📜
ปาราชิกกณฺฑํ
นาโถ ¶ ¶ ภิกฺขุนีนํ หิตตฺถาย ยํ ปาติโมกฺขํ ปกาสยีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปกาสยีติ เทสยิ, ปฺาปยีติ อตฺโถ.
สาธารณปาราชิกํ
๑. เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
อภิลาปมตฺตนฺติ วจนมตฺตํ, น อตฺโถติ อธิปฺปาโย. ลิงฺคเภทมตฺตนฺติ ปุริสลิงฺคํ อิตฺถิลิงฺคนฺติ วิเสสมตฺตํ. วิเสโสติ นานาตฺตํ. ฉนฺเทน เจวาติ เปเมน เจว, สิเนเหน เจวาติ อตฺโถ ¶ . รุจิยา จาติ อิจฺฉาย จ. ปธํสิตายาติ ทูสิตาย. ปริปุณฺณา อุปสมฺปทา ยสฺสา สา ปริปุณฺณูปสมฺปทา, อุภโตสงฺเฆน อุปสมฺปนฺนาติ อตฺโถ.
เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อสาธารณปาราชิกํ
๕. อุพฺภชาณุมณฺฑลสิกฺขาปทวณฺณนา
อุพฺภกปฺปรนฺติ ทุติยมหาสนฺธิโต อุทฺธํ. อิโต จิโต จ สฺจรณนฺติ หตฺถสฺส วา กายสฺส วา ติริยํ อิโต จิโต จ สฺจรณํ.
เอกโตอวสฺสุเตติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) ภิกฺขุนิยา อวสฺสเว, ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตภาเว สตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุนิยา วเสเนว จ เอกโตอวสฺสุตภาโว คเหตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) –
‘‘เอกโตอวสฺสุเตติ ¶ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘เอกโต’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ, ตถาปิ ภิกฺขุนิยา เอว อวสฺสุเต สติ อยํ อาปตฺติเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ’’ติ.
ปุริสสฺส กายนฺติ ปุริสสฺส ยํ กฺจิ กายํ. อุภโตอวสฺสุเตปีติ ภิกฺขุนิยา เจว ปุริสสฺส จ กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตภาเว สติปิ. กาเยนาติ ยถาปริจฺฉินฺเนน อตฺตโน กาเยน. กายปฺปฏิพทฺธนฺติ ปุริสสฺส กายปฺปฏิพทฺธํ. อวเสสกาเยน วาติ ยถาปริจฺฉินฺนกายโต อวเสเสน กาเยน, อุพฺภกฺขกอโธชาณุมณฺฑลอโธกปฺปรสงฺขาเตน กาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส กายนฺติ อวสฺสุตสฺส ตสฺส ปุริสสฺส ยํ กฺจิ กายํ. ยถา เจตฺถ สยํ อามสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, เอวํ ตสฺส อามสนํ สาทิยนฺติยาปีติ ทฏฺพฺพํ. ปุริสสฺส กายสํสคฺคราโค นตฺถีติ ปุริสสฺส เมถุนราโค, เคหสิตเปมํ, สุทฺธจิตฺตํ วา. อวเสเสติ ปาราชิกเขตฺตโต อวเสเส. กายปฺปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธาทิเภเทติ ‘‘กายปฺปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิเก ¶ (ปาจิ. ๖๕๙, ๖๖๒) สพฺพวาเร. ‘‘อสฺจิจฺจา’’ติอาทีสุ วิรชฺฌิตฺวา วา อามสนฺติยา, อฺวิหิตาย วา, ‘‘อยํ ปุริโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา อชานนฺติยา วา, เตน ผุฏฺายปิ ตํ ผสฺสํ อสฺสาทยนฺติยา วา อามสเนปิ สติ อนาปตฺติ.
อุพฺภชาณุมณฺฑลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกาสิกฺขาปทวณฺณนา
ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนนฺติ ภิกฺขูหิ สาธารณานํ จตุนฺนํ, อสาธารณานํ จตุนฺนฺจาติ อฏฺนฺนมฺตรํ อชฺฌาปนฺนํ. อิทฺจ ปาราชิกํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๖) ปจฺฉา ปฺตฺตํ, สงฺคีติการกาจริเยหิ ปน ปุริเมน สทฺธึ ยุคฬํ กตฺวา อิมสฺมึ โอกาเส ปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อฏฺนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตร’’นฺติ (ปาจิ. ๖๖๖) วจนโต ปน วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกํ ยา ปฏิจฺฉาเทติ, สาปิ วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ วชฺชปฺปฏิจฺฉาทนํ เปมวเสน โหติ, ตถาปิ ¶ สิกฺขาปทวีติกฺกมจิตฺตํ โทมนสฺสเมว โหตีติ กตฺวา ทุกฺขเวทนํ โหตีติ ‘‘ตตฺร หิ ปาจิตฺติยํ…เป… เสสํ ตาทิสเมวา’’ติ วุตฺตํ.
วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺถุสาสเนนาติ ตฺติสมฺปทาย เจว อนุสฺสาวนสมฺปทาย จ. อิธ ปน โจทนาสารณาปุพฺพกเมว ตฺติอนุสฺสาวนํ สตฺถุสาสนนฺติ อาห ‘‘อิธาปี’’ติอาทิ. กรณนฺติ ตฺติฏฺปนฺเจว อนุสฺสาวนาวจนฺจ. อนาทรนฺติ ปุคฺคเล เจว ธมฺเม จ อาทรวิรหิตํ. เตนาห ‘‘เยนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปริยาปนฺนคเณ วาติ ตสฺมึ สงฺเฆ ปริยาปนฺเน สมฺพหุลปุคฺคลสงฺขาเต คเณ วา. ‘‘สมฺมาวตฺตนาย อวตฺตมานนฺติ อตฺโถ’’ติ อิมินา อธิปฺปายตฺโถ วุตฺโต. เอกกมฺมาทิเกติ เอกกมฺมเอกุทฺเทสสมสิกฺขาตาย. สห อยนภาเวนาติ สห วตฺตนภาเวน. สมาโน สํวาโส เอเตสนฺติ สมานสํวาสกา.
อิทานิ เยน สํวาเสน เต ‘‘สมานสํวาสกา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๙) วุตฺตา, โส สํวาโส ¶ ตสฺส อุกฺขิตฺตกสฺส เตหิ สทฺธึ นตฺถิ, เยหิ จ สทฺธึ ตสฺส โส สํวาโส นตฺถิ, น เตน เต ภิกฺขู อตฺตโน สหายา กตา โหนฺติ, ตสฺมา โส อกตสหาโย นามาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ปทวณฺณนํ กตฺวา อิทานิ อตฺถมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมานสํวาสกภาวํ อนุปคตนฺติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. กึ ตํ อนุวตฺตนนฺติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยาติ ตํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํทิฏฺิโก โส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ โย อุกฺขิตฺตโก, โส.
อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อฏฺวตฺถุกาสิกฺขาปทวณฺณนา
โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสนาติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๖๗๕) โลกสฺสาทสงฺขาตสฺส มิตฺตสนฺถวสฺส วเสน. กึ ตนฺติ อาห ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ. กายสํสคฺคราเคเนว ¶ ตินฺตา อิธ อวสฺสุตา นาม, น เมถุนราเคนาติ. กถเมตํ วิฺายตีติ อาห ‘‘อยเมว หี’’ติอาทิ. กึ ปเนตฺถ การณนฺติ อาห ‘‘สมนฺตปาสาทิกายํ ปนสฺส วิจารณา กตา’’ติ. ตตฺถายํ วิจารณา – เอตฺถ จ อสทฺธมฺโมติ กายสํสคฺโคว เวทิตพฺโพ, น เมถุนธมฺโม. น หิ เมถุนสฺส สามนฺตา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) วจนมฺปิ เจตฺถ สาธกนฺติ. ยํ เยน กตํ, ตํ ตสฺเสว โหตีติ. ปุริสปุคฺคลสฺสาติ สามิวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปุริสปุคฺคเลนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หตฺโถติ อตฺตโน หตฺโถ. น เกวลฺเจตฺถ หตฺถคฺคหณนฺติ ‘‘หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตสฺส หตฺถสฺเสว คหณํ, อถ โข ตสฺส จ อฺสฺสปิ อปาราชิกเขตฺตสฺส คหณํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘หตฺถคฺคหณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตถา สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณนฺติ น เกวลํ สงฺฆาฏิกณฺณสฺเสว คหณํ, อถ โข ตสฺส จ อฺสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ จีวรปฺปเทสสฺส คหณํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จ ยสฺส กสฺสจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิตฺถนฺนามํ านนฺติ เอวํนามกํ านํ. ‘‘ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา ปูเรตฺวา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. ตสฺมา ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา เอกนฺตริกาย วา เยน เตน นเยน ปูเรตฺวาติ อตฺโถ.
ตา อาปตฺติโยติ ตา อาปนฺนา อาปตฺติโย. ยถา เจเกกสฺมึ วตฺถุสฺมึ เอวํ วิสุํ วิสุํ สตฺตสุ วตฺถูสุ สตกฺขตฺตุมฺปิ วีติกฺกนฺเตสุ ตา อาปตฺติโย เทเสตฺวา มุจฺจติ. คณนูปิกาติ เทสิตคณนํ ¶ อุปคจฺฉติ. ธุรนิกฺเขปํ กตฺวาติ ‘‘อฺํ วตฺถุํ อาปชฺชิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ เปตฺวา.
อฏฺวตฺถุกาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
วินยตฺถมฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ
ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข ปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.