📜

๘. อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา

๔๔. เอวํ อนามาสวินิจฺฉยกถํ กเถตฺวา อิทานิ อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยํ กเถตุํ ‘‘อธิฏฺานวิกปฺปเนสุ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อธิฏฺิยเต อธิฏฺานํ, คหณํ สลฺลกฺขณนฺติ อตฺโถ. วิกปฺปิยเต วิกปฺปนา, สงฺกปฺปนํ จินฺตนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ นามํ วตฺวา อธิฏฺาตุํ. น วิกปฺเปตุนฺติ นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ตสฺมา ติจีวรํ อธิฏฺหนฺเตน ‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘อิมํ สงฺฆาฏิ’นฺติอาทินา ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ , อวิกปฺปิตํ โหติ, อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ.

วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) ปน ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาตุํ. น วิกปฺเปตุนฺติ อิมินา นาเมน น วิกปฺเปตุํ, เอเตน วิกปฺปิตติจีวโร เตจีวริโก น โหติ, ตสฺส ตสฺมึ อธิฏฺิตติจีวเร วิย อวิปฺปวาสาทินา กาตพฺพวิธิ น กาตพฺโพติ ทสฺเสติ, น ปน วิกปฺปเน โทโส’’ติ วุตฺตํ. วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๖๙) ปน ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ เอตฺถ ติจีวรํ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺาตพฺพยุตฺตกํ, ยํ วา ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ อนุชานามิ, ตสฺส อธิฏฺานกาลปริจฺเฉทาภาวโต สพฺพกาลํ อิจฺฉนฺตสฺส อธิฏฺาตุํเยว อนุชานามิ, ตํ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา วิกปฺเปตุํ นานุชานามิ, สติ ปน ปจฺจเย ยทา ตทา วา ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ ‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’ติ วจนโต สิทฺธํ โหตี’’ติ วุตฺตํ.

อิเมสุ ปน ตีสุ ฏีกาวาเทสุ ตติยวาโท ยุตฺตตโร วิย ทิสฺสติ. กสฺมา? ปาฬิยา อฏฺกถาย จ สํสนฺทนโต. กถํ? ปาฬิยฺหิ กตปริจฺเฉทาสุเยว ทฺวีสุ วสฺสิกสาฏิกกณฺฑุปฏิจฺฉาทีสุ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ วุตฺตํ, ตโต อฺเสุ น วิกปฺเปตุํ อิจฺเจว, ตสฺมา เตสุ อสติ ปจฺจเย นิจฺจํ อธิฏฺาตพฺพเมว โหติ, น วิกปฺเปตพฺพนฺติ อยํ ปาฬิยา อธิปฺปาโย ทิสฺสติ, อิตราสุ ปน ทฺวีสุ อนุฺาตกาเลเยว อธิฏฺาตพฺพํ, ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ เอวํ ปาฬิยา สํสนฺทติ, อฏฺกถายํ ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปน ปริหรโต อธิฏฺาตุเมว อนุชานามิ, น วิกปฺเปตุํ. วสฺสิกสาฏิกํ ปน จาตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตุเมว, น อธิฏฺาตุํ, เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส จีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตีติ.

ปมวาเท ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ นามํ วตฺวา ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อตฺโถ วุตฺโต, เอวํ สนฺเต ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ เอตฺถ ตโต ปรํ นามํ วตฺวา วิกปฺเปตุนฺติ อตฺโถ ภเวยฺย, โส จ อตฺโถ วิกปฺปนาธิกาเรน วุตฺโต, ‘‘นามํ วตฺวา’’ติ จ วิเสสเน กตฺตพฺเพ สติ ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ จ ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ จ เภทวจนํ น สิยา, สพฺเพสุปิ จีวเรสุ นามํ อวตฺวาว วิกปฺเปตพฺพโต, ทุติยวาเท จ ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อิมินา นาเมน น วิกปฺเปตุนฺติ วุตฺตํ, น อนุชานามีติ ปาเสโส. ปเม จ ‘‘ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ, อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ. ทุติเย จ ‘‘น ปน วิกปฺปเน โทโส’’ติ, ตฺจ อฺมฺวิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ, ตสฺมา วิจาเรตพฺพเมตํ.

ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ จาตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภุฺชิตุนฺติ ตีสุ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิสํวจฺฉเร วสฺสานํ จาตุมาสํ, ตาว เปตุํ อนุฺาต’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ อนุชานามีติ เอตฺตาวตา วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฏิจฺฉาทิฺจ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปตุํ อนุฺาตนฺติ เอวมตฺโถ น คเหตพฺโพ. ตโต ปรํ วสฺสิกสาฏิกาทินามสฺเสว อภาวโต, กสฺมา ตโต ปรํ วิกปฺเปนฺเตนปิ นามํ คเหตฺวา น วิกปฺเปตพฺพํ. อุภินฺนมฺปิ ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริโภคสฺส อนุฺาตตฺตา ตถาวิกปฺปิตํ อฺนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพนฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺต’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยมฺปิ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) ‘‘ตโต ปรนฺติ จาตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตนฺติ เกจิ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิวสฺสานํ ตาว เปตุํ วฏฺฏตี’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘วิกปฺปเน น โทโส, ตถา วิกปฺปิตํ ปริกฺขาราทินาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’นฺติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๖๙) ปน ‘‘วสฺสิกสาฏิกํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํเยว, นาธิฏฺาตุํ. วตฺถฺหิ กตปริโยสิตํ อนฺโตจาตุมาเส วสฺสานทิวสํ อาทึ กตฺวา อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตุํ อนุชานามิ, จาตุมาสโต อุทฺธํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เปตุกาเมน วิกปฺเปตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. อิธาปิ ปจฺฉิมวาโท ปสตฺถตโรติ ทิสฺสติ, กสฺมา? สุวิฺเยฺยตฺตา, ปุริเมสุ ปน อาจริยานํ อธิปฺปาโยเยว ทุวิฺเยฺโย โหติ นานาวาทสฺเสว กถิตตฺตา. มุฏฺิปฺจกนฺติ มุฏฺิยา อุปลกฺขิตํ ปฺจกํ มุฏฺิปฺจกํ, จตุหตฺเถ มินิตฺวา ปฺจมํ หตฺถมุฏฺึ กตฺวา มินิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘มุฏฺิหตฺถานํ ปฺจกํ มุฏฺิปฺจกํ. ปฺจปิ หตฺถา มุฏฺี กตฺวาว มินิตพฺพา’’ติ วทนฺติ. มุฏฺิตฺติกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ทฺวิหตฺเถน อนฺตรวาสเกน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘ปารุปเนนปี’’ติอาทิ. อติเรกนฺติ สุคตจีวรโต อติเรกํ. อูนกนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิโต อูนกํ. เตน จ เตสุ ติจีวราธิฏฺานํ น รุหตีติ ทสฺเสติ.

อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามีติ อิมํ สงฺฆาฏิอธิฏฺานํ อุกฺขิปามิ, ปริจฺจชามีติ อตฺโถ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ปน ‘‘ปจฺจุทฺธรามีติ เปมิ, ปริจฺจชามีติ วา อตฺโถ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺเถน จีวรํ ปรามสนฺเตน, จาเลนฺเตน วา. วาจาย อธิฏฺาตพฺพาติ เอตฺถ กาเยนปิ จาเลตฺวา วาจมฺปิ ภินฺทิตฺวา กายวาจาหิ อธิฏฺานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ, ‘‘กาเยน อผุสิตฺวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อหตฺถปาสหตฺถปาสวเสน ทุวิธํ อธิฏฺานํ. ตตฺถ ‘‘หตฺถปาโส นาม อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ. ‘ทฺวาทสหตฺถ’นฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ อิธ น สเมตี’’ติ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) วุตฺตํ. ‘‘อิทานิ สมฺมุขาปรมฺมุขาเภเทน ทุวิธํ อธิฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ หตฺถปาเสติอาทิ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ปน ‘‘หตฺถปาเสติ จ อิทํ ทฺวาทสหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ‘อิม’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ, ตโต ปรํ ‘เอต’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพนฺติ เกจิ วทนฺติ, คณฺิปเทสุ ปเนตฺถ น กิฺจิ วุตฺตํ, ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ สพฺพตฺถ ‘หตฺถปาโส’ติ อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ, ตสฺมา อิธ วิเสสวิกปฺปนาย การณํ คเวสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ ปาฬิยฏฺกถาสุปิ อฑฺฒเตยฺยหตฺถเมว หตฺถปาโส วุตฺโต, ฏีกาจริเยหิ จ ตเทว สมฺปฏิจฺฉิโต, ตสฺมา อฑฺฒเตยฺยหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ จีวรํ ‘‘อิม’’นฺติ, ตโต พหิภูตํ ‘‘เอต’’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ.

‘‘สามนฺตวิหาเรติ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณโยคฺเค ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตโต ทูเร ิตมฺปิ ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขนฺเตน อธิฏฺาตพฺพเมว. ตตฺถาปิ จีวรสฺส ปิตภาวสลฺลกฺขณเมว ปมาณํ. น หิ สกฺกา นิจฺจสฺส านํ สลฺลกฺเขตุํ, เอกสฺมึ วิหาเร เปตฺวา ตโต อฺสฺมึ ปิตนฺติ อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘ตถาปิ อธิฏฺิเต น โทโส’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ, วีมํสิตพฺพ’’นฺติ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ปน ‘‘สามนฺตวิหาโร นาม ยตฺถ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺเตตุํ สกฺกา. สามนฺตวิหาเรติ อิทํ เทสนาสีสมตฺตํ, ตสฺมา ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ จ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณํ อนุจฺฉวิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, จีวรสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ. วชิรพุทฺธิฏีกายฺจ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๔๖๙) ‘‘สงฺฆาฏิ อุตฺตราสงฺโค อนฺตรวาสกนฺติ อธิฏฺิตานธิฏฺิตานํ สมานเมว นามํ. ‘อยํ สงฺฆาฏี’ติอาทีสุ อนธิฏฺิตา วุตฺตา. ‘ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยา’ติ เอตฺถ อธิฏฺิตา วุตฺตา. สามนฺตวิหาเรติ โคจรคามโต วิหาเรติ ธมฺมสิริตฺเถโร. ทูรตเรปิ ลพฺภเตวาติ อาจริยา. อนุคณฺิปเทปิ ‘สามนฺตวิหาเรติ เทสนาสีสมตฺตํ, ตสฺมา ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ. สามนฺตวิหาโร นาม ยตฺถ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺติตุํ สกฺกา. รตฺติวิปฺปวาสํ รกฺขนฺเตน ตโต ทูเร ิตํ อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ กิร มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ. เกจิ ‘จีวรวํเส ปิตํ อฺโ ปริวตฺเตตฺวา นาคทนฺเต เปติ, ตํ อชานิตฺวา อธิฏฺหนฺตสฺสปิ รุหติ จีวรสฺส สลฺลกฺขิตตฺตา’ติ วทนฺตี’’ติ, ตสฺมา อาจริยานํ มตเภทํ สํสนฺทิตฺวา คเหตพฺพํ.

อธิฏฺหิตฺวาปิตวตฺเถหีติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ. เตเนว ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปริกฺขารโจฬสฺส ปจฺจุทฺธารํ ทสฺเสติ, เอเตน จ เตจีวริกธุตงฺคํ ปริหรนฺเตน ปํสุกูลาทิวเสน ลทฺธํ วตฺถํ ทสาหพฺภนฺตเร กตฺวา รชิตฺวา ปารุปิตุมสกฺโกนฺเตน ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวาว ทสาหมติกฺกมาเปตพฺพํ, อิตรถา นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ ทสฺเสติ, เตเนว ‘‘รชิตกาลโต ปน ปฏฺาย นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, ธุตงฺคโจโร นาม โหตี’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕) วุตฺตํ. ปุน อธิฏฺาตพฺพานีติ อิทฺจ สงฺฆาฏิอาทิติจีวรนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุกามสฺส วเสน วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน ปุริมาธิฏฺานเมว อลนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุน อธิฏฺาตพฺพนฺติ อิมินา กปฺปพินฺทุปิ ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อธิฏฺานกิจฺจํนตฺถีติ อิมินา กปฺปพินฺทุทานกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ, มหนฺตตรเมวาติอาทิ สพฺพาธิฏฺานสาธารณลกฺขณํ. ตตฺถ ปุน อธิฏฺาตพฺพนฺติ อนธิฏฺิตจีวรสฺส เอกเทสภูตตฺตา อนธิฏฺิตฺเจ, อธิฏฺิตสฺส อปฺปภาเวน เอกเทสภูตํ อธิฏฺิตสงฺขเมว คจฺฉติ, ตถา อธิฏฺิตฺเจ, อนธิฏฺิตสฺส เอกเทสภูตํ อนธิฏฺิตสงฺขํ คจฺฉตีติ ลกฺขณํ. น เกวลฺเจตฺถ ทุติยปฏฺฏเมว, อถ โข ตติยปฏฺฏาทิกมฺปิ. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว…เป… อุตุทฺธฏานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ…เป… ปํสุกูเล ยาวทตฺถ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘).

มุฏฺิปฺจกาทิติจีวรปฺปมาณยุตฺตํ สนฺธาย ‘‘ติจีวรํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ กตฺวา อธิฏฺาตุํ. อวเสสา ภิกฺขูติ วกฺขมานกาเล นิสินฺนา ภิกฺขู. ตสฺมา วฏฺฏตีติ ยถา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ, น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตํ, เอวํ ปริกฺขารโจฬมฺปิ วุตฺตํ, น จสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท วุตฺโต, น จ สงฺขาปริจฺเฉโท, ตสฺมา ตีณิปิ จีวรานิ ปจฺจุทฺธริตฺวา อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. นิธานมุขเมตนฺติ เอตํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ นิธานมุขํ ปนมุขํ, อติเรกจีวรฏฺปนการณนฺติ อตฺโถ. กถํ ายตีติ เจ, เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ, อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. เอตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อนุฺาตตฺตา ภิกฺขูนฺจ เอกเมว ปริสฺสาวนํ, ถวิกา วา วฏฺฏติ, น ทฺเว วา ตีณิ วาติ ปฏิกฺเขปาภาวโต วิกปฺปนูปคปจฺฉิมปฺปมาณานิ, อติเรกปฺปมาณานิ วา ปริสฺสาวนาทีนิ ปริกฺขารานิ กปฺปนฺตีติ สิทฺธํ. ปมํ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺาตพฺพํ, ปุน ปริหริตุํ อสกฺโกนฺเตน ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ , น ตฺเวว อาทิโตว อิทํ วุตฺตํ. พทฺธสีมาย อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติสมฺภวโต จีวรวิปฺปวาเส เนวตฺถิ โทโสติ น ตตฺถ ทุปฺปริหาโรติ อาห ‘‘อพทฺธสีมาย ทุปฺปริหาร’’นฺติ.

๔๕. อติริตฺตปฺปมาณาย เฉทนกํ ปาจิตฺติยนฺติ อาห ‘‘อนติริตฺตปฺปมาณา’’ติ. ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ วสฺสิกมาสโต ปรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, อิมินา จตุนฺนํ วสฺสิกมาสานํ อุปริ อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ วิฺายติ, อสโต ปจฺจุทฺธราโยคา, ยฺจ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฏฺานํ วิชหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมนฺตปาสาทิกายํ นตฺถิ, ปริวารฏฺกถายฺจ ‘‘อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, โน คิมฺเห’’ติ เอตฺถ น ตํ วุตฺตํ, กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ. ‘‘จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ตตฺถ มหาอฏฺกถายํ นิวาสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน อปจฺจุทฺธารปจฺจยา, ตสฺมา กุรุนฺทิยํ วุตฺตนเยนปิ วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานาติกฺกเมปิ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ ปฺายติ. อธิฏฺานวิชหเนสุ จ วสฺสานมาสอาพาธานํ วิคเม วิชหนํ มาติกาฏฺกถายมฺปิ น อุทฺธฏํ, ตสฺมา สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อาคตนเยน ยาว ปจฺจุทฺธารา อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ คเหตพฺพํ.

นหานตฺถาย อนุฺาตตฺตา ‘‘วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตีติ อิมินา สงฺฆาฏิอาทีสุปิ ทุติยอธิฏฺานํ น รุหติ, ตํ อติเรกจีวรํ โหตีติ ทสฺเสติ. มหาปจฺจริยํ จีวรวเสน ปริโภคกิจฺจสฺส อภาวํ สนฺธาย ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตา เสนาสนปริโภคตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ วิย. ยํ ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ เสนาสนตฺถาเยวาติ นิยมิตํ น โหติ นวสุ จีวเรสุ คหิตตฺตา, ตสฺมา อตฺตโน นาเมน อธิฏฺหิตฺวา นิทหิตฺวา ปริกฺขารโจฬํ วิย ยถา ตถา วินิยุชฺชิตเมวาติ คเหตพฺพํ, ปาวาโรโกชโวติ อิเมสมฺปิ ปจฺจตฺถรณาทินา โลเกปิ โวหรณโต เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรณโต วิสุํ คหณํ กตํ. สเจ อวสาเน อปราวสฺสิกสาฏิกา อุปฺปนฺนา โหติ, ปุริมวสฺสิกสาฏิกํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตฺวา อธิฏฺาตพฺพาติ วทนฺติ.

นิสีทนมฺหิ ปมาณยุตฺตนฺติ ‘‘ทีฆโต สุคตวิทตฺถิยา ทฺเว วิทตฺถิโย, วิตฺถารโต ทิยฑฺฒํ, ทสา วิทตฺถี’’ติอิมินา ปมาเณน ยุตฺตํ, ตํ ปน มชฺฌิมปุริสหตฺถสงฺขาเตน วฑฺฒกีหตฺเถน ทีฆโต ติหตฺถํ โหติ, วิตฺถารโต ฉฬงฺคุลาธิกทฺวิหตฺถํ, ทสา วิทตฺถาธิกหตฺถํ, อิทานิ มนุสฺสานํ ปกติหตฺเถน ทีฆโต วิทตฺถาธิกจตุหตฺถํ โหติ, วิตฺถารโต นวงฺคุลาธิกติหตฺถํ, ทสา ฉฬงฺคุลาธิกทฺวิหตฺถา, ตโต อูนํ วฏฺฏติ, น อธิกํ ‘‘ตํ อติกฺกามยโต เฉทนกํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๕๓๓) วุตฺตตฺตา. กณฺฑุปฏิจฺฉาทิยา ปมาณิกาติ ‘‘ทีฆโต จตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๓๘) วุตฺตตฺตา เอวํ วุตฺตปฺปมาณยุตฺตา, สา ปน วฑฺฒกีหตฺเถน ทีฆโต ฉหตฺถา โหติ, วิตฺถารโต ติหตฺถา, อิทานิ ปกติหตฺเถน ปน ทีฆโต นวหตฺถา โหติ, ติริยโต วิทตฺถาธิกจตุหตฺถาติ เวทิตพฺพา. วิกปฺปนูปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปริกฺขารโจฬนฺติ เอตฺถ ปน วิกปฺปนูปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ นาม สุคตงฺคุเลน ทีฆโต อฏฺงฺคุลํ โหติ, ติริยโต จตุรงฺคุลํ, วฑฺฒกีหตฺเถน ทีฆโต เอกหตฺถํ โหติ, ติริยโต วิทตฺถิปฺปมาณํ, อิทานิ ปกติหตฺเถน ปน ทีฆโต วิทตฺถาธิกหตฺถํ โหติ, ติริยโต ฉฬงฺคุลาธิกวิทตฺถิปฺปมาณํ. เตนาห ‘‘ตสฺส ปมาณ’’นฺติอาทิ.

เภสชฺชตฺถายาติอาทีสุ อตฺตโน สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย ‘‘อนธิฏฺิเตปิ นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อิทํ เภสชฺชตฺถาย, อิทํ มาตุยา’’ติ วิภชิตฺวา สกสนฺตกภาวโต โมเจตฺวา เปนฺเตน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามี’’ติ เปนฺเตน ปน อธิฏฺาตพฺพเมวาติ วทนฺติ. เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณติ เอตฺถ อนิวาเสตฺวา อปารุปิตฺวา เกวลํ มฺจปีเสุเยว อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิยมานํ ปจฺจตฺถรณํ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อนธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, เหฏฺา ปน ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อตฺตโน สนฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ เอตฺถ ปจฺฉา วีตฏฺานํ อธิฏฺิตเมว โหติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อนฺตรนฺตรา วีตํ โหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพนฺติ วทนฺติ. เอเสว นโยติ วิกปฺปนูปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๔๖. ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนนา’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนเนวาติ เอตมตฺถํ คเหตฺวา ภิกฺขุ ปน วิพฺภมนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา. ภิกฺขุนิยา หิ คิหิภาวูปคมเนน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณีภาวโต. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ปน อิทํ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโตว สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิ จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ อิทํ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุปฏิฺาย ิตสฺส เจว ติตฺถิยปกฺกนฺตสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนิภาเว นิรเปกฺขตาย คิหิลิงฺคติตฺถิยลิงฺคคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, ตทาปิ ตสฺส อุปสมฺปนฺนตฺตา จีวรสฺส จ ตสฺส สนฺตกตฺตา วิชหนโต’’ติ วุตฺตํ, อิติ อิมานิ ทฺเว วจนานิ อฺมฺวิรุทฺธานิ หุตฺวา ทิสฺสนฺติ.

อฏฺกถายํ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนน สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) วิสุํ วุตฺตตฺตา หีนายาวตฺตนฺเต สติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขนฺเตปิ จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺเต สติ หีนาย อนาวตฺตนฺเตปีติ อธิปฺปาโย ทิสฺสติ, ตสฺมา สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย เกวลํ คิหิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส กิฺจาปิ ภิกฺขุภาโว อตฺถิ, จีวรสฺส จ ตสฺส สนฺตกตฺตา วิชหนํ, ตถาปิ ‘‘หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วุตฺตตฺตา คิหิภาวูปคมเนเนว อธิฏฺานวิชหนํ สิยา ยถา ตํ ลิงฺคปริวตฺตเนน. คิหิภาวํ อนุปคนฺตฺวา จ เกวลํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ กโรนฺตสฺส กิฺจาปิ ภิกฺขุลิงฺคํ อตฺถิ, จีวรสฺส จ ตสฺส สนฺตกตฺตา วิชหนํ, ตถาปิ ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนา’’ติ วุตฺตตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขาเนเนว อธิฏฺานวิชหนํ สิยา ยถา ตํ ปจฺจุทฺธรเณ, ตสฺมา ภิกฺขุ วา โหตุ ภิกฺขุนี วา, หีนายาวตฺติสฺสามีติ จิตฺเตน คิหิลิงฺคคฺคหเณน จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหติ. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน ปน ภิกฺขุสฺเสว จีวรํ ภิกฺขุนิยา สิกฺขาปจฺจกฺขานาภาวาติ อยมมฺหากํ ขนฺติ. อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนกติตฺถิยปกฺกนฺตกานํ ปน จีวรสฺส อธิฏฺานวิชหนํ อฏฺกถายํ อนาคตตฺตา เตสฺจ หีนายาวตฺตานโวหาราภาวา วิจาเรตพฺพํ.

กนิฏฺงฺคุลินขวเสนาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. โอรโต ปรโตติ เอตฺถ จ ‘‘โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทตี’’ติ วุตฺตํ. กถํ โอรปรภาโว เวทิตพฺโพติ? ยถา นทีปริจฺฉินฺเน ปเทเส มนุสฺสานํ วสนทิสาภาเค ตีรํ โอริมํ นาม โหติ, อิตรทิสาภาเค ตีรํ ปาริมํ นาม, ตถา ภิกฺขูนํ นิวาสนปารุปนฏฺานภูตํ จีวรสฺส มชฺฌฏฺานํ ยถาวุตฺตวิทตฺถิอาทิปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรํ นาม, จีวรปริยนฺตฏฺานํ ปรํ นาม, อิติ โลกโต วา ยถา จ โอรโต โภคํ ปรโต อนฺตํ กตฺวา จีวรํ เปตพฺพนฺติ วุตฺเต ภิกฺขุโน อภิมุขฏฺานํ โอรํ นาม, อิตรฏฺานํ ปรํ นาม, เอวํ ภิกฺขูนํ นิวาสนปารุปนฏฺานํ โอรํ นาม, อิตรํ ปรํ นาม. เอวํ สาสนโต วา โอรปรภาโว เวทิตพฺโพ. เตเนว โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโยติ สกลสฺมึ จีวเร อธิฏฺานภิชฺชนาภิชฺชนภาโว ทสฺสิโต. เตน วุตฺตํ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๙) ‘‘เอส นโยติ อิมินา ปมาณยุตฺเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺเท อธิฏฺานํ วิชหตีติอาทิอตฺถํ สงฺคณฺหาตี’’ติ.

ขุทฺทกํ จีวรนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิเภทปฺปมาณโต อนูนเมว ขุทฺทกจีวรํ. มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรตีติ เอตฺถ ติณฺณํ จีวรานํ จตูสุ ปสฺเสสุ ยสฺมึ ปเทเส ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตสฺมึ ปเทเส สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา ขุทฺทกํ กโรนฺตสฺส อธิฏฺานํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย. วิมติวิโนทนิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ วา กโรตีติ เอตฺถ อติมหนฺตํ จีวรํ มุฏฺิปฺจกาทิปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตํ กตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทเนนปิ วิจฺฉินฺทนกาเล ฉิชฺชมานฏฺานํ ฉิทฺทสงฺขํ น คจฺฉติ, อธิฏฺานํ น วิชหติ เอวาติ สิชฺฌติ, ‘ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ น ภิชฺชตี’ติ วจเนน จ สเมติ. ปริกฺขารโจฬํ ปน วิกปฺปนูปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูนํ กตฺวา ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหติ อธิฏฺานสฺส อนิสฺสยตฺตา, ตานิ ปุน พทฺธานิ ฆฏิตานิ ปุน อธิฏฺาตพฺพเมวาติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘วสฺสิกสาฏิกจีวเร ทฺวิธา ฉินฺเน ยทิปิ เอเกกํ ขณฺฑํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ โหติ, เอกสฺมึเยว ขณฺเฑ อธิฏฺานํ ติฏฺติ, น อิตรสฺมึ, ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’ติ วุตฺตตฺตา นิสีทนกณฺฑุปฏิจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโยติ วทนฺตี’’ติ.

๔๗. สมฺมุเข ปวตฺตา สมฺมุขาติ ปจฺจตฺตวจนํ, ตฺจ วิกปฺปนาวิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘สมฺมุเข’’ติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ กตฺวาปิ อตฺถํ วทนฺติ, อภิมุเขติ อตฺโถ. อถ วา สมฺมุเขน อตฺตโน วาจาย เอว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา. ปรมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ กรณตฺเถนปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยเมว ปาฬิยา สเมติ. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตเกเนว วิกปฺปนากิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา อติเรกจีวรํ น โหตีติ ทสาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ น ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ปริภุฺชิตุํ…เป… น วฏฺฏตีติ สยํ อปจฺจุทฺธารณปริภุฺชเน ปาจิตฺติยํ, อธิฏฺหเน ปเรสํ วิสฺสชฺชเน จ ทุกฺกฏฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ ปริโภควิสฺสชฺชนอธิฏฺานานิ วฏฺฏนฺติ. อปิ-สทฺเทน นิเธตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอเตน ปจฺจุทฺธาเรปิ กเต จีวรํ อธิฏฺาตุกาเมน วิกปฺปิตจีวรเมว โหติ, น อติเรกจีวรํ, ตํ ปน ติจีวราทินาเมน อธิฏฺาตุกาเมน อธิฏฺหิตพฺพํ, อิตเรน วิกปฺปิตจีวรเมว กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

เกจิ ปน ‘‘ยํ วิกปฺปิตจีวรํ, ตํ ยาว ปริโภคกาลา อปจฺจุทฺธราเปตฺวา นิทเหตพฺพํ, ปริโภคกาเล ปน สมฺปตฺเต ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ยทิ หิ ตโต ปุพฺเพปิ ปจฺจุทฺธราเปยฺย, ปจฺจุทฺธาเรเนว วิกปฺปนาย วิคตตฺตา อติเรกจีวรํ นาม โหติ, ทสาหาติกฺกเม ปตฺเตว นิสฺสคฺคิยํ, ตสฺมา ยํ อปริภุฺชิตฺวา เปตพฺพํ, ตเทว วิกปฺเปตพฺพํ. ปจฺจุทฺธาเร จ กเต อนฺโตทสาเหเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ยฺจ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ‘ตโต ปรํ ปริโภคาทิ วฏฺฏตี’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. ปาฬิยฺหิ ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ (ปารา. ๔๖๙) จ ‘‘สามํ จีวรํ วิกปฺเปตฺวา อปจฺจุทฺธารณํ ปริภุฺเชยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๗๓) จ ‘‘อนาปตฺติ โส วา เทติ, ตสฺส วา วิสฺสาสนฺโต ปริภุฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๖) จ สามฺโต วุตฺตตฺตา, อฏฺกถายฺจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ‘‘อิมํ จีวรํ วา วิกปฺปนํ วา ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินา ปจฺจุทฺธารํ อทสฺเสตฺวา ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ กโรหี’’ติ เอวํ อตฺตโน สนฺตกตฺตํ อโมเจตฺวาว ปริโภคาทิวเสน ปจฺจุทฺธารสฺส วุตฺตตฺตา, ‘‘ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ อธิฏฺานํ วินาปิ วิสุํ ปริโภคสฺส นิธานสฺส จ วุตฺตตฺตา วิกปฺปนานนฺตรเมว ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อนธิฏฺหิตฺวา เอว จ ติจีวรรหิตํ วิกปฺปนารหํ จีวรํ ปริภุฺชิตุฺจ นิทหิตุฺจ อิทํ ปาเฏกฺกํ วินยกมฺมนฺติ ขายติ. อปิจ พหูนํ ปตฺตานํ วิกปฺเปตุํ ปจฺจุทฺธเรตุฺจ วุตฺตตฺตา ปจฺจุทฺธาเร เตสํ อติเรกปตฺตตา ทสฺสิตาติ สิชฺฌติ เตสุ เอกสฺเสว อธิฏฺาตพฺพโต, ตสฺมา อฏฺกถายํ อาคตนเยเนว คเหตพฺพํ.

มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺโต, น ทฬฺหมิตฺโต. ปฺตฺติโกวิโท น โหตีติ เอวํ วิกปฺปิเต อนนฺตรเมว เอวํ ปจฺจุทฺธริตพฺพนฺติ วินยกมฺมํ น ชานาติ. เตนาห ‘‘น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุ’’นฺติ. อิมินาปิ เจตํ เวทิตพฺพํ ‘‘วิกปฺปนาสมนนฺตรเมว ปจฺจุทฺธาโร กาตพฺโพ’’ติ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏตีติ อธิฏฺิตอธิฏฺานํ วิยาติ อธิปฺปาโย.

๔๘. เอวํ จีวเร อธิฏฺานวิกปฺปนานยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปตฺเต อธิฏฺานวิกปฺปนานยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺเต ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปตติ ปิณฺฑปาโต เอตฺถาติ ปตฺโต, ชินสาสนภาโว ภิกฺขาภาชนวิเสโส. วุตฺตฺหิ ‘‘ปตฺตํ ปกฺเข ทเล ปตฺโต, ภาชเน โส คเต ติสู’’ติ, ตสฺมึ ปตฺเต. ปนาติ ปกฺขนฺตรตฺเถ นิปาโต. นโยติ อธิฏฺานวิกปฺปนานโย. จีวเร วุตฺตอธิฏฺานวิกปฺปนานยโต อฺภูโต อยํ วกฺขมาโน ปตฺเต อธิฏฺานวิกปฺปนานโย เวทิตพฺโพติ โยชนา. ปตฺตํ อธิฏฺหนฺเตน ปมาณยุตฺโตว อธิฏฺาตพฺโพ, น อปฺปมาณยุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. เตน ปมาณโต อูนาธิเก ปตฺเต อธิฏฺานํ น รุหติ, ตสฺมา ตาทิสํ ปตฺตํ ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. วกฺขติ หิ ‘‘เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพา, น อธิฏฺานูปคา น วิกปฺปนูปคา’’ติ.

ทฺเว มคธนาฬิโยติ เอตฺถ มคธนาฬิ นาม ยา มาคธิกาย ตุลาย อฑฺฒเตรสปลปริมิตํ อุทกํ คณฺหาติ. สีหฬทีเป ปกตินาฬิโต ขุทฺทกา โหติ, ทมิฬนาฬิโต ปน มหนฺตา. วุตฺตฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒) ‘‘มคธนาฬิ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตีติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. สีหฬทีเป ปกตินาฬิ มหนฺตา, ทมิฬนาฬิ ขุทฺทกา, มคธนาฬิปมาณยุตฺตา, ตาย มคธนาฬิยา ทิยฑฺฒนาฬิ เอกา สีหฬนาฬิ โหตีติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ. อถ วา มคธนาฬิ นาม ยา ปฺจ กุฑุวานิ เอกฺจ มุฏฺึ เอกาย จ มุฏฺิยา ตติยภาคํ คณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๙๘-๖๐๒) ‘‘มคธนาฬิ นาม ฉปสตา นาฬีติ เกจิ. ‘อฏฺปสตา’ติ อปเร. ตตฺถ ปุริมานํ มเตน ติปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ โหติ. ปจฺฉิมานํ จตุปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ปกติยา จตุมุฏฺิกํ กุฑุวํ, จตุกุฑุวํ นาฬิกํ, ตาย นาฬิยา โสฬส นาฬิโย โทณํ, ตํ ปน มคธนาฬิยา ทฺวาทส นาฬิโย โหนฺตีติ วุตฺตํ, ตสฺมา เตน นเยน มคธนาฬิ นาม ปฺจ กุฑุวานิ เอกฺจ มุฏฺึ เอกาย มุฏฺิยา ตติยภาคฺจ คณฺหาตีติ เวทิตพฺพ’’นฺติ. ตตฺถ กุฑุโวติ ปสโต. วุตฺตฺหิ อภิธานปฺปทีปิกายํ –

‘‘กุฑุโว ปสโต เอโก;

ปตฺโถ เต จตุโร สิยุํ;

อาฬฺหโก จตุโร ปตฺถา;

โทณํ วา จตุราฬฺหก’’นฺติ.

อถ วา มคธนาฬิ นาม ยา จตุกุฑุวาย นาฬิยา จตสฺโส นาฬิโย คณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๖๐๒) ‘‘ทมิฬนาฬีติ ปุราณกนาฬึ สนฺธาย วุตฺตํ. สา จ จตุมุฏฺิเกหิ กุฑุเวหิ อฏฺกุฑุวา, ตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย มคธนาฬิ คณฺหาติ, ปุราณา ปน สีหฬนาฬิ ติสฺโส นาฬิโย คณฺหาตีติ วทนฺติ, เตสํ มเตน มคธนาฬิ อิทานิ วตฺตมานาย จตุกุฑุวาย ทมิฬนาฬิยา จตุนาฬิกา โหติ, ตโต มคธนาฬิโต อุปฑฺฒฺจ ปุราณทมิฬนาฬิสงฺขาตํ ปตฺถํ นาม โหติ, เอเตน จ โอมโก นาม ปตฺโต ปตฺโถทนํ คณฺหาตีติ ปาฬิวจนํ สเมติ. โลกิเยหิปิ –

‘โลกิยํ มคธฺเจติ, ปตฺถทฺวยมุทาหฏํ;

โลกิยํ โสฬสปลํ, มาคธํ ทิคุณํ มต’นฺติ. (วิ. วิ. ฏี. ๑.๖๐๒) –

เอวํ โลเก นาฬิยา มคธนาฬิ ทิคุณาติ ทสฺสิตา. เอวฺจ คยฺหมาเน โอมกปตฺตสฺส จ ยาปนมตฺโตทนคาหิกา จ สิทฺธา โหติ. น หิ สกฺกา อฏฺกุฑุวโต อูโนทนคาหินา ปตฺเตน อถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปริเยสิตฺวา ยาเปตุํ. เตเนว วุตฺตํ เวรฺชกณฺฑฏฺกถายํ ‘ปตฺโถ นาม นาฬิมตฺตํ โหติ, เอกสฺส ปุริสสฺส อลํ ยาปนายา’ติ’’. วุตฺตมฺปิ เหตํ ชาตกฏฺกถายํ (ชา. อฏฺ. ๕.๒๑.๑๙๒) ‘‘ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’นฺติ, ‘‘เอกสฺส ทินฺนํ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปโหตี’’ติ จ, ตสฺมา อิธ วุตฺตนยานุสาเรน คเหตพฺพนฺติ. อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ โอทนสฺส จตุภาคมตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ มชฺฌิมนิกาเย พฺรหฺมายุสุตฺตสํวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺถภาโค’’ติ. โอทนคติกานีติ โอทนสฺส คติ คติ เยสํ ตานิ โอทนคติกานิ. คตีติ จ โอกาโส โอทนสฺส อนฺโตปวิสนสีลตฺตา โอทนสฺส โอกาโสเยว เตสํ โอกาโส โหติ, น อฺํ อตฺตโน โอกาสํ คเวสนฺตีติ อตฺโถ. ภาชนปริโภเคนาติ อุทกาหรณาทินา ภาชนปริโภเคน.

เอวํ ปมาณโต อธิฏฺานูปควิกปฺปนูปคปตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปากโต มูลโต จ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมาณยุตฺตานมฺปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ ปตฺโตติ กมฺมารปกฺกํเยว อนธิฏฺหิตฺวา สมณสารุปฺปนีลวณฺณกรณตฺถาย ปุนปฺปุนํ นานาสมฺภาเรหิ ปจิตพฺโพ, อโยปตฺตสฺส อติกกฺขฬตฺตา กมฺมารปาเกน สทฺธึ ปฺจวารปกฺโกเยว สมณสารุปฺปนีลวณฺโณ โหติ. มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺส ปน มุทุกตฺตา กุมฺภการกปาเกน สทฺธึ ทฺวิวารปกฺโกปิ สมณสารุปฺปนีลวณฺโณ โหติ. เอวํ กโตเยว หิ ปตฺโต อธิฏฺานูปโค วิกปฺปนูปโค จ โหติ, นากโต. เตน วกฺขติ ‘‘ปาเก จ มูเล จ สุนิฏฺิเตเยว อธิฏฺานูปโค โหติ. โย อธิฏฺานูปโค, สฺเวว วิกปฺปนูปโค’’ติ (วิ. สงฺค. อฏฺ. ๔๘). โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพติ เอเตน ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตุํ วิกปฺเปตุฺจ ลภติ, ปิตฏฺานสลฺลกฺขณเมว ปมาณนฺติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ วิตฺถาเรตุมาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ. หิ-สทฺโท วิตฺถารโชตโก. ตตฺถ ปจิตฺวา เปสฺสามีติ กาฬวณฺณปากํ สนฺธาย วุตฺตํ.

อิทานิ ปตฺตาธิฏฺานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา’’ติอาทิ. ตตฺถ สามนฺตวิหาเรติ อิทํ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ, ตโต ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ อิทมฺปิ อุปจารมตฺตํ, ปตฺตสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณํ.

อิทานิ อธิฏฺานวิชหนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ อปฺปมตฺตสฺส’’ตฺยาทิมาห. ตตฺถ ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหตีติ มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลมตฺโตกาสโต ปฏฺาย ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ.

สตฺตนฺนํธฺานนฺติ –

‘‘สาลิ วีหิ จ กุทฺรูโส;

โคธูโม วรโก ยโว;

กงฺคูติ สตฺต ธฺานิ;

นีวาราที ตุ ตพฺภิทา’’ติ. –

วุตฺตานํ สตฺตวิธานํ ธฺานํ.

๔๙. เอวํ ปตฺตาธิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปตฺตวิกปฺปนํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิกปฺปเน ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ จีวรวิกปฺปเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๕๐. เอวํ วิกปฺปนานยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปตฺเต ภินฺเน กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอวํ อธิฏฺหิตฺวา’’อิจฺจาทิ. ตตฺถ อปตฺโตติ อิมินา อธิฏฺานวิชหนมฺปิ ทสฺเสติ. ปฺจพนฺธเนปิ ปตฺเต อปริปุณฺณปาเก ปตฺเต วิย อธิฏฺานํ น รุหติ. ‘‘ติปุปฏฺเฏน วา’’ติ วุตฺตตฺตา ตมฺพโลหาทิกปฺปิยโลเหหิ อโยปตฺตสฺส ฉิทฺทํ ฉาเทตุํ วฏฺฏติ. เตเนว ‘‘โลหมณฺฑลเกนา’’ติ วุตฺตํ. สุทฺเธหิ…เป… น วฏฺฏตีติ อิทํ อุณฺหโภชเน ปกฺขิตฺเต วิลียมานตฺตา วุตฺตํ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปาสาณจุณฺเณน สทฺธึ ผาณิตํ ปจิตฺวา ตถาปกฺเกน ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อปริโภเคนาติ อยุตฺตปริโภเคน. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อาธารก’’นฺติ วุตฺตตฺตา มฺจปีาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ อาธารกํ เปตฺวา ตตฺถ ปตฺตํ เปตุํ วฏฺฏติ อาธารกฏฺปโนกาสสฺส อนิยมิตตฺตาติ วทนฺติ.

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม

อฏฺโม ปริจฺเฉโท.