📜

๑๐. ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถา

๕๓. เอวํ จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘ภณฺฑสฺสปฏิสามน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภฑิตพฺพํ ภาเชตพฺพนฺติ ภณฺฑํ, ภฑิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ วา ภณฺฑํ, ภณฺฑนฺติ ปริภณฺฑนฺติ สตฺตา เอเตนาติ วา ภณฺฑํ, มูลธนํ, ปริกฺขาโร วา. วุตฺตฺหิ อภิธานปฺปทีปิกายํ –

‘‘ภาชนาทิปริกฺขาเร, ภณฺฑํ มูลธเนปิ จา’’ติ.

ตสฺส ภณฺฑสฺส, ปฏิสามิยเต ปฏิสามนํ, รกฺขณํ โคปนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปเรสํ ภณฺฑสฺส โคปน’’นฺติ. มาตุ กณฺณปิฬนฺธนํ ตาลปณฺณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺภาวนตฺโถ. เตน ปเคว อฺาตกานํ สนฺตกนฺติ ทสฺเสติ. คิหิสนฺตกนฺติ อิมินา ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สนฺตกํ ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ภณฺฑาคาริกสีเสนาติ เอเตน วิสฺสาสคฺคาหาทินา คเหตฺวา ปฏิสาเมนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทสฺเสติ. เตน วกฺขติ ‘‘อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฏิสาเมตพฺพ’’นฺติ. ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกีอาทีสุ ฉนฺเทน , ราชวลฺลภาทีสุ ภเยน พลกฺกาเรน ปาเตตฺวา คเตสุ จ ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏตีติ โยเชตพฺพํ.

สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺาเน ปฏิสามนปโยคํ วินา ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติอาทินา อฺสฺมึ ปโยเค อกเต รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเตปิ อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาราชิกเมว ปฏิสามนปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ปฏิสามนกาเล หิสฺส เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ จ สามิโน ธุรนิกฺเขปจิตฺตปฺปวตฺติยา เหตุภูโต กายวจีปโยโค นตฺถิ, เยน โส อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. น หิ อกิริยสมุฏฺานา อยํ อาปตฺตีติ. ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาวาติ อวหารํ สนฺธาย อวุตฺตตฺตา ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติอาทินา มุสาวาทกรเณ ปาจิตฺติยเมว โหติ, น ทุกฺกฏํ เถยฺยจิตฺตาภาเวน สหปโยคสฺสปิ อภาวโตติ คเหตพฺพํ.

ยทิปิ มุเขน ทสฺสามีติ วทติ…เป… ปาราชิกนฺติ เอตฺถ กตรปโยเคน อาปตฺติ, น ตาว ปเมน ภณฺฑปฏิสามนปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺตภาวา, นาปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ กถนปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺเต วิชฺชมาเนปิ ปโยคสฺส กปฺปิยตฺตาติ? วุจฺจเต – สามินา ‘‘เทหี’’ติ พหุโส ยาจิยมาโนปิ อทตฺวา เยน ปโยเคน อตฺตโน อทาตุกามตํ สามิกสฺส าเปสิ, เยน จ โส อทาตุกาโม อยํ วิกฺขิปตีติ ตฺวา ธุรํ นิกฺขิปติ, เตเนว ปโยเคนสฺส อาปตฺติ. น เหตฺถ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ ปริยาเยน มุตฺติ อตฺถิ. อทาตุกามตาย หิ ‘‘กทา เต ทินฺนํ, กตฺถ เต ทินฺน’’นฺติอาทิปริยายวจเนนปิ สามิกสฺส ธุเรนิกฺขิปาปิเต อาปตฺติเยว. เตเนว อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ…เป… อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิก’’นฺติ. ปรสนฺตกสฺส ปเรหิ คณฺหาปเน เอว หิ ปริยายโต มุตฺติ, น สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สามินา ทินฺนตาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ิตตฺตา จ านาจาวเนปิ นตฺถิ อวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหเณ ทุกฺกฏโต น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. เอเสว นโยติ อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ อธิปฺปาโย.

๕๔. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีสิกฺขมานสามเณรสามเณรีนํ. เอเตน น เกวลํ คิหีนํ เอว, อถ โข ตาปสปริพฺพาชกาทีนมฺปิ สนฺตกํ ปฏิสาเมตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. นฏฺเปิ คีวา น โหติ, กสฺมา? อสมฺปฏิจฺฉาปิตตฺตาติ อตฺโถ. ทุติเย เอเสว นโยติ คีวา น โหติ, กสฺมา? อชานิตตฺตา. ตติเย จ เอเสว นโยติ คีวา น โหติ, กสฺมา? ปฏิกฺขิปิตตฺตา. เอตฺถ จ กาเยน วา วาจาย วา จิตฺเตน วา ปฏิกฺขิตฺโตปิ ปฏิกฺขิตฺโตเยว นาม โหติ.

ตสฺเสว คีวา โหติ, น เสสภิกฺขูนํ, กสฺมา? ตสฺเสว ภณฺฑาคาริกสฺส ภณฺฑาคาเร อิสฺสรภาวโต. ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ อลสชาติกสฺเสว ปมาเทน หริตตฺตา. ทุติเย ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ ตสฺส อนาโรจิตตฺตา. นฏฺเ ตสฺส คีวา เตน ปิตตฺตา. ตสฺเสว คีวา, น อฺเสํ เตน ภณฺฑาคาริเกน สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา ปิตตฺตา จ. นตฺถิ คีวา เตน ปฏิกฺขิปิตตฺตา. นฏฺํ สุนฏฺเมว ภณฺฑาคาริกสฺส อสมฺปฏิจฺฉาปนโต. นฏฺเ คีวา เตน ปิตตฺตา. สพฺพํ ตสฺส คีวา ตสฺส ภณฺฑาคาริกสฺส ปมาเทน หรณโต. ตตฺเถว อุปจาเร วิชฺชมาเนติ ภณฺฑาคาริกสฺส สมีเปเยว อุจฺจารปสฺสาวฏฺาเน วิชฺชมาเน.

๕๕. มยิจ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเติ เอตฺถ เกวลํ สงฺฆสฺส เสนาสนํ มา วินสฺสีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วิวริตุมฺปิ วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ. ‘‘ตํ มาเรสฺสามี’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติ ‘‘คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโย’’ติ วุตฺตตฺตา. มรณโต หิ ปรํ เคลฺํ อวิสยตฺตฺจ นตฺถิ. ‘‘ทฺวารํ ฉินฺทิตฺวา หริสฺสามา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติเยว. สหาเยหิ ภวิตพฺพนฺติ เตหิปิ ภิกฺขาจาราทีหิ ปริเยสิตฺวา อตฺตโน สนฺตกมฺปิ กิฺจิ กิฺจิ ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ สามีจีติ ภณฺฑาคาเร วสนฺตานํ อิทํ วตฺตํ. โลลมหาเถโรติ มนฺโท โมมูโห อากิณฺณวิหารี สทา กีฬาปสุโต วา มหาเถโร.

๕๖. อิตเรหีติ ตสฺมึเยว คพฺเภ วสนฺเตหิ ภิกฺขูหิ. วิหารรกฺขณวาเร นิยุตฺโต วิหารวาริโก, วุฑฺฒปฏิปาฏิยา อตฺตโน วาเร วิหารรกฺขณโก. นิวาปนฺติ ภตฺตเวตนํ. โจรานํ ปฏิปถํ คเตสูติ โจรานํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘ปมตรํเยว คนฺตฺวา สทฺทํ กริสฺสามา’’ติ โจรานํ อภิมุขํ คเตสุ. ‘‘โจเรหิ หฏภณฺฑํ อาหริสฺสามา’’ติ เตสํ อนุปถํ คเตสุปิ เอเสว นโย. นิพทฺธํ กตฺวาติ ‘‘อสุกกุเล ยาคุภตฺตํ วิหารวาริกานํเยวา’’ติ เอวํ นิยมนํ กตฺวา. ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา จ จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโนวาติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ตโต อูนํ วา โหตุ อธิกํ วา, อตฺตโน จ เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ ยาปนมตฺตํ ลภนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. นิสฺสิตเก ชคฺคาเปนฺตีติ อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก ภิกฺขาจริยาย โปเสนฺตา นิสฺสิตเกหิ วิหารํ ชคฺคาเปนฺติ. อสหายสฺสาติ สหายรหิตสฺส. ‘‘อสหายสฺส อทุติยสฺสา’’ติ ปาโ ยุตฺโต. ปจฺฉิมํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. อสหายสฺส วา อตฺตทุติยสฺส วาติ อิมสฺมึ ปน ปาเ เอเกน อานีตํ ทฺวินฺนํ นปฺปโหตีติ อตฺตทุติยสฺสปิ วาโร นิวาริโตติ วทนฺติ, ตํ ‘‘ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถี’’ติ อิมินา น สเมติ, วีมํสิตพฺพํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๑๑๒) ปน ‘‘อตฺตทุติยสฺสาติ อปฺปิจฺฉสฺส. อตฺตาสรีรเมว ทุติโย, น อฺโติ หิ อตฺตทุติโย, ตทุภยสฺสปิ อตฺถสฺส วิภาวนํ ‘ยสฺสา’ติอาทิ. เอเตน สพฺเพน เอเกกสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพติ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ.

ปากวตฺตตฺถายาติ นิจฺจํ ปจิตพฺพยาคุภตฺตสงฺขาตวตฺตตฺถาย. เปนฺตีติ ทายกา เปนฺติ. ตํ คเหตฺวาติ ตํ อารามิกาทีหิ ทียมานํ ภาคํ คเหตฺวา. อุปชีวนฺเตน าตพฺพนฺติ อพฺโภกาสิกรุกฺขมูลิเกนปิ ปากวตฺตํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺเตน อตฺตโน ปตฺตจีวรรกฺขณตฺถาย วิหารวาเร สมฺปตฺเต าตพฺพํ. น คาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ ยสฺส อพฺโภกาสิกสฺสปิ อตฺตโน อธิกปริกฺขาโร เจ ปิโต อตฺถิ, จีวราทิสงฺฆิกภาเคปิ อาลโย อตฺถิ, โสปิ คาหาเปตพฺโพ . ปริปุจฺฉนฺติ ปุจฺฉิตปฺหวิสฺสชฺชนํ, อฏฺกถํ วา. ทิคุณนฺติ อฺเหิ ลพฺภมานโต ทฺวิคุณํ. ปกฺขวาเรนาติ อฑฺฒมาสวาเรน.

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม

ทสโม ปริจฺเฉโท.