📜

๑๒. รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

๕๙. เอวํ กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยํ กเถนฺโต ‘‘รูปิยาทิปฏิคฺคโห’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สฺาณตฺถาย กตํ รูปํ เอตฺถ อตฺถีติ รูปิยํ, ยํ กิฺจิ โวหารูปคํ ธนํ. เตน วุตฺตํ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) ‘‘อิธ ปน ยํ กิฺจิ โวหารคมนียํ กหาปณาทิ อธิปฺเปต’’นฺติ. ปมํ อาทียตีติอาทิ, กึ ตํ? รูปิยํ, รูปิยํ อาทิ เยสํ เตติ รูปิยาทโย, ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุอาทโย, ปฏิคฺคหณํ ปฏิคฺคโห, สมฺปฏิจฺฉนนฺติ อตฺโถ. รูปิยาทีนํ ปฏิคฺคโห รูปิยาทิปฏิคฺคโห. ชาตสมเย อุปฺปนฺนํ รูปเมว รูปํ อสฺส ภวติ, น วิการมาปชฺชตีติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย สตฺเตหิ รฺชิยเตติ รชตํ, สชฺฌุ. ชาตรูเปน กโต มาสโก ชาตรูปมาสโก. รชเตน กโต มาสโก รชตมาสโกติ อิทํ จตุพฺพิธเมว นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหติ, น โลหมาสกาทโยติ อาห ‘‘ตมฺพโลหาทีหิ…เป… สงฺคหิโต’’ติ. ตมฺพโลหาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน กํสโลหวฏฺฏโลหติปุสีสาทีหิ กโตปิ โลหมาสโกเยวาติ ทสฺเสติ. กึ อิทเมว นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหติ, อุทาหุ มุตฺตาทโยปีติ อาห ‘‘มุตฺตา…เป… ทุกฺกฏวตฺถู’’ติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ วตฺถูนํ โก วิเสโสติ อาห ‘‘ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ…เป… ทุกฺกฏเมวา’’ติ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ อตฺตโน อตฺถาย นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ, ทุกฺกฏวตฺถุ สพฺเพสํ อตฺถาย ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.

อิทานิ เตสุ วตฺถูสุ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ อาห ‘‘ตตฺรายํ วินิจฺฉโย’’ติ. ตตฺถ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กสฺมา? ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ อกปฺปิยโวหาเรน ทินฺนตฺตา. ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ, กสฺมา? สงฺฆสฺส หตฺเถ อทตฺวา วฑฺฒกีอาทีนํ หตฺเถ ทินฺนตฺตา. เอวมฺปิ วฏฺฏติ คิหีนํ หตฺเถ ปิตตฺตา. ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ สงฺฆคณปุคฺคลานํ อนามสิตตฺตา. ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ ‘‘ตุมฺเห คเหตฺวา เปถา’’ติ วุตฺตตฺตา. ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตีติ ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหเณ ปาจิตฺติยํ, ปริโภเค ทุกฺกฏํ. สฺเวว สาปตฺติโกติ ทุกฺกฏาปตฺตึ สนฺธาย วทติ. วทติ, วฏฺฏติ ‘‘ตุมฺเห ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ กปฺปิยโวหาเรน วุตฺตตฺตา. จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ, กสฺมา? ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา. เสนาสนปจฺจยสฺส อิตรปจฺจยตฺตยโต วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสนาสนตฺถายา’’ติอาทิมาห. อิมินา อวิสฺสชฺชิยอเวภงฺคิยภาวํ ทสฺเสติ. เอวํ สนฺเตปิ อาปทาสุ กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิมาห.

๖๐. เอวํ นิสฺสคฺคิยวตฺถูสุ กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทุกฺกฏวตฺถูสุ กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ โกจิ มยฺห’’นฺตฺยาทิมาห. เอตฺถ ปน ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตีติ ทุกฺกฏเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตฬากสฺสปิ เขตฺตสงฺคหิตตฺตา ตสฺส ปฏิคฺคหเณปิ อาปตฺติ วุตฺตา. ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถาติ เทตีติ เอตฺถ ‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชิตุํ ตฬากํ ทมฺมี’ติ วา ‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถํ ตฬากํ ทมฺมี’ติ วา วทติ, วฏฺฏติเยว. ‘อิโต ตฬากโต อุปฺปนฺเน ปจฺจเย ทมฺมี’ติ วุตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยมฺปิ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๓๘-๕๓๙) ตเถว วตฺวา ‘‘อิทฺจ สงฺฆสฺส ทียมานฺเว สนฺธาย วุตฺตํ, ปุคฺคลสฺส ปน เอวมฺปิ ทินฺนํ ตฬากเขตฺตาทิ น วฏฺฏติ. สุทฺธจิตฺตสฺส ปน อุทกปริโภคตฺถํ กูปโปกฺขรณิอาทโย วฏฺฏนฺติ. ‘สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถ’นฺติ หิ อาทินา สพฺพตฺถ สงฺฆวเสเนว วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. หตฺเถ ภวิสฺสตีติ วเส ภวิสฺสติ.

กปฺปิยการกํ เปถาติ วุตฺเตติ สามีจิวเสน วุตฺตํ, อวุตฺเตปิ เปนฺตสฺส น โทโส อตฺถิ. เตนาห ‘‘อุทกํ วาเรตุํลพฺภตี’’ติ. ยสฺมา ปรสนฺตกํ ภิกฺขูนํ นาเสตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น สสฺสกาเล’’ติ วุตฺตํ. สสฺสกาเลปิ ตาเสตฺวา มุฺจิตุํ วฏฺฏติ, อมุฺจโต ปน ภณฺฑเทยฺยํ. ชนปทสฺส สามิโกติ อิมินาว โย ตํ ชนปทํ วิจาเรติ, เตนปิ อจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ. ปุน เทตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อิมินา เยน เกนจิ อิสฺสเรน ‘‘ปริจฺจตฺตมิทํ ภิกฺขูหิ อสฺสามิก’’นฺติ สฺาย อตฺตโน คเหตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อุทกวาหกนฺติ อุทกมาติกํ. กปฺปิยโวหาเรปิ วินิจฺฉยํ วกฺขามีติ ปาเสโส. อุทกวเสนาติ อุทกปริโภคตฺถํ. สุทฺธจิตฺตานนฺติ อุทกปริโภคตฺถเมว. อิทํ สหตฺเถน จ อกปฺปิยโวหาเรน จ กโรนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สสฺสสมฺปาทนตฺถ’’นฺติ เอวํ อสุทฺธจิตฺตานมฺปิ ปน สยํ อกตฺวา กปฺปิยโวหาเรน อาณาเปตุํ วฏฺฏติ เอว. กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏตีติ อิทํ สหตฺถาทินา กตตฬากตฺตา อสฺสารุปฺปนฺติ วุตฺตํ. เปนฺตสฺส ปน ตํ ปจฺจยํ ปริภุฺชนฺตสฺส วา สงฺฆสฺส อาปตฺติ น ปฺายติ, อฏฺกถาปมาเณน วา เอตฺถ อาปตฺติ คเหตพฺพา. อลชฺชินา การาปิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ลชฺชิภิกฺขุนา’’ติ, มตฺติกุทฺธรณาทีสุ การาปิเตสูติ อธิปฺปาโย.

๖๑. นวสสฺเสติ อกตปุพฺเพ เกทาเร. กหาปเณติ อิมินา ธฺุฏฺาปเน ตสฺเสว อกปฺปิยนฺติ ทสฺเสติ. อปริจฺฉินฺนภาเคติ ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค เอตฺตโก ภาโค ทาตพฺโพ’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนภาเค. ธฺุฏฺาปเน กสติ, ปโยเคปิ ทุกฺกฏเมว, น กหาปณุฏฺาปเน วิย. ‘‘กสถ วปถา’’ติ วจเนน สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยํ สิยาติ อาห ‘‘อวตฺวา’’ติ. เอตฺตโก นาม ภาโคติ เอตฺถ เอตฺตโก กหาปโณติ อิทมฺปิ สนฺธาย วทติ. ตถาวุตฺเตปิ หิ ตทา กหาปณานํ อวิชฺชมานตฺตา อายตึ อุปฺปชฺชมานํ อฺเสํ วฏฺฏติ เอว. เตนาห ‘‘ตสฺเสว ตํ อกปฺปิย’’นฺติ. ตสฺส ปน สพฺพปโยเคสุ ปริโภเค จ ทุกฺกฏํ. เกจิ ปน ธฺปริโภเค เอว อาปตฺติ, น ปุพฺพภาเคติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เยน มินนรกฺขณาทินา ปโยเคน ปจฺฉา ธฺปริโภเค อาปตฺติ โหติ ตสฺส ปโยคสฺส กรเณ อนาปตฺติยา อยุตฺตตฺตา. ปริยายกถาย ปน สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. เตเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ นิยมวจเน อกปฺปิยํ วุตฺตํ. กหาปณวิจารเณปิ เอเสว นโย. ‘‘วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถีติ วตฺตพฺพ’’นฺติอาทิวจนฺเจตฺถ สาธกํ. รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วาติ เอตฺถ ‘‘ปาเทหิปิ มินิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ขเล วา ตฺวา รกฺขตีติ เอตฺถ ปน เถเนตฺวา คณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘มา คณฺหถา’’ติ นิวาเรนฺโต รกฺขติ นาม, สเจ ปน อวิจาเรตฺวา เกวลํ ตุณฺหีภูโตว รกฺขณตฺถาย โอโลเกนฺโต ติฏฺติ, วฏฺฏติ. ‘‘สเจปิ ตสฺมึ ตุณฺหีภูเต โจริกาย หรนฺติ, ‘มยํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจสฺสามา’ติ เอวํ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. นีหราเปติ ปฏิสาเมตีติ เอตฺถาปิ ‘‘สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปุพฺพสฺส อนุปฺปาทิตตฺตา อฺเสํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตสฺเสเวตํ อกปฺปิย’’นฺติ.

สพฺเพสํ อกปฺปิยํ, กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตาติ เอตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) เอวํ วิจารณา กตา – นนุ จ ทุพฺพิจาริตมตฺเตน ตสฺเสเวตํ อกปฺปิยํ, น สพฺเพสํ รูปิยสํโวหาเร จตุตฺถปตฺโต วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙) ‘‘โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา , อฺเสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ, ตสฺมา ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? เอตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘กหาปเณ สาทิยิตฺวา วิจาริตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺต’’นฺติ, สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘อสาทิยิตฺวาปิ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา รูปิยสํโวหาโร กโต โหติ, สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ อิทํ วุตฺตํ ‘‘จตุตฺถปตฺโต คิหิสนฺตกานํเยว กหาปณานํ วิจาริตตฺตา อฺเสํ กปฺปติ, อิธ ปน สงฺฆิกานํ วิจาริตตฺตา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ. สพฺเพสมฺปิ วาโท เตน เตน ปริยาเยน ยุตฺโตเยวาติ.

๖๒. จตุสาลทฺวาเรติ โภชนสาลํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๖๓. ‘‘วนํ ทมฺมิ, อรฺํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏตีติ เอตฺถ นิวาสฏฺานตฺตา ปุคฺคลสฺสปิ สุทฺธจิตฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. สีมํ เทมาติ วิหารสีมาทิสาธารณวจเนน วุตฺตตฺตา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ปริยาเยน กถิตตฺตาติ ‘‘คณฺหาหี’’ติ อวตฺวา ‘‘สีมา คตา’’ติ ปริยาเยน กถิตตฺตา. ปกติภูมิกรณตฺถํ ‘‘เหฏฺา คหิตํ ปํสุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทาสํ ทมฺมีติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสํ ทมฺมีติ วุตฺเต วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เวยฺยาวจฺจกรนฺติอาทินา วุตฺเต ปุคฺคลสฺสปิ ทาสํ คเหตุํ วฏฺฏติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อารามิก’’นฺติ วิเสเสตฺวา อนุฺาตตฺตา. ตฺจ โข ปิลินฺทวจฺเฉน คหิตปริภุตฺตกฺกเมน, น คหฏฺานํ ทาสปริโภคกฺกเมน. เขตฺตาทโย ปน สพฺเพ สงฺฆสฺเสว วฏฺฏนฺติ ปาฬิยํ ปุคฺคลิกวเสน คเหตุํ อนนุฺาตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. กุกฺกุฏสูกเร…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ กุกฺกุฏสูกเรสุ ทียมาเนสุ ‘‘อิเมหิ อมฺหากํ อตฺโถ นตฺถิ, สุขํ ชีวนฺตุ, อรฺเ วิสฺสชฺเชถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ . วิหารสฺส เทมาติ สงฺฆิกวิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) สุตฺตนฺเตสุ อาคตปฏิกฺเขโป ภควตา อาปตฺติยาปิ เหตุภาเวน กโตติ ภควโต อธิปฺปายํ ชานนฺเตหิ สงฺคีติการกมหาเถเรหิ เขตฺตปฏิคฺคหณาทินิสฺสิโต อยํ สพฺโพปิ ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย วุตฺโตติ คเหตพฺโพ.

๖๔. จีวรเจตาปนฺนนฺติ จีวรมูลํ. ปหิเณยฺยาติ เปเสยฺย. เจตาเปตฺวาติ ปริวตฺเตตฺวา. อจฺฉาเทหีติ โวหารวจนเมตํ, อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหีติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. อาภตนฺติ อานีตํ.

อิมสฺมึ าเน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๒๘-๕๓๑) เอวํ วิจารณา กตา – เอตฺถ จ ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตตฺถ อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสติ. สติปิ หิ อาคมนสฺส อสุทฺธภาเว ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหาเรน วทติ, กปฺปิยการโก น นิทฺทิสิตพฺโพติ อิทํ นตฺถิ, น จ ทูเตน กปฺปิยโวหารวเสน วุตฺเต ทายเกน ‘‘อิทํ กถํ เปสิต’’นฺติ อีทิสี วิจารณา อุปลพฺภติ, อวิจาเรตฺวา จ ตํ น สกฺกา ชานิตุํ. ยทิ ปน อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺย, จีวรานํ อตฺถาย ทูตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุมฺหิ เปสิเต สพฺพตฺถ ทายเกน กถํ เปสิตนฺติ ปุจฺฉิตฺวาว กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา อสติปิ อาคมนสุทฺธิยํ สเจ โส ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหารวเสน วทติ, ทูตสฺเสว วจนํ คเหตพฺพํ. ยทิ หิ อาคมนสุทฺธิเยเวตฺถ ปมาณํ, มูลสฺสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน เปสิตสฺส ทูตสฺส อกปฺปิยโวหารวเสน วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา สพฺพตฺถ ทูตวจนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. อิมินา จีวรเจตาปนฺเนนาติอาทินา ปน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กปฺปิยวเสน อาภตมฺปิ จีวรมูลํ อีทิเสน ทูตวจเนน อกปฺปิยํ โหติ, ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. เตเนวาห ‘‘เตน ภิกฺขุนา โส ทูโต เอวมสฺส วจนีโยติอาที’’ติ.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๓๘-๕๓๙) ปน เอวํ วุตฺตํ – ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถุภูตํ อกปฺปิยจีวรเจตาปนฺนํ ‘‘อสุกสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อาคมนสุทฺธิยา อสติ, สิกฺขาปเท อาคตนเยน ทูตวจเน จ อสุทฺเธ สพฺพถา ปฏิกฺเขโปเยว กาตุํ วฏฺฏติ, น ปน ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วตฺตุํ, ตทนุสาเรน เวยฺยาวจฺจกรฺจ นิทฺทิสิตุํ อาคมนทูตวจนานํ อุภินฺนํ อสุทฺธตฺตา, ปาฬิยํ อาคตนเยน ปน อาคมนสุทฺธิยา สติ ทูตวจเน อสุทฺเธปิ สิกฺขาปเท อาคตนเยน สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตน จ ยถา ทูตวจนาสุทฺธิยมฺปิ อาคมเน สุทฺเธ เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อาคมนาสุทฺธิยมฺปิ ทูตวจเน สุทฺเธ วฏฺฏติ เอวาติ อยมตฺโถ อตฺถโต สิทฺโธว โหติ. อุภยสุทฺธิยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อุภยาสุทฺธิปกฺขเมว สนฺธาย มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๓๗-๕๓๙) ‘‘อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ มาติกาฏฺกถาวจนสฺส อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขตฺวา วุตฺตํ ยถาวุตฺตนเยน อาคมนสุทฺธิอาทินา สปฺปโยชนตฺตา. โย ปเนตฺถ ‘‘มูลสฺสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน, เปสิตทูตสฺส อกปฺปิยโวหาเรน วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺยา’’ติ อนิฏฺปฺปสงฺโค วุตฺโต, โส อนิฏฺปฺปสงฺโค เอว น โหติ อภิมตตฺตา. ตถา หิ สิกฺขาปเท เอว ‘‘ปฏิคฺคณฺหตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ อกปฺปิยโวหาเรน วทโต ทูตสฺส กปฺปิเยน กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ วุตฺโต อาคมนสฺส สุทฺธตฺตา, อาคมนสฺสปิ อสุทฺธิยํ ปน กปฺปิเยนปิ กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร น นิทฺทิสิตพฺโพวาติ อตฺเถว อาคมนสฺส สุทฺธิอสุทฺธิยา ปโยชนํ. กถํ ปน ทูตวจเนน อาคมนสุทฺธิ วิฺายตีติ? นายํ ภาโร. ทูเตน หิ อกปฺปิยโวหาเรน วุตฺเต เอว อาคมนสุทฺธิ คเวสิตพฺพา, น อิตรตฺถ. ตตฺถ จ ตสฺส วจนกฺกเมน ปุจฺฉิตฺวา จ ยุตฺติอาทีหิ จ สกฺกา วิฺาตุํ. อิธาปิ หิ สิกฺขาปเท ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อาภต’’นฺติ ทูตวจเนเนว จีวรํ กิณิตฺวา ทาตุํ เปสิตภาโว วิฺายติ. ยทิ หิ สพฺพถา อาคมนสุทฺธิ น วิฺายติ, ปฏิกฺเขโป เอว กตฺตพฺโพติ.

สุวณฺณํ รชตํ กหาปโณ มาสโกติ อิมานิ หิ จตฺตาริ นิสฺสคฺคิยวตฺถูนิ, มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ สตฺต ธฺานิ ทาสิทาสํ เขตฺตํ วตฺถุ ปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิมานิ ทุกฺกฏวตฺถูนิ จ อตฺตโน วา เจติยสงฺฆคณปุคฺคลานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ตํ สาทิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น โข มยํ อาวุโส จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วุตฺตํ. จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติอาทิ ทูตวจนสฺส อกปฺปิยตฺเตปิ อาคมนสุทฺธิยา ปฏิปชฺชนวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กาเลน กปฺปิยนฺติ ยุตฺตปตฺตกาเลน ยทา โน อตฺโถ โหติ, ตทา กปฺปิยํ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหามาติ อตฺโถ. เวยฺยาวจฺจกโรติ กิจฺจกโร, กปฺปิยการโกติ อตฺโถ. ‘‘เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ กปฺปิยวจเนน วุตฺตตฺตา อนุฺาตํ. สเจ ปน ทูโต ‘‘โก อิมํ คณฺหาติ, กสฺส วา เทมี’’ติ วทติ, น นิทฺทิสิตพฺโพ. อารามิโก วา อุปาสโก วาติ อิทํ สารุปฺปตาย วุตฺตํ, เปตฺวา ปน ปฺจ สหธมฺมิเก โย โกจิ กปฺปิยการโก วฏฺฏติ. เอโส โข อาวุโส ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโรติ อิทํ ทูเตน ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ปุจฺฉิตตฺตา ปุจฺฉาสภาเคน ภิกฺขุสฺส กปฺปิยวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวเมว หิ ภิกฺขุนา วตฺตพฺพํ, น วตฺตพฺพํ ‘‘ตสฺส เทหี’’ติอาทิ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘น วตฺตพฺโพ ตสฺส เทหี’’ติอาทิมาห. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๓๘-๕๓๙) ปน ‘‘เอโส โข…เป… น วตฺตพฺโพ ตสฺส เทหีติอาทิ อกปฺปิยวตฺถุสาทิยนปริโมจนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

อาณตฺโต โส มยาติ ยถา ตุมฺหากํ จีวเรน อตฺเถ สติ จีวรํ ทสฺสติ, เอวํ วุตฺโตติ อตฺโถ. วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘สฺตฺโตติอาทิ เอวํ ทูเตน ปุน วุตฺเต เอว โจเทตุํ วฏฺฏติ, น อิตรถาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน ปาฬิยํ ‘‘สฺตฺโต โส มยา’’ติ อาคตตฺตา เอวํ วุตฺโต, ปุริมวากฺเย ปน วินยสงฺคหปฺปกรเณ (วิ. สงฺค. อฏฺ. ๖๔) ‘‘อาณตฺโต โส มยา’’ติ ปริยายวจเนน ปริวตฺติตฺวา ปิตตฺตา ตถา วุตฺโต, เตน จ กปฺปิยการกสฺส สฺาปิตภาเว ทูเตน ภิกฺขุสฺส ปุน อาโรจิเต เอว ภิกฺขุนา กปฺปิยการโก โจเทตพฺโพ โหติ, น อนาโรจิเตติ ทสฺเสติ.

อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนาติ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนเมตํ. อิทํ วา หิ วจนํ วตฺตพฺพํ, ตสฺส วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย วตฺตพฺโพ. เทหิ เม จีวรนฺติอาทีนิ ปน น วตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. เอตานิ หิ วจนานิ, เอเตสํ วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย น วตฺตพฺโพ. ‘‘เอวํ วทนฺโต จ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, โจทนา ปน โหติเยวา’’ติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๓๘-๕๓๙) ปน ‘‘น วตฺตพฺโพ ‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’นฺติ อิทํ ทูเตนาภตรูปิยํ ปฏิคฺคเหตุํ อตฺตนา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการกตฺตาว ‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’นฺติ วทนฺโต รูปิยสฺส ปกตตฺตา เตน รูปิเยน ปริวตฺเตตฺวา ‘เทหิ เจตาเปหี’ติ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชนฺโต นาม โหตีติ ตํ โทสํ ทูรโต ปริวชฺเชตุํ วุตฺตํ รูปิยปฏิคฺคาหเกน สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺรูปิเย วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘น วตฺตพฺโพ อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔), ตสฺมา น อิทํ วิฺตฺติโทเส ปริวชฺเชตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’ติปิ อวตฺตพฺพตาปฺปสงฺคโต. เตเนว ทูตนิทฺทิฏฺเสุ รูปิยสํโวหารสงฺกาภาวโต อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ ‘‘ทูเตน ปิตรูปิเยน เจตาเปตฺวา จีวรํ อาหราเปหี’’ติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘จีวรํ อาหราเปหี’’ติ เอวํ อาหราเปตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพติ วุตฺตํ.

อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอวํ ยาวตติยํ โจเทนฺโต ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทตุํ สกฺโกติ อตฺตโน ปฏิลาภวเสน, อิจฺเจตํ กุสลํ สาธุ สุฏฺุ สุนฺทรํ. จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพนฺติ านลกฺขณนิทสฺสนเมตํ. ฉกฺขตฺตุปรมนฺติ จ ภาวนปุํสกวจนเมตํ. ฉกฺขตฺตุปรมนฺติ เอเตน จีวรํ อุทฺทิสฺส ตุณฺหีภูเตเนว าตพฺพํ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพนฺติ อิทํ านลกฺขณํ. เตเนว ‘‘น อาสเนติอาที’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สทฺทสตฺเถ ปน –

‘‘กิริยาวิเสสนํ สตฺเถ, วุตฺตํ ธาตุวิเสสนํ;

ภาวนปุํสกนฺตฺเยว, สาสเน สมุทีริต’’นฺติ. –

วจนโต กิริยาวิเสสนเมว สาสนโวหาเรน ภาวนปุํสกํ นาม ชาตํ;

‘‘มุทุํ ปจติอิจฺจตฺร, ปจนํ ภวตีติ จ;

สุขํ สยติอิจฺจตฺร, กโรติ สยนนฺติ จา’’ติ. –

วจนโต กิริยาวิเสสนปเทน ตุลฺยาธิกรณภูตํ กิริยาวิเสสฺยปทํ อกมฺมกมฺปิ สกมฺมกมฺปิ ภูธาตุกรธาตูหิ สมฺพนฺธิตพฺพํ โหตีติ อิมินา าเยน ฉกฺขตฺตุปรมํ านํ ภวิตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ านํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอเตน ฉกฺขตฺตุปรมํ เอวํ านํ ภวิตพฺพํ, น ตโต อธิกํ , ฉกฺขตฺตุปรมํ เอว านํ กาตพฺพํ, น ตโต อุทฺธนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. น อาสเน นิสีทิตพฺพนฺติ ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ วุตฺเตปิ น นิสีทิตพฺพํ. น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ‘‘ยาคุขชฺชกาทิเภทํ กิฺจิ อามิสํ คณฺหถ ภนฺเต’’ติ ยาจิยมาเนนปิ น คณฺหิตพฺพํ. น ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ ‘‘มงฺคลํ วา อนุโมทนํ วา ภาสถา’’ติ ยาจิยมาเนนปิ กิฺจิ น ภาสิตพฺพํ, เกวลํ ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน ‘‘ชานาหิ อาวุโส’’ติ วตฺตพฺโพ.

านํ ภฺชตีติ อาคตการณํ ภฺชติ โกเปติ. านนฺติ ิติยา จ การณสฺส จ นามํ, ตสฺมา อาสเน นิสีทเนน านํ กุปฺปติ, อาคตการณมฺปิ, อามิสปฏิคฺคหณาทีสุ ปน อาคตการณเมว ภฺชติ, น านํ. เตนาห ‘‘อาคตการณํ ภฺชตี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อามิสปฏิคฺคหณาทินา านมฺปิ ภฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ, ฏีกายมฺปิ นานาวาเท ทสฺเสตฺวา านภฺชนํ วุตฺตํ, ตํ อฏฺกถาวจเนน อสํสนฺทนโต คนฺถครุภเยน น วทิมฺห. อิทานิ ยา ติสฺโส โจทนา, ฉ จ านานิ วุตฺตานิ, ตตฺถ วุทฺธิหานึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ จตุกฺขตฺตุํ โจเทตี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา จ เอกโจทนาวุทฺธิยา ทฺวินฺนํ านานํ หานิ วุตฺตา, ตสฺมา โจทนา ทฺวิคุณํ านนฺติ ลกฺขณํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ อิมินา ลกฺขเณน ติกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ฉกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ทฺวิกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา อฏฺกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, สกึ โจเทตฺวา ทสกฺขตฺตุํ าตพฺพํ.

ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺตีติ อิทํ โจทกสฺส ิตฏฺานโต อปกฺกมฺม ตตฺร ตตฺร อุทฺทิสฺส านํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. โก ปน วาโท นานาทิวเสสูติ นานาทิวเสสุ เอวํ กโรนฺตสฺส โก ปน วาโท, วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สามํ วา คนฺตพฺพํ, ทูโต วา ปาเหตพฺโพติ อิทํ สภาวโต โจเทตุํ อนิจฺฉนฺเตนปิ กาตพฺพเมวา’’ติ วทนฺติ. น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภตีติ ตํ จีวรเจตาปนฺนํ อสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ กมฺมํ น นิปฺผาเทติ. ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกนฺติ อายสฺมนฺโต อตฺตโน สนฺตกํ ธนํ ปาปุณนฺตุ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๓๘-๕๓๙) ปน ‘‘ยตสฺสจีวรเจตาปนฺนนฺติอาทิ เยน อตฺตนา เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิฏฺโ, จีวรฺจ อนิปฺผาทิตํ, ตสฺส กตฺตพฺพทสฺสนํ. เอวํ ภิกฺขุนา วตฺถุสามิกานํ วุตฺเต โจเทตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติ ‘สามิกา โจเทตฺวา เทนฺตี’ติ (ปารา. ๕๔๑) อนาปตฺติยํ วุตฺตตฺตา. เตเนว โส สยํ อโจเทตฺวา อุปาสกาทีหิ ปริยาเยน วตฺวา โจทาเปติ , เตสุ สตกฺขตฺตุมฺปิ โจเทตฺวา จีวรํ ทาเปนฺเตสุ ตสฺส อนาปตฺติ สิทฺธา โหติ สิกฺขาปทสฺส อนาณตฺติกตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

๖๕. เกนจิ อนิทฺทิฏฺโ อตฺตโน มุเขเนว พฺยาวฏภาวํ เวยฺยาวจฺจกรตฺตํ ปตฺโต มุขเววฏิโก, อวิจาเรตุกามตายาติ อิมินา วิชฺชมานมฺปิ ทาตุํ อนิจฺฉนฺตา อริยาปิ วฺจนาธิปฺปายํ วินา โวหารโต นตฺถีติ วทนฺตีติ ทสฺเสติ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) ปน ‘‘อวิจาเรตุกามตายาติ อิมสฺมึ ปกฺเข ‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’ติ อิทํ ตาทิสํ กโรนฺโต กปฺปิยการโก นตฺถีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เภสชฺชกฺขนฺธเก เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุมฺหิ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตํ ‘‘สนฺติ ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนเมว เมณฺฑกสิกฺขาปทํ นาม. ตตฺถ หิ เมณฺฑเกน นาม เสฏฺินา ‘‘สนฺติ หิ ภนฺเต มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ, สาธุ ภนฺเต ภควา ภิกฺขูนํ ปาเถยฺยํ อนุชานาตู’’ติ ยาจิเตน ภควตา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ. ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน, คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกนา’’ติ วตฺวา อิทํ วุตฺตํ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา ยํ อยฺยสฺส กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ. ‘‘กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ นิกฺขิปนฺตี’’ติ เอตฺถาปิ ภิกฺขุสฺส อาโรจนํ อตฺถิเยว, อฺถา อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกปกฺขํ ภชตีติ น โจเทตพฺโพ สิยา, อิทํ ปน ทูเตน นิทฺทิฏฺกปฺปิยการเก สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเ วา อนิทฺทิฏฺเ วา. เตเนวาห ‘‘เอตฺถ โจทนาย ปริมาณํ นตฺถี’’ติอาทิ. ยทิ มูลํ สนฺธาย โจเทติ, ตํ สาทิตเมว สิยาติ อาห ‘‘มูลํ อสาทิยนฺเตนา’’ติ.

อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตนา โจทนาฏฺานฺจ น กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถายาติ อิมินา จีวรตฺถาเยว น โหตีติ ทสฺเสติ. เอเสว นโยติ อิมินา วตฺถุสามินา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการเกสุปิ ปิณฺฑปาตาทีนมฺปิ อตฺถาย ทินฺเน จ านโจทนาทิสพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

๖๖. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเนปนาติอาทีสุ ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ‘‘อมุกสฺมึ นาม าเน มม หิรฺสุวณฺณํ อตฺถิ, ตํ ตุยฺหํ โหตู’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ิตสฺส เกวลํ วาจาย วา หตฺถมุทฺทาย วา ‘‘ตุยฺห’’นฺติ วตฺวา ปริจฺจตฺตสฺส กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน สาทิยนํ อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนํ นาม. สาทิยตีติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘คณฺหิตุกาโม โหตี’’ติ.

อิทํ คุตฺตฏฺานนฺติ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ปจฺจยปริโภคํเยว สนฺธาย อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปา’’ติ วุตฺเต ‘‘อุคฺคณฺหาเปยฺย วา’’ติ วุตฺตลกฺขเณน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. อถ วา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขนฺโต านสฺส คุตฺตภาวเมว ทสฺเสติ, น วตฺถุํ ปรามสติ, ตสฺมา อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ ปน วทนฺโต นิกฺขิปิตพฺพํ วตฺถุํ นิกฺขิปาหีติ วตฺถุํ ปรามสติ นาม, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ. ปรโต อิทํ คณฺหาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหตีติ ยสฺมา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค กปฺปติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อิทํ ธนํ ยสฺมา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมา ปน สพฺพโส อวิสฺสชฺชิตํ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ. อถ วา ตํ ธนํ ยสฺมา ปจฺฉา สุฏฺุวิจารณาย สติยา กปฺปิยํ ภวิสฺสติ, ทุพฺพิจารณาย สติยา อกปฺปิยํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหตีติ. วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘เอโก สตํ วา สหสฺสํ วาติอาทิ รูปิเย เหฏฺิมโกฏิยา ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺต’’นฺติ จ ‘‘น ปน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวาติ ทสฺเสตุํ, ‘อิธ นิกฺขิปาหี’ติ วุตฺเต อุคฺคณฺหาปนํ โหตีติ อาห ‘อิธ นิกฺขิปาหี’ติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ จ ‘‘กปฺปิยฺจ…เป… โหตีติ ยสฺมา อสาทิตตฺตา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย สติ ตโต อุปฺปนฺนํ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ จ วุตฺตํ.

๖๗. สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ ยสฺมา รูปิยํ นาม อกปฺปิยํ, ตสฺมา สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ปฏิคฺคหิตมตฺตเมว โหติ, น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตํ, ตสฺมา อุปาเยน ปริโภคทสฺสนตฺถํ ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตํ. น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตนฺติ อิมินา เจตาปิตฺเจ, นตฺถิ ปริโภคูปาโย อุคฺคเหตฺวา อนิสฺสฏฺรูปิเยน เจตาปิตตฺตา. อีทิสฺหิ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชนํ กตฺวาว ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยํ เทสาเปตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺเฆ นิสฺสฏฺํ กปฺปิยการเกหิ นิสฺสฏฺรูปิเยน ปริวตฺเตตฺวา อานีตกปฺปิยภณฺฑสทิสํ โหติ, ตสฺมา วินาว อุปายํ ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปตฺตจตุกฺกาทิกถาย น สเมติ. ตตฺถ หิ รูปิเยน ปริวตฺติตปตฺตสฺส อปริโภโคว ทสฺสิโต, น นิสฺสชฺชนวิจาโรติ. กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ปพฺพชิตานํ สปฺปิ วา เตลํ วา วฏฺฏติ อุปาสกาติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ.

อารามิกานํ วา ปตฺตภาคนฺติ อิทํ คิหีนํ หตฺถคโตปิ โสเยว ภาโคติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปน เตน อฺํ ปริวตฺเตตฺวา อารามิกา เทนฺติ, ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ มชฺฌิมคณฺิปเท จูฬคณฺิปเท จ วุตฺตํ. ตโต หริตฺวาติ อฺเสํ ปตฺตภาคโต หริตฺวา. กสิณปริกมฺมนฺติ อาโลกกสิณปริกมฺมํ. มฺจปีาทีนิ วาติ เอตฺถ ตโต คหิตมฺจปีาทีนิ ปริวตฺเตตฺวา อฺํ เจ คหิตํ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ฉายาปีติ โภชนสาลาทีนํ ฉายาปิ. ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตาติ เคหปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตา, ฉายาย คตคตฏฺานํ เคหํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. มคฺเคนปีติ เอตฺถ สเจ อฺโ มคฺโค นตฺถิ, มคฺคํ อธิฏฺหิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กีตายาติ เตน วตฺถุนา กีตาย. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชตีติ สเจ อุปาสโก ‘‘อติพหุ เอตํ หิรฺํ, อิทํ ภนฺเต อชฺเชว น วินาเสตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สยํ อุปนิกฺเขปํ เปติ, อฺเน วา ปาเปติ, เอวํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภุฺชนฺโต สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชติ, เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๘๓-๕๘๔) ปน ‘‘อุปนิกฺเขปํ เปตฺวาติ กปฺปิยการเกหิ วฑฺฒิยา ปโยชนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อกปฺปิยนฺติ เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

สเจ โส ฉฑฺเฑตีติ ยตฺถ กตฺถจิ ขิปติ, อถาปิ น ฉฑฺเฑติ, สยํ คเหตฺวา คจฺฉติ, น วาเรตพฺโพ. โน เจ ฉฑฺเฑตีติ อถ เนว คเหตฺวา คจฺฉติ, น ฉฑฺเฑติ, ‘‘กึ มยฺหํ อิมินา พฺยาปาเรนา’’ติ เยนกามํ ปกฺกมติ, ตโต ยถาวุตฺตลกฺขโณ รูปิยฉฑฺฑโก สมนฺนิตพฺโพ. โย น ฉนฺทาคตินฺติอาทีสุ โลภวเสน ตํ วตฺถุํ อตฺตโน วา กโรนฺโต อตฺตานํ วา อุกฺกํเสนฺโต ฉนฺทาคตึ นาม คจฺฉติ. โทสวเสน ‘‘เนวายํ มาติกํ ชานาติ, น วินย’’นฺติ ปรํ อปสาเทนฺโต โทสาคตึ นาม คจฺฉติ. โมหวเสน ปมุฏฺโ ปมุฏฺสฺสติภาวํ อาปชฺชนฺโต โมหาคตึ นาม คจฺฉติ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภเยน ฉฑฺเฑตุํ อวิสหนฺโต ภยาคตึ นาม คจฺฉติ. เอวํ อกโรนฺโต น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ นามาติ เวทิตพฺโพ.

๖๘. ปติโตกาสํ อสมนฺนารหนฺเตน ฉฑฺเฑตพฺพนฺติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํ, ตสฺมา ปติตฏฺาเน าเตปิ ตสฺส คูถํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส วิย นิรเปกฺขภาโวเยเวตฺถ ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ อตฺตนิ อวิชฺชมานอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตา หิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนุฺาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนุฺาตตฺตา ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค, ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘สีลวโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. จีวรํ ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา ปริโภเค ปริโภเค. ปุเรภตฺต…เป… ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ยถาวุตฺตกาลวิเสสวเสน เอกสฺมึ ทิวเส จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ ทฺวิกฺขตฺตุํ สกึเยว วา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ.

สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตํ, ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย…เป… หิริโกปินปฏิจฺฉาทนตฺถํ. หิยฺโย โย มยา ปิณฺฑปาโต ปริภุตฺโต, โส เนว ทวายาติอาทินา สเจ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณํ น กเรยฺย, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตพฺพํ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเส. เอวํ ปน อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตาทีสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ อิธ วิสุํ น วุตฺตํ. สติปจฺจยตาติ สติยา ปจฺจยภาโว. ปฏิคฺคหณสฺส ปริโภคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยภาโว ยุชฺชติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพํ ปริภุฺชิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตปีติ ยทิปิ ทฺวีสุปิ าเนสุ ปจฺจเวกฺขณา ยุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ . อปเร ปนาหุ ‘‘สติปจฺจยตาติ สติ เภสชฺชปริโภคสฺส ปจฺจยภาเว, ปจฺจเยติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตปีติ ปจฺจเย สติปี’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตถา หิ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌติ, น ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน.

นนุ จ ‘‘ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วุตฺตํ, ตสฺมา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส จ โก วิเสโสติ? วุจฺจเต – ปุริเมสุ ตาว ตีสุ ปจฺจเยสุ วิเสโส ปากโฏเยว, คิลานปจฺจเย ปน ยถา วตึ กตฺวา รุกฺขมูเล โคปิเต ตสฺส ผลานิปิ รกฺขิตาเนว โหนฺติ, เอวเมว ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีเล รกฺขิเต ตปฺปฏิพทฺธํ ปาติโมกฺขสํวรสีลมฺปิ นิปฺผนฺนํ นาม โหติ. คิลานปจฺจยํ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส สีลํ ภิชฺชมานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว ภิชฺชติ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปน ปจฺฉาภตฺตปุริมยามาทีสุ ยาว อรุณุคฺคมนา อปฺปจฺจเวกฺขนฺตสฺเสว ภิชฺชติ. ปุเรภตฺตฺหิ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวาปิ คิลานปจฺจยํ ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ, อิทเมเตสํ นานากรณนฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๘๕) อาคตํ.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๘๕) ปน ‘‘เถยฺยปริโภโคติ ปจฺจยสฺสามินา ภควตา อนนุฺาตตฺตา วุตฺตํ. อิณปริโภโคติ ภควตา อนุฺาตมฺปิ กตฺตพฺพํ อกตฺวา ปริภุฺชนโต วุตฺตํ. เตน จ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ วิปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเค. ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ โยชนา. อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺต’นฺติอาทินาปิ อตีตปจฺจเวกฺขณา วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปริโภเค ปริโภเคติ อุทกปตนฏฺานโต อนฺโตปเวสเนสุ นิสีทนสยเนสุ จ. สติปจฺจยตา วฏฺฏตีติ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ ปจฺจเวกฺขณาสติ อวสฺสํ ลทฺธพฺพาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘สตึ กตฺวา’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘สติปจฺจยตา ปจฺจเย สติ เภสชฺชปริโภคสฺส การเณ สตี’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ, เตสมฺปิ ปจฺจเย สตีติ ปจฺจยสพฺภาวสลฺลกฺขเณ สตีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน สีลสฺส อสุชฺฌนโต. ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺตีติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เภโท ทสฺสิโต, น ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส ตสฺส อตีตปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌนโต. เอตสฺมึ ปน เสสปจฺจเยสุ จ อิณปริโภคาทิวจเนน ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺเสว เภโทติ เอวมิเมสํ นานากรณํ เวทิตพฺพ’’นฺติ อาคตํ.

เอเตสุ ทฺวีสุ ปกรเณสุ ‘‘อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ เอตฺถ หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตนฺติ…เป… วทนฺตีติ อาคตํ. อิมํ ปน นยํ นิสฺสาย อิทานิ เอกจฺเจ ปณฺฑิตา ‘‘อชฺชปาโต ปริภุตฺตํ สายํ ปจฺจเวกฺขนฺเตน อชฺช ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตนฺติอาทินา อตีตวเสน ปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพา’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘หิยฺโย ปริภุตฺตเมว อตีตวเสน ปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพา, น อชฺช ปริภุตฺตํ, ตํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนวเสน ปจฺจเวกฺขณาเยวา’’ติ วทนฺติ. ตตฺถ มูลวจเน เอวํ วิจารณา กาตพฺพา. กถํ? อิทํ หิยฺโยตฺยาทิวจนํ สุตฺตํ วา สุตฺตานุโลมํ วา อาจริยวาโท วา อตฺตโนมติ วาติ. ตตฺถ น ตาว สุตฺตํ โหติ ‘‘สุตฺตํ นาม สกเล วินยปิฏเก ปาฬี’’ติ วุตฺตตฺตา อิมสฺส จ วจนสฺส น ปาฬิภูตตฺตา. น จ สุตฺตานุโลมํ ‘‘สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) วุตฺตตฺตา อิมสฺส จ มหาปเทสภาวาภาวโต. น จ อาจริยวาโท ‘‘อาจริยวาโท นาม ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฺจหิ อรหนฺตสเตหิ ปิตา ปาฬิวินิมุตฺตา โอกฺกนฺตวินิจฺฉยปฺปวตฺตา อฏฺกถาตนฺตี’’ติ วจนโต อิมสฺส จ อฏฺกถาปาภาวาภาวโต. น จ อตฺตโนมติ ‘‘อตฺตโนมติ นาม สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุฺจิตฺวา อนุมาเนน อตฺตโน พุทฺธิยา นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถนํ, อปิจ สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสุ อาคโต สพฺโพปิ เถรวาโท อตฺตโนมติ นามา’’ติ วุตฺตตฺตา อิมสฺส จ อฏฺกถาสุ อาคตตฺเถรวาทภาวาภาวโต.

อิติ –

‘‘จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา มหิทฺธิกา;

นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ธมฺมสงฺคาหกา ปุรา’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) –

วุตฺเตสุ จตุพฺพิธวินเยสุ อนนฺโตคธตฺตา อิทํ วจนํ วิจาเรตพฺพํ. เตน วุตฺตํ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๘๕) ฏีกาจริเยน ‘‘ตํ วีมํสิตพฺพ’’นฺติ. อถ วา ‘‘นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถน’’นฺติ อิมินา ลกฺขเณน เตสํ เตสํ อาจริยานํ อุปฏฺิตาการวเสน กถนํ อตฺตโนมติ สิยา, เอวมฺปิ วิจาเรตพฺพเมว. ‘‘อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ ตตฺถ โอตรติ เจว สเมติ จ, คเหตพฺพา. สเจ เนว โอตรติ น สเมติ, น คเหตพฺพา. อยฺหิ อตฺตโนมติ นาม สพฺพทุพฺพลา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) วจนโต อิมสฺส จ วจนสฺส อฏฺกถาวจเน อโนตรณโต อปฺปวิสนโต. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ.

อปโร นโย – กึ อิทํ วจนํ ปาฬิวจนํ วา อฏฺกถาวจนํ วา ฏีกาวจนํ วา คนฺถนฺตรวจนํ วาติ. ตตฺถ น ตาว ปาฬิวจนํ, น อฏฺกถาวจนํ, น คนฺถนฺตรวจนํ, อถ โข ฏีกาวจนนฺติ. โหตุ ฏีกาวจนํ, สกวจนํ วา ปรวจนํ วา อธิปฺเปตวจนํ วา อนธิปฺเปตวจนํ วาติ. ตตฺถ น สกวจนํ โหติ, อถ โข ปรวจนํ. เตนาห ‘‘วทนฺตี’’ติ. น ฏีกาจริเยน อธิปฺเปตวจนํ โหติ, อถ โข อนธิปฺเปตวจนํ. เตนาห ‘‘ตํ วีมํสิตพฺพ’’นฺติ. เตหิ ปน อาจริเยหิ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณาติ อิทํ อตีตปอโภควเสน ปจฺจเวกฺขณา อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณาติ ปริกปฺเปตฺวา อตีตวาจเกน สทฺเทน โยเชตฺวา กตํ ภเวยฺย. อตีเต ปริโภโค อตีตปริโภโค, อตีตปริโภคสฺส ปจฺจเวกฺขณา อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณาติ เอวํ ปน กเต อตีตปริโภคสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสมีปตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนวาจเกน สทฺเทน กถนํ โหติ ยถา ตํ นครโต อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ ปุริสํ ‘‘กุโต อาคจฺฉสี’’ติ วุตฺเต ‘‘นครโต อาคจฺฉามี’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนวาจกสทฺเทน กถนํ.

วินยสุตฺตนฺตวิสุทฺธิมคฺคาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓; วิสุทฺธิ. ๑.๑๘) จ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวตี’’ติ วตฺตมานวจเนเนว ปาโ โหติ, น อตีตวจเนน, อตีตปริโภโคติ จ อิมสฺมึเยว ทิวเส ปจฺฉาภตฺตาทิกาลํ อุปาทาย ปุเรภตฺตาทีสุ ปริโภโค อิจฺฉิตพฺโพ, น หิยฺโย ปริโภโค. กถํ วิฺายตีติ เจ? อฏฺกถาปมาเณน. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) ‘‘ปิณฺฑปาโต อาโลเป อาโลเป, ตถา อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยามปจฺฉิมยาเมสุ. สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ. เอเตน ปิณฺฑปาตํ อาโลเป อาโลเป ปจฺจเวกฺขนฺโต โภชนกิริยาย อปรินิฏฺิตตฺตา มุขฺยโต ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจเวกฺขณา โหติ, ปุเรภตฺตาทีสุ จตูสุ โกฏฺาเสสุ ปจฺจเวกฺขนฺโต โภชนกิริยาย ปรินิฏฺิตตฺตา อตีตปจฺจเวกฺขณา โหตีติ ทสฺเสติ. สา ปน ปจฺจุปฺปนฺนสมีปตฺตา วตฺตมานวจเนน วิธียติ. ยทิ หิ หิยฺโย ปริภุตฺตานิ อตีตปจฺจเวกฺขเณน ปจฺจเวกฺขิตพฺพานิ สิยุํ, อตีตทุติยทิวสตติยทิวสาทิมาสสํวจฺฉราทิปริภุตฺตานิปิ ปจฺจเวกฺขิตพฺพานิ สิยุํ, เอวฺจ สติ ยถาวุตฺตอฏฺกถาวจนํ นิรตฺถกํ สิยา, ตสฺมา อฏฺกถาวจนเมว ปมาณํ กาตพฺพํ. ยถาห –

‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต;

โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต;

โส เยหิ เตสํ มติมจฺจชนฺตา;

ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ.

‘‘ตสฺมา หิ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลขํ;

สพฺพมฺปิ สิกฺขาสุ สคารวานํ;

ยสฺมา ปมาณํ อิธ ปณฺฑิตาน’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา);

ยสฺมา จ สพฺพาสวสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓) ภควตา เทสิตกาเล ภิกฺขุกตฺตุกตฺตา นามโยคตฺตา วตฺตมานปมปุริสวเสน ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวตี’’ติ เทสิตา, ตทนุกรเณน ภิกฺขูนํ ปจฺจเวกฺขณกาเล อตฺตกตฺตุกตฺตา อมฺหโยคตฺตา วตฺตมานอุตฺตมปุริสวเสน ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา โหติ, ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทีนิ ตทตฺถสมฺปทานปทานิ จ ‘‘ปฏิเสวติ, ปฏิเสวามี’’ติ วุตฺตปฏิเสวนกิริยายเมว สมฺพนฺธิตพฺพานิ โหนฺติ, ตานิ จ กิริยาปทานิ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน วา ปจฺจุปฺปนฺนสมีปอตีตวเสน วา วตฺตมานวิภตฺติยุตฺตานิ โหนฺติ, ตสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนปริภุตฺตานํ วา อตีตปริภุตฺตานํ วา ปจฺจยานํ ปจฺจเวกฺขณกาเล ‘‘ปฏิเสวามี’’ติ วจนํ ภควโต วจนสฺส อนุคตตฺตา อุปปนฺนเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

อนุวจเนปิ เอวํ วิจารณา กาตพฺพา – ‘‘อชฺช ปาโต ปริภุตฺตํ สายํ ปจฺจเวกฺขนฺเตน อชฺช ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตนฺติอาทินา อตีตวเสน ปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพา’’ติ เย วทนฺติ, เต เอวํ ปุจฺฉิตพฺพา – กึ ภวนฺโต ภควตา อตีตปริภุตฺเตสุ อตีตวเสน ปจฺจเวกฺขณา เทสิตาติ? น เทสิตา. กถํ เทสิตาติ? ‘‘ปจฺจเวกฺขตี’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนวเสเนว เทสิตาติ. กึ โภนฺโต ภควโต กาเล อตีตปริภุตฺเตสุ ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ? อตฺถิ. อถ กสฺมา ภควตา ปจฺจุปฺปนฺนวเสเนว ปจฺจเวกฺขณา เทสิตาติ? ปจฺจุปฺปนฺนสมีปวเสน วา สามฺวเสน วา เทสิตาติ. เอวํ สนฺเต ภควโต อนุกรเณน อิทานิปิ อตีตปริภุตฺตานํ ปจฺจยานํ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน ปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพาติ. เย ปน เอวํ วทนฺติ ‘‘หิยฺโย ปริภุตฺตานเมว อตีตปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพา, น อชฺช ปริภุตฺตานํ, เตสํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจเวกฺขณาเยวา’’ติ, เต เอวํ วตฺตพฺพา – กึ โภนฺโต ยถา ตุมฺเห วทนฺติ, เอวํ ปาฬิยํ อตฺถีติ? นตฺถิ. อฏฺกถายํ อตฺถีติ? นตฺถิ. เอวํ สนฺเต สาฏฺกเถสุ เตปิฏเกสุ พุทฺธวจเนสุ อสํวิชฺชมานํ ตุมฺหากํ วจนํ กถํ ปจฺเจตพฺพนฺติ? อาจริยปรมฺปราวเสน. โหตุ ตุมฺหากํ อาจริยลทฺธิวเสน กถนํ, กาโล นาม ติวิโธ อตีโต อนาคโต ปจฺจุปฺปนฺโนติ. ตตฺถ ปรินิฏฺิตกิริยา อตีโต นาม, อภิมุขกิริยา อนาคโต นาม, อารทฺธอนิฏฺิตกิริยา ปจฺจุปฺปนฺโน นาม. เตนาหุ โปราณา –

‘‘อารทฺธานิฏฺิโต ภาโว, ปจฺจุปฺปนฺโน สุนิฏฺิโต;

อตีตานาคตุปฺปาท-มปฺปตฺตาภิมุขา กิริยา’’ติ.

ตตฺถ อชฺช วา โหตุ หิยฺโย วา ตโต ปุพฺเพ วา, ปริภุตฺตปจฺจโย สุปรินิฏฺิตภุฺชนกิริยตฺตา อตีโต นาม. ตตฺถ หิยฺโย วา ตโต ปุพฺเพ วา ปริภุตฺตปจฺจโย อติกฺกนฺตอรุณุคฺคมนตฺตา น ปจฺจเวกฺขณารโห, ปจฺจเวกฺขิโตปิ อปฺปจฺจเวกฺขิโตเยว โหติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ. อชฺเชว ปน จีวรฺจ เสนาสนฺจ ปริโภเค ปริโภเค, ปิณฺฑปาตํ อาโลเป อาโลเป, เภสชฺชํ ปฏิคฺคหเณ ปริโภเค จ ปจฺจเวกฺขโต อปรินิฏฺิตภุฺชนกิริยตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนปริภุตฺตปจฺจเวกฺขณา นาม โหติ. ปุเร ปริภุตฺตํ ตโต ปจฺฉา จตูสุ โกฏฺาเสสุ ปจฺจเวกฺขโต สุปรินิฏฺิตภุฺชนกิริยตฺตา อตีตปริภุตฺตปจฺจเวกฺขณา นาม โหติ. เอตฺตกํ ปจฺจเวกฺขณาย เขตฺตํ, น ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา วา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สีลวโต อปฺปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อิณปริโภโค นาม. ตสฺมา จีวรํ ปริโภเค ปริโภเค…เป… เภสชฺชสฺส ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ สติปจฺจยตา วฏฺฏตี’’ติ, ตสฺมา หิยฺโย ปริภุตฺตสฺส อิณปริโภคตฺตา ตํ อนามสิตฺวา อชฺช ปริภุตฺเตสุ อตีตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ภควโต วจนสฺส อนุกรเณน วตฺตมานวิภตฺติยุตฺเตน ‘‘ปฏิเสวามี’’ติ กิริยาปเทน ปจฺจเวกฺขณา สูปปนฺนา โหตีติ ทฏฺพฺพา. อีทิสปจฺจเวกฺขณเมว สนฺธาย วิมติวิโนทนิยาทีสุ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๘๕) ‘‘ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส อตีตปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌนโต’’ติ วุตฺตํ.

เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส สุทฺธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ สุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ เอตายาติ สุทฺธิ, ยถาธมฺมํ เทสนาว สุทฺธิ เทสนาสุทฺธิ. วุฏฺานสฺสปิ เจตฺถ เทสนาย เอว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ฉินฺนมูลาปตฺตีนํ ปน อภิกฺขุตาปฏิฺาเยว เทสนา. อธิฏฺานวิสิฏฺโ สํวโรว สุทฺธิ สํวรสุทฺธิ. ธมฺเมน สเมน ปจฺจยานํ ปริเยฏฺิ เอว สุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ. จตูสุ ปจฺจเยสุ วุตฺตวิธินา ปจฺจเวกฺขณาว สุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ. เอส ตาว สุทฺธีสุ สมาสนโย. สุทฺธิมนฺเตสุ สีเลสุ ปน เทสนา สุทฺธิ เอตสฺสาติ เทสนาสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. น ปุเนวํ กริสฺสามีติ เอตฺถ เอวนฺติ สํวรเภทํ สนฺธายาห. ปหายาติ วชฺเชตฺวา, อกตฺวาติ อตฺโถ. วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘สุชฺฌติ เทสนาทีหิ, โสธียตีติ วา สุทฺธิ, จตุพฺพิธสีลํ. เตนาห ‘เทสนาย สุชฺฌนโต’ติอาทิ. เอตฺถ เทสนาคฺคหเณน วุฏฺานมฺปิ ฉินฺนมูลานํ อภิกฺขุตาปฏิฺาปิ สงฺคหิตา. ฉินฺนมูลาปตฺตีนมฺปิ หิ ปาราชิกาปตฺติวุฏฺาเนน เหฏฺาปริรกฺขิตํ ภิกฺขุสีลํ วิสุทฺธํ นาม โหติ. เตน เตสํ มคฺคปฏิลาโภปิ สมฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ เทสียติ อุจฺจารียตีติ เทสนา, ทิสี อุจฺจารเณติ ธาตุ, เทสียติ าปียติ เอตายาติ วา เทสนา, ทิส เปกฺขเนติ ธาตุ. อุภยถาปิ วิรติปธานกุสลจิตฺตสมุฏฺิโต เทสนาวจีเภทสทฺโท. สํวรณํ สํวโร, สํ-ปุพฺพ วร สํวรเณติ ธาตุ, สติปธาโน จิตฺตุปฺปาโท. ปริเยสนา ปริเยฏฺิ, ปริ-ปุพฺพ อิส ปริเยสเนติ ธาตุ, วีริยปธาโน จิตฺตุปฺปาโท. ปฏิ ปุนปฺปุนํ โอคาเหตฺวา อิกฺขนา ปจฺจเวกฺขณา, ปฏิ-ปุพฺพ อว-ปุพฺพ อิกฺข ทสฺสนงฺเกสูติ ธาตุ, ปฺาปธาโน จิตฺตุปฺปาโท. เตสุ เทสนาย วจีเภทสทฺทภาวโต วจีเภทํ กาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส จ ทุติยกํ อลภนฺตสฺส จ น สมฺปชฺชติ, เสสา ปน จิตฺตุปฺปาทมตฺตภาวโต วจีเภทํ กาตุํ อสกฺโกนฺตสฺสปิ ทุติยกํ อลภนฺตสฺสปิ สมฺปชฺชนฺติ เอว, ตสฺมา คิลานาทิกาเลสุ ปจฺจเวกฺขณาปาํ ปิตุมสกฺโกนฺเตนปิ อตฺถํ มนสิ กตฺวา จิตฺเตเนว ปจฺจเวกฺขณา กาตพฺพาติ.

ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา, อนนุฺาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต อนุฺาเตสุเยว จ ปริโภคสพฺภาวภาวโต ภิกฺขูหิ ปริภุฺชิตพฺพปจฺจยา ภควโต สนฺตกา. ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกนฺติ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา , อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา, กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’ติ เอวํ ปวตฺตํ ธมฺมทายาทสุตฺตฺจ (ม. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ สาธกํ. อวีตราคานํ ตณฺหาวสีกตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิ ปริโภคสพฺภาวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขณากาเรน ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เตนาห ‘‘เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺตี’’ติ. โย ปนายํ สีลวโต ปุถุชฺชนสฺส ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค, โส อิณปริโภคสฺส ปจฺจนีกตฺตา อานณฺยปริโภโค นาม โหติ. ยถา ปน อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตํ เทสํ คนฺตุํ น ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อานณฺยปริโภโคติ วุจฺจติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ เวทิตพฺโพ, โส อิธ วิสุํ น วุตฺโต, ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตีติ. สีลวาปิ หิ อิมาย สิกฺขาย สมนฺนาคตตฺตา เสกฺโขตฺเวว วุจฺจติ.

สพฺเพสนฺติ อริยานํ ปุถุชฺชนานฺจ. กถํ ปุถุชฺชนานํ อิเม ปริโภคา สมฺภวนฺตีติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สลฺเลขปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ ทายกานํ มโนรถสฺสาวิราธนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺต ฺเหตสฺส (อ. นิ. ๓.๘๖) อตฺถสฺส สาธกํ.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๘๕) ปน ‘‘ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา. สตฺตนฺนํ เสกฺขานนฺติ เอตฺถ กลฺยาณปุถุชฺชนาปิ สงฺคหิตา เตสํ อานณฺยปริโภคสฺส ทายชฺชปริโภเค สงฺคหิตตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมทายาทสุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทินา ปวตฺตํ สุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๒๙). ตตฺถ ‘‘มา เม อามิสทายาทาติ เอวํ เม-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ ยถาวุตฺตตฺถสาธกํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เม มม อามิสทายาทา จตุปจฺจยภุฺชกาติ ภควโต สมฺพนฺธภูตสฺส สมฺพนฺธีภูตา ปจฺจยา วุตฺตา, ตสฺมา ทายเกหิ ทินฺนาปิ ปจฺจยา ภควตา อนุฺาตตฺตา ภควโต ปจฺจยาเยว โหนฺตีติ เอตสฺส อตฺถสฺส ธมฺมทายาทสุตฺตํ สาธกํ โหตีติ อตฺโถติ วุตฺตํ.

ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค นาม ลชฺชิสฺส สนฺตกํ คเหตฺวา ปริโภโค. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุเยว อาสงฺกา น กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. เตปิ นิวาเรตพฺพาติ โย ปสฺสติ, เตน นิวาเรตพฺพาติ ปาโ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘โยปิ อตฺตโน ภารภูเตน อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ นิวาเรตพฺโพ’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ตถาปิ อตฺถโต อุภยถาปิ ยุชฺชติ. อตฺตโน สทฺธิวิหาริกาทโยปิ อลชฺชิภาวโต นิวาเรตพฺพา. อลชฺชีหิ สทฺธิวิหาริกาทีหิ เอกสมฺโภคํ กโรนฺตา อฺเปิ นิวาเรตพฺพาว. สเจ นโอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหตีติ เอตฺถ เอวํ นิวาริโต โส ปุคฺคโล อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคโต โอรมติ วิรมติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ โอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหติ, เตน สทฺธึ ปริโภคํ กโรนฺโต โสปิ อลชฺชีเยว โหตีติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ เอโก อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรตี’’ติ. อธมฺมิโยติ อเนสนาทีหิ อุปฺปนฺโน. ธมฺมิโยติ ภิกฺขาจริยาทีหิ อุปฺปนฺโน. สงฺฆสฺเสว เทตีติ ภตฺตํ อคฺคเหตฺวา อตฺตนา ลทฺธสลากํเยว เทติ.

วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโคติ ธมฺมามิสวเสน มิสฺสีภาโว. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุ อาสงฺกา นาม น กาตพฺพา, ทิฏฺสุตาทิการเณ สติ เอว กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. สเจ น โอรมตีติ อคติคมนวเสน ธมฺมามิสปริโภคโต น โอรมติ. อาปตฺติ นาม นตฺถีติ อิทํ อลชฺชีนํ ธมฺเมนุปฺปนฺนปจฺจยํ ธมฺมกมฺมฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. เตสมฺปิ หิ กุลทูสนาทิสมุปฺปนฺนํ ปจฺจยํ ปริภุฺชนฺตานํ วคฺคกมฺมาทีนิ กโรนฺตานฺจ อาปตฺติ เอว. ‘ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสเนว เวทิตพฺโพ’ติ วุตฺตตฺตา เหฏฺา ลชฺชิปริโภคาลชฺชิปริโภคา ปจฺจยวเสน เอกกมฺมาทิวเสน จ วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) โจทกจุทิตกภาเว ิตา ทฺเว อลชฺชิโน ธมฺมปริโภคมฺปิ สนฺธาย ‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’ติ วุตฺตา เตสํ อฺมฺํ ธมฺมามิสาปริโภเค วิโรธาภาวา. ลชฺชีนเมว หิ อลชฺชินา สห ตทุภยปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

สเจปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ…เป… อนฺตรธาเปตีติ เอตฺถ เกวลํ ปคฺคณฺหิตุกามตาย เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ธมฺมสฺส ปน สาสนสฺส โสตูนฺจ อนุคฺคหตฺถาย วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปุริมนเยน ‘‘โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา อิมสฺส อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อุทฺเทสคฺคหณาทินา ธมฺมสฺส ปริโภโค ธมฺมปริโภโค. ธมฺมานุคฺคเหน คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติยา อภาเวปิ เถโร ตสฺส อลชฺชิภาวํเยว สนฺธาย ‘‘ปาโป กิราย’’นฺติอาทิมาห. ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๕๘๕) ปน อิมสฺมึ าเน วิตฺถารโต วินิจฺฉิตํ. กถํ? ธมฺมปริโภโคติ ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส’’ติอาทินา วุตฺตสํวาโส เจว นิสฺสยคฺคหณาทิโก สพฺโพ นิรามิสปริโภโค จ เวทิตพฺโพ. ‘‘น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ลชฺชิโน อลชฺชิปคฺคเห อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. อิตโรปีติ ลชฺชีปิ. ตสฺสาปิ อตฺตานํ ปคฺคณฺหนฺตสฺส อลชฺชิโน, อิมินา จ ลชฺชิโน วณฺณภณนาทิลาภํ ปฏิจฺจ อามิสครุกตาย วา เคหสฺสิตเปเมน วา ตํ อลชฺชึ ปคฺคณฺหนฺโต ลชฺชี สาสนํ อนฺตรธาเปติ นามาติ ทสฺเสติ. เอวํ คหฏฺาทีสุ อุปตฺถมฺภิโต อลชฺชี พลํ ลภิตฺวา เปสเล อภิภวิตฺวา น จิรสฺเสว สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กโรตีติ.

ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตีติ อิมินา อามิสปริโภคโต ธมฺมปริโภโคว ครุโก, ตสฺมา อติวิย อลชฺชีวิเวเกน กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ‘‘ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อลชฺชุสฺสนฺนตายสาสเน โอสกฺกนฺเต, ลชฺชีสุ จ อปฺปโหนฺเตสุ อลชฺชึ ปกตตฺตํ คณปูรกํ คเหตฺวา อุปสมฺปทาทิกรเณน เจว เกจิ อลชฺชิโน ธมฺมามิสปริโภเคน สงฺคเหตฺวา เสสาลชฺชิคณสฺส นิคฺคเหน จ สาสนํ ปคฺคณฺหิตุมฺปิ วฏฺฏติ เอว.

เกจิ ปน ‘‘โกฏิยํ ิโต คนฺโถติ วุตฺตตฺตา คนฺถปริยาปุณนเมว ธมฺมปริโภโค, น เอกกมฺมาทิ, ตสฺมา อลชฺชีหิ สทฺธึ อุโปสถาทิกํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เอกกมฺมาทีสุ พหูสุ ธมฺมปริโภเคสุ อลชฺชินาปิ สทฺธึ กตฺตพฺพาวตฺถายตฺตํ ธมฺมปริโภคํ ทสฺเสตุํ อิธ นิทสฺสนวเสน คนฺถสฺเสว สมุทฺธฏตฺตา. น หิ เอกกมฺมาทิโก วิธิ ธมฺมปริโภโค น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ อนามิสตฺตา ธมฺมามิเสสุ อปริยาปนฺนสฺส จ กสฺสจิ อภาวา. เตเนว อฏฺสาลินิยํ ธมฺมปฏิสนฺถารกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๑) ‘‘กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ…เป… อพฺภานวุฏฺานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา, ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… อยํ ธมฺมปฏิสนฺถาโร นามา’’ติ เอวํ สงฺฆกมฺมาทิปิ ธมฺมโกฏฺาเส ทสฺสิตํ. เตสุ ปน ธมฺมโกฏฺาเสสุ ยํ คณปูรกาทิวเสน อลชฺชิโน อเปกฺขิตฺวา อุโปสถาทิ วา เตสํ สนฺติกา ธมฺมุคฺคหณนิสฺสยคฺคหณาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เจว ปริโภโค จาติ ธมฺมปริโภโคติ วุจฺจติ, เอตํ ตถารูปปจฺจยํ วินา กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺตสฺส อลชฺชิปริโภโค จ โหติ ทุกฺกฏฺจ. ยํ ปน อลชฺชิสตํ อนเปกฺขิตฺวา ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมํ วา ปริวาสาทิอุปการกมฺมํ วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เอว, โน ปริโภโค, เอตํ อนุรูปานํ กาตุํ วฏฺฏติ, อามิสทาเน วิย อาปตฺติ นตฺถิ. นิสฺสยทานมฺปิ เตรสสมฺมุติทานาทิ จ วตฺตปฏิปตฺติสาทิยนาทิปริโภคสฺสปิ เหตุตฺตา น วฏฺฏติ.

โย ปน มหาอลชฺชี อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ กโรติ, ตสฺส สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปสมฺปทาทิ อุปการกมฺมมฺปิ อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ จ กาตุํ น วฏฺฏติ, อาปตฺติ เอว โหติ, นิคฺคหกมฺมเมว กาตพฺพํ. เตเนว อลชฺชิปคฺคโหปิ ปฏิกฺขิตฺโต. ธมฺมามิสปริโภควิวชฺชเนนปิ หิ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโหว อธิปฺเปโต, โส จ เปสลานํ ผาสุวิหารสทฺธมฺมฏฺิติวินยานุคฺคหาทิอตฺถาย เอตทตฺถตฺตา สิกฺขาปทปฺตฺติยา, ตสฺมา ยํ ยํ ทุมฺมงฺกูนํ อุปตฺถมฺภาย, เปสลานํ อผาสุวิหาราย, สทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ ปริโภโค วา โหตุ อปริโภโค วา กาตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ กโรนฺตา สาสนํ อนฺตรธาเปนฺติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมามิสปริโภเคสุ เจตฺถ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโค เอว เปสลานํ อผาสุวิหาราย สทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, น ตถา อามิสปริโภโค. น หิ อลชฺชีนํ ปจฺจยปริโภคมตฺเตน เปสลานํ อผาสุวิหาราทิ โหติ, ยถาวุตฺตธมฺมปริโภเคน ปน โหติ. ตปฺปริวชฺชเนน จ ผาสุวิหาราทโย. ตถา หิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกมา อลชฺชิปุคฺคลา อุโปสถาทีสุ ปวิฏฺา ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร เจว วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถา’’ติอาทินา ภิกฺขูหิ วตฺตพฺพา โหนฺติ. ยถา วินยฺจ อติฏฺนฺตา สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน สุฏฺุ นิคฺคเหตพฺพา, ตถา อกตฺวา เตหิ สห สํวสนฺตาปิ อลชฺชิโนว โหนฺติ ‘‘เอโกปิ อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕). ยทิ หิ เต เอวํ อนิคฺคหิตา สิยุํ, สงฺเฆ กลหาทึ วฑฺเฒตฺวา อุโปสถาทิสามคฺคิกมฺมปฏิพาหนาทินา เปสลานํ อผาสุํ กตฺวา กเมน เต เทวทตฺตวชฺชิปุตฺตกาทโย วิย ปริสํ วฑฺเฒตฺวา อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺตึ ธมฺมโต วินยโต ทีเปนฺตา สงฺฆเภทาทิมฺปิ กตฺวา น จิรสฺเสว สาสนํ อนฺตรธาเปยฺยุํ. เตสุ ปน สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ. วุตฺตฺหิ ‘‘ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ น ปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ…เป… ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺตี’’ติ, ตสฺมา เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโคว อามิสปริโภคโตปิ อติวิย อลชฺชีวิเวเกน กาตพฺโพ, อาปตฺติกโร จ สทฺธมฺมปริหานิเหตุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

อปิจ ‘‘อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ น ปวตฺตนฺตี’’ติ เอวํ อลชฺชีหิ สทฺธึ สงฺฆกมฺมากรณสฺส อฏฺกถายํ ปกาสิตตฺตาปิ เจตํ สิชฺฌติ. ตถา ปริวตฺตลิงฺคสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนุปสฺสยํ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิปตฺติกถายํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณมฺหา โอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ…เป… อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ, ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลภตี’’ติ เอวํ อลชฺชินีสุ ทุติยิกาคหณาทีสุ สํวาสาปตฺติปริหาราย นทีปาราคมนาทิครุกาปตฺติฏฺานานํ อนุฺาตตฺตา ตโตปิ อลชฺชิสํวาสาปตฺติ เอว สทฺธมฺมปริหานิยา เหตุภูโต ครุกตราติ วิฺายติ. น หิ ลหุกาปตฺติฏฺานํ วา อนาปตฺติฏฺานํ วา ปริหริตุํ ครุกาปตฺติฏฺานวีติกฺกมํ อาจริยา อนุชานนฺติ. ตถา อสํวาสปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพหิปิ ลชฺชิปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขาตา นาม. เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา เอโส สํวาโส นามา’’ติ เอวํ ลชฺชีเหว เอกกมฺมาทิสํวาโส วฏฺฏตีติ ปกาสิโต.

ยทิ เอวํ กสฺมา อสํวาสิเกสุ อลชฺชี น คหิโตติ? นายํ วิโรโธ, เย คณปูรเก กตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ, เตสํ ปาราชิกาทิอปกตตฺตานฺเว อสํวาสิกตฺเตน คหิตตฺตา. อลชฺชิโน ปน ปกตตฺตภูตาปิ สนฺติ, เต เจ คณปูรกา หุตฺวา กมฺมํ สาเธนฺติ, เกวลํ กตฺวา อคติคมเนน กโรนฺตานํ อาปตฺติกรา โหนฺติ สภาคาปตฺติอาปนฺนา วิย อฺมฺํ. ยสฺมา อลชฺชิตฺจ ลชฺชิตฺจ ปุถุชฺชนานํ จิตฺตกฺขณปฏิพทฺธํ, น สพฺพกาลิกํ. สฺจิจฺจ หิ วีติกฺกมจิตฺเต อุปฺปนฺเน อลชฺชิโน ‘‘น ปุน อีทิสํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตน ลชฺชิโน โหนฺติ.

เตสุ จ เย เปสเลหิ โอวทิยมานาปิ น โอรมนฺติ, ปุนปฺปุนํ กโรนฺติ, เต เอว อสํวสิตพฺพา, น อิตเร ลชฺชิธมฺเม โอกฺกนฺตตฺตา, ตสฺมาปิ อลชฺชิโน อสํวาสิเกสุ อคเณตฺวา ตปฺปริวชฺชนตฺถํ โสเธตฺวาว อุโปสถาทิกรณํ อนฺาตํ. ตถา หิ ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๔) อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถกรณสฺส อยุตฺตตา ปกาสิตา, ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺย…เป… ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) เอวํ อลชฺชิมฺปิ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาเปตฺวา อุโปสถกรณปฺปกาโร จ วุตฺโต, ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา…เป… ปริสุทฺเธตฺถายสฺมนฺโต’’ติ (ปารา. ๒๓๓) จ ปาริสุทฺธิอุโปสเถ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) จ เอวํ อุโปสถํ กโรนฺตานํ ปริสุทฺธตา จ ปกาสิตา, วจนมตฺเตน อโนรมนฺตานฺจ อุโปสถปวารณฏฺปนวิธิ จ วุตฺโต, สพฺพถา ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมนฺเตหิ สํวาสสฺส อยุตฺตตาย นิสฺสยทานคฺคหณปฏิกฺเขโป, ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมกรณอุกฺเขปนียกมฺมกรเณน สานุวตฺตกปริสสฺส อลชฺชิสฺส อสํวาสิกตฺตปาปนวิธิ จ วุตฺโต, ตสฺมา ยถาวุตฺเตหิ สุตฺตนฺตนเยหิ, อฏฺกถาวจเนหิ จ ปกตตฺเตหิปิ อปกตตฺเตหิปิ สพฺเพหิ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิสํวาโส น วฏฺฏติ, กโรนฺตานํ อาปตฺติ เอว ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหตฺถาเยว สพฺพสิกฺขาปทานํ ปฺตฺตตฺตาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว ทุติยสงฺคีติยํ ปกตตฺตาปิ อลชฺชิโน วชฺชิปุตฺตกา ยสตฺเถราทีหิ มหนฺเตน วายาเมน สงฺฆโต วิโยชิตา. น หิ เตสุ ปาราชิกาทิอสํวาสิกาปตฺติ อตฺถิ, เตหิ ทีปิตานํ ทสนฺนํ วตฺถูนํ ลหุกาปตฺติวิสยตฺตาติ วุตฺตํ.

ตสฺส สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก.

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม

ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท.