📜
๑. กมฺมกฺขนฺธโก
ตชฺชนียกมฺมกถาวณฺณนา
๑. จูฬวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม กมฺมกฺขนฺธเก ตาว ‘‘พลวาพลว’’นฺติ อิทํ เอกปทํ. ‘‘พลวพลว’’นฺติ วตฺตพฺเพ อาการํ กตฺวา ‘‘พลวาพลว’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺจ ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติอาทีสุ วิย อติสยตฺเถ วตฺตตีติ อาห ‘‘สุฏฺุ พลวํ ปฏิวทถา’’ติ, อติ วิย พลวํ กตฺวา ปฏิวจนํ เทถาติ อตฺโถ.
๒. ปาฬิยํ อาปตฺติ อาโรเปตพฺพาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘มา โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอโส อเชสี’’ติอาทิเก ภณฺฑนาทิชนเก วจเน ปฺตฺตา กาจิ อาปตฺติ นาม นตฺถิ มุสาเปสฺุาทีสุ เอตสฺส อปฺปวิฏฺตฺตา, ตถาปิ ภิกฺขูหิ วิสุํ, สงฺฆมชฺเฌ จ ‘‘มา, อาวุโส, ภิกฺขู ¶ อฺมฺํ ปโยเชตฺวา ภณฺฑนาทึ อกาสิ, เนทํ อปฺปิจฺฉตาทีนํ อตฺถาย วตฺตตี’’ติ เอวํ อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส ภิกฺขุโน อนาทริเยน อโนรมนปจฺจยา วา อฺวาทวิเหสาทิกรณปจฺจยา วา ยา อาปตฺติ โหติ, สา อาปตฺติ อาโรเปตพฺพา ทิฏฺิวิปนฺนสฺส วิยาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยสฺส ปน อิทํ วจนํ วินาว กายวาจาหิ อาปนฺนา ลหุกาปตฺติ อตฺถิ, ตสฺสปิ อาโรเปตพฺพาว. ยํ ปน กมฺมวาจาย ‘‘อตฺตนา ภณฺฑนการกา’’ติ อตฺตนา-สทฺทคฺคหณํ, ‘‘เยปิ จฺเ ภิกฺขู ภณฺฑนการกา…เป… เต อุปสงฺกมิตฺวา’’ติอาทิวจนฺจ, ตํ วตฺถุวเสน คหิตํ. โย ปน สยเมว ภณฺฑนการโก โหติ, อฺเ ปน ภณฺฑนการเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา โข ตุมฺเห’’ติอาทิวจนํ น วทติ, ตสฺสาเปตํ กมฺมํ กาตพฺพเมว. กโรนฺเตหิ จ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ¶ ภิกฺขุ ภณฺฑนการโก…เป… สงฺเฆ อธิกรณการโก. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺล’’นฺติอาทินาว กมฺมวาจา กาตพฺพา. โย จ อฺเปิ ภิกฺขู กลหาย สมาทเปติ, ตสฺสาปิ เอวเมว กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ อฺเสํ สมาทาปนสฺสปิ ภณฺฑนการกตฺเต เอว ปวิสนโต. อฺเสํ สมาทาปนาการมฺปิ วตฺวาว, กมฺมวาจํ กาตุกาเมนปิ จ เตหิ วุตฺตวจนตฺถเมว คเหตฺวา ตทนุคุณํ โยเชตฺวาว กาตพฺพํ, น อิธาคตวเสเนว สพฺเพสมฺปิ อิธาคตวเสเนว วจนาสมฺภวา. ภูเตน วตฺถุนา กตเมว หิ อวิปนฺนํ โหติ, นาฺนฺติ คเหตพฺพํ. เอส นโย นิยสฺสกมฺมาทีสุปิ.
ตชฺชนียกมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถาทิวณฺณนา
๔. อปฺปฏิฺาย กตนฺติ วตฺถุํ วา อาปตฺตึ วา อสมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา กตํ. โย ปน สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานํ เอว วตฺถุวีติกฺกมํ กตฺวา ปจฺฉา กมฺมกรณภเยน ‘‘น กโรมี’’ติ มุสา วทติ, ตสฺส ภิกฺขูนํ สมฺมุเข วีติกฺกมกรณเมว ปฏิฺา. ตถโต ชานนตฺถเมว ปฏิฺาย กรณํ อนฺุาตํ. ยตฺถ ปน สนฺเทโห โหติ, ตตฺถ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวาว กตฺตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ.
‘‘ปาราชิกาปตฺติยา วา’’ติ อิทํ ลิงฺคนาสนนิมิตฺตตาย ปาราชิกสฺส กมฺเมน อติกิจฺฉนียโต วุตฺตํ. ‘‘สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา วา’’ติ อิทํ ปน ปริวาสาทินิสฺสารณกมฺมสฺส อาเวณิกสฺส ¶ วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ. ยํ ปน ปรโต ‘‘อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ…เป… ตชฺชนียกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ (จูฬว. ๖) วุตฺตํ, ตํ ‘‘อายตึ สํวเร ตฺวา วุฏฺานํ กโรหี’’ติ โอวทิยมานสฺส อนาทริยาทิปจฺจยลหุกาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. สีลวิปตฺติมูลกฺหิ ลหุกาปตฺตึ อาปนฺโน อิธ อเภทูปจาเรน ‘‘อธิสีเล สีลวิปนฺโน’’ติ วุตฺโต ‘‘อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน’’ติ เอตฺถ วิย.
ยถา จ ทิฏฺึ คเหตฺวา โวหรนฺตสฺส ‘‘อิโต ทิฏฺิโต โอรมาหี’’ติ อวตฺวา กตกมฺมํ เกวลาย ทิฏฺิวิปตฺติยา กตตฺตา อนาปตฺติยา กตํ นาม อธมฺมกมฺมํ โหติ, เอวํ สีลวิปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ลชฺชิธมฺเม ¶ โอกฺกนฺเต ยถาธมฺมํ วุฏฺาย สํวเร าตุกามสฺส กตํ ตชฺชนียาทิกมฺมํ เกวลาย สีลวิปตฺติยา กตตฺตา อเทสนาคามินิยา กตํ นาม อธมฺมกมฺมํ โหติ. เตเนว นิยสฺสกมฺเมปิ ‘‘อปิสฺสุ ภิกฺขู ปกตา ปริวาสํ เทนฺตา’’ติอาทินา สํวเร อฏฺานเมว กมฺมนิมิตฺตภาเวน วุตฺตํ. อทนฺตํ ทมนตฺถเมว หิ ตชฺชนียาทิกมฺมานิ อนฺุาตานีติ. เกจิ ปน ‘‘อเทสนาคามินิยาติ อิทํ ปาราชิกาปตฺตึเยว สนฺธาย วุตฺตํ, น สงฺฆาทิเสส’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๔) วทนฺติ, ตํ สุกฺกปกฺเข ‘‘เทสนาคามินิยา อาปตฺติยา กตํ โหตี’’ติ อิมินา วจเนน วิรุชฺฌติ. สงฺฆาทิเสสสฺสาปิ จ ปริยายโต เทสนาคามินิโวหาเร คยฺหมาเน ‘‘อาปตฺติยา กตํ โหตี’’ติ วุตฺตวารโต อิมสฺส วารสฺส วิเสโส น สิยา, อฏฺกถายมฺเปตฺถ วิเสสภาโว น ทสฺสิโต. ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
๖. สพฺพานิปีติ ตชฺชนียนิยสฺสปพฺพาชนียกมฺมานิ ตีณิปิ. อฺกมฺมสฺส วตฺถุนาติ ตชฺชนียโต อฺสฺส กมฺมสฺส วตฺถุนา อฺกมฺมกรณํ นาม โกจิ โทโสปิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. การณมาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทินา.
อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิยสฺสกมฺมกถาทิวณฺณนา
๑๑. นิยสฺสกมฺเม ปาฬิยํ อปิสฺสูติ อปิจาติ อิมสฺมึ อตฺเถ นิปาตสมุทาโย. นิสฺสาย ¶ เต วตฺถพฺพนฺติ เอตฺถ เกจิ กลฺยาณมิตฺตายตฺตวุตฺติตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ, อฺเ ปน นิสฺสยคฺคหณเมวาติ, อุภเยนปิสฺส เสริวิหาโร น วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๒๑. ปพฺพาชนียกมฺเม ‘‘ปพฺพาชนียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตู’’ติ อิทํ ปกฺกมนาทึ อกตฺวา สมฺมาวตฺตนฺตานํ วเสน วุตฺตํ.
๓๓. ปฏิสารณียกมฺเม ¶ เนว ภิกฺขุวจนํ, น คิหิวจนนฺติ เอตฺถ ปริยายโตปิ ภิกฺขู ปรขุํสนํ น วทนฺติ, คหฏฺา ปน สรูเปเนว อกฺโกสิตุํ สมตฺถาปิ อุปการีสุ อการณํ เอวรูปํ น วทนฺติ, ตฺวํ คิหิคุณโตปิ ปริหีโนติ อธิปฺปาโย.
๓๙. ‘‘องฺคสมนฺนาคโม ปุริเมหิ อสทิโส’’ติ อิมินา ตชฺชนียาทีนํ วุตฺตการณมตฺเตน อิทํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อิธ วุตฺเตน ปน คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกนาทินา องฺเคน ตานิปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘สทฺธํ ปสนฺนํ ทายกํ การกํ สงฺฆุปฏฺากํ หีเนน ขุํเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ตาทิเสสุ คิหีสุ ขุํสนาทีหิ คิหิปฏิสํยุตฺเตหิ เอว องฺเคหิ กมฺมารหตา, น อารามิกเจฏกาทีสุ ขุํสนาทีหิ. ตตฺถาปิ ทายกาทีสุ ขมาปิเตสุ กมฺมารหตา นตฺถิ, อาปตฺติ จ ยตฺถ กตฺถจิ เทเสตุํ วฏฺฏติ. โย เจ ติกฺขตฺตุํ ขมาปิยมาโนปิ น ขมติ, อกตกมฺเมนปิ ทสฺสนูปจาเร อาปตฺติ เทเสตพฺพา. โส เจ กาลกโต โหติ, เทสนฺตรํ วา คโต, คตทิสา น ายติ, อนฺตรามคฺเค วา ชีวิตนฺตราโย โหติ, กตกมฺเมนปิ อกตกมฺเมนปิ สงฺฆมชฺเฌ ยถาภูตํ วิฺาเปตฺวา ขมาเปตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาติ วทนฺติ. ธมฺมิกปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน ปน เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มยา อสมเวกฺขิตฺวา ปฏิสฺสวํ กตฺวา โส น สจฺจาปิโต, ตํ เม ขมถา’’ติอาทินา ขมาปเน วจนกฺกโม าเปตพฺโพ.
๔๑. ปาฬิยํ มงฺกุภูโต นาสกฺขิ จิตฺตํ คหปตึ ขมาเปตุนฺติ ตึสโยชนมคฺคํ ปุน คนฺตฺวาปิ มานถทฺธตาย ยถาภูตํ โทสํ อาวิกตฺวา อขมาปเนน ‘‘นาหํ ขมามี’’ติ เตน ปฏิกฺขิตฺโต มงฺกุภูโต ขมาเปตุํ น สกฺขิ, โส ปุนเทว สาวตฺถึ ปจฺจาคนฺตฺวาปิ มานนิคฺคหตฺถาเยว ปุนปิ สตฺถารา เปสิโต ปุริมนเยเนว ขมาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ปุนาคจฺฉิ. อถสฺส ภควา ‘‘อสนฺตํ ภาวนมิจฺเฉยฺยา’’ติอาทินาว (ธ. ป. ๗๓) ธมฺมํ เทเสตฺวา มานนิมฺมถนํ กตฺวา อนุทูตทานํ อนฺุาสีติ ทฏฺพฺพํ.
๔๒. ‘‘โน ¶ เจ ขมติ…เป… อาปตฺตึ เทสาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ปเคว คหฏฺโ ขมติ เจ, ทสฺสนูปจาเร อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ.
๔๖. อุกฺเขปนียกมฺเมสุ ¶ ตีสุ อริฏฺวตฺถุสฺมึ อาปตฺตึ อาโรเปตฺวาติ วิสุํ สงฺฆมชฺเฌว ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, สมนุภาสนปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ วา อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา. เอตฺถาปิ กมฺมวาจาย ‘‘ตถาหํ ภควตา’’ติอาทิ วตฺถุวเสน วุตฺตํ. เยน เยน ปกาเรน ทิฏฺิคติกา โวหรึสุ, เตน เตน ปกาเรน โยเชตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพา. คหณาการํ ปน วินาปิ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ปาปิกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, โส ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺล’’นฺติ เอวํ สามฺโตปิ กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๖๕. ‘‘ยํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ภณฺฑนาทีนิ กโรตี’’ติ อิมินา ทิฏฺึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนานิ เอว ภณฺฑนาทีนิ อิธ อธิปฺเปตานิ, น เกวลานีติ ทสฺเสติ. โย ปน ‘‘ภณฺฑนาทีนํ กรเณ โทโส นตฺถี’’ติ ทิฏฺิโก หุตฺวา ภณฺฑนาทึ กโรติ, สาปิสฺส ทิฏฺิ เอว โหติ, ตสฺสปิ อปฺปฏินิสฺสคฺเค กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
นิยสฺสกมฺมกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.