📜
๖. เสนาสนกฺขนฺธโก
วิหารานุชานนกถาวณฺณนา
๒๙๕. เสนาสนกฺขนฺธเก ¶ ¶ สิสิเรติ สิสิรกาเล หิมปาตวเสน สตฺตาหวทฺทลิกาทิวสฺสปาตวสฺเสน จ อุปฺปนฺโน ขโร สีตสมฺผสฺโส อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สมฺผุสิตโก’’ติ. ‘‘ตโต’’ติ อิทํ กตฺตุอตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, เตน จ วิหาเรน วาตาตโป ปฏิหฺตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘วิหาเรน ปฏิหฺตี’’ติ.
๒๙๖. อาวิฺฉนฉิทฺทนฺติ ยตฺถ องฺคุลึ วา รชฺชุสงฺขลิกาทึ วา ปเวเสตฺวา กวาฏํ อากฑฺฒนฺตา ทฺวารพาหํ ผุสาเปนฺติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. เสนาสนปริโภเค อกปฺปิยํ นาม นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สเจปิ ทีปินงฺคุฏฺเนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เจติเย เวทิกาสทิสนฺติ วาตปานทารุํ วา ชาลํ วา อฏฺเปตฺวา ทารุฏฺาเน เจติเย เวทิกาย ปฏฺฏาทีนิ วิย อิฏฺกาทีหิ อุทฺธํ, ติริยฺจ ปฏฺฏิกาทโย ทสฺเสตฺวา จตุฉิทฺทยุตฺตํ กตํ. ถมฺภกวาตปานํ นาม ติริยํ ทารูนิ อทตฺวา อุทฺธํ ปิตทารูหิ เอว กตํ. โจฬกปาทปฺุฉนํ พนฺธิตุนฺติ วาตปานปฺปมาเณน ปาทปฺุฉนสทิสํ โจฬกาทินา พนฺธิตฺวา วคฺคุลิอาทิปฺปเวสนนิวารณตฺถํ, กเถตุนฺติ อตฺโถ. มิฑฺฒกนฺติ มฺจากาเรน กฏฺมตฺติกาทีหิ กตเวทิกาการํ.
๒๙๗. จตุรสฺสปีนฺติ สมจตุรสฺสํ. อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏตีติ อฏฺงฺคุลปาทกเมว วฏฺฏติ. ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตีติ สมจตุรสฺสเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อายตจตุรสฺสา ปน สตฺตงฺคปฺจงฺคาปิ อุจฺจปาทา น วฏฺฏนฺติ. เวตฺเตเหว จตุรสฺสาทิอากาเรน กตํ ภทฺทปีนฺติ อาห ‘‘เวตฺตมยํ ปี’’นฺติ. ทารุปฏฺฏิกาย อุปรีติ อฏนิอากาเรน ิตทารุปฏลสฺส เหฏฺา อุทฺธํ ปาทํ กตฺวา. ปเวสนกาลฺหิ สนฺธาย ‘‘อุปรี’’ติ วุตฺตํ. เอฬกสฺส ปจฺฉิมปาททฺวยํ วิย วงฺกากาเรน ิตตฺตา ปเนตํ ‘‘เอฬกปาทปี’’นฺติ วุตฺตํ. ปโลเนฺตีติ สห มฺเจหิ ปวฏฺเฏนฺติ. รุกฺเข ¶ , ลตา จ มฺุจิตฺวา อวเสสํ คจฺฉาทิกํ สพฺพมฺปิ ติณชาติ เอวาติ อาห ‘‘เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกาน’’นฺติอาทิ.
อุปทหนฺตีติ ¶ เปนฺติ. สีสปฺปมาณํ นาม ยตฺถ คีวาย สห สกลํ สีสํ เปตุํ สกฺกา, ตสฺส จ มุฏฺิรตนํ วิตฺถารปฺปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิตฺถารโต’’ติอาทิมาห. อิทฺจ พิมฺโพหนสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ เปตพฺพโจฬปฺปมาณทสฺสนํ. ตสฺส วเสน พิมฺโพหนสฺส วิตฺถารปฺปมาณํ ปริจฺฉิชฺชติ, ตํ วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา กตฺวา สิพฺพิตํ ยถา โกฏิโต โกฏิ วิตฺถารโต ปุถุลฏฺานํ มุฏฺิรตนปฺปมาณํ โหติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพํ. อิโต อธิกํ น วฏฺฏติ, ตํ ปน อนฺเตสุ ปิตโจฬํ โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ทิคุณํ กตํ ติกณฺณํ โหติ. เตสุ ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานมนฺตรํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, มชฺฌฏฺานํ โกฏิโต โกฏึ อาหจฺจ มุฏฺิรตนํ โหติ, อิทมสฺส อุกฺกฏฺปฺปมาณํ. เตนาห ‘‘ตีสุ กณฺเณสู’’ติอาทิ.
‘‘กมฺพลเมว…เป… อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา โคนกาทิอกปฺปิยมฺปิ อุณฺณมยตฺถรณํ ภิสิยํ ปกฺขิปิตฺวา สยิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.
มสูรเกติ จมฺมมยภิสิยํ. จมฺมมยํ ปน พิมฺโพหนํ ตูลปุณฺณมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาฬิยํ เสนาสนปริกฺขารทุสฺสนฺติ เสนาสนปริกฺขารกรณตฺถาย ทุสฺสํ. ภิสึ โอนนฺธิตุนฺติ ภิสิตฺถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา พนฺธิตุํ. ปริภิชฺชตีติ มฺจาทิโต สาริยมานา ปีโกฏิอาทีสุ นิสีทนฺเตหิ ฆํสิยมานา ภิสิ ปริภิชฺชติ. โอนทฺธมฺจนฺติ ภิสึ เอกาพทฺธํ กตฺวา พทฺธมฺจํ. ปาฬิยํ ฉวึ อุปฺปาเฏตฺวา หรนฺตีติ ภิสิจฺฉวึ โจรา หรนฺติ. โผสิตุนฺติ โจเรหิ หริตสฺส ปจฺฉา หริตสฺาณผุสิตพินฺทูนิ ทาตุํ. ภิตฺติกมฺมนฺติ นานาวณฺเณหิ วิภิตฺติราชิกรณํ. หตฺถกมฺมนฺติ หตฺเถน ยํ กิฺจิ สฺากรณํ.
๒๙๘. ปาฬิยํ น นิปตตีติ น อลฺลียติ. ปฏิพาเหตฺวาติ ฆํสิตฺวา. น นิพนฺธตีติ อนิพนฺธนีโย, น ลคฺคนโกติ อตฺโถ.
๒๙๙. ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลพฺภตีติ อาณตฺติยา เอว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ทฺวารปาลํ ‘‘กึ น กโรสี’’ติอาทินา ปริยาเยน วตฺตุํ วฏฺฏติ. ชาตกปกรณนฺติ ชาตกปฏิสํยุตฺตํ อิตฺถิปุริสาทิ ยํ กิฺจิ รูปํ อธิปฺเปตํ. ‘‘ปเรหิ การาเปตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา พุทฺธรูปมฺปิ สยํ กาตุํ น ลภติ. ปาฬิยํ ปฺจปฏิกนฺติ ชาติอาทิปฺจปฺปการวณฺณมฏฺํ.
๓๐๐. อุปจาโร ¶ ¶ น โหตีติ คพฺภสฺส พหิ สมนฺตา อนุปริคมนสฺส โอกาโส นปฺปโหติ. รุกฺขํ วิชฺฌิตฺวาติ ตจฺฉิตสารทารุํ อคฺคสมีเป วิชฺฌิตฺวา. กตฺวาติ ฉิทฺเท กตฺวา. กปฺปกตํ วิย สารขาณุเก อาโกเฏตฺวา เอวํ กตเมว ‘‘อาหริมํ ภิตฺติปาท’’นฺติ วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภนตฺถํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุนฺติ ชิณฺณภิตฺติปาเทน พหิ สมานภารํ ขาณุกปฺปสีเสน อุสฺสาเปตฺวา มูเลน ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุํ. ปริตฺตาณตฺถนฺติ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตกุฏิยา โอวสฺสนฏฺานสฺส ปริตฺตาณตฺถํ. กิฏิกนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ กตปทลํ. มทฺทิตมตฺติกนฺติ โอวสฺสนฉิทฺทสฺส ปิทหนตฺถํ วุตฺตํ.
อุภโตกุฏฺฏํ นีหริตฺวา กตปเทสสฺสาติ ยถา พหิ ิตา อุชุกํ อนฺโต นิสินฺเน น ปสฺสนฺติ, เอวํ ทฺวาราภิมุขํ ปิทหนวเสน ภิตฺติฺจ อฺโต ทฺวารฺจ โยเชตฺวา กตฏฺานํ วทติ. สมนฺตา ปริยาคาโรติ สมนฺตโต อาวิทฺธปมุขํ. วํสํ ทตฺวาติ ปุริสปฺปมาเณ ปาเท นิขณิตฺวา เตสํ อุปริ ปิฏฺิวํสสทิสํ ปสฺสวํสํ เปตฺวา โอสาเรตฺวา. เอกํ ทณฺฑโกฏึ อติอุจฺจาย วิหารภิตฺติโกฏิยา เอกํ โกฏึ นีเจ วํสปิฏฺิยํ ปนวเสน ทณฺฑเก ปสาเรตฺวา. จกฺกลยุตฺโต กิฏิโกติ กวาฏํ วิย วิวรณถกนสุขตฺถํ จกฺกลพนฺธกิฏิกํ. ปาฬิยํ อุคฺฆาฏนกิฏิกนฺติ อาปณาทีสุ อนตฺถิกกาเล อุกฺขิปิตฺวา, อุปริ จ พนฺธิตฺวา ปจฺฉา โอตรณกิฏิกํ, กปฺปสีเสหิ วา อุปตฺถมฺภนีหิ อุกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา โอตรณกิฏิกมฺปิ.
๓๐๑. ปานียํ โอตปฺปตีติ ปานียภาชเนสุ ปิตปานียํ อาตเปน สนฺตปฺปติ.
๓๐๓. ตโย วาเฏติ ตโย ปริกฺเขเป. เวฬุวาฏนฺติ สพฺพํ ทารุปริกฺเขปํ สงฺคณฺหาติ. กณฺฏกวาฏนฺติ สพฺพสาขาปริกฺเขปํ.
๓๐๕. อาโลโก อนฺตรธายีติ โย พุทฺธารมฺมณาย ปีติยา อานุภาเวน มหนฺโต โอภาโส อโหสิ, เยน จสฺส ปทีปสหสฺเสน วิย วิคตนฺธกาโร มคฺโค อโหสิ, โส พหินคเร ฉวสรีรสมากุลํ ทุคฺคนฺธํ พีภจฺฉํ อามกสุสานํ ปตฺตสฺส ภเยน ปีติเวเค มนฺทีภูเต อนฺตรธายิ.
สตํ ¶ หตฺถีติ คาถาย หตฺถิโน สตสหสฺสานีติ เอวํ ปจฺเจกํ สหสฺส-สทฺเทน โยเชตฺวา อตฺโถ าตพฺโพ. ปทวีติหารสฺสาติ ‘‘พุทฺธํ วนฺทิสฺสามี’’ติ รตนตฺตยํ อุทฺทิสฺส คจฺฉโต เอกปทวีติหารสฺส ¶ , ตปฺปจฺจยกุสลผลสฺสาติ อตฺโถ. ตสฺส โสฬสโม ภาโค กลํ นาม, ตํ โสฬสึ กลํ ยถาวุตฺตา หตฺถิอาทโย สพฺเพ นาคฺฆนฺติ นารหนฺติ, นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ. อเนกสตสหสฺสภาคมฺปิ นาคฺฆนฺติ.
อนฺธกาโร อนฺตรธายีติ ปุน พลวปีติยา อาโลเก สมุปฺปนฺเน อนฺตรธายิ. อาสตฺติโยติ ตณฺหาโย. วยกรณนฺติ เทยฺยธมฺมมูลํ นวกมฺมํ.
๓๐๙. ทเทยฺยาติ นวกมฺมํ อธิฏฺาตุํ วิหาเร อิสฺสริยํ ทเทยฺยาติ อตฺโถ. ทินฺโนติ นวกมฺมํ กาตุํ วิหาโร ทินฺโน, วิหาเร นวกมฺมํ ทินฺนนฺติ วา อตฺโถ.
๓๑๓-๔. สนฺถาคาเรติ สนฺนิปาตมณฺฑเป. โอกาเสติ นิวาโสกาเส. อุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตํ. คิหิวิกฏนฺติ คิหีหิ กตํ ปฺตฺตํ, คิหิสนฺตกนฺติ อตฺโถ.
วิหารานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา
๓๑๘. ‘‘ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยนา’’ติ อิทํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจยทานกาลปริจฺเฉททสฺสนํ, เอวํ อุปริปิ. ‘‘ตํ น คาเหตพฺพ’’นฺติ วจนสฺส การณมาห ‘‘ปจฺจเยเนว หิ ต’’นฺติอาทินา, ปจฺจยฺเว นิสฺสาย ตตฺถ วสิตฺวา ปฏิชคฺคนา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย.
อุพฺภณฺฑิกาติ อุกฺขิตฺตภณฺฑา ภวิสฺสนฺติ. ทีฆสาลาติ จงฺกมนสาลา. มณฺฑลมาโฬติ อุปฏฺานสาลา. อนุทหตีติ ปีเฬติ. ‘‘อทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อิมินา สฺจิจฺจ อททนฺตสฺส ปฏิพาหเน ปวิสนโต ทุกฺกฏนฺติ ทีเปติ.
‘‘น ¶ โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวาติ ‘‘อิมินา นีหาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา นิวาเรตฺวา ปจฺจเย ทสฺสนฺตี’’ติ เอวรูปํ วิตกฺกํ อนุปฺปาเทตฺวา. ภณฺฑปฺปฏิจฺฉาทนนฺติ ปฏิจฺฉาทนภณฺฑํ. สรีรปฺปฏิจฺฉาทนจีวรนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺช’’นฺติ อิทํ ปุจฺฉิตกฺขเณ การณาจิกฺขนํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ อสุทฺธจิตฺตสฺสปิ ปุจฺฉิตปฺหวิสชฺชเน โทสาภาวา. เอวํ ปน คเต มํ ปุจฺฉิสฺสนฺตีติสฺาย อคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปฏิชคฺคิตพฺพานีติ ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณสมฺมชฺชนาทีหิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ. มุทฺทเวทิกายาติ เจติยสฺส หมฺมิยเวทิกาย ฆฏาการสฺส อุปริ จตุรสฺสเวทิกาย. กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพนฺติอาทิ ยโต ปกติยา ลภติ. ตตฺถาปิ ปุจฺฉนสฺส การณสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
ปฏิกฺกมฺมาติ วิหารโต อปสกฺกิตฺวา. ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหตี’’ติ อาห. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวาติ วฑฺฒิยา กหาปณาทึ เปตฺวา, เขตฺตาทีนิ วา นิยเมตฺวา. อิติ สทฺธาเทยฺเยติ เอวํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สทฺธาย ทาตพฺเพ วสฺสาวาสิกลาภวิสเยติ อตฺโถ.
วตฺถุ ปนาติ ตตฺรุปฺปาเท อุปฺปนฺนรูปิยํ, ตฺจ ‘‘ตโต จตุปจฺจยํ ปริภฺุชถา’’ติ ทินฺนเขตฺตาทิโต อุปฺปนฺนตฺตา กปฺปิยการกานํ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภฺุชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนวตฺถุสทิสํ โหตีติ อาห ‘‘กปฺปิยการกานํ หี’’ติอาทิ.
สงฺฆสุฏฺุตายาติ สงฺฆสฺส หิตาย. ปุคฺคลวเสนาติ ‘‘ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺตี’’ติ เอวํ ปุคฺคลปรามาสวเสน, น ‘‘สงฺโฆ กิลมตี’’ติ เอวํ สงฺฆปรามาสวเสน.
‘‘กปฺปิยภณฺฑวเสนา’’ติ สามฺโต วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จา’’ติ วุตฺตํ. จ-กาโร เจตฺถ ปน-สทฺทตฺเถ วตฺตติ, น สมุจฺจยตฺเถติ ทฏฺพฺพํ. ปุคฺคลวเสเนว, กปฺปิยภณฺฑวเสน จ อปโลกนปฺปการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวาติ สทฺธาเทยฺยตตฺรุปฺปาทาทิวเสน ตสฺมึ วสฺสาวาเส ลพฺภมานํ จีวรสงฺขาตํ ปจฺจยํ ‘‘เอตฺตก’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เสนาสนสฺสาติ เสนาสนคฺคาหาปนสฺส. ‘‘นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุฑฺโฒ จ ¶ นวกสฺสา’’ติ อิทํ เสนาสนคฺคาหสฺส อตฺตนาว อตฺตโน คหณํ อสารุปฺปนฺติ วุตฺตํ, ทฺเว อฺมฺํ คาเหสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. อฏฺปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตีติ เอกกมฺมวาจาย สพฺเพปิ เอกโต สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. นิคฺคหกมฺมเมว หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส น กโรติ. เตเนว สตฺตสติกกฺขนฺธเก ‘‘อุพฺพาหิกกมฺมสมฺมุติยํ อฏฺปิ ชนา เอกโตว สมฺมตาติ.
อาสนฆรนฺติ ¶ ปฏิมาฆรํ. มคฺโคติ อุปจารสีมพฺภนฺตรคเต คามาภิมุขมคฺเค กตสาลา วุจฺจติ. เอวํ โปกฺขรณีรุกฺขมูลาทีสุปิ.
ลภนฺตีติ ตตฺรวาสิโน ภิกฺขู ลภนฺติ. วิชเฏตฺวาติ ‘‘เอเกกสฺส ปโหนกปฺปมาเณน วิโยเชตฺวา. อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อิโต อุปฺปนฺนํ อสุกสฺมึ อสุกสฺมิฺจ อาวาเส วสนฺตา ปาเปตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วาจาย อุปสํหริตฺวา. ปวิสิตพฺพนฺติ มหาลาเภ ปริเวเณ วสิตฺวาว ลาโภ คเหตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อยมฺปีติ เอตฺถ โย ปํสุกูลิโก ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ. เตเนว วิสฺสฏฺโ อยํ จีวรปจฺจโยปีติ โยชนา. ปาทมูเล เปตฺวา สาฏกํ เทนฺตีติ ปจฺจยทายกา เทนฺติ. เอเตน คหฏฺเหิ ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนมฺปิ ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺตีติ เอตฺถ ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏตีติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนนฺติ ปํสุกูลิกโต อฺเสํ ภิกฺขูนํ.
อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพนฺติ อิธ รุกฺขาทีสุ วสิตฺวา จีวรํ คณฺหถาติ ปฏิพนฺธํ กตฺวา คาเหตพฺพํ.
ปาฏิปทอรุณโตติอาทิ วสฺสูปนายิกทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตรามุตฺตกํ ปน ปาฏิปทํ อติกฺกมิตฺวาปิ คาเหตุํ วฏฺฏติ. นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวาติ สชฺฌายมนสิการาทีสุ นิรนฺตรกรณีเยสุ กตฺตพฺพํ กติกวตฺตํ กตฺวา. กสาวปริภณฺฑนฺติ กสาวรเสหิ ภูมิปริกมฺมํ.
ติวิธมฺปีติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธมฺปิ. โสเธตฺวาติ อาจาราทีสุ อุปปริกฺขิตฺวา. เอกจาริกวตฺตนฺติ ภาวนากมฺมํ. ตฺหิ คณสงฺคณิกํ ปหาย เอกจาริเกเนว วตฺติตพฺพตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ทสวตฺถุกกถา ¶ นาม อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิ, ปวิเวก, อสํสคฺค, วีริยารมฺภ, สีล, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนกถาติ อิมา ทส.
ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตนฺติ ทนฺตกฏฺมาฬเก นิกฺขิตฺเตสุ ทนฺตกฏฺเสุ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๙) อทินฺนาทาเน ทนฺตโปนกถายํ วุตฺตํ วตฺตํ. ปตฺตํ วา…เป… น กเถตพฺพนฺติ ปตฺตคุตฺตตฺถาย วุตฺตํ. วิสภาคกถาติ ติรจฺฉานกถา. ขนฺธกวตฺตนฺติ ¶ วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๖๕) อาคตํ ปิณฺฑจาริกวตฺตโต อวสิฏฺวตฺตํ ตสฺส ‘‘ภิกฺขาจารวตฺต’’นฺติ วิสุํ คหิตตฺตา.
อิทานิ ยํ ทายกา ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานํ วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปนา’’ติ อารทฺธํ. อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขูติ จีวเร คาหิเต ปจฺฉา อาคโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุ. ปตฺตฏฺาเนติ วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน. ปมวสฺสูปคตาติ อาคนฺตุกสฺส อาคมนโต ปุเรตรเมว ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสูปคตา. ลทฺธํ ลทฺธนฺติ ปุนปฺปุนํ ทายกานํ สนฺติกา อาคตาคตสาฏกํ.
เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโนติ ฉินฺนวสฺสตฺตา วุตฺตํ. ปมเมว กติกาย กตตฺตา ‘‘เนว อทาตุํ ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ทาตพฺพํ วาเรนฺตานํ คีวา โหตีติ อธิปฺปาโย. เตสเมว ทาตพฺพนฺติ วสฺสูปคเตสุ อลทฺธวสฺสาวาสิกานํ เอกจฺจานเมว ทาตพฺพํ.
ภตินิวิฏฺนฺติ ปานียุปฏฺานาทิภตึ กตฺวา ลทฺธํ. สงฺฆิกํ ปนาติอาทิ เกสฺจิ วาททสฺสนํ. ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตนฺติ ‘‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’’ติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อปโลกนํ กตฺวา คาหิตํ สงฺเฆน ทินฺนตฺตา วิพฺภนฺโตปิ ลภติ. ปเคว ฉินฺนวสฺโส. ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน เตมาสํ วสิตฺวา คเหตุํ อตฺตนา, ทายเกหิ จ อนุมตตฺตา ภตินิวิฏฺมฺปิ ฉินฺนวสฺโสปิ วิพฺภนฺโตปิ น ลภตีติ เกจิ อาจริยา วทนฺติ. อิทฺจ ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํ. เตเนว วสฺสูปนายิกทิวเส เอว ทายเกหิ ทินฺนวสฺสาวาสิกํ คหิตภิกฺขุโน วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา วาโสว เหฏฺา วิหิโต, น ปานียุปฏฺานาทิภติกรณวตฺตํ. ยทิ หิ ตํ ¶ นิวิฏฺเมว สิยา, ภติกรณเมว วิธาตพฺพํ. ตสฺมา วสฺสคฺเคน คาหิตํ ฉินฺนวสฺสาทโย น ลภนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
‘‘สงฺฆิกํ โหตี’’ติ เอเตน วุตฺถวสฺสานมฺปิ วสฺสาวาสิกภาโค สงฺฆิกโต อโมจิโต เตสํ วิพฺภเมน สงฺฆิโก โหตีติ ทสฺเสติ. ลภตีติ ‘‘มม ปตฺตภาคํ เอตสฺส เทถา’’ติ ทายเก สมฺปฏิจฺฉาเปนฺเตเนว สงฺฆิกโต วิโยชิตํ โหตีติ วุตฺตํ.
วรภาคํ สามเณรสฺสาติ ตสฺส ปมคาหตฺตา, เถเรน ปุพฺเพ ปมภาคสฺส คหิตตฺตา, อิทานิ คยฺหมานสฺส ทุติยภาคตฺตา จ วุตฺตํ.
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปนนฺทวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๑๙. ปาฬิยํ ¶ อุภยตฺถ ปริพาหิโรติ กเมน อุภยสฺสปิ มุตฺตตฺตา วุตฺตํ, น สพฺพถา อุภยโต ปริพาหิรตฺตา. เตนาห ‘‘ปจฺฉิเม…เป… ติฏฺตี’’ติ.
๓๒๐. ยํ ติณฺณํ ปโหตีติ มฺจปีวินิมุตฺตํ ยํ อาสนํ ติณฺณํ สุขํ นิสีทิตุํ ปโหติ, อิทํ ปจฺฉิมทีฆาสนํ. เอตฺถ มฺจปีรหิเตสุ อสมานาสนิกาปิ ตโย นิสีทิตุํ ลภนฺติ. มฺจปีเสุ ปน ทฺเว. อทีฆาสเนสุ มฺจปีเสุ สมานาสนิกา เอว ทฺเว นิสีทิตุํ ลภนฺติ ทุวคฺคสฺเสว อนฺุาตตฺตา.
หตฺถินโข เหฏฺาภาเค เอตสฺส อตฺถีติ หตฺถินโข, ปาสาโท. ปาสาทสฺส นโข นาม เหฏฺิมภาโค ปาทนขสทิสตฺตา, โส สพฺพทิสาสุ อเนเกหิ หตฺถิรูเปหิ สมลงฺกโต ิโต. ตสฺสูปริ กโต ปาสาโท หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิโต วิย โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิต’’นฺติ. สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานีติ สงฺฆิกเสนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุคฺคลิกํ ปน สุวณฺณาทิวิจิตฺรํ ภิกฺขุสฺส สมฺปฏิจฺฉิตุเมว น วฏฺฏติ ‘‘น เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตตฺตา. เตเนเวตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา’’ติ น ¶ วุตฺตํ, โคนกาทิอกปฺปิยภณฺฑวิสเย เอว วุตฺตํ เอกภิกฺขุสฺสาปิ เตสํ คหเณ โทสาภาวา. คิหิวิกฏนีหาเรนาติ คิหีหิ กตนีหาเรน, คิหีหิ อตฺตโน สนฺตกํ อตฺถริตฺวา ทินฺนนิยาเมนาติ อตฺโถ. ลพฺภนฺตีติ นิสีทิตุํ ลพฺภนฺติ.
อุปนนฺทวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๒๑. อรฺชโรติ พหุอุทกคณฺหนิกา มหาจาฏิ, ชลํ คณฺหิตุมลนฺติ อรฺชโร.
ถาวเรน จ ถาวรนฺติอาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปุริมทฺวยํ ถาวรํ, ปจฺฉิมตฺตยํ ครุภณฺฑนฺติ เวทิตพฺพํ. สมกเมว เทตีติ เอตฺถ อูนกํ เทนฺตมฺปิ วิหารวตฺถุสามนฺตํ คเหตฺวา ทูรตรํ ทุกฺขโคปํ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. วกฺขติ หิ ‘‘ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ…เป… สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). ชานาเปตฺวาติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ ชานาเปตฺวา, อปโลเกตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขาติ วตฺตพฺพ’’นฺติ อิทํ สามิเกสุ อตฺตโน ภณฺฑสฺส มหคฺฆตํ อชานิตฺวา เทนฺเตสุ ตํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร โหตีติ วุตฺตํ.
วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพติ สวตฺถุเกน อฺเสํ ภูมิยํ กตปาสาทาทินา, อวตฺถุเกน วา สวตฺถุกํ ปริวตฺเตตพฺพํ. อวตฺถุกํ ปน อวตฺถุเกเนว ปริวตฺเตตพฺพํ. เกวลํ ปาสาทสฺส ภูมิโต อถาวรตฺตา. เอวํ ถาวเรสุปิ ถาวรวิภาคํ ตฺวาว ปริวตฺเตตพฺพํ.
‘‘กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา’’ติ อิมินา สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ อกปฺปิยมฺจํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺเตปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต สงฺฆสฺส วฏฺฏติ, น ปุคฺคลสฺส เขตฺตาทิ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. เอเตสูติ มฺจาทีสุ. กปฺปิยากปฺปิยํ วุตฺตนยเมวาติ อาสนฺทีตูลิกาทิวินิจฺฉเยสุ วุตฺตนยเมว. อกปฺปิยํ วาติ อาสนฺทีอาทิ, ปมาณาติกฺกนฺตํ ¶ พิมฺโพหนาทิ จ. มหคฺฆํ กปฺปิยํ วาติ สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ กปฺปิยโวหาเรน ทินฺนํ.
‘‘กาฬโลห…เป… ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏกํสโลหมยมฺปิ ภาชนํ ปุคฺคลิกมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ ปริหริตุมฺปิ วฏฺฏติ ปุคฺคลปริหริตพฺพสฺเสว ภาเชตพฺพตฺตาติ วทนฺติ. ตํ อุปริ ‘‘กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏตี’’ติอาทิเกน มหาปจฺจริวจเนน วิรุชฺฌติ. อิมสฺส หิ ‘‘วฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคฺคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตสฺส มหาอฏฺกถาวจนสฺส ปฏิกฺเขปาย ตํ มหาปจฺจริวจนํ ปจฺฉา ทสฺสิตํ. ตสฺมา วฏฺฏโลหกํสโลหมยํ ยํ กิฺจิ ปาทคฺคณฺหนกวารกมฺปิ อุปาทาย อภาชนียเมว. คิหีหิ ทิยฺยมานมฺปิ ปุคฺคลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาริหาริยํ น วฏฺฏตีติ ปตฺตาทิปริกฺขารํ วิย สยเมว ปฏิสาเมตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. คิหิสนฺตกํ วิย อารามิกาทโย เจ สยเมว โคเปตฺวา วินิโยคกาเล อาเนตฺวา ปฏิเนนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ.
ปณฺณสูจิ นาม เลขนีติ วทนฺติ. ‘‘อตฺตนา ลทฺธานิปี’’ติอาทินา ปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ, ปริหริตฺวา ปริโภโคว อาปตฺติกโรติ ทสฺเสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริ อภาชนียวาสิอาทีสุ อตฺตโน สนฺตเกสุปิ.
อนามาสมฺปีติ ¶ สุวณฺณาทิมยมฺปิ สพฺพํ ตํ อามสิตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฺขเรติ อุปกรเณ. อฑฺฒพาหุปฺปมาณา นาม อฑฺฒพาหุมตฺตา. อฑฺฒพฺยามมตฺตาติปิ วทนฺติ. โยตฺตานีติ จมฺมรชฺชุกา.
อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปีติ ตสรทณฺฑาทิสูจิอาการตนุทณฺฑกมตฺโตปิ. ริตฺตโปตฺถโกปีติ อลิขิตโปตฺถโก. อิทฺจ ปณฺณปฺปสงฺเคน วุตฺตํ.
‘‘ฆฏฺฏนผลกํ ฆฏฺฏนมุคฺคโร’’ติ อิทํ รชิตจีวรํ เอกสฺมึ มฏฺเ ทณฺฑมุคฺคเร เวเตฺวา เอกสฺส มฏฺผลกสฺส อุปริ เปตฺวา อุปริ อปเรน มฏฺผลเกน นิกุชฺชิตฺวา เอโก อุปริ อกฺกมิตฺวา ติฏฺติ. ทฺเว ชนา อุปริ ผลกํ ทฺวีสุ โกฏีสุ คเหตฺวา อปราปรํ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรนฺติ, เอตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺเถ ปาเปตฺวา หตฺเถน ปหรณํ ปน ¶ นิฏฺิตรชนสฺส จีวรสฺส อลฺลกาเล กาตพฺพํ. อิทํ ปน ผลกมุคฺคเรหิ ฆฏฺฏนํ สุกฺขกาเล ถทฺธภาววิโมจนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. อมฺพณนฺติ เอกโทณิกนาวาผลเกหิ โปกฺขรณีสทิสํ กตํ. ปานียภาชนนฺติปิ วทนฺติ. รชนโทณีติ เอกทารุนาว กตํ รชนภาชนํ. อุทกโทณีปิ เอกทารุนาว กตํ อุทกภาชนํ.
ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ อกปฺปิยจมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ภูมตฺถรณสงฺเขเปน สยิตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘ปจฺจตฺถรณคติก’’นฺติ อิมินา มฺจาทีสุ อตฺถริตพฺพํ มหาจมฺมํ เอฬกจมฺมํ นามาติ ทสฺเสติ.
ฉตฺตมุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปตฺตกฏาหนฺติ ปตฺตปจนกฏาหํ.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวกมฺมทานกถาวณฺณนา
๓๒๓. ปาฬิยํ ปิณฺฑนิกฺเขปนมตฺเตนาติอาทีสุ ขณฺฑผุลฺลฏฺาเน มตฺติกาปิณฺฑฏฺปนํ ปิณฺฑนิกฺเขปนํ นาม. นวกมฺมนฺติ นวกมฺมสมฺมุติ. อคฺคฬวฏฺฏิ นาม กวาฏพนฺโธ. ฉาทนํ นาม ติณาทีหิ เคหจฺฉาทนํ. พนฺธนํ นาม ทณฺฑวลฺลิอาทีหิ ฉทนพนฺธนเมว. จตุหตฺถวิหาเรติ วิตฺถารปฺปมาณโต วุตฺตํ. อุพฺเพธโต ปน อเนกภูมกตฺตา วฑฺฒกีหตฺเถน วีสติหตฺโถปิ ¶ นานาสณฺานวิจิตฺโตปิ โหติ. เตนสฺส จตุวสฺสิกํ นวกมฺมํ วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ.
ปาฬิยํ สพฺเพ วิหาเรติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยคพหุวจนํ. เอกสฺส สพฺเพสุ วิหาเรสุ นวกมฺมํ เทตีติ อตฺโถ. สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺตีติ นวกมฺมิกา อตฺตโน คาหิตํ วรเสยฺยํ สมฺปตฺตานํ ยถาวุฑฺฒํ อกตฺวา อุตุกาเลปิ ปฏิพาหนฺติ.
‘‘สเจ โส อาวาโส ชีรตี’’ติอาทิ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. มฺจฏฺานํ ทตฺวาติ มฺจฏฺานํ ปุคฺคลิกํ ทตฺวา. ติภาคนฺติ ตติยภาคํ. เอวํ วิสฺสชฺชนมฺปิ ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนฏฺาเน เอว ปวิสติ, น อิตรถา สพฺพเสนาสนานํ ¶ วินสฺสนโต. สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหตีติ สเจ โส สงฺฆสฺส ภณฺฑกฏฺปนฏฺานํ วา อฺเสํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ วา ทาตุํ น อิจฺฉติ, อตฺตโน สทฺธิวิหาริกานฺเว ทาตุกาโม โหติ, ตาทิสสฺส ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺคาติ น สพฺพํ ตสฺส ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ปน กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กมฺม’’นฺติอาทิ. เอวฺหีติอาทิมฺหิ วยานุรูปํ ตติยภาเค วา อุปฑฺฒภาเค วา คหิเต ตํ ภาคํ ทาตุํ ลภตีติ อตฺโถ.
เยนาติ เตสุ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ เยน. โส สามีติ ตสฺสา ภูมิยา วิหารกรเณ โสว สามี, ตํ ปฏิพาหิตฺวา อิตเรน น กาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. โส หิ ปมํ คหิโต. อกตฏฺาเนติ จยาทีนํ อกตปุพฺพฏฺาเน. จยํ วา ปมุขํ วาติ สงฺฆิกเสนาสนํ นิสฺสาย ตโต พหิ จยํ พนฺธิตฺวา, เอกํ เสนาสนํ วา. พหิกุฏฺเฏติ กุฏฺฏโต พหิ, อตฺตโน กตฏฺาเนติ อตฺโถ.
นวกมฺมทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา
๓๒๔. วฑฺฒิกมฺมตฺถายาติ ยถา ตมฺมูลคฺฆโต น ปริหายติ, เอวํ กตฺตพฺพสฺส เอวํ นิปฺผาเทตพฺพสฺส มฺจปีาทิโน อตฺถาย.
จกฺกลิกนฺติ ปาทปฺุฉนตฺถํ จกฺกากาเรน กตํ. ปริภณฺฑกตภูมิ วาติ กาฬวณฺณาทิกตสณฺหภูมิ วา. เสนาสนํ วาติ มฺจปีาทิ วา.
‘‘ตเถว ¶ วฬฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา เนวาสิเกหิ โธตปาทาทีหิ วฬฺชนฏฺาเน สฺจิจฺจ อโธตปาทาทีหิ วฬฺชนฺตสฺเสว อาปตฺติ ปฺตฺตาติ ทสฺเสติ.
‘‘ทฺวารมฺปี’’ติอาทินา สามฺโต วุตฺตตฺตา ทฺวารวาตปานาทโย อปริกมฺมกตาปิ น อปสฺสยิตพฺพา. อชานิตฺวา อปสฺสยนฺตสฺสปิ อิธ โลมคณนาย อาปตฺติ.
อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถาวณฺณนา
๓๒๕. อุทฺเทสภตฺตํ ¶ นิมนฺตนนฺติ อิมํ โวหารํ ปตฺตานีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนนฺติอาทิโวหารํ ปตฺตานีติ อตฺโถ. ตมฺปีติ สงฺฆภตฺตมฺปิ.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสภตฺตกถาวณฺณนา
โภชนสาลายาติ ภตฺตุทฺเทสฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอกวฬฺชนฺติ เอกทฺวาเรน วฬฺชิตพฺพํ. นานานิเวสเนสูติ นานากุลสฺส นานูปจาเรสุ นิเวสเนสุ.
นิสินฺนสฺสปิ นิทฺทายนฺตสฺสปีติ อนาทเร สามิวจนํ, วุฑฺฒตเร นิทฺทายนฺเต นวกสฺส คาหิตํ สุคฺคหิตนฺติ อตฺโถ.
วิสฺสฏฺทูโตติ ยถารุจิ วตฺตุํ ลภนโต นิราสงฺกทูโต. ปุจฺฉาสภาเคนาติ ปุจฺฉาวจนปฏิภาเคน. ‘‘เอกา กูฏฏฺิติกา นามา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘รฺโ วา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สพฺพํ ปตฺตสฺสามิกสฺส โหตีติ จีวราทิกมฺปิ สพฺพํ ปตฺตสฺสามิกสฺเสว โหติ, มยา ภตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น จีวราทินฺติ วตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
อกตภาโคนามาติ ¶ อาคนฺตุกภาโค นาม, อทินฺนปุพฺพภาโคติ อตฺโถ.
กึ อาหรียตีติ อวตฺวาติ ‘‘กตรภตฺตํ วา ตยา อาหรียตี’’ติ ทายกํ อปุจฺฉิตฺวา. ปกติฏฺิติกายาติ อุทฺเทสภตฺตฏฺิติกาย.
อุทฺเทสภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิมนฺตนภตฺตกถาวณฺณนา
วิจฺฉินฺทิตฺวาติ ¶ ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ปทํ อวตฺวา. เตเนวาห ‘‘ภตฺตนฺติ อวทนฺเตนา’’ติ.
อาโลปสงฺเขเปนาติ เอเกกปิณฺฑวเสน, เอวฺจ ภาชนํ อุทฺเทสภตฺเต น วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ เอกสฺส ปโหนกปฺปมาเณเนว ภาเชตพฺพํ.
อารุฬฺหาเยว มาติกํ, สงฺฆโต อฏฺ ภิกฺขูติ เอตฺถ เย มาติกํ อารุฬฺหา, เต อฏฺ ภิกฺขูติ โยเชตพฺพํ. อุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนภตฺตาทิสงฺฆิกภตฺตมาติกาสุ นิมนฺตนภตฺตมาติกาย ิติวเสน อารุฬฺเห ภตฺตุทฺเทสเกน วา สยํ วา สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ, น อตฺตโน รุจิเต คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘สงฺฆโต คณฺหามี’’ติอาทินา วุตฺตมาติกาเภทํ ทายกสฺส วิฺาเปตฺวาติ อตฺโถ.
ปฏิพทฺธกาลโต ปน ปฏฺายาติ ตตฺเถว วาสสฺส นิพทฺธกาลโต ปฏฺาย.
นิมนฺตนภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สลากภตฺตกถาวณฺณนา
อุปนิพนฺธิตฺวาติ ลิขิตฺวา. คามวเสนปีติ เยภุยฺเยน สมลาภคามวเสนปิ. พหูนิ สลากภตฺตานีติ ตึสํ วา จตฺตารีสํ วา ภตฺตานิ. ‘‘สเจ โหนฺตี’’ติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ.
สลฺลกฺเขตฺวาติ ¶ ตานิ ภตฺตานิ ปมาณวเสน สลฺลกฺเขตฺวา. นิคฺคเหน ทตฺวาติ ทูรํ คนฺตุํ อนิจฺฉนฺตสฺส นิคฺคเหน สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ทตฺวา. ปุน วิหารํ อาคนฺตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ อนาคนฺตฺวา ภตฺตํ คเหตฺวา ปจฺฉา วิหาเร อตฺตโน ปาเปตฺวา ภฺุชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.
เอกเคหวเสนาติ วีถิยมฺปิ เอกปสฺเส ฆรปาฬิยา วเสน. อุทฺทิสิตฺวาปีติ อสุกกุเล สลากภตฺตานิ ตุยฺหํ ปาปุณนฺตีติ วตฺวา.
วารคาเมติ ¶ อติทูรตฺตา วาเรน คนฺตพฺพคาเม. สฏฺิโต วา ปณฺณาสโต วาติ ทณฺฑกมฺมตฺถาย อุทกฆฏํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิหารวาโรติ สพฺพภิกฺขูสุ ภิกฺขตฺถาย คเตสุ วิหารรกฺขณวาโร.
เตสนฺติ วิหารวาริกานํ. ผาติกมฺมเมวาติ วิหารรกฺขณกิจฺจสฺส ปโหนกปฏิปาทนเมว. เอกสฺเสว ปาปุณนฺตีติ ทิวเส ทิวเส เอเกกสฺเสว ปาปิตานีติ อตฺโถ.
รสสลากนฺติ อุจฺฉุรสสลากํ. ‘‘สลากวเสน คาหิตตฺตา ปน น สาทิตพฺพา’’ติ อิทํ อสารุปฺปวเสน วุตฺตํ, น ธุตงฺคเภทวเสน. ‘‘สงฺฆโต นิรามิสสลากา…เป… วฏฺฏติเยวา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖) หิ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อคฺคภิกฺขามตฺตนฺติ เอกกฏจฺฉุภิกฺขามตฺตํ. ลทฺธา วา อลทฺธา วา สฺเวปิ คณฺเหยฺยาสีติ ลทฺเธปิ อปฺปมตฺตตาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ยาวทตฺถํ ลภติ…เป… อลภิตฺวา ‘สฺเว คณฺเหยฺยาสี’ติ วตฺตพฺโพ’’ติ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ ทิสาภาเค. ตํ คเหตฺวาติ ตํ วารคาเม สลากํ อตฺตโน คเหตฺวา. เตนาติ ทิสํคมิกโต อฺเน ตสฺมึ ทิสํคมิเก. เทวสิกํ ปาเปตพฺพาติ อุปจารสีมาย ิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ วสฺสคฺเคน ปาเปตพฺพา. เอวํ เอเตสุ อคเตสุ อาสนฺนวิหาเร ภิกฺขูนํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ อิตรถา สงฺฆิกโต.
อมฺหากํ โคจรคาเมวาติ สลากภตฺตทายกานํ คามํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิหาเร เถรสฺส ปตฺตสลากภตฺตนฺติ วิหาเร เอเกกสฺเสว โอหีนตฺเถรสฺส สพฺพสลากานํ อตฺตโน ปาปนวเสน ปตฺตสลากภตฺตํ.
สลากภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถาวณฺณนา
‘‘สฺเว ¶ ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพนฺติ อฏฺมิยา ภฺุชิตพฺพํ สตฺตมิยา ภฺุชนตฺถาย น คาเหตพฺพํ, ทายเกหิ นิยมิตทิวเสเนว คาเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. สฺเว ลูขนฺติ อชฺช อาวาหมงฺคลาทิกรณโต อติปณีตโภชนํ กรียติ, สฺเว ตถา น ภวิสฺสติ, อชฺเชว ภิกฺขู โภเชสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
ปกฺขิกภตฺตโต ¶ อุโปสถิกสฺส เภทํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุโปสถงฺคานิ สมาทิยิตฺวา’’ติอาทิ. นิพนฺธาปิตนฺติ ‘‘อสุกวิหาเร อาคนฺตุกา ภฺุชนฺตู’’ติ นิยมิตํ.
คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปีติ คามนฺตรโต อาคนฺตฺวา อวูปสนฺเตน คมิกจิตฺเตน วสิตฺวา ปุน อฺตฺถ คจฺฉนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาวาสิกสฺส ปน คนฺตุกามสฺส คมิกภตฺตเมว ลพฺภติ. ‘‘เลสํ โอฑฺเฑตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา เลสาภาเว ยาว คมนปริพนฺโธ วิคจฺฉติ, ตาว ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ าปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ…เป… วฏฺฏตีติ อภิหฏภิกฺขตฺตา วฏฺฏติ. ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตาติ ภิกฺขานาเมน ปฏิคฺคหิตตฺตา.
อวิภตฺตํ สงฺฆิกํ ภณฺฑนฺติ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติอาการทสฺสนํ. เอวํ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.