📜
๗. สงฺฆเภทกกฺขนฺธโก
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา
๓๓๐. สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปาฬิยํ อนุปิยํ นามาติ อนุปิยา นาม. เหฏฺา ปาสาทาติ ปาสาทโต เหฏฺา เหฏฺิมตลํ, ‘‘เหฏฺาปาสาท’’นฺติปิ ปาโ. อภิเนตพฺพนฺติ วปิตเขตฺเตสุ ปเวเสตพฺพํ. นินฺเนตพฺพนฺติ ตโต นีหริตพฺพํ. นิทฺธาเปตพฺพนฺติ สสฺสทูสกติณาทีนิ อุทฺธริตพฺพํ. อุชุํ การาเปตพฺพนฺติ ปฺุชํ การาเปตพฺพํ, อยเมว วา ปาโ.
๓๓๒. ปรทตฺโตติ ปเรหิ ทินฺนปจฺจเยหิ ปวตฺตมาโน. มิคภูเตน เจตสาติ กตฺถจิ อลคฺคตาย มิคสฺส วิย ชาเตน จิตฺเตน.
๓๓๓. มโนมยํ กายนฺติ ฌานมเนน นิพฺพตฺตํ พฺรหฺมกายํ, ‘‘กึ นุ โข อหํ ปสาเทยฺยํ, ยสฺมึ เม ปสนฺเน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ ปมํ อุปฺปนฺนปริวิตกฺกสฺส มนฺทปริยุฏฺานตาย เทวทตฺตสฺส ตสฺมึ ขเณ ฌานปริหานิ นาโหสิ, ปจฺฉา เอว อโหสีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘สห จิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทิ. ทฺเว วา ตีณิ วา มาคธกานิ คามเขตฺตานีติ เอตฺถ มคธรฏฺเ ขุทฺทกํ คามเขตฺตํ คาวุตมตฺตํ, มชฺฌิมํ ปน ทิยฑฺฒคาวุตมตฺตํ, มหนฺตํ อเนกโยชนมฺปิ โหติ. เตสุ มชฺฌิเมน คามเขตฺเตน ทฺเว วา ขุทฺทเกน ตีณิ วา คามเขตฺตานิ, ตสฺส สรีรํ ติคาวุตปฺปมาโณ อตฺตภาโวติ วุตฺตํ โหติ.
๓๓๔. สตฺถาโรติ คณสตฺถาโร. นาสฺสสฺสาติ น เอตสฺส ภเวยฺย. ตนฺติ สตฺถารํ. เตนาติ อมนาเปน. สมฺมนฺนตีติ จีวราทินา อมฺหากํ สมฺมานํ กโรติ, ปเรหิ วา อยํ สตฺถา สมฺมานียตีติ อตฺโถ.
๓๓๕. นาสาย ¶ ปิตฺตํ ภินฺเทยฺยุนฺติ อจฺฉปิตฺตํ วา มจฺฉปิตฺตํ วา นาสาปุเฏ ปกฺขิเปยฺยุํ. อสฺสตรีติ วฬวาย กุจฺฉิสฺมึ คทฺรภสฺส ชาตา. ตสฺสา หิ คหิตคพฺภาย วิชายิตุมสกฺโกนฺติยา อุทรํ ผาเลตฺวา โปตกํ นีหรนฺติ. เตนาห ‘‘อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาตี’’ติ.
๓๓๙. โปตฺถนิกนฺติ ฉุริกํ, ‘‘ขร’’นฺติปิ วุจฺจติ.
๓๔๒. มา ¶ กฺุชร นาคมาสโทติ เห กฺุชร พุทฺธนาคํ วธกจิตฺเตน มา อุปคจฺฉ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขการณตฺตา ทุกฺขํ. อิโตติ อิโต ชาติโต. ยโตติ ยสฺมา, ยนฺตสฺส วา, คจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ. มา จ มโทติ มโท ตยา น กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๓๔๓. ติกโภชนนฺติ ตีหิ ภฺุชิตพฺพํ โภชนํ, ตโต อธิเกหิ เอกโต ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชิตุํ น วฏฺฏนกํ คณโภชนปฏิปกฺขํ โภชนนฺติ อตฺโถ. โกกาลิโกติอาทีนิ เทวทตฺตปริสาย คณปาโมกฺขานํ นามานิ. กปฺปนฺติ มหานิรเย อายุกปฺปํ, ตํ อนฺตรกปฺปนฺติ เกจิ. เกจิ ปน ‘‘อสงฺขฺเยยฺยกปฺป’’นฺติ.
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆเภทกกถาวณฺณนา
๓๔๕. ปรสฺส จิตฺตํ ตฺวา กถนํ อาเทสนาปาฏิหาริยํ. เกวลํ ธมฺมเทสนา อนุสาสนีปาฏิหาริยํ. ตทุภยมฺปิ ธมฺมี กถา นาม. ตาย เถโร โอวทิ. อิทฺธิวิธํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ นาม. เตน สหิตา อนุสาสนี เอว ธมฺมี กถา. ตาย เถโร โอวทิ.
‘‘ถุลฺลจฺจยํ เทสาเปหี’’ติ อิทํ เภทปุเรกฺขารสฺส อุโปสถาทิกรเณ ถุลฺลจฺจยสฺส อุโปสถกฺขนฺธกาทีสุ ปมเมว ปฺตฺตตฺตา วุตฺตํ, อิตรถา เอเตสํ อาทิกมฺมิกตฺตา อนาปตฺติเยว สิยา.
๓๔๖. สรสีติ สโร. มหึ วิกฺรุพฺพโตติ มหึ ทนฺเตหิ วิลิขนฺตสฺส. อิทฺจ หตฺถีนํ สภาวทสฺสนํ. นทีสูติ สเรสุ. ภิสํ ฆสมานสฺสาติ โยชนา. ชคฺคโตติ ยูถํ ปาเลนฺตสฺส.
๓๔๗. ทูเตยฺยํ ¶ คนฺตุนฺติ ทูตกมฺมํ ปตฺตุํ, ทูตกมฺมํ กาตุนฺติ อตฺโถ. สหิตาสหิตสฺสาติ ยุตฺตายุตฺตสฺส, ยํ วตฺตุํ, กาตฺุจ ยุตฺตํ, ตตฺถ กุสโล. อถ วา อธิปฺเปตานาธิปฺเปตสฺส วจนสฺส กุสโล, พฺยฺชนมตฺเต น ติฏฺติ, อธิปฺเปตตฺถเมว อาโรเจตีติ อตฺโถ.
๓๕๐. คาถาสุ ¶ ชาตูติ เอกํเสน. มา อุทปชฺชถ มา โหตูติ อตฺโถ. ปาปิจฺฉานํ ยถาคตีติ ปาปิจฺฉานํ ปุคฺคลานํ ยาทิสี คติ อภิสมฺปราโย. ตํ อตฺถชาตํ. อิมินาปิ การเณน ชานาถาติ เทวทตฺตสฺส ‘‘ปณฺฑิโต’’ติอาทินา อุปริ วกฺขมานาการํ ทสฺเสติ.
ปมาทํ อนุจิณฺโณติ ปมาทํ อาปนฺโน. อาสีสายนฺติ อวสฺสํภาวีอตฺถสิทฺธิยํ. สา หิ อิธ อาสีสาติ อธิปฺเปตา, น ปตฺถนา. อีทิเส อนาคตตฺเถ อตีตวจนํ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ.
ทุพฺเภติ ทุพฺเภยฺย. วิสกุมฺเภนาติ เอเกน วิสปุณฺณกุมฺเภน. โสติ โส ปุคฺคโล. น ปทูเสยฺย วิสมิสฺสํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ภยานโกติ วิปุลคมฺภีรภาเวน ภยานโก. เตนาปิ ทูเสตุํ น สกฺกุเณยฺยตํ ทสฺเสติ. วาเทนาติ โทสกถเนน. อุปหึสตีติ พาธติ.
สงฺฆเภทกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาลิปฺหากถาวณฺณนา
๓๕๑. น ปน เอตฺตาวตา สงฺโฆ ภินฺโน โหตีติ สลากคฺคาหาปนมตฺเตน สงฺฆเภทานิพฺพตฺติโต วุตฺตํ. อุโปสถาทิสงฺฆกมฺเม กเต เอว หิ สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. ตตฺถ จ อุโปสถปวารณาสุ ตฺตินิฏฺาเนน, เสสกมฺเมสุ อปโลกนาทิกมฺมปริโยสาเนน สงฺฆเภโท สมตฺโถติ ทฏฺพฺโพ.
‘‘อภพฺพตา น วุตฺตา’’ติ อิทํ ‘‘ภิกฺขเว, เทวทตฺเตน ปมํ อานนฺตริยกมฺมํ อุปจิต’’นฺติอาทินา อานนฺตริยตฺตํ วทตา ภควตา ตสฺส อภพฺพตาสงฺขาตา ปาราชิกตา น ปฺตฺตา. เอเตน อาปตฺติ วิย อภพฺพตาปิ ปฺตฺติอนนฺตรเมว โหติ, น ตโต ปุเรติ ทสฺเสติ. อิธ ปน อาทิกมฺมิกสฺสปิ อนาปตฺติยา อวุตฺตตฺตา เทวทตฺตาทโยปิ น มุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตโย สติปฏฺานาติอาทีสุ ตโย เอว สติปฏฺานา, น ตโต ปรนฺติ เอกสฺส สติปฏฺานสฺส ¶ ปฏิกฺเขโปว อิธ อธมฺโม, น ปน ติณฺณํ สติปฏฺานตฺตวิธานํ ¶ ตสฺส ธมฺมตฺตา. เอวํ เสเสสุปิ หาปนโกฏฺาเสสุ. วฑฺฒเนสุ ปน ฉ อินฺทฺริยานีติ อนินฺทฺริยสฺสปิ เอกสฺส อินฺทฺริยตฺตวิธานเมว อธมฺโม. เอวํ เสเสสุปิ. น เกวลฺจ เอเตว, ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา, เตรสายตนานี’’ติอาทินา ยตฺถ กตฺถจิ วิปรีตโต ปกาสนํ สพฺพํ อธมฺโม. ยาถาวโต ปกาสนฺจ สพฺพํ ธมฺโมติ ทฏฺพฺพํ. ปกาสนนฺติ เจตฺถ ตถา ตถา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อรูปกฺขนฺธาว อธิปฺเปตา, เอวเมตฺถ ทสกุสลกมฺมปถาทีสุ อนวชฺชฏฺเน สรูปโต ธมฺเมสุ, อกุสลกมฺมปถาทีสุ สาวชฺชฏฺเน สรูปโต อธมฺเมสุ จ ตทฺเสุ จ อพฺยากเตสุ ยสฺส กสฺสจิ โกฏฺาสสฺส ภควตา ปฺตฺตกฺกเมเนว ปกาสนํ ‘‘ธมฺโม’’ติ จ วิปรีตโต ปกาสนํ ‘‘อธมฺโม’’ติ จ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กามฺเจตฺถ วินยาทโยปิ ยถาภูตโต, อยถาภูตโต จ ปกาสนวเสน ธมฺมาธมฺเมสุ เอว ปวิสนฺติ, วินยาทินาเมน ปน วิเสเสตฺวา วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสเมว ธมฺมาธมฺมโกฏฺาเส ปวิสตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิมํ อธมฺมํ ธมฺโมติ กริสฺสามาติอาทิ ธมฺมฺจ อธมฺมฺจ ยาถาวโต ตฺวาว ปาปิจฺฉํ นิสฺสาย วิปรีตโต ปกาเสนฺตสฺเสว สงฺฆเภโท โหติ, น ปน ตถาสฺาย ปกาเสนฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอส นโย ‘‘อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺตี’’ติอาทีสุปิ. ตตฺถ นิยฺยานิกนฺติ อุกฺกฏฺนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริยกุล’’นฺติอาทินา วุตฺตมตฺถํ อากฑฺฒติ.
สํวโร ปหานํ ปฏิสงฺขาติ สํวรวินโย, ปหานวินโย, ปฏิสงฺขาวินโย จ วุตฺโต. เตนาห ‘‘อยํ วินโย’’ติ. ‘‘ปฺตฺตํ อปฺตฺต’’นฺติ ทุกํ ‘‘ภาสิตํ อภาสิต’’นฺติ ทุเกน อตฺถโต สมานเมว, ตถา ทุฏฺุลฺลทุกํ ครุกทุเกน. เตเนว เตสํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อิทํ อปฺตฺตํ นามา’’ติอาทินา สทิสนิทฺเทโส กโต. สาวเสสาปตฺตินฺติ อวเสสสีเลหิ สหิตาปตฺตึ. นตฺถิ เอติสฺสํ อาปนฺนายํ สีลาวเสสาติ อนวเสสาปตฺติ.
๓๕๔. ปาฬิยํ สมคฺคานฺจ อนุคฺคโหติ ยถา สมคฺคานํ สามคฺคี น ภิชฺชติ, เอวํ อนุคฺคหณํ อนุพลปฺปทานํ.
๓๕๕. สิยา ¶ นุ โขติ สมฺภเวยฺย นุ โข. ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺีติ อตฺตโน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ เอตสฺมึ ทีปเน อยุตฺตทิฏฺิ. เภเท อธมฺมทิฏฺีติ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีเปตฺวา อนุสฺสาวนสลากคฺคาหาปนาทินา อตฺตานํ มฺุจิตฺวา จตุวคฺคาทิกํ สงฺฆํ เอกสีมายเมว ิตโต ¶ จตุวคฺคาทิสงฺฆโต วิโยเชตฺวา เอกกมฺมาทินิปฺผาทนวเสน สงฺฆเภทกรเณ อธมฺมทิฏฺิโก หุตฺวาติ อตฺโถ. วินิธาย ทิฏฺินฺติ ยา ตสฺมึ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีปเน อตฺตโน อธมฺมทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ตํ วินิธาย ปฏิจฺฉาเทตฺวา ‘‘ธมฺโม เอวาย’’นฺติ วิปรีตโต ปกาเสตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เภเท ธมฺมทิฏฺีติ ยถาวุตฺตนเยน สงฺฆเภทเน โทโส นตฺถีติ ลทฺธิโก. อยํ ปน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีปเน อธมฺมทิฏฺิโก หุตฺวาปิ ตํ ทิฏฺึ วินิธาย กรเณน สงฺฆเภทโก อเตกิจฺโฉ ชาโต. เอวํ เภเท เวมติโกติ อิมสฺส ปน เภเท เวมติกทิฏฺิยา วินิธานมฺปิ อตฺถิ. เสสํ สมเมว. ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิเภเท อธมฺมทิฏฺีติ อยํ ปน เภเท อธมฺมทิฏฺึ วินิธาย กตตฺตา สงฺฆเภทโก อเตกิจฺโฉ ชาโต. สุกฺกปกฺเข ปน สพฺพตฺถ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิทีปเน วา เภเท วา ธมฺมทิฏฺิตาย ทิฏฺึ อวินิธาเยว กตตฺตา สงฺฆเภทโกปิ สเตกิจฺโฉ ชาโต. ตสฺมา ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิทีปเน วา สงฺฆเภเท วา อุโภสุปิ วา อธมฺมทิฏฺิ วา เวมติโก วา หุตฺวา ตํ ทิฏฺึ, วิมติฺจ วินิธาย ‘‘ธมฺโม’’ติ ปกาเสตฺวา วุตฺตนเยน สงฺฆเภทํ กโรนฺตสฺเสว อานนฺตริยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อุปาลิปฺหากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.