📜
๒๗. อุปชฺฌายาทิวตฺตวินิจฺฉยกถา
อุปชฺฌายวตฺตกถาวณนา
๑๘๓. เอวํ ¶ ¶ วสฺสูปนายิกวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ อุปชฺฌายวตฺตาทิวตฺตกถํ กเถตุํ ‘‘วตฺตนฺติ เอตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วตฺเตตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วตฺตํ, สทฺธิวิหาริกาทีหิ อุปชฺฌายาทีสุ ปวตฺเตตพฺพํ อาภิสมาจาริกสีลํ. ตํ กติวิธนฺติ อาห ‘‘วตฺตํ นาเมตํ…เป… พหุวิธ’’นฺติ. วจฺจกุฏิวตฺตนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทฺยตฺโถ. เตน สทฺธิวิหาริกวตฺตอนฺเตวาสิกวตฺตอนุโมทนวตฺตานิ สงฺคยฺหนฺติ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ตตฺถ อฏฺกถาสุ ‘‘จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานี’’ติ. วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖) จ ปาฬิยํ อาคตเมว, ตตฺถ ปน ¶ อาคนฺตุกวตฺตโต ปฏฺาย อาคตํ, อิธ อุปชฺฌายวตฺตโต. อิโต อฺานิปิ ปฺจสตฺตติ เสขิยวตฺตานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานิ จ วตฺตเมว. เตสุ ปน เสขิยวตฺตานิ มหาวิภงฺเค อาคตานิ, มหาวตฺตานิ กมฺมกฺขนฺธกปาริวาสิกกฺขนฺธเกสุ (จูฬว. ๗๕ อาทโย), ตสฺมา อิธ จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิเยว ทสฺสิตานิ. เตสุ อุปชฺฌายวตฺตํ ปมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ อุปชฺฌายวตฺตํ ตาว เอวํ เวทิตพฺพ’’นฺตฺยาทิมาห.
ตตฺถ ¶ โก อุปชฺฌาโย, เกนฏฺเน อุปชฺฌาโย, กถํ คหิโต อุปชฺฌาโย, เกน วตฺติตพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก อุปชฺฌาโยติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติอาทิวจนโต (มหาว. ๗๖) พฺยตฺติพลสมฺปนฺโน อุปสมฺปทโต ปฏฺาย ทสวสฺโส วา อติเรกทสวสฺโส วา ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย. เกนฏฺเน อุปชฺฌาโยติ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌาโย, สทฺธิวิหาริกานํ ขุทฺทกํ วชฺชํ วา มหนฺตํ วชฺชํ วา ภุโส จินฺเตตีติ อตฺโถ. กถํ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโยติ สทฺธิวิหาริเกน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติ วา ‘‘ลหู’’ติ วา ‘‘โอปายิก’’นฺติ วา ‘‘ปติรูป’’นฺติ วา ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ วา อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วเสน กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา ‘‘คหิโต ตยา อุปชฺฌาโย’’ติ อุปชฺฌายคฺคหณํ วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย. ตตฺถ สาหูติ สาธุ. ลหูติ อครุ, สุภรตาติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, เอวํ ปฏิปชฺชนํ นิตฺถรณุปาโยติ อตฺโถ. ปติรูปนฺติ สามีจิกมฺมมิทนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน สมฺปาเทหีติ อตฺโถ.
เกน วตฺติตพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตนฺติ คหิตอุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริเกน วตฺติตพฺพํ. กตมํ ตํ วตฺตนฺติ อิทํ อาคตเมว, ตตฺถ กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนา โอมฺุจิตฺวาติ สจสฺส ปจฺจูสกาเล จงฺกมนตฺถาย วา โธตปาทปริหรณตฺถาย วา ปฏิมุกฺกา อุปาหนา ปาทคตา โหนฺติ, ตา กาลสฺเสว อุฏฺาย ¶ อปเนตฺวา. ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพนฺติ อุตุมฺปิ สรีรสภาเว จ เอกากาเร ตาทิสเมว ทาตพฺพํ.
สคุณํ ¶ กตฺวาติ อุตฺตราสงฺคํ สงฺฆาฏิฺจาติ ทฺเว จีวรานิ เอกโต กตฺวา ตา ทฺเวปิ สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา. สพฺพฺหิ จีวรํ สงฺฆฏิตตฺตา สงฺฆาฏีติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา’’ติ. ปทวีติหาเรหีติ เอตฺถ ปทํ วีติหรติ เอตฺถาติ ปทวีติหาโร, ปทวีติหารฏฺานํ. ทุตวิลมฺพิตํ อกตฺวา สมคมเนน ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตเร มุฏฺิรตนมตฺตํ. ปทานํ วา วีติหรณํ อภิมุขํ หริตฺวา นิกฺเขโป ปทวีติหาโรติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพาติ อนฺตรฆเร วา อฺตฺร วา ภณมานสฺส อนิฏฺิเต ตสฺส วจเน อฺา กถา น สมุฏฺาเปตพฺพา. อิโต ปฏฺายาติ ‘‘น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺสา’’ติ เอตฺถ น-การโต ปฏฺาย. เตน นาติทูเรติอาทีสุ น-การปฏิสิทฺเธสุ อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ. สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺตีติ อาปทาอุมฺมตฺตขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏตาทีหิ วินา ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวาปิ วทนฺตสฺส คิลานสฺส จ ทุกฺกฏเมว. อาปทาสุ หิ อนฺตรนฺตรา กถา วตฺตุํ วฏฺฏติ, เอวมฺเสุ น-การปฏิสิทฺเธสุ อีทิเสสุ, อิตเรสุ ปน คิลาโนปิ น มุจฺจติ. สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ เวทิตพฺพาติ ‘‘อีทิเสสุ คิลาโนปิ น มุจฺจตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺมฺปิ หิ ยถาวุตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ อนาทริเยน อกโรนฺตสฺส อคิลานสฺส วตฺตเภเท สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว, เตเนว วกฺขติ ‘‘อคิลาเนน หิ สทฺธิวิหาริเกน สฏฺิวสฺเสนปิ สพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ กาตพฺพํ, อนาทริเยน อกโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. น-การปฏิสํยุตฺเตสุ ปน ปเทสุ คิลานสฺสปิ ปฏิกฺขิตฺตกิริยํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติ. อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโนติ ปทโสธมฺม(ปาจิ. ๔๔ อาทโย)-ทุฏฺุลฺลาทิวเสน ¶ (ปารา. ๒๘๓) อาปตฺติยา อาสนฺนวาจํ ภณมาโน. อาปตฺติยา อาสนฺนวาจนฺติ จ อาปตฺติชนกเมว วจนํ สนฺธาย วทติ. ยาย หิ วาจาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สา วาจา อาปตฺติยา อาสนฺนาติ วุจฺจติ.
จีวเรน ปตฺตํ เวเตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตราสงฺคสฺส เอเกน กณฺเณน เวเตฺวา’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวาติ อิทํ ปุพฺเพ ตตฺถ ปิตปตฺตาทินา อสงฺฆฏฺฏนตฺถาย วุตฺตํ. จกฺขุนา โอโลเกตฺวาปิ อฺเสํ อภาวํ ตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏติ เอว. จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวาติ กณฺณํ จตุรงฺคุลปฺปมาณํ อติเรกํ กตฺวา เอวํ จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพนฺติ กายพนฺธนํ สงฺฆริตฺวา จีวรโภเค ปกฺขิปิตฺวา เปตพฺพํ. สเจ ปิณฺฑปาโต โหตีติ เอตฺถ โย คาเมเยว วา อนฺตรฆเร วา ปฏิกฺกมเน วา ภฺุชิตฺวา อาคจฺฉติ, ปิณฺฑํ วา น ลภติ, ตสฺส ปิณฺฑปาโต น โหติ, คาเม อภุตฺตสฺส ปน ลทฺธภิกฺขสฺส ¶ วา โหติ, ตสฺมา ‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ คาเมติ คามปริยาปนฺเน ตาทิเส กิสฺมิฺจิ ปเทเส. อนฺตรฆเรติ อนฺโตเคเห. ปฏิกฺกมเนติ อาสนสาลายํ. สเจปิ ตสฺส น โหติ, ภฺุชิตุกาโม จ โหติ, อุทกํ ทตฺวา อตฺตนา ลทฺธโตปิ ปิณฺฑปาโต อุปเนตพฺโพ. ติกฺขตฺตุํ ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ, อาทิมฺหิ มชฺเฌ อนฺเตติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิตพฺโพติ อตฺโถ. อุปกฏฺโติ อาสนฺโน. โธตวาลิกายาติ อุทเกน คตฏฺาเน นิรชาย ปริสุทฺธวาลิกาย.
นิทฺธูเมติ ชนฺตาฆเร ชลมานอคฺคิธูมรหิเต. ชนฺตาฆรฺหิ นาม หิมปาตพหุเกสุ เทเสสุ ตปฺปจฺจยโรคปีฬาทินิวารณตฺถํ สรีรเสทตาปนฏฺานํ. ตตฺถ กิร อนฺธการปฏิจฺฉนฺนตาย ¶ พหูปิ เอกโต ปวิสิตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อคฺคิตาปปริหาราย มตฺติกาย มุขํ ลิมฺปิตฺวา สรีรํ ยาวทตฺถํ เสเทตฺวา จุณฺณาทีหิ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นหายนฺติ. เตเนว ปาฬิยํ (มหาว. ๖๖) ‘‘จุณฺณํ สนฺเนตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สเจ อุสฺสหตีติ สเจ ปโหติ. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘เกนจิ เคลฺเน อนภิภูโต โหตี’’ติ. อปฏิฆํสนฺเตนาติ ภูมิยํ อปฏิฆํสนฺเตน. กวาฏปีนฺติ กวาฏปีฺจ ปิฏฺสงฺฆาตฺจ อจฺฉุปนฺเตน. สนฺตานกนฺติ ยํ กิฺจิ กีฏกุลาวกมกฺกฏกสุตฺตาทิ. อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพนฺติ อุลฺโลกโต ปมํ อุลฺโลกํ อาทึ กตฺวา อวหริตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุลฺโลกนฺติ จ อุทฺธํ โอโลกนฏฺานํ, อุปริภาคนฺติ อตฺโถ. อาโลกสนฺธิกณฺณภาคาติ อาโลกสนฺธิภาคา จ กณฺณภาคา จ, อพฺภนฺตรพาหิรวาตปานกวาฏกานิ จ คพฺภสฺส จ จตฺตาโร โกณา สมฺมชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.
อฺตฺถ เนตพฺโพติ ยตฺถ วิหารโต สาสเน อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ กลฺยาณมิตฺตาทิสมฺปตฺติยุตฺตฏฺาเน เนตพฺโพ. น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพนฺติ รชิตจีวรโต ยาว อปฺปมตฺตกมฺปิ รชนํ คฬติ, น ตาว ปกฺกมิตพฺพํ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส วิสภาคปุคฺคลานํ วเสน กถิตํ. เอตฺถ จ วิสภาคปุคฺคลานนฺติ ลชฺชิโน วา อลชฺชิโน วา อุปชฺฌายสฺส อวฑฺฒิกาเม สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน อุปชฺฌาโย อลชฺชี โอวาทมฺปิ น คณฺหาติ, ลชฺชิโน จ เอตสฺส วิสภาคา โหนฺติ, ตตฺถ อุปชฺฌายํ วิหาย ลชฺชีเหว สทฺธึ อามิสาทิปริโภโค กาตพฺโพ. อุปชฺฌายาทิภาโว เหตฺถ นปฺปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปริเวณํ คนฺตฺวาติ อุปชฺฌายสฺส ปริเวณํ คนฺตฺวา. สุสานนฺติ ¶ อิทํ อุปลกฺขณํ. อุปจารสีมโต ¶ พหิ คนฺตุกาเมน อนาปุจฺฉา คนฺตุํ น วฏฺฏติ. วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพนฺติ เคลฺโต วุฏฺานํ อสฺส อาคเมตพฺพํ.
อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๔. อาจริยวตฺตกถายํ โก อาจริโย, เกนฏฺเน อาจริโย, กติวิโธ อาจริโย, กถํ คหิโต อาจริโย, เกน วตฺติตพฺพํ อาจริยวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก อาจริโยติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสวสฺสํ นิสฺสาย วตฺถุํ ทสวสฺเสน นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติอาทิวจนโต (มหาว. ๗๗) พฺยตฺติพลสมฺปนฺโน ทสวสฺโส วา อติเรกทสวสฺโส วา ภิกฺขุ อาจริโย. เกนฏฺเน อาจริโยติ อนฺเตวาสิเกน อาภุโส จริตพฺโพติ อาจริโย, อุปฏฺาตพฺโพติ อตฺโถ. กติวิโธ อาจริโยติ นิสฺสยาจริยปพฺพชฺชาจริยอุปสมฺปทาจริยธมฺมาจริยวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ นิสฺสยํ คเหตฺวา ตํ นิสฺสาย วตฺถพฺโพ นิสฺสยาจริโย. ปพฺพชิตกาเล สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปโก ปพฺพชฺชาจริโย. อุปสมฺปทกาเล กมฺมวาจานุสฺสาวโก อุปสมฺปทาจริโย. พุทฺธวจนสิกฺขาปโก ธมฺมาจริโย นาม. กถํ คหิโต โหติ อาจริโยติ อนฺเตวาสิเกน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต อาจริโย ‘‘สาหู’’ติ วา ‘‘ลหู’’ติ วา ‘‘โอปายิก’’นฺติ วา ‘‘ปติรูป’’นฺติ วา ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ วา กาเยน วิฺาเปติ ¶ , วาจาย วิฺาเปติ, กายวาจาหิ วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อาจริโย.
เกน วตฺติตพฺพํ อาจริยวตฺตนฺติ อนฺเตวาสิเกน วตฺติตพฺพํ อาจริยวตฺตํ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฺจ วสฺสานิ นิสฺสาย วตฺถพฺพํ, อพฺยตฺเตน ยาวชีวํ. เอตฺถ สจายํ ภิกฺขุ วุฑฺฒตรํ อาจริยํ น ลภติ, อุปสมฺปทาย สฏฺิวสฺโส วา สตฺตติวสฺโส วา โหติ, นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม, อาวุโส, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ. คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺเตนปิ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามิ ¶ อาจริยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพอาปุจฺฉเนสุ. กตมํ ตํ วตฺตนฺติ เอตฺถ อุปชฺฌายวตฺตโต อฺํ นตฺถีติ อาห ‘‘อิทเมว จ…เป… อาจริยวตฺตนฺติ วุจฺจตี’’ติ. นนุ อุปชฺฌาจริยา ภินฺนปทตฺถา, อถ กสฺมา อิทเมว ‘‘อาจริยวตฺต’’นฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อาจริยสฺส กตฺตพฺพตฺตา’’ติ. ยถา เอโกปิ ภิกฺขุ มาตุภาตาภูตตฺตา ‘‘มาตุโล’’ติ จ ธมฺเม สิกฺขาปกตฺตา ‘‘อาจริโย’’ติ จ วุจฺจติ, เอวํ เอกเมว วตฺตํ อุปชฺฌายสฺส กตฺตพฺพตฺตา ‘‘อุปชฺฌายวตฺต’’นฺติ จ อาจริยสฺส กตฺตพฺพตฺตา ‘‘อาจริยวตฺต’’นฺติ จ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ สนฺเตปิ นาเม ภินฺเน อตฺโถ ภินฺโน สิยาติ อาห ‘‘นามมตฺตเมว เหตฺถ นาน’’นฺติ. ยถา ‘‘อินฺโท สกฺโก’’ติอาทีสุ นามมตฺตเมว ภินฺนํ, น อตฺโถ, เอวเมตฺถาปีติ ทฏฺพฺโพติ.
อิทานิ ตสฺมึ วตฺเต สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกานํ วเสน ลพฺภมานํ กฺจิ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ยาว จีวรรชน’’นฺตฺยาทิมาห. ตโต อุปชฺฌายาจริยานํ วเสน วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปชฺฌาเย’’ตฺยาทิมาห. เตสุ วตฺตํ สาทิยนฺเตสุ อาปตฺติ, อสาทิยนฺเตสุ อนาปตฺติ, เตสุ อชานนฺเตสุ ¶ , เอกสฺส ภารกรเณปิ อนาปตฺตีติ อยเมตฺถ ปิณฺฑตฺโถ. อิทานิ อนฺเตวาสิกวิเสสวเสน ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ.
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา
สทฺธิวิหาริกวตฺเต โก สทฺธิวิหาริโก, เกนฏฺเน สทฺธิวิหาริโก, เกน วตฺติตพฺพํ สทฺธิวิหาริกวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก สทฺธิวิหาริโกติ อุปสมฺปนฺโน วา โหตุ สามเณโร วา, โย อุปชฺฌํ คณฺหาติ, โส สทฺธิวิหาริโก นาม. เกนฏฺเน สทฺธิวิหาริโกติ อุปชฺฌาเยน สทฺธึ วิหาโร เอตสฺส อตฺถีติ สทฺธิวิหาริโกติ อตฺเถน. เกน วตฺติตพฺพํ สทฺธิวิหาริกวตฺตนฺติ อุปชฺฌาเยน วตฺติตพฺพํ. เตน วุตฺตํ วตฺตกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๗๘) ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายานํ สทฺธิวิหาริเกสุ วตฺตํ ปฺเปสฺสามิ, ยถา อุปชฺฌาเยหิ สทฺธิวิหาริเกสุ วตฺติตพฺพ’’นฺติ. กตมํ ตํ วตฺตนฺติ อิทานิ ปกรณาคตํ. อิมสฺมึ ปน ปกรเณ ¶ สงฺเขปรุจิตฺตา, อาจริยสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกวตฺตานฺจ สมานตฺตา ทฺเวปิ เอกโต วุตฺตา, ตถาปิ วตฺตกฺขนฺธเก วิสุํ วิสุํ อาคตตฺตา วิสุํ วิสุํเยว กถยาม.
สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติ อุทฺเทสาทีหิสฺส สงฺคโห จ อนุคฺคโห จ กาตพฺโพ. ตตฺถ อุทฺเทโสติ ปาฬิวจนํ. ปริปุจฺฉาติ ปาฬิยา อตฺถวณฺณนา. โอวาโทติ อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมึ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา กริตฺถา’’ติ วจนํ. อนุสาสนีติ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ. อปิจ โอติณฺเณ วา อโนติณฺเณ วา ปมํ วจนํ โอวาโท, ปุนปฺปุนํ วจนํ อนุสาสนีติ ¶ ทฏฺพฺพํ. สเจ อุปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหตีติ สเจ อติเรกปตฺโต โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปริกฺขาโรติ อฺโปิ สมณปริกฺขาโร. อิธ อุสฺสุกฺกํ นาม ธมฺมิเยน นเยน อุปฺปชฺชมานอุปายปริเยสนํ. อิโต ปรํ ทนฺตกฏฺทานํ อาทึ กตฺวา อาจมนกุมฺภิยา อุทกสิฺจนปริโยสานํ วตฺตํ คิลานสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส กาตพฺพํ. อนภิรติวูปกาสนาทิ ปน อคิลานสฺสปิ กตฺตพฺพเมว. จีวรํ รชนฺเตนาติ ‘‘เอวํ รเชยฺยาสี’’ติ อุปชฺฌายโต อุปายํ สุตฺวา รชนฺเตน. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติอาทีสุ อนาทริยํ ปฏิจฺจ ธมฺมามิเสหิ อสงฺคณฺหนฺตานํ อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ วตฺตเภทตฺตา. เตเนว ปริวาเรปิ (ปริ. ๓๒๒) ‘‘น เทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา
อนฺเตวาสิกวตฺเต โก อนฺเตวาสิโก, เกนฏฺเน อนฺเตวาสิโก, กติวิธา อนฺเตวาสิกา, เกน วตฺติตพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก อนฺเตวาสิโกติ อุปสมฺปนฺโน วา โหตุ สามเณโร วา, โย อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหาติ, โย วา อาจริยสฺส โอวาทํ คเหตฺวา ปพฺพชติ, โย วา เตนานุสฺสาวิโต หุตฺวา อุปสมฺปชฺชติ, โย วา ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุณาติ, โส สพฺโพ อนฺเตวาสิโกติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปโม นิสฺสยนฺเตวาสิโก นาม, ทุติโย ¶ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก นาม, ตติโย อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก นาม, จตุตฺโถ ธมฺมนฺเตวาสิโก นาม. อฺตฺถ ปน สิปฺปนฺเตวาสิโกปิ อาคโต, โส อิธ นาธิปฺเปโต ¶ . เกนฏฺเน อนฺเตวาสิโกติ อนฺเต วสตีติ อนฺเตวาสิโก อลุตฺตสมาสวเสน. กติวิธา อนฺเตวาสิกาติ ยถาวุตฺตนเยน จตุพฺพิธา อนฺเตวาสิกา.
เกน วตฺติตพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ จตุพฺพิเธหิ อาจริเยหิ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺติตพฺพํ. ยถาห วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๘๒) ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, อาจริยานํ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ปฺเปสฺสามิ, ยถา อาจริเยหิ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺติตพฺพ’’นฺติ. กตมํ ตํ วตฺตนฺติ ยํ ภควตา วตฺตกฺขนฺธเก วุตฺตํ, อิธ จ สงฺเขเปน ทสฺสิตํ, ตํ วตฺตนฺติ. อิธ ปน อตฺโถ สทฺธิวิหาริกวตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – เอเตสุ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภาโร, นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสนฺติ, ตาวเทว, ตสฺมา อาจริเยหิปิ เตสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อาจริยนฺเตวาสิเกสุ หิ โย โย น สมฺมา วตฺตติ, ตสฺส ตสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
อนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาคนฺตุกวตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๕. อาคนฺตุกวตฺเต อาคจฺฉตีติ อาคนฺตุโก, เตน วตฺติตพฺพนฺติ อาคนฺตุกวตฺตํ. ‘‘อิทานิ อารามํ ปวิสิสฺสามี’’ติ อิมินา อุปจารสีมาสมีปํ ทสฺเสติ, ตสฺมา อุปจารสีมาสมีปํ ปตฺวา อุปาหนาโอมฺุจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพํ. คเหตฺวาติ ¶ อุปาหนทณฺฑเกน คเหตฺวา. อุปาหนปฺุฉนโจฬกํ ปุจฺฉิตฺวา อุปาหนา ปฺุฉิตพฺพาติ ‘‘กตรสฺมึ าเน อุปาหนปฺุฉนโจฬก’’นฺติ อาวาสิเก ภิกฺขู ปุจฺฉิตฺวา. ปตฺถริตพฺพนฺติ สุกฺขาปนตฺถาย อาตเป ปตฺถริตพฺพํ. สเจ นวโก โหติ, อภิวาทาเปตพฺโพติ ตสฺส วสฺเส ปุจฺฉิเต ยทิ ทหโร โหติ, สยเมว วนฺทิสฺสติ, ตทา อิมินา วนฺทาปิโต โหติ. นิลฺโลเกตพฺโพติ โอโลเกตพฺโพ. พหิ ิเตนาติ พหิ นิกฺขมนฺตสฺส อหิโน วา อมนุสฺสสฺส วา มคฺคํ ตฺวา ิเตน นิลฺโลเกตพฺโพ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาคนฺตุกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๖. อาวาสิกวตฺเต ¶ อาวสตีติ อาวาสิโก, เตน วตฺติตพฺพนฺติ อาวาสิกวตฺตํ. ตตฺถ อาวาสิเกน ภิกฺขุนา อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ วุฑฺฒตรํ ทิสฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติอาทิ ปาฬิยํ (จูฬว. ๓๕๙) อาคตฺจ อฏฺกถายํ อาคตฺจ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๙) คเหตพฺพํ, คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ปากฏเมว, อุปาหนปฺุฉนํ ปน อตฺตโน รุจิวเสน กาตพฺพํ. เตเนว เหตฺถ ‘‘สเจ อุสฺสหตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อุปาหนา อปฺุฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. เสนาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ เสนาสนํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปปฺโผเฏตฺวา ปตฺถริตุํ ปน วฏฺฏติเยว. เอเตน มฺจปีาทึ ปปฺโผเฏตฺวา ปตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา ทานมฺปิ เสนาสนปฺาปนเมวาติ ทสฺเสติ. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน ¶ สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลพฺภติ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อาวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คมิกวตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๗. คมิกวตฺเต คนฺตุํ ภพฺโพติ คมิโก, เตน วตฺติตพฺพนฺติ คมิกวตฺตํ. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – ทารุภณฺฑนฺติ เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๒๒) วุตฺตํ มฺจปีาทิ. มตฺติกาภณฺฑมฺปิ รชนภาชนาทิ สพฺพํ ตตฺถ วุตฺตปฺปเภทเมว. ตํ สพฺพํ อคฺคิสาลายํ วา อฺตรสฺมึ วา คุตฺตฏฺาเน ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพํ, อโนวสฺสเก ปพฺภาเรปิ เปตุํ วฏฺฏติ. เสนาสนํ อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ, ยตฺถ อุปจิกา นาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. จตูสุ ปาสาเณสูติอาทิ อุปจิกานํ อุปฺปตฺติฏฺาเน ปณฺณสาลาทิเสนาสเน กตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อปฺเปว นาม องฺคานิปิ เสเสยฺยุนฺติ อยํ อชฺโฌกาเส ปิตมฺหิ อานิสํโส. โอวสฺสกเคเห ปน ติเณสุ จ มตฺติกาปิณฺเฑสุ จ อุปริ ปตนฺเตสุ มฺจปีานํ องฺคานิปิ วินสฺสนฺติ.
คมิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๘. วตฺตกฺขนฺธเก ¶ อิมสฺมึ าเน อนุโมทนวตฺตํ อาคตํ, ตโต ภตฺตคฺควตฺตํ. สารตฺถทีปนิยฺจ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๓๗๓-๓๗๔) ‘‘อิมสฺมึ วตฺตกฺขนฺธเก ¶ (จูฬว. ๓๕๖) อาคตานิ อาคนฺตุกาวาสิกคมิยานุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริการฺิกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายาจริยสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกวตฺตานิ จุทฺทส มหาวตฺตานิ นามา’’ติ อนุกฺกโม วุตฺโต, อิธ ปน วินยสงฺคหปฺปกรเณ คมิกวตฺตโต ภตฺตคฺควตฺตํ อาคตํ, อนุโมทนวตฺตํ ปน วิสุํ อวตฺวา ภตฺตคฺควตฺเตเยว อนฺโตคธํ กตฺวา ปจฺฉา วุตฺตํ ภตฺตคฺคํ คนฺตฺวา ภตฺเต ภุตฺเตเยว อนุโมทนากรณโต, ปาฬิยฺจ อฺเสุ วตฺเตสุ วิย ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อนุโมทนวตฺตํ ปฺาเปสฺสามี’’ติ วิสุํ วตฺตภาเวน อนาคตตฺตา ภตฺตคฺควตฺเตเยว อนฺโตคธนฺติ อาจริยสฺส อธิปฺปาโย สิยา. อิมสฺส จ วินยาลงฺการปกรณสฺส ตสฺสา วณฺณนาภูตตฺตา สํวณฺเณตพฺพกฺกเมเนว สํวณฺณนํ กถยิสฺสาม.
ภฺุชิตพฺพนฺติ ภตฺตํ. อชติ คจฺฉติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ อคฺคํ. ‘‘อาทิโกฏฺาสโกฏีสุ, ปุรโตคฺคํ วเร ตีสู’’ติ อภิธานปฺปทีปิกายํ อาคเตปิ ‘‘ราชคฺคนฺติ ราชารหํ, สลากคฺคนฺติ สลากคฺคหณฏฺาน’’นฺติอาทีสุ อฺตฺเถสุปิ ปวตฺตนโต ภตฺตสฺส อคฺคํ ภตฺตคฺคํ, ภตฺตปริวิสนฏฺานํ, ภตฺตคฺเค วตฺติตพฺพํ วตฺตํ ภตฺตคฺควตฺตนฺติ วิคฺคโห. ตตฺถ อาราเม กาโล อาโรจิโต โหตีติ ‘‘กาโล ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ อาโรจิโต โหติ. ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตนาติ ทฺเว ชาณุมณฺฑลานิ นาภิมณฺฑลฺจ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน. ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวาติ สมนฺตโต มณฺฑลํ นิวาเสตฺวา. อุทฺธํ นาภิมณฺฑลํ, อโธ ชาณุมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ชาณุมณฺฑลสฺส เหฏฺา ชงฺฆฏฺิโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ นิวาสนํ โอตาเรตฺวา นิวาเสตพฺพํ, ตโต ปรํ โอตาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ, ยถานิสินฺนสฺส ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺา จตุรงฺคุลมตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ ¶ วุตฺตํ. กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวาติ ตสฺส นิวาสนสฺส อุปริ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อกายพนฺธเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา. สคุณํ กตฺวาติ อิทํ อุปชฺฌายวตฺเต วุตฺตเมว. ‘‘คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวาติ ปาสเก คณฺิกํ ปเวเสตฺวา อนฺโตคาโม วา โหตุ วิหาโร วา, มนุสฺสานํ ปริวิสนฏฺานํ คจฺฉนฺเตน จีวรํ ปารุปิตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา คมนเมว วฏฺฏตี’’ติ ¶ มหาอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เอตฺถ จ มนุสฺสานํ ปริวิสนฏฺานนฺติ ยตฺถ อนฺโตวิหาเรปิ มนุสฺสา สปุตฺตทารา อาวสิตฺวา ภิกฺขู เนตฺวา โภเชนฺติ.
สุปฺปฏิจฺฉนฺเนนาติ น สสีสํ ปารุเตน, อถ โข คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา อนุวาตนฺเตน คีวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปฏิสํหริตฺวา ยาว มณิพนฺธา ปฏิจฺฉาเทนฺเตน. สุสํวุเตนาติ หตฺถํ วา ปาทํ วา อกีฬาเปนฺเตน, สุวินีเตนาติ อตฺโถ. โอกฺขิตฺตจกฺขุนาติ เหฏฺาขิตฺตจกฺขุนา. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตหํ ตหํ โอโลเกนฺโต ภิยฺโย ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวา หตฺถิอสฺสาทิปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ วฏฺฏติ. อปฺปสทฺเทนาติ เอตฺถ กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุ สงฺฆตฺเถโร ทุติเยน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ, ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ, เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถํ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหติ.
น ¶ อุกฺขิตฺตกายาติ น อุกฺเขเปน, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, เอกโต วา อุภโต วา อุกฺขิตฺตจีวโร หุตฺวาติ อตฺโถ. อนฺโตอินฺทขีลโต ปฏฺาย น เอวํ คนฺตพฺพํ. นิสินฺนกาเล ปน ธมกรณํ นีหรนฺเตนปิ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวาว นีหริตพฺพํ. น อุชฺชคฺฆิกายาติ น มหาหสิตํ หสนฺโต, วุตฺตนเยเนเวตฺถ กรณวจนํ. น กายปฺปจาลกนฺติ กายํ อจาเลตฺวา กายํ ปคฺคเหตฺวา นิจฺจลํ กตฺวา อุชุเกน กาเยน สเมน อิริยาปเถน. น พาหุปฺปจาลกนฺติ พาหุํ อจาเลตฺวา พาหุํ ปคฺคเหตฺวา นิจฺจลํ กตฺวา. น สีสปฺปจาลกนฺติ สีสํ อจาเลตฺวา สีสํ ปคฺคเหตฺวา นิจฺจลํ อุชุํ เปตฺวา. น ขมฺภกโตติ ขมฺภกโต นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ. น อุกฺกุฏิกายาติ เอตฺถ อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา อคฺคปาเท อุกฺขิปิตฺวา ปณฺเหหิเยว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ. กรณวจนํ ปเนตฺถ วุตฺตลกฺขณเมว. น โอคุณฺิเตนาติ สสีสํ ปารุเตน. น ปลฺลตฺถิกายาติ น ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย. เอตฺถ อาโยคปลฺลตฺถิกาปิ ทุสฺสปลฺลตฺถิกา เอว. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถเร ภิกฺขู อติอลฺลียิตฺวา น นิสีทิตพฺพํ. น สงฺฆาฏึ โอตฺถริตฺวาติ น สงฺฆาฏึ อตฺถริตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
สกฺกจฺจนฺติ ¶ สตึ อุปฏฺาเปตฺวา. ปตฺตสฺีติ ปตฺเต สฺํ กตฺวา. สมสูปโก นาม ยตฺถ ภตฺตสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ สูโป โหติ. สมติตฺถิกนฺติ สมปุณฺณํ สมภริตํ. ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ถูปีกโต นาม ปตฺตสฺส อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขํ อติกฺกมิตฺวา กโต, ปตฺเต ปกฺขิตฺโต ภริโต ปูริโตติ อตฺโถ. เอวํ กตํ อคฺคเหตฺวา อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขาสมปฺปมาโณ คเหตพฺโพ. ‘‘ยํ กฺจิ ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ผลาผลํ วา อามิสชาติกํ สมติตฺถิกเมว คเหตพฺพํ, ตฺจ โข อธิฏฺานุปเคน ¶ ปตฺเตน, อิตเรน ปน ถูปีกตมฺปิ วฏฺฏติ. ยามกาลิกสตฺตาหกาลิกยาวชีวิกานิ ปน อธิฏฺานุปคปตฺเต ถูปีกตานิปิ วฏฺฏนฺติ. ยํ ปน ทฺวีสุ ปตฺเตสุ ภตฺตํ คเหตฺวา เอกสฺมึ ปูเรตฺวา วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยํ ปตฺเต ปกฺขิปิยมานํ ปูวอุจฺฉุขณฺฑผลาผลาทิ เหฏฺา โอโรหติ, ตํ ถูปีกตํ นาม น โหติ. ปูววฏํสกํ เปตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ถูปีกตเมว โหติ. ปุปฺผวฏํสกตกฺโกลกฏุกผลาทิวฏํสเก ปน เปตฺวา ทินฺนํ ถูปีกตํ น โหติ. ภตฺตสฺส อุปริ ถาลกํ วา ปตฺตํ วา เปตฺวา ปูเรตฺวา คณฺหาติ, ถูปีกตํ นาม น โหติ. กุรุนฺทิยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ถาลเก วา ปตฺเต วา ปกฺขิปิตฺวา ตํ ปตฺตมตฺถเก เปตฺวา เทนฺติ, ปาเฏกฺกภาชนํ วฏฺฏติ. อิธ อนาปตฺติยํ คิลาโน น อาคโต, ตสฺมา คิลานสฺสปิ ถูปีกตํ น วฏฺฏติ, สพฺพตฺถ ปน ปฏิคฺคเหตุเมว น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคหิตํ ปน ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ จ ‘‘ปตฺตสฺี’’ติ จ อุภยํ วุตฺตนยเมว. สปทานนฺติ ตตฺถ ตตฺถ โอธึ อกตฺวา อนุปฏิปาฏิยา. สมสูปเก วตฺตพฺพํ วุตฺตเมว. ถูปกโตติ มตฺถกโต, เวมชฺฌโตติ อตฺโถ. น สูปํ วา พฺยฺชนํ วาติอาทิ ปากฏเมว. วิฺตฺติยํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อุชฺฌานสฺีสิกฺขาปเทปิ คิลาโน น มฺุจติ. นาติมหนฺโต กพโฬติ มยูรณฺฑํ อติมหนฺตํ, กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทกํ, เตสํ เวมชฺฌปฺปมาโณ. ปริมณฺฑลํ อาโลโปติ นาติทีโฆ อาโลโป. อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ. สพฺโพ หตฺโถติ เอตฺถ หตฺถสทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ ‘‘หตฺถมุทฺโท’’ติอาทีสุ วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเว ปวตฺตนโต. เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. น สกพเฬนาติ เอตฺถ ธมฺมํ กเถนฺโต หรีตกํ วา ลฏฺิมธุกํ วา ¶ มุเข ปกฺขิปิตฺวา กเถติ, ยตฺตเกน วจนํ ปริปุณฺณํ โหติ, ตตฺตเก มุขมฺหิ สนฺเต กเถตุํ วฏฺฏติ.
ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. กพฬาวจฺเฉทกนฺติ กพฬํ อวฉินฺทิตฺวา ¶ อวฉินฺทิตฺวา. อวคณฺฑการกนฺติ มกฺกโฏ วิย คณฺเฑ กตฺวา กตฺวา. หตฺถนิทฺธุนกนฺติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา นิทฺธุนิตฺวา. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา. ชิวฺหานิจฺฉารกนฺติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา. จปุจปุการกนฺติ ‘‘จปุจปู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา กตฺวา. สุรุสุรุการกนฺติ ‘‘สุรุสุรู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา กตฺวา. หตฺถนิลฺเลหกนฺติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา. ภฺุชนฺเตน หิ องฺคุลิมตฺตมฺปิ นิลฺเลหิตุํ น วฏฺฏติ, ฆนยาคุผาณิตปายาสาทิเก ปน องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ปตฺตนิลฺเลหกโอฏฺนิลฺเลหเกสุปิ เอเสว นโย, ตสฺมา องฺคุลิยาปิ ปตฺโต น นิลฺเลหิตพฺโพ, เอกโอฏฺโปิ ชิวฺหาย น นิลฺเลหิตพฺโพ, โอฏฺมํเสหิ เอว ปน คเหตฺวา อนฺโต ปเวเสตุํ วฏฺฏติ.
น สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลโกติ เอตํ ปฏิกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตสฺมา สงฺฆิกมฺปิ ปุคฺคลิกมฺปิ คิหิสนฺตกมฺปิ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ สงฺขมฺปิ สราวมฺปิ อามิสมกฺขิตํ น คเหตพฺพเมว, คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปน หตฺถสฺส เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏติ. น สสิตฺถกํ ปตฺตโธวนํ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑตพฺพนฺติ เอตฺถ อุทฺธริตฺวา วาติ สิตฺถานิ เอกโต อุทฺธริตฺวา เอกสฺมึ าเน ราสึ กตฺวา อุทกํ ฉฑฺเฑติ. ภินฺทิตฺวา วา อุทกคติกานิ กตฺวา ฉฑฺเฑติ, ปฏิคฺคเหน สมฺปฏิจฺฉนฺโต นํ ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑติ, พหิ นีหริตฺวา วา ฉฑฺเฑติ, เอวํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. น ตาว เถเรน อุทกนฺติ อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตรา ปิปาสิเตน ¶ , ปน คเล วิลคฺคามิเสน วา ปานียํ ปิวิตฺวา น โธวิตพฺพาติ.
ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา
อนุโมทนวตฺเต อนุ ปุนปฺปุนํ โมทิยเต ปโมทิยเตติ อนุโมทนา. กา สา? ธมฺมกถา. อนุโมทนาย กตฺตพฺพํ วตฺตํ อนุโมทนวตฺตํ. ปฺจเม นิสินฺเนติ อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน. อุปนิสินฺนกถา นาม พหูสุ สนฺนิปติเตสุ ปริกถากถนํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาวณฺณนา
๑๘๙. ปิณฺฑจาริกวตฺเต ¶ ปิณฺฑิตพฺโพ สงฺฆริตพฺโพติ ปิณฺโฑ, ปิณฺฑปาโต. ปิณฺฑาย จรณํ สีลมสฺสาติ ปิณฺฑจารี, โส เอว ปิณฺฑจาริโก สกตฺเถ กปจฺจยวเสน. ปิณฺฑจาริเกน วตฺติตพฺพํ วตฺตํ ปิณฺฑจาริกวตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – นิเวสนํ นาม อิตฺถิกุมาริกาทีนํ วสนฏฺานํ. ยสฺมา ปวิสนนิกฺขมนทฺวารํ อสลฺลกฺเขตฺวา สหสา ปวิสนฺโต วิสภาคารมฺมณํ วา ปสฺเสยฺย, ปริสฺสโย วา ภเวยฺย, ตสฺมา ‘‘นิเวสนํ…เป… ปวิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อติทูเร ติฏฺนฺโต อปสฺสนฺโต วา ภเวยฺย, ‘‘อฺสฺส เคเห ติฏฺตี’’ติ วา มฺเยฺย. อจฺจาสนฺเน ติฏฺนฺโต อปสฺสิตพฺพํ วา ปสฺเสยฺย, อสุณิตพฺพํ วา สุเณยฺย, เตน มนุสฺสานํ อคารโว วา อปฺปสาโท วา ภเวยฺย, ตสฺมา ‘‘นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน าตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อติจิรํ ติฏฺนฺโต อทาตุกามานํ ¶ มโนปโทโส ภเวยฺย, อฺตฺถ ภิกฺขา จ ปริกฺขเยยฺย, อติลหุกํ นิวตฺตนฺโต ทาตุกามานํ ปฺุหานิ จ ภเวยฺย, ภิกฺขุโน จ ภิกฺขาย อสมฺปชฺชนํ, ตสฺมา ‘‘นาติจิรํ าตพฺพํ, นาติลหุกํ นิวตฺติตพฺพํ, ิเตน สลฺลกฺเขตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สลฺลกฺขณาการํ ทสฺเสติ ‘‘สเจ กมฺมํ วา นิกฺขิปตี’’ติอาทินา. ตตฺถ กมฺมํ วา นิกฺขิปตีติ กปฺปาสํ วา สุปฺปํ วา มุสลํ วา ยฺจ คเหตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ, ิตา วา นิสินฺนา วา โหนฺติ, ตํ นิกฺขิปติ. ปรามสตีติ คณฺหาติ. เปติ วาติ ‘‘ติฏฺถ ภนฺเต’’ติ วทนฺตี เปติ นาม. อวกฺการปาตีติ อติเรกปิณฺฑปาตํ อปเนตฺวา ปนตฺถาย เอกา สมุคฺคปาติ. เอตฺถ จ สมุคฺคปาติ นาม สมุคฺคปุฏสทิสา ปาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อารฺิกวตฺตกถาวณฺณนา
๑๙๐. อารฺิกวตฺเต น รมนฺติ ชนา เอตฺถาติ อรฺํ. วุตฺตฺหิ –
‘‘รมณียานิ อรฺานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;
วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโน’’ติ. (ธ. ป. ๙๙);
อรฺเ ¶ วสตีติ อารฺิโก, เตน วตฺติตพฺพํ วตฺตํ อารฺิกวตฺตํ. ตตฺรายํ วิเสสปทานมตฺโถ – กาลสฺเสว อุฏฺายาติ อรฺเสนาสนสฺส คามโต ทูรตฺตา วุตฺตํ, เตเนว การเณน ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺโต ปริสฺสโม โหตี’’ติ วุตฺตํ. ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา จีวรํ ขนฺเธ กริตฺวา อรฺมคฺโค น ทุสฺโสธโน โหติ, ตสฺมา กณฺฏกสรีสปาทิปริสฺสยวิโมจนตฺถํ อุปาหนา อาโรหิตฺวา. อรฺํ นาม ¶ ยสฺมา โจราทีนํ วิจรฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา วสนฏฺานโต นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อิโต ปรานิ ภตฺตคฺควตฺตปิณฺฑจาริกวตฺเตสุ วุตฺตสทิสาเนว. คามโต นิกฺขมิตฺวา สเจ พหิคาเม อุทกํ นตฺถิ, อนฺโตคาเมเยว ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา, อถ พหิคาเม อตฺถิ, ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา จีวรํ สงฺฆริตฺวา อํเส กริตฺวา อุปาหนา อาโรหิตฺวา คนฺตพฺพํ.
ภาชนํ อลภนฺเตนาติอาทิ อรฺเสนาสนสฺส ทุลฺลภทพฺพสมฺภารตฺตา วุตฺตํ, อคฺคิ อุปฏฺาเปตพฺโพติอาทิ วาฬมิคสรีสปาทิพาหิรปริสฺสยกาเล จ วาตปิตฺตาทิอชฺฌตฺตปอสฺสยกาเล จ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. พหูนํ ปน วสนฏฺาเน ตาทิสานิ สุลภานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏตี’’ติ. กตฺตรทณฺโฑ นาม ปริสฺสยวิโนทโน โหติ, ตสฺมา อรฺเ วิหรนฺเตน อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘กตฺตรทณฺโฑ อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ. นกฺขตฺตาเนว นกฺขตฺตปทานิ. โจราทีสุ อาคนฺตฺวา ‘‘อชฺช, ภนฺเต, เกน นกฺขตฺเตน จนฺโท ยุตฺโต’’ติ ปุจฺฉิเตสุ ‘‘น ชานามา’’ติ วุตฺเต กุชฺฌนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นกฺขตฺตปทานิ อุคฺคเหตพฺพานิ สกลานิ วา เอกเทสานิ วา’’ติ, ตถา ทิสามูฬฺเหสุ ‘‘กตมายํ, ภนฺเต, ทิสา’’ติ ปุจฺฉิเตสุ, ตสฺมา ‘‘ทิสากุสเลน ภวิตพฺพ’’นฺติ.
อารฺิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสนาสนวตฺตกถาวณฺณนา
๑๙๑. เสนาสนวตฺเต สยนฺติ เอตฺถาติ เสนํ, สยนนฺติ อตฺโถ. อาวสนฺติ เอตฺถาติ อาสนํ. เสนฺจ อาสนฺจ เสนาสนํ. เสนาสเนสุ กตฺตพฺพํ วตฺตํ เสนาสนวตฺตํ ¶ . อิธ ปน ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อุปชฺฌายวตฺตกถายํ (วิ. สงฺค. อฏฺ. ๑๘๓ ) วุตฺตเมว. ตตฺถ ปน อุปชฺฌาเยน วุตฺถวิหาโร วุตฺโต, อิธ ปน อตฺตนา วุตฺถวิหาโรติ อยเมว วิเสโส. น วุฑฺฒํ อนาปุจฺฉาติ ¶ เอตฺถ ตสฺส โอวรเก ตทุปจาเร จ อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ วทนฺติ. โภชนสาลาทีสุปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ โภชนสาลาทีสุปิ อุทฺเทสทานาทิ อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
เสนาสนวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชนฺตาฆรวตฺตกถาวณฺณนา
๑๙๒. ชนฺตาฆรวตฺเต ชายตีติ ชํ, กึ ตํ? สรีรํ. ชํ ตายติ รกฺขตีติ ชนฺตา, กา สา? ติกิจฺฉา. คยฺหเตติ ฆรํ, กึ ตํ? นิเวสนํ, ชนฺตาย สรีรติกิจฺฉาย กตํ ฆรํ ชนฺตาฆรํ, ชนฺตาฆเร กตฺตพฺพํ วตฺตํ ชนฺตาฆรวตฺตํ. ตตฺถ ปริภณฺฑนฺติ พหิชคติ. เสสํ อุปชฺฌายวตฺเต วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.
ชนฺตาฆรวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วจฺจกุฏิวตฺตกถาวณฺณนา
๑๙๓. วจฺจกุฏิวตฺเต วจฺจยเต อูหทยเตติ วจฺจํ, กรีสํ. กุฏียติ ฉินฺทียติ อาตโป เอตายาติ กุฏิ, วจฺจตฺถาย กตา กุฏิ วจฺจกุฏิ, วจฺจกุฏิยา วตฺติตพฺพํ วตฺตํ วจฺจกุฏิวตฺตํ, อิธ จ วตฺตกฺขนฺธเก อาจมนวตฺตํ ปมํ อาคตํ, ปจฺฉา วจฺจกุฏิวตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ปกรเณ ปมํ วจฺจํ กตฺวา ปจฺฉา อาจมตีติ ¶ อธิปฺปาเยน วจฺจกุฏิวตฺตํ ปมํ อาคตํ, ตสฺมา ตทนุกฺกเมน กถยิสฺสาม. ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺเตนาติ อยํ วจฺจกุฏิยาปิ สพฺพตฺเถว ปฏิกฺเขโป. นิพทฺธคมนตฺถายาติ อตฺตนา นิพทฺธคมนตฺถาย. ปุคฺคลิกฏฺานํ วาติ อตฺตโน วิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
วจฺจกุฏิวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
อุปชฺฌายวตฺตาทิวตฺตวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
สตฺตวีสติโม ปริจฺเฉโท.