📜
๙. จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถา
๕๑. เอวํ ¶ อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จีวเรน วินาวาสวินิจฺฉยกรณํ ทสฺเสตุํ ‘‘จีวเรนวินาวาโส’’ตฺยาทิมาห. ตตฺถ จียตีติ จีวรํ, จยํ สฺจยํ ¶ กรียตีติ อตฺโถ, อริยทฺธโช วตฺถวิเสโส. อิธ ปน ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺหิตฺวา ธาริตํ จีวรตฺตยเมว. วินาติ วชฺชนตฺเถ นิปาโต. วสนํ วาโส, วินา วาโส วินาวาโส, จีวเรน วินาวาโส จีวรวินาวาโส, ‘‘จีวรวิปฺปวาโส’’ติ วตฺตพฺเพ วตฺติจฺฉาวเสน, คาถาปาทปูรณตฺถาย วา อลุตฺตสมาสํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ติจีวราธิฏฺาเนน…เป… วิปฺปวาโส’’ติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามิ, อิมํ อุตฺตราสงฺคํ อธิฏฺามิ, อิมํ อนฺตรวาสกํ อธิฏฺามี’’ติ เอวํ นาเมน อธิฏฺิตานํ ติณฺณํ จีวรานํ เอเกเกน วิปฺปวาโสติ อตฺโถ, เอเกนปิ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ, วสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สห อรุณุคฺคมนา จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ปาจิตฺติยฺจ อาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. วสิตพฺพนฺติ เอตฺถ วสนกิริยา จตุอิริยาปถสาธารณา, ตสฺมา กายลคฺคํ วา โหตุ อลคฺคํ วา, อฑฺฒเตยฺยรตนสฺส ปเทสสฺส อนฺโต กตฺวา ติฏฺนฺโตปิ จรนฺโตปิ นิสินฺโนปิ นิปนฺโนปิ หตฺถปาเส กตฺวา วสนฺโต นาม โหติ.
เอวํ สามฺโต อวิปฺปวาสลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ คามาทิปนฺนรโสกาสวเสน วิเสสโต ทสฺเสตุมาห ‘‘คามิ’’จฺจาทิ. ตตฺถ คามนิเวสนานิ ปากฏาเนว. อุโทสิโต นาม ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา. อฏฺโฏ นาม ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬ นาม เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท. ปาสาโท นาม ทีฆปาสาโท. หมฺมิยํ นาม มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท, มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ ¶ จ จนฺทิกงฺคณยุตฺโต ปาสาโทติ วุจฺจติ. สตฺโถ นาม ชงฺฆสตฺโถ วา สกฏสตฺโถ วา. เขตฺตํ นาม ปุพฺพณฺณาปรณฺณานํ วิรุหนฏฺานํ. ธฺกรณํ นาม ขลมณฺฑลํ. อาราโม นาม ปุปฺผาราโม ผลาราโม. วิหาราทโย ปากฏา เอว. ตตฺถ นิเวสนาทีนิ คามโต พหิ สนฺนิวิฏฺานิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ิตานฺหิ คามคฺคหเณน คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติ. คามคฺคหเณน จ นิคมนครานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ.
ปริขาย วา ปริกฺขิตฺโตติ อิมินา สมนฺตา นทีตฬากาทิอุทเกน ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยวาติ ทสฺเสติ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวาติ ฆรสฺส อุปริ อากาเส อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ อติกฺกมิตฺวา. สภาเย วา วตฺถพฺพนฺติ อิมินา สภาสทฺทสฺส ปริยาโย สภายสทฺโท นปุํสกลิงฺโค อตฺถีติ ทสฺเสติ. สภาสทฺโท หิ อิตฺถิลิงฺโค, สภายสทฺโท นปุํสกลิงฺโคติ. ทฺวารมูเล วาติ นครสฺส ทฺวารมูเล วา. เตสนฺติ สภายนครทฺวารมูลานํ. ตสฺสา วีถิยา ¶ สภายทฺวารานํ คหเณเนว ตตฺถ สพฺพานิปิ เคหานิ, สา จ อนฺตรวีถิ คหิตาเยว โหติ. เอตฺถ จ ทฺวารวีถิฆเรสุ วสนฺเตน คามปฺปเวสนสหเสยฺยาทิโทสํ ปริหริตฺวา สุปฺปฏิจฺฉนฺนตาทิยุตฺเตเนว ภวิตพฺพํ. สภา ปน ยทิ สพฺเพสํ วสนตฺถาย ปปาสทิสา กตา, อนฺตราราเม วิย ยถาสุขํ วสิตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปตีติ วีถึ มฺุจิตฺวา ิเต อฺสฺมึ ฆเร นิกฺขิปติ. เตนาห ‘‘วีถิหตฺถปาโส น รกฺขตี’’ติ. ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสติ ฆรสฺส หตฺถปาสํ สนฺธาย วทติ.
เอวํ คามวเสน วิปฺปวาสาวิปฺปวาสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิเวสนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ เอกกุลสฺส สนฺตกํ นิเวสนํ โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โอวรโก นาม คพฺภสฺส ¶ อพฺภนฺตเร อฺโ คพฺโภติ วทนฺติ, คพฺภสฺส วา ปริยายวจนเมตํ. อิทานิ อุโทสิตาทิวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อุโทสิติ’’จฺจาทิมาห. ตตฺถ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘เอกกุลสฺส สนฺตโก อุโทสิโต โหติ ปริกฺขิตฺโต จา’’ติอาทินา นิเวสเน วุตฺตนเยน. เอว-สทฺโท วิเสสนิวตฺติ อตฺโถ. เตน วิเสโส นตฺถีติ ทสฺเสติ.
อิทานิ เยสุ วิเสโส อตฺถิ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ เอกกุลสฺส นาวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปริยาทิยิตฺวาติ วินิวิชฺฌิตฺวา, อชฺโฌตฺถริตฺวา วา. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘อนฺโตปวิฏฺเนา’’ติอาทินา. ตตฺถ อนฺโตปวิฏฺเนาติ คามสฺส, นทิยา วา อนฺโตปวิฏฺเน. ‘‘สตฺเถนา’’ติ ปาเสโส. นทีปริหาโร ลพฺภตีติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา คามาทีหิ อฺตฺถ วิย จีวรหตฺถปาโสเยว นทีปริหาโร’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อฺเ ปน ‘‘อิมินา อฏฺกถาวจเนน นทีปริหาโรปิ วิสุํ สิทฺโธติ นทีหตฺถปาโส น วิชหิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. ยถา ปน อชฺโฌกาเส สตฺตพฺภนฺตรวเสน อรฺปริหาโร ลพฺภติ, เอวํ นทิยํ อุทกุกฺเขปวเสน นทีปริหาโร ลพฺภตีติ กตฺวา อฏฺกถายํ นทีปริหาโร วิสุํ อวุตฺโต สิยา สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมานํ อรฺนทีสุ อพทฺธสีมาวเสน ลพฺภมานตฺตา. เอวฺจ สติ สมุทฺทชาตสฺสเรสุปิ ปริหาโร อวุตฺตสิทฺโธ โหติ นทิยา สมานลกฺขณตฺตา, นทีหตฺถปาโส น วิชหิตพฺโพติ ปน อตฺเถ สติ นทิยา อติวิตฺถารตฺตา พหุสาธารณตฺตา จ อนฺโตนทิยํ จีวรํ เปตฺวา นทีหตฺถปาเส ิเตน จีวรสฺส ปวตฺตึ ชานิตุํ น สกฺกา ภเวยฺย. เอส นโย สมุทฺทชาตสฺสเรสุปิ. อนฺโตอุทกุกฺเขเป วา ตสฺส หตฺถปาเส วา ิเตน ปน สกฺกาติ อยํ อมฺหากํ อตฺตโนมติ, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ ¶ สนฺธายาห. เอตฺถ จ ¶ วิหารสฺส นานากุลสนฺตกภาเวปิ อวิปฺปวาสสีมาปริจฺเฉทพฺภนฺตเร สพฺพตฺถ จีวรอวิปฺปวาสสมฺภวโต ปธานตฺตา ตตฺถ สตฺถปริหาโร น ลพฺภตีติ ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺถสมีเปติ อิทํ ยถาวุตฺตอพฺภนฺตรปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ.
ยสฺมา ‘‘นานากุลสฺส ปริกฺขิตฺเต เขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวารมูลโต อฺตฺถ เขตฺเตปิ วสนฺเตน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาเส กตฺวาเยว วสิตพฺพํ.
วิหาโร นาม สปริกฺขิตฺโต วา อปริกฺขิตฺโต วา สกโล อาวาโสติ วทนฺติ. ยสฺมึ วิหาเรติ เอตฺถ ปน เอกเคหเมว วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๙๑-๔๙๔) ปน ‘‘วิหาโร นาม อุปจารสีมา. ยสฺมึ วิหาเรติ ตสฺส อนฺโตปริเวณาทึ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอกกุลาทิสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน เวทิตพฺพา.
ยํ มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรตีติ ยทา มหาวีถิยํ อุชุกเมว คจฺฉนฺตํ สูริยมณฺฑลํ มชฺฌนฺหิกํ ปาปุณาติ, ตทา ยํ โอกาสํ ฉายา ผรติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิมติวิโนทนิยํ ปน ‘‘ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺสาติ อุชุกํ อวิกฺขิตฺตเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ สนฺธาย วทตี’’ติ วุตฺตํ. อคมนปเถติ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยเก สมุทฺทมชฺเฌ เย ทีปกา, เตสูติ โยชนา. อิตรสฺมินฺติ ปุรตฺถิมทิสาย จีวเร.
๕๒. นทึ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มฺุจิตฺวา โอตรติ. นาปชฺชตีติ ปริโภคปจฺจยา ทุกฺกฏํ นาปชฺชติ. เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. อปริโภคารหตฺตาติ อิมินา นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อจิตฺตกนฺติ สิทฺธํ. เอกํ ¶ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อิทํ พหูนํ สฺจรณฏฺาเน เอวํ อกตฺวา คมนํ น สารุปฺปนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺคตฺตา. พหิคาเม เปตฺวาปิ อปารุปิตพฺพตาย วุตฺตํ ‘‘วินยกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ. อถ วา วิหาเร สภาคํ ภิกฺขุํ น ปสฺสติ, เอวํ สติ อาสนสาลํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ โยชนา. อาสนสาลํ คจฺฉนฺเตน กึ ตีหิ จีวเรหิ คนฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘สนฺตรุตฺตเรนา’’ติ นฏฺจีวรสฺส สนฺตรุตฺตรสาทิยนโต. สงฺฆาฏิ ปน กึ กาตพฺพาติ อาห ‘‘สงฺฆาฏึ ¶ พหิคาเม เปตฺวา’’ติ. อุตฺตราสงฺเค จ พหิคาเม ปิตสงฺฆาฏิยฺจ ปมํ วินยกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อุตฺตราสงฺคํ นิวาเสตฺวา อนฺตรวาสเก กาตพฺพํ. เอตฺถ จ พหิคาเม ปิตสฺสปิ วินยกมฺมวจนโต ปรมฺมุขาปิ ิตํ นิสฺสชฺชิตุํ, นิสฺสฏฺํ ทาตฺุจ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
ทหรานํ คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. มุหุตฺตํ…เป… ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหตฺเต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ, เตสํ ปน ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา สอุสฺสาเหน คจฺฉนฺตานํ อรุเณ อนฺตรา อุฏฺิเตปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ ‘‘ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา. เตเนว ‘‘คามํ ปวิสิตฺวา…เป… น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวาติอาทิมฺหิ สอุสฺสาหตฺตา คมนกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตา. เธนุภเยนาติ ตรุณวจฺฉคาวีนํ อาธาวิตฺวา สิงฺเคน ปหรณภเยน. นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ เธนุภยาทีหิ ิตานํ ยาว ภยวูปสมา าตพฺพโต ‘‘อนฺโตอรุเณเยว คมิสฺสามี’’ติ นิยเมตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ. ยตฺถ ปน เอวํ นิยเมตุํ สกฺกา, ตตฺถ อนฺตรา อรุเณ อุคฺคเตปิ นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ เภสชฺชตฺถาย คามํ ปวิฏฺทหรานํ วิย.
อนฺโตสีมายํ ¶ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติโต ปจฺฉา ปติฏฺาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพโต. ปวิฏฺานนฺติ อาจริยนฺเตวาสิกานํ วิสุํ วิสุํ คตานํ อวิปฺปวาสสีมตฺตา เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, สอุสฺสาหตาย น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อนฺตรามคฺเคติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค.
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
นวโม ปริจฺเฉโท.