📜
๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. มุสาวาทวคฺโค
๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑. มุสาวาทวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท ขุทฺทกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทก-สทฺโท พหุ-สทฺทปริยาโย’’ติ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ วคฺเคสุ, ขุทฺทเกสุ วา. ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ เหตุโน วิปกฺเขปิ นิพฺพาเน วตฺตนโต อเนกนฺติกตฺเต ปเรหิ วุตฺเต ‘‘น มยา อยํ เหตุ วุตฺโต’’ติ ¶ ตํ การณํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ปุน ‘‘ชาติธมฺมโตติ มยา วุตฺต’’นฺติอาทีนิ วทติ. ‘‘สมฺปชาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ อนุนาสิกโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ชานนฺโต’’ติ.
๒. สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺตนา วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส วิตถภาวํ ปุพฺเพปิ ชานิตฺวา, วจนกฺขเณ จ ชานนฺตสฺส มุสาวาทภณเน. เตนาห ‘‘ชานิตฺวา’’ติอาทิ. มุสาวาเทติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ตสฺมา มุสาภณนนิมิตฺตํ ปาจิตฺติยนฺติ เอวเมตฺถ, อิโต ปเรสุปิ อีทิเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓. วทนฺติ ¶ เอตายาติ วาจาติ อาห ‘‘มิจฺฉา’’ติอาทิ. ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘จกฺขุนา ทิฏฺ’’นฺติ ปากฏวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอฬาริเกนา’’ติ.
๑๑. คโต ภวิสฺสตีติ เอตฺถาปิ สนฺนิฏฺานโต วุตฺตตฺตา มุสาวาโท ชาโต. อาปตฺตินฺติ ปาจิตฺติยาปตฺตึ, น ทุพฺภาสิตํ. ชาติอาทีหิ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ปรํ ทวา วทนฺตสฺส หิ ตํ โหติ. จาเรสุนฺติ อุปเนสุํ. วตฺถุวิปรีตตา, วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, ยมตฺถํ วตฺถุกาโม, ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิฺาปนปโยโค จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. วตฺถุวิปรีตตาย หิ อสติ วิสํวาทนปุเรกฺขารตาย วิฺาปิเตปิ มุสาวาโท น โหติ, ทุกฺกฏมตฺตเมว โหติ. ตสฺมา สาปิ องฺคเมวาติ คเหตพฺพํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ มุสา ภณนฺตสฺส ปาราชิกํ, ปริยาเยน ถุลฺลจฺจยํ, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนตฺถํ สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสนานุทฺธํสนโอมสวาทาทีสุ ปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเนสุ ทุกฺกฏํ, อุกฺกฏฺหีนชาติอาทีหิ ทวา อกฺโกสนฺตสฺส ทุพฺภาสิตํ, เกวลํ มุสา ภณนฺตสฺส อิธ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๓. ทุติเย ปุพฺเพ ปติฏฺิตารปฺปเทสํ ปุน อเร ปตฺเตติ ปมํ ภูมิยํ ปติฏฺิตเนมิปฺปเทเส ปริวตฺเตตฺวา ปุน ภูมิยํ ปติฏฺิเตติ อตฺโถ.
๑๕. ปุพฺเพติ อฏฺุปฺปตฺติยํ. ปุปฺผฉฑฺฑกา นาม คพฺภมลาทิหารกา. ตจฺฉกกมฺมนฺติ ปาสาณโกฏฺฏนาทิวฑฺฒกีกมฺมํ ¶ . หตฺถมุทฺทาคณนาติ องฺคุลิสงฺโกจเนเนว คณนา. อจฺฉิทฺทกคณนา นาม เอกฏฺานทสฏฺานาทีสุ สาริโย เปตฺวา อนุกฺกเมน คณนา. อาทิ-สทฺเทน สงฺกลนปฏอุปฺปาทนโวกฺลนภาคหาราทิวเสน ปวตฺตา ปิณฺฑคณนา คหิตา. ยสฺส สา ปคุณา, โส รุกฺขมฺปิ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกานิ เอตฺถ ปณฺณานี’’ติ ¶ ชานาติ. ยภ-เมถุเนติ วจนโต อาห ‘‘ย-การ-ภ-กาเร’’ติอาทิ.
๑๖. น ปุริเมนาติ มุสาวาทสิกฺขาปเทน. โสปิ อาปตฺติยาติ อุปสคฺคาทิวิสิฏฺเหิปิ วทนฺโต ปาจิตฺติยาปตฺติยาว กาเรตพฺโพ.
๒๖. ทุพฺภาสิตนฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปาฬิยํ อนาคเตหิปิ ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสปิ ทุพฺภาสิตเมวาติ อาจริยา วทนฺติ ตโต ลามกาปตฺติยา อภาวา, อนาปตฺติยาเปตฺถ ภวิตุํ อยุตฺตตฺตา. สพฺพสตฺตาติ เอตฺถ วจนตฺถวิทูหิ ติรจฺฉานาทโยปิ คหิตา.
๓๕. อนุสาสนีปุเรกฺขารตาย วา ปาปครหิตาย วา วทนฺตานํ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติภาวโต อนฺตรนฺตรา โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ. กายวิการมตฺเตนปิ โอมสนสมฺภวโต ‘‘ติสมุฏฺานํ, กายกมฺม’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปริวาเร ปน ‘‘จตุตฺเถน อาปตฺติสมุฏฺาเนน…เป… ทุพฺภาสิตํ อาปชฺเชยฺยาติ. น หีติ วตฺตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปริ. ๒๗๖) อิตรานิ สมุฏฺานานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปฺจมสฺเสว วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ทุพฺภาสิตาปตฺติ ปเนตฺถ วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ. ทวกมฺยตาย หิ กายวาจาจิตฺเตหิ โอมสนฺตสฺสปิ วาจาจิตฺตเมว อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, น ปน กาโย วิชฺชมาโนปิ ธมฺมเทสนาปตฺติ วิย เกวลํ กายวิกาเรเนว. โอมสนฺตสฺส ปน กิฺจาปิ อิธ ทุพฺภาสิตาปตฺติยา อนาปตฺติ, อถ โข กายกีฬาปฏิกฺเขปสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อุปสมฺปนฺนํ ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนํ, ตสฺส ชานนํ, อตฺถปุเรกฺขารตาทีนํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖. ตติเย ภณฺฑนํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา, สมคฺเค ภินฺเน ¶ กโรตีติ อตฺโถ. ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสฺุนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิธาปิ ¶ ชาติอาทีหิ ทสหิ วตฺถูหิ เปสฺุํ อุปสํหรนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ, อิตเรหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ทุกฺกฏํ. อนกฺโกสวตฺถูหิ ปน อุปสํหรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ. ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ภิกฺขุสฺส อุปสํหรณํ, ปิยกมฺยตาเภทาธิปฺปาเยสุ อฺตรตา, ตสฺส วิชานนาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕. จตุตฺเถ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสนฺติ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺเทน สทิสํ ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺทํ วทติ. อกฺขรสมูโหติ อวิภตฺติโก วุตฺโต. ปทนฺติ วิภตฺติอนฺตํ วุตฺตํ.
เอกํ ปทนฺติ คาถาปทเมว สนฺธาย วทติ. ปทคณนายาติ คาถาปทคณนาย. อปาปุณิตฺวาติ สทฺธึ อกเถตฺวา. เอเตน คาถาย ปจฺฉิมปาเท วุจฺจมาเน สามเณโร ปมปาทาทึ วทติ, อาปตฺติเยว, ตสฺมึ นิสฺสทฺเท เอว อิตเรน วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
อฏฺกถานิสฺสิโตติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ โปราณฏฺกถํ สนฺธาย วทติ. อิทานิปิ ‘‘ยถาปิ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต มิเค’’ติ (มิ. ป. ๖.๑.๕; วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓) เอวมาทิกํ อฏฺกถาวจนํ อตฺเถว, พุทฺธโฆสาจริยาทีหิ โปราณฏฺกถานเยน วุตฺตมฺปิ อิธ สงฺคเหตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปาฬินิสฺสิโตติ อุทานวคฺคสงฺคหาทิโก. วิวฏฺฏูปนิสฺสิตนฺติ นิพฺพานนิสฺสิตํ. เถรสฺสาติ นาคเสนตฺเถรสฺส. มคฺคกถาทีนิ ปกรณานิ.
๔๖. ปาฬิยํ อกฺขรายาติอาทิ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, อกฺขเรนาติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
๔๘. อุปจารํ ¶ มฺุจิตฺวาติ ปริสาย ทฺวาทสหตฺถํ มฺุจิตฺวา เอกโต ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส อกเถตฺวา อฺเ อุทฺทิสฺส ภณนฺตสฺสาปิ ¶ อนาปตฺติ. สเจ ปน ทูเร นิสินฺนมฺปิ อุทฺทิสฺส ภณติ, อาปตฺติ เอว. โอปาเตตีติ สทฺธึ กเถติ. อนุปสมฺปนฺนตา, วุตฺตลกฺขณธมฺมํ ปทโส วาจนตา, เอกโต ภณนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐-๕๑. ปฺจเม ตตฺริทํ นิทสฺสนนฺติ เสโส. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ เอตฺถ ทิรตฺตคฺคหณํ วจนาลงฺการตฺถํ, นิรนฺตรํ ติสฺโสว รตฺติโย วสิตฺวา จตุตฺถทิวสาทีสุ สยนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น เอกนฺตริกาทิวเสน สยนฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. ทิรตฺตวิสิฏฺฺหิ ติรตฺตํ วุจฺจมานํ, เตน อนนฺตริกเมว ติรตฺตํ ทีเปตีติ. ปฺจหิ ฉทเนหีติ อิฏฺกสิลาสุธาติณปณฺเณหิ. วาจุคฺคตวเสนาติ ปคุณวเสน. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพโธ วฑฺฒกีหตฺเถน คเหตพฺโพ. เอกูปจาโร เอเกน มคฺเคน ปวิสิตฺวา อพฺโภกาสํ อนุกฺกมิตฺวา สพฺพตฺถ อนุปริคมนโยคฺโค, เอตํ พหุทฺวารมฺปิ เอกูปจาโรว. ตตฺถ ปน กุฏฺฏาทีหิ รุนฺธิตฺวา วิสุํ ทฺวารํ โยเชนฺติ, นานูปจาโร โหติ. สเจ ปน รุนฺธติ เอว, วิสุํ ทฺวารํ น โยเชนฺติ, ‘‘เอตมฺปิ เอกูปจารเมว มตฺติกาทีหิ ปิหิตทฺวาโร วิย คพฺโภ’’ติ คเหตพฺพํ. อฺถา คพฺเภ ปวิสิตฺวา ปมุขาทีสุ นิปนฺนานุปสมฺปนฺเนหิ สหเสยฺยาปริมุตฺติยา คพฺภทฺวารํ มตฺติกาทีหิ ปิทหาเปตฺวา อุฏฺิเต อรุเณ วิวราเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ ภเวยฺยาติ.
เตสํ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส อาปตฺตีติ เอตฺถ เกจิ ‘‘อนุฏฺหเนน อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ วุตฺตา ตสฺมึ ขเณ สยนฺตสฺส กิริยาภาวา. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ สิยา กิริยาย สมุฏฺาติ, สิยา อกิริยาย สมุฏฺาติ. กิริยาสมุฏฺานตา จสฺส ตพฺพหุลวเสน วุตฺตาติ วทติ. ยถา เจตํ, เอวํ ทิวาสยนมฺปิ. อนุฏฺหเนน, หิ ทฺวาราสํวรเณน เจตํ อกิริยสมอุฏฺานมฺปิ โหตี’’ติ วทนฺติ. อิทฺจ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘อุปริมตเลน ¶ สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺสา’’ติ อิทํ สมฺพทฺธภิตฺติเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุปริมตเล สยิตสฺส สงฺกา เอว นตฺถีติ ‘‘เหฏฺาปาสาเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. นานูปจาเรติ พหิ นิสฺเสณิยา อาโรหณีเย.
สภาสงฺเขเปนาติ ¶ สภากาเรน. ‘‘อฑฺฒกุฏฺฏเก’’ติ อิมินา สณฺานํ ทสฺเสติ. ยตฺถ ตีสุ ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ ภิตฺติโย พทฺธา, ฉทนํ วา อสมฺปตฺตา อฑฺฒภิตฺติ, อิทํ อฑฺฒกุฏฺฏกํ นาม. วาฬสงฺฆาโฏ นาม ปริกฺเขปสฺส อนฺโต ถมฺภาทีนํ อุปริ วาฬรูเปหิ กตสงฺฆาโฏ. ปริกฺเขปสฺส พหิคเตติ เอตฺถ ยสฺมึ ปสฺเส ปริกฺเขโป นตฺถิ, ตตฺถ สเจ ภูมิโต วตฺถุ อุจฺจํ โหติ, อุภโต อุจฺจวตฺถุโต เหฏฺา ภูมิยํ นิพฺพโกสพฺภนฺตเรปิ อนาปตฺติ เอว ตตฺถ เสนาสนโวหาราภาวโต. อถ วตฺถุ นีจํ ภูมิสมเมว เสนาสนสฺส เหฏฺิมตเล ติฏฺติ, ตตฺถ ปริกฺเขปรหิตทิสาย นิพฺพโกสพฺภนฺตเร สพฺพตฺถ อาปตฺติ โหติ, ปริจฺเฉทาภาวโต ปริกฺเขปสฺส พหิ เอว อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ปริมณฺฑลํ วาติอาทิ มชฺเฌ อุทกปตนตฺถาย อากาสงฺคณวนฺตํ เสนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเรติ เอเกกคพฺภสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ปมุเขน คมนํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพธโต อนูนํ กุฏฺฏํ กตฺวา อากาสงฺคเณน ปเวสํ กโรนฺติ, เอวํ อกโตติ อตฺโถ. คพฺภปริกฺเขโปติ จตุรสฺสปาสาทาทีสุ สมนฺตา ิตคพฺภภิตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.
ปาเฏกฺกสนฺนิเวสาติ เอเกกทิสาย คพฺภปาฬิโย อิตรทิสาสุ คพฺภปาฬีนํ อภาเวน, ภาเวปิ วา อฺมฺภิตฺติจฺฉทเนหิ อสมฺพนฺธตาย ปาเฏกฺกสนฺนิเวสา นาม วุจฺจติ. ตํ…เป… สนฺธาย วุตฺตนฺติ ตตฺถ ปาจิตฺติเยน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ, น ทุกฺกเฏน. ตาทิสาย หิ คพฺภปาฬิยา ปมุขํ ตีสุ ทิสาสุ ภิตฺตีนํ อภาเวน เอกทิสาย คพฺภภิตฺติมตฺเตน สพฺพจฺฉนฺนํ จูฬปริจฺฉนฺนํ นาม โหติ. ตสฺมา ทุกฺกฏเมว. ยทิ ปน ตสฺส ปมุขสฺส อิตรทิสาสุปิ เอกิสฺสํ, สพฺพาสุ วา ภิตฺตึ กโรนฺติ, ตทา สพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทิภาวโต ปาจิตฺติยเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธายาติ เอตฺถ อุจฺจวตฺถุํ อกตฺวา ภูมิยํ กตเคหสฺส ปมุขํ สนฺธาย อปริกฺขิตฺเต ปาจิตฺติเยน อนาปตฺตีติ อิทํ กถิตํ ¶ . อุจฺจวตฺถุกํ เจ ปมุขํ โหติ, เตน วตฺถุนา ปริกฺขิตฺตสงฺขฺยเมว ปมุขํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. ตตฺถาติ อนฺธกฏฺกถายํ. ชคติยา ปมาณํ วตฺวาติ ปกติภูมิยา นิปนฺโน ยถา ชคติยา อุปริ สยิตํ น ปสฺสติ, เอวํ อุจฺจาติอุจฺจวตฺถุสฺส อุพฺเพธปฺปมาณํ วตฺวา. เอกทิสาย อุชุกเมว ทีฆํ กตฺวา สนฺนิเวสิโต ปาสาโท เอกสาลสนฺนิเวโส. ทฺวีสุ, ตีสุ วา จตูสุปิ วา ทิสาสุ สิงฺฆาฏกสณฺานาทิวเสน กตา ทฺวิสาลาทิสนฺนิเวสา เวทิตพฺพา. สาลปฺปเภททีปนเมว เจตฺถ ปุริมโต วิเสโสติ. ปริกฺเขโป วิทฺธสฺโตติ ปมุขสฺส ปริกฺเขปํ สนฺธาย วทติ.
๕๓. อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนํ เสนาสนํ ทุกฺกฏสฺส อาทึ วตฺวา ปาฬิยํ ทสฺสิตตฺตา ตโต ¶ อธิกํ สพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทิกมฺปิ สพฺพํ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺถุภาเวน ทสฺสิตํ สิกฺขาปทสฺส ปณฺณตฺติวชฺชตฺตา, ครุเก าตพฺพโต จาติ เวทิตพฺพํ. สตฺต ปาจิตฺติยานีติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยทฺวยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ.
๕๔. ปาฬิยํ ‘‘ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสตี’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, อนิกฺขมิตฺวา ปน ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา อนฺโตฉทเน นิสินฺนสฺสาปิ ปุนทิวเส สหเสยฺเยน อนาปตฺติ เอว. เสนมฺพมณฺฑปวณฺณํ โหตีติ สีหฬทีเป กิร อุจฺจวตฺถุโก สพฺพจฺฉนฺโน สพฺพอปริจฺฉนฺโน เอวํนามโก สนฺนิปาตมณฺฑโป อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จตุตฺถภาโค จูฬกํ, ทฺเว ภาคา อุปฑฺฒํ, ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา เยภุยฺยนฺติ อิมินา นเยน จูฬกจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ อนุปสมฺปนฺเนน สห นิปชฺชนํ, จตุตฺถทิวเส สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕. ฉฏฺเ มาตุคาเมน สทฺธึ จตุตฺถทิวเส สยนฺตสฺสาปิ อิมินา สิกฺขาปเทน เอกาว อาปตฺติ. เกจิ ปน ปุริมสิกฺขาปเทนาปีติ ทฺเว อาปตฺติโย วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเนนา’’ติ อนิตฺถิลิงฺเคน วุตฺตตฺตา นปุํสเกน ¶ ปน จตุตฺถทิวเส สยนฺตสฺส สทุกฺกฏปาจิตฺติยํ วตฺตุํ ยุตฺตํ. กิฺจาเปตฺถ ปาฬิยํ ปณฺฑกวเสเนว ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ตทนุโลมิกา ปน ปุริสอุภโตพฺยฺชนเกน สห สยนฺตสฺส อิมินา ทุกฺกฏํ, ปุริเมน จตุตฺถทิวเส สทุกฺกฏปาจิตฺติยํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก อิตฺถิคติโกวาติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ. มติตฺถิยา อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ มาตุคาเมน สทฺธึ นิปชฺชนํ, สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐. สตฺตเม น ยกฺเขนาติอาทีนํ ‘‘อฺตฺร วิฺุนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อฺตฺร วิฺุนา ¶ ปุริสวิคฺคเหน, น ยกฺขาทินาปีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ตาทิเสนปิ หิ สห ิตาย เทเสตุํ น วฏฺฏติ. ตํตํเทสภาสาย อตฺถํ ยถารุจิ วฏฺฏติ เอว.
อิริยาปถาปริวตฺตนํ, ปุริสํ วา ทฺวาทสหตฺถูปจาเร อปกฺโกสาปนํ เอตฺถ อกิริยา. วุตฺตลกฺขณสฺส ธมฺมสฺส ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ เทสนา, วุตฺตลกฺขโณ มาตุคาโม, อิริยาปถปอวตฺตนาภาโว, วิฺูปุริสาภาโว, อปฺหวิสฺสชฺชนาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๗. อฏฺเม อนฺตราติ ปรินิพฺพานกาลโต ปุพฺเพปิ. อติกฑฺฒิยมาเนนาติ ‘‘วทถ, ภนฺเต, กึ ตุมฺเหหิ อธิคต’’นฺติ เอวํ นิปฺปีฬิยมาเนน อติพทฺธิยมาเนน. ตถารูเป ปจฺจเย สติ วตฺตพฺพเมว. สุตปริยตฺติสีลคุณนฺติ เอตฺถ อตฺถกุสลตา สุตคุโณ, ปาฬิปากุสลตา ปริยตฺติคุโณติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวา’’ติ อิมินา ขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏตาปิ อริยานํ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
ปุพฺเพ ¶ อวุตฺเตหีติ จตุตฺถปาราชิเก อวุตฺเตหิ. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชอานนวเสน เอกนฺตโต อจิตฺตกสมุฏฺานเมว โหติ อริยานํ ปณฺณตฺติวีติกฺกมาภาวา. ฌานลาภีนฺจ สตฺถุ อาณาวีติกฺกมปฏิฆจิตฺตสฺส ฌานปริหานโต ภูตาโรจนํ น สมฺภวติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ภูตตา, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ตงฺขณวิชานนา, อนฺาปเทโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๘. นวเม ตตฺถ ภเวยฺยาติ ตตฺถ กสฺสจิ มติ เอวํ ภเวยฺย. อฏฺกถาวจนเมว อุปปตฺติโต ทฬฺหํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโต ‘‘อิมินาปิ เจต’’นฺติอาทิมาห.
๘๒. อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานีติ ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ. เสสานีติ วิกาลโภชนาทีนิ ¶ . สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ อชฺฌาจาโรว. อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน สวตฺถุโก สงฺฆาทิเสโส, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ภิกฺขุสมฺมุติยา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖. ทสเม อปฺปปํสุมตฺติกาย ปถวิยา อนาปตฺติวตฺถุภาเวน วุตฺตตฺตา อุปฑฺฒปํสุมตฺติกายปิ ปาจิตฺติยเมวาติ คเหตพฺพํ. น เหตํ ทุกฺกฏวตฺถูติ สกฺกา วตฺตุํ ชาตาชาตวินิมุตฺตาย ตติยปถวิยา อภาวโต.
วฏฺฏตีติ อิมสฺมึ าเน โปกฺขรณึ ขณาติ โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา วฏฺฏติ. อิมํ วลฺลึ ขณาติ ปถวีขณนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา อิมินาว สิกฺขาปเทน อาปตฺติ, น ภูตคามสิกฺขาปเทน. อุภยมฺปิ ¶ สนฺธาย วุตฺเต ปน ทฺเวปิ ปาจิตฺติยา โหนฺติ. อุทกปปฺปฏโกติ อุทเก อนฺโตภูมิยํ ปวิฏฺเ ตสฺส อุปริภาคํ ฉาเทตฺวา ตนุกปํสุ วา มตฺติกา วา ปฏลํ หุตฺวา ปตมานา ติฏฺติ, ตสฺมึ อุทเก สุกฺเขปิ ตํ ปฏลํ วาเตน จลมานา ติฏฺติ, ตํ อุทกปปฺปฏโก นาม.
อกตปพฺภาเรติ อวฬฺชนฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตาทิเส เอว หิ วมฺมิกสฺส สมฺภโวติ. มูสิกุกฺกรํ นาม มูสิกาหิ ขนิตฺวา พหิ กตปํสุราสิ. อจฺฉทนนฺติอาทิวุตฺตตฺตา อุชุกํ อากาสโต ปติตวสฺโสทเกน โอวฏฺเมว ชาตปถวี โหติ, น ฉทนาทีสุ ปติตฺวา ตโต ปวตฺตอุทเกน ตินฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มณฺฑปตฺถมฺภนฺติ สาขามณฺฑปตฺถมฺภํ. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา. ตโตติ ปุราณเสนาสนโต.
๘๘. มหามตฺติกนฺติ ภิตฺติเลปนํ. ชาตปถวิตา, ตถาสฺิตา, ขณนขณาปนานํ อฺตรนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๒. ภูตคามวคฺโค
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๙. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ปเม นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโตติ สาขฏฺกวิมาเน สาขาย ฉิชฺชมานาย ฉิชฺชนฺเต ตตฺถ อเฉทนตฺถาย เทวตาย อุปนีตํ ปุตฺตํ ทิสฺวาปิ กุารินิกฺเขปเวคํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ. รุกฺขธมฺเมติ รุกฺขสฺส ปวตฺติยํ. รุกฺขานํ วิย เฉทนาทีสุ อกุปฺปนฺหิ รุกฺขธมฺโม นาม.
อุปฺปติตนฺติ อุปฺปนฺนํ. ภนฺตนฺติ ธาวนฺตํ. วารเยติ นิคฺคณฺเหยฺย. อิตโรติ อุปฺปนฺนํ โกธํ อนิคฺคณฺหนฺโต ราชอุปราชาทีนํ รสฺมิมตฺตคฺคาหกชโน วิย น อุตฺตมสารถีติ อตฺโถ. วิสฏํ สปฺปวิสนฺติ สรีเร ทาาวณานุสาเรน วิตฺถิณฺณํ พฺยาเปตฺวา ิตํ กณฺหสปฺปวิสํ วิย. ชหาติ โอรปารนฺติ ปฺโจรมฺภาคิยสฺโชนานิ ตติยมคฺเคน ชหาติ. ‘‘โอรปาร’’นฺติ หิ โอริมตีรํ วุจฺจติ ¶ . อถ วา โสติ ตติยมคฺเคน โกธํ วิเนตฺวา ิโต ภิกฺขุ อรหตฺตมคฺเคน โอรปารํ ชหาตีติ อตฺโถ. ตตฺถ โอรํ นาม สกตฺตภาโว, อชฺฌตฺติกานิ วา อายตนานิ. ปารํ นาม ปรอตฺตภาโว, พาหิรานิ วา อายตนานิ. ตทุภเย ปน ฉนฺทราคํ ชหนฺโต ‘‘ชหาติ โอริมปาร’’นฺติ วุจฺจติ.
๙๐. ภวนฺตีติ วฑฺฒนฺติ. อหุวุนฺตีติ พภูวุ. เตนาห ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. ภูตานํ คาโมติ มหาภูตานํ หริตติณาทิภาเวน สมคฺคานํ สมูโห. ตพฺพินิมุตฺตสฺส คามสฺส อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภูตา เอว วา คาโม’’ติ วุตฺตํ. ปาตพฺย-สทฺทสฺส ปา ปาเนติ ธาตฺวตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ปริภฺุชิตพฺพตา’’ติ. สา จ ปาตพฺยตา เฉทนาทิ เอว โหตีติ อาห ‘‘ตสฺสา…เป… ภูตคามสฺส ชาตา เฉทนาทิปจฺจยา’’ติ.
๙๑. ชาต-สทฺโท เอตฺถ วิชาตปริยาโยติ ‘‘ปุตฺตํ วิชาตา อิตฺถี’’ติอาทีสุ วิย ปสูตวจโนติ อาห ‘‘ปสูตานี’’ติ, นิพฺพตฺตปณฺณมูลานีติ อตฺโถ.
ตานิ ¶ ทสฺเสนฺโตติ ตานิ พีชานิ ทสฺเสนฺโต. การิยทสฺสนมุเขเนว การณฺจ คหิตนฺติ อาห ‘‘พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิต’’นฺติ.
๙๒. ‘‘พีชโต สมฺภูโต ภูตคาโม พีช’’นฺติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปทุมคจฺฉโต นิพฺพตฺตํ ปุปฺผํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิยายํ โวหาโรติ ทสฺเสติ. ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหตีติ นิพฺพตฺตปณฺณมูลํ สนฺธาย วทติ. ยถารุตนฺติ ยถาปาํ.
‘‘สฺจิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา สรีเร ลคฺคภาวํ ตฺวาปิ อุฏฺหติ, ‘‘ตํ อุทฺธริสฺสามี’’ติสฺาย อภาวโต วฏฺฏติ. อนนฺตก-คฺคหเณน สาสปมตฺติกา คหิตา, นามฺเหตํ ตสฺสา เสวาลชาติยา. มูลปณฺณานํ อภาเวน ‘‘อสมฺปุณฺณภูตคาโม นามา’’ติ วุตฺตํ. โส พีชคาเมน สงฺคหิโตติ. อวฑฺฒมาเนปิ ภูตคามมูลกตฺตา วุตฺตํ ‘‘อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วทติ.
เสเลยฺยกํ ¶ นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา คนฺธชาติ. ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺายาติ วิกสิตกาลโต ปภุติ. ฉตฺตกํ คณฺหนฺโตติ วิกสิตํ คณฺหนฺโต. มกุฬํ ปน รุกฺขตฺตจํ อโกเปนฺเตนปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ผุลฺลํ วฏฺฏติ. หตฺถกุกฺกุจฺเจนาติ หตฺถจาปลฺเลน.
‘‘ปานียํ น วาเสตพฺพ’’นฺติ อิทํ อตฺตโน ปิวนปานียํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ อนุคฺคหิตตฺตา. เตนาห ‘‘อตฺตนา ขาทิตุกาเมนา’’ติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ มูลํ อโนตาเรตฺวา ปณฺณมตฺตนิคฺคมนมตฺเตนปิ วฑฺฒติ. ตตฺถ กปฺปิยมฺปิ อกโรนฺโต ฉินฺนนาฬิเกรเวฬุทณฺฑาทโย โกเปตุํ วฏฺฏติ.
‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ วุตฺตตฺตา เกวลํ จงฺกมนาธิปฺปาเยน วา มคฺคคมนาธิปฺปาเยน วา อกฺกมนฺตสฺส, ติณานํ อุปริ นิสีทนาธิปฺปาเยน นิสีทนฺตสฺส จ โทโส นตฺถิ.
สมณกปฺเปหีติ สมณานํ กปฺปิยโวหาเรหิ, อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิปิ กปฺปิยภาวโต ‘‘สมณกปฺปานี’’ติ วุตฺตานิ. อพีชํ นาม ตรุณอมฺพผลาทีนิ. นิพฺพฏฺเฏตพฺพํ วิโยเชตพฺพํ พีชํ ยสฺมึ, ตํ ปนสาทิ นิพฺพฏฺฏพีชํ นาม. กปฺปิยนฺติ วตฺวาวาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน วุตฺเตปิ วจนกฺขเณว อคฺคิสตฺถาทินา พีชคาเม วณํ กาตพฺพนฺติ วจนโต ปน ปุพฺเพ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตฺจ ทฺวิธา อกตฺวา เฉทนเภทนเมว ทสฺเสตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ¶ ยาย กายจิ ภาสาย วุตฺเตเยว กาตพฺพํ. พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ การาปนสฺส ปมเมว อธิกตตฺตา. ‘‘กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา กฏาหโต นีหตาย มิฺชาย วา พีเช วา ยตฺถ กตฺถจิ วิชฺฌิตุํ วฏฺฏติ เอว. ภูตคาโม, ภูตคามสฺิตา, วิโกปนํ วา วิโกปาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๔. ทุติเย อฺํ วจนนฺติ ยํ โทสวิภาวนตฺถํ ปเรหิ วุตฺตวจนํ ตํ ตสฺส อนนุจฺฉวิเกน อฺเน วจเนน ปฏิจรติ.
๙๘. ยเทตํ ¶ อฺเนฺํ ปฏิจรณวเสน ปวตฺตวจนํ, ตเทว ปุจฺฉิตมตฺถํ เปตฺวา อฺํ วทติ ปกาเสตีติ อฺวาทกนฺติ อาห ‘‘อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นามนฺติ ตุณฺหีภาวสฺเสตํ นามํ, อยเมว วา ปาโ. อฺวาทกํ อาโรเปตุนฺติ อฺวาเท อาโรเปตุํ. วิเหสกนฺติ วิเหสกตฺตํ.
๙๙. ปาฬิยํ น อุคฺฆาเฏตุกาโมติ ปฏิจฺฉาเทตุกาโม.
๑๐๐. อนาโรปิเต อฺวาทเกติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปาฬิยํ อาคตอฺเนฺปฏิจรณวเสน ยุชฺชติ, อฏฺกถายํ อาคตนเยน ปน มุสาวาเทน อฺเนฺํ ปฏิจรนฺตสฺส ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ, อาโรปิเต อิมินาว ปาจิตฺติยํ. เกจิ ปน ‘‘มุสาวาทปาจิตฺติเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยทฺวย’’นฺติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. อาทิกมฺมิกสฺสปิ มุสาวาเท อิมินาว อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ธมฺมกมฺเมน อาโรปิตตา, อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยฺุชิยมานตา, ฉาเทตุกามตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, ตุณฺหีภาโว จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๓. ตติเย ¶ จินฺตายนตฺถสฺส เฌ-ธาตุสฺส อเนกตฺถตาย โอโลกนตฺถสมฺภวโต วุตฺตํ ‘‘โอโลกาเปนฺตี’’ติ. ฉนฺทายาติ ลิงฺควิปลฺลาโสติ อาห ‘‘ฉนฺเทนา’’ติ.
๑๐๕. ภิกฺขุํ ลามกโต จินฺตาปนตฺถํ อฺเสํ ตํ อวณฺณกถนํ อุชฺฌาปนํ นาม. อฺเสํ ปน อวตฺวา อฺมฺํ สมุลฺลปนวเสน ภิกฺขุโน โทสปฺปกาสนํ ขิยฺยนํ นามาติ อยเมเตสํ เภโท.
๑๐๖. อฺํ อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปตีติ อฺเน อนุปสมฺปนฺเนน อุชฺฌาเปติ. ตสฺส วา ตํ สนฺติเกติ ตสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ตํ สงฺเฆน สมฺมตํ อุปสมฺปนฺนํ ขิยฺยติ. อิธาปิ มุสาวาเทน อุชฺฌาปนาทีนํ สมฺภวโต ทุกฺกฏฏฺานานิ จ อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ จ อิมินา เอว สิกฺขาปเทน วุตฺตาติ ¶ เวทิตพฺพํ สพฺพตฺถ มุสาวาทปาจิตฺติยสฺส อนิวตฺติโต. ธมฺมกมฺเมน สมฺมตตา, อุปสมฺปนฺนตา, อคติคมนาภาโว, ตสฺส อวณฺณกามตา, ยสฺส สนฺติเก วทติ. ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อุชฺฌาปนํ วา ขิยฺยนํ วาติ อิมาเนตฺถ ฉ องฺคานิ.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๐. จตุตฺเถ อปฺาเตติ อปฺปสิทฺเธ. อิมํ ปน อฏฺ มาเส มณฺฑปาทีสุ ปนสงฺขาตํ อตฺถวิเสสํ คเหตฺวา ภควตา ปมเมว สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ อธิปฺปายํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺมาเส’’ติอาทิวจเนน อนุปฺตฺติสทิเสน ปกาเสตฺวา วิสุํ อนุปฺตฺติ น วุตฺตา. ปริวาเร ปเนตํ อนุชานนวจนํ อนุปฺตฺติฏฺานนฺติ ‘‘เอกา อนุปฺตฺตี’’ติ (ปริ. ๖๕-๖๗) วุตฺตํ.
นววายิโมติ อธุนา สุตฺเตน วีตกจฺเฉน ปลิเวิตมฺโจ. โอนทฺโธติ กปฺปิยจมฺเมน โอนทฺโธ. เต หิ วสฺเสน สีฆํ น นสฺสนฺติ. ‘‘อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ อิทํ ตสฺส สุขปฏิปตฺติทสฺสนมตฺตํ, อุกฺกฏฺสฺสาปิ ปน จีวรกุฏิ วฏฺฏเตว. กายานุคติกตฺตาติ ภิกฺขุโน ตตฺเถว นิสีทนภาวํ ทีเปติ, เตน จ วสฺสภเยน สยํ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺตีติ ทสฺเสติ ¶ . อพฺโภกาสิกานํ เตมนตฺถาย นิยเมตฺวา ทายเกหิ ทินฺนมฺปิ อตฺตานํ รกฺขนฺเตน รกฺขิตพฺพเมว.
‘‘วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อิมินา คิมฺหาเนปิ เมเฆ อุฏฺิเต อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ตตฺร ตตฺราติ เจติยงฺคณาทิเก ตสฺมึ ตสฺมึ อพฺโภกาเส นิยเมตฺวา นิกฺขิตฺตา. มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขาติ ยตฺถ สมนฺตโต สมฺมชฺชิตฺวา องฺคณมชฺเฌ สพฺพทา กจวรสฺส สงฺกฑฺฒเนน มชฺเฌ วาลิกา สฺจิตา โหติ. ตตฺถ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุจฺจวตฺถุปาทฏฺานาภิมุขํ วา วาลิกา หริตพฺพา. ยตฺถ วา ปน โกเณสุ วาลิกา สฺจิตา, ตตฺถ ตโต ปฏฺาย อปรทิสาภิมุขา หริตพฺพาติ เกจิ อตฺถํ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมฺมฏฺฏฺานสฺส ¶ ปทวฬฺเชน อวิโกปนตฺถาย สยํ อสมฺมฏฺฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ปาทาภิมุขํ วาลิกา หริตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตตฺถ ‘‘มชฺฌโต ปฏฺายา’’ติ วจนสฺส ปโยชนํ น ทิสฺสติ.
๑๑๑. วงฺกปาทตามตฺเตน กุฬีรปาทกสฺส เสเสหิ วิเสโส, น อฏนีสุ ปาทปฺปเวสนวิเสเสนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โย วา ปน โกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ อุปสมฺปนฺนสฺเสว.
นิสีทิตฺวา…เป… ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ เมฆุฏฺานาภาวํ ตฺวา ‘‘ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ อาโภเคน คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ, เตน ปุนาคนฺตพฺพเมว. กปฺปํ ลภิตฺวาติ ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺา’’ติ วุตฺตวจนํ ลภิตฺวา.
อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธติ อาคนฺตุเกสุ กิฺจิ อวตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘อาวาสิกา เอว อุทฺธริสฺสนฺตี’’ติ คเตสุปิ อาวาสิกานเมว ปลิโพโธ. มหาปจฺจริวาเท ปน ‘‘อิทํ อมฺหาก’’นฺติ อวตฺวาปิ นิสินฺนานเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา’’ติ วุตฺตตฺตา อนาณตฺติยา ปฺาปิตตฺตาปิ ทุกฺกเฏ การณํ วุตฺตํ. อุสฺสารโกติ สรภาณโก. โส หิ อุทฺธํ อุทฺธํ ปาฬิปาํ สาเรติ ปวตฺเตตีติ อุสฺสารโกติ วุจฺจติ.
๑๑๒. วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตาติ ปฏขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตฺวา กตา. ภูมิยํ อตฺถริตพฺพาติ จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา. ‘‘สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป’’ติ อิมินา มฺจปีาทีสุ อตฺถริตฺวา ปุน สํหริตฺวา ปนาทิวเสน ¶ อตฺตโน อตฺถาย ปริหรณเมว น วฏฺฏติ, ภูมตฺถรณาทิวเสน ปริโภโค ปน อตฺตโน ปริหรณํ น โหตีติ ทสฺเสติ. ขนฺธเก หิ ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ เอวํ อตฺตโน อตฺตโน อตฺถาย มฺจาทีสุ ปฺเปตฺวา ปริหรณวตฺถุสฺมึ –
‘‘น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) –
ปฏิกฺเขโป ¶ กโต. ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. ทารุมยปีนฺติ ผลกมยปีเมว. ปาทกถลิกนฺติ อโธตปาทํ ยสฺมึ ฆํสนฺตา โธวนฺติ, ตํ ทารุผลกาทิ.
๑๑๓. ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามีติ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเนปิ การเณน อโนตาเปนฺตสฺสปิ อาคมเน สาเปกฺขสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘มฺจาทีนํ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ เทเส สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, นิรเปกฺขตา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกโม’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) เอวเมตฺถ นิรเปกฺขตาย สทฺธึ ฉ องฺคานิ วุตฺตานิ.
ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๖. ปฺจเม ปาวาโร โกชโวติ ปจฺจตฺถรณตฺถาเยว ปิตา อุคฺคตโลมา อตฺถรณวิเสสา. เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนโตติ สพฺพปจฺฉิมเสนาสนโต.
๑๑๗. กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตเมวตฺถํ สวิเสสํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปิ วุตฺโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. วตฺตพฺพํ นตฺถีติ รุกฺขมูลสฺส ปากฏตฺตา วุตฺตํ. ปลุชฺชตีติ วินสฺสติ.
๑๑๘. เยน มฺจํ วา ปีํ วา วีนนฺติ, ตํ มฺจปีกวานํ. สิลุจฺจยเลณนฺติ ปพฺพตคุหา. ‘‘อาปุจฺฉนํ ปน วตฺต’’นฺติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ. วุตฺตลกฺขณเสยฺยา, ตสฺสา ¶ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ วิหาเร สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, อนเปกฺขสฺส ทิสาปกฺกมนํ, อุปจารสีมาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ สตฺต องฺคานิ.
ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๙. ฉฏฺเ ¶ อนุปวิสิตฺวาติ สมีปํ ปวิสิตฺวา.
๑๒๒. อุปจารํ เปตฺวาติ ทิยฑฺฒหตฺถูปจารํ เปตฺวา. สงฺฆิกวิหารตา, อนุฏฺาปนียภาวชานนํ, สมฺพาเธตุกามตา, อุปจาเร นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๖. สตฺตเม โกฏฺกานีติ ทฺวารโกฏฺกานิ.
๑๒๘. ‘‘สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ อนนุรูปโต วุตฺตํ. ปาปครหิตาย หิ อกุปิตจิตฺเตน นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ นตฺถิ ‘‘กุปิโต อนตฺตมโน’’ติ วุตฺตตฺตา. อฺาเปกฺขา อาปตฺติ น ทิสฺสติ. ปาฬิยํ ‘‘อลชฺชึ นิกฺกฑฺฒตี’’ติอาทีสุ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย อนฺตรนฺตรา โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ อลชฺชิตาทิปจฺจเยเนว นิกฺกฑฺฒนสฺส อารทฺธตฺตา. สงฺฆิกวิหาโร, อุปสมฺปนฺนสฺส ภณฺฑนการกภาวาทิวินิมุตฺตตา, โกเปน นิกฺกฑฺฒนํ วา นิกฺกฑฺฒาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๙. อฏฺมํ ¶ อุตฺตานเมว. สงฺฆิโก วิหาโร, อสีสฆฏฺฏเวหาสกุฏิ, เหฏฺาปริโภคตา, อปฏาณิทินฺเน อาหจฺจปาทเก นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๓๕. นวเม ¶ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก’’ติ วุตฺตตฺตา สฺาจิกาย กุฏิยา อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ยสฺสาติ วิหารสฺส. สา อปริปูรูปจาราปิ โหตีติ วิวริยมานํ กวาฏํ ยํ ภิตฺตึ อาหนติ, สา สามนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาณา อุปจารรหิตาปิ โหตีติ อตฺโถ. อาโลกํ วาตปานํ สนฺเธติ ฆฏยตีติ อาโลกสนฺธีติ กวาฏํ วุจฺจติ. ทฺวารวาตปานูปจารโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺปนาทึ กโรนฺตสฺส ปิณฺฑคณนาย ปาจิตฺติยํ.
เกจิ ปน ‘‘ปาฬิยํ ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ. อธิฏฺาตพฺพนฺติ สํวิธาตพฺพํ. หริเต ิโต อธิฏฺาติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ หริตยุตฺเต เขตฺเต ตฺวา ฉาเทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ตาทิเส เขตฺเต วิหารํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปาฬิยา น สเมติ.
๑๓๖. อุชุกเมว ฉาทนนฺติ ฉาทนมุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย ยาว ปิฏฺิวํสกูฏาคารกณฺณิกาทิ, ตาว อิฏฺกาทีหิ อุชุกํ ฉาทนํ. อิมินา ปน เยน สพฺพสฺมึ วิหาเร เอกวารํ ฉาทิเต ตํ ฉาทนํ เอกมคฺคนฺติ คเหตฺวา ปาฬิยํ ‘‘ทฺเว มคฺเค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริยาเยน ฉาทนมฺปิ อิมินาว นเยน โยเชตพฺพนฺติ วทนฺติ, ตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสี’’ติ อิมาย ปาฬิยา จ ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน จ สเมติ.
ปาฬิยํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺส ปริยาเยน ฉาเทนฺตสฺสา’’ติ อิทฺจ อิฏฺกาทีหิ, ติณปณฺเณหิ จ ฉาทนปฺปการเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ปนฺติยา ฉาทิตสฺส ฉทนสฺส อุปริ ฉทนมุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อุทฺธํ อุชุกเมว เอกวารํ ฉาทนํ เอกมคฺคนฺติ คเหตฺวา ‘ทฺเว มคฺเค’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ, น ปน สกลวิหารฉาทนํ. เอส นโย ปริยาเยน ฉาทเนปี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปาฬิอฏฺกถาหิ น สเมติ.
ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. ติณปณฺเณหิ ลพฺภตีติ ติณปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา อุปริ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกวลํ ¶ ติณกุฏิยา หิ อนาปตฺติ วุตฺตา. ติณฺณํ มคฺคานนฺติ มคฺควเสน ฉาทิตานํ ติณฺณํ ฉทนานํ. ติณฺณํ ปริยายานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มหลฺลกวิหารตา, อตฺตโน วาสาคารตา, อุตฺตริ อธิฏฺานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๐. ทสเม มาติกายํ สปฺปาณกอุทกํ ติเณน วา มตฺติกาย วา สิฺเจยฺย, ฉฑฺเฑยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา อุทกํ คเหตฺวา พหิ สิฺเจยฺย, ตสฺมิฺจ อุทเก ติณํ วา มตฺติกํ วา อาหริตฺวา ปกฺขิเปยฺยาติ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘สกฏภารมตฺตฺเจปี’’ติอาทิ. อิทนฺติ ติณมตฺติกปกฺขิปนวิธานํ. วุตฺตนฺติ มาติกายํ ‘‘ติณํ วา มตฺติกํ วา’’ติ เอวํ วุตฺตํ, อฏฺกถาสุ วา วุตฺตํ.
อิทฺจ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภคํ สนฺธาย วตฺถุวเสน วุตฺตํ อพฺภนฺตรปริโภคสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา. ตทุภยมฺปิ ‘‘สปฺปาณก’’นฺติ กตฺวา วธกจิตฺตํ วินาว สิฺจเน ปฺตฺตตฺตา ‘‘ปณฺณตฺติวชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. วธกจิตฺเต ปน สติ สิกฺขาปทนฺตเรเนว ปาจิตฺติยํ, น อิมินาติ ทฏฺพฺพํ. อุทกสฺส สปฺปาณกตา, ‘‘สิฺจเนน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนํ, ตาทิสเมว จ อุทกํ วินา วธกเจตนาย เกนจิเทว กรณีเยน ติณาทีนํ สิฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต เสนาสนวคฺโค ทุติโย.
‘‘ภูตคามวคฺโค’’ติปิ เอตสฺเสว นามํ.
๓. โอวาทวคฺโค
๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๔. ตติยวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ, พาหิรภูตนฺติ อตฺโถ. สมิทฺโธติ ปริปุณฺโณ. สหิตตฺโถ อตฺถยุตฺโต. อตฺถคมฺภีรตาทินา คมฺภีโร.
๑๔๕-๑๔๗. ปรโตติ อุตฺตริ. กโรนฺโตวาติ ปริพาหิเร กโรนฺโต. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. จรณนฺติ นิพฺพานคมนาย ปาทํ.
ยทสฺสาติ ยํ อสฺส. ธาเรตีติ อวินสฺสมานํ ธาเรติ. ปริกถนตฺถนฺติ ปกิณฺณกกถาวเสน ปริจฺฉินฺนธมฺมกถนตฺถํ. ติสฺโส อนุโมทนาติ สงฺฆภตฺตาทีสุ ทานานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตา นิธิกุณฺฑสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๘.๑ อาทโย) -อนุโมทนา, เคหปฺปเวสมงฺคลาทีสุ มงฺคลสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) -อนุโมทนา, มตกภตฺตาทิอมงฺคเลสุ ติโรกุฏฺฏาทิ (ขุ. ปา. ๗.๑ อาทโย; เป. ว. ๑๔ อาทโย) -อนุโมทนาติ อิมา ติสฺโส อนุโมทนา. กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ ปริวาราวสาเน กมฺมวคฺเค (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วุตฺตวินิจฺฉโย. สมาธิวเสนาติ สมถปุพฺพกวเสน. วิปสฺสนาวเสน วาติ ทิฏฺิวิสุทฺธิอาทิกาย สุกฺขวิปสฺสนาย วเสน. อตฺตโน สีลรกฺขณตฺถํ อปรานเปกฺขตาย เยน กามํ คนฺตุํ จตสฺโส ทิสา อรหติ, อสฺส วา สนฺติ, ตาสุ วา สาธูติ จาตุทฺทิโส.
อภิวินเยติ ปาติโมกฺขสํวรสงฺขาเต สํวรวินเย, ตปฺปกาสเก วา วินยปิฏเก. วิเนตุนฺติ สิกฺขาเปตุํ ปกาเสตุํ. ปคุณา วาจุคฺคตาติ ปาโต จ อตฺถโต จ ปคุณา มุเข สนฺนิธาปนวเสน วาจุคฺคตา กาตพฺพา. อตฺถมตฺตวเสนเปตฺถ โยชนํ กโรนฺติ. อภิธมฺเมติ ลกฺขณรสาทิวเสน ปริจฺฉินฺเน นามรูปธมฺเม. ปุพฺเพ กิร มหาเถรา ปริยตฺติอนนฺตรธานาย เอเกกสฺส คณสฺส ทีฆนิกายาทิเอเกกธมฺมโกฏฺาสํ นิยฺยาเตนฺตา ‘‘ตุมฺเห เอตํ ปาฬิโต จ อฏฺกถาโต จ ปริหรถ, สกฺโกนฺตา อุตฺตริปิ อุคฺคณฺหถา’’ติ เอวํ สกลธมฺมํ คนฺถวเสน นิยฺยาเตนฺติ, ตตฺถ เต จ ภิกฺขู คนฺถนาเมน ทีฆภาณกา มชฺฌิมภาณกาติ โวหรียนฺติ, เต จ ¶ อตฺตโน ภารภูตํ โกฏฺาสํ ปริจฺจชิตฺวา อฺํ ¶ อุคฺคเหตุํ น ลภนฺติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘สเจ มชฺฌิมภาณโก โหตี’’ติอาทิ.
ตตฺถ เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคาติ มหาวคฺคโต เหฏฺิมา สคาถกวคฺโค (สํ. นิ. ๑.๑ อาทโย), นิทานวคฺโค (สํ. นิ. ๒.๑ อาทโย), ขนฺธวคฺโคติ (สํ. นิ. ๓.๑ อาทิโย) อิเม ตโย วคฺคา. ติกนิปาตโต ปฏฺาย เหฏฺาติ เอกกนิปาตทุกนิปาเต สนฺธาย วุตฺตํ. ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา ชาตกภาณเกน อตฺตโน ชาตเกน สทฺธึ อุคฺคเหตพฺพํ. ตโต โอรํ น วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริวาทสฺส อธิปฺปาโย. ตโต ตโตติ ทีฆนิกายาทิโต. อุจฺจินิตฺวา อุคฺคหิตํ สทฺธมฺมสฺส ิติยา, ภิกฺขุโนปิ ปุพฺพาปรานุสนฺธิอาทิกุสลตาย จ น โหตีติ ‘‘ตํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อภิธมฺเม กิฺจิ อุคฺคเหตพฺพนฺติ น วุตฺตนฺติ เอตฺถ ยสฺมา วินเย กุสลตฺติกาทิวิภาโค, สุตฺตนฺเตสุ สมถวิปสฺสนามคฺโค จ อภิธมฺมปาํ วินา น วิฺายติ, อนฺธกาเร ปวิฏฺกาโล วิย โหติ, ตสฺมา สุตฺตวินยานํ คหณวเสน อภิธมฺมคฺคหณํ วุตฺตเมวาติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ‘‘โภชนํ ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘พฺยฺชนํ ขาทิตพฺพ’’นฺติ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหติ ตทวินาภาวโต, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนายาติ ปริมณฺฑลานิ ปริปุณฺณานิ ปเทสุ สิถิลธนิตาทิพฺยฺชนานิ ยสฺสํ, ตาย. ปุรสฺส เอสาติ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. อเนลคฬายาติ เอตฺถ เอลาติ เขฬํ ตคฺคฬนวิรหิตาย. กลฺยาณวากฺกรโณติ เอตฺถ วาจา เอว วากฺกรณํ, อุทาหรณโฆโส. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณมสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. อุปสมฺปนฺนาย เมถุเนเนว อภพฺโพ โหติ, น สิกฺขมานาสามเณรีสูติ อาห ‘‘ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ วา’’ติอาทิ.
๑๔๘. ครุเกหีติ ครุกภณฺเฑหิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปริวตฺตลิงฺคา วา ปฺจสตสากิยานิโย วา. เอตา ปน เอกโตอุปสมฺปนฺนา โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.
๑๔๙. น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามาติ นิมนฺติตา หุตฺวา โภชนปริโยสาเน คนฺตุกามา น โหนฺติ, ตตฺเถว วสิตุกามา โหนฺตีติ ¶ อตฺโถ. ยโตติ ภิกฺขุนุปสฺสยโต. ยาจิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ อานีตโอวาเทเนว มยมฺปิ วสิสฺสามา’’ติ ยาจิตฺวา. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภิกฺขุนุปสฺสเย. อภิกฺขุกาวาเส วสฺสํ วสนฺติยา ปาจิตฺติยํ, อปคจฺฉนฺติยา ทุกฺกฏํ.
อิมาสุ ¶ กตราปตฺติ ปริหริตพฺพาติ โจทนํ ปริหรนฺโต อาห ‘‘สา รกฺขิตพฺพา’’ติ. สา วสฺสานุคมนมูลิกา อาปตฺติ รกฺขิตพฺพา, อิตราย อนาปตฺติการณํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อาปทาสุ หี’’ติอาทิ.
โอวาทตฺถายาติ โอวาเท ยาจนตฺถาย. ทฺเว ติสฺโสติ ทฺวีหิ ตีหิ, กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทชนเกน กายกมฺมาทินา. สมฺปาเทตูติ ติวิธํ สิกฺขํ สมฺปาเทตุ. อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๕๓. ทุติเย โกกนทนฺติ ปทุมวิเสสํ, ตํ กิร พหุปตฺตํ วณฺณสมฺปนฺนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา โกกนทสงฺขาตํ ปทุมํ, เอวํ ผุลฺลมุขปทุมํ อวีตคุณคนฺธํ นิมฺมเล อนฺตลิกฺเข อาทิจฺจํ วิย จ อตฺตโน เตชสา ตปนฺตํ ตโต เอว วิโรจมานํ องฺเคหิ นิจฺฉรณกชุติยา องฺคีรสํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสาติ. รโชหรณนฺติ สรีเร รชํ ปฺุฉตีติ รโชหรณนฺติ ปฺุฉนโจฬสฺส นามํ. โอภาสวิสฺสชฺชนปุพฺพกา ภาสิตคาถา โอภาสคาถา นาม. วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ปน ‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจตี’’ติอาทิ โอภาสคาถา วุตฺตา, น ปเนสา ‘‘อธิเจตโส’’ติ คาถา. อยฺจ จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส อุทานคาถาติ อุทานปาฬิยํ นตฺถิ, เอกุทานิยตฺเถรสฺส (เถรคา. ๑.๖๗ เอกุทานิยตฺเถรคาถาวณฺณนา) นายํ อุทานคาถาติ ตตฺถ วุตฺตํ. อิธ ปน ปาฬิยา เอว วุตฺตตฺตา เถรสฺสาปิ อุทานคาถาติ คเหตพฺพํ. อิธ จ อครุธมฺเมนาปิ โอวทโต ¶ ปาจิตฺติยเมว. อตฺถงฺคตสูริยตา, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๒. ตติยํ ¶ อุตฺตานเมว. อุปสฺสยูปคมนํ, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, สมยาภาโว, ครุธมฺเมหิ โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๔. จตุตฺเถ อามิสนิรเปกฺขมฺปิ อามิสเหตุ โอวทตีติสฺาย ภณนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, อนามิสนฺตรตา, อวณฺณกามตาย เอวํ ภณนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖๙. ปฺจมํ จีวรทานสิกฺขาปทํ อุตฺตานเมว.
๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๗๖. ฉฏฺเ กถินวตฺตนฺติ กถินมาเส จีวรํ กโรนฺตานํ สพฺรหฺมจารีนํ สหายภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. วฺเจตฺวาติ ‘‘ตว าติกายา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ สุตฺวา เต อฺาติกสฺิโน อเหสุนฺติ อาห ‘‘อกปฺปิเย นิโยชิตตฺตา’’ติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกตา, นิวาสนปารุปนูปคตา, วุตฺตนเยน สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๓. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ คจฺฉาม ภคินิ คจฺฉามายฺยาติ ภิกฺขุปุพฺพกํ สํวิธานํ, อิตรํ ภิกฺขุนิปุพฺพกํ ¶ . เอกทฺธานมคฺคนฺติ เอกโต อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ. หิยฺโยติ สุเว. ปเรติ ตติเย ทิวเส.
ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโรติ ปาทคมเน ปกฺขคมเนติ ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโร. อุปจาโร น ลพฺภตีติ โย ปริกฺขิตฺตาทิคามสฺส เอกเลฑฺฑุปาตาทิอุปจาโร วุตฺโต, โส อิธ น ลพฺภติ อาสนฺนตฺตา. เอเตน จ อนฺตรฆเรเยเวตฺถ คาโมติ อธิปฺเปโต, น สกลํ คามเขตฺตํ. ตตฺถาปิ ยตฺถ อุปจาโร ลพฺภติ, ตตฺถ อุปจาโรกฺกมเน เอว อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘รตนมตฺตนฺตโร’’ติอาทิ. อุปจาโรกฺกมนฺเจตฺถ อุปจารพฺภนฺตเร ปวิสนเมว โหติ. ตตฺถ อปฺปวิสิตฺวาปิ อุปจารโต พหิ อทฺธโยชนพฺภนฺตรคเตน มคฺเคน คจฺฉนฺโตปิ มคฺคสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ อทฺธโยชนพฺภนฺตรคตํ คามูปจารํ สพฺพํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติจฺเจว วุจฺจติ. อทฺธโยชนโต พหิ คเตน มคฺเคน คจฺฉนฺโต น คามูปจารคณนาย กาเรตพฺโพ, อทฺธโยชนคณนาเยว กาเรตพฺโพ. เอวฺจ สติ อนนฺตรสิกฺขาปเท นาวาเยว คามตีรปสฺเสน คจฺฉนฺตสฺส คามูปจารคณนาย อาปตฺติ สมตฺถิตา โหติ. น หิ สกฺกา นาวาย คามูปจารพฺภนฺตเร ปวิสิตุํ. ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ. เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตติ เอตฺถ น เกวลํ ยถาวุตฺตรถิกาทีสุ เอว สํวิทหเน ทุกฺกฏํ, อนฺตรามคฺเคปีติ อธิปฺปาโย.
อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺสาติ อสติ คาเม อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส. ยสฺมิฺหิ คามเขตฺตภูเตปิ อรฺเ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาโม น โหติ, ตมฺปิ อิธ อคามกํ อรฺนฺติ อธิปฺเปตํ, น วิฺฌาฏวาทโย.
๑๘๕. รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ, สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. ทฺวินฺนมฺปิ สํวิทหิตฺวา มคฺคปฺปฏิปตฺติ, อวิสงฺเกตํ, สมยาภาโว, อนาปทา, คามนฺตโรกฺกมนํ วา อทฺธโยชนาติกฺกโม วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนาทีหิ สทฺธึ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส ปน มาตุคามสิกฺขาปเทน อาปตฺติ.
สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๙. อฏฺเม ¶ เอกํ ตีรํ…เป… นิรนฺตรนฺติ นทิโต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร ปเทเส นิวิฏฺคาเมหิ ¶ นิรนฺตรตา วุตฺตา. เอกํ อคามกํ อรฺนฺติ ตถา นิวิฏฺคามาภาเวน วุตฺตํ. อคามกตีรปสฺเสนาติอาทิ ปน อติเรกอทฺธโยชนวิตฺถตํ นทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต อูนวิตฺถาราย หิ นทิยา มชฺเฌนาปิ คมเน ตีรทฺวยสฺสาปิ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คตตฺตา คามนฺตรคณนาย, อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺติโย ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. เตเนว ‘‘โยชนวิตฺถตา…เป… อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ. เตเนว หิ โยชนโต อูนาย นทิยา อทฺธโยชนพฺภนฺตรคตตีรวเสเนว อาปตฺติคณนํ วุตฺตเมว โหติ. ‘‘สพฺพอฏฺกถาสู’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. ตตฺถ กิฺจาปิ สมุทฺทตฬากาทีสุ ปาจิตฺติยํ น วุตฺตํ, ตถาปิ กีฬาปุเรกฺขารสฺส ตตฺถ ทุกฺกฏเมวาติ คเหตพฺพํ, ปมํ กีฬาปุเรกฺขารสฺสาปิ ปจฺฉา นาวาย นิทฺทุปคตสฺส, โยนิโส วา มนสิ กโรนฺตสฺส คามนฺตโรกฺกมนาทีสุปิ อาปตฺติสมฺภวโต ปณฺณตฺติวชฺชตา, ติจิตฺตตา จสฺส สิกฺขาปทสฺส วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. นวเม ปาฬิยํ ‘‘สิกฺขมานา…เป… ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ กตวิฺตฺติปริกถาทีหิ อุปฺปนฺนํ ปริภฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตตา, ตถา ชานนํ, คิหิสมารมฺภาภาโว, โภชนตา, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๘. ทสเม ¶ อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทนาติ มาตุคาเมน รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตํ ปน อเจลกวคฺเค ปฺจมมฺปิ อุปนนฺทํ อารพฺภ ปฺตฺเตสุ จตุตฺถตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โอวาทวคฺโค ตติโย.
๔. โภชนวคฺโค
๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๖. จตุตฺถวคฺคสฺส ¶ ปเม อิเมสํเยวาติ อิเมสํ ปาสณฺฑานํเยว. เอตฺตกานนฺติ อิมสฺมึ ปาสณฺเฑ เอตฺตกานํ.
๒๐๘. ‘‘คจฺฉนฺโต วา อาคจฺฉนฺโต วา’’ติ อิทํ อทฺธโยชนวเสน คเหตพฺพํ. อฺเ อุทฺทิสฺส ปฺตฺตฺจ ภิกฺขูสุ อปฺปสนฺเนหิ ติตฺถิเยหิ สามฺโตปิ ปฺตฺตมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ เอว. อาวสถปิณฺฑตา, อคิลานตา, อนุวสิตฺวา โภชนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๙. ทุติเย อภิมาเรติ อภิภวิตฺวา ภควนฺตํ มารณตฺถาย ปโยชิเต ธนุธเร. นนุ ‘‘ราชานมฺปิ มาราเปสี’’ติ วจนโต อิทํ สิกฺขาปทํ อชาตสตฺตุโน กาเล ปฺตฺตนฺติ สิทฺธํ, เอวฺจ สติ ปาฬิยํ ‘‘เตน โข ปน สมเยน รฺโ มาคธสฺส…เป… าติสาโลหิโต อาชีวเกสุ ปพฺพชิโต โหติ…เป… พิมฺพิสารํ เอตทโวจา’’ติอาทิ วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ. โส กิร อาชีวโก พิมฺพิสารกาลโต ปภุติ อนฺตรนฺตรา ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา ทานํ เทนฺโต อชาตสตฺตุกาเลปิ สิกฺขาปเท ปฺตฺเตปิ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ, ภิกฺขู จ กุกฺกุจฺจายนฺตา นิวาเรสุํ. ตสฺมา อาทิโต ปฏฺาย ตํ วตฺถุ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๑๕. อฺมฺํ ¶ วิสทิสํ รชฺชํ วิรชฺชํ, วิรชฺชโต อาคตา เวรชฺชกา. เต จ ยสฺมา ชาติโคตฺตาทิโต นานาวิธา, ตสฺมา นานาเวรชฺชเกติปิ อตฺโถ.
๒๑๗-๘. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุวเสเนว วิฺตฺติโต คณโภชนตฺถตา สิทฺธาติ ตํ อวตฺวา ปทภาชเน อสิทฺธเมว นิมนฺตนโต คณโภชนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติอาทิ. ¶ ‘‘เยน เกนจิ เววจเนนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โภชนํ คณฺหถา’’ติอาทิสามฺนาเมนาปิ คณโภชนํ โหติ. ยํ ปน ปาฬิยํ อทฺธานคมนาทิวตฺถูสุ ‘‘อิเธว ภฺุชถา’’ติ วุตฺตวจนสฺส กุกฺกุจฺจายนํ, ตมฺปิ โอทนาทินามํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา เอว กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมฺุจิตฺวา เอกโต ตฺวา คณฺหนฺติ.
‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺตตฺตา ปาฬิ (วณฺณนา) ยํ ‘‘ตฺวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน ภตฺตํ เทหี’’ติอาทิโน วุตฺตตฺตา จ โภชนนาเมน วิฺตฺตเมว คณโภชนํ โหติ, ตฺจ อฺเน วิฺตฺตมฺปิ เอกโต คณฺหนฺตานํ สพฺเพสมฺปิ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. วิสุํ คหิตํ ปน วิฺตฺตํ ภฺุชโต ปณีตโภชนาทิสิกฺขาปเทหิ อาปตฺติ เอว.
อาคนฺตุกปฏฺฏนฺติ อจฺฉินฺทิตฺวา อนฺวาธึ อาโรเปตฺวา กรณจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ. เปตีติ เอกํ อนฺตํ จีวเร พนฺธนวเสน เปติ. ปจฺจาคตํ สิพฺพตีติ ตสฺเสว ทุติยอนฺตํ ปริวตฺติตฺวา อาหตํ สิพฺพติ. อาคนฺตุกปฏฺฏํ พนฺธตีติ จีวเรน ลคฺคํ กโรนฺโต ปุนปฺปุนํ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเตน พนฺธติ. ฆฏฺเฏตีติ ปมาเณน คเหตฺวา ทณฺฑาทีหิ ฆฏฺเฏติ. สุตฺตํ กโรตีติ คุณาทิภาเวน วฏฺเฏติ. วเลตีติ อเนกคุณสุตฺตํ หตฺเถน วา จกฺกทณฺเฑน วา วฏฺเฏติ เอกตฺตํ กโรติ. ปริวตฺตนํ กโรตีติ ปริวตฺตนทณฺฑยนฺตกํ กโรติ, ยสฺมึ สุตฺตคุฬํ ปเวเสตฺวา เวฬุนาฬิกาทีสุ เปตฺวา ปริพฺภมาเปตฺวา สุตฺตโกฏิโต ปฏฺาย อากฑฺฒนฺติ.
๒๒๐. อนิมนฺติตจตุตฺถนฺติ อนิมนฺติโต จตุตฺโถ ยสฺส ภิกฺขุจตุกฺกสฺส, ตํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ. เอวํ เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘ปฺจนฺนํ จตุกฺกาน’’นฺติ. สมฺปเวเสตฺวาติ เตหิ โยเชตฺวา. คโณ ภิชฺชตีติ นิมนฺติตสงฺโฆ น โหตีติ อตฺโถ.
อธิวาเสตฺวา ¶ คเตสูติ เอตฺถ อกปฺปิยนิมนฺตนาธิวาสนกฺขเณ ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏมฺปิ นตฺถิ, วิฺตฺติโต ปสวเน ปน วิฺตฺติกฺขเณ อิตรสิกฺขาปเทหิ ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺพํ. นิมนฺตนํ สาทิยถาติ นิมนฺตนภตฺตํ ปฏิคฺคณฺหถ. ตานิ จาติ กุมฺมาสาทีนิ จ เตหิ ภิกฺขูหิ เอเกน ปจฺฉา คหิตตฺตา เอกโต น คหิตานิ.
‘‘ภตฺตุทฺเทสเกน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ…เป… โมเจตพฺพา’’ติ เอเตน ภตฺตุทฺเทสเกน อกปฺปิยนิมนฺตเน สาทิเต สพฺเพสมฺปิ สาทิตํ โหติ. เอกโต คณฺหนฺตานํ คณโภชนาปตฺติ จ โหตีติ ¶ ทสฺเสติ. ทูตสฺส ทฺวาเร อาคนฺตฺวา ปุน ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วจนภเยน ‘‘คามทฺวาเร อฏฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. คณโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๒๑. ตติเย ปาฬิยํ ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตาติ กุลปฏิปาฏิยา ทาตพฺพา ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตา น ิตา, อพฺโพจฺฉินฺนา นิรนฺตรปฺปวตฺตาติ อตฺโถ. พทรผลานิ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกยาคุอาทิกํ ‘‘พทรสาฬว’’นฺติ วุจฺจติ.
ปาฬิยํ ปรมฺปรโภชเนติ เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตสฺส โภชนโต ปรสฺส โภชนสฺส ภฺุชเน. วิกปฺปนาว อิธ อนุปฺตฺติวเสน มาติกายํ อนาโรปิตาปิ ปริวาเร ‘‘จตสฺโส อนุปฺตฺติโย’’ติ (ปริ. ๘๖) อนุปฺตฺติยํ คณิตา. ตตฺถ กิฺจาปิ อฏฺกถายํ มหาปจฺจริวาทสฺส ปจฺฉา กถเนน ปรมฺมุขาวิกปฺปนา ปติฏฺปิตา, ตถาปิ สมฺมุขาวิกปฺปนาปิ คเหตพฺพาว. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ สมฺมุขา’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺ. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ.
๒๒๙. ขีรํ วา รสํ วาติ ปฺจโภชนามิสํ ภตฺตโต อุปริ ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ อโภชนตฺตา อุปฺปฏิปาฏิยา ปิวโตปิ อนาปตฺติ. เตนาห ‘‘ภฺุชนฺเตนา’’ติอาทิ.
วิกปฺปนาย ¶ อกรณโต อกิริยาวเสน อิทํ วาจายปิ สมุฏฺิตนฺติ อาห ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ. ปรมฺปรโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๑. จตุตฺเถ ปาฬิยํ ปฏิยาโลกนฺติ ปจฺฉิมทิสํ, ปจฺฉาทิสนฺติ อตฺโถ. อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ¶ ปฏิยาทิตนฺติสฺาย คณฺหนฺตสฺสาปิ อาปตฺติ เอว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโน อตฺถาย ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนาปิ อาปชฺชนโต ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. วุตฺตลกฺขณปูวมนฺถตา, อเสสกตา, อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธคมนตา, อฺาตกาทิตา, อติเรกปฏิคฺคหณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๗. ปฺจเม ‘‘ติ-การํ อวตฺวา’’ติ อิมินา กาตพฺพสทฺทสามตฺถิยา ลทฺธํ อิติ-ปทํ กตกาเล น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อิธ ปน อชานนฺเตหิ อิติ-สทฺเท ปยุตฺเตปิ อติริตฺตํ กตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๒๓๘-๙. ‘‘ปวาริโต’’ติ อิทฺจ กตฺตุอตฺเถ นิปฺผนฺนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กตปวารโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภุตฺตาวี-ปทสฺส นิรตฺถกภาวเมว สาเธตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตาหีติ ปุถุกาหิ. สตฺตุโมทโกติ สตฺตุํ เตเมตฺวา กโต อปกฺโก. สตฺตุํ ปน ปิสิตฺวา ปิฏฺํ กตฺวา เตเมตฺวา ปูวํ กตฺวา ปจนฺติ, ตํ น ปวาเรติ. ‘‘ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นามา’’ติ วุตฺตตฺตา ยํ ยํ อลชฺชิสนฺตกํ วา อตฺตโน อปาปุณกสงฺฆิกาทึ วา ปฏิกฺเขปโต ปวารณา น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
อาสนฺนตรํ องฺคนฺติ หตฺถปาสโต พหิ ตฺวา โอนมิตฺวา เทนฺตสฺส สีสํ อาสนฺนตรํ โหติ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ.
อปนาเมตฺวาติ ¶ อภิมุขํ หริตฺวา. ‘‘อิมํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทตีติ กิฺจิ อนาเมตฺวา วทติ. เกวลํ วาจาภิหารสฺส อนธิปฺเปตตฺตา คณฺหถาติ คเหตุํ อารทฺธํ กฏจฺฉุนา อนุกฺขิตฺตมฺปิ ปุพฺเพปิ เอวํ อภิหฏตฺตา ปวารณา โหตีติ ‘‘อภิหฏาว โหตี’’ติ วุตฺตํ. อุทฺธฏมตฺเตติ ภาชนโต วิโยชิตมตฺเต. ทฺวินฺนํ สมภาเรปีติ ปริเวสกสฺส จ อฺสฺส จ ภตฺตปจฺฉิภาชนวหเน สมเกปีติ อตฺโถ.
รสํ คณฺหถาติ เอตฺถ เกวลํ มํสรสสฺส อปวารณาชนกสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปโต ¶ ปวารณา น โหติ. มจฺฉรสนฺติอาทีสุ มจฺโฉ จ รสฺจาติ อตฺถสฺส สมฺภวโต วตฺถุโนปิ ตาทิสตฺตา ปวารณา โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติปิ อวตฺวา ตุณฺหีภาเวน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโตปิ โหติ เอว. กรมฺพโกติ มิสฺสกาธิวจนเมตํ. ยฺหิ พหูหิ มิสฺเสตฺวา กโรนฺติ, โส ‘‘กรมฺพโก’’ติ วุจฺจติ.
‘‘อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ มฺมาโนติ เอตฺถ วตฺถุโน กปฺปิยตฺตา ‘‘ปวาริโตว โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตฺเจ อุทฺทิสฺส กตเมว โหติ, ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ‘‘เยนาปุจฺฉิโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สนฺธาย วทติ. การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสนฺติ ภตฺตสฺส พหุตรภาเวน ปวารณาสมฺภวการณํ ทุทฺทสํ, อฺถา กรมฺพเกปิ มจฺฉาทิพหุภาเว ปวารณา ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยถา เจตฺถ การณํ ทุทฺทสํ, เอวํ ปรโต ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ เอตฺถาปิ การณํ ทุทฺทสเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยฺจ ‘‘อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมวา’’ติอาทิ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘อปฺปตรํ น ปวาเรตี’’ติ วจเนน น สเมติ. วิสุํ กตฺวา เทตีติ ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติอาทินา วาจาย วิสุํ กตฺวา เทตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. น ปน กาเยน รสาทึ วิโยเชตฺวาติ. ตถา อวิโยชิเตปิ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาย อสมฺภวโต อปฺปวารณาปโหณกสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ภตฺตมิสฺสกยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตฏฺานาทีสุ วิย, อฺถา วา เอตฺถ ยถา ปุพฺพาปรํ น วิรุชฺฌติ, ตถา อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
นาวา วา เสตุ วาติอาทิมฺหิ นาวาทิอภิรุหนาทิกฺขเณ กิฺจิ ตฺวาปิ อภิรุหนาทิกาตพฺพตฺเตปิ คมนตปฺปรตาย านํ นาม น โหติ, ชนสมฺมทฺเทน ปน อโนกาสาทิภาเวน กาตุํ น วฏฺฏติ. อจาเลตฺวาติ วุตฺตฏฺานโต ¶ อฺสฺมิมฺปิ ปเทเส วา อุทฺธํ วา อเปเสตฺวา ตสฺมึ เอว ปน าเน ปริวตฺเตตุํ ลภติ. เตนาห ‘‘เยน ปสฺเสนา’’ติอาทิ.
อกปฺปิยโภชนํ วาติ กุลทูสนาทินา อุปฺปนฺนํ, ตํ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ อิมินา เตน มิสฺสํ โอทนาทิ อติริตฺตํ โหติ เอวาติ ทสฺเสติ. ตสฺมา ยํ ตตฺถ อกปฺปกตํ กนฺทผลาทิ, ตํ อปเนตฺวา เสสํ ภฺุชิตพฺพเมว.
โส ปุน กาตุํ น ลภตีติ ตสฺมิฺเว ภาชเน กริยมานํ ปมกเตน สทฺธึ กตํ โหตีติ ปุน โส เอว กาตุํ น ลภติ, อฺโ ลภติ. อฺเน หิ กตโต อฺโ ปุน กาตุํ ¶ ลภติ. อฺสฺมึ ปน ภาชเน เตน วา อฺเน วา กาตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ, ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพ’’นฺติ. เอวํ กตนฺติ อฺสฺมึ ภาชเน กตํ. สเจ ปน อามิสสํสฏฺานีติ เอตฺถ มุขาทีสุ ลคฺคมฺปิ อามิสํ โสเธตฺวาว อติริตฺตํ ภฺุชิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๔๑. วาจาย อาณาเปตฺวา อติริตฺตํ อการาปนโต อกิริยสมุฏฺานนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปวาริตภาโว, อามิสสฺส อนติริตฺตตา, กาเล อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๓. ฉฏฺเ ‘‘ภุตฺตสฺมิ’’นฺติ มาติกายํ วุตฺตตฺตา โภชนปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ. ปวาริตตา, ตถาสฺิตา, อาสาทนาเปกฺขตา, อนติริตฺเตน อภิหฏปวารณา, โภชนปอโยสานนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๗. สตฺตเม นฏานํ นาฏกาติ นฏนาฏกา, สีตาหรณาทีนิ.
๒๔๘-๙. ขาทนีเย ขาทนียตฺถนฺติ ปูวาทิขาทนีเย วิชฺชมานขาทนียกิจฺจํ ขาทนีเยหิ กาตพฺพํ ชิฆจฺฉาหรณสงฺขาตํ อตฺถํ ปโยชนํ เนว ผรนฺติ ¶ น นิปฺผาเทนฺติ. เอกสฺมึ เทเส อาหารกิจฺจํ สาเธนฺตํ วา อฺสฺมึ เทเส อุฏฺิตภูมิรสาทิเภเทน อาหารกิจฺจํ อสาเธนฺตมฺปิ วา สมฺภเวยฺยาติ อาห ‘‘เตสุ เตสุ ชนปเทสู’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘เอกสฺมึ ชนปเท อาหารกิจฺจํ สาเธนฺตํ เสสชนปเทสุปิ วิกาเล น กปฺปติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ อิทํ วุตฺต’’นฺติปิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติยกณฺฑ ๓.๒๔๘-๒๔๙) วทนฺติ. ปกติอาหารวเสนาติ อฺเหิ ยาวกาลิเกหิ อโยชิตํ อตฺตโน ปกติยาว อาหารกิจฺจกรณวเสน. สมฺโมโหเยว โหตีติ ¶ อเนกตฺถานํ นามานํ, อปฺปสิทฺธานฺจ สมฺภวโต สมฺโมโห เอว สิยา. เตเนเวตฺถ มยมฺปิ มูลกมูลาทีนํ ปริยายนฺตรทสฺสเนน อทสฺสนํ กริมฺห อุปเทสโตว คเหตพฺพโต.
ยนฺติ วฏฺฏกนฺทํ. มุฬาลนฺติ ถูลตรุณมูลเมว, รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโกติ เหฏฺา วุตฺตเมว สมฺปิณฺเฑตฺวา วุตฺตํ. อจฺฉิวาทีนํ อปริปกฺกาเนว ผลานิ ยาวชีวิกานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริปกฺกานี’’ติ วุตฺตํ. หรีตกาทีนํ อฏฺีนีติ เอตฺถ มิฺชํ ยาวกาลิกนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อฏฺกถายํ อวุตฺตตฺตา.
หิงฺคุรุกฺขโต ปคฺฆริตนิยฺยาโส หิงฺคุ นาม. หิงฺคุชตุอาทโย จ หิงฺคุวิกติโยว. ตตฺถ หิงฺคุชตุ นาม หิงฺคุรุกฺขสฺส ทณฺฑปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส. หิงฺคุสิปาฏิกา นาม หิงฺคุปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส. อฺเน มิสฺเสตฺวา กโตติปิ วทนฺติ. ตกนฺติ อคฺคโกฏิยา นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปตฺตินฺติ ปตฺตโต นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปณฺณินฺติ ปลาเส ภชฺชิตฺวา กตสิเลโส. ทณฺฑโต นิกฺขนฺตสิเลโสติปิ วทนฺติ. วิกาลตา, ยาวกาลิกตา, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๒-๓. อฏฺเม ตาทิสนฺติ อสูปพฺยฺชนํ. ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา…เป… ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ขาทนียโภชนียปเทหิ ยาวกาลิกเมว สงฺคหิตํ, น ยามกาลิกํ. ตถาปิ ‘‘อนาปตฺติ ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภฺุชตี’’ติ อิธ เจว –
‘‘ยามกาลิเกน ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ…เป… ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) –
อฺตฺถ จ วุตฺตตฺตา, ‘‘ยามกาลิก’’นฺติ วจนสามตฺถิยโต จ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ ยามกาลิกํ สนฺนิธิการกกตํ ปาจิตฺติยวตฺถุเมว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยนฺติ ปตฺตํ, ฆํสนกิริยาเปกฺขาย เจตํ อุปโยควจนํ. องฺคุลิเลขา ปฺายตีติ สิเนหาภาเวปิ ปตฺตสฺส สุจฺฉวิตาย ปฺายติ. ยนฺติ ยาวกาลิกํ, ยามกาลิกฺจ. อปริจฺจตฺตเมวาติ นิรเปกฺขตาย ¶ อนุปสมฺปนฺนสฺส อทินฺนํ, อปริจฺจตฺตฺจ ยาวกาลิกาทิวตฺถุเมว สนฺธาย วทติ, น ปน ตคฺคตปฏิคฺคหณํ. น หิ วตฺถุํ อปริจฺจชิตฺวา ตตฺถคตปฏิคฺคหณํ ปริจฺจชิตุํ สกฺกา, น จ ตาทิสํ วจนมตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, ‘‘สเจ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ…เป… ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺย. น หิ โธวเนน อามิสํ อปเนตุํ วายมนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ อเปกฺขา วตฺตติ. เยน ปุนทิวเส ภฺุชโต ปาจิตฺติยํ ชเนยฺย, ปตฺเต ปน วตฺตมานา อเปกฺขา ตคฺคติเก อามิเสปิ วตฺตติ เอวนามาติ อามิเส อนเปกฺขตา เอตฺถ น ลพฺภติ, ตโต อามิเส อวิชหิตปฏิคฺคหณํ ปุนทิวเส ปาจิตฺติยํ ชเนตีติ อิทํ วุตฺตํ. อถ มตํ ‘‘ยทคฺเคเนตฺถ อามิสานเปกฺขตา น ลพฺภติ. ตทคฺเคน ปฏิคฺคหณานเปกฺขาปิ น ลพฺภตี’’ติ. ตถา สติ ยตฺถ อามิสาเปกฺขา อตฺถิ, ตตฺถ ปฏิคฺคหณาเปกฺขาปิ น วิคจฺฉตีติ อาปนฺนํ, เอวฺจ ปฏิคฺคหเณ อนเปกฺขวิสฺสชฺชนํ วิสุํ น วตฺตพฺพํ สิยา. อฏฺกถายฺเจตมฺปิ ปฏิคฺคหณวิชหนการณตฺเตน อภิมตํ สิยา, อิทํ สุฏฺุตรํ กตฺวา วิสุํ วตฺตพฺพํ จีวราเปกฺขาย วตฺตมานายปิ ปจฺจุทฺธาเรน อธิฏฺานวิชหนํ วิย. เอตสฺมิฺจ อุปาเย สติ คณฺิกาหตปตฺเตสุ อวฏฺฏนตา นาม น สิยาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ยํ ปรสฺส ปริจฺจชิตฺวา อทินฺนมฺปิ สเจ ปฏิคฺคหเณ นิรเปกฺขนิสฺสชฺชเนน วิชหิตปฏิคฺคหณํ โหติ, ตมฺปิ ทุติยทิวเส วฏฺฏตี’’ติอาทิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติยกณฺฑ ๓.๒๕๒-๒๕๓), ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
ปกติอามิเสติ โอทนาทิกปฺปิยยาวกาลิเก. ทฺเวติ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ยามกาลิกํ ปุเรภตฺตํ สามิเสน มุเขน ภฺุชโต สนฺนิธิปจฺจยา เอกํ, ยามกาลิกสํสฏฺตาย ยาวกาลิกตฺตภชเนน อนติริตฺตปจฺจยา ¶ เอกนฺติ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. วิกปฺปทฺวเยติ สามิสนิรามิสปกฺขทฺวเย. ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจาติ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏํ. ยาวกาลิกยามกาลิกตา, สนฺนิธิภาโว, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๙. นวเม ปณีตสํสฏฺานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานีติ ปาฬิยํ ปน โภชนานิ ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา ปากฏานีติ อทสฺสิตานิ, ตาทิเสหิ ปณีเตหิ มิสฺสตฺตา ปณีตโภชนานิ นาม โหนฺติ. เตสํ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘เสยฺยถิทํ สปฺปิ นวนีต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ¶ สปฺปินา สํสฏฺํ ภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจาติปิ อตฺโถ วิฺายติ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติอาทินา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺถุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.
มูลนฺติ กปฺปิยภณฺฑํ วุตฺตํ. ตสฺมา อนาปตฺตีติ เอตฺถ วิสงฺเกเตน ปาจิตฺติยาภาเวปิ สูโปทนทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ วทนฺติ. ‘‘กปฺปิยสปฺปินา, อกปฺปิยสปฺปินา’’ติ จ อิทํ กปฺปิยากปฺปิยมํสสตฺตานํ วเสน วุตฺตํ.
๒๖๑. มหานามสิกฺขาปทํ นาม อุปริ จาตุมาสปจฺจยปวารณาสิกฺขาปทํ (ปาจิ. ๓๐๓ อาทโย). อคิลาโน หิ อปฺปวาริตฏฺาเน วิฺาเปนฺโตปิ กาลปริจฺเฉทํ, เภสชฺชปริจฺเฉทํ วา กตฺวา สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺานโต ตทุตฺตริ วิฺาเปนฺเตน, ปริจฺเฉทพฺภนฺตเรปิ น เภสชฺชกรณีเยน โรเคน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺเตน จ สโม โหตีติ ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ปณีตโภชนตา, อคิลานตา, อกตวิฺตฺติยา ปฏิลาโภ, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๓. ทสเม ¶ ฆนพทฺโธติ ฆนมํเสน สมฺพทฺโธ, กถินสํหตสรีโรติ อตฺโถ.
๒๖๔. มุขทฺวารนฺติ มุขโต เหฏฺา ทฺวารํ มุขทฺวารํ, คลนาฬิกนฺติ อตฺโถ. เอวฺจ นาสิกาย ปวิฏฺมฺปิ มุขทฺวารํ ปวิฏฺเมว โหติ, มุเข ปกฺขิตฺตมตฺตฺจ อปฺปวิฏฺํ. อาหารนฺติ อชฺโฌหริตพฺพํ กาลิกํ อธิปฺเปตํ, น อุทกํ. ตฺหิ เภสชฺชสงฺคหิตมฺปิ อกาลิกเมว ปฏิคฺคหิตสฺเสว กาลิกตฺตา. อุทเก หิ ปฏิคฺคหณํ น รุหติ. เตเนว ภิกฺขุนา ตาปิเตน อุทเกน จิรปฏิคฺคหิเตน จ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺเถน จ สห อามิสํ ภฺุชนฺตสฺสาปิ สามปากาทิโทโส น โหติ. วกฺขติ หิ ‘‘ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย…เป… อุทกํ ตาเปติ, วฏฺฏตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ภิกฺขู ปน เอตํ อธิปฺปายํ ตทา น ชานึสุ. เตนาห ‘‘สมฺมา อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา’’ติอาทิ.
๒๖๕. รถเรณุมฺปีติ ¶ รเถ คจฺฉนฺเต อุฏฺหนเรณุสทิสเรณุํ. เตน ตโต สุขุมํ อากาเส ปริพฺภมนกํ ทิสฺสมานมฺปิ อพฺโพหาริกนฺติ ทสฺเสติ. อกลฺลโกติ คิลาโน.
‘‘คเหตุํ วา…เป… ตสฺส โอริมนฺเตนา’’ติ อิมินา อากาเส อุชุํ ตฺวา ปเรน อุกฺขิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อาสนฺนงฺคภูตปาทตลโต ปฏฺาย หตฺถปาโส ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ, น ปน สีสนฺตโต ปฏฺายาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘โอริมนฺเตนา’’ติ อิมสฺส เหฏฺิมนฺเตนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เอตฺถ จ ปวารณาสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺายา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) ปฏิคฺคาหกานํ อาสนฺนงฺคสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย ปริจฺเฉทสฺส ทสฺสิตตฺตา อิธาปิ อากาเส ิตสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส อาสนฺนงฺคภูตปาทงฺคุลสฺส ปาริมนฺตภูตโต ปณฺหิปริยนฺตสฺส เหฏฺิมตลโต ปฏฺาย, ทายกสฺส ปน โอริมนฺตภูตโต ปาทงฺคุลสฺส เหฏฺิมตลโต ปฏฺาย หตฺถปาโส ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. อิมินาว นเยน ภูมิยํ นิปชฺชิตฺวา อุสฺสีเส นิสินฺนสฺส หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺสปิ อาสนฺนสีสงฺคสฺส ปาริมนฺตภูตโต คีวนฺตโต ปฏฺาเยว ¶ หตฺถปาโส มินิตพฺโพ, น ปาทตลโต ปฏฺาย. เอวํ นิปชฺชิตฺวา ทาเนปิ ยถานุรูปํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ อาสนฺนตรํ องฺค’’นฺติ หิ วุตฺตํ.
ปฏิคฺคหณสฺายาติ ‘‘มฺจาทินา ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ อุปฺปาทิตสฺาย. อิมินา ‘‘ปฏิคฺคณฺหามี’’ติ วาจาย วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. กตฺถจิ อฏฺกถาสุ, ปเทเสสุ วา. อสํหาริเม ผลเกติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อสํหาริเย. ปฺุฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวาติ ปฺุฉิเตปิ รชนจุณฺณสงฺกาย สติ ปฏิคฺคหณตฺถาย วุตฺตํ, นาสติ. ตํ ปนาติ ปติตรชํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา อุปริ คหิตปิณฺฑปาตํ. อนาปตฺตีติ ทุรุปจิณฺณาทิโทโส นตฺถิ. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติอาทิปิ วินยทุกฺกฏปริหาราย วุตฺตํ. ตถา อกตฺวา คหิเตปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชโต อนาปตฺติ เอว. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา’’ติ อิทมฺปิ ปุริมาโภคานุคุณตาย วุตฺตํ.
จรุเกนาติ ขุทฺทกภาชเนน. อภิหฏตฺตาติ ทิยฺยมานกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทตฺวา อปนยนกาเล ปน ฉาริกา วา พินฺทูนิ วา ปตนฺติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ อภิหารสฺส วิคตตฺตาติ วทนฺติ. ตํ ยถา น ปตติ, ตถา อปเนสฺสามีติ ปริหรนฺเต ยุชฺชติ. ปกติสฺาย อปเนนฺเต อภิหาโร น ฉิชฺชติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ ¶ วฏฺฏตีติ อภิหริยมานสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อุปริภาเค หตฺถํ ปสาเรตฺวา ผุสิตุํ วฏฺฏติ.
ปาเทน เปลฺเลตฺวาติ ‘‘ปาเทน ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติสฺาย อกฺกมิตฺวา. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. วจนมตฺตเมวาติ ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธนฺติ สทฺทมตฺตเมว นานํ, กายปฏิพทฺธเมว โหติ. ตสฺมา เตสํ วจนํ น คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
เตน อาหราเปตุนฺติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คตํ, ตํ อิธ อาเนหีติ อาณาเปตฺวา เตน อาหราเปตุํ อิตรสฺส วฏฺฏตีติ อตฺโถ. น ตโต ปรนฺติ ตทเหว สามํ อปฺปฏิคฺคหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทเหว ปฏิคฺคหิตํ ปน ปุนทิวสาทีสุ อปฺปฏิคฺคเหตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
ขิยฺยนฺตีติ ขยํ คจฺฉนฺติ, เตสํ จุณฺเณหิ ถุลฺลจฺจยอปฺปฏิคฺคหณาปตฺติโย น โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘นวสมุฏฺิต’’นฺติ เอเตเนว อุจฺฉุอาทีสุ ¶ อภินวลคฺคตฺตา อพฺโพหาริกํ น โหตีติ ทสฺเสติ. เอเสว นโยติ สนฺนิธิโทสาทึ สนฺธาย วทติ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. เตน จ ปฏิคฺคหณงฺเคสุ ปฺจสุปิ สมิทฺเธสุ อชฺโฌหริตุกามตาย คหิตเมว ปฏิคฺคหิตํ นาม โหติ อชฺโฌหริตพฺเพสุ เอว ปฏิคฺคหณสฺส อนฺุาตตฺตาติ ทสฺเสติ. ตถา พาหิรปริโภคตฺถาย คเหตฺวา ปิตเตลาทึ อชฺโฌหริตุกามตาย สติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
เกสฺจีติอาทีสุ อนุปสมฺปนฺนานํ อตฺถาย กตฺถจิ ปิยมานมฺปิ หตฺถโต มุตฺตมตฺเต เอว ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ, อถ โข ภาชเน ปติตเมว ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ภาชนฺจ ภิกฺขุนา ปุนทิวสตฺถาย อเปกฺขิตเมวาติ ตคฺคตมฺปิ อามิสํ ทุทฺโธตปตฺตคตํ วิย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อาสงฺกาย ‘‘สามเณรสฺส หตฺเถ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อีทิเสสุ หิ ยุตฺติ น คเวสิตพฺพา, วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘ปตฺตคตา ยาคู’’ติ อิมินา ปตฺตมุขวฏฺฏิยา ผุฏฺเปิ กูเฏ ยาคุ ปฏิคฺคหิตา, อุคฺคหิตา วา น โหติ ภิกฺขุโน อนิจฺฉาย ผุฏฺตฺตาติ ทสฺเสติ. อาโรเปตีติ หตฺถํ ผุสาเปติ. ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุกฺเขปารหํ. น ปิทหิตพฺพนฺติ หตฺถโต มุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, หตฺถคตํ ปน อิตเรน หตฺเถน ปิทหโต, หตฺถโต มุตฺตมฺปิ วา อผุสิตฺวา อุปริปิธานํ ปาเตนฺตสฺส น โทโส.
ปฏิคฺคณฺหาตีติ ¶ ฉายตฺถาย อุปริ ธารยมานา มหาสาขา เยน เกนจิ ฉิชฺเชยฺย, ตตฺถ ลคฺครชํ มุเข ปาเตยฺย จาติ กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ. กุณฺฑเกติ มหาฆเฏ. ตสฺมิมฺปีติ จาฏิฆเฏปิ. คาหาเปตฺวาติ อปฺปฏิคฺคหิตํ กาลิกํ คาหาเปตฺวา.
ทุติยตฺเถรสฺสาติ ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ มยฺหํ เทถา’’ติ เตน อตฺตโน ปริจฺจชาเปตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส เทติ. เอตฺถ ปนาติ ปตฺตปริวตฺตเน. การณนฺติ เอตฺถ ยถา ‘‘สามเณรา อิโต อมฺหากมฺปิ เทนฺตี’’ติ วิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, น ตถาติ การณํ วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตํ. ยสฺส ปน ตาทิโส วิตกฺโก นตฺถิ, เตน อปริวตฺเตตฺวาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
นิจฺจาเลตุนฺติ ¶ จาเลตฺวา ปาสาณสกฺขราทิอปนยํ กาตุํ. อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพนฺติ อนคฺคิกํ อุทฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุทฺธเน ปจฺจมานสฺส อาลุฬเน อุปริ อปกฺกตณฺฑุลา เหฏฺา ปวิสิตฺวา ปจฺจตีติ อาห ‘‘สามํปากฺเจว โหตี’’ติ.
อาธารเก ปตฺโต ปิโตติ อปฺปฏิคฺคหิตามิโส ปตฺโต ปุน ปฏิคฺคหณตฺถาย ปิโต. เอกคฺคหเณเนวาติ สามเณรานํ คหิตสฺส ปุน อจฺฉฑฺฑนวเสน คหเณน. ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ธูมวฏฺฏิยา ตทหุปฏิคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ. ภตฺตุคฺคาโรติอาทิ อพฺโพหาริกปฺปสงฺเคน วิกาลโภชนวินิจฺฉยทสฺสนํ. สมุทฺโททเกนาติ อปฺปฏิคฺคหิเตน. หิมกรกา นาม กทาจิ วสฺโสทเกน สห ปตนกา ปาสาณเลขา วิย ฆนีภูตอุทกวิเสสา, เตสุ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. เตนาห ‘‘อุทกคติกา เอวา’’ติ. ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตีติ อปฺปฏิคฺคหิตาปตฺตีหิ อพฺโพหาริกมฺปิ วิกาลโภชนาปตฺตีหิ สพฺโพหาริกนฺติ ทสฺเสติ.
ลคฺคตีติ มุเข จ หตฺเถ จ มตฺติกาวณฺณํ ทสฺเสติ. พหลนฺติ หตฺถมุเขสุ อลคฺคนกมฺปิ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. วาสมตฺตนฺติ เรณุขีราภาวํ ทสฺเสติ. อากิรติ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ปุปฺผรสสฺส ปฺายนโต วุตฺตํ.
มหาภูเตสูติ ปาณสรีรสนฺนิสฺสิเตสุ ปถวีอาทิมหาภูเตสุ. สพฺพํ วฏฺฏตีติ อตฺตโน, ปเรสฺจ สรีรนิสฺสิตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. อกปฺปิยมํสานุโลมตาย ถุลฺลจฺจยาทึ น ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ปตตีติ อตฺตโน สรีรโต วิจฺฉินฺทิตฺวา ปตติ. ‘‘รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา มตฺติกตฺถาย ปถวึ ขณิตุํ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ มูลปณฺณาทิวิสเภสชฺชํ ฉินฺทิตฺวา ฉาริกํ ¶ อกตฺวาปิ อปฺปฏิคฺคหิตมฺปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตตา, อนนฺุาตตา, ธูมาทิอพฺโพหาริกตาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อเจลกวคฺโค
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๓. ปฺจมวคฺคสฺส ¶ ปเม มยฺหํ นามาติ ภิกฺขุนา ภูมิยํ เปตฺวา ทินฺนมฺปิ สนฺธาย วทติ. อฺติตฺถิยตา, อนนฺุาตตา, อชฺโฌหรณียตา, อชฺโฌหรณตฺถาย สหตฺถา อนิกฺขิตฺตภาชเน ทานนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๔. ทุติเย อนาจารํ อาจริตุกามตา, ตทตฺถเมว อุปสมฺปนฺนสฺส อุยฺโยชนา, ตสฺส อุปจาราติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๑. ตติเย ปาฬิยํ ขุทฺทเก ฆเรติ เอตฺถ ขุทฺทกํ ฆรํ นาม ปฺจหตฺถโต อูนกวิตฺถารํ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ จ ปิฏฺสงฺฆาฏโต หตฺถปาเส อวิชหิเตปิ ปิฏฺิวํสาติกฺกโม โหตีติ อาห ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ ปิฏฺิวํสํ อาโรเปตฺวา วา อนาโรเปตฺวา วา กตสฺส.
๒๘๓. ปาฬิยํ ¶ วีตราคาติ อปริยุฏฺิตราคานํ, อนาคามีนฺจ สงฺคโห. สจิตฺตกนฺติ อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. ปริยุฏฺิตราคชายมฺปติกานํ สนฺนิหิตตา, สยนิฆรตา, ทุติยสฺส ภิกฺขุโน อภาโว, อนุปขชฺช นิสีทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๘๔-๒๘๙. จตุตฺถปฺจมานิ วุตฺตตฺถานิ.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๘. ฉฏฺเ ¶ ‘‘ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา โย อปริเยสิตพฺโพ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺาเน ทิสฺสติ, โส สเจปิ ปกติวจนสฺส สวนูปจารํ อติกฺกมฺม ิโต อุปคนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อปิ จ…เป… ยํ ปสฺสติ, โส อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิ.
๓๐๒. อนาปตฺติวาเร เจตฺถ อนฺตรารามาทีนฺเว วุตฺตตฺตา วิหารโต คามวีถึ อนฺุาตการณํ วินา อติกฺกมนฺตสฺสาปิ อาปตฺติ โหติ, น ปน ฆรูปจารํ อติกฺกมนฺตสฺเสว.
ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘อฺสฺส ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส…เป… ปมํ ปาทํ อุมฺมารํ อติกฺกาเมตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ คาเม ปวิฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตถาปิ อฺสฺส ฆรูปจารํ อโนกฺกมิตฺวา วีถิมชฺเฌเนว คนฺตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตฆรทฺวาราภิมุเข ตฺวา มนุสฺเส โอโลเกตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว. ตตฺถ เกจิ ‘‘วีถิยํ อติกฺกมนฺตสฺส ฆรูปจารคณนาย อาปตฺติโย’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ยานิ กุลานิ อุทฺทิสฺส คโต, เตสํ คณนายา’’ติ. ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺตนสาทิยนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, ภตฺติยฆรโต อฺฆรูปสงฺกมนํ, มชฺฌนฺหิกานติกฺกโม, สมยาปทานํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๐๓. สตฺตเม ¶ มหานาโมติ สุกฺโกทนสฺส ปุตฺโต อนุรุทฺธตฺเถรสฺส, สตฺถุ จ เชฏฺภาตา. อานนฺทตฺเถโร อมิโตทนสฺส ปุตฺโต, นนฺทตฺเถโร ปน สุทฺโธทนสฺเสว.
๓๐๕. ปาฬิยํ กาลํ อาหริสฺสถาติ อชฺชตนํ กาลํ วีตินาเมสฺสถ, สฺเว เภสชฺชํ หริสฺสถาติ วา อตฺโถ. ‘‘อตฺถิ ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จา’’ติ ตติยโกฏฺาเส นิยมิตเมว เภสชฺชํ นิยมิตกาลนฺตเรเยว คเหตพฺพํ, น ตโต พหิ. อิตรถา ¶ วิสุํ ปโยชนํ นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. สปริยนฺตา สงฺฆปวารณา, ตทุตฺตริ เภสชฺชวิฺตฺติ, อคิลานตาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๕. อฏฺเม เอกเมกนฺติ เอตฺถ ทุวงฺคินีปิ ติวงฺคินีปิ เสนา สงฺคยฺหติ. อุยฺยุตฺตจตุรงฺคเสนาทสฺสนาย ตถารูปปจฺจยาทึ วินา คมนํ, อนนฺุาโตกาเส ทสฺสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๙. นวเม เสนาย จตุตฺโถ สูริยตฺถงฺคโม, อคิลานตาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๒. ทสเม ปาฬิยํ กติ เต ลกฺขานิ ลทฺธานีติ กิตฺตกา ตยา ลทฺธาติ อตฺโถ. อุยฺโยธิกาทิทสฺสนาย ¶ ตถารูปปจฺจยํ วินา คมนํ, อนนฺุาโตกาเส ทสฺสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๖. สุราปานวคฺโค
๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๘. ฉฏฺวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาฬิยํ กิณฺณปกฺขิตฺตาติ ปิฏฺปูวาทึ อปกฺขิปิตฺวา กิณฺณสงฺขาตํ ธฺงฺกุราทิสุราพีชํ ปกฺขิปิตฺวา กตา. สมฺภารสํยุตฺตาติ สาสปาทิอเนกสมฺภาเรหิ สฺุตฺตา.
มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผาทิรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว นาม. ตถา ปนสาทิ ผลาสโว. มุทฺทิกรโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. ติผลติกฏุกาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. พีชโต ปฏฺายาติ ยถาวุตฺตานํ ปิฏฺาทีนํ มชฺชตฺถาย ภาชเน ปกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย.
๓๒๙. โลณโสวีรกํ สุตฺตฺจ อเนเกหิ ทพฺพสมฺภาเรหิ อภิสงฺขโต เภสชฺชวิเสโส. อุยฺยุตฺตสิกฺขาปทานํ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ โลกวชฺชตา ปุพฺเพ วุตฺตนยาวาติ ตตฺถ กิฺจิปิ อวตฺวา อิธ เตหิ อสาธารณวตฺถุวิเสสสิทฺธาย อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตตาย ตํ โลกวชฺชตาทิวิเสสํ ทสฺเสตุเมว ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถา’’ติอาทินา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วิตฺถารโต สารตฺถทีปนิยํ วิรทฺธฏฺานวิโสธนวเสน วุตฺตนฺติ ตตฺเถว คเหตพฺพํ. มชฺชภาโว, ตสฺส ปานฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๐. ทุติเย ¶ หสาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส กาเยน กายามสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๘. ตติเย ¶ ปาฬิยํ หสธมฺเม หสธมฺมสฺีติอาทีสุ อุปฺลวาทิมตฺตํ กึ หสธมฺโม โหตีติ คหณวเสน สติ กรณีเย กริยมานํ หสธมฺมํ หสธมฺโมติ คหณวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุสฺสาเรนฺโตติ อุทเก ิตํ นาวํ ตีเร อาโรเปนฺโต.
ปตนุปฺปตนวาเรสูติ อุทกสฺส อุปริตเล มณฺฑูกคติยา ปตนุปฺปตนวเสน คมนตฺถํ ขิตฺตาย เอกิสฺสา กถลาย วเสน วุตฺตํ. อุทกสฺส อุปริโคปฺผกตา, หสาธิปฺปาเยน กีฬนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๔. จตุตฺเถ สุตฺตานุโลมนฺติ มหาปเทสา. อฏฺกถาติปิ วทนฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อนาทริยกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๕. ปฺจเม อุปสมฺปนฺนตา, ตสฺส ทสฺสนสวนวิสเย ภึสาเปตุกามตาย วายมนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๕๔. ฉฏฺเ ¶ อลาตํ ปติตนฺติ อคฺคิกปาลโต พหิ ปติตํ. วิชฺฌาตนฺติ วิชฺฌาตํ อลาตํ กปาลคฺคิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ชาเลนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตถา เกวลํ อินฺธนํ ปาเตนฺตสฺสปิ วิชฺฌาตํ กปาลคฺคึ มุขวาตาทินา อุชฺชาเลนฺตสฺสปิ. คิลานตาทิการณาภาโว, วิสิพฺเพตุกามตา, สมาทหนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๕๗. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ นคเร ถกิเตติ เอตฺถ รฺา จิรํ นหายิตุกาเมน ‘‘อหํ พหิ อุยฺยาเน กตารกฺโข วสิสฺสามิ, นครํ ถเกตฺวา โคเปถา’’ติ อนฺุาตา, เต ถกึสูติ ทฏฺพฺพํ. อสมฺภินฺเนนาติ อนฏฺเน, ตํ ทิวสํ ปุน อคฺคหิตาลงฺกาเรน ปพุทฺธมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. มชฺฌิมเทเส อูนกทฺธมาสนหานํ, สมยาทีนํ อภาโวติ ทฺเว องฺคานิ.
นหานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๘. อฏฺเม ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ เอตฺถ ปุพฺเพ อกตกปฺปํ กติปาหํ นิวาสนตฺถาย ตาวกาลิกวเสน ลทฺธมฺปิ สงฺคยฺหตีติ วทนฺติ.
๓๖๙. ‘‘นวํ นาม อกตกปฺป’’นฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อฺเน ภิกฺขุนา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปริภุตฺตํ จีวรํ, เตน วา, ตโต ลภิตฺวา อฺเน วา เกนจิ ทินฺนมฺปิ กตกปฺปเมว นวํ นาม น โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา’’ติ วุตฺตตฺตา อํสพทฺธกาสาวมฺปิ ปารุปิตพฺพโต กปฺปํ กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. จมฺมการนีลํ นาม จมฺมํ นีลวณฺณํ กาตุํ โยชิยมานํ นีลํ. ปกตินีลเมวาติ เกจิ. ยถาวุตฺตจีวรสฺส อกตกปฺปตา, อนฏฺจีวราทิตา, นิวาสนาทิตาติ ตีณิ องฺคานิ.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๔. นวเม ¶ เยนาติ เยน สทฺธึ, ยสฺส สนฺติเกติ อตฺโถ. สามํ วิกปฺปิตสฺส อปจฺจุทฺธาโร, วิกปฺปนุปคจีวรตา, อวิสฺสาเสน ปริโภโคติ ตีณิ องฺคานิ.
วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๘. ทสเม ¶ ปาฬิยํ อนฺตมโส หสาเปกฺโขปีติ อปิ-สทฺเทน อเถยฺยจิตฺตํ โกเธน ทุกฺขาเปตุกามํ, อวณฺณํ ปกาเสตุกามฺจ สงฺคยฺหติ. เตเนว ‘‘ติเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปตฺตาทีนํ อปนิธานํ, วิเหเสตุกามตาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. สปฺปาณกวคฺโค
๑. สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๒. สตฺตมสฺส ปเม อุสุํ สรํ อสติ ขิปตีติ อิสฺสาโส. น เหตฺถ กิฺจิ ชีวิตํ นาม วิสุํ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปาเณติ สตฺเต. อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพนฺติ ยถา ปาณกานํ วิเหสาปิ น โหติ, เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา โอตาปนสมฺมชฺชนาทิวตฺตํ กาตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๗. ทุติเย ¶ อุทกสณฺานกปฺปเทเสติ กทฺทมปาสาณาทิภูมิยํ. ตตฺถาติ อาสิตฺเต กปฺปิยอุทเก. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๒. ตติเย ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ยสฺส อธิกรณํ สงฺฆกมฺเมน นิหตํ, ตสฺส สมฺมุเข เอว อุกฺโกเฏนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ปรมฺมุเข ปน ทุกฺกฏเมว.
๓๙๕. ‘‘ธมฺมกมฺเม ¶ อธมฺมกมฺมสฺี อุกฺโกเฏติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา อนาทริยตาทิ วิย อุกฺโกฏนํ สยํ อกุสลํ น โหติ, ธมฺมกมฺมสฺาย, ปน วิมติยา จ อุกฺโกฏเนเนว อกุสลํ โหติ. ยถาธมฺมํ นิหตตา, ชานนา, อุกฺโกฏนาติ ตีณิ องฺคานิ.
อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๙. จตุตฺเถ อาปตฺตึ อาปชฺชติเยวาติ ธุรนิกฺเขปปกฺเข วุตฺตํ. วตฺถุปุคฺคโลติ อาปนฺนปุคฺคโล. ฉาเทตุกามตาย หิ สติ เอว อวสฺสํ อฺสฺส อาโรจนํ วุตฺตํ, วตฺถุปุคฺคลสฺส จ อาโรจนา นาม น โหตีติ ปฏิจฺฉาทนเมวาติ อธิปฺปาโย. โกฏิ ฉินฺนา โหตีติ ฉาเทสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป สติปิ ปุคฺคลปรมฺปราย คจฺฉนฺตี อาปตฺติโกฏิ ฉิชฺชติ.
๔๐๐. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ จ กายสํสคฺโค จาติ อยํ ทุฏฺุลฺลอชฺฌาจาโร นามา’’ติ อิทํ ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส…เป… อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานิ ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโร, เสสานิ อทุฏฺุลฺโล. สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺคทุฏฺุลฺลอตฺตกามา ปนสฺส อชฺฌาจาโร นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒) อิมินา วจเนน วิรุชฺฌตีติ วีมํสิตพฺพํ. ปุคฺคลเปเมน ฉาทยโต เจตฺถ ‘‘อฺเ ครหิสฺสนฺตี’’ติ ภยวเสน ฉาทนกฺขเณ ¶ ปฏิโฆว อุปฺปชฺชตีติ ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลาปตฺติชานนํ, ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย ธุรนิกฺเขโปติ ทฺเว องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๒. ปฺจเม รูปสิปฺปนฺติ เหรฺิกสิปฺปํ. คพฺเภ สยิตกาเลน สทฺธึ วีสติมํ วสฺสํ ปริปุณฺณมสฺสาติ คพฺภวีโส.
๔๐๔. นิกฺขมนียปุณฺณมาสีติ ¶ สาวณมาสสฺส ปุณฺณมิยา อาสาฬฺหีปุณฺณมิยา อนนฺตรปุณฺณมี. ปาฏิปททิวเสติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกาย. ทฺวาทส มาเส มาตุ กุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาตํ อุปสมฺปาเทนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตึส รตฺตินฺทิโว มาโส, ทฺวาทสมาสิโก สํวจฺฉโร’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑; ๘.๔๓; วิภ. ๑๐๒๓) วจนโต ‘‘จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺตี’’ติ วุตฺตํ. วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺตีติ วสฺสํ อุทฺธํ กฑฺฒนฺติ, ‘‘เอกมาสํ อธิกมาโส’’ติ ฉฑฺเฑตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ตติโย ตติโย สํวจฺฉโร เตรสมาสิโก โหติ. เต ทฺเว มาเส คเหตฺวาติ นิกฺขมนียปุณฺณมาสโต ยาว ชาตทิวสภูตา มหาปวารณา. ตาว เย ทฺเว มาสา อนาคตา, เตสํ อตฺถาย อธิกมาสโต ลทฺเธ ทฺเว มาเส คเหตฺวา. เตนาห ‘‘โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสตี’’ติอาทิ. ‘‘นิกฺกงฺขา หุตฺวา’’ติ อิทํ อฏฺารสนฺนํ วสฺสานํ เอกอธิกมาเส คเหตฺวา ตโต วีสติยา วสฺเสสุปิ จาตุทฺทสีอตฺถาย จตุนฺนํ มาสานํ ปริหาปเนน สพฺพทา ปริปุณฺณวีสติวสฺสตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสตีติ มหาปวารณาทิวเส อติกฺกนฺเต คพฺภวสฺเสน สห วีสติวสฺโส ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา คพฺภมาสาปิ คณนูปคา โหนฺติ, ตสฺมา. เอกวีสติวสฺโสติ ชาติยา วีสติวสฺสํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๐๖. อฺํ อุปสมฺปาเทตีติ อุปชฺฌาโย, อาจริโย วา หุตฺวา อุปสมฺปาเทติ. โสปีติ อุปสมฺปาเทนฺโตปิ อนุปสมฺปนฺโน. อูนวีสติวสฺสตา, ตํ ตฺวา อุปชฺฌาเยน หุตฺวา อุปสมฺปาทนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๙. ฉฏฺเ ¶ เถยฺยสตฺถภาโว, ตฺวา สํวิธานํ, อวิสงฺเกเตน คมนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๗. อฏฺเม ¶ อนฺตรายนฺติ อนฺตรา เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ. อานนฺตริยธมฺมาติ อนนฺตเร ภเว ผลนิพฺพตฺตเน นิยุตฺตา เจตนาทิธมฺมาติ อตฺโถ. ‘‘น สคฺคสฺสา’’ติ อิทํ ภิกฺขุนิทูสนกมฺมสฺส อานนฺตริยตฺตาภาวโต วุตฺตํ. อริยสาวิกาสุ, ปน กลฺยาณปุถุชฺชนภูตาย จ พลกฺกาเรน ทูเสนฺตสฺส อานนฺตริยสอสเมว. โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โลลายปิ ปกตตฺตภิกฺขุนิยา ทูสกสฺส ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติยา อภาวโต วุตฺตา.
ตสฺมึ อตฺตภาเว อนิวตฺตนกา อเหตุกอกิริยนตฺถิกทิฏฺิโยว นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา. ปณฺฑกาทีนํ คหณํ นิทสฺสนมตฺตํ. สพฺพาปิ ทุเหตุกาเหตุกปฏิสนฺธิโย วิปากนฺตรายิกาว ทุเหตุกานมฺปิ มคฺคานุปฺปตฺติโต.
อยนฺติ อริฏฺโ. รเสน รสนฺติ อนวชฺเชน ปจฺจยปริภฺุชนรเสน ปฺจกามคุณปอโภครสํ สมาเนตฺวา. อุปเนนฺโต วิยาติ ฆเฏนฺโต วิย, โส เอว วา ปาโ.
อฏฺิกงฺกลูปมาติ เอตฺถ อฏฺิ เอว นิมฺมํสตาย กงฺกลนฺติ จ วุจฺจติ. ปลิภฺชนฏฺเนาติ อวสฺสํ ปตนฏฺเน. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ อติ วิย กุฏฺฏนฏฺเน. ปาฬิยํ ‘‘ตถาหํ ภควตา…เป… นาลํ อนฺตรายายา’’ติ อิทํ วตฺถุอนุรูปโต วุตฺตํ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา อฺเนปิ อากาเรน ยํ กิฺจิ ภควตา วุตฺตํ วิปรีตโต คเหตฺวา ปเรหิ วุตฺเตปิ อมฺุจิตฺวา โวหรนฺตสฺสาปิ วุตฺตนยานุสาเรน ตทนุคุณํ สมนุภาสนกมฺมวาจํ โยเชตฺวา อาปตฺติยา อาโรเปตุํ, อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ ตีสุ ยํ กิฺจิ อภิรุจิตํ นิมิตฺตํ กตฺวา อุกฺเขปนียกมฺมํ ¶ กาตฺุจ ลพฺภติ. สมนุภาสนํ อกตฺวาปิ ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจา’’ติ ภิกฺขูหิ วุตฺตมตฺเต ลทฺธิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยาย ทุกฺกฏาปตฺติยาปิ อุกฺเขปนียกมฺมํ กาตุมฺปิ วฏฺฏเตวาติ ทฏฺพฺพํ. ธมฺมกมฺมตา, สมนุภาสนาย อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. นวเม ¶ ‘‘อุกฺขิตฺโต อโนสาริโต’’ติ วุตฺตตฺตา อริฏฺสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๔๒๕. ปาฬิยํ ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺชเน ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส อรหโตปิ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกานมฺปิ ปาจิตฺติยเมว. อกตานุธมฺมตา, ตฺวา สมฺโภคาทิกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๘. ทสเม ปิเรติ สมฺโพธนตฺเถ นิปาตปทํ. เสสํ อนนฺตรสิกฺขาปททฺวเย วุตฺตนยเมว.
กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๘. สหธมฺมิกวคฺโค
๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๔. อฏฺมวคฺคสฺส ¶ ปเม อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อสิกฺขิตุกามสฺส เลเสน เอวํ วจนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๘. ทุติเย อลชฺชิตาติ อลชฺชิตาย. เอวํ เสเสสุปิ. สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติอาทิ ภิกฺขุภิกฺขุนีนฺเว วุตฺตํ อลชฺชิลกฺขณํ, สามเณราทีนํ, ปน คหฏฺานฺจ สาธารณวเสน ยถาสกํ สิกฺขาปทวีติกฺกมนปฏิคูหนาทิโต เวทิตพฺพํ. ลชฺชิลกฺขเณปิ เอเสว นโย. กิฺจาปิ ¶ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเนปิ มทฺทิตฺวา กโรนฺโต, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย กโรนฺโตปิ ตงฺขณิกาย อลชฺชิตาย เอวํ กโรนฺติ. ตถาปิ กุกฺกุจฺจาทิเภเท วิสุํ คหิตาติ ทฏฺพฺพํ.
วชฺชิปุตฺตกา ทสวตฺถุทีปกา. ปรูปหารอฺาณกงฺขาปรวิตารณาทิวาทาติ เอตฺถ อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ กุหกานํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ ทิสฺวา ‘‘มารกายิกา เทวตา อสุจึ อุปสํหรนฺตี’’ติคาหิโน ปรูปหารวาทา นาม. อรหโต สพฺเพสํ อิตฺถิปุริสาทีนํ นามาทิอชานเน อฺาณํ, ตตฺถ สนฺนิฏฺานภาเวน กงฺขา, ปรโต สุตฺวา นามาทิชานเนน ปรวิตารโณ อตฺถีติวาทิโน อฺาณวาทา, กงฺขาวาทา, ปรวิตารณวาทา จ เตสํ, มหาสงฺฆิกาทีนฺจ วิภาโค กถาวตฺถุปฺปกรเณ วุตฺโต.
จตฺตาโร มคฺคา จ ผลานิ จาติ เอตฺถ จ-กาเรน อภิฺาปฏิสมฺภิทาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เกจีติ ปริยตฺติธรา ธมฺมกถิกา. ปุน เกจีติ ปฏิปตฺติธรา ปํสุกูลิกตฺเถรา. อิตเร ปนาติอาทีสุ อยํ อธิปฺปาโย – ธมฺมกถิกตฺเถรา ปน ปํสุกูลิกตฺเถเรหิ อาภตํ สุตฺตํ สุตฺวา –
‘‘ยาว ¶ ติฏฺนฺติ สุตฺตนฺตา, วินโย ยาว ทิปฺปติ;
ตาว ทกฺขนฺติ อาโลกํ, สูริเย อพฺภุฏฺิเต ยถา.
‘‘สุตฺตนฺเตสุ อสนฺเตสุ, ปมุฏฺเ วินยมฺหิ จ;
ตโม ภวิสฺสติ โลเก, สูริเย อตฺถงฺคเต ยถา.
‘‘สุตฺตนฺเต รกฺขิเต สนฺเต, ปฏิปตฺติ โหติ รกฺขิตา;
ปฏิปตฺติยํ ิโต ธีโร, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ. (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๐) –
อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อตฺตโนว วาทํ ปติฏฺเปนฺตา ปาราชิกานาปชฺชนวเสน ิตา ปฏิปตฺติสงฺคหิตา ปริยตฺติเยว มูลนฺติ อาหํสูติ. เตนาห ‘‘สเจ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขณกา…เป… สาสนํ วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ คมยิสฺสนฺตี’’ติ. เอเตน จ ปริกฺขีเณ กาเล ลชฺชิคณํ อลภนฺเตน วินยธเรน อลชฺชิโนปิ ปกตตฺเต สงฺคเหตฺวา เตหิ สห ธมฺมามิสสมฺโภคํ สํวาสํ กโรนฺเตน พหู กุลปุตฺเต อุปสมฺปาเทตฺวา สาสนํ ¶ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ อิทํ สิชฺฌตีติ ทฏฺพฺพํ. ครหิตุกามตา, อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทวิวณฺณนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔๔. ตติเย ปาฬิยํ โก ปน วาโท ภิยฺโยติ เตหิ อฺเหิ ภิกฺขูหิ ทิฏฺทฺวตฺติวารโต ภิยฺโย ปน วิตฺถาเรน อุทฺทิสิยมาเน ปาติโมกฺเข นิสินฺนปุพฺพตา อตฺถิ เจ, ตตฺถ กิเมว วตฺตพฺพํ, อาปตฺติโมกฺโข นตฺถิ เอวาติ อธิปฺปาโย. ตฺจ ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ ตนฺติ การณตฺเถ อุปโยควจนํ, ตายาติ อตฺโถ. ยถา ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ตาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. โมหาโรปนํ, ติกฺขตฺตุํ สุตภาโว, โมเหตุกามสฺส โมหนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๑. จตุตฺเถ ¶ ปาฬิยํ กายปฏิพทฺเธน วาติ เอตฺถ ปาสาณาทินิสฺสคฺคิยปหาโรปิ สงฺคหิโต.
๔๕๒. รตฺตจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน วุตฺตํ. เมถุนราเคน ปน ปหารโต ปุริสาทีสุ ทุกฺกฏเมว. โมกฺขาธิปฺปาเยน ทณฺฑโกฏิยา สปฺปาทึ ฆฏฺเฏตฺวา มณฺฑูกาทึ โมเจนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ เอว. กุปิตตา, อุปสมฺปนฺนสฺส น โมกฺขาธิปฺปาเยน ปหาโรติ ทฺเว องฺคานิ.
ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๗. ปฺจเม ¶ น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ กิมิทํ ทุกฺกฏํ, ปหารปจฺจยา, อุทาหุ อุคฺคิรณปจฺจยาติ? อุคฺคิรณปจฺจยาว, น ปหารปจฺจยา. น หิ ปหริตุกามตาย อสติ ตปฺปจฺจยา กาจิ อาปตฺติ ยุตฺตา, อุคฺคิรณสฺส ปน อตฺตโน สภาเวน อสณฺิตตฺตา ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ น ชาตํ, อสุทฺธจิตฺเตน กตปโยคตฺตา จ เอตฺถ อนาปตฺติ น ยุตฺตาติ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๔๕๘. ปุพฺเพติ อนนฺตรสิกฺขาปเท. เสสํ อนนฺตรสทิสเมว.
ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. ฉฏฺเ ‘‘อตฺตปริตฺตาณํ กโรนฺตา’’ติ อิทํ น จ เวรมูลิกา อนุทฺธํสนาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนุทฺธํสนกฺขเณ ปน โกปจิตฺตเมว อุปฺปชฺชติ. เตเนว ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. กุกฺกุจฺจุปฺปาทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๖๔. สตฺตเม ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส อผาสุกามตา, กุกฺกุจฺจุปฺปาทนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
กุกฺกุจฺจุปฺปาทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๑. อฏฺเม สุยฺยตีติ สุติ, วจนํ. ตสฺสา สมีปํ อุปสฺสุติ. สุยฺยติ เอตฺถาติ สุตีติ เอวฺหิ อตฺเถ คยฺหมาเน สวนฏฺานสมีเป อฺสฺมึ อสฺสวนฏฺาเน ติฏฺตีติ อาปชฺชติ. อฏฺกถายฺจ อุปสฺสุติ-สทฺทสฺเสว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ ตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, น สุติ-สทฺทมตฺตสฺส.
๔๗๓. เอกปริจฺเฉทานีติ ¶ กทาจิ อกิริยโต, กทาจิ กิริยโต สมุฏฺานสามฺเน วุตฺตํ. อุปสมฺปนฺเนน โจทนาธิปฺปาโย, สวนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ขิยฺยนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๔. นวเม ธมฺมกมฺมตา, ชานนํ, ฉนฺทํ ทตฺวา ขิยฺยนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
ขิยฺยนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๑. ทสเม วินิจฺฉยกถาย ธมฺมิกตา, ตํ ตฺวา กมฺมโต ปฏฺาย เอกสีมฏฺสฺส สมานสํวาสิกสฺส หตฺถปาสวิชหนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๔. เอกาทสเม ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, สงฺเฆน สทฺธึ จีวรํ ทตฺวา ขิยฺยิตุกามตาย ขิยฺยนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๙. ราชวคฺโค
๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๙. นวมวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาฬิยํ สํสุทฺธคหณิโกติ เอตฺถ คหณีติ คพฺภาสยสฺิโต มาตุ กุจฺฉิปฺปเทโส, ปุริสนฺตรสุกฺกาสมฺผุฏฺตาย สํสุทฺธคหณิโก. อภิสิตฺตขตฺติยตา, อุภินฺนมฺปิ สยนิฆรโต อนิกฺขนฺตตา, อปฺปฏิสํวิทิตสฺส อินฺทขีลาติกฺกโมติ ตีณิ องฺคานิ.
อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๖. ทุติเย อาวสถสฺสาติ เอตฺถ อนฺโตอาราเม วา โหตุ อฺตฺถ วา, ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน วสนฏฺานํ อาวสโถ นาม. ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกิอาทีสุ ฉนฺเทน, ราชวลฺลเภสุ ภเยน. อากิณฺณมนุสฺเสปิ ชาเต…เป… อาสงฺกนฺตีติ ตสฺมึ นิมฺมนุสฺสฏฺาเน ปจฺฉา อากิณฺณมนุสฺเส ชาเตปิ วิสริตฺวา คมนกาเล อฺสฺส อทิฏฺตฺตา ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺติ. ปติรูปํ นาม กปฺปิยภณฺเฑ สยํ ปํสุกูลํ คเหตฺวา อกปฺปิยภณฺเฑ ปติรูปานํ อุปาสกาทีนํ ¶ ทสฺเสตฺวา เจติยาทิปฺุเ นิโยชนํ วา ทาเปตฺวา นิรเปกฺขคมนํ วา. สมาทเปตฺวาติ ยาจิตฺวา. ปรสนฺตกตา, วิสฺสาสคฺคาหปํสุกูลสฺานํ อภาโว, อนนฺุาตการณา อุคฺคหณาทิ จาติ ตีณิ องฺคานิ.
รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ตติเย ปาฬิยํ ภยกถนฺติ ราชโจราทิภยํ วา โรคามนุสฺสทุพฺภิกฺขกนฺตาราทิภยํ วา อารพฺภ ปวตฺตํ. วิสิขากถนฺติ สุนิวิฏฺาทิวีถิกถํ. กุมฺภฏฺานกถนฺติ อุทกติตฺถกถํ, กุมฺภทาสีกถํ วา. ปุพฺพเปตกถนฺติ อตีตาติกถํ. นานตฺตกถนฺติ วุตฺตาหิ, วกฺขมานาหิ จ วิมุตฺตํ นานาสภาวํ ¶ นิรตฺถกกถํ. โลกกฺขายิกนฺติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต’’ติอาทินา โลกสภาวกฺขานวเสน ปวตฺตนกถา. เอวํ สมุทฺทกฺขายิกา เวทิตพฺพา. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโว สสฺสตํ, วุฑฺฒิ, กามสุขฺจาติ ติวิโธ, อภโว ตพฺพิปรีตวเสน. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถา นาม โหนฺติ. อถ วา ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตาปิ อรฺปพฺพตนทีทีปกถา อิติ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถาติ วุจฺจนฺติ. อิติ วาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺเถ. วา-สทฺโท วิกปฺปตฺเถ. ตสฺมา เอวํ ปการํ อิโต อฺํ วา ตาทิสํ นิรตฺถกกถํ กเถตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
๕๑๒. อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตาติ เอตฺถ คามูปจารโต พหิ นิกฺขนฺเต อนฺตรารามาทีนมุปจารํ ปวิฏฺเ สนฺธาย วุตฺตํ. คามูปจารพฺภนฺตเร ปน ปฏิปสฺสทฺธุสฺสาหานมฺปิ ปุน ตเมว วา อฺํ วา คามํ ปวิสิตุกามตาย สติ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. ‘‘กุลฆเร วา…เป… คนฺตพฺพ’’นฺติ อิทํ ปน ปุเรภตฺตํ ปวิฏฺานํ วิกาเล สฺชาเต วิกาเล คามปฺปเวสสฺส อาปุจฺฉิตพฺพตาย วุตฺตํ. อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยนาติ ทุติยเลฑฺฑุปาตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๕๑๕. อนฺตรารามนฺติอาทีสูติ เอตฺถ อุสฺสวทิวสาทีสุ มนุสฺเสหิ คาเม ปทกฺขิณํ กาเรนฺตํ ชินพิมฺพาทึ ปูเชตุกาเมหิ วา โรควูปสมาทิยตฺถํ มนุสฺเสหิ ยาจิเตหิ วา ภิกฺขูหิ สุปฺปฏิจฺฉนฺนาทิวิธึ อกตฺวาปิ วีถิมชฺเฌเนว คามํ ปทกฺขิณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ตํ น ¶ คเหตพฺพํ อนาปตฺติวาเร อวุตฺตตฺตา, ‘‘มคฺคา อโนกฺกมิตฺวา…เป… ปาจิตฺติย’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา) ปฏิกฺขิตฺตตฺตา จ. เวสาลึ อนุปริยายิตฺวา ปริตฺตํ กโรนฺเตนาปิ อานนฺทตฺเถเรน สุปฺปฏิจฺฉนฺนตาทึ อโกเปนฺเตเนว, อปฺตฺเต วา สิกฺขาปเท กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘อนฺตรารามาทิคามนฺตเร ิเตหิ ครุฏฺานียานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนาทิวเสน คามวีถึ โอตริตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺตํ ปติ กาตุํ น วฏฺฏติ เอว. อนฺตรารามาทิกปฺปิยภูมึ ปน อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺตํ ปติ กาตุํ วฏฺฏตีติ ขายติ, วีมํสิตพฺพํ. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา ¶ , อนนฺุาตการณา วิกาเล คามปฺปเวโสติ ทฺเว องฺคานิ.
วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๐. จตุตฺเถ ปาฬิยํ วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก. อฏฺิมยาทิสูจิฆรตา, กรณการาปนาทิวเสน อตฺตโน ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๑. ปฺจเม ปาฬิยํ อาสยโต, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส เวทิตพฺโพติ หีนชฺฌาสยวเสน อยํ ตุจฺฉปุริโสติ าตพฺโพ, หีนาย ปจฺจเย โลลตาย ปุคฺคลสฺส ตุจฺฉตา าตพฺพาติ อธิปฺปาโย. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท, อิโต ปเรสุ จ ปฺจสุ อตฺตนา การาปิตสฺส ปฏิลาเภ เอว ปาจิตฺติยํ. ปริโภเค ปนสฺส, อฺเสฺจ ทุกฺกฏเมว. ปมาณาติกฺกนฺตมฺจปีตา, อตฺตโน กรณการาปนวเสน ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๖. ฉฏฺเ ¶ โปฏกิตูลนฺติ ติณคจฺฉชาติกานํ ตูลํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๑-๕๓๖. สตฺตเม ¶ นิสีทนสฺส ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตโน กรณาทินา ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๓๗-๕๔๗. อิมินา นเยน อฏฺมนวมทสเมสุปิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
นิฏฺิโต ราชวคฺโค นวโม.
ขุทฺทกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.