📜

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา

๒๐๙๔-๕. เอวํ สตฺตรสสงฺฆาทิเสเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรานิ นิสฺสคฺคิยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ อิมินา ปเทน เกนจิ การเณน อนธิฏฺานุปเค ปตฺเต อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ต-สทฺทาเปกฺขาย ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ ลพฺภติ. ปตฺตสนฺนิธิการณาติ อนธิฏฺาย, อวิกปฺเปตฺวา เอกรตฺตมฺปิ ปตฺตสฺส นิกฺขิตฺตการณา.

๒๐๙๖. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท เสโส สพฺโพ วินิจฺฉโย กถามคฺโคติ โยชนา, อวเสสสพฺพวินิจฺฉยกถามคฺโคติ อตฺโถ. ปตฺตสิกฺขาปเทติ มหาวิภงฺคปมปตฺตสิกฺขาปเท.

๒๐๙๗. วิเสโสว วิเสสตา.

ปมํ.

๒๐๙๘. อกาเลติ ‘‘อนตฺถตกถิเน วิหาเร เอกาทส มาสา, อตฺถตกถิเน วิหาเร สตฺต มาสา’’ติ (ปาจิ. ๗๔๐ อตฺถโต สมานํ) เอวํ วุตฺเต อกาเล. วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทินฺนํ กาเลปิ เกนจี’’ติอาทิ. วุตฺตวิปริยาเยน กาลนิยโม เวทิตพฺโพ. เกนจิ อกาเล ยํ จีวรํ ทินฺนํ, กาเลปิ ยํ จีวรํ อาทิสฺส ทินฺนํ, ตํ อกาลจีวรํ นามาติ โยชนา. อาทิสฺส ทานปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ. นิยามิตนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนฺจ ‘‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา วา ทาตุกามตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนฺจ อาทิสฺส ทินฺนํ นามาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’ติ วตฺวา วา ‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมี’ติ วตฺวา วา ทาตุกมฺยตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนมฺปิ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๔๐).

๒๐๙๙. อกาลจีวรนฺติ วุตฺตปฺปการํ อกาลจีวรํ.

๒๑๐๐. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ ตโต ยํ จีวรํ อตฺตนา วสฺสคฺเคน ปฏิลทฺธํ. นิสฺสชฺชิตฺวา ปฏิลทฺธกาเล กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลภิตฺวา…เป… นิโยชเย’’ติ. ยถาทาเน นิโยชเยติ ยถา ทายเกน ทินฺนํ, ตถา อุปเนตพฺพํ, อกาลจีวรปกฺเขเยว เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๑๐๑. ตสฺสาติ ‘‘ยถาทาเน นิโยชเย’’ติ วจนสฺส. วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ ปุน เสวิตุํ น จ วฏฺฏตีติ อยมธิปฺปาโยติ โยชนา.

๒๑๐๒. กาลจีวเร อกาลวตฺถสฺาย ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อุภยตฺถปีติ อกาลจีวเรปิ กาลจีวเรปิ. เวมติกาย ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๐๓. อุภยตฺถปิจีวเร กาลจีวเร จ อกาลจีวเร จาติ อุภยจีวเรปิ กาลจีวรสฺาย ภาชาเปนฺติยา นโทโสติ โยชนา. สจิตฺตกสมุฏฺานตฺตยํ สนฺธายาห ‘‘ติสมุฏฺานตา’’ติ.

ทุติยํ.

๒๑๐๔. สเจ สยํ อจฺฉินฺทติ อฺาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา ปจฺฉา ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ตฺวเมว คณฺห, มยฺหํ จีวรํ เทหี’’ติ เอวํ ยทิ สยํ อจฺฉินฺทติ. เอตฺถ ‘‘สกสฺายา’’ติ เสโส. สกสฺาย คหิตตฺตา ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฺจ วุตฺตํ, อิตรถา ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๒๑๐๕. อิตเรสูติ อพนฺธนฺจ อาณตฺติพหุตฺตฺจ สงฺคณฺหาติ. เตนาห ‘‘วตฺถูนํ ปโยคสฺส วสา สิยา’’ติ.

๒๑๐๖. ‘‘ติกปาจิตฺตี’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺา’’ติ สมฺพนฺธนียํ, อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ เอตาสํ วเสน ติกปาจิตฺติ วุตฺตาติ อตฺโถ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเรติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ อฺสฺมึ ปริกฺขาเร. อิตริสฺสาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺานํ วเสน ติกทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ.

๒๑๐๗. ตาย วา ทียมานํ ตาย อฺาย ภิกฺขุนิยา ทุฏฺาย วา ตุฏฺาย วา ทียมานํ คณฺหนฺติยา, ตสฺสา วิสฺสาสเมว วา คณฺหนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘ติสมุฏฺานตา มตา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.

ตติยํ.

๒๑๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘กึ เต, อยฺเย, อผาสุ, กึ อาหรียตู’’ติ วุตฺตา อฺํ วิฺาเปตฺวา ตํ อาหฏํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺจ อฺฺจ คณฺหิตุกามา สเจ อฺํ วิฺาเปติ, ตสฺสา วิฺตฺติทุกฺกฏํ, ลาภา นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา. วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ วิฺตฺติทุกฺกฏํ.

๒๑๐๙-๑๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺเ อฺสฺา, อฺเ เวมติกา, อฺเ อนฺสฺา อฺํ วิฺาเปตฺวา อฺํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๕๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อนฺเ ทฺวิกทุกฺกฏนฺติ อนฺเ อฺสฺาย, เวมติกาย จ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ. ‘‘อนฺเนฺสฺายา’’ติอาทินา อนาปตฺติวิสโย ทสฺสิโต. ‘‘อนฺเ อนฺสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนฺเ อนฺสฺาย วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. ตสฺมึ ปมวิฺาปิเต อปฺปโหนฺเต วา ตฺเว วา วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อฺเนปิ อตฺเถ สติ เตน สทฺธึ อฺํ วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ ปมํ สปฺปิ วิฺตฺตํ, ‘‘อามกมํสํ ปจิตพฺพ’’นฺติ จ เวชฺเชน วุตฺตตฺตา เตเลน อตฺโถ โหติ, ตโต ‘‘เตเลนาปิ เม อตฺโถ’’ติ เอวํ อฺฺจ วิฺาเปตีติ. อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อฺํ วิฺาเปนฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ กหาปณสฺส สปฺปิ อาภตํ โหติ, อิมินา มูเลน ทิคุณํ เตลํ ลพฺภติ, เตเลนาปิ จ อิทํ กิจฺจํ นิปฺปชฺชติ, ตสฺมา เตลมาหราติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา วิฺาเปตีติ.

จตุตฺถํ.

๒๑๑๒-๓. ปุพฺพํ อฺํ เจตาเปตฺวาติ โยชนา, อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ ปุพฺพํ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวาติ อตฺโถ. เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘วุตฺเต’’ติ เสโส. ธเนน นิพฺพตฺตํ ธฺํ, อตฺตโน ธเนน นิปฺผาทิตตฺตา เตลาทิ อิธ ‘‘ธฺ’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น วีหาทิ. เอวํ วุตฺเต มยฺหํ อฺํ ธฺํ อาเนตฺวา เทติ อิติ สฺาย ปจฺฉา อฺํ เจตาเปยฺยาติ โยชนา, น เม อิมินา อตฺโถ, อฺํ อาหราติ วุตฺเต อิทฺจ ทตฺวา อฺฺจ อาหริตฺวา เทตีติ สฺาย ‘‘น เม อิทํ รุจฺจติ, อฺํ อาหรา’’ติ ปจฺฉา อฺํ ปริวตฺตาเปยฺยาติ อตฺโถ. เจตาปนปโยเคนาติ อาณตฺตาย เจตาปนวเสน. มูลฏฺายาติ อาณาปิกาย. เตน จ อฺเน วา มูเลน อาภตํ โหตุ, ตสฺส ลาเภ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ โยชนา.

๒๑๑๔. เสสนฺติ ติกปาจิตฺติยาทิกํ วินิจฺฉยวิเสสํ.

ปฺจมํ.

๒๑๑๕-๖. อฺทตฺถาย ทินฺเนนาติ อุปาสเกหิ ‘‘เอวรูปํ คเหตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ อฺสฺสตฺถาย ทินฺเนน. ‘‘สงฺฆิเกน ปริกฺขาเรนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปริกฺขาเรนาติ กปฺปิยภณฺเฑน. สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺเตน. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ตสฺสาติ ยาย เจตาปิตํ. นิสฺสคฺคิยํ สิยาติ เอตฺถ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ ยถาทาเน อุปเนตพฺพนฺติ วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ยถาทาเน อุปเนตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑). อิทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถาธิปฺปายเมว. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘อนฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนฺทตฺถิเก เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อนฺทตฺถิเก นิทฺทิฏฺํทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘อฺทตฺถิเก ติกปาจิตฺติย’’นฺติ อิทํ วุตฺตเมว. ‘‘อฺทตฺถิเก อฺทตฺถิกสฺา, เวมติกา, อนฺทตฺถิกสฺา อฺํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๗๖๑) หิ วุตฺตํ.

๒๑๑๗. เสสกนฺติ ยทตฺถาย ทินฺนํ, ตํ เจตาเปตฺวา อาหริตฺวา อติริตฺตํ มูลํ อฺทตฺถาย อุปเนนฺติยา อนาปตฺตีติ โยเชตพฺพํ. สามิเก ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ จีวรตฺถาย ทินฺนํ, อมฺหากฺจ จีวรํ สํวิชฺชติ, เตลาทีหิ ปน อตฺโถ’’ติ เอวํ สามิเก ปุจฺฉิตฺวา. นฺติ ตํ เจตาปนฺนํ. อาปทาสูติ ภิกฺขุนีหิ วิหารํ ปหาย คมนารหมุปทฺทโว คหิโต. ยถาห ‘‘อาปทาสูติ ตถารูเปสุ อุปทฺทเวสุ ภิกฺขุนิโย วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ยํ วา ตํ วา เจตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๖๒).

๒๑๑๘. สยํ ยาจิตกํ วินาติ ‘‘สํยาจิตก’’นฺติ ปทํ วินา, เอตฺตกเมว วิสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ฉฏฺสตฺตมานิ.

๒๑๑๙. อธิกวจนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาชนิกสฺาจิเกนา’’ติ. ปทตาธิกาติ ปทเมว ปทตา. มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจตฺเตน. สฺาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน.

๒๑๒๐. อนนฺตรสมา มตาติ อิธ ‘‘ปุคฺคลิเกนา’’ติ ปทํ วินา สมุฏฺานาทินา สทฺธึ สพฺเพ วินิจฺฉยา อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสา มตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺทตฺถิเกน ปริกฺขาเรน อฺุทฺทิสิเกน ปุคฺคลิเกนา’’ติ หิ สิกฺขาปทํ. ปุคฺคลิเกนาติ เอกภิกฺขุนิยา ปริจฺจตฺเตน. ‘‘กิฺจิปี’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘โกจิปี’’ติ ปาโ สุนฺทโร ‘‘วิเสโส’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณตฺตา.

อฏฺมนวมทสมานิ.

ปโม วคฺโค.

๒๑๒๑-๒. จตฺตาริ กํสานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ กํสานํ สมาหาโร วา จตุกฺกํสํ, จตุกฺกํสโต อติเรกํ อติเรกจตุกฺกํสํ, เตน อติเรกจตุกฺกํสคฺฆนกํ ปาวุรณมาห, อุปจาเรน ‘‘อติเรกจตุกฺกํส’’นฺติ วุตฺตํ. กํสปริมาณํ ปเนตฺถ สยเมว วกฺขติ ‘‘กหาปณจตุกฺกํ ตุ, กํโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. ตสฺมา อติเรกโสฬสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปารุปิตพฺพปาวุรณํ. เจตาเปยฺยาติ วิฺาเปยฺย. จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ, จตุนฺนํ วา สจฺจานํ สมาหาโร จตุสจฺจํ, ตํ ปกาเสติ สีเลนาติ จตุสจฺจปฺปกาสี, เตน, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ นิทฺทิสเกน สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ปโยเคติ ‘‘เทหี’’ติ เอวํ วิฺาปนปโยเค. ลาเภติ ปฏิลาเภ.

จตุนฺนํ สมูโห จตุกฺกํ, กหาปณานํ จตุกฺกํ กหาปณจตุกฺกํ. กหาปโณ เจตฺถ ตํตํกาเล, ตํตํปเทเส จ โวหารูปโค คเหตพฺโพ. อิมา วุตฺตปฺปการา นิสฺสคฺคิยาวสานาปตฺติโย ‘‘าตกานฺจ สนฺตเก’’ติ อนาปตฺติวิสเย วกฺขมานตฺตา ‘‘ยทา เยน อตฺโถ, ตทา ตํ วเทยฺยาถา’’ติ เอวํ นิจฺจปวารณํ อกตฺวา ตสฺมึ กาเล กิสฺมิฺจิ คุเณ ปสีทิตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ เยน อตฺโถ’’ติ เอวํ ปวาริตฏฺาเน สมฺภวนฺตีติ ทฏฺพฺพา.

๒๑๒๓-๕. อูนกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อูนกจตุกฺกํเส เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อูนเก ตุ จตุกฺกํเส, อุทฺทิฏฺํ ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ‘‘อติเรกจตุกฺกํเส อติเรกสฺา, เวมติกา, อูนกสฺา เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ติกปาจิตฺติยฺจ ทสฺสิตํ โหติ.

ครุกนฺติ ครุปาวุรณํ. ตทูนํ วาติ จตุกฺกํสโต อูนกํ วา. าตกานฺจาติ เอตฺถ -สทฺเทน ปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘าตกานํ, ปวาริตาน’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๗). เอตฺถ จ ‘‘อติเรกจตุกฺกํสมฺปี’’ติ วตฺตพฺพํ ‘‘ตทูนํ วา’’ติ อิมินา จตุกฺกํสูนสฺส วุตฺตตฺตา. ‘‘อปฺปเมว วา’’ติ อิมินา อติเรกจตุกฺกํเสปิ มหคฺฆตรํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอกาทสมํ.

๒๑๒๖-๗. ‘‘ลหุปาวุรณํ ปน ภิกฺขุนิยา เจตาเปนฺติยา อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ เจตาเปตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๗๘๙) วจนโต ลหุปาวุรณนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา’’ติ จ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตาเปตพฺพ’’นฺติ จ เสโส. ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํ. ติณฺณํ ปูรโณ เตยฺโย, อฑฺโฒ เตยฺโย อสฺสาติ อฑฺฒเตยฺโย, อฑฺฒเตยฺโย จ โส กํโส จาติ อฑฺฒเตยฺยกํโส, ตํ อคฺฆตีติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนํ, ทสกหาปณคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ตโตติ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต. ยํ ปน ปาวุรณํ อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ, ตํ ลหุปาวุรณํ . ตโต อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกโต ลหุปาวุรณโต. อุตฺตรินฺติ อติเรกํ. อฑฺฒเตยฺยกํสคฺฆนกํ ยํ ปาวุรณํ ยา ภิกฺขุนี เจตาเปติ , ตสฺส ปาวุรณสฺส ปฏิลาเภ ตสฺสา ภิกฺขุนิยา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา วุตฺตาติ โยชนา.

‘‘อนนฺตรสมํ เสส’’นฺติ อิทํ สมตฺเถตุมาห ‘‘นตฺถิ กาจิ วิเสสตา’’ติ. วิเสโสเยว วิเสสตา.

ทฺวาทสมํ.

๒๑๒๘. อิทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อาคเตสุ สมตึสนิสฺสคฺคิเยสุ เกสฺจิ อตฺตโน อวจเน การณฺจ อวุตฺเตหิ สทฺธึ วุตฺตานํ คหณฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาธารณานี’’ติอาทิ. หิ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณานิ ยานิ สิกฺขาปทานิ เสสานิ อิธ วุตฺเตหิ อฺานิ, ตานิ อฏฺารส สิกฺขาปทานิ เจว อิธ วุตฺตสรูปานิ ทฺวาทส สิกฺขาปทานิ เจติ อิจฺเจวํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทานิ สมตึเสว โหนฺตีติ โยชนา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.