📜
๘. จีวรกฺขนฺธโก
ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา
๓๒๙. จีวรกฺขนฺธเก ¶ ¶ กมฺมวิปากนฺติ กมฺมปจฺจยอุตุจิตฺตาหารสมุฏฺิตํ อปฺปฏิพาหิยโรคํ สนฺธาย วุตฺตํ กมฺมชสฺส โรคสฺส อภาวา.
๓๓๐. ปาฬิยํ สํยมสฺสาติ สงฺคหณสฺส. อวิสชฺชนสฺสาติ อตฺโถ ‘‘โย สํยโม โส วินาโส’’ติอาทีสุ (เป. ว. ๒๓๗) วิย. เอตสฺส สํยมสฺส ผลํ อุปชานามาติ โยชนา. ตเมว ผลํ ทสฺเสนฺตี อาห ‘‘วรเมตํ…เป… อาสิตฺต’’นฺติ. เกจิ ปน ‘‘สํยมสฺสาติ อานิสํสสฺส, อุปโยคตฺเถ เจตํ สามิวจน’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๓๒๙-๓๓๐) อตฺถํ วทนฺติ.
๓๓๖. อุสฺสนฺนโทโสติ สฺชาตปิตฺตาทิโทโส. สพฺพตฺถาติ สกลสรีเร.
๓๓๗. มหาปิฏฺิยโกชวนฺติ หตฺถิปิฏฺิยํ อตฺถริตพฺพตาย ‘‘มหาปิฏฺิย’’นฺติ ลทฺธสมฺํ อุณฺณามยตฺถรณํ.
๓๓๘-๙. อุปฑฺฒกาสินํ ขมมานนฺติ อฑฺฒกาสิอคฺฆนกํ. ปาฬิยํ กึ นุ โขติ กตมํ นุ โข.
๓๔๐-๓๔๒. อุปจาเรติ สุสานสฺส อาสนฺเน ปเทเส. ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ กิฺจิ อวตฺวา เอว ฉฑฺเฑตฺวา คตา, เอเตน ‘‘ภิกฺขู คณฺหนฺตู’’ติ ฉฑฺฑิเต เอว อกามา ภาคทานํ วิหิตํ, เกวลํ ฉฑฺฑิเต ปน กติกาย อสติ เอกโต พหูสุ ปวิฏฺเสุ เยน คหิตํ, เตน อกามภาโค น ¶ ทาตพฺโพติ ทสฺเสติ. สมานา ทิสา ปุรตฺถิมาทิเภทา เอเตสนฺติ สทิสาติ อาห ‘‘เอกทิสาย วา โอกฺกมึสู’’ติ. ธุรวิหารฏฺาเนติ วิหารสฺส สมฺมุขฏฺาเน.
ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถาวณฺณนา
๓๔๓. วิหารมชฺเฌติ ¶ สพฺเพสํ ชานนตฺถาย วุตฺตํ. วณฺณาวณฺณํ กตฺวาติ ปฏิวีสปฺปโหนกตาชานนตฺถํ หลิทฺทิยาทีหิ ขุทฺทกมหนฺตวณฺเณหิ ยุตฺเต สเม โกฏฺาเส กตฺวา. เตนาห ‘‘สเม ปฏิวีเส เปตฺวา’’ติ. อิทนฺติ สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสทานํ. ผาติกมฺมนฺติ ปโหนกกมฺมํ. ยตฺตเกน วินยาคเตน สมฺมฺุชนีพนฺธนาทิหตฺถกมฺเมน วิหารสฺส อูนกตา น โหติ, ตตฺตกํ กตฺวาติ อตฺโถ. สพฺเพสนฺติ ตตฺรุปฺปาทวสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตานํ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ, สามเณรานฺจ. ภณฺฑาคาริกจีวเรปีติ อกาลจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตนฺติ อุกฺกุฏฺิยา กตาย สมภาคทานํ. วิรชฺฌิตฺวา กโรนฺตีติ กตฺตพฺพกาเลสุ อกตฺวา ยถารุจิตกฺขเณ กโรนฺติ.
เอตฺตเกน มม จีวรํ ปโหตีติ ทฺวาทสคฺฆนเกเนว มม จีวรํ ปริปุณฺณํ โหติ, น ตโต อูเนนาติ สพฺพํ คเหตุกาโมติ อตฺโถ.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จีวรรชนกถาทิวณฺณนา
๓๔๔. เอวฺหิ กเตติ วฏฺฏาธารสฺส อนฺโต รชโนทกํ, พหิ ฉลฺลิกฺจ กตฺวา วิโยชเน กเต. น อุตฺตรตีติ เกวลํ อุทกโต เผณุฏฺานาภาวา น อุตฺตรติ. รชนกุณฺฑนฺติ ปกฺกรชนฏฺปนกํ มหาฆฏํ.
๓๔๕. อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานนฺติ อายามโต, วิตฺถารโต จ อนุวาตํ. อาทิ-สทฺเทน ทฺวินฺนํ ขนฺธานํ อนฺตรา มาติกากาเรน ปิตปตฺตฺจ ‘‘ทีฆปตฺต’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. อาคนฺตุกปตฺตนฺติ ทิคุณจีวรสฺส อุปริ อฺํ ปฏฺฏํ อปฺเปนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํ กิร อิทานิ น กโรนฺติ.
๓๔๖. ปาฬิยํ ¶ นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺิมุขิยา, ปสนฺนทิสามุขายาติ อตฺโถ.
๓๔๘. อจฺฉุเปยฺยนฺติ ปติฏฺเปยฺยํ. หตวตฺถกานนฺติ ปุราณวตฺถานํ. อนุทฺธริตฺวาวาติ อคฺคเฬ วิย ทุพฺพลฏฺานํ อนปเนตฺวาว.
๓๔๙-๓๕๑. วิสาขวตฺถุมฺหิ ¶ กลฺลกายาติ อกิลนฺตกายา. คตีติ าณคติ อธิคโม. อภิสมฺปราโยติ ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๔๘) วุตฺโต าณาภิสมฺปราโย, มคฺคาณยุตฺเตหิ คนฺตพฺพคติวิเสโสติ อตฺโถ. ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ. ‘‘ททาติ ทาน’’นฺติ อิทํ อนฺนปานวิรหิตานํ เสสปจฺจยานํ ทานวเสน วุตฺตํ. โสวคฺคิกนฺติ สคฺคสํวตฺตนิกํ.
๓๕๙. อฏฺปทกจฺฉนฺเนนาติ อฏฺปทกสงฺขาตชูตผลกเลขาสณฺาเนน.
๓๖๒. ปาฬิยํ นทีปารํ คนฺตุนฺติ ภิกฺขุโน นทีปารคมนํ โหตีติ อตฺโถ. อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณนฺติ อิเมหิ จตูหิ นิกฺเขปการเณหิ เปนฺเตนปิ อคฺคฬคุตฺติวิหาเร เอว เปตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. นิสฺสีมาคตนฺติ วสฺสานสงฺขาตํ กาลสีมํ อติกฺกนฺตํ, ตํ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ น โหตีติ อตฺโถ.
จีวรรชนกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา
๓๖๓. ปฺจ มาเสติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโตติ วสฺสาวาสิกสฺสตฺถาย ทายเกหิ วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโต. ‘‘อิธ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ อิทํ อภิลาปมตฺตํ. อิธ-สทฺทํ ปน วินา ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วุตฺเตปิ โส เอว นโย. อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตีติ วสฺสาวาสิกลาภวเสน อุปฺปนฺนตฺตา อนตฺถตกถินสฺสาปิ วุตฺถวสฺสสฺส ปฺจ มาเส ปาปุณาติ. วกฺขติ หิ ‘‘จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). ตโต ปรนฺติ ปฺจมาสโต ปรํ, คิมฺหานสฺส ปมทิวสโต ปฏฺายาติ ¶ อตฺโถ. ‘‘กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ‘‘อุทาหุ อนาคตวสฺเส’’ติ ¶ อิมสฺสานนฺตรํ ทฏฺพฺพํ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘กสฺมา ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปี’’ติ วตฺตพฺพโต. วุตฺถวสฺเส หิ สนฺธาย ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปี’’ติ วุตฺตํ, น จ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ วุตฺถวสฺสสฺเสว ปาปุณาตีติ สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาปุณนโต. เตเนว วกฺขติ ‘‘สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๗๙).
ทุคฺคหิตานีติ อคฺคหิตานิ. สงฺฆิกาเนวาติ อตฺโถ. อิโตวาติ เถรานํ ทาตพฺพโตว, อิทาเนวาติ วา อตฺโถ.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๖๔. ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺาเปตี’’ติ อิทํ นานาสีมาวิหาเรสุ กตฺตพฺพนเยน เอกสฺมิมฺปิ วิหาเร ทฺวีสุ เสนาสเนสุ นิวุตฺถภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อรุณุฏฺาปเนเนว ตตฺถ วุตฺโถ โหติ, น ปน วสฺสจฺเฉทปริหาราย. อนฺโตอุปจารสีมายปิ ยตฺถ กตฺถจิ อรุณํ อุฏฺาเปนฺโต อตฺตนา คหิตเสนาสนํ อปฺปวิฏฺโปิ วุตฺถวสฺโส เอว โหติ, คหิตเสนาสเน ปน นิวุตฺโถ นาม น โหติ, ตตฺถ จ อรุณุฏฺาปเน ปน สติ โหติ. เตนาห ‘‘ปุริมสฺมึ พหุตรํ นิวสติ นามา’’ติ, เอเตน จ อิตรสฺมึ สตฺตาหวาเรนาปิ อรุณุฏฺาปเน สติ เอว อปฺปกตรํ นิวสติ นาม โหติ, นาสตีติ ทีปิตํ โหติ. นานาลาเภหีติ วิสุํ วิสุํ นิพทฺธวสฺสาวาสิกลาเภหิ. นานูปจาเรหีติ นานาปริกฺเขปนานาทฺวาเรหิ. เอกสีมาวิหาเรหีติ ทฺวินฺนํ วิหารานํ เอเกน ปากาเรน ปริกฺขิตฺตตฺตา เอกาย อุปจารสีมาย อนฺโตคเตหิ ทฺวีหิ วิหาเรหิ. เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ปมํ คหิโต ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ตตฺถาติ ยตฺถ เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, ตตฺถ.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๖๕-๖. ภูมิยํ ¶ ¶ ปริภณฺฑํ อกาสีติ คิลาเนน นิปนฺนภูมิยํ กิลิฏฺฏฺานํ โธวิตฺวา หริตูปลิตฺตํ กาเรสีติ อตฺโถ. เภสชฺชํ โยเชตุํ อสมตฺโถติ ปเรหิ วุตฺตวิธิมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ. ปาฬิยํ คิลานุปฏฺากานํ จีวรทาเน สามเณรานํ ติจีวราธิฏฺานาภาวา ‘‘จีวรฺจ ปตฺตฺจา’’ติอาทิ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. สเจปิ สหสฺสํ อคฺฆติ, คิลานุปฏฺากานฺเว ทาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.
คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มตสนฺตกกถาทิวณฺณนา
๓๖๙. อฺนฺติ จีวรปตฺตโต อฺํ. อปฺปคฺฆนฺติ อติชิณฺณาทิภาเวน นิหีนํ. ตโตติ อวเสสปริกฺขารโต. สพฺพนฺติ ปตฺตํ, ติจีวรฺจ.
ตตฺถ ตตฺถ สงฺฆสฺเสวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺเสว. ปาฬิยํ อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิกนฺติ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ หุตฺวา กสฺสจิ อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิกํ ภวิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๓๗๑-๒. อกฺกนาฬมยนฺติ อกฺกทณฺฑมยํ. อกฺกทุสฺสานีติ อกฺกวาเกน กตทุสฺสานิ, โปตฺถกคติกานิ ทุกฺกฏวตฺถุกานีติ อตฺโถ. ทุปฏฺฏจีวรสฺส วา มชฺเฌติ ยํ นิฏฺิเต ติปฏฺฏจีวรํ โหติ, ตสฺส มชฺเฌ ปฏลํ กตฺวา ทาตพฺพานีติ อตฺโถ.
๓๗๔. ‘‘สนฺเต ปติรูเป คาหเก’’ติ วุตฺตตฺตา คาหเก อสติ อทตฺวา ภาชิเตปิ สุภาชิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗๖. ทกฺขิโณทกํ ปมาณนฺติ ‘‘เอตฺตกานิ จีวรานิ ทสฺสามี’’ติ ปมํ อุทกํ ปาเตตฺวา ปจฺฉา เทนฺติ. ตํ เยหิ คหิตํ, เต ภาคิโนว โหนฺตีติ ¶ อธิปฺปาโย. ปรสมุทฺเทติ ชมฺพุทีเป. ตมฺพปณฺณิทีปฺหิ อุปาทาเยส เอวํ วุตฺโต.
มตสนฺตกกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา
๓๗๙. ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘สีมาย ทาน’’นฺติอาทินา วตฺตพฺเพ ‘‘สีมาย เทตี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตํ. ‘‘อปิจา’’ติอาทินา ปมเลฑฺฑุปาตภูตปริกฺเขปารหฏฺานโต พหิ ทุติยเลฑฺฑุปาโตปิ อุปจารสีมา เอวาติ ทสฺเสติ. ธุวสนฺนิปาตฏฺานาทิกมฺปิ ปริยนฺเต ิตเมว คเหตพฺพํ. โลเก คามสีมาทโย วิย ลาภสีมา นาม วิสุํ ปสิทฺธา นาม นตฺถิ, เกนายํ อนฺุาตาติ อาห ‘‘เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติอาทิ. เอเตน นายํ สาสนโวหารสิทฺธา, โลกโวหารสิทฺธา เอวาติ ทสฺเสติ. ‘‘ชนปทปริจฺเฉโท’’ติ อิทํ โลกปสิทฺธสีมาสทฺทตฺถวเสน วุตฺตํ. ปริจฺเฉทพฺภนฺตรํ ปน สพฺพํ ชนปทสีมาติ คเหตพฺพํ, ชนปโท เอว ชนปทสีมา. เอวํ รฏฺสีมาทีสุปิ. เตนาห ‘‘อาณาปวตฺติฏฺาน’’นฺติอาทิ.
ปถวีเวมชฺเฌ คตสฺสาติ ยาว อุทกปริยนฺตา ขณฺฑสีมตฺตา วุตฺตํ, อุปจารสีมาทีสุ ปน อพทฺธสีมาสุ เหฏฺาปถวิยํ สพฺพตฺถ ิตานํ น ปาปุณาติ, กูปาทิปเวสารหฏฺาเน ิตานฺเว ปาปุณาตีติ เหฏฺา สีมากถายํ วุตฺตนเยน ตํตํสีมฏฺภาโว เวทิตพฺโพ. จกฺกวาฬสีมาย ปน ทินฺนํ ปถวีสนฺธารกอุทกฏฺาเนปิ ิตานํ ปาปุณาติ สพฺพตฺถ จกฺกวาฬโวหารตฺตา.
พุทฺธาธิวุตฺโถติ พุทฺเธน ภควตา นิวุตฺโถ. ปากวฏฺฏนฺติ นิพทฺธทานํ. วตฺตตีติ ปวตฺตติ. เตหีติ เยสํ สมฺมุเข เอส เทติ, เตหิ ภิกฺขูหิ. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเหติ ยาว สงฺฆนวกา เอกวารํ สพฺเพสํ ภาคํ ทตฺวา จีวเร อปริกฺขีเณ ปุน สพฺเพสํ ทาตุํ ทุติยภาเค เถรสฺส ทินฺเนติ อตฺโถ. ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ตุยฺหํ เทมา’’ติ อวุตฺตตฺตาติ การณํ วทนฺติ. ยทิ เอวํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วุตฺเตปิ ¶ วฏฺเฏยฺย, ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทม, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วจนโต เภโท น ทิสฺสติ. วีมํสิตพฺพเมตฺถ การณํ.
ปารุปิตุํ วฏฺฏตีติ ปํสุกูลิกานํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมีติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพนฺติ เอตฺถ ยสฺมา ภิกฺขุนิปกฺเข สงฺฆสฺส ปจฺเจกํ อปรามฏฺตฺตา ภิกฺขุนีนํ คณนาย ภาโค ทาตพฺโพติ ทายกสฺส อธิปฺปาโยติ สิชฺฌติ, ตถา ทานฺจ ภิกฺขูปิ คเณตฺวา ทินฺเน เอว ยุชฺชติ. อิตรถา หิ กิตฺตกํ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพํ, กิตฺตกํ ภิกฺขุนีนนฺติ น วิฺายติ, ตสฺมา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตวจนมฺปิ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วุตฺตวจนสทิสเมวาติ อาห ‘‘ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ. เตนาห ‘‘ปุคฺคโล ¶ …เป… ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน อคฺคหิตตฺตา’’ติ. ภิกฺขุสงฺฆ-สทฺเทน ภิกฺขูนฺเว คหิตตฺตา, ปุคฺคลสฺส ปน ‘‘ตุยฺหฺจา’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา จ ตตฺถสฺส อคฺคหิตตา ทฏฺพฺพา, ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺตฏฺานสทิสตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปุคฺคลปฺปธาโน เหตฺถ สงฺฆ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. เกจิ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๓๗๙) ปาํ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตสฺส วิสุํ ลาภคฺคหเณ การณวจนตฺตา. ตถา หิ วิสุํ สงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตาติ วิสุํ ปุคฺคลสฺสปิ ภาคคฺคหเณ การณํ วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ ปุคฺคลสฺส อคฺคหณํ, เอวํ อุปริ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติอาทีสุปิ สงฺฆาทิ-สทฺเทหิ ปุคฺคลสฺส อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ยทิ หิ คหณํ สิยา, สงฺฆโตปิ, วิสุมฺปีติ ภาคทฺวยํ ลเภยฺย อุภยตฺถ คหิตตฺตา.
ปูเชตพฺพนฺติอาทิ คิหิกมฺมํ น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส หรา’’ติ อิทํ ปิณฺฑปาตหรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อนฺโตเหมนฺเต’’ติ อิมินา อนตฺถเต กถิเน วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส ทินฺนํ ปุริมวสฺสํวุตฺถานฺเว ปาปุณาติ, ตโต ปรํ เหมนฺเต ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ วุตฺถวสฺสตฺตา ปาปุณาติ. เหมนฺตโต ปน ปรํ ปิฏฺิสมเย ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนํ อนนฺตเร วสฺเส วา ตโต ปเรสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ ตสฺมึ วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน สพฺพถา อวุตฺถวสฺสา, เตสํ น ปาปุณาตีติ ทสฺเสติ. สพฺเพสมฺปีติ หิ ตสฺมึ ภิกฺขุภาเว วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสมฺปีติ อตฺโถ ¶ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อตีตวสฺสนฺติ อนนฺตราตีตวสฺสํ.
อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโตติ อุทฺเทเส อคฺคหิเตปิ อนฺเตวาสิโกวาติ วุตฺตํ. คเหตฺวา คจฺฉนฺโตติ ปรินิฏฺิตอุทฺเทโส หุตฺวา คจฺฉนฺโต. ‘‘วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตาน’’นฺติ อิทํ ‘‘อุทฺเทสนฺเตวาสิกาน’’นฺติ อิมสฺเสว วิเสสนํ, เตน อุทฺเทสกาเล อาคนฺตฺวา อุทฺเทสํ คเหตฺวา คนฺตฺวา อฺตฺถ นิวสนฺเต อนิพทฺธจาริเก นิวตฺเตติ.
อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จีวรกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.