📜

๗. เสขิยกณฺฑํ

๑. ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา

๕๗๖. เสขิเยสุ ยสฺมา วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตวตฺตานิปิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เสขิยาเนว, ตสฺมา ปาราชิกาทีสุ วิเยตฺถ ปาฬิยํ ปริจฺเฉโท น กโต. จาริตฺตนยทสฺสนตฺถฺจ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอลมฺเพนฺโต นิวาเสยฺย, ทุกฺกฏ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สิกฺขา กรณียา’’ติ สพฺพตฺถ ปาฬิ อาโรปิตา. ปทภาชเน ปน ‘‘อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สพฺพตฺถ อนาทริยกรเณ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ.

อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ มตฺต-สทฺเทน ตโต กิฺจิ อธิกํ, อูนมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เตเนว นิสินฺนสฺส จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วุตฺตํ. น หิ นิสินฺนสฺส จตุรงฺคุลปฺปมาณํ, ิตสฺส อฏฺงฺคุลเมวาติ สกฺกา นิยเมตุํ อูนาธิกตฺตสมฺภวโต. ตสฺมา ยถา สารุปฺปํ โหติ เอวํ อฏฺงฺคุลานุสาเรน นิวาสนฺเว อธิปฺเปตนฺติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สุกฺขชงฺโฆ วา’’ติอาทิ. กุรุนฺทิยํ ‘‘อชานนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อาทรํ กตฺวา อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาปิ นิรนฺตรํ นิวาสนปารุปนวตฺตํ สิกฺขิตพฺพํ, อสิกฺขิโต อนาทริยเมว. ปริมณฺฑลคฺคหเณน อุกฺขิปิตฺวา นิวาสนมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ อาห ‘‘อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา’’ติ.

สจิตฺตกนฺติ วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. สารตฺถทีปนิยํ ปน อุปติสฺสตฺเถรวาทนเยน โลกวชฺชตฺตํ คเหตฺวา ‘‘วตฺถุวิชานนจิตฺเตน, ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน จ สจิตฺตก’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. เสขิยกณฺฑ ๓.๕๗๖) วุตฺตํ. ตตฺถ จ วตฺถุวิชานนํ วิสุํ น วตฺตพฺพํ. ปณฺณตฺติวิชานเนน ตสฺสาปิ อนฺโตคธภาวโต อิทํ วตฺถุํ เอวํ วีติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺตีติ วิชานนฺโต หิ ปณฺณตฺตึ วิชานาตีติ วุจฺจติ. อุปติสฺสตฺเถรวาเท เจตฺถ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา อปริมณฺฑลนิวาสนาทิวตฺถุเมว ชานนฺตสฺส ปณฺณตฺติวีติกฺกมานาทริยาภาวา สพฺพเสขิเยสุ อนาปตฺติ เอว อภิมตา, ตฺจ น ยุตฺตํ โกสมฺพกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) วจฺจกุฏิยํ อุทกาวเสสํ เปนฺตสฺส ปณฺณตฺติวิชานนาภาเวปิ อาปตฺติยา วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ …เป… โส อปเรน สมเยน ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหตี’’ติอาทิ (มหาว. ๔๕๑). อฏฺกถายฺจสฺส ‘‘ตฺวํ เอตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสีติ, อาม น ชานามีติ. โหตุ อาวุโส, เอตฺถ อาปตฺตีติ, สเจ โหติ, เทเสสฺสามีติ. สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตีติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๑) วุตฺตํ, ตถา ‘‘อธมฺมวาทีติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตเกสุ อฺตโร’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๗-๔๕๘) จ วุตฺตํ. ขนฺธกวตฺตานฺหิ เสขิยตฺตา ตตฺถ วุตฺโต นโย อิเมสํ, อิธ วุตฺโต จ เตสํ สาธารโณว โหตีติ. เตเนว ‘‘อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ เอวํ อิธ วุตฺโต อาปตฺตินโย ตตฺถาปิ ทสฺสิโต. ตสฺมา ผุสฺสเทวตฺเถรวาเท เอว ตฺวา วตฺถุวิชานนจิตฺเตเนว สพฺพเสขิยานิ สจิตฺตกานิ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน. ภิยฺโยกมฺยตายสูปพฺยฺชนปฏิจฺฉาทนอุชฺฌานสฺีติ ทฺเว สิกฺขาปทานิ โลกวชฺชานิ อกุสลจิตฺตานิ, เสสานิ ปณฺณตฺติวชฺชานิ, ติจิตฺตานิ, ติเวทนานิ จาติ คหณเมว ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. เตเนเวตฺถ ‘‘อสฺจิจฺจาติ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสสฺสามีติ เอวํ อสฺจิจฺจา’’ติอาทินา วตฺถุอชานนวเสเนว อนาปตฺติวณฺณนา กตา, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺตวเสน.

อปิจ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺช’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) อิมินา ลกฺขณวจเนนาปิ เจตํ สิชฺฌติ. วตฺถุวิชานนจิตฺตวเสเนว เหตฺถ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺตวเสน สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตสฺส อกุสลตฺตนิยเมน โลกวชฺชตฺตปฺปสงฺคโต ปณฺณตฺติวชฺชเมว น สิยา, อิทฺจ วจนํ นิรตฺถกํ สิยา อิมินา วจเนน นิวตฺเตตพฺพสฺส สิกฺขาปทสฺส อภาวา. น จ เสขิเยสุ วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ ปาณาติปาตาทีสุ วิย อกุสลเมวาติ นิยโม อตฺถิ, เยเนตฺถ โลกวชฺชตา ปสชฺเชยฺย, ‘‘อนาทริยํ ปฏิจฺจา’’ติ เจตํ ปาฬิวจนํ วตฺถุํ ชานิตฺวา ตีหิ จิตฺเตหิ วีติกฺกมเมว อนาทริยํ กตฺวา วุตฺตํ, น ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา อกุสลจิตฺเตเนว วีติกฺกมนฺติ คเหตพฺพํ. อฺถา ขนฺธกปาฬิยา, อฏฺกถายฺจ ปุพฺพาปรฺจ วิรุชฺฌนโตติ อมฺหากํ ขนฺติ. ยถา วา น วิรุชฺฌติ, ตถา เอตฺถ อธิปฺปาโย คเวสิตพฺโพ. อนาทริยํ, อนาปตฺติการณาภาโว , อปริมณฺฑลนิวาสนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ. เกวลํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปฏิปกฺขกรณวเสน ตติยงฺคโยชนเมว วิเสโส.

๕๗๗. ทุติยาทีสุ คิหิปารุตนฺติ เสตปฏปารุตาทิ. วิหาเรปีติ สงฺฆสนฺนิปาตพุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๕๗๘. คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวาติอาทิ ปฏิจฺฉาทนวิธิทสฺสนํ. คีวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวาติอาทินา วุตฺตตฺตา สฺจิจฺจ คีวํ, มณิพนฺธนฺจ อปฺปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส อาปตฺติ. เอตฺถาปิ ปริมณฺฑลสิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺา จตุรงฺคุลมตฺตํ โอตาเรตฺวา อโนลมฺเพตฺวา ปริมณฺฑลเมว ปารุปิตพฺพํ.

๕๗๙. วิวริตฺวา นิสีทโตติ วิหาเร วิย เอกํสปารุปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วาสตฺถาย อุปคตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา วาสาธิปฺปายํ วินา ธมฺมเทสนปริตฺตภณนาทิอตฺถาย สุจิรมฺปิ นิสีทนฺเตน สพฺพํ อนฺตรฆรวตฺตํ ปูเรนฺเตเนว นิสีทิตพฺพํ. นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุ เอว จ สิกฺขาปเทสุ ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ สุปฺปฏิจฺฉนฺนตาทิสพฺพํ อโกเปนฺเตเนว คนฺตพฺพํ. ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ, น ปน อุปคจฺฉมานสฺสาติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกกสฺมึ ปมํ คนฺตฺวา วาสปริคฺคเห กเต ตโต อฺเหิ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘เคหสฺสามิเกหิ ‘ยาว ตุมฺเห นิวสิสฺสถ, ตาว ตุมฺหากํ อิมํ เคหํ เทมี’ติ ทินฺเน อฺเหิ อวาสาธิปฺปาเยหิ อนฺตราราเม วิย ยถาสุขํ คนฺตุํ, นิสีทิตุฺจ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ สพฺพํ น คเหตพฺพํ ตถาวจนาภาวา, ทานลกฺขณาภาวา, ตาวตฺตเกน วิหารสงฺขฺยานุปคมนโต จ. ‘‘ยาว นิสีทิสฺสถ, ตาว ตุมฺหากํ อิมํ เคหํ เทมี’’ติ เทนฺโตปิ หิ ตาวกาลิกเมว เทติ วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส.

๕๘๒. จตุหตฺถปฺปมาณนฺติ วฑฺฒกีหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ.

๕๘๔. อุกฺขิตฺตจีวโรหุตฺวาติ กฏิโต อุทฺธํ กายพนฺธนาทิทสฺสนวเสเนวุกฺขิปนํ สนฺธาย วุตฺตํ ปิณฺฑาย จรโต ปตฺตคฺคหณาทิมตฺตสฺส อนุฺาตตฺตา. เตเนว ‘‘นิสินฺนกาเล ปน ธมกรณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. นิสินฺนกาเล หิ ขนฺเธ ลคฺคปตฺตตฺถวิกาทิโต ธมกรณํ นีหรนฺตสฺส กฏิโต อุทฺธมฺปิ ทิสฺสติ, ตถา อทสฺเสตฺวา นีหริตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อาสเน นิสีทนฺตสฺสาปิ จ ปารุปิตจีวรํ กิฺจิ อุกฺขิปิตฺวา สงฺฆาฏึ ชงฺฆปิณฺเฑหิ อนุกฺขิปิตฺวาว นิสีทิตพฺพํ. อิมสฺมิฺเว ปน สิกฺขาปเท ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุ ฉฏฺอฏฺเมสุ อวุตฺตตฺตา วาสูปคเตนาปิ สุสํวุเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุนาว นิสีทิตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ เตสํ วิเสสํ อวตฺวา อิเธว ‘‘วาสูปคตสฺส ปน อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อุกฺขิตฺตกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตา.

ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา

๕๘๖. ทุติยวคฺคาทิอุชฺชคฺฆิกอปฺปสทฺเทสุ นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุปิ วาสูปคตสฺส อนาปตฺติ น วุตฺตา, กายปฺปจาลกาทีสุ เอว ปน วุตฺตา. ปาฬิโปตฺถเกสุ ปเนตํ เกสุจิ เปยฺยาเลน พฺยาโมหิตตฺตา น สุฏฺุ วิฺายติ. ยตฺถ จ อนฺตรฆเร ธมฺมํ วา เทเสนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส มหาสทฺเทน ยาวปริสสาวเนปิ อนาปตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ ตถา อานนฺทตฺเถรมหินฺทตฺเถราทีหิ อาจริตตฺตา.

อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ขมฺภกตวคฺควณฺณนา

๖๐๓. ปตฺเต คหณสฺา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺเต สฺํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

๖๐๔. โอโลณีติ เอกา พฺยฺชนวิกติ. กฺชิกตกฺกาทิรโสติ เกจิ. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตา.

๖๐๕. สมภริตนฺติ รจิตํ. เหฏฺา โอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต หตฺเถน สมํ กริยมานํ เหฏฺา ภสฺสติ. ปตฺตมตฺถเก ปิตานิ ปูวานิ เอว วฏํสกากาเรน ปิตตฺตา ‘‘ปูววฏํสก’’นฺติ วุตฺตานิ. เกจิ ปน ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ รจิตฺวา ทิยฺยมานเมว คณฺหโต อาปตฺติ, หตฺถคเต เอว ปน ปตฺเต ทิยฺยมาเน ถูปีกตมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพเมว ‘‘สมติตฺติก’’นฺติ ภาวนปุํสกวเสน สามฺโต วุตฺตตฺตา.

ขมฺภกตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา

๖๐๘. จตุตฺถวคฺคาทีสุ สปทานนฺติ เอตฺถ ทานํ วุจฺจติ อวขณฺฑนํ, อเปตํ ทานโต อปทานํ, สห อปทาเนน สปทานํ, อวขณฺฑนวิรหิตํ อนุปฏิปาฏิยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ โอธึ อกตฺวา’’ติอาทิ.

๖๑๑. วิฺตฺติยนฺติ สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ สนฺธาย วทติ. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิมินา ปาฬิยาว สพฺพํ วิฺายตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปาฬิยํ อสฺจิจฺจาติอาทีสุ วตฺถุมตฺตํ ตฺวา ภุฺชเนน อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตสฺเสว ปุน ปณฺณตฺตึ ตฺวา มุขคตํ ฉฑฺเฑตุกามสฺส ยํ อรุจิยา ปวิฏฺํ, ตํ อสฺจิจฺจ ปวิฏฺํ นาม, ตตฺถ อนาปตฺติ. ตเทว ปุน อฺวิหิตตาย วา อวิฺตฺตมิทนฺติสฺาย วา ภุฺชเน ‘‘อสติยา’’ติ วุจฺจติ.

๖๑๓. ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อิทมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา สยํ ภุฺชเน เอว ปฺตฺตตฺตา อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจสหธมฺมิกานํ ปน อตฺถาย อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเน วิฺาเปนฺโต วิฺตฺติกฺขเณ อฏฺกถาสุ สุตฺตานุโลมโต วุตฺตอกตวิฺตฺติทุกฺกฏโต น มุจฺจติ. สฺจิจฺจ ภุฺชนกฺขเณ สยฺจ อฺเ จ มิจฺฉาชีวโต น มุจฺจนฺตีติ คเหตพฺพํ.

๖๑๕. ‘‘กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทก’’นฺติ อิทํ อสารุปฺปวเสน วุตฺตํ, อติมหนฺเต เอว อาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ภุฺชนฺเตน ปน โจราทิภยํ ปฏิจฺจ มหนฺตมฺปิ อปริมณฺฑลมฺปิ กตฺวา สีฆํ ภุฺชนวเสเนตฺถ อาปทา. เอวมฺเสุปิ ยถานุรูปํ ทฏฺพฺพํ.

สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. กพฬวคฺควณฺณนา

๖๑๗. อนาหเฏ กพเฬ มุขทฺวารวิวรเณ ปน ปโยชนาภาวา ‘‘อาปทาสู’’ติ น วุตฺตํ. เอวมฺเสุปิ อีทิเสสุ.

๖๑๘. สพฺพํ หตฺถนฺติ หตฺเถกเทสา องฺคุลิโย วุตฺตา ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

กพฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา

๖๒๗. ปาฬิยํ สีตีกโตติ สีตปีฬิโต. สิลกพุทฺโธติ ปริหาสวจนเมตํ. สิลกฺหิ กิฺจิ ทิสฺวา ‘‘พุทฺโธ อย’’นฺติ โวหรนฺติ.

๖๒๘. ‘‘องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา สพฺพํ หตฺถํ อนฺโตมุเข ปกฺขิปนสิกฺขาปทสฺสปิ ปวิฏฺงฺคุลินิลฺเลหเนน อิมสฺสปิ สิกฺขาปทสฺส อนาปตฺตึ ทสฺเสติ. เอเสว นโยติ ฆนยาคุอาทีสุ ปตฺตํ หตฺเถน, โอฏฺฺจ ชิวฺหาย นิลฺเลหิตุํ วฏฺฏตีติ อติทิสติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ฆนยาคุอาทิวิรหิตํ นิลฺเลหิตุํ น วฏฺฏติ.

๖๓๔. วิลีวจฺฉตฺตนฺติ เวณุเปสิกาหิ กตํ. มณฺฑลพทฺธานีติ ทีฆสลากาสุ ติริยํ วลยากาเรน สลากํ เปตฺวา สุตฺเตหิ พทฺธานิ ทีฆฺจ ติริยฺจ อุชุกเมว สลากาโย เปตฺวา ทฬฺหพทฺธานิ เจว ติริยํ เปตฺวา ทีฆทณฺฑเกเหว สงฺโกจารหํ กตฺวา สุตฺเตเหว ติริยํ พทฺธานิ. ตตฺถชาตกทณฺฑเกน กตนฺติ สห ทณฺฑเกน ฉินฺนตาลปณฺณาทีหิ กตํ. ฉตฺตปาทุกายาติ ยสฺมึ ฉตฺตทณฺฑโกฏึ ปเวเสตฺวา ฉตฺตํ อุชุกํ เปตฺวา เหฏฺา ฉายาย นิสีทนฺติ, ติฏฺนฺติ วา, ตาทิเส ฉตฺตาธาเร.

๖๓๗. จาโปติ มชฺเฌ วงฺกกาชทณฺฑสทิสา ธนุวิกติ. โกทณฺโฑติ วิทฺธทณฺฑา ธนุวิกติ.

สุรุสุรุวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา

๖๔๗. สตฺตมวคฺเค รุกฺขโต ปติโตติ เอกํ โอลมฺพนสาขํ คเหตฺวา ปติโต. ปาฬิยาติ อตฺตโน อาจารปฺปกาสกคนฺถสฺส. ธีรตฺถูติ ธี อตฺถุ, นินฺทา โหตูติ อตฺโถ. วินิปาตนเหตุนาติ วินิปาตนสฺส เหตุภาเวน. ตฺวนฺติ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ตํ อิจฺเจว วา ปาโ. อสฺมาติ ปาสาโณ.

๖๔๙. น กเถตพฺพนฺติ เถเรน อตฺตโน กงฺขาฏฺานสฺส ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ. ทหรสฺส อตฺถโกสลฺลํ าตุํ ปุจฺฉิเตน อุจฺจาสเน นิสินฺนสฺส อาจริยสฺส อนุโยคทานนเยน วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๖๕๒. เขเฬน เจตฺถ สิงฺฆาณิกาปิ สงฺคหิตาติ เอตฺถ อุทกคณฺฑุสกํ กตฺวา อุจฺฉุกจวราทิฺจ มุเขเนว หริตุํ อุทเกสุ ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

ปาทุกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

เสขิยวณฺณนานโย นิฏฺิโต.

๖๕๕. อธิกรณสมเถสุ จ อิธ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ

ภิกฺขุวิภงฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส