📜

นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ

๑. จีวรวคฺโค

๑. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา

นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๒-๔๖๓) นิฏฺิตฺจ ตํ จีวรฺจาติ นิฏฺิตจีวรํ, นิฏฺิเต อานิสํสมูลเก จีวเร, ปจฺจาสาจีวเร จาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ตํ จีวรํ กรเณนปิ นิฏฺิตํ โหติ นาสนาทีหิปิ, ตสฺมา ‘‘สูจิกมฺมปริโยสาเนน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ กิฺจิ สูจิยา กตฺตพฺพํ ปาสกปฏฺฏคณฺิกปฏฺฏปริโยสานกมฺมํ, ตํ สูจิกมฺมปริโยสานํ นาม, เตน. นฏฺนฺติ โจราทีหิ หฏํ. เอตมฺปิ หิ กรณปลิโพธสฺส นิฏฺิตตฺตา ‘‘นิฏฺิต’’นฺติ วุจฺจติ. วินฏฺนฺติ อุปจิกาทีหิ ขาทิตํ. ทฑฺฒนฺติ อคฺคินา ทฑฺฒํ. จีวราสา วา อุปจฺฉินฺนาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กุเล จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ยา จีวราสา อุปฺปนฺนา โหติ, สา อุปจฺฉินฺนา. เอเตสมฺปิ กรณปลิโพธสฺเสว นิฏฺิตตฺตา นิฏฺิตภาโว เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อิเมสุ วา’’ติอาทิ. เอเตน จีวรปลิโพธาภาโว วุตฺโต. เตนาห ‘‘จีวรสฺส กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนติ อตฺโถ’’ติ. กถเมตํ วิฺายตีติ อาห ‘‘อตฺถตกถินสฺส หี’’ติอาทิ. ปฺจานิสํเส อฺตฺถ คนฺตุํ อทตฺวา สงฺคณฺหนฏฺเน กถินํ, ถิรนฺติ อตฺโถ, อตฺถตํ กถินํ เยน โส อตฺถตกถิโน, ตสฺส อตฺถตกถินสฺส. หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ตาว กถินานิสํสํ ลภตีติ เอตฺถ โย อตฺถตกถิโน ภิกฺขูติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ตาว โส อตฺถตกถิโน ภิกฺขูติ เวทิตพฺโพ, อนามนฺตจาราทิกํ กถินานิสํสํ ลภตีติ อตฺโถ. ‘‘อตฺถตกถินสฺส ภิกฺขุโน’’ติ อิทํ วา ‘‘อตฺถตกถิโน ภิกฺขู’’ติ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา โยเชตพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จีวรปลิโพโธ อาวาสปลิโพโธติ ทฺเว ปลิโพธา. เตสุ เอกปลิโพเธปิ สติ ยสฺมา อนามนฺตจาราทิกํ อานิสํสํ ลภติ, นาสติ. กสฺมา? ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมิ’’นฺติ เอตสฺส จีวรสฺส กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนติ อยมตฺโถ วิฺายตีติ. สงฺฆสฺสาติ สงฺเฆน. กตฺตริ เจตํ สามิวจนํ. อุพฺภเตติ อฏฺนฺนํ มาติกานมฺตเรน, อนฺตรุพฺภาเรน วา อุทฺธเฏ.

ตตฺราติ ตสฺมึ กถิเน. อุพฺภาโร อุทฺธรณํ. ปุริมวสฺสํวุฏฺเ ตึสมตฺเต ปาเวยฺยเก ภิกฺขู อุทฺทิสฺส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ กถินกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๐๖) ภควตา กถินสฺส อนุฺาตตฺตา ‘‘อยฺหิ กถินตฺถาโร นาม…เป… อนุฺาโต’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุริมวสฺสํวุฏฺานนฺติ วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺานนฺติ อตฺโถ. เอเตน วุฏฺวสฺสวเสน ตาว ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคตาเยว กถินตฺถารํ ลภนฺติ, น ปจฺฉิมิกาย อุปคตาติ ทสฺเสติ. วุฏฺวสฺสวเสน ตาว เอวํ โหตุ, คณนวเสน ตํ กิตฺตกา ลภนฺตีติ อาห ‘‘โส’’ติอาทิ. โสติ กถินตฺถาโร. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทนาติ คณนวเสน ปจฺฉิมโกฏิยา. ปฺจนฺนํ ชนานํ วฏฺฏตีติ ปจฺฉิมโกฏิยา จตฺตาโร กถินทุสฺสสฺส ทายกา, เอโก ปฏิคฺคาหโกติ ปฺจนฺนํ ชนานํ วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘ปฺจวคฺคกรณียตฺตา ‘ปฺจนฺนํ ชนานํ วฏฺฏตี’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ จตุวคฺโค ภิกฺขุสงฺโฆ เปตฺวา ตีณิ กมฺมานิ อุปสมฺปทํ ปวารณํ อพฺภาน’’นฺติ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๘๘) วุตฺตตฺตา. ตสฺมาติ ยสฺมา วุฏฺวสฺสวเสน ปุริมวสฺสํวุฏฺานํ อนฺาโต, ยสฺมา จ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปฺจนฺนํ ชนานํ วฏฺฏติ, ตสฺมา. ยตฺถาติ ยสฺมึ วิหาเร. อานิสํเสติ อนามนฺตจาราทิเก กถินานิสํเส. อถ ปน จตฺตาโร ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร สเจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู, ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู, ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ, จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

ขนฺธเก วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจายาติ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –

เอวํ กถินกฺขนฺธเก วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย. กถินตฺถารารหสฺสาติ กถินํ อตฺถริตุํ ภพฺพสฺส. โส จ โข ปุพฺพกรณชานนาทีหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโตติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ วินยวินิจฺฉเย ‘‘อฏฺธมฺมโกวิโท ภิกฺขุ, กถินตฺถารมรหตี’’ติ. ปริวาเรปิ (ปริ. ๔๐๙) วุตฺตํ –

‘‘อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภพฺโพ กถินํ อตฺถริตุํ. กตเมหิ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภพฺโพ กถินํ อตฺถริตุํ? ปุพฺพกรณํ ชานาติ, ปจฺจุทฺธารํ ชานาติ, อธิฏฺานํ ชานาติ, อตฺถารํ ชานาติ, มาติกํ ชานาติ, ปลิโพธํ ชานาติ, อุทฺธารํ ชานาติ, อานิสํสํ ชานาติ, อิเมหิ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภพฺโพ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ.

เอตฺถ จ ปุพฺพกรณํ นาม โธวนวิจารณจฺเฉทนพนฺธนสิพฺพนรชนกปฺปกรณํ. ปจฺจุทฺธาโร นาม ปุราณสงฺฆาฏิอาทีนํ ปจฺจุทฺธรณํ. อธิฏฺานํ นาม กถินจีวราธิฏฺานํ. อตฺถาโร นาม กถินตฺถาโร. มาติกา นาม อฏฺ มาติกา. ปลิโพโธ นาม อาวาสปลิโพโธ จีวรปลิโพโธติ ทฺเว ปลิโพธา. อุทฺธาโร นาม ปกฺกมนนฺติกาทโย. อานิสํโส นาม ปฺจานิสํสา.

ยํ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) วุตฺตํ ‘‘กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ, สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ, สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริโส ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิจ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ, ตมฺปิ กถินตฺถารารหํเยว คเหตฺวาว ทาตพฺพํ. เทนฺเตน ปน ตีสุ จีวเรสุ ยํ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตํ ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ กถินํ อตฺถริตฺวา ปจฺฉา สิพฺเพตฺวา ‘‘ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ.

เตนาติ กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา. ตทเหวาติ ตสฺมึเยว ทิวเส. ปฺจ วา อติเรกานิ วาขณฺฑานิ ฉินฺทิตฺวาติ ยถา ปฺจขณฺฑิกาทีนํ สงฺฆาฏิอาทีนํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกานิ มหามณฺฑลอฑฺฒมณฺฑลาทิวเสน ปฺจ ขณฺฑานิ วา อติเรกานิ วา สตฺตาทิขณฺฑานิ โหนฺติ, เอวํ ฉินฺทิตฺวา. ตสฺมิฺจ กถินจีวเร กริยมาเน ‘‘อหํ เถโร’’ติ วา ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วา เอเกนาปิ อกาตุํ น ลพฺภติ. อนาทริเยน อกโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺมา สพฺเพเหว สนฺนิปติตฺวา โธวนเฉทนสิพฺพนรชนานิ นิฏฺาเปตพฺพานิ. เตนาห ‘‘เสสภิกฺขูหิปิ ตสฺส สหาเยหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ. กตจีวรเมวาติ นิฏฺิตปริกมฺมเมว กถินทุสฺสํ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อนฺตรวาสโกปิ ฉินฺทิตฺวาว กาตพฺโพ อฺถา อตฺถารวิปตฺติโต. ยถาห –

‘‘กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, อนตฺถตํ โหติ กถินํ? น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ…เป… น อฺตฺร ปฺจเกน วา อติเรกปฺจเกน วา ตทเหว สฺฉินฺเนนา’’ติ (มหาว. ๓๐๘).

เตเนวาห ‘‘อจฺฉินฺนาสิพฺพิตํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ. เตน ภิกฺขุนาติ อตฺถารเกน ภิกฺขุนา. อตฺถริตพฺพนฺติ อตฺถรณํ กาตพฺพํ. ตฺจ โข ตถาวจีเภทกรณเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห –

‘‘สเจ สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณิกา สงฺฆาฏิ ปจฺจุทฺธริตพฺพา, นวา สงฺฆาฏิ อธิฏฺาตพฺพา, ‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา’’ติ (ปริ. ๔๑๓) –

วิตฺถาโร. ‘‘ภนฺเต, อาวุโส’’ติ จ ‘‘อนุโมทถ, อนุโมทาหี’’ติ จ วจนเภทํ สนฺธาย ‘‘เถรานฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอวํ อตฺถารเกน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนุโมทเกหิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหิปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อนุโมทามา’’ติ อตฺตนาว อตฺตนิ คารววเสน วุตฺตํ. กิฺจาปิ เอวํ วุตฺตํ, ตถาปิ เอกเกน ‘‘อนุโมทามา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘อนุโมทามิ’’จฺเจว วตฺตพฺพนฺติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. อิทานิ กถินานิสํเส ทสฺเสตุํ ภูมึ วิจารยนฺโต ‘‘ปุริมวสฺสํวุฏฺเสุปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตสํเยวาติ อตฺถารกอนุโมทกานํเยว. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร ‘‘ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถตํ โหติ กถินํ อตฺถารกสฺส จ อนุโมทกสฺส จา’’ติ (ปริ. ๔๐๓). เตติ อตฺถารกอนุโมทกา. ตโต ปฏฺายาติ อตฺถารานุโมทนโต ปฏฺาย. ยาว กถินสฺสุพฺภาราติ น เกวลํ จีวรมาเสเยว, อถ โข อฏฺนฺนํ มาติกานํ อฺตเรน วา อนฺตรุพฺภาเรน วา ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปฺจานิสํเส ลภนฺติ, อุทฺธเฏ ปน น ลภนฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ เต ปฺจานิสํเส สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อนามนฺตจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนามนฺตจาโร นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺติตสฺส สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา กุเลสุ จาริตฺตาปชฺชนํ. อสมาทานจาโร นาม นาเมนาธิฏฺิตสฺส จีวรสฺส อสมาทานจรณํ, นาเมนาธิฏฺิตานํ ติณฺณํ จีวรานมฺตรํ จีวรํ ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา อฺตฺถ อรุณุฏฺาปนนฺติ อตฺโถ, จีวรวิปฺปวาโสติ วุตฺตํ โหติ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตา จีวเรน อตฺโถ โหติ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ จีวรธารณํ, ทสาหมติกฺกมิตฺวา จีวรสฺส ปนนฺติ อตฺโถ. คณสฺส โภชนํ คณโภชนํ. คโณติ เจตฺถ จตฺตาโร วา ตตุตฺตริ วา ภิกฺขู. เตสํ วิฺตฺติโต วา นิมนฺตนโต วา ลทฺธสฺส โอทนาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรโภชนสฺส สห คหณนฺติ อตฺโถ. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมาย มตกจีวรํ วา โหตุ, สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตสฺมึ อาวาเส สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนจีวรฺจา’’ติ.

‘‘ยํ ปน ตตฺถ สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนํ ปตฺตาทิ วา อฺํ ภณฺฑํ วา, ตํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ยํ ปน ตตฺรุปฺปาเทน ตณฺฑุลาทินา วตฺถํ เจตาปิตํ, อตฺถตกถินานเมว ตานิ วตฺถานิ ปาปุณนฺติ. วตฺเถหิ ปน ตณฺฑุลาทีสุ เจตาปิเตสุ สพฺเพสํ ตานิ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ, ตมฺปิ เจตาปิตกาลโต ปฏฺาย จีวรุปฺปาโท น โหตีติ สุวุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อนตฺถตกถินา ปน อิเมสุ ปฺจสุ อานิสํเสสุ จีวรมาเส อสมาทานจารํ เปตฺวา เสสานิสํเส ลภนฺติ. ยทิ อสมาทานจาโรปิ ลพฺเภยฺย, ปาเวยฺยกา ภิกฺขู วสฺสํวุฏฺา โอกปุณฺเณหิ จีวเรหิ น ภควนฺตํ อุปสงฺกเมยฺยุํ. ยสฺมา ตํ น ลพฺภติ, ตสฺมา จีวรมาเสปิ จีวรํ สมาทาย เอว ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ.

เอวํ กถินตฺถารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุพฺภารํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ ปเนตํ กถิน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มาติกาติ มาตโร, ชเนตฺติโยติ อตฺโถ. กถินุพฺภารฺหิ เอตา อฏฺ ชเนนฺติ. ตาสุ ปกฺกมนํ อนฺโต เอติสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา. ตตฺถ โย ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน กถินจีวรํ อาทาย ตสฺมึ อาวาเส นิรเปกฺโข ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ปกฺกมติ, ตสฺเสวํ ปกฺกมโต กถินุทฺธาโร อติกฺกนฺตมตฺตาย สีมาย โหตีติ ปกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโรติ เวทิตพฺโพ.

โย ปน อานิสํสจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ, ตสฺส พหิสีมาคตสฺส เอวํ โหติ ‘‘อิเธวิมํ กริสฺสามิ, น ปุน ตํ วิหารํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ ตสฺมึ อาวาเส นิรเปกฺโข หุตฺวา ตํ จีวรํ กาเรติ, ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.

ยทิ ปน อานิสํสมูลจีวรํ อาทาย พหิสีมาคโต ‘‘เนวิมํ จีวรํ กริสฺสามิ, น จ ตํ อาวาสํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ, ตทา สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.

ตเทว อานิสํสจีวรํ ลทฺธา ตํ อาทาย พหิสีมํ คนฺตฺวา ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กริสฺสามิ, น คจฺฉิสฺสามี’’ติ กโรนฺตสฺส สเจ ตํ จีวรํ นสฺสติ วินสฺสติ ฑยฺหติ, นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร โหติ.

สเจ ปน อานิสํสจีวรํ ลทฺธา ตสฺมึ วิหาเร สาเปกฺโขว พหิสีมาคโต ‘‘วิหาเร ภิกฺขูหิ อนฺตรุพฺภารํ กต’’นฺติ สุณาติ, ตสฺส สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร โหติ.

อาสาย อวจฺเฉโท เอติสฺสาติ อาสาวจฺเฉทิกา. โย ปน เยน เกนจิ ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ทสฺสามี’’ติ วุตฺโต ตสฺมึ จีวเร อาสาย วิหาเร อเปกฺขํ ปหาย พหิสีมาคโต ปุน เตน ‘‘น สกฺโกมิ ทาตุ’’นฺติ วุตฺเต อาสํ ฉินฺทติ, ตสฺส อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร โหติ.

โย ปน วสฺสํวุฏฺวิหารโต อฺํ วิหารํ สาเปกฺโขว คนฺตฺวา อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเคเยว กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ, ตสฺส สีมาติกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโร.

สห อุพฺภาเรนาติ สหุพฺภารา. อานิสํสจีวรํ อาทาย สาเปกฺโขว พหิ คนฺตฺวา กถินุทฺธารํ สมฺภุณนฺตสฺส กถินุทฺธาโร สหุพฺภาโรติ เวทิตพฺโพ.

‘‘เอตสฺมึ ปน ปกฺกมนนฺติเก กถินุทฺธาเร ปมํ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติอาทินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉทาทิกสฺส วินิจฺฉยสฺส วิตฺถารโต สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑) วุตฺตตฺตา ‘‘ตตฺถ วิตฺถารวินิจฺฉโย’’ติอาทิมาห. อตฺถารุพฺภารานํเยว วา วิตฺถารวินิจฺฉยสฺส ตตฺถาคตตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เสสปลิโพธาภาวนฺติ อวเสสสฺส ปลิโพธสฺส อภาวํ, อาวาสปลิโพธาภาวนฺติ อตฺโถ.

อสฺสาติ กาลสฺส. ทสาหปรมนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ตํ ทสาหปรมํ กาล’’นฺติ. อติเรกนฺติ อธิกํ, โส จ อธิกภาโว อธิฏฺิตวิกปฺปิตจีวรโตติ อาห ‘‘อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสู’’ติอาทิ. โขมนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๖๓๘) โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏฺฏจีวรํ. ตถา เสสานิ. กมฺพลํ นาม มนุสฺสโลมวาฬโลเม เปตฺวา เสสโลเมหิ วายิตฺวา กตวตฺถํ. สาณํ นาม สาณวาเกหิ กตวตฺถํ. ภงฺคํ นาม โขมสุตฺตาทีหิ ปฺจหิ มิสฺเสตฺวา กตวตฺถํ. ‘‘ปาเฏกฺกํ วากมยเมวา’’ติปิ วทนฺติ. ตทนุโลมานํ วาติ ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ โสมารปฏฺฏํ จีนปฏฺฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ เตสํ โขมาทีนํเยว อนุโลมานํ ฉนฺนํ จีวรานํ วา, ตตฺถ ทุกูลํ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปตฺตุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ ปตฺตุณฺณํ. โสมารเทเส ชาตํ วตฺถํ โสมารปฏฺฏํ. ตถา จีนปฏฺฏํ. อิมานิ ตีณิปิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชํ เอหิภิกฺขูนํ ปุฺิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ. ตํ ปน โขมาทีนมฺตรํ โหตีติ เตสํเยว อนุโลมํ. เทเวหิ ทินฺนํ จีวรํ เทวทินฺนํ, ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ, ตมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต.

ทีฆโต วฑฺฒกิหตฺถปฺปมาณํ, วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ. อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลนาติ เอตฺถ สุคตงฺคุลํ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริมสฺส ตีณิ องฺคุลานิ, เตน สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลํ วฑฺฒกิหตฺถปฺปมาณนฺติ อตฺโถ. จตุรงฺคุลวิตฺถตนฺติ เอตฺถาปิ ยถาวุตฺตานุสาเรเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เยสํ ปน อธิฏฺานวิกปฺปนานํ อภาวโต อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา อิทํ อติเรกจีวรํ นาม โหติ.

ตํ อธิฏฺานวิกปฺปนํ เกนากาเรน ชานิตพฺพนฺติ อนุโยคํ สนฺธาย ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปน วุตฺต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ปน วุตฺตนฺติ อติเรกจีวรํ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา’’ติ อมฺเหหิ ยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ นามํ วตฺวา อธิฏฺาตุํ. น วิกปฺเปตุนฺติ สงฺฆาฏิอาทินาเมน วิกปฺเปตุํ น อนุชานามีติ อตฺโถ. ‘‘อิมํ จีวรํ วิกปฺเปมี’’ติ ปน วิกปฺเปตุํ วฏฺฏติเยว. สามฺวจนํ ปน ติจีวรสฺส กณฺฑุปฏิจฺฉาทิวสฺสิกสาฏิกานํ วิย กาลวเสน วิเสสาภาวา จสฺส วิกปฺเปตพฺพตาติ ทสฺสนตฺถํ , น ปน สพฺพถา วิกปฺปนปฏิเสธนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ ปุราณจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวสฺส อธิฏฺานวจนโต, ‘‘อนาปตฺติ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๔๖๙) จ ติจีวรสฺสปิ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน. เอส นโย สพฺพตฺถ. ติจีวราทีนิ หิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา ตํ ตํ นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ, อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ, อติเรกจีวรฏฺาเนเยว ติฏฺติ. ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ จตุมาสโต ปรํ ‘‘อิมํ จีวรํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตุํ. อิทฺจ ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ. เกจิ ปน (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิสํวจฺฉเร วสฺสานํ จตุมาสํ, ตาว เปตุํ อนุฺาต’’นฺติ วทนฺติ. ตโต ปรนฺติ อาพาธโต ปรํ. ‘‘อิมาสฺจ ปน วสฺสิกสาฏิกกณฺฑุปฏิจฺฉาทีนํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริโภคสฺส อนุฺาตตฺตา ตถาวิกปฺปิตํ อฺนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อธิฏฺาตพฺพวิกปฺเปตพฺพตา ชานิตพฺพาติ อธิฏฺาตพฺพํ วิกปฺเปตพฺพนฺติ เอวํ อธิฏฺานวิกปฺปนา ชานิตพฺพาติ อตฺโถ.

ปฺจปริมาณํ อสฺสาติ ปฺจกํ, มุฏฺิสฺส มุฏฺิหตฺถสฺส สมฺพนฺธํ ปฺจกํ มุฏฺิปฺจกํ. เอส น โย มุฏฺิตฺติกนฺติ เอตฺถาปิ. ปารุปเนนปิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ อาห ‘‘ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏตี’’ติ. น เกวลํ อฑฺฒเตยฺโยว วฏฺฏติ, อถ โข ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏตีติ ปิ-สทฺทสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อติเรกฺจาติ สุคตจีวรปฺปมาณมฺปิ ตโต อธิกมฺปิ. ปจฺจุทฺธรามีติ เปมิ, ปริจฺจชามีติ วา อตฺโถ. ‘‘อิมํ จีวรํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) เอวมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺถาทินา จีวรํ ปรามสนฺเตน, จาเลนฺเตน วา. อิทฺหิ อธิฏฺานํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. ทุวิธนฺติ สมฺมุขาปรมฺมุขเภเทน ทุวิธํ. วาจา ภินฺทิตพฺพาติ วจนํ นิจฺฉาเรตพฺพํ. อนฺโตคพฺภาทีสูติ อนฺโตคพฺภอุปริปาสาเทสุ. สามนฺตวิหาเรติ ยตฺถ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺเตตุํ สกฺกา, เอวรูเป สมีปวิหาเร. อิทฺจ เทสนาสีสมตฺตํ, ตสฺมา ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพนฺติ วทนฺติ. ‘‘ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อิมินา จีวรสํลกฺขณํ วุตฺตํ. น หิ ปิตฏฺานมตฺตสลฺลกฺขเณน กิฺจิ ปโยชนํ อตฺถิ.

อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหีติ ปจฺจตฺถรณมุขปุฺฉนโจฬปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ. อธิฏฺานโต ปุพฺเพ สงฺฆาฏิอาทิโวหารสฺส อภาวโต ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจตฺถรณาทีนํ วิสุํ ปจฺจุทฺธรณวิธึ ทสฺเสติ. ปจฺจตฺถรณาทินาเมน ปน อธิฏฺาตพฺพตฺตา ‘‘อิมํ ปจฺจตฺถรณํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินา วุตฺเตปิ เนวตฺถิ โทโส. ปุน อธิฏฺาตพฺพานีติ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาตพฺพานิ. ปริกฺขารโจฬกสฺส ปน ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิปิ สงฺฆาฏิอาทิมฺหิ กเต ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพนฺติ นตฺถิ. ปุพฺเพ กตาธิฏฺานเมว อธิฏฺานํ. อธิฏฺิเตน ปน เตน สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยํ ปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สํสิพฺพนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ, สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สุขปริโภคตฺถนฺติ วิปฺปวาสโทสาภาวโต ยตฺถ กตฺถจิ เปตฺวา ธมฺมสฺสวนาทินา กิจฺเจน อฺตฺถ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา อาคนฺตฺวา นิสฺสชฺชนํ วินาว ปริภุฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย สุขปริโภคตฺถํ. ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ กตฺวา อธิฏฺาตุํ.

อนติริตฺตปมาณาติ ‘‘ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ อฑฺฒเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๔๓) วุตฺตปฺปมาณโต อนธิกปมาณา. ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ วสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เหมนฺตสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห วสฺสิกสาฏิกาวสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติอาทินา นเยน วิกปฺเปตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. อฺถา หิ ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ, กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) วกฺขมานตฺตา วสฺสานมาสโต ปรํ อสติ อธิฏฺาเน กึ ปจฺจุทฺธเรยฺยาติ ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวา’’ติ วจนเมว โนปปชฺเชยฺย.

เกจิ ปน (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ‘‘ยถา กถินมาสพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนจีวรํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, เอวมยํ วสฺสิกสาฏิกาปิ วสฺสานมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยา โหติ. ตสฺมา กตฺติกปุณฺณมทิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ เหมนฺตสฺส ปมทิวเส วิกปฺเปตพฺพาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ, ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ วิกปฺเปตพฺพาติ ปทโยชนา เวทิตพฺพา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. กถินมาเส อุปฺปนฺนฺหิ จีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ิตตฺตา อวสานทิวเส อนธิฏฺิตํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อยํ ปน วสฺสิกสาฏิกา อธิฏฺหิตฺวา ปิตตฺตา น เตน สทิสาติ วสฺสานาติกฺกเม กถํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตเมว หิ ตํ กาลาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตสฺมา เหมนฺเตปิ วสฺสิกสาฏิกา ทสาหปริหารํ ลภติ. เอวํ กณฺฑุปฏิจฺฉาทิปิ อธิฏฺานวิชหนโต ปรํ ทสาหปริหารํ ลภติ. ทสาหํ ปน อนติกฺกาเมตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. นหานตฺถาย อนุฺาตตฺตา วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ ทฺวินฺนํ อธิฏฺานาภาวโต วุตฺตํ . ‘‘สเจ วสฺสาเน อปรา วสฺสิกสาฏิกา อุปฺปนฺนา โหติ, ปุริมวสฺสิกสาฏิกํ ปจฺจุทฺธริตฺวา, วิกปฺเปตฺวา จ อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วทนฺติ.

ปมาณยุตฺตนฺติ ‘‘ทีฆโส สุคตวิทตฺถิยา ทฺเว วิทตฺถิโย, วิตฺถารโต ทิยฑฺฒํ ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๑ อาทโย) อิมินา ปมาเณน ยุตฺตํ. ปมาณิกาติ ‘‘สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ เอวํ วุตฺตปฺปมาณยุตฺตา. ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ยสฺมา ภิกฺขูนํ ติจีวเร ปริปุณฺเณ, อตฺเถ จ สติ ปริสฺสาวนาทีหิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๗) พหูนํ ปตฺตตฺถวิกปริสฺสาวนาทีนํ สงฺคหวเสน ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานมนุฺาตํ, ตสฺมา ‘‘ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภควตา หิ ยํ ยํ ภิกฺขู ลภนฺติ, ตํ ตํ อิมินา วิธาเนน อธิฏฺหิตฺวา ปุน ‘‘เยน เยน ปริสฺสาวนาทินา อตฺโถ โหติ, ตํ ตํ กตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ อนุกมฺปาย อนุฺาตํ. เตเนวาห ‘‘ถวิกาปี’’ติอาทิ. อาทิสทฺเทน ‘‘เอตานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อสมฺมุขาธิฏฺานํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จา’’ติ อิมินา อตฺตโน สนฺตกํ ปฏิกฺขิปติ. เกจิ ปน (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๖๙) ‘‘อนิวาเสตฺวา, อปารุปิตฺวา จ เกวลํ ปฺจปีเสุเยว อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิยมานํ ปจฺจตฺถรณํ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อนธิฏฺิตํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตํ เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺน’’นฺติ ปจฺจตฺถรณสฺส วิเสสิตตฺตา. ภิสิพิพฺโพหนปาวารโกชวานมฺปิ เสนาสนปริกฺขารโตเยว อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.

อธิฏฺิตฺจ ปเนตํ จีวรํ ปริภุฺชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ อาห ‘‘สพฺพฺจ ปเนต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณนาติ โจราทีหิ อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. หีนายาวตฺตเนนาติ คิหิภาวาย อาวตฺตเนน, วิพฺภเมนาติ อตฺโถ, ‘‘สีลวนฺโตว หุตฺวา คิหี ภวิสฺสามี’’ติ เสตวตฺถนิวาสเนนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส เสตวตฺถนิวาโส วา กาสายจชนํ วา หีนายาวตฺตน’’นฺติ เกจิ. ‘‘‘หีนายาวตฺตเนนา’ติ อิมินา ภิกฺขุนิยา เอว อธิฏฺานวิชหนํ คหิตํ โหติ. สา หิ ยทา วิพฺภมติ, ตทา อสฺสมณี โหติ. ภิกฺขุ ปน วิพฺภมนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ อปเร. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ลิงฺเค ิตสฺเสว สิกฺขาย ปจฺจกฺขาเนน. โย หิ ภิกฺขุลิงฺเค ิโตว สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิ จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ. กาลงฺกิริยายาติ มรเณน. ลิงฺคปริวตฺตเนนาติ ปุริสลิงฺคสฺส , อิตฺถิลิงฺคสฺส วา ปริวตฺตเนน, ปุริสสฺส อิตฺถิลิงฺคปาตุภาเวน, อิตฺถิยา วา ปุริสลิงฺคปาตุภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ.

กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิปฺปมาเณนาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. โอรโตติ อพฺภนฺตรโต. โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส ปน เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต, คลิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปน ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ. รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ กโรนฺตสฺสาปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมว. วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ปุพฺเพ วุตฺเตน ทานาทินา อฏฺวิเธเนว การเณน วสฺสิกสาฏิกา อธิฏฺานํ วิชหติ, อถ โข วสฺสานมาสาติกฺกเมนปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย อาพาธวูปสเมนาปีติ เอตฺถาปิ. วิกปฺปนสิกฺขาปเทติ (ปาจิ. ๓๗๒ อาทโย) ปาจิตฺติเย สุราปานวคฺคสฺส นวมสิกฺขาปเท.

ตํ อติกฺกามยโตติ เอตฺถ นฺติ จีวรํ, กาลํ วา ปรามสตีติ อาห ‘‘ตํ ยถาวุตฺตชาติปฺปมาณ’’นฺติอาทิ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตสฺส โย อรุโณติ ตสฺส จีวรุปฺปาททิวสสฺส โย อติกฺกนฺโต อรุโณ. จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธินฺติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส อรุเณน สทฺธึ. ทิวสสทฺเทน เจตฺถ ตํทิวสนิสฺสิโต อรุโณ วุตฺโต. อิทานิ ยสฺส จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ยถา จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ คเหตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ นโยติ ตสฺมึ นิสฺสชฺชเน อยํ วิธิ. อฺถาปีติ ภาสนฺตเรนาปิ, ยาย กายจิ ภาสายปีติ อตฺโถ. ปฏิพเลนาติ วตฺตุํ สมตฺเถน. อายตึ สํวเรยฺยาสีติ อุปริ สํวรมาปชฺเชยฺยาสิ, สํวุตกายวจีทฺวาโร ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. อิมานิ จ ‘‘ปสฺสสี’’ติอาทีนิ ยถากฺกมํ ปฏิคฺคาหกเทสเกหิ วตฺตพฺพวจนานิ. ตถา หิ ‘‘ปสฺสสี’’ติ ปฏิคฺคาหเกน วตฺตพฺพวจนํ, ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ ตทนุเทสเกน วตฺตพฺพวจนํ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ ตทนุปฺปฏิคฺคาหเกน วตฺตพฺพวจนํ, ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ ตทนุเทสเกน วตฺตพฺพวจนํ. อิมินา จ อตฺตโน อายตึ สํวเร ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสติ. ทฺวีสุ, ปน สมฺพหุลาสุ วาติ ทฺวีสุ วา สมฺพหุลาสุ วา อาปตฺตีสุ ปุริมนเยเนว วจนเภโท กาตพฺโพ. ตฺติยํ อาปตฺตึ สรติ วิวรตีติ เอตฺถ ‘‘ทฺเว อาปตฺติโย’’ติ วา ‘‘สมฺพหุลา อาปตฺติโย’’ติ วา วจนเภโท กาตพฺโพ. ทฺวีสุ, พหูสุ วา วจนเภโท กาตพฺโพติ ‘‘สงฺโฆ อิมานิ จีวรานี’’ติ วตฺถุวเสน วจนเภโท กาตพฺโพ.

เอวํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชนวิธึ ทสฺเสตฺวา คณสฺส นิสฺสชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘คณสฺส ปน นิสฺสชฺชนฺเตนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ นิสฺสชฺชนาปตฺติปฺปฏิคฺคหณนิสฺสฏฺจีวรทาเนสุ ‘‘อายสฺมนฺตาน’’นฺติอาทินา วุตฺตวจนเภทํ วินา อวเสสํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชนาทีสุ วุตฺตสทิสเมวาติ อตฺโถ.

อิทานิ ปุคฺคลสฺส นิสฺสชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุคฺคลสฺส ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวีสุ, ตีสุ วาติ ทฺวีสุ, ตีสุ วา อาปตฺตีสุ เจว ทาตพฺพจีวเรสุ จ. ยถา จ คณสฺส นิสฺสชฺชเน, เอวํ ทฺวินฺนํ นิสฺสชฺชเนปิ ปาฬิ เวทิตพฺพา. ยทิ หิ วิเสโส ภเวยฺย, ยเถว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ – พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู าเปตพฺพา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๖๘) นเยน ติณฺณํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กตฺตพฺโพ – เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺค’’นฺติอาทินา นเยน วิสุํเยว ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ วุตฺโต, เอวํ อิธาปิ วิสุํ ปาฬึ วเทยฺย. ยสฺมา ปน นตฺถิ, ตสฺมา อวตฺวาว คโตติ คณสฺส วุตฺตา ปาฬิเยเวตฺถ ปาฬิ. อาปตฺติปฺปฏิคฺคหเณ ปน อยํ วิเสโส – ยถา คณสฺส นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิยมานาย อาปตฺติปฺปฏิคฺคาหโก ภิกฺขุ ตฺตึ เปติ, เอวํ อฏฺเปตฺวา ทฺวีสุ อฺตเรน ยถา เอกปุคฺคโล ปฏิคฺคณฺหาติ, เอวํ อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. ทฺวินฺนฺหิ ตฺติฏฺปนํ นาม นตฺถิ. ยทิ สิยา, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วิสุํ น วเทยฺย. นิสฺสฏฺจีวรทาเนปิ ยถา ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ เอโก วทติ, เอวํ ‘‘มยํ อิมํ จีวรํ อายสฺมโต เทมา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิโต ครุกตรานิปิ หิ ตฺติทุติยกมฺมานิ อปโลเกตฺวา กาตพฺพานีติ วุตฺตานิ อตฺถิ, เตสํ เอตํ อนุโลมํ. เตเนวาห ‘‘ทฺวินฺนํ ปนา’’ติอาทิ. นิสฺสฏฺจีวรํ ปน ทาตพฺพเมว, อทาตุํ น ลพฺภติ. วินยกมฺมมตฺตเมว เหตํ. น ตํ เตน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทินฺนเมว โหติ. เตนาห ‘‘นิสฺสฏฺวตฺถุ’’นฺติอาทิ.

อนิสฺสชฺชิตฺวาปริภุฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ สกึ นิวตฺถํ วา สกึ ปารุตํ วา กายโต อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ จรติ, เอกเมว ทุกฺกฏํ. โมเจตฺวา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา สณฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺส ตํ ปริภุฺชโตปิ อนาปตฺติ. ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชตี’’ติอาทิวจนฺเจตฺถ (ปารา. ๕๗๐) สาธกํ. ทสาหํ อนติกฺกนฺเตปิ อติกฺกนฺตสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘ปริภุฺชนฺตสฺสา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อติกฺกนฺเต อนติกฺกนฺตสฺิโนปีติ ทสาหํ อติกฺกนฺเต จีวเร ‘‘อนติกฺกนฺตํ อิท’’นฺติ เอวํ สฺิโน, ทสาเห วา อติกฺกนฺเต ‘‘อนติกฺกนฺโต ทสาโห’’ติ เอวํ สฺิโน.

อิทานิ ‘‘อนธิฏฺิเต อธิฏฺิตสฺิโน นิสฺสคฺคิย’’นฺติอาทิอาปตฺติวารํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา’’ติอาทิมาห. ตถาติ ยถา ทสาหํ อติกฺกนฺเต สฺาเภเทน ติกปาจิตฺติยํ, ตถา อนธิฏฺิตาทีสุ สตฺตสุ วิกปฺเปสุ อธิฏฺิตาทิสฺาเภทโตติ อตฺโถ. ตตฺถ อวิสฺสชฺชิเต วิสฺสชฺชิตสฺิโนติ กสฺสจิ อทินฺเน อปริจฺจตฺเต ‘‘ทินฺนํ ปริจฺจตฺตํ มยา’’ติ เอวํ สฺิโน. อนฏฺเ นฏฺสฺิโนติ อตฺตโน จีวเรน สทฺธึ พหูนิ อฺเสํ จีวรานิ เอกโต ปิตานิ, ตานิ เจ โจรา หรนฺติ, ตตฺเรส อตฺตโน จีวเร อนฏฺเ นฏฺสฺี โหติ, ตสฺส นฏฺสฺิโน. เอส นโย อวินฏฺาทีสุปิ. อวิลุตฺเตติ เอตฺถ ปน คพฺภํ ภินฺทิตฺวา ปสยฺหาวหารวเสน อวิลุตฺเตติ เวทิตพฺพํ.

วิสฺสชฺชิเตติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฺสฺส ทินฺเน. กถํ ปน ทินฺนํ โหติ, กถํ คหิตํ? ‘‘อิมํ ตุยฺหํ เทมิ, ททามิ, ทชฺชามิ, โอโณเชมิ, ปริจฺจชามิ, วิสฺสชฺชามิ, นิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… นิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ, สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทฺทินฺนํ, ทุคฺคหิตฺจ. เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุํ. สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ, สเจ ปน เอโก ‘‘คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน โส ‘‘ทินฺนํ มยา ตุยฺหํ, คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ’’ติ วทติ. ตโต ปุริโมปิ ‘‘มยา ทินฺน’’นฺติ ทสาหํ อติกฺกาเมติ, ปจฺฉิโมปิ ‘‘มยา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ, กสฺสาปตฺตีติ? น กสฺสจิ. ยสฺส ปน รุจฺจติ, เตน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. โย ปน อธิฏฺาเน เวมติโก, เตน กึ กาตพฺพํ? เวมติกภาวํ อาโรเจตฺวา ‘‘สเจ อนธิฏฺิตํ ภวิสฺสติ, เอวํ เม กปฺปิยํ โหตี’’ติ วตฺวา วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. น หิ เอวํ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหติ.

ยถาจ อิทํ, เอวํ อิโต ปรานิปีติ ยถา อิทํ อติเรกจีวรธารณสิกฺขาปทํ อาจารวิปตฺติ, เอวํ อิโต ปรานิปิ สิกฺขาปทานิ อาจารวิปตฺติเยวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุภโตปาติโมกฺเขสู’’ติอาทิ. อาชีววิปตฺติปจฺจยา ปน เปตฺวา ทุพฺภาสิตํ ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตาติ –

‘‘อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’ติ ภณติ, ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปริ. ๒๘๗) –

เอวํ ปาราชิกาทิวเสน เปตฺวา ทุพฺภาสิตํ อาชีววิปตฺติปจฺจยา ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตา. ทิฏฺิวิปตฺติปจฺจยา ปาจิตฺติยทุกฺกฏวเสน ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตาติ สมนุภาสนาย ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชเน ตฺติยา ทุกฺกฏํ, กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทิฏฺิวิปตฺติปจฺจยา ปาจิตฺติยทุกฺกฏวเสน ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตา. เอตฺถาติ วิปตฺติกถาสุ.

คณนุปคตาติ ทิวสคณนํ อุปคตภาโว. อฺเหิ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทมา’’ติ ปรหตฺเถ ทินฺนมฺปิ ‘‘น ตาว ตํ คณนุปคํ, ยาว น หตฺถํ คจฺฉตี’’ติ (มหาว. ๒๕๙) จมฺมกฺขนฺธเก วุตฺตตฺตา ยาว อาหริตฺวา วา น ทินฺนํ, ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปหิณิตฺวา วา อนาโรจิตํ, ตาว ทิวสคณนํ น อุเปติ, อนธิฏฺิตํ วฏฺฏติ. ยทา ปน อาเนตฺวา ทินฺนํ โหติ, ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ วา สุตํ, ตโต ปฏฺาย คณนุปคํ โหติ, อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพํ. กถินสฺิตํ สมุฏฺานมสฺสาติ กถินสมุฏฺานํ, ตติยฉฏฺสมุฏฺานวเสน ทฺวิสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. กายวาจาหิ กตฺตพฺพอธิฏฺานวิกปฺปนานํ อกรเณน กายวาจโต, จิตฺเต ปน สติ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ. อนธิฏฺานาวิกปฺปนวเสน อาปชฺชนโต อกิริยํ. อชานนฺโตปิ อาปชฺชตีติ โนสฺาวิโมกฺขํ. กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ กตฺตพฺพากรณโต กายกมฺมํ วจีกมฺมํ.

กถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา

ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุสฺสาติ อตฺโถ, สามิอตฺเถ เจตํ กรณวจนํ. เตนาห ‘‘ปุริมสิกฺขาปเท วิยา’’ติอาทิ. อถ กสฺมา กรณวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺถํ อคฺคเหตฺวา สามิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘กรณวเสน หี’’ติอาทิ. หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ฉินฺนปลิโพโธติ ฉินฺนจีวราวาสปลิโพโธ. เอกาว รตฺติ เอกรตฺตํ, สมาสนฺตคตสฺส อตฺถํ. ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโรติ ติจีวรํ. เตน ติจีวเรน, ตีหิ จีวเรหีติ อตฺโถ. เอเกน วิปฺปวุตฺโถปิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๕-๔๗๖) หิ ติจีวเรน วิปฺปวุตฺโถ นาม โหติ ปฏิสิทฺธปริยาปนฺเนน วิปฺปวุตฺถตฺตา, อวยเวปิ วา สมุทายโวหารโต. เตนาห ‘‘ติจีวราธิฏฺานนเยนา’’ติอาทิ.

อิทานิ วิปฺปวาสลกฺขณววตฺถาปนตฺถํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิเวสนนฺติ อุโทสิตาทีนํ วเสน อกตาย ปติสฺสยวิกติยา อธิวจนํ. อุโทสิโตติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา. โย ‘‘อุทวสิโต’’ติปิ วุจฺจติ. อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. ‘‘อฏฺโฏติ พหลภิตฺติกเคหํ, ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฏฺกาหิ เอว ฉทนํ โหตี’’ติ อปเร. ‘‘อฏฺฏากาเรน กรียตี’’ติปิ วทนฺติ. มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท, เอกกูฏสงฺคหิโต วา อเนกโกณวนฺโต ปติสฺสยวิเสโส. ‘‘มาโฬติ วฏฺฏากาเรน กตเสนาสน’’นฺติ อปเร. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท, อฑฺฒโยคาทิเภโท อฏฺฏมาฬหมฺมิยวชฺชิโต สพฺโพ วา ปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. ‘‘จนฺทิยงฺคณยุตฺต’’นฺติ อปเร. นาวาติ ถลฏฺอุทกฏฺวเสน ทฺวิธา นาวา. สตฺโถติ ชงฺฆสตฺโถ, สกฏสตฺโถ วา. ธฺกรณนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๙๑-๔๙๔) ขลํ วุจฺจติ. อาราโมติ ปุปฺผาราโม, ผลาราโม วา. วิหาโรติ สปริกฺขิตฺโต วา อปริกฺขิตฺโต วา สกโล อาวาโส. ‘‘เคหมฺปี’’ติ เกจิ. นิเวสนาทีนิ เจตฺถ คามโต พหิ นิวิฏฺานิ คหิตานิ. อนฺโตคาเม ิตานํ ปน คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติ. ‘‘นิเวสนาทโย หมฺมิยปริโยสานา คามปริกฺเขปโต พหิ นิวิฏฺา’’ติ อปเร. หตฺถปาสาติกฺกเมติ เอตฺถ หตฺถปาโส นาม อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาโณ ปเทโส, ตสฺส อติกฺกโม หตฺถปาสาติกฺกโม, ตสฺมึ หตฺถปาสาติกฺกเม. หตฺถปาสพฺภนฺตเร ปน วตฺถุํ วฏฺฏติ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขุ อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยเมว โหติ.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – สเจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๔๗๘) คาโม เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา วเสน เอกกุลสฺส โหติ, ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตตฺตา เอกูปจาโร จ, เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ คามพฺภนฺตเร ยถารุจิตฏฺาเน วสิตพฺพํ, สเจ อปริกฺขิตฺโต, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วสิตพฺพํ, ตสฺส ฆรสฺส สมนฺตโต หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.

สเจ คาโม เวสาลิกุสินาราทโย วิย นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา โหติ, วุตฺตปฺปกาเรน ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วา วตฺถพฺพํ, ตสฺส ฆรสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. ยสฺสา วีถิยา ฆรํ โหติ, ตสฺสา วีถิยา ตสฺส ฆรสฺส สมฺมุขาฏฺาเน สภายํ วา ฆรทฺวาเร วา วตฺถพฺพํ, เตสํ สภาทฺวารานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.

สเจ โส คาโม อปริกฺขิตฺโต, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพํ. นิเวสเน ปน สเจ เอกกุลสฺส นิเวสนํ โหติ, ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตนิเวสเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนิเวสเน วตฺถพฺพํ. อปริกฺขิตฺตํ เจ โหติ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ, ตสฺส คพฺภสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.

สเจ นานากุลสฺส นิเวสนํ โหติ, ปริกฺขิตฺตฺจ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, สพฺเพสํ สาธารณทฺวารมูเล วา เตสํ คพฺภทฺวารมูลานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. อปริกฺขิตฺตํ เจ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, ตสฺส คพฺภสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. เอส นโย อุโทสิตาทีสุปิ.

สตฺโถ ปน ชงฺฆสตฺโถ วา โหตุ, สกฏสตฺโถ วา. สเจ เอกกุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา สตฺตพฺภนฺตรา น วิชหิตพฺพา, ปสฺสโต อพฺภนฺตรํ น วิชหิตพฺพํ. สเจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๙) สตฺโถ คจฺฉนฺโต คามํ วา นทึ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตปวิฏฺเน สทฺธึ เอกาพทฺโธ หุตฺวา โอรฺจ ปารฺจ ผริตฺวา ิโต โหติ, สตฺถปริหาโรว ลพฺภติ. อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปนฺโน โหติ อนฺโตปวิฏฺโ, คามปริหาโร เจว นทิปริหาโร จ ลพฺภติ. สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ, สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺโต สกเฏ วา ภคฺเค, โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วสิตพฺพํ.

เขตฺเตปิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๙๐) สเจ เอกกุลสฺส เขตฺตํ โหติ, ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตเขตฺเต วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ, หตฺถปาสา จีวรํ น วิชหิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส เขตฺตํ โหติ, ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา วตฺถพฺพํ, ตสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ, จีวรํ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ. เอส นโย ธฺกรณาราเมสุ ทฺวีสุปิ. วิหาเร ปน นิเวสเน วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.

รุกฺขมูเล ปน ยํ มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, ตสฺมึ าเน อวิรเฬ ปเทเส ตสฺส ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโตเยว นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิรฬสาขสฺส รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส เปติ, อรุณุคฺคมเน จ โส ภิกฺขุ ตสฺส หตฺถปาเส น โหติ, อฺสฺมึ าเน ตสฺส ฉายายปิ โหติ, นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ นานากุลสฺส รุกฺโข โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ.

อชฺโฌกาเส ปน วิฺฌาฏวิอาทีสุ อรฺเสุปิ สมุทฺทมชฺเฌ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปถทีปเกสุปิ จีวรํ เปตฺวา ตโต สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตเร ปเทเส ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํ, อิโต อฺตฺถ วสนฺโต วิปฺปวุตฺโถ นาม โหตีติ ทฏฺพฺพํ.

อิมสฺส ปน วิตฺถารสฺส อิธ อวุตฺตตฺตา, สมนฺตปาสาทิกายฺจ วุตฺตตฺตา ‘‘อยเมตฺถ สงฺเขโป’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถาติ ‘‘ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. สงฺเขโปติ สงฺเขปวณฺณนา. เอตฺถ ปน ปาฬิยํ (ปารา. ๔๗๗) ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทินา อวิเสเสน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาปิ คามนิเวสนอุโทสิตเขตฺตธฺกรณอารามวิหารานํ เอกูปจารนานูปจารตา ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ อปริกฺขิตฺโต จา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) ปริกฺขิตฺตาปริกฺขิตฺตวเสน วิภตฺตา. อฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถรุกฺขมูลอชฺโฌกาสานํ ปน เอวํ อวตฺวา ‘‘เอกกุลสฺส อฏฺโฏ โหติ, นานากุลสฺส อฏฺโฏ โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๘๔) นเยน เอกกุลนานากุลวเสน จ อนฺเต ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร, ตโต ปรํ นานูปจาโรติ (ปารา. ๔๙๔) จ เอวํ เอกูปจารนานูปจารตา วิภตฺตา. ตสฺมา คามาทีสุ ปริกฺขิตฺตํ เอกูปจารํ, อปริกฺขิตฺตํ นานูปจารนฺติ จ, อฏฺฏาทิสุ ยํ เอกกุลสฺส, ตํ เอกูปจารํ, ยํ นานากุลสฺส, ตํ นานูปจารนฺติ จ คเหตพฺพํ. อชฺโฌกาเส วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. อุปจาโรติ หิ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทีสุ ทฺวารํ, ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร’’ติ เอตฺถ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรสงฺขาตํ ปมาณนฺติ อปเร.

อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ภิกฺขุโน สงฺเฆน ทินฺนา สมฺมุติ ภิกฺขุสมฺมุติ, ตํ วินาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํ สงฺโฆ’’ติอาทิ. อวิปฺปวาสสมฺมุตึ เทตีติ อวิปฺปวาสา สมฺมุติ, อวิปฺปวาสาย วา สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ, ตํ ตฺติทุติเยน กมฺเมน เทตีติ อตฺโถ.

สนฺตรุตฺตเรนาติ ‘‘อนฺตร’’นฺติ อนฺตรวาสโก วุจฺจติ, ‘‘อุตฺตร’’นฺติ อุตฺตราสงฺโค, สห อนฺตเรน อุตฺตรํ สนฺตรุตฺตรํ, เตน สนฺตรุตฺตเรน, สห อนฺตรวาสเกน อุตฺตราสงฺเคนาติ อตฺโถ. อนฺโตอรุเณ ปจฺจุทฺธเฏติ นิวตฺติตฺวา สมฺปาปุณิตุมสกฺโกนฺเตน ตตฺเถว ตฺวา อนฺโต อรุเณ ปจฺจุทฺธเฏ. ปจฺจาคนฺตพฺพนฺติ ยถา โรโค น กุปฺปติ, ตถา ปุน จีวรสฺส ปิตฏฺานํ อาคนฺตพฺพํ. ยโต ปฏฺาย หิ สตฺถํ วา ปริเยสติ, ‘‘คจฺฉามี’’ติ อาโภคํ วา กโรติ, ตโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. ‘‘น ทานิ คมิสฺสามี’’ติ เอวํ ปน ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ. เตนาห ‘‘ตตฺเถว วา ิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติ. โสติ ยสฺส สมฺมุติ ทินฺนา, โส โรโค. ลทฺธกปฺปิยเมว ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

อธิฏฺิตจีวรตาติ ติจีวราธิฏฺานนเยน อธิฏฺิตจีวรตา. วิปฺปวาโส นาม ยทิ พทฺธสีมายํ จีวรํ โหติ, ตโต พหิ อรุณุฏฺาปนํ. อถ อพทฺธสีมายํ, ยถาวุตฺตคามาทีนํ พหิ หตฺถปาสาติกฺกเม อรุณุฏฺาปนํ. พทฺธสีมายํ ปน ยตฺถ กตฺถจิ จีวรํ เปตฺวา อนฺโตสีมายเมว ยตฺถ กตฺถจิ วสิตุํ วฏฺฏติ. อิธ อปจฺจุทฺธรณํ อกิริยาติ สมฺพนฺโธ.

อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

ปุริมสิกฺขาปเท วิย เอตฺถาปิ ภิกฺขุนาติ สามิอตฺเถ กรณวจนนฺติ อาห ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนา’’ติอาทิ. ‘‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺนํ, กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรํ นามา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) ปทภาชนิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘ยฺวายํ อนตฺถเต กถิเน’’ติอาทิมาห. ยฺวายํ จีวรกาโล วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. วสฺสานสฺสาติ วสฺสานสงฺขาตสฺส อุตุโน. ปจฺฉิโม มาโส นาม จีวรมาโส. ตสฺมิฺหิ อนตฺถเตปิ กถิเน อุปฺปนฺนํ จีวรํ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ เปตุํ วฏฺฏติ. ปฺจ มาสาติ ปจฺฉิมกตฺติกมาโส, เหมนฺติกา จตฺตาโร จาติ ปฺจ มาสา. อฺทาติ อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส. กาเลปีติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน จีวรมาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’’ติ ยถาวุตฺตจีวรกาเลปิ. ‘‘อาทินา นเยนา’’ติ อิมินา ‘‘ททามิ ทชฺชามี’’ติอาทีนํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) สงฺคโห. กิฺจาปิ เจตานิ สพฺพานิ ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วุตฺตานิ, ตถาปิ ปิฏฺิสมเยเยว อุปฺปนฺนานิ ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ อิธาธิปฺเปตานิ.

‘‘กาเล สงฺฆสฺส อิทํ อกาลจีวร’’นฺติ ทินฺนํ ปน อกาลจีวรสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ยถา ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ จีวรํ วุฏฺวสฺเสหิ, เสเสหิ จ สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตุํ ลพฺภตีติ อกาลจีวรํ นาม ชาตํ, ตเถวิทมฺปีติ ตทิทํ อกาลจีวรสามฺํ. ยทิ เอวํ ‘‘ปุคฺคลสฺส วา อิทํ ตุยฺหํ ‘ทมฺมี’ติอาทินา นเยน ทินฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, น หิ ปุคฺคลสฺส อาทิสฺส ทินฺนํ เกนจิ ภาชนียํ โหตีติ? นายํ วิโรโธ, อาทิสฺส ทานสามฺโต ลพฺภมานมตฺถํ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตนฺติ. อตฺตโน วา ธเนนาติ อตฺตโน กปฺปาสสุตฺตาทินา ธเนน. อิมสฺส ‘‘อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ‘‘สีมาย เทตี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน วุตฺตํ. เอตฺถ ปน สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา…เป… ปุคฺคลสฺส ทานํ อฏฺมา.

‘‘ปริกฺเขปารหฏฺาเนนา’’ติ อิมินา อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ธุวสนฺนิปาตฏฺานาทิโต ปมเลฑฺฑุปาตสฺส อนฺโต อุปจารสีมาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ทุติยเลฑฺฑุปาตสฺสปิ อนฺโต อุปจารสีมาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ธุวสนฺนิปาตฏฺานมฺปิ สีมาปริยนฺตคตเมว เวทิตพฺพํ. อาวาเส วฑฺฒนฺเต วฑฺฒตีติ สเจ อุปจารโต อพหิภูโต หุตฺวา อาวาโส วฑฺฒตีติ อธิปฺปาโย. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ อารามปเวสนเสนาสนาปุจฺฉนานีติ อาคนฺตุกคมิกานํ ภิกฺขุนีนํ อารามปเวสนาปุจฺฉนํ, เสนาสนาปุจฺฉนฺจาติ อตฺโถ. ตถา หิ อาคนฺตุกาย ภิกฺขุนิยา อารามปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ, คมิกาย สงฺฆิกํ ทสวิธํ เสนาสนํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติ วุตฺตํ, คมิกสฺส ปน ภิกฺขุสฺสาปิ อิมิสฺสาเยว สีมาย วเสน เสนาสนาปุจฺฉนํ เวทิตพฺพํ.

ปริวาสมานตฺตาโรจนนฺติ ปาริวาสิกมานตฺตจารีนํ ปริวาสาโรจนํ, มานตฺตาโรจนฺจ. วสฺสจฺเฉทนิสฺสยเสนาสนคฺคาหาทิวิธานนฺติ วสฺสจฺเฉทวิธานํ, นิสฺสยคฺคาหวิธานํ, เสนาสนคฺคาหวิธานนฺติ อตฺโถ. อาทิสทฺเทน นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ, ลาภคฺคาโห อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามปเวสนนฺติ เอวมาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อิมิสฺสาว สีมาย วเสนาติ อุปจารสีมาเยวาติ ยถาสมฺภวํ อนฺโต, พหิ จ อิมสฺส สพฺพสฺส ลพฺภนโต วุตฺตํ.

ลาภตฺถาย ปิตา สีมา ลาภสีมา (มหาว. ๓๗๙), สา จ โข เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุฺาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ลาภทายเกหิ. เตนาห ‘‘ยํ ราชราชมหามตฺตาทโย’’ติอาทิ. สมนฺตาติ วิหารสฺส สมนฺตา. นฺติ สุงฺกสสฺสาทิ. ‘‘สีมํ เปนฺตี’’ติ ปาเสโส. เอกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานนฺติ โจฬโภโค เกรฬโภโคติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทฺวิธา อาโป คโต เอตฺถาติ ทีโป, โอเฆน อนชฺโฌตฺถโต ภูมิภาโค, โสว สีมา ทีปสีมา. เตนาห สมุทฺทนฺเตนา’’ติอาทิ. จกฺกวาฬสีมา จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนาติ อาห ‘‘เอกจกฺกวาฬปพฺพตปริกฺเขปพฺภนฺตรํ จกฺกวาฬสีมา’’ติ.

เสสาติ ขณฺฑสีมาทโย. ขณฺฑสีมาย เทมาติ ทินฺนนฺติ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘ขณฺฑสีมายํ สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนํ. ขณฺฑสีมาย ิเต รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิโตปิ เหฏฺา วา ปถวิเวมชฺฌคโตปิ ขณฺฑสีมาเยว ิโตติ เวทิตพฺโพ. สมานสํวาสสีมาย ทินฺนนฺติ ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ขณฺฑสีมา สีมนฺตริกฏฺานํ น ปาปุณาติ ตตฺถ สมานสํวาสสีมาย อภาวโตติ อธิปฺปาโย. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาสุ ทินฺนสฺส อิทํ นานาตฺตํ – ‘‘อวิปฺปวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ คามฏฺานํ น ปาปุณาติ. กสฺมา? ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจา’’ติ (มหาว. ๑๔๔) วุตฺตตฺตา . ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน คาเม ิตานมฺปิ ปาปุณาตีติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนนฺติ ตตฺถ อุโปสถาทิอตฺถาย สนฺนิปติเต ทิสฺวา ‘‘อิมิสฺสา อพฺภนฺตรสีมาย เทมา’’ติอาทินา ทินฺนํ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโยติ อาห ‘‘ชนปทสีมาทีสู’’ติอาทิ. เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ สงฺคณฺหิตุํ ลภตีติ เอโกปิ คนฺตฺวา อิธ วสฺสคฺเคน ภาเชตฺวา คเหตฺวา อาคนฺตุํ ลภตีติ อตฺโถ. เอโกติ สภาโค เอโก ภิกฺขุ, อยมฺปิ ภาคเมว คเหตุํ ลภติ. เตนาห ‘‘สภาคานํ ภาคํ คณฺหาตี’’ติ.

เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ โย ‘‘อสุกสีมายา’’ติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, ตตฺถ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย ปน วิหารํ ปวิสิตฺวา’’ติอาทิมาห. กตรนฺติ กตรสีมํ. อหเมตํ เภทํ น ชานามีติ อหํ ‘‘อสุกา สีมา’’ติ เอตํ วิภาคํ น ชานามิ. อุปจารสีมฏฺเหิ ภาเชตพฺพํ ลาภสฺส อุปจารสีมาย ปริจฺฉินฺนตฺตาติ อธิปฺปาโย. สาติ สมานลาภกติกา.

ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺตีติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) เอตฺถ ยสฺมึ วิหาเร ตสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ. ยสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา อเนน อาวาโส วา การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, อิเม ธุวการา นาม. เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เตนาห ‘‘ยตฺถ ตสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ปากวตฺตนฺติ ทานวตฺตํ. วตฺตตีติ ปวตฺตติ. ยโตติ ยสฺมา วิหารา. ยตฺถาติ ยสฺมึ วิหาเร. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วิหาเรสุ. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา, เอกสฺมึ โถกตรา, เอกฺจ วตฺถํ, ธุวการฏฺานฺจ พหุกํ, กตฺถ เทมาติ ปุจฺฉิตฺวา, ยทิ ปน มฺโจ วา ปีํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส, เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจปิ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ, ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ.

สงฺฆสฺสทมฺมีติ ทินฺนนฺติ ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ทินฺนํ. ตโต พหิทฺธาปีติ อุปจารสีมาโต พหิทฺธาปิ. เตหิ สทฺธินฺติ อุปจารสีมาคเตหิ สทฺธึ. เอกาพทฺธานฺจ ปาปุณาติ ปริสาวเสน วฑฺฒิตา สีมา โหตีติ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา อุปจารสีมาคตานํ ปาปุณาติ, ยสฺมา จ ตโต พหิทฺธาปิ อุปจารสีโมกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธานํ ปาปุณาติ, ตสฺมา. เตสนฺติ อุปจารสีมาคตานํ, ตโต พหิทฺธา เตหิ สทฺธึ เอกาพทฺธานฺจ. คาหเต สตีติ อนฺเตวาสิกาทิเก คณฺหนฺเต สติ. อสมฺปตฺตานมฺปีติ อุปจารสีมายํ ิเตหิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ลาภภาชนฏฺานํ อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมาย ปวิฏฺานํ, เตหิ วา สทฺธึ เอกาพทฺธานํ หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา ิตานฺจาติ อตฺโถ. ภาโค ทาตพฺโพติ สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปีติ อธิปฺปาโย. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ. ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.

สเจ ปน ‘‘พหิอุปจารสีมายํ ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. ยทิ ปน วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทียมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทียติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา. ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.

‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุจีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ, อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย จีวรกฺขนฺธกวณฺณนายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

เอวํ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ พหิอุปจารสีมายํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกาพทฺธปริสาย ปาปุณาตีติ สเจ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. เอกาพทฺธตา เจตฺถ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตรโต ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. เตนาห ‘‘เย ปนา’’ติอาทิ.

อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนนฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ. ‘‘ทฺเวธาสงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ. อุปฑฺฒํ ภิกฺขูนํ, อุปฑฺฒํ ภิกฺขุนีนํ ทาตพฺพนฺติ ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ภาโค ภิกฺขูนํ, เอโก ภาโค ภิกฺขุนีนํ ทาตพฺโพ. คเหตุํ ลภติ อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เจติยสฺสาติ ถูปาทิโน. ตฺหิ ธาตายตนาทิภาเวน จิตตฺตา, โลกสฺส จิตฺตีการฏฺานตาย จ ‘‘เจติย’’นฺติ วุจฺจติ. น โกจิ วิเสโสติ อาห ‘‘อิธ ปน เจติยสฺสา’’ติอาทิ.

‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติโกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ, เจติยสฺส เอโกเยว. อยํ ปน วาโร ยถาวุตฺเตเนว นเยน ายตีติ กตฺวา อิธ น วุตฺโต. สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) ปน วุตฺโตเยว.

มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติ ปุคฺคลิกวเสน วุตฺตตฺตา. ปุคฺคโล วิสุํ น ลภตีติ ปุพฺเพ วิย วิสุํ ปุคฺคลิกโกฏฺาสํ น ลภติ. ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภตีติ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปตฺตพฺพฏฺานโต เอกเมว โกฏฺาสํ ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ. ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘เจติยสฺส จาติ วุตฺเต ปนา’’ติอาทิ.

เตหิ สทฺธึ ปุคฺคลเจติยปรามสนํ อนนฺตรนยสทิสเมวาติ เตหิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ปุคฺคลสฺส จ เจติยสฺส จ คหณํ อนนฺตรนยสทิสเมวาติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ, ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ เจติยสฺส จ, ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวาว ภาเชตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภตีติ ปุคฺคลสฺส วิสุํ ปฏิวีโส น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคน เอโกว ลพฺภตีติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภตีติ อาห ‘‘เจติยสฺส ปน ลพฺภตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. เจติยสฺส ปน ลพฺภติเยวาติ ‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภตีติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.

เอตฺถาห – ยํ ปเนตรหิ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ, ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? วุจฺจเต – มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา, ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธเจติยชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏภตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภุฺชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลายํ ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมีติ วทตีติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส อิมานิ จีวรานิ ทมฺมี’’ติ วทติ. เตสํ พหิสีมฏฺานมฺปิ ปาปุณาตีติ อตฺถเต กถิเน พหิสีมฏฺานมฺปิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา ปาปุณาติ, ตสฺมา ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ สติ ปฏิคฺคาหเก ทาตพฺพํ. อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต, เอวฺจ ปน วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺานมฺปิ ปาปุณาติ. ยตฺถ กตฺถจีติ เยสุ เกสุจิ วิหาเรสุ. เอวํ วทตีติ ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ. ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. สเจ ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, อนฺโตวสฺเสเยว วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.

จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ, อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุฏฺานํเยว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อติกฺกนฺตา, อนาคโต จตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุฏฺานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํอนฺโตวสฺสํวุฏฺานเมว ปาปุณาติ, ทิสา ปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.

สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุฏฺภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสา ปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลงฺกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาชิตพฺพํ.

เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตาติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) นิมนฺติเตหิ เยหิ ภิกฺขูหิ ยาคุ ปีตา, เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เยสํ วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณาติ. สเจ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ, อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณาติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ภตฺตขชฺชกาทีหีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทนปิ จีวรเสนาสนเภสชฺชานํ คหณํ.

ปุคฺคลสฺสาติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) สมฺมุขาสมฺมุขภูตสฺส ปุคฺคลสฺส. เตนาห ‘‘อิทํ จีวร’’นฺติอาทิ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺเจว ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต, คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เอตฺถาติ อฏฺสุ มาติกาสุ. ยทิ ปน อยเมตฺถ สงฺเขปกถา, วิตฺถาโร ปน กถํ าตพฺโพติ อาห ‘‘สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต’’ติ. สมนฺตปาสาทิกายํ จีวรกฺขนฺธกวณฺณนายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺโตติ อตฺโถ.

‘‘าตเกหิ วา เม จีวรตฺถาย เปสิตํ, มิตฺเตหิ วา เปสิตํ, เต อาภเต จีวเร ทสฺสนฺตี’’ติ เอวํ าติโต วา มิตฺตโต วา ปจฺจาสา โหตีติ เวทิตพฺพํ. กปฺปิยภณฺเฑนาติ กปฺปาสสุตฺตาทินา อตฺตโน ธเนน. สณฺหนฺติ สุขุมํ. อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวา เอว กาลพฺภนฺตเร กาเรตพฺพนฺติ อฺํ มูลจีวรสทิสํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวาเยว มาสพฺภนฺตเร กาเรตพฺพํ. ตฺจ โข สติยาเยว ปจฺจาสาย, อสติยา ปน ปจฺจาสาย มูลจีวรํ ทสาหํ เจ สมฺปตฺตํ, ตทเหว อธิฏฺาตพฺพํ. เตนาห ‘‘สเจ น ลภตี’’ติอาทิ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ปมตรํ อุปฺปนฺนํ ถูลปจฺจาสาจีวรมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ปิ-สทฺเทน น เกวลํ มูลจีวรเมวาติ ทสฺเสติ.

อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘อมฺหากเมว าตี’’ติ ายตีติ าติ, สาว าติกา, น าติกา อฺาติกา, ตาย อฺาติกาย. เตนาห ‘‘น าติกายา’’ติ. มาติโต วา ปิติโต วาติ มาติปกฺขโต วา ปิติปกฺขโต วา. ยาว สตฺตมํ ยุคนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕) ยาว สตฺตมสฺส ปุริสสฺส, สตฺตมาย วา อิตฺถิยา อายุปฺปมาณํ, ยาว ปิตามหยุคํ ปิตามหิยุคํ มาตามหยุคํ มาตามหิยุคนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยาว สตฺตมํ ยุคนฺติ ยาว สตฺตมทฺวนฺทนฺติ อตฺโถ. ยุคสทฺโท เจตฺถ เอกเสสนเยน ทฏฺพฺโพ ‘‘ยุโค จ ยุโค จ ยุคา’’ติ. เอวฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวนฺทํ คหิตํ โหติ. เกนจิ อากาเรน อสมฺพทฺธายาติ ภาตุภคินิภาคิเนยฺยปุตฺตปปุตฺตาทีสุ เยน เกนจิ อากาเรน อสมฺพทฺธาย. ปิตา, ปิตุปิตา, ตสฺส ปิตา, ตสฺสาปิ ปิตาติ เอวํ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา, ปิตุมาตา, ตสฺสา ปิตา จ มาตา จ ภาตา จ ภคินี จ, ปุตฺตา จ, ธีตโร จาติ เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา, ปิตุภาตา, ปิตุภคินี, ปิตุปุตฺตา, ปิตุธีตโร, เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา, มาตุมาตา, ตสฺสา มาตา, ตสฺสาปิ มาตาติ เอวํ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา, มาตุปิตา, ตสฺส ปิตา จ มาตา จ ภาตา จ ภคินี จ ปุตฺตา จ ธีตโร จาติ เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา, มาตุภาตา, มาตุภคินี, มาตุปุตฺตา, มาตุธีตโร , เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, ตาว เนว มาตุสมฺพนฺเธน, น ปิตุสมฺพนฺเธน ยา สมฺพทฺธา, สา ‘‘อฺาติกา นามา’’ติ วุตฺตํ โหติ.

สากิยานิโย วิยาติ ปฺจสตมตฺตา สากิยานิโย วิย. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, ตสฺมา ภิกฺขุภาเว ตฺวา ปริวตฺตลิงฺคา ภิกฺขุนิโยปิ อิธ สุทฺธภิกฺขุสงฺเฆ ‘‘อุปสมฺปนฺนา’’ อิจฺเจว เวทิตพฺพา. อุภโตสงฺเฆ วาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถน, ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถนาติ เอวํ อุภโตสงฺเฆ วา. ปุราณจีวรนฺติ เอตฺถ จีวรนฺติ นิวาสนปารุปนุปคเมว อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘รชิตฺวา’’ติอาทิ. กปฺปํ กตฺวาติ กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา. ‘‘อิมินา อทินฺนกปฺปํ ปาจิตฺติยวตฺถุ น โหตีติ ทสฺเสตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๐๕) วทนฺติ. ปริโภคสีเสนาติ กาเยน ผุสิตฺวา ปริโภคสีเสน. อํเสติ ชตฺตุมฺหิ. มตฺถเกติ สีสมตฺถเก. สเจ ปน ปจฺจตฺถรณสฺส เหฏฺา กตฺวา นิปชฺชติ, หตฺเถหิ วา อุกฺขิปิตฺวา อากาเส วิตานํ กตฺวา สีเสน อสมฺผุสนฺโต คจฺฉติ, อยํ ปริโภโค นาม น โหติ.

กายวิการํ วา กโรตีติ ยถา สา ‘‘โธวาเปตุกาโม อย’’นฺติ ชานาติ, เอวํ กายวิการํ กโรติ. ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา อุปริ วา ขิปตี’’ติ อิมินา อุปจารํ มุฺจิตฺวา โอรโต ขิปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทสฺเสติ. อฺสฺส วา หตฺเถ เปเสตีติ อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา สิกฺขมานสามเณรสามเณริอุปาสกอิตฺถิยาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ อฺสฺส หตฺเถ วา เปเสติ. โสติ อุปาสโก จ สามเณโร จ. อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวตีติ เอตฺถ อุปาสโก ลิงฺเค ปริวตฺเต ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, สามเณโร ลิงฺเค ปริวตฺเต ภิกฺขุนีสุ อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวตีติ ยถาโยคํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. สเจ ปน ภิกฺขุนิยา หตฺเถ ทินฺนํ โหติ, สเจ ลิงฺเค ปริวตฺเต โธวติ, วฏฺฏติ.

เอตฺถ จ เอกสฺส ติกฺขตฺตุํ นิสฺสชฺชนาภาวโต ตีณิปิ กาเรนฺตสฺส เอเกน นิสฺสคฺคิยํ, ทฺวีหิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ. ทฺเว กาเรนฺตสฺส เอเกน นิสฺสคฺคิยํ, ทุติเยน ทุกฺกฏํ. เตนาห ‘‘โธวนาทีนิ ตีณี’’ติอาทิ. ‘‘เอเกน วตฺถุนา’’ติ ปมํ กตฺวา นิฏฺาปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน ‘‘อิมํ จีวรํ รชิตฺวา โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺเต สา ภิกฺขุนี ปมํ โธวิตฺวา ปจฺฉา รชติ, นิสฺสคฺคิเยน ทุกฺกฏเมว, เอวํ สพฺเพสุ วิปรีตวจเนสุ นโย เนตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา โธวติ เจว รชติ จ, โธวาปนปจฺจยา เอว อาปตฺติ, รชเน อนาปตฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ. เตนาห ‘‘สเจ ปน‘โธวา’ติ วุตฺตา’’ติอาทิ. ภิกฺขูนํ วเสน เอกโต อุปสมฺปนฺนาย โธวาเปนฺตสฺส ยถาวตฺถุกเมวาติ อาห ‘‘ภิกฺขุนิสงฺฆวเสนา’’ติอาทิ.

อฺสฺสวา สนฺตกนฺติ อฺสฺส สนฺตกํ ปุราณจีวรํ โธวาเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. นิสีทนปจฺจตฺถรณนฺติ อฺสฺส วา อตฺตโน วา สนฺตกํ นิสีทนฺเจว ปจฺจตฺถรณฺจ. นิวาสนปารุปนุปคสฺเสว จ อิธ ‘‘ปุราณจีวร’’นฺติ อธิปฺเปตตฺตา อตฺตโน สนฺตกมฺปิ นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โธวาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว โหติ, น นิสฺสคฺคิยํ. อวุตฺตา วา โธวตีติ อุทฺเทสาย วา โอวาทาย วา อาคตา กิลิฏฺจีวรํ ทิสฺวา ปิตฏฺานโต วา คเหตฺวา, ‘‘เทถ อยฺย, โธวิสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา วา โธวติ เจว รชติ จ อาโกเฏติ จ, อยํ อวุตฺตา โธวติ นาม. ยาปิ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ ทหรํ วา สามเณรํ วา อาณาเปนฺตสฺส ภิกฺขุโน วจนํ สุตฺวา ‘‘อาหรถยฺย, อหํ โธวิสฺสามี’’ติ โธวติ, ตาวกาลิกํ วา คเหตฺวา โธวิตฺวา รชิตฺวา เทติ, อยมฺปิ อวุตฺตา โธวติ นาม.

อฺํ วา ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอํสพทฺธกกายพนฺธนมฺจปีตฏฺฏิกาทึ ยํ กิฺจิ. ‘‘อุปจาเร ตฺวา’’ติ วจนโต เปสิตฺวา โธวเนปิ อนาปตฺติ. อุปจาเรติ อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส.

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ ฉนฺนํ จีวรานํ มชฺเฌ. อุปจารํ มุฺจิตฺวาติ ทฺวาทสหตฺถูปจารํ มุฺจิตฺวา. ปิ-สทฺเทน ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส จตสฺโส ปริสา จีวรานิ จ นานาวิราควตฺถานิ จ อาหริตฺวา ปาทมูเล เปนฺติ, อุปจาเร วา ตฺวา อุปริ ขิปนฺติ, ‘‘สเจ สาทิยติ, ปฏิคฺคหิตเมวา’’ติ เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ขิปตูติ ทิวา วา รตฺติภาเค วา ขิปตุ. ปฏิคฺคหิตเมว โหตีติ กิฺจาปิ ‘‘อิทํ ภิกฺขุนิยา, อิทํ อฺเส’’นฺติ าตุํ น สกฺกา, ตถาปิ อจิตฺตกภาเวน คหิตเมว โหติ. ยสฺส กสฺสจิ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ สิกฺขมานสามเณรสามเณริอุปาสกอุปาสิกาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ อนุปสมฺปนฺนสฺส. ปิตนฺติ ภิกฺขุนิยา ปิตํ. ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวาติ ‘‘อสฺสามิกํ อิท’’นฺติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา. อสฺสามิกฺหิ ‘‘ปํสุกูล’’นฺติ วุจฺจติ. อิมินา ‘‘อมฺหากมตฺถาย ปิต’’นฺติอาทิกาย สฺาย คเหตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ปริวตฺเตตพฺพํ ปริวตฺตํ, ปริวตฺตเมว ปาริวตฺตกํ, ปริวตฺเตตฺวา ทิยฺยมานํ, ตํ วินาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํ อนฺตมโส หรีฏกกฺขณฺฑมฺปี’’ติอาทิ. อาโภคํ กตฺวาติ จิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. สเจ ภิกฺขุนี วสฺสาวาสิกมฺปิ เทติ, ตมฺปิ ยถาวุตฺตวิธานํ อกตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.

ปฏิลาเภนาติ คหเณน. ติกปาจิตฺติยนฺติ ตีณิ ปริมาณานิ อสฺสาติ ติกํ,ติกฺจ ตํ ปาจิตฺติยฺจาติ ติกปาจิตฺติยํ, อฺาติกาย าติกสฺิเวมติกอฺาติกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานีติ อตฺโถ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย. ตาย หิ หตฺถโต อฺตฺร ปาริวตฺตกา จีวรํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมว. ‘‘ปตฺตตฺถวิกาทิมฺหิ จ อนธิฏฺาตพฺพปริกฺขาเร’’ติ อิมินา ภิสิจฺฉวิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. สา หิ มหนฺตาปิ เสนาสนสงฺคหิตตฺตา จีวรสงฺขํ น คจฺฉตีติ เนว อธิฏฺานุปคา, น วิกปฺปนุปคา จ. วุตฺตฺหิ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘สเจปิ มฺจปฺปมาณา ภิสิจฺฉวิ โหติ, วฏฺฏติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔). ‘‘หตฺถโต จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ วจนโต ปน อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา เปสิตคฺคหเณปิ อนาปตฺติ. ปฏิคฺคหณโต, ปริวตฺตนากรณโต จ กิริยากิริยํ.

จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

เคหสฺส ปติ เชฏฺโติ คหปติ, ตํ คหปตึ, อิธ ปน อปพฺพชิโต โย โกจิ มนุสฺโส อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘ภิกฺขูสุ อปพฺพชิตมนุสฺส’’นฺติ. เอเสว นโย คหปตานินฺติ เอตฺถาปิ. ‘‘วิฺาเปยฺยา’’ติ อิทํ สุทฺธกตฺตุอตฺเถ จ เหตุกตฺตุอตฺเถ จ วตฺตตีติ อาห ‘‘ยาเจยฺย วา ยาจาเปยฺย วา’’ติ. ยาจาปนฺเจตฺถ อตฺตโน อตฺถาเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺจ ปน กตฺวา ‘‘อนาณตฺติก’’นฺติ อิทํ สมตฺถิตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ สเมติ เอตฺถ, เอเตน วา สํคจฺฉติ สตฺโต, สภาวธมฺโม วา สหชาตาทีหิ, อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล, ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ, กรณํ วิย จ กปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียติ, ตํ สมยํ เปตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โย อจฺฉินฺนจีวโร วา โหตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ราชาทีสุ เยหิ เกหิจิ อจฺฉินฺนํ จีวรํ เอตสฺสาติ อจฺฉินฺนจีวโร. ยถาห ‘‘อจฺฉินฺนจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อจฺฉินฺนํ โหติ, ราชูหิ วา โจเรหิ วา ธุตฺเตหิ วา เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนํ โหตี’’ติ. อคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ นฏฺํ จีวรเมตสฺสาติ นฏฺจีวโร. ยถาห ‘‘นฏฺจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วูฬฺหํ โหติ, อุนฺทูเรหิ วา อุปจิกาหิ วา ขายิตํ โหติ , ปริโภคชิณฺณํ วา โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙). สมยาติ อฺตฺรสทฺทาเปกฺขาย อุปโยคตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ตํ สมย’’นฺติ. อฺสฺมินฺติ อฺสฺมึ สมเย.

ติกปาจิตฺติยนฺติ อฺาตเก อฺาตกสฺิเวมติกฺาตกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. สมเยติ ยถาวุตฺเต อจฺฉินฺนจีวรกาเล จ นฏฺจีวรกาเล จ. าตกปฺปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺสาติ าตเก, ปวาริเต จ ‘‘ตุมฺหากํ สนฺถตํ เทถา’’ติ ยาจนฺตสฺส. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๑) จ สงฺฆวเสน ปวาริเต ปมาณเมว ยาจิตุํ วฏฺฏติ, ปุคฺคลิกวเสน ปวาริเต ปน ยํ ยํ ปวาเรนฺติ, ตํ ตเมว วิฺาเปตพฺพํ. โย หิ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา สยเมว สลฺลกฺเขตฺวา กาลานุกาลํ จีวราทีนิ ทิวเส ทิวเส ยาคุภตฺตาทีนิ เทติ, เอวํ เยน เยน อตฺโถ, ตํ ตํ เทติ, ตสฺส วิฺาปนกิจฺจํ นตฺถิ. โย ปน ปวาเรตฺวา พาลตาย วา สติสมฺโมเสน วา น เทติ, โส วิฺาเปตพฺโพ. โย ‘‘มยฺหํ เคหํ ปวาเรมี’’ติ วทติ, ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ยถาสุขํ นิสีทิตพฺพํ นิปชฺชิตพฺพํ, น กิฺจิ คเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติ วทติ, ยํ ตตฺถ กปฺปิยํ, ตํ วิฺาเปตพฺพํ. เคเห ปน นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา น ลพฺภติ. ตสฺเสวตฺถายาติ ‘‘อฺสฺสา’’ติ ลทฺธโวหารสฺส ตสฺเสว พุทฺธรกฺขิตสฺส วา ธมฺมรกฺขิตสฺส วา อตฺถาย. อตฺตโน ธเนน คณฺหนฺตสฺสาติ อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน กปฺปิยโวหาเรเนว คณฺหนฺตสฺส เจตาเปนฺตสฺส, ปริวตฺตาเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา

ตํ-สทฺโท เจตฺถ ปกตตฺถวจโน. เจติ นิปาตมตฺตํ. เจติ วา ยทีติ อตฺโถ, ตสฺส ‘‘ปวาเรยฺยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปวาเรยฺย เจติ ยทิ ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘อภีติ อุปสคฺโค’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๒๓-๕๒๔) อิมินา ตสฺส อตฺถวิเสสาภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘หริตุนฺติ อตฺโถ’’ติ. ปวารสทฺทสฺส อิจฺฉายํ วตฺตมานตฺตา ‘‘อิจฺฉาเปยฺยา’’ติ วุตฺตํ. อิจฺฉํ อุปฺปาเทยฺยาติ ปจฺจเย อิจฺฉํ อุปฺปาเทยฺย. อุปนิมนฺตนาเยตํ อธิวจนํ. เตนาห ‘‘ยาวตฺตก’’นฺติอาทิ. เนกฺขมฺมนฺติ ปพฺพชฺชํ. ทฏฺูติ ทฏฺุํ. ฉนฺทานุรกฺขณตฺถฺเหตฺถ อนุนาสิกโลโป. เขมโตติ นิพฺภยโต. กาเยน วา วาจาย วา อภิหริตฺวา นิมนฺเตยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ยถา จ กาเยน อภิหเรยฺย, วาจาย จ, ตํ วิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปเนตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ สอนฺตรนฺติ อนฺตรวาสกสหิตํ. อุตฺตรนฺติ อุตฺตราสงฺคํ. ปรมนฺติ อวสานํ. อสฺส จีวรสฺสาติ อสฺส สมุทายภูตสฺส หริตพฺพสฺส จีวรสฺส. ตคฺคุณสํวิฺาโณ หิ อยํ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘ลมฺพกณฺโณ’’ติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘นิวาสเนนา’’ติอาทิ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน หิ สพฺเพ ตํปรมํเยว คเหตุํ ลภนฺติ.

ยสฺมา อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวรมตฺตเกเนว ภิกฺขุนา เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, อฺเน ปน อฺถาปิ, ตสฺมา ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺรายํ วินิจฺฉโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิฏฺิตจีวรสฺสาติ ติจีวราธิฏฺานนเยน วา ปริกฺขารโจฬวเสน วา เยน เกนจิ อธิฏฺิตจีวรสฺส, อิทฺจ เยภุยฺเยน อธิฏฺหิตฺวา จีวรํ ปริภุฺชโต วุตฺตํ, น ปน อนธิฏฺิตจีวรสฺส จีวเร อจฺฉินฺเน อยํ วิธิ น สมฺภวตีติ. ยสฺส วา ติจีวรโต อธิกมฺปิ จีวรํ อฺตฺถ อตฺถิ, ตตฺถ นตฺถิ, เตนาปิ ตทา ตตฺถ อภาวโต ทฺเว สาทิตุํ วฏฺฏติ. ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรตีติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๒๓-๕๒๔) อตฺถตกถินตฺตา วา สาสงฺกสิกฺขาปทวเสน วา อวิปฺปวาสสมฺมุติวเสน วา ตติยสฺส อลาเภน วา จรติ. ‘‘ทฺเว นฏฺานี’’ติ อธิการตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว สาทิตพฺพานี’’ติ. เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสตีติ ติณฺณํ จีวรานํ ทฺวีสุ นฏฺเน เอกํ สาทิยนฺเตน สโม ภวิสฺสติ อุภินฺนมฺปิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย อวฏฺานโต. ยสฺส เอกํเยว โหติ อฺเน เกนจิ การเณน วินฏฺเสสจีวรตฺตา.

ปฺจสุ นฏฺเสูติ ติจีวรํ อุทกสาฏิกา สํกจฺจิกาติ อิเมสุ ปฺจสุ จีวเรสุ นฏฺเสุ. ‘‘เอกสฺมึ วา นฏฺเ’’ติ วจนวิปริณามํ กตฺวา โยเชตพฺพํ. ตโต อุตฺตรีติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตริ.

เสสกํ อาหริสฺสามีติ ทฺเว จีวรานิ กตฺวา ‘‘เสสกํ ปุน อาหริสฺสามี’’ติ อตฺโถ. เสสกํ ตุยฺหํเยว โหตูติ วุตฺตสฺสาติ ทานสมเย เอวํ วุตฺตสฺส. สเจ ปน ‘‘เสสกํ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา คเหตฺวา คมนสมเยปิ ‘‘เสสกํ ตุยฺหํเยว โหตู’’ติ วทนฺติ, ลทฺธกปฺปิยเมว. น อจฺฉินฺนนฏฺการณา ทินฺนนฺติ พาหุสจฺจาทิคุณวเสน ทินฺนํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘าตกปฺปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺส, สมเย จ อฺสฺส วา าตกปฺปวาริเต ตสฺเสวตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส’’ติ วุตฺตนเยน.

ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

ภิกฺขุํปเนว อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ ปนาติ นิปาตมตฺตํ, ตถา เอว-สทฺโทปิ. เตนาห ‘‘อิตฺถนฺนามสฺสา’’ติอาทิ. อปทิสิตฺวาติ กเถตฺวา, อารพฺภาติ วา อตฺโถ. อฺาตกสฺส คหปติสฺสาติ อฺาตกคหปตินาติ อตฺโถ. กรณตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. อฏฺกถายํ ปน อิทํ สุวิฺเยฺยนฺติ น วิจาริตํ. จีวรํ เจตาเปนฺติ ปริวตฺเตนฺติ เอเตนาติ จีวรเจตาปนฺนํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๒๘-๕๒๙), จีวรมูลํ, -กาโร ปเนตฺถ อาคโม, ‘‘จีวรเจตาปน’’นฺติปิ ปนฺติ. ตํ ปน ยสฺมา หิรฺาทีสุ อฺตรํ โหติ, ตสฺมา ‘‘หิรฺาทิก’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ หิรฺนฺติ กหาปโณ วุจฺจติ. อาทิสทฺเทน สุวณฺณาทีนํ คหณํ. อุปกฺขฏนฺติ อุปฏฺาปิตํ. ตํ อุปกฺขรณํ เตสํ ตถา สชฺชิตนฺติ อาห ‘‘อุปกฺขฏํ โหตีติ สชฺชิตํ โหตี’’ติ. สํหริตฺวา ปิตนฺติ ราสึ กตฺวา ปิตํ. ปริวตฺตนฺจ อกตสฺส การาปนํ, กตสฺส กิณนนฺติ อาห ‘‘กาเรตฺวา วา กิณิตฺวา วาติ อตฺโถ’’ติ. อจฺฉาเทสฺสามีติ ปารุเปสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘โวหารวจนเมต’’นฺติ. โวหารวจนนฺติ จ อุปจารวจนนฺติ อตฺโถ.

‘‘ตตฺร เจ โส ภิกฺขู’’ติอาทีสุ โก ปทสมฺพนฺโธติ อาห ‘‘ยตฺร โส คหปติ วา’’ติอาทิ. ปุพฺเพ อปฺปวาริโตติ ‘‘ทสฺสามิ, กีทิเสน เต, ภนฺเต, จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ เจตาเปมี’’ติ ปุพฺเพ อวุตฺโต. อุปสงฺกมิตฺวาติ คนฺตฺวา. ปทภาชเน ปจุรโวหารวเสน ‘‘ฆรํ คนฺตฺวา’’ติ (ปารา. ๕๒๙) วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปจุรโวหารวเสนาติ เยภุยฺยโวหารวเสน. เยภุยฺเยน หิ ฆรสามิกํ ทฏฺุกามา ตสฺส ฆรํ คจฺฉนฺตีติ ตเถว พหุลโวหาโร. วิกปฺปนฺติ วิสิฏฺโ กปฺโป วิกปฺโป, วิ-สทฺโท เจตฺถ วิสิฏฺตฺโถ. เตนาห ‘‘วิสิฏฺกปฺป’’นฺติ. อิมินา วจนตฺถมาห. ‘‘อธิกวิธาน’’นฺติ อิมินา ปน อธิปฺปายตฺถํ. ยถา ปน ตมาปชฺชตีติ เยนากาเรน ตํ วิกปฺปํ อาปชฺชติ. ตํ ทสฺเสตุนฺติ ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ.

‘‘สาธู’’ติ อยํ สทฺโท สมฺปฏิจฺฉนสมฺปหํสนสุนฺทรายาจนาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘สาธุ, ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) สมฺปฏิจฺฉเน ทิสฺสติ, ‘‘สาธุ สาธุ สาริปุตฺตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๔๙; ม. นิ. ๑.๓๔๐) สมฺปหํสเน.

‘‘สาธุ ธมฺมรุจิ ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;

สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุข’’นฺติอาทีสุ. (ชา. ๒.๑๘.๑๐๑) –

สุนฺทเร, ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต ภควา, สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๖๔-๖๘) อายาจเน, อิธาปิ อายาจเนเยว ทฏฺพฺโพติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๘๙; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑ มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๕ อคฺคิกภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๔๙) อาห ‘‘สาธูติอายาจเน นิปาโต’’ติ. ตตฺถ อายาจเนติ อภิมุขํ ยาจเน, อภิปตฺถนายนฺติ อตฺโถ. ปริวิตกฺเก นิปาโตติ สมฺพนฺโธ. อาลปตีติ อามนฺเตติ. อายตาทีสูติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน วิตฺถตอปฺปิตสณฺหานํ คหณํ. ยสฺมา ปน น อิมสฺส อาปชฺชนมตฺเตเนว อาปตฺติ สีสํ เอติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส วจเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปโยเคติ สุตฺตปริเยสนาทิปโยเค.

มหคฺฆํ เจตาเปตุกามํ อปฺปคฺฆนฺติ วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ เจตาเปตุกามํ ‘‘อลํ มยฺหํ เตน, ทสอคฺฆนกํ วา อฏฺคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทนฺตสฺสาติ อตฺโถ. เอวรูปนฺติ เอวํ สมภาคํ, อิมินา สมกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตฺจ โข อคฺฆวเสเนว, น ปมาณวเสน. อคฺฆวฑฺฒนกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ.

ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

กสฺมา อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อิทฺหี’’ติอาทิ. หีติ การณตฺเถ นิปาโต. น โกจิ วิเสโสติ อาห ‘‘เกวล’’นฺติอาทิ.

ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา

ราชโตโภคฺคนฺติ ราชโต ลทฺธโภคฺคํ. ราชโภคฺโคติ ราชามตฺโต. ราชโต โภโคติ รฺา ทินฺนํ อิสฺสริยํ. อิมินาติอาทีติ ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ อิทํ. อาคมนสุทฺธินฺติ มูลสุทฺธึ. ยทิ หิ อิมินา กปฺปิยนีหาเรน อเปเสตฺวา ‘‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เปเสยฺย, โสปิ ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘‘อิทํ โข, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ (ปารา. ๕๓๘), ตทา ปฏิกฺขิปิตฺวาปิ กปฺปิยการกํ ปุฏฺเน ตํ นิทฺทิสิตุํ น วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ. อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภาติ หิรฺาทึ อารพฺภ. อีทิเสน ทูตวจเนนาติ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ เอวรูเปน ทูตวจเนน. ตสฺมาติ ยสฺมา สมฺปฏิจฺฉิตุํ อกปฺปิยํ โหติ, ตสฺมา. สุวณฺณนฺติ ชาตรูปํ. รชตนฺติ รูปิยํ. กหาปเณนาติ สุวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา กหาปโณ. มาสโกติ โลหมาสโก วา โหตุ, ทารุมาสโก วา โหตุ, ชตุมาสโก วา โหตุ, โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ อิธ มาสโกติ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ รูปิยสิกฺขาปเท วกฺขาม.

มุตฺตาติ หตฺถิกุมฺภชาทิกา อฏฺวิธา มุตฺตา. ตถา หิ หตฺถิกุมฺภํ วราหทาํ, ภุชงฺคสีสํ, วลาหกํ, เวฬุ, มจฺฉสิโร, สงฺโข, สิปฺปีติ อฏฺ มุตฺตาโยนิโย. ตตฺถ ยา มจฺฉสงฺขสิปฺปิชาตา, สา สามุทฺทิกา, ภุชงฺคชาปิ กาจิ สามุทฺทิกา โหติ. อิตรา อสามุทฺทิกา. ยสฺมา ปน พหุลํ สามุทฺทิกาว มุตฺตา โลเก ทิสฺสนฺติ, ตตฺถาปิ สิปฺปิชาว, อิตรา กทาจิ. ตสฺมา สมฺโมหวิโนทนิยํ ‘‘มุตฺตาติ สามุทฺทิกมุตฺตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๗๒) วุตฺตํ. มณีติ เปตฺวา เวฬุริยาทิเก อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณีติ เวทิตพฺโพ, ปจิตฺวา กโต ปน กาจมณิเยเวโก ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เวฬุริโย นาม วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ ธมนสงฺโข โธตวิทฺโธ รตนมิสฺโส, ปานียสงฺโข ปน รตนามิสฺสกโต, โส จ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถาย, ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลาติ โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณา สิลา. รตเนน ปน อมิสฺสา สตฺถกนิสานาทิอตฺถาย ปฏิคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ‘‘รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตา’’ติ วทนฺติ. ปวาฬนฺติ โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ ปวาฬํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. ยํ ‘‘มรกต’’นฺติปิ วุจฺจติ.

สตฺต ธฺานีติ สานุโลมานิ สาลิอาทีนิ สตฺต ธฺานิ. นีวาราทิอุปธฺสฺส ปน สาลิอาทิมูลธฺนฺโตคธตฺตา ‘‘สตฺต ธฺานี’’ติ วุตฺตํ. ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ เอตฺถ ทาสี นาม อนฺโตชาตธนกฺกีตกรมรานีตปฺปเภทา. ตถา ทาโส. เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว. วสฺสิกาทีนํ ปุปฺผนโก ปุปฺผาราโม. อมฺพผลาทีนํ ผลนโก ผลาราโม. น เกวลฺจ อตฺตโนเยวตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, สเจปิ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ, เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อฺตร’’นฺติ วทติ, อิทมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ หิ อฺสฺส อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เจติยสงฺฆคณปุคฺคลานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏนฺตี’’ติ.

สเจ ปน สงฺฆํ วา คณํ วา ปุคฺคลํ วา อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส เทม, วิหารสฺส เทม, นวกมฺมสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิเม อิทํ ภณนฺตี’’ติ กปฺปิยการกานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘เจติยาทีนํ อตฺถาย ตุมฺเห คเหตฺวา เปถา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อมฺหากํ คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ.

เวยฺยาวจฺจกโรติ กิจฺจกโร. อิธ ปน สพฺโพ กิจฺจกโรว ‘‘เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘กปฺปิยการโก’’ติ. เอโส โขติ ‘‘อสุกวีถิยํ อสุกฆเร อสุกนาโม’’ติ ปรมฺมุขํ วทติ. อิตรมฺปีติ ปรมฺมุขานิทฺทิฏฺมฺปิ. ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ เอตํ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนนฺติ วาจาย โจทนาลกฺขณนิทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ. อิทํ วา วจนํ วตฺตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตสฺส วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย วตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เทหิ เม จีวรํ, อาหร เม จีวรํ, ปริวตฺเตหิ เม จีวรํ, เจตาเปหิ เม จีวร’’นฺติ เอตานิ ปน วจนานิ เอเตสํ วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย น วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘เทหิ เม’’ติอาทิ. สาเธยฺยาติ นิปฺผาเทยฺย. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอวํ ยาวตติยํ โจทเนน ตสฺส จีวรสฺส ยเทตํ อภินิปฺผาทนํ, เอตํ กุสลํ สาธุ สุฏฺูติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอตํ สุนฺทร’’นฺติ.

ฉกฺขตฺตุํ ปรโม ปริจฺเฉโท อสฺสาติ ฉกฺขตฺตุปรมํ. อิทฺหิ ‘‘าตพฺพ’’นฺติ อิมิสฺสา กิริยาย วิเสสนํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ านํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ภาวนปุํสกวจนเมต’’นฺติ, เอตํ ภาเว าตพฺพนฺติ วุตฺตธาตฺวตฺถมตฺเต สาเธตพฺเพ นปุํสกลิงฺควจนนฺติ อตฺโถ. น นิสีทิตพฺพนฺติ ‘‘อิธ, ภนฺเต, นิสีทถา’’ติ วุตฺเตปิ น นิสีทิตพฺพํ . น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ยาคุขชฺชกาทิเภทํ กิฺจิ อามิสํ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ ยาจิยมาเนนาปิ น คณฺหิตพฺพํ. น ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) ‘‘มงฺคลํ วา อนุโมทนํ วา ภาสถา’’ติ ยาจิยมาเนนาปิ น กิฺจิ ภาสิตพฺพํ. านํ ภฺชตีติ ิตึ วินาเสติ. ตฺวา จีวรํ คเหตุํ อาคเตน หิ ตํ อุทฺทิสฺส ตุณฺหีภูเตน าตพฺพเมว, น นิสชฺชาทิกํ กาตพฺพํ. อิมินา ปน ตํ กตนฺติ านํ วินาสิตํ โหติ. เตนาห ‘‘อาคตการณํ วินาเสตี’’ติ. ‘‘อาคตการณํ นาม านเมว, ตสฺมา ‘น กาตพฺพ’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา นิสชฺชาทีสุ กเตสุ ฉสุ าเนสุ เอกํ านํ ภฺชตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ. ‘‘น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพ’’นฺติ หิ อิทํ านลกฺขณํ. เตเนวาห ‘‘อิท’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อิทนฺติ ‘‘จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพ’’นฺติ วจนํ. เอตฺถ จ ‘‘นิสีทนาทิมฺหิ กเต ปุน จีวรํ คเหตุํ น ลภตี’’ติ เกจิ. ‘‘ทฺเว านานิ ปริหายนฺตี’’ติ อฺเ. ‘‘เอกํ านํ ปริหายตี’’ติ อปเร. อุภยํ กโรตีติ โจเทติปิ ติฏฺติปิ.

‘‘ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺตี’’ติ อิทํ โจทกสฺส ิตฏฺิตฏฺานโต อปกฺกมฺม ตตฺร ตตฺร จีวรํ อุทฺทิสฺส านํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถาติ เอเตสุ ทฺวีสุ โจทนาฏฺาเนสุ.

กึ ปน สพฺพกปฺปิยการเกสุ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๖๕) เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? น ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กปฺปิยการโก นาม สงฺเขปโต ทุวิโธ นิทฺทิฏฺโ จ อนิทฺทิฏฺโ จ. ตตฺถ จ นิทฺทิฏฺโ ทุวิโธ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ, ทูเตน นิทฺทิฏฺโติ. อนิทฺทิฏฺโปิ ทุวิโธ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก, ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ. เตสุ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตุพฺพิโธ โหติ, ตถา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ.

กถํ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุสฺส จีวรตฺถาย ทูเตน อกปฺปิยวตฺถุํ ปหิณติ, ทูโต จ ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาเมน ตุมฺหากํ จีวรตฺถาย ปหิตํ, คณฺหถ น’’นฺติ วทติ. ภิกฺขุ ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ. ทูโต ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภนฺเต, เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ปุจฺฉติ, ปุฺตฺถิเกหิ จ อุปาสเกหิ ‘‘ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติ อาณตฺตา วา ภิกฺขูนํ วา สนฺทิฏฺา สมฺภตฺตา เกจิ เวยฺยาวจฺจกรา โหนฺติ, เตสํ อฺตโร ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุ ตํ นิทฺทิสติ ‘‘อยํ ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ . ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, อยํ ภิกฺขุนา สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

โน เจ ภิกฺขุสฺส (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๗; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๖๕) สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, อปิจ โข ภิกฺขุ นิทฺทิสติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ. โส คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสฺส อาโรเจตฺวา คจฺฉติ, อยเมโก ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข โส ทูโต อตฺตนา อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อปิจ โข อฺํ ปหิณติ ‘‘ทินฺนํ มยา, ภนฺเต, ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ, จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ทุติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข อฺํ ปหิณติ, อปิจ โข คจฺฉนฺโตว ภิกฺขุํ วทติ ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ตติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ อิมสฺมึ ราชสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต นตฺถิตาย วา อวิจาเรตุกามตาย วา ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตสฺมิฺจ ขเณ โกจิ มนุสฺโส อาคจฺฉติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘อิมสฺส หตฺถโต จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อยํ ทูเตน สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

อปโร ทูโต คามํ ปวิสิตฺวา อตฺตนา อภิรุจิตสฺส กสฺสจิ หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา วา อาโรเจติ, อฺํ วา ปหิณติ, ‘‘อหํ อสุกสฺส นาม หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา วา คจฺฉติ, อยํ ตติโย ทูเตน อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ, ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ทูเตน นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

วุตฺตฺเหตํ

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ (มหาว. ๒๙๙).

เอตฺถ จ โจทนาย ปริมาณํ นตฺถิ. มูลํ อสาทิยนฺเตน สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ โจทนาย วา าเนน วา กปฺปิยภณฺฑํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. โน เจ เทติ, อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพํ. สเจ อิจฺฉติ, มูลสามิกานมฺปิ กเถตพฺพํ. โน เจ อิจฺฉติ, น กเถตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตทฺโ สมีเป ิโต สุตฺวา ‘‘อาหร, โภ, อหํ อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ วทติ. ทูโต ‘‘หนฺท, โภ, ทเทยฺยาสี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ภิกฺขุสฺส อนาโรเจตฺวาว คจฺฉติ, อยํ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก.

อปโร (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๖๕) ภิกฺขุโน อุปฏฺากสฺส วา อฺสฺส วา หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ ทเทยฺยาสี’’ติ เอตฺโตว ปกฺกมติ, อยํ ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม. เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. เตนาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. กปฺปิยการเกติ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตฺตาโร กปฺปิยการเกติ อตฺโถ. ‘‘ทายโก สยเมวา’’ติ อิมินา ภิกฺขุํ ปฏิกฺขิปติ, น ทูตํ. ตสฺมา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ ยถารุจิ โจเทตุํ วฏฺฏติ. มุขํ วิวริตฺวา สยเมว กปฺปิยการกตฺตํ อุปคโตติ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. เอวนฺติ ‘‘เอโส โข’’ติอาทินา ยถาวุตฺเตน อากาเรน. ทสฺสิตา โหนฺติ สงฺเขปโตติ อธิปฺปาโย.

วุตฺตโจทนาฏฺานปริมาณโตติ วุตฺตโจทนาปริมาณโต จ วุตฺตฏฺานปริมาณโต จ. สนฺติกนฺติ สมีปํ. ตตฺถาติ เอตฺถ กถมยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมวจน’’นฺติ . อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘คงฺคายํ โคยูถานิ จรนฺติ, กูเป คคฺคกูล’’นฺติอาทีสุ วิย ยสฺมา สมีปาธาเร อิทํ สตฺตมีวิภตฺติวจนํ, ตสฺมา อยมตฺโถ ลพฺภตีติ. เอวํ อกโรนฺโตติ สามํ วา อคจฺฉนฺโต, ทูตํ วา อปาเหนฺโต.

อชฺชณฺโห, ภนฺเต, อาคเมหีติ, ภนฺเต, อชฺช เอกทิวสํ อมฺหากํ ติฏฺ, อธิวาเสหีติ อตฺโถ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อติเรเกสุ โจทนาฏฺาเนสุ อติเรกสฺิเวมติกอูนกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. ติกฺขตฺตุํ โจทนาย ฉกฺขตฺตุํ าเนน, อูนกติกฺขตฺตุํ โจทนาย อูนกจฺฉกฺขตฺตุํ าเนน ลทฺเธปิ อนาปตฺติ. อปฺปิตตาติ ปติฏฺาปิตตา, ‘‘สฺตฺโต โส มยา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๓๘) กถิตตาติ วุตฺตํ โหติ.

ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

จีวรวคฺโค ปโม.

๒. เอฬกโลมวคฺโค

๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา

โกสิยมิสฺสกนฺติ ‘‘โกสการกา’’ติ ลทฺธโวหารานํ ปาณกานํ โกสโต นิพฺพตฺตํ อํสุ โกสิยํ, เตน มิสฺสํ โกสิยมิสฺสกํ. เตน ปน โกสิเยน อปฺปเกนาปิ มิสฺสิตํ โกสิยมิสฺสกเมว, น อิทํ อพฺโพหาริกนฺติ วตฺตุํ ลพฺภา. เตนาห ‘‘เอเกนาปี’’ติอาทิ. โกสิยํสุนาติ กิมิโกสสมฺภเวน อํสุนา. ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิกํ ปน อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตฺตา วุตฺตํ. สนฺถตํ นาม สนฺถริตฺวา กตํ อวายิมํ. เตนาห ‘‘สเม ภูมิภาเค’’ติอาทิ. อิมสฺเสว วจนสฺส อนุสาเรนาติ อิมสฺเสว ปมสนฺถตสฺส นิสฺสชฺชนวิธานวจนานุสาเรน. สพฺพสนฺถตนฺติ สพฺพสนฺถตนิสฺสชฺชนวิธานํ.

อฺสฺสตฺถาย การาปเน ทุกฺกฏตฺตา อตฺตโน อตฺถาย การาปนวเสน ‘‘สาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺตนา วิปฺปกตปริโยสาปนนเยนาติ ‘‘อตฺตนา วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ปเรหิ วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ปเรหิ วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๔๕) อิมินา นเยน. วิตานาทิกรเณติ วิตานภูมตฺถรณสาณิปาการภิสิพิพฺโพหนกรเณ. ยถา จ วิตานาทิกรเณ, เอวํ เตนากาเรน ปริโภเคปิ อนาปตฺติ. ‘‘อวายิม’’นฺติ (ปารา. ๕๔๔) วุตฺตตฺตา วายิตฺวา กโรนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.

โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา

กาฬกานนฺติ สภาเวน วา รชเนน วา กาฬกานํ. ยถาห ‘‘กาฬกํ นาม ทฺเว กาฬกานิ ชาติยา กาฬกํ วา รชนกาฬกํ วา’’ติ. อฺเหิ อมิสฺสิตานนฺติ อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ. ‘‘ยถา ปเม ‘เอเกนาปิ โกสิยํสุนา’ติ (กงฺขา. อฏฺ. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตถา อิธาปิ ‘เอเกนาปิ อฺเน อมิสฺเสตฺวา’ติ อวุตฺตตฺตา อฺเน ปน มิสฺสกโภเคปิ อปฺายมานรูปกํ เจ ‘สุทฺธกาฬก’มิจฺเจว วุจฺจตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๕๔๗) วทนฺติ.

เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ สนฺถต’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๔๙) นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. เสสนฺติ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏจตุกฺกปาจิตฺติยาทิกํ. องฺเคสุ ปน ‘‘สุทฺธกาฬกภาโว’’ติ อยํ วิเสโส.

สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา

คเหตพฺพาติ ยถา กาฬกา อธิกา น โหนฺติ, ตถา คเหตพฺพา. เปตฺวา เจตฺถ กาฬกโอทาเต อวเสสา โคจริเยสุเยว สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๕๒) ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ทฺเว ภาคาติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท กาฬกานํ อธิกคฺคหณสฺส ปฏิกฺเขปวเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา. ตสฺมา กาฬกานํ ภาคทฺวยโต อธิกํ น วฏฺฏติ, อูนกํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘เอกสฺสาปี’’ติอาทิ. เอกสฺสาปิ กาฬกโลมสฺส อติเรกภาเวติ ตุลาย ธารยิตฺวา ปิเตสุ อนฺตมโส วาตเวเคนปิ ปหิตสฺส เอกสฺสาปิ กาฬกโลมสฺส อธิกภาเว สตีติ อตฺโถ. ‘‘ตติยํ โอทาตานํ, จตุตฺถํ โคจริยาน’’นฺติ อิทํ ปน เหฏฺิมปริจฺเฉโท เตสํ อธิกคฺคหเณ ปฏิกฺเขปาภาวโต. ตสฺมา เตสํ วุตฺตปฺปมาณโต อธิกมฺปิ วฏฺฏติ.

เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, สนฺถตํ อนาทิยิตฺวา ทฺเว ตุเล สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ, ตุลํ โอทาตานํ, ตุลํ โคจริยานํ สนฺถตํ การาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๕๔) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. อาทาย จ วุตฺตปริจฺเฉเทน อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริยํ. เสสนฺติ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏจตุกฺกปาจิตฺติยาทิกํ. อยํ ปน วิเสโส – ตุลํ โอทาตานํ ตุลํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กรเณ, พหุตรํ โอทาตานํ พหุตรํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กรเณ , สุทฺธํ โอทาตานํ สุทฺธํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กรเณ จ อนาปตฺตีติ.

องฺเคสุ ปน ปมงฺคํ กาฬกานํ ทฺเวภาคโต อติเรกภาโวติ ทฏฺพฺพํ. อิมานิ ตีณิ น เกวลํ อนิสฺสฏฺาเนว ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺตีติ อาห ‘‘อิมานิ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา ยทิ ปริภุฺชติ, ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.

ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

ยํ สนฺถตสมฺมุตึ เทตีติ สมฺพนฺโธ. คิลานสฺส ภิกฺขุโนติ ยสฺส วินา สนฺถตา น ผาสุ โหติ, น สกฺโกติ จ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, เอวํภูตสฺส คิลานสฺส ภิกฺขุโน. สนฺถตสมฺมุตึ เทตีติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน น สกฺโกติ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๖๐) ปทภาชเน วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สนฺถตสมฺมุตึ เทติ.

สาติ สนฺถตสมฺมุติ. วูปสนฺโต วา ปุน กุปฺปตีติ วูปสนฺโต วา โส อาพาโธ ปุน กุปฺปติ, อนุวสฺสมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. น เกวลํ ตสฺมึเยว โรเค กุปฺปิเต, อถ โข อฺสฺมึ โรเค กุปฺปิเตปิ คตคตฏฺาเน อนุวสฺสํ กาตุํ ลภติ. เตเนว หิ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘สเจ อโรโค หุตฺวา ปุน มูลพฺยาธินาว คิลาโน โหติ , โสเยว ปริหาโร, นตฺถฺํ ‘สมฺมุติกิจฺจ’นฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. อุปติสฺสตฺเถโร ปน โส วา พฺยาธิ ปฏิกุปฺปตุ, อฺโ วา, สกึ ‘คิลาโน’ติ นามํ ลทฺธํ ลทฺธเมว, ปุน ‘สมฺมุติกิจฺจํ นตฺถี’ติ อาหา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๗) อุปติสฺสตฺเถรวาโท ปจฺฉา วุตฺโต.

เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, สนฺถตํ อูนกฉพฺพสฺสานิ การาปิตํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๖๒) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เสสํ ปมสทิสเมวา’’ติ อิมินา ‘‘อตฺตนา กตํ ปเรหิ ปริโยสาเปตี’’ติอาทิกํ อติทิฏฺํ. อยํ ปน วิเสโส – ปริปุณฺเณ ฉพฺพสฺเส วา อติเรกฉพฺพสฺเส วา อนาปตฺติ. องฺเคสุ จ ฉพฺพสฺสานํ อนฺโตภาโว นานาตฺตํ.

ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา

นิสีทนสนฺถตนฺติ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ เอตฺถ ปทภาชนิยํ (ปารา. ๕๖๘) วุตฺตตฺตา สทสํ สนฺถตํ, เอตฺถ จ นิสีทนคฺคหณํ สนฺถเต จีวรสฺานิวารณตฺถํ, ยโต เต ภิกฺขู กมฺพลจีวรสฺาย สนฺถตํ ฉฑฺเฑตฺวา ธุตงฺคานิ สมาทิยึสุ. สยนาสนปฺปโยชนตฺตา สนฺถตสฺส ‘‘ปุราณสนฺถตํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺถาติ ยสฺมึ สนฺถเต. วิทตฺถิมตฺตนฺติ สุคตวิทตฺถิมตฺตํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท จายํ ‘‘อนาปตฺติ อลภนฺโต โถกตรํ อาทิยิตฺวา กโรตี’’ติ (ปารา. ๕๗๐) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา. เอกเทเสติ อิทานิ กตฺตพฺพนวสนฺถตสฺส เอกปฺปเทเส. วิชเฏตฺวาติ วิทฺธํเสตฺวา. อนาทาติ -การโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘สติ ปุราณสนฺถเต อคฺคเหตฺวา’’ติ.

เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, นิสีทนสนฺถตํ อนาทิยิตฺวา ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ การาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๖๘) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. สนฺถตวิสฺสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตนฺติ ภควตา สนฺถตานิ วิปฺปกิณฺณานิ ทิสฺวา ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตเน การณํ นตฺถิ, ปริโภคุปายํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๖๖) สนฺถตวิสฺสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ. กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘เสสํ ตติยสทิสเมวา’’ติ วุตฺตํ, ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสเมวาติ อตฺโถ. อยํ ปน วิเสโส – ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถิยา อาทาย กรเณ, อลภนฺตสฺส โถกตรํ อาทาย กรเณ, สพฺพถา อลภนฺตสฺส อนาทาย กรเณ จ อนาปตฺตีติ. องฺเคสุ ปเนตฺถ ปมงฺคปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถิอนาทิยนาติ ทฏฺพฺพํ.

นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา

อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาติ อทฺธานเมว มคฺโค อทฺธานมคฺโค, ตํ ปฏิปนฺนสฺสาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อทฺธานสงฺขาต’’นฺติอาทิ. อทฺธานสทฺเทน วิเสสิตตฺตา ปน ‘‘ทีฆมคฺค’’นฺติ วุตฺตํ. อทฺธานคมนสมยสฺส วิภงฺเค ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามีติ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต (ปาจิ. ๒๑๘) อทฺธโยชนมฺปิ อทฺธานมคฺโค โหติ. เอฬกโลมานิ เจตานิ อทฺธานมคฺคโต อฺตฺถ อุปฺปนฺนานิ ปฏิคฺคเหตุํ น วฏฺฏนฺติ, ยโต ‘‘อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสา’’ติอาทิกํ วุตฺตนฺติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘สพฺพฺเจต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ สพฺพฺเจตนฺติ ‘‘ภิกฺขุโน ปเนว อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เอฬกโลมานิ อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติอาทิกํ เอตํ สพฺพํ. วตฺถุมตฺตทีปนเมวาติ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน โกสเลสุ ชนปเท สาวตฺถึ คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค เอฬกโลมานิ อุปฺปชฺชึสู’’ติอาทิกสฺส (ปารา. ๕๗๑) วตฺถุมตฺตสฺส ทีปนเมว. ยตฺถ กตฺถจีติ อทฺธานโต อฺตฺถาปิ ยตฺถ กตฺถจิ าเนสุ. สหตฺถาติ กรณตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘สหตฺเถนา’’ติ. ลกฺขณวจนฺเจตํ, ตสฺมา เยน เกนจิ สรีราวยเวนาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘อตฺตนา หริตพฺพานีติ อตฺโถ’’ติ. อสนฺเต หารเกติ เอตฺถ ปทานํ อนฺโตคธาวธารณโต อวธารณตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อสนฺเตเยวา’’ติอาทิ.

เอตฺถ จ ‘‘อิมานิ เม, ภนฺเต, เอฬกโลมานิ ติโยชนํ อติกฺกามิตานิ นิสฺสคฺคิยานี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๗๓) นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อติเรกติโยชเน อติเรกติโยชนสฺิเวมติกอูนกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. วาสาธิปฺปาเยน คนฺตฺวา ตโต ปรํ หรเณติ ยตฺถ คโต, ตตฺถ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ วา ปจฺจยาทีนํ วา อลาเภน ตโต ปรํ อฺตฺถ หรเณ, ตโตปิ อฺตฺถาติ เอวํ โยชนสตมฺปิ หรเณ อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนํ วา นิสฺสฏฺํ วาติ โจเรหิ อจฺฉินฺนํ วา วินยกมฺมกตํ วา. กตภณฺฑนฺติ กตํ ภณฺฑํ กมฺพลโกชวสนฺถตาทิ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ. เตนาห ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิ. โย ปน ตนุกปตฺตตฺถวิกนฺตเร (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) วา อาโยคอํสพทฺธกกายพนฺธนาทีนํ อนฺตเรสุ วา ปิปฺผลิกาทีนํ มลรกฺขณตฺถํ สิปาฏิกายํ วา อนฺตมโส วาตาพาธิโก กณฺณจฺฉิทฺเทปิ โลมานิ ปกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ , อาปตฺติเยว. สุตฺตเกน ปน พนฺธิตฺวา ปกฺขิตฺตํ กตภณฺฑฏฺาเน ติฏฺติ, เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยว.

ปมปฺปฏิลาโภติ อตฺตโน อตฺถาย เอฬกโลมานํ ปมุปฺปตฺติ. เอเตน อจฺฉินฺนนิสฺสฏฺปฺปฏิลทฺธานํ ปฏิกฺเขโป. อฺสฺส อชานนฺตสฺส ยาเน ปกฺขิปิตฺวาติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒) คจฺฉนฺเต รถาทิเก วา หตฺถิปิฏฺิอาทีสุ วา สามิกสฺส อชานนฺตสฺเสว ‘‘หริสฺสตี’’ติ ปกฺขิปิตฺวา. อคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน อคจฺฉนฺเต รถาทิมฺหิ วา หตฺถิปิฏฺิอาทีสุ วา เปตฺวา อาโรหิตฺวา สาเรติ, เหฏฺา วา คจฺฉนฺโต โจเทติ, ปกฺโกสนฺโต วา อนุพนฺธาเปติ, ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ (ปารา. ๕๗๕) วจนโต อนาปตฺติ. เอตฺถ จ ‘‘อชานนฺตสฺส ยาเน’’ติ อิมินา ชานนฺตสฺส เจ ยาเน ปกฺขิปติ, อฺํ หราเปติ นามาติ ทสฺเสติ. อหรณปจฺจาหรณนฺติ หรณปจฺจาหรณานมภาโว.

เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

สกฺเกสูติ ‘‘สกฺยา วต, โภ กุมารา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๖๗) อุทานํ ปฏิจฺจ ‘‘สกฺยา’’ติ ลทฺธนามานํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิสทฺเทน ‘‘สกฺกา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ สกฺเกสุ ชนปเท. ฉพฺพคฺคิยา นาม ปณฺฑุกโลหิตกาทโย ฉมูลกา, เตสํ สิสฺสา จ.

เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ชาตรูปสิกฺขาปทวณฺณนา

รชตนฺติ น เกวลํ รูปิยเมว อิธาธิปฺเปตํ, อถ โข ยํ กิฺจิ โวหารคมนียํ กหาปณาทิ จ เอตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. ตตฺถ กหาปโณติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) สุวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโก นาม ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโก นาม สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโก นาม ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต. ตเทวาติ ชาตรูปรชตเมว. หิรฺํ นาม กหาปโณ.

‘‘สาทิยตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘คณฺหิตุกาโม โหตี’’ติ. น เกวลํ กายวาจาหิ ปฏิกฺขิตฺตเมว ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ, อถ โข มนสาปิ ปฏิกฺขิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหตีติ อาห ‘‘กายวาจาหี’’ติอาทิ. สเจ ปน กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสติ, กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยสมุฏฺานํ กายวจีทฺวาเร อาปตฺตึ อาปชฺชติ. มโนทฺวาเร ปน อาปตฺติ นาม นตฺถิ.

เอโก สตํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) วา สหสฺสํ วา ปาทมูเล เปติ ‘‘ตุยฺหิทํ โหตู’’ติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ. อุปาสโก ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ตุมฺหาก’’นฺติ คโต, อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กึ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ. ยํ เตน จ อตฺตนา จ วุตฺตํ, ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. โส เจ วทติ ‘‘โคเปสฺสามิ, ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ, สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอตฺตาวตา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหติ, ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ กิฺจิ วิกฺกายิกภณฺฑํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา อาคจฺฉติ, ‘‘อิทํ คเหสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, อตฺถิ อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส วทติ ‘‘อหํ กปฺปิยการโก ภวิสฺสามิ, ทฺวารํ วิวริตฺวา เทถา’’ติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส ปิต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ‘‘อิมํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอวฺจ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหติ. โส เจตํ คเหตฺวา ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ เทติ, วฏฺฏติ. สเจ อธิกํ คณฺหาติ, ‘‘น มยํ ตว ภณฺฑํ คณฺหาม, นิกฺขมาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

สงฺฆมชฺเฌเยวนิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยสฺมา รูปิยํ นาม อกปฺปิยํ, ตสฺมา ‘‘นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ปฏิคฺคหิตมตฺตเมว, น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตํ, ตสฺมา อุปาเยน ปริโภคทสฺสนตฺถํ ‘‘สงฺฆมชฺเฌเยว นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน เตลาทีนํ คหณํ. โสติ โย คหฏฺโ ‘‘สปฺปิ วา เตลํ วา วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต, โส. อฺเน ลภิตฺวาติ ภิกฺขุนา วา อารามิเกน วา อตฺตโน วสฺสคฺเคน ลภิตฺวา. ตโต นิพฺพตฺตรุกฺขจฺฉายาปีติ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา อาหฏพีชโต นิพฺพตฺตรุกฺขปริจฺเฉเทน ิตจฺฉายาปิ, ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตา ปน อาคนฺตุกตฺตา วฏฺฏติ. โน เจ ฉฑฺเฑตีติ อถ เนว คเหตฺวา คจฺฉติ, น ฉฑฺเฑติ, ‘‘กึ มยฺหํ อิมินา พฺยาปาเรนา’’ติ เยนกามํ ปกฺกมติ. ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ‘‘โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, ฉฑฺฑิตาฉฑฺฑิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) เอวํ วุตฺตปฺจงฺเคหิ สมนฺนาคโต. สมฺมนฺนิตพฺโพติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติอาทินา ปทภาชเน วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺโพ.

อนิมิตฺตํ กตฺวา คูถํ วิย ฉฑฺเฑตพฺพนฺติ ปติตฏฺานํ สลฺลกฺขณวเสน นิมิตฺตํ อกตฺวา คูถํ วิย ฉฑฺเฑตพฺพํ, อกฺขีนิ นิมีเลตฺวาว นทิยา วา ปปาเต วา วนคหเน วา คูถํ วิย อนเปกฺเขน ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตน ปาเตตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘คูถํ วิย ฉฑฺเฑตพฺพ’’นฺติ. ติกปาจิตฺติยนฺติ รูปิยสฺิเวมติกอรูปิยสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อรูปิเย รูปิยสฺิโนติ ขรปตฺตาทีสุ สุวณฺณาทิสฺิโน. รตนสิกฺขาปทนเยนาติ ‘‘อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วา’’ติ (ปาจิ. ๕๐๕) เอตฺถ วุตฺตวิธินา.

ชาตรูปสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

กตาทิวเสนาติ กตอกตกตากตวเสน. สุวณฺณาทิจตุพฺพิธมฺปิ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณน คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ. อิทฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘ปุริมสิกฺขาปเทน หี’’ติอาทิ. ปริวตฺตนนฺติ สาทิตรูปิยสฺส ปริวตฺตนํ. ปุริมนยานุสาเรนาติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิย’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๘๙).

รูปิยสํโวหารวตฺถุสฺมินฺติ ปฏิคฺคหณสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเน โทสํ อทิสฺวา รูปิยปริวตฺตเน. ตสฺส วาติ ปริวตฺติตสฺส วา. ธนสฺส วาติ อตฺตโน มูลธนสฺส วา . อตฺตโน วา หิ อรูปิเยน ปรสฺส รูปิยํ เจตาเปยฺย, อตฺตโน วา รูปิเยน ปรสฺส อรูปิยํ, อุภยถาปิ รูปิยสํโวหาโร กโตว โหตีติ.

รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา

รูปิยสํโวหารสฺส ปน เหฏฺาสิกฺขาปเทน คหิตตฺตา กปฺปิยภณฺฑานเมเวตฺถ คหณนฺติ อาห ‘‘จีวราทีน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานนฺติ อนฺตมโส ทสิกสุตฺตํ อุปาทาย จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยานํ เยสํ เกสฺจิ กปฺปิยภณฺฑานํ. กยํ นาม ปรภณฺฑสฺส คหณํ. วิกฺกยํ นาม อตฺตโน ภณฺฑสฺส ทานํ. เตนาห ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทิ. ปรสฺสาติ เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อฺสฺส. เอตฺถ จ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นานปฺปการกํ กยวิกฺกยํ สมาปชฺชึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๙๕) นเยน นิสฺสชฺชิตพฺพํ. เตนาห ‘‘วุตฺตลกฺขณวเสนา’’ติอาทิ. นนุ เจตฺถ จีวรโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘อสนฺเต ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพเมวา’’ติ. ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวํ อิธาปิ เทเสตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย.

อิทํอมฺหากํ อตฺถีติ อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ สํวิชฺชติ. อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถติ อมฺหากฺจ ตทฺเน อิมินา จ อิมินา จ อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ. ‘‘รูปิยสํโวหาเร วุตฺตนยเมวา’’ติ อิมินา ‘‘ติกปาจิตฺติยํ อกยวิกฺกเย กยวิกฺกยสฺิโน จ เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมํ นยมติทิสติ.

กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอฬกโลมวคฺโค ทุติโย.

๓. ปตฺตวคฺโค

๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

อวิกปฺปิโตติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติอาทินา นเยน อวิกปฺปิโต. อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตีติ มคธนาฬิยา ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนํ โอทนํ คณฺหาติ. ‘‘มคธนาฬิ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตี’’ติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘สีหฬทีเป ปกตินาฬิ มหนฺตา, ทมิฬนาฬิ ขุทฺทกา, มคธนาฬิ ปมาณยุตฺตา, ตาย มคธนาฬิยา ทิยฑฺฒนาฬิ เอกา สีหฬนาฬิ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒) มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อนุตฺตณฺฑุลนฺติ ปากโต อุกฺกนฺตํ ตณฺฑุลํ อุตฺตณฺฑุลํ, น อุตฺตณฺฑุลํ อนุตฺตณฺฑุลํ. สพฺพสมฺภารสงฺขโตติ ชีรกาทิสพฺพสมฺภาเรหิ สงฺขโต. อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปพฺยฺชนํ.

เอวํ อุกฺกฏฺปตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มชฺฌิโมมกานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อุกฺกฏฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ นโย – สเจ นาฬิโกทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ปตฺโตทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโตติ. เตนาห ‘‘เตสมฺปิ วุตฺตนเยเนว เภโท เวทิตพฺโพ’’ติ.

อิทานิ เตสุ อธิฏฺานวิกปฺปนานธิฏฺานาวิกปฺปนุปเค ทสฺเสตุํ ‘‘อิจฺเจเตสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโติ อุกฺกฏฺโต อุกฺกฏฺโ. ตโต หิ โส ‘‘อปตฺโต’’ติ วุตฺโต. โอมโกมโกติ โอมกโต โอมโก. ตโต หิ โส ‘‘อปตฺโต’’ติ วุตฺโต. เอเต ปน ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพา, น อธิฏฺานุปคา น วิกปฺปนุปคา, อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพา. เตนาห ‘‘เสสา สตฺต ปตฺตา ปมาณยุตฺตา นามา’’ติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา สตฺต ปตฺตา ปมาณยุตฺตา, ตสฺมา. สมณสารุปฺเปน ปกฺกนฺติ เอตฺถ อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) ปกฺโก สมณสารุปฺเปน ปกฺโก โหติ, มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ. สเจ เอโก ปาโก อูโน โหติ, น อธิฏฺานุปโค. ยถา จ สมณสารุปฺเปน ปกฺโกเยว อธิฏฺานุปโค, ตถา อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว อธิฏฺานุปคา. ยทิ ปน อปฺปกมฺปิ อทินฺนํ โหติ, น อธิฏฺานุปคา. เตนาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘กากณิกมตฺตํ นาม ทิยฑฺฒวีหี’’ติ วทนฺติ. สเจปิ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ, อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ, เนว อธิฏฺานุปโค โหติ. ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขํ น คจฺฉติ. มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ. ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ นิฏฺิเตเยว อธิฏฺานุปโค โหติ. โย อธิฏฺานุปโค, สฺเวว วิกปฺปนุปโค จ. เตนาห ‘‘อปจฺจุทฺธรนฺเตนา’’ติอาทิ. อปจฺจุทฺธรนฺเตน วิกปฺเปตพฺโพติ ปุราณปตฺตํ อปจฺจุทฺธรนฺเตน นโว ปตฺโต วิกปฺเปตพฺโพติ อตฺโถ, เปตพฺโพติ อธิปฺปาโย. กงฺคุสิตฺถนฺติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถนฺติ อาห ‘‘กงฺคุสิตฺถนิกฺขมนมตฺเตน ฉิทฺเทนา’’ติ.

ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา

อสฺสาติ อิมสฺส ปตฺตสฺส. เตน อูนปฺจพนฺธเนนาติ เตน อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน อุปลกฺขิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. อูนปฺจพนฺธโน หิ ปตฺโต เอตฺถ ลกฺขณภาเวน คหิโต. เตเนวาห ‘‘อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ กรณวจน’’นฺติ. ตตฺถ อิตฺถมฺภูตสฺสาติ กฺจิ ปการํ ปตฺตสฺส. ลกฺขียเต อเนนาติ ลกฺขณํ, ตสฺมึ กรณวจนํ, ตติยาวิภตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ปกาโร’’ติ จ สามฺสฺส เภทโก วิเสโส วุจฺจติ. ตถา หิ อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตนาติ เอตฺถ ภิกฺขุภาวสามฺสฺส อูนปฺจพนฺธนปตฺตภาโว ปกาโร, ตํ ภิกฺขุ อาปนฺโน, ตสฺส ปตฺโต ลกฺขณํ. ยทิ อปริปุณฺณปฺจพนฺธโน ปตฺโต อูนปฺจพนฺธโน นาม โหติ, อถ กสฺมา อิมสฺส ปทภาชนิยํ อพนฺธโนปิ วุตฺโตติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ วากฺโยปฺาเส. พนฺธโนกาเส สติ วา อสติ วา พนฺธนวิรหิโต ปตฺโต อพนฺธโน, ปฺจพนฺธนานํ โอกาโส อสฺสาติ ปฺจพนฺธโนกาโส. อปตฺโตติ ปตฺโต นาม น โหตีติ อตฺโถ, ปากติกํ กาตุํ อสมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺจ อฺสฺส วิฺาปเน การณวจนํ. เตนาห ‘‘ตสฺมา อฺํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

พนฺธนฺจ นาเมตํ ยสฺมา พนฺธโนกาเส สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺมา ตสฺส ลกฺขณํ, พนฺธนวิธิฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมึ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาเน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. เตนาห ‘‘เหฏฺิมปริยนฺเต’’ติอาทิ. สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพติ สุขุเม ฉิทฺเท ติปุปฏฺฏาทีหิ ปโยชนํ นตฺถิ, สุตฺตํ ปกฺขิปิตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. น เกวลํ ติปุสุตฺตกาทินาว พนฺธิตพฺโพติ อาห ‘‘ผาณิต’’นฺติอาทิ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณนาติ ปาสาณจุณฺเณน สทฺธึ ผาณิตํ ปจิตฺวา ตถาปกฺเกน ปาสาณจุณฺเณนาติ อตฺโถ. นิสฺสชฺชิตพฺโพติ ‘‘อยํ เม, ภนฺเต, ปตฺโต อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน เจตาปิโต นิสฺสคฺคิโย, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ (ปารา. ๖๑๓) นิสฺสชฺชิตพฺโพ. เตนาห ‘‘นิสฺสชฺชนฺเตนา’’ติอาทิ. สมฺมเตนาติ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ปตฺตคฺคาหาปกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ . สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ปตฺตคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตคฺคาหาปกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ปตฺตคฺคาหาปโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (ปารา. ๖๑๔) –

เอวํ ปทภาชเน วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมเตน. ปตฺตสฺส วิชฺชมานคุณํ วตฺวาติ ‘‘อยํ, ภนฺเต, ปตฺโต ปมาณยุตฺโต สุนฺทโร เถรานุรูโป’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) วิชฺชมานานิสํสํ วตฺวา. ปตฺตปริยนฺโตติ ปริยนฺเต ิตปตฺโต. อเทเสติ มฺจปีจฺฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเส. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาธารก’’นฺติอาทินา นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว. อปริโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อยุตฺตปริโภเคน. อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺปิตฺวา ยาคุํ ปจิตุํ, อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. สเจ ปน สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก วา อฺํ วรปตฺตํ เปตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ สารุปฺโป, อยํ เถรสฺสา’’ติ คณฺหาติ, วฏฺฏติ. อฺโ วา ตํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหเมว ปตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ.

าตกปฺปวาริเตติ เอตฺถ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว วฏฺฏติ, ปุคฺคลวเสน ปน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ. อกตวิฺตฺติ นาม ‘‘วท, ภนฺเต, ปจฺจเยนา’’ติ เอวํ อกตฏฺาเน วิฺตฺติ.

อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

อุคฺคเหตฺวาติ อุคฺคหิตกํ กตฺวา, อปฺปฏิคฺคหิตํ สยเมว คเหตฺวาติ อตฺโถ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติกตา เจตฺถ อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตาติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา เอเตน อิทํ ทสฺสิตํ โหตีติ อาห ‘‘ตานิ หี’’ติอาทิ. ภิสกฺกสฺส อิมานิ เตน อนุฺาตตฺตาติ เภสชฺชานิ, เยสํ เกสฺจิ สปฺปายานเมตํ อธิวจนํ. เตนาห ‘‘เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา, มา วา, เอวํ ลทฺธโวหารานี’’ติ. อิทานิ สตฺตาหกาลิกํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุภูตํ สปฺปินวนีตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สปฺปิ นาม ควาทีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน อชิกาทีนํ คหณํ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปตี’’ติ อิมินา ปากเฏหิ โคอชิกาทีหิ อฺานิปิ มิคโรหิตาทีนิ สงฺคณฺหาติ. เยสฺหิ ขีรํ อตฺถิ, สปฺปิปิ เตสํ อตฺถิเยว. ตํ ปน สุลภํ วา โหตุ, ทุลฺลภํ วา, อสํโมหตฺถํ วุตฺตํ. มกฺขิกามธุเมวาติ ขุทฺทกภมรมธุกรีหิ ตีหิ มกฺขิกาหิ กตํ มธุเมว. อุจฺฉุรสนฺติ สุทฺโธทกสมฺภินฺนานํ วเสน ทุวิธมฺปิ อุจฺฉุรสํ. ‘‘อคิลานสฺส คุโฬทก’’นฺติ (มหาว. ๒๘๔) ปน อุทฺทิสฺส อนุฺาตตฺตา อุทกสมฺภินฺโน อคิลานสฺส วฏฺฏติ. ‘‘อวตฺถุกปกฺกา วา’’ติ อิมินา สวตฺถุกปกฺกา น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตีติ ปุจฺฉํ กตฺวา อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โนวฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตนฺติ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) วุตฺตํ. อุจฺฉุวิกตีติ อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตา รสลสิกาทิกา. ปกตตฺตานํ ปฏินิทฺเทสตฺตา ตํ-สทฺทสฺส เตน ปกตานํ เภสชฺชานํ เอว คหณํ, น เตสํ วตฺถูนนฺติ อาห ‘‘ตานิ เภสชฺชานี’’ติอาทิ. น เตสํ วตฺถูนีติ เตสํ สปฺปิอาทีนํ การณานิ ขีราทีนิ อปฺปฏิคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ.

วสาเตลนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุฺาตวสานํ เตลํ. ยานีติ ยานิ เภสชฺชานิ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวสํ กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ เอวํ เตลตฺถํ วสาปฏิคฺคหณสฺส อนุฺาตตฺตา ‘‘วสาเตลํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กาเลติ ปุเรภตฺตํ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อนุฺาตํ, ตสฺมา. ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสาย อนุฺาตตฺตา ‘‘เปตฺวา มนุสฺสวส’’นฺติ วุตฺตํ.

สามํ ปจิตฺวาติ กาเลเยว สามํ ปจิตฺวา. นิพฺพตฺติตเตลมฺปีติ กาเลเยว อตฺตนา วิเวจิตเตลมฺปิ. ติวิธมฺปิ เจตํ กาเลเยว วฏฺฏติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคเหตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๖๒). ‘‘สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ปน ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ อิทํ นิรามิสปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

ยํ ปเนตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺโน ตาย ปฏิคฺคหิตวสาย เตลํ กตฺวา เทติ, ตํ กถนฺติ อาห ‘‘อนุปสมฺปนฺเนนา’’ติอาทิ. ตทหูติ ยสฺมึ อหนิ ปฏิคฺคหิตํ, ตทหุ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว. ยาวกาลิกวตฺถูนํ อฺเสํ วตฺถุํ ปจิตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ยาวกาลิกวตฺถูนนฺติ ยาวกาลิกํ วตฺถุ เอเตสนฺติ ยาวกาลิกวตฺถูนิ, เตสํ, ยาวกาลิกวตฺถุมนฺตานนฺติ อตฺโถ. อฺเสนฺติ วสาเตลโต อฺเสํ สปฺปิอาทีนํ. วตฺถุนฺติ ขีราทิกํ ยาวกาลิกภูตํ วตฺถุํ, ปจิตุํ น วฏฺฏติเยว, สามํปากตฺตาติ อธิปฺปาโย.

นิพฺพตฺติตสปฺปึ วาติ ยาวกาลิกวตฺถุโต วิเวจิตสปฺปึ วา. ยถา ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา ขยํ คมิสฺสติ, เอวํ ฌาปิตํ วาติ อตฺโถ. นวนีตํ วาติ ตกฺกพินฺทูนิปิ ทธิคุฬิกาโยปิ อปเนตฺวา สุโธตนวนีตํ ปจิตุํ วฏฺฏติ สามํปกฺกาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ยทิ สยํปจิตสตฺตาหกาลิเกน สทฺธึ อามิสํ ภุฺชติ, ตํ อามิสํ สยํปจิตสตฺตาหกาลิเกน มิสฺสิตํ อตฺตโน ยาวกาลิกภาวํ สตฺตาหกาลิเกน คณฺหาเปติ. ตถา จ ยาวกาลิกํ อปกฺกมฺปิ สยํปกฺกภาวํ อุปคจฺฉตีติ ‘‘ตํ ปน ตทหุปุเรภตฺตมฺปิ สามิสํ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา สยํปกฺกสตฺตาหกาลิกํ วสาเตลํ, สยํภชฺชิตสาสปาทิยาวชีวิกวตฺถูนํ เตลฺจ สามิสํ ตทหุปุเรภตฺตมฺปิ น วฏฺฏติ, ตถา นวนีตสปฺปีติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺจ –

‘‘ยาวกาลิกอาทีนิ , สํสฏฺานิ สหตฺตนา;

คาหาปยนฺติ สพฺภาว’’นฺติ จ;

‘‘เตเหว ภิกฺขุนา ปตฺตํ, กปฺปเต ยาวชีวิกํ;

นิรามิสํว สตฺตาหํ, สามิเส สามปากตา’’ติ จ.

ขีราทิโตติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ติลาทีนํ คหณํ. สามิสานิปีติ น เกวลํ นิรามิสาเนวาติ อตฺโถ. ปจฺฉาภตฺตโต ปน ปฏฺาย น วฏฺฏนฺติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ สวตฺถุกานํ ปฏิคฺคหิตตฺตา. ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๒๒) หิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตเกหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ. อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. อนฺโตสตฺตาเหติ สตฺตาหพฺภนฺตเร. อพฺภฺชนาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน มุทฺธนิเตลอรุมกฺขนฆรธูปนาทีนํ คหณํ. อธิฏฺหิตฺวาติ ‘‘อิทานิ น มยฺหํ อชฺโฌหรณตฺถาย ภวิสฺสติ, อิทํ สปฺปิ จ เตลฺจ วสา จ มุทฺธนิเตลตฺถํ วา อพฺภฺชนตฺถํ วา ภวิสฺสติ, มธุ อรุมกฺขนตฺถํ วา ผาณิตํ ฆรธูปนตฺถํ วา ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา.

โก ปเนตฺถ ยาวกาลิกยาวชีวิกวตฺถูสุ วิเสโสติ อาห ‘‘ยาวชีวิกานี’’ติอาทิ. ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺตีติ สตฺตมทิวเส กตเตลํ สเจ ยาว อรุณุคฺคมนา ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปาฬิยํ อนาคตสปฺปิอาทีนนฺติ เอตฺถ ตาว มิคโรหิตาทีนํ สปฺปิ ปาฬิยํ อนาคตสปฺปิ, ตถา นวนีตํ, นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกรมนฺทสาสปอาทีนํ เตลํ ปน ปาฬิยํ อนาคตเตลํ, ตถา มธุกปุปฺผผาณิตํ ปาฬิยํ อนาคตผาณิตนฺติ เวทิตพฺพํ. น สพฺพํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ผาณิตคติกนฺติ อาห ‘‘สีตุทเกนา’’ติอาทิ. สีตุทเกน กตนฺติ มธุกปุปฺผานิ สีตุทเก ปกฺขิปิตฺวา อมทฺทิตฺวา ปุปฺผรเส อุทกคเต สติ ตํ อุทกํ คเหตฺวา ปจิตฺวา กตํ. ‘‘ผาณิตคติกเมวา’’ติ อิมินา สตฺตาหกาลิกนฺติ ทสฺเสติ, น ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุนฺติ. ตสฺมา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ สมนฺตปาสาทิกายํ สีตุทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ , ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏ’’นฺติ. สเจ ปน ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ, ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ, อมฺพชมฺพุปนสกทลิขชฺชุริจิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมวาติ อาห ‘‘อมฺพผาณิตาทีนิ ยาวกาลิกานี’’ติ.

กายิกปริโภคํ วฏฺฏตีติ กายสฺส วา กาเย อรุโน วา มกฺขนํ วฏฺฏติ, อชฺโฌหริตุํ ปน น วฏฺฏติ. นฺติ สตฺตาหาติกฺกนฺตํ เภสชฺชํ. นิรเปกฺโข ปริจฺจชิตฺวาติ อนเปกฺโข สามเณรสฺส ทตฺวา. นฺติ เอวํ ปริจฺจชิตฺวา ปุน ลทฺธเภสชฺชํ. เอวฺหิ ทินฺนํ เภสชฺชํ สเจ โส สามเณโร อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ วา กาตพฺพํ, อฺํ วา กฺจิ ปริโภคํ. เตนาห ‘‘อชฺโฌหริตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ โส พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ เต, สามเณร, เภสชฺช’’นฺติ, ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘อาหร, เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามา’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. วตฺถุคณนายาติ สปฺปิอาทิวตฺถุคณนาย เจว สปฺปิปิณฺฑาทิวตฺถุคณนาย จ. มิสฺสิเตสุ ปน เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, เภสชฺชํ สตฺตาหาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาธารณปฺตฺติ. สตฺตาหํ อนติกฺกนฺเตปิ อติกฺกนฺตสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อติกฺกนฺเต อนติกฺกนฺตสฺิโนปิ เวมติกสฺสปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว, ตถา อนธิฏฺิตาวิสฺสชฺชิตานฏฺาวินฏฺาทฑฺฒาวิลุตฺเตสุ อธิฏฺิตาทิสฺิโน. อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺิเต, วิสฺสชฺชิเต, นฏฺเ, วินฏฺเ, ทฑฺเฒ, อจฺฉินฺเน, วิสฺสาเสน คหิเต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อาจารวิปตฺติ. สปฺปิอาทีนํ อตฺตโน สนฺตกตา, คณนุปคตา, สตฺตาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. กถินสมุฏฺานํ, อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนํ. เตนาห ‘‘เสสํ จีวรวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา).

เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา

ปจฺฉิมมาสสฺสปมทิวสโต ปฏฺายาติ เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย. ตาวาติ ตาว ปริมาเณ กาเล. เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา, อิมสฺมึ ปฺจมาเสติ อตฺโถ. กาโล วสฺสิกสาฏิกายาติอาทินาติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ‘‘สมโย วสฺสิกสาฏิกาย, อฺเปิ มนุสฺสา วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺตี’’ติ (ปารา. ๖๒๘) อิเมสํ คหณํ. เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวรนฺติอาทิกายาติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ปน ‘‘อาหรถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวรํ, ปริวตฺเตถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวรํ, เจตาเปถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติ อิเมสํ คหณํ. อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริเตสุ ตทุภยํ กโรนฺตสฺส กึ โหตีติ อาห ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเน’’ติอาทิ. ‘‘วตฺตเภเท ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วสฺสิกสาฏิกํ ปุพฺเพ อเทนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. เย ปน ปุพฺเพปิ เทนฺติ, เตสุ วตฺตเภโท นตฺถิ. วุตฺตฺหิ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพปิ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺติ, อิเม ปน สเจปิ อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริตา โหนฺติ, วตฺตเภโท นตฺถิ เตสุ สตุปฺปาทกรณสฺส อนุฺาตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา จีวรํ วิฺาเปยฺย อฺตฺร สมยา, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๑๘) อิมินา สิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหติเยว.

คิมฺหานํ ปจฺฉิมทฺธมาสสฺส ปมทิวสโต ปฏฺายาติ เอตฺถ เชฏฺมูลกาฬปกฺขูโปสถสฺส ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อาสาฬฺหิปุณฺณมา, อยมทฺธมาโส คิมฺหานํ ปจฺฉิมทฺธมาโส นาม, ตสฺส ปมทิวสโต ปฏฺายาติ อตฺโถ, อทฺธมาสสฺส ปมปาฏิปททิวสโต ปฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. กตฺติกมาสสฺส ปจฺฉิมทิวโส นาม ปจฺฉิมกตฺติกมาสสฺส ปุณฺณมา. เอตฺตาวตาติ ‘‘มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ ภิกฺขุนา วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปริเยสิตพฺพํ, อทฺธมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ เอตฺตเกน คณเนน. ปริเยสนกฺเขตฺตนฺติ ปริเยสนสฺส เขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ มาเส วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ. กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปีติ กรณกฺเขตฺตฺเจว นิวาสนกฺเขตฺตฺจ. ปิ-สทฺเทน ปริเยสนกฺเขตฺตํ สมฺปิณฺเฑติ. เอตสฺมิฺหิ อทฺธมาเส ปริเยสิตุํ, กาตุํ, นิวาเสตุฺจ วฏฺฏติ, อธิฏฺาตุํเยว น วฏฺฏติ. ยํ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กาลปกฺขุโปสโถ, อยเมโก อทฺธมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตฺเจว กรณกฺเขตฺตฺจ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ , ลทฺธํ กาตุฺจ วฏฺฏติ, นิวาเสตุํ, อธิฏฺาตุฺจ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) วจนํ ทิสฺสติ, ตํ ปมาทลิขิตํ มาติกาย วิโรธโตติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อทฺธมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๒๗) หิ ปาฬิ. สพฺพมฺปีติ ปริเยสนํ, กรณํ, นิวาสนํ, อธิฏฺานฺจาติ สพฺพมฺปิ. อิมินา อิเม จตฺตาโร มาสา ปริเยสนกรณนิวาสนาธิฏฺานานํ จตุนฺนมฺปิ เขตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เอเตสุ หิ จตูสุ มาเสสุ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ, ลทฺธํ กาตุํ, นิวาเสตุํ, อธิฏฺาตุฺจ วฏฺฏติ.

วสฺสํ อุกฺกฑฺฒียตีติ สํวจฺฉรํ อุทฺธํ กฑฺฒียติ วฑฺฒียติ, อารุยฺหตีติ อตฺโถ, วสฺสานสฺส ปมมาสํ อุกฺกฑฺฒิตฺวา คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสเมว กโรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. วสฺสูปนายิกทิวเส อธิฏฺาตพฺพาติ วสฺสานโต ปุพฺเพเยว ทสาหสฺส อติกฺกนฺตตฺตา วสฺสูปนายิกทิวเสเยว อธิฏฺาตพฺพา. ตฺหิ ทิวสํ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏติ. อนฺโตวสฺเส ปน ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ตสฺมึเยว อนฺโตวสฺเส ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ นาติกฺกาเมตพฺพา, ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ปน ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา. ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกาเมตพฺพา. อยํ ตาว กตาย ปริหาโร. อกตาย ปน โก ปริหาโรติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เอกาหมฺปิ น ลภติ อิโต อฺสฺส ปริหารสฺสาภาวโตติ อธิปฺปาโย.

โส กุโต โหตีติ อาห ‘‘ยาว เหมนฺตสฺส ปมทิวโส’’ติ, เชฏฺมูลปุณฺณมาสิโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวโส, ตาวาติ อตฺโถ. เอเตสุ สตฺตสุ ปิฏฺิสมยมาเสสูติ ปฏิโลมกฺกเมน วุตฺเตสุ กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปทาทีสุ เชฏฺมูลปุณฺณมาสาวสาเนสุ เอเตสุ สตฺตสุ ปิฏฺิสมยนามเกสุ มาเสสุ. สตุปฺปาทกรเณนาติ ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกายา’’ติอาทินา นเยน สตุปฺปาทกรเณน. วิฺาเปนฺตสฺสาติ ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา (ปารา. ๖๒๘) นเยน วิฺตฺตึ กโรนฺตสฺส. เตน สิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, อิมินา ปน สิกฺขาปเทน อาปตฺติเยว อสมยตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน

‘‘กตฺวา ปน สตุปฺปาทํ, วสฺสสาฏิกจีวรํ;

นิปฺผาเทนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส, สมเย ปิฏฺิสมฺมเต.

‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, าตกาฺาตกาทิโน;

เตสุเยว จ วิฺตฺตึ, กตฺวา นิปฺผาทเน ตถา’’ติ.

เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, วสฺสิกสาฏิกจีวรํ อติเรกมาเส เสเส คิมฺหาเน ปริยิฏฺํ อติเรกทฺธมาเส เสเส คิมฺหาเน กตฺวา ปริทหิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา (ปารา. ๖๒๘) นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

วสฺสิกสาฏิกปริเยสนวตฺถุสฺมินฺติ ปฏิกจฺเจว วสฺสิกสาฏิกปริเยสนวตฺถุสฺมึ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อติเรกมาสทฺธมาเสสุ อติเรกสฺิเวมติกอูนกสฺีนํ ปริเยสนนิวาสนวเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ, เอกเสสนิทฺเทโส จายํ, สามฺนิทฺเทโส วา. อูนกมาสทฺธมาเสสูติ อูนกมาเส เจว อูนกทฺธมาเส จ. อติเรกสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘ปริเยสนนิวาสนํ กโรนฺตสฺสา’’ติ ปาเสโส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อูนกมาเส เสเส คิมฺหาเน อติเรกสฺิโน, เวมติกสฺส วา ปริเยสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อูนกทฺธมาเส เสเส คิมฺหาเน จ อติเรกสฺิโน, เวมติกสฺส วา นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ อติทิสติ, ตฺจ ทุกฺกฏํ อุทกผุสิตคณนาย อกตฺวา นฺหานปริโยสานวเสน ปโยเค ปโยเค กาเรตพฺพํ, ตฺจ โข วิวฏงฺคเณ อากาสโต ปติตอุทเกเนว นฺหายนฺตสฺส, น นฺหานโกฏฺกวาปิอาทีสุ ฆเฏหิ อาสิตฺตูทเกน นฺหายนฺตสฺส. เตเนวาห ‘‘สติยา วสฺสิกสาฏิกายา’’ติอาทิ. โปกฺขรณิยาทีสุ ปน นคฺคสฺส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สมฺพนฺโธ, โปกฺขรณิยาทีสุ ปน สติยาปิ วสฺสิกสาฏิกาย นคฺคสฺส นฺหายนฺตสฺส นตฺถิ ทุกฺกฏาปตฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ อนฺตราปตฺติยา อนาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส. ตสฺสาปิ อสมเย นิวาสโต อนาปตฺติ. เอส นโย นฏฺจีวรสฺส วาติ เอตฺถาปิ. ยถา เจตฺถ นิวาเสนฺตานํ เตสํ อนาปตฺติ, เอวํ ตตฺถ ปริเยสนฺตานมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ ปน มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ เปตฺวา นฺหายนฺตสฺส โจรูปทฺทโว อาปทา นามาติ อาห ‘‘อนิวตฺถ’’นฺติอาทิ. อาปทาสุ วา นิวาสยโตติ อาปทาสุ วิชฺชมานาสุ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส. ยํ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติ. เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นฺหายนฺตสฺส โจรูปทฺทโว อาปทา นามา’’ติ อจฺฉินฺนจีวราทิโน นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺตึ อทสฺเสตฺวา นคฺคสฺส นฺหายโต ทุกฺกเฏเนว อนาปตฺติทสฺสนํ, ตํ ยุตฺตํ วิย น ทิสฺสติ. สพฺพสิกฺขาปเทสุ หิ มูลาปตฺติยา เอว อาปตฺติปฺปสงฺเค อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียติ, น อนฺตราปตฺติยาติ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตพฺพํ. สจีวรตาติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺเคหิ สจีวรตา.

วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘ทตฺวา’’ติ ยํ กิฺจิ ปจฺจาสีสมานสฺเสว ทานมิห อธิปฺเปตํ, น นิสฺสฏฺทานนฺติ อาห ‘‘เวยฺยาวจฺจาทีนี’’ติอาทิ. สกสฺายาติ ‘‘สก’’นฺติ สฺาย. อิมินา ปาราชิกาภาวํ ทสฺเสติ. จชิตฺวา ทินฺนมฺปิ หิ สกสฺาย คณฺหโต นตฺถิ ปาราชิกํ. อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอกโต อพทฺธานิ, วิสุํ ปิตานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต, ‘‘สงฺฆาฏึ อาหร, อุตฺตราสงฺคํ อาหรา’’ติ เอวํ อาหราปยโต จ. เตนาห ‘‘วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย’’ติ. ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ อาหรา’’ติ วทโตปิ เอกวจเนเนว สมฺพหุลา อาปตฺติโย. เอกํ จีวรํ ปน เอกาพทฺธานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต เอกา อาปตฺติ. ‘‘อจฺฉินฺทา’’ติ อาณตฺติยา ทุกฺกฏนฺติ ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ คณฺหา’’ติ อาณตฺติยา เอกํ ทุกฺกฏํ, อจฺฉินฺเนสุ ปน เอกวจเนเนว สมฺพหุลา ปาจิตฺติโย. เตนาห ‘‘อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย’’ติ. อจฺฉินฺเนสูติ เตนาณตฺเตน อจฺฉินฺเนสุ จีวเรสุ. ยตฺถ ปน โปตฺถเกสุ ‘‘อจฺฉินฺเนสุ ยตฺตกานิ อาณตฺตานิ, เตสํ คณนาย อาปตฺติโย’’ติ ปาโ, ตตฺถ ยตฺตกานิ อาณตฺตานีติ ยตฺตกานิ จีวรานิ คณฺหิตุํ อาณตฺตานีติ อตฺโถ. ยํ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘จีวรํ ‘คณฺหา’ติ อาณาเปติ, เอกํ ทุกฺกฏํ. อาณตฺโต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๓) วุตฺตํ, ตํ เอกาพทฺธํ สนฺธาย. เอวฺจ กตฺวา สมนฺตปาสาทิกาย สทฺธึ อิมาย อฏฺกถาย น โกจิ วิโรโธ. สเจ ปน ‘‘สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหา’’ติ อาณาเปติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ภิกฺขุสฺส สามํ ทตฺวา อจฺฉินฺนํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๓๓) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

ติกปาจิตฺติยนฺติ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ปตฺตาทึ อฺํ ปริกฺขารํ, อนฺตมโส สูจิมฺปีติ อตฺโถ. น เกวลํ อนุปสมฺปนฺนสฺส จีวรํเยว อจฺฉินฺทโต ทุกฺกฏนฺติ อาห ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยํ กิฺจีติ จีวรํ วา โหตุ, ปตฺตาทิ, ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ วา. ตสฺส วิสฺสาสํ คณฺหนฺตสฺสาติ ยสฺส ทินฺนํ, ตสฺส วิสฺสาเสน คณฺหนฺตสฺส, ตติยตฺเถ เจตํ อุปโยควจนํ. อุปสมฺปนฺนตาติ อจฺฉินฺทนสมเย อุปสมฺปนฺนภาโว. กิฺจาปิ อุปสมฺปนฺนภาโว ปาฬิยํ, มาติกฏฺกถายฺจ ทานคฺคหเณสุ ทิสฺสติ, ตถาปิ อนุปสมฺปนฺนกาเล จีวรํ ทตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส อาปตฺติโต อจฺฉินฺทนกาเลเยว อุปสมฺปนฺนตา องฺคนฺติ เวทิตพฺพํ.

จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉพฺพิธํ โขมสุตฺตาทินฺติ ‘‘สุตฺตํ นาม ฉ สุตฺตานิ โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘) เอวํ วุตฺตํ ฉพฺพิธํ โขมสุตฺตาทึ. ตตฺถ โขมนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๓๘) โขมวาเกหิ กตสุตฺตํ. กปฺปาสิกนฺติ กปฺปาสโต นิพฺพตฺตํ. โกเสยฺยนฺติ โกสิยํสูหิ กนฺติตฺวา กตสุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวาเกน กตสุตฺตํ. ภงฺคนฺติ ปาเฏกฺกํ วากสุตฺตเมวาติ เอเก. ปฺจหิปิ มิสฺเสตฺวา กตสุตฺตํ ปน ‘‘ภงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เตสํ อนุโลมนฺติ เตสํ โขมาทีนํ อนุโลมํ ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ โสมารปฏฺฏํ จีนปฏฺฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ ฉพฺพิธํ สุตฺตํ.

ตุรีติ วายนูปกรโณ เอโก ทณฺโฑ, วีตวีตฏฺานํ ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ. เวมนฺติ วายนูปกรโณ เอโก ทณฺโฑ, สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺโต ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ. ตสฺส สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ ตนฺตวายสฺส เย เต ตุริเวมสชฺชนาทิกา ปโยคา, เตสุ สพฺเพสุ ปโยเคสุ ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ, ตสฺส ตนฺตวายสฺส ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตุริอาทีนํ อภาเว เตสํ กรณตฺถํ วาสิผรสุอาทีนํ มคฺคนนิสานรุกฺขจฺเฉทนาทิสพฺพปฺปโยเคปิ เอเสว นโย. ตนฺตูนํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหตีติ อาห ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณ วีเต นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต, ติริยฺจ หตฺถมตฺเต วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ สามํ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา ตนฺตวาเยหิ วายาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

เตเนวาติ วิฺาปิตตนฺตวาเยเนว. เอวํ อิธ ทุกฺกฏนฺติ อิธาปิ ตนฺตวาเยเนว ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต, ติริยํ หตฺถมตฺเต วีเต ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. อกปฺปิยสุตฺตมเยติ วิฺาปิตสุตฺตมเย. อิตรสฺมินฺติ อวิฺตฺติสุตฺตมเย ปริจฺเฉเท. ตโต เจ อูนตราติ วุตฺตปฺปมาณโต เจ อูนตรา, อนฺตมโส (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๖๓๘) อจฺฉิมณฺฑลปฺปมาณาปีติ อธิปฺปาโย. กปฺปิยตนฺตวาเยนปิ อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวมิธ ทุกฺกฏํ. เตเนว กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส สเจ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณา วา อูนกา วา อกปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉทา โหนฺติ, เตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ทุกฺกฏํ. กปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉเทสุ อนาปตฺติ. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน, ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ปมาณยุตฺเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ.

ยทิ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๖๓๘) ทฺเว ตนฺตวายา โหนฺติ เอโก กปฺปิโย เอโก อกปฺปิโย, สุตฺตฺจ อกปฺปิยํ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ปมาณยุตฺเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ปาจิตฺติยํ, อูนตเร ทุกฺกฏํ. อิตเรน วีเต อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ. สเจ ทฺเวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ปมาณยุตฺเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ปาจิตฺติยํ. อถ สุตฺตํ กปฺปิยํ, จีวรฺจ เกทารพทฺธาทีหิ สปริจฺเฉทํ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ, อิตเรน วีเต อนาปตฺติ. สเจ ทฺเวปิ เอกโต วินนฺติ, ปมาณยุตฺเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ. อถ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณสุ ปริจฺเฉเทสุ วีเตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ปาจิตฺติยํ, อูนตเรสุ กปฺปิยสุตฺตมเยสุ จ ทุกฺกฏํ. กปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปมาณยุตฺเตสุ วา อูนเกสุ วา ทุกฺกฏเมว, กปฺปิยสุตฺตมเยสุ อนาปตฺติ.

อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน, ทีฆโต วา อกปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วินนฺติ, อุโภปิ วา เต เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, อปริจฺเฉเท จีวเร ปมาณยุตฺเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ, สปริจฺเฉเท ปริจฺเฉทวเสน ทุกฺกฏานิ. เตนาห ‘‘เอเตเนว อุปาเยนา’’ติอาทิ.

เอตฺถ จ ตนฺตวาโย ตาว อฺาตกอปฺปวาริตโต วิฺตฺติยา ลทฺโธ อกปฺปิโย, เสโส กปฺปิโย. สุตฺตมฺปิ สามํ วิฺาปิตํ อกปฺปิยํ, เสสํ, าตกาทิวเสน อุปฺปนฺนฺจ กปฺปิยนฺติ เวทิตพฺพํ. ติกปาจิตฺติยนฺติ วายาปิเต วายาปิตสฺิเวมติกอวายาปิตสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตนฺติ สามํ วา อฺเน วา จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตํ . กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘สามํ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ อิธ ‘‘จีวรตฺถาย สามํ วิฺาปิตสุตฺต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺต’’นฺติ องฺเคสุ วุตฺตตฺตา อฺเน จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. อกปฺปิยวิฺตฺติยาติ ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถา’’ติ เอวํภูตาย อกปฺปิยวิฺตฺติยา.

สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา

จีวรสามิเกหิปุพฺเพ อปฺปวาริโต หุตฺวาติ ‘‘กีทิเสน เต, ภนฺเต, จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ วายาเปมิ, วท, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ จีวรสามิเกหิ ปุพฺเพ อวุตฺโต หุตฺวา. เอตฺถ จ อายตาทีหิ ตีหิ สุตฺตวฑฺฒนากาเรน สห วายนาการํ ทสฺเสติ, สุวีตาทีหิ จตูหิ วายนาการเมว. ‘‘กิฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยามา’’ติอาทิ ตสฺส กตฺตพฺพาการมตฺตทสฺสนํ, น ปน องฺคทสฺสนํ สุตฺตวฑฺฒนวเสเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตาติ อาห ‘‘น ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาตทานมตฺเตนา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริเตน อฺาตกสฺส คหปติกสฺส ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๔๓) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อฺาตเก อฺาตกสฺิเวมติกาตกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ.

มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

ปมปทสฺสาติ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ ปทสฺส. ปุริมนเยเนวาติ อจฺจนฺตสํโยควเสเนว. ตานิ ทิวสานีติ เตสุ ทิวเสสุ. อจฺจนฺตเมวาติ นิรนฺตรเมว, เตสุ ทสาเหสุ ยตฺถ กตฺถจิ ทิวเสติ วุตฺตํ โหติ. ปวารณามาสสฺสาติ ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส. โส หิ อิธ ปมปวารณาโยคโต ‘‘ปวารณามาโส’’ติ วุตฺโต. ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺายาติ สุกฺกปกฺขปฺจมึ อาทึ กตฺวา. ปวารณามาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโตติ วา ปวารณามาสสฺส ปกาสนโต ปุริมสฺส ชุณฺหปกฺขสฺส ปฺจมิโต ปฏฺายาติ อตฺโถ. โย ปเนตฺถ ‘‘กามฺเจส (สารตฺถ. ฏี. ๒.๖๕๐) ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ (ปารา. ๔๖๓) อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, โส ปมาทปาโ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ อิมินา วิโรธโตติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจ ‘‘ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺายา’’ติ วุตฺตตฺตา อฏฺกถาเยว ปุพฺพาปรวิโรโธปิ สิยา.

อจฺเจกจีวรนฺติ อจฺจายิกจีวรํ วุจฺจติ, โส จ อจฺจายิกภาโว ทายกสฺส คมิกาทิภาเวนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘คมิกคิลานคพฺภินิอภินวุปฺปนฺนสทฺธานํ ปุคฺคลาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ คมิโก นาม ‘‘เสนาย วา คนฺตุกาโม โหติ, ปวาสํ วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติ (ปารา. ๖๔๙) วุตฺโต. อฺตเรน ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ อาโรเจตฺวา ทินฺนนฺติ คมิกาทีนํ อฺตเรน คมนาทีหิ การเณหิ ทาตุกาเมน ทูตํ วา เปเสตฺวา, สยํ วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ อาโรเจตฺวา ทินฺนํ จีวรํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, อจฺเจกจีวรํ จีวรกาลสมยํ อติกฺกามิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๔๙) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

เสสนฺติ ‘‘สาธารณปฺตฺตี’’ติอาทิกํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ อติเรกจีวเร อติเรกจีวรสฺิอาทิโน ทสาหาติกฺกโม, อิธ อจฺเจกจีวเร อจฺเจกจีวรสฺิอาทิโน จีวรกาลาติกฺกโม. ตถา อนจฺเจกจีวเร อจฺเจกจีวรสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. ชาติปฺปมาณสมฺปนฺนสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ จตุรงฺคภาโวว เอตฺถ วิเสโส.

อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา

อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยาติ ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๐๘) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ อุทฺธริตพฺเพ ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ อุทฺธฏํ. ตทิห นิทสฺสนํ กตํ. อาทิสทฺเทน ปน ‘‘อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺยา’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๑๑๑, ๑๑๕) สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อุปคนฺตฺวาติ อุปสทฺทสฺสตฺถมาห. วสิตฺวาติ อกฺขณฺฑํ วสิตฺวา. ‘‘เยน ยสฺส หิ สมฺพนฺโธ, ทูรฏฺมฺปิ จ ตสฺส ต’’นฺติ วจนโต ‘‘อิมสฺส…เป… อิมินา สมฺพนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมสฺสาติ ‘‘อุปวสฺส’’นฺติ ปทสฺส. วินยปริยาเยน อรฺลกฺขณํ อทินฺนาทานปาราชิเก อาคตํ. ตตฺถ หิ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ อนวเสสโต อวหารฏฺานปริคฺคเหน ตทุภยํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ‘‘เปตฺวา คามฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. คามูปจาโร หิ โลเก คามสงฺขเมว คจฺฉตีติ. อิธ ปน สุตฺตนฺตปริยาเยน ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อาคตํ อารฺกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย. น หิ โส วินยปริยายิเก อรฺเ วสนฺโต ‘‘อารฺโก ปนฺถเสนาสโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๑) สุตฺเต วุตฺโต, ตสฺมา ตตฺถ อาคตเมว ลกฺขณํ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพปจฺฉิมานิ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อาจริยธนุ นาม ปกติหตฺเถน นววิทตฺถิปมาณํ. ชิยาย ปน อาโรปิตาย จตุหตฺถปมาณ’’นฺติ วทนฺติ. คามสฺสาติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส. อินฺทขีลโตติ อุมฺมารโต. ปริกฺเขปารหฏฺานโตติ ปริยนฺเต ิตฆรสฺส อุปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ปมเลฑฺฑุปาตโต. กิตฺตเกน มคฺเคน มินิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. มชฺฌิมฏฺกถายํ ปน ‘‘วิหารสฺสาปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. โจรานํ นิวิฏฺโกาสาทิทสฺสเนนาติ อาราเม, อารามูปจาเร จ โจรานํ นิวิฏฺโกาสาทิทสฺสเนน การเณน. อาทิสทฺเทน ภุตฺโตกาสฏฺิโตกาสนิสินฺโนกาสนิปนฺโนกาสานํ คหณํ. โจเรหิ มนุสฺสานํ หตวิลุตฺตาโกฏิตภาวทสฺสนโตติ อาราเม, อารามูปจาเร จ หตวิลุตฺตาโกฏิตภาวทสฺสนโต.

อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ อนฺตเร อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อนฺตรฆรํ, คาโม, ตสฺมึ เปยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อารฺกสฺสา’’ติอาทิ. ตฺจาติ นิกฺขิปนฺจ. ‘‘มหาปวารณาย ปวาริโต โหตี’’ติ อิทํ วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา วุฏฺภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น ปน ปวารณาย องฺคภาวํ. เตเนว หิ พฺยติเรกํ ทสฺเสนฺเตน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔) วุตฺตํ ‘‘สเจ ปจฺฉิมิกาย วา อุปคโต โหติ ฉินฺนวสฺโส วา, นิกฺขิปิตุํ น ลภตี’’ติ. กตฺติกมาโส นาม ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกปุณฺณมา, ตาว เอกูนตฺตึส รตฺตินฺทิวา. เอว-สทฺเทน กตฺติกมาสโต ปรํ น ลภตีติ ทสฺเสติ. อูนปฺปมาเณ ตาว อรฺลกฺขณาโยคโต น ลภตุ, กสฺมา คาวุตโต อติเรกปฺปมาเณ น ลภตีติ อาห ‘‘ยตฺรหี’’ติอาทิ. นิมนฺติโต ปน อทฺธโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คนฺตฺวา วสิตุํ ปจฺเจติ, อิทมปฺปมาณํ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมว โหตีติ สาสงฺกฺเจว สปฺปฏิภยฺจ โหติ. เอว-สทฺเทน อนาสงฺกอปฺปฏิภเยหิ องฺคยุตฺเตปิ เสนาสเน วสนฺโต นิกฺขิปิตุํ น ลภตีติ ทสฺเสติ. เอตฺตาวตา ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อกฺขณฺฑํ กตฺวา วุฏฺวสฺโส ยํ คามํ โคจรคามํ กตฺวา ปฺจธนุสติกปจฺฉิเม อารฺกเสนาสเน วิหรติ, ตสฺมึ คาเม จีวรํ เปตฺวา สกลกตฺติกมาสํ ตสฺมึเยว เสนาสเน เตน จีวเรน วินา วตฺถุํ อนุชานิตฺวา อิทานิ วิหารโต อฺตฺถ วสนฺตสฺส ฉารตฺตํ วิปฺปวาสํ อนุชานนฺโต ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติอาทิมาห. อสมาทานจารฺหิ อตฺถตกถินา เอว ลภนฺติ, เนตเรติ เอตฺถ อิทมฺปิ การณํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพนฺติ โย ภิกฺขุ วิหาเร วสนฺโต ตโต อฺตฺถ คมนกิจฺเจ สติ อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปติ, เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน ฉารตฺตปรมํ วิปฺปวสิตพฺพํ, ฉ รตฺติโย ตมฺหา วิหารา อฺตฺถ วสิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺหิ ภทนฺเตน พุทฺธทตฺตาจริเยน

‘‘ยํ คามํ โคจรํ กตฺวา, ภิกฺขุ อารฺเก วเส;

ตสฺมึ คาเม เปตุํ ตํ, มาสเมกํ ตุ วฏฺฏติ.

‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มตํ;

อยมสฺส อธิปฺปาโย, ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.

เตเนวาห ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ ฉารตฺตโต อุตฺตริ ตสฺมึ เสนาสเน สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปยฺยา’’ติอาทิ. ตถา อสกฺโกนฺเตนาติ คตฏฺานสฺส ทูรตาย เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺเตน. เอวมฺปิ อสกฺโกนฺเตน ตตฺเรว ิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ. วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา. ภิกฺขุสมฺมุติ อุโทสิตสิกฺขาปเท วุตฺตาว.

เสสนฺติ ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺตี’’ติอาทิกํ. ตตฺถ หิ องฺเคสุ ยํ รตฺติวิปฺปวาโส จตุตฺถมงฺคํ, ตํ อิธ ฉารตฺตโต อุตฺตริ วิปฺปวาโส โหตีติ อยเมว วิเสโส.

สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา

นนุ จายํ สงฺฆสฺส ปริณโต, น ปริจฺจตฺโต, อถ กถํ สงฺฆสนฺตโก โหตีติ อาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. ตตฺถ โสติ ลาโภ. เอเกน ปริยาเยนาติ ปริณตภาวสงฺขาเตน เอเกน ปริยาเยน. ‘‘ลภิตพฺพ’’นฺติ อิมินา ลาภสทฺทสฺส กมฺมสาธนมาห. จีวราทิวตฺถุนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ อนฺตมโส จุณฺณปิณฺฑมฺปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปิ. ปริณตนฺติ สงฺฆสฺส นินฺนํ สงฺฆสฺส โปณํ สงฺฆสฺส ปพฺภารํ หุตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ. เยน ปน การเณน โส ปริณโต โหติ, ตํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทสฺสาม กริสฺสามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตโน ปริณาเมนฺตสฺสาติ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทหี’’ติ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส. ปโยเคติ ปริณามนปฺปโยเค. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณามิกํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สงฺฆเจติยปุคฺคเลสูติ เอตฺถ จ อนฺตมโส สุนขํ อุปาทาย โย โกจิ สตฺโต ‘‘ปุคฺคโล’’ติ เวทิตพฺโพ. อฺสงฺฆาทีนนฺติ อฺสงฺฆเจติยปุคฺคลานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสฺส สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา, เจติยสฺส ปริณตํ อฺสฺส เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา, ปุคฺคลสฺส ปริณตํ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ.

อิทานิ อนาปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริณตสฺิโน’’ติอาทิมาห. ปริณเต, อปริณเต จ อปริณตสฺิโน จาติ สมฺพนฺโธ, ปริณเต, อปริณเต จาติ อุภยตฺถาปิ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปริณเต อปริณตสฺี อตฺตโน ปริณาเมติ, อนาปตฺติ. อปริณเต อปริณตสฺี อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๖๖๐). เทยฺยธมฺโมติ จตฺตาโร ปจฺจยา. อาทิสทฺเทน ‘‘ปฏิสงฺขารํ วา ลเภยฺย, จิรฏฺิติโก วา อสฺส, ยตฺถ วา ปน ตุมฺหากํ จิตฺตํ ปสีทติ, ตตฺถ เทถา’’ติ (ปารา. ๖๖๑) วจนานํ คหณํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘มยํ สงฺฆภตฺตํ กตฺตุกามา, เจติยปูชํ กตฺตุกามา, เอกสฺส ภิกฺขุโน ปริกฺขารํ ทาตุกามา, ตุมฺหากํ รุจิยา ทสฺสาม. ภณถ, กตฺถ เทมา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๖๐) วทนฺติ, เอวํ วุตฺเต เตน ภิกฺขุนา ‘‘ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตพฺพา.

ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปตฺตวคฺโค ตติโย.

อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย

วินยตฺถมฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ

นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฏฺิตา.