📜

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๕๐. เอฬกา จ อชา จ มิคา จาติ วิคฺคโห. ปสูนํ ทฺวนฺเท เอกตฺตนปุํสกตฺตสฺส วิภาสิตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส. เอฬกานฺจ อชานฺจ มิคานํ โรหิเตณิกุรุงฺคานฺจ. ปสทา จ มิคมาตา จ ปสทมิคมาตา, ‘‘ปสทมิคมาตุยา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘ปสท’’นฺติ นิคฺคหิตาคโม. ปสทมิคมาตุยา จ จมฺมํ ภิกฺขุโน วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘มิคาน’’นฺติ อิมินา คหิตานเมเวตฺถ วิภาคทสฺสนํ ‘‘โรหิเตณี’’ติอาทิ. โรหิตาทโย มิควิภาควิเสสา.

๒๖๕๑. เอเตสํ ยถาวุตฺตสตฺตานํ จมฺมํ เปตฺวา อฺํ จมฺมํ ทุกฺกฏาปตฺติยา วตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ. อฺนฺติ จ –

‘‘มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

เย จ วาฬมิคา โหนฺติ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) –

อฏฺกถาย ปฏิกฺขิตฺตํ จมฺมมาห. มกฺกโฏ นาม สาขมิโค. กาฬสีโห นาม มหามุขวานรชาติโก. วาฬมิคา นาม สีหพฺยคฺฆาทโย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา, น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสฺสมิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘วาฬมิคา’ตฺเวว เวทิตพฺพา’’ติ.

ถวิกา จ อุปาหนา จ ถวิโกปาหนํ. อมานุสํ มนุสฺสจมฺมรหิตํ สพฺพํ จมฺมํ ถวิโกปาหเน วฏฺฏตีติ โยชนา. เอตฺถ ถวิกาติ อุปาหนาทิโกสกสฺส คหณํ. ยถาห ‘‘มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนาโกสกสตฺถกโกสกกุฺชิกาโกสเกสุปิ เอเสว นโย’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙).

๒๖๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต ‘‘วฏฺฏนฺติ มชฺฌิเม เทเส, น คุณงฺคุณูปาหนา’’ติ วุตฺตํ. มชฺฌิเม เทเสติ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา (มหาว. ๒๕๙) วุตฺตสีมาปริจฺเฉเท มชฺฌิมเทเส. คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย พหุปฏลา อุปาหนา. ยถาห – ‘‘คุณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕). มชฺฌิมเทเส คุณงฺคุณูปาหนา น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา. อนฺโตอาราเมติ เอตฺถ ปกรณโต ‘‘สพฺเพส’’นฺติ ลพฺภติ, คิลานานมิตเรสฺจ สพฺเพสนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาปิ จาติ อนฺโตอาราเม, พหิ จาติ สพฺพตฺถาปิ. โรคิโนติ คิลานสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๓. ปุฏพทฺธา ขลฺลกพทฺธาจาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. วิเสโส ปเนตาสํ อฏฺกถายเมว วุตฺโต ‘‘ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาวชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา’’ติ. ปาลิคุณฺิมา จ ‘‘ปลิคุณฺิตฺวา กตา, ยา อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆ’’นฺติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตาว. ตูลปุณฺณาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา.

สพฺพาว นีลา สพฺพนีลา, สา อาทิ ยาสํ ตา สพฺพนีลาทโย. อาทิ-สทฺเทน มหานามรตฺตปริยนฺตานํ คหณํ. เอตาสํ สรูปํ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ ‘‘นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ, ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา, โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา, มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว, กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา, มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’ติ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖). สพฺพนีลาทโยปิ จาติ อปิ-สทฺเทน นีลาทิวทฺธิกานํ คหณํ.

๒๖๕๔. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกาติ เมณฺฑานํ วิสาณสทิสวทฺธิกา, กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตาติ อตฺโถ. ‘‘เมณฺฑวิสาณูปมวทฺธิกา’’ติ อิทํ อชวิสาณูปมวทฺธิกานํ อุปลกฺขณํ. โมรสฺส ปิฺเฉน ปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. อุปาหนา น จ วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๕. มชฺชาราติ พิฬารา. กาฬกา รุกฺขกณฺฏกา. อูลูกา ปกฺขิพิฬาลา. สีหาติ เกสรสีหาทโย สีหา. อุทฺทาติ จตุปฺปทชาติกา. ทีปี สทฺทลา. อชินสฺสาติ เอวํนามิกสฺส. ปริกฺขฏาติ อุปาหนปริยนฺเต จีวเร อนุวาตํ วิย วุตฺตปฺปการํ จมฺมํ โยเชตฺวา กตา.

๒๖๕๖. สเจ อีทิสา อุปาหนา ลภนฺติ, ตาสํ วฬฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุฏาทึ อปเนตฺวา’’ติอาทิ. ปุฏาทึ สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา วา อปเนตฺวา วา อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. เอวมกตฺวา ลทฺธนีหาเรเนว ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห – ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา, เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๖).

วณฺณเภทํตถา กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘เอกเทเสนา’’ติ เสโส. ‘‘สพฺพโส วา’’ติ อาหริตฺวา สพฺพโส วา เอกเทเสน วา วณฺณเภทํ กตฺวา สพฺพนีลาทโย อุปาหนา ธาเรตพฺพาติ โยชนา. ตถา อกตฺวา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปุฺฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยวา’’ติ. นีลวทฺธิกาทโยปิ วณฺณเภทํ กตฺวา ธาเรตพฺพา.

๒๖๕๗. ตตฺถ าเน ปสฺสาวปาทุกา, วจฺจปาทุกา, อาจมนปาทุกาติ ติสฺโส ปาทุกาโย เปตฺวา สพฺพาปิ ปาทุกา ตาลปตฺติกาทิเภทา สพฺพาปิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.

๒๖๕๘. อติกฺกนฺตปมาณํ อุจฺจาสยนสฺิตํ อาสนฺทิฺเจว ปลฺลงฺกฺจ เสวมานสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อาสนฺที วุตฺตลกฺขณาว. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ อาหริมานิ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต, เอกสฺมึเยว ทารุมฺหิ กฏฺกมฺมวเสน ฉินฺทิตฺวา กตานิ อสํหาริมานิ ตตฺรฏฺาเนว วาฬรูปานิ ยสฺส ปาเทสุ สนฺติ, เอวรูโป ปลฺลงฺโก กปฺปตีติ ‘‘อาหริเมนา’’ติ อิมินาว ทีปิตํ. ‘‘อกปฺปิยรูปกโต อกปฺปิยมฺโจ ปลฺลงฺโก’’ติ หิ สารสมาเส วุตฺตํ.

๒๖๕๙. โคนกนฺติ ทีฆโลมกมหาโกชวํ. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ, กาฬวณฺณฺจ โหติ. ‘‘จตุรงฺคุลโต อูนกปฺปมาณโลโม โกชโว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. จิตฺตนฺติ ภิตฺติจฺฉิทฺทาทิกวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกนฺติ อุณฺณามยํ เสตตฺถรณํ. ปฏลิกนฺติ ฆนปุปฺผกํ อุณฺณามยํ โลหิตตฺถรณํ, โย ‘‘อามลกปตฺโต’’ติปิ วุจฺจติ.

เอกนฺตโลมินฺติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. วิกตินฺติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺรํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกา. ตูลิกนฺติ รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกิตูลสงฺขาตานํ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณํ ปกติตูลิกํ. อุทฺทโลมิกนฺติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ‘‘อุทฺทโลมีติ อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺตํ. สารสมาเส ปน ‘‘อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตปุปฺผํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๖๖๐. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. ‘‘โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๑๕) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, กนฺติตโกเสยฺยปุฏมยนฺติ อตฺโถ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ. รตนปริสิพฺพนรหิตํ สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.

ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปเนตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เปตฺวา ตูลิก’’นฺติ เอเตน รตนปริสิพฺพนรหิตาปิ ตูลิกา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา ปน ยานิ รตนปริสิพฺพิตานิ, ตานิ ภูมตฺถรณวเสน ยถานุรูปํ มฺจาทีสุ จ อุปเนตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ วินยปริยายํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพตฺตา อิธ วุตฺตนเยเนเวตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สุตฺตนฺติกเทสนายํ ปน คหฏฺานมฺปิ วเสน วุตฺตตฺตา เนสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ…เป… วฏฺฏนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อปเร.

หตฺถิอสฺสรถตฺถรนฺติ หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตํ อตฺถรณํ หตฺถตฺถรณํ นาม. อสฺสรถตฺถเรปิ เอเสว นโย. กทลิมิคปวร-ปจฺจตฺถรณกมฺปิ จาติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. ปิ-สทฺเทน อชินปฺปเวณี คหิตา. อชินปฺปเวณี นาม อชินจมฺเมหิ มฺจปมาเณน สิพฺเพตฺวา กตา ปเวณี. ตานิ กิร จมฺมานิ สุขุมตรานิ, ตสฺมา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ.

๒๖๖๑. รตฺตวิตานสฺส เหฏฺาติ กุสุมฺภาทิรตฺตสฺส โลหิตวิตานสฺส เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณหิ อตฺถตํ สยนาสนฺจ. กสาวรตฺตวิตานสฺส ปน เหฏฺา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถตํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘เหฏฺา อกปฺปิเย’’ติอาทิ.

ทฺวิธารตฺตูปธานกนฺติ สีสปสฺเส, ปาทปสฺเส จาติ อุภโตปสฺเส ปฺตฺตรตฺตพิพฺโพหนวนฺตฺจ สยนาสนํ. อิทํ สพฺพํ อกปฺปิยํ ปริภุฺชโต ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อฏฺกถาวินิจฺฉโย เอเตเนว พฺยติเรกโต วุตฺโต โหติ. ‘‘เยภุยฺยรตฺตานิปิ ทฺเว พิพฺโพหนานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. เตเนว เยภุยฺเยน รตฺตวิตานมฺปิ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ.

เอตฺถ จ กิฺจาปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘อโลหิตกานิ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติเยว, ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺเสํ ทาตพฺพานิ, ทาตุํ อสกฺโกนฺโต มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ ลภตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕) อวิเสเสน วุตฺตํ. เสนาสนกฺขนฺธกสํวณฺณนายํ ปน ‘‘อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิพฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) วุตฺตตฺตา คิลาโนเยว มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๖๖๒. อุทฺธํ เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิเย ปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ตสฺมินฺติ อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ.

๒๖๖๓. ‘‘เปตฺวา’’ติ อิมินา อาสนฺทาทิตฺตยสฺส วฏฺฏนากาโร นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพนฺติ โคนกาทิ ทฺวิธารตฺตูปธานกปริยนฺตํ สพฺพํ. คิหิสนฺตกนฺติ คิหีนํ สนฺตกํ เตหิเยว ปฺตฺตํ, อิมินา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตเรน วา เตสํ อาณตฺติยา วา ปฺตฺตํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ลภเตติ นิสีทิตุํ ลภติ.

๒๖๖๔. ตํ กตฺถ ลภตีติ ปเทสนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธมฺมาสเน’’ติอาทิ. ธมฺมาสเนติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ยทิ ธมฺมาสเน สงฺฆิกมฺปิ โคนกาทึ ภิกฺขูหิ อนาณตฺตา อารามิกาทโย สยเมว ปฺาเปนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, เอตํ คิหิวิกตนีหารํ นาม. อิมินา คิหิวิกตนีหาเรน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐; วิ. สงฺค. อฏฺ. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา ๕๖ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ภตฺตคฺเค วาติ วิหาเร นิสีทาเปตฺวา ปริเวสนฏฺาเน วา โภชนสาลายํ วา. อปิสทฺเทน คิหีนํ เคเหปิ เตหิ ปฺตฺเต โคนกาทิมฺหิ นิสีทิตุํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. ธมฺมาสนาทิปเทสนิยมเนน ตโต อฺตฺถ คิหิปฺตฺเตปิ ตตฺถ นิสีทิตุํ น วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ.

ภูมตฺถรณเกติ เอตฺถ ‘‘กเต’’ติ เสโส. ตตฺถาติ สงฺฆิเก วา คิหิสนฺตเก วา โคนกาทิมฺหิ สหธมฺมิเกหิ อนาณตฺเตหิ คิหีหิ เอว ภูมตฺถรเณ กเต. สยิตุนฺติ อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน นิสีทิตุมฺปิ วาติ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ภูมตฺถรณเก’’ติ อิมินา คิหีหิ เอว มฺจาทีสุ สยนตฺถํ อตฺถเต อุปริ อตฺตโน ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา สยิตุํ วา นิสีทิตุํ วา น วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

จมฺมกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.