📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยวินิจฺฉยฏีกา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
(ก)
พฺยามปฺปภามณฺฑลเทวจาปํ;
ธมฺมมฺพุนิชฺฌาปิตปาปฆมฺมํ;
วนฺทามหํ พุทฺธ มหมฺพุวนฺตํ.
(ข)
ปสนฺนคมฺภีรปทาฬิโสตํ;
นานานยานนฺตตรงฺคมาลํ;
สีลาทิขนฺธามิตมจฺฉคุมฺพํ ¶ ;
วนฺทามหํ ธมฺม มหาสวนฺตึ.
(ค)
สีโลรุเวลํ ธุตสงฺขมาลํ;
สนฺโตสโตยํ สมถูมิจิตฺตํ;
ปธานกิจฺจํ อธิจิตฺตสารํ;
วนฺทามหํ สงฺฆ มหาสมุทฺทํ.
(ฆ)
เย ตนฺติธมฺมํ มุนิราชปุตฺตา;
ยาวชฺชกาลํ ปริปาลยนฺตา;
สํวณฺณนํ นิมฺมลมานยึสุ;
เต ปุพฺพเก จาจริเย นมามิ.
(ง)
โย ¶ ธมฺมเสนาปติตุลฺยนาโม;
ตถูปโม สีหฬทีปทีโป;
มมํ มหาสามิมหายตินฺโท;
ปาเปสิ วุฑฺฒึ ชินสาสนมฺหิ.
(จ)
ฏีกา กตา อฏฺกถาย เยน;
สมนฺตปาสาทิกนามิกาย;
องฺคุตฺตรายฏฺกถาย เจว;
สตฺถนฺตรสฺสาปิ จ โชติสตฺถํ.
(ฉ)
นิกายสามคฺคิวิธายเกน;
รฺา ปรกฺกนฺติภุเชน สมฺมา;
ลงฺกิสฺสเรนาปิ กโตปหารํ;
วนฺเท ครุํ คารวภาชนํ ตํ.
(ช)
นมสฺสมาโนหมลตฺถเมวํ ¶ ;
วตฺถุตฺตยํ วนฺทิตวนฺทเนยฺยํ;
ยํ ปฺุสนฺโทหมมนฺทภูตํ;
ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย.
(ฌ)
โย พุทฺธโฆสาจริยาสเภน;
วิฺุปฺปสตฺเถนปิ สุปฺปสตฺโถ;
โส พุทฺธทตฺตาจริยาภิธาโน;
มหากวี เถริยวํสทีโป.
()
อกาสิ ยํ วินยวินิจฺฉยวฺหยํ;
สอุตฺตรํ ปกรณมุตฺตมํ หิตํ;
อเปกฺขตํ วินยนเยสุ ปาฏวํ;
ปุราสิ ยํ วิวรณมสฺส สีหฬํ.
(ฏ)
ยสฺมา ¶ น ทีปนฺตริกานมตฺถํ;
สาเธติ ภิกฺขูนมเสสโต ตํ;
ตสฺมา หิ สพฺพตฺถ ยตีนมตฺถํ;
อาสีสมาเนน ทยาลเยน.
()
สุมงฺคลตฺเถรวเรน ยสฺมา;
สกฺกจฺจ กลฺยาณมโนรเถน;
นยฺุนารฺนิวาสิเกน;
อชฺเฌสิโต สาธุคุณากเรน.
(ฑ)
อากงฺขมาเนน จิรปฺปวตฺตึ;
ธมฺมสฺส ธมฺมิสฺสรเทสิตสฺส;
โจฬปฺปทีเปน ¶ จ พุทฺธมิตฺต-
ตฺเถเรน สทฺธาทิคุโณทิเตน.
(ฒ)
ตถา มหากสฺสปอวฺหเยน;
เถเรน สิกฺขาสุ สคารเวน;
กุทิฏฺิมตฺเตภวิทารเกน;
สีเหน โจฬาวนิปูชิเตน.
(ณ)
โย ธมฺมกิตฺตีติ ปสตฺถนาโม;
เตนาปิ สทฺเธน อุปาสเกน;
สีลาทินานาคุณมณฺฑิเตน;
สทฺธมฺมกาเมนิธ ปณฺฑิเตน.
(ต)
สทฺเธน ปฺาณวตา วฬตฺตา-;
มงฺคลฺยวํเสน มหายเสน;
อายาจิโต วาณิชภาณุนาปิ;
วรฺุนา สาธุคุโณทเยน.
(ถ)
ตสฺมา ¶ ตมาโรปิย ปาฬิภาสํ;
นิสฺสาย ปุพฺพาจริโยปเทสํ;
หิตฺวา นิกายนฺตรลทฺธิโทสํ;
กตฺวาติวิตฺถารนยํ สมาสํ.
(ท)
อวุตฺตมตฺถฺจ ปกาสยนฺโต;
ปากฺกมฺจาปิ อโวกฺกมนฺโต;
สํวณฺณยิสฺสามิ ตทตฺถสารํ;
อาทาย คนฺถนฺตรโตปิ สารํ.
(ธ)
จิรฏฺิตึ ¶ ปตฺถยตา ชนานํ;
หิตาวหสฺสามลสาสนสฺส;
มยา สมาเสน วิธียมานํ;
สํวณฺณนํ สาธุ สุณนฺตุ สนฺโตติ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
. สุวิปุลามลสทฺธาปฺาทิคุณสมุทยาวหํ สกลชนหิเตกเหตุชินสาสนฏฺิติมูลภูตํ วินยปฺปกรณมิทมารภนฺโตยมาจริโย ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยปฺปณามปกรณาภิธานาภิเธยฺยกรณปฺปการปโยชนนิมิตฺตกตฺตุปริมาณาทีนิ ทสฺเสตุมาห ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ รตนตฺตยํ นาม.
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๒๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) –
นิทฺทิฏฺสภาวํ
‘‘พุทฺโธ ¶ สพฺพฺุตฺาณํ, ธมฺโม โลกุตฺตโร นว;
สงฺโฆ มคฺคผลฏฺโ จ, อิจฺเจตํ รตนตฺตย’’นฺติ. –
วิภาวิตปฺปเภทํ สกลภวทุกฺขวินิวารณํ ติภเวเนกปฏิสรณํ วตฺถุตฺตยํ.
ตสฺส ปณาโม นาม ปณามกิริยานิปฺผาทิกา เจตนา. สา ติวิธา กายปณาโม วจีปณาโม มโนปณาโมติ. ตตฺถ กายปณาโม นาม รตนตฺตยคุณานุสฺสรณปุพฺพิกา อฺชลิกมฺมาทิกายกิริยาวสปฺปวตฺติกา กายวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา. วจีปณาโม นาม ตเถว ปวตฺตา นานาวิธคุณวิเสสวิภาวนสภาวโถมนากิริยาวสปฺปวตฺติกา วจีวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา ¶ เจตนา. มโนปณาโม นาม อุภยวิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา เกวลํ คุณานุสฺสรเณน จิตฺตสนฺตานสฺส ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารตาย คารวพหุมานนวสปฺปวตฺติสาธิกา เจตนา.
อิมสฺส ตาว รตนตฺตยปณามสฺส ทสฺสนํ ยถาธิปฺเปตตฺถสาธนตฺถํ. คุณาติสยโยเคน หิ ปณามารเห รตนตฺตเย กโต ปณาโม ปฺุวิเสสภาวโต อิจฺฉิตตฺถาภินิปฺผตฺติวิพนฺธเกน อุปฆาตเกน, อุปปีฬเกน จ อปฺุกมฺเมน อุปนียมานสฺส อุปทฺทวชาลสฺส วินิวารเณน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส ปฺุกมฺมสฺส อนุพลปฺปทาเนน จ ตพฺพิปากสนฺตติยา อายุสุขพลาทิวฑฺฒเนน จ จิรกาลปฺปวตฺติเหตุโกติ ยถาธิปฺเปตปกรณนิปฺผตฺตินิพนฺธนโก โหติ. อถาปิ โสตูนฺจ วนฺทนียวนฺทนาปุพฺพเกนารมฺเภน อนนฺตราเยน อุคฺคหณธารณาทิกฺกเมน ปกรณาวโพธปฺปโยชนสาธนตฺถํ. อปิจ โสตูนเมว วิฺาตสตฺถุกานํ ภควโต ยถาภูตคุณวิเสสานุสฺสวเนน สมุปชาตปฺปสาทานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ, อวิฺาตสตฺถุกานํ ¶ ปน ปกรณสฺส สฺวาขฺยาตตาย ตปฺปภเว สตฺถริ คารวุปฺปาทนตฺถฺจ โสตุชนานุคฺคหเมว ปธานํ กตฺวา อาจริเยหิ คนฺถารมฺเภ ถุติปฺปณามปริทีปกานํ คาถาวากฺยานํ นิกฺเขโป วิธียติ. อิตรถา วินาปิ ตนฺนิกฺเขปํ กายมโนปณาเมนาปิ ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนสิทฺธิโต กิเมเตน คนฺถคารวกเรนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ปณามปฺปโยชนํ สารตฺถทีปนิยาทีสุ (สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วิ. วิ. ฏี. ๒.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ทสฺสิตนเยเนว าตพฺพํ.
อภิธานกถนํ ปน โวหารสุขตฺถํ. อภิเธยฺยสฺส สมุทิเตน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพสฺส กถนํ ปกรณสฺส อารภิตพฺพสภาวทสฺสนตฺถํ. วิทิตานินฺทิตสาตฺถกสุกรานุฏฺานาภิ เธยฺยเมว หิ ปกรณํ ปริกฺขกชนา อารภิตพฺพํ มฺนฺตีติ. กรณปฺปการสนฺทสฺสนํ โสตุชนสมุสฺสาหนตฺถํ. อนากุลมสํกิณฺณตาทิปฺปกาเรน หิ วิรจิตํ ปกรณํ โสตาโร โสตุมุสฺสหนฺตีติ. ปโยชนกถนํ ปน ปกรณชฺฌายเน โสตุชนสมุตฺเตชนตฺถํ. อสติ หิ ปโยชนกถเน อวิฺาตปฺปโยชนา อชฺฌายเน พฺยาวฏา น โหนฺตีติ. นิมิตฺตกถนํ สริกฺขกชนานํ ปกรเณ คารวุปฺปาทนตฺถํ. ปสตฺถการณุปฺปนฺเนเยว หิ ปกรเณ สริกฺขกา คารวํ ชเนนฺตีติ.
กตฺตุกถนํ ปุคฺคลครุกสฺส ปกรเณ คารโว ปุคฺคลคารเวนปิ โหตูติ. ปริมาณกถนํ อสชฺฌายนาทิปสุตานํ ¶ สมฺปหํสนตฺถํ. ปกรณปริมาณสฺสวเนน หิ เต สมฺปหฏฺา ‘‘กิตฺตกมิทมปฺปกํ น จิเรเนว ปริสมาเปสฺสามา’’ติ สชฺฌายนาทีสุ วตฺตนฺตีติ. อาทิ-สทฺเทน สกฺกจฺจสวนนิโยชนํ สงฺคหิตํ, ตํ สพฺพสมฺปตฺตินิทานสุตมยาณนิปฺผาทนตฺถํ. อสกฺกจฺจํ สุณมานสฺส จ สวนาภาวโต ตํเหตุกสฺส ¶ สุตมยาณสฺสาปิ อภาโวติ. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณิตพฺพ’’นฺติ ภณติ.
ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ติวิโธปิ ปณาโม อวิเสสโต ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ‘‘เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคลํ, ภวาภาวกรํ, นิรงฺคณ’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วจีปณาโม, ‘‘สิรสา’’ติ อิมินา กายปฺปณาโม, ‘‘พุทฺธํ, ธมฺมํ, คณฺจา’’ติ อิเมหิ ปน ตีหิ ปเทหิ ปณามกิริยาย กมฺมภูตํ รตนตฺตยํ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ อิมินา อภิธานํ ทสฺสิตํ อลุตฺตสมาเสน วินยวินิจฺฉยนามสฺส ทสฺสนโต. ตสฺส อนฺวตฺถภาเวน สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตํ สกเลนาเนน ปกรเณน ปฏิปาเทตพฺพมภิเธยฺยมฺปิ เตเนว ทสฺสิตํ. ‘‘สมาเสนา’’ติ จ ‘‘อนากุลมสํกิณฺณํ, มธุรตฺถปทกฺกม’’นฺติ จ เอเตหิ กรณปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘หิตตฺถายา’’ติ จ ‘‘ปฏุภาวกรํ วินยกฺกเม’’ติ จ ‘‘อปารํ โอตรนฺตาน’’นฺติอาทินา จ ปโยชนํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ. อพฺภนฺตรนิมิตฺตํ ปน พาหิรนิมิตฺตภูตภิกฺขุภิกฺขุนิวิสยา กรุณา, สา อาจริยสฺส ปกรณารมฺเภเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตา. ‘‘ปวกฺขามี’’ติ อิมินา สมานาธิกรณภาเวน ลพฺภมาโน ‘‘อห’’นฺติ สุทฺธกตฺตา สามฺเน ทสฺสิโต. วิเสสโต ปน ปกรณาวสาเน –
‘‘รจิโต พุทฺธทตฺเตน, สุทฺธจิตฺเตน ธีมตา;
สุจิรฏฺิติกาเมน, สาสนสฺส มเหสิโน’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๑) –
อิมาย ¶ คาถาย เจว ‘‘อิติ ตมฺพปณฺณิเยน ปรมเวยฺยากรเณน ติปิฏกนยวิธิกุสเลน ปรมกวิวรชน หทยปทุมวนวิกสนกเรน กวิวราสเภน ปรมรติกรวรมธุรวจนุคฺคาเรน อุรคปุเรน พุทฺธทตฺเตน รจิโตยํ วินยวินิจฺฉโย’’ติ (วิ. วิ. ๓๑๘๓) อิมินา วากฺเยน จ ¶ ทสฺสิโต – ‘‘มาทิสาปิ กวี โหนฺติ, พุทฺธทตฺเต ทิวงฺคเต’’ติอาทินา ปจฺฉิมเกหิ จ ปสตฺถตเรหิ กวิวเรหิ อภิตฺถุตคุโณ ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย เวทิตพฺโพ. เหตุกตฺตา จ ตตฺเถว วกฺขมาโน ปกรณชฺเฌสเน กตาธีโน พุทฺธสีหมหาเถโร, โส –
‘‘วุตฺตสฺส พุทฺธสีเหน;
วินยสฺส วินิจฺฉโย;
พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส;
มม สทฺธิวิหาริกํ;
กโตยํ ปน ภิกฺขูนํ;
หิตตฺถาย สมาสโต’’ติ. (วิ. วิ. ๓๑๗๗-๓๑๗๘) –
เอวํ ทสฺสิโต.
อุตฺตรปฺปกรณสฺส เหตุกตฺตา ปน สงฺฆปาลมหาเถโร, โสปิ –
‘‘ขนฺติโสรจฺจโสสิลฺย-พุทฺธิสทฺธาทยาทโย;
ปติฏฺิตา คุณา ยสฺมึ, รตนานีว สาคเร.
‘‘วินยาจารยุตฺเตน, เตน สกฺกจฺจ สาทรํ;
ยาจิโต สงฺฆปาเลน, เถเรน ถิรเจตสา.
‘‘สุจิรฏฺิติกาเมน ¶ , วินยสฺส มเหสิโน;
ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย, วินยสฺสวินิจฺฉเย;
อกาสึ ปรมํ เอตํ, อุตฺตรํ นาม นามโต’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๕-๙๖๘) –
เอวํ ทสฺสิโต. น เกวลเมเต ทฺเวเยว มหาเถรา เหตุกตฺตาโร, อถ โข มหาวํสาทีสุ –
‘‘พุทฺธสฺส ¶ วิย คมฺภีร-
โฆสตฺตา ตํ วิยากรุํ;
‘พุทฺธโฆโส’ติ โย โส หิ;
พุทฺโธ วิย มหีตเล’’ติ. –
อาทินา นเยน อภิตฺถุตคุโณ ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถากาโร ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริโย จ อนุสฺสุติวเสน ‘‘เหตุกตฺตา’’ติ เวทิตพฺโพ.
กถํ? อยํ กิร ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริโย ลงฺกาทีปโต สชาติภูมึ ชมฺพุทีปมาคจฺฉนฺโต ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริยํ ชมฺพุทีปวาสิเกหิ ปฏิปตฺติปรายเนหิ ยุตฺตพฺยตฺตคุโณเปเตหิ มหาเถรวเรหิ กตาราธนํ สีหฬฏฺกถํ ปริวตฺเตตฺวา สกลชนสาธารณาย มูลภาสาย ติปิฏกปริยตฺติยา อฏฺกถํ ลิขิตุํ ลงฺกาทีปํ คจฺฉนฺตํ อนฺตรามคฺเค ทิสฺวา สากจฺฉาย สมุปปริกฺขิตฺวา สพฺพโลกาตีเตน อสทิเสน ปณฺฑิจฺจคุเณน รตนนิธิทสฺสเน ปรมทลิทฺโท วิย พลวปริโตสํ ปตฺวา อฏฺกถมสฺส กาตุกามตํ ตฺวา ‘‘ตุมฺเห ยถาธิปฺเปตปริยนฺตลิขิตมฏฺกถํ อมฺหากํ เปเสถ, มยมสฺสา ปกรณํ ลิขามา’’ติ ตสฺส สมฺมุขา ปฏิชานิตฺวา เตน จ ‘‘สาธุ ตถา กาตพฺพ’’นฺติ อชฺเฌสิโต อภิธมฺมฏฺกถาย อภิธมฺมาวตารํ, วินยฏฺกถาย สอุตฺตรํ วินยวินิจฺฉยปกรณฺจ อกาสีติ อนุสฺสุยฺยเตติ.
‘‘สมาเสนา’’ติ ¶ อิมินา จ ปริมาณมฺปิ สามฺเน ทสฺสิตํ วิตฺถารปริมาเณ ตสฺส ปริมาณสามฺสฺส วิฺายมานตฺตา. วิเสสโต ปน ปริจฺเฉทปริมาณํ คนฺถปริมาณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ ปริจฺเฉทปริมาณํ อิมสฺมึ ปกรเณ กถาโวหาเรน วุจฺจติ.
เสยฺยถิทํ? – ปาราชิกกถา สงฺฆาทิเสสกถา อนิยตกถา นิสฺสคฺคิยกถา ปาจิตฺติยกถา ปาฏิเทสนียกถา เสขิยกถาติ ภิกฺขุวิภงฺคกถา สตฺตวิธา, ตโต อนิยตกถํ วชฺเชตฺวา ตเถว ภิกฺขุนิวิภงฺคกถา ฉพฺพิธา, มหาขนฺธกกถาทิกา ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวสานา วีสติวิธา ขนฺธกกถา, กมฺมกถา, กมฺมวิปตฺติกถา, ปกิณฺณกวินิจฺฉโย, กมฺมฏฺานภาวนาวิธานนฺติ วินยวินิจฺฉเย กถาปริจฺเฉโท สตฺตตึส.
อุตฺตรปฺปกรเณ ¶ จ วุตฺตนเยน ภิกฺขุวิภงฺเค สตฺตวิธา กถา, ภิกฺขุนิวิภงฺเค ฉพฺพิธา, ตทนนฺตรา วิปตฺติกถา, อธิกรณปจฺจยกถา, ขนฺธกปฺหากถา, สมุฏฺานสีสกถา, อาปตฺติสมุฏฺานกถา, เอกุตฺตรนยกถา, เสทโมจนกถา, วิภงฺคทฺวยนิทานาทิกถา, สพฺพงฺคลกฺขณกถา, ปริวารสงฺกลนกถาติ ฉตฺตึส กถาปริจฺเฉทา.
นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘อฏฺตึส กถาปริจฺเฉทา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกุตฺตรนเย อทสฺสิเตหิปิ ทฺวาทสกปนฺนรสกนเยหิ สห โสฬสปริจฺเฉเท คเหตฺวา อปฺปกํ อูนมธิกํ คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถ กถาปริจฺเฉทปริมาณํ เตสตฺตติวิธํ โหติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘ปฺจสตฺตติวิธา’’ติ วจเน ปริหาโร วุตฺตนโยว. คนฺถปริมาณํ ปน วินยวินิจฺฉเย อสีติคนฺถาธิกานิ จตฺตาริ คนฺถสหสฺสานิ ¶ , อุตฺตเร ปฺาสคนฺถาธิกานิ นว คนฺถสตานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ อุตฺตราวสาเน –
‘‘คาถา จตุสหสฺสานิ, สตฺจ อูนวีสติ;
ปริมาณโตติ วิฺเยฺโย, วินยสฺสวินิจฺฉโย.
ปฺาสาธิกสงฺขานิ, นว คาถาสตานิ หิ;
คณนา อุตฺตรสฺสายํ, ฉนฺทสานุฏฺุเภน ตู’’ติ. (อุ. วิ. ๙๖๙-๙๗๐);
อิจฺเจวํ วินยวินิจฺฉโย อุตฺตโร จาติ ทฺเว ปกรณานิ ตึสาธิกานิ ปฺจคาถาสหสฺสานิ. เอตฺถ จ วินยวินิจฺฉโย นาม อุภโตวิภงฺคขนฺธกาคตวินิจฺฉยสงฺคาหกปกรณํ. ตโต ปรํ ปริวารตฺถสงฺคาหกปกรณํ อุตฺตโร นาม. เตเนว วกฺขติ –
‘‘โย มยา รจิโต สาโร, วินยสฺสวินิจฺฉโย;
ตสฺส ทานิ กริสฺสามิ, สพฺพานุตฺตรมุตฺตร’’นฺติ. (อุ. วิ. ๒)
ตํ กสฺมา อุตฺตรนาเมน โวหริยตีติ? ปฺหุตฺตรวเสน ิเต ปริวาเร ตเถว สงฺคเหตพฺเพปิ เตน ปกาเรน ปาราชิกกถามตฺตํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘อิโต ¶ ปฏฺาย มฺุจิตฺวา, ปฺหาปุจฺฉนมตฺตกํ;
วิสฺสชฺชนวเสเนว, โหติ อตฺถวินิจฺฉโย’’ติ. (อุ. วิ. ๑๔) –
วตฺวา ปฺหํ ปหาย ตโต ปฏฺาย อุตฺตรมตฺตสฺเสว ทสฺสิตตฺตา ตถา โวหรียนฺติ.
‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทินา ปน โสตุชนํ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชติ. สกฺกจฺจสวนปฏิพทฺธา หิ สพฺพาปิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตีติ อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ. อยํ ปน อวยวตฺโถ – โส ยสฺมา อตฺถโยชนกฺกเมน ปทโยชนํ ¶ กตฺวา วณฺณิเต สุวิฺเยฺโย โหติ, ตสฺมา ตถา ปทโยชนํ กตฺวา อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม –
เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคลํ พุทฺธฺเจว ภวาภาวกรํ ธมฺมฺเจว นิรงฺคณํ คณฺเจว สิรสา วนฺทิตฺวา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาเสน สมาหิโต วินยสฺสวินิจฺฉยํ วกฺขามีติ โยชนา.
ตตฺถ เสฏฺนฺติ สพฺเพ อิเม ปสตฺถา อยเมเตสํ อติสเยน ปสตฺโถติ เสฏฺโ. ตถา หิ โส ภควา ‘‘อหฺหิ พฺราหฺมณ เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑) เวรฺชพฺราหฺมณสฺส อตฺตโน เชฏฺเสฏฺภาวสฺส ปริชานนวินิจฺฉยเหตุภูตาหิ ฌานาทีหิ นิรติสยคุณสมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตตฺตา –
‘‘ตฺวเมว อสิ สมฺพุทฺโธ, ตุวํ สตฺถา อนุตฺตโร;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล. (ที. นิ. ๒.๓๗๐);
ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.
อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหสิ อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโว. (ม. นิ. ๒.๔๐๐; สุ. นิ. ๕๕๐-๕๕๑; เถรคา. ๘๓๙-๙๔๐);
มหาวีร ¶ มหาปฺ, อิทฺธิยา ยสสา ชล;
สพฺพเวรภยาตีต, ปาเท วนฺทามิ จกฺขุมา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๕๖); –
อาทีหี นานานเยหิ สเทวเกน โลเกน อภิตฺถวิยตาย ปสตฺถตโม, ตเมว เสฏฺํ ปสตฺถตมนฺติ อตฺโถ.
อปฺปฏิปุคฺคลนฺติ ¶ นตฺถิ เอตสฺส ปฏิปุคฺคโล อธิโก, สทิโส วาติ อปฺปฏิปุคฺคโล. ตถา หิ คุณวเสน อนนฺตาปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อตฺตนา อธิกสฺส, สทิสสฺส วา ปุคฺคลสฺส อภาวโต –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑) –
อตฺตนาว อตฺตโน อวิปรีโต อปฺปฏิปุคฺคลภาโว ปฏิฺาโต, ตสฺมา ตํ อปฺปฏิปุคฺคลํ สพฺพโลกุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
พุทฺธนฺติ อนนฺตมปริเมยฺยํ เยฺยมณฺฑลมนวเสสํ พุทฺธวาติ พุทฺโธ, เอเตน อเนกกปฺปโกฏิสตสหสฺสํ สมฺภตปฺุาณสมฺภารานุภาวสิทฺธิธมฺมรูปกายสิริวิลาสปฏิมณฺฑิโต สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทสฺสิโต. อถ วา จตฺตาริ สจฺจานิ สยํ วิจิโตปจิตปารมิตาปริปาจิเตน สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหายเกน สยมฺภุาเณน พุชฺฌีติ พุทฺโธ. ยถาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๒, ๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓; เถรคา. ๘๒๘);
วิตฺถาโร ปนสฺส ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) นิทฺเทสาทีสุ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. สทฺทสิทฺธิ สาสนิกานํ อวคมนตฺเถ วตฺตมานา พุธ-ธาตุโต ‘‘ภาวกมฺเมสุ ต’’ อิติ อิโต ตาติวตฺตมาเน ‘‘พุธคมาทิตฺเถ กตฺตรี’’ติ อิมินา กจฺจายนสุตฺเตน กตฺตริ ตปฺปจฺจยวิธานโต เวทิตพฺพา. โลกิยานํ ปน โพธนตฺถธาตูนมฺปิ คมนตฺถตาย วุตฺตตฺตา คตฺยตฺถากมฺมกาทิ ¶ สุตฺตโต กตฺตริ ต-ปฺปจฺจยกรเณน เวทิตพฺพา.
อถ วา ธาตูนํ อเนกตฺถตาย พุธ-อิจฺจยํ ธาตุ ชาครณวิกสนตฺเถสุ วตฺตมาโน อกมฺมโกติ ‘‘ปพุทฺโธ ปุริโส, ปพุทฺธํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิย พุทฺธวา อฺาณนิทฺทาวิคเมน าณจกฺขูนิ อุมฺมีลนฺโต ปพุทฺโธ, คุเณหิ วา วิกสิโตติ กตฺตริ สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน ‘‘พุทฺโธ’’ติ ติภวเนกจูฬามณิปาทปงฺกชราครตโน ภควา โลกนาโถ วุจฺจติ, อิมสฺมึ ปกฺเขปิ คตฺยตฺถาทิสุตฺเต อกมฺมกคฺคหเณน ปจฺจยวิธานํ ทฏฺพฺพํ.
อถ วา สกมฺมกานํ ธาตูนํ กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเว อกมฺมกภาวโต ‘‘ผลํ สยเมว ปกฺก’’นฺติอาทีสุ วิย โพธนตฺเถเยว พุธ-ธาตุโต กตฺตริ วิธานํ สิชฺฌติ. อถ วา นีลคุณโยเคน ปฏาทีสุ นีลโวหาโร วิย ภาวสาธนํ พุทฺธ-สทฺทํ คเหตฺวา พุทฺธคุณโยคโต ‘‘พุทฺโธ’’ติ โวหรียติ. เอวมเนกธา สิทฺเธน พุทฺธ-สทฺเทน วุจฺจมานํ ตํ ภควนฺตํ ตํ ธมฺมราชนฺติ อตฺโถ.
‘‘เสฏฺํ อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ ปททฺวยํ ‘‘พุทฺธ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เอตฺถ จ ‘‘พุทฺธํ, เสฏฺํ, อปฺปฏิปุคฺคล’’นฺติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ นยโต ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๕๗; ๓.๖; ม. นิ. ๑.๑๔๗, ๑๔๔; ๓.๔๓๔; สํ. นิ. ๑.๒๔๙; ๕.๔๗๙; อ. นิ. ๕.๑๔, ๓๐; ๖.๒๕, ๒๖; เนตฺติ. ๙๓), ‘‘โย วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๖) จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ทสฺสิตทูราวิทูรสนฺติกนิทานเหตุผลสตฺโตปการาวตฺถาธมฺมตฺถ- โลกุทฺธารตฺติกตฺตยสงฺคหิตํ สุปริสุทฺธํ พุทฺธคุณสมุทยํ ¶ นิรวเสสํ ทสฺเสติ. อยเมว หิ พุทฺธคุณานํ นิรวเสสโต ทสฺสนูปาโย, ยทิทํ นยทสฺสนํ. อิตรถา ปฏิปทวณฺณนาย อปริมิตานํ พุทฺธคุณานํ โก หิ นาม สมตฺโถ ปริยนฺตํ คนฺตุํ. ยถาห –
‘‘พุทฺโธปิ ¶ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ;
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร;
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; เนตฺติ. ฏี. คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);
เอวเมเตหิ ตีหิ ปเทหิ นิรวเสสคุณสํกิตฺตนถุติยา วเสน ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส จ วุตฺตตฺตา อิมาย อฑฺฒคาถาย พุทฺธรตนสงฺขาตปมวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ธมฺมรตนสฺส ปณามํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภวาภาวกรํ ธมฺม’’นฺติ. เอตฺถ ภว-สทฺเทน ทฺเว ภวา วุตฺตา กมฺมภโว, อุปปตฺติภโวติ. ตตฺถ กมฺมภโว ภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. วิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาโต ปน อุปปตฺติภโว อวิชฺชาตณฺหุปาทานสงฺขาราทิสหการิการณยุตฺเตน กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตกมฺมภวปจฺจเยน ยถารหํ ภวตีติ ‘‘ภโว’’ติ วุจฺจติ. โส ปน กามภวรูปภวอรูปภวสฺีภวอสฺีภวเนวสฺีนาสฺีภว- เอกโวการภวจตุโวการภวปฺจโวการภววเสน นววิโธ. เอวเมเตสุ นวสุ ภเวสุ ทสวิโธปิ ธมฺโม อตฺตานํ ธาเรนฺตสฺส ปุคฺคลสนฺตานสฺส อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยา ปรํ อปฺปฏิสนฺธิกตาสาธเนน ภเวสุ ¶ , ภวสฺส วา อภาวํ กโรตีติ ภวาภาวกโร, ตํ, อปราปรชาติปฺปพนฺธสฺส เหตุสมุคฺฆาเตน อปฺปวตฺติธมฺมตาปาทกนฺติ อตฺโถ.
ธมฺมนฺติ อตฺตานํ ธาเรนฺเต จตูสุ อปาเยสุ, สํสาเร จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม, โส จตุมคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตนวโลกุตฺตรธมฺโม จ ตปฺปฏิปาทโก นวงฺคสาสนาปรนามเธยฺยจตุราสีติสหสฺสธมฺมกฺขนฺธปฺปเภทภินฺโน ปริยตฺติธมฺโม จาติ ทสวิโธ. โสปิ นิปฺปริยายธมฺโม, ปริยายธมฺโม ¶ จาติ ทุวิโธ. ตตฺถ นิปฺปริยายธมฺโม นาม อปาเย, สํสาเร วา ปธานเหตุภูตานํ อุทฺธมฺภาคิยานํ, โอรมฺภาคิยานฺจ ทสนฺนํ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺทเนน มคฺคธมฺโม, ตสฺส ตํกิจฺจนิปฺผตฺตินิมิตฺตภาเวน นิพฺพานธมฺโม จาติ ปฺจวิโธปิ นิปฺปริยาเยน ปุคฺคลสนฺตานํ ธาเรตีติ กตฺวา ‘‘นิปฺปริยายธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. จตฺตาริ ปน สามฺผลานิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเนน มคฺคานุคุณปฺปวตฺติยา, ปริยตฺติ จ มคฺคนิพฺพานาธิคมสฺส มูลการณภาวโตติ ปฺจวิโธปิ ปริยายธมฺโม นาม.
เอตฺตาวตา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖), ‘‘ราควิราคมเนชมโสก’’นฺติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๗) จ สุตฺตนฺเตหิ วุตฺตสฺส, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตสฺส สรณานุสฺสรณวเสนาปิ สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติปฏิลาภการณสฺส อนวเสสสฺส ธมฺมรตนคุณสฺส นยโต อุทฺทิฏฺตฺตา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา ปณามสฺส ทสฺสิตตฺตา จ ธมฺมรตนสงฺขาตสฺส ทุติยสฺส วนฺทนียสฺส ถุติปณามสภาวา วนฺทนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตทนนฺตรํ ¶ สงฺฆรตนสฺส วนฺทนาสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ ‘‘คณฺเจว นิรงฺคณ’’นฺติ. เอตฺถ ‘‘ราโค องฺคณํ โทโส องฺคณํ โมโห องฺคณ’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) วุตฺเตหิ ราคาทิองฺคเณหิ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติวเสน นิคฺคโต วิมุตฺโตติ นิรงฺคโณ, ตํ นิรงฺคณํ. อริยวํเส สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาเตหิ คุณคเณหิ คณียตีติ คโณ, ตํ.
เอตฺตาวตา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๙; อ. นิ. ๓.๗๖; ที. นิ. ๓.๖; อ. นิ. ๖.๑๐, ๒๕, ๒๖;), ‘‘ยตฺถ จ ทินฺนํ มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสู’’ติอาทีหิ (วิ. ว. ๘๘๘) จ เตหิ เตหิ สุตฺตปเทหิ วุตฺตานํ, ตทฏฺกถาทีสุ จ วณฺณิตานํ วิมลาตุลนิขิลวิสาลเปสลสีลาทินานปฺปการานคฺฆสงฺฆรตนคุณานํ สํกิตฺตนสภาวาย ถุติยา จ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ เอเตน ยถาวุตฺตสรูปปเภทปณามสฺส วุตฺตตฺตา จ สงฺฆรตนสงฺขาตตติยวนฺทนียวตฺถุวิสยา ถุติปฺปณามสงฺขาตา วนฺทนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. สิรสาติ อตฺตปฺปสาทคารวาวหนฺเตน มุทฺธนา. วนฺทิตฺวาติ ปณมิตฺวา โถมิตฺวา วา.
เอวํ ¶ ปมคาถาย วนฺทนียสฺส รตนตฺตยสฺส ถุติปฺปณามสงฺขาตํ วนฺทนํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตราย สนฺทสฺเสตพฺพปโยชนาทิปฏิปาทิกาย คาถาย ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ อิมินา กิฺจาปิ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ‘‘ภิกฺขู’’ติ กลฺยาณปุถุชฺชเนน สทฺธึ อฏฺ อริยปุคฺคลา วุจฺจนฺติ, ปาฬิยํ (ปารา. ๔๔-๔๕; วิภ. ๕๑๐) ปน ‘‘ภินฺนปฏํ ธาเรตีติ ภิกฺขุ, ภิกฺขนสีโลติ ภิกฺขู’’ติอาทินา ภิกฺขุสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารวเสน นิพฺพจนนฺตรานิ ทสฺเสตฺวา ¶ ปาติโมกฺขสํวรสํวรณารหสฺเสว อธิปฺเปตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ทสฺสิตา สิกฺขากามา สาสนาวจารา กุลปุตฺตา อิธาธิปฺเปตา, เตสํ ภิกฺขูนฺจ. ภิกฺขุนีนฺจาติ อฏฺวาจิกอุปสมฺปทากมฺเมน อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาตาทิสาเยว กุลธีตโร ทสฺสิตา. เอกโตปสมฺปนฺนาปิ สามฺเน คยฺหนฺติ. เอกโตปสมฺปนฺนาติ จ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ยาว ภิกฺขุสงฺเฆ น อุปสมฺปชฺชนฺติ, ตาว, ภิกฺขุนี จ ลิงฺคปริวตฺตเนน ภิกฺขุนิภาวปฺปตฺตา อธิปฺเปตา, ตาสํ ภิกฺขุนีนฺจ.
หิตตฺถายาติ สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทกรณตฺถาย หิโนติ คจฺฉติ ยถาธิปฺเปตผลสาธเน ปวตฺตตีติ หิตนฺติ อโรคตาทิการณํ อมโตสธาทิ วุจฺจติ. อิธ ปน สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติสิทฺธิการณํ ปาติโมกฺขสํวรสีลรกฺขนํ วุจฺจติ, ตทตฺถาย.
สมาหิโต สมฺมา อาหิโต ปวตฺติโต วินิจฺฉยมคฺโค เอเตนาติ ‘‘สมาหิโต’’ติ ปกรณการโก ทสฺสิโต. อถ วา สมฺมา อาหิตํ วินยวินิจฺฉเย ปิตํ ปวตฺติตํ จิตฺตเมตสฺสาติ ‘‘สมาหิตจิตฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สมาหิโต’’ติ วุตฺโต. ปรมคมฺภีรสุทุตฺตรวินยปิฏกตฺถวินิจฺฉเย ปวตฺตนารหสฺส อิมินา วิเสสเนน อตฺตนิ สมาหิตจิตฺตปฺปวตฺตินิมิตฺตภูโต อตฺตโน าณสฺส ปทฏฺานภูโต สมาธิ ทสฺสิโต เตน สมาธินา สมาหิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
ปวกฺขามีติ ปกาเรน วกฺขามิ, เยน ปกาเรน วินยวินิจฺฉเย วุตฺเต อชฺชตนา มนฺทสติมติวีริยา ปฏิปชฺชนกา คมฺภีรตรํ ¶ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยํ สุเขน อุคฺคณฺหิตุํ, ธาเรตฺุจ สกฺโกนฺติ, ตาทิเสน ปการวิเสเสน วกฺขามีติ อตฺโถ. สมาเสนาติ สมสนํ สํขิปนํ สมาโส, เตน, สํขิตฺตรุจิกานมุคฺฆาฏิตฺูนํ กตาธิการานํ าณุตฺตรานํ ปุคฺคลานฺจ ¶ ปปฺจภีรุกานํ คหณธารเณ มนฺทยนฺตานํ มนฺทพุทฺธีนฺจ อุปการเกน นาติวิตฺถารกฺกเมนาติ อตฺโถ. วินยสฺสาติ วินยปิฏกสฺส. ตฺหิ –
‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา;
วินยนโต เจว กายวาจานํ;
วินยตฺถวิทูหิ อยํ;
วินโย ‘วินโย’ติ อกฺขาโต’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) –
วุตฺเตหิ อตฺถวิเสเสหิ ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. ตสฺส เอวํ สนฺทสฺสิตสภาวสฺส ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.ปมมหาสงฺคีติกถา) สงฺคีติการเกหิ มหากสฺสปาทีหิ อภิตฺถุตคุณสฺส วินยปิฏกุตฺตมสฺส. วินิจฺฉยนฺติ วิเสเสน, วิวิเธน วา อากาเรน วิปฺปฏิปตฺตินีหรณวเสน จียติ วิภชียตีติ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ ลทฺธนามํ วิภชนํ, วินยวินิจฺฉยํ นาม ปกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ จ อลุตฺตสมาโสยํ ‘‘เทวานํปิยติสฺโส, กณฺเกาโฬ’’ติอาทีสุ วิย.
เอวํ ทุติยคาถาย กตฺตุนิมิตฺตปโยชนาภิธานาภิเธยฺยปกรณปฺปกาเรกเทสํ ทสฺเสตฺวา สกฺกจฺจสวนการณนิทสฺสนมุเขนาปิ ปกรณปฺปการาทึ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนากุล’’มิจฺจาทิ. ตตฺถ อนากุลนฺติ นตฺถิ เอตฺถ สทฺทโต, อตฺถโต, วินิจฺฉยโต วา อากุลํ ปุพฺพาปรวิโรโธ, มิสฺสตา ¶ วาติ อนากุโล, วินยวินิจฺฉโย, ตํ วทโต เม นิโพธถาติ สมฺพนฺโธ. อสํกิณฺณนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ.
มธุรตฺถปทกฺกมนฺติ ปทานํ กโม ปทกฺกโม, ปทคติ, สทฺทานมุจฺจารณนฺติ อตฺโถ. มธุโร อตฺโถ จ ปทกฺกโม จ ยสฺส โส มธุรตฺถปทกฺกโม, ตํ –
‘‘ปทาสตฺตํ ¶ ปทตฺถานํ, มธุรตฺถมุทีริตํ;
เยน มชฺชนฺติ ธีมนฺโต, มธุเนว มธุพฺพตา’’ติ. –
อิมินา ลกฺขเณน สทฺทานมตฺถานฺจ วเสน ปทาสตฺตาปรนามเธยฺยมาธุริยาลงฺกาเรน สมลงฺกตตฺตา มธุรตฺถปทกฺกมํ.
ปฏุภาวกรนฺติ ปฏติ คจฺฉติ ปชานาตีติ ปฏุ, ปฺวา, ปฏุโน ภาโว, สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตภูตา ปฺา, ตํ ปฏุภาวํ ปฺาวิเสสํ กโรติ ชเนตีติ ปฏุภาวกโร, ตํ, ปฺาวิเสสชนกนฺติ อตฺโถ. เอตํ วินยสฺส วินิจฺฉยนฺติ โยชนา. ปรมนฺติ อุตฺตมํ. วินยกฺกเมติ วินยปิฏเก, ตทตฺเถ จ, ปวตฺติกฺกเม ปฏุภาวกรนฺติ อตฺโถ.
เอวํ ตติยคาถาย ปกรณคุณาปเทเสน โสตุชนํ สมุสฺสาเหตฺวา อิทานิ ‘‘อปาร’’นฺติอาทิจตุตฺถคาถาย ปกรณฺจ ตนฺนิสฺสยํ วินยปิฏกฺจ นาวาสาครภาเวน ทสฺเสตฺวา ติโรภูโตปเมยฺโยปมานเภเทน รูปกาลงฺกาเรน ปกรณคุณํ ปกาเสนฺโต โสตุชนํ สมุตฺเตเชติ. ตตฺถ อปารนฺติ นตฺถิ ปารํ เอตสฺสาติ อปาโร, วินยสาคโร. โส หิ ปุริมพุทฺธุปฺปาเทสุ สาสนํ ปสีทิตฺวา วินยปิฏเก อุคฺคหณธารณปฏิปาทนปฏิปตฺติวเสน อกตาธิกาเรหิ ปุคฺคเลหิ ทุรธิคมนียธมฺมตฺถนิรุตฺติปฏิภานปริยนฺตตาย ‘‘อปาโร’’ติ วุจฺจติ.
โอตรนฺตานนฺติ ¶ สชฺฌายนสวนธารณาทิวเสน อชฺโฌคาหนฺตานํ. สารนฺติ นิพฺพานสมฺปาปกภาเวน สารภูตาย อริยมคฺคสมฺภาราย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา มูลภูตปาติโมกฺขสํวรสงฺขาตสีลสารปฺปกาสกตาย สารํ. วินยสาครนฺติ วินยปิฏกสงฺขาตํ สาครํ. วินโย หิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา กาลปฺปตฺตชานนสฺสาปิ ธมฺมเสนาปติอาทีนมฺปิ อวิสยตฺตา อติคมฺภีราติวิตฺถิณฺณภาเวน สาคโร วิยาติ สาคโร, วินโย จ โส สาคโร จาติ วินยสาคโร, ตํ, อคาธาปารคุณโยคโต สาคโรปมํ วินยปิฏกนฺติ อตฺโถ.
ทุติยคาถาย ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘หิตตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธตฺตา จ วากฺยนฺตเรหิ อนฺตริตภาเวน ทูรตฺตา จ ตํ อนาทิยิตฺวา เอตฺถ วินยสาครชฺโฌคาหนตทตฺถปฏิปชฺชนารหกตฺตุวิเสสสนฺทสฺสนตฺถาย ¶ ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีน’’นฺติ ปุน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นาวา วิย ภูโต นาวาภูโต, ตํ, นาวาฏฺานิยํ มหานาวาสทิสนฺติ อตฺโถ. มโนรมนฺติ มโน รมติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา มโนรโม, ตํ, อชฺฌายนโวหารปสุตานํ ปฏิปตฺติปรายนานฺจ สาธูนํ มโนรมนฺติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ปกรณคุณสํกิตฺตเนน โสตุชนํ สมุตฺเตเชตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวเน นิโยเชนฺโต ‘‘ตสฺมา วินยนูปาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตํ อนากุลตาทิวิวิธานคฺฆคุณาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ, เตน เหตุนาติ อตฺโถ. วินยนูปายนฺติ วิวิธากาเรน, วิเสสนยโต วา กายวาจานํ นยนํ ทมนํ อกตฺตพฺพโต นิวตฺเตตฺวา กตฺตพฺเพสุ นิโยชนํ วินยนํ, อุเปจฺจ ตํ ผลํ อายติ อุปฺปชฺชตีติ อุปาโย, เหตุ, วินยนสฺส อุปาโย วินยนูปาโย, ตํ, กายชีวิตานเปกฺขานํ สิกฺขากามานํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ กายวาจานํ อนนุโลมิกวิปฺผนฺทิตาปนยนสงฺขาตทมนสฺส ¶ การณภูตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา อตฺตนา กตฺตุมิจฺฉิเต ปกรเณ ปณฺฑิตานํ ปวตฺติเหตุภูตานํ อนากุลตาทิคุณานํ วิภาวนวเสน ‘‘อนากุล’’นฺติอาทิวิเสสนานิ วตฺวา อิทานิ สกฺกจฺจสวนาวโพเธ วิสยํ วิเสสิตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ. เอตฺถ จ ทุติยคาถาย ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ ‘‘ปวกฺขามี’’ติ กิริยาย กมฺมทสฺสนวเสน วุตฺตํ, ตํ อิธ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิยมานมฺปิ ทูรสมฺพนฺธํ โหตีติ ตมนาเนตฺวา ‘‘นิโพธถา’’ติ อิมิสฺสา กิริยาย กมฺมสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘วินยสฺสวินิจฺฉย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโวติ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตนาติ เอตฺถ วิวิเธ อารมฺมเณ ขิตฺตํ เปสิตํ วิกฺขิตฺตํ, อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาทิปเรตํ อสมาหิตํ จิตฺตํ, น วิกฺขิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, ตปฺปฏิปกฺขํ สมาหิตํ กุสลจิตฺตํ, เตน, เอตสฺส ปกรณุตฺตมสฺส สวนาทิพฺยาปารํ วินา นานารมฺมเณสุ ปวตฺติวเสน วิกฺเขปมนาปนฺเนน สมาหิเตน จิตฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘อวิกฺขิตฺเตน…เป… นิโพธถา’’ติ วทนฺเตน จ ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ วจนโต วิกฺขิตฺตสฺส ธมฺเมสุ ทายาทาภาวโต อตฺตโน ปกรณตฺถภูตาย อธิสีลสิกฺขาย สมฺมาปฏิปชฺชนาปเทโส กโต โหติ.
วทโต ¶ เมติ เอตฺถ ‘‘คารเวน จา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถายมตฺโถ – ภาสมาเน มยิ คารเวน, ยถาวุตฺเตน การเณน จาติ สามิภุมฺมานมวิเสสตาย ‘‘เม’’ติ สามิวจนสฺส ‘‘มยี’’ติ อตฺถสมฺภวโต อยมตฺโถ วุตฺโต. ปกรณสฺส อนากุลตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา จ วตฺตริ มยิ คารเวน จ สมาหิเตน เจตสาติ อธิปฺปาโย. นิโพธถาติ วากฺยตฺถปทตฺถํ สนฺธายภาสิตตฺถภาวตฺถาทิวเสน ¶ นิเสสโต โพธถ, สกฺกจฺจํ สุตฺวา วินยวินิจฺฉยํ พุชฺฌถ วิชานาถาติ อตฺโถ, จินฺตาภาวนามยาณานํ มูลภูตปกรณวิสยํ สุตมยาณํ นิปฺผาเทถาติ อธิปฺปาโย.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.