📜
๑๓. ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถา
๖๙. เอวํ ¶ รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ ทานวิสฺสาสคฺคาหลาภปริณามนวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘ทานวิสฺสาสคฺคาเหหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทียเต ทานํ, จีวราทิวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อโลภปฺปธาโน กามาวจรกุสลกิริยจิตฺตุปฺปาโท. สสนํ สาโส, สสุ หึสายนฺติ ธาตุ, หึสนนฺติ อตฺโถ, วิคโต สาโส เอตสฺมา คาหาติ วิสฺสาโส. คหณํ คาโห, วิสฺสาเสน คาโห วิสฺสาสคฺคาโห. วิเสสเน เจตฺถ กรณวจนํ, วิสฺสาสวเสน คาโห, น เถยฺยจิตฺตวเสนาติ อตฺโถ. ลจฺฉเตติ ลาโภ, จีวราทิวตฺถุ, ตสฺส ลาภสฺส. ปริณมิยเต ปริณามนํ, อฺเสํ อตฺถาย ปริณตสฺส ¶ อตฺตโน, อฺสฺส วา ปริณามนํ, ทาปนนฺติ อตฺโถ. ทานวิสฺสาสคฺคาเหหิ ลาภสฺส ปริณามนนฺติ เอตฺถ อุทฺเทเส สมภินิวิฏฺสฺส ‘‘ทาน’’นฺติ ปทสฺส อตฺถวินิจฺฉโย ตาว ปมํ เอวํ เวทิตพฺโพติ โยชนา. อตฺตโน สนฺตกสฺส จีวราทิปริกฺขารสฺส ทานนฺติ สมฺพนฺโธ. ยสฺส กสฺสจีติ สมฺปทานนิทฺเทโส, ยสฺส กสฺสจิ ปฏิคฺคาหกสฺสาติ อตฺโถ.
ยทิทํ ‘‘ทาน’’นฺติ วุตฺตํ, ตตฺถ กึ ลกฺขณนฺติ อาห ‘‘ตตฺริทํ ทานลกฺขณ’’นฺติ. ‘‘อิทํ ตุยฺหํ เทมี’’ติ วทตีติ อิทํ ติวงฺคสมฺปนฺนํ ทานลกฺขณํ โหตีติ โยชนา. ตตฺถ อิทนฺติ เทยฺยธมฺมนิทสฺสนํ. ตุยฺหนฺติ ปฏิคฺคาหกนิทสฺสนํ. เทมีติ ทายกนิทสฺสนํ. ททามีติอาทีนิ ปน ปริยายวจนานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘เทยฺยทายกปฏิคฺคาหกา วิย ทานสฺสา’’ติ, ‘‘ติณฺณํ สมฺมุขีภาวา กุสลํ โหตี’’ติ จ. ‘‘วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺสา’’ติ อิทํ ปน เอกเทสลกฺขณกถนเมว, กึ เอวํ ทียมานํ สมฺมุขาเยว ทินฺนํ โหติ, อุทาหุ ปรมฺมุขาปีติ อาห ‘‘สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหตี’’ติ. ตุยฺหํ คณฺหาหีติอาทีสุ อยมตฺโถ – ‘‘คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘เทมี’’ติ วุตฺตสทิสํ โหติ, ตสฺมา มุขฺยโต ทินฺนตฺตา สุทินฺนํ โหติ, ‘‘คณฺหามี’’ติ จ วุตฺเต มุขฺยโต คหณํ โหติ, ตสฺมา สุคฺคหิตํ โหติ. ‘‘ตุยฺหํ มยฺห’’นฺติ อิมานิ ปน ปฏิคฺคาหกปฏิพนฺธตากรเณ วจนานิ. ตว สนฺตกํ กโรหีติอาทีนิ ปน ปริยายโต ทานคฺคหณานิ, ตสฺมา ทุทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ โหติ. โลเก หิ อปริจฺจชิตุกามาปิ ปุน คณฺหิตุกามาปิ ‘‘ตว สนฺตกํ โหตู’’ติ นิยฺยาเตนฺติ ยถา ตํ กุสรฺโ มาตุ รชฺชนิยฺยาตนํ. เตนาห ‘‘เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุ’’นฺติ. สเจ ปนาติอาทีสุ ปน ¶ ทายเกน ปฺตฺติยํ อโกวิทตาย ปริยายวจเน วุตฺเตปิ ปฏิคฺคาหโก ¶ อตฺตโน ปฺตฺติยํ โกวิทตาย มุขฺยวจเนน คณฺหาติ, ตสฺมา ‘‘สุคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ.
สเจ ปน เอโกติอาทีสุ ปน ทายโก มุขฺยวจเนน เทติ, ปฏิคฺคาหโกปิ มุขฺยวจเนน ปฏิกฺขิปติ, ตสฺมา ทายกสฺส ปุพฺเพ อธิฏฺิตมฺปิ จีวรํ ทานวเสน อธิฏฺานํ วิชหติ, ปริจฺจตฺตตฺตา อตฺตโน อสนฺตกตฺตา อติเรกจีวรมฺปิ น โหติ, ตสฺมา ทสาหาติกฺกเมปิ อาปตฺติ น โหติ. ปฏิคฺคาหกสฺสปิ น ปฏิกฺขิปิตตฺตา อตฺตโน สนฺตกํ น โหติ, ตสฺมา อติเรกจีวรํ น โหตีติ ทสาหาติกฺกเมปิ อาปตฺติ นตฺถิ. ยสฺส ปน รุจฺจตีติ เอตฺถ ปน อิมสฺส จีวรสฺส อสฺสามิกตฺตา ปํสุกูลฏฺาเน ิตตฺตา ยสฺส รุจฺจติ, เตน ปํสุกูลภาเวน คเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ, ปริภฺุชนฺเตน ปน ทายเกน ปุพฺพอธิฏฺิตมฺปิ ทานวเสน อธิฏฺานสฺส วิชหิตตฺตา ปุน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ อิตเรน ปุพฺเพ อนธิฏฺิตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
อิตฺถนฺนามสฺส เทหีติอาทีสุ ปน อาณตฺยตฺเถ ปวตฺตาย ปฺจมีวิภตฺติยา วุตฺตตฺตา อาณตฺเตน ปฏิคฺคาหกสฺส ทินฺนกาเลเยว ปฏิคฺคาหกสฺส สนฺตกํ โหติ, น ตโต ปุพฺเพ, ปุพฺเพ ปน อาณาปกสฺเสว, ตสฺมา ‘‘โย ปหิณติ, ตสฺเสว สนฺตก’’นฺติ วุตฺตํ. อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมีติ ปน ปจฺจุปฺปนฺนตฺเถ ปวตฺตาย วตฺตมานวิภตฺติยา วุตฺตตฺตา ตโต ปฏฺาย ปฏิคฺคาหกสฺเสว สนฺตกํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ยสฺส ปหียติ, ตสฺส สนฺตก’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ อิมินา อายสฺมตา เรวตตฺเถเรน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส จีวรเปสนวตฺถุสฺมึ ภควตา เทสิเตสุ อธิฏฺาเนสุ อิธ วุตฺตลกฺขเณน อสมฺโมหโต ชานิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
ตตฺถ ทฺวาธิฏฺิตํ, สฺวาธิฏฺิตนฺติ จ น ติจีวราธิฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข สามิเก ชีวนฺเต วิสฺสาสคฺคาหจีวรภาเวน จ สามิเก มเต มตกจีวรภาเวน จ คหณํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ, ตโต ปน ทสาเห อนติกฺกนฺเตเยว ติจีวราธิฏฺานํ วา ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ วา วิกปฺปนํ วา กาตพฺพํ. โย ปหิณตีติ ทายกํ สนฺธายาห, ยสฺส ปหียตีติ ปฏิคฺคาหกํ.
ปริจฺจชิตฺวา…เป… น ลภติ, อาหราเปนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อตฺตนา…เป… นิสฺสคฺคิยนฺติ อิมินา ปรสนฺตกภูตตฺตํ ชานนฺโต เถยฺยปสยฺหวเสน อจฺฉินฺทนฺโต ปาราชิโก โหตีติ ทสฺเสติ. โปราณฏีกายํ ปน ‘‘สกสฺาย วินา คณฺหนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา ¶ อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. สกสฺาย วินาปิ ตาวกาลิกปํสุกูลสฺาทิวเสน คณฺหนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน ปสยฺหาการํ สนฺธาย วทติ. เตนาห ‘‘อจฺฉินฺทโต นิสฺสคฺคิย’’นฺติ. สเจ ปน…เป… วฏฺฏตีติ ตุฏฺทานํ อาห, อถ ปนาติอาทินา กุปิตทานํ. อุภยถาปิ สยํ ทินฺนตฺตา วฏฺฏติ, คหเณ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ.
มม สนฺติเก…เป… เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏตีติ วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส เอวํ ททนฺโต อปริจฺจชิตฺวา ทินฺนตฺตา ทานํ น โหตีติ น วฏฺฏติ, ตโต เอว ทุกฺกฏํ โหติ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏตีติ ปุพฺเพ ‘‘อกโรนฺตสฺส น เทมี’’ติ วุตฺตตฺตา ยถาวุตฺตอุปชฺฌายคฺคหณาทีนิ อกโรนฺเต อาจริยสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. กโรนฺเต ปน อนฺเตวาสิกสฺส สนฺตกํ ภเวยฺย สพฺพโส อปริจฺจชิตฺวา ทินฺนตฺตา. สกสฺาย วิชฺชมานตฺตา ‘‘อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ สิยา. ฏีกายํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๖๓๕) ปน ‘‘เอวํ ทินฺนํ ภติสทิสตฺตา อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ภติสทิเส สติปิ กมฺเม กเต ภติ ลทฺธพฺพา โหติ, ตสฺมา อาโรเปตุํ น วฏฺเฏยฺย. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๖๓๕) ปน ‘‘อาหราเปตุํ วฏฺฏตีติ กมฺเม อกเต ภติสทิสตฺตา ¶ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, เตน กมฺเม กเต อาหราเปตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตีติ สามเณรสฺส ทานํ ทีเปติ, เตน จ สามเณรกาเล ทตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทโตปิ ปาจิตฺติยํ ทีเปติ. อยํ ตาว ทาเน วินิจฺฉโยติ อิมินา ทานวินิจฺฉยาทีนํ ติณฺณํ วินิจฺฉยานํ เอกปริจฺเฉทกตภาวํ ทีเปติ.
วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณวินิจฺฉยกถา
๗๐. อนุฏฺานเสยฺยา นาม ยาย เสยฺยาย สยิโต ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ, ตาว วุจฺจติ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพนฺติ เอตฺถ เก คหฏฺา เก ปพฺพชิตา เกน การเณน ตสฺส ธเน อิสฺสราติ? คหฏฺา ตาว คิลานุปฏฺากภูตา เตน การเณน คิลานุปฏฺากภาคภูเต ตสฺส ธเน อิสฺสรา, เยสฺจ วาณิชานํ หตฺถโต กปฺปิยการเกน ปตฺตาทิปริกฺขาโร คาหาปิโต, เตสํ ยํ ทาตพฺพมูลํ, เต จ ตสฺส ธเน อิสฺสรา, เยสฺจ มาตาปิตูนํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา วตฺถานิ ปิตานิ, เตปิ ตสฺส ธนสฺส ¶ อิสฺสรา. เอวมาทินา เยน เยน การเณน ยํ ยํ ปริกฺขารธนํ เยหิ เยหิ คหฏฺเหิ ลภิตพฺพํ โหติ, เตน เตน การเณน เต เต คหฏฺา ตสฺส ตสฺส ธนสฺส อิสฺสรา.
ปพฺพชิตา ปน พาหิรกา ตเถว สติ การเณ อิสฺสรา. ปฺจสุ ปน สหธมฺมิเกสุ ภิกฺขู สามเณรา จ มตานํ ภิกฺขุสามเณรานํ ธนํ วินาปิ การเณน ทายาทภาเวน ลภนฺติ, น อิตรา. ภิกฺขุนีสิกฺขมานสามเณรีนมฺปิ ธนํ ตาเยว ลภนฺติ, น อิตเร. ตํ ปน มตกธนภาชนํ จตุปจฺจยภาชนวินิจฺฉเย อาวิ ภวิสฺสติ, พหู ปน วินยธรตฺเถรา ‘‘เย ตสฺส ธนสฺส อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา’’ติ ¶ ปาํ นิสฺสาย ‘‘มตภิกฺขุสฺส ธนํ คหฏฺภูตา าตกา ลภนฺตี’’ติ วินิจฺฉินนฺติ, ตมฺปิ วินิจฺฉยํ ตสฺส จ ยุตฺตายุตฺตภาวํ ตตฺเถว วกฺขาม.
อนตฺตมนสฺส สนฺตกนฺติ ‘‘ทุฏฺุ กตํ ตยา มยา อทินฺนํ มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา โทมนสฺสปฺปตฺตสฺส สนฺตกํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต, ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโม, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทตีติ เอตฺถ ตุ โปราณฏีกายํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๑๓๑) ‘‘จิตฺเตน ปน อธิวาเสตีติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘น กิฺจิ วทตี’ติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ สติ ‘‘จิตฺเตนา’’ติ อิทํ อธิวาสนกิริยาย กรณํ โหติ. อทาตุกาโมติ เอตฺถาปิ ตเมว กรณํ สิยา, ตโต ‘‘จิตฺเตน อทาตุกาโม, จิตฺเตน อธิวาเสตี’’ติวจนํ โอจิตฺยสมฺโปสกํ น ภเวยฺย. ตํ เปตฺวา ‘‘อทาตุกาโม’’ติ เอตฺถ กาเยนาติ วา วาจายาติ วา อฺํ กรณมฺปิ น สมฺภวติ, ตทสมฺภเว สติ วิเสสตฺถวาจโก ปน-สทฺโทปิ นิรตฺถโก. น กิฺจิ วทตีติ เอตฺถ ตุ วทนกิริยาย กรณํ ‘‘วาจายา’’ติ ปทํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตถา จ สติ อฺํ อธิวาสนกิริยาย กรณํ, อฺํ วทนกิริยาย กรณํ, อฺา อธิวาสนกิริยา, อฺา วทนกิริยา, ตสฺมา ‘‘วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุ’’นฺติ วตฺตุํ น อรหติ, ตสฺมา โยปิ จิตฺเตน อทาตุกาโม โหติ, ปน ตถาปิ วาจาย อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทตีติ โยชนํ กตฺวา ปน ‘‘อธิวาเสตีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสตุํ น กิฺจิ วทตีติ วุตฺต’’นฺติ วตฺตุมรหติ. เอตฺถ ตุ ปน-สทฺโท อรุจิลกฺขณสูจนตฺโถ. ‘‘จิตฺเตนา’’ติ อิทํ อทาตุกามกิริยาย กรณํ, ‘‘วาจายา’’ติ ¶ อธิวาสนกิริยาย อวทนกิริยาย จ กรณํ. อธิวาสนกิริยา จ อวทนกิริยาเยว ¶ . ‘‘อธิวาเสตี’’ติ วุตฺเต อวทนกิริยาย อปากฏภาวโต ตํ ปกาเสตุํ ‘‘น กิฺจิ วทตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ คยฺหมาเน ปุพฺพาปรวจนตฺโถ โอจิตฺยสมฺโปสโก สิยา, ตสฺมา เอตฺตกวิวเรหิ วิจาเรตฺวา คเหตพฺโพติ.
ลาภปริณามนวินิจฺฉยกถา
๗๑. ลาภปริณามนวินิจฺฉเย ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภตานีติ ตุมฺหากํ อตฺถาย อาภตานิ สปฺปิอาทีนิ. ปริณตภาวํ ชานิตฺวาปิ วุตฺตวิธินา วิฺาเปนฺเตน เตสํ สนฺตกเมว วิฺาปิตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘มยฺหมฺปิ เทถาติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ.
‘‘ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏตีติ อิทํ ปริณตํ สนฺธาย วุตฺตํ, สเจ ปน เอกสฺมึ เจติเย ปูชิตํ ปุปฺผํ คเหตฺวา อฺสฺมึ เจติเย ปูเชติ, วฏฺฏตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๖๖๐) วุตฺตํ. อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๖๐) ปน นิยเมตฺวา ‘‘อฺสฺส เจติยสฺส อตฺถาย โรปิตมาลาวจฺฉโต’’ติ วุตฺตตฺตา น เกวลํ ปริณตภาโวเยว กถิโต, อถ โข นิยเมตฺวา โรปิตภาโวปิ. ปุปฺผมฺปีติ ปิ-สทฺเทน กุโต มาลาวจฺฉนฺติ ทสฺเสติ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๖๖๐) ปน ‘‘โรปิตมาลาวจฺฉโตติ เกนจิ นิยเมตฺวา โรปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อโนจิตํ มิลายมานํ โอจินิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ปูเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ิตํ ทิสฺวาติ เสสกํ คเหตฺวา ิตํ ทิสฺวา. อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหีติ อิทํ ปริณเตเยว, ติรจฺฉานคตสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน ปน ตํ ปลาเปตฺวา อฺํ ภฺุชาเปตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘กตฺถ เทมาติอาทินา เอเกนากาเรน อนาปตฺติ ทสฺสิตา. เอวํ ปน อปุจฺฉิเตปิ ¶ ‘อปริณตํ อิท’นฺติ ชานนฺเตน อตฺตโน รุจิยา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘ตุมฺหากํ รุจิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ ลภติ.
ปริวาเร (ปริ. อฏฺ. ๓๒๙) ปน นว อธมฺมิกานิ ทานานีติ สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, เจติยสฺส ปริณตํ อฺเจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, ปุคฺคลสฺส ปริณตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมตีติ เอวํ วุตฺตานิ. นว ปฏิคฺคหา ปริโภคา ¶ จาติ เอเตสํเยว ทานานํ ปฏิคฺคหา จ ปริโภคา จ. ตีณิ ธมฺมิกานิ ทานานีติ สงฺฆสฺส นินฺนํ สงฺฆสฺเสว เทติ, เจติยสฺส นินฺนํ เจติยสฺเสว เทติ, ปุคฺคลสฺส นินฺนํ ปุคฺคลสฺเสว เทตีติ อิมานิ ตีณิ. ปฏิคฺคหปฏิโภคาปิ เตสํเยว ปฏิคฺคหา จ ปริโภคา จาติ อาคตํ.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
เตรสโม ปริจฺเฉโท.