📜
๖. เภสชฺชกฺขนฺธโก
ปฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา
๒๖๐. เภสชฺชกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหตีติ พหิสรีเร พฺยาเปตฺวา ิตํ อพทฺธปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหติ, เตน ปิตฺตํ กุปิตํ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๖๑-๒. ปาฬิยํ นจฺฉาเทนฺตีติ รุจึ น อุปฺปาเทนฺติ. สุสุกาติ สมุทฺเท เอกา มจฺฉชาติ, กุมฺภิลาติปิ วทนฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ.
๒๖๓. ปิฏฺเหีติ ปิสิเตหิ. กสาเวหีติ ตจาทีนิ อุทเก ตาเปตฺวา คหิตอูสเรหิ. อุพฺภิทนฺติ อูสรปํสุมยํ. โลณพิลนฺติ โลณวิเสโส.
๒๖๔-๕. ฉกณนฺติ โคมยํ. ปากติกจุณฺณนฺติ อปกฺกกสาวจุณฺณํ, คนฺธจุณฺณํ ปน น วฏฺฏติ. ปาฬิยํ จุณฺณจาลินินฺติ อุทุกฺขเล โกฏฺฏิตจุณฺณปริสฺสาวนึ. สุวณฺณเครุโกติ สุวณฺณตุตฺถาทิ. ปาฬิยํ อฺชนูปปิสนนฺติ อฺชเน อุปเนตุํ ปิสิตพฺพเภสชฺชํ.
๒๖๗-๙. กพฬิกาติ อุปนาหเภสชฺชํ. ฆรทินฺนกาพาโธ นาม ฆรณิยา ทินฺนวสีกรณเภสชฺชสมุฏฺิตอาพาโธ. ตาย ฉาริกาย ปคฺฆริตํ ขาโรทกนฺติ ปริสฺสาวเน ตจฺฉาริกํ ปกฺขิปิตฺวา อุทเก อภิสิฺจิเต ตโต ฉาริกโต เหฏฺา ปคฺฆริตํ ขาโรทกํ. ปาฬิยํ อกฏยูเสนาติ อนภิสงฺขเตน มุคฺคยูเสน. กฏากเฏนาติ มุคฺเค ปจิตฺวา อจาเลตฺวา ปริสฺสาวิเตน มุคฺคยูเสนาติ วทนฺติ.
ปฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา
๒๗๒-๔. คุฬกรณนฺติ ¶ ¶ อุจฺฉุสาลํ. อวิสฺสตฺถาติ สาสงฺกา.
๒๗๖. อปฺปมตฺตเกปิ วาเรนฺตีติ อปฺปมตฺตเก ทินฺเน ทายกานํ ปีฬาติ ปฏิกฺขิปนฺติ. ปฏิสงฺขาปีติ เอตฺตเกนปิ ยาเปตุํ สกฺกา, ‘‘อวเสสํ อฺเสํ โหตู’’ติ สลฺลกฺเขตฺวาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ.
๒๗๙. วตฺถิปีฬนนฺติ ยถา วตฺถิคตเตลาทิ อนฺโตสรีเร อาโรหนฺติ, เอวํ หตฺเถน วตฺถิมทฺทนํ. สมฺพาเธ สตฺถกมฺมวตฺถิกมฺมานเมว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ทหนกมฺมํ วฏฺฏติ เอว.
คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา
๒๘๒-๓. ปาฬิยํ ทสสฺส านานีติ อสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส ทส านานิ การณานิ ธมฺเมนาติ อตฺโถ. อนุปฺปเวจฺฉตีติ เทติ. วาตฺจ พฺยปเนตีติ สมฺพนฺโธ, วาตฺจ อนุโลเมตีติ อตฺโถ. สคฺคา เต อารทฺธาติ ตยา เทวโลกา อาราธิตา.
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา
๒๘๖. ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตีติ ปาฏลิคามสฺส สมีเป ตสฺเสว คามเขตฺตภูเต มหนฺเต อรฺปฺปเทเส ปาฏลิปุตฺตํ นาม นครํ มาเปนฺติ. ยาวตา อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ยตฺตกํ วาณิชานํ ภณฺฑวิกฺกีณนฏฺานํ, วสนฏฺานํ วา, อิทํ เตสํ สพฺเพสํ อคฺคนครํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ปุฏเภทนนฺติ สกฏาทีหิ นานาเทสโต อาหฏานํ ภณฺฑปุฏานํ วิกฺกีณนตฺถาย โมจนฏฺานํ. สรนฺติ ตฬากาทีสุปิ วตฺตติ ¶ , ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ¶ ‘‘สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ สรติ สนฺทตีติ กตฺวา. วินา เอว กุลฺเลน ติณฺณาติ อิทํ อปฺปมตฺตกอุทกมฺปิ อผุสิตฺวา วินา กุลฺเลน ปารปฺปตฺตา.
ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โกฏิคาเมสจฺจกถาวณฺณนา
๒๘๗. ปาฬิยํ สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน สนฺธาวนํ กตํ. สํสริตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ, สามิวเสเนว วา มม จ ตุมฺหากฺจ สนฺธาวนํ อโหสีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. สํสริตนฺติ สํสริ. ภวตณฺหา เอว ภวโต ภวํ เนตีติ ภวเนตฺตีติ วุตฺตา.
๒๘๙. ‘‘นีลา โหนฺตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘นีลวณฺณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นีลวณฺณาติ นีลวิเลปนา. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปฏิวฏฺเฏสีติ ปหริ. อมฺพกายาติ อมฺพาย. อุปจารวจนฺเหตํ, มาตุคาเมนาติ อตฺโถ. อุปสํหรถาติ อุปเนถ, ‘‘อีทิสา ตาวตึสา’’ติ ปริกปฺเปถาติ อตฺโถ. อิทฺจ ภิกฺขูนํ สํเวคชนนตฺถํ วุตฺตํ, น นิมิตฺตคฺคาหตฺถํ. ลิจฺฉวิราชาโน หิ สพฺเพ น จิรสฺเสว อชาตสตฺตุนา วินาสํ ปาปุณิสฺสนฺติ.
โกฏิคาเมสจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา
๒๙๐. สนฺธาคาเรติ ราชกิจฺจสฺส สนฺธารณตฺถาย นิจฺฉิทฺทํ กตฺวา วิจารณตฺถาย กตมหาสภาย. คมิกาภิสงฺขาโรติ คมเน วายาโม. ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมนฺติ ตุมฺเหหิ วุตฺตสฺส การณสฺส อนุการณํ, ตุมฺเหหิ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส อนุรูปเมวาติ อธิปฺปาโย. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา ¶ อิโต ปรํ ตสฺส อนุวาโท วา. โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ คารยฺหํ านํ น อาคจฺฉตีติ กึ ตว วาเท คารยฺหการณํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๓. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตาการํ. รตนตฺตยสฺส สรณคมนาทิกิริยํ กโรติ. สหสา ¶ กตฺวา มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสีติ อตฺโถ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ธชปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อีทิโส อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ.
๒๙๔. นิมิตฺตกมฺมสฺสาติ มํสขาทนนิมิตฺเตน อุปฺปนฺนปาณาติปาตกมฺมสฺส.
สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา
๒๙๕. อนุปฺปเค เอวาติ ปาโตว. โอรวสทฺทนฺติ มหาสทฺทํ. ตํ ปน อวตฺวาปีติ ปิ-สทฺเทน ตถาวจนมฺปิ อนุชานาติ. อฏฺกถาสูติ อนฺธกฏฺกถาวิรหิตาสุ เสสฏฺกถาสุ. สาธารณลกฺขณนฺติ อนฺธกฏฺกถาย สห สพฺพฏฺกถานํ สมานํ.
จยนฺติ อธิฏฺานอุจฺจวตฺถุํ. ยโต ปฏฺายาติ ยโต อิฏฺกาทิโต ปฏฺาย, ยํ อาทึ กตฺวา ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามาติ อตฺโถ. ‘‘ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺตี’’ติ เอเตน อิฏฺกปาสาณา เหฏฺา ปติฏฺาปิตาปิ ยทิ จยโต, ภูมิโต วา เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ อุคฺคตา ติฏฺนฺติ, วฏฺฏนฺตีติ สิทฺธํ โหติ.
อาราโมติ อุปจารสีมาปริจฺฉินฺโน สกโล วิหาโร. เสนาสนานีติ วิหารสฺส อนฺโต ติณกุฏิอาทิกานิ สงฺฆสฺส นิวาสเคหานิ. วิหารโคนิสาทิกา นามาติ เสนาสนโคนิสาทิกา. เสนาสนานิ หิ สยํ ปริกฺขิตฺตานิปิ อารามปริกฺเขปาภาเวน ‘‘โคนิสาทิกานี’’ติ วุตฺตานิ. ‘‘อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปี’’ติ อิมินา ตโต อูนปริกฺขิตฺโต เยภุยฺเยน อปริกฺขิตฺโต นาม, ตสฺมา อปริกฺขิตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เอตฺถาติ อุปฑฺฒาทิปริกฺขิตฺเต. กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ โคนิสาทิยา ¶ อภาเวน เสสกปฺปิยกุฏีสุ ตีสุ ยา กาจิ กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพาติ อตฺโถ.
เตสํ เคหานีติ เอตฺถ ภิกฺขูนํ วาสตฺถาย กตมฺปิ ยาว น เทนฺติ, ตาว เตสํ สนฺตกํเยว ภวิสฺสตีติ ทฏฺพฺพํ. วิหารํ เปตฺวาติ อุปสมฺปนฺนานํ วาสตฺถาย กตเคหํ เปตฺวาติ อตฺโถ. เคหนฺติ นิวาสเคหํ, ตทฺํ ปน อุโปสถาคาราทิ สพฺพํ อนิวาสเคหํ จตุกปฺปิยภูมิวิมุตฺตา ปฺจมี กปฺปิยภูมิ. สงฺฆสนฺตเกปิ หิ เอตาทิเส เคเห สุฏฺุ ปริกฺขิตฺตารามตฺเตปิ ¶ อพฺโภกาเส วิย อนฺโตวุตฺถาทิโทโส นตฺถิ. เยน เกนจิ ฉนฺเน, ปริจฺฉนฺเน จ สหเสยฺยปฺปโหนเก ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิวาสเคเห อนฺโตวุตฺถาทิโทโส, น อฺตฺถ. เตนาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา’’ติ อิทํ กิฺจาปิ ภิกฺขุนีนํ สามฺโต วุตฺตํ, ภิกฺขูนํ ปน สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ ภิกฺขุนีนํ, ตาสํ สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ ภิกฺขูนํ คิหิสนฺตกฏฺาเน ติฏฺตีติ เวทิตพฺพํ.
มุขสนฺนิธีติ อนฺโตสนฺนิหิตโทโส หิ มุขปฺปเวสนนิมิตฺตํ อาปตฺตึ กโรติ, นาฺถา. ตสฺมา ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ วุตฺโต.
ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺตีติ อุปฑฺฒโต อธิกํ ขณฺฑา โหนฺติ. สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเติ ติณปณฺณาทิวสฺสปริตฺตายเก ฉทเน วินฏฺเ. โคปานสีนํ ปน อุปริ วลฺลีหิ พทฺธทณฺเฑสุ ิเตสุปิ ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ เอว. ปกฺขปาสกมณฺฑลนฺติ เอกสฺมึ ปสฺเส ติณฺณํ โคปานสีนํ อุปริ ิตติณปณฺณาทิจฺฉทนํ วุจฺจติ.
อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺสาติอาทินา อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถมฺปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺเน กปฺปิยํ โหติ, สาเปกฺขทานฺเจตฺถ วฏฺฏติ, ปฏิคฺคหณํ วิย น โหตีติ ทสฺเสติ.
๒๙๙. ปาฬิยํ กนฺตาเร สมฺภาเวสีติ อปฺปภกฺขกนฺตาเร สมฺปาปุณิ.
กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๐๐. ชฏิโลติ ¶ อาหริมชฏาธโร ตาปสเวสธารโก ยฺยุตฺโต โลกปูชิโต พฺราหฺมโณ. ปวตฺตาโร ปาวจนวเสน วตฺตาโร. เยสํ สนฺตกมิทํ, เยหิ วา อิทํ คีตนฺติ อตฺโถ. คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตนฺติ อฺมฺสฺส ปริยายวจนํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ. เอวํ เสเสสุ จ.
ยาวกาลิกปกฺกานนฺติ ปกฺเก สนฺธาย วุตฺตํ, อามานิ ปน อนุปสมฺปนฺเนหิ สีตุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ทินฺนปานํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ กปฺปติ เอว. อยฺจ อตฺโถ มหาอฏฺกถายํ สรูปโต ¶ อวุตฺโตติ อาห ‘‘กุรุนฺทิยํ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อุจฺฉุรโส นิกสโฏ’’ติ อิทํ ปาตพฺพสามฺเน ยามกาลิกกถายํ วุตฺตํ, ตํ ปน สตฺตาหกาลิกเมวาติ คเหตพฺพํ. อิเม จตฺตาโร รสาติ ผลปตฺตปุปฺผอุจฺฉุรสา จตฺตาโร.
ปาฬิยํ อคฺคิหุตฺตมุขาติ อคฺคิชุหนปุพฺพกา. ฉนฺทโสติ เวทสฺส. สาวิตฺตี มุขํ ปมํ สชฺฌายิตพฺพาติ อตฺโถ. ตปตนฺติ วิโชตนฺตานํ.
เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โรชมลฺลาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๐๑. พหุกโต พุทฺเธ วาติ พุทฺเธ กตพหุมาโนติ อตฺโถ. โส โข อหํ, ภนฺเต อานนฺท, าตีนํ ทณฺฑภยตชฺชิโต อโหสินฺติ เสโส. เอวฺหิ สติ ‘‘เอวาห’’นฺติ ปุน อหํ-คหณํ ยุชฺชติ. วิวรีติ ‘‘วิวรตู’’ติ จินฺตามตฺเตน วิวริ, น อุฏฺาย หตฺเถน.
๓๐๓. อฺตโรติ สุภทฺโท วุฑฺฒปพฺพชิโต. ทฺเว ทารกาติ สามเณรภูมิยํ ิตา ทฺเว ปุตฺตา. นาฬิยาวาปเกนาติ นาฬิยา เจว ถวิกาย จ. สํหรถ อิเมหิ ภาชเนหิ ตณฺฑุลาทีนิ สงฺกฑฺฒถาติ อตฺโถ. ภุสาคาเรติ ปลาลมเย อคาเร, ปลาลปฺุชํ อพฺภนฺตรโต ปลาลํ สงฺกฑฺฒิตฺวา อคารํ กตํ โหติ, ตตฺถาติ อตฺโถ.
โรชมลฺลาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา
๓๐๕. ปริมทฺทนฺตาติ ¶ อุปปริกฺขนฺตา. ทฺเว ปฏา เทสนาเมเนว วุตฺตาติ เตสํ สรูปทสฺสนปทเมตํ. นาฺนิวตฺตนปทํ ปตฺตุณฺณปฏสฺสาปิ เทสนาเมน วุตฺตตฺตา.
ตุมฺพาติ ภาชนานิ. ผลตุมฺโพ นาม ลาพุอาทิ. อุทกตุมฺโพ อุทกฆโฏ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ เวฬุวิลีเวหิ วายิตฺวา กตฉตฺตํ. สมฺภินฺนรสนฺติ มิสฺสีภูตรสํ.
จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เภสชฺชกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.