📜
จูฬสงฺคามํ
อนุวิชฺชกสฺส ปฏิปตฺติวณฺณนา
๓๖๕. ตตฺร ¶ หีติ ตสฺมึ สนฺนิปาเต. อตฺตปจฺจตฺถิกาติ ลชฺชิเปสลสฺส โจทกปาปครหีปุคฺคลสฺส อนตฺถกามา เวรีปุคฺคลา. สาสนปจฺจตฺถิกาติ อตฺตโน อนาจารานุคุณํ พุทฺธวจนํ ปกาเสนฺโต ตณฺหาคติกา, ทิฏฺิคติกา จ. อชฺโฌคาเหตฺวาติ อลชฺชิอภิภวนวเสน ¶ สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวา. โส สงฺคามาวจโรติ โส โจทโก สงฺคามาวจโร นาม. ทิฏฺสุตมุตมฺปิ ราชกถาทิกนฺติ ทิฏฺสุตวเสเนว ราชโจราทิกถํ, มุตวเสนปิ อนฺนาทิกถฺจ อกเถนฺเตนาติ โยเชตพฺพํ. กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา วาติอาทีสุ รูปารูปปฏิจฺเฉทปเทน สกลอภิธมฺมตฺถปิฏกตฺตํ ทสฺเสติ. สมถาจาราทีหิ ปฏิสํยุตฺตนฺติ สกลสุตฺตนฺตปิฏกตฺตํ. ตตฺถ สมถาจาโร นาม สมถภาวนากฺกโม. ตถา วิปสฺสนาจาโร. านนิสชฺชวตฺตาทินิสฺสิตาติ สงฺฆมชฺฌาทีสุ ครุจิตฺตีการํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา านาทิกฺกมนิสฺสิตา เจว จุทฺทสมหาวตฺตาทิวตฺตนิสฺสิตา จ, อาทิ-สทฺเทน อปฺปิจฺฉตาทินิสฺสิตา จาติ อตฺโถ. ปฺเห อุปฺปนฺเนติ เกนจิ อุปฺปนฺเน ปฺเห ปุจฺฉิเต. อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ, ยํ กิฺจิ อุปฏฺิตํ ธมฺมํ ภาสสฺสูติ อธิปฺปาโย.
กุลปเทโส นาม ขตฺติยาทิชาติยมฺปิ กาสิกราชกุลาทิกุลวิเสโส. เอตเมวาห ‘‘กุลปเทโส ขตฺติยกุลาทิวเสเนว เวทิตพฺโพ’’ติ. สนฺนิปาตมณฺฑเลติ อตฺตโน อนุวิชฺชมานปฺปการํ สงฺฆสฺส าปนตฺถํ อุฏฺาย สงฺฆสนฺนิปาตมชฺเฌ อิโต จิโต จ ปเรสํ มุขํ โอโลเกนฺเตน น จริตพฺพํ. ยถานิสินฺเนเนว ธมฺมวินยานุคุณํ วินิจฺฉยํ ยถา สพฺเพ สุณนฺติ, ตถา วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ อจณฺฑิกเตนาติ อกตจณฺฑภาเวน, อผรุเสนาติ อตฺโถ. ‘‘หิตานุกมฺปินา’’ติ เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาโค วุตฺโต. ‘‘การุณิเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อปฺปนาปฺปตฺตกรุณา วุตฺตา. ‘‘หิตปริสกฺกินา’’ติ อิมินา กรุณาปุพฺพภาโค. เตนาห ‘‘กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ อุปฏฺาเปตพฺโพติ อยํ ปททฺวเยปิ อธิปฺปาโย’’ติ. ลชฺชิยาติ ลชฺชินี.
อนุโยควตฺตํ ¶ กถาเปตฺวาติ ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุตฺตวตฺตํ. อนุยฺุชนาจารกฺกเมเนว อนุยฺุชนํ อนุโยควตฺตํ นาม, ตํ กถาเปตฺวา เตเนว กเมน อนุยฺุชาเปตฺวาติ อตฺโถ. อุชุมทฺทเวนาติ เอตฺถ อชฺฌาหริตพฺพปทํ ทสฺเสติ ‘‘อุปจริตพฺโพ’’ติ. ‘‘ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จา’’ติ อิทํ ‘‘มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปกเตน สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ…เป… มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ’’ติ. ยฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ กตฺตพฺพํ, ตํ ตตฺถ อติกฺกมนฺโต มชฺฌตฺโต นาม น โหติ, ธมฺเมสุ จ คารโว กตฺตพฺโพ. ปุคฺคเลสุ ปน เมตฺตาภาเวน ปกฺขปาตคารโว. ตสฺมา อิมํ วิธึ อนติกฺกนฺโตว เตสุ มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๓๖๖. สํสนฺทนตฺถนฺติ อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วาติ สํสเย ชาเต สํสนฺทิตฺวา นิจฺฉยกรณตฺถํ ¶ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺถทสฺสนายาติ สาเธตพฺพสฺส อาปตฺตาทิอุปเมยฺยตฺถสฺส โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฏิฺาย เอว สรูปวิภาวนตฺถํ. อตฺโถ ชานาปนตฺถายาติ เอวํ วิภาวิโต อตฺโถ โจทกจุทิตกสงฺฆานํ าปนตฺถาย นิชฺฌาปนตฺถาย, สมฺปฏิจฺฉาปนตฺถายาติ อตฺโถ. ปุคฺคลสฺส ปนตฺถายาติ โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฏิฺาย เอว อาปตฺติยํ, อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปนตฺถาย. สารณตฺถายาติ ปมุฏฺสราปนตฺถาย. สวจนียกรณตฺถายาติ โทเส สาริเตปิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปฏิกมฺมํ อกโรนฺตสฺส สวจนียกรณตฺถาย. ‘‘น เต อปสาเทตพฺพา’’ติ อิทํ อธิปฺเปตตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ อวิสํวาทกฏฺาเน ิตา เอว น อปสาเทตพฺพา, น อิตเรติ ทฏฺพฺพํ.
อปฺปจฺจยปรินิพฺพานตฺถายาติ อายตึ ปฏิสนฺธิยา อการณภูตปรินิพฺพานตฺถาย. ปรินิพฺพานฺหิ นาม ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมา จุติจิตฺตกมฺมชรูปสงฺขาตา ขนฺธา, เต จ สพฺพาการโต สมุจฺฉินฺนานุสยตาย ปุนพฺภวาย อนนฺตราทิปจฺจยา น โหนฺติ อฺเหิ จ ตณฺหาทิปจฺจเยหิ วิรหิตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อปฺปจฺจยปรินิพฺพาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตนฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เตเนวาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติ. วินยมนฺตนาติ วินยวินิจฺฉโย. โสตาวธานนฺติ โสตสฺส โอทหนํ, สวนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํ อุปฺปชฺชติ าณ’’นฺติ. ยถาวุตฺตาย วินยสํวราทิการณปรมฺปราย วิมุตฺติยา เอว ปธานตฺตา สา ปุน จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อุทฺธโฏติ อาห ‘‘อรหตฺตผลสงฺขาโต วิโมกฺโข’’ติ. อถ วา โย ยํ กิฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ¶ ปรินิพฺพานวเสน จิตฺตสฺส จิตฺตสนฺตติยา, ตปฺปฏิพทฺธกมฺมชรูปสนฺตติยา จ วิโมกฺโข วิมุจฺจนํ อปุนปฺปวตฺติวเสน วิคโม, เอตทตฺถาย เอตสฺส วิคมสฺสตฺถาย เอวาติ เอวํ นิคมนวเสนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๖๗. อนุโยควตฺตคาถาสุ กุสเลน พุทฺธิมตาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน. กตนฺติ นิพฺพตฺติตํ, ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาติอาทีสุ เตเนว กตากตสฺส อชานเนว ปุพฺพาปรํ อชานนสฺส, อฺสฺสปิ ภิกฺขุโน ยํ กตากตํ โหติ, ตมฺปิ น ชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตโน สทิสายาติ ยถาวุตฺเตหิ โทเสหิ ยุตฺตตาย อตฺตนา สทิสาย.
อนุวิชฺชกสฺส ปฏิปตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.