📜
สมุฏฺานสีสวณฺณนา
๒๕๗. ปาฬิยํ นิพฺพานฺเจว ปฺตฺตีติ เอตฺถ ยสฺมา สงฺขตธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติสจฺจภูตา ปุคฺคลาทิปฺตฺติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา อุปฺปตฺติวินาสยุตฺตวตฺถุธมฺมนิยเตน อนิจฺจทุกฺขลกฺขณทฺวเยน ยุตฺตาติ วตฺตุํ อยุตฺตา, การกเวทกาทิรูเปน ปน ปริกปฺปิเตน อตฺตสภาเวน วิรหิตตฺตา ‘‘อนตฺตา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตา. ตสฺมา อยํ ปฺตฺติปิ อสงฺขตตฺตสามฺโต ¶ วตฺถุภูเตน นิพฺพาเนน สห ‘‘อนตฺตา อิติ นิจฺฉยา’’ติ วุตฺตา. อวิชฺชมานาปิ หิ สมฺมุติ เกนจิ ปจฺจเยน อกตตฺตา อสงฺขตา เอวาติ.
กรุณาสีตลตฺตํ, ปฺาปภาสิตตฺตฺจ ภควโต ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธจนฺเท, พุทฺธาทิจฺเจ’’ติ เอตํ อุภยํ วุตฺตํ. หายติ เอเตนาติ หานิ, ทุกฺขสฺส หานิ ทุกฺขหานิ, สพฺพทุกฺขาปนูทนการณนฺติ อตฺโถ. ปิฏเก ตีณิ เทสยีติ ยสฺมา อฺเปิ มหาวีรา สมฺมาสมฺพุทฺธา สทฺธมฺมํ เทสยนฺติ, ตสฺมา ¶ องฺคีรโส ปิฏกานิ ตีณิ เทสยีติ โยชนา. มหาคุณนฺติ มหานิสํสํ. เอวํ นียติ สทฺธมฺโมติ ยทิ วินยปริยตฺติ อปริหีนา ติฏฺติ, เอวํ สติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสทฺธมฺโมปิ นียติ ปวตฺตียติ, น ปริหายตีติ อตฺโถ.
วินยปริยตฺติ ปน กถํ ติฏฺตีติ อาห ‘‘อุภโต จา’’ติอาทิ. ปริวาเรน คนฺถิตา ติฏฺตีติ โยเชตพฺพํ. ตสฺเสว ปริวารสฺสาติ ตสฺมึ เอว ปริวาเร. สมุฏฺานํ นิยโต กตนฺติ เอกจฺจํ สมุฏฺาเนน นิยตํ กตํ. ตสฺมึ ปริวาเร กิฺจิ สิกฺขาปทํ นิยตสมุฏฺานํ อฺเหิ อสาธารณํ, ตํ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
สมฺเภทํ นิทานฺจฺนฺติ สมฺเภโท สิกฺขาปทานํ อฺมฺสมุฏฺาเนน สํกิณฺณตา, นิทานฺจ ปฺตฺติฏฺานํ, อฺํ ปุคฺคลาทิวตฺถาทิ จ. สุตฺเต ทิสฺสนฺติ อุปรีติ เหฏฺา วุตฺเต, อุปริ วกฺขมาเน จ ปริวารสุตฺเต เอว ทิสฺสนฺติ. ยสฺมา จ เอวํ, ตสฺมา สกลสาสนาธารสฺส วินยสฺส ิติเหตุภูตํ ปริวารํ สิกฺเขติ, เอวเมตฺถ โยชนา ทฏฺพฺพา.
สมฺภินฺนสมุฏฺานานีติ อฺเหิ สาธารณสมุฏฺานานิ. อาทิมฺหิ ตาว ปุริมนเยติ สพฺพปเม ปฺตฺติวาเร อาคตนยํ สนฺธาย วทติ, ตตฺถ ปน ปฺตฺติวาเร ‘‘ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติ, เวสาลิยํ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑) นิทานมฺปิ ทิสฺสติ เอว. ปรโตติ อาคตภาวํ ปน สนฺธาย ปรโต อาคเต สุตฺเต ทิสฺสตีติ เวทิตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตสฺสาติ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสฺส สิกฺขาปทสฺส.
๒๕๘. อนิยตา ปมิกาติ อาปตฺตึ อเปกฺขิตฺวาว อิตฺถิลิงฺคํ กตํ, ปมานิยตํ สิกฺขาปทนฺติ อตฺโถ. ปาฬิยํ นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ วุฏฺาปิตํ ปวตฺตินึ อนนุพนฺธนสิกฺขาปทํ.
๒๖๐. เอฬกโลมสิกฺขาปทวตฺถุสฺมึ ¶ ‘‘ภิกฺขุนิโย เอฬกโลมานิ โธวนฺติโย รชนฺติโย วิชเฏนฺติโย ริฺจนฺติ อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉ’’นฺติ (ปารา. ๕๗๖) อาคตตฺตา อิมํ ริฺจนฺติ-ปทํ คเหตฺวา สิกฺขาปทํ อุปลกฺขิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิภงฺเค ‘ริฺจนฺติ อุทฺเทส’นฺติ อาคตํ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปท’’นฺติ อาห.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทนฺติ ¶ อสมเย วสฺสิกสาฏิกปริเยสนสิกฺขาปทํ (ปารา. ๖๒๖ อาทโย). รตนสิกฺขาปทนฺติ รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา ปฏิสามนสิกฺขาปทํ (ปาจิ. ๕๐๒ อาทโย).
๒๖๕. ปาฬิยํ พุทฺธาเณนาติ ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาเณน.
๒๖๗. ‘‘น เทเสนฺติ ตถาคตา’’ติ เอเตน ฉตฺตปาณิสฺส ธมฺมเทสนาปฏิกฺเขปํ ทสฺเสติ.
๒๖๙. อกตนฺติ อฺเหิ อมิสฺสีกตํ, นิยตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. อกตนฺติ วา ปุพฺเพ อนาคตํ, อภินวนฺติ อตฺโถ.
๒๗๐. สมุฏฺานฺหิ สงฺเขปนฺติ เอตฺถ สงฺขิปนฺติ สงฺคยฺหนฺติ สทิสสมุฏฺานานิ เอตฺถาติ สงฺเขโป, สมุฏฺานสีสํ. เนติ วิเนติ กายวจีทุจฺจริตนฺติ เนตฺติ, วินยปาฬิ, สา เอว ธมฺโมติ เนตฺติธมฺโมติ อาห ‘‘วินยปาฬิธมฺมสฺสา’’ติ.
สมุฏฺานสีสวณฺณนา นิฏฺิตา.