📜

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา

๒๑๒๙-๓๐. เอวํ ตึส นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุทฺธปาจิตฺติยานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลสุณ’’นฺติอาทิ. ลสุณนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ‘‘ลสุณํ’’อิติ ภณฺฑิกํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๓-๗๙๕). จตุปฺจมิฺชาทิปฺปเภทํ ภณฺฑิกํ ลสุณํ นาม, น ตโต อูนํ. เตนาห ‘‘น เอกทฺวิติมิฺชก’’นฺติ. ปกฺกลสุณโต, สีหฬทีปสมฺภวโต จ วิเสสมาห ‘‘อามกํ มาคธํเยวา’’ติ. มคเธสุ ชาตํ มาคธํ, ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕). ตํ ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหตีติ สมฺพนฺโธ. วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยฺจ อชฺโฌหารวเสนาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อชฺโฌหารวเสเนว, ปาจิตฺตึ ปริทีปเย’’ติ.

๒๑๓๑. ตเทว วกฺขติ ‘‘ทฺเว ตโย’’ติอาทินา. สทฺธินฺติ เอกโต. สงฺขาทิตฺวาติ คลพิลํ อปฺปเวเสตฺวา ทนฺเตหิ สํจุณฺณิยนฺตี ขาทิตฺวา. อชฺโฌหรติ ปรคลํ กโรติ.

๒๑๓๒. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภณฺฑิกลสุเณ. ‘‘มิฺชานํ คณนายา’’ติ อิมินา อชฺโฌหารปโยคคณนาเยว ทีปิตา. ยถาห ‘‘ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๕).

๒๑๓๓. สภาวโต วฏฺฏนฺเตวาติ โยชนา.

๒๑๓๕. ยถาวุตฺตปลณฺฑุกาทีนํ นานตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกา มิฺชา’’ติอาทิ. อิธ มิฺชานํ วเสเนว นานตฺตํ ทสฺสิตํ. อฏฺกถายํ ปน วณฺณวเสนาปิ. ยถาห ‘‘ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗).

๒๑๓๖. ‘‘สาฬเว อุตฺตริภงฺคเก’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘พทรสาฬวาทีสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ พทร-สทฺโท เสโส. พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา จุณฺเณตฺวา กาตพฺพา ขาทนียวิกติ. อุมฺมตฺติกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อาทิกมฺมิกา คหิตา. ยถาห ‘‘อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ (ปาจิ. ๗๙๗).

ปมํ.

๒๑๓๗. สมฺพาเธติ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปกจฺเฉสุ มุตฺตสฺส กรเณปิ วา’’ติ.

๒๑๓๘. อสฺสา ตถา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น โลมคณนายา’’ติ อิมินา ‘‘ปโยคคณนายา’’ติ อิทเมว สมตฺถยติ.

๒๑๓๙. อาพาเธติ กณฺฑุอาทิเก โรเค. ยถาห – ‘‘อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๑). มคฺคสํวิธานสมา มตาติ ภิกฺขุนิยา สํวิธาย เอกทฺธานสิกฺขาปเทน สทิสา มตา าตาติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๒๑๔๐. ปทุมสฺส วา ปุณฺฑรีกสฺส วา อนฺตมโส เกสเรนาปิ กามราเคน มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน มุตฺตกรณมฺปิ ปหารทาเน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เกสเรนาปีติ อปิ-สทฺเทน มหาปทุมปณฺเณหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐๓).

๒๑๔๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ มุตฺตกรณตเล.

ตติยํ.

๒๑๔๒. ยา ปน ภิกฺขุนี กามราคปเรตา กามราเคน ปีฬิตา อตฺตโน พฺยฺชเน มุตฺตปเถ อุปฺปลปตฺตมฺปิ ปเวเสติ, น วฏฺฏติ ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปิ-สทฺเทน ‘‘เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๑๒) อฏฺกถา อุลฺลิงฺคิตา.

๒๑๔๓-๔. ยทฺเยวํ ‘‘ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติย’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ…เป… ชตุมฏฺก’’นฺติ. อิทํ ชตุมฏฺกํ วตฺถุวเสเนว วุตฺตนฺติ ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิตฺวา โธวิตุํ วิสฺสริตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑสิ. ภิกฺขุนิโย มกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ ‘กสฺสิทํ กมฺม’นฺติ. สา เอวมาห ‘มยฺหิทํ กมฺม’นฺติ. ยา ตา ภิกฺขุนิโย อปฺปิจฺฉา, ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ ‘กถฺหิ นาม ภิกฺขุนี ชตุมฏฺกํ อาทิยิสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๖) อาคตวตฺถุวเสเนว วุตฺตํ, น ตํ วินา อฺสฺส วฏฺฏกสฺส สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. ชตุมฏฺกํ นาม ชตุนา กโต มฏฺทณฺฑโก.

ทณฺฑนฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ (ปาจิ. ๘๐๘). เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เอฬาลุกนฺติ กกฺการิผลํ วา. ตสฺมินฺติ อตฺตโน มุตฺตกรเณ.

๒๑๔๕. อาพาธปจฺจยาติ มุตฺตกรณปฺปเทเส ชาตวณาทิมฺหิ วณฏฺานนิรุปนาทิปจฺจยา.

จตุตฺถํ.

๒๑๔๖. อคฺคปพฺพทฺวยาธิกนฺติ อคฺคปพฺพทฺวยโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อธิกํ. ยถาห ‘‘อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒). ทกสุทฺธึ กโรนฺติยาติ มุตฺตกรณฏฺาเน โธวนํ กโรนฺติยา. ยถาห ‘‘อุทกสุทฺธิกํ นาม มุตฺตกรณสฺส โธวนา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๒).

๒๑๔๗. ‘‘ตีณี’’ติ อิมินา เอกงฺคุลิยา ปพฺพทฺวยสฺส ปเวเสตฺวา โธวเน โทสาภาวํ ทีเปติ. ทีฆโตติ องฺคุลิยา ทีฆโต. ตีณิ ปพฺพานิ คมฺภีรโต มุตฺตกรเณ ปเวเสตฺวา อุทกสุทฺธึ อาทิยนฺติยา ปาจิตฺติยํ ภเวติ โยชนา.

๒๑๔๘. ติสฺโส, จตสฺโส วา องฺคุลิโย เอกโต กตฺวา วิตฺถาเรน ปเวสเน เอกปพฺเพปิ ปวิฏฺเ ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรม’’นฺติ นิยมิตปฺปมาณาติกฺกมโต อาห ‘‘เอกปพฺพมฺปิ ยา ปนา’’ติ. ยา ปน ภิกฺขุนี จตุนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ ติสฺสนฺนํ วาปิ องฺคุลีนํ เอกปพฺพมฺปิ วิตฺถารโต ปเวเสติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๑๔๙. อิตีติ เอวํ. สพฺพปฺปกาเรนาติ คมฺภีรปเวสนาทินา สพฺเพน ปกาเรน. อภิพฺยตฺตตรํ กตฺวาติ สุปากฏตรํ กตฺวา. อยมตฺโถติ ‘‘เอกิสฺสงฺคุลิยา ตีณี’’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ.

๒๑๕๐. ทฺวงฺคุลปพฺเพ โทโส นตฺถีติ โยชนา. อุทกสุทฺธิปจฺจเย ปน สติปิ ผสฺสสาทิยเน ยถาวุตฺตปริจฺเฉเท อนาปตฺติ. อธิกมฺปีติ ทฺวงฺคุลปพฺพโต อธิกมฺปิ. อุทกสุทฺธึ กโรนฺติยา โทโส นตฺถีติ โยชนา.

๒๑๕๑. ตถา อุทกสุทฺธึ กโรนฺตีนํ อุมฺมตฺติกาทีนํ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๑๕๒. ภุฺชโต ปน ภิกฺขุสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชโต ภิกฺขุสฺส. ยถาห ‘‘ภุฺชนฺตสฺสาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗). ปานียํ วา วิธูปนํวาติ วกฺขมานํ ปานียํ, พีชนียฺจ. อุปติฏฺเยฺยาติ ‘‘หตฺถปาเส ติฏฺตี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๗) วจนโต เอตฺถ อุป-สทฺโท หตฺถปาสสงฺขาตํ สมีปํ วทตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๕๓. วตฺถโกณาทิ ยา กาจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา, อิมินา ‘‘พีชนิกิจฺจํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย คหิตจีวรโกณปฺปการํ ยํ กิฺจิ ‘‘พีชนี’’ติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.

๒๑๕๔. ‘‘อถ โข สา ภิกฺขุนี ตสฺส ภิกฺขุโน ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวา อจฺจาวทติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุนึ อปสาเทติ ‘มา, ภคินิ, เอวรูปํ อกาสิ, เนตํ กปฺปตี’ติ. ‘ปุพฺเพ มํ ตฺวํ เอวฺจ เอวฺจ กโรสิ, อิทานิ เอตฺตกํ น สหสี’ติ ปานียถาลกํ มตฺถเก อาสุมฺภิตฺวา วิธูปเนน ปหารํ อทาสี’’ติ (ปาจิ. ๘๑๕) อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ภิกฺขูหิ อาโรจิเต ‘‘กถฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ปหารํ ทสฺสตี’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๘๑๕) วตฺวา ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุสฺส ภุฺชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๑๖) วุตฺตตฺตา ปหารปจฺจยา นุ โขติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘หตฺถปาเส อิธ านปจฺจยาปตฺติ ทีปิตา’’ติ. เอตฺถ จ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ. ยา ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๒๐) ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก วุตฺตํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปหารปจฺจยา วุตฺตํ, ขนฺธเก ทุกฺกฏํ วิสุ’’นฺติ. อิมินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณํ ทสฺสิตํ โหติ.

๒๑๕๕. หตฺถปาสํ ชหิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘โภชนํ ภุฺชโต’’ติ จ ขาทนํ ขาทโตติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาเส’’ติ จ วตฺตพฺพํ . โภชนํ ภุฺชโต หตฺถปาสํ ชหิตฺวา อุปติฏฺนฺติยา วา ขาทนํ ขาทโต หตฺถปาเส อุปติฏฺนฺติยา วา โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๕๖. เทตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา ‘‘อิมํ ปิวถ, อิมินา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ตาลวณฺฏํ ‘‘อิมินา พีชนฺตา ภุฺชถา’’ติ เทติ. ทาเปตีติ อฺเน อุภยมฺปิ ทาเปติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สมํ มตนฺติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๑๕๗. วิฺตฺวาติ สยํ วิฺตฺวา, อฺาย วา วิฺาเปตฺวา. ‘‘วิฺตฺวา วา วิฺาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๒๑) หิ สิกฺขาปทํ. อามกํ ธฺนฺติ อปกฺกํ อภฏฺํ สาลิอาทิกํ สตฺตวิธํ ธฺํ. ยถาห – ‘‘อามกธฺํ นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโก’’ติ (ปาจิ. ๘๒๒). โกฏฺเฏตฺวาติ มุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา. ยทิ ปริภุฺชตีติ โยชนา.

๒๑๕๘-๖๐. ‘‘ภุฺชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว ทุกฺกฏํ โหตี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) อฏฺกถาคตํ วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น เกวลํ ตุ ธฺาน’’นฺติอาทิ. ปนาติ อปิ-สทฺทตฺเถ, สุกฺขาปเนปีติ อตฺโถ. ภชฺชนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘วทฺทลิทิวเส’’ติ เสโส. ‘‘กปลฺลสชฺชเน อุทฺธนสชฺชเน’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ทพฺพิสชฺชเนติ กฏจฺฉุสมฺปาทเน. ตตฺถ กปลฺลเก ธฺปกฺขิปเนติ โยชนา. ‘‘ฆฏฺฏนโกฏฺฏเน’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลปํ กตฺวา ‘‘ฆฏฺฏโกฏฺฏเน’’ติ วุตฺตํ.

๒๑๖๑-๓. ปมาณ-สทฺทสฺส อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตา อาห ‘‘โภชนฺเจว วิฺตฺติปมาณ’’นฺติ . อาวตฺตลิงฺคสงฺขฺยตฺตํ นาม นิยตลิงฺเคกตฺตพหุตฺตํ. ตถา เหตฺถ ปมาณ-สทฺโท นิยตนปุํสกลิงฺเค นิยเตกตฺตํ วุจฺจติ. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท โภชนฺเจว วิฺตฺติ จาติ อิทํ ทฺวยํ หิ ยสฺมา ปมาณํ, ตสฺมา สยํ วิฺตฺวา วา อฺโต ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา วา อฺาย ปน วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา ยา ปน ภิกฺขุนี อชฺโฌหรติ, ตสฺสา อชฺโฌหารปโยเคสุ ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) วุตฺตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มาตรํ วา’’ติอาทิ. มาตรํ วาปิ ยาจิตฺวาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถนฺตรวิกปฺปเน. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺํ วา าตกํ วา ปวาริตํ วา อามกธฺํ ยาจิตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๑๖๔. อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา อฺาย การาเปตฺวา วา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๑๖๕. อฺาย ปน วิฺตฺติยา ลทฺธํ ตาย การาเปตฺวาปิ สยํ กตฺวา วา อชฺโฌหรนฺติยา ตถา อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อิทฺจ มหาปจฺจริยาคตนยํ คเหตฺวา วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๒) วุตฺตตฺตา วิฺตฺติยาปิ อฺาย ลทฺธํ อามกํ ธฺํ ตาย การาเปตฺวา วา สยํ กตฺวา วา ปริภุฺชนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๒๑๖๖-๗. เสทกมฺมาทิอตฺถายาติ วาตโรคาทินา อาตุรานํ เสทนาทิปฏิการตฺถาย. อิธ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเนปี’’ติ เสโส. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สตฺต ธฺานิ าตกปวาริตฏฺาเน เสสวิฺตฺติยาปิ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เสสวิฺตฺติยาติ มุคฺคมาสอลาพุกุมฺภณฺฑกาทีนํ วุตฺตธฺาวเสสานํ วิฺตฺติยา.

สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา, อนามาสตฺตา จ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘าตกานมฺปี’’ติอาทิ.

๒๑๖๘. ลทฺธนฺติ ลพฺภมานํ. นวกมฺเมสูติ นวกมฺมตฺถาย, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. เอตฺถ ‘‘สมฺปฏิจฺฉิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๓) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

สตฺตมํ.

๒๑๖๙. สงฺการนฺติ กจวรํ. วิฆาสกํ วาติ อุจฺฉิฏฺกมจฺฉกณฺฏกมํสฏฺิจลกมุขโธวนาทิกํ ยํ กิฺจิ. ฉฑฺเฑยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ เสโส ‘‘ฉฑฺฑาเปยฺย ปเรหี’’ติ วกฺขมานตฺตา. กุฏฺฏสฺส ติโร ติโรกุฏฺฏํ, ตสฺมึ, กุฏฺฏสฺส ปรภาเคติ อตฺโถ. ‘‘ปากาเรปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา กุฏฺฏนฺติ วา พฺยติริตฺตา ภิตฺติ คเหตพฺพา.

๒๑๗๑. เอกาติ เอตฺถ อาปตฺตีติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.

๒๑๗๒. ฉฑฺฑเนติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทนฺตกฏฺสฺส ฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

๒๑๗๓-๔. สพฺพตฺถาติ วุตฺตปฺปกาเรสุ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อวลฺเชปี’’ติอาทิ. อวลฺเช าเน อโนโลเกตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยาปิ วา วลฺเช าเน โอโลเกตฺวาปิ วา ปน ฉฑฺเฑนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ฉฑฺฑนํ กฺริยํ. อโนโลกนํ อกฺริยํ.

อฏฺมํ.

๒๑๗๕-๖. ยา ปน ภิกฺขุนี เขตฺเต วา นาฬิเกราทิอาราเม วา ยตฺถ กตฺถจิ โรปิเม หริตฏฺาเน ตานิ วิฆาสุจฺจารสงฺการมุตฺตสงฺขาตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ สเจ สยํ ฉฑฺเฑติ วา, ตถา ปเร ฉฑฺฑาเปติ วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติวินิจฺฉโย วุตฺตนโย ‘‘เอเกก’’มิจฺจาทินา ยถาวุตฺตปกาโรติ โยชนา.

๒๑๗๗-๘. ยา ปน ภิกฺขุนี หริเต เขตฺเต นิสีทิตฺวา ภุฺชมานา วา ตถา หริเต ตตฺถ เขตฺเต อุจฺฉุอาทีนิ ขาทนฺติ ขาทมานา คจฺฉนฺตี วา ยทิ อุจฺฉิฏฺํ อุทกํ วา จลกาทึ วา ฉฑฺเฑติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. จลกํ นาม วมิกรํ.

๒๑๗๙. ตาทิเส หริเต าเน อนฺตมโส มตฺถกฉินฺนํ นาฬิเกรมฺปิ ชลํ ปิวิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๑๘๐. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.

๒๑๘๑. ลายิตมฺปิ เขตฺตํ ปุน โรหณตฺถาย มนุสฺสา รกฺขนฺติ เจ, ตตฺถ ตสฺมึ เขตฺเต วิฆาสุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺติยา อสฺสา ภิกฺขุนิยา ยถาวตฺถุกเมว หิ ปาจิตฺติยเมวาติ โยชนา. ‘‘อสฺสา ยถาวตฺถุก’’นฺติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตเมว โหติ.

๒๑๘๒. ฉฑฺฑิเต เขตฺเตติ มนุสฺเสหิ อุทฺธฏสสฺเส เขตฺเต. ยถาห – ‘‘มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๐). เอวํ อกเตปิ เขตฺเต สามิเก อาปุจฺฉิตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. ยถาห ‘‘สามิเก อปโลเกตฺวา ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปาจิ. ๘๓๒). อิธ เขตฺตปาลกา, อารามาทิโคปกา จ สามิกา เอว. สงฺฆสฺส เขตฺเต, อาราเม จ สเจ ‘‘ตตฺถ กจวรํ น ฉฑฺเฑตพฺพ’’นฺติ กติกา นตฺถิ, ภิกฺขุสฺส ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา, น ภิกฺขุนีนํ. ตาสํ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ วุตฺตนเยน น วฏฺฏติ, น ตสฺส ภิกฺขุสฺส, เอวํ สนฺเตปิ สารุปฺปวเสน กาตพฺพนฺติ. สพฺพนฺติ อุจฺจาราทิ จตุพฺพิธํ.

นวมํ.

๒๑๘๓. เอตฺถ ‘‘นจฺจํ นาม ยํ กิฺจิ นจฺจํ. คีตํ นาม ยํ กิฺจิ คีตํ. วาทิตํ นาม ยํ กิฺจิ วาทิต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๓๕) วจนโต ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ เสโส. ยา ปน ภิกฺขุนี ยํ กิฺจิ นจฺจํ วา ยํ กิฺจิ คีตํ วา ยํ กิฺจิ วาทิตํ วา ทสฺสนตฺถาย คจฺเฉยฺยาติ โยชนา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุกมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํ กิฺจิ คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํ กิฺจิ วาทิตนฺติ ฆนาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทรเภริวาทิตมฺปิ , สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว. ‘‘ทสฺสนสวนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสนเยน ‘‘ทสฺสนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย วา ‘‘ทสฺสนตฺถาย’’ อิจฺเจว วุตฺตํ.

๒๑๘๔. ปุพฺพปโยคทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสนตฺถาย นจฺจสฺสา’’ติอาทิ. คีตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วาทิตสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๒๑๘๕. เอกปโยเคนาติ เอกทิสาวโลกนปโยเคน. เตเนว วกฺขติ ‘‘อฺสฺมิมฺปิ…เป… สิยุ’’นฺติ. ปสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘นจฺจ’’นฺติ เสโส. เตสนฺติ เยสํ นจฺจํ ปสฺสติ. ปิ-สทฺเทน วาทิตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๖).

๒๑๘๖. อฺโตติ อฺสฺมึ ทิสาภาเค.

๒๑๘๗. ‘‘วิสุํ ปาจิตฺติโย สิยุ’’นฺติ อิทเมว ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคคณนาเยตฺถ, อาปตฺติคณนา สิยา’’ติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ นานาทิสาภาเค. นจฺจคีตวาทิตานํ ทสฺสนสวเน อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นจฺจิตุ’’นฺติอาทิ.

๒๑๘๘. ‘‘นจฺจ อิตี’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘นจฺจาหี’’ติปิ ปาโ. อุปฏฺานนฺติ เภริสทฺทปูชํ. สมฺปฏิจฺฉิตุนฺติ ‘‘สาธู’’ติ อธิวาเสตุํ. อิมสฺส อุปลกฺขณวเสน วุตฺตตฺตา นจฺจคีเตปิ เอเสว นโย.

๒๑๘๙-๙๐. สพฺพตฺถาติ นจฺจนาทีสุ สพฺพตฺถ. อุปฏฺานํ กโรมาติ ตุมฺหากํ เจติยสฺส นจฺจาทีหิ อุปหารํ กโรมาติ. อุปฏฺานํ ปสตฺถนฺติ อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทรนฺติ.

ยา อาราเมเยว จ ตฺวา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา, อิธ ‘‘อนฺตราราเม วา’’ติอาทิ เสโส. ‘‘อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ วุตฺเตปิ สพฺเพสุปิ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. อาราเม ตฺวาติ น เกวลํ ตฺวาว, ตโต คนฺตฺวาปิ สพฺพิริยาปเถหิปิ ลภติ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ (ปาจิ. ๘๓๗) ปน อารามปริยาปนฺนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรถา นิสินฺนาปิ น ลเภยฺยาติ คณฺิปทาทีสุ วุตฺตํ. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย.

๒๑๙๑. ยา อตฺตโน ิโตกาสํ อาคนฺตฺวา ปโยชิตํ ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ โยชนา. ิโตกาสนฺติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน สยิตนิสินฺนมฺปิ คยฺหติ. ตถารูปา หิ การณา คนฺตฺวา ปสฺสนฺติยา วาปีติ โยชนา. การณํ นาม สลากภตฺตาทิการณํ. ยถาห ‘‘สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๗).

๒๑๙๒. มคฺคํ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ นจฺจํ อฏฺตฺวา ปสฺสตีติ เอวํ ปสฺสนฺติยาปิ จ ตถา อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา. ปฏิปเถติ คมนมคฺคาภิมุเข. อาปทาสุปีติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ.

๒๑๙๓. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลมสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สมาน’’นฺติ วิฺาตํ.

ทสมํ.

ลสุณวคฺโค ปโม.

๒๑๙๔-๕. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี รตฺตนฺธการสฺมึ อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ เอกิกา สเจ สนฺติฏฺติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. รตฺตนฺธการสฺมินฺติ รตฺติยํ. รตฺติปริยาโย หิ รตฺตนฺธการ-สทฺโท. ยถาห ปทภาชเน ‘‘รตฺตนฺธกาเรติ โอคฺคเต สูริเย’’ติ (ปาจิ. ๘๔๐). อปฺปทีเปติ ปชฺโชตจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต, อิมินา รตฺติกฺเขตฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘สนฺติฏฺตี’’ติ อิมินา คมนนิสินฺนสยนสงฺขาตํ อิริยาปถตฺติกฺจ อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺหิ วชิรพุทฺธินา ‘‘สนฺติฏฺเยฺยาติ เอตฺถ านาปเทเสน จตุพฺพิโธปิ อิริยาปโถ สงฺคหิโต, ตสฺมา ปุริเสน สทฺธึ จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยาปิ ปาจิตฺติยฺจ อุปลพฺภตี’’ติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๘๓๙ โถกํ วิสทิสํ). ปุริเสน สทฺธินฺติ สนฺติฏฺิตุํ, สลฺลปิตุฺจ วิฺุนา มนุสฺสปุริเสน สทฺธึ.

รหสฺสาทวเสน ปุริสสฺส หตฺถปาสํ สมาคนฺตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺติยา วา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๒๑๙๖-๗. ยา ปน ภิกฺขุนี สเจ มนุสฺสปุริสสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ยกฺขเปตติรจฺฉานคตานํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา สนฺติฏฺติ วา สลฺลปติ วา, ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

วิฺุคฺคหเณน อวิฺู ปุริโส อนาปตฺตึ น กโรตีติ ทีเปติ.

๒๑๙๘. อฺวิหิตายาติ รโหอสฺสาทโต อฺํ จินฺเตนฺติยา. ยถาห ‘‘รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๔๑). จตุตฺเถน, ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สนฺติฏฺนสลฺลปนวเสน กฺริยํ. สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺมินฺติ สฺาวิโมกฺขกํ.

ปมํ.

๒๑๙๙. ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ กุฏฺฏาทีสุ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส. อิทํ วจนํ.

ทุติยํ.

๒๒๐๐. ตติเย ‘‘อชฺโฌกาเส’’ติ จ จตุตฺเถ ‘‘รถิกาย, พฺยูเห, สิงฺฆาฏเก’’ติ ปทานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สนฺธายาห ‘‘อปุพฺพํ นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เอตฺถ รถิกายาติ รจฺฉาย. พฺยูเหติ อนิพฺพิทฺธรจฺฉาย. สิงฺฆาฏเกติ จจฺจเร โอกาเส, ติโกณํ วา จตุโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ.

ตติยจตุตฺถานิ.

๒๒๐๑-๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕๕) วจนโต ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา ฉทนนฺโต อาสเน นิสีทิตฺวา สามิเก อนาปุจฺฉา อโนวสฺสกปฺปเทสํ อติกฺกเมติ, ยา จ อชฺโฌกาเส วา นิสีทิตฺวา สเจ อุปจารํ อติกฺกเมติ, ตสฺสา ปเม ปเท ทุกฺกฏํ โหติ, ทุติเย ปเท ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ โยชนา. ‘‘อาสเน’’ติ อิมินา ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา นิสีทนารหมาสนํ อธิปฺเปตํ. ยถาห – ‘‘อาสนํ นาม ปลฺลงฺกสฺส โอกาโส วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๘๕๖). อโนวสฺสปฺปเทสนฺติ นิพฺพโกสพฺภนฺตรํ. อพฺโภกาเส อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุปจารมฺปิ วา สเจ’’ติ. อุปจารนฺติ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร ทฺวาทสหตฺโถ’’ติ.

๒๒๐๓. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘ทุกฺกฏํ สมุทีริต’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาปุฏฺเ อนาปุฏฺสฺาย อาปุฏฺเ วิจิกิจฺฉโต ปกฺกมนฺติยา ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ สมฺพนฺธินิยา สมานตฺตา ‘‘วิจิกิจฺฉนฺติยา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ‘‘วิจิกิจฺฉโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๒๒๐๔. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ อุฏฺิโต โหติ โจรา วา, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๒๒๐๕-๖. ‘‘คจฺฉนฺติยา วชนฺติยา’’ติ จ นิสีทนนิปชฺชนาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปาจิตฺติยํ ปน ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก ‘‘อิธ นิสีทาม วา สยาม วา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา นิสินฺนนิปนฺนปจฺจยา โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปจฺฉาภตฺตํ สามิเก อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. เอส นโย ‘‘นิปชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุปิ.

ยถา ปน ตตฺถ อสํหาริเม อนาปตฺติ, เอวมิธ ธุวปฺตฺเต วา อนาปตฺตีติ.

ฉฏฺํ.

๒๒๐๗. ติสมุฏฺานนฺติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต.

อฏฺมํ.

๒๒๐๘. ยา ปน ภิกฺขุนี อตฺตานมฺปิ วา ปรมฺปิ วา นิรยพฺรหฺมจริเยหิ อภิสเปยฺย, ตสฺสา วาจโต วาจโต สิยา ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย, ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ ปรํ วา ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมี’’ติ อตฺตานํ วา ‘‘คิหินี โหตุ, โอทาตวตฺถา โหตู’’ติ ปรํ วา อภิสเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๑๐. อกฺโกสติ อตฺตานํ วา ปรํ วาติ สมฺพนฺโธ. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาเวมติกาอนุปสมฺปนฺนสฺาวเสน. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ, ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ติกทุกฺกฏํ.

๒๒๑๑. อตฺถธมฺมานุสาสนึ ปุรกฺขตฺวา วทนฺตีนํ อนาปตฺตีติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗๘).

นวมํ.

๒๒๑๒. วธิตฺวาติ สตฺถาทีหิ ปหริตฺวา. วธิตฺวา วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปาฬิยํ ‘‘วธิตฺวา วธิตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๘๘๐) วุตฺตํ อาเมฑิตํ สูเจติ.

๒๒๑๓. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. กายวาจาจิตฺตสมุฏฺานํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ นาม, สมนุภาสนสมุฏฺานนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ.

ทสมํ.

อนฺธการวคฺโค ทุติโย.

๒๒๑๔. ยา ปน ภิกฺขุนี นคฺคา อนิวตฺถา อปารุตา หุตฺวา นหายติ, อสฺสา สพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส นหานสฺส โวสาเน ปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ชินวุตฺตํ ชิเนน ภควตา ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตํ โทสํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สมุเปติ อาปชฺชตีติ โยชนา. ภิกฺขุนิ โทสนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต.

๒๒๑๕. อจฺฉินฺนจีวราติ อจฺฉินฺนอุทกสาฏิกจีวรา. นฏฺจีวราติ โจราทีหิ นฏฺอุทกสาฏิกจีวรา. อาปทาสุ วาติ ‘‘มหคฺฆํ อิมํ ทิสฺวา โจราปิ หเรยฺยุ’’นฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา นคฺคาย นหายนฺติยา น โทโส.

ปมํ.

๒๒๑๖. ทุติเยติ ‘‘อุทกสาฏิกํ ปน ภิกฺขุนิยา การยมานายา’’ติอาทิสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๘๘๘).

ทุติยํ.

๒๒๑๗-๘. ทุสฺสิพฺพิตํ จีวรนฺติ อสกฺกจฺจสิพฺพิตํ จีวรํ. วิสิพฺเพตฺวาติ ทุสฺสิพฺพิตํ ปุน สิพฺพนตฺถาย สยํ วา วิคตสิพฺพนํ กตฺวา. ‘‘วิสิพฺพาเปตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓). อนนฺตรายาติ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรนฺตรายรหิตา. ตํ วิสิพฺพิตํ, วิสิพฺพาปิตํ วา จีวรํ. ‘‘อนนฺตรายา ตํ ปจฺฉา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส กโต. น สิพฺเพยฺยาติ เอตฺถาปิ ‘‘น สิพฺพาเปยฺยา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เนว สิพฺเพยฺย, น สิพฺพาปนาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๓).

จตุปฺจาหนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ (ปาจิ. ๖๒-๖๔), อุตฺตริทิรตฺตติรตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๑-๕๒) วิย อปฺปสงฺขฺยาย พหุสงฺขฺยายํ อนฺโตคธตฺเตปิ อุภยวจนํ โลกโวหารวเสน วจนสิลิฏฺตายาติ ทฏฺพฺพํ. ธุเรติ สิพฺพนุสฺสาเห. นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสฺสฏฺมตฺเต.

๒๒๑๙. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ ตีสุ วาเรสุ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ วารตฺตเย ทุกฺกฏตฺตยํ.

๒๒๒๐. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. อฺสฺมินฺติ จีวรโต อฺสฺมึ. อนฺตราเยปิ วา สตีติ ราชโจราทิอนฺตรายานํ ทสนฺนํ อฺตเร สติ.

๒๒๒๑. ‘‘ธุรนิกฺเขปนํ นาม, สมุฏฺานมิทํ มต’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาย ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๙๓) วุตฺตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ, เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ วิสุํ สมุฏฺานสีสํ นาม นตฺถิ. มาติกฏฺกถายฺจ ‘‘สมนุภาสนสมุฏฺาน’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ, ตํ สมุฏฺานสีเสสุ อนฺโตคธเมว. ตสฺมา ‘‘ธุรนิกฺเขปสมุฏฺาน’’นฺติ อิทํ สมนุภาสนสมุฏฺานสฺเสว ปริยาโยติ คเหตพฺพํ.

ตติยํ.

๒๒๒๒. ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ กิริยาย ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปฺจาหิก’’นฺติ จ ‘‘สงฺฆาฏิจาร’’นฺติ จ อุปโยคตฺเถ เอว อุปโยควจนํ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ, อิติ วกฺขมานานํ ปฺจนฺนํ จีวรานเมวาธิวจนํ, สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร, ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยาติ ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานิ เนว นิวาเสติ น ปารุปติ น โอตาเปติ ปฺจมํ ทิวสํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๘๙๙) วจนโต ปฺจทิวสพฺภนฺตเร ยํ กิฺจิ อกตฺวา อติกฺกาเมนฺติยา จีวรคณนาย ปาจิตฺติ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาติกฺกเมยฺยา’’ติอาทิ.

๒๒๒๓. ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏิสงฺขาตํ ติจีวรฺจ. สํกจฺจีติ ถนเวนสงฺขาตํ จีวรฺจ. ทกสาฏีติ อุตุนิกาเล นิวาเสตพฺพอุทกสาฏิจีวรฺจ. อิติ อิเม ปฺจ. ปฺจ ตูติ ปฺจ จีวรานิ นาม.

๒๒๒๔-๕. ติกปาจิตฺตีติ ปฺจาหาติกฺกนฺตสฺา, เวมติกา, อนติกฺกนฺตสฺาติ วิกปฺปตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ. ปฺจาหานติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺาเวมติกานํ วเสน ทฺวิกทุกฺกฏํ.

‘‘ปฺจเม ทิวเส’’ติอาทิ อนาปตฺติวารสนฺทสฺสนํ. นิเสวตีติ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา. โอตาเปตีติ เอตฺถ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, โอตาเปติ วาติ อตฺโถ. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภุฺชิตุํ, เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ.

จตุตฺถํ.

๒๒๒๖. อฺิสฺสา สงฺกเมตพฺพจีวรํ อนาปุจฺฉา คเหตฺวา ยา ปริภุฺชติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อฺิสฺสา อุปสมฺปนฺนาย สนฺตกํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ ตสฺสา อวตฺวา อาทาย ปุน ตสฺสา ทาตพฺพํ, อทตฺวา ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสวติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สงฺกเมตพฺพจีวรํ สงฺกมนีย’’นฺติ ปริยายสทฺทา เอเต. ยถาห ‘‘จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพจีวรํ, อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐๓).

๒๒๒๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา …เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา จีวรสงฺกมนียํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๐๕) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อิทฺจ วุตฺตนยเมว. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ วา.

๒๒๒๘. เอตํ สมุฏฺานํ กถิเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. คหณํ, ปริโภโค จ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ปฺจมํ.

๒๒๒๙. ลภิตพฺพํ ตุ จีวรนฺติ ลภิตพฺพํ วิกปฺปนุปคํ จีวรํ. นิวาเรตีติ ยถา เต ทาตุกามา น เทนฺติ, เอวํ อนฺตรายํ ปรกฺกมติ. ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ สเจ ตสฺสา วจเนน เต น เทนฺติ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วเทยฺยาติ อตฺโถ.

๒๒๓๐. เอตฺถ ปมํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา คณสฺสาติ ทฺเว ตโยว คเหตพฺพา. ลาเภติ เอตฺถ ‘‘นิวาริเต’’ติ เสโส. สเจ อฺํ ปริกฺขารํ นิวาเรติ, ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อฺนฺติ วิกปฺปนุปคจีวรโต อฺํ. ปริกฺขารนฺติ ยํ กิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ.

๒๒๓๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถาติ ปุจฺฉติ, ‘เอตฺตกํ นามา’ติ วทนฺติ, ‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถุ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา. น โทสตาติ น โทโส, อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

ฉฏฺํ.

๒๒๓๒-๓. ธมฺมิกํ สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กริยมานํ จีวรานํ วิภงฺคํ ภาชนํ ยา ภิกฺขุนี ปฏิเสเธยฺย ปฏิพาเหยฺย, ตสฺสา เอวํ ปฏิเสเธนฺติยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. อธมฺเม ธมฺมสฺาย ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. อุโภ เวมติกาย วาติ อุโภสุ เวมติกาย. คาถาพนฺธวเสน สุ-สทฺทโลโป. ธมฺมิเก อธมฺมิเก จีวรวิภงฺเค เวมติกาย ปฏิพาหนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา. ยถาห ‘‘ธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมิเก เวมติกา ปฏิพาหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหเนว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๙๑๔) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

สตฺตมํ.

๒๒๓๕-๖. นิวาสนุปคํ วา ตถา ปารุปนุปคํ วา กปฺปพินฺทุกตํ วา ยํ กิฺจิ จีวรํ ปฺจ สหธมฺมิเก จ มาตาปิตโรปิ มุฺจิตฺวา อฺสฺส ยสฺส กสฺสจิ คหฏฺสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ยทิ ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยํ ปริยาปุตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ปิตโร’’ติ มาตา จ ปิตา จ มาตาปิตโรติ วตฺตพฺเพ วิรูเปกเสสวเสน นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.

๒๒๓๗. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ตา ปน ปาจิตฺติโย จีวรานํ คณนาย วเสน คเณตพฺพาติ โยชนา.

๒๒๓๘. ตาว สมฺปฏิจฺฉิโต กาโล เอตสฺสาติ ตาวกาลิกํ, จีวรํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ทูรตฺตา ปุนปิ ‘‘อฺเส’’นฺติ อาห, โสเยวตฺโถ.

อฏฺมํ.

๒๒๓๙. ยา ปน ภิกฺขุนี ‘‘สเจ มยํ สกฺโกม, ทสฺสาม กริสฺสามาติ เอวํ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตาย ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย จีวรสฺส วิภงฺคํ นิเสเธตฺวา จีวเร กาลํ อติกฺกเมยฺย, อสฺสา โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จีวเร กาลนฺติ ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒๒) ปทภาชเน วุตฺตํ จีวรกาลํ. อติกฺกเมยฺยาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิมํ ทิวสํ, อตฺถเต กถิเน กถินุทฺธารทิวสํ อติกฺกาเมตี’’ติ วุตฺตวิธึ อติกฺกาเมยฺย.

๒๒๔๐. ‘‘อทุพฺพลจีวเร ทุพฺพลจีวรสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต สุทุพฺพลนฺติ เจตสาติ เอตฺถ สุ-สทฺโท ปทปูรเณ. อุโภสูติ ทุพฺพเล, อทุพฺพเล จ. กงฺขิตาย วาติ เวมติกาย วา.

๒๒๔๑. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘กิฺจาปิ ‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’ติ วทนฺติ, อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ, สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ , อทฺธา ทสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๑) เอวํ อฏฺกถาย วุตฺตนเยน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

นวมํ.

๒๒๔๒. ธมฺมิกํ กถินุทฺธารนฺติ ‘‘ธมฺมิโก นาม กถินุทฺธาโร สมคฺโค ภิกฺขุนิสงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุทฺธรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๙) วุตฺตํ กถินุทฺธารํ.

๒๒๔๓. ยสฺสาติ ยสฺส กถินสฺส. อตฺถารมูลโก อานิสํโส นาม ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) อนุฺาโต ตสฺมึ วิหาเร อุปฺปชฺชนกจีวรวตฺถานิสํโส. อุทฺธารมูลโก นาม อนฺตรุพฺภารํ การาเปนฺเตหิ อุปาสเกหิ ทิยฺยมานจีวรวตฺถานิสํโส.

๒๒๔๕. สมานิสํโสปีติ อตฺถารอานิสํเสน สมานิสํโสปิ อุพฺภาโร. สทฺธาปาลนกอารณาติ ปสาทานุรกฺขนตฺถาย ทาตพฺโพติ โยชนา. อานิสํสํ นิทสฺเสตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภ’’ติ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา.

๒๒๔๖. สมุฏฺานาทินา สทฺธึ เสสํ ปน วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพากาเรน สตฺตเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ วิฺาตํ. กิฺจิปิ อปฺปกมฺปิ อปุพฺพํ ตตฺถ วุตฺตนยโต อฺํ นตฺถีติ โยชนา.

ทสมํ.

นคฺควคฺโค ตติโย.

๒๒๔๗. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนิโย ทฺเว เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุํ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๓๓) ปฺตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอกายา’’ติอาทิ. เอกายาติ เอกาย ภิกฺขุนิยา. อปราติ อฺา อุปสมฺปนฺนา. นิปชฺเชยฺยุนฺติ เอตฺถ ‘‘เอกมฺเจ’’ติ เสโส. ทฺเวติ ทฺเว ภิกฺขุนิโย.

๒๒๔๘-๙. ‘‘เอกาย จา’’ติอาทิ อนาปตฺติวารนิทฺเทโส. อุโภ วาปิ สมํ นิสีทนฺตีติ โยชนา. เอฬเกนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปเทน.

ปมํ.

๒๒๕๐-๑. ปาวารกฏสาราทินฺติ เอตฺถ ภุมฺเมกวจนํ. ‘‘สํหาริเมสู’’ติ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา พหุวจนปฺปสงฺเค วจนวิปลฺลาเสเนตฺถ เอกวจนนิทฺเทโสติ ทฏฺพฺโพ. ปาวาโร จ กฏสาโร จ เต อาทิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. เอกกนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. เอกเมว เอกกํ. สํหาริเมสุ ปาวาราทีสุ อฺตรนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปาวาโรติ โกชวาทโย’’ติ วทนฺติ. กฏสาโรติ กโฏเยว. อาทิ-สทฺเทน อตฺถริตฺวา สยนารหํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. เตเนวาติ ยํ อตฺถตํ, เตเนว. ปารุปิตฺวา สเจ ยา ปน ทฺเว สเหว นิปชฺชนฺติ, ตาสํ ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺถรณปาวุรณกิจฺเจ เอกสฺเสว นิทฺทิฏฺตฺตา เอกสฺส อนฺตสฺส อตฺถรณฺจ เอกสฺส อนฺตสฺส ปารุปนฺจ วิฺายติ. ยถาห ‘‘สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๓๗).

เอกสฺมึ เอกตฺถรเณ วา เอกปาวุรเณ วา นิปชฺชเน สติ ตาสํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ ‘‘นานตฺถรณปาวุรเณ เอกตฺถรณปาวุรณสฺา…เป… เวมติกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๓๙) วุตฺตํ ทุกฺกฏทฺวยํ.

๒๒๕๒. ววตฺถานํ นิทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ สมุฏฺานาทิวิธานํ. อาทินาติ อิมสฺมึเยว วคฺเค ปมสิกฺขาปเทน. ตุลฺยนฺติ สมานํ.

ทุติยํ.

๒๒๕๓. อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา. อผาสุการณาติ อผาสุกรณเหตุ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ตสฺสา ปุรโต จ จงฺกมนาทโย ยทิ กเรยฺย, เอวํ กโรนฺติยา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา. จงฺกมนาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปติ อุทฺทิสติ วา อุทฺทิสาเปติ วา สชฺฌายํ วา กโรตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๓) ปทภาชเน วุตฺตานํ สงฺคโห.

๒๒๕๔. นิวตฺตนานํ คณนายาติ จงฺกมนฺติยา จงฺกมสฺส อุภยโกฏึ ปตฺวา นิวตฺตนฺติยา นิวตฺตนคณนาย. ปโยคโตเยวาติ ปโยคคณนาเยว, อิริยาปถปริวตฺตนคณนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. โทสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติโย.

๒๒๕๕. ปทานํ คณนาวสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ยถาห ‘‘ปทาทิคณนายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓). ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺา, เวมติกา, อนุปสมฺปนฺนสฺาติ วิกปฺปตฺตยสฺส วเสน ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๕๖. จ อผาสุกามายาติ อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุรโต จงฺกมนาทีนิ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

๒๒๕๗. กฺริยากฺริยนฺติ จงฺกมนาทิกรณํ กิริยํ. อาปุจฺฉาย อกรณํ อกิริยํ. ปาปมานสนฺติ อกุสลจิตฺตํ.

ตติยํ.

๒๒๕๘-๙. อนนฺตรายาติ วกฺขมาเนสุ ราชนฺตรายาทีสุ ทสสุ อนฺตราเยสุ อฺตรรหิตา ภิกฺขุนี. ทุกฺขิตนฺติ คิลานํ. ยถาห ‘‘ทุกฺขิตา นาม คิลานา วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๙๔๘). สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. ยถาห ‘‘สหชีวินี นาม สทฺธิวิหารินี วุจฺจตี’’ติ. อฺาย วา นุปฏฺาเปยฺยาติ อฺาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณริยา วา คิหินิยา วา อุปฏฺานํ น การาเปยฺย. นุปฏฺเยฺย สยมฺปิ วาติ ยา อุปฏฺานํ น กเรยฺย. ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต วาติ ‘‘เนว อุปฏฺเสฺสามิ, น อุปฏฺาปนาย อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามี’’ติ ธุเร อุสฺสาเห นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว. ตสฺสาติ อุปชฺฌายาย.

อนฺเตวาสินิยา วาปีติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนิสฺสยวเสน จตุพฺพิธาสุ อนฺเตวาสินีสุ อฺตราย. อิตรายาติ อนุปสมฺปนฺนาย.

๒๒๖๐. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ‘‘คเวสิตฺวา อลภนฺติยา’’ติ ปทจฺเฉโท, อฺํ อุปฏฺายิกํ ปริเยสิตฺวา อลภมานายาติ อตฺโถ. ‘‘อาปทาสุ อุมฺมตฺติกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโปปิ ทฏฺพฺโพ. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ. ธุรนิกฺเขปโนทยนฺติ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

จตุตฺถํ.

๒๒๖๑-๒. ปุคฺคลิกสฺส อตฺตายตฺตปรายตฺตวเสน อนิยมิตตฺตา ‘‘สก’’นฺติ อิมินา นิยเมติ. สกํ ปุคฺคลิกนฺติ อตฺตโน ปุคฺคลิกํ. ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส. สกวาฏนฺติ ปริวตฺตกทฺวารกวาฏสหิตํ. อุปสฺสยนฺติ เคหํ. ทฺวาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คพฺภปมุขานํ สงฺคโห, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. พหูนิปีติ นิทฺธาเรตพฺพนิทสฺสนํ. พหูนิปิ ทฺวารานิ วา พหู คพฺเภ วา พหูนิ ปมุขานิ วา. นฺติ ยสฺสา อุปสฺสโย ทินฺโน, ตํ ภิกฺขุนึ. นิกฺกฑฺฒนฺติยาติ อติกฺกาเมนฺติยา. ตสฺสาติ ยา นิกฺกฑฺฒติ, ตสฺสา.

๒๒๖๓. เอตฺถาติ นิกฺกฑฺฒเน. เอเสว นโยติ ‘‘ปโยคคณนาย อาปตฺตี’’ติ ทสฺสิตนโย. เอตฺถ ปโยโค นาม อาณาปนํ, อิมินา ‘‘เอกายาณตฺติยา อเนเกสุ ทฺวาเรสุ อติกฺกามิเตสุปิ เอกาว อาปตฺติ โหตี’’ติ เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๔๓, ๙๕๒ อตฺถโต สมานํ) สงฺคณฺหาติ.

๒๒๖๔. เตสุ วินิจฺฉเยสุ เอกํ วินิจฺฉยวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺตกาว อิมํ ทฺวารา’’ติอาทิ. ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย ทฺวารคณนาปตฺติโย.

๒๒๖๕. อกวาฏมฺหาติ อกวาฏพนฺธโต อุปสฺสยา นิกฺกฑฺฒนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เสสายาติ อนุปสมฺปนฺนาย. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺาย, เวมติกาย, อนุปสมฺปนฺนสฺาย จ วเสน ติกทุกฺกฏํ. อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขาเรสูติ ปตฺตจีวราทีสุ ปริกฺขาเรสุ . สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ปโยเคสุ, นิกฺกฑฺฒิยมาเนสุ, นิกฺกฑฺฒาปิยมาเนสุ จาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๒๖๖. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทิวินิจฺฉเยน สห เสสํ วินิจฺฉยชาตํ อเสเสน สพฺพปฺปกาเรน สงฺฆิกา วิหารสฺมา นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเทน สมํ มตํ ‘‘สทิส’’นฺติ สลฺลกฺขิตนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๖๗. ฉฏฺเติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติอาทิมาติกาย (ปาจิ. ๙๕๖) นิทฺทิฏฺเ ฉฏฺสิกฺขาปเท. อิธ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย กเถตพฺพํ. อริฏฺสฺส สิกฺขาปเทนาติ อริฏฺสิกฺขาปเทน. วินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก.

ฉฏฺํ.

๒๒๖๘. สาสงฺกสมฺมเตติ เอตฺถ ‘‘สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. อุภยมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อนฺโตรฏฺเติ ยสฺส วิชิเต วิหรติ, ตสฺเสว รฏฺเ. สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อนฺโตรฏฺเ สตฺเถน วินา จาริกํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๒๖๙. เอวํ จรนฺติยา สคามกฏฺาเน คามนฺตรปฺปเวเส จ อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน จ วินยฺุนา ภิกฺขุนา ปาจิตฺติยนโย ปาจิตฺติยาปตฺติวิธานกฺกโม เยฺโย าตพฺโพติ โยชนา.

๒๒๗๐. สห สตฺเถน จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา. เขมฏฺาเน จรนฺติยา, อาปทาสุ วา จรนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๒๗๑. อฏฺเมนวเม วาปีติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติโรรฏฺเ’’ติอาทิเก (ปาจิ. ๙๖๖) อฏฺมสิกฺขาปเท จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺโตวสฺสํ จาริกํ จเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๐) วุตฺตนวมสิกฺขาปเท จ. อนุตฺตานํ น วิชฺชติ, สพฺพํ อุตฺตานเมว, ตสฺมา เอตฺถ มยา น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.

อฏฺมนวมานิ.

๒๒๗๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วสฺสํวุตฺถา จาริกํ น ปกฺกเมยฺย อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๗๔) วุตฺตสิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺตี’’ติอาทิ. อหํ น คมิสฺสามิ น ปกฺกมิสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป กเต ปาจิตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ปาจิตฺติ.

๒๒๗๓. วสฺสํวุตฺถาย ปวาเรตฺวา อนฺตมโส ปฺจ โยชนานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ อปิ-สทฺทสฺส สมฺภาวนตฺถตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉสู’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ อนาปตฺติวาเร ฉสุ โยชเนสุ ยทตฺถิ วตฺตพฺพํ, ตํ กินฺนุ นาม สิยา, นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ฉ โยชนานิ คจฺฉนฺติยา อนาปตฺติภาโว อวุตฺตสิทฺโธวาติ ทีเปติ.

๒๒๗๔. ตีณิ โยชนานิ. เตเนวาติ เยน คตา, เตเนว มคฺเคน. อฺเน มคฺเคนาติ คตมคฺคโต อฺเน ปเถน.

๒๒๗๕. ทสวิเธ อนฺตรายสฺมึ สตีติ วกฺขมาเนสุ อนฺตราเยสุ อฺตรสฺมึ สติ. ตสฺสา อนาปตฺตีติ โยชนา. อาปทาสูติ อฏฺฏาทิการเณน เกนจิ ปลิพุทฺธาทิภาวสงฺขาตาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. ทุติยาย ภิกฺขุนิยา อลาเภ วา อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ.

๒๒๗๖. ราชา จ โจรา จ อมนุสฺสา จ อคฺคิ จ โตยฺจ วาฬา จ สรีสปา จาติ วิคฺคโห. มนุสฺโสติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ปุพฺพปทโลโป ‘‘ลาพูนิ สีทนฺตี’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๗๗) วิย. ชีวิตฺจ พฺรหฺมจริยา จ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺติ สมาหารทฺวนฺเท สมาโส, ตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยสฺส. อนฺตรายา เอว อนฺตรายิกา. เอเตสํ ทสนฺนํ อฺตรสฺมึ อปกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย. ‘ปรํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺตา, นทิปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๗๖).

๒๒๗๗. อปกฺกมนํ อกฺริยํ. อนาทริเยน อาปชฺชนโต อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.

ทสมํ.

ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.

๒๒๗๘-๘๐. ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. กีฬุยฺยานนฺติ กีฬนตฺถาย กตํ อุยฺยานํ. กีฬาวาปินฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๙๗๙) โปกฺขรณี วุตฺตา, สา ปน สพฺพชลาสยานํ กีฬาย กตานํ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘กีฬาวาปิ’’นฺติ, กีฬนตฺถาย กตวาปินฺติ อตฺโถ. ‘‘นานาการ’’นฺติ อิทํ ยถาวุตฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหิกวเสน ‘‘ตานี’’ติ วุตฺตํ. นานาการํ ราชาคารํ จิตฺตาคารํ อารามํ กีฬุยฺยานํ วา กีฬาวาปึ ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตานิ สพฺพานิ เอกโต ทฏฺุํ คจฺฉนฺตีนํ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ มุนินา นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.

ปฺจปีติ ราชาคาราทีนิ ปฺจปิ. เอกาเยว ปาจิตฺติ อาปตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา. ตํ ตํ ทิสาภาคํ คนฺตฺวา ปสฺสนฺติ เจ, ปาเฏกฺกาปตฺติโย ปโยคคณนาย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๒๘๑. คมนพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตฺวา คีวาปริวตฺตนสงฺขาเตน ปโยคพาหุลฺเลนาปิ อาปตฺติพาหุลฺลํ ปกาเสตุมาห ‘‘ปโยคพหุตายาปิ, ปาจิตฺติพหุตา สิยา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ยตฺถ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ สพฺพตฺถ.

๒๒๘๒. ‘‘อวเสโสปิ อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนาปตฺติ จ กถามคฺโค จ อนาปตฺติกถามคฺโค, เตสํ วินิจฺฉโย อนาปตฺติกถามคฺควินิจฺฉโย, ‘‘อนาปตฺติ อาราเม ิตา ปสฺสตี’’ติอาทิโก (ปาจิ. ๙๘๑) อนาปตฺติวินิจฺฉโย จ อฏฺกถาคโต (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๑) อวเสสวินิจฺฉโย จาติ อตฺโถ. ‘‘อาราเม ิตา’’ติ เอเตน อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺตีติ อยมนาปตฺติวาโร ทสฺสิโต. เอเตเนว อนฺโตอาราเม ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา นจฺจาทีนิ วิย ราชาคาราทีนิปิ ปสฺสิตุํ ลภตีติปิ สิทฺธํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺเค โหนฺติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺตี’’ติ เอเต อนาปตฺติวารา สงฺคหิตา. นจฺจทสฺสน…เป… สหาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สห นจฺจทสฺสนสิกฺขาปทสทิโสว.

ปมํ.

๒๒๘๓. มานโต ปมาณโต อตีตา อเปตา มานาตีตา, อาสนฺที, ตํ. วาเฬหิ อุเปโต วาฬูเปโต, ปลฺลงฺโก, ตํ. ‘‘อาสนฺที นาม อติกฺกนฺตปฺปมาณา วุจฺจตี’’ติ วจนโต เหฏฺา อฏฺฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปาโท อายามจตุรสฺโส มฺจปีวิเสโส อาสนฺที นาม สมจตุรสฺสานํ อติกฺกนฺตปฺปมาณานมฺปิ อนุฺาตตฺตา. ‘‘ปลฺลงฺโก นาม อาหริเมหิ วาเฬหิ กโต’’ติ (ปาจิ. ๙๘๔) วจนโต ปมาณยุตฺโตปิ เอวรูโป น วฏฺฏติ. อาหริตฺวา ยถานุรูปฏฺาเน เปตพฺพวาฬรูปานิ อาหริมวาฬา นาม, สํหริมวาฬรูปยุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มานาตีตํ อาสนฺทึ วา วาฬูเปตํ ปลฺลงฺกํ วา เสวนฺตีนํ อภินิสีทนฺตีนํ, อภินิปชฺชนฺตีนฺจ ยาสํ ภิกฺขุนีนํ สตฺถา ปาจิตฺติยาปตฺตึ อาห.

๒๒๘๔. ตาสํ นิสีทนสฺสาปิ นิปชฺชนสฺสาปิ ปโยคพาหุลฺลวเสน ปาจิตฺติยานํ คณนา โหติ อิติ เอวํ นิทฺทิฏฺา เอวํ อยํ คณนา อจฺจนฺตยเสน อนนฺตปริวาเรน ภควตา วุตฺตาติ โยชนา. เอตฺถ จ อิจฺเจวนฺติ นิปาตสมุทาโย, อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน, เอวํ-สทฺโท อิทมตฺเถ ทฏฺพฺโพ.

๒๒๘๕. ปาเท อาสนฺทิยา เฉตฺวาติ อาสนฺทิยา ปาเท ปมาณโต อธิกฏฺานฉินฺทเนน เฉตฺวา. ปลฺลงฺกสฺส ปาเท วาฬกา ปลฺลงฺกวาฬกา, เต หิตฺวา อปเนตฺวา, อนาปตฺตีติ เสวนฺตีนํ อนาปตฺติ.

ทุติยํ.

๒๒๘๖-๗. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ ฉนฺนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ สุตฺตนฺติ นิทฺธาริตพฺพนิทสฺสนํ. หตฺถาติ หตฺเถน, กรณตฺเถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํ. อฺจิตนฺติ หตฺถายาเมน อากฑฺฒิตํ . ตสฺมินฺติ ตสฺมึ อฺฉิเต สุตฺตปฺปเทเส. ตกฺกมฺหีติ กนฺตนสูจิมฺหิ. เวิเตติ ปลิเวิเต.

สุตฺตกนฺตนโต สพฺพปุพฺพปโยเคสูติ สุตฺตกนฺตนโต ปุพฺเพสุ กปฺปาสวิจินนาทิสพฺพปโยเคสุ. หตฺถวารโตติ หตฺถวารคณนาย. ยถาห ‘‘กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘๘).

๒๒๘๘. กนฺติตํ สุตฺตนฺติ ปมเมว กนฺติตํ ทสิกสุตฺตาทึ. ปุน กนฺตนฺติยาติ โกฏิยา โกฏึ สงฺฆาเฏตฺวา ปุน กนฺตนฺติยา.

ตติยํ.

๒๒๘๙. ตณฺฑุลานํ โกฏฺฏนํ ตุ อาทึ กตฺวา คิหีนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา สพฺพปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๒๒๙๐. ยาคุอาทิสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ ตทาธารานิ ภาชนานิ คเณตฺวาว ปาจิตฺตึ ปริทีปเย, ขชฺชกาทีสุ รูปานํ คณนาย ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา. ยาคุอาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภตฺตสูปาทีนํ สงฺคโห. ขชฺชกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มจฺฉมํสาทิอุตฺตริภงฺคานํ สงฺคโห.

๒๒๙๑. ‘‘สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมชฺชนิทณฺฑํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํ กิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. สเจติ เอตฺถ ‘‘มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติ เสโส. อตฺตโน เอวมาคตานํ มาตาปิตูนมฺปิ กิฺจิ กมฺมํ อกาเรตฺวา กิฺจิ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, เตน อฺเสํ กถาเยว นตฺถีติ ทีเปติ.

๒๒๙๒-๓. สงฺฆสฺส ยาคุปาเน เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สงฺฆภตฺเตปี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส วาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํ กิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธมาลาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๙๓).

จตุตฺถํ.

๒๒๙๔. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ‘เอหายฺเย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’ติ วุจฺจมานา ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสเมยฺย น วูปสมาย อุสฺสุกฺกํ กเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๙๕) สิกฺขาปทสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาจิตฺติ ธุรนิกฺเขเป’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขเปติ น ทานิ ตํ วูปสเมสฺสามิ, อฺาหิ วา น วูปสมาเปสฺสามี’’ติ เอวํ ธุรสฺส อุสฺสาหสฺส นิกฺเขเป ปาจิตฺตีติ โยชนา. จีวรสิพฺพเน ยถา ปฺจาหปริหาโร ลพฺภติ, อิธ ปน ตถา เอกาหมฺปิ ปริหาโร น ลพฺภตีติ โยชนา.

๒๒๙๕. เสสนฺติ ‘‘ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาตี’’ติอาทิกํ วินิจฺฉยชาตํ. ตตฺถ จีวรสิพฺพเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๒๒๙๖-๗. ยาปน ภิกฺขุนี คิหีนํ วา สหธมฺมิเก เปตฺวา อฺเสํ ปริพฺพาชกปริพฺพาชิกานํ วา ทนฺตโปโนทกํ วินา อฺํ ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ ขาทนียํ, โภชนียํ วา กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ททาติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๒๙๘-๙. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท มุนินา ทนฺตกฏฺโทเก ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ยา ปน ภิกฺขุนี กายาทีหิ สยํ น เทติ อฺเน ทาเปติ, ตสฺสา จ กายาทีหิ อทตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เทนฺติยาปิ ยา พาหิรเลปํ วา เทติ, ตสฺสาปิ อุมฺมตฺติกาย จ น โทโส อนาปตฺตีติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๐๐-๑. อาวสถจีวรนฺติ ‘‘อุตุนิโย ภิกฺขุนิโย ปริภุฺชนฺตู’’ติ ทินฺนํ จีวรํ. ยา ภิกฺขุนี ยํ ‘‘อาวสถจีวร’’นฺติ นิยมิตํ จีวรํ, ตํ จตุตฺเถ ทิวเส โธวิตฺวา อนฺตมโส อุตุนิยา สามเณราย วา อทตฺวา สเจ ปริภุฺเชยฺย, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ โยชนา. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อนิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺา…เป… เวมติกา…เป… นิสฺสชฺชิตสฺา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๐๖) วุตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๐๒-๓. ตสฺมึ จีวเร นิสฺสชฺชิเต อนิสฺสชฺชิตสฺาย วา เวมติกาย วา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทฺวิกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา. อฺาสํ อุตุนีนํ อภาเว อทตฺวาปิ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. ปุน ปริยเยติ ปุน อุตุนิวาเร ยถากาลํ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนจีวราทีนฺจ อนาปตฺตีติ โยชนา. ปริยเยติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ . อจฺฉินฺนจีวราทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นฏฺจีวราทีนํ สงฺคโห. อาปทาสุปีติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฺปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปริภุฺชนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๐๔. สกวาฏกํวิหารนฺติ กวาฏพนฺธวิหารํ, ทฺวารกวาฏยุตฺตํ สุคุตฺตเสนาสนนฺติ วุตฺตํ โหติ. รกฺขนตฺถาย อทตฺวาติ ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวา.

๒๓๐๕-๖. ‘‘โหติ ปาจิตฺติยํ ตสฺสา, จาริกํ ปกฺกมนฺติยา’’ติ วุตฺตเมว ปกาเสตุมาห ‘‘อตฺตโน คามโต’’ติอาทิ. อตฺตโน คามโตติ อตฺตโน วสนกคามโต. ตถา อิตรสฺสาติ อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปํ อุปจารํ. นฺติอาทิปทตฺตเย ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเป ปเมน ปเทน สมติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ตถา อิตรสฺส อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ตสฺมึ อุปจาเร อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ. ทุติเยน ปเทน ปริกฺเขเป, อุปจาเร สมติกฺกนฺตมตฺเต ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๒๓๐๗. อกวาฏพนฺธนสฺมึ กวาฏพนฺธรหิเต วิหาเร ตถา อนิสฺสชฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตํ. ชคฺคิกํ อลภนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปริเยสิตฺวา’’ติ เสโส. ชคฺคิกนฺติ วิหารปฏิชคฺคิกํ.

๒๓๐๘. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถายาติ.

อฏฺมํ.

๒๓๐๙-๑๐. หตฺถี จ อสฺโส จ รโถ จ หตฺถิอสฺสรถา, เต อาทิ เยสํ เต หตฺถิอสฺสรถาทโย, เตหิ. อาทิ-สทฺเทน ธนุ ถรูติ ปททฺวยํ คหิตํ. สํยุตฺตนฺติ ยถาวุตฺเตหิ หตฺถิอสฺสาทิปเทหิ สํโยชิตํ, ‘‘หตฺถีนํ สิปฺปํ หตฺถิสิปฺป’’นฺติอาทินา กตสมาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘หตฺถิสิปฺปํ อสฺสสิปฺปํ รถสิปฺปํ ธนุสิปฺปํ ถรุสิปฺป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ วุตฺตํ โหติ. หตฺถิสิกฺขาทิสิปฺปํ สนฺทีปโก คนฺโถ วจฺจวาจกานํ อเภโทปจาเรน เอวํ วุตฺโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปทาทีนํ วเสนิธา’’ติ. ปรูปฆาตกํ มนฺตาคทโยคปฺปเภทกํ กิฺจีติ ปเรสํ อนฺตรายกรํ ขิลนวสีกรณโสสาปนาทิเภทํ อาถพฺพณมนฺตฺจ วิสโยคาทิปฺปเภทกฺจ ยํ กิฺจิ สิปฺปนฺติ อตฺโถ.

เอตฺถ ขิลนมนฺโต นาม ทารุสารขิลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ ปเวเสตฺวา มารณมนฺโต. วสีกรณมนฺโต นาม ปรํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนกมนฺโต. โสสาปนกมนฺโต นาม ปรสรีรํ รสาทิธาตุกฺขเยน สุกฺขภาวํ ปาปนกมนฺโต. อาทิ-สทฺเทน วิเทสฺสนาทิมนฺตานํ สงฺคโห. วิเทสฺสนํ นาม มิตฺตานํ อฺมฺสฺส เวริภาวาปาทนํ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี หตฺถิ…เป… กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปทาทีนํ วเสน ปริยาปุเณยฺย อธีเยยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๑. เลเขติ ลิขิตสิปฺเป. ธารณาย จาติ ธารณสตฺเถ, ยสฺมึ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตา พหูนิปิ คนฺถานิ ธาเรนฺติ. คุตฺติยาติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คุตฺตตฺถาย. ปริตฺเตสุ จ สพฺเพสูติ ยกฺขปริตฺตโจรวาฬาทิสพฺเพสุ ปริตฺเตสุ จ.

นวมํ.

๒๓๑๒. ทสเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ติรจฺฉานวิชฺชํ วาเจยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๑๘) สมุทฺทิฏฺเ ทสมสิกฺขาปเท. อิทํ ทสมสิกฺขาปทํ.

ทสมํ.

จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.

๒๓๑๓. สภิกฺขุกํ อารามนฺติ ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺติ, ตํ ปเทสํ. ชานิตฺวาติ ‘‘สภิกฺขุก’’นฺติ ชานิตฺวา. ยํ กิฺจีติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา ยํ กิฺจิ.

๒๓๑๔-๕. ‘‘สภิกฺขุโก นาม อาราโม ยตฺถ ภิกฺขู รุกฺขมูเลปิ วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๕) วจนโต อาห ‘‘สเจ อนฺตมโส’’ติอาทิ. ยา ปน ภิกฺขุนี อนฺตมโส รุกฺขมูลสฺสปิ อนาปุจฺฉา สเจ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมติ, ตสฺสา ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, อปริกฺขิตฺเต ตสฺส วิหารสฺส อุปจาโรกฺกเม วาปิ ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาเท อติกฺกามิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๑๖. อภิกฺขุเก อาราเม สภิกฺขูติ สฺาย อุโภสุปิ สภิกฺขุกาภิกฺขุเกสุ อาราเมสุ ชาตกงฺขาย สฺชาตวิจิกิจฺฉาย, เวมติกายาติ อตฺโถ. ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๑๗. สีสานุโลกิกา ยา ภิกฺขุนี คจฺฉติ, ตสฺสา จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมุปริปิ. ตา ภิกฺขุนิโย ยตฺถ สนฺนิปติตา โหนฺติ, ตาสํ สนฺติกํ ‘‘คจฺฉามี’’ติ คจฺฉติ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ปวิสิตฺวา สชฺฌายํ วา เจติยวนฺทนาทีนิ วา กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๐๒๗).

๒๓๑๘. ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ วจเนเนว อภิกฺขุกํ อารามํ กิฺจิ อนาปุจฺฉา ปวิสนฺติยา อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อารามมชฺฌโต วา มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺติยาปิ. อาปทาสูติ เยน เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสนฺติยา.

ปมํ.

๒๓๒๐. อกฺโกเสยฺยาติ ทสนฺนํ อกฺโกสวตฺถูนํ อฺตเรน สมฺมุขา, ปรมฺมุขา วา อกฺโกเสยฺย วา. ปริภาเสยฺย วาติ ภย’มสฺส อุปทํเสยฺย วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺา…เป… เวมติกา…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺา อกฺโกสติ วา ปริภาสติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ ตสฺสา โหตีติ โยชนา.

๒๓๒๑. ‘‘ปุรกฺขตฺวา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘อภิสเปยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๘๗๕) วุตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว.

ทุติยํ.

๒๓๒๒-๓. สงฺฆนฺติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. ปริภาเสยฺยาติ ‘‘พาลา เอตา, อพฺยตฺตา เอตา, เนตา ชานนฺติ กมฺมํ วา กมฺมโทสํ วา กมฺมวิปตฺตึ วา กมฺมสมฺปตฺตึ วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๓๕) อาคตนเยน ปริภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิตรายาติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เอกํ ภิกฺขุนึ วา สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา ตเถว อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ วา ปริภาสนฺติยา ตสฺสา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๒๔-๖. ยา นิมนฺตนปวารณา อุโภปิ คณโภชนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๑๗-๒๑๙), ปวารณสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙) จ วุตฺตลกฺขณา, ตาหิ อุโภหิ นิมนฺตนปวารณาหิ ยา จ ภิกฺขุนี สเจ นิมนฺติตาปิ วา ปวาริตาปิ วา ภเวยฺย, สา ปุเรภตฺตํ ยาคุฺจ ยามกาลิกาทิกาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อามิสํ ยาวกาลิกํ อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ เจ, ตสฺสา คหเณ ทุกฺกฏํ สิยา, อชฺโฌหารวเสน เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

เอตฺถ จ นิมนฺติตา นาม ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติตา’’ติ คณโภชนสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณา. ปวารณา จ ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณาติ เวทิตพฺพา.

๒๓๒๗. กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกานิ เอว.

๒๓๒๘-๙. นิมนฺติตปวาริตานํ ทฺวินฺนํ สาธารณาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อนาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. อิธ อิมสฺมึ สาสเน ยา ปน ภิกฺขุนี นิมนฺติตา อปฺปวาริตา สเจ ยาคุํ ปิวติ, วฏฺฏติ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สามิกสฺสาติ เยน นิมนฺติตา, ตสฺส นิมนฺตนสามิกสฺเสว. อฺโภชนนฺติ เยน นิมนฺติตา, ตโต อฺสฺส โภชนํ. สเจ สา ภุฺชติ, ตถา วฏฺฏตีติ โยชนา.

กาลิกานิ จ ตีเณวาติ ยามกาลิกาทีนิ ตีณิ กาลิกาเนว. ปจฺจเย สตีติ ปิปาสาทิปจฺจเย สติ.

๒๓๓๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อิทํ สมุฏฺานํ อทฺธาเนน ตุลฺยนฺติ โยชนา. ปวาริตาย, อปฺปวาริตาย วา นิมนฺติตาย วเสน กิริยากิริยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิมนฺติตา’’ติอาทิ. นิมนฺติตา ปน สามิกํ อนาปุจฺฉา ภุฺชติ เจ, ตสฺสา วเสน อิทํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ โหติ. เอตฺถ ภุฺชนํ กฺริยํ. สามิกสฺส อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

๒๓๓๑. ‘‘กปฺปิยํ การาเปตฺวา’’ติอาทึ ปวาริตเมว สนฺธายาห. ยา ยทิ ปริภุฺชติ, ตสฺสา จ ปาจิตฺติ สิยา กิริยโต โหตีติ โยชนา. สิยาติ อวสฺสํ. ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน กปฺปิยํ กาเรตฺวา วา อการาเปตฺวา วา ปริภุฺชนฺติยา ตสฺสา ปริโภเคเนว อิมินา สิกฺขาปเทน อวสฺสํ อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

จตุตฺถํ.

๒๓๓๒. ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี กุลมจฺฉรินี อสฺส, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๔๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิกฺขุนีน’’นฺติอาทิ. กุลสนฺติเก ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ, กุลสฺส สนฺติเก ‘‘ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ ภิกฺขุนีนํ อวณฺณํ ภาสนฺติยาติ อตฺโถ. กุลสฺสาวณฺณนํ วาปีติ ‘‘ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺน’’นฺติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก กุลสฺส อวณฺณํ อคุณํ วทนฺติยา ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ.

๒๓๓๓. สนฺตํภาสนฺติยา โทสนฺติ อมจฺฉรายิตฺวา กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ โทสํ อาทีนวํ กเถนฺติยา.

ปฺจมํ.

๒๓๓๔-๕. โอวาททายโกติ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวาทํ เทนฺโต. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติยาติ วสฺสํ วสนฺติยา.

๒๓๓๖. ภิกฺขูติ โอวาททายกา ภิกฺขู.

ฉฏฺํ.

๒๓๓๘. ยา สา ภิกฺขุนี วสฺสํ วุตฺถา ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ วุตฺถา ตโต อนนฺตรํ อุภโตสงฺเฆ ภิกฺขุนิสงฺเฆ จ ภิกฺขุสงฺเฆ จ ‘‘นาหํ ปวาเรสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจติ โยชนา.

สตฺตมํ.

๒๓๔๑. โอวาทาทีนมตฺถายาติ อฏฺครุธมฺมสฺสวนาทีนมตฺถาย. อาทิ-สทฺเทน อุโปสถปุจฺฉนปวารณานํ คหณํ.

๒๓๔๒. โอวาทาทีนมตฺถาย อคมเนน อกฺริยํ. กายิกนฺติ กายกมฺมํ.

อฏฺมํ.

๒๓๔๓. ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา อุโปสถปุจฺฉนฺจ โอวาทูปสงฺกมนฺจ, ตํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕๙) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ยาจิสฺสามี’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

นวมํ.

๒๓๔๖-๗. ปสาโข นาม นาภิยา เหฏฺา, ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ ปเทโส. ตถา หิ ยสฺมา รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา โส ปสาโขติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ปสาเข. สฺชาตนฺติ อุฏฺิตํ. คณฺฑนฺติ ยํ กิฺจิ คณฺฑํ. รุธิตนฺติ ยํ กิฺจิ วณํ. สงฺฆํ วาติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วา. คณํ วาติ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย วา. เอเกนาติ เอตฺถ ‘‘ปุริเสนา’’ติ เสโส, สหตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. ยถาห ‘‘ปุริเสน สทฺธึ เอเกเนกา’’ติ. ปุริโสติ จ มนุสฺสปุริโสว คเหตพฺโพ.

โธวาติ เอตฺถ อาทิ-อตฺเถ วตฺตมาเนน อิติ-สทฺเทน ‘‘อาลิมฺปาเปยฺย วา พนฺธาเปยฺย วา โมจาเปยฺย วา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๖๓) สิกฺขาปทาคตานํ อิตเรสํ ติณฺณํ สงฺคณฺหนโต ‘‘อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ อาณตฺติตฺตยํ สงฺคหิตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ทุกฺกฏานิจฺฉ ปาจิตฺติโย ฉ จา’’ติ.

ยา ปน ภิกฺขุนี ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา รุธิตํ วา สงฺฆํ วา คณํ วา อนาปุจฺฉิตฺวา เอเกน ปุริเสน เอกิกา ‘‘ภินฺท ผาเลหิ โธว อาลิมฺป พนฺธ โมเจหี’’ติ สพฺพานิ กาตพฺพานิ อาณาเปติ, ตสฺสา ฉ ทุกฺกฏานิ, กเตสุ ภินฺทนาทีสุ ฉสุ กิจฺเจสุ ตสฺสา ฉ ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา.

๒๓๔๘-๙. เอตฺถาติ คณฺเฑ วา วเณ วา. ‘‘ยํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตฺวํ กโรหิ’’อิติ สเจ เอวํ ยา อาณาเปตีติ โยชนา. ตสฺสา เอกาย อาณาปนวาจาย ฉ ทุกฺกฏานิ จ ปาจิตฺติยจฺฉกฺกฺเจติ ทฺวาทสาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

๒๓๕๑. อาปุจฺฉิตฺวาวาติ สงฺฆํ วา คณํ วา อาปุจฺฉิตฺวา. ทุติยนฺติ ทุติยิกํ. วิฺุํ ทุติยํ คเหตฺวาปิ วาติ โยชนา.

ทสมํ.

อารามวคฺโค ฉฏฺโ.

๒๓๕๓. ‘‘คณปริเยสนาทิสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ นิคฺคหิตาคโม. คพฺภินินฺติ อาปนฺนสตฺตํ, กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตนฺติ อตฺโถ. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปสมฺปาเทนฺติยา. กมฺมวาจาหีติ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ.

๒๓๕๔-๕. กมฺมวาจาย โอสาเนติ ตติยกมฺมวาจาย ปริโยสาเน, ยฺยการปฺปตฺเตติ อตฺโถ. คพฺภินิสฺาย น จ คพฺภินิยาติ อคพฺภินิยา คพฺภินิสฺาย จ. อุโภ สฺชาตกงฺขายาติ อุโภสุ สมุปฺปนฺนสํสยาย, คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ เวมติกายาติ อตฺโถ. คาถาพนฺธวเสเนตฺถ สุ-สทฺทโลโป. ตถา วุฏฺาเปนฺติยา อุปชฺฌายาย อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. อาจรินิยา ตสฺสาติ อุปชฺฌายา คพฺภินึ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา กมฺมวาจํ สาเวนฺติยา อาจรินิยา จ. คณสฺสาติ อุปชฺฌายาจรินีหิ อฺสฺส ภิกฺขุนิคณสฺส จ. ตถา ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.

๒๓๕๖. ‘‘ทฺวีสุ อคพฺภินิสฺายา’’ติ ปทจฺเฉโท. ทฺวีสูติ คพฺภินิยา, อคพฺภินิยา จ.

ปมํ.

๒๓๕๗. ทุติเยติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๗๓) สิกฺขาปเท. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปายนฺตี นาม มาตา วา โหติ ธาติ วาติ อยํ วิเสโส.

ทุติยํ.

๒๓๕๘. ยา ปน ภิกฺขุนี ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ทฺเว วสฺสานีติ ปวารณวเสน ทฺเว สํวจฺฉรานิ. ฉสุ ธมฺเมสูติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนาเวรมณิปริโยสาเนสุ ฉสุ ธมฺเมสุ. อสิกฺขิตสิกฺขนฺติ ‘‘ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) นเยน อนาทินฺนสิกฺขาปทํ วา เอวํ สมาทิยิตฺวาปิ กุปิตสิกฺขํ วา. สิกฺขมานํ เตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขนโต วา เต วา สิกฺขาสงฺขาเต ธมฺเม มานนโต เอวํ ลทฺธนามํ อนุปสมฺปนฺนํ. วุฏฺาเปยฺยาติ อุปสมฺปาเทยฺย. อาปตฺติ สิยาติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติ อาปตฺติ สิยา, ปาจิตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๕๙. ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติกา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ ธมฺมกมฺเม สตฺถุนา ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติกา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺา วุฏฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๘๒) เอวํ อธมฺเม ปน กมฺมสฺมึ สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.

๒๓๖๐. อขณฺฑโต ขณฺฑํ อกตฺวา.

๒๓๖๑. สเจ อุปสมฺปทาเปกฺขา ปพฺพชฺชาย สฏฺิวสฺสาปิ โหติ, ตสฺสา อิมา ฉ สิกฺขาโย ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมนียา ปทาตพฺพา, อิมา อทตฺวา น การเย เนว วุฏฺาเปยฺยาติ โยชนา.

ตติยํ.

๒๓๖๒. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ วกฺขมานวิเสสโต อฺํ วตฺตพฺพํ นตฺถีติ ยถาวุตฺตนยเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิธา’’ติอาทินา อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสติ. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สงฺเฆน สมฺมตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๖๓. ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย ภิกฺขุนิสงฺเฆน อุปสมฺปทโต ปมํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ยา วุฏฺานสมฺมุติ ทาตพฺพา โหติ, สา วุฏฺานสมฺมุติ สเจ ปมํ อทินฺนา โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ อุปสมฺปทมาฬเกปิ ปทาตพฺพาเยวาติ โยชนา.

๒๓๖๔. ตติยฺจาติ ตติยสิกฺขาปทฺจ. จตุตฺถฺจาติ อิทํ จตุตฺถสิกฺขาปทฺจ. ปเมน สมํ เยฺยนฺติ ปเมน สิกฺขาปเทน สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน สมานนฺติ าตพฺพํ. จตุตฺถํ ปน สิกฺขาปทํ วุฏฺาปนสมฺมุตึ อทาเปตฺวา วุฏฺาปนวเสน กฺริยากฺริยํ โหติ.

จตุตฺถํ.

๒๓๖๕. คิหิคตนฺติ ปุริสนฺตรคตํ, ปุริสสมาคมปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา ปริปุณฺณา อุตฺตรปทโลเปน. กิฺจาปิ น โทโสติ โยชนา. วุฏฺาเปนฺติยาติ อุปชฺฌายา หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติยา.

๒๓๖๖. เสสนฺติ วุตฺตํ. อเสเสน สพฺพโส.

ปฺจมํ.

๒๓๖๘. ทุกฺขิตํ สหชีวินินฺติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส. ตุวฏฺฏกวคฺคสฺมึ ‘‘ทุกฺขิตํ สหชีวินิ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ยุตฺตํ ยํ สิกฺขาปทํ วุตฺตํ, เตน สิกฺขาปเทน อฏฺมํ สมํ เยฺยํ, น วิเสสตา วิเสโส นตฺถีติ โยชนา. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย น อนุคฺคณฺหาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐๘) วุตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สหชีวินินฺติ สทฺธิวิหารินึ. เนว อนุคฺคณฺเหยฺยาติ สยํ อุทฺเทสาทีหิ นานุคฺคณฺเหยฺย. น อนุคฺคณฺหาเปยฺยาติ ‘‘อิมิสฺสา อยฺเย อุทฺเทสาทีนิ เทหี’’ติ เอวํ น อฺาย อนุคฺคณฺหาเปยฺย. ปาจิตฺติยนฺติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต ปาจิตฺติยํ.

อฏฺมํ.

๒๓๖๙. ยา กาจิ ภิกฺขุนี วุฏฺาปิตปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺย เจ, ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริยาปุตา กถิตาติ โยชนา. วุฏฺาเปตีติ วุฏฺาปิตา, ปวตฺเตติ สุสิกฺขาเปตีติ ปวตฺตินี, วุฏฺาปิตา จ สา ปวตฺตินี จาติ วุฏฺาปิตปวตฺตินี, อุปชฺฌายาเยตํ อธิวจนํ, ตํ, อุปชฺฌายํ. นานุพนฺเธยฺยาติ จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเน, มุโขทเกนาติ เอวํ เตน เตน กรณีเยน อุปฏฺเหยฺย.

๒๓๗๐. ‘‘ทฺเว วสฺสานิ อหํ นานุพนฺธิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ เจ, เอวํ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ปน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๒๓๗๑. ยา ปน ภิกฺขุนี อุปชฺฌายํ พาลํ วา อลชฺชึ วา นานุพนฺธติ, ตสฺสา, คิลานาย วา อาปทาสุ วา อุมฺมตฺติกาย วา นานุพนฺธนฺติยา น โทโสติ โยชนา.

๒๓๗๒. อนุปฏฺาเนน โหตีติ อาห ‘‘อกฺริยํ วุตฺต’’นฺติ.

นวมํ.

๒๓๗๓-๕. ยา กาจิ ภิกฺขุนี สหชีวินึ สทฺธิวิหารินึ วุฏฺาเปตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา ตํ คเหตฺวา อนฺตมโส ฉปฺปฺจโยชนานิปิ น คจฺเฉยฺย น จฺํ อาณาเปยฺย ‘‘อิมํ, อยฺเย, คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ อฺฺจ น นิโยเชยฺย เจ, ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺตสฺมึ ‘‘น ทานิ คจฺฉิสฺสามิ, อฺฺจ คเหตฺวา คนฺตุํ น นิโยเชสฺสามี’’ติ อุสฺสาเห วิสฺสฏฺมตฺเต ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

อนฺตรายสฺมึ สติ วา ทุติยํ อลภนฺติยา วา อาปทาสุ วา คิลานาย วา อุมฺมตฺติกาย วา น โทโสติ โยชนา.

ทสมํ.

คพฺภินิวคฺโค สตฺตโม.

๒๓๗๖. คิหิคเตหิ ตีเหวาติ อนนฺตเร คพฺภินิวคฺเค คิหิคตปทยุตฺเตหิ ปฺจมฉฏฺสตฺตเมหิ ตีเหว สิกฺขาปเทหิ. สทิสานีติ อิธ วีสติวสฺสวจนฺจ กุมาริภูตวจนฺจ ตตฺถ ทฺวาทสวสฺสวจนฺจ คิหิคตวจนฺจ เปตฺวา อวเสเสหิ วินิจฺฉเยหิ ยถากฺกมํ สทิสาเนวาติ.

๒๓๗๗. มหูปปทาติ มหา อุปปโท ยาสํ สิกฺขมานานํ ตา มหูปปทา. อุปปทํ นาม ปทานเมว ยุชฺชติ, น อตฺถานนฺติ ‘‘ยาส’’นฺติ อฺปเทน สิกฺขมานาทิปทานํ คหณํ, สทฺทตฺถานมเภโทปจารสฺส ปน อิจฺฉิตตฺตา สิกฺขมานปทคหิตานเมตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ, มหาสิกฺขมานาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโตติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตา’’ติ เสโส, คพฺภินิวคฺเค ติสฺสนฺนํ คิหิคตานํ ปุริเมสุ ตติยจตุตฺถสิกฺขาปเทสุ อาคตา ทฺเว สิกฺขมานาติ อตฺโถ. คิหิคตาย ‘‘ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา’’ติ จ กุมาริภูตาย ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺสา’’ติ จ วสฺสวเสน นานากรณสฺส วุตฺตตฺตา ตาหิ ทฺวีหิ มหาสิกฺขมานาย วสฺสวเสเนว นานากรณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คตา วีสติวสฺสาติ, วิฺาตพฺพา วิภาวินา’’ติ, อติกฺกนฺตวีสติวสฺสา มหาสิกฺขมานา นาม โหตีติ อตฺโถ.

๒๓๗๘. ตา ทฺเว มหาสิกฺขมานา สเจ คิหิคตา วา โหนฺตุ, น จ ปุริสคตา วา โหนฺตุ , สมฺมุติอาทิสุ กมฺมวาจาย ‘‘สิกฺขมานา’’ติ วตฺตพฺพาติ โยชนา. เอตฺถ จ สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย กาตพฺพาย สิกฺขาย สมฺมุติ เจว วุฏฺานสมฺมุติ จ. อาทิ-สทฺเทน อุปสมฺปทากมฺมํ คหิตํ.

๒๓๗๙. อิมาสํ ทฺวินฺนํ สมฺมุติทานาทีสุ ตฺติยา จ กมฺมวาจาย จ วตฺตพฺพํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวตฺตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น ตา’’ติอาทิ. ตา เอตา อุโภปิ มหาสิกฺขมานา ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วา ตถา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา กมฺมวาจาย น วตฺตพฺพา ยสฺมา, ตสฺมา เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘น วตฺตพฺพา’’ติ อิมินา ตถา เจ กมฺมวาจา วุจฺเจยฺย, ตํ กมฺมํ กุปฺปตีติ ทีเปติ. อิธ ปน-สทฺโท ยสฺมา-ปทตฺโถติ ตทตฺถวเสน โยชนา ทสฺสิตา.

๒๓๘๐. สมฺมุตินฺติ สิกฺขมานสมฺมุตึ. ทสวสฺสายาติ เอตฺถ ‘‘คิหิคตายา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘คิหิคตาย ทสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทฺวาทสวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑๙). เสสาสุปีติ เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา, ทฺวาทส, เตรส, จุทฺทส, ปนฺนรส, โสฬส, สตฺตรส, อฏฺารสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา วีสติวสฺสกาเล กาตพฺพาติ เอวํ อฏฺารสวสฺสปริยนฺตาสุ เสสาสุปิ สิกฺขมานาสุ. อยํ นโยติ ‘‘สมฺมุติยา ทินฺนสํวจฺฉรโต อาคามินิ ทุติเย สํวจฺฉเร อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ อยํ นโย. เตเนว วุตฺตํ ‘‘เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา’’ติอาทิ.

๒๓๘๑. ‘‘กุมาริภูตา’’ติปิ ‘‘คิหิคตา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ โยชนา.

๒๓๘๒. ยา ปน ปริปุณฺณวีสติวสฺสา สามเณรี ‘‘กุมาริภูตา’’ติ วุตฺตา, สา กมฺมวาจาย ‘‘กุมาริภูตา’’อิจฺเจว วตฺตพฺพา, อฺถา ปน น วตฺตพฺพา ‘‘คิหิคตา’’ติ วา ‘‘ปุริสนฺตรคตา’’ติ วา น วตฺตพฺพาติ โยชนา. ยถาห ‘‘กุมาริภูตา ปน ‘คิหิคตา’ติ น วตฺตพฺพา, ‘กุมาริภูตา’อิจฺเจว วตฺตพฺพา’’ติ.

๒๓๘๓. เอตา ตุ ปน ติสฺโสปีติ มหาสิกฺขมานา คิหิคตา, กุมาริภูตาติ วุตฺตา ปน เอตา ติสฺโสปิ. อปิ-สทฺเทน คิหิคตา กุมาริภูตา ทฺเว สกสกนาเมนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ทีเปติ. ‘‘กุมาริภูตสิกฺขมานายา’’ติ ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา น วฏฺฏตีติ โกจิ มฺเยฺยาติ อาห ‘‘น สํสโย’’ติ. ตถา วตฺตพฺพตาเหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘สิกฺขาสมฺมุติทานโต’’ติ.

ปมทุติยตติยานิ.

๒๓๘๔-๕. ยา ปน ภิกฺขุนี อูนทฺวาทสวสฺสาว อุปสมฺปทาวเสน อปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา เอว สยํ อุปชฺฌายา หุตฺวา ปรํ สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คณปริเยสนาทิทุติยานุสฺสาวนปริโยสาเนสุ อาปนฺนานํ ทุกฺกฏานํ อนนฺตรํ กมฺมวาจานํ โอสาเน ตติยานุสฺสาวนาย ยฺยตารปฺปตฺตาย ตสฺสา ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ โยชนา.

จตุตฺถํ.

๒๓๘๖. ปฺจเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๔๒) สิกฺขาปเท. กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. กฺริยากฺริยนฺติ วุฏฺาปนํ กิริยํ, สงฺฆสมฺมุติยา อคฺคหณํ อกิริยํ.

ปฺจมํ.

๒๓๘๗. สงฺเฆนาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน. อุปปริกฺขิตฺวาติ อลชฺชิภาวาทึ อุปปริกฺขิตฺวา. อลํ ตาวาติ เอตฺถ ‘‘เต อยฺเย’’ติ เสโส. วาริตาติ เอตฺถ ‘‘สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา’’ติ เสโส. ‘‘อลํ ตาว เต, อยฺเย, อุปสมฺปาทิเตนา’’ติ วาริตา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เอตฺถ เอตสฺมึ ปวารเณ ปจฺฉา ขียติ ‘‘อหเมว นูน พาลา, อหเมว นูน อลชฺชินี’’ติอาทินา อวณฺณํ ปกาเสติ, โทสตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๓๘๘. ฉนฺทโทสาทีหิกโรนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘ปกติยา’’ติ เสโส. ปกติยา ฉนฺทโทสาทีหิ อคติคมเนหิ นิวารณํ กโรนฺติยา สเจ อุชฺฌายติ, น โทโสติ โยชนา.

ฉฏฺํ.

๒๓๘๙-๙๐. ลทฺเธจีวเรติ สิกฺขามานาย ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ยาจิเต ตสฺมึ จีวเร ลทฺเธ. ปจฺฉาติ จีวรลาภโต ปจฺฉา. อสนฺเต อนฺตรายิเกติ ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตรสฺมึ อนฺตราเย อวิชฺชมาเน. วุฏฺาเปสฺสามินาหนฺติ อหํ ตํ น สมุฏฺาเปสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปเน ตสฺสา ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา.

๒๓๙๑. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. อวุฏฺาปเนน อกฺริยํ.

สตฺตมํ.

๒๓๙๒. อฏฺมนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี สิกฺขมานํ ‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๑๑๕๕) สิกฺขาปทํ. นวเมติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุริสสํสฏฺํ กุมารกสํสฏฺํ จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕๙) วุตฺตสิกฺขาปเท. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิทํ สทฺทตฺถวิเสสมนฺตเรน วินิจฺฉยสฺส สุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตานเมวิท’’นฺติ.

สทฺทตฺโถ ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ปุริสสํสฏฺนฺติ ปริปุณฺณวีสติวสฺเสน ปุริเสน อนนุโลมิเกน กายวจีกมฺเมน สํสฏฺํ. กุมารกสํสฏฺนฺติ อูนวีสติวสฺเสน กุมาเรน ตเถว สํสฏฺํ. จณฺฑินฺติ โกธนํ. โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา อาคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโต โสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํ. อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา, อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ, อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, โสกํ อาวิสตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๖๐) ทฺเวธา อตฺโถ วุตฺโต. ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูปํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน อุปชฺฌายาย ปาจิตฺติยํ.

๒๓๙๓. ‘‘นตฺถิ อชานนฺติยา’’ติ ปจฺเฉโท, สิกฺขมานาย ปุริสสํสฏฺาทิภาวํ อชานนฺติยาติ อตฺโถ.

อฏฺมนวมานิ.

๒๓๙๔. วิชาตมาตราวา ชนกปิตรา วา สามินา ปริคฺคาหกสามินา วา นานุฺาตํ อุปสมฺปทตฺถาย อนนุฺาตํ ตํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปนฺติยา ตสฺสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๒๓๙๕. น ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุนา ทฺวิกฺขตฺตุํ น ปุจฺฉิตพฺพํ, สกิเมว ปุจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนีหิ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกึ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๒).

๒๓๙๖-๗. อตฺถิตนฺติ อตฺถิภาวํ. จตูหิ สมุฏฺาติ, จตฺตาริ วา สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺานํ. กตเมหิ จตูหิ สมุฏฺาตีติ อาห ‘‘วาจโต…เป… กายวาจาทิโตปิ จา’’ติ. กถํ วาจาทีหิ จตูหิ สมุฏฺาติ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ, เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. ‘‘อุปสฺสยโต ปฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุปิ าเนสุ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อุปสมฺปาทนํ กฺริยํ, อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

ทสมํ.

๒๓๙๘. เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน ยา ภิกฺขุนี ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ สเจ วุฏฺาเปติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนาติ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ, รตฺติปาริวาสิยํ, ฉนฺทปาริวาสิยํ, อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ.

ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺหติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาโส อยํ, อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิทํ กมฺมํ กโรถา’’ติ, เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ, อถฺโ อาคนฺตฺวา –

‘‘นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๔๙) –

วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาหริตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนนา’’ติ.

ปาจิตฺติยํ สิยาติ เอวํ วุฏฺาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ สิยาติ อตฺโถ.

๒๓๙๙. ฉนฺทํ อวิหาย วา อวิสฺสชฺเชตฺวาว อวุฏฺิตาย ปริสาย ตุ ยถานิสินฺนาย ปริสาย วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺตีติ โยชนา. วา-สทฺโท เอวการตฺโถ.

เอกาทสมํ.

๒๔๐๐. ทฺวาทเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๑) สิกฺขาปเท. เตรเสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) สิกฺขาปเท.

ทฺวาทสมเตรสมานิ.

กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.

๒๔๐๑. อคิลานาติ ฉตฺตุปาหเนน วูปสเมตพฺพโรครหิตา. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม ยสฺสา วินา ฉตฺตุปาหนา ผาสุ โหตี’’ติ. ฉตฺตฺจ อุปาหนา จ ฉตฺตุปาหนํ. ตตฺถ ฉตฺตํ วุตฺตลกฺขณํ, อุปาหนา วกฺขมานลกฺขณา. ธาเรยฺยาติ อุภยํ เอกโต ธาเรยฺย. วิสุํ ธาเรนฺติยา หิ ทุกฺกฏํ วกฺขติ.

๒๔๐๒. ทิวสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. สเจ ธาเรตีติ โยชนา.

๒๔๐๓. กทฺทมาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มหาวาลุกาทีนํ คหณํ.

๒๔๐๔. สเจ คจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ทิสฺวา คจฺฉาทิกนฺติ ฉตฺเต ลคฺคนโยคฺคํ นีจตรํ คจฺฉาทิกํ ทิสฺวา. อาทิ-สทฺเทน คุมฺพาทีนํ คหณํ. ทุกฺกฏนฺติ อุปาหนมตฺตสฺเสว ธารเณ ทุกฺกฏํ.

๒๔๐๕. อปนาเมตฺวาติ สีสโต อปนาเมตฺวา. โอมุฺจิตฺวาติ ปาทโต โอมุฺจิตฺวา. โหติ ปาจิตฺติยนฺติ ปุน ปาจิตฺติยํ โหติ.

๒๔๐๖. ปโยคคณนาเยวาติ ฉตฺตุปาหนสฺส อปเนตฺวา อปเนตฺวา เอกโต ธารณปโยคคณนาย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อคิลานา อคิลานสฺา, เวมติกา, คิลานสฺา ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๑) เอวํ ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ‘‘คิลานา อคิลานสฺา, คิลานา เวมติกา, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๘๒) เอวํ ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถว วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๐๗. ยตฺถ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา นิวสนฺติ, ตสฺมึ อาราเม วา อุปจาเร วา อปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส อุปจาเร วา. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ.

ปมํ.

๒๔๐๘. ภิกฺขุนิยาติ เอตฺถ ‘‘อคิลานายา’’ติ เสโส, ปาเทน คนฺตุํ สมตฺถาย อคิลานาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อคิลานา นาม สกฺโกติ ปทสา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๘๗). ยานํ นาม รถาทิ, ตํ เหฏฺา วุตฺตสรูปเมว.

๒๔๐๙. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปเท อาราเม, อารามูปจาเร จ อนาปตฺติ วุตฺตา, อิธ ตถา อวุตฺตตฺตา สพฺพตฺถาปิ อาปตฺติเยว เวทิตพฺพา.

ทุติยํ.

๒๔๑๐. ‘‘ยํ กิฺจิปิ กฏูปิย’’นฺติ อิทํ ‘‘สงฺฆาณิ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห – ‘‘สงฺฆาณิ นาม ยา กาจิ กฏูปคา’’ติ. สงฺฆาณิ นาม เมขลาทิกฏิปิฬนฺธนํ. กฏูปิยนฺติ กฏิปฺปเทโสปคํ.

๒๔๑๒. กฏิสุตฺตํ นาม กฏิยํ ปิฬนฺธนรชฺชุสุตฺตกํ.

๒๔๑๓. อิธ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท จิตฺตํ อกุสลํ, อิทํ ปน สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, อิติ อิทํ อุภยเมว วิเสสตา ปุริมสิกฺขาปทโต อิมสฺส นานากรณํ.

ตติยํ.

๒๔๑๔. สีสูปคาทิสุ ยํ กิฺจิ สเจ ยา ธาเรติ, ตสฺสา ตสฺส วตฺถุสฺส คณนาย อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, สีเส ปิฬนฺธนารหนฺติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน คีวูปคาทีนํ คหณํ. ยถาห – ‘‘อิตฺถาลงฺกาโร นาม สีสูปโค คีวูปโค หตฺถูปโค ปาทูปโค กฏูปโค’’ติ.

๒๔๑๕. น จ โทโสติ โยชนา. ‘‘สทิสนฺติ ปริทีปิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.

จตุตฺถํ.

๒๔๑๖. เยนเกนจิ คนฺเธนาติ จนฺทนตคราทินา เยน เกนจิ คนฺธกกฺเกน. สวณฺณาวณฺณเกน จาติ วณฺเณน สห วตฺตตีติ สวณฺณกํ, หลิทฺทิกกฺกาทิ, นตฺถิ เอตสฺส อุพฺพฏฺฏนปจฺจยา ทิสฺสมาโน วณฺณวิเสโสติ อวณฺณกํ, สาสปกกฺกาทิ, สวณฺณกฺจ อวณฺณกฺจ สวณฺณาวณฺณกํ, เตน สวณฺณาวณฺณเกน จ. อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติยา นฺหาโนสาเน ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๒๔๑๗. สพฺพปโยเคติ สพฺพสฺมึ ปุพฺพปโยเค. อาพาธปจฺจยาติ ททฺทุกุฏฺาทิโรคปจฺจยา.

๒๔๑๘. ฉฏฺนฺติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๐๓) สิกฺขาปทํ.

ปฺจมฉฏฺานิ.

๒๔๑๙. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺาย ภิกฺขุนิยา สเจ อุพฺพฏฺฏาเปยฺย วา สมฺพาหาเปยฺย วา, ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ตถา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๒๔๒๐. เอตฺถ อิมสฺมึ อุพฺพฏฺฏเน, สมฺพาหเน จ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน เอกา อาปตฺติ สิยา, หตฺถํ โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุพฺพฏฺฏเน ปโยคคณนาย สิยาติ โยชนา.

๒๔๒๑. อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุ. คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ อาพาธิกาย.

๒๔๒๒. อฏฺมสิกฺขาปเท ‘‘สิกฺขมานายา’’ติ จ นวมสิกฺขาปเท ‘‘สามเณริยา’’ติ จ ทสมสิกฺขาปเท ‘‘คิหินิยา’’ติ จ วิเสสํ วชฺเชตฺวา อวเสสวินิจฺฉโย สตฺตเมเนว สมาโนติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺมาทีนิ ตีณิปี’’ติ.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

๒๔๒๓. อนฺโตอุปจารสฺมินฺติ ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเร. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. ตสฺมา ปุรโต วา โหตุ ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา, สมนฺตโต ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเรติ นิทสฺสนปทเมตํ. ฉมายปีติ อนนฺตรหิตาย ภูมิยาปิ. ยา นิสีเทยฺยาติ สมฺพนฺโธ. น วฏฺฏติ ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

๒๔๒๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อนาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา, อาปุจฺฉิตสฺาติ ตีสุ วิกปฺเปสุ ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. อาปุจฺฉิเต อนาปุจฺฉิตสฺา, เวมติกา วา ภิกฺขุสฺส ปุรโต นิสีเทยฺยาติ วิกปฺปทฺวเย ทุกฺกฏทฺวยํ โหติ. อาปทาสูติ รฏฺเภทาทิอาปทาสุ. อาปุจฺฉิตุฺจ าตุฺจ อสกฺโกนฺติยา คิลานาย.

๒๔๒๕. นิปชฺชนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ.

เอกาทสมํ.

๒๔๒๖. โอกาโส กโต เยน โส โอกาสกโต, น โอกาสกโต อโนกาสกโต, ตํ, อกโตกาสนฺติ อตฺโถ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามี’’ติ อตฺตนา ปุจฺฉิตพฺพวินยาทีนํ นามํ คเหตฺวา โอกาสํ การาปนกาเล อธิวาสนวเสน อกโตกาสนฺติ วุตฺตํ โหติ. โทสตาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ. เอกสฺมึ ปิฏเก โอกาสํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ปิฏเก ปฺหํ ปุจฺฉนฺติยาปิ ปาจิตฺติยํ โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘วินเย จา’’ติอาทิ.

ปุจฺฉนฺติยาปิ จาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘อภิธมฺมํ ปุจฺฉนฺติยาปี’’ติ อิทฺจ อนุตฺตสมุจฺจยตฺเถน -สทฺเทน ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตํ.

๒๔๒๗. อโนทิสฺสาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา.

ทฺวาทสมํ.

๒๔๒๘-๙. สํกจฺจิกนฺติ ถนเวนจีวรํ, ตํ ปน ปารุปนฺติยา อธกฺขกํ อุพฺภนาภิมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ปารุปิตพฺพํ. เตนาห มาติกฏฺกถายํ ‘‘อสํกจฺจิกาติ อธกฺขกอุพฺภนาภิมณฺฑลสงฺขาตสฺส สรีรสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนุฺาตสํกจฺจิกจีวรรหิตา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา). ‘‘สํกจฺจิกาย ปมาณํ ติริยํ ทิยฑฺฒหตฺถนฺติ โปราณคณฺิปเท วุตฺต’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาจิตฺติย ๑๒๒๔-๑๒๒๖) วชิรพุทฺธิตฺเถโร. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวสเน. อุปจาโรกฺกเมปีติ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ทุติยเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรปเวสเนปิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. เอเสว นโยติ ‘‘ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺโตเยว นโย มโต วิฺาโตติ อตฺโถ.

๒๔๓๐. อาปทาสุปีติ มหคฺฆํ โหติ สํกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยา จ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

๒๔๓๑. เสสนฺติ อิธ สรูปโต อทสฺสิตฺจ. วุตฺตนเยเนวาติ มาติกาปทภาชนาทีสุ วุตฺตนเยเนว. สุนิปุณสฺมึ ธมฺมชาตํ, อตฺถชาตฺจ วิภาเวติ วิวิเธนากาเรน ปกาเสตีติ วิภาวี, เตน วิภาวินา.

เตรสมํ.

ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.

เอวํ นวหิ วคฺเคหิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ฉนฺนวุติ สิกฺขาปทานิ ทสฺเสตฺวา อิโต ปเรสุ มุสาวาทวคฺคาทีสุ สตฺตสุ วคฺเคสุ ภิกฺขูหิ สาธารณสิกฺขาปทานิ ภิกฺขุปาติโมกฺขวินิจฺฉยกถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ ตานิ อิธ น ทสฺสิตานิ.

สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ. ตโต ปรํ สกลํ ภิกฺขุนิวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺุลฺลปอจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสอุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ , สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ พาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตฺจ ฉสฏฺิ จ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺรายํ สงฺเขปโต อสาธารณสิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชา, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิฺาโก, ภิกฺขุนิอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, อกุสลจิตฺตานิ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จ. อวเสสานิ อจิตฺตกานิ ปณฺณตฺติวชฺชาเนว. โจริวุฏฺาปนํ, คามนฺตรํ, อารามสิกฺขาปทํ, คพฺภินิวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย สตฺต, กุมาริภูตวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ, ปุริสสํสฏฺํ, ปาริวาสิยฉนฺททานํ, อนุวสฺสวุฏฺาปนํ, เอกนฺตริกวุฏฺาปนนฺติ อิมานิ เอกูนวีสติ สิกฺขาปทานิ สจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ. อวเสสานิ สจิตฺตกานิ โลกวชฺชาเนวาติ.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.