📜
๔. นิสฺสคฺคิยกณฺโฑ
๑. จีวรวคฺโค
๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. สมิตาวินาติ ¶ ¶ สมิตปาเปน. โคตมกเจติยํ นาม โคตมยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ.
๔๖๑. นวมํ วา ทสมํ วาติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. สเจ ภเวยฺยาติ สเจ กสฺสจิ กงฺขา ภเวยฺย. วุตฺตสทิสนฺติ ทสมํ วาติ วุตฺตสทิสํ ปริจฺเฉทสทิสํ, ‘‘วุตฺตสทิสเมวา’’ติปิ ลิขนฺติ. ธาเรตุนฺติ เอตฺถ อาหาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
๔๖๓. สูจิยา ปฏิสามนนฺติ สูจิฆเร สํโคปนํ, อิทฺจ สูจิกมฺมสฺส สพฺพสฺส ปรินิฏฺิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอตนฺติ นฏฺจีวรํ. เอเตสมฺปีติ นฏฺจีวราทีนิ ปรามสติ, เตน จีวรปลิโพธาภาวํ ทสฺเสติ. ทุติยสฺส ปลิโพธสฺสาติ อาวาสปลิโพธสฺส. เอตฺถ จ นิฏฺิตจีวรสฺมึ, อุพฺภตสฺมึ กถิเนติ ทฺวีหิ ปเทหิ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อภาวทสฺสเนน อตฺถตกถินสฺส ปฺจมาสพฺภนฺตเร ยาว จีวรปลิโพธอาวาสปลิโพเธสุ อฺตรํ น อุปจฺฉิชฺชติ, ตาว อติเรกจีวรํ ธาเรตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา, เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อาคตฏฺาเน อาวิ ภวิสฺสติ.
ทสาหปรมํ กาลนฺติ อจฺจนฺตสํโยควจนํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ…เป… ทสาหปรมภาโวติ อิทํ ทสาหปรมตาปทสฺส อตฺถมตฺตทสฺสนํ, ทสาหปรมภาโวติ อิทฺหิ วุตฺตํ โหตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อยมตฺโถติอาทิ ทสาหปรมปทสฺเสว อธิปฺเปตตฺถทสฺสนวเสน ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตฺตโก กาโลติ ‘‘ทสาหปรมตา’’ติ วุตฺโต โย กาโล, โส เอตฺตโก กาโลติ อตฺโถ.
โขมนฺติ โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏจีวรํ, ตํ วากมยนฺติ วทนฺติ. กปฺปาสสุตฺเตหิ วายิตํ กปฺปาสิกํ, เอวํ เสสานิปิ. กมฺพลนฺติ เอฬกาทีนํ โลมมยสุตฺเตน วายิตปฏํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา วายิตํ จีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ โสมารปฏํ จีนปฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ อิมานิ ปน ฉ จีวรานิ เอเตสฺเว ¶ อนุโลมานีติ วิสุํ น วุตฺตานิ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ‘‘ปตฺตุณฺณํ โกเสยฺยวิเสโส’’ติ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส, จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏานิ. ปตฺตุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ. กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ, เทวทินฺนฺจ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํ สพฺเพสํ อนุโลมานิ. มนุสฺสานํ ปกติวิทตฺถึ สนฺธาย ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ วิกปฺปนุปคนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย, วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙) กุฏิการสิกฺขาปทฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตสฺมา สุคตงฺคุเลน ทฺวาทสงฺคุลา สุคตวิทตฺถิ วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ สิทฺธํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณ’’นฺติ อาคตฏฺาเนหิ จ สเมติ.
ตํ อติกฺกามยโตติ เอตฺถ ตนฺติ จีวรํ, กาลํ วา ปรามสติ. ตสฺส โย อรุโณติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส โย อติกฺกนฺโต อรุโณ. จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธินฺติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส อาทิภูเตน อติกฺกนฺตอรุเณน สทฺธินฺติ อตฺโถ, อิทฺจ ภควตา ‘‘ทสาหปรม’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน’’ติ วุตฺตตฺตา ปุพฺพาปรสํสนฺทนตฺถํ สทฺทโต คมฺมมานมฺปิ ‘‘จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธิ’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ. ‘‘ทสเม อรุเณ’’ติ วุตฺเต เอว หิ ทสาหปรเมน สทฺธึ สเมติ. ทิวสปริโยสานสฺส อวธิภูตอนาคตารุณวเสน หิ ทิวสํ อติกฺกนฺตํ นาม โหติ, น ปน ทิวสสฺส อาทิภูตารุณวเสน ปริวาสาทีสุ ตถา อคฺคหณโต, อิธ ปน ภควตา ทิวสสฺส อาทิอนฺตปริจฺเฉททสฺสนวเสน ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อฏฺกถายํ ทิวสสฺส อาทิภูตํ ตํทิวสนิสฺสิตมฺปิ อรุณํ คเหตฺวา ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. อรุโณติ เจตฺถ สูริยุคฺคมนสฺส ปุเรจโร วฑฺฒนฆนรตฺโต ปภาวิเสโสติ ทฏฺพฺโพ.
วจนีโยติ ¶ สงฺฆาเปกฺโข. วจนเภโทติ ‘‘ตฺติยํ ทฺเว อาปตฺติโย สรตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๖๘. ‘‘น ¶ อิธ สฺา รกฺขตี’’ติ อิทํ เวมติกฺจ อนติกฺกนฺตสฺฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. โยปิ เอวํสฺี ตสฺสปีติ โย อนติกฺกนฺตสฺี, เวมติโก วา, ตสฺสปีติ อตฺโถ. อนฏฺโต อวิลุตฺตสฺส วิเสสมาห ‘‘ปสยฺหาวหารวเสนา’’ติ. เถยฺยาวหารวเสน คหิตมฺปิ อิธ นฏฺํ.
อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวาติอาทิ นิสีทนสนฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เยน หิ ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทิยิตฺวา นวํ นิสีทนสนฺถตํ กตํ, ตสฺส ตํ นิสฺสคฺคิยมฺปิ ตโต อฺสฺส ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติกรนฺติ สิชฺฌนโต อยมตฺโถ สพฺพนิสฺสคฺคิเยสุปิ สิชฺฌติ.
๔๖๙. ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาตุํ. ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อิมินา นาเมน น วิกปฺเปตุํ, เอเตน วิกปฺปิตติจีวโร เตจีวริโก น โหติ. ตสฺส ตสฺมึ อธิฏฺิตติจีวเร วิย อวิปฺปวาสาทินา กตฺตพฺพวิธิ น กาตพฺโพติ ทสฺเสติ, น ปน วิกปฺปเน โทโสติ. ตโต ปรนฺติ จตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ อนฺุาตนฺติ เกจิ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิวสฺสานํ, ตาว เปตุเมว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, อปเร ปน ‘‘วิกปฺปเน น โทโส, ตถา วิกปฺปิตํ ปริกฺขาราทินาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.
มุฏฺิปฺจกนฺติ มุฏฺิยา อุปลกฺขิตํ ปฺจกํ, จตุหตฺเถ มินิตฺวา ปฺจมํ หตฺถํ มุฏฺึ กตฺวา มินิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘มุฏฺิหตฺถานํ ปฺจกํ มุฏฺิปฺจกํ, ตสฺมา ปฺจปิ หตฺเถ มุฏฺึ กตฺวาว มินิตพฺพา’’ติ วทนฺติ. มุฏฺิตฺติกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ทฺวิหตฺเถน อนฺตรวาสเกน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘ปารุปเนนา’’ติอาทิ. อติเรกนฺติ สุคตจีวรปฺปมาณโต อธิกํ. อูนกนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิโต อูนกํ, เตน จ เตสุ ติจีวราธิฏฺานํ น รุหตีติ ทสฺเสติ.
อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามีติ อิมํ สงฺฆาฏิอธิฏฺานํ อุกฺขิปามิ ปริจฺจชามีติ อตฺโถ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺเถน จีวรํ ปรามสนฺเตน, จาเลนฺเตน วา. วาจาย อธิฏฺาตพฺพาติ เอตฺถ ¶ กาเยนปิ จาเลตฺวา วาจมฺปิ ภินฺทิตฺวา กายวาจาหิ อธิฏฺานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ ‘‘กาเยน อผุสิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา. ทุวิธนฺติ อหตฺถปาสหตฺถปาสวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ หตฺถปาโส นาม อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ. ทฺวาทสหตฺถนฺติ เกจิ วทนฺติ ¶ , ตํ อิธ น สเมติ. ‘‘สามนฺตวิหาเร’’ติ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณโยคฺเค ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ทูเร ิตมฺปิ ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขนฺเตน อธิฏฺาตพฺพเมว. ตตฺถปิ จีวรสฺส ปิตภาวสลฺลกฺขณเมว ปมาณํ. น หิ สกฺกา สพฺพถา านํ สลฺลกฺเขตุํ. เอกสฺมึ วิหาเร เปตฺวา ตโต อฺสฺมึ ปิตนฺติ อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาปิ อธิฏฺิเต น โทโส’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ, วีมํสิตพฺพํ. อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหีติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ, เตเนว ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปริกฺขารโจฬสฺส ปจฺจุทฺธารํ ทสฺเสติ. เอเตน จ เตจีวรธุตงฺคํ ปริหรนฺเตน ปํสุกูลาทิวเสน ลทฺธํ วตฺถํ ทสาหพฺภนฺตเร กตฺวา รชิตฺวา ปารุปิตุํ อสกฺโกนฺเตน ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวาว ทสาหํ อติกฺกเมตพฺพํ, อิตรถา นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘รชิตกาลโต ปน ปฏฺาย นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, ธุตงฺคโจโร นาม โหตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕) วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. ‘‘ปุน อธิฏฺาตพฺพานี’’ติ อิทฺจ สงฺฆาฏิอาทิติจีวรนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุกามสฺส วเสน วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน ปุริมาธิฏฺานเมว อลนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปุน อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ อิมินา กปฺปพินฺทุปิ ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
พทฺธสีมายํ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติสมฺภวโต น ตตฺถ ทุปฺปริหารตาติ อาห ‘‘อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหาร’’นฺติ.
อติริตฺตปฺปมาณาย เฉทนกํ ปาจิตฺติยนฺติ อาห ‘‘อนติริตฺตปฺปมาณา’’ติ. ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ วสฺสิกมาสโต ปรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, อิมินา จตุนฺนํ วสฺสิกมาสานํ อุปริ อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ วิฺายติ ตโต ปจฺจุทฺธราโยคา. ยฺจ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ, กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตํ สมนฺตปาสาทิกายํ นตฺถิ. ปริวารฏฺกถายฺจ ‘‘อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, โน คิมฺเห’’ติ เอตฺถ อิทํ วุตฺตํ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ, กุรุนฺทิยํ ปน ‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ, ‘จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’นฺติ ¶ หิ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓). ตตฺถ มหาอฏฺกถายํ นิวาสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ ¶ วุตฺตํ, กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน อปจฺจุทฺธารปจฺจยา, ตสฺมา กุรุนฺทิยํ วุตฺตนเยนาปิ วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ ปฺายติ. อธิฏฺานวิชหเนสุ จ วสฺสานมาสอาพาธานํ วิคเมน วิชหนํ มาติกาฏฺกถายมฺปิ น อุทฺธฏํ, ตสฺมา สมนฺตปาสาทิกายํ อาคตนเยน ยาว ปจฺจุทฺธารา อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ คเหตพฺพํ. นหานตฺถาย อนฺุาตตฺตา ‘‘วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา สงฺฆาฏิอาทีสุ วิย ทุติเย อธิฏฺานํ น รุหติ, อติเรกจีวรํ โหตีติ ทสฺเสติ. มหาปจฺจริยํ จีวรวเสน ปริโภคกิจฺจสฺส อภาวํ สนฺธาย อนาปตฺติ วุตฺตา เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ วิย. ยํ ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ เสนาสนตฺถาเยวาติ นิยมิตํ น โหติ นวสุ จีวเรสุ คหิตตฺตา, ตสฺมา อตฺตโน นาเมน อธิฏฺหิตฺวา นิทหิตฺวา ปริกฺขารโจฬํ วิย ยถา ตถา วินิยุชฺชิตพฺพเมวาติ คเหตพฺพํ. ปาวาโร โกชโวติ อิเมสมฺปิ ปจฺจตฺถรณาทีนํ โลเกปิ โวหรณโต เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรณโต วิสุํ คหณํ กตํ.
‘‘หีนายาวตฺตเนนา’’ติ อิทํ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุปฏิฺาย ิตสฺส เจว ติตฺถิยปกฺกนฺตสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนิภาเว นิรเปกฺขตาย คิหิลิงฺคติตฺถิยลิงฺคคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ตทาปิสฺส อุปสมฺปนฺนตฺตา, จีวรสฺส จ ตสฺส สนฺตกตฺตาวิชหนโต. ปมาณจีวรสฺสาติ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺสาติ คามปฺปเวเส ทิคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘เอส นโย’’ติ อิมินา ปมาณยุตฺเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหตีติอาทิอตฺถํ สงฺคณฺหาติ.
อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ นาม นตฺถีติ สุตฺเต อาคตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ, สงฺฆาฏิอาทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเหฏฺิมปฺปมาณสฺส สุตฺเต อนาคตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรตีติ เอตฺถ อติมหนฺตํ จีวรํ มุฏฺิปฺจกาทิปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตํ กตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทเนนาปิ วิจฺฉินฺทนกาเล ฉิชฺชมานฏฺานํ ฉิทฺทสงฺขฺยํ ¶ น คจฺฉติ อธิฏฺานํ น วิชหติ เอวาติ สิชฺฌติ, ‘‘ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชตี’’ติ วจเนน จ สเมติ. ปริกฺขารโจฬํ ปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูนํ กตฺวา ฉินฺนํ อธิฏฺานํ วิชหติ อธิฏฺานสฺส อนิสฺสยตฺตา. ตานิ ปุน พทฺธานิ ฆฏิตานิ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ เวทิตพฺพํ ¶ . เกจิ ปน ‘‘วสฺสิกสาฏิกจีวเร ทฺวิธา ฉินฺเน ยทิปิ เอเกกํ ขณฺฑํ ปจฺฉิมปจฺฉิมปฺปมาณํ ปโหติ, เอกสฺมึเยว ขณฺเฑ อธิฏฺานํ ติฏฺติ, น อิตเร, ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา. นิสีทนกณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโยติ วทนฺติ.
สมฺมุเข ปวตฺตา สมฺมุขาติ ปจฺจตฺตวจนํ, ตฺจ วิกปฺปนวิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘สมฺมุเข’’ติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ กตฺวาปิ อตฺถํ วทนฺติ, อภิมุเขติ อตฺโถ. อถ วา สมฺมุเขน อตฺตโน วาจาย เอว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา. ปรมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ กรณตฺเถนาปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อยเมว ปาฬิยา สเมติ. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตเกเนว วิกปฺปนากิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา, อติเรกจีวรํ น โหตีติ ทสาหาติกฺกเม น นิสฺสคฺคิยํ ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ปริภฺุชิตุํ…เป… น วฏฺฏตีติ สยํ อปจฺจุทฺธรณํ ปริภฺุชเน ปาจิตฺติยํ, อธิฏฺาเน ปเรสํ วิสฺสชฺชเน ทุกฺกฏฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ ปริโภควิสฺสชฺชนอธิฏฺานานิปิ. อปิ-สทฺเทน นิเธตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ, เอเตน จ ปจฺจุทฺธาเรปิ กเต จีวรมฺปิ วิกปฺปิตจีวรเมว โหติ, น อติเรกจีวรํ. ตํ ปน ติจีวราทินาเมน อธิฏฺาตุกาเมน อธิฏฺหิตพฺพํ, อิตเรน วิกปฺปิตจีวรเมว กตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘ยํ วิกปฺปิตจีวรํ, ตํ ยาว อปริโภคกาลา อปจฺจุทฺธราเปตฺวาว นิทหิตพฺพํ, ปริโภคกาเล ปน สมฺปตฺเต ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ยทิ หิ ตโต ปุเรปิ ปจฺจุทฺธราเปยฺย, ปจฺจุทฺธาเรเนว วิกปฺปนาย วิคตตฺตา อติเรกจีวรํ นาม โหติ, ทสาหาติกฺกเม จ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา ยํ อปริภฺุชิตฺวาว เปตพฺพํ, ตเทว วิกปฺเปตพฺพํ, ปจฺจุทฺธาเร จ กเต อนฺโตทสาเหเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ยฺจ อฏฺกถายํ ‘ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตี’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. ปาฬิยฺหิ ¶ ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ (ปารา. ๔๖๙) จ ‘‘สามํ จีวรํ วิกปฺเปตฺวา อปจฺจุทฺธารณํ ปริภฺุเชยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๗๓) จ ‘‘อนาปตฺติ โส วา เทติ, ตสฺส วา วิสฺสาสนฺโต ปริภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) จ สามฺโต วุตฺตตฺตา, อฏฺกถายฺจ ‘‘อิมํ จีวรํ วา วิกปฺปนํ วา ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินา ปจฺจุทฺธารํ อทสฺเสตฺวา ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา’’ติ เอวํ อตฺตโน สนฺตกตฺตํ อโมเจตฺวาว ปริโภคาทิวเสเนว ปจฺจุทฺธารสฺส วุตฺตตฺตา, ‘‘ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ อธิฏฺานํ วินาปิ วิสุํ ปริโภคสฺส, นิทหนสฺส จ วุตฺตตฺตา วิกปฺปนานนฺตรเมว ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อนธิฏฺหิตฺวา เอว ติจีวรวิรหิตํ ¶ วิกปฺปนารหํ จีวรํ ปริภฺุชิตุํ, นิทหิตฺุจ อิทํ ปาเฏกฺกํ วินยกมฺมนฺติ ขายติ. อปิจ พหูนํ ปตฺตานํ วิกปฺเปตุํ, ปจฺจุทฺธาเรตฺุจ วุตฺตตฺตา ปจฺจุทฺธาเรน เตสํ อติเรกปตฺตตา ทสฺสิตาติ สิชฺฌติ เตสุ เอกสฺเสว อธิฏฺาตพฺพโต. ตสฺมา อฏฺกถายํ อาคตนเยเนว คเหตพฺพํ.
ปฺตฺติโกวิโท น โหตีติ เอวํ วิกปฺปิเต ‘‘อนนฺตรเมว เอวํ ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติ วินยกมฺมํ น ชานาติ. เตนาห ‘‘น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุ’’นฺติ, อิมินาปิ เจตํ เวทิตพฺพํ ‘‘วิกปฺปนานนฺตรเมว ปจฺจุทฺธาโร กาตพฺโพ’’ติ.
อวิเสเสน วุตฺตวจนนฺติ ติจีวราทีนํ สาธารณวจเนน วุตฺตวจนํ. ยํ ปเนตฺถ ‘‘วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสตี’’ติ วตฺวา ตํ วิโรธาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘ติจีวรสงฺเขเปน…เป… วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ สามฺโต วุตฺเตปิ ติจีวรมฺปิ วิกปฺเปตีติ อยมตฺโถ น สิชฺฌติ, ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. ยํ ปน อธิฏฺาตพฺพํ, ตํ อธิฏฺาติ. ยํ ติจีวรวิรหิตํ, ตํ วิกปฺเปตพฺพํ, ตํ วิกปฺเปตีติ เอวมตฺโถ สิชฺฌตีติ. ตสฺมา เอตฺถ ปุพฺพาปรวิโรโธ น ทิสฺสติ สามฺวจนสฺส วุตฺตาวเสเสเยว อวติฏฺนโต. ยํ ปเนตฺถ ติจีวรสฺสาปิ วิกปฺปนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ติจีวรสงฺเขเปน ปริหริยมาเนสุ เอกมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตุํ น วฏฺฏติ, ติจีวรโต ปน เอกํ วา สกลเมว วา อปเนตฺวา อปรํ ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปน ปริหริตุกามสฺส วา ติจีวราธิฏฺานํ มฺุจิตฺวา ปริกฺขารโจฬวเสเนว สพฺพจีวรํ ปริภฺุชิตุกามสฺส ¶ วา ปุริมํ อธิฏฺิตจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ เอวมธิปฺปาเยน ‘‘ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ สิยา, อิจฺเจตํ ปาฬิยา สทฺธึ สเมติ. อถ ปุนปิ ตเทว ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺาตุกาโม หุตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํ สิยา, ตํ ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) อิมินา วจเนน น สเมติ. ยทิ หิ เสสจีวรานิ วิย ติจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพํ สิยา, ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อิทํ วจนเมว นิรตฺถกํ สิยา เสสจีวเรหิ ติจีวรสฺส วิเสสาภาวา. ตสฺมา ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิทํ ติจีวรวิรหิตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ติจีวรํ ปน วิกปฺเปตุํ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ, เตเนว ทุติยกถินสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิทํ น วุตฺตํ, วีมํสิตฺวา ยถา ปาฬิยา สทฺธึ น วิรุชฺฌติ, ตถา เอตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
ตุยฺหํ ¶ เทมีติอาทีสุ ปริจฺจตฺตตฺตา มนสา อสมฺปฏิจฺฉนฺเตปิ สมฺปทานภูตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โส อิจฺฉิตกฺขเณ คเหตุํ ลภติ. อิตฺถนฺนามสฺสาติ ปรมฺมุเข ิตํ สนฺธาย วทติ. ยสฺส ปน รุจฺจตีติอาทิ อุโภหิปิ ปริจฺจตฺตตาย อสฺสามิกตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
‘‘ตํ น ยุชฺชตี’’ติ อิทํ อนฺโตทสาเห เอว วิสฺสาสคฺคหณํ สนฺธาย อนาปตฺติวารสฺส อาคตตฺตา, อิธ นิสฺสคฺคิยจีวรสฺส กปฺปิยภาวกรณตฺถํ เลเสน คหิตตฺตา จ วุตฺตํ, เกจิ ปน ‘‘ปเรหิ สภาเคน อจฺฉินฺเน, วิสฺสาสคฺคหิเต จ ปุน ลทฺเธ โทโส น ทิสฺสตี’’ติ วทนฺติ. อนธิฏฺาเนนาติ กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส อกรเณนาติ อธิปฺปาโย. จีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ชาติปมาณยุตฺตตา, ฉินฺนปลิโพธภาโว, อติเรกจีวรตา, ทสาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๓. ทุติเย อวิปฺปวาเสติ อวิปฺปวาเส นิปฺผาเทตพฺเพ, วิปฺปวาสโทสาภาเว สาเธตพฺเพ กตฺตพฺพา สมฺมุตีติ อตฺโถ.
๔๗๕. ปฏิสิทฺธปริยาปนฺเนนาติ ¶ วิปฺปวสิตุํ ปฏิสิทฺเธสุ ตีสุ จีวเรสุ อนฺโตคเธน, เอเกน จ อวยเว สมุทาโยปจารํ ทสฺเสติ.
๔๗๘-๙. เอตฺตาวตาติ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา. ‘‘สภาเยติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ วตฺวา ปุน สยมฺปิ ‘‘สภาเย’’ติ อิมินา โวหรนฺโต สภา-สทฺทสฺส ปริยาโย สภาย-สทฺโท นปุํสกลิงฺคยุตฺโต อตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สภายนฺติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ วา ปาโ. ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภาติ จ ลิงฺคนฺตรยุตฺโต สภาสทฺทปริยาโย สภายสทฺโทติ อตฺโถ.
สภายํ คจฺฉตีติ สภํ คจฺฉติ. วสิตพฺพํ นตฺถีติ จีวรหตฺถปาเสเยว วสิตพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ วีถิยา. สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ สภายทฺวารานมนฺตเร วีถิ เคหาปิ คหิตา เอว โหนฺติ อาทิปริโยสานานํ คหิตตฺตา. เอตฺถ จ ทฺวารวีถิฆเรสุ วสนฺเตน คามปฺปเวสนสหเสยฺยาทิโทสํ ปริหริตฺวา สุปฏิจฺฉนฺนตาทิยุตฺเตเนว ภวิตพฺพํ ¶ , สภา ปน ยทิ สพฺเพสํ วสนตฺถาย สาลาสทิสา กตา, อนฺตราราเม วิย ยถาสุขํ วสิตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตตาย จ เอกูปจารตํ, อปริกฺขิตฺตตาย นานูปจารตฺจ นิเวสนาทีสุปิ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอเตเนวูปาเยนา’’ติอาทิ. นิเวสนาทีนิ พหิคามโต สนฺนิวิฏฺานิ คหิตานิ อนฺโตคาเม ิตานํ คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. สพฺพตฺถาติ คามนิคมนิเวสนาทีสุ ปนฺนรสสุ. ปริกฺเขปาทีติ อาทิ-สทฺเทน อปริกฺเขปสฺเสว คหณํ, น เอกกุลาทีนมฺปิ เตสํ เอกูปจารตานานูปจารตานิมิตฺตตาภาวา. เอตฺถ จ สตฺถสฺส กติปาหํ กตฺถจิ นิวิฏฺสฺเสว ปริกฺเขโป โหติ, น คจฺฉนฺตสฺส.
๔๘๒-๗. คามโต พหิ อิสฺสรานํ สมุทฺทตีราทีสุ กตภณฺฑสาลา อุโทสิโตติ อาห ‘‘ยานาทีน’’นฺติอาทิ. มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ นาติอุจฺโจ จนฺทิกงฺคณยุตฺโต สิขรกูฏมาลาทิวิรหิโต ปาสาโท.
๔๘๙. ปริยาทิยิตฺวาติ อชฺโฌตฺถริตฺวา. นทีปริหาโรติ วิสุํคามาทีนํ วิย นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา จีวรหตฺถปาโส เอวาติ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘อิมินา อฏฺกถาวจเนน นทีปริหาโรปิ วิสุํ สิทฺโธ, นทิยา ¶ หตฺถปาโส น วิชหิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ สนฺธายาห. เอตฺถ จ วิหารสฺส นานากุลสนฺตกภาเวปิ อวิปฺปวาสสีมาปริจฺเฉทพฺภนฺตเร สพฺพตฺถ จีวรอวิปฺปวาสสมฺภวโต ตสฺสา ปธานตฺตา ตตฺถ สตฺถปริหาโร น ลพฺภตีติ ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สตฺถสมีเป’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตํ อพฺภนฺตรปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. ปาฬิยํ นานากุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ สตฺถหตฺถปาโส คหิโต.
๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเตติ อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วทติ.
๔๙๑-๔. วิหาโร นาม อุปจารสีมา. ตตฺถ ยสฺมึ วิหาเรติ ตสฺส อนฺโตปริเวณาทึ สนฺธาย วุตฺตํ, เอกกุลาทิสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน. ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺสาติ อุชุกํ อวกฺขิตฺตเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ สนฺธาย วทติ.
อคมนปเถติ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺเตตุํ น สกฺกุเณยฺยเก สมุทฺทมชฺเฌ เย ทีปกา, เตสูติ โยชนา. อิตรสฺมินฺติ ปุรตฺถิมทิสาย จีวเร. ‘‘อุโปสถกาเล…เป… วฑฺฒตี’’ติ อิมินา จีวรวิปฺปวาสสตฺตพฺภนฺตรโต สมานสํวาสาย สตฺตพฺภนฺตรสีมาย อจฺจนฺตวิสทิสตํ ทสฺเสติ ¶ . ตถา หิ พหูสุ ภิกฺขูสุ เอกโต นิสีทิตฺวา สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉเทสุ ยถาสกํ จีวรํ เปตฺวา ปริหรนฺเตสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน นิสินฺโนกาสโต ปฏฺาย ปจฺเจกํ สตฺตพฺภนฺตรสฺส ปริจฺเฉโท อฺมฺวิสทิโส อเนกวิโธ โหติ, น เอโก ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย อนิมิตพฺพตฺตา. เตเนว ตตฺถ ปริสวเสน วุฑฺฒิ, หานิ วา น โหติ, น เอวํ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย. สา หิ โยชนิกายปิ ปริสปริยนฺตโตว ปฏฺาย สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปอจฺฉินฺนา เอกาว โหติ. เตเนว สา ปริสวเสน วฑฺฒติ, หายติ จ, ตสฺมา อฺาว สตฺตพฺภนฺตรสีมา อฺโ สตฺตพฺภนฺตรโต ปริจฺฉินฺโน จีวรวิปฺปวาสปริหาโร อพฺโภกาโสติ เวทิตพฺพํ. ยฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ขนฺธเก สีมากถายเมว (มหาว. ๑๔๓) วกฺขาม.
๔๙๕. นทึ ¶ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มฺุจิตฺวา โอตรติ. พหิคาเม เปตฺวาติ อปารุปิตพฺพตาย วุตฺตํ. วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ อุตฺตราสงฺเค จ พหิคาเม ปิตสงฺฆาฏิยฺจ ปมํ วินยกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อุตฺตราสงฺคํ นิวาเสตฺวา อนฺตรวาสเก กาตพฺพํ. เอตฺถ จ พหิคาเม ปิตสฺสาปิ วินยกมฺมวจนโต ปรมฺมุขาปิ ิตํ วิสฺสชฺชิตุํ, นิสฺสฏฺํ ทาตฺุจ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ทหรานํ คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. มุหุตฺตํ…เป… ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหตฺเต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ. เตสํ ปน ปุรารุณาว อุฏฺหิตฺวา สอุสฺสาเหน คจฺฉนฺตานํ อรุเณ อนฺตรา อุฏฺิเตปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ ‘‘ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา. เตเนว ‘‘คามํ ปวิสิตฺวา…เป… น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวาติอาทิมฺหิ สอุสฺสาหตฺตา คมนกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตา. เธนุภเยนาติ ตรุณวจฺฉคาวีนํ อภิธาวิตฺวา สิงฺเคน ปหรณภเยน. นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ เธนุภยาทีหิ ิตานํ ยาว ภยวูปสมา าตพฺพโต ‘‘อนฺโตอรุเณเยว คมิสฺสามี’’ติ นิยเมตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ. ยตฺถ ปน เอวํ นิยเมตุํ สกฺกา, ตตฺถ อนฺตรารุเณ อุคฺคเตปิ นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ เภสชฺชตฺถาย คามปฺปวิฏฺทหรานํ วิย. อนฺโตสีมายํ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติโต ปจฺฉา ปติฏฺาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพโต. ปวิฏฺานนฺติ อาจริยนฺเตวาสิกานํ วิสุํ วิสุํ คตานํ อวิปฺปวาสสีมตฺตา เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, สอุสฺสาหตาย นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อนฺตรามคฺเคติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค.
‘‘อิธ อปจฺจุทฺธรณ’’นฺติ อิมินา อธิฏฺานวิกปฺปนานิ วิย ปจฺจุทฺธรณมฺปิ กาเยน วา วาจาย วา กตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส อกรณโตติ อิทํ กายวาจาสมุฏฺานํ ¶ วุตฺตํ. อธิฏฺิตติจีวรตา, อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๗. ตติเย ¶ ปาฬิยํ จีวรปจฺจาสา นิกฺขิปิตุนฺติ จีวรปจฺจาสาย สติยา นิกฺขิปิตุนฺติ อตฺโถ. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ทุติยกถิเน วิย สามิวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๔๙๙-๕๐๐. ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺนนฺติ ‘‘ตุยฺหํ, ภนฺเต, อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ เอวํ ทินฺนํ, เอตมฺปิ กาเล อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตีติ อธิปฺปาโย. อิทํ ปน อฏฺกถาวจนํ, ปาฬิยํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ อิทฺจ ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วจนสามฺโต ลพฺภมานํ สพฺพมฺปิ ทสฺเสตุํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ ปมอนิยเต โสตสฺส รโห วิย. สงฺฆสฺส หิ กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ อกาเล อุปฺปนฺนจีวรํ วิย สมฺมุขีภูเตหิ วุตฺถวสฺเสหิ, อวุตฺถวสฺเสหิ จ สพฺเพหิปิ ภาเชตพฺพตาสามฺเน อกาลจีวรํ นาม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อตฺถุทฺธารวเสน ปาฬิยํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘ตโต ภาเชตฺวา ลทฺธจีวรมฺปิ อกาเล ลทฺธจีวรมฺปิ วุตฺถวสฺสานํ เอกมาสปริหารํ, ปฺจมาสปริหารํ วา น ลภติ, ปจฺจาสาจีวเร อสติ ทสาหปริหารเมว ลภตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฏฺกถายมฺปิ ‘‘อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ วจนสามฺโต ลพฺภมานํ สพฺพํ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘เอกปุคฺคลสฺส วา อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน ตถาลทฺธํ วา อกาเล ลทฺธํ วา อนตฺถตกถินานํ ทสาหพฺภนฺตเร อธิฏฺาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุนฺติ เวทิตพฺพํ อิตรถา ปาฬิอฏฺกถาหิ วิรุชฺฌนโต. ตถา หิ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปเท อกาเล อุปฺปนฺนมฺปิ อจฺเจกจีวรํ ‘‘ยาวจีวรกาลสมยํ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๔๘) วุตฺตํ, ตสฺส อฏฺกถายฺจ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ อุปฺปนฺนสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา จ ปริหาโร วุตฺโต, ตเมว ปริหารํ สนฺธาย ‘ฉฏฺิโต ปฏฺาย ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยวา’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙) วุตฺตํ. ตสฺมา กาเลปิ อกาเลปิ จ ยถาตถา ลทฺธํ ¶ อติเรกจีวรํ วุตฺถวสฺสานํ เอกมาสํ, ปฺจมาสํ วา ยถารหํ ปริหารํ ลภติ เอวาติ คเหตพฺพํ.
เอวํ ปน อวตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ เอวนฺติ ยํ อฏฺกถายํ ‘‘ตโต เจ อุตฺตรี’’ติ อิมสฺส มาสปรมโต อุตฺตรีติ ¶ อตฺโถ วุตฺโต, ตํ ปรามสติ. ปทภาชนิยํ เอวมตฺถํ อวตฺวา อฺถา อตฺโถ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. ‘‘มูลจีวร’’นฺติ อิทํ อุปโยควจนํ. อตฺตโน คติกํ กโรตีติ อนนฺตรา ทุติยทิวสาทีสุ อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มาสปรมํ มูลจีวรํ เปตุํ อทตฺวา อตฺตโน ทสาหปรมตาย เอว ปติฏฺาเปตีติ อตฺตโน คติกํ กโรตีติ. ตโต อุทฺธํ มูลจีวรนฺติ เอตฺถ ปน มูลจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. ตฺหิ วีสติมทิวสโต อุทฺธํ ทฺวาวีสติมทิวสาทีสุ อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ อตฺตนา สทฺธึ เอกโต สิพฺเพตฺวา ฆฏิตํ ทสาหปรมํ คนฺตุํ อทตฺวา นวาหปรมตาทิวเสน อตฺตโน คติกํ กโรติ, เอกโต อสิพฺเพตฺวา วิสุํ ปิตํ ปน ปจฺจาสาจีวรํ ทสาหปรมเมว.
ปาฬิยํ ทสาหาติ ทสาเหน. เอกาทเส อุปฺปนฺเนติอาทีสุ เอกาทสาเห อุปฺปนฺเนติอาทินา อตฺโถ, อยเมว วา ปาโ คเหตพฺโพ. เอกวีเส อุปฺปนฺเน…เป… นวาหา กาเรตพฺพนฺติอาทิ ปจฺจาสาจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสํ เปตฺวา วุตฺตํ. เตเนว ‘‘ตึเส…เป… ตทเหว อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ…เป… กาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ สติยา เอว ปจฺจาสาย วุตฺตํ. สเจ ปน ‘‘อิโต ปฏฺาย จีวรํ น ลภิสฺสามี’’ติ อิจฺฉิตฏฺานโต ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนาย อฺตฺถาปิ เยน เกนจิ อุปาเยน ปจฺจาสํ อุปฺปาเทติ, มูลจีวรํ น อธิฏฺาตพฺพํ, สพฺพถา ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนาย ทสาหาติกฺกนฺตํ มูลจีวรํ ตทเหว อธิฏฺาตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ปมตรํ อุปฺปนฺนํ วิสภาคํ สนฺธาย วทติ. อฺมฺนฺติ อฺํ อฺํ, อยเมว วา ปาโ. องฺคํ ปเนตฺถ ปมกถิเน วุตฺตสทิสเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโส.
ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๓-๕. จตุตฺเถ ปาฬิยํ ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตสฺส อุทเร วิสฺสชฺชนํ, ปเวสนํ อชฺโฌหรณํ ¶ ภตฺตกิจฺจนฺติ อตฺโถ, โภชนปริโยสาเนน ภตฺตสฺส วิสฺสชฺชนนฺติปิ ¶ วทนฺติ. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ โส นาม ตฺวํ, ตาย นาม ตฺวนฺติ วา อตฺโถ. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตา จ มาตา จ ปิตามหา, เต เอว ยุคฬฏฺเน ยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหาวฏฺฏาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณน มาตามโห จ ปิตามหี มาตามหี จ คหิตาว โหนฺติ. สตฺตมยุคโต ปรํ ‘‘อฺาตกา’’ติ เวทิตพฺพํ. ยาติ ภิกฺขุนี. ปิตุ มาตา ปิตามหี, มาตุ ปิตา มาตามโห.
ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ ‘‘โธวา’’ติ อาณาปนวาจาย เอกาย เอว ตทนุคุณสฺส สพฺพสฺสาปิ ปโยคสฺส อาณตฺตตฺตา วุตฺตํ.
๕๐๖. ตทวินาภาวโต โธวนสฺส ‘‘กายวิการํ กตฺวา’’ติ จ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ จ วุตฺตตฺตา กาเยน โธวาเปตุกามตํ อปฺปกาเสตฺวา ทานขิปนเปสนาทึ กโรนฺตสฺส จ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ มฺุจิตฺวา พหิ ตฺวา กายวาจาหิ อาณาเปตฺวา ขิปนเปสนาทึ กโรนฺตสฺส จ อนาปตฺติ เอว.
เอเกน วตฺถุนาติ ปมกเตน. ปฺจสตานิ ปมาณํ เอตาสนฺติ ปฺจสตา. ภิกฺขุภาวโต ปริวตฺตลิงฺคาปิ ภิกฺขุนี ภิกฺขูนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนา เอว.
๕๐๗. ตาวกาลิกํ คเหตฺวาติ อตฺตนา กติปาหํ ปารุปนาทิอตฺถาย ตาวกาลิกํ ยาจิตฺวา. ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ตฺวา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวาปนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ปฺจเม ¶ อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๖๙๑-๖๙๒) อปฺตฺเต. โกฏฺาสสมฺปตฺตีติ เกสาทิปฺจโกฏฺาสานํ กลฺยาณตา. หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวาติ หตฺถตลโต เสสกายสฺส อทสฺสนํ ทีเปติ.
๕๑๐. วิหตฺถตายาติ ¶ วิหตตาย, อมิสฺสิตตาย อปฏิสรณตายาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สมภิตุนฺนตฺตา’’ติ, พฺยธิตตฺตาติ อตฺโถ. ปริวตฺเตตพฺพํ ปริวตฺตํ, ตเทว ปาริวตฺตกํ, ปริวตฺเตตฺวา ทิยฺยมานนฺติ อตฺโถ.
ปุริมสิกฺขาปเท วิย อิธ ทฺวาทสหตฺโถ อุปจารนิยโม นตฺถีติ อาห ‘‘อุปจารํ มฺุจิตฺวา’’ติ. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ยํ อนฺตมโส หรีฏกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา วา ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปริวตฺตกํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา. ‘‘ตํ อจิตฺตกภาเวน น สเมตี’’ติ อิมินา าติภาวาชานนาทีสุ วิย ภิกฺขุนีภาวาชานนาทิวเสนาปิ อจิตฺตกตํ ปกาเสติ.
๕๑๓-๔. ติกฺจ ตํ ปาจิตฺติยฺจาติ ติกปาจิตฺติยํ, ปาจิตฺติยติกนฺติ อตฺโถ. ปตฺตตฺถวิกาทีติ อนธิฏฺานุปคํ สนฺธาย วทติ. โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ มหติยาปิ ตาว ภิสิจฺฉวิยา อนธิฏฺานุปคตฺตา อนาปตฺติ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณวิรหิตตาย อนธิฏฺาตพฺเพสุ กิเมว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ปตฺตตฺถวิกาทีนิ ปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมานิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ เอว. ปฏิคฺคหณํ กิริยา, อปริวตฺตนํ อกิริยา. วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อฺาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๑๕. ฉฏฺเ ¶ ปฏุ เอว ปฏฺโฏ. ปาฬิยํ ธมฺมนิมนฺตนาติ สมเณสุ วตฺตพฺพาจารธมฺมมตฺตวเสน นิมนฺตนา, ทาตุกามตาย กตนิมนฺตนา น โหตีติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘วิฺาเปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อฺาตกอปฺปวาริตโต หิ วิฺตฺติ นาม โหติ.
๕๑๗. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพ’’นฺติ อิมินา ภูตคามวิโกปนํ อนฺุาตนฺติ อาห ‘‘เนว ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติอาทิ. ปมํ สุทฺธจิตฺเตน ลิงฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉา ลทฺธึ คณฺหนฺโตปิ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก เอวาติ อาห ‘‘นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา’’ติ.
ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉตีติ เอตฺถาปิ วิหารจีวราทิอตฺถาย ปวิสนฺเตนปิ ติณาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวาว ¶ คนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพนฺติ สามฺโต ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา. จิมิลิกาหีติ ปฏปิโลติกาหิ. ปริโภเคเนวาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา ปริภฺุชเนน. ปริโภคชิณฺณนฺติ ยถา ตํ จีวรํ ปริภฺุชิยมานํ โอภคฺควิภคฺคตาย อสารุปฺปํ โหติ, เอวํ ชิณฺณํ.
๕๒๑. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถาปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิทํ อนุวตฺตติ เอวาติ อาห ‘‘อตฺตโน าตกปวาริเต’’ติอาทิ. อิธ ปน อฺสฺส อจฺฉินฺนนฏฺจีวรสฺส อตฺถาย อฺาตกอปฺปวาริเต วิฺาเปนฺตสฺส นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อิตรถา ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิมินา วิเสโส น ภเวยฺย. เตเนว อนนฺตรสิกฺขาปเท วกฺขติ ‘‘อฏฺกถาสุ ปน าตกปริวาตฏฺาเน…เป… ปมาณเมว วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา น สเมตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๖) จ ‘‘ยสฺมา ปนิทํ สิกฺขาปทํ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึเยว ปฺตฺตํ, ตสฺมา อิธ ‘อฺสฺสตฺถายา’ติ น วุตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๖) จ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๒-๕๒๔. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ ปคฺคาหิกสาลนฺติ ทุสฺสาปณํ. ตฺหิ วาณิชเกหิ ทุสฺสานิ ปคฺคเหตฺวา ทสฺสนฏฺานตาย ‘‘ปคฺคาหิกสาลา’’ติ วุจฺจติ. อสฺส จีวรสฺสาติ สาทิตพฺพจีวรสฺส. ‘‘ติจีวริเกนา’’ติ อิมินา อจฺฉินฺนติจีวรโต อฺสฺส วิหาราทีสุ นิหิตสฺส จีวรสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ยทิ ภเวยฺย, วิฺาเปตุํ น วฏฺเฏยฺย. ตาวกาลิกํ นิวาเสตฺวา อตฺตโน จีวรํ คาเหตพฺพํ, ตาวกาลิกมฺปิ อลภนฺตสฺส ภูตคามวิโกปนํ กตฺวา ติณปณฺเณหิ ฉทนํ วิย วิฺาปนมฺปิ วฏฺฏติ เอว. อฺเนาติ อจฺฉินฺนอสพฺพจีวเรน. ทฺเว นฏฺานีติ อธิการโต วุตฺตํ ‘‘ทฺเว สาทิตพฺพานี’’ติ.
๕๒๖. ปาฬิยา น สเมตีติ ‘‘อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิมาย ปาฬิยา น สเมติ ตตุตฺตริวิฺาปนอาปตฺติปฺปสงฺเค เอว วุตฺตตฺตา. ‘‘อฺสฺสตฺถายาติ น วุตฺต’’นฺติ อิทํ อฺสฺสตฺถาย ตตุตฺตริ วิฺาปเน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, ตฺจ ปาจิตฺติยํ เยสํ อตฺถาย วิฺาเปติ, เตสํ วา สิยา, วิฺาปกสฺเสว วา, น ตาว เตสํ เตหิ ¶ อวิฺาปิตตฺตา, นาปิ วิฺาปกสฺส อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อวิฺาปิตตฺตา. ตสฺมา อฺสฺสตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺสาปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ น ทิสฺสติ. ปาฬิยํ ปน อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน สาทิยนปฏิพทฺธตาวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อนาปตฺติวาเร น วุตฺตนฺติ วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ตตุตฺตริจีวรตา, อจฺฉินฺนาทิการณตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๘-๕๓๑. อฏฺเม โย กตฺตาติ ทายกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปโฏ เอว ปฏโก. ‘‘อปฺปคฺฆํ เจตาเปตี’’ติ อิทํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, วิฺตฺติปจฺจยา ปน ทุกฺกฏเมว. ‘‘ปุพฺเพ อปฺปวาริโต’’ติ หิ สุตฺเต ¶ วิฺตฺติการณํ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อุปกฺขฏสิกฺขาปท) อฺาตกวิฺตฺติตา ปกาสิตา, เกจิ ปน ‘‘ทายเกน ทาตุกาโมมฺหีติ อตฺตโน สนฺติเก อวุตฺเตปิ ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม, ตทคฺฆนกํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ เอวา’’ติ วทนฺติ, ตํ ราชสิกฺขาปทฏฺกถายปิ น สเมติ, ทูเตน วา ทายเกน วา ‘‘อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภต’’นฺติ อาโรจิเตปิ มุขเววฏิยกปฺปิยการกาทีนํ สนฺติกา อาหราปนสฺส ตตฺถ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม, เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ…เป… น กิฺจิ วตฺตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘ทูเตน จีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺยา’ติ สยํ อาหริตฺวาปิ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ททนฺเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ. มุขเววฏิยกปฺปิยการกาทโย หิ ทายเกน ปริจฺจตฺเตปิ วตฺถุมฺหิ ‘‘อสุกสฺส สนฺติเก จีวรปิณฺฑปาตาทึ คณฺหถา’’ติ อนิทฺทิฏฺตฺตา เอว ‘‘น กิฺจิ วตฺตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ตสฺส วตฺถุโน มุขเววฏิยาทีนํ สนฺตกตฺตา, ตสฺมา อิธาปิ ทายเกน วา ทูเตน วา ‘‘ยํ อิจฺฉถ, ตํ วทถา’’ติ อปฺปวาริตสฺส วทโต ทุกฺกฏเมว. อคฺฆวฑฺฒนกนฺติ จีวเร อคฺฆวฑฺฒนกํ นิสฺสาย ปวตฺตํ อิทํ สิกฺขาปทํ, น ปิณฺฑปาตาทีสุ เตสุ อคฺฆวฑฺฒนสฺส ทุกฺกฏมตฺตตฺตา, ปณีตปิณฺฑปาเต สุทฺธิกปาจิตฺติยตฺตา จาติ คเหตพฺพํ. เตเนว ‘‘จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา’’ติ องฺคํ วุตฺตํ.
ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๓. นวเม ¶ ปาฬิยํ ปจฺเจกจีวรเจตาปนฺนาติ ปจฺเจกํ นิยเมตฺวา จีวรเจตาปนฺนา, เอเกเกน วิสุํ วิสุํ นิยมิตา จีวรเจตาปนฺนาติ อตฺโถ. อุโภว สนฺตา เอเกนาติ อุโภ เอกโตว สนฺตา, อุโภ เอกโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๗. ทสเม ¶ ‘‘อชฺชณฺโห’’ติ ‘‘อชฺช โน’’ติ วตฺตพฺเพ ห-การาคมํ, น-การสฺส จ ณ-การํ กตฺวา วุตฺโตติ อาห ‘‘อชฺช เอกทิวสํ อมฺหาก’’นฺติ.
๕๓๘-๙. ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถุภูตํ อกปฺปิยจีวรเจตาปนฺนํ ‘‘อสุกสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อาคมนสุทฺธิยา อสติ, สิกฺขาปเท อาคตนเยน ทูตวจเน จ อสุทฺเธ สพฺพถา ปฏิกฺเขโป เอว กาตุํ วฏฺฏติ, น ปน ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วตฺตุํ, ตทนุสาเรน น เวยฺยาวจฺจกรฺจ นิทฺทิสิตุํ อาคมนทูตวจนานํ อุภินฺนํ อสุทฺธตฺตา. ปาฬิยํ อาคตนเยน ปน อาคมนสุทฺธิยา สติ ทูตวจเน อสุทฺเธปิ สิกฺขาปเท อาคตนเยน สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตน จ ยถา ทูตวจนาสุทฺธิยมฺปิ อาคมเน สุทฺเธ เวยฺยาวจฺจกรมฺปิ นิทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อาคมนาสุทฺธิยมฺปิ ทูตวจเน สุทฺเธ วฏฺฏติ เอวาติ อยมตฺโถ อตฺถโต สิทฺโธว โหติ, อุภยสุทฺธิยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อุภยาสุทฺธิปกฺขเมว สนฺธาย มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) ‘‘อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ มาติกาฏฺกถาวจนสฺส อธิปฺปายํ ¶ อสลฺลกฺเขตฺวา วุตฺตํ ยถาวุตฺตนเยน อาคมนสุทฺธิอาทินา สปฺปโยชนตฺตา. โย ปเนตฺถ ‘‘มูลสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน, เปสิตสฺส ทูตสฺส อกปฺปิยโวหารวเสน จ วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺยา’’ติ อนิฏฺปฺปสงฺโค วุตฺโต, โส อนิฏฺปฺปสงฺโค เอว น โหติ อภิมตตฺตา. ตถา หิ สิกฺขาปเท เอว ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ อกปฺปิยโวหาเรน วทโต ทูตสฺส กปฺปิเยน ¶ กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ วุตฺโต อาคมนสฺส สุทฺธตฺตา, อาคมนสฺสาปิ อสุทฺธิยํ ปน กปฺปิเยนาปิ กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร น นิทฺทิสิตพฺโพติ อตฺเถว อาคมนสฺส สุทฺธิอสุทฺธีสุ ปโยชนํ. กถํ ปน ทูตวจเนน อาคมนสุทฺธิ วิฺายตีติ? นายํ ภาโร. ทูเตน หิ อกปฺปิยโวหาเรเนว วุตฺเต เอว อาคมนสุทฺธิ คเวสิตพฺพา, น อิตรถา, ตตฺถ จ ตสฺส วจนกฺกเมน ปุจฺฉิตฺวา จ ยุตฺติอาทีหิ จ สกฺกา วิฺาตุํ. อิธาปิ หิ สิกฺขาปเท ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อาภต’’นฺติ ทูตวจเนเนว จีวรํ กิณิตฺวา ทาตุํ เปสิตภาโว วิฺายติ. ยทิ หิ สพฺพถา อาคมนสุทฺธิ น วิฺายติ, ปฏิกฺเขโป เอว กตฺตพฺโพติ.
ปาฬิยฺจ ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติอาทิ ทูตวจนสฺส อกปฺปิยตฺเตปิ อาคมนสุทฺธิยา สติ ปฏิปชฺชนวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘เอโส โข…เป… น วตฺตพฺโพ ‘ตสฺส เทหี’’’ติอาทิ อกปฺปิยวตฺถุสาทิยนปริโมจนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘สฺตฺโต’’ติอาทิ ‘‘เอวํ ทูเตน ปุน วุตฺเต เอว โจเทตุํ วฏฺฏติ, น อิตรถา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘น วตฺตพฺโพ ‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’’’นฺติ อิทํ ทูเตนาภตรูปิยํ ปฏิคฺคเหตุํ อตฺตนา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการกตฺตาว ‘‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’’นฺติ วทนฺโต รูปิยสฺส ปกตตฺตา เตน รูปิเยน ปริวตฺเตตฺวา ‘‘เทหิ เจตาเปหี’’ติ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชนฺโต นาม โหตีติ ตํ โทสํ ทูรโต ปริวชฺเชตุํ วุตฺตํ รูปิยปฏิคฺคหเณน สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺรูปิเย วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘น วตฺตพฺโพ อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ. ตสฺมา น อิทํ วิฺตฺติโทสํ ปริวชฺเชตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติปิ อวตฺตพฺพตาปสงฺคโต, เตเนว ทูตนิทฺทิฏฺเสุ รูปิยสํโวหารสงฺกาภาวโต อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ ‘‘ทูเตน ปิตรูปิเยน เจตาเปตฺวา จีวรํ อาหราเปหี’’ติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘จีวรํ อาหราเปหี’’ติ เอวํ อาหราเปตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ. านํ ภฺชตีติ เอตฺถ านนฺติ ิติยา จ การณสฺส จ นามํ, ตสฺมา อาสเน นิสีทเนน านมฺปิ กุปฺปติ, อาคตการณมฺปิ เตสํ น วิฺายติ. ิตํ ปน อโกเปตฺวา อามิสปฏิคฺคหณาทีสุ อาคตการณเมว ภฺชติ, น านํ. เตนาห ‘‘อาคตการณํ ภฺชตี’’ติ ¶ . เกจิ ปน ‘‘อามิสปฏิคฺคหณาทินา านมฺปิ ภฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ.
ยตสฺส ¶ จีวรเจตาปนฺนนฺติอาทิ เยน อตฺตนา เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิฏฺโ, จีวรฺจ อนิปฺผาทิตํ, ตสฺส กตฺตพฺพวิธิทสฺสนํ. เอวํ ภิกฺขุนา วตฺถุสามิกานํ วุตฺเต เต โจเทตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติ ‘‘สามิกา โจเทตฺวา เทนฺตี’’ติ อนาปตฺติยํ วุตฺตตฺตา. เตน จ โย สยํ อโจเทตฺวา อุปาสกาทีหิ ปริยาเยน วตฺวา โจทาเปติ, เตสุ สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ โจเทตฺวา จีวรํ ทาเปนฺเตสุ ตสฺส อนาปตฺติ สิทฺธา โหติ สิกฺขาปทสฺส อนาณตฺติกตฺตา.
เกนจิ อนิทฺทิฏฺโ อตฺตโน มุเขเนว พฺยาวฏภาวํ เวยฺยาวจฺจกรตฺตํ ปตฺโต มุขเววฏิโก. ‘‘อวิจาเรตุกามตายา’’ติ อิมินา วิชฺชมานมฺปิ ทาตุํ อนิจฺฉนฺตา อริยาปิ วฺจนาธิปฺปายํ วินา โวหารโต นตฺถีติ วทนฺตีติ ทสฺเสติ. เภสชฺชกฺขนฺธเก เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุมฺหิ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตํ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนเมว (มหาว. ๒๙๙) เมณฺฑกสิกฺขาปทํ นาม. กปฺปิยการกานํ หตฺเถติ ทูเตน นิทฺทิฏฺกปฺปิยการเก สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเ, อนิทฺทิฏฺเ วาติ. เตนาห ‘‘เอตฺถ จ โจทนาย ปมาณํ นตฺถี’’ติอาทิ.
สยํ อาหริตฺวา ททนฺเตสูติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถายา’’ติ อิมินา จีวรตฺถาเยว น โหตีติ ทสฺเสติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา วตฺถุสามินา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการกเภเทสุปิ ปิณฺฑปาตาทีนมฺปิ อตฺถาย ทินฺเน จ านโจทนาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
‘‘สงฺฆํ วา…เป… อนามสิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆสฺส วิหารตฺถาย เทมา’’ติอาทินา อามสิตฺวา วทนฺเตสุ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว. ‘‘สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, คณาทีสุปิ สงฺฆสฺสตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺเตสุปิ ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ ทุกฺกฏเมว. สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปาจิตฺติย’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ สงฺฆเจติยาทีนํ อตฺถาย ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา. โจเทตีติ ตสฺส โทสาภาวํ ตฺวาปิ โกเธน วา โลเภน วา ภณฺฑเทยฺยนฺติ โจเทติ. โส เอว หิ มุสาวาทาทิปจฺจยา ปาจิตฺติยทุกฺกฏาทิอาปตฺตีหิ สาปตฺติโก โหติ, คีวาติสฺาย ปน วตฺวา นิทฺโทสภาวํ ตฺวา วิรมนฺตสฺส นตฺถิ อาปตฺติ.
ตฬากํ ¶ ¶ เขตฺเต ปวิฏฺตฺตา ‘‘น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภฺุชตูติ เทติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘อิโต ตฬากโต อุปฺปนฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ทมฺมี’’ติ วา วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ, อิทฺจ สงฺฆสฺส ปริโภคตฺถาย ทิยฺยมานฺเว สนฺธาย วุตฺตํ, ปุคฺคลสฺส ปน เอวมฺปิ ทินฺนํ ตฬากเขตฺตาทิ น วฏฺฏติ. สุทฺธจิตฺตสฺส ปน อุทกปริโภคตฺถํ กูปโปกฺขรณีอาทโย วฏฺฏนฺติ. ‘‘สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถ’’นฺติ หิ อาทินา สพฺพตฺถ สงฺฆวเสเนว วุตฺตํ. หตฺเถติ วเส.
‘‘เปถาติ วุตฺเต’’ติ อิทํ สามีจิวเสน วุตฺตํ, อวุตฺเตปิ เปนฺตสฺส โทโส นตฺถิ. เตนาห ‘‘อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภตี’’ติ. สสฺสกาเลปิ ตาเสตฺวา มฺุจิตุํ วฏฺฏติ, อมฺุจโต ปน ภณฺฑเทยฺยํ. ปุน เทตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ‘‘เยน เกนจิ อิสฺสเรน ‘ปริจฺจตฺตมิทํ ภิกฺขูหิ, อสฺสามิก’นฺติสฺาย อตฺตนา คเหตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏตี’’ติ ทสฺเสติ. กปฺปิยโวหาเรปิ วินิจฺฉยํ วกฺขามาติ ปาเสโส.
อุทกวเสนาติ อุทกปริโภคตฺถํ. ‘‘สุทฺธจิตฺตาน’’นฺติ อิทํ สหตฺเถน จ อกปฺปิยโวหาเรน จ กโรนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. สสฺสสมฺปาทนตฺถนฺติ เอวํ อสุทฺธจิตฺตานมฺปิ ปน สยํ อกตฺวา กปฺปิยโวหาเรน อาณาเปตุํ วฏฺฏติ เอว. ‘‘กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สหตฺถาทินา กตตฬากตฺตา ‘‘อสารุปฺป’’นฺติ วุตฺตํ, เปนฺตสฺส, ปน ตํ ปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตสฺสปิ วา สงฺฆสฺส อาปตฺติ น วิฺายติ, อฏฺกถาปมาเณน วา เอตฺถ อาปตฺติ คเหตพฺพา. ลชฺชิภิกฺขุนาติ ลชฺชินาปิ, ปเคว อลชฺชินา มตฺติกุทฺธรณาทีสุ การาปิเตสูติ อธิปฺปาโย. นวสสฺเสติ อกตปุพฺเพ เกทาเร. ‘‘กหาปเณ’’ติ อิมินา ธฺุฏฺาปเน ตสฺเสว อกปฺปิยนฺติ ทสฺเสติ, ธฺุฏฺาปเน จสฺส ปโยเคปิ ทุกฺกฏเมว, น กหาปณุฏฺาปเน วิย.
‘‘กสถ วปถา’’ติ วจเน สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยํ สิยาติ อาห ‘‘อวตฺวา’’ติ. เอตฺตโก นาม ภาโคติ เอตฺถ เอตฺตโก กหาปโณติ อิทมฺปิ สนฺธาย วทติ. ตถา วุตฺเตปิ หิ ตทา กหาปณานํ อวิชฺชมานตฺตา ¶ อายตึ อุปฺปนฺนํ อฺเสํ วฏฺฏติ เอว. เตนาห ‘‘ตสฺเสว ตํ อกปฺปิย’’นฺติ. ตสฺส ปน สพฺพปโยเคสุ, ปริโภเคสุปิ ทุกฺกฏํ. เกจิ ปน ‘‘ธฺปริโภเค เอว อาปตฺติ, น ปุพฺพปโยเค’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เยน มินนรกฺขณาทิปโยเคน ปจฺฉา ธฺปริโภเค อาปตฺติ โหติ, ตสฺส ปโยคสฺส กรเณ อนาปตฺติยา อยุตฺตตฺตา. ปริยายกถาย ปน สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. เตเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ นิยมวจเน อกปฺปิยํ ¶ วุตฺตํ, กหาปณวิจารเณปิ เอเสว นโย. วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถีติ วตฺตพฺพนฺติอาทิวจนฺเจตฺถ สาธกํ.
วนํ ทมฺมิ…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ นิวาสฏฺานตฺตา ปุคฺคลสฺสาปิ สุทฺธจิตฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. สีมํ เทมาติ วิหารสีมาทิสาธารณวจเนน วุตฺตตฺตา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เวยฺยาวจฺจกร’’นฺติอาทินา วุตฺเตปิ ปุคฺคลสฺสปิ ทาสํ คเหตุํ วฏฺฏติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติ (ปารา. ๖๑๙; มหาว. ๒๗๐) วิเสเสตฺวา อนฺุาตตฺตา, ตฺจ โข ปิลินฺทวจฺเฉน คหิตปริภุตฺตกฺกเมน, น คหฏฺานํ ทาสปริโภคกฺกเมน. เขตฺตาทโย ปน สพฺเพ สงฺฆสฺเสว วฏฺฏนฺติ ปาฬิยํ ปุคฺคลิกวเสน คเหตุํ อนนฺุาตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. วิหารสฺส เทมาติ สงฺฆิกวิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) สุตฺตนฺเตสุ อาคตปฏิกฺเขโป ภควตา อาปตฺติยาปิ เหตุภาเวน กโตติ ภควโต อธิปฺปายํ ชานนฺเตหิ สงฺคีติมหาเถเรหิ เขตฺตปฏิคฺคหณาทินิสฺสิโต อยํ สพฺโพปิ ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. กปฺปิยการกสฺส นิทฺทิฏฺภาโว, ทูเตน อปฺปิตตา, ตตุตฺตริ วายาโม, เตน ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.
๒. โกสิยวคฺโค
๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๒. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม ปาฬิยํ โกสิยการเกติ โกสการกปาณานํ โกสโต นิพฺพตฺตตฺตา โกสิเยน สุตฺเตน วตฺถาทึ กโรนฺเต. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ.
๕๔๔. ‘‘อวายิม’’นฺติ วุตฺตตฺตา วายิตฺวา กรเณ อนาปตฺติ. มิสฺเสตฺวาติ เอฬกโลเมหิ มิสฺเสตฺวา. ปฏิลาเภนาติ ปรินิฏฺาเนน ‘‘ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๔๕) วุตฺตตฺตา, โกสิยมิสฺสกตา, อตฺตโน อตฺถาย สนฺถตสฺส กรณการาปนํ, ปฏิลาโภ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๔๗-๕๕๒. ทุติยฺจ ตติยฺจ อุตฺตานเมว. ตตฺถ ปน โอทาตาทิมิสฺสกสฺาย สุทฺธกาฬกานฺเว สนฺถตสฺส กรณวเสน เจตฺถ ทฺเวภาคโต อธิเกสุ สุทฺธกาฬเกสุ อนธิกสฺาย สนฺถตสฺส กรณวเสน จ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา.
๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๗. จตุตฺเถ หท กรีสุสฺสคฺเค, มิห เสจเนติ ธาตุอตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตี’’ติ. อูนกฉพฺพสฺเสสุ อติเรกฉพฺพสฺสสงฺกิตาทิวเสเนตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา.
ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๖๕. ปฺจเม ¶ ¶ ตตฺถ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ สกาย กติกาย อยุตฺตการิตาวเสน วิฺูหิ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. อรฺกงฺคาทีนิ ตีณิ ปาฬิยํ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยสฺส อาทิองฺควเสน วุตฺตานิ, เสสานิปิ เต สมาทิยึสุ เอวาติ เวทิตพฺพํ.
๕๖๖. ปิหยนฺตาติ ปตฺถยนฺตา. สนฺถตสฺส อวายิมตฺตา, เสนาสนปริกฺขารตฺตา จ จีวรตา, อธิฏฺาตพฺพตา จ นตฺถีติ อาห ‘‘จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ, วิปลฺลาสสฺายาติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อิทํ นิสีทนสนฺถตํ นาม นวสุ จีวเรสุ นิสีทนจีวรเมว, นาฺํ. นิสีทนสิกฺขาปเทปิ (ปาจิ. ๕๓๑ อาทโย) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วิย ‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’ติ จ อฏฺกถายฺจสฺส ‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺเต ปเทเส ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กรียนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจตี’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๑) จ วุตฺตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อิธ ปมาณนิยมสฺส อวุตฺตตฺตา, สนฺถตสฺส จ อวายิมจีวรตฺตา, อธิฏฺานุปคตฺตาภาวา อฏฺกถายํ อวุตฺตตฺตา จ. นิสีทนจีวรํ ปน ฉนฺนํ จีวรานํ ขณฺฑปิโลติกานิ ปมาณยุตฺตเมว สนฺถริตฺวา สนฺถตํ วิย กโรนฺติ. เตเนว ‘‘สนฺถตสทิส’’นฺติ สทิสคฺคหณํ กตํ, ตสฺมา ตเทว จีวรํ อธิฏฺานุปคฺจ, น อิทนฺติ คเหตพฺพํ.
๕๖๗. สุคตวิทตฺถิกํ อนาทาย อาทิยนฺติสฺาย, สุคตวิทตฺถิอูเน อนูนนฺติสฺาย จ วเสเนตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา. วิตานาทีนฺเว อตฺถาย กรเณ อนาปตฺติวจนโต นิปชฺชนตฺถาย กโรโตปิ อาปตฺติ เอว. ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ โกสิเยสุ สุทฺธกาฬกานฺจ วตฺถูนํ อกปฺปิยตฺตา วุตฺตํ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๔๕, ๕๕๐) ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตํ, อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ จตุตฺเถ อฺสฺสตฺถาย กรเณปิ อนาปตฺติ, ปฺจเม ตตฺถ ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิสฺสฏฺทานวจนโต ปน คหเณ โทโส นตฺถิ, ปริภฺุชเน จ วิชเฏตฺวา กปฺปิยวเสน กเต น โทโส.
นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๒. ฉฏฺเ ¶ ¶ ปาฬิยํ ‘‘อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสา’’ติ อิทํ วตฺถุวเสน วุตฺตํ. นิวาสฏฺาเน ลทฺธานิปิ ติโยชนโต ปรํ หริตุํ น วฏฺฏติ เอว. อสนฺเต หารเกติ อนุรูปโต วุตฺตํ. สนฺเตปิ หารเก หรโต นตฺถิ โทโส. อาปตฺติเยวาติ อนาณตฺเตน หฏตฺตา. ปกฺขทฺวยสฺสปิ การณมาห ‘‘สอุสฺสาหตฺตา’’ติ, อนุปรตคมนิจฺฉตฺตาติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺตปกฺขสฺเสว การณมาห ‘‘อจิตฺตกตฺตา’’ติ. น สเมตีติ ‘‘อนาปตฺติ, อฺํ หราเปตี’’ติ เอตฺตกสฺเสว ปริหรเณ วุตฺตตฺตา. อคจฺฉนฺเตติ ิเต. เหฏฺาติ ภูมิยา.
๕๗๕. ตํ หรนฺตสฺสาติ ปมํ ปฏิลาภฏฺานโต ปฏฺาย ติโยชนโต อุทฺธํ หรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตถา หรนฺตสฺส หิ โจเรหิ อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน ทินฺนฏฺานโต ติโยชนํ หริตุํ วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘มาติกาฏฺกถายํ องฺเคสุ ‘ปมปฺปฏิลาโภ’ติ วุตฺตตฺตา ทุติยปฏิลาภฏฺานโต ติโยชนาติกฺกเมปิ อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, ทุติยปฏิลาภสฺสาปิ ปฏิลาภฏฺาเน ปวิสนโต วาสตฺถาย คมนฏฺานโต ปุน คมเน วิย. กายพนฺธนาทีนนฺติ ทฺวิปฏลกายพนฺธนาทีนํ อนฺตเร ปกฺขิตฺตํ ปสิพฺพเก ปกฺขิตฺตสทิสํ, น กตภณฺฑนฺติ วุตฺตํ, ตถา นิธานมุขนฺติ. อกตภณฺฑตา, ปมปฺปฏิลาโภ, ติโยชนาติกฺกมนํ, อาหรณปจฺจาหรณํ, อวาสาธิปฺปายตาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๑. สตฺตเม ปาฬิยํ อนาปตฺติวาเร อปริภุตฺตํ กตภณฺฑํ โธวาเปตีติ เอตฺถ ปริภุตฺตสฺส กมฺพลาทิกตภณฺฑสฺส โธวาปนํ ปุราณจีวรโธวาปนสิกฺขาปเทน อาปตฺติกรนฺติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อปริภุตฺตํ กตภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๓-๔. อฏฺเม ¶ ¶ สุวณฺณมยกหาปเณน กหาปโณปิ รชเต เอว สงฺคยฺหตีติ อาห ‘‘โสวณฺณมโย วา’’ติ. รูปิยมโย วาติ รชเตน รูปํ สมุฏฺเปตฺวา กตกหาปโณ. ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ.
อิจฺเจตํ สพฺพมฺปีติ สิกฺขาปเทน, วิภงฺเคน จ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ นิทสฺเสติ. ตสฺส จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถูติ อิมินาว สมฺพนฺโธ, น ปน อนนฺตเรน ‘‘รชต’’นฺติ ปเทน. อิทานิ ตํ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘รชต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ เหฏฺา รชตมาสโกว วุตฺโต, น เกวลํ รชตํ, ตถาปิ สิกฺขาปเท ‘‘ชาตรูปรชต’’นฺติ ปเทเนว วุตฺตนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘รชต’’นฺติ อิทํ วิสุํ วุตฺตํ. ปทภาชเน ปน มาติกาปเทเนว สิทฺธตฺตา ตํ อวตฺวา เตน สห สงฺคยฺหมานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ชาตรูปมาสโกติ สุวณฺณมยกหาปโณ. วุตฺตปฺปเภโทติ ‘‘รูปิยมโย วา ปากติโก วา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปเภโท. ปโฏว ปฏโก, วตฺถํ. ทุกฺกฏเมวาติ ปฏิคฺคาหกสฺเสว ปฏิคฺคหณปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ปริโภเค ปน ปฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตานํ ธฺวิรหิตมุตฺตาทีนํ การณา อุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏเมว. เกจิ ปน ‘‘ธฺมฺปิ ปฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตํ มุตฺตาทิเขตฺตาทิ วิย สพฺเพสมฺปิ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, เกวลํ สงฺฆิกภูมิยํ กปฺปิยโวหาเรน จ อุปฺปนฺนสฺส ธฺสฺส วิจารณเมว สนฺธาย ‘ตสฺเสเวตํ อกปฺปิย’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.
เอโก สตํ วา สหสฺสํ วาติอาทิ รูปิเย เหฏฺิมโกฏิยา ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น ปน ‘‘เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวา’’ติ ทสฺเสตุํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ วุตฺเต อุคฺคณฺหาปนํ โหตีติ อาห ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. กปฺปิยฺจ…เป… โหตีติ ยสฺมา อสาทิตตฺตา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ. ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย สติ ตโต อุปฺปนฺนมฺปิ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิต’’นฺติ อิมินา เจตาปิตํ เจ, นตฺถิ ปริโภคูปาโย อุคฺคเหตฺวา อนิสฺสฏฺรูปิเยน เจตาปิตตฺตา. อีทิสฺหิ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชนํ กตฺวาว ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ¶ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ เจตาปิตํ ¶ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺเฆ นิสฺสฏฺํ กปฺปิยการเกหิ นิสฺสฏฺรูปิยํ ปริวตฺเตตฺวา อานีตกปฺปิยภณฺฑสทิสํ โหติ, ตสฺมา วินาว อุปายํ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปตฺตจตุกฺกาทิกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙) น สเมติ. ตตฺถ รูปิเยน ปริวตฺติตปตฺตสฺส อปริโภโคว ทสฺสิโต, น นิสฺสชฺชนวิธานนฺติ. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวาติ กปฺปิยการเกหิ วฑฺฒิยา ปโยชนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อกปฺปิยนฺติ เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา วุตฺตํ.
๕๘๕. ‘‘ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตนา’’ติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ ปริยายาทินา อภูตาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถยฺยปริโภโคติ ปจฺจยสามินา ภควตา อนนฺุาตตฺตา วุตฺตํ. อิณปริโภโคติ ภควตา อนฺุาตมฺปิ กตฺตพฺพํ อกตฺวา ปริภฺุชนโต วุตฺตํ, เตน จ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ วิปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเค. ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ โยชนา. อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺต’’นฺติอาทินาปิ อตีตปจฺจเวกฺขณา วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปริโภเค ปริโภเคติ อุทกปตนฏฺานโต อนฺโตปเวสเนสุ, นิสีทนสยเนสุ จ. สติปจฺจยตา วฏฺฏตีติ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ ปจฺจเวกฺขณาสติ อวสฺสํ ลทฺธพฺพาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘สติปจฺจยตา ปจฺจเย สติ เภสชฺชปริโภคสฺส การเณ สตี’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ, เตสมฺปิ ปจฺจเย สตีติ ปจฺจยสพฺภาวสลฺลกฺขเณ สตีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน สีลสฺส อสุชฺฌนโต. ‘‘ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เภโท ทสฺสิโต, น ปจฺจยสนฺนิสฺสฺสิสีลสฺส, ตสฺส อตีตปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌนโต. เอตสฺมึ, ปน เสสปจฺจเยสุ จ อิณปริโภคาทิวจเนน ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺเสว เภโทติ เอวมิเมสํ นานากรณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ วิสุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ ¶ เทสนาทีหิ, โสธียตีติ วา สุทฺธิ, จตุพฺพิธสีลํ. เตนาห ‘‘เทสนาย สุชฺฌนโต’’ติอาทิ. เอตฺถ เทสนาคฺคหเณน วุฏฺานมฺปิ ฉินฺนมูลานํ อภิกฺขุตาปฏิฺาปิ สงฺคหิตา. ฉินฺนมูลานมฺปิ หิ ปาราชิกาปตฺติวุฏฺาเนน เหฏฺา ปริรกฺขิตํ ภิกฺขุสีลํ วิสุทฺธํ นาม โหติ, เตน เตสํ มคฺคปฏิลาโภปิ สมฺปชฺชติ.
ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา. สตฺตนฺนํ เสกฺขานนฺติ เอตฺถ กลฺยาณปุถุชฺชนาปิ สงฺคหิตา เตสํ อาณณฺยปริโภคสฺส ทายชฺชปริโภเค สงฺคหิตตฺตาติ เวทิตพฺพํ ¶ . ธมฺมทายาทสุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๙) ปวตฺตํ สุตฺตํ. ตตฺถ มา เม อามิสทายาทาติ เอวํ เม-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวฺหิ ตถา วุตฺตตฺถสาธกํ โหติ.
ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโคติ ธมฺมามิสวเสน มิสฺสภาโว. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถี’’ติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุ อาสงฺกา นาม น กาตพฺพา, ทิฏฺสุตาทิการเณ สติ เอว กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. สเจ น โอรมตีติ อคติคมเนน ธมฺมามิสปริโภคโต น โอรมติ. ‘‘อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ อิทํ อลชฺชีนํ ธมฺเมน อุปฺปนฺนปจฺจยํ, ธมฺมกมฺมฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. เตสมฺปิ หิ กุลทูสนาทิสมุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตานํ, วคฺคกมฺมาทึ กโรนฺตานฺจ อาปตฺติ เอว.
‘‘ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เหฏฺา ลชฺชิปริโภโค ปจฺจยวเสน จ เอกกมฺมาทิวเสน จ วุตฺโต เอวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ โจทกจุทิตกภาเว ิตา ทฺเว อลชฺชิโน ธมฺมปริโภคมฺปิ สนฺธาย ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตา เตสํ อฺมฺํ ธมฺมามิสปริโภเค วิโรธาภาวา. ลชฺชีนเมว หิ อลชฺชินา สห ตทุภยปริโภคา น วฏฺฏนฺตีติ.
ธมฺมปริโภโคติ ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส’’ติอาทินา (ปารา. ๕๕, ๙๒, ๑๗๒) วุตฺตสํวาโส เจว นิสฺสยคฺคหณทานาทิโก สพฺโพ นิรามิสปริโภโค จ เวทิตพฺโพ ¶ . ‘‘น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ลชฺชิโน อลชฺชิปคฺคเห อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. อิตโรปีติ ลชฺชีปิ. ตสฺสาปิ อตฺตานํ ปคฺคณฺหนฺตสฺส อลชฺชิโน, อิมินา จ ลชฺชิโน วณฺณภณนาทิลาภํ ปฏิจฺจ อามิสครุกตาย วา เคหสิตเปเมน วา ตํ อลชฺชึ ปคฺคณฺหนฺโต ลชฺชี สาสนํ อนฺตรธาเปติ นามาติ ทสฺเสติ. เอวํ คหฏฺาทีสุ อุปตฺถมฺภิโต อลชฺชี พลํ ลภิตฺวา เปสเล อภิภวิตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กโรตีติ.
‘‘ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อามิสปริโภคโต ธมฺมปริโภโคว ครุโก, ตสฺมา อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ‘‘ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อลชฺชุสฺสนฺนตาย สาสเน โอสกฺกนฺเต, ลชฺชีสุ จ อปฺปโหนฺเตสุ อลชฺชิมฺปิ ปกตตฺตํ คณปูรกํ ¶ คเหตฺวา อุปสมฺปทาทิกรเณน เจว เกจิ อลชฺชิโน ธมฺมามิสปริโภเคน สงฺคเหตฺวา เสสาลชฺชิคณสฺส นิคฺคเหน จ สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏติ เอว.
เกจิ ปน ‘‘โกฏิยํ ิโต คนฺโถติ วุตฺตตฺตา คนฺถปริยาปุณนเมว ธมฺมปริโภโค, น เอกกมฺมาทิ. ตสฺมา อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถาทิกํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เอกกมฺมาทีสุ พหูสุ ธมฺมปริโภเคสุ อลชฺชินาปิ สทฺธึ กตฺตพฺพาวตฺถายุตฺตํ ธมฺมปริโภคํ ทสฺเสตุํ อิธ นิทสฺสนวเสน คนฺถสฺเสว สมุทฺธฏตฺตา. น หิ เอกกมฺมาทิโก วิธิ ธมฺมปริโภโค น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ อนามิสตฺตา ธมฺมามิเสสุ อปริยาปนฺนสฺส กสฺสจิ อภาวา. เตเนว อฏฺสาลินิยํ ธมฺมปฏิสนฺธารกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๑)‘‘กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ…เป… อพฺภานวุฏฺานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา, ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… อยํ ธมฺมปฏิสนฺธาโร นามา’’ติ เอวํ สงฺฆกมฺมาทิปิ ธมฺมโกฏฺาเส ทสฺสิตํ. เตสุ ปน ธมฺมโกฏฺาเสสุ ยํ คณปูรณาทิวเสน อลชฺชิโน อเปกฺขิตฺวา อุโปสถาทิ วา เตสํ สนฺติกา ธมฺมุคฺคหณนิสฺสยคฺคหณาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เจว ปริโภโค จาติ ธมฺมปริโภโคติ วุจฺจติ, เอตํ ตถารูปปจฺจยํ วินา กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺตสฺส อลชฺชิปริโภโค จ โหติ ทุกฺกฏฺจ. ยํ ปน อลชฺชิสตํ อนเปกฺขิตฺวา ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมํ ¶ วา ปริวาสาทิอุปการกมฺมํ วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เอว, โน ปริโภโค. เอตํ อนุรูปานํ กาตุํ วฏฺฏติ, อามิสทานํ วิย อาปตฺติ นตฺถิ. นิสฺสยทานมฺปิ เตรสสมฺมุติทานาทิ จ วตฺตปฏิวตฺตสาทิยนาทิปริโภคสฺสาปิ เหตุตฺตา น วฏฺฏติ.
โย ปน มหาอลชฺชี อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ กโรติ, ตสฺส สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปสมฺปทาทิอุปการกมฺมมฺปิ อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ จ กาตุํ น วฏฺฏติ, อาปตฺติ เอว โหติ, นิคฺคหกมฺมเมว กาตพฺพํ. เตเนว อลชฺชิปคฺคโหปิ ปฏิกฺขิตฺโต. ธมฺมามิสปริโภควิวชฺชเนนาปิ หิ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห อธิปฺเปโต, โส จ เปสลานํ ผาสุวิหารสทฺธมฺมฏฺิติวินยานุคฺคหาทิอตฺถาย เอตทตฺถตฺตา สิกฺขาปทปฺตฺติยา. ตสฺมา ยํ ยํ ทุมฺมงฺกูนํ อุปตฺถมฺภาย เปสลานํ อผาสุวิหาราย สทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ ปริโภโค วา โหตุ อปริโภโค วา กาตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ กโรนฺตา สาสนํ อนฺตรธาเปนฺติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชนฺติ. ธมฺมามิสปริโภเคสุ เจตฺถ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโค เอว เปสลานํ อผาสุวิหารสทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, น ตถา อามิสปริโภโค. น หิ อลชฺชีนํ ปจฺจยปริโภคมตฺเตน เปสลานํ อผาสุวิหาราทิ โหติ, ยถาวุตฺตธมฺมปริโภเคน ปน โหติ ¶ , ตปฺปริวชฺชเนน จ ผาสุวิหาราทโย. ตถา หิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกมา อลชฺชิปุคฺคลา อุโปสถาทีสุ ปวิฏฺา ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร, วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถา’’ติอาทินา ภิกฺขูหิ วตฺตพฺพา โหนฺติ, ยถา วินยฺจ อติฏฺนฺตา สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน สุฏฺุ นิคฺคเหตพฺพา, ตถา อกตฺวา เตหิ สห สํวสนฺตาปิ อลชฺชิโนว โหนฺติ ‘‘เอโกปิ อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕). ยทิ หิ เต เอวํ น นิคฺคหิตา สิยุํ, สงฺเฆ กลหาทึ วฑฺเฒตฺวา อุโปสถาทิสามคฺคีกมฺมปฏิพาหนาทินา เปสลานํ อผาสุํ กตฺวา กเมน เต เทวทตฺตวชฺชิปุตฺตกาทโย วิย ปริสํ วฑฺเฒตฺวา อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺตึ ธมฺมโต วินยโต ทีเปนฺตา สงฺฆเภทาทิมฺปิ กตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อนฺตรธาเปยฺยุํ, เตสุ ปน สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปายํ อุปทฺทโว น โหติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘ทุสฺสีลปุคฺคเล ¶ นิสฺสาย อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ…เป… ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๓๙).
ตสฺมา เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโคว อามิสปริโภคโตปิ อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพ, อาปตฺติกโร จ สทฺธมฺมปริหานิเหตุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
อปิจ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ เอวํ อลชฺชีหิ สทฺธึ สงฺฆกมฺมากรณสฺส อฏฺกถายํ ปกาสิตตฺตาปิ เจตํ สิชฺฌติ, ตถา ปริวตฺตลิงฺคสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนุปสฺสยํ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิปตฺติกถายํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ…เป… อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ, ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภตี’’ติ เอวํ อลชฺชินีสุ ทุติยิกาคหณาทีสุ สํวาสาปตฺติปริหาราย นทีปารคมนาทิครุกาปตฺติฏฺานานํ อนฺุาตตฺตา ตโตปิ อลชฺชิสํวาสาปตฺติ เอว สทฺธมฺมปริหานิเหตุโต ครุกตราติ วิฺายติ. น หิ ลหุกาปตฺติฏฺานํ, อนาปตฺติฏฺานํ วา ปริหริตุํ ครุกาปตฺติฏฺานวีติกฺกมํ อาจริยา อนุชานนฺติ, ตถา อสํวาสปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพหิปิ ลชฺชิปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขาตา นาม. เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห ¶ วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา เอโส สํวาโส นามา’’ติ เอวํ ลชฺชีเหว เอกกมฺมาทิสํวาโส วฏฺฏตีติ ปกาสิโต.
ยทิ เอวํ, กสฺมา อสํวาสิเกสุ อลชฺชี น คณิโตติ? นายํ วิโรโธ, เย คณปูรเก กตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ, เตสํ ปาราชิกาทิอปกตตฺตานฺเว อสํวาสิกตฺเต คหิตตฺตา. อลชฺชิโน ปน ปกตตฺตภูตาปิ สนฺติ, เต เจ คณปูรณา หุตฺวา กมฺมํ สาเธนฺติ, เกวลํ กตฺวา อคติคมเนน กโรนฺตานํ อาปตฺติกรา โหนฺติ สภาคาปตฺติอาปนฺนา ¶ วิย อฺมฺํ. ยสฺมา อลชฺชิตฺจ ลชฺชิตฺจ ปุถุชฺชนานํ จิตฺตกฺขณปฏิพทฺธํ, น สพฺพกาลิกํ. สฺจิจฺจ หิ วีติกฺกมจิตฺเต อุปฺปนฺเน อลชฺชิโน ‘‘น ปุน อีทิสํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตน ลชฺชิโน จ โหนฺติ, เตสุ จ เย เปสเลหิ โอวทิยมานาปิ น โอรมนฺติ, ปุนปฺปุนํ วีติกฺกมนฺติ, เต เอว อสํวสิตพฺพา, น อิตเร ลชฺชิธมฺเม โอกฺกนฺตตฺตา. ตสฺมาปิ อลชฺชิโน อสํวาสิเกสุ อคเณตฺวา ตปฺปริวชฺชนตฺถํ โสเธตฺวาว อุโปสถาทิกรณํ อนฺุาตํ. ตถา หิ ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๔) อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถกรณสฺส อยุตฺตตา ปกาสิตา, ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺย…เป… ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) เอวํ อลชฺชิมฺปิ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาเปตฺวา อุโปสถกรณปฺปกาโร จ วุตฺโต, ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา…เป… ปริสุทฺเธตฺถายสฺมนฺโต’’ติ (ปารา. ๔๔๒, ๔๕๘, ๖๖๒; ปาจิ. ๕๕๑, ๕๗๕, ๖๕๕) จ ปาริสุทฺธิอุโปสเถ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) จ เอวํ อุโปสถํ กโรนฺตานํ ปริสุทฺธตา จ ปกาสิตา, วจนมตฺเตน อโนรมนฺตานฺจ อุโปสถปวอารณฏฺปนวิธิ จ วุตฺตา, สพฺพถา ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมนฺเตหิ สํวาสสฺส อยุตฺตตาย นิสฺสยทานคฺคหณปฏิกฺเขโป, ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมกรณฺจ อุกฺเขปนียกมฺมกรเณน สานุวตฺตกปริสสฺส อลชฺชิสฺส อสํวาสิกตฺตปาปนวิธิ จ วุตฺตา. ตสฺมา ยถาวุตฺเตหิ สุตฺตนเยหิ, อฏฺกถาวจเนหิ จ ปกตตฺเตหิปิ อปกตตฺเตหิปิ สพฺเพหิ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิสํวาโส น วฏฺฏติ, กโรนฺตานํ อาปตฺติ เอว ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหตฺถาเยว สพฺพสิกฺขาปทานํ ปฺตฺตตฺตาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว ทุติยสงฺคีติยํ ปกตตฺตาปิ อลชฺชิโน วชฺชิปุตฺตกา ยสตฺเถราทีหิ มหนฺเตน วายาเมน สงฺฆโต วิโยชิตา. น หิ เตสุ ปาราชิกาทิอสํวาสิกา อตฺถิ เตหิ ทีปิตานํ ทสนฺนํ วตฺถูนํ (จูฬว. ๔๕๒) ลหุกาปตฺติวิสยตฺตา.
ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก. ขรปตฺตนฺติ ขรสงฺขาตํ สุวณฺณปติรูปกํ ¶ วตฺถุ. ทายเกหิ อสติยา ทินฺนํ รูปิยํ เตหิ ปุน สกสฺาย คณฺหนฺเต อทาตุํ, นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ คณฺหาหีติ ทาตฺุจ ¶ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตว โจฬกํ ปสฺสาหี’’ติ. เอวํ วตฺวาปิ ปน นฏฺวตฺถุสฺมึ วิย นิสฺสชฺชิตพฺพาภาเวปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพาว. อสติยาปิ หิ ตํ วตฺถุํ วตฺถาทินา สหตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิทํ เทมี’’ติ ทินฺนํ, ตทา ปริจฺจาคสพฺภาวโต ทานเมว โหติ ‘‘อปฺปคฺฆํ ทสฺสามี’’ติ มหคฺฆสฺส ทาเน วิย. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส จ อสติยา ทิยฺยมานตฺเต าเตปิ อทินฺนาทานํ น โหติ ทายเกหิ ทินฺนตฺตา, ตสฺมา รูปิยํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ. เกจิ ปน ‘‘อีทิสํ นาม น โหติ, เตเนว เจตฺถ ‘ตว โจฬกํ ปสฺสา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ โน นกฺขมติ, วีมํสิตพฺพํ.
๕๘๖. เอกปริจฺเฉทานีติ สิยา กิริยตฺตํ, สิยา อกิริยตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, คหณาทีสุ อฺตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๗. นวเม ชาตรูปาทิจตุพฺพิธนิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณเนว คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ. ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเนติ กปฺปิยโวหาเรน, อกปฺปิยโวหาเรน วา ปฏิคฺคหิตสฺส รูปิยสฺส ปริวตฺตเน.
๕๘๙. ปาฬิยํ ฆนกตนฺติ อิฏฺกาทิ. รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณติอาทีสุ กิฺจาปิ เกวลํ รชตํ น คหิตํ, ตถาปิ รูปิยปเทเนว ตํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สุทฺโธ รูปิยสํโวหาโร เอว วุตฺโตติ อชฺฌาหริตพฺพํ. รูปิเย รูปิยสฺีติอาทิมฺหิ วินิจฺฉยํ วกฺขามาติ ปาเสโส.
๕๙๑. ปาฬิยํ รูปิเย รูปิยสฺีติ อตฺตนา ทิยฺยมานํ สกสนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูปิยํ เจตาเปตีติ ปรสนฺตกํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ อรูปิย-สทฺเทน ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ปจฺฉิเม ปน ติเก ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมสฺมิฺจ ติเก อรูปิย-สทฺเทน กปฺปิยวตฺถุเยว คหิตํ, น มุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถุ อนฺเต ‘‘ปฺจนฺนํ สห อนาปตฺตี’’ติ ¶ วุตฺตตฺตา. กิฺจาปิ ¶ ทุกฺกฏวตฺถุ น คหิตํ, ตถาปิ ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ, กปฺปิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถฺุจ ปริวตฺตยโต ทุกฺกฏํ, นยโต สิทฺธเมว โหติ. ตฺจ ทุกฺกฏวตฺถุมฺหิ ตถสฺาย วา อตถสฺาย วา วิมติยา วา ปริวตฺเตนฺตสฺสปิ โหติเยว อจิตฺตกตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส. ปฺจนฺนํ สหาติ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สห.
อิทานิ ‘‘นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปาฬิยํ สรูเปน อนาคตตฺเตปิ นยโต ลพฺภมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หิ อย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยสฺมา รูปิเยน ปริวตฺติตํ อรูปิยํ นิสฺสฏฺมฺปิ สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยตฺตา นิสฺสคฺคิยเมว น โหติ นิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพสฺเสว นิสฺสชฺชิตพฺพโต, เกวลํ ปน อิทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยเมว ปริวตฺตเกน เทเสตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ ติโก ภควตา น วุตฺโต, ตีสุปิ ปเทสุ ปริวตฺติยมานสฺส อรูปิยตฺเตน นิสฺสคฺคิยวจนาโยคา รูปิยสฺเสว นิสฺสชฺชิตพฺพโต. รูปิยสฺเสว หิ นิสฺสฏฺสฺส อารามิกาทีหิ ปฏิปชฺชนวิธิ ปาฬิยํ ทสฺสิโต, น อรูปิยสฺส. ตสฺมา ปาจิตฺติยมตฺตสมฺภวทสฺสนตฺถเมว ปเนตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘อวุตฺโตปิ อยํ…เป… ติโก เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, น ปน ตสฺส วตฺถุโน นิสฺสคฺคิยตาทสฺสนตฺถํ. เตเนว ปตฺตจตุกฺเก ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิยํ กาตุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อยํ อมฺหากํ ขนฺติ. อตฺตโน วา หีติอาทิ ทุติยติกานุโลเมเนว ตติยตฺติกสฺส สิชฺฌนปฺปการํ สมตฺเถตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยสฺมา หิ ยถา อตฺตโน อรูปิเยน ปรสฺส รูปิยํ เจตาเปนฺตสฺส เอกสฺมึ อนฺเต รูปิยสมฺภวโต ‘‘รูปิยสํโวหาโร กโต เอว โหตี’’ติ ทุติยตฺติโก วุตฺโต, เอวํ อตฺตโน รูปิเยน ปรสฺส อรูปิยํ เจตาเปนฺตสฺสาปิ โหตีติ ตติโย ติโก วตฺตพฺโพ ภเวยฺย, โส ปน ทุติยตฺติเกเนว เอกโต รูปิยปกฺขสามฺเน สิชฺฌตีติ ปาฬิยํ น วุตฺโตติ. ตตฺถ เอกนฺเตน รูปิยปกฺเขติ เอเกน อนฺเตน รูปิยปกฺเข, ‘‘เอกโต รูปิยปกฺเข’’ติ วา ปาโ.
อิทานิ ทุติยตฺติเก อรูปิยปทสฺส อตฺถภูเตสุ ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูสุ ทุกฺกฏวตฺถุนา รูปิยาทิปริวตฺตเน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺกฏวตฺถุนา’’ติอาทิ ¶ อารทฺธํ. ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุนฺติอาทิ ปน ทุกฺกฏวตฺถุนา ปริวตฺตนปฺปสงฺเค ปาฬิยํ อวุตฺตสฺสาปิ อตฺถสฺส นยโต ลพฺภมานตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมินาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน, เตน จ ทุกฺกฏสฺส อจิตฺตกตมฺปิ ทสฺเสติ. อฺตฺร สหธมฺมิเกหีติ ‘‘ปฺจนฺนํ สห อนาปตฺตี’’ติ วจนโต วุตฺตํ, เตนาปิ กยวิกฺกยสิกฺขาปทสฺส กปฺปิยวตฺถุนิสฺสิตตํ เอว สาเธติ. อิมํ…เป… รูปิยเจตาปนฺจ ¶ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ตตฺถาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๙๓).
เอวํ ทุกฺกฏวตฺถุนา รูปิยาทิปริวตฺตเน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กปฺปิยวตฺถุนาปิ ทสฺเสตุํ ‘‘กปฺปิยวตฺถุนา ปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เตเนวาติ กปฺปิยวตฺถุนา เอว. ‘‘รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. มุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ อุคฺคเหตฺวา การิตมฺปิ ปฺจนฺนมฺปิ น วฏฺฏติ เอว. สมุฏฺาเปตีติ สยํ คนฺตฺวา, ‘‘อิมํ กหาปณาทึ กมฺมการานํ ทตฺวา พีชํ สมุฏฺาเปหี’’ติ เอวํ อฺํ อาณาเปตฺวา วา สมุฏฺาเปติ. มหาอกปฺปิโยติ อตฺตนาว พีชโต ปฏฺาย ทูสิตตฺตา อฺสฺส มูลสามิกสฺส อภาวโต วุตฺตํ. โส หิ โจเรหิ อจฺฉินฺโนปิ ปุน ลทฺโธ ชานนฺตสฺส กสฺสจิปิ น วฏฺฏติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตฬากาทีสุ วิย อจฺฉินฺโน วฏฺฏตีติ อาจริยา วเทยฺยุํ. น สกฺกา เกนจิ อุปาเยนาติ สงฺเฆ นิสฺสชฺชเนน, โจราทิอจฺฉินฺทนาทินา จ กปฺปิยํ กาตุํ น สกฺกา, อิทฺจ เตน รูเปน ิตํ, ตมฺมูลิเกน วตฺถุมุตฺตาทิรูเปน ิตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ หิ ตมฺมูลิกกปฺปิยวตฺถฺุจ น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน เตน รูเปน กปฺปิยํ กาตุํ. ยทิ ปน โส ภิกฺขุ เตน กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถุนา ปุน รูปิยํ เจตาเปยฺย, ตํ รูปิยํ นิสฺสชฺชาเปตฺวา อฺเสํ กปฺปิยํ กาตุมฺปิ สกฺกา ภเวยฺยาติ ทฏฺพฺพํ.
ปตฺตํ กิณาตีติ เอตฺถ ‘‘อิมินา กหาปณาทินา กมฺมารกุลโต ปตฺตํ กิณิตฺวา เอหี’’ติ อารามิกาทีหิ กิณาปนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ราชสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหร, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทหีติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) วุตฺตํ ¶ . อิมินา ปน วจเนน ยํ มาติกาฏฺกถายํ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ ‘‘อนาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ. น เกวลฺจ อิมินา, ปาฬิยาปิ ตํ น สเมติ. ปาฬิยฺหิ นิสฺสฏฺรูปิเยน อารามิกาทีหิ สปฺปิยาทึ ปริวตฺตาเปตุํ ‘‘โส วตฺตพฺโพ ‘อาวุโส, อิมํ ชานาหี’ติ. สเจ โส ภณติ ‘อิมินา กึ อาหรียตู’ติ, น วตฺตพฺโพ ‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’ติ. กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘สปฺปิ วา’’’ติอาทินา รูปิยสํโวหารํ ปริโมเจตฺวาว วุตฺตํ. ‘‘อิมินา รูปิเยน กึ อาหรียตู’’ติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘อิมํ อาหรา’’ติ วุตฺเตปิ อธิการโต ‘‘อิมินา รูปิเยน อิมํ อาหรา’’ติ ภิกฺขูหิ อาณตฺโต เอว โหตีติ ตํ รูปิยสํโวหารํ ปริวชฺเชตุํ ‘‘น วตฺตพฺโพ ‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, อนาปตฺติวาเรปิ ‘‘กปฺปิยการกสฺส ¶ อาจิกฺขตี’’ติ น วุตฺตํ. กยวิกฺกยสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๙๕) ปน ตถา วุตฺตํ, ตสฺมา อิทํ สาณตฺติกํ กยวิกฺกยเมว อนาณตฺติกนฺติ คเหตพฺพํ.
มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตาติ เยน อุคฺคหิตมูเลน ปตฺโต กีโต, ตสฺส มูลสฺส สงฺฆมชฺเฌ อนิสฺสฏฺตฺตา, เอเตน รูปิยเมว นิสฺสชฺชิตพฺพํ, น ตมฺมูลิกํ อรูปิยนฺติ ทสฺเสติ. ยทิ หิ เตน รูปิเยน อฺํ รูปิยํ เจตาเปยฺย, ตํ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท อาคตนเยเนว นิสฺสชฺชาเปตฺวา เสเสหิ ปริภฺุชิตพฺพํ ภเวยฺยาติ. ‘‘มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ อิมินา มูลสฺส คิหิสนฺตกตฺตํ, เตเนว ปตฺตสฺส รูปิยสํโวหารานุปฺปนฺนตฺจ ทสฺเสติ. ปฺจสหธมฺมิกสนฺตเกเนว หิ รูปิยสํโวหารโทโส. ตตฺถ จ อตฺตโน สนฺตเก ปาจิตฺติยํ, อิตรตฺถ ทุกฺกฏํ.
นิสฺสชฺชีติ ทานวเสน วุตฺตํ, น วินยกมฺมวเสน. เตเนว ‘‘สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, ตสฺส วา ธนสฺส รูปิยภาโว, ปริวตฺตนปริวตฺตาปเนสุ อฺตรภาโว จาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๓-๕. ทสเม ¶ ปาฬิยํ ชานาหีติ อิทาเนว อุปธาเรหิ, อิทํ ปจฺฉา ฉฑฺเฑตุํ น สกฺกาติ อธิปฺปาโย. อิมินาติ ภิกฺขุนา ทิยฺยมานํ วุตฺตํ. อิมนฺติ ปเรน ปฏิทิยฺยมานํ. เสสาตเกสุ สทฺธาเทยฺยวินิปาตสมฺภวโต ตทภาวฏฺานมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตรํ ปน ปิตรํ วา’’ติ วุตฺตํ. น สกฺกา ตํ ปฏิกฺขิปิตุนฺติ เอตฺถ ยถา รูปิยํ ภตกานํ ทตฺวา อสฺสามิกภูมิยํ อโยพีชสมุฏฺาปเน ภติยา ขณนฺตานํ สนฺติกา คหิตภณฺฑกภาเวปิ ปาจิตฺติยํ โหติ, เอวมิธาปีติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. ยฺหิ อสฺสามิกภูมึ ขณิตฺวา สมุฏฺาปิตํ อโยพีชํ, ตํ ภตกานํ สนฺตกํ นาม โหติ, ตทตฺถฺจ เตสํ รูปิยํ เทนฺตสฺส รูปิยสํโวหาโรว โหติ อกปฺปิยโวหาเรน รชนจฺฉลฺลิอาทีนํ อาหราปเน กยวิกฺกโย วิย, ตาทิสมฺปิ ปรภณฺฑํ อิธ วตฺถโธวนาทีสุ นตฺถิ, ตสฺมา อฏฺกถาปมาเณเนเวตฺถ ปาจิตฺติยํ คเหตพฺพํ.
๕๙๗. ปฺุํ ¶ ภวิสฺสตีติ เทตีติ เอตฺถ สเจ ภิกฺขุ อตฺตโน ภณฺฑสฺส อปฺปคฺฆตํ ตฺวาปิ อกเถตฺวา ‘‘อิทาเนว อุปปริกฺขิตฺวา คณฺห, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี โหหี’’ติ วทติ, อิตโร จ อตฺตโน ทิยฺยมานสฺส มหคฺฆตํ อชานนฺโต ‘‘อูนํ วา อธิกํ วา ตุมฺหากเมวา’’ติ ทตฺวา คจฺฉติ, ภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ อุปนนฺทสฺส วิย ปริพฺพาชกวตฺถุคฺคหเณ. วิปฺปฏิสาริสฺส ปุน สกสฺาย อาคตสฺส ยํ อธิกํ คหิตํ, ตํ ทาตพฺพํ. เยน ยํ ปริวตฺเตติ, เตสํ อุภินฺนํ กปฺปิยวตฺถุตา, อสหธมฺมิกตา, กยวิกฺกยาปชฺชนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๓. ปตฺตวคฺโค
๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐๒. ตติยวคฺคสฺส ¶ ปเม อฑฺฒเตรสปลาติ มาคธิกาย มานตุลาย อฑฺฒเตรสปลปริมิตํ อุทกํ คณฺหนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตถา ¶ ปริมิตํ ยวมาสาทึ คณฺหนฺตึ สนฺธายาติ เกจิ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปกติจตุมุฏฺิกํ กุฑุวํ, จตุกุฑุวํ นาฬิ, ตาย นาฬิยา โสฬส นาฬิโย โทณํ, ตํ ปน มคธนาฬิยา ทฺวาทส นาฬิโย โหนฺตีติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ทมิฬนาฬีติ ปุราณนาฬึ สนฺธาย วุตฺตํ. สา จ จตุมุฏฺิเกหิ กุฑุเวหิ อฏฺ กุฑุวา, ตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย มคธนาฬึ คณฺหาติ. ปุราณา ปน ‘‘สีหฬนาฬิ ติสฺโส นาฬิโย คณฺหาตี’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน มคธนาฬิ อิทานิ ปวตฺตมานาย จตุกุฑุวาย ทมิฬนาฬิยา จตุนาฬิกา โหติ, ตโต มคธนาฬิโต อุปฑฺฒฺจ ปุราณทมิฬนาฬิสงฺขาตํ ปตฺถํ นาม โหติ, เอเตน จ ‘‘โอมโก นาม ปตฺโต ปตฺโถทนํ คณฺหาตี’’ติ ปาฬิวจนฺจ สเมติ, โลกิเยหิปิ –
‘‘โลกิยํ มคธฺเจติ, ปตฺถทฺวยมุทาหฏํ;
โลกิยํ โสฬสปลํ, มาคธํ ทิคุณํ มต’’นฺติ. –
เอวํ โลเก นาฬิยา มคธนาฬิ ทิคุณาติ ทสฺสิตา, เอวฺจ คยฺหมาเน โอมกปตฺตสฺส จ ยาปนมตฺโตทนคาหิกา จ สิทฺธา โหติ. น หิ สกฺกา อฏฺกุฑุวโต อูโนทนคาหินา ปตฺเตน อถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปริเยสิตฺวา ยาเปตุํ. เตเนว เวรฺชกณฺฑฏฺกถายํ ‘‘ปตฺโถ นาม นาฬิมตฺตํ โหติ เอกสฺส ปุริสสฺส อลํ ยาปนาย. วุตฺตมฺปิ เหตํ ‘ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’’นฺติ (ชา. ๒.๒๑.๑๙๒) วุตฺตํ, ‘‘เอเกกสฺส ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปโหตี’’ติ จ อาคหํ, ตสฺมา อิธ วุตฺตนยานุสาเรเนว คเหตพฺพํ.
อาโลปสฺส ¶ อนุรูปนฺติ เอตฺถ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนโต จตุตฺถภาโค’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) พฺรหฺมายุสุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคเมว พฺยฺชนํ อนุรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. โอทนคติกาเนวาติ โอทนสฺส อนฺโต เอว ปวิสนสีลานิ สิยุํ, อตฺตโน โอกาสํ น คเวสนฺตีติ อตฺโถ. นามมตฺเตติ ‘‘มชฺฌิโม ปตฺโต มชฺฌิโมมโก’’ติอาทินามมตฺเต.
๖๐๗-๘. เอวํ ปโยเค ปโยเคติ ปริโยสานาโลปชฺโฌหรณปโยเค ปโยเค, อาโลเป อาโลเปติ อตฺโถ. กตฺวาติ ปากปริโยสานํ กตฺวา. ปจิตฺวา เปสฺสามีติ กาฬวณฺณปากํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ. ฉิทฺทนฺติ มุขวฏฺฏิโต ทฺวงฺคุลสฺส เหฏฺาฉิทฺทํ วุตฺตํ. เสสํ ปมกถิเน วุตฺตนยเมว.
ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐๙-๖๑๓. ทุติเย ปาฬิยํ อหํ ปตฺเตน เต ภิกฺขู สนฺตเปสฺสามีติ เสโส. ‘‘อปตฺโต’’ติ อิมินา อธิฏฺานวิชหนมฺปิ ทสฺเสติ. ปฺจพนฺธเนปิ ปตฺเต อปริปุณฺณปาเก ปตฺเต วิย อธิฏฺานํ น รุหติ. ‘‘ติปุปฏฺฏเกน วา’’ติ วุตฺตตฺตา ตมฺพโลหาทีหิ กปฺปิยโลเหหิ อโยปตฺตสฺส ฉิทฺทํ ฉาเทตุํ วฏฺฏติ. เตเนว ‘‘โลหมณฺฑลเกนา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อกาฬวณฺณมฺปิ กปฺปิยปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ. อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อูนปฺจพนฺธนตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกตวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๑๘-๖๒๑. ตติเย ปาฬิยํ ปิลินฺทวจฺฉตฺเถเรน ‘‘น โข, มหาราช, ภควตา อารามิโก อนฺุาโต’’ติ ปมํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติ ปุคฺคลานมฺปิ อารามิกนาเมน ทาสคฺคหเณ อนฺุาเต เอว อารามิกานํ คหิตตฺตา เขตฺตวตฺถาทีนิ กปฺปิยโวหาเรนปิ ปุคฺคลานํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ตถา อนนฺุาตตฺตาติ วิฺายติ. ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) หิ ¶ ปฏิกฺขิตฺเตสุ เอกสฺเสว ปุคฺคลิกวเสน คหเณ อนฺุาเต อิตรีตรานํ ตถา น คเหตพฺพตา สิทฺธาว โหติ. ยฺจ ปิลินฺทวจฺฉตฺเถเรน ทายกกุลสฺส ทาริกาย สุวณฺณมาลาวเสน ติณณฺฑุปกสฺส นิมฺมานํ, ตํ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) วจนโต กุลสงฺคหาทิ น โหตีติ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ, เกจิ ปน ‘‘ขีณาสวานํ ลาภิจฺฉาย อภาวโต กุลสงฺคเหปิ ¶ อาชีวโกโป นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ขีณาสวานมฺปิ อาชีววิปตฺติเหตูนํ ปิณฺฑปาตาทีนํ ปริวชฺเชตพฺพโต. วุตฺตฺหิ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘เนว ภินฺเทยฺยมาชีวํ, จชมาโนปิ ชีวิต’’นฺติ (มิ. ป. ๖.๑.๕). ภควตา จ ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชนีย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ (สุ. นิ. ๘๑, ๔๘๔; มิ. ป. ๔.๕.๙; สํ. นิ. ๑.๑๙๗).
๖๒๒. อุคฺคหิตกนฺติ ปริโภคตฺถาย สยํ คหิตํ. สยํ กโรตีติ ปจิตฺวา กโรติ. ปุเรภตฺตนฺติ ตทหุปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา. สยํกตนฺติ ขีรนวนีตํ ปจิตฺวา กตํ. นิรามิสเมวาติ ตทหุปุเรภตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อชฺช สยํกตํ นิรามิสเมว ภฺุชนฺตสฺส กสฺมา สามปาโก น โหตีติ อาห ‘‘นวนีตํ ตาเปนฺตสฺสา’’ติอาทิ. ปฏิคฺคหิเตหีติ ขีรทธีนิ สนฺธาย วุตฺตํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพนฺติ โยชนา. เอเสว นโยติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหีติ หตฺถิอาทีนํ สปฺปิมฺหิ.
เอตฺถ ปนาติ นวนีเต วิเสโส อตฺถีติ อตฺโถ. โธตํ วฏฺฏตีติ โธตเมว ปฏิคฺคหิตุมฺปิ น วฏฺฏติ, อิตรถา สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ โหตีติ เถรานํ อธิปฺปาโย.
มหาสิวตฺเถรสฺส ปน วตฺถุโน วิโยชิตตฺตา ทธิคุฬิกาทีหิ ยุตฺตตามตฺเตน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ปฏิคฺคเหตฺวา โธวิตฺวา, ปจิตฺวา วา นิรามิสเมว กตฺวา ปริภฺุชึสูติ อธิปฺปาโย, น ปน ทธิคุฬิกาทีหิ สห วิกาเล ภฺุชึสุ. เตนาห ‘‘ตสฺมา นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน…เป… สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตี’’ติ. ตตฺถ อโธตํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ ตํ นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน ทธิอาทีนิ อปเนตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ขยํ คมิสฺสตีติ นิรามิสํ โหติ, ตสฺมา วิกาเลปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตาติ นวนีเต ลคฺคมตฺเตน วิสุํ ทธิอาทิโวหารํ อลทฺเธน อปฺปมตฺเตน ทธิอาทินาติ อตฺโถ, เอเตน วิสุํ ปฏิคฺคหิตทธิอาทีหิ สห ปกฺกํ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. ตสฺมิมฺปีติ นิรามิสภูเตปิ. กุกฺกุจฺจกานํ ปน อยํ อธิปฺปาโย – ปฏิคฺคหเณ ตาว ทธิอาทีหิ อสมฺภินฺนรสตฺตา ภตฺเตน สหิเตน คุฬปิณฺฑาทิ ¶ วิย สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหติ, ตํ ¶ ปน ปจนฺเตน โธวิตฺวาว ปจิตพฺพํ, อิตรถา ปจนกฺขเณ ปจฺจมานทธิคุฬิกาทีหิ สมฺภินฺนรสตาย สามํปกฺกํ ชาตํ, เตสุ ขีเณสุ สามํปกฺกเมว โหติ, ตสฺมา นิรามิสเมว ปจิตพฺพนฺติ. เตเนว ‘‘อามิเสน สห ปกฺกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ.
เอตฺถ จายํ วิจารณา – สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตาภาเว อามิเสน สห ภิกฺขุนา ปกฺกสฺส สยํปากโทโส วา ปริสงฺกียติ ยาวกาลิกตา วา, ตตฺถ น ตาว สยํปากโทโส เอตฺถ สมฺภวติ สตฺตาหกาลิกตฺตา. ยฺหิ ตตฺถ ทธิอาทิ อามิสคตํ, ตํ ปริกฺขีณนฺติ. อถ ปฏิคฺคหิตทธิคุฬิกาทินา สห อตฺตนา ปกฺกตฺตา สวตฺถุกปกฺกํ วิย ภเวยฺยาติ ปริสงฺกียติ, ตทา อามิเสน สห ปฏิคฺคหิตตฺตาติ การณํ วตฺตพฺพํ, น ปน ปกฺกตฺตาติ. ตถา จ อุปฑฺฒตฺเถรานํ มตเมว องฺคี กตํ สิยา. ตตฺถ จ สามเณราทีหิ ปกฺกมฺปิ ยาวกาลิกเมว สิยา ปฏิคฺคหิตขีราทึ ปจิตฺวา อนุปสมฺปนฺเนหิ กตสปฺปิอาทิ วิย จ, น จ ตํ ยุตฺตํ, ภิกฺขาจาเรน ลทฺธนวนีตาทีนํ ตกฺกาทิอามิสสํสคฺคสมฺภเวน อปริภฺุชิตพฺพตาปสงฺคโต. น หิ คหฏฺา โธวิตฺวา, โสเธตฺวา วา ปตฺเต อากิรนฺตีติ นิยโม อตฺถิ, อฏฺกถายฺจ ‘‘ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ…เป… ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา วจเนนเปตํ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา อิธ กุกฺกุจฺจกานํ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติยา นิมิตฺตเมว น ทิสฺสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ‘‘ลชฺชี สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ สามิสปากํ โมเจนฺโต อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา…เป… วฏฺฏตี’’ติ วจนสฺสาปิ นิมิตฺตํ น ทิสฺสติ. ยทิ หิ เอตํ ยาวกาลิกสํสคฺคปริหาราย วุตฺตํ สิยา, อตฺตนาปิ ตถา กาตพฺพํ ภเวยฺย. คหฏฺเหิ ทินฺนสปฺปิอาทีสุ จ อามิสสํสคฺคสงฺกา น วิคจฺเฉยฺย. น หิ คหฏฺา เอวํ วิลียาเปตฺวา ปน ตณฺฑุลาทึ อปเนตฺวา ปุน ปจนฺติ, อปิจ เภสชฺเชหิ สทฺธึ ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ยถา ขีราทิ ขยํ คจฺฉติ, เอวํ ปเรหิ ปกฺกเภสชฺชเตลาทิปิ ยาวกาลิกเมว สิยา, น จ ตมฺปิ ยุตฺตํ ทธิอาทิขยกรณตฺถํ ‘‘ปุน ปจิตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา มหาสิวตฺเถรวาเท กุกฺกุจฺจํ อกตฺวา อโธตมฺปิ นวนีตํ ตทหุปิ ปุนทิวสาทีสุปิ ปจิตุํ, ตณฺฑุลาทิมิสฺสํ สปฺปิอาทึ อตฺตนาปิ อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ตกฺกาทิขยตฺถํ ปจิตฺุจ วฏฺฏติ.
ตตฺถ ¶ วิชฺชมานสฺสปิ ปจฺจมานกฺขเณ สมฺภินฺนรสสฺส ยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺเตน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตปุเรปฏิคฺคหิตานมฺปิ อพฺโพหาริกโตติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ. เตเนว ‘‘เอตฺตาวตา ¶ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตี’’ติ วุตฺตํ. วิสุํ ปฏิคฺคหิเตน ปน ขีราทิอามิเสน นวนีตาทึ มิสฺเสตฺวา ภิกฺขุนา วา อฺเหิ วา ปกฺกเตลาทิเภสชฺชํ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ ปวิฏฺยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺตาภาวา. ยํ ปน ปุเรปริคฺคหิตเภสชฺเชหิ อปฺปฏิคฺคหิตํ ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเตลาทิกํ อนุปสมฺปนฺเนเหว ปกฺกมฺปิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตมฺปิ สนฺนิธิปิ น โหติ, ตตฺถ ปกฺขิตฺตขีราทิกสฺสปิ ตสฺมึ ขเณ สมฺภินฺนรสตาย ปุเรปฏิคฺคหิตตฺตาปตฺติโต. สเจ ปน อปฺปฏิคฺคหิเตเหว, อฺเหิ วา ปกฺกเตลาทีสุปิ สเจ อามิสรโส ปฺายติ, ตํ ยาวกาลิกเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. อุคฺคเหตฺวาติ สยเมว คเหตฺวา.
ปริสฺสาเวตฺวา คหิตนฺติ ตณฺฑุลาทิวิคมตฺถํ ปริสฺสาเวตฺวา, ตกฺกาทิวิคมตฺถํ ปุน ปจิตฺวา คหิตนฺติ อตฺโถ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหีติ อติเรกสตฺตาหปฏิคฺคหิเตหิ, เอเตน เตหิ ยุตฺตมฺปิ สปฺปิอาทิ อติเรกสตฺตาหปฏิคฺคหิตํ น โหตีติ ทสฺเสติ. วทฺทลิสมเยติ วสฺสกาลสมเย, อนาตปกาเลติ อตฺโถ.
นิพฺพฏฺฏิตตฺตาติ ยาวกาลิกวตฺถุโต วิเวจิตตฺตา, เอเตน เตเล สภาวโต ยาวกาลิกตฺตาภาวํ, ภิกฺขุโน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณน ยาวกาลิกตฺตุปคมนฺจ ทสฺเสติ. อุภยมฺปีติ อตฺตนา, อฺเหิ จ กตํ.
๖๒๓. อจฺฉวสนฺติ ทุกฺกฏวตฺถูนฺเว อุปลกฺขณนฺติ อาห ‘‘เปตฺวา มนุสฺสวส’’นฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. ติณฺณํ ทุกฺกฏานนฺติ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ตีณิ ทุกฺกฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจาปิ ปริโภคตฺถาย วิกาเล ปฏิคฺคหณปจนปริสฺสาวนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ อาปตฺติ น วุตฺตา, ตถาปิ เอตฺถ อาปตฺติยา เอว ภวิตพฺพํ ปฏิกฺขิตฺตสฺส กรณโต อาหารตฺถาย วิกาเล ยามกาลิกาทีนํ ปฏิคฺคหเณ วิย. ยสฺมา ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเภสชฺชเตเล กสฏํ อามิสคติกํ, เตน สห เตลํ ปฏิคฺคเหตุํ, ปจิตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายตี’’ติ. สเจ วสาย สห ปกฺกตฺตา น วฏฺฏติ, อิทํ กสฺมา น วฏฺฏตีติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘ภนฺเต ¶ …เป… วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เถโร อติกุกฺกุจฺจตาย จ ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ อาห. โรคนิคฺคหตฺถาย เอว วสาย อนฺุาตตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺฉา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
‘‘มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหี’’ติ อิทํ ขุทฺทกภมรานํ ทฺวินฺนํ เอว วิเสสนนฺติ เกจิ วทนฺติ ¶ , อฺเ ปน ‘‘ทณฺฑเกสุ มธุการิกา มธุกรีมกฺขิกา นาม, ตาหิ สห ติสฺโส มธุมกฺขิกาชาติโย’’ติ วทนฺติ. ภมรมกฺขิกาติ มหาปฏลการิกา. สิเลสสทิสนฺติ สุกฺขตาย วา ปกฺกตาย วา ฆนีภูตํ. อิตรนฺติ ตนุกมธุ.
อุจฺฉุรสํ อุปาทายาติ นิกฺกสฏรสสฺสปิ สตฺตาหกาลิกตํ ทสฺเสติ ‘‘อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ ปาฬิยํ สามฺโต วุตฺตตฺตา. ยํ ปน สุตฺตนฺตฏฺกถายํ ‘‘อุจฺฉุ เจ, ยาวกาลิโก. อุจฺฉุรโส เจ, ยามกาลิโก. ผาณิตํ เจ, สตฺตาหกาลิกํ. ตโจ เจ, ยาวชีวโก’’ติ วุตฺตํ, ตํ อมฺพผลรสาทิมิสฺสตาย ยามกาลิกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, อวินยวจนตฺตา ตํ อปฺปมาณนฺติ. เตเนว ‘‘ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิรามิสเมว วฏฺฏติ ตตฺถ ปวิฏฺยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺตาติ อิทํ คุเฬ กเต ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กสฏํ ปาเกน สุกฺขตาย ยาวชีวิกตฺตํ ภชตีติ วุตฺตํ. ตสฺส ยาวกาลิกตฺเต หิ สามํปาเกน ปุเรภตฺเตปิ อนชฺโฌหรณียํ สิยาติ. ‘‘สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ อิทํ อุจฺฉุรเส จุณฺณวิจุณฺณํ หุตฺวา ิตกสฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน จ อปริสฺสาวิเตน อปฺปฏิคฺคหิเตน อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ฌามอุจฺฉุผาณิตนฺติ อคฺคิมฺหิ อุจฺฉุํ ตาเปตฺวา กตํ. โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตนฺติ ขุทฺทานุขุทฺทกํ ฉินฺทิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา นิปฺปีเฬตฺวา ปกฺกํ.
ตํ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กสฏํ ปกฺกกาเล ยาวกาลิกตฺตํ วิชหตีติ อาห ‘‘ตํ ยุตฺต’’นฺติ. สีโตทเกน กตนฺติ มธุกปุปฺผานิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปจิตฺวา กตํ, อมทฺทิตฺวา กตนฺติ เกจิ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. ขีรชลฺลิกนฺติ ขีรเผณํ. มธุกปุปฺผํ ปนาติอาทิ ยาวกาลิกรูเปน ิตสฺสปิ อวฏฺฏนกเมรยพีชวตฺถุํ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ.
สพฺพานิปีติ ¶ สปฺปิอาทีนิ ปฺจปิ. อาหารกิจฺจํ กโรนฺตานิ เอตานิ กสฺมา เอวํ ปริภฺุชิตพฺพานีติ โจทนาปริหาราย เภสชฺโชทิสฺสํ ทสฺเสนฺเตน ตปฺปสงฺเคน สพฺพานิปิ โอทิสฺสกานิ เอกโต ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตวิธํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปกติเภสชฺชตฺตา วิกฏานิ วิรูปานิ วิสหรณโต มหาวิสยตฺตา มหนฺตานิ จาติ มหาวิกฏานิ. อุปสมฺปทาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน คณงฺคณูปาหนาทึ สงฺคณฺหาติ.
อธิฏฺเตีติ พาหิรปริโภคตฺถเมตนฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ปริโภเค อนเปกฺขตาย ปฏิคฺคหณํ วิชหตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ อฺเสุปิ กาลิเกสุ อนชฺโฌหริตุกามตาย สุทฺธจิตฺเตน ¶ พาหิรปริโภคตฺถาย นิยเมปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหตีติ อิทมฺปิ วิสุํ เอกํ ปฏิคฺคหณวิชหนการณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๖๒๕. สเจ ทฺวินฺนํ…เป… น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปาโ คฬิโต, เอวํ ปเนตฺถ ปาโ เวทิตพฺโพ ‘‘สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ. อฺถา หิ สทฺทปฺปโยโคปิ น สงฺคหํ คจฺฉติ. ‘‘คณฺิปเทปิ จ อยเมว ปาโ ทสฺสิโต’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๖๒๕) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺตีติ อวิภตฺตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ‘‘สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต วุตฺตํ. ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ อิมินา อุปสมฺปนฺนสฺส ทานมฺปิ สนฺธาย ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทินฺนวตฺถุมฺหิ ปฏิคฺคหณสฺส อวิคตตฺเตปิ สกสนฺตกตา วิคตาว โหติ, เตน นิสฺสคฺคิยํ น โหติ. อตฺตนาว ปฏิคฺคหิตตฺตํ, สกสนฺตกตฺตฺจาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, น เอเกน. อนุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทาเน ปน ตทุภยมฺปิ วิชหติ, ปริโภโคเปตฺถ วฏฺฏติ, น สาเปกฺขทาเน ทานลกฺขณาภาวโต. ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ เอตสฺมิฺจ ปาฬิปเท กสฺสจิ อทตฺวา อนเปกฺขตาย ฉฑฺฑนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อนเปกฺโข ทตฺวา’’ติ อิทฺจ ปฏิคฺคหณวิชหนวิธิทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. ปฏิคฺคหเณ หิ วิชหิเต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริโภโค สยเมว วฏฺฏิสฺสติ, ตพฺพิชหนฺจ วตฺถุโน สกสนฺตกตาปริจฺจาเคน โหตีติ, เอเตน จ วตฺถุมฺหิ อชฺโฌหรณาเปกฺขาย สติ ปฏิคฺคหณวิสฺสชฺชนํ นาม วิสุํ น ลพฺภตีติ สิชฺฌติ. อิตรถา หิ ‘‘ปฏิคฺคหเณ อนเปกฺโขว ¶ ปฏิคฺคหณํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ อิมินา เอกสฺส สนฺตกํ อฺเน ปฏิคฺคหิตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ ทสฺเสติ.
เอวนฺติ ‘‘ปุน คเหสฺสามี’’ติ อเปกฺขํ อกตฺวา สุทฺธจิตฺเตน ปริจฺจตฺตตํ ปรามสติ. ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ นิสฺสคฺคิยมูลิกาหิ ปาจิตฺติยาทิอาปตฺตีหิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. ปริโภเค อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ เอตฺถ ปน นิสฺสฏฺปฏิลทฺธสฺส กายิกปริโภคาทีสุ ยา ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตา, ตาย อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. สปฺปิอาทีนํ ปฏิคฺคหิตภาโว, อตฺตโน สนฺตกตา, สตฺตาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๒๘. จตุตฺเถ ¶ เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา…เป… กรณกฺเขตฺตฺจาติ ปมทฺธมาสมฺปิ กรณกฺเขตฺตํ วุตฺตํ. ตํ ‘‘กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ อิมสฺส ปุริมทฺธมาเส วา ปจฺฉิมทฺธมาเส วา กตฺวา ปจฺฉิมมาเสว นิวาเสตพฺพนฺติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ นิวาสเนเยว อาปตฺติยา วุตฺตตฺตาติ. ยํ ปน มาติกาฏฺกถายํ ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ, ปจฺฉิโม อทฺธมาโส กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตํ ตสฺมึเยว อทฺธมาเส กตฺวา นิวาเสตพฺพนฺติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ. อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺเถ คหิเต วิโรโธ นตฺถิ.
‘‘วตฺตเภเท ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วสฺสิกสาฏิกอทินฺนปุพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เย มนุสฺสา’’ติอาทิ. ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายกา นาม สงฺฆํ วา อตฺตานํ วา อปฺปวาเรตฺวาว อนุสํวจฺฉรํ ทายกา.
๖๓๐. ‘‘ฉ มาเส ปริหารํ ลภตี’’ติ เอเตน อนฺโตวสฺเสปิ ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิมทิวสา อกตา ปริหารํ ลภตีติ ทีปิตํ โหติ. เอกมาสนฺติ เหมนฺตสฺส ปจฺฉิมุโปสเถน สห คเณตฺวา วุตฺตํ. ตสฺมึ อุโปสถทิวเส ¶ เอว หิ ตํ มูลจีวรํ กาตพฺพํ, อิตรถา หิ นิสฺสคฺคิยโต. เอกาหทฺวีหาทิวเสน…เป… ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ เอตฺถ เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ทฺวีหานาคตาย…เป… ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ อาสฬฺหีมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ ลทฺธา, ตทเหว รชนกปฺปปริโยสาเนหิ นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ‘‘เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. เอเตเนว นเยน ชุณฺหปกฺขสฺส ฉฏฺิยํ ลทฺธา, นิฏฺิตา จ ‘‘ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ยาว ปมกตฺติกเตมาสิปุณฺณมา, ตาว ลทฺธา, นิฏฺิตา จ ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ปมกตฺติกเตมาสิปุณฺณมิโต ปรํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ยาว จีวรกาโล นาติกฺกมติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ จ ‘‘ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา’’ติ อวิเสเสน วุตฺเตปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ เอกาหทฺวีหาทิวเสน อนาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เตหิ ทิวเสหิ ทสาหํ อนติกฺกมนฺเตน ¶ วสฺสูปนายิกทิวสโต ปฏฺาย อธิฏฺานกฺเขตฺตํ สมฺปตฺตา เอว อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปน ปุพฺเพ ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺิตาปิ น อธิฏฺาตพฺพา อธิฏฺานสฺส อเขตฺตตฺตา. ตาทิสา ปน วสฺสูปนายิกทิวเส เอว อธิฏฺาตพฺพา, อนธิฏฺหโต อรุณุคฺคมเนน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ยทิ เอวํ ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ อิมินา กึ ปโยชนนฺติ เจ? วสฺสานโต ปุพฺเพ เอว ทสาเห อติกฺกนฺเต นิฏฺิตา วสฺสูปนายิกทิวเส เอว อธิฏฺาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา’’ติ.
ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ เตมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อปฺปโหนฺเต นวาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิปุณฺณมาย สตฺตมิโต ปฏฺาย ลทฺธา, นิฏฺิตา จ จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ ภิกฺขุนา วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ ปริเยสนกฺเขตฺตํ วตฺวา ‘‘วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตตฺตา กตายปิ อกตายปิ ¶ มาสมตฺตํ อนธิฏฺาตพฺพตา สิทฺธา. ยสฺมา จ อกตา วสฺสิกสาฏิกสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, อกรณฺจ เกนจิ เวกลฺเลน, น อนาทเรน, ตสฺมา จาตุมาสํ อกตตฺตา เอว ปริหารํ ลภติ, กตา ปน อธิฏฺานกฺเขตฺเต, อกตา จ จีวรกาเล ทสาหปรมสิกฺขาปเทเนว ปริหารํ ลภตีติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. กสฺมาติ อตฺตโน มติยา การณปุจฺฉา. ตสฺมาติ วสฺสาเนเยว วสฺสิกสาฏิกาย อธิฏฺาตพฺพตาวจนโต. ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ สุตฺตํ ปเนตฺถ เสสจีวรานํ เอวํ กาลนิยมาภาวํ สาเธตุํ อุทฺธฏํ. น หิ เตเนตฺถ อฺํ ปโยชนํ อตฺถิ.
กทา อธิฏฺาตพฺพาติอาทิกุรุนฺทิวจเนนาปิ ‘‘ยทา วา ตทา วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทสาหพฺภนฺตเร เอว กตาย อธิฏฺาตพฺพตํ ทสฺเสติ.
ปาฬิยํ อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติอาทีสุ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส. เอเตสฺหิ อสมเย ปริเยสนนิวาสนาปตฺติยา เอว อนาปตฺติ วุตฺตา. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ อยํ นิสฺสคฺคิยา อนาปตฺติ ปาฬิโต สยเมว สิชฺฌตีติ อิมํ อทสฺเสตฺวา อสิชฺฌมานํ นคฺคสฺส นฺหายโต ทุกฺกฏาปตฺติยา เอว อนาปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. น หิ เอสา อนาปตฺติ อวุตฺเต สิชฺฌตีติ. วสฺสิกสาฏิกาย อตฺตุทฺเทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมานิ ¶ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิ. นิวาสนาปตฺติยา ปน สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฏิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ จตฺตาริ องฺคานิ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๑. ปฺจเม ¶ ยมฺปิ…เป… อจฺฉินฺทีติ เอตฺถ ยํ เต อหํ จีวรํ อทาสึ, ตํ ‘‘มยา สทฺธึ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ สฺาย อทาสึ, น อฺถาติ กุปิโต อจฺฉินฺทีติ เอวํ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ.
๖๓๓. เอกํ ทุกฺกฏนฺติ ยทิ อาณตฺโต อวสฺสํ อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณ ปาจิตฺติยเมว. ยทิ น อจฺฉินฺทติ, ตทา เอว ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ ยทิ อาณตฺโต อนนฺตราเยน อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณเยว วตฺถุคณนาย ปาจิตฺติยอาปตฺติโย ปโยคกรณกฺขเณเยว อาปตฺติยา อาปชฺชิตพฺพโต, จีวรํ ปน อจฺฉินฺเนเยว นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ยทิ โส น อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณ เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ อฺตฺถาปิ อีทิเสสุ นโย าตพฺโพ.
๖๓๕. อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตีติ สามเณรสฺส ทานํ ทีเปติ, เตน จ สามเณรกาเล ทตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทโตปิ ปาจิตฺติยํ ทีเปติ. ‘‘ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏตีติ กมฺเม อกเต ภติสทิสตฺตา วุตฺตํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรตา, สามํ ทินฺนตา, สกสฺิตา, อุปสมฺปนฺนตา, โกธวเสน อจฺฉินฺทนํ วา อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๖. ฉฏฺเ วีตวีตฏฺานํ ยสฺมึ จตุรสฺสทารุมฺหิ ปลิเวเนฺติ, ตสฺส ตุรีติ นามํ. วายนฺตา ¶ ติริยํ สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺตา วตฺเถ ฆนภาวํ อาปาเทนฺติ, ตํ ‘‘เวม’’นฺติ วุจฺจติ.
‘‘อิตรสฺมึ ตเถว ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา วายิตุํ อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ยถาวุตฺตปริจฺเฉทนิฏฺิเตเยว ทุกฺกฏมฺปิ โหติ, น ตโต ปุพฺเพ วายนปโยเคสูติ ทสฺเสติ.
ตนฺเต ¶ ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ เอตฺถ เอกวารํ อธิฏฺิเต ปจฺฉา วีตํ อธิฏฺิตคติกเมว โหติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อนฺตรนฺตรา ทสา เปตฺวา วิสุํ วิสุํ สปริจฺเฉทํ วีตํ โหติ, ปจฺเจกํ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ กปฺปิยสุตฺตํ คเหตฺวา อฺาตกอปฺปวาริเตนาปิ อกปฺปิยตนฺตวาเยน ‘‘สุตฺตมตฺถิ, วายนฺโต นตฺถี’’ติอาทิปริยายมุเขน วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วายาเปยฺยา’’ติ ปทสฺส ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถาติ อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, เอวํ วทนฺโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปติ นาม, นาฺถา.
๖๔๐. อนาปตฺติ จีวรํ สิพฺเพตุนฺติอาทีสุ อิมินา สิกฺขาปเทเนว อนาปตฺติ, อกตวิฺตฺติปจฺจยา ปน ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ. อกปฺปิยสุตฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๒. สตฺตเม ‘‘กิฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยา’’ติ อิทํ ปโยคเภททสฺสนํ, ทานํ ปเนตฺถ องฺคํ น โหติ. เตเนว ตสฺส วิภงฺเค ‘‘อนฺตมโส ธมฺมมฺปิ ภณตี’’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๖. อฏฺเม ¶ ¶ ฉฏฺิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสมารุโณ จีวรกาเล อุฏฺาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ, เตน จ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปฺจมิโต ปฏฺาย ปุณฺณมิโต ปุพฺเพ ทสสุ อรุเณสุ อุฏฺิเตสุปิ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติ. ปุณฺณมิยา สห เอกาทส ทิวสา ลพฺภนฺตีติ เอตฺตกเมว อิมินา สิกฺขาปเทน ลทฺธํ, ฉฏฺิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนํ สพฺพจีวรํ ปมกถินสิกฺขาปทวเสเนว ยาว จีวรกาลํ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ทสฺเสติ.
๖๕๐. อิทานิ ปมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อติเรกจีวรสฺสา’’ติอาทิมาห. ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโ ปาฬิยา สเมติ. เกจิ ปน ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสาติ ปาเน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อฺถา ‘‘นวาหานาคต’’นฺติ วตฺตพฺพโต. ยํ ปเนตฺถ มาติกาฏฺกถายฺจ ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา. อิมเมว จ ปมาทลิขิตํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ ‘‘ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมินฺติ ปุพฺเพ อธิฏฺิเต อุปฺปนฺนกาลาการาทิ สาทิเสน อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมึ จีวเร อจฺเจกจีวรสฺาย จีวรกาลํ อติกฺกเมตีติ อตฺโถ. เตเนเวตฺถ ทุกฺกฏํ, อนาปตฺติ จ วุตฺตา, อิตรถา ตีสุปิ ปเทสุ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺตพฺพโต. อนจฺเจกจีวรมฺปิ หิ จีวรกาลํ อติกฺกมยโต ปาจิตฺติยเมว อจฺเจกจีวรตฺติเก วิยาติ ทฏฺพฺพํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา ¶ , ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๒-๓. นวเม ¶ อนฺตรนฺตรา ฆรเมตฺถาติ อนฺตรฆรนฺติ คาโม วุตฺโตติ อาห ‘‘อนฺโตคาเม’’ติ. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (วิภ. ๖๒๔) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ สานุสารํ อุทฺธฏํ. ตํ สนฺธายาห ‘‘อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยา’’ติ. ตสฺสาปีติ ‘‘วุตฺถวสฺสาน’’นฺติ วิภงฺคปทสฺสปิ. วุตฺถวสฺสานนฺติ จ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, เอเตน จ ปุริมสิกฺขาปเท อนตฺถตกถินานํ กถินมาเสปิ อสมาทานจาโร น ลพฺภตีติ สิทฺธํ โหติ, อิตรถา สิกฺขาปทสฺเสว นิรตฺถกตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
ปริกฺเขปารหฏฺานโตติ เอตฺถ คามปริยนฺเต ิตฆรูปจารโต ปฏฺาย เอโก เลฑฺฑุปาโต ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม. วิสุทฺธิมคฺเคปิ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตโต ปฏฺายา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ. ตนฺติ ตํ ปมเสนาสนาทึ. มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ ปน วิหารสฺสปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.
‘‘โกสมฺพิยํ อฺตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหตี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหตี’’ติ อิมินา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส สกลมฺปิ จีวรมาสํ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏติ, ตโต อฺตฺถ คมนกิจฺเจ สติ วิหารโต พหิ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส อนฺุาโตติ ทีเปติ. เตนาห ‘‘เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุ’’นฺติอาทิ. วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา. ตตฺเถวาติ ตสฺมิฺเว คตฏฺาเน. องฺคานิ ปเนตฺถ อฏฺกถายเมว วุตฺตานิ.
สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๖๐. ทสเม ¶ โรปิตมาลวจฺฉโตติ เกนจิ นิยเมตฺวา โรปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อโนจิตํ มิลายมานํ โอจินิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ปูเชตุํ วฏฺฏติ. ิตํ ทิสฺวาติ เสสกํ คเหตฺวา ิตํ ทิสฺวา. ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถาติ เอตฺถ นิยเมตฺวา ‘‘อสุกสฺส เทหี’’ติ วุตฺเตปิ ¶ โทโส นตฺถิ ‘‘ตุมฺหากํ รุจิยา’’ติ วุตฺตตฺตา. สงฺเฆ ปริณตภาโว, ตํ ตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ตึสกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
วิมติวิโนทนี-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)