📜
ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. ลสุณวคฺโค
๑. ลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ลสุณ’’นฺติ ¶ ¶ กิฺจาปิ อวิเสเสน วุตฺตํ, ตถาปิ มคเธสุ ชาตํ ลสุณเมว อิธาธิปฺเปตํ, ตมฺปิ ภณฺฑิกลสุณเมวาติ อาห มคธรฏฺเ ชาต’’นฺติอาทิ.
ภณฺฑิกลสุณนฺติ โปฏฺฏลิกลสุณเมว, สมฺปุณฺณมิฺชานเมตํ อธิวจนํ. เตนาห ‘‘น เอกทฺวิติมิฺชก’’นฺติ. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเรติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕) เอตฺถ สเจ ทฺเว ตโย ภณฺฑิเก เอกโตเยว สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. ภฺชิตฺวา เอเกกมิฺชกํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานิ.
ปลณฺฑุกาทีนํ วณฺเณน วา มิฺชาย วา นานาตฺตํ เวทิตพฺพํ – วณฺเณน ตาว ปลณฺฑุโก นาม ปณฺฑุวณฺโณ โหติ, ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ, หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ. มิฺชาย ปน ปลณฺฑุกสฺส เอกา มิฺชา โหติ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส ติสฺโส. จาปลสุโณ อมิฺชโก. องฺกุรมตฺตเมว หิ ตสฺส โหติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘ปลณฺฑุกสฺส ตีณิ มิฺชานิ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส เอก’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) วุตฺตํ. เอเต ปลณฺฑุกาทโย สภาเวเนว วฏฺฏนฺติ. สูปสมฺปากาทีสุ ปน มาคธกมฺปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ ปจฺจมาเนสุ มุคฺคสูปาทีสุ วา มจฺฉมํสวิกติยา วา เตเล วา พทรสาฬวาทีสุ วา อมฺพิลสากาทีสุ วา อุตฺตริภงฺเคสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ยาคุภตฺเตปิ ปกฺขิตฺตํ วฏฺฏติ. พทรสาฬวํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๗๙๓-๗๙๗) นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กตฺตพฺพา ขาทนียวิกติ.
ลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมฺพาธโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ปฏิจฺฉนฺโนกาเส’’ติ ¶ ¶ เอตสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘อุปกจฺฉเกสุ จ มุตฺตกรเณ จาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ.
อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา สํหราเปนฺติยา อนาปตฺติ. ‘‘ภิกฺขุสฺส เอตฺถ จ ลสุเณ จ ทุกฺกฏ’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๘๐๐) โปราณา.
สมฺพาธโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตลฆาตกสิกฺขาปทวณฺณนา
ตลฆาตเกติ มตฺถเก ปหารทาเน, ตฺจ โข ตลํ ‘‘มุตฺตกรเณ ปหารํ เทตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๔) ปทภาชนิยํวุตฺตตฺตา ‘‘มุตฺตกรณสฺสา’’ติ วิฺายตีติ อาห ‘‘มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน’’ติ. ปุริมนเยเนว สาณตฺติกนฺติ อตฺตโน อตฺถาย อฺํ อาณาเปนฺติยา สาณตฺติกํ.
ตลฆาตกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ชตุมฏฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
วตฺถุวเสเนตํ วุตฺตนฺติ ‘‘ชตุมฏฺเก’’ติ เอตํ นิทานวเสน อุปฺปนฺนสฺส วตฺถุโน วเสเนว วุตฺตํ. ยํ กิฺจิ ปน ทณฺฑกํ ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยว. เตนาห ‘‘กามราเคน ปนา’’ติอาทิ.
ชตุมฏฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุทกสุทฺธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
อาทาตพฺพนฺติ ปเวเสตพฺพํ. อคฺคปพฺพนฺติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อคฺคปพฺพํ. ตติยํ ปพฺพํ ปเวเสตีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ตติยํ ปพฺพํ ปเวเสติ. วุตฺตฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๑๒) ‘‘คมฺภีรโต ทฺวินฺนํ ปพฺพานํ อุปริ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺติยา ปาจิตฺติย’’นฺติ.
อติคมฺภีรํ ¶ ¶ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนวตฺถุสฺมินฺติ อติอนฺโต ปเวเสตฺวา อุทกโธวนกรณวตฺถุสฺมึ. อุทกสุทฺธิปจฺจเยน (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๘๑๒) ปน สติปิ ผสฺสสฺสาทิยเน ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ.
อุทกสุทฺธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุปติฏฺนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตกฺกาทีสุ วา อฺตเรนาติ ตกฺกทธิมตฺถุรสขีราทีสุ อฺตเรน. ยาย กายจิ พีชนิยาติ อนฺตมโส จีวรกณฺณํ อุปาทาย ยาย กายจิ พีชนิยา.
อิมํ ปิวถาติ อิมํ ปานียํ วา สูปาทึ วา ปิวถ. อิมินา พีชถาติ อิมินา ตาลวณฺเฏน พีชถ. ทาเปนฺติยาติ อฺเน อุภยมฺปิ ทาเปนฺติยา.
อุปติฏฺนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อามกธฺสิกฺขาปทวณฺณนา
ตสฺมาติ ยสฺมา วิฺตฺติ เจว โภชนฺจ ปมาณํ, ตสฺมา. น เกวลฺเจตฺถ ปฏิคฺคหเณเยว ทุกฺกฏํ โหติ, ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ปน อรฺโต อาหรเณปิ สุกฺขาปเนปิ วทฺทลิทิวเส ภชฺชนตฺถาย อุทฺธนสชฺชเนปิ กปลฺลสชฺชเนปิ ทพฺพิสชฺชเนปิ ทารูนิ อาทาย อคฺคิกรเณปิ กปลฺลมฺหิ ธฺปกฺขิปเนปิ ทพฺพิยา สงฺฆฏฺฏเนสุปิ โกฏฺฏนตฺถํ อุทุกฺขลมุสลาทิสชฺชเนสุปิ โกฏฺฏนปปฺโผฏนโธวนาทีสุปิ ยาว มุเข เปตฺวา อชฺโฌหรณตฺถํ ทนฺเตหิ สงฺขาทติ, ตาว สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏานีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคหณโต ปฏฺาย ยาว ทนฺเตหิ สํขาทนํ, ตาว ปุพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏานี’’ติ.
อามกธฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา
ติโรกุฏฺเฏติ ¶ ¶ ฆรกุฏฺฏสฺส ปรภาเค. ติโรปากาเรติ ปริกฺเขปปาการสฺส ติโรภาเค, เต จ โข กุฏฺฏปาการา อิฏฺกสิลทารูนํ วเสน ติปฺปการาติ อาห ‘‘ยสฺส กสฺสจิ กุฏฺฏสฺส วา ปาการสฺส วา ปรโต’’ติ. สพฺพานิเปตานิ เอกโต ฉฑฺเฑนฺติยาติ เอตานิ จตฺตาริปิ วตฺถูนิ เอกโต ฉฑฺเฑนฺติยา. ปาเฏกฺกํ ปน ฉฑฺเฑนฺติยา วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. อาณตฺติยมฺปิ เอเสว นโย.
ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ ภิกฺขุสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ.
ปมอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา
ภิกฺขุนิยาปีติ ปิ-สทฺเทน ภิกฺขุํ สมุจฺจิโนติ. อนิกฺขิตฺตพีเชสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๐) ปน เขตฺเตสุ โกณาทีสุ วา อสฺชาตโรปิเมสุ เขตฺตมริยาทาทีสุ วา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสานํ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเนปิ วฏฺฏติเยว. ฉฑฺฑิตเขตฺเตติ มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน ‘‘ลายิตมฺปิ ปุพฺพณฺณาทิ ปุน อุฏฺหิสฺสตี’’ติ รกฺขนฺติ, ตตฺถ ยถาวตฺถุกเมว. สามิเก อปโลเกตฺวาติ เอตฺถ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกาว. อิมินา จ สงฺฆสนฺตเก ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ภิกฺขุนีนํ ปน อตฺตโน สนฺตเก ภิกฺขุสนฺตเก วุตฺตนเยเนว วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพํ.
ทุติยอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา
นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ, โสณฺฑา วา อนฺตมโส โมรสุวมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพเมตํ นจฺจเมว. เตนาห ‘‘นจฺจนฺติ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปี’’ติ ¶ . คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ, อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา, อนฺตมโส ‘‘ทนฺตคีตมฺปิ ¶ คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, สพฺพเมตํ คีตเมว. เตนาห ‘‘คีตนฺติ อนฺตมโส ธมฺมภาณกคีตมฺปี’’ติ. ตตฺถ ธมฺมภาณกคีตํ นาม อสฺตภิกฺขูนํ ตํ ตํ วตฺตํ ภินฺทิตฺวา อติทีฆํ กตฺวา คีตสฺสเรน ธมฺมภณนํ, ตมฺปิ เนว ภิกฺขุโน, น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกฏฺกถาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฏฺฏติ, คีตูปสํหิโต ปน ธมฺโม น วฏฺฏตี’’ติ. ตสฺมา ธมฺมํ ภณนฺเตน ชาตกวตฺตาทึ ตํ ตํ วตฺตํ อวินาเสตฺวา จตุรสฺเสน (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙) วตฺเตน ปริมณฺฑลานิ ปทพฺยฺชนานิ ทสฺเสตพฺพานิ. วาทิตนฺติ ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ, กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพเมเวตํ วาทิตเมว. เตนาห ‘‘วาทิตนฺติ อนฺตมโส อุทกเภริวาทิต’’นฺติ. ยํ ปน นิฏฺุภนฺตี วา สาสงฺเก วา ิตา อจฺฉริกํ วา โผเฏติ, ปาณึ วา ปหรติ, ตตฺถ อนาปตฺติ. ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยน. อาโลจนสภาวตาย วา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสงฺเขปสพฺภาวโต ‘‘ทสฺสนาย’’อิจฺเจว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตสุ ยํ กิฺจิ ทสฺสนาย คจฺฉนฺติยา’’ติ. ยตฺถ ิตาติ เอวํ คนฺตฺวา ยสฺมึ ปเทเส ิตา.
นนุ จ สยํนจฺจนาทีสุ ปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ น วุตฺตํ, อถ กถํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺต’’นฺติ, อิมินา ปาฬิยํ อวุตฺเตปิ อฏฺกถาปมาเณน คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ ปน มาติกาคตปาจิตฺติยสฺเสว วเสน วุตฺตํ, สพฺเพสํ วเสน ปน ฉสมุฏฺานนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘อาราเม ตฺวา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ เสสอิริยาปเถหิ ยุตฺตาย ปสฺสนฺติยา อนาปตฺติยา อิจฺฉิตพฺพตฺตา. อิตรถา หิ นิสินฺนาปิ ปสฺสิตุํ น ลเภยฺย. ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉนฺติยา อาปตฺติเยว. อาสนสาลาย นิสินฺนา ปสฺสติ, อนาปตฺติ, ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺติยา อาปตฺติ. วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา ปสฺสนฺติยาปิ อาปตฺติเยว. ภิกฺขุสฺสาปิ เอเสว นโย, อาปตฺติเภโทว นานํ.
นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ลสุณวคฺโค ปโม.
๒. รตฺตนฺธการวคฺโค
๑. รตฺตนฺธการสิกฺขาปทวณฺณนา
อรโหเปกฺขายาติ ¶ ¶ นรโหอสฺสาทาเปกฺขาย. อฺวิหิตายาติ รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา าตึ วา ปุจฺฉนฺติยา, ทาเน วา ปูชาย วา มนฺเตนฺติยา.
รตฺตนฺธการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๓. ปฏิจฺฉนฺโนกาสอชฺโฌกาสสลฺลปนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติยตติยานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปฏิจฺฉนฺโนกาสอชฺโฌกาสสลฺลปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุติยิกอุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ปุริมนเยเนวา’’ติ อิมินา ‘‘สนฺติฏฺเยฺย วาติ หตฺถปาเส ิตมตฺตาย ปาจิตฺติยํ, สลฺลเปยฺย วาติ ตตฺถ ตฺวา เคหสิกกถํ กเถนฺติยาปิ ปาจิตฺติยเมว, นิกณฺณิกํ วา ชปฺเปยฺยาติ กณฺณมูเล ชปฺเปนฺติยาปิ ปาจิตฺติยเมวา’’ติ อิมํ นยํ ทสฺเสติ.
ทุติยิกอุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อนาปุจฺฉาปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา
อาสีทนฺติ เอตฺถาติ อาสนนฺติ อาห ‘‘ปลฺลงฺกสฺโสกาสภูเต’’ติ, อูรุพทฺธาสนสฺส โอกาเสติ อตฺโถ. อโนวสฺสกนฺติ นิพฺพโกกาสํ. อชฺโฌกาเส อุปจารนฺติ อชฺโฌกาเส นิสีทิตฺวา ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ ¶ . อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ วา อุฏฺิโต โหติ, โจโร วา, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมติ, อนาปตฺติ.
อนาปุจฺฉาปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อนาปุจฺฉาอภินิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
ธุวปฺตฺเตติ ¶ ภิกฺขุนีนํ อตฺถาย นิจฺจปฺตฺเต.
อนาปุจฺฉาอภินิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อนาปุจฺฉาสนฺถรณสิกฺขาปทวณฺณนา
กุลานีติ กุลสฺส ฆรานิ.
อนาปุจฺฉาสนฺถรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปรอุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว.
ปรอุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปรอภิสปนสิกฺขาปทวณฺณนา
มนุสฺสโทภคฺเคน วาติ ‘‘กาณา โหมิ, กุณี โหมิ, อิตรา วา อีทิสา โหตู’’ติอาทินา มนุสฺสวิรูปภาเวน. อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารานนฺติ เอตฺถ อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน ¶ เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗๘) เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา.
ปรอภิสปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โรทนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสมํ อุตฺตานตฺถเมว.
โรทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
รตฺตนฺธการวคฺโค ทุติโย.
๓. นคฺควคฺโค
๑-๒. นคฺคาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อิทนฺติ ¶ อิทํ อุทกสาฏิกจีวรํ.
ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
นคฺคาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา
วิสิพฺเพตฺวาติ วิชเฏตฺวา. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต, ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา สเจปิ ปจฺฉา สิพฺพติ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ.
จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สงฺฆาฏิจารสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘อิทํ ¶ เม จีวรํ มหคฺฆํ อีทิเส โจรภเย น สกฺกา ธาเรตุนฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสู’’ติ เอตฺถ ปาโ. โส ปน กากปทสฺชนิตโมเหหิ เลขเกหิ อุปริสิกฺขาปเท ลิขิโต. กิฺจาปิ ตตฺถ ลิขิโต, เอตฺเถว ปน ทฏฺพฺโพ.
สงฺฆาฏิจารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรสงฺกมนียสิกฺขาปทวณฺณนา
อาปทาสุ วา ธาเรตีติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสู อาปทาสุ ธาเรติ, อนาปตฺติ.
จีวรสงฺกมนียสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. คณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
อฺสฺมึ ปริกฺขาเรติ ยตฺถ กตฺถจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรสฺมึ. ‘‘สมคฺฆกาเล ทสฺสถา’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรนฺติยาติ ¶ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐๙) ‘‘เอตฺตกํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถํ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาหเฏ สมคฺฆํ ภวิสฺสติ, ตสฺมึ กาเล ทสฺสถา’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรนฺติยา.
คณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๑๐. ปฏิพาหนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยาติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหน อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๑๕) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ.
อฏฺมนวมานิ ¶ อุตฺตานตฺถาเนว.
เสสนฺติ ‘‘ธมฺมิเก เวมติกายา’’ติอาทิกํ อวเสสํ. ตตฺถ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยาติ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๓๑) เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ.
ปฏิพาหนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นคฺควคฺโค ตติโย.
๔. ตุวฏฺฏวคฺโค
๑-๓. เอกมฺจตุวฏฺฏนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ปมํ อุตฺตานตฺถเมว.
ววตฺถานํ ทสฺเสตฺวาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๐) มชฺเฌ กาสายํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺตีนํ อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
ตติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
เอกมฺจตุวฏฺฏนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๙. นอุปฏฺาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ปริเยสิตฺวา ¶ อลภนฺติยาติ อฺํ อุปฏฺายิกํ อลภนฺติยา. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ.
ปฺจมฉฏฺสตฺตม ¶ อฏฺมนวมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
นอุปฏฺาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จาริกนปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา
ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเตติ สเจ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา ปกฺกมติ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. อนฺตราเย สตีติ ทสวิเธสุ อนฺตราเยสุ อฺตรสฺมึ สติ. ‘‘คจฺฉิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺตา, นที วา ปูรา, วนทาโห วา อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺหติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ.
จาริกนปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. จิตฺตาคารวคฺโค
๑. ราชาคารสิกฺขาปทวณฺณนา
กีฬนจิตฺตสาลนฺติ น รฺโว กีฬนจิตฺตสาลํ, อถ โข เยสํ เกสฺจิ มนุสฺสานํ กีฬนตฺถํ ยตฺถ กตฺถจิ กตสาลํ. เอส นโย ‘‘กีฬนอุปวน’’นฺติอาทีสุปิ. ยถาห ‘‘ราชาคารํ นาม ยตฺถ กตฺถจิ รฺโ กีฬิตุํ รมิตุํ กตํ โหตี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๙๗๙) วิตฺถาโร. ตตฺถ กีฬนอุปวนนฺติ กีฬนตฺถํ อนฺโตนคเร กตํ อารามํ. กีฬนุยฺยานนฺติ ตเถว พหินคเร กตํ อุยฺยานํ.
ราชาคารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อาสนฺทิปริภฺุชนสิกฺขาปทวณฺณนา
อติกฺกนฺตปฺปมาณาติ ¶ ¶ อฏฺงฺคุลโต อติกฺกนฺตปฺปมาณปาทกา. วุตฺโตติ ปทภาชนิยํ วุตฺโต. ‘‘อกปฺปิยรูปากุโล อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโก’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๒๕๔) สารสมาสาจริโย.
อาสนฺทิปริภฺุชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สุตฺตกนฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา
อุชฺชวุชฺชเวติ อุคฺคิริตฺวา อุคฺคิริตฺวา เวเน. กนฺติตสุตฺตํ กนฺตนฺติยาติ ทสิกสุตฺตาทึ สงฺฆาเฏตฺวา กนฺตนฺติยา, ทุกฺกนฺติตํ วา ปฏิกนฺตนฺติยา.
สุตฺตกนฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. คิหิเวยฺยาวจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จาติ สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํ กิฺจิ พีชนึ วา สมฺมฺุชนิทณฺฑกํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวา ยํ กิฺจิ วา ปจิตุํ วฏฺฏติ.
คิหิเวยฺยาวจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. อธิกรณาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อนนฺตรายิกินีติ ทสวิเธสุ อนฺตราเยสุ เอเกนาปิ อนนฺตรายิกินี. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาติ.
ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมว.
อธิกรณาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อาวสถจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
อาปทาสูติ ¶ ¶ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฺปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนิสฺสชฺชิตฺวา นิวาเสนฺติยา อนาปตฺติ.
อาวสถจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อาวสถวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
กวาฏพทฺธวิหารนฺติ ทฺวารพทฺธวิหารํ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถาย. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ.
อาวสถวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ติรจฺฉานวิชฺชาปริยาปุณนสิกฺขาปทวณฺณนา
หตฺถิอาทีสุปิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๐๑๕) สิปฺปสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, ตถา อาถพฺพณาทีสุ มนฺตสทฺโท. ตตฺถ ถรูติ ขคฺคมุฏฺิ. อาถพฺพณมนฺโต นาม อาถพฺพณเวทวิหิโต ปรูปฆาตกโร มนฺโต. ขิลนมนฺโต นาม ทารุสารขิลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺโต. อคทปฺปโยโค นาม วิสโยชนํ.
ติรจฺฉานวิชฺชาปริยาปุณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ติรจฺฉานวิชฺชาวาจนสิกฺขาปทวณฺณนา
เลเขติ ลิขสิปฺเป. ธารณาย วาติ ธารณสตฺเถ, ยสฺมึ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตา พหูนิปิ คนฺถานิ ธาเรนฺติ. นาคมณฺฑลาทิเกติ เอตฺถ นาคมณฺฑลํ นาม สปฺปานํ ปเวสนิวารณตฺถํ มณฺฑลพทฺธมนฺโต.
ติรจฺฉานวิชฺชาวาจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.
๖. อารามวคฺโค
๑-๒. อารามปวิสนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
สีสานุโลกิกายาติ ¶ ¶ สีสํ อนุโลเกนฺติยา. ยตฺถ วา ภิกฺขุนิโย สนฺนิปติตาติ ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ สชฺฌายนเจติยวนฺทนาทิอตฺถํ สนฺนิปติตา. อาปทาสูติ เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.
ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
อารามปวิสนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๔. คณปริภาสนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
เสสนฺติ ‘‘อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารายา’’ติอาทิกํ อวเสสํ. ตตฺถ อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘‘อิทานิปิ ตฺวํ พาลา อพฺยตฺตา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๓๖) นเยน อนุสาสนิปกฺเข ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺติ.
จตุตฺถํ อุตฺตานตฺถเมว.
คณปริภาสนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. กุลมจฺฉรินีสิกฺขาปทวณฺณนา
กุเล มจฺฉโร กุลมจฺฉโรติ ปุริมสฺมึ ปกฺเข สกตฺเถ อินีปจฺจโย, ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนนฺติ กุลสฺส อคุณํ, อยสํ วา ภาสนฺติยาติ อตฺโถ. ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ ภาสนฺติยาติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๔๓) ภิกฺขุนีนํ อคุณํ, อยสํ วา ภาสนฺติยา.
สนฺตํเยว ¶ อาทีนวนฺติ กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํเยว อคุณํ.
กุลมจฺฉรินีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๘. อภิกฺขุกาวาสาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
สมนฺตปาสาทิกายํ ¶ วุตฺโตติ สมนฺตปาสาทิกาย โอวาทวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๔) วุตฺโต.
สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
อภิกฺขุกาวาสาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. โอวาทูปสงฺกมนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อุโปสถสฺส ปุจฺฉนํ อุโปสถปุจฺฉา, สาวกปจฺจยํ, รสฺสตฺตฺจ กตฺวา ‘‘อุโปสถปุจฺฉก’’นฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อุโปสถปุจฺฉน’’นฺติ. โอวาทตฺถายาติ โอวาทยาจนตฺถาย.
ทสมํ อุตฺตานตฺถเมว.
โอวาทูปสงฺกมนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อารามวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. คพฺภินีวคฺโค
๑-๒. คพฺภินีอาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ปมํ ¶ อุตฺตานตฺถเมว.
ถเน ภวํ ถฺํ, ขีรํ. ยํ ปาเยตีติ ยํ ทารกํ ปาเยติ.
คพฺภินีอาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปมสิกฺขมานสิกฺขาปทวณฺณนา
ปทภาชเน วุตฺตนเยนาติ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามิ…เป… วิกาลโภชนา เวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ ¶ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๗๙) ปทภาชนสมีเป อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตนเยน. อิมา ปน ฉ สิกฺขาโย สฏฺิวสฺสายปิ ปพฺพชิตาย ทาตพฺพาเยว, น เอตาสุ อสิกฺขิตา อุปสมฺปาเทตพฺพา.
ปมสิกฺขมานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๕. ทุติยสิกฺขมานาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ปทภาชเน วุตฺตา อุปสมฺปทาสมฺมุติ น ทินฺนา โหตีติ ปทภาชนสมีเป อฏฺุปฺปตฺติยํ วุตฺตา อุปสมฺปทาสมฺมุติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย น ทินฺนา โหติ.
ปฺจมํ อุตฺตานตฺถเมว.
ทุติยสิกฺขมานาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๑๐. ทุติยคิหิคตาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสวสฺสาย ¶ คิหิคตาย สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ.
สตฺตมอฏฺมนวมทสมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ทุติยคิหิคตาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
คพฺภินีวคฺโค สตฺตโม.
๘. กุมาริภูตวคฺโค
๑-๕. ปมกุมาริภูตาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
สพฺพปมา ทฺเว มหาสิกฺขมานาติ คพฺภินิวคฺเค วุตฺตา ทฺเว สิกฺขมานา. ‘‘สิกฺขมานา’’อิจฺเจว วตฺตพฺพาติ สมฺมุติกมฺมาทีสุ เอวํ วตฺตพฺพา. ‘‘คิหิคตา’’ติ ¶ วา ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วา น วตฺตพฺพาติ สเจ วทนฺติ, กมฺมํ กุปฺปตีติ อธิปฺปาโย.
จตุตฺถปฺจมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปมกุมาริภูตาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๘. ขียนธมฺมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
วุฏฺาปนสมฺมุติยา ยาจิตายาติ อุปสมฺปทาสมฺมุติยา ยาจิตาย.
สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ขียนธมฺมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. โสกาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
อาคจฺฉมานาติ ¶ อาคจฺฉนฺตี.
โสกาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนนฺุาตสิกฺขาปทวณฺณนา
เตสํ อตฺถิภาวํ อชานนฺติยาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๓) เตสํ มาตาทีนํ อตฺถิภาวํ อชานนฺติยา. อนนฺุาตสมุฏฺานนฺติ ยํ วาจโต, กายวาจโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, ตํ อนนฺุาตสมุฏฺานํ. กถํ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ, เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. ‘‘อุปสฺสยโต อุฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุ าเนสุ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อนนุชานาเปตฺวา อุปสมฺปาทนโต กิริยากิริยํ.
อนนฺุาตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ปาริวาสิกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทารุณนฺติ ¶ ปาปํ. ปติมาเนนฺตนฺติ โอโลเกนฺตํ.
ปาริวาสิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. อนุวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกนฺตริกนฺติ เอเกน วสฺเสน อนฺตริกํ กตฺวา.
อนุวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. เอกวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
มาติกายํ ¶ เอกํ วสฺสํ ทฺเวติ เอกนฺตริเก เอเกกสฺมึ สํวจฺฉเร ทฺเว. เอกนฺตริกํ วุฏฺาเปนฺติยาติ อิมสฺมึ วสฺเส เอกํ, ปุน เอกนฺตริกํ เอกนฺติ ทฺเว วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ.
เอกวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.
๙. ฉตฺตุปาหนวคฺโค
๑-๒. ฉตฺตุปาหนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
วุตฺตลกฺขณํ ฉตฺตนฺติ ‘‘ฉตฺตํ นาม ตีณิ ฉตฺตานิ – เสตจฺฉตฺตํ, กิลฺชจฺฉตฺตํ, ปณฺณจฺฉตฺตํ มณฺฑลพทฺธํ, สลากพทฺธ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๘๑) เอวํ ปทภาชเน วุตฺตลกฺขณํ ฉตฺตํ. ตาทิสํ านํ ปตฺวาติ คจฺฉกทฺทมาทีสุ ตํ ตํ านํ ปตฺวา.
ฉตฺตสฺเสวาติ กทฺทมาทีนิ ปตฺวา อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา ฉตฺตสฺเสว ธารณํ. อุปาหนานํเยว วาติ คจฺฉาทีนิ ทิสฺวา ฉตฺตํ อปนาเมตฺวา อุปาหนานํเยว ธารณํ.
ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว.
ฉตฺตุปาหนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๕. สงฺฆาณิอาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
สงฺฆาณินฺติ ¶ กฏิยํ อนุภวิตพฺพํ อาภรณํ. เตนาห ‘‘ยํ กิฺจิ กฏูปค’’นฺติ.
จตุตฺถปฺจมานิ ¶ อุตฺตานตฺถาเนว.
สงฺฆาณิอาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วาสิตกสิกฺขาปทวณฺณนา
คนฺธวาสิตเกนาติ คนฺธปริภาวิเตน.
วาสิตกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๑๐. ภิกฺขุนิอุมฺมทฺทาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
คิลานายาติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๐๘) อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ อาพาธิกาย. อาปทาสูติ โจรภยาทินา สรีรกมฺปนาทีสุ.
อฏฺมนวมทสเมสุ กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
ภิกฺขุนิอุมฺมทฺทาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. อนาปุจฺฉาสิกฺขาปทวณฺณนา
อุปจารํ สนฺธายาติ สมนฺตา ทฺวาทสหตฺถูปจารํ สนฺธาย.
อนาปุจฺฉาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ปฺหาปุจฺฉนสิกฺขาปทวณฺณนา
อโนทิสฺสาติ ‘‘อมุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ, อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา.
ปฺหาปุจฺฉนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา
ปริกฺขิตฺตสฺส ¶ ¶ คามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺติยา วา โอกฺกมนฺติยา วาติ เอตฺถ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺติยา วา อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยา วาติ ยถากฺกมํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อาปทาสูติ มหคฺฆํ สํกจฺจิกํ ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยา อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ.
อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.
อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
วินยตฺถมฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ
ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข ปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อสาธารณสมุฏฺานวณฺณนา
อจิตฺตกานีติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๒๑๔) ‘‘นจฺจ’’นฺติอาทินา อชานิตฺวา ทสฺสนาทึ กโรนฺติยา อาปตฺติสมฺภวโต วตฺถุอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกานิ. โลกวชฺชานีติ ‘‘นจฺจ’’นฺติอาทินา ชานิตฺวา ทสฺสนาทึ กโรนฺติยา อกุสเลเนว อาปชฺชนโต โลกวชฺชานิ. เตนาห ‘‘อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย’’ติอาทิ สจิตฺตกานีติ ‘‘โจรี’’ติอาทินา วตฺถุํ ชานิตฺวา กรเณเยว อาปตฺติสมฺภวโต สจิตฺตกานิ. อุปสมฺปทาทีนํ เอกนฺตากุสลจิตฺเตเนว อกตฺตพฺพตฺตา ปณฺณตฺติวชฺชานิ. ‘‘อิธ สจิตฺตกาจิตฺตกตา ปณฺณตฺติชานนาชานนตาย อคฺคเหฏฺา วตฺถุชานนาชานนตาย คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.
อสาธารณสมุฏฺานวณฺณนา นิฏฺิตา.