📜
๑๑. กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา
๕๗. เอวํ ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ กยวิกฺกยวินิจฺฉยํ กเถนฺโต ‘‘กยวิกฺกยสมาปตฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กยนํ กโย, ปรภณฺฑสฺส คหณํ, วิกฺกยนํ ¶ วิกฺกโย, สกภณฺฑสฺส ทานํ, กโย จ วิกฺกโย จ กยวิกฺกยํ. สมาปชฺชนํ สมาปตฺติ, ตสฺส ทุวิธสฺส กิริยสฺส กรณํ. ตสฺสรูปํ ทสฺเสติ ‘‘อิมินา’’ติอาทินา.
เสสาตเกสุ สทฺธาเทยฺยวินิปาตสมฺภวโต ตทภาวฏฺานมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตรํ วา ปน ปิตรํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน วิฺตฺติสทฺธาเทยฺยวินิปาตนฺจ น โหติ ‘‘อิมินา อิทํ เทหี’’ติ วทนฺโตติ ทสฺเสติ, กยวิกฺกยํ ปน อาปชฺชติ ‘‘อิมินา อิทํ เทหี’’ติ วทนฺโตติ ทสฺเสติ. อิมินา จ อุปริ อฺาตกนฺตฺยาทินา จ เสสาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ปน ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยนฺติ อยมฺปิ อตฺโถ ทสฺสิโต โหติ มิคปทวลฺชนนฺยาเยน. ตสฺมาอิจฺจาทิเกปิ ‘‘มาตาปิตูหิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ, เสสาตเกหิ สทฺธึ ทฺเว อาปตฺติโย, อฺาตเกหิ สทฺธึ ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺเพ เตเนว นฺยาเยน าตุํ สกฺกาติ กตฺวา น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, อฺถา อพฺยาปิตโทโส สิยา.
‘‘อิทํ ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ปุพฺพาปรสมฺพนฺธาย กิริยาย วุตฺตตฺตา ‘‘อิมินา อิทํ เทหี’’ติ วุตฺตสทิสํ โหติ. อิทํ ภตฺตํ ภฺุช, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วา, ‘‘อิทํ ¶ ภตฺตํ ภุตฺโตสิ, อิทํ นาม กโรหิ, อิทํ ภตฺตํ ภฺุชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ ปน วุตฺเต อสมฺพนฺธาย กิริยาย วุตฺตตฺตา กยวิกฺกโย น โหติ. วิฆาสาทานํ ภตฺตทาเน จ อนเปกฺขตฺตา สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติ, การาปเน หตฺถกมฺมมตฺตตฺตา วิฺตฺติ น โหติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา อสติปิ นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
อคฺฆํ ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ, เอตฺตาวตา กยวิกฺกโย น โหตีติ อตฺโถ. คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘อิมินา อิทํ เทหี’’ติ อวุตฺตตฺตา ¶ กยวิกฺกโย น โหติ, มูลสฺส อตฺถิตาย วิฺตฺติปิ น โหติ. ปตฺโต น คเหตพฺโพ ปรภณฺฑสฺส มหคฺฆตาย. เอวํ สติ กถํ กาตพฺโพติ อาห ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆนฺติ อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติ เถยฺยาวหารสมฺภวโต, อูนมาสกํ เจ อคฺฆติ, ทุกฺกฏํ. มาสกโต ปฏฺาย ยาว อูนปฺจมาสกํ เจ อคฺฆติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจมาสกํ เจ อคฺฆติ, ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. เทติ, วฏฺฏติ ปฺุตฺถาย ทินฺนตฺตา อธิกสฺส. กปฺปิยการกสฺส ปน…เป… วฏฺฏติ อุภโต กปฺปิยภณฺฑตฺตา. เอกโต อุภโต วา เจ อกปฺปิยภณฺฑํ โหติ, น วฏฺฏติ. ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, กสฺมา? กปฺปิยการกสฺส อเฉกตฺตา.
อฺเน อปฺปฏิคฺคหิเตน อตฺโถ, กสฺมา? สตฺตาหกาลิกตฺตา เตลสฺส. ปฏิคฺคหิตเตลํ สตฺตาหปรมํ เอว เปตพฺพํ, ตสฺมา ตโต ปรํ ปิตุกามสฺส อปฺปฏิคฺคหิตเตเลน อตฺโถ โหติ. อปฺปฏิคฺคหิตํ ทูเสยฺย, อนิยมิตกาลํ อปฺปฏิคฺคหิตเตลํ นาฬิยํ อวสิฏฺปฏิคฺคหิตเตลํ อตฺตโน กาลํ วตฺตาเปยฺย.
๕๘. อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพนฺติ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํ วุตฺตํ, ปฺจโม ปน กปฺปิโย. เตน วกฺขติ ‘‘อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโห’’ติ. อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, กสฺมา? รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา อยพีชํ สมุฏฺาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตสฺส การิตตฺตา, เอวํ พีชโต ปฏฺาย ทูสิตตฺตา. ยถา จ ตติยปาราชิกวิสเย ถาวรปโยเคสุ ปาสสูลาทีสุ มูลโต ปฏฺาย การิเตสุ กิสฺมิฺจิ ทณฺฑมตฺเต วา วากมตฺเต วา อวสิฏฺเ สติ น มุจฺจติ, สพฺพสฺมึ นฏฺเเยว มุจฺจติ, เอวมิธาปิ พีชโต ¶ ปฏฺาย กตตฺตา ตสฺมึ ปตฺเต กิสฺมิฺจิ ปตฺเต อวสิฏฺเปิ กปฺปิโย ภวิตุํ น สกฺกา. ตถา จ วกฺขติ ‘‘สเจปิ ตํ วินาเสตฺวา ¶ ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิย’’นฺตฺยาทิ. เอวํ สนฺเตปิ ทุติยปตฺเต วิย มูเล จ มูลสฺสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสฺสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย กาตุํ สกฺกา ภเวยฺย นุ โขติ อาสงฺกายมาห ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – ทุติยปตฺตํ รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา คิหีหิ ปรินิฏฺาปิตเมว กิณาติ, น พีชโต ปฏฺาย ทูเสติ, ตสฺมา ทุติยปตฺโต กปฺปิโย กาตุํ สกฺกา, อิธ ปน พีชโต ปฏฺาย ทูสิตตฺตา เตน ภิกฺขุนา ตํ ปตฺตํ ปุน อยปาสาณพีชํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา, ปฏิคฺคหิตรูปิยสฺส จ วฬฺชิตตฺตา ปุน สามิกานํ ทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุนฺติ.
อิทานิ ตํ อสกฺกุเณยฺยตฺตํ อฺเน ปกาเรน วิตฺถาเรตุํ ‘‘สเจปี’’ติอาทิมาห. อิมินา กิฺจิปิ อยวตฺถุมฺหิ อวสิฏฺเ สติ อกปฺปิโยว โหตีติ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๙๑) ‘‘รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวาติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, มุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ อุคฺคณฺหิตฺวา การิตมฺปิ ปฺจนฺนํ น วฏฺฏติ เอว. สมุฏฺาเปตีติ สยํ คนฺตฺวา วา ‘อิมํ กหาปณาทึ กมฺมการานํ ทตฺวา พีชํ สมุฏฺาเปหี’ติ อฺํ อาณาเปตฺวา วา สมุฏฺาเปติ. มหาอกปฺปิโยติ อตฺตนาว พีชโต ปฏฺาย ทูสิตตฺตา อฺสฺส มูลสฺสามิกสฺส อภาวโต วุตฺตํ. โส หิ โจเรหิ อจฺฉินฺโนปิ ปุน ลทฺโธ ชานนฺตสฺส กสฺสจีปิ น วฏฺฏติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตฬากาทีสุ วิย ‘อจฺฉินฺโน วฏฺฏตี’ติ อาจริยา วเทยฺยุํ. น สกฺกา เกนจิ อุปาเยนาติ สงฺฆสฺส วิสฺสชฺชเนน โจราทิอจฺฉินฺทเนนปิ กปฺปิโย กาตุํ น สกฺกา, อิทฺจ เตน รูเปน ¶ ิตํ ตมฺมูลเกน วตฺถมุตฺตาทิรูเปน ิตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ หิ ตมฺมูลกกปฺปิยวตฺถุ จ น สกฺกา เกนจิ เตน รูเปน กปฺปิยํ กาตุํ. ยทิ ปน โส ภิกฺขุ เตน กปฺปิยวตฺถุนา, ทุกฺกฏวตฺถุนา วา ปุน รูปิยํ เจตาเปยฺย, ตํ รูปิยํ นิสฺสชฺชาเปตฺวา อฺเสํ กปฺปิยํ กาตุมฺปิ สกฺกา ภเวยฺยาติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ปปฺจิตํ, ยฺจ ตเมว คเหตฺวา โปราณฏีกายํ ปปฺจิตํ, ตํ วิตฺถาเรตฺวา วุจฺจมานํ อติวิตฺถาริตฺจ ภวิสฺสติ, โสตูนฺจ ทุพฺพิฺเยฺยํ, ตสฺมา เอตฺตกเมว วทิมฺห, อตฺถิเกหิ ปน เตสุ เตสุ ปกรเณสุ โอโลเกตฺวา คเหตพฺพนฺติ.
ทุติยปตฺเต ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตีติ รูปิยสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา, กยวิกฺกยสฺส จ กตตฺตา. สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุนฺติ คิหีหิ ปรินิฏฺาปิตปตฺตสฺเสว กิณิตตฺตา ¶ , พีชโต ปฏฺาย อทูสิตตฺตา, มูลมูลสฺสามิกานฺจ ปตฺตปตฺตสฺสามิกานฺจ วิชฺชมานตฺตา. ยถา ปน สกฺกา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มูเล’’ติอาทิมาห.
ตติยปตฺเต สทิโสเยวาติ ‘‘ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น วฏฺฏติ, สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ อิมํ นยํ นิทฺทิสติ. นนุ ตติยปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโต, อถ กสฺมา อกปฺปิโยติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโย’’ติ. ทุติยโจทนํ ปน สยเมว วทติ. เอตฺถ จ ‘‘ทุติยปตฺตสทิโสเยวา’’ติ วุตฺตตฺตา มูเล จ มูลสฺสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสฺสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ, กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺโพ. มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตาติ เยน อุคฺคหิตมูเลน ปตฺโต กีโต, ตสฺส มูลสฺส สงฺฆมชฺเฌ อนิสฺสฏฺตฺตา. เอเตน รูปิยเมว นิสฺสชฺชิตพฺพํ, น ตมฺมูลกํ อรูปิยนฺติ ¶ ทสฺเสติ. ยทิ หิ เตน สมฺปฏิจฺฉิตมูลํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ สิยา, เตน กปฺปิเยน กมฺเมน อารามิกาทีหิ คเหตฺวา ทินฺนปตฺโต รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา เสสานํ วฏฺเฏยฺย.
จตุตฺถปตฺเต ทุพฺพิจาริตตฺตาติ ‘‘อิเม กหาปเณ ทตฺวา อิทํ เทหี’’ติ คหิตตฺตา คิหิสนฺตกานํ กหาปณานํ ทุฏฺุวิจาริตตฺตา เอตสฺส วิจารณกสฺส ภิกฺขุโน เอว น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตาติ เอเตน มูลสฺส คิหิสนฺตกตฺตํ ทสฺเสติ, เตเนว ปตฺตสฺส รูปิยสํโวหาเรน อนุปฺปนฺนตฺจ ทสฺเสติ, เตน จ ตสฺส ปตฺตสฺส นิสฺสชฺชิยาภาวํ, ภิกฺขุสฺส จ ปาจิตฺติยาภาวํ ทีเปติ, เตน จ ทุพฺพิจาริตมตฺเตน ทุกฺกฏมตฺตภาวํ ปกาเสติ. นิสฺสชฺชีติ อิทฺจ ทานวเสน วุตฺตํ, น วินยกมฺมวเสน. เตเนว จ ‘‘สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.
ปฺจมปตฺเต สพฺพกปฺปิโยติ อตฺตโน จ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานฺจ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานฺจ กปฺปิโย. เตนาห ‘‘พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโห’’ติ.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
เอกาทสโม ปริจฺเฉโท.