📜

ปาจิตฺติยกณฺฑํ

๑. มุสาวาทวคฺโค

๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

สมฺปชานมุสาวาเทติ เอตฺถ มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ, วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ, สมฺปชานสฺส มุสาวาโท สมฺปชานมุสาวาโท, ตสฺมึ สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ’’ติอาทิ. โส จ ปน มุสาวาโท ปุพฺพภาคกฺขเณ, ตงฺขเณ จ วิชานนฺตสฺส โหติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ ‘มุสา ภณิสฺส’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘มุสา ภณามี’’’ติ (ปาจิ. ๔) วุตฺตตฺตาติ อาห ‘‘ปุพฺเพปิ ชานิตฺวา วจนกฺขเณปิ ชานนฺตสฺสา’’ติ. เอตฺหิ ทฺวยํ องฺคภูตํ, อิตรํ ปน โหตุ วา, มา วา, อการณเมตํ. นนุ เจตํ ภณนเมว ายตีติ อาห ‘‘ภณนฺจ นามา’’ติอาทิ. อภูตสฺสาติ อตจฺฉสฺส.

หตฺถกํ สกฺยปุตฺตนฺติ เอตฺถ หตฺถโกติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. สกฺยานํ ปุตฺโตติ สกฺยปุตฺโต. พุทฺธกาเล กิร สกฺยกุลโต อสีติ ปุริสสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ, เตสํ โส อฺตโร. อวชานิตฺวา ปฏิชานนาทิวตฺถุสฺมินฺติ เอตฺถ อวชานิตฺวา ปฏิชานนํ นาม ติตฺถิเยหิ สทฺธึ กเถนฺโต อตฺตโน วาเท กฺจิ โทสํ สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานิตฺวา ปุน กเถนฺโต กเถนฺโต นิทฺโทสตํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘มเมว อยํ วาโท’’ติ ปฏิชานาติ. อาทิสทฺเทน ปฏิชานิตฺวา อวชานนํ, อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, สมฺปชานมุสาภาสนํ, สงฺเกตํ กตฺวา วิสํวาทกรณฺจ สงฺคณฺหาติ. อิทานิ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อนุปธาเรตฺวา สหสา ภณนฺตสฺสาติ อวีมํสิตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘‘อทิฏฺํ เม’’ติอาทินา ภณนฺตสฺส . ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺตสฺสาติ โย มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ปกฺขลนฺโต ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘จีร’’นฺติอาทีนิ ภณติ, อยํ ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณติ นาม. โย ปน สามเณเรน ‘‘อปิ, ภนฺเต, มยฺหํ อุปชฺฌายํ ปสฺสิตฺถา’’ติ วุตฺโต เกฬึ กุรุมาโน ‘‘ตว อุปชฺฌาโย ทารุสกฏํ โยเชตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติ วา สิงฺคาลสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กสฺสายํ สทฺโท’’ติ วุตฺโต ‘‘มาตุยา เต ยาเนน คจฺฉนฺติยา กทฺทเม ลคฺคจกฺกํ อุทฺธรนฺตานํ อยํ สทฺโท’’ติ วา เอวํ เนว ทวา, น รวา อฺํ ภณติ, โส อาปตฺตึ อาปชฺชติเยว. อฺา ปูรณกถา นาม โหติ – เอโก คาเม โถกํ เตลํ ลภิตฺวา วิหารํ อาคโต สามเณรํ ภณติ ‘‘ตฺวํ อชฺช กุหึ คโต, คาโม เอกเตโล อโหสี’’ติ วา, ปจฺฉิกาย ปิตํ ปูวขณฺฑํ ลภิตฺวา ‘‘อชฺช คาเม ปจฺฉิกาหิ ปูเว จาเรสุ’’นฺติ วา, อยํ มุสาวาโทว โหติ. วิสํวาทนปุเรกฺขารตาติ วิสํ วาเทนฺติ เอเตนาติ วิสํวาทนํ, วฺจนาธิปฺปายวสปฺปวตฺตํ จิตฺตํ, ตสฺส ปุเรกฺขารตา วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, วิสํวาทนจิตฺตสฺส ปุรโต กรณนฺติ อตฺโถ.

มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

โอมสวาเทติ ขุํสนครหณวจเน. ยสฺมา ปน ตํ เนว กณฺณสุขํ, น หทยสุขํ, ตสฺมา เตน กณฺณฺเจว หทยฺจ วิชฺฌตีติ อาห ‘‘โอวิชฺฌนวจเน’’ติ, ชาติอาทีหิ ฆเฏตฺวา วจเนติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ชาตินามา’’ติอาทิ. ตตฺถ ชาติ นาม พฺราหฺมณาทิ อุกฺกฏฺา เจว จณฺฑาลาทิ หีนา จ ชาติ. นามํ นาม อวกณฺณกาทิ หีนฺเจว พุทฺธรกฺขิตาทิ อุกฺกฏฺฺจ นามํ. โคตฺตํ นาม โกสิยาทิ หีนฺเจว โคตมาทิ อุกฺกฏฺฺจ โคตฺตํ. กมฺมํ นาม ปุปฺผฉฑฺฑกาทิ หีนฺเจว กสิวณิชฺชาทิ อุกฺกฏฺฺจ กมฺมํ. สิปฺปํ นาม นฬการาทิ หีนฺเจว มุทฺทาคณนาทิ อุกฺกฏฺฺจ สิปฺปํ. อาพาโธ นาม สพฺโพปิ โรโค หีโนเยว. อถ วา มธุเมโห อุกฺกฏฺโ, เสโส หีโนติ เวทิตพฺโพ. ลิงฺคํ นาม อติทีฆาทิ หีนฺเจว นาติทีฆาทิ อุกฺกฏฺฺจ ลิงฺคํ. กิเลโส นาม ราคาทิโก สพฺโพปิ กิเลโส. อาปตฺติ นาม โสตาปตฺตาทิกา อุกฺกฏฺา เจว ปาราชิกาทิ อนุกฺกฏฺา จ อาปตฺติ. อกฺโกโส นาม ‘‘โอฏฺโสี’’ติอาทิโก หีโน เจว ‘‘ปณฺฑิโตสี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๑๕) อุกฺกฏฺโ จ อกฺโกโส.

ยถาตถาติ ปาฬิอาคตานาคตปทานํ เยน เกนจิ อากาเรน. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท เปตฺวา ภิกฺขุํ ภิกฺขุนิอาทโย สพฺเพ สตฺตา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตาติ อาห ‘‘อิธ จา’’ติอาทิ. ทวกมฺยตา นาม เกฬิหสาธิปฺปายตา. สพฺพตฺถาติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนสุ เจว ปาฬิอาคตานาคตปเทสุ จาติ สพฺพตฺถ. อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารานนฺติ เอตฺถ ‘‘จณฺฑาโลสี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา อตฺถํ วณฺเณนฺโต อตฺถปุเรกฺขาโร นาม. ปาฬึ วาเจนฺโต ธมฺมปุเรกฺขาโร นาม. อนุสิฏฺิยํ ตฺวา ‘‘อิทานิปิ จณฺฑาโลสิ, ปาปํ มา อกาสิ. มา ตโมตมปรายโณ อโหสี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕) นเยน กเถนฺโต อนุสาสนิปุเรกฺขาโร นามาติ เวทิตพฺโพ.

โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา

ภิกฺขุเปสุฺเติ ปิสตีติ ปิสุณา, ยาย วาจาย สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรติ, สา วาจา ปิสุณา, ปิสุณา เอว เปสุฺํ, ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสุฺํ, ภิกฺขุสฺส เปสุฺํ ภิกฺขุเปสุฺํ, ตสฺมึ ภิกฺขุเปสุฺเ, ภิกฺขุโต สุตฺวา ภิกฺขุนา, ภิกฺขุสฺส วา อุปสํหฏเปสุฺเติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชาติอาทีหี’’ติอาทิ. ตฺจ โข ทฺวีหิ การเณหิ อุปสํหรตีติ อาห ‘‘ภิกฺขุโน ปิยกมฺยตาย วา’’ติอาทิ. ตตฺถ ภิกฺขุโน ปิยกมฺยตายาติ ยสฺส ตํ ภาสติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ‘‘เอวมหํ เอตสฺส ปิโย ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปิยภาวํ ปตฺถยมานตาย. เภทาธิปฺปาเยนาติ ‘‘เอวมยํ เตน สทฺธึ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ ปรสฺส ปเรน เภทํ อิจฺฉนฺเตน. อถ วา ปิยสุฺกรณโต เปสุฺํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๓๖) นิรุตฺตินเยน, ยาย วาจาย ยสฺส ตํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ, ปรสฺส จ สุฺภาวํ กโรติ, สา วาจา, ‘‘ภิกฺขุสฺส เปสุฺํ ภิกฺขุเปสุฺ’’นฺติอาทินา เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหี’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.

ปาฬิมุตฺตกอกฺโกสูปสํหาเรติ ‘‘โจโรสี’’ติอาทินา อกฺโกสสฺส อุปสํหาเร. ‘‘อนกฺโกสวตฺถุภูตํ ปน เปสุฺกรํ ตสฺส กิริยํ, วจนํ วา ปิยกมฺยตาย อุปสํหรนฺตสฺส กิฺจาปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ น ทิสฺสติ, ตถาปิ ทุกฺกเฏน ภวิตพฺพ’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๓๖) วทนฺติ. ปาปครหิตาย วทนฺตสฺสาติ เอกํ อกฺโกสนฺตํ, เอกฺจ ขมนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อโห นิลฺลชฺโช, อีทิสมฺปิ นาม ภวนฺตํ ปุน วตฺตพฺพํ มฺิสฺสตี’’ติ เอวํ เกวลํ ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส.

เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

ปทโส ธมฺมํ วาเจยฺยาติ เอกโต ปทํ ปทํ ธมฺมํ วาเจยฺย, โกฏฺาสํ โกฏฺาสํ วาเจยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา น เกวลํ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหธมฺมํเยว ปทโส วาเจนฺตสฺส อาปตฺติ, ตสฺมา ‘‘สงฺคีติตฺตยํ อนารุฬฺหมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕) สีลูปเทส ธุตงฺคปฺหอารมฺมณกถา พุทฺธิกทณฺฑกฺาณวตฺถุอสุภกถาทีนํ คหณํ. เมณฺฑกมิลินฺทปฺเหสุ เถรสฺส สกปฺปฏิภาเน อนาปตฺติ. ยํ รฺโ สฺาปนตฺถํ อาหริตฺวา วุตฺตํ, ตตฺถ อาปตฺติ. วณฺณปิฏกองฺคุลิมาลปิฏกรฏฺปาลคชฺชิตอาฬวกคชฺชิตคูฬฺหมคฺคคูฬฺหเวสฺสนฺตรคูฬฺหวินยเวทลฺลปิฏกาทีนิ ปน อพุทฺธวจนานิเยว.

ยสฺมา ปน ตํ ปทํ จตุพฺพิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปทานุปทอนฺวกฺขรานุพฺยฺชเนสู’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิปฺเปโต. อนุปทนฺติ ทุติยปาโท. อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกํ อกฺขรํ. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชนํ. ยํ กิฺจิ วา เอกํ อกฺขรํ อนฺวกฺขรํ. อกฺขรสมูโห อนุพฺยฺชนํ. อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทํ. ปมํ ปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพํ. เอเตสุ ปทาทีสุ ยํ กฺจิ โกฏฺาสํ ภิกฺขุฺจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อวเสสปุคฺคเลหิ สทฺธึ เอกโต ภณนฺตสฺส ปทาทิคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ สมฺพนฺโธ.

เอตฺถ คาถาพนฺเธสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕) ตาว ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) เอกเมกํ ปทํ สามเณเรน สทฺธึ เอกโต อารภิตฺวา เอกโตเยว นิฏฺาเปนฺตสฺส ปทคณนาย ปาจิตฺติยํ. เถเรน ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ วุตฺเต ตํ ปทํ อปาปุณิตฺวา ‘‘มโนเสฏฺา มโนมยา’’ติ วจนกาเล ปตฺเตน สามเณเรน เอกโต ภณนฺตสฺส อนุปทคณนาย. ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖) วจนกาเล เตน สทฺธึ ‘‘รู’’ การมตฺตเมว วาเจนฺตสฺส อนฺวกฺขรคณนาย. เอส นโย คาถาพนฺเธปิ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖) อิมํ สุตฺตํ วาจยมาโน เถเรน ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาเน สามเณโร สีฆปฺตาย ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ อิมํ อนิจฺจปทํ เถรสฺส ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอเตน อนิจฺจปเทน สทฺธึ เอกโต ภณนฺโต วาจํ นิจฺฉาเรติ, เอวํ วาเจนฺตสฺส อนุพฺยฺชนคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํ.

ติกปาจิตฺติยนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ เอกโต อุทฺเทสคฺคหเณ เอกโต ภณนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอส นโย ‘‘สชฺฌายกรเณ, ตสฺส สนฺติเก อุทฺเทสคฺคหเณ’’ติ เอตฺถาปิ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน จ อนุปสมฺปนฺโน จ นิสีทิตฺวา อุทฺทิสาเปนฺติ. อาจริโย ‘‘นิสินฺนานํ ภณามี’’ติ เตหิ สทฺธึ เอกโต วทติ, อาจริยสฺเสว อาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. ทฺเวปิ ิตา คณฺหนฺติ, เอเสว นโย. ทหรภิกฺขุ นิสินฺโน, สามเณโร ิโต, ‘‘นิสินฺนสฺส ภณามี’’ติ ภณโต อนาปตฺติ. สเจ ทหโร ติฏฺติ, อิตโร นิสีทติ, ‘‘ิตสฺส ภณามี’’ติ ภณโตปิ อนาปตฺติ. สเจ พหูนํ ภิกฺขูนํ อนฺตเร เอโก สามเณโร นิสินฺโน โหติ, ตสฺมึ นิสินฺเน ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส อจิตฺตกา อาปตฺติ. สเจ สามเณโร อุปจารํ มุฺจิตฺวา ิโต วา นิสินฺโน วา โหติ, เยสํ วาเจติ, เตสุ อปริยาปนฺนตฺตา เอเกน ทิสาภาเคน ปลายนกคนฺถํ นาม คณฺหาตีติ สงฺขํ คจฺฉติ, ตสฺมา อนาปตฺติ.

สชฺฌายกรเณติ อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ เอกโต สชฺฌายกรเณ. ตสฺส สนฺติเก อุทฺเทสคฺคหเณติ อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก อุทฺเทสคฺคหเณ. เยภุยฺเยน ปคุณคนฺถํ ภณนฺตสฺสาติ สเจ เอกคาถาย เอโก ปาโท นาคจฺฉติ, อวเสสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ เยภุยฺเยน ปคุณคนฺโถ นาม. เอเตน นเยน สุตฺเตปิ เวทิตพฺโพ, ตํ ภณนฺตสฺส. โอสาเรนฺตสฺส จาติ ปริสามชฺเฌ สุตฺตํ อุจฺจาเรนฺตสฺส จ.

ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

อิธ ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’’ติ (ปาจิ. ๕๒) วจนโต ติรจฺฉานคโตปิ อนุปสมฺปนฺโนเยว, โส จ โข น สพฺโพ, เมถุนธมฺมาปตฺติยา วตฺถุภูโตวาติ อาห ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิ. ตสฺส จ ปริจฺเฉโท เมถุนธมฺมาปตฺติยา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ เอตฺถ ทิรตฺตวจเนน น โกจิ วิเสสตฺโถ ลพฺภติ, เกวลํ โลกโวหารวเสน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย, มุขารุฬฺหตาย เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา รตฺตีนนฺติ ปน วจนตฺถมตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา ทิรตฺตคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สหเสยฺยนฺติ เอกโต เสยฺยํ. เสยฺยาติ จ กายปฺปสารณสงฺขาตํ สยนมฺปิ วุจฺจติ ‘‘สยนํ เสยฺยา’’ติ กตฺวา, ยสฺมึ เสนาสเน สยนฺติ, ตมฺปิ ‘‘สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา’’ติ กตฺวา. ตทุภยมฺปิ อิธ สามฺเน, เอกเสสนเยน วา คหิตนฺติ อาห ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน’’ติอาทิ.

ตตฺถ ยํ เสนาสนํ อุปริ ปฺจหิ ฉทเนหิ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑), อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนาปิ สพฺพเมว ปริจฺฉนฺนํ, ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ, อนาหจฺจาปิ วา สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนาปิ ปริกฺขิตฺตํ, อิทํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนํ นาม. ยสฺส ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต จ พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อิทํ เยภุยฺเยน ฉนฺนํ เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺนํ นาม. ตสฺมึ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน, เยภุยฺเยน ฉนฺนปริจฺฉนฺเน วา.

วิทเหยฺยาติ กเรยฺย, ตฺจ โข อตฺถโต สมฺปาทนนฺติ อาห ‘‘สมฺปาเทยฺยา’’ติ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ ‘‘เสนาสนสงฺขาตํ เสยฺยํ ปวิสิตฺวา กายปฺปสารณสงฺขาตํ เสยฺยํ กปฺเปยฺย วิทเหยฺย สมฺปาเทยฺยา’’ติ. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพโธ วฑฺฒกิหตฺเถน คเหตพฺโพ. เอกูปจาโรติ วลฺชนทฺวารสฺส เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สตคพฺภํ วา จตุสาลํ เอกูปจารํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ วาติ ปุริมปุริมทิวเส ยตฺถ วุฏฺํ, ตสฺมึเยว เสนาสเน วา. อฺตฺถ วา ตาทิเสติ ยถาวุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคเต อฺสฺมึ ปุพฺเพ อวุฏฺเสนาสเน วา. เตน วาติ เยน สห ปุริมปุริมทิวเส วุฏฺํ, เตน วา. อฺเน วาติ เยน สห ปุริมปุริมสฺมึ ทิวเส วุฏฺํ, ตโต อฺเน วา. สงฺเขโปติ สงฺเขปวณฺณนา. ยทิ เอวํ วิตฺถาโร กถํ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘วิตฺถาโร ปนา’’ติอาทิ.

อุปฑฺฒจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทีสูติ อาทิสทฺเทน ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยน ฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓) อฏฺกถายํ วุตฺตานํ คหณํ. ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสนฺตสฺสาติ ตติยาย รตฺติยา อรุณโต ปุเรตรเมว นิกฺขมิตฺวา อรุณํ พหิ อุฏฺาเปตฺวา จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย ปุน วสนฺตสฺส. สพฺพจฺฉนฺนสพฺพาปริจฺฉนฺนาทีสูติ เอตฺถ ปน อาทิสทฺเทน ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน, เยภุยฺเยน อจฺฉนฺเน เยภุยฺเยน อปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ อาคตานํ, ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน อนาปตฺติ, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน อนาปตฺติ, จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓) อฏฺกถายํ อาคตานฺจ คหณํ.

ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

มนุสฺสิตฺถิยาติ ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา. ‘‘มติตฺถี ปน กิฺจาปิ ปาราชิกวตฺถุภูตา, อนุปาทินฺนปกฺเข ปน ิตตฺตา สหเสยฺยาปตฺตึ น กโรตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๕๕) วทนฺติ. อทิสฺสมานรูปาหิ ปน ยกฺขิเปตีหิ, เมถุนสฺส อวตฺถุภูตาย จ ติรจฺฉานคติตฺถิยา อนาปตฺติ. ปมทิวเสปีติ ปมสฺมึ วิย สิกฺขาปเท น จตุตฺเถเยว ทิวเส, อถ โข อิธ ปมทิวเสปีติ อตฺโถ. อิมินา อิธ ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถีติ ทสฺเสติ. องฺเคสุ ปน ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ มาตุคาเมน สห นิปชฺชนํ, สูริยตฺถงฺคมนนฺติ ตีณิ องฺคานีติ อยมฺปิ วิเสโส ทฏฺพฺโพ.

ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉปฺปฺจวาจาหีติ ฉหิ ปฺจหิ วาจาหิ. วาจาปริจฺเฉโท ปเนตฺถ กถํ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อุตฺตริ ฉปฺปฺจวาจาหี’’ติอาทิ. สพฺพตฺถาติ สุตฺเต, อฏฺกถายฺจ. สเจ อฏฺกถํ, ธมฺมปทํ, ชาตกาทิวตฺถุํ วา กเถตุกาโม โหติ, ฉปฺปทมตฺตเมว กเถตุํ วฏฺฏติ. ปาฬิยา สทฺธึ กเถนฺเตน เอกํ ปทํ ปาฬิโต, ปฺจ อฏฺกถาโตติ เอวํ ฉ ปทานิ อนติกฺกมิตฺวาว กเถตพฺโพ. ปุริเสนาติ มนุสฺสปุริเสน. เตนาห ‘‘มนุสฺสวิคฺคหํ คเหตฺวา ปนา’’ติอาทิ.

ติกปาจิตฺติยนฺติ มาตุคาเม มาตุคามสฺิเวมติกอมาตุคามสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อฺสฺส วา มาตุคามสฺสาติ เอกสฺส มาตุคามสฺส เทเสตฺวา นิสินฺเน ปุน อาคตสฺส อฺสฺส มาตุคามสฺส, เอวํ ปน เอกาสเน นิสินฺเนน มาตุคามสตสฺสาปิ เทเสตุํ วฏฺฏติ . ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ วจนโต อวิฺิตฺถิยาปิ เทสยโต อนาปตฺติ. อิริยาปถปริวตฺตาภาโวติ อตฺตโน วา มาตุคามสฺส วา อิริยาปถปริวตฺตาภาโว. กปฺปิยการกสฺสาภาโวติ วิฺุสฺส กปฺปิยการกสฺสาภาโว, ทุติยานิยเต วุตฺตลกฺขณสฺส มนุสฺสสฺส อภาโวติ วุตฺตํ โหติ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ อุตฺตริ ฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมเทสนา กิริยา, กปฺปิยการกสฺส อคฺคหณํ อกิริยาติ ทฏฺพฺพํ.

ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

นิปฺปริยาเยนาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๗๑) อุชุกเมว. ปริยาเยน อาโรจิตนฺติ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปนฺโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๗๕) อฺาปเทเสน ภณิตํ. ปรินิพฺพานกาเล (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗), ปน อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ. อนติกฑฺฒิยมาเนนาปิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๗๗) ตถารูเป การเณ สติ อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. เตเนว อฺตเรน ทหรภิกฺขุนา อุปวทิโต อฺตโร เถโร ‘‘อาวุโส, อุปริมคฺคตฺถาย วายามํ มา อกาสิ, ขีณาสโว ตยา อุปวทิโต’’ติ อาห. เถเรน จ ‘‘อตฺถิ เต, อาวุโส, อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺา’’ติ ปุฏฺโ ทหรภิกฺขุ ‘‘อาม, ภนฺเต, โสตาปนฺโน อาห’’นฺติ อโวจ. ‘‘การโก อย’’นฺติ ตฺวาปิ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสเนน สมุตฺเตชนาย, สมฺปหํสนาย จ อริยา อตฺตานํ ปกาเสนฺติเยว. เตนาห ‘‘ตถารูเป การเณ สติ อุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจยโต’’ติ. สุตปริยตฺติสีลคุณํ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺสปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา น อิธ อุมฺมตฺตกาทโย คหิตาติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. อาทิสทฺเทน ขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ คหณํ. ตสฺมึ สตีติ อุมฺมตฺตกาทิภาเว สติ. อิธ น คหิตาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปทภาชนิยํ น คหิตา. อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติชานนจิตฺตาภาเวน อจิตฺตกํ. กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิ ทฺวิจิตฺต’’นฺติ อิทํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อริยปุคฺคเลเยว สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา ฌานลาภิโน ปุถุชฺชนา วตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิตฺเตนาปิ น อาโรเจนฺตีติ. ทุกฺขเวทนาย วา อภาวโต ‘‘ทฺวิเวทน’’นฺติ อิมสฺส อนุรูปํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

ทฺวินฺนํ‘อาปตฺติกฺขนฺธานนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสสงฺขาตานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ. อายตึ สํวรตฺถายาติ ‘‘เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตปฺเปนาปิ อายตึ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตี’’ติ อายตึ สํวรตฺถาย. อาปตฺตีนฺจ กุลานฺจ ปริยนฺตํ กตฺวา วา อกตฺวา วาติ ‘‘เอตฺตกา อาปตฺติโย อาโรเจตพฺพา, เอตฺตเกสุ กุเลสุ อาโรเจตพฺพา’’ติ เอวํ อาปตฺตีนฺจ กุลานฺจ ปริยนฺตํ กตฺวา วา อกตฺวา วา.

อทุฏฺุลฺลายาติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสํ เปตฺวา อวเสสปฺจาปตฺติกฺขนฺธสงฺขาตาย อทุฏฺุลฺลาย อาปตฺติยา. อวเสเส ฉ อาปตฺติกฺขนฺเธติ สงฺฆาทิเสสวชฺชิเต เสเส ฉ อาปตฺติกฺขนฺเธ. ปุริมปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลนฺติ ปาณาติปาตเวรมณิอาทิกสฺส อาทิโต ปฺจสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกมสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลํ. อิตรํ อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารนฺติ ตโต อฺํ วิกาลโภชนาทิกปฺจกํ, สุกฺกวิสฏฺิกายสํสคฺคทุฏฺุลฺลอตฺตกามฺเจติ อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารํ. วตฺถุมตฺตนฺติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปนฺโน, ทุฏฺุลฺลํ, อตฺตกามํ, กายสํสคฺคํ อาปนฺโน’’ติ เอวํ วตฺถุมตฺตํ วา อาโรเจนฺตสฺส. อาปตฺติมตฺตนฺติ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปนฺโน, สงฺฆาทิเสสํ, ถุลฺลจฺจยํ, ปาจิตฺติยํ, ปาฏิเทสนียํ, ทุกฺกฏํ, ทุพฺภาสิตํ อาปนฺโน’’ติ เอวํ อาปตฺติมตฺตํ วา อาโรเจนฺตสฺส. วุตฺตลกฺขณสฺสาติ ‘‘ปาราชิกํ อนชฺฌาปนฺนสฺสา’’ติ กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา) เอวํ วุตฺตลกฺขณสฺส. สวตฺถุโกติ วตฺถุนา สห ฆฏิโต.

ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา

ปาสาณสกฺขรกถลมรุมฺพวาลุกาทีสูติ เอตฺถ มุฏฺิปฺปมาณโต อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา. มุฏฺิปฺปมาณา สกฺขรา. กถลาติ กปาลขณฺฑานิ. มรุมฺพาติ กฏสกฺขรา. วาลุกา วาลิกาเยว. อฺตรสฺส ตติยภาโค โหตีติ ตติโย ภาโค โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยโต ปํสุํ วา มตฺติกํ วา อาหราเปตฺวา วิสุํ วิสุํ กเต ทฺเว โกฏฺาสา ปํสุ วา มตฺติกา วา เอโก ปาสาณาทีสุ อฺตโร โหติ, อยํ มิสฺสกปถวี นามาติ. โอวฏฺโ นาม เทเวน โอวฏฺโ (ปาจิ. ๘๖). วุตฺตนฺติ ปทภาชนิยํ, สีหฬฏฺกถายเมว วา วุตฺตํ . อธิกตรปาสาณาทิมิสฺสาติ อธิกตรปาสาณาทีหิ มิสฺสา, อทฑฺฒาปิ วุตฺตปฺปมาณโต อธิกตรปาสาณาทิมิสฺสาติ อธิปฺปาโย. วา-สทฺโท อวุตฺตวิกปฺปตฺโถ, เตน อูนกจตุมาโสวฏฺปถวึ สงฺคณฺหาติ. สุทฺธปาสาณาทิเภทายาติ สุทฺธา ปาสาณา เอตฺถาติ สุทฺธปาสาณา, สา อาทิ ยสฺส เภทสฺส โส สุทฺธปาสาณาทิ. อาทิ-สทฺเทน สุทฺธสกฺขราทีนํ คหณํ. สุทฺธปาสาณาทิเภโท ยสฺสา สา สุทฺธปาสาณาทิเภทา, ตาย สุทฺธปาสาณาทิเภทาย, สุทฺธปาสาณาทิปฺปการายาติ อตฺโถ.

สยํ ขณตีติ เอตฺถ โย อนฺตมโส ปาทงฺคุฏฺเกนปิ ขณติ, อุทกมฺปิ ฉฑฺเฑนฺโต ภินฺทติ, ปาทงฺคุฏฺเกนปิ วิลิขติ, ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต ทหติ, โส สพฺโพ ขณติเยวาติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ขณนเภทนวิเลขนปจนาทีหิ วิโกเปตีติ. ปตฺตํ ปจนฺเตน (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗) หิ ปุพฺเพ ปกฺกฏฺาเนเยว ปจิตพฺโพ. อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏติ. ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคึ เปตุํ วฏฺฏติ. ทารูนํ อุปริ เปติ, โส อคฺคิ ตานิ ทหนฺโต คนฺตฺวา ปถวึ ทหติ, น วฏฺฏติ. อิฏฺกปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺราปิ หิ อิฏฺกาทีนํเยว อุปริ เปตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตา. น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขํ คจฺฉนฺติ. สุกฺขขาณุรุกฺขาทีสุปิ อคฺคึ ทาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘ปถวึ อปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สกฺโกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ขณนเภทนวิลิขนปจนาทีหี’’ติ วุตฺเตเนว นเยน. นิยเมตฺวาติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา. อิตโรติ อาณาปโก.

‘‘โปกฺขรณึ ขณา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) วทติ, วฏฺฏติ. ขตาเยว โปกฺขรณี นาม โหติ, ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโร. เอส นโย ‘‘วาปึ, ตฬากํ, อาวาฏํ ขณา’’ติอาทีสุปิ. ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส โปกฺขรณึ ขณา’’ติ ปน วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘กนฺทํ ขณ มูลํ ขณา’’ติ อนิยเมตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ วลฺลึ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘โอกาสํ อนิยเมตฺวา…เป… ภณนฺตสฺสา’’ติ. อาตเปน สุกฺขกทฺทโม จ ผลติ, ตตฺร โย เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพทฺโธ, ตเมว อปเนตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย โคกณฺฏเกปิ . เตนาห ‘‘อาตเปน…เป… อสมฺพทฺธ’’นฺติ. ตตฺถ โคกณฺฏโก (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติ. สเจ ปน เหฏฺิมตเลน ภูมิสมฺพนฺโธ, วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. ภิชฺชิตฺวา ปติตนทิตฏนฺติ ภิชฺชิตฺวา นทิสามนฺตา ปติตํ โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺํ นทิตฏํ. สเจ ปน ภิชฺชิตฺวา อุทเกเยว ปกติ, เทเว อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺเปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฏฺฏติ. มหนฺตมฺปิ นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑนฺติ มหนฺตมฺปิ กสิตฏฺาเน เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพทฺธํ นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ. เอวมาทิสทฺเทน กูฏาสิฺจนโยคฺคตนุกกทฺทมาทีนํ คหณํ. อสฺจิจฺจ รุกฺขาทิปวฏฺฏเนน ภินฺทนฺตสฺสาติ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวฏฺเฏนฺตสฺส, กตฺตรทณฺเฑน วา อาหจฺจ อาหจฺจ คจฺฉนฺตสฺส ปถวี ภิชฺชติ, สา ‘‘เตน ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ สฺจิจฺจ อภินฺนตฺตา อสฺจิจฺจ ภินฺนา นาม โหติ, อิติ อสฺจิจฺจ รุกฺขาทิปฺปวฏฺฏเนน ภินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติยา ปาทงฺคุฏฺกาทีหิ วิลิขนฺตสฺสาติ โย อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน วา กตฺตรยฏฺิยา วา ปถวึ วิลิขนฺโต ติฏฺติ, ตสฺส เอวํ อสติยา ปาทงฺคุฏฺกาทีหิ วิลิขนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

มุสาวาทวคฺโค ปโม.

๒. ภูตคามวคฺโค

๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘ภวนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๙๐) อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคจฺเฉ ทสฺเสติ. ‘‘อเหสุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ิเต มหนฺเต รุกฺขคจฺฉาทิเก ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ชายนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชายนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, ‘‘อเหสุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. คาโมติ สมูโห. ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนนฺติ ภูมิยํ ปติฏฺิตสฺส หริตติณสฺส เจว หริตรุกฺขาทีนฺจ. อาทิสทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทโย เวทิตพฺพา. นิมิตฺตตฺเถ จ ภุมฺมํ. โย อตฺโถ สมฺปชฺชติ, ตมาห ‘‘ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติอาทินา.

นนุ จ รุกฺขาทโย จิตฺตรหิตตาย น ชีวา, จิตฺตรหิตตา จ ปริผนฺทาภาวโต, ฉินฺเนปิ วิรุหนโต, วิสทิสชาติกภาวโต, จตุโยนิยํ อปริยาปนฺนโต จ เวทิตพฺพา, วุฑฺฒิ ปน ปวาฬสิลาลวณานมฺปิ วิชฺชตีติ น เตสํ ชีวภาเว การณํ, วิสยคฺคหณฺจ เนสํ ปริกปฺปนามตฺตํ สุปนํ วิย จิฺจาทีนํ, ตถา โทหฬาทโย, อถ กสฺมา ภูตคามสฺส ปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ อิจฺฉิตนฺติ? สมณอสารุปฺปโต, ตนฺนิสฺสิตสตฺตานุรกฺขณโต จ. เตเนวาห ‘‘ชีวสฺิโน หิ โมฆปุริสา มนุสฺสา รุกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๙). สาสปพีชกเสวาลมฺปีติ สาสปพีชกสงฺขาตํ เสวาลมฺปิ, สาสปเสวาลํ, พีชกเสวาลมฺปีติ อตฺโถ. ตตฺถ สาสปเสวาโล นาม สาสปมตฺโต ขุทฺทกเสวาโล. พีชกเสวาโล นาม อุปริ ขุทฺทกปตฺโต เหฏฺา ขุทฺทกมูโล เสวาโล.

มูลพีชขนฺธพีชผฬุพีชอคฺคพีชพีชพีชานนฺติ เอตฺถ มูลเมว พีชํ มูลพีชํ. เอวํ เสเสสุปิ. ตตฺถ มูลพีชํ หลิทฺทิอาทิกํ. ขนฺธพีชํ อสฺสตฺถาทิกํ. ผฬุพีชํ อุจฺฉุอาทิกํ. อคฺคพีชํ หิริเวราทิกํ. พีชํพีชํ ปุพฺพณฺณาทิกํ. ภาชนคตนฺติ สราวาทิภาชนคตํ. นิกฺขนฺตํ มูลมตฺตํ เอตสฺมาติ นิกฺขนฺตมูลมตฺตํ. มตฺต สทฺเทน เจตฺถ ปณฺณสฺส นิกฺขมนํ ปฏิกฺขิปติ. เอส นโย นิกฺขนฺตองฺกุรมตฺตนฺติ เอตฺถาปิ. สเจ ปน มูลฺจ ปณฺณฺจ นิคฺคตํ, ภูตคามสงฺขํ คจฺฉติ. วิทตฺถิมตฺตา ปตฺตวฏฺฏิ นิคฺคจฺฉตีติ วิทตฺถิมตฺตา อนีลวณฺณา ปตฺตวฏฺฏิ นิกฺขมติ. เตนาห ‘‘นิกฺขนฺเต’’ติอาทิ. หริโต น โหตีติ นีลวณฺโณ น โหติ. มุคฺคาทีนํ ปน ปณฺเณสุ อุฏฺิเตสุ, วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เอส นโย อมฺพฏฺิอาทีสุ.

ภูตคามพีชคาเมติ เอตฺถ ภูตคามโต วิโยชิตํ วิรุหนสมตฺถเมว มูลพีชาทิกํ พีชคาโม นามาติ เวทิตพฺพํ. อุภยตฺถาติ ภูตคามพีชคาเมสุ. อตถาสฺิสฺสาติ อภูตคามาพีชคามสฺิสฺส. โก ปน วาโท อภูตคามาพีชคาเมสุ อภูตคามาพีชคามสฺิสฺส. อสฺจิจฺจาติ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวฏฺเฏนฺตสฺส, สาขํ วา กฑฺฒนฺตสฺส, กตฺตรทณฺเฑน วา ภูมึ ปหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ติณานิ กุปฺปนฺติ. ตานิ เตน ‘‘วิโกเปสฺสามี’’ติ เอวํ สฺจิจฺจ อวิโกปิตตฺตา อสฺจิจฺจ วิโกปิตานิ นาม โหนฺติ. อิติ อสฺจิจฺจ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อสติยาติ อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน วา หตฺเถน วา ติณํ วา ลตํ วา วิโกเปนฺโต ติฏฺติ, เอวํ อสติยา วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อชานิตฺวาติ เอตฺถ อพฺภนฺตเร ‘‘พีชคาโม’’ติ วา ‘‘ภูตคาโม’’ติ วา น ชานาติ, ‘‘วิโกเปมี’’ติ ปน ชานาติ. เอวํ ติเณ วา ปลาลปุฺเช วา ขณิตฺตึ วา กุทาลํ วา สงฺโคปนตฺถาย เปติ, ฑยฺหมานหตฺโถ วา อคฺคึ ปาเตติ. ตตฺร เจ ติณานิ ฉิชฺชนฺติ วา ฑยฺหนฺติ วา, เอวํ อชานิตฺวา วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ.

เยน เกนจิ อคฺคินาติ กฏฺคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อคฺคินา, อนฺตมโส โลหขณฺเฑนปิ อาทิตฺเตน. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาวาติ ยาย กายจิ ภาสาย ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว. เอว-สทฺเทน ปมํ อคฺคินา ผุสิตฺวา ปจฺฉา ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘ปมํ อคฺคึ นิกฺขิปิตฺวา ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘กปฺปิย’นฺติ วุตฺเต ปน วฏฺฏตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๙๓) วทนฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตเถวาติ ‘กปฺปิย’นฺติ วตฺวาว. อสฺสมหึสสูกรมิคโครูปานํ ปน ขุรา อติขิณา, ตสฺมา เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหตีติ อาห ‘‘เปตฺวา โคมหึสาทีนํ ขุเร’’ติ. หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, ตสฺมา เตหิ วฏฺฏติ. ติรจฺฉานานนฺติ สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฏานํ, สกุนฺตานฺจ. เตสฺหิ นขา ติขิณา โหนฺติ, ตสฺมา เตหิ กาตพฺพํ. ‘‘อนฺตมโส ฉินฺทิตฺวา อาหเฏนปี’’ติ อิมินา เยหิ กาตุํ วฏฺฏติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิ กาตพฺพนฺติ เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สตฺเถ วุตฺตนเยเนวา’’ติ อิมินา เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาวา’’ติ วุตฺตมติทิสติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาว กาตพฺพ’’นฺติอาทินา กปฺปิยํ กโรนฺเตน กตฺตพฺพาการเมว ทสฺสิตํ, ตถาปิ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว อนุปสมฺปนฺเนน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา อคฺคิปริชิตาทิ กาตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. อวจนํ ปน ‘‘ปุนปิ กปฺปิยํ กโรหีติ กาเรตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ ปมเมว วุตฺตตฺตา.

เอกสฺมึ…เป… กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหตีติ เอกํเยว ‘‘กปฺปิยํ กโรมี’’ติ อธิปฺปาเยนปิ กปฺปิเย กเต เอกาพทฺธตฺตา สพฺพํ กตํ โหติ. ทารุกํ วิชฺฌตีติ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยว. ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏตีติ วลฺลิอาทีนํ ภาชนคติกตฺตาติ อธิปฺปาโย. ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ. อพีชนฺติ องฺกุรชนนสมตฺถพีชรหิตตรุณมฺพผลาทิ. เตนาห ‘‘ยํ ปน ผลํ ตรุณํ โหติ, อพีช’’นฺติ. นิพฺพตฺตพีชํ นาม พีชํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิสุํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยํ อมฺพปนสาทิผลํ. เตนาห ‘‘พีชํ อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ. ตตฺถ กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถิ, สยเมว กปฺปิยานีติ อธิปฺปาโย.

ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา

ยมตฺถนฺติ ‘‘ตฺวํ กิร ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติอาทิกํ ยํ กิฺจิ อตฺถํ. ตโต อฺนฺติ ปุจฺฉิตตฺถโต อฺมตฺถํ. อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺสาติ วินยธเรน ยํ วจนํ โทสปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ, ตโต อฺเน วจเนน ปฏิจฺฉาทนสฺส. ปฏิจฺฉาทนตฺโถปิ หิ จรสทฺโท โหติ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ. วุตฺตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ.

สาวเสสํ อาปตฺตึ อาปนฺโนติ เอตฺถ เปตฺวา ปาราชิกํ เสสา สาวเสสาปตฺติ นาม, ตํ อาปนฺโน. อนุยุฺชิยมาโนติ ‘‘กึ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุจฺฉิยมาโน. อฺเน วจเนนาติ ‘‘โก อาปนฺโน? กึ อาปนฺโน? กิสฺมึ อาปนฺโน? กถํ อาปนฺโน? กํ ภณถ? กึ ภณถา’’ติ อฺเน วจเนน. อฺนฺติ ‘‘กึ ตฺวํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติอาทิกํ อนุยุฺชกวจนํ. ตถา ตถา วิกฺขิปตีติ เตน เตน ปกาเรน วิกฺขิปติ. กึ วุตฺตํ โหติ? โส (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔) กิฺจิ วีติกฺกมํ ทิสฺวา ‘‘อาวุโส, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ สงฺฆมชฺเฌ อาปตฺติยา อนุยุฺชิยมาโน ‘‘โก อาปนฺโน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘ตฺว’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ กึ อาปนฺโน’’ติ วทติ. อถ ‘‘ปาจิตฺติยํ วา ทุกฺกฏํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘อมุกสฺมึ นาม วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ กถํ อาปนฺโน, กึ กโรนฺโต อาปนฺโนมฺหี’’ติ ปุจฺฉติ. อถ ‘‘อิทํ นาม กโรนฺโต อาปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘กํ ภณถา’’ติ วทติ. ตโต ‘‘ตํ ภณามา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ภณถา’’ติ เอวมเนเกหิ ปกาเรหิ วิกฺขิปตีติ วุตฺตํ โหติ.

โย ปน ภิกฺขุ สาวเสสํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ น กเถตุกาโม ตุณฺหีภาเวน วิเหเสตีติ สมฺพนฺโธ. วิเหเสตีติ จิรนิสชฺชาจิรภาสเนหิ ปิฏฺิอาคิลายนตาลุโสสาทิวเสน สงฺฆํ วิเหเสติ, ปริสฺสมํ เตสํ กโรตีติ อตฺโถ. ปริสฺสโม หิ วิเหสา นาม. อฺวาทกกมฺมนฺติ อฺวาทกสฺส ภิกฺขุโน อฺวาทกาโรปนตฺถํ กาตพฺพํ ตฺติทุติยกมฺมํ. วิเหสกกมฺมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺมึ สงฺเฆน กเตติ ตสฺมึ อฺวาทกกมฺเม จ วิเหสกกมฺเม จ สงฺเฆน ตฺติทุติยกมฺมวาจาย กเต. ตถา กโรนฺตานนฺติ ตํ ปการํ กโรนฺตานํ, อฺวาทกฺจ วิเหสกฺจ กโรนฺตานนฺติ อตฺโถ.

‘‘วิเหสเกติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺตี’’ติ อวจนฺเจตฺถ ‘‘อาปตฺติกรา จ โหติ อฺวาทกสิกฺขาปทาทีสุ วิยา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตตฺตาเยว ปฺายตีติ กตฺวา. เอส นโย อุปริ สิกฺขาปเทสุ. ธมฺมกมฺเม ติกปาจิตฺติยนฺติ ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อนาโรปิเตติ กมฺมวาจาย อนาโรปิเต, อปฺปติฏฺาปิเตติ อตฺโถ. เคลฺเนาติ เยน กเถตุํ น สกฺโกติ, มุเข ตาทิเสน พฺยาธินา. สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ ภวิสฺสนฺตีติ สงฺฆมชฺเฌ กถิเต ตปฺปจฺจยา สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ วา กลโห วา วิคฺคโห วา วิวาโท วา สงฺฆเภโท วา สงฺฆราชิ วา ภวิสฺสนฺตีติ อิมินา วา อธิปฺปาเยน น กเถนฺตสฺส. เอตฺถ จ อธมฺเมนาติ อภูเตน วตฺถุนา.

‘‘สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานี’’ติ อวิเสสํ อติทิสิตฺวา วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สิยา กิริยํ อฺเนฺํ ปฏิจรนฺตสฺส. สิยา อกิริยํ ตุณฺหีภาเวน วิเหเสนฺตสฺส.

อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา

เยนวจเนนาติ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทิเกน เยน วจเนน. เตนาห ‘‘ฉนฺทายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ฉนฺทายาติ ฉนฺเทน ปกฺขปาเตน. ‘‘อกฺขราย วาเจตี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๔๖) วิย ลิงฺควิปลฺลาโส เอส. อิทํ นาม กโรตีติ อตฺตโน สนฺทิฏฺสมฺภตฺตานํ ปณีตํ เสนาสนํ วา ปฺเปติ, ภตฺตาทิกํ วาติ อธิปฺปาโย. เสนาสนปฺาปกาทิเภทนฺติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ภตฺตุทฺเทสกยาคุภาชกผลภาชกาทีนํ คหณํ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ เฌ-สทฺโท โอโลกนตฺโถปิ โหตีติ อาห ‘‘อวฺาย โอโลกาเปนฺตี’’ติ. จินฺตนตฺโถเยว วา คเหตพฺโพติ อาห ‘‘ลามกโต วา จินฺตาเปนฺตี’’ติ. ตเถว วทนฺตาติ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วทนฺตา. วุตฺตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. ‘‘ขิยฺยนเก’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๕) อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ.

อสมฺมตสฺสาติ สงฺเฆน กมฺมวาจาย อสมฺมตสฺส. เกวลํ ‘‘ตเวโส ภาโร’’ติ สงฺเฆน อาโรปิตภารสฺส, ภิกฺขูนํ วา ผาสุวิหารตฺถาย สยเมว ภารํ วหนฺตสฺส, ยตฺร วา ทฺเว ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร ตาทิสํ กมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. ยสฺส กสฺสจีติ อุปสมฺปนฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ปน สมฺมตสฺส วา อสมฺมตสฺสวาติ เอตฺถ ปน (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๖) กิฺจาปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส เตรส สมฺมติโย ทาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตถาปิ โย อุปสมฺปนฺนกาเล ลทฺธสมฺมุติโก ปจฺฉา อนุปสมฺปนฺนภาเว ิโต, ตํ สนฺธาย ‘‘สมฺมตสฺส วา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺส ปน พฺยตฺตสฺส สามเณรสฺส เกวลํ สงฺเฆน วา สมฺมเตน วา ภิกฺขุนา ‘‘ตฺวํ อิทํ กมฺมํ กโรหี’’ติ ภาโร กโต, ตํ สนฺธาย ‘‘อสมฺมตสฺส วา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา อุชฺฌาปนฺจ ขิยฺยนฺจ มุสาวาทวเสน ปวตฺตํ, ตสฺมา อาทิกมฺมิกสฺส อิมินาว อนาปตฺติ, มุสาวาเทน ปน อาปตฺติเยวาติ คเหตพฺพํ.

อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

มฺจํวาติ มสารโก, พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสุ จตูสุ ยํ กฺจิ มฺจํ วา. ปีํ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ภิสึ วาติ อุณฺณภิสิ, โจฬภิสิ, วากภิสิ, ติณภิสิ, ปณฺณภิสีติ อิมาสุ ปฺจสุ ภิสีสุ ยํ กฺจิ ภิสึ วา. เตนาห ‘‘มฺจาทีสู’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘มฺจสงฺเขเปนา’’ติ อิมินา ปีสงฺเขปํ ปฏิกฺขิปติ. กปฺปิยจมฺเมนาติ มิคาเชฬกจมฺเมน. เอตฺถ ปน มิคจมฺเม เอณิมิโค, วาตมิโค, ปสทมิโค, กุรุงฺคมิโค, มิคมาตุโก, โรหิตมิโคติ เอเตสํเยว จมฺมานิ วฏฺฏนฺติ, อฺเสํ ปน –

มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตีติ. (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙);

ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา. น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสสพิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘วาฬมิคา’’ตฺเวว เวทิตพฺพา. เอเตสฺหิ สพฺเพสํ จมฺมํ น วฏฺฏติ. ตาลีสปตฺตนฺติ สุทฺธํ ตมาลปตฺตํ, อฺเน มิสฺสํ ปน วฏฺฏติ. ติณวากโจเฬสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. กึ ปเนตฺถ พิพฺโพหเน วิย นิสีทิตุฺจ นิปชฺชิตุฺจ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. น เกวลฺเจทเมวาติ อาห ‘‘ปมาณปริจฺเฉโทปิ เจตฺถ นตฺถี’’ติ, ‘‘เอตฺตกเมว กาตพฺพ’’นฺติ ภิสิยา ปมาณนิยโมปิ นตฺถีติ อตฺโถ. มฺจภิสิปีภิสิภูมตฺถรณภิสิจงฺกมนภิสิปาทปุฺฉนภิสีติ เอตาสํ ปน อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. อนฺโต สํเวลฺลิตฺวา พทฺธนฺติ ยถา เวมชฺฌํ สํขิตฺตํ โหติ, เอวํ มชฺเฌ สุฏฺุ เวเตฺวา พทฺธํ.

เย อฏฺ มาสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อวสฺสิกสงฺเกตา’’ติ เอตสฺเสว วิวรณํ ‘‘วสฺสานมาสาติ เอวํ อปฺาตา’’ติ, อปฺปติตา อปฺปสิทฺธาติ อตฺโถ. ‘‘อสฺิตา’’ติปิ ปาโ, ตตฺถ อวิฺาตาติ อตฺโถ. อฏฺ มาสาติ จตฺตาโร เหมนฺติกา, จตฺตาโร คิมฺหิกา มาสาติ อฏฺ มาสา. โอวสฺสกมณฺฑเปติ สาขามณฺฑปปทรมณฺฑปานํ ยตฺถ กตฺถจิ โอวสฺสเก มณฺฑเป. ยตฺถาติ เยสุ ชนปเทสุ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ชนปเทสุ . กากาทีนํ นิพทฺธวาสรุกฺขมูเลติ ยตฺถ ธุวนิวาเสน กากา วา กุลาลา วา อฺเ วา สกุนฺตา กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตาทิสสฺส กากาทีนํ นิพทฺธวาสสฺส ยสฺส กสฺสจิ รุกฺขสฺส เหฏฺา. ยตฺถ ปน โคจรปฺปสุตา สกุนฺตา วิสฺสมิตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กทาจิปี’’ติ อิมินา น เกวลํ วสฺสิกสงฺเกเตเยวาติ ทสฺเสติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ ปเทเส. ยทาติ ยสฺมึ กาเล.

โสติ ยสฺสตฺถาย สนฺถโต, โส. ปกติสนฺถเตติ ปกติยาว สนฺถเต, ยํ เนวตฺตนา สนฺถตํ, น ปเรน สนฺถราปิตํ, ตสฺมินฺติ วุตฺตํ โหติ. ลชฺชี โหตีติ ลชฺชนสีโล โหติ, ปริกฺขารวินาสเน ภีโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺตี’’ติ, อิมินา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. นิรเปกฺโขติ ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ อเปกฺขารหิโต, อิมินา สาเปกฺโข เจ คจฺฉติ, อนาปตฺตีติ ทสฺเสติ. เตเนว หิ อนาปตฺติวาเร ‘‘โอตาเปนฺโต คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๓) วุตฺตํ. อฺตฺถ คจฺฉนฺโตติ ตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉนฺโต. เลฑฺฑุปาตูปจารโต พหิ ิตตฺตา ‘‘ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส ปมปาทุทฺธาเร ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.

ติกปาจิตฺติยํ สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน. อิมินาว นเยน ติกทุกฺกฏมฺปิ เวทิตพฺพํ. จิมิลิกาทีนํ อตฺโถ ทุติยสิกฺขาปเท ทสฺสิโตว. ปาทปุฺฉนี (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒) นาม รชฺชุเกหิ วา ปิโลติกาหิ วา ปาทปุฺฉนตฺถํ กตา. ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปีํ. น เกวลํ จิมิลิกาทีนิเยว อชฺโฌกาเส เปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อาห ‘‘ยํ วา ปนา’’ติอาทิ. ยํ กิฺจิ ทารุภณฺฑํ, ยํ กิฺจิ มตฺติกาภณฺฑนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนฺตมโส ปตฺตาธารกมฺปี’’ติ อิมินา ตาลวณฺฏพีชนิปตฺตปานียอุฬอุงฺกปานียสงฺขาทีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ.

อรฺเ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐) ปณฺณกุฏีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา มฺจปีาทีนิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘อารฺเกน ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อสติ อโนวสฺสเกติ ปพฺภาราทิอโนวสฺสกฏฺาเน อสติ. อิทฺจ ลกฺขณวจนํ ‘‘สภาคานํ อภาเว’’ติ จ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. อารฺเกน หิ ภิกฺขุนา ตตฺถ วสิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉนฺเตน สามนฺตวิหาเร ภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํ. สภาคานํ อภาเว อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ. อโนวสฺสเก อสติ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ.

น เกวลํ อิทํเยว กตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ยถา วา’’ติอาทิ. ยถา วา อุปจิกาหิ น ขชฺชตีติ ยถา ปิเต อุปจิกาหิ เสนาสนํ น ขชฺชติ, เอวํ ตถา ปาสาณานํ อุปริ ปนํ กตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จตูสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) ปาสาเณสุ มฺจํ เปตฺวา มฺเจ อวเสสมฺจปีานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ราสึ กตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา คมิกวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพนฺติ.

อพฺโภกาสิเกนาปิ ‘‘อหํ อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ จีวรกุฏิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อชฺโฌกาเส ปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา น วฏฺฏตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อพฺโภกาสิเกนา’’ติอาทิ. สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตกุฏิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ เนว สกฺโกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฏฺฏติ. รุกฺขมูลิกสฺสาปิ เอเสว นโย.

ยสฺมึ วิสฺสาสคฺคาโห รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกมิว โหตีติ อาห ‘‘วิสฺสาสิกปุคฺคลิเก’’ติ. ยสฺมึ ปน วิสฺสาโส น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฏเมว. อมนุสฺโสติ ยกฺโข วา เปโต วา. ปลิพุทฺธํ โหตีติ อุปทฺทุตํ โหติ.

ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

ยํกิฺจิ จมฺมนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. นนุ ‘‘น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) ขนฺธเก สีหจมฺมาทีนํ ปฏิกฺเขโป กโตติ อาห ‘‘สีหจมฺมาทีนฺหี’’ติอาทิ. ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโปติ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา มฺจปีาทีสุ อตฺถริตฺวา ปริโภเคเยว ปฏิกฺเขโป, เสนาสนสนฺตกํ กตฺวา ภูมตฺถรณวเสน ปน ปริโภเค เนวตฺถิ โทโส. เตนาห ‘‘เสนาสนปริโภเค ปน อกปฺปิยจมฺมํ นาม นตฺถี’’ติ. ปาวาเรนฺติ สฺฉาเทนฺติ สรีรํ เอเตนาติ ปาวาโร. โกชโวติ อุทฺทโลมิเอกนฺตโลมิอาทิโกชวตฺถรณํ. เสสนฺติ ภิสิ นิสีทนํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ อวสิฏฺํ เสนาสนํ. ตตฺถ ภิสีติ มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา. นิสีทนนฺติ สทสํ เวทิตพฺพํ. ติณสนฺถาโรติ เยสํ เกสฺจิ ติณานํ สนฺถาโร. เอส นโย ปณฺณสนฺถาเร. เอตฺถ จ ภิสิ เหฏฺา วุตฺตตฺตา ปากฏา. นิสีทนํ นิสีทนสิกฺขาปเทเนว (ปาจิ. ๕๓๑ อาทโย) ปากฏํ. ติณสนฺถารปณฺณสนฺถารานิ ปน โลกปสิทฺธานิเยว. เตเนวาห ‘‘ปากฏเมวา’’ติ.

เนว อุทฺธเรยฺย, น อุทฺธราเปยฺยาติ อตฺตนา วา อุทฺธริตฺวา ปติรูเป าเน น เปยฺย, ปเรน วา ตถา น กาเรยฺย. เตนาห ‘‘ยถา ปิต’’นฺติอาทิ. ตํ เปนฺเตน จ ‘‘จตูสุ ปาสาเณสู’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อนฺโตเคเห อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ปน เสนาสนํ โอวสฺสติ, ฉทนตฺถฺจ ติณํ วา อิฏฺกา วา อานีตา โหนฺติ. สเจ อุสฺสหติ, ฉาเทตพฺพํ. โน เจ สกฺโกติ, โย โอกาโส อโนวสฺสโก, ตตฺถ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ สพฺพมฺปิ โอวสฺสติ, อุสฺสหนฺเตน อนฺโตคาเม อุปาสกานํ ฆเร เปตพฺพํ. สเจ เตปิ ‘‘สงฺฆิกํ นาม, ภนฺเต, ภาริยํ, อคฺคิทาหาทีนํ ภายามา’’ติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อชฺโฌกาเส ปาสาณานํ อุปริ มฺจํ เปตฺวา เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตฺวา ติเณหิ จ ปณฺเณหิ จ ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. ยฺหิ ตตฺถ องฺคมตฺตมฺปิ อวสิสฺสติ, ตํ อฺเสํ ตตฺถ อาคตานํ ภิกฺขูนํ อุปการํ ภวิสฺสตีติ. อุปจารนฺติ สพฺพปจฺฉิมเสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา.

อยเมตฺถ อาปุจฺฉิตพฺพานาปุจฺฉิตพฺพวินิจฺฉโย – (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘) ยา ตาว ภูมิยํ ทีฆสาลา วา ปณฺณสาลา วา โหติ, ยํ วา รุกฺขตฺถมฺเภสุ กตเคหํ อุปจิกานํ อุฏฺานฏฺานํ โหติ, ตโต ปกฺกมนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ กติปยานิ ทิวสานิ อชคฺคิยมาเน วมฺมิกาว สนฺติฏฺนฺติ. ยํ ปน ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ สิลุจฺจยเลณํ วา สุธาลิตฺตเสนาสนํ วา, ยตฺถ อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต ปกฺกมนฺตสฺส อาปุจฺฉิตฺวาปิ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘ยตฺถ ปนา’’ติอาทิ. สเจ ตาทิเสปิ เสนาสเน เอเกน ปสฺเสน อุปจิกา อาโรหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตนฺติ อาปุจฺฉนํ คมิกวตฺตํ. อิทฺจ อิติกตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน วตฺตเภททุกฺกฏนฺติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๘) ทสฺสนตฺถํ. เกจิ ปน ‘‘ทุกฺกฏนฺติ ทสฺสนตฺถ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ วตฺตกฺขนฺธกฏฺกถาย ‘‘ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ, ยตฺถ อุปจิกานาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๐) วุตฺตตฺตา. อาปุจฺฉนฺเตน ปน ภิกฺขุมฺหิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก, ตสฺมิมฺปิ อสติ เยน วิหาโร การาปิโต, โส วิหารสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ.

‘‘อุปจาเร’’ติ เอตสฺเสว วิวรณํ ‘‘พหิ อาสนฺเน’’ติ, วิหารสฺส พหิ อาสนฺนฏฺาเนติ อตฺโถ. อุปฏฺานสาลาย วาติ โภชนสาลายํ วา. ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตปฺปการฺหิ ทสวิธํ เสยฺยํ อนฺโตคพฺภาทิมฺหิ คุตฺตฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ยสฺมา เสยฺยาปิ เสนาสนมฺปิ อุปจิกาหิ ปลุชฺชติ, วมฺมิกราสิเยว โหติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. พหิ ปน อุปฏฺานสาลาทีสุ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺย านสฺส อคุตฺตตาย, น เสนาสนํ, ตสฺมา เอตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. มฺจปีํ ปน ยสฺมา น สกฺกา สหสา อุปจิกาหิ ขายิตุํ, ตสฺมา ตํ วิหาเรปิ สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. วิหารูปจาเร ปน ตํ วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ทิสฺวาว ปฏิสาเมนฺติ.

อุทฺธรณานิ กตฺวาติ เอตฺถ อุทฺธริตฺวา คจฺฉนฺเตน มฺจปีกวานํ สพฺพํ อปเนตฺวา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘) สํหริตฺวา จีวรวํเส ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. ปจฺฉา อาคนฺตฺวา วสนกภิกฺขุนาปิ ปุน มฺจปีํ วา ปฺเปตฺวา สยิตฺวา คจฺฉนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. อนฺโตกุฏฺฏโต เสยฺยํ พหิกุฏฺเฏ ปฺเปตฺวา วสนฺเตน คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปริปาสาทโต โอโรเปตฺวา เหฏฺาปาสาเท วสนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มฺจปีํ ปฺเปตฺวาปิ คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพํ. อุทฺธราเปตฺวา คมเนปิ เอเสว นโย. อาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺเตน ปน ‘‘ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ.

ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘ชาน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อนุฏฺาปนีโย ‘อย’นฺติ ชานนฺโต’’ติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ อาห ‘‘เตเนวสฺสา’’ติอาทิ. นนุ ปทภาชเนปิ วุฑฺฒภาวาทิชานนเมว วุตฺตํ, น ตุ อนุฏฺาปนียภาวนฺติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘วุฑฺโฒ หี’’ติอาทิ. พหูปการตนฺติ ‘‘ภณฺฑาคาริกตฺตาทิพหุอุปการภาวํ’’. น เกวลํ อิทเมวาติ อาห ‘‘คุณวิสิฏฺตฺจา’’ติอาทิ, เตน พหูปการตฺเตปิ คุณวิสิฏฺตฺตาภาเว, คุณวิสิฏฺตฺเตปิ พหูปการตฺตาภาเว ทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ‘‘ภณฺฑาคาริกสฺส พหูปการตํ, ธมฺมกถิกาทีนํ คุณวิสิฏฺตฺจ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๙-๑๒๑) เกจิ. ธุววาสตฺถายาติ นิจฺจวาสตฺถาย. สมฺมนฺนิตฺวาติ อปโลกเนน กมฺเมน สมฺมนฺนิตฺวา. กามฺเจตฺถ คิลานสฺสาปิ สงฺโฆเยว อนุจฺฉวิกํ เสนาสนํ เทติ, คิลาโน ปน อปโลเกตฺวา สงฺเฆน อทินฺนเสนาสโนปิ น ปีเฬตพฺโพ อนุกมฺปิตพฺโพติ ทสฺเสตุํ วิสุํ วุตฺโต.

สมนฺตา ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ มชฺเฌ ปฺตฺตํ มฺจปีํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอกปสฺเสน เจ ปโหนกทิสา ทิสฺสติ, ตโต คเหตพฺพํ. ปาทโธวนปาสาณโตติ ทฺวาเร นิกฺขิตฺตปาทโธวนปาสาณโต. นิสีทนฺตสฺส วา นิปชฺชนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ นิสีทนมตฺเตน, นิปชฺชนมตฺเตเนว วา ปาจิตฺติยํ. ปุนปฺปุนํ กโรนฺตสฺสาติ อุฏฺายุฏฺาย นิสีทโต วา นิปชฺชโต วา.

สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ติกทุกฺกฏํ ปน ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกอฺปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน. วิหารสฺส อุปจาเรติ ตสฺส พหิ อาสนฺนปฺปเทเส.

อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา

อเนกโกฏฺกานีติ อเนกทฺวารโกฏฺกานิ. ‘‘นิกฺขมาติ วจนํ สุตฺวา อตฺตโน รุจิยา เจ นิกฺขมติ, อนาปตฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๑๒๖) วทนฺติ.

ตสฺสปริกฺขารนิกฺกฑฺฒเนติ ตสฺส สนฺตกํ ยํ กิฺจิ ปตฺตจีวรปริสฺสาวนธมฺมกรณมฺจปีภิสิพิพฺโพหนาทิเภทํ อนฺตมโส รชนฉลฺลิปิ อตฺถิ, ตสฺส ปริกฺขารสฺส นิกฺกฑฺฒเน. ตฺจาติ ทุกฺกฏํ ปรามสติ. นิกฺกฑฺฒาปเนปิ เอเสว นโย. คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺติ.

ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติ. โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ภินฺเทยฺย. อลชฺชิอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา. สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘สกลสงฺฆารามโตปี’’ติอาทิ.

นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา

อุปริเวหาสกุฏิยาติ อุปริมตเล อสนฺถตปทราย กุฏิยา. เตนาห ‘‘อุปริ อจฺฉนฺนตลายา’’ติอาทิ. ยา หิ กาจิ อุปริ อจฺฉนฺนตลา ทฺวิภูมิกกุฏิกา วา ติภูมิกาทิกุฏิกา วา, สา ‘‘เวหาสกุฏี’’ติ วุจฺจติ. อิทฺหิ เวหาสกุฏิลกฺขณํ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปทภาชเน ‘‘มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อสีสฆฏฺฏา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๑) วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปทภาชเน ปนา’’ติอาทิ. อิธ อธิปฺเปตํ กุฏึ ทสฺเสตุนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อธิปฺเปตํ เวหาสกุฏึ ทสฺเสตุํ. มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺสาติ ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส. สพฺพเหฏฺิมาหิ ตุลาหิ สีสํ น ฆฏฺเฏตีติ อสีสฆฏฺฏา. องฺเค วิชฺฌิตฺวาติ อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา. ปเวสิตปาทกนฺติ ปเวสิตปาทสิขํ. ตสฺมาติ ‘‘ภูมตฺเถ วา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. ยสฺมา อาหจฺจปาทกาทีสุ ยถาวุตฺโต อตฺโถ โหติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.

สหสาติ อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา. อเวหาสกุฏิกายาติ ภูมิยํ กตปณฺณสาลาทีสุ, ตตฺถ อนาปตฺติ. น หิ สกฺกา ตตฺถ ปรสฺส ปีฬา กาตุํ. สีสฆฏฺฏายาติ ยา สีสํ ฆฏฺฏา โหติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ. น หิ สกฺกา ตตฺถ เหฏฺาปาสาเท อโนณเตน วิจริตุํ, ตสฺมา อสฺจรณฏฺานตฺตา ปรปีฬา น ภวิสฺสติ. อุปริตลํ วา ปทรสฺจิตนฺติ อุปริมตลํ ทารุผลเกหิ ฆนสนฺถตํ. กิฺจิ คณฺหาติ วาติ อุปริ นาคทนฺตกาทีสุ ลคฺคิตํ จีวราทึ ยํ กิฺจิ คณฺหาติ วา. ลคฺคติ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฏิปกฺขภูตา อาณิ ปฏาณิ. ยสฺสา ทินฺนาย นิสีทนฺเตปิ ปาทา น นิปตนฺติ, เอวํภูตา อาณิ มฺจปีานํ ปาทสิขาสุ ทินฺนา โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปาทสีสาน’’นฺติอาทิ.

เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา

ปิฏฺสงฺฆาฏสฺสาติ ทฺวารพนฺธสฺส. สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ปเทโสติ ยสฺส (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕) เวมชฺเฌ ทฺวารํ โหติ, อุปริภาเค จ อุจฺจา ภิตฺติ, ตสฺส ตีสุ ทิสาสุ สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ปเทโส. ขุทฺทกสฺส ปน วิหารสฺส ทฺวีสุ ทิสาสุ. ตตฺราปิ ยํ ภิตฺตึ วิวริยมานํ กวาฏํ อาหนติ, สา อปริปุณฺณูปจาราปิ โหติ. สเจ ปน ทฺวารสฺส อโธภาเคปิ เลโปกาโส อตฺถิ, ตมฺปิ ลิมฺปิตุํ วฏฺฏติ. อคฺคฬฏฺปนายาติ เอตฺถ อคฺคฬสทฺเทน ตํสมฺพนฺธโต ทฺวารผลกสหิตํ ทฺวารพนฺธนํ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘สกวาฏกสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘นิจฺจลภาวตฺถายา’’ติ อิมินา ตฺจ โข ปนํ อิธ นิจฺจลภาเวนาติ ทสฺเสติ. โก ปเนตฺถ อธิปฺปาโยติ อาห ‘‘กวาฏฺหี’’ติอาทิ. กมฺปตีติ จลติ. ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ อคฺคฬฏฺปนตฺถาย ยาว ทฺวารโกสา ปุนปฺปุนํ อตฺตนา ลิมฺปิตพฺโพ วา, ปเรหิ เลปาเปตพฺโพ วาติ อตฺโถ.

นนุ จายมตฺโถ เนว มาติกายํ, น ปทภาชเน วุตฺโต, อถ กุโต ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. กิฺจาปีติ ยทิปิ. อฏฺุปฺปตฺติยนฺติ สิกฺขาปทสฺส นิทาเน. อธิการโตติ อนุวตฺตนโต. อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิ. เตนาห ‘‘อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺตี’’ติ. ตตฺถ วาตปานกวาฏกาติ วาตปานผลกา. อนุฺาตปฺปเทสโต ปน อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ วิลิมฺปิตุํ วา วิลิมฺปาเปตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มตฺติกาย กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทินฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๓๕) เกจิ. ‘‘ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อฺตฺถ ปฏิกฺขิตฺตมตฺตํ เปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏ’’นฺติ อปเร.

อธิฏฺาตพฺพนฺติ สํวิธาตพฺพํ. อปฺปหริเตติ เอตฺถ อปฺปสทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๒, ๓๓๖; สํ. นิ. ๒.๑๔๘) วิย อภาวตฺโถติ อาห ‘‘อหริเต’’ติ. สาลิวีหิอาทิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๐) ปุพฺพณฺณํ ‘‘ปุรกฺขตํ สสฺสผล’’นฺติ กตฺวา, ตพฺพิปริยายโต มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณํ. วุตฺตนฺติ วปิตํ. ‘‘ตสฺมึ ตฺวา อธิฏฺหนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ อิมินา ยสฺมึ ปเทเส สมนฺตา วุตฺตปฺปมาเณ ปริจฺเฉเท ปุพฺพณฺณาทีนิ น สนฺติ, ตตฺถ วิหาโร กาเรตพฺโพ. ยตฺถ ปน สนฺติ, ตตฺถ การาเปตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ตเถวาติ มุขวฏฺฏิอนฺเตน. ตสฺมึ าตพฺพํ ปตนฺตสฺส วิหารสฺส อปตโนกาสตฺตา, ตสฺส ภิกฺขุโน อุปริ น ปเตยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยถาปริจฺฉินฺนสฺส ปน โอกาสสฺส อพฺภนฺตรํ วิหารสฺส ปตนฺตสฺส โอกาโส โหตีติ อปฺปหริเตปิ ตสฺมึ ตฺวา อธิฏฺาตุํ น ลภติ. เตนาห ‘‘ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ าตุํ น ลภตี’’ติ.

ตโต เจ อุตฺตรีติ ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปริ จตุตฺเถ มคฺเค วา ปริยาเย วาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มคฺเคน ฉาทิยมาเน’’ติอาทิ. ตตฺถ มคฺเคน ฉาทิยมาเนติ อปริกฺขิปิตฺวา อุชุกเมว ฉาทิยมาเน. ปริยาเยนาติ ปริกฺเขเปน. ตตฺถ มคฺเคน ฉาทนํ อิฏฺกสิลาสุธาหิ ลพฺภติ, ปริยาเยน ฉาทนํ ติณปณฺเณหีติ อาห ‘‘อิฏฺกสิลาสุธาหี’’ติอาทิ. ตสฺมา ยถา อิจฺฉติ, ตถา ทฺเว มคฺเค วา ทฺเว ปริยาเย วา อธิฏฺหิตฺวา ตติยํ มคฺคํ วา ปริยายํ วา ‘‘เอวํ ฉาเทหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ น ปกฺกมติ, ตุณฺหีภาเวน าตพฺพํ. สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพํ. อุปรูปริฉนฺโน หิ วิหาโร จิรํ อโนวสฺสโก โหตีติ มฺมานา เอวํ ฉาเทนฺติ. ติณมุฏฺิคณนายาติ ติณกรฬคณนาย.

ติกปาจิตฺติยนฺติ อติเรกทฺวตฺติปริยาเย อติเรกสฺิเวมติกอูนกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. เสตวณฺณาทิกรเณติ เสตวณฺณกาฬวณฺณเครุกปริกมฺมมาลากมฺมลตากมฺมมกรทนฺตกปฺจปฏิกานํ กรเณ. เลณคุหาติณกุฏิกาทีสูติ เอตฺถ เลณนฺติ ทฺวารพทฺธํ. คุหาติ เกวลา ปพฺพตคุหา. ติณกุฏิกา ปากฏา เอว.

มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

เอกสฺมึ ฆเฏ เอกาว อาปตฺตีติ เอกสฺมึ อุทกฆเฏ เอกาว อาปตฺติ. เอส นโย สพฺพภาชเนสุ . วิจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ ธารํ วิจฺฉินฺทนฺตสฺส. เอเกกํ ปกฺขิปนฺตสฺสาติ เอเกกํ ติณํ วา ปณฺณํ วา มตฺติกํ วา อฺํ วา กฏฺโคมยาทึ ปกฺขิปนฺตสฺส. ปริยาทานนฺติ ขยํ.

‘‘ปทีเป (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๔๐) ปติตฺวา ปฏงฺคาทิปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺตสฺสาปิ กุสลจิตฺเตน ปทีปุชฺชลนํ วิย ‘‘สิฺจเนน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ปุพฺพภาเค ชานนฺตสฺสาปิ ‘‘อิทํ ชลํ สิฺจามี’’ติ สิฺจนฺตสฺส วธกจิตฺตํ น โหตีติ อาห ‘‘วินา วธกเจตนายา’’ติอาทิ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปณฺณตฺติวชฺช’’นฺติ อิทมฺปิ สมตฺถิตํ โหติ. ติจิตฺตนฺติ กุสลากุสลาพฺยากตวเสน ติจิตฺตํ. ตถา หิ ปณฺณตฺตึ มทฺทิตฺวา สิฺจนฺตสฺส วา สิฺจาเปนฺตสฺส วา อกุสลจิตฺเตน โหติ, ‘‘อาสนํ โธวิสฺสามี’’ติ จิตฺเตน โธวนตฺถํ สิฺจนฺตสฺส วา สิฺจาเปนฺตสฺส วา กุสลจิตฺเตน โหติ, ปณฺณตฺตึ อชานตา อรหตา สิฺจนาทิกรเณ อพฺยากตจิตฺเตน โหตีติ กุสลากุสลาพฺยากตจิตฺตวเสน ติจิตฺตํ โหติ.

สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภูตคามวคฺโค ทุติโย.

๓. โอวาทวคฺโค

๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺสาติ ‘‘สีลวา โหตี’’ติอาทีหิ (ปาจิ. ๑๔๗) อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส. อนุฺาตาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส นิทาเน อนุฺาตา . ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนายา’’ติอาทิ วกฺขมานอฏฺครุธมฺมทสฺสนํ. ตตฺถ สามีจิกมฺมนฺติ มคฺคสมฺปทานพีชนปานียาปุจฺฉนาทิกํ อนุจฺฉวิกํ วตฺตํ. อาทิสทฺเทน –

‘‘น ภิกฺขุนิยา อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ วสิตพฺพํ, อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา อุโปสถปุจฺฉกฺจ โอวาทูปสงฺกมนฺจ, วสฺสํวุฏฺาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตพฺพํ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพํ, ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา ปริเยสิตพฺพา, น ภิกฺขุนิยา เกนจิ ปริยาเยน ภิกฺขุ อกฺโกสิตพฺโพ ปริภาสิตพฺโพ, อชฺชตคฺเค โอวโฏ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถ, อโนวโฏ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีสุ วจนปโถ’’ติ (จูฬว. ๔๐๓; อ. นิ. ๘.๕๑) –

อิเม สตฺต ธมฺเม สงฺคณฺหาติ. ครุธมฺเมติ ครุเก ธมฺเม. เต หิ คารวํ กตฺวา ภิกฺขุนีหิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ครุธมฺมา’’ติ วุจฺจนฺติ.

อฺเน วา ธมฺเมนาติ เปตฺวา อฏฺ ครุธมฺเม อฺเน เยน เกนจิ ธมฺเมน. ภิกฺขุนีสุ อุปสมฺปนฺนมตฺตํ วา โอวทโตติ ภิกฺขุนีสุ อุปสมฺปนฺนมตฺตํ ครุธมฺเมน โอวทโต วา. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ยถาวตฺถุกเมว. ‘‘อธมฺมกมฺเม’’ติอาทีสุ ภิกฺขุโนวาทสมฺมุติกมฺมํ ‘‘กมฺม’’นฺติ เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สมฺมตสฺสาปี’’ติอาทิ. วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต ติกปาจิตฺติยนฺติ วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต วคฺคสฺิเวมติกสมคฺคสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. ตถา เวมติกสฺส จาติ อธมฺมกมฺเม เวมติกสฺส จ วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต ติกปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. เอส นโย ธมฺมกมฺมสฺิโน จาติ เอตฺถาปิ. ยถา จ วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต นว ปาจิตฺติยานิ, เอวํ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺิโน สมคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต ตสฺมึ สงฺเฆ วคฺคสฺิเวมติกสมคฺคสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ, ตถา เวมติกสฺส จ ธมฺมกมฺมสฺิโน จาติ นว ปาจิตฺติยานิ. เตนาห ‘‘สมคฺเคปิ ภิกฺขุนิสงฺเฆ นวา’’ติอาทิ. ธมฺมกมฺเม ปน อธมฺมกมฺมสฺิโน วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ โอวทโต ติกทุกฺกฏํ, ตถา เวมติกสฺส, ธมฺมกมฺมสฺิโน จาติ นว ทุกฺกฏานิ. สมคฺคํ ปน ภิกฺขุนิสงฺฆํ โอวทโต อฏฺาติ สตฺตรส ทุกฺกฏานิ. เตนาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. อฺํ ธมฺมนฺติ อฺํ สุตฺตนฺตํ วา อภิธมฺมํ วา. ‘‘สมคฺคามฺหายฺยา’’ติ วจเนน หิ โอวาทํ ปจฺจาสีสนฺติ. ตสฺมา เปตฺวา โอวาทํ อฺํ ธมฺมํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอวาทฺจ อนิยฺยาเตตฺวาติ ‘‘เอโส ภคินิ โอวาโท’’ติ อวตฺวา. ปริปุจฺฉํ เทตีติ ตสฺสาเยว ปคุณาย ครุธมฺมปาฬิยา อตฺถํ ภณติ. โอสาเรหีติ อุจฺจาเรหิ, กเถหีติ อตฺโถ. โอสาเรตีติ อฏฺครุธมฺมปาฬึ วทติ. ปฺหํ ปุฏฺโติ ครุธมฺมนิสฺสิตํ วา ขนฺธาทินิสฺสิตํ วา ปฺหํ ภิกฺขุนิยา ปุฏฺโ.

โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา

เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนมตฺตํ. อิโต ปรมฺปิ จ ยตฺถ ยตฺถ ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺน’’นฺติ วุจฺจติ, สพฺพตฺถ อยเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา

สํวาสายาติ อุโปสถาทิอตฺถํ. อิตรนฺติ อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ.

ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา

ตณฺหาทิฏฺีหิ อามสิตพฺพโต อามิสํ, จีวราทิ, อามิสเมว เหตุ อามิสเหตุ. เตนาห ‘‘จีวราทีนํ อฺตรเหตู’’ติ. อาทิสทฺเทน ปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนานํ คหณํ. อวณฺณกามตายาติ อยสกามตาเยว.

ธมฺมกมฺเมติอาทีสุ ภิกฺขุโนวาทสมฺมุติกมฺมํ ‘‘กมฺม’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ติกปาจิตฺติยนฺติ ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. ตเถว อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ. อสมฺมตนฺติ สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ภารํ กตฺวา ปิตํ อุปสมฺปนฺนํ. นนุ โอวาทสมฺมุติ อุปสมฺปนฺนสฺเสว ทียติ, น สามเณรสฺสาติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ปิโต ปน พหุสฺสุโต สามเณโร ‘‘อสมฺมโต’’ติ เวทิตพฺโพ. ปกติยา จีวราทิเหตุ โอวทนฺตํ ปน เอวํ ภณนฺตสฺสาติ ปกติยา จีวราทิเหตุ โอวทนฺตํ ‘‘เอส จีวราทิเหตุ โอวทตี’’ติ สฺาย เอวํ ภณนฺตสฺส. ‘‘น จีวราทิเหตุ โอวทตี’’ติ สฺาย ปน เอวํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อนามิสนฺตรตาติ อามิสจิตฺตาภาโว, ‘‘อามิสเหตุ โอวทิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺตอชฺฌาสยาภาโวติ อตฺโถ. จิตฺตปริยาโย เหตฺถ อนฺตรสทฺโท ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) วิย.

อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา

ปฺจมสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา

สูจึ ปเวเสตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรเณติ อาราปเถ อาราปเถ ปาจิตฺติยํ. ‘‘สิพฺพิสฺสามี’’ติ ปน วิจาเรนฺตสฺส, ฉินฺทนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. สตกฺขตฺตุมฺปิ วิชฺฌิตฺวา สกึ นีหรนฺตสฺสาติ สกลสูจึ อนีหรนฺโต ทีฆสุตฺตปฺปเวสนตฺถํ สตกฺขตฺตุมฺปิ วิชฺฌิตฺวา สกึ นีหรนฺตสฺส. ‘‘สิพฺพา’’ติ วุตฺโตติ สกึ ‘‘จีวรํ สิพฺพา’’ติ วุตฺโต. นิฏฺาเปตีติ สพฺพํ สูจิกมฺมํ ปริโยสาเปติ. ตสฺส อาราปเถ อาราปเถ ปาจิตฺติยนฺติ อาณตฺตสฺส สูจึ ปเวเสตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรเณ เอกเมกํ ปาจิตฺติยํ.

อุทายิตฺเถรนฺติ ลาฬุทายิตฺเถรํ. วุตฺตลกฺขณํ สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วาติ ‘‘สูจึ ปเวเสตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตลกฺขณํ สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วา.

จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

สํวิทหิตฺวาติ ‘‘เอหิ, อสุกคามํ คจฺฉามา’’ติ วา ‘‘สฺเว อหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วา วตฺวา. ตฺจ โข สํวิทหนํ อตฺถโต สงฺเกตกมฺมนฺติ อาห ‘‘คมนกาเล สงฺเกตํ กตฺวาติ อตฺโถ’’ติ. อกปฺปิยภูมิยํ สํวิทหนฺตสฺสาติ อนฺโตคาเม, ภิกฺขุนิอุปสฺสยทฺวาเร, รถิกาย, อฺเสุ วา จตุกฺกสิงฺฆาฏกหตฺถิสาลาทีสุ ตฺวา สํวิทหนฺตสฺส. เตนาห ‘‘ตตฺถ เปตฺวา’’ติอาทิ. อาสนฺนสฺสาปีติ อจฺจาสนฺนสฺสาปิ, รตนมตฺตนฺตรสฺสาปีติ อธิปฺปาโย. อฺสฺส คามสฺสาติ ยโต นิกฺขมติ, ตโต อฺสฺส คามสฺส. ตํ โอกฺกมนฺตสฺสาติ ตํ อนฺตรคามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส. สเจ ทูรํ คนฺตุกาโม โหติ, คามูปจารคณนาย โอกฺกมนฺเต โอกฺกมนฺเต ปุริมนเยเนว อาปตฺติ. เตนาห ‘‘อิติ คามูปจาโรกฺกมนคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ. ตสฺส ตสฺส ปน คามสฺส อติกฺกมเน อนาปตฺติ. คาเม อสตีติ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาเม อสติ. ตสฺมึ ปน คาเม สติ คามนฺตรคณนาเยว ปาจิตฺติยานิ. อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน ปาจิตฺติยํ, เอกเมกํ อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส ‘‘อิทานิ อติกฺกมิสฺสามี’’ติ ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิฺหิ นเย อติกฺกมเน อาปตฺติ, โอกฺกมเน อนาปตฺติ.

วิสงฺเกเตนาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕) เอตฺถ ‘‘ปุเรภตฺตํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ คจฺฉนฺติ, ‘‘อชฺช วา คมิสฺสามา’’ติ สฺเว คจฺฉนฺติ, เอวํ กาลวิสงฺเกเตเยว อนาปตฺติ. ทฺวารวิสงฺเกเต, ปน มคฺควิสงฺเกเต, วา สติปิ อาปตฺติเยว. อาปทาสูติ รฏฺเภเท จกฺกสมารุฬฺหา ชานปทา ปริยายนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. จกฺกสมารุฬฺหาติ จ อิริยาปถจกฺกํ วา สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหาติ อตฺโถ. มาตุคามสิกฺขาปเทนาติ (ปาจิ. ๔๑๓ อาทโย) สปฺปาณกวคฺเค สตฺตมสิกฺขาปเทน.

สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา

กีฬาปุเรกฺขาโรติ โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร. ตเถวาติ กีฬาวเสเนว. อคามกตีรปสฺเสนาติ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คามานํ อภาวโต อคามกตีรปสฺเสน. ปาฬิยํ ‘‘อุทฺธํคามินึ วา อโธคามินึ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๖) วจนโต ปน วาปิสมุทฺทาทีสุ กีฬาปุเรกฺขารตายปิ คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. เตนาห ‘‘สมุทฺเท ปน ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. วิสงฺเกเตนาติ อิธาปิ กาลวิสงฺเกเตเนว อนาปตฺติ, ติตฺถวิสงฺเกเตน, ปน นาวาวิสงฺเกเตน วา คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติเยว.

เสสนฺติ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหิ อวเสสํ, เกจิ ปน ‘‘กีฬาปุเรกฺขาโร ‘สํวิทหิตฺวา’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๘๘) วจนโต อิมํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺชํ, ตสฺมา เสสํ นาม เปตฺวา ‘ปณฺณตฺติวชฺชํ ติจิตฺต’นฺติ อิทํ ทฺวยํ อวเสส’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กีฬาปุเรกฺขารตาย หิ อภิรุหิตฺวาปิ คามนฺตโรกฺกมเน, อทฺธโยชนาติกฺกเม วา สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกเรยฺย, นิทฺทํ วา โอกฺกเมยฺย, กมฺมฏฺานํ วา มนสิ กโรนฺโต คจฺเฉยฺย, กุโต จสฺส อกุสลจิตฺตสมงฺคิตา, เยนิทํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ, โลกวชฺชฺจ สิยาติ.

นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา

ปริปาจิตนฺติ ปริปากมาปาทิตํ, ยถา ลภติ, ตถา กตฺวา ปิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘เนว ตสฺสา’’ติอาทิ ตสฺสาติ โย ปริภุฺเชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน. ภิกฺขุสฺส คุณํ ปกาเสตฺวาติ ‘‘อยฺโย ภาณโก, อยฺโย พหุสฺสุโต’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๙๕) คุณํ ปกาเสตฺวา . ปิณฺฑปาตนฺติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ. กมฺมสาธโนยํ สมารมฺภสทฺโทติ อาห ‘‘สมารทฺธ’’นฺติ. ปฏิยาทิตสฺสาติ สมฺปาทิตสฺส. ยสฺมา าตกปฺปวาริเตหิ ภิกฺขุสฺส อตฺถาย อสมารทฺโธปิ ปิณฺฑปาโต อตฺถโต สมารทฺโธว โหติ ยถาสุขํ หราเปตพฺพโต, ตสฺมา ‘‘าตกปฺปวาริตานํ วา สนฺตก’’นฺติ วุตฺตํ.

อุภยตฺถาติ ปริปาจิตาปริปาจิเตสุ. อวเสเสติ ภิกฺขุนิปริปาจิเตปิ ยาคุขชฺชกผลาผลาทิเก สพฺพตฺถ. นิมิตฺโตภาสปริกถาวิฺตฺติวเสน ปน อวเสเสปิ ทุกฺกฏโต น มุจฺจติ.

ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

อุปรีติ อเจลกวคฺเค. อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทนาติ อปฺปฏิจฺฉนฺเน มาตุคาเมน สทฺธึ รโหนิสชฺชสิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๒๘๔ อาทโย). ตฺหิ อุปนนฺทตฺเถรํ อารพฺภ ปฺตฺเตสุ จตุตฺถภาวโต ‘‘อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปท’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอกปริจฺเฉทํ, อถ กสฺมา วิสุํ ปฺตฺตนฺติ อาห ‘‘อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน วิสุํ ปฺตฺต’’นฺติ. ตตฺถ อฏฺุปฺปตฺติวเสนาติ อตฺถสฺส อุปฺปตฺติวเสน, ภิกฺขุนิยา เอว รโหนิสชฺชาย อุปฺปตฺติวเสนาติ อตฺโถ. อยํ เหตฺถาธิปฺปาโย – จตุตฺถสิกฺขาปทวตฺถุโต อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุโน ปมํ อุปฺปนฺนตฺตา เอกปริจฺเฉเทปิ อิทํ ปมํ วิสุํ ปฺตฺตนฺติ.

รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

โอวาทวคฺโค ตติโย.

๔. โภชนวคฺโค

๑. อาวสถสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘อคิลาโน’’ติ เอตฺถ อนฺตมโส ทฺวิคาวุตํ คนฺตุํ สมตฺโถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุํ สมตฺเถนา’’ติ. อาวสถปิณฺโฑติ อาวสเถ ปิณฺโฑ, สาลาทีสุ อโนทิสฺส ยาวทตฺถํ ปฺตฺตํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อิเมสํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ อิเมสํ วาติ อิเมสํ ปาสณฺฑานํ วา. เอตฺตกานํ วาติ อิมสฺมึ ปาสณฺเฑ เอตฺตกานํ ปาสณฺฑานํ วา. ปาสณฺฑนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ สมณปริพฺพาชกาทึ. เต หิ ตณฺหาปาสฺเจว ทิฏฺิปาสฺจ เฑนฺติ โอฑฺเฑนฺตีติ ปาสณฺฑาติ วุจฺจนฺติ. อโนทิสฺสาติ อนุทฺทิสิตฺวา, อปริจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. สาลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจีติ สาลารุกฺขมูลอพฺโภกาสาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ าเนสุ. เอกทิวสเมว ภุฺชิตพฺโพติ เอกทิวสํ สกึเยว ภุฺชิตพฺโพ, เอกสฺมึ ทิวเส ปุนปฺปุนํ ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ทุติยทิวสโต ปฏฺายาติ ภุตฺตทิวสสฺส ทุติยทิวสโต ปฏฺาย. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยนฺติ อาโลเป อาโลเป กพเฬ กพเฬ ปาจิตฺติยํ. นานากุเลหิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๖) ปน นานาฏฺาเนสุ ปฺตฺตํ, เอกสฺมึ าเน เอกทิวสํ ภุฺชิตฺวา ทุติยทิวเส อฺตฺถ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปฏิปาฏึ ปน เขเปตฺวา ปุน อาทิโต ปฏฺาย ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. เอกปูคนานาปูคเอกคามนานาคาเมสุปิ เอเสว นโย. โยปิ เอกกุลสฺส วา นานากุลานํ วา เอกโต ปฺตฺโต ตณฺฑุลาทีนํ อภาเวน อนฺตรนฺตรา ฉิชฺชติ, โสปิ น ภุฺชิตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปุน กลฺยาณจิตฺเต อุปฺปนฺเน ทาตุํ อารภนฺติ, เอตํ ปุน เอกทิวสํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ติกปาจิตฺติยนฺติ อคิลาเน อคิลานสฺิเวมติกคิลานสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. คิลานสฺส คิลานสฺิโนติ คิลานสฺส ปน ‘‘คิลาโน อห’’นฺติ สฺิโน อนุวสิตฺวา ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. สกึ ภุฺชตีติ เอกทิวสํ ภุฺชติ. ‘‘คจฺฉนฺโต วา’’ติ อิทํ อทฺธโยชนวเสน คเหตพฺพํ, ตถา ‘‘ปจฺจาคจฺฉนฺโต’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๒๐๘) อิทมฺปีติ วทนฺติ. เกนจิ อุปทฺทเวนาติ นทิปูรโจรภยาทินา เกนจิ อุปทฺทเวน. อฺนฺติ ยาคุขชฺชกผลาผลาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อฺํ. อนุวสิตฺวาติ ปุน วสิตฺวา.

อาวสถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

คณโภชเนติ คเณน ลทฺธตฺตา คณสฺส สนฺตเก โภชเน. เตนาห ‘‘คณสฺส โภชเน’’ติ. นนุ เจตฺถ ‘‘คณสฺส โภชเน’’ติ วุจฺจติ, โส จ โข คโณ ‘‘กตฺถจิ ทฺวีหิ, กตฺถจิ ตีหี’’ติอาทินา อเนกธา อธิปฺเปโต, อิธ กติหีติ อาห ‘‘อิธ จา’’ติอาทิ. ตํ ปเนตํ คณโภชนํ ทฺวีหิ ปกาเรหิ ปสวติ นิมนฺตนโต วา วิฺตฺติโต วาติ อาห ‘‘เตสํ นิมนฺตนโต วา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิมนฺตนโต วาติ อกปฺปิยนิมนฺตนโต วา. โอทนาทีนํ ปฺจนฺนนฺติ โอทนสตฺตุกุมฺมาสมจฺฉมํสานํ ปฺจนฺนํ.

‘‘โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถา’’ติอาทินา นเยน เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตีติ สมฺพนฺโธ. จตฺตาโรติ เอกฏฺาเน วา นานาฏฺาเนสุ วา ิเต จตฺตาโร ภิกฺขู. ลกฺขณวจนฺเจตํ, ตสฺมา จตฺตาโร วา ตโต วา อธิเก ภิกฺขูติ อตฺโถ. เววจเนน วาติ ภตฺตอนฺนาทิปริยายสทฺเทน วา. ภาสนฺตเรน วาติ อนฺธทมิฬาทิภาสนฺตเรน วา. ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา. โอทเนน นิมนฺเตมีติ ตุมฺเห ภนฺเต โอทเนน นิมนฺเตมิ. อาทิสทฺเทน ‘‘อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฏิมาเนถ, สตฺตุนา นิมนฺเตมิ, สตฺตุํ เม คณฺหถ อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฏิมาเนถา’’ติอาทีนํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) คหณํ. เอกโต วาติ เอกตฺถ ิเต วา นิสินฺเน วา ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โอทเนน นิมนฺเตมี’’ติอาทินา เอวํ เอกโต นิมนฺติตา. นานาโต วา นิมนฺติตาติ จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานาโต วา นิมนฺติตา. เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน, เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นิมนฺติตา นานาโตเยว นิมนฺติตา นาม โหนฺติ. เอกโต คณฺหนฺติติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถูปจาเร ิตา คณฺหนฺติ.

กสฺมา ปน นานาโต ภุตฺเตปิ คณโภชนํ โหตีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณ’’นฺติ. ยทิ เอวํ อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘คณโภชนํ นาม ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา ภุฺชนฺติ, เอตํ คณโภชนํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๑๘) วุตฺตํ? ตํ ปฏิคฺคหณนิยมนตฺถเมว . น หิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ ภิกฺขู ภุฺชนฺตีติ ‘‘ภุฺชนฺตี’’ติ ปทํ ปฏิคฺคหณนิยมวจนํ โหติ. เอกโต วา นานาโต วา วิฺาเปตฺวาติ จตฺตาโร ภิกฺขู เอกโต ิตา วา นิสินฺนา วา อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา ปาเฏกฺกํ ปวิสิตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตํ เทหิ, มยฺหํ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา เอกโต วา นานาโต วา วิฺาเปตฺวา. ตสฺส ทุวิธสฺสาปีติ ยฺจ นิมนฺตนโต ลทฺธํ คณโภชนํ, ยฺจ วิฺตฺติโต ลทฺธํ, ตสฺส ทุวิธสฺสาปิ คณโภชนสฺส. เอวํ ปฏิคฺคหเณติ เอกโต ปฏิคฺคหเณ.

ปาทานมฺปิ ผลิตตฺตาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) อนฺตมโส ปาทานมฺปิ ยถา มหาจมฺมสฺส ปรโต มํสํ ทิสฺสติ, เอวํ ผลิตตฺตา. น สกฺกา ปิณฺฑาย จริตุนฺติ วาลิกาย วา สกฺขราย วา ผุฏฺมตฺเต ทุกฺขุปฺปตฺติโต อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ น สกฺโกติ. จีวเร กริยมาเนติ สาฏกฺจ สุตฺตฺจ ลภิตฺวา จีวเร กริยมาเน. ยํ กิฺจิ จีวเร กตฺตพฺพกมฺมนฺติ จีวรวิจารณฉินฺทนโมฆสุตฺตาโรปนาทิ ยํ กิฺจิ จีวเร กตฺตพฺพํ กมฺมํ, อนฺตมโส สูจิเวธนมฺปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อทฺธโยชนมฺปี’’ติอาทิ อวกํสโต วุตฺตํ. โย ปน ทูรํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, คจฺฉนฺโต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาวุเตปิ ภุฺชิตุํ ลภติ, คโต ปน เอกทิวสํ. ยทา นาวํ อภิรุหิตุกาโม วา โหติ อารุฬฺโห วา โอรุฬฺโห วา, อยํ นาวาภิรุหนสมโย นามาติ อาห ‘‘นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย’’ติ. อยํ ปน วิเสโส – อภิรุฬฺเหน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวาปิ ยาว น โอโรหติ, ตาว ภุฺชิตพฺพํ. จตฺตาโร ภิกฺขูติ อนฺติมปริจฺเฉโท. ยตฺถ ปน สตํ วา สหสฺสํ วา สนฺนิปติตํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา ตาทิเส กาเล ‘‘มหาสมโย’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. โย โกจิ ปพฺพชิโตติ สหธมฺมิเกสุ วา ติตฺถิเยสุ วา อฺตโร.

เย จ ทฺเว ตโย เอกโต คณฺหนฺตีติ เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา ทฺเว วา ตโย วา เอกโต คณฺหนฺติ, เตสมฺปิ อนาปตฺติ. ปณีตโภชนสูโปทนวิฺตฺตีหิ ปน อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตพฺพํ. นิจฺจภตฺตาทีสูติ นิจฺจภตฺเต สลากภตฺเต ปกฺขิเก อุโปสถิเก ปาฏิปทิเก. ตตฺถ นิจฺจภตฺตนฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ. ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ , พหูนมฺปิ เอกโต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.

คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

คณโภชเน วุตฺตนเยเนวาติ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) นเยน เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตีติ วุตฺเตเนว นเยน . นิมนฺติตสฺสาติ อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติตสฺส. อวิกปฺเปตฺวาติ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน อวิกปฺเปตฺวา, อปริจฺจชิตฺวาติ อตฺโถ. อยฺหิ ภตฺตวิกปฺปนา นาม สมฺมุขาปรมฺมุขาปิ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสู’’ติอาทิ.

อฺตฺร นิมนฺตนโภชนวตฺถุสฺมินฺติ อฺตฺร ปมํ นิมนฺติตา หุตฺวา อฺสฺมึ นิมนฺตเน ภุฺชนวตฺถุสฺมึ. ยทิ ติวิธา อนุปฺตฺติ, อถ กสฺมา ปริวาเร ‘‘จตสฺโส อนุปฺตฺติโย’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปริวาเร ปนา’’ติอาทิ. วิกปฺปนมฺปิ คเหตฺวาติ วิกปฺปนานุชานนมฺปิ อนุปฺตฺติสมานนฺติ อนุปฺตฺติภาเวน คเหตฺวา. เอกสํสฏฺานีติ เอกสฺมึ มิสฺสิตานิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙) – ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติ. สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฏฺา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฏฺาย ภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ. หตฺถํ ปน อนฺโต ปเวเสตฺวา ปมนิมนฺตนโต เอกมฺปิ กพฬํ อุทฺธริตฺวา ภุตฺตกาลโต ปฏฺาย ยถา ตถา วา ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกโต วา กตฺวา ภุฺชตีติ ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกโต ปกฺขิปิตฺวา มิสฺเสตฺวา เอกํ กตฺวา ภุฺชตีติ อตฺโถ. ‘‘สกเลน คาเมน วา’’ติอาทีสุ สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺเสว ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย. นิมนฺติยมาโน วา ‘‘ภิกฺขํ คเหสฺสามี’’ติ วทตีติ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ นิมนฺติยมาโน ‘‘น มยฺหํ ตว ภตฺเตน อตฺโถ, ภิกฺขํ คเหสฺสามี’’ติ ภณติ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ โภชนํ กิริยํ, อวิกปฺปนํ อกิริยํ.

ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา

ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย. ปาเถยฺยตฺถายาติ มคฺคํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺคตฺถาย. สตฺตูติ พทฺธสตฺตุ, อพทฺธสตฺตุ จ. ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคเหตฺวาติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาย สมํ ปูเร ทฺวตฺติปตฺตปูเร คเหตฺวาติ อตฺโถ. อิมสฺส จตฺถสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปากฏตฺตา ตตฺถ กตฺตพฺพปฺปการเมว ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิมาห. เสสนฺติ ตโต เอกปตฺตโต อฺํ ปตฺตํ. สเจ ตโย ปตฺตปูรา คหิตา ทฺเว, สเจ ทฺเว คหิตา, เอกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

คมเนวา ปฏิปฺปสฺสทฺเธติ อนฺตรามคฺเค อุปทฺทวํ ทิสฺวา, อนตฺถิกตาย วา ‘‘มยํ อิทานิ น เปสิสฺสาม น คมิสฺสามา’’ติ เอวํ คมเน อุปจฺฉินฺเน เทนฺตานนฺติ อตฺโถ.

กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา

ภุตฺตวาติ กตภตฺตกิจฺโจ. สาสปมตฺตมฺปิ อชฺโฌหริตนฺติ เอวํ ปริตฺตมฺปิ โภชนํ สงฺขาทิตฺวา วา อสงฺขาทิตฺวา วา คิลิตํ. ปวาริโตติ ปฏิกฺเขปิโต. โย หิ ภุฺชนฺโต ปริเวสเกน อุปนีตํ โภชนํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ, โส เตน ปวาริโต ปฏิกฺขิปิโต นาม โหติ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘กตปฺปวารโณ กตปฺปฏิกฺเขโปติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. โสปิ จ ปฏิกฺเขโป ยสฺมา น ปฏิกฺเขปมตฺเตน, อถ โข ปฺจงฺควเสน. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อสนํ ปฺายตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ.

โภชนํปฺายตีติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ปตฺตาทีสุ ทิสฺสติ. เตนาห ‘‘ปวารณปฺปโหนกํ เจ โภชน’’นฺติอาทิ. สาลีติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อนฺตมโส นีวารํ อุปาทาย สพฺพาปิ สาลิชาติ. วีหีติ สพฺพาปิ วีหิชาติ. ยวโคธุเมสุ เภโท นตฺถิ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติ. วรโกติ อนฺตมโส วรกโจรกํ อุปาทาย สพฺพาปิ เสตวณฺณา วรกชาติ. กุทฺรูสโกติ กาฬโกทฺรโว เจว สามากาทิเภทา จ สพฺพาปิ ติณธฺชาติ.

นีวารวรกโจรกา เจตฺถ ‘‘ธฺานุโลมา’’ติ วทนฺติ. ยาคุนฺติ อมฺพิลยาคุขีรยาคุอาทิเภทํ ยํ กิฺจิ ยาคุํ. อิมินาว ปายาสสฺสาปิ คหิตตฺตา ‘‘อมฺพิลปายาสาทีสุ อฺตรํ ปจามาติ วา’’ติ น วุตฺตํ. ปวารณํ ชเนตีติ อนติริตฺตโภชนาปตฺตินิพนฺธนํ ปฏิกฺเขปํ สาเธติ. สเจ ปน โอธิ น ปฺายติ, ยาคุสงฺคหํ คจฺฉติ, ปวารณํ น ชเนติ. ปุน ปวารณํ ชเนติ ฆนภาวคมนโต ปฏฺาย โภชนสงฺคหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวาติ อุทกฺเจว กฺชิกฺจ ขีราทีนิ จ อากิริตฺวา เตหิ สทฺธึ อมทฺทิตฺวา ภตฺตมิสฺสเก กตฺวา. เตนาห ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติอาทิ. สเจ ปน ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา มทฺทิตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ, ปวารณา น โหติ. ยาคุยาปีติ เอวํ ยาคุสงฺคหํ คตาย วา อฺาย วา ยาคุยาปิ. สุทฺธรสโก, ปน รสกยาคุ วา น ชเนติ.

ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรวเสน วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ…เป… น ปวาเรตี’’ติ วุตฺตํ. อกปฺปิยมํสํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙), อกปฺปิยโภชนฺจ พุทฺธปฏิกุฏฺํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาย อวตฺถุตาย น ปวารณา โหตีติ อาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ. ยฺหิ ภิกฺขุโน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, ตํ เอว ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. อิทํ ปน ชานนฺโต อกปฺปิยตฺตา ปฏิกฺขิปติ. อชานนฺโตปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นาม, ตสฺมา น ปวาเรติ. สเจ ปน อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ วา โภชนํ วา ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กสฺมา? วตฺถุตาย. ยฺหิ เตน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ปวารณาย วตฺถุ. ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหติ, ตสฺมา ปวาเรติ. โก ปน วาโท กปฺปิยมํสํ ขาทโต กปฺปิยมํสโภชนปฺปฏิกฺเขเป. เอส นโย อกปฺปิยโภชนํ ขาทโต กปฺปิยโภชนปฺปฏิกฺเขเป.

โภชเน สตีติ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกสฺมิมฺปิ โภชเน สติ. อฺํ วุตฺตลกฺขณํ โภชนนฺติ ปตฺตาทิคตโต อฺํ วุตฺตลกฺขณํ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกมฺปิ โภชนํ. ‘‘นิรเปกฺโข โหตี’’ติ เอตสฺเสว วิวรณํ ‘‘ยํ ปตฺตาทีสู’’ติอาทิ. น เกวลํ นิรเปกฺโข วาติ อาห ‘‘อฺตฺร วา’’ติอาทิ. โส ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรตีติ ตสฺมึ เจ อนฺตเร อฺํ โภชนํ อภิหฏํ, ตํ โส ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา.

‘‘อุปนาเมตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อิมินา กายาภิหารํ ทสฺเสติ. หตฺเถ วา อาธารเก วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวุตฺตวิกปฺปตฺโถ, เตน ‘‘อูรูสุ วา’’ติ วิกปฺเปติ. ทูเร นิสินฺนสฺส ทหรภิกฺขุสฺส ปตฺตํ เปเสตฺวา ‘‘อิโต โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, คณฺหิตฺวา ปน คโต ตุณฺหี ติฏฺติ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปโต เอเสว นโย. กสฺมา? ภิกฺขุสฺส ทูรภาวโต, ทูตสฺส จ อนภิหรณโต. สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิมํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. เอวํ วุตฺเตปีติ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วุตฺเตปิ.

ภตฺตปจฺฉึ คเหตฺวา ปริวิสนฺตสฺสาติ เอเกน หตฺเถน ภตฺตปจฺฉึ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ปริวิสนฺตสฺส. อฺโ ‘‘อหํ ธาเรสฺสามี’’ติ คหิตมตฺตกเมว กโรตีติ อฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ ปจฺฉึ ธาเรสฺสามิ, ตฺวํ โอทนํ เทหี’’ติ วตฺวา คหิตมตฺตกเมว กโรติ. อภิหฏาว โหตีติ ปริเวสเกเนว อภิหฏาว โหติ. อิทานิ อสติ ตสฺส ทาตุกามาภิหาเร คหณสมเยปิ ปฏิกฺขิปโต น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุทฺธเฏติ อุทฺธเฏ ภตฺเต. กฏจฺฉุอภิหาโรเยว หิ ตสฺส อภิหาโรติ อธิปฺปาโย. อนนฺตรสฺส ทิยฺยมาเนติ อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภตฺเต ทิยฺยมาเน. กายวิกาเรนาติ ‘‘องฺคุลึ วา หตฺถํ วา มจฺฉิกพีชนึ วา จีวรกณฺณํ วา จาเลติ, ภมุกาย วา อาการํ กโรติ, กุทฺโธ วา โอโลเกตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) เอวํ วุตฺเตน องฺคุลิจลนาทินา กายวิกาเรน. ‘‘อลํ มา เทหี’’ติอาทินา วจีวิกาเรนาติ ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา เอวํ เยน เกนจิ วจีวิกาเรน.

อภิหเฏ ปน ภตฺเต ปวารณาย ภีโต หตฺเถ อปเนตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตฺเต โอทนํ อากิรนฺตํ ‘‘อากิร อากิร, โกฏฺเฏตฺวา ปูเรหี’’ติ วทโต ปวารณา น โหติ. เอส นโย ภตฺตํ อภิหรนฺตํ ภิกฺขุํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส, อิโตปิ กิฺจิ คณฺหิสฺสสิ, ทมฺมิ เต กิฺจี’’ติ วทโตปิ.

‘‘รสํ ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ อปฺปวารณาชนกสฺส นามํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. มํสรสนฺติ เอตฺถ ปน น เกวลํ มํสสฺส รสํ ‘‘มํสรส’’มิจฺเจว วิฺายติ, อถ โข มํสฺจ รสฺจ มํสรสนฺติ เอวํ ปวารณาชนกนามวเสนาปิ. ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาว โหตีติ อาห ‘‘มํสรสนฺติ วุตฺเต ปน ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหตี’’ติ. ปรโต มจฺฉมํสํ พฺยฺชนนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยสฺมึ อิริยาปเถ ปวาเรติ, ตํ อวิโกเปนฺเตเนว ภุฺชิตพฺพนฺติ โย คจฺฉนฺโต (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) ปวาเรติ, เตน คจฺฉนฺเตเนว ภุฺชิตพฺพํ. กทฺทมํ วา อุทกํ วา ปตฺวา ิเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. สเจ อนฺตรา นที ปูรา โหติ, นทิตีเร คุมฺพํ อนุปริยายนฺเตน ภุฺชิตพฺพํ. อถ นาวา วา เสตุ วา อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวาปิ จงฺกมนฺเตเนว ภุฺชิตพฺพํ, คมนํ น อุปจฺฉินฺทิตพฺพํ. เอส นโย อิตรอิริยาปเถสุปิ. ตํ ตํ อิริยาปถํ โกเปนฺเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. โย อุกฺกุฏิโกว นิสีทิตฺวา ปวาเรติ, เตน อุกฺกุฏิเกเนว ภุฺชิตพฺพํ. ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนํ ทาตพฺพํ. ปีเก นิสีทิตฺวา ปวาริเตน ปน อาสนํ อจาเลตฺวาว จตสฺโส ทิสา ปริวตฺตนฺเตน ภุฺชิตุํ ลพฺภติ. มฺเจ นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อิโต วา เอตฺโต วา สํสริตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปน สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏติ. นิปชฺชิตฺวา ปวาริเตนาปิ นิปนฺเนเนว ภุฺชิตพฺพํ. ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพํ.

อลเมตํ สพฺพนฺติ เอตํ สพฺพํ อลํ ปริยตฺตํ, อิทมฺปิ เต อธิกํ, อิโต อฺํ น ลจฺฉสีติ อธิปฺปาโย. โย อติริตฺตํ กโรตีติ โย ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ กโรติ. ปฏิปกฺขนเยนาติ ‘‘กปฺปิยกตํ, ปฏิคฺคหิตกตํ, อุจฺจาริตกตํ, หตฺถปาเส กตํ, ภุตฺตาวินา กตํ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. ๒๓๙) อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ กตํ, ยฺจ คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ อติริตฺตนฺติ เอวํ ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน. เอตฺถ จ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ, อยํ กิร อาจิณฺโณ. วินยธรา ปน ‘‘สกึ เอว วตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.

กสฺมา ตํ โส ปุน กาตุํ น ลภตีติ อาห ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ ยฺหิ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตน ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. เยน จ อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน จ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. วุตฺตนฺติ สีหฬฏฺกถาสุ วุตฺตํ. อฺสฺมึ ปน ภาชเนติ ยสฺมึ ปน ภาชเน ปมํ กตํ, ตโต อฺสฺมึ ปตฺเต วา กุณฺเฑ วา ปจฺฉิยํ วา ยตฺถ กตฺถจิ ปุรโต เปตฺวา โอนามิตภาชเน.

อฺตฺร ภุฺชนวตฺถุสฺมินฺติ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน หุตฺวา อฺตฺร ภุฺชนวตฺถุสฺมึ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อนติริตฺเต อนติริตฺตสฺิเวมติกอติริตฺตสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อชฺโฌหรโต จ ทุกฺกฏนฺติ อชฺโฌหรโต อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน อามิสสํสฏฺานิ โหนฺติ, อาหารตฺถายปิ อนาหารตฺถายปิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. เตสํ อนุฺาตปริโภควเสนาติ ยามกาลิกาทีนํ อนุฺาตปริโภควเสน, ยามกาลิกํ ปิปาสาย สติ ปิปาสจฺเฉทนตฺถํ, สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ เตน เตน อุปสเมตพฺพเก อาพาเธ สติ ตสฺส อุปสมนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทมฺปิ อชฺโฌหรณโต กายกมฺมํ, วาจาย ‘‘อติริตฺตํ กโรถ ภนฺเต’’ติ อการาปเนน วจีกมฺมนฺติ อาห ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนวา’’ติ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ ปฏิกฺขิปิตฺวา ภุฺชนํ กิริยํ. อติริตฺตสฺส อกรณํ อกิริยนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา

สุตฺวาวาติ อฺเน วา เตเนว วา อาโรจิตํ สุตฺวา. ‘‘ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๔๓) วุตฺตตฺตา โภชนปริโยสาเน ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.

ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

วิกาเลติ เอตฺถ อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิโก, อยํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ โภชนสฺส กาโล นาม. ตทฺโ วิกาโล ‘‘วิคโต กาโล’’ติ กตฺวา. เตนาห ‘‘วิคเต กาเล’’ติอาทิ. ิตมชฺฌนฺหิโกปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙) กาลสงฺคหํ คจฺฉติ. ตโต ปฏฺาย ปน ขาทิตุํ วา ภุฺชิตุํ วา น สกฺกา. สหสา ปิวิตุํ สกฺกา ภเวยฺย, กุกฺกุจฺจเกน ปน น กาตพฺพํ. กาลปริจฺเฉทชานนตฺถฺจ กาลตฺถมฺโภ โยเชตพฺโพ. กาลพฺภนฺตเรว ภตฺตกิจฺจํ กาตพฺพํ. ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… ขาทนียํ วา’’ติ อิมินา ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานิ.

สติ ปจฺจเยติ ปิปาสาทิการเณ วิชฺชมาเน. โรมฏฺกสฺสาติ โรมฏฺกสฺส ภิกฺขุโน อชฺโฌหริตฺวา อุคฺคิริตฺวา มุเขว ปิโต พหิ มุขทฺวารา วินิคฺคโต โภชนสฺส มคฺคา พหิ นิคฺคโต ‘‘โรมฏฺโ’’ติ ปวุจฺจติ. อิธ ปน อชฺโฌหริตฺวา อุคฺคิริตฺวา มุเขว ปิโตติ อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘น จ, ภิกฺขเว’’ติอาทิ. เปตฺวา โรมฏฺกํ เสสานํ อาคตํ อุคฺคารํ มุเข สนฺธาเรตฺวา คิลนฺตานํ อาปตฺติ. สเจ ปน อสนฺธาเรนฺตเมว ปรคลํ คจฺฉติ, วฏฺฏติ.

วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘กาโร กรณํ กิริยาติ อตฺถโต เอก’’นฺติ เอเตน การสทฺทสฺส ภาวตฺถตํ ทสฺเสติ. สมฺมา นิธานํ ปนํ สนฺนิธิ. ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตสฺเสตํนาม’’นฺติ อิมินา ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิเต อิมสฺส ทุทฺโธตภาวํ ทสฺเสติ. กิฺจาปิ ยามกาลิกํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา น โหติ, ‘‘อนาปตฺติ ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภุฺชตี’’ติอาทิ วจนโต ปน ตตฺถาปิ ยามาติกฺกเม สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ ‘‘ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ทุทฺโธตภาวเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยํ องฺคุลิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายตีติ ยํ ปตฺตํ โธตํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส ปตฺเต องฺคุลิเลขา ปฺายติ, โส ปตฺโต ทุทฺโธโต โหตีติ อตฺโถ. เตลวณฺณปตฺเต ปน องฺคุลิเลขา ปฺายติ, สา อพฺโพหาริกา. สฺเนโหติ เตลํ. สนฺทิสฺสตีติ ยาคุยา อุปริ สนฺทิสฺสติ. ตาทิเส ปตฺเตปีติ ปฏิคฺคหณํ อวิสฺสชฺชิตฺวา สยํ วา อฺเน วา โภชนํ นีหริตฺวา น สมฺมา โธเต ปตฺเตปิ. ปุนทิวเส ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ ปตฺเต ลคฺคํ อวิชหิตปฺปฏิคฺคหณํ โหตีติ ทุติยทิวเส ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ปริจฺจตฺเต ปน ปตฺเต ปุนทิวเส ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ยํ ปนาติ ยํ โภชนํ ปน. อปริจฺจตฺตเมว หีติ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน วา อนุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทาเนน วา อปริจฺจตฺตเมว. กปฺปิย โภชนนฺติ อนฺตมโส เอกสิตฺถมตฺตมฺปิ กปฺปิยโภชนํ. อกปฺปิเยสูติ อกปฺปิยมํเสสุ. เสเสสูติ มนุสฺสมํสโต อวเสเสสุ หตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉมํเสสุ เจว อปฺปฏิเวกฺขิเต อุทฺทิสฺสกตมํเส จ. ปาฬิยํ ‘‘สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๕๕) สนฺนิหิเตสุ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกสุ ปุเรภตฺตมฺปิ อาหารตฺถาย อชฺโฌหรเณปิ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ยามกาลิเกปิ อาหารตฺถาย อชฺโฌหรเณปิ วิสุํ ทุกฺกเฏนาปิ ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติย’’นฺติ. สพฺพวิกปฺเปสูติ ‘‘กปฺปิยโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสา’’ติอาทินา วุตฺเตสุ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ อปรมฺปิ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) – กปฺปิยโภชเน ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อวเสเสสุ ปน อกปฺปิยมํเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, นิรามิเสน เอกเมว. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกเฏน สทฺธินฺติ.

อวเสเสสูติ ยามกาลิกาทิโต อวเสเสสุ. ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติเยวาติ อปรมฺปิ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติเยว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ทฺเวติ.

เพลฏฺสีโส นาม ชฏิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร เอโก มหาเถโร. ติกปาจิตฺติยนฺติ สนฺนิธิการเก สนฺนิธิการกสฺิเวมติกอสนฺนิธิการกสฺีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. สํสฏฺานีติ สํสฏฺรสานิ. สมฺภินฺนรสํ สนฺธาเยว หิ ‘‘ตทหุปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ อสมฺภินฺนรสนฺติ อมิสฺสิตรสํ. อิทฺจ สีตลปายาสาทินา สห ลทฺธํ สปฺปิปิณฺฑาทิกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สุโธตํ วา’’ติ อิทํ ปน ปิณฺฑปาเตน สทฺธึ ลทฺธํ ตกฺโกลชาติผลาทึ, ยาคุอาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคีเวราทิกฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.

เตนาติ สตฺตาหกาลิเกน. ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ อสฺสาติ ตทหุปฏิคฺคหิตํ, เตน ตทหุปฏิคฺคหิเตน. เอส นโย ‘‘ทฺวีหปฏิคฺคหิเตนา’’ติอาทีสุปิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺมา. ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปตีติ วุตฺตนฺติ ‘‘สตฺตาหกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปติ, สตฺตาหาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) เภสชฺชกฺขนฺธเก วุตฺตํ. กิฺจาปิ มุเข เอกรตฺตํ น วุตฺตํ, ตถาปิ มุเข ปกฺขิตฺตเมว ยสฺมา สนฺนิธิ นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ วุตฺตํ.

จตสฺโส กปฺปิยภูมิโยติ อุสฺสาวนนฺติกา, โคนิสาทิกา, คหปติ, สมฺมุตีติ จตสฺโส กปฺปิยกุฏิโย. ตตฺถ อุสฺสาวนนฺติกา (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) นาม เคเห กริยมาเน สมฺปริวาเรตฺวา ิเตหิ ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วา ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏี’’ติ วา วทนฺเตหิ ปิตปมิฏฺกถมฺภาทิกา สงฺฆสฺส วา เอกสฺส ภิกฺขุโน วา กุฏิ. โย ปน อาราโม เยภุยฺเยน วา อปริกฺขิตฺโต โหติ, สกโลปิ วา , โส ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจติ. คหปตีติ ยา เปตฺวา ภิกฺขุํ เสเสหิ ‘‘กปฺปิยกุฏึ เทมา’’ติ ทินฺนา, เตสํ วา สนฺตกา. สมฺมุติ นาม กมฺมวาจาย สาเวตฺวา กตา. กถํ ปเนตาสํ วินิจฺฉโย ชานิตพฺโพติ อาห ‘‘ตาสํ วินิจฺฉโย สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต’’ติ.

สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ อิทํ มชฺเฌ ปทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺนฺติ อาห ‘‘ปณีตสํสฏฺานี’’ติอาทิ. สพฺโพปิ ‘‘โอทโก’’ติ วุตฺตลกฺขโณ มจฺโฉติ ‘‘มจฺโฉ นาม โอทโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ วิภงฺเค วุตฺตลกฺขโณ, สพฺโพปิ มจฺโฉ เอว. โย โกจิ อุทเก ชาโต มจฺโฉ นามาติ วุตฺตํ โหติ. มหานามสิกฺขาปเทนาติ –

‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา อฺตฺร ปุนปวารณาย อฺตฺร นิจฺจปวารณาย. ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ –

อิมินา สิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๓๐๖). เอตฺถ หิ สงฺฆวเสน คิลานปจฺจยปวารณาย ปวาริตฏฺาเน สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสชฺเชหิ วา ปริจฺเฉโท กโต โหติ ‘‘เอตฺติกาเยว รตฺติโย, เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิฺาเปตพฺพานี’’ติ, ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ นเภสชฺชกรณีเยน วา เภสชฺชํ, อฺเภสชฺชกรณีเยน วา อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ตสฺมา อคิลาโน คิลานสฺีปิ หุตฺวา ปฺจ เภสชฺชานิ วิฺาเปนฺโต นเภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺโต นาม โหตีติ ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

โย ปน นเภสชฺชตฺถาย วิฺาเปติ, อถ โข เกวลํ อตฺตโน ภุฺชนตฺถาย, โส สูโปทนวิฺตฺติยาเยว กาเรตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘สุทฺธานิ สปฺปิอาทีนิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺโต ปาจิตฺติยํ นาปชฺชติ , เสขิเยสุ สูโปทนวิฺตฺติทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). สูโปทนวิฺตฺติยา กาเรตพฺโพติ ‘‘น สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๑๓) สิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ, ทุกฺกเฏน กาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อิมินาติ อิมินา ปณีตโภชนสิกฺขาปเทน.

‘‘สปฺปิภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต กึ โหตีติ อาห ‘‘สปฺปิภตฺตํ ‘เทหี’ติ วุตฺเต ปนา’’ติอาทิ. สูโปทนวิฺตฺติยา ทุกฺกฏเมว โหตีติ สมฺพนฺโธ. กสฺมาติ อาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. อถ ยถา ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ, เอวํ ‘‘สปฺปิภตฺต’’นฺติ อิทมฺปิ กสฺมา น วิฺายตีติ เจ? อเนกนฺติกตฺตา. ตถา หิ ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปณีตสํสฏฺานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานี’’ติ อยมตฺโถ เอกนฺตโต ปฺายติ, ‘‘สปฺปิภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปน ‘‘สปฺปิมยํ ภตฺตํ สปฺปิภตฺต’’นฺติปิ วิฺายมานตฺตา ‘สปฺปิสํสฏฺํ ภตฺตํ สปฺปิภตฺต’’นฺติ อยมตฺโถ น เอกนฺตโต ปฺายติ. เอส นโย ‘‘นวนีตภตฺตํ เทหี’’ติอาทีสุปิ.

ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภตฺตํ ทตฺวา สปฺปึ กตฺวา ภุฺชา’’ติ ปุริเมเนว นเยน. สเจ ปน ‘‘สปฺปินา’’ติ วุตฺเต เกวลํ เสเสสุ นวนีตาทีสุ อฺตเรน เทติ, วิสงฺเกตเมว โหติ. อนาปตฺตีติ วิสงฺเกตตฺตา สพฺพาหิเยว อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ. ‘‘กิฺจาปิ อนาปตฺติ, อตฺตโน ปน ปโยเคน นิพฺพตฺตตฺตา น ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. กปฺปิยสปฺปินาติ กปฺปิยมํสสปฺปินา. เอส นโย อกปฺปิยสปฺปินาติ เอตฺถาปิ. กปฺปิยากปฺปิยตา หิ มํสานํเยว, น สปฺปิอาทีนํ. เปตฺวา เอกํ มนุสฺสวสาเตลํ สพฺเพสํ ขีรทธิสปฺปินวนีตวสาเตเลสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ.

ปริโภเคปิ ทุกฺกฏเมว อิธ อนธิปฺเปตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สเจ อสติ อกปฺปิยสปฺปิมฺหิ ปุริมนเยเนว อกปฺปิยนวนีตาทีนิ เทติ ‘‘สปฺปึ กตฺวา ภุฺชา’’ติ, อกปฺปิยสปฺปินาว ทินฺนํ โหติ. ยถา จ ‘‘กปฺปิยสปฺปินา เทหี’’ติ วุตฺเต อกปฺปิยสปฺปินา เทติ, วิสงฺเกตํ, เอวํ ‘‘‘อกปฺปิยสปฺปินา’ติ วุตฺเต กปฺปิยสปฺปินา เทตี’’ติ เอตฺถาปิ ปฏิปาฏิยา เอกเมกํ วิตฺถาเรตฺวา วุจฺจมาเนปิ อยเมวตฺโถ วตฺตพฺโพ สิยา, โส จ สงฺเขเปนปิ สกฺกา วิฺาตุนฺติ วิตฺถารนยํ หิตฺวา อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เยน เยน วิฺตฺติ โหติ, ตสฺมึ วา ตสฺส มูเล วา ลทฺเธ ตํ ตํ ลทฺธเมว โหติ. สเจ ปน อฺํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทติ, วิสงฺเกตนฺติ. นานาฏฺาเน วาติ ตสฺมึเยว ฆเร สปฺปึ, อิตรสฺมึ นวนีตนฺติอาทินา นานาฏฺาเน วา.

ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา

กาเยนาติ หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน, อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ คณฺหนฺโต กาเยน คณฺหาติ นามาติ เวทิตพฺโพ. ทาเนปิ เอเสว นโย. กายปฺปฏิพทฺเธนาติ ปตฺตาทีสุ เยน เกนจิ สรีรสมฺพทฺเธน อุปกรเณน. ทาเนปิ เอเสว นโย. กฏจฺฉุอาทีสุ เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฺปฏิพทฺเธน ทินฺนํเยว โหติ. อฺตเรนาติ กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วาติ อตฺโถ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิเยนาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) กายโต จ กายปฺปฏิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ิตสฺส กาเย วา กายปฺปฏิพทฺเธ วา ปาติยมานฺหิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติ. ตสฺสาติ ปฏิคฺคหิตกสฺส. วุตฺตวิปลฺลาสวเสนาติ วุตฺตสฺส ปฏิปกฺขวเสน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ กายกายปฺปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน ทิยฺยมาเน กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา คณฺหาติ, เอตํ ปฏิคฺคหิตํ นามาติ.

สํหาริเมนาติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สํหาริเมน, อิมินา อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา ปฏิคฺคหณํ น รุหตีติ ทสฺเสติ. ธาเรตุํ สมตฺเถนาติ สนฺธาเรตุํ โยคฺเคน, อิมินา สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุ ปฏิคฺคหณํ น รุหตีติ ทสฺเสติ. อตตฺถชาตกรุกฺขปณฺเณนาติ ชาตฏฺานโต จุเตน ปทุมินิปณฺณาทินา, อิมินา ปน มหนฺเตปิ ตตฺถชาตเก ปทุมินิปณฺเณ วา กึสุกปณฺณาทิมฺหิ วา ปฏิคฺคเหตุํ น วฏฺฏติ. น หิ ตํ กายปฺปฏิพทฺธสงฺขํ คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. ยถา จ ตตฺถชาตเก, เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ปิตมฺจาทิมฺหิปิ. นนุ ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธนาปิ ปตฺตาธาราทินา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหณํ รุหติ, อถ กสฺมา กายกายปฺปฏิพทฺเธหิเยว ปฏิคฺคหณํ อิธ วุตฺตํ, น ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธนาปีติ อาห ‘‘ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธํ นาม อิธ นตฺถี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อาธารเกน ปฏิคฺคหณํ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธน ปฏิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วจนมตฺตเมว. อตฺถโต ปน สพฺพมฺปิ ตํ กายปฺปฏิพทฺธเมว โหตีติ ทสฺเสติ.

อกลฺลโกติ คิลาโน. มุเขน ปฏิคฺคณฺหาตีติ สหตฺเถน คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ. อภิหฏภาชนโต ปติตรชมฺปิ วฏฺฏติ อภิหฏตฺตาติ อธิปฺปาโห.

ตสฺมึ ตฺวาติ ตาทิเส หตฺถปาเส ตฺวา. นฺติ ยํ ภารํ. มชฺฌิโม ปุริโสติ ถามมชฺฌิมปุริโส. วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวาติ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ ภิกฺขํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา, อิทฺจ ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูปวเสน วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ตํสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา วินาปิ ตสฺส ทานาทึ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

อสฺสุเขฬสิงฺฆาณิกาทีสูติ เอตฺถ อสฺสุ นาม อกฺขิชลํ. เขโฬ นาม ลาลา. สิงฺฆาณิกาติ อนฺโตสีสโต ปูติเสมฺหภาวํ อาปนฺนํ มตฺถลุงฺคํ คลิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตํ วุจฺจติ, อาทิสทฺเทน มุตฺตกรีสเสมฺหทนฺตมลอกฺขิคูถกณฺณคูถกานํ, สรีเร อุฏฺิตโลณสฺส จ คหณํ. านโตติ อกฺขิกูปาทิโต. อนฺตรา เจ คณฺหาติ, กึ โหตีติ อาห ‘‘อุคฺคหิตกํ นาม โหตี’’ติ, ทุฏฺุ คหิตกํ นาม โหตีติ อตฺโถ. ผลินินฺติ ผลวนฺตํ. ตตฺถชาตกผลินิสาขาย วาติ ตสฺมึ รุกฺเข ชาตาย ผลินิสาขาย วา. ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏนฺติ ‘‘น กตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฏฺุ อาจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรุปจิณฺณํ, ตสฺมึ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏฺจ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.

อาหรียตีติ อาหาโร, อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ, อิธ ปน จตฺตาริ กาลิกานิ อธิปฺเปตานีติ อาห ‘‘ยํ กิฺจี’’ติอาทิ. ตตฺถ อรุณุคฺคมนโต ยาว ิตมชฺฌนฺหิกา ภุฺชิตพฺพโต ยาว กาโล อสฺสาติ ยาวกาลิกํ. อรุณุคฺคมนโต ยาว ยามาวสานา ปิปาสาย สติ ปิปาสจฺเฉทนตฺถํ ปาตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. ยาว สตฺตาหํ นิทหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพโต สตฺตาหํ กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํ. ยาวชีวมฺปิ ปริหริตฺวา ปริภุฺชิตพฺพโต ยาว ชีวํ เอตสฺสาติ ยาวชีวิกํ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ.

วนมูลปตฺตปุปฺผผลาทีติ เอตฺถ ตาว มูลํ นาม มูลกขารกจจฺจุตมฺพกาทีนํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺเจว โภชนียตฺถฺจ ผรณกํ สูเปยฺยปณฺณมูลํ. ปตฺตํ นาม มูลกขารกจจฺจุตมฺพกาทีนํ ตาทิสํเยว ปตฺตํ. ปุปฺผํ นาม มูลกขารกาทีนํ ตาทิสํเยว ปุปฺผํ. ผลํ นาม ปนสลพุชาทีนํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺเจว โภชนียตฺถฺจ ผรณกํ ผลํ. อาทิสทฺเทน กนฺทมูลาทีนํ คหณํ.

อมฺพปานนฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณาทีนิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ. เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. เอส นโย สพฺพปาเนสุ.

เตสุ ปน ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ. ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกาปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ . สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสเกหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมินาว นเยน เวตฺตปานาทีนิ เวทิตพฺพานิ. เอตานิ จ ปน สพฺพานิ ปานานิ อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ. เตนาห ‘‘สีโตทเกนา’’ติอาทิ. อวเสเสสุปิอนุฺาตผลปตฺตปุปฺผรเสสูติ ธฺผลปกฺกสากมธุกปุปฺผรสโต อวเสเสสุ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติอาทินา (มหาว. ๓๐๐) อนุฺาตเกสุ ผลปตฺตปุปฺผรเสสุปิ.

ขาทนียตฺถนฺติ ขาทนีเยน กตฺตพฺพกิจฺจํ. เนว ผรตีติ น นิปฺผาเทติ. อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสฺายาติ ‘‘อาหารํ อาหเรยฺยา’’ติ ปทสฺส ปทภาชเน (ปาจิ. ๒๖๕) วุตฺตมตฺถํ สมฺมา อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อาหรียตีติ อาหาโร’’ติ อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสฺาย กุกฺกุจฺจายนฺตานํ. ทนฺตโปเน จ ‘‘มุขทฺวารํ อาหฏํ อิท’’นฺติ สฺายาติ มุขทฺวารํ อนาหฏมฺปิ ทนฺตโปนํ ‘‘มุขทฺวารํ อาหฏํ อิทํ ทนฺตโปน’’นฺติ วิปลฺลตฺถสฺาย กุกฺกุจฺจายนฺตานํ. ยถาสุขํ ปาตุนฺติ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา ยถากามํ ปาตุํ. ทนฺตโปนปริโภเคนาติ ทนฺตกฏฺปริโภเคน, ทนฺตโธวนาทินาติ อตฺโถ, อิมินา ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

จตฺตาริ มหาวิกฏานีติ คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกา, มตฺติกา (มหาว. ๒๖๘) จ ‘‘อาสยาทิวเสน วิรูปานิ ชาตานี’’ติ กตฺวา วิกฏานีติ วา อปกติโภชนตฺตา วิกฏานิ ‘‘วิรูปานิ ชาตานี’’ติ วา อตฺโถ. สติ ปจฺจเยติ การเณ สติ, สปฺปทฏฺเติ อตฺโถ. ธูมาทิอพฺโพหาริกาภาโวติ ธูมปุปฺผคนฺธทนฺตขยาทิอพฺโพหาริกาภาโว.

ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อเจลกวคฺโค

๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา

อเจลกสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ ปพฺพชฺชาสมาปนฺนสฺส นคฺคสฺส. ปริพฺพาชกสฺสาติ เปตฺวา ภิกฺขุฺจ สามเณรฺจ อวเสสสฺส ยสฺส กสฺสจิ ปพฺพชฺชาสมาปนฺนสฺส. ปริพฺพาชิกายาติ เปตฺวา ภิกฺขุนึ, สิกฺขมานํ, สามเณริฺจ อวเสสาย ยาย กายจิ ปพฺพชฺชาสมาปนฺนาย. เอเต จ สพฺเพ อฺติตฺถิยา เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘เอเตสํ อเจลกาทีนํ อฺติตฺถิยาน’’นฺติ.

เตสนฺติ อฺติตฺถิยานํ. ภาชนํ นิกฺขิปิตฺวาติ อามิสภริตํ ภาชนํ นิกฺขิปิตฺวา. พาหิราเลปนฺติ เตลาทึ.

อเจลกาทโย ยสฺมา, ติตฺถิยาว มตา อิธ;

ตสฺมา ติตฺถิยนาเมน, ติกจฺเฉโท กโต ตโย.

อติตฺถิยสฺส นคฺคสฺส, ตถา ติตฺถิยลิงฺคิโน;

คหฏฺสฺสาปิ ภิกฺขุสฺส, กปฺปตีติ วินิจฺฉโย.

อติตฺถิยสฺส จิตฺเตน, ติตฺถิยสฺส จ ลิงฺคิโน;

โสตาปนฺนาทิโน ทาตุํ, กปฺปตีตีธ โน มติ.

อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา

คามํ วา นิคมํ วาติ เอตฺถ นครมฺปิ คามคฺคหเณเนว คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปวิสิสฺสามาติ เอตฺถ คเหตฺวา ‘‘คนฺตฺวา’’ติ ปาเสโส, อสมนฺนาหาโร วา ตสฺสา อิตฺถิยา ตสฺมึ คาเม สนฺนิหิตภาวํ อชานนฺโต วา ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ ภิกฺขุํ คเหตฺวา คนฺตฺวาติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ อามิสนฺติ ยาคุอาทิกํ ยํ กิฺจิ อามิสํ. อุยฺโยเชยฺยาติ อตฺตโน กีฬานุรูปํ อิตฺถึ ทิสฺวา อุยฺโยเชยฺย ปหิเณยฺย. เตนาห ‘‘มาตุคาเมน สทฺธิ’’นฺติอาทิ. อาทิสทฺเทน วุตฺตาวเสสํ กายวจีทฺวารวีติกฺกมํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘คจฺฉา’’ติอาทีนิ วตฺวาติ ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธึ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วตฺวา. เอตํ อนาจารเมวาติ เอตํ ยถาวุตฺตํ หสนาทิอนาจารเมว. น อฺํ ปติรูปํ การณนฺติ เปตฺวา วุตฺตปฺปการํ อนาจารํ อุภินฺนํ เอกโต น ยาปนาทึ อฺํ ปติรูปการณํ ปจฺจยํ กริตฺวา น โหตีติ อตฺโถ. อสฺสาติ อุยฺโยชกสฺส. โสติ โย อุยฺโยชิโต, โส.

อนุปสมฺปนฺเนติ สามเณเร. โสว อิธ อนุปสมฺปนฺโนติ อธิปฺเปโตติ วทนฺติ. อุภินฺนมฺปีติ อุปสมฺปนฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส วาติ ทฺวินฺนมฺปิ. กลิสาสนาโรปเนติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๗๗) กลีติ โกโธ, ตสฺส สาสนํ อาณํ กลิสาสนํ, ตสฺสาโรปเนติ อตฺโถ, ‘‘อปฺเปว นาม อิมินาปิ อุพฺพาฬฺโห ปกฺกเมยฺยา’’ติ โกธวเสน านนิสชฺชาทีสุ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ อิมสฺส านํ นิสชฺชํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ, ขาณุ วิย ติฏฺติ, สุนโข วิย นิสีทติ, มกฺกโฏ วิย อิโต จิโต จ วิโลเกตี’’ติ เอวํ อมนาปวจนสฺส ภณเนติ วุตฺตํ โหติ. สุทฺธจิตฺเตน ปเนวํ ภณเน โทโส นตฺถิ. เอวมาทีหีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ‘‘มหคฺฆํ ภณฺฑํ ปสฺสิตฺวา โลภธมฺมํ อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘มาตุคามํ ปสฺสิตฺวา อนภิรตึ อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘คิลานสฺส วา โอหิยฺยกสฺส วา วิหารปาลสฺส วา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ขาทนียํ วา นีหรา’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘น อนาจารํ อาจริตุกาโม สติ กรณีเย อุยฺโยเชตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๘) เอเตสํ คหณํ.

อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘สโภชเน’’ติ พาหิรตฺถสมาโสยํ, อุภสทฺเท อุการสฺส จ โลโปติ อาห ‘‘สห อุโภหิ ชเนหี’’ติอาทิ. ตตฺถ อุโภหิ ชเนหีติ ชายา จ ปติ จาติ อุโภหิ ชเนหิ. ภุฺชิตพฺพนฺติ วา โภชนํ, อิตฺถี จ ปุริโส จ, เตน สห วตฺตตีติ สโภชนนฺติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. ราคปริยุฏฺิตสฺสาติ เมถุนาธิปฺปายสฺส. สยนิฆรนฺติ สยนียฆรํ, วาสเคหนฺติ อตฺโถ. มหลฺลกสฺสาติ มหลฺลกสฺส สยนิฆรสฺส. ปิฏฺสงฺฆาฏโตติ ทฺวารพาหโต ขุทฺทกสฺสวาติ ยถา ตถา วา กตสฺส ขุทฺทกสฺส สยนิฆรสฺส. เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา นิสีเทยฺยาติ ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสีเทยฺย. ขุทฺทกํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๒๘๐) นาม สยนิฆรํ วิตฺถารโต ปฺจหตฺถปฺปมาณํ โหติ, ตสฺส จ มชฺฌิมฏฺานํ ปิฏฺสงฺฆาฏโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิเส สยนิฆเร ปิฏฺสงฺฆาฏโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา นิสินฺโน ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสินฺโน นาม โหติ. เอวํ นิสินฺโน จ เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา นิสินฺโน นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสีทตี’’ติ (ปาจิ. ๒๘๑). สจิตฺตกฺเจตฺถ อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน ทฏฺพฺพํ.

สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๕. รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุตฺถปฺจมสิกฺขาปเท ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ อนิยตทฺวเย วุตฺตเมวาติ อาห ‘‘เสโส กถานโย อนิยตทฺวเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ.

รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

อนฺโตอุปจารสีมาย ทสฺสนูปจาเร ภิกฺขุํ ทิสฺวาติ ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย คจฺฉนฺโต อนฺโตอุปจารสีมาย ทสฺสนูปจาเร ภิกฺขุํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ทิสฺวา. ปกติวจเนนาติ ยํ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิเตน โสตุํ สกฺกา, ตาทิเสน วจเนน, อิโต จิโต จ ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ ปน นตฺถิ. โย หิ เอวํ ปริเยสิตพฺโพ, โส อสนฺโตเยว. เตนาห ‘‘ตาทิส’’นฺติอาทิ. อนาปุจฺฉิตฺวาติ อนาโรเจตฺวา.

อนฺตรารามภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยปฏิกฺกมนภตฺติยฆรานีติ เอตฺถ อนฺตรารามนฺติ อนฺโตคาเม วิหาโร. ปฏิกฺกมนนฺติ อาสนสาลา. ภตฺติยฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตาทิทายกานํ วา ฆรํ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ กุเลสุ จาริตฺตาปชฺชนํ กิริยํ, อนาปุจฺฉนํ อกิริยนฺติ เวทิตพฺพํ.

จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา

สพฺพฺเจตํวตฺถุวเสน วุตฺตนฺติ ‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา อฺตฺร ปุนปวารณาย อฺตฺร นิจฺจปวารณายา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๖) เอตํ สพฺพํ สิกฺขาปทนิทานสงฺขาตสฺส วตฺถุโน วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ หิ มหานาเมน สกฺเกน ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ จตุมาสํ เภสชฺเชน ปวาเรตุ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๓๐๓) อุสฺสนฺนุสฺสนฺเนน จ เภสชฺเชน จตุมาสํ ปุน นิจฺจํ ปวารณา กตา, ตสฺมา ภควตา ตสฺส วเสน เอวํ วุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร ปุนปวารณายาติ ยทิ ปุนปวารณา อตฺถิ, ตํ เปตฺวา. อฺตฺร นิจฺจปวารณายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยทิ ปน ตาปิ อตฺถิ, สาทิตพฺพาวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ติสฺสํ ปวารณายํ. เภสชฺเชหิ วา ปริจฺเฉโท กโต โหตีติ ‘‘สปฺปิ เตล’’นฺติ เอวมาทินา นามวเสน วา ‘‘ปตฺเถน นาฬิยา อาฬฺหเกนา’’ติอาทินา ปริมาณวเสน วา ‘‘เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิฺาเปตพฺพานี’’ติ เภสชฺเชหิ ปริจฺเฉโท กโต โหติ. นเภสชฺชกรณีเยติ มิสฺสกภตฺเตนาปิ เจ ยาเปตุํ สกฺโกติ, นเภสชฺชกรณียํ นาม โหติ. อฺํ เภสชฺชนฺติ สปฺปินา ปวาริโต เตลํ, อาฬฺหเกน ปวาริโต โทณํ.

ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวาติ ‘‘อิเมหิ ตยา เภสชฺเชหิ ปวาริตมฺหา, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ เภสชฺเชน อตฺโถ, ยาสุ ตยา รตฺตีสุ ปวาริตมฺหา, ตา รตฺติโย วีติวตฺตา, อมฺหากฺจ เภสชฺเชน อตฺโถ’’ติ ยถาภูตํ อาโรเจตฺวา. เอวฺจ วิฺาเปตุํ คิลาโนว ลภติ, น อิตโร.

มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุรงฺคินินฺติ หตฺถิอสฺสรถปตฺตีติ จตฺตาริ องฺคานิ เอติสฺสาติ จตุรงฺคินี, ตํ จตุรงฺคินึ. ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี, ติปุริโส อสฺโส, จตุปุริโส รโถ, จตฺตาโร ปุริสา สรหตฺถา ปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔) อยํ ปจฺฉิมโกฏิยา จตุรงฺคสมนฺนาคตา เสนา นาม, อีทิสํ เสนนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน วิชหิตฺวาติ เกนจิ อนฺตริตา วา นินฺนํ โอรุฬฺหา วา น ทิสฺสติ, อิธ ตฺวาน สกฺกา ทฏฺุนฺติ ตํ ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวา อฺํ านํ คนฺตฺวา.

เสนาทสฺสนวตฺถุสฺมินฺติ เสนํ ทสฺสนาย คมนวตฺถุสฺมึ. อยเมว วา ปาโ. หตฺถิอาทีสุ เอกเมกนฺติ หตฺถิอาทีสุ จตูสุ องฺเคสุ เอกเมกํ, อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหหตฺถิมฺปิ เอกมฺปิ สรหตฺถํ ปุริสนฺติ อตฺโถ. อนุยฺยุตฺตา นาม ราชา อุยฺยานํ วา นทึ วา คจฺฉติ, เอวํ อนุยฺยุตฺตา โหติ. ตถารูปปฺปจฺจเยติ ‘‘มาตุโล เสนาย คิลาโน โหตี’’ติอาทิเก (ปาจิ. ๓๑๒) อนุรูปการเณ สติ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ ‘‘เอตฺถ คโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ คจฺฉโต อนาปตฺติ.

อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา

ปฏิเสนารุทฺธายาติ ยถา สฺจาโร ฉิชฺชติ, เอวํ ปฏิเสนาย รุทฺธาย เสนาย. เกนจิ ปลิพุทฺธสฺสาติ เวริเกน วา อิสฺสเรน วา เกนจิ รุทฺธสฺส.

เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา

สมฺปหารฏฺานสฺสาติ ยุทฺธภูมิยา. พลสฺส อคฺคํ ชานนฺตีติ ‘‘เอตฺตกา หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๔) พลสฺส โกฏฺาสํ ชานนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคนา’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๘) วิย โกฏฺาสตฺโถ เหตฺถ อคฺคสทฺโท. เตนาห ‘‘พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ’’ติ. เสนาย วิยูหนฺติ ‘‘อิโต หตฺถี โหนฺตุ, อิโต อสฺสา โหนฺตุ, อิโต รถา โหนฺตุ, อิโต ปตฺตี โหนฺตู’’ติ (ปาจิ. ๓๒๔) เสนาย ปนํ, ราสึ กตฺวา ปนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เสนาสนฺนิเวสสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ทฺวาทสปุริโส หตฺถีติ จตฺตาโร อาโรหกา, เอเกกปาทรกฺขกา ทฺเว ทฺเวติ เอวํ ทฺวาทสปุริโส หตฺถี. ติปุริโส อสฺโสติ เอโก อาโรหโก, ทฺเว ปาทรกฺขกาติ เอวํ ติปุริโส อสฺโส. จตุปุริโส รโถติ เอโก สารถิ, เอโก โยโธ, ทฺเว อาณิรกฺขกาติ เอวํ จตุปุริโส รโถติ.

อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อเจลกวคฺโค ปฺจโม.

๖. สุราปานวคฺโค

๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา

ปิฏฺาทีหิกตํ มชฺชํ สุราติ ปิฏฺปูวโอทนกิณฺณสมฺภาเรหิ กตํ มชฺชํ สุราติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปิฏฺสุรา, ปูวสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ (ปาจิ. ๓๒๘) อิมานิ ปฺจ สุรา นามาติ. ตตฺถ ปิฏฺํ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ปิฏฺสุรา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๓๒๖-๓๒๘). เอวํ เสสาสุปิ. กิณฺณาติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ. เย ‘‘สุราโมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกิสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.

ปุปฺผาทีหิ กโต อาสโว เมรยนฺติ ปุปฺผผลมธุคุฬสมฺภาเรหิ กโต จิรปริวาสิโต เมรยนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, มธฺวาสโว, คุฬาสโว, สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจเมรยํ นามาติ. ตตฺถ มธุกตาลนาฬิเกราทิ ปุปฺผรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว. ปนสาทิผลรโส ผลาสโว. มุทฺทิการโส มธฺวาสโว. สมนฺตปาสาทิกายํ ปน ‘‘ผลาสโว นาม มุทฺทิกาผลาทีนิ มทฺทิตฺวา เตสํ รเสน กโต. มธฺวาสโว นาม มุทฺทิกานํ ชาติรเสน กโต, มกฺขิกามธุนาปิ กรียตีติ วทนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘) วุตฺตํ. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. เอตฺถ จ สุราย, เมรยสฺส จ สมาเนปิ สมฺภารสํโยเค มทฺทิตฺวา กตา สุรา, จิรปริวาสิตมตฺเตน เมรยนฺติ เอวมิเมสํ นานากรณํ ทฏฺพฺพํ. พีชโต ปฏฺายาติ สมฺภาเร ปฏิยาเทตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิตฺตกาลโต เจว ตาลนาฬิเกราทีนํ ปุปฺผรสสฺส อภินวกาลโต จ ปฏฺาย.

โลณโสวีรกํ วา สุตฺตํ วาติ อิเม ทฺเว อเนเกหิ เภสชฺเชหิ อภิสงฺขตา อาสววิเสสา. วาสคฺคาหาปนตฺถนฺติ สุคนฺธภาวคาหาปนตฺถํ. วตฺถุํ อชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา. อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ ปมปาราชิกวณฺณนาย วุตฺตนยเมว.

สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา

หสาธิปฺปายสฺสาติ ขิฑฺฑาธิปฺปายสฺส, อิมินา กายสํสคฺคาธิปฺปายํ ปฏิกฺขิปติ.

เอตฺถ จ ภิกฺขุนิมฺปิ หสาธิปฺปาเยน ผุสโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. ตถา ภิกฺขุมฺปิ ผุสนฺติยา ภิกฺขุนิยาติ อาห ‘‘อิธ ปน ภิกฺขุนีปิ ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขุ จ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺโน เอวา’’ติ. กายปฺปฏิพทฺธาทีสุ สพฺพตฺถาติ ‘‘กาเยน กายปฺปฏิพทฺเธ, กายปฺปฏิพทฺเธน กาเย, กายปฺปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺเธ, นิสฺสคฺคิเยน กาเย, นิสฺสคฺคิเยน กายปฺปฏิพทฺเธ, นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิเย’’ติ (ปาจิ. ๓๓๒) สพฺพตฺถ. สติ กรณีเย อามสโตติ สติ กรณีเย ปุริสํ อามสโต อนาปตฺติ. อิตฺถี ปน สติ กรณีเยปิ อามสิตุํ น วฏฺฏติ.

องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

อุปริโคปฺผเกติ โคปฺผกานํ อุปริภาคปฺปมาเณ. หสาธิปฺปาโยติ กีฬาธิปฺปาโย. เยน เยน องฺเคนาติ หตฺถปาทาทีสุ เยน เยน องฺเคน. ตถา นาวาย กีฬโตติ ผิยาริตฺตาทีหิ นาวํ ปาเชนฺตสฺส วา ตีเร อุสฺสาเรนฺตสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.

หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุวิธฺเหตฺถ อนาทริยํ ปุคฺคลานาทริยฺจ ธมฺมานาทริยฺจาติ อาห ‘‘ปุคฺคลสฺส วา’’ติอาทิ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ‘‘อยํ อุกฺขิตฺตโก วา วมฺภิโต วา ครหิโต วา, อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒) อนาทริยํ กโรติ, อยํ ปุคฺคเล อนาทริยํ กโรติ นาม. โย ปน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ‘‘กถายํ นสฺเสยฺย วา วินสฺเสยฺย วา อนฺตรธาเยยฺย วา’’ติ, ตํ วา นสิกฺขิตุกาโม อนาทริยํ กโรติ, อยํ ธมฺเม อนาทริยํ กโรติ นาม. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.

อิทํน สลฺเลขาย สํวตฺตตีติ สมฺมา กิเลเส ลิขตีติ สลฺเลโข, อปฺปิจฺฉตา, ตทตฺถํ นยิทํ สํวตฺตติ. อาทิสทฺเทน ‘‘อิทํ น ธุตตฺถาย สํวตฺตติ, น ปาสาทิกตาย, น อปจยาย, น วีริยารมฺภาย สํวตฺตตี’’ติ (ปาจิ. ๓๔๓) อิทํ สงฺคณฺหาติ. อปฺตฺเตนาติ สุตฺเต วา อภิธมฺเม วา อาคเตน. ปเวณิอาคตนฺติ สงฺคีติกาลโต ปฏฺาย มหากสฺสปาทิอาจริยปรมฺปราย อาคตํ. สเจ ปน ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีตกํ วิยาติ เอวมาทิกํ คารยฺหาจริยุคฺคหํ คเหตฺวา ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉา’’ติ ภณติ, อาปตฺติเยว.

อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

รูปาทีนีติ ภยานกานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ. ภยานกกถนฺติ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารปิสาจกนฺตารปฺปฏิสํยุตฺตกถํ.

ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา

อคิลาโนติ ยสฺส วินา อคฺคินา ผาสุ โหติ, โส อิธ อคิลาโน นาม. โชตินฺติ อคฺคึ.

ภคฺเคสูติ เอวํนามเก ชนปเท. ภคฺคานาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิสทฺเทน ‘‘ภคฺคา’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภคฺเคสูติ เอวํนามเก ชนปเท’’ติ. ตถา ปติลาตํ อุกฺขิปนฺตสฺสาติ ฑยฺหมานํ อลาตํ ปติตํ อุกฺขิปนฺตสฺส ตถา ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ตฺจาติ ทุกฺกฏํ ปรามสติ. อวิชฺฌาตนฺติ อนิพฺพุตาลาตํ. ปทีปโชติกชนฺตาฆเรติ ปทีปุชฺชลนปตฺตปจนเสทกมฺมาทีสุ โชติกรเณ อคฺคิสาลายฺจ สมาทหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ตถารูปปฺปจฺจเยติ เปตฺวา ปทีปาทีนิ อฺสฺมิมฺปิ ตถารูปปจฺจเย. อาปทาสูติ ทุฏฺวาฬมิคอมนุสฺเสหิ อุปทฺทเวสุ.

โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘ทิยฑฺโฒมาโส เสโส คิมฺหาน’’นฺติ ‘‘วสฺสานสฺส ปโม มาโส’’อิจฺเจเต อฑฺฒเตยฺยมาสา อุณฺหสมโย, ปริฬาหสมโยติ คิมฺหานํ เสโส ทิยฑฺโฒ มาโส อุณฺหสมโย, วสฺสานสฺส ปโม มาโส ปริฬาหสมโยติ เอวํ เอเต อฑฺฒเตยฺยมาสา กเมน อุณฺหสมโย, ปริฬาหสมโย นาม โหตีติ อตฺโถ เตเนว ปทภาชนิยํ ‘‘อุณฺหสมโย นาม ทิยฑฺโฒ มาโส เสโส คิมฺหาน’’นฺติ, ‘‘ปริฬาหสมโย นาม วสฺสานสฺส ปโม มาโส’’ติ วุตฺตํ. ยทา วินา นหาเนน น ผาสุ โหติ, อยํ คิลานสมโย. ปทภาชนิยํ (ปาจิ. ๓๖๔) ปน คิลาเน นิจฺฉิเต คิลานกาโล นิจฺฉิโตว โหตีติ ‘‘ยสฺส วินา นหาเนน น ผาสุ โหติ, ‘คิลานสมโย’ติ นหายิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปริเวณสมฺมชฺชนมตฺตมฺปีติ อนฺตมโส ปริเวณสมฺมชฺชนมตฺตมฺปิ.

วาลุกํ อุกฺกิริตฺวาติ สุกฺขาย นทิยา วาลิกํ อุตฺติริตฺวา. อาวาเฏสุปีติ ปิ-สทฺเทน นทิยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อาปทาสูติ ภมราทีหิ อนุพนฺเธสุ.

นหานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา

ลาภสทฺโทยํ กมฺมสาธโน ‘‘โก ภวตา ลาโภ ลทฺโธ’’ติอาทีสุ วิย, โส เจตฺถ อตีตกาลิโกติ อาห ‘‘อลพฺภีติ ลโภ’’ติ , ลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘ลโภ เอว ลาโภ’’ติ อิมินา สกตฺเถ ณปจฺจโยติ ทสฺเสติ. กึ อลพฺภีติ กึ ลทฺธํ. นวนฺติ อภินวํ. เอตฺตาวตา จ นวฺจ ตํ จีวรฺจาติ นวจีวรํ, นวจีวรํ ลาโภ เอเตนาติ นวจีวรลาโภติ เอวเมตฺถ สมาโส ทฏฺพฺโพติ. ยทิ เอวํ กถํ ‘‘นวํ จีวรลาเภนา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิติ นวจีวรลาเภนา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ น วุตฺตตฺตา จีวรนฺติ ยํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา สกฺกา โหติ, ตเทว เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘นิวาสนปารุปนุปคํ จีวร’’นฺติ. ‘‘ทุพฺพณฺณกรณํ อาทาตพฺพ’’นฺติ เอตํ กปฺปพินฺทุํ สนฺธาย วุตฺตํ, น นีลาทีหิ สกลจีวรํ ทุพฺพณฺณกรณํ, ตฺจ ปน กปฺปํ อาทิยนฺเตน จีวรํ รชิตฺวา จตูสุ วา โกเณสุ, ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา โกเณ โมรสฺส อกฺขิมณฺฑลมตฺตํ วา มงฺคุลปิฏฺิมตฺตํ วา อาทาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. กํสนีเลนาติ จมฺมการนีเลน. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ, เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตํ . ปตฺตนีเลนาติ เยน เกนจิ นีลวณฺเณน ปณฺณรเสน. กปฺปพินฺทุํ อาทิยิตฺวาติ วฏฺฏํ เอกํ กปฺปพินฺทุํ อาทิยิตฺวา.

ปาฬิกปฺปกณฺณิกกปฺปาทโย ปน สพฺพฏฺกถาสุ ปฏิสิทฺธา. อคฺคฬาทีนิ กปฺปกตจีวเร ปน ปจฺฉา อาโรเปตฺวา กปฺปกรณกิจฺจํ นตฺถีติ อาห ‘‘ปจฺฉา อาโรปิเตสู’’ติอาทิ. อคฺคฬอนุวาตปริภณฺเฑสูติ อุทฺธริตฺวา อลฺลิยาปนกขณฺฑปิฏฺิอนุวาตกุจฺฉิอนุวาเตสุ. กิริยากิริยนฺติ นิวาสนปารุปนโต, กปฺปสฺส อนาทานโต กิริยากิริยํ.

ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา

สมฺมุเขน วิกปฺปนา สมฺมุขวิกปฺปนา. ปรมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุขวิกปฺปนา. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. อาสนฺนทูรภาโว จ อธิฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺโต นาติทฬฺหมิตฺโต. อกตปจฺจุทฺธารนฺติ ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา’’ติอาทินา อกตปจฺจุทฺธารํ. เยน วินยกมฺมํ กตนฺติ เยน สทฺธึ วินยกมฺมํ กตํ.

ปริโภเคน กายกมฺมํ, อปจฺจุทฺธาราปเนน วจีกมฺมนฺติ อาห ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนวา’’ติ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ ปริภุฺชนํ กิริยํ. อปจฺจุทฺธาราปนํ อกิริยํ.

วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

อธิฏฺานุปคนฺติ อธิฏฺานโยคฺคํ อโยปตฺตฺเจว มตฺติกาปตฺตฺจ. สูกรนฺตกํ นาม กุฺจิกาโกโส วิย อนฺโต สุสิรํ กตฺวา โกฏฺฏิตํ.

อฺํปริกฺขารนฺติ ปาฬิยา อนาคตปตฺตตฺถวิกาทึ. ธมฺมกถํ กตฺวาติ ‘‘สมเณน นาม อนิหิตปริกฺขาเรน ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ เอวํ ‘‘ธมฺมกถํ กเถตฺวา ทสฺสามี’’ติ นิกฺขิปโต อนาปตฺติ.

อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. สปฺปาณกวคฺโค

๑. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

ปาจิตฺติยนฺติ อนฺตมโส มฺจปีํ โสเธนฺโต มงฺคุลพีชเกปิ ปาณสฺี นิกฺการุณิกตาย ตํ ภินฺทนฺโต อปเนติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๒), ปาจิตฺติยํ. เตนาห ‘‘ตํ ขุทฺทกมฺปี’’ติอาทิ. อุปกฺกมมหนฺตตาย อกุสลํ มหนฺตํ โหตีติ พหุกฺขตฺตุํ ปวตฺตชวเนหิ ลทฺธาเสวนาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาย วเสน ปโยคสฺส มหนฺตตฺตา อกุสลํ มหนฺตํ โหติ, มหาสาวชฺชํ โหตีติ อธิปฺปาโย.

สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

เอตฺถ จ ปฏงฺคปาณกานํ ปตนํ ตฺวาปิ สุทฺธจิตฺตตาย ปทีปุชฺชลเน วิย สปฺปาณกภาวํ ตฺวาปิ อุทกสฺาย ปริภุฺชิตพฺพโต ปณฺณตฺติวชฺชตา เวทิตพฺพา.

สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา

ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโนติ เยน เยน วูปสมิตํ, ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน. ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วทนฺโตติ ‘‘อกตํ กมฺมํ, ทุกฺกฏํ กมฺมํ, ปุน กาตพฺพํ กมฺมํ, อนิหตํ ทุนฺนิหตํ ปุน นิหนิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๙๔) วทนฺโต. ยถาิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น ทเทยฺยาติ เตสํ ปวตฺติ อาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหตํ, ตํ สุนิหตเมวา’’ติ.

อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา

จตฺตาริ ปาราชิกานิ อตฺถุทฺธารวเสน ปทภาชนิยํ ทสฺสิตานีติ อาห ‘‘ทุฏฺุลฺลนฺติ สงฺฆาทิเสสํ อธิปฺเปต’’นฺติ. เยน เกนจิ อุปาเยนาติ ‘‘สามํ วา ชานาติ, อฺเ วา ตสฺส อาโรเจนฺติ, โส วา อาโรเจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๙๙) วุตฺเตสุ เยน เกนจิ อุปาเยน. ปาจิตฺติยํ ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตเยวาติ อธิปฺปาโย. สเจ ปจฺฉาปิ อาโรเจติ, ธุรนิกฺเขปเน อาปตฺติโต น มุจฺจติ. เตนาห ‘‘สเจปี’’ติอาทิ. สมณสตมฺปิ อาปชฺชติเยวาติ สมณสตมฺปิ สุตฺวา ยทิ ฉาเทติ, ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติเยวาติ อตฺโถ. เยนสฺส อาโรจิตนฺติ เยน ทุติเยน อสฺส ตติยสฺส อาโรจิตํ. ตสฺเสวาติ ตสฺส ทุติยสฺเสว. อาโรเจตีติ ปฏิจฺฉาทนตฺถเมว ‘‘มา กสฺสจิ อาโรเจสี’’ติ วทติ. โกฏิฉินฺนา โหตีติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๓๙๙) ยสฺมา ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว ทุติเยน ตติยสฺส อาโรจิตํ, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา ปุน เตน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยา อภาวโต อาปตฺติยา โกฏิ ฉินฺนา นาม โหติ.

อาทิปเทติ ทุฏฺุลฺลาปตฺติสฺี, เวมติโก, อทุฏฺุลฺลาปตฺติสฺีติ อิเมสุ ตีสุ ‘‘ทุฏฺุลฺลาปตฺติสฺี ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ (ปาจิ. ๔๐๐) อิมสฺมึ ปมปเท. อิตเรสุ ทฺวีสูติ ‘‘เวมติโก ปฏิจฺฉาเทติ, อทุฏฺุลฺลาปตฺติสฺี ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ อิเมสุ ปเทสุ. อทุฏฺุลฺลายาติ อวเสสปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺเล วา อทุฏฺุลฺเล วา อชฺฌาจาเรติ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปุริมปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมสงฺขาเต ทุฏฺุลฺเล วา อิตรสฺมึ อทุฏฺุลฺเล วา อชฺฌาจาเร. ยํ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฏฺิ จ กายสํสคฺโค จาติ อยํ ทุฏฺุลฺลอชฺฌาจาโร นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๐๐) วุตฺตํ, ตํ ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทฏฺกถาย (ปาจิ. อฏฺ. ๗๘ อาทโย) น สเมติ, น จาปิ เอวํ วตฺตุํ ยุชฺชติ ‘‘อาโรจเน อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ อฺถา อธิปฺเปตํ, ปฏิจฺฉาทเน อฺถา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๔๐๐) วิเสสการณสฺสานุปลพฺภนโต, ตสฺมา ตํ อุปปริกฺขิตพฺพํ.

ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

คพฺภวีโสปิ หิ ‘‘ปริปุณฺณวีโส’’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺายาติ ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตํ อาทึ กตฺวา. โสติ โย ปุคฺคโล อูนวีสติวสฺโส อุปสมฺปาทิโต, โส ปุคฺคโล. อฺํ อุปสมฺปาเทตีติ อุปชฺฌาโย วา กมฺมวาจาจริโย วา หุตฺวา อฺํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทติ. นฺติ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ. สีมํ วา สมฺมนฺนตีติ นวํ สีมํ พนฺธติ.

อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

ราชานํ วา วฺเจตฺวาติ ราชานํ เถเนตฺวา รฺโ สนฺตกํ กิฺจิ คเหตฺวา, ‘‘อิทานิ ตสฺส น ทสฺสามา’’ติ มคฺคปฺปฏิปนฺนา อกตกมฺมา เจว กตกมฺมาจ โจราติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย สุงฺกํ ปริหริตุกามาติ เอตฺถาปิ.

กาลวิสงฺเกเตนาติ กาลสฺส วิสงฺเกเตน, ทิวสวิสงฺเกเตนาติ วุตฺตํ โหติ. มคฺควิสงฺเกเตน, ปน อฏวิวิสงฺเกเตน วา คจฺฉโต อาปตฺติเยว.

เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

มาตุคาเมนาติ อิตฺถิยา. เอกโตอุปสมฺปนฺนา, ปน สิกฺขมานา, สามเณรี จาติ อิมา ติสฺโสปิ อิธ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อิมาสํ ปน ติสฺสนฺนํ สมโย รกฺขติ. อยเมตาสํ, มาตุคามสฺส จ วิเสโสติ เวทิตพฺพํ.

สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

ตํตํสมฺปตฺติยา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗) วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ, อนติกฺกมนตฺเถน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา. เตนาห ‘‘สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๓๔). เต กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทปฺตฺติวีติกฺกมวเสน ปฺจวิธาติ เอตฺถ จ ปฺจานนฺตริยกมฺมํ กมฺมนฺตรายิกํ นาม, ตถา ภิกฺขุนิทูสกกมฺมํ. ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. อริยูปวาทา อุปวาทนฺตรายิกา นาม. เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ, ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ อาปนฺนา อาปตฺติโย ปฺตฺติวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม. ตาปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา น เทเสติ วา, ตาวเทว, น ตโต ปรํ.

ตตฺรายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. อฏฺ. ๔๑๗) อริฏฺโ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก เสสนฺตรายิเก ชานาติ, วินเย ปน อโกวิทตฺตา ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺตรายิเก น ชานาติ, ตสฺมา รโหคโต เอวํ จินฺเตสิ ‘‘อิเม อาคาริกา ปฺจ กามคุเณ ปริภุฺชนฺตา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ โหนฺติ, ภิกฺขูปิ มนาปิกานิ จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ ปสฺสนฺติ…เป… กายวิฺเยฺเย โผฏฺพฺเพ ผุสนฺติ, มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณาทีนิ ปริภุฺชนฺติ, เอตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. กสฺมา? อิตฺถิรูปา…เป… อิตฺถิโผฏฺพฺพา เอว น วฏฺฏนฺติ, เอเตปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ เอวํ รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวา สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ นิจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ เอกํ กตฺวา ถูลวาเกหิ สทฺธึ อติสุขุมสุตฺตํ ฆเฏนฺโต วิย, สาสเปน สทฺธึ สิเนรุํ อุปสํหรนฺโต วิย จ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘กึ ภควตา มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิย มหตา อุสฺสาเหน ปมปาราชิกํ ปฺตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ โทโส’’ติ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌนฺโต ภพฺพปุคฺคลานํ อาสํ ฉินฺทนฺโต ชินสฺส อาณาจกฺเก ปหารมทาสิ. เตนาห ‘‘เตสู’’ติอาทิ.

ตตฺถ เตสูติ ยถาวุตฺเตสุ อนฺตราเยสุ. อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติ เอตฺถ อฏฺิกงฺกลํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗) นาม อุรฏฺิ วา ปิฏฺิกณฺฏกํ วา สีสฏฺิ วา. ตฺหิ นิมฺมํสตฺตา ‘‘กงฺกล’’นฺติ วุจฺจติ. วิคตมํสาย หิ อฏฺิสงฺขลิกาย เอกฏฺิมฺหิ วา กงฺกลสทฺโท นิรุฬฺโห , ตํสทิสา กามา อปฺปสฺสาทฏฺเนาติ อตฺโถ. อาทิสทฺเทน ‘‘มํสเปสูปมา กามา, ติณุกฺกูปมา กามา, องฺคารกาสูปมา กามา, สุปินกูปมา กามา, ยาจิตกูปมา กามา, รุกฺขผลูปมา กามา, อสิสูนูปมา กามา, สตฺติสูลูปมา กามา, สปฺปสิรูปมา กามา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔, ๒๓๖; ๒.๔๓-๔๘; ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕) เอเตสํ คหณํ.

ตตฺถ มํสเปสูปมา กามา (ปาจิ. อฏฺ. ๔๑๗) พหุสาธารณฏฺเน. ติณุกฺกูปมา กามา อนุทหนฏฺเน. องฺคารกาสูปมา กามา มหาภิตาปนฏฺเน. สุปินกูปมา กามา อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน. ยาจิตกูปมา กามา ตาวกาลิกฏฺเน. รุกฺขผลูปมา กามา สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน. อสิสูนูปมา อธิกุฏฺฏนฏฺเน. สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน. สปฺปสิรูปมา สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน.

ตเถวาติ ‘‘มา อายสฺมา’’ติอาทีหิ. อิตเรสนฺติ โส สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิตฺวา เยหิ ‘‘มา อายสฺมา’’ติอาทินา วุตฺโต, ตตฺถ เตหิ อฺเสํ สุตานํ ภิกฺขูนํ. ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๔๒๐) ปทภาชนิยํ วุตฺเตน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน.

อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา

อกตานุธมฺเมนาติ อุกฺขิปิตฺวา อโนสาริเตน. เตนาห ‘‘อนุธมฺโม วุจฺจตี’’ติอาทิ. เอตฺถ อนุธมฺโมติ โอสารณา วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. อุกฺเขปนียกมฺมสฺสานุรูโป, ปจฺฉา กตฺตพฺโพ วา ธมฺโมติ อนุธมฺโม. อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวาติ ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติอาทิกํ (จูฬว. ๗๐) อฏฺารสวิธํ วตฺตํ ทิสฺวา, เอเตสุ อฏฺารสสุ อนุโลมวตฺเตสุ วตฺตนฺตํ ทิสฺวาติ อธิปฺปาโย. อามิสสมฺโภคํ วา ธมฺมสมฺโภคํ วาติ เอตฺถ ยํ กิฺจิ อามิสสฺส ทานํ, ปฏิคฺคหณฺจ อามิสสมฺโภโค. ธมฺมสฺส อุทฺทิสนํ, อุทฺทิสาปนฺจ ธมฺมสมฺโภโค. สํวเสยฺยาติ ‘‘อุโปสถํ วา ปวารณํ วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๕) เอวํ ปทภาชนิยํ วุตฺตํ ติวิธํ สํวาสํ กเรยฺย. ยสฺมา ปเนตฺถ อุโปสถปวารณาปิ สงฺเฆหิเยว กาตพฺพตฺตา สงฺฆกมฺมานิเยว โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อุโปสถาทิกํ สงฺฆกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ปโยเค ปโยเคติ ทาเน ทาเน, คหเณ คหเณ จาติ อตฺโถ.

ปณฺณตฺตึ อชานนฺเตน อรหตาปิ กิริยาพฺยากตจิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา

ปิเรติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๒๘) นิปาตปทํ สมฺโพธเน วตฺตมานํ ปรสทฺเทน สมานตฺถํ วทนฺตีติ อาห ‘‘ปร อมามกา’’ติ, อมฺหากํ อนชฺฌตฺติกภูตาติ อตฺโถ. ปิเรติ วา ‘‘ปรโต’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ, ตสฺมา จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.

๘. สหธมฺมิกวคฺโค

๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา

สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน. กรณตฺเถ เจตํ อุปโยควจนํ. ‘‘ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘สหธมฺมิก’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อตฺโถ’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา; ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖) ทุพฺพจสิกฺขาปเท วุตฺตตฺตา ‘‘สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ อิมสฺสตฺโถ ทุพฺพจสิกฺขาปเท วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อนาทริยภยาติ อนาทรกรเณ ภยา, ตตฺถ ปาจิตฺติยภยาติ อตฺโถ. เลเสน เอวํ วทนฺตสฺสาติ อุชุกํ ‘‘น สิกฺขิสฺสามี’’ติ อวตฺวา ‘‘ยาว น อฺํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทินา เลเสน วทนฺตสฺส.

สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา

ขุทฺทเกหิจ อนุขุทฺทเกหิ จาติ สงฺฆาทิเสสาทีหิ ขุทฺทเกหิ เจว ถุลฺลจฺจยาทีหิ อนุขุทฺทเกหิ จ. เปตฺวา หิ จตฺตาริ ปาราชิกานิ อวเสสานิ สพฺพานิ สิกฺขาปทานิ ปริยาเยน ขุทฺทกานิ เจว โหนฺติ อนุขุทฺทกานิ จ. วุตฺตฺเหตํ ปฺจสติกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๔๑) –

‘‘กตมานิ ปน, ภนฺเต, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานีติ? เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา ทฺเว อนิยเต เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา ทฺเว อนิยเต เปตฺวา ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา ทฺเว อนิยเต เปตฺวา ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา ทฺเวนวุติปาจิตฺติเย เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ ‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา ทฺเว อนิยเต เปตฺวา ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา ทฺเวนวุติปาจิตฺติเย เปตฺวา จตฺตาโร ปาฏิเทสนีเย เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’’ติ.

ยํ ปน นาคเสนตฺเถเรน มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน วุตฺตํ ‘‘ทุกฺกฏํ, มหาราช, ขุทฺทกํ สิกฺขาปทํ, ทุพฺภาสิตํ อนุขุทฺทก’’นฺติ (มิ. ป. ๔.๒.๑), ตตฺถ อนฺติมโกฏฺาสเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. ตํ วาทปโถปจฺเฉทนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ.

สํวตฺตนมริยาทปริจฺเฉทวจนนฺติ สํวตฺตนสฺส มริยาทา อวธิ สํวตฺตนมริยาทา, ตาย นิยมวเสน โย ปริจฺเฉโท, ตสฺส วจนํ สํวตฺตนมริยาทปริจฺเฉทวจนํ. อิทานิ ตํ มริยาทํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุทฺทิสนฺตีติ อาจริยา อตฺตโน รุจิยา อุทฺทิสนฺติ. อุทฺทิสาเปนฺตีติ อาจริยํ ยาจิตฺวา อนฺเตวาสิกา อุทฺทิสาเปนฺติ. สชฺฌายนฺตีติ ธาเรนฺติ. กุกฺกุจฺจวิปฺปฏิสาโรติ กุกฺกุจฺจสงฺขาโต วิปฺปฏิสาโร. วิเหสาวิจิกิจฺฉามโนวิเลขาติ วิเหสาวิจิกิจฺฉาสงฺขาตา มโนวิเลขา. ครหเณติ นินฺทเน.

อนุปสมฺปนฺนสฺส วิวณฺณเนติ อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก นินฺทโต ตสฺส ตสฺมึ วิมตึ อุปฺปาเทตุํ วินยวิวณฺณเน.

วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา

ตสฺมึอนาจาเรติ ตสฺมึ อนาจาเร อาจิณฺเณ. โมกฺโข นตฺถีติ ตสฺสา อาปตฺติยา โมกฺโข นตฺถิ. ตสฺส เตติ ตสฺส ตว. อลาภาติ เย อฺเสํ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน สาธุกํ อฏฺึ กตฺวา มนสิกรณสฺส อานิสํสสฺิตา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา จ ลาภา อิจฺฉิตพฺพา, เต สพฺเพ ตุยฺหํ อลาภา เอว โหนฺติ. ทุลฺลทฺธนฺติ ปุฺวิเสเสน ลทฺธมฺปิ มนุสฺสตฺตํ ทุลฺลทฺธํ. สาธุกนฺติ สุฏฺุ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถิกภาวํ กตฺวา, อตฺถิโก หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตฺติทุติเยน กมฺเมนาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๔๖) ปทภาชนิยํ วุตฺเตน โมหาโรปนเกน ตฺติทุติเยน กมฺเมน.

อธมฺมกมฺเมติ เอตฺถ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปตํ.

โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา

ปหารํ ทเทยฺยาติ อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตํ อุปาทาย กายกายปฺปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน ปหารํ ทเทยฺย. เอวํ ปน ปหาเร ทินฺเน หตฺโถ วา ภิชฺชตุ, ปาโท วา สีสํ วา, มรตุ วา, ปาจิตฺติยเมว. เตนาห ‘‘ปหริตุกามตายา’’ติอาทิ.

อนุปสมฺปนฺเนติ คหฏฺเ วา ปพฺพชิเต วา อิตฺถิยา วา ปุริเส วา อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตปิ. สเจ ปน รตฺตจิตฺโต อิตฺถึ ปหรติ, สงฺฆาทิเสโส. เกนจิ วิเหิยมานสฺสาติ มนุสฺเสน วา ติรจฺฉานคเตน วา วิเหิยมานสฺส. โมกฺขาธิปฺปายสฺสาติ ตโต อตฺตโน โมกฺขํ ปตฺถยมานสฺส. สเจปิ อนฺตรามคฺเค (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๓) โจรํ วา ปจฺจตฺถิกํ วา วิเหเตุกามํ ทิสฺวา ‘‘อุปาสก, เอตฺเถว ติฏฺ, มา อาคมิตฺถา’’ติ วตฺวา วจนํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ‘‘คจฺฉ เร’’ติ มุคฺคเรน วา สตฺถเกน วา ปหริตฺวา ยาติ, โส เจ เตน ปหาเรน มรติ, อนาปตฺติเยว. วาฬมิเคสุปิ เอเสว นโย.

ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา

ตลสตฺติกนฺติ ตลเมว ตลสตฺติกํ. ‘‘โปถนสมตฺถฏฺเน สตฺติก’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๔๕๖) เอเก. อุจฺจาเรยฺยาติ อุกฺขิเปยฺย. นปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ปหริตุกามตาย ปหริเต ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ. อุจฺจาเรตุกามตาย เกวลํ อุคฺคิรณมตฺเต กเต อิมินา ปาจิตฺติยํ. อิมินา ปน วิรชฺฌิตฺวา ปหาโร ทินฺโน, ตสฺมา ทุกฺกฏํ. เอตฺถ ปน ‘‘ติรจฺฉานคตาทีนํ อสุจิกรณาทีนิ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโยเยวา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๗๑) วทนฺติ.

ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉฏฺสิกฺขาปทํ อุตฺตานเมว.

อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๔๖๘) สํสยํ ชเนนฺตสฺส. ปโร กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตุ วา, มา วา, ตํ อปฺปมาณํ. มฺเติ ตกฺกยามิ. อาทิสทฺเทน ‘‘วิกาเล มฺเ ตยา ภุตฺตํ, มชฺชํ มฺเ ตยา ปีตํ, มาตุคาเมน สทฺธึ รโห มฺเ ตยา นิสินฺน’’นฺติอาทีนํ (ปาจิ. ๔๖๖) คหณํ. อนุปสมฺปนฺเนติ สามเณเร.

สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา

สุยฺยตีติ สุติ, สทฺโท, สุติยา สมีปํ อุปสฺสุตีติ อาห ‘‘สุติสมีป’’นฺติ, สทฺทสมีปนฺติ อตฺโถ. ยตฺถ ปน ิเตน สกฺกา โหติ สทฺทํ โสตุํ , ตตฺถ ติฏฺนฺโต สทฺทสมีเป ติฏฺติ นามาติ อาห ‘‘ยตฺถ ตฺวา’’ติอาทิ. อถ วา อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ อุปสฺสุติ, านํ, ยํ านํ อุปคเตน สกฺกา โหติ กเถนฺตานํ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตุริตคมเนปีติ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตสฺส ปุรโต คจฺฉนฺตานํ สทฺทสวนตฺถํ สีฆคมเนปิ. โอหียมาเนปีติ ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ วจนสวนตฺถํ โอหียมาเนปิ.

วูปสมิสฺสามีติ อุปสมํ คมิสฺสามิ, กลหํ น กริสฺสามิ. อตฺตานํ ปริโมเจสฺสามีติ มม อการกภาวํ กเถตฺวา อตฺตานํ ปริโมเจสฺสามิ. สิยา กิริยนฺติ กทาจิ โสตุกามตาย คมนวเสน สมุฏฺานโต สิยา กิริยํ. สิยา อกิริยนฺติ กทาจิ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา มนฺตยมานานํ อชานาปนวเสน สมุฏฺานโต สิยา อกิริยํ.

อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา

ธมฺมิกานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตตฺตา ธมฺโม เอเตสุ อตฺถีติ ธมฺมิกานิ, เตสํ ธมฺมิกานํ. กมฺมานนฺติ จตุนฺนํ สงฺฆกมฺมานํ. เตนาห ‘‘ธมฺเมนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ธมฺเมนาติ ภูเตน วตฺถุนา. วินเยนาติ โจทนาย เจว สารณาย จ. สตฺถุสาสเนนาติ ตฺติสมฺปทาย เจว อนุสฺสวนาสมฺปทาย จ. สมคฺคสฺส สงฺฆสฺสาติ สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา กตฺตพฺพตฺตา กาเยน เจว จิตฺเตน จ เอกีภูตสฺส สงฺฆสฺส. ตํ ตํ วตฺถุนฺติ อวณฺณภณนาทึ ตํ ตํ วตฺถุ.

โอสาเรนฺติ สงฺฆมชฺฌํ เอเตนาติ โอสารณํ. นิสฺสาเรนฺติ สงฺฆมฺหา เอเตนาติ นิสฺสารณํ. ภณฺฑุกมฺมนฺติ มุณฺฑกรณํ, เกสจฺเฉทนาปุจฺฉนนฺติ อตฺโถ. กมฺมเมว ลกฺขณํ กมฺมลกฺขณํ. โอสารณาทโย วิย กมฺมฺจ หุตฺวา อฺฺจ นามํ น ลภติ, กมฺมเมว หุตฺวา ลกฺขียตีติ กมฺมลกฺขณนฺติ อตฺโถ. ‘‘โอสารณํ นิสฺสารณ’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) เจตฺถ ปทสิลิฏฺตาเยตํ วุตฺตํ. ปมํ ปน นิสฺสารณา โหติ, ปจฺฉา โอสารณาติ อาห ‘‘ตตฺถ กณฺฏกสามเณรสฺสา’’ติอาทิ. กณฺฏกสามเณรสฺส นาสนา วิย นิสฺสารณาติ ยถา กณฺฏกสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมนาสนา นิสฺสารณา, ตถา พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภณโต, อกปฺปิยํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ทีปยโต, มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคตสฺส อฺสฺสาปิ สามเณรสฺส –

‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺส อลาภาย นิสฺสารณา รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) –

กตฺตพฺพนาสนา นิสฺสารณาติ อตฺโถ. ตาทิสํเยว สมฺมาวตฺตนฺตํ ทิสฺวา ปเวสนา โอสารณาติ ตาทิสํเยว อปเรน สมเยน ‘‘อหํ, ภนฺเต, พาลตาย อฺาณตาย อลกฺขิกตาย เอวํ อกาสึ, สฺวาหํ สงฺฆํ ขมาเปมี’’ติ ขมาเปนฺตํ ทิสฺวา ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, ตสฺส อลาภาย นิสฺสาริโต, สฺวายํ อิทานิ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต กตทณฺฑกมฺโม อจฺจยํ เทเสติ, อิมสฺส สามเณรสฺส ยถา ปุเร กายสมฺโภคสามคฺคิทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปุจฺฉามิ…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) –

ปเวสนา โอสารณาติ อตฺโถ.

เกสจฺเฉทนาปุจฺฉนนฺติ สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วจนํ. อิธ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามา’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามา’’ติปิ ‘‘อิมสฺส ปพฺพาชนํ อาปุจฺฉามา’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว.

มุขรสฺสาติ มุเขน ขรสฺส. ยํ อวนฺทิยกมฺมํ อนุฺาตนฺติ สมฺพนฺโธ. อูรุํ วิวริตฺวา ทสฺสนาทิวตฺถูสูติ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย กทฺทโมทเกน โอสิฺจนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ, กายํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, อูรุํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, องฺคชาตํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, ภิกฺขุนิโย โอภาเสนฺติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๑) –

อิเมสุ วตฺถูสุ.

อจฺฉินฺนจีวรกาทีนนฺติ อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวรคิลานพหุสฺสุตสงฺฆภารนิตฺถรกาทีนํ. จีวราทีนีติ จีวรเภสชฺชเสนาสนาทีนิ. ปริภุฺชิตพฺพานีติ ปริภุฺชิตพฺพานิ มูลตจปตฺตองฺกุรปุปฺผผลาทีนิ. อปเนตพฺพานิปิ วตฺถูนีติ อาวาสกรณาทิอตฺถํ หริตพฺพานิปิ ฉายูปคผลูปครุกฺขาทีนิ. ตถารูปํ วา ธมฺมิกํ กติกํ กโรนฺเตหีติ จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย ทินฺนโต อาวาสชคฺคนาทิกํ ตาทิสํ วา อฺมฺปิ ธมฺมิกํ กติกํ กโรนฺเตหิ.

เนว สุตฺตํ อาคจฺฉตีติ น มาติกา อาคจฺฉติ. โน สุตฺตวิภงฺโคติ วินโยปิ น ปคุโณ. พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหตีติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๓๓) พฺยฺชนมตฺตเมว คเหตฺวา อตฺถํ ปฏิเสเธติ. ชาตรูปรชตเขตฺตวตฺถุปฺปฏิคฺคหณาทีสุ วินยธเรหิ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา การิยมาเน ทิสฺวา ‘‘กึ อิเม อาปตฺติยา กาเรถ, นนุ ‘ชาตรูปรชตปฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) เอวํ สุตฺเต ปฏิวิรติมตฺตเมว วุตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทติ. อปโร ธมฺมกถิโก สุตฺตสฺส อาคตตฺตา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสนฺตานํ อาปตฺติยา อาโรปิยมานาย ‘‘กึ อิเมสํ อาปตฺตึ อาโรเปถ, นนุ ‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’ติ (ปาจิ. ๕๗๖) เอวํ สิกฺขากรณมตฺตเมว วุตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทติ. อุพฺพาหิก วินิจฺฉเยติ สมถกฺขนฺธเก วุตฺตอุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ‘‘สีลวา โหตี’’ติอาทิกาย หิ ทสงฺคสมฺปตฺติยา สมนฺนาคเต ทฺเว ตโย ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา วินิจฺฉโย อุพฺพาหิกวินิจฺฉโยติ ทฏฺพฺโพ.

ปวารณปฺปจฺจุกฺกฑฺฒนาติ ปวารณาย อุกฺกสฺสนา, อุทฺธํ กฑฺฒนาติ อตฺโถ. ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติ จาติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ…เป… เปตฺวา คิหิปฺปฏิสํยุตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๒-๒๑๓) เอวํ ติณวตฺถารกสมเถ กตา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ จ.

อลาภาย ปริสกฺกนาทิเกหีติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อลาภตฺถาย ปโยคกรณาทิเกหิ. อาทิสทฺเทน ‘‘อนตฺถาย ปริสกฺกนํ, อนาวาสาย ปริสกฺกนํ, อกฺโกสนปริภาสนํ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภทนํ, พุทฺธสฺส อวณฺณภณนํ, ธมฺมสฺส อวณฺณภณนํ, สงฺฆสฺส อวณฺณภณน’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๕) อวเสสํ สตฺตงฺคํ สงฺคณฺหาติ. อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺสาติ อฏฺหิ เจว องฺเคหิ เอเกเกนปิ องฺเคน จ สมนฺนาคตสฺส. อสมฺโภคกรณตฺถนฺติ เตน ทินฺนสฺส เทยฺยธมฺมสฺส อปฺปฏิคฺคหณตฺถํ. ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสนาติ กมฺมวาจาย ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน, น อโธมุขฏฺปนวเสน. ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺเสวาติ โย ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน กตนิสฺสารโณ, ตสฺเสว อุปาสกสฺส. สมฺมาวตฺตนฺตสฺสาติ เยน สมนฺนาคตสฺส ปตฺตุกฺกุชฺชนํ, เตน สมนฺนาคตสฺส. สาติ ยถาวุตฺตา นิสฺสารณา, โอสารณา จ.

สูจิยาทิอปฺปมตฺตกํ ตํตทตฺถิกานํ วิสฺสชฺเชติ เทตีติ อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชโก. สาฏิยคฺคาหาปโกติ วสฺสิกสาฏิยคฺคาหาปโก. กมฺมํ กโรนฺเต อารามิเก เปสนตฺถาย ทาตพฺพา สมฺมุติ อารามิกเปสกสมฺมุติ. เอส นโย สามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตฺถาปิ.

ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนนฺติ ตชฺชนียํ, นิยสํ, ปพฺพาชนียํ, ปฏิสารณียํ, ติวิธฺจ อุกฺเขปนียนฺติ ตชฺชนียาทีนํ สตฺตนฺนํ. อฏฺยาวตติยกาติ ภิกฺขูนํ วเสน จตฺตาโร, ภิกฺขุนีนํ วเสน จตฺตาโรติ อฏฺ สงฺฆาทิเสสา.

ตฺติกมฺมาทิวเสนาติ ตฺติกมฺมตฺติทุติยกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน. ‘‘กริยมานํ ทฬฺหตรํ โหติ, ตสฺมา กาตพฺพ’’นฺติ เอกจฺเจ วทนฺติ. เอวํ ปน สติ กมฺมสงฺกโร โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตเมว. สเจ ปน อกฺขรปริหีนํ วา ปทปริหีนํ วา ทุรุตฺตปทํ วา โหติ, ตสฺส โสธนตฺถํ ปุนปฺปุนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทํ อกุปฺปกมฺมสฺส ทฬฺหีกมฺมํ โหติ, กุปฺปกมฺเม กมฺมํ หุตฺวา ติฏฺติ. สกลกฺขเณเนวาติ ตฺติฺจ จตสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว. น เสสกมฺมวเสนาติ อปโลกนกมฺมาทินา อวเสสกมฺมวเสน น กาตพฺพํ.

กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา

อาโรจิตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตนฺติ อาโรจิตวตฺถุ อาปตฺติกภาเวน น วินิจฺฉิตํ. เอตฺถ จ โจทเกน จ จุทิตเกน จ อตฺตโน กถา กถิตา, อนุวิชฺชโก สมฺมโต, เอตฺตาวตา วตฺถุเมว อาโรจิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ฉนฺทํ อทตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกเมยฺยาติ ‘‘กถํ อิทํ กมฺมํ กุปฺปํ อสฺส, วคฺคํ อสฺส, น กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๔๘๑) อิมินา อธิปฺปาเยน ฉนฺทํ อทตฺวา นิสินฺนาสนโต อุฏฺาย คจฺเฉยฺย. เตนาห ‘‘โย ภิกฺขู’’ติอาทิ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ คมนํ กิริยํ, ฉนฺทสฺส อทานํ อกิริยํ.

ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา

ยถาสนฺถุตนฺติ ยถามิตฺตํ. เตนาห ‘‘โย โย’’ติ อาทิ. ตตฺถ มิตฺตสนฺทิฏฺสมฺภตฺตวเสนาติ มิตฺตสนฺทิฏฺสมฺภตฺตานํ วเสน. ตตฺถ มิตฺตา มิตฺตาว. สนฺทิฏฺา ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺมตฺตา นาติทฬฺหมิตฺตา. สมฺภตฺตา สุฏฺุ ภตฺตา สิเนหวนฺโต ทฬฺหมิตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

ปฺจ ครุภณฺฑานีติ ราสิวเสน ปฺจ ครุภณฺฑานิ, สรูปวเสน ปเนตานิ พหูนิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘ราสิวเสน ปฺจ ครุภณฺฑานิ วุตฺตานี’’ติ. อาราโม (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๒๗) นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส, เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค . วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. มฺโจ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตโร. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ ภิสีนํ อฺตรา. พิพฺโพหนํ นาม รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลานํ อฺตเรน ปุณฺณํ. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. โลหภาณกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ภาณกนฺติ อรฺชโร วุจฺจติ. วารโกติ ฆโฏ. กฏาหํ กฏาหเมว. วาสิอาทีสุ, วลฺลิอาทีสุ จ ทุวิฺเยฺยํ นาม นตฺถิ. เอวํ –

ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;

จตุตฺถํ นวโกฏฺาสํ, ปฺจมํ อฏฺเภทนํ.

อิติ ปฺจหิ ราสีหิ, ปฺจนิมฺมลโลจโน;

ปฺจวีสวิธํ นาโถ, ครุภณฺฑํ ปกาสยิ. (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๒๗);

วิสฺสชฺเชตุํ วา วิภชิตุํ วา น วฏฺฏตีติ มูลจฺเฉชฺชวเสน วิสฺสชฺเชตุํ วา วิภชิตุํ วา น วฏฺฏนฺติ. ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺชนฺตสฺส, วิภชนฺตสฺส จ อนาปตฺติ. เตนาห ‘‘ถาวเรนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ถาวเรน ถาวรนฺติ อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุนา อารามํ อารามวตฺถุํ วิหารํ วิหารวตฺถุํ. อิตเรนาติ อถาวเรน, ปจฺฉิมราสิตฺตเยนาติ วุตฺตํ โหติ. อกปฺปิเยนาติ สุวณฺณมยมฺจาทินา เจว อกปฺปิยภิสิพิพฺโพหเนหิ จ. มหคฺฆกปฺปิเยนาติ ทนฺตมยมฺจาทินา เจว ปาวาราทินา จ. อิตรนฺติ อถาวรํ. กปฺปิยปริวตฺตเนน ปริวตฺเตตุนฺติ ยถา อกปฺปิยํ น โหติ, เอวํ ปริวตฺเตตุํ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๒๘) – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกาว พหุตรํ ขาทนฺติ, ยมฺปิ น ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว อาหรนฺติ. อฺเสํ ปน ตสฺสารามสฺส อวิทูเร คามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจสตานิ, ‘‘ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ , เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภุฺชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว. สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปุฺํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น จิเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ, เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามํ อารามวตฺถุํ วิหารํ วิหารวตฺถุนฺติ.

กถํ วิหาเรน (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๒๘) วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา. สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ ปพฺพชิตานํ อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ, คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารํ วิหารวตฺถุํ อารามํ อารามวตฺถุํ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.

อิตเรน อิตรปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ, ขุทฺทกํ วา (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑; วิ. สงฺค. อฏฺ. ๒๒๘), อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชา วา ราชมหามตฺตาทโย วา เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฺปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺพา, น ปุคฺคลิกปริโภเคน ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ. ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺโพ, น ปุคฺคลิกโภเคน. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน วา สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิพฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอเสว นโย ปีภิสิพิพฺโพหเนสุปิ. วรเสนาสนาทีนํ สํรกฺขณตฺถนฺติ สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน น ยาเปนฺติ, เอตฺถ ราชโรคโจรภยานิ, อฺตฺถ คจฺฉนฺตานํ วิหารา ปลุชฺชนฺติ, ตาลนาฬิเกราทิเก วินาเสนฺติ, เสนาสนปจฺจยํ สนฺธาย ยาเปตุํ สกฺกา โหติ, เอวรูเป กาเล วรเสนาสนาทีนํ สํรกฺขณตฺถํ. ลามกานิ วิสฺสชฺเชตุนฺติ ลามกํ ลามกํ วิสฺสชฺเชตุํ, ลามกโกฏิยา วิสฺสชฺเชตุนฺติ อธิปฺปาโย. วิสฺสชฺเชตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ วิสฺสชฺเชตฺวา ตโต ลทฺธยาคุภตฺตจีวราทีนิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. กาฬโลหตมฺพโลหกํสโลหวฏฺฏโลหานนฺติ เอตฺถ กํสโลหํ, วฏฺฏโลหฺจ กิตฺติมโลหํ. ตีณิ หิ กิตฺติมโลหานิ กํสโลหํ, วฏฺฏโลหํ, อารกูฏนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ, สีตตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ, รสกตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ อารกูฏํ. เตน วุตฺตํ ‘‘กํสโลหํ, วฏฺฏโลหฺจ กิตฺติมโลห’’นฺติ. ตโต อติเรกนฺติ ตโต อติเรกคฺคณฺหนโก.

สรโกติ มชฺเฌ มกุฬํ ทสฺเสตฺวา มุขวฏฺฏิวิตฺถตํ กตฺวา ปิฏฺิโต นาเมตฺวา กาตพฺพํ เอกํ ภาชนํ. ‘‘สราว’’นฺติปิ วทนฺติ. อาทิสทฺเทน กฺจนกาทีนํ คิหิอุปกรณานํ คหณํ. ตานิ หิ ขุทฺทกานิปิ ครุภณฺฑาเนว คิหิอุปกรณตฺตาติ. ปิ-สทฺเทน ปเคว มหนฺตานีติ ทสฺเสติ. อิมานิ ปน ภาชนียานิ ภิกฺขูปกรณตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ เอตานิ, เอวํ กุณฺฑิกาปิ ภาชนียา. วกฺขติ หิ ‘‘ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา). สงฺฆิกปริโภเคนาติ อาคนฺตุกานํ วุฑฺฒตรานํ ทตฺวา ปริโภเคน. คิหิวิกฏาติ คิหีหิ วิกตา ปฺตฺตา, อตฺตโน วา สนฺตกกรเณน วิรูปํ กตา. ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏตีติ อาคนฺตุกานํ อทตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ วิย คเหตฺวา ปริหริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ปิปฺผลิโกติ กตฺตริ. อารกณฺฏกํ สูจิเวธกํ. ตาฬํ ยนฺตํ. กตฺตรยฏฺิเวธโก กตฺตรยฏฺิวลยํ. ยถา ตถา ฆนกตํ โลหนฺติ โลหวฏฺฏิ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหจกฺกลิกนฺติ เอวํ ฆนกตํ โลหํ. ขีรปาสาณมยานีติ มุทุกขีรวณฺณปาสาณมยานิ.

คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ อนามาสตฺตา. ปิ-สทฺเทน ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วาติ ทสฺเสติ. เสนาสนปริโภโค ปน สพฺพกปฺปิโย. ตสฺมา ชาตรูปาทิมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา. เตนาห ‘‘เสนาสนปริโภเค ปนา’’ติอาทิ.

เสสาติ ตโต มหตฺตรี วาสิ. ยา ปนาติ ยา กุทารี ปน. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ ครุภณฺฑเมว. นิขาทนํ จตุรสฺสมุขํ วา โหตุ, โทณิมุขํ วา วงฺกํ วา อุชุกํ วา, อนฺตมโส สมฺมุฺชนิทณฺฑกเวธนมฺปิ ทณฺฑพนฺธํ เจ, ครุภณฺฑเมว. เตนาห ‘‘กุทาโล ทณฺฑพนฺธนิขาทนํ วา อครุภณฺฑํ นาม นตฺถี’’ติ. สิปาฏิกา นาม ขุรโกโส. สิขรํ ปน ทณฺฑพนฺธนิขาทนํ อนุโลเมตีติ อาห ‘‘สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิต’’นฺติ. สเจ ตมฺปิ ปน อทณฺฑกํ ผลมตฺตํ, ภาชนียํ. อุปกฺขเรติ วาสิอาทิภณฺฑานิ.

ปตฺตพนฺธโก นาม ปตฺตสฺส คณฺิกาทิการโก. ‘‘ปฏิมาสุวณฺณาทิปตฺตการโก’’ติปิ วทนฺติ. ติปุจฺเฉทนกสตฺถํ, สุวณฺณจฺเฉทนกสตฺถํ, กตปริกมฺมจมฺมจฺฉินฺทนกขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ เจตฺถ ตีณิ ปิปฺผลิกํ อนุโลเมนฺตีติ อาห ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติอาทิ. อิตรานีติ มหากตฺตริอาทีนิ.

อฑฺฒพาหุปฺปมาณาติ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๓๒๑) กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏปฺปมาณา, วิทตฺถิจตุรงฺคุลปฺปมาณาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถชาตกาติ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตา. อารกฺขสํวิธาเนน รกฺขิตตฺตา รกฺขิตา จ สา มฺชูสาทีสุ ปกฺขิตฺตํ วิย ยถา ตํ น นสฺสติ, เอวํ โคปนโต โคปิตา จาติ รกฺขิตโคปิตา. ตตฺถชาตกาปิ ปน อรกฺขิตา ครุภณฺฑเมว น โหติ. ‘‘สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต’’ติ อิมินา สงฺฆสนฺตเกน เจติยสนฺตกํ รกฺขิตุํ, ปริวตฺติตุฺจ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. สุตฺตํ ปนาติ วฏฺฏิตฺเจว อวฏฺฏิตฺจ สุตฺตํ.

อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตติ อนฺตมโส ทีฆโส อฏฺงฺคุลมตฺโต, ปริณาหโต สีหฬปณฺณสูจิทณฺฑมตฺโต. เอตฺถาติ เวฬุภณฺเฑ. ทฑฺฒํ เคหํ เยสํ เตติ ทฑฺฒเคหา. น วาเรตพฺพาติ ‘‘มา คณฺหิตฺวา คจฺฉถา’’ติ น นิเสเธตพฺพา. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺพา.

อวเสสฺจ ฉทนติณนฺติ มุฺชปพฺพเชหิ อวเสสํ ยํ กิฺจิ ฉทนติณํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ, ตตฺถ ปณฺเณหิ ฉาเทนฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). ตสฺมา ปณฺณมฺปิ ติเณเนว สงฺคหิตนฺติ อาห ‘‘ฉทนติณสงฺเขปคเตสู’’ติอาทิ. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปีติ วิตฺถารโต อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ. ลิขิตโปตฺถโก ปน ครุภณฺฑํ น โหติ.

เวฬุมฺหิ วุตฺตปฺปมาโณติ ‘‘อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑกมตฺโตปี’’ติ เวฬุภณฺเฑ วุตฺตปฺปมาโณ. สงฺฆสฺส ทินฺโน วาติ ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา. กุรุนฺทิยํ วุตฺตกฺกเมน ทารุภณฺฑวินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตกฺกเมน วตฺตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. อาสนฺทิกาทีนีติ เอตฺถ อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ วุจฺจติ. ‘‘อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิก’’นฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏติ. จตุรสฺสาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺตีติ เวทิตพฺโพ. อาทิสทฺเทน ‘‘สตฺตงฺโค, ภทฺทปีกํ, เอฬกปาทกปีํ, อามลกวฏฺฏกปีํ, ผลกํ, โกจฺฉํ, ปลาลปีก’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อิเม สงฺคณฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิ. ปณฺเณหิ วาติ กทลิปณฺณาทีหิ วา. พฺยคฺฆจมฺโมนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ รตนปริสิพฺพิตํ โกจฺฉกํ ครุภณฺฑเมว.

ฆฏฺฏนผลกํ นาม ยตฺถ เปตฺวา รชิตจีวรํ หตฺเถน ฆฏฺเฏนฺติ. ฆฏฺฏนมุคฺคโร นาม อนุวาตาทิฆฏฺฏนโกติ วทนฺติ. ทณฺฑมุคฺคโร นาม เยน รชิตจีวรํ โปเถนฺติ. อมฺพณนฺติ ผลเกหิ โปกฺขรณี วิย กตํ ปานียภาชนํ. รชนโทณีติ ปกฺกรชนํ อากิริตฺวา ปนภาชนํ.

อกปฺปิยจมฺมนฺติ สีหาทีนํ จมฺมํ. ‘‘ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ อกปฺปิยจมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปจฺจตฺถรณคติก’’นฺติ อิมินา มฺจปีเปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ปาวาราทิปจฺจตฺถรณมฺปิ ครุภณฺฑนฺติ เอเก. โนติ อปเร. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. กปฺปิยจมฺมานีติ มิคาทีนํ จมฺมานิ.

สพฺพํ จกฺกยุตฺตยานนฺติ รถสกฏาทิกํ สพฺพจกฺกยุตฺตยานํ. วิสงฺขริตจกฺกํ ปน ยานํ ภาชนียํ. อนุฺาตวาสิ นาม ยา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ สกฺกาติ วุตฺตา. มุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปตฺตํ. ตฺหิ มุฏฺินา คเหตฺวา ปริหรนฺตีติ ‘‘มุฏฺิปณฺณ’’นฺติ วุจฺจติ. มุฏฺิปณฺณนฺติ ฉตฺตจฺฉทนปณฺณเมวาติ เกจิ. อรณิสหิตนฺติ อรณิยุคฬํ, อุตฺตรารณี, อธรารณีติ อรณิทฺวยนฺติ อตฺโถ.

ผาติกมฺมํกตฺวาติ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวาลิกายปิ ถาวรํ วฑฺฒิกมฺมํ กตฺวา. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วลฺเชตพฺโพ. คมนกาเล สงฺฆิเก อาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ. เอตฺถาติ มตฺติกาภณฺเฑ. กุณฺฑิกาติ อโยกุณฺฑิกา เจว ตมฺพโลหกุณฺฑิกา จ. ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตีติ ภาชนียปกฺขเมว เสวติ, น ตุ ครุภณฺฑนฺติ อตฺโถ. กฺจนโก ปน ครุภณฺฑเมวาติ อธิปฺปาโย. อิตรนฺติ ครุภณฺฑํ.

ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา

ทฺวาทสเม น กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ.

ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.

๙. รตนวคฺโค

๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา

อนิกฺขนฺตราชเก อนิคฺคตรตนเกติ เอตฺถ ‘‘สยนิฆเร’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘อนิกฺขนฺโต ราชา อิโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อิโตติ สยนิฆรโต. สยนิฆเรติ สยนียฆเร. ยตฺถ รฺโ สยนํ ปฺตฺตํ โหติ, อนฺตมโส สาณิปาการปริกฺขิตฺตมฺปิ, ตสฺมินฺติ วุตฺตํ โหติ. รติชนนฏฺเน รตนํ, หตฺถิอาทิ. อิธ ปน อิตฺถิรตนํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘รตนํ วุจฺจติ มเหสี’’ติ.

อุโภสูติ ราชมเหสีสุ. กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ อินฺทขีลาติกฺกโม กิริยํ, อปฺปฏิสํวิทิตํ อกิริยนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา

มุตฺตาทิทสวิธนฺติ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๐๖) ทสวิธํ รตนํ. อชฺฌาวสเถติ เคเห. เตนาห ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺสา’’ติอาทิ, ปริกฺขิตฺตสฺส อาวสถสฺสาติ อตฺโถ. อาวสโถติ เจตฺถ อนฺโตคาเม นิวิฏฺเคหํ อธิปฺเปตํ. อาราเม นิวิฏฺเคหํ ปน อชฺฌารามคฺคหเณเนว คหิตํ. ‘‘อาวสโถติ เจตฺถ อนฺโตอาราเม วา โหตุ, อฺตฺถ วา, อตฺตโน วสนฏฺานํ วุจฺจตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๐๖) เกจิ. สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย ทุกฺกฏเมวาติ อตฺตโน วา เตสํ สงฺฆาทีนํ วา อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว. สเจ ปน มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฏิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ โหติ, อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฏิสาเมตพฺพนฺติ อาห ‘‘ตาทิสํ ปนา’’ติอาทิ. ตาทิสนฺติ ยํ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฏิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ, ตาทิสํ. ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกิอาทีสุ ฉนฺเทนปิ, ราชวลฺลเภสุ ภเยนปิ.

ตาทิเส าเนติ มหาวิหารสทิสสฺส มหารามสฺส ปาการปริกฺขิตฺเต ปริเวเณ. สฺาณํ กตฺวาติ ‘‘เอตฺตกา กหาปณา’’ติอาทินา รูเปน วา ลฺฉนาทินิมิตฺเตน วา สฺาณํ กตฺวา, สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. ปติรูปานํ ภิกฺขูนํ หตฺเถติ ลชฺชีนํ กุกฺกุจฺจกานํ ภิกฺขูนํ หตฺเถ. โลลชาติกานฺหิ หตฺเถ เปตุํ น ลพฺภติ. เนว ปกฺกมตีติ เนว ตมฺหา อาวาสา ปกฺกมติ. ‘‘ถาวรํ เสนาสนํ วา’’ติอาทินา อตฺตโน จีวราทิมูลํ น กาตพฺพนฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๐๖) ทสฺเสติ. ตํ ทสฺเสตฺวาติ ยํ ถาวรเสนาสนาทิ กตํ, ตํ อุปาสก ตว สนฺตเกน อิทํ นาม กตนฺติ เอวํ ทสฺเสตฺวา. สมาทเปตฺวาติ อฺํ สมาทเปตฺวา, ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ วุตฺตนเยน ยาจิตฺวาติ อตฺโถ.

อนุฺาตฏฺาเนติ อชฺฌารามอชฺฌาวสเถ. อามาสนฺติ อามสิตพฺพฺเจว ปฏิสาเมตพฺพฺจ วตฺถาทิ.

รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา

จาริตฺเตติ จาริตฺตสิกฺขาปเท. อุปจารนฺติ ทุติยเลฑฺฑุปาตํ. อฺํ คามํ คจฺฉนฺตานํ ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถีติ อุสฺสาหํ อปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา อฺํ คามํ คจฺฉนฺตานํ คามสตมฺปิ โหตุ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. อุสฺสาหนฺติ คามปฺปวิสนุสฺสาหํ. อนฺตรารามาทีสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๕) น เกวลํ อนาปุจฺฉา คจฺฉนฺตสฺเสว, กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาปทาสูติ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ , อนาปตฺติ. เอวรูปาสุ อาปทาสุ พหิคามโต อนฺโตคามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.

วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา

ตํ อสฺส อตฺถีติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๑๗) ปมํ ภินฺทิตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา ตํ เภทนกํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถีติ.

อรณิเกติ อรณิธนุเก. วิเธติ เวธเก. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก จ.

สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา

อฏฺงฺคุลปาทกนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. ‘‘เฉทนกํ เภทนกสทิสเมวา’’ติ อิมินา ‘‘เฉทนเมว เฉทนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เฉทนก’’นฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.

ยถา ปมาณเมว อุปริ ทิสฺสติ, เอวํ นิขณิตฺวา วาติ สเจ ปน น ฉินฺทิตุกาโม โหติ, ยถา ปมาณเมว อุปริ ทิสฺสติ, เอวํ ภูมิยํ นิขณิตฺวา วา. อฏฺฏกํ วา พนฺธิตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเต เปตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา.

มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา

จิมิลิกํปตฺถริตฺวา ตูลํ ปกฺขิปิตฺวาติ มฺจปีานํ อุปริ จิมิลิกํ ปตฺถริตฺวา ตสฺส อุปริ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. อุปริ จิมิลิกายาติ อุปริมภาเค จิมิลิกาย.

สีสปฺปมาณนฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗; สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๙๗) ยตฺถ คลวาฏกโต ปฏฺาย สพฺพสีสํ อุปทหนฺติ, ตํ สีสปฺปมาณํ. ตฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต ติริยํ มุฏฺิรตนํ โหติ, ทีฆโต ทฺวิรตนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ โกเณสู’’ติอาทิมาห. ทฺวินฺนํ อนฺตรํ วิทตฺถิ จตุรงฺคุลํ โหตีติ ทฺวินฺนํ โกณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ. มชฺเฌ มุฏฺิรตนนฺติ พิพฺโพหนสฺส มชฺฌํ ติริยโต มุฏฺิรตนปฺปมาณํ โหติ. อยฺหิ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท. ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา วฏฺฏติ. อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ. คิลานสฺส พิพฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา

สตฺตมํ อุตฺตานเมว.

นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา

อโธนาภิอุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ นาภิยา เหฏฺา ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ. กณฺฑุปีฬกอสฺสาวถุลฺลกจฺฉาพาธานนฺติ เอตฺถ กณฺฑูติ กจฺฉุ. ปีฬกาติ โลหิตตุณฺฑิกา สุขุมปีฬกา. อสฺสาโวติ อริสภคนฺทลมธุเมหานํ วเสน อสุจิปคฺฆรณํ. ถุลฺลกจฺฉาพาโธติ มหาปีฬกาพาโธ วุจฺจติ.

กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. วสฺสิกสาฏิกนนฺทสิกฺขาปทวณฺณนา

นวมํ ทสมฺจ อุตฺตานเมว.

วสฺสิกสาฏิกนนฺทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

รตนวคฺโค นวโม.

อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย

วินยตฺถมฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ

ปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.