📜

๑๑. ปฺจสติกกฺขนฺธโก

ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถาวณฺณนา

๔๓๗. ปฺจสติกกฺขนฺธเก ปาฬิยํ ‘‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’’ติ อิทํ เถโร สยํ ภควโต ปรินิพฺพุตภาวํ ชานนฺโตปิ อตฺตนา สหคตภิกฺขุปริสาย าปนตฺถเมว, สุภทฺทสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส สาสนสฺส ปฏิปกฺขวจนํ ภิกฺขูนํ วิฺาปนตฺถฺจ เอวํ ปุจฺฉิ. สุภทฺโท หิ กุสินารายํ ภควติ อภิปฺปสนฺนาย ขตฺติยาทิคหฏฺปริสาย มชฺเฌ ภควโต ปรินิพฺพานํ สุตฺวา หฏฺปหฏฺโปิ ภเยน ปหฏฺาการํ วาจาย ปกาเสตุํ น สกฺขิสฺสติ, อิเธว ปน วิชนปเทเส สุตฺวา ยถาชฺฌาสยํ อตฺตโน ปาปลทฺธึ ปกาเสสฺสติ, ตโต ตเมว ปจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ภิกฺขู สมุสฺสาเหตฺวา ธมฺมวินยสงฺคหํ กาเรตฺวา เอตสฺส ปาปภิกฺขุสฺส, อฺเสฺจ อีทิสานํ มโนรถวิฆาตํ, สาสนฏฺิติฺจ กริสฺสามีติ ชานนฺโตว ตํ ปุจฺฉีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว เถโร ‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมย’’นฺติอาทินา สุภทฺทวจนเมว ทสฺเสตฺวา ธมฺมวินยํ สงฺคายาเปสิ. นานาภาโวติ สรีเรน นานาเทสภาโว, วิปฺปวาโสติ อตฺโถ. วินาภาโวติ มรเณน วิยุชฺชนํ. อฺถาภาโวติ ภวนฺตรูปคมเนน อฺาการปฺปตฺติ.

๔๔๑. ‘‘อากงฺขมาโน…เป… สมูหเนยฺยา’’ติ อิทํ ภควา มยา ‘‘อากงฺขมาโน’’ติ วุตฺตตฺตา เอกสิกฺขาปทมฺปิ สมูหนิตพฺพํ อปสฺสนฺตา, สมูหเน จ โทสํ ทิสฺวา ธมฺมสงฺคหกา ภิกฺขู ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสาม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติอาทินา ปุน ‘‘ปฺตฺติสทิสาย อกุปฺปาย กมฺมวาจาย สาเวตฺวา สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, ตโต ยาว สาสนนฺตรธานา อปฺปฏิพาหิยานิ สิกฺขาปทานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อโวจาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว มหาเถราปิ ตเถว ปฏิปชฺชึสุ.

คิหิคตานีติ คิหีสุ คตานิ. ขตฺติยมหาสาราทิคิหีหิ าตานีติ อตฺโถ. จิตกธูมกาโล อตฺตโน ปวตฺติปริโยสานภูโต เอตสฺสาติ ธูมกาลิกํ.

๔๔๓. โอฬาริเกนิมิตฺเต กริยมาเนปีติ ‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ เอวํ ถูลตเร ‘‘ติฏฺตุ, ภควา, กปฺป’’นฺติ ยาจนเหตุภูเต โอกาสนิมิตฺเต กมฺเม กริยมาเน. มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ มาเรน อาวิฏฺจิตฺโต.

๔๔๕. อุชฺชวนิกายาติ ปฏิโสตคามินิยา. กุจฺฉิโต ลโว เฉโท วินาโส กุลโว, นิรตฺถกวินิโยโค. ตํ น คจฺฉนฺตีติ น กุลวํ คเมนฺติ.

ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจสติกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.