📜
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺโฑ
๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๔. เตรสกสฺสาติ ¶ ¶ เตรส สิกฺขาปทานิ ปริมาณานิ อสฺสาติ เตรสโก, กณฺโฑ, ตสฺส. สมเถ วิปสฺสนาย วา อภิรติรหิโต อิธ อนภิรโต, น ปพฺพชฺชายาติ อาห ‘‘วิกฺขิตฺตจิตฺโต’’ติ. วิกฺขิตฺตตาย การณมาห กามราคาอิจฺจาทิ.
๒๓๕. อพฺโพหาริกาติ สีลวิปตฺติโวหารํ นารหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อกุสลภาเว ปนสฺสา อพฺโพหารตา นตฺถิ.
๒๓๖-๗. เจตนา-สทฺทโต วิสุํ สํ-สทฺทสฺส อตฺถาภาวํ อิก-ปจฺจยสฺส จ อตฺถวนฺตตํ ทสฺเสตุํ สฺเจตนา วาติอาทิ ทุติยวิกปฺโป วุตฺโต. สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ อธิปฺเปตตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาสยเภทโตติ ปิตฺตเสมฺหปุพฺพโลหิตานํ จตุนฺนํ อาสยานํ เภเทน. ธาตุนานตฺตโตติ รสรุหิราทีนํ สตฺตนฺนํ, ปถวาทีนํ วา จตุนฺนํ ธาตูนํ นานตฺเตน. วตฺถิสีสนฺติ มุตฺตวตฺถิโต มตฺถกปสฺสํ. หตฺถิมทจลนํ นามฺจ สมฺภโวติ อาห ‘‘สมฺภโว นิกฺขมตี’’ติ. สมฺภวเวคนฺติ สมฺภวสฺส านโต จวิตฺวา ทกโสตาภิมุขํ โอตรเณน สฺชาตสรีรกฺโขภเวคํ. พาหุสีสนฺติ ขนฺธปฺปเทสํ. ทสฺเสสีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุตฺโถ, เตน ยสฺมา กณฺณจูฬิกาหิ สมฺภโว นิกฺขมติ…เป… สมฺภวฺจ ทสฺเสสิ, ตสฺมา ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิตนฺติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. ทกโสตนฺติ มุตฺตสฺส วตฺถิโต นิกฺขมนมคฺคํ, องฺคชาตปฺปเทสนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุกฺกฺจ นาเมตํ รสรุหิราทิสตฺตเทหธาตูสุ มชฺฌิมธาตุจตุชํ อฏฺิมิฺชาทิ วิย ปถวีธาตุสงฺคหิตํ อาหารูปชีวีนํ สกลกายคตํ อติทหรทารกานมฺปิ อตฺเถว, ตํ ปน ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสโต ปฏฺาย สตฺตานํ สมุปฺปชฺชนกกามราเคเหว านโต จลติ, จลิตฺจ อาโปธาตุภาเวน จิตฺตชเมว หุตฺวา ทกโสตํ โอตรติ, ทกโสตโต ปน ปฏฺาย ¶ จิตฺตปจฺจยอุตุชํ โหติ มตฺถลุงฺคโต จลิตสิงฺฆาณิกา วิย. เยสํ ปน สมุจฺเฉทนวิกฺขมฺภนาทีหิ ราคปริยุฏฺานํ นตฺถิ ¶ , เตสํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ น สิยา. อิติ ยถาานโต สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิเยว ราคจิตฺตสมุฏฺานา, น ปกติรูปํ, เตเนว กถาวตฺถุอฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๓๐๗) ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหตี’’ติ สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ เอว ราคสมุฏฺานา วุตฺตา, น ปกติรูปํ. ฉนฺนํ ปน กามาวจรเทวานํ วิชฺชมานาปิ สุกฺกธาตุ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติวเสน ปริยุฏฺิตราเคนาปิ านโต น คฬติ, ยถาาเน เอว ตฺวา กิฺจิ วิการํ อาปชฺชมานา ตงฺขณิกปริฬาหวูปสมาวหา เมถุนกิจฺจนิฏฺาปิตา โหตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘กายสมฺผสฺสสุขเมว เตสํ กามกิจฺจ’’นฺติ วทนฺติ. ขีณาสวานํ ปน อนาคามีนฺจ สพฺพโส กามราคาภาเวน สุกฺกธาตุวิการมฺปิ นาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. รูปีพฺรหฺมานํ ปน วิกฺขมฺภิตกามราเคน ชนิตตฺตา อนาหารูปชีวิตตฺตา จ สพฺพถา สุกฺกธาตุปิ นตฺเถว. ตเถวาติ โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโตติอาทึ อติทิสติ. ‘‘วิสฺสฏฺีติ านาจาวนา วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตตฺตา ‘‘ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทิ. เอตฺถาติ ตีสุปิ วาเทสุ. อธิวาเสตฺวาติ นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน โมจนสฺสาทํ วิโนเทตฺวา. อนฺตรา นิวาเรตุนฺติ อตฺตโน นิมิตฺเต กตูปกฺกเมน านา จุตํ ทกโสตํ โอตริตุํ อทตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ. โมจนสฺสาเทน หตฺถปริกมฺมาทึ กโรนฺตสฺส มุตฺเตปิ ทุกฺกฏเมว, นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต ปน สงฺฆาทิเสโส น โหตีติ อาห ‘‘หตฺถ…เป… อนาปตฺตี’’ติ. ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทินา วุตฺตวินิจฺฉยํ สนฺธาย ‘‘อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตํ.
โขภกรณปจฺจโย นาม วิสภาคเภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโย. นานาวิธํ สุปินนฺติ ขุภิตวาตาทิธาตูนํ อนุคุณํ. อนุภูตปุพฺพนฺติ ปุพฺเพ ภูตปุพฺพํ มนสา ปริกปฺปิตปุพฺพฺจ. สคฺคนรกเทสนฺตราทีนมฺปิ หิ สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ. อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วาติ อิทํ เทวตานํ หิตาหิตาธิปฺปายตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อตฺถาย วา อนตฺถาย วาติ สภาวโต ภวิตพฺพํ หิตาหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นนุ เทวตาหิ อุปสํหริยมานานิ อารมฺมณานิ ปรมตฺถโต นตฺถิ, กถํ ตานิ ปุริโส ปสฺสติ, เทวตา วา ตานิ อวิชฺชมานานิ อุปสํหรนฺตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ¶ อาห โส ตาสนฺติอาทิ. เตน ‘‘เอวเมโส ปริกปฺปตู’’ติ เทวตาหิ จินฺติตมตฺเตน สุปนฺตสฺส จิตฺตํ ภวงฺคสนฺตติโต นิปติตฺวา เทวตาหิ จินฺติตนิยาเมเนว ปริกปฺปมานํ ปวตฺตติ, เอวํ เตน ปริกปฺปมานานิ อารมฺมณานิ เทวตาหิ อุปสํหฏานิ นาม โหนฺติ, ตานิ จ โส เทวตานุภาเวน ปสฺสติ นามาติ ทสฺเสติ. โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตนฺติอาทีสุ ¶ โพธิสตฺตสฺส คพฺโภกฺกนฺติทิวเส มหามายาเทวิยา อตฺตโน ทกฺขิณปสฺเสน เอกสฺส เสตวรวารณสฺส อนฺโตกุจฺฉิปวิฏฺภาวทสฺสนํ ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ สุปินํ นาม. อมฺหากํ ปน โพธิสตฺตสฺส ‘‘สฺเว พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จาตุทฺทสิยํ ปกฺขสฺส รตฺติวิภายนกาเล หิมวนฺตํ พิพฺโพหนํ กตฺวา ปุรตฺถิมปจฺฉิมสมุทฺเทสุ วามทกฺขิณหตฺเถ ทกฺขิณสมุทฺเท ปาเท จ โอทหิตฺวา มหาปถวิยา สยนํ เอโก, ทพฺพติณสงฺขาตาย ติริยา นาม ติณชาติยา นงฺคลมตฺตรตฺตทณฺฑาย นาภิโต อุคฺคตาย ขเณน อเนกโยชนสหสฺสํ นภํ อาหจฺจ านํ เอโก, เสตานํ กณฺหสีสานํ กิมีนํ ปาเทหิ อุสฺสกฺกิตฺวา ยาว ชาณุมณฺฑลํ อาหจฺจ านํ เอโก, นานาวณฺณานํ จตุนฺนํ สกุณานํ จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา ปาทมูเล เสตวณฺณตาปชฺชนํ เอโก, โพธิสตฺตสฺส มหโต มีฬฺหปพฺพตสฺส อุปริ อลิมฺปมานสฺส จงฺกมนํ เอโกติ อิเม ปฺจ มหาสุปินา นาม, อิเม จ ยถากฺกมํ สมฺโพธิยา, เทวมนุสฺเสสุ อริยมคฺคปฺปกาสนสฺส, คิหีนฺจ สรณูปคมนสฺส, ขตฺติยาทิจตุวณฺณานํ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตปฏิลาภสฺส, จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาเภ อลิตฺตภาวสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. โสฬส สุปินา ปากฏา เอว. เอกนฺตสจฺจเมวาติ ผลนิยมุปฺปตฺติโต วุตฺตํ. ทสฺสนํ ปน สพฺพตฺถ วิปลฺลตฺถเมว. ธาตุกฺโขภาทีสุ จตูสุ มูลการเณสุ ทฺวีหิ ตีหิปิ การเณหิ กทาจิ สุปินํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘สํสคฺคเภทโต’’ติ. สุปินเภโทติ สจฺจาสจฺจตฺถตาเภโท.
รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณนฺติ เอตฺถ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตโต อฺรูปเมว วิฺาณสฺส นิมิตฺตนฺติ รูปนิมิตฺตํ, ตํ อาทิ เยสํ สตฺตนิมิตฺตาทีนํ ตานิ รูปนิมิตฺตาทีนิ อารมฺมณานิ ยสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ. อีทิสานีติ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณานิ ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จ. สพฺโพหาริกจิตฺเตนาติ ปฏิพุทฺธสฺส ปกติวีถิจิตฺเตน. โก นาม ปสฺสตีติ สุตฺตปฏิพุทฺธภาววิยุตฺตาย ¶ จิตฺตปฺปวตฺติยา อภาวโต สุปินํ ปสฺสนฺโต นาม น สิยาติ อธิปฺปาโย, เตนาห ‘‘สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตี’’ติ. กปิมิทฺธปเรโตติ อิมินา นิทฺทาวเสน ปวตฺตมานภวงฺคสนฺตติพฺยวหิตาย กุสลากุสลาย มโนทฺวารวีถิยา จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ, เตนาห ยา นิทฺทาติอาทิ. ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโตติ กุสลากุสลสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต. อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณติ สุปิเน ปฺจทฺวารวีถิยา อภาวโต มโนทฺวาเร อุปฺปชฺชนารหํ คเหตฺวา วุตฺตํ.
เอตฺถ จ สุปินนฺเตปิ ตทารมฺมณวจนโต อนุภูเตสุ สุตปุพฺเพสุ วา รูปาทีสุ ปุราปตฺติภาเวน ปริกปฺเปตฺวา วิปลฺลาสโต ปวตฺตมานาปิ กามาวจรวิปากธมฺมา ปริตฺตธมฺเม นิสฺสาย ปริกปฺเปตฺวา ปวตฺตตฺตา ปริตฺตารมฺมณา วุตฺตา, น ปน สรูปโต ปริตฺตธมฺเม คเหตฺวา ปวตฺตตฺตา ¶ เอวาติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ อิตฺถิปุริสาทิอาการํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตมานานํ ราคาทิสวิปากธมฺมานมฺปิ เตสํ อารมฺมณํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนานํ ปฏิสนฺธาทิวิปากานมฺปิ ปริตฺตารมฺมณตา กมฺมนิมิตฺตารมฺมณตา จ อุปปนฺนา เอว โหติ. วตฺถุธมฺมวินิมุตฺตํ ปน สมฺมุติภูตํ กสิณาทิปฏิภาคารมฺมณํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนา อุปจารปฺปนาทิวสปฺปวตฺตา จิตฺตเจตสิกธมฺมา เอว ปริตฺตตฺติเก (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๒) น วตฺตพฺพารมฺมณาติ คเหตพฺพา.
สฺวายนฺติ สุปิโน. วิปลฺลาเสน ปริกปฺปิตปริตฺตารมฺมณตฺตา ‘‘ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา’’ติ วุตฺตํ, อวิชฺชมานารมฺมเณ อวสวตฺติโตติ อธิปฺปาโย, เตนาห อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตาติอาทิ.
อาปตฺตินิกายสฺสาติ อิทํ สงฺฆาทิเสโสติ ปุลฺลิงฺค-สทฺทสฺส อนุรูปวเสน วุตฺตํ. อสฺสาติ อสฺส อาปตฺตินิกายสฺส, วุฏฺาเปตุํ อิจฺฉิตสฺสาติ อตฺโถ, เตนาห กึ วุตฺตนฺติอาทิ. รุฬฺหิสทฺเทนาติ เอตฺถ สมุทาเย นิปฺผนฺนสฺสาปิ สทฺทสฺส ตเทกเทเสปิ ปสิทฺธิ อิธ รุฬฺหี นาม, ตาย รุฬฺหิยา ยุตฺโต สทฺโท รุฬฺหีสทฺโท, เตน. รุฬฺหิยา การณมาห อวยเวอิจฺจาทินา.
กาลฺจาติ ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ’’ติอาทินา ทสฺสิตกาลฺจ, ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ’’ติ วุตฺเต ราคูปตฺถมฺเภ ชาเต ตสฺมึ กาเล โมเจตีติ อตฺถโต ¶ กาโล คมฺมติ. นวมสฺส อธิปฺปายสฺสาติ วีมํสาธิปฺปายสฺส. วตฺถูติ วิสยํ.
๒๓๘. โลมา เอเตสํ สนฺตีติ โลมสา, พหุโลมปาณกา.
๒๓๙. โมจเนนาติ โมจนปฺปโยเคน. โมจนสฺสาทสมฺปยุตฺตายาติ เอตฺถ โมจนิจฺฉาว โมจนสฺสาโท, เตน สมฺปยุตฺตา เจตนา โมจนสฺสาทเจตนาติ อตฺโถ, น ปน โมจเน อสฺสาทํ สุขํ ปตฺเถนฺติยา เจตนายาติ เอวํ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อิตรถา สุขตฺถาย โมเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น อาโรคฺยาทิอตฺถายาติ อาปชฺชติ. ตสฺมา อาโรคฺยาทีสุ เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน โมจนิจฺฉาย เจตนายาติ อตฺโถว คเหตพฺโพ.
๒๔๐. วายมโตติ องฺคชาเต กาเยน อุปกฺกมโต. ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานีติ ขณฺฑจกฺกาทีนิ อนามสิตฺวาว วุตฺตํ, อิจฺฉนฺเตน ปน ขณฺฑจกฺกาทิเภเทนาปิ คณนา กาตพฺพา. เอเกน ปเทนาติ เคหสิตเปมปเทน. ตเถวาติ โมจนสฺสาทเจตนาย เอว คาฬฺหํ ปีฬนาทิปฺปโยคํ ¶ อวิชหิตฺวา สุปเนน สงฺฆาทิเสโสติ วุตฺตํ. สุทฺธจิตฺโตติ โมจนสฺสาทสฺส นิมิตฺเต อูรุอาทีหิ กตอุปกฺกมสฺส วิชหนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน อสุภมนสิการาภาเวปิ ปโยคาภาเวเนว โมจเนปิ อนาปตฺติ ทีปิตาติ เวทิตพฺพา.
เตน อุปกฺกเมน มุตฺเตติ มุจฺจมานํ วินา อฺสฺมิมฺปิ สุกฺเก านโต มุตฺเต. ยทิ ปน อุปกฺกเม กเตปิ มุจฺจมานเมว ทกโสตํ โอตรติ, ถุลฺลจฺจยเมว ปโยเคน มุตฺตสฺส อภาวา. ชคฺคนตฺถายาติ จีวราทีสุ ลิมฺปนปริหาราย หตฺเถน องฺคชาตคฺคหณํ วฏฺฏติ, ตปฺปโยโค น โหตีติ อธิปฺปาโย. อโนกาสนฺติ องฺคชาตปฺปเทสํ.
๒๖๒. สุปินนฺเตน การเณนาติ สุปินนฺเต ปวตฺตอุปกฺกมเหตุนา. อาปตฺติฏฺาเนเยว หิ อยํ อนาปตฺติ อวิสยตฺตา วุตฺตา. เตนาห ‘‘สจสฺส วิสโย โหติ นิจฺจเลน ภวิตพฺพ’’นฺติอาทิ.
๒๖๓. วินีตวตฺถุปาฬิยํ ¶ อณฺฑกณฺฑุวนวตฺถุสฺมึ โมจนาธิปฺปาเยน อณฺฑจลเนน องฺคชาตสฺสาปิ จลนโต นิมิตฺเต อุปกฺกโม โหตีติ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. ยถา ปน องฺคชาตํ น จลติ, เอวํ อณฺฑเมว กณฺฑุวเนน ผุสนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ อณฺฑสฺส อนงฺคชาตตฺตา.
๒๖๔. วตฺถินฺติ องฺคชาตสีสจฺฉาทกจมฺมํ. อุทรํ ตาเปนฺตสฺส…เป… อนาปตฺติเยวาติ อุทรตาปเนน องฺคชาเตปิ ตตฺเต ตาวตฺตเกน นิมิตฺเต อุปกฺกโม กโต นาม น โหตีติ วุตฺตํ.
๒๖๕. เอหิ เม ตฺวํ, อาวุโส, สามเณราติ วตฺถุสฺมึ อฺํ อาณาเปตุ, เตน กริยมานสฺส องฺคชาตจลนสฺส โมจนสฺสาเทน สาทิยนโต ตํ จลนํ ภิกฺขุสฺส สาทิยนจิตฺตสมุฏฺิตมฺปิ โหตีติ สุกฺกวิสฺสฏฺิปจฺจยสฺส องฺคชาตจลนสฺส เหตุภูตา อสฺสาทเจตนาว อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, น อาณาปนวาจา ตสฺสา ปวตฺติกฺขเณ สงฺฆาทิเสสสฺส อสิชฺฌนโต. เอวํ อาณาเปตฺวาปิ โยนิโสมนสิกาเรน โมจนสฺสาทํ ปฏิวิโนเทนฺตสฺส อาปตฺติอสมฺภวโต อิทํ สิกฺขาปทํ อนาณตฺติกํ, กายกมฺมํ, กิริยสมุฏฺานฺจ ชาตนฺติ คเหตพฺพํ, อาณาปนวาจาย ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน ปเรน อนาณตฺเตน พลกฺกาเรนาปิ กริยมานปฺปโยคํ โมจนสฺสาเทน สาทิยติ, ตสฺสาปิ มุตฺเต ปมปาราชิเก วิย สงฺฆาทิเสโสว, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ. โมจนสฺสาเท เจตนาย ปน อสติ กายสํสคฺคราเคน ¶ สาทิยนฺตสฺสาปิ มุตฺเตปิ สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตีติ อาจริยา วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตเมว.
๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ จลนวเสน ยถา องฺคชาเต อุปกฺกโม สมฺภวติ, ตถา วิชมฺภิตตฺตา อาปตฺติ วุตฺตา.
อุปนิชฺฌายนวตฺถุสฺมึ องฺคชาตนฺติ ชีวมานอิตฺถีนํ ปสฺสาวมคฺโคว อธิปฺเปโต, เนตโร.
๒๖๗. ปุปฺผาวลีติ กีฬาวิเสโส. ตํ กิร กีฬนฺตา นทีอาทีสุ ฉินฺนตฏํ อุทเกน จิกฺขลฺลํ กตฺวา ตตฺถ อุโภ ปาเท ปสาเรตฺวา นิสินฺนา ปตนฺติ ¶ , ‘‘ปุปฺผาวลิย’’นฺติปิ ปาโ. ปเวเสนฺตสฺสาติ ปโยชกตฺเตน ทฺวิกมฺมิกตฺตา ‘‘วาลิกํ องฺคชาต’’นฺติ อุภยตฺถาปิ อุปโยควจนํ กตํ. เจตนา, อุปกฺกโม, มุจฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๙. ทุติเย เกสุจิ วาตปาเนสุ วิวเฏสุ พหิปิ อนฺธการตฺตา อาโลโก น ปวิสติ, วิวฏกวาเฏน อฺโต อาคจฺฉนฺตสฺส อาโลกสฺส นิวารณโต กวาฏสฺส ปิฏฺิปสฺเส ฆนนฺธกาโรว โหติ, ตาทิสานิ สนฺธาย ‘‘เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
พฺราหฺมณี อตฺตโน องฺคมงฺคานํ ปรามสนกฺขเณ อนาจารานุกูลา หุตฺวา น กิฺจิ วตฺวา ภิกฺขุโน วณฺณภณนกฺขเณ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ปพฺพชิตุกาโม มฺเติ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ, ปพฺพชิตุกาโม วิยาติ สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. กุลิตฺถีนํ เอวํ ปเรหิ อภิภวนํ นาม อจฺจนฺตาวมาโนติ อาห ‘‘อตฺตโน วิปฺปการ’’นฺติ.
๒๗๐. โอติณฺณสทฺทสฺส กมฺมสาธนปกฺขํ สนฺธาย ‘‘ยกฺขาทีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, กตฺตุสาธนปกฺขํ สนฺธาย ‘‘กูปาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ อิตฺถิสรีรสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ.
๒๗๑. อสฺสาติ หตฺถคฺคาหาทิกสฺส สพฺพสฺส.
๒๗๓. เอเตสํ ¶ ปทานนฺติ อามสนาทิปทานํ. อิตฺถิสฺีติ มนุสฺสิตฺถิสฺี. นํ-สทฺทสฺส กายวิเสสนภาเวน เอตํ กายนฺติ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอมสนฺโต…เป… เอกาว อาปตฺตีติ อนิวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, น นิวตฺถํ. สนิวตฺถาย ปน มตฺถกโต ปฏฺาย หตฺถํ โอตาเรนฺตสฺส นิวตฺถสาฏโกปริ หตฺเถ อารุฬฺเห ถุลฺลจฺจยํ. สาฏกโต หตฺถํ โอตาราเปตฺวา ชงฺฆโต ปฏฺาย โอมสนฺตสฺส ปุน สงฺฆาทิเสโส.
ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเสติ ¶ ยถาวุตฺตกายสํสคฺคนิทฺเทเส. เตนาติ เยน การเณน วตฺถุสฺาทโย โหนฺติ, เตน การเณน. ยถาวุตฺตสิกฺขาปทนิทฺเทเส วุตฺตํ ครุกํ ภิกฺขุโน กเรยฺย ปกาเสยฺยาติ โยชนา.
สฺาย วิราคิตมฺหีติ สฺาย วิรทฺธาย. อิทํ นาม วตฺถุนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตํ, อนาคตฺจ ยํ กิฺจิ สวิฺาณกาวิฺาณกํ ผุสนฺตสฺส อนาปตฺติอภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.
สารตฺตนฺติ กายสํสคฺคราเคเนว สารตฺตํ. วิรตฺตนฺติ กายสํสคฺคราครหิตํ มาตุอาทึ สนฺธาย วทติ. ทุกฺกฏนฺติ มาตุเปมาทิวเสน คณฺหนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, วิรตฺตมฺปิ อิตฺถึ กายสํสคฺคราเคน คณฺหนฺตสฺส ปน สงฺฆาทิเสโส เอว. อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ สเมตีติ เจ? ยทิ หิ ‘‘อิตฺถิยา กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน อิตฺถิสฺา วิราคิตา ภเวยฺย. กายปฺปฏิพทฺธคฺคหเณปิ ถุลฺลจฺจเยนาปิ น ภวิตพฺพํ อิตฺถิสฺาย เอว ปาฬิยํ (ปารา. ๒๗๖) ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ‘‘อิตฺถิยา กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหนฺตสฺส อิตฺถิสฺา วิราคิตา นาม น โหตีติ กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหโต อิตฺถิสฺาย เจว กายสํสคฺคราคสฺส จ กายคฺคหณสฺส จ สมฺภวา ยถาวตฺถุกํ สงฺฆาทิเสสเมว อาปชฺชตี’’ติ มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตวาโทว อิมาย ปาฬิยา สเมติ. อฏฺกถายฺหิ ‘‘สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหามี’’ติ สฺาย ปริกฺขิปโต มชฺฌคตานํ วเสน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. น หิ ตสฺส ‘‘มชฺฌคตา อิตฺถิโย กายปฺปฏิพทฺเธน คณฺหามี’’ติ สฺา อตฺถิ, ตสฺมา อฏฺกถายปิ สเมตีติ คเหตพฺพํ. นีเลน ทุวิฺเยฺยภาวโต กาฬิตฺถี วุตฺตา.
๒๗๙. เสวนาธิปฺปาโยติ ¶ ผสฺสสุขเสวนาธิปฺปาโย. กายปฺปฏิพทฺธามสนวาเร กายปฺปฏิพทฺธวเสน ผสฺสปฏิวิชานนํ เวทิตพฺพํ. จิตฺตุปฺปาทมตฺเต อาปตฺติยาภาวโต อนาปตฺตีติ อิทํ กายสํสคฺคราคมตฺเตน กายจลนสฺส อนุปฺปตฺติโต อิตฺถิยา กริยมานกายจลนํ สาทิยโตปิ ปโยคาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมปาราชิเก ปน ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส อภาวโต เสวนาธิปฺปาเย อุปฺปนฺเน เตน อธิปฺปาเยน องฺคชาตกฺโขโภ ¶ สยเมว อวสฺสํ สฺชายติ, โส จ เตน กโต นาม โหตีติ ปาราชิกํ วุตฺตํ, เตเนว นเยน ปมสงฺฆาทิเสเสปิ ปเรน กริยมานปโยคสาทิยมาเนปิ องฺคชาตกฺโขภสมฺภเวน อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺเถติ ‘‘น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ อิมสฺมึ วาเร. ผสฺสปฏิวิชานนมฺปีติ อปิ-สทฺเทน ตติยวาเร วิย วายาโมปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิยาติ อิทํ ปน ผสฺสปฏิวิชานนาภาวมตฺตสฺเสว นิทสฺสนํ, น ปโยคาภาวสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. โมกฺขาธิปฺปาโยติ เอตฺถ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย อนฺตรนฺตรา กายสํสคฺคราเค สมุปฺปนฺเนปิ โมกฺขาธิปฺปายสฺส อวิจฺฉินฺนตาย อนาปตฺติเยว, วิจฺฉินฺเน ปน ตสฺมึ อาปตฺติ เอว.
ปทภาชนียวณฺณนานโย.
๒๘๑. เอตฺถ คณฺหาหีติ น วตฺตพฺพาติ เคหสิตเปเมน กายปฺปฏิพทฺเธน ผุสเน ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, การฺุเน ปน วตฺถาทึ คเหตุํ อสกฺโกนฺตึ ‘‘คณฺหา’’ติ วทนฺตสฺสาปิ อวสสภาวปฺปตฺตํ อุทเก นิมุชฺชนฺตึ การฺุเน สหสา อนามาสนฺติ อจินฺเตตฺวา เกสาทีสุ คเหตฺวา โมกฺขาธิปฺปาเยน อากฑฺฒโตปิ อนาปตฺติเยว. น หิ มียมานํ มาตรํ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. อฺาติกาย อิตฺถิยาปิ เอเสว นโย. อุกฺกฏฺาย มาตุยาปิ อามาโส น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘มาตร’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺสา กาตพฺพํ ปน อฺาสมฺปิ อิตฺถีนํ กโรนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว อนามาสตฺเต วิเสสาภาวา.
ติณณฺฑุปกนฺติ หิริเวราทิมูเลหิ เกสาลงฺการตฺถาย กตจุมฺพฏกํ. ปริวตฺเตตฺวาติ อตฺตโน นิวาสนาทิภาวโต อปเนตฺวา. ปูชาทิอตฺถํ ปน ตาวกาลิกมฺปิ อามสิตุํ วฏฺฏติ. สีสปสาธนกทนฺตสูจิอาทีติ อิทํ สีสาลงฺการตฺถาย ปฏปิโลติกาทีหิ กตํ สีสปสาธนกฺเจว ทนฺตสูจิอาทิ จาติ ทฺวิธา โยเชตฺวา สีสปสาธนํ สิปาฏิโกปกรณตฺถาย เจว ทนฺตสูจิอุปกรณตฺถาย จ คเหตพฺพนฺติ ยถากฺกมํ อตฺถํ ทสฺเสติ. เกสกลาปํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ติริยํ ปเวสนตฺถาย กตา ทนฺตสูจิ เอว สีสปสาธนกทนฺตสูจีติ เอกเมว กตฺวา สิปาฏิกาย ¶ ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตพฺพสูจิเยว ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส อุปกรณนฺติ สิปาฏิกาสูจิอุปกรณนฺติ เอวํ วา โยชนา กาตพฺพา ¶ . โปตฺถกรูปนฺติ สุธาทีหิ กตํ, ปาราชิกวตฺถุภูตานํ ติรจฺฉานคติตฺถีนํ สณฺาเนน กตมฺปิ อนามาสเมว. อิตฺถิรูปาทีนิ ทสฺเสตฺวา กตํ, วตฺถภิตฺติอาทิฺจ อิตฺถิรูปํ อนามสิตฺวา วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ. เอวรูเปหิ อนามาเส กายสํสคฺคราเค อสติ กายปฺปฏิพทฺเธน อามสโต โทโส นตฺถิ. ภินฺทิตฺวาติ เอตฺถ อนามาสมฺปิ ทณฺฑปาสาณาทีหิ เภทนสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา, ปาฬิยมฺปิ อาปทาสุ โมกฺขาธิปฺปายสฺส อามสเนปิ อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา จ. สปฺปินีอาทีหิ วาฬมิคีหิ จ คหิตปาณกานํ โมจนตฺถาย ตํ สปฺปินีอาทึ วตฺถทณฺฑาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คเหตุํ, มาตุอาทึ อุทเก มียมานํ วตฺถาทีหิ คเหตุํ, อสกฺโกนฺตึ เกสาทีสุ คเหตฺวา การฺุเน อุกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ อยมตฺโถ คเหตพฺโพว. อฏฺกถายํ ‘‘น ตฺเวว อามสิตพฺพา’’ติ อิทํ ปน วจนํ อมียมานวตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ.
มคฺคํ อธิฏฺายาติ ‘‘มคฺโค อย’’นฺติ มคฺคสฺํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ. ปฺเปตฺวา เทนฺตีติ อิทํ สามีจิวเสน วุตฺตํ, เตหิ ปน อาสนํ อปฺเปตฺวาว นิสีทถาติ วุตฺเต สยเมว ปฺเปตฺวา นิสีทิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตตฺถชาตกานีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ภูตคามภาเวเนว ิตานิ. กีฬนฺเตนาติ วุตฺตตฺตา สติ ปจฺจเย อามสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภิกฺขุสนฺตกํ ปน ปริโภคารหํ สพฺพถา อามสิตุํ น วฏฺฏติ ทุรุปจิณฺณตฺตา. อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามีติ อิทํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโนปิ อตฺถาย ปฏิคฺคเหตฺวา คหเณ โทโส นตฺถิ อนามาสตฺตาภาวา.
มณีติ เวฬุริยาทิโต อฺโ โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ อลฺลเวฬุวณฺโณมณิ, ‘‘มชฺชารกฺขิ มณฺฑลวณฺโณ’’ติปิ วทนฺติ. สิลาติ มุคฺคมาสวณฺณา อติสินิทฺธา กาฬสิลา, มณิโวหารํ อาคตา รตฺตเสตาทิวณฺณา สุมฏฺาปิ สิลา อนามาสา เอวาติ วทนฺติ. รชตนฺติ กหาปณมาสาทิเภทํ ชตุมาสาทึ อุปาทาย สพฺพํ วุตฺตาวเสสํ รูปิยํ คหิตํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรวณฺโณ มณิ, ‘‘มรกต’’นฺติปิ วทนฺติ. เภสชฺชตฺถาย ปิสิตฺวา โยชิตานํ มุตฺตานํ รตนภาววิรหโต คหณกฺขเณปิ รตนากาเรน อเปกฺขิตาภาวา ‘‘เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยาว ปน ¶ ตา มุตฺตา รตนรูเปน ติฏฺนฺติ, ตาว อามสิตุํ น วฏฺฏติ เอว. เอวํ อฺมฺปิ รตนปาสาณํ ปิสิตฺวา เภสชฺเช โยชนตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ เอว, ชาตรูปรชตํ ปน ปิสิตฺวา โยชนเภสชฺชตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, คหฏฺเหิ โยเชตฺวา ทินฺนมฺปิ ยทิ เภสชฺเช สุวณฺณาทิรูเปน ติฏฺติ, วิโยเชตฺุจ สกฺกา, ตาทิสํ เภสชฺชมฺปิ น วฏฺฏติ. ตํ อพฺโพหาริกตฺตํ คตํ เจ, วฏฺฏติ. ‘‘ชาติผลิกํ ¶ อุปาทายา’’ติ วุตฺตตฺตา, สูริยกนฺตจนฺทกนฺตาทิกํ ชาติปาสาณํ มณิมฺหิ เอว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส จาติ โยเชตพฺพํ. วิทฺโธติ มณิอาทิภาเวน กตฉิทฺโท.
รตนมิสฺโสติ กฺจนลตาทิวิจิตฺโต, มุตฺตาทิรตนขจิโต จ, เอเตน ธมนสงฺขโต อฺโ รตนมิสฺโสว อนามาโสติ ทสฺเสติ. สิลายมฺปิ เอเสว นโย. ปานียสงฺโขติ อิมินาว ถาลกาทิอากาเรน กตสงฺขมยภาชนานิ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เสสาติ รตนสํยุตฺตํ เปตฺวา อวเสสา.
พีชโต ปฏฺายาติ ธาตุปาสาณโต ปฏฺาย. ปฏิกฺขิปีติ สุวณฺณมยธาตุกรณฺฑกสฺส, พุทฺธรูปาทิสฺส จ อตฺตโน สนฺตกกรเณ นิสฺสคฺคิยตฺตา วุตฺตํ. ‘‘รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน’’ติ วุตฺตตฺตา รูปิยฉฑฺฑกสฺส ชาตรูปรชตํ อามสิตฺวา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เกฬาปยิตุนฺติ อามสิตฺวา อิโต จิโต จ สฺจาเรตุํ. วุตฺตนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ โคปกา วา โหนฺตุ อฺเ วา, หตฺเถน ปฺุฉิตฺวา กจวรํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, มลมฺปิ ปมชฺชิตุํ วฏฺฏติ เอวาติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ เกฬายนสทิสตฺตา. อารกูฏโลหนฺติ สุวณฺณวณฺโณ กิตฺติมโลหวิเสโส. ติวิธฺหิ กิตฺติมโลหํ กํสโลหํ วฏฺฏโลหํ หารกูฏโลหนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ นาม. สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ. รสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ หารกูฏโลหํ นาม. ตํ ปน ‘‘ชาตรูปคติก’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุคฺคณฺหโต นิสฺสคฺคิยมฺปิ โหตีติ เกจิ วทนฺติ. รูปิเยสุ ปน อคณิตตฺตา นิสฺสคฺคิยํ น โหติ, อามสเน, สมฺปฏิจฺฉเน จ ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ. สพฺพกปฺปิโยติ ยถาวุตฺตสุวณฺณาทิมยานํ ¶ เสนาสนปริกฺขารานํ อามสนโคปนาทิวเสน ปริโภโค สพฺพถา กปฺปิโยติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ‘‘ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน’’ติ วุตฺตตฺตา สงฺฆิกเมว สุวณฺณาทิมยํ เสนาสนํ, เสนาสนปริกฺขารา จ วฏฺฏนฺติ, น ปุคฺคลิกานีติ คเหตพฺพํ.
ภินฺทิตฺวาติ ปมเมว อนามสิตฺวา ปาสาณาทินา กิฺจิมตฺตํ เภทํ กตฺวา ปจฺฉา กปฺปิยภณฺฑตฺถาย อธิฏฺหิตฺวา หตฺเถน คเหตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามีติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เอตฺถาปิ กิฺจิ ภินฺทิตฺวา, วิโยเชตฺวา วา อามสิตพฺพ.
ผลกชาลิกาทีนีติ เอตฺถ สรปริตฺตาณาย หตฺเถน คเหตพฺพํ กิฏิกาผลกํ อกฺขิรกฺขณตฺถาย อยโลหาทีหิ ชาลากาเรน กตฺวา สีสาทีสุ ปฏิมฺุจิตพฺพํ ชาลิกํ นาม ¶ . อาทิ-สทฺเทน กวจาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามาสานีติ มจฺฉชาลาทิปรูปโรธกํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สรปริตฺตาณํ ตสฺส อาวุธภณฺฑตฺตาภาวา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปรูปโรธนิวารณํ หี’’ติอาทิ. อาสนสฺสาติ เจติยสฺส สมนฺตา กตปริภณฺฑสฺส. พนฺธิสฺสามีติ กากาทีหิ อทูสนตฺถาย พนฺธิสฺสามิ.
‘‘เภริสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมเภรี. วีณาสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมวีณา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๘๑) วุตฺตํ. ‘‘จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตวจนโต วิเสสาภาวา, ‘‘กุรุนฺทิยํ ปนา’’ติอาทินา ตโต วิเสสสฺส วตฺตุมารทฺธตฺตา จ เภริอาทีนํ วินทฺธโนปกรณสมูโห เภริวีณาสงฺฆาโฏติ เวทิตพฺพํ สงฺฆฏิตพฺโพติ สงฺฆาโฏติ กตฺวา. ตุจฺฉโปกฺขรนฺติ อวินทฺธจมฺมเภริวีณานํ โปกฺขรํ. อาโรปิตจมฺมนฺติ ปุพฺเพ อาโรปิตํ หุตฺวา ปจฺฉา ตโต อปเนตฺวา วิสุํ ปิตมุขจมฺมมตฺตํ, น เสโสปกรณสหิตํ. สหิตํ ปน สงฺฆาโฏติ อยํ วิเสโส. โอนหิตุนฺติ เภริโปกฺขราทีนิ จมฺมํ อาโรเปตฺวา จมฺมวฏฺฏิอาทีหิ สพฺเพหิ อุปกรเณหิ วินนฺธิตุํ.
ปาฬิยํ ปณฺฑกสฺสาติ ปณฺฑเกน. ปาราชิกปฺปโหนกกาเลติ อกุถิตกาเล. กายสํสคฺคราคาทิภาเว สพฺพาวตฺถายปิ อิตฺถิยา สณฺาเน ¶ ปฺายมาเน อนามาสทุกฺกฏํ น วิคจฺฉตีติ ทฏฺพฺพํ. สงฺกมาทีนํ านาจาวนวเสน อจาเลตพฺพตาย น กายปฺปฏิพทฺธโวหาโรติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๒๘๒. เอกปทิกสงฺกโมติ ตนุกเสตุ. ‘‘อาวิฺฉนฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา จาเลตุํ ยุตฺตาย เอว รชฺชุยา ถุลฺลจฺจยํ, น อิตราย ภิตฺติถมฺภาทิคติกตฺตาติ อาห ‘‘ยา มหารชฺชุ โหตี’’ติอาทิ. เตน จาเลตุํ ยุตฺเต ตนุกรชฺชุทณฺฑเก อจาเลตฺวา ผุสนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยเมวาติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฏิจฺฉาเทตพฺพาติ ฉาทนาทิวเสน คูหิตพฺพา. มนุสฺสิตฺถี, มนุสฺสิตฺถิสฺิตา, กายสํสคฺคราโค, วายาโม, เตน หตฺถาทีสุ ผุสนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๕. ตติเย อสทฺธมฺมปฏิสฺุตฺตนฺติ เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตํ. พาลาติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ อชานนฺตี ¶ , สุรามทมตฺตตาย อุมฺมตฺตกาทิภาเวน จ อชานนฺตีปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. น ตาว สีสํ เอตีติ สงฺฆาทิเสสปจฺจยตฺตสงฺขาตํ มตฺถกํ ปาริปูริ น โหติ, มคฺคเมถุเนหิ อฆฏิตตฺตา ทุกฺกฏํ ปน โหติ เอว.
อปสาเทตีติ อปสาทกรวจนํ กโรติ. โทสํ เทตีติ โทสํ ปติฏฺาเปติ. ตีหีติ อนิมิตฺตาสีติอาทีนํ ปทานํ อทุฏฺุลฺลภาเวนาปิ อตฺถโยชนารหตฺตา ปสฺสาวมคฺคาทิปฏิสฺุตฺตตานิยโม นตฺถีติ วุตฺตํ, เตหิ ปน อฏฺหิ ปเทหิ ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๘๙) วิย ถุลฺลจฺจยนฺติ เวทิตพฺพํ.
กฺุจิกปนาฬิมตฺตนฺติ กฺุจิกาฉิทฺทมตฺตํ. สุกฺขโสตาติ ทกโสตสฺส สุกฺขตาย โลหิตวณฺณวิคโม โหตีติ วุตฺตํ.
สุทฺธานีติ เมถุนาทิปเทหิ อโยชิตานิปิ. เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนวาติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ, วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเคหิปิ อนิมิตฺเต ‘‘ตว ¶ วจฺจมคฺโค, ปสฺสาวมคฺโค วา อีทิโส’’ติอาทินา ฆฏิเตปิ อาปตฺติกราเนว.
๒๘๖. ครุกาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนิยา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาย ปาราชิกาปตฺตึ สนฺธาย วทติ.
๒๘๗. หสนฺโต หสนฺโตติ อุปลกฺขณมตฺตํ, อหสนฺโตปิ เยน เกนจิ อากาเรน อตฺตโน วิปริณตจิตฺตตํ อิตฺถิยา ปกาเสนฺโต วทติ, อาปตฺติเยว.
กายจิตฺตโตติ หตฺถมุทฺทาย โอภาเสนฺตสฺส กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ.
๒๘๘. ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ อปฺปฏิวิชานนโต ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานเน ปน สติ ถุลฺลจฺจยเมว ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๘๙) วิย อเขตฺตปทตฺตา. เขตฺตปเท หิ ปฏิวิชานนฺติยา สงฺฆาทิเสโสว สิยา เมถุนธมฺมยาจนวตฺถุทฺวเย (ปารา. ๒๘๙) วิย, ตํ ปน วตฺถุทฺวยํ เมถุนยาจนโต จตุตฺถสงฺฆาทิเสเส วตฺตพฺพมฺปิ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทมตฺเตน ปวตฺตตฺตา อิธ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ เขตฺตปเทน วทนฺตสฺส อิตฺถิยา อปฺปฏิวิชานนฺติยา กึ โหตีติ? กิฺจาปิ อยํ นาม อาปตฺตีติ ปาฬิอฏฺกถาสุ น วุตฺตํ, อถ โข ถุลฺลจฺจเยเนเวตฺถ ภวิตพฺพํ ¶ . ตถา หิ อเขตฺตปเท อปฺปฏิวิชานนฺติยา ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. เขตฺตปเท ปน ปฏิวิชานเน สงฺฆาทิเสโสว วุตฺโต, อปฺปฏิวิชานเน ถุลฺลจฺจยเมว ภวิตุํ ยุตฺตํ, น ทุกฺกฏํ, อเขตฺตปทโต วิเสสาภาวปฺปสงฺโคติ คเหตพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ จตุตฺถสิกฺขาปเทปิ อเขตฺตปเท ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฏิวิชานนฺติยา ทุกฺกฏํ, เขตฺตปเท ปน อปฺปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ นวาวุตนฺติ นววีตํ.
๒๘๘. อสทฺธมฺมํ สนฺธายาติ เมถุนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ปุตฺตสมุปฺปตฺติยา พีชนิกฺเขปโต วปฺปปริยายํ ลภตีติ.
สํสีทตีติ วหติ, สํสรียตีติ วา อตฺโถ. มนุสฺสิตฺถี, ตถาสฺิตา, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราโค, เตน โอภาสนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๐. จตุตฺเถ ¶ ปเรหิ ปตฺเต ปาติยมานานํ ภิกฺขาปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ ปิณฺฑปาโตติ ภิกฺขาหาโร วุจฺจติ, ตํสทิสตาย อฺโปิ โย โกจิ ภิกฺขาจริยํ วินา ภิกฺขูหิ ลทฺโธ ปิณฺฑปาโตตฺเวว วุจฺจติ. ปติ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโยติ อาห ‘‘ปติกรณฏฺเน ปจฺจโย’’ติ. โรคทุกฺขานํ วา ปฏิปกฺขภาเวน อยติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. สปฺปายสฺสาติ หิตสฺส. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. ราชูนํ เคหปริกฺเขโป ปริขา อุทฺทาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ อฏฺโฏติ อิเม สตฺต นครปริกฺขาราติ วทนฺติ. เสตปริกฺขาโรติ วิสุทฺธิสีลาลงฺกาโร. อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต, ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขารา’’ติ วุตฺตา. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา.
๒๙๑. อุปจาเรติ ยตฺถ ิโต วิฺาเปตุํ สกฺโกติ, ตาทิเส าเน. กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถติ ปาฬิยํ ‘‘อตฺตโน กามํ, อตฺตโน เหตุํ, อตฺตโน อธิปฺปายํ, อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. ๒๙๒) วุตฺเตสุ อิเมสุ จตูสุ ปเทสุ กาโม, เหตุ, ปาริจริยา ¶ จ อฏฺกถายํ วุตฺเต ปเม อตฺถวิกปฺเป วิคฺคหวากฺยาธิปฺปายสูจนโต อตฺโถ. เสสนฺติ อธิปฺปายปทเมกํ. พฺยฺชนนฺติ พฺยฺชนมตฺตํ, ปมวิกปฺปานุปโยคิตาย วจนมตฺตนฺติ อตฺโถ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเปปิ เอเสว นโย.
ยถาวุตฺตเมว อตฺถํ ปทภาชเนน สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺตโน เหตุ’’นฺติ วุตฺเต อตฺตโน อตฺถายาติ อยมตฺโถ วิฺายติ, ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ วุตฺเต กาเมน ปาริจริยาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตสฺมา อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ อตฺตโน อตฺถาย กาเมน ปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยาติ อิมํ อตฺถวิกปฺปํ วิฺู ชานิสฺสนฺติ. ‘‘อตฺตโน ¶ อธิปฺปาย’’นฺติ วุตฺเต ปน อธิปฺปาย-สทฺทสฺส กามิต-สทฺเทน สมานตฺถภาวโต อตฺตนา อธิปฺเปตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยาติ อิมมตฺถํ วิกปฺปํ วิฺู ชานิสฺสนฺติ.
เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคา. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเทปิ (ปารา. ๒๘๕) กามํ ‘‘ยาจติปิ อายาจติปี’’ติ เอวํ เมถุนยาจนํ อาคตํ, ตํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติ อยํ วิเสโส.
วินีตวตฺถูสุ ‘‘อคฺคทานํ เทหี’’ติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย วุตฺตํ, ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ปน ปรตฺถายปิ วุตฺเต สีสํ เอตีติ เวทิตพฺพํ. สุภคาติ อิสฺสริยาทีหิ สุนฺทเรหิ ภเคหิ สมนฺนาคตา. มนุสฺสิตฺถี, ตถาสฺิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโค, เตน กามปาริจริยยาจนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๖. ปฺจเม ปณฺฑิจฺเจนาติ สภาวาเณน. คติมนฺตาติ สภาวาณคติยุตฺตา. เวยฺยตฺติเยนาติ อิตฺถิกตฺตพฺเพสุ สิกฺขิตาเณน. เมธายาติ อสิกฺขิเตสุปิ ตํอิตฺถิกตฺตพฺเพสุ านุปฺปตฺติยา ปฺาย. เฉกาติ กาเยน ปจนาทิกุสลา.
อาวหนํ ¶ อาวาโห, ทาริกาย คหณํ. วิธินา ปรกุเล วหนํ เปสนํ วิวาโห, ทาริกาย ทานํ.
๒๙๗. รนฺธาปนํ ภตฺตปจาปนํ. พฺยฺชนาทิสมฺปาทนํ ปจาปนํ. น อุปาหฏนฺติ น ทินฺนํ. กโย นาม คหณํ. วิกฺกโย นาม ทานํ. ตทุภยํ สงฺคเหตฺวา ‘‘โวหาโร’’ติ วุตฺตํ.
๓๐๐. ‘‘อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ. ‘‘ปราชิเตน ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเปน กาเรตพฺโพ. อจิรกาเล ¶ อธิกาโร เอตสฺส อตฺถีติ อจิรกาลาธิการิกํ, สฺจริตฺตํ. ‘‘อจิรกาลาจาริก’’นฺติ วา ปาโ. อจิรกาเล อาจาโร อชฺฌาจาโร เอตสฺสาติ โยชนา.
๓๐๑. กิฺจาปิ เอหิภิกฺขุอาทิกาปิ สฺจริตฺตาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ปน อสพฺพกาลิกตฺตา, อปฺปกตฺตา จ อิธาปิ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘ยฺวาย’’นฺติอาทิปทภาชนมาห. สฺจรณํ สฺจโร, โส เอตสฺส อตฺถีติ สฺจรี, ตสฺส ภาโว สฺจริตฺตํ. เตนาห ‘‘สฺจรณภาว’’นฺติ. สฺจรตีติ สฺจรโณ, ปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว สฺจรณภาโว, ตํ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สฺจรณภาวนฺติ อตฺโถ.
ชายาภาเวติ ภริยภาวาย. ชารภาเวติ สามิภาวาย, ตํนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. นิมิตฺตตฺเถ หิ เอตํ ภุมฺมวจนํ. กิฺจาปิ ‘‘ชารตฺตเน’’ติ ปทสฺส ปทภาชเน ‘‘ชารี ภวิสฺสสี’’ติ (ปารา. ๓๐๒) อิตฺถิลิงฺควเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ‘‘สฺจริตฺตํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ ปทสฺส ปน นิทฺเทเส ‘‘อิตฺถิยา วา ปหิโต ปุริสสฺส สนฺติเก คจฺฉติ, ปุริเสน วา ปหิโต อิตฺถิยา สนฺติเก คจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุริสสฺสาปิ สนฺติเก วตฺตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชารตฺตเน’’ติ นิทฺเทสสฺส อิตฺถิปุริสสาธารณตฺตา ‘‘อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจตี’’ติ วุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน ปุริสสฺส มตึ อิตฺถิยา อาโรจนวเสเนว ปททฺวเยปิ โยชนา กตา, ตทนุสาเรน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจนากาโรปิ สกฺกา วิฺาตุนฺติ.
อิทานิ ปาฬิยํ วุตฺตนเยนาปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปติ ภวิสฺสสี’’ติ อิทํ ชายาสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคนิยมโต ปุริสปริยาเยน วุตฺตํ, นิพทฺธสามิโก ภวิสฺสสีติ อตฺโถ. ชาโร ภวิสฺสสีติ มิจฺฉาจารภาเวน อุปคจฺฉนโก ภวิสฺสสีติ อธิปฺปาโย.
๓๐๓. เสริวิหารนฺติ ¶ สจฺฉนฺทจารํ. อตฺตโน วสนฺติ อตฺตโน อาณํ. โคตฺตวนฺเตสุ โคตฺต-สทฺโท, ธมฺมจารีสุ จ ธมฺม-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘สโคตฺเตหี’’ติอาทิ. ตตฺถ สโคตฺเตหีติ สมานโคตฺเตหิ. สหธมฺมิเกหีติ เอกสฺส สตฺถุ สาสเน สหจริตพฺพธมฺเมหิ, สมานกุลธมฺเมหิ ¶ วา. เตเนวาห ‘‘เอกํ สตฺถาร’’นฺติอาทิ. เอกคณปริยาปนฺเนหีติ มาลาการาทิเอกคณปริยาปนฺเนหิ.
สสฺสามิกา สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนนฺติ สารกฺขสปริทณฺฑานํ. มิจฺฉาจาโร โหตีติ ตาสุ คตปุริสานํ วิย ตาสมฺปิ มิจฺฉาจาโร โหติ สสฺสามิกภาวโต. น อิตราสนฺติ มาตุรกฺขิตาทีนํ อฏฺนฺนํ มิจฺฉาจาโร นตฺถิ อสฺสามิกตฺตา, ตาสุ คตานํ ปุริสานเมว มิจฺฉาจาโร โหติ มาตาทีหิ รกฺขิตตฺตา. ปุริสา หิ ปเรหิ เยหิ เกหิจิ โคปิตํ อิตฺถึ คนฺตุํ น ลภนฺติ, อิตฺถิโย ปน เกนจิ ปุริเสน ภริยาภาเวน คหิตาว ปุริสนฺตรํ คนฺตุํ น ลภนฺติ, น อิตรา อตฺตโน ผสฺสสฺส สยํ สามิกตฺตา. น หิ มาตาทโย สยํ ตาสํ ผสฺสานุภวนตฺถํ ตา รกฺขนฺติ, เกวลํ ปุริสคมนเมว ตาสํ วาเรนฺติ. ตสฺมา เกนจิ อปริคฺคหิตผสฺสตฺตา, อตฺตโน ผสฺสตฺตา จ อิตฺถีนํ น มิจฺฉาจาโร, ปุริสานํ ปน ปเรหิ วาริเต อตฺตโน อสนฺตกฏฺาเน ปวิฏฺตฺตา มิจฺฉาจาโรติ เวทิตพฺโพ.
โภเคนาติ โภคเหตุ. อุทปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. ธช-สทฺเทน เสนา เอว อุปลกฺขิตาติ อาห ‘‘อุสฺสิตทฺธชายา’’ติอาทิ.
๓๐๕. พหิทฺธา วิมฏฺนฺติ อฺตฺถ อาโรจิตํ. ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสตีติ ตสฺสา อาโรเจตฺวา ตํ กิจฺจํ สมฺปาเทตุ วา มา วา, ตํ กิริยํ สมฺปาทเน สามตฺถิยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทารกํ, ทาริกฺจ อชานาเปตฺวา มาตาปิตุอาทีหิ มาตาปิตุอาทีนฺเว สนฺติกํ สาสเน เปสิเตปิ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ.
ยํ อุทฺทิสฺส สาสนํ เปสิตํ, ตํ เอว สนฺธาย ตสฺสา มาตุอาทีนํ อาโรจิเตปิ เขตฺตเมว โอติณฺณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิ อุทาหฏํ, อิทฺจ วจนพฺยตฺตยเหตุพฺยตฺตยานํ เภเทปิ พฺยตฺตยสามฺโต อุทาหฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตมฺปิ อุทาหรณโทสํ ปริหริตฺวา สุตฺตานุโลมตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา สเมตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย ¶ – ยถา สยํ อนาโรเจตฺวา ¶ อฺเสํ อนฺเตวาสิกาทีนํ วตฺวา วีมํสาเปตฺวา ปจฺจาหรนฺตสฺส นตฺถิ วิสงฺเกโต, เอวํ ตสฺสา สยํ อนาโรเจตฺวา อาโรจนตฺถํ มาตุอาทีนํ วทนฺตสฺสาปิ มาตุอาทโย ตํ กิริยํ สมฺปาเทนฺตุ วา มา วา. ยทิ หิ เตสํ มาตุอาทีนํ ตุณฺหีภูตภาวมฺปิ ปจฺจาหรติ, วิสงฺเกโต นตฺถีติ.
ฆรกิจฺจํ เนตีติ ฆรณี. อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ อทินฺนาทานาทีสุ อาณตฺติยํ วตฺถุสงฺเกโต วิยาติ อธิปฺปาโย. มูลฏฺานฺจ วเสนาติ เอตฺถ ปุริสสฺส มาตุอาทโย สาสนเปสเน มูลภูตตฺตา ‘‘มูลฏฺา’’ติ วุตฺตา.
๓๒๒. ปาฬิยํ มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตีติ เอตฺถ อตฺตโน วา ธีตุ สนฺติกํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ภิกฺขุํ ปหิณติ, ปุริสสฺส วา ตสฺส าตกานํ วา สนฺติกํ ‘‘มม ธีตา อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ปหิณตีติ คเหตพฺพํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตาติ ปมสงฺฆาทิเสเส วุตฺตนยตฺตา.
๓๓๘. อนฺเต เอเกนาติ เอเกน ปเทน. เอตฺโตว ปกฺกมตีติ อปจฺจาหริตฺวา ตโตว ปกฺกมติ. ‘‘อนภินนฺทิตฺวา’’ติ อิทํ ตถา ปฏิปชฺชมานํ สนฺธาย วุตฺตํ. สติปิ อภินนฺทเน สาสนํ อนาโรเจนฺโต ปน น วีมํสติ นาม. ตติยปเท วุตฺตนเยนาติ ‘‘โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ปาฬิยํ อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวาติ ‘‘อยํ เตสํ วตฺตุํ สมตฺโถ’’ติ อนฺเตวาสินา วีมํสาเปตฺวา. สเจ ปน โส อนฺเตวาสิโก ตํ วจนํ อาทิยิตฺวา ตุณฺหี โหติ, ตสฺสาปิ ตํ ปวตฺตึ ปจฺจาหรนฺตสฺส อาจริยสฺส สงฺฆาทิเสโสว มาตุอาทีสุ ตุณฺหีภูเตสุ เตสํ ตุณฺหิภาวํ ปจฺจาหรนฺตสฺส วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
ปาฬิยํ จตุตฺถวาเร อสติปิ คจฺฉนฺโต สมฺปาเทติ, อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทติ อนาปตฺตีติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติกตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ อนาปตฺตี’’ติ.
๓๔๐. การุกานนฺติ ¶ วฑฺฒกีอาทีนํ ตจฺฉกอโยการตนฺตวายรชกนฺหาปิตกา ปฺจ การโว ‘‘การุกา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวรูเปน…เป… อนาปตฺตีติ ตาทิสํ คิหิเวยฺยาวจฺจมฺปิ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
กายโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ วา อลํวจนียภาวํ วา ตทุภยํ วา อชานนฺตสฺส กายโต ¶ สมุฏฺาติ. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. อลํวจนียา โหนฺตีติ อิตฺถี วา ปุริโส วา อุโภปิ วา ชายาภาเว, สามิกภาเว จ นิกฺขิตฺตฉนฺทตาย อจฺจนฺตวิยุตฺตตฺตา ปุน อฺมฺํ สมาคมตฺถํ ‘‘มา เอวํ อกริตฺถา’’ติอาทินา วจนียตาย วตฺตพฺพตาย อลํ อรหาติ อลํวจนียา, อลํ วา กตฺตุํ อรหํ สนฺธานวจนเมเตสุ อิตฺถิปุริเสสูติ อลํวจนียา, สนฺธานการสฺส วจนํ วินา อสงฺคจฺฉนกา ปริจฺจตฺตาเยวาติ อธิปฺปาโย.
ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวาติ เอตฺถ อลํวจนียภาวํ วาติ วตฺตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายฺจ ‘‘ตทุภยํ ปน ชานิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ‘‘อิมํ ปณฺณํ อสุกสฺส เทหี’’ติ ทินฺนํ หรนฺตสฺส สฺจริตฺตํ น โหติ. ปณฺณตฺติอลํวจนียภาวอชานนวเสเนว หิ อิมํ สิกฺขาปทํ อจิตฺตกํ, น สพฺเพน สพฺพํ สฺจรณภาวมฺปิ อชานนวเสน, ปาฬิยฺจ อฏฺกถายฺจ อาโรจนเมว ทสฺสิตํ. ตสฺมา สนฺทสฺสนตฺถํ ตฺวา ปณฺณสนฺทสฺสนวเสนาปิ กาเยน วา วาจาย วา อาโรเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๓๔๑. ยถา ยถา เยสุ เยสุ ชนปเทสูติ ปริจฺจตฺตภาวปฺปกาสนตฺถํ กตฺตพฺพํ ปณฺณทานาติชนิสฺสราทิชานาปนาทิตํตํเทสนิยตํ ปการํ ทสฺเสติ, อิทฺจ นิพทฺธภริยาภาเวน คหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโน รุจิยา สงฺคตานํ ปน อิตฺถีนํ, มุหุตฺติกาย จ ปุริเส จิตฺตสฺส วิรชฺชนเมว อลํวจนียภาเว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุฏฺุลฺลาทีสุปีติ อาทิ-สทฺเทน อตฺตกามสฺจริตฺตานิ สงฺคณฺหาติ, เอตฺถ ปน ปาฬิยํ กิฺจาปิ ‘‘อิตฺถี นาม มนุสฺสิตฺถี น ยกฺขี’’ติอาทินา มนุสฺสิตฺถิปุริสา น ทสฺสิตา, ตถาปิ ‘‘ทส อิตฺถิโย มาตุรกฺขิตา’’ติอาทินา มนุสฺสิตฺถีนฺเว ทสฺสิตตฺตา ปุริสานมฺปิ ตทนุคุณานเมว คเหตพฺพโต มนุสฺสชาติกาว ¶ อิตฺถิปุริสา อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา เยสุ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, เตสํ มนุสฺสชาติกตา, น นาลํวจนียตา, ปฏิคฺคณฺหน, วีมํสน, ปจฺจาหรณานีติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๒. ฉฏฺเ เอตฺตเกนาติ เอตฺตเกน ทารุอาทินา. อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโยติ อปริจฺฉินฺนทารุอาทิปมาณาโย. มูลจฺเฉชฺชายาติ ปรสนฺตกภาวโต โมเจตฺวา อตฺตโน เอว สนฺตกกรณวเสนาติ ¶ อตฺโถ. เอวํ ยาจโต อฺาตกวิฺตฺติทุกฺกฏฺเจว ทาสปฏิคฺคหณทุกฺกฏฺจ โหติ ‘‘ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วจนํ นิสฺสาย อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. สกกมฺมนฺติ ปาณวธกมฺมํ. อิทฺจ ปาณาติปาตโทสปริหาราย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น วิฺตฺติปริหาราย. อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพาติ สามีจิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, สุทฺธจิตฺเตน ปน หตฺถกมฺมํ ยาจนฺตสฺส อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘หตฺถกมฺมํ ยาจามิ, เทถา’’ติอาทินา อยาจิตฺวาปิ วฏฺฏติ. สกิจฺจปสุตมฺปิ เอวํ การาเปนฺตสฺส วิฺตฺติ นตฺถิ เอว, สามีจิทสฺสนตฺถํ ปน วิภชิตฺวา วุตฺตํ.
สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถนฺติ สพฺพโส กปฺปิยภาวทีปนตฺถํ. มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘มูลํ ทสฺสามา’’ติ ปมํ วุตฺตตฺตา วิฺตฺติ วา มูลนฺติ วจนสฺส กปฺปิยากปฺปิยวตฺถุสามฺวจนตฺเตปิ นิฏฺิตภติกิจฺจานํ ทาปนโต อกปฺปิยวตฺถุสาทิยนํ วา น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตํ.
มฺจ…เป… จีวราทีนิ การาเปตุกาเมนาปีติอาทีสุ จีวรํ การาเปตุกามสฺส อฺาตกอปฺปวาริตตนฺตวาเยหิ หตฺถกมฺมยาจนวเสน วายาปเน วิฺตฺติปจฺจยา ทุกฺกฏาภาเวปิ จีวรวายาปนสิกฺขาปเทน ยถารหํ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพนฺติ กปฺปิยมุเขน ลทฺธมฺปิ หตฺถกมฺมกรณตฺถาย อิมสฺส ¶ กหาปณํ เทหีติ วตฺวา ทานํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ปุพฺเพ กตกมฺมสฺส ทาปเน กิฺจาปิ โทโส น ทิสฺสติ, ตถาปิ อสารุปฺปเมวาติ วทนฺติ. กตกมฺมตฺถายปิ กาตพฺพกมฺมตฺถายปิ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายโต ภตึ ทาเปนฺตสฺส นตฺถิ โทโส. วตฺตนฺติ จาริตฺตํ, อาปตฺติ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานีติ สาขาย มกฺขิกพีชเนน ปณฺณาทิจฺเฉเท พีชคามโกปนสฺส เจว ตตฺถ ลคฺครชาทิอปฺปฏิคฺคหิตสฺส จ ปริหารตฺถาย วุตฺตํ. ตทุภยาสงฺกาย อสติ ตถา อกรเณ โทโส นตฺถิ. นทียาทีสุ อุทกสฺส อปริคฺคหิตตาย ‘‘อาหราติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น อาหฏํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ วจนโต วิฺตฺติยา อาปนฺนํ ทุกฺกฏํ เทเสตฺวาปิ ตํ วตฺถุํ ปริภฺุชนฺตสฺส ปุน ปริโภเค ทุกฺกฏเมว, ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น วฏฺฏติ. ‘‘อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพ’’นฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อตฺตโน อตฺถาย ยํกิฺจิ หตฺถกมฺมํ กาเรตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน ¶ อลชฺชี นิวาริยมาโนปิ พีชนาทึ กโรติ, ตตฺถ โทโส นตฺถิ. เจติยกมฺมาทีนิ ปน เตหิ การาเปตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ‘‘อลชฺชีหิ สามเณเรหี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (ปริ. ๓๕๙) อลชฺชีลกฺขณํ อุกฺกฏฺวเสน อุปสมฺปนฺเน ปฏิจฺจ อุปลกฺขณโต วุตฺตนฺติ ตํลกฺขณวิรหิตานํ สามเณราทีนํ ลิงฺคตฺเถนกโคตฺรภุปริโยสานานํ ภิกฺขุปฏิฺานํ ทุสฺสีลานมฺปิ สาธารณวเสน อลชฺชิตาลกฺขณํ ยถาวิหิตปฏิปตฺติยํ สฺจิจฺจ อติฏฺนเมวาติ คเหตพฺพํ.
อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วิฺตฺติกฺขเณ วิฺตฺติปจฺจยา, ปฏิลาภกฺขเณ โคณานํ สาทิยนปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ. โคณฺหิ อตฺตโน อตฺถาย อวิฺตฺติยา ลทฺธมฺปิ สาทิตุํ น วฏฺฏติ ‘‘หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วุตฺตตฺตา. เตเนวาห ‘‘าติปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เอตฺถ จ วิฺตฺติทุกฺกฏาภาเวปิ อกปฺปิยวตฺถุยาจเนปิ ปฏิคฺคหเณปิ ทุกฺกฏเมว. รกฺขิตฺวาติ โจราทิอุปทฺทวโต รกฺขิตฺวา. ชคฺคิตฺวาติ ติณทานาทีหิ โปเสตฺวา.
าติปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏตีติ สกฏสฺส สมฺปฏิจฺฉิตพฺพตฺตา มูลจฺเฉชฺชวเสน ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ วฏฺฏตีติ อุภยตฺถาปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ ¶ . วาสิอาทีนิ ปุคฺคลิกานิปิ วฏฺฏนฺตีติ อาห ‘‘เอส นโย วาสี’’ติอาทิ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ จ เอเสว นโยติ โยเชตพฺพํ. ‘‘ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยวา’’ติ อิทํ วิฺตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อทินฺนาทาเน ปน ติณสลากํ อุปาทาย ปรปริคฺคหิตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร เอว, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. วลฺลิอาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปาฬิอาคตานํ (ปารา. ๓๔๙) เวฬุอาทีนํ สงฺคโห. ตตฺถ ยสฺมึ ปเทเส หริตาลชาติหิงฺคุลาทิ อปฺปกมฺปิ มหคฺฆํ โหติ, ตตฺถ ตํ ตาลปกฺกปมาณโต อูนมฺปิ ครุภณฺฑเมว, วิฺาเปตฺุจ น วฏฺฏติ.
สาติ วิฺตฺติ. ปริกถาทีสุ ‘‘เสนาสนํ สมฺพาธ’’นฺติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) ปริยาเยน กถนํ ปริกถา นาม. อุชุกเมว อกเถตฺวา ‘‘ภิกฺขูนํ กึ ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) อธิปฺปาโย ยถาวิภูโต โหติ, เอวํ ภาสนํ โอภาโส นาม. เสนาสนาทิอตฺถํ ภูมิปริกมฺมาทิกรณวเสน ปจฺจยุปฺปาทาย นิมิตฺตกรณํ นิมิตฺตกมฺมํ นาม. อุกฺกมนฺตีติ อปคจฺฉนฺติ.
๓๔๔. มณิ กณฺเ อสฺสาติ มณิกณฺโ. เทววณฺณนฺติ เทวตฺตภาวํ.
๓๔๕. ปาฬิยํ ¶ ปตฺเตน เม อตฺโถติ (ปารา. ๓๔๕) อนตฺถิกมฺปิ ปตฺเตน ภิกฺขุํ เอวํ วทาเปนฺโต ภควา โสตฺถิยา มนฺตปทวเสน วทาเปสิ. โสปิ ภิกฺขุ ภควตา อาณตฺตวจนํ วเทมีติ อโวจ, เตนสฺส มุสา น โหติ. อถ วา ‘‘ปตฺเตน เม อตฺโถ’’ติ อิทํ ‘‘ปตฺตํ ททนฺตู’’ติ อิมินา สมานตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย มณินา เม อตฺโถติ เอตฺถาปิ. ตสฺมา อฺเสมฺปิ เอวรูปํ กเถนฺตสฺส, กถาเปนฺตสฺส จ วจนโทโส นตฺถีติ คเหตพฺพํ.
๓๔๙. อุทฺธํมุขํ ลิตฺตา อุลฺลิตฺตา, ฉทนสฺส อนฺโต ลิมฺปนฺตา หิ เยภุยฺเยน อุทฺธํมุขา ลิมฺปนฺติ. เตนาห ‘‘อนฺโตลิตฺตา’’ติ. อโธมุขํ ลิตฺตา อวลิตฺตา. พหิ ลิมฺปนฺตา หิ เยภุยฺเยน อโธมุขา ลิมฺปนฺติ. เตนาห ‘‘พหิลิตฺตา’’ติ.
พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺยาติ ยสฺมา ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมสฺส เหตุกตฺตุวจนสฺส ‘‘กโรนฺเตนา’’ติ อิทํ สุทฺธกตฺตุวจนํ ปริยายวจนํ น ¶ โหติ, ตสฺมา ‘‘กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วา’’ติ การยมาเนนาติ พหุอุทฺเทสปทานุคุณํ กรณวจเนเนว ปทตฺถํ กตฺวา นิทฺเทเส กเต พฺยฺชนํ วิรุทฺธํ ภเวยฺย, ตถา ปน ปทตฺถวเสน อทสฺเสตฺวา สามตฺถิยโต สิทฺธเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ปจฺจตฺตวเสน ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อตฺถมตฺตเมวา’’ติอาทิ. ปทตฺถโต, สามตฺถิยโต จ ลพฺภมานํ อตฺถมตฺตเมวาติ อตฺโถ. ยฺหิ การยมาเนน ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตํ กโรนฺเตนาปิ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวาติ อิทเมตฺถ สามตฺถิยํ ทฏฺพฺพํ.
อุทฺเทโสติ สามิภาเวน อุทฺทิสิตพฺโพ. เสตกมฺมนฺติ เสตวณฺณกรณตฺถํ เสตวณฺณมตฺติกาย วา สุธาย วา กตตนุกเลโป, เตน ปน สห มินิยมาเน ปมาณาติกฺกนฺตํ โหตีติ สงฺกานิวารณตฺถํ อาห ‘‘อพฺโพหาริก’’นฺติ. เตน ปมาณาติกฺกนฺตโวหารํ น คจฺฉติ กุฏิยา อนงฺคตฺตาติ อธิปฺปาโย.
ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส วุตฺตนยํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อายามโต จ วิตฺถารโต จา’’ติ อวตฺวา ‘‘อายามโต วา วิตฺถารโต วา’’ติ วิกปฺปตฺถสฺส วา-สทฺทสฺส วุตฺตตฺตา เอกโตภาเค วฑฺฒิเตปิ อาปตฺตีติ ปกาสิตนฺติ อธิปฺปาโย. ติหตฺถาติ ปกติหตฺเถน ติหตฺถา, ‘‘วฑฺฒกีหตฺเถนา’’ติปิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๔๘-๓๔๙) วทนฺติ, ตํ ‘‘ยตฺถ…เป… อยํ กุฏีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ อิมินา วิรุชฺฌติ วฑฺฒกีหตฺเถน ติหตฺถายปิ กุฏิยา ปมาณยุตฺตสฺส มฺจสฺส สุเขน ปริวตฺตนโต. ‘‘อูนกจตุหตฺถา วา’’ติ อิทฺจ ปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตสฺส ¶ มฺจสฺส อปริวตฺตนารหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ หิ ปกติหตฺเถน จตุหตฺถายปิ กุฏิยา ปมาณยุตฺโต มฺโจ น ปริวตฺตติ, สา อกุฏีเยว, ตสฺมา มฺจปริวตฺตนมตฺเตเนว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. ปมาณยุตฺโต มฺโจติ สพฺพปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺโต มฺโจ. โส หิ ปกติวิทตฺถิยา นววิทตฺถิโก, อฏฺวิทตฺถิโก วา โหติ, ตโต ขุทฺทโก มฺโจ สีสูปธานํ เปตฺวา ปาทํ ปสาเรตฺวา นิปชฺชิตุํ น ปโหติ. ปมาณโต อูนตรมฺปีติ อุกฺกฏฺปฺปมาณโต อูนตรมฺปิ, อิทฺจ เหฏฺิมปฺปมาณยุตฺตายปิ วตฺถุเทสนา กาตพฺพา, น วาติ สนฺเทหนิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ.
กลลเลโปติ ¶ เกนจิ สิเลเสน กตเลโป, เสตรตฺตาทิวณฺณกรณตฺถํ กตตมฺพมตฺติกาทิกลลเลโป วา. เตนาห ‘‘อเลโป เอวา’’ติ. เตน ตฬากาทีสุ ฆเนน กลเลน กตพหลเลโป มตฺติกาเลปเน เอว ปวิสติ เลปโวหารคมนโตติ ทสฺเสติ. ปิฏฺสงฺฆาโฏ นาม ทฺวารพาหสงฺขาโต จตุรสฺสทารุสงฺฆาโฏ, ยตฺถ สอุตฺตรปาสํ กวาฏํ อปสฺสาย ทฺวารํ ปิทหนฺติ.
โอโลเกตฺวาปีติ อปโลเกตฺวาปิ, อปโลกนกมฺมวเสนาปีติ อตฺโถ, อปสทฺทสฺสาปิ โออาเทโส กโตติ ทฏฺพฺโพ.
๓๕๓. นิพทฺธโคจรฏฺานมฺปีติ เอตฺถ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ หตฺถีนํ นิพทฺธคมนมคฺโคปิ สงฺคยฺหติ. เอเตสนฺติ สีหาทีนํ. โคจรภูมีติ อามิสคฺคหณฏฺานํ. น คหิตาติ ปฏิกฺขิปิตพฺพภาเวน น คหิตา, น วาริตาติ อตฺโถ. สีหาทีนฺหิ โคจรคฺคหณฏฺานํ หตฺถีนํ วิย นิพทฺธํ น โหติ, ยตฺถ ปน โคมหึสาทิปาณกา สนฺติ, ทูรมฺปิ ตํ านํ สีฆํ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เตสํ ตํ น วาริตํ, นิพทฺธคมนมคฺโคว วาริโต อาสยโต คมนมคฺคสฺส นิพทฺธตฺตา. อฺเสมฺปิ วาฬานนฺติ อรฺมหึสาทีนํ. อาโรคฺยตฺถายาติ นิรุปทฺทวาย. เสสานีติ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตาทีนิ โสฬส. ตานิ จ ชนสมฺมทฺทมหาสมฺมทฺทกุฏิวิโลปสรีรปีฬาทิอุปทฺทเวหิ สอุปทฺทวานีติ เวทิตพฺพานิ. อภิหนนฺติ เอตฺถาติ อพฺภาฆาตํ. ‘‘เวริฆร’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘โจรานํ มารณตฺถาย กต’’นฺติ วุตฺตํ.
ธมฺมคนฺธิกาติ ธมฺเมน ทณฺฑนีติยา หตฺถปาทาทิจฺฉินฺทนคนฺธิกา. คนฺธิกาติ จ ยสฺส อุปริ หตฺถาทึ เปตฺวา ฉินฺทนฺติ, ตาทิสํ ทารุขณฺฑผลกาติ วุจฺจติ, เตน จ อุปลกฺขิตํ านํ. ปาฬิยํ รจฺฉานิสฺสิตนฺติ รถิกานิสฺสิตํ. จจฺจรนิสฺสิตนฺติ จตุนฺนํ รถิกานํ สนฺธินิสฺสิตํ. สกเฏนาติ อิฏฺกสุธาทิภณฺฑาหรณสกเฏน.
ปาจินนฺติ ¶ เสนาสนสฺส ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ตลาวสานํ จินิตพฺพวตฺถุกํ อธิฏฺานํ, ยสฺส อุปริ ภิตฺติถมฺภาทีนิ จ ปติฏฺเปนฺติ. เตนาห ‘‘ตโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. กิฺจาปิ อิธ ปุพฺพปโยคสหปโยคานํ อทินฺนาทาเน วิย วิเสโส นตฺถิ, ตถาปิ เตสํ วิภาเคน ทสฺสนํ ¶ ภินฺทิตฺวา วา ปุน กาตพฺพาติ เอตฺถ กุฏิยา เภเทน ปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ กตํ. ตทตฺถายาติ ตจฺฉนตฺถาย. เอวํ กตนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กตํ. ปณฺณสาลนฺติ ปณฺณกุฏิยา ติณปณฺณจุณฺณสฺส อปริปตนตฺถาย อนฺโต จ พหิ จ ลิมฺปนฺติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปณฺณสาลํ ลิมฺปตี’’ติ.
อนฺโตเลเปเนว นิฏฺาเปตุกามํ สนฺธาย ‘‘อนฺโตเลเป วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พหิเลเป วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺมินฺติ ทฺวารพนฺเธ วา วาตปาเน วา ปิเตติ โยเชตพฺพํ. ตสฺโสกาสนฺติ ตสฺส ทฺวารพนฺธาทิสฺส โอกาสภูตํ ฉิทฺทํ. ปุน วฑฺเฒตฺวาติ ปุพฺเพ ปิโตกาสํ ขุทฺทกํ เจ, ตํ ทฺวารวาตปานจฺฉิทฺทเภทเนน ปุน วฑฺเฒตฺวา. ปิเตติ ทฺวารพนฺเธ วา ควกฺขสงฺฆาเฏ วา อาเนตฺวา ตสฺมึ วฑฺฒิเต วา อวฑฺฒิเต วา ฉิทฺเท ปติฏฺาปิเต. เลโป น ฆฏียตีติ สมนฺตโต ทินฺโน เลโป ตถา ปิเตน ทฺวารพนฺธเนน วา วาตปาเนน วา สทฺธึ น ฆฏียติ, เอกาพทฺธํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติ ทฺวารพนฺธํ วา วาตปานํ วา. ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ เตสํ สมนฺตโต ปุพฺเพว เลปสฺส ฆเฏตฺวา นิฏฺาปิตตฺตา ทฺวารพนฺธวาตปานานํ ปนโต ปุพฺเพ เอว สงฺฆาทิเสโส.
เลปฆฏเนเนวาติ อิฏฺกาหิ กตวาตปานาทีนิ วินา สมนฺตา เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ วาตปานาทีนํ อเลโปกาสตฺตา, อิฏฺกาหิ กตตฺตา วา, วาตปานาทีสุปิ เลปสฺส ภิตฺติเลเปน สทฺธึ ฆฏเนเนวาติปิ อตฺถํ วทนฺติ. ตตฺถาติ ปณฺณสาลายํ. อาโลกตฺถาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ เปตฺวา ลิมฺปตีติ ทารุกุฏฺฏสฺส ทารูนมนฺตรา อฏฺงฺคุลมตฺตํ วิวรํ ยาว ลิมฺปติ, ตาว อาโลกตฺถาย เปตฺวา อวเสสํ สกุฏฺฏจฺฉทนํ ลิมฺปติ, ปจฺฉา เอตํ วิวรํ ลิมฺปิสฺสามีติ เอวํ ปเน อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา สพฺพทาปิ อาโลกตฺถาย วาตปานวเสน เปติ, วาตปานทฺวารสงฺฆาเฏ ฆฏิเต เลโป จ ฆฏียติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. มตฺติกากุฏฺฏเมว มตฺติกาเลปสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺตี’’ติ. อุภินฺนํ อนาปตฺตีติ ปุริมสฺส เลปสฺส อฆฏิตตฺตา ทุติยสฺส อตฺตุทฺเทสิกตาย อสมฺภวโต.
๓๕๔. อาปตฺติเภททสฺสนตฺถนฺติ ¶ ตตฺถ ‘‘สารมฺเภ จ อปริกฺกมเน จ ทุกฺกฏํ อเทสิตวตฺถุกตาย ¶ , ปมาณาติกฺกนฺตตาย จ สงฺฆาทิเสโส’’ติ เอวํ อาปตฺติเยว วิภาคทสฺสนตฺถํ.
๓๖๑. อนิฏฺิเต กุฏิกมฺเมติ เลปปริโยสาเน กุฏิกมฺเม เอกปิณฺฑมตฺเตนปิ อนิฏฺิเต. ‘‘อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา’’ติ อิทํ มูลฏฺสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เยน ปน ลทฺธํ, ตสฺสาปิ ตํ นิฏฺาเปนฺตสฺส ‘‘ปเรหิ วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๖๓) อาปตฺติเยว. ปุพฺเพ กตกมฺมมฺปิ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย อตฺตโน อตฺถาเยว กตํ นาม โหติ, ตสฺมา เตนาปิ สงฺฆสฺส วา สามเณราทีนํ วา ทตฺวา นิฏฺาเปตพฺพํ. ‘‘อฺสฺส วา’’ติ อิทํ อนุปสมฺปนฺนํเยว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, เกจิ ปน ‘‘ปรโต ลทฺธาย กุฏิยา นิฏฺาปเน อนาปตฺติอาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน อตฺถาย อกตตฺตา’’ติ วทนฺติ. อปจินิตพฺพาติ ยาว ปาจินา วิทฺธํเสตพฺพา. ภูมิสมํ กตฺวาติ ปาจินตลาวสานํ กตฺวา.
๓๖๔. เลณนฺติ ปพฺพตเลณํ. น เหตฺถ เลโป ฆฏียตีติ ฉทนเลปสฺส อภาวโต วุตฺตํ, วิสุํ เอว วา อนฺุาตตฺตา. สเจ เลณสฺส อนฺโต อุปริภาเค จิตฺตกมฺมาทิกรณตฺถํ เลปํ เทนฺติ, อุลฺลิตฺตกุฏิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, วฏฺฏติ เอว. อิฏฺกาทีหิ กตํ จตุรสฺสกูฏาคารสณฺานํ เอกกณฺณิกาพทฺธํ นาติอุจฺจํ ปฏิสฺสยวิเสสํ ‘‘คุหา’’ติ วทนฺติ, ตาทิสํ มหนฺตมฺปิ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภูมิคุหนฺติ อุมงฺคคุหํ.
อฏฺกถาสูติ กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติอาทีสุ อฏฺกถาสุ ติณกุฏิกา กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติ วตฺวา ปุน ตํ วิวรนฺเตหิ อฏฺกถาจริเยหิ ฉทนํ ทณฺฑเกหิ…เป… วุตฺตาติ โยชนา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ทณฺฑเกหิ ชาลพทฺธํ กตฺวาติ ทีฆโต, ติริยโต จ เปตฺวา วลฺลิยาทีหิ พทฺธทณฺฑเกหิ ชาลํ วิย กตฺวา. โส จาติ อุลฺลิตฺตาทิภาโว. ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโตติ ฉทนสฺส อนฺโต จ พหิ จ ลิมฺปนเมว สนฺธาย วุตฺโต. มตฺติกากุฏฺเฏ ภิตฺติเลปํ วินาปิ ภิตฺติยา สทฺธึ ¶ ฉทนเลปสฺส ฆฏนมตฺเตนาปิ อาปตฺติสมฺภวโต ฉทนเลโปว ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ. กิฺจาปิ เอวํ, อถ โข ‘‘อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏียติ นาม, อนาปตฺติเยวา’’ติอาทิวจนโต ปน ฉทนเลปฆฏนตฺถํ สกลายปิ ภิตฺติยา เลโป อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺโพว ตสฺสา เอกเทสสฺส อเลเปปิ ฉทนเลปสฺส อฆฏนโต. เตนาห ‘‘เลโป น ฆฏียตี’’ติ. เอตฺถาติ ติณกุฏิกายํ. น เกวลฺจ ติณกุฏิกายํ เอว, เลณคุหาทีสุปิ สารมฺภาปริกฺกมนปจฺจยาปิ อนาปตฺติ เอว, อิมินา ¶ ปน นเยน อฺสฺสตฺถาย กุฏึ กโรนฺตสฺสาปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว อตฺถโต ทสฺสิโต เอว โหตีติ.
ตตฺถ ปาฬิวิโรธํ ปริหริตุํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อฺสฺส อุปชฺฌายาทิโน อตฺถาย กโรนฺตสฺส สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติ เอว, ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘อาปตฺติการุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทิวจนํ, ตํ อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺส, น สารมฺภาทิปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, กิฺจรหิ ยถาสมาทิฏฺาย กุฏิยา อกรณปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. ตตฺถ ยถาสมาทิฏฺายาติ ‘‘ภิกฺขุ สมาทิสิตฺวา ปกฺกมติ, ‘กุฏึ เม กโรถา’ติ สมาทิสติ จ, เทสิตวตฺถุกา จ โหตุ อนารมฺภา จ สปริกฺกมนา จา’’ติ เอวํ การาปเกน อาณตฺติกฺกมํ มฺุจิตฺวา กรณปจฺจยาติ อธิปฺปาโย. กตฺถจิ ปน โปตฺถเก ‘‘กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ อฺสฺส…เป… กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมสฺส ปาสฺส อนนฺตรํ ‘‘ยํ ปน อาปตฺติ การุกาน’’นฺติอาทิปาโ ทิสฺสติ, โสว ยุตฺตตโร. เอวฺหิ สติ ตตฺถ อธิปฺปาโย ปากโฏ โหติ.
อนาปตฺตีติ วตฺวาติ วาสาคารตฺถาย เอว อนิยมิตตฺตา อนาปตฺตีติ วตฺวา. อเทสาเปตฺวา กโรโตติ ปมาณยุตฺตมฺปิ กโรโต. อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกํ. อุลฺลิตฺตาทีนํ อฺตรตา, เหฏฺิมปฺปมาณสมฺภโว, อเทสิตวตฺถุกตา, ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, วาสาคารตา, เลปฆฏนาติ สตฺต วา ปมาณยุตฺตงฺคาทีสุ ฉ วา องฺคานิ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๕. สตฺตเม ¶ ปูชาวจนปฺปโยเค กตฺตริ สามิวจนสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา ‘‘คามสฺส วา ปูชิต’’นฺติ วุตฺตํ. รูปินฺทฺริเยสุ วิชฺชมานํ สนฺธาย เอกินฺทฺริยตา วุจฺจตีติ อาห ‘‘กายินฺทฺริยํ สนฺธายา’’ติ. เต หิ มนินฺทฺริยมฺปิ ภูตคามานํ อิจฺฉนฺติ.
๓๖๖. กิริยโต สมุฏฺานาภาโวติ วตฺถุโน อเทสนาสงฺขาตํ อกิริยํ วินา น เกวลํ กิริยาย สมุฏฺานภาโว. กิริยากิริยโต หิ อิทํ สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขู วา ¶ อนภิเนยฺยาติ เอตฺถ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน ‘‘มหลฺลกฺจ วิหารํ กเรยฺย, ภิกฺขู จ อนภิเนยฺยา’’ติ กิริยฺจ อกิริยฺจ สมุจฺจิโนติ.
วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๐. อฏฺเม ปากาเรน จ ปริกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตนฺติ เอตฺถ ปากาเรสุ ยุทฺธตฺถาย กโต วงฺกสณฺาโน สรกฺเขปฉิทฺทสหิโต ปติสฺสยวิเสโส อฏฺฏาลโก นาม.
โสฬสวิธสฺสาติ จตูหิ มคฺเคหิ ปจฺเจกํ จตูสุ สจฺเจสุ กตฺตพฺพสฺส ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาสงฺขาตสฺส โสฬสวิธสฺส. เต คารเวนาติ เต กิลนฺตรูปา ภิกฺขู ภตฺตุทฺเทสกฏฺาเน สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต อตฺตโน กิลนฺตสรีรํ ทสฺเสตฺวา อุทฺทิสาปเน คารเวน, ลชฺชายาติ อตฺโถ. เตรสปีติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคาหาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคาหาปกปตฺตคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีนํ วเสน เตรสปิ.
ปาฬิยํ ‘‘อปิสู’’ติ อิทํ ‘‘อปิจา’’ติ อิมินา สมานตฺโถ นิปาโต. เอวํ สพฺพปเทสูติ ปีาทีสุ เสนาสนสาธารเณสุ, กติกสณฺานปเวสนิกฺขมนกาลาทีสุ ปน วิสุํ วิสุํ อธิฏฺหิตฺวา กถาเปตีติ เวทิตพฺพํ ¶ . อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตาติ อนิยเมตฺวา นิมฺมิตานํ วเสน วุตฺตํ, นิยเมตฺวา ปน ‘‘เอตฺตกา อิทฺจิทฺจ กเถนฺตุ, เอตฺตกา ตุณฺหี ภวนฺตุ, นานาปฺปการํ อิริยาปถํ, กิริยฺจ กปฺเปนฺตุ, นานาวณฺณสณฺานวโยนิยมา จ โหนฺตู’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺิเต อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการา อฺมฺมฺปิ วิสทิสาว โหนฺติ. อวตฺถุกวจนนฺติ นิรตฺถกวจนํ.
๓๘๓. เอกจาริกภตฺตนฺติ อติมนาปตฺตา สพฺเพสมฺปิ ปฏิลาภตฺถาย วิสุํ ิติกาย ปาเปตพฺพภตฺตํ. ตทฺธิตโวหาเรนาติ จตฺตาริ ปมาณมสฺส จตุกฺกนฺติ เอวํ ตทฺธิตโวหาเรน. ภโวติ ภวิตพฺโพ. อตีตํ ทิวสภาคนฺติ ตสฺมิฺเว ทิวเส สลากทานกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. หิยฺโยติ อิมสฺส อชฺช อิจฺเจว อตฺโถ. เตเนวาหํสุ ‘‘สฺเว อมฺเห’’ติอาทิ. ปธูปายนฺตาติ ปุนปฺปุนํ ¶ อุปฺปชฺชนโกธวเสน ปธูปายนฺตา. ปาฬิยํ กิสฺส มนฺติ เกน การเณน มยาติ อตฺโถ.
๓๘๔. ‘‘สรสิ ตฺว’’นฺติ อิทํ เอกํ วากฺยํ กตฺวา, ‘‘กตฺตา’’ติ อิทฺจ กตฺตริ ริตุปจฺจยนฺตํ กตฺวา, ‘‘อสี’’ติ อชฺฌาหารปเทน สห เอกวากฺยํ กตฺวา, ‘‘เอวรูป’’นฺติ อิทํ, ‘‘ยถายํ ภิกฺขุนี อาหา’’ติ อิทฺจ ทฺวีสุ วากฺเยสุ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. อุชุกเมวาติ ตฺวา-ปจฺจยนฺตวเสน ปมํ อตฺถคฺคหณํ อุชุกนฺติ อธิปฺปาโย.
ทุติโย ทพฺพ-สทฺโท ปณฺฑิตาทิวจโนติ อาห ‘‘น โข ทพฺพ ทพฺพา ปณฺฑิตา’’ติ. นิพฺเพเนฺตีติ โทสโต โมเจนฺติ. วินยลกฺขเณ ตนฺตินฺติ วินยวินิจฺฉยลกฺขณวิสเย อาคมํ เปนฺโต. ปาฬิยํ ยโต อหนฺติอาทีสุ ยสฺมึ กาเล อหํ ชาโต, ตโต ปภุติ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ นาภิชานามิ, น จ ตสฺส เมถุนธมฺมสฺส ปฏิเสวิตา อโหสินฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘สุปินนฺเตนปี’’ติอาทิ. อิทานิ เอกวากฺยวเสน โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ฆฏตีติ ยสฺมา ขีณาสวสฺส วจเนน เอติสฺสา วจนํ น สเมติ, ตฺจ น ฆฏนํ ยสฺมา ปุพฺเพ ภิกฺขูสุ ปสิทฺธาย เอว อจฺจนฺตทุสฺสีลตาย เอว อโหสิ, ตสฺมา เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ อธิปฺปาโย.
จร ปิเรติ จร คจฺฉ ปิเร ปร อมามก ตฺวํ. วินสฺสาติ อทสฺสนํ คจฺฉ. อการิกาติ อมูลเกน โจทนาย น การิกา. การโก โหตีติ ¶ ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ อิมาย ปฏิฺาย ยทิ นาสิตา, ตทา เถโร ภิกฺขุนีทูสกตฺตสิทฺธิโต ตสฺส โทสสฺส การโก โหติ. อการโก โหตีติ ตาย กตปฏิฺํ อนเปกฺขิตฺวา สามฺโต ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา อการโก โหติ. ยทิ หิ เถโร การโก ภเวยฺย, อวสฺสํ ตเมว โทสํ อปทิสิตฺวา อิมินา นาม การเณน ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตถา อวุตฺตตฺตา, ‘‘ทพฺพฺจ อนุยฺุชถา’’ติ อวตฺวา ‘‘อิเม จ ภิกฺขู อนุยฺุชถา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สามตฺถิยโต เมตฺติยาย ภิกฺขุนิยา อฺเน โทเสน นาสนารหตา, วตฺถุสฺส จ อมูลกภาโว, เถรสฺส อการกภาโว จ สิทฺโธ โหตีติ อธิปฺปาโย.
อตฺตโน สุตฺตนฺติ ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ อิมินา ปกฺเขปวจเนน สหิตํ กูฏสุตฺตํ. เถโร ¶ การโก โหตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ อวตฺวา สามฺโต ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ โอติณฺณวตฺถุสฺมึเยว ตสฺสา นาสนา วิหิตาติ ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ, ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ ปน วุตฺเต ปุพฺเพเยว สิทฺธสฺส ปาราชิกสฺส สุจิกาย อสฺสา สกาย ปฏิฺาย นาเสถาติ สิชฺฌนโต อมฺหากํ วาเท เถโร อการโก โหตีติ. มหาวิหารวาสีนมฺปิ ปน ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ วุตฺเต โอติณฺณวตฺถุสฺมึเยว ตสฺสา นาสนา วิหิตา โหติ, น สามฺโตติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาติ อิเมสุ ทฺวีสุ วาเทสุ, สุตฺเตสุ วา. ยํ ปจฺฉา วุตฺตนฺติ มหาวิหารวาสีหิ ยํ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. วิจาริตํ เหตนฺติ เอตํ ปจฺฉิมสฺส ยุตฺตตฺตํ วิจาริตํ, ‘‘ตตฺร สงฺฆาทิเสโส วุฏฺานคามินี…เป… อสุทฺธตาเยว นาเสสี’’ติ วกฺขมานนเยน วินิจฺฉิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา มหาอฏฺกถาวาโท ทสฺสิโต.
ตตฺราติ เตสุ ทุกฺกฏปาจิตฺติเยสุ. ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตมหาอฏฺกถาวาทสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปาจิตฺติย’’นฺติ ปวตฺตสฺส กุรุนฺทิวาทสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺฉิมนเยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วจนปฺปมาณโตติ วิสํวาทนาธิปฺปาเย สมาเนปิ อนุทฺธํสนาทิวิเสเส สงฺฆาทิเสสาทิโน วิธายกวจนพเลนาติ อตฺโถ. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติ ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.
เอวํ ¶ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาวจเนสุ อธิปฺปายํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ปจฺฉิเม ปาจิตฺติยวาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา ปุริมทุกฺกฏวาทเมว ปติฏฺาเปตุํ ‘‘ตตฺร ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิสุนฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยโต (ปาจิ. ๑) วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ อนนฺโตคธภาวาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา อมูลกานุทฺธํสเน วิสฺุเว ปาจิตฺติยํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ปุริมนโยติ ทุกฺกฏวาโท. เอวํ อนฺตรา ปวิฏฺํ ทุกฺกฏปาจิตฺติยวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปากฏเมว อตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ตถา ภิกฺขุนี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตถาติ ยถา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุํ, ภิกฺขุนิฺจ อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสสทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ, ตถาติ อตฺโถ. เอเตหิ นาสนา นตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ, ทุกฺกเฏน อิมิสฺสา ปน นาสนา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ทุสฺสีลาติ ปาราชิกา.
๓๘๖. อาการนานตฺเตนาติ ทูสิตาการสฺส, ทูสกาการสฺส จ นานตฺเตน. อนภิรทฺโธติ อตุฏฺโ. เตนาห ‘‘น สุขิโต’’ติ. น ปสาทิโตติ อนุปฺปาทิตปฺปสาโท. ขีล-สทฺโท ถทฺธภาววจโน ¶ , กจวรปริยาโย จ โหตีติ อาห ‘‘จิตฺต…เป… ขีล’’นฺติ. นปฺปตีโตติ ปีติสุขาทีหิ น อภิคโต น อุปคโต. เตนาห ‘‘น อภิสโฏ’’ติ.
เยน ทุฏฺโติ จ กุปิโตติ จ วุตฺโตติ เอตฺถ เยน ทุฏฺโติ จ วุตฺโต เยน กุปิโตติ จ วุตฺโต, ตํ มาติกายฺจ ปทภาชเน (ปารา. ๓๘๖) จ วุตฺตํ อุภยมฺเปตนฺติ โยเชตพฺพํ. ทฺวีหีติ ‘‘เตน จ โกเปน, เตน จ โทเสนา’’ติ วุตฺตโกปโทสปเทหิ ทฺวีหิ, อตฺถโต ปน ทฺวีหิปิ โทโสว ทสฺสิโตติ อาห ‘‘สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสตี’’ติ. ยายาติ อนตฺตมนตาย.
น จุทิตกวเสนาติ ยทิ จุทิตกวเสนาปิ อมูลกํ อธิปฺเปตํ สิยา, อมูลกํ นาม อนชฺฌาปนฺนนฺติ ปทภาชนํ วเทยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยํ ปาราชิกนฺติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ อฺตรํ. ปทภาชเน (ปารา. ๓๘๖) ปน ภิกฺขุวิภงฺเค อาคตาเนว คเหตฺวา ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. เอตํ อิธ อปฺปมาณนฺติ เอตํ อาปนฺนานาปนฺนตํ อิธานุทฺธํสเน ¶ อาปตฺติยา อนงฺคํ, อาปตฺตึ ปน อาปนฺเน วา อนาปนฺเน วา ปุคฺคเล ‘‘อนาปนฺโน เอโส สุทฺโธ’’ติ สุทฺธสฺาย วา วิมติยา วา จาวนาธิปฺปาโยว อิธ องฺคนฺติ อธิปฺปาโย.
ตเถวาติ ปสาทโสเตน, ทิพฺพโสเตน วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ทิฏฺานุสาเรเนว สมุปฺปนฺนา ปริสงฺกาว ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อทิสฺวา วา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, ทิสฺวา ปกฺกนฺเตสุปิ โทโส นตฺถิเยว. อิเมสนฺติ อิเมหิ. กริสฺสนฺตีติ ตสฺมึ ขเณ อุปฺปชฺชนาการทสฺสนํ, ปจฺฉา ปน เอตฺตเกน กาเลน กตํ วาติ สงฺกาย โจเทติ. น หิ กริสฺสนฺตีติ โจทนา อตฺถิ. ‘‘อริฏฺํ ปีต’’นฺติ อิทํ มุเข สุราคนฺธวายนนิมิตฺตทสฺสนํ. อริฏฺฺหิ สุราสทิสวณฺณคนฺธํ กปฺปิยเภสชฺชํ.
ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกนฺติอาทีสุ อชฺฌาจารสฺส สมฺภวาสมฺภวานํ มูลามูลภาวทสฺสนํ. อตฺถิ สฺาสมูลกนฺติอาทิ ปน ทิฏฺสฺาย สมฺภวาสมฺภวานํ มูลามูลภาวทสฺสนํ. ทิสฺวาว ทิฏฺสฺี หุตฺวา โจเทตีติ เอตฺถ ยํ โจเทติ, ตโต อฺํ ปุคฺคลํ วีติกฺกมนฺตํ, ปฏิจฺฉนฺโนกาสโต นิกฺขมนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘อยํ โส’’ติ สฺาย โจเทนฺโตปิ สงฺคยฺหติ. เอส นโย สุตาทีสุปิ. สมูลเกน วา สฺาสมูลเกน วาติ เอตฺถ ปาราชิกมาปนฺนํ ทิฏฺาทิมูลเกน จ ‘‘อยํ อาปนฺโน’’ติ อสุทฺธสฺาย โจเทนฺโต สมูลเกน โจเทติ นาม. สฺาสมูลกตฺเต เอว อนาปตฺติสมฺภวโต อาปนฺเน วา อนาปนฺเน วา ปุคฺคเล อาปนฺนสฺี ทิฏฺาทีสุ ¶ , อทิฏฺาทีสุ วา มูเลสุ ทิฏฺสุตาทิสฺี เตน ทิฏฺาทิมูลเกน ตํ ปุคฺคลํ โจเทนฺโต สฺาสมูลเกน โจเทติ นาม. อิเมสํ อนาปตฺติ, วุตฺตวิปริยาเยน อาปตฺติวาเร อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สมีเป ตฺวาติ หตฺถวิการวจีโฆสานํ โจทนาวเสน ปวตฺติยมานานํ ทสฺสนสวนูปจาเร ตฺวาติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ตฺวา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. ปรโต พฺยติเรกโต อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน ‘‘ทฺวาทสหตฺถํ มฺุจิตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอตี’’ติ วุตฺตํ. วาจาย วาจายาติ สกึ อาณตฺตสฺส สกลมฺปิ ทิวสํ วทโต วาจาย ¶ วาจาย โจทาปกสฺเสว อาปตฺติ. โสปีติ อาณตฺโตปิ. ตสฺส จ ‘‘มยาปิ ทิฏฺ’’นฺติอาทึ อวตฺวาปิ ‘‘อมูลก’’นฺติ สฺาย จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติ อิทเมว วาจํ ปรสฺส วจนํ วิย อกตฺวา สามฺโต วทนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส เอว. สติปิ ปน อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย ‘‘อสุเกน เอวํ วุตฺต’’นฺติ ปเรน วุตฺตเมว วทนฺตสฺส นตฺถิ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน ปเรน อวุตฺตมฺปิ วุตฺตนฺติ วทติ, อาปตฺติ เอว.
สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหีติ เอตฺถ สมฺพหุเลติ จุทิตกพหุตฺตนิทฺเทเสน ปุริเมสุ ตีสุ วาเรสุ จุทิตกพหุตฺเตนาปิ วารเภทสพฺภาวํ าเปติ. เอกสฺมิฺหิ จุทิตกวตฺถุโจทกเภเทน อิทํ จตุกฺกํ วุตฺตํ, จุทิตกพหุตฺเตนาปิ จตุกฺกนฺตรํ ลพฺภตีติ อฏฺกํ โหติ เอว.
อมูลกโจทนาปสงฺเคน สมูลกโจทนาลกฺขณาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘โจเทตุํ ปน โก ลภตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตีติอาทิ สุตฺตํ ยสฺมา เย โจทกสฺส อฺเสํ วิปตฺตึ ปกาเสนฺติ, เตปิ ตสฺมึ ขเณ โจทกภาเว ตฺวาว ปกาเสนฺติ, เตสฺจ วจนํ คเหตฺวา อิตโรปิ ยสฺมา โจเทตฺุจ อสมฺปฏิจฺฉนฺตํ เตหิ ติตฺถิยสาวกปริโยสาเนหิ ปมโจทเกหิ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺุจ ลภติ, ตสฺมา อิธ สาวกภาเวน อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทูตํ วาติอาทีสุ ‘‘ตฺวํ เอวํ คนฺตฺวา โจเทหี’’ติ ทูตํ วา เปเสตฺวา โย โจเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ปณฺณํ, มูลสาสนํ วา เปเสตฺวา. สมเยนาติ ปกติยา ชานนกฺขเณ.
ครุกานํ ทฺวินฺนนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ. มิจฺฉาทิฏฺิ นาม ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๔, ๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖, ๑๓๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐) ทสวตฺถุกา ¶ ทิฏฺิ, สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตํ อนฺตํ คณฺหาปกทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกา นาม. อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนนฺติ อาชีวเหตุปิ อาปชฺชิตพฺพานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกํ (ปารา. ๑๙๕), สฺจริตฺเต (ปารา. ๓๐๑, ๓๐๒) สงฺฆาทิเสโส, ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส อรหา’’ติ (ปารา. ๒๒๐) ปริยาเยน ถุลฺลจฺจยํ, ภิกฺขุสฺส ปณีตโภชนวิฺตฺติยา ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๒๕๗), ภิกฺขุนิยาปณีตโภชนวิฺตฺติยา ¶ ปาฏิเทสนียํ (ปาจิ. ๑๒๓๖), สูโปทนวิฺตฺติยา (ปาจิ. ๖๑๒-๖๑๓) ทุกฺกฏนฺติ อิเมสํ ปริวาเร (ปริ. ๒๘๗) วุตฺตานํ ฉนฺนํ. น เหตา อาปตฺติโย อาชีวเหตุ เอว ปฺตฺตา สฺจริตฺตาทีนํ อฺถาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. อาชีวเหตุปิ เอตาสํ อาปชฺชนํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ, อาชีวเหตุปิ ปฺตฺตานนฺติ อตฺโถ. น เกวลฺจ เอตา เอว, อฺาปิ อทินฺนาทานกุลทูสนปาณวธเวชฺชกมฺมาทิวเสน อาชีวเหตุ อาปชฺชิตพฺพาปิ สนฺติ, ตา ปน อาปตฺติสภอาคตาย ปาราชิกาทีสุ ฉสุ เอว สงฺคยฺหนฺตีติ วิสุํ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอตีติ สงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ, โจทนา ปน กตา เอว โหติ. ตึสานีติ ตึสํ เอเตสมตฺถีติ ตึสานิ, ตึสาธิกานีติ วุตฺตํ โหติ. นวุตานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมนาติ เอตฺถ อตฺตนา อาทาตพฺพโต ทิฏฺาทิมูลเกหิ คเหตพฺพโต ปรสฺส วิปฺผนฺทิตุํ อทตฺวา ปคฺคณฺหนโต อตฺตาทานนฺติ โจทนา วุจฺจติ, ตํ อาทาตุกาเมน, โจทนํ กตฺตุกาเมนาติ อตฺโถ.
อุพฺพาหิกายาติ อุพฺพหนฺติ วิโยเชนฺติ เอตาย อลชฺชีนํ ตชฺชนึ วา กลหํ วาติ อุพฺพาหิกา, สงฺฆสมฺมุติ, ตาย. วินิจฺฉินนํ นาม ตาย สมฺมตภิกฺขูหิ วินิจฺฉนนเมว. อลชฺชุสฺสนฺนาย หิ ปริสาย สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๒๗) อาคเตหิ ทสงฺเคหิ สมนฺนาคตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู ตตฺเถว วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพา, เตหิ จ สมฺมเตหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา, ตสฺสา เอว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตพฺพํ.
กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ, กตรวิปตฺติยนฺติ อตฺโถ. ‘‘กิมฺหิ นํ นามา’’ติ อิทํ ‘‘กตราย วิปตฺติยา เอตํ โจเทสี’’ติ ยาย กายจิ วิฺายมานาย ภาสาย วุตฺเตปิ โจทกสฺส วินเย อปกตฺุตาย ‘‘สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีสุ กตรายาติ มํ ปุจฺฉตี’’ติ ¶ าตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปุจฺฉา, น ปน กิมฺหีติอาทิปทตฺถมตฺตํ อชานนฺตสฺส. น หิ อนุวิชฺชโก โจทกํ พาลํ อปริจิตภาสาย ‘‘กิมฺหิ น’’นฺติ ปุจฺฉติ. ‘‘กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสี’’ติ อิทมฺปิ วจนมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ, ‘‘กตรวิปตฺติยา’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘อสุกาย วิปตฺติยา’’ติ วตฺตุมฺปิ น ชานาสีติ วจนสฺส อธิปฺปายเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘พาลสฺส ลชฺชิสฺส นโย ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา จ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสีติ สีลวิปตฺติยา’’ติอาทิ อธิปฺปายปฺปกาสนเมว นยทานํ วุตฺตํ, น ปน กิมฺหิ-นํ-ปทานํ ปริยายมตฺตทสฺสนํ. น หิ พาโล ‘‘กตรวิปตฺติยํ นํ โจเทสี’’ติ อิมสฺส วจนสฺส อตฺเถ าเตปิ วิปตฺติปฺปเภทนํ, อตฺตนา โจทิยมานํ วิปตฺติสรูปฺจ ชานิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา เตเนว อชานเนน อลชฺชี อปสาเทตพฺโพ. ‘‘กิมฺหิ น’’นฺติ อิทมฺปิ อุปลกฺขณมตฺตํ, อฺเน วา เยน เกนจิ อากาเรน อวิฺุตํ ปกาเสตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพว.
‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๙; ปริ. ๒) ‘‘อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย…เป… ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอหิตีติ หิ-กาโร เอตฺถ อาคโม ทฏฺพฺโพ, อาคมิสฺสตีติ อตฺโถ. ทิฏฺสนฺตาเนนาติ ทิฏฺนิยาเมน. อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพนฺติ วจนปฏิวจนกฺกเมเนว โทเส อาวิภูเตปิ อลชฺชิสฺส ‘‘อสุทฺโธห’’นฺติ โทสสมฺปฏิจฺฉนปอฺาย เอว อาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อลชฺชิสฺส เอตํ นตฺถีติ สุทฺธปฏิฺาย เอว อนาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ สงฺคหิโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อนุวิชฺชกสฺเสว นิรตฺถกตฺตาปตฺติโต โจทเกเนว อลชฺชิปฏิฺาย าตพฺพโต. โทสาปคมปฏิฺา เอว หิ อิธ ปฏิฺาติ อธิปฺเปตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถีติ ปฏิฺํ น เทตี’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖).
ตทตฺถทีปนตฺถนฺติ อลชฺชิสฺส โทเส อาวิภูเตปิ ตสฺส โทสาปคมปฏิฺาย เอว กาตพฺพตาทีปนตฺถํ. วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อตฺเถ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปจฺจตฺถิกา. สฺํ ทตฺวาติ เนสํ กถาปจฺเฉทตฺถํ, อภิมุขกรณตฺถฺจ สทฺทํ กตฺวา. วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโกติ ‘‘อสุทฺโธ’’ติ สฺาย โจทกปกฺเข ปวิฏฺตฺตา อนุวิชฺชกภาวโต พหิภูตตฺตา อนุวิชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สนฺเทเห เอว หิ สติ อนุวิชฺชิตุํ สกฺกา, อสุทฺธทิฏฺิยา ปน สติ จุทิตเกน วุตฺตํ สพฺพํ อสจฺจโตปิ ปฏิภาติ, กถํ ตตฺถ อนุวิชฺชนา สิยาติ.
‘‘ตถา ¶ นาสิตโกว ภวิสฺสตี’’ติ อิมินา วินิจฺฉยํ อทตฺวา สงฺฆโต วิโยชนํ นาม ลิงฺคนาสนา วิย อยมฺปิ เอโก นาสนปฺปกาโรติ ทสฺเสติ. วิรทฺธํ โหตีติ สฺจิจฺจ อาปตฺตึ ¶ สหสา อาปนฺโน โหติ. ‘‘อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถี’’ติ อิทํ ‘‘ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทตี’’ติ อิมสฺส อลชฺชิลกฺขณสมฺภวสฺส การณวจนํ. ปฏิจฺฉาทิตกาลโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม เอว, ปุริโม ลชฺชิภาโว น รกฺขตีติ อตฺโถ. ปฏิฺํ น เทตีติ สเจ มยา กตโทสํ วกฺขามิ, มยฺหํ อนุวตฺตกา ภิชฺชิสฺสนฺตีติ ปฏิฺํ น เทติ. าเน น ติฏฺตีติ ลชฺชิฏฺาเน น ติฏฺติ, กายวาจาสุ วีติกฺกโม โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ’’ติ, ปุพฺเพ ปกฺขิกานํ ปฏิฺาย วูปสมิตสฺสาปิ อธิกรณสฺส ทุวูปสนฺตตาย อยมฺปิ ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย.
จุทิตกโจทเกสุ ปฏิปตฺตึ ตฺวาติ ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติอาทินา วุตฺตํ จุทิตกโจทเกสุ อนุวิชฺชเกน ปฏิปชฺชิตพฺพกมฺมํ ตฺวา. วินิจฺฉโย มชฺเฌติ อาปตฺตีติ วา อนาปตฺตีติ วา วินิจฺฉยปริโยสานอนุวิชฺชนานํ มชฺฌํ นามาติ อตฺโถ.
อมูลกมฺปิ สมูลกํ กตฺวา วทนฺตีติ อาห ‘‘ทฺเว มูลานี’’ติ. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ โอกาสํ การาเปตฺวา วทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สลากคฺคยาคุอคฺคภิกฺขาจารฏฺานาทีสุ โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. โทสโต วุฏฺาเปตุกามตาย วทนฺโต อตฺถสํหิเตน วทติ นาม. โทสนฺตโรติ โทสจิตฺโต. ปนฺนรสสุ ธมฺเมสูติ ‘‘ปริสุทฺธกายสมอาจารตา, ตถา วจีสมาจารตา, สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตจิตฺตตา, พหุสฺสุตตา, อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานํ สฺวาคตาทิตา, กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุตฺตปฺจธมฺมา จ การฺุตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ (จูฬว. ๔๐๑) อิเมสุ ปนฺนรสสุ. ตตฺถ ‘‘การฺุตา’’ติ อิมินา กรุณา ทสฺสิตา. หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา. อนุกมฺปตาติ เตน หิเตน สํโยชนตา, อิเมหิ ทฺวีหิปิ เมตฺตา ทสฺสิตา. อาปตฺติวุฏฺานตาติ สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนตา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม.
อธิกรณฏฺเนาติ ¶ อธิกาตพฺพฏฺเน, สมเถหิ วูปสเมตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุนฺติ อิธ อนธิปฺเปตมฺปิ อตฺถุทฺธารวเสน ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุนฺติ อธิปฺปาโย. เตเนว วกฺขติ ‘‘เสสานิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖). ยํ อธิกิจฺจาติอาทินา อธิกรณสทฺทสฺส กมฺมสาธนตา วุตฺตา.
คาหนฺติ ¶ ‘‘อสุกํ โจเทสฺสามี’’ติ มนสา โจทนาการสฺส คหณํ. เจตนนฺติ ‘‘โจเทสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตพฺยาปารสงฺขาตํ จิตฺตกมฺมํ. อกฺขนฺตินฺติ จุทิตกสฺส วิปตฺตึ ทิสฺวา อุปฺปนฺนํ โกธํ อสหนํ, ตถา ปวตฺตํ วา ยํ กิฺจิ จิตฺตเจตสิกราสึ. โวหารนฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตวจนํ. ปณฺณตฺตินฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตํ มนสา ปริกปฺปิตํ นามปณฺณตฺตึ. อตฺตาทานํ คเหตฺวาติ โจทนํ มนสา คเหตฺวา. ตํ อธิกรณนฺติ ตํ คาหลกฺขณํ อธิกรณํ. นิรุชฺฌติ เจตนาย ขณิกตฺตา, สา จ สมถปฺปตฺตา โหตีติ เอวเมตฺถ อนิฏฺปฺปสงฺโค เวทิตพฺโพ. เอวํ อุปริปิ ‘‘ตุณฺหี โหตี’’ติ อิมินา โวหารวจนสฺส นิโรธํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณ’’นฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺสาปิ เอกจฺเจหิ ปฏิกฺขิตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตมฺปิ ปฏิเสเธตฺวา อฏฺกถาสุ วุตฺตปณฺณตฺติยา เอว อธิกรณตํ สมตฺเถตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตํ ปเนตนฺติ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ เอตํ คหณํ วิรุชฺฌตีติ สมฺพนฺโธ. ปาราชิกาทิอาปตฺติ เอกนฺตอกุสลสภาวา วา อพฺยากตสภาวา วา โหตีติ สฺาย ‘‘เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ปณฺณตฺติอธิกรณวาเทน วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ อุทฺธฏํ. เตนาห ‘‘น หิ เต…เป… อจฺจนฺตอกุสลตฺตา’’ติอาทิ. เตติ อฏฺกถาจริยา.
อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณนฺติ เอตฺถ อมูลกปาราชิกเมว อธิกรณ-สทฺเทน อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺเจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา ปนาติอาทิ ปน อิธาธิปฺเปตาย อมูลกปาราชิกาปตฺติยา เอว ปณฺณตฺติภาโว ยุชฺชตีติ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. ตตฺถ ยาย ปณฺณตฺติยาติ สภาวโต ปริสุทฺเธปิ ปุคฺคเล ‘‘ปาราชิโก’’ติอาทินา โจทเกน ปวตฺติตํ นามปณฺณตฺตึ สนฺธาย วทติ. ปฺตฺโตติ กถิโต. อธิกรเณ ปวตฺตตฺตาติ อวิชฺชมาเนปิ ¶ มนสา อาโรปิตมตฺเต อาปตฺตาธิกรเณ วาจกภาเวน ปวตฺตตฺตา.
เอวํ นามปณฺณตฺติวเสน อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาปตฺตาธิกรณสฺส ปฺตฺติภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถปณฺณตฺติวเสนาปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา วาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฺตฺติมตฺตเมวาติ อวิชฺชมานสฺส วิชฺชมานากาเรน มนสา อาโรปิตอตฺถปณฺณตฺติมตฺตเมวาติ อตฺโถ. ตฺจ โข อิเธวาติ ตฺจ ยถาวุตฺตปริยาเยน ปณฺณตฺติยา อธิกรณตฺตํ อิเธว อิมสฺมึ เอว สิกฺขาปเท. เอเกติ เกจิ. ตํ น ยุตฺตนฺติ ยํ เอกจฺเจหิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, อธิกรณสฺส ปณฺณตฺติภาวํ นิเสเธตฺวา กุสลาทิปรมตฺถภาวํ สาเธตุํ ‘‘ตํ ปเนตํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตี’’ติอาทินา ปปฺจโต ทสฺสิโต, ตํ น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติอาทินา, เตน จ ตสฺมึ วาเท ยทิ อาปตฺติ นาม อกุสลา วา อพฺยากตา วา ภเวยฺย, กถํ อาทิกมฺมิกสฺส ¶ อนาปตฺติ ภเวยฺย? ตสฺสาปิ อกุสลาทีนํ อุปฺปนฺนตฺตา ภควโต สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปฏฺาย ยาว อาปตฺตีติปิ น สกฺกา วตฺตุํ, เมถุนาทีสุ อกุสลาทีนํ สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปุพฺเพปิ สมุปฺปตฺติโต. ตโต เอว อนุปสมฺปนฺนานมฺปิ อาปตฺติปฺปสงฺโค, คิลานาทีนํ อุปฺปนฺนตฺตา อนุปฺตฺติยาปิ อนาปตฺติอภาวปฺปสงฺโค จ สิยา. อถ มตํ ‘‘น เกวลํ อกุสลาทิ เอว, อถ โข ภควตา ปฏิกฺขิตฺตภาวํ ชานนฺตสฺส สมุปฺปชฺชมานา เอว อกุสลาทโย อาปตฺตี’’ติ, ตมฺปิ อสารํ, สิกฺขาปทปฺตฺตึ อชานิตฺวา วีติกฺกมนฺตสฺส เมถุนาทีสุ อนาปตฺติปฺปสงฺคโต, อกุสลาทิสภาวาย จ อาปตฺติยา เอกปโยคาทีสุ เอกตฺตาทิปิ น สิยา. น หิ สกลมฺปิ ทิวสํ อิตฺถึ กายโต อโมเจตฺวา ผุสนฺตสฺส เอกเมวากุสลํ อุปฺปชฺชติ, พหู วา อิตฺถิโย ผุสิตฺวา อปคจฺฉนฺตสฺส พหูนิ, เยนาปตฺติยา เอกตฺตํ, พหุตฺตํ วา สิยาติ เอวมาทิกํ อยุตฺตึ สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ วตฺถฺุจาติ วีติกฺกโม. ตฺหิ อาปตฺติสมฺมุติปฺาปนสฺส โอกาสฏฺเน ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ. โคตฺตนฺติ อทินฺนาทานาทิโต พุทฺธิสทฺทนิวตฺตนฏฺเน ปริกปฺปิตสามฺากาโร โคตฺตํ. นามนฺติ อวิชฺชมานนามปฺตฺติ. ตสฺส ปน ปาราชิกนฺติ นามสฺส อตฺถภูตา อาปตฺติ อตฺถปฺตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ ¶ . ยํ ปน ‘‘วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๒๒๐; ปริ. ๓๐๓), ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสล’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๒๒๒) จ สุตฺตํ เตหิ สมุทฺธฏํ, ตมฺปิ น วิวาทาทีนํ กุสลาทิภาวสฺส ปริยายเทสิตตฺตาติ ยํ เอตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ปมปาราชิกสมุฏฺานาทิวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยํ วิรทฺธฏฺานโสธนตฺถํ วิตฺถารโต วุตฺตนฺติ ตตฺเถว ตํ คเหตพฺพํ, สารตฺถทีปนีการกสฺส อกุสลาทิรูปาว อาปตฺตีติ ลทฺธิ, เตเนว โส อิธาปิ ‘‘ตสฺมา ปณฺณตฺติอธิกรณนฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตมฺปิ น ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘ตํ ปเนต’นฺติอาทิมาหา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) เอวํ อตฺตโน ลทฺธึ อฏฺกถาจริยสฺสปิ ลทฺธึ กตฺวา คนฺถวิโรธมฺปิ อโนโลเกตฺวา ทสฺเสสิ. น เหตฺถ พุทฺธโฆสาจริโย อฏฺกถาวาทํ อยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมารภิ ‘‘ปณฺณตฺติมตฺตเมว อาปตฺตาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ สยเมว อุปริ กถนโต, อถ โข ทุลฺลทฺธิกานํ เอกจฺจานํ ตตฺถ วิปฺปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปุน ตํ ปฏิเสเธตุกาโม อารภิ, เตเนว อนฺเต ‘‘เอเก’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิวาทาทีนํ กุสลาทิกตฺเต ตํสมถานมฺปิ ตพฺภาโว อาปชฺชติ ปรมตฺเถสุ ปณฺณตฺติยา สมถาโยคาติ อาห ‘‘กุสลาทิสมเถหี’’ติ. ปฺตฺติสภาวานเมว จตุนฺนํ อธิกรณานํ สมเถหิ อธิกรณียตา, น ปน กุสลาทิปรมตฺถรูปานํ เตสํ เตสํ ขณิกตาย สยเมว สมถปฺปตฺติโตติ เหฏฺา สมตฺถิตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺเตน ‘‘อิติ อิมินา อธิกรณฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส ยถาวุตฺตนเยน ¶ สมเถหิ อธิกรณียตายาติ อตฺโถ. ‘‘อิเธกจฺโจ’’ติ อิมินา อิธาธิปฺเปตํ วิวาทํ นิวตฺเตติ.
อนุวาโทติ วิปตฺตีหิ อุปวทนา เจว โจทนา จ. ตตฺถ อุปวทนา นาม ครหา, อกฺโกโส จ. ปฺจปีติ มาติกาปริยาปนฺนาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ. กิจฺจยตาติ กตฺตพฺพตา. สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺสาติ เอตฺถ ปทานุกฺกมนิทฺเทโสติ ปทภาชนํ วุจฺจติ, เตน สหิตสฺส สิกฺขาปทสฺสาติ อตฺโถ.
๓๘๗. อสฺสาติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘เอเตน โจทเกนา’’ติอาทิ. ทิฏฺมูลเก ปนาติ ‘‘ทิฏฺสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต’’ติอาทิ ¶ (ปารา. ๓๘๗) ปาฬิวารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ อิตฺถิยา สทฺธึ รโหนิสชฺชาทิทสฺสนมตฺตวเสน ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ปุคฺคโล เตน ทิฏฺโ, น ปน มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทนาทิทสฺสนวเสน. ยทิ หิ เตน โส ตถา ทิฏฺโ ภเวยฺย, อสุทฺธสฺี เอวายํ ตสฺมึ ปุคฺคเล สิยา, อสุทฺธสฺาย จ สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส น สิยา ‘‘อนาปตฺติ สุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส, อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺสา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๙๐). ตสฺมา อิตฺถิยา สทฺธึ รโหนิสชฺชาทิมตฺตเมว ทิสฺวาปิ ‘‘สทฺโธ กุลปุตฺโต, นายํ ปาราชิกํ อาปชฺชตี’’ติ ตสฺมึ สุทฺธสฺิสฺส วา เวมติกสฺส วา ‘‘สุโต มยา ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต’’ติอาทินา นิยเมตฺวา โจเทนฺตสฺเสว สงฺฆาทิเสโส, น อสุทฺธสฺิสฺส, ตสฺส ปน ทิฏฺํ สุตนฺติ มุสาวาทาทิปจฺจยา ลหุกาปตฺติ เอวาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ ปน โส ตสฺมึ สุทฺธทิฏฺิจาวนาธิปฺปาโยปิ ทิฏฺํ รโหนิสชฺชาทิมตฺตเมว วทติ, อทิฏฺํ ปน มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปาทนาทิปาราชิกวตฺถุํ วา ‘‘อสฺสมโณสี’’ติอาทิกํ วา น วทติ, ตสฺส อนาปตฺติ. อธิกํ วทนฺตสฺส ปน อาปตฺติเยว ‘‘อทิฏฺํ ทิฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๓๘๖-๓๘๗) วุตฺตตฺตา. โย ปน ทิฏฺเน รโหนิสชฺชาทินา ปมปาราชิเกน อสุทฺธสฺี หุตฺวา จาวนาธิปฺปาโย อทินฺนาทานํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ‘‘ทิฏฺโ’’ติ วา ‘‘สุโต’’ติ วา อาทึ วทติ, ตสฺสาปิ น สงฺฆาทิเสโส อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิตายาติ เกจิ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘เยน ปาราชิเกน โจเทติ, เตน สุทฺธสฺาภาวา อาปตฺติเยวา’’ติ วทนฺติ, อิทํ ยุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตํ ‘อยํ อนชฺฌาปนฺโน’ติ ตฺวา จาวนาธิปฺปาเยน…เป… สงฺฆาทิเสโส’’ติ. อิมินา นเยน สุตาทิมูลเกสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อฺตฺร อาคเตสูติ โอมสวาทาทีสุ อาคเตสุ. อวสฺสุโตติ ¶ ตีหิปิ ทฺวาเรหิ ปาราชิกวตฺถุภูตทุจฺจริตานุวสฺสเนน ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ กจวรภูโต, นิสฺสาโรติ อตฺโถ.
โกณฺโติ โจโร, ทุสฺสีโลติ อตฺโถ. เชฏฺพฺพติโกติ กาฬกณฺณิเทวีวเต นิยุตฺโต ติตฺถิโยติ วทติ, สา กิร กาฬกณฺณิสิริเทวิยา เชฏฺาติ วุตฺตา. ยทคฺเคนาติ เยน การเณน, ยตฺตเกนาติ อตฺโถ ¶ . ตทคฺเคนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. โน กปฺเปตีติอาทิ เวมติกภาวทีปนตฺถเมว วุตฺตนฺติ มหาปทุมตฺเถรสฺส อธิปฺปาโย.
๓๘๙. เอตฺถาติ โจทนายํ. ตชฺชนียาทิกมฺมํ กริสฺสามีติอาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย นาม. ปริวาสทานาทิกฺกเมน อาปตฺติโต วุฏฺาเปตุํ อาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย. อุโปสถํ, ปวารณํ วา สงฺเฆ กาตุํ อทานตฺถาย อาปตฺติยา โจทยโต อธิปฺปาโย อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย. อสมฺมุขา…เป… ทุกฺกฏนฺติ อนุทฺธํเสนฺตสฺสปิ อกฺโกสนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏํ.
สพฺพตฺเถวาติ สพฺพาสุ อฏฺกถาสุ. อุโปสถปวารณานํ ตฺติกมฺมภาวโต ตฺติยา วตฺตมานาย เอว อุโปสถปวารณฏฺปนํ โหติ, น นิฏฺิตาย, สา จ ยฺย-กาเร ปตฺเต นิฏฺิตา นาม โหตีติ อาห ‘‘ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภตี’’ติ.
อนุปาสโกติ อุปาสโกปิ โส ภิกฺขุ น โหติ สรณคมนสฺสาปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาติ วทนฺติ. ‘‘อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺสา’’ติ อิมินา โอทิสฺส กเถนฺเตน โอกาสํ กาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อาปตฺตึ เทเสตฺวาติ โอกาสาการาปนาปตฺตึ เทเสตฺวา. ยํ โจเทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺโนติ สงฺขฺยุปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา เวมติกตา วา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํ ปาราชิโก’’ติอาทินา นิยเมตฺวา สมฺมุขา โจทนา โจทาปนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๑. นวเม เมตฺติยํ ภิกฺขุนินฺติ ลิงฺคนาสนาย นาสิตายปิ ตสฺสา ภูตปุพฺพโวหารํ คเหตฺวา ¶ วุตฺตํ. อฺภาคสฺสาติ เถรสฺส มนุสฺสชาติภิกฺขุภาวโต อฺสฺส ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาตสฺส โกฏฺาสสฺส. อิทนฺติ สามฺโต นปุํสกลิงฺเคน วุตฺตํ, อยํ ¶ ฉคลโกติ อตฺโถ. อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺโ โกฏฺาโส, อฺภาคสฺส อิทนฺติ อฺภาคิยนฺติ ปมวิคฺคหสฺส อตฺโถ, อฺภาคมตฺถีติ ทุติยวิคฺคหสฺส, ทฺวีหิปิ ฉคลโกว วุตฺโต. อิทานิ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โย หิ โส ฉคลโก วุตฺโต, โส อฺสฺส ภาคสฺส โหตีติ จ อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภตีติ จ โยชนา. ทุติยวิคฺคหสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพติ เอตฺถาปิ โย หิ โส ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต, โสติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตฺหิ สนฺธายาติ ‘‘ทพฺโพ’’ติ นามกรณสฺส อธิฏฺานภูตํ ฉคลกํ สนฺธาย. เต ภิกฺขูติ เต อนุยฺุชนฺตา ภิกฺขู. อาปตฺติยาปิ ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา ‘‘ปุคฺคลานํเยว เลสา’’ติ วุตฺตํ.
๓๙๓. ยา จ สา อวสาเน…เป… โจทนา วุตฺตาติ ‘‘ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหติ สงฺฆาทิเสเส สงฺฆาทิเสสทิฏฺิ โหติ, ตฺเจ ปาราชิเกน โจเทตี’’ติอาทึ (ปารา. ๔๐๗) โจทนาเภทํ สนฺธาย วทติ. สตฺตนฺนมฺปิ อาปตฺตีนํ ปจฺเจกํ ปาราชิกตฺตาทิสามฺเปิ เมถุนาทินฺนาทานาทิวตฺถุโต, ราคโทสตฺตาทิสภาวโต จ วิสภาคตาปิ อตฺถีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปน…เป… น โหตี’’ติ.
วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๙๓) วุตฺตนเยน. กมฺมลกฺขณํ, ตํมนสิกาโร จ อวิปนฺนกมฺมสฺส นิมิตฺตโต ผลูปจาเรน กมฺมนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ปริวาสาทึ นิสฺสาย มานตฺตาทีนํ อุปฺปชฺชนโต ‘‘ปุริมํ ปุริม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๓๙๕. สวตฺถุกํ กตฺวาติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา. ทีฆาทิโนติ ทีฆรสฺสาทิลิงฺคสฺส. ทิฏฺาทิโนติ ทิฏฺปุพฺพาทิโน.
๔๐๘. เอวํ ตถาสฺีติ อฺสฺส เมถุนาทิกิริยํ ทิสฺวา ‘‘อยํ โส’’ติ เอวํ ตถาสฺี. องฺคานิ ปมทุฏฺโทเส วุตฺตสทิสานิ, อิธ ปน กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนา อธิกา.
ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๐. ทสเม ¶ ¶ พหูนนฺติ ทุพฺพลตาย อรฺาทิเสวาย จิตฺตํ สมาหิตํ กาตุํ อสกฺโกนฺตานํ. ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย ตสฺมึ อตฺตภาเว พุทฺธวจนคฺคหณธารณาทิสงฺขาตํ พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺส, น มคฺคลาโภติ ปทปรโม. อภิสมฺภุณิตฺวาติ นิปฺผาเทตฺวา. ธมฺมโต อเปตํ อุทฺธมฺมํ. ปฏิกฺขิตฺตเมวาติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต วุตฺตํ, อิทเมว วจนํ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘อฏฺ มาเส’’ติอาทิ (ปารา. ๔๐๙) วุตฺตํ.
ตีหิ โกฏีหีติ อสุทฺธมูเลหิ. เอตฺถ จ ภิกฺขูนํ จตูสุ กุเลสุ ปกฺกปิณฺฑิยาโลปโภชนนิสฺสิตตาย, มจฺฉมํสโภชนวิรหิตสฺส จ กุลสฺส ทุลฺลภตาย ตตฺถ ลทฺเธสุ ภตฺตพฺยฺชเนสุ มจฺฉมํสสํสคฺคสงฺกาย, ทุนฺนิวารณตาย จ ภิกฺขูนํ สรีรยาปนมฺปิ น สิยาติ ภควตา มจฺฉมํสํ สพฺพถา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ตีหิ โกฏีหิ อปริสุทฺธเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. ยทิ หิ ตํ ภควา สพฺพถา ปฏิกฺขิเปยฺย, ภิกฺขู มรมานาปิ มจฺฉาทิสํสคฺคสงฺกิตํ ภตฺตํ น ภฺุเชยฺยุํ, ตโต ตณฺฑุลธฺาทึ ปฏิคฺคเหตฺวา นิทหิตฺวา สยํ ปจิตฺวา ภฺุชิตุํ ตทุปกรณภูตํ ทาสิทาสํ, อุทุกฺขลมุสลาทิกฺจ ภิกฺขูนํ ปตฺตาทิ วิย อวสฺสํ คเหตุํ อนุชานิตพฺพํ สิยาติ ติตฺถิยานํ วิย คหฏฺาวาโส เอว สิยา, น ภิกฺขุอาวาโสติ เวทิตพฺพํ. ชาลํ มจฺฉพนฺธนํ. วาคุรา มิคพนฺธนี. กปฺปตีติ ยทิ เตสํ วจเนน สงฺกา น วตฺตติ, วฏฺฏติ, น ตํ วจนํ เลสกปฺปํ กาตุํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปตี’’ติ.
ปวตฺตมํสนฺติ อาปณาทีสุ ปวตฺตํ วิกฺกายิกํ มตมํสํ. ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตนฺติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท, ภิกฺขูนํ อตฺถาย อกตเมวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ, ตสฺมา ภิกฺขูนฺจ มงฺคลาทีนฺจาติ มิสฺเสตฺวา กตมฺปิ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ยถาิตวเสน อวธารณํ คเหตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘วตฺต’’นฺติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
กปฺปนฺติ อสงฺเขยฺยกปฺปํ, ‘‘อายุกปฺป’’นฺติปิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๑๐) เกจิ. มหากปฺปสฺส หิ จตุตฺถภาโค อสงฺเขยฺยกปฺโป, ตโต วีสติโม ภาโค สงฺฆเภทกสฺส ¶ อายุกปฺปนฺติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาสุ กปฺปฏฺกถาย น สเมติ ‘‘กปฺปวินาเส เอว มุจฺจตี’’ติอาทิ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙) ¶ วจนโต. พฺรหฺมํ ปฺุนฺติ เสฏฺํ ปฺุํ. กปฺปํ สคฺคมฺหีติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิปรมฺปราย กปฺปฏฺตา เวทิตพฺพา.
๔๑๑. ลทฺธินานาสํวาสเกนาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกภาเวน ภาวปฺปธานตฺตา นิทฺเทสสฺส. กมฺมนานาสํวาสเกนาติ อุกฺขิตฺตภาเวน. ‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา เภทนสํวตฺตนิกสฺส อธิกรณสฺส สมาทาย ปคฺคณฺหนโต ปุพฺเพปิ ปกฺขปริเยสนาทิวเสน สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส สมนุภาสนกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. โยปิ จายํ สงฺฆเภโท โหตีติ สมฺพนฺโธ.
กมฺเมนาติ อปโลกนาทินา. อุทฺเทเสนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน. โวหาเรนาติ ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทินา (อ. นิ. ๓.๑๐-๓๙, ๔๒; จูฬว. ๓๕๒) โวหาเรน, ปเรสํ ปฺาปเนนาติ อตฺโถ. อนุสาวนายาติ อตฺตโน ลทฺธิยา คหณตฺถเมว อนุ ปุนปฺปุนํ กณฺณมูเล มนฺตสาวนาย, กถเนนาติ อตฺโถ. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสาวนาย เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อตฺตโน ปกฺเข ปวิฏฺภาวสฺส สฺาณตฺถํ ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน. เอตฺถ จ กมฺมเมว, อุทฺเทโส วา สงฺฆเภเท ปธานํ การณํ, โวหาราทโย ปน สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาคาติ เวทิตพฺพา. อพฺภุสฺสิตนฺติ อพฺภุคฺคตํ. อจฺเฉยฺยาติ วิหเรยฺย.
‘‘ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๒; ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) วจนโต อาปตฺติภเยน อาโรจนํ ลชฺชีนํ เอว ภาโรติ อาห ‘‘ลชฺชีหิ ภิกฺขูหี’’ติ, อลชฺชิสฺสปิ อนาโรเจนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏนฺติ วิสุํ วิสุํ วทนฺตานํ คณนาย ทุกฺกฏํ. ปโหนฺเตนาติ คนฺตุํ สมตฺเถน, อิจฺฉนฺเตนาติ อตฺโถ. อาปตฺติ ปน อฑฺฒโยชนพฺภนฺตเรเนว อคิลานสฺส วเสน เวทิตพฺพา.
๔๑๖. ตฺติยาทีหิ ทุกฺกฏาทิสพฺภาวํ สนฺธาย ‘‘สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อสฺสาติ เทวทตฺตสฺส. อปฺตฺเต สิกฺขาปเท สมนุภาสนกมฺมสฺเสว อภาวโต ‘‘น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเตเนว หิ สมนุภาสนกมฺมํ อนฺุาตํ. อุทฺทิสฺส อนฺุาตโตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถน’’นฺติอาทึ ¶ (จูฬว. ๒๗๓) อุทฺทิสฺสานฺุาตํ สนฺธาย วทติ. อนาปตฺติยนฺติ อนาปตฺติวาเร. อาปตฺตึ โรเปตพฺโพติ สมนุภาสนาย ปาจิตฺติยอาปตฺตึ โรเปตพฺโพ. อาปตฺติเยว น ชาตาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ น ชาตา เอว.
‘‘น ¶ ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. สจิตฺตกนฺติ ‘‘น ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ ชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. โย วิสฺี วา ภีโต วา วิกฺขิตฺโต วา ‘‘ปฏินิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติปิ, ‘‘กมฺมํ กริสฺสตี’’ติ วา น ชานาติ, ตสฺส อนาปตฺติ. เภทาย ปรกฺกมนํ, ธมฺมกมฺเมน สมนุภาสนํ, กมฺมวาจาปริโยสานํ, น ปฏินิสฺสชฺชามีติ จิตฺเตน อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๘. เอกาทสเม ยสฺมา อุพฺพาหิกาทิสมฺมุติกมฺมํ พหูนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรตี’’ติ อิทํ นิคฺคหวเสน กตฺตพฺพกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. องฺคานิ ปเนตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ ปหาย อนุวตฺตนํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตสทิสาเนว คเหตพฺพานิ.
ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. ทฺวาทสเม วมฺภนวจนนฺติ ครหวจนํ. สฏ-สทฺโท ปติตสทฺเทน สมานตฺโถ, ตสฺส จ วิเสสนสฺส ปรนิปาโตติ อาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณ’’นฺติ. เกนาปีติ วาตาทิสทิเสน อุปชฺฌายาทินา.
๔๒๖. จิตฺตปริโยนาโห ทฬฺหโกโธว อุปนาโห. ตโตปิ พลวตโร ทุมฺโมจนีโย โกธาภิสงฺโค. โจทกํ ปฏิปฺผรณตาติ โจทกสฺส ¶ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา อวฏฺานํ. โจทกํ อปสาทนาติ วาจาย ฆฏฺฏนา. ปจฺจาโรปนาติ ‘‘ตฺวมฺปิ สาปตฺติโก’’ติ โจทกสฺส อาปตฺติอาโรปนา. ปฏิจรณตาติ ปฏิจฺฉาทนตา. อปทาเนนาติ อตฺตโน จริยาย. น สมฺปายนตาติ ‘‘ยํ ตฺวํ โจทโก วเทสิ ‘มยา เอส อาปตฺตึ อาปนฺโน ทิฏฺโ’ติ, ตฺวํ ตสฺมึ สมเย กึ กโรสิ, อยํ กึ กโรติ, กตฺถ จ ตฺวํ อโหสิ, กตฺถ อย’’นฺติอาทินา นเยน จริยํ ปุฏฺเน สมฺปาเทตฺวา อกถนํ.
‘‘ยสฺส ¶ สิยา อาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) อิมินา นิทานวจเนน สพฺพาปิ อาปตฺติโย สงฺคหิตาติ อาห ‘‘ยสฺส สิยา’’ติอาทิ. องฺคานิ เจตฺถ ปมสงฺฆเภทสทิสานิ, อยํ ปน วิเสโส ยถา ตตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ, อิธ อวจนียกรณตา ทฏฺพฺพา.
ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๑. เตรสเม กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ. ตฺหิ สนฺธาย ปรโต ‘‘น อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ ภิกฺขูหิ กีฏาคิริสฺมึ วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, คามนิคมโต จ ปพฺพาชนํ, น ชนปทโต. เตน ปน โยคโต ชนปโทปิ ‘‘กีฏาคิริ’’อิจฺเจว สงฺขฺยํ คโตติ อาห ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ.
ตตฺราติ สาวตฺถิยํ. ธุรฏฺาเนติ อภิมุขฏฺาเน, เชตวนทฺวารสมีเปติ อตฺโถ. ทฺวีหิ เมเฆหีติ วสฺสิเกน, เหมนฺติเกน จาติ ทฺวีหิ เมเฆหิ. คณาจริเยหิ ฉหิ อธิกตาย ‘‘สมธิก’’นฺติ วุตฺตํ.
อุทกสฺสาติ อกปฺปิยอุทกสฺส ‘‘กปฺปิยอุทกสิฺจน’’นฺติ วิสุํ วกฺขมานตฺตา, ตฺจ ‘‘อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน อกปฺปิยโวหาเรสุปิ กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วฏฺฏตี’’ติ วกฺขมานตฺตา อิธาปิ วิภาคํ กตฺวา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ ¶ วิสุํ ทสฺสิตํ. ยถา โกฏฺฏนขณนาทิกายิกกิริยาปิ อกปฺปิยโวหาเร สงฺคหิตา, เอวํ มาติกาอุชุกรณาทิกปฺปิยโวหาเรปีติ อาห ‘‘สุกฺขมาติกาย อุชุกรณ’’นฺติ. เอตฺถ ปุราณปณฺณาทิหรณมฺปิ สงฺคยฺหติ. มหาปจฺจริยวาโทว ปมาณตฺตา ปจฺฉา วุตฺโต. อกปฺปิยโวหาเรปิ เอกจฺจํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวลฺจ เสส’’นฺติอาทิมาห. ยํกิฺจิ มาติกนฺติ สุกฺขํ วา อสุกฺขํ วา. ตตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน. ตถาติ กปฺปิยโวหารปริยายาทีหิ คนฺถาปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมินา จ กุลสงฺคหตฺถาย คนฺถาปนาทิปิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนํ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจเทนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ยถา อารามาทิอตฺถํ กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติอาทิ ปริหาโร. อถ ‘‘น ปน มหาอฏฺกถาย’’นฺติ ¶ กสฺมา วทติ? มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตมฺปิ หิ ปมาณเมวาติ นายํ วิโรโธ, มหาอฏฺกถายํ อวุตฺตสฺส สยํ โรปนสฺส ตตฺเถว วุตฺเตน อุทกสิฺจเนน สห สํสนฺทนนยทสฺสนมุเขน ปมาณเมวาติ ปติฏฺาเปตุํ วุตฺตตฺตา. ‘‘มฺเยฺยาสี’’ติ ปทํ ‘‘ตํ กถ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย – กิฺจาปิ มหาอฏฺกถายํ สยํ โรปนํ น วุตฺตํ, กปฺปิยอุทกสฺส สยํ อาสิฺจนํ วุตฺตเมว, ตสฺมา ยถา อารามาทิอตฺถาย กปฺปิยอุทกํ สยํ สิฺจิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ น วิรุชฺฌตีติ ยเทตํ วตฺถุปูชนตฺถายปิ คนฺถนาทึ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารามาทิอตฺถาย สยํ โรปนสิฺจนํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปาฬิยา สํสนฺทนโต ปุพฺพาปรํ น วิรุชฺฌติ.
ตํ กถํ น วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘ตตฺร หี’’ติอาทิ. ตตฺราติ โรปนสิฺจนวิสเย. ปุปฺผาทีหิ กุลสงฺคหปฺปสงฺเค ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วิเสสิตตฺตา กุลสงฺคหตฺถเมว โรปนํ อธิปฺเปตนฺติ วิฺายตีติ อาห ‘‘มาลาวจฺฉนฺติ วทนฺโต’’ติอาทิ. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ เอตํ วุตฺตํ. อฺตฺร ปนาติ อารามาทิอตฺถาย มาลาวจฺฉาทีนํ โรปเน ปน. ปริยาโยติ สยํกรณการาปนสงฺขาโต ปริยาโย โวหาโร อตฺถวิเสโสติ อตฺโถ อตฺถิ อุปลพฺภติ ¶ , กุลสงฺคหตฺถตฺตาภาวาติ อธิปฺปาโย. เอวเมตฺถ ปริยายสทฺทสฺส กรณการาปนวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน ‘‘คนฺเถนฺติปิ คนฺถาเปนฺติปี’’ติ ปาฬิยํ ปฏิกฺขิตฺตคนฺถนคนฺถาปนํ เปตฺวา ยํ ปรโต ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺยา’’ติอาทิกปฺปิยวจเนหิ คนฺถาปนํ วุตฺตํ, ตตฺถ โทสาภาโว สมตฺถิโต โหติ, ‘‘คนฺเถหี’’ติ อาณตฺติยา การาปนสฺเสว คนฺถาปนนฺติ อธิปฺเปตตฺตา. ตตฺถ ปริยายํ อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวาติ ตตฺถ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตี’’ติอาทีสุ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ กุลสงฺคหตฺถตาสูจนกสฺส วิเสสนสฺส สพฺภาวโต กรณการาปนสงฺขาตปริยายสพฺภาวํ. อิธ ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติอาทีสุ ตถาวิธวิเสสวจนาภาวโต ตสฺส ปริยายสฺส อภาวฺจ ตฺวา. ตํ สุวุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.
สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ อฏฺกถาสุ อาคตนเยเนว โรปนาทิ, คนฺถาปนาทิ จ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. น เหตฺถ สนฺเทโห กาตพฺโพติ นิคเมติ.
หรณาทีสูติ วตฺถุปูชนตฺถาย หรณาทีสุ. กุลิตฺถิอาทีนํ อตฺถาย หรณโตติ กุลิตฺถิอาทีนํ หรณสฺเสว วิเสเสตฺวา ปฏิกฺขิตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘หรณาธิกาเร หี’’ติอาทิ. มฺชรีติ ปุปฺผโคจฺฉํ. วฏํสโกติ กณฺณสฺส อุปริ ปิฬนฺธนตฺถํ กตปุปฺผวิกติ ¶ , โส จ ‘‘วฏํโส’’ติ วุจฺจติ. กณฺณิกาติ พหูนํ ปุปฺผานํ วา มาลานํ วา เอกโต พนฺธิตสฺส นามํ, ‘‘กณฺณาภรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. หารสทิสนฺติ มุตฺตาหารสทิสํ.
กปฺปิเยนาติ กปฺปิยอุทเกน. เตสํเยว ทฺวินฺนนฺติ กุลทูสนปริโภคานํ ทฺวินฺนํ. ทุกฺกฏนฺติ กุลสงฺคหตฺถาย สยํ สิฺจเน, กปฺปิยโวหาเรน วา อกปฺปิยโวหาเรน วา สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย ปน สยํ สิฺจเน, อกปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ. ปโยคพหุลตายาติ สยํ กรเณ, กายปโยคสฺส การาปเน จ วจีปโยคสฺส จ พหุตฺเตน.
คนฺเถน นิพฺพตฺตํ ทามํ คนฺถิมํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. น วฏฺฏตีติ วตฺถุปูชนตฺถายปิ น วฏฺฏติ, ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. วฏฺฏตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย วฏฺฏติ, กุลสงฺคหตฺถาย ปน กปฺปิยโวหาเรน การาเปนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว.
นีปปุปฺผํ ¶ นาม กทมฺพปุปฺผํ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส วา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.
กทลิกฺขนฺธมฺหีติอาทินา วุตฺตํ สพฺพเมว สนฺธาย ‘‘ตํ อติโอฬาริกเมวา’’ติ วุตฺตํ, สพฺพตฺถ กรเณ, อกปฺปิยวจเนน การาปเน จ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ. ‘‘ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ กณฺฏกํ พนฺธิตุมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ปุปฺผทาโมลมฺพนาทิอตฺถาย รชฺชุพนฺธนาทิปิ น วฏฺฏตีติ เกจิ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ กณฺฏกนฺติ วิเสสิตตฺตา ตทตฺถํ กณฺฏกเมว พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ตฺจ อฏฺกถาปมาเณนา’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ปุปฺผปฏิจฺฉกํ นาม ทณฺฑาทีหิ กตํ ปุปฺผาธานํ, เอตมฺปิ นาคทนฺตกมฺปิ สฉิทฺทกเมว คเหตพฺพํ. อโสกปิณฺฑิยาติ อโสกสาขานํ, ปุปฺผานํ วา สมูเห. ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยาทีนิ ปริกฺขิปิตฺวา เตสฺจ รชฺชุยา จ อนฺตรา ปุปฺผปฺปเวสนตฺถาย พนฺธรชฺชุ. ‘‘สิถิลวฏฺฏิตา วา รชฺชุวฏฺฏิอนฺตเร ปุปฺผปฺปเวสนตฺถาย เอวํ พนฺธา’’ติปิ วทนฺติ.
มตฺถกทามนฺติ ธมฺมาสนาทิมตฺถกลมฺพกทามํ. เตสํเยวาติ อุปฺปลาทีนํ เอว. วาเกน วา ทณฺฑเกน วาติ ปุปฺผนาฬํ ผาเลตฺวา ปุปฺเผน เอกาพทฺธํ ิตวาเกน, ทณฺฑเกน จ เอกพนฺธเนเนว, เอเตน ปุปฺผํ พีชคาเม สงฺคหํ น คจฺฉติ ปฺจสุ พีเชสุ อปฺปวิฏฺตฺตา ปณฺณํ วิย, ตสฺมา กปฺปิยํ อการาเปตฺวาปิ โกปเน โทโส นตฺถิ. ยฺจ ฉินฺนสฺสาปิ มกุฬสฺส วิกสนํ, ตมฺปิ อติตรุณสฺส อภาวา วุฑฺฒิลกฺขณํ น โหติ, ปริณตสฺส ปน มกุฬสฺส ปตฺตานํ สิเนเห ปริยาทานํ คเต วิสุํภาโว เอว วิกาโส, เตเนว ฉินฺนมกุฬวิกาโส อจฺฉินฺนมกุฬวิกาสโต ปริหีโน ¶ , มิลาตยุตฺโต วา ทิสฺสติ. ยฺจ มิลาตสฺส อุทกสฺโเค อมิลานตาปชฺชนํ, ตมฺปิ ตมฺพุลปณฺณาทีสุ สมานนฺติ วุฑฺฒิลกฺขณํ น โหติ, ปาฬิอฏฺกถาทีสุ จ น กตฺถจิ ปุปฺผานํ กปฺปิยกรณํ อาคตํ, ตสฺมา ปุปฺผํ สพฺพถา อพีชเมวาติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ‘‘ปสิพฺพเก วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผปสิพฺพเก วา ปสิพฺพกสทิสพนฺเธ วา ยตฺถ กตฺถจิ จีวเร วา ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ รชฺชุอาทีหิ พนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปุปฺผสฺเสว ปน อจฺฉินฺนทณฺฑวาเกหิ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ เอว.
ปุปฺผปเฏ ¶ จ ทฏฺพฺพนฺติ ปุปฺผปฏํ กโรนฺตสฺส ทีฆโต ปุปฺผทามสฺส หรณปจฺจาหรณวเสน ปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, ติริยโต หรณํ ปน วายิมํ นาม โหติ, น ปูริมํ. ‘‘ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปุริมํ ปุปฺผโกฏึ ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ปริกฺขิปนวเสน ปน อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติเยว. พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตวากโกฏิยา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วา’’ติ อิทํ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยาทิปริกฺเขปํ, ปุปฺผปฏกรณฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปเรหิ ปูริตนฺติ ทีฆโต ปสาริตํ. วายิตุนฺติ ติริยโต หริตุํ, ตํ ปน เอกวารมฺปิ น ลพฺภติ. ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตปุปฺผานิ อฺมฺํ ผุสาเปตฺวาปิ เปนฺเตน. ฆฏิกทามโอลมฺพโกติ เหฏฺาภาเค ฆฏิกาการยุตฺโต, ทารุฆฏิกากาโร วา โอลมฺพโก. สุตฺตมยํ เคณฺฑุกํ นาม. สพฺพตฺถาติ คนฺถิมาทีสุ สพฺพตฺถ.
เรจกนฺติ อภินยํ, ‘‘เอวํ นจฺจาหี’’ติ นฏนาการทสฺสนนฺติ อตฺโถ, ‘‘จกฺกํ วิย อตฺตานํ ภมาปน’’นฺติปิ เกจิ. อากาเสเยว กีฬนฺตีติ ‘‘อยํ สารี อสุกปทํ มยา นีตา’’ติ เอวํ มุเขเนว อุโภปิ วทนฺตา กีฬนฺติ. ชูตผลเกติ ชูตมณฺฑเล. ปาสกกีฬายาติ ทฺวินฺนํ ติวงฺคุลปฺปมาณานํ ทารุทนฺตาทิมยานํ ปาสกานํ จตูสุ ปสฺเสสุ เอกกาทิวเสน พินฺทูนิ กตฺวา ผลเก ขิปิตฺวา อุปริภาเค ทิฏฺพินฺทูนํ วเสน สาริโย อปเนตฺวา กีฬนกชูตกีฬาย.
มฺชฏฺิ นาม มฺชฏฺรุกฺขสารกสาวํ. สลากหตฺถนฺติ นาฬิเกรหีราทีนํ กลาปสฺเสตํ นามํ. ปาฬิยํ ถรุสฺมินฺติ ขคฺเค. อุสฺเสเฬนฺตีติ มุเขน อุสฺเสฬนสทฺทํ ปมฺุจนฺติ, มหนฺตํ อพฺยตฺตสทฺทํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺโถ. อปฺโผเฏนฺตีติ ทฺวิคุณิตวามหตฺเถ ทกฺขิณหตฺเถน ตาเฬตฺวา สทฺทํ กโรนฺติ. มุขฑิณฺฑิมนฺติ มุขเภรี.
๔๓๒. เตสนฺติ ¶ สมาเส คุณีภูตานิ ปพฺพานิปิ ปรามสติ. โพนฺโทติ โลโล, มนฺทธาตุโกติ อตฺโถ. ภกุฏึ กตฺวาติ ภมุกเภทํ กตฺวา. เนลาติ นิทฺโทสา.
๔๓๓. ปาฬิยํ ¶ ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ อิทํ เอกเสสนเยน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ อุภินฺนํ อาลปนํ, เตเนว พหุวจนนิทฺเทโส กโต.
๔๓๕. อฏฺารส วตฺตานีติ ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทีนิ ‘‘น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ ปริโยสานานิ กมฺมกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗) อาคตานิ อฏฺารส วตฺตานิ. น ปนฺนโลมาติ น ปติตมานโลมา, อนนุกูลวตฺติโนติ อตฺโถ.
๔๓๗. ปรสนฺตกํ เทติ ทุกฺกฏเมวาติ วิสฺสาสคาเหน ทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยนฺติ เอตฺถ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ โหติ เอว.
ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถายาติ มาตาปิตูนมฺปิ ปุปฺผํ เทนฺเตน วตฺถุปูชนตฺถาเยว ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถายาติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตา ‘‘อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิสฺสนฺตี’’ติ มาตาปิตูนํ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตีนํ ปน ตาวกาลิกเมว ทาตุํ วฏฺฏติ. าติสามเณเรเหวาติ เตสํ คิหิกมฺมปริโมจนตฺถํ วุตฺตํ. อิตเรติ อฺาตกา, เตหิปิ สามเณเรหิ อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตสีเสน หริตพฺพํ. จูฬกนฺติ อุปฑฺฒภาคโตปิ อุปฑฺฒํ.
สามเณรา…เป… เปนฺตีติ อรกฺขิตาโคปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ มคฺเค วา เจติยงฺคเณ วา. ‘‘สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺตี’’ติ อิทํ สามเณเรหิ คิหีนํ กมฺมํ การิตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ, น ปน ปุปฺผทานํ โหตีติ สามเณรานมฺปิ น วฏฺฏนโต. วุตฺตฺจ ‘‘สยเมวา’’ติอาทิ. ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ อิมินา สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
ขีณปริพฺพยานนฺติ อาคนฺตุเก สนฺธาย วุตฺตํ. ปริจฺฉินฺเนสุปิ รุกฺเขสุ ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานี’’ติอาทึ วทนฺเตน กุลสงฺคโห กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ.
รุกฺขจฺฉลฺลีติ รุกฺขตฺตโจ. อภาชนียตฺตา ครุภณฺฑํ วุตฺตํ. วุตฺตนเยนาติ ปณฺณทานมฺปิ ปุปฺผผลาทีสุ วุตฺตนเยน กุลสงฺคโห โหตีติ ทสฺเสติ.
ปุพฺเพ ¶ วุตฺตปฺปการนฺติ มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถาติอาทินา วุตฺตปฺปการสิกฺขาปเท ปมํ วุตฺตํ. ‘‘ปกฺกมตายสฺมา’’ติ อิทํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน ¶ วุตฺตํ. ปุน ‘‘ปกฺกมตายสฺมา’’ติ อิทมฺปิ ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส วตฺตวเสน วุตฺตํ. เอตฺถ จ อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ อาจริเยสุ อเนกวิเธสุ อนาจาเรสุ ปฺเปตพฺพา อาปตฺติโย สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตา เอวาติ ตา อิธ อปฺเปตฺวา กุลทูสกานํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน นิคฺคหํ กาตุํ ตตฺเถว สมฺมา อวตฺติตฺวา การกสงฺฆํ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺตานํ สมนุภาสนาย สงฺฆาทิเสสํ อาโรปิตฺจ อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ เอตฺถ องฺเคสุปิ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวมิธ ฉนฺทาทีหิ ปาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ ตาทิสเมวาติ.
กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
๔๔๒. อิตเร ปน ยาวตติยกาติ เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. โย หิ ชโร เอกสฺมึ ทิวเส อาคนฺตฺวาปิ คโต อนนฺตเรสุ ทฺวีสุ ทิวเสสุ อนุปฺปชฺชิตฺวา ตติเย ทิวเส อุปฺปชฺชติ, โส ตติยโก. โย ปน ตติเยปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา จตุตฺเถ เอว ทิวเส อุปฺปชฺชติ, โส จตุตฺถโก จาติ วุจฺจติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ยถา ตติเย’’ติอาทิ. ‘‘อกาเมน อวเสนา’’ติ อิมินา อปฺปฏิกมฺมกรณํ นาม ยสฺมา อลชฺชิลกฺขณํ, สคฺคโมกฺขาวรณฺจ, ตสฺมา อาปนฺโน ปุคฺคโล ‘‘ปจฺฉา ปริวสิสฺสามี’’ติ วิกฺขิปิตุํ น ลภติ, สงฺเฆน จ อนิจฺฉนฺตสฺเสว ปริวาโส ทาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ปาฬิยํ จิณฺณมานตฺโต ภิกฺขุ…เป… อพฺเภตพฺโพติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ จิณฺณมานตฺโต, โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพติ เอวํ ภิกฺขุสทฺททฺวยสฺส โยชนา เวทิตพฺพา. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ อูนภาวํ ตฺวา อพฺเภนฺติ, ทุกฺกฏาปชฺชเนน ครหิตพฺพา. สามีจีติ วตฺตํ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
เตรสกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.