
วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา
๑๙๓. อธิฏฺเมาติ ¶ สํวิทหาม. อิริยาปถํ สณฺเปตฺวาติ ปธานานุรูปํ กตฺวา. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสตีติ ภาสิโต ภวิสฺสตีติ ปาเสสํ กตฺวา อนาคตสมฺพนฺเธ อสติ. ภาสิโตติ อตีตวจนํ กถํ อนาคตวจเนน สมฺพนฺธมุปคจฺฉตีติ อาห ลกฺขณํ ปนาติอาทิ. อีทิเส หิ าเน ธาตุสมฺพนฺเธ ปจฺจยาติ อิมินา ลกฺขเณน ธาตฺวตฺถสมฺพนฺเธ สติ อยถากาลวิหิตาปิ ปจฺจยา สาธโว ภวนฺตีติ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺติ.
๑๙๔. วณฺณวาติ อิมินา อภินวุปฺปนฺนวณฺณตา วุตฺตา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ อิมินา มุขวณฺณสฺส อติปณีตตา วุตฺตา. วิปฺปสนฺนจฺฉวิวณฺณาติ อิมินา ปกติสรีรวณฺณสฺเสว ยถาวุตฺตนเยน วิปฺปสนฺนตา วุตฺตา. ยสฺมา อินฺทฺริยานํ อุปาทารูปตฺตา นิสฺสยวเสเนว ปีณนนฺติ อาห ‘‘อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา’’ติ. ปฺจปฺปสาทานํ วิย หทยรูปสฺสาปิ ปริปุณฺณตา วุตฺตาเยวาติ ¶ อาห ‘‘มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยาน’’นฺติ. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ อนุยฺุชนฺตา อิมํ สรีรโสภํ เนว ปาปุณึสูติ สมฺพนฺโธ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. จตุจกฺกนฺติ เอตฺถ ปวตฺตนฏฺเน อิริยาปโถว จกฺกนฺติ วุตฺโต.
๑๙๕. อุปลพฺภนฺตีติ ทิสฺสนฺติ, ายนฺตีติ อตฺโถ. ปจนฺโตติ ปีเฬนฺโต, เคหาทีนิ วา สยํ ฑหนฺโต, อฺเหิ วา ปาเจนฺโต. อุทฺธเตติ อุทฺธจฺจปกติเก. อุนฺนเฬติ อุคฺคตนฬสทิเสน อุคฺคตตุจฺฉมาเนน สหิเต. จปเลติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺเต. มุขเรติ ขรวจเน. ปากตินฺทฺริเยติ อสํวุตตฺตา คิหิกาเล วิย ปกติยํ ิตินฺทฺริเย. อิริยาปถสณฺปนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปรมสลฺเลขวุตฺตีหิ มหาอริยวํเสหิ ภิกฺขูหิ นิวุตฺถเสนาสนานิ โลกสมฺมตเสนาสนานิ นาม. ปริปาเจตุนฺติ วิมฺหาปนวเสน ปริณาเมตุํ. ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเนติ อิทํ ชนปทจาริกํ ¶ จรนฺตีติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ, น ปน ปาฬึ วาเจนฺโตติอาทีหิ, ตานิ ปน ปทานิ อตฺตโน นิรนฺตรวาสฏฺาเนปิ ชนปเทสุปิ กตฺตพฺพกิจฺจทสฺสนวเสน วุตฺตานิ, ตานิ จ เต วตฺตสีเสน กโรนฺติ, น ลาภนิมิตฺตํ, เตนาห ตนฺตีติอาทิ. กิจฺเฉนาติ อิมสฺเสว เววจนํ กสิเรนาติ. ตทุภยมฺปิ ปารมีปูรณวายามํ สนฺธาย วุตฺตํ. สาธารณปริกฺขารภาเวนาติ สงฺฆิกปริกฺขารภาเวน. ตถาภาวโต เถเนตฺวาติ อวิสฺสชฺชิยอเวภงฺคิยภาวโต เถเนตฺวา, น านาจาวนวเสนาติ อธิปฺปาโย, เตนาห ‘‘กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ. อสนฺตนฺติ อิมสฺส อภูตนฺติ อิทํ การณวจนํ, อนุปฺปนฺนตฺตา อวิชฺชมานนฺติ อตฺโถ. กิตวสฺเสวาติ กิตวสฺส สกุณคหณมิว. เกราฏิกสฺสาติ สสฺส. สมโณติ โคตฺตมตฺตํ อนุโภนฺติ ธาเรนฺตีติ โคตฺรภุโน, นามมตฺตสมณาติ อตฺโถ. ทุชฺชานปริจฺเฉทนฺติ อนนฺตทุกฺขตฺตา ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติ สงฺขฺยาวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา าตุํ สพฺพฺุตฺาเณนาปิ ทุกฺกรํ, น ปน สรูปวเสน าตุํ พุทฺธาณสฺส อวิสยภาวา.
อธิมานวตฺถุวณฺณนา
๑๙๖. อรหตฺเตติ อคฺคผเล. าณจกฺขุนาติ ปจฺจเวกฺขณาณสงฺขาเตน จกฺขุนา, อถ วา ผลจิตฺตสมฺปยุตฺเตเนว าณจกฺขุนา. อตฺตนา สมฺปยุตฺเตนาปิ ¶ หิ าเณน อสมฺโมหโต สยํ ทิฏฺํ นาม โหติ, ตถา ตสฺมึ อทิฏฺเติ อตฺโถ. สพฺเพสํ กิเลสานํ ปหายกวเสน อาชานาติ, สมนฺตโต สพฺเพน วา ปกาเรน ชานาตีติ ‘‘อฺา’’ติ อคฺคมคฺโค วุจฺจติ, ตทุปจาเรน ปน ตปฺผลมฺปีติ อาห ‘‘อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสู’’ติ. อนฺตรา เปตีติ เสขภูมิยํ อธิมาโน เปติ. กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโตติ ปุริมมคฺคตฺตยวชฺฌานํเยว กิเลสานํ วเสน วุตฺตํ, น ภวราคาทีนํ.
สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. ปกติมนุสฺเสหิ อุตฺตริตรานํ พุทฺธาทิอุตฺตมปุริสานํ อธิคมธมฺโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ อาห อุตฺตริมนุสฺสานนฺติอาทิ. ปาฬิยํ (ปารา. ๑๙๘) ‘‘อตฺถิ จ เม เอเต ธมฺมา มยี’’ติ เอตฺถ เมติ อิทํ ปทปูรณมตฺตํ. อธิคนฺตพฺพโต อธิคมสงฺขาตสฺส ฌานาทิโน ปุจฺฉา อธิคมปุจฺฉา, สา จ ฌานาทีสุ สามฺโต ปวตฺตาติ อิทานิ ตตฺถ ปมชฺฌานํ วา ทุติยาทีสุ อฺตรํ วา ตตฺถาปิ กสิณาทิอารมฺมเณสุ กตรมารมฺมณํ ฌานํ วา โลกุตฺตเรสุ จ โสตาปตฺติมคฺคํ วา สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรํ วา ตตฺถาปิ สฺุตวิโมกฺขํ ¶ วา อปฺปณิหิตวิโมกฺขาทีสุ อฺตรํ วาติ เอวํ ปจฺเจกํ เภทนิทฺธารณวเสน ปุจฺฉนาการํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ (ปารา. ๑๙๘) ‘‘ปุน กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ อยํ ปุจฺฉา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา, เตนาห ปมมคฺคาทีสูติอาทิ. ยาย อนุกฺกมปฏิปตฺติยา โลกุตฺตโร อธิคโม อาคจฺฉติ, สา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติ อาคมนปฏิปทา. น สุชฺฌตีติ ปุจฺฉิยมาโน ปฏิปตฺติกฺกมํ อุลฺลงฺฆิตฺวา กเถติ. อปเนตพฺโพติ ตยา วุตฺตกฺกเมนายํ น สกฺกา อธิคนฺตุนฺติ อธิคตมานโต อปเนตพฺโพ. สนฺนิหิเตสุ กปฺปิเยสุปิ จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺคตฺตา ‘‘อากาเส ปาณิสเมน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตสทิสํ พฺยากรณํ โหตีติ โยชนา. ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสตฺตา. อิทฺจ อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, เตนาห ขีณาสวสฺส นามาติอาทิ. เอวํ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสสฺส วตฺตนเสกฺขธมฺมปฏิชานนํ อิมินา ภยุปฺปาทเนน, อมฺพิลาทิทสฺสเน เขฬุปฺปาทาทินา จ น สกฺกา วีมํสิตุํ, ตสฺมา ตสฺส วจเนเนว ตํ สทฺธาตพฺพํ. อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนพฺยากรโณติ ¶ อิทํ น เกวลํ อภายนกเมว สนฺธาย วุตฺตํ เอกจฺจสฺส สูรชาติกสฺส ปุถุชฺชนสฺสาปิ อภายนโต, รชฺชนียารมฺมณานํ พทรสาฬวาทิอมฺพิลมทฺทนาทีนํ อุปนยเนปิ เขฬุปฺปาทาทิตณฺหาปวตฺตรหิตํ สพฺพถา สุโสธิตเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขณา ปาปิจฺฉาติ อาห ยา สา อิเธกจฺโจติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน อสฺสทฺโธติอาทิปาํ สงฺคณฺหาติ. สามฺํ ทุปฺปรามฏฺนฺติ สมณธมฺมสงฺขาตํ สามฺํ ขณฺฑสีลาทิตาย ทุปฺปรามฏฺํ ทุฏฺุ คหิตํ นิรยาย นิรยทุกฺขาย ตํ ปุคฺคลํ ตตฺถ นิรเย อุปกฑฺฒติ นิพฺพตฺตาเปตีติ อตฺโถ. สิถิโลติ โอลียิตฺวา กรเณน สิถิลคาเหน กโต, สเถน วา สาเยฺเยน อาทิณฺโณ สิถิโล. ปริพฺพโชติ สมณภาโว. ภิยฺโยติ ปุพฺเพ วิชฺชมานานํ ราครชาทีนํ อุปริ อปรมฺปิ รชํ อากิรตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโวติ อธมฺมิกปฏิฺามตฺตสิทฺโธ ภิกฺขุภาโว. อชานเมวาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท อวธารเณ อชานนฺโต เอวาติ, ‘‘อชานเมว’’นฺติปิ ปาโ, ตตฺถ ปน เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามีติ โยเชตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๙๙. เอวนฺติ จ ปมชฺฌานาทิปรามสนํ ปมชฺฌานํ ชานามิ ทุติยาทิฌานนฺติ. อสุภชฺฌานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน กายคตาสติชฺฌานํ กสิณชฺฌานํ กสิณมูลกานิ อารุปฺปชฺฌานานิ จ สงฺคณฺหาติ. วิโมกฺโขติ จตุพฺพิโธ มคฺโค, ตสฺส สคุณโต สฺุตาทินามํ ทสฺเสนฺโต อาห โส ปนายนฺติอาทิ. มคฺโค หิ นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ ¶ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, มคฺโค อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สฺุตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ, อิทํ สรสโต นามํ นาม. ยสฺมา ปเนส สงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจนิมิตฺตํ ปชหนฺโต อาคโต, ตสฺมา อนิมิตฺโต. ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ ปณิธึ ปตฺถนํ ปหาย อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต. อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺํ ปหาย อตฺตสฺุตาทสฺสนวเสน สฺุตา โหติ, อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม. ราคาทีหิ ¶ ปเนส สฺุตตฺตา สฺุโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ, ราคนิมิตฺตาทีนํ เอว วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ, อิทํ อสฺส สคุณโต นามํ. ราคาทิสฺุํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ, อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนเมว, ผเล ปน มคฺคานนฺตเร มคฺคาคมนํ, ผลสมาปตฺติยํ วิปสฺสนาคมนมฺปิ. อนตฺตานุปสฺสนาวเสน มคฺโค สฺุโต อนิจฺจทุกฺขานุปสฺสนาหิ อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ.
สฺุตฺตาติ วิวิตฺตตฺตา. ราคาทโยว ปติฏฺานฏฺเน ปณิธีติ อาห ‘‘ราคโทสโมหปณิธีน’’นฺติ. อิมิสฺสา วิชฺชายาติ ทิพฺพจกฺขุวิชฺชายาติอาทินา เอเกกวิชฺชํ สนฺธาย วทนฺติ. เอวํ เอกิสฺสาปิ นามํ อคฺคเหตฺวาปิ ตา เอว สนฺธาย ‘‘วิชฺชานํ ลาภิมฺหี’’ติ ภณนฺโตปิ ปาราชิโก โหตีติ สงฺเขปฏฺกถายํ อธิปฺปาโย. วตฺถุวิชฺชาทีนิ ปน สนฺธาย วทนฺโต น โหติ. เอเกกโกฏฺาสวเสนาติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยน โลกุตฺตรวิเสสํ อกตฺวา เกวลํ ‘‘สติปฏฺานานํ ลาภี’’ติ เอเกกโกฏฺาสวเสนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถาติ เตสุ โกฏฺาเสสุ. กิเลสานํ ปหานํ นาม อภาวมตฺตมฺปิ โลกุตฺตรกิจฺจตฺตา โลกุตฺตรนฺติ สมตฺเถตุํ ตํ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติ ราคโต จิตฺตสฺส วินีวรณตา, ตโต ราคโต วิมุตฺตตฺตา เอว วีตราคนีวรณตาติ อตฺโถ, ยา จ ปฺจ วิชฺชาติ โยเชตพฺพํ. น อาคตาติ อิธ ปทภาชเน ‘‘าณนฺติ ติสฺโส วิชฺชา’’ติ (ปารา. ๑๙๙) วุตฺตตฺตา เสสา ปฺจ วิชฺชา น อาคตาติ อตฺโถ. นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรตฺตาติ โลกิยธมฺมสาธารณสงฺขตสฺสาปิ อภาวา โลกิเยหิ สพฺพถา อสมฺมิสฺสโลกุตฺตรตฺตา. อฺนฺติ สงฺเขปฏฺกถาทึ วทนฺติ, ตมฺปิ ตตฺเถว ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๐๐. ปุน ¶ อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตนฺติ เอตฺถ ‘‘ปมชฺฌาเนนาติ ปาโ’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว อาทิ-สทฺเทน คเหตพฺพสฺส ¶ ฌานสฺส อภาวา. ปมชฺฌานมูลกฺหิ เอกเมว ขณฺฑจกฺกํ. กตฺตุสาธโนปิ ภณิต-สทฺโท โหตีติ อาห อถ วาติอาทิ. เยน จิตฺเตน มุสา ภณติ, เตเนว จิตฺเตน น สกฺกา ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานิตุํ, อนฺตรนฺตรา ปน อฺาหิ มโนทฺวารวีถีหิ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาตีติ วุตฺตํ ‘‘ภณนฺตสฺส โหติ มุสา ภณามี’’ติ. อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ตีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มุสาวาโทติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ทวาติ สหสา. รวาติ อฺํ วตฺตุกามสฺส ขลิตฺวา อฺภณนํ. ตํ ชานาตีติ ตําณํ, ตสฺส ภาโว ตําณตา, าณสฺส วิสยวิสยีภาเวน อตฺตสํเวทนนฺติ อตฺโถ. าณสโมธานนฺติ พหูนํ าณานํ เอกสฺมึ ขเณ สโมธานํ, สหุปฺปตฺตีติ อตฺโถ. เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาตีติ อิทํ ปุพฺพภาคเจตนฺจ สนฺนิฏฺานเจตนฺจ เอกโต กตฺวา วุตฺตํ. เยน จิตฺเตน ปุพฺพภาคเจตนาภูเตน สนฺนิฏฺานเจตนาภูเตน จ วิสํวาทิตพฺพสตฺตสงฺขาเร ชานาติ, เยน จิตฺเตน มุสา ภณิสฺสนฺติ อตฺโถ. เตเนว…เป… ปริจฺจชิตพฺพาติ เตเนว จิตฺเตน ‘‘เอวํ อหํ มุสา ภณามี’’ติ วา ‘‘ภณิต’’นฺติ วา ตเทว มุสาวาทจิตฺตมารมฺมณํ กตฺวา ภิกฺขุ ชานาตีติ เอวํ ปุพฺพาปรสนฺนิฏฺานเจตนากฺขเณสุ ตีสุ เอเกเนว จิตฺเตน าณวิสยฺจ าณฺจาติ อุภยมฺปิ เอกกฺขเณ ปุคฺคโล ชานาตีติ อยํ ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพา วิสยสฺเสว ตทา ปกาสนโตติ อธิปฺปาโย, เตนาห น หีติอาทิ. ยทิ าณสฺส อตฺตโน สรูปํ น ายติ, กถํ ปจฺฉิมํ จิตฺตํ ชานาตีติ อาห ปุริมํ ปุริมนฺติอาทิ. ตตฺถ ภณิสฺสามีติอาทินา ตีสุ กาเลสุ อุปฺปนฺนํ ปุริมปุริมจิตฺตํ อตฺตานํ วิสยํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานสฺส ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. เตนาติ เยน การเณน ตีสุ ขเณสุ จิตฺตานิ ตทฺเเหว จิตฺเตหิ ชานิตพฺพานิ, ตานิ จ ปุริมปุริมจิตฺเตเนว อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติ, เตน การเณนาติ อตฺโถ. ตสฺมึ สตีติ ภณิสฺสามีติ ปุพฺพภาเค สติ. เสสทฺวยนฺติ ภณามิ, ภณิตนฺติ อิทํ ทฺวยํ น เหสฺสตีติ เอตํ นตฺถีติ โยชนา โหติเยวาติ อตฺโถ. เอกํ วิย ปกาสตีติ ภินฺนกฺขณานมฺปิ นิรนฺตรุปฺปตฺติยา ‘‘ตเทเวท’’นฺติ คเหตพฺพตํ สนฺธาย วทติ.
พลวธมฺมวินิธานวเสนาติ ¶ พลวคาหสฺส วินิธานวเสน. ทุพฺพลทุพฺพลานนฺติ ทุพฺพลทุพฺพลานํ คาหานํ. สกภาวปริจฺจชนวเสนาติ อตฺตโน สนฺตกภาวสฺส ปริจฺจชนวเสน.
๒๐๗. อุตฺตาสิตตฺตาติ ภยํ ชเนตฺวา วิย ปลาปิตตฺตา. เอวํ ปลาปิโต น ปุน ตํ านํ อาคจฺฉตีติ อาห ‘‘ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสนา’’ติ. เขฏ-สทฺทํ สทฺทตฺถวิทู อุตฺตาสตฺเถ ¶ ปนฺตีติ อาห สฺวายมตฺโถติอาทิ. อณุ เอว อณุสหคตํ, อณุตฺเตน วา ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
วตฺตุกามวารกถาวณฺณนา
๒๑๕. เกวลฺหิยนฺติ เกวลฺหิ อยํ วาโรติ อชฺฌาหริตพฺพํ. ตงฺขณฺเว ชานาตีติ ปกติยา วจนานนฺตรํ วิชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ ปน วจีเภทํ อกตฺวา ‘‘โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสติ, นํ มยํ ‘อรหา’ติ ชานิสฺสามา’’ติ เอวํ กตสงฺเกตา วิหารา ปมํ ปกฺกมเนน ตสฺมึ ขเณ อวีติวตฺเตปิ นิกฺขนฺตมตฺเตปิ ปาราชิกํ อฺตโร ภิกฺขุ ‘‘มํ ‘อรหา’ติ ชานนฺตู’’ติ ตมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกามีติ อาคตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๒๒๗) วิย. วิฺตฺติปเถติ กายวจีวิฺตฺตีนํ คหณโยคฺเค ปเทเส, เตน วิฺตฺติปถํ อติกฺกมิตฺวา ิโต โกจิ ทิพฺเพน จกฺขุนา กายวิการํ ทิสฺวา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วจีเภทฺจ สุตฺวา ชานาติ, น ปาราชิกนฺติ ทีเปติ. ปาฬิยํ ‘‘ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๑๕) อิมสฺมึ ปฏิวิชานนวาเร ยสฺมึ อกฺขเร วา อุจฺจาริเต กายปฺปโยเค วา กเตเยว อยํ ปมชฺฌานํ สมาปนฺโนติอาทิอตฺถํ ปโร วิชานาติ, ตโต ปุริเมสุ อกฺขรุจฺจารณาทิปฺปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ปจฺฉิเมว ปฏิวิชานนปโยคกฺขเณ ปาราชิกํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ ถุลฺลจฺจยสฺเสเวตฺถ สามนฺตตฺตา, เตเนว พุทฺธทตฺตาจริเยน –
‘‘ทุกฺกฏํ ปมสฺเสว, สามนฺตมิติ วณฺณิตํ;
เสสานํ ปน ติณฺณมฺปิ, ถุลฺลจฺจยมุทีริต’’นฺติ –
วุตฺตํ ¶ , อยฺจตฺโถ ‘‘น ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมินา สุตฺเตน สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสนาติอาทินา ฌานสมาธิอาทิสทฺทานมตฺเถสุ ปุพฺเพ อกตปริจยตฺตา สุตฺวา ‘‘อตฺถํ อีทิส’’นฺติ อชานิตฺวา เกวลํ ‘‘วิสิฏฺโ โกจิ สมณคุโณ อเนน ลทฺโธ’’ติ ปเรน าเตปิ ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ.
อนาปตฺติเภทกถาวณฺณนา
๒๒๐. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ ‘‘เอวํ วุตฺเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม มยา ปกาสิโต โหตี’’ติ ¶ อมนสิกตฺวา ‘‘นาหํ, อาวุโส, มจฺจุโน ภายามี’’ติอาทิกํ กเถนฺตสฺส. เอวํ กเถนฺโต จ โวหารโต อฺํ พฺยากโรนฺโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อฺํ พฺยากโรนฺตสฺสา’’ติ. ภายนฺโตติ ‘‘ตฺวา ครหนฺติ นุ โข’’ติ ภายนฺโต.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๒๒๓. เสกฺขภูมิยนฺติ อิมินา ฌานภูมิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ติณฺณํ วิเวกานนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกานํ. ปิณฺฑาย จรณสฺส โภชนปริโยสานตาย วุตฺตํ ‘‘ยาว โภชนปอโยสาน’’นฺติ. อนฺตรฆเร ภุตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺสาปิ วุตฺตนเยเนว สมฺภาวนิจฺฉาย จีวรสณฺาปนาทีนิ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว, ปาฬิยํ ปน ทุกฺกราทิวตฺถูสุ ‘‘อนาปตฺติ อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ อิทํ ถุลฺลจฺจเยนาปิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาปิ หิ ‘‘นาวุโส, ทุกฺกรํ อฺํ พฺยากาตุ’’นฺติ วุตฺเต ถุลฺลจฺจยเมว อตฺตุปนายิกตฺตาภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.
๒๒๗. น ทานาหํ ตตฺถ คมิสฺสามีติ ปุน ตตฺถ วสิตฏฺาเน น คมิสฺสามิ, เอวํ สติ ปมํ คโต อยํ ปุน จ นาคโต, ตสฺมา อรหาติ มฺิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตํ านนฺติ อาวาสํ วาติอาทินา ปุพฺเพ ปริจฺฉินฺนฏฺานํ. ปทสา คมนํ สนฺธาย กติกาย กตตฺตา ยาเนนาติอาทิ วุตฺตํ. วิชฺชามยิทฺธึ สนฺธาย ‘‘อิทฺธิยา’’ติ วุตฺตํ อุลฺลปนาธิปฺปายสฺส อภิฺิทฺธิยา อสมฺภวโต. อฺมฺํ รกฺขนฺตีติ อุลฺลปนาธิปฺปาเย ¶ สติปิ เอกสฺสาปิ ปมคมนาภาวา รกฺขนฺติ. สเจ ปน กติกํ กตฺวา นิสินฺเนสุ เอกํ ทฺเว เปตฺวา อวเสสา อุลฺลปนาธิปฺปาเยน เอกโต คจฺฉนฺติ, คตานํ สพฺเพสํ ปาราชิกเมว. เตสุ ยสฺส อุลฺลปนาธิปฺปาโย นตฺถิ, ตสฺส อนาปตฺติ. เอตนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพํ กติกวตฺตํ. นานาเวรชฺชกาติ นานาชนปทวาสิโน. สงฺฆลาโภติ ยถาวุฑฺฒํ ปาปุณนกโกฏฺาโส. อยฺจ ปฏิกฺเขโป อวิเสเสตฺวา กรณํ สนฺธาย กโต, วิเสเสตฺวา ปน ‘‘เอตฺตโก อสุกสฺสา’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๒๘. ธมฺมธาตูติ สพฺพฺุตฺาณํ, ธมฺมานํ สภาโว วา. อุปปตฺตีติ อตฺตภาวํ สนฺธาย วทติ. ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺตีติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วุตฺตํ, น ลกฺขณตฺเถราทิเก อริยปุคฺคเล ¶ . วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา เฑนฺติ คจฺฉนฺติ, ผาสุฬนฺตริกาโย ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กตฺวา ตาหิ คจฺฉนฺตีติ นิสฺสกฺกวเสน อตฺโถ. วิตุเทนฺตีติ ปาเ ผาสุฬนฺตริกาหีติ อาธารตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. โลหตุณฺเฑหีติ กาฬโลหมเยหิ ตุณฺเฑหิ. อจฺฉริยํ วตาติ ครหิตพฺพตาย อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตรูปํ. จกฺขุภูตาติ โลกสฺส จกฺขุ วิย ภูตา สฺชาตา, จกฺขุสทิสาติปิ อตฺโถ. ตสฺเสว กมฺมสฺสาติ เยน โคฆาตกกมฺเมเนว นิรเย นิพฺพตฺโต, ตสฺเสวาติ อตฺเถ คยฺหมาเน เอกาย เจตนาย พหุปฏิสนฺธิโย โหนฺตีติ อาปชฺชติ, น เจตํ ยุตฺตํ เอกสฺส อมฺพาทิพีชสฺส อเนกงฺกุรุปฺปตฺติ วิยาติ ตํ ปริหรนฺโต อาห ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺสาติอาทิ, เตน โคฆาตกกมฺมกฺขเณ ปุพฺพเจตนา อปรเจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนาติ เอกสฺมิมฺปิ ปาณาติปาเต พหู เจตนา โหนฺติ, นานาปาณาติปาเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตตฺถ เอกาย เจตนาย นรเก ปจิตฺวา ตทฺเจตนาสุ เอกาย อปราปริยเจตนาย อิมสฺมึ เปตตฺตภาเว นิพฺพตฺโตติ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา’’ติ. เอตฺถ จ กมฺมสริกฺขวิปากุปฺปตฺตึ สนฺธาย กมฺมกมฺมนิมิตฺตานเมว คหณํ กตํ, น คตินิมิตฺตสฺส, เตนาห ‘‘อฏฺิราสิเยว นิมิตฺตํ อโหสี’’ติ. ปาฬิยํ วิตจฺเฉนฺตีติ ตุณฺเฑหิ ตจฺเฉนฺโต วิย ลฺุจนฺติ. วิราเชนฺตีติ วิลิขนฺติ.
๒๒๙. วลฺลูรวิกฺกเยนาติ ¶ สุกฺขาปิตมํสวิกฺกเยน. นิปฺปกฺขจมฺเมติ วิคตปกฺขโลมจมฺเม. เอกํ มิคนฺติ ทีปกมิคํ. การณาหีติ ฆาตนาหิ. ตฺวาติ กมฺมฏฺานํ ตฺวา.
๒๓๐. มงฺคนวเสน อุลตีติ มงฺคุลิ, วิรูปพีภจฺฉภาเวน ปวตฺตตีติ อตฺโถ. จิตฺตเกฬินฺติ จิตฺตรุจิยํ อนาจารกีฬํ.
๒๓๑. นิสฺเสวาลปณกกทฺทโมติ ติลพีชกาทิเสวาเลน นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน อุทกปิฏฺเ อุทกํ นีลวณฺณํ กุรุมาเนน ปณเกน กทฺทเมน จ วิรหิโต. อุณฺหภาเวน ตปนโต ตปํ อุทกํ อสฺสาติ ตโปทกาติ วตฺตพฺเพ ก-การโลปํ กตฺวา ‘‘ตโปทา’’ติ วุจฺจติ. เปตโลโกติ ปกฏฺเน อกุสลกมฺเมน สุคติโต ทุคฺคตึ อิตานํ คตานํ โลโก สมูโห, นิวาสฏฺานํ วา. กตหตฺถาติ ธนุสิปฺเป สุฏฺุ สิกฺขิตหตฺถา, อวิรชฺฌนลกฺขเวธาติ อตฺโถ. สิปฺปทสฺสนวเสน ราชกุลาทีสุ ราชสมูหํ อุเปจฺจ กตํ อสนํ สรกฺเขโป เอเตสนฺติ กตุปาสนา, สพฺพตฺถ ทสฺสิตสิปฺปาติ อตฺโถ. ปภคฺโคติ ปภฺชิโต, ปราชิโตติ อตฺโถ.
๒๓๒. อาเนฺชสมาธินฺติ ¶ อรูปสมาปตฺติยํ นิรุทฺเธ สติปิ สทฺทกณฺฏเกน อุฏฺานารโห รูปาวจรสมาธิเยว อิธ วตฺตพฺโพติ อาห อเนชํ อจลนฺติอาทิ. สมาธิปริปนฺถเกติ วิตกฺกาทิเก สนฺธาย วทติ, อิทํ ปน ปมโพธิยํ อุปฺปนฺนมฺปิ วตฺถุํ อนาจารมตฺตวเสน ภิกฺขูหิ โจทิเตปิ ภควตา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลานสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๘) เอวํ อายตึ อตฺตนา ปฺปิยมานปาราชิกานุคุณํ ตทา เอว วินีตนฺติ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปจฺฉา ปฺตฺตสฺส อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วินีตวตฺถุภาเวน สงฺคหมาโรปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สาวกานํ อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสรณาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘น อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ วุตฺตํ. ทุกฺกรํ กตนฺติ อนนฺตเร ปฺจกปฺปสติเก กาเล วิฺาณสนฺตตึ อทิสฺวาปิ อสมฺมุยฺหิตฺวา ปรโต ตติยตฺตภาเว ทิฏฺจุติจิตฺเตน สทฺธึ วตฺตมานภวปฏิสนฺธิยา อนุมาเนนาปิ การิยการณาภาวคหณํ นาม สาวกานํ ทุกฺกรตฺตา วุตฺตํ. ปฏิวิทฺธาติ ¶ ปฏิวิทฺธสทิสา. ยถา นาม สตฺตธา ผาลิตสฺส จามรวาลโลมสฺส เอกาย อคฺคโกฏิยา อปรสฺส วาลโลมํสุโน โกฏึ ทูเร ตฺวา วิชฺเฌยฺย อาวุนนฺโต วิย ปฏิปาเทยฺย, เอวเมว อิมินาปิ ทุกฺกรํ กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ.
นิคมนวณฺณนา
๒๓๓. อิธาติ ภิกฺขุวิภงฺเค. อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนนฺติ สิกฺขาปเทสุ ปาติโมกฺขุทฺเทสวเสน อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนํ, น ปน สพฺพสฺมึ ปาราชิกวิภงฺเค อาคตอาปตฺติปริทีปนํ ตตฺถ ถุลฺลจฺจยาทีนมฺปิ อาคตตฺตา เตเนว อุทฺทิฏฺ-สทฺเทน วุตฺตวิภงฺคสฺส นิทฺเทสตฺตา. ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๘) วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา (ปาจิ. ๖๖๕) อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา (ปาจิ. ๖๖๙) อฏฺวตฺถุกาติ (ปาจิ. ๖๗๕) อิมานิ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ เอว ปฺตฺตานิ ปาราชิกานีติ อตฺโถ. วตฺถุวิปนฺนาติ ปพฺพชฺชุปสมฺปทานํ วตฺถุภาโว วตฺถุ นาม, เตน วตฺถุมตฺเตน วิปนฺนา, วิปนฺนวตฺถุกาติ อตฺโถ. อเหตุกปฏิสนฺธิกาติ มคฺคานุปฺปตฺติการณมาห. กิฺจาปิ ทุเหตุกานมฺปิ มคฺโค นุปฺปชฺชติ, เต ปน ปพฺพชฺชุปสมฺปทาสุ ตฺวา อายตึ มคฺคเหตุํ สมฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, อเหตุกา ปน ปริสุทฺเธ จตุปาริสุทฺธิสีเล ตฺวา สมฺปาเทตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา เต ตมฺปิ ปฏิจฺจ วตฺถุวิปนฺนาวาติ เวทิตพฺพา. ปาราชิกาติ กมฺมวิปตฺติยา ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว ปราชยํ อาปนฺนา. เถยฺยสํวาสกาทีนํ คิหิภาเว ตฺวา วิปสฺสนาย วายมนฺตานมฺปิ ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติอภาวโต ‘‘มคฺโค ปน วาริโต’’ติ วุตฺตํ. ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตํ ลมฺพํ นาม, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, ตํ ปน ทีฆํ องฺคชาตํ ¶ อตฺตโน มุเข วา วจฺจมคฺเค วา เสวนาธิปฺปาเยน ปเวเสนฺโตว ปาราชิโก, อิธ ปน วจฺจมคฺเค ปเวเสนฺโตว อธิปฺเปโต มุทุปิฏฺิเกเนว มุเข ปเวสนสฺส วุตฺตตฺตา. โสปิ หิ กตปริกมฺมตาย มุทุภูตาย ปิฏฺิยา โอนมิตฺวา อตฺตโน องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโตว ปาราชิโก โหติ, น เกวโล. โย ปน มุเขน อตฺตโน วจฺจมคฺคํ วา ปเรสํ วจฺจมคฺคมุขํ วา อิตฺถีนํ ปสฺสาวมคฺคํ วา คณฺหาติ, ตสฺส จ ปุริสนิมิตฺเตน ปุริสนิมิตฺตํ ฉุปนฺตสฺส จ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทเนปิ ปาราชิกํ น โหติ ปุริสนิมิตฺเตน ตทิตรมคฺคสมฺปฏิปาทเนเนว เมถุนธมฺมโวหารโต ¶ . ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ ปรสฺส อุตฺตานํ สยนฺตสฺส กมฺมนิเย องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสนฺโต ตสฺสูปริ นิสีทติ, อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ ปเรสํ องฺคชาตํ วจฺจมคฺเค ปเวเสนฺโต สาทิยนฺโตปิ ปาราชิโกว, พลกฺกาเรน ปน วจฺจมคฺเค วา มุเข วา ปเรน ปเวสิยมาโน ยทิ น สาทิยติ, อนาปตฺติโกว. เอตฺถ อสาทิยนํ นาม ทุกฺกรํ วิรชฺชิตพฺพโต. เอตฺถ จ อนุปสมฺปนฺนภาเว ตฺวา มาตุปิตุอรหนฺเตสุ อฺตรํ ฆาเตนฺโต ภิกฺขุนึ ทูเสนฺโต จ สามเณรปพฺพชฺชมฺปิ น ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหิตตฺตา มาตุฆาตกาทีนํ จตุนฺนํ ตติยปมปาราชิเกสุ อนฺโตคธตา เวทิตพฺพา. ยถา เอตฺถ, เอวํ คิหิภาเว ตฺวา โลหิตุปฺปาทํ กโรนฺโต โลหิตุปฺปาทโกวาติ คเหตพฺพํ. เอเตน ปริยาเยนาติ อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน. ทุติยวิกปฺเป กจฺจิ อตฺถาติ ปทจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นิฏฺิโต จ ปาราชิกกณฺฑวณฺณนานโย.