📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

กงฺขาวิตรณีปุราณ-ฏีกา

คนฺถารมฺภกถา

พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆนฺติ-อาทินา ยา ปกาสิตา;

ภทนฺตพุทฺธโฆเสน, มาติกาฏฺกถา สุภา;

ตสฺสา หิ ลีนปทํ วิ-กาสนโกยมารมฺโภ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

วิปฺปสนฺเนนาติ วิวิธปฺปสนฺเนน. กถํ? ‘‘อิติปิ โส…เป… พุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต…เป… วิฺูหิ, สุปฺปฏิปนฺโน…เป… โลกสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๐) เอวมาทินา. ‘‘เจตสา’’ติ วุตฺตตฺตา ตีสุ วนฺทนาสุ เจโตวนฺทนา อธิปฺเปตา. ตนฺนินฺนตาทิวเสน กายาทีหิ ปณามกรณํ วนฺทนา, คุณวเสน มนสาปิ ตถาว กรณํ มานํ, ปจฺจยปฺปฏิปตฺติยาทีหิ ปูชากรณํ ปูชา, ปจฺจยาทีนํ อภิสงฺขรณํ สกฺกจฺจ กรณํ สกฺกาโร, เตสํ. ภาชนนฺติ อาธาโร, อธิกรณํ วา.

เถรา มหากสฺสปาทโย, เตสํ วํโสติ เถรวํโส, อาคมาธิคมสมฺปทาย ตสฺส วํสสฺส ปทีปภูตาติ เถรวํสปฺปทีปา, เตสํ เถรวํสปฺปทีปานํ. อสํหีรตฺตา ถิรานํ. วินยกฺกเมติ วินยปิฏเก, อารมฺภานุรูปวจนเมตํ. สุตฺตาภิธมฺเมสุปิ เต ถิรา เอว. ‘‘พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ ปุพฺพาจริยสีหานฺจา’’ติ อวตฺวา กสฺมา วิสุํ วุตฺตนฺติ เจ? ปโยชนวิเสสทสฺสนตฺถํ. วตฺถุตฺตยสฺส หิ ปณามกรณสฺส อนฺตรายนิวารณํ ปโยชนํ อตฺตโน นิสฺสยภูตานํ อาจริยานํ ปณามกรณสฺส อุปการฺุตาทสฺสนํ. เตน พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา, -สทฺเทน ปุพฺพาจริยสีหานฺจ นโม กตฺวาติ โยชนา. อถ วา ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ เจโตวนฺทนํ ทสฺเสตฺวา ตโต ‘‘นโม กตฺวา’’ติ วาจาวนฺทนา, ‘‘กตฺชลี’’ติ กายวนฺทนาปิ ทสฺสิตาติ โยเชตพฺพํ.

อิทานิ อภิธานปฺปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาโมกฺข’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาโมกฺขนฺติ ปธานํ. สีลฺหิ สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ ปธานํ อาทิภาวโต. ยถา จ สตฺตานํ ขชฺชโภชฺชเลยฺยเปยฺยวเสน จตุพฺพิโธปิ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จาตุภูมกํ กุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มุข’’นฺติอาทิ. อถ วา มุขนฺติ อุปาโย, เตน โมกฺขปฺปเวสาย นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย มุขํ อุปาโยติ อตฺโถ. มเหสินา ยํ ปาติโมกฺขํ ปกาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. มหนฺเต สีลาทิกฺขนฺเธ เอสิ คเวสีติ มเหสิ.

สูรเตน นิวาเตนาติ ‘‘ตตฺถ กตมํ โสรจฺจํ? โย กายิโก อวีติกฺกโม’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๔๙) สูรเตน, นีจวุตฺตินา มานุทฺธจฺจวเสน อตฺตานํ อนุกฺขิปนภาเวน นิวาเตน. วินยาจารยุตฺเตน จาริตฺตวาริตฺเตหิ ยุตฺเตน. ‘‘โสณตฺเถเรน ยาจิโต’’ติ อวตฺวา ‘‘สูรเตนา’’ติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, กึ ทุสฺสีเลน วา ทุฏฺเน วา อลชฺชินา วา ยาจิเตน วณฺณนา กาตุํ น วฏฺฏตีติ เจ? น น วฏฺฏติ. เถรสฺส วจนํ ปฏิกฺขิปิตุํ น สกฺกา, เอวรูปคุโณ เถโรว, ยาจนวเสน กตฺตพฺโพ อาทเรนาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

นาเมนาติ อตฺตโน คุณนาเมน. สทฺทลกฺขณสุภโต, วินิจฺฉยสุภโต, วิฺเยฺยสุภโต จ สุภํ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานวณฺณนา

‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหติ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ…เป… ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทาน’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ. เอตฺเถว ยาวตติยานุสาวนกถาวสาเน อถ โข อุทฺเทสกาเล ‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน อาคตํ. อุโปสถกฺขนฺธเกปิ เอวเมว อาคตํ. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตํ ปจฺฉา อาคตสุตฺเตน วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺพํ. เอวํ น วิรุชฺฌตีติ เอเก. กถํ? ‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามี’’ติอาทินา สุอุทฺทิฏฺํ โหตีติ เอตํ อุทฺเทสลกฺขณํ อิธาปิ ขนฺธเกปิ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘ผาสุ โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามี’’ติ วุตฺตฏฺาเน อวุตฺตมฺปิ อาเนตฺวา คเหตพฺพํ. กสฺมา? อิธ นิทานํ น ทสฺสิตํ, อุทฺเทโส อุทฺเทสกาเล อุทฺทิสิตพฺพลกฺขณสฺส ตตฺถ วุตฺตตฺตา. อปิจ ‘‘นิทานุทฺเทโส’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา นิทานุทฺเทสํ ทสฺเสตุกาโมปิ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ ปาวเสน อาคตํ นิทานํ นิฏฺาเปตฺวา อุปริ อฏฺกถาวเสน โยเชตพฺพํ ปาฬึ อิธ โยเชตฺวา ‘‘ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ…เป… ธารยามี’’ติ นิทานปาฬึ ปริปุณฺณํ กตฺวา ปุน ‘‘ตตฺถ นิทานุทฺเทโส’’ติ อุทฺธฏปทวเสน สงฺเขปโต นิทานุทฺเทสลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา เอวํ อุปริ จ ขนฺธเก จ, อถ โข อุทฺเทสกาเล ‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามี’’ติอาทิ นิทานุทฺเทโสว ทสฺสิโต, น นิทานํ.

สวนาณตฺติวจนนฺติ เอตฺถ สงฺฆนวกตเรน วตฺตุํ อยุตฺตนฺติ เจ? ยุตฺตเมว. ‘‘ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน เอวํ วตฺตพฺพ’’นฺติ ภควตา วุตฺตตฺตา ภควโตว อาณตฺติ, น อุทฺเทสกสฺส. อิธ นวกตรวเสน วุตฺตํ. เถโรปิ ปน อุทฺทิสิตุํ ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เถราธิกํ ปาติโมกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. อิมินา สุตฺเตน นวกตโร น ลภตีติ เจ? ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย ตตฺถ ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยถา จตุวคฺเคน เปตฺวา อุปสมฺปทาปวารณาอพฺภานานิ สพฺพํ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, เอวํ ‘‘อติเรกวีสติวคฺเคน อิมํ นาม กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อวตฺวา อติเรกวจนตฺตา อฺํ อตฺถํ สูเจติ, กึ ตนฺติ ‘‘จตุวคฺคาทินา’’ติอาทิ. ตฺหิ เตหิ เอว สิทฺธํ. กถํ? จตุวคฺเคน อุปสมฺปทาปวารณา…เป… วีสติวคฺเคน น กิฺจิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ. เอตฺถ ‘‘ทสวคฺเคน อพฺภานกมฺมมตฺตํ เปตฺวา’’ติ วทนฺเตน จตุปฺจวคฺเคน กรณียานิปิ ทสวคฺเคน กาตุํ อนุฺาตานิ. ตสฺมา อติเรเกน วฏฺฏตีติ ทีปิตํ, ‘‘เปตฺวา’’ติ วจเนน อูนตเรน น วฏฺฏตีติ ทีปิตเมว. ตสฺมา น วตฺตพฺพํ อติเรกวีสติวคฺโคติ เจ? วตฺตพฺพเมว. จตุปฺจวคฺเคน กตฺตพฺพํ ฉสตฺตอฏฺนววคฺเคน กาตพฺพนฺติ จ, ทสวคฺเคน กาตพฺพํ เอกาทสทฺวาทส…เป… เอกูนวีสติวคฺเคน กาตพฺพนฺติ จ ทีปิตํ. อูนตเรน น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ ปากฏโต. สพฺพปฺปกาเรน ปน อติเรกวีสติอนติเรกวีสติวคฺเค วุตฺเตปิ ทีปิตํ โหตีติ วชิรพุทฺธิตฺเถเรน ลิขิตํ. อิโต ปฏฺาย ‘‘ลิขิต’’นฺติ วุตฺเต วชิรพุทฺธิตฺเถเรนาติ คเหตพฺพํ.

สเจ อนุโปสเถปิ วฏฺเฏยฺย, ‘‘อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ น วเทยฺย, ยสฺมา อนุโปสเถ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อชฺชุโปสโถ’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา เอวา’’ติ อวธารณํ ตโต ปรํ ปวารณาทิวสสฺส นตฺถิตาย กตํ. อุทฺธํ ปกติอุโปสเถ วุตฺเตน ปกติจาริตฺเตน สทฺธึ อิทมฺปิ.

‘‘นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ สมฺพนฺธิตฺวา’’ติ น วตฺตพฺพํ ‘‘ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ วุตฺตตฺตาติ เจ? วตฺตพฺพเมว. กสฺมา? ติวิธสมฺปตฺติ นาม นิมิตฺตสมฺปตฺติ, ปริสาสมฺปตฺติ, กมฺมวาจาสมฺปตฺตีติอาทึ วตฺวา ‘‘นิมิตฺตสมฺปตฺติ นาม ปพฺพตนิมิตฺตํ, ปาสาณนิมิตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, น นิมิตฺเตน นิมิตฺตสมฺพนฺธนํ วุตฺตํ. อปิจ ‘‘ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ สมฺปโยคงฺเคสุ ทสฺเสตฺวา ปุน ตเมว ปหานงฺเคสุ ทสฺเสตุํ ‘‘นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ สมฺพนฺธิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. นทิสมุทฺทชาตสฺสเรสุ สมฺมตสีมาโต กมฺมานิ น วิปชฺชนฺติ อุทกุกฺเขปสีมตฺตาติ ‘‘วิปตฺติสีมาโย นามา’’ติ กสฺมา วุตฺตาติ เจ? เสสลกฺขณานิ สมฺปาเทตฺวา นทิยํ สีมาย พทฺธาย อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สีมาคตตฺตา ปุน ตํ นทึ อนฺโต กตฺวา ตฬาเก กเต สเจ ตสฺสา สีมาย กมฺมํ กาตุํ วฏฺเฏยฺย, สีมาโต กมฺมานิ น วิปชฺเชยฺยุํ. ยสฺมา ปน เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อุทกุกฺเขปสีมตฺตา’’ติ วุตฺตํ อการณํ.

วีสติวคฺคกรณียตฺตา สงฺฆกมฺมสฺส กมฺมารเหน สทฺธึ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ, สุขนิสชฺชาวเสน นิสีทิตุนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปริมณฺฑลากาเรน นิสีทิตุ’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวาติ มชฺเฌ ตฺวา ทิยฑฺฒํ กตฺวา ติโยชนํ. โกณโต หิ โกณํ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ, สีมา จ อสีมา โหติ. กิตฺเตตฺวาติ นิมิตฺตานิ สมฺปนฺนานิปิ อฺมฺนามวิปริยาเยน, อนิมิตฺตานํ นาเมหิ จ กิตฺเตตฺวาติ อตฺโถ.

ราสิกตํ ปํสุปิ รุกฺเขสุ ชาเตสุ สุทฺธปํสุปพฺพโต โหติ. คุฬปิณฺฑปริมาโณ ถูลตาย, น ตุลคณนาย. ภูมิยํ ปติฏฺิโต’’ติ อิมินา กุฏสราวาทีสุ โรปิตํ ปฏิกฺขิปติ, ตโต อปเนตฺวา ปน ตงฺขณมฺปิ ภูมิยํ โรปิโต วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ ปน อการณํ. ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. สูจิทณฺฑกปฺปมาโณ กนิฏฺงฺคุลิปริมาณมตฺโต. ‘‘อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ’’ติ อิมินา อุพฺเพโธ ปริจฺฉินฺโน โหติ, ‘‘โควิสาณมตฺโต’’ติ อิมินา ปริณาโห. ‘‘เอวํ สนฺเตปิ โควิสาณปริณาเห ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ตสฺมา ขุทฺทโกปิ มหนฺโตปิ วฏฺฏติ เอวาติ วทนฺติ.

ชาตสฺสเร ปริปุณฺณเมว อุทกํ นิมิตฺตูปคํ ทิสฺวา อปริปุณฺณํ อนฺตรา ิติภูตํ ‘‘ชาตสฺสเร สมฺมตา’’ติ วุตฺตํ วิปตฺตึ น อาปชฺชตีติ ‘‘นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา’’ติ เอตฺถาปิ โลณี น คหิตา. พทฺธสีมํ วา นทิสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘นทิยา วา, ภิกฺขเว, สมุทฺเท วา ชาตสฺสเร วา’’ติ (มหาว. ๑๔๗) เอตฺถาปิ น คหิตา. ตสฺมา โลณี น อพทฺธสีมาติ เจ? อพทฺธสีมาว. ‘‘โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน กโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วุตฺตตฺตา ชาตสฺสรคฺคหเณน คหิตาติ ตตฺถ ตตฺถ อวุตฺตา. ‘‘ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต’’ติ วุตฺตตฺตา อฺมฺปิ คามํ อนฺโต กตฺวา สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล ตสฺมึ คาเม ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, วฏฺฏติ. อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคนฺตพฺพเมว.

อคมนปเถสูติ เอตฺถ เอกทิวเสน คนฺตฺวา ปจฺจาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺาเนติ วทนฺติ, พทฺธสีมาภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ.

‘‘สมนฺตา อุทกุกฺเขปา’’ติ วุตฺตตฺตา สพฺพทิสาสุ คเหตพฺพเมวาติ เจ? ยโต ลพฺภติ, ตโต คเหตพฺโพ ‘‘ยสฺมึ ปเทเส ปกติวีจิโย โอตฺถริตฺวา สณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย กปฺปิยภูมิ, ตตฺถ ตฺวา อุโปสถาทิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อนุพนฺโธ อฑฺฒมาโส อนฺวฑฺฒมาโส, อฑฺฒมาสสฺส วา อนุ. โย ปน เกนจิ อนฺตมโส ติรจฺฉาเนนปิ ขณิตฺวา อกโตติ อธิปฺปาโย.

‘‘อฺํ ตตฺตกํเยว ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโตปิ กมฺมํ โกเปตี’’ติ วุตฺตตฺตา อติกฺกมิตฺวา ิโต น โกเปตีติ ทีปิตเมว โหตีติ อุปติสฺสตฺเถโร, ตํ ปน ‘‘ทฺวินฺนํ อุทกุกฺเขปานํ อนฺตเร อฺโ เอโก อุทกุกฺเขโป อุปจารตฺถาย เปตพฺโพ’’ติ วจเนน วิรุชฺฌติ. สมนฺตปาสาทิกายฺหิ ‘‘อฺํ ตตฺตกํเยวา’’ติ ปทํ นตฺถิ. ตสฺมา ตสฺสาธิปฺปาโย ปริเยสิตพฺโพ. อนฺโตอุทกุกฺเขปสีมาย อุปจารตฺถาย ปิตํ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เถเรน อฺถา ปปฺจิตฺวา ลิขิตํ.

‘‘สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตตฺตา สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตีติ เจ? น วฏฺฏติ เทสนาคามินึ สนฺธาย อิธ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา เอว สมุจฺจยกฺขนฺธเก ‘‘สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนสฺส ปน สนฺติเก อาวิกาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ อาวิกโรติ, อาปตฺติ อาวิกตา โหติ, ทุกฺกฏา ปน น มุจฺจตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตํ. ยถา สงฺเฆน ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป… ปฏิกริสฺสตี’’ติ วตฺวา อุโปสถํ กาตุํ ลภติ, เอวํ ตีหิ ทฺวีหิปิ อฺํ สุทฺธํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ปฏิกริสฺสามา’’ติ วตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอเกนาปิ ‘‘ปริสุทฺธํ ลภิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. อฏฺกถายมฺปิ ‘‘สามนฺโต ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโยติ เอตฺถ สภาโค เอว วตฺตพฺโพ. วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตสฺส อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา วฏฺฏตีติ ทีปิตเมว. ‘‘ยทา อฺํ สุทฺธํ ภิกฺขุํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก’’ติ วุตฺตตฺตา ลหุกสฺเสว อนุฺาตตฺตา สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺตตฺตา สภาคสงฺฆาทิเสสํ ปน ตฺติยา อาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

เทวพฺรหฺมา ปน ‘‘ติรจฺฉานคโต’’ติ ปทํ เปตฺวา เยน เกนจิ ปเทน อสงฺคหิตาปิ อิมินา สงฺคหิตาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ยสฺส อุปสมฺปทา ปฏิกฺขิตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

‘‘จาตุมาสินิยํ ปน ปวาริตานํ สนฺติเก อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา วุฏฺวสฺเสน วา’’ติ อวตฺวา ‘‘อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. วุฏฺวสฺโส ปน ตสฺมึ กาเล อนุปคตตฺตา ‘‘อนุปคโต’’ติ สงฺขฺยํ คโตติ. สพฺพาย วุฏฺิตาย สพฺเพ วุฏฺหิตฺวา คเต สนฺนิปาเตตุํ น สกฺกา, เอกจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ปาริสุทฺธึ อาโรเจตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กสฺมา? ตฺตึ เปตฺวา กตฺตพฺพสงฺฆกมฺมาภาวา วคฺคํ น โหตีติ. ปวารณายปิ เอเสว นโย. อยฺเหตฺถ วิเสโส – สเจ ปุริมิกาย อุปคเตหิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา โถกตรา เจว โหนฺติ สมสมา จ, สงฺฆปวารณาย จ คณํ ปูเรนฺติ, สงฺฆปวารณาวเสน ตฺติ เปตพฺพาติ. ‘‘เอโกว ภิกฺขุ โหติ…เป… อฺเสํ อนาคตภาวํ ตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อธิฏฺานุโปสถํ สีมํ ปวิสิตฺวา กาตุํ น สกฺกาติ วทนฺติ.

‘‘กึ สงฺฆสฺส ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ อิทํ น ตฺตึ เปตฺวา วตฺตพฺพํ. ตฺหิ ตฺติโต ปุเรตรเมว กรียติ. ตสฺมา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, กึ สงฺฆสฺส ปุพฺพกิจฺจํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺล’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. ตถาปิ น วตฺตพฺพํ. น หิ ตํ ตฺติยา อนฺโต กรียตีติ. เอวํ สนฺเต เนตํ วตฺตพฺพนฺติ อาปชฺชติ ปโยชนาภาวาติ เจ? น, ยถาคตฏฺาเน เอว วตฺตพฺพโต, ปรปทาเปกฺขตายาติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ ปุพฺพกิจฺจํ อกตฺวา อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต สงฺโฆ, ปุคฺคโล วา ปนกฺเขตฺตาติกฺกเม อาปชฺชติ. ตสฺมิฺหิ เขตฺเต อติกฺกนฺเต สมฺมชฺชนาทิกรเณ อาปตฺติโมกฺโข น โหติ อุโปสถกมฺมโต ปุพฺเพ กตฺตพฺพกมฺมากรณปจฺจยตฺตา ตสฺสา อาปตฺติยา. น สา กมฺมปริโยสานาเปกฺขา เอตฺถาคตสมฺปชานมุสาวาทาปตฺติ วิย, ตสฺมา ปาติโมกฺขุทฺเทสโก ภิกฺขุ ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถา’’ติ วตฺตุกาโม ปมเมว ปาริสุทฺธาปาริสุทฺธิปจฺจยํ ปุพฺพกิจฺจํ สราเปติ. ตฺหิ กตํ ปาริสุทฺธิปจฺจโย โหติ, อกตํ อปาริสุทฺธิปจฺจโย. เตเนว อุภยาเปกฺขาธิปฺปาเยน กตํ, น กตนฺติ อวตฺวา ‘‘กึ สงฺฆสฺส ปุพฺพกิจฺจ’’มิจฺเจวาห. ตตฺถ อกตปกฺเข ตาว ปาริสุทฺธิอาโรจนกฺกมนิทสฺสนตฺถํ ปรโต ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ จ, กตปกฺเข ‘‘อสนฺติยา อาปตฺติยา ตุณฺหี ภวิตพฺพ’’นฺติ จ วกฺขติ.

‘‘สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา’’ติ จ, ‘‘อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ…เป… อเทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพ’’ติ จ วทนฺติ. อสนฺนิปติเตปิ ปน วฏฺฏติ. อิทฺหิ ฉนฺททานสมยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ อุโปสถํ กตฺวา อาคตสฺส กตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถฺจ วุตฺตํ. ปธานฆรวาสิโน ปธานฆรํ ปวิสิตุกามา อตฺตโน สภาคภิกฺขูนํ ฉนฺทํ ทตฺวา สเจ สงฺโฆ สนฺนิปตติ, ‘‘มยฺหํ ฉนฺโท อาโรเจตพฺโพ’’ติ วตฺวา ปธานฆรํ ปวิสนฺติ. อยํ สีหฬทีเป ปโยโค. อาโรเจนฺเตน ปน สนฺนิปติเต อาโรเจตพฺพํ. ปฺจสุ ภิกฺขูสุ เอกสฺมึ วิหาเร วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ อนุฺาตตฺตา สนฺนิปติเต ฉนฺโท คเหตพฺโพ อาโรเจตพฺโพติ วจนํ นิรตฺถกํ วิย. ‘‘เถยฺยสํวาสโก ปฏิชานาตีติ (มหาว. ๑๖๕) วจนโต สามเณเรน อาหฏาปิ วฏฺฏติ. กมฺมํ น โกเปตี’’ติ จ, ‘‘สเจ ปุพฺเพ ฉนฺทํ ทตฺวา พหิสีมาคโต ปุน ปวิสติ, ปจฺฉา ฉนฺทคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺส ปโยโค สีมาสมฺมุติวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ จ ‘‘ฉนฺททาเน ติกฺขตฺตุํ วจเน อิทํ ปโยชนํ – ปมํ สมคฺคภาวํ, ทุติยํ ปจฺฉา วิธาตพฺพภาวํ, ตติยํ ฉนฺทหารกสฺส ทุกฺกฏโมจนํ ทีเปตี’’ติ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๑๖๔) จ ลิขิตํ. พิฬาลสงฺขลิกาพทฺธาว โหติ อนฺโตเคเห เอว สมฺปโยชนตฺตา, ยถา สา น กตฺถจิ คจฺฉติ, ตถา สาปิ น กตฺถจิ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. อิตรถา วิเสสนํ นิรตฺถกํ โหตีติ อาจริเยน คหิตํ.

‘‘น หิ ตํ อกตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปุพฺเพ ทสฺสิตตฺตา ‘‘อิทมฺปิ หิ อุภย’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? เสสานิ เถเรน อาณตฺเตน กาตพฺพานิ ทสฺสิตานิ, อิเม ปน ทฺเว เถเรน วา ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วา ตฺติฏฺปนเกน วา เยน วา เตน วา กาตพฺพานีติ จ, สมฺมชฺชนาทีนิ ตตฺถ ตตฺถ ตาทิสานิ ปโยชนานิ นิปฺผาเทนฺติ, อิเม ปน ทฺเว ตตฺถ ตตฺถ น กิฺจิ กมฺมํ สาเธนฺติ, ตสฺมา ‘‘กึ อิมินา’’ติ อวตฺวา กาตพฺพเมวาติ ทสฺเสตุฺจ ‘‘อิทมฺปิ หิ อุภย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อายสฺมนฺตานํ ปาเท วนฺทตี’’ติ คณวเสน วตฺวา ปุคฺคลวเสน น วุตฺตํ เตน อาโรเจตพฺพสฺส อฺสฺส อภาวา.

สงฺฆสฺส อุทฺทิฏฺํ โหตีติ สงฺเฆน อุทฺทิฏฺํ โหตีติ อตฺโถ. สมคฺคสฺส หิ สงฺฆสฺสาติ เอตฺถ สมคฺคภาวสฺส กายสามคฺคิการณตฺตา นตฺถิ โทโสติ เจ? ตํ น, อุทฺเทเสปิ สวเนปิ สมคฺคภาวสฺส อิจฺฉิตพฺพตฺตา. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต’’ติ หิ อิมินา จิตฺตสามคฺคึ ทีเปติ สวเน สพฺเพหิ เอกีภูตภาวโต.

สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เอตฺถ อนาทริยวเสน อาปชฺชนฺโต เอว อลชฺชี โหติ, น อิตโรติ. อาปตฺตึ ปริคูหตีติ เอตฺถ ลชฺชาย ปริคูหนฺโต อลชฺชี น โหติ, ‘กึ อิมินา’ติ อนาทริยวเสน ปริคูหนฺโต โหตี’’ติ จ ลิขิตํ.

‘‘สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธาน’’นฺติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘ฉนฺน’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ เจ? สตฺตนฺนเมวาติ วตฺตพฺพํ. ปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน หิ สเจ อตฺตโน สาปตฺติกภาวํ ปกาเสติ, สงฺฆสฺส จ อุโปสโถ สมฺปชฺชติ, ตสฺส จ คิหิภาเวน วา สามเณรภาเวน วา สุทฺธิ โหตีติ.

เอกจฺเจ อาจริยา นาม ธมฺมภาริโก กิร อาจริโย. กสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ เจ? ยาวตติยานุสาวนา นาม ติกฺขตฺตุํ วจนํ. ตถา ปาเ อนาคตตฺตา เกวลํ ‘‘ยาวตติยํ อนุสาวิต’’นฺติ ปทเมว ทิสฺวา ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ อิทํ ‘‘สเจ อาปตฺตึ อาปนฺนา, อาวิกโรถา’’ติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. ‘‘อสนฺติยา อาปตฺติยา ตุณฺหี ภวิตพฺพ’’นฺติ อิทมฺปิ ตเมวตฺถํ ทีเปติ. ‘‘ตุณฺหีภาเวน โข ปนายสฺมนฺเต ปริสุทฺธาติ เวทิสฺสามี’’ติ อิทมฺปิ ตเมวาติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ กิร.

อปเรติ อตฺถทสฺสิตฺเถโร กิร. เอตํ สนฺธายาติ เอตฺถ ‘‘สกิมฺปิ อนุสาวิต’’นฺติ ปทสฺส วจเนน ติกฺขตฺตุํ อนุสาวนา กาตพฺพาติ เอตฺตกเมว ทีปิตํ วิย ทิสฺสติ.

อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ กถํ วิฺายตีติ เจ? ‘‘อยเมตฺถ อาจริยปรมฺปราภโต วินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตํ.

‘‘สรมาเนนา’’ติ อิมินา สมฺปชานมุสาวาทสฺส สจิตฺตกตฺตํ ทสฺเสติ. สงฺฆมชฺเฌ วาติอาทิ ลกฺขณวจนํ กิร. สงฺฆุโปสถกรณตฺถํ สงฺฆมชฺเฌ เจ นิสินฺโน, ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ อาวิกาตพฺพา. คณุโปสถกรณตฺถฺเจ คณมชฺเฌ นิสินฺโน, ตสฺมึ คณมชฺเฌ. เอกสฺเสว สนฺติเก เจ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กตฺตุกาโม, ตสฺมึ เอกปุคฺคเล อาวิกาตพฺพาติ, เอเตน น เกวลํ สงฺฆมชฺเฌ เอวายํ มุสาวาโท สมฺภวติ, อถ โข เอตฺถ วุตฺตลกฺขเณน อสติปิ ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถา’’ติอาทิวิธาเน คณุโปสเถปิ สาปตฺติโก หุตฺวา อุโปสถํ กตฺตุกาโม อนาโรเจตฺวา ตุณฺหีภูโตว เจ กโรติ, อยํ สมฺปชานมุสาวาทาปตฺตึ อาปชฺชตีติ อิมสฺสตฺถสฺส อาวิกรณโต ลกฺขณวจนํ กิเรตนฺติ วุตฺตนฺติ ตกฺกิกา. อฺถา ‘‘คณมชฺเฌ วา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ เตสํ อธิปฺปาโย. อาโรจนาธิปฺปายวเสน วุตฺตนฺติ อาจริยสฺส ตกฺโก. อาโรเจนฺโต หิ ‘‘สงฺฆสฺส อาโรเจมี’’ติ อธิปฺปาเยน อาวิกโรนฺโต สงฺฆมชฺเฌ อาวิกโรติ นาม, อุภโตปสฺเส นิสินฺนานํ อาโรเจนฺโต คณมชฺเฌ อาวิกโรติ นาม, ‘‘เอกสฺเสว อาโรเจสฺสามี’’ติ อธิปฺปาเยน อาวิกโรนฺโต เอกปุคฺคเล อาวิกโรติ นาม. สเจปิ เวมติโก โหติ…เป… ปฏิกริสฺสามีติ เอวํ กเต ยาว เวมติโก โหติ, ตาว สภาคาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตุํ ลภติ, อฺเสฺจ กมฺมานํ ปริสุทฺโธ นาม โหติ. ปุน นิพฺเพมติโก หุตฺวา เทเสตพฺพํ วา น วาติ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อตฺถิ, เทสิเต ปน โทโส นตฺถิ. ตถา อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามีติ เอตฺถ จ สกลสงฺเฆ สภาคาปตฺตึ อาปนฺเน, เวมติเก จาติ ลิขิตํ (วชิร. ฏี. มหาวคฺค ๑๖๙-๑๗๐).

นิทานวณฺณนา นิฏฺิตา.