📜

๕. จมฺมกฺขนฺธโก

โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา

๒๔๒. จมฺมกฺขนฺธเก อุณฺณปาวารณนฺติ อุภโต โลมานิ อุฏฺาเปตฺวา กตํ อุณฺณมยํ ปาวารณํ, อุภโต กปฺปาสปิจุํ อุฏฺาเปตฺวา วีตปาวาโรปิ อตฺถิ, ตโต นิวตฺตนตฺถํ ‘‘อุณฺณปาวารณ’’นฺติ วุตฺตํ.

อฑฺฒจนฺทปาสาเณติ โสปานมูเล อุปฑฺฒํ อนฺโต ปเวเสตฺวา ปิเต อฑฺฒปาสาเณ. ปาฬิยํ วิหารปจฺฉายายนฺติ วิหารปจฺจนฺเต ฉายาย, วิหารสฺส วฑฺฒมานจฺฉายายนฺติปิ วทนฺติ.

๒๔๓. โภคาติ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อจฺจายตาติ อติอายตา ขรมุจฺฉนา. สรวตีติ มธุรสรสํยุตฺตา. อติสิถิลา มนฺทมุจฺฉนา. วีริยสมถนฺติ วีริยสมฺปยุตฺตสมถํ. ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหีติ ตสฺมิฺจ สมภาเว สติ ยํ อาทาเส มุขนิมิตฺตํ วิย นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สมถนิมิตฺตํ, วิปสฺสนานิมิตฺตํ, มคฺคนิมิตฺตํ, ผลนิมิตฺตฺจ คณฺหาหิ นิพฺพตฺเตหีติ, เอวมสฺส อรหตฺตปริโยสานํ กมฺมฏฺานํ กถิตํ.

๒๔๔. ฉานานีติ ฉ การณานิ. อธิมุตฺโตติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. เนกฺขมฺมาธิมุตฺโตติอาทิ สพฺพํ อรหตฺตวเสน วุตฺตํ. อรหตฺตฺหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, เตเหว จ ปวิวิตฺตตฺตา ปวิเวโก, พฺยาปชฺชาภาวโต อพฺยาปชฺชํ, อุปาทานสฺส ขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อุปาทานกฺขโย, ตณฺหกฺขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ตณฺหกฺขโย, สมฺโมหาภาวโต อสมฺโมโหติ จ วุจฺจติ.

เกวลํ สทฺธามตฺตกนฺติ เกวลํ ปฏิเวธปฺาย อสมฺมิสฺสํ สทฺธามตฺตกํ. ปฏิจยนฺติ ปุนปฺปุนํ กรเณน วฑฺฒึ. วีตราคตฺตาติ มคฺคปฏิเวเธน ราคสฺส วิคตตฺตา เอว เนกฺขมฺมสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา สจฺฉิกตฺวา ิโต โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปวิเวกาธิมุตฺโตติ ‘‘ปวิเวเก อธิมุตฺโต อห’’นฺติ เอวํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ.

สีลพฺพตปรามาสนฺติ สีลฺจ วตฺจ ปรามสิตฺวา คหิตคฺคหณมตฺตํ. สารโต ปจฺจาคจฺฉนฺโตติ สารภาเวน ชานนฺโต. อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโตติ อพฺยาปชฺชํ อรหตฺตํ พฺยากโรติ.

อมิสฺสีกตนฺติ อมิสฺสกตํ. กิเลสา หิ อารมฺมเณน สทฺธึ จิตฺตํ มิสฺสํ กโรนฺติ, เตสํ อภาวา อมิสฺสีกตํ. ภุสา วาตวุฏฺีติ พลววาตกฺขนฺโธ.

อุปาทานกฺขยสฺส จาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ จกฺขาทิอายตนานํ อุปฺปาทฺจ วยฺจ ทิสฺวา. จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ อิมาย วิปสฺสนาปฏิปตฺติยา ผลสมาปตฺติวเสน จิตฺตํ วิมุจฺจติ.

โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทิคุณาทิอุปาหนปฏิกฺเขปกถาวณฺณนา

๒๔๕. สกฏวาเหติ ทฺวีหิ สกเฏหิ ปริจฺฉินฺเน วาเห. ‘‘วาเห’’ติ พหุวจนสฺส หิรฺวิเสสนตฺเตปิ สามฺาเปกฺขาย ‘‘หิรฺ’’นฺติ เอกวจนํ กตํ.

๒๔๖. อทฺทาริฏฺกวณฺณาติ อลฺลาริฏฺผลวณฺณา, ตินฺตกากปกฺขวณฺณาติปิ วทนฺติ. รชนนฺติ อุปลิตฺตํ นีลาทิวณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โจฬเกน ปุฺฉิตฺวา’’ติ. ตฺหิ ตถา ปุฺฉิเต วิคจฺฉติ. ยํ ปน จมฺมสฺส ทุคฺคนฺธาปนยนตฺถํ กาฬรตฺตาทิรชเนหิ รฺชิตตฺตา กาฬรตฺตาทิวณฺณํ โหติ, ตํ โจฬาทีหิ อปเนตุํ น สกฺกา จมฺมคติกเมว, ตสฺมา ตํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.

ขลฺลกนฺติ สพฺพปณฺหิปิธานจมฺมํ, อปริคฬนตฺถํ ปณฺหิอุปริภาเค อปิธาย อาโรปนพนฺธนมตฺตํ วฏฺฏติ. วิจิตฺราติ สณฺานโต วิจิตฺรปฏา อธิปฺเปตา, น วณฺณโต สพฺพโส อปเนตพฺเพสุ ขลฺลกาทีสุ ปวิฏฺตฺตา. พิฬาลสทิสมุขตฺตา มหาอุลูกา ‘‘ปกฺขิพิฬาลา’’ติ วุจฺจติ, เตสํ จมฺมํ นาม ปกฺขโลมเมว.

ทิคุณาทิอุปาหนปฏิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อชฺฌาราเมอุปาหนปฏิกฺเขปกถาทิวณฺณนา

๒๕๑. อุณฺณาหิกตปาทุกาติ เอตฺถ อุณฺณามยกมฺพเลหิ กตา ปาทุกา สงฺคยฺหนฺติ.

๒๕๓. คงฺคามหกีฬิกายาติ คงฺคามเห กีฬิกาย. ตตฺถ หิ อิตฺถิปุริสา ยาเนหิ อุทกกีฬํ คจฺฉนฺติ. ปีกสิวิกนฺติ ผลกาทินา กตํ ปีกยานํ. ปฏโปตลิกํ อนฺโทลิกา. สพฺพมฺปิ ยานํ อุปาหเนนปิ คนฺตุํ อสมตฺถสฺส คิลานสฺส อนุฺาตํ.

๒๕๔. วาฬรูปานีติ อาหริมานิ วาฬรูปานิ. จตุรงฺคุลาธิกานีติ อุทฺทโลมีเอกนฺตโลมีหิ วิเสสทสฺสนํ. จตุรงฺคุลโต หิ อูนานิ กิร อุทฺทโลมีอาทีสุ ปวิสนฺติ. วานจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโณติ นานาวณฺเณหิ อุณฺณามยสุตฺเตหิ ภิตฺติจฺเฉทาทิวเสน วายิตฺวา กตจิตฺตตฺถรโณ. ฆนปุปฺผโกติ พหลราโค. ปกติตูลิกาติ ตูลปุณฺณา ภิสิ. วิกติกาติ สีหรูปาทิวเสน วานจิตฺราว คยฺหติ. อุทฺทโลมีติ ‘‘อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺตํ. โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกสิยสุตฺตานํ อนฺตรา สุวณฺณมยสุตฺตานิ ปเวเสตฺวา วีตํ. สุวณฺณสุตฺตํ กิร ‘‘กฏฺฏิสฺสํ, กสฏ’’นฺติ จ วุจฺจติ. เตเนว ‘‘โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ อาจริย-ธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตนฺติ วทนฺติ. รตนปริสิพฺพิตนฺติ สุวณฺณลิตฺตํ. สุทฺธโกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพนรหิตํ.

อชินมิคจมฺมานํ อติสุขุมตฺตา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ. รตฺตวิตาเนนาติ สพฺพรตฺเตน วิตาเนน. ยํ ปน นานาวณฺณํ วานจิตฺตํ วา เลปจิตฺตํ วา, ตํ วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธาเนปิ เอเสว นโย. ‘‘จิตฺรํ วา’’ติ อิทํ ปน สพฺพถา กปฺปิยตฺตา วุตฺตํ, น ปน อุภโตอุปธาเนสุ อกปฺปิยตฺตา. น หิ โลหิตก-สทฺโท จิตฺเต วตฺตติ, ปฏลิคฺคหเณเนว จิตฺตกสฺสปิ อตฺถรณสฺส สงฺคเหตพฺพปฺปสงฺคโต, กาสาวํ ปน โลหิตกโวหารํ น คจฺฉติ. ตสฺมา วิตาเนปิ อุภโตอุปธาเนปิ วฏฺฏติ. สเจ ปมาณยุตฺตนฺติอาทิ อฺปฺปมาณาติกฺกนฺตสฺส พิพฺโพหนสฺส ปฏิกฺขิตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน อุจฺจาสยนมหาสยนภาวทสฺสนตฺถํ ตถา อวุตฺตตฺตา. ตํ ปน อุปธานํ อุโปสถิกานํ คหฏฺานํ วฏฺฏติ. อุจฺจาสยนมหาสยนเมว หิ ตทา เตสํ น วฏฺฏติ. ทีฆนิกายฏฺกถาทีสุ กิฺจาปิ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ วฏฺฏนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, วินยฏฺกถาเยว กปฺปิยากปฺปิยภาเว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.

อชฺฌาราเมอุปาหนปฏิกฺเขปกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

คิหิวิกตานุฺาตาทิกถาวณฺณนา

๒๕๖. อภินิสฺสายาติ อปสฺสาย. วิสุกายิกวิปฺผนฺทิตานนฺติ ปฏิปกฺขภูตานํ ทิฏฺิจิตฺตวิปฺผนฺทิตานนฺติ อตฺโถ.

๒๕๗. ยตินฺทฺริยนฺติ มนินฺทฺริยวเสน สฺตินฺทฺริยํ.

๒๕๘. ปาฬิยํ อฏฺกวคฺคิกานีติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. ๗๗๒ อาทโย) อฏฺกวคฺคภูตานิ โสฬส สุตฺตานิ. เอวํ จิรํ อกาสีติ เอวํ จิรกาลํ ปพฺพชฺชํ อนุปคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ เกน การเณน วาสมกาสีติ อตฺโถ. โส กิร มชฺฌิมวเย ปพฺพชิโต, เตน ภควา เอวมาห. เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ กาเมสุ ทิฏฺาทีนวา จิรายิตฺวาปิ ฆราวาเสน ปกฺขนฺทนฺตีติ เอตมตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา.

อาทีนวํ โลเกติ สงฺขารโลเก อนิจฺจตาทิอาทีนวํ. นิรุปธินฺติ นิพฺพานํ. ‘‘อริโย น รมตี ปาเป’’ติ อิมสฺส เหตุมาห ‘‘ปาเป น รมตี สุจี’’ติ. ตตฺถ สุจีติ วิสุทฺธปุคฺคโล.

๒๕๙. กาฬสีโหติ กาฬมุขวานรชาติ. จมฺมํ น วฏฺฏตีติ นิสีทนตฺถรณํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ภูมตฺถรณาทิวเสน เสนาสนปริโภโค วฏฺฏเตว.

คิหิวิกตานุฺาตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จมฺมกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.