📜
๓๐. ครุภณฺฑวินิจฺฉยกถา
๒๒๗. เอวํ ¶ กถินวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ ครุภณฺฑาทิวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ครุภณฺฑานีติ เอตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ครูติ –
‘‘ปุเม อาจริยาทิมฺหิ, ครุ มาตาปิตูสุปิ;
ครุ ตีสุ มหนฺเต จ, ทุชฺชราลหุเกสุ จา’’ติ. –
วุตฺเตสุ อเนกตฺเถสุ อลหุกวาจโก. ภณฺฑ-สทฺโท ‘‘ภาชนาทิปริกฺขาเร, ภณฺฑํ มูลธเนปิ จา’’ติ เอตฺถ ภาชนาทิปริกฺขารตฺโถ โหติ. วจนตฺโถ ปน ครนฺติ อุคฺคจฺฉนฺติ อุคฺคตา ปากฏา โหนฺตีติ ครูนิ, ภฑิตพฺพานิ อิจฺฉิตพฺพานีติ ภณฺฑานิ, ครูนิ จ ตานิ ภณฺฑานิ จาติ ครุภณฺฑานิ, อารามาทีนิ วตฺถูนิ. อิติ อาทินา นเยน เสนาสนกฺขนฺธเก ภควตา ทสฺสิตานิ อิมานิ ปฺจ วตฺถูนิ ครุภณฺฑานิ นามาติ โยเชตพฺพํ.
มฺเจสุ มสารโกติ มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ อฏนิโย ปเวเสตฺวา กโต. พุนฺทิกาพทฺโธติ อฏนีหิ มฺจปาเท ฑํสาเปตฺวา ปลฺลงฺกสงฺเขเปน กโต. กุฬีรปาทโกติ อสฺสเมณฺฑกาทีนํ ปาทสทิเสหิ ปาเทหิ กโต. โย วา ปน โกจิ วงฺกปาทโก, อยํ วุจฺจติ ‘‘กุฬีรปาทโก’’ติ. อาหจฺจปาทโกติ อยํ ปน ‘‘อาหจฺจปาทโก นาม มฺโจ องฺเค วิชฺฌิตฺวา กโต โหตี’’ติ เอวํ ปรโต ปาฬิยํเยว (ปาจิ. ๑๓๑) วุตฺโต, ตสฺมา อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา ¶ ตตฺถ ปาทสิขํ ปเวเสตฺวา อุปริ อาณึ ทตฺวา กตมฺโจ อาหจฺจปาทโกติ เวทิตพฺโพ. ปีเปิ เอเสว นโย.
อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตราติ อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสีติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ภิสีนํ อฺตรา ¶ . ปฺจ ภิสิโยติ ปฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตภิสิโย. ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา. ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, เปตฺวา ปน มนุสฺสโลมํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ, สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํ, ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ, ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตเรน ภิสิจฺฉวึ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสึ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ วา ปฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขเมว คจฺฉติ. โจฬภิสิอาทีสุ ยํ กิฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา วา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ, ยํ กิฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ, ยํ กิฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ, อฺตฺร สุทฺธตมาลปตฺตํ ยํ กิฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพา. ตมาลปตฺตํ ปน อฺเน มิสฺสเมว วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. ภิสิยา ปมาณนิยโม นตฺถิ, มฺจภิสิ ปีภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปฺุฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปฺจวิธตูลมฺปิ ภิสิยํ วฏฺฏติ, ตํ มสูรเกปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ตตฺถ มสูรเกติ จมฺมมยภิสิยํ. เอเตน มสูรกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ.
พิมฺโพหเน ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกีตูลนฺติ. ตตฺถ รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ ลตานํ ตูลํ. โปฏกีตูลนฺติ โปฏกีติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๙๗) ปน ‘‘โปฏกีตูลนฺติ เอรกติณตูล’’นฺติ วุตฺตํ, เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติ. รุกฺขวลฺลิติณชาติโย ¶ หิ มฺุจิตฺวา อฺโ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิมฺโพหเน วฏฺฏติ, ภิสึ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพมฺเปตํ ‘‘อกปฺปิยตูล’’นฺติ วุจฺจติ น เกวลฺจ พิมฺโพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ, สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานฺจ ¶ โลมมฺปิ วฏฺฏติ. ปิยงฺคุปุปฺผพกุฬปุปฺผาทิ ปน ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ น วฏฺฏติ. ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว น วฏฺฏติ, มิสฺสกํ ปน วฏฺฏติ, ภิสีนํ อนฺุาตํ ปฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฏฺฏติ. อทฺธกายิกานิ ปน พิมฺโพหนานิ น วฏฺฏนฺติ. อทฺธกายิกานีติ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ, เยสุ กฏิโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติ เปนฺติ. สีสปฺปมาณํ ปน วฏฺฏติ, สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ, ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณาน’’นฺติ ปาํ อุปนิธาย พิมฺโพหนสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ เปตพฺพโจฬกํ ติโกณเมว กโรนฺติ เอกจฺเจ. ‘‘อิทฺจ านํ คณฺิฏฺาน’’นฺติ วทนฺติ.
วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๒๙๗) ปน ‘‘สีสปฺปมาณํ นาม ยตฺถ คีวาย สห สกลํ สีสํ เปตุํ สกฺกา, ตสฺส จ มุฏฺิรตนํ วิตฺถารปฺปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘วิตฺถารโต’ติอาทิมาห. อิทฺจ พิมฺโพหนสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ เปตพฺพโจฬปฺปมาณทสฺสนํ, ตสฺส วเสน พิมฺโพหนสฺส วิตฺถารปฺปมาณํ ปริจฺฉิชฺชติ, ตํ วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา กตฺวา สิพฺพิตํ ยถา โกฏิโต โกฏิ วิตฺถารโต ปุถุลฏฺานํ มุฏฺิรตนปฺปมาณํ โหติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพํ, อิโต อธิกํ น วฏฺฏติ. ตํ ปน อนฺเตสุ ปิตโจฬํ โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ทิคุณํ กตํ ¶ ติกณฺณํ โหติ, เตสุ ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, มชฺฌฏฺานํ โกฏิโต โกฏึ อาหจฺจ มุฏฺิรตนํ โหติ, อิทมสฺส อุกฺกฏฺปฺปมาณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา พิมฺโพหนสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ เปตพฺพโจฬกํ ปกติยาเยว ติกณฺณํ น โหติ, อถ โข โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ทิคุณกตกาเลเยว โหติ, ตสฺมา ตํ โจฬกํ วฏฺฏํ วา โหตุ จตุรสฺสํ วา, ทิคุณํ กตฺวา มินิยมานํ ติกณฺณเมว โหติ, ทฺวินฺนฺจ กณฺณานํ อนฺตรํ จตุรงฺคุลาธิกวิทตฺถิมตฺตํ โหติ, ตสฺส จ โจฬกสฺส มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ, ตสฺเสว โจฬกสฺส ปมาเณน พิมฺโพหนสฺส มชฺฌฏฺานมฺปิ มุฏฺิรตนํ โหตีติ วิฺายตีติ.
‘‘กมฺพลเมว…เป… อุณฺณภิสิสงฺขเมว คจฺฉตีติ สามฺโต วุตฺตตฺตา โคนกาทิอกปฺปิยมฺปิ อุณฺณมยตฺถรณํ ภิสิยํ ปกฺขิปิตฺวา สยิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. มสูรเกติ จมฺมมยภิสิยํ, จมฺมมยํ ปน พิมฺโพหนํ ตูลปุณฺณมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ จ วิมติวิโนทนิยํ ¶ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๒๙๗) วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๙๗) ปน ‘‘สีสปฺปมาณนฺติ ยตฺถ คลวาฏกโต ปฏฺาย สพฺพสีสํ อุปทหนฺติ, ตํ สีสปฺปมาณํ โหติ, ตฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต ติริยํ มุฏฺิรตนํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘ยตฺถ วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสู’ติอาทิมาห. มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหตีติ พิมฺโพหนสฺส มชฺฌฏฺานํ ติริยโต มุฏฺิรตนปฺปมาณํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. อรฺชโรติ พหุอุทกคณฺหนกา มหาจาฏิ. ชลํ คณฺหิตุํ อลนฺติ อรฺชโร, วฏฺฏจาฏิ วิย หุตฺวา โถกํ ทีฆมุโข มชฺเฌ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กโตติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายนฺติ อชฺฌาหารสมฺพนฺโธ.
ทฺวิสงฺคหานิ ¶ ทฺเว โหนฺตีติ ทฺเว ปมทุติยอวิสฺสชฺชิยานิ ‘‘อาราโม อารามวตฺถู’’ติ จ ‘‘วิหาโร วิหารวตฺถู’’ติ จ วุตฺตทฺเวทฺเววตฺถุสงฺคหานิ โหนฺติ. ตติยํ อวิสฺสชฺชิยํ ‘‘มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหน’’นฺติ วุตฺตจตุวตฺถุสงฺคหํ โหติ. จตุตฺถํ อวิสฺสชฺชิยํ ‘‘โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหวารโก โลหกฏาหํ วาสิ ผรสุ กุารี กุทาโล นิขาทน’’นฺติ วุตฺตนวโกฏฺาสวนฺตํ โหติ. ปฺจมํ อวิสฺสชฺชิยํ ‘‘วลฺลิ เวฬุ มฺุชํ ปพฺพชํ ติณํ มตฺติกา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตอฏฺเภทนํ อฏฺปเภทวนฺตํ โหตีติ โยชนา. ปฺจนิมฺมลโลจโนติ มํสจกฺขุทิพฺพจกฺขุธมฺมจกฺขุพุทฺธจกฺขุสมนฺตจกฺขูนํ วเสน นิมฺมลปฺจโลจโน.
เสนาสนกฺขนฺธเก อวิสฺสชฺชิยํ กีฏาคิริวตฺถุสฺมึ อเวภงฺคิยนฺติ เอตฺถ ‘‘เสนาสนกฺขนฺธเก คามกาวาสวตฺถุสฺมึ อวิสฺสชฺชิยํ กีฏาคิริวตฺถุสฺมึ อเวภงฺคิย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. กสฺมา? ทฺวินฺนมฺปิ วตฺถูนํ เสนาสนกฺขนฺธเก อาคตตฺตา. เสนาสนกฺขนฺธเกติ อยํ สามฺาธาโร. คามกาวาสวตฺถุสฺมึ กีฏาคิริวตฺถุสฺมินฺติ วิเสสาธาโร. อยมตฺโถ ปาฬึ โอโลเกตฺวา ปจฺเจตพฺโพ. เตเนว หิ สมนฺตปาสาทิกายํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ‘‘เสนาสนกฺขนฺธเก’’ติ อวตฺวา ‘‘อิธ’’อิจฺเจว วุตฺตํ, อิธาติ อิมินา คามกาวาสวตฺถุํ ทสฺเสติ, กีฏาคิริวตฺถุ ปน สรูปโต ทสฺสิตเมว. สามฺาธาโร ปน ตํสํวณฺณนาภาวโต อวุตฺโตปิ สิชฺฌตีติ น วุตฺโตติ วิฺายติ.
๒๒๘. ถาวเรน จ ถาวรํ, ครุภณฺเฑน จ ครุภณฺฑนฺติ เอตฺถ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปุริมทฺวยํ ถาวรํ, ปจฺฉิมตฺตยํ ครุภณฺฑนฺติ เวทิตพฺพํ. สมกเมว เทตีติ เอตฺถ อูนกํ เทนฺตมฺปิ วิหารวตฺถุสามนฺตํ ¶ คเหตฺวา ทูรตรํ ทุกฺขโคปํ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตีติ ¶ ทฏฺพฺพํ. วกฺขติ หิ ‘‘ภิกฺขูนฺเจ มหคฺฆตรํ…เป… สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ชานาเปตฺวาติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ชานาเปตฺวา, อปโลเกตฺวาติ อตฺโถ. นนุ ตุมฺหากํ พหุตรํ รุกฺขาติ วตฺตพฺพนฺติ อิทํ สามิเกสุ อตฺตโน ภณฺฑสฺส มหคฺฆตํ อชานิตฺวา เทนฺเตสุ ตํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร โหตีติ วุตฺตํ. วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพติ สวตฺถุเกน อฺเสํ ภูมิยํ กตปาสาทาทินา, อวตฺถุเกน วา สวตฺถุกํ ปริวตฺเตตพฺพํ, อวตฺถุกํ ปน อวตฺถุเกเนว ปริวตฺเตตพฺพํ เกวลํ ปาสาทสฺส ภูมิโต อถาวรตฺตา. เอวํ ถาวเรสุปิ ถาวรวิภาคํ ตฺวาว ปริวตฺเตตพฺพํ.
‘‘กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพาติ อิมินา สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ อกปฺปิยมฺจํ ‘สงฺฆสฺสา’ติ วุตฺเตปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ‘วิหารสฺส เทมา’ติ วุตฺเต สงฺฆสฺส วฏฺฏติ, น ปุคฺคลสฺส เขตฺตาทิ วิยาติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬฺวคฺค ๓.๓๒๑) ปน ‘‘กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพาติ ‘สงฺฆสฺส เทมา’ติ ทินฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน ‘วิหารสฺส เทมา’ติ วทนฺติ, สุวณฺณรชตมยาทิอกปฺปิยมฺเจปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. น เกวลํ…เป… ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺตีติ อิมินา อถาวเรน ถาวรมฺปิ อถาวรมฺปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ถาวเรน อถาวรเมว หิ ปริวตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วาติ เอตฺถ อกปฺปิยํ นาม สุวณฺณมยมฺจาทิ อกปฺปิยภิสิพิมฺโพหนานิ จ. มหคฺฆํ กปฺปิยํ นาม ทนฺตมยมฺจาทิ, ปาวาราทิกปฺปิยอตฺถรณาทีนิ จา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ, วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘อกปฺปิยํ วาติ อาสนฺทิอาทิ, ปมาณาติกฺกนฺตํ พิมฺโพหนาทิ จ. มหคฺฆํ กปฺปิยํ วาติ สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ กปฺปิยโวหาเรน ทินฺน’’นฺติ วุตฺตํ.
๒๒๙. ‘‘กาฬโลห ¶ …เป… ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏกํสโลหมยมฺปิ ภาชนํ ปุคฺคลิกมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ ปริหริตุมฺปิ วฏฺฏติ ปุคฺคลานํ ปริหริตพฺพสฺเสว ภาเชตพฺพตฺตาติ วทนฺติ, ตํ อุปริ ‘‘กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏตี’’ติอาทิเกน มหาปจฺจริวจเนน วิรุชฺฌติ. อิมสฺส หิ ‘‘วฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคฺคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตสฺส มหาอฏฺกถาวจนสฺส ปฏิกฺเขปาย ตํ มหาปจฺจริวจนํ ปจฺฉา ทสฺสิตํ, ตสฺมา วฏฺฏโลหกํสโลหมยํ ยํ กิฺจิ ปาทคฺคณฺหนกวารกมฺปิ อุปาทาย อภาชนียเมว, คิหีหิ ทียมานมฺปิ ปุคฺคลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ ¶ น วฏฺฏติ. ปาริหาริยํ น วฏฺฏตีติ ปตฺตาทิปริกฺขารํ วิย สยเมว ปฏิสาเมตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. คิหิสนฺตกํ วิย อารามิกาทโย เจ สยเมว โคเปตฺวา วินิโยคกาเล อาเนตฺวา ปฏิเทนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ.
ปณฺณสูจิ นาม เลขนีติ วทนฺติ. อตฺตนา ลทฺธานิปีติอาทินา ปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ, ปริหริตฺวา ปริโภโคว อาปตฺติกโรติ ทสฺเสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริ ภาชนียวาสิอาทีสุ อตฺตโน สนฺตเกสุปิ.
อนามาสมฺปีติ สุวณฺณาทิมยมฺปิ, สพฺพํ ตํ อามสิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
อุปกฺขเรติ อุปกรเณ. สิขรํ นาม เยน ปริพฺภมนฺตา ฉินฺทนฺติ. ปตฺตพนฺธโก นาม ปตฺตสฺส คณฺิอาทิการโก. ‘‘ปฏิมานํ สุวณฺณาทิปตฺตการโก’’ติปิ วทนฺติ.
‘‘อฑฺฒพาหูติ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏ’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘อฑฺฒพาหุ นาม วิทตฺถิจตุรงฺคุลนฺติปิ วทนฺตี’’ติ ¶ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) วุตฺตํ. วชิรพุทฺธิฏีกายมฺปิ (วชิร. ฏี. จูฬวคฺค ๓๒๑) ‘‘อฑฺฒพาหูติ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏนฺติ ลิขิต’’นฺติ วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) ปน ‘‘อฑฺฒพาหุปฺปมาณา นาม อฑฺฒพาหุมตฺตา, อฑฺฒพฺยามมตฺตาติปิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. โยตฺตานีติ จมฺมรชฺชุกา. ตตฺถชาตกาติ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตา.
‘‘อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตติ ทีฆโส อฏฺงฺคุลมตฺโต ปริณาหโต ปณฺณสูจิทณฺฑมตฺโต’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี.. จูฬวคฺค ๓.๓๒๑) วิมติวิโนทนิยํ ปน (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) ‘‘อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตติ สรทณฺฑาทิสูจิอาการตนุทณฺฑกมตฺโตปี’’ติ วุตฺตํ. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณติ ทีฆโต อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ. ริตฺตโปตฺถโกปีติ อลิขิตโปตฺถโกปิ, อิทฺจ ปณฺณปฺปสงฺเคน วุตฺตํ.
อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ วุจฺจติ ‘‘อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ¶ . เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏติ, จตุรสฺสาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺโพ. สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏติ. ภทฺทปีนฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกพนฺธํ ปีเมว. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏิกาย อุปริปาเท เปตฺวา โภชนผลกํ วิย กตปีํ วุจฺจติ. อามณฺฑกวณฺฏกปีํ นาม อามลกากาเรน โยชิตพหอุปาทปีํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตปีานิ. ทารุมยํ ปน สพฺพมฺปิ ปีํ วฏฺฏติ.
‘‘ฆฏฺฏนผลกํ นาม ยตฺถ เปตฺวา รชิตจีวรํ หตฺเถน ฆฏฺเฏนฺติ. ฆฏฺฏนมุคฺคโร นาม อนุวาตาทิฆฏฺฏนตฺถํ กโตติ วทนฺตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๓๒๑) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) ‘‘ฆฏฺฏนผลกํ ฆฏฺฏนมุคฺคโรติ อิทํ รชิตจีวรํ เอกสฺมึ มฏฺเ ทณฺฑมุคฺคเร ¶ เวเตฺวา เอกสฺส มฏฺผลกสฺส อุปริ เปตฺวา อุปริ อปเรน มฏฺผลเกน นิกฺกุชฺชิตฺวา เอโก อุปริ อกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, ทฺเว ชนา อุปริผลกํ ทฺวีสุ โกฏีสุ คเหตฺวา อปราปรํ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรนฺติ, เอตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺเถ ปาเปตฺวา หตฺเถน ปหรณํ ปน นิฏฺิตรชนสฺส จีวรสฺส อลฺลกาเล กาตพฺพํ, อิทํ ปน ผลกมุคฺคเรหิ ฆฏฺฏนํ สุกฺขกาเล ถทฺธภาววิโมจนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อมฺพณนฺติ ผลเกหิ โปกฺขรณีสทิสกตปานียภาชนํ. รชนโทณีติ ยตฺถ ปกฺกรชนํ อากิริตฺวา เปนฺตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ. วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘อมฺพณนฺติ เอกโทณิกนาวาผลเกหิ โปกฺขรณีสทิสํ กตํ. ปานียภาชนนฺติปิ วทนฺติ. รชนโทณีติ เอกทารุนาว กตํ รชนภาชนํ. อุทกโทณีติ เอกทารุนาว กตํ อุทกภาชน’’นฺติ วุตฺตํ.
‘‘ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ อกปฺปิยจมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปจฺจตฺถรณคติกนฺติ อิมินา มฺจปีเปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ปาวาราทิปจฺจตฺถรณมฺปิ ครุภณฺฑนฺติ เอเก. โนติ อปเร, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๓๒๑) วุตฺตํ. วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. จูฬวคฺค ๓๒๑) ปน ‘‘ทณฺฑมุคฺคโร นาม ‘เยน รชิตจีวรํ โปเถนฺติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมวา’ติ วุตฺตตฺตา, ‘ปจฺจตฺถรณคติก’นฺติ วุตฺตตฺตา จ อปิ-สทฺเทน ปาวาราทิปจฺจตฺถรณํ สพฺพํ ครุภณฺฑเมวาติ วทนฺติ. เอเตเนว สุตฺเตน อฺถา อตฺถํ วตฺวา ปาวาราทิปจฺจตฺถรณํ น ครุภณฺฑํ, ภาชนียเมว, เสนาสนตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรณเมว ครุภณฺฑนฺติ วทนฺติ. อุปปริกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๓๒๑) ปน ¶ ‘‘ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ อกปฺปิยจมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ภูมตฺถรณสงฺเขเปน สยิตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. ปจฺจตฺถรณคติกนฺติ อิมินา มฺจาทีสุ ¶ อตฺถริตพฺพํ มหาจมฺมํ เอฬกจมฺมํ นามาติ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. ฉตฺตมุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปตฺตกฏาหนฺติ ปตฺตปจนกฏาหํ. คณฺิกาติ จีวรคณฺิกา. วิโธติ กายพนฺธนวิโธ.
อิทานิ วินยตฺถมฺชูสายํ (กงฺขา. อภิ. ฏี. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา) อาคตนโย วุจฺจเต – อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส. เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. มฺโจ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตโร. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ ภิสีนํ อฺตรํ. พิมฺโพหนํ นาม รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกีตูลานํ อฺตเรน ปุณฺณํ. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ กตกุมฺภี. โลหภาณกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ภาณกนฺติ อรฺชโร วุจฺจติ. วารโกติ ฆโฏ. กฏาหํ กฏาหเมว. วาสิอาทีสุ วลฺลิอาทีสุ จ ทุวิฺเยฺยํ นาม นตฺถิ…เป….
ตตฺถ ถาวเรน ถาวรนฺติ วิหารวิหารวตฺถุนา อารามอารามวตฺถุํ วิหารวิหารวตฺถุํ. อิตเรนาติ อถาวเรน, ปจฺฉิมราสิตฺตเยนาติ วุตฺตํ โหติ. อกปฺปิเยนาติ สุวณฺณมยมฺจาทินา เจว อกปฺปิยภิสิพิมฺโพหเนหิ จ. มหคฺฆกปฺปิเยนาติ ทนฺตมยมฺจาทินา เจว ปาวาราทินา จ. อิตรนฺติ อถาวรํ. กปฺปิยปริวตฺตเนน ปริวตฺเตตุนฺติ ยถา อกปฺปิยํ น โหติ, เอวํ ปริวตฺเตตุํ…เป… เอวํ ¶ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ. อิตเรน อิตรปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ, ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ…เป… สตคฺฆนเกน วา สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตมฺปิ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ.
กาฬโลหตมฺพโลหกํสโลหวฏฺฏโลหานนฺติ เอตฺถ กํสโลหํ วฏฺฏโลหฺจ กิตฺติมโลหํ. ตีณิ หิ ¶ กิตฺติมโลหานิ กํสโลหํ วฏฺฏโลหํ หารกูฏนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ. สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ. รสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ หารกูฏํ. เตน วุตฺตํ ‘‘กํสโลหํ วฏฺฏโลหฺจ กิตฺติมโลห’’นฺติ. ตโต อติเรกนฺติ ตโต อติเรกคณฺหนโก. สารโกติ มชฺเฌ มกุฬํ ทสฺเสตฺวา มุขวฏฺฏิวิตฺถตํ กตฺวา ปิฏฺิโต นาเมตฺวา กาตพฺพํ เอกํ ภาชนํ. สราวนฺติปิ วทนฺติ. อาทิ-สทฺเทน กฺจนกาทีนํ คิหิอุปกรณานํ คหณํ. ตานิ หิ ขุทฺทกานิปิ ครุภณฺฑาเนว คิหิอุปกรณตฺตา. ปิ-สทฺเทน ปเคว มหนฺตานีติ ทสฺเสติ, อิมานิ ปน ภาชนียานิ ภิกฺขุปกรณตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ เอตานิ, เอวํ กุณฺฑิกาปิ ภาชนียา. วกฺขติ หิ ‘‘ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตี’’ติ. สงฺฆิกปริโภเคนาติ อาคนฺตุกานํ วุฑฺฒตรานํ ทตฺวา ปริโภเคน. คิหิวิกฏาติ คิหีหิ วิกตา ปฺตฺตา, อตฺตโน วา สนฺตกกรเณน วิรูปํ กตา. ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏตีติ อาคนฺตุกานํ อทตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ วิย คเหตฺวา ¶ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. ปิปฺผลิโกติ กตฺตริ. อารกณฺฏกํ สูจิเวธกํ. ตาฬํ ยนฺตํ. กตฺตรยฏฺิเวธโก กตฺตรยฏฺิวลยํ. ยถา ตถา ฆนกตํ โลหนฺติ โลหวฏฺฏิ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหจกฺกลิกนฺติ เอวํ ฆนกตํ โลหํ. ขีรปาสาณมยานีติ มุทุกขีรวณฺณปาสาณมยานิ.
คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ อนามาสตฺตา. ปิ-สทฺเทน ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วาติ ทสฺเสติ. เสนาสนปริโภโค ปน สพฺพกปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปาทิมยา สพฺพาปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา. เตนาห ‘‘เสนาสนปริโภเค ปนา’’ติอาทิ.
เสสาติ ตโต มหตฺตรี วาสิ. ยา ปนาติ ยา กุารี ปน. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ ครุภณฺฑเมว. นิขาทนํ จตุรสฺสมุขํ วา โหตุ โทณิมุขํ วา วงฺกํ วา อุชุกํ วา, อนฺตมโส สมฺมฺุชนีทณฺฑเวธนมฺปิ, ทณฺฑพนฺธฺเจ, ครุภณฺฑเมว. เตนาห ‘‘กุทาโล ทณฺฑพนฺธนิขาทนํ วา อครุภณฺฑํ นาม นตฺถี’’ติ. สิปาฏิกา นาม ขุรโกโส, สิขรํ ปน ทณฺฑพนฺธนิขาทนํ อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิต’’นฺติ. สเจ ปน วาสิ อทณฺฑกํ ผลมตฺตํ, ภาชนียํ. อุปกฺขเรติ วาสิอาทิภณฺเฑ.
ปตฺตพนฺธโก นาม ปตฺตสฺส คณฺิกาทิการโก. ‘‘ปฏิมานํ สุวณฺณาทิปตฺตการโก’’ติปิ วทนฺติ. ติปุจฺเฉทนกสตฺถํ สุวณฺณจฺเฉทนกสตฺถํ กตปริกมฺมจมฺมจฺฉินฺทนกขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ ¶ เจตฺถ ตีณิ ปิปฺผลิกํ อนุโลมนฺตีติ อาห ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติอาทิ. อิตรานีติ มหากตฺตริอาทีนิ.
อฑฺฒพาหุปฺปมาณาติ ¶ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏปฺปมาณา, วิทตฺถิจตุรงฺคุลปฺปมาณาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถชาตกาติ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตา, อารกฺขสํวิธาเนน รกฺขิตตฺตา รกฺขิตา จ สา มฺชูสาทีสุ ปกฺขิตฺตํ วิย ยถา ตํ น นสฺสติ, เอวํ โคปนโต โคปิตา จาติ รกฺขิตโคปิตา. ตตฺถชาตกาปิ ปน อรกฺขิตา ครุภณฺฑเมว น โหติ. สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเตติ อิมินา สงฺฆสนฺตเกน เจติยสนฺตกํ รกฺขิตุํ ปริวตฺติตฺุจ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. สุตฺตํ ปนาติ วฏฺฏิตฺเจว อวฏฺฏิตฺจ สุตฺตํ.
อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตติ อนฺตมโส ทีฆโส อฏฺงฺคุลมตฺโต ปริณาหโต สีหฬ-ปณฺณสูจิทณฺฑมตฺโต. เอตฺถาติ เวฬุภณฺเฑ. ทฑฺฒํ เคหํ เยสํ เตติ ทฑฺฒเคหา. น วาเรตพฺพาติ ‘‘มา คณฺหิตฺวา คจฺฉถา’’ติ น นิเสเธตพฺพา. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺพา.
อวเสสฺจ ฉทนติณนฺติ มฺุชปพฺพเชหิ อวเสสํ ยํ กิฺจิ ฉทนติณํ. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปีติ วิตฺถารโต อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ. ลิขิตโปตฺถโก ปน ครุภณฺฑํ น โหติ. กปฺปิยจมฺมานีติ มิคาทีนํ จมฺมานิ. สพฺพํ จกฺกยุตฺตยานนฺติ รถสกฏาทิกํ สพฺพํ จกฺกยุตฺตยานํ. วิสงฺขตจกฺกํ ปน ยานํ ภาชนียํ. อนฺุาตวาสิ นาม ยา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ สกฺกาติ วุตฺตา. มุฏฺิปณฺณํ ตาลปตฺตํ. ตฺหิ มุฏฺินา คเหตฺวา ปริหรนฺตีติ ‘‘มุฏฺิปณฺณ’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘มุฏฺิปณฺณนฺติ ฉตฺตจฺฉทปณฺณเมวา’’ติ เกจิ. อรณีสหิตนฺติ อรณียุคฬํ, อุตฺตรารณี อธรารณีติ อรณีทฺวยนฺติ อตฺโถ. ผาติกมฺมํ กตฺวาติ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวาลิกายปิ ถาวรํ วฑฺฒิกมฺมํ กตฺวา. กุณฺฑิกาติ อยกุณฺฑิกา เจว ตมฺพโลหกุณฺฑิกา จ. ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตีติ ภาชนียปกฺขเมว เสวติ ¶ , น ตุ ครุภณฺฑนฺติ อตฺโถ. กฺจนโก ปน ครุภณฺฑเมวาติ อธิปฺปาโย.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
ครุภณฺฑวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
ตึสติโม ปริจฺเฉโท.