📜

๓๑. โจทนาทิวินิจฺฉยกถา

๒๓๐. เอวํ ครุภณฺฑวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ โจทนาทิวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘โจทนาทิวินิจฺฉโยติ เอตฺถ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โจทียเต โจทนา, โทสาโรปนนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน สารณาทโย สงฺคณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ กมฺมกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔, ๕) ‘‘โจเทตฺวา กตํ โหติ, สาเรตฺวา กตํ โหติ, อาปตฺตึ โรเปตฺวา กตํ โหตี’’ติ. ‘‘โจเทตุํ ปน โก ลภติ, โก น ลภตี’’ติ อิทํ อนุทฺธํสนาธิปฺปายํ วินาปิ โจทนาลกฺขณํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สีลสมฺปนฺโนติ อิทํ ทุสฺสีลสฺส วจนํ อปฺปมาณนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ปน ภิกฺขุํ โจเทตุํ อนิสฺสรตฺตา ‘ภิกฺขุนิเมวา’ติ วุตฺตํ. สติปิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ อนิสฺสรภาเว ตาหิ กตโจทนาปิ โจทนารหตฺตา โจทนาเยวาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตีติอาทินา โจทโก เยสํ สุตฺวา โจเทติ, เตสมฺปิ วจนํ ปมาณเมวาติ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา เตสํ โจทนาปิ รุหเตวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เถโร สุตฺตํ นิทสฺเสสี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๓๘๖) ปน ‘‘อมูลกโจทนาปสงฺเคน สมูลกโจทนาลกฺขณาทึ ทสฺเสตุํ ‘โจเทตุํ ปน โกลภติ, โก น ลภตี’ติอาทิ อารทฺธํ. ‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตี’ติอาทิสุตฺตํ ยสฺมา เย โจทกสฺส อฺเสํ วิปตฺตึ ปกาเสนฺติ, เตปิ ตสฺมึ ขเณ โจทกภาเว ตฺวาว ปกาเสนฺติ, เตสฺจ วจนํ คเหตฺวา อิตโรปิ ยสฺมา โจเทตุฺจ อสมฺปฏิจฺฉนฺตํ เตหิ ติตฺถิยสาวกปริโยสาเนหิ ปมโจทเกหิ สมฺปฏิจฺฉาเปตุฺจ ลภติ, ตสฺมา อิธ สาธกภาเวน อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

ครุกานํ ทฺวินฺนนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ. อวเสสานนฺติ ถุลฺลจฺจยาทีนํ ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ. มิจฺฉาทิฏฺิ นาม ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา ทสวตฺถุกา ทิฏฺิ. ‘‘อนฺตวา โลโก อนนฺตวา โลโก’’ติอาทิกา อนฺตํ คณฺหาปกทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกา นาม. อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนนฺติ อาชีวเหตุปิ อาปชฺชิตพฺพานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ปาราชิกํ, สฺจริตฺเต สงฺฆาทิเสโส, ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส อรหา’’ติ ปริยาเยน ถุลฺลจฺจยํ, ภิกฺขุสฺส ปณีตโภชนวิฺตฺติยา ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนิยา ปณีตโภชนวิฺตฺติยา ปาฏิเทสนียํ, สูโปทนวิฺตฺติยา ทุกฺกฏนฺติ อิเมสํ ปริวาเร (ปริ. ๒๘๗) วุตฺตานํ ฉนฺนํ. น เหตา อาปตฺติโย อาชีวเหตุ เอว ปฺตฺตา สฺจริตฺตาทีนํ อฺถาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. อาชีวเหตุปิ เอตาสํ อาปชฺชนํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ, อาชีวเหตุปิ ปฺตฺตานนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺิวิปตฺติอาชีววิปตฺตีหิ โจเทนฺโตปิ ตมฺมูลิกาย อาปตฺติยา เอว โจเทติ.

‘‘กสฺมา มํ น วนฺทสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อวนฺทนการณสฺส วุตฺตตฺตา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน น วนฺทิตพฺโพติ วทนฺติ. โจเทตุกามตาย เอว อวนฺทิตฺวา อตฺตนา วตฺตพฺพสฺส วุตฺตมตฺถํ เปตฺวา อวนฺทิยภาเว ตํ การณํ น โหตีติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนสฺส อวนฺทิเยสุ อวุตฺตตฺตา เตน สทฺธึ สยนฺตสฺส สหเสยฺยาปตฺติยา อภาวโต, ตสฺส จ ปฏิคฺคหณสฺส รุหนโต ตเทว ยุตฺตตรนฺติ วิฺายติ. กิฺจาปิ ยาว โส ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานาติ, ตาว วนฺทิตพฺโพ, ยทา ปน ‘‘อสฺสมโณมฺหี’’ติ ปฏิชานาติ, ตทา น วนฺทิตพฺโพติ อยเมตฺถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส หิ ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานนฺตสฺเสว ภิกฺขุภาโว, น ตโต ปรํ. ภิกฺขุภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต หิ อนุปสมฺปนฺนปกฺขํ ภชติ. ยสฺมา อามิสํ เทนฺโต อตฺตโน อิจฺฉิตฏฺาเนเยว เทติ, ตสฺมา ปฏิปาฏิยา นิสินฺนานํ ยาคุภตฺตาทีนิ เทนฺเตน เอกสฺส โจเทตุกามตาย อทินฺเนปิ โจทนา นาม น โหตีติ อาห ‘‘น ตาว ตา โจทนา โหตี’’ติ.

๒๓๑. โจเทตพฺโพติ จุทิโต, จุทิโต เอว จุทิตโก, อปราธวนฺโต ปุคฺคโล. โจเทตีติ โจทโก, อปราธปกาสโก. จุทิตโก จ โจทโก จ จุทิตกโจทกา. อุพฺพาหิกายาติ อุพฺพหนฺติ วิโยเชนฺติ เอตาย อลชฺชีนํ ตชฺชนึ วา กลหํ วาติ อุพฺพาหิกา, สงฺฆสมฺมุติ, ตาย. วินิจฺฉินนํ นาม ตาย สมฺมตภิกฺขูหิ วินิจฺฉินนเมว. อลชฺชุสฺสนฺนาย หิ ปริสาย สมถกฺขนฺธเก อาคเตหิ ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู ตตฺเถว วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๑-๒๓๒) –

‘‘เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตสฺมึ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ วิฺายติ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอวรูปํ อธิกรณํ อุพฺพาหิกาย วูปสเมตุํ. ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ, สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ , พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, วินเย โข ปน เฉโก โหติ อสํหีโร, ปฏิพโล โหติ อุโภ อตฺถปจฺจตฺถิเก อสฺสาเสตุํ สฺาเปตุํ นิชฺฌาเปตุํ เปกฺเขตุํ ปสฺสิตุํ ปสาเทตุํ, อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล โหติ, อธิกรณํ ชานาติ, อธิกรณสมุทยํ ชานาติ, อธิกรณนิโรธํ ชานาติ, อธิกรณนิโรธคามินิปฏิปทํ ชานาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตุํ.

‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ อิมสฺมึ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ วิฺายติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามฺจ อิตฺถนฺนามฺจ ภิกฺขุํ สมฺมนฺเนยฺย อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ อิมสฺมึ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ วิฺายติ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามฺจ อิตฺถนฺนามฺจ ภิกฺขุํ สมฺมนฺนติ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส จ อิตฺถนฺนามสฺส จ ภิกฺขุโน สมฺมุติ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

เตหิ จ สมฺมเตหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา ตสฺสา เอว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตพฺพํ. ตุมฺหากนฺติ จุทิตกโจทเก สนฺธาย วุตฺตํ.

‘‘กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ. กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสีติ กิมฺหิ นนฺติ วจนมฺปิ น ชานาสิ. นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพติ นาสฺส ปุจฺฉา ปฏิปุจฺฉา ทาตพฺพา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตํ, วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๓๘๖) ปน – กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ, กตรวิปตฺติยนฺติ อตฺโถ. กิมฺหิ นํ นามาติ อิทํ ‘‘กตราย วิปตฺติยา เอตํ โจเทสี’’ติ ยาย กายจิ วิฺายมานาย ภาสาย วุตฺเตปิ โจทกสฺส วินเย อปกตฺุตาย ‘‘สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีสุ กตรายาติ มํ ปุจฺฉตี’’ติ วิฺาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปุจฺฉา, น ปน ‘‘กิมฺหี’’ติอาทิปทตฺถมตฺตํ อชานนฺตสฺส. น หิ อนุวิชฺชโก โจทกํ พาลํ อปริจิตภาสาย ‘‘กิมฺหิ น’’นฺติ ปุจฺฉติ. กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสีติ อิทมฺปิ วจนมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ. ‘‘กตรวิปตฺติยา’’ติ วุตฺเต ‘‘อสุกาย วิปตฺติยา’’ติ วตฺตุมฺปิ ‘‘น ชานาสี’’ติ วจนสฺส อธิปฺปายเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ’’ติ.

‘‘ตสฺส นโย ทาตพฺโพ’’ติ ตสฺสาติ พาลสฺส ลชฺชิสฺส. ‘‘ตสฺส นโย ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา จ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสีติ สีลวิปตฺติยา’’ติอาทิ อธิปฺปายปฺปกาสนเมว นยทานํ วุตฺตํ, น ปน กิมฺหิ-นํ-ปทานํปริยายมตฺตทสฺสนํ. น หิ พาโล ‘‘กตรวิปตฺติยํ นํ โจเทสี’’ติ อิมสฺส วจนสฺส อตฺเถ าเตปิ วิปตฺติปฺปเภทํ, อตฺตนา โจทิยมานํ วิปตฺติสรูปฺจ ชานิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา เตเนว อชานเนน อลชฺชี อปสาเทตพฺโพ. กิมฺหิ นนฺติ อิทมฺปิ อุปลกฺขณมตฺตํ. อฺเน วา เยน เกนจิ อากาเรน อวิฺุตํ ปกาเสตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพว. ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทิวจนโต ‘‘อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย…เป… ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอหิตีติ เอติ, หิ-กาโร เอตฺถ อาคโม ทฏฺพฺโพ, อาคมิสฺสตีติ อตฺโถ. ทิฏฺสนฺตาเนนาติ ทิฏฺนิยาเมน. อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพนฺติ วจนปฏิวจนกฺกเมเนว โทเส อาวิภูเตปิ อลชฺชิสฺส ‘‘อสุทฺโธ อห’’นฺติ โทสสมฺปฏิจฺฉนปฏิฺาย เอว อาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อลชฺชิสฺส เอตํ นตฺถีติ สุทฺธปฏิฺาย เอว อนาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ สงฺคหิโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อนุวิชฺชกสฺเสว นิรตฺถกตฺตาปตฺติโต, โจทเกเนว อลชฺชิปฏิฺาย าตพฺพโต. โทโสปคมปฏิฺา เอว หิ อิธ ปฏิฺาติ อธิปฺเปตา, เตเนว วกฺขติ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถีติ ปฏิฺํ น เทตี’’ติอาทิ.

ตทตฺถทีปนตฺถนฺติ อลชฺชิสฺส โทเส อาวิภูเตปิ ตสฺส โทโสปคมปฏิฺาย เอว กาตพฺพตาทีปนตฺถํ. วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อตฺเถ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปจฺจตฺถิกา. สฺํ ทตฺวาติ เตสํ กถาปจฺเฉทตฺถํ อภิมุขกรณตฺถฺจ สทฺทํ กตฺวา. วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโกติ อสุทฺโธติ สฺาย โจทกปกฺเข ปวิฏฺตฺตา อนุวิชฺชกภาวโต พหิภูตตฺตา อนุวิชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สนฺเทเห เอว หิ สติ อนุวิชฺชิตุํ สกฺกา, อสุทฺธลทฺธิยา ปน สติ จุทิตเกน วุตฺตํ สพฺพํ อสจฺจโตปิ ปฏิภาติ, กถํ ตตฺถ อนุวิชฺชนา สิยาติ.

ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสตีติ อิมินา วินิจฺฉยมฺปิ อทตฺวา สงฺฆโต วิโยชนํ นาม ลิงฺคนาสนา วิย อยมฺปิ เอโก นาสนปฺปกาโรติ ทสฺเสติ. เอกสมฺโภคปริโภคาติ อิทํ อตฺตโน สนฺติกา เตสํ วิโมจนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน เตสํ อฺมฺสมฺโภเค โยชนตฺถํ.

วิรทฺธํ โหตีติ สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ. อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถีติ อิทํ ‘‘ปกฺขานํ อนุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทตี’’ติ อิมสฺส อลชฺชีลกฺขณสมฺภวสฺส กรณวจนํ. ปฏิจฺฉาทิตกาลโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม เอว, ปุริโม ลชฺชิภาโว น รกฺขตีติ อตฺโถ. ปฏิฺํ น เทตีติ ‘‘สเจ มยา กตโทสํ วกฺขามิ, มยฺหํ อนุวตฺตกา ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. าเน น ติฏฺตีติ ลชฺชิฏฺาเน น ติฏฺติ, กายวาจาสุ วีติกฺกโม โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ’’ติ, ปุพฺเพ ปกฺขิกานํ ปฏิฺาย วูปสมิตสฺสปิ อธิกรณสฺส ทุวูปสนฺตตาย อยมฺปิ ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย.

๒๓๒. อทินฺนาทานวตฺถุํ วินิจฺฉินนฺเตน ปฺจวีสติ อวหารา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพาติ เอตฺถ ปฺจวีสติ อวหารา นาม ปฺจ ปฺจกานิ, ตตฺถ ปฺจ ปฺจกานิ นาม นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ กงฺขาวิตรณิยํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) ‘‘เต ปน อวหารา ปฺจ ปฺจกานิ สโมธาเนตฺวา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา’’ติอาทิ. ตตฺถ นานาภณฺฑปฺจกเอกภณฺฑปฺจกานิ ปทภาชเน (ปารา. ๙๒) วุตฺตานํ ‘‘อาทิเยยฺย, หเรยฺย, อวหเรยฺย, อิริยาปถํ วิโกเปยฺย, านา จาเวยฺยา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ลพฺภนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ โปราเณหิ –

‘‘อาทิยนฺโต หรนฺโตว;

หรนฺโต อิริยาปถํ;

วิโกเปนฺโต ตถา านา;

จาเวนฺโตปิ ปราชิโก’’ติ.

ตตฺถ นานาภณฺฑปฺจกํ สวิฺาณกอวิฺาณกวเสน ทฏฺพฺพํ, อิตรํ สวิฺาณกวเสเนว. กถํ? อาทิเยยฺยาติ อารามํ อภิยุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. หเรยฺยาติ อฺสฺส ภณฺฑํ หรนฺโต สีเส ภารํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. ขนฺธํ โอโรเปติ, ปาราชิกํ. อวหเรยฺยาติ อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, ทุกฺกฏํ. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, ถุลฺลจฺจยํ. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ปาราชิกํ. อิริยาปถํ วิโกเปยฺยาติ ‘‘สหภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ถุลฺลจฺจยํ. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. านา จาเวยฺยาติ ถลฏฺํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. เอวํ ตาว นานาภณฺฑปฺจกํ เวทิตพฺพํ. สสฺสามิกสฺส ปน ทาสสฺส วา ติรจฺฉานคตสฺส วา ยถาวุตฺเตน อภิโยคาทินา นเยน อาทิยนหรณ อวหรณ อิริยาปถวิโกปน านาจาวนวเสน เอกภณฺฑปฺจกํ เวทิตพฺพํ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ตตฺถ นาเนกภณฺฑานํ, ปฺจกานํ วสา ปน;

อาทิยนาทิปฺจกา, ทุวิธาติ อุทีริตา’’ติ.

กตมํ สาหตฺถิกปฺจกํ? สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย อตฺถสาธโก ธุรนิกฺเขโปติ. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘สาหตฺถาณตฺติโก เจว, นิสฺสคฺคิโยตฺถสาธโก;

ธุรนิกฺเขปโก จาติ, อิทํ สาหตฺถปฺจก’’นฺติ.

ตตฺถ สาหตฺถิโก นาม ปรสฺส ภณฺฑํ สหตฺถา อวหรติ. อาณตฺติโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปติ. นิสฺสคฺคิโย นาม สุงฺกฆาตปริกปฺปิโตกาสานํ อนฺโต ตฺวา พหิ ปาตนํ. อตฺถสาธโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา ตํ อวหรา’’ติ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ , หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. ธุรนิกฺเขโป ปน อารามาภิโยคอุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพ. ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานิ อเทนฺตสฺสปิ เอเสว นโยติ อิทํ สาหตฺถิกปฺจกํ.

กตมํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ? ปุพฺพปโยโค สหปโยโค สํวิทาวหาโร สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺตกมฺมนฺติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ปุพฺพสหปโยโค จ, สํวิทาหรณํ ตถา;

สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺตํ, อิทํ สาหตฺถปฺจก’’นฺติ.

ตตฺถ อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ. านาจาวนวเสน, ขิลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ. สํวิทาวหาโร นาม ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สมฺมนฺตยิตฺวา อวหรณํ. เอวํ สํวิทหิตฺวา คเตสุ หิ เอเกนปิ ตสฺมึ ภณฺเฑ านา จาวิเต สพฺเพสํ อวหาโร โหติ. สงฺเกตกมฺมํ นาม สฺชานนกมฺมํ. สเจ หิ ปุเรภตฺตาทีสุ ยํ กิฺจิ กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ กาเล อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ วุตฺโต สงฺเกตโต อปจฺฉา อปุเร ตํ อวหรติ, สงฺเกตการกสฺส สงฺเกตกรณกฺขเณเยว อวหาโร. นิมิตฺตกมฺมํ นาม สฺุปฺปาทนตฺถํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกรณํ . สเจ หิ เอวํ กตนิมิตฺตโต อปจฺฉา อปุเร ‘‘ยํ อวหรา’’ติ วุตฺโต, ตํ อวหรติ, นิมิตฺตการกสฺส นิมิตฺตกฺขเณเยว อวหาโรติ อิทํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ.

กตมํ เถยฺยาวหารปฺจกํ? เถยฺยาวหาโร ปสยฺหาวหาโร ปริกปฺปาวหาโร ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร กุสาวหาโรติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘เถยฺยา ปสยฺหา ปริกปฺปา, ปฏิจฺฉนฺนา กุสา ตถา;

อวหารา อิเม ปฺจ, เถยฺยาวหารปฺจก’’นฺติ.

ตตฺถ โย สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, กูฏตุลากูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วา วฺเจตฺวา คณฺหาติ, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร เถยฺยาวหาโรติ เวทิตพฺโพ. โย ปน ปสยฺห พลกฺกาเรน ปเรสํ สนฺตกํ คณฺหาติ คามฆาตกาทโย วิย, อตฺตโน ปตฺตพลิโต วา วุตฺตนเยเนว อธิกํ คณฺหาติ ราชภฏาทโย วิย, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ปสยฺหาวหาโรติ เวทิตพฺโพ. ปริกปฺเปตฺวา คหณํ ปน ปริกปฺปาวหาโร นาม.

โส ภณฺโฑกาสสฺส วเสน ทุวิโธ. ตตฺรายํ ภณฺฑปริกปฺโป – สาฏกตฺถิโก อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ. สเจ สุตฺตํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อนฺธกาเร ปสิพฺพกํ คณฺหาติ. ตตฺร เจ สาฏโก โหติ, อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. สุตฺตฺเจ โหติ, รกฺขติ. พหิ นีหริตฺวา มุฺจิตฺวา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา ปุน อาหริตฺวา เปติ, รกฺขติเยว. ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวาปิ ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ คจฺฉติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ภูมิยํ เปตฺวา คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘โจโร โจโร’’ติ อนุพนฺโธ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายติ, รกฺขติ. สามิกา ทิสฺวา คณฺหนฺติ, รกฺขติเยว. อฺโ เจ คณฺหาติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สามิเกสุ นิวตฺตนฺเตสุ สยํ ทิสฺวา ปํสุกูลสฺาย ‘‘ปเคเวตํ มยา คหิตํ, มม ทานิ สนฺตก’’นฺติ คณฺหนฺตสฺสปิ ภณฺฑเทยฺยเมว. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ภณฺฑปริกปฺโป นาม. โอกาสปริกปฺโป ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – เอกจฺโจ ปน ปรปริเวณาทีนิ ปวิฏฺโ กิฺจิ โลภเนยฺยภณฺฑํ ทิสฺวา คพฺภทฺวารปมุขเหฏฺา ปาสาททฺวารโกฏฺกรุกฺขมูลาทิวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา วิจรนฺโต วิย ทสฺสามิ. โน เจ ปสฺสิสฺสนฺติ , หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปติ, ตสฺส ตํ อาทาย ปริกปฺปิตปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตมตฺเต อวหาโร โหติ. อิติ ยฺวายํ วุตฺตนเยเนว ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ โอกาสปริกปฺโป นาม. เอวมิเมสํ ทฺวินฺนํ ปริกปฺปานํ วเสน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหโต อวหาโร ปริกปฺปาวหาโรติ เวทิตพฺโพ.

ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปน อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร. โส เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ อุยฺยานาทีสุ ปเรสํ โอมุฺจิตฺวา ปิตํ องฺคุลิมุทฺทิกาทึ ทิสฺวา ‘‘ปจฺฉา คณฺหิสฺสามี’’ติ ปํสุนา วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส เอตฺตาวตา อุทฺธาโร นตฺถีติ น ตาว อวหาโร โหติ. ยทา ปน สามิกา วิจินนฺตา อปสฺสิตฺวา ‘‘สฺเว ชานิสฺสามา’’ติ สาลยาว คตา โหนฺติ, อถสฺส ตํ อุทฺธรโต อุทฺธาเร อวหาโร. ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกาเลเยว เอตํ มม สนฺตก’’นฺติ สกสฺาย วา ‘‘คตาทานิ เต, ฉฑฺฑิตภณฺฑํ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺตสฺส ปน ภณฺฑเทยฺยํ. เตสุ ทุติยตติยทิวเส อาคนฺตฺวา วิจินิตฺวา อทิสฺวา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คเตสุปิ คหิตํ ภณฺฑเทยฺยเมว. ปจฺฉา ตฺวา โจทิยมานสฺส อททโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเป อวหาโร โหติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺส ปโยเคน เตหิ น ทิฏฺํ. โย ปน ตถารูปํ ภณฺฑํ ยถาาเน ิตํเยว อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา เถยฺยจิตฺโต ปาเทน อกฺกมิตฺวา กทฺทเม วา วาลิกาย วา ปเวเสติ, ตสฺส ปเวสิตมตฺเตเยว อวหาโร.

กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปน อวหรณํ กุสาวหาโร นาม. โสปิ เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ วิลีวมยํ วา ตาลปณฺณมยํ วา กตสฺาณํ ยํ กิฺจิ กุสํ ปาเตตฺวา จีวเร ภาชิยมาเน อตฺตโน โกฏฺาสสฺส สมีเป ิตํ สมคฺฆตรํ วา มหคฺฆตรํ วา สมสมํ วา อคฺเฆน ปรสฺส โกฏฺาสํ หริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสํ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตตุกามตาย อุทฺธรติ, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส โกฏฺาเส ปาติเต รกฺขเตว. ยทา ปน ตสฺมึ ปติเต ปรสฺส โกฏฺาสโต ปรสฺส กุสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏมตฺเต อวหาโร. สเจ ปมตรํ ปรสฺส โกฏฺาสโต กุสํ อุทฺธรติ, อตฺตโน โกฏฺาเส ปาเตตุกามตาย อุทฺธาเร รกฺขติ, ปาตเนปิ รกฺขติ. อตฺตโน โกฏฺาสโต ปน อตฺตโน กุสํ อุทฺธรโต อุทฺธาเรเยว รกฺขติ, ตํ อุทฺธริตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาเตนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต อวหาโร โหติ, อยํ กุสาวหาโร. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) คเหตพฺโพ.

ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวา.

สามีจีติ วตฺตํ, อาปตฺติ ปน นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

มหาชนสมฺมทฺโทติ มหาชนสงฺโขโภ. ภฏฺเ ชนกาเยติ อปคเต ชนกาเย. ‘‘อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ กึ การณา เอวมาห? จีวรสฺสามิเกน ธุรนิกฺเขโป กโต, ตสฺมา ตสฺส อทินฺนํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. อวหารโกปิ วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย จีวรสฺสามิกํ ปริเยสนฺโต วิจรติ ‘‘ทสฺสามี’’ติ, จีวรสฺสามิเกน จ ‘‘มเมต’’นฺติ วุตฺเต เอเตนปิ อวหารเกน อาลโย ปริจฺจตฺโต, ตสฺมา เอวมาห. ยทิ เอวํ จีวรสฺสามิโกเยว ‘‘อตฺตโน สนฺตกํ คณฺหาหี’’ติ กสฺมา น วุตฺโตติ? อุภินฺนํ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ. กถํ? อวหารกสฺส ‘‘มยา สหตฺเถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยเมต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺย , อิตรสฺส ‘‘มยา ปมํ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ.

สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํ.

ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติ. มยิ สนฺเตติอาทิ สพฺพํ รฺา ปสาเทน วุตฺตํ, เถเรน ปน ‘‘อนนุจฺฉวิกํ กต’’นฺติ น มฺิตพฺพํ.

เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา ภณฺฑสฺสามินา กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา. สพฺพํ ปเนตํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. ปาสาณฺจ สกฺขรฺจ ปาสาณสกฺขรํ.

‘‘ธาเรยฺย อตฺถํ วิจกฺขโณ’’ติ อิมสฺเสว วิวรณํ ‘‘อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา’’ติอาทิ. ‘‘สิกฺขาปทํ สมํ เตนา’’ติ อิโต ปุพฺเพ เอกา คาถา –

‘‘ทุติยํ อทุติเยน, ยํ ชิเนน ปกาสิตํ;

ปราชิตกิเลเสน, ปาราชิกปทํ อิธา’’ติ.

ตาย สทฺธึ ฆเฏตฺวา อทุติเยน ปราชิตกิเลเสน ชิเนน ทุติยํ ยํ อิทํ ปาราชิกปทํ ปกาสิตํ, อิธ เตน สมํ อเนกนยโวกิณฺณํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ อฺํ กิฺจิ สิกฺขาปทํ น วิชฺชตีติ โยชนา. ตตฺถ ปราชิตกิเลเสนาติ สนฺตาเน ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเน จตูหิ มคฺคาเณหิ สห วาสนาย สมุจฺฉินฺนสพฺพกิเลเสน. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๑๕๙) ปน ‘‘ปราชิตกิเลเสนาติ วิชิตกิเลเสน, นิกิเลเสนาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน.

เตนาติ เตน ทุติยปาราชิกสิกฺขาปเทน. อตฺโถ นาม ปาฬิอตฺโถ. วินิจฺฉโย นาม ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย. อตฺโถ จ วินิจฺฉโย จ อตฺถวินิจฺฉยา, เต คมฺภีรา ยสฺมินฺติ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ. วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณติ โจทนาวเสน วา อตฺตนาว อตฺตโน วีติกฺกมาโรจนวเสน วา สงฺฆมชฺเฌ อทินฺนาทานวตฺถุสฺมึ โอติณฺเณ. เอตฺถาติ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ. วินิจฺฉโยติ อาปตฺตานาปตฺตินิยมนํ. อวตฺวาวาติ ‘‘ตฺวํ ปาราชิกํ อาปนฺโน’’ติ อวตฺวาว. กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมินฺติ อตฺตนา คเหตุํ กปฺปิเย มาตุปิตุอาทิสนฺตเกปิ วตฺถุสฺมึ. ลหุวตฺติโนติ เถยฺยจิตฺตุปฺปาเทน ลหุปริวตฺติโน. อาสีวิสนฺติ สีฆเมว สกลสรีเร ผรณสมตฺถวิสํ.

๒๓๓. ปกติมนุสฺเสหิ อุตฺตริตรานํ พุทฺธาทิอุตฺตมปุริสานํ อธิคมธมฺโมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม, ตสฺส ปเรสํ อาโรจนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ. ตํ วินิจฺฉินนฺเตน ฉ านานิ โสเธตพฺพานีติ โยชนา. ตตฺถ กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา. กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลสปุจฺฉา. กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา. อิทานิ ตเมว ฉฏฺานวิโสธนํ วิตฺถาเรตุมาห ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน พฺยากรณวจนมตฺเตน น สกฺกาโร กาตพฺโพ. พฺยากรณฺหิ เอกสฺส อยาถาวโตปิ โหตีติ. อิเมสุ ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ เอวํ วตฺตพฺโพติ ยถา นาม ชาตรูปปติรูปกมฺปิ ชาตรูปํ วิย ขายตีติ ชาตรูปํ นิฆํสนตาปนเฉทเนหิ โสเธตพฺพํ, เอวเมว อิทาเนว วุตฺเตสุ ฉสุ าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ. วิโมกฺขาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สมาปตฺติาณทสฺสนมคฺคภาวนาผลสจฺฉิกิริยาทึ สงฺคณฺหาติ. ปากโฏ โหติ อธิคตวิเสสสฺส สติสมฺโมสาภาวโต. เสสปุจฺฉาสุปิ ‘‘ปากโฏ โหตี’’ติ ปเท เอเสว นโย.

สพฺเพสฺหิอตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนา กิเลสา ปากฏา โหนฺตีติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. กสฺสจิ หิ อตฺตนา อธิคตมคฺควชฺฌกิเลเสสุ สนฺเทโห อุปฺปชฺชติเยว มหานามสฺส สกฺกสฺส วิย. โส หิ สกทาคามี สมาโนปิ ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – โก สุ นาม เม ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อปฺปหีโน, เยน เม เอกทา โลภธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โทสธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โมหธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๗๕) ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. อยํ กิร ราชา สกทาคามิมคฺเคน โลภโทสโมหา นิรวเสสา ปหียนฺตีติ สฺี อโหสีติ.

ยาย ปฏิปทาย ยสฺส อริยมคฺโค อาคจฺฉติ, สา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติ อาคมนปฏิปทา. โสเธตพฺพาติ สุทฺธา, อุทาหุ น สุทฺธาติ วิจารณวเสน โสเธตพฺพา. ‘‘น สุชฺฌตีติ ตตฺถ ตตฺถ ปมาทปฏิปตฺติสมฺภวโต. อปเนตพฺโพติ อตฺตโน ปฏิฺาย อปเนตพฺโพ’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๑๙๗-๑๙๘). วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๑๙๗) ปน ‘‘น สุชฺฌตีติ ปุจฺฉิยมาโน ปฏิปตฺติกฺกมํ อุลฺลงฺฆิตฺวา กเถสิ. อปเนตพฺโพติ ตยา วุตฺตกฺกเมนายํ ธมฺโม น สกฺกา อธิคนฺตุนฺติ อธิคตมานโต อปเนตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุชฺฌตี’’ติ วตฺวา สุชฺฌนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทีฆรตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฺายตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ยที’’ติ ปทํ อาเนตฺวา ยทิ โส ภิกฺขุ ตาย ปฏิปทาย ปฺายตีติ สมฺพนฺโธ. จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺคตฺตา ‘‘อากาเส ปาณิสเมน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตสทิสํ พฺยากรณํ โหตีติ โยชนา. ตตฺถ วุตฺตสทิสนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเตน สทิสํ, สมนฺติ อตฺโถ. ขีณาสวสฺส ปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปตฺติ โหตีติ ทีฆรตฺตํ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสตฺตา, อิทฺจ อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ขีณาสวสฺส นามา’’ติอาทิ. ขีณาสวสฺส นาม…เป… น โหตีติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา, ชีวิตนิกนฺติยา จ อภาวโต น โหติ, ปุถุชฺชนสฺส ปน อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชีวิตนิกนฺติสพฺภาวโต จ อปฺปมตฺตเกนปิ โหติ, เอวํ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสสฺส วตฺตนเสกฺขธมฺมปฏิชานนํ อิมินา ภยุปฺปาทเนน, อมฺพิลาทิทสฺสเน เขฬุปฺปาทาทินา จ น สกฺกา วีมํสิตุํ, ตสฺมา ตสฺส วจเนเนว ตํ สทฺธาตพฺพํ.

อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณติ อิทํ น เกวลํ อภายนกเมว สนฺธาย วุตฺตํ เอกจฺจสฺส สูรชาติกสฺส ปุถุชฺชนสฺสปิ อภายนโต, รชฺชนียารมฺมณานํ พทรสาฬวาทิอมฺพิลมทฺทนาทีนํ อุปโยชเนปิ เขฬุปฺปาทาทิตณฺหุปฺปตฺติรหิตํ สพฺพถา สุวิโสธิตเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๒๓๔. ‘‘นีหริตฺวาติ สาสนโต นีหริตฺวา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ, วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘นีหริตฺวาติ ปาฬิโต อุทฺธริตฺวา’’ติ. ตถา หิ ‘‘ปฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุฺชิตพฺพํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติอาทิปาฬิโต (ปริ. ๔๔๒) สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ นีหรึสุ, ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต อาจริยวาทํ, ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห ‘อนาปตฺติ อาวุโส สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. ๗๘) เอวมาทิโต อตฺตโนมตึ นีหรึสุ. สา จ เถรสฺส อตฺตโนมติ สุตฺเตน สงฺคหิตตฺตา สุตฺตํ ชาตํ, เอวมฺาปิ สุตฺตาทีหิ สงฺคหิตาว คเหตพฺพา, เนตราติ เวทิตพฺพํ. อถ วา นีหริตฺวาติ วิภชิตฺวา, สาฏฺกถํ สกลํ วินยปิฏกํ สุตฺตาทีสุ จตูสุ ปเทเสสุ ปกฺขิปิตฺวา จตุธา วิภชิตฺวา วินยํ ปกาเสสุํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. วชิรพุทฺธิฏีกายมฺปิ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๕) ‘‘นีหริตฺวาติ เอตฺถ สาสนโต นีหริตฺวาติ อตฺโถ…เป… ตาย หิ อตฺตโนมติยา เถโร เอตทคฺคฏฺปนํ ลภติ. อปิจ วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘อนุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วา อปฺตฺเตน วา วุจฺจมาโน…เป… อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ. ตตฺถ หิ ปฺตฺตํ นาม สุตฺตํ, เสสตฺตยํ อปฺตฺตํ นาม. เตนายํ ‘จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา’ติ คาถา สุวุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

วุตฺตนฺติ มิลินฺทปฺเห นาคเสนตฺเถเรน วุตฺตํ. ปชฺชเต อเนน อตฺโถติ ปทํ, ภควตา กณฺาทิวณฺณุปฺปตฺติฏฺานํ อาหจฺจ วิเสเสตฺวา ภาสิตํ ปทํ อาหจฺจปทํ, ภควโตเยว วจนํ. เตนาห ‘‘อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปต’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘กณฺาทิวณฺณุปฺปตฺติฏฺานกรณาทีหิ นีหริตฺวา อตฺตโน วจีวิฺตฺติยาว ภาสิตํ วจนํ อาหจฺจปท’’นฺติ วุตฺตํ. วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๕) ปน ‘‘อฏฺ วณฺณฏฺานานิ อาหจฺจ วุตฺเตน ปทนิกาเยนาติ อตฺโถ, อุทาหเฏน กณฺโกฺกนฺเตน ปทสมูเหนาติ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ เอวํ อวิเสเสตฺวา ‘‘ยํ ภิกฺขเว มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ , ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๐๕) วุตฺตสามฺลกฺขณํ อิธ รโสติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘รโสติ สุตฺตานุโลม’’นฺติ. รโสติ สาโร ‘‘ปตฺตรโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๐) วิย, ปฏิกฺขิตฺตานุฺาตสุตฺตสาโรติ อตฺโถ. รโสติ วา ลกฺขณํ ปฏิวตฺถุกํ อนุทฺธริตฺวา ลกฺขณานุโลเมน วุตฺตตฺตา. รเสนาติ ตสฺส อาหจฺจภาสิตสฺส รเสน, ตโต อุทฺธเฏน วินิจฺฉเยนาติ อตฺโถ. สุตฺตฉายา วิย หิ สุตฺตานุโลมนฺติ. ธมฺมสงฺคาหกปภุติอาจริยปรมฺปรโต อานีตา อฏฺกถาตนฺติ อิธ ‘‘อาจริยวํโส’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติ, อาจริยวาโท ‘‘อาจริยวํโส’’ติ วุตฺโต ปาฬิยํ วุตฺตานํ อาจริยานํ ปรมฺปราย อาภโตว ปมาณนฺติ ทสฺสนตฺถํ. อธิปฺปาโยติ การโณปปตฺติสิทฺโธ อุหาโปหนยปวตฺโต ปจฺจกฺขาทิปมาณปติรูปโก. อธิปฺปาโยติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโนมตี’’ติ เกจิ อตฺถํ วทนฺติ.

วินยปิฏเก ปาฬีติ อิธ อธิการวเสน วุตฺตํ, เสสปิฏเกสุปิ สุตฺตาทิจตุนยา ยถานุรูปํ ลพฺภนฺเตว.

‘‘มหาปเทสาติ มหาโอกาสา. มหนฺตานิ วินยสฺส ปติฏฺาปนฏฺานานิ, เยสุ ปติฏฺาปิโต วินโย วินิจฺฉินียติ อสนฺเทหโต, มหนฺตานิ วา การณานิ มหาปเทสา, มหนฺตานิ วินยวินิจฺฉยการณานีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถโต ปน ‘ยํ ภิกฺขเว’ติอาทินา วุตฺตาสาธิปฺปายา ปาฬิเยว มหาปเทสาติ วทนฺติ. เตเนวาห ‘เย ภควตา เอวํ วุตฺตา’ติอาทิ. อิเม จ มหาปเทสา ขนฺธเก อาคตา, ตสฺมา เตสํ วินิจฺฉยกถา ตตฺเถว อาวิ ภวิสฺสตีติ อิธ น วุจฺจตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘มหาปเทสาติ มหาโอกาสา มหาวิสยา, เต อตฺถโต ‘ยํ ภิกฺขเวติอาทิปาฬิวเสน อกปฺปิยานุโลมโต กปฺปิยานุโลมโต จ ปุคฺคเลหิ นยโต ตถา ตถา คยฺหมานา อตฺถนยา เอว. เต หิ ภควตา สรูปโต อวุตฺเตสุปิ ปฏิกฺขิตฺตานุโลเมสุ อนุฺาตานุโลเมสุ จ เสเสสุ กิจฺเจสุ นิวตฺติปวตฺติเหตุตาย มหาโคจราติ ‘มหาปเทสา’ติ วุตฺตา, น ปน ‘ยํ ภิกฺขเว มยา อิทํ น กปฺปตี’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว ตสฺสา สุตฺเต ปวิฏฺตฺตา. ‘สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ…เป… สุตฺตเมว พลวตร’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) หิ วุตฺตํ. น เหสา สาธิปฺปายา ปาฬิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา, น คเหตพฺพา วา โหติ. เยนายํ สุตฺตานุโลมํ สิยา, ตสฺมา อิมํ ปาฬิอธิปฺปายํ นิสฺสาย ปุคฺคเลหิ คหิตา ยถาวุตฺตอตฺถาว สุตฺตานุโลมํ, ตํปกาสกตฺตา ปน อยํ ปาฬิปิ สุตฺตานุโลมนฺติ คเหตพฺพํ. เตนาห ‘เย ภควตา เอวํ วุตฺตา’ติอาทิ. ‘ยํ ภิกฺขเว’ติอาทิปาฬินเยน หิ ปุคฺคเลหิ คหิตพฺพา เย อกปฺปิยานุโลมาทโย อตฺถา วุตฺตา, เต มหาปเทสาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ.

วชิรพุทฺธิฏีกายมฺปิ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๕) ‘‘ปริวารฏฺกถายํ อิธ จ กิฺจาปิ ‘สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา’ติ วุตฺตํ, อถ โข มหาปเทสนยสิทฺธํ ปฏิกฺขิตฺตาปฏิกฺขิตฺตํ อนุฺาตานนุฺาตํ กปฺปิยากปฺปิยนฺติ อตฺถโต วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ‘านํ โอกาโส ปเทโสติ การณเววจนานิ ‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส’ติอาทิ สาสนโต, ‘นิคฺคหฏฺาน’นฺติ จ ‘อสนฺทิฏฺิฏฺาน’นฺติ จ ‘อสนฺทิฏฺิ จ ปน ปเทโส’ติ จ โลกโต, ตสฺมา มหาปเทสาติ มหาการณานีติ อตฺโถ. การณํ นาม าปโก เหตุ อิธาธิปฺเปตํ, มหนฺตภาโว ปน เตสํ มหาวิสยตฺตา มหาภูตานํ วิย. เต ทุวิธา วินยมหาปเทสา สุตฺตนฺติกมหาปเทสา จาติ. ตตฺถ วินยมหาปเทสา วินเย โยคํ คจฺฉนฺติ, อิตเร อุภยตฺถาปิ, เตเนว ปริวาเร (ปริ. ๔๔๒) อนุโยควตฺเต ‘ธมฺมํ น ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ น ชานาตี’ติ’’ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมนฺติ เปตฺวา วินยปิฏกํ อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ, ธมฺมานุโลมนฺติ สุตฺตนฺติเก จตฺตาโร มหาปเทเสติอาทิ.

ยทิ สาปิ ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตา ปกิณฺณกเทสนาว อฏฺกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปมํ ตีณิ ปิฏกานิ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถวณฺณนานุรูเปเนว วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุจฺจติ ‘‘อาจริยา วทนฺติ สํวณฺเณนฺติ ปาฬึ เอเตนา’’ติ กตฺวา. เตนาห ‘‘อาจริยวาโท นาม…เป… อฏฺกถาตนฺตี’’ติ. ติสฺโส หิ สงฺคีติโย อารุฬฺโหเยว พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค มหามหินฺทตฺเถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภโต, ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ปิโต นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรปริหรณตฺถํ. ภควโต ปกิณฺณกเทสนาภูตา จ สุตฺตานุโลมภูตา จ อฏฺกถา ยสฺมา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปาฬิวณฺณนากฺกเมน สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ตสฺมา อาจริยวาโทติ วุตฺตา. เอเตน จ อฏฺกถา สุตฺตสุตฺตานุโลเมสุ อตฺถโต สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ เอสา, เอวํ อตฺตโนมติปิ ปมาณภูตา. น หิ ภควโต วจนํ วจนานุโลมฺจ อนิสฺสาย อคฺคสาวกาทโยปิ อตฺตโน าณพเลน สุตฺตาภิธมฺมวินเยสุ กิฺจิ สมฺมุติปรมตฺถภูตํ อตฺถํ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ วจนํ สุตฺเต สุตฺตานุโลเม จ สงฺคยฺหติ. วิสุํ ปน อฏฺกถาทีนํ สงฺคหิตตฺตา ตทวเสสํ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต คเหตฺวา จตุธา วินโย นิทฺทิฏฺโ.

กิฺจาปิ อตฺตโนมติ สุตฺตาทีหิ สํสนฺทิตฺวาว ปริกปฺปียติ, ตถาปิ สา น สุตฺตาทีสุ วิเสสโต นิทฺทิฏฺาติ อาห ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุฺจิตฺวา’’ติ. อนุพุทฺธิยาติ สุตฺตาทีนิเยว อนุคตพุทฺธิยา. นยคฺคาเหนาติ สุตฺตาทิโต ลพฺภมานนยคฺคหเณน. อตฺตโนมตึ สามฺโต ปมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเมว วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสู’’ติ วจนโต ปิฏกตฺตยสฺสปิ สาธารณา เอสา กถาติ เวทิตพฺพา. เถรวาโทติ มหาสุมตฺเถราทีนํ คาโห. อิทานิ ตตฺถ ปฏิปชฺชิตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อตฺเถนาติ อตฺตนา นยโต คหิเตน อตฺเถน. ปาฬินฺติ อตฺตโน คาหสฺส นิสฺสยภูตํ สาฏฺกถํ ปาฬึ. ปาฬิยาติ ตปฺปฏิกฺเขปตฺถํ ปเรนาภตาย สาฏฺกถาย ปาฬิยา, อตฺตนา คหิตํ อตฺถํ นิสฺสาย, ปาฬิฺจ สํสนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อาจริยวาเทติ อตฺตนา ปเรน จ สมุทฺธฏอฏฺกถาย. โอตาเรตพฺพาติ าเณน อนุปฺปเวเสตพฺพา. โอตรติ เจว สเมติ จาติ อตฺตนา อุทฺธเฏหิ สํสนฺทนวเสน โอตรติ, ปเรน อุทฺธเฏน สเมติ. สพฺพทุพฺพลาติ อสพฺพฺุปุคฺคลสฺส โทสวาสนาย ยาถาวโต อตฺถสมฺปฏิปตฺติอภาวโต วุตฺตํ.

ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยาติ อาห ‘‘อิตโร น คเหตพฺโพ’’ติ. สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ เย สุตฺเตน สํสนฺทนฺติ, เอวรูปาว อตฺถา มหาปเทสโต อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ ตถา ตถา อุทฺธฏอตฺถานํเยว สุตฺตานุโลมตฺตา. เตนาห ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ. อถ วา สุตฺตานุโลมสฺส สุตฺเตกเทสตฺเตปิ สุตฺเต วิย ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาหจฺจภาสิตํ กิฺจิ นตฺถีติ อาห ‘‘สุตฺตา…เป… พลวตร’’นฺติ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิพาหิยํ. การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํ. ‘‘พุทฺธานํ ิตกาลสทิส’’นฺติ อิมินา พุทฺธานํเยว กถิตธมฺมภาวํ ทสฺเสติ, ธรมานพุทฺธสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺเต หิ ปฏิพาหิเต พุทฺโธว ปฏิพาหิโต โหติ. ‘‘สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติ สกวาที อตฺตโน สุตฺตํ คเหตฺวา โวหรติ. ปรวาที สุตฺตานุโลมนฺติ อฺนิกายวาที อตฺตโน นิกาเย สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติอาทีสุ โย ยถาภูตมตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โส สกวาที. สุตฺตนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ ปาฬิวจนํ. ปรวาทีติ มหาวิหารวาสี วา โหตุ อฺนิกายวาสี วา, โย วิปรีตโต อตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โสว อิธ ‘ปรวาที’ติ วุตฺโต. สุตฺตานุโลมนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ วา อนารุฬฺหํ วา ยํ กิฺจิ วิปลฺลาสโต วา วฺจนาย วา ‘สงฺคีติตฺตยาคตมิท’นฺติ ทสฺสิยมานํ สุตฺตานุโลมํ. เกจิ ‘อฺนิกาเย สุตฺตานุโลม’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหสุตฺตาทีนเมว คเหตพฺพโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพ’นฺติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). น หิ สกวาที อฺนิกายสุตฺตาทึ ปมาณโต คณฺหาติ. เยน เตสุ สุตฺตาทีสุ ทสฺสิเตสุ ตตฺถ าตพฺพํ ภเวยฺย, วกฺขติ จ ‘ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ…เป… สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว าตพฺพ’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕), ตสฺมา ปรวาทินาปิ สงฺคีติตฺตเย อนารุฬฺหมฺปิ อนารุฬฺหมิจฺเจว ทสฺสียติ, เกวลํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตาทิโน สงฺคีติตฺตเย อนาคตสฺส กูฏตา, อาคตสฺส จ พฺยฺชนจฺฉายาย อฺถา อธิปฺปายโยชนา จ วิเสสา, ตตฺถ จ ยํ กูฏํ, ตํ อปนียติ. ยํ อฺถา โยชิตํ, ตํ ตสฺส วิปรีตตาทสฺสนตฺถํ ตทฺเน สุตฺตาทินา สํสนฺทนา กรียติ. โย ปน ปรวาทินา คหิโต อธิปฺปาโย สุตฺตนฺตาทินา สํสนฺทติ, โส สกวาทินาปิ อตฺตโน คาหํ วิสฺสชฺเชตฺวา คเหตพฺโพติ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยาคตเมว สุตฺตํ ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว กถาวตฺถุปกรเณ ‘สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจา’ติ, สุตฺตสหสฺสมฺปิ อธิปฺปายคฺคหณนานตฺเตน สงฺคีติตฺตยาคตเมว คหิตํ, น นิกายนฺตเร’’ติ วุตฺตํ.

วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๕) ปน ‘‘ปรวาทีติ อมฺหากํ สมยวิชานนโก อฺนิกายิโกติ วุตฺตํ. ปรวาที สุตฺตานุโลมนฺติ กถํ? ‘อฺตฺร อุทกทนฺตโปนา’ติ สุตฺตํ สกวาทิสฺส, ตทนุโลมโต นาฬิเกรผลสฺส อุทกมฺปิ อุทกเมว โหตีติ ปรวาที จ.

‘นาฬิเกรสฺส ยํ โตยํ, ปุราณํ ปิตฺตวฑฺฒนํ;

ตเมว ตรุณํ โตยํ, ปิตฺตฆํ พลวฑฺฒน’นฺติ. –

เอวํ ปรวาทินา วุตฺเต สกวาที ธฺผลสฺส คติกตฺตา, อาหารตฺถสฺส จ ผรณโต ‘ยาวกาลิกเมว ต’นฺติ วทนฺโต ปฏิกฺขิปตี’’ติ. เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวาติ ‘‘กึ อิมินา’’ติ เขปํ ปฏิกฺเขปํ ฉฑฺฑนํ วา ‘‘กิเมส พาโล วทติ, กิเมส พาโล ชานาตี’’ติ ครหํ นินฺทํ วา อกตฺวา. สุตฺตานุโลมนฺติ อตฺตนา อวุตฺตํ อฺนิกาเย สุตฺตานุโลมํ. ‘‘สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา สุตฺเต โอตาเรตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕). วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ ยสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมนโต อิทํ สุตฺตานุโลมํ อกาสิ, ตสฺมึ, ตทนุรูเป วา อฺตรสฺมึ สุตฺเต อตฺตนา คหิตํ สุตฺตานุโลมํ อตฺถโต สํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ. ‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมึ สุตฺเต สํสนฺทตี’ติ สํสนฺเทตฺวา ทสฺเสตพฺพนฺติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ อตฺตโน สุตฺเตเยว าตพฺพํ. อยนฺติ สกวาที. ปโรติ ปรวาที. อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพติ ยสฺส สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวเสน อยํ อาจริยวาโท ปวตฺโต, ตสฺมึ, ตาทิเส จ อฺสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพาปรอตฺถสํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ. คารยฺหาจริยวาโทติ ปมาทลิขิโต, ภินฺนลทฺธิเกหิ จ ปิโต, เอส นโย สพฺพตฺถ.

วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๕) ปน – ปโร อาจริยวาทนฺติ ‘‘สุงฺกํ ปริหรตีติ เอตฺถ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา กิฺจาปิ ปริหรติ, อวหาโร เอวา’’ติ อฏฺกถาวจนโต ‘‘ตถา กโรนฺโต ปาราชิกมาปชฺชตี’’ติ ปรวาทินา วุตฺเต สกวาที ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ สุตฺตํ ตตฺเถว อาคตมหาอฏฺกถาวจเนน สทฺธึ ทสฺเสตฺวา ปฏิเสเธติ. ตถา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ. ปโร อตฺตโนมตินฺติ เอตฺถ ‘‘ปุเรภตฺตํ ปรสนฺตกํ อวหราติ ปุเรภตฺตเมว หริสฺสามีติ วายมนฺตสฺส ปจฺฉาภตฺตํ โหติ, ปุเรภตฺตปโยโคว โส, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุจฺจตีติ ตุมฺหากํ เถรวาทตฺตา มูลฏฺสฺส ปาราชิกเมวา’’ติ ปรวาทินา วุตฺเต สกวาที ‘‘ตํ สงฺเกตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺตี’’ติ สุตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปติ.

ปโร สุตฺตนฺติ ‘‘อนิยตเหตุธมฺโม สมฺมตฺตนิยตเหตุธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ สุตฺตํ ปฏฺาเน ลิขิตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อริยมคฺคสฺส น นิพฺพานเมวารมฺมณ’’นฺติ ปรวาทินา วุตฺเต สกวาที อารมฺมณตฺติกาทิสุตฺตานุโลเมน โอตรตีติ ปฏิกฺขิปติ. สุตฺตานุโลเม โอตรนฺตํเยว หิ สุตฺตํ นาม, เนตรํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปาฬิอาคตํ ปฺายตี’’ติ เอตฺตเกนปิ สิทฺเธ ‘‘ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายตี’’ติอาทิ. ตาทิสฺหิ ปมาทเลขนฺติ อาจริโย. ‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ, ปมาโท มจฺจุโน ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๒๑) วจนโต ทินฺนโภชเน ภุฺชิตฺวา ปริสฺสยานิ ปริวชฺชิตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา วิหรนฺโต นิจฺโจ โหตีติ. เอวรูปสฺส อตฺถสฺส อารุฬฺหมฺปิ สุตฺตํ น คเหตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘โน เจ ตถา ปฺายตี’’ติ สิทฺเธปิ ‘‘โน เจ ตถา ปฺายติ, น โอตรติ น สเมตีติ. พาหิรกสุตฺตํ วา’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตโน สุตฺตมฺปิ อตฺเถน อสเมนฺตํ น คเหตพฺพํ. ปโร อาจริยวาทนฺติอาทีสุ ทฺวีสุ นเยสุ ปมาทเลขวเสน ตตฺถ ตตฺถ อาคตฏฺกถาวจนํ เถรวาเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ.

อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตนฺติ ปรวาทินา ‘‘มูลพีชํ นาม หลิทฺทิ สิงฺคิเวรํ วจา…เป… พีเช พีชสฺี ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วา ภินฺทติ วา…เป… อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๑) ตุมฺหากํ ปาตฺตา ‘‘หลิทฺทิคณฺึ ฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺเต สกวาที ‘‘ยานิ วา ปนฺานิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ, มูเล สฺชายนฺตี’’ติอาทึ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อฏฺกถาสงฺขาเตน อาจริยวาเทน ปฏิกฺขิปติ. น หิ คณฺิมฺหิ คณฺิ ชายตีติ. ปโร สุตฺตานุโลมนฺติ ปรวาทินา ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห’’ติ วจนสฺสานุโลมโต ‘‘อมฺหากํ โปราณภิกฺขู เอกปาสาเท คพฺภํ ถเกตฺวา อนุปสมฺปนฺเนน สยิตุํ วฏฺฏตีติ ตถา กตฺวา อาคตา, ตสฺมา อมฺหากํ วฏฺฏตีติ ตุมฺเหสุ เอว เอกจฺเจสุ วทนฺเตสุ ‘‘ตุมฺหากํ น กิฺจิ วตฺตุํ สกฺกา’’ติ วุตฺเต สกวาที ‘‘สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยว อาจริยานํ อุคฺคโห ปมาณ’’นฺติอาทิอฏฺกถาวจนํ ทสฺเสตฺวา ปฏิเสเธติ. ปโร อตฺตโนมตินฺติ ‘‘ทฺวารํ วิวริตฺวา อนาปุจฺฉา สยิเตสุ เก มุจฺจนฺตี’’ติ เอตฺถ ปน ทฺเวปิ ชนา มุจฺจนฺติ – โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตติ ตุมฺหากํ เถรวาทตฺตา อฺเ สพฺเพปิ ยถา ตถา วา นิปนฺนาทโยปิ มุจฺจนฺตีติ ปฏิเสเธติ.

อถ ปนายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตนฺติ ‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตี’’ติ ปรวาทินา วุตฺเต สกวาที ‘‘ทิวา กิลนฺตรูโป มฺเจ นิสินฺโน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว นิทฺทาวเสน นิปชฺชติ, ตสฺส อนาปตฺตี’’ติอาทิอฏฺกถาวจนํ ทสฺเสตฺวา เอกภงฺเคน นิปนฺนาทโยปิ มุจฺจนฺตีติ ปฏิเสเธติ.

อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมนฺติ ‘‘โทมนสฺสมฺปาหํ เทวานมินฺท ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปีติอาทิวจเนหิ (ที. นิ. ๒.๓๖๐) สํสนฺทนโต สทารโปเส โทโส ตุมฺหากํ นตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห’’ติ (ขุ. ปา. ๕.๖; สุ. นิ. ๒๖๕) ปรวาทินา วุตฺเต ‘‘กิฺจาปิ สกวาที พหุสฺสุโต น โหติ, อถ โข ราคสหิเตเนว อกุสเลน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อฺถาปิ อนุรูปโต โยเชตพฺพํ, อิทํ สพฺพํ อุปติสฺสตฺเถราทโย อาหุ. ธมฺมสิริตฺเถโร ปน ‘‘เอตฺถ ปโรติ วุตฺโต อฺนิกายิโก, โส ปน อตฺตโน สุตฺตาทีนิเยว อาหรติ, ตานิ สกวาที อตฺตโน สุตฺตาทิมฺหิ โอตาเรตฺวา สเจ สเมติ, คณฺหาติ. โน เจ, ปฏิกฺขิปตี’’ติ วทตีติ อาคตํ.

นนุ จ ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ เหฏฺา วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตนฺติ? นายํ วิโรโธ, ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ อิทฺหิ สกมเตเยว สุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ สกมติปริยาปนฺนเมว สุตฺตาทึ สนฺธาย ‘‘อตฺตโนมติ สพฺพทุพฺพลา, อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร, อาจริยวาทโต สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ, สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ จ วุตฺตํ. อิธ ปน ปรวาทินา อานีตํ อฺนิกาเย สุตฺตํ สนฺธาย ‘‘สุตฺตานุโลเม สุตฺตํ โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา ปรวาทินา อานีตํ สุตฺตาทิ อตฺตโน สุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ โอตาเรตฺวา สเมนฺตํเยว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพนฺติ อยํ นโย อิธ วุจฺจตีติ น โกจิ ปุพฺพาปรวิโรโธติ อยํ สารตฺถทีปนิยาคโต (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) นโย. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘ยํ กิฺจิ กูฏสุตฺตํ พาหิรกสุตฺตาทิวจนํ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพนฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

พาหิรกสุตฺตนฺติ ติสฺโส สงฺคีติโย อนารุฬฺหคุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ จ มหาสงฺฆิกนิกายวาสีนํ สุตฺตานิ. เวทลฺลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ . อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘อตฺตโนมติยเมว าตพฺพ’’นฺติ อิมินา อฺนิกายโต อานีตสุตฺตโตปิ สกนิกาเย อตฺตโนมติเยว พลวตราติ ทสฺเสติ. ‘‘สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาที สุตฺตเมวา’’ติ เอวมาทินา สมานชาติกานํ วเสน วาโร น วุตฺโต. สุตฺตสฺส สุตฺเตเยว โอตารณํ ภินฺนํ วิย หุตฺวา น ปฺายติ, วุตฺตนเยเนว จ สกฺกา โยเชตุนฺติ.

อิทานิ สกวาทีปรวาทีนํ กปฺปิยากปฺปิยาทิภาวํ สนฺธาย วิวาเท อุปฺปนฺเน ตตฺถ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทิ. อถ วา เอวํ สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิมุเขน สามฺโต วิวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต วิวาทวตฺถุํ ตพฺพินิจฺฉยมุเขน สุตฺตาทิฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโนเยว สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. ปโร การณํ น วินฺทตีติ ปรวาที การณํ น ลภติ. สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตีติ ปรวาที อตฺตโน สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ อาหริตฺวา ทสฺเสติ, ‘‘สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว าตพฺพ’’นฺติ อิมินา อตฺตโน นิกาเย สุตฺตาทีนิ อลภนฺเตน สกวาทินา ปรวาทีวจเนเยว าตพฺพนฺติ วทติ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จาติ เอตฺถ -กาโร วิกปฺปนตฺโถ, เตน อาจริยวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห. เตนาห ‘‘การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ การณนฺติ สุตฺตาทินยํ นิสฺสาย อตฺตโนมติยา อุทฺธฏํ เหตุํ. วินิจฺฉยนฺติ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ.

ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสตีติ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ กปฺปิยากปฺปิยภาวสาธกํ การณปติรูปกจฺฉายา ทิสฺสติ. ตตฺถ การณจฺฉายาติ สุตฺตาทีสุ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส จ นิมิตฺตภูเตน กิจฺเฉน ปฏิปาทนียํ อวิภูตการณํ การณจฺฉายา, การณปติรูปกนฺติ อตฺโถ. ยทิ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, กสฺมา อกปฺปิเยเยว าตพฺพนฺติ อาห ‘‘วินยฺหิ ปตฺวา’’ติอาทิ. ‘‘วินยํ ปตฺวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กปฺปิยากปฺปิยวิจารณํ อาคมฺมา’’ติ. รุนฺธิตพฺพนฺติอาทีสุ ทุพฺพิฺเยฺยวินิจฺฉเย กปฺปิยากปฺปิยภาเว สติ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คหณํ รุนฺธิตพฺพํ, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คหณํ คาฬฺหํ กาตพฺพํ, อปราปรปฺปวตฺตํ กปฺปิยคฺคหณํ โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาวสงฺขเต อกปฺปิเยเยว าตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา รุนฺธิตพฺพนฺติ กปฺปิยสฺาย วีติกฺกมการณํ รุนฺธิตพฺพํ, ตํนิวารณจิตฺตํ ทฬฺหตรํ กาตพฺพํ. โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพนฺติ ตตฺถ วีติกฺกมปฺปวตฺติ ปจฺฉินฺทิตพฺพา. ครุกภาเวติ อกปฺปิยภาเวติ อตฺโถ.

พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ พหูหิ สุตฺเตหิ เจว ตโต อานีตวินิจฺฉยการเณหิ จ. อถ วา สุตฺเตน อฏฺกถาวินิจฺฉเยน จ ลทฺธการเณหิ. อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโน ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมนฺโต ‘‘เอว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ โยติ สกวาทีปรวาทีสุ โย โกจิ. เกจิ ปน ‘‘สกวาทีสุเยว โย โกจิ อิธาธิปฺเปโต’’ติ วทนฺติ, เอวํ สนฺเต ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทีสุ สพฺพตฺถ อุโภปิ สกวาทิโนเยว สิยุํ เหฏฺา วุตฺตสฺเสว นิคมนวเสน ‘‘เอว’’นฺติอาทินา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพํ. อติเรกการณํ ลภตีติ เอตฺถ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, โย วา สุตฺตาทีสุ จตูสุ พหุตรํ การณํ ลภติ, โส อติเรกการณํ ลภติ นาม.

สุฏฺุ ปวตฺติ เอตสฺสาติ, สุฏฺุ ปวตฺตติ สีเลนาติ วา สุปฺปวตฺติ. เตนาห ‘‘สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺต’’นฺติ. วาจาย อุคฺคตํ วาจุคฺคตํ, วจสา สุคฺคหิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา วาจุคฺคตนฺติ วาจาย อุคฺคตํ, ตตฺถ นิรนฺตรํ ิตนฺติ อตฺโถ. สุตฺตโตติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปาฬิโต’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุน สุตฺตโตติ ตทตฺถปฏิปาทกํ สุตฺตาภิธมฺมปาฬิวจนํ อธิปฺเปตํ. อนุพฺยฺชนโสติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จา’’ติ. ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปกาสนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ หิ ปริปุจฺฉา อฏฺกถา จ วุจฺจติ. เอตฺถ จ อฏฺกถาย วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘ปริปุจฺฉา’’ติ เถรวาโท วุตฺโต. อถ วา ปริปุจฺฉาติ อาจริยสฺส สนฺติกา ปาฬิยา อตฺถสวนํ. อฏฺกถาติ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. ตทุภยมฺปิ ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ.

วินเยติ วินยาจาเร. เตเนว วกฺขติ ‘‘วินยํ อชหนฺโต อโวกฺกมนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ปติฏฺานํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติยา อนาปชฺชนาทินา โหตีติ อาห ‘‘ลชฺชิภาเวน ปติฏฺิโต’’ติ, เตน ลชฺชี โหตีติ วุตฺตํ โหติ. วินยธรสฺส ลกฺขเณ วตฺตพฺเพ กึ อิมินา ลชฺชิภาเวนาติ อาห ‘‘อลชฺชี หี’’ติอาทิ. ตตฺถ พหุสฺสุโตปีติ อิมินา ปมลกฺขณสมนฺนาคมํ ทสฺเสติ. ลาภครุกตายาติ อิมินา วินเย ิตตาย อภาเว ปมลกฺขณโยคา กิจฺจกโร น โหติ, อถ โข อกิจฺจกโร อนตฺถกโร เอวาติ ทสฺเสติ. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตกลหสฺเสตํ อธิวจนํ สงฺฆราชีติ. กุกฺกุจฺจโกติ อณุมตฺเตสุปิ วชฺเชสุ ภยทสฺสนวเสน กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺโต. ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวาติ ปาฬึ อฺถา อกตฺวา. อโวกฺกมนฺโตติ อนติกฺกมนฺโต.

วิตฺถุนตีติ อตฺถํ อทิสฺวา นิตฺถุนติ, วิตฺถมฺภติ วา. วิปฺผนฺทตีติ กมฺปติ. สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกตีติ เอกสฺมึเยว อตฺเถ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. เตนาห ‘‘ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ, ตํ ตํ อนุชานาตี’’ติ. สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรวาทํ คณฺหาตีติ ‘‘อุจฺฉุมฺหิ กสฏํ ยาวชีวิกํ, รโส สตฺตาหกาลิโก, ตทุภยวินิมุตฺโต จ อุจฺฉุ นาม วิสุํ นตฺถิ, ตสฺมา อุจฺฉุปิ วิกาเล วฏฺฏตี’’ติ ปรวาทินา วุตฺเต ตมฺปิ คณฺหาติ. เอเกกโลมนฺติ ปลิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยมฺหีติ ยสฺมึ ปุคฺคเล. ปริกฺขยํ ปริยาทานนฺติ อตฺถโต เอกํ.

อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา. เตเนว วกฺขติ ‘‘อตฺตโนมตึ ปหาย…เป… ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. น หิ อาจริยานํ นามมตฺตโต ปรมฺปรชานเน ปโยชนํ อตฺถิ. ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ปุพฺพวจนสฺส อปรวจเนน สห อตฺถสมฺพนฺธชานนโต. อตฺถโตติ สทฺทตฺถปิณฺฑตฺถอธิปฺเปตตฺถาทิโต. การณโตติ ตทตฺถุปปตฺติโต. อาจริยปรมฺปรนฺติ อิมสฺเสว เววจนํ ‘‘เถรวาทงฺค’’นฺติ, เถรปฏิปาฏินฺติ อตฺโถ. ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏาติ ทฺเว ตโย ปรมฺปรา.

อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ เอตฺถ ปเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฏฺุ อุคฺคหิตภาโว วุตฺโต, ทุติเยน ตตฺถ ลชฺชิภาเวน เจว อจลตาย จ สุปฺปติฏฺิตตา, ตติเยน ปาฬิอฏฺกถาสุ สรูเปน อนาคตานมฺปิ ตทนุโลมโต อาจริเยหิ ทินฺนนยโต วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา. โอติณฺเณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาวเสน วีติกฺกมวตฺถุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺเณ. โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพติ เอวํ โอติณฺณวตฺถุํ นิสฺสาย โจทเกน ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทินา, จุทิตเกน ‘‘อตฺถี’’ติอาทินา จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตสฺมึ วตฺตพฺเพ วุตฺเตติ อตฺโถ. วตฺถุ โอโลเกตพฺพนฺติ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา…เป… โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิทํ นิสฺสคฺคิเย อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทสฺส (ปารา. ๕๑๗) วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ.

ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺตีนํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตร’’นฺติ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อุชฺฌายติ ขียติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๖) อาคตํ ติกทุกฺกฏํ. อฺตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, กาเล เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิกํ (ปาจิ. ๒๕๐) ทุกทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ.

อนฺตราปตฺตินฺติ เอตฺถ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตวตฺถุวีติกฺกมํ วินา อฺสฺมึ วตฺถุวีติกฺกเม นิทานโต ปภุติ วินีตวตฺถุปริโยสานา อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อาปตฺติ. อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ โอโลเกตี’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสา อนฺตราปตฺตีติ คหิตา. ปฏิลาตํ อุกฺขิปตีติ อิทมฺปิ วิสิพฺพนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๓๕๐) อาคตํ, ตตฺถ ฑยฺหมานํ อลาตํ อคฺคิกปาลาทิโต พหิ ปติตํ อวิชฺฌาตเมว ปฏิอุกฺขิปติ, ปุน ยถาาเน เปตีติ อตฺโถ. วิชฺฌาตํ ปน ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.

อนาปตฺตินฺติ เอตฺถ อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อนาปตฺติปิ อตฺถิ, ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติอาทิ วิย สาปิ สงฺคยฺหติ. สิกฺขาปทนฺตเรสูติ วินีตวตฺถุํ อนฺโตกตฺวา เอเกกสฺมึ สิกฺขาปทนฺตเร.

ปาราชิกาปตฺตีติ น วตฺตพฺพนฺติ อิทํ อาปนฺนปุคฺคเลน ลชฺชิธมฺเม ตฺวา ยถาภูตํ อาวิกรเณปิ ทุพฺพินิจฺฉยํ อทินฺนาทานาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน เมถุนาทีสุ วิชานนํ, ตํ วตฺตพฺพเมว. เตนาห ‘‘เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หี’’ติอาทิ. โย ปน อลชฺชิตาย ปฏิฺํ อทตฺวา วิกฺเขปํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ น สกฺกา โอฬาริกาปิ วินิจฺฉินิตุํ. ยาว โส ยถาภูตํ นาวิกโรติ, สงฺฆสฺส จ อาปตฺติสนฺเทโห น วิคจฺฉติ, ตาว นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สุขุมาติ อตฺตโนปิ ทุวิฺเยฺยสภาวสฺส ลหุปริวตฺติโน จิตฺตสฺส สีฆปริวตฺติตาย วุตฺตํ. สุขุมาติ วา จิตฺตปริวตฺติยา สุขุมตาย สุขุมา. เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ, จิตฺตํ วิย ลหุกาติ อตฺโถ. อถ วา จิตฺตํ ลหุ สีฆปริวตฺติ เอเตสนฺติ จิตฺตลหุกา. เตติ เต วีติกฺกเม. ตํวตฺถุกนฺติ เต อทินฺนาทานมนอุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา วตฺถุ อธิฏฺานํ การณเมตสฺสาติ ตํวตฺถุกํ.

ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหีติอาทิ สพฺพํ ลชฺชีเปสลํ กุกฺกุจฺจกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โย ยาถาวโต ปกาเสตฺวา สุทฺธิเมว คเวสติ, เตนปิ. ปาราชิโกสีติ น วตฺตพฺโพติ อนาปตฺติโกฏิยาปิ สงฺกิยมานตฺตา วุตฺตํ. เตเนว ‘‘ปาราชิกจฺฉายา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สีลานิ โสเธตฺวาติ ยํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อมนสิกริตฺวา อวเสสสีลานิ โสเธตฺวา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ, วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ปน ‘‘สีลานิ โสเธตฺวาติ ยสฺมึ วีติกฺกเม ปาราชิกาสงฺกา วตฺตติ, ตตฺถ ปาราชิกาภาวปกฺขํ คเหตฺวา เทสนาวุฏฺานคามินีนํ อาปตฺตีนํ โสธนวเสน สีลานิ โสเธตฺวา’’ติ. ปากฏภาวโต สุขวลฺชตาย จ ‘‘ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิ กโรหี’’ติ วุตฺตํ, อุปลกฺขณวเสน วา. อฺสฺมึ กมฺมฏฺาเน กตปริจเยน ตเมว มนสิ กาตพฺพํ. ยํ กิฺจิ วา อภิรุจิตํ มนสิ กาตุํ วฏฺฏเตว. กมฺมฏฺานํ ฆฏยตีติ อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา จิตฺเตน สทฺธึ อารมฺมณภาเวน จิรกาลํ ฆฏยติ. สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานิโก เจ, ตสฺส สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ.

สเจ กตปาราชิกวีติกฺกโม ภเวยฺย, ตสฺส สติปิ อสริตุกามตาย วิปฺปฏิสารวตฺถุวเสน ปุนปฺปุนํ ตํ อุปฏฺหตีติ จิตฺเตกคฺคตํ น วินฺทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏยตี’’ติอาทิ. กมฺมฏฺานํ น ฆฏยตีติ จิตฺตกฺโขภาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลนฺติ น คเหตพฺพํ. กตปาปมูลเกน วิปฺปฏิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏยตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘วิปฺปฏิสารคฺคินา’’ติอาทิ. อตฺตนาติ จิตฺเตน กรณภูเตน ปุคฺคโล กตฺตา ชานาติ, ปจฺจตฺเต วา กรณวจนํ, อตฺตา สยํ ชานาตีติ อตฺโถ. อฺา จ เทวตา ชานนฺตีติ อารกฺขเทวตาหิ อฺา ปรจิตฺตวิทุนิโย เทวตา ชานนฺติ.

อิมสฺมึ าเน ปณฺฑิเตหิ วิจาเรตพฺพํ การณํ อตฺถิ. กถํ? อิทานิ เอกจฺเจ วินยธรา ปมปาราชิกวิสเย วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา คหฏฺเน วา ปพฺพชิเตน วา โจทิยมาเน จุทิตกํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิตฺวา ปฏิฺาย อทียมานาย ตํ ภิกฺขุํ สุสาเน เอกกเมว สยาเปนฺติ, เอวํ สยาปิยมาโน โส ภิกฺขุ สเจ ภยสนฺตาสวิรหิโต สพฺพรตฺตึ ตสฺมึ สุสาเน สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา สกฺโกติ, ตํ ‘‘ปริสุทฺโธ เอโส’’ติ วินิจฺฉินนฺติ. สเจ ปน ภยสนฺตาสปฺปตฺโต สพฺพรตฺตึ สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น สกฺโกติ, ตํ ‘‘อสุทฺโธ’’ติ วินิจฺฉินนฺติ, ตํ อยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. กสฺมาติ เจ? อฏฺกถาย วิรุทฺโธติ, อฏฺกถายํ ทุติยตติยปาราชิกวิสเย เอว ตถารูโป วิจาโร วุตฺโต, น ปมจตอุตฺถปาราชิกวิสเย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวีติกฺกโม จ โอฬาริโก, อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา ปน สุขุมา จิตฺตลหุกา, เต สุขุเมเนว อาปชฺชติ, สุขุเมน รกฺขติ, ตสฺมา วิเสเสน ตํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิยมาโน’’ติ. ฏีกายฺจ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) วุตฺตํ ‘‘ตํวตฺถุกนฺติ เต อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา วตฺถุ อธิฏฺานํ การณเมตสฺสาติ ตํวตฺถุก’’นฺติ, อิทมฺปิ เอกํ การณํ.

ตตฺถาปิ อฺเ ปณฺฑิเตปิ วินิจฺฉินาเปตฺวา เตสมฺปิ ปาราชิกจฺฉายาทิสฺสเนเยว ตถา วินิจฺฉโย กาตพฺโพ, น สุทฺธภาวทิสฺสเน. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘อาปตฺตีติ อวตฺวา ‘สจสฺส อาจริโย ธรติ…เป… อถ ทหรสฺสปิ ปาราชิกจฺฉายาว อุปฏฺาติ, เตนปิ ‘ปาราชิโกสี’ติ น วตฺตพฺโพ. ทุลฺลโภ หิ พุทฺธุปฺปาโท, ตโต ทุลฺลภตรา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ, เอวํ ปน วตฺตพฺพ’’นฺติ, อิทเมกํ. นิสีทาปิยมาโนปิ วิวิตฺโตกาเสเยว นิสีทาเปตพฺโพ, น สุสาเน. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา’’ติอาทิ, อิทเมกํ. วิวิตฺโตกาเส นิสีทาปิยมาโนปิ ทิวาเยว นิสีทาเปตพฺโพ, น รตฺตึ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ, โส ทิวสาติกฺกเม อุปฏฺานํ อาคโต เอวํ วตฺตพฺโพ’’ติ, อิทเมกํ.

อีทิสํ วิธานํ สยํ อาโรจิเต เอว วิธาตพฺพํ, น ปเรหิ โจทิยมาเน. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เอวํ กตวีติกฺกเมน ภิกฺขุนา สยเมว อาคนฺตฺวา อาโรจิเต ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. อถ กสฺมา อิทานิ เอวํ กโรนฺตีติ? คิหีนํ อสกฺขิกอฏฺฏกรเณ อุทเก นิมุชฺชาปนํ วิย มฺมานา เอวํ กโรนฺติ. ตมฺปิ มายากุสลา มนุสฺสา วิวิเธหิ อุปาเยหิ วิตถํ กโรนฺติ, ตสฺมา สจฺจมฺปิ โหติ, อสจฺจมฺปิ โหติ. เตเนว จ การเณน มโหสธปณฺฑิตาทโย โพธิสตฺตา อสกฺขิกมฺปิ อฏฺฏํ อุทกนิมุชฺชาปนาทินา น วินิจฺฉินนฺติ, อุภินฺนํ วจนํ ปริสํ คาหาเปตฺวา เตสํ วจนฺจ กิริยฺจ ปริคฺคเหตฺวา สจฺจฺจ วิตถฺจ ตฺวาว วินิจฺฉินนฺติ. สาสเน ปน ภิกฺขู สูรชาติกาปิ สนฺติ, ภีรุกชาติกาปิ สนฺติ. สุสานฺจ นาม ปกติมนุสฺสานมฺปิ ภยสนฺตาสกรํ โหติ, รตฺติกาเล ปน อติวิย ภยานกํ หุตฺวา อุปฏฺาติ , เอวํภูเต สุสาเน รตฺติยํ เอโก อสหาโย หุตฺวา นิปชฺชาปิยมาโน ภีรุกชาติโก ภิกฺขุ ปริสุทฺธสีโลปิ สมาโน กึ น ภาเยยฺย, กถํ สพฺพรตฺตึ สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา สกฺกุเณยฺย, ตถารูปํ ภิกฺขุํ ‘‘อปริสุทฺโธ’’ติ วทนฺโต กถํ กิจฺจกโร ภวิสฺสติ.

อลชฺชี ปน สูรชาติโก อตฺตโน วชฺชํ ปฏิจฺฉาเทตุกาโม ภายนฺโตปิ อภายนฺโต วิย หุตฺวา ‘‘สเจ วิการํ ทสฺเสสฺสามิ, อนตฺถํ เม กริสฺสนฺตี’’ติ อนตฺถภเยน อธิวาเสตฺวา สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา สกฺกุเณยฺย, เอวรูปํ ปุคฺคลํ ‘‘ปริสุทฺโธ’’ติ วทนฺโต กถํ สุวินิจฺฉิโต ภวิสฺสตีติ. อิทมฺปิ เอกํ การณํ.

อถาปิ วเทยฺยุํ – ยถา อุทเก นิมุชฺชาปิตมนุสฺสานํ อสจฺจวาทีนํ เทวตานุภาเวน กุมฺภีลาทโย อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตา วิย อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา อสจฺจวาทิโน สีฆํ ปฺลวนฺติ, สจฺจวาทีนํ ปน น อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา เต สุเขน นิสีทิตุํ สกฺโกนฺติ, เอวํ เตสมฺปิ ภิกฺขูนํ อปริสุทฺธสีลานํ เทวตานุภาเวน สีหพฺยคฺฆาทโย อาคตา วิย ปฺายนฺติ, ตสฺมา เต สพฺพรตฺตึ สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น สกฺโกนฺติ. ปริสุทฺธสีลานํ ปน ตถา น ปฺายนฺติ, ตสฺมา เต สพฺพรตฺตึ เทวตาหิ รกฺขิตา หุตฺวา ภยสนฺตาสรหิตา สุสาเน สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา สกฺโกนฺติ, เอวํ เทวตา สกฺขึ กตฺวา วินิจฺฉิตตฺตา สุวินิจฺฉิตเมว โหตีติ, ตมฺปิ ตถา น สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมา? อฏฺกถาฏีกาทีสุ ตถา อวุตฺตตฺตา. อฏฺกถายฺหิ ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ โสเธตฺวา ‘ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิกโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ตสฺส อโรคํ สีลํ กมฺมฏฺานํ ฆฏยติ, สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อุปจารปฺปนาปฺปตฺตํ วิย จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ…เป… ยสฺส ปน สีลํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ น ฆฏยติ, ปโตทาภิตุนฺนํ วิย จิตฺตํ กมฺปติ, วิปฺปฏิสารคฺคินา ฑยฺหติ, ตตฺตปาสาเณ นิสินฺโน วิย ตงฺขณฺเว วุฏฺาตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.

ฏีกายมฺปิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕) ‘‘กมฺมฏฺานํ ฆฏยตีติ อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา จิตฺเตน สทฺธึ อารมฺมณภาเวน จิรกาลํ ฆฏยติ. สงฺขารา ปากฏา อุปฏฺหนฺตีติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานิโก เจ, ตสฺส สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. สเจ กตปาราชิกวีติกฺกโม ภเวยฺย, ตสฺส สติปิ อสริตุกามตาย วิปฺปฏิสารวตฺถุวเสน ปุนปฺปุนํ ตํ อุปฏฺหตีติ จิตฺเตกคฺคตํ น วินฺทตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.

วิมติวิโนทนิยมฺปิ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๕) ‘‘กมฺมฏฺานํ ฆฏยตีติ วิปฺปฏิสารมูลเกน วิกฺเขเปน อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา ปพนฺธวเสน จิตฺเตน สงฺฆฏยติ. สงฺขาราติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ. สาปตฺติกสฺส หิ ปคุณมฺปิ กมฺมฏฺานํ น สุฏฺุ อุปฏฺาติ. ปเคว ปาราชิกสฺส. ตสฺส หิ วิปฺปฏิสารนินฺนตาย จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ. เอกสฺส ปน วิตกฺกวิกฺเขปาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลนฺติ น คเหตพฺพํ. กตปาปมูลเกน วิปฺปฏิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏยตี’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘เทวตานุภาเวนา’’ติอาทิ, ตสฺมา ยทิ พุทฺธสาสเน สคารโว สิกฺขากาโม ภิกฺขุ ทุติยตติยปาราชิกวิสเย อตฺตโน กฺจิ วีติกฺกมํ ทิสฺวา ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโน นุ โข อหํ, น นุ โข’’ติ สํสยปกฺขนฺโท วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา ตํ วีติกฺกมํ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวา ปุจฺเฉยฺย, ตโต วินยธเรน อฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘สพฺพํ ปุพฺพวิธานํ กตฺวา วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ โสเธตฺวา ทฺวตฺตึสากาเร ตาว มนสิกโรหี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺโพ , น วตฺตพฺโพ ‘‘สุสาเน เสยฺยํ กปฺเปหี’’ติอาทิ. อาคตกาเลปิ อฏฺกถายํ อาคตนเยเนว ปุจฺฉิตฺวา อฏฺกถายํ อาคตนเยเนวสฺส สุทฺธาสุทฺธภาโว วตฺตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ โหตุ, เอวํ สนฺเต อิทานิ ปมปาราชิกวิสเย โจเทนฺตานํ กถํ วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ? โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย อนุสฺสาวนสมฺปทาย ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอวมฺปิ อลชฺชี นาม ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ วเทยฺย, ปฏิฺํ น ทเทยฺย, อถ กึ กาตพฺพนฺติ? เอวมฺปิ อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว อาปตฺติยา กาเรตพฺพํ ยถา ตํ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถเรนาติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) ‘‘เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส ‘เนว สุทฺโธ’ติ วตฺตพฺโพ, น ‘อสุทฺโธ’ติ, ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส. สเจ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุ อุปฺปชฺชติ, น วินิจฺฉิตพฺพํ, ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสตี’’ติอาทิ.

๒๓๕. เอวํ วินยธรลกฺขณฺจ ฉฏฺานโอโลกนฺจ วิทิตฺวา อิทานิ…เป… วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ โยชนา. กิมตฺถนฺติ อาห ‘‘ยา สา…เป… ชานนตฺถ’’นฺติ. ยา สา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปเภทา โจทนา อตฺถิ, ตสฺสาเยว สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปอโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ, น อวุตฺตโจทนาปเภทชานนตฺถนฺติ อตฺโถ. เสยฺยถิทนฺติ ปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต, โส วินิจฺฉโย กตโมติ อตฺโถ.

โจทนายกติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโยติ เอตฺถ ‘‘กติหากาเรหี’’ติปิ วตฺตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๖๒) โจทนากณฺเฑ ‘‘โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย, กติหากาเรหิ โจเทตี’’ติ. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ เอตสฺสปิ ปรโต ‘‘โจทนาย อิมา ปฺจ ภูมิโย. กตเมหิ ทฺวีหากาเรหิ โจเทติ, กาเยน วา โจเทติ, วาจาย วา โจเทติ, อิเมหิ ทฺวีหากาเรหิ โจเทตี’’ติ วตฺตพฺพํ. กสฺมา? โจทนากณฺเฑ (ปริ. ๓๖๒) ตถา วิชฺชมานโตติ. ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพนฺติ ปริสุทฺธกายสมาจารตา, ปริสุทฺธวจีสมาจารตา, เมตฺตจิตฺเต ปจฺจุปฏฺิตตา, พหุสฺสุตตา, อุภยปาติโมกฺขสฺวาคตตา, กาเลน วจนตา, ภูเตน วจนตา, สณฺเหน วจนตา, อตฺถสฺหิเตน วจนตา, เมตฺตจิตฺโต หุตฺวา วจนตา, การุฺตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ. วุตฺตฺเหตํ อุปาลิปฺจเก (ปริ. ๔๓๖) ‘‘โจทเกนุปาลิ ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหิ…เป… ปริสุทฺธวจีสมาจาโร นุ โขมฺหิ…เป… เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ สพฺรหฺมจารีสุ…เป… พหุสฺสุโต นุ โขมฺหิ สุตธโร สุตสนฺนิจโย…เป… อุภยานิ โข เม ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ…เป… กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ, โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ, โน ผรุเสน, อตฺถสฺหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสฺหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโร…เป… การุฺตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตา’’ติ.

ตตฺถ การุฺตาติ การุณิกภาโว. อิมินา กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ ทสฺสิโต . หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา . อนุกมฺปตาติ เตน หิเตน สํโยชนตา. อาปตฺติวุฏฺานตาติ อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนตา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม. อมูลกมฺปิ สมูลกมฺปิ ‘‘มูล’’นฺติ คเหตฺวา วทนฺตีติ อาห ‘‘ทฺเว มูลานี’’ติ. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ เอโก เอกํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สงฺฆมชฺเฌ คณมชฺเฌ สลากคฺคยาคุอคฺควิตกฺกมาฬกภิกฺขาจารมคฺคอาสนสาลาทีสุ, อุปฏฺาเกหิ ปริวาริตกฺขเณ วา โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. ตจฺเฉน วตฺถุนา โจเทนฺโต ภูเตน วทติ นาม. ตุจฺเฉน โจเทนฺโต อภูเตน วทติ นาม. ‘‘อมฺโภ มหลฺลก ปริสาวจร ปํสุกูลิก ธมฺมกถิก ปติรูปํ ตว อิท’’นฺติ วทนฺโต ผรุเสน วทติ นาม. ‘‘ภนฺเต, มหลฺลกา ปริสาวจรา ปํสุกูลิกา ธมฺมกถิกา ปติรูปํ ตุมฺหากํ อิท’’นฺติ วทนฺโต สณฺเหน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต อตฺถสฺหิเตน วทติ นาม. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา วกฺขามิ, น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา. สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ วจีสจฺเจ จ อกุปฺปตาย จ. จุทิตเกน หิ สจฺจฺจ วตฺตพฺพํ, โกโป จ น กาตพฺโพ, อตฺตนา จ น กุจฺฉิตพฺพํ, ปโร จ น ฆฏฺเฏตพฺโพติ อตฺโถ.

อิมสฺมึ าเน ‘‘สงฺเฆน โอติณฺณาโนติณฺณํ ชานิตพฺพํ – อนุวิชฺชเกน เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โจทนากณฺเฑ (ปริ. ๓๖๓) ‘‘โจทเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ? จุทิตเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ? สงฺเฆน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ? อนุวิชฺชเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ? โจทเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? โจทเกน ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย ปโร โจเทตพฺโพ. กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสฺหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสฺหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ. โจทเกน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. จุทิตเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จ. จุทิตเกน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สงฺเฆน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? สงฺเฆน โอติณฺณาโนติณฺณํ ชานิตพฺพํ. สงฺเฆน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อนุวิชฺชเกน กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? อนุวิชฺชเกน เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. อนุวิชฺชเกน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ.

อฏฺกถายมฺปิ (ปริ. อฏฺ. ๓๖๒-๓๖๓) ‘‘โจทนาย โก อาทีติอาทิปุจฺฉานํ วิสฺสชฺชเน สจฺเจ อกุปฺเป จาติ เอตฺถ สจฺเจ ปติฏฺาตพฺพํ อกุปฺเป จ, ยํ กตํ วา อกตํ วา, ตเทว วตฺตพฺพํ, น โจทเก วา อนุวิชฺชเก วา สงฺเฆ วา โกโป อุปฺปาเทตพฺโพ. โอติณฺณาโนติณฺณํ ชานิตพฺพนฺติ โอติณฺณฺจ อโนติณฺณฺจ วจนํ ชานิตพฺพํ. ตตฺรายํ ชานนวิธิ – เอตฺตกา โจทกสฺส ปุพฺพกถา, เอตฺตกา ปจฺฉิมกถา, เอตฺตกา จุทิตกสฺส ปุพฺพกถา, เอตฺตกา ปจฺฉิมกถาติ ชานิตพฺพา. โจทกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ, จุทิตกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ, อนุวิชฺชกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ. อนุวิชฺชโก อปฺปมตฺตกมฺปิ อหาเปนฺโต ‘อาวุโส, สมนฺนาหริตฺวา อุชุํ กตฺวา อาหรา’ติ วตฺตพฺโพ, สงฺเฆน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมตีติ เอตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. เอเตน หิ ธมฺเมน จ วินเยน จ สตฺถุสาสเนน จ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตสฺมา อนุวิชฺชเกน ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา อาปตฺตึ สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย เจว อนุสฺสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ, อนุวิชฺชเกน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ อาคตํ, ตสฺมา วตฺตพฺพเมตฺตกํ ทฺวยนฺติ.

เอวํ เอกเทเสน โจทนากณฺฑนยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอกเทเสเนว มหาสงฺคามนยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุวิชฺชเกน โจทโก ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, กิมฺหิ นํ โจเทสีติ โจทนาสามฺโต วุตฺตํ, ปาฬิยํ (มหาว. ๒๓๗) ปน ปวารณฏฺปนวเสน โจทนํ สนฺธาย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมสฺส ภิกฺขุโน ปวารณํ เปสี’’ติ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอวํ เอกเทเสน มหาสงฺคามนยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอกเทเสเนว จูฬสงฺคามนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนาติ สงฺคาโม วุจฺจติ อธิกรณวินิจฺฉยตฺถาย สงฺฆสนฺนิปาโต. ตตฺร หิ อตฺตปจฺจตฺถิกา เจว สาสนปจฺจตฺถิกา จ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปนฺตา สโมสรนฺติ เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา วิย. โย ภิกฺขุ เตสํ ปจฺจตฺถิกานํ ลทฺธึ มทฺทิตฺวา สกวาททีปนตฺถาย ตตฺถ อวจรติ, อชฺโฌคาเหตฺวา วินิจฺฉยํ ปวตฺเตติ, โส สงฺคามาวจโร นาม ยสตฺเถโร วิย, เตน สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมนฺเตน นีจจิตฺเตน สงฺโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ. นีจจิตฺเตนาติ มานทฺธชํ นิปาเตตฺวา นิหตมานจิตฺเตน . รโชหรณสเมนาติ ปาทปุฺฉนสเมน, ยถา รโชหรณสฺส สํกิลิฏฺเ วา อสํกิลิฏฺเ วา ปาเท ปุฺฉิยมาเน เนว ราโค น โทโส, เอวํ อิฏฺานิฏฺเสุ อรชฺชนฺเตน อทุสฺสนฺเตนาติ อตฺโถ. ยถาปติรูเป อาสเนติ ยถาปติรูปํ อาสนํ ตฺวา อตฺตโน ปาปุณนฏฺาเน เถรานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺึ อทสฺเสตฺวา นิสีทิตพฺพํ.

อนานากถิเกนาติ นานาวิธํ ตํ ตํ อนตฺถกถํ อกเถนฺเตน. อติรจฺฉานกถิเกนาติ ทิฏฺสุตมุตมฺปิ ราชกถาทิกํ ติรจฺฉานกถํ อกเถนฺเตน. สามํ วา ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ สงฺฆสนฺนิปาตฏฺาเน กปฺปิยากปฺปิยสนฺนิสฺสิตา วา รูปารูปปริจฺเฉทสมถจารวิปสฺสนาจารฏฺานนิสชฺชวตฺตาทินิสฺสิตา วา กถา ธมฺโม นาม. เอวรูโป ธมฺโม สยํ วา ภาสิตพฺโพ, ปโร วา อชฺเฌสิตพฺโพ. โย ภิกฺขุ ตถารูปึ กถํ กเถตุํ ปโหติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, สงฺฆมชฺฌมฺหิ ปฺเห อุปฺปนฺเน ตฺวํ กเถยฺยาสี’’ติ. อริโย วา ตุณฺหีภาโว นาติมฺิตพฺโพติ อริยา ตุณฺหี นิสีทนฺตา น พาลปุถุชฺชนา วิย นิสีทนฺติ, อฺตรํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิสีทนฺติ. อิติ กมฺมฏฺานมนสิการวเสน ตุณฺหีภาโว อริโย ตุณฺหีภาโว นาม, โส นาติมฺิตพฺโพ, ‘‘กึ กมฺมฏฺานานุโยเคนา’’ติ นาวชานิตพฺโพ, อตฺตโน ปติรูปํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

น อุปชฺฌาโย ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘โก นาม ตุยฺหํ อุปชฺฌาโย’’ติ น ปุจฺฉิตพฺโพ. เอส นโย สพฺพตฺถ. น ชาตีติ ‘‘ขตฺติยชาติโย ตฺวํ พฺราหฺมณชาติโย’’ติ เอวํ ชาติ น ปุจฺฉิตพฺพา. น อาคโมติ ‘‘ทีฆภาณโก ตฺวํ มชฺฌิมภาณโก’’ติ เอวํ อาคโม น ปุจฺฉิตพฺโพ. กุลปเทโสปิ ขตฺติยกุลาทิวเสเนว เวทิตพฺโพ. อตฺรสฺส เปมํ วา โทโส วาติ ตตฺร ปุคฺคเล เอเตสํ การณานํ อฺตรวเสน เปมํ วา ภเวยฺย โทโส วา.

โนปริสกปฺปิเกนาติ ปริสกปฺปเกน ปริสานุวิธายเกน น ภวิตพฺพํ, ยํ ปริสาย รุจฺจติ, ตเทว เจเตตฺวา กปฺเปตฺวา น กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. น หตฺถมุทฺทา ทสฺเสตพฺพาติ กเถตพฺเพ จ อกเถตพฺเพ จ สฺาชนนตฺถํ หตฺถวิกาโร น กาตพฺโพ.

อตฺถํ อนุวิธิยนฺเตนาติ วินิจฺฉยปฏิเวธเมว สลฺลกฺเขนฺเตน, ‘‘อิทํ สุตฺตํ อุปลพฺภติ, อิมสฺมึ วินิจฺฉเย อิทํ วกฺขามี’’ติ เอวํ ปริตุลยนฺเตน นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. น จ อาสนาวุฏฺาตพฺพนฺติ น อาสนา วุฏฺาย สนฺนิปาตมณฺฑเล วิจริตพฺพํ. วินยธเร หิ อุฏฺิเต สพฺพา ปริสา วุฏฺหนฺติ, ตสฺมา น วุฏฺาตพฺพํ. น วีติหาตพฺพนฺติ น วินิจฺฉโย หาเปตพฺโพ. น กุมฺมคฺโค เสวิตพฺโพติ น อาปตฺติ ทีเปตพฺพา. อสาหสิเกน ภวิตพฺพนฺติ น สหสา การินา ภวิตพฺพํ, น สหสา ทุรุตฺตวจนํ กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. วจนกฺขเมนาติ ทุรุตฺตวาจํ ขมนสีเลน. หิตปริสกฺกินาติ หิเตสินา หิตคเวสินา กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ อุปฏฺาเปตพฺโพติ อยํ ปททฺวเยปิ อธิปฺปาโย. อนสุรุตฺเตนาติ น อสุรุตฺเตน, อสุรุตฺตํ วุจฺจติ วิคฺคาหิกกถาสงฺขาตํ อสุนฺทรวจนํ, ตํ น กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘วินิจฺฉินิตุํ วูปสเมตุํ สกฺขิสฺสามิ นุ โข, โน’’ติ เอวํ อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพ, อตฺตโน ปมาณํ ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปโร ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ลชฺชิยา นุ โข อยํ ปริสา สกฺกา สฺาเปตุํ, อุทาหุ โน’’ติ เอวํ ปโร ปริคฺคเหตพฺโพ. โจทโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ธมฺมโจทโก นุ โข, โน’’ติ เอวํ ปริคฺคเหตพฺโพ. จุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ธมฺมจุทิตโก นุ โข, โน’’ติ เอวํ ปริคฺคเหตพฺโพ. อธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ตสฺส ปมาณํ ชานิตพฺพํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

วุตฺตํอหาเปนฺเตนาติ โจทกจุทิตเกหิ วุตฺตวจนํ อหาเปนฺเตน. อวุตฺตํ อปกาเสนฺเตนาติ อโนสฏํ วตฺถุํ อปกาเสนฺเตน. มนฺโท หาเสตพฺโพติ มนฺโท โมมูฬฺโห ปคฺคณฺหิตพฺโพ, ‘‘นนุ ตฺวํ กุลปุตฺโต’’ติ อุตฺเตเชตฺวา อนุโยควตฺตํ กถาเปตฺวา ตสฺส อนุโยโค คณฺหิตพฺโพ. ภีรุ อสฺสาเสตพฺโพติ ยสฺส สงฺฆมชฺฌํ วา คณมชฺฌํ วา อโนสฏปุพฺพตฺตา สารชฺชํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิโส ‘‘มา ภายิ, วิสฺสตฺโถ กถยาหิ, มยํ เต อุปตฺถมฺภา ภวิสฺสามา’’ติ วตฺวาปิ อนุโยควตฺตํ กถาเปตพฺโพ. จณฺโฑ นิเสเธตพฺโพติ อปสาเรตพฺโพ ตชฺเชตพฺโพ. อสุจิ วิภาเวตพฺโพติ อลชฺชึ ปกาเสตฺวา อาปตฺตึ เทสาเปตพฺโพ. อุชุมทฺทเวนาติ โย ภิกฺขุ อุชุ สีลวา กายวงฺกาทิรหิโต, โส มทฺทเวเนว อุปจริตพฺโพ. ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จาติ เอตฺถ โย ธมฺมครุโก โหติ, น ปุคฺคลครุโก, อยเมว ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

โจทนาทิวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม

เอกตึสติโม ปริจฺเฉโท.