📜
๑๕. ภูตคามวินิจฺฉยกถา
๗๕. เอวํ ¶ ปถวิวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ ภูตคามวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘ภูตคาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภวนฺติ อหุวฺุจาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ ชาตา วฑฺฒิตา จาติ อตฺโถ. คาโมติ ราสิ, ภูตานํ คาโมติ ภูตคาโม, ภูตา เอว วา คาโม ภูตคาโม, ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตตฺถ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชายนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ ¶ , ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. เอวํ ภูต-สทฺโท ปจฺจุปฺปนฺนาตีตวิสโย โหติ. เตนาห วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ปาจิตฺติย ๒.๙๐) ‘‘ภวนฺตีติ วฑฺฒนฺติ, อหุวุนฺติ พภุวู’’ติ. อิทานิ ตํ ภูตคามํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภูตคาโมติ ปฺจหิ พีเชหิ ชาตานํ รุกฺขลตาทีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ อาห. ลตาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉาทโย เวทิตพฺพา.
อิทานิ ตานิ พีชานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺริมานิ ปฺจ พีชานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มูลเมว พีชํ มูลพีชํ. เอวํ เสเสสุปิ. อถ วา มูลํ พีชํ เอตสฺสาติ มูลพีชํ, มูลพีชโต วา นิพฺพตฺตํ มูลพีชํ. เอวํ เสเสสุปิ. ตตฺถ ปเมน วิคฺคเหน พีชคาโม เอว ลพฺภติ, ทุติยตติเยหิ ภูตคาโม. อิทานิ เต ภูตคาเม สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ มูลพีชํ นามา’’ตฺยาทิมาห. ตตฺถ เตสุ ปฺจสุ มูลพีชาทีสุ หลิทฺทิ…เป… ภทฺทมุตฺตกํ มูลพีชํ นาม. น เกวลํ อิมานิเยว มูลพีชานิ, อถ โข อิโต อฺานิปิ ยานิ วา ปน ภูตคามชาตานิ อตฺถิ สนฺติ, มูเล ชายนฺติ, มูเล สฺชายนฺติ, เอตํ ภูตคามชาตํ มูลพีชํ นาม โหตีติ โยชนา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๑) ‘‘อิทานิ ตํ ภูตคามํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘ภูตคาโม นาม ปฺจ พีชชาตานี’ติอาทิมาหา’’ติ. ตตฺถ ¶ ภูตคาโม นามาติ ภูตคามํ อุทฺธริตฺวา ยสฺมึ สติ ภูตคาโม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจ พีชชาตานีติ อาหา’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ, มูเล ชายนฺตี’’ติอาทีนิ น สเมนฺติ. น หิ มูลพีชาทีนิ มูลาทีสุ ชายนฺติ. มูลาทีสุ ชายมานานิ ปน ตานิ พีชชาตานิ, ตสฺมา เอวมตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา – ภูตคาโม นามาติ วิภชิตพฺพปทํ. ปฺจาติ ตสฺส วิภาคปริจฺเฉโท. พีชชาตานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ, ยโต พีเชหิ ชาตานิ พีชชาตานิ, รุกฺขาทีนํ เอตํ อธิวจนนฺติ จ. ยถา ‘‘สาลีนํ เจปิ โอทนํ ภฺุชตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๖) สาลิตณฺฑุลานํ โอทโน สาลิโอทโนติ วุจฺจติ, เอวํ พีชโต สมฺภูโต ภูตคาโม ‘‘พีช’’นฺติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพติ จ.
ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. ปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหณสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีช-สทฺโท ตทตฺถสํสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ มูลาทิโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีชสทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ, ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ ¶ จ ยถา. นิทฺเทเส ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ, มูเล ชายนฺติ มูเล สฺชายนฺตี’’ติ เอตฺถ พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิตํ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ, อาลุวกเสรุกมลนีลุปฺปลปุณฺฑรีกกุวลยกุนฺทปาฏลิมูลาทิเภเท มูเล คจฺฉวลฺลิรุกฺขาทีนิ ชายนฺติ สฺชายนฺติ, ตานิ, ยมฺหิ มูเล ชายนฺติ เจว สฺชายนฺติ จ, ตฺจ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๙๑) วุตฺตหลิทฺทาทิ จ, สพฺพมฺปิ เอตํ มูลพีชํ นาม, เอเตน การิโยปจาเรน การณํ ทสฺสิตนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย ขนฺธพีชาทีสุ. เยวาปนกขนฺธพีเชสุ ปเนตฺถ อมฺพาฏกอินฺทสาลนุหิปาลิภทฺทกกณิการาทีนิ ขนฺธพีชานิ ¶ . อมฺพิลาวลฺลิจตุรสฺสวลฺลิกณเวราทีนิ ผฬุพีชานิ. มกจิมลฺลิกาสุมนชยสุมนาทีนิ อคฺคพีชานิ. อมฺพชมฺพุปนสฏฺิอาทีนิ พีชพีชานีติ ทฏฺพฺพานิ. ภูตคาเม ภูตคามสฺี ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วาติ สตฺถกานิ คเหตฺวา สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ. ภินฺทติ วา เภทาเปติ วาติ ปาสาณาทีนิ คเหตฺวา สยํ วา ภินฺทติ, อฺเน วา เภทาเปติ. ปจติ วา ปจาเปติ วาติ อคฺคึ อุปสํหริตฺวา สยํ วา ปจติ, อฺเน วา ปจาเปติ, ปาจิตฺติยํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภูตคามฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภูตคามปริโมจิตนฺติ ภูตคามโต วิโยชิตํ.
๗๖. สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘สฺจิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา สรีเร ลคฺคภาวํ ตฺวาปิ อุฏฺหติ, ‘‘ตํ อุทฺธริสฺสามี’’ติ สฺาย อภาวโต วฏฺฏติ. อนนฺตกคฺคหเณน สาสปมตฺติกา คหิตา. นามฺเหตํ ตสฺสา เสวาลชาติยา. มูลปณฺณานํ อภาเวน ‘‘อสมฺปุณฺณภูตคาโม นามา’’ติ วุตฺตํ. อภูตคามมูลตฺตาติ เอตฺถ ภูตคาโม มูลํ การณํ เอตสฺสาติ ภูตคามมูโล, ภูตคามสฺส วา มูลํ การณนฺติ ภูตคามมูลํ. พีชคาโม หิ นาม ภูตคามโต สมฺภวติ, ภูตคามสฺส จ การณํ โหติ. อยํ ปน ตาทิโส น โหตีติ ‘‘อภูตคามมูลตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจาปิ หิ ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ อวฑฺฒนโต ภูตคามสฺส การณํ น โหติ, ตถาปิ ภูตคามสงฺขฺยูปคตนิพฺพตฺตปณฺณมูลพีชโต สมฺภูตตฺตา ภูตคามโต อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ. โส พีชคาเมน สงฺคหิโตติ อวฑฺฒมาเนปิ ภูตคามมูลตฺตา วุตฺตํ.
‘‘องฺกุเร หริเต’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘นีลวณฺเณ ชาเต’’ติ, นีลปณฺณสฺส วณฺณสทิเส ¶ ปณฺเณ ชาเตติ ¶ อตฺโถ, ‘‘นีลวณฺเณ ชาเต’’ติ วา ปาโ คเหตพฺโพ. อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตีติ อิทํ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วทติ. ‘‘ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล อุทเก อฏฺิตตฺตา พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถู’’ติ วทนฺติ. กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมวาติ นีลวณฺณมฺปิ อพฺโพหาริกเมว.
๗๗. เสเลยฺยกํ นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา คนฺธชาติ. ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺายาติ วิกสิตกาลโต ปภุติ. อหิจฺฉตฺตกํ คณฺหนฺโตติ วิกสิตํ คณฺหนฺโต. มกุฬํ ปน รุกฺขตฺตจํ อโกเปนฺเตนปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘รุกฺขตฺตจํ วิโกเปตีติ วุตฺตตฺตา รุกฺเข ชาตํ ยํ กิฺจิ อหิจฺฉตฺตกํ รุกฺขตฺตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ ‘‘อหิจฺฉตฺตกํ ยาว มกุฬํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏวตฺถู’’ติ วุตฺตตฺตา. รุกฺขโต มุจฺจิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ยทิปิ กิฺจิมตฺตํ รุกฺเข อลฺลีนา หุตฺวา ติฏฺติ, รุกฺขโต คยฺหมานา ปน รุกฺขจฺฉวึ น วิโกเปติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏตีติ เอตฺถาปิ รุกฺขตฺตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ตจฺเฉตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถกุกฺกุจฺเจนาติ หตฺถจาปลฺเลน. ปานียํ น วาเสตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย นามิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกวลํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อตฺถาย นามิเต ปน ปจฺฉา ตโต ลภิตฺวา น วาเสตพฺพนฺติ นตฺถิ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ปาจิตฺติย ๒.๙๒) ปน ‘‘ปานียํ น วาเสตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตโน ปิวนปานียํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ อนุคฺคหิตตฺตา. เตนาห อตฺตนา ขาทิตุกาเมนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ วุตฺตตฺตา เยสํ สาขา น รุหติ, ตตฺถ กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทนฺติ. วิมติวิโนทนิยมฺปิ ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา ¶ รุหตีติ มูลํ อโนตาเรตฺวา ปณฺณมตฺตนิคฺคมนมตฺเตนาปิ วฑฺฒติ, ตตฺถ กปฺปิยมฺปิ อกโรนฺโต ฉินฺนนาฬิเกรเวฬุทณฺฑาทโย โกเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ วุตฺตตฺตา เกวลํ จงฺกมนาธิปฺปาเยน วา มคฺคคมนาธิปฺปาเยน วา อกฺกมนฺตสฺส, ติณานํ อุปริ นิสีทนาธิปฺปาเยน นิสีทนฺตสฺส จ โทโส นตฺถิ.
๗๘. สมณกปฺเปหีติ สมณานํ กปฺปิยโวหาเรหิ. กิฺจาปิ พีชาทีนํ อคฺคินา ผุฏฺมตฺเตน, นขาทีหิ วิลิขนมตฺเตน จ อวิรุฬฺหิธมฺมตา น โหติ, ตถาปิ เอวํ กเตเยว สมณานํ กปฺปตีติ อคฺคิปริชิตาทโย สมณโวหารา นาม ชาตา, ตสฺมา เตหิ สมณโวหาเรหิ กรณภูเตหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อนุชานามีติ อธิปฺปาโย. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิปิ ¶ สมณานํ กปฺปนฺตีติ ปฺตฺตปณฺณตฺติภาวโต สมณโวหาราอิจฺเจว สงฺขํ คตานิ. อถ วา อคฺคิปริชิตาทีนํ ปฺจนฺนํ กปฺปิยภาวโตเยว ปฺจหิ สมณกปฺปิยภาวสงฺขาเตหิ การเณหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อนุชานามีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อคฺคิปริชิตนฺติอาทีสุ ‘‘ปริจิต’’นฺติปิ ปนฺติ. อพีชํ นาม ตรุณอมฺพผลาทิ. นิพฺพฏฺฏพีชํ นาม อมฺพปนสาทิ, ยํ พีชํ นิพฺพฏฺเฏตฺวา วิสุํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ สกฺกา โหติ. นิพฺพฏฺเฏตพฺพํ วิโยเชตพฺพํ พีชํ ยสฺมึ, ตํ ปนสาทิ นิพฺพฏฺฏพีชํ นาม. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพนฺติ โย กปฺปิยํ กโรติ, เตน กตฺตพฺพปการสฺเสว วุตฺตตฺตา ภิกฺขุนา อวุตฺเตปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ น คเหตพฺพํ. ปุน ‘‘กปฺปิยํ กาเรตพฺพ’’นฺติ การาปนสฺส ปมเมว กถิตตฺตา ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว อนุปสมฺปนฺเนน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา อคฺคิปริชิตาทิ กาตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘กปฺปิยนฺติ วจนํ ปน ยาย กายจิ ภาสาย วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาว กาตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปมํ ¶ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา อคฺคิอาทินา ผุสนาทิ กาตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปมํ อคฺคิมฺหิ นิกฺขิปิตฺวา, นขาทินา วา วิชฺฌิตฺวา ตํ อนุทฺธริตฺวาว กปฺปิยนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติปิ วทนฺติ.
วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ปาจิตฺติย ๒.๙๒) ปน ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาวาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน วุตฺเตปิ วจนกฺขเณว อคฺคิสตฺถาทินา พีชคาเม วณํ กาตพฺพนฺติ วจนโต ปน ปุพฺเพ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตฺจ ทฺวิธา อกตฺวา เฉทนเภทนเมว ทสฺเสตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ภิกฺขุนา ‘กปฺปิยํ กโรหี’ติ ยาย กายจิ ภาสาย วุตฺเตเยว กาตพฺพํ. พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ การาปนสฺส ปมเมว อธิกตตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
เอกสฺมึ พีเช วาติอาทีสุ ‘‘เอกํเยว กาเรมีติ อธิปฺปาเย สติปิ เอกาพทฺธตฺตา สพฺพํ กตเมว โหตี’’ติ วทนฺติ. ทารุํ วิชฺฌตีติ เอตฺถ ‘‘ชานิตฺวาปิ วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ. ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏตีติ รชฺชุอาทีนํ ภาชนคติกตฺตา’’ติ วทนฺติ. มรีจปกฺกาทีหิ จ มิสฺเสตฺวาติ เอตฺถ ภตฺตสิตฺถสมฺพนฺธวเสน เอกาพทฺธตา เวทิตพฺพา, น ผลานํเยว อฺมฺสมฺพนฺธวเสน. ‘‘กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา กฏาหโต นีหฏาย มิฺชาย วา พีเช วา ยตฺถ กตฺถจิ วิชฺฌิตุํ ¶ วฏฺฏติ เอว. ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพนฺติ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
ภูตคามวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท.