📜
๑๗. มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา
๘๒. เอวํ สหเสยฺยวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยาสุ กตฺตพฺพวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺย’’นฺตฺยาทิมาห. ตตฺถ สมคฺคํ กมฺมํ สมุปคจฺฉตีติ สงฺโฆ, อยเมว วจนตฺโถ สพฺพสงฺฆสาธารโณ. สงฺฆสฺส ทินฺโน สงฺฆิโก, วิหรติ เอตฺถาติ วิหาโร, ตสฺมึ. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา, ตํ. อสนฺถรีติ สนฺถริตฺวาน. ปกฺกมนํ ปกฺกโม, คมนนฺติ อตฺโถ. ‘‘วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโม’’ติ อิมสฺส อุทฺเทสปาสฺส สงฺฆิเก วิหาเร…เป… ปกฺกมนนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ โยชนา. ตตฺราติ ตสฺมึ ปกฺกมเน อยํ อีทิโส มยา วุจฺจมาโน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. กตโม โส วินิจฺฉโยติ อาห ‘‘สงฺฆิเก…เป… ปาจิตฺติย’’นฺติ. อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโร นาม เสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา. ปาจิตฺติยนฺติ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ทุติยาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. กถํ วิฺายติจฺจาห ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… วจนโต’’ติ.
ตตฺถ ¶ สงฺฆิโก วิหาโร ปากโฏ, เสยฺยา อปากฏา, สา กติวิธาอิจฺจาห ‘‘เสยฺยา นาม…เป… ทสวิธา’’ติ. ตตฺถาปิ กตมา ภิสิ, กตมา จิมิลิกาทโยติ อาห ‘‘ตตฺถ ภิสีติ…เป… เอส นโย ปณฺณสนฺถาเร’’ติ. ตตฺถ มฺเจ อตฺถริตพฺพาติ มฺจกภิสิ, เอวํ อิตรตฺร, วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตาติ ปฏขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตฺวา กตา. ภูมิยํ อตฺถริตพฺพาติ จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา. สีหธมฺมาทีนํ ปริหรเณ เอว ¶ ปฏิกฺเขโปติ อิมินา มฺจปีาทีสุ อตฺถริตฺวา ปุน สํหริตฺวา ปนาทิวเสน อตฺตโน อตฺถาย ปริหรณเมว น วฏฺฏติ, ภูมตฺถรณาทิวเสน ปริโภโค ปน อตฺตโน ปริหรณํ น โหตีติ ทสฺเสติ. ขนฺธเก หิ ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ เอวํ อตฺตโน อตฺถาย มฺจาทีสุ ปฺเปตฺวา ปริหรณวตฺถุสฺมึ ‘‘น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) ปฏิกฺเขโป กโต, ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๒) ปน ‘‘ยทิ เอวํ ‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ โจทนํ กตฺวา ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปาสาทปริโภค’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปุคฺคลิเกปิ เสนาสเน เสนาสนปริโภควเสน นิยมิตํ สุวณฺณฆฏาทิกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ เกวลํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. เอวมิทํ ภูมตฺถรณวเสน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.
ปาวาโร โกชโวติ ปจฺจตฺถรณตฺถาเยว ปิตา อุคฺคตโลมา อตฺถรณวิเสสา. เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ ¶ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) วุตฺตํ. ‘‘อิทํ อฏฺกถาสุ ตถาวุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺมฺปิ ตาทิสํ มฺจปีเสุ อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณเมวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโว’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา คณฺิปเทสุ วุตฺตํ อิมินา น สเมติ, ‘‘วีมํสิตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๖) วุตฺตํ. วีมํสิเต ปน เอวมธิปฺปาโย ปฺายติ – มาติกาฏฺกถาปิ อฏฺกถาเยว, ตสฺมา มหาอฏฺกถาทีสุ วุตฺตนเยน ‘‘ปาวาโร โกชโว’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตํ, เอวํ นิยมเน สติปิ ยถา ‘‘ลทฺธาตปตฺโต ราชกุมาโร’’ติ อาตปตฺตสฺส ลทฺธภาเวเยว นิยเมตฺวา วุตฺเตปิ นิทสฺสนนยวเสน ราชกกุธภณฺฑสามฺเน สมานา วาลพีชนาทโยปิ วุตฺตาเยว โหนฺติ, เอวํ ‘‘ปาวาโร โกชโว’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺเตปิ นิทสฺสนนยวเสน เตหิ มฺจปีเสุ อตฺถริตพฺพภาวสามฺเน สมานา อฺเ อตฺถรณาปิ วุตฺตาเยว โหนฺติ, ตสฺมา คณฺิปเทสุ วุตฺตวจนํ อฏฺกถาวจนสฺส ปฏิโลมํ น โหติ, อนุโลมเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
อิมสฺมึ ¶ ปน าเน ‘‘เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสฺสามิโก’’ติ ปาํ นิสฺสาย เอกจฺเจ วินยธรา ‘‘สงฺฆิกวิหารสฺส วา ปุคฺคลิกวิหารสฺส วา วิหารทายโกเยว สามิโก, โสเยว อิสฺสโร, ตสฺส รุจิยา เอว วสิตุํ ลภติ, น สงฺฆคณปุคฺคลานํ รุจิยา’’ติ วินิจฺฉยํ กโรนฺติ, โส วีมํสิตพฺโพ, กถํ อยํ ปาโ กิมตฺถํ สาเธติ อิสฺสรตฺถํ วา อาปุจฺฉิตพฺพตฺถํ วาติ? เอวํ วีมํสิเต ‘‘ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิวจนโต อาปุจฺฉิตพฺพตฺถเมว สาเธติ, น อิสฺสรตฺถนฺติ วิฺายติ.
อถ ¶ สิยา ‘‘อาปุจฺฉิตพฺพตฺเถ สิทฺเธ อิสฺสรตฺโถ สิทฺโธเยว โหติ. อิสฺสรภาวโตเยว หิ โส อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ. ตตฺเถวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘อาปุจฺฉนฺเตน จ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก’’ติอาทิวจนโต อายสฺมนฺตานํ มเตน ภิกฺขุปิ สามเณโรปิ อารามิโกปิ วิหารการโกปิ ตสฺส กุเล โย โกจิ ปุคฺคโลปิ อิสฺสโรติ อาปชฺเชยฺย, เอวํ วิฺายมาเนปิ ภิกฺขุมฺหิ วา สามเณเร วา อารามิเก วา สติ เตเยว อิสฺสรา, น วิหารการโก. เตสุ เอกสฺมิมฺปิ อสติเยว วิหารการโก อิสฺสโร สิยาติ. อิมสฺมึ ปน อธิกาเร สงฺฆิกํ เสนาสนํ รกฺขณตฺถาย อาปุจฺฉิตพฺพํเยว วทติ, น อิสฺสรภาวโต อาปุจฺฉิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) ‘‘อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตฺถ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิ.
อถาปิ เอวํ วเทยฺย ‘‘น สกลสฺส วากฺยปาสฺส อธิปฺปายตฺถํ สนฺธาย อมฺเหหิ วุตฺตํ, อถ โข ‘วิหารสฺสามิโก’ติ เอตสฺส ปทตฺถํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. กถํ? สํ เอตสฺส อตฺถีติ สามิโก, วิหารสฺส สามิโก วิหารสฺสามิโก. ‘โก วิหารสฺสามิโก นามา’ติ วุตฺเต ‘เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสฺสามิโก นามา’ติ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา วิหารการโก ทายโก วิหารสฺสามิโก นามาติ วิฺายติ, เอวํ วิฺายมาเน สติ สามิโก นาม สสฺส ธนสฺส อิสฺสโร, ตสฺส รุจิยา เอว อฺเ ลภนฺติ, ตสฺมา วิหารสฺสามิกภูตสฺส ทายกสฺส รุจิยา เอว ภิกฺขู วสิตุํ ลภนฺติ, น สงฺฆคณปุคฺคลานํ รุจิยาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. เต เอวํ วตฺตพฺพา – มา อายสฺมนฺโต เอวํ อวจุตฺถ, ยถา ¶ นาม ‘‘ฆฏิกาโร พฺรหฺมา’’ติ วุตฺโต โส พฺรหฺมา อิทานิ ฆฏํ น กโรติ, ปุริมตฺตภาเว ปน กโรติ, ตสฺมา ‘‘ฆฏํ กโรตี’’ติ วจนตฺเถน ‘‘ฆฏิกาโร’’ติ นามํ ลภติ. อิติ ปุพฺเพ ลทฺธนามตฺตา ปุพฺพโวหารวเสน พฺรหฺมภูโตปิ ¶ ‘‘ฆฏิกาโร’’อิจฺเจว วุจฺจติ, เอวํ โส วิหารการโก ภิกฺขูนํ ปริจฺจตฺตกาลโต ปฏฺาย วิหารสฺสามิโก น โหติ วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ปุพฺเพ ปน อปริจฺจตฺตกาเล วิหารสฺส การกตฺตา วิหารสฺสามิโก นาม โหติ, โส เอวํ ปุพฺเพ ลทฺธนามตฺตา ปุพฺพโวหารวเสน ‘‘วิหารสฺสามิโก’’ติ วุจฺจติ, น, ปริจฺจตฺตสฺส วิหารสฺส อิสฺสรภาวโต. เตเนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘วิหารทายกานํ รุจิยา ภิกฺขู วสนฺตู’’ติ อวตฺวา เสนาสนปฺาปโก อนฺุาโตติ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ วุตฺตํ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. มหาวคฺค ๒.๒๙๕) ‘‘เตสํ เคหานีติ เอตฺถ ภิกฺขูนํ วาสตฺถาย กตมฺปิ ยาว น เทนฺติ, ตาว เตสํ สนฺตกํเยว ภวิสฺสตีติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ, เตน ทินฺนกาลโต ปฏฺาย เตสํ สนฺตกานิ น โหนฺตีติ ทสฺเสติ. อยํ ปน กถา ปาสฺส สมฺมุขีภูตตฺตา อิมสฺมึ าเน กถิตา. วิหารวินิจฺฉโย ปน จตุปจฺจยภาชนวินิจฺฉเย (วิ. สงฺค. อฏฺ. ๑๙๔ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. โย โกจีติ าตโก วา อฺาตโก วา โย โกจิ. เยน มฺจํ ปีํ วา วินนฺติ, ตํ มฺจปีกวานํ.
๘๓. สิลุจฺจยเลณนฺติ สิลุจฺจเย เลณํ, ปพฺพตคุหาติ อตฺโถ. ‘‘เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิต’’นฺติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา วตฺถุอนุรูปวเสน อฏฺกถายํ อุปจิกาสงฺกาย อภาเวน อนาปตฺติ วุตฺตา. วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๖๐ อาทโย) คมิกวตฺตํ ปฺาเปนฺเตน ‘‘เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา เกวลํ อิติกตฺตพฺพตามตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘อาปุจฺฉนํ ปน วตฺต’’นฺติ วุตฺตํ ¶ , น ปน วตฺตเภเท ทุกฺกฏนฺติ ทสฺสนตฺถํ, เตเนว อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ ยตฺถ อุปจิกา นาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ตาทิเส เสนาสเน อนาปุจฺฉา คจฺฉนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ นตฺถิ, คมิกวตฺเต เสนาสนํ อนาปุจฺฉา คจฺฉนฺโต วตฺตเภโท โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ.
ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถีติ ตสฺส ปจฺฉโต คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺส อภาวโต วุตฺตํ. เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ เอตฺถ คมนจิตฺตสฺส อุปฺปนฺนฏฺานโต อนาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺเต ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยํ. มณฺฑเป วาติ สาขามณฺฑเป วา ปทรมณฺฑเป วา. รุกฺขมูเลติ ยสฺส กสฺสจิ รุกฺขสฺส เหฏฺา. ปลุชฺชตีติ วินสฺสติ.
๘๔. มชฺเฌ ¶ สํขิตฺตํ ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธนฺติ เอรกปตฺตาทีหิ เวณึ กตฺวา ตาย เวณิยา อุโภสุ ปสฺเสสุ วิตฺถตฏฺาเน พหุํ เวเตฺวา ตโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌฏฺานํ, ตาว อนฺโตอากฑฺฒนวเสน เวเตฺวา มชฺเฌ สํขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ พนฺธิตฺวา กตํ. ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺตีติ ยตฺถ ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสมานา เอเต กากกุลลา, อฺเ วา สกุณา ตํ เสนาสนํ น อูหทนฺติ, ตาทิเส รุกฺขมูเล นิกฺขิปิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๘๕. นววายิโมติ อธุนา สุตฺเตน วีตกจฺเฉน ปลิเวิตมฺโจ. โอนทฺโธติ กปฺปิยจมฺเมน โอนทฺโธ, โสว โอนทฺธโก สกตฺเถ ก-ปจฺจยวเสน. เตน หิ วสฺเสน สีฆํ น นสฺสติ. อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโกติ อิทํ ตสฺส สุขปฏิปตฺติทสฺสนมตฺตํ ¶ , อุกฺกฏฺสฺสาปิ ปน จีวรกุฏิ วฏฺฏเตว. กายานุคติกตฺตาติ ภิกฺขุโน ตตฺเถว นิสินฺนภาวํ ทีเปติ, เตน จ วสฺสภเยน สยํ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสติ. อพฺโภกาสิกานํ อเตมนตฺถาย นิยเมตฺวา ทายเกหิ ทินฺนมฺปิ อตฺตานํ รกฺขนฺเตน รกฺขิตพฺพเมว. ‘‘ยสฺมา ปน ทายเกหิ ทานกาเลเยว สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ ‘ปาทปฺุฉนึ กตฺวา ปริภฺุชถา’ติ ทินฺนํ ตเถว ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา อิทมฺปิ มฺจปีาทิเสนาสนํ ‘อชฺโฌกาเสปิ ยถาสุขํ ปริภฺุชถา’ติ ทายเกหิ ทินฺนํ เจ, สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๐๘-๑๑๐) วุตฺตํ. เปเสตฺวา คนฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ อิมํ านํ อาคนฺตฺวา วสติ, ตสฺส เทถา’’ติ วตฺวา เปเสตพฺพํ.
วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวาติ อิมินา คิมฺหาเนปิ เมเฆ อุฏฺิเต อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ตตฺร ตตฺราติ เจติยงฺคณาทิเก ตสฺมึ ตสฺมึ อพฺโภกาเส นิยเมตฺวา นิกฺขิตฺตา. มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขาติ ยตฺถ สมนฺตโต สมฺมชฺชิตฺวา องฺคณมชฺเฌ สพฺพทา กจวรสฺส สงฺกฑฺฒเนน มชฺเฌ วาลิกา สฺจิตา โหติ, ตตฺถ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อุจฺจวตฺถุปาทฏฺานาภิมุขํ, ภิตฺติปาทฏฺานาภิมุขํ วา วาลิกา หริตพฺพาติ อตฺโถ. ‘‘ยตฺถ วา ปน โกเณสุ วาลิกา สฺจิตา, ตตฺถ ตโต ปฏฺาย อปรทิสาภิมุขา หริตพฺพา’’ติ เกจิ อตฺถํ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมฺมฏฺฏฺานสฺส ปทวลฺเชน อวิโกปนตฺถาย สยํ อสมฺมฏฺฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ปาทาภิมุขํ วาลิกา หริตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ‘‘มชฺฌโต ปฏฺายา’’ติ วจนสฺส ปโยชนํ น ทิสฺสติ. สารตฺถทีปนิยํ ¶ ปน ‘‘ปาทฏฺานาภิมุขาติ นิสีทนฺตานํ ปาทฏฺานาภิมุขนฺติ เกจิ, สมฺมชฺชนฺตสฺส ¶ ปาทฏฺานาภิมุขนฺติ อปเร, พหิวาลิกาย อคมนนิมิตฺตํ ปาทฏฺานาภิมุขา หริตพฺพาติ วุตฺตนฺติ เอเก’’ติ วุตฺตํ. กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฑฺเฑตพฺพนฺติ อิมินา ‘‘กจวรํ ฉฑฺเฑสฺสามี’’ติ วาลิกา น ฉฑฺเฑตพฺพาติ ทีเปติ.
๘๖. กปฺปํ ลภิตฺวาติ ‘‘คจฺฉา’’ติ วุตฺตวจเนน กปฺปํ ลภิตฺวา. เถรสฺส หิ อาณตฺติยา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘นิสีทิตฺวา สยํ คจฺฉนฺโต’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว.
อฺตฺถ คจฺฉตีติ ตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ. เลฑฺฑุปาตุปจารโต พหิ ิตตฺตา ‘‘ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส ปมปาทุทฺธาเร ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. ปากติกํ อกตฺวาติ อปฏิสาเมตฺวา. อนฺตรสนฺนิปาเตติ อนฺตรนฺตรา สนฺนิปาเต.
๘๗. อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธติ เอตฺถ อาคนฺตุเกสุ อาคนฺตฺวา กิฺจิ อวตฺวา ตตฺถ นิสินฺเนสุปิ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวาสิกาเยว อุทฺธริสฺสนฺตี’’ติ คเตสุปิ อาวาสิกานเมว ปลิโพโธ. มหาปจฺจริวาเท ปน ‘‘อิทํ อมฺหาก’’นฺติ วตฺวาปิ อวตฺวาปิ นิสินฺนานเมวาติ อธิปฺปาโย. มหาอฏฺกถาวาเท ‘‘อาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยเมว วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน สนฺถราปเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ อนาณตฺติยา ปฺตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อุสฺสารโกติ สรภาณโก. โส หิ อุทฺธํอุทฺธํ ปาฬิปาํ สาเรติ ปวตฺเตตีติ ‘‘อุสฺสารโก’’ติ วุจฺจติ. ‘‘อิทํ อุสฺสารกสฺส, อิทํ ธมฺมกถิกสฺสา’’ติ วิสุํ ปฺตฺตตฺตา อนาณตฺติยา ปฺตฺเตปิ ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘อนาณตฺติยา ปฺตฺเตปิ ธมฺมกถิกสฺส อนุฏฺาปนียตฺตา ปาจิตฺติเยน ¶ ภวิตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส ปน ปจฺฉา อาคเตหิ วุฑฺฒตเรหิ อุฏฺาปนียตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺต’’นฺติ.
๘๘. ปาทปฺุฉนี นาม รชฺชุเกหิ วา ปิโลติกาย วา ปาทปฺุฉนตฺถํ กตา. ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปีํ. อถ วา ผลกฺเจว ทารุมยปีฺจ. ทารุมยปีนฺติ จ ผลกมยเมว ปีํ เวทิตพฺพํ. ปาทกลิกนฺติ อโธตปาทฏฺาปนกํ. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา ¶ …เป… ปฏิสาเมตพฺพนฺติ เอตฺถ เถเว อสติ รชนกมฺเม นิฏฺิเต ปฏิสาเมตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหตีติ วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. โอตาเปนฺโต…เป… คจฺฉตีติ เอตฺถ ‘‘กิฺจาปิ ‘เอตฺตกํ ทูรํ คนฺตพฺพ’นฺติ ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ตถาปิ เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺม นาติทูรํ คนฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุปฏิปชฺชิตพฺพ-
วินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
สตฺตรสโม ปริจฺเฉโท.