📜

ปาราชิกกถาวณฺณนา

๑๙๖๕. ฉนฺทโสติ เมถุนเสวนราคปฏิสํยุตฺเตน ฉนฺเทน. เอเตน ‘‘ฉนฺเท ปน อสติ พลกฺกาเรน ปธํสิตาย อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เมถุนธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา) อฏฺกถา สูจิตา โหติ. สา สมณี ปาราชิกา นาม โหตีติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๑๙๖๖-๗. ‘‘สชีวสฺส อปิ อชีวสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สนฺถตํ วา อสนฺถต’’นฺติ อิทํ ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อิมสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ติวิเธ มคฺเคติ อตฺตโน วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค. เอตฺถ ‘‘สนฺถเต วา อสนฺถเต วา’’ติ เสโส, ‘‘อลฺโลกาเส’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘เยภุยฺยอกฺขายิตาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน อกฺขายิตํ สงฺคณฺหาติ.

มนุสฺสปุริสาทีนํ นวนฺนํ สชีวสฺสปิ อชีวสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺถตํ วา อสนฺถตํ วา เยภุยฺยกฺขายิตาทิกํ องฺคชาตํ อตฺตโน สนฺถเต วา อสนฺถเต วา ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตี ปราชิตาติ โยชนา.

๑๙๖๘. สาธารณวินิจฺฉยนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สาธารณสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ.

๑๙๖๙-๗๐. อธกฺขกนฺติ เอตฺถ อกฺขกานํ อโธติ วิคฺคโห. อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ อุพฺภนฺติ วิคฺคโห. อุพฺภ-สทฺโท อุทฺธํ-สทฺทปริยาโย. อิธ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. อวสฺสุตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยาติ วุตฺตตฺตา ‘‘สา’’ติ ลพฺภติ. สรีรนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตน วา ผุฏฺา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย’’ติ จ ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ จ วตฺตพฺพํ.

ยา ปน ภิกฺขุนี อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุคฺคลสฺส ยํ กิฺจิ สรีรํ อตฺตโน อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ยํ สรีรกํ, เตน สรีรเกน ฉุเปยฺย, เตน มนุสฺสปุริเสน ยถาปริจฺฉินฺเน กาเย ผุฏฺา สาทิเยยฺย วา, สา ปาราชิกา สิยาติ โยชนา.

๑๙๗๑-๒. ‘‘คหิตํ อุพฺภชาณุนา’’ติ อิมินา กปฺปรโต อุทฺธํ ปาราชิกกฺเขตฺตเมวาติ ทีเปติ. อตฺตโน ยถาวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ โยชนา, อตฺตโน ‘‘อธกฺขก’’นฺติอาทิวุตฺตปฺปกาเรน กาเยนาติ อตฺโถ. ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. อตฺตโน ยถาปริจฺฉินฺนกายปฏิพทฺเธน ตถา อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ.

๑๙๗๓. อตฺตโน อวเสเสน กาเยน อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ โหติ. เอวํ อตฺตโน ปโยเค จ ปุริสสฺส ปโยเค จ ตสฺสา ภิกฺขุนิยาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๔. ยกฺขเปตติรจฺฉานปณฺฑกานํ กายํ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยถาปริจฺฉินฺนํ ตเถว อตฺตโน กาเยน อุภโตอวสฺสเว สติ ผุสนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ, ตเถว ยกฺขาทีนํ ปโยเคปิ ตสฺสาเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.

๑๙๗๕. เอกโตวสฺสเว จาปีติ ภิกฺขุนิยา วเสน เอกโตอวสฺสเว จาปิ. ถุลฺลจฺจยมุทีริตนฺติ ปาราชิกกฺเขตฺตภูเตน อตฺตโน กาเยน มนุสฺสปุริสสฺส กายํ ผุสนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อวเสเส จ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตปาราชิกกฺเขตฺตโต อวเสเส ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สพฺพตฺถ เอกโตอวสฺสเว สติ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กายปฏิพทฺเธน กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ สพฺพตฺถ อุภโตอวสฺสเว วา เอกโตอวสฺสเว วา ทุกฺกฏเมว โหติ.

๑๙๗๖. ‘‘อุพฺภกฺขกมโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ ยํ อปาราชิกกฺเขตฺตํ อิธ ทสฺสิตํ, เอตฺถ เอกโตอวสฺสเว ทุกฺกฏํ โหติ. กปฺปรสฺส จ เหฏฺาปิ เอตฺเถว อโธชาณุมณฺฑเล สงฺคหํ คตนฺติ โยชนา.

๑๙๗๗-๙. ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สเจ กายสํสคฺคํ เกลายติ เสวตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิยา นาโส สิยาติ สีลวินาโส ปาราชิกาปตฺติ สิยาติ อตฺโถ. เคหเปมนฺติ เอตฺถ ‘‘เคหสิตเปม’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน สิต-สทฺทโลโป, อตฺโถ ปนสฺส ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนโยว.

๑๙๘๐. อวิเสเสนาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วา วิเสสํ อกตฺวา.

๑๙๘๑. ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา. ยตฺถาติ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา. มโนสุทฺธนฺติ กายสํสคฺคาทิราครหิตํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ตตฺถ ภิกฺขุนิยํ วา ภิกฺขุสฺมึ วา วิสเย นโทสตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

๑๙๘๒. ภินฺทิตฺวาติ สีลเภทํ กตฺวา. ภิกฺขุนิยา อปกตตฺตา อาห ‘‘เนว โหติ ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ.

๑๙๘๓. อถาติ วากฺยารมฺเภ. น โหตาปตฺติ ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ภิกฺขุนีหิ กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสมาห.

๑๙๘๔. ‘‘เขตฺเต’’ติ วกฺขมานํ ‘‘ผุฏฺา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา ‘‘ปาราชิก’’นฺติอาทีหิ, ‘‘ถุลฺลจฺจยํ เขตฺเต’’ติอาทีหิ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ผุฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ เสโส.

๑๙๘๕. ตถาติ นิจฺจลาปิ สาทิยติ. เขตฺเตติ ถุลฺลจฺจยาทีนํ เขตฺเต. กาเยน นิจฺจลายปิ จิตฺเตน สาทิยนฺติยา อาปตฺติ กสฺมา วุตฺตาติ อาห ‘‘วุตฺตตฺตา…เป… สตฺถุนา’’ติ , ภิกฺขุปาติโมกฺเข วิย ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อวตฺวา อิธ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๑๙๘๖. ตสฺสา อาปตฺติยา. กฺริยสมุฏฺานนฺติ กิริยาย สมุฏฺานํ. เอวํ สตีติ สาทิยนมตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพภาเว สติ. อิทนฺติ ‘‘กิริยสมุฏฺาน’’มิติวิธานํ. ตพฺพหุเลเนว นเยนาติ กิริยสมุฏฺานพาหุลฺเลน นเยน ขทิรวนาทิโวหาโร วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

๑๙๘๗. ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อสฺจิจฺจ วิรชฺฌิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ‘‘อยํ ปุริโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา อชานิตฺวา อามสนฺติยา อนาปตฺติ, ปุริสสฺส อามสเน สติ ผสฺสํ อสาทิยนฺติยา วา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๙๘๘. ขิตฺตจิตฺตายาติ ยกฺขุมฺมตฺตาย. อุมฺมตฺติกาย วาติ ปิตฺตโกเปน อุมฺมาทปฺปตฺตาย. อิทฺจ ‘‘อสุจี’’ติ วา ‘‘จนฺทน’’นฺติ วา วิเสสตํ อชานนเมว ปมาณํ.

อุพฺภชาณุมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๙๘๙-๙๐. ‘‘ปาราชิกตฺตํ ชานนฺตี’’ติ อิมินา อวเสสาปตฺตึ ชานิตฺวา ฉาเทนฺติยา ปาราชิกาภาวํ ทีเปติ. สลิงฺเค ตุ ิตายาติ ปพฺพชฺชาลิงฺเคเยว ิตาย. อิติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมินฺติ โยชนา. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. อิตราย ปุพฺเพเยว อาปนฺนตฺตา ตมเปกฺขิตฺวา ‘‘สา จา’’ติ อาห.

๑๙๙๑. วุตฺตาวิสิฏฺํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘เสส’’นฺติอาทิ. ตตฺถาติ ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทเน.

วชฺชปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.

๑๙๙๒-๕. สงฺเฆนาติ สมคฺเคน สงฺเฆน. อุกฺขิตฺตโกติ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺขิตฺตโก. ‘‘อุกฺเขปเน ิโต’’ติ อิมินา อุกฺเขปนียกมฺมกตสฺส อโนสาริตภาวํ ทีเปติ. ยา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ ยํทิฏฺิโก, โส อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ ยาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต โหตีติ อธิปฺปาโย . ‘‘ตสฺสา ทิฏฺิยา คหเณนา’’ติ อิมินา อนุวตฺตปฺปกาโร ทสฺสิโต. ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุนฺติ โยชนา. สา ภิกฺขุนี อฺาหิ ภิกฺขุนีหิ วิสุมฺปิจ สงฺฆมชฺเฌปิ ‘‘เอโส โข อยฺเย ภิกฺขุ สมคฺเคน สงฺเฆน อุกฺขิตฺโต’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๖๙) นเยน ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานาติ โยชนา. ตํ วตฺถุํ อจชนฺตี คเหตฺวา ยทิ ตเถว ติฏฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺพา’’ติ เสโส. ตสฺส กมฺมสฺส โอสาเนติ ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตวเสน อสฺส สมนุภาสนกมฺมสฺส ปริโยสาเน. อสากิยธีตราติ อสากิยธีตา, ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. ‘‘ปุน อปฺปฏิสนฺเธยา’’ติ อิมินา ปุน เตเนว จ อตฺตภาเวน ภิกฺขุนิภาเว ปฏิสนฺธาตุํ อนรหตา วุตฺตา.

๑๙๙๖. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา, เวมติกา, ธมฺมกมฺมสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สมนุภาสเน วุตฺตา สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ วตฺตพฺพาติ โยชนา.

อุกฺขิตฺตานุวตฺติกกถาวณฺณนา.

๑๙๙๗. ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยาติ หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา. เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ คหณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อปาราชิกเขตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ ลพฺภติ. อปาราชิกกฺเขตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ องฺคสฺส ยํ คหณํ, ตํ หตฺถคฺคหณนฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา. หตฺเถ คหณํ หตฺถคฺคหณํ.

๑๙๙๘. ยสฺส กสฺสจีติ วุตฺตปฺปกาเรน ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส ยํ คหณนฺติ โยชนา.

๑๙๙๙. อสทฺธมฺม-สทฺเทน เมถุนสฺสาปิ วุจฺจมานตฺตา ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺค…เป… การณา’’ติ. ภิกฺขุนี กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา ปุริสสฺส หตฺถปาสสฺมึ ติฏฺเยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๐. ตโตติ ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส การณา. ตตฺถาติ หตฺถปาเส. ปุริเสนาติ เอตฺถ ‘‘กต’’นฺติ เสโส, ‘‘สงฺเกต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘อาคมนํ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. อิจฺเฉยฺยาติ วุตฺเตปิ น คมนิจฺฉามตฺเตน, อถ โข ภิกฺขุนิยา ปุริสสฺส หตฺถปาสํ, ปุริเสน จ ภิกฺขุนิยา หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตกาเลเยว วตฺถุปูรณํ ทฏฺพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺเกตํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริเสน ‘อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉา’ติ วุตฺตา คจฺฉติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปุริสสฺส หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ ‘‘ปุริสสฺส อพฺภาคมนํ สาทิยติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. หตฺถปาสํ โอกฺกนฺตมตฺเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) จ. เอตฺถ จ อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉาติ อิตฺถนฺนามํ านํ อาคจฺฉาติ อตฺโถ.

๒๐๐๑. ตทตฺถายาติ ตสฺเสว กายสํสคฺคสงฺขาตอสทฺธมฺมสฺส เสวนตฺถาย. ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจาติ วตฺถาทินา เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนโอกาสํ. ปุริสสฺส หตฺถปาเส ิตา ตทตฺถาย กายํ อุปสํหเรยฺย วาติ โยชนา.

๒๐๐๒. หตฺถคฺคหณาทีนํ วุตฺตปฺปการานํ อฏฺนฺนํ วตฺถูนํ ปูรเณน ‘‘อฏฺวตฺถุกา’’ติ สงฺขาตา อยํ ภิกฺขุนี วินฏฺา โหติ สีลวินาเสน, ตโตเยว อสฺสมณี โหติ อภิกฺขุนี โหตีติ โยชนา.

๒๐๐๓. อนุโลเมนวาติ หตฺถคฺคหณาทิปฏิปาฏิยา วา. ปฏิโลเมน วาติ ตพฺพิปริยโต ปฏิโลเมน วา. เอกนฺตริกาย วาติ เอกเมกํ อนฺตริตฺวา ปุน ตสฺสาปิ กรณวเสน เอกนฺตริกาย วา. อนุโลเมน วา ปฏิโลเมน วา ตเถกนฺตริกาย วา อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตี จุตาติ โยชนา.

๒๐๐๔. เอตเทว อตฺถํ พฺยติเรกมุเขน สมตฺเถตุมาห ‘‘อถาทิโต’’ติอาทิ. สตกฺขตฺตุมฺปีติ พหุกฺขตฺตุมฺปิ. สต-สทฺโท เหตฺถ พหุ-สทฺทปริยาโย. ปาราชิกา เนว สิยาติ โยชนา, อิมินา ตํตํวตฺถุมูลกํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๐๕. ยา ปน อาปตฺติโย อาปนฺนา, เทเสตฺวา ตาหิ มุจฺจตีติ โยชนา. ธุรนิกฺเขปนํ กตฺวาติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา. เทสิตา คณนูปิกาติ เทสิตา เทสิตคณนเมว อุเปติ, ปาราชิกสฺส องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ยา เอกํ อาปนฺนา, ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน อาปชฺชติ, ปุน เทเสติ, เอวํ อฏฺ วตฺถูนิ ปูเรนฺตีปิ ปาราชิกา น โหติ.

๒๐๐๖. สอุสฺสาหาย เทสิตาติ ปุน อาปชฺชเน อนิกฺขิตฺตธุราย ภิกฺขุนิยา เทสิตาปิ อาปตฺติ เทสนาคณนํ น อุเปติ. กึ โหตีติ อาห ‘‘เทสิตาปิ อเทสิตา’’ติ, ตสฺมา ปาราชิกาปตฺติยา องฺคเมว โหตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๐๘. อยํ อตฺโถติ ‘‘อสทฺธมฺโม นาม กายสํสคฺโค’’ติ อยํ อตฺโถ. อุทฺทิสิโตติ ปกาสิโต.

๒๐๐๙. อยมตฺโถ เกน วจเนน อุทฺทิสิโตติ อาห ‘‘วิฺู…เป… สาธกํ วจนํ อิท’’นฺติ. อิทํ วจนนฺติ ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) อิทํ วจนํ. สาธกํ ปมาณํ.

อฏฺวตฺถุกกถาวณฺณนา.

๒๐๑๐. อวสฺสุตา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ อิมา จตสฺโส ปาราชิกาปตฺติโย มเหสินา อสาธารณา ภิกฺขุนีนเมว ปฺตฺตาติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.