📜
ปาราชิกกถา
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา
๖. เอวํ ¶ ปฺจหิ คาถาหิ รตนตฺตยปณามาทึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยถาปฏิฺาตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ติวิเธ’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ติวิเธ’’ติอาทินา ปมปาราชิกสิกฺขาปทวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. ติวิเธติ วจฺจปสฺสาวมุขมคฺคานํ วเสน ติปฺปกาเร มคฺเคติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ติลมตฺตมฺปีติ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตนฺติ สมฺพนฺโธ. มคฺเคติ วจฺจปสฺสาวานํ นิกฺขมนทฺวารตาย, อนฺนปานปิตฺตเสมฺหาทีนํ ปเวสนนิกฺขมนทฺวารตาย จ มคฺคโวหารคเต สรีรปฺปเทเส, อลฺโลกาเสติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มคฺเคสุ ติลมตฺตมฺปิ, ตีสุ เสวนเจตโน’’ติ วตฺตพฺเพปิ ‘‘ติวิเธ’’ติ ปการวาจิวิธสทฺโทปาทาเนน สชาติสงฺคหวเสน ตีหิ ราสีหิ สงฺคเหตฺวา ปเภทวเสน ตึสวิโธ มคฺโค ทสฺสิโต โหติ.
เสยฺยถิทํ? ปาราชิกวตฺถุภูตมุขาทิมคฺคานํ นิสฺสยภูเต สตฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย มนุสฺสิตฺถี ¶ อมนุสฺสิตฺถี ติรจฺฉานคติตฺถี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๖) นเยน ปาฬิยํ ทสฺสิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนํ ปจฺเจกํ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน นว มคฺคา, ตเถว ทสฺสิตานํ ติณฺณํ อุภโตพฺยฺชนกานํ วเสน นว มคฺคา, ติณฺณํ ปน ปณฺฑกานํ มุขมคฺควจฺจมคฺคานํ วเสน ปจฺเจกํ ทฺเว ทฺเว มคฺคาติ ฉ มคฺคา, ตถา ติณฺณํ ปน ปุริสานนฺติ เอวํ ตึสวิโธ โหติ.
เสวนเจตโนติ เสวเน เมถุนปโยเค เจตนา อสฺสาติ วิคฺคโห, เมถุนราคูปสํหิตาย เจตนาย สมนฺนาคโตติ ¶ อตฺโถ. อลฺโลกาเสติ ตึสมคฺคานมฺตเร มคฺเค ปกติวาเตน อสํผุฏฺเ อลฺลปเทเส, อิมินา พาหิรํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ น โหตีติ ทีเปติ. วิเสสนสฺส วิเสสาเปกฺขตฺตา ทุติยคาถาย ‘‘สสิกฺโข โส’’ติ ปททฺวยํ อาหริตฺวา ‘‘เสวนเจตโน สสิกฺโข โส ภิกฺขู’’ติ โยเชตพฺพํ.
องฺเค สรีเร ชาตนฺติ องฺคชาตํ, ปุริสนิมิตฺตํ. สติปิ อวเสสสรีราวยวานํ ตถาภาเว รุฬฺหิวเสน ตเทว ตถา วุตฺตํ. ปเวเสนฺโตติ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติสงฺขาตกายิกกิริยํ นิปฺผาเทนฺโต. ปราชิโตติ ทุลฺลภาย ขณสมฺปตฺติยา ลทฺธพฺพโต ทุลฺลภา โลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติสุขโต ปริหาเปตฺวา กิเลสสปตฺเตหิ ปราชยมาปาทิโตติ อตฺโถ.
อยเมตฺถ โยชนา – สสิกฺโข เสวนเจตโน ติวิเธ มคฺเค อลฺโลกาเส องฺคชาตํ ติลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺโต โส ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ. เอตฺตาวตา –
‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ (ปารา. ๔๔) –
ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๗. เอวํ อิมิสฺสา คาถาย อตฺตูปกฺกมมูลกํ ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน (ปารา. ๕๘) องฺคชาเต ¶ อภินิสีเทนฺตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ปโรปกฺกมมูลกํ ปาราชิกฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเวสน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปเวสนนฺติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ สุตฺตปมตฺตาทิมนุสฺสิตฺถิอาทีนมฺตรํ อาเนตฺวา ยถาวุตฺตมคฺคานมฺตรํ ¶ มคฺคํ ยถา ปวิสติ, ตถา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปเน สมฺภวนฺตํ มคฺคปฺปเวสนมาห. ปเวสนํ สาทิยนฺโต สสิกฺโข โสติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปเวสนํ สาทิยติ อธิวาเสติ, ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๘) อฏฺกถาวจนโต อคฺคโต ยาว มูลํ ปเวเสนฺเตสุ อสฺสาทจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต ตงฺขเณเยว สาสนโต จุโตติ อตฺโถ. ปวิฏฺนฺติอาทีสุ ปเทสุปิ เอวเมว โยชนา.
ปวิฏฺนฺติ ปวิฏฺกฺขโณ. ‘‘ปวิฏฺ’’นฺติอาทินา ตาย ตาย กิริยาย อุปลกฺขิโต ขโณ คเหตพฺโพ. เตเนเวตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ กตํ. ิตนฺติ เอตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส สพฺพถา พฺยาปารรหิตํ กาลํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สุกฺกวิสฺสฏฺิสมโยปิ คเหตพฺโพ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตนเยน ปวิฏฺสฺส จ ยาว อุทฺธรณารมฺโภ, ตาว สมฺภวนฺโต ิตกาโลปิ คเหตพฺโพ. อุทฺธรณนฺติ นีหรณกาโล.
วาติ วิกปฺเป, อปีติ สมุจฺจเย, โส วา-สทฺเทน วิกปฺปิตานํ ปกฺขานํ ตุลฺยพลตํ โชเตติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิปิ ‘‘โส เจ ปเวสนํ สาทิยติ, ปวิฏฺํ สาทิยตี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘) ปาฬิยํ อาคตนเยน ลพฺภมานํ ปเวสนาทิเอกกฺขณมฺปิ สาทิยนปจฺจยา อาปชฺชมานํ ปาราชิกํ ทสฺเสติ. สสิกฺโขติ สิกฺขาย สห วตฺตตีติ สสิกฺโข, อปจฺจกฺขาตสิกฺโขติ อตฺโถ. สาทิยนฺโตติ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺโต. โส ภิกฺขุ. เปตฺวา กิริยนฺติ อตฺตูปกฺกมนํ วินา. จุโตติ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ กตมิทํ, น มยา’’ติ เลเสน น มุจฺจติ, สาทิยนจิตฺเต สติ สาสนโต จุโตเยว โหตีติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ ¶ จ สสิกฺโขติ อิทํ ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๔) สิกฺขาปทปาสฺส อตฺถทสฺสนวเสน นิทฺทิฏฺํ. ตสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๔๕), ตทฏฺกถาย จ วิภตฺตํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพํ – จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา วทนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตถา ¶ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ จตุทฺทสนฺนํ, ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ พาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโต สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น รุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตสฺส. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติ จ ‘‘มํ ธาเรหี’’ติ จาติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ‘‘อลํ เม’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว สเววจนานํ วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา ¶ ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา ‘‘มํ ธาเรสฺสตี’’ติ วา ‘‘ยํ นูนาหํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก จ วาจสิโก จ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ. ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ. ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร, สมฺมุขีภูโต จ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
วิชานนมฺปิ ¶ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส, เยสํ วา นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺส, อิเมสํ วา อาโรเจมี’’ติ วทติ. สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ตสฺส ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ วิชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ ¶ โหติ, น ตทภาเวน. โย ปน อนฺตมโส ทวายปิ ปจฺจกฺขาติ, เตน อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา.
อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสน อปจฺจกฺขาตสิกฺโข ‘‘สสิกฺโข’’ติ วุตฺโต.
๘-๑๐. ‘‘อิทานิ สนฺถเตน สนฺถตสฺส ฆฏฺฏเน อุปาทินฺนกฆฏฺฏนาภาวโต โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลสกปฺปนํ ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน, ปสฺสาวมคฺเคน, มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตสนฺถตวารานมตฺถํ สงฺคณฺหนฺโต อาห ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺถเตนาติ จมฺมโจฬติปุปฏฺฏาทีหิ ปฏิจฺฉาทิเตน. ‘‘ปเวเสนฺโต’’ติ อิมินา สนฺถตวารสฺส ปโรปกฺกมํ นิสฺสาย ทสฺสนมุปลกฺขณนฺติ อตฺตูปกฺกเมปิ โยเชตพฺพตํ ทสฺเสติ, ตสฺส วกฺขมาเนน ‘‘ปราชิโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปเวเสนฺโตติอาทิปฺปการํ ปรามสติ.
เอวํ ปเวเสนฺโต กทา ปราชิโต โหตีติ อาห ‘‘อุปาทินฺเนนา’’ติอาทิ. เอตฺถ อุปาทินฺเนนาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อตฺตโน ผลภาเวเนว อาทินฺนํ คหิตนฺติ อุปาทินฺนํ, เอเตน อตฺตโน องฺคชาตสฺส, วตฺถุปุคฺคลานํ มคฺคสฺส จ ฆฏฺฏนฏฺานคตํ กายปฺปสาทํ ทสฺเสติ. อิมินาว องฺคชาตคตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ จมฺมขิลํ, ปิฬกาทิ จ คเหตพฺพํ. ‘‘อุปาทินฺนกํ นาม กายินฺทฺริย’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ตพฺพิปริยาเยน ‘‘อนุปาทินฺนก’’นฺติ ตปฺปฏิจฺฉาทกํ โจฬาทิ วุตฺตํ. อุปาทินฺเนน อุปาทินฺเน, อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ฆฏฺฏิเต, อนุปาทินฺนเกน ¶ วา อุปาทินฺเน อนุปาทินฺเน วา ปาราชิกกฺเขตฺเต ¶ ฆฏฺฏิเตติ โยชนา. เอตฺถ จ กรณวจนนฺตานิ ปทานิ ‘‘องฺคชาเตนา’’ติ อิมสฺส วิเสสนานิ.
เอตฺตาวตา สนฺถตจตุกฺกวเสน อตฺตูปกฺกเม สติ ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรูปกฺกเมปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ. ปาราชิกกฺเขตฺเต ปวิฏฺเ ตูติ เอตฺถ ตุ-สทฺเทน ปเวสนฏฺิตุทฺธารกฺขณตฺตยํ สมุจฺจิโนติ. ยํตํ-สทฺทานํ นิจฺจสมฺพนฺธตฺตา หิ ‘‘โส’’ติ ตํ-สทฺโทปาทาเน ‘‘โย’’ติ ยํ-สทฺโทปิ อชฺฌาหริตพฺโพ, สามตฺถิเยน สมฺปิณฺฑนตฺโถ อปิสทฺโท จ. อยเมตฺถ อตฺถโยชนา – ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกหิ อาเนตฺวา ภิกฺขุโน องฺคชาเต อภินิสีทาปิตมนุสฺสิตฺถิอาทีนํ ตีสุ มคฺเคสุ อฺตรมคฺคสงฺขาตํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ปวิฏฺเ วา ตุ-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตปเวสนฏฺิตุทฺธารานมฺตรกฺขเณ วา สเจ โย สาทิยติ, สปฺปมุขาทิปฺปเวสนกาเล วิย อนุตฺตสิตฺวา กามราคปิปาสาภิภูโต ยทิ สาทิยติ, โสปิ ภิกฺขุ ปราชิโต โหตีติ โยชนา. ‘‘สเจ สาทิยตี’’ติ อิมินา สาสงฺกวจเนน น สาทิยติ, อนาปตฺตีติ สูจิตํ โหติ.
‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺเน อฺสฺมึ าเน วีติกฺกมนฺตสฺส อิมสฺมึเยว วิกปฺเป สมฺภวนฺติโย อิตราปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เขตฺเต’’ติอาทิ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. ‘‘เขตฺเต’’ติ สามฺนิทฺเทเสปิ เหฏฺา ‘‘ปาราชิกกฺเขตฺเต’’ติ วิเสสิตตฺตา, อุปริถุลฺลจฺจยาทีนฺจ วิธียมานตฺตา อฺถานุปปตฺติลกฺขณาย สามตฺถิยา ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ เขตฺเตติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาสู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมาเนสุ ชีวมานกสรีรคตถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสูติ วุตฺตํ โหติ.
อิเมสุ ¶ ทฺวีสุ เขตฺเตสุ ‘‘สนฺถตาทินา สนฺถตาทึ ปเวเสนฺตสฺส อุปาทินฺนาทีหิ อุปาทินฺนาทีนํ ฆฏฺฏเน อธิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตาย ปาราชิกกฺเขตฺเต วุตฺตสพฺพวิกปฺเป เอตฺถ โยเชนฺเตหิ เอวํ โยเชตพฺพํ – ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต สนฺถเต วา อสนฺถเต วา สนฺถเตน วา อสนฺถเตน วา องฺคชาเตน เสวนฺตสฺส อุปาทินฺเน วา อนุปาทินฺเน วา อุปาทินฺเนน, ตถา อนุปาทินฺเนน วา ฆฏฺฏิเต ถุลฺลจฺจยํ ตสฺส วินิทฺทิเสติ. เอวํ ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สนฺถเต วา…เป… ฆฏฺฏิเต ทุกฺกฏฺจ ตสฺส วินิทฺทิเสติ โยเชตพฺพํ.
อิห ¶ สพฺพตฺถ ตีสุปิ เขตฺเตสุ อุปาทินฺน-สทฺเทน อนฏฺกายปฺปสาทํ องฺคชาตฺจ ตตฺถชาตจมฺมขิลปิฬกา จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน องฺคุลิอาทิอิตราวยวาปิ. ตีสุปิ เขตฺเตสุ อนุปาทินฺน-สทฺเทน องฺคชาตาทิปฏิจฺฉาทิตวตฺถาทโย จ คยฺหนฺติ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ปน นิมิตฺเต นฏฺกายปฺปสาทจมฺมขิลปิฬกโรมาทีนิ. อิมานิ จ อนุปาทินฺนานิ. องฺคชาเตตโรปาทินฺนาวยเว จ ตีสุปิ เขตฺเตสุ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
๑๑. เอตฺตาวตา ชีวมานสรีเร สนฺถตาสนฺถตวเสน ปจฺเจกํ ติวิเธสุปิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ สนฺถตาสนฺถตวเสเนว ทุวิเธน นิมิตฺเตน เสวนฺตสฺส ปโรปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส ลพฺภมานปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏาปตฺติโย ยถาสมฺภวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘มตสรีเร ปน ตถา ตถา เสวนฺตานํ โทโส นตฺถี’’ติ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปฏิพาหนตฺถํ ปาฬิยํ ทสฺสิเตสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ เขตฺเตสุ ลพฺภมานา ติสฺโส อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘มเต’’ติอาทิ.
ตตฺถ ¶ ‘‘มเต’’ติ เอตสฺส ‘‘มนุสฺสิตฺถิอาทีนํ สรีเร’’ติ อชฺฌาหริตฺวา อตฺถโยชนา กาตพฺพา. อิมินา ‘‘อกฺขายิเต’’ติอาทินา ทสฺสิตานํ นิมิตฺตานํ นิสฺสยํ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานคาถายํ วิย สกลสรีเร ขาทิเตปิ นิมิตฺตสฺส วิชฺชมานาวิชฺชมานภาโวเยว อาปตฺติยาภาวาภาวสฺส ปมาณนฺติ ‘‘อกฺขายิเต’’ติ เอเตน ‘‘มเต’’ติ เอตํ อวิเสเสตฺวา ‘‘นิมิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ตํ เตน วิเสสิตพฺพํ. อถ วา ‘‘นิมิตฺตมตฺต’’นฺติอาทินา วกฺขมานคาถาย ‘‘นิมิตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
อกฺขายิเตติ สพฺพถา อกฺขายิเต ปาราชิกวตฺถุภูเต นิมิตฺเต. เยภุยฺยกฺขายิเตปิ จาติ กิฺจิ กิฺจิ ขาทิตฺวา พหุกาวสิฏฺเ นิมิตฺเต. ‘‘ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ ติภาคมตฺตํ ขาทิตํ, ตํ นิมิตฺตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นามา’’ติ วทนฺติ. เมถุนนฺติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวาปตฺติยา มิถุนานํ อิทํ เมถุนํ, มติตฺถิอาทีนํ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสตฺตาภาเวปิ ตตฺถ วีติกฺกโม รุฬฺหิยา ‘‘เมถุน’’นฺติ วุจฺจติ.
ปาราชิโกติปราชิโต, ปราชยมาปนฺโนติ อตฺโถ. อยฺหิ ปาราชิก-สทฺโท สิกฺขาปทาปตฺติปุคฺคเลสุ วตฺตติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺานเมตํ อานนฺท อนวกาโส, ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ ¶ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๓) เอวํ สิกฺขาปเท วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘อาปตฺติ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. ๖๗) อาปตฺติยา. ‘‘น มยํ ปาราชิกา, โย อวหโฏ, โส ปาราชิโก’’ติ (ปารา. ๑๕๕) เอวํ ปุคฺคเล. ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) ปน ธมฺเม วตฺตตีติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ¶ ตตฺถ ธมฺโมติ กตฺถจิ อาปตฺติ, กตฺถจิ สิกฺขาปทเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา โส วิสุํ น วตฺตพฺโพ.
ตตฺถ สิกฺขาปทํ โย ตํ อติกฺกมติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ปน โย นํ อชฺฌาปชฺชติ ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุจฺจติ. ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน, ตสฺมา ‘‘ปาราชิโก’’ติ วุจฺจติ. สิกฺขาปทาปตฺตีสุ ปาราชิก-สทฺโท ปราเชตีติ ‘‘ปาราชิโก’’ติ กตฺตุสาธโน, ปุคฺคเล ปน ปราชียตีติ กมฺมสาธโนติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นโร’’ติ อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตภิกฺขุเยว อธิปฺเปโต. สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตีติ.
๑๒. เยภุยฺยกฺขายิเตติ จตูสุ โกฏฺาเสสุ เอกโกฏฺาสาวเสสํ กตฺวา ขาทิเต. อุปฑฺฒกฺขายิเตติ สมภาคาวเสสํ ขาทิเต. ถูโล อจฺจโย ถุลฺลจฺจโย, โสเยว อาปชฺชียตีติ อาปตฺตีติ ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ปาจิตฺติยาทโย สนฺธาเยตฺถ ถุลฺลจฺจยโวหาโร, น ปาราชิกสงฺฆาทิเสเสติ ทฏฺพฺพํ. เสเสติ อวเสเส อุปกจฺฉกาทีสุ. วุตฺตฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘อวเสสสรีเร อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐). ทุฏฺุ กตนฺติ ทุกฺกฏํ, ทุกฺกฏ-สทฺโท นิยตนปุํสกตฺตา อิตฺถิลิงฺคสฺสาปิ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สลิงฺเคน วิเสสนํ โหติ.
๑๓. นิมิตฺตมตฺตํ เสเสตฺวา ขายิเตปีติ เอตฺถ ติณฺณมฺตรํ นิมิตฺตํ เสเสตฺวา สกลสรีเร ขาทิเตปิ. ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก, ปเคว อิตเรติ ทีเปติ. ตสฺมึ นิมิตฺเต อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วาติ ทฺวิธา วุตฺเตสุ ตีสุ นิมิตฺเตสุ อฺตรสฺมึ นิมิตฺเต เมถุนํ เสวโตปิ ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เสวโตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท อเปกฺขายํ. ตสฺมา น เกวลํ เหฏฺา วุตฺตานเมวาติ อเปกฺขติ. สนฺถตาทโย วิกปฺปา ยถาวุตฺตนเยน เอตฺถาปิ โยเชตพฺพา.
๑๔. ‘‘อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต’’ติ ¶ เอตฺถ ‘‘ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหติ กุถิตํ นีลมกฺขิกาสมากิณฺณํ กิมิกุลสมากุลํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพกุณปภาเวน อุปคนฺตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ, ตทา ปาราชิกวตฺถฺุจ ถุลฺลจฺจยวตฺถฺุจ ชหติ, ตาทิเส สรีเร ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมโต ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) อฏฺกถาวจนโต สพฺพตฺถาปิ จาติ อกฺขายิตาทิสพฺพวิกปฺโปปคตานิ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถาปิ วีติกฺกโม อนาปตฺติ น โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘ขายิตกฺขายิต’’นฺติอาทีสุ ขายิตกฺขายิตฺจ นาเมตํ สพฺพํ มตสรีรเกเยว เวทิตพฺพํ, น ชีวมาเนติ โยเชตพฺพํ.
๑๕. ชีวมาเน กถนฺติ อาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ วณสงฺเขปโตติ วณสงฺคหโต. ตสฺมินฺติ ยตฺถ ิตํ นิมิตฺตํ อุปฺปาฏิตํ, ตสฺมึ ปเทเส. เอตฺถ ทุติโย ปน-สทฺโท อิธ อทสฺสิตํ อฏฺกถายํ อาคตนเยน วิฺายมานํ อตฺถวิเสสํ โชเตติ. อฏฺกถายหิ ‘‘ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตํ, ฉวิจมฺมมฺปิ นตฺถิ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนํ ชายติ, ปาราชิกเมวา’’ติ เอวํ อชีวมาเน วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน ชีวมาเนปิ ฉวิจมฺมมตฺตํ เจ สพฺพโส อุปฺปาฏิตํ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนกฺขมํ โหติ, ตตฺถ เสวนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วิฺายมานมตฺถํ โชเตตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖. ตโต ¶ นิมิตฺตโตติ สมฺพนฺโธ. ปติตายาติ ปติตายํ, อยเมว วา ปาโ. นิมิตฺตโตติ นิมิตฺตปฺปเทสโต ปติตายํ มํสเปสิยนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉินฺทิตฺวา วา ตจฺเฉตฺวา วา ปติตายํ ตสฺสํ นิมิตฺตมํสเปสิยนฺติ อตฺโถ. เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
๑๗. ‘‘นขปิฏฺิปฺปมาเณปี’’ติอาทิคาถาย ‘‘ฉินฺทิตฺวา’’ติอาทิกา อฏฺกถา อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพา. สตีติ เอตฺถ ‘‘อวสิฏฺเ’’ติ ปาเสโส. ชีวมาเนติ เอตฺถ ‘‘สรีเร’’ติ ปาเสโส. ชีวมานสรีเร ปน ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา นิมิตฺเต อุปฺปาฏิเต นขปิฏฺิปฺปมาเณปิ มํเส, นฺหารุมฺหิ วา อวสิฏฺเ สติ เมถุนํ ปฏิเสวนฺโต ปราชิโตติ โยชนา.
๑๘. ‘‘กณฺณจฺฉิทฺทกฺขี’’ติ คาถาย ‘‘ชีวมาเน’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘สรีเร’’ติ ¶ ปาเสโส. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติอาทินา อสฺสาทีนํ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ‘‘มนุสฺสาน’’นฺติ ลพฺภติ. มนุสฺสานํ ชีวมานสรีเร กณฺณ…เป… วเณสุ วาติ โยชนา. วตฺถิโกเสติ มุตฺตปถพฺภนฺตเร. วเณสุ วาติ สตฺถกาทีหิ กตวเณสุ. องฺคชาตนฺติ ติลมตฺตมฺปิ องฺคชาเตกเทสํ. ราคาติ เมถุนราเคน.
๑๙. อวเสสสรีรสฺมินฺติ กณฺณจฺฉิทฺทาทิยถาวุตฺตสรีราวยววชฺชิตสรีรปฺปเทเส. เตนาห ‘‘อุปกจฺฉูรุกาทิสู’’ติ อุปกจฺฉํ นาม พาหุมูลนฺตรํ. อูรุกาทิสูติ อูรุเวมชฺฌาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน วุตฺตาวเสสํ สรีรปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, องฺคชาตํ ติลพีชมตฺตํ ปเวเสตฺวาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. วสา เมถุนราคสฺส เสวมานสฺสาติ เมถุนราเคน วีติกฺกมนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘สนฺถเตนา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาโร เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพ.
๒๐. อสฺสโคมหิสาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โคกณฺณควชาทโย สงฺคหิตา. อสฺสาทโย ปากฏาเยว. ‘‘มตาน’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ชีวมานาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เสวนฺติ ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา เมถุนราควเสน ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ ปเวเสนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘โอฏฺคทฺรภทนฺตีนํ, อสฺสโคมหิสาทิน’’นฺติ ปาเน ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อฏฺกถาวสาเน นิทฺทิฏฺเน ปการตฺถวาจินา อาทิ-สทฺเทน ถุลฺลจฺจยวีติกฺกมารหนาสาวตฺถิโกสวนฺโต อวุตฺตา สพฺเพปิ สตฺตา คยฺหนฺติ. ‘‘อสฺสโคมหิสาทีน’’นฺติ ปมปาทาวสาเน นิทฺทิฏฺเน อาทิ-สทฺเทน โอฏฺคทฺรภทนฺตีนมฺปิ สงฺคโห โหตีติ เตสํ ปุนวจนํ นิรตฺถกํ สิยาติ.
๒๑. ตถา เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. สพฺพติรจฺฉานนฺติ ติริยํ อฺจนฺติ วฑฺฒนฺตีติ ติรจฺฉา, สพฺเพ จ เต ติรจฺฉาจาติ สพฺพติรจฺฉา, เตสํ สพฺพติรจฺฉานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วสา เมถุนราคสฺสา’’ติอาทีนํ ปรามฏฺตฺตา สพฺพติรจฺฉานานํ อกฺขิอาทีสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ องฺคชาตปฺปเทสํ เมถุนราเคน ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถาปิ สนฺถตาทิวิกปฺเป นิทฺโทสภาโว น สกฺกา วตฺตุนฺติ ตมฺปิ โยเชตพฺพํ.
๒๒. เอวํ ติรจฺฉานานํ ชีวมานกสรีเร ลพฺภมานา อาปตฺติโย ทสฺเสตฺวา เตสํเยว มตสรีเรปิ ¶ สมฺภวนกอาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘เตส’’นฺติอาทิ. ‘‘เตส’’นฺติ ¶ อิมินา มนุสฺสติรจฺฉานคตานํ คหณนฺติ วทนฺติ. มนุสฺสานํ มตามตสรีเร ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺเตสุ ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ ทสฺสิตตฺตา, ปุน คหเณ ปโยชนาภาวา เต วชฺเชตฺวา อนุวตฺตมานสพฺพติรจฺฉานนฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, เตสํ สพฺพติรจฺฉานคตานนฺติ อตฺโถ. อลฺลสรีเรสูติ อุทฺธุมาตกาทิภาวมสมฺปตฺเตสุ อลฺลมตสรีเรสุ ติวิเธ เขตฺตสฺมึ อสนฺถเต, สนฺถเต วา สติ เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ติวิธาปิ อาปตฺติ สิยาติ อนุวตฺตมานปเทหิ สห โยชนา.
ติวิเธ เขตฺตสฺมินฺติ มตมนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท มคฺคตฺตยสงฺขาเต ปาราชิกกฺเขตฺเต จ เยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว มคฺคตฺตยสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต อุปฑฺฒกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตเภเท ตสฺมึเยว กณฺณจฺฉิทฺทกฺขินาสาวตฺถิโกสวณสงฺขาเต จ, อกฺขายิตเยภุยฺยกฺขายิตอุปฑฺฒกฺขายิต เยภุยฺยกฺขายิตเภเท อวเสสสรีรสงฺขาเต ทุกฺกฏกฺเขตฺเต จาติ ติวิเธปิ เขตฺเต. สตีติ วิชฺชมาเน. สนฺถเต วา อสนฺถเต วา เมถุนราคสฺส วสา เสวโต ยถารหํ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏสงฺขาตา ติวิธา อาปตฺติ ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
เอเตสเมว จ อุทฺธุมาตาทิภาวํ สมฺปตฺเต สรีเร สนฺถตาทิวุตฺตวิกปฺปยุตฺเตสุ ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ เมถุนราเคน เสวโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏฺจ อุทฺธุมาตาทิสมฺปตฺเต สพฺพตฺถาปิ จ ทุกฺกฏนฺติ มนุสฺสสรีเร วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อิมสฺมึ ติรจฺฉานคตสรีเร วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ อลฺลสรีเรสู’’ติอาทีนํ วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ ปุพฺเพ ¶ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุถิตกุณเป ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
๒๓. พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา. นิมิตฺตํ มุตฺตกรณํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ จตุตฺถคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต อิมินา มนุสฺสามนุสฺสิตฺถีนเมว คหณํ, อิมินา อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณสฺส. อิมิสฺสานนฺตรคาถาย อิโต ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อนุวตฺติเต ตตฺราปิ อมนุสฺสิตฺถิยาปิ คหณํ สิยาติ ตมฺปิ วชฺเชตฺวา กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสสฺส วตฺถุภูตํ มนุสฺสิตฺถิเมว ทสฺเสตุํ ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘อิตฺถิยา’’ติอธิกวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ.
มหาอฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ‘‘อิตฺถินิมิตฺตํ เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ สามฺเน วุตฺตตฺตา จ ธมฺมกฺขนฺธเก ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) สามฺวจนโต จ อุทฺธุมาตาทิภาวมสมฺปตฺตาย อลฺลมตมนุสฺสิตฺถิยา จ อกฺขายิเต วา เยภุยฺยกฺขายิเต วา นิมิตฺเต สติ ปาราชิกวตฺถุภาวโต ตตฺถาปิ พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อยมตฺโถปิ มตามตวิเสสํ อกตฺวา ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิมินาว สามฺวจเนน คเหตพฺโพ.
๒๔. นิมิตฺเตนาติ อตฺตโน องฺคชาเตน. มุเขนาติ ปกติมุเขน. นิมิตฺตํ อิตฺถิยาติ ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาตํ. ยสฺมา ปน กายสํสคฺคสิกฺขาปทวินีตวตฺถูสุ มติตฺถิวตฺถุมฺหิ มติตฺถิยา สรีเร กายสํสคฺคราเคน โย ฉุปติ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๘๑) วุตฺตตฺตา มตมนุสฺสิตฺถี น คเหตพฺพา. ตเถว ยกฺขิวตฺถุมฺหิ กายสํสคฺคราเคน ยกฺขินิยา สรีรํ เยน ผุฏฺํ, ตสฺส ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา, อิเธว อุปริ ทุติยสงฺฆาทิเสเส ‘‘ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ (วิ. วิ. ๓๔๑) วกฺขมานตฺตา จ อมนุสฺสิตฺถีปิ น คเหตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา องฺคชาต’’นฺติ. อนฺโต ปเวเสตุกามตาย สติ กายสํสคฺคราคาสมฺภวโต ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อิมินา จ พหิ ฉุปิตุกามตา วิฺายตีติ ‘‘พหี’’ติ อนุวตฺตนํ วินาปิ ตทตฺโถ ลพฺภติ. ครุกนฺติ สงฺฆาทิเสโส.
๒๕. ตเถว พหิ ฉุปนฺตสฺสาติ โยชนา, อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว ฉุปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อุภยราเคนาติ กายสํสคฺคราเคน, เมถุนราเคน วา. ปุริสสฺสาปีติ ชีวมานกปุริสสฺสปิ. ปิ-สทฺโท น เกวลํ วุตฺตนเยน อิตฺถิยา นิมิตฺตํ ผุสนฺตสฺเสว อาปตฺติ, อถ โข ปุริสสฺสาปีติ ทีเปติ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ. ‘‘ชีวมานกปุริสสฺสา’’ติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ เจ? ‘‘กายสํสคฺคราเคน วา เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ อิโต อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๕๙-๖๐) ลพฺภติ.
๒๖. อจิรวติตรนฺตานํ คุนฺนํ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เมถุนราเคน องฺคชาเตน ¶ องฺคชาตํ ฉุปึสูติ อิมสฺมึ วตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อาคตนยํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘นิมิตฺเตนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อิมสฺสานุวตฺตนโต ‘‘พหี’’ติ ลพฺภติ. อตฺตโน นิมิตฺเตน ติรจฺฉานคติตฺถิยา นิมิตฺตํ เมถุนราคโต พหิ ฉุปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา.
๒๗. ‘‘เมถุนราคโต’’ติ อิมินา พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติอาทิ. เอตฺถาปิ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติวจนสามตฺถิยา พหิ ฉุปนํ เวทิตพฺพํ. นิมิตฺตสฺสาติ ปสฺสาวมคฺคสฺส. ฉุปเนติ ผุสเน.
๒๘. ตมาวฏฺฏกเตติ เอตฺถ ‘‘ตํ อาวฏฺฏกเต’’ติ ปทจฺเฉโท. อาวฏฺฏกเตติ วิวเฏ. ‘‘มุเข’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา, อฺสฺส สมฺพนฺธิโน จ อนิทฺทิฏฺตฺตา สุตานุโลมิกานํ สุตสมฺพนฺธสฺเสว พลวตฺตา จ ปุริมานนฺตรคาถาย ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา มุเข’’ติ กิฺจาปิ สุตสฺเสว สมฺพนฺโธ วิฺายติ, ตถาปิ อิมาย คาถาย วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๗๓) ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สิวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสี’’ติ ทสฺสิตฉินฺนสีสวตฺถุสฺส สงฺคหิตตฺตา มนุสฺสมุขเมว คเหตพฺพํ สิยา. ติรจฺฉานคตานํ, ปน อมนุสฺสานฺจ มุเข ตถา ปเวโส นิทฺโทโสติ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา ตตฺถาปิ อิทเมว อุปลกฺขณนฺติ ปาราชิกปฺปโหนกานํ สพฺเพสํ มุเขติ ทฏฺพฺพํ. ตํ องฺคชาตํ. ตตฺถ อาวฏฺฏกเต ปาราชิกปฺปโหนกานํ มุเข อากาสคตํ กตฺวา กตฺถจิ อผุสาเปตฺวา นีหรนฺตสฺส อุกฺขิปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อถ วา ติรจฺฉานานํ อาวฏฺฏกเต มุเขติ โยเชตฺวา ตทฺสงฺคโห อุปลกฺขณวเสน กาตพฺโพ.
๒๙. ตถาติ ¶ ‘‘อากาสคตํ กตฺวา’’ติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ปรามสติ. จตูหิ ปสฺเสหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ปสฺเสหี’’ติ สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติ สามฺสทฺทตฺตา ‘‘สพฺพสฺสา’’ติ ปาเสโส. ชาติวาจกตฺตา เอกวจนํ. ‘‘จตูหิ ปสฺเสหิ, เหฏฺิมตฺตล’’นฺติ จ อิเมสํ สมฺพนฺธิปทสฺส อนิทฺเทเสปิ เมถุนปาราชิกาธิการตฺตา จ สนฺถตจตุกฺกสฺส อฏฺกถาวสาเน อิมาย คาถาย สงฺคหิตสฺส อิมสฺส วินิจฺฉยสฺส ปริโยสาเน ‘‘ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเต วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๑-๖๒) นิมิตฺตวินิจฺฉยสฺสาติเทสสฺส ¶ กตตฺตา จ สามตฺถิเยน ‘‘นิมิตฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. อิทเมว ‘‘ปเวเสตฺวา’’ติ เอตสฺส อาธารวเสน คเหตพฺพํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ อนุวตฺตติ.
เอวํ วากฺยํ ปูเรตฺวา ‘‘ยถา อาวฏฺฏกเต มุเข องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตมากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา สพฺพสฺสา อิตฺถิยา นิมิตฺเต ปสฺสาวมคฺคสงฺขาเต องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตสฺส จตูหิ ปสฺเสหิ สห เหฏฺิมตฺตลํ จตฺตาโร ปสฺเส, เหฏฺิมตฺตลฺจ อจฺฉุปนฺตํ อากาสคตํ กตฺวา นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ.
๓๐. อุปฺปาฏิโตฏฺมํเสสูติ อุปฺปาฏิตํ โอฏฺมํสํ เยสนฺติ วิคฺคโห. เตสุ ทนฺเตสุ. พหินิกฺขนฺตเกสุ วาติ ปกติยา โอฏฺมํสโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิเตสุ วา ทนฺเตสุ. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาเตน ฉุปนฺตสฺส.
๓๑. อฏฺิสงฺฆฏฺฏนํ กตฺวาติ นิมิตฺตมํสสนฺนิสฺสยานิ อฏฺีนิ สงฺฆฏฺเฏตฺวา. มคฺเคติ อฏฺิสงฺฆาตมเย มคฺเค. ทุวิธราคโตติ ¶ เมถุนราเคน วา กายสํสคฺคราเคน วา. วายมนฺตสฺสาติ องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา จาเรนฺตสฺส.
๓๒. อาลิงฺคนฺตสฺสาติ ปริสฺสชนฺตสฺส. หตฺถคาหาทีสุ หตฺโถ นาม กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา. หตฺถสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ คหณํ หตฺถคฺคาโห. อวเสสสรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสนํ ปรามาโส. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘มาตุคามสฺส สรีรสฺส วา ตปฺปฏิพนฺธสฺส วา หตฺเถน คหณํ หตฺถคฺคาโห’’ติ วุตฺตํ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนยสฺเสว อฏฺกถาสุ อาคตตฺตา โสเยว สารโต ปจฺเจตพฺโพ. ปรามเสปิ ‘‘หตฺเถน สรีรสฺส, ตปฺปฏิพนฺธสฺส จ ปรามสน’’นฺติ ยํ ตตฺถ วุตฺตํ, ตมฺปิ น ยุชฺชติ. อวเสสสรีราวยเวนาปิ ปรามสโต ทุกฺกฏเมว โหตีติ. จุมฺพนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เวณิคฺคาหาทึ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อยํ นโย’’ติ เอเตน ‘‘อิตฺถิยา เมถุนราเคน หตฺถคฺคาหาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.
๓๓. มนุสฺสามนุสฺเสหิ อฺเสุ ติรจฺฉานคเตสุ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน เมถุนธมฺมปาราชิกวตฺถุภูเต ¶ สตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อปเท’’ติอาทิ. ‘‘อปเท, ทฺวิปเท, จตุปฺปเท’’ติ อิเมหิ วิเสสเนหิ วิเสสิตพฺพํ ‘‘สตฺตนิกาเย’’ติ อิทํ วตฺตพฺพํ. อปเท สตฺตนิกาเย. อหโยติ ถลจเรสุ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต หตฺถิคิลนเก อชคเร อุปาทาย เหฏฺิมปริจฺเฉเทน นาคา จ. มจฺฉาติ ชลเชสุ อุปริมโกฏิยา ปฺจสตโยชนิกานิ ติมิรปิงฺคลาทิมจฺเฉ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต ปาีนปาวุสาทโย มจฺฉา จ. ทฺวิปเท สตฺตนิกาเย. กโปตาติ อุปริมโกฏิยา ครุเฬ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต กโปตากโปตปกฺขี จ. ปาราวตาติ เกจิ. จตุปฺปเท สตฺตนิกาเย. โคธาติ อุปริมโกฏิยา หตฺถึ ¶ อุปาทาย เหฏฺิมนฺตโต โคธา จาติ อิเม สตฺตา. เหฏฺาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต. ปาราชิกสฺสวตฺถูติ เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส วตฺถูนีติ ปาเสโส.
๓๔. เสเวตุกามตา เมถุนเสวาย ตณฺหา, ตาย เมถุนราคสงฺขาตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ เสเวตุกามตาจิตฺตํ. มคฺเคติ วจฺจมคฺคาทีนํ อฺตเร มคฺเค. มคฺคสฺส อตฺตโน มุตฺตกรณสฺส ปเวสนํ. ปพฺพชฺชาย, ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส วา อนฺเต วินาเส ภโวติ อนฺติโม, ปาราชิกาปนฺโน ปุคฺคโล, ตสฺส วตฺถุ อนฺติมภาวสฺส การณตฺตา ปาราชิกาปตฺติ อนฺติมวตฺถูติ วุจฺจติ, ตเทว ปมํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อาทิมฺหิ เทสิตตฺตา ปมนฺติมวตฺถุ, ตสฺส ปมนฺติมวตฺถุโน, ปมปาราชิกสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๕. สามนฺตา อาปตฺติสมีเป ภวํ สามนฺตํ, ปาราชิกาปตฺติยา สมีเป ปุพฺพภาเค ภวนฺติ อตฺโถ. เสสานํ ปน ติณฺณมฺปีติ อวเสสานํ อทินฺนาทานาทีนํ ติณฺณํ ปาราชิกธมฺมานํ. ถุลฺลจฺจยํ สามนฺตมิติ อุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ. กถมุทีริตํ? ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) ทุติเย, ‘‘มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขณติ, ปติตฺวา ทุกฺขเวทนํ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ, ตติเย, ‘‘ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๑๕) จตุตฺเถ สมุทีริตํ.
เอตฺถ จ จตุตฺถปาราชิกสฺส ถุลฺลจฺจยาปตฺติยา สามนฺตาปตฺติภาโว ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปติ, โส ยาว น ปฏิวิชานาติ, ตาว สมุลฺลปนปจฺจยา ถุลฺลจฺจยาปตฺติสมฺภาเว, สมุลฺลปิเต ตสฺมึ สมุลฺลปิตมตฺเถ ปฏิวิชานนฺเต ปาราชิกาปตฺติสมฺภาเว จ ยุชฺชติ. โส ¶ จ ‘‘อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาว สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
๓๖. อชานนฺตสฺส ¶ วาตูปตฺถทฺธํ องฺคชาตํ ทิสฺวา อตฺตโน รุจิยา วีติกฺกมํ กตฺวา มาตุคาเมสุ คจฺฉนฺเตสุ อชานมานสฺส, มหาวเน ทิวา นิทฺทุปคตภิกฺขุโน วิย ปเรหิ กิริยมานํ อชานนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตเถวาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ าตพฺพ’’นฺติ อิทมากฑฺฒติ. อสฺสาทิยนฺตสฺสาติ ภิกฺขุปจฺจตฺถิเกสุ อภิภวิตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺเตสุ จ การาเปนฺเตสุ จ, สปฺปมุขํ ปวิฏฺกาเล วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺส จ, มหาวเน ทิวาวิหาโรปคตภิกฺขุโน วิย ปโรปกฺกมํ ตฺวาปิ กาเย อาทิตฺตอคฺคินา วิย อุตฺตสิตฺวา อนธิวาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. พุทฺธสาสเน ขีรสาครสลิลนิมฺมเล สพฺพปมํ ปาตุภูตตฺตา อาทิ จ ตํ วีติกฺกมสงฺขาตํ กมฺมฺจาติ อาทิกมฺมํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อาทิกมฺมี, เอตฺถ สุทินฺโน ภิกฺขุ, ตสฺส อาทิกมฺมิโนติ คเหตพฺโพ. อุปริปิ อิเมสํ ปทานํ อาคตาคตฏฺาเน อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ จ อุปริ สพฺพสิกฺขาปเทสุ จ นิทานาทิวเสน สตฺตรสวิโธ สาธารณวินิจฺฉโย ปกิณฺณเก สงฺเขปโต, อุตฺตเร วิตฺถารโต จ อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมา เอตฺถ น ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๗-๓๘. วินเยติ วินยปิฏเก. อนยูปรเมติ เนติ ปาเปติ สีลสมฺปทํ สมาธิสมฺปทํ ปฺาสมฺปทฺจาติ นโย, กายวจีทฺวาเรหิ อวีติกฺกมสงฺขาโต สํวโร, ตปฺปฏิปกฺโข อสํวโร อนโย นาม, ตสฺส อุปรโม นิวตฺติ เอตฺถาติ อนยูปรโม, วินโย, ตตฺถ อนยูปรเม วินเย.
ตโต ¶ เอว ปรเม อุกฺกฏฺเ. อนยสฺส วา อุปรเม นิวตฺตเน ปรเม อุกฺกฏฺเติ คเหตพฺพํ. ปรา อุตฺตมา มา สาสนสิรี เอตฺถาติ ปรโม, วินโยติ เอวมฺปิ คเหตพฺพํ. ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต อุตฺตมสาสนสมฺปตฺติยุตฺเตติ อตฺโถ.
สุชนสฺสาติ โสภโณ ชโน สุชโน, สิกฺขากาโม อธิสีลสิกฺขาย โสภมาโน ปิยสีโล กุลปุตฺโต, ตสฺส นยเน นยนูปเม วินเยติ สมฺพนฺโธ. อนยูปรมตฺตา, ปรมตฺตา จ สุชนสฺส กุลปุตฺตสฺส นยเน นยนูปเม. สุขานยเนติ โลกิยโลกุตฺตรเภทํ สุขํ อาเนตีติ สุขานยนํ, ตสฺมึ. อิทฺจ ‘‘นยเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ.
เอตํ ¶ วิเสสนํ กิมตฺถนฺติ เจ? อุปมาภาเวน คหิตปกตินยนโต อิธ สมฺภวนฺตํ วิเสสํ ทสฺเสตุนฺติ เวทิตพฺพํ. กตโร โส วิเสโสติ เจ? ปกตินยนํ ราคโทสาทิกิเลสูปนิสฺสโย หุตฺวา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขสฺส จ ปจฺจโย โหติ. อิทํ ปน วินยนยนํ อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส เอวํ อหุตฺวา เอกํเสน โมกฺขาวหนสุขสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ. ยถา วินยมวิราเธตฺวา ปฏิปชฺชเนน สิชฺฌนกสีลสํวรมูลกอวิปฺปฏิสาราทิอนุปาทิเสสปรินิพฺพานาวสา- นผลสมฺปตฺติวเสน อุปฺปชฺชนกโลกิยโลกุตฺตรสุขาวหเน วินเยติ วุตฺตํ โหติ.
ปธานรโตติ เอตฺถ ‘‘อปี’’ติ ปาเสโส. ปธาเน วินยาภิโยเค รโตปิ, วินเย อชฺฌายนสวนจินฺตนาทิวเสน วายมนฺโตปีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘วิราโค เสฏฺโ ธมฺมาน’’นฺติ (ธ. ป. ๒๗๓; เนตฺติ. ๑๗๐; กถา. ๘๗๒) วจนโต ปธานํ นิพฺพานํ, ตสฺมึ รโตติ อตฺโถ ¶ . สารมเตติ ‘‘สาร’’นฺติ อธิมเต. อถ วา สารํ อเผคฺคุมตํ มหาวิหารวาสีนํ อาจริยมตํ เอตฺถาติ ‘‘สารมโต’’ติ วินยวินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺมึ. อิธาติ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย. รโตติ อจฺจนฺตาภิรโต. ‘‘น รโต’’ติ เอตฺถ น-การํ ‘‘รมเต’’ติ โอสานปเทน โยเชตฺวา โย ปน น รมเตติ สมฺพนฺโธ.
เถรนวมชฺฌิมภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อนฺตเร โย ปน ปุคฺคโล นิจฺจปริวตฺตนสวนานุสฺสรณจินฺตนวเสน น รมเต น กีฬติ, โส ปุคฺคโล วินเย ปธานรโตปิ วินยปิฏเก อชฺฌยนสวนาทิวเสน ยุตฺตปยุตฺโตปิ ปฏุ โหติ กึ, น โหเตวาติ ทสฺเสติ. วินยปิฏเก ปาฏวมากงฺขนฺเตหิ ปมํ ตาเวตฺถ สกฺกจฺจํ อภิโยโค กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อิมเมวตฺถํ อานิสํสปารํปริยปโยชเนน สห ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมนฺติ วุจฺจมานํ วินยวินิจฺฉยํ, ‘‘อเวที’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘โย’’ติ ปาเสโส. โย กุลปุตฺโต สติสมฺปชฺสทฺธาสมฺปนฺโน อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺมา อเวทิ อฺาสิ. กึ ภูตนฺติ อาห ‘‘หิตวิภาวน’’นฺติ. โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติยา มูลสาธนตฺตา สีลมิธ หิตํ นาม, ตํ วิภาเวติ ปกาเสตีติ หิตวิภาวโนติ วิคฺคโห. ‘‘สีเล ปติฏฺาย…เป… วิชฏเย ชฏ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) วุตฺตตฺตา สพฺพกิเลสชฏาวิชฏนโลกุตฺตราณสฺส ปทฏฺานโสปจารสาภิฺารูปารูปอฏฺสมาธีนํ ปทฏฺานตาย สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปทานํ ¶ มูลภูเตสุ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ ปธานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, ตปฺปกาสกตฺตา อยํ วินยวินิจฺฉโย ‘‘หิตวิภาวโน’’ติ วุตฺโต.
ภาวนนฺติ ¶ ภาวียติ ปุนปฺปุนํ เจตสิ นิเวสียตีติ ภาวโน, ภาวนีโยติ วุตฺตํ โหติ. หิตวิภาวกตฺตาเยว หิตตฺถีหิ ปุนปฺปุนํ จิตฺเต วาเสตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ตํ เอวํวิธํ วินยวินิจฺฉยํ. สุรสมฺภวนฺติ รสียติ อสฺสาทียตีติ รโส, สทฺทรโส อตฺถรโส กรุณาทิรโส วิมุตฺติรโส จ, โสภโณ รโส เอตสฺสาติ สุรโส, วินยวินิจฺฉโย, ตํ สุรสํ. ภวํ ภวนฺตํ, สนฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ, สุรสํ สมานํ, สุรสํ ภูตนฺติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สิเลโส ปสาโท สมตา มธุรตา สุขุมาลตา อตฺถพฺยตฺติ อุทารตา โอโช กนฺติ สมาธี’’ติ เอวํ วุตฺเตหิ กวิชเนหิ อสฺสาเทตพฺพสิเลสาทิทสวิธสทฺทชีวิตคุณสงฺขาตสทฺทรสสมฺปตฺตีหิ จ สภาวาขฺยานํ อุปมา รูปกํ ทีปกํ อาวุตฺตีติ เอวมาทิกฺกมนิทฺทิฏฺปฺจตึสอตฺถาลงฺกาเรสุ อนุรูปสภาวาขฺยานาทิปฺปธานอตฺถาลงฺการสงฺขาตอตฺถรสสมฺปตฺตีหิ จ ยถาสมฺภวํ ปกาสิตพฺพกรุณารสอพฺภุตรสสนฺตรสาทีหิ จ ยุตฺตตฺตา สุรสํ อิมํ วินยวินิจฺฉยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อถ วา อิมินา ปกรเณน ปธานโต วิธียมานปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เอกนฺเตน สมาธิสํวตฺตนิกตฺตา สมาธิสฺส จ ปฺาย ปทฏฺานตฺตา ปฺาย จ นิพฺพานปาปนโต มูลการณํ หุตฺวา กเมน นิพฺพานามตผลรสสมฺปทายกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ ปรมสฺสาทนียรูเปน ธิติวิมุตฺติรเสน สุรสภูตนฺติ วุตฺตํ โหตีติ จ เวทิตพฺพํ. สมฺภวนฺติ เอตฺถ สํ วุจฺจติ สุขํ กายิกํ เจตสิกฺจ, ตํ ภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, วินยวินิจฺฉโย, ตํ, กายจิตฺตสุขานํ มูลการณภูตํ, วุตฺตนเยน สุรสตฺตา จ ยถาวุตฺตรสสมฺปทสารมหุสฺสเวน สมฺภูตมานสิกสุขสฺส, ตํสมุฏฺานรูปนิสฺสยกายิกสุขสฺส จ ปภวภูตนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ¶ อิมสฺส วินยวินิจฺฉยสฺส สมฺมา วิฺาตพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
เอวํ นานาคุณรตนากรํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สมฺปชานนฺโต โส กุลปุตฺโต กึ โหตีติ เจ? ปาลินา อุปาลินา สโม ภวติ. ปาลินาติ สาสนํ ปาเลตีติ ‘‘ปาโล’’ติ วินโย วุจฺจติ, วุตฺตฺหิ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายู’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มหาสงฺคีติกถา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) โส ¶ อสฺส อตฺถีติ ปาลี, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธสาสนสฺส ชีวิตภูตวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสนธรตฺตา ‘‘ปาลี’’ติ ลทฺธนาเมน อุปาลินา, ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘) จตุปริสมชฺเฌ นิสินฺเนน สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน มุขปทุมํ วิกาเสตฺวา ปกาสิตเอตทคฺคฏฺาเนน วิเสสโต สายนรกฺขนกภาเวน ปฏิลทฺธปาลีตินามเธยฺเยน อุปาลิมหาเถเรน สโม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
กสฺมึ วิสเย สโม ภวตีติ เจ? สาสเน. สาสเนติ ยถาวุตฺเต ติวิเธ สาสเน, ตตฺราปิ ถาวรชงฺคมสกลวตฺถุวิตฺถาราธรมณฺฑลสทิเส ปฏิปตฺติปฏิเวธทฺวยธาเร ปริยตฺติสาสเน, ตตฺถาปิ วินยกถาธิการตฺตา ลพฺภมาเน วินยปิฏกสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส สโม ภวตีติ อตฺโถ.
กึภูเต สาสเน? มารพลิสาสเน. มารสฺส พลิ มารพลิ, มารโคจโร, ตสฺส สาสนํ หึสกํ มารพลิสาสนํ, ตสฺมึ. ขนฺธาทีสุ ปฺจสุ มาเรสุ ปธานภูตกามราคาทิปภวกิเลสมารสฺส โคจรภาเวน พลิสงฺขาตอิตฺถิสรีราทินิสฺสยโผฏฺพฺพาทิวิสยสฺส ปริจฺจชาปนตฺถํ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… อสํวาโส’’ติอาทินา (ปารา. ๔๔) นเยน วุตฺตตฺตา ตสฺส ¶ มารพลิสฺส หึสกํ โหตีติ มารพลิสาสนนามเธยฺยวินยปฺตฺติสงฺขาตสาสเนติ อตฺโถ.
อถ วา ‘‘พฬิเสนปิ ชาเลน, หตฺเถน กุมิเนน วา’’ติ อุทกฏฺกถาย วกฺขมานตฺตา พฬิส-สทฺเทน มจฺฉมารณกณฺฏกมาห, ตํ มารสฺส พฬิสํ อสติ ขิปติ วชฺเชตีติ มารพฬิสาสนํ, ตสฺมึ, ‘‘สมนฺตปาโส มารสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สํสารสาคเร ปริวตฺตมานกสํกิเลสทาสปุถุชฺชนสงฺขาตมจฺเฉ คณฺหิตุํ มารมหาเกวฏฺเฏน ปกฺขิตฺตพฬิสสงฺขาตอิตฺถิรูปสทฺทาทิปฺจกามคุณา- มิสาวุตกามราคาทิกิเลสมหาพฬิสํ ตทงฺคปฺปหานวีติกฺกมปฺปหานาทิวเสน ปชหนฺเต วินยปฺตฺติสงฺขาเต สาสเนติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ จ สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย โย ปน น รมเต, โส ปุคฺคโล อนยูปรเม ¶ ตโต เอว ปรเม อุตฺตเม สุชนสฺส สุขานยเน นยเน นยนุปเม วินเย รโต อภิรโต ปธานรโตปิ วินเย อชฺฌายนาทีสุ โยคมาปชฺชนฺโตปิ ปฏุ โหติ ปฏุตโร โหติ กึ, น โหเตว. ตสฺมา วินเย ปาฏวตฺถินา เอตฺเถว สกฺกจฺจาภิโยโค กาตพฺโพติ สงฺเขปโต สาธิปฺปายา อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. อถ วา ปธาเน จตุพฺพิเธ สมฺมปฺปธาเน วีริเย รโต อภิรโต โย ปน นโร สารมเต อิธ อิมสฺมึ วินยวินิจฺฉเย ยโต รมเต, อโต ตสฺมา โส อนยูปรเม สุชนสฺส สุขานยเน วินเย ปฏุ โหติ กุสโล โหตีติ โยชนาติ โน ขนฺติ.
หิตวิภาวนํ หิตปฺปกาสกํ ภาวนํ ภาวนียํ อาเสวิตพฺพํ สุรสมฺภวํ สุรสํ สมานํ สุรสํ ภูตํ สมฺภวํ สุขเหตุกํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ โย อเวทิ อฺาสิ, โส ปุคฺคโล มารพฬิสาสเน มารวิสยปฺปหานกเร, อถ วา มารพฬิสสฺส ¶ มารสฺส วตฺถุกามามิสาวุตกิเลสกามพฬิสสฺส อสเน วชฺชมาเน สาสเน ติวิเธปิ ชินสาสเน, ตตฺถาปิ ปฏิปตฺติปฏิเวธานํ ปติฏฺานภูเต ปริยตฺติสาสเน, ตตฺราปิ สกลสาสนสฺส ชีวิตสมาเน วินยปฺตฺติสงฺขาตปริยตฺติสาสเนกเทเส ปาลินา วินยปริยตฺติยํ เอตทคฺเค ปเนน สาสนปาลเน ตํมูลภาวโต ปาลสงฺขาตวินยปริยตฺติยา ปสตฺถตเรน อุปาลินา อุปาลิมหาเถเรน สโม ภวตีติ โยชนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ปมปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๙. อิทานิ ทุติยํ ปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. โส จ ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺโพ, เถยฺยจิตฺเตน อาทิยนฺโต ปราชิโตติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกํ อารามาทึ อภิยฺุชิตฺวา สามิกํ ปราเชตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ตทตฺถาย กเต ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ, สามิกสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยฺจ ¶ อาปชฺชิตฺวา ตสฺส จ อตฺตโน จ ธุรนิกฺเขเปน ปาติโมกฺขสํวรสีลสมฺปตฺติยา อทายาโท หุตฺวา ปราชิโต โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ตถา’’ติ จ ‘‘อปี’’ติ จ ‘‘ปราชิโต’’ติ จ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ อิมินา สห เอกโต กตฺวา ‘‘หรนฺโต’’ติอาทีหิ จตูหิปิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. เถยฺยจิตฺเตน หรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา สีสาทีหิ ปรสนฺตกํ ภณฺฑํ หรนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ภณฺฑสฺส อามสเน ¶ ทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา สีสโต ขนฺโธหรณาทิปโยคํ กโรนฺโตปิ ตถา ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน อวหรนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อฺเหิ สงฺโคปนาทึ สนฺธาย อตฺตนิ อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ โจทิยมาโน ‘‘น มยา คหิต’’นฺติอาทินา มุสา วตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ ตสฺส วิมตุปฺปาทเน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ตเถว ธุรนิกฺเขเปน ปราชิโต โหตีติ. ‘‘นาหํ อคฺคเหสิ’’นฺติอาทินา อวชานิตฺวา ปฏิกฺขิปิตฺวา หรนฺโต ‘‘อวหรนฺโต’’ติ วุตฺโต.
เถยฺยจิตฺเตน อิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ยํ ปน อฺเสํ ภณฺฑหรณกมนุสฺสาทีนมฺตรํ ‘‘เตน ภณฺเฑน สห คณฺหามี’’ติ ภณฺฑํ หรนฺตํ เถยฺยจิตฺเตน นิวาเรตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ตสฺส ปกติอิริยาปถํ วิโกเปนฺโตปิ ปมปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจยมาปชฺชิตฺวา ทุติยปทวาราติกฺกเมน ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เถยฺยจิตฺเตน านา จาเวนฺโตปิ ตถา ปราชิโตติ โยชนา. ถลาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน อวหริตุกามตาย ิตฏฺานโต อปเนนฺโตปิ ทุติยปริเยสนาทีสุ อามสนาวสาเนสุ สพฺเพสุปิ ปโยเคสุ ทุกฺกฏานิ จ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ อาปชฺชิตฺวา อุปริ วกฺขมานปฺปกาเรสุ วิย ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺโต ตเถว ปราชิโต โหตีติ อตฺโถ.
เอวเมตาย คาถาย ‘‘อาทิเยยฺย หเรยฺย อวหเรยฺย อิริยาปถํ วิโกเปยฺย านาจาเวยฺย สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ ¶ (ปารา. ๙๒) ปทภาชนาคเตสุ ฉสุ ปเทสุ อาโท ปฺจ ปทานิ สงฺคเหตฺวา ¶ ฉฏฺํ ปทํ กสฺมา น สงฺคหิตนฺติ เจ? อยํ คาถา น ตํปทภาชนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา, อถ โข เตสํ ปทานํ วินิจฺฉยํ สนฺธาย อฏฺกถาสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) วุตฺตปฺจวีสติอวหาเร ทสฺเสตุํ ตทวยวภูตปฺจปฺจกานิ ทสฺเสตุกาเมน วุตฺตา, ตสฺมา เอตฺถ ฉฏฺํ ปทํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา วกฺขมาเน ตติยปฺจเก นิสฺสคฺคิยาวหารปเทน, ปฺจมปฺจเก ปริกปฺปาวหารปเทน จ สงฺคยฺหมานตฺตา เอตฺถ นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ฉฏฺํ ปทํ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๐. อิมสฺมึ อทินฺนาทานปาราชิเก วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ กตฺตพฺพวินิจฺฉยสฺส ปฺจวีสติอวหารานํ องฺคานิ โหนฺติ, เต จ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ นิทฺทิฏฺา ปฺจปฺจกเภทา, ตตฺถ อิมาย คาถาย นาเนกภณฺฑปฺจกทฺวยปฺปเภเท ทส อวหาเร สงฺคเหตฺวา อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ คาถายํ. นาเนกภณฺฑานนฺติ นานา, เอโก จ ภณฺโฑ เยสนฺติ วิคฺคโห. สวิฺาณกอวิฺาณกภณฺฑวเสน นานาภณฺฑปฺจกฺจ สวิฺาณกภณฺฑวเสเนว เอกภณฺฑปฺจกฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจ ปริมาณา เยสนฺเต ปฺจกา, เตสํ. อวหาราติ อวหรณานิ, โจรกมฺมานีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตติ อนนฺตรคาถาย ‘‘อาทิยนฺโต’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺา อาทิยนฺตาทโย. ปฏิปตฺติสนฺตาเน วิเสสํ วินิจฺฉยํ ภาเวติ อุปฺปาเทตีติ วิภาวี, วินยธโร, เตน วิภาวินา. วิฺาตพฺพาติ ปเรสํ อารามาทิสวิฺาณกวตฺถูนิ วา ทาสมยูราทึ เกวลํ สวิฺาณกวตฺถุมตฺตํ วา อวหริตุํ กตา ยถาวุตฺตสรูปา อาทิยนาทโย านาจาวนปริโยสานา ¶ ปฺจ อวหารา ยถาวุตฺตนานาภณฺฑเอกภณฺฑวิสยา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกนฺติ ทส อวหารา ภวนฺตีติ วินยธเรน โอติณฺณสฺส วตฺถุโน วินิจฺฉโยปการกตฺตา ตถโต าตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๑. เอวํ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตุํ วตฺตพฺเพสุ ปฺจสุ ปฺจเกสุ นาเนกภณฺฑปฺจกานิ ทฺเว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสปฺจกตฺตยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สาหตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ สาหตฺโถติ สโก หตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺโถ, อวหาโร, โจเรน สหตฺถา กโต อวหาโรติ อตฺโถ. อาณตฺติโก เจวาติ อาณตฺติยา นิพฺพตฺโต อาณตฺติโก, อวหาโร, โจรสฺส ‘‘อิมํ นาม ภณฺฑํ คณฺหา’’ติ ยสฺส กสฺสจิ อาณาปเนน ¶ สิทฺโธ อวหาโร จ. นิสฺสคฺโคติ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค, อวหาโร, สุงฺกฆาตฏฺาเน, ปริกปฺปิโตกาเส วา ตฺวา ภณฺฑสฺส พหิ ปาตนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อตฺถสาธโกติ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก, โส อวหาโร จ ยถาณตฺติกํ อวิราเธตฺวา เอกํเสน อวหรนฺตสฺส ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อวิเสเสน วา อวหริตพฺพวตฺถุวิเสโส คหณกาโล คหณเทโส คหณากาโร จาติ เอวมาทิวิเสสานมฺตเรน วิเสเสตฺวา วา อาณาปนฺจ เอกํเสน ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ อุปาหนาทิกิฺจิวตฺถุํ เตลภาชนาทีสุ ปาตนาทิปฺปโยโค จาติ เอวมาทิปฺปโยโค จ กิริยาสิทฺธิยา ปุเรตรเมว ปาราชิกสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส สาธนโต อตฺถสาธโก อวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ.
ธุรนิกฺเขปนฺจาติ ¶ ธุรสฺส นิกฺเขปนํ ธุรนิกฺเขปนํ, ตฺจ อวหาโร, ปรสนฺตกานํ อารามาทีนํ อภิโยควิสเย จ อุปนิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑาทิโน วิสเย จ โจรสฺส สามิโน วิสฺสชฺชเน จ สามิโน จ, ยทา กทาจิ ยถากถฺจิ คณฺหิสฺสามีติ คหเณ นิรุสฺสาหภาวสงฺขาโต ธุรนิกฺเขปาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. อิติ อิทํ ธุรนิกฺเขปนฺจ ยถาวุตฺตปฺปการํ สาหตฺถาทิจตุกฺกฺจ ปฺจนฺนํ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ, สาหตฺถาทิปฺจกํ ‘‘สาหตฺถปฺจก’’นฺติ วุจฺจติ. อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ.
๔๒. ปุพฺพสหปโยคา จาติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺพปโยโค สหปโยโค’’ติ ปโยค-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) ยถาณตฺติกมวิราเธตฺวา คณฺหโต ‘‘อสุกสฺส อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณาปนํ ปุพฺพปโยโค นาม อวหาโร. กาเยน, วาจาย วา ปยุชฺชนํ อาณาปนํ ปโยโค, อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺโพ จ โส ปโยโค จาติ ปุพฺพปโยโค อวหาโรติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘านาจาวนวเสน สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาวจนสฺส อุปลกฺขณปทตฺตา านาจาวนฺจ ปรายตฺตภูมิคหเณ ขีลสงฺกมนาทิกฺจ สหปโยโค อวหาโรติ เวทิตพฺโพ.
สํวิทาหรณนฺติ พหูหิ เอกโต หุตฺวา ‘‘อิทํ นาม ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สพฺเพหิ, เอกโต วา สพฺเพสํ อนุมติยา เอเกน วา คนฺตฺวา ปรสนฺตกสฺส เถยฺยจิตฺเตน หรณสงฺขาโต สํวิทาวหาโร จ. สมํ เอกี หุตฺวา วิสุํ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห ¶ วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ ¶ . สํวิทหิตฺวา มนฺเตตฺวา อวหรณํ สํวิทาหรณํ. นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ‘‘สํวิทาหรณ’’นฺติ ‘‘สํวิทาวหาโร’’ติ อิมสฺส เววจนํ. ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๘) วจนโต เอวํ สหกตมนฺตเนสุ เอเกนาปิ เถยฺยจิตฺเตน ปาเท วา ปาทารเห วา คหิเต กตมนฺตนานํ สพฺเพสํ ปาราชิกํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สงฺเกตกมฺมนฺติ ปุพฺพณฺหาทิกาลปริจฺเฉเทน สฺชานนํ สงฺเกโต, เตน กตํ กมฺมํ อวหรณํ สงฺเกตกมฺมํ นาม. ตํ ปน ปุเรภตฺตาทีสุ กฺจิ กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ วุตฺเต ตสฺมึเยว กาเล ตํเยว ยถาวุตฺตํ ภณฺฑํ อวหรติ เจ, สงฺเกตการกสฺส สงฺเกตกฺขเณเยว ปาราชิกนฺติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
เนมิตฺตนฺติ ปรภณฺฑาวหารสฺส เหตุตฺตา อกฺขินิขณนาทิ นิมิตฺตํ นาม, เตน นิพฺพตฺตํ เนมิตฺตํ, อวหรณสงฺขาตกมฺมํ อวหาโร. ‘‘มยา อกฺขิมฺหิ นิขณิเต วา ภมุมฺหิ อุกฺขิตฺเต วา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณตฺเตน ตํ นิมิตฺตํ ทิสฺวา วุตฺตเมว ภณฺฑํ วุตฺตนิยามมวิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการกสฺส นิมิตฺตกรณกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. วุตฺตนิยามํ วิราเธตฺวา คหิตํ เจ, นิมิตฺตการโก มุจฺจติ, อวหารกสฺเสว ปาราชิกํ. ปุพฺพปโยโค อาทิ ยสฺส ตํ ปุพฺพปโยคาทิ, ปุพฺพปโยคาทิ จ ตํ ปฺจกฺจาติ วิคฺคโห.
๔๓. เถยฺยฺจ ปสยฺหฺจ ปริกปฺโป จ ปฏิจฺฉนฺโน จ กุโส จ เถยฺยปสยฺหปริกปฺปปฏิจฺฉนฺนกุสา, เต อาที อุปปทภูตา เยสํ อวหารานํ เต เถยฺย…เป… กุสาทิกา ¶ , อวหารา, อิมินา เถยฺยาวหาโร จ…เป… กุสาวหาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เถยฺยาวหาโรติ เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, เอตฺถ น-การโลโป นิรุตฺตินเยน ทฏฺพฺโพ, เตน อวหรณํ เถยฺยาวหาโร, สนฺธิจฺเฉทาทิวเสน อทิสฺสมาเนน คหณฺจ กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วฺเจตฺวา คหณฺจ เถยฺยาวหาโร.
ปสยฺห อภิภวิตฺวา อวหรณํ ปสยฺหาวหาโร, คามวิโลปกา วิย สามิเก อภิภวิตฺวา คหณฺจ ราชภฏาทโย วิย อภิภวิตฺวา นิพทฺธกรคฺคหเณ อธิกคฺคหณฺจ ปสยฺหาวหาโร.
วตฺถสุตฺตาทิกํ ¶ ปริจฺฉิชฺช กปฺเปตฺวา อวหรณํ ปริกปฺปาวหาโร, โส จ ภณฺโฑกาสปริกปฺปวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ อนฺธการปฺปเทสํ ปวิสิตฺวา สุตฺตาทิภณฺฑานิ ตตฺถ นิกฺขิตฺตานิ, เต เปฬาทโย คณฺหนฺตสฺส ‘‘วตฺถานิ เจ คณฺหิสฺสามิ, สุตฺตานิ เจ น คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปริกปฺเปตฺวา อุกฺขิปนํ ภณฺฑปริกปฺปปุพฺพกตฺตา ภณฺฑปริกปฺปาวหาโร นาม. อารามปริเวณาทีนิ ปวิสิตฺวา โลภนียํ ภณฺฑํ ทิสฺวา คพฺภปาสาทตลปมุขมาฬกปาการทฺวารโกฏฺกาทึ ยํ กิฺจิ านํ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘เอตฺถนฺตเร ทิฏฺโ เจ, โอโลเกตุํ คหิตํ วิย ทสฺสามิ, โน เจ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อาทาย คนฺตฺวา ปริกปฺปิตฏฺานาติกฺกโม โอกาสปริกปฺปปุพฺพกตฺตา โอกาสปริกปฺปาวหาโร นามาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺโพ.
ติณปณฺณาทีหิ ¶ ปฏิจฺฉนฺนสฺส ภณฺฑสฺส อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, อุยฺยานาทีสุ กีฬมาเนหิ วา สงฺฆปริวิสนฺเตหิ วา มนุสฺเสหิ โอมฺุจิตฺวา ปิตํ อลงฺการาทิกํ ยํ กิฺจิ ภณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘โอณมิตฺวา คณฺหนฺเต อาสงฺกนฺตี’’ติ ตฺวา ติณปณฺณปํสุวาลุกาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สามิเกสุ ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา สาลเยสุ คเตสุ ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน คหณฺจ ตเทว ภณฺฑํ กทฺทมาทีสุ เถยฺยจิตฺเตน องฺคุฏฺาทีหิ ปีเฬตฺวา โอสีทาเปตฺวา เหฏฺาภาเคน ผุฏฺฏฺานํ อุปริภาเคน อติกฺกมนฺจ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโรติ วุตฺตํ โหติ.
กุเสน อวหาโร กุสาวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปรโกฏฺาสสฺส อคฺเฆน มหนฺตสฺส วา สมสมสฺส วา คหณนฺติ อตฺโถ. โย ปน ภิกฺขุ กุสปาตเนน สงฺฆสฺส จีวเรสุ ภาชิยมาเนสุ อตฺตโน โกฏฺาเสน สมํ วา อธิกํ วา อูนกํ วา อคฺเฆน ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อฺสฺส โกฏฺาสํ อวหริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสํ ปรโกฏฺาเส ปาเตตุกาโม อุทฺธรติ, ตงฺขเณ จ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ น ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาสโต ปรนามลิขิตํ กุสํ อุกฺขิเปนฺโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนาเมติ, ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปมํ ปรโกฏฺาสโต กุสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ จ อตฺตโน โกฏฺาเส ปาติตกฺขเณ จ สกนามลิขิตํ กุสํ อุทฺธรณกฺขเณ จ ปาราชิกํ อนาปชฺชิตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาตนกฺขเณ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต ปาราชิโก โหติ.
ยทิ ¶ ทฺเวปิ กุเส ปฏิจฺฉาเทตฺวา สพฺเพสุ ภิกฺขูสุ สกสกโกฏฺาสํ อาทาย คเตสุ ยสฺมึ กุสํ ปฏิจฺฉาเทสิ, ตสฺส สามิเกน อาคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ กุโส กสฺมา น ¶ ทิสฺสตี’’ติ วุตฺเต โจโร ‘‘มยฺหมฺปิ กุโส น ทิสฺสตี’’ติ วตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺส สนฺตกํ วิย ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ วิวทิตฺวา วา อวิวทิตฺวา วา คเหตฺวา คเต อิตรํ โกฏฺาสํ อุทฺธรติ เจ, อุทฺธฏกฺขเณเยว ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร ‘‘มยฺหํ โกฏฺาสํ ตุยฺหํ น เทมิ, ตฺวํ ตุยฺหํ โกฏฺาสํ วิจินิตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ, เอวํ วุตฺเต โส อตฺตโน อสฺสามิกภาวํ ชานนฺโตปิ ปรสฺส โกฏฺาสํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏกฺขเณ ปาราชิโก โหติ. ยทิ ปโร วิวาทภีรุกตฺตา ‘‘กึ วิวาเทนา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยฺหํ วา ปตฺตํ โหตุ ตุยฺหํ วา, วรโกฏฺาสํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วเทยฺย, ทินฺนกํ นาม คหิตํ โหตีติ ปาราชิกํ น โหตีติ. ยทิ ‘‘ตว รุจฺจนกํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺโต วิวาทภเยน อตฺตโน ปตฺตํ วรภาคํ เปตฺวา ลามกภาคํ คเหตฺวา คโต, โจโร ปจฺฉา คณฺหนฺโต วิจิตาวเสสํ นาม อคฺคเหสีติ ปาราชิโก น โหติ. เอวํ กุสาวหารวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๔๔. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานปาราชิกสฺส วินิจฺฉยาวยวรูเปน อุคฺคเหตพฺเพ ปฺจวีสติ อวหาเร ทสฺเสตฺวา อิทานิ อทินฺนาทานวินิจฺฉเย สมฺปตฺเต สหสา อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวา ปมํ โอโลเกตพฺพานิ ปฺจ านานิ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺถุกาลคฺฆเทเส จา’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ วตฺถุ นาม อวหฏภณฺฑํ. กึ วุตฺตํ โหติ? อวหารเกน ‘‘มยา อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ ตสฺส ภณฺฑสฺส สสฺสามิกอสฺสามิกภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา สสฺสามิกํ ¶ เจ, อวหารกาเล เตสํ สาลยภาวํ วา นิราลยภาวํ วา นิยเมตฺวา สาลยกาเล เจ คหิตํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกเฏน, อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจเยน, ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิเกน กาตพฺโพ. สามิกานํ นิราลยกาเล เจ คหิตํ, นตฺถิ ปาราชิกํ. ภณฺฑสามิเก ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเต ตํ วา ภณฺฑํ ตทคฺฆนกํ วา ทาตพฺพนฺติ.
กาโล นาม อวหารกาโล. ภณฺฑํ นาเมตํ กทาจิ มหคฺฆํ โหติ, กทาจิ สมคฺฆํ. ตสฺมา ¶ อวหฏภณฺฑสฺส อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนฺเตหิ อวหฏกาลานุรูปํ กตฺวา ปริจฺฉินฺทนตฺถํ กาลวินิจฺฉโย กาตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
อคฺโฆ นาม อวหฏภณฺฑสฺส อคฺโฆ. เอตฺถ จ สพฺพทา ภณฺฑานํ อคฺโฆ สมานรูโป น โหติ, นวภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, ปุราณํ เจ สมคฺฆํ. ตสฺมา อวหารกาเล ภณฺฑสฺส นวภาวํ วา ปุราณภาวํ วา นิยเมตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
เทโส จาติ ภณฺฑาวหารเทโส. เอตฺถ จ สพฺพสฺสาปิ ภณฺฑสฺส อุฏฺานเทเส สมคฺฆํ หุตฺวา อฺตฺถ มหคฺฆตฺตา อวหฏภณฺเฑ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตทนุรูปา อาปตฺติโย นิยมนฺเตหิ อคฺฆํ ปริจฺฉินฺทนตฺถาย อวหารเทสํ นิยเมตฺวา ตสฺมึ เทเส อคฺฆวเสน ตทนุรูปา อาปตฺติโย กาเรตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
ปริโภโค นาม อวหฏภณฺเฑ อวหารโต ปุพฺเพ ปเรหิ กตปริโภโค. เอตฺถ จ ยสฺส กสฺสจิ ภณฺฑสฺส ปริโภเคน อคฺโฆ ปริหายตีติ ภณฺฑสามิกํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺมึ ¶ ภณฺเฑ นเวปิ เอกวารมฺปิ เยน เกนจิ ปกาเรน ปริภุตฺเต ปริหาเปตฺวา อคฺโฆ ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
เอวมาทินา นเยน เอตานิ ปฺจ านานิ อุปปริกฺขิตฺวาว วินิจฺฉโย กาตพฺโพติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจปิ ตฺวา เอตานิ กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน วินิจฺฉโย’’ติ.
๔๕. เอตฺตาวตา อทินฺนาทานวินิจฺฉยาวยวภูเต ปฺจวีสติ อวหาเร จ ปฺจฏฺานาวโลกนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาคเต ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปรสนฺตกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ เยน เกนจิ ปกาเรน คณฺหโต โมกฺขาภาวํ ทสฺเสตุกาเมน ตถาคเตน ยา ปเนตา –
ภูมฏฺฺจ ถลฏฺฺจ;
อากาสฏฺ มถาปรํ;
เวหาสฏฺโ ¶ ทกฏฺฺจ;
นาวา ยานฏฺเมว จ.
ภารา ราม วิหารฏฺํ;
เขตฺต วตฺถุฏฺเมว จ;
คามา รฺฏฺ มุทกํ;
ทนฺตโปโน วนปฺปติ.
หรณโก ปนิธิ เจว;
สุงฺกฆาตกํ ปาณกา;
อปทํ ทฺวิปทฺเจว;
จตุปฺปทํ พหุปฺปทํ.
โอจรโกณิรกฺโข จ;
สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺต-
มิติ ตึ เสตฺถ มาติกา. –
นิกฺขิตฺตา ¶ , ตาสํ ยถากฺกมํ ปทภาชเน, ตทฏฺกถาย จ อาคตนเยน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว ภูมฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุติยํ วาปี’’ติอาทิ.
ตตฺถ ทุติยํ เถยฺยจิตฺเตน ปริเยสโต ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพปเทสุ. อุปริ สฺชาตาหิ รุกฺขลตาหิ, อิฏฺกปาสาณาทีหิ จ สฺฉนฺนํ มหานิธึ อุทฺธริตุกาเมน ‘‘มยา เอเกเนว น สกฺกา’’ติ อตฺตโน อฺํ สหายํ ปริเยสิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สยิตฏฺานา อุฏฺานาทีสุ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. กุทาลํ ภูมิขณนตฺถาย ปิฏกํ วาปิ ปํสุอุทฺธรณตฺถาย ยํ กิฺจิ ภาชนํ. อิเมสุ ทฺวีสุ กุทาลสฺส เจ ทณฺโฑ นตฺถิ, ทณฺฑตฺถาย รุกฺขโต ทณฺฑํ ฉินฺทโต จ กุทาโล เจ น โหติ, กุทาลกรณตฺถาย อโยพีชํ อุทฺธรณตฺถาย อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตสฺสปิ ปจฺฉิกรณตฺถาย ปณฺณานิ ฉินฺทโตปิ ปิฏกวายนตฺถาย วลฺลึ ฉินฺทโตปิ ¶ อุภยตฺถาปิ ปริเยสเน มุสา ภณโตปิ ทุกฺกฏฺเจว ปาจิตฺติยฺจ, อิตรปโยเคสุ ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ.
คจฺฉโตติ ทุติยาทึ ปริเยสิตฺวา ลทฺธา วา อลทฺธา วา นิธิฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสตี’’ติอาทิ ปาฬิยํ (ปารา. ๙๔) ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา, อิธ ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ วจนโต ‘‘อิมํ นิธึ ลภิตฺวา พุทฺธปูชํ วา กริสฺสามิ, สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามี’’ติ เอวมาทินา นเยน กุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา สติ อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺพโยคโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคภาวโต, ทุติยปริเยสนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
ทุกฺกฏฺจ ¶ อฏฺวิธํ โหติ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ สหปโยคทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ าตทุกฺกฏํ ตฺติทุกฺกฏํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏนฺติ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา กุทาลํ วา ปิฏกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. อิธ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยํ, อิตเรสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ สหปโยคทุกฺกฏํ. อิธ อทินฺนาทานสหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยวตฺถุมฺหิ, อิตรตฺร จ ทุกฺกฏเมวาติ อยเมตฺถ วิเสโส. มุตฺตามณิอาทีสุ ทสสุ รตเนสุ, สาลิอาทีสุ สตฺตสุ ธฺเสุ, สพฺเพสุ จ อาวุธภณฺฑาทีสุ อามสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. กทลินาฬิเกรปนสาทิรุกฺขฏฺเมว ผลํ อามสนฺตสฺส วุตฺตํ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. อุปจรณํ อุปจิณฺณํ, ปรามสนนฺติ อตฺโถ. ทุฏฺุ อุปจิณฺณํ ทุรุปจิณฺณํ, ทุรุปจิณฺเณ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. ภิกฺขาจารกาเล ปตฺเต รชสฺมึ ปติเต ปตฺตํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อโธวิตฺวา วา ภิกฺขาปฏิคฺคหเณน ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ, วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. กิฺจาปิ อวเสสทุกฺกฏานิปิ วินเย ปฺตฺตาเนว, ตถาปิ รุฬฺหิยา มยูราทิสทฺเทหิ โมราทโย วิย อิทเมว ตถา วุจฺจติ. ‘‘สุตฺวา น วทนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตํ าตทุกฺกฏํ นาม. เอกาทสสุ สมนุภาสนาสุ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ ตฺติทุกฺกฏํ. ‘‘ตสฺส ภิกฺขเว ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๗) วุตฺตํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ นาม. อิเมสุ อฏฺสุ ทุกฺกเฏสุ อิธ อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. เตนาห ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ¶ อุปสคฺคํ อนาทิยิตฺวา ‘‘ปุพฺพปโยคโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปุพฺพโยคโต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
เอตฺถ ¶ จ กิฺจาปิ อิเมสุ ทุกฺกเฏสุ อสงฺคหิตานิ อุภโตวิภงฺคาคตานิ ทิวาเสยฺยาทิทุกฺกฏานิ เจว ขนฺธกาคตานิ จ พหูนิ ทุกฺกฏานิ สนฺติ, ตานิ ปเนตฺถ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคหิตพฺพานิ. ‘‘วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏ’’นฺติ หิ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๙๔) วุตฺตนฺติ. อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปน รโชกิณฺณทุกฺกฏสฺเสว ‘‘วินยทุกฺกฏ’’นฺติ คหณํ อุปลกฺขณมตฺตํ. อิตรถา อฏฺ ทุกฺกฏานีติ คณนาปริจฺเฉโทเยว นิรตฺถโก สิยาติ ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏาทีนมฺปิ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพภาเวปิ กติปยานิ ทสฺเสตฺวา อิตเรสเมกโต ทสฺสนตฺถํ เตสํ วิสุํ คหณํ สุตฺตงฺคสงฺคหิตตฺเตปิ เคยฺยคาถาทีนํ อฏฺนฺนํ วิสุํ ทสฺสนํ วิยาติ เวทิตพฺพํ.
๔๖. ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วาติ ตสฺมึ จิรนิหิตนิธูปริ ชาตํ อลฺลํ สุกฺขํ กฏฺํ วา. ลตํ วาติ ตาทิสํ วลฺลึ วา. อิทํ อุปลกฺขณํ ติณาทีนํ ขุทฺทกคจฺฉานฺจ คเหตพฺพตฺตา. อุภยตฺถาปีติ อลฺเล จ สุกฺเข จาติ วุตฺตํ โหติ. อลฺลรุกฺขาทีนิ ฉินฺทโต ปาจิตฺติยํ อหุตฺวา ทุกฺกฏมตฺตสฺส ภวเน การณํ ทสฺเสติ ‘‘สหปโยคโต’’ติ. อวหาเรน สหิตปโยคตฺตา ปาจิตฺติยฏฺาเนปิ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สหปโยคโต อุภยตฺถาปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺโต ปมคาถาย ทสฺสิตปุพฺพปโยคโต อิมาย ทสฺสิตสหปโยคสฺส วิเสสํ ทสฺเสติ.
๔๗. ปถวินฺติ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ปถวึ. อกปฺปิยปถวึ ขณโต สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว. พฺยูหโตติ ปํสุํ เอกโต ราสึ กโรนฺตสฺส. ‘‘วิยูหติ เอกปสฺเส ราสึ กโรตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อูห-อิจฺเจตสฺส ธาตุโน วิตกฺเก อุปฺปนฺนตฺเตปิ ธาตูนมเนกตฺถตฺตา วิ-อุปสคฺควเสน ¶ อิธ ราสิกรเณ วตฺตตีติ คเหตพฺพํ. ราสิภูตํ ปํสุํ กุทาเลน วา หตฺเถน วา ปจฺฉิยา วา อุทฺธรนฺตสฺส จ อปเนนฺตสฺส จ ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ ปํสุเมว วาติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อามสนฺตสฺสาติ นิธิกุมฺภึ หตฺเถน ปรามสนฺตสฺส. วาติ สมุจฺจเย. ทุกฺกฏนฺติ ทุฏฺุ กตํ กิริยํ สตฺถารา วุตฺตํ วิราเธตฺวา ขลิตฺวา กตตฺตาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ทุกฺกฏนฺติ ¶ หิ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ, ขลิตํ ยฺจ ทุกฺกฏ’’นฺติ.
ทุฏฺุ วา วิรูปํ กตํ กิริยาติ ทุกฺกฏํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๙) –
‘‘ยํ มนุสฺโส กเร ปาปํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;
‘ทุกฺกฏ’นฺติ ปเวเทนฺติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิคาถาทฺวยาคตํ เฉทนทุกฺกฏํ ขณนทุกฺกฏํ พฺยูหนทุกฺกฏํ อุทฺธรณทุกฺกฏํ อามสนทุกฺกฏนฺติ ปฺจสุ สหปโยคทุกฺกเฏสุ ปุริมปุริมปโยเคหิ อาปนฺนา ทุกฺกฏาปตฺติโย ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ทุกฺกฏํ ปตฺวา ปฏิปสฺสมฺภนฺติ, ตํตํปโยคาวสาเน ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา โอรมติ เจ, ตํตํทุกฺกฏมตฺตํ เทเสตฺวา ปริสุทฺโธ โหติ. ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ปตฺวา อามสนทุกฺกฏํ ปฏิปสฺสมฺภตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) วุตฺตํ. ยถาปาฬิยา คยฺหมาเน ปุริมปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปสฺสทฺธิ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ ¶ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปสฺสมฺภนฺตี’’ติ ปาฬิยํ (ปารา. ๔๑๔, ๔๒๑, ๔๒๘, ๔๓๙) อาคตตฺตา อนุสฺสาวนาย เอว ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อิมสฺส ปน สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน มหาอฏฺกถายํ วุตฺตา อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเทปิ อาปตฺติปฏิปสฺสทฺธิ ปมาณนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
๔๘. ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตํ านาจาวเน ปาราชิกฺจ ตสฺส สามนฺตาปตฺติภูตํ ถุลฺลจฺจยฺจ านเภทวิฺาปนมุเขน วตฺตพฺพนฺติ อิทานิ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุเขปาส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มุเข กุมฺภิมุขวฏฺฏิยํ. ปาสํ ปเวเสตฺวาติ พนฺธนํ ปาสํ ปกฺขิปิตฺวา. ขาณุเกติ อโยขาณุมฺหิ, ขทิรขาณุเก วา. พทฺธกุมฺภิยา านเภโท พนฺธนานํ วสา เยฺโยติ สมฺพนฺโธ.
๔๙. อิทานิ านเภทํ ทสฺเสติ ‘‘ทฺเว’’ติอาทินา. ‘‘เอกสฺมึ ขาณุเก’’ติ อิมินา ทฺวีสุ ทิสาสุ วา ตีสุ จตูสุ วา ทิสาสุ ขาณุเก ขณิตฺวา พทฺธขาณุคณนาย สมฺภวนฺโต านเภโท ¶ อุปลกฺขิโต โหติ. วลยํ…เป… กตาย วา ทฺเว านานีติ โยชนา. วาติ สมุจฺจเย อุปลกฺขิโต โหติ.
๕๐. เอวํ านเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ านวเสน อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทฺธรนฺตสฺสา’’ติอาทิ. สงฺขลินฺติ ทามํ. ถุลฺลจฺจยนฺติ เอกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺพาสุ อาปตฺตีสุ ถูลตฺตา, อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจยํ นาม. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร –
‘‘ถุลฺลจฺจยนฺติ ¶ ยํ วุตฺตํ;
ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
เอกสฺส มูเล โย เทเสติ;
โย จ ตํ ปฏิคณฺหติ;
อจฺจโย เตน สโม นตฺถิ;
เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);
เอตฺถ จ ถูลจฺจยนฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘สมฺปราเย จ (สํ. นิ. ๑.๔๙) สุคฺคติ, ตํ โหติ กฏุกปฺผล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๖) วิย ลการสฺส ทฺวิตฺตํ, สํโยเค อูการสฺส รสฺโส จ เวทิตพฺโพ. ตโต สงฺขลิกเภทโต ปรํ. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. เอตฺถ จ นาวฏฺกถายํ ‘‘อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) วุตฺตนเยน ‘‘ติริย’’นฺติ วุตฺตา จตสฺโส ทิสา, อุทฺธมโธ จาติ ฉฏฺานานิ. ตาสุ เอกํ ทิสํ อปนียมานาย กุมฺภิยา ตํทิสาภิมุขํ อิตรทิสายํ ิตปสฺเส โอริมทิสาย ิตปสฺเสน ผุฏฺโกาสสฺส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนติกฺกนฺเต ผนฺทาปนวเสน ถุลฺลจฺจยํ โหติ, อติกฺกนฺเต านา จาวิตตฺตา ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺโพ. อิมเมว สนฺธายาห ‘‘านา จาเวติ เจ จุโต’’ติ. เอเสว นโย ผนฺทนรหิตาย นิธิกุมฺภิยา านาจาวเนปิ.
๕๑. เอวํ ปมํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา กุมฺภิคฺคหเณ นยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปมํ กุมฺภึ อปเนตฺวา ปจฺฉา พนฺธนาปนยเน นยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. โส นโยติ ‘‘ปมุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยุทฺธาเร ปาราชิก’’นฺติ ตเมวตฺถมติทิสติ.
๕๒. วลยนฺติ ¶ ¶ กุมฺภิยา พทฺธสงฺขลิกาย มูเล ปเวสิตํ วลยํ. มูเล ฆํสนฺโต อิโต จิโต จ สาเรตีติ โยชนา. ฆํสนฺโตติ ผุสาเปนฺโต. อิโต จิโต จ สาเรตีติ โอรโต จ ปารโต จ สฺจาเลติ. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘สีลํ ภิกฺขุ’’นฺติ ปาเสโส, ปาราชิกํ นาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มูเล. เขคตํ กโรนฺโตวาติ สพฺพปสฺสโต มูลํ อผุสาเปตฺวา อากาสคตํ กโรนฺโตว. ปราชิโตติ านาจาวนสฺส กตตฺตา ปราชยมาปนฺโน โหติ.
๕๓. กุมฺภิมตฺถเก ชาตนฺติ โยชนา. จิรกาลํ นิหิตตฺตา มูเลหิ กุมฺภึ วินนฺธิตฺวา ิตนฺติ อตฺโถ. สมีเป ชาตํ รุกฺขํ ฉินฺทโตติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา’’ติอาทิกาย คาถาย นิธิมตฺถเก ภูมิยํ ิตรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส อาปตฺติ วุตฺตา, อิมาย ปน คาถาย ภูมึ นิขณิตฺวา โอติณฺณกาเล นิธึ วินนฺธิตฺวา ิตมูลํ อลฺลรุกฺขํ, ขาณุกํ วา คเหตฺวา อาหาติ ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. ‘‘อตตฺถช’’นฺติ อิมินา สหปโยคาภาวมาห. อิมินาว ปุริมคาถาย วุตฺตํ กฏฺลตาทีนิ นิธิสมฺพนฺธานิ เจ, ยถาวุตฺตทุกฺกฏสฺส วตฺถูนิ, สมีปานิ เจ, ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺถูนีติ ทีเปติ.
๕๔. อิทานิ เอวํ ปริเยสิตฺวา ทิฏฺนิธิภาชนํ ิตฏฺานโต อจาเลตฺวา อนฺโติตํ ภณฺฑมตฺตํ คณฺหโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตกุมฺภิคต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ผนฺทาเปตีติ อนฺโตจาฏิยา ปกฺขิตฺเต อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ ราสิกรณาทิวเสน ผนฺทาเปติ. อปพฺยูหติ วาติ เหฏฺา ิตํ คณฺหิตุํ อุปริ ิตานิ อปเนนฺโต วิยูหติ วา. อถ วา อปพฺยูหนฺโตติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาวจนสฺส ทฺวิธา กโรนฺโตติ ¶ คณฺิปเท อตฺโถ วุตฺโตติ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิปิตุํ อิโต จิโต จ ราสึ กโรนฺโตติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺเถวาติ อนฺโตกุมฺภิยเมว.
๕๕. หรนฺโตติ อวหรนฺโต. มุฏฺึ ฉินฺทตีติ อตฺตโน ภาชนํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหิตุํ อสกฺกุเณยฺโย อนฺโตกุมฺภิมฺหิ หตฺถํ โอตาเรตฺวา กุมฺภิคตภณฺเฑน ยถา อพทฺธํ โหติ, ตถา มุฏฺิยา ปริจฺฉินฺทติ, กุมฺภิคตํ มุฏฺิยา คณฺหนฺโต กุมฺภิคเตน มุฏฺิคตํ ยถา อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปาทคฺฆนกํ วา อติเรกปาทคฺฆนกํ วา คณฺหาตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตโน ภาชเน คตํ กตฺวา วา ฉินฺทตีติ โยชนา. อตฺตโน ภาชนคตํ กตฺวา กุมฺภิคเตน ยถา ¶ อสมฺมิสฺสํ โหติ, ตถา ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ, สเจ อตฺตโน ภาชนคตํ หุตฺวา กุมฺภิคเตน อสมฺมิสฺสํ ภณฺฑํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆติ, ปาราชิโกติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖. หารํ วาติ มุตฺตาหารํ วา. ปามงฺคํ วาติ สุวณฺณมยํ, รชตมยํ วา ปามงฺคํ ทามํ. สุตฺตารุฬฺหนฺติ สุตฺเต อารุฬฺหํ สุตฺตารุฬฺหํ, สุตฺตฺจ สุตฺตารุฬฺหฺจ สุตฺตารุฬฺหนฺติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘สุตฺเตน อาวุตสฺสาปิ สุตฺตมยสฺสาปิ เอตํ อธิวจน’’นฺติ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) ปมมุตฺตาหารํ วินา สุวณฺณรชตปวาฬาทิมณิกํ วา สุตฺเตสุ อาวุณิตฺวา กตา นานาวลิโย เจว สุตฺตมยานิ จ ภณฺฑานิ คเหตพฺพานิ. กุมฺภิยา ิตนฺติ ปาเสโส. ผนฺทาเปตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย จาเลติ. ยถาวตฺถุนฺติ วีติกฺกมานุรูปํ ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. านา จาเวตีติ ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ ¶ . จุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีลา ปริหีโนติ อตฺโถ.
อปริปุณฺณาย กุมฺภิยาเอกเทสฏฺํ ภณฺฑํ ตโต ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ อปเนตฺวา ตตฺเถว อนฺโตกุมฺภิยา อฺํ านํ เนนฺตสฺส จ ตตฺเถว อากาสคตํ กโรนฺตสฺส จ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) เอเตหิ สทิสตฺตา วตฺถุมฺหิ ปาทํ อคฺฆนฺเต ปาราชิกา โหตีติ มหาอฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อิทํ สนฺนิฏฺานํ. ภาชนตเล โกฏึ เปตฺวา กเมน สกลภาชนกุจฺฉึ เตเนว ปูเรตฺวา มุขวฏฺฏิยา เอกา โกฏิ นิกฺขิตฺตา เจ, ตถาปิตสฺส หาราทิโน สกลภาชนํ อฏฺานนฺติ โกฏึ คเหตฺวา อุชุกํ อุกฺขิปนฺตสฺส โอสานโกฏิ ภาชนตลโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสคตํ กโรโต จ มุขวฏฺฏิยํ ฆํสิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส สกลภาชโนทรํ เขเปตฺวา มุขวฏฺฏิยา ปิตโกฏิยา ผุฏฺฏฺานํ อปราย โกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต จ ภาชนกุจฺฉิยา อุปฑฺฒํ วตฺถาทินา เกนจิ ปูเรตฺวา ตสฺโสปริ ปิตหาราทิสุตฺตารุฬฺหสฺส ิโตกาสเมว านนฺติ ตโต เกสคฺคมตฺตํ อปเนนฺตสฺสปิ ปาราชิกํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗. สปฺปิอาทีสูติ ภาชนคเตสุ สปฺปิอาทิทฺรววตฺถูสุ ยํ กิฺจิ. ปาทปูรณนฺติ ปาทํ ปูเรตีติ ปาทปูรณํ, ปาทคฺฆนกนฺติ อตฺโถ. ปิวโต ปราชโยติ สมฺพนฺโธ. กทาติ เจ? เอเกเนว ¶ ปโยเคน ปีตมตฺเต ปาทปูรเณติ โยชนา. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ ปาเสโส. ตตฺถ เอเกเนว ปโยเคนาติ ธุรนิกฺเขปมกตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อากฑฺเฒตฺวา ¶ ปิวนปโยเคน. ‘‘มุขคตํ วินา’’ติ อิมินา สเจ คลคเตเนว ปาโท ปูรติ, อนฺโตคลํ ปวิฏฺเติ วุตฺตํ โหติ. มุขคเตน ปูรติ, มุขคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา โอฏฺเสุ ปิหิเตสูติ วุตฺตํ โหติ. เวฬุนฬาทีหิ อากฑฺเฒตฺวา ปิวนฺตสฺส นาฬคเตน ปูรติ, นาฬคตํ ภาชนคเตน วิโยเชตฺวา นาฬิโกฏิยํ องฺคุลิยา ปิหิตายนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ (ปารา. ๙๔) วุตฺตนยสฺส อนุโลมวเสน มหาปจฺจริยาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔) อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘เอเกเนว ปโยเคน ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ อิมินา สปฺปิอาทีสุ มหคฺเฆสุ ตตฺตเกเนว ปาทปูรณฺเจ โหติ, เอกวารเมว มุเขน วา สปฺปิอาทินา วา ภาชนคเตน เอกาพทฺธภาเว ฉินฺนมตฺเตปิ อตฺตโน ภาชเน กุมฺภึ ปณาเมตฺวา ปกฺขิตฺเตน กุมฺภิคเต ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิโก โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๘. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวนฺตสฺส น ปราชโย’’ติ อิมินา ธุรนิกฺเขปมกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิวโต ปราชโยติ สามตฺถิยา วุตฺตํ โหติ. ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา ปุนปฺปุนํ มุเขน คเหตฺวา วา ปุฏาทีหิ วา คเหตฺวา ปาทปูรณมตฺตํ ปิวนฺตสฺส ปราชโย โหตีติ คเหตพฺพํ.
๕๙-๖๐. สเจ ขิปติ เถยฺยจิตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ยํ กิฺจิ ภณฺฑกนฺติ เตลปิวนารหํ ทุกูลสาฏกจมฺมขณฺฑาทิกํ ภณฺฑํ. เตลกุมฺภิยํ ปรสฺสาติ ลพฺภติ. ตํ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ. ธุวนฺติ เอกํเสน. ตาวเท วินสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. ตาวเทติ ตสฺมึ ขเณเยว. กตรสฺมึ ขเณติ อาห ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺเต’’ติ, เตลสฺส ปีตกาลํ อนาคมฺม ปุพฺพปโยคตฺตา ¶ ปมเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. วินสฺสตีติ สีลวินาสํ ปาปุณาติ. อาวิฺเชตฺวาติ ปณาเมตฺวา. คาเฬตีติ ปคฺฆราเปติ. ‘‘สาเฬตี’’ติปิ ปนฺติ, โสเยว อตฺโถ. สาฬ สวเนติ ธาตุ. ตถาติ ‘‘เถยฺยจิตฺโต วินสฺสตี’’ติ อากฑฺฒติ, เถยฺยจิตฺเตน เอวํ กโรนฺตสฺส ปาราชิโก โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๖๑. ตนฺติ เตลสฺส โอกิรณภาวํ ตฺวา ปมเมว ตุจฺฉภาชเน เถยฺยจิตฺเตน นิกฺขิตฺตํ ปาทคฺฆนกเตลปิวนกํ ¶ ตํ วตฺถาทิภณฺฑํ. ‘‘อุทฺธรนฺโตวา’’ติ สาวธารณวจเนน ‘‘ปีตมตฺเต ปราชโย’’ติ ทสฺสิตํ มหาอฏฺกถามตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. ธํสิโตติ ‘‘สาสนกปฺปรุกฺขา ปาติโต, ปาราชิกาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ อากฑฺฒนตฺถํ ‘‘ตถา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ. อิมินา สุทฺธจิตฺเตน โคปนตฺถาย ตุจฺฉภาชเน วตฺถาทึ นิกฺขิปิตฺวา อฺเน ตํ อโนโลเกตฺวา เตเล อาสิตฺเต ปจฺฉา สุทฺธจิตฺเตเนว อุทฺธรโต น โทโสติ ทีปิตํ โหติ.
๖๒. ตตฺเถวาติ ิตฏฺาเนเยว. ภินฺทโตติ านา อจาเวตฺวา ติณชฺฌาปกสฺส วิย ภิกฺขุโน านาจาวนาธิปฺปายํ วินา ปาสาณาทินา เกนจิ ปหริตฺวา ภินฺทโต. ‘‘มนฺโตสธานุภาเวน ภินฺทโต’’ติ จ วทนฺติ. ฉฑฺเฑนฺตสฺสาติ อฉฑฺเฑตุกามสฺสาปิ สโต ปริปุณฺณเตลฆฏาทีสุ จาปลฺเลน วาลุกํ วา อุทกํ วา โอกิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อุทกมาติกํ ฆฏาภิมุขํ กตฺวา โอปิลาเปนฺตสฺสา’’ติ วทนฺติ. านาจาวนาธิปฺปาเย สติปิ เถยฺยจิตฺตาภาเวน ปาราชิกา น วิชฺชติ, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ ปน โหตีติ สนฺนิฏฺานํ. ฌาเปนฺตสฺสาติ กฏฺานิ ปกฺขิปิตฺวา ฌาเปนฺตสฺส. อปริโภคํ กโรนฺตสฺสาติ อุจฺจารปสฺสาวาทิโมกิริตฺวา อปริโภคํ กโรนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ เอเตสุ ภินฺทนาทีสุ จตูสุปิ าเนสุ ปทภาชนิยํ ทุกฺกฏเมว อาคตตฺตา วุตฺตํ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา.
๖๓. อิทานิ ถลฏฺเ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปตฺถริตฺวาติ อตฺถริตฺวา. เอตฺถ จ-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน ถเล ราสิกตธฺาทีสุ วินิจฺฉโย นิมิกุมฺภิยา วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน วิฺาตุํ สกฺกาติ ตํ สรูปโต อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. อตฺถรณาทิกนฺติ ปจฺจตฺถรณาทิกํ. เวเตฺวา อุทฺธรนฺตสฺสาติ กิลฺชสํหรณนิยาเมน วฏฺเฏตฺวา สํหริตฺวา อุทฺธรนฺตสฺส. มุตฺเต านาติ กเมน สํหริตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺเต สติ. ปราภโวติ สาสนโต ปริหีโน.
๖๔. เอวํ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทีนํ สํหริตฺวา คหเณ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยโต อากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โอริมนฺเตนา’’ติอาทิ. ปิ, วาติ ปการนฺตรเมว สมุจฺจิโนติ. อุชุกํ กฑฺฒโตปิ วาติ อตฺถริตฺวา ปิตวตฺถาทิกํ จตูสุ ทิสาสุ เอกํ ทิสํ อุชุกมากฑฺฒโต ¶ จ ปาราชิกํ โหติ. กทาติ เจ? เอตฺถาปิ โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสํ ปาริมนฺตโต อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา. โอริมนฺเตน ผุฏฺโมกาสนฺติ คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส อตฺตโน ิตทิสาคตปริยนฺเตน ผุสิตฺวา ิตฏฺานํ. ปาริมนฺตโตติ ปาริมนฺเตน, กรณตฺเถ โต-ปจฺจโย.
ถลํ ¶ นาม ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนภูมิปาสาทปพฺพตตลาทีนิ, ตตฺรฏฺํ ธฺาทิภณฺฑํ ถลฏฺํ นาม โหติ. ตตฺถ สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ถลฏฺกถาวณฺณนา.
๖๕-๖. ปริจฺเฉทาติ านปริจฺเฉทา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๖๗-๘. เขคตนฺติ อากาสคตํ. อสฺสาติ โมรสฺส. ตนฺติ โมรํ.
๖๙. านาติ ยถาปริจฺฉินฺนา ฉพฺพิธา านา. ตสฺสาติ โมรสฺส ผนฺทาปเนติ โยชนา. ตสฺสาติ วา ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยมุทีริตํ.
๗๐. อคฺคเหตฺวา หตฺเถน เลฑฺฑุขิปนาทิปโยเคน โมรํ ตาเสตฺวา ิตฏฺานโต อปเนติ. อตฺตโน านาติ โมรสฺส อตฺตโน ฉปฺปการฏฺานา. สยํ านาติ ภิกฺขุ สกฏฺานา, สมณภาวโตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๑-๒. อิทานิ ‘‘านา จาเวติ เจ โมร’’นฺติ ทสฺสิตํ านาจาวนํ วิภาเวตุมาห ‘‘ผุฏฺโกาส’’นฺติอาทิ.
๗๓. กเร นิลียตีติ ปสาริตหตฺถตเล นิสีทติ.
๗๕. อุฑฺเฑตฺวาติ อากาสํ อุปฺปติตฺวา.
๗๖. องฺเค ¶ นิลีนนฺติ อํสกูฏาทิสรีราวยเว นิลีนํ. ปาเทติ อตฺตโน ปมุทฺธารปาเท. ทุติเย ปาเท.
๗๗. ปาทานนฺติ ¶ ทฺวินฺนํ ปาทานํ. กลาปสฺสาติ ภูมิยํ ผุสิยมานสฺส กลาปคฺคสฺส.
๗๘. ตโต ปถวิโตติ ตีหิ อวยเวหิ ปติฏฺิตปถวิปฺปเทสโต, น ปมโต ตตฺถ ทุกฺกฏตฺตา, น ทุติยโต ตตฺถ ถุลฺลจฺจยตฺตา, ตติยา ปน านา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวยโต ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอตฺตาวตา –
‘‘ปฺชเร ิตํ โมรํ สห ปฺชเรน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปาทํ นคฺฆติ, สพฺพตฺถ อคฺฆวเสน กตฺตพฺพํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ จรนฺตํ โมรํ เถยฺยจิตฺโต ปทสา พหิวตฺถุํ นีหรนฺโต ทฺวารปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วเช ิตพลิพทฺทสฺส หิ วโช วิย อนฺโตวตฺถุ ตสฺส านํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมิมฺปิ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อนฺโตคาเม จรนฺตมฺปิ คามปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ. สยเมว นิกฺขมิตฺวา คามูปจาเร วา วตฺถูปจาเร วา จรนฺตํ ปน เถยฺยจิตฺโต กฏฺเน วา กถลาย วา อุตฺราเสตฺวา อฏวีภิมุขํ กโรติ, โมโร อุฑฺเฑตฺวา อนฺโตคาเม วา อนฺโตวตฺถุมฺหิ วา ฉทนปิฏฺเ วา นิลียติ, รกฺขติ. สเจ ปน อฏวีภิมุโข อุฑฺเฑติ วา คจฺฉติ วา, ‘อฏวึ ปเวเสตฺวา คเหสฺสามี’ติ ปริกปฺเป อสติ ปถวิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุปฺปติตมตฺเต วา ทุติยปทวาเร วา ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา คามโต นิกฺขมนฺตสฺส ิตฏฺานเมว านํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๖) –
อฏฺกถาคโต ¶ วินิจฺฉโย อุปลกฺขิโตติ เวทิตพฺพํ. กปิฺชราทิปรสนฺตกสกุเณสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ.
๗๙. ปตฺเตติ ทฺวาเร ภิกฺขาย ิตํ ภิกฺขุโน หตฺถคเต ปตฺเต. ตสฺส เถยฺยจิตฺตสฺส.
๘๐. อนุทฺธริตฺวาวาติ ¶ ปตฺเต ปติตํ สุวณฺณาทึ หตฺเถน อนุกฺขิปิตฺวาว ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ คมฺมมานตฺตา น วุตฺตํ.
๘๑. หตฺเถติ หตฺถตเล. วตฺเถติ จีวเร. มตฺถเกติ สิรสิ. คาถาฉนฺทวเสน วา-สทฺเท อาการสฺส รสฺสตฺตํ. ปติฏฺิตนฺติ ปติตํ. ตนฺติ ฉิชฺชมานํ ตํ สุวณฺณขณฺฑาทิ. ยทิ อากาเส คจฺฉนฺตํ, ปตนฺตํ วา หตฺเถน คณฺหาติ. คหิตหตฺเถ ิตฏฺานเมว านํ, ตโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนนฺตสฺส ปาราชิกํ. ตถา คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉโต ทุติยปาทุทฺธาเร. วตฺถาทีสุ ปติเตปิ เอเสว นโย.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา.
๘๒. มฺจปีาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มฺจปีสทิเส เวหาสภูเต อฏฺฏวิตานาทโย สงฺคณฺหาติ. อามาสมฺปีติ หตฺเถน วา กาเยน วา อามสิตพฺพํ วตฺถาทิฺจ. อนามาสมฺปีติ ตถา อปรามสิตพฺพํ สุวณฺณาทึ. อามสนฺตสฺสาติ หตฺถาทีหิ ปรามสนฺตสฺส. ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ เหฏฺา ถลฏฺเ วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ อติทิสติ. านปริจฺเฉโท ปน มฺจาทีหิ เอว อุกฺขิปนฺตสฺส จตุนฺนํ ปาทานํ วเสน, ตตฺรฏฺเมว คณฺหนฺตสฺส มฺจสฺส จตูสุ ปาทสีเสสุ ผุสิตฺวา ¶ มชฺเฌ อผุสิตฺวา ิตสฺส ขลิมกฺขิตถทฺธสาฏกสฺส จตุนฺนํ ปาทสีสานํ วเสน, อฏนีสุ ผุสิตฺวา ิตสฺส อฏนีนํ วเสน วา เวทิตพฺโพ.
๘๓. วํเสติ จีวรวํเส, อิมินา จีวรนิกฺเขปนตฺถาย ปิตรุกฺขทณฺฑสลาการชฺชุอาทโย อุปลกฺขิตา. โอรโตติ อตฺตโน ิตทิสาภิมุขโต. โภคนฺติ สํหริตฺวา จีวรํ ตสฺส นาเมตฺวา ปิตมชฺฌฏฺานํ. อนฺตนฺติ นาเมตฺวา เอกโต กตํ, อุภยานํ วา อนฺตํ. ปารโต กตฺวาติ วํสโต ปรภาเค กตฺวา.
๘๔. จีวเรน ผุฏฺโกาโสติ จีวเรน ผุฏฺฏฺานํ. ตสฺสาติ ตถา ปิตสฺส จีวรสฺส. โส สกโล จีวรวํโส านํ น ตุ โหตีติ มโตติ สมฺพนฺโธ.
๘๕-๖. โอริมนฺเตน ¶ ผุฏฺํ วา ตํ โอกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. จีวรโภคํ คเหตฺวา เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒโต อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส จีวเรน ผุสิตฺวา ิตฏฺานปริยนฺตํ อิตเรน อติกฺกามยโต จุตีติ สมฺพนฺโธ. อิตเรน ปาริมนฺเตน ภิตฺติทิสาย จีวรสฺส ผุฏฺโกาสปริยนฺตํ อิตเรน ผุฏฺํ ตํ โอกาสํ โอริมนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. อิตเรนาติ ปาริมนฺเตน ภิตฺติปสฺเส จีวรวํเส ผุสิตฺวา ิตจีวรปริยนฺเตน. ผุฏฺํ จีวรวํโสกาสํ. โอริมนฺเตนาติ อตฺตโน ิตทิสาย จีวรวํเส ผุสิตฺวา ปิตจีวรปฺปเทเสน. อติกฺกามยโตติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมนฺตสฺส.
เอวํ ทีฆนฺตากฑฺฒเน สมฺภวนฺตํ วิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติริยนฺเตน อติกฺกมนวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทกฺขิณนฺเตนา’’ติอาทิ. ปุนาติ อถ วา. ทกฺขิณนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ วามนฺเตน ¶ อติกฺกามยโต จุตีติ โยชนา. จีวรํ หริตุํ จีวราภิมุขํ ิตสฺส อตฺตโน ทกฺขิณปสฺเส จีวรโกฏิยา ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ วามปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต ปาราชิกเมวาติ อตฺโถ. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อติกฺกามยโต วา จุตีติ โยชนา. วามนฺเตน ผุฏฺฏฺานนฺติ จีวราภิมุขํ ิตสฺส วามปสฺเส จีวรนฺเตน ผุฏฺํ จีวรฏฺิตปฺปเทสํ. อิตเรน ทกฺขิณปสฺเส จีวรนฺเตน อติกฺกามยโต วา จุติ ปาราชิกา โหตีติ อตฺโถ.
๘๗. วํสโตติ จีวเรน ผุสิตฺวา ิตจีวรวํสปฺปเทสโต. ‘‘เกสคฺคมตฺต’’นฺติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘อุกฺขิตฺเต’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺเตน สมานาธิกรณตฺตา ปจฺจตฺเตกวจนนฺตตา น ยุชฺชตีติ. ‘‘เกสคฺคมตฺเต อุกฺขิตฺเต’’ติ กตฺถจิ ปาโ ทิสฺสติ, โส จ ปมาณํ.
๘๘. วิโมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. จีวรวํเส ผุสาเปตฺวา, อผุสาเปตฺวา วา รชฺชุยา พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ คณฺหิตุกาโม เถยฺยจิตฺเตน พนฺธนํ โมเจนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. มุตฺเตติ มุตฺตมตฺเต. ปาราชิโก โหติ านา จุตภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๘๙. เวเตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วํสเมวา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ. จีวรวํสํ ปลิเวเตฺวา ตตฺเถว ปิตจีวรํ นิพฺเพเนฺตสฺส ภิกฺขุโนปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. นิพฺเพเนฺตสฺสาติ วินิเวเนฺตสฺส. อยํ นโยติ ‘‘นิพฺเพเนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, นิพฺเพิเต ปาราชิก’’นฺติ ยถาวุตฺตนยมติทิสติ ¶ . วลยํ ฉินฺทโต วาปิ อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุโน, วํเส, ปิตํ, จีวร’’นฺติ จ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. จีวรวํเส ปเวเสตฺวา ¶ ปิตํ จีวรวลยํ ยถา ฉินฺนมตฺเต านา จวติ, ตถา ฉินฺทนฺตสฺส ภิกฺขุโน เฉทเน ถุลฺลจฺจยํ, ฉินฺเน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. โมเจนฺตสฺสาปฺยยํ นโยติ เอตฺถาปิ ‘‘วลย’’นฺติ อิมินา สทฺธึ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติอาทิปทานิ โยเชตพฺพานิ. จีวรวํเส ปิตํ จีวรํ วลยํ โมเจนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยาเนว.
อิห ปุริเมน อปิ-สทฺเทน ยถาวุตฺตปการทฺวเย สมฺปิณฺฑิเต อิตเรน อปิ-สทฺเทน อวุตฺตสมฺปิณฺฑนมนฺตเรน อตฺถวิเสสาภาวโต อวุตฺตมตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ, เตน ‘‘อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ ปการทฺวยํ สงฺคณฺหาติ. เตน รุกฺขมูเล ปเวเสตฺวา ปิตนิธิสงฺขลิกวลยมิว จีวรวํเส สพฺพฏฺาเนหิปิ อผุสาเปตฺวา จีวรวลยํ อากาสคตํ กโรนฺตสฺสาปิ จีวรวํสโกฏิยา พหิ นีหรนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ วุตฺตนเยเนว าตพฺพานีติ เอเตเยว สงฺคณฺหาติ. ‘‘วลยํ ฉินฺทโต วาปิ, โมเจนฺตสฺส วาปิ, วลยํ อากาสคตํ วา กโรติ, นีหรติ วา’’ติ อิเมสุ จตูสุ วิกปฺเปสุ เอกมฺปิ ตถา อกตฺวา จีวรวลยํ จีวรวํเส ฆํเสตฺวา อิโต จิโต จ สฺจาเรนฺตสฺส จีวรวลยสฺส สพฺโพปิ จีวรวํโส านนฺติ ‘‘านาจาวนํ นตฺถี’’ติ วุตฺตพฺยติเรกวเสน ทสฺสิตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ.
๙๐. ปิตสฺส หีติ เอตฺถ ปสิทฺธิสูจกํ หิ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘จีวเร วิย หี’’ติ โยเชตฺวา วิเสสตฺถโชตกํ ตุ-สทฺทํ อาเนตฺวา ‘‘ปิตสฺส ตู’’ติ โยเชตพฺพํ. อถ วา นิปาตานมเนกตฺถตฺตา ยถาาเน ิตานเมว วิเสสตฺเถ หิ-สทฺโท, ปสิทฺธิยํ ตุ-สทฺโท จ โยเชตพฺโพ. วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ โยชนา. ทีฆโต วา ติริยโต วา ปสาเรตฺวา ¶ จีวรวํเส นิกฺขิตฺตสฺส จีวรสฺส วินิจฺฉโย ปน สํหริตฺวา จีวรวํเส ปิตจีวรวินิจฺฉโย วิย วุตฺโต, ‘‘โอริมนฺเตน…เป… ปาราชิกํ ภเว’’ติ คาถาตฺตเย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๑. สิกฺกายาติ โอลมฺพิกาธาเร. ยํ ภณฺฑกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปกฺขิปิตฺวาติ นิเวเสตฺวา. ลคฺคิตํ โหตีติ โอลมฺพิตํ โหติ. ‘‘สิกฺกาโต ตํ หรนฺโต วา จุโต’’ติ เอตสฺมึ วิกปฺเป ¶ สิกฺกาย ผุฏฺฏฺานวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวิกปฺเป สิกฺกาย, พนฺธนฏฺานสฺส จ ภิตฺติปสฺเส ผุฏฺฏฺานํ ยทิ สิยา, ตสฺส จ วเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ.
๙๒-๓. กุนฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน ภินฺทิวาลาทิ ทีฆวตฺถุ คเหตพฺพํ. ตฏฺฏิกาขาณุกา วิย ภิตฺติยํ ปฏิปาฏิยา นิเวสิตานิ มิคสิงฺคานิ วา สูลานิ วา นาคทนฺตา นาม. อคฺเค วาติ กุนฺตผลโกฏิยํ วา. พุนฺเท วาติ กุนฺตทนฺตมูเล วา. ปริกฑฺฒโตติ อุชุกํ อากฑฺฒโต.
ผุฏฺโกาสนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ นาคทนฺเต ผุฏฺฏฺานํ อติกฺกามยโต เกสคฺคมตฺเตน ปราชโย สิยาติ สมฺพนฺโธ, ปิตฏฺปิตฏฺานํ วิหาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. เกสคฺเคน อนฺตเรน เหตุนา ปราชโยติ คเหตพฺพํ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปนยนเหตุ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
๙๔-๕. เอวํ ทีฆโต อากฑฺฒเน, อุกฺขิปเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ติริยํ อากฑฺฒเน, ปรโต นยเน จ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาการาภิมุโข’’ติอาทิ. อากฑฺฒตีติ อตฺตโน ¶ ิตฏฺานาภิมุขํ อาวิฺฉติ. โอริมนฺตผุฏฺโกาสนฺติ โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ, อตฺตโน ทิสาย กุนฺตทณฺเฑน ผุฏฺโกาสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ อจฺจยนกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนปฺปสงฺเค อุปโยควจนํ. ‘‘สกมฺมกธาตุปฺปโยเค อุปโยควจนสฺส มาคธิกโวหาเร ทสฺสนโต กมฺมตฺเถเยว อุปโยควจน’’นฺติ เอเก วทนฺติ, เอตํ กจฺจายนลกฺขเณน สมานํ. อิตรนฺตจฺจเยติ อิตรนฺเตน กโต อจฺจโยติ อิตรนฺตจฺจโย, มชฺเฌปทโลปสมาโส, ปาริมนฺเตน กตฺตพฺพาติกฺกเม กเตติ อตฺโถ. เกสคฺเคน จุโตติ โยชนา. ยถาวุตฺโตเยว อตฺโถ.
ปรโต เปลฺลนฺตสฺสาติ ปรโต กตฺวา เปลฺลนฺตสฺส, ภิตฺติปสฺสาภิมุขํ กตฺวา นิปฺปีเฬนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตเถวาติ ‘‘เกสคฺเคน จุโต’’ติ อากฑฺฒติ. ปิเตปิ จ กุนฺตาทิมฺหิ อยํ นโยติ โยชนา. ‘‘เกสคฺเคนา’’ติอาทินา อยเมว วินิจฺฉยนโย วตฺตพฺโพติ อตฺโถ.
๙๖. ตาลสฺส ผลํ จาเลนฺตสฺส อสฺส ภิกฺขุโน เยน ผเลน วตฺถุ ปฺจมาสกํ ปูรติ, ตสฺมึ ผเล พนฺธนา มุตฺเต ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๙๗. ตาลสฺส ¶ ปิณฺฑึ ฉินฺทตีติ ตาลผลกณฺณิกํ ฉินฺทติ. ยาย วตฺถุ ปูรติ, ตสฺสา ฉินฺนมตฺตาย ‘‘อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ เหฏฺา วุตฺตนโย อิธาปิ โยเชตพฺโพ. ตาลปิณฺฑิ สเจ อากาสคตา โหติ, ปิณฺฑิมูลเมว านํ. ปณฺณทณฺเฑ วา ปณฺเณ วา อปสฺสาย ิตา เจ, ิตฏฺาเนหิ สห ปิณฺฑิมูลํ คเหตฺวา านเภทํ ตฺวา านาจาวเนน ปาราชิกมฺปิ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโยติ ‘‘เยน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา มุตฺเต อสฺส ปาราชิกํ สิยา’’ติ ยถาวุตฺโต เอว นโย. เอเตสุ สพฺเพสุ ¶ าเนสุ ปาราชิกวีติกฺกมโต ปุพฺพภาคานนฺตรปฺปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ สหปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏฺจ ตโตปิ ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ คมนทุติยปริเยสนาทิอวเสสปโยเคสุ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา ทุกฺกฏฺจ อสมฺมุยฺหนฺเตหิ เวทิตพฺพํ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา.
๙๘. อุทเก นิธิฏฺานํ คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ. อคมฺภีโรทเก นิธิฏฺานํ ปทวาเรน คจฺฉโต ปเท ปเท ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. คมฺภีเร ปน ตถาติ ‘‘ปทวาเรน คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ ยถาวุตฺตมติทิสติ. คจฺฉโตติ ตรโต, หตฺถํ อจาเลตฺวา ตรนฺตสฺส ปทวารคณนาย, หตฺเถน จ วายมนฺตสฺส ‘‘ปทวาเรนา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ กตฺวา หตฺถวารคณนาย ปทวารคณนาย ทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘คมฺภีเร หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา ปโยคํ กโรนฺตสฺส หตฺถวาเรหิ วา ปทวาเรหิ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อุมฺมุชฺชนาทิสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิมุชฺชนํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาปิ ‘‘ตถา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิหิตกุมฺภิยา คหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุปิ หตฺถวาเรน, ปทวาเรน, หตฺถปทวาเรหิ จ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเสว นโย กุมฺภิคหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘).
อิมิสฺสา คาถาย ‘‘นิธิฏฺานํ คจฺฉโต ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต ตถา คจฺฉนฺตสฺส อุทกสปฺปจณฺฑมจฺฉทสฺสเนน ภายิตฺวา ปลายนฺตสฺส คมนสฺส อตทตฺถตฺตา อนาปตฺตีติ พฺยติเรเกน ¶ วิฺายติ. เอตฺถ ทุติยปริเยสนาทิสพฺพปโยเคสุ ปาจิตฺติยฏฺาเน ¶ ปาจิตฺติยฺจ ปาจิตฺติเยน สห ทุกฺกฏฺจ อวเสสปโยเคสุ สุทฺธทุกฺกฏฺจ สหปโยเค ภาชนามสเน อนามาสทุกฺกฏฺจ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ านาจาวเน ปาราชิกฺจ นิธิกุมฺภิยา วุตฺตนเยน วิฺาตุํ สกฺกาติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ านเภโท ปฺจธา โหติ, อิธ ปีเฬตฺวา โอสาเรตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห ฉพฺพิธํ โหตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๙๙. ตตฺถ ชาตกปุปฺเผสูติ ตสฺมึ ชเล รุฬฺเหสุ อุปฺปลาทิกุสุเมสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เยน ปุปฺเผนาติ นิทฺธาริตพฺพํ. ฉินฺทโตติ เอตฺถ วตฺตมานกาลวเสน อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ฉินฺนวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวํ อคฺคหิเต อนฺติมสฺส ปโยคสฺส ยาว อนุปรโม, ถุลฺลจฺจยารหตฺตา ปาราชิกวจนสฺส วตฺถุวิโรธิตาย จ อิมสฺเสว ปจฺฉิมกุสุมสฺส กนฺตนกาเล ปุปฺผนาฬปสฺเส ตจมตฺเตปิ อจฺฉินฺเน ปาราชิกํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกนาฬ…เป… ปริรกฺขตี’’ติ เอตฺเถว อนนฺตเร วุจฺจมานนยสฺส วิรุทฺธตฺตา จ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ลิขิตสฺส ‘‘ยสฺมึ ปุปฺเผ วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถาวจนสฺส วิรุทฺธตฺตา จ วตฺตมานกาลมคเหตฺวา ภูตกาลสฺเสว คเหตพฺพตฺตา ‘‘กทา เทวทตฺต อาคโตสี’’ติ ปฺหสฺส ‘‘เอโสหมาคจฺฉามิ, อาคจฺฉนฺตํ มา มํ วิชฺฌา’’ติ อุตฺตเร วิย วตฺตมานสมีเป วตฺตมาเนวาติ ภูเต วตฺตมานพฺยปเทสโต วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๐๐. ‘‘อุปฺปลชาติยา’’ติ อิมินา ‘‘ปทุมชาติยา’’ติ พฺยติเรกโต วุตฺตตฺตา ‘‘ปทุมชาติกานํ ปน ทณฺเฑ ฉินฺเน อพฺภนฺตเร สุตฺตํ อจฺฉินฺนมฺปิ รกฺขตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๘) อฏฺกถานโย สงฺคหิโตติ ¶ ทฏฺพฺพํ. เอกนาฬสฺส วา ปสฺเสติ ‘‘นาฬสฺส เอกปสฺเส’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโตติ นาฬโต.
๑๐๑. ภารพทฺธกุสุเมสุ วินิจฺฉยสฺส วกฺขมานตฺตา ฉินฺทิตฺวา ปิเตสูติ อพทฺธกุสุมวเสน คเหตพฺพํ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ตตฺรชาตกกุสุเมสุ วุตฺตวินิจฺฉยานุสาเรน. ‘‘เยน ปุปฺเผน ปูรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต’’ติ อวตฺวา คหิตมตฺเต ปาราชิกนฺติ โยชนา เจตฺถ วิเสโส.
๑๐๒. ภารํ กตฺวา พทฺธานิ ภารพทฺธานีติ มชฺฌปทโลปีสมาโส. ปุปฺผานีติ ปาทคฺฆนกานิ ¶ อุปฺปลาทิกุสุมานิ. ฉสฺวากาเรสูติ อุทเก โอสีทาเปตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อโธทิสาย สห จตสฺโส ทิสา, อุทฺธนฺติ อิมาสุ ฉสุ ทิสาสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เกนจิ อากาเรนาติ นิทฺธาเรตพฺพทสฺสนํ. านาจาวนสฺส สาธกตมตฺตา กรเณเยว กรณวจนํ. นสฺสตีติ ปาทคฺฆนกปุปฺผานํ านาจาวเนน ปาราชิกมาปชฺชิตฺวา โลกิยโลกุตฺตรานํ อนวเสสคุณานํ ปติฏฺานภูตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ นาเสตฺวา สยํ คุณมรเณน มียตีติ อตฺโถ.
๑๐๓. ปุปฺผานํ กลาปนฺติ ปาทคฺฆนกอุปฺปลาทิกุสุมกลาปํ. อุทกํ จาเลตฺวาติ ยถา วีจิ อุฏฺาติ, ตถา จาเลตฺวา. ปุปฺผฏฺานาติ ปุปฺผานํ ิตฏฺานา. จาเวตีติ กลาปํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนติ. ‘‘ปุปฺผํ านา จาเวตี’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ปุปฺผกลาปสฺเสว คหิตตฺตา ปุริโมเยว คเหตพฺโพ.
๑๐๔. ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ สห ปาเสเสน โยชนา. ปริกปฺเปตีติ ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ ตกฺเกติ. รกฺขตีติ านาจาวเนปิ สติ โส ปริกปฺโป ปาราชิกาปตฺติโต ตํ ภิกฺขุํ รกฺขติ. คตฏฺานาติ ปุปฺผกลาเปน คตํ สมฺปตฺตฺจ ตํ านฺจาติ วิคฺคโห. ‘‘อุทฺธรนฺโต’’ติ เอเตน ‘‘ปุปฺผานํ กลาป’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘กตฏฺานา’’ติปิ ปาโ, กตา ปุปฺผานํ านา อุทฺธรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อุทกํ จาเลตฺวา วีจิโย อุฏฺาเปตฺวา วีจิปฺปหาเรน อุทกปิฏฺเน ปริกปฺปิตฏฺานํ สมฺปตฺตํ ปุปฺผกลาปํ ิตฏฺานา อุทฺธรนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘านา’’ติ อิทํ ‘‘ภฏฺโ’’ติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ. ภฏฺโ นาม ปวุจฺจตีติ อตฺตนา สมาทาย รกฺขิยมานา ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตสพฺพคุณรตนงฺกุราภินิพฺพตฺตฏฺานา ปติโต นาม โหตีติ ปวุจฺจติ.
๑๐๕. ชลโต อจฺจุคฺคตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปุปฺผสฺสา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ชลปิฏฺิโต อจฺจุคฺคตสฺส ปุปฺผสฺส สกลชลํ านํ, กทฺทมปิฏฺิโต ปฏฺาย อุทกปิฏฺิปริยนฺตํ ปุปฺผทณฺเฑน ผริตฺวา ิตํ สพฺพมุทกํ านนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปาเฏตฺวาติ ปุปฺผคฺคํ อากฑฺฒิตฺวา อุปฺปีเฬตฺวา. ตโตติ ตสฺมา ปุปฺผฏฺานภูตสกลชลราสิโต. อุชุนฺติ อุชุํ กตฺวา. อุทฺธรโตติ อุปฺปาเฏนฺตสฺส.
๑๐๖. นาฬนฺเตติ อุปฺปาฏิตปุปฺผนาฬสฺส มูลโกฏิยา. ชลโตติ อุทกปิฏฺิโต. มุตฺตมตฺเต ¶ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวาติ ปาเสสโยชนา กาตพฺพา. ‘‘ชลโต’’ติ ปมตติยปาเทสุ ทฺวิกฺขตฺตุํ วจนํ อตฺถาวิเสเสปิ ปทาวุตฺติอลงฺกาเร อฑฺฒยมกวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มุตฺตมตฺเต, อมุตฺเต’’ติ จ สมฺพนฺธิตพฺพํ, อตฺถานํ วา วิเสสโต อุภยตฺถ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ นาฬนฺเตติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๗. ตสฺส ¶ นาเมตฺวา อุปฺปาฏิตสฺส. สห คจฺเฉน อุปฺปาฏิตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อิธ ปน สพฺพปุปฺผปณฺณนาฬานิ มูลโต ปภุติ ปมํ ิตฏฺานโต อปนามนวเสน านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปุปฺผาทีนิ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ภูตคามวิโกปนาปตฺติยา าเน สหปโยคทุกฺกฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑๐๘-๙. พฬิสาทิมจฺฉคฺคหโณปกรณานํ วจนโต, ชเล ิตมตมจฺฉานํ วินิจฺฉยสฺส จ วกฺขมานตฺตา มจฺเฉติ ชีวมานกมจฺฉานํ คหณํ. อุปลกฺขณวเสน วา อวุตฺตสมุจฺจยตฺถ วา-สทฺเทน วา ขิปกาทีนิ มจฺฉวโธปกรณานิ วุตฺตาเนวาติ ทฏฺพฺพํ. วตฺถูติ ปาโท. ตสฺมึ มจฺเฉ. อุทฺธโฏเยว อุทฺธฏมตฺโต, มจฺโฉ, ตสฺมึ. ชลาติ อุทกโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อปเนตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๐. ปุปฺผานํ วิย มจฺฉานมฺปิ ิตฏฺานเมว านนฺติ อคฺคเหตฺวา สกลชลํ านํ กตฺวา กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านํ สลิลชานํ หี’’ติอาทิ. สลิเล ชาตา สลิลชา, อิติ ปกรณโต มจฺฉาเยว วุจฺจนฺติ. อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานาทีหิ สทฺทา วิเสสตฺถํ วทนฺตีติ. หีติ ปสิทฺธิยํ. เกวลนฺติ อวธารเณ, ชลเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พหิอุทกํ นิวตฺติตํ โหติ. สกลํ ชลเมว านํ ยสฺมา, ตสฺมา สลิลฏฺํ ชลา วิโมเจนฺโต ปาราชิโก โหตีติ เหตุเหตุมนฺตภาเวน โยชนา เวทิตพฺพา. อาปนฺนํ ปราเชตีติ ปาราชิกา, อาปตฺติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ ปาราชิโก, ปุคฺคโล.
๑๑๑. นีรํ อุทกํ. วาริมฺหิ ชเล ชาโต วาริโช, อิติ ปกรณโต มจฺโฉว คยฺหติ. เอเตเนว อากาเส อุปฺปติตมจฺโฉ ¶ , โคจรตฺถาย จ ถลมุคฺคตกุมฺมาทโย อุปลกฺขิตาติ เวทิตพฺพํ. เตสํ คหเณ วินิจฺฉโย อากาสฏฺถลฏฺกถาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ ทุกฺกฏาทิวตฺถุโน ¶ ภณฺฑสฺส อคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย วเทยฺยาติ อตฺโถ.
๑๑๒. ตฬาเกติ สรสฺมึ, อิมินา จ วาปิโปกฺขรณิโสพฺภาทิชลาสยา สงฺคยฺหนฺติ. นทิยาติ นินฺนคาย, อิมินา จ กนฺทราทโย สงฺคยฺหนฺติ. นินฺเนติ อาวาเฏ. มจฺฉวิสํ นามาติ เอตฺถ นาม-สทฺโท สฺายํ. มจฺฉวิสนามกํ มทนผลาทิกํ ทฏฺพฺพํ. คเตติ วิสปกฺขิปเก มจฺฉฆาตเก คเต.
๑๑๔. สามิเกสูติ วิสํ โยเชตฺวา คเตสุ มจฺฉสามิเกสุ. อาหรนฺเตสูติ อาหราเปนฺเตสุ. ภณฺฑเทยฺยนฺติ ภณฺฑฺจ ตํ เทยฺยฺจาติ วิคฺคโห, อตฺตนา คหิตวตฺถุํ วา ตทคฺฆนกํ วา ภณฺฑํ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕. มจฺเฉติ มตมจฺเฉ. เสเสติ นมตมจฺเฉ.
๑๑๖. อมเตสุ คหิเตสูติ ปกรณโต ลพฺภติ, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนาปตฺตึ วทนฺตีติ อทินฺนาทานาปตฺติยา อนาปตฺตึ วทนฺติ, มารณปฺปตฺติยา ปาจิตฺติยํ โหเตว. อยฺจ วินิจฺฉโย อรกฺขิตอโคปิเตสุ อสฺสามิกตฬากาทีสุ เวทิตพฺโพ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๑๗. นาวนฺติ เอตฺถ ‘‘นาวา นาม ยาย ตรตี’’ติ (ปารา. ๙๙) วจนโต ชลตารณารหํ อนฺตมโส เอกมฺปิ วหนฺตํ รชนโทณิเวณุกลาปาทิกํ ¶ เวทิตพฺพํ. นาวฏฺํ นาม ภณฺฑํ ยํ กิฺจิ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา. ‘‘เถเนตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา ‘‘เถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติ อิมมตฺถํ วิฺาเปติ. ปาทุทฺธาเรติ ทุติยปริเยสนาทิอตฺถํ คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท. โทสาติ ทุกฺกฏาปตฺติโย. วุตฺตาติ ‘‘นาวฏฺํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’ติ เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๙๙) ปทภาชนิยํ ภควตา วุตฺตา, อิมินา ปุพฺพปโยคสหปโยคทุกฺกฏานิ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ, านาจาวเน ปาราชิกฺจ อุปลกฺขณวเสน ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๑๘. จณฺฑโสเตติ ¶ เวเคน คจฺฉนฺเต อุทกปฺปวาเห, ‘‘จณฺฑโสเต’’ติ อิมินา พนฺธนํ วินา สภาเวน อฏฺิตภาวสฺส สูจนโต ‘‘พนฺธนเมว าน’’นฺติ วุตฺตฏฺานปริจฺเฉทสฺส การณํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา จณฺฑโสเต พทฺธา, ตสฺมา พนฺธนเมกเมว านํ มตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมินฺติ พนฺธเน. ธีรา วินยธรา.
๑๑๙-๑๒๐. ‘‘นิจฺจเล อุทเก นาว-มพนฺธนมวฏฺิต’’นฺติ อิมินา ฉธา านปริจฺเฉทสฺส ลพฺภมานตฺเต การณํ ทสฺเสติ. นาวํ กฑฺฒโต ตสฺส ปาราชิกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุนปิ กึ กโรนฺโตติ อาห ‘‘เอเกนนฺเตน สมฺผุฏฺ’’นฺติอาทิ. ตํ นาวํ อติกฺกามยโตติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาปิ ‘‘กฑฺฒิตวโต อติกฺกมิตวโต’’ติ ภูตวเสน อตฺโถ โยเชตพฺโพ. ยเมตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
๑๒๑. เอวํ จตุปสฺสากฑฺฒเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุทฺธํ, อโธ จ อุกฺขิปนโอสีทาปเนสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ตถาติ ‘‘ตสฺส ปาราชิก’’นฺติ อากฑฺฒติ. กสฺมึ ¶ กาเลติ อาห ‘‘อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติอาทิ. อโธนาวาตลนฺติ นาวาตลสฺส อโธ อโธนาวาตลํ, ตสฺมึ อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุทกมฺหา วิโมจิเตติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เตน ผุฏฺํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุขวฏฺฏิยา วิโมจิเตติ โยชนา. เตนาติ อโธนาวาตเลน ผุฏฺเ อุทเก มุขวฏฺฏิยา กรณภูตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ วิโมจิเตติ คเหตพฺพํ.
๑๒๒. ตีเร พนฺธิตฺวา ปน นิจฺจเล ชเล ปิตา ยา นาวา, ตสฺสา นาวาย านํ พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺวิธา มตนฺติ โยชนา.
๑๒๓. ปุพฺพํ ปมํ พนฺธนสฺส วิโมจเน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เกนจุปาเยนาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปี’’ติอาทิกฺกเมน ยถาวุตฺโตปายฉกฺเกสุ เยน เกนจิ อุปาเยนาติ อตฺโถ. านา จาเวติ นาวํ.
๑๒๔. ปมํ านา จาเวตฺวาติ ‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วา’’ติอาทินา ยถาวุตฺเตสุ ฉสุ อากาเรสุ อฺตเรน อากาเรน นาวํ ปิตฏฺานโต ปมํ จาเวตฺวา. เอเสว จ นโยติ นาวาย ¶ ปมํ ิตฏฺานโต จาวเน ถุลฺลจฺจยํ, ปจฺฉา พนฺธนโมจเน ปาราชิกนฺติ เอเสว นโย เนตพฺโพติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ตีเร พนฺธิตฺวา นิจฺจเล อุทเก ปิตนาวาย พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺเว านานิ, ตํ ปมํ พนฺธนา โมเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ฉนฺนํ อาการานํ อฺตเรน านา จาเวติ, ปาราชิกํ. ปมํ านา จาเวตฺวา ปจฺฉา พนฺธนโมจเนปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. ๙๙) อฏฺกถายํ วุตฺตวินิจฺฉโย สงฺคหิโต. อามสนผนฺทาปเนสุ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานิ เหฏฺา กุมฺภิยํ วุตฺตนเยเนว าตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา น วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. เอวมุปริปิ.
๑๒๕. อุสฺสาเรตฺวาติ ¶ อุทกโต ถลํ อาโรเปตฺวา. นิกุชฺชิตฺวาติ อโธมุขํ กตฺวา. ถเล ปิตาย นาวาย มุขวฏฺฏิยา ผุฏฺโกาโส เอว านนฺติ โยชนา. หีติ วิเสโส, เตน ชลฏฺโต ถลฏฺาย นาวาย วุตฺตํ วิเสสํ โชเตติ.
๑๒๖. เอตฺถ อโธ โอสีทาปนสฺส อลพฺภมานตาย ตํ วินา อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อาการานํ วเสน านาจาวนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เยฺโย’’ติอาทิ. ยโต กุโตจีติ ติริยํ จตสฺสนฺนํ, อุปริทิสาย จ วเสน ยํ กิฺจิ ทิสาภิมุขํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกเมนฺโต.
๑๒๗. อุกฺกุชฺชิตายปีติ อุทฺธํมุขํ ปิตายปิ. ฆฏิกานนฺติ ทารุขณฺฑานํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เยฺโย านปริจฺเฉโท’’ติอาทินา วุตฺตนยํ อติทิสติ. โส ปน อุกฺกุชฺชิตฺวา ภูมิยํ ปิตนาวาย ยุชฺชติ. ฆฏิกานํ อุปริ ปิตาย ปน นาคทนฺเตสุ ปิตกุนฺเต วุตฺตวินิจฺฉโย ยุชฺชติ.
๑๒๘. ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ติตฺเถติ ติตฺถาสนฺนชเล. อริตฺเตนาติ เกนิปาเตน. ผิเยนาติ ปาชนผลเกน. ปาเชนฺตสฺสาติ เปเสนฺตสฺส. ‘‘ตํ ปาเชตี’’ติปิ ปาโ ทิสฺสติ, ตํ นาวํ โย ปาเชติ, ตสฺส ปราชโยติ อตฺโถ.
๑๒๙-๓๐. ฉตฺตนฺติ อาตปวารณํ. ปณาเมตฺวาติ ยถา วาตํ คณฺหาติ, ตถา ปณาเมตฺวา. อุสฺสาเปตฺวาว จีวรนฺติ จีวรํ อุทฺธํ อุจฺจาเรตฺวา วา. คาถาฉนฺทวเสน ‘ว’อิติ รสฺสตฺตํ. ลงฺการสทิสนฺติ ปสาริตปฏสริกฺขกํ. สมีรณนฺติ มาลุตํ. น โทโส ตสฺส วิชฺชตีติ อิทํ วาตสฺส ¶ ¶ อวิชฺชมานกฺขเณ เอวํ กโรโต ปจฺฉา อาคเตน วาเตน นีตนาวาย วเสน วุตฺตํ. วายมาเน ปน วาเต เอวํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๑-๒. สยเมว อุปาคตนฺติ สมฺพนฺโธ. คามสมีเป ติตฺถํ คามติตฺถํ. ตนฺติ นาวํ. านาติ ฉตฺเตน วา จีวเรน วา คหิตวาเตน คนฺตฺวา คามติตฺเถ ิตฏฺานา. อจาเลนฺโตติ ผนฺทาปนมฺปิ อกโรนฺโต, อิมินา ถุลฺลจฺจยสฺสาปิ อภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘อจาเวนฺโต’’ติปิ ปาโ, ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนปเนนฺโตติ อตฺโถ, อิมินา ปาราชิกาภาวํ ทสฺเสติ. กิณิตฺวาติ มูเลน วิกฺกิณิตฺวา. สยเมว จ คจฺฉนฺตินฺติ เอตฺถ จ-กาโร วตฺตพฺพนฺตรสมุจฺจเย. ตถา ปณามิตฉตฺเตน วา อุสฺสาปิตจีวเรน วา คหิตวาเตน อตฺตนา คจฺฉนฺตึ. านา จาเวตีติ อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ กตฺวา ปาชนวเสน คมนฏฺานา จาเวติ.
นาวฏฺกถาวณฺณนา.
๑๓๓-๔. ยนฺติ เอเตนาติ ยานํ. รมยตีติ รโถ. วหติ, วุยฺหติ, วหนฺติ เอเตนาติ วา วยฺหํ. ‘‘อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ, สพฺพปาลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตํ สกฏํ วยฺหํ นาม. สนฺทมานิกาติ ‘‘อุโภสุ ปสฺเสสุ สุวณฺณรชตาทิมยา โคปานสิโย ทตฺวา ครุฬปกฺขกนเยน กตา สนฺทมานิกา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน กตยานวิเสโส. านา จาวนโยคสฺมินฺติ านา จาวนปฺปโยเค.
๑๓๕-๖. ทสฏฺานาจาวนวเสน ปาราชิกํ วทนฺเตหิ ปมํ านเภทสฺส าตพฺพตฺตา ตํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ¶ ‘‘ยานสฺส ทุกยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทุกํ โคยุคํ ยุตฺตสฺส ยสฺสาติ, ยุตฺเต ยสฺมินฺติ วา วิคฺคโห. ทส านานีติ ทฺวินฺนํ โคณานํ อฏฺ ปาทา, ทฺเว จ จกฺกานีติ เอเตสํ ทสนฺนํ ปติฏฺิตฏฺานานํ วเสน ทส านานิ วเทยฺยาติ อตฺโถ. เอเตเนว นเยน จตุยุตฺตาทิยาเน อฏฺารสาติ านเภทสฺส นโย ทสฺสิโต โหติ. ยานํ ปาชยโตติ สกฏาทิยานํ เปสยโต. ‘‘ธุเรติ ยุคาสนฺเน’’ติ อฏฺกถาย คณฺิปเท วุตฺตํ. รถีสาย ยุเคน สทฺธึ พนฺธนฏฺานาสนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธุร’’นฺติ จ ยุคสฺเสว นามํ. ‘‘ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา, ธุรํ อาโรเปตฺวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถาวจนโต ตํสหจริยาย สมฺพนฺธนฏฺานมฺปิ ¶ ธุรํ นาม. อิธ ปน คงฺคา-สทฺโท วิย คงฺคาสมีเป ธุรสมีเป ปาชกสฺส นิสชฺชารหฏฺาเน ธุรสฺส วตฺตมานตา ลพฺภติ.
โคณานํ ปาทุทฺธาเร ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อิทฺจ โคณานํ อวิโลมกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิโลมกาเล สมฺภวนฺตํ วิเสสํ โชเตตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ’’ อิจฺจตฺร ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โคณา ‘นายํ อมฺหากํ สามิโก’ติ ตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา อากฑฺฒนฺตา ติฏฺนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา, รกฺขติ ตาว. โคเณ ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ธุรํ อาโรเปตฺวา ทฬฺหํ โยเชตฺวา ปาจเนน วิชฺฌิตฺวา ปาเชนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว เตสํ ปาทุทฺธาเรน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตวิเสโส สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. จกฺกานํ หีติ เอตฺถ อธิเกน หิ-สทฺเทน ‘‘สเจปิ สกทฺทเม มคฺเค เอกํ จกฺกํ กทฺทเม ลคฺคํ โหติ, ทุติยํ จกฺกํ โคณา ปริวตฺเตนฺตา ปวตฺเตนฺติ, เอกสฺส ปน ิตตฺตา น ตาว อวหาโร โหติ. โคเณ ปน ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ปาเชนฺตสฺส ¶ ิตจกฺเก เกสคฺคมตฺตํ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) อฏฺกถายํ วุตฺตวิเสโส ทสฺสิโต โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๗-๙. เอตฺตาวตา ยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อยุตฺตยานวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อยุตฺตกสฺสา’’ติอาทิ. ธุเรน อุปตฺถมฺภนิยํ ิตสฺส ตสฺส อยุตฺตกสฺสาปิ จ ยานกสฺส อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานิ ภวนฺตีติ โยชนา. ตตฺถ อยุตฺตกสฺสาติ โคเณหิ อยุตฺตกสฺส. ธุเรนาติ ยถาวุตฺตนเยน ธุรยุตฺตฏฺานสมีปเทเสน, สกฏสีเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุปตฺถมฺภนิยนฺติ สกฏสีโสปตฺถมฺภนิยา อุปริ ิตสฺส. อุปตฺถมฺภยติ ธุรนฺติ อุปตฺถมฺภนี. สกฏสฺส ปจฺฉิมภาโคปตฺถมฺภนตฺถํ ทียมานํ ทณฺฑทฺวยํ ปจฺฉิโมปตฺถมฺภนี นาม, ปุริมภาคสฺส ทียมานสฺส อุปตฺถมฺภนี ปุริโมปตฺถมฺภนี นามาติ อยมุปตฺถมฺภนีนํ วิเสโส. อิธ ปุริโมปตฺถมฺภนี อธิปฺเปตา. ‘‘อุปตฺถมฺภนิจกฺกกานํ วเสน ตีเณว านานี’’ติ อิทํ เหฏฺา อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา วเสน วุตฺตํ, กปฺปกตาย ปน วเสน ‘‘จตฺตารี’’ติ วตฺตพฺพํ.
‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘านานิ ตีเณวา’’ติ อากฑฺฒติ, ทารุจกฺกทฺวยวเสน ตีณิ านานีติ อตฺโถ. ‘‘ทารูน’’นฺติ อิมินา พหุวจนนิทฺเทเสน ราสิกตทารูนํ ทารุกสฺส เอกสฺสาปิ ผลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภูมิยมฺปิ ธุเรเนว, ตเถว ปิตสฺส จา’’ติ อิมินา ¶ ตีณิเยว านานีติ อติทิสติ. เอตฺถ ธุรจกฺกานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน ตีณิ านานิ. เอตฺถ จ อุปริฏฺปิตสฺส จาติ จ-การํ ‘‘ภูมิยํ ปิตสฺสา’’ติ เอตฺถาปิ โยเชตฺวา สมุจฺจยํ กาตุํ สกฺกาติ. ตตฺถ อธิกวจเนน จ-กาเรน อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน อยุตฺตกํ ธุเร เอกาย, ปจฺฉโต ¶ จ ทฺวีหิ อุปตฺถมฺภนีหิ อุปตฺถมฺเภตฺวา ปิตํ, ตสฺส ติณฺณํ อุปตฺถมฺภนีนํ, จกฺกานฺจ วเสน ปฺจ านานิ. สเจ ธุเร อุปตฺถมฺภนี เหฏฺาภาเค กปฺปกตา โหติ, ฉ านานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ.
ปุรโต ปจฺฉโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒิตฺวา’’ติ ปาเสโส. อปิ-สทฺเทน ‘‘อุกฺขิปิตฺวาปี’’ติ อวุตฺตํ สมุจฺจิโนติ. โย ปน ปุรโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน ปจฺฉโต กฑฺฒิตฺวา านา จาเวติ, โย วา ปน อุกฺขิปิตฺวา านา จาเวตีติ โยชนา. ติณฺณนฺติ อิเม ตโย คหิตา, ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ วุตฺตํ โหติ. กทา กึ โหตีติ อาห ‘‘ถุลฺลจฺจยํ ตุ…เป… ปราชโย’’ติ. ‘‘านา จาเว’’ติ อิทํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินาปิ สมฺพนฺธนียํ. ตุ-สทฺทสฺส วิเสสโชตนตฺถํ อุปาตฺตตฺตา สาวเสสฏฺานาจาวเน ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ, นิรวเสสฏฺานาจาวเน ปน กเต านาจาวนปาราชิกา วุตฺตา โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๐. อกฺขานํ สีสเกหีติ อกฺขสฺส อุภยโกฏีหิ. ‘‘ชาตฺยาขฺยายเมกสฺมึ พหุวจนมฺตราย’’มิติ วจนโต เอกสฺมึ อตฺเถ พหุวจนํ ยุชฺชติ. ‘‘ิตสฺสา’’ติ เอตสฺส วิเสสนสฺส ‘‘ยานสฺสา’’ติ วิเสสิตพฺพํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘านานิ ทฺเว’’ติ วุตฺตตฺตา ยถา สกฏธุรํ ภูมึ น ผุสติ, เอวํ อุจฺจตเรสุ ทฺวีสุ ตุลาทิทารูสุ ทฺเว อกฺขสีเส อาโรเปตฺวา ปิตํ ยานเมว คยฺหติ.
๑๔๑. กฑฺฒนฺโตติ ทฺวินฺนํ อกฺขสีสานํ อาธารภูเตสุ ทารูสุ ฆํสิตฺวา อิโต จิโต จ กฑฺฒนฺโต. อุกฺขิปนฺโตติ อุชุํ ิตฏฺานโต อุจฺจาเรนฺโต. ผุฏฺโกาสจฺจเยติ ผุฏฺโกาสโต ¶ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม. อฺสฺสาติ ยถาวุตฺตปฺปการโต อิตรสฺส. ยสฺส กสฺสจิ รถาทิกสฺส ยานสฺส.
๑๔๒. อกฺขุทฺธีนนฺติ จตุนฺนํ อกฺขรุทฺธนกอาณีนํ. อกฺขสฺส อุภยโกฏีสุ จกฺกาวุณนฏฺานโต ¶ อนฺโต ทฺวีสุ สกฏพาหาสุ อกฺขรุทฺธนตฺถาย ทฺเว องฺคุลิโย วิย อาโกฏิตา จตสฺโส อาณิโย อกฺขุทฺธิ นาม. ธุรสฺสาติ ธุรพนฺธนฏฺานาสนฺนสฺส รถสีสคฺคสฺส. ตํ ยานํ. วา-สทฺเทน ปสฺเส วา คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุกฺขิเปนฺโตติ กิริยนฺตรํ วิกปฺเปติ. คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘กฑฺฒนฺโต’’ติ ปาเสโส. านา จาเวตีติ อุทฺธีสุ คเหตฺวา กฑฺฒนฺโต อตฺตโน ทิสาย อุทฺธิอนฺเตน ผุฏฺฏฺานํ อิตเรน อุทฺธิปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมติ.
‘‘อุทฺธีสุ วา’’ติ สาสงฺกวจเนน อนุทฺธิกยานสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตํ สูจิตํ โหติ. อฏฺกถายํ ‘‘อถ อุทฺธิขาณุกา น โหนฺติ, สมเมว พาหํ กตฺวา มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, ตํ เหฏฺิมตลสฺส สมนฺตา สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ, อุทฺธฺจ ผุฏฺฏฺานาติกฺกมวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๐) วุตฺตวินิจฺฉยฺจ พฺยติเรกวเสน สงฺคณฺหาติ.
๑๔๓. นาภิยาติ นาภิมุเขน. เอกเมว สิยา านนฺติ เอกํ นาภิยา ผุฏฺฏฺานเมว านํ ภวตีติ อตฺโถ. ‘‘เอกมสฺส สิยา าน’’นฺติ โปตฺถเกสุ ทิสฺสติ, ตโต ปุริมปาโว สุนฺทรตโร. ปริจฺเฉโทปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก, ปริจฺเฉโท ปนาติ อตฺโถ. ปฺจธาติ นาภิยา จตุปสฺสปริยนฺตํ, อุทฺธฺจ ปฺจธา, านาจาวนากาโร โหตีติ อตฺโถ.
๑๔๔. านานิ ¶ ทฺเวติ เนมิยา, นาภิยา จ ผุฏฺฏฺานวเสน ทฺเว านานิ. อสฺสาติ จกฺกสฺส. เตสํ ทฺวินฺนํ านานํ. ภิตฺติอาทึ อปสฺสาย ปิตจกฺกสฺสาปิ หิ อฏฺกถายํ วุตฺโต อยมฺปิ วินิจฺฉโย วุตฺโต, โยปิ อิมินา จ ปาเน ทสฺสิโต โหติ.
๑๔๕. อนารกฺขนฺติ สามิเกน อสํวิหิตารกฺขํ. อโธเทตฺวาติ โคเณ อเปเสตฺวา. วฏฺฏติ, ปาราชิกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. สามิเก อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺยํ โหติ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา.
๑๔๖. ภารฏฺกถาย สีสกฺขนฺธกโฏลมฺพวสาติ เอวํนามกานํ สรีราวยวานํ วเสน ภาโร ¶ จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ สีสภาราทีสุ อสมฺโมหตฺถํ สีสาทีนํ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ – สีสสฺส ตาว ปุริมคเล คลวาฏโก ปิฏฺิคเล เกสฺจิ เกสนฺเต อาวฏฺโฏ โหติ, คลสฺเสว อุโภสุ ปสฺเสสุ เกสฺจิ เกสาวฏฺฏา โอรุยฺห ชายนฺติ, เย ‘‘กณฺณจูฬิกา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโธภาโค จาติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท, ตโต อุปริ สีสํ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร สีสภาโร นาม.
อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปฏฺาย เหฏฺา, กปฺปเรหิ ปฏฺาย อุปริ, ปิฏฺิคลาวฏฺฏโต จ คลวาฏกโต จ ปฏฺาย เหฏฺา, ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต จ อุรปริจฺเฉทมชฺเฌ หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย อุปริ ขนฺโธ, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร ขนฺธภาโร นาม.
ปิฏฺิเวมชฺฌาวฏฺฏโต ¶ , ปน หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ปาทนขสิขา, อยํ กฏิปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร สมนฺตโต สรีเร ิตภาโร กฏิภาโร นาม.
กปฺปรโต ปฏฺาย ปน เหฏฺา ยาว หตฺถนขสิขา, อยํ โอลมฺพกปริจฺเฉโท, เอตฺถนฺตเร ิตภาโร โอลมฺพโก นาม.
ภรตีติ ภาโร, ภรติ เอเตน, เอตสฺมินฺติ วา ภาโร, อิติ ยถาวุตฺตสีสาทโย อวยวา วุจฺจนฺติ. ภาเร ติฏฺตีติ ภารฏฺํ. อิติ สีสาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ วุจฺจติ. ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๑) อฏฺกถาวจนโต ภรียตีติ ภาโร, กมฺมนิ สิทฺเธน ภาร-สทฺเทน ภณฺฑเมว วุจฺจติ.
๑๔๗. สิรสฺมึเยวาติ ยถาปริจฺฉินฺเน สิรสิ เอว. สาเรตีติ อนุกฺขิปนฺโต อิโต จิโต จ สาเรติ. ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยํ ภเวยฺย.
๑๔๘. ขนฺธนฺติ ยถาปริจฺฉินฺนเมว ขนฺธํ. โอโรปิเตติ โอหาริเต. สีสโตติ เอตฺถ ‘‘อุทฺธ’’นฺติ ปาเสโส, ยถาปริจฺฉินฺนสีสโต อุปรีติ อตฺโถ. เกสคฺคมตฺตมฺปีติ เกสคฺคมตฺตํ ทูรํ กตฺวา. ปิ-สทฺโท ปเคว ตโต อธิกนฺติ ทีเปติ. โมเจนฺโตปีติ เกสคฺเคน อผุสนฺตํ อปเนนฺโต. เอตฺถาปิ ปิ-สทฺเทน น เกวลํ ขนฺธํ โอโรเปนฺตสฺเสว ปาราชิกํ, อปิจ โข โมเจนฺโตปิ ¶ ปราชิโตติ เหฏฺา วุตฺตมเปกฺขติ. ปสิพฺพกาทิยมกภารํ ปน สีเส จ ปิฏฺิยฺจาติ ทฺวีสุ าเนสุ ิตตฺตา ทฺวีหิ าเนหิ อปนยเนน ปาราชิกํ โหติ, ตฺจ ‘‘สีสโต โมเจนฺโต’’ติ อิมินาว เอกเทสวเสน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๔๙-๕๐. เอวํ ¶ สีสภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺเทสกฺกเมสุ ขนฺธภาราทีสุ วินิจฺฉเย ทสฺเสตพฺเพปิ อวสาเน วุตฺตโอลมฺพกภาเร วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อาทฺยนฺตภารานํ วุตฺตนยานุสาเรน เสเสสุปิ วินิจฺฉยํ อติทิสิตุมาห ‘‘ภาร’’นฺติอาทิ. สุทฺธมานโสติ ปาตราสาทิการเณน อเถยฺยจิตฺโต, หตฺถคตภารํ เถยฺยจิตฺเตน ภูมิยํ ปนนิสฺสชฺชนาทึ กโรนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ อิทเมเตน อุปลกฺขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอตฺถ วุตฺตนเยเนวาติ สีสภารโอลมฺพกภาเรสุ วุตฺตานุสาเรน. เสเสสุปิ ภาเรสูติ ขนฺธภาราทิเกสุปิ. มติสาเรน สารมตินา. เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโยติ ยถาปริจฺฉินฺเนสุ าเนสุ ิตํ ปาทคฺฆนกํ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ เถยฺยจิตฺเตน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, านา อจาเวตฺวา ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ยถาปริจฺฉินฺนฏฺานาติกฺกมนวเสน วา อุทฺธํอุกฺขิปนวเสน วา านา จาเวนฺตสฺส ปาราชิกํ โหตีติ อยํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๑-๓. อิทานิ อารามฏฺวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ. อารามนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผารามฺจ อมฺพาทิผลารามฺจาติ ทฺวีสุ อาราเมสุ ยํ กฺจิ อารามํ. อารมนฺติ เอตฺถ ปุปฺผาทิกามิโนติ วิคฺคโห, ตํ อารามํ, อภิ-สทฺทโยเค อุปโยควจนํ. อภิยฺุชโตติ ปรายตฺตภาวํ ชานนฺโต ‘‘มม สนฺตก’’นฺติ อฏฺฏํ กตฺวา คณฺหิตุํ เถยฺยจิตฺเตน สหายาทิภาวตฺถํ ทุติยกปริเยสนาทิวเสน อภิยฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ มุนินา วุตฺตนฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียํ, อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา สหปโยคคณนาย ทุกฺกฏนฺติ ภควตา ¶ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ธมฺมํ จรนฺโตติ อฏฺฏํ กโรนฺโต. ปรํ สามิกํ ปราเชติ เจ, สยํ สาสนโต ปราชิโตติ โยชนา.
ตสฺสาติ ภณฺฑสามิโน. วิมตึ ชนยนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา สห อฏฺฏํ กตฺวา มม สนฺตกํ ลภิสฺสามิ ¶ วา, น วา’’ติ สํสยํ อุปฺปาเทนฺตสฺส โจรสฺส. โยปิ ธมฺมํ จรนฺโต สยํ ปรชฺชติ, ตสฺส จ ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา.
สามิโน ธุรนิกฺเขเปติ ‘‘อยํ ถทฺโธ กกฺขโฬ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายมฺปิ เม กเรยฺย, อลํ ทานิ มยฺหํ อิมินา อาราเมนา’’ติ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ, อตฺตโน ‘‘น ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป จาติ โยชนา. เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตสฺสาติ อภิยฺุชนฺตสฺส. สพฺเพสํ กูฏสกฺขีนฺจาติ จ-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ. โจรสฺส อสฺสามิกภาวํ ตฺวาปิ ตทายตฺตกรณตฺถํ ยํ กิฺจิ วทนฺตา กูฏสกฺขิโน, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ ปาราชิกํ โหตีติ อตฺโถ.
อารามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๔. วิหารฏฺกถายํ วิหารนฺติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปริเวณํ วา, อาวาสํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. สงฺฆิกนฺติ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนตฺตา สงฺฆสนฺตกํ. กฺจีติ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ วาติ อตฺโถ. อจฺฉินฺทิตฺวาน คณฺหิตุํ อภิยฺุชนฺตสฺส ปาราชิกา น สิชฺฌตีติปิ ปาเสสโยชนา. เหตุํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโต’’ติ, สพฺพสฺเสว จาตุทฺทิสิกสงฺฆสฺส ธุรนิกฺเขปสฺส อสมฺภวโตติ อตฺโถ. ‘‘วิหาร’’นฺติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ วิเสสเนน ทีฆภาณกาทิเภทสฺส คณสฺส, เอกปุคฺคลสฺส วา ทินฺนวิหาราทึ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺเต ธุรนิกฺเขปสมฺภวา ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อาราเม วิย ¶ เวทิตพฺโพ. อิเมสุ ตตฺรฏฺภณฺเฑ วินิจฺฉโย ภูมฏฺถลฏฺอากาสฏฺเวหาสฏฺเสุ วุตฺตนเยน าตุํ สกฺกาติ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา.
๑๕๕-๖. เขตฺตฏฺเ สีสานีติ วลฺลิโย. นิทมฺปิตฺวานาติ ยถา ธฺมตฺตํ หตฺถคตํ โหติ, ตถา กตฺวา. อสิเตนาติ ทาตฺเตน. ลายิตฺวาติ ทายิตฺวา. สพฺพกิริยาปเทสุ ‘‘สาลิอาทีนํ สีสานี’’ติ สมฺพนฺธนียํ. สาลิอาทีนํ สีสานิ นิทมฺปิตฺวา คณฺหโต ยสฺมึ พีเช คหิเต วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา โมจิเต ตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา. อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหโต ¶ ยสฺมึ สีเส คหิเต…เป… ภเว, กเรน ฉินฺทิตฺวา คณฺหโต ยสฺสํ มุฏฺิยํ คหิตายํ…เป… ภเวติ โยชนา. พีเชติ วีหาทิผเล. วตฺถุ ปูรตีติ ปาทคฺฆนกํ โหตีติ. มุฏฺิยนฺติ สีสมุฏฺิยํ, พีชมุฏฺิยํ วา. พนฺธนา โมจิเตติ พนฺธนฏฺานโต โมจิเต.
๑๕๗. ทณฺโฑ วาติ วตฺถุปูรกวีหิทณฺโฑ วา. อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ สมฺพนฺโธ. ตโจ วาติ ตสฺส ทณฺฑสฺส เอกปสฺเส ฉลฺลิ วา อจฺฉินฺโน รกฺขติจฺเจว สมฺพนฺโธ. วา-คฺคหเณน อิธาวุตฺตํ อฏฺกถาคตํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๔) ‘‘วาโก’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วาโก นาม ทณฺเฑ วา ตเจ วา พาหิรํ. อิธาปิ ตโจ วา อจฺฉินฺโน รกฺขตีติ โยชนา. วีหินาฬมฺปิ วาติ คหิตธฺสาลิสีเสน ปติฏฺิตํ วีหิกุทฺรูสาทิคจฺฉานํ นาฬํ, ตจคพฺโภติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆนฺติ ทีฆํ เจ โหติ. ‘‘อนิกฺขนฺโตวา’’ติ อิมินา ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตโต’’ติ ปาเสโส. ตโต ¶ ทีฆวีหินาฬโต สพีชวีหิสีสทณฺโฑ สพฺพโส ฉินฺโน ฉินฺนโกฏิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ พหิ อนิกฺขนฺโตติ อตฺโถ. รกฺขตีติ ตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกวตฺถูนํ อนุรูปาปตฺติโต ปาเลติ. มุตฺโต เจ, น รกฺขตีติ อตฺโถ.
วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘วีหินาฬํ ทีฆมฺปิ โหติ, ยาว อนฺโตนาฬโต วีหิสีสทณฺฑโก น นิกฺขมติ, ตาว รกฺขติ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ นาฬโต ทณฺฑกสฺส เหฏฺิมตเล นิกฺขนฺตมตฺเต ภณฺฑคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๑.๑๐๔). ตถา อิมินาว วินิจฺฉเยน อฏฺกถายํ ‘‘ลายิตพฺพวตฺถุปูรกวีหิสีสมุฏฺิยา มูเล ฉินฺเนปิ สีเสสุ อจฺฉินฺนวีหิสีสคฺเคหิ สทฺธึ ชเฏตฺวา ิเตสุ รกฺขติ, ชฏํ วิชเฏตฺวา วิโยชิเตสุ ยถาวุตฺตปาราชิกาทิอาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉโย จ สูจิโตติ คเหตพฺโพ.
๑๕๘. มทฺทิตฺวาติ วีหิสีสานิ มทฺทิตฺวา. ปปฺโผเฏตฺวาติ ภุสาทีนิ โอผุนิตฺวา. อิโต สารํ คณฺหิสฺสามีติ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. อิโตติ วีหิสีสโต. สารํ คณฺหิสฺสามีติ สารภาคํ อาทิยิสฺสามิ. สเจ ปริกปฺเปตีติ โยชนา. รกฺขตีติ วตฺถุปโหนกปฺปมาณํ ทาตฺเตน ลายิตฺวา วา หตฺเถน ฉินฺทิตฺวา วา านา จาเวตฺวา คหิตมฺปิ ยาว ปริกปฺโป น นิฏฺาติ, ตาว อาปตฺติโต รกฺขตีติ อตฺโถ.
๑๕๙. มทฺทเนปีติ วีหิสีสมทฺทเนปิ. อุทฺธรเณปีติ ปลาลาปนยเนปิ. ปปฺโผฏเนปีติ ภุสาทิกจวราปนยเนปิ ¶ . โทโส นตฺถีติ อคฺฆวเสน ปาราชิกาทิอาปตฺติโย น ภวนฺติ, สหปโยคทุกฺกฏํ ปน โหเตว. อตฺตโน…เป… ปราชโยติ ¶ อตฺตโน ปมํ ปริกปฺปิตากาเรน สพฺพํ กตฺวา สารภาคํ คณฺหิตุํ อตฺตโน ภาชเน ปกฺขิตฺตมตฺเต ยถาวุตฺตปาราชิกาทโย โหนฺตีติ อตฺโถ.
๑๖๐. เอตฺตาวตา ‘‘เขตฺตฏฺํ นาม ภณฺฑํ เขตฺเต จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๔) วุตฺตานิ เขตฺตฏฺานิ จตฺตาริ ยถาวุตฺตสทิสานีติ ตานิ ปหาย ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ อาคเต ตตฺรชาเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายตี’’ติ (ปารา. ๑๐๔) เอวมาคเต เขตฺเตปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชาน’’นฺติอาทิ. ชานนฺติ ปรสนฺตกภาวํ ชานนฺโต. ขีลนฺติ อปฺปิตกฺขรํ วา อิตรํ วา ปาสาณาทิขีลํ. สงฺกาเมตีติ ปรายตฺตภูมึ สามิกา ยถา ปสฺสนฺติ, ตถา วา อฺถา วา อตฺตโน สนฺตกํ กาตุกามตาย เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ ยถา สสนฺตกํ โหติ, ตถา เถยฺยจิตฺเตน นิขณตีติ อตฺโถ.
๑๖๑. ตํ ปาราชิกตฺตํ ตสฺส กทา โหตีติ อาห ‘‘สามิกานํ ตุ ธุรนิกฺเขปเน สตี’’ติ. ‘‘โหตี’’ติ ปาเสโส. ตุ-สทฺเทน ‘‘อตฺตโน วา’’ติ วิเสสสฺส สงฺคหิตตฺตา สามิโน นิราลยภาวสงฺขาตธุรนิกฺเขเป จ ‘‘สามิกสฺส น ทสฺสามี’’ติ อตฺตโน ธุรนิกฺเขเป จ ตสฺส ปาราชิกตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. เอวมุทีริตนฺติ ‘‘เกสคฺคมตฺตมฺปี’’ติ เอวํ นิยมิตํ กถิตํ.
๑๖๒. ยา ปนาติ ยา ภูมิ ปน. เตสุ ทฺวีสุ ขีเลสุ. อาโท ถุลฺลจฺจยนฺติ ปเม ขีเล สงฺกามิเต โส ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ทุติเยติ ทุติเย ขีเล สงฺกามิเต ปราชโย ¶ โหตีติ โยชนา. พหูหิ ขีเลหิ คเหตพฺพฏฺาเน ปริยนฺตขีเลสุ ทฺวีสุ วินิจฺฉโย จ เอเตเนว วุตฺโต โหติ. เอตฺถ ปน อนฺเต ขีลทฺวยํ วินา อวเสสขีลนิขณเน จ อิตเรสุ ตทตฺเถสุ สพฺพปโยเคสุ จ ทุกฺกฏํ โหตีติ วิเสโส.
๑๖๓-๔. ‘‘มเมทํ สนฺตก’’นฺติ าเปตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. ปรสนฺตกาย ภูมิยา ปรายตฺตภาวํ ตฺวาว เถยฺยจิตฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ คณฺหิตุกามตาย ‘‘เอตฺตกํ านํ มม สนฺตก’’นฺติ ¶ รชฺชุยา วา ยฏฺิยา วา มินิตฺวา ปรสฺส าเปตุกาโมติ อตฺโถ. เยหิ ทฺวีหิ ปโยเคหีติ สพฺพปจฺฉิมเกหิ รชฺชุปสารณยฏฺิปาตนานมฺตเรหิ ทฺวีหิ ปโยเคหิ. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.
อิธ รชฺชุํ วาปีติ วิกปฺปตฺถวา-สทฺเทน ‘‘ยฏฺึ วา’’ติ โยเชตพฺเพปิ อวุตฺตสมุจฺจยตฺถํ อธิกวจนภาเวน วุตฺตปิ-สทฺเทน อิธาวุตฺตมริยาทวตีนํ วินิจฺฉยสฺส าปิตตฺตา ยถาวุตฺตรชฺชุยฏฺิวินิจฺฉเยสุ วิย ปรสนฺตกาย ภูมิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหิตุกามตาย วติปาเท นิขณิตฺวา วา สาขามตฺเตน วา วตึ กโรนฺตสฺส มริยาทํ วา พนฺธนฺตสฺส ปาการํ วา จินนฺตสฺส ปํสุมตฺติกา วา วฑฺเฒนฺตสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ สหปโยเค เกวลทุกฺกฏฺจ ปจฺฉิมปโยเคสุ ทฺวีสุ ปมปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ อวสานปโยเค ปาราชิกฺจ โหตีติ วินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๕. วตฺถฏฺาทีสุ วตฺถฏฺสฺสาติ เอตฺถ ‘‘วตฺถุ นาม อารามวตฺถุ วิหารวตฺถู’’ติ (ปารา. ๑๐๕) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ปุปฺผาทิอาราเม ¶ กาตุํ สงฺขริตฺวา ปิตภูมิ จ ปุพฺพกตารามานํ วินาเส ตุจฺฉภูมิ จ วิหารํ กาตุํ อภิสงฺขตา ภูมิ จ นฏฺวิหารภูมิ จาติ เอวํ วิภาควติ วสติ เอตฺถ อุปโรโป วา วิหาโร วาติ ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ อิจฺเจวํ ทุวิธํ วตฺถฺุจ ‘‘วตฺถุฏฺํ นาม ภณฺฑํ วตฺถุสฺมึ จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ ถลฏฺํ อากาสฏฺํ เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๕) วจนโต เอวํ จตุพฺพิธํ ภณฺฑฺจาติ อิทํ ทฺวยํ วตฺถุ จ วตฺถุฏฺฺจ วตฺถุวตฺถุฏฺนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสวเสน สมาเสตฺวา, อุ-การสฺส จ อการํ กตฺวา ‘‘วตฺถฏฺสฺสา’’ติ ทสฺสิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาวุตฺตทุวิธวตฺถุโน, วตฺถฏฺสฺส จ ภณฺฑสฺสาติ อตฺโถ. เขตฺตฏฺเติ เอตฺถาปิ อยเมว สมาโสติ เขตฺเต จ เขตฺตฏฺเ จาติ คเหตพฺพํ. นาวฏฺาทิโวหาเรปิ เอเสว นโย. คามฏฺเปิ จาติ ‘‘คามฏฺํ นาม ภณฺฑํ คาเม จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ โหติ ภูมฏฺํ…เป… เวหาสฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๐๖) วุตฺเต จตุพฺพิเธ คามฏฺภณฺเฑปีติ อตฺโถ.
วตฺถฏฺคามฏฺกถาวณฺณนา.
๑๖๖. อรฺฏฺกถายํ ¶ ‘‘ติณํ วา’’ติอาทิปทานํ ‘‘ตตฺถชาตก’’นฺติ ปเทน สมฺพนฺโธ. ตตฺถชาตกนฺติ ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วจนโต ตตฺถชาตํ ยํ กิฺจิ มนุสฺสสนฺตกํ สามิกานํ อกามา อคเหตพฺพโต สารกฺเข อรฺเ อุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ติณํ วาติ ปเรหิ ลายิตฺวา ปิตํ วา อตฺตนา ลายิตพฺพํ วา เคหจฺฉาทนารหํ ติณํ วา. ปณฺณํ วาติ เอวรูปเมว เคหจฺฉาทนารหํ ตาลปณฺณาทิปณฺณํ วา. ลตํ วาติ ตถารูปเมว เวตฺตลตาทิกํ วลฺลึ วา. ยา ปน ทีฆา โหติ ¶ , มหารุกฺเข จ คจฺเฉ จ วินิวิชฺฌิตฺวา วา เวเตฺวา วา คตา, สา มูเล ฉินฺนาปิ อวหารํ น ชเนติ, อคฺเค ฉินฺนาปิ. ยทา ปน อคฺเคปิ มูเลปิ ฉินฺนา โหติ, ตทา อวหารํ ชเนติ. สเจ ปน เวเตฺวา ิตา โหติ, เวเตฺวา ิตา ปน รุกฺขโต โมจิตมตฺตา อวหารํ ชเนตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. สามิเกน อวิสฺสชฺชิตาลยํ ฉลฺลิวากาทิอวเสสภณฺฑฺจ อิมินาว อุปลกฺขิตฺวา สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กฏฺเมว วาติ ทารุํ วา. ภณฺฑคฺเฆเนว กาตพฺโพติ เอตฺถ อนฺโตภูตเหตุตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ’’ติ. อวหฏติณาทิภณฺเฑสุ อคฺฆวเสน มาสกํ วา อูนมาสกํ วา โหติ, ทุกฺกฏํ. อติเรกมาสกํ วา อูนปฺจมาสกํ วา โหติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา โหติ, ปาราชิกํ. ปาราชิกํ เจ อนาปนฺโน, อามสนทุกฺกฏํ, ผนฺทาปนถุลฺลจฺจยฺจ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. คณฺหนฺโตติ อวหรนฺโต.
๑๖๗-๗๔. อิทานิ ‘‘กฏฺเมว วา’’ติ วุตฺตรุกฺขทารูสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหคฺเฆ’’ติอาทิ. มหคฺเฆติ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆกํ หุตฺวา มหคฺเฆ. นสฺสตีติ เถยฺยจิตฺตสมงฺคี หุตฺวา ฉินฺนมตฺเตปิ ปาราชิกํ อาปชฺชติ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ. ‘‘โกจิปี’’ติ อิมินา อทฺธคโตปิ อลฺลํ วา โหตุ ปุราณํ วา, ตจฺเฉตฺวา ปิตํ น คเหตพฺพเมวาติ อตฺโถ.
มูเลติ อุปลกฺขณมตฺตํ. ‘‘อคฺเค จ มูเล จ ฉินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถาวจนโต มูลฺจ อคฺคฺจ ฉินฺทิตฺวาติ คเหตพฺโพ. อทฺธคตนฺติ ชิณฺณคฬิตปติตตจํ, จิรกาลํ ิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ลกฺขเณติ ¶ อตฺตโน สนฺตกํ าเปตุํ รุกฺขกฺขนฺเธ ตจํ ฉินฺทิตฺวา กตสลฺลกฺขเณ. ฉลฺลิโยนทฺเธติ ¶ สมนฺตโต อภินวุปฺปนฺนาหิ ฉลฺลีหิ ปริโยนนฺธิตฺวา อทสฺสนํ คมิเต. อชฺฌาวุตฺถฺจาติ เอตฺถ ‘‘เคห’’นฺติ ปาเสโส. เคหํ กตฺจ อชฺฌาวุตฺถฺจาติ โยชนา. เคหํ กาตุํ อรฺสามิกานํ มูลํ ทตฺวา รุกฺเข กิณิตฺวา ฉินฺนทารูหิ ตํ เคหํ กตฺจ ปริภุตฺตฺจาติ อตฺโถ. วินสฺสนฺตฺจาติ เอตฺถาปิ ‘‘อวสิฏฺํ ทารุ’’นฺติ ปาเสโส. ตํ เคหํ กตฺวา อวสิฏฺํ วสฺสาตปาทีหิ วิวิธา ชีริตฺวา วินสฺสมานํ, วิปนฺนทารุนฺติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหโต น โทโส โกจีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สามิกา นิราลยา’’ติ คณฺหโต กาจิปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ. กึการณนฺติ เจ? อรฺสามิเกหิ มูลํ คเหตฺวา อฺเสํ ทินฺนตฺตา, เตสฺจ นิราลยํ ฉฑฺฑิตตฺตาติ อิทเมตฺถ การณํ.
วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เคหาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ยทา ตานิ กตานิ, อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ, ทารูนิปิ อรฺเ วสฺเสน จ อาตเปน จ วินสฺสนฺติ, อีทิสานิปิ ทิสฺวา ‘ฉฑฺฑิตานี’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ยสฺมา อรฺสามิกา เอเตสํ อนิสฺสรา. เยหิ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา ฉินฺนานิ, เต เอว อิสฺสรา, เตหิ จ ตานิ ฉฑฺฑิตานิ, นิราลยา ตตฺถ ชาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗). เอวมฺปิ สติ ปจฺฉา สามิเกสุ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
โย จาติ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ปวิสนฺโต อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนฺโต ทสฺสามี’’ติ รุกฺเข คาหาเปตฺวา นิกฺขมนฺโต โย จ ภิกฺขุ. อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติ อรฺปาลกา ยตฺถ นิสินฺนา อรฺํ รกฺขนฺติ, ตํ านํ ปตฺวา. ‘‘จินฺเตนฺโต’’ติ กิริยนฺตรสาเปกฺขตฺตา ‘‘อติกฺกเมยฺยา’’ติ สามตฺถิยโต ¶ ลพฺภติ. ตสฺมา จิตฺเต กมฺมฏฺานาทีนิ กตฺวาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปการตฺเถน กุสลปกฺขิยา วิตกฺกา สงฺคยฺหนฺติ. อฺํ จินฺเตนฺโต วา อารกฺขนฏฺานํ ปตฺวาเยว อติกฺกาเมยฺยาติ โยเชตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ อฺํ จินฺเตนฺโต วาติ อฺํ วิหิโต วา, อิมินา ยถาวุตฺตวิตกฺกานํ สงฺคโห. อสฺสาติ เอตฺถ ‘‘เทยฺย’’นฺติ กิตโยเค กตฺตริ สามิวจนตฺตา อเนนาติ อตฺโถ.
‘‘โยจา’’ติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน อรฺปวิสนกาเล ยถาวุตฺตนเยน มูลํ อทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ทารูนิ คเหตฺวา คมนกาเล ‘‘อรฺปาลกา สเจ ยาจนฺติ, ทสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา คนฺตฺวา เตหิ อยาจิตตฺตา อทตฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา อารกฺขเกสุ ¶ กีฬาปสุเตสุ วา นิทฺทายนฺเตสุ วา พหิ นิกฺขนฺเตสุ วา ตตฺถ ตฺวา อารกฺขเก ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉนฺโตปิ ตเถว อาคนฺตฺวา ตตฺถ นิยุตฺตอิสฺสรชเนหิ อตฺตโน หตฺถโต ทาตพฺพํ ทตฺวา วา อตฺตานํ สมฺมานํ กตฺวา วา ปาลเก สฺาเปตฺวา วา ปาลเก โอกาสํ ยาจิตฺวา เตหิ ทินฺโนกาโส วา คจฺฉนฺโตปีติ เอตฺตกา วุตฺเตน สทิสตฺตา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
วราหาติ สูกรา. วคฺฆาติ พฺยคฺฆา. อจฺฉาติ อิสฺสา. ตรจฺฉาติ กาฬสีหา. อาทิ-สทฺเทน ทีปิมตฺตหตฺถิสีหาทโย วาฬมิคา สงฺคยฺหนฺติ. เอเตเยว วราหาทโย สมาคมวเสน มรณาทิอนิฏฺสมีปจาริตาย อุป อนิฏฺสมีเป ทวนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ‘‘อุปทฺทวา’’ติ วุจฺจนฺติ. อารกฺขฏฺานํ อาคตกาเล ทิฏฺวราหาทิอุปทฺทวโตติ วุตฺตํ โหติ. มุจฺจิตุกามตายาติ โมกฺขาธิปฺปาเยน. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ปวิสนกาเล เทยฺยธมฺมํ อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนกาเล ทสฺสามี’’ติ ¶ ปวิสิตฺวา ทารุํ คเหตฺวา อารกฺขฏฺานํ ปตฺโตติ ปุริมคาถาย สามตฺถิยโต ลพฺภมาโนเยวตฺโถ ทสฺสิโต. ตํ านนฺติ ตํ อารกฺขฏฺานํ. อติกฺกาเมตีติ ‘‘อิทํ ตํ าน’’นฺติปิ อสลฺลกฺขณมตฺตภยุปทฺทโว หุตฺวา ปลายนฺโต อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา.
สุงฺกฆาตโตติ เอตฺถาปิ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ, สุงฺกคหณฏฺานโตปีติ อตฺโถ. สุงฺกสฺส รฺโ ทาตพฺพภาคสฺส ฆาโต มุสิตฺวา คหณมตฺโต, สุงฺโก หฺติ เอตฺถาติ วา สุงฺกฆาโตติ วิคฺคโห. สุงฺกฆาตสรูปํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ตสฺมาติ สุงฺกฆาตโต ตสฺส ครุกตฺตา เอว. ตนฺติ ตํ สุงฺกฆาตฏฺานํ. อโนกฺกมฺม คจฺฉโตติ อปวิสิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส. ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๓).
เอตนฺติ ยถาวุตฺตอารกฺขฏฺานํ. เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ เถยฺยจิตฺเตน ปริหริตฺวา ทูรโต คจฺฉนฺตสฺส. อากาเสนปิ คจฺฉโต ปาราชิกมนุทฺทิฏฺํ สตฺถุนาติ สมฺพนฺโธ.
นนุ จ ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) อฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ วินา ปาฬิยํ ‘‘อรฺฏฺ’’นฺติ มาติกาปทสฺส วิภงฺเค ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ติณํ วา ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ¶ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) สามฺวจนโต สุงฺกฆาเต ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนํ วิย เอตฺถ อารกฺขฏฺานํ ¶ ปริหรนฺตสฺส วิสุํ วุตฺตปาราชิกาปตฺติวจเน อสติปิ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สตฺถุนา’’ติ กสฺมา อาหาติ? วุจฺจเต – อฏฺกถาจริเยน ตเถว วุตฺตตฺตา อาห. กสฺมา ปน อฏฺกถาจริเยน ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสาม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติ (ปารา. ๕๖๕) ปาฬิปาํ ชานนฺเตนปิ ปาฬิยํ อวุตฺตปาราชิกํ นิทฺทิฏฺนฺติ? เอตฺถ วินิจฺฉยํ ภิกฺขูหิ ปุฏฺเน ภควตา วุตฺตนยสฺส มหาอฏฺกถาย อาคตตฺตา ตสฺเสว นยสฺส สมนฺตปาสาทิกายํ นิทฺทิฏฺภาวํ ชานนฺเตน อิมินาปิ อาจริเยน อิธ ‘‘สตฺถุนา’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อถ วา ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วตฺวา อารกฺขฏฺานวินิจฺฉเย อวจนํ ยถาวุตฺตวิสยสฺส อทิฏฺภาเวน วา สิยา, อิมสฺส ตถา อนวชฺชตา วา สิยา, วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยตา วา สิยาติ ตโย วิกปฺปา. เตสุ ปมวิกปฺโป สพฺพฺุภาวพาธนโต ทุพฺพิกปฺปมตฺตํ โหติ. ทุติยวิกปฺโป โลกวชฺชสฺส อิมสฺส อนวชฺชภาโว นาม อนุปปนฺโนติ อนาทาตพฺโพ. ปาริเสสโต ตติยวิกปฺโป ยุชฺชติ.
ตตฺถ ‘‘วุตฺตานุสาเรนา’’ติ กิเมตฺถ วุตฺตํ นาม, ตทนุสาเรน อิมสฺสาปิ สุวิฺเยฺยตา กถนฺติ เจ? ปมนิทฺทิฏฺเ อรฺฏฺนิทฺเทเส สามฺเน ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๖) อิทํ วุตฺตํ, น ปน เถยฺยจิตฺเตน อารกฺขฏฺานปริหรณฺจ. ‘‘คมนกาเล ‘มูลํ ทตฺวา คมิสฺสามี’ติ ปุพฺพปริกปฺปิตนิยาเมน อทตฺวา คจฺฉโต ปริกปฺปาวหาโรว โหตี’’ติ จ ‘‘ตํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ปริกปฺปิตฏฺานํ ปหาย คมนํ านาจาวนํ นาม โหเตวาติ เตน วตฺถุนา ปาราชิกเมว โหตี’’ติ ¶ จ ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’ติ อิมินา จ วิฺาตตฺถเมว โหตี’’ติ จ วิสุํ น วุตฺตํ. สุงฺกฏฺานปริหรณํ ปน านปริหรณสภาวตฺตา สภาวโต อีทิสํว สนฺตมฺปิ อิทํ วิย ปริกปฺปิตฏฺานํ น โหตีติ วกฺขมานราชสมฺมตฏฺานโต อฺํ ปริกปฺปิตฏฺานํ สมานมฺปิ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติมตฺเตน ตํ ปริหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส วิย ปาราชิกาย อวตฺถุตฺจ ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุภาวฺจ วิฺาเปตุํ ‘‘สุงฺกํ ปริหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ ภควโต อธิปฺปายฺุนา อฏฺกถาจริเยน ‘‘ปาราชิกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) วุตฺตตฺตา ¶ เตน อฏฺกถายํ วุตฺตนีหารเมว ทสฺเสตุํ อยมาจริโยปิ ‘‘สตฺถุนา ปาราชิกมนุทฺทิฏฺ’’นฺติ อาหาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ ปริหริตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ทูรโต วชฺเชตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ ปาราชิกปฺปโหนกตาย อจฺจนฺตภาริยํ โหติ, ตสฺมา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อรฺารกฺขฏฺาเน. ‘‘วิเสเสนา’’ติ อิทํ ‘‘อปฺปมตฺเตน โหตพฺพ’’นฺติ อิมินา เหตุภาเวน สมฺพนฺธนียํ. สติสมฺปนฺนเจตสาติ จ ปิยสีเลนาติ จ ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อสิกฺขากามสฺส ภิกฺขุโน อิมสฺส โอวาทสฺส อภาชนตาย ตํ ปริวชฺเชตุมาห ‘‘ปิยสีเลนา’’ติ. ปิยสีลสฺสาปิ สติวิรหิตสฺส ปมตฺตฏฺาเน สรณาสมฺภวา อิมสฺส อภาชนตาย ตํ วชฺเชตุมาห ‘‘สติสมฺปนฺนเจตสา’’ติ.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๕-๖. โตยทุลฺลภกาลสฺมินฺติ โตยํ ทุลฺลภํ ยสฺมึ โส โตยทุลฺลโภ, โตยทุลฺลโภ จ โส กาโล จาติ โตยทุลฺลภกาโล, ตสฺมึ. อาวชฺเชตฺวา วาติ อุทกภาชนํ นาเมตฺวา วา. ปเวเสตฺวา วาติ อตฺตโน ¶ ภาชนํ ตสฺมึ ปกฺขิปิตฺวา วา. ฉิทฺทํ กตฺวาปิ วาติ อุทกภาชเน โอมฏฺาทิเภทํ ฉิทฺทํ กตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส ภณฺฑคฺเฆน วินิทฺทิเสติ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ.
ตถาติ ยถา โตยทุลฺลภกาลสฺมึ ภาชเน รกฺขิตโคปิตํ อุทกํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ, เตเนว นีหาเรน. วาปิยํ วาติ ปรสนฺตกาย สารกฺขาย วาปิยํ วา. ตฬาเก วาติ ตาทิเส ชาตสฺสเร วา. เอวํ สารกฺขานํ โปกฺขรณิอาทีนํ เอเตหิ วา อวุตฺตสมุจฺจเยน วา-สทฺเทน วา คหณํ เวทิตพฺพํ. อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา คณฺหนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณปทนฺติ ภาชนคตชเล จ อิธ จ เตลภาชเน วิย มุเขน วา วํสาทีหิ วา อากฑฺฒิตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ปิวนฺตสฺส ยถาวตฺถุกมาปตฺติวิธานํ เวทิตพฺพํ.
๑๗๗. มริยาทนฺติ วาปิอาทีนํ ปาฬิวฏฺฏพนฺธํ. ฉินฺทโตติ กุทาลาทีหิ ปํสุอาทีนิ อุทฺธริตฺวา ทฺวิธา กโรนฺตสฺส. วิเสสตฺถาวโชตเกน ตุ-สทฺเทน ‘‘มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ตสฺส ¶ ฉินฺทนตฺถาย วีจิโย อุฏฺาเปตุํ อุทกํ สยํ โอตริตฺวา วา โคมหึเส วา อฺเ มนุสฺเส วา กีฬนฺเต ทารเก วา โอตาเรตฺวา วา อตฺตโน ธมฺมตาย โอติณฺเณ ตาเสตฺวา วา อุทเก ิตํ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา วา เฉทาเปตฺวา วา ปาเตตฺวา วา ปาตาเปตฺวา วา ชลํ โขเภติ, ตโต อุฏฺิตาหิ วีจีหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺโน โหติ. เอวเมว โคมหึสาทโย มริยาทํ อาโรหนฺเตนาปิ อฺเหิ อาโรหาเปนฺเตนาปิ เตสํ ขุเรหิ มริยาเท ฉินฺเนปิ, อุทกนิทฺธมนาทึ ปิทหิตฺวา วา ปิทหาเปตฺวา วา วาปิมริยาทาย นีจฏฺานํ พนฺธิตฺวา วา พนฺธาเปตฺวา วา อติเรกชลาปคมนมคฺคโต นีหริตพฺโพทกํ วาเรตฺวา วา พาหิรโต อุทกํ ปเวเสตฺวา วา ปูเรติ, โอเฆน มริยาเท ¶ ฉินฺเนปิ เตเนว ฉินฺนํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) เอวมาทิกํ อฏฺกถาคตวิเสสํ สงฺคณฺหาติ. อทินฺนาทานปุพฺพโตติ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ภูตคาเมนปิ สทฺธึ. อปิ-สทฺเทน ปถวิขณนํ สมฺปิณฺเฑติ. มริยาทํ ฉินฺทนฺโต ตตฺถชาตํ ติณาทึ ฉินฺทติ, ภูตคามปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ. ชาตปถวึ ฉินฺทติ, ปถวิขณนปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
๑๗๘. กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา’’ติ ปาเสโส. อนฺโตภูตเหตฺวตฺถวเสน กาเรตพฺโพติ คเหตพฺโพ. อนฺโต ตฺวา ฉินฺทนฺโต พหิอนฺเตน, พหิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต อนฺโตอนฺเตน, อุภยตฺถาปิ ตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺฌโต ภณฺฑคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อนฺโตวาปิยํ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อุทเก พหิ นิกฺขมิเต นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาสุ ยถาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. พหิ ตฺวา มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวาปิยํ ปวิสนฺโตทกสฺส ิตฏฺานโต จาวิตกฺขเณ นิกฺขนฺตอุทกคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. กทาจิ อนฺโต กทาจิ พหิ ตฺวา มริยาทํ มชฺเฌ เปตฺวา ฉินฺทนฺโต มชฺเฌ ิตฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อุทกสฺส นีหฏกฺขเณ นีหฏอุทกสฺส อคฺเฆน อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๗๙-๘๐. วาเรนาติ วาเรน วาเรน สามเณรา อรฺโต ยํ ทนฺตกฏฺํ สงฺฆสฺสตฺถาย อาเนตฺวา สเจ อาจริยานมฺปิ อาหรนฺติ, ยาว เต ทนฺตกฏฺํ ปมาเณน ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส จ อาจริยานฺจ ¶ น นิยฺยาเทนฺติ, ตาว อรฺโต ¶ อาภตตฺตา ตํ สพฺพํ สงฺฆสฺส จ สกสกอาจริยานฺจ อาภตํ ทนฺตกฏฺํ เตสเมว จ ทนฺตกฏฺหารกานํ สามเณรานํ สนฺตกํ โหตีติ อตฺถโยชนา.
๑๘๑. ตสฺมาติ ยสฺมา เตสเมว สามเณรานํ สนฺตกํ โหติ, ตสฺมา. ตํ อรฺโต อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ สงฺฆสฺส ครุภณฺฑฺจ ทนฺตกฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. สงฺฆิกาย ภูมิยํ อุปฺปนฺนํ สงฺเฆน รกฺขิตโคปิตตฺตา ครุภณฺฑภูตํ ทนฺตกฏฺฺจาติ วุตฺตํ โหติ. คณฺหนฺตสฺส จาติ อธิกจ-กาเรน อิหาวุตฺตสฺส อฏฺกถาคตสฺส คณปุคฺคลคิหิปริพทฺธ อารามุยฺยานสฺชาตฉินฺนาฉินฺนรกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺสฺส สมุจฺจิตตฺตา ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส อวหฏทนฺตกฏฺสฺส อคฺฆวเสน อาปตฺติโย วตฺตพฺพาติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ.
๑๘๒. เตหิ ทนฺตกฏฺหารเกหิ สามเณเรหิ. นิยฺยาทิตนฺติ มหาสงฺฆสฺส ปฏิปาทิตํ.
๑๘๓. สงฺฆิกกาลโต ปฏฺาย เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ อวหาราภาเว การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อรกฺขตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อรกฺขตฺตาติ สงฺฆิกภาเวน ลทฺเธปิ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺเ วิย สงฺเฆน กตารกฺขายาภาวา. ยถาวุฑฺฒมภาเชตพฺพโตติ สงฺฆิกตฺตสฺสาปิ สโต ยถาวุฑฺฒํ ปฏิปาฏิมนติกฺกมฺม ภาเชตพฺพผลปุปฺผาทีนํ วิย ภาเชตพฺพตาภาวโต. สพฺพสาธารณตฺตา จาติ สงฺฆปริยาปนฺนานํ สพฺเพสเมว สาธารณตฺตา.
อิทนฺติ สงฺฆสฺส นิยฺยาทิตทนฺตกฏฺํ. อฺํ วิยาติ อฺํ คณปุคฺคลาทิสนฺตกํ รกฺขิตโคปิตทนฺตกฏฺํ วิย. เอวํ โจริกาย คณฺหโต อวหาราภาเว การเณน สาธิเตปิ เถยฺยจิตฺเตน ¶ สกปริกฺขารมฺปิ คณฺหโต ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ตถา คณฺหนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ. วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ – สงฺฆิกทนฺตกฏฺํ คณฺหนฺเตน ปธานฆราทีสุ ปวิสิตฺวา จิเรน โอสรนฺเตน พหิ วีตินาเมตพฺพทิวเส คเณตฺวา ตํปมาเณน คเหตพฺพํ, มคฺคํ คจฺฉนฺเตน เอกํ ทฺเว ทนฺตกฏฺานิ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, ตตฺเถว วสนฺเตน ทิวเส ขาทิตพฺพทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพนฺติ.
ทนฺตกฏฺกถาวณฺณนา.
๑๘๔. ‘‘อคฺคึ ¶ วา เทตี’’ติอาทีสุ ‘‘รุกฺเข’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ ‘‘รุกฺโข วินสฺสตี’’ติ วกฺขมานตฺตา, รุกฺโข จ ‘‘วนปฺปติ นาม โย มนุสฺสานํ ปริคฺคหิโต โหติ รุกฺโข ปริโภโค’’ติ (ปารา. ๑๑๐) ปาฬิยํ อาคตตฺตา จ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) จ วุตฺตนเยน อมฺพลพุชปนสาทิโก มนุสฺสานํ ปริโภคารโห มนุสฺสายตฺโต รกฺขิตโคปิโตเยว คเหตพฺโพ. อคฺคึ วา เทตีติ โจริกาย อคฺคึ อาลิมฺเปติ วา. สตฺเถน รุกฺเข สมนฺตโต อาโกเฏตีติ วาสิผรสุอาทิสตฺเถน รุกฺขตจํ ฉินฺทนฺโต สมนฺตโต อาวาฏํ ทสฺเสติ. มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ วา รุกฺเข อาโกเฏตีติ โจริกาย รุกฺขํ นาเสตุกาโม รุกฺเข มณฺฑูกกณฺฏกนามกํ วิสํ ปเวเสติ.
๑๘๕. เยน วา เตน วาติ ยถาวุตฺเตน วา อวุตฺเตน วา เยน เกนจิ อุปาเยน. รุกฺโข วินสฺสตีติ อคฺคึ ทตฺวา ฌาปิโต ธฺกลาโป วิย, เตลกุมฺภี วิย จ วินาว านาจาวเนน ยถาฏฺิตเมวนสฺสติ. ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อิทํ ‘‘อคฺคึ เทตี’’ติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. วินสฺสตีติ มณฺฑูกกณฺฏกาโกฏนาทิอวเสสปโยคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ฉินฺทติ, ปหาเร ปหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, เอกํ ปหารํ ¶ อนาคเต อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส, ตสฺมึ ปหาเร อาคเต อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๐) านาจาวเนน ปาราชิกสฺส อาคตตฺตา. ปกาสิตนฺติ เอตฺถ ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ ลพฺภติ. ปาาคตํ ปาราชิกํ ปน ปาริเสสโต จ สูจียตีติ ตพฺพาจกสฺส วา สงฺคาหกสฺส วา วจนสฺส อิหาวิชฺชมานตฺตา ตตฺถ วินิจฺฉโย ปาสํสิโกปิ อิหาวุตฺโต.
วนปฺปติกถาวณฺณนา.
๑๘๖-๗. ‘‘หรณกํ นาม อฺสฺส หรณกํ ภณฺฑํ. เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) วุตฺตหรณกนิทฺเทเส ‘‘านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๑) ปาเ ‘‘าน’’นฺติ คหิตสีสาทิฏฺานปฺปเภทวเสน อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๐) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ฉินฺทิตฺวา โมเจตฺวา คณฺหโต’’ติ. กิริยานํ สกมฺมกตฺตา ‘‘อลงฺการ’’นฺติ ปาเสโส. ฉินฺทิตฺวาติ คีเวยฺยกาทึ. โมเจตฺวาติ กณฺณปิฬนฺธนาทึ.
สีสาทีหิ ¶ โมจิตมตฺตสฺมินฺติ เอตฺถาปิ วิเสสิตพฺพทสฺสนตฺถํ ‘‘อลงฺการสฺมิ’’นฺติ ตเมว ภุมฺเมกวจนนฺตวเสน คเหตพฺพํ. อากฑฺฒนวิกฑฺฒนนฺติ เอตฺถ อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนนฺติ กตฺวา อตฺตโน สมีปมาวิฺฉนํ อากฑฺฒนํ, วิปรีตํ กฑฺฒนํ วิกฑฺฒนนฺติ กตฺวา ตพฺพิปรีตํ วิกฑฺฒนํ.
๑๘๘-๙. วลยนฺติ อวงฺกํ มฏฺหตฺถูปคํ. กฏกมฺปิ วาติ อเนกวงฺเก โยเชตฺวา พุพฺพุฬาทีนิ ทสฺเสตฺวา วา อทสฺเสตฺวา ¶ วา กตํ หตฺถูปคํ. อคฺคพาหุนฺติ กปฺปรโต ปฏฺาย อคฺคหตฺถํ. อปราปรํ จาเรตีติ อิโต จิโต จ สฺจาเรติ. ‘‘สาเรตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. ตํ วลยํ วา กฏกํ วา. อากาสคตํ กโรตีติ สพฺพทิสาหิ ยถา หตฺถํ น ผุสติ, ตถา อากาสคตํ กโรติ. นิธิวลยสฺส ปเวสิตรุกฺขมูเล สพฺพทิสาหิ อผุสนฺตํ อากาสคตกรเณ ปาราชิกํ โหติ, อิธ ‘‘รกฺขตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สวิฺาณกโต’’ติอาทิ. อิทนฺติ วลยํ กฏกฺจ.
๑๙๐. ‘‘นิวตฺถํ วตฺถ’’นฺติ อิมินา จีวรมฺปิ คยฺหติ. ปรสฺส วตฺถสามิกสฺส. ปโรปีติ วตฺถสามิโกปิ. ตนฺติ โจเรน อจฺฉิชฺชมานํ อตฺตนา นิวตฺถวตฺถํ. ลชฺชาย สหสา น มฺุจตีติ ลชฺชาย สีฆตรํ น ปริจฺจชติ.
๑๙๑. โจโรปิ อากฑฺฒติ, โส ปโรปิ อากฑฺฒตีติ โยชนา. โส ปโร โจรโต อฺโ, วตฺถสามิโกติ อตฺโถ. ปรสฺสาติ วตฺถสามิกสฺส.
๑๙๒. ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ ปาเ าน-สทฺเทน สงฺคหิตสีสาทิฏฺานโต หรียเตติ หรณกนฺติ วุตฺตาลงฺการาทิภณฺฑสฺส จาวเนน ปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเทว หรณกํ หารเกน สห หรนฺตสฺส หารกสฺส ิตฏฺานโต อปนยเนน านาจาวนฺจ ‘‘านา จาเวยฺยา’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหตีติ ตตฺถาปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สภณฺฑหารก’’นฺติอาทิ. ภณฺฑํ หรติ เนตีติ ภณฺฑหารโก, ปุริสาทิโก, เตน สหาติ สภณฺฑหารกํ, อลงฺการวตฺถาทีนิ อาทาย คจฺฉนฺเตหิ อิตฺถิปุริสาทิปาเณหิ สเหว. ภณฺฑนฺติ เตหิ หริยมานตฺตา หรณกสงฺขาตวตฺถาภรณาทิภณฺฑํ ¶ . เนนฺตสฺสาติ ‘‘เนนฺโต อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เนนฺโตติ ิตฏฺานโต จาเวตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ ปาเปนฺโต. อสฺส ปเม ปาเท อติกฺกนฺเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวาติ ¶ ปาเสสโยชนา. อสฺสาติ อิมสฺส ภณฺฑหารกสฺส. ปมปาเท อติกฺกนฺเต อตฺตนา ปมํ คนฺตพฺพทิสโต โจรสฺสาภิมตทิสํ คเต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ทุติเย อติกฺกนฺเต จุโต สิยาติ โยชนา.
๑๙๓. เถยฺยเจตโน สเจ ตชฺเชตฺวา ปรสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ ปาตาเปติ, ปรสฺส หตฺถโต ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเต ตชฺเชตฺวา ปาตาปกสฺส ปราชโยติ โยชนา. ภณฺเฑ มุตฺตมตฺเตติ ภณฺเฑ หตฺถโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุตฺตกฺขเณ.
๑๙๔. อถาปีติ อถ วา. ปริกปฺเปตฺวา ปาตาเปติ วาติ เอตฺถ ‘‘ยํ มยฺหํ รุจฺจติ, ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วา ‘‘เอวรูปํ เจ โหติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ วิเสเสตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา ตชฺเชตฺวา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ปาติตํ ภณฺฑํ ตสฺส โจรสฺส อามสเน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๑๙๕. ยถาวตฺถุนฺติ ภณฺฑสฺส อคฺฆานุรูปํ, ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ฉฑฺฑิเตปีติ ตสฺส โจรภาวํ ชานิตฺวา ภีตตสิเตน อตฺตนา นียมาเน ภณฺเฑ ฉฑฺฑิเตปิ สติ. เตเนว านาจาวนํ การาปิตนฺติ ปาราชิกนฺติ น คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘น โทโส’’ติ. ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วุตฺเต ปน อุตฺตสิตฺวา ฉฑฺฑนํ ตสฺส อาณตฺติยา วินา โหตีติ ตตฺถ ตสฺส อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. ตถา วทโต ปน อทินฺนาทานปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว.
๑๙๖. ตนฺติ ตํ ฉฑฺฑิตํ ภณฺฑํ. ตทุทฺธาเรติ ตสฺส ฉฑฺฑิตสฺส ภณฺฑสฺส อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ปาราชิกํ กทา สิยาติ ¶ อาห ‘‘สามิเก สาลเย คเต’’ติ. นิราลยํ ฉฑฺฑิตํ ปน คณฺหโต อสติ เถยฺยจิตฺเต น โทโสติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.
๑๙๗. สามิกสฺส สาลยกาเล คณฺหนฺตสฺสาปิ ปาราชิกาภาวปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต’’ติ. ปุพฺพคาถาย ‘‘ต’’นฺติ อิธานุวตฺตเต. สกสฺายคณฺหโตติ ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วจนโต อุตฺตสิตฺวา สาลยํ ฉฑฺฑิตํ ตํ วตฺถุํ สกสฺาย คณฺหนฺตสฺส. คหเณติ สกสฺาย คหณเหตุ, สกสฺาย คหิตภณฺฑํ อตฺตโน คหณการณา ภิกฺขุํ อวหาราปตฺติโต รกฺขตีติ อธิปฺปาโย ¶ . เตนาห ‘‘คหเณ ปน รกฺขตี’’ติ. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา คหเณ รกฺขตีติ อติทิสติ.
๑๙๘-๙. ธุรนิกฺเขปํ กตฺวาติ ‘‘มยฺหํ กิเมเตน ภณฺเฑน, ชีวิตรกฺขนเมว วรตร’’นฺติ นิราลโย หุตฺวา. เตนาห ‘‘ภีโต โจรา ปลายตี’’ติ. โจราติ เอตฺถ จ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกํ. คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ตถา ฉฑฺฑิตํ ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อุทฺธาเร ทุกฺกฏนฺติ วตฺถุมฺหิ อนวชฺเชปิ เถยฺยจิตฺตวเสน ทุกฺกฏํ โหติ, อสติ เถยฺยจิตฺเต ทุกฺกฏมฺปิ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อาหราเปนฺเตติ เอตฺถ ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ตสฺมึ ภณฺฑสามินิ อาหราเปนฺเต สตีติ อตฺโถ.
๒๐๐. นิราลเยน ฉฑฺฑิตวตฺถุโน คหเณ ภณฺฑเทยฺยฺจ อเทนฺตสฺส ปราชโย จ กสฺมาติ อาห ‘‘ตสฺสา’’ติอาทิ. อฺาสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ อิตราสุ อฏฺกถาสุ.
หรณกกถาวณฺณนา.
๒๐๑. อุปนิธิกถาย ¶ ‘‘น คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ โยชนา. เยน เกนจิ รหสิ ‘‘อิทํ มยฺหํ ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ นิยฺยาทิตํ ภณฺฑํ ปจฺฉา สามิเกน ‘‘เทหิ เม ตํ ภณฺฑ’’นฺติ วุตฺเต อจฺจนฺตมุปคนฺตุํ ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ ภาสโตติ อตฺโถ. คณฺหามีติ อคฺคเหสึ. อจฺจนฺตา เหโส อตีเต วตฺตมานปฺปโยโคยํ. ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒) อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วิสเย กสฺมา ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อทินฺนาทานปุพฺพกตฺตาติ อทินฺนาทานสฺส สหปโยควเสน ปุพฺพงฺคมตฺตา, น ปุพฺพปโยคตฺตา. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏมตฺถีติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา’’ติ.
๒๐๒. เอตสฺสาติ เอตสฺส สมีเป. กึ นุ ทสฺสตีติ ทสฺสติ กึ นุ. วิมตุปฺปาเทติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ. ตสฺสาติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺส.
๒๐๓. ตสฺมินฺติ ¶ ยสฺมึ อุปนิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. ทาเน นิรุสฺสาเหติ อตฺตนิ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส สามิกสฺส ทานวิสเย อุสฺสาหรหิเต สติ, ‘‘น ทานิ ตํ ทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขเป กเตติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเป’’ติ. ปโรติ ภณฺฑสามิโก. ธุรนฺติ ‘‘เยน เกนจิ อากาเรน คณฺหิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ. นิกฺขิเปติ นิกฺขิเปยฺย.
๒๐๔. จิตฺเตนาทาตุกาโมวาติ เอตฺถ ‘‘โย ตสฺสา’’ติ ปาเสโส. เจติ อปิ-สทฺทตฺเถ. โย โจโร จิตฺเตน อทาตุกาโมว, ตสฺส โจรสฺส ‘‘ทสฺสามี’’ติ มุเขน ¶ วทโตปีติ โยชนา. อถ วา อทาตุกาโมติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ ปาเสโส. เจติ วุตฺตตฺโถ. เอวาติ ‘‘ปราชโย’’ติ อิมินา ยุชฺชติ. จิตฺเตน อทาตุกาโม หุตฺวา มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทโตปิ สามิโน ธุรนิกฺเขเป สติ ปราชโย โหเตวาติ โยชนา.
อุปนิธิกถาวณฺณนา.
๒๐๕. สุงฺกฆาตสฺสาติ ‘‘สุงฺกฆาตํ นาม รฺา ปิตํ โหติ ปพฺพตขณฺเฑ วา นทีติตฺเถ วา คามทฺวาเร วา’’ติ (ปารา. ๑๑๓) ปาฬิยํ อาคตสฺส ‘‘สุงฺกํ ตโต หนนฺติ…เป… วินาเสนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๓) อฏฺกถายํ นิรุตฺตสฺส ‘‘อิโต ปฏฺาย นียมาเน ภณฺเฑ เอตฺตกโต เอตฺตกํ ราชภาคํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชาทีหิ ตํตํปเทสสามิเกหิ นิยมิตสฺส ปพฺพตขณฺฑาทิฏฺานสฺส. พหีติ สุงฺกคหณตฺถาย ปริกปฺปิตสีมโต พหิ. ปาเตตีติ เอตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘ราชารหํ ภณฺฑ’’นฺติ ปาเสโส. ยโต กุโตจิ ภณฺฑโต ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนโก ภาโค ราชาทิเทสสามิกสฺส ทาตพฺโพ โหติ, ตาทิสํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต ยถา พหิ ปตติ, เอวํ ขิปตีติ อตฺโถ. ธุวํ ปตตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ต’’นฺติ ปาเสโส, ‘‘ภณฺฑ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ยถา ขิตฺตํ ตํ ภณฺฑํ เอกนฺเตน พหิ ปตตีติ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ตสฺมึ ภณฺเฑ.
๒๐๖. ‘‘ธุวํ ปตตี’’ติ เอตฺถ พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตํ รุกฺเข’’ติอาทิ. ตนฺติ เถยฺยาย พหิ ปาเตตุํ ขิตฺตํ ภณฺฑํ ปฏิหตํ หุตฺวาติ โยชนา. วาตกฺขิตฺตมฺปิ วาติ ปาโ ¶ คเหตพฺโพ. ‘‘วาตกฺขิตฺโต’’ติ ลิงฺควิปลฺลาโส วา ทฏฺพฺโพ.
๒๐๗. ปจฺฉาติ ¶ ปติตฏฺาเน โถกํ จิรายิตฺวา, อิมินา โถกมฺปิ จิรายิตมตฺเต ปโยคสาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกสฺส การณํ สมฺปนฺนเมวาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ปาราชิกํ สิยา’’ติ.
๒๐๘. ‘‘ตฺวา’’ติอาทินา ปติตฏฺาเน อจิรายิตฺวา คเตปิ ตสฺมึ พหิ ปติตฏฺานโต อิตรตฺราปิ จิรายิเตน พหิ ปาตนปฺปโยเคน สาธิยํ การิยํ สิทฺธเมวาติ ปาราชิกการณสฺส สิทฺธตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘ปราชโย’’ติ. ‘‘อติฏฺมาน’’นฺติอาทินา ยตฺถ กตฺถจิ อจิรายเนน ปโยคสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘รกฺขตี’’ติ.
๒๑๐. สยํ วา วฏฺเฏตีติ อนฺโต ิโต สยํ วา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา พหิสีมาย นินฺนฏฺานํ ปริวฏฺเฏติ. อฏฺตฺวาติ ปวฏฺฏิตมตฺเต อนฺโต กตฺถจิปิ อฏฺตฺวา. วฏฺฏมานนฺติ ปวฏฺฏนฺตํ. คตนฺติ พหิสีมํ เกสคฺคมตฺตฏฺานมฺปิ อนฺโตสีมมติกฺกมมตฺตํ.
๒๑๑. ตํ ภณฺฑํ สเจ อนฺโต ตฺวา ตฺวา พหิ คจฺฉตีติ โยชนา. ยทิ อนฺโตสีมาย ตฺวา ตฺวา พหิสีมํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. รกฺขตีติ อนฺโตสีมาย ปมคตินิวตฺตเนเนว เอตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคเวคสฺส นิวตฺตตฺตา, ตโต อุปริ นิวตฺตนารหการณสฺส อลทฺธภาเวน อตฺตนา จ คตตฺตา ตถา พหิสีมปฺปตฺตํ ตํ ภณฺฑํ ตํมูลกปโยชกํ ¶ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา รกฺขตีติ อธิปฺปาโย. สุทฺธจิตฺเตน ปิเตติ ‘‘เอวํ ปิเต วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน วินา ‘‘เกวลํ เปสฺสามี’’ติ จิตฺเตน พหิสีมาภิมุขํ นินฺนฏฺานํ โอตาเรตฺวา ปิเต. สยํ วฏฺฏตีติ ภณฺฑํ สยเมว นินฺนฏฺานํ นินฺนํ หุตฺวา พหิสีมํ เจ ปวฏฺฏนฺตํ คจฺฉติ. วฏฺฏตีติ อาปตฺติยา อกรณโต วฏฺฏติ.
๒๑๒. คจฺฉนฺเตติ โจรสฺส ปโยคํ วินา อตฺตนาว คจฺฉนฺเต. ตนฺติ ราชเทยฺยปฺจมาสกอติเรกปฺจมาสกมตฺตํ สุงฺกวนฺตํ ภณฺฑํ. นีหเฏปิ นาวหาโรติ โยชนา. เกวลํ เถยฺยจิตฺตสฺส อาปตฺติยา อนงฺคภาวโต, ยานาทิปโยชกกายวจีปโยคสฺส อภาวโต, ภณฺฑฏฺปิตยานาทิโน ¶ อตฺตนาว พหิสีมปฺปตฺตตฺตา, เตเนว ภณฺฑสฺสาปิ คตตฺตา จ ภิกฺขุโน อวหาโร นตฺถีติ อตฺโถ.
๒๑๓. ปโยเคน วินาติ โจรสฺส สกปโยคมนฺตเรน. อวหาโร น วิชฺชตีติ เอตฺถ ยุตฺติ วุตฺตนยาว.
๒๑๔. มณินฺติ ปาทารหํ สุงฺกทาตพฺพมณิรตนํ, เอเตเนว อุปลกฺขณปทตฺตา ยํกิฺจิ ภณฺฑํ สงฺคหิตเมว. ปาราชิกํ สิยาติ ยานสฺส อตฺตนา ปาชิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สีมาติกฺกมเนติ สุงฺกคฺคหณสฺส นิยมิตฏฺานาติกฺกมเน.
๒๑๕. มตนฺติ ‘‘เอตฺตกภณฺฑโต เอตฺตกํ คเหตพฺพ’’นฺติ ราชูหิ อนุมตํ. เสโส กถามคฺโคติ ‘‘สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา สุงฺกิเกสุ นิทฺทายมาเนสุ, กีฬนฺเตสุ, พหิคเตสุ วา ปริเยสิตฺวา อทิสฺวา คจฺฉโต น โทโส, ภณฺฑเทยฺยํ ¶ โหตี’’ติ เอวมาทิโก วินิจฺฉยกถามคฺโค. อรฺฏฺกถาสโมติ ‘‘โย จารกฺขฏฺานํ ปตฺวา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๑๗๐) ยถาวุตฺตอรฺฏฺกถาย สทิโส,
‘‘กมฺมฏฺานํ จิตฺเต กตฺวา;
จินฺเตนฺโต อฺวิหิโต;
สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา คจฺเฉ;
ภณฺฑเทยฺยํ โหเตวสฺสา’’ติ. –
อาทินา นเยน วุจฺจมานสทิโสเยว. เตเนว คตตฺถตาย อิทานิ น วิจารียตีติ อธิปฺปาโย.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา.
๒๑๖. ‘‘ปาโณ ¶ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๑๑๔) ปาฬิโต จ ‘‘ตมฺปิ ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถาวจนโต จ ปรทาสมนุสฺโสเยว อธิปฺเปโตติ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตชาต’’นฺติอาทิ. เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโต อนฺโตชาโต นาม, ตํ วา. ธเนน กีโต ธนกฺกีโต, ตํ วา. ทินฺนํ วา ปน เกนจีติ มาตุลอยฺยกาทีสุ เยน เกนจิ ทาสํ กตฺวา ทินฺนํ วา. ทาสนฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. กรมรานีตํ วา ทาสนฺติ ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อาเนตฺวา ทาสภาวาย คหิตสงฺขาตํ กรมรานีตทาสํ วา. หรนฺตสฺส ปราชโยติ เอตฺถ ‘‘โจริกาย หริสฺสามี’’ติ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกามยโต ปาราชิกํ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๑๗. ภุชิสฺสํ วาติ ยสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อทาสภูตํ. มานุสนฺติ มนุสฺสชาติกํ สตฺตํ. อาปิตนฺติ อุปนิกฺขิตฺตํ.
๒๑๘. ตนฺติ ¶ อนฺโตชาตาทีสุ ทาเสสุ ยํ กฺจิ ทาสํ. ปลายิตุกาโมวาติ ปลาเปตุกาโม นีหริตุกาโม. อถ วา ตํ ทาสํ ภุเชหิ อุกฺขิปิตฺวา อยํ ปลายิตุกาโมติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ภุเชหีติ อุโภหิ หตฺเถหิ. ตํ ิตฏฺานโตติ ตสฺส ิตฏฺานํ ตํิตฏฺานํ, ตโต ตํิตฏฺานโต, โจเรน อตฺตนา ิตฏฺานโตติ อตฺโถ น คเหตพฺโพติ ทสฺเสตุเมวํ วุตฺตํ. กิฺจิ สงฺกาเมตีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ตโต อฺํ านํ ปาเปติ. ภุเชหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท วกฺขมานปการนฺตราเปกฺโข, ‘‘สงฺกาเมติ วา’’ติ โยเชตพฺพํ.
๒๑๙. ตชฺเชตฺวาติ ภยกเรน วจเนน เลเสน, อิงฺคิเตน วา ตาเสตฺวา เนนฺตสฺส ตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ปทวารโตติ ปทวาเรน ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา. ปมปทวารยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ, ทุติยปทวารยุตฺตา ปาราชิกาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
๒๒๐. หตฺถาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เกสวตฺถาทึ สงฺคณฺหาติ. ตนฺติ ทาสํ. กฑฺฒโตปีติ อากฑฺฒโตปิ. ปราชโยติ ‘‘ปทวารโต’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา ปมปทวาเร ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปทวาเร อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. อยํ นโยติ ‘‘ปทวารโต ยุตฺตา ถุลฺลจฺจยาทโย อาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ วุตฺตนโย.
๒๒๑. เวคสาวาติ ¶ เวเคเนว, โจรสฺส วจเนน กาตพฺพวิเสสรหิเตน พลวคมนเวเคนาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา อนาปตฺติภาวสฺส การณํ ทสฺเสติ.
๒๒๒. สณิกนฺติ ¶ มนฺทคติยา. วทตีติ ‘‘คจฺฉ, ยาหิ, ปลายา’’ติอาทิกํ วจนํ กเถติ. โสปิ จาติ โย มนฺทคติยา คจฺฉนฺโต เอวํ วุตฺโต, โสปิ จ.
๒๒๓. ปลายิตฺวาติ สามิกํ ปหาย คนฺตฺวา. อฺนฺติ สามิกายตฺตฏฺานโต อฺํ านํ. สาปณํ วีถิสนฺนิเวสยุตฺตํ นิคมมฺปิ วา. ตโตติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺคามาทิโต. ตนฺติ ปลายิตฺวา ปวิฏฺํ ตํ ทาสํ.
ปาณกถาวณฺณนา.
๒๒๔. เถยฺยาติ เถยฺยจิตฺเตน. สปฺปกรณฺฑนฺติ สปฺปสยนเปฬํ. ยถาวตฺถุนฺติ ถุลฺลจฺจยมาห. านโตติ สปฺปเปฬาย ิตฏฺานโต. จาวเนติ เกสคฺคมตฺตาติกฺกเม.
๒๒๕. กรณฺฑนฺติ สปฺปเปฬํ. อุคฺฆาเฏตฺวาติ วิวริตฺวา. กรณฺฑตลโตติ อนฺโตเปฬาย ตลโต. นงฺคุฏฺเติ นงฺคุฏฺปริยนฺเต.
๒๒๖. ฆํสิตฺวาติ เปฬาปสฺเส ผุสาเปตฺวา. สปฺปกรณฺฑสฺส มุขวฏฺฏิโตติ กรณฺฑปุฏมุขวฏฺฏิโต. ตสฺส นงฺคุฏฺเ มุตฺตมตฺเตติ โยชนา.
๒๒๗. นามโตติ นาเมน, นามํ วตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺโกสนฺตสฺสาติ อวฺหายนฺตสฺส. ตสฺสาติ ปกฺโกสกสฺส.
๒๒๘. ตถาติ กรณฺฑํ วิวริตฺวา. มณฺฑูกมูสิกานํ รวํ กตฺวา นาเมน ปกฺโกสนฺตสฺสาติ โยชนา. วา-สทฺเทน ลาชาวิกิรณอจฺฉรปหาราทิกํ สงฺคณฺหาติ.
๒๒๙. มุขนฺติ ¶ สปฺปกรณฺฑสฺส มุขํ. เอวเมว จ กโรนฺตสฺสาติ มณฺฑูกสฺํ, มูสิกสฺํ กตฺวา วา ลาชา วิกิริตฺวา ¶ วา อจฺฉรํ ปหริตฺวา วา นามํ วตฺวา ปกฺโกสนฺตสฺส. เยน เกนจีติ วุตฺตนีหารโต เยน วา เตน วา.
๒๓๐. น ปกฺโกสติ เจติ ยถาวุตฺตนเยน โยเชตฺวา นามํ วตฺวา น ปกฺโกสติ. ตสฺสาติ กรณฺฑมุขวิวรกสฺส ภิกฺขุสฺส.
อปทกถาวณฺณนา.
๒๓๑. หตฺถินฺติ หตฺถิมฺหิ, ภุมฺมตฺเถ เอว อุปโยควจนํ.
๒๓๒. สาลายนฺติ หตฺถิสาลายํ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ราชาคารํ, ตสฺส อนฺโต อนฺโตวตฺถุ, อนฺโตราชเคหนฺติ อตฺโถ. องฺคเณติ อนฺโตราชงฺคเณ. ปิ-สทฺโท ‘‘อนฺโตนคเร’’ติ อวุตฺตมฺปิ สมฺปิณฺเฑติ. วตฺถุ จาติ จ-สทฺเทน องฺคณํ สมุจฺจิโนติ. สกลํ องฺคณํ านนฺติ หตฺถิโน วิจรณโยคฺคํ องฺคณฏฺานํ สนฺธายาห, สกลสาลาติ คเหตพฺพํ.
๒๓๓. อพทฺธสฺสาติ ยถาวุตฺตสาลาราชวตฺถงฺคณาเปกฺขาย วุตฺตํ. อพทฺธสฺส หิ หตฺถิโน สกลสาลาทโย านํ, ตทติกฺกเม านาจาวนํ โหตีติ อตฺโถ. หีติ อวธารเณ วา. ‘‘พทฺธสฺส หี’’ติ โยชนาย วิเสสตฺโถว ทฏฺพฺโพ, พทฺธสฺส ปนาติ วุตฺตํ โหติ. พทฺธสฺส ปนาติ สาลาทีสุ สนฺนิหิตสฺส ปน. ิตฏฺานฺจาติ สาลาทีสุ ิตฏฺานฺจ, จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. พนฺธนฺจาติ คีวาย วา ปจฺฉา ปาททฺวยพนฺธนวลเย วา อุภยตฺถ วา พนฺธนฏฺานฺจ. ตสฺมาติ ยสฺมา ิตฏฺานฺจ พนฺธนฺจ านนฺติ ฉ วา ปฺจ วา านานิ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา. เตสํ านานํ. การเยติ เอตฺถ ‘‘อาปตฺติ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ. หรโตติ หตฺถิสาลาทิโต โจริกาย หรนฺตสฺส ¶ . การเยติ อามสเน ทุกฺกฏํ, านเภทคณนาย ยาว ปจฺฉิมฏฺานา ปุริเมสุ ถุลฺลจฺจยานิ, อนฺติมฏฺานา เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาวเน ปาราชิกํ กาเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๓๔. ิตฏฺานนฺติ ¶ จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานํ, อิทฺจ อพทฺธหตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. พทฺธสฺส วินิจฺฉโย สาลาทีสุ พทฺธสฺส วุตฺตวินิจฺฉยสทิโสติ คตตฺถตาย น วุตฺโต.
๒๓๕. เอกํ านนฺติ สยิตฏฺานมตฺตํ. ตสฺมินฺติ คเช. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตุรงฺคมหิสาทีสุ ทฺวิปเท จ พหุปฺปเท จ.
๒๓๖. เอเสว นโย เยฺโย, วตฺตพฺพํ กิฺจิปิ นตฺถีติ โยชนา. ตตฺถ ตุรงฺคา อสฺสา. มหิสา ลุลายา. อาทิ-สทฺเทน โคคทฺรภโอฏฺาทิจตุปฺปทานํ สงฺคโห. นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ อสฺสสาลาราชาคารงฺคณพหินคราทีสุ อพนฺธิตสยนอสฺสาทีนํ านเภโท ยถาวุตฺตสทิสตฺตา น วุตฺโต.
พนฺธิตฺวา ปิตอสฺสสฺส ปน สเจ โส จตูสุ ปาเทสุ พทฺโธ โหติ, พนฺธนานํ, ขุรานฺจ คณนาย อฏฺ านานิ, สเจ มุเข จ พทฺโธ โหติ, นว านานิ, มุเขเยว พทฺโธ, ปฺจ านานีติ านเภโท จ ตเถว สสมิคสูกราทิจตุปฺปเทสุ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ พทฺธพทฺธฏฺาเนหิ สห จตูหิ ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานวเสน ลพฺภมาโน านเภโท จ โคมหิเสสุ พทฺเธสุ เอวเมว ลพฺภมาโน านเภโท จ วชาทีสุ ปเทเสสุ ปเวสิเตสุ ทฺวาเรสุ รุกฺขสูจิโย อปเนตฺวา วา อนปเนตฺวา วา นามํ วตฺวา วา อวตฺวา วา ปกฺโกสนฺตสฺส, สาขาภงฺคติณาทีนิ ทสฺเสตฺวา ปกฺโกสิตฺวา วา อปกฺโกสิตฺวา วา ปโลเภนฺตสฺส ตาเสตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส ¶ สปฺปกรณฺฑเก สปฺปสฺส วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน วิเสโส จ เนตพฺโพ. อิห สพฺพตฺถ านเภเทสุ พหุเกสุปิ อุปนฺตฏฺาเนสุ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺตฏฺาเน ปาราชิกํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมสฺส สพฺพสฺส วินิจฺฉยสฺส ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาว คตตฺตา, อาหฏโต อวิฺายมานสฺส กสฺสจิ วิเสสสฺสาภาวา จ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ กิฺจิปิ วตฺตพฺพ’’นฺติ.
ทฺวิปเทปีติ ‘‘ทฺวิปทํ นาม มนุสฺสา ปกฺขชาตา’’ติ (ปารา. ๑๑๕) ปาฬิยํ วุตฺตา มนุสฺสา จ มยูราทิโลมปกฺขา จ วคฺคุลิอาทิจมฺมปกฺขา จ ภมราทิอฏฺิปกฺขา จาติ เอวมาทิเก สตฺเต จ. พหุปฺปเทติ ‘‘พหุปฺปทํ นาม วิจฺฉิกา สตปที อุจฺจาลิงฺคปาณกา’’ติ (ปารา. ๑๑๗) ปาฬิยํ วุตฺตพหุปฺปทสตฺเต จาติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา ¶ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสปิทหนตฺถํ ปทภาชเน วุตฺตภูมฏฺาทิตึสวินิจฺฉยมาติกากถาสุ ปฺจวีสติ มาติกากถา ทสฺเสตฺวา อวสิฏฺาสุ ปฺจมาติกากถาสุ สํวิทาวหาโร, สงฺเกตกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมนฺติ มาติกตฺตยกถา ปมเมว อทินฺนาทานวินิจฺฉยสมฺภารภูตานํ ปฺจวีสติยา อวหารานํ ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา –
‘‘ปุพฺพสหปโยโค จ, สํวิทาหรณมฺปิ จ;
สงฺเกตกมฺมํ เนมิตฺตํ, ปุพฺพโยคาทิปฺจก’’นฺติ. (วิ. วิ. ๔๒) –
อิมินา สงฺคหิตาติ ตํ ปหาย อวเสเส โอจรโก, โอณิรกฺขโกติ กถาทฺวเย โอจรณกกถาย อาณตฺติกปฺปโยคตฺตา, ตฺจ โอณิรกฺขเกน กริยมานํ านาจาวนํ สาหตฺถิเกน วา อาณตฺติเกน วา ปโยเคน โหตีติ ตสฺสาปิ ‘‘สาหตฺถาณตฺติโก เจวา’’ติ สาหตฺถิกปฺจเก ปมเมว สงฺคหิตตฺตา จ ถลฏฺเวหาสฏฺกถาทีสุ ¶ สงฺคหิตตฺตา จ ตฺจ ทฺวยํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ‘‘โอจรโก นาม ภณฺฑํ โอจริตฺวา อาจิกฺขตี’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต โจราปนปุริโส ‘‘โอจรโก’’ติ เวทิตพฺโพ. โอจรตีติ โอจรโก, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโต อนุปวิสตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ‘‘โอณิรกฺโข นาม อาหฏํ ภณฺฑํ โคเปนฺโต’’ติ (ปารา. ๑๑๘) ปาฬิยํ วุตฺโต มุหุตฺตํ อตฺตนิ ปิตสฺส ปรภณฺฑสฺส รกฺขโก ‘‘โอณิรกฺโข’’ติ เวทิตพฺโพ. โอณิตํ รกฺขตีติ โอณิรกฺโข, โย ปเรน อตฺตโน วสนฏฺาเน อาภตํ ภณฺฑํ ‘‘อิทํ ตาว ภนฺเต มุหุตฺตํ โอโลเกถ, ยาวาหํ อิทํ นาม กิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ วุตฺโต รกฺขติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ.
ทฺวิจตุพหุปฺปทกถาวณฺณนา.
๒๓๗. ‘‘ปฺจหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๒๒) นเยน ปาฬิยํ อาคตานิ ปฺจงฺคานิ สงฺคเหตุมาห ‘‘ปเรส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ปเรสํ สนฺตกํ ธน’’นฺติ อิมินา ปรมนุสฺสสนฺตกตา, ‘‘ปเรสนฺติ วิชานิตฺวา’’ติ อิมินา ปรายตฺตภาวสฺส ชานนํ, ‘‘ครุก’’นฺติ อิมินา ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา อคฺฆนกตา, ‘‘เถยฺยจิตฺเตนา’’ติ ¶ อิมินา เถยฺยจิตฺตตา, ‘‘านา จาเวตี’’ติ อิมินา ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตรสฺส สมงฺคิตาติ เอวเมตฺถ ปฺจงฺคสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๒๓๘. เอตฺตาวตา ตึสมาติกากถาวินิจฺฉยํ สงฺคเหตฺวา อิทานิ ‘‘อนาปตฺติ สสฺิสฺส วิสฺสาสคฺคาเห ตาวกาลิเก เปตปริคฺคเห ติรจฺฉานคตปริคฺคเห ปํสุกูลสฺิสฺสา’’ติอาทินา ¶ (ปารา. ๑๓๑) นเยน ปาฬิยํ อาคตํ อนาปตฺติวารํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สสฺิสฺสาติ ปรสนฺตกมฺปิ ‘‘สสนฺตก’’นฺติ สุทฺธสฺาย คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. เอวํ คหิตํ สามิเกหิ ทิสฺวา ยาจิเต อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ.
ติรจฺฉานปริคฺคเหติ ติรจฺฉาเนหิ ปริคฺคหิตวตฺถุมฺหิ. สเจปิ หิ นาคครุฬมาณวกมาณวิกาปิ มนุสฺสเวเสน อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺนา โหนฺติ, ภิกฺขุ จ เถยฺยจิตฺเตน เตสํ สนฺตกํ คณฺหาติ, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สีหพฺยคฺฆทีปิปภุตีหิ วาฬมิเคหิ คหิตโคจรํ ปมํ โมจาเปนฺตสฺส ตํ มฺุจิตฺวา อตฺตโนปิ หึสนโต โถกํ ขายิเต วาเรนฺตสฺส โทโส นตฺถิ. เสนาทีสุ ติรจฺฉาเนสุ เยน เกนจิ คหิตํ โคจรํ โมจาเปตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘เสนาทโยปิ อามิสํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ปาตาเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑). เอวเมว ธมฺมนิเทฑฺฑุภาทีหิ คหิตมณฺฑูกาทโย ชีวิตรกฺขนตฺถาย โมจาเปตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
ตาวกาลิกคฺคาเหติ ‘‘ปฏิกริสฺสามี’’ติ ตาวกาลิกํ คณฺหนฺตสฺส เอวํ คหิตํ สเจ ภณฺฑสามิโก ปุคฺคโล วา คโณ วา ‘‘ตุมฺเหว คณฺหถา’’ติ อนุชาเนยฺย, วฏฺฏติ. นานุชาเนยฺย, น คณฺเหยฺย, ทาตพฺพํ. อเทนฺตสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ. ‘‘สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
วิสฺสาสคฺคาเหติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ, สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน ¶ โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖) ปาฬิยํ อาคตํ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาเสน คณฺหนฺตสฺส คหเณ วินิจฺฉโย ยถาวุตฺตสุตฺตวณฺณนายํ เวทิตพฺโพ. ยถาห สมนฺตปาสาทิกายํ –
ตตฺถ ¶ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ, เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหงฺเคหิ รุหติ – สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ.
โย ปน ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโมว, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ ¶ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ตํ ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ, อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภตีติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑).
เปตปริคฺคเหติ เปตฺติวิสยุปฺปนฺนา จ มริตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตา จ จาตุมหาราชิกาทโย เทวา จ อิมสฺมึ อตฺเถ เปตา นาม, เตสํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. สเจปิ หิ สกฺโก เทวราชา อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺโน โหติ, ทิพฺพจกฺขุโก จ ภิกฺขุ ตํ ตฺวา สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ วตฺถํ ตสฺส วิรวนฺตสฺเสว อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เทวปูชตฺถํ รุกฺขาทีสุ มฏฺวตฺถาทีนิ คณฺหโต นิทฺโทสตาย กิเมว วตฺตพฺพํ. ปํสุกูลสฺาย คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. ตถา คหิตมฺปิ สเจ สสฺสามิกํ โหติ, สามิเก อาหราเปนฺเต ทาตพฺพนฺติ อุปลกฺขณโต เวทิตพฺพํ.
๒๓๙. เอตฺถาติ ¶ ทุติยปาราชิกวินิจฺฉเย. จ-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อวเสสสิกฺขาปทวินิจฺฉเย สงฺคณฺหาติ. วตฺตพฺโพติ มาติกฏฺกถาทีสุ วิย อวสาเน กเถตพฺโพ. ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโยติ สมุฏฺานาทิโก ตํตํสิกฺขาปทปาฬิยํ อนาคโต อุปาลิตฺเถราทีหิ ปิโต วินิจฺฉโย.
๒๔๐. ปราชิตาเนกมเลนาติ อปริเมยฺยกปฺปโกฏิสตสหสฺโสปจิตปารมิตาสมฺภูเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อาสวกฺขยาเณน สห วาสนาย สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปราชิตา ราคาทโย อเนกกิเลสมลา เยน โส ปราชิตาเนกมโล, เตน ปราชิตาเนกมเลน ¶ . ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ วุตฺตํ, อสฺส ทุติยปาราชิกสฺส จ อตฺโถ มยา สมาเสน วุตฺโต. อเสเสน อติวิตฺถารนเยน วตฺตุํ ตสฺส อตฺถํ กเถตุํ โก หิ สมตฺโถติ โยชนา. เอตฺถ จ-สทฺโท ปมปาราชิกสมุจฺจยตฺโถ. หิ-สทฺโท อวธารเณ, เตน อเสเสน ตทตฺถํ วตฺตุํ สมตฺโถ นตฺเถว อฺตฺร ตถาคตาติ ทีเปติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา
๒๔๑-๒. เอวมติสุขุมนยสมากุลํ ทุติยปาราชิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตติยปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสชาติ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มนุสฺสชาตินฺติ ชายตีติ ชาติ, รูปารูปปฏิสนฺธิ, มนุสฺเสสุ ชาติ ยสฺส โส มนุสฺสชาติ, มนุสฺสชาติโก มนุสฺสวิคฺคโหติ วุตฺตํ โหติ, ตํ มนุสฺสชาตึ.
เอตฺถ จ มนุสฺเสสูติ กุสลากุสลมนสฺส อุสฺสนฺนตฺตา มนุสฺสสงฺขาเตสุ นเรสุ. ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ ¶ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ อุปฺปชฺชมานปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตเวทนาสฺาสงฺขารสงฺขาตขนฺธตฺตยฺจ ตํสหชาตานิ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคํ, ‘กลล’นฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒; วิภ. อฏฺ. ๒๖) –
วุตฺตานิ ¶ ชาติอุณฺณํสุมฺหิ ปสนฺนติลเตเล วา สปฺปิมณฺเฑ วา โอตาเรตฺวา อุกฺขิปิตฺวา วิธุนิเต อคฺเค ลมฺพมานพินฺทุปฺปมาณกลลสงฺขาตานิ สภาวกานํ กายภาววตฺถุทสกวเสน ตึส รูปานิ จ อภาวกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ รูปานิ จาติ อยํ นามรูปปฏิสนฺธิ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ คหิตา. ‘‘ยสฺสา’’ติ อิมินา อฺปเทน ‘‘ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปมภวงฺคโต ปฏฺาย จุติจิตฺตาสนฺนภวงฺคปริยนฺตสนฺตานสงฺขาตสตฺโต คหิโต. อิมินา มนุสฺสวิคฺคหสฺส ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปาราชิกวตฺถุภาวํ ทสฺเสติ.
ชานนฺโตติ ‘‘สตฺโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. ชีวิตา โย วิโยชเยติ โย ภิกฺขุ ชีวิตินฺทฺริยา วิโยเชยฺย โวโรเปยฺย, ตสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺเทยฺย อุปโรเธยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ปทภาชเน ‘‘ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
ตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ รูปารูปวเสน ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ อวิคฺคหตฺตา อุปกฺกมวิสยํ น โหติ. รูปชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉเทน ปน ตทายตฺตวุตฺติตาย ตํสมกาลเมว โอจฺฉิชฺชมานตาย เอตฺถ สามฺเน อุภยมฺปิ คเหตพฺพํ. อิทฺจ อตีตานาคตํ น คเหตพฺพํ ตสฺส อวิชฺชมานตฺตา. อุปกฺกมวิสยารหํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนเมว คเหตพฺพํ. ตฺจ ขณสนฺตติอทฺธาวเสน ติวิธํ โหติ.
ตตฺถ อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ขณตฺตยปริยาปนฺโน ภาโว ขณปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตํ สรสภงฺคภูตตฺตา สยํ ภิชฺชมานํ อุปกฺกมสาธิยํ วินาสวนฺตํ น โหติ. อาตเป ตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ¶ อนฺธการวิคมนฺตรฺจ สีเตน โอวรกํ ปวิฏฺสฺส วิสภาคอุตุสมุฏฺาเนน ¶ สีตปนูทนฺตรฺจ รูปสนฺตติ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ปฏิสนฺธิจุตีนมนฺตราฬปฺปวตฺติ ขนฺธสนฺตติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อิมสฺมึ ทฺวเย อุปกฺกมสมฺภโว, ตํวเสน อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตํ สนฺตานปริหานิปจฺจยภาวโต สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนทฺวยํ ยถาปริจฺฉินฺนกาลมปฺปตฺวา อุปกฺกมวเสน อนฺตราเยว นิรุชฺฌติ, ตสฺมา สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ ตํนิโรเธน นิรุชฺฌมานอรูปชีวิตินฺทฺริยฺจาติ อุภยํ เอตฺถ ‘‘ชีวิตา’’ติ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทเมว สนฺธายาห ปทภาชเน ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒).
อิมิสฺสาว ปาณาติปาตภาเว อาปตฺติภาวโต เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) ปาณปาณาติปาตปาณาติปาตีปาณาติปาตปฺปโยคานํ วิภาโค ทสฺสิโต. ตตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต อุปจฺฉิชฺชมานํ ชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ ‘‘ชีวิตา’’ติ อิมินา วุตฺตํ. ปาณาติปาโต นาม วธกเจตนา, โส จ ‘‘วิโยชเย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตี นาม ปุคฺคโล, โส จ ‘‘โย’’ติ อิมินา สนฺทสฺสิโต. ปาณาติปาตปฺปโยโค ปน –
‘‘วุตฺตา ปาณาติปาตสฺส;
ปโยคา ฉ มเหสินา’’ติ –
อาทินา นเยน อิเธว วกฺขมานวิภาคตฺตา วกฺขมานนเยเนว ทฏฺพฺโพ.
อสฺส สตฺถํ นิกฺขิเปยฺย วาติ โยชนา. อสฺสาติ มนุสฺสชาติกสฺส. ‘‘หตฺถปาเส’’ติ ปาเสโส. หตฺถปาโส นาม สมีโปติ. อสฺสาติ สมีปสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. สตฺถนฺติ เอตฺถ ชีวิตวิหึ สนุปกรณภาเวน สมฺมตา ธาราวนฺตอสิอาทิ จ ธารารหิตยฏฺิภินฺทิวาลลคุฬาทิ จ ¶ อุปลกฺขณวเสน คเหตพฺพา. สสติ หึสตีติ สตฺถํ. เตเนวาห ปทภาชเน ‘‘อสึ วา สตฺตึ วา ภินฺทิวาลํ วา ลคุฬํ วา ปาสาณํ วา สตฺถํ วา วิสํ วา รชฺชุํ วา’’ติ. อิธาวุตฺตํ กรปาลิกาฉุริกาทิ สมุขํ ‘‘สตฺถํ วา’’ติ อิมินา สงฺคหิตํ. นิกฺขิเปยฺยาติ ยถา โภคเหตุํ ลภติ, ตถา อุปนิกฺขิเปยฺย, อตฺตวธาย อิจฺฉิตกฺขเณ ยถา คณฺหาติ, ตถา สมีเป เตเนว จิตฺเตน เปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา ถาวรปฺปโยโค สนฺทสฺสิโต.
มรเณ ¶ คุณํ วา วเทยฺยาติ โยชนา, มรณตฺถาย มรเณ คุณํ วณฺเณตีติ อตฺโถ. ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ คุณํ ภณตี’’ติ (ปารา. ๑๗๒) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชิตุ’’มิจฺจาทินา นเยน มรณตฺถาย ชีวิเต อวณฺณํ วทนฺโต จ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ อกตปาโป, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลกโต วิวิธวิหงฺคมวิกูชิเต ปรมสุรภิกุสุมภูสิตตรุวรนิจิเต ปรมรติกรลฬิตคติภาสิตวิลปิตสุรยุวติคณวิจริเต วรนนฺทเน อจฺฉราสงฺฆปริวาริโต วิจริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรณตฺถาย มรณานิสํสํ ทสฺเสนฺโต จ ‘‘มรเณ คุณํ วเทยฺย’’อิจฺเจว วุจฺจติ.
มรณูปายํ เทเสยฺยาติ โยชนา. มรณาธิปฺปาเยเนว ‘‘สตฺถํ วา อาหร, วิสํ วา ขาท, รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา กาลงฺกโรหี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตสตฺถหรณานิ จ อวุตฺตมฺปิ โสพฺภนรกปปาตาทีสุ ปปตนฺจาติ เอวมาทิกํ มรณูปายํ อาจิกฺเขยฺย. ‘‘โหติ อยมฺปี’’ติ ปทจฺเฉโท, อปีติ ปุพฺเพ วุตฺตทฺวยํ สมุจฺจิโนติ. ทฺเวธา ภินฺนสิลา วิย อสนฺเธยฺโยว ¶ โส เยฺโยติ ทฺวิธา ภินฺนปาสาโณ วิย ภควโต ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนทฺวเยน โส ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตภาเว สนฺธาตุมสกฺกุเณยฺโยวาติ าตพฺโพติ อตฺโถ.
๒๔๓. ถาวราทโยติ อาทิ-สทฺเทน วิชฺชามยอิทฺธิมยปโยคทฺวยํ สงฺคหิตํ.
๒๔๔. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปโยเคสุ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต สาหตฺถิโก, ปโยโค. อิธ หตฺถคฺคหณํ อุปลกฺขณํ, ตสฺมา หตฺถาทินา อตฺตโน องฺคปจฺจงฺเคน นิปฺผาทิโต วธปฺปโยโค สาหตฺถิโกติ เวทิตพฺโพ.
๒๔๕. ‘‘ตฺวํ ตํ เอวํ ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ ภิกฺขุโน ปรสฺส ยํ อาณาปนํ, อยมาณตฺติโก นโยติ โยชนา. อาณตฺติโก นโยติ อาณตฺติเยว อาณตฺติโก. เนติ ปวตฺเตตีติ นโย, ปโยคสฺเสตํ นามํ.
๒๔๖. ทูรนฺติ ทูรฏฺํ. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ เอตฺถ กาเยกเทโส หตฺถาทิ กาโย อวยเว สมุทาโยปจารโต ‘‘คาโม ทฑฺโฒ’’ติ ยถา. กายปฏิพทฺธํ จาปาทิกํ ปฏิพทฺธํ นาม ปุพฺพปทโลเปน ¶ ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ ยถา. วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วาติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘อุสุอาทินิปาตน’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วิธานํ วิธิ, ปโยโคติ อตฺโถ.
๒๔๗. อสฺจาริมุปาเยนาติ อสฺจาริเมน นิจฺจเลน อุปาเยน. โอปตนฺติ เอตฺถาติ โอปาโต, โส อาทิ เยสํ อปสฺเสนวิสเภสชฺชสํวิธานาทีนํ เต โอปาตาทโย, เตสํ ¶ วิธานํ โอปาตาทิวิธานํ, โอปาตกฺขณนาทิกิริยา.
๒๔๘. วิชฺชายาติ อาถพฺพนเวทาคตมรณมนฺตสงฺขาตวิชฺชาย. ชปฺปนนฺติ ยถา ปโร น สุณาติ, ตถา ปุนปฺปุนํ วจนํ.
๒๔๙. มารเณ สมตฺถา ยา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ, อยํ อิทฺธิมโย ปโยโค นามาติ สมุทีริโตติ โยชนา. กมฺมวิปาเก ชาตา กมฺมวิปากชา, อิทฺธิ, ยา ‘‘นาคานํ นาคิทฺธิ สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) พหุธา อฏฺกถายํ วุตฺตา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา, ฑํสิตฺวา, ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ นาคิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ เสสานมฺปิ. อิทฺธิเยว อิทฺธิมโย, ภาวนามโย อิทฺธิปฺปโยโค ปเนตฺถ น คเหตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘เกจิ ปน ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกรณํ วทนฺติ. สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริ ขิตฺตสฺส อุทกฆฏสฺส เภทนํ วิย อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ, ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา ตํ กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติกาทีหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม จตุตฺถชฺฌานมยา กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา, ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกอวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก ¶ มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒).
๒๕๐. ตตฺถาติ เตสุ ฉพฺพิเธสุ ปโยเคสุ. อุทฺเทโสปีติ อุทฺทิสนํ อุทฺเทโส, ตํสหิโต ปโยโคปิ ¶ อุทฺเทโสติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กุนฺเต ปเวเสหี’’ติ ยถา. เอวํ วตฺตพฺพตาย จ อนุทฺเทโสติ ตพฺพิปรีตวจนเมว าปกนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ เอเกโก อุทฺเทโสปิ อนุทฺเทโสปิ โหตีติ เตสมยํ เภโท ปน ทุวิโธ โหตีติ ปริทีปิโตติ โยชนา. อิเมสุ ฉสุ ปโยเคสฺเวว เอเกกสฺเสว อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยมานตาย ทุวิธภาวโต เตสํ ทฺวาทสวิโธ เภโท ปทภาชเน จ อฏฺกถาย จ ทีปิโต, ตตฺถ วินิจฺฉยมิทานิ ทสฺสยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
๒๕๑. พหูสุปีติ มนุสฺเสสุ พหูสุปิ. เตน กมฺเมนาติ ปหารทานสงฺขาเตน กมฺเมน. พชฺฌตีติ อปายํ เนตุํ กมฺมปาเสน กมฺมนฺตรํ นิวาเรตฺวา พชฺฌตีติ อตฺโถ.
๒๕๒. ปหาเรปีติ ปหรเณปิ. เทหิโนติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ตสฺสาติ ปหฏสฺส.
๒๕๓. ปหฏมตฺเต วาติ ปหฏกฺขเณ วา. ปจฺฉาติ ตปฺปจฺจยา กาลนฺตเร วา. อุภยถาปิ จ มเตติ ทฺวินฺนํ อาการานมฺตเรน มเตปิ. หนฺตา วธโก. ปหฏมตฺตสฺมินฺติ ตสฺมึ มรณารหปหารสฺส ลทฺธกฺขเณเยว, มรณโต ปุพฺพภาเคเยวาติ มตฺตสทฺเทน ทีเปติ. มรณตฺถาย จ อฺตฺถาย จ ทินฺเนสุ อเนเกสุ ปหาเรสุ มรณตฺถาย ¶ ทินฺนปฺปหาเรเนว ยทา กทาจิ มริสฺสติ, ปหารทานกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ. อมรณาธิปฺปาเยน ทินฺนปฺปหารพเลน เจ มเรยฺย, น โหตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
๒๕๔. ทฺเว ปโยคาติ อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสกิริยาเภทภินฺนา สาหตฺถิกาณตฺติกา ทฺเว ปโยคา.
๒๕๕. กรณสฺสาติ กิริยาย. วิเสโสติ นานตฺตํ. อาณตฺตินิยามกาติ อาณตฺตึ นิยาเมนฺติ ววตฺถาเปนฺตีติ อาณตฺตินิยามกา.
๒๕๖. ตตฺถาติ เตสุ อาณตฺตินิยามเกสุ ฉสุ อากาเรสุ. โยพฺพนาทิ จาติ อาทิ-สทฺเทน ถาวริยมนฺทขิฑฺฑวุทฺธาทิอวตฺถาวิเสโส สงฺคหิโต.
๒๕๗. ยํ มาติกาย นิทฺทิฏฺํ สตฺถํ, ตํ กตมํ?. สตฺตมารณนฺติ สตฺเต มาเรนฺติ เอเตนาติ สตฺตมารณํ, อสิอาทิวโธปกรณํ.
๒๕๘. วิชฺฌนนฺติ ¶ อุสุอาทีหิ วิชฺฌนํ. เภทนนฺติ กกจาทีหิ ทฺวิธากรณํ. เฉทนนฺติ ขคฺคาทีหิ ทฺวิธากรณํ. ตาฬนนฺติ มุคฺคราทีหิ อาฆาตนํ. เอวมาทิวิโธติ เอวมาทิปฺปกาโร. อเนโกติ พหุโก เภโท. กรณสฺส วิเสโส กิริยาวิเสโสติ อตฺโถ.
๒๕๙-๖๐. ‘‘ปุรโต ปหริตฺวาน มาเรหี’’ติ โย ภาสิโต อาณาปเกน, เตน อาณตฺเตน ปจฺฉโต…เป… มาริเตติ โยชนา. วตฺถาณตฺติ วิสงฺเกตาติ เอตฺถ ‘‘ยํ ‘มาเรหี’ติ…เป… ตโต’’ติ วตฺถุวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. ‘‘ปุรโต…เป… มาริเต’’ติ อาณตฺติวิสงฺเกโต ทสฺสิโต. มูลฏฺโติ อาณาปโก. มูลนฺติ หิ ปุพฺพกิริยานุรูปํ อาณาปนํ, ตตฺถ ิโตติ มูลฏฺโ.
๒๖๑. อิมินา ¶ วิสงฺเกเต อาณาปกสฺส อนาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สงฺเกเต อวิราธิเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทิ. ตํ วตฺถุํ อวิรชฺฌิตฺวา มาริเต อุภเยสํ…เป… อุทีริโต, ยถาณตฺติ จ มาริเต…เป… อุทีริโตติ โยชนา. มาริเต วตฺถุสฺมินฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อุภเยสนฺติ อาณาปกอาณตฺตานํ. ยถากาลนฺติ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขณํ, อาณตฺตสฺส มารณกฺขณฺจ อนติกฺกมิตฺวา. พนฺธนํ พนฺโธ, กมฺมุนา พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. อถ วา พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ.
๒๖๔. วิสงฺเกโต นาติ วิสงฺเกโต นตฺถิ, ทฺวินฺนมฺปิ ยถากาลปริจฺเฉทํ กมฺมพนฺโธเยวาติ อตฺโถ.
๒๖๕. สพฺพโสติ สพฺเพสุ กาลเภเทสุ, สพฺพโส เวทิตพฺโพติ วา สมฺพนฺโธ. สพฺพโสติ สพฺพปฺปกาเรน. วิภาวินาติ ปณฺฑิเตน. โส หิ อตฺถํ วิภาเวตีติ ตถา วุตฺโต.
๒๖๖-๗-๘. ‘‘อิมํ คาเม ิต’’นฺติ อิทํ ตํ สฺชานิตุํ วุตฺตํ, น มารณกฺขณฏฺานนิยมตฺถายาติ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ ิต’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘นตฺถิ ตสฺส วิสงฺเกโต’’ติ อาห. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ‘‘ตตฺถา’’ติ วา ปาโ, ตสฺสํ อาณตฺติยนฺติ อตฺโถ. ‘‘คาเมเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อาณตฺโต วเน เจ ิตํ มาเรติ วา ‘‘วเนเยว ิตํ เวรึ มาเรหี’’ติ สาวธารณํ วุตฺโต คาเม ิตํ เจ มาเรติ วาติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนา สาวธารณ’’นฺติ ¶ จ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ, ตํ อคฺคเหตฺวา ‘‘วเน วา ¶ สาวธารณ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ. วิคโต สงฺเกโต อาณตฺตินิยาโม เอตฺถาติ วิสงฺเกโต.
๒๖๙. สพฺพเทเสสูติ คามวนองฺคณเคหาทีสุ สพฺเพสุ าเนสุ. เภทโตติ นานตฺตโต.
๒๗๐. ‘‘สตฺเถน ปน มาเรหี’’ติ เยน เกนจิ โย อาณตฺโต, เตน เยน เกนจิ สตฺเถน มาริเต วิสงฺเกโต นตฺถีติ โยชนา.
๒๗๑-๒. อิมินา วาสินา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ‘‘อิมินา อสินา มาเรยฺยา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ วา ‘‘ตฺวํ อิมสฺส อสิสฺส เอตาย ธาราย มารย’’ อิติ วุตฺโต ตํ เวรึ สเจ อิตราย ธาราย มาเรติ วา ถรุนา มาเรติ วา ตุณฺเฑน มาเรติ วา, ตถา มาริเต วิสงฺเกโตเยว โหตีติ โยชนา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา. ตุณฺเฑนาติ ขคฺคตุณฺเฑน. ‘‘วิสงฺเกโตวา’’ติ สงฺเกตวิราเธเนว ปาราชิกํ น โหตีติ ทสฺสนปทเมตํ.
๒๗๓. สพฺพาวุธกชาติสูติ อิธาวุตฺตกรปาลิกาฉุริกาทิสพฺพปหรณสามฺเสุ. วิเสสโตติ เภทโต.
๒๗๔. ปเรนาติ ภิกฺขุนา. โสติ อาณตฺโต. นิสินฺนํ นํ มาเรติ, วิสงฺเกโต น วิชฺชตีติ ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ สาวธารณํ อวุตฺตตฺตา ‘‘นิสินฺโนปิ โสเยวา’’ติ ตํ มาเรนฺตสฺส วิสงฺเกโต น โหติ, อวธารณํ อนฺตเรน กถนํ ตํ สฺชานาเปตุํ วุจฺจตีติ อิริยาปถนิยามกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๗๕-๖. อสติ ¶ สาวธารเณ วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สาวธารเณ อิริยาปถนฺตเรสุ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นิสินฺนํเยวา’’ติอาทิ. ‘‘นิสินฺนํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพํ. ‘‘คจฺฉนฺตํเยว มาเรหี’’ติ วุตฺโต นิสินฺนํ มาเรติ, วิสงฺเกตนฺติ าตพฺพนฺติ โยชนา. อิมเมว โยชนากฺกมํ สนฺธายาห ‘‘ยถากฺกม’’นฺติ.
๒๗๗. วิชฺฌิตฺวาติ สราทีหิ วิชฺฌิตฺวา.
๒๗๘. ฉินฺทิตฺวาติ ¶ อสิอาทีหิ ฉินฺทิตฺวา. ปุน โสติ ปโยโค.
๒๗๙. กรเณสูติ วิชฺฌนาทิกิริยาวิเสเสสุ.
๒๘๐-๑. เอตฺตาวตา อาณตฺตินิยามกนิทฺเทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทีฆาทิลิงฺควเสนาปิ สมฺภวนฺตํ วิสงฺเกตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆ’’นฺติอาทิ. ‘‘ทีฆํ…เป… ถูลํ มาเรหีติ อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) อฏฺกถาวจนโต เอว-การํ วินา ‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา เกนจิ โย อาณตฺโต โหติ, โสปิ อาณตฺโต ยํ กิฺจิ ตาทิสํ สเจ มาเรติ, นตฺถิ ตตฺถ วิสงฺเกโต, อุภินฺนมฺปิ ปราชโยติ โยชนา. เอวํ ‘‘รสฺส’’นฺติอาทิสพฺพปเทหิปิ ปจฺเจกํ โยชนา กาตพฺพา. อนิยเมตฺวาติ วิสงฺเกตาภาวสฺส เหตุทสฺสนํ. เอวกาโร วากฺยาลงฺกาโร. ตตฺถาติ อาณตฺติกปฺปโยเค. ‘‘อุภินฺนมฺปิ ปราชโย’’ติ วุตฺตตฺตา อาณาปกํ วินา อฺํ ยถาวุตฺตกฺขณํ มนุสฺสวิคฺคหํ ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิส’’นฺติ อิมินา ทสฺเสติ.
สเจ อาณาปโก อาณาเปตฺวา อตฺตานเมว มาเรติ, อาณาปโก ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา มรติ, อาณตฺตสฺส ¶ ปาราชิกํ. อาณาปเกน อตฺตานมุทฺทิสฺส อาณตฺติยา กตาย อาณตฺโต อชานิตฺวา ตาทิสํ อฺํ มาเรติ, โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา อาณาปโก มุจฺจติ, อิตโร กมฺมุนา พชฺฌติ. ยทิ ‘‘อมุกสฺมึ รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา นิสินฺนํ อีทิสํ มาเรหี’’ติ โอกาสํ นิยเมตฺวา อาณาเปติ, ตตฺถ อาณาปกโต อฺสฺมึ มาริเต อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ตโต พหิ มาริเต วธกสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อาณาปโก อตฺตานเมว อุทฺทิสฺส อาณาเปติ, อิตโร จ ตเมว ตตฺถ มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, อาณตฺตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อฺตฺถ มาเรติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อชานิตฺวา อฺํ ตตฺถ วา อฺตฺถ วา มาเรติ, วธโก ปาราชิกํ อาปชฺชติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริเยน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
๒๘๒. โย มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส สเจ โอปาตํ ขณติ, ตถา โอปาตํ ขณนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ นาม อาปตฺติ โหตีติ อชฺฌาหารโยชนา. โยชนา จ นาเมสา ยถารุตโยชนา, อชฺฌาหารโยชนาติ ทุวิธา. ตตฺถ ปาาคตปทานเมว โยชนา ยถารุตโยชนา, อูนปูรณตฺถมชฺฌาหารปเทหิ สห ปาาคตปทานํ โยชนา อชฺฌาหารโยชนาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ขณนฺตสฺส ¶ จ โอปาต’’นฺติ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ. ‘‘ขณนฺตสฺส ตโถปาต’นฺติ ปาโ สุนฺทโร’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘อาวาฏนฺติ เอตสฺส ‘โอปาต’นฺติ ปริยาโย’’ติ จ วุตฺตํ. ตโตปิ –
‘‘มนุสฺสํ กฺจิ อุทฺทิสฺส;
โย เจ ขณติวาฏกํ;
ขณโต ตํ ตถา ตสฺส;
โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏ’’นฺติ. –
ปาโ ¶ สุนฺทรตโร. ชาตปถวึ ขณนฺตสฺส ปาราชิกปโยคตฺตา ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ.
๒๘๓. ตตฺถาติ ตสฺมึ อาวาเฏ. ตสฺสาติ ปติตสฺส มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติยาติ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุ. ตสฺสาติ เยน อาวาโฏ ขโต, ตสฺส ภิกฺขุโน. ปติตฺวา โส เจ มรติ, ตสฺมึ มเต ตสฺส ภิกฺขุโน ปาราชิกํ ภเวติ โยชนา.
๒๘๔. อฺสฺมินฺติ ยํ สมุทฺทิสฺส อาวาโฏ ขโต, ตโต อฺสฺมึ. อนุทฺทิสฺสกนฺติ กิริยาวิเสสนํ, อนุทฺทิสฺสกํ กตฺวาติ อตฺโถ. โอปาตวิเสสนํ เจ, ‘‘อนุทฺทิสฺสโก โอปาโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๓๔; ๑๐.๑๕; อิติวุ. ๙๐; เนตฺติ. ๑๗๐) วิย โอ-การฏฺาเน อ-กาโร, ม-การาคโม จ ทฏฺพฺโพ, อโนทิสฺสโก โอปาโต ขโต โหตีติ อตฺโถ.
๒๘๕. ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา โย โกจิ มรตู’’ติ อโนทิสฺสโก โอปาโต สเจ ขโต โหติ, ยตฺตกา นิปติตฺวา มรนฺติ เจ, อสฺส ตตฺตกา โทสา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘โย โกจี’’ติ อิมินา อตฺตโน มาตาปิตโร จ สงฺคหิตา. โทสาติ กมฺมพนฺธโทสา, ปาราชิกํ ปน เอกเมว. อสฺสาติ เยน อโนทิสฺส โอปาโต ขโต, ตสฺส.
๒๘๖. อานนฺตริยวตฺถุสฺมึ มเตติ ปาเสโส, ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา’’ติ อธิกาโร, อรหนฺเต, มาตริ, ปิตริ จ ตสฺมึ ปติตฺวา มเต กาลกเตติ อตฺโถ. อานนฺตริยกนฺติ เอตฺถ สกตฺเถ, กุจฺฉิเต ¶ , สฺายํ วา ก-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อานนฺตริยวตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิมสฺมึ สมาสปเท ¶ อวยวภูตมฺปิ ‘‘วตฺถุสฺมิ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตตฺถ ปติตฺวา มเต’’ติ อิทฺจ อากฑฺฒติ. ถุลฺลจฺจยาทีนํ วตฺถุสฺมึ ตตฺถ ปติตฺวา มเต ถุลฺลจฺจยาทโย โหนฺตีติ โยชนา. ตสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา ยกฺขาทีสุ มเตสุ, ปาราชิกวตฺถุโน ทุกฺขุปฺปตฺติยฺจ ถุลฺลจฺจยํ, มนุสฺสวิคฺคเห มเต ปาราชิกํ, ติรจฺฉาเน มเต ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๘๗. ปาณาติปาตา ทฺเวติ ทฺวินฺนํ มตตฺตา ทฺเว ปาณาติปาตา, เอเกน ปาราชิกํ, อิตเรน กมฺมพนฺโธเยว. เอโกเวเกกธํสเนติ มาตุ วา ทารกสฺส วา มรเณ เอโก ปาณาติปาโตว.
๒๘๘. โจเรหิ อนุพทฺโธ เอตฺถ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสติ เจ, โอปาตขณกสฺเสว ปาราชิกํ โหติ กิราติ โยชนา. กิราติ อนุสฺสวเน อรุจิสูจกํ.
๒๘๙-๙๐. เวริโน ภิกฺขุโต อฺเ เวริปุคฺคลา. ตตฺถ ตสฺมึ โอปาเต สเจ มนุสฺสํ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ตถา เวริโน ตตฺถ สยเมว ปติตํ มนุสฺสํ พหิ นีหริตฺวา สเจ มาเรนฺติ, ตตฺถ โอปปาติกา มนุสฺสา โอปาเต นิพฺพตฺติตฺวา ตโต นิกฺขนฺตุํ อสกฺโกนฺตา มตา เจ สิยุํ, สพฺพตฺถ จ ยถาวุตฺตสพฺพวาเรสุ โอปาตขณกสฺเสว ปราชโยติ โยชนา. นิพฺพตฺติตฺวา หีติ เอตฺถ หีติ ปทปูรเณ. ยตฺถ ยตฺถ นิปาตสทฺทานํ อตฺโถ น ทสฺสิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปทปูรณมตฺตตา เวทิตพฺพา.
๒๙๑. ยกฺขาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ติรจฺฉานานํ สงฺคโห. วตฺถุวสาติ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานํ วตฺถุภูตยกฺขติรจฺฉานานํ วสา. ถุลฺลจฺจยาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปาจิตฺติยสงฺคโห.
๒๙๓. อยํ ¶ นโยติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.
๒๙๔-๕. พชฺฌนฺตีติ สเจ อวสฺสํ พชฺฌนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปาเส. ‘‘หตฺถโต มุตฺตมตฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา ปโยคสฺส อตฺถสาธกตํ ทีเปติ.
๒๙๖. ยํ ¶ ปน อุทฺทิสฺส ปาโส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺสฺส พนฺธเน ตุ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๒๙๗. มุธา วาปีติ อมูเลน วาปิ. มูลฏฺสฺเสวาติ ปาสการกสฺเสว. กมฺมพนฺโธติ ปาณาติปาโต. พชฺฌติ เอเตนาติ พนฺโธ, กมฺมเมว พนฺโธ กมฺมพนฺโธ. ปาราชิกมตฺเต วตฺตพฺเพปิ ยาว โส วตฺตติ, ตาว ตตฺถ พชฺฌิตฺวา มตสตฺเตสุ ปมมตสฺส วเสน ปาราชิกํ, อวเสสานํ ปาณาติปาตสงฺขาตสฺส อกุสลราสิโน สมฺภวโต ตํ สพฺพํ สงฺคเหตฺวา สามฺเน ทฺวยมฺปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กมฺมพนฺโธ’’ติ.
๒๙๘. ‘‘สเจ เยน ลทฺโธ, โส อุคฺคฬิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ตสฺส ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ สงฺคหิตุมาห ‘‘ปาสมุคฺคฬิตมฺปิ วา’’ติ. เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ปิ-สทฺเทน ‘‘สณฺเปตี’’ติอาทิกา ‘‘พนฺธตี’’ติ ทสฺสิตกิริยาวสานา ปโยคา ทสฺสิตา. ถิรํ วาปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท อฏฺกถาย อวสิฏฺํ ‘‘ขาณุกํ อาโกเฏตี’’ติ กิริยํ สมุจฺจิโนติ อุภยตฺถปิ ปการนฺตรวิกปฺปตฺถตฺตาติ คเหตพฺพา. เอวนฺติ ¶ เอวํ สติ. เยน ปาโส ลทฺโธ, เตนาปิ เอวํ ปาเส กตวิเสเส สตีติ วุตฺตํ โหติ. อุภินฺนนฺติ ปาสการกสฺส จ อิทานิ ลภิตฺวา ปฏิชคฺคนฺตสฺส จาติ อุภเยสํ.
๒๙๙-๓๐๐. โยติ ปาสการโก, ลทฺธปาสโกติ อิเมสํ โย โกจิ. อุคฺคฬาเปตฺวาติ วิฆาเฏตฺวา, ยถา ตตฺถ ปาณิโน น พชฺฌนฺติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ จาติ ปุน สณฺปิเต ปาเส จ. โก วิมุจฺจติ? เยน ลทฺโธ, โส.
๓๐๑-๒. โคเปตฺวาติ โคปนเหตุ โมกฺโข น โหตีติ โยชนา. ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุมฺหิ ตฺวา-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. ตมฺโ…เป… น จ มุจฺจตีติ เอตฺถ น จาติ เนว. นาเสตฺวา สพฺพโส วาติ โส ยถา ยสฺส กสฺสจิ สตฺตสฺส วินาโสปกรณํ น โหติ, ตถา ฉินฺทนาทีหิ นาเสตฺวา. ตํ ปาสยฏฺึ. โก วิมุจฺจติ? ปาสการโก.
๓๐๓. สูลํ ¶ โรเปนฺตสฺสาติ สูลํ นิขณนฺตสฺส. สชฺเชนฺตสฺสาติ สณฺเปนฺตสฺส.
๓๐๔. อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘กเตน ปโยเคนา’’ติ ปาเสโส, ‘‘มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ เอเตหิ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิมินาหํ อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ อเจเตตฺวา อปกปฺเปตฺวา อวธกเจตโน หุตฺวา กเตน อฺตฺถิเกนปิ อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อาปตฺติ นตฺถีติ อตฺโถ, มุสลุสฺสาปนาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิย อยํ สตฺโตติสฺี หุตฺวา ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรสฺสามี’’ติ วีติกฺกมสมุฏฺาปกเจตนาสมฺปยุตฺตวิกปฺปรหิโต หุตฺวา อฺตฺถิเกน ปโยเคน มนุสฺเส มเตปิ ปาราชิกํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๑๘๑) วิย ‘‘อิทํ การณ’’นฺติ อชานิตฺวา กเตน มนุสฺเส มเตปิ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ. อมรณจิตฺตสฺส อมรณิจฺฉาสหิตจิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ วุทฺธปพฺพชิตาทิวตฺถูสุ (ปารา. ๑๘๐) วิยาติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตสรูปาเยว.
๓๐๕. ‘‘มนุสฺสปาณิมฺหี’’ติ อิมินา มนุสฺสภาโว องฺคภาเวน ทสฺสิโต. ‘‘สจสฺส จิตฺตํ มรณูปสํหิต’’นฺติ อิมินา มรณูปสํหิตจิตฺตตา ทสฺสิตา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
ตติยปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา
๓๐๖-๗. เอวํ นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน ตติยปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุตฺถปาราชิกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อสนฺต’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อตฺตนี’’ติ จ ‘‘ฌานาทิเภท’’นฺติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ จ ‘‘สมุทาจเรยฺยา’’ติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภตีติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘อตฺตนิ อสนฺต’’นฺติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
อตฺตนิ ¶ อสนฺตนฺติ ตสฺมึ อตฺตภาเว อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาทิตตาย อวิชฺชมานํ. อตฺตสฺสิตเมว กตฺวาติ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานํ วิย กตฺวา ตํ อุปเนตฺวา ¶ . ภวํ อธิฏฺาย จ วตฺตมานนฺติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย จ วตฺตนฺตํ ภวํ จิตฺเตน อธิฏฺหิตฺวา ตกฺเกตฺวา, จิตฺเต เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อฺาปเทสฺจ วินาติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตีธ ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วกฺขมานํ ปริยายกถํ เปตฺวา. อธิมานฺจ วินาติ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิตาทิสภาวํ อธิคตมานสงฺขาตํ ‘‘อธิคตอุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อหมฺหี’’ติ อธิมานฺจ เปตฺวา. ฌานาทิเภทนฺติ ฌานาทโย เภทา วิเสสา ยสฺส ตํ ฌานาทิเภทํ, ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ มคฺคภาวนา ผลสจฺฉิ กิริยา กิเลสปฺปหานํ วินีวรณตา จิตฺตสฺส สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ (ปารา. ๑๙๘, ๑๙๙) ปทภาชเน วุตฺตํ ฌานาทิธมฺมวิเสสนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺม’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๗) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฌานลาภีหิ เจว อฏฺหิ อริยปุคฺคเลหิ จ อธิคตตฺตา เตสํ สนฺตกนฺติ สงฺขฺยํ คตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ.
วิฺตฺติปเถ ิตสฺส กาเยน วา วาจาย วา โย ภิกฺขุ สมุทาจเรยฺยาติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วิฺตฺติปเถ ิตสฺสาติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ปเทเส ิตสฺส ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา’’ติ (ปารา. ๑๙๘) ปทภาชเน วุตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ. กาเยน วาติ หตฺถมุทฺทาทิวเสน กาเยน วา. ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ, อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อิธ หตฺถมุทฺทาทิหตฺถวิกาโร จ องฺคปจฺจงฺคโจปนฺจ ‘‘กาเยนา’’ติ อิมินา คเหตพฺพํ. วาจาย วาติ โย สวนูปจาเร ิโต เตน วิฺาตุํ สกฺกุเณยฺเยน เยน เกนจิ โวหาเรน วา. โย ภิกฺขูติ โย อุปสมฺปนฺโน เถโร วา นโว ¶ วา มชฺฌิโม วา. สมุทาจเรยฺยาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนปฺปกาเรสุ ยํ กฺจิ ปการํ วเทยฺย. ตทตฺเถติ เตน วุตฺตวากฺยสฺส อตฺเถ. าเตวาติ าเต เอว. มาตุคามํ วา ปุริสํ วา ยํ กิฺจิ อุทฺทิสฺส วุตฺเต, เตเนว วา อนุทฺทิสฺส วุตฺเต สวนูปจาเร ิเตน เยน เกนจิ มนุสฺสภูเตน วจนสมนนฺตรเมว ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิเก ยถาวุตฺเต อตฺถปฺปกาเร าเตเยว. ‘‘โส’’ติ อชฺฌาหริตฺวา ‘‘โส ปุน รุฬฺหิภาเว อภพฺโพ’’ติ โยเชตพฺพํ, อตฺตนิ อวิชฺชมานคุณํ สนฺตํ วิย กตฺวา อิจฺฉาจาเร ตฺวา เอวํ กถิตปุคฺคโล สีเล ปติฏฺาย อุปรูปริ ลพฺภมานโลกิยโลกุตฺตรคุเณหิ พุทฺธิสงฺขาตํ สาสเน พุทฺธิมธิคนฺตุํ อนรโหติ อตฺโถ ¶ . กึ วิยาติ อาห ‘‘ยเถว…เป… รุฬิภาเว’’ติ. ‘‘ยถา’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ ‘‘ตถา’’ติ, ยถา ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา, โสปิ ปาราชิกํ อาปนฺโน ตเถว ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๓๐๘-๙. อิทานิ ‘‘าเตว อภพฺโพ’’ติ จ ‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ จ เอตสฺมึ วากฺยทฺวเย พฺยติเรกตฺถวเสน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสนฺตเมวา’’ติอาทิ.
อนนฺตรนฺติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจนสมนนฺตรเมว. โสติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ตฺวา เยน ตํ วจนํ สุตํ, โส ปโร ปุคฺคโล. ชานาติ เจติ ‘‘อยํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทิวเสน เตน วุตฺตวจนปฺปกาเรน อตฺถํ อวิราเธตฺวา อจิเรเนว สเจ ชานาตีติ อตฺโถ. โย ปน ฌานาทีนํ อตฺตนา อลทฺธภาเวน วา อาคเม อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน อปริจิตตฺตา วา ฌานาทิสรูปํ อชานนฺโตปิ ¶ เกวลํ ‘‘ฌานํ วิโมกฺโข สมาธิ สมาปตฺตี’’ติอาทิวจนานํ สุตปุพฺพตฺตา เตน ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทิวจเน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร เอส สมาปชฺชตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺถมฺปิ ชานาติ, โสปิ ‘‘ชานาติ’’จฺเจว อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๑๕) วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. จุโต หีติ หิ-สทฺโท อวธารเณ, อตฺตนา วุตฺเต เตน ตตฺตเกเยว าเต โส อสนฺตคุณทีปโก ปาปปุคฺคโล ผลสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ อิมํ สาสนามตมหาปาทปํ อารุยฺหาปิ ผลํ อปริภฺุชิตฺวา วิราเธตฺวา ปติตฺวา มโต นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺเสวตฺถสฺส ‘‘อสนฺต’’มิจฺจาทินา ปมํ วุตฺตสฺสปิ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุํ อนุวาทวเสน วุตฺตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ ตํ พฺยติเรกตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โน เจ…เป… โหตี’’ติ. ยสฺส โส อาโรเจติ, โส เจ น ชานาติ, อสฺส อสนฺตคุณทีปกสฺส มุสาวาทิโน.
‘‘อฺาปเทสฺจ วินา’’ติ อิมินา ทสฺสิตพฺยติเรกตฺถสฺส ภาวาภาเว สมฺภวนฺตํ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย เต’’ติอาทิ. โย ภิกฺขุ เต ตว อิธ อิมสฺมึ วิหาเร วสตีติ โยชนา. ทีปิเตติ อตฺตโน อธิปฺปาเย ปกาสิเต. ชานาติ เจติ โย ตถา วุตฺตวจนํ อสฺโสสิ, โส ‘‘เอส อฺาปเทเสน อตฺตโน ฌานลาภิตํ ทีเปตี’’ติ วา ‘‘เอโส ฌานลาภี’’ติ ¶ วา วจนสมนนฺตรเมว สเจ ชานาติ. อสฺสาติ เอวํ กถิตวจนวโต ตสฺส ภิกฺขุโน. ตํ เตน วุตฺตวจนํ. ทุกฺกฏเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน อาวาสการานํ ทายกานํ อฺสฺส ปวตฺตึ กเถนฺตสฺส วิย อตฺตโนเยว อสนฺตคุณํ สนฺตมิว ¶ กตฺวา กถนากาโร อิมาย คาถาย อตฺถโต วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
เอตฺถ จ ฌานลาภีติ จาติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน จ-สทฺเทน ปาฬิยํ (ปารา. ๒๒๐) อาคตา อวเสสปริยายวารา จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา ฌานลาภีติ เอตฺถ ฌานคฺคหเณน วิโมกฺขาทีนฺจ อุปลกฺขิตตฺตา ฌานาทิทสวิธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิสยปริยายกถํ สุตวตา ตงฺขเณ ตทตฺเถ าเต ปริยายสมุลฺลาปเกน อาปชฺชิตพฺพํ ถุลฺลจฺจยฺจ อวิฺาเต วา จิเรน วิฺาเต วา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏฺจ อิมาย คาถาย อตฺถโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๑๐. เอตนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ ฌานาทิเภทํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อธิมานาติ ‘‘อธิคโตห’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมานา, อธิกมานาติ อตฺโถ, ‘‘อยํ ธมฺโม มยา อธิคโต’’ติ ทฬฺหมุปฺปนฺเนน มาเนน กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺโต อนาปตฺตินโยติ อาปตฺติยา อภาโว อนาปตฺติ, สา เอว นโย เนตพฺโพ พุชฺฌิตพฺโพติ กตฺวา, อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อธิมาเนนา’’ติ เอวํ วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ, ‘‘อธิคตธมฺโมห’’นฺติ อธิมาเนน ‘‘อหํ ปมชฺฌานลาภี’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อยมธิมาโน กสฺส โหติ, กสฺส น โหตีติ เจ? อริยานํ น โหติ มคฺคปจฺจเวกฺขณาทีหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ สฺชาตโสมนสฺสานํ วิติณฺณกงฺขตฺตา. ทุสฺสีลสฺสาปิ น โหติ ตสฺส อริยคุณาธิคเม นิรุสฺสาหตฺตา. สุสีลสฺสาปิ กมฺมฏฺานานุโยครหิตสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส น โหติ วิสฺสฏฺภาวนาภิโยคตฺตา. สุปริสุทฺธาย สีลสมฺปตฺติยา ปติฏฺาย สมถภาวนามนุยุตฺตสฺส รูปารูปสมาปตฺติยํ ปตฺตาสิโน วา วิปสฺสนาภิยุตฺตสฺส ¶ โสปกฺกิเลโสทยพฺพยาณลาภิโน วา อุปฺปชฺชติ. โส สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ กิเลสสมุทาจารสฺส อภาเว อุปฺปนฺเน เต วิเสสภาคิโน ภวิตุํ อทตฺวา ิติภาคิโน กตฺวา เปตีติ เวทิตพฺโพ.
ปนาติ อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตินโย วุตฺโต’’ติ ปจฺจามสติ. ‘‘อวตฺตุกามสฺสา’’ติ อิทฺจ ปาฬิยํ อาคตํ ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๒๒๒, ๒๒๕) อิทฺจ อนตฺถนฺตรํ. อวตฺตุกามสฺสาติ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. โกหฺเน ปาปิจฺฉาปกตสฺส ‘‘ฌานาทีนํ ลาภิมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส อชฺฌาสโย อุลฺลปนาธิปฺปาโย นาม, ตถา อหุตฺวา สพฺรหฺมจารีสุ อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส เอวเมว อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อาทิกสฺสาปิ เอวํ วุตฺโตติ โยชนา. ‘‘อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๒) อาทิกมฺมิกสฺสาปิ อนาปตฺติภาโว วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู อาทิกมฺมิกา. อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ตถา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตอุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏา คหิตา.
๓๑๑. ปาปิจฺฉตาติ ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ ฌานลาภิตาทิเหตุกาย สมฺภาวนาย สมฺภาวนานิมิตฺตสฺส ปจฺจยปฏิลาภสฺส ปตฺถนาสงฺขาตาย ปาปิกาย ลามิกาย อิจฺฉาย สมนฺนาคตภาโว จ. ตสฺสาติ ยํ ฌานาทิเภทภินฺนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ สมุลฺลปิ, ตสฺส ธมฺมสฺส. อสนฺตภาโวติ อตฺตสนฺตาเน ปจฺจุปฺปนฺนชาติยํ อนุปฺปาทิตภาเวน อวิชฺชมานภาโว. มนุสฺสกสฺส อาโรจนฺเจวาติ วุตฺตวจนสฺส อตฺถํ ตงฺขเณ ชานนกสฺส มนุสฺสชาติกสฺส ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน สวนูปจาเร ¶ ตฺวา อาโรจนฺจ. นฺาปเทเสน อาโรจนฺจาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) นเยน ปวตฺตอฺาปเทสํ วินา อุชุกเมว อาโรจนฺจ. ตเทว าณนฺติ ตทา เอว าณํ, อจิรายิตฺวา วุตฺตกฺขเณเยว ชานนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติยํ. ธีรา วินยธรา.
๓๑๒. ปเม ทุติเย จนฺเตติ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวชฺชิเต ยถาวุตฺตปาราชิกตฺตเย. ปริยาโย น วิชฺชตีติ ปาราชิกาปตฺติปถํ ปริยายวจนํ น ลภติ. ‘‘น ปเนตเร’’ติ อิทํ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ, อิตเร ปน ตติยปาราชิเก ปริยาโย น วิชฺชตีติ อตฺโถ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๒) จ ‘‘อมฺโภ ปุริส กึ ตุยฺหิมินา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๑) จ ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๕) จ ปริยาเยน วทนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อาณตฺติ ปาราชิกเหตุอาณตฺติกปฺปโยโค. น ปเนตเรติ ปมจตุตฺถปาราชิกทฺวเย ปน ปาราชิกเหตุภูตา อาณตฺติ น ลภตีติ อตฺโถ.
๓๑๓. อาทีติ ¶ ปมปาราชิกํ. เอกสมุฏฺานนฺติ เอกการณํ. สมุฏฺาติ อาปตฺติ เอตสฺมาติ สมุฏฺานํ, การณํ กายาทิ. ตํ ปน ฉพฺพิธํ กาโย, วาจา, กายวาจา, กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ. เตสํ วินิจฺฉยํ อุตฺตเร (อุ. วิ. ๓๒๕ อาทโย) ยถาคตฏฺาเนเยว จ วณฺณยิสฺสาม. ตตฺริทํ เอกสมุฏฺานํ เอกํ กายจิตฺตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. เตนาห ‘‘ทุวงฺคํ กายจิตฺตโต’’ติ. ‘‘ตํ สมุฏฺาน’’นฺติ อชฺฌาหาโร. เยน สมุฏฺาเนน ปมปาราชิกาปตฺติ อุปฺปชฺชติ, ตํสมุฏฺานสงฺขาตํ ¶ การณํ. องฺคชาตสงฺขาตํ กายฺจ เสวนจิตฺตฺจาติ ทฺวยํ องฺคํ อวยวํ เอตสฺสาติ ทุวงฺคํ, ตทุภยสภาวนฺติ อตฺโถ ยถา ‘‘ทุวงฺคํ จตุตฺถชฺฌาน’’นฺติ. เสสาติ อวสิฏฺานิ ตีณิ ปาราชิกานิ. ติสมุฏฺานาติ กายจิตฺตํ, วาจาจิตฺตํ, กายวาจาจิตฺตนฺติ ติสมุฏฺานา ตีณิ สมุฏฺานานิ เอเตสนฺติ กตฺวา. เตสนฺติ เตสํ ติณฺณํ สมุฏฺานานํ. องฺคานีติ อวยวานิ. สตฺต กาโย, จิตฺตํ, วาจา, จิตฺตํ, กาโย, วาจา, จิตฺตนฺติ, ตํสภาวาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑๔. อาทีติ เมถุนธมฺมปฏิเสวนจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวํ ปมปาราชิกํ. สุโขเปกฺขายุตํ อุทีริตนฺติ โยชนา. อิฏฺาลมฺพณปฏิลาภาทิโสมนสฺสเหตุมฺหิ สติ สุขเวทนาสมฺปยุตฺตํ โหติ, ตสฺมึ อสติ อุเปกฺขาเวทนาย สมฺปยุตฺตํ โหตีติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ตติยํ ทุกฺขเวทนนฺติ ตติยํ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ โทสจิตฺตสมฺปยุตฺตเจตนาสภาวตฺตา ทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ทุติยนฺติ อทินฺนาทานเจตนาลกฺขณํ ทุติยปาราชิกํ. โลเภน ปรสนฺตกํ โจริกาย คณฺหนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โกเธน อภิภูตสฺส วิลุมฺปิตฺวา วา วิลุมฺปาเปตฺวา วา คณฺหโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, โสมนสฺสํ, โทมนสฺสฺจ วินา อคฺคเหตุกาโม วิย หุตฺวา อุทาสีนสฺส คณฺหโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
จตุตฺถฺจาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสมุลฺลปนเจตนาลกฺขณํ จตุตฺถปาราชิกฺจ. สมฺภาวนิจฺฉาย ปจฺจยาสาย วา ตุฏฺตุฏฺสฺเสว ‘‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา นเยน ¶ อตฺตโน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมลาภิตํ วทนฺตสฺส โสมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, อฺปุคฺคเลสุ ปฏิหตจิตฺตสฺส กลหปุเรกฺขารตาย วทโต โทมนสฺสสมฺปยุตฺตํ โหติ, ปจฺจยาลาเภน ชิฆจฺฉาทิทุกฺขํ ¶ สหิตุมสกฺกุเณยฺยตาย อุทาสีนสฺส วทโต อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตํ โหตีติ ‘‘ติเวทนมุทีริต’’นฺติ อาห.
๓๑๕. อฏฺ จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ จิตฺตานิ ลพฺภเรติ โยชนา, ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ, เจตนาสภาเวน ปมปาราชิเกน สมฺปยุตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ. ทุเวติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตานิ ทฺเว จิตฺตานิ. ทส จิตฺตานีติ โลภสหคตานิ อฏฺ, ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตานีติ. ลพฺภเรติ สมฺปยุตฺตภาเวน ลพฺภนฺติ.
๓๑๖. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตจิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตํ, เตน เหตุนา. กฺริยาติ กรเณน อาปชฺชิตพฺพตฺตา กิริยา. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาย วิโมกฺโข เอตสฺสาติ สฺาวิโมกฺขํ. โลกวชฺชนฺติ โลเกน อกุสลภาวโต วชฺชนียนฺติ ทีปิตํ ปกาสิตํ.
๓๑๗. อาปตฺติยํเยวาติ เอวกาเรน น สิกฺขาปเทติ ทสฺเสติ. อิทํ วิธานนฺติ สมุฏฺานาทิกํ อิทํ ยถาวุตฺตํ วิธานํ. วิภาวินาติ ปฺวตา วินยธเรน.
๓๑๘-๙. มุทุปิฏฺิ จาติ ลตา วิย นมิตฺวา กรณํ ทสฺเสตฺวา นจฺจิตุํ สมวาหิตฺวา มุทุกตปิฏฺิโก จ. ลมฺพี จาติ ปลมฺพมาเนน ทีเฆน องฺคชาเตน ยุตฺโต. ลมฺพตีติ ลมฺพํ, องฺคชาตํ, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพี. อิเม ทฺเวปิ กามปริฬาหาตุรภาเว สติ อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน ¶ มุขํ, วจฺจมคฺคฺจ ปเวเสตฺวา วีติกฺกมิตุมรหตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา ปริวชฺชิตา. มุขคฺคาหีติ มุเขน คหณํ มุขคฺคาโห, โส เอตสฺส อตฺถีติ มุขคฺคาหี, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโตติ อตฺโถ. นิสีทโกติ ปรสฺส องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺเคน นิสีทนฺโต. อิเม ทฺเว สหวาสิกานํ สีลวินาสนโต อฺเหิ สํวสิตุํ อนรหาติ ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา วิวชฺชิตา. เตสนฺติ อสํวาสตาสามฺเน จตฺตาโร ปาราชิกาปนฺเน สงฺคณฺหาติ. ‘‘เตสฺจ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติสามฺเน ปมปาราชิกาปนฺนสฺเสว อนุโลมิกาติ คเหตพฺพา’’ อิจฺเจวํ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา จ อกตวีติกฺกมานมฺปิ มุทุปิฏฺิอาทีนํ จตุนฺนํ อนุโลมปาราชิกภาโว วุตฺโตติ วิฺายติ.
สมนฺตปาสาทิกายํ ¶ ปน –
‘‘อปรานิปิ ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘เมถุนธมฺโม’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ ‘อนุโลมปาราชิกานี’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ ตพฺพณฺณนาย จ สารตฺถทีปนิยํ –
‘‘ลมฺพํทีฆตาย ปลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข ¶ วา วจฺจมคฺเค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. มุทุกา ปิฏฺิ เอตสฺสาติ มุทุปิฏฺิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฏฺิยา สมนฺนาคโต. โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุเข ปเวเสติ ตทา ปาราชิโก โหติ. ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติ. ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมคฺเคน ตสฺสูปริ อภินิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๓๓) –
วุตฺตตฺตา จ กตวีติกฺกมาเยเวเต ‘‘ปาราชิกา’’ติ คเหตพฺพา.
ภิกฺขุนีนฺจ จตฺตารีติ เอตฺถ ‘‘อสาธารณานี’’ติ ปาเสโส, ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนเมว นิยตานิ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา, วชฺชปฏิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺวตฺถุกาติ ¶ จตฺตาริ ปาราชิกานิ จ. วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี สยนฺติ เอตฺถ ‘‘เตสํ อนุโลมิกา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เตสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา สยํ วิพฺภนฺตา ภิกฺขุนี จาติ โยชนา. จิตฺตวสิกา หุตฺวา อตฺตนา ¶ นิวตฺถจีวรมฺปิ หิ มาตุคามานํ นิวาสนนีหาเรน สยเมว นิวาเสตฺวา คิหิเวสํ โรเจตฺวา คหิตมตฺเต สาสนโต จุตา ภิกฺขุนี จาติ วุตฺตํ โหติ. เอวํกรเณน คิหิภาวาปนฺนตาสามฺเน สํวาสารหา น โหนฺตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อนุโลมิกา ชาตา.
ตถาติ ยถา อิเม ทสฺสิตา เตน อสํวาสารหตาย, ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตาย จ ปาราชิกาว, ตถา เอกาทส อภพฺพปุคฺคลาปิ โหนฺตีติ อตฺโถ. เอกาทสาภพฺพาติ มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก, เถยฺยสํวาสโก, ภิกฺขุนิทูสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ เอกาทส. สพฺเพเต จตุวีสติ เอเต สพฺเพ จตุวีสติ ปุคฺคลา สโมธานโต เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
๓๒๐. อิเม จตุวีสติ ปาราชิกา ปุคฺคลา สีสจฺฉินฺโนว ชีวิตุํ อิธ ภิกฺขุภาวาย อภพฺพาติ วุตฺตาติ โยชนา.
๓๒๑. อิเมสํ เอกาทสนฺนํ อภพฺพตาย เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘ปณฺฑโก จา’’ติอาทิ. ปณฺฑโก จาติ อาสิตฺตปณฺฑโก, อุสูยปณฺฑโก, ปกฺขปณฺฑโก, โอปกฺกมิกปณฺฑโก, นปุํสกปณฺฑโกติ วุตฺโต ปฺจวิโธ ปณฺฑโก จ. ติรจฺฉาโนติ ติริยํ อฺฉติ คจฺฉตีติ ‘‘ติรจฺฉาโน’’ติ คหิโต นาคสุปณฺณาทิโก สพฺพติรจฺฉานโยนิโก จ. ยกฺขาทโย สพฺเพ อมนุสฺสาปิ อิธ ติรจฺฉาเนเยว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. อุภโตพฺยฺชโนปิ จาติ อิตฺถิปุริสพฺยฺชนสาธเกหิ อุภโต กมฺมโต ชาตานิ ถนาทิกานิ พฺยฺชนานิ ยสฺสาติ นิรุตฺโต อิตฺถิอุภโตพฺยฺชโน ¶ , ปุริสอุภโตพฺยฺชโนติ ทุวิโธ อุภโตพฺยฺชโน จ. วตฺถุวิปนฺนาติ ตพฺภาวภาวิตาย ภิกฺขุภาโว วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ปุคฺคลานํ ภิกฺขุภาวารหตา, สา ปน ปพฺพชฺชากฺขนฺธกาคตสพฺพโทสวิรหิตคุณสมฺปยุตฺตตา, ตํ วิปนฺนํ ปณฺฑกภาวาทิโยเคน เยสํ เต ‘‘วตฺถุวิปนฺนา’’ติ คเหตพฺพา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา วตฺถุวิปนฺนา, ตสฺมา อิธ อตฺตภาเว ปพฺพชฺชาย อภพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อเหตุปฏิสนฺธิกา’’ติ วจเนน ¶ อิเมสํ วิปากาวรณยุตฺตภาวมาห, อิมินา เอเตสํ มคฺคาธิคมสฺส วาริตภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.
๓๒๒. ปฺจานนฺตริกาติ กมฺมาวรเณน ยุตฺตตาย สคฺคโมกฺขสมฺปตฺติโต ปริหายิตฺวา มรณานนฺตรํ อปายปฏิสนฺธิยํ นิยตา มาตุฆาตกาทโย ปฺจานนฺตริกา จ. เถยฺยสํวาโสปิ จาติ ลิงฺคตฺเถนโก, สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโกติ ติวิโธ เถยฺยสํวาสโก จ. ทูสโกติ ปกตตฺตาย ภิกฺขุนิยา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ตสฺสา ทูสิตตฺตา ภิกฺขุนึ ทูเสตีติ ‘‘ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ วุตฺโต จ. ติตฺถิปกฺกนฺตโก จาติ ติตฺถิยานํ ลทฺธึ, เวสฺจ โรเจตฺวา ตํ คเหตฺวา เตสมนฺตรํ ปวิฏฺโ จ. อิติ อฏฺ ปน กิริยานฏฺาติ โยชนา. อิตีติ อิทมตฺถตฺตา อิเมติ วุตฺตํ โหติ. เต อิเมติ สมฺพนฺโธ. เต อิเม อฏฺ ปน มาตุวธาทิกิริยาย อิหตฺตภาเว ภิกฺขุภาวาย อนรหา หุตฺวา นฏฺาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เอกาทสอภพฺพานํ อภพฺพตาย การณํ ทสฺสิตํ โหติ.
๓๒๓. มยา ปาราชิกานํ สารภูโต โย อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตสฺส วินิจฺฉยสฺส อนุสาเรน อนุคมเนน เสโสปิ วินิจฺฉโย พุเธน ปณฺฑิเตน อเสสโตว วิฺาตุํ สกฺกาติ โยชนา.
๓๒๔. ปฏุภาวกเร ¶ ปรเม วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺเต วินยปิฏเก ปรมตฺถนยํ อภิปตฺถยตา อยํ สตตํ ปริยาปุณิตพฺโพติ โยชนา. ตตฺถ วิวิเธหิ นานปฺปกาเรหิ. นเยหีติ นียนฺติ วุตฺตานุสาเรน อุทีริยนฺตีติ ‘‘นยา’’ติ วุตฺเตหิ จกฺกเปยฺยาลาทีหิ นเยหิ. ปรมตฺถนยนฺติ ปรโม จ โส อตฺโถ จาติ ปรมตฺโถ, ปรโม วา วิเสเสน นิจฺฉิตพฺโพ อตฺโถ ปรมตฺโถ, โสเยว วินิจฺฉยตฺถิกานํ พุทฺธิยา เนตพฺโพติ ปรมตฺถนโย, วินิจฺฉยูปาโย นียติ เอเตนาติ กตฺวา ‘‘ปรมตฺถนโย’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปรมตฺถนยํ. อภิปตฺถยตาติ วินยปิฏเก วินิจฺฉยํ วา ตทุปายํ วา ปตฺถยตา, อิจฺฉนฺเตนาติ อตฺโถ. ‘‘ปริยาปุณิตพฺโพ อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ม-กาโร อาคมสนฺธิโช, โอ-การสฺส อ-การาเทโส. ปริยาปุณิตพฺโพติ ปิตพฺโพ, โสตพฺโพ จินฺเตตพฺโพ ธาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อยนฺติ วินยวินิจฺฉโย.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
จตุตฺถปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.