📜
ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๔. โภชนวคฺโค
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
เทวทตฺโต ¶ ¶ กาเล วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ตปฺปจฺจยา ภควตา ‘‘คณโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๐๙) สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ปทภาชเน ปน ‘‘นิมนฺติตา ภฺุชนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๑๘) นิมนฺตนเมว คเหตฺวา วิภตฺตํ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน วตฺถุวเสน วิฺตฺติยา ยาจนมฺปิ วุตฺตนฺติ ลิขิตํ. กสฺมา? ปริวาเร เอว ‘‘คณโภชนํ ทฺวีหากาเรหิ ปสวติ วิฺตฺติโต วา นิมนฺตนโต วา’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตตฺตา. ตสฺมา อฏฺุปฺปตฺติยํเยว ปากฏตฺตา ปทภาชเน น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘‘เอกโต คณฺหนฺตี’ติ จ คหิตภตฺตาปิ อฺเ ยาว คณฺหนฺติ, ตาว เจ ติฏฺนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ เอว นามา’’ติ จ, ‘‘โย โกจิ ปพฺพชิโตติ สหธมฺมิเกสุ, ติตฺถิเยสุ วาติ อตฺโถ’’ติ จ, ‘‘สมยาภาโวติ สตฺตนฺนํ อนาปตฺติสมยานํ อภาโว’’ติ จ, ‘‘สมยลทฺธเกน สห จตฺตาโร โหนฺตี’’ติ จ, ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ จ ลิขิตํ.
เอตฺถาห – ‘‘ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘คณโภชนํ นาม ยตฺถ จตฺตาโร…เป… ภฺุชนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๑๘) วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ตตฺถ ‘‘ภฺุชนฺตี’’ติ ปฏิคฺคหณนิยมวจนํ. น หิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ ภิกฺขู ภฺุชนฺตีติ.
คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
อฺตฺร ¶ สมยาติ ปน นิมนฺตนโต ปสวนโต โภชนาเปกฺขํ ปาจิตฺติยนฺติ เอเก. เอโก ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ภตฺตํ ลภติ, ตมฺโ จูปาสโก นิมนฺเตตฺวา ฆเร นิสีทาเปสิ, น จ ตาว ภตฺตํ สมฺปชฺชติ ¶ . สเจ โส ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภฺุชติ, อาปตฺติ. กสฺมาติ เจ? ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติโต ตํ เปตฺวา อฺํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภฺุชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๒๗) วุตฺตตฺตา. ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวตฺติปตฺตปูรา ปฏิคฺคเหตพฺพาติ ตถานีตปูเวหิ อตฺถิเกน อุกฺกฏฺปตฺตปฺปมาณวเสน คเหตพฺพา. ‘‘มา โข ตฺวํ เอตฺถ ปฏิคฺคณฺหี’’ติ อปาเถยฺยาทิอตฺถาย สชฺชิตสฺาย อติเรกปฺปฏิคฺคหเณน อาโรจเน, อสํวิภาเค จ น มุจฺจติ อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อถ อุคฺคหิตกํ คณฺหาติ, น มุจฺจติ เอว. อสํวิภาเค ปน อนาปตฺติ อกปฺปิยตฺตา. อจิตฺตกตา ปณฺณตฺติชานนาภาเวเนว, น วตฺถุชานนาภาเวนาติ เอเก. ‘‘น ปาเถยฺยาทิอตฺถาย สชฺชิตภาวชานน’’นฺติ องฺเคสุ อวุตฺตตฺตา สเจ สฺจิจฺจ น วทติ, ปาจิตฺติยนฺติ โปราณา วทนฺติ. อติเรกปฺปฏิคฺคหณนฺติ ตตฺถ ปฺจมํว องฺคํ วุตฺตํ, ตสฺมา อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา น ปาจิตฺติยํ, กตฺตพฺพากรณโต ปน ทุกฺกฏํ. อฺถา กิริยากิริยํ อิทํ อาปชฺชติ. อนิวารณํ, อนาโรจนํ วา ฉฏฺมงฺคํ วตฺตพฺพํ สิยา.
กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
ภุตฺตาวี ปวารณํ นาม ปฺจงฺคิกํ. เตสุ ‘‘อสนํ ปฺายตฺตี’’ติ เอเตเนว ‘‘ภุตฺตาวี’’ติ เอตสฺส สิทฺธตฺตา วิสุํ อตฺถสิทฺธิ น ทิสฺสติ. ทิสฺสติ เจ, องฺคานํ ฉกฺกตฺตทสฺสนนฺติ ¶ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๒๓๘-๒๓๙) ลิขิตํ. ‘‘โภชนํ ปฺายตี’’ติ อภิหฏํ สนฺธาย วุตฺตํ.
โกฏฺเฏตฺวา ¶ กตจุณฺณมฺปีติ ปิ-กาเรน กุณฺฑกํ สมฺปิณฺเฑติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา กุณฺฑกํ วา เย เกจิ ตณฺฑุลา วาติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตา สมปากภชฺชิตานํ วีหีนํ, วีหิปลาสานํ วา ตณฺฑุลจุณฺณํ ปวาเรติ. ตถา ขรปากภชฺชิตานํ กุณฺฑกมฺปิ ปวาเรติ. ภชฺชิตสตฺตุโย ปิณฺเฑตฺวา กโต อปกฺกสตฺตุโมทโกปิ ปวาเรตีติ ลิขิตํ. สเจ อวสิฏฺํ นตฺถิ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อสนสงฺขาตสฺส วิปฺปกตโภชนสฺส อภาวโต.
อกปฺปิยมํสํ ปน กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหาติ, ตสฺมา ปวาเรติ. โภชนสาลาย ภฺุชนฺโต เจ อตฺตโน อปาปุณนโกฏฺาสํ อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กามํ ปฏิกฺขิปติ, ปตฺเต ปน อารามิกา อากิรนฺติ, ตํ ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. อิทฺหิ พุทฺธปฺปฏิกุฏฺาย อเนสนาย อุปฺปนฺเนเยว สงฺขํ คจฺฉติ. ยถา หิ สงฺฆโต ลทฺธํ ปิณฺฑํ ทุสฺสีโล เทติ, ตฺเจ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ, เอวํสมฺปทมิทนฺติ จ, วิภาโค ลชฺชี เจ เทติ, ตํ โส น อชฺโฌหริตุกามตาย ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรตีติ จ, ‘‘สมํสรสํ สมจฺฉรส’’นฺติ อาปชฺชนโต ‘‘มํสรส’’นฺติ วุตฺเต ปน ปฏิกฺขิปโต โหติ, ‘‘มํสสฺส รสํ มํสรส’’นฺติ อยํ วิคฺคโห นาธิปฺเปโตติ จ วุตฺตํ. ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทติ, น ปวาเรติ. ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวาเรติ. กสฺมา? เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตาย. เอตฺถ ปน ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ, สมสมา วา. ภตฺตํ มนฺทํ, น ปวาเรติ. ยาคุ เจ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. อิทฺจ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ. การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสํ. ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ. ตตฺร ภตฺตํ พหุตรํ วา สมกํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติ เอว. ภตฺตํ วา ยาคุํ วา อนามสิตฺวา ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ. ตตฺร เจ ภตฺตํ พหุตรํ, สมกํ วา โหติ, ปวาเรติ. อปฺปตรํ น ปวาเรติ. ตํ สพฺพํ วีมํสิตพฺพนฺติ.
ผลํ ¶ วา กนฺทมูลาทิ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กปฺปิยํ อกตนฺติ เอตฺถ กปฺปิยํ อการาปิเตหิ กทลิผลาทีหิ สทฺธึ อติริตฺตํ การาเปตฺวาปิ ตํ กทลิผลาทึ เปตฺวา อวเสสํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อมิสฺสกรสตฺตา ปุน ตานิ กปฺปิยํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ภาชเน เปตฺวา ¶ กาเรตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ปุพฺเพ เตสุ วินยกมฺมสฺส อนารุฬฺหตฺตาติ วทนฺติ.
ปตฺเต รชํ ปติตํ อปฺปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ตสฺมา ปฏิคฺคเหตฺวาว ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา. ‘‘อปฏิคฺคเหตฺวา คณฺหโต วินยทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตตฺตา เอตมฺเสมฺปิ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘ตํ ปน ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ เอตฺถาปิ เอวเมว. อิมสฺมึ ปน ‘‘อติริตฺตํ กตํ อนติริตฺตกตํ โหตี’’ติ เอตฺถาปิ เอวเมว. อิมสฺมึ ปน ‘‘อติริตฺตํ กตํ, อนติริตฺตํ กตํ โหตี’’ติอาทีหิ อุปปริกฺขิตฺวา วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ ทีปิตํ. อลเมตํ สพฺพนฺติ อิทมฺปิ เต อธิกํ, อิโต อฺํ น ลจฺฉสีติ อตฺโถ.
อาหารตฺถายาติ วิกาเล เอวาติ เอเก. ‘‘ปมกถินสทิสานิ. อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ. กายกมฺมํ อชฺโฌหรณโต. วจีกมฺมํ วาจาย ‘‘อติริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ อการาปนโตติ เวทิตพฺพํ.
ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๔๓) มาติกายํ วุตฺตตฺตา ‘‘โภชนปริโยสาเน ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ, น อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร.
ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
ชมฺพุทีปสฺส ¶ กาเลน ปริจฺเฉโทติ เอวํ กิร.
วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ทุทฺโธโต ¶ โหตี’’ติอาทินา นเยน อิธ วุตฺตตฺตา, ‘‘ทุทฺโธตํ ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน
ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา, องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตตฺตา จ มตฺติกาปตฺตสฺส กปาเลน ปีโต สฺเนโห สนฺนิธึ กโรตีติ สิทฺธนฺติ ลิขิตํ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมวาติ เอตฺถ อปริจฺจตฺตํ นาม อนุปสมฺปนฺนานํ นิรเปกฺขอปริจฺจตฺตํ อวิชหิตํ. ‘‘ปฏิคฺคหณนฺติ เอตฺถ ปฏิคฺคหิตภาวมวิชหิตเมว สนฺนิธึ ชเนตี’’ติ ธมฺมสิริตฺเถโร, ตํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๕) ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. ตสฺส ปน ปุน ปฏิคฺคณฺหนกิจฺจาภาวโต วีมํสิตพฺพํ.
สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘เตสํ มํสฺจ ขีรทธีนิ จ อิธ อธิปฺเปตานี’’ติ อิทํ ปาจิตฺติยวตฺถุปริจฺเฉโท, น ปน กปฺปิยขีราทิปริจฺเฉโท, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ขีราทีนิ วฏฺฏนฺตีติ จ, ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ สงฺฆวเสน ปวาริเต เภสชฺชตฺถาย สปฺปิอาทิเภสชฺชปฺจกํ วิฺาเปติ เจ, ตตฺถ ‘‘น เภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปตี’’ติ เอตฺถ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘เตน ปาจิตฺติย’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๒๖๑) จ ลิขิตํ.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘สรีราวยเวนา’’ติ ¶ วุตฺตตฺตา มุเขน ปฏิคฺคหณํ อนฺุาตํ. ‘‘จิฺจาทิปตฺเตสุ ภูมิยํ อตฺถเตสุ น วฏฺฏติ, กลฺลเขตฺเต ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ จ, ‘‘สามํ คเหตฺวา’’ติ อิมินา น เกวลํ สปฺปทฏฺํเยว, อฺมฺปิ ทฏฺํ วิเสเสติ. สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จ ลิขิตํ.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อเจลกวคฺโค
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา
อเจลกาทโย ¶ ยสฺมา, ติตฺถิยาว มตา อิธ;
ตสฺมา ติตฺถิยนาเมน, ติกจฺเฉโท กโต ตโต.
อติตฺถิยสฺส นคฺคสฺส, ตถา ติตฺถิยลิงฺคิโน;
คหฏฺสฺสาปิ ภิกฺขุสฺส, กปฺปตีติ วินิจฺฉโย.
อติตฺถิยสฺส จิตฺเตน, ติตฺถิยสฺส จ ลิงฺคิโน;
โสตาปนฺนาทิโน ทาตุํ, กปฺปตีตีธ โน มติ.
อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน สจิตฺตกตาติ เวทิตพฺพา.
สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๕. รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺถํ ปมานิยเต, ปฺจมํ ทุติยานิยเต วุตฺตนยเมว. อิธ ปฺจมํ อุปนนฺทสฺส จตุตฺถํ โหติ.
รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
สภตฺโต ¶ ¶ สมาโนติ นิมนฺตนภตฺโตติ โปราณา. สนฺตํ ภิกฺขุํ, อนาปุจฺฉา, ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ, อฺตฺร สมยาติ อยเมตฺถ จตุพฺพิธา อนุปฺตฺติ. ตตฺถ สมยา ทฺเว สมยา. ภตฺติยฆรนฺติ นิมนฺติตสฺส ฆรํ วา สลากาภตฺตาทิทายกานํ วา ฆรํ. ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ, ‘‘อิธ นิมนฺตนา อกปฺปิยนิมนฺตนา’’ติ เอเก.
ปุเรภตฺตฺจ ปิณฺฑาย, จริตฺวา ยทิ ภฺุชติ;
สิยา ปรมฺปราปตฺติ, ปจฺฉาภตฺตํ น สา สิยา.
ปจฺฉาภตฺตฺจ คมิโก, ปุพฺพเคหํ ยทิ คจฺเฉ;
เอเก อาปตฺติเยวาติ, อนาปตฺตีติ เอกจฺเจ.
กุลนฺตรสฺโสกฺกมเน, อาปตฺติมตโย หิ เต;
สมานภตฺตปจฺจาสา, อิติ อาหุ อิธาปเร.
มตา คณิกภตฺเตน, สเมนฺติ นํ นิมนฺตเน;
วิสฺสชฺชนํ สมานนฺติ, เอเก สมฺมุขตาปเร.
สนฺนิฏฺานตฺถิเกเหว, วิจาเรตพฺพเภทโต;
วิฺู จาริตฺตมิจฺเจว, สิกฺขาปทมิทํ วิทู. (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๒๙๔);
จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
ปณีตโภชนสิกฺขาปเท ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) ยํ วุตฺตํ, ตสฺสตฺโถ สงฺฆวเสน ปวาริเต เภสชฺชตฺถาย สปฺปิอาทิเภสชฺชปฺจกํ ¶ วิฺาเปติ เจ, ‘‘นเภสชฺเชน กรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๙) วจเนน ปาจิตฺติยนฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๓๑๐) ลิขิตํ. ‘‘ตยา อิมินาว ปวาริตมฺหา, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถ’’ติ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตุํ คิลาโนว ลภติ, น อิตโรติ จ, ‘‘อฺสฺส อตฺถายา’’ติ ¶ อสฺส าตกปฺปวาริเต, อตฺตโน วา าตกปฺปวาริเตติ อตฺโถติ จ, ‘‘อปริยนฺตปฺปวารณาย ปวาริเต’’ติ สงฺฆวเสน, ปุคฺคลวเสน จ ปวาเรตฺวา ทายกา. ตสฺมา ‘‘สงฺฆปฺปวารณตา’’ติ วตฺวา ‘‘ปุคฺคลปฺปวารณตา’’ติ น วุตฺตนฺติ จ, ‘‘ปริยนฺตาติกฺกโม’’ติ วจเนน คิลาโน คหิโต, ตสฺมา ‘‘คิลานาคิลานตา’’ติ น วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘สงฺฆปฺปวารณาย ปวารณตา’’ติ ปาโติ จ ลิขิตํ, วีมํสิตพฺพํ.
มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
หตฺถิอาทีสุ เอกเมกนฺติ อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหหตฺถิมฺปิ, เอกํ สรหตฺถํ ปุริสมฺปิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ ติเวทน’’นฺติ ปาโ.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
เกนจิ ปลิพุทฺธสฺสาติ เวริเกน วา อิสฺสเรน วา เกนจิ รุทฺธสฺส. เสนาปริกฺเขเปน วา ปริกฺเขปารหฏฺาเนน วา สฺจรณฏฺานปริยนฺเตน วา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา.
เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๖. สุราปานวคฺโค
๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘สุรา’’ติ ¶ วา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ วา ชานิตฺวา ปิวเน อกุสลเมวาติ ลิขิตํ. อกุสลจิตฺตนฺติ เยภุยฺเยน ตํ สนฺธาย กิร วุตฺตํ. อถ กสฺมา ¶ วินยฏฺกถายํ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙) วุตฺตนฺติ เจ? สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตายาติ.
สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา
กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสาปตฺติภาเว สมาเนปิ ภิกฺขุนิยาปิ อนุปสมฺปนฺเนปิ ทุกฺกฏํ, อุปสมฺปนฺเน เอว ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ปุคฺคลาเปกฺขํ ทสฺเสตุํ ‘‘องฺคุลิปโตทเก ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. สติ กรณีเยติ เอตฺถ ปุริสํ สติ กรณีเย อามสโตติ อธิปฺปาโย, น อิตฺถึ.
องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘จิกฺขลฺลํ วา’’ติ วจนโต สกฺขรมฺปิ ขิปนกีฬาย กีฬโต ทุกฺกฏเมว. อุปริโคปฺผเก ปาจิตฺติยํ, อฺตฺถ ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติยวตฺถุอตฺถวเสน ‘‘อุทเก หสธมฺเม ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.
อิทํ สฺาวิโมกฺขํ เจ, ติกปาจิตฺติยํ กถํ;
กีฬิตํว อกีฬาติ, มิจฺฉาคาเหน ตํ สิยา.
เอตฺตาวตา ¶ กถํ กีฬา, อิติ กีฬายํ เอวายํ;
อกีฬาสฺี โหเตตฺถ, วินยตฺถํ สมาทเย.
เอกนฺตากุสโล ยสฺมา, กีฬายาภิรตมโน;
ตสฺมา อกุสลํ จิตฺตํ, เอกเมเวตฺถ ลพฺภตีติ. (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๓๓๖);
หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา
ตสฺส ¶ วจนนฺติ ‘‘อยํ อุกฺขิตฺตโก วา วมฺภิโต วา ครหิโต วา อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’’ติ อนาทริยํ กโรติ. ธมฺมนฺติ กถายํ ธมฺโม นสฺเสยฺย วา วินสฺเสยฺย วา อนฺตรธาเยยฺย วา, ตํ วา อสิกฺขิตุกาโม อนาทริยํ กโรติ. ‘‘โลกวชฺชํ อติกฺกมิตฺวา ‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’ติ วทนฺตสฺส น วฏฺฏตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๓๔๔) ลิขิตํ.
อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘วิสิพฺพนาเปกฺโข’’ติ วุตฺตตฺตา อฺสฺส วฏฺฏติ, อฺเสฺจ.
โชติเนกมเนเก วา, ชาเลนฺติ มุนโย สห;
เอโก โสเปติ นาเนโก, อธิปฺปายวิเสสโต.
โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
โมรกฺขิมณฺฑลมงฺคุลปิฏฺีนนฺติ ¶ น เอกนฺตโต, อธิกํ, โอรฺจาติ วทนฺติ. เอกโกเณปิ วฏฺฏติ, เอวํ ยตฺถ กตฺถจิ เอกพินฺทุปิ วฏฺฏตีติ.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ. เอตฺถ ปริโภเคน กายกมฺมํ. อปจฺจุทฺธรเณน วจีกมฺมํ.
วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
สสูจิเก ¶ สูจิฆเร สูจิคณนาย อาปตฺติโยติ โปราณา.
อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. สปฺปาณกวคฺโค
๑. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
วตฺถุคณนาย กมฺมพนฺธคณนาเจตนามารณานํ, น กมฺมพนฺธคณนาย เจตนามารณา. เอตฺถ เอกเจตนาย พหุปาณกา มรนฺตีติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ.
สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
สปฺปาณกนฺติ ¶ ปาณกานํ มรณวเสน ปาจิตฺติยํ, น สปฺปาณกอุทกปริโภควเสน ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา เอว ‘‘ปณฺณตฺติวชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. อสุทฺธจิตฺตตฺตา ปาจิตฺติยํ, สุทฺธจิตฺเต อนาปตฺติ. ปทีปุชฺชลเน วิย ปณฺณตฺติวชฺชตา วุตฺตาติ ลิขิตํ.
ชเล ปกฺขิปนํ ปุพฺพํ, ชลปฺปเวสนํ อิทํ;
เอวํ อุภินฺนํ นานาตฺตํ, เยฺยํ าณวตา สทาติ. (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๓๘๗)
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
อฺํ อุปสมฺปาเทตีติ –
อุปชฺฌาโย สเจ สามํ, กมฺมวาจฺจ สาเวติ;
กมฺมํ รุหติ อิจฺเจเก, เนติ วินยโกวิโท.
ทุกฺกฏํ ¶ วิหิตํ ยสฺมา, อาจริยสฺส คณสฺส จ;
ตสฺมา ภินฺนาว อาจริย-อุปชฺฌายา วิสุํ อิธาติ.
อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
อิธ เอกโตอุปสมฺปนฺนา, สิกฺขมานา, สามเณรีติ อิมา ติสฺโสปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, อิมาสํ ปน ติสฺสนฺนํ สมโย รกฺขติ, อยมิมาสํ, มาตุคามสฺส จ วิเสโสติ เวทิตพฺพํ.
สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘ตํ ¶ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสฏฺเนาติ ลทฺธินานาสํวาสกํ สนฺธายา’’ติ ลิขิตํ. ติจิตฺตนฺติ เอตฺถ วิปากาพฺยากตจิตฺเตน สหเสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฺถา สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส กิริยาพฺยากตํ สนฺธาย น ยุชฺชติ.
อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘อยํ สมณุทฺเทโส ปาราชิโก โหติ. สเจ ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชติ, สงฺฆสฺส อาโรเจตฺวา สงฺฆานุมติยา ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ โปราณคณฺิปเท วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ. ทณฺฑกมฺมนาสนา หิ อิธาธิปฺเปตา. ยทิ โส ปาราชิโก โหติ, ลิงฺคนาสนา นาม สิยา. ‘‘เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ จ ทิฏฺิ สตฺถริ อสตฺถาทิทิฏฺิ น โหติ. สเจ สา ยสฺส อุปฺปชฺชติ, โส ปาราชิโก โหติ, ตสฺมิมฺปิ เอวเมว ¶ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, สํวเร อติฏฺนฺโต ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๔๒๘) อาจริยสฺส ตกฺโก.
กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๘. สหธมฺมิกวคฺโค
๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา
องฺเคสุ น โมกฺขาธิปฺปายตา วิย อมรณาธิปฺปายตา วตฺตพฺพาติ เจ? น วตฺตพฺพา. กสฺมา? โย ภิกฺขุ สยํ ปหารํ ทาตุกาโม, โส อธิปฺปาเยน ตสฺส มรเณ ปโยควิรโหวาติ กตฺวา ¶ อมรณาธิการตฺตา เกวลํ อมรณาธิปฺปาโย เอว โสติ ตา วิย ตา น วุตฺตา. โมกฺขาธิปฺปายสฺส ปน โกโป นตฺถิ, ตสฺมา อนาปตฺตีติ วุตฺตํ.
ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
ตลเมว ตลสตฺติกํ. ‘‘โปถนสมตฺถฏฺเน สตฺติก’’นฺติ เอเก. ยสฺมา ปหริตุกามตาย ปหรโต ปุริเมน ปาจิตฺติยํ, เกวลํ อุจฺจาเรตุกามตาย อุคฺคิรณมตฺเต กเต อิมินา ปาจิตฺติยํ. อิมินา ปน วิรชฺฌิตฺวา ปหาโร ทินฺโน, ตสฺมา นปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏํ. กิมิทํ ทุกฺกฏํ ปหารปจฺจยา, อุทาหุ อุคฺคิรณปจฺจยาติ? ปหารปจฺจยา เอว ทุกฺกฏํ, ปุริมํ อุคฺคิรณปจฺจยา ปาจิตฺติยนฺติ สทุกฺกฏํ ปาจิตฺติยํ ยุชฺชติ. ปุริมฺหิ อุคฺคิรณํ, ปจฺฉา ปหาโร. น จ ปจฺฉิมํ ปหารํ นิสฺสาย ปุริมํ อุคฺคิรณํ อนาปตฺติวตฺถุกํ ภวิตุมรหตีติ โน ตกฺโกติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๔๕๖) อาจริโย.
ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
ปโร ¶ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตุ วา, มา วา, ตํ อปฺปมาณํ. ‘‘กุกฺกุจฺจุปาทน’’นฺติ ตติยมงฺคํ ตสฺส อธิปฺปายวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา
อุปสฺสุตินฺติ ยถา อุปกุชฺฌํ ‘‘สมีปกุชฺฌ’’นฺติ วุจฺจติ, ตถา อุปสฺสุติ ‘‘สมีปสฺสุตี’’ติ เวทิตพฺพา. ยตฺถ ิโต สุณาติ, ตํ านนฺติ อตฺโถ. สุตีติ ปเนตฺถ ปเรสํ วจนสทฺโท จ. โส หิ สุยฺยตีติ สุติ นาม. อุปสุยฺยติ วา เอตฺถาติ อุปสฺสุติ. โอกาโส หิ สุติ นาม. อิเมสํ สุตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วจน’’นฺติ ปาเสโส.
สมุฏฺานาทีนิ ¶ อตีตทฺวยสทิสานีติ น คเหตพฺพานิ. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สิยา กิริยํ คนฺตฺวา สวเน. สิยา อกิริยํ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา วทนฺตานํ อชานาปนวเสน สมุฏฺานโต. ‘‘สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทน’’นฺติ ลิขิตํ.
อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา
อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนเกน ปน จีวรํ กโรนฺตสฺส เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนายํ (จูฬว. ๓๒๘) วุตฺตปฺปเภทานิ สูจิอาทีนิ อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺพานิ. ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ. เอวํ กตํ ปน อปโลกนํ กมฺมลกฺขณเมวาติ อธิปฺปาโย. เอวํ สพฺพตฺถ กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. คามสีมาวิหาเรสุ โอสารณาทีนิ สงฺฆกมฺมานิเยว น วฏฺฏนฺติ. วิสฺสชฺชิยเวภงฺคิยานิ ปน วฏฺฏนฺติ. ‘‘สงฺฆสฺส สนฺตก’’นฺติ สามฺโต อวตฺวา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส สนฺตก’’นฺติ อปโลเกตพฺพนฺติ จ, ‘‘สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทน’’นฺติ ปาโติ จ ลิขิตํ.
กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
สนฺนิปาตํ ¶ อนาคนฺตฺวา เจ ฉนฺทํ น เทติ, อนาปตฺตีติ เอเก. ทุกฺกฏนฺติ เอเก ธมฺมกมฺมนฺตรายกรณาธิปฺปายตฺตา.
ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา
อกปฺปิเยน วาติ สุวณฺณรชตมยมฺจาทินา. กปฺปิยมฺโจ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตหิ ปน ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต สุวณฺณรชตมยาทิอกปฺปิยมฺจาปิ ¶ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพาติ จ, ‘‘อรฺชโร พหุอุทกคณฺหนโก’’ติ จ, ‘‘สงฺฆิกปอโภเคน วาติ สเจ อารามิกาทโย ปฏิสาเมตฺวา ปฏิเทนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จ, ‘‘กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตตฺตา อตฺตโน หตฺเถน คเหตฺวา ปฏิสามิตุํ น ลภตีติ จ, ‘‘เวธโก กายพนฺธนสฺสาติ วทนฺตี’’ติ จ, ‘‘หิงฺคุ หิงฺคุลิหริตาลมโนสิลา อฺชนานี’’ติ ปาโติ จ, ‘‘ทารุมโย วา…เป… อปาทโกปิ สมุคฺโค’’ติ ปาโติ จ, ‘‘ทารุมโย ตุมฺโพติ ทารุมโย อุทกตุมฺโพ’’ติ จ, ‘‘ถมฺภตุลาโสปานผลกาทีสู’’ติ จ ลิขิตํ.
ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา
เอโก ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตกสฺส ทาตุกาโม โหติ, ตสฺส ทานํ นิวาเรตฺวา อฺสฺส ทาเปติ, อนาปตฺติ. ตถา สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ กโรนฺตสฺส ทาเปติ, อตฺตโน นิสฺสิตกา อิตฺถนฺนามสฺส ปตฺตํ ทาตุกามา อาปุจฺฉนฺติ, ‘‘วิสภาโค เอโส, สภาคสฺส เทหี’’ติ วทติ. อนาปตฺติ อตฺตโน ภารภูตตฺตา. ตสฺส ปน ทาตุกามํ อฺสฺส ทาเปติ ¶ , อาปตฺติ เอว. สพฺพตฺถ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตุกามํ ยถาสุขํ วิจาเรตุํ ลภติ.
ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๙. รตนวคฺโค
๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา
อสยนิฆเรติ ปริกฺขิตฺตสฺส พหิภูเตสุ รุกฺขมูลาทีสุ. ‘‘สเจ ขตฺติโยว โหติ, นาภิสิตฺโต, อภิสิตฺโตว โหติ, น ขตฺติโย, รกฺขตี’’ติ อาจริโย ‘‘ขตฺติยตา, อภิสิตฺตตา’’ติ ¶ อาปตฺติยา องฺคภาเวน วุตฺตตฺตา. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ.
อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา
สพฺโพปิ กถามคฺโค ภณฺฑาคาริกสีเสน นิกฺขิปนํ, โคปนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปวตฺโต.
รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา
‘‘สนฺตํ ภิกฺขุ’’นฺติ จ ‘‘อนาปุจฺฉา’’ติ จ ‘‘ตถารูปา อจฺจายิกาติ จ อิมาติ เอตฺถ ติสฺโส’’ติ ปาโ. ‘‘สมุฏฺานาทีนิ กถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริย’’นฺติ ปาโ.
วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา
ตํ ¶ อสฺสาติ ตํ เภทนกํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถิ ปมํ เภทนํ กตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา. เอส นโย อิตเรสุปิ. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก.
สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺงฺคุลปาทกนฺติ ภาวนปุํสกํ. ตุลาสงฺฆาเต ปนเมว อฏฺฏกรณํ.
มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา
กิฺจาปิ ¶ ปฏิลาเภเยว ปาจิตฺติยํ วิย ทิสฺสติ, ปริโภเค เอว ปน อาปตฺติ ทฏฺพฺพา. ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๒๙) วจนํ เอตฺถ สาธกํ.
ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
กิฺจาปิ นิสีทนสฺส ชาติ น ทิสฺสติ เอตฺถ, ตถาปิ จีวรกฺขนฺธเก อนฺุาตตฺตา, ‘‘นว จีวรานิ อธิฏฺาตพฺพานี’’ติ เอตฺถ จ ปริยาปนฺนตฺตา จีวรชาติ เอวสฺส ชาตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ลาเภ สทสํ, อลาเภ อทสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๑-๕๓๒) ตสฺส สณฺานนิยมนโต.
นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
รตนวคฺโค นวโม.
สุทฺธปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.