📜

๑๐. ภิกฺขุนิกฺขนฺธโก

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถาวณฺณนา

๔๐๓. ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ‘‘มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตา’’ติ อิทํ ปฺจวสฺสสตโต อุทฺธํ สทฺธมฺมสฺส อปฺปวตฺตนการณทสฺสนํ. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสนฺติอาทิ ขนฺธกภาณกานํ มตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ, ฉฬภิฺเหิ วสฺสสหสฺสํ, เตวิชฺเชหิ วสฺสสหสฺสํ, สุกฺขวิปสฺสเกหิ วสฺสสหสฺสํ, ปาติโมกฺเขหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๖๑) วุตฺตํ. องฺคุตฺตร (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๕๑) -สํยุตฺตฏฺกถาสุปิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๖) อฺถาว วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อฺมฺวิรุทฺธมฺปิ ตํตํภาณกานํ มเตน ลิขิตสีหฬฏฺกถาสุ อาคตนยเมว คเหตฺวา อาจริเยน ลิขิตํ อีทิเส กถาวิโรเธ สาสนปริหานิยา อภาวโต, โสธนุปายาภาวา จ. ปรมตฺถวิโรโธ เอว หิ สุตฺตาทินเยน โสธนีโย, น กถามคฺควิโรโธติ.

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา

๔๐๔-๘. ปาฬิยํ ยทคฺเคนาติ ยสฺมึ ทิวเส. ตทาติ ตสฺมึเยว ทิวเส. วิมาเนตฺวาติ อวมานํ กตฺวา.

๔๑๐-๑. อาปตฺติคามินิโยติ อาปตฺตึ อาปนฺนาโย. กมฺมวิภงฺเคติ ปริวาเร กมฺมวิภงฺเค (ปริ. ๔๘๒ อาทโย).

๔๑๓-๕. ปาฬิยํ ทฺเว ติสฺโส ภิกฺขุนิโยติ ทฺวีหิ ตีหิ ภิกฺขุนีหิ. น อาโรเจนฺตีติ ปาติโมกฺขุทฺเทสกสฺส น อาโรเจนฺติ.

๔๑๖. ทุสฺสเวณิยาติ อเนกทุสฺสปฏฺเฏ เอกโต กตฺวา กตเวณิยา.

๔๑๗. วิเสสกนฺติ ปตฺตเลขาทิวณฺณวิเสสํ. ปกิณนฺตีติ วิกฺกิณนฺติ. นมนกนฺติ ปาสุกฏฺินมนกพนฺธนํ.

๔๒๒-๕. สํเวลฺลิยนฺติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาสนํ. ตโย นิสฺสเยติ รุกฺขมูลเสนาสนสฺส ตาสํ อลพฺภนโต วุตฺตํ.

๔๒๖-๘. อฏฺเว ภิกฺขุนิโย ยถาวุฑฺฒํ ปฏิพาหนฺตีติ อฏฺ ภิกฺขุนิโย วุฑฺฒปฏิปาฏิยาว คณฺหนฺติโย อาคตปฏิปาฏึ ปฏิพาหนฺติ, นาฺาติ อตฺโถ. อนุวาทํ ปฏฺเปนฺตีติ อิสฺสริยํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺถํ วทนฺติ.

๔๓๐. ภิกฺขุทูเตนาติ ภิกฺขุนา ทูตภูเตน. สิกฺขมานทูเตนาติ สิกฺขมานาย ทูตาย.

๔๓๑. น สมฺมตีติ นปฺปโหติ. นวกมฺมนฺติ ‘‘นวกมฺมํ กตฺวา วสตู’’ติ อปโลเกตฺวา สงฺฆิกภูมิยา โอกาสทานํ.

๔๓๒-๖. สนฺนิสินฺนคพฺภาติ ทุวิฺเยฺยคพฺภา. มหิลาติตฺเถติ อิตฺถีนํ สาธารณติตฺเถ.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.