📜

เอกุตฺตริกนยํ

เอกกวารวณฺณนา

๓๒๑. เอกุตฺตริกนเย ปน อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตาติ ปณฺณตฺตึ วา วตฺถุํ วา อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปถวีขณนสหเสยฺยาทิกา, สาปิ ปจฺฉา อาปนฺนภาวํ ตฺวา ปฏิกมฺมํ อกโรนฺตสฺส อนฺตรายิกาว โหติ.

ปาริวาสิกาทีหิ ปจฺฉา อาปนฺนาติ วตฺตเภเทสุ ทุกฺกฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมึ ขเณ อาปชฺชิตพฺพอนฺตราปตฺติโย สนฺธายาติ เกจิ วทนฺติ, ตสฺส ปุพฺพาปตฺตีนํอนฺตราปตฺติ-ปเทเนว วกฺขมานตฺตา ปุริมเมว ยุตฺตตรํ. มูลวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺตีติ มูลายปฏิกสฺสนาทีนิ อกตฺวา สพฺพปมํ ทินฺนปริวาสมานตฺตวิสุทฺธิยา จรณกาเล อาปนฺนอนฺตราปตฺติสงฺขาตสงฺฆาทิเสโส. อคฺฆวิสุทฺธิยาติ อนฺตราปตฺตึ อาปนฺนสฺส มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา โอธานสโมธานวเสน โอธุนิตฺวา ปุริมาปตฺติยา สโมธาย ตทคฺฆวเสน ปุน ทินฺนปริวาสาทิสุทฺธิยา จรณกาเล ปุน อาปนฺนา อนฺตราปตฺติ.

สอุสฺสาเหเนวาติ ปุนปิ ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตุกามตาจิตฺเตน, เอวํ เทสิตาปิ อาปตฺติ น วุฏฺาตีติ อธิปฺปาโย. ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา อาปชฺชเน สิขาปฺปตฺตโทสํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมวา’’ติ. น เกวลฺจ ภิกฺขุนิยา เอว, ภิกฺขูนมฺปิ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา โถกํ โถกํ สปฺปิอาทิกํ เถยฺยาย คณฺหนฺตานํ ปาทคฺฆนเก ปุณฺเณ ปาราชิกเมว. เกจิ ปน ‘‘อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมว โหตีติ วุตฺตตฺตา อฏฺวตฺถุกเมเวตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺสาติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติอาทินา คิหีนํ สมฺมุขา กตสฺส ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส, อธมฺมิกสฺส ปน ‘‘อสุกํ ปหริสฺสามี’’ติอาทิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเนน อาปตฺติ นตฺถิ.

ตถา โจทิโตติ อธมฺเมน โจทิโต, สยํ สจฺเจ, อกุปฺเป จ อฏฺตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺโตปิ อธมฺมจุทิตโก เอว. ปฺจานนฺตริยนิยตมิจฺฉาทิฏฺิเยว มิจฺฉตฺตนิยตา นาม. จตฺตาโร มคฺคา สมฺมตฺตนิยตา นาม.

เอกกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกวารวณฺณนา

๓๒๒. ทุเกสุ สยเมว สปุคฺคโลติ อาห ‘‘มุทุปิฏฺิกสฺสา’’ติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน องฺคชาตจฺเฉทอตฺตฆาตาทิอาปตฺติโย สงฺคหิตา.

ภณฺฑาคาริกจิตฺตกมฺมานิ วาติ คหฏฺานํ ภณฺฑปฏิสามนํ, อิตฺถิปุริสาทิปฏิภานจิตฺตกมฺมานิ วา. ‘‘จีวราทีนิ อเทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ อิทํ ‘‘อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ…เป… ปตฺโต ทาตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. ๖๗) วจนโต อนาทริเยน อามิสสงฺคหํ อกโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. นิสฺสฏฺจีวราทีนํ อทานอาปตฺติปิ เอตฺเถว สงฺคหิตา.

ปาฬิยํ เทเสนฺโตติ สภาคาปตฺตึ, อเทสนาคามินิอาทิฺจ เทเสนฺโต. นิทานุทฺเทเส อาปตฺตึ อนาวิกโรนฺโต, น เทเสนฺโต จ อาปชฺชติ นาม. โอวาทํ อคณฺหนฺโตติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนิโอวาทตฺถาย วุตฺตํ วจนํ อคณฺหนฺโต พาลคิลานคมิยวิวชฺชิโต. อตฺตโน ปริโภคตฺถํ ทินฺนํ อฺสฺส ทาเน, สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คามปฺปเวสนาทีสุ จ อาปตฺติโยปิ อปริโภเคน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติโยว. ปมาณนฺติ สงฺฆเภทานนฺตริยนิปฺผตฺติยา ลกฺขณํ. พาลสฺสาติ นิสฺสยคฺคหณวิธึ อชานนฺตสฺส ลชฺชิพาลสฺเสว. ลชฺชิสฺสาติ พฺยตฺตสฺส นิสฺสยทายกสภาคตํ ปริวีมํสนฺตสฺส. วินเย อาคตา อตฺถา เวนยิกาติ อาห ‘‘ทฺเว อตฺถา วินยสิทฺธา’’ติ.

ปาฬิยํ อปฺปตฺโต นิสฺสารณนฺติ เอตฺถ ปพฺพาชนียกมฺมํ วิหารโต นิสฺสารณตฺตา นิสฺสารณนฺติ อธิปฺเปตํ, ตฺจ ยสฺมา กุลทูสกํ อกโรนฺโต ปุคฺคโล อาปตฺติพหุโลปิ อาเวณิกลกฺขเณน อปฺปตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อปฺปตฺโต นิสฺสารณํ. ยสฺมา ปน อาปตฺตาทิพหุลสฺสาปิ ‘‘อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปพฺพาชนียกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ (จูฬว. ๒๗) วุตฺตํ, ตสฺมา สุนิสฺสาริโต, สพฺพถา ปน สุทฺโธ นิราปตฺติโก ทุนฺนิสฺสาริโตติ ทฏฺพฺโพ.

อปฺปตฺโต โอสารณนฺติอาทีสุ อุปสมฺปทากมฺมํ เอตฺถ โอสารณํ อธิปฺเปตํ, ตฺจ หตฺถจฺฉินฺนาทิโก เอกจฺโจ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา อปฺปตฺโตปิ โสสาริโต, ปณฺฑกาทิโก โทสาริโตติ อตฺโถ.

ทุกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ติกวารวณฺณนา

๓๒๓. ติเกสุ โลหิตุปฺปาทาปตฺตินฺติ ปาราชิกาปตฺตึ. อาวุโสวาเทนาติ ‘‘อาวุโส’’ติ อาลปเนน. อาปตฺตินฺติ ทุกฺกฏาปตฺตึ. เสสา รตฺติฺเจว ทิวา จาติ เอตฺถ อรุณุคฺคมเน อาปชฺชิตพฺพา ปมกถินาที (ปารา. ๔๕๙) สพฺพา อาปตฺติโยปิ รตฺตินฺทิวานํ เวมชฺเฌเยว อาปชฺชิตพฺพตฺตา ตติยโกฏฺาสฺเว ปวิฏฺาติ ทฏฺพฺพา. อถ วา อุทฺธสฺเต อรุเณ อาปชฺชิตพฺพตฺตา ทิวา อาปชฺชิตพฺเพสุ เอว ปวิฏฺาติ ทฏฺพฺพา, อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวาทนาปตฺติโย, ปน รตฺตนฺธกาเร ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนาปตฺติ จ รตฺติยฺเว อาปชฺชิตพฺพา.

ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมนอนติริตฺตโภชนาทีนิ ทิวา เอว อาปชฺชิตพฺพานิ. เกจิ ปน ‘‘โภชนปฏิสํยุตฺตานิ เสขิยานิ, คณโภชนาทีนิ จ ทิวา เอว อาปชฺชิตพฺพานี’’ติ วทนฺติ. ตสฺมา อีทิสา อาปตฺติโย มุฺจิตฺวา เสสาว ตติยโกฏฺาสํ ภชนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

น อูนทสวสฺโสติ ทสวสฺสสฺส พาลสฺเสว ปฺตฺตสิกฺขาปทตฺตา วุตฺตํ. สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิเกสุ อสมฺมาวตฺตนาปตฺตึ, อลชฺชีนํ นิสฺสยทานาทิมฺปิ ทสวสฺโสว อาปชฺชติ, วุฏฺาปินึ ทฺเว วสฺสานิ อนนุพนฺธาทิมฺปิ อูนทสวสฺสา อาปชฺชนฺติ. อพฺยากตจิตฺโตติ สุปนฺตสฺส ภวงฺคจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

อปฺปวาเรนฺโตติ อนาทริเยน อปฺปวาเรนฺโต เกนจิ ปจฺจเยน อปฺปวาเรตฺวา กาฬปกฺขจาตุทฺทเส สงฺเฆ ปวาเรนฺเต ตตฺถ อนาทริเยน อปฺปวาเรนฺโต ตเมว อาปตฺตึ กาเฬปิ อาปชฺชตีติ ชุณฺเห เอวาติ นิยโม น ทิสฺสติ, ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺโถ ปน ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมิยเมว ปวาเรตุํ ลพฺภตีติ ตตฺถ อปฺปวารณาปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน เอว ชุณฺเห อาปชฺชตีติ นิยเมตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. ชุณฺเห กปฺปตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

‘‘อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ อิมินา ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ นิยมวจเนเนว อปจฺจุทฺธรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ. วสฺสานุปคมนอกรณีเยน ปกฺกมาทโยปิ วสฺเส เอว อาปชฺชติ. วตฺถิกมฺมาทิมฺปิ คิลาโน เอว. อโธตปาเทหิ อกฺกมนาทีนิปิ อนฺโต เอว อาปชฺชติ . ภิกฺขุนิยา อนาปุจฺฉา อารามปฺปเวสนาทิ จ อนฺโตสีมายเมว. นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส อนาปุจฺฉาทิสาปกฺกมนาทิ จ พหิสีมายเมว. ปาติโมกฺขุทฺเทเส สนฺติยา อาปตฺติยา อนาวิกรณาปตฺติสมนุภาสนอูนวีสติวสฺสูปสมฺปาทนาทิสพฺพอธมฺมกมฺมาปตฺติโยปิ สงฺเฆ เอว. อธมฺเมน คณุโปสถาทีสุปิ คณาทิมชฺเฌ เอว. อลชฺชิสฺส สนฺติเก นิสฺสยคฺคหณาทิปิ ปุคฺคลสฺส สนฺติเก เอว อาปชฺชติ.

ตีณิ อธมฺมิกานิ อมูฬฺหวินยสฺส ทานานีติ โย อุมฺมตฺตโกปิ วีติกฺกมกาเล, อนุมฺมตฺโต สฺจิจฺเจว อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขูหิ ปจฺฉา โจทิโต สรมาโน เอว ‘‘น สรามี’’ติ วทติ, โย จ ‘‘สุปินํ วิย สรามี’’ติ วา มุสา วทติ, โย จ อุมฺมตฺตกกาเล กตํ สพฺพมฺปิ สพฺเพสํ วฏฺฏตีติ วทติ, อิเมสํ ติณฺณํ ทินฺนานิ ตีณิ อมูฬฺหวินยสฺส ทานานิ อธมฺมิกานิ.

อปกตตฺโตติ วินเย อปกตฺู. เตนาห ‘‘อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕). ‘‘ทิฏฺิฺจ อนิสฺสชฺชนฺตานํเยว กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ ภิกฺขูหิ โอวทิยมานสฺส ทิฏฺิยา อนิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยมฺปิ วา อวสฺสเมว สมฺภวตีติ วุตฺตํ.

มุขาลมฺพรกรณาทิเภโทติ มุขเภรีวาทนาทิปฺปเภโท. อุปฆาเตตีติ วินาเสติ. พีชนิคฺคาหาทิเกติ จิตฺตํ พีชนึ คาเหตฺวา อนุโมทนาทิกรเณติ อตฺโถ.

ติกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุกฺกวารวณฺณนา

๓๒๔. จตุกฺเกสุ โสติ คิหิปริกฺขาโร. อวาปุรณํ ทาตุนฺติ คพฺภํ วิวริตฺวา อนฺโต ปริกฺขารฏฺปนตฺถาย วิวรณกุฺจิกํ ทาตุํ. สงฺฆตฺถาย อุปนีตํ สยเมว อนฺโต ปฏิสามิตุมฺปิ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘อนฺโต ปาเปตุฺจ วฏฺฏตี’’ติ.

อาทิกมฺมิเกสุ ปมํ ปุริสลิงฺคํ อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ปมํ อุปฺปนฺนวเสนา’’ติ. ปาฬิยํ อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉทสฺสาติ วสฺสจฺเฉทสมฺพนฺธินิยา อนาปตฺติยา เอวมตฺโถ. มนฺตภาสาติ มนฺตาย ปฺาย กถนํ. ‘‘นวมภิกฺขุนิโต ปฏฺายา’’ติ อิทํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ อวเสสานํ ยถากติก’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๖) วจนโต อาทิโต อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ปจฺจุฏฺาตพฺพตฺตา วุตฺตํ.

‘‘อิธ น กปฺปนฺตีติ วทนฺโตปิ ปจฺจนฺติเมสุ อาปชฺชตี’’ติอาทินา สฺจิจฺจ กปฺปิยํ อกปฺปิยนฺติ วา อกปฺปิยํ กปฺปิยนฺติ วา กเถนฺตสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.

ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตีติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตานิ อิธ ปริวาเร อุทฺธฏานีติ อธิปฺปาโย. อิธาธิปฺเปตานิ ปน ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธี’’ติอาทิมาห.

จตุกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกวารวณฺณนา

๓๒๕. ปฺจเกสุ อาปุจฺฉิตฺวา จารสฺส อภาโวติ ปิณฺฑปาติกสฺส ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต’’ติ อิมสฺส องฺคสฺส อภาวา เตน สิกฺขาปเทน ตสฺส สพฺพถา อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย . สุสานํ เนตฺวา ปุน อานีตกนฺติ สุสาเน เปตกิจฺจํ กตฺวา นิกฺขนฺเตหิ นฺหตฺวา ฉฑฺฑิตานิ นิวตฺถปารุตวตฺถานิ เอวํ วุจฺจนฺติ.

ปาฬิยํ ปฺจหากาเรหีติ ปฺจหิ อวหารงฺเคหิ. วตฺถุโต ปน ครุกลหุกเภเทน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ. อิตฺถิปุริสสํโยคาทิกํ กิเลสสมุทาจารเหตุกํ ปฏิภานจิตฺตกมฺมํ นาม. ปฺหาสหสฺสํ ปุจฺฉีติ สมถวิปสฺสนากมฺมฏฺาเนสุ ปฺหาสหสฺสํ สมฺมชฺชิตฺวา ิตํ ทหรํ ปุจฺฉิ. อิตโรปิ ทหโร อตฺตโน คตมคฺคตฺตา สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิ, เตน เถโร ปสีทิ. วตฺตํ ปริจฺฉินฺทีติ วตฺตํ นิฏฺาเปสิ. กึ ตฺวํ อาวุโสติอาทิกํ เถโร ขีณาสโว สมฺมชฺชนานิสํสํ สพฺเพสํ ปากฏํ กาตุํ อโวจาติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘ชณฺณุเกหิ ปติฏฺาย ปทเจติย’’นฺติ ปาเสโส. โจทนํ กาเรสฺสามีติ ภควตา อตฺตานํ โจทาเปสฺสามิ, อตฺตานํ นิคฺคณฺหาเปสฺสามีติ อตฺโถ.

เอตฺตกํ คยฺหูปคนฺติ เอตฺตกํ อธิกรณวูปสมตฺถาย คเหตพฺพวจนนฺติ ยถา สุตฺวา วิฺาตุํ สกฺโกติ, เอวํ อนุคฺคณฺหนฺโตติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘อตฺตโน ภาสปริยนฺตํ อนุคฺคเหตฺวา ปรสฺส ภาสปริยนฺตํ อนุคฺคเหตฺวา’’ติ เอกํ, ‘‘อธมฺเมน กโรตี’’ติ เอกํ, ‘‘อปฺปฏิฺายา’’ติ เอกฺจ กตฺวา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปฺจงฺคานิ เวทิตพฺพานิ. วตฺถุนฺติ เมถุนาทิวีติกฺกมํ. กถานุสนฺธิวินิจฺฉยานุโลมสนฺธิวเสน วตฺถุํ น ชานาตีติ โจทเกน วา จุทิตเกน วา วุตฺตกถานุสนฺธินา เตสํ วจนปฏิวจนานุรูเปน วทนฺโต กถานุสนฺธินา วตฺถุํ น ชานาติ นาม, ตฺจ สุตฺตวิภงฺเค วินีตวตฺถุสงฺขาเตน วินิจฺฉยานุโลเมเนว วทนฺโต วินิจฺฉยานุโลมสนฺธิวเสน วตฺถุํ น ชานาติ นาม. ตฺติกมฺมํ นาม โหตีติ ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ นาม โหตีติ น ชานาตีติ สมฺพนฺโธ. ตฺติยา กมฺมปฺปตฺโตติ ตฺติยา นิฏฺิตายปิ กมฺมปฺปตฺโต เอว โหติ. อนุสฺสาวนฏฺาเน เอว กมฺมํ นิฏฺิตํ โหตีติ ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ นาม โหติ, ตํ ตฺติยา การณํ น ชานาตีติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ ปฺจ วิสุทฺธิโยติ อาปตฺติโต วิสุทฺธิเหตุตฺตา, วิสุทฺเธหิ กตฺตพฺพโต จ ปาติโมกฺขุทฺเทสา วุตฺตา.

ปฺจกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉกฺกวาราทิวณฺณนา

๓๒๖. ฉกฺกาทีสุ ปาฬิยํ ฉ อคารวาติ พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ, อปฺปมาเท, ปฏิสนฺถาเร จ ฉ อคารวา, เตสุ เอว จ ฉ คารวา เวทิตพฺพา. ‘‘ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ วิภงฺเค อาคตสฺส ปรมสฺส ทสฺสนํ.

๓๒๘. ปาฬิยํ อาคเตหิ สตฺตหีติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ มุสา ภณิสฺส’’นฺติอาทินา มุสาวาทสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๔) อาคเตหิ สตฺตหิ.

๓๒๙. ตํกุเตตฺถ ลพฺภาติ ตํ อนตฺถสฺส อจรณํ เอตฺถ เอตสฺมึ ปุคฺคเล, โลกสนฺนิวาเส วา กุโต เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุนฺติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ.

๓๓๐. สสฺสโต โลโกติอาทินา วเสนาติ ‘‘สสฺสโต โลโก, อสสฺสโต โลโก. อนฺตวา โลโก, อนนฺตวา โลโก. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา. โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา, น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา. โหติ จ น โหติ จ ตถาคโต ปรมฺมรณา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๙) เอวํ อาคตา ทส อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิโย สนฺธาย วุตฺตํ. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโยติ มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย อฏฺมิจฺฉาาณมิจฺฉาวิมุตฺตีหิ สทฺธึ ทส มิจฺฉตฺตา. ตตฺถ มิจฺฉาาณนฺติ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺโต โมโห. อวิมุตฺตสฺเสว วิมุตฺตสฺิตา มิจฺฉาวิมุตฺติ นาม.

วิปรีตาติ สมฺมาทิฏฺิอาทโย สมฺมาาณสมฺมาวิมุตฺติปริโยสานา ทส. ตตฺถ สมฺมาวิมุตฺติ อรหตฺตผลํ, ตํสมฺปยุตฺตํ ปน าณํ วา ปจฺจเวกฺขณาณํ วา สมฺมาาณนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอกุตฺตริกนโย นิฏฺิโต.