📜

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา

๒๐๑๑. เอวํ ภิกฺขุนิวิภงฺเค อาคตํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ วตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺํ สงฺฆาทิเสสวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี’’ติอาทิ. อุสฺสยวาทาติ โกธุสฺสยมานุสฺสยวเสน วิวทมานา. ตโตเยว อฏฺฏํ กโรติ สีเลนาติ อฏฺฏการี. เอตฺถ จ ‘‘อฏฺโฏ’’ติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพตฺถ วตฺตพฺเพ มุขมสฺสา อตฺถีติ มุขรี, พหุภาณีติ อตฺโถ. เยน เกนจิ นเรน สทฺธินฺติ ‘‘คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๗๙) ทสฺสิเตน เยน เกนจิ มนุสฺเสน สทฺธึ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. กิราติ ปทปูรเณ, อนุสฺสวเน วา.

๒๐๑๒. สกฺขึวาติ ปจฺจกฺขโต ชานนกํ วา. อฏฺฏํ กาตุํ คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๐๑๓. โวหาริเกติ วินิจฺฉยามจฺเจ.

๒๐๑๔. อนนฺตรนฺติ ตสฺส วจนานนฺตรํ.

๒๐๑๕. อิตโรติ อฏฺฏการโก. ปุพฺพสทิโสว วินิจฺฉโยติ ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๑๖. ‘‘ตว, มมาปิ จ กถํ ตุวเมว อาโรเจหี’’ติ อิตเรน วุตฺตา ภิกฺขุนีติ โยชนา. ยถากามนฺติ ตสฺสา จ อตฺตโน จ วจเน ยํ ปมํ วตฺตุมิจฺฉติ, ตํ อิจฺฉานุรูปํ อาโรเจตุ.

๒๐๑๘-๙. อุภินฺนมฺปิ ยถา ตถา อาโรจิตกถํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา ตถาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เกนจิ ปกาเรน. เตหีติ โวหาริเกหิ. อฏฺเฏ ปน จ นิฏฺิเตติ อฏฺฏการเกสุ เอกสฺมึ ปกฺเข ปราชิเต. ยถาห ‘‘ปราชิเต อฏฺฏการเก อฏฺฏปริโยสานํ นาม โหตี’’ติ. อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺส อฏฺฏสฺส ปริโยสาเนติ โยชนา.

๒๐๒๐-๒๓. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วาปี’’ติอาทิ. ปจฺจตฺถิกมนุสฺเสหิ ทูตํ วาปิ ปหิณิตฺวา สยมฺปิ วา อาคนฺตฺวา ยา ปน อากฑฺฒียตีติ โยชนา. อฺเหีติ คามทารกาทีหิ อฺเหิ. กิฺจิ ปรํ อโนทิสฺสาติ โยชนา. อิมิสฺสา โอทิสฺส วุตฺเต เตหิ คหิตทณฺเฑ ตสฺสา จ คีวาติ สูจิตํ โหติ. ยา รกฺขํ ยาจติ , ตตฺถ ตสฺมึ รกฺขายาจเน ตสฺสา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. อฺโต สุตฺวาติ โยชนา. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา.

สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. เสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สกิริยํ อิท’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปทํ. กิริยาย สห วตฺตตีติ สกิริยํ อฏฺฏกรเณน อาปชฺชนโต. ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา จ สมุฏฺานาทิวินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ ทฏฺพฺโพ.

อฏฺฏการิกากถาวณฺณนา.

๒๐๒๔-๕. ชานนฺตีติ ‘‘สามํ วา ชานาติ, อฺเ วา ตสฺสา อาโรเจนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๖๘๔) วุตฺตนเยน ชานนฺตี. โจรินฺติ ยาย ปฺจมาสคฺฆนกโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ ปรสนฺตกํ อวหริตํ, อยํ โจรี นาม. วชฺฌํ วิทิตนฺติ ‘‘เตน กมฺเมน วธารหา อย’’นฺติ เอวํ วิทิตํ. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉา. ราชานํ วาติ รฺา อนุสาสิตพฺพฏฺาเน ตํ ราชานํ วา. ยถาห ‘‘ราชา นาม ยตฺถ ราชา อนุสาสติ, ราชา อปโลเกตพฺโพ’’ติ. คณเมว วาติ ‘‘ตุมฺเหว ตตฺถ อนุสาสถา’’ติ ราชูหิ ทินฺนํ คามนิคมมลฺลคณาทิกํ คณํ วา. มลฺลคณํ นาม ปานียฏฺปนโปกฺขรณิขณนาทิปุฺกมฺมนิยุตฺโต ชนสมูโห. เอเตเนว เอวเมว ทินฺนคามวรา ปูคา จ เสนิโย จ สงฺคหิตา. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. กปฺปนฺติ จ วกฺขมานลกฺขณํ กปฺปํ. สา โจริวุฏฺาปนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุปชฺฌายา หุตฺวา ยา โจรึ อุปสมฺปาเทติ, สา ภิกฺขุนีติ อตฺโถ. อุปชฺฌายสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.

๒๐๒๖. ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนกฺจ ปฺจมาสคฺฆนนฺติ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ปฺจมาสสฺสาปิ คหณํ. อติเรกคฺฆนํ วาปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๒๐๒๗. ปพฺพชิตํ ปุพฺพํ ยาย สา ปพฺพชิตปุพฺพา. วุตฺตปฺปการํ โจรกมฺมํ กตฺวาปิ ติตฺถายตนาทีสุ ยา ปมํ ปพฺพชิตาติ อตฺโถ.

๒๐๒๘-๓๐. อิทานิ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏาทิอาปตฺติวิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺาเปติ จ ยา โจริ’’นฺติอาทิ. อิธ ‘‘อุปชฺฌายา หุตฺวา’’ติ เสโส. อิทํ กปฺปํ เปตฺวาติ โยชนา. สีมํ สมฺมนฺนติ จาติ อภินวํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พนฺธตีติ วุตฺตํ โหติ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ทฺวย’’นฺติ อิมินา จ โยเชตพฺพํ.

กมฺมนฺเตติ อุปสมฺปทกมฺมสฺส ปริโยสาเน, ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตายาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๓๑. อชานนฺตีติ โจรึ อชานนฺตี. (อิทํ สิกฺขาปทํ.)

๒๐๓๒. โจริวุฏฺาปนํ นามาติ อิทํ สิกฺขาปทํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ นาม. วาจจิตฺตโตติ ขณฺฑสีมํ อคนฺตฺวา กโรนฺติยา วาจาจิตฺเตหิ. กายวาจาทิโต เจวาติ คนฺตฺวา กโรนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. ยถาห ‘‘เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๘๓). กฺริยากฺริยนฺติ อนาปุจฺฉาวุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ.

โจริวุฏฺาปนกถาวณฺณนา.

๒๐๓๓-๔. คามนฺตรนฺติ อฺํ คามํ. ยา เอกา สเจ คจฺเฉยฺยาติ สมฺพนฺโธ. นทีปารนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นทิยา ปารํ นทีปารํ. ‘‘เอกา วา’’ติ อุปริปิ โยเชตพฺพํ. โอหีเยยฺยาติ วินา ภเวยฺย. อิธ ‘‘อรฺเ’’ติ เสโส. อรฺลกฺขณํ ‘‘อินฺทขีล’’อิจฺจาทินา วกฺขติ. ‘‘เอกา วา รตฺตึ วิปฺปวเสยฺย, เอกา วา คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ สิกฺขาปทกฺกโม, เอวํ สนฺเตปิ คาถาพนฺธวเสน ‘‘รตฺตึ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ อนฺเต วุตฺตํ . เตเนว วิภาควินิจฺฉเย เทสนารุฬฺหกฺกเมเนว ‘‘ปุเรรุโณทยาเยวา’’ติอาทึ วกฺขติ. สา ปมาปตฺติกํ ครุกํ ธมฺมํ อาปนฺนา สิยาติ โยชนา. ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก, วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘ครุกํ ธมฺม’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สกคามา นิกฺขมนฺติยาติ ภิกฺขุนิยา อตฺตโน วสนคามโต นิกฺขมนฺติยา.

๒๐๓๕. ตโต สกคามโต.

๒๐๓๖-๗. เอเกน ปทวาเรน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป อติกฺกนฺเต, อุปจาโรกฺกเม วา ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. อติกฺกนฺเต โอกฺกนฺเตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขเป อุปจาเร’’ติ อธิการโต ลพฺภติ.

๒๐๓๘-๙. นิกฺขมิตฺวาติ อตฺตโน ปวิฏฺคามโต นิกฺขมิตฺวา. อยเมว นโยติ ‘‘เอเกน ปทวาเรน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน ครุกาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.

วติจฺฉิทฺเทน วา ขณฺฑปากาเรน วาติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ปากาเรนา’’ติ เอตฺถาปิ วา-สทฺทสฺส สมฺพนฺธนียตํ ทสฺเสติ. ‘‘ภิกฺขุวิหารสฺส ภูมิ ตาสมกปฺปิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา วิหารสฺส ภูมินฺติ ภิกฺขุนิวิหารภูมิ คหิตา. ‘‘กปฺปิยนฺติ ปวิฏฺตฺตา’’ติ อิมินา วกฺขมานสฺส การณํ ทสฺเสติ. โกจิ โทโสติ ถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสโส วุจฺจมาโน โย โกจิ โทโส.

๒๐๔๐. ตาสนฺติ ภิกฺขุนีนํ. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ อิมินา ตตฺถาปิ ปวิฏฺาย คามนฺตรปจฺจยา อาปตฺติสมฺภวมาห.

๒๐๔๑. ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตตฺตา ‘‘หตฺถิ…เป… อนาปตฺติ สิยาปตฺติ, ปทสา คมเน ปนา’’ติ วุตฺตํ.

๒๐๔๒. ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… อาปตฺติ ปวิสนฺติยา’’ติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส อุปสํหารตฺตา น ปุนรุตฺติโทโส.

๒๐๔๓-๔. ลกฺขเณนุปปนฺนายาติ ‘‘นที นาม ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) วุตฺตลกฺขเณน สมนฺนาคตาย นทิยา. ยา ปารํ ตีรํ คจฺฉตีติ โยชนา.

ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวาน ตีเร เปนฺติยาติ ‘‘อิทานิ ปทวาเรน อติกฺกมตี’’ติ วตฺตพฺพกาเล ปมํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา ปรตีเร เปนฺติยา. ‘‘ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อติกฺกเม’’ติ อิมินา อุทฺธาโร คหิโต.

๒๐๔๕. อนฺตรนทิยนฺติ นทิเวมชฺเฌ. ภณฺฑิตฺวาติ กลหํ กตฺวา. โอริมํ ตีรนฺติ อาคตทิสาย ตีรํ. ตถา ปเม ถุลฺลจฺจยํ , ทุติเย ครุ โหตีติ อตฺโถ. อิมินา สกเลน วจเนน ‘‘อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺตี’’ติ อฏฺกถาปิ อุลฺลิงฺคิตา.

๒๐๔๖. รชฺชุยาติ วลฺลิอาทิกาย ยาย กายจิ รชฺชุยา.

๒๐๔๗. ปิวิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ปานีย’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อปิ-สทฺเทน ภณฺฑโธวนาทึ สงฺคณฺหาติ. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. ‘‘นหานาทิกิจฺจํ สมฺปาเทตฺวา โอริมเมว ตีรํ อาคมิสฺสามี’’ติ อาลยสฺส วิชฺชมานตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๒๐๔๘. ปทสานทึ โอตริตฺวานาติ โยชนา. เสตุํ อาโรหิตฺวา ตถา ปทสา อุตฺตรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๔๙. คนฺตฺวานาติ เอตฺถ ‘‘นทิ’’นฺติ เสโส. อุตฺตรณกาเล ปทสา ยาตีติ โยชนา.

๒๐๕๐. เวเคนาติ เอเกเนว เวเคน, อนฺตรา อนิวตฺติตฺวาติ อตฺโถ.

๒๐๕๑. ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘ขนฺเธ วา’’ติอาทีหิปิ โยเชตพฺพํ. ขนฺธาทโย เจตฺถ สภาคานเมว คเหตพฺพา. หตฺถสงฺฆาตเน วาติ อุโภหิ พทฺธหตฺถวลเย วา.

๒๐๕๒-๓. ปาสนฺติ หตฺถปาสํ. ‘‘อาโภคํ วินา’’ติ อิมินา ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภเค กเต อชานนฺติยา อรุเณ อุฏฺิเตปิ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ยถาห ‘‘สเจ สชฺฌายํ วา สวนํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ‘ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามี’ติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒). นานาคพฺเภ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกคพฺเภปิ วา’’ติ. เอกคพฺเภปิ วา ทุติยิกาย หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม อรุณํ อุฏฺเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๐๕๔. ทุติยาปาสนฺติ ทุติยิกาย หตฺถปาสํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺติยา สเจ อรุณํ อุฏฺเติ, น โทโสติ โยชนา.

๒๐๕๕-๖. อฺตฺถ ปฺจธนุสติกสฺส (ปารา. ๖๕๔) ปจฺฉิมสฺส อารฺกเสนาสนสฺส วุตฺตตฺตา ตโต นิวตฺเตตุมาห ‘‘อินฺทขีลมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ทีปิตนฺติ อฏฺกถาย ‘‘อรฺเติ เอตฺถ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๙๒) เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

ทุติยิกาย ทสฺสนูปจารํ วิชหนฺติยา ตสฺสาติ โยชนา. ‘‘ชหิเต’’ติ อิทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปจาเร’’ติ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพ.

๒๐๕๗. สาณิปาการปาการตรุอนฺตริเต าเน อสติ ทสฺสนูปจาเร สติปิ สวนูปจาเร อาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๐๕๘-๖๐. เอตฺถ กถนฺติ ยตฺถ ทูเรปิ ทสฺสนํ โหติ, เอวรูเป อชฺโฌกาเส อาปตฺตินิยโม กถํ กาตพฺโพติ อตฺโถ. อเนเกสุ าเนสุ ‘‘สวนูปจาราติกฺกเม’’ติ วุจฺจมานตฺตา ตตฺถ ลกฺขณํ เปตุมาห ‘‘มคฺค…เป… เอวรูปเก’’ติ. เอตฺถ ‘‘าเน’’ติ เสโส. กูชนฺติยาติ ยถาวณฺณววตฺถานํ น โหติ, เอวํ อพฺยตฺตสทฺทํ กโรนฺติยา.

เอวรูปเก าเน ธมฺมสฺสวนาโรจเน วิย จ มคฺคมูฬฺหสฺส สทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ กูชนฺติยา ตสฺสา สทฺทสฺส สวนาติกฺกเม ภิกฺขุนิยา ครุกา อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา ครุกา โหตี’’ติ อิทํ ‘‘ทุติยิกํ น ปาปุณิสฺสามี’’ติ นิรุสฺสาหวเสน เวทิตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โอหียิตฺวาถ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ. เอตฺถาติ ‘‘คณมฺหา โอหีเยยฺยา’’ติ อิมสฺมึ.

๒๐๖๑. อถ คจฺฉนฺตี โอหียิตฺวาติ โยชนา. ‘‘อิทานิ อหํ ปาปุณิสฺสามิ’’ อิติ เอวํ สอุสฺสาหา อนุพนฺธติ, วฏฺฏติ, ทุติโยปจาราติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๐๖๒. ‘‘คจฺฉตุ อยํ’’ อิติ อุสฺสาหสฺสจฺเฉทํ กตฺวา โอหีนา เจ, ตสฺสา อาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา.

๒๐๖๓. อิตราปีติ คนฺตุํ สมตฺถาปิ. โอหียตุ อยนฺติ จาติ นิรุสฺสาหปฺปกาโร สนฺทสฺสิโต. วุตฺตตฺถเมว สมตฺถยิตุมาห ‘‘สอุสฺสาหา น โหติ เจ’’ติ.

๒๐๖๔-๕. ปุริมา เอกกํ มคฺคํ ยาตีติ โยชนา. เอกเมว เอกกํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกิสฺสา อิตรา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ตสฺมา. ตตฺถาติ ตสฺมึ คณมฺหาโอหียเน. ปิ-สทฺโท เอวการตฺโถ. อนาปตฺติ เอว ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๐๖๖-๗. คามนฺตรคตายาติ คามสีมคตาย. ‘‘นทิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อาปตฺติโยจตสฺโสปีติ รตฺติวิปฺปวาส คามนฺตรคมน นทิปารคมน คณมฺหาโอหียน สงฺขาตา จตสฺโส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย. คณมฺหาโอหียนมูลกาปตฺติยา คามโต พหิ อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ คามนฺตโรกฺกมนมูลกาปตฺติยา อนฺโตคาเม อาปชฺชิตพฺพตฺเตปิ เอกกฺขเณติ คามูปจารํ สนฺธายาห.

๒๐๖๘-๙. ยา สทฺธึ ยาตา ทุติยิกา, สา จ ปกฺกนฺตา วา สเจ โหติ, วิพฺภนฺตา วา โหติ, เปตานํ โลกํ ยาตา วา โหติ, กาลกตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, ปกฺขสงฺกนฺตา วา โหติ, ติตฺถายตนสงฺกนฺตา วา โหตีติ อธิปฺปาโย, นฏฺา วา โหติ, ปาราชิกาปนฺนา วา โหตีติ อธิปฺปาโย. เอวรูเป กาเล คามนฺตโรกฺกมนาทีนิ…เป… อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อุมฺมตฺติกายปิ เอวํ จตฺตาริปิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๐. ‘‘อคามเก อรฺเ’’ติ อิทํ คามาภาเวน วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย.

๒๐๗๑. คามภาวโต นทิปารคมนคณมฺหาโอหียนาปตฺติ น สมฺภวติ, ตสฺสาปิ สกคามตฺตา คามนฺตรคมนมูลิกาปตฺติ จ ทิวสภาคตฺตา รตฺติวิปฺปวาสมูลิกาปตฺติ จ น สมฺภวตีติ อาห ‘‘สกคาเม…เป… น วิชฺชเร’’ติ. ยถากามนฺติ ยถิจฺฉิตํ, ทุติยิกาย อสนฺติยาปีติ อตฺโถ.

๒๐๗๒. สมุฏฺานาทโย ปมนฺติมวตฺถุนา ตุลฺยาติ โยชนา.

คามนฺตรคมนกถาวณฺณนา.

๒๐๗๓. สีมาสมฺมุติยา เจวาติ ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุนึ การกสงฺฆํ อนาปุจฺฉา ตสฺเสว การกสงฺฆสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา โอสาเรสฺสามี’’ติ นวสีมาสมฺมนฺนเน จ. ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทุเว ถุลฺลจฺจยา โหนฺตีติ โยชนา.

๒๐๗๔. กมฺมสฺสปริโยสาเนติ โอสารณกมฺมสฺส อวสาเน. ติกสงฺฆาทิเสสนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา, ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๙๗) ติกสงฺฆาทิเสสํ วุตฺตํ. กมฺมนฺติ จ อุกฺเขปนียกมฺมํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา, อธมฺมกมฺมสฺา โอสาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๗๕. คณสฺสาติ ตสฺเสว การกคณสฺส. วตฺเต วา ปน วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺตารวตฺเต วตฺตมานํ. เตจตฺตาลีสปฺปเภทํ ปน วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๗๖) อาวิ ภวิสฺสติ. เนตฺตารวตฺเตติ กมฺมโต นิตฺถรณสฺส เหตุภูเต วตฺเต.

๒๐๗๗. โอสารณํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

จตุตฺถํ.

๒๐๗๘-๙. อวสฺสุตาติ เมถุนราเคน ตินฺตา. เอวมุปริปิ. ‘‘มนุสฺสปุคฺคลสฺสา’’ติ อิมินา ยกฺขาทีนํ ปฏิกฺเขโป. ‘‘อุทเก…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา อามิสนฺติ อฺตฺร ทนฺตโปนา อชฺโฌหรณียสฺส คหณํ. ปโยคโตติ ปโยคคณนาย.

๒๐๘๐. เอกโตวสฺสุเตติ ปุมิตฺถิยา สามฺเน ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. กถเมตํ วิฺายตีติ? ‘‘เอกโตอวสฺสุเตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา สเมตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๐๑) วุตฺตตฺตา วิฺายติ. เอตฺถ จ เอตํ น วุตฺตนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ เอตํ นิยมนํ น วุตฺตํ. นฺติ ตํ นิยเมตฺวา อวจนํ. ปาฬิยา สเมตีติ ‘‘เอกโตอวสฺสุเต’’ติ (ปาจิ. ๗๐๑-๗๐๒) อวิเสเสตฺวา วุตฺตปาฬิยา, ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๗๐๓) อิมาย จ ปาฬิยา สเมติ. ยทิ หิ ปุคฺคลสฺส อวสฺสุตภาโว นปฺปมาณํ, กึ ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี’’ติ อิมินา วจเนน. ‘‘อนาปตฺติ อุโภ อนวสฺสุตา โหนฺติ, อนวสฺสุตา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา. อชฺโฌหารปโยเคสุ พหูสุ ถุลฺลจฺจยจโย ถุลฺลจฺจยานํ สมูโห สิยา, ปโยคคณนาย พหูนิ ถุลฺลจฺจยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๒๐๘๑. สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ ภวตีติ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหาน’’นฺติ อิทํ วิเสสนํ ยกฺขเปตติรจฺฉานปเทหิ โยเชตพฺพํ. อุภโตอวสฺสุเต สติ มนุสฺสวิคฺคหานํ ยกฺขเปตติรจฺฉานานํ หตฺถโต จ ปณฺฑกานํ หตฺถโต จ ตถาติ โยชนา. ตถา-สทฺเทเนตฺถ ‘‘ยํ กิฺจิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อชฺโฌหารปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยจโย สิยา’’ติ ยถาวุตฺตมติทิสติ.

๒๐๘๒. เอตฺถาติ อิเมสุ ยกฺขาทีสุ. เอกโตอวสฺสุเต สติ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ทุกฺกฏํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ มนุสฺสามนุสฺเสสุ เอกโต, อุภโต วา อนวสฺสุเตสุ. อุทเก ทนฺตกฏฺเกติ อุทกสฺส, ทนฺตกฏฺสฺส จ คหเณ. ปริโภเค จาติ ปฏิคฺคหเณ เจว ปริโภเค จ.

๒๐๘๓-๔. อุภยาวสฺสุตาภาเวติ ภิกฺขุนิยา, ปุคฺคลสฺส จ อุภินฺนํ อวสฺสุตตฺเต อสติ ยทิ อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ , น โทโสติ โยชนา. อยํ ปุริสปุคฺคโล. น จ อวสฺสุโตติ เนว อวสฺสุโตติ ตฺวา. ยา ปน อามิสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ยา คณฺหาติ, ตสฺสา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺเตปิ ปริภุฺชนฺติยาว อนาปตฺติภาโว ทฏฺพฺโพ.

ปฺจมํ.

๒๐๘๕. อุยฺโยชเนติ ‘‘กึ เต อยฺเย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสติ อวสฺสุโต วา อนวสฺสุโต วา, ยโต ตฺวํ อนวสฺสุตา, อิงฺฆ อยฺเย ยํ เต เอโส ปุริสปุคฺคโล เทติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, ตํ ตฺวํ สหตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ขาท วา ภุฺช วา’’ติ (ปาจิ. ๗๐๕) วุตฺตนเยน นิโยชเน. เอกิสฺสาติ อุยฺโยชิกาย. อิตริสฺสาติ อุยฺโยชิตาย. ปฏิคฺคเหติ อวสฺสุตสฺส หตฺถโต อามิสปฏิคฺคหเณ. ทุกฺกฏานิ จาติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏานิ. โภเคสูติ อุยฺโยชิตาย ตถา ปฏิคฺคหิตสฺส อามิสสฺส ปริโภเคสุ. ถุลฺลจฺจยคโณ สิยาติ อุยฺโยชิกาย ถุลฺลจฺจยสมูโห สิยาติ อตฺโถ.

๒๐๘๖-๗. โภชนสฺสาวสานสฺมินฺติ อุยฺโยชิตาย โภชนปริยนฺเต. สงฺฆาทิเสสตาติ อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหติ.

ยกฺขาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เปตปณฺฑกติรจฺฉานคตา คหิตา. ตเถว ปุริสสฺส จาติ อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส. ‘‘คหเณ อุยฺโยชเน’’ติ ปทจฺเฉโท. คหเณติ อุยฺโยชิตาย คหเณ. อุยฺโยชเนติ อุยฺโยชิกาย อตฺตโน อุยฺโยชเน. เตสนฺติ อุทกทนฺตโปนานํ. ปริโภเคติ อุยฺโยชิตาย ปริภุฺชเน. ทุกฺกฏํ ปริกิตฺติตนฺติ อุยฺโยชิกาย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๒๐๘๘. เสสสฺสาติ อุทกทนฺตโปนโต อฺสฺส ปริภุฺชิตพฺพามิสสฺส. ‘‘คหณุยฺโยชเน’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว.

๒๐๘๙-๙๐. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘อนวสฺสุโต’’ติ ตฺวา อุยฺโยเชติ, ‘‘กุปิตา วา น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ‘‘กุลานุทฺทยตา วาปิ น ปฏิคฺคณฺหตี’’ติ อุยฺโยเชติ, ตสฺสา จ อุมฺมตฺติกาทีนฺจ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ ‘อนวสฺสุโต’ติ ชานนฺตี อุยฺโยเชติ, ‘กุปิตา น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชติ, ‘กุลานุทฺทยตาย น ปฏิคฺคณฺหตี’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๗๐๘).

ฉฏฺํ.

๒๐๙๑. สตฺตมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุปิตา อนตฺตมนา เอวํ วเทยฺย พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๐) สตฺตมสิกฺขาปทฺจ. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปาจิ. ๗๑๖) อฏฺมสิกฺขาปทฺจ.

สตฺตมฏฺมานิ.

๒๐๙๒. นวเมติ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๒) จ. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว อยฺเย ตุมฺเห วิหรถ, มา ตุมฺเห นานา วิหริตฺถา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๗๒๘) จ.

นวมทสมานิ.

๒๐๙๓. เตน มหาวิภงฺคาคเตน ทุฏฺโทสทฺวเยน จ ตตฺเถว อาคเตน เตน สฺจริตฺตสิกฺขาปเทน จาติ อิเมหิ ตีหิ สทฺธึ อิธาคตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ เอวํ นว ปมาปตฺติกา . อิโต ภิกฺขุนิวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานิ ตโต มหาวิภงฺคโต จตฺตาริ ยาวตติยกานีติ เอวํ อฏฺ ยาวตติยกานิ, ปุริมานิ นว จาติ สตฺตรส สงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทานิ มยา เจตฺถ ทสฺสิตานีติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.